• การเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สำหรับ Microsoft 365 ในยุคที่ ระบบคลาวด์กลายเป็นจุดอ่อนด้านความปลอดภัยขององค์กร การรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จาก Microsoft 365 เป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจาก การบันทึกข้อมูลมักไม่เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น หรืออาจไม่สามารถเข้าถึงได้ในระดับการสมัครสมาชิกที่ต่ำกว่า

    Microsoft Purview Insider Risk Management เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ต้องมี เงื่อนไขเฉพาะ เช่น การใช้ Microsoft 365 E5 และอุปกรณ์ที่เข้าร่วมผ่าน Microsoft Entra

    ✅ Microsoft Purview Insider Risk Management ช่วยให้สามารถรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากระบบคลาวด์ได้
    - ต้องมี Microsoft 365 E5 License
    - อุปกรณ์ต้อง เข้าร่วมผ่าน Microsoft Entra และใช้ Windows 11 Enterprise

    ✅ การโจมตีผ่าน OAuth Token เป็นภัยคุกคามใหม่ที่ต้องจับตามอง
    - ผู้โจมตีใช้ แอปพลิเคชันสื่อสาร เช่น Signal และ WhatsApp เพื่อส่งลิงก์ฟิชชิ่ง
    - หลอกให้เหยื่อ อนุมัติสิทธิ์ OAuth และเข้าถึงข้อมูลในระบบคลาวด์

    ✅ ต้องกำหนดค่าการบันทึกข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลังได้
    - ต้องเปิดใช้งาน Forensic Evidence Capturing ใน Microsoft Purview
    - กำหนด ช่วงเวลาการบันทึกและข้อจำกัดด้านแบนด์วิดท์

    ✅ สามารถใช้ Microsoft 365 Defender Advanced Hunting และ Activity Log เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม
    - ช่วยให้สามารถ ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัยและระบุช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี

    https://www.csoonline.com/article/3979073/how-to-capture-forensic-evidence-for-microsoft-365.html
    การเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สำหรับ Microsoft 365 ในยุคที่ ระบบคลาวด์กลายเป็นจุดอ่อนด้านความปลอดภัยขององค์กร การรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จาก Microsoft 365 เป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจาก การบันทึกข้อมูลมักไม่เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น หรืออาจไม่สามารถเข้าถึงได้ในระดับการสมัครสมาชิกที่ต่ำกว่า Microsoft Purview Insider Risk Management เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ต้องมี เงื่อนไขเฉพาะ เช่น การใช้ Microsoft 365 E5 และอุปกรณ์ที่เข้าร่วมผ่าน Microsoft Entra ✅ Microsoft Purview Insider Risk Management ช่วยให้สามารถรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากระบบคลาวด์ได้ - ต้องมี Microsoft 365 E5 License - อุปกรณ์ต้อง เข้าร่วมผ่าน Microsoft Entra และใช้ Windows 11 Enterprise ✅ การโจมตีผ่าน OAuth Token เป็นภัยคุกคามใหม่ที่ต้องจับตามอง - ผู้โจมตีใช้ แอปพลิเคชันสื่อสาร เช่น Signal และ WhatsApp เพื่อส่งลิงก์ฟิชชิ่ง - หลอกให้เหยื่อ อนุมัติสิทธิ์ OAuth และเข้าถึงข้อมูลในระบบคลาวด์ ✅ ต้องกำหนดค่าการบันทึกข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลังได้ - ต้องเปิดใช้งาน Forensic Evidence Capturing ใน Microsoft Purview - กำหนด ช่วงเวลาการบันทึกและข้อจำกัดด้านแบนด์วิดท์ ✅ สามารถใช้ Microsoft 365 Defender Advanced Hunting และ Activity Log เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม - ช่วยให้สามารถ ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัยและระบุช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี https://www.csoonline.com/article/3979073/how-to-capture-forensic-evidence-for-microsoft-365.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How to capture forensic evidence for Microsoft 365
    The cloud has become an enterprise security soft spot, and the challenges involved in gathering activity logs from your vendor isn’t helping. Here’s how to get what you need from Microsoft.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DOD) เตรียมปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ DOD กำลังดำเนินการ ปรับปรุงระบบจัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย เพื่อเพิ่ม ความปลอดภัยและความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน โดยมีแผนเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน

    Katherine Arrington หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ DOD ระบุว่า SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น

    ✅ DOD เตรียมเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน
    - มุ่งเน้น การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น
    - เพิ่ม ความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

    ✅ SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน
    - รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น

    ✅ DOD ต้องการลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนและสิ้นเปลือง
    - คาดว่าจะช่วย ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น

    ✅ DOD ระบุว่า Open Source Software เป็นความท้าทายสำคัญ
    - เนื่องจาก ขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโค้ดและความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/pentagon-looks-to-shake-up-outdated-software-procurement-declares-war-on-open-source
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DOD) เตรียมปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ DOD กำลังดำเนินการ ปรับปรุงระบบจัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย เพื่อเพิ่ม ความปลอดภัยและความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน โดยมีแผนเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน Katherine Arrington หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ DOD ระบุว่า SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น ✅ DOD เตรียมเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน - มุ่งเน้น การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น - เพิ่ม ความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ ✅ SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน - รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น ✅ DOD ต้องการลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนและสิ้นเปลือง - คาดว่าจะช่วย ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น ✅ DOD ระบุว่า Open Source Software เป็นความท้าทายสำคัญ - เนื่องจาก ขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโค้ดและความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/pentagon-looks-to-shake-up-outdated-software-procurement-declares-war-on-open-source
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน

    Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID

    ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ
    - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท

    ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้
    - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco
    - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores

    ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน
    - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา
    - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์

    ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้
    - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้

    ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก
    - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้ - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้ - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้ ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

    ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม

    ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
    - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
    - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS

    ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
    - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
    - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
    - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์

    ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
    - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
    - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
    - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน

    ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
    - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
    - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
    - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์

    ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
    - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
    - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
    - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก

    ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
    - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้

    ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
    - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

    https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์ - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์ - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่ - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์ - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์ ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์ - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์ - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้ ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Best Network Security Software for Protecting Your Digital Assets (2025)
    In 2025, cyber threats have grown more advanced than ever, with AI-driven malware, phishing-as-a-service kits, and zero-day exploits targeting everyone from
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังปรับปรุง การพัฒนาไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์สำหรับ Windows 11 รุ่นถัดไป โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสองประการ ได้แก่ การยกเลิก Windows Device Metadata และ WMIS และ การเปลี่ยนแปลงระบบลงนามไดรเวอร์ก่อนการผลิต

    Windows Device Metadata และ Windows Metadata and Internet Services (WMIS) จะถูก ยกเลิกในเดือนพฤษภาคม 2025 โดย Microsoft แนะนำให้ใช้ INF files แทน ซึ่งเป็น ไฟล์ข้อมูลการติดตั้งสำหรับแพ็กเกจไดรเวอร์

    นอกจากนี้ Microsoft ยังประกาศว่า ใบรับรองที่ใช้ลงนามไดรเวอร์ก่อนการผลิต (PCA 2010) จะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2025 และจะมี ใบรับรองใหม่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2025

    ✅ Windows Device Metadata และ WMIS จะถูกยกเลิกในเดือนพฤษภาคม 2025
    - ไม่มีการส่งแพ็กเกจใหม่ผ่าน WMIS อีกต่อไป
    - Microsoft แนะนำให้ใช้ INF files แทน

    ✅ ใบรับรอง PCA 2010 สำหรับไดรเวอร์ก่อนการผลิตจะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2025
    - ไดรเวอร์ที่ลงนามก่อนวันที่ 9 มิถุนายน 2025 จะหมดอายุในวันที่ 6 กรกฎาคม 2025
    - ไดรเวอร์ที่ลงนามหลังวันที่ 9 มิถุนายน 2025 จะไม่มีวันหมดอายุ

    ✅ Microsoft แนะนำให้พาร์ทเนอร์ติดตั้ง Windows Servicing Releases เพื่อรองรับใบรับรองใหม่
    - อัปเดต Windows Server 2008 และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อรองรับใบรับรองใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลต่อการพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ Windows 11 และ Server 2025
    - ช่วยให้ การลงนามไดรเวอร์มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น

    ‼️ พาร์ทเนอร์ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงระบบลงนามไดรเวอร์
    - หากไม่อัปเดต อาจทำให้ไดรเวอร์หมดอายุและไม่สามารถใช้งานได้

    ‼️ การยกเลิก Windows Device Metadata อาจส่งผลต่อการแสดงข้อมูลอุปกรณ์ใน Windows UI
    - ผู้ใช้ต้อง ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของตนรองรับ INF files อย่างถูกต้อง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-bringing-two-big-changes-to-hardware-drivers-for-next-gen-windows-11/
    Microsoft กำลังปรับปรุง การพัฒนาไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์สำหรับ Windows 11 รุ่นถัดไป โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสองประการ ได้แก่ การยกเลิก Windows Device Metadata และ WMIS และ การเปลี่ยนแปลงระบบลงนามไดรเวอร์ก่อนการผลิต Windows Device Metadata และ Windows Metadata and Internet Services (WMIS) จะถูก ยกเลิกในเดือนพฤษภาคม 2025 โดย Microsoft แนะนำให้ใช้ INF files แทน ซึ่งเป็น ไฟล์ข้อมูลการติดตั้งสำหรับแพ็กเกจไดรเวอร์ นอกจากนี้ Microsoft ยังประกาศว่า ใบรับรองที่ใช้ลงนามไดรเวอร์ก่อนการผลิต (PCA 2010) จะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2025 และจะมี ใบรับรองใหม่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2025 ✅ Windows Device Metadata และ WMIS จะถูกยกเลิกในเดือนพฤษภาคม 2025 - ไม่มีการส่งแพ็กเกจใหม่ผ่าน WMIS อีกต่อไป - Microsoft แนะนำให้ใช้ INF files แทน ✅ ใบรับรอง PCA 2010 สำหรับไดรเวอร์ก่อนการผลิตจะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2025 - ไดรเวอร์ที่ลงนามก่อนวันที่ 9 มิถุนายน 2025 จะหมดอายุในวันที่ 6 กรกฎาคม 2025 - ไดรเวอร์ที่ลงนามหลังวันที่ 9 มิถุนายน 2025 จะไม่มีวันหมดอายุ ✅ Microsoft แนะนำให้พาร์ทเนอร์ติดตั้ง Windows Servicing Releases เพื่อรองรับใบรับรองใหม่ - อัปเดต Windows Server 2008 และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อรองรับใบรับรองใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลต่อการพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ Windows 11 และ Server 2025 - ช่วยให้ การลงนามไดรเวอร์มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น ‼️ พาร์ทเนอร์ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงระบบลงนามไดรเวอร์ - หากไม่อัปเดต อาจทำให้ไดรเวอร์หมดอายุและไม่สามารถใช้งานได้ ‼️ การยกเลิก Windows Device Metadata อาจส่งผลต่อการแสดงข้อมูลอุปกรณ์ใน Windows UI - ผู้ใช้ต้อง ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของตนรองรับ INF files อย่างถูกต้อง https://www.neowin.net/news/microsoft-bringing-two-big-changes-to-hardware-drivers-for-next-gen-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft bringing two big changes to hardware drivers for next gen Windows 11
    Microsoft has announced two changes to how Windows 11 hardware drivers will be developed going forward.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

    ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย

    ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก
    - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค
    - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว
    - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
    - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
    - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump's crypto ventures cause tensions to bubble over as Democratic lawmaker scuttles key hearing
    (Reuters) -Tensions on Capitol Hill over President Donald Trump's various cryptocurrency ventures escalated on Tuesday and threatened to derail the digital asset sector's hope of legislation by the end of this year as a top Democratic lawmaker stalled efforts to debate a bill.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังผลักดัน เศรษฐกิจหมุนเวียนในยุคพลังงานใหม่ โดยใช้ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเซลล์แสงอาทิตย์ที่หมดอายุ เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญในการรีไซเคิล

    บริษัทรีไซเคิลในจีน เช่น Ma Long’s recycling company กำลังสร้างกำไรจาก การสกัดลิเธียม, โคบอลต์ และนิกเกิล จากแบตเตอรี่ที่หมดอายุ ซึ่งช่วยให้จีนสามารถ ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ในขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

    ✅ จีนใช้แบตเตอรี่ EV และเซลล์แสงอาทิตย์ที่หมดอายุเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ
    - ช่วยให้สามารถ รีไซเคิลลิเธียม, โคบอลต์ และนิกเกิล
    - ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ

    ✅ บริษัทรีไซเคิลในจีนกำลังสร้างกำไรจากการสกัดวัสดุสำคัญ
    - เช่น Ma Long’s recycling company
    - ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการ สกัดโลหะมีค่าและนำกลับมาใช้ใหม่

    ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงด้านทรัพยากรของจีน
    - ช่วยให้จีนสามารถ รักษาความมั่นคงด้านวัตถุดิบ
    - ลดผลกระทบจาก สงครามการค้ากับสหรัฐฯ

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - อุตสาหกรรมรีไซเคิลอาจ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - อาจช่วยให้จีน เป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในยุคพลังงานใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/chinas-dying-ev-batteries-solar-cells-are-powering-a-circular-economy-in-new-energy-era
    จีนกำลังผลักดัน เศรษฐกิจหมุนเวียนในยุคพลังงานใหม่ โดยใช้ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเซลล์แสงอาทิตย์ที่หมดอายุ เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญในการรีไซเคิล บริษัทรีไซเคิลในจีน เช่น Ma Long’s recycling company กำลังสร้างกำไรจาก การสกัดลิเธียม, โคบอลต์ และนิกเกิล จากแบตเตอรี่ที่หมดอายุ ซึ่งช่วยให้จีนสามารถ ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ในขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ✅ จีนใช้แบตเตอรี่ EV และเซลล์แสงอาทิตย์ที่หมดอายุเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ - ช่วยให้สามารถ รีไซเคิลลิเธียม, โคบอลต์ และนิกเกิล - ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ✅ บริษัทรีไซเคิลในจีนกำลังสร้างกำไรจากการสกัดวัสดุสำคัญ - เช่น Ma Long’s recycling company - ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการ สกัดโลหะมีค่าและนำกลับมาใช้ใหม่ ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงด้านทรัพยากรของจีน - ช่วยให้จีนสามารถ รักษาความมั่นคงด้านวัตถุดิบ - ลดผลกระทบจาก สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - อุตสาหกรรมรีไซเคิลอาจ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว - อาจช่วยให้จีน เป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในยุคพลังงานใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/chinas-dying-ev-batteries-solar-cells-are-powering-a-circular-economy-in-new-energy-era
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China’s dying EV batteries, solar cells are powering a circular economy in new-energy era
    Recycling critical materials such as lithium, cobalt and nickel are driving profits and shoring up China's resource security as trade war with US hits supply chains.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi กำลังเร่งพัฒนา Xring SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบเอง โดยมีทีมงานมากกว่า 1,000 คน ทำงานในโครงการนี้ ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถของบริษัทในการผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟน

    ก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยพยายามพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม Xring SoC อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Xiaomi สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek ได้ในอนาคต

    ✅ Xiaomi มีทีมงานมากกว่า 1,000 คนทำงานในโครงการ Xring SoC
    - เป็นทีมงานที่แยกออกจากบริษัทแม่
    - มีอดีตผู้บริหารจาก Qualcomm เข้ามาช่วยพัฒนา

    ✅ เป้าหมายของ Xring SoC
    - ต้องการผลิตชิปเซ็ตที่สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek
    - อาจช่วยให้ Xiaomi ลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากต่างประเทศ

    ✅ Xring SoC อาจถูกใช้ในสมาร์ทโฟน Xiaomi รุ่นใหม่
    - มีรายงานว่ามี ต้นแบบของชิปที่ถูกทดสอบแล้วในเดือนมีนาคม 2025
    - อาจช่วยให้ Xiaomi สามารถควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ได้ดีขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    - หาก Xring SoC ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ในจีนเริ่มพัฒนาชิปของตัวเองมากขึ้น
    - อาจช่วยให้ วิศวกรที่ทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336395/1000-xiaomi-employees-reportedly-working-on-proprietary-xring-chipset-designs
    Xiaomi กำลังเร่งพัฒนา Xring SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบเอง โดยมีทีมงานมากกว่า 1,000 คน ทำงานในโครงการนี้ ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถของบริษัทในการผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟน ก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยพยายามพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม Xring SoC อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Xiaomi สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek ได้ในอนาคต ✅ Xiaomi มีทีมงานมากกว่า 1,000 คนทำงานในโครงการ Xring SoC - เป็นทีมงานที่แยกออกจากบริษัทแม่ - มีอดีตผู้บริหารจาก Qualcomm เข้ามาช่วยพัฒนา ✅ เป้าหมายของ Xring SoC - ต้องการผลิตชิปเซ็ตที่สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek - อาจช่วยให้ Xiaomi ลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากต่างประเทศ ✅ Xring SoC อาจถูกใช้ในสมาร์ทโฟน Xiaomi รุ่นใหม่ - มีรายงานว่ามี ต้นแบบของชิปที่ถูกทดสอบแล้วในเดือนมีนาคม 2025 - อาจช่วยให้ Xiaomi สามารถควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ได้ดีขึ้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน - หาก Xring SoC ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ในจีนเริ่มพัฒนาชิปของตัวเองมากขึ้น - อาจช่วยให้ วิศวกรที่ทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น https://www.techpowerup.com/336395/1000-xiaomi-employees-reportedly-working-on-proprietary-xring-chipset-designs
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    1000+ Xiaomi Employees Reportedly Working on Proprietary "Xring" Chipset Designs
    Mid-way through April, a few Asian media outlets proposed a fairly recent formation of Xiaomi's "chip platform department"—most likely operating as part of the Chinese corporation's mobile phone development operation. Industry insiders claimed that this special branch was tasked with the designing o...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง

    RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ

    ✅ RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน
    - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores
    - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz

    ✅ เปรียบเทียบกับ RTX 5090
    - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB
    - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

    ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้น
    - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark
    - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย

    ✅ ราคาและการวางจำหน่าย
    - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป
    - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ ✅ RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz ✅ เปรียบเทียบกับ RTX 5090 - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้น - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX Pro 6000 Blackwell appears online with an eye-watering price tag of over $11,000
    Over three-times the cost of a price-inflated RTX 5090, but it has more CUDA cores and a massive 96GB of GDDR7 memory.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา

    แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง
    - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google
    - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น
    - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น
    - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา

    ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด
    - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
    - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์
    - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง
    - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์ - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Opinion: Are we nearing the peak of custom ASIC adoption?
    We think it is important to remember that the case for custom silicon is an economic choice, not a technical one.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows App บนเว็บ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลได้ง่ายขึ้น และ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง

    Windows App เป็นแอปที่รวมบริการต่าง ๆ เช่น Windows 365 Cloud PCs, Azure Virtual Desktop และ Microsoft Dev Box โดยการอัปเดตล่าสุดช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ และสามารถ สลับไปใช้แอปเดสก์ท็อปได้อย่างราบรื่น

    ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Remote App Launcher
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์
    - มีปุ่มใหม่ใน แถบเครื่องมือของเว็บไคลเอนต์

    ✅ ปรับปรุงการพิมพ์เอกสารจาก Windows App บนเว็บ
    - สามารถ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง
    - ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิมพ์จากเซสชันระยะไกล

    ✅ เพิ่มตัวเลือกสลับไปใช้แอปเดสก์ท็อป
    - ผู้ใช้สามารถ เลือก "Connect in desktop app" เพื่อเปิดเซสชันในแอปเดสก์ท็อป
    - รองรับ การใช้งานหลายหน้าจอ

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และองค์กร
    - ช่วยให้ การทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดข้อจำกัดในการใช้งาน Windows App ผ่านเว็บ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-new-features-and-enhancements-to-windows-app-on-web/
    Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows App บนเว็บ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลได้ง่ายขึ้น และ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง Windows App เป็นแอปที่รวมบริการต่าง ๆ เช่น Windows 365 Cloud PCs, Azure Virtual Desktop และ Microsoft Dev Box โดยการอัปเดตล่าสุดช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ และสามารถ สลับไปใช้แอปเดสก์ท็อปได้อย่างราบรื่น ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Remote App Launcher - ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ - มีปุ่มใหม่ใน แถบเครื่องมือของเว็บไคลเอนต์ ✅ ปรับปรุงการพิมพ์เอกสารจาก Windows App บนเว็บ - สามารถ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง - ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิมพ์จากเซสชันระยะไกล ✅ เพิ่มตัวเลือกสลับไปใช้แอปเดสก์ท็อป - ผู้ใช้สามารถ เลือก "Connect in desktop app" เพื่อเปิดเซสชันในแอปเดสก์ท็อป - รองรับ การใช้งานหลายหน้าจอ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และองค์กร - ช่วยให้ การทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดข้อจำกัดในการใช้งาน Windows App ผ่านเว็บ https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-new-features-and-enhancements-to-windows-app-on-web/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings new features and enhancements to Windows App on web
    The Windows Remote Desktop app has been retired. Its replacement, the shiny new Windows App, is getting new features in the web version, including Remote App Launcher and printing support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2025 การ์ดจอที่มี VRAM เพียง 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับการเล่นเกมระดับ AAA โดย Grok AI ซึ่งเป็น AI ของ Elon Musk ได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้การ์ดจอ 8GB เปรียบเสมือนการนำมีดเนยไปสู้กับปืน

    การทดสอบล่าสุดพบว่า RTX 5060 Ti รุ่น 8GB มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่น 16GB ถึง 10% ในเกมยอดนิยม เช่น Hogwarts Legacy และ Space Marine 2 โดยรุ่น 8GB อาจพบปัญหา กระตุก, โหลดพื้นผิวช้า และบางครั้งถึงขั้นเกมล่ม

    ✅ RTX 5060 Ti รุ่น 8GB มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่น 16GB ถึง 10%
    - พบปัญหา กระตุก, โหลดพื้นผิวช้า และเกมล่ม ในบางเกม
    - รุ่น 16GB สามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่นกว่า

    ✅ Grok AI เตือนว่าการใช้การ์ดจอ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมใหม่
    - เกมระดับ AAA ใช้ VRAM มากขึ้น โดยเฉพาะที่ 1440p และ 4K
    - การเปิด Ray-Tracing และพื้นผิวความละเอียดสูง ต้องใช้ VRAM มากขึ้น

    ✅ AMD เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 8GB และ 16GB ในซีรีส์ RX 9060
    - คาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025
    - อาจมีตัวเลือกที่แข่งขันกับ RTX 5060 Ti

    ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรด
    - หากต้องการเล่นเกมในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ควรเลือก VRAM 16GB ขึ้นไป
    - หากงบประมาณจำกัด อาจต้องปรับ การตั้งค่ากราฟิกลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-with-8gb-of-vram-in-2025-are-like-bringing-a-butter-knife-to-a-gunfight-reckons-grok-ai
    ในปี 2025 การ์ดจอที่มี VRAM เพียง 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับการเล่นเกมระดับ AAA โดย Grok AI ซึ่งเป็น AI ของ Elon Musk ได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้การ์ดจอ 8GB เปรียบเสมือนการนำมีดเนยไปสู้กับปืน การทดสอบล่าสุดพบว่า RTX 5060 Ti รุ่น 8GB มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่น 16GB ถึง 10% ในเกมยอดนิยม เช่น Hogwarts Legacy และ Space Marine 2 โดยรุ่น 8GB อาจพบปัญหา กระตุก, โหลดพื้นผิวช้า และบางครั้งถึงขั้นเกมล่ม ✅ RTX 5060 Ti รุ่น 8GB มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่น 16GB ถึง 10% - พบปัญหา กระตุก, โหลดพื้นผิวช้า และเกมล่ม ในบางเกม - รุ่น 16GB สามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่นกว่า ✅ Grok AI เตือนว่าการใช้การ์ดจอ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมใหม่ - เกมระดับ AAA ใช้ VRAM มากขึ้น โดยเฉพาะที่ 1440p และ 4K - การเปิด Ray-Tracing และพื้นผิวความละเอียดสูง ต้องใช้ VRAM มากขึ้น ✅ AMD เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 8GB และ 16GB ในซีรีส์ RX 9060 - คาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025 - อาจมีตัวเลือกที่แข่งขันกับ RTX 5060 Ti ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรด - หากต้องการเล่นเกมในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ควรเลือก VRAM 16GB ขึ้นไป - หากงบประมาณจำกัด อาจต้องปรับ การตั้งค่ากราฟิกลง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-with-8gb-of-vram-in-2025-are-like-bringing-a-butter-knife-to-a-gunfight-reckons-grok-ai
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    GPUs with 8GB of VRAM in 2025 are 'like bringing a butter knife to a gunfight' reckons Grok AI
    Musk's humorous AI isn't joking, suggests the increasing weight of analysis.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 Skillful Ways To Answer: “What Are You Doing With Your Future?”

    “What do you plan to do with your life?” It’s one of those big, intimidating questions that people tend to ask all the time when they find out you’re graduating high school or college. One minute you’re eating a piece of graduation cake and enjoying the relief of having no homework, and then suddenly all of your relatives are staring at you, waiting for you to walk them point-by-point through a map of the next five years.

    When you’re in this situation, it might be tempting to scream and run away as soon as they ask the question. Unfortunately, that kind of behavior is generally frowned upon. But there are ways to answer the question that take some of the pressure off of you, make the situation less awkward, and help you navigate the conversation with ease. Here are nine different approaches you can take when someone asks what you’re doing with your future.

    1. Shorten the time frame.
    You may not have your long-term future mapped out (you aren’t alone!), but you might have plans coming up this summer or even just for the next semester. Talk about those more immediate plans instead. When people ask what you’re up to after graduation, they generally just want to know what the next step is. It’s totally okay to limit your answer to the next few months. Try an answer like:

    - I’m going camping with some friends this summer before I start my job search.
    - I’m finishing up my prerequisites at the community college while I decide on a university.

    2. Talk about your passions.
    You don’t have to focus solely on accomplishments, job offers, or acceptance letters when someone asks about the future. Instead, talk about what you’re passionate about and the kinds of work or study you’d like to do in the following years. Try a phrase like:

    - I’m really interested in [subject], so I’m considering options related to that.
    - I know someone who works in [career field], and I really want to learn more about it.

    3. Share the one thing you’re most excited about.
    If you got an exciting new job or acceptance into a dream school, that’s a great thing to share. If you’re still working towards your big goals, talk about something coming up on the horizon of your life that makes you really excited. Maybe it’s a trip you’re taking, a summer internship, tours of different schools, or even some interviews with various companies that you’re really interested in. Allow others to share in the excitement!

    4. Ask for advice.
    Graduation is the start of a new chapter in life, and everyone who’s gone through that transition had to make important decisions about the future. When someone asks about your future, try asking them how they handled some of those big decisions. People love to talk about their own lives and offer advice. They might even have good suggestions on different steps to take that you hadn’t thought about yet. Say:

    - I’m still deciding on my next step. What did you do when you were my age?
    - I have two options I’m really excited about. Which one would you pick?

    5. Use humor.
    Let’s be honest: this is a tricky question to answer, and it can make you feel like you’re being put on the spot. If it makes you more comfortable, lighten the mood by injecting some humor into the conversation. Humor can be a great way to deflect when you feel like someone is judging your responses, and it’s also an easy way to change the subject if you’d rather avoid the topic entirely. Try something like:

    - Well, my first commitment is catching up on all the TV shows I missed this semester. What about you?
    - You mean to tell me there’s more work after graduation?

    6. Focus on mental health.
    It’s normal to need some breathing room between big life changes, especially when a part of your academic life took place during a pandemic! If you’re taking some time off, using the next few months to relax and regroup, or just taking your time while you consider different options, it’s OK to say that. It can be as simple as:

    - Finishing school took a lot of work, so I’m taking some time to consider my next steps.
    - I’m taking some time off to reset, so I’m fresh for my next opportunities.

    7. Turn the question around.
    If being asked about your future feels like an interrogation, invite the other person to share their future plans as well. Making the question more conversational can help ease any tension you might feel or even change the subject if that’s what you’re aiming for. When there’s more of a back-and-forth happening, it won’t feel so much like you’re sitting in the hot seat. You could say:

    - I have a few trips lined up and then I’m thinking about doing [x]. What do you have coming up this year?
    - I’m thinking about [X], but haven’t decided. What have you been up to?

    8. Talk about the big picture.
    You may not know exactly what you want to do next, but you likely have some ideas about what you want your life to look like in the future. Go big! Talk about your overarching goals and what really makes you tick. You’re working towards something, even if you don’t know every single step along the path yet. You might say something like:

    - I’d like to work towards a career in publishing.
    - I want to open my own business one day, so I’m hoping to major in business management or economics.
    - I’m really focused on trying new things and honing in on the right career for myself.

    9. Challenge expectations.
    When people ask you about the future, they’re often expecting you to brag about a new job or school you’ll be attending, but jobs and school aren’t the only things you’re allowed to be proud of. Maybe you’re prioritizing volunteer opportunities, personal enrichment, time with family and friends, or even just the freedom of having finally graduated. You get to decide what to focus on when you answer this question, even if it doesn’t follow the typical script. Take advantage of that and steer the conversation towards what makes you tick.

    - School kept me so busy that I’m really looking forward to spending time with my friends and family over the next few months.
    - I’m planning on grad school later on, but in the meantime I’m spending a lot of time volunteering with [organization].
    - I haven’t made a final decision about work yet, but I’m really excited to figure out what’s next.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    9 Skillful Ways To Answer: “What Are You Doing With Your Future?” “What do you plan to do with your life?” It’s one of those big, intimidating questions that people tend to ask all the time when they find out you’re graduating high school or college. One minute you’re eating a piece of graduation cake and enjoying the relief of having no homework, and then suddenly all of your relatives are staring at you, waiting for you to walk them point-by-point through a map of the next five years. When you’re in this situation, it might be tempting to scream and run away as soon as they ask the question. Unfortunately, that kind of behavior is generally frowned upon. But there are ways to answer the question that take some of the pressure off of you, make the situation less awkward, and help you navigate the conversation with ease. Here are nine different approaches you can take when someone asks what you’re doing with your future. 1. Shorten the time frame. You may not have your long-term future mapped out (you aren’t alone!), but you might have plans coming up this summer or even just for the next semester. Talk about those more immediate plans instead. When people ask what you’re up to after graduation, they generally just want to know what the next step is. It’s totally okay to limit your answer to the next few months. Try an answer like: - I’m going camping with some friends this summer before I start my job search. - I’m finishing up my prerequisites at the community college while I decide on a university. 2. Talk about your passions. You don’t have to focus solely on accomplishments, job offers, or acceptance letters when someone asks about the future. Instead, talk about what you’re passionate about and the kinds of work or study you’d like to do in the following years. Try a phrase like: - I’m really interested in [subject], so I’m considering options related to that. - I know someone who works in [career field], and I really want to learn more about it. 3. Share the one thing you’re most excited about. If you got an exciting new job or acceptance into a dream school, that’s a great thing to share. If you’re still working towards your big goals, talk about something coming up on the horizon of your life that makes you really excited. Maybe it’s a trip you’re taking, a summer internship, tours of different schools, or even some interviews with various companies that you’re really interested in. Allow others to share in the excitement! 4. Ask for advice. Graduation is the start of a new chapter in life, and everyone who’s gone through that transition had to make important decisions about the future. When someone asks about your future, try asking them how they handled some of those big decisions. People love to talk about their own lives and offer advice. They might even have good suggestions on different steps to take that you hadn’t thought about yet. Say: - I’m still deciding on my next step. What did you do when you were my age? - I have two options I’m really excited about. Which one would you pick? 5. Use humor. Let’s be honest: this is a tricky question to answer, and it can make you feel like you’re being put on the spot. If it makes you more comfortable, lighten the mood by injecting some humor into the conversation. Humor can be a great way to deflect when you feel like someone is judging your responses, and it’s also an easy way to change the subject if you’d rather avoid the topic entirely. Try something like: - Well, my first commitment is catching up on all the TV shows I missed this semester. What about you? - You mean to tell me there’s more work after graduation? 6. Focus on mental health. It’s normal to need some breathing room between big life changes, especially when a part of your academic life took place during a pandemic! If you’re taking some time off, using the next few months to relax and regroup, or just taking your time while you consider different options, it’s OK to say that. It can be as simple as: - Finishing school took a lot of work, so I’m taking some time to consider my next steps. - I’m taking some time off to reset, so I’m fresh for my next opportunities. 7. Turn the question around. If being asked about your future feels like an interrogation, invite the other person to share their future plans as well. Making the question more conversational can help ease any tension you might feel or even change the subject if that’s what you’re aiming for. When there’s more of a back-and-forth happening, it won’t feel so much like you’re sitting in the hot seat. You could say: - I have a few trips lined up and then I’m thinking about doing [x]. What do you have coming up this year? - I’m thinking about [X], but haven’t decided. What have you been up to? 8. Talk about the big picture. You may not know exactly what you want to do next, but you likely have some ideas about what you want your life to look like in the future. Go big! Talk about your overarching goals and what really makes you tick. You’re working towards something, even if you don’t know every single step along the path yet. You might say something like: - I’d like to work towards a career in publishing. - I want to open my own business one day, so I’m hoping to major in business management or economics. - I’m really focused on trying new things and honing in on the right career for myself. 9. Challenge expectations. When people ask you about the future, they’re often expecting you to brag about a new job or school you’ll be attending, but jobs and school aren’t the only things you’re allowed to be proud of. Maybe you’re prioritizing volunteer opportunities, personal enrichment, time with family and friends, or even just the freedom of having finally graduated. You get to decide what to focus on when you answer this question, even if it doesn’t follow the typical script. Take advantage of that and steer the conversation towards what makes you tick. - School kept me so busy that I’m really looking forward to spending time with my friends and family over the next few months. - I’m planning on grad school later on, but in the meantime I’m spending a lot of time volunteering with [organization]. - I haven’t made a final decision about work yet, but I’m really excited to figure out what’s next. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ปล่อย ไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6790 ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม Warhammer 40000: Darktide, The Last of Us Part 2 และ Blender โดยเฉพาะปัญหา เงากระพริบและการแสดงผลผิดพลาด ในเกม The Last of Us Part 2

    นอกจากนี้ ไดรเวอร์ยังมีการปรับปรุงสำหรับ Intel Arc B-Series และ A-Series รวมถึง Intel Core Ultra Series 2 ที่มี GPU ในตัว อย่างไรก็ตาม ยังมี ปัญหาที่พบในเวอร์ชันนี้ เช่น Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ และ Call of Duty: Black Ops 6 อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบในบางฉาก

    ✅ การแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม
    - Warhammer 40000: Darktide (DX12) แก้ไขปัญหาพื้นผิวสีดำผิดปกติ
    - The Last of Us Part 2 (DX12) แก้ไขปัญหาเงากระพริบ
    - Blender ปรับปรุงความเข้ากันได้กับ camera gizmo

    ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์
    - รองรับ Intel Arc A-Series (Alchemist) และ B-Series (Battlemage)
    - รองรับ Intel Core Ultra Series 2 (Lunar Lake และ Arrow Lake)

    ✅ ปัญหาที่ยังพบในเวอร์ชันนี้
    - Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ
    - Call of Duty: Black Ops 6 (DX12) อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบ
    - Returnal (DX12) อาจเกิดข้อผิดพลาดเมื่อเปิด Ray-Tracing

    ✅ แนวทางแก้ไขปัญหาที่พบ
    - แนะนำให้ ปิด GPU ในตัว หากพบปัญหาในระบบที่ใช้หลาย GPU
    - ตรวจสอบ การตั้งค่า Ray-Tracing ในเกมที่มีปัญหา

    https://www.neowin.net/news/intels-new-gpu-driver-fixes-display-flickering-in-the-last-of-us-part-2-and-more/
    Intel ได้ปล่อย ไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6790 ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม Warhammer 40000: Darktide, The Last of Us Part 2 และ Blender โดยเฉพาะปัญหา เงากระพริบและการแสดงผลผิดพลาด ในเกม The Last of Us Part 2 นอกจากนี้ ไดรเวอร์ยังมีการปรับปรุงสำหรับ Intel Arc B-Series และ A-Series รวมถึง Intel Core Ultra Series 2 ที่มี GPU ในตัว อย่างไรก็ตาม ยังมี ปัญหาที่พบในเวอร์ชันนี้ เช่น Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ และ Call of Duty: Black Ops 6 อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบในบางฉาก ✅ การแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม - Warhammer 40000: Darktide (DX12) แก้ไขปัญหาพื้นผิวสีดำผิดปกติ - The Last of Us Part 2 (DX12) แก้ไขปัญหาเงากระพริบ - Blender ปรับปรุงความเข้ากันได้กับ camera gizmo ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์ - รองรับ Intel Arc A-Series (Alchemist) และ B-Series (Battlemage) - รองรับ Intel Core Ultra Series 2 (Lunar Lake และ Arrow Lake) ✅ ปัญหาที่ยังพบในเวอร์ชันนี้ - Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ - Call of Duty: Black Ops 6 (DX12) อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบ - Returnal (DX12) อาจเกิดข้อผิดพลาดเมื่อเปิด Ray-Tracing ✅ แนวทางแก้ไขปัญหาที่พบ - แนะนำให้ ปิด GPU ในตัว หากพบปัญหาในระบบที่ใช้หลาย GPU - ตรวจสอบ การตั้งค่า Ray-Tracing ในเกมที่มีปัญหา https://www.neowin.net/news/intels-new-gpu-driver-fixes-display-flickering-in-the-last-of-us-part-2-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel's new GPU driver fixes display flickering in The Last of Us Part 2 and more
    Intel issued a new driver with some important fixes for The Last of Us Part 2, Warhammer 4000: Darktide, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล
    รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand)

    ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน

    Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน)
    ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง

    ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ?
    -ทันโลก ทันเกม:
    ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร
    -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง:
    รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ
    -สร้างความคล่องตัว (Career Agility):
    เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต
    -แสดงความมุ่งมั่น:
    การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา

    มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential?
    การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ:
    -โปรไฟล์โดดเด่น:
    นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น:
    95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา
    -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ:
    97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing)

    ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ:
    นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี
    ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้!
    และ
    98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน
    -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน:
    นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน
    -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ:
    นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว

    ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ
    -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน:
    ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน
    -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า:
    เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
    -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ:
    ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง
    -สร้างความมั่นใจ:
    การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง
    -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่:
    อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้

    Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก
    ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก:
    -รักษาความสดใหม่:
    ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค
    -สร้างความแตกต่าง:
    ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร
    -ลงทุนในตัวเอง:
    เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว

    สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน
    ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน

    การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ

    www.10-xconsulting.com
    Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน) ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ? -ทันโลก ทันเกม: ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง: รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ -สร้างความคล่องตัว (Career Agility): เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต -แสดงความมุ่งมั่น: การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential? การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ: -โปรไฟล์โดดเด่น: นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น: 95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ: 97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing) ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ: นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้! และ 98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน: นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ: นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน: ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า: เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ: ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง -สร้างความมั่นใจ: การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่: อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้ Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก: -รักษาความสดใหม่: ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค -สร้างความแตกต่าง: ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร -ลงทุนในตัวเอง: เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules

    การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่

    ✅ การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio
    - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure
    - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions

    ✅ ความสำคัญของ PCIe 6
    - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
    - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล

    ✅ ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio
    - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร
    - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล

    ✅ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม
    - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6
    - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน

    https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่ ✅ การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ✅ ความสำคัญของ PCIe 6 - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ✅ ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล ✅ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6 - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Astera Labs Ramps Production of PCIe 6 Connectivity Portfolio
    Astera Labs, Inc., a global leader in semiconductor-based connectivity solutions for AI and cloud infrastructure, today announced its purpose-built PCIe 6 connectivity portfolio is ramping production to fast-track deployments of modern AI platforms at scale. Now featuring gearbox connectivity soluti...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยใช้ เทคนิคการบัดกรีแบบ Intrusive Reflow Soldering ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    เทคนิคใหม่นี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า โดยช่วยลด ขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT

    ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% และลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ซึ่งช่วยให้ Raspberry Pi สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ การใช้เทคนิค Intrusive Reflow Soldering
    - ช่วยให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT
    - ลดขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต

    ✅ ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง
    - อัตราการคืนสินค้าลดลง 50%
    - ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15%
    - ลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี

    ✅ การนำเทคนิคนี้ไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า
    - เริ่มต้นจาก Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า

    ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
    - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - ช่วยให้ Raspberry Pi ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107777-raspberry-pi-improved-manufacturing-sustainability-thanks-new-soldering.html
    Raspberry Pi ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยใช้ เทคนิคการบัดกรีแบบ Intrusive Reflow Soldering ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เทคนิคใหม่นี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า โดยช่วยลด ขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% และลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ซึ่งช่วยให้ Raspberry Pi สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การใช้เทคนิค Intrusive Reflow Soldering - ช่วยให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT - ลดขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ✅ ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง - อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% - ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% - ลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ✅ การนำเทคนิคนี้ไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า - เริ่มต้นจาก Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - ช่วยให้ Raspberry Pi ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techspot.com/news/107777-raspberry-pi-improved-manufacturing-sustainability-thanks-new-soldering.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Raspberry Pi says it's improved manufacturing and sustainability thanks to a new soldering solution
    Raspberry Pi Hardware Engineer Roger Thornton explained the change in a recent blog post. Working with its manufacturing partner Sony, the UK organization gradually implemented a soldering...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vibrant spring forest.
    Vibrant spring forest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม

    การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion

    IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม
    - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ
    - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16%
    - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ การปรับแต่งของ IPO
    - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz
    - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz

    ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost
    - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ✅ การใช้งานและการเข้าถึง
    - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด
    - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ การปรับแต่งของ IPO - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ✅ การใช้งานและการเข้าถึง - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel IPO delivers better gaming performance than 200S Boost in user benchmarks
    Similar performance-enhancing technology but slightly different results
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปลี่ยนสำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนในคดีฟ้องร้องของผู้ถือหุ้น โดยเลือก Jenner & Block แทน Simpson Thacher ซึ่งเคยเป็นตัวแทนของบริษัทในการซื้อกิจการ Activision Blizzard มูลค่า 69 พันล้านดอลลาร์

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Jenner & Block กำลังต่อสู้กับรัฐบาลของ Donald Trump ในคดีที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งบริหารที่จำกัดการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทกฎหมายบางแห่ง และพยายามยกเลิกสัญญาของลูกค้าของพวกเขา

    Microsoft ไม่ได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนสำนักงานกฎหมาย แต่ระบุว่า Simpson Thacher ยังคงเป็นตัวแทนของบริษัทในเรื่องอื่นๆ ขณะที่ Jenner & Block เคยทำงานให้ Microsoft มาก่อน และมีประสบการณ์ในการต่อสู้คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

    คดีในศาล Delaware Chancery Court เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่า Activision Blizzard อนุมัติร่างข้อตกลงการควบรวมกิจการโดยไม่ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย Microsoft ได้ขอให้ศาลรับรองการซื้อกิจการและปฏิเสธคำร้องขอค่าธรรมเนียม 15 ล้านดอลลาร์ จากทนายความของผู้ถือหุ้น Activision

    ✅ Microsoft เปลี่ยนสำนักงานกฎหมายในคดีผู้ถือหุ้น
    - เลือก Jenner & Block แทน Simpson Thacher
    - คดีเกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการ Activision Blizzard มูลค่า 69 พันล้านดอลลาร์

    ✅ ความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล Trump
    - Jenner & Block กำลังต่อสู้กับรัฐบาล Trump ในคดีเกี่ยวกับคำสั่งบริหาร
    - คำสั่งดังกล่าวจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและพยายามยกเลิกสัญญาของลูกค้าบริษัทกฎหมาย

    ✅ รายละเอียดของคดีในศาล Delaware
    - Activision Blizzard ถูกกล่าวหาว่าอนุมัติร่างข้อตกลงโดยไม่ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย
    - Microsoft ขอให้ศาลรับรองการซื้อกิจการและปฏิเสธค่าธรรมเนียม 15 ล้านดอลลาร์

    ✅ บทบาทของ Jenner & Block
    - เคยทำงานให้ Microsoft มาก่อน
    - มีประสบการณ์ในการต่อสู้คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/microsoft-swaps-law-firms-in-shareholder-case-hiring-trump-adversary
    Microsoft ได้เปลี่ยนสำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนในคดีฟ้องร้องของผู้ถือหุ้น โดยเลือก Jenner & Block แทน Simpson Thacher ซึ่งเคยเป็นตัวแทนของบริษัทในการซื้อกิจการ Activision Blizzard มูลค่า 69 พันล้านดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Jenner & Block กำลังต่อสู้กับรัฐบาลของ Donald Trump ในคดีที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งบริหารที่จำกัดการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทกฎหมายบางแห่ง และพยายามยกเลิกสัญญาของลูกค้าของพวกเขา Microsoft ไม่ได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนสำนักงานกฎหมาย แต่ระบุว่า Simpson Thacher ยังคงเป็นตัวแทนของบริษัทในเรื่องอื่นๆ ขณะที่ Jenner & Block เคยทำงานให้ Microsoft มาก่อน และมีประสบการณ์ในการต่อสู้คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล คดีในศาล Delaware Chancery Court เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่า Activision Blizzard อนุมัติร่างข้อตกลงการควบรวมกิจการโดยไม่ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย Microsoft ได้ขอให้ศาลรับรองการซื้อกิจการและปฏิเสธคำร้องขอค่าธรรมเนียม 15 ล้านดอลลาร์ จากทนายความของผู้ถือหุ้น Activision ✅ Microsoft เปลี่ยนสำนักงานกฎหมายในคดีผู้ถือหุ้น - เลือก Jenner & Block แทน Simpson Thacher - คดีเกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการ Activision Blizzard มูลค่า 69 พันล้านดอลลาร์ ✅ ความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล Trump - Jenner & Block กำลังต่อสู้กับรัฐบาล Trump ในคดีเกี่ยวกับคำสั่งบริหาร - คำสั่งดังกล่าวจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและพยายามยกเลิกสัญญาของลูกค้าบริษัทกฎหมาย ✅ รายละเอียดของคดีในศาล Delaware - Activision Blizzard ถูกกล่าวหาว่าอนุมัติร่างข้อตกลงโดยไม่ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย - Microsoft ขอให้ศาลรับรองการซื้อกิจการและปฏิเสธค่าธรรมเนียม 15 ล้านดอลลาร์ ✅ บทบาทของ Jenner & Block - เคยทำงานให้ Microsoft มาก่อน - มีประสบการณ์ในการต่อสู้คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/microsoft-swaps-law-firms-in-shareholder-case-hiring-trump-adversary
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft swaps law firms in shareholder case, hiring Trump adversary
    (Reuters) -Microsoft is switching the law firm representing it in a shareholder case, replacing one that settled with the Trump administration to avoid a punishing executive order with one that is fighting the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา
    - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน
    - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory

    ✅ กำหนดการผลิต
    - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025
    - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi
    - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด
    - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube
    - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory ✅ กำหนดการผลิต - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla hiring over 1,000 workers to ramp up Semi truck production, Business Insider reports
    (Reuters) -Tesla is hiring more than a thousand new workers in Nevada as the electric vehicle maker looks to ramp up mass production of its much-delayed Semi trucks, Business Insider reported on Tuesday, citing people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ขยายการใช้งาน Vids ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอที่ใช้ AI ภายใน Google Workspace ไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ได้แก่ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit โดยเริ่มเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2025 และจะใช้เวลาประมาณ 15 วันในการเปิดใช้งานให้ครบทุกบัญชี

    Vids ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การสร้างวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับงานง่ายขึ้น แม้ผู้ใช้จะไม่มีทักษะการตัดต่อมาก่อน โดยมีฟีเจอร์เด่น เช่น "Help me create" ที่สามารถสร้างวิดีโอร่างพร้อมสตอรีบอร์ด ฉากที่แนะนำ ฟุตเทจสต็อก และสคริปต์จากคำสั่งหรือไฟล์ใน Google Drive นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI voiceovers และเพลงประกอบ เพื่อเร่งกระบวนการสร้างวิดีโอ

    Google ยังวางแผนเพิ่มความสามารถในการสร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองผ่านโมเดล AI Veo ในอนาคต โดย Vids จะช่วยให้ผู้ใช้สร้าง แก้ไข และแชร์วิดีโอได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการประกาศภายในองค์กร การฝึกอบรม หรือการแบ่งปันข้อมูล

    ✅ การขยายการใช้งาน
    - เปิดตัว Vids สำหรับ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit
    - ใช้เวลาประมาณ 15 วันในการเปิดใช้งานให้ครบทุกบัญชี

    ✅ ฟีเจอร์เด่นของ Vids
    - "Help me create" สร้างวิดีโอร่างพร้อมสตอรีบอร์ดและสคริปต์
    - AI voiceovers และเพลงประกอบเพื่อเร่งกระบวนการสร้าง

    ✅ การใช้งานและการเข้าถึง
    - ใช้งานได้บนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป
    - วิดีโอสามารถดูได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ

    ✅ ระยะเวลาการใช้งานฟีเจอร์ AI ฟรี
    - ลูกค้ากลุ่มใหม่สามารถใช้ฟีเจอร์ AI ฟรีเป็นเวลา 12 เดือน

    https://www.neowin.net/news/google-brings-vids-to-business-starter-enterprise-starter-and-nonprofit-customers/
    Google ได้ขยายการใช้งาน Vids ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอที่ใช้ AI ภายใน Google Workspace ไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ได้แก่ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit โดยเริ่มเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2025 และจะใช้เวลาประมาณ 15 วันในการเปิดใช้งานให้ครบทุกบัญชี Vids ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การสร้างวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับงานง่ายขึ้น แม้ผู้ใช้จะไม่มีทักษะการตัดต่อมาก่อน โดยมีฟีเจอร์เด่น เช่น "Help me create" ที่สามารถสร้างวิดีโอร่างพร้อมสตอรีบอร์ด ฉากที่แนะนำ ฟุตเทจสต็อก และสคริปต์จากคำสั่งหรือไฟล์ใน Google Drive นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI voiceovers และเพลงประกอบ เพื่อเร่งกระบวนการสร้างวิดีโอ Google ยังวางแผนเพิ่มความสามารถในการสร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองผ่านโมเดล AI Veo ในอนาคต โดย Vids จะช่วยให้ผู้ใช้สร้าง แก้ไข และแชร์วิดีโอได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการประกาศภายในองค์กร การฝึกอบรม หรือการแบ่งปันข้อมูล ✅ การขยายการใช้งาน - เปิดตัว Vids สำหรับ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit - ใช้เวลาประมาณ 15 วันในการเปิดใช้งานให้ครบทุกบัญชี ✅ ฟีเจอร์เด่นของ Vids - "Help me create" สร้างวิดีโอร่างพร้อมสตอรีบอร์ดและสคริปต์ - AI voiceovers และเพลงประกอบเพื่อเร่งกระบวนการสร้าง ✅ การใช้งานและการเข้าถึง - ใช้งานได้บนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป - วิดีโอสามารถดูได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ ✅ ระยะเวลาการใช้งานฟีเจอร์ AI ฟรี - ลูกค้ากลุ่มใหม่สามารถใช้ฟีเจอร์ AI ฟรีเป็นเวลา 12 เดือน https://www.neowin.net/news/google-brings-vids-to-business-starter-enterprise-starter-and-nonprofit-customers/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google brings Vids to Business Starter, Enterprise Starter and Nonprofit customers
    Google launched Vids last year as an AI-assisted video tool; now the service is expanding to more customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของ หมายเลขโทรศัพท์เสมือน (Virtual Phone Number) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2025 โดยเน้นถึงประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสาร

    หมายเลขโทรศัพท์เสมือนช่วยให้ธุรกิจสามารถรับสาย ส่งข้อความ และจัดการข้อความเสียงผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บอินเทอร์เฟซ โดยไม่ต้องใช้ระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถแยกหมายเลขส่วนตัวออกจากหมายเลขธุรกิจได้

    ในปี 2025 มีผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์เสมือนหลายรายที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น OpenPhone, Google Voice, Grasshopper, RingCentral และ Nextiva โดยแต่ละรายมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน

    ✅ ประโยชน์ของหมายเลขโทรศัพท์เสมือน
    - เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตั้งค่าทักทายและเมนูการโทร
    - รองรับการทำงานจากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต
    - ขยายธุรกิจได้ง่ายโดยเพิ่มหมายเลขหรือสมาชิกทีม

    ✅ ผู้ให้บริการที่แนะนำในปี 2025
    - OpenPhone: เหมาะสำหรับทีมระยะไกลและการส่งข้อความ ($19/เดือน)
    - Google Voice: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเดี่ยว (ฟรี/$10/เดือน)
    - Grasshopper: เหมาะสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม ($31/เดือน)
    - RingCentral: รองรับ VoIP และการทำงานร่วมกัน ($30/เดือน)
    - Nextiva: เน้นการบริการลูกค้าและการสนับสนุน ($25.95/เดือน)

    ✅ ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณา
    - การส่งข้อความ (SMS/MMS)
    - การสนับสนุนผู้ใช้หลายคน
    - การรวมเข้ากับเครื่องมือ CRM หรือ Slack

    https://computercity.com/internet/best-virtual-phone-number-for-small-business-2025
    บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของ หมายเลขโทรศัพท์เสมือน (Virtual Phone Number) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2025 โดยเน้นถึงประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสาร หมายเลขโทรศัพท์เสมือนช่วยให้ธุรกิจสามารถรับสาย ส่งข้อความ และจัดการข้อความเสียงผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บอินเทอร์เฟซ โดยไม่ต้องใช้ระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถแยกหมายเลขส่วนตัวออกจากหมายเลขธุรกิจได้ ในปี 2025 มีผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์เสมือนหลายรายที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น OpenPhone, Google Voice, Grasshopper, RingCentral และ Nextiva โดยแต่ละรายมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน ✅ ประโยชน์ของหมายเลขโทรศัพท์เสมือน - เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตั้งค่าทักทายและเมนูการโทร - รองรับการทำงานจากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต - ขยายธุรกิจได้ง่ายโดยเพิ่มหมายเลขหรือสมาชิกทีม ✅ ผู้ให้บริการที่แนะนำในปี 2025 - OpenPhone: เหมาะสำหรับทีมระยะไกลและการส่งข้อความ ($19/เดือน) - Google Voice: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเดี่ยว (ฟรี/$10/เดือน) - Grasshopper: เหมาะสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม ($31/เดือน) - RingCentral: รองรับ VoIP และการทำงานร่วมกัน ($30/เดือน) - Nextiva: เน้นการบริการลูกค้าและการสนับสนุน ($25.95/เดือน) ✅ ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณา - การส่งข้อความ (SMS/MMS) - การสนับสนุนผู้ใช้หลายคน - การรวมเข้ากับเครื่องมือ CRM หรือ Slack https://computercity.com/internet/best-virtual-phone-number-for-small-business-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Best Virtual Phone Number for Small Business (2025)
    In today’s competitive market, small businesses need every edge they can get—and communication is one of the most important. A virtual phone number gives your
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • Hitachi Vantara ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi ได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วย Akira ransomware ทำให้ต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์ ส่งผลกระทบต่อบริการและลูกค้าหลายราย

    Akira ransomware เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้กลยุทธ์ double-extortion โดยขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัส และเรียกร้องค่าไถ่เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลที่ถูกขโมย กลุ่มนี้มักเจาะระบบผ่าน ช่องโหว่ของ VPN และข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย

    แม้ว่าบริการ คลาวด์ของ Hitachi Vantara จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่บริษัทต้องปิดระบบภายใน รวมถึง Hitachi Vantara Manufacturing เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของมัลแวร์

    ✅ ผลกระทบต่อ Hitachi Vantara
    - บริษัทต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์
    - ส่งผลกระทบต่อบริการและลูกค้าหลายราย

    ✅ ลักษณะของ Akira ransomware
    - ใช้กลยุทธ์ double-extortion ขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัส
    - เจาะระบบผ่านช่องโหว่ของ VPN และข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย

    ✅ การตอบสนองของ Hitachi Vantara
    - ปิดระบบที่ได้รับผลกระทบเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของมัลแวร์
    - นำผู้เชี่ยวชาญภายนอกเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ

    ✅ ผลกระทบต่อบริการคลาวด์
    - บริการคลาวด์ของ Hitachi Vantara ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง

    https://www.techradar.com/pro/security/hitachi-vantara-takes-down-important-systems-following-akira-ransomware-attack
    Hitachi Vantara ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi ได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วย Akira ransomware ทำให้ต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์ ส่งผลกระทบต่อบริการและลูกค้าหลายราย Akira ransomware เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้กลยุทธ์ double-extortion โดยขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัส และเรียกร้องค่าไถ่เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลที่ถูกขโมย กลุ่มนี้มักเจาะระบบผ่าน ช่องโหว่ของ VPN และข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย แม้ว่าบริการ คลาวด์ของ Hitachi Vantara จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่บริษัทต้องปิดระบบภายใน รวมถึง Hitachi Vantara Manufacturing เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของมัลแวร์ ✅ ผลกระทบต่อ Hitachi Vantara - บริษัทต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์ - ส่งผลกระทบต่อบริการและลูกค้าหลายราย ✅ ลักษณะของ Akira ransomware - ใช้กลยุทธ์ double-extortion ขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัส - เจาะระบบผ่านช่องโหว่ของ VPN และข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย ✅ การตอบสนองของ Hitachi Vantara - ปิดระบบที่ได้รับผลกระทบเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของมัลแวร์ - นำผู้เชี่ยวชาญภายนอกเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ ✅ ผลกระทบต่อบริการคลาวด์ - บริการคลาวด์ของ Hitachi Vantara ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง https://www.techradar.com/pro/security/hitachi-vantara-takes-down-important-systems-following-akira-ransomware-attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI

    DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้

    Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ การเปิดตัว DOCA Argus
    - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ

    ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField
    - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI
    - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Cisco
    - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้ Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ การเปิดตัว DOCA Argus - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ✅ ความร่วมมือกับ Cisco - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NVIDIA Bringing Cybersecurity Platform to Every AI Factory
    As enterprises increasingly adopt AI, securing AI factories—where complex, agentic workflows are executed—has never been more critical. NVIDIA is bringing runtime cybersecurity to every AI factory with a new NVIDIA DOCA software framework, part of the NVIDIA cybersecurity AI platform. Running on the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts