• เดอะแก๊งอนุรักษ์ศักดินานิยมหรือและเดอะแก๊งโหนเจ้าบวกเดอะแก๊งล้มเจ้าร่วมถึงชุดคณะที่หัวหน้ามันบอกว่าทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน มันคงไม่ยอมอย่างชัดเจน,ผิดปกติมากคนชั่วเลวพวกนี้ทำไมลอยหน้าลอยตาบินบนในฐานอำนาจปกครองประเทศไทยอยู่ได้ถึงตอนนี้กระบวนการยุติธรรมเราลงดาบเชื่องช้ามาและเสมือนเป็นผู้ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาดจริงๆเลย,ปล่อยให้เกิดเหตุลุกลามใหญ่โตจนเจตนาจำนงไปเพื่อเสียอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจนด้วย,mou43/44ไม่ผ่านสภาก้าวล่วงพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ด้านภัยอธิปไตยดินแดนชัดเจนแต่กระบวนการยุติธรรมกลับนิ่งเฉย ซึ่งกูรูผู้รู้ชี้นำแล้วว่าสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวเวลาไหนได้ตลอดเวลาเพราะตกลงแค่สองฝ่าย ทั้งเขมรละเมิดจริงข้อตกลงด้วย,รัฐบาลปัจจุบันทั้งพรรคหลักพรรคร่วมตลอดสส.ฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดเข้าข่ายเป็นกบฎต่ออธิปไตยไทยชัดเจน ,สส.ทั้งสภานิ่งเฉยดูดายด้วย ไม่ประชุมยกเลิกmou43/44ที่ไม่ชอบนี้ด้วย เข้าข่ายความผิดชัดเจนร่วมกันต่อละเว้นปกป้องดินแดนอธิปไตยตนเองอย่างมีนัยยะสำคัญ ขาดซึ่งคุณสมบัติการเป็นสส.และพรรคการเมืองที่ไปมีเจตนาดำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยชาติไทยตนอย่างชัดเจน,ไร้การแสดงออกเต็มที่ในการปกป้องดินแดนตน ยังเห็นชอบการไม่ยกเลิกmou43/44ไปด้วย,ตลอดพรรคการเมืองยังมีหลักฐานชี้ชัดว่าถูกครอบงำจากพรรคเพื่อไทยชัดเจนในการไปเยี่ยมบ้านทักษิณก่อนการจัดตั้งรัฐบาล,สส.ทั้งสภาไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจในการร่วมปกป้องดินแดนไทยและอธิปไตยไทยจริงอย่างชัดเจนมาก,ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเฉยเมยต่อภัยคุกคามดินแดนไทยอธิปไตยไทยชัดเจนมาโดยตลอดจนแม่ทัพภาค2.บุกยึด11จุดคืนจากเขมรให้เห็นจริงประจักษ์ชัดเจนว่า สส.ทั้งสภาและชุดรัฐบาลนี้ไม่ปกป้องดินแดนอธิปไตยไทยจริงและมีเจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนพื้นที่ตลอดแนวพรมแดนไทยที่ติดกับเขมรจากการเจตนาไม่ยอมยกเลิกmou43/44นี้ซึ่งสามารถทำได้ทันทีในรัฐบาลชุดนี้แต่ฝ่ายเดียวได้ทั้งเขมรละเมิดจริงในข้อตกลงด้วย,เจตนาส่อเป็นภัยไส้ศึกจริงต่ออธิปไตยไทยทั้งที่ลาวและเวียดนามที่ติดกับเขมรก็ใช้1:50,000เหมือนกัน,แต่รัฐบาลไทยมีเจตนาปกป้อง1:200,000 เข้าข่ายชัดเจนมาก,
    ..ทหารไทยมีความชอบธรรมอย่างถึงที่สุดเพื่อประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศในสถานการณ์ที่เขมรเตรียมกำลังรอรบกับไทยด้วยอย่างชัดเจน,รัฐบาลไทยชุดนี้ตลอดสส.ทั้งสภา ไม่เป็นที่ไว้วางใจต่อการปกป้องอธิปไตยของชาติ,เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้และสส.ทั้งสภา,รัฐบาลชุดนี้และสภาสส.ทั้งหมดไม่สมควรมีสถานะใดๆอีกต่อไปและขอนายกฯพระราชทาน รัฐบาลพระราชทานเพื่อตัดตอนการแทรกแซงจากฝรั่งต่างชาติทั้งหมดมิให้วุ่นวายสร้างโกลาหลในวิถีปกครองไทยเราจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติจึงจัดการให้มีการเลือกตั้งใหม่.
    https://youtube.com/shorts/obm_MjGJ7qQ?si=G1ijo6sCzDuY-lg_
    เดอะแก๊งอนุรักษ์ศักดินานิยมหรือและเดอะแก๊งโหนเจ้าบวกเดอะแก๊งล้มเจ้าร่วมถึงชุดคณะที่หัวหน้ามันบอกว่าทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน มันคงไม่ยอมอย่างชัดเจน,ผิดปกติมากคนชั่วเลวพวกนี้ทำไมลอยหน้าลอยตาบินบนในฐานอำนาจปกครองประเทศไทยอยู่ได้ถึงตอนนี้กระบวนการยุติธรรมเราลงดาบเชื่องช้ามาและเสมือนเป็นผู้ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาดจริงๆเลย,ปล่อยให้เกิดเหตุลุกลามใหญ่โตจนเจตนาจำนงไปเพื่อเสียอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจนด้วย,mou43/44ไม่ผ่านสภาก้าวล่วงพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ด้านภัยอธิปไตยดินแดนชัดเจนแต่กระบวนการยุติธรรมกลับนิ่งเฉย ซึ่งกูรูผู้รู้ชี้นำแล้วว่าสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวเวลาไหนได้ตลอดเวลาเพราะตกลงแค่สองฝ่าย ทั้งเขมรละเมิดจริงข้อตกลงด้วย,รัฐบาลปัจจุบันทั้งพรรคหลักพรรคร่วมตลอดสส.ฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดเข้าข่ายเป็นกบฎต่ออธิปไตยไทยชัดเจน ,สส.ทั้งสภานิ่งเฉยดูดายด้วย ไม่ประชุมยกเลิกmou43/44ที่ไม่ชอบนี้ด้วย เข้าข่ายความผิดชัดเจนร่วมกันต่อละเว้นปกป้องดินแดนอธิปไตยตนเองอย่างมีนัยยะสำคัญ ขาดซึ่งคุณสมบัติการเป็นสส.และพรรคการเมืองที่ไปมีเจตนาดำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยชาติไทยตนอย่างชัดเจน,ไร้การแสดงออกเต็มที่ในการปกป้องดินแดนตน ยังเห็นชอบการไม่ยกเลิกmou43/44ไปด้วย,ตลอดพรรคการเมืองยังมีหลักฐานชี้ชัดว่าถูกครอบงำจากพรรคเพื่อไทยชัดเจนในการไปเยี่ยมบ้านทักษิณก่อนการจัดตั้งรัฐบาล,สส.ทั้งสภาไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจในการร่วมปกป้องดินแดนไทยและอธิปไตยไทยจริงอย่างชัดเจนมาก,ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเฉยเมยต่อภัยคุกคามดินแดนไทยอธิปไตยไทยชัดเจนมาโดยตลอดจนแม่ทัพภาค2.บุกยึด11จุดคืนจากเขมรให้เห็นจริงประจักษ์ชัดเจนว่า สส.ทั้งสภาและชุดรัฐบาลนี้ไม่ปกป้องดินแดนอธิปไตยไทยจริงและมีเจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนพื้นที่ตลอดแนวพรมแดนไทยที่ติดกับเขมรจากการเจตนาไม่ยอมยกเลิกmou43/44นี้ซึ่งสามารถทำได้ทันทีในรัฐบาลชุดนี้แต่ฝ่ายเดียวได้ทั้งเขมรละเมิดจริงในข้อตกลงด้วย,เจตนาส่อเป็นภัยไส้ศึกจริงต่ออธิปไตยไทยทั้งที่ลาวและเวียดนามที่ติดกับเขมรก็ใช้1:50,000เหมือนกัน,แต่รัฐบาลไทยมีเจตนาปกป้อง1:200,000 เข้าข่ายชัดเจนมาก, ..ทหารไทยมีความชอบธรรมอย่างถึงที่สุดเพื่อประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศในสถานการณ์ที่เขมรเตรียมกำลังรอรบกับไทยด้วยอย่างชัดเจน,รัฐบาลไทยชุดนี้ตลอดสส.ทั้งสภา ไม่เป็นที่ไว้วางใจต่อการปกป้องอธิปไตยของชาติ,เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้และสส.ทั้งสภา,รัฐบาลชุดนี้และสภาสส.ทั้งหมดไม่สมควรมีสถานะใดๆอีกต่อไปและขอนายกฯพระราชทาน รัฐบาลพระราชทานเพื่อตัดตอนการแทรกแซงจากฝรั่งต่างชาติทั้งหมดมิให้วุ่นวายสร้างโกลาหลในวิถีปกครองไทยเราจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติจึงจัดการให้มีการเลือกตั้งใหม่. https://youtube.com/shorts/obm_MjGJ7qQ?si=G1ijo6sCzDuY-lg_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาเชียนควรร่วมลงโทษประเทศเขมรที่เป็นประเทศแห่งฮับอาชญากรและอาชญากรรมของโลก,อาชญากรทั่วโลกมารวมตัวกันที่ประเทศเขมรจากนั้นนำโดยฮุนเซนฮุนมาเนตร่วมกระทำการทางอาชญากรรมไปทั่วโลก,ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ หลอกลวงค้าแรงงานทารุนเหยื่อตลอดชำแหละเหยื่อเพื่อค้าอวัยวะต่อเมื่อสิ้นสภาพการใช้แรงงาน ไร้มนุษยธรรมทุกๆด้าน แม้ศพทหารเขมรเองกว่าหลายกองพัน รวมๆกันแต่ละจุดปะทะ 70,000กว่านายบ้าง 20,000กว่านายบ้าง 10,000กว่านายบ้าง รวมๆกันมีทหารเขมรปะทะกับทหารไทยกว่า100,000นาย โดนระเบิดไข่เป็นศพไม่ต่ำกว่า10,000นายแน่นอน ในฐานบัญชาการต่างๆ แน่ๆกว่า5,000นายแน่นอนที่ฮุนเซนเขมรไม่ยอมเก็บศพทหารตนให้เกียรติทหารเขมรตนอย่างมีมนุษยธรรมแต่ก็ไม่เร่งรีบกระทำการ ,ประเทศอาเชียนและประเทศเอเชีย ต้องลงโทษเขมรปลดเขมรออกจากสถานะการเป็นประเทศเขมรทันที เพราะการยื่นเสนอตนขอเป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง พื้นฐานคือประเทศนั้นๆต้องดำรงไว้ซึ่งคุณค่าความเป็นมนุษยธรรมภายในประเทศตนนั้นๆ แต่เขมรก้าวล่วงพื้นฐานหลักการก่อตั้งประเทศ,สถานะความเป็นประเทศเขมรสมควรถูกยกเลิกทันที,อาเชียนคือใกล้ชิดที่สุดต้องลงมติถอดถอนเขมรให้สิ้นสถานะปกครองและสิ้นสถานะความเป็นประเทศทันที,อย่าพากันดีแต่ปากในชาติสมาชิกอาเชียนและชาติเอเชียทั้งทวีปเราเอง,คนเอเชียต้องสร้างความสงบสุขแก่ทวีปเอเชียตนด้วยมือของคนเอเชียเองมิใช่ฝรั่งตะวันตกแบบอดีตๆที่ผ่านมา.

    https://youtube.com/shorts/1u7EkKdhCAc?si=CNTtHup-RP-1sePn
    อาเชียนควรร่วมลงโทษประเทศเขมรที่เป็นประเทศแห่งฮับอาชญากรและอาชญากรรมของโลก,อาชญากรทั่วโลกมารวมตัวกันที่ประเทศเขมรจากนั้นนำโดยฮุนเซนฮุนมาเนตร่วมกระทำการทางอาชญากรรมไปทั่วโลก,ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ หลอกลวงค้าแรงงานทารุนเหยื่อตลอดชำแหละเหยื่อเพื่อค้าอวัยวะต่อเมื่อสิ้นสภาพการใช้แรงงาน ไร้มนุษยธรรมทุกๆด้าน แม้ศพทหารเขมรเองกว่าหลายกองพัน รวมๆกันแต่ละจุดปะทะ 70,000กว่านายบ้าง 20,000กว่านายบ้าง 10,000กว่านายบ้าง รวมๆกันมีทหารเขมรปะทะกับทหารไทยกว่า100,000นาย โดนระเบิดไข่เป็นศพไม่ต่ำกว่า10,000นายแน่นอน ในฐานบัญชาการต่างๆ แน่ๆกว่า5,000นายแน่นอนที่ฮุนเซนเขมรไม่ยอมเก็บศพทหารตนให้เกียรติทหารเขมรตนอย่างมีมนุษยธรรมแต่ก็ไม่เร่งรีบกระทำการ ,ประเทศอาเชียนและประเทศเอเชีย ต้องลงโทษเขมรปลดเขมรออกจากสถานะการเป็นประเทศเขมรทันที เพราะการยื่นเสนอตนขอเป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง พื้นฐานคือประเทศนั้นๆต้องดำรงไว้ซึ่งคุณค่าความเป็นมนุษยธรรมภายในประเทศตนนั้นๆ แต่เขมรก้าวล่วงพื้นฐานหลักการก่อตั้งประเทศ,สถานะความเป็นประเทศเขมรสมควรถูกยกเลิกทันที,อาเชียนคือใกล้ชิดที่สุดต้องลงมติถอดถอนเขมรให้สิ้นสถานะปกครองและสิ้นสถานะความเป็นประเทศทันที,อย่าพากันดีแต่ปากในชาติสมาชิกอาเชียนและชาติเอเชียทั้งทวีปเราเอง,คนเอเชียต้องสร้างความสงบสุขแก่ทวีปเอเชียตนด้วยมือของคนเอเชียเองมิใช่ฝรั่งตะวันตกแบบอดีตๆที่ผ่านมา. https://youtube.com/shorts/1u7EkKdhCAc?si=CNTtHup-RP-1sePn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราทุกคนเห็นแล้ว ว่า รมต. ที่มาจากโควต้า นั้น ประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตราฐาน กลาโหม เกษตร ศึกษาธิการ ไปรษณีย์ เป็นต้น
    มาช่วยกันฝัน และออกแบบรัฐธรรมนูญ โดยดำรงไว้ซึ่งหมวดพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงแห่งชาติ

    ไม่ต้องมีพรรคการเมือง เป็นประชาธิปไตยแบบไทย

    หมวดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง:
    ----------------------------------
    1) เป็นผู้มี หรือเคยมีประวัติการเสียภาษี หรือมียอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่มสะสม ปีละสามหมื่นบาทขึ้นไป
    2) มีอายุครบหรือเกิน 18 ปีบริบูรณ์
    3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่มีสัญชาติอื่น


    หมวดผู้สมัคร สส. เลือกตั้ง:
    -----------------------------------------
    1) มีอายุเกิน 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70ปีบริบูรณ์
    2) มีประวัติสร้างชื่อเสียง ระดับชาติ, ปราชญ์ชาวบ้าน, บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เป็นหลักฐาน ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 5ปีภาษี หรือสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาที่ กพ. รับรอง
    3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้


    หมวดผู้สมัคร นายกฯ รมต. เลือกตั้ง:
    ------------------------------------------------------
    1) มีคุณสมบัติเหมือน ผู้สมัคร สส.
    2) เป็นตำแหน่งหน้าที่แยกสมัครต่างจาก ผู้สมัคร สส. โดยผู้สมัครเลือกตั้ง หน้าที่ นายกฯ หรือ รมต. จะต้องเลือกสมัครในหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเท่านั้น
    3) ผู้สมัคร มีหน้าที่แสดงวิสัยทัศน์ และแผนการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 10ข้อ ลงสื่อสารให้สามารถตรวจสอบ
    4) คะแนนมาจากทั่วประเทศ


    หมวด สว. ส่วนโควตา:
    1) ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ปลัดกระทรวง, ตัวแทนศิลปินแห่งชาติทุกสาขา, อาจารย์ผู้มีผลงานวิจัยระดับชาติหรือระดับโลก, อดีตนักเรียนนักศึกษาที่เคยเข้าชิงแข่งขันทางการศึกษาระดับโลก เช่น แข่งขันคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยมี เกมส์, อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่ผ่านสนามเอเชี่ยนเกมส์ขึ้นไป หลายๆ ประเภท
    2) มีอายุไม่เกิน 76ปีบริบูรณ์
    3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้
    4) ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน กับ สส. นายกฯ หรือ รมต. เช่น เป็นคนในครอบครัว สามีภรรยา พ่อแม่ พี่น้องในสายเลือด, ไม่เป็นหุ้นส่วน


    ทุกผู้ที่ได้การคัดเลือก จะต้องมีความละอายชั่ว ศีลธรรม หากพบว่ากระทำผิด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทันทีไม่สามารถยืดเยื้อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

    ผู้ช่วย สส. รมต. จะมีได้ไม่เกินกี่คน รายชื่อผู้ช่วย ต้องประกาศ ให้สาธารณะตรวจสอบได้โดยสะดวก

    เราทุกคนเห็นแล้ว ว่า รมต. ที่มาจากโควต้า นั้น ประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตราฐาน กลาโหม เกษตร ศึกษาธิการ ไปรษณีย์ เป็นต้น มาช่วยกันฝัน และออกแบบรัฐธรรมนูญ โดยดำรงไว้ซึ่งหมวดพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ต้องมีพรรคการเมือง เป็นประชาธิปไตยแบบไทย หมวดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง: ---------------------------------- 1) เป็นผู้มี หรือเคยมีประวัติการเสียภาษี หรือมียอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่มสะสม ปีละสามหมื่นบาทขึ้นไป 2) มีอายุครบหรือเกิน 18 ปีบริบูรณ์ 3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่มีสัญชาติอื่น หมวดผู้สมัคร สส. เลือกตั้ง: ----------------------------------------- 1) มีอายุเกิน 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70ปีบริบูรณ์ 2) มีประวัติสร้างชื่อเสียง ระดับชาติ, ปราชญ์ชาวบ้าน, บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เป็นหลักฐาน ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 5ปีภาษี หรือสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาที่ กพ. รับรอง 3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้ หมวดผู้สมัคร นายกฯ รมต. เลือกตั้ง: ------------------------------------------------------ 1) มีคุณสมบัติเหมือน ผู้สมัคร สส. 2) เป็นตำแหน่งหน้าที่แยกสมัครต่างจาก ผู้สมัคร สส. โดยผู้สมัครเลือกตั้ง หน้าที่ นายกฯ หรือ รมต. จะต้องเลือกสมัครในหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเท่านั้น 3) ผู้สมัคร มีหน้าที่แสดงวิสัยทัศน์ และแผนการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 10ข้อ ลงสื่อสารให้สามารถตรวจสอบ 4) คะแนนมาจากทั่วประเทศ หมวด สว. ส่วนโควตา: 1) ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ปลัดกระทรวง, ตัวแทนศิลปินแห่งชาติทุกสาขา, อาจารย์ผู้มีผลงานวิจัยระดับชาติหรือระดับโลก, อดีตนักเรียนนักศึกษาที่เคยเข้าชิงแข่งขันทางการศึกษาระดับโลก เช่น แข่งขันคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยมี เกมส์, อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่ผ่านสนามเอเชี่ยนเกมส์ขึ้นไป หลายๆ ประเภท 2) มีอายุไม่เกิน 76ปีบริบูรณ์ 3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้ 4) ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน กับ สส. นายกฯ หรือ รมต. เช่น เป็นคนในครอบครัว สามีภรรยา พ่อแม่ พี่น้องในสายเลือด, ไม่เป็นหุ้นส่วน ทุกผู้ที่ได้การคัดเลือก จะต้องมีความละอายชั่ว ศีลธรรม หากพบว่ากระทำผิด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทันทีไม่สามารถยืดเยื้อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ผู้ช่วย สส. รมต. จะมีได้ไม่เกินกี่คน รายชื่อผู้ช่วย ต้องประกาศ ให้สาธารณะตรวจสอบได้โดยสะดวก
    9 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 305
    ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    เนื้อความทั้งหมด : -
    --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้
    เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู
    และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น)
    ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู
    แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ;
    --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด
    มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย,
    มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย,
    คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้
    เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น
    ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก
    ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน,
    มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ;
    ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง.
    --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า
    คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน

    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก
    เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง
    เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​
    เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้
    เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว
    เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่
    : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส,
    และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ,
    +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ
    และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก.
    ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว
    ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก,
    ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ;
    ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล
    ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
    อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย.
    กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว,
    เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม,
    เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ.
    เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น,
    +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ

    ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่,
    ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน.
    เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส
    และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453
    http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20
    ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 305 ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 เนื้อความทั้งหมด : - --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย, คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา. http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453 http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓ http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20 ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์)
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์) อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึงน้ำนมของมารดา. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ๑ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และเป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ๑. โมกขจิกะ เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้. ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้นเป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’

    ความมีอยู่ว่า
    ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ...
    จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย

    Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’

    เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’

    แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น

    นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก

    นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง

    Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm

    ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html
    http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://theplayingcardfactory.com/history
    https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html
    http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2

    #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’ ความมีอยู่ว่า ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ... จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้) ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html Credit ข้อมูลจาก: https://theplayingcardfactory.com/history https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2 #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิล คลินตัน ยอมรับว่า เนทันยาฮูมีความต้องการที่จะทำสงครามกับอิหร่านมานานแล้ว โดยเชื่อว่าจะช่วยให้เขาคงไว้ซึ่งอำนาจได้

    คลินตันกล่าวเสริมว่าเขาหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะคลี่คลายวิกฤตได้โดยไม่ลากสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งที่ยืดเยื้ออีกครั้ง

    แต่คลินตันยังเห็นด้วยว่า "อิหร่านจะต้องไม่มีสิทธิครอบครองอาวุธนิวเคลียร์"
    บิล คลินตัน ยอมรับว่า เนทันยาฮูมีความต้องการที่จะทำสงครามกับอิหร่านมานานแล้ว โดยเชื่อว่าจะช่วยให้เขาคงไว้ซึ่งอำนาจได้ คลินตันกล่าวเสริมว่าเขาหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะคลี่คลายวิกฤตได้โดยไม่ลากสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งที่ยืดเยื้ออีกครั้ง แต่คลินตันยังเห็นด้วยว่า "อิหร่านจะต้องไม่มีสิทธิครอบครองอาวุธนิวเคลียร์"
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 662 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ การเมืองคือภายในชาติไทยเรา,แต่อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนเรื่องการเมืองส่วนตัวของสถานะการเล่นการเมืองในแบบใครมัน.,ชาติไทยเราต้องมาก่อนนั้นเอง.
    ..พรรคอื่นๆหากยังยึดมั่นไม่รีบแสดงตัวตนว่าจะยืนฝ่ายอธิปไตยไทยหรือยืนฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรายืนร่วมกับเขมรมันยืมฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยไทยภายในสิ้นวันศุกร์นี้แสดงว่าเลิกการให้อภัยโทษได้เลย,ทางเดียวที่ต้องได้รับในอนาคตคือโทษหนักหนาสาหัสแน่นอนในนามพรรคร่วมคณะรัฐบาลที่ชัดเจนตามคลิปว่ายืนตรงข้ามทหารไทยเราที่กำลังทำหน้าที่สุดกำลังรักษาอธิปไตยของชาติไทยเราเองไม่ละอายใจในหน้าที่ต่อพี่น้องทหารหาญที่สละแรงกายแรงใจตลอดเสียสละชีพกันมหาศาลนับจากอดีตถึงปัจจุบันเพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยไทยเรานั้นคือความสุขสงบร่มเย็นภายในชาติไทยเราเองโดยพื้นฐานสำมัญสำนึกปกติต้องใช้สมองส้นตีนคิดอ่านกันเองได้ง่ายๆมาก,เราจะไม่อภัยโทษใดๆอีกแล้วกับผู้ทรยศแผ่นดินไทย,มันต้องสะสางกวาดล้างเก็บกวาดจริงจังเสียทีเลอะเทอะปล่อยปะละเลยให้สำนึกสำเนียกเองนานพอแล้ว,ใครสำนึกทันก็อภัยได้ ถึงขนาดนี้ยังไม่สำนึกก็ต้องเด็ดขาดเสียทีกับสันดานจริงที่ต้องการแสดงออกมาแล้วก็พร้อมตอบสนองสันดานชั่วเลวนั้นให้เป็นที่พึ่งพอใจแก่มันที่สุดจริงๆ,อธิปไตยไทยคือของทุกๆคนคนไทยร่วมมีมัน,มันคือสัมมาชีวิตของคนไทยเราทุกๆคน,อธิปไตยถูกคุกคามรุกรานหรือง่ายๆแบบถูกยึดครองโดยชาติอื่น,สัมมาชีวิตของคนไทยจะสิ้นสถานะทันที ตกเป็นสถานะทาสและเชลยศึกโดยไม่ต้องสงสัยแบบแพ้สงครามสมัยอยุธยาแก่พม่า,นั้นคือคนไทยทุกๆคนสิ้นชาติไทยสิ้นความผาสุกสุขสงบสุขอีกต่อไป,สถาบันนักการเมืองต้องมีจิตสำนึกนี้ทันทีโดยพื้นฐานในทุกๆคนที่ลงเล่นการเมืองและเหี้ยเรื่อยมาตลอดก็ตาม,สถาบันการเมืองการปกครองต้องถูกปฏิวัติจริงๆ.,ประชาชนมากมายเดินสัมมาชีวิตผิดทางจากวิถีปกครองและภาครัฐฐะไม่ใส่ใจจริงใจจริงจังดูแลประชาชนคนไทยเลย,ล่าสุดอดข้าวอดอาหารตายที่เป็นข่าว,กรมแรงงานกระทรวงแรงงานมีเสียของไม่ยื่นมือช่วยเหลือสร้างระบบกลไกที่ดีเตรียมพร้อมให้คนไทยมีงานมีรายได้ดำรงชีพจริงอะไรเลย,ตัังสำนักงานเอาเท่เชิงตั้งรับห่าเหวจนถึงปัจจุบัน,นักศึกษาจบใหม่หางานเองไม่ช่วยเขาให้มีงานอะไรเลย,ใครตกงานหางานให้เขา,ช่วยเขา,นี้คือปัญหาพื้นฐานที่ระบบจัดการภาครัฐขาดประสิทธิภาพตลอดมา,เอาแต่เล่นการเมืองอยากได้ยศได้ตำแหน่งอำนาจเอาเท่เอาแดกเอาโกงใส่ตัวใส่ตน,แม้ซื้อเสียงมาแต่ใฝ่แก้ไขระบบให้ดีมันก็ดีแน่,แม้ทหารยึดอำนาจใฝ่แก้ระบบให้ดีก็ดีแน่,ยิ่งยึดอำนาจยิ่งดีสามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำได้รวดเร็วแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีให้ดีได้ทันกาล,มิใช่แบยสภาที่อีลิทต่างชาติแทรกแซงแทรกซึมครอบงำควบคุมง่าย.
    ..การยึดอำนาจจึงคือทางออกทั้งหมด,ลาออก ยุบสภาก็แก้ต้นเหตุไม่ได้,ต้นเหตุคือนายกฯไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตรงของประชาชน,กฎหมายมากมายเลอะเทอะปัญญาอ่อนไปหมด ตีตรากดขี่ประชาชนจนเหมือนนักโทษเรือนจำนอกห้องขังแค่นั้นล่ะ,เอาข้อกฎหมายของคนผิดมาตีตราบังคับคนไม่ผิดไปด้วยหรือทำชีวิตเขามิให้อิสระเสรีไปด้วย,ง่าย แบบสวมหมวกกันน็อค มันคือสิทธิธรรมดาเขาจะใส่ไม่ใส่ก็เรื่องของเขาชีวิตเขา เขามิใช่โจรไปก่ออาชญากรรม โจรเสียมาใส่ปกปิดใบหน้า,ผีบ้าอ้างว่าต้องลงโทษปรับให้หนักจะไม่กล้าทำผิด นี้ชัดเจนคือสันดานการปกครองแบบปีศาจซาตานอีลิทอสูรต้องการปกครองให้หวาดกลัวนั้นเองเข้าใจง่ายมาก,ปรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำจนแพงถึง2,000บาทมันบ้าไปแล้วของคนตีตราเขียนออกร่างทำกฎหมาย,นี้ลักษณะนี้ต้องฉีกทิ้ง,หรืออธิปไตยทางพลังงานก็ฉีกทิ้งที่ปล้นชิงทางกฎหมายไปให้ดูว่าปล้นแบบถูกกฎหมายกติกาบ้านเมืองคุณประเทศไทยที่ออกมานั้นล่ะ,เช่นนั้นเราก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เอาคืนที่มันปล้นไปแบบอ้างกฎหมายเราออกก่อนหน้านั้นเสียที่ข้าราชการเลวชั่วสมคบคิดทรยศเข้าด้วยต่างชาติหมายยึดครองบ่อน้ำมันโดยไม่เข้าสภาสส.สว.อภิปรายชี้แจ้งโต้ตอบผลดีผลเสียให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมรับฟังความจริงว่าค่าจริงคืออะไรเลย,นี้คือการกระทำเชิงด้านชั่วเลวไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยไทยด้านความมั่นคงทางพลังงานเลย ,อิสราเอลในมุกนี้ระเบิดิหร่านก่อนก็เพื่อตัดตอนตัดขาจีนไม่ให้ได้น้ำมันไปจีนจากอิหร่านง่ายๆนอมินีมาทำลายอิหร่านตัดขาจีนทางพลังงานนั้นล่ะก็ด้วยเพราะจีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมหาศาลหากเกิดสงครามกับอเมริกาจริง,จีนต้องพึ่งพาบ่อน้ำมันในการทำสงครามกับอเมริกามหาศาลนั้นล่ะนอกจากนำเข้าจากแอฟริกาหรือพม่าหรือไทยเรา.,ไม่มีอะไรเลยเรื่องสงครามอิสราเอลกับอิหร่านมีแค่นี้ล่ะ,เหี้ยสื่อไทยก็ปั่นกระแสโหนกระแสแบบยุคโควิดเกิน,อีลิทคือยิว ยิวอิสราเอลให้ทุนสื่อไทย,ยิวอิสราเอลตั้งที่อยู่อาศัยเต็มกระจายทั่วภาคเหนือโดยเฉพาะอ.ปาย.ก็ว่า,สื่อไทยไม่น้อยเหี้ยจึงเชียร์อิสราเอลทั้งที่อิสราเอลผิดก่อนเสือกไปยิงระเบิดใส่อิหร่านก่อนทั้งที่ต้องกำหนดการชัดจะเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,อิสราเอลคือคนทรยศโลกคือคนบัดสบประจำโลก ก่อความโกลาหลก่อนชัดเจนให้โลกสู่ความหายนะ,อิสราเอลคือคนผิดก่อนและจะไม่รุกรามหากห้ามใครเข้าไปยุ่งจะอเมริกาจะจีนจะรัสเชียจะยุโรปก็ตามให้รบกันเองแพ้ชนะกันเองแล้วถ้าใครประกาศยอมแพ้ก่อน ทั้งหมดจึงไประงับเหตุทันทีและเร่งช่วยเหลือเขา,ลงโทษทั้งสองฝ่ายด้วยที่ทำให้ชาวโลกที่อาศัยอยู่ในชาตินั้นๆเดือดร้อนกันคือคนในแต่ละชาติละประเทศนั้นล่ะ,แบนห้ามมีสัมพันธุ์กันชั่วคราวนั้นเอง,ปิดประเทศสำนึกตัวทั้งสองชาติก็ว่า.
    ..สรุป พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้คือโอกาสสุดท้าย นานกว่านี้สายไปแล้ว,ปกติคนเราสำนึกดีชั่วได้ทันทีหลังคลิปออกแล้ว,แม้ภูมิใจไทยเหี้ยปกติอยู่แล้วมีปัญหาขัดแย้งชัดเจนก่อนหน้านี้ชัดพอดีจังหวะเหมาะเลยชิงลาออกถูกจังหวะเวลาแค่นั้นและสำนึกปกติโดยพื้นฐานพื้นๆก็ต้องคิดได้อ่านออกว่าสมควรลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆถ้าญี่ปุ่นในอดีตตัวผู้นำเขานายกฯเขา เขาประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบอย่างกล้าหาญแล้วไม่หน้าด้านต่อโคตรเหง้าบรมโคตรบรรพบุรุษตนให้คนทั้งประเทศสาปส่งหรือขับไบ่เหรอ.

    https://youtu.be/Yd3ZFllkBJg?si=a22ykwdFYj8YKFt0
    ..555,ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ การเมืองคือภายในชาติไทยเรา,แต่อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนเรื่องการเมืองส่วนตัวของสถานะการเล่นการเมืองในแบบใครมัน.,ชาติไทยเราต้องมาก่อนนั้นเอง. ..พรรคอื่นๆหากยังยึดมั่นไม่รีบแสดงตัวตนว่าจะยืนฝ่ายอธิปไตยไทยหรือยืนฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรายืนร่วมกับเขมรมันยืมฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยไทยภายในสิ้นวันศุกร์นี้แสดงว่าเลิกการให้อภัยโทษได้เลย,ทางเดียวที่ต้องได้รับในอนาคตคือโทษหนักหนาสาหัสแน่นอนในนามพรรคร่วมคณะรัฐบาลที่ชัดเจนตามคลิปว่ายืนตรงข้ามทหารไทยเราที่กำลังทำหน้าที่สุดกำลังรักษาอธิปไตยของชาติไทยเราเองไม่ละอายใจในหน้าที่ต่อพี่น้องทหารหาญที่สละแรงกายแรงใจตลอดเสียสละชีพกันมหาศาลนับจากอดีตถึงปัจจุบันเพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยไทยเรานั้นคือความสุขสงบร่มเย็นภายในชาติไทยเราเองโดยพื้นฐานสำมัญสำนึกปกติต้องใช้สมองส้นตีนคิดอ่านกันเองได้ง่ายๆมาก,เราจะไม่อภัยโทษใดๆอีกแล้วกับผู้ทรยศแผ่นดินไทย,มันต้องสะสางกวาดล้างเก็บกวาดจริงจังเสียทีเลอะเทอะปล่อยปะละเลยให้สำนึกสำเนียกเองนานพอแล้ว,ใครสำนึกทันก็อภัยได้ ถึงขนาดนี้ยังไม่สำนึกก็ต้องเด็ดขาดเสียทีกับสันดานจริงที่ต้องการแสดงออกมาแล้วก็พร้อมตอบสนองสันดานชั่วเลวนั้นให้เป็นที่พึ่งพอใจแก่มันที่สุดจริงๆ,อธิปไตยไทยคือของทุกๆคนคนไทยร่วมมีมัน,มันคือสัมมาชีวิตของคนไทยเราทุกๆคน,อธิปไตยถูกคุกคามรุกรานหรือง่ายๆแบบถูกยึดครองโดยชาติอื่น,สัมมาชีวิตของคนไทยจะสิ้นสถานะทันที ตกเป็นสถานะทาสและเชลยศึกโดยไม่ต้องสงสัยแบบแพ้สงครามสมัยอยุธยาแก่พม่า,นั้นคือคนไทยทุกๆคนสิ้นชาติไทยสิ้นความผาสุกสุขสงบสุขอีกต่อไป,สถาบันนักการเมืองต้องมีจิตสำนึกนี้ทันทีโดยพื้นฐานในทุกๆคนที่ลงเล่นการเมืองและเหี้ยเรื่อยมาตลอดก็ตาม,สถาบันการเมืองการปกครองต้องถูกปฏิวัติจริงๆ.,ประชาชนมากมายเดินสัมมาชีวิตผิดทางจากวิถีปกครองและภาครัฐฐะไม่ใส่ใจจริงใจจริงจังดูแลประชาชนคนไทยเลย,ล่าสุดอดข้าวอดอาหารตายที่เป็นข่าว,กรมแรงงานกระทรวงแรงงานมีเสียของไม่ยื่นมือช่วยเหลือสร้างระบบกลไกที่ดีเตรียมพร้อมให้คนไทยมีงานมีรายได้ดำรงชีพจริงอะไรเลย,ตัังสำนักงานเอาเท่เชิงตั้งรับห่าเหวจนถึงปัจจุบัน,นักศึกษาจบใหม่หางานเองไม่ช่วยเขาให้มีงานอะไรเลย,ใครตกงานหางานให้เขา,ช่วยเขา,นี้คือปัญหาพื้นฐานที่ระบบจัดการภาครัฐขาดประสิทธิภาพตลอดมา,เอาแต่เล่นการเมืองอยากได้ยศได้ตำแหน่งอำนาจเอาเท่เอาแดกเอาโกงใส่ตัวใส่ตน,แม้ซื้อเสียงมาแต่ใฝ่แก้ไขระบบให้ดีมันก็ดีแน่,แม้ทหารยึดอำนาจใฝ่แก้ระบบให้ดีก็ดีแน่,ยิ่งยึดอำนาจยิ่งดีสามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำได้รวดเร็วแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีให้ดีได้ทันกาล,มิใช่แบยสภาที่อีลิทต่างชาติแทรกแซงแทรกซึมครอบงำควบคุมง่าย. ..การยึดอำนาจจึงคือทางออกทั้งหมด,ลาออก ยุบสภาก็แก้ต้นเหตุไม่ได้,ต้นเหตุคือนายกฯไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตรงของประชาชน,กฎหมายมากมายเลอะเทอะปัญญาอ่อนไปหมด ตีตรากดขี่ประชาชนจนเหมือนนักโทษเรือนจำนอกห้องขังแค่นั้นล่ะ,เอาข้อกฎหมายของคนผิดมาตีตราบังคับคนไม่ผิดไปด้วยหรือทำชีวิตเขามิให้อิสระเสรีไปด้วย,ง่าย แบบสวมหมวกกันน็อค มันคือสิทธิธรรมดาเขาจะใส่ไม่ใส่ก็เรื่องของเขาชีวิตเขา เขามิใช่โจรไปก่ออาชญากรรม โจรเสียมาใส่ปกปิดใบหน้า,ผีบ้าอ้างว่าต้องลงโทษปรับให้หนักจะไม่กล้าทำผิด นี้ชัดเจนคือสันดานการปกครองแบบปีศาจซาตานอีลิทอสูรต้องการปกครองให้หวาดกลัวนั้นเองเข้าใจง่ายมาก,ปรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำจนแพงถึง2,000บาทมันบ้าไปแล้วของคนตีตราเขียนออกร่างทำกฎหมาย,นี้ลักษณะนี้ต้องฉีกทิ้ง,หรืออธิปไตยทางพลังงานก็ฉีกทิ้งที่ปล้นชิงทางกฎหมายไปให้ดูว่าปล้นแบบถูกกฎหมายกติกาบ้านเมืองคุณประเทศไทยที่ออกมานั้นล่ะ,เช่นนั้นเราก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เอาคืนที่มันปล้นไปแบบอ้างกฎหมายเราออกก่อนหน้านั้นเสียที่ข้าราชการเลวชั่วสมคบคิดทรยศเข้าด้วยต่างชาติหมายยึดครองบ่อน้ำมันโดยไม่เข้าสภาสส.สว.อภิปรายชี้แจ้งโต้ตอบผลดีผลเสียให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมรับฟังความจริงว่าค่าจริงคืออะไรเลย,นี้คือการกระทำเชิงด้านชั่วเลวไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยไทยด้านความมั่นคงทางพลังงานเลย ,อิสราเอลในมุกนี้ระเบิดิหร่านก่อนก็เพื่อตัดตอนตัดขาจีนไม่ให้ได้น้ำมันไปจีนจากอิหร่านง่ายๆนอมินีมาทำลายอิหร่านตัดขาจีนทางพลังงานนั้นล่ะก็ด้วยเพราะจีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมหาศาลหากเกิดสงครามกับอเมริกาจริง,จีนต้องพึ่งพาบ่อน้ำมันในการทำสงครามกับอเมริกามหาศาลนั้นล่ะนอกจากนำเข้าจากแอฟริกาหรือพม่าหรือไทยเรา.,ไม่มีอะไรเลยเรื่องสงครามอิสราเอลกับอิหร่านมีแค่นี้ล่ะ,เหี้ยสื่อไทยก็ปั่นกระแสโหนกระแสแบบยุคโควิดเกิน,อีลิทคือยิว ยิวอิสราเอลให้ทุนสื่อไทย,ยิวอิสราเอลตั้งที่อยู่อาศัยเต็มกระจายทั่วภาคเหนือโดยเฉพาะอ.ปาย.ก็ว่า,สื่อไทยไม่น้อยเหี้ยจึงเชียร์อิสราเอลทั้งที่อิสราเอลผิดก่อนเสือกไปยิงระเบิดใส่อิหร่านก่อนทั้งที่ต้องกำหนดการชัดจะเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,อิสราเอลคือคนทรยศโลกคือคนบัดสบประจำโลก ก่อความโกลาหลก่อนชัดเจนให้โลกสู่ความหายนะ,อิสราเอลคือคนผิดก่อนและจะไม่รุกรามหากห้ามใครเข้าไปยุ่งจะอเมริกาจะจีนจะรัสเชียจะยุโรปก็ตามให้รบกันเองแพ้ชนะกันเองแล้วถ้าใครประกาศยอมแพ้ก่อน ทั้งหมดจึงไประงับเหตุทันทีและเร่งช่วยเหลือเขา,ลงโทษทั้งสองฝ่ายด้วยที่ทำให้ชาวโลกที่อาศัยอยู่ในชาตินั้นๆเดือดร้อนกันคือคนในแต่ละชาติละประเทศนั้นล่ะ,แบนห้ามมีสัมพันธุ์กันชั่วคราวนั้นเอง,ปิดประเทศสำนึกตัวทั้งสองชาติก็ว่า. ..สรุป พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้คือโอกาสสุดท้าย นานกว่านี้สายไปแล้ว,ปกติคนเราสำนึกดีชั่วได้ทันทีหลังคลิปออกแล้ว,แม้ภูมิใจไทยเหี้ยปกติอยู่แล้วมีปัญหาขัดแย้งชัดเจนก่อนหน้านี้ชัดพอดีจังหวะเหมาะเลยชิงลาออกถูกจังหวะเวลาแค่นั้นและสำนึกปกติโดยพื้นฐานพื้นๆก็ต้องคิดได้อ่านออกว่าสมควรลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆถ้าญี่ปุ่นในอดีตตัวผู้นำเขานายกฯเขา เขาประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบอย่างกล้าหาญแล้วไม่หน้าด้านต่อโคตรเหง้าบรมโคตรบรรพบุรุษตนให้คนทั้งประเทศสาปส่งหรือขับไบ่เหรอ. https://youtu.be/Yd3ZFllkBJg?si=a22ykwdFYj8YKFt0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ตอนนี้ ต้นเหตุปัญหาจริงๆไม่ใช่เขมรหรอก,หันมายึดอำนาจระบบนักการเมืองเถอะ,ล้มเหลวแล้วระบบนักการเมือง ปกครองเป็นไปด้วยอันตรายต่ออธิปไตยประเทศตนแท้จริงชัดเจน,แค่จับประเด็นว่าจะบริหารบ่อน้ำมันที่เกิดจากเกาะกูด ให้ถอยคนก้าวเอาคนครึ่งมันก็ชัดเจนเป็นภัยต่ออธิปไตยชาติไทยแล้ว,ร.9เราเขียนแผนที่ประเทศไทยอวยพรปีใหม่ไว้ชัดเจนแล้ว.
    ..จัดการยึดอำนาจภายในจะจบทันที,สามารถดำเนินกิจการเก็บกวาดๆล้างสิ่งไม่ดีภายในประเทศไทยเราทั้งหมดได้ทันที,เขมรเรื่องกากและกระจอก,หากคุกคามเราจริงๆ,ทหารไทยเราออกแค่คำสั่งเดียวด้วยกฎอัยการศึก ยึดเขมรทันทีไม่เกินครึ่งวันก็จบ,ระเบิดห่าใหญ่ทิ้งระเบิดใส่ตัวฮุนเซนและลูก ล็อกเป้าหมายแค่เครื่องบินทิ้งระเบิดและกองทัพเรือเรายิงจรวดใส่ทางทะเล ด้วยรัศมีระยะยิงระดมยิงครัังเดียวไม่พลาดแน่นอน,จีน รัสเชีย ชัดเจนแล้วไม่ยุ่งด้วย,ติดตามไล่ล่าฮุนเซนและสมุนทันทีพร้อมสนับสนุนทหารเขมรศัตรูฮุนเซนขึ้นปกครองโดยมีเงื่อนไขกวาดล้างตระกูลฮุนเซนทั้งหมด,นี้คือบทลงโทษในภัยคุกคามอธิปไตยไทยที่ไม่ให้เกียรติและเคารพต่อกันและกัน,เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขสันติบนดินแดนอาเชียนเรา.,เราจะไม่อดทนกับสิ่งชั่วเลวนี้,ซึ่งขนาดเรายังไม่ทวงคืนดินแดนที่ฝรั่งเศสแย่งชิงไปจากไทยในเขมรเลย,มากกว่าเขมรมาสร้างความโกลาหลวุ่นวายไม่ให้อาเชียนดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขสันตินั้นเองแบบหาเรื่องละโมบโลภอยากได้ดินแดนแนวพรมแดนประเทศไทยนั้นเอง.
    ..และทหารไทยต้องเด็ดขาดกำจัดตระกูลทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยประเทศไทยและประชาชนคนไทยด้วย.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/__7nlMMlpW8?si=wYKAYeRe7LxQc86S
    ..ตอนนี้ ต้นเหตุปัญหาจริงๆไม่ใช่เขมรหรอก,หันมายึดอำนาจระบบนักการเมืองเถอะ,ล้มเหลวแล้วระบบนักการเมือง ปกครองเป็นไปด้วยอันตรายต่ออธิปไตยประเทศตนแท้จริงชัดเจน,แค่จับประเด็นว่าจะบริหารบ่อน้ำมันที่เกิดจากเกาะกูด ให้ถอยคนก้าวเอาคนครึ่งมันก็ชัดเจนเป็นภัยต่ออธิปไตยชาติไทยแล้ว,ร.9เราเขียนแผนที่ประเทศไทยอวยพรปีใหม่ไว้ชัดเจนแล้ว. ..จัดการยึดอำนาจภายในจะจบทันที,สามารถดำเนินกิจการเก็บกวาดๆล้างสิ่งไม่ดีภายในประเทศไทยเราทั้งหมดได้ทันที,เขมรเรื่องกากและกระจอก,หากคุกคามเราจริงๆ,ทหารไทยเราออกแค่คำสั่งเดียวด้วยกฎอัยการศึก ยึดเขมรทันทีไม่เกินครึ่งวันก็จบ,ระเบิดห่าใหญ่ทิ้งระเบิดใส่ตัวฮุนเซนและลูก ล็อกเป้าหมายแค่เครื่องบินทิ้งระเบิดและกองทัพเรือเรายิงจรวดใส่ทางทะเล ด้วยรัศมีระยะยิงระดมยิงครัังเดียวไม่พลาดแน่นอน,จีน รัสเชีย ชัดเจนแล้วไม่ยุ่งด้วย,ติดตามไล่ล่าฮุนเซนและสมุนทันทีพร้อมสนับสนุนทหารเขมรศัตรูฮุนเซนขึ้นปกครองโดยมีเงื่อนไขกวาดล้างตระกูลฮุนเซนทั้งหมด,นี้คือบทลงโทษในภัยคุกคามอธิปไตยไทยที่ไม่ให้เกียรติและเคารพต่อกันและกัน,เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขสันติบนดินแดนอาเชียนเรา.,เราจะไม่อดทนกับสิ่งชั่วเลวนี้,ซึ่งขนาดเรายังไม่ทวงคืนดินแดนที่ฝรั่งเศสแย่งชิงไปจากไทยในเขมรเลย,มากกว่าเขมรมาสร้างความโกลาหลวุ่นวายไม่ให้อาเชียนดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขสันตินั้นเองแบบหาเรื่องละโมบโลภอยากได้ดินแดนแนวพรมแดนประเทศไทยนั้นเอง. ..และทหารไทยต้องเด็ดขาดกำจัดตระกูลทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยประเทศไทยและประชาชนคนไทยด้วย. .. ..https://youtube.com/shorts/__7nlMMlpW8?si=wYKAYeRe7LxQc86S
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ส่วนตัว ทหารพระราชายึดอำนาจเถอะ,มีอะไรมากมายต้องเร่งดำเนินการด้วยกฎอัยการศึกพิเศษ,เช่นในมุมอธิปไตยชาติไทยมากมายหรือการฟื้นฟูเศรษฐตังเศรษฐเงินทำมาหาเลี้ยงชีพสัมมาอาชีพของประชาชน,หรือมิติมุมการเยี่ยวยาดูแลสุขภาพคนไทยภายในประเทศมากกว่าคนต่างชาติต่างด้าวในประเทศและสมควรผลักดันกลับประเทศมันเองทั้งหมดเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยจริงๆ,มิติต่างชาติต่างด้าวคือภัยคุกคามอธิปไตยประชาชนคนไทยอีกกรณีหนึ่ง,เมื่อระบบสัมมาชีวิตแบบวิถีล้ำๆยังไม่เกิดเราคตไทยก็จัดการปัจจุบันกันก่อน,สุขภาพคนไทยอันดับแรกต้องหาเหตุการไม่สบายจริงก่อนจากปกติไม่เคยเป็นแบบนี้จนรับวัคซีนโควิดกันหมดบ้านหมดเมืองโรคผีบ้าต่างๆจึงอุบัติขึ้นแปลกๆจำนวนมาก,ต่างชาติต่างด้าวอพยพมาไทยจะค้าแรงงานหรือใดๆก็ตามพวกนี้คือตัวนำพาโรคแปลกๆมาได้จึงอย่ารับต่างชาติต่างด้าวเข้ามาในไทยอีกทุกๆกรณี,เพราะคนไทยฉีดวัคซีนโควิดmRNAเกือบหมดทั้งประเทศในรัฐบาลทหารdeep state ยึดอำนาจ,ภูมิคุ้มกันธรรมชาติตนเองแต่ละคนจึงถูกทำลายลงตลอดเวลาจนสิ้นชีพตัวคุ้มกัน,โรคผีบ้าปัญญาอ่อนกากกระจอกๆน้อยนิดในอดีตร่างกายนั้นต่อต้านได้สบาย,แต่ปัจจุบันภูมิคุ้มกันตนถูกทำลายลง เมื่อเจอหรือติดเชื้อโรคกากๆกระจอกๆแบบเดิมๆนั้นก็ไม่สามารถต้านทานต่อต้านอะไรปกติๆแบบเดิมๆครั้งก่อนๆได้เลย,คนไทยบ้านชาวบ้านตอนนี้ทยอยตายลงไปเรื่อยๆมากขึ้นแล้ว,ลูกเป็นเด็กกำพร้ามากขึ้นอยู่กับตายายปู่ย่า,พ่อแม่สูญเสียลูกหลานก็มากขึ้นด้วย ยิ่งเจ็บป่วยอักเสบไม่สบายของร่างกายเป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนเป็นบ่อยขึ้นลาโรงเรียนเยอะแยะมากขึ้นเป็นอันมาก,หลายเคสหลายคนแล้วกินดื่มอะไรก็เป็นพิษเป็นแพ้ ไม่สบายร่างกายสาระพัดพร้อมตุยได้หลายลักษณะนั้นเอง,ตายายปู่ย่าตุยจากลูกหลานอีก,เป็นเด็กกำพร้าเต็มสูบเลย,แต่ด้วยรัฐบาลไร้คุณสมบัติขาดภาวะการเป็นผู้นำไปแล้วจึงเสี่ยงสูงที่จะมีมาตราการรับมือจริงจังช่วยเหลทอเยียวยาดูแลคนที่อยู่ที่กำพร้าในหลายลักษณะของคนไทยจริงจังแบบใด,นี้คืองานช้างที่จะเกิดขึ้นแน่นอน,จะรอจับค้าหมวกกันน็อค2,000บาทมาเยียวยาก็ใช่ทีรับมือ,และต้นเหตุความจริงของโรคตัวก่อโรคก็ต้องจริงใจบอกความจริงแก่ประชาชนด้วยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลผีบ้านั้นกระทำผิดต่อประชาชนและยุคล่าสุดที่ละเลยละเมิดไม่สนใจในชีวิตประชาชนที่ความจริงอ่านคาดเห็นผลชัดเจนแน่นอนว่าชาวบ้านประชาชนคนไทยต้องเสียสุขภาพเสื่อมสุขภาพเจ็บป่วยต่อร่างกายอักเสบในสุขภาพบาดเจ็บในร่างกายสุขภาพและกระทั่งเสียชีวิตในที่สุดแน่นอน,ซึ่งสามารถเตรียมรับมือช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทันเวลาขับพิษออกเท่าที่สามารถขับได้ให้ดีที่สุด,มิให้เสียชีวิตก่อนเทคโนโลยีผีบ้าล้ำๆมาช่วยเหลือคนไทยทันก่อนตายอีกช่องตัวช่วยเหลือก็ว่าที่มโนว่าอาจมานั้นเอง.
    ..นายกฯจากทหารยึดอำนาจจึงสำคัญมาก,สั่งการอะไรๆตัดสินใจเด็ดขาดรวดเร็วไม่เป็นภัยต่อชาติไทยบ้านเมืองตนและประชาชนแน่นอนนั้นเอง,ถ้าแบบปัจจุบันก็เห็นแล้วว่าเหี้ย จะแบ่งผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยคนละครึ่งตามที่เป็นข่าวจนถูกคนไทยกดดันให้ถอยโน้น,พื้นที่เขตแดนดินประเทศไทยแท้ๆเสือกยังจะยอมให้เขมรมาแย่งชิงอย่างง่ายๆแบบหน้าด้านๆอีก,ทหารไทยส้นตีนหากคิดไม่ได้จะยึดอำนาจมันมั้ยก็ให้สิ้นชาติไทยไปเถอะสิ้นสถาบันสามเสาหลักไปเลยให้สมสมองมี่คิดอ่านความเป็นจริงแท้ไม่ได้,จิตสำนึกพื้นฐานหรือพื้นๆก็ว่า,ให้มันจบที่รุ่นนี้ล่ะ จบแบบพังพินาศสิ้นชาติไทยก็เอาเลย,เสียดายอำนาจตำแหน่งทางระบบปกครองหรือทางราชการเพื่อรักษาไว้ซึ่งบ้านเมืองจริงๆ,รัฐบาลที่มาจากนักการเมืองเลวชั่วเป็นเดอะแก๊งชั่วเลวจะเก็บไว้ทำซากอะไร,ขึ้นหิงบูชาเป็นกษัตริย์ยุคต่อไปเหรอ.

    ..
    ..https://youtube.com/shorts/Z2H-Kkr_mc0?si=gCwymuajzLdWsq29
    ..ส่วนตัว ทหารพระราชายึดอำนาจเถอะ,มีอะไรมากมายต้องเร่งดำเนินการด้วยกฎอัยการศึกพิเศษ,เช่นในมุมอธิปไตยชาติไทยมากมายหรือการฟื้นฟูเศรษฐตังเศรษฐเงินทำมาหาเลี้ยงชีพสัมมาอาชีพของประชาชน,หรือมิติมุมการเยี่ยวยาดูแลสุขภาพคนไทยภายในประเทศมากกว่าคนต่างชาติต่างด้าวในประเทศและสมควรผลักดันกลับประเทศมันเองทั้งหมดเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยจริงๆ,มิติต่างชาติต่างด้าวคือภัยคุกคามอธิปไตยประชาชนคนไทยอีกกรณีหนึ่ง,เมื่อระบบสัมมาชีวิตแบบวิถีล้ำๆยังไม่เกิดเราคตไทยก็จัดการปัจจุบันกันก่อน,สุขภาพคนไทยอันดับแรกต้องหาเหตุการไม่สบายจริงก่อนจากปกติไม่เคยเป็นแบบนี้จนรับวัคซีนโควิดกันหมดบ้านหมดเมืองโรคผีบ้าต่างๆจึงอุบัติขึ้นแปลกๆจำนวนมาก,ต่างชาติต่างด้าวอพยพมาไทยจะค้าแรงงานหรือใดๆก็ตามพวกนี้คือตัวนำพาโรคแปลกๆมาได้จึงอย่ารับต่างชาติต่างด้าวเข้ามาในไทยอีกทุกๆกรณี,เพราะคนไทยฉีดวัคซีนโควิดmRNAเกือบหมดทั้งประเทศในรัฐบาลทหารdeep state ยึดอำนาจ,ภูมิคุ้มกันธรรมชาติตนเองแต่ละคนจึงถูกทำลายลงตลอดเวลาจนสิ้นชีพตัวคุ้มกัน,โรคผีบ้าปัญญาอ่อนกากกระจอกๆน้อยนิดในอดีตร่างกายนั้นต่อต้านได้สบาย,แต่ปัจจุบันภูมิคุ้มกันตนถูกทำลายลง เมื่อเจอหรือติดเชื้อโรคกากๆกระจอกๆแบบเดิมๆนั้นก็ไม่สามารถต้านทานต่อต้านอะไรปกติๆแบบเดิมๆครั้งก่อนๆได้เลย,คนไทยบ้านชาวบ้านตอนนี้ทยอยตายลงไปเรื่อยๆมากขึ้นแล้ว,ลูกเป็นเด็กกำพร้ามากขึ้นอยู่กับตายายปู่ย่า,พ่อแม่สูญเสียลูกหลานก็มากขึ้นด้วย ยิ่งเจ็บป่วยอักเสบไม่สบายของร่างกายเป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนเป็นบ่อยขึ้นลาโรงเรียนเยอะแยะมากขึ้นเป็นอันมาก,หลายเคสหลายคนแล้วกินดื่มอะไรก็เป็นพิษเป็นแพ้ ไม่สบายร่างกายสาระพัดพร้อมตุยได้หลายลักษณะนั้นเอง,ตายายปู่ย่าตุยจากลูกหลานอีก,เป็นเด็กกำพร้าเต็มสูบเลย,แต่ด้วยรัฐบาลไร้คุณสมบัติขาดภาวะการเป็นผู้นำไปแล้วจึงเสี่ยงสูงที่จะมีมาตราการรับมือจริงจังช่วยเหลทอเยียวยาดูแลคนที่อยู่ที่กำพร้าในหลายลักษณะของคนไทยจริงจังแบบใด,นี้คืองานช้างที่จะเกิดขึ้นแน่นอน,จะรอจับค้าหมวกกันน็อค2,000บาทมาเยียวยาก็ใช่ทีรับมือ,และต้นเหตุความจริงของโรคตัวก่อโรคก็ต้องจริงใจบอกความจริงแก่ประชาชนด้วยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลผีบ้านั้นกระทำผิดต่อประชาชนและยุคล่าสุดที่ละเลยละเมิดไม่สนใจในชีวิตประชาชนที่ความจริงอ่านคาดเห็นผลชัดเจนแน่นอนว่าชาวบ้านประชาชนคนไทยต้องเสียสุขภาพเสื่อมสุขภาพเจ็บป่วยต่อร่างกายอักเสบในสุขภาพบาดเจ็บในร่างกายสุขภาพและกระทั่งเสียชีวิตในที่สุดแน่นอน,ซึ่งสามารถเตรียมรับมือช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทันเวลาขับพิษออกเท่าที่สามารถขับได้ให้ดีที่สุด,มิให้เสียชีวิตก่อนเทคโนโลยีผีบ้าล้ำๆมาช่วยเหลือคนไทยทันก่อนตายอีกช่องตัวช่วยเหลือก็ว่าที่มโนว่าอาจมานั้นเอง. ..นายกฯจากทหารยึดอำนาจจึงสำคัญมาก,สั่งการอะไรๆตัดสินใจเด็ดขาดรวดเร็วไม่เป็นภัยต่อชาติไทยบ้านเมืองตนและประชาชนแน่นอนนั้นเอง,ถ้าแบบปัจจุบันก็เห็นแล้วว่าเหี้ย จะแบ่งผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยคนละครึ่งตามที่เป็นข่าวจนถูกคนไทยกดดันให้ถอยโน้น,พื้นที่เขตแดนดินประเทศไทยแท้ๆเสือกยังจะยอมให้เขมรมาแย่งชิงอย่างง่ายๆแบบหน้าด้านๆอีก,ทหารไทยส้นตีนหากคิดไม่ได้จะยึดอำนาจมันมั้ยก็ให้สิ้นชาติไทยไปเถอะสิ้นสถาบันสามเสาหลักไปเลยให้สมสมองมี่คิดอ่านความเป็นจริงแท้ไม่ได้,จิตสำนึกพื้นฐานหรือพื้นๆก็ว่า,ให้มันจบที่รุ่นนี้ล่ะ จบแบบพังพินาศสิ้นชาติไทยก็เอาเลย,เสียดายอำนาจตำแหน่งทางระบบปกครองหรือทางราชการเพื่อรักษาไว้ซึ่งบ้านเมืองจริงๆ,รัฐบาลที่มาจากนักการเมืองเลวชั่วเป็นเดอะแก๊งชั่วเลวจะเก็บไว้ทำซากอะไร,ขึ้นหิงบูชาเป็นกษัตริย์ยุคต่อไปเหรอ. .. ..https://youtube.com/shorts/Z2H-Kkr_mc0?si=gCwymuajzLdWsq29
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์
    สัทธรรมลำดับที่ : 1021
    ชื่อบทธรรม :- องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1021
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์-(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค)
    --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ?
    --สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้
    เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค,
    เป็นผู้ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล,
    เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม,
    เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน,
    เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โค ควรไป,
    เป็นผู้รู้จักรีดนมโค ให้มีเหลือไว้บ้าง,
    เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง
    เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ.
    --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น.
    องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า?
    +--สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้
    ๑.เป็นผู้รู้จักรูป,
    ๒.เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ,
    ๓.เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง,
    ๔.เป็นผู้ปิดแผล,
    ๕.เป็นผู้สุมควัน,
    ๖.เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป,
    ๗.เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม,
    ๘.เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน,
    ๙.เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป,
    ๑๐.พเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง,
    ๑๑.เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ.

    ๑--พวกรู้จักรูป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า
    “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น
    ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔
    และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล.

    ๒--พวกฉลาดในลักษณะ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า
    “คนพาล มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย,
    บัณฑิต ก็มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย”
    ดังนี้เป็นต้น.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล.

    ๓--พวกคอยเขี่ยไข่ขาง
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น
    ซึ่งความตรึกเกี่ยวด้วยกาม,
    ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย,
    ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา
    ที่เกิดขึ้นแล้ว;
    และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น
    ซึ่งสิ่งอันเป็น &อกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว.
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุ​#เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล.

    ๔--พวกปิดแผล
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เห็นรูปด้วยตา,
    ฟังเสียงด้วยหู,
    ดมกลิ่นด้วยจมูก,
    ลิ้มรสด้วยลิ้น,
    สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย,
    รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ,
    แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด
    และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ,
    สิ่งที่ อกุศลลามกคือ อภิชฌาและโทมนัส
    จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    เพราะ &การไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ,
    เธอก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้,
    เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล.

    ๕--พวกสุมควัน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว
    แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล.

    ๖--พวกรู้จักท่าที่ควรไป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ
    ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท),
    ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ?
    ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?”
    ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ;
    ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย
    ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน
    ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล.

    ๗--พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว
    อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดงอยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม
    และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล.

    ๘--พวกรู้จักทางที่ควรเดิน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &อริยมรรคมีองค์ ๘.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล.

    ๙--พวกฉลาดในที่ที่ควรไป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &สติปัฏฐาน ๔.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล.

    ๑๐--พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้
    +--ด้วยจีวร
    +--บิณฑบาต
    +--เสนาสนะ และ
    +--คิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร.
    ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น,
    ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล.

    ๑๑--พวกบูชาผู้เฒ่า
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล
    เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์... ฯลฯ...
    ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่ง
    การกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ
    อันประกอบด้วยเมตตา
    ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน
    เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ
    #เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ... ฯลฯ...
    ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล.

    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว
    #ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์-ธมฺมวินเย)​
    http://etipitaka.com/read/pali/12/417/?keywords=ธมฺมวินเย
    นี้ได้แท้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/292 -293/386 - 387.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/292/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๑๓ - ๔๑๔/๓๘๖ - ๓๘๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/413/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1021
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88
    ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ สัทธรรมลำดับที่ : 1021 ชื่อบทธรรม :- องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1021 เนื้อความทั้งหมด :- --องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์-(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค) --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ? --สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค, เป็นผู้ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โค ควรไป, เป็นผู้รู้จักรีดนมโค ให้มีเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ. --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น. องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า? +--สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้ ๑.เป็นผู้รู้จักรูป, ๒.เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ, ๓.เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง, ๔.เป็นผู้ปิดแผล, ๕.เป็นผู้สุมควัน, ๖.เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป, ๗.เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม, ๘.เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน, ๙.เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป, ๑๐.พเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง, ๑๑.เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ. ๑--พวกรู้จักรูป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔ และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล. ๒--พวกฉลาดในลักษณะ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “คนพาล มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย, บัณฑิต ก็มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย” ดังนี้เป็นต้น. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล. ๓--พวกคอยเขี่ยไข่ขาง --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งความตรึกเกี่ยวด้วยกาม, ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย, ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา ที่เกิดขึ้นแล้ว; และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งสิ่งอันเป็น &อกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ​#เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล. ๔--พวกปิดแผล --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตา, ฟังเสียงด้วยหู, ดมกลิ่นด้วยจมูก, ลิ้มรสด้วยลิ้น, สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย, รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ, แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ, สิ่งที่ อกุศลลามกคือ อภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะ &การไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ, เธอก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้, เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล. ๕--พวกสุมควัน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล. ๖--พวกรู้จักท่าที่ควรไป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท), ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ? ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?” ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ; ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. ๗--พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดงอยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล. ๘--พวกรู้จักทางที่ควรเดิน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &อริยมรรคมีองค์ ๘. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล. ๙--พวกฉลาดในที่ที่ควรไป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &สติปัฏฐาน ๔. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. ๑๐--พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้ +--ด้วยจีวร +--บิณฑบาต +--เสนาสนะ และ +--คิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร. ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น, ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล. ๑๑--พวกบูชาผู้เฒ่า --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์... ฯลฯ... ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่ง การกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ อันประกอบด้วยเมตตา ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ... ฯลฯ... ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว #ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์-ธมฺมวินเย)​ http://etipitaka.com/read/pali/12/417/?keywords=ธมฺมวินเย นี้ได้แท้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/292 -293/386 - 387. http://etipitaka.com/read/thai/12/292/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๑๓ - ๔๑๔/๓๘๖ - ๓๘๗. http://etipitaka.com/read/pali/12/413/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1021 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88 ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์--(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค)
    -(รายชื่อแห่งธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ คู่นี้ ไม่ได้ใช้เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการขูดเกลาอย่างเดียว แต่ใช้เพื่ออธิบายในการประพฤติกระทำอย่างอื่นด้วย ดังที่ได้แยกไว้เป็น ข้อ ก. ข. ค. ง. ในตอนท้าย; ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาจริงๆ พึงกำหนดให้ชัดเจนว่ามีลำดับอย่างไร เป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกอย่างไร ก็จะสามารถเข้าใจข้อความที่ละไว้ โดยไม่นำมาใส่ไว้ให้เต็ม เช่น อ้างถึงแต่ข้อต้น และ ข้อสุดท้าย เป็นต้น, ก็จะสำเร็จประโยชน์ได้ตามปรารถนา). องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ (อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค) ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ? สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค, เป็นผู้ ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โคควรไป, เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ. ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น. องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า? สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักรูป, เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ, เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป, เป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ. พวกรู้จักรูป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔ และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล. พวกฉลาดในลักษณะ ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “คนพาล มีกรรม (การกระทำ) เป็นเครื่องหมาย, บัณฑิต ก็มีกรรม (การกระทำ) เป็นเครื่องหมาย” ดังนี้เป็นต้น. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล. พวกคอยเขี่ยไข่ขาง ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งความ ตรึกเกี่ยวด้วยกาม, ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย, ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา ที่เกิดขึ้นแล้ว; และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล. พวกปิดแผล ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตา, ฟังเสียงด้วยหู, ดมกลิ่นด้วยจมูก, ลิ้มรสด้วยลิ้น, สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย, รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ, แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ, สิ่งที่อกุศลลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะการไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ, เธอ ก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้, เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล. พวกสุมควัน ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล. พวกรู้จักท่าที่ควรไป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท), ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ? ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?” ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ; ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไปเป็นอย่างนี้แล. พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดง อยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล. พวกรู้จักทางที่ควรเดิน ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่งอริยมรรคมีองค์ ๘. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล. พวกฉลาดในที่ที่ควรไป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่งสติปัฏฐาน ๔. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร. ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น, ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล. พวกบูชาผู้เฒ่า ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์ ฯลฯ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่งการกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ อันประกอบด้วยเมตตา ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ ฯลฯ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้แท้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 504 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอชนะ

    ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. มีมติมากกว่า 2 ใน 3 ไม่รับการยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภา จากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย และตักเตือน 1 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษาอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษคดีทุจริต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น โดยมีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 68 คน จากจำนวนกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน

    แม้นายสมศักดิ์พยายามเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมแพทยสภา ซึ่งให้เวลาเพียง 15 นาที และออกหนังสือยับยั้งมติ (วีโต้) อ้างว่าเป็นการตีวัวกระทบคราดนายทักษิณ ที่ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาเฉพาะทาง ทำให้แพทย์อีกหลายคนไม่กล้าเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ให้ดีที่สุด กล่าวหาว่าเป็นการลงโทษที่เกิดจากอคติในใจ โทษรุนแรงเกินไป อาจมีบางอย่างไม่ถูกต้องในกระบวนการนี้ และหากเป็นแพทย์รุ่นหลังที่อ่อนประสบการณ์ที่สุด จะเมตตาหรือเย็นชาโดยมีปัจจัยภายนอกชี้นำ แต่ที่ประชุมแพทยสภาได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบมติของกรรมการแพทยสภา และมีบทวิเคราะห์ออกมา

    ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 ยืนยันว่า กรณีจริยธรรมทางการแพทย์ไม่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลวิชาชีพไม่เหมือนกัน วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกัน จะเอามาเทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามจะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ บางกรณีเข้าเกณฑ์เหมือนข่มขู่ด้วยซ้ำ

    ส่วนที่นายสมศักดิ์อ้างว่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แพทย์รุ่นใหม่มีความกลัวหรือไม่ เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณวิชาชีพ เข้าใจความถูกต้อง เข้าใจบทบาทและหน้าที่เหมือนกัน อยากจะย้ำว่าวันนี้เราทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และคิดว่าวันนี้แพทย์ทั้งหลายที่เรียนอยู่ก็ได้เห็นกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาต่อไปว่า บทบาทของแพทย์มากมายกว่ารักษาคนไข้อย่างเดียว คือการรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษา

    สำหรับแพทย์ที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้แก่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน คือ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

    #Newskit
    หมอชนะ ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. มีมติมากกว่า 2 ใน 3 ไม่รับการยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภา จากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย และตักเตือน 1 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษาอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษคดีทุจริต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น โดยมีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 68 คน จากจำนวนกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน แม้นายสมศักดิ์พยายามเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมแพทยสภา ซึ่งให้เวลาเพียง 15 นาที และออกหนังสือยับยั้งมติ (วีโต้) อ้างว่าเป็นการตีวัวกระทบคราดนายทักษิณ ที่ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาเฉพาะทาง ทำให้แพทย์อีกหลายคนไม่กล้าเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ให้ดีที่สุด กล่าวหาว่าเป็นการลงโทษที่เกิดจากอคติในใจ โทษรุนแรงเกินไป อาจมีบางอย่างไม่ถูกต้องในกระบวนการนี้ และหากเป็นแพทย์รุ่นหลังที่อ่อนประสบการณ์ที่สุด จะเมตตาหรือเย็นชาโดยมีปัจจัยภายนอกชี้นำ แต่ที่ประชุมแพทยสภาได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบมติของกรรมการแพทยสภา และมีบทวิเคราะห์ออกมา ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 ยืนยันว่า กรณีจริยธรรมทางการแพทย์ไม่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลวิชาชีพไม่เหมือนกัน วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกัน จะเอามาเทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามจะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ บางกรณีเข้าเกณฑ์เหมือนข่มขู่ด้วยซ้ำ ส่วนที่นายสมศักดิ์อ้างว่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แพทย์รุ่นใหม่มีความกลัวหรือไม่ เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณวิชาชีพ เข้าใจความถูกต้อง เข้าใจบทบาทและหน้าที่เหมือนกัน อยากจะย้ำว่าวันนี้เราทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และคิดว่าวันนี้แพทย์ทั้งหลายที่เรียนอยู่ก็ได้เห็นกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาต่อไปว่า บทบาทของแพทย์มากมายกว่ารักษาคนไข้อย่างเดียว คือการรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษา สำหรับแพทย์ที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้แก่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน คือ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลกับกระแสที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดรายชื่อว่ากรรมการแต่ละคนโหวตอย่างไร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ที่ลงนามส่งมาถึงแพทยสภา จะเห็นว่าสาระหลัก ต้องการให้แพทยสภายึดมั่นต้องการ ยึดหลักความถูกต้อง และรักษาไว้ ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กรรมการแพทยสภาตระหนักและจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว

    ตนขอเป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภาทุกคน กราบขอบพระคุณแพทย์ และประชาชนทั้งหลาย ที่แสดงออกอย่างชัดเจนให้แพทยสภา ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แล้ววันนี้พวกเรากรรมการแพทยสภาก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว

    “เพราะฉะนั้นสิ่งที่ให้มานั้นสำหรับผม มองว่าไม่ใช่แรงกดดัน แต่คือกำลังใจเพราะเป็นสิ่งที่เราก็อยากทำ และความเห็นของผมคือชอบแล้วด้วยการกระทำ เพราะฉะนั้นที่ส่งมานั้นผมไม่ถือว่าเป็นแรงกดดัน แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างที่จะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ แบบนี้ถึงจะเรียกว่ากดดัน หรือถ้าว่าไปแล้ว ในบางกรณีเข้าเกณฑ์ข่มขู่ด้วยซ้ำ" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลกับกระแสที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดรายชื่อว่ากรรมการแต่ละคนโหวตอย่างไร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ที่ลงนามส่งมาถึงแพทยสภา จะเห็นว่าสาระหลัก ต้องการให้แพทยสภายึดมั่นต้องการ ยึดหลักความถูกต้อง และรักษาไว้ ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กรรมการแพทยสภาตระหนักและจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว ตนขอเป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภาทุกคน กราบขอบพระคุณแพทย์ และประชาชนทั้งหลาย ที่แสดงออกอย่างชัดเจนให้แพทยสภา ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แล้ววันนี้พวกเรากรรมการแพทยสภาก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว “เพราะฉะนั้นสิ่งที่ให้มานั้นสำหรับผม มองว่าไม่ใช่แรงกดดัน แต่คือกำลังใจเพราะเป็นสิ่งที่เราก็อยากทำ และความเห็นของผมคือชอบแล้วด้วยการกระทำ เพราะฉะนั้นที่ส่งมานั้นผมไม่ถือว่าเป็นแรงกดดัน แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างที่จะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ แบบนี้ถึงจะเรียกว่ากดดัน หรือถ้าว่าไปแล้ว ในบางกรณีเข้าเกณฑ์ข่มขู่ด้วยซ้ำ" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยออยล์แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีน้ำมันรั่วไหลบางส่วนหลุดรอดจากบูมที่กั้นไว้ ซึ่งไทยออยล์กำลังดำเนินการกำจัดคราบน้ำมัน
    .
    บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือTOP ออกแถลงการณ์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.54 น. ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อันเนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย
    .
    อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมาซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2
    .
    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/business/detail/9680000053010
    .
    #MGROnline #ไทยออยล์
    ไทยออยล์แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีน้ำมันรั่วไหลบางส่วนหลุดรอดจากบูมที่กั้นไว้ ซึ่งไทยออยล์กำลังดำเนินการกำจัดคราบน้ำมัน . บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือTOP ออกแถลงการณ์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.54 น. ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อันเนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย . อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมาซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2 . คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/business/detail/9680000053010 . #MGROnline #ไทยออยล์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอรามาฯ รุ่น 1-2 ส่งกำลังใจ'แพทยสภา' รักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของแพทย์ไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/18994/
    หมอรามาฯ รุ่น 1-2 ส่งกำลังใจ'แพทยสภา' รักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของแพทย์ไทย https://www.thai-tai.tv/news/18994/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เรามาคุยถึงเครื่องประดับชนิดหนึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงที่ดูจะไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง แต่เพื่อนเพจที่ได้ดูละครของยุคสมัยนั้นอย่างเช่น <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> หรือ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> จะเห็นนางในมีสร้อยประคำผูกไว้ที่คอเสื้อ จริงๆ แล้วมันก็คือสร้อยประคำมือ เรียกว่า ‘สือปาจื่อ’ (十八子)

    ความมีอยู่ว่า
    ... โจวเซิงเฉินเดินออกมาพอดี เห็นสร้อยประคำมือหยก 18 เม็ดบนข้อมือของเธอ ในแววตาปรากฏความแปลกใจแวบหนึ่ง ในระหว่างเดินทางกลับ เขาค่อยเล่าให้ฟังถึงที่มาของสร้อยประคำนี้: “ยาว 28ซม. เม็ดประคำหยกสิบแปดเม็ด” เขาชี้นิ้วไล่ตามเชือกใต้เม็ดปะการังสีแดง “พลอยทัวร์มารีนสีชมพูแกะสลักเป็นดอกไม้ แล้วยังมีเม็ดปะการังและไข่มุก...เป็นของจากสมัยปลายราชวงศ์หมิงต้นราชวงศ์ชิง”...
    - จาก <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    สร้อยประคำมือที่กล่าวถึงในบทความข้างต้นนั้นมีลูกประคำ 18 เม็ด ซึ่งมีความหมายทางศาสนาพุทธ บ้างก็ว่าหมายถึง 18 อรหันต์ แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ Storyฯ ค้นพบจะบอกว่าหมายถึง 6 ผัสสะซึ่งก็คือ:
    1. จักขุสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางตา คือ ตา+รูป+จักขุวิญญาณ
    2. โสตสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางหู คือ หู+เสียง+โสตวิญญาณ
    3. ฆานสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางจมูก คือ จมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ
    4. ชิวหาสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางลิ้น คือ ลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ
    5. กายสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางกาย คือ กาย+โผฏฐัพพะ (เช่น ร้อน เย็น อ่อน แข็ง) +กายวิญญาณ
    6. มโนสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางใจ คือ ใจ+ธรรมารมณ์ (สิ่งที่ใจนึกคิด) +มโนวิญญาณ

    สร้อยประคำมือนี้เดิมมีไว้ใช้ตอนสวดมนต์ ต่อมากลายเป็นเครื่องประดับในสมัยราชวงศ์ชิง การนำมาใช้เป็นเครื่องประดับนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่แน่ชัด รู้แต่ว่าในสมัยกลางของราชวงศ์ชิงยังไม่มีการกล่าวถึงนัก ต่อมาจึงเห็นจากภาพวาดในช่วงปลายราชวงศ์ชิงว่ามันได้กลายเป็นเครื่องประดับติดกายที่นิยมอย่างมากทั้งในหญิงและชาย (ดูรูปแรก)

    แรกเริ่มใช้กันในวัง แต่มันไม่ใช่เครื่องประดับอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงใช้ได้ทุกระดับยศและเลือกใช้วัสดุได้หลากหลาย แต่แน่นอนว่ายศยิ่งสูง วัสดุที่ใช้ก็ยิ่งเลอค่า ต่อมาความนิยมนี้แพร่หลายออกมานอกวัง แต่ยังอยู่เฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงอย่างเช่นคนในตระกูลกองธงต่างๆ รูปแบบหรือองค์ประกอบของสร้อยก็มีการแปลงง่ายลงโดยคงไว้ซึ่งส่วนสำคัญของสร้อยประคำเท่านั้น ซึ่งก็คือส่วนที่เรียกว่าเศียรพระพุทธเจ้า เม็ดคั่น และเม็ดหลัก 18 เม็ด (ดูรูปสองบน)

    ตำแหน่งที่แขวนสร้อยประคำมือเป็นเครื่องประดับนั้น หากเป็นเสื้อสาบเฉียงให้ห้อยไว้ทางด้านขวา หากเป็นสาบตรงให้ห้อยไว้ที่กระดุมเม็ดที่สองข้างหน้า

    ใครตามละครเรื่องราวในวังยุคสมัยราชวงศ์ชิงอยู่ลองสังเกตดูนะคะ Storyฯ เห็นอยู่ในหลายเรื่องเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/491583437_515879
    https://kknews.cc/collect/jjzjqoe.html
    https://m.xing73.com/zt/yiL5Lmo5Q2a5Q_o5p_I6Q2a5rWY5B2Y5.html
    https://kknews.cc/culture/6er9xv.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/omn/20191012/20191012A0N7RC00.html
    https://www.sohu.com/a/249960097_105772
    https://kknews.cc/collect/q5k3bvb.html
    https://kknews.cc/collect/jjzjqoe.html
    https://www.baanjomyut.com/pratripidok/41.html

    #กระดูกงดงาม #สร้อยประคำมือ #สือปาจื่อ #ผัสสะ #เครื่องแต่งกายสตรีจีนโบราณ #ราชวงศ์ชิง
    วันนี้เรามาคุยถึงเครื่องประดับชนิดหนึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงที่ดูจะไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง แต่เพื่อนเพจที่ได้ดูละครของยุคสมัยนั้นอย่างเช่น <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> หรือ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> จะเห็นนางในมีสร้อยประคำผูกไว้ที่คอเสื้อ จริงๆ แล้วมันก็คือสร้อยประคำมือ เรียกว่า ‘สือปาจื่อ’ (十八子) ความมีอยู่ว่า ... โจวเซิงเฉินเดินออกมาพอดี เห็นสร้อยประคำมือหยก 18 เม็ดบนข้อมือของเธอ ในแววตาปรากฏความแปลกใจแวบหนึ่ง ในระหว่างเดินทางกลับ เขาค่อยเล่าให้ฟังถึงที่มาของสร้อยประคำนี้: “ยาว 28ซม. เม็ดประคำหยกสิบแปดเม็ด” เขาชี้นิ้วไล่ตามเชือกใต้เม็ดปะการังสีแดง “พลอยทัวร์มารีนสีชมพูแกะสลักเป็นดอกไม้ แล้วยังมีเม็ดปะการังและไข่มุก...เป็นของจากสมัยปลายราชวงศ์หมิงต้นราชวงศ์ชิง”... - จาก <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) สร้อยประคำมือที่กล่าวถึงในบทความข้างต้นนั้นมีลูกประคำ 18 เม็ด ซึ่งมีความหมายทางศาสนาพุทธ บ้างก็ว่าหมายถึง 18 อรหันต์ แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ Storyฯ ค้นพบจะบอกว่าหมายถึง 6 ผัสสะซึ่งก็คือ: 1. จักขุสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางตา คือ ตา+รูป+จักขุวิญญาณ 2. โสตสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางหู คือ หู+เสียง+โสตวิญญาณ 3. ฆานสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางจมูก คือ จมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ 4. ชิวหาสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางลิ้น คือ ลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ 5. กายสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางกาย คือ กาย+โผฏฐัพพะ (เช่น ร้อน เย็น อ่อน แข็ง) +กายวิญญาณ 6. มโนสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางใจ คือ ใจ+ธรรมารมณ์ (สิ่งที่ใจนึกคิด) +มโนวิญญาณ สร้อยประคำมือนี้เดิมมีไว้ใช้ตอนสวดมนต์ ต่อมากลายเป็นเครื่องประดับในสมัยราชวงศ์ชิง การนำมาใช้เป็นเครื่องประดับนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่แน่ชัด รู้แต่ว่าในสมัยกลางของราชวงศ์ชิงยังไม่มีการกล่าวถึงนัก ต่อมาจึงเห็นจากภาพวาดในช่วงปลายราชวงศ์ชิงว่ามันได้กลายเป็นเครื่องประดับติดกายที่นิยมอย่างมากทั้งในหญิงและชาย (ดูรูปแรก) แรกเริ่มใช้กันในวัง แต่มันไม่ใช่เครื่องประดับอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงใช้ได้ทุกระดับยศและเลือกใช้วัสดุได้หลากหลาย แต่แน่นอนว่ายศยิ่งสูง วัสดุที่ใช้ก็ยิ่งเลอค่า ต่อมาความนิยมนี้แพร่หลายออกมานอกวัง แต่ยังอยู่เฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงอย่างเช่นคนในตระกูลกองธงต่างๆ รูปแบบหรือองค์ประกอบของสร้อยก็มีการแปลงง่ายลงโดยคงไว้ซึ่งส่วนสำคัญของสร้อยประคำเท่านั้น ซึ่งก็คือส่วนที่เรียกว่าเศียรพระพุทธเจ้า เม็ดคั่น และเม็ดหลัก 18 เม็ด (ดูรูปสองบน) ตำแหน่งที่แขวนสร้อยประคำมือเป็นเครื่องประดับนั้น หากเป็นเสื้อสาบเฉียงให้ห้อยไว้ทางด้านขวา หากเป็นสาบตรงให้ห้อยไว้ที่กระดุมเม็ดที่สองข้างหน้า ใครตามละครเรื่องราวในวังยุคสมัยราชวงศ์ชิงอยู่ลองสังเกตดูนะคะ Storyฯ เห็นอยู่ในหลายเรื่องเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/491583437_515879 https://kknews.cc/collect/jjzjqoe.html https://m.xing73.com/zt/yiL5Lmo5Q2a5Q_o5p_I6Q2a5rWY5B2Y5.html https://kknews.cc/culture/6er9xv.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/omn/20191012/20191012A0N7RC00.html https://www.sohu.com/a/249960097_105772 https://kknews.cc/collect/q5k3bvb.html https://kknews.cc/collect/jjzjqoe.html https://www.baanjomyut.com/pratripidok/41.html #กระดูกงดงาม #สร้อยประคำมือ #สือปาจื่อ #ผัสสะ #เครื่องแต่งกายสตรีจีนโบราณ #ราชวงศ์ชิง
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 740 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมผัสเสน่ห์ประเพณีของชาวอีสานในงาน “ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ประจำปี 2568” วันที่ 17-18 พฤษภาคม 2568 ณ เทศบาลตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

    วันนี้ 18 พ.ค. 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) ร่วมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ประจำปี 2568 ณ เทศบาลตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรักษาไว้ซึ่งวีถีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยงานประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้านนี้ เป็นอัตลักษณ์เพียงแห่งเดียงที่หาชมไได้ที่ จังหวัดกาฬสินธุ์เท่านั้นกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ - อาทิตย์ที่สามของเดือนพฤษภาคมในทุกปี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000046373

    #MGROnline #ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน
    สัมผัสเสน่ห์ประเพณีของชาวอีสานในงาน “ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ประจำปี 2568” วันที่ 17-18 พฤษภาคม 2568 ณ เทศบาลตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ • วันนี้ 18 พ.ค. 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) ร่วมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ประจำปี 2568 ณ เทศบาลตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรักษาไว้ซึ่งวีถีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยงานประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้านนี้ เป็นอัตลักษณ์เพียงแห่งเดียงที่หาชมไได้ที่ จังหวัดกาฬสินธุ์เท่านั้นกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ - อาทิตย์ที่สามของเดือนพฤษภาคมในทุกปี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000046373 • #MGROnline #ประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • Volkswagen เตรียมนำแบรนด์ GTI เข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว ด้วยแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ID 2 GTI และแผนขยายกลุ่ม GTI ทั้งหมดในอนาคต บริษัทมุ่งเน้นให้รถยนต์ไฟฟ้า GTI คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ด้านความเร็วและความเร้าใจ แต่ยังสามารถเข้าถึงได้เหมือนรุ่นดั้งเดิมที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน

    Volkswagen ยืนยันเปิดตัว GTI ไฟฟ้ารุ่นแรก
    - CEO ของ Volkswagen ยืนยันว่ารุ่น ID 2 GTI จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นแรกที่ใช้ตราสัญลักษณ์ GTI
    - รถต้นแบบ ID GTI Concept ได้รับการเผยโฉมเมื่อปี 2023 และบ่งบอกแนวทางของรถ GTI ไฟฟ้า

    แผนขยายกลุ่มรถยนต์ GTI ในอนาคต
    - Volkswagen วางแผนเปิดตัว GTI รุ่นอื่นๆ ในอนาคต รวมถึง Golf เจเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งจะมีรุ่น GTI ไฟฟ้าด้วย
    - คาดว่าจะมีการเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในกลุ่ม GTI อีกหลายรุ่น

    ความต้องการของ Volkswagen ต่อ GTI ไฟฟ้า
    - รถต้องมีความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของเสียง การขับขี่ และความสนุกในการใช้งาน
    - Volkswagen เน้นความสามารถในการขับขี่ที่เร้าใจ ควบคู่กับราคาที่จับต้องได้

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/volkswagen-says-mind-blowing-electric-gti-evs-are-coming-heres-what-to-expect-and-what-i-want-to-see
    Volkswagen เตรียมนำแบรนด์ GTI เข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว ด้วยแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ID 2 GTI และแผนขยายกลุ่ม GTI ทั้งหมดในอนาคต บริษัทมุ่งเน้นให้รถยนต์ไฟฟ้า GTI คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ด้านความเร็วและความเร้าใจ แต่ยังสามารถเข้าถึงได้เหมือนรุ่นดั้งเดิมที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน ✅ Volkswagen ยืนยันเปิดตัว GTI ไฟฟ้ารุ่นแรก - CEO ของ Volkswagen ยืนยันว่ารุ่น ID 2 GTI จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นแรกที่ใช้ตราสัญลักษณ์ GTI - รถต้นแบบ ID GTI Concept ได้รับการเผยโฉมเมื่อปี 2023 และบ่งบอกแนวทางของรถ GTI ไฟฟ้า ✅ แผนขยายกลุ่มรถยนต์ GTI ในอนาคต - Volkswagen วางแผนเปิดตัว GTI รุ่นอื่นๆ ในอนาคต รวมถึง Golf เจเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งจะมีรุ่น GTI ไฟฟ้าด้วย - คาดว่าจะมีการเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในกลุ่ม GTI อีกหลายรุ่น ✅ ความต้องการของ Volkswagen ต่อ GTI ไฟฟ้า - รถต้องมีความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของเสียง การขับขี่ และความสนุกในการใช้งาน - Volkswagen เน้นความสามารถในการขับขี่ที่เร้าใจ ควบคู่กับราคาที่จับต้องได้ https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/volkswagen-says-mind-blowing-electric-gti-evs-are-coming-heres-what-to-expect-and-what-i-want-to-see
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • THE ANWAR’S DISGUSTING ADVISOR

    เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ทั้งที่นายทักษิณเพิ่งได้รับการพักโทษอย่างน่ากังขาจากคดีทุจริต 3 คดี โดยที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว กลับอาศัยอยู่ที่ห้องพักสุดหรูบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วยข้ออ้างอาการป่วยขั้นวิกฤต เป็นบุคคลน่ารังเกียจในสายตาชาวไทยที่ยึดถือความยุติธรรม และตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ปรึกษารายนี้ไม่มีผลงานใดเป็นรูปธรรม นอกจากใช้เป็นข้ออ้าง ขออนุญาตศาลอาญาเดินทางออกนอกประเทศ

    เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ ชุมนุมหน้าอาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ทั้งที่ปัจจุบันนายทักษิณเป็นจำเลยในคดีอาญา มาตรา 112 รวมทั้งนายทักษิณเคยให้การรับสารภาพและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยคดีถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริตคอร์รัปชันเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกประชาชนคนไทยมีคำถามกับสิ่งที่นายทักษิณอ้างว่าป่วยวิกฤตและไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว

    คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และศาลฎีกาได้เริ่มกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงว่า การบังคับโทษนายทักษิณเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น นายทักษิณที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียนที่นายอันวาร์แต่งตั้ง จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศไทย และถูกดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากศาลไทยซึ่งอาจจะนำมาสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด หรือแม้แต่การลงโทษนายทักษิณอีกครั้งหนึ่ง

    "เกรงว่าด้วยตำแหน่งที่นายอันวาร์แต่งตั้งให้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะกลายเป็นเงื่อนไขใช้เป็นข้ออ้างในการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ แล้วไม่กลับมาสู่การพิสูจน์ความจริงเหมือนที่นายทักษิณเคยกระทำมาแล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นการใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มาบดบังกระบวนการยุติธรรมของไทย อันเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดมิตรไมตรีของสองประเทศอันมีมาช้านาน จึงขอให้ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณ เพื่อธํารงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมืองของประเทศอาเซียน และให้กระบวนการยุติธรรมไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนทุกประเทศมีกระบวนการยุติธรรมในประเทศของตนเอง"

    #Newskit
    THE ANWAR’S DISGUSTING ADVISOR เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ทั้งที่นายทักษิณเพิ่งได้รับการพักโทษอย่างน่ากังขาจากคดีทุจริต 3 คดี โดยที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว กลับอาศัยอยู่ที่ห้องพักสุดหรูบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วยข้ออ้างอาการป่วยขั้นวิกฤต เป็นบุคคลน่ารังเกียจในสายตาชาวไทยที่ยึดถือความยุติธรรม และตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ปรึกษารายนี้ไม่มีผลงานใดเป็นรูปธรรม นอกจากใช้เป็นข้ออ้าง ขออนุญาตศาลอาญาเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ ชุมนุมหน้าอาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ทั้งที่ปัจจุบันนายทักษิณเป็นจำเลยในคดีอาญา มาตรา 112 รวมทั้งนายทักษิณเคยให้การรับสารภาพและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยคดีถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริตคอร์รัปชันเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกประชาชนคนไทยมีคำถามกับสิ่งที่นายทักษิณอ้างว่าป่วยวิกฤตและไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และศาลฎีกาได้เริ่มกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงว่า การบังคับโทษนายทักษิณเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น นายทักษิณที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียนที่นายอันวาร์แต่งตั้ง จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศไทย และถูกดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากศาลไทยซึ่งอาจจะนำมาสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด หรือแม้แต่การลงโทษนายทักษิณอีกครั้งหนึ่ง "เกรงว่าด้วยตำแหน่งที่นายอันวาร์แต่งตั้งให้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะกลายเป็นเงื่อนไขใช้เป็นข้ออ้างในการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ แล้วไม่กลับมาสู่การพิสูจน์ความจริงเหมือนที่นายทักษิณเคยกระทำมาแล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นการใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มาบดบังกระบวนการยุติธรรมของไทย อันเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดมิตรไมตรีของสองประเทศอันมีมาช้านาน จึงขอให้ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณ เพื่อธํารงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมืองของประเทศอาเซียน และให้กระบวนการยุติธรรมไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนทุกประเทศมีกระบวนการยุติธรรมในประเทศของตนเอง" #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนของทรัมป์ในการยกเลิกโครงการ Energy Star อาจทำให้ค่าไฟของครัวเรือนอเมริกันสูงขึ้น รัฐบาลทรัมป์มีแผนที่จะ ยกเลิกโครงการ Energy Star ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง โดยโครงการนี้ถูกริเริ่มโดย รัฐบาลบุชในปี 1992 และได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็น มาตรฐานทองคำด้านประสิทธิภาพพลังงาน

    Energy Star ได้ช่วย ประหยัดพลังงานกว่า 5 ล้านล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไปกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปกว่า 4 พันล้านเมตริกตัน

    Energy Star เป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง
    - ช่วยให้ ครัวเรือนสามารถประหยัดค่าไฟได้ประมาณ $450 ต่อปี

    โครงการนี้ถูกริเริ่มโดยรัฐบาลบุชในปี 1992 และได้รับการยอมรับทั่วโลก
    - เป็น หนึ่งในโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐฯ

    Energy Star ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปกว่า 4 พันล้านเมตริกตัน
    - ส่งผลดีต่อ สิ่งแวดล้อมและการลดภาวะโลกร้อน

    ทุก 1 ดอลลาร์ที่ใช้ในโครงการนี้ช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง $350
    - เป็น โครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงต่อการลงทุนของรัฐบาล

    องค์กรและบริษัทกว่า 1,100 แห่งได้ส่งจดหมายถึง EPA เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์คงไว้ซึ่งโครงการ Energy Star
    - เนื่องจาก การยกเลิกโครงการนี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค

    https://www.techspot.com/news/107858-trump-plan-eliminate-energy-star-could-raise-utility.html
    แผนของทรัมป์ในการยกเลิกโครงการ Energy Star อาจทำให้ค่าไฟของครัวเรือนอเมริกันสูงขึ้น รัฐบาลทรัมป์มีแผนที่จะ ยกเลิกโครงการ Energy Star ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง โดยโครงการนี้ถูกริเริ่มโดย รัฐบาลบุชในปี 1992 และได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็น มาตรฐานทองคำด้านประสิทธิภาพพลังงาน Energy Star ได้ช่วย ประหยัดพลังงานกว่า 5 ล้านล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไปกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปกว่า 4 พันล้านเมตริกตัน ✅ Energy Star เป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง - ช่วยให้ ครัวเรือนสามารถประหยัดค่าไฟได้ประมาณ $450 ต่อปี ✅ โครงการนี้ถูกริเริ่มโดยรัฐบาลบุชในปี 1992 และได้รับการยอมรับทั่วโลก - เป็น หนึ่งในโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐฯ ✅ Energy Star ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปกว่า 4 พันล้านเมตริกตัน - ส่งผลดีต่อ สิ่งแวดล้อมและการลดภาวะโลกร้อน ✅ ทุก 1 ดอลลาร์ที่ใช้ในโครงการนี้ช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง $350 - เป็น โครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงต่อการลงทุนของรัฐบาล ✅ องค์กรและบริษัทกว่า 1,100 แห่งได้ส่งจดหมายถึง EPA เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์คงไว้ซึ่งโครงการ Energy Star - เนื่องจาก การยกเลิกโครงการนี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค https://www.techspot.com/news/107858-trump-plan-eliminate-energy-star-could-raise-utility.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's plan to eliminate Energy Star could raise utility bills for American families, experts say
    Internal sources at the Environmental Protection Agency (EPA) report that the administration plans to kill the Energy Star program. After serving as a "gold standard" of sorts...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงศึกษาอาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 616
    ชื่อบทธรรม : -อาการดับแห่งความทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=616
    --อาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง)
    (พระผู้มีพระภาคเมื่อประทับอยู่ในที่หลีกเร้นแห่งหนึ่ง ได้ทรงกล่าวธรรมปริยายนี้ตามลำพังพระองค์ ว่า:-
    )​
    เพราะอาศัยซึ่ง จักษุ ด้วย ซึ่ง รูป ด้วย จึงเกิด จักขุวิญญาณ ;
    การประกอบพร้อมแห่งธรรมสามประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั่นคือ ผัสสะ ;
    เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมี เวทนา ;
    เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา;.
    เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นนั่นแล จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
    เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
    เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล,
    ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น.
    ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.

    (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และ มนะ
    ก็ได้ตรัสต่อไปอีก ซึ่งมีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง จักษุ
    ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น
    ).

    --โดยสมัยนั้นแล ภิกษุองค์หนึ่ง ได้ยืนแอบฟังพระผู้มีพระภาคอยู่.
    พระผู้มีพระภาคทอดพระเนตรเห็นภิกษุนั้นแล้ว
    ได้ทรงกล่าวกะภิกษุนั้นว่า :-
    --ภิกษุ ! เธอได้ยินธรรมปริยายนี้แล้วมิใช่หรือ ?
    --ภิกษุ ! เธอจงรับเอาธรรมปริยายนี้ไป ;
    เธอจงเล่าเรียนธรรมปริยายนี้ ;
    เธอจงทรงไว้ซึ่งธรรมปริยายนี้.
    --ภิกษุ ! ธรรมปริยายนี้ #ประกอบด้วยประโยชน์เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/113/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยโกติ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/94/164.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/94/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๑๒/๑๖๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/112/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=616 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=616
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
    ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาอาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 616 ชื่อบทธรรม : -อาการดับแห่งความทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=616 --อาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง) (พระผู้มีพระภาคเมื่อประทับอยู่ในที่หลีกเร้นแห่งหนึ่ง ได้ทรงกล่าวธรรมปริยายนี้ตามลำพังพระองค์ ว่า:- )​ เพราะอาศัยซึ่ง จักษุ ด้วย ซึ่ง รูป ด้วย จึงเกิด จักขุวิญญาณ ; การประกอบพร้อมแห่งธรรมสามประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั่นคือ ผัสสะ ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมี เวทนา ; เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา;. เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นนั่นแล จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น. ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้. (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และ มนะ ก็ได้ตรัสต่อไปอีก ซึ่งมีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง จักษุ ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น ). --โดยสมัยนั้นแล ภิกษุองค์หนึ่ง ได้ยืนแอบฟังพระผู้มีพระภาคอยู่. พระผู้มีพระภาคทอดพระเนตรเห็นภิกษุนั้นแล้ว ได้ทรงกล่าวกะภิกษุนั้นว่า :- --ภิกษุ ! เธอได้ยินธรรมปริยายนี้แล้วมิใช่หรือ ? --ภิกษุ ! เธอจงรับเอาธรรมปริยายนี้ไป ; เธอจงเล่าเรียนธรรมปริยายนี้ ; เธอจงทรงไว้ซึ่งธรรมปริยายนี้. --ภิกษุ ! ธรรมปริยายนี้ #ประกอบด้วยประโยชน์เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/18/113/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยโกติ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/94/164. http://etipitaka.com/read/thai/18/94/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๑๒/๑๖๔. http://etipitaka.com/read/pali/18/112/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=616 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=616 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการดับแห่งความทุกข์
    -อาการดับแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) (พระผู้มีพระภาคเมื่อประทับอยู่ในที่หลีกเร้นแห่งหนึ่ง ได้ทรงกล่าวธรรมปริยายนี้ตามลำพังพระองค์ ว่า :-) เพราะอาศัยซึ่ง จักษุ ด้วย ซึ่ง รูป ด้วย จึงเกิด จักขุวิญญาณ ; การประจวบพร้อมแห่งธรรมสามประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั่นคือ ผัสสะ ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมี เวทนา ; เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา. เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นนั่นแล จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น. ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้. (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และ มนะ ก็ได้ตรัสต่อไปอีก ซึ่งมีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งจักษุ ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น). โดยสมัยนั้นแล ภิกษุองค์หนึ่ง ได้ยืนแอบฟังพระผู้มีพระภาคอยู่. พระผู้มีพระภาคทอดพระเนตรเห็นภิกษุนั้นแล้ว ได้ทรงกล่าวกะภิกษุนั้นว่า : ภิกษุ ! เธอได้ยินธรรมปริยายนี้แล้วมิใช่หรือ ? .... ภิกษุ ! เธอจงรับเอาธรรมปริยายนี้ไป ; เธอจงเล่าเรียนธรรมปริยายนี้ ; เธอจงทรงไว้ซึ่งธรรมปริยายนี้. ภิกษุ ! ธรรมปริยายนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts