• #แป้นพิมพ์​+เมาส์​บลูทูธ​ไร้สาย​ใช้​กับโทรศัพ​ท์มือ​ถือ​ แป้นภาษาไทย-อังกฤษ​
    ชาร์จ​หนึ่ง​ครั้ง​ใช้​ได้​48 ชั่วโมง
    สแตนบายได้ 30 วัน
    ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคา​290บาทรวมส่งแล้ว

    ส่ง
    #แป้นพิมพ์​+เมาส์​บลูทูธ​ไร้สาย​ใช้​กับโทรศัพ​ท์มือ​ถือ​ แป้นภาษาไทย-อังกฤษ​ ชาร์จ​หนึ่ง​ครั้ง​ใช้​ได้​48 ชั่วโมง สแตนบายได้ 30 วัน ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคา​290บาทรวมส่งแล้ว ส่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ "Kimsuky" ได้ใช้เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งขึ้นใหม่เพื่อเข้าถึงเครื่องที่ติดไวรัสได้โดยตรง นี่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์การโจมตีของกลุ่มนี้

    กลุ่ม Kimsuky ได้เริ่มต้นการโจมตีโดยการส่งอีเมลฟิชชิ่ง ซึ่งมีไฟล์ลัด (.LNK) ที่เป็นอันตรายและถูกอำพรางให้ดูเหมือนไฟล์ PDF หรือ Word เมื่อเปิดไฟล์ลัดนี้ มันจะเรียกใช้ PowerShell หรือ Mshta เพื่อดึง payload เพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งรวมถึง:
    - PebbleDash ซึ่งเป็น backdoor ของ Kimsuky ที่ให้การควบคุมระบบเบื้องต้น
    - เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึง RDP ได้อย่างต่อเนื่องและสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยได้
    - เครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงระบบได้แม้ว่า RDP ถูกบล็อก

    เครื่องมือ RDP Wrapper ถูกออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Remote Desktop Protocol (RDP) บน Windows รุ่นที่ไม่รองรับ เช่น Windows Home โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ระบบ Kimsuky ได้ปรับแต่งฟังก์ชันการส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของแอนตี้ไวรัส และเปลี่ยนแปลงการทำงานพอที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่ใช้วิธีการตามลายเซ็น

    ข้อดีหลักของการใช้ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งคือการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากการเชื่อมต่อ RDP มักจะถูกมองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ถูกต้อง Kimsuky สามารถหลบหนีการตรวจจับได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังให้การควบคุมระยะไกลที่สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการเข้าถึงผ่าน shell โดยมัลแวร์ และสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกไฟร์วอลล์หรือ NAT ผ่านการ relay ทำให้สามารถเข้าถึง RDP ได้จากภายนอก

    หลังจากที่ Kimsuky สามารถยึดที่มั่นในเครือข่ายได้แล้ว พวกเขาจะปล่อย payload รอง ซึ่งรวมถึง:
    - Keylogger ที่จับการกดแป้นพิมพ์และบันทึกไว้ในไฟล์ข้อความในไดเรกทอรีระบบ
    - Infostealer (forceCopy) ที่ขโมยข้อมูลประจำตัวที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์
    - ReflectiveLoader ที่ทำงานบน PowerShell เพื่อเรียกใช้ payload ในหน่วยความจำ

    โดยรวมแล้ว Kimsuky เป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความอันตรายและพัฒนาต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการโจมตีทางไซเบอร์มากที่สุดของเกาหลีเหนือที่มุ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางการข่าวกรอง การวิจัยล่าสุดของ ASEC ระบุว่าผู้โจมตีเลือกใช้วิธีการเข้าถึงระยะไกลที่ซ่อนตัวมากขึ้นเพื่อการยึดที่มั่นในเครือข่ายที่ถูกโจมตีให้นานที่สุด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/kimsuky-hackers-use-new-custom-rdp-wrapper-for-remote-access/
    กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ "Kimsuky" ได้ใช้เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งขึ้นใหม่เพื่อเข้าถึงเครื่องที่ติดไวรัสได้โดยตรง นี่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์การโจมตีของกลุ่มนี้ กลุ่ม Kimsuky ได้เริ่มต้นการโจมตีโดยการส่งอีเมลฟิชชิ่ง ซึ่งมีไฟล์ลัด (.LNK) ที่เป็นอันตรายและถูกอำพรางให้ดูเหมือนไฟล์ PDF หรือ Word เมื่อเปิดไฟล์ลัดนี้ มันจะเรียกใช้ PowerShell หรือ Mshta เพื่อดึง payload เพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งรวมถึง: - PebbleDash ซึ่งเป็น backdoor ของ Kimsuky ที่ให้การควบคุมระบบเบื้องต้น - เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึง RDP ได้อย่างต่อเนื่องและสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ - เครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงระบบได้แม้ว่า RDP ถูกบล็อก เครื่องมือ RDP Wrapper ถูกออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Remote Desktop Protocol (RDP) บน Windows รุ่นที่ไม่รองรับ เช่น Windows Home โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ระบบ Kimsuky ได้ปรับแต่งฟังก์ชันการส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของแอนตี้ไวรัส และเปลี่ยนแปลงการทำงานพอที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่ใช้วิธีการตามลายเซ็น ข้อดีหลักของการใช้ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งคือการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากการเชื่อมต่อ RDP มักจะถูกมองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ถูกต้อง Kimsuky สามารถหลบหนีการตรวจจับได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังให้การควบคุมระยะไกลที่สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการเข้าถึงผ่าน shell โดยมัลแวร์ และสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกไฟร์วอลล์หรือ NAT ผ่านการ relay ทำให้สามารถเข้าถึง RDP ได้จากภายนอก หลังจากที่ Kimsuky สามารถยึดที่มั่นในเครือข่ายได้แล้ว พวกเขาจะปล่อย payload รอง ซึ่งรวมถึง: - Keylogger ที่จับการกดแป้นพิมพ์และบันทึกไว้ในไฟล์ข้อความในไดเรกทอรีระบบ - Infostealer (forceCopy) ที่ขโมยข้อมูลประจำตัวที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ - ReflectiveLoader ที่ทำงานบน PowerShell เพื่อเรียกใช้ payload ในหน่วยความจำ โดยรวมแล้ว Kimsuky เป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความอันตรายและพัฒนาต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการโจมตีทางไซเบอร์มากที่สุดของเกาหลีเหนือที่มุ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางการข่าวกรอง การวิจัยล่าสุดของ ASEC ระบุว่าผู้โจมตีเลือกใช้วิธีการเข้าถึงระยะไกลที่ซ่อนตัวมากขึ้นเพื่อการยึดที่มั่นในเครือข่ายที่ถูกโจมตีให้นานที่สุด https://www.bleepingcomputer.com/news/security/kimsuky-hackers-use-new-custom-rdp-wrapper-for-remote-access/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Kimsuky hackers use new custom RDP Wrapper for remote access
    The North Korean hacking group known as Kimsuky was observed in recent attacks using a custom-built RDP Wrapper and proxy tools to directly access infected machines.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก

    ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3:
    - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง
    - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3
    - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน
    - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล
    - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ
    - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย

    iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ

    https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3: - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3 - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    WWW.ZDNET.COM
    I traveled with one of the most secure SSDs ever - and never felt more relaxed
    The iStorage DiskAshur Pro 3 safeguards your data from both theft and the elements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการโจมตีแบบใหม่ที่เรียกว่า "Browser Syncjacking" ซึ่งมีเป้าหมายที่เบราว์เซอร์ Google Chrome และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก การโจมตีนี้สามารถขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ทั้งหมดของคุณและแม้กระทั่งข้อมูลจากระบบปฏิบัติการของคุณได้

    การโจมตีเริ่มต้นด้วยการสร้างโดเมน Google Workspace ที่เป็นอันตรายและปิดการใช้งานคุณสมบัติความปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน จากนั้นแฮกเกอร์จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกจัดการในอุปกรณ์ของเหยื่อ และสร้างส่วนขยาย Chrome ที่เป็นอันตรายเพื่อดึงดูดเหยื่อให้ติดตั้ง

    เมื่อเหยื่อติดตั้งส่วนขยายนี้ มันจะซ่อนหน้าต่างเบราว์เซอร์ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อเข้าสู่ระบบโปรไฟล์ Workspace ที่สร้างขึ้น จากนั้นแฮกเกอร์จะหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานการซิงค์ Chrome โดยเปิดหน้าเว็บสนับสนุน Chrome ที่ถูกแก้ไขและนำทางเหยื่อให้เปิดการซิงค์

    เมื่อการซิงค์เปิดใช้งาน ข้อมูลบัญชี Chrome และข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งหมดของเหยื่อจะถูกส่งไปยังโปรไฟล์ของแฮกเกอร์ จากนั้นแฮกเกอร์สามารถควบคุมเบราว์เซอร์ของเหยื่อได้ทั้งหมด รวมถึงการติดตั้งมัลแวร์ จับภาพการกดแป้นพิมพ์ ดึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และเปิดใช้งานกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนของอุปกรณ์

    เพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตีนี้ ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งส่วนขยาย Chrome ใหม่ และจำกัดการใช้งานส่วนขยายที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ควรใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดและจัดเก็บรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดแทนการเก็บในเบราว์เซอร์

    https://www.techradar.com/computing/chrome/a-new-chrome-browser-highjacking-attack-could-affect-billions-of-users-heres-how-to-fight-it
    มีการโจมตีแบบใหม่ที่เรียกว่า "Browser Syncjacking" ซึ่งมีเป้าหมายที่เบราว์เซอร์ Google Chrome และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก การโจมตีนี้สามารถขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ทั้งหมดของคุณและแม้กระทั่งข้อมูลจากระบบปฏิบัติการของคุณได้ การโจมตีเริ่มต้นด้วยการสร้างโดเมน Google Workspace ที่เป็นอันตรายและปิดการใช้งานคุณสมบัติความปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน จากนั้นแฮกเกอร์จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกจัดการในอุปกรณ์ของเหยื่อ และสร้างส่วนขยาย Chrome ที่เป็นอันตรายเพื่อดึงดูดเหยื่อให้ติดตั้ง เมื่อเหยื่อติดตั้งส่วนขยายนี้ มันจะซ่อนหน้าต่างเบราว์เซอร์ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อเข้าสู่ระบบโปรไฟล์ Workspace ที่สร้างขึ้น จากนั้นแฮกเกอร์จะหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานการซิงค์ Chrome โดยเปิดหน้าเว็บสนับสนุน Chrome ที่ถูกแก้ไขและนำทางเหยื่อให้เปิดการซิงค์ เมื่อการซิงค์เปิดใช้งาน ข้อมูลบัญชี Chrome และข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งหมดของเหยื่อจะถูกส่งไปยังโปรไฟล์ของแฮกเกอร์ จากนั้นแฮกเกอร์สามารถควบคุมเบราว์เซอร์ของเหยื่อได้ทั้งหมด รวมถึงการติดตั้งมัลแวร์ จับภาพการกดแป้นพิมพ์ ดึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และเปิดใช้งานกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนของอุปกรณ์ เพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตีนี้ ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งส่วนขยาย Chrome ใหม่ และจำกัดการใช้งานส่วนขยายที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ควรใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดและจัดเก็บรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดแทนการเก็บในเบราว์เซอร์ https://www.techradar.com/computing/chrome/a-new-chrome-browser-highjacking-attack-could-affect-billions-of-users-heres-how-to-fight-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • บู่บู๊วววว แนะนำตัว

    สวัสดี...ฉันชื่อ bubu ออกเสียงว่า บู่บู๊วววว ไม่ใช่ บูบู้ เหมือนลาบูบู้
    ฉันเปิดพื้นที่ที่นี่...เพื่อที่ว่า ฉันจะได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ นานา เหมือนกับที่เราจับปากกาเขียนไดอารี่ลงสมุด..แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันเป็นการเคาะแป้นพิมพ์ แถมยังได้แบ่งปันให้คนอื่นอ่านได้อีก

    ฉันเริ่มเขียนบันทึก ตอนที่ฉันอายุ 14 ตอนนั้นมีสมุดเปล่า ๆ อยู่เล่มนึง หน้าปกเคลือบพลาสติก ขนาดประมาณ A5 ในหน้าแรก..มีข้อความตอนหนึ่งว่า "หากฉันเขียนบันทึกไม่ได้อย่างต่อเนื่อง ชีวิตนี้ฉันคงทำอะไรไม่สำเร็จหรอก !!!"

    หลังจากนั้น ฉันก็เขียนมายาวเลย ตั้งแต่ม.2 - ม.6 หากนับรวมกันคงเกิน 20 เล่ม
    สมุดบันทึกแต่ละเล่ม มีลักษณะต่างกัน บางเล่มน่ารัก บางเล่มเล็ก กะทัดรัด เหมาะมือ
    บางเล่มก็ใหญ่ จนเขียนได้เกือบปี

    ช่วงเรียนมัธยม เขียนได้เยอะเลย
    ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ก็ยังไม่หยุดเขียน
    ช่วงเรียนปริญญาโท ก็ยังเขียนต่ออีก แต่เพิ่มเติมคือ มีบล็อคของตัวเองด้วย
    ตอนนั้นยังใช้สายโทรศัพท์บ้านต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตอยู่เลย

    พอทำงาน ก็ยังเขียนอยู่ แค่รู้เลยว่า เขียนน้อยลง
    ยิ่งงานเยอะ ยิ่งเขียนน้อยลง
    ได้แต่นั่งมองสมุดบันทึกที่ตัวเองเขียน และสะสมไว้

    แต่สุดท้าย...เกิดอะไรขึ้นรู้ม๊ะ???
    ...
    ...

    ฉันตัดสินใจ ทิ้งสมุดบันทึกเหล่านั้นทิ้ง...
    ทิ้งลงในถังขยะจริง ๆ

    เพราะฉันคิดว่า....
    เรื่องราวที่อยู่ในนั้น มันไม่น่าอ่านนักหรอก
    มันเป็นเรื่องราวในใจฉันคนเดียว
    หากวันนึง มีคนในครอบครัวฉันหยิบอ่านขึ้นมา..

    พวกเค้าเหล่านั้นคงเสียใจ!!!

    เพราะงั้น ฉันเลยตัดสินใจ "ทิ้งมันไปซะ"

    ถึงจะทิ้งสมุดบันทึกเหล่านั้น แต่ฉันก็ไม่หยุดเขียนนะ
    ชอบเขียน เขียนได้อย่างอิสระ เขียนโดยไม่มีคำวิพากษ์วิจารณ์จากใคร ๆ
    เขียนไปตามหัวใจ...

    ฉันอยากเขียน..เพื่อที่ว่าวันนึงฉันอาจจะได้เป็นนักเขียนจริง ๆ ก็ได้ แฮร่!!!
    บู่บู๊วววว แนะนำตัว สวัสดี...ฉันชื่อ bubu ออกเสียงว่า บู่บู๊วววว ไม่ใช่ บูบู้ เหมือนลาบูบู้ ฉันเปิดพื้นที่ที่นี่...เพื่อที่ว่า ฉันจะได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ นานา เหมือนกับที่เราจับปากกาเขียนไดอารี่ลงสมุด..แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันเป็นการเคาะแป้นพิมพ์ แถมยังได้แบ่งปันให้คนอื่นอ่านได้อีก ฉันเริ่มเขียนบันทึก ตอนที่ฉันอายุ 14 ตอนนั้นมีสมุดเปล่า ๆ อยู่เล่มนึง หน้าปกเคลือบพลาสติก ขนาดประมาณ A5 ในหน้าแรก..มีข้อความตอนหนึ่งว่า "หากฉันเขียนบันทึกไม่ได้อย่างต่อเนื่อง ชีวิตนี้ฉันคงทำอะไรไม่สำเร็จหรอก !!!" หลังจากนั้น ฉันก็เขียนมายาวเลย ตั้งแต่ม.2 - ม.6 หากนับรวมกันคงเกิน 20 เล่ม สมุดบันทึกแต่ละเล่ม มีลักษณะต่างกัน บางเล่มน่ารัก บางเล่มเล็ก กะทัดรัด เหมาะมือ บางเล่มก็ใหญ่ จนเขียนได้เกือบปี ช่วงเรียนมัธยม เขียนได้เยอะเลย ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ก็ยังไม่หยุดเขียน ช่วงเรียนปริญญาโท ก็ยังเขียนต่ออีก แต่เพิ่มเติมคือ มีบล็อคของตัวเองด้วย ตอนนั้นยังใช้สายโทรศัพท์บ้านต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตอยู่เลย พอทำงาน ก็ยังเขียนอยู่ แค่รู้เลยว่า เขียนน้อยลง ยิ่งงานเยอะ ยิ่งเขียนน้อยลง ได้แต่นั่งมองสมุดบันทึกที่ตัวเองเขียน และสะสมไว้ แต่สุดท้าย...เกิดอะไรขึ้นรู้ม๊ะ??? ... ... ฉันตัดสินใจ ทิ้งสมุดบันทึกเหล่านั้นทิ้ง... ทิ้งลงในถังขยะจริง ๆ เพราะฉันคิดว่า.... เรื่องราวที่อยู่ในนั้น มันไม่น่าอ่านนักหรอก มันเป็นเรื่องราวในใจฉันคนเดียว หากวันนึง มีคนในครอบครัวฉันหยิบอ่านขึ้นมา.. พวกเค้าเหล่านั้นคงเสียใจ!!! เพราะงั้น ฉันเลยตัดสินใจ "ทิ้งมันไปซะ" ถึงจะทิ้งสมุดบันทึกเหล่านั้น แต่ฉันก็ไม่หยุดเขียนนะ ชอบเขียน เขียนได้อย่างอิสระ เขียนโดยไม่มีคำวิพากษ์วิจารณ์จากใคร ๆ เขียนไปตามหัวใจ... ฉันอยากเขียน..เพื่อที่ว่าวันนึงฉันอาจจะได้เป็นนักเขียนจริง ๆ ก็ได้ แฮร่!!!
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าสู่กันฟัง..

    ล่าสุด..มีแฟนเพจ มีนักข่าวทักมาถามเรื่อง บอสพอลจ่ายส่วยหมื่นล้าน แอดมินมีข้อมูลบ้างไหมครับ.?

    มีคนส่งข้อมูลมาให้เราก่อนจะเป็นข่าวอีก แต่เราไม่ได้เล่น #เพราะมันไม่เมคเซ้นส์ เพราะหลายจุดมันยังดูมีพิรุธอยู่

    และใดๆเลยคือ มันไม่มีหลักฐานอ้างอิงไม่มีเส้นเงินมาสนับสนุนเรื่องเล่า ถ้าเราเล่นไปมันจะกลายเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย

    เดี๋ยวโป๊ะโบ๊ะบ๊ะขึ้นมา พาเขินแป้นพิมพ์แย่เลย ปั่ดโธ่😅
    ----------
    ส่วย..

    อาชญากรทุกองค์กร “ถ้าตัวเองยังไม่ถูกจับกุม”ทุกองค์กร จะจ่ายส่วยด้วยเงินไม่เกิน 20% ของรายได้ที่ตัวเองได้รับ

    จนกว่าจะถึงวันที่อาชญากรถูกจับกุมตัวได้แล้วตอนนั้นล่ะถึงจะดิ้นจ่ายเงินซื้ออิสระภาพ ด้วยตัวเลขหลัก 1-2-3-4-500 ล้านบาท

    เมื่อสิ้นอิสระภาพอาชญากรจะยอมจ่าย..แทบทุกตัวเลขที่ถูกเรียกรับสินบน

    จะเขียนให้อ่านว่า“เรามีวิธีคิดอย่างไร”กับเรื่องบอสพอลจ่ายส่วยเป็นหมื่นล้าน

    วิธีวิเคราะห์หาข้อเท็จจริงของเราเริ่มจาก“ตั้งสมมติฐาน”หาตัวเลขกำไรของบริษัท The Icon

    #เอาจำนวนผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทเป็นตัวตั้งของรายรับ..

    บริษัท..มียอดผู้ร่วมทุน 6 แสนกว่ารหัส แต่ละรหัสลงทุนตั้งแต่ 2,500,25,000,250,000 บาท นั่นคือรายรับหลักๆ

    มีรายรับย่อยๆคือ..ค่าคอร์สสอนเรียนกับรายรับที่อยู่นอกระบบคือ“เงิน 400 ล้านบาท”ที่พอลปล่อยกู้คิดดอกร้อยละ 0.50

    #ประมาณการรายจ่ายหลักๆของบริษัท

    1.ต้นทุนค่าสินค้า 2.ค่าบริหารจัดการที่รวมถึงค่ายิงแอดค่าทำการตลาด 3.ปันผลเป็นขั้นบันไดลงไปสู่แม่ทีม

    รายจ่าย 3 ข้อรวมกันคิดเป็น 70% โดยประมาณ

    เอารายจ่าย 70% ไปลบออกจากรายรับจาก 6 แสนกว่ารหัส กำไรสุทธิของบริษัทเหลือไม่เกิน 30% โดยประมาณ

    ต้องไม่ลืมว่าช่วงระหว่างปี 2566 บริษัท Thi Icon เหลือรหัสที่เคลื่อนไหวร่วมทุนจริงๆอยู่ราวๆ 3 แสนรหัส

    อีก 3 แสนรหัส บ้างก็รวยแล้วลุก บ้างก็เจ๊ง บ้างก็ตื่นรู้แล้วถอย The Icon จึงถึงยุคขาลงตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา

    ดังนั้น #เรามีความเชื่อส่วนตัว ว่าบริษัท The Icon มีกำไรสุทธิไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท(ไม่รวมเงินของลูกทีม)

    ก็ลองดูตัวเลขเข้าทำการอายัดบอสพอลดิ่มีอยู่ 125 ล้านบาท ตัวเลขมันห่างจากการมีกำไรสุทธิหลักหมื่นล้านไปเยอะมาก

    ดังนั้นคำว่าบริษัท The Icon มีกำไร”แสนล้านบาท“ตามที่เป็นข่าวลือนั้น..มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน

    เราจึงได้หลักคิดง่ายๆว่า.ถ้าบริษัทมีกำไรสุทธิไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ตัวเลขส่วยหมื่นล้านบาท..มันก็เป็นเรื่องเท็จ

    ถ้าเรื่องส่วยหมื่นล้านมันเป็นเรื่องเท็จ เรื่องตัวละครที่รับส่วยชื่อนั้นหน่วยงานโน้นบลาๆๆ..มันก็เป็นเรื่องเท็จในเท็จ

    ลองนึกถึงคลิปเสียงที่พอลคุยกับ”ซาดหมา“เรื่องจ่ายให้เดือนละแสน ซึ่งพอลยอมรับกับพี่หนุ่มกลางรายการโหนว่าเป็นคลิปจริง

    อ้าว..แล้วถ้าบอสพอลมันมีเทวดาผู้คุ้มครองที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศเป็นคนใหญ่คนโตเป็นหุ้นส่วน มีการจ่ายส่วยเป็นหมื่นล้านจริงๆ.?

    คนอย่าง”ซาดหมา“ซึ่งไก่กาอาราเล่มากๆถ้าเทียบกับเทวดาผู้คุ้มครองในยุคนั้น เจอแค่ลูกรักของเทวดาเข้าไปซาดหมา ก็ฉิบหายแล้ว

    เออ.! แล้วทำไมพอลถึงไปขอความช่วยเหลือกับซาดหมา.?

    เออ.! แล้วพอลทำไมต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้ซาดหมาอีกเดือนละแสน ทั้งๆที่มีเทวดาผู้ยิ่งใหญ่คุ้มตัวอยู่แล้ว.?

    เห็นไหมครับ ว่าหลายเรื่องมันดูมีพิรุธ หลายจุดมันเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลจนยากจะเชื่อ และอะไรที่เหลือเชื่อ..จงอย่าเชื่อจนกว่าจะมีบทพิสูจน์

    ด้วยตรรกะทางความคิดดังกล่าวของพวกเรา จึงตัดสินใจไม่เล่นเรื่องส่วยที่เรารู้ว่ามันมีส่วยแน่ๆ แต่ตัวเลขมันเวอร์เกินไปจนยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง

    เมื่อถึงเวลาที่ตำรวจแถลงยอดเงินของผู้เสียหายซึ่งเรามั่นใจว่ารวมกันแล้วไม่น่าจะถึง 5 พันล้านบาท

    ถ้ายอดเงินผู้เสียหายไม่ถึง 5 พันล้านบาทจริงๆ เรื่องส่วยหมื่นล้านมันก็ได้คำตอบแล้วว่าเป็นเรื่ิอง..จ้อจี้

    เพราะตามหลักแล้วตัวเลขส่วยของบอสพอลมันจะต้องไม่จ่ายเงินส่วยมากกว่ายอดเงินของผู้เสียหาย..นั่นเอง

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    เล่าสู่กันฟัง.. ล่าสุด..มีแฟนเพจ มีนักข่าวทักมาถามเรื่อง บอสพอลจ่ายส่วยหมื่นล้าน แอดมินมีข้อมูลบ้างไหมครับ.? มีคนส่งข้อมูลมาให้เราก่อนจะเป็นข่าวอีก แต่เราไม่ได้เล่น #เพราะมันไม่เมคเซ้นส์ เพราะหลายจุดมันยังดูมีพิรุธอยู่ และใดๆเลยคือ มันไม่มีหลักฐานอ้างอิงไม่มีเส้นเงินมาสนับสนุนเรื่องเล่า ถ้าเราเล่นไปมันจะกลายเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย เดี๋ยวโป๊ะโบ๊ะบ๊ะขึ้นมา พาเขินแป้นพิมพ์แย่เลย ปั่ดโธ่😅 ---------- ส่วย.. อาชญากรทุกองค์กร “ถ้าตัวเองยังไม่ถูกจับกุม”ทุกองค์กร จะจ่ายส่วยด้วยเงินไม่เกิน 20% ของรายได้ที่ตัวเองได้รับ จนกว่าจะถึงวันที่อาชญากรถูกจับกุมตัวได้แล้วตอนนั้นล่ะถึงจะดิ้นจ่ายเงินซื้ออิสระภาพ ด้วยตัวเลขหลัก 1-2-3-4-500 ล้านบาท เมื่อสิ้นอิสระภาพอาชญากรจะยอมจ่าย..แทบทุกตัวเลขที่ถูกเรียกรับสินบน จะเขียนให้อ่านว่า“เรามีวิธีคิดอย่างไร”กับเรื่องบอสพอลจ่ายส่วยเป็นหมื่นล้าน วิธีวิเคราะห์หาข้อเท็จจริงของเราเริ่มจาก“ตั้งสมมติฐาน”หาตัวเลขกำไรของบริษัท The Icon #เอาจำนวนผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทเป็นตัวตั้งของรายรับ.. บริษัท..มียอดผู้ร่วมทุน 6 แสนกว่ารหัส แต่ละรหัสลงทุนตั้งแต่ 2,500,25,000,250,000 บาท นั่นคือรายรับหลักๆ มีรายรับย่อยๆคือ..ค่าคอร์สสอนเรียนกับรายรับที่อยู่นอกระบบคือ“เงิน 400 ล้านบาท”ที่พอลปล่อยกู้คิดดอกร้อยละ 0.50 #ประมาณการรายจ่ายหลักๆของบริษัท 1.ต้นทุนค่าสินค้า 2.ค่าบริหารจัดการที่รวมถึงค่ายิงแอดค่าทำการตลาด 3.ปันผลเป็นขั้นบันไดลงไปสู่แม่ทีม รายจ่าย 3 ข้อรวมกันคิดเป็น 70% โดยประมาณ เอารายจ่าย 70% ไปลบออกจากรายรับจาก 6 แสนกว่ารหัส กำไรสุทธิของบริษัทเหลือไม่เกิน 30% โดยประมาณ ต้องไม่ลืมว่าช่วงระหว่างปี 2566 บริษัท Thi Icon เหลือรหัสที่เคลื่อนไหวร่วมทุนจริงๆอยู่ราวๆ 3 แสนรหัส อีก 3 แสนรหัส บ้างก็รวยแล้วลุก บ้างก็เจ๊ง บ้างก็ตื่นรู้แล้วถอย The Icon จึงถึงยุคขาลงตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ดังนั้น #เรามีความเชื่อส่วนตัว ว่าบริษัท The Icon มีกำไรสุทธิไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท(ไม่รวมเงินของลูกทีม) ก็ลองดูตัวเลขเข้าทำการอายัดบอสพอลดิ่มีอยู่ 125 ล้านบาท ตัวเลขมันห่างจากการมีกำไรสุทธิหลักหมื่นล้านไปเยอะมาก ดังนั้นคำว่าบริษัท The Icon มีกำไร”แสนล้านบาท“ตามที่เป็นข่าวลือนั้น..มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เราจึงได้หลักคิดง่ายๆว่า.ถ้าบริษัทมีกำไรสุทธิไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ตัวเลขส่วยหมื่นล้านบาท..มันก็เป็นเรื่องเท็จ ถ้าเรื่องส่วยหมื่นล้านมันเป็นเรื่องเท็จ เรื่องตัวละครที่รับส่วยชื่อนั้นหน่วยงานโน้นบลาๆๆ..มันก็เป็นเรื่องเท็จในเท็จ ลองนึกถึงคลิปเสียงที่พอลคุยกับ”ซาดหมา“เรื่องจ่ายให้เดือนละแสน ซึ่งพอลยอมรับกับพี่หนุ่มกลางรายการโหนว่าเป็นคลิปจริง อ้าว..แล้วถ้าบอสพอลมันมีเทวดาผู้คุ้มครองที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศเป็นคนใหญ่คนโตเป็นหุ้นส่วน มีการจ่ายส่วยเป็นหมื่นล้านจริงๆ.? คนอย่าง”ซาดหมา“ซึ่งไก่กาอาราเล่มากๆถ้าเทียบกับเทวดาผู้คุ้มครองในยุคนั้น เจอแค่ลูกรักของเทวดาเข้าไปซาดหมา ก็ฉิบหายแล้ว เออ.! แล้วทำไมพอลถึงไปขอความช่วยเหลือกับซาดหมา.? เออ.! แล้วพอลทำไมต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้ซาดหมาอีกเดือนละแสน ทั้งๆที่มีเทวดาผู้ยิ่งใหญ่คุ้มตัวอยู่แล้ว.? เห็นไหมครับ ว่าหลายเรื่องมันดูมีพิรุธ หลายจุดมันเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลจนยากจะเชื่อ และอะไรที่เหลือเชื่อ..จงอย่าเชื่อจนกว่าจะมีบทพิสูจน์ ด้วยตรรกะทางความคิดดังกล่าวของพวกเรา จึงตัดสินใจไม่เล่นเรื่องส่วยที่เรารู้ว่ามันมีส่วยแน่ๆ แต่ตัวเลขมันเวอร์เกินไปจนยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เมื่อถึงเวลาที่ตำรวจแถลงยอดเงินของผู้เสียหายซึ่งเรามั่นใจว่ารวมกันแล้วไม่น่าจะถึง 5 พันล้านบาท ถ้ายอดเงินผู้เสียหายไม่ถึง 5 พันล้านบาทจริงๆ เรื่องส่วยหมื่นล้านมันก็ได้คำตอบแล้วว่าเป็นเรื่ิอง..จ้อจี้ เพราะตามหลักแล้วตัวเลขส่วยของบอสพอลมันจะต้องไม่จ่ายเงินส่วยมากกว่ายอดเงินของผู้เสียหาย..นั่นเอง สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แป้นพิมพ์​ RGB​ บลูทูธ​ไร้สาย​ มีแสงไฟในแป้นพิมพ์​ ถภาษา​อังกฤษ​-ไทย​ ใช้เชื่อมต่อ​กับโทรศัพ​มือ​ถือ​และคอม​พิวเตอร์
    ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคา​ 290 บาทรวมส่งแล้ว
    @https​://shop.line.me.me/@859wfxoy
    #แป้นพิมพ์​ RGB​ บลูทูธ​ไร้สาย​ มีแสงไฟในแป้นพิมพ์​ ถภาษา​อังกฤษ​-ไทย​ ใช้เชื่อมต่อ​กับโทรศัพ​มือ​ถือ​และคอม​พิวเตอร์ ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคา​ 290 บาทรวมส่งแล้ว @https​://shop.line.me.me/@859wfxoy
    0 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 701 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คีย์บอร์ด​+เมาส์​บลูทูธ​ไร้สาย​ ใช้​เชื่อมต่อ​กับโทรศัพท์​มือ​ถือ​และคอมพิวเตอร์​ได้
    ราคา​320​บาท​ รวม​ส่ง​เก็บ​ปลายทาง​แล้ว​ครับ
    แป้นพิมพ์​ภาษาอังกฤษ​และ​ภาษาไทย​
    #คีย์บอร์ด​+เมาส์​บลูทูธ​ไร้สาย​ ใช้​เชื่อมต่อ​กับโทรศัพท์​มือ​ถือ​และคอมพิวเตอร์​ได้ ราคา​320​บาท​ รวม​ส่ง​เก็บ​ปลายทาง​แล้ว​ครับ แป้นพิมพ์​ภาษาอังกฤษ​และ​ภาษาไทย​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • แป้นพิมพ์บลูทูธไร้สาย แสงไฟ RGB เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ใช้พิมพ์งานสะดวกและเร็วขึ้น
    แป้นพิมพ์บลูทูธไร้สาย แสงไฟ RGB เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ใช้พิมพ์งานสะดวกและเร็วขึ้น
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • แป้นพิมพ์​+เมาส์บลูทูธ​ไร้สาย​ ใช้​เชื่อมต่อ​กับโทรศัพ​มือ​ถือ​ คอมพิวเตอร์​ได้
    สินค้า​ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคาสินค้า​รวม​ส่ง​แล้วครับ​
    แป้นพิมพ์​+เมาส์บลูทูธ​ไร้สาย​ ใช้​เชื่อมต่อ​กับโทรศัพ​มือ​ถือ​ คอมพิวเตอร์​ได้ สินค้า​ส่งเก็บ​ปลายทาง​ ราคาสินค้า​รวม​ส่ง​แล้วครับ​
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันคือเรื่องจริงที่พิสูจน์กันมานักต่อนักละหลายประเทศแล้ว..ว่าอะโวคาโดว บางสายพันธุ์ หากกินเข้าไปความดันจะพรุ่งพรวด และปวดหัวมากขึ้น,ฉันจะโกหกพวกเธอไปทำไม..ไร้ประโยชน์เสียเวลาอ่ายงานวิจัยและเสียเวลาต้องมานั่งกดแป้นพิมพ์ด้วย..คิดสิ...

    Avocados are a source of the amino acid tyrosine, which naturally breaks down into tyramine in the body. The tyramine in avocado is linked with causing migraine headaches, as tyramine in high levels can trigger headaches and elevate blood pressure, studies show.

    Avocado is one of the healthiest foods with numerous health benefits. But for some avocado might trigger a headache. It has tyramine, which forces the blood vessels to constrict and then expand, leading to a nasty headache.

    และอย่าลืมไปค้นคว้า หาอ่านกันบ้างว่าตอนนี้..น้ำมันจากเมล็ดพืช อันตรายแค่ไหนมันมีอะไรในนั้น เพราะบอกไปก็รั้น เถียง,ดีที่สุดคือกินและได้รับผลเอง ประสบการณ์ตรง..ดีแล้ว
    มันคือเรื่องจริงที่พิสูจน์กันมานักต่อนักละหลายประเทศแล้ว..ว่าอะโวคาโดว บางสายพันธุ์ หากกินเข้าไปความดันจะพรุ่งพรวด และปวดหัวมากขึ้น,ฉันจะโกหกพวกเธอไปทำไม..ไร้ประโยชน์เสียเวลาอ่ายงานวิจัยและเสียเวลาต้องมานั่งกดแป้นพิมพ์ด้วย..คิดสิ... Avocados are a source of the amino acid tyrosine, which naturally breaks down into tyramine in the body. The tyramine in avocado is linked with causing migraine headaches, as tyramine in high levels can trigger headaches and elevate blood pressure, studies show. Avocado is one of the healthiest foods with numerous health benefits. But for some avocado might trigger a headache. It has tyramine, which forces the blood vessels to constrict and then expand, leading to a nasty headache. และอย่าลืมไปค้นคว้า หาอ่านกันบ้างว่าตอนนี้..น้ำมันจากเมล็ดพืช อันตรายแค่ไหนมันมีอะไรในนั้น เพราะบอกไปก็รั้น เถียง,ดีที่สุดคือกินและได้รับผลเอง ประสบการณ์ตรง..ดีแล้ว
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว