• อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาสังโยชน์เจ็ด
    สัทธรรมลำดับที่ : 326
    ชื่อบทธรรม :- สังโยชน์เจ็ด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=326
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สังโยชน์เจ็ด
    --ภิกษุ ท. ! สัญโญชน์ (สิ่งผูกพัน) ๗ อย่างเหล่านี้ มีอยู่.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=สญฺโญชนา
    เจ็ดอย่าง อย่างไรเล่า ? เจ็ดอย่าง คือ
    ๑.อนุนยสัญโญชน์ (สังโยชน์คือกามราคะเป็นเหตุให้ติดตาม) ๑
    ๒.ปฏิฆสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความโกรธไม่ได้อย่างใจ) ๑
    ๓.ทิฏฐิสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความเห็นผิด) ๑
    ๔.วิจิกิจฉาสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความลังเลสงสัย) ๑
    ๕.มานสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความสำคัญตน) ๑
    ๖.ภวราคสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความกำหนัดในภพ) ๑
    ๗.อวิชชาสัญโญชน์ (สังโยชน์คืออวิชชา) ๑.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสัญโญชน์ ๗ อย่าง.
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง สัญโญชน์ ๗ อย่าง.
    เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง
    อนุนยสัญโญชน์ ๑
    ปฏิฆสัญโญชน์ ๑
    ทิฏฐิสัญโญชน์ ๑
    วิจิกิจฉาสัญโญชน์ ๑
    มานสัญโญชน์ ๑
    ภวราคสัญโญชน์ ๑
    อวิชชาสัญโญชน์ ๑.
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งสัญโญชน์ ๗ อย่างเหล่านี้แล.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล,
    อนุนยสัญโญชน์ก็ดี
    ปฏิฆสัญโญชน์ก็ดี
    ทิฏฐิสัญโญชน์ก็ดี
    วิจิกิจฉาสัญโญชน์ก็ดี
    มานสัญโญชน์ก็ดี
    ภวราคสัญโญชน์ก็ดี
    อวิชชาสัญโญชน์ก็ดี
    เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว
    ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป ;
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า
    “ตัดตัณหาได้แล้ว รื้อถอนสัญโญชน์ได้แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์
    #เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว”
    http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=สญฺโญชนา
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัยสี่#สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/7-8/8-9.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/7/?keywords=%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๗-๘/๘-๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=326
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=326
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22
    ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาสังโยชน์เจ็ด สัทธรรมลำดับที่ : 326 ชื่อบทธรรม :- สังโยชน์เจ็ด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=326 เนื้อความทั้งหมด :- --สังโยชน์เจ็ด --ภิกษุ ท. ! สัญโญชน์ (สิ่งผูกพัน) ๗ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=สญฺโญชนา เจ็ดอย่าง อย่างไรเล่า ? เจ็ดอย่าง คือ ๑.อนุนยสัญโญชน์ (สังโยชน์คือกามราคะเป็นเหตุให้ติดตาม) ๑ ๒.ปฏิฆสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความโกรธไม่ได้อย่างใจ) ๑ ๓.ทิฏฐิสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความเห็นผิด) ๑ ๔.วิจิกิจฉาสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความลังเลสงสัย) ๑ ๕.มานสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความสำคัญตน) ๑ ๖.ภวราคสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความกำหนัดในภพ) ๑ ๗.อวิชชาสัญโญชน์ (สังโยชน์คืออวิชชา) ๑. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสัญโญชน์ ๗ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง สัญโญชน์ ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง อนุนยสัญโญชน์ ๑ ปฏิฆสัญโญชน์ ๑ ทิฏฐิสัญโญชน์ ๑ วิจิกิจฉาสัญโญชน์ ๑ มานสัญโญชน์ ๑ ภวราคสัญโญชน์ ๑ อวิชชาสัญโญชน์ ๑. --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งสัญโญชน์ ๗ อย่างเหล่านี้แล. --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล, อนุนยสัญโญชน์ก็ดี ปฏิฆสัญโญชน์ก็ดี ทิฏฐิสัญโญชน์ก็ดี วิจิกิจฉาสัญโญชน์ก็ดี มานสัญโญชน์ก็ดี ภวราคสัญโญชน์ก็ดี อวิชชาสัญโญชน์ก็ดี เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป ; --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “ตัดตัณหาได้แล้ว รื้อถอนสัญโญชน์ได้แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์ #เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว” http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=สญฺโญชนา ดังนี้แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัยสี่​ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/7-8/8-9. http://etipitaka.com/read/thai/23/7/?keywords=%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๗-๘/๘-๙. http://etipitaka.com/read/pali/23/7/?keywords=%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=326 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=326 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22 ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สังโยชน์เจ็ด
    -สังโยชน์เจ็ด ภิกษุ ท. ! สัญโญชน์ (สิ่งผูกพัน) ๗ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. เจ็ดอย่าง อย่างไรเล่า ? เจ็ดอย่าง คือ อนุนยสัญโญชน์ (สังโยชน์คือกามราคะเป็นเหตุให้ติดตาม) ๑ ปฏิฆสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความโกรธไม่ได้อย่างใจ) ๑ ทิฏฐิสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความเห็นผิด) ๑ วิจิกิจฉาสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความลังเลสงสัย) ๑ มานสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความสำคัญตน) ๑ ภวราคสัญโญชน์ (สังโยชน์คือความกำหนัดในภพ) ๑ อวิชชาสัญโญชน์ (สังโยชน์คืออวิชชา) ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสัญโญชน์ ๗ อย่าง. ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง สัญโญชน์ ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่ง อนุนยสัญโญชน์ ๑ ปฏิฆสัญโญชน์ ๑ ทิฏฐิสัญโญชน์ ๑ วิจิกิจฉาสัญโญชน์ ๑ มานสัญโญชน์ ๑ ภวราคสัญโญชน์ ๑ อวิชชาสัญโญชน์ ๑. ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งสัญโญชน์ ๗ อย่างเหล่านี้แล. ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล, อนุนยสัญโญชน์ก็ดี ปฏิฆสัญโญชน์ก็ดี ทิฏฐิสัญโญชน์ก็ดี วิจิกิจฉาสัญโญชน์ก็ดี มานสัญโญชน์ก็ดี ภวราคสัญโญชน์ก็ดี อวิชชาสัญโญชน์ก็ดี เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป ; ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “ตัดตัณหาได้แล้ว รื้อถอนสัญโญชน์ได้แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์ เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่าง ถูกต้องแล้ว” ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาปัจจัยแห่งอวิชชา
    สัทธรรมลำดับที่ : 287
    ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งอวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=287
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ปัจจัยแห่งอวิชชา
    --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของอวิชชา ย่อมไม่ปรากฏ ;
    ก่อนแต่นี้ อวิชชามิได้มี ;
    แต่ว่า อวิชชาเพิ่งมีต่อภายหลัง.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/120/?keywords=อวิชฺชา
    --ภิกษุ ท. ! คำกล่าว อย่างนี้แหละ เป็นคำที่ใคร ๆ*--๑
    ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “อวิชชาย่อมปรากฏเพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชานั้น ก็เป็นธรรมชาติมีอาหารหาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ?
    คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ?
    คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ
    ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ?
    คำตอบพึงมีว่า “การไม่สำรวมอินทรีย์”
    ดังนี้.
    ....ฯลฯ....

    --ภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้
    การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์
    ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
    การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์
    ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์
    ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์
    ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์
    การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์
    ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ (สติปัฏฐานสี่บริบูรณ์)
    ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์
    ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์
    http://etipitaka.com/read/pali/24/128/?keywords=อินทรี
    ....ฯลฯ....

    +--การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว
    ย่อมทำทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์ ;
    +--ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว
    ย่อมทำนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการให้บริบูรณ์ ;
    +--นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว
    ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์.

    --ภิกษุ ท. ! อาหารแห่งอวิชชานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.-

    *--๑. คำว่า วุจฺจติ คำนี้ เคยแปลกันแต่ว่า อันตถาคตย่อมกล่าว กันจนเป็นธรรมเนียมไปเสีย. ในที่นี้ พิจารณาดูแล้ว เห็นได้ว่าควรจะแปลว่าใคร ๆ ทุกคนที่เป็นผู้รู้ รวมทั้งพระองค์เองด้วย ควรจะกล่าว, หาใช่เป็นการผูกขาดเพราะไว้แต่พระองค์ผู้เดียวไม่.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัยสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/103/61.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/103/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๒๐/๖๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/120/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=287
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=287
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาปัจจัยแห่งอวิชชา สัทธรรมลำดับที่ : 287 ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งอวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=287 เนื้อความทั้งหมด :- --ปัจจัยแห่งอวิชชา --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของอวิชชา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ อวิชชามิได้มี ; แต่ว่า อวิชชาเพิ่งมีต่อภายหลัง. http://etipitaka.com/read/pali/24/120/?keywords=อวิชฺชา --ภิกษุ ท. ! คำกล่าว อย่างนี้แหละ เป็นคำที่ใคร ๆ*--๑ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “อวิชชาย่อมปรากฏเพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชานั้น ก็เป็นธรรมชาติมีอาหารหาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “การไม่สำรวมอินทรีย์” ดังนี้. ....ฯลฯ.... --ภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์ ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์ การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ (สติปัฏฐานสี่บริบูรณ์) ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ http://etipitaka.com/read/pali/24/128/?keywords=อินทรี ....ฯลฯ.... +--การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; +--ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; +--นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์. --ภิกษุ ท. ! อาหารแห่งอวิชชานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.- *--๑. คำว่า วุจฺจติ คำนี้ เคยแปลกันแต่ว่า อันตถาคตย่อมกล่าว กันจนเป็นธรรมเนียมไปเสีย. ในที่นี้ พิจารณาดูแล้ว เห็นได้ว่าควรจะแปลว่าใคร ๆ ทุกคนที่เป็นผู้รู้ รวมทั้งพระองค์เองด้วย ควรจะกล่าว, หาใช่เป็นการผูกขาดเพราะไว้แต่พระองค์ผู้เดียวไม่. #ทุกขสมุทัย #อริยสัยสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/103/61. http://etipitaka.com/read/thai/24/103/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๒๐/๖๑. http://etipitaka.com/read/pali/24/120/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=287 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=287 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปัจจัยแห่งอวิชชา
    -ปัจจัยแห่งอวิชชา ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของอวิชชา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ อวิชชามิได้มี ; แต่ว่า อวิชชาเพิ่งมีต่อภายหลัง. ภิกษุ ท. ! คำกล่าว อย่างนี้แหละ เป็นคำที่ใคร ๆ๑ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “อวิชชาย่อมปรากฏเพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชานั้น ก็เป็นธรรมชาติมีอาหารหาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. ๑. คำว่า วุจฺจติ คำนี้ เคยแปลกันแต่ว่า อันตถาคตย่อมกล่าว กันจนเป็นธรรมเนียมไปเสีย. ในที่นี้ พิจารณาดูแล้ว เห็นได้ว่าควรจะแปลว่าใคร ๆ ทุกคนที่เป็นผู้รู้ รวมทั้งพระองค์เองด้วย ควรจะกล่าว, หาใช่เป็นการผูกขาดเพราะไว้แต่พระองค์ผู้เดียวไม่. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “การไม่สำรวมอินทรีย์” ดังนี้. ....ฯลฯ.... ....ฯลฯ.... การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์. ภิกษุ ท. ! อาหารแห่งอวิชชานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว