• เคลียร์ต้นไม้ริมรั้ว แล้วไปสะดุดสีฉุดฉาก เลยลองหาข้อมูลในเน็ต พึ่งเคย #ดอกตำลึง
    เคลียร์ต้นไม้ริมรั้ว แล้วไปสะดุดสีฉุดฉาก เลยลองหาข้อมูลในเน็ต พึ่งเคย #ดอกตำลึง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI
    ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

    Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร
    - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้
    - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้
    - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
    - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini
    - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม

    คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้ - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้ - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Judge in Google case questions future of search amid rise of AI
    WASHINGTON (Reuters) -A judge asked the U.S. Department of Justice on Friday how much room there would be for new search engines to emerge given the rise of artificial intelligence, as antitrust enforcers press for Alphabet's Google to take dramatic measures to restore competition in online search.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเสาหลักเมือง ตั้งอยู่ในตลาดรังสิต
    ในขณะที่เพลินเดินชมอาคารพาณิชย์ที่ดูคลาสสิค ไม่ใช่แค่อาคารนะฟอนต์ของร้านที่ตลาดแห่งนี้ก็มีความเก่าแก่ เหมือนถูกดึงร่างเข้าไปอยู่ในยุค 70

    เดินวนไปวนมาไปสะดุดตาเข้ากับศาลเจ้าแห่งนึง ที่มีเศษไม้สีทองตั้งตระหง่าน ในซุ้มลายไทย ที่ดูแตกต่างจากอาคารแวดล้อมเพราะเป็นศิลปะของจีน เลยเกิดอาการสงสัยว่าคืออะไร แล้วเหลือบมาเห็นป้ายที่อยู่ริมรั้วเขียนไว้ว่า"เสาหลักเมืองรังสิต" ไอ้เราก็เลยรีบหาข้อมูลโดยทันที

    เสาหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2521 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในยุคนั้น โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรังสิต ให้เกิดความรักความสามัคคี และนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ชุมชน รวมถึงตลาดรังสิตด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าศาลหลักเมืองรังสิตได้นำโชคลาภมาสู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้มาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี

    สบายใจคลายข้อสงสัย แล้วเดินไปหาอะไรใส่ท้องดีกว่า


    นี่คือเสาหลักเมือง ตั้งอยู่ในตลาดรังสิต ในขณะที่เพลินเดินชมอาคารพาณิชย์ที่ดูคลาสสิค ไม่ใช่แค่อาคารนะฟอนต์ของร้านที่ตลาดแห่งนี้ก็มีความเก่าแก่ เหมือนถูกดึงร่างเข้าไปอยู่ในยุค 70 เดินวนไปวนมาไปสะดุดตาเข้ากับศาลเจ้าแห่งนึง ที่มีเศษไม้สีทองตั้งตระหง่าน ในซุ้มลายไทย ที่ดูแตกต่างจากอาคารแวดล้อมเพราะเป็นศิลปะของจีน เลยเกิดอาการสงสัยว่าคืออะไร แล้วเหลือบมาเห็นป้ายที่อยู่ริมรั้วเขียนไว้ว่า"เสาหลักเมืองรังสิต" ไอ้เราก็เลยรีบหาข้อมูลโดยทันที เสาหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2521 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในยุคนั้น โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรังสิต ให้เกิดความรักความสามัคคี และนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ชุมชน รวมถึงตลาดรังสิตด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าศาลหลักเมืองรังสิตได้นำโชคลาภมาสู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้มาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี สบายใจคลายข้อสงสัย แล้วเดินไปหาอะไรใส่ท้องดีกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง

    ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล

    ChatGPT in the ASEAN Market

    Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent.

    In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users.

    Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics.

    To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups.

    Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment.

    Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล ChatGPT in the ASEAN Market Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent. In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users. Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics. To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups. Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment. Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ChatGPT ในตลาดอาเซียน

    เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม ChatGPT ซึ่งเป็นผู้ช่วยโต้ตอบที่สามารถเข้าใจและตอบสนองภาษามนุษย์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านการวางแผน แก้ปัญหา และให้คำแนะนำในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกประมาณ 800 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานประจำวันราว 122 ล้านคน ท่ามกลางการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจากค่ายเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Meta ตลอดจนคู่แข่งจากฝั่งเอเชีย เช่น DeepSeek, Baidu, Alibaba และ Tencent

    สำหรับประเทศไทย แม้กลุ่มผู้ใช้งานหลักจะอยู่ในสายโค้ดดิ้ง โปรแกรมมิ่ง หรือการสร้างภาพ AI แต่ ChatGPT ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้านการใช้สร้างสรรค์เนื้อหาและแนวคิดใหม่ๆ โดยมีสัดส่วนผู้ใช้งานประมาณ 14% จากประชากร 65.89 ล้านคน

    หากพิจารณาภาพรวมของตลาดอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมราว 600 ล้านคน พบว่า อินโดนีเซียมีสัดส่วนผู้ใช้งานสูงที่สุด ประมาณ 32% ของประชากร 283.48 ล้านคน รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 28% จากประชากรราว 119 ล้านคน ส่วนสิงคโปร์มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มที่มีรายได้สูงและการศึกษาดี ขณะที่มาเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของภูมิภาคนี้ยังอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ที่รองรับ AI และต้นทุนบริการที่ยังถือว่าสูงสำหรับประชากรบางส่วน

    ที่ผ่านมา OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทด้าน AI จากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวโครงการ “OpenAI for Countries” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการเข้าถึง ChatGPT ในระดับประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ OpenAI ได้ประกาศความร่วมมือกับโครงการ AI Singapore ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการนำ AI มาใช้ในประเทศ ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และผ่านเว็บไซต์

    โดยรวมแล้ว ตลาดอาเซียนกำลังตื่นตัวต่อบริการ AI มากขึ้น แม้ยังไม่เทียบเท่าตลาดยุโรปหรือสหรัฐฯ ความร่วมมือระหว่าง OpenAI กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในภูมิภาค จึงเป็นกุญแจสำคัญในการขยายการเข้าถึง ChatGPT ให้ครอบคลุมประชากรในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

    #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mozilla ปรับปรุงแถบที่อยู่และระบบค้นหาใน Firefox เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้

    Mozilla เปิดตัวการอัปเดตใหม่สำหรับแถบที่อยู่ของ Firefox โดยมีฟีเจอร์เด่น เช่น Unified Search Button, Contextual Search Mode และ Contextual Search Engine Options ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สลับระหว่างเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเดต Firefox Address Bar Refresh 2025
    ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกเครื่องมือค้นหาได้สะดวกขึ้น เช่น Google, Bing, DuckDuckGo และ History
    - ทำให้ สามารถสลับระหว่างเครื่องมือค้นหาได้โดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่

    ✅ การค้นหายังคงแสดงผลเดิม แม้ผู้ใช้จะเปลี่ยนเครื่องมือค้นหา
    - เช่น หากเปลี่ยนจาก Google เป็น Bing ข้อความค้นหาจะยังคงอยู่ ไม่ถูกลบออก

    ✅ สามารถค้นหาแท็บ, บุ๊กมาร์ก และประวัติการเข้าชมได้ง่ายขึ้น
    - ใช้ คำค้นหาธรรมดาเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการ

    ✅ เพิ่มคำสั่งพิเศษ เช่น “clear history,” “open downloads,” และ “take a screenshot”
    - สามารถ พิมพ์คำสั่งเหล่านี้ลงในแถบที่อยู่เพื่อดำเนินการทันที

    ✅ Mozilla กำลังพยายามปรับปรุง Firefox เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และแข่งขันกับ Chrome
    - ก่อนหน้านี้ Mozilla ได้ยกเลิกฟีเจอร์ Pocket และ Fakespot เพื่อมุ่งเน้นที่การพัฒนาแกนหลักของเบราว์เซอร์

    https://www.neowin.net/news/mozilla-shares-details-on-newly-released-firefox-address-bar-and-search-improvements/
    Mozilla ปรับปรุงแถบที่อยู่และระบบค้นหาใน Firefox เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ Mozilla เปิดตัวการอัปเดตใหม่สำหรับแถบที่อยู่ของ Firefox โดยมีฟีเจอร์เด่น เช่น Unified Search Button, Contextual Search Mode และ Contextual Search Engine Options ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สลับระหว่างเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเดต Firefox Address Bar Refresh 2025 ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกเครื่องมือค้นหาได้สะดวกขึ้น เช่น Google, Bing, DuckDuckGo และ History - ทำให้ สามารถสลับระหว่างเครื่องมือค้นหาได้โดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่ ✅ การค้นหายังคงแสดงผลเดิม แม้ผู้ใช้จะเปลี่ยนเครื่องมือค้นหา - เช่น หากเปลี่ยนจาก Google เป็น Bing ข้อความค้นหาจะยังคงอยู่ ไม่ถูกลบออก ✅ สามารถค้นหาแท็บ, บุ๊กมาร์ก และประวัติการเข้าชมได้ง่ายขึ้น - ใช้ คำค้นหาธรรมดาเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ✅ เพิ่มคำสั่งพิเศษ เช่น “clear history,” “open downloads,” และ “take a screenshot” - สามารถ พิมพ์คำสั่งเหล่านี้ลงในแถบที่อยู่เพื่อดำเนินการทันที ✅ Mozilla กำลังพยายามปรับปรุง Firefox เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และแข่งขันกับ Chrome - ก่อนหน้านี้ Mozilla ได้ยกเลิกฟีเจอร์ Pocket และ Fakespot เพื่อมุ่งเน้นที่การพัฒนาแกนหลักของเบราว์เซอร์ https://www.neowin.net/news/mozilla-shares-details-on-newly-released-firefox-address-bar-and-search-improvements/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla shares details on newly released Firefox address bar and search improvements
    Mozilla recently released an updated address bar for its Firefox web browser and has since shared more details about it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน
    .
    ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด
    .
    ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ
    .
    หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน
    .
    ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น
    .
    ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้
    .
    ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว
    .
    ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
    .
    หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน
    .
    ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ
    .
    ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น..
    .
    การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์
    .
    Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ
    .
    เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว...
    .
    พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง
    .
    หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น
    .
    ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว
    .
    แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย
    .
    เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected"
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) -
    .
    https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน . ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด . ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ . หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน . ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น . ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้ . ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว . ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว . หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน . ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา . ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ . ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น.. . การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์ . Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ . เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว... . พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง . หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น . ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว . แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย . เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected" . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) - . https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anthropic เปิดตัว Claude 4 รุ่นใหม่ พร้อมความสามารถ AI ที่ทรงพลังที่สุด

    Anthropic เปิดตัวโมเดล AI ใหม่สองรุ่น ได้แก่ Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 โดยเน้น ความสามารถในการเขียนโค้ดและการทำงานแบบอิสระเป็นเวลานาน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Claude 4
    ✅ Claude Opus 4 เป็นโมเดล AI ที่ดีที่สุดสำหรับการเขียนโค้ด
    - สามารถ จัดการงานที่ซับซ้อนและแบ่งออกเป็นหลายพันขั้นตอนเพื่อดำเนินการต่อเนื่อง

    ✅ Claude Sonnet 4 เป็นรุ่นที่เล็กกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า (Sonnet 3.7)
    - ได้รับการปรับปรุง ให้สามารถทำตามคำสั่งและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น

    ✅ Sonnet 4 ถูกนำไปใช้ใน GitHub Copilot เพื่อช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ด
    - เป็นโมเดล ที่ใช้ในเวอร์ชันฟรีของ Claude chatbot

    ✅ Opus 4 มีฟีเจอร์ "Extended Thinking" ที่ช่วยให้ AI สามารถหยุดคิดและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตอบกลับ
    - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือภายนอกเพื่อเพิ่มความแม่นยำของคำตอบ

    ✅ Claude 4 สามารถใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกันและสลับระหว่างการวิเคราะห์และการค้นหา
    - มีระบบ บันทึกและดึงข้อมูลสำคัญจากไฟล์ภายนอกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/anthropics-new-claude-4-models-promise-the-biggest-ai-brains-ever
    Anthropic เปิดตัว Claude 4 รุ่นใหม่ พร้อมความสามารถ AI ที่ทรงพลังที่สุด Anthropic เปิดตัวโมเดล AI ใหม่สองรุ่น ได้แก่ Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 โดยเน้น ความสามารถในการเขียนโค้ดและการทำงานแบบอิสระเป็นเวลานาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Claude 4 ✅ Claude Opus 4 เป็นโมเดล AI ที่ดีที่สุดสำหรับการเขียนโค้ด - สามารถ จัดการงานที่ซับซ้อนและแบ่งออกเป็นหลายพันขั้นตอนเพื่อดำเนินการต่อเนื่อง ✅ Claude Sonnet 4 เป็นรุ่นที่เล็กกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า (Sonnet 3.7) - ได้รับการปรับปรุง ให้สามารถทำตามคำสั่งและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น ✅ Sonnet 4 ถูกนำไปใช้ใน GitHub Copilot เพื่อช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ด - เป็นโมเดล ที่ใช้ในเวอร์ชันฟรีของ Claude chatbot ✅ Opus 4 มีฟีเจอร์ "Extended Thinking" ที่ช่วยให้ AI สามารถหยุดคิดและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตอบกลับ - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือภายนอกเพื่อเพิ่มความแม่นยำของคำตอบ ✅ Claude 4 สามารถใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกันและสลับระหว่างการวิเคราะห์และการค้นหา - มีระบบ บันทึกและดึงข้อมูลสำคัญจากไฟล์ภายนอกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/anthropics-new-claude-4-models-promise-the-biggest-ai-brains-ever
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## พรรคการเมือง และ ผลประโยชน์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนใต้ ##
    ..
    ..
    ลองดูคลิปนี้ให้จบครับ...
    .
    นี่คือ การยุยง ปลุกปั่นรึเปล่า...???
    .
    เขาพูดถึงอะไรครับ...???
    .
    ปลดแอก ประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน...???
    .
    นโยบาย ของพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะในชื่ออะไรก็ตาม ที่ ช่อ พูดถึง...
    .
    นโยบาย "ปลดล็อคท้องถิ่น" ของพรรคีส้ม คือ นโยบายทางการเเมือง คือ เครื่องมือเพื่อหาพื้นที่ในการรณรงค์ "แบ่งแยกดินแดน"
    .
    เพราะ ช่อ และ อ.มารค์ บอกว่า หลีกเลี่ยงประชามติ ไม่ได้แน่นอนถ้าต้องการเอกราช...!!!
    ...
    ...
    อย่าหาว่าผม รังเกลียด หรือ มีอคติ กับพวกเขา ผมวิพากษ์-วิจารณ์ นักการเมืองทุกคนทุกสี ไปตามเนื้อผ้า และ หลักฐานเชิงประจักษ์...
    .
    ผมจะไม่บอกหรอกครับว่า ชุดความคิด-ความเชื่อ ที่พรรคการเมืองสีส้ม เลียนแบบมาจาก อเมริกา โดยเฉพาะผมมองว่า แนวทางคล้ายคลึงมากกับ พรรคเดโมแครต นั้นดีหรือเลว...
    .
    แต่...!!!
    .
    การอยากได้คะแนนเสียง จนตัวสั่น ทำได้ทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง สร้างนโยบาย เป็นช่องทางให้มีการ รณรงค์ เพื่อ ประชามติ "แบ่งแยกดินแดน"...
    .
    ผมไม่ได้ด่า พรรคสีส้ม นะครับ...
    ...
    ...
    ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนไทย ที่เกิดบประเทศไทย เติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทย คือ คนที่ลืมบุญคุณแผ่นดิน คือ พฤติกรรมที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!!
    .
    ในขณะที่ บรรพบุรุษไทย ปกบ้านป้องเมือง รักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน...
    .
    และลูกหลานบางส่วน ก็พยายามปกป้องเอาไว้...
    .
    แต่กลับมี ลูกหลานบางส่วน รับชุดความคิด-ความเชื่อส่งออก ของ ฝรั่ง มาสนับสนุนให้ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน หาแนวร่วมเพื่อทำ ประชามติ แบ่งแยกดินแดนออกไป เป็น เอกราช...
    .
    ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!!
    ....
    ....
    และ แฟนคลับ พรรคการเมือง และ นักการเมือง เหล่านี้ ควรตื่นรู้ได้แล้ว ตาสว่างได้แล้ว...!!!
    .
    หาข้อมูลบ้างว่า พวกเขาที่คุณรัก และ เชิดชู เทิดทูน นั้น ทำอะไรไว้บ้าง มีพฤติกรรมอะไรบ้าง...!!!
    .
    https://youtu.be/tA-tfbLvXxQ?si=j7CTmfo2Vzw2ApE9
    ## พรรคการเมือง และ ผลประโยชน์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนใต้ ## .. .. ลองดูคลิปนี้ให้จบครับ... . นี่คือ การยุยง ปลุกปั่นรึเปล่า...??? . เขาพูดถึงอะไรครับ...??? . ปลดแอก ประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน...??? . นโยบาย ของพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะในชื่ออะไรก็ตาม ที่ ช่อ พูดถึง... . นโยบาย "ปลดล็อคท้องถิ่น" ของพรรคีส้ม คือ นโยบายทางการเเมือง คือ เครื่องมือเพื่อหาพื้นที่ในการรณรงค์ "แบ่งแยกดินแดน" . เพราะ ช่อ และ อ.มารค์ บอกว่า หลีกเลี่ยงประชามติ ไม่ได้แน่นอนถ้าต้องการเอกราช...!!! ... ... อย่าหาว่าผม รังเกลียด หรือ มีอคติ กับพวกเขา ผมวิพากษ์-วิจารณ์ นักการเมืองทุกคนทุกสี ไปตามเนื้อผ้า และ หลักฐานเชิงประจักษ์... . ผมจะไม่บอกหรอกครับว่า ชุดความคิด-ความเชื่อ ที่พรรคการเมืองสีส้ม เลียนแบบมาจาก อเมริกา โดยเฉพาะผมมองว่า แนวทางคล้ายคลึงมากกับ พรรคเดโมแครต นั้นดีหรือเลว... . แต่...!!! . การอยากได้คะแนนเสียง จนตัวสั่น ทำได้ทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง สร้างนโยบาย เป็นช่องทางให้มีการ รณรงค์ เพื่อ ประชามติ "แบ่งแยกดินแดน"... . ผมไม่ได้ด่า พรรคสีส้ม นะครับ... ... ... ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนไทย ที่เกิดบประเทศไทย เติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทย คือ คนที่ลืมบุญคุณแผ่นดิน คือ พฤติกรรมที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!! . ในขณะที่ บรรพบุรุษไทย ปกบ้านป้องเมือง รักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน... . และลูกหลานบางส่วน ก็พยายามปกป้องเอาไว้... . แต่กลับมี ลูกหลานบางส่วน รับชุดความคิด-ความเชื่อส่งออก ของ ฝรั่ง มาสนับสนุนให้ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน หาแนวร่วมเพื่อทำ ประชามติ แบ่งแยกดินแดนออกไป เป็น เอกราช... . ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!! .... .... และ แฟนคลับ พรรคการเมือง และ นักการเมือง เหล่านี้ ควรตื่นรู้ได้แล้ว ตาสว่างได้แล้ว...!!! . หาข้อมูลบ้างว่า พวกเขาที่คุณรัก และ เชิดชู เทิดทูน นั้น ทำอะไรไว้บ้าง มีพฤติกรรมอะไรบ้าง...!!! . https://youtu.be/tA-tfbLvXxQ?si=j7CTmfo2Vzw2ApE9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ubuntu 25.10: การอัปเดตครั้งสำคัญก่อนเข้าสู่ LTS รุ่นใหม่

    Canonical ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Ubuntu 25.10 "Questing Quokka" ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายก่อนที่ Ubuntu 26.04 LTS จะเปิดตัว โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น GNOME 49, เครื่องมือใหม่ และการรองรับฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Ubuntu 25.10
    ✅ Ubuntu 25.10 จะมาพร้อมกับ GNOME 49
    - มี ส่วนขยาย shell ที่ปรับปรุงใหม่ และ UI ที่สอดคล้องกับ GNOME upstream

    ✅ เพิ่มแอป Loupe image viewer และ Ptyxis terminal emulator
    - เพื่อ ปรับปรุงชุดแอปพลิเคชันเริ่มต้นให้ทันสมัยขึ้น

    ✅ ปรับปรุงฟีเจอร์ด้าน Accessibility เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายยุโรป (EAA)
    - เนื่องจาก EU จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายนี้ในเดือนมิถุนายน 2025

    ✅ Canonical ร่วมมือกับ NVIDIA และ GNOME เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ Wayland
    - Wayland เป็นเซิร์ฟเวอร์แสดงผลที่ปลอดภัยและทันสมัยกว่าระบบ X.org

    ✅ รองรับ Variable Refresh Rate (VRR) ใน Mutter และ Window Manager
    - ช่วยให้ ภาพลื่นไหลขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่มีจอภาพรองรับ VRR

    ✅ เพิ่มการผสานรวมกับ Microsoft Entra ID สำหรับองค์กร
    - ทำให้ Ubuntu สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์กับ Entra ID ได้โดยตรง

    ✅ รองรับสถาปัตยกรรม RISC-V อย่างเต็มรูปแบบ
    - ช่วยให้ Ubuntu สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์ RISC-V ได้ดีขึ้น

    ✅ Landscape integration จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Ubuntu Desktop Installer
    - เพื่อ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้งและจัดการอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น

    ✅ ปรับปรุงเอกสารคู่มือ Ubuntu Desktop ให้เข้าถึงง่ายขึ้น
    - ทำให้ ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวกกว่าเดิม

    https://www.neowin.net/news/canonical-sets-out-what-it-plans-to-include-in-ubuntu-2510/
    Ubuntu 25.10: การอัปเดตครั้งสำคัญก่อนเข้าสู่ LTS รุ่นใหม่ Canonical ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Ubuntu 25.10 "Questing Quokka" ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายก่อนที่ Ubuntu 26.04 LTS จะเปิดตัว โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น GNOME 49, เครื่องมือใหม่ และการรองรับฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Ubuntu 25.10 ✅ Ubuntu 25.10 จะมาพร้อมกับ GNOME 49 - มี ส่วนขยาย shell ที่ปรับปรุงใหม่ และ UI ที่สอดคล้องกับ GNOME upstream ✅ เพิ่มแอป Loupe image viewer และ Ptyxis terminal emulator - เพื่อ ปรับปรุงชุดแอปพลิเคชันเริ่มต้นให้ทันสมัยขึ้น ✅ ปรับปรุงฟีเจอร์ด้าน Accessibility เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายยุโรป (EAA) - เนื่องจาก EU จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายนี้ในเดือนมิถุนายน 2025 ✅ Canonical ร่วมมือกับ NVIDIA และ GNOME เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ Wayland - Wayland เป็นเซิร์ฟเวอร์แสดงผลที่ปลอดภัยและทันสมัยกว่าระบบ X.org ✅ รองรับ Variable Refresh Rate (VRR) ใน Mutter และ Window Manager - ช่วยให้ ภาพลื่นไหลขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่มีจอภาพรองรับ VRR ✅ เพิ่มการผสานรวมกับ Microsoft Entra ID สำหรับองค์กร - ทำให้ Ubuntu สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์กับ Entra ID ได้โดยตรง ✅ รองรับสถาปัตยกรรม RISC-V อย่างเต็มรูปแบบ - ช่วยให้ Ubuntu สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์ RISC-V ได้ดีขึ้น ✅ Landscape integration จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Ubuntu Desktop Installer - เพื่อ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้งและจัดการอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ✅ ปรับปรุงเอกสารคู่มือ Ubuntu Desktop ให้เข้าถึงง่ายขึ้น - ทำให้ ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวกกว่าเดิม https://www.neowin.net/news/canonical-sets-out-what-it-plans-to-include-in-ubuntu-2510/
    WWW.NEOWIN.NET
    Canonical sets out what it plans to include in Ubuntu 25.10
    Canonical has given an overview of the improvements it wants to include in Ubuntu 25.10 later this year, including GNOME 49.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sony Xperia 1 VII: สมาร์ทโฟนเรือธงที่เน้น AI และกล้องระดับโปร

    Sony ได้เปิดตัว Xperia 1 VII ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับ การอัปเกรดด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยเน้นไปที่ เทคโนโลยี AI และกล้องระดับมืออาชีพ Xperia 1 VII ใช้ Snapdragon 8 Elite, RAM 12GB, และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB

    ✅ Sony Xperia 1 VII มาพร้อมกับกล้อง Ultra-Wide ใหม่
    - ใช้เซ็นเซอร์ 48MP ขนาด 1/1.56 นิ้ว ซึ่งใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อนที่มี 12MP ขนาด 1/2.5 นิ้ว

    ✅ Sony อ้างว่ากล้อง Ultra-Wide สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้เทียบเท่ากล้อง Full-Frame
    - แม้ว่าเซ็นเซอร์จะใหญ่ขึ้น แต่ ข้ออ้างนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงการถ่ายภาพ

    ✅ ยังคงมีปุ่มชัตเตอร์แบบกดครึ่งเพื่อโฟกัส
    - เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า เพื่อให้การถ่ายภาพมีความแม่นยำมากขึ้น

    ✅ Sony Xperia 1 VII เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นที่ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง
    - ใช้เทคโนโลยีจาก Walkman เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงแบบมีสาย

    ✅ เพิ่มเซ็นเซอร์วัดแสงที่ด้านหลังเพื่อช่วยปรับความสว่างและสีของหน้าจอ
    - ทำงานร่วมกับ เทคโนโลยี Bravia เพื่อให้การแสดงผลแม่นยำขึ้น

    ✅ เปิดตัว Xperia Intelligence ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือ AI สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ
    - รวมถึง AI Camera Work ที่ช่วยให้วิดีโอมีความนิ่ง และ AI Auto Framing ที่ช่วยจัดองค์ประกอบภาพ

    ✅ มี Google Gemini ติดตั้งมาพร้อมกับฟีเจอร์ Circle to Search
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นผ่านการแตะหน้าจอ

    ✅ วางจำหน่ายในสามสี: Moss Green, Slate Black และ Orchid Purple
    - ราคา £1,399 ในสหราชอาณาจักร และยังไม่มีการวางจำหน่ายในสหรัฐฯ

    https://www.techradar.com/phones/sony-xperia-phones/the-new-sony-xperia-1-vii-brings-ai-and-camera-upgrades-to-the-photo-focused-flagship-phone
    Sony Xperia 1 VII: สมาร์ทโฟนเรือธงที่เน้น AI และกล้องระดับโปร Sony ได้เปิดตัว Xperia 1 VII ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับ การอัปเกรดด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยเน้นไปที่ เทคโนโลยี AI และกล้องระดับมืออาชีพ Xperia 1 VII ใช้ Snapdragon 8 Elite, RAM 12GB, และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ✅ Sony Xperia 1 VII มาพร้อมกับกล้อง Ultra-Wide ใหม่ - ใช้เซ็นเซอร์ 48MP ขนาด 1/1.56 นิ้ว ซึ่งใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อนที่มี 12MP ขนาด 1/2.5 นิ้ว ✅ Sony อ้างว่ากล้อง Ultra-Wide สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้เทียบเท่ากล้อง Full-Frame - แม้ว่าเซ็นเซอร์จะใหญ่ขึ้น แต่ ข้ออ้างนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงการถ่ายภาพ ✅ ยังคงมีปุ่มชัตเตอร์แบบกดครึ่งเพื่อโฟกัส - เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า เพื่อให้การถ่ายภาพมีความแม่นยำมากขึ้น ✅ Sony Xperia 1 VII เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นที่ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง - ใช้เทคโนโลยีจาก Walkman เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงแบบมีสาย ✅ เพิ่มเซ็นเซอร์วัดแสงที่ด้านหลังเพื่อช่วยปรับความสว่างและสีของหน้าจอ - ทำงานร่วมกับ เทคโนโลยี Bravia เพื่อให้การแสดงผลแม่นยำขึ้น ✅ เปิดตัว Xperia Intelligence ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือ AI สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ - รวมถึง AI Camera Work ที่ช่วยให้วิดีโอมีความนิ่ง และ AI Auto Framing ที่ช่วยจัดองค์ประกอบภาพ ✅ มี Google Gemini ติดตั้งมาพร้อมกับฟีเจอร์ Circle to Search - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นผ่านการแตะหน้าจอ ✅ วางจำหน่ายในสามสี: Moss Green, Slate Black และ Orchid Purple - ราคา £1,399 ในสหราชอาณาจักร และยังไม่มีการวางจำหน่ายในสหรัฐฯ https://www.techradar.com/phones/sony-xperia-phones/the-new-sony-xperia-1-vii-brings-ai-and-camera-upgrades-to-the-photo-focused-flagship-phone
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดตัว Edge 137 ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีการ ยกเลิกฟีเจอร์หลายตัว เช่น Image Editor, Image Hover menus, Mini menus, Video super resolution และ Wallet Hub นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Picture-in-Picture mode และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Microsoft Copilot สามารถสรุปเนื้อหาเว็บและตอบคำถามตามบริบทของหน้าเว็บได้

    ✅ Microsoft ยกเลิกฟีเจอร์หลายตัวเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน
    - ฟีเจอร์ที่ถูกยกเลิก ได้แก่ Image Editor, Image Hover menus, Mini menus, Video super resolution และ Wallet Hub

    ✅ Wallet Hub ถูกแทนที่ด้วยระบบจัดการข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงินใน Password Manager
    - ช่วยให้ การจัดการข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงินง่ายขึ้น

    ✅ Picture-in-Picture mode ได้รับการปรับปรุงให้มีตัวควบคุมเพิ่มเติม
    - สามารถ เล่น, หยุด, ข้ามไปข้างหน้า/ย้อนกลับ และใช้แถบเลื่อนเวลาได้

    ✅ Microsoft Copilot ใน Edge รองรับการสรุปเนื้อหาเว็บและตอบคำถามตามบริบทของหน้าเว็บ
    - ผู้ใช้สามารถ ขอให้ Copilot สรุปเนื้อหาหรือช่วยค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน้าเว็บที่เปิดอยู่

    ✅ Find on Page ใน Edge for Business จะรวมเข้ากับ Microsoft 365 Copilot Chat
    - ช่วยให้ การค้นหาข้อมูลในหน้าเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ Microsoft Edge 137 จะเปิดให้ใช้งานใน Stable Channel ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2025

    https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-a-lot-of-features-from-the-edge-browser/
    Microsoft ได้เปิดตัว Edge 137 ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีการ ยกเลิกฟีเจอร์หลายตัว เช่น Image Editor, Image Hover menus, Mini menus, Video super resolution และ Wallet Hub นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Picture-in-Picture mode และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Microsoft Copilot สามารถสรุปเนื้อหาเว็บและตอบคำถามตามบริบทของหน้าเว็บได้ ✅ Microsoft ยกเลิกฟีเจอร์หลายตัวเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน - ฟีเจอร์ที่ถูกยกเลิก ได้แก่ Image Editor, Image Hover menus, Mini menus, Video super resolution และ Wallet Hub ✅ Wallet Hub ถูกแทนที่ด้วยระบบจัดการข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงินใน Password Manager - ช่วยให้ การจัดการข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงินง่ายขึ้น ✅ Picture-in-Picture mode ได้รับการปรับปรุงให้มีตัวควบคุมเพิ่มเติม - สามารถ เล่น, หยุด, ข้ามไปข้างหน้า/ย้อนกลับ และใช้แถบเลื่อนเวลาได้ ✅ Microsoft Copilot ใน Edge รองรับการสรุปเนื้อหาเว็บและตอบคำถามตามบริบทของหน้าเว็บ - ผู้ใช้สามารถ ขอให้ Copilot สรุปเนื้อหาหรือช่วยค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน้าเว็บที่เปิดอยู่ ✅ Find on Page ใน Edge for Business จะรวมเข้ากับ Microsoft 365 Copilot Chat - ช่วยให้ การค้นหาข้อมูลในหน้าเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Microsoft Edge 137 จะเปิดให้ใช้งานใน Stable Channel ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2025 https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-a-lot-of-features-from-the-edge-browser/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft removes a lot of features from the Edge browser
    Microsoft is about to cut a big chunk of features from its browser. Here is what is getting the axe.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • Hugging Face เปิดตัว Open Computer Agent: AI ที่สามารถท่องเว็บและกรอกแบบฟอร์มแทนคุณ Hugging Face ได้เปิดตัว Open Computer Agent ซึ่งเป็น AI ที่สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์จริงเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น หาข้อมูล, กรอกแบบฟอร์ม และจองตั๋ว โดย AI นี้สามารถ คลิกปุ่ม, พิมพ์ข้อความ และดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนมนุษย์

    Open Computer Agent เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “smolagents” ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่สามารถทำงานอัตโนมัติบนเว็บ โดยมีแนวคิดคล้ายกับ Operator ของ OpenAI, Browser Use และ Proxy 1.0

    ✅ Open Computer Agent สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์จริงเพื่อทำงานต่าง ๆ
    - เช่น หาข้อมูล, กรอกแบบฟอร์ม และจองตั๋ว

    ✅ AI สามารถคลิกปุ่ม, พิมพ์ข้อความ และดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนมนุษย์
    - ทำให้ สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “smolagents” ของ Hugging Face
    - มุ่งเน้น การพัฒนา AI ที่สามารถทำงานอัตโนมัติบนเว็บ

    ✅ Open Computer Agent เป็นโอเพ่นซอร์ส
    - ผู้ใช้สามารถ ดูโค้ดและปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทาง

    ✅ สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบเวลาร้านค้า และจองตั๋วออนไลน์
    - ทำให้ การทำงานบนเว็บสะดวกขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/theres-a-new-ai-agent-ready-to-browse-the-web-and-fill-in-forms-without-the-need-to-touch-your-mouse
    Hugging Face เปิดตัว Open Computer Agent: AI ที่สามารถท่องเว็บและกรอกแบบฟอร์มแทนคุณ Hugging Face ได้เปิดตัว Open Computer Agent ซึ่งเป็น AI ที่สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์จริงเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น หาข้อมูล, กรอกแบบฟอร์ม และจองตั๋ว โดย AI นี้สามารถ คลิกปุ่ม, พิมพ์ข้อความ และดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนมนุษย์ Open Computer Agent เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “smolagents” ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่สามารถทำงานอัตโนมัติบนเว็บ โดยมีแนวคิดคล้ายกับ Operator ของ OpenAI, Browser Use และ Proxy 1.0 ✅ Open Computer Agent สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์จริงเพื่อทำงานต่าง ๆ - เช่น หาข้อมูล, กรอกแบบฟอร์ม และจองตั๋ว ✅ AI สามารถคลิกปุ่ม, พิมพ์ข้อความ และดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนมนุษย์ - ทำให้ สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “smolagents” ของ Hugging Face - มุ่งเน้น การพัฒนา AI ที่สามารถทำงานอัตโนมัติบนเว็บ ✅ Open Computer Agent เป็นโอเพ่นซอร์ส - ผู้ใช้สามารถ ดูโค้ดและปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทาง ✅ สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบเวลาร้านค้า และจองตั๋วออนไลน์ - ทำให้ การทำงานบนเว็บสะดวกขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/theres-a-new-ai-agent-ready-to-browse-the-web-and-fill-in-forms-without-the-need-to-touch-your-mouse
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาทิตย์นี้มาโพสต์เร็วหน่อย เรามาคุยต่อกับ <ตำนานหมิงหลัน> เพราะละครเรื่องนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางวัฒนธรรมให้เรียนรู้พอควร วันนี้ว่าด้วยฉากแต่งงานของพระนาง

    ความมีอยู่ว่า
    “ได้ยินมานานว่าผู้บังคับบัญชากู้เก่งด้านวรรณกรรม งั้นมาแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวกันหน่อยดีกว่า ทุกคนรู้สึกว่าดี ถึงจะอนุญาตให้เข้าประตูมารับเจ้าสาวได้” คุณชายเขยห้ากล่าว
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (ตามที่มีแปลซับไทยจ้า)

    เพื่อนเพจเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยดีกับธรรมเนียมที่ขบวนเจ้าบ่าวจะโดน ‘กั้นประตู’ ก่อนเข้าไปรับเจ้าสาวที่แต่งตัวเสร็จรออยู่แล้ว โดยปัจจุบันอาจต้องเล่นเกมต่างๆ เพื่อแลกกับการเปิดประตู และที่แน่ๆ ต้องมีแจกซองอั่งเปา

    ธรรมเนียมนี้ถูก ‘แปลงร่าง’ มาจากประเพณีเดิมตอนรับตัวเจ้าสาวในจีนโบราณ ในบันทึกประเพณีสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการระบุว่า หนึ่งในขั้นตอนการรับตัวเจ้าสาวคือมีการตะโกนเรียกเร่งให้นางแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จออกมาไวๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่า ‘ชุยจวง’ (催装) เนื่องจากสมัยจีนโบราณจริงๆ แล้วมักจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินในตอนเย็นก่อนมืด ซึ่งโดยปกติเจ้าสาวจะใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้านานมาก จึงมีการเร่งให้เจ้าสาวออกมาก่อนฟ้าจะมืด และเกิดการ ‘แกล้ง’ ขบวนเจ้าบ่าวก่อนจะเปิดประตูให้รับเจ้าสาวได้ ถึงขนาดใช้ไม้พลองหวดเจ้าบ่าวก็มี (!) ซึ่งการกลั่นแกล้งเหล่านี้เจ้าบ่าวต้องยอมรับแต่โดยดีและมีชื่อเรียกวิธีปฏิบัตินี้ว่า ‘เซี่ยซวี่’ (下婿 แปลตรงตัวได้ประมาณว่าเขยยอมเป็นเบี้ยล่าง)

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังที่การอักษรและโคลงกลอนรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็นธรรมเนียมการแต่ง ‘กลอนเร่งเจ้าสาว’ หรือที่เรียกว่า ‘ชุยจวงซือ’ (催妆诗) สำหรับชนชั้นสูงที่มีการศึกษา โดยเจ้าบ่าวจะแต่งกลอนเองก็ได้หรือให้เพื่อนเจ้าบ่าวแต่งก็ได้ เมื่อแต่งกลอนเสร็จแล้วก็จะมีคนนำไปเล่าให้เจ้าสาวฟังถึงในห้องเพื่อว่านางจะได้รีบออกมา

    กลอนเร่งเจ้าสาวจะมีเนื้อหาแตกต่างจากบทกวีสมัยถังทั่วไป โดยเอกลักษณ์ของมันคือมีเนื้อหาออกแนวเกี้ยวพาราสีหรือชมความงามเจ้าสาว ได้อารมณ์ประมาณว่า เจ้าอย่าเอียงอายรีบออกมาเถิดเราจะได้รีบไปกัน! จะเห็นว่าบทกลอนเร่งเจ้าสาวในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ก็ได้อารมณ์นี้เช่นกัน

    และเนื่องจากในสมัยราชวงศ์ซ่งมีการนิยมบทกวีในลักษณะ ‘ฉือ’ (词) มากกว่า ‘ซือ’ (诗) (Storyฯ เคยเขียนถึงความแตกต่างของบทกวีสองประเภทนี้ไปแล้วในตอนชื่อนิยายหมิงหลัน) ดังนั้นในสมัยซ่งจึงมีการแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวในแบบสไตล์ ‘ฉือ’ ด้วย เรียกว่า ‘ชุยจวงฉือ’

    เมื่ออยู่ในห้องหอแล้วจะมีขั้นตอนการปลดพัดเจ้าสาวเรียกว่า ‘เชวี่ยซ่าน’ (却扇) แต่ในละครทำอย่างง่ายๆ หากทำแบบเต็มพิธีการจริงๆ ในสมัยถังเขาจะให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนอีกรอบค่ะ เรียกว่า ‘เชวี่ยซ่านซือ’ หากเจ้าสาวพอใจจึงจะวางพัดลง แต่ Storyฯ หาข้อมูลไม่มีว่าเขาอนุญาตให้เพื่อนเจ้าบ่าวตามเข้ามาช่วยแต่งกลอนหรือไม่ (555) ดูไปแล้ว กว่าจะรับตัวเจ้าสาวได้นี่ไม่ง่ายเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/295145859_100301735
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://rijifang.com/index.php/post/9230.html
    https://www.52lishi.com/article/65423.html
    https://www.zhihu.com/question/446052944/answer/1747492245
    http://travel.china.com.cn/txt/2020-11/10/content_76894055.html

    #หมิงหลัน #กู้ถิงเยี่ย #งานแต่งงานจีนโบราณ #กวีจีน #ประเพณีจีนโบราณ #เซี่ยซวี่ #กลอนเร่งเจ้าสาว #ชุยจวง #ชุยจวงซือ #ชุยจวงฉือ #เชวี่ยซ่าน
    อาทิตย์นี้มาโพสต์เร็วหน่อย เรามาคุยต่อกับ <ตำนานหมิงหลัน> เพราะละครเรื่องนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางวัฒนธรรมให้เรียนรู้พอควร วันนี้ว่าด้วยฉากแต่งงานของพระนาง ความมีอยู่ว่า “ได้ยินมานานว่าผู้บังคับบัญชากู้เก่งด้านวรรณกรรม งั้นมาแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวกันหน่อยดีกว่า ทุกคนรู้สึกว่าดี ถึงจะอนุญาตให้เข้าประตูมารับเจ้าสาวได้” คุณชายเขยห้ากล่าว - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (ตามที่มีแปลซับไทยจ้า) เพื่อนเพจเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยดีกับธรรมเนียมที่ขบวนเจ้าบ่าวจะโดน ‘กั้นประตู’ ก่อนเข้าไปรับเจ้าสาวที่แต่งตัวเสร็จรออยู่แล้ว โดยปัจจุบันอาจต้องเล่นเกมต่างๆ เพื่อแลกกับการเปิดประตู และที่แน่ๆ ต้องมีแจกซองอั่งเปา ธรรมเนียมนี้ถูก ‘แปลงร่าง’ มาจากประเพณีเดิมตอนรับตัวเจ้าสาวในจีนโบราณ ในบันทึกประเพณีสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการระบุว่า หนึ่งในขั้นตอนการรับตัวเจ้าสาวคือมีการตะโกนเรียกเร่งให้นางแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จออกมาไวๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่า ‘ชุยจวง’ (催装) เนื่องจากสมัยจีนโบราณจริงๆ แล้วมักจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินในตอนเย็นก่อนมืด ซึ่งโดยปกติเจ้าสาวจะใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้านานมาก จึงมีการเร่งให้เจ้าสาวออกมาก่อนฟ้าจะมืด และเกิดการ ‘แกล้ง’ ขบวนเจ้าบ่าวก่อนจะเปิดประตูให้รับเจ้าสาวได้ ถึงขนาดใช้ไม้พลองหวดเจ้าบ่าวก็มี (!) ซึ่งการกลั่นแกล้งเหล่านี้เจ้าบ่าวต้องยอมรับแต่โดยดีและมีชื่อเรียกวิธีปฏิบัตินี้ว่า ‘เซี่ยซวี่’ (下婿 แปลตรงตัวได้ประมาณว่าเขยยอมเป็นเบี้ยล่าง) ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังที่การอักษรและโคลงกลอนรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็นธรรมเนียมการแต่ง ‘กลอนเร่งเจ้าสาว’ หรือที่เรียกว่า ‘ชุยจวงซือ’ (催妆诗) สำหรับชนชั้นสูงที่มีการศึกษา โดยเจ้าบ่าวจะแต่งกลอนเองก็ได้หรือให้เพื่อนเจ้าบ่าวแต่งก็ได้ เมื่อแต่งกลอนเสร็จแล้วก็จะมีคนนำไปเล่าให้เจ้าสาวฟังถึงในห้องเพื่อว่านางจะได้รีบออกมา กลอนเร่งเจ้าสาวจะมีเนื้อหาแตกต่างจากบทกวีสมัยถังทั่วไป โดยเอกลักษณ์ของมันคือมีเนื้อหาออกแนวเกี้ยวพาราสีหรือชมความงามเจ้าสาว ได้อารมณ์ประมาณว่า เจ้าอย่าเอียงอายรีบออกมาเถิดเราจะได้รีบไปกัน! จะเห็นว่าบทกลอนเร่งเจ้าสาวในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ก็ได้อารมณ์นี้เช่นกัน และเนื่องจากในสมัยราชวงศ์ซ่งมีการนิยมบทกวีในลักษณะ ‘ฉือ’ (词) มากกว่า ‘ซือ’ (诗) (Storyฯ เคยเขียนถึงความแตกต่างของบทกวีสองประเภทนี้ไปแล้วในตอนชื่อนิยายหมิงหลัน) ดังนั้นในสมัยซ่งจึงมีการแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวในแบบสไตล์ ‘ฉือ’ ด้วย เรียกว่า ‘ชุยจวงฉือ’ เมื่ออยู่ในห้องหอแล้วจะมีขั้นตอนการปลดพัดเจ้าสาวเรียกว่า ‘เชวี่ยซ่าน’ (却扇) แต่ในละครทำอย่างง่ายๆ หากทำแบบเต็มพิธีการจริงๆ ในสมัยถังเขาจะให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนอีกรอบค่ะ เรียกว่า ‘เชวี่ยซ่านซือ’ หากเจ้าสาวพอใจจึงจะวางพัดลง แต่ Storyฯ หาข้อมูลไม่มีว่าเขาอนุญาตให้เพื่อนเจ้าบ่าวตามเข้ามาช่วยแต่งกลอนหรือไม่ (555) ดูไปแล้ว กว่าจะรับตัวเจ้าสาวได้นี่ไม่ง่ายเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/295145859_100301735 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://rijifang.com/index.php/post/9230.html https://www.52lishi.com/article/65423.html https://www.zhihu.com/question/446052944/answer/1747492245 http://travel.china.com.cn/txt/2020-11/10/content_76894055.html #หมิงหลัน #กู้ถิงเยี่ย #งานแต่งงานจีนโบราณ #กวีจีน #ประเพณีจีนโบราณ #เซี่ยซวี่ #กลอนเร่งเจ้าสาว #ชุยจวง #ชุยจวงซือ #ชุยจวงฉือ #เชวี่ยซ่าน
    WWW.SOHU.COM
    《知否?知否?应是绿肥红瘦》过百亿的播放量能说明什么?_顾廷烨
    作为近150万字的长篇小说,实在是有些长,我并没有看完,也理解作者的不易,本身作为兼职作者,平时工作也比较繁忙,可能只有夜晚的四五个小时可以利用,也会有家里的各种繁杂琐事时不时骚扰,从写法来看,看得出…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • Perplexity AI กำลังเปิดตัว Comet ซึ่งเป็น เว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Google Chrome และช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Comet จะสามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ เพื่อให้สามารถตอบคำถามตามบริบทได้ เช่น หากผู้ใช้ถามว่า "ฉันดูข้อมูลเกี่ยวกับนากทะเลเมื่อวันอังคารที่แล้วใช่ไหม?" Comet จะสามารถค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน

    นอกจากนี้ Comet ยังมี การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว รวมถึง ระบบบล็อกโฆษณาในตัว และ ตัวเลือกในการปิดการแชร์ข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้

    ✅ Comet เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
    - ออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
    - สามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้

    ✅ สามารถค้นหาข้อมูลตามบริบทโดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน
    - ตัวอย่างเช่น ค้นหาบทความเกี่ยวกับนากทะเลที่ผู้ใช้ดูเมื่อวันอังคาร
    - ลดความยุ่งยากในการค้นหาข้อมูล

    ✅ มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและระบบบล็อกโฆษณาในตัว
    - ผู้ใช้สามารถ ปิดการแชร์ข้อมูลได้
    - มี ระบบบล็อกโฆษณาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    ✅ Perplexity CEO ระบุว่า Comet จะสามารถแข่งขันกับ Chrome ได้
    - กล่าวว่า "Chrome กำลังจะหมดความนิยม"
    - Comet จะช่วยให้ การเปิดแท็บเก่าทำได้ง่ายขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/perplexity-ais-comet-browser-will-streak-across-the-web-this-month
    Perplexity AI กำลังเปิดตัว Comet ซึ่งเป็น เว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Google Chrome และช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Comet จะสามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ เพื่อให้สามารถตอบคำถามตามบริบทได้ เช่น หากผู้ใช้ถามว่า "ฉันดูข้อมูลเกี่ยวกับนากทะเลเมื่อวันอังคารที่แล้วใช่ไหม?" Comet จะสามารถค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน นอกจากนี้ Comet ยังมี การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว รวมถึง ระบบบล็อกโฆษณาในตัว และ ตัวเลือกในการปิดการแชร์ข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ✅ Comet เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI - ออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น - สามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ ✅ สามารถค้นหาข้อมูลตามบริบทโดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน - ตัวอย่างเช่น ค้นหาบทความเกี่ยวกับนากทะเลที่ผู้ใช้ดูเมื่อวันอังคาร - ลดความยุ่งยากในการค้นหาข้อมูล ✅ มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและระบบบล็อกโฆษณาในตัว - ผู้ใช้สามารถ ปิดการแชร์ข้อมูลได้ - มี ระบบบล็อกโฆษณาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ✅ Perplexity CEO ระบุว่า Comet จะสามารถแข่งขันกับ Chrome ได้ - กล่าวว่า "Chrome กำลังจะหมดความนิยม" - Comet จะช่วยให้ การเปิดแท็บเก่าทำได้ง่ายขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/perplexity-ais-comet-browser-will-streak-across-the-web-this-month
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า
    - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น
    - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น
    - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95%
    - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan
    - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024
    - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

    ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan
    - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
    - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024 - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    JPMorgan says AI helped boost sales, add clients in market turmoil
    NEW YORK (Reuters) -JPMorgan Chase's artificial-intelligence tools enabled it to boost sales to wealthy clients and manage scores of requests from worried customers even during April's market rout, the bank's CEO of asset and wealth management said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด

    แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

    นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
    - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC
    - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา

    ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI
    - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง
    - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด

    ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง
    - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง
    - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?"

    ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที
    - อาการเจ็บหน้าอก
    - เวียนศีรษะรุนแรง
    - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?" ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที - อาการเจ็บหน้าอก - เวียนศีรษะรุนแรง - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    WWW.THESTAR.COM.MY
    What's that rash? Put some thought into asking Google for medical help
    Dr Google is often on call for worried patients, but it may not give the best advice.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว AI Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่บน Google Search ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามที่ซับซ้อนและติดตามบทสนทนาได้อย่างต่อเนื่อง โดย AI Mode ใช้ Gemini 2.0 ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ปรับแต่งมาเพื่อช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น

    AI Mode แตกต่างจาก AI Overview ที่เคยมีมาก่อน เนื่องจากสามารถตอบคำถามที่ละเอียดขึ้น และให้ผู้ใช้ติดตามบทสนทนาได้ในพื้นที่เฉพาะ คล้ายกับ Perplexity และ ChatGPT ที่มีการรวมฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากเว็บ

    Google ยังมีแผนเพิ่ม Visual Places และ Product Cards ใน AI Mode ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสินค้า เช่น ราคาสด, รีวิว, เวลาทำการของร้านค้า และรายละเอียดการจัดส่ง ได้โดยตรงจากผลการค้นหา

    นอกจากนี้ Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ ประวัติการค้นหา ให้กับ AI Mode ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูการค้นหาก่อนหน้าและติดตามบทสนทนาได้ง่ายขึ้น

    ✅ การเปิดตัว AI Mode
    - ใช้ Gemini 2.0 เพื่อช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - สามารถตอบคำถามที่ละเอียดขึ้นและติดตามบทสนทนาได้

    ✅ ความแตกต่างจาก AI Overview
    - AI Mode ให้ผู้ใช้ติดตามบทสนทนาได้ในพื้นที่เฉพาะ
    - คล้ายกับ Perplexity และ ChatGPT ที่มีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากเว็บ

    ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่
    - Visual Places และ Product Cards ช่วยให้ดูข้อมูลสินค้าได้ง่ายขึ้น
    - สามารถดูราคาสด, รีวิว, เวลาทำการ และรายละเอียดการจัดส่ง

    ✅ ฟีเจอร์ประวัติการค้นหา
    - ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูการค้นหาก่อนหน้าและติดตามบทสนทนาได้

    https://www.neowin.net/news/googles-answer-to-chatgpt-search-is-finally-out-of-waitlist/
    Google ได้เปิดตัว AI Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่บน Google Search ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามที่ซับซ้อนและติดตามบทสนทนาได้อย่างต่อเนื่อง โดย AI Mode ใช้ Gemini 2.0 ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ปรับแต่งมาเพื่อช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น AI Mode แตกต่างจาก AI Overview ที่เคยมีมาก่อน เนื่องจากสามารถตอบคำถามที่ละเอียดขึ้น และให้ผู้ใช้ติดตามบทสนทนาได้ในพื้นที่เฉพาะ คล้ายกับ Perplexity และ ChatGPT ที่มีการรวมฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากเว็บ Google ยังมีแผนเพิ่ม Visual Places และ Product Cards ใน AI Mode ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสินค้า เช่น ราคาสด, รีวิว, เวลาทำการของร้านค้า และรายละเอียดการจัดส่ง ได้โดยตรงจากผลการค้นหา นอกจากนี้ Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ ประวัติการค้นหา ให้กับ AI Mode ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูการค้นหาก่อนหน้าและติดตามบทสนทนาได้ง่ายขึ้น ✅ การเปิดตัว AI Mode - ใช้ Gemini 2.0 เพื่อช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น - สามารถตอบคำถามที่ละเอียดขึ้นและติดตามบทสนทนาได้ ✅ ความแตกต่างจาก AI Overview - AI Mode ให้ผู้ใช้ติดตามบทสนทนาได้ในพื้นที่เฉพาะ - คล้ายกับ Perplexity และ ChatGPT ที่มีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากเว็บ ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ - Visual Places และ Product Cards ช่วยให้ดูข้อมูลสินค้าได้ง่ายขึ้น - สามารถดูราคาสด, รีวิว, เวลาทำการ และรายละเอียดการจัดส่ง ✅ ฟีเจอร์ประวัติการค้นหา - ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูการค้นหาก่อนหน้าและติดตามบทสนทนาได้ https://www.neowin.net/news/googles-answer-to-chatgpt-search-is-finally-out-of-waitlist/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's answer to ChatGPT search is finally out of waitlist
    Google's AI Mode, a dedicated space to ask detailed and nuanced questions on the internet, is now out of waitlist and available to try.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wikipedia กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI โดย Wikimedia Foundation ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ในการใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัครในการดูแลและปรับปรุงเนื้อหา แทนที่จะใช้ AI เพื่อแทนที่มนุษย์

    AI จะถูกนำมาใช้เพื่อ ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความ การแปลภาษา และการช่วยให้ข้อมูลสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ AI ยังจะช่วยในการฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ผ่านระบบ mentorship อัตโนมัติ

    อย่างไรก็ตาม Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ เนื่องจากชุมชนอาสาสมัครเป็นหัวใจสำคัญของ Wikipedia และการสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน

    ✅ การใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัคร
    - ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความและการแปลภาษา
    - ปรับปรุงการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ การฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่
    - ใช้ AI เพื่อช่วยให้การ onboarding ของอาสาสมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ระบบ mentorship อัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจการทำงานของ Wikipedia

    ✅ การรักษาบทบาทของมนุษย์
    - Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์
    - การสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน

    ✅ แผนการดำเนินงาน
    - กลยุทธ์ AI จะถูกนำมาใช้ในช่วงสามปีข้างหน้า
    - มีการทบทวนแผนงานเป็นรายปีเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม

    https://www.neowin.net/news/wikipedia-announces-new-ai-strategy-but-it-wont-sacrifice-human-editors/
    Wikipedia กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI โดย Wikimedia Foundation ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ในการใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัครในการดูแลและปรับปรุงเนื้อหา แทนที่จะใช้ AI เพื่อแทนที่มนุษย์ AI จะถูกนำมาใช้เพื่อ ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความ การแปลภาษา และการช่วยให้ข้อมูลสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ AI ยังจะช่วยในการฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ผ่านระบบ mentorship อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ เนื่องจากชุมชนอาสาสมัครเป็นหัวใจสำคัญของ Wikipedia และการสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน ✅ การใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัคร - ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความและการแปลภาษา - ปรับปรุงการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ - ใช้ AI เพื่อช่วยให้การ onboarding ของอาสาสมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ระบบ mentorship อัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจการทำงานของ Wikipedia ✅ การรักษาบทบาทของมนุษย์ - Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ - การสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน ✅ แผนการดำเนินงาน - กลยุทธ์ AI จะถูกนำมาใช้ในช่วงสามปีข้างหน้า - มีการทบทวนแผนงานเป็นรายปีเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม https://www.neowin.net/news/wikipedia-announces-new-ai-strategy-but-it-wont-sacrifice-human-editors/
    WWW.NEOWIN.NET
    Wikipedia announces new AI strategy but it won't sacrifice human editors
    Wikipedia is working on a new AI strategy, but it won't replace the humans who built the platform for over 25 years.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง

    นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว

    อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้

    ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น
    - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง
    - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น

    ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์
    - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา
    - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google

    ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น
    - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน
    - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น

    ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp
    - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้ ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต
    - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต
    - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม
    - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้

    ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น
    - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น
    - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย
    - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้ ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Social media is a mental heath resource for one in three US teens
    From Instagram to TikTok to YouTube, social networks are no longer just for posting selfies or dance videos. For more than a third of American teenagers, they've also become the place to find information about mental health, according to a study by the Pew Research Center.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน

    RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน

    การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง

    ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่
    - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว
    - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ
    - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50%
    - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

    ✅ การนำเสนอผลงาน
    - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation

    https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่ - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50% - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ✅ การนำเสนอผลงาน - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots use Cornell's RHyME AI to learn new skills by watching just one video
    Researchers at Cornell University are now charting a new course with RHyME, an artificial intelligence framework that dramatically streamlines robot learning. An acronym for Retrieval for Hybrid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 สำหรับ Copilot+ PCs ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่านการใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้ และฟีเจอร์ Click to Do ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาไฟล์และข้อมูล

    ✅ ฟีเจอร์ Recall ช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น
    - ใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้เพื่อค้นหาข้อมูลผ่านการค้นหาแบบภาษาธรรมชาติ
    - ฟีเจอร์นี้เป็นแบบ opt-in และมีการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด

    ✅ ฟีเจอร์ Click to Do เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับบริบทได้อย่างรวดเร็ว
    - มีการทดสอบการรวม Reading Coach เพื่อช่วยในการอ่าน

    ✅ การปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11
    - ใช้ AI เพื่อค้นหาไฟล์และข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับ Windows 10
    - รองรับการค้นหาภาพและข้อมูลทั้งในอุปกรณ์และบนคลาวด์

    ✅ การขยายฟีเจอร์ Live Captions
    - รองรับการแปลแบบเรียลไทม์ในภาษาจีน (Simplified) และอีก 27 ภาษา

    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-finally-plays-its-trump-ai-card-recall-in-windows-11-but-for-me-its-completely-overshadowed-by-another-new-ability-for-copilot-pcs
    Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 สำหรับ Copilot+ PCs ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่านการใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้ และฟีเจอร์ Click to Do ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาไฟล์และข้อมูล ✅ ฟีเจอร์ Recall ช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น - ใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้เพื่อค้นหาข้อมูลผ่านการค้นหาแบบภาษาธรรมชาติ - ฟีเจอร์นี้เป็นแบบ opt-in และมีการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด ✅ ฟีเจอร์ Click to Do เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับบริบทได้อย่างรวดเร็ว - มีการทดสอบการรวม Reading Coach เพื่อช่วยในการอ่าน ✅ การปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 - ใช้ AI เพื่อค้นหาไฟล์และข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับ Windows 10 - รองรับการค้นหาภาพและข้อมูลทั้งในอุปกรณ์และบนคลาวด์ ✅ การขยายฟีเจอร์ Live Captions - รองรับการแปลแบบเรียลไทม์ในภาษาจีน (Simplified) และอีก 27 ภาษา https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-finally-plays-its-trump-ai-card-recall-in-windows-11-but-for-me-its-completely-overshadowed-by-another-new-ability-for-copilot-pcs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นเค้าทำ ก็เลยไปหาข้อมูล .. ช่วงหมกมุ่น เพื่อความบันทึกใจ

    แว๊ปแรก คนสวมหน้ากาก นึกถึงใครบ้างคนเลย สาราวัตร..

    #ไม่ว่างจริงทำไม่ได้ 😁😁
    เห็นเค้าทำ ก็เลยไปหาข้อมูล .. ช่วงหมกมุ่น เพื่อความบันทึกใจ แว๊ปแรก คนสวมหน้ากาก นึกถึงใครบ้างคนเลย สาราวัตร.. #ไม่ว่างจริงทำไม่ได้ 😁😁
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts