• #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ
    เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก
    ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง
    ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ
    เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน
    เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า
    คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด
    แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด
    ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว
    และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่
    คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม
    พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด
    เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป
    ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ
    อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน
    แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ
    และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง
    ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย
    ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น
    เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม
    ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย
    จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล
    ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ
    และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร
    ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ
    ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน
    ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้)
    ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ
    ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง
    ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว
    ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา
    มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่ คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้) ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดจบ “ทนายษิทรา”? ฉ้อโกงโยงแก๊งฟอกเงิน
    .
    ผมเคยพูดมาตลอดว่าเวรกรรมมันมีจริง และปล่อยให้กรรมทำงานของมันไปดีกว่า ผมถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้วางแผนการ ทั้งๆที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งผมอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังไปแล้ว
    .
    นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดนหมายจับครั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนเขาได้ระบุชัดเจนเลยว่า "จากหลักฐานที่มีอยู่" เขาอนุมานและประเมินเรื่องราวต่างๆ ได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา มีส่วนร่วมกันฉ้อโกง
    .
    นั่นคือตำรวจทำคดีนี้ ไม่ได้มองว่างานนี้นายษิทราคนเดียวที่ทำ แต่ทำเป็นขบวนการ ตรงนี้ที่นายษิทราแพ้ แล้วยังมีทีเด็ดอีก ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ เอาเป็นว่ามันมีหลักฐานพิสูจน์ว่านายษิทรา เบี้ยบังเกิดนั้นรับรู้ในเรื่องเงิน 39 ล้านและก็ได้ส่วนแบ่งไปด้วย
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว จากการฉ้อโกงส่วนบุคคล กลายเป็นฉ้อโกงเป็นขบวนการ เมื่อฉ้อโกงเป็นขบวนการแล้ว ข้อหาฉ้อโกงธรรมดาก็ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เพิ่มข้อหาเป็น "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงอย่างเป็นสันดานนั่นเอง เจอเรื่องอะไรก็ฉ้อโกงมันหมดทุกเรื่อง
    .
    ผมอ่านตามหน้าไพ่ว่า ข้อแรก ข้อหาที่ตำรวจตั้งนั้นเป็นข้อหาที่รุนแรงหนัก ไม่ใช่ข้อหาธรรมดา "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงจนเป็นสันดาน เมื่อบวกการฟอกเงินเป็นข้อหาที่หนักมาก
    .
    ข้อที่สอง การที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิดปากเสีย ไปที่หน้ากองปราบ ไปโชว์ตัวและออกมาพูดถึงเนื้อหาในคดี ซึ่งข้างในอาคารเขากำลังสอบสวนอยู่ แล้วอ้างว่าตัวเองไม่ผิด อย่างโน้นอย่างนี้ นี่คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เหมือนกับข่มขู่คนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือข่มขู่พยานที่กำลังให้ปากคำอยู่
    .
    ข้อที่สามก็คือ แทนที่จะอยู่เพื่อให้จับ กลับขับรถหนีอ้างว่าไปไหว้หลวงพ่อโสธร
    .
    เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุสามข้อนี้ ตามที่ผมอ่านตามหน้าไพ่ ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวตามมูลเหตุดังที่ผมพูดมานี้ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่า ยื่นประกันตัวต่อไปในอนาคตก็ไม่ได้
    .
    มิหนำซ้ำ ระหว่างที่ฝากขังและสอบสวนษิทราอยู่ ตำรวจก็หาข้อมูล ก็อาจจะมีหมายจับออกมาเรื่อยๆ เพราะมันมีไม่ใช่เฉพาะ ษิทราและภรรยาเท่านั้น มีพี่ภรรยาอีก ซึ่งจะโดนหรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่ถ้าโดนผมก็ไม่ประหลาดใจ มีนายณุ และภรรยาชื่อ สา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน 39 ล้าน ก็อาจจะโดนหมายจับเช่นกัน แล้วผมยังมั่นใจว่าหมายจับยังจะต้องมีเพิ่มอีก
    .
    เชื่อหรือยังว่าเวรกรรมนั้นมันมีจริง ทำความชั่ว ทำร้ายผู้คนจำนวนมากจากการหลอกลวง ฉ้อโกงเขา ตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่นแล้ว เคยมีคดีลวนลามผู้หญิง หรือว่าพรากผู้เยาว์ ผมมีประวัติเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม เอาไว้วันหลังผมจะเรียบเรียงให้ฟัง
    จุดจบ “ทนายษิทรา”? ฉ้อโกงโยงแก๊งฟอกเงิน . ผมเคยพูดมาตลอดว่าเวรกรรมมันมีจริง และปล่อยให้กรรมทำงานของมันไปดีกว่า ผมถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้วางแผนการ ทั้งๆที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งผมอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังไปแล้ว . นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดนหมายจับครั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนเขาได้ระบุชัดเจนเลยว่า "จากหลักฐานที่มีอยู่" เขาอนุมานและประเมินเรื่องราวต่างๆ ได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา มีส่วนร่วมกันฉ้อโกง . นั่นคือตำรวจทำคดีนี้ ไม่ได้มองว่างานนี้นายษิทราคนเดียวที่ทำ แต่ทำเป็นขบวนการ ตรงนี้ที่นายษิทราแพ้ แล้วยังมีทีเด็ดอีก ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ เอาเป็นว่ามันมีหลักฐานพิสูจน์ว่านายษิทรา เบี้ยบังเกิดนั้นรับรู้ในเรื่องเงิน 39 ล้านและก็ได้ส่วนแบ่งไปด้วย . เพราะฉะนั้นแล้ว จากการฉ้อโกงส่วนบุคคล กลายเป็นฉ้อโกงเป็นขบวนการ เมื่อฉ้อโกงเป็นขบวนการแล้ว ข้อหาฉ้อโกงธรรมดาก็ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เพิ่มข้อหาเป็น "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงอย่างเป็นสันดานนั่นเอง เจอเรื่องอะไรก็ฉ้อโกงมันหมดทุกเรื่อง . ผมอ่านตามหน้าไพ่ว่า ข้อแรก ข้อหาที่ตำรวจตั้งนั้นเป็นข้อหาที่รุนแรงหนัก ไม่ใช่ข้อหาธรรมดา "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงจนเป็นสันดาน เมื่อบวกการฟอกเงินเป็นข้อหาที่หนักมาก . ข้อที่สอง การที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิดปากเสีย ไปที่หน้ากองปราบ ไปโชว์ตัวและออกมาพูดถึงเนื้อหาในคดี ซึ่งข้างในอาคารเขากำลังสอบสวนอยู่ แล้วอ้างว่าตัวเองไม่ผิด อย่างโน้นอย่างนี้ นี่คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เหมือนกับข่มขู่คนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือข่มขู่พยานที่กำลังให้ปากคำอยู่ . ข้อที่สามก็คือ แทนที่จะอยู่เพื่อให้จับ กลับขับรถหนีอ้างว่าไปไหว้หลวงพ่อโสธร . เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุสามข้อนี้ ตามที่ผมอ่านตามหน้าไพ่ ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวตามมูลเหตุดังที่ผมพูดมานี้ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่า ยื่นประกันตัวต่อไปในอนาคตก็ไม่ได้ . มิหนำซ้ำ ระหว่างที่ฝากขังและสอบสวนษิทราอยู่ ตำรวจก็หาข้อมูล ก็อาจจะมีหมายจับออกมาเรื่อยๆ เพราะมันมีไม่ใช่เฉพาะ ษิทราและภรรยาเท่านั้น มีพี่ภรรยาอีก ซึ่งจะโดนหรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่ถ้าโดนผมก็ไม่ประหลาดใจ มีนายณุ และภรรยาชื่อ สา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน 39 ล้าน ก็อาจจะโดนหมายจับเช่นกัน แล้วผมยังมั่นใจว่าหมายจับยังจะต้องมีเพิ่มอีก . เชื่อหรือยังว่าเวรกรรมนั้นมันมีจริง ทำความชั่ว ทำร้ายผู้คนจำนวนมากจากการหลอกลวง ฉ้อโกงเขา ตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่นแล้ว เคยมีคดีลวนลามผู้หญิง หรือว่าพรากผู้เยาว์ ผมมีประวัติเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม เอาไว้วันหลังผมจะเรียบเรียงให้ฟัง
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 1 รีวิว
  • ได้มาใหม่ ...หามานาน...สงสัยตั้งนาน ว่า ราหู ตามประวัติ คือ โดนพระนารายณ์ ใช้จักร ตัดไปครึ่งตัว...แต่ไม่ตาย เพราะไปขโมยดื่มน้ำอัมฤทธิ์ ...จนหาข้อมูลว่า ส่วนที่ขาดหายไปครึ่งตนนั้น...เป็นแบบใด...จนสืบค้นอยู่นาน...จึงทราบว่า เป็นลักษณะนี้....คือ ส่วนท่อนล่าง คล้ายงู...
    ได้มาใหม่ ...หามานาน...สงสัยตั้งนาน ว่า ราหู ตามประวัติ คือ โดนพระนารายณ์ ใช้จักร ตัดไปครึ่งตัว...แต่ไม่ตาย เพราะไปขโมยดื่มน้ำอัมฤทธิ์ ...จนหาข้อมูลว่า ส่วนที่ขาดหายไปครึ่งตนนั้น...เป็นแบบใด...จนสืบค้นอยู่นาน...จึงทราบว่า เป็นลักษณะนี้....คือ ส่วนท่อนล่าง คล้ายงู...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตอบคำถามที่ค้างคาใจแฟนเพจหลายๆคน
    มีแฟนเพจถามมาเยอะ และอีกหลายๆคนสงสัยแต่ไม่กล้าถาม
    กับท่าทีคิงสเพจคิงส์ ที่ดูจะปล่อยผ่าน เรื่องราวของจีกามิน
    - ลือว่า พี่คิงส์ถูกเรียกไปเคลีย
    - ลือว่า พี่คิงส์เกมส์ โดนจับ
    - ลือว่า กลัว ป้า จ.
    คือ ลือไปได้เป็น 108 - 1900 สตอรี่
    พี่คิงส์ ได้ตอบข้อความทางช่องแชตไปพอสมควร
    ตอบแบบตรงๆ เป็นข้อๆ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ความสำคัญ
    กับเรื่องเกาหลีซักเท่าไหร่แล้ว เพราะระยะเวลาสามเดือน
    ก็ถือว่า ให้เวลากับเรื่องนี้นานมากเกินไปแล้ว
    แต่ถ้าถามถึงเหตุผลคือ
    1. พี่คิงส์ ไปช่วยเพจพันธมิตร ขุดเรื่องบอส ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    2. พี่คิงส์ ไปหาข้อมูลเพิ่ม เรื่องทนูย ต.
    3. พี่คิงส์ไม่ชอบไปขยี้ปมของใคร โดยเฉพาะ ป้า จ. แต่ที่ทำไปทั้งหมด เพราะ ป้า จ. ท้าทายทุกวัน ทำให้พี่คิงส์มูฟออนไม่ได้ แต่ถามว่ามีความสุขมั๊ย ที่เอาปมป้า จ. มาขยี้ ตอบตรงๆ ไม่มีความสุข และยิ่งนับวัน ป้า จ. ก็เหมือนซาาดิสส สนุกกับการโดนขยี้ปม ก็เลยตัดสินใจว่า พอดีกว่า ไม่อยากฝืนทำอะไรที่มันไม่มีความสุข ถามว่า สนุกมั๊ย สนุกแหละ แต่มีความสุขมั๊ย ไม่อะ
    4. น้องแน๊ก โตแล้ว น้องสามารถปกป้องตัวเองได้ ถ้าน้องต้องการ แม้ว่าฝ่ายคนรักกามิน จะจินตนาการว่า กามินเหมือนยัยตัวเล็ก เด็กสามขวบ เค้ามีความสุขในการจินตนาการแบบนั้น แต่สำหรับคนที่เอ็นดูแน๊กน้องๆจะต้องอยู่กับความเป็นจริง ว่าแน๊ก อายุสามสิบกว่าแล้ว โตแล้ว มีวิจารณญาน มีสติ มีปัญญา ที่จะไตร่ตรองในการตัดสินใจ ว่าจะปกป้องตัวเองและครอบครัวในรูปแบบไหน ถ้าแน๊กไม่ตอบโต้ หรือปกป้องตัวเอง ก็เป็นสิทธิของน้อง
    5. ส่วนเรื่องของจีกามิน กับแฟนคลับของพวกเค้า จากข้อมูลที่พี่คิงส์ได้เปิดเผยไป มันก็มากเพียงพอที่ทำให้หลายคนเกิดสติ แม้กระทั่ง เทพดีซีหลายๆคน ก็ยังมูฟออนออกไป แต่สำหรับคนที่รักจีกามินจริงๆ คลั่งไคล้ จินตนาการว่าเธอคือนางฟ้าอะไร สุดท้ายนะ มันก็ความสุขเค้า ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราอีกต่อไป อะไรที่ควรรู้ ก็บอกก็ทำโพสไปหมดแล้ว เราปกป้องได้เฉพาะคนที่พร้อมจะรับฟังข้อมูล และนำไปตรวจสอบพิจารณา ส่วนคนที่รักและมีความสุขที่จะรักจีกามิน และไม่อยากฟังไม่อยากเชื่อข้อมูลอื่นๆ อีกด้าน มันก็เป็นชีวิตเค้า ความสุขเค้า เงินเค้า มันจะอิ๊บอ๋าย ก็เรื่องของเค้า ก็ต้องถือเป็นสิทธิที่เราจะไปละเมิดไม่ได้ เหมือนธรรมชาติ เมื่อเราเห็นแมงเม่าวิ่งบินเข้ากองไฟ เราจะไปขวางมันก็ไม่ได้ สุดท้ายก็จะตุยตูนิเย่ และกลับไปเป็นปุ๋ยดิน ว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องแมงเม่า เพราะคงเครียดจนตรรุย ถ้าต้องห่วงแมงเม่าทุกตัว และมันก็เป็นความสุขของเค้า ตังค์เค้า เวลาเค้า เค้าพร้อมจะเสียให้กับสิ่งที่เค้าเชื่อ มันก็ถือเป็นอิสระในความคิดของแต่ละคน
    6. ส่วนที่จีกามินมาไทย เอาจริงๆ พี่คิงส์ก็มองว่าเป็นข่าวคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยคนนึงนะ ตอนนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เห็นภาพแฟลคลับจีกามินเค้าดีใจไปต้อนรับ มันก็เป็นปกตินะ คนมันรัก ก็ไปรับ ไม่เห็นแปลกอะไร เค้าจะเทิดทูนเป็นองค์หญิงกำมะลออะไร ก็เรื่องของเค้าอีกนั่นแหละ จะให้พี่คิงส์ไปแขวะ ไปขยี้ มันก็ไม่ใช่มั๊ย ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะ
    7. จะมีแอบขำๆก็ตรงป้า จ. แกประกาศกร้าว เหมือนผู้ทรงอิทธิพล มีทั้งเตรียมบอดี้กาด ทั้งตานาย อะไร ชอบสำนวนแก แต่ก็แค่นั้นนะ ไม่ได้อะไร
    เอาว่า ความสุขใคร ก็ความสุขมันละกันนะ
    จะรัก จะชอบ กามิน จะรักจะชอบ ชาลี ก็อยู่กันดีๆ
    ต่างคน ก็ต่างทำมาหากินกันไป แยกย้ายเอาเวลากันไปทำมาหากินกันด้วยล่ะ เอฟซี แฟนคลับทั้งสองฝ่าย เดี๋ยวจะตังหมด ไม่มีเปย์
    และที่สำคัญ อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวบ้าง บาลาลให้ได้
    ระหว่างโลกเสมือน กับโลกความจริง เพราะสุดท้าย วันที่คุณแย่
    จะกามิน จะชาลี เค้าไม่ได้มาเช็ดตัวให้คุณ ไม่ได้มาให้กำลังใจคุณ
    ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ผิดนะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเค้า
    พวกเค้าก็สร้างความสุข น้องๆก็ซัพพอตกันไป วินๆ
    แต่โลกแห่งความจริง คุณต้องกลับมาใส่ใจให้มากกว่าเดิม
    พระเอก นางเอก และครอบครัวในชีวิตจริง มันคนละคนกัน
    รักได้ แต่อย่าอิน จนกลางค่ำกลางคืนไม่หลับไม่นอน ตื่นเช้าเสียงานเสียการ
    ไม่มีสมาธิ ส่งผลกระทบบนชีวิตจริง ไม่มีใครมาช่วยคุณได้นะ
    นี่แหละ สัจจะธรรม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตอบคำถามที่ค้างคาใจแฟนเพจหลายๆคน มีแฟนเพจถามมาเยอะ และอีกหลายๆคนสงสัยแต่ไม่กล้าถาม กับท่าทีคิงสเพจคิงส์ ที่ดูจะปล่อยผ่าน เรื่องราวของจีกามิน - ลือว่า พี่คิงส์ถูกเรียกไปเคลีย - ลือว่า พี่คิงส์เกมส์ โดนจับ - ลือว่า กลัว ป้า จ. คือ ลือไปได้เป็น 108 - 1900 สตอรี่ พี่คิงส์ ได้ตอบข้อความทางช่องแชตไปพอสมควร ตอบแบบตรงๆ เป็นข้อๆ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ความสำคัญ กับเรื่องเกาหลีซักเท่าไหร่แล้ว เพราะระยะเวลาสามเดือน ก็ถือว่า ให้เวลากับเรื่องนี้นานมากเกินไปแล้ว แต่ถ้าถามถึงเหตุผลคือ 1. พี่คิงส์ ไปช่วยเพจพันธมิตร ขุดเรื่องบอส ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 2. พี่คิงส์ ไปหาข้อมูลเพิ่ม เรื่องทนูย ต. 3. พี่คิงส์ไม่ชอบไปขยี้ปมของใคร โดยเฉพาะ ป้า จ. แต่ที่ทำไปทั้งหมด เพราะ ป้า จ. ท้าทายทุกวัน ทำให้พี่คิงส์มูฟออนไม่ได้ แต่ถามว่ามีความสุขมั๊ย ที่เอาปมป้า จ. มาขยี้ ตอบตรงๆ ไม่มีความสุข และยิ่งนับวัน ป้า จ. ก็เหมือนซาาดิสส สนุกกับการโดนขยี้ปม ก็เลยตัดสินใจว่า พอดีกว่า ไม่อยากฝืนทำอะไรที่มันไม่มีความสุข ถามว่า สนุกมั๊ย สนุกแหละ แต่มีความสุขมั๊ย ไม่อะ 4. น้องแน๊ก โตแล้ว น้องสามารถปกป้องตัวเองได้ ถ้าน้องต้องการ แม้ว่าฝ่ายคนรักกามิน จะจินตนาการว่า กามินเหมือนยัยตัวเล็ก เด็กสามขวบ เค้ามีความสุขในการจินตนาการแบบนั้น แต่สำหรับคนที่เอ็นดูแน๊กน้องๆจะต้องอยู่กับความเป็นจริง ว่าแน๊ก อายุสามสิบกว่าแล้ว โตแล้ว มีวิจารณญาน มีสติ มีปัญญา ที่จะไตร่ตรองในการตัดสินใจ ว่าจะปกป้องตัวเองและครอบครัวในรูปแบบไหน ถ้าแน๊กไม่ตอบโต้ หรือปกป้องตัวเอง ก็เป็นสิทธิของน้อง 5. ส่วนเรื่องของจีกามิน กับแฟนคลับของพวกเค้า จากข้อมูลที่พี่คิงส์ได้เปิดเผยไป มันก็มากเพียงพอที่ทำให้หลายคนเกิดสติ แม้กระทั่ง เทพดีซีหลายๆคน ก็ยังมูฟออนออกไป แต่สำหรับคนที่รักจีกามินจริงๆ คลั่งไคล้ จินตนาการว่าเธอคือนางฟ้าอะไร สุดท้ายนะ มันก็ความสุขเค้า ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราอีกต่อไป อะไรที่ควรรู้ ก็บอกก็ทำโพสไปหมดแล้ว เราปกป้องได้เฉพาะคนที่พร้อมจะรับฟังข้อมูล และนำไปตรวจสอบพิจารณา ส่วนคนที่รักและมีความสุขที่จะรักจีกามิน และไม่อยากฟังไม่อยากเชื่อข้อมูลอื่นๆ อีกด้าน มันก็เป็นชีวิตเค้า ความสุขเค้า เงินเค้า มันจะอิ๊บอ๋าย ก็เรื่องของเค้า ก็ต้องถือเป็นสิทธิที่เราจะไปละเมิดไม่ได้ เหมือนธรรมชาติ เมื่อเราเห็นแมงเม่าวิ่งบินเข้ากองไฟ เราจะไปขวางมันก็ไม่ได้ สุดท้ายก็จะตุยตูนิเย่ และกลับไปเป็นปุ๋ยดิน ว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องแมงเม่า เพราะคงเครียดจนตรรุย ถ้าต้องห่วงแมงเม่าทุกตัว และมันก็เป็นความสุขของเค้า ตังค์เค้า เวลาเค้า เค้าพร้อมจะเสียให้กับสิ่งที่เค้าเชื่อ มันก็ถือเป็นอิสระในความคิดของแต่ละคน 6. ส่วนที่จีกามินมาไทย เอาจริงๆ พี่คิงส์ก็มองว่าเป็นข่าวคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยคนนึงนะ ตอนนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เห็นภาพแฟลคลับจีกามินเค้าดีใจไปต้อนรับ มันก็เป็นปกตินะ คนมันรัก ก็ไปรับ ไม่เห็นแปลกอะไร เค้าจะเทิดทูนเป็นองค์หญิงกำมะลออะไร ก็เรื่องของเค้าอีกนั่นแหละ จะให้พี่คิงส์ไปแขวะ ไปขยี้ มันก็ไม่ใช่มั๊ย ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะ 7. จะมีแอบขำๆก็ตรงป้า จ. แกประกาศกร้าว เหมือนผู้ทรงอิทธิพล มีทั้งเตรียมบอดี้กาด ทั้งตานาย อะไร ชอบสำนวนแก แต่ก็แค่นั้นนะ ไม่ได้อะไร เอาว่า ความสุขใคร ก็ความสุขมันละกันนะ จะรัก จะชอบ กามิน จะรักจะชอบ ชาลี ก็อยู่กันดีๆ ต่างคน ก็ต่างทำมาหากินกันไป แยกย้ายเอาเวลากันไปทำมาหากินกันด้วยล่ะ เอฟซี แฟนคลับทั้งสองฝ่าย เดี๋ยวจะตังหมด ไม่มีเปย์ และที่สำคัญ อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวบ้าง บาลาลให้ได้ ระหว่างโลกเสมือน กับโลกความจริง เพราะสุดท้าย วันที่คุณแย่ จะกามิน จะชาลี เค้าไม่ได้มาเช็ดตัวให้คุณ ไม่ได้มาให้กำลังใจคุณ ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ผิดนะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเค้า พวกเค้าก็สร้างความสุข น้องๆก็ซัพพอตกันไป วินๆ แต่โลกแห่งความจริง คุณต้องกลับมาใส่ใจให้มากกว่าเดิม พระเอก นางเอก และครอบครัวในชีวิตจริง มันคนละคนกัน รักได้ แต่อย่าอิน จนกลางค่ำกลางคืนไม่หลับไม่นอน ตื่นเช้าเสียงานเสียการ ไม่มีสมาธิ ส่งผลกระทบบนชีวิตจริง ไม่มีใครมาช่วยคุณได้นะ นี่แหละ สัจจะธรรม #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 979 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯตราด เร่งชี้แจงปมพิพาท 'เกาะกูด' หวั่นประชาชนเข้าใจผิด
    .
    ก่อนหน้านี้ได้เห็นท่าทีของกองทัพเรือที่มีต่อเรื่องปัญหาพื้นที่พิพาทเกี่ยวกับเกาะกูด จังหวัดตราด มาเวลานี้กระทรวงมหาดไทยกลายเป็นอีกหน่วยงานของรัฐอีกหน่วยงานหนึ่งที่ขยับในเรื่องนี้เช่นกัน โดยนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ดูแลงานด้านควรมั่นคง ได้เข้าประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดทั้ง 2 คน และนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดตราด
    .
    ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายชำนาญวิทย์ ระบุว่า ปัญหาเรื่องกรณีเขตแดนอำเภอเกาะกูดที่ปัจจุบันมีการปั่นกระแสผ่านทางสื่อโซเชียลจำนวนมากและสับสนว่าเกาะกูดเป็นของใคร และพื้นที่ทับซ้อนที่เกิดทับซ้อนในทะเลนั้นเป็นอย่างไร และจะมีการแบ่งผลประโยชน์อย่างยุติธรรมอย่างไร ส่วนตัวกังวลว่า หากให้มีการดำเนินการปลุกปั่นกันอยู่อย่างนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกหรือทัศนคติเชิงลบของประชาชนชาวไทยให้เกิดขึ้นจนเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศในที่สุด ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และนายอำเภอเกาะกูดต้องตรวจสอบข้อมูล และเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนชาวตราดเปิดรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน
    .
    " นายอำเภอเกาะกูดท่านมีหน้าที่ในการไปศึกษาหาข้อมูลมานำเสนอให้ประชาชนชาวเกาะกูดรับทราบและต้องชัดเจนในการทำความเข้าใจ กับสิ่งที่สื่อโซเชียลไปโพสต์นั้นถูกต้องหรือไม่ไปตรวจสอบและทำความเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย วันนี้เห็นหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องของความรักชาติและปลุกกระแส เกาะกูดที่กำลังถูกปลุกและปั่นกระแสโดยอ้างความรักชาติมาเป็นเหตุผล แต่สถานการณ์แบบนี้เปราะบางและอาจจะบานปลายไปส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติได้" นายชำนาญวิทย์ ระบุ
    ..............
    Sondhi X
    มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯตราด เร่งชี้แจงปมพิพาท 'เกาะกูด' หวั่นประชาชนเข้าใจผิด . ก่อนหน้านี้ได้เห็นท่าทีของกองทัพเรือที่มีต่อเรื่องปัญหาพื้นที่พิพาทเกี่ยวกับเกาะกูด จังหวัดตราด มาเวลานี้กระทรวงมหาดไทยกลายเป็นอีกหน่วยงานของรัฐอีกหน่วยงานหนึ่งที่ขยับในเรื่องนี้เช่นกัน โดยนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ดูแลงานด้านควรมั่นคง ได้เข้าประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดทั้ง 2 คน และนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดตราด . ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายชำนาญวิทย์ ระบุว่า ปัญหาเรื่องกรณีเขตแดนอำเภอเกาะกูดที่ปัจจุบันมีการปั่นกระแสผ่านทางสื่อโซเชียลจำนวนมากและสับสนว่าเกาะกูดเป็นของใคร และพื้นที่ทับซ้อนที่เกิดทับซ้อนในทะเลนั้นเป็นอย่างไร และจะมีการแบ่งผลประโยชน์อย่างยุติธรรมอย่างไร ส่วนตัวกังวลว่า หากให้มีการดำเนินการปลุกปั่นกันอยู่อย่างนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกหรือทัศนคติเชิงลบของประชาชนชาวไทยให้เกิดขึ้นจนเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศในที่สุด ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และนายอำเภอเกาะกูดต้องตรวจสอบข้อมูล และเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนชาวตราดเปิดรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน . " นายอำเภอเกาะกูดท่านมีหน้าที่ในการไปศึกษาหาข้อมูลมานำเสนอให้ประชาชนชาวเกาะกูดรับทราบและต้องชัดเจนในการทำความเข้าใจ กับสิ่งที่สื่อโซเชียลไปโพสต์นั้นถูกต้องหรือไม่ไปตรวจสอบและทำความเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย วันนี้เห็นหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องของความรักชาติและปลุกกระแส เกาะกูดที่กำลังถูกปลุกและปั่นกระแสโดยอ้างความรักชาติมาเป็นเหตุผล แต่สถานการณ์แบบนี้เปราะบางและอาจจะบานปลายไปส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติได้" นายชำนาญวิทย์ ระบุ .............. Sondhi X
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว 4 พ.ย.

    เลื่อนเคาะเลือกประธาน ธปท. 'กิตติรัตน์' ตัวเต็งแต่มีชนัก เหตุคดีขายข้าวติดตัว
    .
    วันที่ 4 พฤศจิกายน เป็นวันที่บรรดาคนในแวดวงการเงินการธนาคารต่างจับตาไปที่การประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เนื่องจากมีชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นตัวเต็งคนสำคัญที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ตัวนี้ไปครอง
    .
    นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้เวลา 14.00 น.เพื่อประชุมลงมติว่าจะคัดเลือกบุคคลใดเป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่ ซึ่งยืนยันว่ากรรมการสรรหาฯแต่ละคนมีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง และต้องเป็นไปตามหลักการ คือ บุคคลที่จะได้รับเลือกมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ และมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ มีส่วนได้เสียอย่างมีนัยยะสำคัญกับธปท.หรือไม่ โดยลักษณะต้องห้ามนั้นมีหลายกรณี เช่น ต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ต้องไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือมีตำแหน่งในคณะทำงานของพรรคการเมือง ส่วนเรื่องคุณสมบัติ จะต้องมีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับกิจการของธปท.และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือขัดแย้งทางผลประโยชน์กับธปท.
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯไปตรวจสอบหาข้อมูลคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งสามคน คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน อดีตอธิบดีกรมศุลกากร -อดีตผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อดีตผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างๆ เบื้องต้นพบว่าทั้งสามคนยังไม่มีกรณีต้องห้ามตามกฎหมาย แม้ว่าในกรณีของทั้งนายกุลิศ และ นายกิตติรัตน์ จะต่างเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในอดีตมาก่อนก็ตาม เนื่องจากเป็นเพียงที่ปรึกษาทั่วไปไม่มีเงินเดือน และไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเหมือนกับข้าราชการเมืองตามกฎหมาย อีกทั้งนายกิตติรัตน์ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
    .
    อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายกิตติรัตน์นั้นมีประเด็นที่คณะกรรมการสรรหาฯต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติให้อุทธรณ์คดีขายข้าวอินโดนีเซียหรือคดี BULOG อินโดนีเซีย ที่นายกิตติรัตน์เคยตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ฟ้องคดีว่าจะเห็นด้วยกับป.ป.ช.หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าคณะกรรมการสรรหาฯจะมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร
    .
    ข่าวแจ้งว่า นายสถิตย์ ได้สั่งเลือกประชุมกรรมการสรรหาจากบ่าย2โมงวันนี้ ไปก่อน
    ..............
    Sondhi X
    ข่าว 4 พ.ย. เลื่อนเคาะเลือกประธาน ธปท. 'กิตติรัตน์' ตัวเต็งแต่มีชนัก เหตุคดีขายข้าวติดตัว . วันที่ 4 พฤศจิกายน เป็นวันที่บรรดาคนในแวดวงการเงินการธนาคารต่างจับตาไปที่การประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เนื่องจากมีชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นตัวเต็งคนสำคัญที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ตัวนี้ไปครอง . นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้เวลา 14.00 น.เพื่อประชุมลงมติว่าจะคัดเลือกบุคคลใดเป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่ ซึ่งยืนยันว่ากรรมการสรรหาฯแต่ละคนมีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง และต้องเป็นไปตามหลักการ คือ บุคคลที่จะได้รับเลือกมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ และมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ มีส่วนได้เสียอย่างมีนัยยะสำคัญกับธปท.หรือไม่ โดยลักษณะต้องห้ามนั้นมีหลายกรณี เช่น ต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ต้องไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือมีตำแหน่งในคณะทำงานของพรรคการเมือง ส่วนเรื่องคุณสมบัติ จะต้องมีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับกิจการของธปท.และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือขัดแย้งทางผลประโยชน์กับธปท. . ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯไปตรวจสอบหาข้อมูลคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งสามคน คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน อดีตอธิบดีกรมศุลกากร -อดีตผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อดีตผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างๆ เบื้องต้นพบว่าทั้งสามคนยังไม่มีกรณีต้องห้ามตามกฎหมาย แม้ว่าในกรณีของทั้งนายกุลิศ และ นายกิตติรัตน์ จะต่างเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในอดีตมาก่อนก็ตาม เนื่องจากเป็นเพียงที่ปรึกษาทั่วไปไม่มีเงินเดือน และไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเหมือนกับข้าราชการเมืองตามกฎหมาย อีกทั้งนายกิตติรัตน์ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว . อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายกิตติรัตน์นั้นมีประเด็นที่คณะกรรมการสรรหาฯต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติให้อุทธรณ์คดีขายข้าวอินโดนีเซียหรือคดี BULOG อินโดนีเซีย ที่นายกิตติรัตน์เคยตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ฟ้องคดีว่าจะเห็นด้วยกับป.ป.ช.หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าคณะกรรมการสรรหาฯจะมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร . ข่าวแจ้งว่า นายสถิตย์ ได้สั่งเลือกประชุมกรรมการสรรหาจากบ่าย2โมงวันนี้ ไปก่อน .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดจาวู
    เดจาวู (Déjà Vu) เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "เคยเห็นแล้ว" เป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนเคยประสบ คือความรู้สึกว่าประสบการณ์ในขณะนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงมันยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย

    ลักษณะของเดจาวู
    ความรู้สึกคุ้นเคย: รู้สึกว่าช่วงเวลานั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

    ไม่มีความทรงจำที่ชัดเจน: แม้รู้สึกคุ้นเคย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อใดหรือที่ไหน

    เกิดขึ้นชั่วคราว: ปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที

    ทฤษฎีเกี่ยวกับเดจาวู
    ทฤษฎีการทำงานของสมอง: มีการคาดการณ์ว่าการทำงานของสมองบางส่วนเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความรู้สึกว่าประสบการณ์นั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ทฤษฎีความทรงจำ: บางทฤษฎีเชื่อว่าเดจาวูเกิดจากการที่สมองสับสนระหว่างความทรงจำระยะสั้นและระยะยาว

    ทฤษฎีของความฝัน: มีบางทฤษฎีเชื่อว่าเดจาวูอาจเกิดจากความฝันที่เคยฝันมาก่อน

    ความสำคัญของเดจาวู
    การศึกษาเกี่ยวกับสมอง: ช่วยให้เข้าใจการทำงานของสมองและความทรงจำมากขึ้น

    ประสบการณ์ส่วนบุคคล: ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจและสนใจในธรรมชาติของจิตใจมนุษย์

    วิธีรับมือกับเดจาวู
    ไม่ต้องกังวล: เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตราย

    พูดคุยกับผู้อื่น: การแบ่งปันประสบการณ์เดจาวูกับผู้อื่นอาจช่วยให้รู้สึกสบายใจขึ้น

    ศึกษาหาข้อมูล: การเรียนรู้เกี่ยวกับเดจาวูสามารถช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์นี้ดียิ่งขึ้น

    เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและยังคงเป็นปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยาพยายามศึกษาวิจัยต่อไป เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุและความหมายที่แท้จริงของมัน
    เดจาวู เดจาวู (Déjà Vu) เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "เคยเห็นแล้ว" เป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนเคยประสบ คือความรู้สึกว่าประสบการณ์ในขณะนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงมันยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย ลักษณะของเดจาวู ความรู้สึกคุ้นเคย: รู้สึกว่าช่วงเวลานั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่มีความทรงจำที่ชัดเจน: แม้รู้สึกคุ้นเคย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อใดหรือที่ไหน เกิดขึ้นชั่วคราว: ปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที ทฤษฎีเกี่ยวกับเดจาวู ทฤษฎีการทำงานของสมอง: มีการคาดการณ์ว่าการทำงานของสมองบางส่วนเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความรู้สึกว่าประสบการณ์นั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อน ทฤษฎีความทรงจำ: บางทฤษฎีเชื่อว่าเดจาวูเกิดจากการที่สมองสับสนระหว่างความทรงจำระยะสั้นและระยะยาว ทฤษฎีของความฝัน: มีบางทฤษฎีเชื่อว่าเดจาวูอาจเกิดจากความฝันที่เคยฝันมาก่อน ความสำคัญของเดจาวู การศึกษาเกี่ยวกับสมอง: ช่วยให้เข้าใจการทำงานของสมองและความทรงจำมากขึ้น ประสบการณ์ส่วนบุคคล: ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจและสนใจในธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ วิธีรับมือกับเดจาวู ไม่ต้องกังวล: เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตราย พูดคุยกับผู้อื่น: การแบ่งปันประสบการณ์เดจาวูกับผู้อื่นอาจช่วยให้รู้สึกสบายใจขึ้น ศึกษาหาข้อมูล: การเรียนรู้เกี่ยวกับเดจาวูสามารถช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์นี้ดียิ่งขึ้น เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและยังคงเป็นปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยาพยายามศึกษาวิจัยต่อไป เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุและความหมายที่แท้จริงของมัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาฬิกา Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp: ความหายากและความหรูหรา
    Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp นับเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่หายากและเป็นที่ต้องการตัวสูงในวงการนักสะสมนาฬิกาหรูทั่วโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างความประณีตของ Patek Philippe และความคลาสสิกของ Tiffany & Co. ทำให้นาฬิกรุ่นนี้มีความโดดเด่นและมีมูลค่าสูง

    ทำไมถึงหายาก?
    จำนวนการผลิตจำกัด: นาฬิกรุ่นนี้ผลิตออกมาในจำนวนที่น้อยมาก ทำให้มีน้อยคนที่จะได้ครอบครอง
    ความต้องการสูง: ด้วยชื่อเสียงของทั้งสองแบรนด์ ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูทั่วโลก
    ความเป็นเอกลักษณ์: ตราสัญลักษณ์ Tiffany & Co. บนหน้าปัดทำให้รุ่นนี้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ
    คุณสมบัติเด่น
    ดีไซน์คลาสสิก: โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ตัวเรือนทำจากทองชมพู 18K
    หน้าปัดสีเงิน: หน้าปัดสีเงินสะท้อนแสงได้อย่างสวยงาม พร้อมตราสัญลักษณ์ Tiffany & Co. ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
    ฟังก์ชันครบครัน: มีฟังก์ชันครบครัน ทั้งโครโนกราฟ ปฏิทินถาวร และเฟสของดวงจันทร์
    กลไกภายใน: ใช้กลไกไขลาน Patek Philippe Caliber CHR 27-70 Q ที่มีความแม่นยำสูง
    เหตุผลที่น่าสนใจ
    การลงทุน: นาฬิกรุ่นนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นในอนาคต เนื่องจากความหายากและความต้องการที่สูง
    ความเป็นสัญลักษณ์: การครอบครองนาฬิกรุ่นนี้แสดงถึงรสนิยมและสถานะทางสังคม
    ความประณีต: ทุกส่วนของนาฬิกาถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมืออันประณีตและวัสดุคุณภาพสูง
    สิ่งที่ควรทราบ
    ราคา: นาฬิกรุ่นนี้มีราคาสูงมาก เนื่องจากความหายากและความต้องการ
    การตรวจสอบ: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบนาฬิกาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และอยู่ในสภาพที่ดี
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งต่างๆ เช่น:

    เว็บไซต์ผู้ขายนาฬิกาหรู: เช่น Chrono24, K2 Luxury Watches
    ฟอรัมและกลุ่มสนทนา: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา
    ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา: เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์
    หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นนาฬิกาหายาก ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

    คำแนะนำ: หากคุณสนใจนาฬิกรุ่นนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้นาฬิกาที่แท้จริงและเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ







    นาฬิกา Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp: ความหายากและความหรูหรา Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp นับเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่หายากและเป็นที่ต้องการตัวสูงในวงการนักสะสมนาฬิกาหรูทั่วโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างความประณีตของ Patek Philippe และความคลาสสิกของ Tiffany & Co. ทำให้นาฬิกรุ่นนี้มีความโดดเด่นและมีมูลค่าสูง ทำไมถึงหายาก? จำนวนการผลิตจำกัด: นาฬิกรุ่นนี้ผลิตออกมาในจำนวนที่น้อยมาก ทำให้มีน้อยคนที่จะได้ครอบครอง ความต้องการสูง: ด้วยชื่อเสียงของทั้งสองแบรนด์ ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูทั่วโลก ความเป็นเอกลักษณ์: ตราสัญลักษณ์ Tiffany & Co. บนหน้าปัดทำให้รุ่นนี้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คุณสมบัติเด่น ดีไซน์คลาสสิก: โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ตัวเรือนทำจากทองชมพู 18K หน้าปัดสีเงิน: หน้าปัดสีเงินสะท้อนแสงได้อย่างสวยงาม พร้อมตราสัญลักษณ์ Tiffany & Co. ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ฟังก์ชันครบครัน: มีฟังก์ชันครบครัน ทั้งโครโนกราฟ ปฏิทินถาวร และเฟสของดวงจันทร์ กลไกภายใน: ใช้กลไกไขลาน Patek Philippe Caliber CHR 27-70 Q ที่มีความแม่นยำสูง เหตุผลที่น่าสนใจ การลงทุน: นาฬิกรุ่นนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นในอนาคต เนื่องจากความหายากและความต้องการที่สูง ความเป็นสัญลักษณ์: การครอบครองนาฬิกรุ่นนี้แสดงถึงรสนิยมและสถานะทางสังคม ความประณีต: ทุกส่วนของนาฬิกาถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมืออันประณีตและวัสดุคุณภาพสูง สิ่งที่ควรทราบ ราคา: นาฬิกรุ่นนี้มีราคาสูงมาก เนื่องจากความหายากและความต้องการ การตรวจสอบ: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบนาฬิกาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และอยู่ในสภาพที่ดี ข้อมูลเพิ่มเติม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา Patek Philippe Ref. 5970R Tiffany Stamp สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งต่างๆ เช่น: เว็บไซต์ผู้ขายนาฬิกาหรู: เช่น Chrono24, K2 Luxury Watches ฟอรัมและกลุ่มสนทนา: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา: เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นนาฬิกาหายาก ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คำแนะนำ: หากคุณสนใจนาฬิกรุ่นนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้นาฬิกาที่แท้จริงและเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • เช้า ๆ ก่อนไปทำงาน lit nit ก็ขอลองไปฟังเทศน์มหาชาติสักหน่อย เพราะยังไม่เคยฟังเลย
    ....
    ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้จะไปฟัง ดังนั้นเมื่อคืนจึงทำการบ้าน หาข้อมูลว่าเทศน์มหาชาติคืออะไร มีประวัติอย่างไร จะได้ไม่ฟังสักแต่ว่าฟัง
    ....
    เทศน์มหาชาติคือการเล่าเรื่องชาติที่พระพุทธเจ้ากำเนิดเป็นพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาติที่ท่านบริจาคทานยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นมหาทาน
    ....
    สันนิฐานว่าเริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีคติความเชื่อว่าฟังเทศน์มหาชาติแล้วจะมีอานิสงส์ได้เกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย สมัยก่อนนั้นเทศน์ 3 วัน แต่พอสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพการใช้ชีวิตของประชาชนที่ไม่มีเวลา จึงเหลือเทศน์แค่วันเดียว
    ....
    ยุคหลังมานี้มีการปรับเปลี่ยนจากพระขึ้นเทศน์จำนวน 5 รูป เหลือ 2 รูป แล้วใช้นักแสดงลิเกมาเป็นผู้แสดงเป็น "หางเครื่อง" แต่คำว่าหางเครื่องฟังดูไม่เหมาะกับการเทศน์จึงเปลี่ยนเป็น "ทรงเครื่อง"มีหลายภาคส่วนที่เห็นว่าการเทศน์ในยุคปัจจุบันเน้นไปทางเรี่ยไรจนเกินงาม มากกว่าจะเน้นเนื้อหาสาระดั้งเดิมของการเทศน์จึงมีการถกเรื่องนี้พอสมควร
    ....
    ที่วัดนี้ไม่ได้เทศน์ทรงเครื่อง แต่เป็นการสวดคาถาพันพร้อมคำแปลให้ญาติโยมได้ฟังเพื่อประโยชน์ในทางธรรม lit nit ฟังได้ 3 กัณฑ์ จากทั้งหมด 13 กัณฑ์ เพราะต้องไปทำงาน แต่ถึงอย่างนั้น lit nit ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์กับตนเองมากทีเดียว เพราะมีข้อติดขัดบางอย่างในความรู้สึกที่แก้ไม่หายสักที แต่พอได้ฟัง กัณฑ์ที่ 3 (หรือซีซั่นที่3นั่นแหละ) จึงได้รู้สึกว่าได้ปลดเปลื้องปัญหาทางใจข้อนั้น
    #หากมีโอกาสไปฟังกันเถิด เทศน์มหาชาติคือพุทธวจนะของพระพุทธเจ้า และมีความรู้ ตลอดจนคติในการดำรงชีวิตสอนไว้ในทุก ๆ กัณฑ์
    เช้า ๆ ก่อนไปทำงาน lit nit ก็ขอลองไปฟังเทศน์มหาชาติสักหน่อย เพราะยังไม่เคยฟังเลย .... ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้จะไปฟัง ดังนั้นเมื่อคืนจึงทำการบ้าน หาข้อมูลว่าเทศน์มหาชาติคืออะไร มีประวัติอย่างไร จะได้ไม่ฟังสักแต่ว่าฟัง .... เทศน์มหาชาติคือการเล่าเรื่องชาติที่พระพุทธเจ้ากำเนิดเป็นพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาติที่ท่านบริจาคทานยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นมหาทาน .... สันนิฐานว่าเริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีคติความเชื่อว่าฟังเทศน์มหาชาติแล้วจะมีอานิสงส์ได้เกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย สมัยก่อนนั้นเทศน์ 3 วัน แต่พอสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพการใช้ชีวิตของประชาชนที่ไม่มีเวลา จึงเหลือเทศน์แค่วันเดียว .... ยุคหลังมานี้มีการปรับเปลี่ยนจากพระขึ้นเทศน์จำนวน 5 รูป เหลือ 2 รูป แล้วใช้นักแสดงลิเกมาเป็นผู้แสดงเป็น "หางเครื่อง" แต่คำว่าหางเครื่องฟังดูไม่เหมาะกับการเทศน์จึงเปลี่ยนเป็น "ทรงเครื่อง"มีหลายภาคส่วนที่เห็นว่าการเทศน์ในยุคปัจจุบันเน้นไปทางเรี่ยไรจนเกินงาม มากกว่าจะเน้นเนื้อหาสาระดั้งเดิมของการเทศน์จึงมีการถกเรื่องนี้พอสมควร .... ที่วัดนี้ไม่ได้เทศน์ทรงเครื่อง แต่เป็นการสวดคาถาพันพร้อมคำแปลให้ญาติโยมได้ฟังเพื่อประโยชน์ในทางธรรม lit nit ฟังได้ 3 กัณฑ์ จากทั้งหมด 13 กัณฑ์ เพราะต้องไปทำงาน แต่ถึงอย่างนั้น lit nit ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์กับตนเองมากทีเดียว เพราะมีข้อติดขัดบางอย่างในความรู้สึกที่แก้ไม่หายสักที แต่พอได้ฟัง กัณฑ์ที่ 3 (หรือซีซั่นที่3นั่นแหละ) จึงได้รู้สึกว่าได้ปลดเปลื้องปัญหาทางใจข้อนั้น #หากมีโอกาสไปฟังกันเถิด เทศน์มหาชาติคือพุทธวจนะของพระพุทธเจ้า และมีความรู้ ตลอดจนคติในการดำรงชีวิตสอนไว้ในทุก ๆ กัณฑ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออนุญาติแชร์คลิป"CDS..นะคะคุณหมอหนูเองก็ยังทำทานไม่เป็นเลยคืออยากเพิ่ม อ๊อกซิเจน ให้ร่างกายเพราะรับ ว.ซ.มาแล้วร่างกายเป็นภูมิแพ้ผื่นขึ้นบ่อยๆยาแก้แพ้ทานไม่ได้ผลไปหาหมอก็จะให้ทานแต่ยาแก้อักเสบยาหมดก็เป็นอีกก็ทานรางจืดบ้างเวลาไม่สบายเป็นไข้หวัดก็จะทานฟ้าทะลายโจรดีขึ้นแต่หัวใจเต้นผิดจังหวะนี่แหละจะทำให้วูป จะลองหาข้อมูลทำทานเองคะ
    ขออนุญาติแชร์คลิป"CDS..นะคะคุณหมอหนูเองก็ยังทำทานไม่เป็นเลยคืออยากเพิ่ม อ๊อกซิเจน ให้ร่างกายเพราะรับ ว.ซ.มาแล้วร่างกายเป็นภูมิแพ้ผื่นขึ้นบ่อยๆยาแก้แพ้ทานไม่ได้ผลไปหาหมอก็จะให้ทานแต่ยาแก้อักเสบยาหมดก็เป็นอีกก็ทานรางจืดบ้างเวลาไม่สบายเป็นไข้หวัดก็จะทานฟ้าทะลายโจรดีขึ้นแต่หัวใจเต้นผิดจังหวะนี่แหละจะทำให้วูป จะลองหาข้อมูลทำทานเองคะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 62 0 รีวิว
  • โจ๊กและเมีย วิบากกรรมทำงาน
    สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้หมดสิ้นแล้วซึ่งองครักษ์พิทักษ์นาย ไม่ว่าจะเป็น
    1. ดนัย หมาแก่ กับเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ที่เป็นรายการฟอกขาวที่มีประสิทธิภาพให้กับ สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้อาหารหมาขาดแคลน ก็ได้ประกาศตัวดุจเป็นฝั่งตรงข้าม ถึงกับเอ่ยว่า “สุรเชชษฐ์ทำไมไม่มีใครชอบคุณ” แล้ววันนี้หมาแก่ ก็หากระแสใหม่ ฉีกแนวไปทำเรื่องดิไอคอนรัวๆ ไม่หันกลับมามองนายเก่าจากโจ๊กอีกเลย
    2. ตั้ม ทนายหิวแสง ที่เล่นใหญ่ เกินเบอร์ นัดสื่อแถลงรัวๆ รับงานจากโจ๊กมา หวังคว่ำบิ๊กต่าย และบิ๊กเต่า จนทำให้ประชาชนรู้แนว ไม่ให้ค่า และถึงแม้วันนี้จะหวังกระแสดิไอคอน ตั้มไปออกหน้าออกตาที่โหนกระแส แต่ก็มิวายที่ประชาชนไม่เอา คือไม่เอา จนสุดท้ายปล่อยไก่ อ้างว่าหาข้อมูลไม่หลับไม่นอน แต่ดันไม่รู้ว่า ชื่อที่ตนเองบอกว่าเป็นไอ้โม่งในเครือข่ายดิไอค่อนนั้น กลับเป็นแม่แท้ๆของบอสพอลแห่งดิไอค่อน จนต้องยกมือไหว้ขอขมาหน้าจอ หน้าเจื่อนจนแทบไม่พูดอะไรต่อตลอดรายการ
    3. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสที่วางตัวคล้ายเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชชษฐ์ วางแนวการต่อสู้ ทั้งเกมการไม่ยอมรับหมายเรียก หวังให้คดีหมดอายุความ ตามที่ตนทำมาตลอด แต่สุรเชชษฐ์กลับไม่รอด แต่ก็ยังคงดิ้นเฮือกสุดท้าย ไปออกหน้าออกตาที่จันทร์ส่องหล้า หวังได้กลับมาคุมตร. และได้ใช้อำนาจในการช่วยเหลือสุรเชชษฐ์ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวัง
    จนแถลงแบล็คเมลคนชั้น 14 ว่าจะเปิดข้อมูลเด็ด แต่เชิงหมาแก่คนชั้น 14 และลูกสาวกลับไม่ให้ราคา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย
    และจากข้อมูลล่าสุด อัยการจะยื่นฟ้องยึดทรัพย์โจ๊ก กับ เมีย 4.8 แสนบาท
    ถึงแม้จะมีเสียงขำขัน ว่ายึดได้แค่นี้หรือมีเสียงแขวะ เสียงแซะสตช.ไม่ขาดสาย แต่หารู้ไม่ยอดจำนวนนี้ คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โจ๊กมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเงินดำจากเว็บออนไลน์จริง แม้จะมีการยักย้าย ถ่ายเทไปสู่ usdt จำนวนมหาศาลแล้วก็ตาม
    ยอด 4.8 แสนบาทนี้ ได้มาจากพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เส้นทางการเงิน ยืนยัน ชัดเจน
    ผลการสืบสวนโดย ปปง ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะ ที่ไม่มีส่วนได้เสีย กับผู้ใดใน สตช
    พิสูจน์ยืนยัน จนนำไปสู่การเสนอเรื่องไปอัยการ ฟ้องต่อศาล เพื่อยึดทรัพย์ข้างต้น
    สำนวนที่เสนอไปเฉพาะเรื่องนี้ ร่วม 1400 กว่า หน้า เลยทีเดียว
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    โจ๊กและเมีย วิบากกรรมทำงาน สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้หมดสิ้นแล้วซึ่งองครักษ์พิทักษ์นาย ไม่ว่าจะเป็น 1. ดนัย หมาแก่ กับเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ที่เป็นรายการฟอกขาวที่มีประสิทธิภาพให้กับ สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่วันนี้อาหารหมาขาดแคลน ก็ได้ประกาศตัวดุจเป็นฝั่งตรงข้าม ถึงกับเอ่ยว่า “สุรเชชษฐ์ทำไมไม่มีใครชอบคุณ” แล้ววันนี้หมาแก่ ก็หากระแสใหม่ ฉีกแนวไปทำเรื่องดิไอคอนรัวๆ ไม่หันกลับมามองนายเก่าจากโจ๊กอีกเลย 2. ตั้ม ทนายหิวแสง ที่เล่นใหญ่ เกินเบอร์ นัดสื่อแถลงรัวๆ รับงานจากโจ๊กมา หวังคว่ำบิ๊กต่าย และบิ๊กเต่า จนทำให้ประชาชนรู้แนว ไม่ให้ค่า และถึงแม้วันนี้จะหวังกระแสดิไอคอน ตั้มไปออกหน้าออกตาที่โหนกระแส แต่ก็มิวายที่ประชาชนไม่เอา คือไม่เอา จนสุดท้ายปล่อยไก่ อ้างว่าหาข้อมูลไม่หลับไม่นอน แต่ดันไม่รู้ว่า ชื่อที่ตนเองบอกว่าเป็นไอ้โม่งในเครือข่ายดิไอค่อนนั้น กลับเป็นแม่แท้ๆของบอสพอลแห่งดิไอค่อน จนต้องยกมือไหว้ขอขมาหน้าจอ หน้าเจื่อนจนแทบไม่พูดอะไรต่อตลอดรายการ 3. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสที่วางตัวคล้ายเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชชษฐ์ วางแนวการต่อสู้ ทั้งเกมการไม่ยอมรับหมายเรียก หวังให้คดีหมดอายุความ ตามที่ตนทำมาตลอด แต่สุรเชชษฐ์กลับไม่รอด แต่ก็ยังคงดิ้นเฮือกสุดท้าย ไปออกหน้าออกตาที่จันทร์ส่องหล้า หวังได้กลับมาคุมตร. และได้ใช้อำนาจในการช่วยเหลือสุรเชชษฐ์ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวัง จนแถลงแบล็คเมลคนชั้น 14 ว่าจะเปิดข้อมูลเด็ด แต่เชิงหมาแก่คนชั้น 14 และลูกสาวกลับไม่ให้ราคา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย และจากข้อมูลล่าสุด อัยการจะยื่นฟ้องยึดทรัพย์โจ๊ก กับ เมีย 4.8 แสนบาท ถึงแม้จะมีเสียงขำขัน ว่ายึดได้แค่นี้หรือมีเสียงแขวะ เสียงแซะสตช.ไม่ขาดสาย แต่หารู้ไม่ยอดจำนวนนี้ คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โจ๊กมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเงินดำจากเว็บออนไลน์จริง แม้จะมีการยักย้าย ถ่ายเทไปสู่ usdt จำนวนมหาศาลแล้วก็ตาม ยอด 4.8 แสนบาทนี้ ได้มาจากพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เส้นทางการเงิน ยืนยัน ชัดเจน ผลการสืบสวนโดย ปปง ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะ ที่ไม่มีส่วนได้เสีย กับผู้ใดใน สตช พิสูจน์ยืนยัน จนนำไปสู่การเสนอเรื่องไปอัยการ ฟ้องต่อศาล เพื่อยึดทรัพย์ข้างต้น สำนวนที่เสนอไปเฉพาะเรื่องนี้ ร่วม 1400 กว่า หน้า เลยทีเดียว #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “

    รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4

    พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure.

    ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก

    Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)

    จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก

    และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม

    พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

    เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    Reference :

    https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1

    https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “ รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4 พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148) จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ Reference : https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    WWW.PREPRINTS.ORG
    Are COVID-19 Vaccines in Pregnancy as Safe and Effective as the U.S. Government, Medical Organizations, and Pharmaceutical Industry Claim? Part I
    Introduction: In Part I of this three-part series we report a retrospective, population-based cohort study assessing rates of adverse events (AEs) in pregnancy after COVID-19 vaccines compared to the same AEs after influenza vaccines and after all other vaccines. Methods: Data were collected from the U.S. Centers for Disease Control and prevention (CDC) and the U.S. Food and Drug Administration (FDA). The CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) database was queried from January 1, 1990, to April 26, 2024, for adverse events (AEs) involving pregnancy complications following COVID-19 vaccination. The time-period included 412 months for all vaccines except COVID-19 vaccines, having been used for only 40 of the 412 months (December 1, 2020, to April 26, 2024). Proportional reporting ratios (PRR) by time compared AEs after COVID-19 vaccination to those after influenza vaccination, and after all other vaccine products administered to pregnant women. In cases in which the PRR was not applicable, Chi-square analysis and Fisher’s exact tests were used according to CDC/FDA guidance. CDC/FDA stipulate a safety concern if a PRR is ≥ 2 or if a Chi-square is ≥ 4. Results: The CDC/FDA’s safety signals were breached for all 37 AEs following COVID-19 vaccination in pregnancy: miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, and neonatal seizure. All p values were ≤ 0.001 with the majority being
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA เปิดรับสมัครสายลับ GenZ ฟาดจีน-รัสเซีย ระวังดาบสองคมนี้คืนสนองอเมริกา
    .
    การออกมารับสมัครสายลับอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดหน้าผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งตอกย้ำว่าบทบาทของปฏิบัติการข่าวกรองสหรัฐฯ จะยังคงเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งในกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของอเมริกาอย่างไม่จบไม่สิ้น เพราะปฏิบัติการของ CIA นั้นคือต้นตอของความชั่วร้ายของสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่น่ากลัวคือ พวกนี้กำลังดำเนินปฏิบัติการชักจูง ดึงเอาเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ Gen Y, Gen Z ในประเทศต่างๆ เข้าไปเป็นพวก เข้ามาแทรกซึมให้เป็นสปาย ดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อประโยชน์ของอเมริกา
    .
    ความพยายามสรรหาสายลับในจีน และรัสเซีย ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจภายใต้ระบอบอำนาจนิยมเพื่อรวบรวมข่าวกรองโดยใช้จีน โดยในจีน สหรัฐฯ ต้องการอาศัยการใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชนชั้นสูงเกี่ยวกับนโยบายที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สิ่งนี้คล้ายคลึงกับที่ CIA ทำกับรัสเซียภายหลังการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียในปี 2545 โดย CIA ได้เดินแผนลับปฏิบัติการขอข้อมูลชาวรัสเซียที่ผิดหวังกับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
    .
    จะเห็นได้ชัดว่า CIA คือองค์กรที่ชั่วร้าย หาข้อมูลข่าวสารเพื่อทำลายประเทศที่ไม่ยอมทำตามนโยบายของอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือแขนขาข้างหนึ่งของจักรวรรดินิยมอเมริกาที่ต้องการจะครอบครองทั่วโลก ตอนนี้ลงมาถึงระดับ Gen Y และ Gen Z แล้ว
    .
    ผมเชื่อว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 หรือ 20% ของคนที่ติดต่อไปเพื่อขอเป็นสายลับนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นคนของรัฐบาลนั่นเอง ก็คือว่าไปเป็นสายลับ มึงอยากให้กูไปเป็นสายลับ กูไปเป็นให้ แต่กูก็จะเอาข้อมูลที่กูได้จากมึง ส่งมา ตรงนี้เป็นการตรวจสอบที่ยากเย็นมาก แล้วตรงนี้เป็นดาบสองคมของ CIA ในขณะที่ CIA ต้องการใช้คนพวกนี้สมัครเข้ามา ไม่เลือกแล้ว ที่ไหนก็ได้ จีน รัสเซีย ส่งเข้ามาเลย ถ้าผ่าน ซึ่งการผ่านการตรวจสอบความมั่นคงนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยาก สามารถตกแต่งได้ จะกลายเป็นว่าหอกอันนี้ ที่ CIA ต้องการเอามาใช้ทิ่มแทงประเทศต่างๆ มันจะย้อนกลับไปทิ่มแทงประเทศสหรัฐอเมริกาเอง

    ที่มา : Sondhitalk

    #Thaitimes
    CIA เปิดรับสมัครสายลับ GenZ ฟาดจีน-รัสเซีย ระวังดาบสองคมนี้คืนสนองอเมริกา . การออกมารับสมัครสายลับอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดหน้าผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งตอกย้ำว่าบทบาทของปฏิบัติการข่าวกรองสหรัฐฯ จะยังคงเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งในกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของอเมริกาอย่างไม่จบไม่สิ้น เพราะปฏิบัติการของ CIA นั้นคือต้นตอของความชั่วร้ายของสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่น่ากลัวคือ พวกนี้กำลังดำเนินปฏิบัติการชักจูง ดึงเอาเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ Gen Y, Gen Z ในประเทศต่างๆ เข้าไปเป็นพวก เข้ามาแทรกซึมให้เป็นสปาย ดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อประโยชน์ของอเมริกา . ความพยายามสรรหาสายลับในจีน และรัสเซีย ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจภายใต้ระบอบอำนาจนิยมเพื่อรวบรวมข่าวกรองโดยใช้จีน โดยในจีน สหรัฐฯ ต้องการอาศัยการใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชนชั้นสูงเกี่ยวกับนโยบายที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สิ่งนี้คล้ายคลึงกับที่ CIA ทำกับรัสเซียภายหลังการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียในปี 2545 โดย CIA ได้เดินแผนลับปฏิบัติการขอข้อมูลชาวรัสเซียที่ผิดหวังกับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน . จะเห็นได้ชัดว่า CIA คือองค์กรที่ชั่วร้าย หาข้อมูลข่าวสารเพื่อทำลายประเทศที่ไม่ยอมทำตามนโยบายของอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือแขนขาข้างหนึ่งของจักรวรรดินิยมอเมริกาที่ต้องการจะครอบครองทั่วโลก ตอนนี้ลงมาถึงระดับ Gen Y และ Gen Z แล้ว . ผมเชื่อว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 หรือ 20% ของคนที่ติดต่อไปเพื่อขอเป็นสายลับนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นคนของรัฐบาลนั่นเอง ก็คือว่าไปเป็นสายลับ มึงอยากให้กูไปเป็นสายลับ กูไปเป็นให้ แต่กูก็จะเอาข้อมูลที่กูได้จากมึง ส่งมา ตรงนี้เป็นการตรวจสอบที่ยากเย็นมาก แล้วตรงนี้เป็นดาบสองคมของ CIA ในขณะที่ CIA ต้องการใช้คนพวกนี้สมัครเข้ามา ไม่เลือกแล้ว ที่ไหนก็ได้ จีน รัสเซีย ส่งเข้ามาเลย ถ้าผ่าน ซึ่งการผ่านการตรวจสอบความมั่นคงนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยาก สามารถตกแต่งได้ จะกลายเป็นว่าหอกอันนี้ ที่ CIA ต้องการเอามาใช้ทิ่มแทงประเทศต่างๆ มันจะย้อนกลับไปทิ่มแทงประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ที่มา : Sondhitalk #Thaitimes
    Like
    Sad
    Yay
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1073 มุมมอง 1 รีวิว
  • “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “

    รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4

    พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure.

    ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก

    Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)

    จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก

    และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม

    พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

    เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    Reference :

    https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1

    https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “ รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4 พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148) จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ Reference : https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15/1/67

    ไข่ผำ Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน

    ไข่ผำ (Wolffia)  เป็น Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน และเป็น 1 ในพืชน้ำ อาหารแห่งอนาคต เป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้าง ภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างให้ความสนใจ


    ไข่ผำเป็นพืชน้ำพื้นบ้านที่พบได้ตามห้วย หนอง คลอง บึง ลักษณะเป็นเม็ดสีเขียวขนาดเล็ก มีชื่อว่า “กรีนคาเวียร์” และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีนสูง    เป็นพืชลอยน้ำตระกูลแหน  รูปร่างเป็นเม็ดสีเขียววงกลมหรือเกือบกลมขนาดเล็ก  ไม่มีราก  เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลกและขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ  ไข่ผำเป็นพืชที่มีโปรตีนและคุณค่าทางโภชนาการสูง  มีสารพฤษเคมี(Phytochemical)  ที่มีประโยชน์  ไข่ผำมีกรดอะมิโนจำเป็นที่พบมากสุด 3 อันดับแรก คือ ไลซีน ฟีนิลอะลานีน ลิวซีน (ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบประสาท)

    และเมื่อมีการวิเคราะห์กรดไขมันของไข่ผำแห้งพบว่า มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัวประมาณ 2 เท่า และยังพบกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการอีก 2 ชนิด คือ กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ในปริมาณที่สูง ไข่ผำ เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำ  มีโปรตีนสูง 20-40% มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงสั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และศัตรูพืชน้อย  จึงทำให้ไข่ผำมีแนวโน้มเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ

    คนพระแท่นสร้างการมีส่วนร่วมจากไข่ผำ
    พี่แอ๋ว หรือ สิริวรรณ  โอภากุลวงษ์   เลขากลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่น ได้เล่าให้ฟังว่า  ตำบลพระแท่น  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี  มีกลุ่มชาติพรรณไทยทรงดำ  ซึ่งได้บริโภคไข่ผำเป็นอาหารพื้นถิ่นมายาวนาน 

    แต่ในกลุ่มประชาชนทั่วไปยังไม่เป็นที่รู้จักนัก  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่นได้หาข้อมูลคุณประโยชน์ของไข่ผำและดำเนินการขับเคลื่อนการเพาะเลี้ยงไข่ผำในชุมชน  โดยใช้งบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย  จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  สนับสนุนการเลี้ยงไข่ผำในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 30 ครัวเรือน  โดยเลี้ยงในลองคอนกรีต  และทดลองเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนระบบปิด  โดยทั้งสองรูปแบบใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะเลี้ยง  ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงในรูปแบบดังกล่าว  เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน  แต่ไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงเชิงพานิชย์  เนื่องจากปัจจุบันไข่ผำเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น


    “ตำบลพระแท่นมีจุดเด่นทั้งในเรื่องของการสร้างตลาดสีเขียวคีย์โฮลฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตเพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยและสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่างๆ การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก “ไข่ผำ” ที่นับว่าเป็น Superfood มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และอาศัยความร่วมมือจากคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และทักษะเข้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มในชุมชนให้มีรายได้ รวมถึงระบบการจัดการขยะของคนในตำบลพระแท่นที่ให้คนทุกวัยได้เข้ามาร่วมดำเนินการจนเกิดเป็นรูปธรรมให้พื้นที่อื่นได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้”

    นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร
    พี่แอ๋ว เล่าต่อไปอีกว่า การนำไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ยังประสบปัญหาหลายประการโดยเฉพาะการที่ไม่สามารถควบคุมผลผลิตและคุณภาพของไข่ผำโดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการได้ ดังนั้นการเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ


    นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร เป็นการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ในโรงเรือนระบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงไข่ผำทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้มีความสามารถในการบริโภคในครัวเรือนรวมถึงการแข่งขันเชิงพานิชย์และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ตำบลพระแท่น โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนานวัตกรรมจากกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่ผำ เพื่อเป็นต้นแบบการเลี้ยงในครัวเรือนและเชิงพานิชย์  และการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 

    เพื่อเป็นการพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้มีความยั่งยืน  โดยเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยตลอดกระบวนการพัฒนาการผลิตจะเน้นการใช้วัตถุดิบ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดต้นทุนการผลิต และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของคนในชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อ ยกระดับทรัพยากรท้องถิ่น และช่วยพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนแห่งอื่นได้

    พอช.หนุนให้ชุมชนจัดทำแผนธุรกิจชุมชน
    สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ได้เข้ามาสนับสนุนการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องแผนธุรกิจชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลพระแท่นได้ต่อยอดนำความรู้เรื่องแผนธุกิจปรับประยุกต์ใช้กับโครงการอาหารปลอดภัย สร้างโอกาสในกิจกรรมคีโฮลการ์เด้นท์ การผลิตผักปลอดภัย คนในชุมชนได้แบ่งปันและทดลองจำหน่าย เกิดผลการเปลี่ยนแปลงต่อยอดเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ จนในที่สุดมีศูนย์บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันธนาคารมีเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน ปี 2562 เกิดเป็นตลาดสีเขียว สถานที่ซื้อขายต้นแบบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาเป็นเรื่องการจัดการขยะชุมชน เรื่องอาหารปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสังคมในชุมชน มีการเลี้ยงไข่ผำ อาหารที่สำคัญในชุมชน ผู้ด้อยโอกาส 30 ครัวเรือน ได้เลี้ยงและบริโภคในครัวเรือน

    ประโยชน์ของ “ไข่ผำ” พืชจิ๋วมหัศจรรย์
    พี่แอ๋ว เล่าต่ออีกว่า องค์ประกอบทางโภชนาการของไข่น้ำพบว่า มีโปรตีน เบต้า – คาโรทีน และคลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง ไข่น้ำมีปริมาณโปรตีนในระดับเดี่ยวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และคลอเรลล่า นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ในไข่น้ำสารต้านอนุมูล อิสระ (antioxidant) มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก รักษาสภาวะซีดในคนที่เป็น โรคโลหิตจางได้ ประโยชน์ของไข่น้ำสามารนำมาใช้ปรุงอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว เป็นต้น รับประทานได้

    วิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำ
    ประพิมพ์ ศรีนวล หรือ พี่โป้ สมาชิกกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำ เล่าให้ฟังถึงวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำว่า  การเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ หรือ บ่อพลาสติก ให้นำมาล้างทำความสะอาดก่อนปล่อยไข่ผำลงไปเพาะเลี้ยง เมื่อล้างบ่อจนสะอาดแล้ว เติมน้ำใส่บ่อในอัตรา 3/4 ของบ่อ หากใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาล แนะนำให้พักน้ำไว้สัก 2-3 วัน ก่อนที่จะปล่อยพันธุ์ผำลงไป  ผำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร หากจำเป็นต้องเพาะเลี้ยงกลางแจ้งแนะนำให้ใช้ซาแรนพรางแสงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดก็สามารถทำได้เช่นกัน


    ส่วนการบำรุงธาตุอาหาร อัตราการเติมธาตุอาหารต่อบ่อ ของที่ไร่จะใช้น้ำหมักปลาในอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อ 1 บ่อ เสร็จแล้วจึงค่อยใส่พันธุ์ผำลงไปปริมาณ 1/2 กิโลกรัมต่อบ่อ หรือในกรณีที่ไม่มีในส่วนของน้ำหมักปลา ก็สามารถเลือกใช้น้ำหมักชนิดอื่นๆ ได้ เช่น น้ำหมักมูลไส้เดือน น้ำหมักมูลหมู น้ำหมักมูลวัว หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถนำมาใช้ได้หมด แล้วแต่ความสะดวกของแต่พื้นที่  


    การดูแลหลังจากที่ปล่อยพันธุ์ผำลงไปเพาะเลี้ยงได้ครบ 1 สัปดาห์ ให้ช้อนไข่ผำที่อยู่ในบ่อขึ้นมา เพื่อปล่อยน้ำทิ้งล้างทำความสะอาดบ่อ เสร็จแล้วให้เติมน้ำใส่บ่อเข้าไปใหม่ เติมธาตุอาหารลงไป ทำเหมือนเดิมกับครั้งแรกทุกอย่าง แล้วปล่อยพันธุ์ผำลงไปเลี้ยงอีก 1 สัปดาห์ ช้อนผำที่เลี้ยงทั้งหมดมาล้างน้ำทำความสะอาด 4 ครั้ง สำหรับนำไปจำหน่ายแบบสด  เท่ากับว่าการเพาะเลี้ยงไข่ผำใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ แต่ถ้าในกรณีนำไปเพาะพันธุ์ต่อ ใช้เวลาเลี้ยง 1 สัปดาห์ ก็สามารถเอาไปเพาะพันธุ์ต่อได้แล้ว  ซึ่งการเพาะเลี้ยงไม่ยุ่งยาก แต่ปัจจัยสำคัญหรืออุปสรรคที่ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงผำไม่ประสบความสำเร็จ คือปัจจัยอุปสรรคในด้านสภาพอากาศและสารเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้

    ปัญหาและอุปสรรคของการเพาะเลี้ยง “ไข่ผำ”
    พี่โป้ เล่าให้ฟังอีกว่า อุปสรรคทางด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนจะส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตลดน้อยลง “ผำ” จะชอบอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-26 องศา ซึ่งถ้าอากาศร้อนไปกว่านี้จะส่งผลให้ปริมาณและอัตราการขยายตัวลดน้อยลง

    สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าหญ้า หรือสารเคมีชนิดอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผำไม่เจริญเติบโต ผำถือเป็นพืชที่เซนซิทีฟต่อสารเคมี หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผำถือเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่มีการใช้สารเคมีจริงๆ ที่ถึงแม้ว่าต่อให้ในพื้นที่สวนของเราไม่ใช้ แต่สวนรอบข้างเราใช้ หรือมีคนอื่นมาฉีดพ่นสารเคมีในบริเวณใกล้เคียง ก็ส่งผลทำให้ผำไม่เจริญเติบโตและตายได้เช่นกัน  

    วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตไข่ผำ เมื่อเพาะเลี้ยงผำจนครบ 2 สัปดาห์ แล้ววิธีการเก็บไปขาย ให้เตรียมซึ้งนึ่งอาหารมาแล้วใช้ผ้าขาวบางรอง จากนั้นนำตาข่ายสีฟ้ามาวางทับผ้าขาวบางอีกชั้น แล้วช้อนผำขึ้นมาใส่ไว้ในตาข่ายสีฟ้า ใช้น้ำประปาล้างแล้วผำจะหล่นลงไปที่ผ้าขาวบางที่รองไว้ข้างล่าง พอได้ผำมาทั้งหมดให้นำไปล้างน้ำทำความสะอาดอีก 4 ครั้ง คือล้างแล้วบิด จนครบ 4 ครั้ง ถึงจะนำไปจำหน่ายได้

    ความน่าสนใจของการเพาะเลี้ยงไข่ผำคือ ไข่ผำเป็นพืชที่ไม่ต้องใช้การดูแลมาก สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้สบายๆ เพาะใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ สามารถเก็บผลผลิตขายได้ และยังเป็นพืชที่มีอนาคตสดใส ด้วยคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน

    สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย  สำหรับไข่ผำที่ได้ทั้งสะอาดปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมนำไปแปรรูปเป็นอาหารต่างๆ และจำหน่ายไข่ผำอินทรีย์แบบสดๆ กิโลกรัมละ 100 บาท หากแห้ง กิโลกรัมละ 2,500-3,000 บาท สามารถสร้างรายได้ทั้งขายสด และแปรรูป ให้กับชุมชนบ้านพระแท่นได้อย่างงาม เป็นหนึ่งในอาชีพที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและความมั่นคงให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
    cr:web.codi.co.th
    15/1/67 ไข่ผำ Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน ไข่ผำ (Wolffia)  เป็น Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน และเป็น 1 ในพืชน้ำ อาหารแห่งอนาคต เป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้าง ภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างให้ความสนใจ ไข่ผำเป็นพืชน้ำพื้นบ้านที่พบได้ตามห้วย หนอง คลอง บึง ลักษณะเป็นเม็ดสีเขียวขนาดเล็ก มีชื่อว่า “กรีนคาเวียร์” และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีนสูง    เป็นพืชลอยน้ำตระกูลแหน  รูปร่างเป็นเม็ดสีเขียววงกลมหรือเกือบกลมขนาดเล็ก  ไม่มีราก  เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลกและขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ  ไข่ผำเป็นพืชที่มีโปรตีนและคุณค่าทางโภชนาการสูง  มีสารพฤษเคมี(Phytochemical)  ที่มีประโยชน์  ไข่ผำมีกรดอะมิโนจำเป็นที่พบมากสุด 3 อันดับแรก คือ ไลซีน ฟีนิลอะลานีน ลิวซีน (ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบประสาท) และเมื่อมีการวิเคราะห์กรดไขมันของไข่ผำแห้งพบว่า มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัวประมาณ 2 เท่า และยังพบกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการอีก 2 ชนิด คือ กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ในปริมาณที่สูง ไข่ผำ เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำ  มีโปรตีนสูง 20-40% มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงสั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และศัตรูพืชน้อย  จึงทำให้ไข่ผำมีแนวโน้มเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คนพระแท่นสร้างการมีส่วนร่วมจากไข่ผำ พี่แอ๋ว หรือ สิริวรรณ  โอภากุลวงษ์   เลขากลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่น ได้เล่าให้ฟังว่า  ตำบลพระแท่น  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี  มีกลุ่มชาติพรรณไทยทรงดำ  ซึ่งได้บริโภคไข่ผำเป็นอาหารพื้นถิ่นมายาวนาน  แต่ในกลุ่มประชาชนทั่วไปยังไม่เป็นที่รู้จักนัก  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่นได้หาข้อมูลคุณประโยชน์ของไข่ผำและดำเนินการขับเคลื่อนการเพาะเลี้ยงไข่ผำในชุมชน  โดยใช้งบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย  จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  สนับสนุนการเลี้ยงไข่ผำในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 30 ครัวเรือน  โดยเลี้ยงในลองคอนกรีต  และทดลองเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนระบบปิด  โดยทั้งสองรูปแบบใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะเลี้ยง  ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงในรูปแบบดังกล่าว  เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน  แต่ไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงเชิงพานิชย์  เนื่องจากปัจจุบันไข่ผำเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น “ตำบลพระแท่นมีจุดเด่นทั้งในเรื่องของการสร้างตลาดสีเขียวคีย์โฮลฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตเพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยและสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่างๆ การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก “ไข่ผำ” ที่นับว่าเป็น Superfood มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และอาศัยความร่วมมือจากคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และทักษะเข้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มในชุมชนให้มีรายได้ รวมถึงระบบการจัดการขยะของคนในตำบลพระแท่นที่ให้คนทุกวัยได้เข้ามาร่วมดำเนินการจนเกิดเป็นรูปธรรมให้พื้นที่อื่นได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้” นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร พี่แอ๋ว เล่าต่อไปอีกว่า การนำไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ยังประสบปัญหาหลายประการโดยเฉพาะการที่ไม่สามารถควบคุมผลผลิตและคุณภาพของไข่ผำโดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการได้ ดังนั้นการเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร เป็นการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ในโรงเรือนระบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงไข่ผำทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้มีความสามารถในการบริโภคในครัวเรือนรวมถึงการแข่งขันเชิงพานิชย์และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ตำบลพระแท่น โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนานวัตกรรมจากกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่ผำ เพื่อเป็นต้นแบบการเลี้ยงในครัวเรือนและเชิงพานิชย์  และการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม  เพื่อเป็นการพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้มีความยั่งยืน  โดยเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยตลอดกระบวนการพัฒนาการผลิตจะเน้นการใช้วัตถุดิบ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดต้นทุนการผลิต และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของคนในชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อ ยกระดับทรัพยากรท้องถิ่น และช่วยพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนแห่งอื่นได้ พอช.หนุนให้ชุมชนจัดทำแผนธุรกิจชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ได้เข้ามาสนับสนุนการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องแผนธุรกิจชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลพระแท่นได้ต่อยอดนำความรู้เรื่องแผนธุกิจปรับประยุกต์ใช้กับโครงการอาหารปลอดภัย สร้างโอกาสในกิจกรรมคีโฮลการ์เด้นท์ การผลิตผักปลอดภัย คนในชุมชนได้แบ่งปันและทดลองจำหน่าย เกิดผลการเปลี่ยนแปลงต่อยอดเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ จนในที่สุดมีศูนย์บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันธนาคารมีเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน ปี 2562 เกิดเป็นตลาดสีเขียว สถานที่ซื้อขายต้นแบบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาเป็นเรื่องการจัดการขยะชุมชน เรื่องอาหารปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสังคมในชุมชน มีการเลี้ยงไข่ผำ อาหารที่สำคัญในชุมชน ผู้ด้อยโอกาส 30 ครัวเรือน ได้เลี้ยงและบริโภคในครัวเรือน ประโยชน์ของ “ไข่ผำ” พืชจิ๋วมหัศจรรย์ พี่แอ๋ว เล่าต่ออีกว่า องค์ประกอบทางโภชนาการของไข่น้ำพบว่า มีโปรตีน เบต้า – คาโรทีน และคลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง ไข่น้ำมีปริมาณโปรตีนในระดับเดี่ยวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และคลอเรลล่า นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ในไข่น้ำสารต้านอนุมูล อิสระ (antioxidant) มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก รักษาสภาวะซีดในคนที่เป็น โรคโลหิตจางได้ ประโยชน์ของไข่น้ำสามารนำมาใช้ปรุงอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว เป็นต้น รับประทานได้ วิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำ ประพิมพ์ ศรีนวล หรือ พี่โป้ สมาชิกกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำ เล่าให้ฟังถึงวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำว่า  การเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ หรือ บ่อพลาสติก ให้นำมาล้างทำความสะอาดก่อนปล่อยไข่ผำลงไปเพาะเลี้ยง เมื่อล้างบ่อจนสะอาดแล้ว เติมน้ำใส่บ่อในอัตรา 3/4 ของบ่อ หากใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาล แนะนำให้พักน้ำไว้สัก 2-3 วัน ก่อนที่จะปล่อยพันธุ์ผำลงไป  ผำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร หากจำเป็นต้องเพาะเลี้ยงกลางแจ้งแนะนำให้ใช้ซาแรนพรางแสงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนการบำรุงธาตุอาหาร อัตราการเติมธาตุอาหารต่อบ่อ ของที่ไร่จะใช้น้ำหมักปลาในอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อ 1 บ่อ เสร็จแล้วจึงค่อยใส่พันธุ์ผำลงไปปริมาณ 1/2 กิโลกรัมต่อบ่อ หรือในกรณีที่ไม่มีในส่วนของน้ำหมักปลา ก็สามารถเลือกใช้น้ำหมักชนิดอื่นๆ ได้ เช่น น้ำหมักมูลไส้เดือน น้ำหมักมูลหมู น้ำหมักมูลวัว หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถนำมาใช้ได้หมด แล้วแต่ความสะดวกของแต่พื้นที่   การดูแลหลังจากที่ปล่อยพันธุ์ผำลงไปเพาะเลี้ยงได้ครบ 1 สัปดาห์ ให้ช้อนไข่ผำที่อยู่ในบ่อขึ้นมา เพื่อปล่อยน้ำทิ้งล้างทำความสะอาดบ่อ เสร็จแล้วให้เติมน้ำใส่บ่อเข้าไปใหม่ เติมธาตุอาหารลงไป ทำเหมือนเดิมกับครั้งแรกทุกอย่าง แล้วปล่อยพันธุ์ผำลงไปเลี้ยงอีก 1 สัปดาห์ ช้อนผำที่เลี้ยงทั้งหมดมาล้างน้ำทำความสะอาด 4 ครั้ง สำหรับนำไปจำหน่ายแบบสด  เท่ากับว่าการเพาะเลี้ยงไข่ผำใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ แต่ถ้าในกรณีนำไปเพาะพันธุ์ต่อ ใช้เวลาเลี้ยง 1 สัปดาห์ ก็สามารถเอาไปเพาะพันธุ์ต่อได้แล้ว  ซึ่งการเพาะเลี้ยงไม่ยุ่งยาก แต่ปัจจัยสำคัญหรืออุปสรรคที่ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงผำไม่ประสบความสำเร็จ คือปัจจัยอุปสรรคในด้านสภาพอากาศและสารเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ ปัญหาและอุปสรรคของการเพาะเลี้ยง “ไข่ผำ” พี่โป้ เล่าให้ฟังอีกว่า อุปสรรคทางด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนจะส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตลดน้อยลง “ผำ” จะชอบอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-26 องศา ซึ่งถ้าอากาศร้อนไปกว่านี้จะส่งผลให้ปริมาณและอัตราการขยายตัวลดน้อยลง สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าหญ้า หรือสารเคมีชนิดอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผำไม่เจริญเติบโต ผำถือเป็นพืชที่เซนซิทีฟต่อสารเคมี หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผำถือเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่มีการใช้สารเคมีจริงๆ ที่ถึงแม้ว่าต่อให้ในพื้นที่สวนของเราไม่ใช้ แต่สวนรอบข้างเราใช้ หรือมีคนอื่นมาฉีดพ่นสารเคมีในบริเวณใกล้เคียง ก็ส่งผลทำให้ผำไม่เจริญเติบโตและตายได้เช่นกัน   วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตไข่ผำ เมื่อเพาะเลี้ยงผำจนครบ 2 สัปดาห์ แล้ววิธีการเก็บไปขาย ให้เตรียมซึ้งนึ่งอาหารมาแล้วใช้ผ้าขาวบางรอง จากนั้นนำตาข่ายสีฟ้ามาวางทับผ้าขาวบางอีกชั้น แล้วช้อนผำขึ้นมาใส่ไว้ในตาข่ายสีฟ้า ใช้น้ำประปาล้างแล้วผำจะหล่นลงไปที่ผ้าขาวบางที่รองไว้ข้างล่าง พอได้ผำมาทั้งหมดให้นำไปล้างน้ำทำความสะอาดอีก 4 ครั้ง คือล้างแล้วบิด จนครบ 4 ครั้ง ถึงจะนำไปจำหน่ายได้ ความน่าสนใจของการเพาะเลี้ยงไข่ผำคือ ไข่ผำเป็นพืชที่ไม่ต้องใช้การดูแลมาก สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้สบายๆ เพาะใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ สามารถเก็บผลผลิตขายได้ และยังเป็นพืชที่มีอนาคตสดใส ด้วยคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย  สำหรับไข่ผำที่ได้ทั้งสะอาดปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมนำไปแปรรูปเป็นอาหารต่างๆ และจำหน่ายไข่ผำอินทรีย์แบบสดๆ กิโลกรัมละ 100 บาท หากแห้ง กิโลกรัมละ 2,500-3,000 บาท สามารถสร้างรายได้ทั้งขายสด และแปรรูป ให้กับชุมชนบ้านพระแท่นได้อย่างงาม เป็นหนึ่งในอาชีพที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและความมั่นคงให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน cr:web.codi.co.th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทีมสายดำ..อายุน้อยร้อยล้าน

    เห็นน้องตอ อดีตกระเป๋าเครื่องบินเขามาคอมเมนต์ในเพจเหยื่อว่าเขาเลิกทำนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเลิกทำจ้าาา = เถียง

    พรีสสสส สงสัยมาพิมพ์เถียงโดยไม่ได้ไถหน้าเพจดูสกิลการขุดของเพจนี้เลยล่ะสิ่ท่า.?

    เราน่ะรู้ว่าหนูอ่ะเป็นดาวดังของบริษัทขึ้นเวทีไปเป็นพิธีกรของบริษัทเป็นประจำ และหนูทำจนได้หลัวคนที่ทำ The Icon อีกตางหาก ปั่ดโธ่

    มาเถียงเราคอมเมนต์หนึ่ง เราก็จัดให้อีกโพสต์หนึ่ง แต่ถ้าทำผิดแล้วสงบปากเราจะก้าวข้ามไปเล่นแก๊งอื่นต่อ

    ตามมาดูว่าแม่ทีมสายดำมันทำงานกันอย่างไร

    จุดเริ่มต้น..ทุกคนที่หลงเข้าไปในวงจรนี้ ก็จะเริ่มต้นจากเปิดบิล 2,500 บาท (Distributor)

    และถ้าจะสร้างทีมได้ ก็ต้องเปิด 25,000 บาท (Supervisor)

    เรต 2,500 บาท กับ 25,000 บาท จะต้องจ่ายตรงกับ Dealer เพราะ Dealer ต้องกระจายของตัวเองออก

    และถ้าต้องการเข้าทีมแม่ๆทั้งหลาย ต้องเปิด 250,000 บาท (Dealer)

    ทีนี้ตำแหน่งมันยังมีอีก 10 อันดับข้างบน แล้วทำไมมันถึงมีลำดับขั้นเยอะแยะขนาดนั้น.?

    ตามมา..

    ระบบแผนการจ่ายของ the icon จะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นทริปท่องเที่ยว เพื่อเลี่ยงกฎหมาย

    เพราะการจ่ายเงินมันจะผิดกฎหมายเข้าข่ายลูกโซ่ จึงแจกค่าคอมกลับเป็นการทัวร์ทริปเที่ยว ซึ่งระบุเอาไว้ว่า

    ถ้าใครไม่อยากเที่ยว..“ก็ขายทริปคืนเป็นเงินได้” ตรงจุดนี้แหละที่บอสพอลติ่งเอาไว้เลี่ยงกฎหมาย

    เพราะถ้ามีใครขายทริป บริษัทก็จะจ่ายเป็นเงินสดแทนการเที่ยวให้ มันก็จะเท่ากับการชวนคนร่วมลงทุนแล้วได้เงินตอบแทน(โดยอ้อม)เหมือนแชร์ลูกโซ่ยังไงยังงั้นเลย

    the icon เลี่ยงไปใช้คำว่า Re Dealer หรือการเปิดสาขาสอง คือการจ่าย 250,000 บาท อีกรอบ เพื่อขยับตัวเองขึ้นไปเป็น Gold , Platinum และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

    ตำแหน่งพวกนี้สำคัญแค่ไหน ?

    หลักการจ่ายของ the icon จะจ่ายให้กับ Direct Referral (การชวนตรงผ่านรหัสตัวเอง) 10%

    ดังนั้นหากคุณจ่าย 250,000 บาทไปแล้ว และอยากได้เงินคืน คุณต้องทำ Direct Referral ตามรหัสตัวเองให้ได้ 10 ราย ถึงจะได้เงิน 10% กลับคืน

    ตรงนี้เรียกว่า "Fast start bonus" เป็นศัพท์ของ MLM เขาใช้เรียกกัน โดยปกติ MLM จะมีระบบซับซ้อนในการคำนวณยอดให้

    เช่น Stair Step, Uni-Level , Binary , Trinary ฯลฯ

    แต่ที่ The Icon นั้นไม่ซับซ้อน เป็นแค่ Stair Step หรือขั้นบันไดใช้การจ่ายที่ระดับขั้น แยกออกเป็น "ส่วนลด" เพื่อเอาส่วนลดนั้นไปจ่ายตามระดับ 10 อันดับด้านบนทั้งหมด

    และพอลยังแก้ให้มีระบบ Binary โยน Dealer ซ้าย-ขวา คะแนนข้างอ่อนผันเป็นโบนัส

    ดังนั้นยิ่งใครเปิด "สาขา" เยอะ ก็จะยิ่งได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" เยอะขึ้น ทีนี้หลักการจ่ายมันจะมีหลักง่ายๆคือ..จ่ายจากล่างสุดขึ้นไปบนสุด

    เวลาพี่ๆตำรวจเขา สืบ-สอบ ก็จะเริ่มจากด้านล่างสุดเช่นกัน แต่ด้านล่างสุดในมุมของตำรวจคือคนที่เป็นเหยื่อ ไล่เส้นเงินของเหยื่อ..ว่าวิ่งไปถึงใครบ้าง
    -----------

    สมมติว่าน้องตอ เขาเป็นระดับ Platinum Dealer แต่ลูกทีมของน้องตอดันไปเปิดสาขาเยอะกว่า ก็จะได้เป็น Crown Dealer ลักษณะแบบนี้จะเรียกว่า อันดับสูงกว่าผู้แนะนำ

    เวลาทำจ่าย "ส่วนแบ่งสาขา" มันจะข้ามน้องตอขึ้นไปข้างบนตามตำแหน่ง แม้ว่าคนนั้นจะเป็น Downline ของน้องตอก็ตาม

    และคนที่เปิดสูงกว่าน้องตอก็จะได้รับเงิน "ส่วนแบ่งสาขา" ไปแทน นี่เป็นหลักการที่จูงใจให้คนที่หลงเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้วอยาก "ขยายสาขา"

    เพื่อที่ตัวเองจะได้ไประดับบนสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ "BOSS" (ไม่ใช่ Big Boss นะ)

    วิธีของ the icon คือตั้งกลุ่มแม่ทีม และลูกทีมจะต้องมาซื้อข้อมูลผู้สนใจธุรกิจ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,000 - 5,000 บาท และถ้าเป็นเบอร์ที่หวังผลได้ชัวร์ ขาย 10,000 บาท

    คำถามคือ..เงินตรงนี้เข้าบริษัทหรือเข้ากระเป๋าแม่ทีม.?

    ถ้าคำนวณจากยอดของน้องตอที่ทำยอด 1,000,000 บาทได้ และได้แหวนเพชรจากบิ๊กบอสเป็นรางวัล

    ก็อนุมานได้ว่าน้องตอต้องได้ค่าคอม 25,000 บาท (จาก 250,000) 1,000,000 / 25,000 = 40 คน จุกๆ

    ระยะเวลาแค่ 6 เดือนน้องตอของเราได้ขึ้นไปรับเงิน 1 ล้านบาท พร้อมสวมแหวนเพชรบนเวที

    แล้วน้องตอก็พูดว่า.."ผู้ชายคนแรกที่สวมแหวนให้หนูคือบอสพอล" งู้ยยยยย ถุย
    -------------

    the icon ได้ทำการแก้ไขระบบตัวแทนจากตลาดตรง มาเพิ่ม "Binary" ทำให้มีการโยน Dealer ไปซ้าย-ขวา

    ทีนี้มันก็เลยต้องแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นเพราะหลักการของระบบ Binary มันเข้าข่าย MLM และหลักการจ่ายค่าโบนัสมันจะจ่ายวิ่งขึ้นบน

    แปลว่าถ้าน้องตอตำแหน่งต่ำกว่า Downline ตัวเอง คะแนน Bonus จะวิ่งไปหาตำแหน่งที่สูงกว่าตัวเองทันที

    ข้อนี้มันคือการหักล้างทุกๆบริษัทที่เคยพูดว่า "Passive Income" มีจริง บอกเลยมันไม่มีอยู่จริงหรอก

    เพราะระบบ MLM มันมีกฎที่สามารถขโมย Bonus ได้ถ้าตำแหน่งสูงกว่า ระบบจะจ่ายโบนัสไปที่ "ตำแหน่งสูงสุด" ที่อยู่ในสายนั้น

    นี่คือสาเหตุให้ตำแหน่ง "BOSS" ด้านบน เปิดสาขาถึงระดับสูงสุด เพื่อรองรับโบนัสการคำนวณ ซ้าย-ขวา

    เพราะถ้าซ้าย-ขวา ไม่ balance ระบบจะคำนวณยอดที่จะได้แค่ส่วนต่างข้างน้อย และส่วนที่เหลือข้างมากจะไหลขึ้นบนตามหลัก MLM

    จุดนี้แหละจึงเป็นความจริงที่ทุกคนพยายาม "ขยายสาขา" เพื่อให้ตัวเองได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" นั่นเอง

    และทุกคนที่เป็นแม่ทีมจะสู้เพื่อสิ่งนี้แหละ คือตำแหน่งสูงสุด เพราะจะได้รับค่าคอมจากด้านล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

    นั่นคือเหตุผลที่ระดับ "BOSS" ได้รับค่าคอมหลักล้าน แม้จะนอนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรก็ตาม

    แต่คนที่ยังทำงานอยู่ในการ Direct Referral จะได้ 10% เรียกว่าได้เงินเร็ว แล้วก็เอาเงินต่อเงินไปเปิดสาขาเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นตามนี้

    Boss
    Emperor
    Royal Crown
    Crown Dealer
    Wisdom Dealer
    Presidential Dealer
    Grand Dealer

    7 ตำแหน่งนี้👆ต้องไต่เต้าด้วยการ..ขยายสาขา

    นั่นคือมูลเหตุให้ระบบของบริษัท the icon แผนธุรกิจมุ่งเน้นชวนคนใหม่อย่างเดียว เพราะผลตอบแทน 10% จาก Dealer ได้ตรง และได้โบนัสคำนวณตามตำแหน่ง

    ทีนี้มาดูกลโกงของแม่ทีมสายดำกัน

    มันมีคนเข้ามาเป็น Dealer 367,943 คน และทุกคนเปิดบิล 250,000 บาทเหมือนกันหมด

    แต่ไม่ใช่ว่าคนทั้ง 367,943 คนจะยิงแอดเป็น หรือทำการตลาดเป็น จึงตกเป็นเหยื่อแม่ทีมในกลุ่มของตัวเอง

    โดยทุกคนจะโดนแม่ทีมเรียกรับ "ค่าโฆษณา" คนละ 10,000 / เดือน

    สมมติว่า..กลุ่มน้องตอมี 2,000 คน น้องตอก็จะเรียกเก็บค่าโฆษณาได้ 20,000,000 บาทต่อเดือนทันที

    คำถามคือ..แล้วลูกข่ายทั้งหมดที่มาเปิดบิลผ่านน้องตออ่ะ พวกเขาเหล่านั้นได้ยิงแอดเองไหม.?

    น้องตอ..บอกจะสอนให้เขาขายออนไลน์ได้เอง ก็แปลว่าลูกทีมเขาต้องมีความสามารถ "ตั้งโฆษณาได้เอง" ถูกไหม.?

    แต่น้องตอ กลับบอกให้ทุกคนเข้ากลุ่มแม่ทีมแล้วน้องตอก็เรียกเก็บเงินค่ารายชื่อ หัวละ 1000 - 5000 อันนี้มันยิงแอดตรงไหนอ่ะ.?

    น้องตอมีหลักฐานไหมว่ารายชื่อที่เอามาขายลูกข่ายน่ะมันดึงมาจาก Ads ทุกรายชื่อ.?

    คือ..แม่ทีมมีหน้าที่ไปยิงโฆษณาหาตัวแทนมาโปรยให้ลูกทีมนั่นแปลว่า "แม่ทีมก็ต้องโทรหาลูกค้าก่อนแล้ว"

    ลองคิดถึงหลักความเป็นจริง หากโทรไปแล้วเขาสนใจ พวกคุณคิดว่าแม่ทีมจะใจดีโยนมาให้ลูกทีมไหม.?

    แม่ทีมที่มีลูกทีม 2,000 คน ก็จะเรียกเก็บเงินจากลูกทีมได้ 20 ล้านบาท แล้วมีแม่ทีมคนไหนเอารายงานการยิงแอดมาโชว์ให้ลูกข่ายดูบ้างไหมครับ.?

    ถ้าไม่โชว์หลักฐาน ถ้างั้นก็เอาเงิน 20 ล้านบาทเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วบอกว่ายิงแอดให้แล้ว..ก็ทำได้สิ่.?

    พอมีคนคิดลบ เตะออก พอใครไม่อยากยิงแอด เตะออก ทำแบบนี้นี่น้องตอสอนคนยิงแอดหรือว่าบีบบังคับให้เค้าจ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดตัว.?

    เกมนี้ที่แม่ทีมอย่างพวกคุณออกแบบมันโหดร้ายมากๆนะ เพราะว่าจะมีแต่แม่ทีมอย่างพวกคุณรวยกันอยู่กระจุกเดียว

    แต่ลูกข่ายนี่เป็นตู้ ATM ให้แม่ทีมกดเงินอย่างเดียว แล้วบิ๊กบอสพอลเขารู้เรื่องไหมว่า มีแม่ทีมสายดำใช้แผนประทุษกรรมเหยื่อแบบนี้.?

    --------

    การทำธุรกิจแบบนี้มันไม่มีหรอก win/win น่ะ

    เงินหมื่นที่จ่ายให้แม่ทีม แม่ทีมหักหัวคิว 80-90% เอาไปลงในโฆษณา "ของตัวแม่ทีมเอง"

    และเหลือ 20-10% มาลงให้กับ "ลูกข่าย" จากนั้นก็ส่งหน้าม้าปลอมเข้าไปปลอบประโลมให้ลูกข่ายเห็นว่าโฆษณาทำงาน

    แต่อย่างที่เขาร้องกันทั้งหมดแหละ "ไม่มีใครขายได้สักคน" ก็เพราะมันเป็น Seeding Comment จากระบบ Auto Comment ไงฮะ

    น้องตอ..หัดยอมรับบ้างเหอะ ว่าเราก็หลอกเขามาเปิดบิล หลอกเอาเงินเขามายิงแอด ไหนหนูถึงทำธุรกิจโดยไม่ใช้เงินตัวเองเลยสักบาท.?

    ขออนุญาตอุทานนะครับ..พวกมึงนี่เควี้ยจริงๆเลย อีฝัด

    รบกวนพี่ตำรวจด้วยนะ เวลาสอบปากคำคนระดับแม่ทีม ช่วยถามหาหลักฐานที่พวกมันเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆไปจากลูกข่ายด้วยนะครับ

    ท่านเรียก export excel .csv ของยอดยิงแอดมา compare เลย ว่าตรงกับยอดที่รับมาจาก "เหยื่อ" ที่เป็นลูกทีมหรือเปล่า

    แม่ทีมทุกคนได้ "Direct Referral" 10% ลองคิดดูว่าถ้าวันนึงปิดได้ 10 คน เงิน Fast Start Bonus แม่ทีมได้วันละ 250,000 บาท

    ยังไม่รวมคำนวณโบนัส ส่วนไหนที่ไม่สามารถปิดได้ในการโทรครั้งแรก แม่ทีมก็เอามาขายต่อ 5,000 บาท 2 รายชื่อ 1,000 - 5,000 บาท

    เงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าแม่ทีม มันคือวงจรอุบาทว์ที่บอสพอลจะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ด้วยนะเพราะบอสพอลเป็นคนแก้ระบบให้มีระบบ Binary

    เพิ่มตำแหน่งออกมาถึง 13 ขั้นตรงนี้แหละที่บอสพอลจะผิดเต็มๆ ก็คุณจดทำการตลาดขายตรง แต่คุณกลับทำ MLM โดยไม่มีใบอนุญาตซะงั้น

    เกมนี้..บอสสวย ผู้อยู่เหนือหวงโซ่ของแม่ทีม คนที่เป็นทุกอย่างให้บอสพอล ถ้าตำรวจไม่เฝ้าไว้ อาจจะหลบหนีไป..ตามใบสั่ง

    บทความนี้เขียนขึ้นจากการสอบข้อเท็จจริงจากปากผู้เสียหาย หลายๆคน ข้อมูลไม่นิ่งตัดออก

    แล้วคัดเอาที่หลายคนพูดตรงกันมาวิเคราะห์แล้วหาข้อมูล แล้วเรียบเรียงเขียนเป็นบทความมาเผยแพร่

    ถ้าใครมีข้อมูลที่แท้ แล้วมันไม่ตรงกับบทความนี้ก็คอมเมนต์แจ้งมาได้นะ ถ้ามันเชื่อถือได้ เราจะแก้ไขให้ทันที

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    แม่ทีมสายดำ..อายุน้อยร้อยล้าน เห็นน้องตอ อดีตกระเป๋าเครื่องบินเขามาคอมเมนต์ในเพจเหยื่อว่าเขาเลิกทำนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเลิกทำจ้าาา = เถียง พรีสสสส สงสัยมาพิมพ์เถียงโดยไม่ได้ไถหน้าเพจดูสกิลการขุดของเพจนี้เลยล่ะสิ่ท่า.? เราน่ะรู้ว่าหนูอ่ะเป็นดาวดังของบริษัทขึ้นเวทีไปเป็นพิธีกรของบริษัทเป็นประจำ และหนูทำจนได้หลัวคนที่ทำ The Icon อีกตางหาก ปั่ดโธ่ มาเถียงเราคอมเมนต์หนึ่ง เราก็จัดให้อีกโพสต์หนึ่ง แต่ถ้าทำผิดแล้วสงบปากเราจะก้าวข้ามไปเล่นแก๊งอื่นต่อ ตามมาดูว่าแม่ทีมสายดำมันทำงานกันอย่างไร จุดเริ่มต้น..ทุกคนที่หลงเข้าไปในวงจรนี้ ก็จะเริ่มต้นจากเปิดบิล 2,500 บาท (Distributor) และถ้าจะสร้างทีมได้ ก็ต้องเปิด 25,000 บาท (Supervisor) เรต 2,500 บาท กับ 25,000 บาท จะต้องจ่ายตรงกับ Dealer เพราะ Dealer ต้องกระจายของตัวเองออก และถ้าต้องการเข้าทีมแม่ๆทั้งหลาย ต้องเปิด 250,000 บาท (Dealer) ทีนี้ตำแหน่งมันยังมีอีก 10 อันดับข้างบน แล้วทำไมมันถึงมีลำดับขั้นเยอะแยะขนาดนั้น.? ตามมา.. ระบบแผนการจ่ายของ the icon จะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นทริปท่องเที่ยว เพื่อเลี่ยงกฎหมาย เพราะการจ่ายเงินมันจะผิดกฎหมายเข้าข่ายลูกโซ่ จึงแจกค่าคอมกลับเป็นการทัวร์ทริปเที่ยว ซึ่งระบุเอาไว้ว่า ถ้าใครไม่อยากเที่ยว..“ก็ขายทริปคืนเป็นเงินได้” ตรงจุดนี้แหละที่บอสพอลติ่งเอาไว้เลี่ยงกฎหมาย เพราะถ้ามีใครขายทริป บริษัทก็จะจ่ายเป็นเงินสดแทนการเที่ยวให้ มันก็จะเท่ากับการชวนคนร่วมลงทุนแล้วได้เงินตอบแทน(โดยอ้อม)เหมือนแชร์ลูกโซ่ยังไงยังงั้นเลย the icon เลี่ยงไปใช้คำว่า Re Dealer หรือการเปิดสาขาสอง คือการจ่าย 250,000 บาท อีกรอบ เพื่อขยับตัวเองขึ้นไปเป็น Gold , Platinum และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตำแหน่งพวกนี้สำคัญแค่ไหน ? หลักการจ่ายของ the icon จะจ่ายให้กับ Direct Referral (การชวนตรงผ่านรหัสตัวเอง) 10% ดังนั้นหากคุณจ่าย 250,000 บาทไปแล้ว และอยากได้เงินคืน คุณต้องทำ Direct Referral ตามรหัสตัวเองให้ได้ 10 ราย ถึงจะได้เงิน 10% กลับคืน ตรงนี้เรียกว่า "Fast start bonus" เป็นศัพท์ของ MLM เขาใช้เรียกกัน โดยปกติ MLM จะมีระบบซับซ้อนในการคำนวณยอดให้ เช่น Stair Step, Uni-Level , Binary , Trinary ฯลฯ แต่ที่ The Icon นั้นไม่ซับซ้อน เป็นแค่ Stair Step หรือขั้นบันไดใช้การจ่ายที่ระดับขั้น แยกออกเป็น "ส่วนลด" เพื่อเอาส่วนลดนั้นไปจ่ายตามระดับ 10 อันดับด้านบนทั้งหมด และพอลยังแก้ให้มีระบบ Binary โยน Dealer ซ้าย-ขวา คะแนนข้างอ่อนผันเป็นโบนัส ดังนั้นยิ่งใครเปิด "สาขา" เยอะ ก็จะยิ่งได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" เยอะขึ้น ทีนี้หลักการจ่ายมันจะมีหลักง่ายๆคือ..จ่ายจากล่างสุดขึ้นไปบนสุด เวลาพี่ๆตำรวจเขา สืบ-สอบ ก็จะเริ่มจากด้านล่างสุดเช่นกัน แต่ด้านล่างสุดในมุมของตำรวจคือคนที่เป็นเหยื่อ ไล่เส้นเงินของเหยื่อ..ว่าวิ่งไปถึงใครบ้าง ----------- สมมติว่าน้องตอ เขาเป็นระดับ Platinum Dealer แต่ลูกทีมของน้องตอดันไปเปิดสาขาเยอะกว่า ก็จะได้เป็น Crown Dealer ลักษณะแบบนี้จะเรียกว่า อันดับสูงกว่าผู้แนะนำ เวลาทำจ่าย "ส่วนแบ่งสาขา" มันจะข้ามน้องตอขึ้นไปข้างบนตามตำแหน่ง แม้ว่าคนนั้นจะเป็น Downline ของน้องตอก็ตาม และคนที่เปิดสูงกว่าน้องตอก็จะได้รับเงิน "ส่วนแบ่งสาขา" ไปแทน นี่เป็นหลักการที่จูงใจให้คนที่หลงเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้วอยาก "ขยายสาขา" เพื่อที่ตัวเองจะได้ไประดับบนสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ "BOSS" (ไม่ใช่ Big Boss นะ) วิธีของ the icon คือตั้งกลุ่มแม่ทีม และลูกทีมจะต้องมาซื้อข้อมูลผู้สนใจธุรกิจ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,000 - 5,000 บาท และถ้าเป็นเบอร์ที่หวังผลได้ชัวร์ ขาย 10,000 บาท คำถามคือ..เงินตรงนี้เข้าบริษัทหรือเข้ากระเป๋าแม่ทีม.? ถ้าคำนวณจากยอดของน้องตอที่ทำยอด 1,000,000 บาทได้ และได้แหวนเพชรจากบิ๊กบอสเป็นรางวัล ก็อนุมานได้ว่าน้องตอต้องได้ค่าคอม 25,000 บาท (จาก 250,000) 1,000,000 / 25,000 = 40 คน จุกๆ ระยะเวลาแค่ 6 เดือนน้องตอของเราได้ขึ้นไปรับเงิน 1 ล้านบาท พร้อมสวมแหวนเพชรบนเวที แล้วน้องตอก็พูดว่า.."ผู้ชายคนแรกที่สวมแหวนให้หนูคือบอสพอล" งู้ยยยยย ถุย ------------- the icon ได้ทำการแก้ไขระบบตัวแทนจากตลาดตรง มาเพิ่ม "Binary" ทำให้มีการโยน Dealer ไปซ้าย-ขวา ทีนี้มันก็เลยต้องแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นเพราะหลักการของระบบ Binary มันเข้าข่าย MLM และหลักการจ่ายค่าโบนัสมันจะจ่ายวิ่งขึ้นบน แปลว่าถ้าน้องตอตำแหน่งต่ำกว่า Downline ตัวเอง คะแนน Bonus จะวิ่งไปหาตำแหน่งที่สูงกว่าตัวเองทันที ข้อนี้มันคือการหักล้างทุกๆบริษัทที่เคยพูดว่า "Passive Income" มีจริง บอกเลยมันไม่มีอยู่จริงหรอก เพราะระบบ MLM มันมีกฎที่สามารถขโมย Bonus ได้ถ้าตำแหน่งสูงกว่า ระบบจะจ่ายโบนัสไปที่ "ตำแหน่งสูงสุด" ที่อยู่ในสายนั้น นี่คือสาเหตุให้ตำแหน่ง "BOSS" ด้านบน เปิดสาขาถึงระดับสูงสุด เพื่อรองรับโบนัสการคำนวณ ซ้าย-ขวา เพราะถ้าซ้าย-ขวา ไม่ balance ระบบจะคำนวณยอดที่จะได้แค่ส่วนต่างข้างน้อย และส่วนที่เหลือข้างมากจะไหลขึ้นบนตามหลัก MLM จุดนี้แหละจึงเป็นความจริงที่ทุกคนพยายาม "ขยายสาขา" เพื่อให้ตัวเองได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" นั่นเอง และทุกคนที่เป็นแม่ทีมจะสู้เพื่อสิ่งนี้แหละ คือตำแหน่งสูงสุด เพราะจะได้รับค่าคอมจากด้านล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นคือเหตุผลที่ระดับ "BOSS" ได้รับค่าคอมหลักล้าน แม้จะนอนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรก็ตาม แต่คนที่ยังทำงานอยู่ในการ Direct Referral จะได้ 10% เรียกว่าได้เงินเร็ว แล้วก็เอาเงินต่อเงินไปเปิดสาขาเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นตามนี้ Boss Emperor Royal Crown Crown Dealer Wisdom Dealer Presidential Dealer Grand Dealer 7 ตำแหน่งนี้👆ต้องไต่เต้าด้วยการ..ขยายสาขา นั่นคือมูลเหตุให้ระบบของบริษัท the icon แผนธุรกิจมุ่งเน้นชวนคนใหม่อย่างเดียว เพราะผลตอบแทน 10% จาก Dealer ได้ตรง และได้โบนัสคำนวณตามตำแหน่ง ทีนี้มาดูกลโกงของแม่ทีมสายดำกัน มันมีคนเข้ามาเป็น Dealer 367,943 คน และทุกคนเปิดบิล 250,000 บาทเหมือนกันหมด แต่ไม่ใช่ว่าคนทั้ง 367,943 คนจะยิงแอดเป็น หรือทำการตลาดเป็น จึงตกเป็นเหยื่อแม่ทีมในกลุ่มของตัวเอง โดยทุกคนจะโดนแม่ทีมเรียกรับ "ค่าโฆษณา" คนละ 10,000 / เดือน สมมติว่า..กลุ่มน้องตอมี 2,000 คน น้องตอก็จะเรียกเก็บค่าโฆษณาได้ 20,000,000 บาทต่อเดือนทันที คำถามคือ..แล้วลูกข่ายทั้งหมดที่มาเปิดบิลผ่านน้องตออ่ะ พวกเขาเหล่านั้นได้ยิงแอดเองไหม.? น้องตอ..บอกจะสอนให้เขาขายออนไลน์ได้เอง ก็แปลว่าลูกทีมเขาต้องมีความสามารถ "ตั้งโฆษณาได้เอง" ถูกไหม.? แต่น้องตอ กลับบอกให้ทุกคนเข้ากลุ่มแม่ทีมแล้วน้องตอก็เรียกเก็บเงินค่ารายชื่อ หัวละ 1000 - 5000 อันนี้มันยิงแอดตรงไหนอ่ะ.? น้องตอมีหลักฐานไหมว่ารายชื่อที่เอามาขายลูกข่ายน่ะมันดึงมาจาก Ads ทุกรายชื่อ.? คือ..แม่ทีมมีหน้าที่ไปยิงโฆษณาหาตัวแทนมาโปรยให้ลูกทีมนั่นแปลว่า "แม่ทีมก็ต้องโทรหาลูกค้าก่อนแล้ว" ลองคิดถึงหลักความเป็นจริง หากโทรไปแล้วเขาสนใจ พวกคุณคิดว่าแม่ทีมจะใจดีโยนมาให้ลูกทีมไหม.? แม่ทีมที่มีลูกทีม 2,000 คน ก็จะเรียกเก็บเงินจากลูกทีมได้ 20 ล้านบาท แล้วมีแม่ทีมคนไหนเอารายงานการยิงแอดมาโชว์ให้ลูกข่ายดูบ้างไหมครับ.? ถ้าไม่โชว์หลักฐาน ถ้างั้นก็เอาเงิน 20 ล้านบาทเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วบอกว่ายิงแอดให้แล้ว..ก็ทำได้สิ่.? พอมีคนคิดลบ เตะออก พอใครไม่อยากยิงแอด เตะออก ทำแบบนี้นี่น้องตอสอนคนยิงแอดหรือว่าบีบบังคับให้เค้าจ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดตัว.? เกมนี้ที่แม่ทีมอย่างพวกคุณออกแบบมันโหดร้ายมากๆนะ เพราะว่าจะมีแต่แม่ทีมอย่างพวกคุณรวยกันอยู่กระจุกเดียว แต่ลูกข่ายนี่เป็นตู้ ATM ให้แม่ทีมกดเงินอย่างเดียว แล้วบิ๊กบอสพอลเขารู้เรื่องไหมว่า มีแม่ทีมสายดำใช้แผนประทุษกรรมเหยื่อแบบนี้.? -------- การทำธุรกิจแบบนี้มันไม่มีหรอก win/win น่ะ เงินหมื่นที่จ่ายให้แม่ทีม แม่ทีมหักหัวคิว 80-90% เอาไปลงในโฆษณา "ของตัวแม่ทีมเอง" และเหลือ 20-10% มาลงให้กับ "ลูกข่าย" จากนั้นก็ส่งหน้าม้าปลอมเข้าไปปลอบประโลมให้ลูกข่ายเห็นว่าโฆษณาทำงาน แต่อย่างที่เขาร้องกันทั้งหมดแหละ "ไม่มีใครขายได้สักคน" ก็เพราะมันเป็น Seeding Comment จากระบบ Auto Comment ไงฮะ น้องตอ..หัดยอมรับบ้างเหอะ ว่าเราก็หลอกเขามาเปิดบิล หลอกเอาเงินเขามายิงแอด ไหนหนูถึงทำธุรกิจโดยไม่ใช้เงินตัวเองเลยสักบาท.? ขออนุญาตอุทานนะครับ..พวกมึงนี่เควี้ยจริงๆเลย อีฝัด รบกวนพี่ตำรวจด้วยนะ เวลาสอบปากคำคนระดับแม่ทีม ช่วยถามหาหลักฐานที่พวกมันเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆไปจากลูกข่ายด้วยนะครับ ท่านเรียก export excel .csv ของยอดยิงแอดมา compare เลย ว่าตรงกับยอดที่รับมาจาก "เหยื่อ" ที่เป็นลูกทีมหรือเปล่า แม่ทีมทุกคนได้ "Direct Referral" 10% ลองคิดดูว่าถ้าวันนึงปิดได้ 10 คน เงิน Fast Start Bonus แม่ทีมได้วันละ 250,000 บาท ยังไม่รวมคำนวณโบนัส ส่วนไหนที่ไม่สามารถปิดได้ในการโทรครั้งแรก แม่ทีมก็เอามาขายต่อ 5,000 บาท 2 รายชื่อ 1,000 - 5,000 บาท เงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าแม่ทีม มันคือวงจรอุบาทว์ที่บอสพอลจะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ด้วยนะเพราะบอสพอลเป็นคนแก้ระบบให้มีระบบ Binary เพิ่มตำแหน่งออกมาถึง 13 ขั้นตรงนี้แหละที่บอสพอลจะผิดเต็มๆ ก็คุณจดทำการตลาดขายตรง แต่คุณกลับทำ MLM โดยไม่มีใบอนุญาตซะงั้น เกมนี้..บอสสวย ผู้อยู่เหนือหวงโซ่ของแม่ทีม คนที่เป็นทุกอย่างให้บอสพอล ถ้าตำรวจไม่เฝ้าไว้ อาจจะหลบหนีไป..ตามใบสั่ง บทความนี้เขียนขึ้นจากการสอบข้อเท็จจริงจากปากผู้เสียหาย หลายๆคน ข้อมูลไม่นิ่งตัดออก แล้วคัดเอาที่หลายคนพูดตรงกันมาวิเคราะห์แล้วหาข้อมูล แล้วเรียบเรียงเขียนเป็นบทความมาเผยแพร่ ถ้าใครมีข้อมูลที่แท้ แล้วมันไม่ตรงกับบทความนี้ก็คอมเมนต์แจ้งมาได้นะ ถ้ามันเชื่อถือได้ เราจะแก้ไขให้ทันที สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA เปิดรับสมัครสายลับ GenZ ฟาดจีน-รัสเซีย ระวังดาบสองคมนี้คืนสนองอเมริกา
    .
    การออกมารับสมัครสายลับอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดหน้าผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งตอกย้ำว่าบทบาทของปฏิบัติการข่าวกรองสหรัฐฯ จะยังคงเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งในกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของอเมริกาอย่างไม่จบไม่สิ้น เพราะปฏิบัติการของ CIA นั้นคือต้นตอของความชั่วร้ายของสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่น่ากลัวคือ พวกนี้กำลังดำเนินปฏิบัติการชักจูง ดึงเอาเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ Gen Y, Gen Z ในประเทศต่างๆ เข้าไปเป็นพวก เข้ามาแทรกซึมให้เป็นสปาย ดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อประโยชน์ของอเมริกา
    .
    ความพยายามสรรหาสายลับในจีน และรัสเซีย ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจภายใต้ระบอบอำนาจนิยมเพื่อรวบรวมข่าวกรองโดยใช้จีน โดยในจีน สหรัฐฯ ต้องการอาศัยการใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชนชั้นสูงเกี่ยวกับนโยบายที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สิ่งนี้คล้ายคลึงกับที่ CIA ทำกับรัสเซียภายหลังการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียในปี 2545 โดย CIA ได้เดินแผนลับปฏิบัติการขอข้อมูลชาวรัสเซียที่ผิดหวังกับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
    .
    จะเห็นได้ชัดว่า CIA คือองค์กรที่ชั่วร้าย หาข้อมูลข่าวสารเพื่อทำลายประเทศที่ไม่ยอมทำตามนโยบายของอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือแขนขาข้างหนึ่งของจักรวรรดินิยมอเมริกาที่ต้องการจะครอบครองทั่วโลก ตอนนี้ลงมาถึงระดับ Gen Y และ Gen Z แล้ว
    .
    ผมเชื่อว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 หรือ 20% ของคนที่ติดต่อไปเพื่อขอเป็นสายลับนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นคนของรัฐบาลนั่นเอง ก็คือว่าไปเป็นสายลับ มึงอยากให้กูไปเป็นสายลับ กูไปเป็นให้ แต่กูก็จะเอาข้อมูลที่กูได้จากมึง ส่งมา ตรงนี้เป็นการตรวจสอบที่ยากเย็นมาก แล้วตรงนี้เป็นดาบสองคมของ CIA ในขณะที่ CIA ต้องการใช้คนพวกนี้สมัครเข้ามา ไม่เลือกแล้ว ที่ไหนก็ได้ จีน รัสเซีย ส่งเข้ามาเลย ถ้าผ่าน ซึ่งการผ่านการตรวจสอบความมั่นคงนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยาก สามารถตกแต่งได้ จะกลายเป็นว่าหอกอันนี้ ที่ CIA ต้องการเอามาใช้ทิ่มแทงประเทศต่างๆ มันจะย้อนกลับไปทิ่มแทงประเทศสหรัฐอเมริกาเอง
    CIA เปิดรับสมัครสายลับ GenZ ฟาดจีน-รัสเซีย ระวังดาบสองคมนี้คืนสนองอเมริกา . การออกมารับสมัครสายลับอย่างโจ๋งครึ่ม เปิดหน้าผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งตอกย้ำว่าบทบาทของปฏิบัติการข่าวกรองสหรัฐฯ จะยังคงเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งในกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของอเมริกาอย่างไม่จบไม่สิ้น เพราะปฏิบัติการของ CIA นั้นคือต้นตอของความชั่วร้ายของสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่น่ากลัวคือ พวกนี้กำลังดำเนินปฏิบัติการชักจูง ดึงเอาเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ Gen Y, Gen Z ในประเทศต่างๆ เข้าไปเป็นพวก เข้ามาแทรกซึมให้เป็นสปาย ดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อประโยชน์ของอเมริกา . ความพยายามสรรหาสายลับในจีน และรัสเซีย ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจภายใต้ระบอบอำนาจนิยมเพื่อรวบรวมข่าวกรองโดยใช้จีน โดยในจีน สหรัฐฯ ต้องการอาศัยการใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชนชั้นสูงเกี่ยวกับนโยบายที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สิ่งนี้คล้ายคลึงกับที่ CIA ทำกับรัสเซียภายหลังการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียในปี 2545 โดย CIA ได้เดินแผนลับปฏิบัติการขอข้อมูลชาวรัสเซียที่ผิดหวังกับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน . จะเห็นได้ชัดว่า CIA คือองค์กรที่ชั่วร้าย หาข้อมูลข่าวสารเพื่อทำลายประเทศที่ไม่ยอมทำตามนโยบายของอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือแขนขาข้างหนึ่งของจักรวรรดินิยมอเมริกาที่ต้องการจะครอบครองทั่วโลก ตอนนี้ลงมาถึงระดับ Gen Y และ Gen Z แล้ว . ผมเชื่อว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 หรือ 20% ของคนที่ติดต่อไปเพื่อขอเป็นสายลับนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นคนของรัฐบาลนั่นเอง ก็คือว่าไปเป็นสายลับ มึงอยากให้กูไปเป็นสายลับ กูไปเป็นให้ แต่กูก็จะเอาข้อมูลที่กูได้จากมึง ส่งมา ตรงนี้เป็นการตรวจสอบที่ยากเย็นมาก แล้วตรงนี้เป็นดาบสองคมของ CIA ในขณะที่ CIA ต้องการใช้คนพวกนี้สมัครเข้ามา ไม่เลือกแล้ว ที่ไหนก็ได้ จีน รัสเซีย ส่งเข้ามาเลย ถ้าผ่าน ซึ่งการผ่านการตรวจสอบความมั่นคงนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยาก สามารถตกแต่งได้ จะกลายเป็นว่าหอกอันนี้ ที่ CIA ต้องการเอามาใช้ทิ่มแทงประเทศต่างๆ มันจะย้อนกลับไปทิ่มแทงประเทศสหรัฐอเมริกาเอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิ่งใกล้วันยิ่งต้องหาข้อมูล | ช้างเรื่องเยอะ!film

    #ช้างเรื่องเยอะ #หาข้อมูล #ขอให้รวยขอให้รวย #ช้างเรื่องเยอะfilm #shortshortfilm
    ยิ่งใกล้วันยิ่งต้องหาข้อมูล | ช้างเรื่องเยอะ!film #ช้างเรื่องเยอะ #หาข้อมูล #ขอให้รวยขอให้รวย #ช้างเรื่องเยอะfilm #shortshortfilm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • หากย้อนเวลากลับไปในปี 2556 และปี 2561 สนามบินสุวรรณภูมิเคยเกิดเหตุการณ์เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งใน2ปีดังกล่าว ทั้งสองเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับสายการบินเดียวกันและหมายเลขเที่ยวบินเดียวกันเพียงแต่คนละทางวิ่งเท่านั้น สำหรับเหตุการณ์แรก(ข้อมูลจากรายงานสอบสวนฉบับสุดท้าย (Final Investigation Report) ของคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (กสอ.) - https://ops.mot.go.th/aaic.html?id=9) ระบุว่าสาเหตุเกิดจากคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาแตกหัก (ซึ่งเป็นปัจจัยด้าน Aircraft Manufacturer) ทำให้เครื่องบินวิ่งเบนออกจากเส้นกึ่งกลางของทางวิ่งในขณะที่เครื่องลงแตะพื้นมาซักระยะแล้ว โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสหรือไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงกว่านี้ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์รุนแรง (Serious Incident) ครั้งนี้ทั้ง Aircraft Manufacturer, Regulator,และ Aircraft Operator ฯลฯ ก็ต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านความปลอดภัย (Safety Recommendation) ที่ระบุอยู่ในรายงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันอีก

    ส่วนเหตุการณ์ที่สองจากการหาข้อมูลยังไม่สามารถพบเจอรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้ายที่จะรายงานรายละเอียดของเหตุการณ์และสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุเกิดจากอะไรมี Safety Recommendation อะไรบ้างในการแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขึ้นมาอีก (ปัจจุบันพบเห็นรายงานฉบับกลาง หรือ Interim Report เพียงเท่านั้น)

    ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ภาคผนวกที่13 (Annex13-12nd Edition July 2020และ Manual of Aircraft Accident and Incident Investigation: Doc 9756 Part IV-Reporting,3rd Edition 2020) หากมีอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงกับอากาศยาน ประเทศที่เป็นสมาชิกต้องดำเนินการสอบสวนหาเหตุและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกและตีพิมพ์รายงานฉบับสุดท้ายภายในระยะเวลาอันรวดเร็วหรือหากเป็นไปได้ภายใน12เดือนนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น

    ทั้งนี้หากมีการเผยแพร่ข้อมูลของรายงานฉบับสุดท้ายแล้วจะมานำเสนอให้ทราบต่อไป
    หากย้อนเวลากลับไปในปี 2556 และปี 2561 สนามบินสุวรรณภูมิเคยเกิดเหตุการณ์เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งใน2ปีดังกล่าว ทั้งสองเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับสายการบินเดียวกันและหมายเลขเที่ยวบินเดียวกันเพียงแต่คนละทางวิ่งเท่านั้น สำหรับเหตุการณ์แรก(ข้อมูลจากรายงานสอบสวนฉบับสุดท้าย (Final Investigation Report) ของคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (กสอ.) - https://ops.mot.go.th/aaic.html?id=9) ระบุว่าสาเหตุเกิดจากคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาแตกหัก (ซึ่งเป็นปัจจัยด้าน Aircraft Manufacturer) ทำให้เครื่องบินวิ่งเบนออกจากเส้นกึ่งกลางของทางวิ่งในขณะที่เครื่องลงแตะพื้นมาซักระยะแล้ว โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสหรือไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงกว่านี้ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์รุนแรง (Serious Incident) ครั้งนี้ทั้ง Aircraft Manufacturer, Regulator,และ Aircraft Operator ฯลฯ ก็ต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านความปลอดภัย (Safety Recommendation) ที่ระบุอยู่ในรายงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันอีก ส่วนเหตุการณ์ที่สองจากการหาข้อมูลยังไม่สามารถพบเจอรายงานผลการสอบสวนฉบับสุดท้ายที่จะรายงานรายละเอียดของเหตุการณ์และสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุเกิดจากอะไรมี Safety Recommendation อะไรบ้างในการแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขึ้นมาอีก (ปัจจุบันพบเห็นรายงานฉบับกลาง หรือ Interim Report เพียงเท่านั้น) ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ภาคผนวกที่13 (Annex13-12nd Edition July 2020และ Manual of Aircraft Accident and Incident Investigation: Doc 9756 Part IV-Reporting,3rd Edition 2020) หากมีอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงกับอากาศยาน ประเทศที่เป็นสมาชิกต้องดำเนินการสอบสวนหาเหตุและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกและตีพิมพ์รายงานฉบับสุดท้ายภายในระยะเวลาอันรวดเร็วหรือหากเป็นไปได้ภายใน12เดือนนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น ทั้งนี้หากมีการเผยแพร่ข้อมูลของรายงานฉบับสุดท้ายแล้วจะมานำเสนอให้ทราบต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
    ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด
    ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ
    มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย
    - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ
    วีรกรรมที่สอง
    - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต
    - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง
    - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน
    - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง
    - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด
    - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม
    - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี
    - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว
    - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที
    - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ
    โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย
    คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ วีรกรรมที่สอง - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พวกนี้สร้างบัญชีกรรมให้กับชาติ มาสนับสนุนการมอบหน้าที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไอ้ที่ไม่ชอบใจ คนอื่นเค้าก็ไม่เอาก็ขึ้นเห็บขึ้นเหา ที่มีจริยธรรมไว้คุ้มครอง double majority มันก็ไม่ออกมาปกป้อง อย่างนี้ แกจะเอาตามใจบิดา นางอุษา หรือ บิดาตี๋ตาลอย หัวหนาม ลูกเจ้าแม่หัวหนามแห่งเกาะแมนฮัสเช้ย

    เวลานี้หลาย ๆ ที่บนโลก กำลังรบกัน แทนที่ จะพึงสังวรภัย และแหล่งอาหารให้กับมวลมนุษยชาติ แต่
    พวกคุณๆ ทั้งหลายรู้อยู่แก่ใจว่ามาทำเพราะอะไร บัญชีกรรม ได้สร้างสำเร็จแล้ว ขออกุศลกรรม ได้มีทางเร่งลัดจัดลำดับความเหมาะสม อย่างที่ใครคิด แก้ไปหาบิดา

    ขอบคุณภาพจาก ilaw ที่มาบอกให้ทราบ ว่ามีการชุมนุมสร้างอกุศลกรรมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา

    ใครสนใจหาข้อมูลต่อเอง ที่แนวหน้าออนไลน์ เป๊ปซี่ดีไหมล่ะ วันที่ 4 ตุลา 2567
    #พวกนี้สร้างบัญชีกรรมให้กับชาติ มาสนับสนุนการมอบหน้าที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไอ้ที่ไม่ชอบใจ คนอื่นเค้าก็ไม่เอาก็ขึ้นเห็บขึ้นเหา ที่มีจริยธรรมไว้คุ้มครอง double majority มันก็ไม่ออกมาปกป้อง อย่างนี้ แกจะเอาตามใจบิดา นางอุษา หรือ บิดาตี๋ตาลอย หัวหนาม ลูกเจ้าแม่หัวหนามแห่งเกาะแมนฮัสเช้ย เวลานี้หลาย ๆ ที่บนโลก กำลังรบกัน แทนที่ จะพึงสังวรภัย และแหล่งอาหารให้กับมวลมนุษยชาติ แต่ พวกคุณๆ ทั้งหลายรู้อยู่แก่ใจว่ามาทำเพราะอะไร บัญชีกรรม ได้สร้างสำเร็จแล้ว ขออกุศลกรรม ได้มีทางเร่งลัดจัดลำดับความเหมาะสม อย่างที่ใครคิด แก้ไปหาบิดา ขอบคุณภาพจาก ilaw ที่มาบอกให้ทราบ ว่ามีการชุมนุมสร้างอกุศลกรรมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา ใครสนใจหาข้อมูลต่อเอง ที่แนวหน้าออนไลน์ เป๊ปซี่ดีไหมล่ะ วันที่ 4 ตุลา 2567
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง
    #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค
    สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร
    - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร
    - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
    - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
    - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ
    - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ
    - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย
    - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน
    - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ
    - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้
    สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง
    "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี
    แจ้งเพื่อทราบ
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้ สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี แจ้งเพื่อทราบ #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1567 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!!

    ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!!

    ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก
    คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน
    และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย……
    เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ
    พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า

    กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน
    เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล
    ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี……

    กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา
    แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี
    เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ)
    แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร

    สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว

    ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์
    ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย

    ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน
    นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้
    ปูตินตอบว่า……
    “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..??
    แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน)
    จากนั้นกลุ่ม ***** Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ

    ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO
    ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย…
    ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!!

    การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร
    เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…??
    เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!!

    ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……)
    ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……)
    และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้)

    มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง
    เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill
    จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว…
    ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่
    แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น

    ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin
    เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม…

    เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี……
    ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง
    ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว
    ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์

    ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม

    และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน
    จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda”
    ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า
    “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?”
    ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า
    “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..”
    ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า…
    “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
    นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง

    ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010)
    ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน
    ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง)
    เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ)
    คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก
    บานมาเป็น 260 ล้าน…
    ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ)
    แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…???
    คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!!
    ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……”
    แล้วเขาก็เดินออกไป….

    วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี
    ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน……
    ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff
    (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน)

    ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ
    หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี
    ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด
    เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ
    เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา
    ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย
    แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป………
    รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร
    เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว..


    Wiwanda W. Vichit
    ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!! ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!! ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย…… เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี…… กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ) แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์ ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้ ปูตินตอบว่า…… “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..?? แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน) จากนั้นกลุ่ม Pussy Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย… ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!! การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…?? เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!! ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……) ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……) และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้) มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว… ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่ แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม… เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี…… ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda” ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?” ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..” ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า… “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010) ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง) เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ) คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก บานมาเป็น 260 ล้าน… ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ) แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…??? คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!! ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……” แล้วเขาก็เดินออกไป…. วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน…… ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน) ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป……… รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว.. Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะไม่โพสถึงเพจกากนี้อีกแล้ว
    ตอบคำถามให้ลุงนุหายสงสัยก่อนว่า
    ทำไมยังไม่เปิดข้อมูล ก็ไม่มีอะไรมาก ข้อมูลมันเยอะ และมีแฟนเพจเค้าตามีปัญหาหลายท่าน ที่อยากทราบข้อความข้อมูลที่พี่คิงส์พิมพ์แต่อ่านไม่ไหว ก็เลยทำเป็นคลิปมีเสียงแทน ซึ่งถ้าลุงนะแหหกตาดูนิดนึงก็เห็นแล้วแหละ แต่คงไม่เข้าใจหรอกว่าพี่คิงส์ทำอะไรเพื่ออะไร ก็มีอาจารย์มีวุฒิแค่ม.ต้น ยังเพิ่งซื้อแอดเป็นแล้วดีใจนั่นแหละ จะไปรู้อะไรที่มันลึกซึ้ง
    ข้อมูล มันจะมีสามแบบ
    1. ข้อมูลที่เปิดเผยได้เลย
    2. ข้อมูลที่ต้องรอเวลา
    3. ข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ต้องส่งเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่
    คือ ถ้าเพจคิงส์โพสแบบที่ลุงนุโพส คือไม่ต้องหาข้อมูล โพสไปเรื่อย โพสแบบไม่มีแก่นสาร มันทำได้วันเป็นพันโพสนะไอ่นุ แต่นี่คือข้อมูล ที่พี่คิงส์ก็จะมีการซ้อนอ้างอิงไว้ในภาพ หรือในคอมเม้น ซึ่งลุงก็ไม่มีวันเข้าใจตอีกแหละ สรุปจบนะ ที่ถามว่าทำไมไม่โพสไอ่ที่ว่า
    ส่วนที่บอกว่าไม่โพสถึงเพราะกลัวลุงอะไรนั่น อ่านให้ดีๆนับจากบรรทัดนี้ไป
    และจะพิมพ์ถึงเมิงครั้งสุดท้ายแล้วไอ่นุ
    แฟนเพจก็ดูเอา โจมณฑนีลงทุนสอน แล้วอัดงบซื้อแอดให้ด้วยรึเปล่าไม่รู้
    แล้วดู ลุงโพสดิ แล้วจะให้พี่คิงส์ไปโพสถึงอะไรอีก มันเริ่มหยะแหย๋งไปเรื่อยๆ ดาวน์ลงไปแบบ สะอิดสเอียนจริงๆ
    แต่พอดี โพสพาดพิงถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง
    ลักษณะว่า เพจลุงนุ เป็นเพจมีคุณภาพ
    คือ ขอถอนหงอกอีกซักรอบนะครับ
    คือ ตอนแรก พี่คิงส์คิดว่า แกเป็นคนเฒ่าที่แค่หลงตต.เกอร์เกาหลี
    เหมือนกับเฒ่าตันหากลับแบบพื้นๆ ที่เปย์กระเป๋าแบรนด์เนม
    ลาออกจากงานมาเพื่อโพสแต่เรื่องตต.เกอร์เกาหลีธรรมดา
    แต่พออ่านโพสพวกนี้แล้ว มันเกิดอธิบายจริงๆ
    มันมีคำถามขุึ้นมาในใจเลยว่า อายุขนาดนี้ ต้องมีลูก มีภรรยา
    รวมถึงต้องมีรุ่นหลานแล้วด้วย ซึ่งแกแสดงตนว่าตัวแกโสด
    แต่ก็มีคนบอกว่า แกมีลูกโตแล้ว ทำงานแล้วอะไรแบบนี้
    นั่นแปลว่า มีสองทาง เมียแกต้องไม่อยู่เพราะตรุย แต่พี่คิงส์คิดว่า
    สภาพนี้ เมียน่าจะทิ้งละครับ ดูสำนวนภาษาที่พิมพ์
    มันบ่งบอกถึงความ ถ๋อย สถูน ทราาม ยังไงไม่รู้
    แล้วเพ้อพรรณณา เดาว่า น่าจะเป็นแฟนเพจรุ่นลูกรุ่นหลานนี่แหละ
    แล้วไอ่เฒ่านี่ก็ไปจีบ แล้วล่อว่าจะดูแล พอน้องมันได้สติ
    ก็เผ่นดิครับ
    ถ้า ณุ เหงือกแดงผู้ไร้ฟัน เฒ่าชราตันหากลับ อยากรู้ว่า
    ทำไมพี่คิงส์ไม่โพสหา และไม่คิดจะโพสอะไรอีกแล้วถึงเมิง
    ขอให้รู้ไว้ว่า กรรูสะอิดสะเอืยน ไม่ไหว แค่คิดถึงภาพโปรไฟล์เพจแดงๆ
    แล้วมีตัวอักษร Diy reviwev2 มันก็รู้สึกพะอืดพะอม
    และยังคิดว่า ทำไม คนที่หลงรักกามิจ มันเป็นแบบนี้ทุกตัวเลย
    ไอ่เป็ดก็ไม่ต่างกัน ตอนแรกก็คิดว่า ลุงจะดีกว่ามันซักนิดนึง
    สุดท้าย กินกันไม่ลงเลย พอกันทั้งคู่
    นี่ใช่มั๊ย ทีมงานคนดีย์ของโจมณฑนี
    นี่นะเหรอ ผู้ปกป้องดอกเดซี่ แต่ละคน
    ไม่น่าจะมีตัวตนในสังคมจริงได้เลย
    พฤติกรรมของลุงนุนี่นะ โครตน่าอัวสำหรับหญิงสาว
    ที่อยู่ใกล้ชิดมากๆ แก่แบบ ยิ่งกว่ากะโหลกกะลา
    แต่เกินเยียวยา รอแค่ให้รีบ "ตาห่าย" ไปเร็วๆ
    คนแถวบ้าน ลูกชาวบ้าน เมียชาวบ้านระแวกบ้านลุง
    จะได้เดินในที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย
    หรือถ้าใครอยู่แถวนั้น ก็ฝากเตือนๆกันด้วยนะครับ
    เป็นชายผอม หน้าตอบ ชราแล้วแต่ย้อมผมครับ
    คิดว่าสาววัยรุ่นจะดูไม่ออกว่าตัวเองเฒ่าแล้ว
    แกจะไม่ยอมยิ้มเห็นฟันเด็ดขาด เพราะอ้าปากจะเจอแต่เหงือกดำๆ
    กินแอปเปิดแบบไม่เฉาะไม่ได้นะครับ มันจะปลิ้นไปปลิ้นมา
    แล้วชอบคิดว่าตัวเองหล่อมาก เหมือนอาโนลชวาเสน็กเกอร์
    แต่สาระ รูป อาจต้องอุทานว่า อนาถแท้
    ฝากด้วยนะครับ แปะป้ายติดประกาศไว้ก็จะยิ่งเป็นบุญ
    ให้กับลูกกับเมียคนระแวกนั้นได้ครับ
    เอาหละ ณุ ต่อจากนี้ไป เมิงไม่ต้องมาโพสพาดพิงพี่คิงส์อีก
    และขอแฟนเพจ อย่าส่งอะไรที่มันโพสมาอีก
    ชายคนนี้ น่าหยะแหยงเกินกว่าที่จะนำมาเอ่ยถึง
    หรือแม้กระทั่งนึกถึง ทีมงานโจมณฑนี เครือข่ายห้องดีซี
    เค้าคัดมาแล้วจริงๆ คัดแบบที่สังคมจริงไม่เอา
    สังคมจริงเททิ้ง ถ้าเปรียบบัวสี่เหล่า นี่คือยิ่งกว่าชั้นใต้ตม
    แต่เป็นชั้นที่จมต่ำระดับเต่าเผลอไปเคี้ยวยังต้องถุยทิ้งเลย
    ขอความร่วมมือจากแฟนเพจทุกท่านด้วยนะครับ
    ให้มัน ถ๋อย ทราาม และตาาายตามธรรมชาติไปครับ
    อย่าไปให้ความสำคัญ เดี๋ยวมันก็เจอทรรีนคนแถวนั้นเอง
    ไม่น่าอยู่มาได้ถึงวันนี้จริงๆ
    ขอทิ้งท้ายให้สตินะ อายุลุงตอนนี้นะ อีกไม่เกินแบบเต็มที่เลย
    10 ปี ก็เดินไม่ไหวแล้ว เมิงคิดจะใช้ชีวิตแบบนี้จนตาาายจริงๆเหรอ
    ก็แล้วแต่นะ เอาที่สบายใจ กรรรูสบายใจแบบนี้แหละ
    ที่ไม่ยุ่งกับขยะเก่าๆเปียกๆแบบเมิงอีก
    โจเลือกแม่ทัพเพื่อมาตอบโต้กับคิงส์ได้สมกับ
    ที่จบการศึกษาแค่ม.ต้นจริงๆ ขอชื่นชม
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #วันนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะไม่โพสถึงเพจกากนี้อีกแล้ว ตอบคำถามให้ลุงนุหายสงสัยก่อนว่า ทำไมยังไม่เปิดข้อมูล ก็ไม่มีอะไรมาก ข้อมูลมันเยอะ และมีแฟนเพจเค้าตามีปัญหาหลายท่าน ที่อยากทราบข้อความข้อมูลที่พี่คิงส์พิมพ์แต่อ่านไม่ไหว ก็เลยทำเป็นคลิปมีเสียงแทน ซึ่งถ้าลุงนะแหหกตาดูนิดนึงก็เห็นแล้วแหละ แต่คงไม่เข้าใจหรอกว่าพี่คิงส์ทำอะไรเพื่ออะไร ก็มีอาจารย์มีวุฒิแค่ม.ต้น ยังเพิ่งซื้อแอดเป็นแล้วดีใจนั่นแหละ จะไปรู้อะไรที่มันลึกซึ้ง ข้อมูล มันจะมีสามแบบ 1. ข้อมูลที่เปิดเผยได้เลย 2. ข้อมูลที่ต้องรอเวลา 3. ข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ต้องส่งเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ คือ ถ้าเพจคิงส์โพสแบบที่ลุงนุโพส คือไม่ต้องหาข้อมูล โพสไปเรื่อย โพสแบบไม่มีแก่นสาร มันทำได้วันเป็นพันโพสนะไอ่นุ แต่นี่คือข้อมูล ที่พี่คิงส์ก็จะมีการซ้อนอ้างอิงไว้ในภาพ หรือในคอมเม้น ซึ่งลุงก็ไม่มีวันเข้าใจตอีกแหละ สรุปจบนะ ที่ถามว่าทำไมไม่โพสไอ่ที่ว่า ส่วนที่บอกว่าไม่โพสถึงเพราะกลัวลุงอะไรนั่น อ่านให้ดีๆนับจากบรรทัดนี้ไป และจะพิมพ์ถึงเมิงครั้งสุดท้ายแล้วไอ่นุ แฟนเพจก็ดูเอา โจมณฑนีลงทุนสอน แล้วอัดงบซื้อแอดให้ด้วยรึเปล่าไม่รู้ แล้วดู ลุงโพสดิ แล้วจะให้พี่คิงส์ไปโพสถึงอะไรอีก มันเริ่มหยะแหย๋งไปเรื่อยๆ ดาวน์ลงไปแบบ สะอิดสเอียนจริงๆ แต่พอดี โพสพาดพิงถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง ลักษณะว่า เพจลุงนุ เป็นเพจมีคุณภาพ คือ ขอถอนหงอกอีกซักรอบนะครับ คือ ตอนแรก พี่คิงส์คิดว่า แกเป็นคนเฒ่าที่แค่หลงตต.เกอร์เกาหลี เหมือนกับเฒ่าตันหากลับแบบพื้นๆ ที่เปย์กระเป๋าแบรนด์เนม ลาออกจากงานมาเพื่อโพสแต่เรื่องตต.เกอร์เกาหลีธรรมดา แต่พออ่านโพสพวกนี้แล้ว มันเกิดอธิบายจริงๆ มันมีคำถามขุึ้นมาในใจเลยว่า อายุขนาดนี้ ต้องมีลูก มีภรรยา รวมถึงต้องมีรุ่นหลานแล้วด้วย ซึ่งแกแสดงตนว่าตัวแกโสด แต่ก็มีคนบอกว่า แกมีลูกโตแล้ว ทำงานแล้วอะไรแบบนี้ นั่นแปลว่า มีสองทาง เมียแกต้องไม่อยู่เพราะตรุย แต่พี่คิงส์คิดว่า สภาพนี้ เมียน่าจะทิ้งละครับ ดูสำนวนภาษาที่พิมพ์ มันบ่งบอกถึงความ ถ๋อย สถูน ทราาม ยังไงไม่รู้ แล้วเพ้อพรรณณา เดาว่า น่าจะเป็นแฟนเพจรุ่นลูกรุ่นหลานนี่แหละ แล้วไอ่เฒ่านี่ก็ไปจีบ แล้วล่อว่าจะดูแล พอน้องมันได้สติ ก็เผ่นดิครับ ถ้า ณุ เหงือกแดงผู้ไร้ฟัน เฒ่าชราตันหากลับ อยากรู้ว่า ทำไมพี่คิงส์ไม่โพสหา และไม่คิดจะโพสอะไรอีกแล้วถึงเมิง ขอให้รู้ไว้ว่า กรรูสะอิดสะเอืยน ไม่ไหว แค่คิดถึงภาพโปรไฟล์เพจแดงๆ แล้วมีตัวอักษร Diy reviwev2 มันก็รู้สึกพะอืดพะอม และยังคิดว่า ทำไม คนที่หลงรักกามิจ มันเป็นแบบนี้ทุกตัวเลย ไอ่เป็ดก็ไม่ต่างกัน ตอนแรกก็คิดว่า ลุงจะดีกว่ามันซักนิดนึง สุดท้าย กินกันไม่ลงเลย พอกันทั้งคู่ นี่ใช่มั๊ย ทีมงานคนดีย์ของโจมณฑนี นี่นะเหรอ ผู้ปกป้องดอกเดซี่ แต่ละคน ไม่น่าจะมีตัวตนในสังคมจริงได้เลย พฤติกรรมของลุงนุนี่นะ โครตน่าอัวสำหรับหญิงสาว ที่อยู่ใกล้ชิดมากๆ แก่แบบ ยิ่งกว่ากะโหลกกะลา แต่เกินเยียวยา รอแค่ให้รีบ "ตาห่าย" ไปเร็วๆ คนแถวบ้าน ลูกชาวบ้าน เมียชาวบ้านระแวกบ้านลุง จะได้เดินในที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย หรือถ้าใครอยู่แถวนั้น ก็ฝากเตือนๆกันด้วยนะครับ เป็นชายผอม หน้าตอบ ชราแล้วแต่ย้อมผมครับ คิดว่าสาววัยรุ่นจะดูไม่ออกว่าตัวเองเฒ่าแล้ว แกจะไม่ยอมยิ้มเห็นฟันเด็ดขาด เพราะอ้าปากจะเจอแต่เหงือกดำๆ กินแอปเปิดแบบไม่เฉาะไม่ได้นะครับ มันจะปลิ้นไปปลิ้นมา แล้วชอบคิดว่าตัวเองหล่อมาก เหมือนอาโนลชวาเสน็กเกอร์ แต่สาระ รูป อาจต้องอุทานว่า อนาถแท้ ฝากด้วยนะครับ แปะป้ายติดประกาศไว้ก็จะยิ่งเป็นบุญ ให้กับลูกกับเมียคนระแวกนั้นได้ครับ เอาหละ ณุ ต่อจากนี้ไป เมิงไม่ต้องมาโพสพาดพิงพี่คิงส์อีก และขอแฟนเพจ อย่าส่งอะไรที่มันโพสมาอีก ชายคนนี้ น่าหยะแหยงเกินกว่าที่จะนำมาเอ่ยถึง หรือแม้กระทั่งนึกถึง ทีมงานโจมณฑนี เครือข่ายห้องดีซี เค้าคัดมาแล้วจริงๆ คัดแบบที่สังคมจริงไม่เอา สังคมจริงเททิ้ง ถ้าเปรียบบัวสี่เหล่า นี่คือยิ่งกว่าชั้นใต้ตม แต่เป็นชั้นที่จมต่ำระดับเต่าเผลอไปเคี้ยวยังต้องถุยทิ้งเลย ขอความร่วมมือจากแฟนเพจทุกท่านด้วยนะครับ ให้มัน ถ๋อย ทราาม และตาาายตามธรรมชาติไปครับ อย่าไปให้ความสำคัญ เดี๋ยวมันก็เจอทรรีนคนแถวนั้นเอง ไม่น่าอยู่มาได้ถึงวันนี้จริงๆ ขอทิ้งท้ายให้สตินะ อายุลุงตอนนี้นะ อีกไม่เกินแบบเต็มที่เลย 10 ปี ก็เดินไม่ไหวแล้ว เมิงคิดจะใช้ชีวิตแบบนี้จนตาาายจริงๆเหรอ ก็แล้วแต่นะ เอาที่สบายใจ กรรรูสบายใจแบบนี้แหละ ที่ไม่ยุ่งกับขยะเก่าๆเปียกๆแบบเมิงอีก โจเลือกแม่ทัพเพื่อมาตอบโต้กับคิงส์ได้สมกับ ที่จบการศึกษาแค่ม.ต้นจริงๆ ขอชื่นชม #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 922 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง

    ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ

    ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ

    ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010

    ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย

    แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น

    แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง

    แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง

    เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง

    ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน

    ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?”

    การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน

    คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ
    .
    .
    .
    เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย

    ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ

    ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน)

    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ

    ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ

    ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ

    คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ
    .
    .
    .
    ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า

    “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป”

    คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ

    หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก

    สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย

    การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย

    ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?”

    คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“

    และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย

    ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ

    สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้

    ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว

    ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา

    นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010 ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?” การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ . . . เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน) แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ . . . ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป” คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?” คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“ และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้ ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น นัทแนะ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts