• สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค.
    .
    ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
    .
    ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว
    .
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ
    ..............
    Sondhi X
    สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค. . ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม . ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว . ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 927 มุมมอง 0 รีวิว
  • NATO ได้เริ่มปฏิบัติการที่เรียกว่า "Operation Baltic Sentry" เพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำที่ใช้ในการส่งพลังงานและการสื่อสารในทะเลบอลติกจากการก่อวินาศกรรม โดยพวกเขาได้ใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USVs) หรือที่เรียกว่า "เรือโดรน" เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสถานการณ์ในพื้นที่นี้

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์หลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่มีเรือที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลใต้น้ำที่สำคัญ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อเรือที่มีธงชาติจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลสื่อสารสองสายที่เชื่อมต่อฟินแลนด์และสวีเดนกับยุโรปกลาง และเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม เมื่อเรืออีกลำหนึ่งตัดสายเคเบิลพลังงานและสายเคเบิลสื่อสารบางส่วนระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนีย

    นอกจากนี้ ไต้หวันก็เพิ่มการเฝ้าระวังเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำของตนเอง หลังจากที่มีเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นของจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่เชื่อมต่อประเทศกับชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

    การใช้เรือโดรนนี้จะช่วยให้ NATO สามารถตรวจจับและป้องกันการก่อวินาศกรรมได้ดียิ่งขึ้น โดยเรือโดรนเหล่านี้จะมีเซ็นเซอร์หลายชนิด รวมถึงเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้า และข้อมูลที่ได้จะถูกแบ่งปันให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

    https://www.tomshardware.com/networking/nato-deploys-sea-drones-to-safeguard-undersea-cable-infrastructure
    NATO ได้เริ่มปฏิบัติการที่เรียกว่า "Operation Baltic Sentry" เพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำที่ใช้ในการส่งพลังงานและการสื่อสารในทะเลบอลติกจากการก่อวินาศกรรม โดยพวกเขาได้ใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USVs) หรือที่เรียกว่า "เรือโดรน" เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสถานการณ์ในพื้นที่นี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์หลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่มีเรือที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลใต้น้ำที่สำคัญ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อเรือที่มีธงชาติจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลสื่อสารสองสายที่เชื่อมต่อฟินแลนด์และสวีเดนกับยุโรปกลาง และเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม เมื่อเรืออีกลำหนึ่งตัดสายเคเบิลพลังงานและสายเคเบิลสื่อสารบางส่วนระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนีย นอกจากนี้ ไต้หวันก็เพิ่มการเฝ้าระวังเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำของตนเอง หลังจากที่มีเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นของจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่เชื่อมต่อประเทศกับชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา การใช้เรือโดรนนี้จะช่วยให้ NATO สามารถตรวจจับและป้องกันการก่อวินาศกรรมได้ดียิ่งขึ้น โดยเรือโดรนเหล่านี้จะมีเซ็นเซอร์หลายชนิด รวมถึงเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้า และข้อมูลที่ได้จะถูกแบ่งปันให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง https://www.tomshardware.com/networking/nato-deploys-sea-drones-to-safeguard-undersea-cable-infrastructure
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    NATO deploys 'sea drones' to safeguard undersea cable infrastructure
    These drones would hopefully serve as a deterrent to undersea cable sabotage done by private vessels.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • 04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน?

    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์)
    04 เม.ย. 62
    16.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?”

    ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

    ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

    ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

    ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

    … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

    ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

    ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

    ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน? พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย! หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์) 04 เม.ย. 62 16.53 น. ------------------------------------------------------------------------— Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?” ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์ ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม ) ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” ) ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพสวีเดนได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีฝูงโดรนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถควบคุมโดรนได้ถึง 100 เครื่องโดยผู้ควบคุมเพียงคนเดียว ระบบนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับบริษัท Saab ผู้ผลิตเครื่องบินรบ Saab JAS 39 Gripen และใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการสร้าง

    หน่วยทหารราบ I 13 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟาลุน สวีเดน จะเป็นหน่วยแรกที่ได้รับเทคโนโลยีนี้ และคาดว่าจะมีการทดสอบในระหว่างการฝึกซ้อมทางทหาร Arctic Strike ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การพัฒนานี้เป็นผลมาจากการใช้โดรนอย่างแพร่หลายในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ยูเครนป้องกันการรุกราน

    ข้อได้เปรียบใหญ่ของระบบนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้โดรนที่ออกแบบมาเฉพาะทางทหาร สามารถติดตั้งบนโดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดและเปลี่ยนให้เป็นฝูงโดรนที่ทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ โดรนเหล่านี้สามารถใช้ในการสอดแนมและกลับมาชาร์จพลังงานเองเมื่อถึงขีดจำกัดของระยะการทำงาน

    นอกจากนี้ ระบบยังสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของกองทัพได้ และมีการเสนอว่าอาจจะอัปเกรดให้โดรนสามารถบรรทุกระเบิดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องมีนักบินโดรนที่มีทักษะสูง

    แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งาน โดยหวังว่า Saab และกองทัพสวีเดนจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในโปรแกรมของฝูงโดรน AI นี้ก่อนที่จะนำไปใช้ในการโจมตี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/swedish-armys-new-ai-drone-swarm-technology-can-control-up-to-100-devices
    กองทัพสวีเดนได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีฝูงโดรนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถควบคุมโดรนได้ถึง 100 เครื่องโดยผู้ควบคุมเพียงคนเดียว ระบบนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับบริษัท Saab ผู้ผลิตเครื่องบินรบ Saab JAS 39 Gripen และใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการสร้าง หน่วยทหารราบ I 13 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟาลุน สวีเดน จะเป็นหน่วยแรกที่ได้รับเทคโนโลยีนี้ และคาดว่าจะมีการทดสอบในระหว่างการฝึกซ้อมทางทหาร Arctic Strike ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การพัฒนานี้เป็นผลมาจากการใช้โดรนอย่างแพร่หลายในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ยูเครนป้องกันการรุกราน ข้อได้เปรียบใหญ่ของระบบนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้โดรนที่ออกแบบมาเฉพาะทางทหาร สามารถติดตั้งบนโดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดและเปลี่ยนให้เป็นฝูงโดรนที่ทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ โดรนเหล่านี้สามารถใช้ในการสอดแนมและกลับมาชาร์จพลังงานเองเมื่อถึงขีดจำกัดของระยะการทำงาน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของกองทัพได้ และมีการเสนอว่าอาจจะอัปเกรดให้โดรนสามารถบรรทุกระเบิดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องมีนักบินโดรนที่มีทักษะสูง แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งาน โดยหวังว่า Saab และกองทัพสวีเดนจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในโปรแกรมของฝูงโดรน AI นี้ก่อนที่จะนำไปใช้ในการโจมตี https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/swedish-armys-new-ai-drone-swarm-technology-can-control-up-to-100-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ยาลดกรด

    ถ้าคุณใช้ยาลดกรดไม่ว่าจะตามคำสั่งแพทย์หรือฟังจากโฆษณาแล้วเชื่อตามนั้น ลองอ่านให้จบว่าอาการเหล่านี้ได้เกิดกับตัวคุณแล้วหรือยัง

    จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ (1) การใช้สาร proton pump inhibitors ในระยะยาวอย่างเช่น Prilosec, Prevacid และ Nexium (ยาเม็ดสีม่วง) - ยาที่ช่วยลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร - เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี 12

    ผู้เข้าร่วมที่กินยาลดกรดมานานกว่าสองปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ของการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งอาจนำไปโรค :

    -โรคโลหิตจาง
    -ความเสียหายของเส้นประสาท
    -ปัญหาเกี่ยวกับจิต
    -สมองเสื่อม (Dementia)

    ยิ่งกินในปริมาณที่สูงกว่าก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่า ตามที่อธิบายไว้โดยนักวิจัยอาวุโส Dr. Douglas Corley (2) Gastroenterologist ที่ Kaiser Permanente:

    "ยาลดกรดชนิดนี้อาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากเซลล์ที่สร้างกรดในกระเพาะอาหารยังสร้างโปรตีนที่ช่วยให้วิตามินบี 12 ถูกดูดซึมได้"

    การขาดวิตามินบี 12 จะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้อย่างไร

    เมื่อระดับวิตามินบี 12 ของคุณเริ่มลดลง ร่างกายจะส่งสัญญาณบางอย่างเริ่มให้เห็นรวมถึง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อาทิเช่นการขาดแรงจูงใจหรือความรู้สึกไม่แยแสและถ้าระดับต่ำมาก ๆ ยังสามารถนำไปสู่ความหดหู่ ปัญหาเกี่ยวกับความจำ ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อและ – สัญญาณที่เด่นชัดที่สุดคือ- ความเมื่อยล้า

    วิตามินบี 12 เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิตามินแห่งพลังงานและร่างกายของคุณต้องการสำหรับกิจกรรมที่สำคัญหลายชนิดรวมทั้งการผลิตพลังงานและ :

    การย่อยอาหารที่เหมาะสม การดูดซึมอาหาร การใช้ธาตุเหล็ก การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน การทำงานของระบบประสาทที่ดี มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเส้นประสาทตามปกติ ช่วยในการควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดง การก่อตัวของเซลล์และอายุการใช้งานที่ยาวนาน

    การผลิตฮอร์โมน เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สนับสนุนความเป็นสตรีเพศและการตั้งครรภ์
    สร้างความรู้สึกให้พอใจกับความเป็นอยู่และการควบคุมอารมณ์ การมีสมาธิ ส่งเสริมความจำ เพิ่มความเข้มข้นในด้านสมรรถภาพทางกาย อารมณ์และจิตใจ

    การวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าการมีวิตามินบี 12 ต่ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในชายสูงวัย ความเสี่ยงนี้ยังคงอยู่แม้หลังจากคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ เช่นการสูบบุหรี่ สถานะของวิตามินดีและปริมาณแคลเซียม medicinenet.com: (3) กล่าวว่า :

    “ผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มที่มีระดับ B-12 ต่ำสุดมีโอกาสเกิดการแตกหักของกระดูกมากกว่าร้อยละ 70 ในการศึกษานี้พบว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการแตกหักของกระดูกสันหลังส่วนเอวซึ่งมีโอกาสเกิดการแตกหักมากขึ้นถึงร้อยละ 120 เมื่อเทียบกับกระดูกส่วนอื่น "

    และถ้าหากขาดวิตามินบี 12 เรื้อรังในระยะยาวก็อาจทำให้เกิดภาวะร้ายแรงอื่น ๆ ได้แก่ :

    -โรคซึมเศร้า
    -ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
    -ความอุดมสมบูรณ์ของหญิงและปัญหาการคลอดบุตร
    -โรคหัวใจและมะเร็ง

    รูปแบบตามธรรมชาติของ B12 จะมีอยู่ในสัตว์และไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อ แต่อาจเป็นไข่และนมก็ได้ อาหารที่มี B12 สูงรวมถึง:

    -ไข่อินทรีย์
    -เนื้อวัวและตับวัวที่เลี้ยงดวยหญ้าอินทรีย์
    -ไก่อินทรีย์
    -ปลาแซลมอนอลาสก้าที่จับได้ในป่า
    -นมดิบของสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์และไม่ผ่านกระบวนการ

    ถ้าคุณมีอาการข้างต้นและไม่บริโภคสัตว์หรือสิ่งที่ได้จากสัตว์ ขอแนะนำให้หาวิตามินบี 12 มารับประทานตามความเหมาะสมของอายุและมวลกายรายการ หมอนอกกะลา

    ยาลดกรด 2

    ตอนที่ 1 ได้พูดถึงสองในสี่ผลกระทบหลักของยาลดกรด:
    คือแบคทีเรียเลว ๆ มากเกินไปและความบกพร่องในการดูดซึมสารอาหาร

    อีก 2 ผลกระทบที่เหลือ

    ลดความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ

    เบื้องแรกในการป้องกันร่างกายของเรา:

    ปาก หลอดอาหารและลำไส้เป็นบ้านของระหว่าง 400-1,000 สายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตาม กระเพาะอาหารที่ดีจะมีการฆ่าเชื้ออยู่เสมอ ทำไมน่ะรึ !! เพราะกรดในกระเพาะอาหารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

    ในความเป็นจริง กรดคือบทบาทที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างการขัดขวางสองทางที่ช่วยปกป้องกระเพาะอาหารจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ลำดับแรกแรก : กรดในกระเพาะอาหารจะป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายซึ่งอาจจะอยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรากินหรืออากาศที่เราหายใจเข้ามาในลำไส้และในเวลาเดียวกัน กรดในกระเพาะอาหารยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียตามปกติจากลำไส้ซึ่งจะย้ายเข้าสู่กระเพาะอาหารและหลอดอาหารซึ่งพวกมันอาจทำให้เกิดปัญหา

    สภาพแวดล้อมของกระเพาะอาหารค่า pH ต่ำ (กรดสูง) เป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่สำคัญของร่างกาย เมื่อค่าความเป็นกรดของกระเพาะอาหารมีค่าที่ 3 หรือต่ำกว่าถือว่าเป็นปรกติของช่วงท้องว่างหรือ "พักผ่อน" แบคทีเรียจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที แต่ในขณะที่pH เพิ่มขึ้นถึง 5 หรือมากกว่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ของแบคทีเรียสามารถหลีกเลี่ยงการกำจัดของกรดและเริ่มที่จะเจริญเติบโต

    แต่น่าเสียดาย มันจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณกินยาลดกรด ทั้ง Tagamet และ Zantac จะเพิ่มค่า pHของกระเพาะอาหารจากประมาณ 1-2 ก่อนการรักษาเป็น 5.5-6.5 อย่างมีนัยสำคัญ ตามลำดับ

    Prilosec และ PPIs และอื่น ๆ จะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เพียงหนึ่งเม็ดของยาเหล่านี้สามารถลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ถึงร้อยละ90 ถึง 95เพื่อส่วนที่ดีกว่าของวัน การกิน PPIs ในปริมาณที่สูงขึ้นหรือบ่อยมากขึ้น ซึ่งมักจะถูกแนะนำ จะทำให้เกิดภาวะ achlorydia (แทบไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย) ในการศึกษาของผู้ชายที่มีสุขภาพดี10 คนอายุ 22-55 ปี การให้กิน Prilosec 20 หรือ 40 มิลลิกรัมลดระดับกรดในกระเพาะอาหารจนเกือบหมด

    กระเพาะอาหารที่เป็นกรดไม่มากพอเชื้อแบคทีเรียก่อโรคก็อุดมสมบูรณ์ สนุกสนาน เพราะมันมันทั้งมืดทั้งอบอุ่น ทั้งชื้นและเต็มไปด้วยสารอาหาร แบคทีเรียจะไม่ฆ่าเรา – อย่างน้อยก็ไม่ทันที- แต่บางส่วนของพวกมันสามารถ คนที่มีค่าความเป็นกรดด่างในกระเพาะอาหารสูงพอที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงได้อย่างง่ายดาย

    การทบทวนที่ผ่านมาเกี่ยวกับยาลดกรดในกระเพาะอาหารชี้ให้เห็นว่าพวกมันเป็นต้นเหตุจริงของการเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ(PDF) ผู้เขียนพบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ยาลดกรดสามารถเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อต่อไปนี้:

    Salmonella
    Campylobacter
    อหิวาตกโรค
    Listeria
    Giardia
    C. difficile
    การศึกษาอื่น ๆ พบว่ายาลดกรดยังเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ:
    โรคปอดบวม
    วัณโรค
    ไทฟอยด์
    บิด

    ยาลดกรดไม่เพียงแต่เพิ่มความไวต่อการติดเชื้อแต่มันยังไปลดลงความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันของเราในการต่อสู้กับการติดเชื้อเมื่อเราได้รับเชื้อ จากการศึกษาในหลอดทดลองได้แสดงให้เห็นว่า PPIs ทำให้การทำหน้าที่ของเม็ดเลือดขาว nuetrophil ทำงานผิดพลาด ลดการยึดเกาะกับเซลล์ endothelial ลดการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของจุลินทรีย์และยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ทำลายอย่าง neutrophil และเพิ่มกรดใน phagolysosome

    ประตูสู่โรคร้ายแรงอื่น ๆ

    อย่างที่เราได้กล่าวถึงในบทความแรกไว้ว่า การลดลงของการหลั่งกรดตามอายุเป็นเรื่องที่มีเอกสารยืนยัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 1996 แพทย์ชาวอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า กระเพาะอาหารเกี่ยวข้องกับการลดลงของกรดตามอายุเนื่องจากการเสียหายของเซลล์ผลิตกรด สภาพนี้เรียกว่าโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(atrophic gastritis)

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหาต่อไปนี้ กระเพาะอาหารอักเสบ (สภาพที่กรดในกระเพาะอาหารอยู่ในระดับที่ต่ำมาก) มีความเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของความผิดปกติร้ายแรงที่ไปไกลเกินกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร ซึ่งรวมถึง:

    มะเร็งกระเพาะอาหาร
    โรคภูมิแพ้
    โรคหอบหืด
    อาการซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติของอารมณ์
    โลหิตจาง
    โรคผิวหนังรวมทั้งการเกิดสิว, โรคผิวหนังกลากและลมพิษ
    โรคนิ่วในถุงน้ำดี
    โรคแพ้ภูมิเช่นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกรฟส์
    อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) โรค Crohn (CD), ลำไส้ใหญ่ (UC)
    โรคไวรัสตับอักเสบ
    โรคกระดูกพรุน
    โรคเบาหวานประเภท 1
    และอย่าลืมนะว่ากรดในกระเพาะอาหารต่ำอาจทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก!

    มะเร็งกระเพาะอาหาร

    โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อ H. pylori เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ และยาลดกรดก็ยิ่งทำให้อาการเหล่านี้เลวลงและเพิ่มอัตราการติดเชื้อ

    ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่อะไรนักหรอกที่จะสงสัยว่ายาลดกรดเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในผู้ที่ติดเชื้อ H.pylori ในบทความที่ผ่านมาของ Julie Parsonnet, M.D. of Standford University Medical School เขียนไว้ว่า :
    โดยหลักการแล้ว การรักษาด้วยยาลดกรดในปัจจุบันนี้ อาจเป็นตัวเร่งโรคมะเร็งโดยการแปลงการอักเสบเพียงเล็กน้อยของกระเพาะอาหารเป็นทำลายขั้นรุนแรงในกระบวนการก่อมะเร็ง

    แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น

    ประมาณ 90% ของลำไส้เล็กส่วนต้น (ลำไส้) และ 65% ของแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากเชื้อ H. pylori
    ในการทดลองฉีดวัคซีนในมนุษย์ การติดเชื้อไม่สามารถเกิดขึ้นได้เว้นแต่ค่า pH ของกระเพาะอาหารสูงขึ้น(ลดความเป็นกรดลง) โดยการใช้สารต้านฮิสตามีนซึ่งไปลดกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มค่าความเป็นด่าง ยาลดกรดในกระเพาะอาหารจะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ H. pylori และตามมาด้วยการพัฒนาไปเป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นหรือกระเพาะอาหาร

    อาการลำไส้แปรปรวน โรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ

    สารอะดีโนซีน(Adenosine)เป็นตัวกลางหลักของการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและสารอะดีโนซีนในระดับสูงจะไปกดและแก้ไขปัญหาการอักเสบเรื้อรังของทั้งโรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ การใช้ PPIs อย่างต่อเนื่องได้รับการยืนยันว่าไปลดความเข้มข้นของสารอะดีโนซีน จึงส่งผลในการเพิ่มขึ้นของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าการใช้งานยาลดกรดในระยะยาว อาจพัฒนาความผิดปกติของลำไส้ให้อักเสบอย่างรุนแรงได้

    ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์

    ในขณะที่ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุ (เท่าที่ผมรู้) การเชื่อมโยงของยาลดกรดกับความผิดปกติทางอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้า ความเข้าใจพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างการย่อยโปรตีนและสุขภาพจิตแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการเชื่อมกัน ในระหว่างการย่อยอาหาร การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารจะปล่อยน้ำย่อยซึ่งเรียกว่า เพพซิน (pepsin) น้ำย่อยนี้เป็นเอนไซม์ที่มีความรับผิดชอบต่อการสลายพันธะโปรตีนไปเป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์ กรดอะมิโนที่เรียกว่า "จำเป็น" ก็เพราะเราไม่สามารถผลิตได้เองในร่างกายของเรา เราจะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น

    หากขาดน้ำย่อยโปรตีน (Pepsin) โปรตีนที่เรากินเข้าไปจะไม่ถูกทำลายไปเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นและส่วนประกอบเปปไทด์ และเนื่องจากกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้เช่น phenylalanine และ tryptophan มีบทบาทสำคัญในด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรม กรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำอาจเป็นตัวชักนำต่อการพัฒนาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้าหรือความผิดปกติทางอารมณ์

    โรคแพ้ภูมิ

    กรดในกระเพาะอาหารต่ำและต่อมาก็มีแบคทีเรียมากเกินไปทำให้เกิดลำไส้ที่ซึมผ่านได้ง่ายแล้วปล่อยให้โปรตีนที่ไม่ได้รับการย่อยเข้าสู่กระแสเลือด ภาวะนี้มักจะถูกเรียกว่า "กลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่ว" Salzman และเพื่อนได้แสดงให้เห็นว่า
    การซึมผ่านได้ง่ายของเซลล์ลำไส้ ทั้งtranscellular และ paracellular เพิ่มขึ้นอย่างมากในผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ควบคุม

    เมื่อโปรตีนที่ไม่ผ่านการย่อยไปเข้าอยู่ในกระแสเลือดพวกมันจะถูกถือว่าเป็น "ผู้รุกราน" โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายระดมการป้องกันของมัน (อาทิ T เซลล์ Bเซลล์และแอนติบอดี ) เพื่อที่จะกำจัดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย

    ประเภทของการตอบสนองจากภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่เรากินนี้ก่อให้เกิดการแพ้อาหาร กลไกที่คล้ายกันนี้ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจในคนที่มีลำไส้รั่ว การพัฒนาโรคแพ้ภูมิรุนแรงมากขึ้นจนกลายไปเป็นอาทิ โรคลูปัส (พุ่มพวง เอสแอลอี), โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (เบาหวานแห้ง)โรคเกรฟส์และความผิดปกติของลำไส้อักเสบเช่น Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ

    ความสัมพันธ์ระหว่างโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) และกรดในกระเพาะอาหารยังมีรายงานไว้ในงานเขียนและงานวิจัยมากมาย การตรวจสอบปริมาณกรดในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ RA 45 คน ของนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่า 16 คน(36 เปอร์เซ็นต์) แทบจะไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย คนที่ได้รับความทรมานจาก RA ที่ยาวที่สุดมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด กลุ่มนักวิจัยอิตาลียังพบอีกว่าคนที่มี RA มีอัตราของโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่สูงมากด้วยค่าความเป็นกรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลปกติ

    โรคหอบหืด

    ในรอบสิบปีที่ผ่านมา มากกว่าสี่ร้อยบทความทางวิทยาศาสตร์ให้กังวลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างโรคหอบหืดและความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หนึ่งในคุณสมบัติที่พบบ่อยที่สุดของโรคหอบหืดนอกเหนือไปจากการหายใจก็คือเป็นกรดไหลย้อน เป็นที่คาดการณ์กันว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่มีโรคหอบหืดยังมีโรคกรดไหลย้อนพ่วงท้ายอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี และมีการระคายเคืองจากกรดเกินมากขึ้นในเยื่อบุหลอดอาหารของพวกเขา

    เมื่อกรดเข้าไปในหลอดลม จะทำให้ความสามารถของปอดในการหายใจเข้าออกลดลงเป็นสิบเท่า แพทย์ที่มีความตระหนักถึงสิ่งนี้ก็เริ่มจ่ายยาลดกรดให้กับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ทุกข์ทรมานจากโรคกรดไหลย้อน ในขณะที่ยาลดกรดนี้อาจช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่มันไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุของความผิดปกติที่กรดไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารในคราวแรก

    ในความเป็นจริง มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่ายาลดกรดทำให้ทุกปัญหาพื้นฐานแย่ลง (กรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปและเพิ่มแบคทีเรีย) ดังนั้นทำให้อาการยาวนานและรุนแรง

    สรุป

    อย่างที่เราได้อ่านจากบทความก่อนหน้านี้ในตอนที่ 1 แสบร้อนกลางอกและโรคกรดไหลย้อนมันเกิดจากการน้อยเกินไป - และไม่มากพอ – ของกรดในกระเพาะอาหาร แต่น่าเสียดายที่กรดในกระเพาะอาหารไม่เพียงพอนี้ยังไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียมากจนเกินไป การดูดซึมสารอาหารด้อยคุณภาพลง การลดลงของความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร,ลำไส้แปรปรวน และโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์และโรคแพ้ภูมิตัวเองและโรคหอบหืด

    การบรรเทาอาการชั่วคราวของยาลดกรดเหล่านี้ให้ความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงหรือไม่ นั่นคือสิ่งเดียวที่คุณสามารถตัดสินใจได้เอง

    Cr. Santi Manadee
    #ยาลดกรด ถ้าคุณใช้ยาลดกรดไม่ว่าจะตามคำสั่งแพทย์หรือฟังจากโฆษณาแล้วเชื่อตามนั้น ลองอ่านให้จบว่าอาการเหล่านี้ได้เกิดกับตัวคุณแล้วหรือยัง จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ (1) การใช้สาร proton pump inhibitors ในระยะยาวอย่างเช่น Prilosec, Prevacid และ Nexium (ยาเม็ดสีม่วง) - ยาที่ช่วยลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร - เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี 12 ผู้เข้าร่วมที่กินยาลดกรดมานานกว่าสองปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ของการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งอาจนำไปโรค : -โรคโลหิตจาง -ความเสียหายของเส้นประสาท -ปัญหาเกี่ยวกับจิต -สมองเสื่อม (Dementia) ยิ่งกินในปริมาณที่สูงกว่าก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่า ตามที่อธิบายไว้โดยนักวิจัยอาวุโส Dr. Douglas Corley (2) Gastroenterologist ที่ Kaiser Permanente: "ยาลดกรดชนิดนี้อาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากเซลล์ที่สร้างกรดในกระเพาะอาหารยังสร้างโปรตีนที่ช่วยให้วิตามินบี 12 ถูกดูดซึมได้" การขาดวิตามินบี 12 จะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้อย่างไร เมื่อระดับวิตามินบี 12 ของคุณเริ่มลดลง ร่างกายจะส่งสัญญาณบางอย่างเริ่มให้เห็นรวมถึง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อาทิเช่นการขาดแรงจูงใจหรือความรู้สึกไม่แยแสและถ้าระดับต่ำมาก ๆ ยังสามารถนำไปสู่ความหดหู่ ปัญหาเกี่ยวกับความจำ ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อและ – สัญญาณที่เด่นชัดที่สุดคือ- ความเมื่อยล้า วิตามินบี 12 เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิตามินแห่งพลังงานและร่างกายของคุณต้องการสำหรับกิจกรรมที่สำคัญหลายชนิดรวมทั้งการผลิตพลังงานและ : การย่อยอาหารที่เหมาะสม การดูดซึมอาหาร การใช้ธาตุเหล็ก การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน การทำงานของระบบประสาทที่ดี มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเส้นประสาทตามปกติ ช่วยในการควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดง การก่อตัวของเซลล์และอายุการใช้งานที่ยาวนาน การผลิตฮอร์โมน เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สนับสนุนความเป็นสตรีเพศและการตั้งครรภ์ สร้างความรู้สึกให้พอใจกับความเป็นอยู่และการควบคุมอารมณ์ การมีสมาธิ ส่งเสริมความจำ เพิ่มความเข้มข้นในด้านสมรรถภาพทางกาย อารมณ์และจิตใจ การวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าการมีวิตามินบี 12 ต่ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในชายสูงวัย ความเสี่ยงนี้ยังคงอยู่แม้หลังจากคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ เช่นการสูบบุหรี่ สถานะของวิตามินดีและปริมาณแคลเซียม medicinenet.com: (3) กล่าวว่า : “ผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มที่มีระดับ B-12 ต่ำสุดมีโอกาสเกิดการแตกหักของกระดูกมากกว่าร้อยละ 70 ในการศึกษานี้พบว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการแตกหักของกระดูกสันหลังส่วนเอวซึ่งมีโอกาสเกิดการแตกหักมากขึ้นถึงร้อยละ 120 เมื่อเทียบกับกระดูกส่วนอื่น " และถ้าหากขาดวิตามินบี 12 เรื้อรังในระยะยาวก็อาจทำให้เกิดภาวะร้ายแรงอื่น ๆ ได้แก่ : -โรคซึมเศร้า -ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ -ความอุดมสมบูรณ์ของหญิงและปัญหาการคลอดบุตร -โรคหัวใจและมะเร็ง รูปแบบตามธรรมชาติของ B12 จะมีอยู่ในสัตว์และไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อ แต่อาจเป็นไข่และนมก็ได้ อาหารที่มี B12 สูงรวมถึง: -ไข่อินทรีย์ -เนื้อวัวและตับวัวที่เลี้ยงดวยหญ้าอินทรีย์ -ไก่อินทรีย์ -ปลาแซลมอนอลาสก้าที่จับได้ในป่า -นมดิบของสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์และไม่ผ่านกระบวนการ ถ้าคุณมีอาการข้างต้นและไม่บริโภคสัตว์หรือสิ่งที่ได้จากสัตว์ ขอแนะนำให้หาวิตามินบี 12 มารับประทานตามความเหมาะสมของอายุและมวลกายรายการ หมอนอกกะลา ยาลดกรด 2 ตอนที่ 1 ได้พูดถึงสองในสี่ผลกระทบหลักของยาลดกรด: คือแบคทีเรียเลว ๆ มากเกินไปและความบกพร่องในการดูดซึมสารอาหาร อีก 2 ผลกระทบที่เหลือ ลดความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ เบื้องแรกในการป้องกันร่างกายของเรา: ปาก หลอดอาหารและลำไส้เป็นบ้านของระหว่าง 400-1,000 สายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตาม กระเพาะอาหารที่ดีจะมีการฆ่าเชื้ออยู่เสมอ ทำไมน่ะรึ !! เพราะกรดในกระเพาะอาหารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในความเป็นจริง กรดคือบทบาทที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างการขัดขวางสองทางที่ช่วยปกป้องกระเพาะอาหารจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ลำดับแรกแรก : กรดในกระเพาะอาหารจะป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายซึ่งอาจจะอยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรากินหรืออากาศที่เราหายใจเข้ามาในลำไส้และในเวลาเดียวกัน กรดในกระเพาะอาหารยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียตามปกติจากลำไส้ซึ่งจะย้ายเข้าสู่กระเพาะอาหารและหลอดอาหารซึ่งพวกมันอาจทำให้เกิดปัญหา สภาพแวดล้อมของกระเพาะอาหารค่า pH ต่ำ (กรดสูง) เป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่สำคัญของร่างกาย เมื่อค่าความเป็นกรดของกระเพาะอาหารมีค่าที่ 3 หรือต่ำกว่าถือว่าเป็นปรกติของช่วงท้องว่างหรือ "พักผ่อน" แบคทีเรียจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที แต่ในขณะที่pH เพิ่มขึ้นถึง 5 หรือมากกว่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ของแบคทีเรียสามารถหลีกเลี่ยงการกำจัดของกรดและเริ่มที่จะเจริญเติบโต แต่น่าเสียดาย มันจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณกินยาลดกรด ทั้ง Tagamet และ Zantac จะเพิ่มค่า pHของกระเพาะอาหารจากประมาณ 1-2 ก่อนการรักษาเป็น 5.5-6.5 อย่างมีนัยสำคัญ ตามลำดับ Prilosec และ PPIs และอื่น ๆ จะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เพียงหนึ่งเม็ดของยาเหล่านี้สามารถลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ถึงร้อยละ90 ถึง 95เพื่อส่วนที่ดีกว่าของวัน การกิน PPIs ในปริมาณที่สูงขึ้นหรือบ่อยมากขึ้น ซึ่งมักจะถูกแนะนำ จะทำให้เกิดภาวะ achlorydia (แทบไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย) ในการศึกษาของผู้ชายที่มีสุขภาพดี10 คนอายุ 22-55 ปี การให้กิน Prilosec 20 หรือ 40 มิลลิกรัมลดระดับกรดในกระเพาะอาหารจนเกือบหมด กระเพาะอาหารที่เป็นกรดไม่มากพอเชื้อแบคทีเรียก่อโรคก็อุดมสมบูรณ์ สนุกสนาน เพราะมันมันทั้งมืดทั้งอบอุ่น ทั้งชื้นและเต็มไปด้วยสารอาหาร แบคทีเรียจะไม่ฆ่าเรา – อย่างน้อยก็ไม่ทันที- แต่บางส่วนของพวกมันสามารถ คนที่มีค่าความเป็นกรดด่างในกระเพาะอาหารสูงพอที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงได้อย่างง่ายดาย การทบทวนที่ผ่านมาเกี่ยวกับยาลดกรดในกระเพาะอาหารชี้ให้เห็นว่าพวกมันเป็นต้นเหตุจริงของการเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ(PDF) ผู้เขียนพบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ยาลดกรดสามารถเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อต่อไปนี้: Salmonella Campylobacter อหิวาตกโรค Listeria Giardia C. difficile การศึกษาอื่น ๆ พบว่ายาลดกรดยังเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ: โรคปอดบวม วัณโรค ไทฟอยด์ บิด ยาลดกรดไม่เพียงแต่เพิ่มความไวต่อการติดเชื้อแต่มันยังไปลดลงความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันของเราในการต่อสู้กับการติดเชื้อเมื่อเราได้รับเชื้อ จากการศึกษาในหลอดทดลองได้แสดงให้เห็นว่า PPIs ทำให้การทำหน้าที่ของเม็ดเลือดขาว nuetrophil ทำงานผิดพลาด ลดการยึดเกาะกับเซลล์ endothelial ลดการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของจุลินทรีย์และยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ทำลายอย่าง neutrophil และเพิ่มกรดใน phagolysosome ประตูสู่โรคร้ายแรงอื่น ๆ อย่างที่เราได้กล่าวถึงในบทความแรกไว้ว่า การลดลงของการหลั่งกรดตามอายุเป็นเรื่องที่มีเอกสารยืนยัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 1996 แพทย์ชาวอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า กระเพาะอาหารเกี่ยวข้องกับการลดลงของกรดตามอายุเนื่องจากการเสียหายของเซลล์ผลิตกรด สภาพนี้เรียกว่าโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(atrophic gastritis) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหาต่อไปนี้ กระเพาะอาหารอักเสบ (สภาพที่กรดในกระเพาะอาหารอยู่ในระดับที่ต่ำมาก) มีความเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของความผิดปกติร้ายแรงที่ไปไกลเกินกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร ซึ่งรวมถึง: มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด อาการซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติของอารมณ์ โลหิตจาง โรคผิวหนังรวมทั้งการเกิดสิว, โรคผิวหนังกลากและลมพิษ โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคแพ้ภูมิเช่นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกรฟส์ อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) โรค Crohn (CD), ลำไส้ใหญ่ (UC) โรคไวรัสตับอักเสบ โรคกระดูกพรุน โรคเบาหวานประเภท 1 และอย่าลืมนะว่ากรดในกระเพาะอาหารต่ำอาจทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก! มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อ H. pylori เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ และยาลดกรดก็ยิ่งทำให้อาการเหล่านี้เลวลงและเพิ่มอัตราการติดเชื้อ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่อะไรนักหรอกที่จะสงสัยว่ายาลดกรดเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในผู้ที่ติดเชื้อ H.pylori ในบทความที่ผ่านมาของ Julie Parsonnet, M.D. of Standford University Medical School เขียนไว้ว่า : โดยหลักการแล้ว การรักษาด้วยยาลดกรดในปัจจุบันนี้ อาจเป็นตัวเร่งโรคมะเร็งโดยการแปลงการอักเสบเพียงเล็กน้อยของกระเพาะอาหารเป็นทำลายขั้นรุนแรงในกระบวนการก่อมะเร็ง แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ประมาณ 90% ของลำไส้เล็กส่วนต้น (ลำไส้) และ 65% ของแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากเชื้อ H. pylori ในการทดลองฉีดวัคซีนในมนุษย์ การติดเชื้อไม่สามารถเกิดขึ้นได้เว้นแต่ค่า pH ของกระเพาะอาหารสูงขึ้น(ลดความเป็นกรดลง) โดยการใช้สารต้านฮิสตามีนซึ่งไปลดกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มค่าความเป็นด่าง ยาลดกรดในกระเพาะอาหารจะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ H. pylori และตามมาด้วยการพัฒนาไปเป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นหรือกระเพาะอาหาร อาการลำไส้แปรปรวน โรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ สารอะดีโนซีน(Adenosine)เป็นตัวกลางหลักของการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและสารอะดีโนซีนในระดับสูงจะไปกดและแก้ไขปัญหาการอักเสบเรื้อรังของทั้งโรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ การใช้ PPIs อย่างต่อเนื่องได้รับการยืนยันว่าไปลดความเข้มข้นของสารอะดีโนซีน จึงส่งผลในการเพิ่มขึ้นของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าการใช้งานยาลดกรดในระยะยาว อาจพัฒนาความผิดปกติของลำไส้ให้อักเสบอย่างรุนแรงได้ ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์ ในขณะที่ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุ (เท่าที่ผมรู้) การเชื่อมโยงของยาลดกรดกับความผิดปกติทางอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้า ความเข้าใจพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างการย่อยโปรตีนและสุขภาพจิตแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการเชื่อมกัน ในระหว่างการย่อยอาหาร การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารจะปล่อยน้ำย่อยซึ่งเรียกว่า เพพซิน (pepsin) น้ำย่อยนี้เป็นเอนไซม์ที่มีความรับผิดชอบต่อการสลายพันธะโปรตีนไปเป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์ กรดอะมิโนที่เรียกว่า "จำเป็น" ก็เพราะเราไม่สามารถผลิตได้เองในร่างกายของเรา เราจะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น หากขาดน้ำย่อยโปรตีน (Pepsin) โปรตีนที่เรากินเข้าไปจะไม่ถูกทำลายไปเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นและส่วนประกอบเปปไทด์ และเนื่องจากกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้เช่น phenylalanine และ tryptophan มีบทบาทสำคัญในด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรม กรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำอาจเป็นตัวชักนำต่อการพัฒนาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้าหรือความผิดปกติทางอารมณ์ โรคแพ้ภูมิ กรดในกระเพาะอาหารต่ำและต่อมาก็มีแบคทีเรียมากเกินไปทำให้เกิดลำไส้ที่ซึมผ่านได้ง่ายแล้วปล่อยให้โปรตีนที่ไม่ได้รับการย่อยเข้าสู่กระแสเลือด ภาวะนี้มักจะถูกเรียกว่า "กลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่ว" Salzman และเพื่อนได้แสดงให้เห็นว่า การซึมผ่านได้ง่ายของเซลล์ลำไส้ ทั้งtranscellular และ paracellular เพิ่มขึ้นอย่างมากในผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ควบคุม เมื่อโปรตีนที่ไม่ผ่านการย่อยไปเข้าอยู่ในกระแสเลือดพวกมันจะถูกถือว่าเป็น "ผู้รุกราน" โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายระดมการป้องกันของมัน (อาทิ T เซลล์ Bเซลล์และแอนติบอดี ) เพื่อที่จะกำจัดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ประเภทของการตอบสนองจากภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่เรากินนี้ก่อให้เกิดการแพ้อาหาร กลไกที่คล้ายกันนี้ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจในคนที่มีลำไส้รั่ว การพัฒนาโรคแพ้ภูมิรุนแรงมากขึ้นจนกลายไปเป็นอาทิ โรคลูปัส (พุ่มพวง เอสแอลอี), โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (เบาหวานแห้ง)โรคเกรฟส์และความผิดปกติของลำไส้อักเสบเช่น Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ ความสัมพันธ์ระหว่างโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) และกรดในกระเพาะอาหารยังมีรายงานไว้ในงานเขียนและงานวิจัยมากมาย การตรวจสอบปริมาณกรดในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ RA 45 คน ของนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่า 16 คน(36 เปอร์เซ็นต์) แทบจะไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย คนที่ได้รับความทรมานจาก RA ที่ยาวที่สุดมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด กลุ่มนักวิจัยอิตาลียังพบอีกว่าคนที่มี RA มีอัตราของโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่สูงมากด้วยค่าความเป็นกรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลปกติ โรคหอบหืด ในรอบสิบปีที่ผ่านมา มากกว่าสี่ร้อยบทความทางวิทยาศาสตร์ให้กังวลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างโรคหอบหืดและความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หนึ่งในคุณสมบัติที่พบบ่อยที่สุดของโรคหอบหืดนอกเหนือไปจากการหายใจก็คือเป็นกรดไหลย้อน เป็นที่คาดการณ์กันว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่มีโรคหอบหืดยังมีโรคกรดไหลย้อนพ่วงท้ายอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี และมีการระคายเคืองจากกรดเกินมากขึ้นในเยื่อบุหลอดอาหารของพวกเขา เมื่อกรดเข้าไปในหลอดลม จะทำให้ความสามารถของปอดในการหายใจเข้าออกลดลงเป็นสิบเท่า แพทย์ที่มีความตระหนักถึงสิ่งนี้ก็เริ่มจ่ายยาลดกรดให้กับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ทุกข์ทรมานจากโรคกรดไหลย้อน ในขณะที่ยาลดกรดนี้อาจช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่มันไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุของความผิดปกติที่กรดไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารในคราวแรก ในความเป็นจริง มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่ายาลดกรดทำให้ทุกปัญหาพื้นฐานแย่ลง (กรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปและเพิ่มแบคทีเรีย) ดังนั้นทำให้อาการยาวนานและรุนแรง สรุป อย่างที่เราได้อ่านจากบทความก่อนหน้านี้ในตอนที่ 1 แสบร้อนกลางอกและโรคกรดไหลย้อนมันเกิดจากการน้อยเกินไป - และไม่มากพอ – ของกรดในกระเพาะอาหาร แต่น่าเสียดายที่กรดในกระเพาะอาหารไม่เพียงพอนี้ยังไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียมากจนเกินไป การดูดซึมสารอาหารด้อยคุณภาพลง การลดลงของความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร,ลำไส้แปรปรวน และโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์และโรคแพ้ภูมิตัวเองและโรคหอบหืด การบรรเทาอาการชั่วคราวของยาลดกรดเหล่านี้ให้ความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงหรือไม่ นั่นคือสิ่งเดียวที่คุณสามารถตัดสินใจได้เอง Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 586 มุมมอง 0 รีวิว
  • อังกฤษและลัตเวียประกาศจัดส่งโดรนตรวจการณ์และโจมตี 30,000 ลำ ให้กับยูเครน!

    การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมของ Ukraine Defense Contact Group ที่ฐานทัพอากาศ Ramstein ในเยอรมนีเมื่อวันที่ 9 มกราคม ตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร "เงินทุนสำหรับโดรน 30,000 ลำ จะมาจากการสนับสนุนของสหราชอาณาจักร เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ลัตเวีย และสวีเดน"

    โดยที่โดรนทั้งหมดมีมูลค่ารวม 45 ล้านปอนด์ (55 ล้านดอลลาร์) จะทำการผลิตจากองค์กร Drone Coalition ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นโครงการริเริ่มที่ลัตเวียร่วมมือกับสหราชอาณาจักร
    อังกฤษและลัตเวียประกาศจัดส่งโดรนตรวจการณ์และโจมตี 30,000 ลำ ให้กับยูเครน! การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมของ Ukraine Defense Contact Group ที่ฐานทัพอากาศ Ramstein ในเยอรมนีเมื่อวันที่ 9 มกราคม ตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร "เงินทุนสำหรับโดรน 30,000 ลำ จะมาจากการสนับสนุนของสหราชอาณาจักร เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ลัตเวีย และสวีเดน" โดยที่โดรนทั้งหมดมีมูลค่ารวม 45 ล้านปอนด์ (55 ล้านดอลลาร์) จะทำการผลิตจากองค์กร Drone Coalition ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นโครงการริเริ่มที่ลัตเวียร่วมมือกับสหราชอาณาจักร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ประกาศเปลี่ยนตราประจำราชวงศ์เพื่อให้สัญลักษณ์ของกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาต้องการซื้อกรีนแลนด์อีกครั้ง

    เป็นเวลา 500 ปีแล้วที่ตราประจำราชวงศ์เดนมาร์กมีรูปมงกุฎ 3 อัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพคาลมาร์ระหว่างเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1397 ถึงปี ค.ศ. 1523 แต่ในตราประจำราชวงศ์ฉบับปรับปรุงใหม่ มงกุฎถูกแทนที่ด้วยรูปหมีขั้วโลกและแกะตัวผู้ขนาดใหญ่ ซึ่งสื่อถึงกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรตามลำดับ

    ตัวแทนราชวงศ์เดนมาร์กกล่าวว่า ตราประจำราชวงศ์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ "ทำให้อำนาจของเครือจักรภพแข็งแกร่งขึ้น" และมงกุฎ 3 อันถูกถอดออกเนื่องจากไม่ "มีความเกี่ยวข้อง" อีกต่อไป
    สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ประกาศเปลี่ยนตราประจำราชวงศ์เพื่อให้สัญลักษณ์ของกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาต้องการซื้อกรีนแลนด์อีกครั้ง เป็นเวลา 500 ปีแล้วที่ตราประจำราชวงศ์เดนมาร์กมีรูปมงกุฎ 3 อัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพคาลมาร์ระหว่างเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1397 ถึงปี ค.ศ. 1523 แต่ในตราประจำราชวงศ์ฉบับปรับปรุงใหม่ มงกุฎถูกแทนที่ด้วยรูปหมีขั้วโลกและแกะตัวผู้ขนาดใหญ่ ซึ่งสื่อถึงกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรตามลำดับ ตัวแทนราชวงศ์เดนมาร์กกล่าวว่า ตราประจำราชวงศ์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ "ทำให้อำนาจของเครือจักรภพแข็งแกร่งขึ้น" และมงกุฎ 3 อันถูกถอดออกเนื่องจากไม่ "มีความเกี่ยวข้อง" อีกต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥ทัวร์สแกนดิเนเวีย 10 วัน 7 คืน💥

    🔥Special Offer 🔥
    - จองก่อน 90 วันทำการ ลด 4,000 บาท ต่อท่าน
    - จองก่อน 60 วันทำการ ลด 2,000 บาท ต่อท่าน - เดินทางช่วงสงกรานต์ จองก่อน 15 ม.ค. 68 ลด 3,000 ต่อท่าน

    สแกนดิเนเวีย ฟยอร์ด ทัวร์ เดนมาร์ก - นอร์เวย์ - ฟินแลนด์ - สวีเดน : ชมด้านนอกพระราชวังอมาเลียนบอร์ก - เที่ยวกรุงออสโล (นอร์เวย์) - นั่งรถไฟสายโรแมนติก - ชมวิวยอดเขาฟลอยเอ่น - ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด - กรุงเฮลซิงกิ - เที่ยวกรุงสต็อกโฮล์ม (สวีเดน) - ล่องเรือสำราญ DFDS (Overnight Cruise / Seaside Cabin) 1 คืน + ล่องเรือสำราญ SILJA LINE (Overnight Cruise / Seaside Cabin) 1 คืน

    📍 ช่วงวันเดินทาง : ก.พ.-ต.ค.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 139,000
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง
    📢 รหัสทัวร์ : Z1345
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : TG-การบินไทย

    ✔️Travel License: 11/11450
    ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e9f54d

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    💥ทัวร์สแกนดิเนเวีย 10 วัน 7 คืน💥 🔥Special Offer 🔥 - จองก่อน 90 วันทำการ ลด 4,000 บาท ต่อท่าน - จองก่อน 60 วันทำการ ลด 2,000 บาท ต่อท่าน - เดินทางช่วงสงกรานต์ จองก่อน 15 ม.ค. 68 ลด 3,000 ต่อท่าน สแกนดิเนเวีย ฟยอร์ด ทัวร์ เดนมาร์ก - นอร์เวย์ - ฟินแลนด์ - สวีเดน : ชมด้านนอกพระราชวังอมาเลียนบอร์ก - เที่ยวกรุงออสโล (นอร์เวย์) - นั่งรถไฟสายโรแมนติก - ชมวิวยอดเขาฟลอยเอ่น - ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด - กรุงเฮลซิงกิ - เที่ยวกรุงสต็อกโฮล์ม (สวีเดน) - ล่องเรือสำราญ DFDS (Overnight Cruise / Seaside Cabin) 1 คืน + ล่องเรือสำราญ SILJA LINE (Overnight Cruise / Seaside Cabin) 1 คืน 📍 ช่วงวันเดินทาง : ก.พ.-ต.ค.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 139,000 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง 📢 รหัสทัวร์ : Z1345 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : TG-การบินไทย ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e9f54d ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีปูตินลงนาม "ถอนตัว" จากข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการสิ่งแวดล้อมนิวเคลียร์พหุภาคี (MNEPR)

    ข้อตกลงและพิธีสารว่าด้วยโครงการสิ่งแวดล้อมนิวเคลียร์พหุภาคีในสหพันธรัฐรัสเซีย (MNEPR - Multilateral Nuclear Environmental Programme in the Russian Federation) ซึ่งลงนามโดยประเทศสมาชิก OECD หลายประเทศและสหพันธรัฐรัสเซียในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2546 (2003)

    โดยกรอบข้อตกลงดังกล่าว ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมเและอำนวยความสะดวกในการร่วมมือและความช่วยเหลือแก่สหพันธรัฐรัสเซียในด้านความปลอดภัยของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วและการจัดการขยะกัมมันตภาพรังสี

    ซึ่งครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยและการทำความสะอาดสถานที่จัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วและการรื้อถอนเรือดำน้ำนิวเคลียร์เก่าที่ปลดประจำการ

    แต่คาดว่าการที่ปูตินถอนตัวออกจากข้อตกลง MNEPR นี้ เนื่องจากเงื่อนไขบางส่วนระบุไว้ถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย และการชดใช้ค่าเสียหายตามข้อตกลง MNEPR ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ถึงการยกระดับด้านอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียไปอีกขั้น

    ผู้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปี 2546 (2003) ได้แก่ เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหพันธรัฐรัสเซีย สวีเดน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประชาคมยุโรป และประชาคมพลังงานปรมาณูยุโรป
    ประธานาธิบดีปูตินลงนาม "ถอนตัว" จากข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการสิ่งแวดล้อมนิวเคลียร์พหุภาคี (MNEPR) ข้อตกลงและพิธีสารว่าด้วยโครงการสิ่งแวดล้อมนิวเคลียร์พหุภาคีในสหพันธรัฐรัสเซีย (MNEPR - Multilateral Nuclear Environmental Programme in the Russian Federation) ซึ่งลงนามโดยประเทศสมาชิก OECD หลายประเทศและสหพันธรัฐรัสเซียในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2546 (2003) โดยกรอบข้อตกลงดังกล่าว ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมเและอำนวยความสะดวกในการร่วมมือและความช่วยเหลือแก่สหพันธรัฐรัสเซียในด้านความปลอดภัยของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วและการจัดการขยะกัมมันตภาพรังสี ซึ่งครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยและการทำความสะอาดสถานที่จัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วและการรื้อถอนเรือดำน้ำนิวเคลียร์เก่าที่ปลดประจำการ แต่คาดว่าการที่ปูตินถอนตัวออกจากข้อตกลง MNEPR นี้ เนื่องจากเงื่อนไขบางส่วนระบุไว้ถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย และการชดใช้ค่าเสียหายตามข้อตกลง MNEPR ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ถึงการยกระดับด้านอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียไปอีกขั้น ผู้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปี 2546 (2003) ได้แก่ เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหพันธรัฐรัสเซีย สวีเดน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประชาคมยุโรป และประชาคมพลังงานปรมาณูยุโรป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • MAGA!!
    อเมริกาที่ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว

    จากกรณีที่ทรัมป์' ขู่ NATO ให้เพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของ GDP ไม่งั้นอเมริกาจะถอนตัวออกจาก NATO เพราะที่ผ่านมาเป็นภาระกับอเมริกามากเกินไป

    นักข่าวเลยมาสอบถามความคิดเห็นของผู้นำยุโรป ว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง:

    - นายกรัฐมนตรีสวีเดน: มันก็คงต้องทำเป็นไปตามนั้น เราจะพึ่งพาสหรัฐให้เค้าเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านกลาโหมของยุโรปอยู่ฝ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้

    - นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์: ทรัมป์เค้าพูดถูกแล้ว เขาเคยบอกให้ประเทศในยุโรปเพิ่มงบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมมาตั้งแต่ปี 2018 และตอนนี้เขาก็พูดถูกอีกครั้ง

    - นายกรัฐมนตรีกรีก: ตัวเลข 2% มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มันจะสูงกว่า 2% ตามที่ทรัมป์แนะนำ

    คำพูดของพวกเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ถึงความเคารพต่อประธานาธิบดีอเมริกันอย่างแท้จริง!!
    MAGA!! อเมริกาที่ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว จากกรณีที่ทรัมป์' ขู่ NATO ให้เพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของ GDP ไม่งั้นอเมริกาจะถอนตัวออกจาก NATO เพราะที่ผ่านมาเป็นภาระกับอเมริกามากเกินไป นักข่าวเลยมาสอบถามความคิดเห็นของผู้นำยุโรป ว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง: - นายกรัฐมนตรีสวีเดน: มันก็คงต้องทำเป็นไปตามนั้น เราจะพึ่งพาสหรัฐให้เค้าเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านกลาโหมของยุโรปอยู่ฝ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้ - นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์: ทรัมป์เค้าพูดถูกแล้ว เขาเคยบอกให้ประเทศในยุโรปเพิ่มงบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมมาตั้งแต่ปี 2018 และตอนนี้เขาก็พูดถูกอีกครั้ง - นายกรัฐมนตรีกรีก: ตัวเลข 2% มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มันจะสูงกว่า 2% ตามที่ทรัมป์แนะนำ คำพูดของพวกเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ถึงความเคารพต่อประธานาธิบดีอเมริกันอย่างแท้จริง!!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsweek เผยแผนที่แนวรบสงครามโลกครั้งที่ 3 📌 พาดผ่าน 7 ชาติยุโรป เชื่อมทะเลบอลติก-ทะเลดำ ส่อเค้าขยายวงกว้างจากสงครามยูเครน 📌ชี้จุดเสี่ยงพื้นที่ Suwalki - ท่ามกลางความตึงเครียด NATO-รัสเซีย และการปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูติน 📌แต่กิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองฝ่ายบริเวณชายแดนสร้างความกังวลต่อการปะทุของความขัดแย้งครั้งใหม่👉นิตยสาร Newsweek เปิดเผยการวิเคราะห์แผนที่แนวรบที่เป็นไปได้ในกรณีเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยระบุว่าแนวรบในยุโรปอาจทอดยาวจากพรมแดนรัสเซีย-ฟินแลนด์ ผ่านเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สวีเดน และโปแลนด์ ไปจนถึงเยอรมนี โดยเฉพาะเส้นทาง Suwalki ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคคาลินินกราดและเบลารุส 👉นอกจากนี้ยังระบุถึงความเป็นไปได้ของการสู้รบในทะเลดำและทะเลอะซอฟ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียมีแผนโจมตีสมาชิก NATO โดยระบุว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของชาติตะวันตกเอง ขณะที่มอสโกแสดงความกังวลต่อการปรากฏตัวของกำลังทหาร NATO ที่เพิ่มขึ้นบริเวณพรมแดนด้านตะวันตก แม้พันธมิตรจะอ้างว่าเป็นเพียงการป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย #imctnews รายงาน
    Newsweek เผยแผนที่แนวรบสงครามโลกครั้งที่ 3 📌 พาดผ่าน 7 ชาติยุโรป เชื่อมทะเลบอลติก-ทะเลดำ ส่อเค้าขยายวงกว้างจากสงครามยูเครน 📌ชี้จุดเสี่ยงพื้นที่ Suwalki - ท่ามกลางความตึงเครียด NATO-รัสเซีย และการปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูติน 📌แต่กิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองฝ่ายบริเวณชายแดนสร้างความกังวลต่อการปะทุของความขัดแย้งครั้งใหม่👉นิตยสาร Newsweek เปิดเผยการวิเคราะห์แผนที่แนวรบที่เป็นไปได้ในกรณีเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยระบุว่าแนวรบในยุโรปอาจทอดยาวจากพรมแดนรัสเซีย-ฟินแลนด์ ผ่านเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สวีเดน และโปแลนด์ ไปจนถึงเยอรมนี โดยเฉพาะเส้นทาง Suwalki ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคคาลินินกราดและเบลารุส 👉นอกจากนี้ยังระบุถึงความเป็นไปได้ของการสู้รบในทะเลดำและทะเลอะซอฟ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียมีแผนโจมตีสมาชิก NATO โดยระบุว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของชาติตะวันตกเอง ขณะที่มอสโกแสดงความกังวลต่อการปรากฏตัวของกำลังทหาร NATO ที่เพิ่มขึ้นบริเวณพรมแดนด้านตะวันตก แม้พันธมิตรจะอ้างว่าเป็นเพียงการป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย #imctnews รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม, ประเทศสวีเดน ร่วมเฉลิมฉลองการล่มสลายของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
    .
    Syrian citizens living in Stockholm, Sweden celebrate the fall of Bashar al-Assad.
    .
    12:51 AM · Dec 10, 2024 · 209.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866178951279714587
    ชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม, ประเทศสวีเดน ร่วมเฉลิมฉลองการล่มสลายของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด . Syrian citizens living in Stockholm, Sweden celebrate the fall of Bashar al-Assad. . 12:51 AM · Dec 10, 2024 · 209.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866178951279714587
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ธาตุแท้ต๋อม ไชรูทวาร ถวายบังคมจอมปลอม โผล่หัวสวีเดน ไปแบมือขอระดมทุนเข้าพรรคกับแก๊งค์ล้มล้าง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ธาตุแท้ต๋อม ไชรูทวาร ถวายบังคมจอมปลอม โผล่หัวสวีเดน ไปแบมือขอระดมทุนเข้าพรรคกับแก๊งค์ล้มล้าง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วันพ่อแห่งชาติ" ปีนี้ 2567 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม ซึ่งวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และเป็นวันที่ยกย่อง "พ่อ" ผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัววันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567ในปี 2563 เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจัด "วันพ่อแห่งชาติ" ขึ้น โดยผู้คิดริเริ่ม คือ คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา กำหนดให้ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม 2470 ซึ่งเป็นคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นเป็นต้นมาจึงเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี คือ "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อในครอบครัว "วันพ่อแห่งชาติ" ยังถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจำปีในประเทศไทย อีกด้วย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี วันชาติ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น "วันชาติ" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันชาติ 5 ธันวาคม 2567ในอดีต "วันชาติ" เคยมีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 และมีการฉลองวันชาติครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาถึง 21 ปี จนถึงสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการทบทวนว่าไม่ควรใช้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมหลายประการ มีการตั้งคณะกรรมการ พิจารณาและเสนอความเห็นว่าประเทศที่มี ระบอบประชาธิปไตย และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติหลายประเทศถือเอาวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ เป็นวันฉลองของชาติ เช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น เพื่อยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจ ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นวันฉลอง "วันชาติ" ตั้งแต่ 2503 เป็นต้นมา โดยภาครัฐและเอกชนจะจัดกิจกรรมกันทั่วประเทศ สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ "ดอกพุทธรักษา" เนื่องจากดอกพุทธรักษามีสีเหลืองตรงกับสีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ รัชกาลที่ 9 (วันจันทร์) นอกจากนี้ชาวพุทธยังมีความเชื่อว่า ดอกพุทธรักษา คือ ดอกไม้มงคล อีกด้วยพิธีสำคัญ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ในปี 2567 นี้ รัฐบาล จัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ดังนี้ช่วงเช้า เวลา 07.30 น. มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 189 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมคู่สมรสส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสมมีการ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนธันวาคม 2567 อีกด้วย
    "วันพ่อแห่งชาติ" ปีนี้ 2567 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม ซึ่งวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และเป็นวันที่ยกย่อง "พ่อ" ผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัววันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567ในปี 2563 เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจัด "วันพ่อแห่งชาติ" ขึ้น โดยผู้คิดริเริ่ม คือ คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา กำหนดให้ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม 2470 ซึ่งเป็นคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นเป็นต้นมาจึงเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี คือ "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อในครอบครัว "วันพ่อแห่งชาติ" ยังถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจำปีในประเทศไทย อีกด้วย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี วันชาติ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น "วันชาติ" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันชาติ 5 ธันวาคม 2567ในอดีต "วันชาติ" เคยมีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 และมีการฉลองวันชาติครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาถึง 21 ปี จนถึงสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการทบทวนว่าไม่ควรใช้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมหลายประการ มีการตั้งคณะกรรมการ พิจารณาและเสนอความเห็นว่าประเทศที่มี ระบอบประชาธิปไตย และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติหลายประเทศถือเอาวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ เป็นวันฉลองของชาติ เช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น เพื่อยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจ ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นวันฉลอง "วันชาติ" ตั้งแต่ 2503 เป็นต้นมา โดยภาครัฐและเอกชนจะจัดกิจกรรมกันทั่วประเทศ สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ "ดอกพุทธรักษา" เนื่องจากดอกพุทธรักษามีสีเหลืองตรงกับสีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ รัชกาลที่ 9 (วันจันทร์) นอกจากนี้ชาวพุทธยังมีความเชื่อว่า ดอกพุทธรักษา คือ ดอกไม้มงคล อีกด้วยพิธีสำคัญ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ในปี 2567 นี้ รัฐบาล จัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ดังนี้ช่วงเช้า เวลา 07.30 น. มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 189 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมคู่สมรสส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสมมีการ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนธันวาคม 2567 อีกด้วย
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    5/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • 4/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    4/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • 3/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    3/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • 2/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    2/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • 1/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    1/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนประกาศว่าจะไม่ยอมรับข้อต่อรองใดๆ ที่น้อยกว่าการได้เป็นสมาชิกนาโต เพื่อรับประกันความมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพันธมิตรทหารแห่งนี้จะเพิกเฉยต่อแรงกดดันจากเคียฟ เมินเสียงเรียกร้องให้เชิญเข้าร่วมกลุ่มในทันที ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต
    .
    ในหนังสือที่ส่งถึงบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต ก่อนหน้าการประชุม ทาง อันดรี ซีบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน อ้างว่าคำเชิญจะช่วยปลดหนึ่งในคำกล่าวอ้างหลักของรัสเซียในการทำสงคราม นั่นคือขัดขวางยูเครนจากการเข้าร่วมพันธมิตรทหารแห่งนี้
    .
    แม้นาโตเน้นย้ำว่าเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน เป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ไม่เคยกำหนดกรอบเวลาหรือออกคำเชิญใดๆ ในขณะที่บรรดาผู้แทนทูตทั้งหลายเผยว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในชาติสมาชิกทั้ง 32 ประเทศ ในการดำเนินการดังกล่าว
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าบางประเทศกำลังรอตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนของตนเอง จนกว่าจะทราบท่าทีของว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากอเมริกา เป็นมหาอำนาจที่สำคัญของนาโต
    .
    ตามหลังการพูดคุยระหว่าง ซีบิฮา และเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศนาโต ณ งานเลี้ยงดินเนอร์ที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ทาง กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีความคืบหน้าในประเด็นความเป็นรัฐสมาชิก
    .
    ส่วน ยาน ลิพาฟสกี รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก บอกว่าประเทศของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติที่มองว่าคำเชิญเข้าร่วม "เป็นก้าวย่างที่จำเป็น" แต่ "ผมไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว"
    .
    ด้านปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ซึ่งรัฐบาลมีความใกล้ชิดกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนมอสโกในช่วงต้นสัปดาห์ บอกว่าบูดาเปสต์ ยังคงคัดค้านการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประเทศนี้อยู่ในสงคราม และประเทศหนึ่งๆ ที่กำลังอยู่ในสงคราม ไม่อาจส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรได้" เขาบอกกับรอยเตอร์
    .
    พวกนักวิเคราะห์บางส่วนและเหล่าผู้แทนทูต มองว่ายูเครนอาจได้รับคำประกันจากบรรดาชาติตะวันตกเป็นรายประเทศ แทนที่จะได้รับจากนาโตทั้งมวล
    .
    คีธ เคลลอก อดีตนายพลที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ ให้เป็นทูตพิเศษด้านยูเครนและรัสเซีย เป็นผู้เขียนร่วมในเอกสารฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางปี ซึ่งเรียกร้องให้ผัดผ่อนการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ออกไประยะหนึ่งเป็นเวลานาน" แลกกับข้อตกลงสันติภาพ ที่จะมาพร้อมกับคำรับประกันด้านความมั่นคง
    .
    อย่างไรก็ตาม ยูเครนยืนยันว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ที่น้อยไปกว่าการเป็นสมาชิกนาโต อ้างถึงประสบการณ์ที่มีกับข้อตกลงหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน ที่พวกเขายอมปลดอาวุธนิวเคลียร์แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากเหล่าชาติมหาอำนาจ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่มีค่าใดๆ
    .
    "เอกสารนั้นล้มเหลวรับประกันความมั่นคงของยูเครนและความมั่นคงข้ามแอตแลนติก ดังนั้นเราควรต้องหลีกเลี่ยงก่อความผิดพลาดดังกล่าวซ้ำรอย" เขากล่าวระหว่างเดินทางมาถึงนาโต พร้อมกับชูสำเนาข้อตกลงฉบับดังกล่าว ที่เรียกว่าบันทึกความเข้าใจบูดาเปสต์
    .
    อย่างไรก็ตาม มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกว่าพันธมิตรกำลังสร้างสะพานสู่การเป็นสมาชิกของยูเครน แต่ประเด็นเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการมอบอาวุธเพิ่มเติมแก่เคียฟ เพื่อขับไล่กองกำลังรัสเซีย เนื่องจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนจะไม่สนใจสันติภาพ
    .
    เขาเน้นว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การรับประกันว่ายูเครน จะอยู่ในสถานะที่เข้มแข็ง ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นคนเลือกเข้าสู่การเจรจาสันติภาพก็ตาม "เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และจะต้องป้อนเข้าสู่ยูเครน"
    .
    ยูเครนกำลังเจอกับฤดูหนาวที่แสนสาหัส ด้วยกองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเล็งเป้าเล่นงานเครือข่ายพลังงานอันง่อนแง่นของประเทศ
    .
    รุตต์ แสดงความยินดีกับแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ที่มอบแก่ยูเครน จากสหรัฐฯ เยอรมนี สวีเดน เอสโตเนีย ลิทัวเนียและนอร์เวย์ โดยที่เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) อเมริกาแถลงแพกเกจอาวุธใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 725 ล้านดอลลาร์
    .
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต ว่าอเมริกา "มีความมุ่งมั่นร่วม ในการทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นสำหรับยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะสามารถปกป้องตนเองและปกป้องประชาชนขอตนเอง และท้ายที่สุดแล้วเพื่อที่จะสามารถหาทางออกคลี่คลายการรุกรานของรัสเซียอย่างยั่งยืน"
    .
    ยูเครน มองว่าการเข้าเป็นรัฐสมาชิกนาโต คือการประกันที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงในอนาคตของพวกเขา ภายใต้ข้อตกลงกลาโหมร่วม บรรดารัฐสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เห็นพ้องจะปฏิบัติกับการโจมตีใส่ประเทศสมาชิกหนึ่ง เทียบเท่ากับเป็นการโจมตีนาโตทั้งหมด และทั้งหมดจะเข้าช่วยเหลือกันและกัน
    .............
    Sondhi X
    ยูเครนประกาศว่าจะไม่ยอมรับข้อต่อรองใดๆ ที่น้อยกว่าการได้เป็นสมาชิกนาโต เพื่อรับประกันความมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพันธมิตรทหารแห่งนี้จะเพิกเฉยต่อแรงกดดันจากเคียฟ เมินเสียงเรียกร้องให้เชิญเข้าร่วมกลุ่มในทันที ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต . ในหนังสือที่ส่งถึงบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต ก่อนหน้าการประชุม ทาง อันดรี ซีบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน อ้างว่าคำเชิญจะช่วยปลดหนึ่งในคำกล่าวอ้างหลักของรัสเซียในการทำสงคราม นั่นคือขัดขวางยูเครนจากการเข้าร่วมพันธมิตรทหารแห่งนี้ . แม้นาโตเน้นย้ำว่าเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน เป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ไม่เคยกำหนดกรอบเวลาหรือออกคำเชิญใดๆ ในขณะที่บรรดาผู้แทนทูตทั้งหลายเผยว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในชาติสมาชิกทั้ง 32 ประเทศ ในการดำเนินการดังกล่าว . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าบางประเทศกำลังรอตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนของตนเอง จนกว่าจะทราบท่าทีของว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากอเมริกา เป็นมหาอำนาจที่สำคัญของนาโต . ตามหลังการพูดคุยระหว่าง ซีบิฮา และเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศนาโต ณ งานเลี้ยงดินเนอร์ที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ทาง กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีความคืบหน้าในประเด็นความเป็นรัฐสมาชิก . ส่วน ยาน ลิพาฟสกี รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก บอกว่าประเทศของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติที่มองว่าคำเชิญเข้าร่วม "เป็นก้าวย่างที่จำเป็น" แต่ "ผมไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว" . ด้านปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ซึ่งรัฐบาลมีความใกล้ชิดกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนมอสโกในช่วงต้นสัปดาห์ บอกว่าบูดาเปสต์ ยังคงคัดค้านการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประเทศนี้อยู่ในสงคราม และประเทศหนึ่งๆ ที่กำลังอยู่ในสงคราม ไม่อาจส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรได้" เขาบอกกับรอยเตอร์ . พวกนักวิเคราะห์บางส่วนและเหล่าผู้แทนทูต มองว่ายูเครนอาจได้รับคำประกันจากบรรดาชาติตะวันตกเป็นรายประเทศ แทนที่จะได้รับจากนาโตทั้งมวล . คีธ เคลลอก อดีตนายพลที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ ให้เป็นทูตพิเศษด้านยูเครนและรัสเซีย เป็นผู้เขียนร่วมในเอกสารฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางปี ซึ่งเรียกร้องให้ผัดผ่อนการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ออกไประยะหนึ่งเป็นเวลานาน" แลกกับข้อตกลงสันติภาพ ที่จะมาพร้อมกับคำรับประกันด้านความมั่นคง . อย่างไรก็ตาม ยูเครนยืนยันว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ที่น้อยไปกว่าการเป็นสมาชิกนาโต อ้างถึงประสบการณ์ที่มีกับข้อตกลงหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน ที่พวกเขายอมปลดอาวุธนิวเคลียร์แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากเหล่าชาติมหาอำนาจ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่มีค่าใดๆ . "เอกสารนั้นล้มเหลวรับประกันความมั่นคงของยูเครนและความมั่นคงข้ามแอตแลนติก ดังนั้นเราควรต้องหลีกเลี่ยงก่อความผิดพลาดดังกล่าวซ้ำรอย" เขากล่าวระหว่างเดินทางมาถึงนาโต พร้อมกับชูสำเนาข้อตกลงฉบับดังกล่าว ที่เรียกว่าบันทึกความเข้าใจบูดาเปสต์ . อย่างไรก็ตาม มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกว่าพันธมิตรกำลังสร้างสะพานสู่การเป็นสมาชิกของยูเครน แต่ประเด็นเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการมอบอาวุธเพิ่มเติมแก่เคียฟ เพื่อขับไล่กองกำลังรัสเซีย เนื่องจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนจะไม่สนใจสันติภาพ . เขาเน้นว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การรับประกันว่ายูเครน จะอยู่ในสถานะที่เข้มแข็ง ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นคนเลือกเข้าสู่การเจรจาสันติภาพก็ตาม "เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และจะต้องป้อนเข้าสู่ยูเครน" . ยูเครนกำลังเจอกับฤดูหนาวที่แสนสาหัส ด้วยกองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเล็งเป้าเล่นงานเครือข่ายพลังงานอันง่อนแง่นของประเทศ . รุตต์ แสดงความยินดีกับแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ที่มอบแก่ยูเครน จากสหรัฐฯ เยอรมนี สวีเดน เอสโตเนีย ลิทัวเนียและนอร์เวย์ โดยที่เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) อเมริกาแถลงแพกเกจอาวุธใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 725 ล้านดอลลาร์ . แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต ว่าอเมริกา "มีความมุ่งมั่นร่วม ในการทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นสำหรับยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะสามารถปกป้องตนเองและปกป้องประชาชนขอตนเอง และท้ายที่สุดแล้วเพื่อที่จะสามารถหาทางออกคลี่คลายการรุกรานของรัสเซียอย่างยั่งยืน" . ยูเครน มองว่าการเข้าเป็นรัฐสมาชิกนาโต คือการประกันที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงในอนาคตของพวกเขา ภายใต้ข้อตกลงกลาโหมร่วม บรรดารัฐสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เห็นพ้องจะปฏิบัติกับการโจมตีใส่ประเทศสมาชิกหนึ่ง เทียบเท่ากับเป็นการโจมตีนาโตทั้งหมด และทั้งหมดจะเข้าช่วยเหลือกันและกัน ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 880 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุด-- สภาสุขภาพโลก ร่วมกับ 10 ประเทศนอร์ดิก และบอลติก เรียกร้องให้ระงับวัคซีน mRNA COVID-19 ทันที

    เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน กลุ่มนักการเมืองระดับนานาชาติ แพทย์ชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ได้เขียนจดหมายถึง ประมุขของประเทศในยุโรป 10 ประเทศ (เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย นอร์เวย์ สวีเดน และสหราชอาณาจักร) เพื่อเรียกร้องให้ระงับวัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า มีปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรง

    คำเรียกร้องนี้ ต่อเนื่องจากความคิดริเริ่มที่คล้ายกันในออสเตรเลีย ที่นำเสนอโดยนาย รัสเซลล์ บรอดเบนท์ ส.ส. และได้รับการสนับสนุนจากบทสรุปทางวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่า :

    วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงสำหรับ COVID-19 ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงทำให้เสียชีวิต การวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะที่ทำซ้ำได้ แสดงให้เห็นว่า เป็นการเสี่ยงดวง ว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนชุดใด และพบผลข้างเคียงอย่างไร

    วัคซีนไม่เคยได้รับการทดสอบ ความสามารถในการป้องกันการแพร่กระจาย ดังนั้น หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงหน่วยงานของรัฐ จึงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เมื่อบังคับให้ยอมรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้

    ปัจจุบัน การวิเคราะห์อิสระหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลง มีปริมาณ DNA ตกค้าง ที่ผันผวน และไม่เคยตรวจพบมากเท่านี้มาก่อน ทำให้เกิดความกังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ และความเสี่ยงต่อความเสียหายทางพันธุกรรม

    คำเรียกร้องนี้ ได้รับการสนับสนุน และเรียกร้องจากนานาชาติอย่างมาก ดังนี้

    - หยุดใช้วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงทันที
    - ดำเนินการสอบสวน อย่างเป็นอิสระและโปร่งใส เกี่ยวกับการอนุมัติ และการใช้วัคซีนดังกล่าว
    - แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อ DNA ของมนุษย์

    World Council for Health เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนโดยแพทย์ โดยอาศัยหลักฐาน และขับเคลื่อนด้วยฉันทามติ ซึ่งเรียกร้องให้ยุติการจำหน่ายวัคซีน COVID-19 ในตลาดในปี 2022

    https://worldcouncilforhealth.org/world-council-for-health-joins-10-nordic-and-baltic-countries-in-calling-for-immediate-suspension-of-the-covid-19-mrna-vaccines/

    @P_McCulloughMD
    ข่าวล่าสุด-- สภาสุขภาพโลก ร่วมกับ 10 ประเทศนอร์ดิก และบอลติก เรียกร้องให้ระงับวัคซีน mRNA COVID-19 ทันที เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน กลุ่มนักการเมืองระดับนานาชาติ แพทย์ชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ได้เขียนจดหมายถึง ประมุขของประเทศในยุโรป 10 ประเทศ (เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย นอร์เวย์ สวีเดน และสหราชอาณาจักร) เพื่อเรียกร้องให้ระงับวัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า มีปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรง คำเรียกร้องนี้ ต่อเนื่องจากความคิดริเริ่มที่คล้ายกันในออสเตรเลีย ที่นำเสนอโดยนาย รัสเซลล์ บรอดเบนท์ ส.ส. และได้รับการสนับสนุนจากบทสรุปทางวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่า : วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงสำหรับ COVID-19 ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงทำให้เสียชีวิต การวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะที่ทำซ้ำได้ แสดงให้เห็นว่า เป็นการเสี่ยงดวง ว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนชุดใด และพบผลข้างเคียงอย่างไร วัคซีนไม่เคยได้รับการทดสอบ ความสามารถในการป้องกันการแพร่กระจาย ดังนั้น หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงหน่วยงานของรัฐ จึงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เมื่อบังคับให้ยอมรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ปัจจุบัน การวิเคราะห์อิสระหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลง มีปริมาณ DNA ตกค้าง ที่ผันผวน และไม่เคยตรวจพบมากเท่านี้มาก่อน ทำให้เกิดความกังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ และความเสี่ยงต่อความเสียหายทางพันธุกรรม คำเรียกร้องนี้ ได้รับการสนับสนุน และเรียกร้องจากนานาชาติอย่างมาก ดังนี้ - หยุดใช้วัคซีน mRNA ที่ผ่านการดัดแปลงทันที - ดำเนินการสอบสวน อย่างเป็นอิสระและโปร่งใส เกี่ยวกับการอนุมัติ และการใช้วัคซีนดังกล่าว - แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อ DNA ของมนุษย์ World Council for Health เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนโดยแพทย์ โดยอาศัยหลักฐาน และขับเคลื่อนด้วยฉันทามติ ซึ่งเรียกร้องให้ยุติการจำหน่ายวัคซีน COVID-19 ในตลาดในปี 2022 https://worldcouncilforhealth.org/world-council-for-health-joins-10-nordic-and-baltic-countries-in-calling-for-immediate-suspension-of-the-covid-19-mrna-vaccines/ @P_McCulloughMD
    WORLDCOUNCILFORHEALTH.ORG
    World Council for Health joins 10 Nordic and Baltic countries in calling for immediate suspension of the Covid -19 mRNA 'vaccines' - World Council for Health
    Notice of extreme concern regarding the safety of COVID-19 modified mRNA vaccines. On 25th November an international group of politicians and leading medical and other professionals wrote to the heads of state of 10 European countries (Denmark, Estonia, Finland, Greenland, Iceland, Latvia, Lithuania, Norway, Sweden, and the United Kingdom) calling for a suspension of all […]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘พิพัฒน์’ นำคณะหารือระบบบำนาญสวีเดน มุ่งสู่ความร่วมมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ

    https://www.facebook.com/share/1G5bDhLSU8
    ‘พิพัฒน์’ นำคณะหารือระบบบำนาญสวีเดน มุ่งสู่ความร่วมมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ https://www.facebook.com/share/1G5bDhLSU8
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION)

    "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ"

    Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug

    เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

    Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน
    เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

    แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ"

    ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด"

    พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด

    นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน"

    Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG

    Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม

    ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION) "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ" Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ" ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด" พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน" Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แทรกแซง!?!"

    การชุมนุมต่อต้านผลการเลือกตั้งในจอร์เจีย มีคณะผู้แทนจากต่างชาติทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์เข้าร่วมด้วย

    (รูปภาพที่1) เหตุการณ์กำลังซ้ำรอยกับยูเครนในช่วงปี 2014 กลุ่มตัวแทนต่างชาติขึ้นเวทีเพื่อกล่าวยั่วยุให้สถานการณ์เลวร้ายลง และให้ประชาชนชาวยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งกับรัฐบาลครั้งใหญ่ในช่วงเวลานั้น
    "แทรกแซง!?!" การชุมนุมต่อต้านผลการเลือกตั้งในจอร์เจีย มีคณะผู้แทนจากต่างชาติทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์เข้าร่วมด้วย (รูปภาพที่1) เหตุการณ์กำลังซ้ำรอยกับยูเครนในช่วงปี 2014 กลุ่มตัวแทนต่างชาติขึ้นเวทีเพื่อกล่าวยั่วยุให้สถานการณ์เลวร้ายลง และให้ประชาชนชาวยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งกับรัฐบาลครั้งใหญ่ในช่วงเวลานั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ต้องอ่านให้จบ**หายนะกำลังมาเยือนประชาชนคนไทย!!

    ขอนำบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งมาเสนอค่ะ
    เครดิต พิมพ์ชนก พิทักษ์ชัยยะบุตร

    Somkiat Osotsapa
    January 31 at 5:18am ·
    พาไปเที่ยวโรงพยาบาลจุฬาฯกัน
    -------------------------
    เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปรพ. จุฬาฯ เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิต
    ที่จริงแล้ว ผมไม่เคยป่วยนอนโรงพยาบาลเลย เคยแต่ไปเฝ้าไข้รพ.เอกชน ซื่งสบายมาก มีเชฟอาหาร ทั้งจีน อินเดีย ไทย ชั้นเลิศ ออกแนวบันเทิง มีร้านกาแฟแบรนด์เนม ที่จริงก็ไปตรวจนี่นั่น ที่รพ.เอกชนเหมือนกัน มันสะดวกมาก

    แล้วผมก็เกิดอยากจะรู้ว่าถ้าผมจะใช้สิทธิข้าราชการของผมบ้าง จะต้องทำอย่างไร ลองไปรพจุฬา

    แวะไปครั้งที่หนื่ง เข้าคิวอยู่ยาวช่วงบ่าย บอกว่าต้องมาเอาคิว ในวันรุ่งขึ้น

    สอบถามได้ความว่าถ้าจะตรวจในวันรุ่งขึ้น ต้องมาเข้าคิวเอาบัตรคิวที่ตู้ที่จะเปิดตอนตี 5 ครื่ง

    อ๊ะ! ถ้างั้นต้องตื่นตีสี่ ไปเข้าคิวตีห้า…

    เมื่อผมไปถึงตอนตีห้า มีคนอยู่ร่วมหนื่งพันคน ตั้งแต่บัตรประกันสังคม คนไข้ส่งต่อ แรงงานต่างด้าว ร่วม 12 ประเภท หลากหลายช่องมาก
    คิดถึงอารมณ์พระพุทธเจ้า เห็นทุกขเวทนาตัดสินใจออกบวชทันที
    เอาว่าคนเคยไปรพ.เอกชน จะช้อค
    แต่ผมอยากรู้ว่าคนเขาลำบากอย่างไร…ไม่เส้น…ตามคิว…

    แล้วก็รู้ว่า:-
    ๑ งานรพ.นี่เหนื่อยมากๆ คนมะรุมมะตุ้มถามโน่นนี่เยอะ
    แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจเย็น สุภาพเท่าที่จะทำได้ รับความเครียด แรงกดดันได้ดีสุดๆ คนป่วย คนมาตรวจมากมาย แต่ทุกคนก็ช่วยตัวเองกันดีนะครับ หลายคนก็ทุกขเวทนาทีเดียว
    งานรพ.นี่สาหัสทีเดียว คิดในใจ

    ๒ สถานที่ของรพ.ดีขื้นกว่าแต่ก่อนมาก ขอบคุณเงินค่าเช่ามาบุญครอง และสยามสแควร์ มีตืกใหม่ มีแอร์ มีระบบคิวที่ดีงาม

    ๓ เนื่องจากคนไข้มาก รอกันนาน ทำใจเถอะ แต่คนไข้จำนวนมากที่ป่วยมีอาการ นั่งกระจุกกันเป็นหลายร้อยเนี่ย ทำให้รู้สืกว่าติดเชื้อง่ายมาก
    หมอ เจ้าหน้าที่สตรองมาก
    นักเรียนที่อยากเรียนแพทย์ พยาบาลควรมาหาประสบการณ์ ถ้าชอบและไหวก็เอา แต่ของผมลองนึกว่า ต้องไปทำงานห้องนั้น ทุกวัน จะให้เป็นหมอคงไม่เอา มันหดหู่นะ

    ๔ ดูเหมือนมีขบวนการของต่างชาติมาเอาคิวเป็นอาชีพ และมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านมารักษาฟรี โดยทำบัตรต่างด้าวปลอม รัฐบาลควรส่งคนไปดูนะ เป็นขบวนการทีเดียว

    รพ.น่ะไม่รู้เห็นด้วยหรอก คิดรพ.ใหญ่ทั่วประเทศ รายจ่ายเยอะมาก

    นั่งเครื่องมาเลย มีทำบัตรปลอมขายแน่นอน งบปท.ไทยไม่น่าเอาอยู่ แต่งตัวกันดี๊ดี

    ๕ เห็นนักศืกษาแพทย์ปีห้าโดนอาจารย์เอาปากกาเคาะหัวตลอด เรียนแพทย์เนี่ยเครียดมากนะครับ บอกเลย

    ๖ ค่ายา รพ.เอกชนแพงกว่ารพ. รัฐ เกินสิบเท่า หมอจุฬานี่เก่งนะครับ ความรู้เยอะ…

    ดีใจที่ได้ใช้สิทธิอดีตข้าราชการ มันน่าจะดีกว่านี้
    แต่เอางบไปแบ่งให้ประชาชนก็ดีแล้ว ร่วมทุกข์สุขกัน
    ถ้ากระทรวงคลังเอาส่วนของข้าราชการไปแบ่งลงทุนไว้ น่าจะรักษาได้ระดับ รพ.เอกชน

    ก็อย่างว่า…ชีวิตคนในรพ.มันเหนื่อยนะ ใครไม่เคยตื่นไปเข้าคิวตีสี่เหมือนผม ห้ามวิจารณ์เรื่องงบสาธารณสุข

    นักการเมืองทุกคน ควรไปตอนตีสี่ จะเข้าใจชีวิตและปชช.มากขื้น

    นิสิตจุฬาทุกคนควรไปอย่างยิ่ง ขอบอก นี่คือมหาวิทยาลัยชีวิตครับ

    บัณฑิตต้องรู้จักประชาชน

    Somkiat Osotsapa
    February 5 at 12:31am ·

    เมื่อประเทศไทยถูกยึด ม้าอารีต้องออกมายืนตากฝน คนไทยจะเข้าหาหมอได้อย่างไร
    --------------------------
    อาชีพที่ทำรายได้สูงกว่าบุคลากรการแพทย์ในรพ.จุฬาฯ

    คือ ล่ามต่างชาติ ที่ขนคนไข้ประเทศเพื่อนบ้าน มารายละไม่ต่ำกว่าสิบคนต่อวันต่อล่ามหนื่งคน

    มีรายได้จากคนไข้ตปท.รายละ 500 บาท วันละเกิน5000 บาท

    ล่ามของแต่ละชาติมีมากมาย (หมอจุฬาผู้รักชาติหลังไมค์มาบอก)

    ด้วยเหตุนี้ คนไข้ที่นั่งรอหมอจึงเป็นคนจากปท.เพื่อนบ้านร่วม 50%

    คนไทยที่จะเข้ารพ.จุฬาฯ มีวิธีเข้ารักษาอย่างรวดเร็วได้ โดยอาศัยทางด่วน คือ รถของมูลนิธิปอเต๊กตื๊ง
    เช่น ถูกรถชน ถูกยิง แทง ฟัน งูกัด เข้าห้องอุบัติเหตุ ฝั่งสวนลุมได้เลย

    ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่าระบบประกัน ทำให้คนไทยไปรักษามาก ต้องเก็บเงินผู้ป่วยไทยเพิ่ม หมอไม่พอ อุปกรณ์ไม่พอ นี่…ไร้สาระมาก…

    รายจ่ายเพิ่มเพราะรับคนไข้จากตปท.มาตรึม…

    การทำคลอดทำให้ต่างชาติมากกว่าคนไทย…

    รู้กันทั้งภูมิภาคเอเชียว่ามารักษาที่เมืองไทย แค่บอกว่าไม่มีเงินก็ฟรี…

    ตอนนี้ข่าวสารกระจายไปทั่ว จัดเป็นธุรกิจข้ามชาติใหญ่โตมาก

    ทำบัตรเสร็จ ตรวจสุขภาพเสร็จ หางานทำได้เลย
    เศรษฐกิจดีมาก หางานง่าย

    ไปบีบให้คนไทยลาออก พวกเราเยอะ เครือข่ายเพียบ เบิกล่วงหน้าได้

    ผมมีรายงานต้นทุนการรักษาผู้ป่วยของรพ.ทุกประเภท ทั่วปท. รายกลุ่มโรค คลอดแบบไหนเท่าไร ค่าใช้จ่ายประเภทค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าเสื่อม…รู้หมด

    งบประมาณแผ่นดินของรพ.จุฬาแห่งเดียว เพิ่มจากราวสองพันล้านมาเป็นหกพันล้าน

    เพิ่มสามเท่าในเวลา 3-4 ปี ศิริราชก็บอกว่าขาดทุน รพ.ศูนย์ รพ.ท้องถิ่น รพ.ชุมชนขาดแคลนไปหมด

    หมอ พยาบาล เภสัช รังสี บุคลากรอื่นๆทำงานกันหนักมาก เศรษฐกิจไทย ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มในไม่กี่ปี

    ตอนนี้อุตสาหกรรมขนคนเข้าปท.ไทยกำลังเติบใหญ่ ทั้งในลาว กัมพูชา พม่า

    อาฟริกันยังมาเลย เขาพูดกันว่าเมืองไทยแม่งโง่ ชอบอวดรวย ทั้งๆที่คนไทยจนจะตายห่า ผู้นำบ้ายอ ชมๆแม่งไป
    --------------------------
    ผมรู้ว่าคนไทยกำลังเครียดรุนแรง แต่อายไม่กล้าพูด

    ระวังว่ามันจะระเบิด

    ทั้งถูกแย่งคิวรพ. แย่งงาน แย่งที่ขายของ แย่งที่นั่งในรถเมล์แดง รถไฟฟรี ยึดสวนสาธารณะ อิทธิพลขั้นสูง คนจนทั้งนั้น ทุกสีเสื้อ

    ผู้บริหารสภากาชาด ครม คสช สนช สปท อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้
    ไม่เคยมายืนเข้าคิวตอนตี 4

    ปัญหาของประเทศนี้คือ ผู้นำ ผู้ตัดสินใจ ผู้วางแผน ไม่ได้ใช้ชีวิตสัมผัสทุกข์ยากของปชช. ตัดสินใจผิดมากๆ

    เมื่อเห็นต่างชาติเยอะมาก ผมก็ออกมาเดินดูรอบนอก แถวร้านกาแฟขายลาตเต้นั่นแหละครับ

    เจอเลย ขบวนการ มีผู้กำกับงาน แต่งตัวดีมาก ผมฟังภาษาออก เจ้าหน้าที่รบ.ปท.เพื่อนบ้านก็มี

    กำลังคุยถึงที่จะมาอีกหลายระลอก ผ่านด่านต่างๆ

    ดูรวย มีความสุข เขากำลังทำงานให้ชาติของเขา ส่งคนมารักษาที่ไทยฟรี…
    ขำที่คนไทยดูทุเรศ ทุกขเวทนา
    วันนี้ คุยกับพรรคพวกที่รู้เรื่องดี จะได้รู้ต้นน้ำ กลาง น้ำ ปลายน้ำ
    อือม์ มันน่ากลัว…
    เขื่อนความมั่นคงประเทศพังแล้ว
    --------------

    ความขัดแย้งรุนแรงเกิดขื้นเมื่อคนในชาติรู้สึกว่าพื้นที่ทำมาหากิน พื้นที่ชีวิตของเขาถูกรุกราน ถูกคุกคาม
    เยอรมัน เรียกว่า libensraum แปลว่า life space

    ตอนนี้หนักมาก สงครามเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในทุกที่…
    สวีเดน เดนมาร์กจึงเอาผู้อพยพออก เศรษฐกิจยุโรปจะพังเอา ก็เพราะแบบไทยตอนนี้…คนไทยจะจ่ายเงินหนัก ขาดแคลน แล้วจะโวย แล้วจะระเบิด…

    ผมไปนั่งคุยกับพรรคพวก…
    ๑ คนในปท.รอบบ้านเราไม่ได้รวยแบบที่มีข่าวในไทยหรอก
    ค่าแรงคนทั่วๆไปในพม่าก็ราวเดือนละ 6-7ร้อย ค่าแรงขั้นต่ำที่สู้กันเต็มที่ก็ 2,200 ต่อเดือน

    ที่กัมพูชาสูงกว่านี้นิดนึง เวียดนามราวเดือนละ 3,000
    แต่ยังมีคนไม่ได้ทำงานในระบบที่ค่าจ้างระดับนี้เยอะ

    ตอนนี้คนต่างชาติ มาอยู่ในปท. ไทย ไม่ใช่ 3 ล้าน
    อาจถึง 6 ล้านแล้ว เขาบอกต้องไปดูที่ด่านที่เข้ามา…
    ราชการไม่มีตัวเลข - ที่มีก็ผิด

    มามาก ก็เข้ารพ.มาก ญาติพี่น้องเจ็บป่วยก็พามา ถูกกว่าไปพนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทร์ ซื่งหมอไม่เก่ง ยาไม่มี เครื่องมือไม่มี แพงกว่าเมืองไทยด้วย

    ๒ ตอนนี้ระบบจัดตั้ง เครือข่ายแน่นหนามาก คนทางโน้นก็รู้ว่ามาเมืองไทยแล้วรวย

    ผมถามว่าที่สำรวจบอกว่ามาแล้วจะกลับไป…เขาบอกกลับไปที่ไหน…มีแต่กำลังแห่กันมา! มาแล้วมีบริการหางาน หาที่พัก ทำบัตรแรงงาน มีนายจ้าง ทำบัตรสุขภาพ พาไปรพ. หักเงินทีหลังก็ได้
    มีนายทุน กองทุนระดับเป็นหมื่นล้าน มีตั้งแต่บริการขนส่ง ต้นทาง ถึงปลายทางแบบโรฮิงยา

    ได้สัญชาติกันเยอะ ซื้อบัตร เอาลูกมาใส่ชื่อพ่อคนไทย ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาก จะได้มาเรียนฟรีที่เมืองไทย ได้เข้ามหาวิทยาลัย รักษาฟรี อยู่ฟรีกับนายจ้าง อาหารพร้อม ไม่ต้องจ่ายแวต ส่งเงินกลับไปได้เยอะมาก

    มาคลอดเมืองไทย ค่าคลอด ดูแลทั้งปี 365.-บาทเท่านั้น ถ้าผ่าออกก็แค่นี้ ต้นทุนสองหมื่นกว่านะครับ
    จะหาที่ขายของ เปิดร้าน ใช้คนไทยเป็นโนมินีก็มี ทำแบบแบ่งเปอร์เซนต์ก็ได้

    มามากก็เข้ารพ.มาก ทำบัตรสุขภาพราวปีละ 1,300.- รักษาทุกโรค 55 ---------------

    ๓ เขาบอกว่าเมืองไทยโฆษณา AEC เกินจริง จนคนและขรก. เข้าใจว่าแรงงานคนต่างชาติเข้าไทยได้ฟรี คนไทยทั่วไปก็เข้าใจเช่นนั้น ด่านจืงเปิด

    ยุคนี้ป่วยรุนแรง เหมารถจากพนมเปญมาเลย นอนรพ.3เดือน ให้ออกซิเจนตลอด จ่าย2หมื่น ต้นทุนจริงๆหลายแสน รวมค่าอุปกรณ์

    ผ่าหัวใจฟรี ไปรพ.เอกชนสี่แสน ต้นทุนของรัฐแสนกว่า

    ไม่เจ๊งไงไหว
    ---------------------

    ๔ เดินทางมาไทยง่าย ถูก…
    เมืองไทยไม่มีระบบตรวจสอบคนที่มาแล้วไม่กลับ

    เงินซื้อได้ทุกอย่าง ตอนนี้เครือข่ายจัดหาคนเป็นพ่อ ทำงานดี เพราะรายได้มาก กำลังมากันเพียบ พลเมืองไทยจะเยอะมาก เตรียมงบไว้
    --------------
    ๕ อุตสาหกรรม(พาคนมาไทย) รุ่งเรืองมากในปท.เพื่อนบ้าน กำไรดี ลูกค้าเยอะมาก ช่วงนี้ข่าวไปทั่ว
    -------------------

    ๖ การจะรักษาในไทย ก็แค่หาชื่อนายจ้าง ซื่งจัดไว้แล้ว ไปซื้อบัตรสุขภาพ รบ.ไทยบริการดีมาก…

    ๗ ที่ผิดกฏหมายทำไง ก็จ่ายเดือนละพันต่อคนเหมือนเดิม 55 ก็ต้องมีรายได้อะไรสักอย่าง

    ไอ้คนที่ผมคุยด้วย มีหน้าที่แบ่งลูกน้องไปเก็บเงินรายหัวส่งทุกเดือน…วันนี้นั่งคุยละเอียด มึงจ่ายให้ใครกันบ้าง ไอ้นั่นย้ายแล้วเหรอ ตอนนี้ใครคุม…
    ชีวิตธรรมดาคุยกันยังงี้ครับ
    --------------
    ยังไม่บอกว่าจะแก้อย่างไรนะครับ ต้องเล่าสถานการณ์ก่อน
    --------------

    ผมแนะว่าต่อไป ถ้าป่วยไปรักษาแถวจังหวัดที่ไม่มีต่างด้าว เช่น ชัยภูมิ เลย น่าจะสะดวกกว่านะ
    ช่วงนี้ก็สตรองหน่อย ถ้าพ่อแม่ไม่ได้รับการรักษาที่ดี ยาลดลง ไม่มีเตียงก็ขอให้ทำใจ

    ผมจะไปเข้าคิวเป็นเพื่อน

    ตอนนี้เตรียมแผนจะไปศิริราช ติดต่อไว้แล้ว ต่อไปจะไปราชวิถี รามา วชิระ ไปขอนแก่น อุดร สุราษฏร์

    ที่จริง คสช ครม ควรส่งภรรยาไปเข้าคิวบ้างนะ

    กรรมการสภากาชาดด้วย

    ไปพรุ่งนี้เลย จะได้รับรู้ความรู้สืกคนไทย

    ผมเขียนไป ผมเศร้ามาก

    เงินที่รบ.สัญญาว่าจะดูแลพยาบาลผมตอนแก่ แบ่งไปให้คนไทยอื่นๆ ผมมีความสุขนะ เจ็บ ตายด้วยกัน

    แต่ตอนนี้ ผมแก่ ผมต้องนั่งรอคิวยาว

    ตอนใกล้จะถึงคิว มันแทรกเข้ามา เอาลูกค้ามาแซงสิบคนนี่ผมไม่พอใจมาก

    ถาม ขาใหญ่มันเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ เอาต่างชาติเข้ามา มันหัวเราะ บอกรายได้ของหลายคนจะดีมากทีเดียว
    มันถามว่าใครคิดวะ คนไทยได้อะไรบ้าง พวกนี้รักชาตินะครับ
    ------------------
    ต่างชาติบอกผู้นำไทยไม่ติดดิน บ้าลูกยอ บ้า AEC งี่เง่า ชอบเอาหน้า ไม่รู้เรื่อง สบาย หมูที่สุดในปท.ย่านนี้

    เพื่อนผมบอก ผมไม่ได้พูดนะ
    จะแก้ปัญหาต้องพูดกันให้เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้…

    วันนี้เขียนไม่เป็นระบบ มึนไวน์มานิดหน่อย
    ความรู้ที่เพื่อนเพจเล่ามา เป๊ะมาก ผมจึงพอมีภูมิไปคุยกับเขา
    เห็นอะไรช่วยบอกมานะครับ…ช่วยกัน…
    **ต้องอ่านให้จบ**หายนะกำลังมาเยือนประชาชนคนไทย!! ขอนำบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งมาเสนอค่ะ เครดิต พิมพ์ชนก พิทักษ์ชัยยะบุตร Somkiat Osotsapa January 31 at 5:18am · พาไปเที่ยวโรงพยาบาลจุฬาฯกัน ------------------------- เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปรพ. จุฬาฯ เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิต ที่จริงแล้ว ผมไม่เคยป่วยนอนโรงพยาบาลเลย เคยแต่ไปเฝ้าไข้รพ.เอกชน ซื่งสบายมาก มีเชฟอาหาร ทั้งจีน อินเดีย ไทย ชั้นเลิศ ออกแนวบันเทิง มีร้านกาแฟแบรนด์เนม ที่จริงก็ไปตรวจนี่นั่น ที่รพ.เอกชนเหมือนกัน มันสะดวกมาก แล้วผมก็เกิดอยากจะรู้ว่าถ้าผมจะใช้สิทธิข้าราชการของผมบ้าง จะต้องทำอย่างไร ลองไปรพจุฬา แวะไปครั้งที่หนื่ง เข้าคิวอยู่ยาวช่วงบ่าย บอกว่าต้องมาเอาคิว ในวันรุ่งขึ้น สอบถามได้ความว่าถ้าจะตรวจในวันรุ่งขึ้น ต้องมาเข้าคิวเอาบัตรคิวที่ตู้ที่จะเปิดตอนตี 5 ครื่ง อ๊ะ! ถ้างั้นต้องตื่นตีสี่ ไปเข้าคิวตีห้า… เมื่อผมไปถึงตอนตีห้า มีคนอยู่ร่วมหนื่งพันคน ตั้งแต่บัตรประกันสังคม คนไข้ส่งต่อ แรงงานต่างด้าว ร่วม 12 ประเภท หลากหลายช่องมาก คิดถึงอารมณ์พระพุทธเจ้า เห็นทุกขเวทนาตัดสินใจออกบวชทันที เอาว่าคนเคยไปรพ.เอกชน จะช้อค แต่ผมอยากรู้ว่าคนเขาลำบากอย่างไร…ไม่เส้น…ตามคิว… แล้วก็รู้ว่า:- ๑ งานรพ.นี่เหนื่อยมากๆ คนมะรุมมะตุ้มถามโน่นนี่เยอะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจเย็น สุภาพเท่าที่จะทำได้ รับความเครียด แรงกดดันได้ดีสุดๆ คนป่วย คนมาตรวจมากมาย แต่ทุกคนก็ช่วยตัวเองกันดีนะครับ หลายคนก็ทุกขเวทนาทีเดียว งานรพ.นี่สาหัสทีเดียว คิดในใจ ๒ สถานที่ของรพ.ดีขื้นกว่าแต่ก่อนมาก ขอบคุณเงินค่าเช่ามาบุญครอง และสยามสแควร์ มีตืกใหม่ มีแอร์ มีระบบคิวที่ดีงาม ๓ เนื่องจากคนไข้มาก รอกันนาน ทำใจเถอะ แต่คนไข้จำนวนมากที่ป่วยมีอาการ นั่งกระจุกกันเป็นหลายร้อยเนี่ย ทำให้รู้สืกว่าติดเชื้อง่ายมาก หมอ เจ้าหน้าที่สตรองมาก นักเรียนที่อยากเรียนแพทย์ พยาบาลควรมาหาประสบการณ์ ถ้าชอบและไหวก็เอา แต่ของผมลองนึกว่า ต้องไปทำงานห้องนั้น ทุกวัน จะให้เป็นหมอคงไม่เอา มันหดหู่นะ ๔ ดูเหมือนมีขบวนการของต่างชาติมาเอาคิวเป็นอาชีพ และมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านมารักษาฟรี โดยทำบัตรต่างด้าวปลอม รัฐบาลควรส่งคนไปดูนะ เป็นขบวนการทีเดียว รพ.น่ะไม่รู้เห็นด้วยหรอก คิดรพ.ใหญ่ทั่วประเทศ รายจ่ายเยอะมาก นั่งเครื่องมาเลย มีทำบัตรปลอมขายแน่นอน งบปท.ไทยไม่น่าเอาอยู่ แต่งตัวกันดี๊ดี ๕ เห็นนักศืกษาแพทย์ปีห้าโดนอาจารย์เอาปากกาเคาะหัวตลอด เรียนแพทย์เนี่ยเครียดมากนะครับ บอกเลย ๖ ค่ายา รพ.เอกชนแพงกว่ารพ. รัฐ เกินสิบเท่า หมอจุฬานี่เก่งนะครับ ความรู้เยอะ… ดีใจที่ได้ใช้สิทธิอดีตข้าราชการ มันน่าจะดีกว่านี้ แต่เอางบไปแบ่งให้ประชาชนก็ดีแล้ว ร่วมทุกข์สุขกัน ถ้ากระทรวงคลังเอาส่วนของข้าราชการไปแบ่งลงทุนไว้ น่าจะรักษาได้ระดับ รพ.เอกชน ก็อย่างว่า…ชีวิตคนในรพ.มันเหนื่อยนะ ใครไม่เคยตื่นไปเข้าคิวตีสี่เหมือนผม ห้ามวิจารณ์เรื่องงบสาธารณสุข นักการเมืองทุกคน ควรไปตอนตีสี่ จะเข้าใจชีวิตและปชช.มากขื้น นิสิตจุฬาทุกคนควรไปอย่างยิ่ง ขอบอก นี่คือมหาวิทยาลัยชีวิตครับ บัณฑิตต้องรู้จักประชาชน Somkiat Osotsapa February 5 at 12:31am · เมื่อประเทศไทยถูกยึด ม้าอารีต้องออกมายืนตากฝน คนไทยจะเข้าหาหมอได้อย่างไร -------------------------- อาชีพที่ทำรายได้สูงกว่าบุคลากรการแพทย์ในรพ.จุฬาฯ คือ ล่ามต่างชาติ ที่ขนคนไข้ประเทศเพื่อนบ้าน มารายละไม่ต่ำกว่าสิบคนต่อวันต่อล่ามหนื่งคน มีรายได้จากคนไข้ตปท.รายละ 500 บาท วันละเกิน5000 บาท ล่ามของแต่ละชาติมีมากมาย (หมอจุฬาผู้รักชาติหลังไมค์มาบอก) ด้วยเหตุนี้ คนไข้ที่นั่งรอหมอจึงเป็นคนจากปท.เพื่อนบ้านร่วม 50% คนไทยที่จะเข้ารพ.จุฬาฯ มีวิธีเข้ารักษาอย่างรวดเร็วได้ โดยอาศัยทางด่วน คือ รถของมูลนิธิปอเต๊กตื๊ง เช่น ถูกรถชน ถูกยิง แทง ฟัน งูกัด เข้าห้องอุบัติเหตุ ฝั่งสวนลุมได้เลย ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่าระบบประกัน ทำให้คนไทยไปรักษามาก ต้องเก็บเงินผู้ป่วยไทยเพิ่ม หมอไม่พอ อุปกรณ์ไม่พอ นี่…ไร้สาระมาก… รายจ่ายเพิ่มเพราะรับคนไข้จากตปท.มาตรึม… การทำคลอดทำให้ต่างชาติมากกว่าคนไทย… รู้กันทั้งภูมิภาคเอเชียว่ามารักษาที่เมืองไทย แค่บอกว่าไม่มีเงินก็ฟรี… ตอนนี้ข่าวสารกระจายไปทั่ว จัดเป็นธุรกิจข้ามชาติใหญ่โตมาก ทำบัตรเสร็จ ตรวจสุขภาพเสร็จ หางานทำได้เลย เศรษฐกิจดีมาก หางานง่าย ไปบีบให้คนไทยลาออก พวกเราเยอะ เครือข่ายเพียบ เบิกล่วงหน้าได้ ผมมีรายงานต้นทุนการรักษาผู้ป่วยของรพ.ทุกประเภท ทั่วปท. รายกลุ่มโรค คลอดแบบไหนเท่าไร ค่าใช้จ่ายประเภทค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าเสื่อม…รู้หมด งบประมาณแผ่นดินของรพ.จุฬาแห่งเดียว เพิ่มจากราวสองพันล้านมาเป็นหกพันล้าน เพิ่มสามเท่าในเวลา 3-4 ปี ศิริราชก็บอกว่าขาดทุน รพ.ศูนย์ รพ.ท้องถิ่น รพ.ชุมชนขาดแคลนไปหมด หมอ พยาบาล เภสัช รังสี บุคลากรอื่นๆทำงานกันหนักมาก เศรษฐกิจไทย ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มในไม่กี่ปี ตอนนี้อุตสาหกรรมขนคนเข้าปท.ไทยกำลังเติบใหญ่ ทั้งในลาว กัมพูชา พม่า อาฟริกันยังมาเลย เขาพูดกันว่าเมืองไทยแม่งโง่ ชอบอวดรวย ทั้งๆที่คนไทยจนจะตายห่า ผู้นำบ้ายอ ชมๆแม่งไป -------------------------- ผมรู้ว่าคนไทยกำลังเครียดรุนแรง แต่อายไม่กล้าพูด ระวังว่ามันจะระเบิด ทั้งถูกแย่งคิวรพ. แย่งงาน แย่งที่ขายของ แย่งที่นั่งในรถเมล์แดง รถไฟฟรี ยึดสวนสาธารณะ อิทธิพลขั้นสูง คนจนทั้งนั้น ทุกสีเสื้อ ผู้บริหารสภากาชาด ครม คสช สนช สปท อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ ไม่เคยมายืนเข้าคิวตอนตี 4 ปัญหาของประเทศนี้คือ ผู้นำ ผู้ตัดสินใจ ผู้วางแผน ไม่ได้ใช้ชีวิตสัมผัสทุกข์ยากของปชช. ตัดสินใจผิดมากๆ เมื่อเห็นต่างชาติเยอะมาก ผมก็ออกมาเดินดูรอบนอก แถวร้านกาแฟขายลาตเต้นั่นแหละครับ เจอเลย ขบวนการ มีผู้กำกับงาน แต่งตัวดีมาก ผมฟังภาษาออก เจ้าหน้าที่รบ.ปท.เพื่อนบ้านก็มี กำลังคุยถึงที่จะมาอีกหลายระลอก ผ่านด่านต่างๆ ดูรวย มีความสุข เขากำลังทำงานให้ชาติของเขา ส่งคนมารักษาที่ไทยฟรี… ขำที่คนไทยดูทุเรศ ทุกขเวทนา วันนี้ คุยกับพรรคพวกที่รู้เรื่องดี จะได้รู้ต้นน้ำ กลาง น้ำ ปลายน้ำ อือม์ มันน่ากลัว… เขื่อนความมั่นคงประเทศพังแล้ว -------------- ความขัดแย้งรุนแรงเกิดขื้นเมื่อคนในชาติรู้สึกว่าพื้นที่ทำมาหากิน พื้นที่ชีวิตของเขาถูกรุกราน ถูกคุกคาม เยอรมัน เรียกว่า libensraum แปลว่า life space ตอนนี้หนักมาก สงครามเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในทุกที่… สวีเดน เดนมาร์กจึงเอาผู้อพยพออก เศรษฐกิจยุโรปจะพังเอา ก็เพราะแบบไทยตอนนี้…คนไทยจะจ่ายเงินหนัก ขาดแคลน แล้วจะโวย แล้วจะระเบิด… ผมไปนั่งคุยกับพรรคพวก… ๑ คนในปท.รอบบ้านเราไม่ได้รวยแบบที่มีข่าวในไทยหรอก ค่าแรงคนทั่วๆไปในพม่าก็ราวเดือนละ 6-7ร้อย ค่าแรงขั้นต่ำที่สู้กันเต็มที่ก็ 2,200 ต่อเดือน ที่กัมพูชาสูงกว่านี้นิดนึง เวียดนามราวเดือนละ 3,000 แต่ยังมีคนไม่ได้ทำงานในระบบที่ค่าจ้างระดับนี้เยอะ ตอนนี้คนต่างชาติ มาอยู่ในปท. ไทย ไม่ใช่ 3 ล้าน อาจถึง 6 ล้านแล้ว เขาบอกต้องไปดูที่ด่านที่เข้ามา… ราชการไม่มีตัวเลข - ที่มีก็ผิด มามาก ก็เข้ารพ.มาก ญาติพี่น้องเจ็บป่วยก็พามา ถูกกว่าไปพนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทร์ ซื่งหมอไม่เก่ง ยาไม่มี เครื่องมือไม่มี แพงกว่าเมืองไทยด้วย ๒ ตอนนี้ระบบจัดตั้ง เครือข่ายแน่นหนามาก คนทางโน้นก็รู้ว่ามาเมืองไทยแล้วรวย ผมถามว่าที่สำรวจบอกว่ามาแล้วจะกลับไป…เขาบอกกลับไปที่ไหน…มีแต่กำลังแห่กันมา! มาแล้วมีบริการหางาน หาที่พัก ทำบัตรแรงงาน มีนายจ้าง ทำบัตรสุขภาพ พาไปรพ. หักเงินทีหลังก็ได้ มีนายทุน กองทุนระดับเป็นหมื่นล้าน มีตั้งแต่บริการขนส่ง ต้นทาง ถึงปลายทางแบบโรฮิงยา ได้สัญชาติกันเยอะ ซื้อบัตร เอาลูกมาใส่ชื่อพ่อคนไทย ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาก จะได้มาเรียนฟรีที่เมืองไทย ได้เข้ามหาวิทยาลัย รักษาฟรี อยู่ฟรีกับนายจ้าง อาหารพร้อม ไม่ต้องจ่ายแวต ส่งเงินกลับไปได้เยอะมาก มาคลอดเมืองไทย ค่าคลอด ดูแลทั้งปี 365.-บาทเท่านั้น ถ้าผ่าออกก็แค่นี้ ต้นทุนสองหมื่นกว่านะครับ จะหาที่ขายของ เปิดร้าน ใช้คนไทยเป็นโนมินีก็มี ทำแบบแบ่งเปอร์เซนต์ก็ได้ มามากก็เข้ารพ.มาก ทำบัตรสุขภาพราวปีละ 1,300.- รักษาทุกโรค 55 --------------- ๓ เขาบอกว่าเมืองไทยโฆษณา AEC เกินจริง จนคนและขรก. เข้าใจว่าแรงงานคนต่างชาติเข้าไทยได้ฟรี คนไทยทั่วไปก็เข้าใจเช่นนั้น ด่านจืงเปิด ยุคนี้ป่วยรุนแรง เหมารถจากพนมเปญมาเลย นอนรพ.3เดือน ให้ออกซิเจนตลอด จ่าย2หมื่น ต้นทุนจริงๆหลายแสน รวมค่าอุปกรณ์ ผ่าหัวใจฟรี ไปรพ.เอกชนสี่แสน ต้นทุนของรัฐแสนกว่า ไม่เจ๊งไงไหว --------------------- ๔ เดินทางมาไทยง่าย ถูก… เมืองไทยไม่มีระบบตรวจสอบคนที่มาแล้วไม่กลับ เงินซื้อได้ทุกอย่าง ตอนนี้เครือข่ายจัดหาคนเป็นพ่อ ทำงานดี เพราะรายได้มาก กำลังมากันเพียบ พลเมืองไทยจะเยอะมาก เตรียมงบไว้ -------------- ๕ อุตสาหกรรม(พาคนมาไทย) รุ่งเรืองมากในปท.เพื่อนบ้าน กำไรดี ลูกค้าเยอะมาก ช่วงนี้ข่าวไปทั่ว ------------------- ๖ การจะรักษาในไทย ก็แค่หาชื่อนายจ้าง ซื่งจัดไว้แล้ว ไปซื้อบัตรสุขภาพ รบ.ไทยบริการดีมาก… ๗ ที่ผิดกฏหมายทำไง ก็จ่ายเดือนละพันต่อคนเหมือนเดิม 55 ก็ต้องมีรายได้อะไรสักอย่าง ไอ้คนที่ผมคุยด้วย มีหน้าที่แบ่งลูกน้องไปเก็บเงินรายหัวส่งทุกเดือน…วันนี้นั่งคุยละเอียด มึงจ่ายให้ใครกันบ้าง ไอ้นั่นย้ายแล้วเหรอ ตอนนี้ใครคุม… ชีวิตธรรมดาคุยกันยังงี้ครับ -------------- ยังไม่บอกว่าจะแก้อย่างไรนะครับ ต้องเล่าสถานการณ์ก่อน -------------- ผมแนะว่าต่อไป ถ้าป่วยไปรักษาแถวจังหวัดที่ไม่มีต่างด้าว เช่น ชัยภูมิ เลย น่าจะสะดวกกว่านะ ช่วงนี้ก็สตรองหน่อย ถ้าพ่อแม่ไม่ได้รับการรักษาที่ดี ยาลดลง ไม่มีเตียงก็ขอให้ทำใจ ผมจะไปเข้าคิวเป็นเพื่อน ตอนนี้เตรียมแผนจะไปศิริราช ติดต่อไว้แล้ว ต่อไปจะไปราชวิถี รามา วชิระ ไปขอนแก่น อุดร สุราษฏร์ ที่จริง คสช ครม ควรส่งภรรยาไปเข้าคิวบ้างนะ กรรมการสภากาชาดด้วย ไปพรุ่งนี้เลย จะได้รับรู้ความรู้สืกคนไทย ผมเขียนไป ผมเศร้ามาก เงินที่รบ.สัญญาว่าจะดูแลพยาบาลผมตอนแก่ แบ่งไปให้คนไทยอื่นๆ ผมมีความสุขนะ เจ็บ ตายด้วยกัน แต่ตอนนี้ ผมแก่ ผมต้องนั่งรอคิวยาว ตอนใกล้จะถึงคิว มันแทรกเข้ามา เอาลูกค้ามาแซงสิบคนนี่ผมไม่พอใจมาก ถาม ขาใหญ่มันเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ เอาต่างชาติเข้ามา มันหัวเราะ บอกรายได้ของหลายคนจะดีมากทีเดียว มันถามว่าใครคิดวะ คนไทยได้อะไรบ้าง พวกนี้รักชาตินะครับ ------------------ ต่างชาติบอกผู้นำไทยไม่ติดดิน บ้าลูกยอ บ้า AEC งี่เง่า ชอบเอาหน้า ไม่รู้เรื่อง สบาย หมูที่สุดในปท.ย่านนี้ เพื่อนผมบอก ผมไม่ได้พูดนะ จะแก้ปัญหาต้องพูดกันให้เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้… วันนี้เขียนไม่เป็นระบบ มึนไวน์มานิดหน่อย ความรู้ที่เพื่อนเพจเล่ามา เป๊ะมาก ผมจึงพอมีภูมิไปคุยกับเขา เห็นอะไรช่วยบอกมานะครับ…ช่วยกัน…
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1298 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts