• คนคำนวนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต

    บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุภัยพิบัติที่เมียนมาทิศตะวันตกรัศมี 225 ถึง 315 องศาของประเทศไทย โดยแผ่นดินไหวในครั้งนี้มีการปลดปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์กว่า 334 ลูก ทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นซากปรักหักพังสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สินและชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศต้นทางภัยพิบัติหรือบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศไทยต่างก็ได้รับผลกระทบมากหรือน้อยเช่นกัน เฉกเช่น “โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” ย่านจตุจักร เกิดถล่มในเวลาไล่หลังกัน

    จากมุมมองของนักฮวงจุ้ยวิทยา ที่ว่าด้วยศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างทิศทาง กับ ช่วงห้วงเวลา ก่อเกิดกระแสพลังธรรมชาติคู่ศัตรูธาตุตรงข้ามที่ขัดแย้งปะทะห้ำหั่นต่อกัน ที่เรียกว่า กระแสพลังอัปมงคล “3 อสูร” หรือ “三煞”(ซาสั่วะ) ที่มีลักษณะวิบากต่างๆเป็นปัจจัยจุดชนวนให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิบากจากถนน ช่องลม มุมตึก ป้ายโฆษณา หรือแม้แต่การกระทบกระทั่งต่อพื้นดิน โดยเฉพาะตัวอาคารหลังอิงพิงทิศตะวันตก ราศีระกา “酉”(อิ้ว) ธาตุทอง ปะทะกับเดือนเถาะ “卯”(เบ้า) มีนาคมที่เป็นทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) อีกทั้งทางหลักเบญจธาตุรูปทรงตัวอาคารสูงเป็นธาตุไม้ถูกทิศประธานที่เป็นธาตุทองพิฆาต กระตุ้นกระแสพลังอัปมงคลปะทุเกิดเหตุอาคารถล่มใน“โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” ย่านจตุจักร ณ วันศุกร์ที่ 28 เดือนมีนาคม พ.ศ.2568 ปรากฏความเลวร้ายที่ไม่คาดคิด โศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน เป็นภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งที่ไม่เคยประสบมาก่อน

    ความสูญเสียและความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ย่อมมีผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่างล้วนเป็นเหยื่อจากกระแสวิบากพลังจักรวาลที่เป็นกฎแห่งความเป็นจริงอันสูงสุดของพลังธรรมชาติ ขณะที่บทสรุปจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบหาความจริงเชิงสถาปัตยกรรมจากแบบแปลนในการคำนวนออกแบบตลอดจนกระบวนการการก่อสร้างทุกๆขั้นตอนเพื่อหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุอาคารถล่มในครั้งนี้ซึ่งยังคงต้องรอพิสูจน์ต่อไป

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    คนคำนวนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุภัยพิบัติที่เมียนมาทิศตะวันตกรัศมี 225 ถึง 315 องศาของประเทศไทย โดยแผ่นดินไหวในครั้งนี้มีการปลดปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์กว่า 334 ลูก ทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นซากปรักหักพังสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สินและชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศต้นทางภัยพิบัติหรือบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศไทยต่างก็ได้รับผลกระทบมากหรือน้อยเช่นกัน เฉกเช่น “โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” ย่านจตุจักร เกิดถล่มในเวลาไล่หลังกัน จากมุมมองของนักฮวงจุ้ยวิทยา ที่ว่าด้วยศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างทิศทาง กับ ช่วงห้วงเวลา ก่อเกิดกระแสพลังธรรมชาติคู่ศัตรูธาตุตรงข้ามที่ขัดแย้งปะทะห้ำหั่นต่อกัน ที่เรียกว่า กระแสพลังอัปมงคล “3 อสูร” หรือ “三煞”(ซาสั่วะ) ที่มีลักษณะวิบากต่างๆเป็นปัจจัยจุดชนวนให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิบากจากถนน ช่องลม มุมตึก ป้ายโฆษณา หรือแม้แต่การกระทบกระทั่งต่อพื้นดิน โดยเฉพาะตัวอาคารหลังอิงพิงทิศตะวันตก ราศีระกา “酉”(อิ้ว) ธาตุทอง ปะทะกับเดือนเถาะ “卯”(เบ้า) มีนาคมที่เป็นทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) อีกทั้งทางหลักเบญจธาตุรูปทรงตัวอาคารสูงเป็นธาตุไม้ถูกทิศประธานที่เป็นธาตุทองพิฆาต กระตุ้นกระแสพลังอัปมงคลปะทุเกิดเหตุอาคารถล่มใน“โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” ย่านจตุจักร ณ วันศุกร์ที่ 28 เดือนมีนาคม พ.ศ.2568 ปรากฏความเลวร้ายที่ไม่คาดคิด โศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน เป็นภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งที่ไม่เคยประสบมาก่อน ความสูญเสียและความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ย่อมมีผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่างล้วนเป็นเหยื่อจากกระแสวิบากพลังจักรวาลที่เป็นกฎแห่งความเป็นจริงอันสูงสุดของพลังธรรมชาติ ขณะที่บทสรุปจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบหาความจริงเชิงสถาปัตยกรรมจากแบบแปลนในการคำนวนออกแบบตลอดจนกระบวนการการก่อสร้างทุกๆขั้นตอนเพื่อหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุอาคารถล่มในครั้งนี้ซึ่งยังคงต้องรอพิสูจน์ต่อไป ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • AWS นำเสนอสถาปัตยกรรม AI ใหม่ด้วยชิป Trainium ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการใช้งาน AI โดยเสนอทางเลือกที่ถูกกว่า Nvidia H100 ถึง 25% แม้ยังมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งานที่ต้องพึ่งพา AWS แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบ AI ที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพ

    กลยุทธ์ที่โดดเด่นในตลาด AI:
    - AWS เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่กำลังพัฒนาชิปของตนเอง เช่น Google ที่มีชิป Tensor Processing Units (TPU) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาความขาดแคลน GPU

    ความสามารถของ Trainium:
    - แม้ Trainium อาจไม่สามารถแทนที่ Nvidia GPU ที่มีความซับซ้อนสูง เช่น DGX Spark ได้โดยตรง แต่ยังถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการรอคิวหรือจ่ายค่าใช้จ่ายสูง

    ข้อจำกัดที่ควรพิจารณา:
    - Trainium มีการใช้งานเฉพาะใน AWS เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ถูกผูกมัดกับแพลตฟอร์ม และต้องลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ระบบใหม่ที่แตกต่างจาก CUDA ของ Nvidia

    แนวโน้มในอุตสาหกรรม:
    - ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่มุ่งสร้างระบบชิปของตนเองเพื่อลดการพึ่งพา Nvidia ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ตลาด AI และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบริษัท

    https://www.techradar.com/pro/and-so-it-begins-amazon-web-services-is-aggressively-courting-its-own-customers-to-use-its-trainium-tech-rather-than-nvidias-gpus
    AWS นำเสนอสถาปัตยกรรม AI ใหม่ด้วยชิป Trainium ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการใช้งาน AI โดยเสนอทางเลือกที่ถูกกว่า Nvidia H100 ถึง 25% แม้ยังมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งานที่ต้องพึ่งพา AWS แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบ AI ที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ที่โดดเด่นในตลาด AI: - AWS เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่กำลังพัฒนาชิปของตนเอง เช่น Google ที่มีชิป Tensor Processing Units (TPU) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาความขาดแคลน GPU ความสามารถของ Trainium: - แม้ Trainium อาจไม่สามารถแทนที่ Nvidia GPU ที่มีความซับซ้อนสูง เช่น DGX Spark ได้โดยตรง แต่ยังถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการรอคิวหรือจ่ายค่าใช้จ่ายสูง ข้อจำกัดที่ควรพิจารณา: - Trainium มีการใช้งานเฉพาะใน AWS เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ถูกผูกมัดกับแพลตฟอร์ม และต้องลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ระบบใหม่ที่แตกต่างจาก CUDA ของ Nvidia แนวโน้มในอุตสาหกรรม: - ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่มุ่งสร้างระบบชิปของตนเองเพื่อลดการพึ่งพา Nvidia ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ตลาด AI และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบริษัท https://www.techradar.com/pro/and-so-it-begins-amazon-web-services-is-aggressively-courting-its-own-customers-to-use-its-trainium-tech-rather-than-nvidias-gpus
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • 35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️

    🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️

    🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน

    ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨

    แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย…

    📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง

    🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦

    มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended

    เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น

    🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์
    โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว

    👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา…

    💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก

    🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก

    อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️

    💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน

    📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90%

    ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕

    🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า…

    ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย"

    ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎

    🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้

    “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย

    ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜

    🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต…

    🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม
    ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568

    🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️ 🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️ 🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨 แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย… 📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง 🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦 มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น 🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์ โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว 👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา… 💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก 🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️ 💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน 📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90% ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕 🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า… ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย" ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎 🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้ “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜 🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต… 🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568 🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • เมื่อลองเปรียบเทียบพื้นที่บริเวณย่านจตุจักร กับแผนที่บริเวณกรุงเทพฯ พ.ศ. 2453 พบว่า ตรงที่เกิดเหตุก่อสร้างตึกของ สตง. มีสภาพเป็นโคก คือมีเนินดินเตี้ย ๆ กระจายไปทั่วบริเวณ อยู่ในย่านที่เรียกว่า ทุ่งพระยาเวิกหน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    เมื่อลองเปรียบเทียบพื้นที่บริเวณย่านจตุจักร กับแผนที่บริเวณกรุงเทพฯ พ.ศ. 2453 พบว่า ตรงที่เกิดเหตุก่อสร้างตึกของ สตง. มีสภาพเป็นโคก คือมีเนินดินเตี้ย ๆ กระจายไปทั่วบริเวณ อยู่ในย่านที่เรียกว่า ทุ่งพระยาเวิกหน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • CEO ออริจิ้น ลุยเอง พาสำรวจโครงสร้างทางเชื่อมสะพานโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ย้ำ แข็งแรง ยันโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติ

    นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นสามัญวิศวกรด้วย นำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา เข้าตรวจสอบสะพานทางเชื่อมอาคารโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวด้วยตนเอง

    เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า โครงสร้างอาคารแต่ละส่วนยังคงแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามการประเมินเบื้องต้นตามที่ได้แถลงการณ์ก่อนหน้า รวมทั้งสะพานทางเชื่อมอาคารที่ออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่จากอาคารได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ว่าโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติแต่อย่างใด มีเพียงความเสียหายด้านงานสถาปัตยกรรมที่จะรีบดำเนินการวางแผนซ่อมแซมโดยเร่งด่วน

    อย่างไรก็ตามออริจิ้นได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าไว้เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าช่วยเหลือลูกค้าทุกโครงการให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลังทุกโครงการแล้ว และทีมวิศวกรตรวจสอบความปลอดภัยด้านโครงสร้างจะเข้าตรวจสอบครบทั้ง 87 โครงการภายในวันนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000030021

    #MGROnline #ORI #พาร์คออริจิ้นทองหล่อ #ออริจิ้น #ตึกถล่ม #คอนโดหรู
    CEO ออริจิ้น ลุยเอง พาสำรวจโครงสร้างทางเชื่อมสะพานโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ย้ำ แข็งแรง ยันโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติ • นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นสามัญวิศวกรด้วย นำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา เข้าตรวจสอบสะพานทางเชื่อมอาคารโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวด้วยตนเอง • เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า โครงสร้างอาคารแต่ละส่วนยังคงแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามการประเมินเบื้องต้นตามที่ได้แถลงการณ์ก่อนหน้า รวมทั้งสะพานทางเชื่อมอาคารที่ออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่จากอาคารได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ว่าโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติแต่อย่างใด มีเพียงความเสียหายด้านงานสถาปัตยกรรมที่จะรีบดำเนินการวางแผนซ่อมแซมโดยเร่งด่วน • อย่างไรก็ตามออริจิ้นได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าไว้เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าช่วยเหลือลูกค้าทุกโครงการให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลังทุกโครงการแล้ว และทีมวิศวกรตรวจสอบความปลอดภัยด้านโครงสร้างจะเข้าตรวจสอบครบทั้ง 87 โครงการภายในวันนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000030021 • #MGROnline #ORI #พาร์คออริจิ้นทองหล่อ #ออริจิ้น #ตึกถล่ม #คอนโดหรู
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • AMD อาจนำ FSR 4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับคุณภาพภาพเกมไปใช้ในเครื่องเล่นเกมพกพาและแล็ปท็อปรุ่นใหม่ผ่าน APU Medusa Point ที่ใช้ RDNA 4 ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของภาพและคุณภาพกราฟิก แม้ยังมีการแข่งขันกับเทคโนโลยี DLSS ของ NVIDIA แต่การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD มีโอกาสโดดเด่นในตลาดเกมพกพา

    ความน่าสนใจของ Medusa Point APUs:
    - สถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Medusa Point รองรับ Zen5LP cores ที่เป็นระบบประหยัดพลังงานและหน่วยประมวลผล Navi4 ซึ่งเหมาะสมกับเกมที่ต้องการคุณภาพกราฟิกสูง.

    การใช้งาน FSR 4 ในอนาคต:
    - มีความหวังว่า FSR 4 อาจถูกพัฒนาสำหรับ RDNA 3 ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เครื่องที่ใช้ AMD รุ่นก่อนหน้านี้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้.

    เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีคู่แข่ง:
    - FSR 4 ถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี DLSS (Deep Learning Super Sampling) ของ NVIDIA โดยเน้นการให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด performance และช่วยเพิ่มคุณภาพภาพโดยไม่สูญเสียความลื่นไหล.

    โอกาสและการแข่งขันในตลาด:
    - ความก้าวหน้าของ FSR 4 บน APU จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ NVIDIA และ Intel ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดเครื่องเล่นเกมพกพาที่มีศักยภาพการเติบโตสูง.

    https://www.techradar.com/computing/cpu/hang-on-handheld-fans-we-could-be-seeing-amds-fsr-4-upscaling-on-new-handhelds-after-all-if-this-new-rdna-4-leak-is-legitimate
    AMD อาจนำ FSR 4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับคุณภาพภาพเกมไปใช้ในเครื่องเล่นเกมพกพาและแล็ปท็อปรุ่นใหม่ผ่าน APU Medusa Point ที่ใช้ RDNA 4 ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของภาพและคุณภาพกราฟิก แม้ยังมีการแข่งขันกับเทคโนโลยี DLSS ของ NVIDIA แต่การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD มีโอกาสโดดเด่นในตลาดเกมพกพา ความน่าสนใจของ Medusa Point APUs: - สถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Medusa Point รองรับ Zen5LP cores ที่เป็นระบบประหยัดพลังงานและหน่วยประมวลผล Navi4 ซึ่งเหมาะสมกับเกมที่ต้องการคุณภาพกราฟิกสูง. การใช้งาน FSR 4 ในอนาคต: - มีความหวังว่า FSR 4 อาจถูกพัฒนาสำหรับ RDNA 3 ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เครื่องที่ใช้ AMD รุ่นก่อนหน้านี้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้. เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีคู่แข่ง: - FSR 4 ถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี DLSS (Deep Learning Super Sampling) ของ NVIDIA โดยเน้นการให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด performance และช่วยเพิ่มคุณภาพภาพโดยไม่สูญเสียความลื่นไหล. โอกาสและการแข่งขันในตลาด: - ความก้าวหน้าของ FSR 4 บน APU จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ NVIDIA และ Intel ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดเครื่องเล่นเกมพกพาที่มีศักยภาพการเติบโตสูง. https://www.techradar.com/computing/cpu/hang-on-handheld-fans-we-could-be-seeing-amds-fsr-4-upscaling-on-new-handhelds-after-all-if-this-new-rdna-4-leak-is-legitimate
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่ชื่อ Snapdragon 8 Elite Gen 2 โดยเผยข้อมูลจากแหล่งข่าว Digital Chat Station (DCS) ซึ่งระบุว่าชิปเซ็ตใหม่ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3P node process) และจะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม ARMv9 รุ่นล่าสุด โดยนวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์

    การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่:
    - Snapdragon 8 Elite Gen 2 ใช้โครงสร้าง 2+6 cores ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลหลัก 2 คอร์สำหรับงานหนัก และ 6 คอร์สำหรับงานที่ปรับแต่งประสิทธิภาพให้มีความเหมาะสม.

    การพัฒนา GPU:
    - ชิปนี้จะมาพร้อมกับกราฟิก Adreno 840 iGPU ที่ถูกพัฒนาให้รองรับชุดคำสั่งใหม่ของ ARM เช่น Scalable Matrix Extension 1 (SME 1) และ Scalable Vector Extension 2 (SVE2) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลกราฟิก.

    ความเร็วและการทดสอบประสิทธิภาพ:
    - คาดว่าชิปนี้จะสามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 3.8 ล้านคะแนนใน AnTuTu V10 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน.

    กำหนดการเปิดตัว:
    - Qualcomm วางแผนเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 2 ในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากรุ่น Elite รุ่นแรกที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา.

    https://www.techpowerup.com/334797/qualcomm-snapdragon-8-elite-gen-2-leak-points-to-adreno-840-igpu-support-of-arms-latest-scalable-instruction-sets
    ข่าวนี้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่ชื่อ Snapdragon 8 Elite Gen 2 โดยเผยข้อมูลจากแหล่งข่าว Digital Chat Station (DCS) ซึ่งระบุว่าชิปเซ็ตใหม่ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3P node process) และจะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม ARMv9 รุ่นล่าสุด โดยนวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่: - Snapdragon 8 Elite Gen 2 ใช้โครงสร้าง 2+6 cores ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลหลัก 2 คอร์สำหรับงานหนัก และ 6 คอร์สำหรับงานที่ปรับแต่งประสิทธิภาพให้มีความเหมาะสม. การพัฒนา GPU: - ชิปนี้จะมาพร้อมกับกราฟิก Adreno 840 iGPU ที่ถูกพัฒนาให้รองรับชุดคำสั่งใหม่ของ ARM เช่น Scalable Matrix Extension 1 (SME 1) และ Scalable Vector Extension 2 (SVE2) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลกราฟิก. ความเร็วและการทดสอบประสิทธิภาพ: - คาดว่าชิปนี้จะสามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 3.8 ล้านคะแนนใน AnTuTu V10 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน. กำหนดการเปิดตัว: - Qualcomm วางแผนเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 2 ในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากรุ่น Elite รุ่นแรกที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา. https://www.techpowerup.com/334797/qualcomm-snapdragon-8-elite-gen-2-leak-points-to-adreno-840-igpu-support-of-arms-latest-scalable-instruction-sets
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Qualcomm "Snapdragon 8 Elite Gen 2" Leak Points to Adreno 840 iGPU & Support of ARM's Latest Scalable Instruction Sets
    Digital Chat Station (DCS)—a tenured leaker of Qualcomm pre-release information—has shared new "Snapdragon 8 Elite Gen 2" chipset details. Earlier today, their Weibo feed was updated with a couple of technological predictions. The announced smartphone chip's "SM8850" identifier was disclosed once ag...
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่

    มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน.

    การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI:
    - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล.

    การคาดการณ์สำหรับอนาคต:
    - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI.

    การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia:
    - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่ มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี: - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน. การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI: - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล. การคาดการณ์สำหรับอนาคต: - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI. การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia: - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์. https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังพัฒนา RDNA 3.5 สำหรับหน่วยประมวลผล APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point และ Gorgon Point ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และ Zen 5 การเปิดตัวครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของ AMD ในการขยายความสามารถของกราฟิกใน APU และการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับงาน AI อย่างต่อเนื่อง

    การเปลี่ยนแปลงใน RDNA 3.5:
    - RDNA 3.5 เคยใช้ใน Ryzen AI เช่น Strix Halo และ Strix Point แต่ใน Medusa Point คาดว่าจะมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะกับการประมวลผลกราฟิกที่เข้มข้นขึ้น.

    มุมมองต่ออนาคตของ RDNA 4:
    - RDNA 4 ดูเหมือนจะออกแบบมาสำหรับเดสก์ท็อปเป็นหลัก ทำให้ RDNA 3.5 กลายเป็นแกนสำคัญในชิป APU ของ AMD ในระยะเวลาอันใกล้.

    ประสิทธิภาพของ APU ในงาน AI:
    - RDNA 3.5 มีประสิทธิภาพสูงในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยรองรับการประมวลผลในระดับที่ครอบคลุมการใช้งานหลายรูปแบบ.

    บทบาทของ GFX1153 ในอนาคต:
    - ชิปที่ใช้ GFX1153 ถูกคาดหวังว่าจะเป็น GPU ในตัวสำหรับ Medusa Point ซึ่งถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นในตลาดหน่วยประมวลผลแบบครบวงจร.

    https://www.techpowerup.com/334691/gfx1153-target-spotted-in-amdgpu-library-amendment-rdna-3-5-again-linked-to-medusa-point-apu
    AMD กำลังพัฒนา RDNA 3.5 สำหรับหน่วยประมวลผล APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point และ Gorgon Point ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และ Zen 5 การเปิดตัวครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของ AMD ในการขยายความสามารถของกราฟิกใน APU และการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับงาน AI อย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงใน RDNA 3.5: - RDNA 3.5 เคยใช้ใน Ryzen AI เช่น Strix Halo และ Strix Point แต่ใน Medusa Point คาดว่าจะมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะกับการประมวลผลกราฟิกที่เข้มข้นขึ้น. มุมมองต่ออนาคตของ RDNA 4: - RDNA 4 ดูเหมือนจะออกแบบมาสำหรับเดสก์ท็อปเป็นหลัก ทำให้ RDNA 3.5 กลายเป็นแกนสำคัญในชิป APU ของ AMD ในระยะเวลาอันใกล้. ประสิทธิภาพของ APU ในงาน AI: - RDNA 3.5 มีประสิทธิภาพสูงในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยรองรับการประมวลผลในระดับที่ครอบคลุมการใช้งานหลายรูปแบบ. บทบาทของ GFX1153 ในอนาคต: - ชิปที่ใช้ GFX1153 ถูกคาดหวังว่าจะเป็น GPU ในตัวสำหรับ Medusa Point ซึ่งถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นในตลาดหน่วยประมวลผลแบบครบวงจร. https://www.techpowerup.com/334691/gfx1153-target-spotted-in-amdgpu-library-amendment-rdna-3-5-again-linked-to-medusa-point-apu
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    "GFX1153" Target Spotted in AMDGPU Library Amendment, RDNA 3.5 Again Linked to "Medusa Point" APU
    At the tail end of 2024, AMD technical staffers added the "GFX1153" target to their first-party GPU supported chip list. Almost three months later, PC hardware news outlets and online enthusiasts have just picked up on this development. "GFX1150" family IPs were previously linked to Team Red's RDNA ...
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังทดสอบ CPU ตัวอย่างที่เรียกว่า Q46W ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Meteor Lake-S แต่ไม่มี Hyper-Threading แม้จะไม่ถูกเปิดตัวในวงกว้าง แต่มีการขายในตลาดมือสองพร้อมรายงานว่าต้องการเมนบอร์ดเฉพาะ ทาง Intel ยังคงสำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีนี้เพื่อสร้าง CPU Desktop ที่มีประสิทธิภาพในอนาคต

    ความพิเศษของ Q46W:
    - โปรเซสเซอร์นี้ไม่มี Hyper-Threading ซึ่งแตกต่างจากรุ่นทั่วไปของ Intel ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อเพิ่มการทำงานหลายหน้าพร้อมกัน.

    ข้อจำกัดของการใช้งาน:
    - ตัวอย่าง Q46W จำเป็นต้องใช้เมนบอร์ดพิเศษที่ยังไม่มีในท้องตลาด ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ Intel ไม่ได้เปิดตัวในวงกว้าง.

    การขายในตลาดมือสอง:
    - มีรายงานว่าชิปตัวอย่างนี้ถูกขายใน Taobao โดยระบุว่าเป็น Intel Confidential ซึ่งยืนยันถึงความสนใจจากนักสะสมและผู้ที่สนใจเทคโนโลยีล้ำหน้า.

    สถานการณ์ของ Meteor Lake-S:
    - แม้จะมีข่าวลือว่า Intel ยกเลิกการพัฒนา Meteor Lake-S แต่ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง.

    https://www.techpowerup.com/334688/intel-q46w-engineering-sample-seems-to-be-meteor-lake-s-desktop-cpu-minus-hyper-threading
    Intel กำลังทดสอบ CPU ตัวอย่างที่เรียกว่า Q46W ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Meteor Lake-S แต่ไม่มี Hyper-Threading แม้จะไม่ถูกเปิดตัวในวงกว้าง แต่มีการขายในตลาดมือสองพร้อมรายงานว่าต้องการเมนบอร์ดเฉพาะ ทาง Intel ยังคงสำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีนี้เพื่อสร้าง CPU Desktop ที่มีประสิทธิภาพในอนาคต ความพิเศษของ Q46W: - โปรเซสเซอร์นี้ไม่มี Hyper-Threading ซึ่งแตกต่างจากรุ่นทั่วไปของ Intel ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อเพิ่มการทำงานหลายหน้าพร้อมกัน. ข้อจำกัดของการใช้งาน: - ตัวอย่าง Q46W จำเป็นต้องใช้เมนบอร์ดพิเศษที่ยังไม่มีในท้องตลาด ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ Intel ไม่ได้เปิดตัวในวงกว้าง. การขายในตลาดมือสอง: - มีรายงานว่าชิปตัวอย่างนี้ถูกขายใน Taobao โดยระบุว่าเป็น Intel Confidential ซึ่งยืนยันถึงความสนใจจากนักสะสมและผู้ที่สนใจเทคโนโลยีล้ำหน้า. สถานการณ์ของ Meteor Lake-S: - แม้จะมีข่าวลือว่า Intel ยกเลิกการพัฒนา Meteor Lake-S แต่ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง. https://www.techpowerup.com/334688/intel-q46w-engineering-sample-seems-to-be-meteor-lake-s-desktop-cpu-minus-hyper-threading
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel "Q46W" Engineering Sample Seems to be "Meteor Lake-S" Desktop CPU minus Hyper-Threading
    The status of Intel "Meteor Lake-S" (MTL-S) desktop processors was the subject of much speculation throughout 2023—by September of that year, Team Blue leadership projected an upcoming launch in 2024. Technically, Meteor Lake was deployed to "sort-of desktops" platforms—albeit in mini-PCs that utili...
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • Seagate ได้เปิดตัว NVMe HDD รุ่นใหม่ที่ออกแบบเพื่อใช้งานในศูนย์ข้อมูลและงาน AI โดยฮาร์ดแวร์นี้ช่วยลดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ระบบต้นแบบยังมีการผสาน SSD และเทคโนโลยี GPU ของ Nvidia เพื่อลดความล่าช้าในกระบวนการทำงาน การออกแบบนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในอนาคตสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการจัดเก็บข้อมูล

    ข้อดีของ NVMe HDD:
    - NVMe HDD รุ่นใหม่ช่วยลดพลังงานและต้นทุนการจัดเก็บได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน มากกว่า SSD ถึง 10 เท่า และยังลดการใช้ทรัพยากรคาร์บอนต่อเทราไบต์.

    การผสมผสานฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย:
    - ระบบต้นแบบของ Seagate ใช้ NVMe HDD ควบคู่กับ SSD เพื่อการเก็บข้อมูลที่ใช้งานบ่อยและ HDD สำหรับข้อมูลระยะยาวในงาน AI เช่น การฝึกโมเดล.

    ข้อแตกต่างจากระบบเดิม:
    - NVMe HDD ได้รับการออกแบบให้สามารถสื่อสารกับ GPU โดยตรง และไม่ต้องใช้ HBA หรือโปรโตคอลบริดจ์ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในสถาปัตยกรรมระบบ.

    ศักยภาพในการประยุกต์ใช้:
    - แม้ยังไม่มีแผนวางจำหน่าย Seagate กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อศึกษาโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่รองรับเทคโนโลยี NVMe สำหรับยุคถัดไป.

    https://www.techradar.com/pro/seagate-teams-with-nvidia-to-build-an-nvme-hard-drive-proof-of-concept-more-than-3-years-after-the-last-one
    Seagate ได้เปิดตัว NVMe HDD รุ่นใหม่ที่ออกแบบเพื่อใช้งานในศูนย์ข้อมูลและงาน AI โดยฮาร์ดแวร์นี้ช่วยลดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ระบบต้นแบบยังมีการผสาน SSD และเทคโนโลยี GPU ของ Nvidia เพื่อลดความล่าช้าในกระบวนการทำงาน การออกแบบนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในอนาคตสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการจัดเก็บข้อมูล ข้อดีของ NVMe HDD: - NVMe HDD รุ่นใหม่ช่วยลดพลังงานและต้นทุนการจัดเก็บได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน มากกว่า SSD ถึง 10 เท่า และยังลดการใช้ทรัพยากรคาร์บอนต่อเทราไบต์. การผสมผสานฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย: - ระบบต้นแบบของ Seagate ใช้ NVMe HDD ควบคู่กับ SSD เพื่อการเก็บข้อมูลที่ใช้งานบ่อยและ HDD สำหรับข้อมูลระยะยาวในงาน AI เช่น การฝึกโมเดล. ข้อแตกต่างจากระบบเดิม: - NVMe HDD ได้รับการออกแบบให้สามารถสื่อสารกับ GPU โดยตรง และไม่ต้องใช้ HBA หรือโปรโตคอลบริดจ์ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในสถาปัตยกรรมระบบ. ศักยภาพในการประยุกต์ใช้: - แม้ยังไม่มีแผนวางจำหน่าย Seagate กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อศึกษาโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่รองรับเทคโนโลยี NVMe สำหรับยุคถัดไป. https://www.techradar.com/pro/seagate-teams-with-nvidia-to-build-an-nvme-hard-drive-proof-of-concept-more-than-3-years-after-the-last-one
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังพิจารณาเปิดตัว Arrow Lake Refresh ซึ่งเป็นการปรับปรุงชิปในตระกูล Core Ultra 300 series โดยเน้นเฉพาะรุ่น K และ KF เท่านั้น แม้ว่าการออกแบบครั้งแรกจะถูกยกเลิก แต่การกลับมาครั้งนี้มาพร้อมกับแผนแก้ไขปัญหาเดิม เช่น ความล่าช้าของหน่วยควบคุมความจำและความถี่ ring-bus ที่ต่ำ ทั้งนี้ ชิปใหม่ยังคาดว่าจะมีฟีเจอร์ปรับแต่ง BIOS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแบบไม่เสียประกัน รวมถึงเทคโนโลยี IPO (Intel Performance Optimization) เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน

    ปัญหาดั้งเดิมของ Arrow Lake:
    - Arrow Lake รุ่นก่อนหน้าประสบปัญหาในการแข่งขันกับ Raptor Lake และ Ryzen X3D โดยมีปัญหาเชิงสถาปัตยกรรมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในด้านการเล่นเกมและการประมวลผล.

    การออกแบบใหม่ใน Arrow Lake Refresh:
    - รุ่นใหม่มีการปรับปรุงในเรื่องของประสิทธิภาพและลดผลกระทบจากความล่าช้า นอกจากนี้ยังมี BIOS presets ที่ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มสมรรถนะโดยไม่ทำให้เสียประกัน.

    การเปิดตัวที่อาจจะเกิดขึ้น:
    - Arrow Lake Refresh คาดว่าจะเปิดตัวก่อน Nova Lake ในปี 2026 และอาจเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะรักษาแพลตฟอร์ม LGA 1851 ไม่ให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีอายุสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Intel.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/an-arrow-lake-refresh-may-still-be-on-the-cards-with-only-k-and-kf-models-claims-leaker
    Intel กำลังพิจารณาเปิดตัว Arrow Lake Refresh ซึ่งเป็นการปรับปรุงชิปในตระกูล Core Ultra 300 series โดยเน้นเฉพาะรุ่น K และ KF เท่านั้น แม้ว่าการออกแบบครั้งแรกจะถูกยกเลิก แต่การกลับมาครั้งนี้มาพร้อมกับแผนแก้ไขปัญหาเดิม เช่น ความล่าช้าของหน่วยควบคุมความจำและความถี่ ring-bus ที่ต่ำ ทั้งนี้ ชิปใหม่ยังคาดว่าจะมีฟีเจอร์ปรับแต่ง BIOS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแบบไม่เสียประกัน รวมถึงเทคโนโลยี IPO (Intel Performance Optimization) เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน ปัญหาดั้งเดิมของ Arrow Lake: - Arrow Lake รุ่นก่อนหน้าประสบปัญหาในการแข่งขันกับ Raptor Lake และ Ryzen X3D โดยมีปัญหาเชิงสถาปัตยกรรมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในด้านการเล่นเกมและการประมวลผล. การออกแบบใหม่ใน Arrow Lake Refresh: - รุ่นใหม่มีการปรับปรุงในเรื่องของประสิทธิภาพและลดผลกระทบจากความล่าช้า นอกจากนี้ยังมี BIOS presets ที่ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มสมรรถนะโดยไม่ทำให้เสียประกัน. การเปิดตัวที่อาจจะเกิดขึ้น: - Arrow Lake Refresh คาดว่าจะเปิดตัวก่อน Nova Lake ในปี 2026 และอาจเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะรักษาแพลตฟอร์ม LGA 1851 ไม่ให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีอายุสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Intel. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/an-arrow-lake-refresh-may-still-be-on-the-cards-with-only-k-and-kf-models-claims-leaker
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • Qualcomm กำลังเปิดตัวแคมเปญต่อต้านการผูกขาดระดับโลกต่อ Arm Holdings โดยกล่าวหา Arm ว่าจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีและเปลี่ยนรูปแบบการอนุญาตใช้งานเพื่อทำลายการแข่งขัน ข้อกล่าวหานี้เน้นว่า Arm พยายามใช้การควบคุมเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการออกแบบชิปของตนเอง โดยเฉพาะ CSS (Compute Subsystems) ที่เป็นดีไซน์อ้างอิงสำหรับโปรเซสเซอร์ในระดับลูกค้าและดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งสองบริษัทเคยมีข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่ง Qualcomm ชนะในศาลเดลาแวร์ และ Arm ได้ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่

    การดำเนินงานในระดับสากล:
    - Qualcomm ได้ยื่นร้องเรียนต่อนโยบายของ Arm ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในยุโรป สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยหวังว่าจะปกป้องการเข้าถึงสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีของ Arm สำหรับนักพัฒนาชิปรายใหญ่.

    ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลง:
    - Qualcomm อ้างว่า Arm ละเมิดข้อตกลงด้านสิทธิ์การใช้งาน โดยจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เคยช่วยสร้างระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง.

    ความสำคัญของคดีในศาลเดลาแวร์:
    - ศาลตัดสินว่า Qualcomm ไม่ละเมิดข้อกำหนดของข้อตกลงการอนุญาตใช้งานเมื่อทำการเข้าซื้อ Nuvia และนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ใน Snapdragon X โปรเซสเซอร์.

    มุมมองจาก Arm:
    - Arm ปฏิเสธข้อกล่าวหาและระบุว่าข้อร้องเรียนของ Qualcomm เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อหันเหความสนใจจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองบริษัท.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/qualcomm-launches-global-antitrust-campaign-against-arm-accuses-arm-of-restricting-access-to-technology
    Qualcomm กำลังเปิดตัวแคมเปญต่อต้านการผูกขาดระดับโลกต่อ Arm Holdings โดยกล่าวหา Arm ว่าจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีและเปลี่ยนรูปแบบการอนุญาตใช้งานเพื่อทำลายการแข่งขัน ข้อกล่าวหานี้เน้นว่า Arm พยายามใช้การควบคุมเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการออกแบบชิปของตนเอง โดยเฉพาะ CSS (Compute Subsystems) ที่เป็นดีไซน์อ้างอิงสำหรับโปรเซสเซอร์ในระดับลูกค้าและดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งสองบริษัทเคยมีข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่ง Qualcomm ชนะในศาลเดลาแวร์ และ Arm ได้ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ การดำเนินงานในระดับสากล: - Qualcomm ได้ยื่นร้องเรียนต่อนโยบายของ Arm ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในยุโรป สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยหวังว่าจะปกป้องการเข้าถึงสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีของ Arm สำหรับนักพัฒนาชิปรายใหญ่. ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลง: - Qualcomm อ้างว่า Arm ละเมิดข้อตกลงด้านสิทธิ์การใช้งาน โดยจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เคยช่วยสร้างระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง. ความสำคัญของคดีในศาลเดลาแวร์: - ศาลตัดสินว่า Qualcomm ไม่ละเมิดข้อกำหนดของข้อตกลงการอนุญาตใช้งานเมื่อทำการเข้าซื้อ Nuvia และนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ใน Snapdragon X โปรเซสเซอร์. มุมมองจาก Arm: - Arm ปฏิเสธข้อกล่าวหาและระบุว่าข้อร้องเรียนของ Qualcomm เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อหันเหความสนใจจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองบริษัท. https://www.tomshardware.com/tech-industry/qualcomm-launches-global-antitrust-campaign-against-arm-accuses-arm-of-restricting-access-to-technology
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • Toshiba เปิดตัวศูนย์พัฒนา HDD แห่งใหม่ในยุโรปเพื่อช่วยองค์กรปรับแต่งระบบจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พวกเขาแสดงให้เห็นว่าการรวม HDD หลายตัวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายได้อย่างมหาศาล โดย HDD ยังคงมีบทบาทสำคัญในยุคที่ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลกำลังเติบโตสูง ใครที่มองหาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด

    แนวทางแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรม:
    - HDD ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการความจุสูง เนื่องจากเทคโนโลยี SSD ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปริมาณมากได้.

    ศักยภาพของการรวม HDD หลายตัว:
    - Toshiba พบว่าการรวม HDD จำนวนมากในระบบ เช่น 60 HDD ใน ZFS storage สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ของเครือข่าย 100GbE และระบบ NAS ในองค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยการใช้ HDD เพียงไม่กี่ตัว.

    การสนับสนุนความรู้:
    - นอกจากการทดสอบฮาร์ดแวร์และพัฒนาสถาปัตยกรรมแล้ว Toshiba ยังมีการจัดทำรายงานและเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบ whitepapers เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโซลูชันของตน.

    https://www.techradar.com/pro/how-to-make-hard-drives-faster-simple-just-bunch-dozens-of-them-together-says-toshiba
    Toshiba เปิดตัวศูนย์พัฒนา HDD แห่งใหม่ในยุโรปเพื่อช่วยองค์กรปรับแต่งระบบจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พวกเขาแสดงให้เห็นว่าการรวม HDD หลายตัวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายได้อย่างมหาศาล โดย HDD ยังคงมีบทบาทสำคัญในยุคที่ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลกำลังเติบโตสูง ใครที่มองหาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด แนวทางแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรม: - HDD ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการความจุสูง เนื่องจากเทคโนโลยี SSD ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปริมาณมากได้. ศักยภาพของการรวม HDD หลายตัว: - Toshiba พบว่าการรวม HDD จำนวนมากในระบบ เช่น 60 HDD ใน ZFS storage สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ของเครือข่าย 100GbE และระบบ NAS ในองค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยการใช้ HDD เพียงไม่กี่ตัว. การสนับสนุนความรู้: - นอกจากการทดสอบฮาร์ดแวร์และพัฒนาสถาปัตยกรรมแล้ว Toshiba ยังมีการจัดทำรายงานและเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบ whitepapers เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโซลูชันของตน. https://www.techradar.com/pro/how-to-make-hard-drives-faster-simple-just-bunch-dozens-of-them-together-says-toshiba
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้

    https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้ https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    WCCFTECH.COM
    AMD Gorgon Point "Ryzen AI" Refresh APU Lineup Leaks Out With Higher Clocks & Over 55 TOPS NPU, Ryzen AI MAX "Medusa/Zen 6" Series Confirmed
    AMD's refreshed Gorgon Point "Ryzen AI" APUs have leaked out, with the company also confirming next-gen Medusa "Ryzen AI MAX" Halo chips.
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ข่าวล่าสุดเผยว่า AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point แต่จะใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 แทน RDNA 4 ซึ่งถูกใช้งานเฉพาะบนการ์ดจอแยกเท่านั้น หมายความว่าเทคโนโลยีปรับภาพใหม่อย่าง FSR 4 อาจไม่สามารถใช้งานบน APU ได้ แต่ยังคงมีศักยภาพในด้านประสิทธิภาพเกมด้วย Zen 6 และ RDNA 3.5 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้บางคนผิดหวังที่หวังเห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอุปกรณ์พกพา

    https://www.techradar.com/computing/cpu/its-not-looking-bright-for-next-gen-systems-using-amds-medusa-point-apus-they-reportedly-wont-use-rdna-4-architecture-potentially-meaning-no-fsr-4
    ข่าวล่าสุดเผยว่า AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point แต่จะใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 แทน RDNA 4 ซึ่งถูกใช้งานเฉพาะบนการ์ดจอแยกเท่านั้น หมายความว่าเทคโนโลยีปรับภาพใหม่อย่าง FSR 4 อาจไม่สามารถใช้งานบน APU ได้ แต่ยังคงมีศักยภาพในด้านประสิทธิภาพเกมด้วย Zen 6 และ RDNA 3.5 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้บางคนผิดหวังที่หวังเห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอุปกรณ์พกพา https://www.techradar.com/computing/cpu/its-not-looking-bright-for-next-gen-systems-using-amds-medusa-point-apus-they-reportedly-wont-use-rdna-4-architecture-potentially-meaning-no-fsr-4
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • Tencent กำลังเตรียมเปิดตัว Hunyuan T1 โมเดล AI ขนาดใหญ่สุดล้ำที่ใช้สถาปัตยกรรม Mamba ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานประมวลผลข้อมูลระดับสูง โมเดลนี้ต่อยอดจาก Hunyuan Turbo S ที่ติดอันดับในแพลตฟอร์มการจัดอันดับ AI และอาจกลายเป็นเกมเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม

    ความสามารถของโมเดล Hunyuan T1:
    - มุ่งเน้นการประมวลผลเชิงการให้เหตุผลที่มีความซับซ้อนสูงและรวดเร็ว ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันและบริการหลากหลาย เช่น แชทบอท, การค้นหา, และระบบวิเคราะห์ข้อมูล.

    การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI:
    - Hunyuan Turbo S ของ Tencent เคยติดอันดับที่ 15 ใน Chatbot Arena LLM Leaderboard ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จัดอันดับโมเดลจากการโหวตของผู้ใช้จริงในเรื่องคุณภาพการตอบกลับ โดยอันดับปัจจุบันของ DeepSeek R1 อยู่อันดับที่ 7.

    จุดเด่นของ Mamba Architecture:
    - สถาปัตยกรรมนี้เน้นการกระจายการประมวลผลและลดความสูญเสียของข้อมูลในระหว่างการคำนวณ ทำให้เหมาะกับการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่และการทำงานร่วมกับข้อมูลปริมาณมหาศาล.

    เป้าหมายของ Tencent ในอนาคต:
    - Tencent วางแผนที่จะขยายการใช้งานโมเดล Hunyuan T1 ในหลายธุรกิจ ตั้งแต่เทคโนโลยีการศึกษา ระบบสุขภาพ ไปจนถึงบริการอีคอมเมิร์ซ.

    https://www.techpowerup.com/334375/tencent-will-launch-hunyuan-t1-inference-model-on-march-21
    Tencent กำลังเตรียมเปิดตัว Hunyuan T1 โมเดล AI ขนาดใหญ่สุดล้ำที่ใช้สถาปัตยกรรม Mamba ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานประมวลผลข้อมูลระดับสูง โมเดลนี้ต่อยอดจาก Hunyuan Turbo S ที่ติดอันดับในแพลตฟอร์มการจัดอันดับ AI และอาจกลายเป็นเกมเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม ความสามารถของโมเดล Hunyuan T1: - มุ่งเน้นการประมวลผลเชิงการให้เหตุผลที่มีความซับซ้อนสูงและรวดเร็ว ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันและบริการหลากหลาย เช่น แชทบอท, การค้นหา, และระบบวิเคราะห์ข้อมูล. การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI: - Hunyuan Turbo S ของ Tencent เคยติดอันดับที่ 15 ใน Chatbot Arena LLM Leaderboard ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จัดอันดับโมเดลจากการโหวตของผู้ใช้จริงในเรื่องคุณภาพการตอบกลับ โดยอันดับปัจจุบันของ DeepSeek R1 อยู่อันดับที่ 7. จุดเด่นของ Mamba Architecture: - สถาปัตยกรรมนี้เน้นการกระจายการประมวลผลและลดความสูญเสียของข้อมูลในระหว่างการคำนวณ ทำให้เหมาะกับการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่และการทำงานร่วมกับข้อมูลปริมาณมหาศาล. เป้าหมายของ Tencent ในอนาคต: - Tencent วางแผนที่จะขยายการใช้งานโมเดล Hunyuan T1 ในหลายธุรกิจ ตั้งแต่เทคโนโลยีการศึกษา ระบบสุขภาพ ไปจนถึงบริการอีคอมเมิร์ซ. https://www.techpowerup.com/334375/tencent-will-launch-hunyuan-t1-inference-model-on-march-21
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Tencent Will Launch Hunyuan T1 Inference Model on March 21
    Tencent's large language model (LLM) specialist division has announced the imminent launch of their T1 AI inference model. The Chinese technology giant's Hunyuan social media accounts revealed a grand arrival, scheduled to take place on Friday (March 21). A friendly reminder was issued to interested...
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • Pat Gelsinger อดีตหัวหน้าของ Intel ได้ออกมายอมรับในงาน GTC 2025 ว่า Nvidia ประสบความสำเร็จในยุค AI ด้วยการยึดมั่นในสถาปัตยกรรม GPU ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานแบบขนานอย่างเต็มที่ ขณะที่ Intel เองพลาดท่าในโครงการ Larrabee ที่พยายามผสาน CPU และ GPU ในยุคที่ CPU ยังครองตลาด นี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับ Intel ในการกลับมาพัฒนาการ์ดที่เหมาะกับงาน AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/at-nvidias-gtc-event-pat-gelsinger-reiterated-that-jensen-got-lucky-with-ai-intel-missed-the-boat-with-larrabee
    Pat Gelsinger อดีตหัวหน้าของ Intel ได้ออกมายอมรับในงาน GTC 2025 ว่า Nvidia ประสบความสำเร็จในยุค AI ด้วยการยึดมั่นในสถาปัตยกรรม GPU ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานแบบขนานอย่างเต็มที่ ขณะที่ Intel เองพลาดท่าในโครงการ Larrabee ที่พยายามผสาน CPU และ GPU ในยุคที่ CPU ยังครองตลาด นี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับ Intel ในการกลับมาพัฒนาการ์ดที่เหมาะกับงาน AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/at-nvidias-gtc-event-pat-gelsinger-reiterated-that-jensen-got-lucky-with-ai-intel-missed-the-boat-with-larrabee
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่

    == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta ==
    1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป

    2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า

    3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม

    ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย


    https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่ == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta == 1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป 2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า 3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุง Arrow Lake-S Refresh สำหรับเดสก์ท็อปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป็นการนำซีพียู Arrow Lake รุ่นปัจจุบันมาปรับปรุงประสิทธิภาพบางส่วน จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้คือการใช้สถาปัตยกรรม NPU5 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 18-50 TOPS ซึ่งเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า NPU4 ที่ทำได้ 40-48 TOPS นอกจากนี้ยังมีการรองรับ AI และประสิทธิภาพการเล่นเกมที่สูงขึ้น

    Intel ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี NPU ต่อเนื่อง โดยในอนาคตมีแผนจะเปิดตัวสถาปัตยกรรม NPU6 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 75 TOPS ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี AI และการประมวลผลยุคใหม่

    อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Arrow Lake-S Refresh จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิม LGA 1851 ที่รองรับหน่วยความจำ DDR5 และ PCIe 5.0 ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ในปี 2026 ซึ่งอาจสร้างคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ Intel ในการปล่อย Arrow Lake-S Refresh

    https://wccftech.com/intel-arrow-lake-s-desktop-cpu-refresh-back-on-the-menu-minor-upgrades-faster-npu/
    Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุง Arrow Lake-S Refresh สำหรับเดสก์ท็อปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป็นการนำซีพียู Arrow Lake รุ่นปัจจุบันมาปรับปรุงประสิทธิภาพบางส่วน จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้คือการใช้สถาปัตยกรรม NPU5 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 18-50 TOPS ซึ่งเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า NPU4 ที่ทำได้ 40-48 TOPS นอกจากนี้ยังมีการรองรับ AI และประสิทธิภาพการเล่นเกมที่สูงขึ้น Intel ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี NPU ต่อเนื่อง โดยในอนาคตมีแผนจะเปิดตัวสถาปัตยกรรม NPU6 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 75 TOPS ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี AI และการประมวลผลยุคใหม่ อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Arrow Lake-S Refresh จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิม LGA 1851 ที่รองรับหน่วยความจำ DDR5 และ PCIe 5.0 ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ในปี 2026 ซึ่งอาจสร้างคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ Intel ในการปล่อย Arrow Lake-S Refresh https://wccftech.com/intel-arrow-lake-s-desktop-cpu-refresh-back-on-the-menu-minor-upgrades-faster-npu/
    WCCFTECH.COM
    Intel Arrow Lake-S Desktop CPU Refresh Is Back On The Menu - Minor Upgrades Including Faster NPU
    Intel is once again planning to release a refresh of its Arrow Lake-S Desktop lineup which will offer some minor upgrades.
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • เรื่องนี้พูดถึงความท้าทายของ Microsoft กับการพัฒนา ชิปควอนตัม Majorana 1 ซึ่งอ้างว่าสามารถบรรจุควอนตัมบิต (qubits) ได้ถึงหนึ่งล้านหน่วยในโปรเซสเซอร์เดียว โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Topological Core แต่ผลงานนี้กลับถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่มองว่ามีปัญหาในด้านการพิสูจน์ความถูกต้องตามหลักฟิสิกส์พื้นฐาน

    จุดที่ถูกตั้งคำถาม:
    1) ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: ศาสตราจารย์ Sergey Frolov จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กระบุว่าชิปนี้อิงกับฟิสิกส์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเคยมีกรณีการถอนบทความที่เกี่ยวข้องในปี 2018 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลเรื่องความน่าเชื่อถือ

    2) การขาดข้อมูลสำคัญ: การนำเสนอของ Microsoft ขาดรายละเอียดบางส่วนที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบ โดยนักวิจัยที่ได้รับข้อมูลมาก็ให้ความเห็นในเชิงวิจารณ์

    3) การมีอยู่ของอนุภาค Majorana: แม้อนุภาคนี้จะถูกตั้งสมมุติฐานมาตั้งแต่ปี 1937 แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอนุภาคนี้มีอยู่จริง การที่ Microsoft อ้างว่าสามารถใช้อนุภาคนี้ในควอนตัมโปรเซสเซอร์ได้ ทำให้เกิดข้อกังขาอย่างมาก

    Microsoft มีแผนจะนำเสนอบทความวิจัยในงาน American Physical Society Global Physics Summit ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยความก้าวหน้าเพิ่มเติม แต่ก็มีการแสดงความไม่มั่นใจว่าข้อมูลใหม่นี้จะเพียงพอต่อการตอบข้อกังวลหรือไม่

    ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการประมวลผลที่เร็วกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 20-30 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 การแข่งขันในวงการนี้รุนแรง โดยมีบริษัทอย่าง IBM, Quantum Brilliance และ QCI ที่ต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อครองตลาดที่กำลังเติบโต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/microsofts-latest-quantum-computing-claims-have-been-named-unreliable-by-scientists
    เรื่องนี้พูดถึงความท้าทายของ Microsoft กับการพัฒนา ชิปควอนตัม Majorana 1 ซึ่งอ้างว่าสามารถบรรจุควอนตัมบิต (qubits) ได้ถึงหนึ่งล้านหน่วยในโปรเซสเซอร์เดียว โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Topological Core แต่ผลงานนี้กลับถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่มองว่ามีปัญหาในด้านการพิสูจน์ความถูกต้องตามหลักฟิสิกส์พื้นฐาน จุดที่ถูกตั้งคำถาม: 1) ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: ศาสตราจารย์ Sergey Frolov จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กระบุว่าชิปนี้อิงกับฟิสิกส์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเคยมีกรณีการถอนบทความที่เกี่ยวข้องในปี 2018 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลเรื่องความน่าเชื่อถือ 2) การขาดข้อมูลสำคัญ: การนำเสนอของ Microsoft ขาดรายละเอียดบางส่วนที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบ โดยนักวิจัยที่ได้รับข้อมูลมาก็ให้ความเห็นในเชิงวิจารณ์ 3) การมีอยู่ของอนุภาค Majorana: แม้อนุภาคนี้จะถูกตั้งสมมุติฐานมาตั้งแต่ปี 1937 แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอนุภาคนี้มีอยู่จริง การที่ Microsoft อ้างว่าสามารถใช้อนุภาคนี้ในควอนตัมโปรเซสเซอร์ได้ ทำให้เกิดข้อกังขาอย่างมาก Microsoft มีแผนจะนำเสนอบทความวิจัยในงาน American Physical Society Global Physics Summit ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยความก้าวหน้าเพิ่มเติม แต่ก็มีการแสดงความไม่มั่นใจว่าข้อมูลใหม่นี้จะเพียงพอต่อการตอบข้อกังวลหรือไม่ ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการประมวลผลที่เร็วกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 20-30 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 การแข่งขันในวงการนี้รุนแรง โดยมีบริษัทอย่าง IBM, Quantum Brilliance และ QCI ที่ต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อครองตลาดที่กำลังเติบโต https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/microsofts-latest-quantum-computing-claims-have-been-named-unreliable-by-scientists
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft's latest Quantum computing claims have been named 'unreliable' by scientists
    Microsoft got the science wrong, according to one physics and astronomy professor.
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้

    ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง

    ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว

    ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน

    https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้ ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Launches the EPYC Embedded 9005 "Turin" Family of Server Processors
    AMD today launched the EPYC Embedded 9005 line of server processors in the embedded form-factor. These are non-socketed variants of the EPYC 9005 "Turin" server processors. The chips are intended for servers and other enterprise applications where processor replacements or upgradability are not a co...
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • Meta เริ่มทดสอบชิปรุ่นแรกที่ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรม RISC-V สำหรับการฝึกปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชิปใหม่นี้ถูกพัฒนาร่วมกับ Broadcom และผลิตตัวอย่างแรกโดย TSMC ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ Meta ลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia เช่น H100 และ B100 ในการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่

    ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบ systolic array ที่มีการจัดเรียงหน่วยประมวลผลเป็นเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณ โดยคาดว่าจะมีหน่วยความจำ HBM3 หรือ HBM3E ซึ่งเหมาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ Meta หวังว่าชิปนี้จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่า GPU AI ของ Nvidia ทั้งในด้านการประมวลผลและการใช้พลังงาน

    แม้ในอดีต Meta เคยหยุดการพัฒนาชิปประเภทนี้เนื่องจากไม่สามารถทำตามเป้าหมายด้านพลังงานและประสิทธิภาพได้ แต่ Meta ยังคงผลักดันโปรแกรม MTIA (Meta Training and Inference Accelerator) และตั้งเป้าเริ่มใช้งานชิปใหม่สำหรับการฝึก AI ภายในปี 2026

    ความน่าสนใจของชิปนี้คือการใช้สถาปัตยกรรมแบบโอเพ่นซอร์ส RISC-V ทำให้ Meta สามารถปรับแต่งชุดคำสั่งได้ตามต้องการโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใด ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่อาจเปลี่ยนโฉมวงการ AI และความเป็นอิสระด้านฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/meta-is-reportedly-testing-its-first-rsic-v-based-ai-chip-for-ai-training
    Meta เริ่มทดสอบชิปรุ่นแรกที่ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรม RISC-V สำหรับการฝึกปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชิปใหม่นี้ถูกพัฒนาร่วมกับ Broadcom และผลิตตัวอย่างแรกโดย TSMC ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ Meta ลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia เช่น H100 และ B100 ในการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบ systolic array ที่มีการจัดเรียงหน่วยประมวลผลเป็นเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณ โดยคาดว่าจะมีหน่วยความจำ HBM3 หรือ HBM3E ซึ่งเหมาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ Meta หวังว่าชิปนี้จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่า GPU AI ของ Nvidia ทั้งในด้านการประมวลผลและการใช้พลังงาน แม้ในอดีต Meta เคยหยุดการพัฒนาชิปประเภทนี้เนื่องจากไม่สามารถทำตามเป้าหมายด้านพลังงานและประสิทธิภาพได้ แต่ Meta ยังคงผลักดันโปรแกรม MTIA (Meta Training and Inference Accelerator) และตั้งเป้าเริ่มใช้งานชิปใหม่สำหรับการฝึก AI ภายในปี 2026 ความน่าสนใจของชิปนี้คือการใช้สถาปัตยกรรมแบบโอเพ่นซอร์ส RISC-V ทำให้ Meta สามารถปรับแต่งชุดคำสั่งได้ตามต้องการโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใด ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่อาจเปลี่ยนโฉมวงการ AI และความเป็นอิสระด้านฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/meta-is-reportedly-testing-its-first-rsic-v-based-ai-chip-for-ai-training
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Meta is reportedly testing its first RISC-V based AI chip for AI training
    Could be one of the industry's first RISC-V-based accelerator for AI training.
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 Reviews
  • เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ Radeon เทคโนโลยีกราฟิกชื่อดังของ AMD โดย David McAfee จาก AMD ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของ Radeon ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 ด้วยการ์ด ATI Radeon DDR ที่มีหน่วยความจำเพียง 32 MB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 143 MHz ไปจนถึงการ์ด RDNA 3 ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 24 GB และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

    ในโอกาสนี้ AMD ยังได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ได้แก่ Radeon RX 9070 XT และ Radeon RX 9070 ซึ่งมีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการแสดงผลที่ดีขึ้น การทำ Ray Tracing ที่ทรงพลังมากขึ้นเป็นสองเท่า และการเพิ่มประสิทธิภาพ Machine Learning ถึง 8 เท่า พร้อมกับการเปิดตัว FSR 4 เทคโนโลยีอัพสเกลที่ช่วยเพิ่มอัตราเฟรมเรตได้ 3-4 เท่าโดยไม่ลดคุณภาพของภาพ

    การพัฒนาของ Radeon ตลอด 25 ปี Radeon เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการนำเสนอกราฟิกการ์ดที่เหมาะสมกับการเล่นเกมในราคาที่คุ้มค่า และปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านราคาและประสิทธิภาพสำหรับนักเล่นเกมทั่วไป

    ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา Radeon ได้สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเล่นเกม และ RDNA 4 เป็นก้าวสำคัญในทิศทางดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกมเมอร์ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ยังชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีกราฟิกด้วย

    https://www.techpowerup.com/333891/amds-david-mcafee-celebrates-25th-anniversary-of-radeon-graphics-technology
    เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ Radeon เทคโนโลยีกราฟิกชื่อดังของ AMD โดย David McAfee จาก AMD ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของ Radeon ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 ด้วยการ์ด ATI Radeon DDR ที่มีหน่วยความจำเพียง 32 MB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 143 MHz ไปจนถึงการ์ด RDNA 3 ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 24 GB และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในโอกาสนี้ AMD ยังได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ได้แก่ Radeon RX 9070 XT และ Radeon RX 9070 ซึ่งมีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการแสดงผลที่ดีขึ้น การทำ Ray Tracing ที่ทรงพลังมากขึ้นเป็นสองเท่า และการเพิ่มประสิทธิภาพ Machine Learning ถึง 8 เท่า พร้อมกับการเปิดตัว FSR 4 เทคโนโลยีอัพสเกลที่ช่วยเพิ่มอัตราเฟรมเรตได้ 3-4 เท่าโดยไม่ลดคุณภาพของภาพ การพัฒนาของ Radeon ตลอด 25 ปี Radeon เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการนำเสนอกราฟิกการ์ดที่เหมาะสมกับการเล่นเกมในราคาที่คุ้มค่า และปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านราคาและประสิทธิภาพสำหรับนักเล่นเกมทั่วไป ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา Radeon ได้สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเล่นเกม และ RDNA 4 เป็นก้าวสำคัญในทิศทางดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกมเมอร์ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ยังชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีกราฟิกด้วย https://www.techpowerup.com/333891/amds-david-mcafee-celebrates-25th-anniversary-of-radeon-graphics-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD's David McAfee Celebrates 25th Anniversary of Radeon Graphics Technology
    This month, we at AMD celebrate two significant milestones in the Radeon story. First, the 25th anniversary of Radeon, a journey that began in 2000 with the ATI Radeon DDR card. Back then, 32 MB of VRAM, a 143 MHz clocks, and 30M transistors were cutting-edge tools that sparked your early adventures...
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ไม่นานมานี้มีการค้นพบข้อมูลการจัดส่งจาก NBD ที่เผยให้เห็น GPU ใหม่ของ NVIDIA ในชื่อ RTX PRO 6000 X ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Blackwell PRO ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 96 GB GDDR7 ทำให้เป็น GPU ที่มุ่งเน้นรองรับงานประมวลผลที่หนักหน่วงเช่น AI และเวิร์กโหลดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    คุณสมบัติเด่นของ RTX PRO 6000 X
    - หน่วยประมวลผล GB202-870: RTX PRO 6000 X ใช้หน่วยประมวลผล GB202-870 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ทรงพลัง
    - VRAM ขนาดใหญ่ 96 GB GDDR7: มาพร้อมกับหน่วยความจำที่มากถึง 96 GB GDDR7 บนบัสความกว้าง 512 บิต ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความจุหน่วยความจำสูง เช่น การประมวลผล AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - พลังงาน (TBP) 600W: มีการใช้พลังงานที่สูงถึง 600W ซึ่งมากกว่า RTX 5090 เพียง 25W แต่จำเป็นสำหรับการดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากการ์ดใบนี้

    ข้อมูลการจัดส่งแสดงให้เห็นว่า RTX PRO 6000 X ถูกส่งไปยังอินเดียเพื่อทดสอบ โดยมีบริษัทสองแห่งชื่อ N*ON และ ND ที่ส่งการ์ดนี้เพื่อการทดลอง ทั้งนี้ยังมีรุ่นที่มีความจุหน่วยความจำ 48 GB GDDR7 ซึ่งใช้อินเตอร์เฟซความจำขนาด 384 บิต แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นนี้

    การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในวงการประมวลผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล การที่ NVIDIA ขยายตลาดของการ์ดจอระดับมืออาชีพด้วยรุ่นที่มีความจุ VRAM สูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    https://wccftech.com/nvidia-rtx-pro-6000-x-blackwell-leak-96-gb-gddr7-600w/
    ไม่นานมานี้มีการค้นพบข้อมูลการจัดส่งจาก NBD ที่เผยให้เห็น GPU ใหม่ของ NVIDIA ในชื่อ RTX PRO 6000 X ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Blackwell PRO ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 96 GB GDDR7 ทำให้เป็น GPU ที่มุ่งเน้นรองรับงานประมวลผลที่หนักหน่วงเช่น AI และเวิร์กโหลดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง คุณสมบัติเด่นของ RTX PRO 6000 X - หน่วยประมวลผล GB202-870: RTX PRO 6000 X ใช้หน่วยประมวลผล GB202-870 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ทรงพลัง - VRAM ขนาดใหญ่ 96 GB GDDR7: มาพร้อมกับหน่วยความจำที่มากถึง 96 GB GDDR7 บนบัสความกว้าง 512 บิต ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความจุหน่วยความจำสูง เช่น การประมวลผล AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ - พลังงาน (TBP) 600W: มีการใช้พลังงานที่สูงถึง 600W ซึ่งมากกว่า RTX 5090 เพียง 25W แต่จำเป็นสำหรับการดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากการ์ดใบนี้ ข้อมูลการจัดส่งแสดงให้เห็นว่า RTX PRO 6000 X ถูกส่งไปยังอินเดียเพื่อทดสอบ โดยมีบริษัทสองแห่งชื่อ N*ON และ ND ที่ส่งการ์ดนี้เพื่อการทดลอง ทั้งนี้ยังมีรุ่นที่มีความจุหน่วยความจำ 48 GB GDDR7 ซึ่งใช้อินเตอร์เฟซความจำขนาด 384 บิต แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นนี้ การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในวงการประมวลผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล การที่ NVIDIA ขยายตลาดของการ์ดจอระดับมืออาชีพด้วยรุ่นที่มีความจุ VRAM สูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความยืดหยุ่นในการใช้งาน https://wccftech.com/nvidia-rtx-pro-6000-x-blackwell-leak-96-gb-gddr7-600w/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA RTX "PRO" 6000 X Blackwell GPU Spotted In Shipping Log: GB202 Die, 96 GB VRAM, & TBP of 600W
    In an NBD shipping manifest, the NVIDIA RTX PRO 6000 X Blackwell was spotted, featuring the GB202 die, 96 GB VRAM, and TBP of 600W.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
More Results