• โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์

    🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰

    🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน!

    ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱

    🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน

    ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย

    🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา

    📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day

    ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦

    มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน

    ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน

    🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน

    ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย!

    📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด"

    👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!

    ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน

    🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น

    “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!”
    “ธนาคารกำลังจะล้ม”
    “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ”

    แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง!

    📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ

    เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬

    ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย

    💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก”

    🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง”

    🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์
    “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀”
    “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱”
    “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆”

    🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่!

    ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center

    👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม

    ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน!

    👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

    🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย

    คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨

    📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568

    📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ

    โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์ 🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰 🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน! ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱 🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย 🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา 📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦 มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน 🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย! 📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด" 👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ! ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน 🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!” “ธนาคารกำลังจะล้ม” “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ” แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง! 📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬 ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย 💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก” 🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง” 🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์ “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀” “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱” “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆” 🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่! ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center 👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน! 👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨ 📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568 📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • พรุ่งนี้ 1 เมษายน วัน April Fools' Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันโกหก จะเรียนอะไรก็แล้วแต่ หวังว่าคงจะไม่มีใครเล่นเกี่ยวกับแผ่นดินไหว หรือ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ นะครับ แค่นี้คนก็ตื่นตระหนกและเศร้ากับที่มีการสูญเสียกันอยู่แล้ว ถ้าเล่นนี่ไร้จิตสำนึกกันมาก ๆ เลย
    #จิตสำนึก
    พรุ่งนี้ 1 เมษายน วัน April Fools' Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันโกหก จะเรียนอะไรก็แล้วแต่ หวังว่าคงจะไม่มีใครเล่นเกี่ยวกับแผ่นดินไหว หรือ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ นะครับ แค่นี้คนก็ตื่นตระหนกและเศร้ากับที่มีการสูญเสียกันอยู่แล้ว ถ้าเล่นนี่ไร้จิตสำนึกกันมาก ๆ เลย #จิตสำนึก
    Love
    1
    1 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • การบ้านการเมือง.……ที่รุ่นย่ายายของน้องฟ้าต้องส่งเสียงมั่ง!!!

    พ้นวันโกหกแห่งโลกไปได้ ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะจะได้กลับมาอ่านข่าวอย่างมนุษย์มะนากะเขาได้บ้าง...
    โดยเฉพาะประเด็นฮ็อทฮิตของวีรกรรมอาจารย์ล้มล้างที่ได้รับทุนมหิดลไปเพื่อกลับมา”สนองคุณ”ให้กับประเทศที่ครอบครัวโคตรเง่าได้เข้ามาพึ่งในพระบารมี พระบรมโพธิสมภาร...จนรอดพ้นไปจากความอดอยากและแร้นแค้นในดินแดนไกลโพ้น
    การที่จะเป็นคนสอนหนังสือ...โดยใช้วิชาการที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความชิงชัง…… เอาสิ่งที่ตั้งอยู่มาวิจารณ์ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้...ไม่ต้องไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเลย ไปถามลูกอีช่างติที่ไหนก็ได้...

    ทุกประเทศมีปัญหาในการปกครองแทบทั้งสิ้น มากน้อยมีระดับต่างกัน
    ประชาชนถูกปิดหูปิดตา หรือ ถูกกั๊กข้อมูล แม้แต่ในประเทศที่ว่ากันว่ามีประชาธิปไตยสูงสุด....สหรัฐอเมริกา!!
    เอาง่ายๆ...คดีลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ (1963) ที่ถูกถูไถให้จบลงด้วย“แพะ” สองคน แถมด้วยน้องชาย โรเบิร์ต เคนเนดี้ ที่ต้องมาตายไปตามกัน
    ข้อมูลหลักฐาน ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ประธานาธิบดีก็ยังไม่มีใครกล้าแตะต้อง เอกสารยังผนึกแน่นเป็นความลับมานานกว่าห้าสิบปี
    ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นฝีมือของซีไอเอ...
    แต่...ไม่ล้วงลึก
    หลายคนที่พยายามจะล้วง...หากแต่ข้อมูลที่ได้นั้น ช่างสับสน และเป็นการให้ข้อมูลแบบวนในอ่าง รวมถึงรายชื่อผู้เกี่ยวข้องแต่ละคน ผสมกับเส้นสายสัมพันธ์ทางการการเมืองที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่มีมากมาย......ต่อให้เทวดามาช่วยสางก็ยังหาทางออกและสาวถึงต้นตอไม่ได้
    เริ่มจาก

    David Rockefeller อภิมหาเศรษฐีที่ควบคุม Council on Foreign Relations หรือ CFR หรือ องค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ทีการทำงานเป็นเงาซ้อนชั้นบนของหน่วยงานซีไอเอ และเป็นผู้ก่อตั้ง
    ตึก World Trade รวมทั้งเป็นผู้ช่วยกำหนดนโยบายของ New World Order

    Allen Dulles (ผู้อำนวยการซีไอเอที่เคนเนดี้ให้ลงจากตำแหน่ง),

    John Foster Dulles (พี่ชายของ Allen Dulles ที่มีตำแหน่งเป็นรมต. ต่างประเทศ และเป็นเขยในตระกูลร๊อคกี้เฟลเล่อร์ โดยการแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเดวิด),

    Prescott Bush (บิดาของ George H.W. Bush) ที่มีกลุ่มหัวกระโหลกกระดูกไขว้จาก Yale ร่วมประสานงาน

    Clarence Douglas Dillon รัฐมนตรีคลัง (ลูกอภิมหาเศรษฐี และเป็นอดีตทูตอเมริกาประจำฝรั่งเศส ที่สนับสนุนเหล่ากบฏอัลจีเรียในการโค่นปธน. เดอ โกลด์)

    และยังมีอีกมากมายที่อยู่ในขบวนการต่อต้าน ปธน. เคนเนดี้ ที่มีอยู่หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มนายทุนน้ำมันเท็กซัส, กลุ่มหนุนหลังคิวบา และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกนับร้อย
    ถ้าไม่ใช่”ขบวนการที่ใหญ่จริง” ใหญ่จนเหนืออำนาจรัฐไม่มีทางสาวได้
    นั้นหมายถึง...อเมริกาหาใด้มีเอกเทศในทางปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างที่หน้าฉากได้วาดไว้ไม่....!!

    ข่าวดีคือ...จากนี้ไปเราจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเรื่อยไปเพราะทรัมป์ได้ลงนาม(2018) ในการที่จะเปิดเผยเอกสารลับทั้งหลายให้ปรากฏตามชาวโลก……มาช้าดีกว่าไม่มา...
    และเหล่านักเขียนก็คงไม่ต้องยั้งมือ หรือ อ้อมแอ้มกันอีกแล้วเพราะกุญแจดอกที่ใหญ่ที่สุด ได้เพิ่งสิ้นชีพไปเมื่อ 2017...David Rockefeller
    ที่มีอายุสิริรวม 101 ปี
    ประชาชนอเมริกันจะได้รู้เสียทีว่า...กลไกของบ้านเมืองตัวเองนั้น มันเป็นสายใยแมงมุม ที่ประธานาธิบดีเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ทำงานไปตามระบบทุน...ถ้าไม่อยู่ในอาณัติหรือหัวแข็งเกินไปคุมไม่อยู่...ก็ต้องเก็บกวาดให้พ้นเส้นทาง

    หรือฝรั่งเศส...ที่เสื้อกั๊กเหลืองออกมาอาละวาด จนกลายพันธ์ุไปเป็นก่อวินาศกรรมอาทิตย์ละวันนั้น เพราะเริ่มจากประธานาธิบดีมาครงได้ออกตัวชัดเจนว่ารับใช้กลุ่มทุน และมีข้อตุกติกกับการทำไซด์ไลน์ในธุรกิจบางประการผ่านทางองครักษ์ส่วนตัว นาย อเล็กซองดร์ เบอนัลลา
    ที่ฝ่ายค้านในรัฐบาลพยายามจี้คดีเพื่อค้นหาความกระจ่าง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรค En Marche ของมาครง เช่น ขอเอกสารการจ้าง
    เอกสารเกี่ยวกับนายเบอนัลลา และ ประวัติ...รวมทั้งอื่นๆ
    แต่.……ทุกอย่างเงียบ...
    ประธานาธิบดีไม่มีคำตอบให้ แถมยังปากดี..บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น
    ไม่ว่าจะเป็น การลากผู้ประท้วงออกมาซ้อม,พกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต,
    มีพาสปอร์ตระดับทูตมากกว่าหนึ่งเล่ม และได้รับสินบนมาจากมหาเศรษฐีรัสเซีย นั้น.....เป็นเรื่องจิ๊บจ้อยเหมือนกับคลื่นในถ้วยชาเท่านั้นเอง

    ทีนี้มาดูว่า ประชาชนจะรู้สึกยังไง หรือจริงๆแล้วเขาอยู่ในการปกครองแบบไหน ทุกคนออกจะสับสน ทั้งๆที่เลือกนายมาครงมานี้ เขาเป็นตัวเลือกที่น่าจะมีตำหนิน้อยสุด (ความจริงแล้ว คือ รู้จักเบื้องหลังน้อยสุด)
    ตัวเก็งที่มาแรงแต่ทีแรกนั้นคือ ฟรังซัวส์ ฟียง (François Fillon)
    ที่เป็นคนเก่งมีประวัติการทำงานมาอย่างโชกโชน แต่โดนขุดคุ้ยในเรื่องการรับสินบน และเมียตัวเองมีชื่อในสภารับเดือนมานานถึงสิบห้าปี เป็นเงินนับล้าน
    เท่านั้นไม่พอยังมีชื่อลูกสาวทั้งสองมารับเงินเดือนในฐานะผู้ช่วยงานอีก
    งานนี้ เรียกได้ว่า แหกโค้ง พลิกคว่ำไปมาช่วงสุดท้าย
    เลยเหลือตัวเลือกเพียง มาครงและ มารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคขวาจัดแต่ไม่ค่อยปราชญ์เปรื่องนัก อีกทั้งบิดาของเธอ Jean-Marie Le Pen คือหนึ่งในกบฏอัลจีเรียที่ต่อต้านปธน. เดอ โกลล์ (ตั้งแต่ยังดำรงยศนายพล)
    ลูกสาวเลยยังเป็นที่กังขาของประชาชน...

    หรือบรูไน...ที่กำลังจะประกาศเป็นกฏหมายที่ถือชัดเจนตามหลักของอิสลาม เรื่องผิดลูกผิดเมียผิดผัวของชาวบ้าน, เป็นเพศที่ผิดไปจากการกำเนิด ที่มีโทษรุนแรงถึงปาหินประหารชีวิต
    ที่ดูเหมือนเหล่า HRW จะออกมาต่อต้านแบบอ่อยๆ ไม่มีการกำหนดการของ sanctions หรือ boycotts ใดๆให้รำคาญใจพระราชาธิบดี เพราะสินค้าขาออกของประเทศมีอยู่เพียงสองอย่าง คือ น้ำมันกับก๊าซ ที่ทำให้ประชากรห้าแสนของพระองค์มีรายได้ต่อคน/ต่อปี $82,000 ...น้ำไฟฟรี สวัสดีการทุกอย่างฟรี

    ก็มีที่ส่งเสียงหน่อยก็คือ นาย จอร์จ คลูนี่ ที่ได้ชัดชวนให้เหล่าเซเลป
    เลิกใช้บริการโรงแรมห้าดาวต่างๆที่เจ้าของคือพระราชาธิบดีแห่งบรูไน
    ซึ่ง....เชื่อว่า...ท่านคงไม่สน โนแคร์ กับเศรษฐีดาราพวกนั้นเท่าไหร่นัก เรื่องของบ้านเมือง พระบัญญัติตามศาสนาที่พระองค์จะต้องดำรงไว้

    สรุปว่า....การเมืองบ้านใครบ้านมัน อย่าเห็นว่าสวนบ้านอื่นนั้นเขียวกว่าของเรา อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย
    ที่สำคัญ...อย่าด่าบ้านเมืองตัวเองให้คนอื่นฟัง หรือ สาระแนคิดแก้ไขนั่นนี่ หากยังไม่มีผลงานที่สร้างบารมีมากพอ
    แล้วพอถูกจี้...ถูกกระแสตีกลับ กลับหน้าด้านบอกว่า……ไม่ได้พูดถึงเมืองไทย...

    อ้าว...เรียกอาจารย์ล้มล้างอย่างเดียวคงไม่โก้แล้วละ ต้องเรียกว่า
    แถมให้อีกด้วย...ว่า...หน้าตัวเม.……เอ๊ยยยย....หน้าอิสตรี!!!

    Wiwanda W. Vichit
    การบ้านการเมือง.……ที่รุ่นย่ายายของน้องฟ้าต้องส่งเสียงมั่ง!!! พ้นวันโกหกแห่งโลกไปได้ ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะจะได้กลับมาอ่านข่าวอย่างมนุษย์มะนากะเขาได้บ้าง... โดยเฉพาะประเด็นฮ็อทฮิตของวีรกรรมอาจารย์ล้มล้างที่ได้รับทุนมหิดลไปเพื่อกลับมา”สนองคุณ”ให้กับประเทศที่ครอบครัวโคตรเง่าได้เข้ามาพึ่งในพระบารมี พระบรมโพธิสมภาร...จนรอดพ้นไปจากความอดอยากและแร้นแค้นในดินแดนไกลโพ้น การที่จะเป็นคนสอนหนังสือ...โดยใช้วิชาการที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความชิงชัง…… เอาสิ่งที่ตั้งอยู่มาวิจารณ์ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้...ไม่ต้องไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเลย ไปถามลูกอีช่างติที่ไหนก็ได้... ทุกประเทศมีปัญหาในการปกครองแทบทั้งสิ้น มากน้อยมีระดับต่างกัน ประชาชนถูกปิดหูปิดตา หรือ ถูกกั๊กข้อมูล แม้แต่ในประเทศที่ว่ากันว่ามีประชาธิปไตยสูงสุด....สหรัฐอเมริกา!! เอาง่ายๆ...คดีลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ (1963) ที่ถูกถูไถให้จบลงด้วย“แพะ” สองคน แถมด้วยน้องชาย โรเบิร์ต เคนเนดี้ ที่ต้องมาตายไปตามกัน ข้อมูลหลักฐาน ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ประธานาธิบดีก็ยังไม่มีใครกล้าแตะต้อง เอกสารยังผนึกแน่นเป็นความลับมานานกว่าห้าสิบปี ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นฝีมือของซีไอเอ... แต่...ไม่ล้วงลึก หลายคนที่พยายามจะล้วง...หากแต่ข้อมูลที่ได้นั้น ช่างสับสน และเป็นการให้ข้อมูลแบบวนในอ่าง รวมถึงรายชื่อผู้เกี่ยวข้องแต่ละคน ผสมกับเส้นสายสัมพันธ์ทางการการเมืองที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่มีมากมาย......ต่อให้เทวดามาช่วยสางก็ยังหาทางออกและสาวถึงต้นตอไม่ได้ เริ่มจาก David Rockefeller อภิมหาเศรษฐีที่ควบคุม Council on Foreign Relations หรือ CFR หรือ องค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ทีการทำงานเป็นเงาซ้อนชั้นบนของหน่วยงานซีไอเอ และเป็นผู้ก่อตั้ง ตึก World Trade รวมทั้งเป็นผู้ช่วยกำหนดนโยบายของ New World Order Allen Dulles (ผู้อำนวยการซีไอเอที่เคนเนดี้ให้ลงจากตำแหน่ง), John Foster Dulles (พี่ชายของ Allen Dulles ที่มีตำแหน่งเป็นรมต. ต่างประเทศ และเป็นเขยในตระกูลร๊อคกี้เฟลเล่อร์ โดยการแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเดวิด), Prescott Bush (บิดาของ George H.W. Bush) ที่มีกลุ่มหัวกระโหลกกระดูกไขว้จาก Yale ร่วมประสานงาน Clarence Douglas Dillon รัฐมนตรีคลัง (ลูกอภิมหาเศรษฐี และเป็นอดีตทูตอเมริกาประจำฝรั่งเศส ที่สนับสนุนเหล่ากบฏอัลจีเรียในการโค่นปธน. เดอ โกลด์) และยังมีอีกมากมายที่อยู่ในขบวนการต่อต้าน ปธน. เคนเนดี้ ที่มีอยู่หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มนายทุนน้ำมันเท็กซัส, กลุ่มหนุนหลังคิวบา และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกนับร้อย ถ้าไม่ใช่”ขบวนการที่ใหญ่จริง” ใหญ่จนเหนืออำนาจรัฐไม่มีทางสาวได้ นั้นหมายถึง...อเมริกาหาใด้มีเอกเทศในทางปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างที่หน้าฉากได้วาดไว้ไม่....!! ข่าวดีคือ...จากนี้ไปเราจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเรื่อยไปเพราะทรัมป์ได้ลงนาม(2018) ในการที่จะเปิดเผยเอกสารลับทั้งหลายให้ปรากฏตามชาวโลก……มาช้าดีกว่าไม่มา... และเหล่านักเขียนก็คงไม่ต้องยั้งมือ หรือ อ้อมแอ้มกันอีกแล้วเพราะกุญแจดอกที่ใหญ่ที่สุด ได้เพิ่งสิ้นชีพไปเมื่อ 2017...David Rockefeller ที่มีอายุสิริรวม 101 ปี ประชาชนอเมริกันจะได้รู้เสียทีว่า...กลไกของบ้านเมืองตัวเองนั้น มันเป็นสายใยแมงมุม ที่ประธานาธิบดีเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ทำงานไปตามระบบทุน...ถ้าไม่อยู่ในอาณัติหรือหัวแข็งเกินไปคุมไม่อยู่...ก็ต้องเก็บกวาดให้พ้นเส้นทาง หรือฝรั่งเศส...ที่เสื้อกั๊กเหลืองออกมาอาละวาด จนกลายพันธ์ุไปเป็นก่อวินาศกรรมอาทิตย์ละวันนั้น เพราะเริ่มจากประธานาธิบดีมาครงได้ออกตัวชัดเจนว่ารับใช้กลุ่มทุน และมีข้อตุกติกกับการทำไซด์ไลน์ในธุรกิจบางประการผ่านทางองครักษ์ส่วนตัว นาย อเล็กซองดร์ เบอนัลลา ที่ฝ่ายค้านในรัฐบาลพยายามจี้คดีเพื่อค้นหาความกระจ่าง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรค En Marche ของมาครง เช่น ขอเอกสารการจ้าง เอกสารเกี่ยวกับนายเบอนัลลา และ ประวัติ...รวมทั้งอื่นๆ แต่.……ทุกอย่างเงียบ... ประธานาธิบดีไม่มีคำตอบให้ แถมยังปากดี..บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าจะเป็น การลากผู้ประท้วงออกมาซ้อม,พกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต, มีพาสปอร์ตระดับทูตมากกว่าหนึ่งเล่ม และได้รับสินบนมาจากมหาเศรษฐีรัสเซีย นั้น.....เป็นเรื่องจิ๊บจ้อยเหมือนกับคลื่นในถ้วยชาเท่านั้นเอง ทีนี้มาดูว่า ประชาชนจะรู้สึกยังไง หรือจริงๆแล้วเขาอยู่ในการปกครองแบบไหน ทุกคนออกจะสับสน ทั้งๆที่เลือกนายมาครงมานี้ เขาเป็นตัวเลือกที่น่าจะมีตำหนิน้อยสุด (ความจริงแล้ว คือ รู้จักเบื้องหลังน้อยสุด) ตัวเก็งที่มาแรงแต่ทีแรกนั้นคือ ฟรังซัวส์ ฟียง (François Fillon) ที่เป็นคนเก่งมีประวัติการทำงานมาอย่างโชกโชน แต่โดนขุดคุ้ยในเรื่องการรับสินบน และเมียตัวเองมีชื่อในสภารับเดือนมานานถึงสิบห้าปี เป็นเงินนับล้าน เท่านั้นไม่พอยังมีชื่อลูกสาวทั้งสองมารับเงินเดือนในฐานะผู้ช่วยงานอีก งานนี้ เรียกได้ว่า แหกโค้ง พลิกคว่ำไปมาช่วงสุดท้าย เลยเหลือตัวเลือกเพียง มาครงและ มารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคขวาจัดแต่ไม่ค่อยปราชญ์เปรื่องนัก อีกทั้งบิดาของเธอ Jean-Marie Le Pen คือหนึ่งในกบฏอัลจีเรียที่ต่อต้านปธน. เดอ โกลล์ (ตั้งแต่ยังดำรงยศนายพล) ลูกสาวเลยยังเป็นที่กังขาของประชาชน... หรือบรูไน...ที่กำลังจะประกาศเป็นกฏหมายที่ถือชัดเจนตามหลักของอิสลาม เรื่องผิดลูกผิดเมียผิดผัวของชาวบ้าน, เป็นเพศที่ผิดไปจากการกำเนิด ที่มีโทษรุนแรงถึงปาหินประหารชีวิต ที่ดูเหมือนเหล่า HRW จะออกมาต่อต้านแบบอ่อยๆ ไม่มีการกำหนดการของ sanctions หรือ boycotts ใดๆให้รำคาญใจพระราชาธิบดี เพราะสินค้าขาออกของประเทศมีอยู่เพียงสองอย่าง คือ น้ำมันกับก๊าซ ที่ทำให้ประชากรห้าแสนของพระองค์มีรายได้ต่อคน/ต่อปี $82,000 ...น้ำไฟฟรี สวัสดีการทุกอย่างฟรี ก็มีที่ส่งเสียงหน่อยก็คือ นาย จอร์จ คลูนี่ ที่ได้ชัดชวนให้เหล่าเซเลป เลิกใช้บริการโรงแรมห้าดาวต่างๆที่เจ้าของคือพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ซึ่ง....เชื่อว่า...ท่านคงไม่สน โนแคร์ กับเศรษฐีดาราพวกนั้นเท่าไหร่นัก เรื่องของบ้านเมือง พระบัญญัติตามศาสนาที่พระองค์จะต้องดำรงไว้ สรุปว่า....การเมืองบ้านใครบ้านมัน อย่าเห็นว่าสวนบ้านอื่นนั้นเขียวกว่าของเรา อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย ที่สำคัญ...อย่าด่าบ้านเมืองตัวเองให้คนอื่นฟัง หรือ สาระแนคิดแก้ไขนั่นนี่ หากยังไม่มีผลงานที่สร้างบารมีมากพอ แล้วพอถูกจี้...ถูกกระแสตีกลับ กลับหน้าด้านบอกว่า……ไม่ได้พูดถึงเมืองไทย... อ้าว...เรียกอาจารย์ล้มล้างอย่างเดียวคงไม่โก้แล้วละ ต้องเรียกว่า แถมให้อีกด้วย...ว่า...หน้าตัวเม.……เอ๊ยยยย....หน้าอิสตรี!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 870 Views 0 Reviews