• ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 18

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 18
    วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1945 เพียง 4 วัน นับแต่วันที่ญี่ปุ่นยอมสงบศึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายญี่ปุ่น 14 คน ก็บินไปหาคณะทำงานของท่านนายพลแมค ที่เมืองมะนิลา เพื่อหารือเรื่องงานพิธีการสงบศึก ที่จักรพรรดิฮิโรโฮิโตจะต้องเป็นคนพูดสารภาพผิดในการพาญี่ปุ่นเข้าสู่สงคราม แต่จริงๆ พวกญี่ปุ่นดูเหมือนจะไปทดสอบอุณหภูมิของฝ่ายอเมริกามากกว่า
    ท่านนายพลแมค นอนไข่วห้างอยู่ในที่พัก ปล่อยให้เด็กๆทั้ง 2 ฝ่าย ทดสอบอุณหภูมิกันเอง
    ฝ่ายญี่ปุ่นจับไต๋ได้ว่า ฝ่ายอเมริกันนั้น ดูเหมือนจะดีแต่ท่า พวกอเมริกาที่มาทำงาน แทบไม่มีใคร “รู้จัก” ญี่ปุ่นเอาเลย ขอข้าว ขอน้ำ เป็นภาษาญี่ปุ่นก็คงอดตาย แถมไม่มีทีท่าว่าอยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่นแม้แต่น้อย พวกเขาอยากรีบทำงานให้จบๆ แล้วก็รีบกลับบ้านไปกินเนื้อสเต๊กใกล้สุก มากกว่ากินปลาดิบ
    หลังจากวัดอุณหภูมิอเมริกันได้ว่า อาการไข้ปลาดิบน่าจะสูงขึ้นทุกวัน รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น นายชิเกมิตสุ Shigemitsu ก็จัดทัพคณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่นเสียใหม่ เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับคณะทำงานของฝ่าย SCAP โดยมอบหมายให้มือขวาของเขา นาย คาเซะ โตชิคาซุ Kase Toshikazu ซึ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Amherst ซึ่งมีชื่อเสียงมากของอเมริกา มาเป็นหัวหน้าผู้ประสานงานกับ SCAP
    นายคาเซะ ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัว ของรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นทุกคน มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 จริงๆแล้ว เขาสังกัดหน่วยสืบราชการลับของญี่ปุ่น เขาเป็นผู้ประสานงานกับเบอร์ลินและมอสโคว์ พวกอเมริกันชอบเขามาก โดยเฉพาะ นายพล Bonner Fellers ถึงกับออกปากว่า …เขาเป็นเพื่อนรักของผมนะ และเขาใกล้ชิดกับจักรพรรดิมากกว่าใครเลยล่ะ…
    ก่อนสงครามโลกจากขยายใหญ่ในปี ค.ศ.1941 นายคาเซะ ได้เป็นหัวหน้ากองอเมริกา ในกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแทน นาย เทราซากิ ทาโระ (Terasaki Taro) และเช่นเดียวกับนายเทราซากิ นายคาเซะ ก็สนิทสนมดีกับ Joseph Grew ทูตอเมริกันประจำญี่ปุ่น ที่ใกล้ชิดกับ กลุ่มนักการเงินทั้งฝั่งอเมริกา และฝั่งญี่ปุ่น และรวมทั้ง Herbert Hoover
    คณะผู้ประสานงานกับ SCAP ที่นำโดยนายคาเซะ ทำให้การทำงานของฝ่ายอเมริกันง่ายขึ้น คำสั่งต่างๆ ของฝ่ายอเมริกัน จะส่งมาที่คณะนายคาเซะ ซึ่งทำหน้าที่แปล และแปลง ถ้าข้อความให้อเมริกา เขาก็เต็มรสซ้อสมะเขือเทศ ข้อความให้ญี่ปุ่น เขาก็เต็มวาซาบิ นายคาเซะทำหน้าที่ เป็นกันชน และคนแต่งรส ในการสื่อสารระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น รวมทั้ง ถ่วงเวลา หรือทำทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของฝ่ายญี่ปุ่น
    ขณะเดียวกัน ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยข่าวกรองด้วย นายคาเซะ “รู้จัก” คนอเมริกันอย่างดี เขาเก็บข้อมูลของฝ่ายอเมริกาไว้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นความลับระดับไหน คุณสมบัติเฉพาะ ข้อมูลละเอียดอ่อน ข้อขัดแย้ง หรือคู่แข่ง ของฝ่ายอเมริกัน เขามีหมด ทั้งหมดนี้ อเมริกา โดย (คิดว่า) ฝ่ายท่านนายพลแมค น่าจะไม่รู้ตัวเลย
    ฝ่ายท่านนายพลแมค นายพลเฟลเลอร์ ภายใต้การกำกับจากทางไกลของ Hoover ก็กำลังหาทาง “จัดการ” ให้ภาระกิจ ปฏิรูปญี่ปุ่น เดินหน้า ไปตามที่ War and Peace Studies วางนโยบาย และตามใบสั่ง
    ใบสั่งบอกว่า การปฏิรูปญี่ปุ่น แม้จะดีกับชาวญี่ปุ่น แต่ถ้าจับนักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ เจ้าพ่อใหญ่ต่างๆ ที่เป็นตัวเฟืองที่ทำให้ญี่ปุ่นเดินได้ เอามาดำเนินดคี และเอาเข้าคุกหมด แล้วเราจะใช้ใครโม่แป้ง ใครจะผลิตสินค้า ใครจะขายสินค้า ใครจะคุมกิจการที่เราจะตั้งขึ้น เราต้องมีมือ มีตีนนะ เราแค่เป็นเจ้าของ คนชี้นิ้วสั่ง เข้าใจไหม และที่สำคัญ เราจะลงทุนในธุรกิจของเรา จากเงินของเขา ที่เขาปล้นมาอีกต่อ นี่จะต้องให้อธิบายกันหมดหรือไง
    ฝ่ายปฏิบัติการ จึงต้องหาหนทาง ที่จะทำให้แผนตามใบสั่ง สำเร็จ ก็ไม่น่ายาก เงื่อนไขในการปฏิรูปข้อหนึ่ง กำหนด (เปิดทางไว้ให้แล้ว!) ว่า จักรพรรดิ ต้องมาสารภาพผิดที่พากองทัพเข้าสู่สงคราม
    แล้วขบวนการปล่อยข่าวขู่ว่า จักรพรรดิ ต้องรับผิด เพราะกองทัพ ทำในนามของจักรพรรดิทั้งนั้น แล้วถ้าผิด ราชวงศ์ก็จะต้องถูกยึดทรัพย์ เอามาชดใช้ค่าเสียหายในการทำสงคราม ข่าวปล่อยนี้ ทำเอาเครือข่ายนอกวังในวัง ต่างมือไม้สั่น วิ่งกันหัวหมุนชนกัน หาทางยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินจนวุ่นไปหมด
    ระหว่างที่ตัวนายพลแมค เอง ยังยืนเซ่อว่าจะเดินหน้าอย่างไร ทางวอชิงตันก็ส่งนาย George Atcheson ที่ปรึกษาใหญ่ของกระทรวงต่างประเทศ จากพรรครีพับลิกัน มาคอยดูการทำงาน ของ SCAPด้วย นายพลแมค ที่แอบตั้งความหวังอยู่ในใจ ที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดี อเมริกา ในปี ค.ศ.1948 เริ่มคิดมาก งานปฏิรูปญี่ปุ่นนี่ จะสร้างคะแนนบวก หรือลบให้เขา เขาต้องการคะแนนบวก และต้องการกระเป๋าหนุนหลัง และ Hoover อดีตประธานาธิบดี จากรีพับลิกัน น่าจะยังมีพวกพอที่สามารถ” จัดการ” หาทั้งสองอย่างให้เขาได้
    ขณะที่ขบวนการขู่จักรพรรดิ กำลังเดินหน้าไปอย่างดี ถึงขนาดมีข่าวว่า ราชวงศ์หลายคนรีบขายวัง ขายสมบัติ ให้เพื่อนเศรษฐีทำหน้าที่เป็นนอมินีถือแทน และมีการเตรียมบีบให้จักรพรรดิ สละบัลลังก์ให้น้องชาย ถ้าจักรพรรดิ ไม่ยอมรับผิดเรื่องสั่งทำสงคราม ฝ่ายทำงานของ SCAP ก็รวบรวมรายชื่อ แบบเหวี่ยงแห ได้ปลาตัวเล็ก ตัวใหญ่ ประมาณ สองแสนสองหมื่นชื่อ มีทั้ง ทหาร นักธุรกิจ นักการเมือง รัฐบาล ข้าราชการ เจ้าพ่อ ฯลฯ ครบถ้วน เพื่อมาสอบสวน และเอาเข้าคุกก่อนพิจารณาดำเนินคดี คราวนี้รายการวิ่งฝุ่นตลบ ก็เริ่มทยอยเกิดขึ้นในโตเกียว
    วอชิงตันคงเห็นฝุ่นตลบมากไป จึงให้นาย Joseph Keenan หัวหน้าฝ่ายการดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสงคราม ตั้งคณะทำงาน Far Eastern Commission (FEC) คณะนี้ออกคำสั่งเรียกย่อๆ ว่า FEC-230 เพื่อสั่งให้ SCAP จัดการกับนักธุรกิจใหญ่ ที่ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในการทำสงคราม เฮ้ย จับปลาพวกนี้ก่อนโว้ย
    รายการ FEC นี่ต้องให้รางวัลคนคิด สุดยอดจริงๆ ปรากฏว่า ได้รับการประท้วง ทั้งจากฝั่งอเมริกาเอง นักธุรกิจใหญ่นายทุน ที่เป็นเจ้าหนี้ญี่ปุ่น ต่างด่ากันโขมง จับลูกหนี้ แล้วเจ้าหนี้ จะได้เงินคืนยังไงวะ โง่จริง และเจ้าหนี้ หรือนักลงทุนส่วนใหญ่ที่อยู่ในวอลสตรีท เป็นเครือมอร์แกนเกือบทั้งนั้น เยี่ยมครับท่าน นี่มันเป็นหมากหลายชั้น กินกลายเด้ง ผมเชื่อแล้วว่าท่านชั่วได้เก่งจริงๆ
    คณะทำงานของ SCAP ไม่สนใจ ไม่ฟังเสียงวอชิงตัน ไม่ฟังเสียงวอลสตรีท เดินหน้าจับหัวกะทิ ของสองแสนสองหมื่น เข้าคุก ซูกาโม ไม่มีตกหล่น ไม่มียกเว้น นักโทษอย่างนายคิชิ นาย ซาซากาวา นายโคดามะ …ก็เดิน เรียงแถวเซื่องๆ เข้าห้องขัง ไหน ไหน ใครว่า ทหารญี่ปุ่น ซามูไร ยากูซ่าโหดเหี้ยม เห็นเดินเข้าห้องขัง หุบปากเงียบกันหมด…

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 18 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 18 วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1945 เพียง 4 วัน นับแต่วันที่ญี่ปุ่นยอมสงบศึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายญี่ปุ่น 14 คน ก็บินไปหาคณะทำงานของท่านนายพลแมค ที่เมืองมะนิลา เพื่อหารือเรื่องงานพิธีการสงบศึก ที่จักรพรรดิฮิโรโฮิโตจะต้องเป็นคนพูดสารภาพผิดในการพาญี่ปุ่นเข้าสู่สงคราม แต่จริงๆ พวกญี่ปุ่นดูเหมือนจะไปทดสอบอุณหภูมิของฝ่ายอเมริกามากกว่า ท่านนายพลแมค นอนไข่วห้างอยู่ในที่พัก ปล่อยให้เด็กๆทั้ง 2 ฝ่าย ทดสอบอุณหภูมิกันเอง ฝ่ายญี่ปุ่นจับไต๋ได้ว่า ฝ่ายอเมริกันนั้น ดูเหมือนจะดีแต่ท่า พวกอเมริกาที่มาทำงาน แทบไม่มีใคร “รู้จัก” ญี่ปุ่นเอาเลย ขอข้าว ขอน้ำ เป็นภาษาญี่ปุ่นก็คงอดตาย แถมไม่มีทีท่าว่าอยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่นแม้แต่น้อย พวกเขาอยากรีบทำงานให้จบๆ แล้วก็รีบกลับบ้านไปกินเนื้อสเต๊กใกล้สุก มากกว่ากินปลาดิบ หลังจากวัดอุณหภูมิอเมริกันได้ว่า อาการไข้ปลาดิบน่าจะสูงขึ้นทุกวัน รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น นายชิเกมิตสุ Shigemitsu ก็จัดทัพคณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่นเสียใหม่ เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับคณะทำงานของฝ่าย SCAP โดยมอบหมายให้มือขวาของเขา นาย คาเซะ โตชิคาซุ Kase Toshikazu ซึ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Amherst ซึ่งมีชื่อเสียงมากของอเมริกา มาเป็นหัวหน้าผู้ประสานงานกับ SCAP นายคาเซะ ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัว ของรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นทุกคน มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 จริงๆแล้ว เขาสังกัดหน่วยสืบราชการลับของญี่ปุ่น เขาเป็นผู้ประสานงานกับเบอร์ลินและมอสโคว์ พวกอเมริกันชอบเขามาก โดยเฉพาะ นายพล Bonner Fellers ถึงกับออกปากว่า …เขาเป็นเพื่อนรักของผมนะ และเขาใกล้ชิดกับจักรพรรดิมากกว่าใครเลยล่ะ… ก่อนสงครามโลกจากขยายใหญ่ในปี ค.ศ.1941 นายคาเซะ ได้เป็นหัวหน้ากองอเมริกา ในกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแทน นาย เทราซากิ ทาโระ (Terasaki Taro) และเช่นเดียวกับนายเทราซากิ นายคาเซะ ก็สนิทสนมดีกับ Joseph Grew ทูตอเมริกันประจำญี่ปุ่น ที่ใกล้ชิดกับ กลุ่มนักการเงินทั้งฝั่งอเมริกา และฝั่งญี่ปุ่น และรวมทั้ง Herbert Hoover คณะผู้ประสานงานกับ SCAP ที่นำโดยนายคาเซะ ทำให้การทำงานของฝ่ายอเมริกันง่ายขึ้น คำสั่งต่างๆ ของฝ่ายอเมริกัน จะส่งมาที่คณะนายคาเซะ ซึ่งทำหน้าที่แปล และแปลง ถ้าข้อความให้อเมริกา เขาก็เต็มรสซ้อสมะเขือเทศ ข้อความให้ญี่ปุ่น เขาก็เต็มวาซาบิ นายคาเซะทำหน้าที่ เป็นกันชน และคนแต่งรส ในการสื่อสารระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น รวมทั้ง ถ่วงเวลา หรือทำทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของฝ่ายญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยข่าวกรองด้วย นายคาเซะ “รู้จัก” คนอเมริกันอย่างดี เขาเก็บข้อมูลของฝ่ายอเมริกาไว้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นความลับระดับไหน คุณสมบัติเฉพาะ ข้อมูลละเอียดอ่อน ข้อขัดแย้ง หรือคู่แข่ง ของฝ่ายอเมริกัน เขามีหมด ทั้งหมดนี้ อเมริกา โดย (คิดว่า) ฝ่ายท่านนายพลแมค น่าจะไม่รู้ตัวเลย ฝ่ายท่านนายพลแมค นายพลเฟลเลอร์ ภายใต้การกำกับจากทางไกลของ Hoover ก็กำลังหาทาง “จัดการ” ให้ภาระกิจ ปฏิรูปญี่ปุ่น เดินหน้า ไปตามที่ War and Peace Studies วางนโยบาย และตามใบสั่ง ใบสั่งบอกว่า การปฏิรูปญี่ปุ่น แม้จะดีกับชาวญี่ปุ่น แต่ถ้าจับนักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ เจ้าพ่อใหญ่ต่างๆ ที่เป็นตัวเฟืองที่ทำให้ญี่ปุ่นเดินได้ เอามาดำเนินดคี และเอาเข้าคุกหมด แล้วเราจะใช้ใครโม่แป้ง ใครจะผลิตสินค้า ใครจะขายสินค้า ใครจะคุมกิจการที่เราจะตั้งขึ้น เราต้องมีมือ มีตีนนะ เราแค่เป็นเจ้าของ คนชี้นิ้วสั่ง เข้าใจไหม และที่สำคัญ เราจะลงทุนในธุรกิจของเรา จากเงินของเขา ที่เขาปล้นมาอีกต่อ นี่จะต้องให้อธิบายกันหมดหรือไง ฝ่ายปฏิบัติการ จึงต้องหาหนทาง ที่จะทำให้แผนตามใบสั่ง สำเร็จ ก็ไม่น่ายาก เงื่อนไขในการปฏิรูปข้อหนึ่ง กำหนด (เปิดทางไว้ให้แล้ว!) ว่า จักรพรรดิ ต้องมาสารภาพผิดที่พากองทัพเข้าสู่สงคราม แล้วขบวนการปล่อยข่าวขู่ว่า จักรพรรดิ ต้องรับผิด เพราะกองทัพ ทำในนามของจักรพรรดิทั้งนั้น แล้วถ้าผิด ราชวงศ์ก็จะต้องถูกยึดทรัพย์ เอามาชดใช้ค่าเสียหายในการทำสงคราม ข่าวปล่อยนี้ ทำเอาเครือข่ายนอกวังในวัง ต่างมือไม้สั่น วิ่งกันหัวหมุนชนกัน หาทางยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินจนวุ่นไปหมด ระหว่างที่ตัวนายพลแมค เอง ยังยืนเซ่อว่าจะเดินหน้าอย่างไร ทางวอชิงตันก็ส่งนาย George Atcheson ที่ปรึกษาใหญ่ของกระทรวงต่างประเทศ จากพรรครีพับลิกัน มาคอยดูการทำงาน ของ SCAPด้วย นายพลแมค ที่แอบตั้งความหวังอยู่ในใจ ที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดี อเมริกา ในปี ค.ศ.1948 เริ่มคิดมาก งานปฏิรูปญี่ปุ่นนี่ จะสร้างคะแนนบวก หรือลบให้เขา เขาต้องการคะแนนบวก และต้องการกระเป๋าหนุนหลัง และ Hoover อดีตประธานาธิบดี จากรีพับลิกัน น่าจะยังมีพวกพอที่สามารถ” จัดการ” หาทั้งสองอย่างให้เขาได้ ขณะที่ขบวนการขู่จักรพรรดิ กำลังเดินหน้าไปอย่างดี ถึงขนาดมีข่าวว่า ราชวงศ์หลายคนรีบขายวัง ขายสมบัติ ให้เพื่อนเศรษฐีทำหน้าที่เป็นนอมินีถือแทน และมีการเตรียมบีบให้จักรพรรดิ สละบัลลังก์ให้น้องชาย ถ้าจักรพรรดิ ไม่ยอมรับผิดเรื่องสั่งทำสงคราม ฝ่ายทำงานของ SCAP ก็รวบรวมรายชื่อ แบบเหวี่ยงแห ได้ปลาตัวเล็ก ตัวใหญ่ ประมาณ สองแสนสองหมื่นชื่อ มีทั้ง ทหาร นักธุรกิจ นักการเมือง รัฐบาล ข้าราชการ เจ้าพ่อ ฯลฯ ครบถ้วน เพื่อมาสอบสวน และเอาเข้าคุกก่อนพิจารณาดำเนินคดี คราวนี้รายการวิ่งฝุ่นตลบ ก็เริ่มทยอยเกิดขึ้นในโตเกียว วอชิงตันคงเห็นฝุ่นตลบมากไป จึงให้นาย Joseph Keenan หัวหน้าฝ่ายการดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสงคราม ตั้งคณะทำงาน Far Eastern Commission (FEC) คณะนี้ออกคำสั่งเรียกย่อๆ ว่า FEC-230 เพื่อสั่งให้ SCAP จัดการกับนักธุรกิจใหญ่ ที่ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในการทำสงคราม เฮ้ย จับปลาพวกนี้ก่อนโว้ย รายการ FEC นี่ต้องให้รางวัลคนคิด สุดยอดจริงๆ ปรากฏว่า ได้รับการประท้วง ทั้งจากฝั่งอเมริกาเอง นักธุรกิจใหญ่นายทุน ที่เป็นเจ้าหนี้ญี่ปุ่น ต่างด่ากันโขมง จับลูกหนี้ แล้วเจ้าหนี้ จะได้เงินคืนยังไงวะ โง่จริง และเจ้าหนี้ หรือนักลงทุนส่วนใหญ่ที่อยู่ในวอลสตรีท เป็นเครือมอร์แกนเกือบทั้งนั้น เยี่ยมครับท่าน นี่มันเป็นหมากหลายชั้น กินกลายเด้ง ผมเชื่อแล้วว่าท่านชั่วได้เก่งจริงๆ คณะทำงานของ SCAP ไม่สนใจ ไม่ฟังเสียงวอชิงตัน ไม่ฟังเสียงวอลสตรีท เดินหน้าจับหัวกะทิ ของสองแสนสองหมื่น เข้าคุก ซูกาโม ไม่มีตกหล่น ไม่มียกเว้น นักโทษอย่างนายคิชิ นาย ซาซากาวา นายโคดามะ …ก็เดิน เรียงแถวเซื่องๆ เข้าห้องขัง ไหน ไหน ใครว่า ทหารญี่ปุ่น ซามูไร ยากูซ่าโหดเหี้ยม เห็นเดินเข้าห้องขัง หุบปากเงียบกันหมด… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระดมช่วยลูกหนี้น้ำท่วม : [Biz Talk]

    แบงก์รัฐ, แบงก์เอกชน, non-bank ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุมทั้งการพักหนี้ ,ลดค่างวด,เติมทุนฉุกเฉิน ซ่อมแซมบ้าน ฟื้นฟูกิจการ ช่วยลูกค้า-ลูกหนี้ กลับมาตั้งหลัก ใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว
    ระดมช่วยลูกหนี้น้ำท่วม : [Biz Talk] แบงก์รัฐ, แบงก์เอกชน, non-bank ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุมทั้งการพักหนี้ ,ลดค่างวด,เติมทุนฉุกเฉิน ซ่อมแซมบ้าน ฟื้นฟูกิจการ ช่วยลูกค้า-ลูกหนี้ กลับมาตั้งหลัก ใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 5
    ไม่รู้ยังจำกันได้ไหม หลังจากสหภาพโซเวียตถูกทุบจนแหลกละเอียด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 อเมริกาและพวก ตีปีกกันใหญ่ ว่ากำจัดขู่แข่งตัวสำคัญไปเรี ยบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปเพียง 15 ปี ส่วนหัวและหัวใจ ของสหภาพโซเวียตคือ รัสเซีย ดันไม่ตายตามต้องการ แถมฟื้นขึ้นมาแบบมาดใหม่ ด้วยการสู้ด้วยท่อส่งแก๊ส ที่รัสเซียวางไปตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นเรื่องที่อเมริกาและพวก คิดไม่ถึง ยิ่งท่อส่งแก๊สของรัสเซียวิ่งตรงมายุโรป และยุโรปกลายเป็นฝ่ายพึ่งแก๊สของรัสเซียถึง 60% อเมริกายิ่งหายใจแรง ด้วยความขัดใจ กระบวนการขัดขารัสเซีย ไปจนถึงแซงช้่นจึงค่อยๆทยอยปล่อยออกมาใส่รัสเซีย
    เดือนธันวาคม ค.ศ.2014 รัสเซีย ประกาศยกเลิกเส้นทางท่อส่งแก๊ส South Sream ของ Gazprom บริษัทผลิตและส่งแก๊สของรัฐบาลรัสเซีย เพราะถูกอียูกั้ก ตามคำสั่งของอเมริกา รัสเซียหวังจะส่งแก๊สให้ชาวยุโรปด้วยเส้นทางใหม่ ที่ไม่ต้องผ่านยูเครน ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ แต่ให้ไปโผล่ที่บุลกาเรีย เพิ่มอีกจุด เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างยุโรป และรัสเซีย แต่อเมริกา บีบให้อียูบอกว่า แบบนี้เป็นการรังแกยูเครน แล้วอียู ก็ไปบีบบุลกาเรียอีกต่อ ไม่ให้ตกลงกับรัสเซีย แล้วอียู รัสเซีย ก็เดือดร้อน แต่อเมริกาสบาย ฉลาดฉิบหายเลย
    คุณพี่ปูตินบอก ตามใจ ถ้าคนยุโรปไม่ต้องการ เราก็ช่วยอะไรไม่ได้ งั้นรัสเซียส่งมาทางตุรกีแทนก็ได้ แทบไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าตุรกีไม่กล้าแหกคอกจากอเมริกา มาต่อท่อกับรัสเซีย ก็อเมริกาเพิ่งสั่งให้ลูกกระเป๋งแซงชั่นรัสเซียอยู่หยกๆ เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2015 นี้เอง ตุรกีกับ Gasprom ก็ยืนประกาศคู่กัน ว่า เส้นท่อส่งแก๊ส Turkish Stream เดินหน้าไปอย่างดียิ่ง และพร้อมจะส่งแก๊สจากรัสเซีย เข้ามาที่สถานีในตุรกีและไปโผล่ตรงเขตแดนตุรกี ที่ติดกับ”กรีซ “ได้ ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2016 เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าในยุโรป….. มาแล้ว ฝีมือเดินหมากรุกระดับแชมป์
    ในวันที่รัสเซียตัดสินใจ ไม่เดินหน้าไปทางบุลกาเรีย แต่เปลี่ยนมาเป็นตุรกีนั้น ทันทีที่ตกลงกับตุรกีได้ในต้นเดือนเมษายน ค.ศ.2015 คุณพี่ปูตินยกโทรศัพท์คุยกับคุณน้องอเล็กซิสด้วยตัวเอง หลังจากนั้น สำนักงานท่านประธานาธิบดีของรัสเซียก็ออกข่าวเงียบๆ ว่า รัสเซียพร้อมให้เงินกู้กับกรีซ เพื่อเป็นการตอบแทนที่กรีซเข้าร่วมโครงการ Turkish Stream เข้าไปในอียู …
    แต่เมื่อสื่อเยอรมัน Der Spiegel รายงานข่าวว่า มอสโคว์พร้อมให้เงินกู้กับรัฐบาลกรีซทันที จำนวน 5 พันล้านยูโร ที่ประมาณว่า จะเท่ากับส่วนแบ่งกำไร ที่จะได้จากเชื่อมท่อส่งแก๊ส Turkish Stream แต่เครมลินออกมาปฏิเสธข่าวนี้ ….มันก็ควรปฏิเสธ เรื่องแบบนี้มันต้อง เปิดๆ ปิดๆ ถึงจะน่าตื่นเต้น
    ในขณะที่กรีซและเจ้าหนี้ กำลังเจรจาเครียด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ถึงเรื่องหนี้ ที่ต้องจ่ายให้แก่ IMF จำนวน 1.6 พันล้านยูโรในวันสิ้นเดือนมิถุนายน นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ยังไม่มีคำตอบให้กับเจ้าหนี้ ว่าเขาจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้หนี้ แต่วันรุ่งขึ้น เขาบินไปร่วมงาน St. Petersburg Economic Forum ที่รัสเซีย อย่างไม่มีอาการเครียด…
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัสเซียพยายามไม่ยุ่งกับเรื่องวิกฤติทางการเงินของยุโรป แต่ปัญหาของกรีซ มันอาจจะทำให้รัสเซียเห็นทาง… ที่อาจจะคุ้ม กับค่ายุ่งก็เป็นได้
    และถ้ารัสเซียเห็นว่าคุ้ม แล้วโดดมาเล่นด้วย หนี้กรีซคงไม่ได้เป็นเรื่องวิกฤติทางการเงินเรื้อรัง แต่เปลี่ยนเป็นวิกฤติ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองทันที นี่อาจจะเป็น ซึนามิ ที่จะมาหลังแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์
    CFR (Council on Foreign Relations ) หน่วยงานที่เป็นผู้กำกับบทบาทของ รัฐบาลอเมริกัน เริ่มใช้ไมค์ตัวเล็ก นาย Sebastian Mallaby นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส นำร่อง ออกมาให้ความเห็นว่า คุณคงไม่อยากเห็นยุโรปต้องเจรจากับกรีซ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่ปุบปับก็ดันจะไปซบกับรัสเซีย ” You don’t want Europe to have to deal with Greece, who is a member of NATO, all of a sudden cozying up to Russia”
    แม้เป็นแค่ไมค์ตัวเล็ก แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ได้ยินเสียงแบบนี้ ก็ลนลานแล้ว เดิมรัฐบาลเยอรมัน คนเยอรมัน แบงค์เยอรมัน เห็นพ้องกันว่า เยอรมันจะยุติการให้เงินกู้กับกรีซเพิ่มเติม ถ้ากรีซ ยังเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีวินัย มันต้องให้ใส่ทั้งโซ่เหล็ก และเข้มขัดเหล็ก เข้าใจไหม
    เหมือนจะรู้ว่า ป้าเข็มขัดเหล็กกำลังคิดอะไร ไมค์ตัวเล็กจาก CFR เลยแถมท้าย…ป้าก็คงไม่ชอบใช่มั้ย ที่จะให้ปูติน ให้ของขวัญกับกรีซ ถ้ากรีซจะแหกคอก ออกไปจากพวกตะวันตกน่ะ …
    แล้วก็เหมือนกลัว ป้าจะตัดสินใจยาก นายอเล็กซิส ก็เขียนตอบโต้ คำกล่าวของคนเยอรมันที่บอกว่า คนเยอรมันต้องทำงานหนัก เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงคนกรีซที่เลิกทำงาน อเล็กซิส เขียนส่งไปลงในหนังสือพิมพ์เยอรมันว่า… ใครที่อ้างว่า คนเยอรมันต้องเสียภาษีเพื่อเอาจ่ายเป็นค่าจ้าง และเงินบำนาญ เป็นคนโกหก…อันนี้ ฮอร์โมนคนหนุ่มพุ่งแรงจริงๆ
    กรีซและเจ้าหนี้ กำลังขยับการเผชิญหน้าใกล้เข้ามา จนแทบจะหายใจใส่หน้ากันอยู่แล้ว แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ทำปากแข็งบอก ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ฉันยังรอรับฟังข้อเสนอของกรีซอยู่ ว่าแล้วก็หัวร่อร่ากับหนุ่มกรีก ทำเหมือนไม่มีรอยร้าวระหว่างป้า กับหลาน CFR คงไม่แน่ใจว่า ป้าหัวร่อกับหนุ่มกรีก เพราะเครียด หรือ ขากรรไกรค้าง รีบสำทับ อียูต้องจัดการให้ดีนะ ไม่งั้นเรื่องนี้คงจบยาก หรือจบไม่สวย และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ให้สเปนและปอร์ตุเกส เอาอย่าง
    ไมค์ตัวเล็ก ยี่ห้อ CFR สำทับแบบนี้ อียูคงต้องคิดหนัก
    ###############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 6 (จบ)
    ดูเหมือนกรีซจะมีทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า กรีซคิดอะไร
    ทางเลือกที่หนึ่ง : ถ้าเจ้าหนี้ยินยอมปรับปรุงโครง สร้างหนี้ ในเงื่อนไขตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับได้ และกรีซ ไม่คิดออกจากอียู เรื่องก็คงจบด้วยดี จบแบบ ยังพอรักษาหน้า รักษาไมตรี ต่อกัน
    กรีซก็ได้อย่างที่ต้องการ ได้เอาโซ่ออกจากคอ ส่วนเจ้าหนี้ก็คงขาดโอกาส ที่จะใช้โซ่รัดคอกรีซต่อไป แต่ไม่เป็นไร เชื่อสายอัศวินนักล่าใบตองแห้ง ปลิ้นปล้อนต่อไปได้ว่า เห็นแก่มนุษยธรรม พูดเอาบุญเอาคุณไปได้อีกนาน คนที่จะช้ำหน่อย น่าจะเป็นป้าเข็มขัดเหล็ก เพราะลั่นปากออกสื่อไปแล้ว ว่าจะไม่ให้กู้เพิ่มแล้วถ้าไม่รัดโซ่ให้แน่นกว่านี้ นี่โซ่ก็ถูกตัดแต่ยังต้องอุ้มเขาต่อ ป้าก็คงต้องหุบปากบ้าง ไม่งั้นเรื่องเงินกู้กรีซ รอบแรก ที่แบงค์เยอรมันได้ไปก่อน คราวนี้ รับรองมีคนเอามาแฉใหม่แน่
    แต่มันแสนจะคุ้ม ที่สะกัดทางคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้าอียูผ่านกรีก
    แล้วคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้ามาเดินเล่นแถวกรีซล่ะ คุณพี่เขาก็เปลี่ยนวิธีเดินหมากได้ไหม่แน่นอน แชมป์หมากรุก ยอมมองทางออกทั้งกระดาน จะเดินตาไหนต่อ ก็คอยดูกันไป แต่คิดให้ดี ถ้าไม่มีข่าวคุณพี่ปูตินโทรหาคุณน้องอเล็กซิส รับรอง ทางเลือกที่หนึ่งนี่ ไม่มีทางเกิดขึ้น
    ทางเลือกที่สอง : กรีซเหม็นเบื่ออียูเต็มที ถึงเจ้าหนี้จะตกลง ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่กรีซบอกไม่เอาแล้ว เดี๋ยวให้ เดี๋ยวไม่ให้ เราจบกันแค่นี้ดีกว่า เอะ แล้วกรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ IMF สิ้นเดือนนี้ 1.6 พันล้าน ยูโร อย่านึกว่าคุณพี่ปูตินจะตกลงด้วยง่ายๆ นะครับ ให้ยืมน่ะเรื่องนึง ถ้าคุณพี่ตกปาก แล้วคงไม่เบี้ยว แต่ยืมเอาไปใช้หนี้เต็มราคา ไม่มีลดค่าหน้าตั๋ว ไม่มี ตัดผม haircut ผมเป็นคุณพี่ปูติน ผมไม่ให้ยืมหรอก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าลูกหนี้ล้มละลาย ก็พวกไอ้หมาไนของมันบอกเอง เจ้าหนี้หวังให้ใช้หนี้เต็มร้อย ก็ฝันไปหน่อย
    ตอน ปี ค.ศ.2012 เมื่อเห็นกันชัดๆ เต็มลูกตา ว่าวิธีเอาเงินกู้มาจ่ายเจ้าหนี้ทั้งก้อน วนไปวนมา หนี้กรีซก็ไม่มีวันลด คุณป้าเข็มขัดเหล็ก เลยเสียงเขียวให้เจ้าหนี้เอกชน ลดหนี้ ตัดผม haircut กันบ้าง มีต้ังแต่ ลด 50% ไปถึงลด 80 % เหลือ 20 ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แล้วก็ให้ไปแลกกับตั๋วใหม่ เขาว่า มีกองทุนแร้งลง ซื้อตั๋วใหม่พวกนี้อีกต่อ ราคาถูกลงไปอีก ไปเก็งกำไรอีกต่อ แล้วคิดว่าแบบนี้คุณพี่ปูติน จะจ่ายให้ IMF เต็มร้อยไหม เผลอๆ เรื่อง รัสเซีย จะให้เงินกู้กรีซ เป็นเรื่องสมต้มกัน
    ตกลงวิธีนี้จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ IMF ลดหนี้ให้ แล้วถ้า IMF ก็เดาอยู่แล้ว ว่าเงินอาจจะมาจากไหน คิดว่า IMF จะลดหนี้ให้ไหม คุณนายหน้าเค็มไม่ยอมหน้าจืดหรอกครับ ลืมไปได้เลย
    ทางเลือกที่สาม : เหมือนทางเลือกที่สอง แต่ยังไม่ใช้หนี้ IMF เรียกว่า ตัดโซ่คล้องคอของเจ้าหนี้ ตัดเชือกผูกกับ อียู ยอมให้เขาว่าเป็นประเทศล้มละลาย ต้ังหน้าต้ังตา สร้างบ้านเมืองใหม่ แบบนี้ อาจจะมีเจ้าหนี้จูงกันมาให้กู้แบบดอกต่ำ เงื่อนไขไม่โหด แต่กรีซใจถึงไหม ที่จะเล่นบทนี้ บทนี้มันต้องใจถึงกันทั้งประเทศ
    ทางเลือกของกรีซ ก็คงมีเท่านี้
    ส่วนทางเลือกของเจ้าหนี้ มีแค่ 2 ทาง
    ทางเลือกที่หนึ่ง : ก็เหมือนทางเลือกที่หนึ่งของกรีซนั่นแหละ แค่เสียหน้า แต่ระบบแบงค์ยังปลอดภัย ที่สำคัญ ทางภูมิศาสตร์การเมือง ปิดทางเข้าอียูของรัสเซียผ่านกรีซ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม แผ่นดินไหวไม่มี ซึนามิการเมืองไม่เกิดขึ้น แต่รายการนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ข้างเดียว ต้องถามใจกรีซด้วย
    ทางเลือกที่สอง : เจ้าหนี้ไม่ขยับ ไม่ปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้ ไม่ผ่อนเวลาให้ ยึดแน่นกับเงื่อนไขโหด แถมจะเพิ่ม ให้โซ่คล้องคอกรีซรัดแน่นกว่าเดิม ทำไมหรือ ก็ยังกินไม่อิ่ม ไม่มีอะไรมาก ยิ่งท่อแก๊สรัสเซียจะมา ยิ่งอร่อย ยึดมาใช้หนี้เสียเลยดีไหม และเชื่อว่ารัสเซียไม่มีปัญญา ที่จะเข้ามาชำระหนี้ก้อนใหญ่ให้กรีซ
    ถ้าเจ้าหนี้เลือกทางนี้ ไม่ต้องวิเคราะห์มากครับ รับรอง มีทั้งแผ่นดินไหว อาฟเตอร์ช็อก ซึนามิทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองครบถ้วน อาจจะเลยเป็นชนวนสงครามโลกแทนยูเครน ที่นางเหยี่ยวรับหน้าที่มาจุดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งด้วยก็ได้
    ใครมันจะยอมให้หยามหน้า รังแกกันมากขนาดนั้น แล้วกลับบ้านนอนสบาย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิ.ย. 2558
    หมายเหตุ: เขียนนิทานจบไปแล้ว ต้ังเวลาโพสต์ล่วงหน้า เตรียมเข้านอน เช็คข่าวล่าสุด ทำเอานอนไม่ได้ ต้องกลับมานั่งเขียนต่อ
    ล่าสุด วันที่ 27 มิถุนายน มีข่าวออกมาตอนค่ำบ้านเรา บอกว่า นายกรัฐมนตรีกรีซ พูดว่า เราคงเดินหน้าโดยมีโซ่คล้องคอแบบนี้ไม่ไหว เขาจึงออกทีวี ประกาศว่า เขาจะจัดให้มีการทำประชามติ ในวันที่ 5 กรกฏาคม นี้ ว่า ประะชาชนจะเอายังไง yes หรือ no กับ การกู้เงินต่อไป คำพูดของนายกรัฐมนตรีกรีซ อาจเป็นประโยคประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจำ หรือมีการอ้างถึงต่อไป
    ” กระผมขอให้ท่านตัดสินใจ ด้วยสำนึกในประวัติศาสตร์ แห่งความเป็นประเทศเอกราชและมีศักดิ์ศรีของกรีซ ว่าเราจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องรับการยื่นคำขาด ที่เสมือนเป็นการเหยียดหยามเรา ที่บีบคั้นเราอย่างรุนแรงและไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีแนวทางให้เราเห็นแม้แต่น้อย ว่าเรา จะมีโอกาสยืนด้วยสองเท้าของเราเองได้อีกหรือไม่ ทั้งในด้านสังคมและทางด้านการเงิน
    ประชาชนจะต้องตัดสินใจ โดยปราศจากความกดดัน จากการยื่นคำขาดดังกล่าว”
    “I call uopn you to decide – with sovereignty and dignity as Greek history demands-
    whether we should accept the extortionate ultimatum that calls for strict and humiliating austerity without end, and without the prospect of ever standing on our own two feet, socially and financially.
    The people must decide free of any blackmail..”
    เป็นคำประกาศของคนหนุ่ม ที่ “แรง” เกือบจะเป็นการประกาศสงครามเชียวนะ
    ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยนายเจริญ Jeroen Dijsselbloem รัฐมนตรีคลังของดัชท์ ที่เป็นประธานที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อได้รับถุงมือขาวของหนุ่มกรีก ก็รีบออกข่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีกรีซประกาศเช่นนี้ ก็ น่าจะแปลว่ากรีซ ไม่รับข้อเสนอของฝ่ายเจ้าหนี้ และการเจรจาก็น่าจะสดุดหยุดลง เมื่อไม่มีข้อตกลง กรีก ก็ต้องหาเงินมาชำระหนี้ จำนวน 1.6 พันล้านยูโร ให้กับ IMF ทีจะถึงชำระในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
    ก่อนหน้านั้น เล็กน้อย คุณน้องยานิสของผม ก็แจ้งในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของอียู ว่า กรีซ ขอ เลื่อนกำหนด วันตัดสินประหารขีวิตออกไปสัก 2 สัปดาห์ได้ไหม เพราะ เขาจะทำประชามติ กัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตพวกเขา ให้พวกเขามีสิทธิมีเสียงตามประชาธิปไตยบ้าง ที่ประชุมอียู ตอบสั้นๆ ว่าไม่ได้ คุณน้องยานิส ก็เก็บของ เดินออกจากห้องประชุม
    ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยรัฐมนตรีคลังของฟินแลนด์ ออกมาบอกว่า ตอนนี้ แปลว่า ต้องเปลี่ยนเอา แผนสำรอง มาเป็นแผนจริงแล้ว
    แปลว่าอะไรครับ ช่วยกลับไปอ่านนิทานข้างต้นอีกที แปลว่า แผ่นดินเริ่มไหว จะขนาดไหน วันจันทร์ก็คงรู้ ที่กุมๆกันไว้ในกระเป๋า ก็คงเริ่มทยอยเอาออกมาใช้กัน แต่เกมนี้ยังไม่จบง่ายๆ ดูกันต่อครับ จะกินบ้าน กู้เมืองกัน มันไม่ใช่เล่นเกมกด เกมชิงเมืองนี้ อาจลามไปไกล…จะกลายเป็นเกทับบลั้ฟแหลกกันขนาดไหน หรือ ของจริงแอบแจม ได้ทั้งสิ้น
    แต่อย่างน้อย วันนี้ ผมขอคารวะหนุ่มกรีก สำหรับประโยคเดินนำออกจากคอก ที่ คนรักบ้านรักเมือง รักศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ก็ต้องซึ้งใจ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิ.ย 58
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 5 ไม่รู้ยังจำกันได้ไหม หลังจากสหภาพโซเวียตถูกทุบจนแหลกละเอียด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 อเมริกาและพวก ตีปีกกันใหญ่ ว่ากำจัดขู่แข่งตัวสำคัญไปเรี ยบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปเพียง 15 ปี ส่วนหัวและหัวใจ ของสหภาพโซเวียตคือ รัสเซีย ดันไม่ตายตามต้องการ แถมฟื้นขึ้นมาแบบมาดใหม่ ด้วยการสู้ด้วยท่อส่งแก๊ส ที่รัสเซียวางไปตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นเรื่องที่อเมริกาและพวก คิดไม่ถึง ยิ่งท่อส่งแก๊สของรัสเซียวิ่งตรงมายุโรป และยุโรปกลายเป็นฝ่ายพึ่งแก๊สของรัสเซียถึง 60% อเมริกายิ่งหายใจแรง ด้วยความขัดใจ กระบวนการขัดขารัสเซีย ไปจนถึงแซงช้่นจึงค่อยๆทยอยปล่อยออกมาใส่รัสเซีย เดือนธันวาคม ค.ศ.2014 รัสเซีย ประกาศยกเลิกเส้นทางท่อส่งแก๊ส South Sream ของ Gazprom บริษัทผลิตและส่งแก๊สของรัฐบาลรัสเซีย เพราะถูกอียูกั้ก ตามคำสั่งของอเมริกา รัสเซียหวังจะส่งแก๊สให้ชาวยุโรปด้วยเส้นทางใหม่ ที่ไม่ต้องผ่านยูเครน ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ แต่ให้ไปโผล่ที่บุลกาเรีย เพิ่มอีกจุด เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างยุโรป และรัสเซีย แต่อเมริกา บีบให้อียูบอกว่า แบบนี้เป็นการรังแกยูเครน แล้วอียู ก็ไปบีบบุลกาเรียอีกต่อ ไม่ให้ตกลงกับรัสเซีย แล้วอียู รัสเซีย ก็เดือดร้อน แต่อเมริกาสบาย ฉลาดฉิบหายเลย คุณพี่ปูตินบอก ตามใจ ถ้าคนยุโรปไม่ต้องการ เราก็ช่วยอะไรไม่ได้ งั้นรัสเซียส่งมาทางตุรกีแทนก็ได้ แทบไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าตุรกีไม่กล้าแหกคอกจากอเมริกา มาต่อท่อกับรัสเซีย ก็อเมริกาเพิ่งสั่งให้ลูกกระเป๋งแซงชั่นรัสเซียอยู่หยกๆ เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2015 นี้เอง ตุรกีกับ Gasprom ก็ยืนประกาศคู่กัน ว่า เส้นท่อส่งแก๊ส Turkish Stream เดินหน้าไปอย่างดียิ่ง และพร้อมจะส่งแก๊สจากรัสเซีย เข้ามาที่สถานีในตุรกีและไปโผล่ตรงเขตแดนตุรกี ที่ติดกับ”กรีซ “ได้ ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2016 เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าในยุโรป….. มาแล้ว ฝีมือเดินหมากรุกระดับแชมป์ ในวันที่รัสเซียตัดสินใจ ไม่เดินหน้าไปทางบุลกาเรีย แต่เปลี่ยนมาเป็นตุรกีนั้น ทันทีที่ตกลงกับตุรกีได้ในต้นเดือนเมษายน ค.ศ.2015 คุณพี่ปูตินยกโทรศัพท์คุยกับคุณน้องอเล็กซิสด้วยตัวเอง หลังจากนั้น สำนักงานท่านประธานาธิบดีของรัสเซียก็ออกข่าวเงียบๆ ว่า รัสเซียพร้อมให้เงินกู้กับกรีซ เพื่อเป็นการตอบแทนที่กรีซเข้าร่วมโครงการ Turkish Stream เข้าไปในอียู … แต่เมื่อสื่อเยอรมัน Der Spiegel รายงานข่าวว่า มอสโคว์พร้อมให้เงินกู้กับรัฐบาลกรีซทันที จำนวน 5 พันล้านยูโร ที่ประมาณว่า จะเท่ากับส่วนแบ่งกำไร ที่จะได้จากเชื่อมท่อส่งแก๊ส Turkish Stream แต่เครมลินออกมาปฏิเสธข่าวนี้ ….มันก็ควรปฏิเสธ เรื่องแบบนี้มันต้อง เปิดๆ ปิดๆ ถึงจะน่าตื่นเต้น ในขณะที่กรีซและเจ้าหนี้ กำลังเจรจาเครียด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ถึงเรื่องหนี้ ที่ต้องจ่ายให้แก่ IMF จำนวน 1.6 พันล้านยูโรในวันสิ้นเดือนมิถุนายน นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ยังไม่มีคำตอบให้กับเจ้าหนี้ ว่าเขาจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้หนี้ แต่วันรุ่งขึ้น เขาบินไปร่วมงาน St. Petersburg Economic Forum ที่รัสเซีย อย่างไม่มีอาการเครียด… ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัสเซียพยายามไม่ยุ่งกับเรื่องวิกฤติทางการเงินของยุโรป แต่ปัญหาของกรีซ มันอาจจะทำให้รัสเซียเห็นทาง… ที่อาจจะคุ้ม กับค่ายุ่งก็เป็นได้ และถ้ารัสเซียเห็นว่าคุ้ม แล้วโดดมาเล่นด้วย หนี้กรีซคงไม่ได้เป็นเรื่องวิกฤติทางการเงินเรื้อรัง แต่เปลี่ยนเป็นวิกฤติ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองทันที นี่อาจจะเป็น ซึนามิ ที่จะมาหลังแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์ CFR (Council on Foreign Relations ) หน่วยงานที่เป็นผู้กำกับบทบาทของ รัฐบาลอเมริกัน เริ่มใช้ไมค์ตัวเล็ก นาย Sebastian Mallaby นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส นำร่อง ออกมาให้ความเห็นว่า คุณคงไม่อยากเห็นยุโรปต้องเจรจากับกรีซ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่ปุบปับก็ดันจะไปซบกับรัสเซีย ” You don’t want Europe to have to deal with Greece, who is a member of NATO, all of a sudden cozying up to Russia” แม้เป็นแค่ไมค์ตัวเล็ก แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ได้ยินเสียงแบบนี้ ก็ลนลานแล้ว เดิมรัฐบาลเยอรมัน คนเยอรมัน แบงค์เยอรมัน เห็นพ้องกันว่า เยอรมันจะยุติการให้เงินกู้กับกรีซเพิ่มเติม ถ้ากรีซ ยังเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีวินัย มันต้องให้ใส่ทั้งโซ่เหล็ก และเข้มขัดเหล็ก เข้าใจไหม เหมือนจะรู้ว่า ป้าเข็มขัดเหล็กกำลังคิดอะไร ไมค์ตัวเล็กจาก CFR เลยแถมท้าย…ป้าก็คงไม่ชอบใช่มั้ย ที่จะให้ปูติน ให้ของขวัญกับกรีซ ถ้ากรีซจะแหกคอก ออกไปจากพวกตะวันตกน่ะ … แล้วก็เหมือนกลัว ป้าจะตัดสินใจยาก นายอเล็กซิส ก็เขียนตอบโต้ คำกล่าวของคนเยอรมันที่บอกว่า คนเยอรมันต้องทำงานหนัก เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงคนกรีซที่เลิกทำงาน อเล็กซิส เขียนส่งไปลงในหนังสือพิมพ์เยอรมันว่า… ใครที่อ้างว่า คนเยอรมันต้องเสียภาษีเพื่อเอาจ่ายเป็นค่าจ้าง และเงินบำนาญ เป็นคนโกหก…อันนี้ ฮอร์โมนคนหนุ่มพุ่งแรงจริงๆ กรีซและเจ้าหนี้ กำลังขยับการเผชิญหน้าใกล้เข้ามา จนแทบจะหายใจใส่หน้ากันอยู่แล้ว แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ทำปากแข็งบอก ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ฉันยังรอรับฟังข้อเสนอของกรีซอยู่ ว่าแล้วก็หัวร่อร่ากับหนุ่มกรีก ทำเหมือนไม่มีรอยร้าวระหว่างป้า กับหลาน CFR คงไม่แน่ใจว่า ป้าหัวร่อกับหนุ่มกรีก เพราะเครียด หรือ ขากรรไกรค้าง รีบสำทับ อียูต้องจัดการให้ดีนะ ไม่งั้นเรื่องนี้คงจบยาก หรือจบไม่สวย และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ให้สเปนและปอร์ตุเกส เอาอย่าง ไมค์ตัวเล็ก ยี่ห้อ CFR สำทับแบบนี้ อียูคงต้องคิดหนัก ############### “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 6 (จบ) ดูเหมือนกรีซจะมีทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า กรีซคิดอะไร ทางเลือกที่หนึ่ง : ถ้าเจ้าหนี้ยินยอมปรับปรุงโครง สร้างหนี้ ในเงื่อนไขตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับได้ และกรีซ ไม่คิดออกจากอียู เรื่องก็คงจบด้วยดี จบแบบ ยังพอรักษาหน้า รักษาไมตรี ต่อกัน กรีซก็ได้อย่างที่ต้องการ ได้เอาโซ่ออกจากคอ ส่วนเจ้าหนี้ก็คงขาดโอกาส ที่จะใช้โซ่รัดคอกรีซต่อไป แต่ไม่เป็นไร เชื่อสายอัศวินนักล่าใบตองแห้ง ปลิ้นปล้อนต่อไปได้ว่า เห็นแก่มนุษยธรรม พูดเอาบุญเอาคุณไปได้อีกนาน คนที่จะช้ำหน่อย น่าจะเป็นป้าเข็มขัดเหล็ก เพราะลั่นปากออกสื่อไปแล้ว ว่าจะไม่ให้กู้เพิ่มแล้วถ้าไม่รัดโซ่ให้แน่นกว่านี้ นี่โซ่ก็ถูกตัดแต่ยังต้องอุ้มเขาต่อ ป้าก็คงต้องหุบปากบ้าง ไม่งั้นเรื่องเงินกู้กรีซ รอบแรก ที่แบงค์เยอรมันได้ไปก่อน คราวนี้ รับรองมีคนเอามาแฉใหม่แน่ แต่มันแสนจะคุ้ม ที่สะกัดทางคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้าอียูผ่านกรีก แล้วคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้ามาเดินเล่นแถวกรีซล่ะ คุณพี่เขาก็เปลี่ยนวิธีเดินหมากได้ไหม่แน่นอน แชมป์หมากรุก ยอมมองทางออกทั้งกระดาน จะเดินตาไหนต่อ ก็คอยดูกันไป แต่คิดให้ดี ถ้าไม่มีข่าวคุณพี่ปูตินโทรหาคุณน้องอเล็กซิส รับรอง ทางเลือกที่หนึ่งนี่ ไม่มีทางเกิดขึ้น ทางเลือกที่สอง : กรีซเหม็นเบื่ออียูเต็มที ถึงเจ้าหนี้จะตกลง ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่กรีซบอกไม่เอาแล้ว เดี๋ยวให้ เดี๋ยวไม่ให้ เราจบกันแค่นี้ดีกว่า เอะ แล้วกรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ IMF สิ้นเดือนนี้ 1.6 พันล้าน ยูโร อย่านึกว่าคุณพี่ปูตินจะตกลงด้วยง่ายๆ นะครับ ให้ยืมน่ะเรื่องนึง ถ้าคุณพี่ตกปาก แล้วคงไม่เบี้ยว แต่ยืมเอาไปใช้หนี้เต็มราคา ไม่มีลดค่าหน้าตั๋ว ไม่มี ตัดผม haircut ผมเป็นคุณพี่ปูติน ผมไม่ให้ยืมหรอก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าลูกหนี้ล้มละลาย ก็พวกไอ้หมาไนของมันบอกเอง เจ้าหนี้หวังให้ใช้หนี้เต็มร้อย ก็ฝันไปหน่อย ตอน ปี ค.ศ.2012 เมื่อเห็นกันชัดๆ เต็มลูกตา ว่าวิธีเอาเงินกู้มาจ่ายเจ้าหนี้ทั้งก้อน วนไปวนมา หนี้กรีซก็ไม่มีวันลด คุณป้าเข็มขัดเหล็ก เลยเสียงเขียวให้เจ้าหนี้เอกชน ลดหนี้ ตัดผม haircut กันบ้าง มีต้ังแต่ ลด 50% ไปถึงลด 80 % เหลือ 20 ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แล้วก็ให้ไปแลกกับตั๋วใหม่ เขาว่า มีกองทุนแร้งลง ซื้อตั๋วใหม่พวกนี้อีกต่อ ราคาถูกลงไปอีก ไปเก็งกำไรอีกต่อ แล้วคิดว่าแบบนี้คุณพี่ปูติน จะจ่ายให้ IMF เต็มร้อยไหม เผลอๆ เรื่อง รัสเซีย จะให้เงินกู้กรีซ เป็นเรื่องสมต้มกัน ตกลงวิธีนี้จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ IMF ลดหนี้ให้ แล้วถ้า IMF ก็เดาอยู่แล้ว ว่าเงินอาจจะมาจากไหน คิดว่า IMF จะลดหนี้ให้ไหม คุณนายหน้าเค็มไม่ยอมหน้าจืดหรอกครับ ลืมไปได้เลย ทางเลือกที่สาม : เหมือนทางเลือกที่สอง แต่ยังไม่ใช้หนี้ IMF เรียกว่า ตัดโซ่คล้องคอของเจ้าหนี้ ตัดเชือกผูกกับ อียู ยอมให้เขาว่าเป็นประเทศล้มละลาย ต้ังหน้าต้ังตา สร้างบ้านเมืองใหม่ แบบนี้ อาจจะมีเจ้าหนี้จูงกันมาให้กู้แบบดอกต่ำ เงื่อนไขไม่โหด แต่กรีซใจถึงไหม ที่จะเล่นบทนี้ บทนี้มันต้องใจถึงกันทั้งประเทศ ทางเลือกของกรีซ ก็คงมีเท่านี้ ส่วนทางเลือกของเจ้าหนี้ มีแค่ 2 ทาง ทางเลือกที่หนึ่ง : ก็เหมือนทางเลือกที่หนึ่งของกรีซนั่นแหละ แค่เสียหน้า แต่ระบบแบงค์ยังปลอดภัย ที่สำคัญ ทางภูมิศาสตร์การเมือง ปิดทางเข้าอียูของรัสเซียผ่านกรีซ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม แผ่นดินไหวไม่มี ซึนามิการเมืองไม่เกิดขึ้น แต่รายการนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ข้างเดียว ต้องถามใจกรีซด้วย ทางเลือกที่สอง : เจ้าหนี้ไม่ขยับ ไม่ปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้ ไม่ผ่อนเวลาให้ ยึดแน่นกับเงื่อนไขโหด แถมจะเพิ่ม ให้โซ่คล้องคอกรีซรัดแน่นกว่าเดิม ทำไมหรือ ก็ยังกินไม่อิ่ม ไม่มีอะไรมาก ยิ่งท่อแก๊สรัสเซียจะมา ยิ่งอร่อย ยึดมาใช้หนี้เสียเลยดีไหม และเชื่อว่ารัสเซียไม่มีปัญญา ที่จะเข้ามาชำระหนี้ก้อนใหญ่ให้กรีซ ถ้าเจ้าหนี้เลือกทางนี้ ไม่ต้องวิเคราะห์มากครับ รับรอง มีทั้งแผ่นดินไหว อาฟเตอร์ช็อก ซึนามิทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองครบถ้วน อาจจะเลยเป็นชนวนสงครามโลกแทนยูเครน ที่นางเหยี่ยวรับหน้าที่มาจุดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งด้วยก็ได้ ใครมันจะยอมให้หยามหน้า รังแกกันมากขนาดนั้น แล้วกลับบ้านนอนสบาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิ.ย. 2558 หมายเหตุ: เขียนนิทานจบไปแล้ว ต้ังเวลาโพสต์ล่วงหน้า เตรียมเข้านอน เช็คข่าวล่าสุด ทำเอานอนไม่ได้ ต้องกลับมานั่งเขียนต่อ ล่าสุด วันที่ 27 มิถุนายน มีข่าวออกมาตอนค่ำบ้านเรา บอกว่า นายกรัฐมนตรีกรีซ พูดว่า เราคงเดินหน้าโดยมีโซ่คล้องคอแบบนี้ไม่ไหว เขาจึงออกทีวี ประกาศว่า เขาจะจัดให้มีการทำประชามติ ในวันที่ 5 กรกฏาคม นี้ ว่า ประะชาชนจะเอายังไง yes หรือ no กับ การกู้เงินต่อไป คำพูดของนายกรัฐมนตรีกรีซ อาจเป็นประโยคประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจำ หรือมีการอ้างถึงต่อไป ” กระผมขอให้ท่านตัดสินใจ ด้วยสำนึกในประวัติศาสตร์ แห่งความเป็นประเทศเอกราชและมีศักดิ์ศรีของกรีซ ว่าเราจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องรับการยื่นคำขาด ที่เสมือนเป็นการเหยียดหยามเรา ที่บีบคั้นเราอย่างรุนแรงและไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีแนวทางให้เราเห็นแม้แต่น้อย ว่าเรา จะมีโอกาสยืนด้วยสองเท้าของเราเองได้อีกหรือไม่ ทั้งในด้านสังคมและทางด้านการเงิน ประชาชนจะต้องตัดสินใจ โดยปราศจากความกดดัน จากการยื่นคำขาดดังกล่าว” “I call uopn you to decide – with sovereignty and dignity as Greek history demands- whether we should accept the extortionate ultimatum that calls for strict and humiliating austerity without end, and without the prospect of ever standing on our own two feet, socially and financially. The people must decide free of any blackmail..” เป็นคำประกาศของคนหนุ่ม ที่ “แรง” เกือบจะเป็นการประกาศสงครามเชียวนะ ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยนายเจริญ Jeroen Dijsselbloem รัฐมนตรีคลังของดัชท์ ที่เป็นประธานที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อได้รับถุงมือขาวของหนุ่มกรีก ก็รีบออกข่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีกรีซประกาศเช่นนี้ ก็ น่าจะแปลว่ากรีซ ไม่รับข้อเสนอของฝ่ายเจ้าหนี้ และการเจรจาก็น่าจะสดุดหยุดลง เมื่อไม่มีข้อตกลง กรีก ก็ต้องหาเงินมาชำระหนี้ จำนวน 1.6 พันล้านยูโร ให้กับ IMF ทีจะถึงชำระในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ก่อนหน้านั้น เล็กน้อย คุณน้องยานิสของผม ก็แจ้งในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของอียู ว่า กรีซ ขอ เลื่อนกำหนด วันตัดสินประหารขีวิตออกไปสัก 2 สัปดาห์ได้ไหม เพราะ เขาจะทำประชามติ กัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตพวกเขา ให้พวกเขามีสิทธิมีเสียงตามประชาธิปไตยบ้าง ที่ประชุมอียู ตอบสั้นๆ ว่าไม่ได้ คุณน้องยานิส ก็เก็บของ เดินออกจากห้องประชุม ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยรัฐมนตรีคลังของฟินแลนด์ ออกมาบอกว่า ตอนนี้ แปลว่า ต้องเปลี่ยนเอา แผนสำรอง มาเป็นแผนจริงแล้ว แปลว่าอะไรครับ ช่วยกลับไปอ่านนิทานข้างต้นอีกที แปลว่า แผ่นดินเริ่มไหว จะขนาดไหน วันจันทร์ก็คงรู้ ที่กุมๆกันไว้ในกระเป๋า ก็คงเริ่มทยอยเอาออกมาใช้กัน แต่เกมนี้ยังไม่จบง่ายๆ ดูกันต่อครับ จะกินบ้าน กู้เมืองกัน มันไม่ใช่เล่นเกมกด เกมชิงเมืองนี้ อาจลามไปไกล…จะกลายเป็นเกทับบลั้ฟแหลกกันขนาดไหน หรือ ของจริงแอบแจม ได้ทั้งสิ้น แต่อย่างน้อย วันนี้ ผมขอคารวะหนุ่มกรีก สำหรับประโยคเดินนำออกจากคอก ที่ คนรักบ้านรักเมือง รักศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ก็ต้องซึ้งใจ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิ.ย 58
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 1
    เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา
    พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ
    ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้
    นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่
    เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า
    เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ
    ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี
    เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม
    งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ
    ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส
    ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2
    สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ
    ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า
    เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน
    เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย …
    เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ
    นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม…
    เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ
    ###############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 2
    ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย
    บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น....
    ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม
    นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ
    ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว
    แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา
    ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์
    กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร
    เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ
    เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้
    เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ
    แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน
    ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก
    ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่
    นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น
    และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง
    ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ
    จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที
    ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด
    OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย
    กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 1 เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้ นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2 สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย … เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม… เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ ############### “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 2 ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น.... ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์ กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้ เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่ นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปอศ.บุกทลายบริษัทเงินกู้เถื่อน รับจำนำ iCloud เก็บดอกโหด , ลูกหนี้ช้า 5 วันถูกล็อกเครื่องทันที พบเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท
    .
    ตำรวจ ปอศ.สนธิกำลังตรวจค้นบริษัทปล่อยกู้ผิดกฎหมายสมุทรปราการ พบใช้บัญชี iCloud และระบบ MDM ควบคุมโทรศัพท์ลูกหนี้ เก็บดอกเบี้ยสูงถึง 486% ต่อปี พร้อมค่าปรับรายวัน–ค่าปลดล็อก ผู้กู้จำนวนมากตกเป็นเหยื่อ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109064
    .
    #News1live #News1 #ปอศ #เงินกู้เถื่อน #รับจำนำiCloud #ดอกเบี้ยโหด #MDM #ทวงหนี้โหด #เงินกู้นอกระบบ #อาชญากรรม #ตำรวจเศรษฐกิจ #newsupdate
    ปอศ.บุกทลายบริษัทเงินกู้เถื่อน รับจำนำ iCloud เก็บดอกโหด , ลูกหนี้ช้า 5 วันถูกล็อกเครื่องทันที พบเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท . ตำรวจ ปอศ.สนธิกำลังตรวจค้นบริษัทปล่อยกู้ผิดกฎหมายสมุทรปราการ พบใช้บัญชี iCloud และระบบ MDM ควบคุมโทรศัพท์ลูกหนี้ เก็บดอกเบี้ยสูงถึง 486% ต่อปี พร้อมค่าปรับรายวัน–ค่าปลดล็อก ผู้กู้จำนวนมากตกเป็นเหยื่อ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109064 . #News1live #News1 #ปอศ #เงินกู้เถื่อน #รับจำนำiCloud #ดอกเบี้ยโหด #MDM #ทวงหนี้โหด #เงินกู้นอกระบบ #อาชญากรรม #ตำรวจเศรษฐกิจ #newsupdate
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 594 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครดิตเสีย! เคลียร์ได้? : [Biz Talk]

    ลูกหนี้ NPL ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย เชิญเข้าร่วมโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ปิดหนี้เสีย เคลียร์ประวัติเครดิต มีลูกหนี้รายย่อยเข้าข่าย เกือบ 2 ล้านบัญชี เริ่มเฟสแรก 1.6 ล้านบัญชี ตั้งแต่ 5 ม.ค.69
    เครดิตเสีย! เคลียร์ได้? : [Biz Talk] ลูกหนี้ NPL ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย เชิญเข้าร่วมโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ปิดหนี้เสีย เคลียร์ประวัติเครดิต มีลูกหนี้รายย่อยเข้าข่าย เกือบ 2 ล้านบัญชี เริ่มเฟสแรก 1.6 ล้านบัญชี ตั้งแต่ 5 ม.ค.69
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปลดล็อก คนมีหนี้ต่ำแสน!? : [Biz Talk]

    คลัง,ธปท.,สมาคมแบงก์ ออกมาตรการเฉพาะกิจช่วยลูกหนี้รายย่อย ที่มีหนี้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ผ่านการซื้อและโอนหนี้เสีย ออกจากผู้ให้บริการทางการเงิน มายัง บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) และปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เพื่อให้ลูกหนี้ หลุดพ้นสถานะ NPL เตรียมคิกออฟ เฟสแรก 2 ล้านบัญชี 11 พ.ย.68
    ปลดล็อก คนมีหนี้ต่ำแสน!? : [Biz Talk] คลัง,ธปท.,สมาคมแบงก์ ออกมาตรการเฉพาะกิจช่วยลูกหนี้รายย่อย ที่มีหนี้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ผ่านการซื้อและโอนหนี้เสีย ออกจากผู้ให้บริการทางการเงิน มายัง บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) และปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เพื่อให้ลูกหนี้ หลุดพ้นสถานะ NPL เตรียมคิกออฟ เฟสแรก 2 ล้านบัญชี 11 พ.ย.68
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 0 รีวิว



  • ..มามุกเดือดร้อนใหม่อีกแล้วคงไม่ต่างจากคริปโตฯตังดิจิดัล500,000ล้านหรอก,เตรียมคริปโต เตรียมบริษัทไว้รอพร้อมหมดแล้ว,สูบบุหรี่นอนรอนานแล้วนั้นเอง,ค่านั้นค่านี้สาระพัดตกลงกันลงตัวไว้แล้ว.
    ..เงินหลวงแม้โกงหรือทุจริตไป 1 บาท ก็คือคตโกง คือทุจริต คือไม่ซื่อสัตย์ โทษต้องสมควรหนักกว่าโจรปล้นร้านทองคำ นี้คือนักการเมืองด้วย 1บาทก็ต้องโทษหนัก เมื่ออาสามารับใช้ชาติรับใช้ประเทศ รับใช้คนไทย ,จริงๆแค่แฉเรื่องทุจริตต่างๆจะสแกมเมอร์จะฟอกเงินจะตำรวจยุ่งเกี่ยวจะรมต.คนนักการเมืองฝ่ายรัฐยุ่งเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์เขมรค้ามนุษย์ฟอกทองคำฟอกเงินฟอกตลาดหุ้น ไม่ซื่อสัตย์แค่1บาทก็สมควรลาออกให้เป็นแบบอย่างที่ดีเถอะ ทั้งรัฐบาลนั้นล่ะ ยุบสภาหนีไปเถอะ,ข่าวการแฉขนาดนี้,
    ..เรื่องหนี้นี้ จริงๆสมควรล้างหนี้นักศึกษาก่อน จากนั้นเกษตรกรทั่วประเทศที่เป็นชาวนาธกส.ก่อนเลย,จากนั้นล้างหนี้ทุกๆคนเป็นถือบัตรคนจนก่อนว่าเขามีหนี้กับรัฐอะไรบ้าง กลุ่มเปราะบางของแท้ จากนั้นให้ทุนเงินสัมมาอาชีพเขาสักก้อน บวกทุนเพิ่มเติมแหล่งเงินทุนรัฐจริงๆมิใช่ให้เขาแสวงหาหนี้นอกระบบอีกหรือแบงค์เอกชนที่เข้าไม่ถึงได้เลยในประชาชนธรรมดา,พร้อมสร้างกลุ่มภาคประชาชนที่เข้มแข็งรองรับยุคสมัยสัมมาอาชีพอนาคต เตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงของโลก.,รัฐไร้ฝีมือไร้น้ำยา คงไม่นำพาหรอกเพราะผู้ปกครองเรากาก กระจอก ทอดทิ้งประชาชน การฉีดตายกว่า60ล้านเข็มที่อำมหิตจึงถือกำเนิดขึ้นใส่ตัวประชาชนครไทยกันถ้วนหน้า.

    ..ล้างหนี้คือล้างหนี้ ยังจะมาหากำไรจากประชาชนตนคนไทยอีก,ถ้าการสมมุตินี้จริง ที่ว่า ประชาชนมี100 เอกชนมาซื้อหนี้ไป5บาท มาทวงคืนจากประชาชน10บาท,กำไร 5บาทถวายพานให้เอกชนเลย,ทำไมไม่แสดงเจตนาดีแจ้งชัดเจนก่อนให้เอกชนฟันกำไรส่วนต่าง5บาทนั้น,โดยให้ประชาชนมาซื้อหนี้เน่าตนเองเลย,หามาซื้อปิดหนี้เน่าตนทางตรงที่5บาทหรือ5%นี้ล่ะ,มีระยะเวลากำหนดว่าภายใน5ปีก็ว่าไป,ต้องนำมาปิดก่อนในส่วน5บาทหรือ5%นี้,เมื่อพ้นกำหนดนี้จึงจะขายหนี้ให้เอกชนแล้วทำตามเงื่อนไขขั้นต้นที่ว่านั้นก็ไม่เห็นว่าทางรัฐจะเสียหายใดๆแค่แบกก้อนหนี้นี้ของคนไทยปกติเพิ่ม5ปีเท่านั้น ไหนๆจะช่วยคนไทยจริง อย่างบริสุทธิ์ใจช่วยประชาชนคนไทย จากจะทิ้งหนี้เน่าไปเสียจึงไปตกลงเอกชนมารับซื้อหนี้นี้ไป,ทั้งในนามรัฐบาล ถามประชาชนแล้วหรือยังในนามครม.รัฐที่เป็นนโยบายระดับชาติบังคับใช้ระดับประเทศทั่วไทยขนาดนี้ว่าเขายินยอมให้ขายหนี้ของธนาคารรัฐไปให้เอกชนมั้ย ธนาคารรัฐละเมิดสิทธิ์ประชาชนถือว่าเป็นโมฆะได้,กฎหมายก็เขียนจากคนนี้ล่ะ,ใครมีอำนาจก็เขียนได้หมด,อีกทั้งรัฐบาลจากกรณีแร่เอิร์ธไม่อาจมีความไว้วางใจในการบริหารชาติได้อีกต่อไป และประเด็นปัญหากับเขมรสาระพัดเรื่องด้วย โดยเรื่องอาชญากรรมระดับชาติของเขมรที่โยงมาถึงคนในรัฐบาลชุดนี้อีกมากมาย,ไร้ความซื่อสัตย์สุจิตด้วย นโยบายมากมายจึงจะไว้ใจได้อย่างไรว่าไปเตะกำไรเงินทองผลประโยชน์ให้เอกชนเต็มๆหรือโอนสถานะทาสหนี้ ขายทาสกันว่าเล่นในสมมุตินี้ได้สบายนั้นเอง,รัฐไม่มีสิทธิย้ายสถานะหนี้ทาสแก้คนนอกเอกชนใดๆ,ลูกหนี้จะไร้ความปลอดภัยในการคุ้มครองจากอำนาจทางการทันทีนั้นเองเมื่อย้ายออกไป,นายหนี้ใหม่ยอมมีสิทธิขาดในการทำลายลูกหนี้ได้หมด กดขี่ข่มเหงได้หมด,อำนาจรัฐสามารถเขียนกฎหมายใหม่ให้ดีได้หมดแต่ไม่เคยทำ,ต่างพร้อมช่วยเจ้าสัวเจ้าของบริษัททำธุรกิจเงินทองเอาเปรียบประชาชนมาตลอดในอดีตทุกๆรัฐบาลที่ผ่านๆไร้ความจริงใจนั้นเอง.,
    ..เป็นต้นว่า เขียนกฎหมายใหม่ทันทีว่า ลูกหนีัเป็นหนี้บ้านหนี้ที่ดิน สร้างบ้าน ซื้อคอนโด เมื่อถูกยึดบ้านยึดคอนโดยึดบ้านยึดที่ดินยึดรถ สถานะหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินหนี้จำนองทองคำหนี้จำนองโฉนดเป็นอันสิ้นสุดทันที,ต้องห้ามเจ้าหนี้เด็ดขาดในไทยธนาคารใดๆในไทยไปตามยึดทรัพย์สินอื่นๆใดๆอีกเพื่อมาบังคับใช้หนี้ให้เต็มส่วนตนในมูลค่าหนี้ที่ตนคิดเองในเงื่อนไขความเสี่ยงตนที่ตกลงว่าลูกหนี้ต้องจ่ายจนครบนั้นเป็นอันสิ้นสุด ยุติหนี้จบเสร็จสิ้นไป ห้ามทุกๆกรณี เจ้าหนี้ยึดบ้านจากหนี้บ้านก็จบ เจ้าหนี้ยึดที่ดินจากหนี้เงินกู้ใช้ที่ดินจำนองก็จบ,ยึดรถที่ลูกหนี้ซื้อก็จบ ให้สิ้นพันธะกันทันทีห้ามบีบบังคับใดๆอีก,หนี้ใดๆที่ลูกหนี้ผูกไว้ ประเมินไว้ ธนาคารรับความเสี่ยงแล้วจึงปล่อยกู้,ลูกหนี้ใช้ที่ดินโรงงานและกิจการตนโรงงานตนกู้เงิน ธนาคารยึดทรัพย์สินที่ดินและกิจการนั้นๆคือจบสถานะหนี้นั้นทันที,ไม่มีสิทธิไปยึดที่ดินแปลงอื่นอีกหรือโรงงานอื่นๆที่เขาทำกิจการต่างๆนั้น.,นี้กฎหมายไทยต้องเขียนชัดเจนลักษณะนีัเป็นพื้นฐานมาตรฐานก่อนเพื่อปกป้องประชาชนคนไทย ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมใดๆก็ไม่สมควรเอาเปรียบมากมายสาระพัดในอดีตที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน.จึงถือว่าแบงค์ชาติไทยล้มเหลวทั้งหมดที่ผ่านๆมา,ไม่ก่อประโยชน์สูงสุดเป็นอรรถประโยชน์ที่แท้จริงแก่คนไทย,คนไทยเป็นอันมากต่างถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคารเอกชนหรือกิจการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดทั่วไทยชัดเจนมาก,ยามวิกฤติแบงค์ชาติไม่สมควรอำนวยธนาคารเอกชนแสวงหากำไรจากดอกเบี้ยจนแจ้งผลประกอบการผ่านตลาดทุนกำไรเป็นแสนล้านบาทอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น ทั้งที่ตลาดทั้งตลาดเกือบขาดทุนหมดบนวิกฤติเศรษฐกิจทั้งประเทศขนาดนั้น แต่แบงค์ชาติกลับไม่สนใจควบคุมธนาคารเอกชนในการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ จึงฟันกำไรจนบ้าคลั่งเอาเปรียบประชาชนคนไทยชัดเจน.นี้คือตย.ที่เป็นข่าวจริง,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ,การอ้างประชาชนในการแสวงหาประโยชน์ใดๆบนแผ่นดินไทยนี้มันง่ายจริงๆ,มีอำนาจอ้างใดๆได้หมดอีกด้วย,ตอนไม่มีอำนาจก็อ้างความทุกข์ยากประชาชนสาระพัดอีก สาระพัดการอ้างเอาประชาชนบังหน้าในการแสวงหาประโยชน์ใดๆจึงง่ายแก่คนชั่วเลวมากจริงๆบนประเทศไทยนี้และไม่เคยมีพวกมันใดๆถูกจับมาลงโทษทั้งหมดให้สิ้นซากกันจริงๆจังๆอีกด้วย,และการหากินบนมวลชนแบบผูกขาดเช่นให้บริการการใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมัน ขายไฟฟ้า ขายน้ำมัน ขายเช่าสัญญาณคลื่นมือถือคลื่นเน็ต มวลรวมคนใช้ทั้งประเทศ การโกงกินลักษณะนี้มันอร่อยคำโตและหอมหวานเป็นอันมาก,อำนาจจึงพากันอยากได้อยากมานั่งมาอยู่มาแสวงหามันนักตลอดตำแหน่งใดๆในราชการก็ด้วย เงินทองและอำนาจรวมเข้าในคนชั่วเลวมันชื่นชอบมาก,การกำจัดคนพวกนี้ ความตายจึงสมควรหยิบยื่นให้พวกมันทุกๆตัวบนแผ่นดินไทยในยุคสมัยนี้เวลานี้จริงๆ,การยึดอำนาจของทหารหาญผู้กอบกู้ชาติไทยเราจึงสำคัญมากและคือหนทางเดียวเท่านั้นบนกฎพิเศษ บนกติกาพิเศษ บนเงื่อนไขที่เงื่อนไขปกติมิอาจใช้ได้เหมาะสมกับปีศาจอสูรมารซาตานพวกนี้ได้.,นี้คือแผ่นดินไทย ถึงเวลาไล่ล่า กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆจังๆได้แล้ว.

    https://youtube.com/watch?v=DZmbgMLkupo&si=0C_DGti4qhnEtDwE
    ..มามุกเดือดร้อนใหม่อีกแล้วคงไม่ต่างจากคริปโตฯตังดิจิดัล500,000ล้านหรอก,เตรียมคริปโต เตรียมบริษัทไว้รอพร้อมหมดแล้ว,สูบบุหรี่นอนรอนานแล้วนั้นเอง,ค่านั้นค่านี้สาระพัดตกลงกันลงตัวไว้แล้ว. ..เงินหลวงแม้โกงหรือทุจริตไป 1 บาท ก็คือคตโกง คือทุจริต คือไม่ซื่อสัตย์ โทษต้องสมควรหนักกว่าโจรปล้นร้านทองคำ นี้คือนักการเมืองด้วย 1บาทก็ต้องโทษหนัก เมื่ออาสามารับใช้ชาติรับใช้ประเทศ รับใช้คนไทย ,จริงๆแค่แฉเรื่องทุจริตต่างๆจะสแกมเมอร์จะฟอกเงินจะตำรวจยุ่งเกี่ยวจะรมต.คนนักการเมืองฝ่ายรัฐยุ่งเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์เขมรค้ามนุษย์ฟอกทองคำฟอกเงินฟอกตลาดหุ้น ไม่ซื่อสัตย์แค่1บาทก็สมควรลาออกให้เป็นแบบอย่างที่ดีเถอะ ทั้งรัฐบาลนั้นล่ะ ยุบสภาหนีไปเถอะ,ข่าวการแฉขนาดนี้, ..เรื่องหนี้นี้ จริงๆสมควรล้างหนี้นักศึกษาก่อน จากนั้นเกษตรกรทั่วประเทศที่เป็นชาวนาธกส.ก่อนเลย,จากนั้นล้างหนี้ทุกๆคนเป็นถือบัตรคนจนก่อนว่าเขามีหนี้กับรัฐอะไรบ้าง กลุ่มเปราะบางของแท้ จากนั้นให้ทุนเงินสัมมาอาชีพเขาสักก้อน บวกทุนเพิ่มเติมแหล่งเงินทุนรัฐจริงๆมิใช่ให้เขาแสวงหาหนี้นอกระบบอีกหรือแบงค์เอกชนที่เข้าไม่ถึงได้เลยในประชาชนธรรมดา,พร้อมสร้างกลุ่มภาคประชาชนที่เข้มแข็งรองรับยุคสมัยสัมมาอาชีพอนาคต เตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงของโลก.,รัฐไร้ฝีมือไร้น้ำยา คงไม่นำพาหรอกเพราะผู้ปกครองเรากาก กระจอก ทอดทิ้งประชาชน การฉีดตายกว่า60ล้านเข็มที่อำมหิตจึงถือกำเนิดขึ้นใส่ตัวประชาชนครไทยกันถ้วนหน้า. ..ล้างหนี้คือล้างหนี้ ยังจะมาหากำไรจากประชาชนตนคนไทยอีก,ถ้าการสมมุตินี้จริง ที่ว่า ประชาชนมี100 เอกชนมาซื้อหนี้ไป5บาท มาทวงคืนจากประชาชน10บาท,กำไร 5บาทถวายพานให้เอกชนเลย,ทำไมไม่แสดงเจตนาดีแจ้งชัดเจนก่อนให้เอกชนฟันกำไรส่วนต่าง5บาทนั้น,โดยให้ประชาชนมาซื้อหนี้เน่าตนเองเลย,หามาซื้อปิดหนี้เน่าตนทางตรงที่5บาทหรือ5%นี้ล่ะ,มีระยะเวลากำหนดว่าภายใน5ปีก็ว่าไป,ต้องนำมาปิดก่อนในส่วน5บาทหรือ5%นี้,เมื่อพ้นกำหนดนี้จึงจะขายหนี้ให้เอกชนแล้วทำตามเงื่อนไขขั้นต้นที่ว่านั้นก็ไม่เห็นว่าทางรัฐจะเสียหายใดๆแค่แบกก้อนหนี้นี้ของคนไทยปกติเพิ่ม5ปีเท่านั้น ไหนๆจะช่วยคนไทยจริง อย่างบริสุทธิ์ใจช่วยประชาชนคนไทย จากจะทิ้งหนี้เน่าไปเสียจึงไปตกลงเอกชนมารับซื้อหนี้นี้ไป,ทั้งในนามรัฐบาล ถามประชาชนแล้วหรือยังในนามครม.รัฐที่เป็นนโยบายระดับชาติบังคับใช้ระดับประเทศทั่วไทยขนาดนี้ว่าเขายินยอมให้ขายหนี้ของธนาคารรัฐไปให้เอกชนมั้ย ธนาคารรัฐละเมิดสิทธิ์ประชาชนถือว่าเป็นโมฆะได้,กฎหมายก็เขียนจากคนนี้ล่ะ,ใครมีอำนาจก็เขียนได้หมด,อีกทั้งรัฐบาลจากกรณีแร่เอิร์ธไม่อาจมีความไว้วางใจในการบริหารชาติได้อีกต่อไป และประเด็นปัญหากับเขมรสาระพัดเรื่องด้วย โดยเรื่องอาชญากรรมระดับชาติของเขมรที่โยงมาถึงคนในรัฐบาลชุดนี้อีกมากมาย,ไร้ความซื่อสัตย์สุจิตด้วย นโยบายมากมายจึงจะไว้ใจได้อย่างไรว่าไปเตะกำไรเงินทองผลประโยชน์ให้เอกชนเต็มๆหรือโอนสถานะทาสหนี้ ขายทาสกันว่าเล่นในสมมุตินี้ได้สบายนั้นเอง,รัฐไม่มีสิทธิย้ายสถานะหนี้ทาสแก้คนนอกเอกชนใดๆ,ลูกหนี้จะไร้ความปลอดภัยในการคุ้มครองจากอำนาจทางการทันทีนั้นเองเมื่อย้ายออกไป,นายหนี้ใหม่ยอมมีสิทธิขาดในการทำลายลูกหนี้ได้หมด กดขี่ข่มเหงได้หมด,อำนาจรัฐสามารถเขียนกฎหมายใหม่ให้ดีได้หมดแต่ไม่เคยทำ,ต่างพร้อมช่วยเจ้าสัวเจ้าของบริษัททำธุรกิจเงินทองเอาเปรียบประชาชนมาตลอดในอดีตทุกๆรัฐบาลที่ผ่านๆไร้ความจริงใจนั้นเอง., ..เป็นต้นว่า เขียนกฎหมายใหม่ทันทีว่า ลูกหนีัเป็นหนี้บ้านหนี้ที่ดิน สร้างบ้าน ซื้อคอนโด เมื่อถูกยึดบ้านยึดคอนโดยึดบ้านยึดที่ดินยึดรถ สถานะหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินหนี้จำนองทองคำหนี้จำนองโฉนดเป็นอันสิ้นสุดทันที,ต้องห้ามเจ้าหนี้เด็ดขาดในไทยธนาคารใดๆในไทยไปตามยึดทรัพย์สินอื่นๆใดๆอีกเพื่อมาบังคับใช้หนี้ให้เต็มส่วนตนในมูลค่าหนี้ที่ตนคิดเองในเงื่อนไขความเสี่ยงตนที่ตกลงว่าลูกหนี้ต้องจ่ายจนครบนั้นเป็นอันสิ้นสุด ยุติหนี้จบเสร็จสิ้นไป ห้ามทุกๆกรณี เจ้าหนี้ยึดบ้านจากหนี้บ้านก็จบ เจ้าหนี้ยึดที่ดินจากหนี้เงินกู้ใช้ที่ดินจำนองก็จบ,ยึดรถที่ลูกหนี้ซื้อก็จบ ให้สิ้นพันธะกันทันทีห้ามบีบบังคับใดๆอีก,หนี้ใดๆที่ลูกหนี้ผูกไว้ ประเมินไว้ ธนาคารรับความเสี่ยงแล้วจึงปล่อยกู้,ลูกหนี้ใช้ที่ดินโรงงานและกิจการตนโรงงานตนกู้เงิน ธนาคารยึดทรัพย์สินที่ดินและกิจการนั้นๆคือจบสถานะหนี้นั้นทันที,ไม่มีสิทธิไปยึดที่ดินแปลงอื่นอีกหรือโรงงานอื่นๆที่เขาทำกิจการต่างๆนั้น.,นี้กฎหมายไทยต้องเขียนชัดเจนลักษณะนีัเป็นพื้นฐานมาตรฐานก่อนเพื่อปกป้องประชาชนคนไทย ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมใดๆก็ไม่สมควรเอาเปรียบมากมายสาระพัดในอดีตที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน.จึงถือว่าแบงค์ชาติไทยล้มเหลวทั้งหมดที่ผ่านๆมา,ไม่ก่อประโยชน์สูงสุดเป็นอรรถประโยชน์ที่แท้จริงแก่คนไทย,คนไทยเป็นอันมากต่างถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคารเอกชนหรือกิจการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดทั่วไทยชัดเจนมาก,ยามวิกฤติแบงค์ชาติไม่สมควรอำนวยธนาคารเอกชนแสวงหากำไรจากดอกเบี้ยจนแจ้งผลประกอบการผ่านตลาดทุนกำไรเป็นแสนล้านบาทอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น ทั้งที่ตลาดทั้งตลาดเกือบขาดทุนหมดบนวิกฤติเศรษฐกิจทั้งประเทศขนาดนั้น แต่แบงค์ชาติกลับไม่สนใจควบคุมธนาคารเอกชนในการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ จึงฟันกำไรจนบ้าคลั่งเอาเปรียบประชาชนคนไทยชัดเจน.นี้คือตย.ที่เป็นข่าวจริง,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ,การอ้างประชาชนในการแสวงหาประโยชน์ใดๆบนแผ่นดินไทยนี้มันง่ายจริงๆ,มีอำนาจอ้างใดๆได้หมดอีกด้วย,ตอนไม่มีอำนาจก็อ้างความทุกข์ยากประชาชนสาระพัดอีก สาระพัดการอ้างเอาประชาชนบังหน้าในการแสวงหาประโยชน์ใดๆจึงง่ายแก่คนชั่วเลวมากจริงๆบนประเทศไทยนี้และไม่เคยมีพวกมันใดๆถูกจับมาลงโทษทั้งหมดให้สิ้นซากกันจริงๆจังๆอีกด้วย,และการหากินบนมวลชนแบบผูกขาดเช่นให้บริการการใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมัน ขายไฟฟ้า ขายน้ำมัน ขายเช่าสัญญาณคลื่นมือถือคลื่นเน็ต มวลรวมคนใช้ทั้งประเทศ การโกงกินลักษณะนี้มันอร่อยคำโตและหอมหวานเป็นอันมาก,อำนาจจึงพากันอยากได้อยากมานั่งมาอยู่มาแสวงหามันนักตลอดตำแหน่งใดๆในราชการก็ด้วย เงินทองและอำนาจรวมเข้าในคนชั่วเลวมันชื่นชอบมาก,การกำจัดคนพวกนี้ ความตายจึงสมควรหยิบยื่นให้พวกมันทุกๆตัวบนแผ่นดินไทยในยุคสมัยนี้เวลานี้จริงๆ,การยึดอำนาจของทหารหาญผู้กอบกู้ชาติไทยเราจึงสำคัญมากและคือหนทางเดียวเท่านั้นบนกฎพิเศษ บนกติกาพิเศษ บนเงื่อนไขที่เงื่อนไขปกติมิอาจใช้ได้เหมาะสมกับปีศาจอสูรมารซาตานพวกนี้ได้.,นี้คือแผ่นดินไทย ถึงเวลาไล่ล่า กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆจังๆได้แล้ว. https://youtube.com/watch?v=DZmbgMLkupo&si=0C_DGti4qhnEtDwE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 971 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 872 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 5

    J P Morgan ไม่ใช่เป็นบริษัทการเงินเล็กๆ เขาใหญ่ และดังคับโลก เขาสนใจ และรับงาน เฉพาะรายใหญ่ระดับชาติเท่านั้น และแม้ J P Morgan จะเป็นเจ้าพ่อ Wall Street แต่เขาก็สนิทสนม จนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ Rothschild เจ้าพ่อตัวจริงของฝั่งอังกฤษ ทำให้ผู้คนต่างพากันเดาถึงที่มาของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ 2 กลุ่มการเงิน ที่ไม่แน่ว่าจะมีใครรู้จริง

    นาย George Peabody เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน จาก Massachusetts เดินทางไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1837 เพื่อขายพันธบัตร กิจการสร้างคลอง Chesapeake Ohio ของอเมริกา ซึ่งขายได้ฝืดมากในอเมริกา เนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถอยหลัง เขาหวังว่าคนอังกฤษจะกระเป๋าหนักกว่าคนอเมริกัน แต่ประตูของตลาดลอนดอน ก็เปิดยากเอาการ แต่ Peabody มีความเพียร เขาพยายามเคาะประตูนักการเงินใหญ่ของลอนดอนไปทุกบาน ในที่สุดก็ขายพันธบัตรคลอง Ohio ได้หมด และได้กำไรไม่น้อย

    นาย Peabody ไม่เอาเงินกำไรกลับอเมริกา เขาเอาเงินนั้นไปลงทุน ตั้งบริษัททำธุรกิจตัวแทนเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก อยู่ที่ถนน Bond Street ในลอนดอน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้นักธุรกิจ ทั้ง 2 ฝั่ง ของมหาสมุทรแอตแลนติก ใครต้องการส่งสินค้า เขาส่งให้ ใครต้องการขาย เขาหาคนซื้อให้ ใครไม่มีเงิน เขาให้เงินกู้ มันคงเป็นจังหวะดี หรือนาย Peabody มีฝีมือจริง ธุรกิจในลอนดอนของเขา จึงก้าวหน้าไปลิ่ว

    คงมัวแต่ทำงานหนัก เลยไม่มีเวลาหาเมีย กว่าจะนึกออกก็คงดึกไปแล้ว แทนที่จะไปมองหาสาว เขาเลยมองหาคนที่จะมารับช่วงกิจการต่อไป ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามที่เขา ตั้งไว้ คือ ข้อที่ 1. ต้องเป็นคนเกิดที่อเมริกา ถึงยังไง นาย Peabody ก็ยังรักบ้านเกิด และที่สำคัญ เขาถือว่าบริษัทของเขา เป็นบริษัทอเมริกัน ข้อที่ 2 ต้องเป็นคนที่มีสัญชาตญาณ หรือวิญญาณอังกฤษสิงอยู่หน่อยๆ จะได้ต้อนรับลูกค้า ที่เป็นคนใหญ่คนโตของอังกฤษ ได้อย่างไม่เก้งก้าง ข้อที่ 3 คือต้องรู้จักธุรกิจการเงินของอังกฤษ อเมริกา (Anglo-American finance) เป็นอย่างดี และข้อที่ 4 Peabody จะต้องชอบคนนั้นด้วย
    เมื่อนาย Junius Morgan พ่อค้าชาว Boston เจอกับ Peabody ที่ London ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปี 1850 Junius Morgan ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูก Peabody เอากล้องส่องสำรวจอย่างละเอียด Peabody รู้สึกถูกชะตากับ Junius Morgan อย่างยิ่ง หลังจากไปสืบถามถึงภูมิหลังและชื่อเสียงจนเป็นที่พอใจ ปี 1854 Junius Morgan ก็อพยพครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่ London และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนกิจการ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Peabody, Morgan & Company

    นอกเหนือจากขายพันธบัตร ของธุรกิจของฝั่งอเมริกา และของรัฐบาลอเมริกันแล้ว บริษัทยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายเหนือ ในตอนสงครามระหว่างเหนือใต้ ของอเมริกาอีกด้วย งานนี้ทำกำไรให้กับบริษัทมากมาย จน Peabody ได้ขึ้นอันดับไปยืนอยู่แถวหน้าของตลาดเงิน London

    ปี 1864 Peabody ก็ขอเกษียณตัวเอง และยกธุรกิจทั้งหมดให้กับ Junius ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น J. S Morgan and Company

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 6

    ลูกชายของ Junius คือ นาย John Pierpont ที่โด่งดัง เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมของอังกฤษที่ Boston แต่ต่อมา การเรียน และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาอยู่แถวยุโรป เขาจึงมีลักษณะท่าทาง เป็นคนอังกฤษมากกว่าคนอเมริกัน ดูเหมือนเขาจะถูกสร้างให้เป็นตามแบบพิมพ์ที่ Peabody ตั้งใจ
    John Pierpont ถูกส่งไปฝึกงานกับบริษัทการเงินอื่น ก่อนจะมารับตำแหน่งหุ้นส่วนในกิจการ Dabney, Morgan & Company ซึ่งเป็นสาขา New York ของบริษัทที่ London
    ในปี 1871 บริษัทได้หุ้นส่วนใหม่อีกคนจาก Philadelphia คือ Anthony Drexel บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Drexel, Morgan & Company และในปี 1895 เมื่อ Drexel ตาย บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น J P Morgan & Company และมีสาขาที่ปารีส ชื่อ Morgan, Haries & Company

    หลังจาก Junius ตาย ไม่กี่ปีต่อมา Pierpont ก็ตัดสินใจปรับปรุงรูปโฉมของบริษัทที่ London ให้กลายเป็นบริษัทอังกฤษแท้ และแบ่งธุรกิจให้สาขาที่อเมริกา ก็รับแต่งานของฝั่งอเมริกาไป และก็เป็นโอกาสให้ J P Morgan Jr. ซึ่งเพื่อนฝูงเรียกว่า Jack ลูกชายของ Pierpont ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการธุรกิจที่อเมริกา และกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โลกนี้กลายเป็นแดนอธรรม หรือ ดงโจร

    ตามชีวประวัติของ Jack ซึ่งนาย John Forbes เขียนไว้ดังนี้ :

    J P Morgan, Jr. ได้เป็นหุ้นส่วนของ London House ของ J. P Morgan & Co เมื่อเดือนมกราคม 1898 และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตัวเขาพร้อมครอบครัว เมีย 1 ลูก 3 ก็ย้ายจาก New York มาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษนานถึง 8 ปี เขาถูกส่งให้มาอยู่อังกฤษ เพื่อมาทำภาระกิจสำคัญ 2 รายการ

    ภาระกิจแรก เพื่อเรียนรู้ภาคปฎิบัติว่า คนอังกฤษทำธุรกิจการธนาคารอย่างไร ภายใต้ระบบธนาคารกลาง ซึ่งกำหนดโดย Bank of England ซึ่ง Morgan คนพ่อ มีความหวังอยากจะตั้งระบบธนาคารกลางในอเมริกา และหวังจะให้คนของ Morgan รู้ไว้ก่อนว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร

    ภาระกิจที่สอง เพื่อทำความรู้จักกับนักธุรกิจการเงินของ London อย่างจริงจัง และเลือกหุ้นส่วนที่เป็นอังกฤษ ของแท้ ภาระที่สองนี้ ประสพผลสำเร็จชัดเจน เมื่อ Edward Grenfell ซึ่งเป็นกรรมการของ Bank of England มาเป็นเวลานาน ตกลงมาร่วมเป็นหุ้นส่วนอาวุโส และบริษัทก็เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้ง เป็น Morgan Grenfell & Company นับว่า Jack ตกได้ปลาตัวใหญ่จริง และสงสัยว่าเขาจะใช้เหยื่อตกปลาชนิดพิเศษ
    ผู้คนพากันสงสัยว่า เมื่อนักการเงินอเมริกา อาจหาญมาซ่าอยู่แถวตลาด London ซึ่งมีเขี้ยวลากกันทั้งนั้น จะไปรอดหรือ มันคงเอาเขี้ยวงัดกัดกันน่าดู นั่นแสดงว่าไม่รู้จัก ว่าคนเป็นเจ้าพ่อตัวจริง เขาคิดอย่างไร

    เมื่อ George Peabody มาถึง London ใหม่ๆ เขาแปลกใจมาก เรียกว่า ตกใจจะตรงกว่า เขาตกใจ ที่อยู่ดีๆ ได้รับคำสั่งให้ไปพบเจ้าพ่อ Baron Nathan Mayer Rothschild ใครจะกล้าเบี้ยวใบสั่งเจ้าพ่อ โดยเฉพาะกำลังมาหากิน อยู่กลางดงของเจ้าพ่อ

    แต่เรื่องกลับโอละพ่อ เจ้าพ่อก็มีวันต้องการมีสมุนนอกบัญชี

    Rothschild บอกกับนาย Peabody ว่า เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก ของพวกผู้ดีหัวสูงของสังคมอังกฤษ ในสายตาของพวกผู้ดีหลายคน เขาก็เป็นเพียงพวกกา หาใช่พันธุ์หงส์ เพราะฉะนั้น พวกสังคมชั้นสูง ก็ไม่ปลื้ม ไม่จริงใจ ในการคบค้าเขา สนใจแต่จะคบกับเงินของเขาเท่านั้น

    แล้วนาย Peabody ก็จัดงานฉลองวันชาติของอเมริกาที่ London โดยเชิญบรรดา ขุนนาง ผู้ดีอังกฤษ หัวสูง ยะโสทั้งหลายมาร่วมงาน แขกรับเชิญต่างชอบใจเจ้าภาพ และพอใจที่จะคบค้าด้วย เพราะยังไง ก็เป็น Anglo Saxon เผ่าพันธ์เดียวกัน คงไม่มีใครรู้ว่า ค่าอาหาร ค่าเหล้าในงานเลี้ยงคืน และอีกหลายๆครั้งต่อมา นาย Peabody ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน

    ปี 1857 เมื่อตลาด Wall Street เกือบล่ม นักเล่นหุ้นใช้สูตร ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เหมือนพวกเซียนใหญ่บ้านเรา Peabody และ Morgan คนพ่อ ถลาเข้าไปรับประกันชำระหนี้แทน นักเล่นหุ้น รวม ๆ แล้ว ประมาณ 2 ล้านปอนด์ หวังค่าคอมก้อนใหญ่ แต่ก็มีคนไม่แน่ใจว่า ถึงเวลา ถ้าลูกหนี้เบี้ยวหมด Peabody และ Morgan จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย

    ในประวัติของ The House of Morgan เขียนโดย Ron Chernow บอกว่า ขณะที่ข่าวลือชิ้นแรกว่อนไปทั่วว่า George Peabody น่าจะร่วงตามลูกหนี้ ข่าวลือชิ้นต่อมา ก็บอกว่า จะมีเจ้ามือใหญ่ของตลาดมาช่วยนาย Peabody โดยมีเงื่อนไข เขาจะต้องปิดกิจการบริษัทที่อังกฤษ และกลับอเมริกาไปภายใน 1 ปี
    ไม่นานหลังจากมีข่าวลือ ก็มีข่าวจริงออกมา ว่า Bank of England ประกาศให้เงินกู้ 8 แสนปอนด์ ด้วยดอกเบี้ยอัตราต่ำติดพื้นให้แก่ Peabody รวมทั้งให้ credit line อีก 1 ล้านปอนด์ ถ้าจำเป็นและต้องการ มันเป็นเรื่องผิดคาดของตลาดการเงินลอนดอน ที่ Thomas Hanley ผู้ว่าการธนาคาร Bank of England ซึ่งปฎิเสธ ที่จะช่วยเหลือบริษัทการเงินอเมริกันมาหลายรายแล้ว จะมาอุ้ม Peabody & Company ในขณะที่จมน้ำไปเกือบมิดหัวแล้ว

    แต่ถ้าลองไล่เรียง ความก้าวหน้าของ Peabody ใน London ตั้งแต่เริ่ม ปี 1837 มาจนถึงวันที่ J P Morgan & Co กลายเป็น Morgan Grenfell & Company หลัง ปี 1894 ก็น่าจะพอต่อเรื่องกันได้ว่า ฝีมือเขาดีจริง หรือน่าจะเพราะมีเจ้าพ่อหนุนหลัง หรือทั้ง 2 อย่าง แต่ฝีมือดีอย่างเดียว คงไม่น่ามาได้ไกลขนาดนี้

    Guaranty Trust ของ J P Morgan จึงรับบทสำคัญไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่า Jacob Schiff เสียด้วยซ้ำ ในละครลวงโลกปฏิวัติ Bolsheviks ปล้นรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 5 J P Morgan ไม่ใช่เป็นบริษัทการเงินเล็กๆ เขาใหญ่ และดังคับโลก เขาสนใจ และรับงาน เฉพาะรายใหญ่ระดับชาติเท่านั้น และแม้ J P Morgan จะเป็นเจ้าพ่อ Wall Street แต่เขาก็สนิทสนม จนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ Rothschild เจ้าพ่อตัวจริงของฝั่งอังกฤษ ทำให้ผู้คนต่างพากันเดาถึงที่มาของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ 2 กลุ่มการเงิน ที่ไม่แน่ว่าจะมีใครรู้จริง นาย George Peabody เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน จาก Massachusetts เดินทางไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1837 เพื่อขายพันธบัตร กิจการสร้างคลอง Chesapeake Ohio ของอเมริกา ซึ่งขายได้ฝืดมากในอเมริกา เนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถอยหลัง เขาหวังว่าคนอังกฤษจะกระเป๋าหนักกว่าคนอเมริกัน แต่ประตูของตลาดลอนดอน ก็เปิดยากเอาการ แต่ Peabody มีความเพียร เขาพยายามเคาะประตูนักการเงินใหญ่ของลอนดอนไปทุกบาน ในที่สุดก็ขายพันธบัตรคลอง Ohio ได้หมด และได้กำไรไม่น้อย นาย Peabody ไม่เอาเงินกำไรกลับอเมริกา เขาเอาเงินนั้นไปลงทุน ตั้งบริษัททำธุรกิจตัวแทนเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก อยู่ที่ถนน Bond Street ในลอนดอน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้นักธุรกิจ ทั้ง 2 ฝั่ง ของมหาสมุทรแอตแลนติก ใครต้องการส่งสินค้า เขาส่งให้ ใครต้องการขาย เขาหาคนซื้อให้ ใครไม่มีเงิน เขาให้เงินกู้ มันคงเป็นจังหวะดี หรือนาย Peabody มีฝีมือจริง ธุรกิจในลอนดอนของเขา จึงก้าวหน้าไปลิ่ว คงมัวแต่ทำงานหนัก เลยไม่มีเวลาหาเมีย กว่าจะนึกออกก็คงดึกไปแล้ว แทนที่จะไปมองหาสาว เขาเลยมองหาคนที่จะมารับช่วงกิจการต่อไป ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามที่เขา ตั้งไว้ คือ ข้อที่ 1. ต้องเป็นคนเกิดที่อเมริกา ถึงยังไง นาย Peabody ก็ยังรักบ้านเกิด และที่สำคัญ เขาถือว่าบริษัทของเขา เป็นบริษัทอเมริกัน ข้อที่ 2 ต้องเป็นคนที่มีสัญชาตญาณ หรือวิญญาณอังกฤษสิงอยู่หน่อยๆ จะได้ต้อนรับลูกค้า ที่เป็นคนใหญ่คนโตของอังกฤษ ได้อย่างไม่เก้งก้าง ข้อที่ 3 คือต้องรู้จักธุรกิจการเงินของอังกฤษ อเมริกา (Anglo-American finance) เป็นอย่างดี และข้อที่ 4 Peabody จะต้องชอบคนนั้นด้วย เมื่อนาย Junius Morgan พ่อค้าชาว Boston เจอกับ Peabody ที่ London ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปี 1850 Junius Morgan ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูก Peabody เอากล้องส่องสำรวจอย่างละเอียด Peabody รู้สึกถูกชะตากับ Junius Morgan อย่างยิ่ง หลังจากไปสืบถามถึงภูมิหลังและชื่อเสียงจนเป็นที่พอใจ ปี 1854 Junius Morgan ก็อพยพครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่ London และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนกิจการ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Peabody, Morgan & Company นอกเหนือจากขายพันธบัตร ของธุรกิจของฝั่งอเมริกา และของรัฐบาลอเมริกันแล้ว บริษัทยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายเหนือ ในตอนสงครามระหว่างเหนือใต้ ของอเมริกาอีกด้วย งานนี้ทำกำไรให้กับบริษัทมากมาย จน Peabody ได้ขึ้นอันดับไปยืนอยู่แถวหน้าของตลาดเงิน London ปี 1864 Peabody ก็ขอเกษียณตัวเอง และยกธุรกิจทั้งหมดให้กับ Junius ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น J. S Morgan and Company นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 6 ลูกชายของ Junius คือ นาย John Pierpont ที่โด่งดัง เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมของอังกฤษที่ Boston แต่ต่อมา การเรียน และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาอยู่แถวยุโรป เขาจึงมีลักษณะท่าทาง เป็นคนอังกฤษมากกว่าคนอเมริกัน ดูเหมือนเขาจะถูกสร้างให้เป็นตามแบบพิมพ์ที่ Peabody ตั้งใจ John Pierpont ถูกส่งไปฝึกงานกับบริษัทการเงินอื่น ก่อนจะมารับตำแหน่งหุ้นส่วนในกิจการ Dabney, Morgan & Company ซึ่งเป็นสาขา New York ของบริษัทที่ London ในปี 1871 บริษัทได้หุ้นส่วนใหม่อีกคนจาก Philadelphia คือ Anthony Drexel บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Drexel, Morgan & Company และในปี 1895 เมื่อ Drexel ตาย บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น J P Morgan & Company และมีสาขาที่ปารีส ชื่อ Morgan, Haries & Company หลังจาก Junius ตาย ไม่กี่ปีต่อมา Pierpont ก็ตัดสินใจปรับปรุงรูปโฉมของบริษัทที่ London ให้กลายเป็นบริษัทอังกฤษแท้ และแบ่งธุรกิจให้สาขาที่อเมริกา ก็รับแต่งานของฝั่งอเมริกาไป และก็เป็นโอกาสให้ J P Morgan Jr. ซึ่งเพื่อนฝูงเรียกว่า Jack ลูกชายของ Pierpont ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการธุรกิจที่อเมริกา และกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โลกนี้กลายเป็นแดนอธรรม หรือ ดงโจร ตามชีวประวัติของ Jack ซึ่งนาย John Forbes เขียนไว้ดังนี้ : J P Morgan, Jr. ได้เป็นหุ้นส่วนของ London House ของ J. P Morgan & Co เมื่อเดือนมกราคม 1898 และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตัวเขาพร้อมครอบครัว เมีย 1 ลูก 3 ก็ย้ายจาก New York มาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษนานถึง 8 ปี เขาถูกส่งให้มาอยู่อังกฤษ เพื่อมาทำภาระกิจสำคัญ 2 รายการ ภาระกิจแรก เพื่อเรียนรู้ภาคปฎิบัติว่า คนอังกฤษทำธุรกิจการธนาคารอย่างไร ภายใต้ระบบธนาคารกลาง ซึ่งกำหนดโดย Bank of England ซึ่ง Morgan คนพ่อ มีความหวังอยากจะตั้งระบบธนาคารกลางในอเมริกา และหวังจะให้คนของ Morgan รู้ไว้ก่อนว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร ภาระกิจที่สอง เพื่อทำความรู้จักกับนักธุรกิจการเงินของ London อย่างจริงจัง และเลือกหุ้นส่วนที่เป็นอังกฤษ ของแท้ ภาระที่สองนี้ ประสพผลสำเร็จชัดเจน เมื่อ Edward Grenfell ซึ่งเป็นกรรมการของ Bank of England มาเป็นเวลานาน ตกลงมาร่วมเป็นหุ้นส่วนอาวุโส และบริษัทก็เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้ง เป็น Morgan Grenfell & Company นับว่า Jack ตกได้ปลาตัวใหญ่จริง และสงสัยว่าเขาจะใช้เหยื่อตกปลาชนิดพิเศษ ผู้คนพากันสงสัยว่า เมื่อนักการเงินอเมริกา อาจหาญมาซ่าอยู่แถวตลาด London ซึ่งมีเขี้ยวลากกันทั้งนั้น จะไปรอดหรือ มันคงเอาเขี้ยวงัดกัดกันน่าดู นั่นแสดงว่าไม่รู้จัก ว่าคนเป็นเจ้าพ่อตัวจริง เขาคิดอย่างไร เมื่อ George Peabody มาถึง London ใหม่ๆ เขาแปลกใจมาก เรียกว่า ตกใจจะตรงกว่า เขาตกใจ ที่อยู่ดีๆ ได้รับคำสั่งให้ไปพบเจ้าพ่อ Baron Nathan Mayer Rothschild ใครจะกล้าเบี้ยวใบสั่งเจ้าพ่อ โดยเฉพาะกำลังมาหากิน อยู่กลางดงของเจ้าพ่อ แต่เรื่องกลับโอละพ่อ เจ้าพ่อก็มีวันต้องการมีสมุนนอกบัญชี Rothschild บอกกับนาย Peabody ว่า เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก ของพวกผู้ดีหัวสูงของสังคมอังกฤษ ในสายตาของพวกผู้ดีหลายคน เขาก็เป็นเพียงพวกกา หาใช่พันธุ์หงส์ เพราะฉะนั้น พวกสังคมชั้นสูง ก็ไม่ปลื้ม ไม่จริงใจ ในการคบค้าเขา สนใจแต่จะคบกับเงินของเขาเท่านั้น แล้วนาย Peabody ก็จัดงานฉลองวันชาติของอเมริกาที่ London โดยเชิญบรรดา ขุนนาง ผู้ดีอังกฤษ หัวสูง ยะโสทั้งหลายมาร่วมงาน แขกรับเชิญต่างชอบใจเจ้าภาพ และพอใจที่จะคบค้าด้วย เพราะยังไง ก็เป็น Anglo Saxon เผ่าพันธ์เดียวกัน คงไม่มีใครรู้ว่า ค่าอาหาร ค่าเหล้าในงานเลี้ยงคืน และอีกหลายๆครั้งต่อมา นาย Peabody ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน ปี 1857 เมื่อตลาด Wall Street เกือบล่ม นักเล่นหุ้นใช้สูตร ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เหมือนพวกเซียนใหญ่บ้านเรา Peabody และ Morgan คนพ่อ ถลาเข้าไปรับประกันชำระหนี้แทน นักเล่นหุ้น รวม ๆ แล้ว ประมาณ 2 ล้านปอนด์ หวังค่าคอมก้อนใหญ่ แต่ก็มีคนไม่แน่ใจว่า ถึงเวลา ถ้าลูกหนี้เบี้ยวหมด Peabody และ Morgan จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ในประวัติของ The House of Morgan เขียนโดย Ron Chernow บอกว่า ขณะที่ข่าวลือชิ้นแรกว่อนไปทั่วว่า George Peabody น่าจะร่วงตามลูกหนี้ ข่าวลือชิ้นต่อมา ก็บอกว่า จะมีเจ้ามือใหญ่ของตลาดมาช่วยนาย Peabody โดยมีเงื่อนไข เขาจะต้องปิดกิจการบริษัทที่อังกฤษ และกลับอเมริกาไปภายใน 1 ปี ไม่นานหลังจากมีข่าวลือ ก็มีข่าวจริงออกมา ว่า Bank of England ประกาศให้เงินกู้ 8 แสนปอนด์ ด้วยดอกเบี้ยอัตราต่ำติดพื้นให้แก่ Peabody รวมทั้งให้ credit line อีก 1 ล้านปอนด์ ถ้าจำเป็นและต้องการ มันเป็นเรื่องผิดคาดของตลาดการเงินลอนดอน ที่ Thomas Hanley ผู้ว่าการธนาคาร Bank of England ซึ่งปฎิเสธ ที่จะช่วยเหลือบริษัทการเงินอเมริกันมาหลายรายแล้ว จะมาอุ้ม Peabody & Company ในขณะที่จมน้ำไปเกือบมิดหัวแล้ว แต่ถ้าลองไล่เรียง ความก้าวหน้าของ Peabody ใน London ตั้งแต่เริ่ม ปี 1837 มาจนถึงวันที่ J P Morgan & Co กลายเป็น Morgan Grenfell & Company หลัง ปี 1894 ก็น่าจะพอต่อเรื่องกันได้ว่า ฝีมือเขาดีจริง หรือน่าจะเพราะมีเจ้าพ่อหนุนหลัง หรือทั้ง 2 อย่าง แต่ฝีมือดีอย่างเดียว คงไม่น่ามาได้ไกลขนาดนี้ Guaranty Trust ของ J P Morgan จึงรับบทสำคัญไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่า Jacob Schiff เสียด้วยซ้ำ ในละครลวงโลกปฏิวัติ Bolsheviks ปล้นรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว

  • ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย,
    ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก.
    ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที.
    ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด.
    ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป.
    ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย, ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก. ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที. ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด. ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป. ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 778 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย.
    ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา.
    ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่.
    ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว.

    https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย. ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา. ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่. ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว. https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมลูกหนี้ถึงผิดนัดชำระหนี้ ?
    ทำไมลูกหนี้ถึงผิดนัดชำระหนี้ ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ‼ ️หลักฐานที่เปิดเผย: Booom! คุณเป็นสินทรัพย์กองทุนที่เชื่อถือได้ - สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี Cestui que vie ลับและไม่มีใครบอกคุณ️

    รายงาน AMG-News พิเศษที่เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2025 และอัปเดต ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2568

    บทความนี้เปิดเผยระบบที่ซ่อนอยู่ซึ่งทุกคนกลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่แรกเกิด ผ่านสูติบัตรของคุณชื่อของคุณจะถูกแปลงเป็นนิติบุคคลในแคปทั้งหมด - ไม่ใช่คุณ แต่เป็นเวอร์ชันองค์กรที่คุณเคยเปิดความลับ Cestui que vie Trust

    ธนาคารศาลรัฐบาลและเรือนจำทุกคนเข้าถึงความไว้วางใจและผลกำไรนี้อย่างมากจากการดำรงอยู่ของคุณ - ในขณะที่คุณอาศัยอยู่ในความไม่รู้ เมื่อคุณซื้อบ้านรับการปรับออกเงินกู้หรือแม้กระทั่งถูกจับกุมความไว้วางใจของคุณจะจ่ายก่อนและคุณจ่ายอีกครั้ง

    ชื่อของคุณมีการซื้อขายเหมือนสินค้า
    แรงงานของคุณเป็นหลักประกัน
    ชีวิตของคุณคือกระแสรายได้

    คุณไม่ใช่ลูกหนี้ - คุณเป็นสินทรัพย์ และพวกเขาไม่เคยบอกคุณ ...
    🇺🇸‼ ️หลักฐานที่เปิดเผย: Booom! คุณเป็นสินทรัพย์กองทุนที่เชื่อถือได้ - สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี Cestui que vie ลับและไม่มีใครบอกคุณ️ รายงาน AMG-News พิเศษที่เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2025 และอัปเดต ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2568 บทความนี้เปิดเผยระบบที่ซ่อนอยู่ซึ่งทุกคนกลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่แรกเกิด ผ่านสูติบัตรของคุณชื่อของคุณจะถูกแปลงเป็นนิติบุคคลในแคปทั้งหมด - ไม่ใช่คุณ แต่เป็นเวอร์ชันองค์กรที่คุณเคยเปิดความลับ Cestui que vie Trust ธนาคารศาลรัฐบาลและเรือนจำทุกคนเข้าถึงความไว้วางใจและผลกำไรนี้อย่างมากจากการดำรงอยู่ของคุณ - ในขณะที่คุณอาศัยอยู่ในความไม่รู้ เมื่อคุณซื้อบ้านรับการปรับออกเงินกู้หรือแม้กระทั่งถูกจับกุมความไว้วางใจของคุณจะจ่ายก่อนและคุณจ่ายอีกครั้ง ชื่อของคุณมีการซื้อขายเหมือนสินค้า แรงงานของคุณเป็นหลักประกัน ชีวิตของคุณคือกระแสรายได้ 🔥คุณไม่ใช่ลูกหนี้ - คุณเป็นสินทรัพย์ และพวกเขาไม่เคยบอกคุณ ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 24 : สร้างกับดัก
    จากเหตุการณ์ไล่ Shah ออกไป การประท้วงรุนแรงลุกลาม ราคาน้ำมันโลกก็พุ่งกระฉูดอีกรอบ เหมือนปี ค.ศ. 1973 แต่อเมริกาแก้ภาวะวิกฤติในรูปแบบใหม่ โดยคำกระซิบของนายเหนือ David Rockefeller และเหล่าสถาบันการเงินผู้ทรงอิทธิพลและ Wall Street บอกให้นาย Paul Volcker ซึ่งเป็นประธาน Fed ขณะนั้น “จัดการ” ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แน่นอนโลกการเงินย่อมมึนเหมือนโดนตีหัว มันไปเอาวิธีแก้เงินเฟ้อ แบบนี้มาจากตำราไหนวะ ทำไมนาย Volcker ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ โปรดอย่าลืมว่านาย Volcker เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission ของพวกโคตรรวย (ถ้าลืมช่วยกลับไปอ่าน ตอน 4 นะครับ)
    มารู้ประวัติเขาสักนิด นาย Volcker เริ่มต้นเป็นเศรษฐกร ตัวเล็ก ๆ ที่ New York Federal Reserve Bank ช่วงปี ค.ศ. 1950 ต้น ๆ หลังทำงานอยู่ประมาณ 5 ปี นาย David Rockefeller ก็บังเอิญเดินเลี้ยวไปเจอ เลยชวนให้มาทำงานที่ Chase Bank ของพรรคโคตรรวย หลังจากนั้นก็หนุนให้นาย Volcker เป็นผู้ช่วยกรรมาธิการด้านการเงิน และเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่กระทรวงการคลังของอเมริกา (เขาสั่งได้จริง ๆ !) ปี ค.ศ. 1965 ก็กลับมาอยู่ที่ Chase กับนาย David ในฐานะผู้ช่วย คราวนี้มาดูแลด้านธุรกิจ ตปท. ให้ เมื่อ Nixon เป็นประธานาธิบดี ฟ้าก็ส่งให้นาย Volcker ขึ้นเป็นใหญ่ ลำดับ 3 ของกระทรวงการคลัง และทำให้เขามีส่วนที่ช่วย “ดำเนินการ” ให้มีการยกเลิกข้อตกลง Bretton Woods ที่ตัดเชือกผูกระหว่างเงินดอลล่าร์กับทองคำ ปี ค.ศ. 1973 เขาได้รับการชวนให้เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission และปี ค.ศ. 1975 เขาก็ได้เป็นประธานของ New York Federal Reserve Bank สาขาที่ทรงอำนาจที่สุดใน 12 สาขา ของ Fed
    ในปี ค.ศ. 1979 ประธานาธิบดี Carter ถูกกระซิบ (อีกแล้ว) ให้ตั้งนาย Arthur Miller ซึ่งเป็นประธานของ Fed ขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ตำแหน่งประธาน Fed ก็เลยว่าง แน่นอน ราชรถมาเกยที่นาย Volcker การชักใยจึงทำได้สะดวกโยธิน ตามแผนของนักเล่นกล
    ปรกติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี แต่จากเหตุวิกฤติเรื่องราคาน้ำมันพุ่ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขึ้นจาก 2% ในช่วงปี ค.ศ. 1970 เป็น 18% ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ผู้ที่รับผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นสูงนี้ คือ ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศในโลกที่ 3
    ประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น Mexico, Brazil, Venezuela, Argentina และหลายประเทศใน อาฟริกา ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชมาจากอังกฤษ ช่วงปี ค.ศ. 1950 และหลายประเทศในแถบเอเซีย ประเทศเหล่านี้มีน้ำมัน แต่ยังต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ เพราะกำลังตั้งตัว เพื่อมาพัฒนาประเทศ เพื่อจะให้มีเศรษฐกิจใกล้เคียงหรือตามทันประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อเกิดภาวะวิกฤติน้ำมันบวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยที่ประเทศพวกนี้ ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ถึงกับท่วมเงินต้น แล้วมันจะไปอยู่รอดได้อย่างไร
    แล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศลูกหนี้เหล่านี้ คงเดากันออก พระเอกใส่เสื้อคลุมยี่ห้อ IMF, World Bank ซึ่งรีบออกโปรแกรมใหม่ เรียกว่า “SAP” (ไปถามอ้ายน้อยดูแล้วกัน ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้งบ้านเรา เราได้ SAP ไปแค่ไหน) คือ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั่นแหละ (Structural Adjustment Programs) SAPs มาพร้อมกับเงื่อนไข 508ประการ (ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย ตอน 14/2 นะครับ ขี้เกียจเขียนซ้ำ เขียนซ้ำก็ช้ำใจซ้ำ !) หลาย ๆ เงื่อนไขที่ SAPs วางแทบจะไม่เป็น เงื่อนไขเกี่ยวกับเงินกู้เลย บางครั้งเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า และที่แย่บางครั้ง เป็นเรื่องกระทบอธิปไตยของประเทศผู้กู้เสียด้วย ผลจากการปฏิบัติการของคุณ SAPs ทำให้ประเทศของโลกที่สาม หรือที่กำลังพัฒนา หยุดการพัฒนาไปโดยปริยาย
    ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 ถึงหลัง ค.ศ. 1990 แต่ก็ยังมีหนี้ท่วมอยู่ ประเทศเหล่านี้ไม่มีทางเลือก เพื่อความอยู่รอดของประเทศ ต้องยอมเปิดประตูให้ผู้ให้กู้ตปท. นักธุรกิจตปท.เข้ามาทึ้งสมบัติในประเทศ
    นี่คือรูปแบบของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้อาวุธยิงถล่มบ้านเมืองให้พังพินาศ แต่ใช้อาวุธทางการเงินที่เราขวนขวาย แสวงหา และตะกายทำตามเพราะนึกว่าจะทำให้เรากลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเขา หารู้ไม่ว่าเครื่องมือและกลไกทางการเงินต่าง ๆ นั้น คือ “กับดัก” สมันน้อยชาติต่าง ๆ ก็พากันเดินเข้าไปสู่กับดักอย่างไม่รู้ตัว ถ้าไม่รู้จักเดินเลี่ยงจากกับดัก หรือหาทางแกะกับดักนี้ให้ออก มันจะกลายเป็นสิ่งที่นำพาให้สมันน้อย ไม่มีอะไรเหลือในประเทศ หรือถึงขั้น อาจไม่เหลือประเทศอยู่ และทั้งหมดที่นักมายากลเขาสร้าง เครื่องมือต่าง ๆ มาดักสมันน้อย ก็เพื่อช่วงชิงน้ำมันและแสดงให้โลกเห็นว่า ใครคือผู้มีอำนาจครองโลกที่แท้จริง นี่คือการแสดงมายากลระดับตั๋วราคาโคตรแพง ! ! !


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 24 : สร้างกับดัก จากเหตุการณ์ไล่ Shah ออกไป การประท้วงรุนแรงลุกลาม ราคาน้ำมันโลกก็พุ่งกระฉูดอีกรอบ เหมือนปี ค.ศ. 1973 แต่อเมริกาแก้ภาวะวิกฤติในรูปแบบใหม่ โดยคำกระซิบของนายเหนือ David Rockefeller และเหล่าสถาบันการเงินผู้ทรงอิทธิพลและ Wall Street บอกให้นาย Paul Volcker ซึ่งเป็นประธาน Fed ขณะนั้น “จัดการ” ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แน่นอนโลกการเงินย่อมมึนเหมือนโดนตีหัว มันไปเอาวิธีแก้เงินเฟ้อ แบบนี้มาจากตำราไหนวะ ทำไมนาย Volcker ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ โปรดอย่าลืมว่านาย Volcker เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission ของพวกโคตรรวย (ถ้าลืมช่วยกลับไปอ่าน ตอน 4 นะครับ) มารู้ประวัติเขาสักนิด นาย Volcker เริ่มต้นเป็นเศรษฐกร ตัวเล็ก ๆ ที่ New York Federal Reserve Bank ช่วงปี ค.ศ. 1950 ต้น ๆ หลังทำงานอยู่ประมาณ 5 ปี นาย David Rockefeller ก็บังเอิญเดินเลี้ยวไปเจอ เลยชวนให้มาทำงานที่ Chase Bank ของพรรคโคตรรวย หลังจากนั้นก็หนุนให้นาย Volcker เป็นผู้ช่วยกรรมาธิการด้านการเงิน และเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่กระทรวงการคลังของอเมริกา (เขาสั่งได้จริง ๆ !) ปี ค.ศ. 1965 ก็กลับมาอยู่ที่ Chase กับนาย David ในฐานะผู้ช่วย คราวนี้มาดูแลด้านธุรกิจ ตปท. ให้ เมื่อ Nixon เป็นประธานาธิบดี ฟ้าก็ส่งให้นาย Volcker ขึ้นเป็นใหญ่ ลำดับ 3 ของกระทรวงการคลัง และทำให้เขามีส่วนที่ช่วย “ดำเนินการ” ให้มีการยกเลิกข้อตกลง Bretton Woods ที่ตัดเชือกผูกระหว่างเงินดอลล่าร์กับทองคำ ปี ค.ศ. 1973 เขาได้รับการชวนให้เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission และปี ค.ศ. 1975 เขาก็ได้เป็นประธานของ New York Federal Reserve Bank สาขาที่ทรงอำนาจที่สุดใน 12 สาขา ของ Fed ในปี ค.ศ. 1979 ประธานาธิบดี Carter ถูกกระซิบ (อีกแล้ว) ให้ตั้งนาย Arthur Miller ซึ่งเป็นประธานของ Fed ขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ตำแหน่งประธาน Fed ก็เลยว่าง แน่นอน ราชรถมาเกยที่นาย Volcker การชักใยจึงทำได้สะดวกโยธิน ตามแผนของนักเล่นกล ปรกติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี แต่จากเหตุวิกฤติเรื่องราคาน้ำมันพุ่ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขึ้นจาก 2% ในช่วงปี ค.ศ. 1970 เป็น 18% ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ผู้ที่รับผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นสูงนี้ คือ ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศในโลกที่ 3 ประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น Mexico, Brazil, Venezuela, Argentina และหลายประเทศใน อาฟริกา ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชมาจากอังกฤษ ช่วงปี ค.ศ. 1950 และหลายประเทศในแถบเอเซีย ประเทศเหล่านี้มีน้ำมัน แต่ยังต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ เพราะกำลังตั้งตัว เพื่อมาพัฒนาประเทศ เพื่อจะให้มีเศรษฐกิจใกล้เคียงหรือตามทันประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อเกิดภาวะวิกฤติน้ำมันบวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยที่ประเทศพวกนี้ ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ถึงกับท่วมเงินต้น แล้วมันจะไปอยู่รอดได้อย่างไร แล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศลูกหนี้เหล่านี้ คงเดากันออก พระเอกใส่เสื้อคลุมยี่ห้อ IMF, World Bank ซึ่งรีบออกโปรแกรมใหม่ เรียกว่า “SAP” (ไปถามอ้ายน้อยดูแล้วกัน ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้งบ้านเรา เราได้ SAP ไปแค่ไหน) คือ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั่นแหละ (Structural Adjustment Programs) SAPs มาพร้อมกับเงื่อนไข 508ประการ (ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย ตอน 14/2 นะครับ ขี้เกียจเขียนซ้ำ เขียนซ้ำก็ช้ำใจซ้ำ !) หลาย ๆ เงื่อนไขที่ SAPs วางแทบจะไม่เป็น เงื่อนไขเกี่ยวกับเงินกู้เลย บางครั้งเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า และที่แย่บางครั้ง เป็นเรื่องกระทบอธิปไตยของประเทศผู้กู้เสียด้วย ผลจากการปฏิบัติการของคุณ SAPs ทำให้ประเทศของโลกที่สาม หรือที่กำลังพัฒนา หยุดการพัฒนาไปโดยปริยาย ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 ถึงหลัง ค.ศ. 1990 แต่ก็ยังมีหนี้ท่วมอยู่ ประเทศเหล่านี้ไม่มีทางเลือก เพื่อความอยู่รอดของประเทศ ต้องยอมเปิดประตูให้ผู้ให้กู้ตปท. นักธุรกิจตปท.เข้ามาทึ้งสมบัติในประเทศ นี่คือรูปแบบของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้อาวุธยิงถล่มบ้านเมืองให้พังพินาศ แต่ใช้อาวุธทางการเงินที่เราขวนขวาย แสวงหา และตะกายทำตามเพราะนึกว่าจะทำให้เรากลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเขา หารู้ไม่ว่าเครื่องมือและกลไกทางการเงินต่าง ๆ นั้น คือ “กับดัก” สมันน้อยชาติต่าง ๆ ก็พากันเดินเข้าไปสู่กับดักอย่างไม่รู้ตัว ถ้าไม่รู้จักเดินเลี่ยงจากกับดัก หรือหาทางแกะกับดักนี้ให้ออก มันจะกลายเป็นสิ่งที่นำพาให้สมันน้อย ไม่มีอะไรเหลือในประเทศ หรือถึงขั้น อาจไม่เหลือประเทศอยู่ และทั้งหมดที่นักมายากลเขาสร้าง เครื่องมือต่าง ๆ มาดักสมันน้อย ก็เพื่อช่วงชิงน้ำมันและแสดงให้โลกเห็นว่า ใครคือผู้มีอำนาจครองโลกที่แท้จริง นี่คือการแสดงมายากลระดับตั๋วราคาโคตรแพง ! ! ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 710 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    เดือนนี้ ธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จะประสบความสำเร็จ เฮงๆ สุดขีด ทำธุรกิจค้าของเก่าวัตถุโบราณ จะได้ ของดีมีราคา มีชื่อเสียง โชคดีมาเยือน (หากมีคนหัวล้านมาเยือนจะทำให้ยิ่งโชคดี) มีข่าวจากแดนไกล จะมี ทรัพย์สมบัติสะสม ได้รับมรดกทรัพย์สมบัติเก่าแก่จากบรรพบุรุษมาแบ่งปัน อีกทั้งลูกหนี้จะกลับมาติดต่อขอ ชำระหนี้ แต่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้ติดคุกติดตะรางได้ หากไปทำสัญญาปกปิดไม่เปิดเผยในที่ๆลับตา ทั้งเจ้าที่ จะทวงถามคำมั่นที่เคยบนบานศาลกล่าวกันไว้ให้แก้บนแล้วก็จะดีขึ้น สุขภาพจะมีปัญหาที่ระบบย่อย เด็กรุ่น จะเจ็บป่วยที่ท้อง ลำไส้ แผ่นหลัง กระดูกสันหลัง แขน ขา นิ้ว สตรีเพศจะป่วยทางจิตสาเหตุจากการเป็นม่าย

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดือนนี้ ธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จะประสบความสำเร็จ เฮงๆ สุดขีด ทำธุรกิจค้าของเก่าวัตถุโบราณ จะได้ ของดีมีราคา มีชื่อเสียง โชคดีมาเยือน (หากมีคนหัวล้านมาเยือนจะทำให้ยิ่งโชคดี) มีข่าวจากแดนไกล จะมี ทรัพย์สมบัติสะสม ได้รับมรดกทรัพย์สมบัติเก่าแก่จากบรรพบุรุษมาแบ่งปัน อีกทั้งลูกหนี้จะกลับมาติดต่อขอ ชำระหนี้ แต่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้ติดคุกติดตะรางได้ หากไปทำสัญญาปกปิดไม่เปิดเผยในที่ๆลับตา ทั้งเจ้าที่ จะทวงถามคำมั่นที่เคยบนบานศาลกล่าวกันไว้ให้แก้บนแล้วก็จะดีขึ้น สุขภาพจะมีปัญหาที่ระบบย่อย เด็กรุ่น จะเจ็บป่วยที่ท้อง ลำไส้ แผ่นหลัง กระดูกสันหลัง แขน ขา นิ้ว สตรีเพศจะป่วยทางจิตสาเหตุจากการเป็นม่าย ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายค้านก็กาก,เตียบันก็โง่ ทหารแดงก็สิ้นคิด ทั้งหมดไม่คิดการใหญ่ ต่อต้านฮุนเซนฮุนมาเนตหรือสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตเลย,แสดงว่าชั่วเลวเหมือนกัน รักษาผลประโยชน์มืดชั่วเลวร่วมกับฮุนเซนฮุนมาเนตเหมือนกัน จึงไม่ให้ค่าใครเราตลอดกษัตริย์เขมรเองที่ไหว้กราบฮุนเซนลงไร้ศักดิ์ศรีไร้เกียรติที่ตราหน้าหัวโขนว่าเป็นกษัตริย์เขมรเลย,สรุปประเทศนี้เหี้ยหมด ประชาชนเป็นเหยื่อของจริง ไม่สามารถลุกขึ้นต่อต้านใดๆได,้เกินความสามารถไปแล้วนั้นเอง,อเมริกามองไม่เห็นถึงความเลวชั่วภายในประเทศเขมรจริงเหรอ,ทรัมป์โดยสายทหารตนรายงานค่าจริงไม่เห็นบ้างเหรอ,ทรัมป์สนับสนุนความไร้มนุษยธรรมหรือไม่,เพียงเพื่อกำจัดเจ้าหนี้ใหญ่ตนแบบจีนของลูกหนี้รายใหญ่แบบอเมริกา,ทรัมป์ทำไมไม่ปล้นเงินยิวอีลิทต่างๆทั่วโลกหรือในอเมริกาตนใช้หนี้ล่ะ,
    ..วิธีสงบสงครามนี้ได้คือเด็ดหัวฮุนเซนและฮุนมาเนตอย่างเดียวแล้วยกเลิกสถานะการเป็นประเทศเขมรทันที,จัดสรรพื้นที่ใหม่ ไทยเอาคืนในส่วนที่เคยเป็นของตนที่ฝรั่งเศสปล้นชิงไปทั้งหมดก็พอที่มีในบันทึกประวัติศาสตร์ให้หอสมุดแห่งชาติเรา,พื้นที่ส่วนที่เหลือแบ่งให้ประเทศลาวได้มีทางออกทะเลเสียที,แบ่งให้เวียดนามที่ทะเลาะกับฮุนเซนมาโดยตลอด,ไทยเอาพื้นที่ชายทะเลที่ติดอ่าวไทยทั้งหมด,ตัดปัญหาตัดตอนในการจะมาทะเลาะกับไทยเรื่องทรัพยากรในอ่าวไทยทั้งหมด,ลาวออกทะเลทางฝั่งฟิลิปปินส์ตรงข้ามบรูไนแทนโซนติดเวียดนามนั้นเอง,ลาวและเวียดนามจะมีพื้นที่เพิ่มมหาศาลทันที.
    ..ยอมรับว่าเขมร สันดานคนเขมรตอนนี้รับไม่ได้จริงๆจะมาในมุกเรียกร้องความเมตตาสงสารก็ตามพอมีกำลังความสามารถมีนั้นนี้ขึ้นมาก็สไตล์เดิมๆมักเนรคุณทรยศหักหลังตลอดเวลา.

    https://youtube.com/shorts/oJPkn6m0-Eg?si=3CAQ8X_BGjQh27gw
    ฝ่ายค้านก็กาก,เตียบันก็โง่ ทหารแดงก็สิ้นคิด ทั้งหมดไม่คิดการใหญ่ ต่อต้านฮุนเซนฮุนมาเนตหรือสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตเลย,แสดงว่าชั่วเลวเหมือนกัน รักษาผลประโยชน์มืดชั่วเลวร่วมกับฮุนเซนฮุนมาเนตเหมือนกัน จึงไม่ให้ค่าใครเราตลอดกษัตริย์เขมรเองที่ไหว้กราบฮุนเซนลงไร้ศักดิ์ศรีไร้เกียรติที่ตราหน้าหัวโขนว่าเป็นกษัตริย์เขมรเลย,สรุปประเทศนี้เหี้ยหมด ประชาชนเป็นเหยื่อของจริง ไม่สามารถลุกขึ้นต่อต้านใดๆได,้เกินความสามารถไปแล้วนั้นเอง,อเมริกามองไม่เห็นถึงความเลวชั่วภายในประเทศเขมรจริงเหรอ,ทรัมป์โดยสายทหารตนรายงานค่าจริงไม่เห็นบ้างเหรอ,ทรัมป์สนับสนุนความไร้มนุษยธรรมหรือไม่,เพียงเพื่อกำจัดเจ้าหนี้ใหญ่ตนแบบจีนของลูกหนี้รายใหญ่แบบอเมริกา,ทรัมป์ทำไมไม่ปล้นเงินยิวอีลิทต่างๆทั่วโลกหรือในอเมริกาตนใช้หนี้ล่ะ, ..วิธีสงบสงครามนี้ได้คือเด็ดหัวฮุนเซนและฮุนมาเนตอย่างเดียวแล้วยกเลิกสถานะการเป็นประเทศเขมรทันที,จัดสรรพื้นที่ใหม่ ไทยเอาคืนในส่วนที่เคยเป็นของตนที่ฝรั่งเศสปล้นชิงไปทั้งหมดก็พอที่มีในบันทึกประวัติศาสตร์ให้หอสมุดแห่งชาติเรา,พื้นที่ส่วนที่เหลือแบ่งให้ประเทศลาวได้มีทางออกทะเลเสียที,แบ่งให้เวียดนามที่ทะเลาะกับฮุนเซนมาโดยตลอด,ไทยเอาพื้นที่ชายทะเลที่ติดอ่าวไทยทั้งหมด,ตัดปัญหาตัดตอนในการจะมาทะเลาะกับไทยเรื่องทรัพยากรในอ่าวไทยทั้งหมด,ลาวออกทะเลทางฝั่งฟิลิปปินส์ตรงข้ามบรูไนแทนโซนติดเวียดนามนั้นเอง,ลาวและเวียดนามจะมีพื้นที่เพิ่มมหาศาลทันที. ..ยอมรับว่าเขมร สันดานคนเขมรตอนนี้รับไม่ได้จริงๆจะมาในมุกเรียกร้องความเมตตาสงสารก็ตามพอมีกำลังความสามารถมีนั้นนี้ขึ้นมาก็สไตล์เดิมๆมักเนรคุณทรยศหักหลังตลอดเวลา. https://youtube.com/shorts/oJPkn6m0-Eg?si=3CAQ8X_BGjQh27gw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า,
    ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป.

    https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า, ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป. https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่น จีน สั่งสอนลูกหนี้ ที่เบ่งพอง
    ทุกประเทศในตะวันออกกลาง จะทำตามไหม

    https://youtu.be/CevzAxas_4U?si=47QRZfHrbcshXp8R
    ญี่ปุ่น จีน สั่งสอนลูกหนี้ ที่เบ่งพอง ทุกประเทศในตะวันออกกลาง จะทำตามไหม https://youtu.be/CevzAxas_4U?si=47QRZfHrbcshXp8R
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.55 : การค้ำประกัน: สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา

    การค้ำประกัน คือสัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ตกลงที่จะผูกพันตนต่อ เจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้แทน ลูกหนี้ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้นั้นได้ตามที่ตกลงกันไว้
    #กฎหมาย #ทนายความ
    ---------------------------------------------
    ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856
    Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...#
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1...
    Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer
    Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    EP.55 : การค้ำประกัน: สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา การค้ำประกัน คือสัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ตกลงที่จะผูกพันตนต่อ เจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้แทน ลูกหนี้ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้นั้นได้ตามที่ตกลงกันไว้ #กฎหมาย #ทนายความ --------------------------------------------- ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856 Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...# Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1... Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.52 : แนวทางที่เจ้าหนี้ควรปฎิบัติ
    เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้
    #กฎหมาย #ทนายความ
    ---------------------------------------------
    ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856
    Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...#
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1...
    Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer
    Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    EP.52 : แนวทางที่เจ้าหนี้ควรปฎิบัติ เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ #กฎหมาย #ทนายความ --------------------------------------------- ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856 Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...# Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1... Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.51 : เจ้าหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
    ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้
    #กฎหมาย #ทนายความ
    ---------------------------------------------
    ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856
    Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...#
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1...
    Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer
    Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    EP.51 : เจ้าหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ #กฎหมาย #ทนายความ --------------------------------------------- ติดตามความรู้ทางกฎหมายจากพวกเราได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=61567000193856 Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...# Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1... Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว

  • มองดูเล่นๆมโนเล่นๆ มากมายหลายมุก แบบธนาคารปล่อยตังให้ลูกน้องตนไปปล่อยกู้นอกระบบนั้นล่ะ,คนเดือดร้อนช่องทางเข้าถึงตัง รัฐรับรู้แต่เพื่อให้ขี้ข้าสนุนตนดำเนินงานสำเร็จจึงไม่ช่วยประชาชนเพิ่มช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกๆให้ประชาชน บีบปิดช่องทางทั้งหมดให้เลือกแค่ช่องเดอะแก๊งตน ตนเองคือรัฐบาลก็ขี้ข้าสมุนรับใช้deep stateข้ามโลก เครือข่ายลูกหลานdeep stateกำลังหาตังส่งไปให้นายใหญ่อีกฝั่งหนึ่งของโลก ลูกร้องขี้ข้าในไทยจึงต้องเขียนกฎหมายสาระพัดช่วยเหลือให้หาแดกชอบด้วยกฎหมายในไทยเช่นยึดทรัพย์จนลูกหนี้หมดเนื้อหมดตัวตามสบาย,ปกติกู้ตังสร้างบ้านซื้อที่ดินสร้างบ้าน ส่งไม่ไหว มันยึดบ้านและที่ดินแปลงนั่นให้จบไม่พอมันยังไปตามยึดอะไรต่อมิอะไรอีกจนลูกหนี้หมดเนื้อหมดตัวทนทุกข์สาหัสในประเทศไทย,ไม่รวมหนี้นอกระบบอีก หนี้จนหัวหมุนนั่งยางก็มี มันบัดสบจริงนะ,
    ..บีบให้วุ่นวายโกลาหลแล้วเสนอทางออกซึ่งพวกมันคือเจ้าของทางออกนั้นและควบคุมได้เบ็ดเสร็จ,เช่นอนาคตฝังชิปในตัวคนไทยทุกๆคน,จากตังกระดาษเป็นตังดิจิดัลสะดวกติดตามการทุจริตมันอ้างพะนะ,แต่เหี้ยมันล่ะคุมระบบมันฟอกตังดิจิดัลจาก20ล้านล้านบาทฟอกแปลงอะไรมาไม่รู้ตีค่าให้เป็น200ล้านล้านบาทตังดิจิดัล,ตังดิจิดัลมันฟอกง่ายจะตายแค่ใครคุมระบบ,จะคีย์ตัวเลขมากแค่ไหนก็ได้เข้าระบบ,ใครเป็นนีโอแบบในหนังthe matrixถูกกำจัดง่ายๆล่ะ,มันอายัดทรัพย์สินดิจิดัลจนหมดสิ้นเรียลไทม์เลย,จะไปไหนกินอะไรเหี้ยสแกนจ่ายตังหมด,มันอายัดตังคุณหมดคุณจะแดกอะไร,ใครช่วยเหลือคุณถูกลงโทษอายัดไปด้วยมันทำไมถึงรู้ก็ฝังชิปในตัวคุณนั้นไงประมวลผลเรียลไทม์ติดตามด้วยgpsดาวเทียมทั่วโลกรอบโลกกล้องซูมจากดาวเทียมเห็นสิวคุณโน้น,กล้องตามถนนหนทางอีกติด5Gตรึมทั่วไทยอีก,
    ..ความโกลาหลวุ่นวายจริงๆมันอยู่ในแผนdeep stateที่ไทยเราก็ได้,เพื่อเป้าหมายหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน,เราต้องเฉลียวในสถานะเหยื่อไว้ด้วยว่าเราอาจตกหลุมมัน.



    ..https://youtube.com/shorts/EuoJeak6_O0?si=lLkJ5tbDrgkKfukA
    มองดูเล่นๆมโนเล่นๆ มากมายหลายมุก แบบธนาคารปล่อยตังให้ลูกน้องตนไปปล่อยกู้นอกระบบนั้นล่ะ,คนเดือดร้อนช่องทางเข้าถึงตัง รัฐรับรู้แต่เพื่อให้ขี้ข้าสนุนตนดำเนินงานสำเร็จจึงไม่ช่วยประชาชนเพิ่มช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกๆให้ประชาชน บีบปิดช่องทางทั้งหมดให้เลือกแค่ช่องเดอะแก๊งตน ตนเองคือรัฐบาลก็ขี้ข้าสมุนรับใช้deep stateข้ามโลก เครือข่ายลูกหลานdeep stateกำลังหาตังส่งไปให้นายใหญ่อีกฝั่งหนึ่งของโลก ลูกร้องขี้ข้าในไทยจึงต้องเขียนกฎหมายสาระพัดช่วยเหลือให้หาแดกชอบด้วยกฎหมายในไทยเช่นยึดทรัพย์จนลูกหนี้หมดเนื้อหมดตัวตามสบาย,ปกติกู้ตังสร้างบ้านซื้อที่ดินสร้างบ้าน ส่งไม่ไหว มันยึดบ้านและที่ดินแปลงนั่นให้จบไม่พอมันยังไปตามยึดอะไรต่อมิอะไรอีกจนลูกหนี้หมดเนื้อหมดตัวทนทุกข์สาหัสในประเทศไทย,ไม่รวมหนี้นอกระบบอีก หนี้จนหัวหมุนนั่งยางก็มี มันบัดสบจริงนะ, ..บีบให้วุ่นวายโกลาหลแล้วเสนอทางออกซึ่งพวกมันคือเจ้าของทางออกนั้นและควบคุมได้เบ็ดเสร็จ,เช่นอนาคตฝังชิปในตัวคนไทยทุกๆคน,จากตังกระดาษเป็นตังดิจิดัลสะดวกติดตามการทุจริตมันอ้างพะนะ,แต่เหี้ยมันล่ะคุมระบบมันฟอกตังดิจิดัลจาก20ล้านล้านบาทฟอกแปลงอะไรมาไม่รู้ตีค่าให้เป็น200ล้านล้านบาทตังดิจิดัล,ตังดิจิดัลมันฟอกง่ายจะตายแค่ใครคุมระบบ,จะคีย์ตัวเลขมากแค่ไหนก็ได้เข้าระบบ,ใครเป็นนีโอแบบในหนังthe matrixถูกกำจัดง่ายๆล่ะ,มันอายัดทรัพย์สินดิจิดัลจนหมดสิ้นเรียลไทม์เลย,จะไปไหนกินอะไรเหี้ยสแกนจ่ายตังหมด,มันอายัดตังคุณหมดคุณจะแดกอะไร,ใครช่วยเหลือคุณถูกลงโทษอายัดไปด้วยมันทำไมถึงรู้ก็ฝังชิปในตัวคุณนั้นไงประมวลผลเรียลไทม์ติดตามด้วยgpsดาวเทียมทั่วโลกรอบโลกกล้องซูมจากดาวเทียมเห็นสิวคุณโน้น,กล้องตามถนนหนทางอีกติด5Gตรึมทั่วไทยอีก, ..ความโกลาหลวุ่นวายจริงๆมันอยู่ในแผนdeep stateที่ไทยเราก็ได้,เพื่อเป้าหมายหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน,เราต้องเฉลียวในสถานะเหยื่อไว้ด้วยว่าเราอาจตกหลุมมัน. ..https://youtube.com/shorts/EuoJeak6_O0?si=lLkJ5tbDrgkKfukA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก,
    ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า.
    ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ.

    ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก, ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า. ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ. ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 800 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก.ล.ต.ลงดาบ “JKN-แอน จักรพงษ์-พิมพ์อุมา” ส่ง DSI ฟันผิดฐานแต่งบัญชี สร้างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ปลอม
    https://www.thai-tai.tv/news/19207/
    ก.ล.ต.ลงดาบ “JKN-แอน จักรพงษ์-พิมพ์อุมา” ส่ง DSI ฟันผิดฐานแต่งบัญชี สร้างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ปลอม https://www.thai-tai.tv/news/19207/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts