• 🤗 เมื่อมี #ถั่วลิสง #น้ำมันมะพร้าว #Mannature และ #น้ําผึ้งแท้ ก็ทำ #เนยถั่วลิสง สิค่ะ ✌️ #หอม #มัน #ไม่หวาน #มีประโยชน์ 👍🏼
    #พอเพียง #พอกินพออยู่ #ทำตามพ่อสอน #ในหลวง #รัชกาลที่๙ #รัชกาลที่๑๐ #บันได๙ขั้น #เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    🤗 เมื่อมี #ถั่วลิสง #น้ำมันมะพร้าว #Mannature และ #น้ําผึ้งแท้ ก็ทำ #เนยถั่วลิสง สิค่ะ ✌️ #หอม #มัน #ไม่หวาน #มีประโยชน์ 👍🏼 #พอเพียง #พอกินพออยู่ #ทำตามพ่อสอน #ในหลวง #รัชกาลที่๙ #รัชกาลที่๑๐ #บันได๙ขั้น #เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง 8 ตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญที่สุด ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัย และ ปรับปรุงมาตรการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

    ตัวชี้วัดเหล่านี้ครอบคลุม การตรวจจับภัยคุกคาม, ความสามารถในการฟื้นตัวจากการโจมตี, การมองเห็นเครือข่ายและระบบ, และการลดความเสี่ยงจากฟิชชิ่ง ซึ่งเป็น ปัจจัยสำคัญในการรักษาความปลอดภัยขององค์กรในยุคดิจิทัล

    ✅ Mean Time to Detect (MTD) – ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจจับภัยคุกคาม
    - ยิ่งตรวจจับได้เร็ว โอกาสที่ผู้โจมตีจะสร้างความเสียหายก็ลดลง

    ✅ Cyber Resilience – ความสามารถในการฟื้นตัวจากการโจมตี
    - ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่ต้องสามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ Network, System, and Endpoint Visibility – การมองเห็นเครือข่ายและระบบ
    - หากไม่มีการมองเห็นที่ดี องค์กรอาจไม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามได้ทันเวลา

    ✅ Goal Question Metric (GQM) – วิธีการวัดผลที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจประสิทธิภาพของระบบ
    - ใช้ในการ ปรับปรุงกระบวนการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

    ✅ Cost Avoidance Ratio (CAR) – อัตราการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายจากภัยคุกคาม
    - เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายในการป้องกันกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

    ✅ Mean Time Between Failures (MTBF) – ระยะเวลาระหว่างความล้มเหลวของระบบ
    - ระบบที่มี MTBF สูง มีความเสถียรและเชื่อถือได้มากกว่า

    ✅ Time to Contain (TTC) – ระยะเวลาที่ใช้ในการควบคุมภัยคุกคาม
    - ยิ่งควบคุมได้เร็ว ความเสียหายก็ลดลง

    ✅ Reduction in Successful Phishing Attempts (RISPA) – การลดจำนวนการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่สำเร็จ
    - แสดงให้เห็นว่า การฝึกอบรมและมาตรการป้องกันมีประสิทธิภาพ

    ‼️ องค์กรต้องใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลแต่ต้องนำไปใช้จริง
    - หากไม่มีการนำไปใช้ ตัวชี้วัดจะไม่มีประโยชน์ในการป้องกันภัยคุกคาม

    ‼️ การพึ่งพาตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยขององค์กร
    - ควรตรวจสอบว่า ตัวชี้วัดเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของระบบรักษาความปลอดภัย

    https://www.csoonline.com/article/3979024/the-8-security-metrics-that-matter-most.html
    บทความนี้กล่าวถึง 8 ตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญที่สุด ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัย และ ปรับปรุงมาตรการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตัวชี้วัดเหล่านี้ครอบคลุม การตรวจจับภัยคุกคาม, ความสามารถในการฟื้นตัวจากการโจมตี, การมองเห็นเครือข่ายและระบบ, และการลดความเสี่ยงจากฟิชชิ่ง ซึ่งเป็น ปัจจัยสำคัญในการรักษาความปลอดภัยขององค์กรในยุคดิจิทัล ✅ Mean Time to Detect (MTD) – ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจจับภัยคุกคาม - ยิ่งตรวจจับได้เร็ว โอกาสที่ผู้โจมตีจะสร้างความเสียหายก็ลดลง ✅ Cyber Resilience – ความสามารถในการฟื้นตัวจากการโจมตี - ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่ต้องสามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ Network, System, and Endpoint Visibility – การมองเห็นเครือข่ายและระบบ - หากไม่มีการมองเห็นที่ดี องค์กรอาจไม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามได้ทันเวลา ✅ Goal Question Metric (GQM) – วิธีการวัดผลที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจประสิทธิภาพของระบบ - ใช้ในการ ปรับปรุงกระบวนการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ✅ Cost Avoidance Ratio (CAR) – อัตราการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายจากภัยคุกคาม - เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายในการป้องกันกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ✅ Mean Time Between Failures (MTBF) – ระยะเวลาระหว่างความล้มเหลวของระบบ - ระบบที่มี MTBF สูง มีความเสถียรและเชื่อถือได้มากกว่า ✅ Time to Contain (TTC) – ระยะเวลาที่ใช้ในการควบคุมภัยคุกคาม - ยิ่งควบคุมได้เร็ว ความเสียหายก็ลดลง ✅ Reduction in Successful Phishing Attempts (RISPA) – การลดจำนวนการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่สำเร็จ - แสดงให้เห็นว่า การฝึกอบรมและมาตรการป้องกันมีประสิทธิภาพ ‼️ องค์กรต้องใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลแต่ต้องนำไปใช้จริง - หากไม่มีการนำไปใช้ ตัวชี้วัดจะไม่มีประโยชน์ในการป้องกันภัยคุกคาม ‼️ การพึ่งพาตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยขององค์กร - ควรตรวจสอบว่า ตัวชี้วัดเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของระบบรักษาความปลอดภัย https://www.csoonline.com/article/3979024/the-8-security-metrics-that-matter-most.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 8 security metrics that matter most
    When it comes to assessing cybersecurity performance, the truth can be found in the numbers. Here are the essential KPIs to measure, monitor, and improve to ensure highly effective cyber operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก
    สัทธรรมลำดับที่ : 981
    ชื่อบทธรรม : -ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=981
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก
    --ภิกษุ ท. ! เรา ไม่กล่าว สำหรับภิกษุทั้งปวง ว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่)
    ที่จะต้องทำด้วยความไม่ประมาท และเราก็ ไม่กล่าว
    สำหรับภิกษุทั้งปวงว่า มีกิจอะไร ๆ ที่ไม่ต้องทำด้วยความไม่ประมาท.

    ก. สำหรับผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเหล่าใด เป็น อรหันต์ขีณาสพ
    http://etipitaka.com/read/pali/13/228/?keywords=อรหนฺโต+ขีณาสวา
    อยู่จบพรหมจรรย์ มีกิจที่ควรทำอันกระทำแล้ว
    มีภาระอันปลงลงแล้ว มีประโยชน์ตนอันตามถึงแล้ว
    มีสัญโญชน์ในภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ;
    +--ภิกษุ ท. ! สำหรับภิาษุเหล่านั้น
    เราไม่กล่าวว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่)
    ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท.
    ข้อนี้เพราะเหตุไร ?
    เพราะเหตุว่า #กิจที่ต้องทำด้วยความไม่ประมาทเธอทำเสร็จแล้ว และ
    เธอเป็นผู้ไม่อาจที่จะเป็นผู้ประมาทได้อีกต่อไป.

    ข. สำหรับผู้ยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! ส่วนภิกษุเหล่าใด เป็น เสขะ
    มีความประสงค์แห่งใจอันยังไม่บรรลุแล้ว ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ
    ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าอยู่;
    +--ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเหล่านั้น เรากล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่)
    ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
    เพราะเหตุว่า ถ้าไฉนท่านผู้มีอายุนี้
    จะเสพอยู่ซึ่งเสนาสนะอันสมควร
    จะคบอยู่ซึ่งกัลยาณมิตร
    จะบ่มอยู่ซึ่งอินทรีย์ทั้งหลาย
    ก็จะทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรยิ่งกว่า
    ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออกบวชจากเรือน
    ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนโดยชอบ
    ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! เรามองเห็นผลแห่งความไม่ประมาท
    ข้อนี้สำหรับภิกษุนี้อยู่ #จึงกล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่)
    ที่เธอนั้นต้องทำด้วยความไม่ประมาท ดังนี้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/178/229.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/178/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๒๒๘/๒๒๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/228/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=981
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=981
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84
    ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก สัทธรรมลำดับที่ : 981 ชื่อบทธรรม : -ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=981 เนื้อความทั้งหมด :- --ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก --ภิกษุ ท. ! เรา ไม่กล่าว สำหรับภิกษุทั้งปวง ว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่จะต้องทำด้วยความไม่ประมาท และเราก็ ไม่กล่าว สำหรับภิกษุทั้งปวงว่า มีกิจอะไร ๆ ที่ไม่ต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ก. สำหรับผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเหล่าใด เป็น อรหันต์ขีณาสพ http://etipitaka.com/read/pali/13/228/?keywords=อรหนฺโต+ขีณาสวา อยู่จบพรหมจรรย์ มีกิจที่ควรทำอันกระทำแล้ว มีภาระอันปลงลงแล้ว มีประโยชน์ตนอันตามถึงแล้ว มีสัญโญชน์ในภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ; +--ภิกษุ ท. ! สำหรับภิาษุเหล่านั้น เราไม่กล่าวว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ข้อนี้เพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า #กิจที่ต้องทำด้วยความไม่ประมาทเธอทำเสร็จแล้ว และ เธอเป็นผู้ไม่อาจที่จะเป็นผู้ประมาทได้อีกต่อไป. ข. สำหรับผู้ยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ --ภิกษุ ท. ! ส่วนภิกษุเหล่าใด เป็น เสขะ มีความประสงค์แห่งใจอันยังไม่บรรลุแล้ว ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าอยู่; +--ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเหล่านั้น เรากล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า ถ้าไฉนท่านผู้มีอายุนี้ จะเสพอยู่ซึ่งเสนาสนะอันสมควร จะคบอยู่ซึ่งกัลยาณมิตร จะบ่มอยู่ซึ่งอินทรีย์ทั้งหลาย ก็จะทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรยิ่งกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออกบวชจากเรือน ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนโดยชอบ ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! เรามองเห็นผลแห่งความไม่ประมาท ข้อนี้สำหรับภิกษุนี้อยู่ #จึงกล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอนั้นต้องทำด้วยความไม่ประมาท ดังนี้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/178/229. http://etipitaka.com/read/thai/13/178/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๒๒๘/๒๒๙. http://etipitaka.com/read/pali/13/228/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=981 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=981 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84 ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก
    -ระบบพรหมจรรย์ทรงแบ่งไว้เป็น ๒ แผนก ภิกษุ ท. ! เรา ไม่กล่าว สำหรับภิกษุทั้งปวง ว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่จะต้องทำด้วยความไม่ประมาท และเราก็ ไม่กล่าว สำหรับภิกษุทั้งปวงว่า มีกิจอะไร ๆ ที่ไม่ต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ก. สำหรับผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว ภิกษุ ท. ! ภิกษุเหล่าใด เป็น อรหันต์ขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ มีกิจที่ควรทำอันกระทำแล้ว มีภาระอันปลงลงแล้ว มีประโยชน์ตนอันตามถึงแล้ว มีสัญโญชน์ในภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ; ภิกษุ ท. ! สำหรับภิาษุเหล่านั้น เราไม่กล่าวว่า ยังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ข้อนี้เพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า กิจที่ต้องทำด้วยความไม่ประมาท เธอทำเสร็จแล้ว และเธอเป็นผู้ไม่อาจที่จะเป็นผู้ประมาทได้อีกต่อไป. ข. สำหรับผู้ยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ภิกษุ ท. ! ส่วนภิกษุเหล่าใด เป็น เสขะ มีความประสงค์แห่งใจอันยังไม่บรรลุแล้ว ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าอยู่; ภิกษุ ท. ! สำหรับภิกษุเหล่านั้น เรากล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอต้องทำด้วยความไม่ประมาท. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า ถ้าไฉนท่านผู้มีอายุนี้ จะเสพอยู่ซึ่งเสนาสนะอันสมควร จะคบอยู่ซึ่งกัลยาณมิตร จะบ่มอยู่ซึ่งอินทรีย์ทั้งหลาย ก็จะทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรยิ่งกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออกบวชจากเรือน ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน โดยชอบ ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! เรามองเห็นผลแห่งความไม่ประมาทข้อนี้ สำหรับภิกษุนี้อยู่ จึงกล่าวว่ายังมีกิจอะไรๆ (เหลืออยู่) ที่เธอนั้นต้องทำด้วยความไม่ประมาท ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้องเจนนี่ชวนทาน…ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา…จะทานเล่น หรือทานเป็นกับข้าวก็ได้ ….🐠🐟🐠 อร่อย สะอาด ถูกหบักอนามัย…ช่วงนี้ขายดี ขายปังมากค้าาาา หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาาาาา … นี่นะ..นึกอะไรไม่ออก หิวก็กิน🤤 ง่วงก็นอน 🛏️🥱…ปลาจิ้งจั้งไม่งา…อาหารทานเล่นที่มีประโยชน์ ได้แคลเซียมทั้งตัว รสชาติดี ทานง่ายๆ เหมาะกับทุกคนในครอบครัวเด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ของทานเล่น ที่ทานแล้วมีประโยชน์คูณสอง… ต้องจานนี้เลยค่าาาา …ดีต่อใจ แถมได้แคลเซียมจากปลาทั้งตัว … แนะนำจานนี้เลยค่าาา ปลาจิ้งจ้างไม่งา … 🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน TikTok (มีราคา Flash Sale !!!!! ⭕️⭕️⭕️✅✅✅): https://vt.tiktok.com/ZSMvkycFt/ปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน Shopee: https://th.shp.ee/AdvUJrZเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาซิวทอด #คือจึ้งมาก #ปลาจิ้งจั้ง #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #LiveOutlandish
    น้องเจนนี่ชวนทาน…ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา…จะทานเล่น หรือทานเป็นกับข้าวก็ได้ ….🐠🐟🐠 อร่อย สะอาด ถูกหบักอนามัย…ช่วงนี้ขายดี ขายปังมากค้าาาา หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาาาาา … นี่นะ..นึกอะไรไม่ออก หิวก็กิน🤤 ง่วงก็นอน 🛏️🥱…ปลาจิ้งจั้งไม่งา…อาหารทานเล่นที่มีประโยชน์ ได้แคลเซียมทั้งตัว รสชาติดี ทานง่ายๆ เหมาะกับทุกคนในครอบครัวเด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ของทานเล่น ที่ทานแล้วมีประโยชน์คูณสอง… ต้องจานนี้เลยค่าาาา …ดีต่อใจ แถมได้แคลเซียมจากปลาทั้งตัว … แนะนำจานนี้เลยค่าาา ปลาจิ้งจ้างไม่งา … 🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน TikTok (มีราคา Flash Sale !!!!! ⭕️⭕️⭕️✅✅✅): https://vt.tiktok.com/ZSMvkycFt/ปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน Shopee: https://th.shp.ee/AdvUJrZเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาซิวทอด #คือจึ้งมาก #ปลาจิ้งจั้ง #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #LiveOutlandish
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้...
    และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้
    .
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ
    .
    พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย
    .
    แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้
    .
    ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์"
    .
    ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ

    ดร.นิว ศุภณัฐ

    การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น
    #ตถาคตภาษิต
    ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้... และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้ . ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ . พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย . แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้ . ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์" . ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ ดร.นิว ศุภณัฐ การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น #ตถาคตภาษิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ปรับปรุง Google Voice ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การโทรสะดวกขึ้น โดยเพิ่ม การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) และ ปรับปรุงอินเทอร์เฟซการโทร ให้ใช้งานง่ายขึ้น

    ฟีเจอร์ Three-way calling ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม ซึ่งมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ เช่น การสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย, หรือ การโอนสายที่ราบรื่นขึ้น ผู้ใช้สามารถเพิ่มบุคคลที่สามได้โดยกดปุ่ม "Add" แล้วเลือก "Merge" เพื่อรวมสาย

    นอกจากนี้ Google Voice ยังได้รับ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet โดยวางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น ปุ่มกดหมายเลข, ปุ่มปิดเสียง, และ ปุ่มโอนสาย

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Three-way calling จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะ ลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier รวมถึงผู้ใช้ที่มี SIP Link Standard และ SIP Link Premier ส่วนอินเทอร์เฟซใหม่จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน

    ✅ การโทรแบบสามสาย (Three-way calling)
    - สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม
    - มีประโยชน์สำหรับการสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย และการโอนสาย

    ✅ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่
    - ปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet
    - วางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น

    ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่
    - Three-way calling เปิดให้ใช้งานเฉพาะลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier
    - อินเทอร์เฟซใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน

    ✅ กำหนดการเปิดตัว
    - เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025
    - อาจใช้เวลามากกว่า 15 วัน กว่าที่ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับการอัปเดต

    https://www.neowin.net/news/google-voice-gets-a-call-interface-makeover-and-three-way-support/
    Google ได้ปรับปรุง Google Voice ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การโทรสะดวกขึ้น โดยเพิ่ม การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) และ ปรับปรุงอินเทอร์เฟซการโทร ให้ใช้งานง่ายขึ้น ฟีเจอร์ Three-way calling ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม ซึ่งมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ เช่น การสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย, หรือ การโอนสายที่ราบรื่นขึ้น ผู้ใช้สามารถเพิ่มบุคคลที่สามได้โดยกดปุ่ม "Add" แล้วเลือก "Merge" เพื่อรวมสาย นอกจากนี้ Google Voice ยังได้รับ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet โดยวางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น ปุ่มกดหมายเลข, ปุ่มปิดเสียง, และ ปุ่มโอนสาย อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Three-way calling จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะ ลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier รวมถึงผู้ใช้ที่มี SIP Link Standard และ SIP Link Premier ส่วนอินเทอร์เฟซใหม่จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน ✅ การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) - สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม - มีประโยชน์สำหรับการสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย และการโอนสาย ✅ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ - ปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet - วางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่ - Three-way calling เปิดให้ใช้งานเฉพาะลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier - อินเทอร์เฟซใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน ✅ กำหนดการเปิดตัว - เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 - อาจใช้เวลามากกว่า 15 วัน กว่าที่ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับการอัปเดต https://www.neowin.net/news/google-voice-gets-a-call-interface-makeover-and-three-way-support/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Voice gets a call interface makeover and three-way support
    Google has shipped an update for its Voice service that brings three-way merging of calls and an updated appearance for the call screen.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชี้เป้าเส้นทางเงิน รู้แน่ใครนอมินี-ฮั้ว : [NEWS UPDATE]

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยถึงการชี้แจงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ในฐานะอดีตผู้ว่า สตง. ปี 2557-2560 มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ตั้งใจหนีปัญหาน้ำท่วม การเดินทางไกลส่วนที่ปรากฏภาพถ่ายกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตึก เป็นขั้นตอนหลังมีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ อิตาเลียนไทย ส่วนไชน่า เรลเวย์ เป็นผู้ร่วมค้า ดูไม่ออกเป็นใครมาในฐานะอะไร หรือสมอ้างมาถ่ายรูป ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง หากไม่มีเหตุอันควรสงสัย อาจไม่เอะใจว่าคนพวกนี้มายืนข้างๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง มีประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ส่วนการตรวจสอบเรื่องนอมินี ขณะนั้นยังไม่มีระเบียบกำหนดว่าต้องตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินี ซึ่งต้องพิสูจน์เส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกัน ถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง ขณะที่เรื่องออกแบบยืนยันไม่เกี่ยวข้อง การออกแบบเกิดขึ้นปี 2561-2562 ทำสัญญาปี 2563-2564 ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง 3-4 ปีแล้ว

    -ผู้ว่า สตง. ต้องพูดความจริง

    -วิศวกรทยอยให้ปากคำ

    -จ่ายเยียวยาไม่มีผลทางคดี

    -นัด"ทักษิณ"ไต่สวนติดคุกจริง?
    ชี้เป้าเส้นทางเงิน รู้แน่ใครนอมินี-ฮั้ว : [NEWS UPDATE] นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยถึงการชี้แจงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ในฐานะอดีตผู้ว่า สตง. ปี 2557-2560 มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ตั้งใจหนีปัญหาน้ำท่วม การเดินทางไกลส่วนที่ปรากฏภาพถ่ายกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตึก เป็นขั้นตอนหลังมีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ อิตาเลียนไทย ส่วนไชน่า เรลเวย์ เป็นผู้ร่วมค้า ดูไม่ออกเป็นใครมาในฐานะอะไร หรือสมอ้างมาถ่ายรูป ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง หากไม่มีเหตุอันควรสงสัย อาจไม่เอะใจว่าคนพวกนี้มายืนข้างๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง มีประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ส่วนการตรวจสอบเรื่องนอมินี ขณะนั้นยังไม่มีระเบียบกำหนดว่าต้องตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินี ซึ่งต้องพิสูจน์เส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกัน ถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง ขณะที่เรื่องออกแบบยืนยันไม่เกี่ยวข้อง การออกแบบเกิดขึ้นปี 2561-2562 ทำสัญญาปี 2563-2564 ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง 3-4 ปีแล้ว -ผู้ว่า สตง. ต้องพูดความจริง -วิศวกรทยอยให้ปากคำ -จ่ายเยียวยาไม่มีผลทางคดี -นัด"ทักษิณ"ไต่สวนติดคุกจริง?
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 684 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • ยอมรับหาที่ดินสร้างตึก สตง.ไม่เกี่ยวข้องการก่อสร้าง : [THE MESSAGE]

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยถึงการชี้แจงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม ในฐานะอดีตผู้ว่า สตง. ปี 2557-2560 มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ตั้งใจหนีปัญหาน้ำท่วม การเดินทางไกลส่วนที่ปรากฏภาพถ่ายร่วมกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างตึก เป็นขั้นตอนหลังจากมีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ อิตาเลียนไทย ส่วนไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น เป็นผู้ร่วมค้า ดูไม่ออกเป็นใคร มาในฐานะอะไร หรือสมอ้างเข้ามาถ่ายรูป ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง หากไม่มีเหตุอันควรสงสัย อาจไม่ได้เอะใจว่าคนพวกนี้จะมายืนข้างๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง มีประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ส่วนการตรวจสอบเรื่องนอมินี ขณะนั้นยังไม่มีระเบียบกำหนดว่าต้องตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินี ซึ่งต้องพิสูจน์เส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกัน ถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง ขณะที่เรื่องออกแบบยืนยันไม่เกี่ยวข้อง
    ยอมรับหาที่ดินสร้างตึก สตง.ไม่เกี่ยวข้องการก่อสร้าง : [THE MESSAGE] นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยถึงการชี้แจงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม ในฐานะอดีตผู้ว่า สตง. ปี 2557-2560 มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ตั้งใจหนีปัญหาน้ำท่วม การเดินทางไกลส่วนที่ปรากฏภาพถ่ายร่วมกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างตึก เป็นขั้นตอนหลังจากมีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ อิตาเลียนไทย ส่วนไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น เป็นผู้ร่วมค้า ดูไม่ออกเป็นใคร มาในฐานะอะไร หรือสมอ้างเข้ามาถ่ายรูป ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง หากไม่มีเหตุอันควรสงสัย อาจไม่ได้เอะใจว่าคนพวกนี้จะมายืนข้างๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง มีประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ส่วนการตรวจสอบเรื่องนอมินี ขณะนั้นยังไม่มีระเบียบกำหนดว่าต้องตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินี ซึ่งต้องพิสูจน์เส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกัน ถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง ขณะที่เรื่องออกแบบยืนยันไม่เกี่ยวข้อง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 674 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • “ท่านปู่ชีวกโกมารภัจจ์”
    • ความจริงเรื่องของท่านไม่หาย แต่ไม่มีใครเขียนต่อ เมื่อเขาเผาศพพระพุทธเจ้าเสร็จ ท่านโกมารภัจจ์ท่านก็เสียใจ ความจริงท่านโกมารภัจจ์ท่านเป็นพระโสดาบันนะ ใช่ไหม เกิดทันใช่ไหม เกิดพร้อมกัน (หัวเราะ) ต่อนะ ท่านโกมารภัจจ์ในเมื่อเขาเผาพระพุทธเจ้าเสร็จ ท่านก็ไม่เข้าบ้าน บอกเราคิดว่าเราจะตายก่อนพระพุทธเจ้า ทีนี้พระพุทธเจ้ามานิพพานก่อนเราเราก็หมดที่พึ่งไม่มีใครสอน ทุกสิ่งทุกอย่างในเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานเสียก่อนแล้ว ก็เหมือนกับเราคนไม่มีอะไรเลย ท่านคิดว่าอย่างนั้นนะ ก็เลยไม่คิดถึงบ้าน ไม่คิดถึงลูก ไม่คิดถึงเมีย ไม่คิดถึงทรัพย์สิน ไม่คิดถึงชีวิต เข้าไปนอนในถ้ำเข้าป่าไปเลย เข้าป่าไปท่านบอกว่าเข้าป่าหวังจะให้มันตายไปเลย ยังมีคนตามไปขอยาอีก ใช่ไหม หมอซะอย่าง ในเมื่อมีคนตามมาขอยา ท่านก็รำคาญ เราเป็นคนไม่มีอะไรแล้วไม่ต้องการทำอะไรทั้งหมด เข้าป่าลึก
    • พอเข้าป่าลึกไปนอนในถ้ำ นอนอย่างเดียวเราจะไม่ลุกจากที่นี้ จะเป็นไงก็ช่างมัน หมายความว่าจะตายก็ตายไปเสียนะ พอตัดสินใจว่ามันจะตายก็ตายตรงนี้ เราจะไม่ลุกไปอีกแล้ว ก็มีเสียงเหมือนแสงฟ้าแลบ แลบแป๊บเดียวก็มีเสียงเหมือนคล้ายฟ้าผ่าเปรี้ยง แล้วก็มีเสียงบอก โกมารภัจจ์ เธอเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหม ท่านก็บอกว่าใช่แล้วก็นอน เดี๋ยวมาเป็นแบบนั้นอยู่สามครั้ง พอครั้งที่สามท่านหลับ ท่านบอกก็เลยหลับสนิทไปเลย ไม่ตื่นต่อไปอีก
    • “อาการตัดสินใจแบบนั้นไม่อาลัยในชีวิตนะ เป็นอารมณ์อรหันต์ นั่นท่านเป็นพระโสดาบันอยู่แล้วนะ ก็เลยเป็นพระอรหันต์นิพพานทันที” แต่ว่าหนังสือแบบเรียนเราไม่มีนะ ต้องหาที่อื่น นี่พูดเรื่องท่านโกมารภัจจ์ให้ฟัง ว่าเรื่องมันหายไปนะ ความจริงท่านไม่หาย ท่านโกมารภัจจ์ทำให้เรามีประโยชน์มากให้รู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นใคร และตระกูลพระพุทธเจ้าเราจะสังเกตได้ว่าชาวกรุงกบิลพัสดุ์นี่รังเกียจคนเผ่าอื่น คือไม่ยอมแต่งงานกับคนเมืองอื่นเลย จะต้องแต่งงานเฉพาะชาวกรุงกบิลพัสดุ์เท่านั้นนะ เราก็อ่านหนังสือแล้วเราคิดว่าคนพวกนี้มีมานะถือตัวมาก แต่ความจริงไม่ใช่หรอก นั่นแขกด้วยกัน แต่ความจริงพระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่แขก ท่านเป็นคนไทย เป็นลูกชาวไทยอาหม ไทยในแขกมีอยู่สองไทย คือ หนึ่ง ไทยอาหม สอง ไทยมะลิวัลย์
    • ไทยอาหมนั่นเขามาถึงอินเดียก่อนไทยมะลิวัลย์ ๑๐๐ ปี ในเมื่อไทยกับแขกมันกินข้าวด้วยกันไม่ไหวแล้ว ไหวไหม ไม่ไหวนะ ทีนี้มาตอนหนึ่งท่านโกมารภัจจ์ท่านลาพระพุทธเจ้ามาที่ทวาราวดี ลามาเที่ยว ๒ ปี แต่ว่าฎีกาจารย์ล่อสิบสองปี นี่มันจะมากไปหน่อย ตอนนั้นก็มาทางเรือนะ อินเดียมาประเทศไทยก็ไม่ไกลนักใช่ไหม เวลากลับไปก็ไปกราบเรียนพระพุทธเจ้าให้ทราบว่าชาวทวาราวดีใช้ภาษาโดด และพูดเพราะมาก คำว่าโดดหมายถึงเดี่ยว
    • อย่างเรากิน เราเรียกว่า ‘กิน’ นะ ของเขา ‘ภุญชะติ’ เรา ‘ไป’ เขา ‘คันตะวา’ นะ ของเราโดดกว่านะ นี่เทียบให้ฟังนะ พระพุทธเจ้าเลยถามว่าชาวทวาราวดีเขาพูดยังไง ลองพูดให้ฟังสักคำสิ พอท่านโกมารกัจจ์พูดให้ฟัง พระพุทธเจ้าก็พูดภาษาทวาราวดี คุยกันสนุกสนาน ก็คุยไปคุยมาคุยสนุกสนาน ต่อมาระหว่างที่คุยท่านโกมารภัจจ์ท่านนึกขึ้นมาว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าย่อมรู้ภาษาทุกภาษา หรือว่าท่านรู้มาจากไหน เลยถามพระพุทธเจ้าว่าการที่พระองค์รู้ภาษาทวาราวดี อาศัยปฏิสัมภิทาญาณหรือรู้มาจากไหน พระพุทธเจ้าบอกว่า ชาวกรุงกบิลพัสดุ์ทั้งหมดใช้ภาษานี้เป็นภาษาพื้นเมือง ใช่ไหม ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าเป็นลูกคนไทย ไทยอาหม

    ================

    จากหนังสือ : ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๕๕ หน้า ๖๐-๖๒
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร)
    ภาพถ่ายสถานที่ : วัดจันทาราม (ท่าซุง)
    “ท่านปู่ชีวกโกมารภัจจ์” • ความจริงเรื่องของท่านไม่หาย แต่ไม่มีใครเขียนต่อ เมื่อเขาเผาศพพระพุทธเจ้าเสร็จ ท่านโกมารภัจจ์ท่านก็เสียใจ ความจริงท่านโกมารภัจจ์ท่านเป็นพระโสดาบันนะ ใช่ไหม เกิดทันใช่ไหม เกิดพร้อมกัน (หัวเราะ) ต่อนะ ท่านโกมารภัจจ์ในเมื่อเขาเผาพระพุทธเจ้าเสร็จ ท่านก็ไม่เข้าบ้าน บอกเราคิดว่าเราจะตายก่อนพระพุทธเจ้า ทีนี้พระพุทธเจ้ามานิพพานก่อนเราเราก็หมดที่พึ่งไม่มีใครสอน ทุกสิ่งทุกอย่างในเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานเสียก่อนแล้ว ก็เหมือนกับเราคนไม่มีอะไรเลย ท่านคิดว่าอย่างนั้นนะ ก็เลยไม่คิดถึงบ้าน ไม่คิดถึงลูก ไม่คิดถึงเมีย ไม่คิดถึงทรัพย์สิน ไม่คิดถึงชีวิต เข้าไปนอนในถ้ำเข้าป่าไปเลย เข้าป่าไปท่านบอกว่าเข้าป่าหวังจะให้มันตายไปเลย ยังมีคนตามไปขอยาอีก ใช่ไหม หมอซะอย่าง ในเมื่อมีคนตามมาขอยา ท่านก็รำคาญ เราเป็นคนไม่มีอะไรแล้วไม่ต้องการทำอะไรทั้งหมด เข้าป่าลึก • พอเข้าป่าลึกไปนอนในถ้ำ นอนอย่างเดียวเราจะไม่ลุกจากที่นี้ จะเป็นไงก็ช่างมัน หมายความว่าจะตายก็ตายไปเสียนะ พอตัดสินใจว่ามันจะตายก็ตายตรงนี้ เราจะไม่ลุกไปอีกแล้ว ก็มีเสียงเหมือนแสงฟ้าแลบ แลบแป๊บเดียวก็มีเสียงเหมือนคล้ายฟ้าผ่าเปรี้ยง แล้วก็มีเสียงบอก โกมารภัจจ์ เธอเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหม ท่านก็บอกว่าใช่แล้วก็นอน เดี๋ยวมาเป็นแบบนั้นอยู่สามครั้ง พอครั้งที่สามท่านหลับ ท่านบอกก็เลยหลับสนิทไปเลย ไม่ตื่นต่อไปอีก • “อาการตัดสินใจแบบนั้นไม่อาลัยในชีวิตนะ เป็นอารมณ์อรหันต์ นั่นท่านเป็นพระโสดาบันอยู่แล้วนะ ก็เลยเป็นพระอรหันต์นิพพานทันที” แต่ว่าหนังสือแบบเรียนเราไม่มีนะ ต้องหาที่อื่น นี่พูดเรื่องท่านโกมารภัจจ์ให้ฟัง ว่าเรื่องมันหายไปนะ ความจริงท่านไม่หาย ท่านโกมารภัจจ์ทำให้เรามีประโยชน์มากให้รู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นใคร และตระกูลพระพุทธเจ้าเราจะสังเกตได้ว่าชาวกรุงกบิลพัสดุ์นี่รังเกียจคนเผ่าอื่น คือไม่ยอมแต่งงานกับคนเมืองอื่นเลย จะต้องแต่งงานเฉพาะชาวกรุงกบิลพัสดุ์เท่านั้นนะ เราก็อ่านหนังสือแล้วเราคิดว่าคนพวกนี้มีมานะถือตัวมาก แต่ความจริงไม่ใช่หรอก นั่นแขกด้วยกัน แต่ความจริงพระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่แขก ท่านเป็นคนไทย เป็นลูกชาวไทยอาหม ไทยในแขกมีอยู่สองไทย คือ หนึ่ง ไทยอาหม สอง ไทยมะลิวัลย์ • ไทยอาหมนั่นเขามาถึงอินเดียก่อนไทยมะลิวัลย์ ๑๐๐ ปี ในเมื่อไทยกับแขกมันกินข้าวด้วยกันไม่ไหวแล้ว ไหวไหม ไม่ไหวนะ ทีนี้มาตอนหนึ่งท่านโกมารภัจจ์ท่านลาพระพุทธเจ้ามาที่ทวาราวดี ลามาเที่ยว ๒ ปี แต่ว่าฎีกาจารย์ล่อสิบสองปี นี่มันจะมากไปหน่อย ตอนนั้นก็มาทางเรือนะ อินเดียมาประเทศไทยก็ไม่ไกลนักใช่ไหม เวลากลับไปก็ไปกราบเรียนพระพุทธเจ้าให้ทราบว่าชาวทวาราวดีใช้ภาษาโดด และพูดเพราะมาก คำว่าโดดหมายถึงเดี่ยว • อย่างเรากิน เราเรียกว่า ‘กิน’ นะ ของเขา ‘ภุญชะติ’ เรา ‘ไป’ เขา ‘คันตะวา’ นะ ของเราโดดกว่านะ นี่เทียบให้ฟังนะ พระพุทธเจ้าเลยถามว่าชาวทวาราวดีเขาพูดยังไง ลองพูดให้ฟังสักคำสิ พอท่านโกมารกัจจ์พูดให้ฟัง พระพุทธเจ้าก็พูดภาษาทวาราวดี คุยกันสนุกสนาน ก็คุยไปคุยมาคุยสนุกสนาน ต่อมาระหว่างที่คุยท่านโกมารภัจจ์ท่านนึกขึ้นมาว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าย่อมรู้ภาษาทุกภาษา หรือว่าท่านรู้มาจากไหน เลยถามพระพุทธเจ้าว่าการที่พระองค์รู้ภาษาทวาราวดี อาศัยปฏิสัมภิทาญาณหรือรู้มาจากไหน พระพุทธเจ้าบอกว่า ชาวกรุงกบิลพัสดุ์ทั้งหมดใช้ภาษานี้เป็นภาษาพื้นเมือง ใช่ไหม ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าเป็นลูกคนไทย ไทยอาหม ================ จากหนังสือ : ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๕๕ หน้า ๖๐-๖๒ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) ภาพถ่ายสถานที่ : วัดจันทาราม (ท่าซุง)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥BQQQQQQM💥 กราไฟต์แม่เหล็กที่พบในวัคซีน - หลักฐาน

    กราไฟต์ (/ˈɡræfˌaɪt/) ซึ่งเรียกกันในสมัยโบราณว่าพลัมเบโก เป็นธาตุคาร์บอนที่มีรูปแบบผลึก โดยอะตอมของมันจะเรียงตัวกันเป็นโครงสร้างหกเหลี่ยม กราไฟต์พบได้ตามธรรมชาติในรูปแบบนี้ และเป็นคาร์บอนที่มีความเสถียรที่สุดภายใต้สภาวะมาตรฐาน เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดันและอุณหภูมิสูง กราไฟต์จะเปลี่ยนเป็นเพชร กราไฟต์ใช้ในดินสอและน้ำมันหล่อลื่น กราไฟต์เป็นตัวนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดี การนำไฟฟ้าได้ดีทำให้กราไฟต์มีประโยชน์ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น อิเล็กโทรด แบตเตอรี่ และแผงโซลาร์เซลล์

    ..กราฟีน สังหารคนฉีดมันเข้าไปได้หลายลักษณะ,พื้นๆวูบตายก็มันนี้ล่ะ.
    ..ปัจจุบัน อย.ไทยเราทำหน้าที่สมฐานะจริงแค่ไหน ปะปนกับทุกๆวัคซีนแล้วหรือไม่โดยเฉพาะรุ่นmRNAทั้งหมดหรือรุ่นธรรมดาพื้นๆแบบยาชาพวกถอนฟันล่ะตัวดี.
    💥BQQQQQQM💥 กราไฟต์แม่เหล็กที่พบในวัคซีน - หลักฐาน กราไฟต์ (/ˈɡræfˌaɪt/) ซึ่งเรียกกันในสมัยโบราณว่าพลัมเบโก เป็นธาตุคาร์บอนที่มีรูปแบบผลึก โดยอะตอมของมันจะเรียงตัวกันเป็นโครงสร้างหกเหลี่ยม กราไฟต์พบได้ตามธรรมชาติในรูปแบบนี้ และเป็นคาร์บอนที่มีความเสถียรที่สุดภายใต้สภาวะมาตรฐาน เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดันและอุณหภูมิสูง กราไฟต์จะเปลี่ยนเป็นเพชร กราไฟต์ใช้ในดินสอและน้ำมันหล่อลื่น กราไฟต์เป็นตัวนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดี การนำไฟฟ้าได้ดีทำให้กราไฟต์มีประโยชน์ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น อิเล็กโทรด แบตเตอรี่ และแผงโซลาร์เซลล์ ..กราฟีน สังหารคนฉีดมันเข้าไปได้หลายลักษณะ,พื้นๆวูบตายก็มันนี้ล่ะ. ..ปัจจุบัน อย.ไทยเราทำหน้าที่สมฐานะจริงแค่ไหน ปะปนกับทุกๆวัคซีนแล้วหรือไม่โดยเฉพาะรุ่นmRNAทั้งหมดหรือรุ่นธรรมดาพื้นๆแบบยาชาพวกถอนฟันล่ะตัวดี.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการติดตั้ง Tiny11 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ลดขนาดของ Windows 11 บน iPad Air M2 โดยใช้การจำลองระบบผ่าน UTM (Universal Turing Machine) แม้ว่าการติดตั้งนี้จะเป็นไปได้ แต่ประสิทธิภาพที่ได้ยังคงต่ำมาก เช่น การรอให้เดสก์ท็อปปรากฏใช้เวลามากกว่าหนึ่งนาทีครึ่ง การทดลองนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Tiny11 ในการทำงานบนอุปกรณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ยังไม่มีประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ

    ✅ การติดตั้ง Tiny11 บน iPad Air M2
    - ใช้เวอร์ชัน Arm64 ของ Tiny11 ซึ่งเป็น Windows 11 ที่ลดขนาด
    - การติดตั้งผ่าน UTM ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองระบบ

    ✅ ประสิทธิภาพของ Tiny11 บน iPad Air M2
    - การทำงานของระบบยังคงช้า เช่น การเปิด Task Manager และ Settings
    - การทำงานดีกว่าการติดตั้งบน iPhone 15 Pro ที่เคยใช้เวลาบูตถึง 20 นาที

    ✅ ความน่าสนใจของ Tiny11
    - Tiny11 เป็น Windows 11 ที่ลดขนาดและเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัด
    - มีเวอร์ชันที่ลดขนาดถึง 100MB และสามารถติดตั้งบน Raspberry Pi

    ✅ การทดลองที่แสดงถึงความเป็นไปได้
    - การติดตั้งนี้เป็นการทดลองเพื่อแสดงความสามารถของ Tiny11
    - ไม่มีประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ เช่นเดียวกับการเล่น Doom บนแปรงสีฟัน

    https://www.techradar.com/computing/windows/tiny11-strikes-again-as-bloat-free-version-of-windows-11-is-demonstrated-running-on-apples-ipad-air-but-dont-try-this-at-home
    บทความนี้กล่าวถึงการติดตั้ง Tiny11 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ลดขนาดของ Windows 11 บน iPad Air M2 โดยใช้การจำลองระบบผ่าน UTM (Universal Turing Machine) แม้ว่าการติดตั้งนี้จะเป็นไปได้ แต่ประสิทธิภาพที่ได้ยังคงต่ำมาก เช่น การรอให้เดสก์ท็อปปรากฏใช้เวลามากกว่าหนึ่งนาทีครึ่ง การทดลองนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Tiny11 ในการทำงานบนอุปกรณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ยังไม่มีประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ ✅ การติดตั้ง Tiny11 บน iPad Air M2 - ใช้เวอร์ชัน Arm64 ของ Tiny11 ซึ่งเป็น Windows 11 ที่ลดขนาด - การติดตั้งผ่าน UTM ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองระบบ ✅ ประสิทธิภาพของ Tiny11 บน iPad Air M2 - การทำงานของระบบยังคงช้า เช่น การเปิด Task Manager และ Settings - การทำงานดีกว่าการติดตั้งบน iPhone 15 Pro ที่เคยใช้เวลาบูตถึง 20 นาที ✅ ความน่าสนใจของ Tiny11 - Tiny11 เป็น Windows 11 ที่ลดขนาดและเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัด - มีเวอร์ชันที่ลดขนาดถึง 100MB และสามารถติดตั้งบน Raspberry Pi ✅ การทดลองที่แสดงถึงความเป็นไปได้ - การติดตั้งนี้เป็นการทดลองเพื่อแสดงความสามารถของ Tiny11 - ไม่มีประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ เช่นเดียวกับการเล่น Doom บนแปรงสีฟัน https://www.techradar.com/computing/windows/tiny11-strikes-again-as-bloat-free-version-of-windows-11-is-demonstrated-running-on-apples-ipad-air-but-dont-try-this-at-home
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ส่วนเกินของความเครียด” ซึ่งเป็นตัวถ่วงสำคัญที่ทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นภูเขา และทำให้ชีวิตหมุนวนในทุกข์โดยไม่จำเป็น

    ---

    1. จุดเริ่มของทุกข์คือ “เครียดก่อนคิด”

    > “ยังไม่ทันแก้ปัญหา แต่ใจด่วนตกอยู่ในความเครียด นี่คือทุกข์ส่วนเกินที่ไม่มีประโยชน์”

    ธรรมะประโยคนี้พาเรารู้ว่า

    เครียดไม่ใช่สิ่งผิดเสมอไป

    แต่ เครียดก่อนคิด = เครียดฟรี และสร้าง “ภาพหลอน” ให้ปัญหาดูหนักกว่าความเป็นจริง

    > ธรรมะสำคัญ:
    “คิดหนึ่ง แต่เครียดเก้า” = ใช้พลังงานจิตไปกับความฟุ้งซ่านแทนการแก้ไข

    ---

    2. ส่วนเกินอยู่ที่ไหน? เริ่มหาจากกายก่อนใจ

    > “ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวคิ้ว คือจุดสังเกต ‘กายสะท้อนใจ’ อย่างชัดเจน”

    หลักเจริญสติ:

    สังเกตอาการทางกาย เช่น ขมวดคิ้ว กำมือ เกร็งเท้า

    คือร่องรอยของ อารมณ์ที่ยังไม่รู้ตัว

    > การ “รู้” แล้ว “คลาย” คือการ ตัดตอนพลังลบทางกายและใจ
    เหมือนปลดเบรกมือออกก่อนจะออกรถ

    ---

    3. ฝึกเฝ้าสังเกต = ฝึกใจให้กลับสู่ความสงบ

    วิธีปฏิบัติที่แนะนำ:

    1. สังเกตจุดเครียดประจำกาย เช่น หัวคิ้ว – ฝ่ามือ – ไหล่

    2. รู้ทันและคลายทันที – ไม่ดึงยาว

    3. ดูผลกระทบ ว่าเมื่อคลายกาย ใจเบาขึ้นไหม

    4. ดูต่อว่าใจเบาเพราะหนีปัญหา หรือพร้อมเผชิญด้วยสติ

    > นี่คือสติที่ “ละเอียด” และ “ใช้งานจริง” ได้ในทุกวัน

    ---

    4. ผลลัพธ์: เย็นก่อน จึงเห็นก่อน และจึงแก้ได้จริง

    เมื่อเย็น → จิตไม่ถูกผลักด้วยโทสะ

    เมื่อไม่รีบโกรธ → ใจยังกล้าเผชิญโดยไม่สั่นไหว

    เมื่อใจยังสงบแม้อยู่ในความวุ่นวาย → ชีวิตจะค่อยๆ เป็นระเบียบจากภายใน

    > ธรรมะสั้น:
    “จิตที่สงบในปัญหา = จิตที่ปลอดภัยจากการหลงทาง”

    ---

    5. สรุปใจกลางธรรมะในบทความนี้

    ทุกข์ส่วนเกินมาจาก “ความคิดปนเครียดก่อนมีสติ”

    “กาย” คือกระจกสะท้อนความฟุ้งซ่านที่ไวที่สุด

    การฝึกคลายกาย คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูใจ

    ความสงบไม่ใช่สิ่งไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ “ลืมใช้มานาน”

    ความเย็นคือภาวะพื้นฐานเดิมแท้ของจิตที่ยังไม่ถูกครอบด้วยกิเลส

    ---

    คำคมธรรมะจากบทความ (พร้อมใช้ในโพสต์หรือหนังสือ)

    “เครียดก่อนคิด คือทุกข์ที่เกิดโดยไม่จำเป็น”

    “ขมวดคิ้วแน่นเท่าไร ใจก็มัวเท่านั้น”

    “ปล่อยส่วนเกิน คือคืนพื้นที่ใจให้ปัญญาได้ทำงาน”

    “เมื่อคลายกาย ใจจึงพร้อมจะกล้าเผชิญ”

    “ความเย็นเคยอยู่ในใจคุณ เพียงแต่ไม่ได้ใช้มานาน”
    “ส่วนเกินของความเครียด” ซึ่งเป็นตัวถ่วงสำคัญที่ทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นภูเขา และทำให้ชีวิตหมุนวนในทุกข์โดยไม่จำเป็น --- 1. จุดเริ่มของทุกข์คือ “เครียดก่อนคิด” > “ยังไม่ทันแก้ปัญหา แต่ใจด่วนตกอยู่ในความเครียด นี่คือทุกข์ส่วนเกินที่ไม่มีประโยชน์” ธรรมะประโยคนี้พาเรารู้ว่า เครียดไม่ใช่สิ่งผิดเสมอไป แต่ เครียดก่อนคิด = เครียดฟรี และสร้าง “ภาพหลอน” ให้ปัญหาดูหนักกว่าความเป็นจริง > ธรรมะสำคัญ: “คิดหนึ่ง แต่เครียดเก้า” = ใช้พลังงานจิตไปกับความฟุ้งซ่านแทนการแก้ไข --- 2. ส่วนเกินอยู่ที่ไหน? เริ่มหาจากกายก่อนใจ > “ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวคิ้ว คือจุดสังเกต ‘กายสะท้อนใจ’ อย่างชัดเจน” หลักเจริญสติ: สังเกตอาการทางกาย เช่น ขมวดคิ้ว กำมือ เกร็งเท้า คือร่องรอยของ อารมณ์ที่ยังไม่รู้ตัว > การ “รู้” แล้ว “คลาย” คือการ ตัดตอนพลังลบทางกายและใจ เหมือนปลดเบรกมือออกก่อนจะออกรถ --- 3. ฝึกเฝ้าสังเกต = ฝึกใจให้กลับสู่ความสงบ วิธีปฏิบัติที่แนะนำ: 1. สังเกตจุดเครียดประจำกาย เช่น หัวคิ้ว – ฝ่ามือ – ไหล่ 2. รู้ทันและคลายทันที – ไม่ดึงยาว 3. ดูผลกระทบ ว่าเมื่อคลายกาย ใจเบาขึ้นไหม 4. ดูต่อว่าใจเบาเพราะหนีปัญหา หรือพร้อมเผชิญด้วยสติ > นี่คือสติที่ “ละเอียด” และ “ใช้งานจริง” ได้ในทุกวัน --- 4. ผลลัพธ์: เย็นก่อน จึงเห็นก่อน และจึงแก้ได้จริง เมื่อเย็น → จิตไม่ถูกผลักด้วยโทสะ เมื่อไม่รีบโกรธ → ใจยังกล้าเผชิญโดยไม่สั่นไหว เมื่อใจยังสงบแม้อยู่ในความวุ่นวาย → ชีวิตจะค่อยๆ เป็นระเบียบจากภายใน > ธรรมะสั้น: “จิตที่สงบในปัญหา = จิตที่ปลอดภัยจากการหลงทาง” --- 5. สรุปใจกลางธรรมะในบทความนี้ ทุกข์ส่วนเกินมาจาก “ความคิดปนเครียดก่อนมีสติ” “กาย” คือกระจกสะท้อนความฟุ้งซ่านที่ไวที่สุด การฝึกคลายกาย คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูใจ ความสงบไม่ใช่สิ่งไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ “ลืมใช้มานาน” ความเย็นคือภาวะพื้นฐานเดิมแท้ของจิตที่ยังไม่ถูกครอบด้วยกิเลส --- คำคมธรรมะจากบทความ (พร้อมใช้ในโพสต์หรือหนังสือ) “เครียดก่อนคิด คือทุกข์ที่เกิดโดยไม่จำเป็น” “ขมวดคิ้วแน่นเท่าไร ใจก็มัวเท่านั้น” “ปล่อยส่วนเกิน คือคืนพื้นที่ใจให้ปัญญาได้ทำงาน” “เมื่อคลายกาย ใจจึงพร้อมจะกล้าเผชิญ” “ความเย็นเคยอยู่ในใจคุณ เพียงแต่ไม่ได้ใช้มานาน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมัตตะในนามว่าอริยมรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 969
    ชื่อบทธรรม :- สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=969
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่งธรรมอันป็นอริยมรรค และ
    ธรรมอันเป็น อนริยมรรค แก่พวกเธอ. เธอทั้งหลายจงฟัง.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/262/?keywords=อริย+อนริโย
    --ภิกษุ ท. ! อนริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ
    (มิจฉาปัญญา)​มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ
    (มิจฉาสีลา)​มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ
    (มิจฉาสมาธิ)​มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ
    มิจฉาญาณะ
    มิจฉาวิมุตติ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า #อนริยมรรค.
    --ภิกษุ ท. ! อริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ
    (สัมมาปัญญา)​สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    (สัมมาสีลา)​สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    (สัมมาสมาธิ)​สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
    สัมมาญาณะ
    สัมมาวิมุตติ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า #อริยมรรค.-

    (ในพระบาลีข้างบนนี้ ทรงแสดง
    สัมมัตตะสิบและมิจฉัตตะสิบ ว่าเป็นอริยมรรคและ อนริยมรรค.
    ในบาลีแห่งอื่นๆ แสดงเป็นคู่ ๆ แปลกออกไปอีก
    คือในสูตรอื่น ๆ ทรงเรียกชื่อของธรรมหมวดนี้ว่า
    สุกกมรรค - กัณหมรรค ก็มี,
    เป็นสาธุธรรม - อสาธุธรรม,
    อริยมรรค - อนริยมรรค,
    กุศลธรรม - อกุศลธรรม,
    ธรรมมีประโยชน์ - ธรรมไม่มีประโยชน์,
    เป็นธรรม - เป็นอธรรม,
    ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ - เป็นไปเพื่ออาสวะ,
    เป็นธรรมไม่มีโทษ - เป็นธรรมมีโทษ,
    เป็นธรรมไม่แผดเผา - เป็นธรรมแผดเผา,
    ไม่เป็นเครื่องสั่งสมกิเลส - เป็นเครื่องสั่งสมกิเลส,
    มีสุขเป็นกำไร - มีทุกข์เป็นกำไร,
    มีสุขเป็นผลตอบแทน - มีทุกข์เป็นผลตอบแทน,
    เป็นธรรมทำความสงบ - ไม่เป็นธรรมทำความสงบ,
    เป็นธรรมของสัตบุรุษ -ไม่เป็นธรรมของสัตบุรุษ,
    ธรรมที่ควรทำให้เกิดขึ้น - ธรรมที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น,
    ธรรมที่ควรเสพ - ธรรมที่ไม่ควรเสพ,
    ธรรมที่ควรเจริญ - ธรรมที่ไม่ควรเจริญ,
    ธรรมที่ควรทำให้มาก - ธรรมที่ไม่ควรทำให้มาก,
    ธรรมที่ควรระลึกถึง - ธรรมที่ไม่ควรระลึกถึง,
    ธรรมที่ควรทำให้แจ้ง - ธรรมที่ไม่ควรทำให้แจ้ง,
    ดังนี้ก็มี.
    --- ๒๔/๒๕๘ - ๒๖๕/๑๓๔ - ๑๕๔
    http://etipitaka.com/read/pali/24/258/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%94 -​ http://etipitaka.com/read/pali/24/265/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%94
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/218/145 - 146.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/218/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๖๒/๑๔๕ - ๑๔๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/262/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=969
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=969
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
    ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมัตตะในนามว่าอริยมรรค สัทธรรมลำดับที่ : 969 ชื่อบทธรรม :- สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=969 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่งธรรมอันป็นอริยมรรค และ ธรรมอันเป็น อนริยมรรค แก่พวกเธอ. เธอทั้งหลายจงฟัง. http://etipitaka.com/read/pali/24/262/?keywords=อริย+อนริโย --ภิกษุ ท. ! อนริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ (มิจฉาปัญญา)​มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ (มิจฉาสีลา)​มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ (มิจฉาสมาธิ)​มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า #อนริยมรรค. --ภิกษุ ท. ! อริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ (สัมมาปัญญา)​สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ (สัมมาสีลา)​สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ (สัมมาสมาธิ)​สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า #อริยมรรค.- (ในพระบาลีข้างบนนี้ ทรงแสดง สัมมัตตะสิบและมิจฉัตตะสิบ ว่าเป็นอริยมรรคและ อนริยมรรค. ในบาลีแห่งอื่นๆ แสดงเป็นคู่ ๆ แปลกออกไปอีก คือในสูตรอื่น ๆ ทรงเรียกชื่อของธรรมหมวดนี้ว่า สุกกมรรค - กัณหมรรค ก็มี, เป็นสาธุธรรม - อสาธุธรรม, อริยมรรค - อนริยมรรค, กุศลธรรม - อกุศลธรรม, ธรรมมีประโยชน์ - ธรรมไม่มีประโยชน์, เป็นธรรม - เป็นอธรรม, ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ - เป็นไปเพื่ออาสวะ, เป็นธรรมไม่มีโทษ - เป็นธรรมมีโทษ, เป็นธรรมไม่แผดเผา - เป็นธรรมแผดเผา, ไม่เป็นเครื่องสั่งสมกิเลส - เป็นเครื่องสั่งสมกิเลส, มีสุขเป็นกำไร - มีทุกข์เป็นกำไร, มีสุขเป็นผลตอบแทน - มีทุกข์เป็นผลตอบแทน, เป็นธรรมทำความสงบ - ไม่เป็นธรรมทำความสงบ, เป็นธรรมของสัตบุรุษ -ไม่เป็นธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมที่ควรทำให้เกิดขึ้น - ธรรมที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น, ธรรมที่ควรเสพ - ธรรมที่ไม่ควรเสพ, ธรรมที่ควรเจริญ - ธรรมที่ไม่ควรเจริญ, ธรรมที่ควรทำให้มาก - ธรรมที่ไม่ควรทำให้มาก, ธรรมที่ควรระลึกถึง - ธรรมที่ไม่ควรระลึกถึง, ธรรมที่ควรทำให้แจ้ง - ธรรมที่ไม่ควรทำให้แจ้ง, ดังนี้ก็มี. --- ๒๔/๒๕๘ - ๒๖๕/๑๓๔ - ๑๕๔ http://etipitaka.com/read/pali/24/258/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%94 -​ http://etipitaka.com/read/pali/24/265/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%94 ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/218/145 - 146. http://etipitaka.com/read/thai/24/218/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๖๒/๑๔๕ - ๑๔๖. http://etipitaka.com/read/pali/24/262/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=969 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=969 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค
    -[สูตรข้างบนนี้ ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรค ว่าสัมมาปฏิปทา ; ในสูตรอื่น (๑๙/๒๘/๘๙ - ๙๑) ตรัสเรียกว่า สัมมาปฏิบัติ ก็มี. อนึ่ง สูตรข้างบนนั้นตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรค ว่า สัมมาปฏิทา ในสูตรบางแห่ง (นิทาน.สํ. ๑๖/๕/๑๙ - ๒๑) ตรัสเรียก ปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร ว่าเป็นสัมมาปฏิปทา ก็มี. (ตรัสเรียกปฏิจจสมุปบาทนิโรธวาร ว่า ทุกขนิโรธอริยสัจ ก็มี - ติก. อํ. ๒๐/๒๒๗/๔๐๑).เป็นอันว่า ทั้งอริยอัฏฐังคิกมรรค และปฏิจจสมุปบาทนิโรธวาร ต่างก็เป็นสัมมาปฏิปทาด้วยกัน ; ควรที่นักศึกษาจะสนใจอย่างยิ่ง]. สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่งธรรมอันป็นอริยมรรค และธรรมอันเป็น อนริยมรรค แก่พวกเธอ. เธอทั้งหลายจงฟัง. ภิกษุ ท. ! อนริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า อนริยมรรค. ภิกษุ ท. ! อริยมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า อริยมรรค.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✴️ความเชื่อที่ผิดในสังคมไทย
    1. ทุกคนเมื่อยามแก่ จะต้องทรุดโทรม ต้องป่วยเหมือนๆกัน
    2. สุขภาพจะดีได้ ต้องอาศัยการทาน “ยาวิเศษ” ตั้งแต่สมุนไพร “overclaimed” ไปจนสารอ่อนไวที่ไปประโคมฉีดเข้าเส้น โดยไม่ศึกษากันก่อน

    ข้อแรกผิดยังไง?
    ผมอายุ 52 ปี แต่มี Biological ageing ต่ำกว่าคนอายุ 30 ปลายๆ ที่ไม่ออกกำลังกาย ทาน fast food เยอะ ทานเหล้าเบียร์สม่ำเสมอ รวมถึงนอน ตี 1 ตี 3 ประจำ

    ความเสื่อมถอยของสุขภาพนั้น
    1. อายุเป็นเพียงปัจจัย 1 ปัจจัย
    2. อีก 4 ปัจจัยสำคัญคือ
    การออกกำลังกาย (cardio และ weight training), การทาน (และไม่ทาน) อะไร, การจัดการความเครียด และการนอน
    เราจึงเริ่มเห็นคนอายุ 55 ปี ที่แข็งแรงกว่าคนอายุ 35 ปีที่ตามใจปาก ไม่ออกกำลังกาย นอนดึกเสมอ
    และคนอายุ 55 ปีนี้ตอนอายุ 70 จะยังวิ่งออกกำลังกายได้ แต่คนอายุ 35 คนนี้ตอนอายุเพียง 50 อาจเป็นเบาหวาน ความดัน เหนื่อยง่าย ป่วยเก่ง

    ข้อสองผิดยังไง?
    ของวิเศษในโลกใบนี้ จะอาหารเสริมให้ปึ๋งปั๋ง อาหารเสริมลดความดัน รวมถึงวิตามินเทพ พิสูจน์แล้วว่าให้ผลได้เพียงสั้นๆ เพราะไปลดปัญหาที่ปลายเหตุ
    แต่ต้นเหตุของการเจ็บป่วยหลักๆของเราอยู่ที่เพียง 4 ข้อ
    1. การ degrade ตามอายุ และสิ่งแวดล้อม (เช่น PM2.5, ควันดำดีเซล, เครื่องสำอางค์)
    2. Mitochondria เสื่อมตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นสูบบุหรี่ กินเหล้า ทานหวานจัด นอนดึกหลังเที่ยงคืนซ้ำๆ
    3. ภาวะการพร่องจุลินทรีย์ดีหลายสายพันธุ์ในร่างกาย
    4. และการอักเสบ
    ดังนั้น “ยาวิเศษ” เป็นได้แค่ “ของเสริม” ให้กับ ”ของหลัก“ ที่ได้แก่
    การออกกำลังกายทั้ง cardio & weight training
    อาหารดี มีประโยชน์ จากธรรมชาติ ไร้ fast food/ultra processed food
    การจัดการความเครียด
    และการนอนให้มีคุณภาพดี

    ดังนั้น
    ความเร็วของการแก่ ป่วย เสื่อม ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน
    และ
    Supplement คือ Supplement ให้ทานเมื่อขาด แต่ไม่ใช่ใช้เป็น “หลัก” ในการการดูแลสุขภาพ
    คนอเมริกันเป็น 1 ในชาติที่ทาน supplement สูงที่สุดในโลก แต่อายุเฉลี่ยนอกจากไม่เพิ่ม กลับมีสั้นลงด้วย
    ✴️ความเชื่อที่ผิดในสังคมไทย 1. ทุกคนเมื่อยามแก่ จะต้องทรุดโทรม ต้องป่วยเหมือนๆกัน 2. สุขภาพจะดีได้ ต้องอาศัยการทาน “ยาวิเศษ” ตั้งแต่สมุนไพร “overclaimed” ไปจนสารอ่อนไวที่ไปประโคมฉีดเข้าเส้น โดยไม่ศึกษากันก่อน ข้อแรกผิดยังไง? ผมอายุ 52 ปี แต่มี Biological ageing ต่ำกว่าคนอายุ 30 ปลายๆ ที่ไม่ออกกำลังกาย ทาน fast food เยอะ ทานเหล้าเบียร์สม่ำเสมอ รวมถึงนอน ตี 1 ตี 3 ประจำ ความเสื่อมถอยของสุขภาพนั้น 1. อายุเป็นเพียงปัจจัย 1 ปัจจัย 2. อีก 4 ปัจจัยสำคัญคือ การออกกำลังกาย (cardio และ weight training), การทาน (และไม่ทาน) อะไร, การจัดการความเครียด และการนอน เราจึงเริ่มเห็นคนอายุ 55 ปี ที่แข็งแรงกว่าคนอายุ 35 ปีที่ตามใจปาก ไม่ออกกำลังกาย นอนดึกเสมอ และคนอายุ 55 ปีนี้ตอนอายุ 70 จะยังวิ่งออกกำลังกายได้ แต่คนอายุ 35 คนนี้ตอนอายุเพียง 50 อาจเป็นเบาหวาน ความดัน เหนื่อยง่าย ป่วยเก่ง ข้อสองผิดยังไง? ของวิเศษในโลกใบนี้ จะอาหารเสริมให้ปึ๋งปั๋ง อาหารเสริมลดความดัน รวมถึงวิตามินเทพ พิสูจน์แล้วว่าให้ผลได้เพียงสั้นๆ เพราะไปลดปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุของการเจ็บป่วยหลักๆของเราอยู่ที่เพียง 4 ข้อ 1. การ degrade ตามอายุ และสิ่งแวดล้อม (เช่น PM2.5, ควันดำดีเซล, เครื่องสำอางค์) 2. Mitochondria เสื่อมตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นสูบบุหรี่ กินเหล้า ทานหวานจัด นอนดึกหลังเที่ยงคืนซ้ำๆ 3. ภาวะการพร่องจุลินทรีย์ดีหลายสายพันธุ์ในร่างกาย 4. และการอักเสบ ดังนั้น “ยาวิเศษ” เป็นได้แค่ “ของเสริม” ให้กับ ”ของหลัก“ ที่ได้แก่ การออกกำลังกายทั้ง cardio & weight training อาหารดี มีประโยชน์ จากธรรมชาติ ไร้ fast food/ultra processed food การจัดการความเครียด และการนอนให้มีคุณภาพดี ดังนั้น ความเร็วของการแก่ ป่วย เสื่อม ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน และ Supplement คือ Supplement ให้ทานเมื่อขาด แต่ไม่ใช่ใช้เป็น “หลัก” ในการการดูแลสุขภาพ คนอเมริกันเป็น 1 ในชาติที่ทาน supplement สูงที่สุดในโลก แต่อายุเฉลี่ยนอกจากไม่เพิ่ม กลับมีสั้นลงด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✴️ความเชื่อที่ผิดในสังคมไทย
    1. ทุกคนเมื่อยามแก่ จะต้องทรุดโทรม ต้องป่วยเหมือนๆกัน
    2. สุขภาพจะดีได้ ต้องอาศัยการทาน “ยาวิเศษ” ตั้งแต่สมุนไพร “overclaimed” ไปจนสารอ่อนไวที่ไปประโคมฉีดเข้าเส้น โดยไม่ศึกษากันก่อน

    ข้อแรกผิดยังไง?
    ผมอายุ 52 ปี แต่มี Biological ageing ต่ำกว่าคนอายุ 30 ปลายๆ ที่ไม่ออกกำลังกาย ทาน fast food เยอะ ทานเหล้าเบียร์สม่ำเสมอ รวมถึงนอน ตี 1 ตี 3 ประจำ

    ความเสื่อมถอยของสุขภาพนั้น
    1. อายุเป็นเพียงปัจจัย 1 ปัจจัย
    2. อีก 4 ปัจจัยสำคัญคือ
    การออกกำลังกาย (cardio และ weight training), การทาน (และไม่ทาน) อะไร, การจัดการความเครียด และการนอน
    เราจึงเริ่มเห็นคนอายุ 55 ปี ที่แข็งแรงกว่าคนอายุ 35 ปีที่ตามใจปาก ไม่ออกกำลังกาย นอนดึกเสมอ
    และคนอายุ 55 ปีนี้ตอนอายุ 70 จะยังวิ่งออกกำลังกายได้ แต่คนอายุ 35 คนนี้ตอนอายุเพียง 50 อาจเป็นเบาหวาน ความดัน เหนื่อยง่าย ป่วยเก่ง

    ข้อสองผิดยังไง?
    ของวิเศษในโลกใบนี้ จะอาหารเสริมให้ปึ๋งปั๋ง อาหารเสริมลดความดัน รวมถึงวิตามินเทพ พิสูจน์แล้วว่าให้ผลได้เพียงสั้นๆ เพราะไปลดปัญหาที่ปลายเหตุ
    แต่ต้นเหตุของการเจ็บป่วยหลักๆของเราอยู่ที่เพียง 4 ข้อ
    1. การ degrade ตามอายุ และสิ่งแวดล้อม (เช่น PM2.5, ควันดำดีเซล, เครื่องสำอางค์)
    2. Mitochondria เสื่อมตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นสูบบุหรี่ กินเหล้า ทานหวานจัด นอนดึกหลังเที่ยงคืนซ้ำๆ
    3. ภาวะการพร่องจุลินทรีย์ดีหลายสายพันธุ์ในร่างกาย
    4. และการอักเสบ
    ดังนั้น “ยาวิเศษ” เป็นได้แค่ “ของเสริม” ให้กับ ”ของหลัก“ ที่ได้แก่
    การออกกำลังกายทั้ง cardio & weight training
    อาหารดี มีประโยชน์ จากธรรมชาติ ไร้ fast food/ultra processed food
    การจัดการความเครียด
    และการนอนให้มีคุณภาพดี

    ดังนั้น
    ความเร็วของการแก่ ป่วย เสื่อม ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน
    และ
    Supplement คือ Supplement ให้ทานเมื่อขาด แต่ไม่ใช่ใช้เป็น “หลัก” ในการการดูแลสุขภาพ
    คนอเมริกันเป็น 1 ในชาติที่ทาน supplement สูงที่สุดในโลก แต่อายุเฉลี่ยนอกจากไม่เพิ่ม กลับมีสั้นลงด้วย
    ✴️ความเชื่อที่ผิดในสังคมไทย 1. ทุกคนเมื่อยามแก่ จะต้องทรุดโทรม ต้องป่วยเหมือนๆกัน 2. สุขภาพจะดีได้ ต้องอาศัยการทาน “ยาวิเศษ” ตั้งแต่สมุนไพร “overclaimed” ไปจนสารอ่อนไวที่ไปประโคมฉีดเข้าเส้น โดยไม่ศึกษากันก่อน ข้อแรกผิดยังไง? ผมอายุ 52 ปี แต่มี Biological ageing ต่ำกว่าคนอายุ 30 ปลายๆ ที่ไม่ออกกำลังกาย ทาน fast food เยอะ ทานเหล้าเบียร์สม่ำเสมอ รวมถึงนอน ตี 1 ตี 3 ประจำ ความเสื่อมถอยของสุขภาพนั้น 1. อายุเป็นเพียงปัจจัย 1 ปัจจัย 2. อีก 4 ปัจจัยสำคัญคือ การออกกำลังกาย (cardio และ weight training), การทาน (และไม่ทาน) อะไร, การจัดการความเครียด และการนอน เราจึงเริ่มเห็นคนอายุ 55 ปี ที่แข็งแรงกว่าคนอายุ 35 ปีที่ตามใจปาก ไม่ออกกำลังกาย นอนดึกเสมอ และคนอายุ 55 ปีนี้ตอนอายุ 70 จะยังวิ่งออกกำลังกายได้ แต่คนอายุ 35 คนนี้ตอนอายุเพียง 50 อาจเป็นเบาหวาน ความดัน เหนื่อยง่าย ป่วยเก่ง ข้อสองผิดยังไง? ของวิเศษในโลกใบนี้ จะอาหารเสริมให้ปึ๋งปั๋ง อาหารเสริมลดความดัน รวมถึงวิตามินเทพ พิสูจน์แล้วว่าให้ผลได้เพียงสั้นๆ เพราะไปลดปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุของการเจ็บป่วยหลักๆของเราอยู่ที่เพียง 4 ข้อ 1. การ degrade ตามอายุ และสิ่งแวดล้อม (เช่น PM2.5, ควันดำดีเซล, เครื่องสำอางค์) 2. Mitochondria เสื่อมตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นสูบบุหรี่ กินเหล้า ทานหวานจัด นอนดึกหลังเที่ยงคืนซ้ำๆ 3. ภาวะการพร่องจุลินทรีย์ดีหลายสายพันธุ์ในร่างกาย 4. และการอักเสบ ดังนั้น “ยาวิเศษ” เป็นได้แค่ “ของเสริม” ให้กับ ”ของหลัก“ ที่ได้แก่ การออกกำลังกายทั้ง cardio & weight training อาหารดี มีประโยชน์ จากธรรมชาติ ไร้ fast food/ultra processed food การจัดการความเครียด และการนอนให้มีคุณภาพดี ดังนั้น ความเร็วของการแก่ ป่วย เสื่อม ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน และ Supplement คือ Supplement ให้ทานเมื่อขาด แต่ไม่ใช่ใช้เป็น “หลัก” ในการการดูแลสุขภาพ คนอเมริกันเป็น 1 ในชาติที่ทาน supplement สูงที่สุดในโลก แต่อายุเฉลี่ยนอกจากไม่เพิ่ม กลับมีสั้นลงด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก

    ✅ บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024
    - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง
    - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)

    ✅ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก
    - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
    - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน

    ✅ ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI
    - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI
    - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%)

    ✅ บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

    ✅ บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ
    - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก ✅ บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024 - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ✅ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน ✅ ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%) ✅ บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ✅ บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้

    ✅ Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง
    - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ
    - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์
    - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า
    - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว

    ✅ อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์
    - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์
    - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง

    ✅ Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri
    - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น
    - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้ ✅ Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์ - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว ✅ อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์ - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์ - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง ✅ Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    WWW.THESTAR.COM.MY
    ‘Hey Siri: Explain how internal feuding at Apple left the company losing the AI race’
    A damning expose of Apple's missteps trying upgrade Siri delivers a masterclass on how competing teams build resentment inside a company.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Footnotes ซึ่งเป็นระบบที่คล้ายกับ Community Notes ของ X (Twitter เดิม) โดยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอเพื่อช่วยให้เนื้อหามีความเข้าใจมากขึ้น

    ✅ TikTok เปิดตัว Footnotes เพื่อให้ผู้ใช้ช่วยตรวจสอบเนื้อหา
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอ เพื่อให้เนื้อหามีความโปร่งใสมากขึ้น
    - TikTok ระบุว่า Footnotes ถูกออกแบบมาเพื่อ ให้ชุมชนมีบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่พวกเขาดู

    ✅ Footnotes ใช้ระบบการให้คะแนนแบบ "bridge-based ranking"
    - ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตสามารถ เพิ่มโน้ตและให้คะแนนโน้ตของผู้อื่น
    - โน้ตที่ได้รับการจัดอันดับว่า "มีประโยชน์" จากผู้ใช้ที่มีมุมมองแตกต่างกัน จะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

    ✅ ข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเป็นผู้เพิ่มโน้ต
    - ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
    - ต้องมี ประวัติการใช้งานที่ดี และอยู่บนแพลตฟอร์มมาอย่างน้อย 6 เดือน

    ✅ Footnotes ไม่ได้มาแทนที่ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงของ TikTok
    - TikTok ยังคงใช้ องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการรับรองจาก IFCN
    - Footnotes เป็นเพียง อีกหนึ่งชั้นของการตรวจสอบเนื้อหา

    ✅ แรงบันดาลใจจาก Community Notes ของ X
    - Community Notes เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 ภายใต้ชื่อ Birdwatch
    - Elon Musk นำระบบนี้มาใช้ใน X และเพิ่มการเข้าถึงให้กว้างขึ้น

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้ระบบตรวจสอบเนื้อหาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน
    - แม้ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบเนื้อหา แต่ก็อาจ เกิดข้อผิดพลาดหรือการบิดเบือนข้อมูล ได้

    ℹ️ ผลกระทบต่อการควบคุมข้อมูลผิดบนแพลตฟอร์ม
    - รายงานจาก Center for Countering Digital Hate พบว่า Community Notes ของ X พลาดการตรวจจับโพสต์ที่ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI และชุมชนในการตรวจสอบเนื้อหา
    - TikTok อาจต้อง ปรับปรุงระบบ Footnotes เพื่อให้สามารถตรวจจับข้อมูลผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/tiktok-is-testing-its-own-version-of-community-notes-called-footnotes/
    TikTok กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Footnotes ซึ่งเป็นระบบที่คล้ายกับ Community Notes ของ X (Twitter เดิม) โดยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอเพื่อช่วยให้เนื้อหามีความเข้าใจมากขึ้น ✅ TikTok เปิดตัว Footnotes เพื่อให้ผู้ใช้ช่วยตรวจสอบเนื้อหา - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอ เพื่อให้เนื้อหามีความโปร่งใสมากขึ้น - TikTok ระบุว่า Footnotes ถูกออกแบบมาเพื่อ ให้ชุมชนมีบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่พวกเขาดู ✅ Footnotes ใช้ระบบการให้คะแนนแบบ "bridge-based ranking" - ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตสามารถ เพิ่มโน้ตและให้คะแนนโน้ตของผู้อื่น - โน้ตที่ได้รับการจัดอันดับว่า "มีประโยชน์" จากผู้ใช้ที่มีมุมมองแตกต่างกัน จะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ✅ ข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเป็นผู้เพิ่มโน้ต - ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป - ต้องมี ประวัติการใช้งานที่ดี และอยู่บนแพลตฟอร์มมาอย่างน้อย 6 เดือน ✅ Footnotes ไม่ได้มาแทนที่ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงของ TikTok - TikTok ยังคงใช้ องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการรับรองจาก IFCN - Footnotes เป็นเพียง อีกหนึ่งชั้นของการตรวจสอบเนื้อหา ✅ แรงบันดาลใจจาก Community Notes ของ X - Community Notes เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 ภายใต้ชื่อ Birdwatch - Elon Musk นำระบบนี้มาใช้ใน X และเพิ่มการเข้าถึงให้กว้างขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการใช้ระบบตรวจสอบเนื้อหาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน - แม้ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบเนื้อหา แต่ก็อาจ เกิดข้อผิดพลาดหรือการบิดเบือนข้อมูล ได้ ℹ️ ผลกระทบต่อการควบคุมข้อมูลผิดบนแพลตฟอร์ม - รายงานจาก Center for Countering Digital Hate พบว่า Community Notes ของ X พลาดการตรวจจับโพสต์ที่ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI และชุมชนในการตรวจสอบเนื้อหา - TikTok อาจต้อง ปรับปรุงระบบ Footnotes เพื่อให้สามารถตรวจจับข้อมูลผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.neowin.net/news/tiktok-is-testing-its-own-version-of-community-notes-called-footnotes/
    WWW.NEOWIN.NET
    TikTok is testing its own version of Community Notes, called Footnotes
    X's Community Notes model seems to be catching the attention of other social platforms, and now TikTok is the latest to take a swing at it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 7 การสร้างความมั่นคงด้านการเงินแก่ครอบครัว
    .
    ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และการเป็นครอบครัวที่อบอุ่นโยงใยกับการจัดการเรื่องการเงินอย่างไม่อ่จหลีกเลี่ยงได้ การที่คนสองคนมาร่วมชีวิตกันและมีลูก คือทางเลือกของชีวิตที่ทั้งสองได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นจึงต้องร่วมกันรับผิดชอบให้ครอบครัวมีความสุข มีความเป็นปึกแผ่นด้านการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของทุกๆคนในครอบครัว
    .
    ในเบื้องแรก สามีภรรยาต้องพูดจาตกลงกันให้ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเงินทองของครอบครัว เช่น จะรวมกระเป๋าและแยกกระเป๋ากันอย่างไร ค่าใช้จ่ายของครอบครัวจะรับผิดชอบกันอย่างไร ข้อพิจารณาในเรื่องนี้มีดังนี้
    .
    การตัดสินใจทางการเงินของพ่อแม่จะต้องเป็นหน่วยเดียวกัน การซื้อสิ่งของที่มีราคาสูงและผูกมัดทางการเงินของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ลงทุนธุรกิจ ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะต้องมีการปรึกษาหารือ และตัดสินใจร่วมกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทราบถึงภาระผูกพันที่จะเกิดขึ้น
    .
    การใช้จ่ายที่ต่างคนต่างทำ เช่น การใช้บัตรเครดิต การเล่นหุ้น เล่นแชร์ การร่วมลงทุนกับผู้อื่น ควรให้แต่ละฝ่ายได้รับรู้ เพราะเป็นบุคคลเดียวกันตามกฏหมาย (ในกรณีจดทะเบียนสมรส) ทั้งพ่อและแม่ต้องรับรู้ข้อมูลและรับผิดชอบสถานะการเงินของครอบครัวร่วมกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งใช้เงินอย่างเดียวโดยไม่ยอมรับรู้เรื่องรายได้ ไม่ยอมหรือไม่ร่วมปรึกษาหารือในการวางแผนการเงินของครอบครัว ความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวก็เกิดขึ้นไม่ได้
    .
    การวางแผนการเงินของครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่จะต้องจัดไว้ในลำดับสำคัญสูงสุด การจดบันทึกข้อมูลการใช้จ่ายในแต่ละเดือนจะทำให้เห็นภาพรวมของการใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสามารถในการออมของครอบครัว ในการสร้างความมั้นคงด้านการเงินให้แก่ครอบครัว ประเด็นที่พึงพิจารณามีดังต่อไปนี้
    .
    1.ความมั่งคั่งและการมีรายได้ต่อช่วงเวลานั้นแตกต่างกัน ถ้าเปรียบเงินเหมือนน้ำที่อยู่ในถัง รายได้เสมือนน้ำที่ไหลออกจากก้นถังในช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าน้ำไหลเข้าถังมากกว่าน้ำที่ไหลออก ปริมาณน้ำในถังที่ได้สะสมมาก่อนหน้า ก็จะมากขึ้น แต่ถ้าน้ำไหลออกจากถังในช่วงเวลาหนึ่งมากกว่าน้ำไหลเข้า ดังนั้น ปริมาณน้ำในถังที่สะสมมาก่อนหน้าก็จะลดลง ความมั่งคั่งก็คือปริมาณน้ำที่อยู่ในถัง ส่วนรายได้ก็คือปริมาณน้ำที่ไหลเข้าถึงในช่วงเวลานั้น
    .
    ความมั่งคั่งวัด ณ จุดหนึ่งของเวลา ส่วนการมีรายได้เป็นการวัดต่อช่วงเวลา เช่น บ้านมีมูลค่า 3 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวามคม 2568 เป็นความมั่งคั่ง ส่วนรายได้ 5 หมื่นบาทต่อเดือนเป็นการมีรายได้
    .
    สองสิ่งนี้แตกต่างกัน ความมั่งคั่งมีนัยผูกพันกับอนาคตที่จะมีรายได้ให้ใช้ ส่วนการมีรายได้นั้นมีนัยผูกพันกับช่วงเวลาสั้นๆ บางครอบครัวอาจมีรายได้ต่อเดือนมาก แต่อาจไม่มีความมั่งคั่งก็เป็นได้ กล่าวคือ ถึงมีรายได้มากก็ใช้ไปจนหมด ไม่เหลือไว้สร้างความมั่งคั่งซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มเติมอีกเลยในอนาคต
    .
    การสร้างความมั่งคั่งของครอบครัวต้องเน้นไปที่การสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว ในแต่ละเดือนจะต้องมีรายได้มากกว่าการใช้จ่าย ซึงหมายถึงมีเงินออมนั่นเอง จึงจะทำให้ความมั่งคั่งเพิ่มพูนขึ้นได้ และความมั่งคั่งนี้จะเป็นฐานของการหารายได้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่งสำหรับครอบครัวนอกเหนือจากการออกแรงทำงาน
    .
    2.การใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด สอดคล้องกับเงินในกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ สุภาษิต “การหาเงินเป็นเรื่องสำคัญ แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่า” เป็นจริงทุกยุคสมัย..... พ่อแม่จำนวนมากทำงานหนักหาเงินเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวโดยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือมีเวลาให้ลูกน้อยลง ทำให้ความเอาใจใส่และผูกพันกับลูกลดลงน้อยลงไปด้วย
    .
    พ่อแม่เหล่านี้ มักเน้นการหารายได้แต่เพียงอย่างเดียวจนละเลยความสำคัญของการใช้จ่าย รายได้ส่วนหนึ่งมักถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อชดเชยที่ใกล้ชิดลูกน้อยลง จนอาจทำให้เงินออมขนาดใหญ่ในแต่ละเดือนเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้น การทุ่มเทหาเงินทองในกรณีนี้จึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ครอบครัวมากดังที่เข้าใจ หรือคาดหวัง บางครอบครัวกว่าจะรู้ตัวว่าไม่คุ้มก็ต่อเมื่อได้สูญเสียความใกล้ชิดผูกพันในครอบครัวหรือสูญเสียลูกไปแล้ว
    .
    การทำงานหนักเพื่อหาเงินและใช้จ่ายเงินเพื่อดำรงชีพและหาความสุขไม่ใช่เรื่องเสียหาย เช่นเดียวกับการมีบัตรเครดิตและการกู้ยืม ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นบริการด้านการเงินที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและช่วยให้บรรลุความต้องการในชีวิต ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเหมาะสมระหว่างสถานะทางการเงินของครอบครัวกับหนี้ที่ก่อขึ้น
    .
    3.จะไม่กู้เงินเพื่อสิ่งอื่นใด นอกจากที่อยู่อาศัย การศึกษา หรือเหตุฉุกเฉินด้านปัญหาสุขภาพ นี่คือความเชื่ออย่างนึงของคนในโลกตะวันตก ที่เข้าใจเรื่องการใช้เงินมายาวนานกว่าคนเอเชีย
    .
    การมีที่อยู่อาศัยของตนเอง เป็นพื้นฐานของความมั่งคงในชีวิต นักจิตวิทยาบอกว่า ลึกเข้าไปในใจของมนุษย์ทุกคน บ้านคือตัวแทนของแม่ เพราะบ้านป้องกัน แสงแดด ลมฝน และความหนาวเย็น ก่อให้เกิดความสุขสบายปลอดภัย เฉกเช่นเดียวกับครรภ์มารดา
    .
    การที่ครอบครัวจะมีบ้านเป็นของตนเองนั้นควรเป็นเป้าหมายแรกของพ่อแม่ เพราะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ซึ่งค่าเช่านี้อาจแปรเปลี่ยนเป็นเงินผ่อนซื้อบ้านในแต่ละเดือนได้ หากมีการกู้ยืมเพื่อผ่อนซื้อบ้านหลังเดียวกันนี้ ผู้จ่ายค่าเช่าทุกเดือนไม่มีความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านในวันข้างหน้า ซึ่งต่างจากผู้ซื้อบ้านที่มีโอกาสในวันข้างหน้าที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยอีก เนื่องจากเป็นเจ้าของบ้านเอง นอกจากนี้ภายใต้กฏหมายไทย ไม่อาจใช้ค่าเช่าบ้านเป็นค่าลดหย่อนสำหรับการเสียถาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อผ่อนซื้อบ้านสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ไม่เกิน 50,000 บาท
    .
    อย่างไรก็ดี การผ่อนซื้อบ้านเป็นภาระการเงินที่หนักหน่วง เพราะไม่เพียงแต่ต้องจ่ายเงินผ่อนชำระทุกเดือนเท่านั้น ยังมีระยะเวลาผูกพันอันยาวนานเกี่ยวข้องอีกด้วย การผ่อนบ้านจึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของครอบครัว ซึ่งต้องคำนึงถึงราคาบ้าน ความสามารถในการผ่อนชำระแต่ละเดือน อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันและอนาคต ความแน่นอนของรายได้ ระยะเวลาแห่งการผูกมัด ศักยภาพการเพิ่มขึ้นของมูลค่าบ้าน ตลอดจน “ความแพง” ของบ้านในภาพรวม
    .
    ยกตัวอย่าง “ความแพง” ของบ้านเพื่อประกอบการพิจารณา : ถ้ากู้เงินซื้อบ้านราคา 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ผ่อนชำระ 10 ปี ต้องชำระเดือนละ 1,322 บาท ดังนั้นต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 158,640 บาท สำหรับบ้านราคา 100,000 บาท (ถ้าผ่อนส่ง 20 ปี ต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 316,080 บาท สำหรับบ้านราคา 100,000 บาท)
    .
    ถ้ากู้เงินซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ผ่อนส่ง 10 ปี ต้องชำระเดือนละ 66,100 บาท ดังนั้นต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 7.93 ล้านบาท และถ้าผ่อนส่ง 15 ปี ต้องชำระเดือนละ 53,750 บาท ดังนั้นต้องจ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณ 9.68 ล้านบาท หรืออีกเกือบหนึ่งเท่าของราคาบ้าน
    .
    ถึงแม้การกู้ยืมจะทำให้บ้าน “แพง” ขึ้นมาก แต่ก็ทำให้สามารถมีบ้านอยู่อาศัยที่เป็นของตนเองในอนาคต และมูลค่าบ้านก็อาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรใคร่ครวญทั้งในด้าน “ความแพง” อันเกิดจากดอกเบี้ย ความมีคุณค่าของบ้านในปัจจุบันและมูลค่าบ้านในอนาคตประกอบกัน
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 7 การสร้างความมั่นคงด้านการเงินแก่ครอบครัว . ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และการเป็นครอบครัวที่อบอุ่นโยงใยกับการจัดการเรื่องการเงินอย่างไม่อ่จหลีกเลี่ยงได้ การที่คนสองคนมาร่วมชีวิตกันและมีลูก คือทางเลือกของชีวิตที่ทั้งสองได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นจึงต้องร่วมกันรับผิดชอบให้ครอบครัวมีความสุข มีความเป็นปึกแผ่นด้านการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของทุกๆคนในครอบครัว . ในเบื้องแรก สามีภรรยาต้องพูดจาตกลงกันให้ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเงินทองของครอบครัว เช่น จะรวมกระเป๋าและแยกกระเป๋ากันอย่างไร ค่าใช้จ่ายของครอบครัวจะรับผิดชอบกันอย่างไร ข้อพิจารณาในเรื่องนี้มีดังนี้ . การตัดสินใจทางการเงินของพ่อแม่จะต้องเป็นหน่วยเดียวกัน การซื้อสิ่งของที่มีราคาสูงและผูกมัดทางการเงินของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ลงทุนธุรกิจ ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะต้องมีการปรึกษาหารือ และตัดสินใจร่วมกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทราบถึงภาระผูกพันที่จะเกิดขึ้น . การใช้จ่ายที่ต่างคนต่างทำ เช่น การใช้บัตรเครดิต การเล่นหุ้น เล่นแชร์ การร่วมลงทุนกับผู้อื่น ควรให้แต่ละฝ่ายได้รับรู้ เพราะเป็นบุคคลเดียวกันตามกฏหมาย (ในกรณีจดทะเบียนสมรส) ทั้งพ่อและแม่ต้องรับรู้ข้อมูลและรับผิดชอบสถานะการเงินของครอบครัวร่วมกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งใช้เงินอย่างเดียวโดยไม่ยอมรับรู้เรื่องรายได้ ไม่ยอมหรือไม่ร่วมปรึกษาหารือในการวางแผนการเงินของครอบครัว ความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวก็เกิดขึ้นไม่ได้ . การวางแผนการเงินของครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่จะต้องจัดไว้ในลำดับสำคัญสูงสุด การจดบันทึกข้อมูลการใช้จ่ายในแต่ละเดือนจะทำให้เห็นภาพรวมของการใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสามารถในการออมของครอบครัว ในการสร้างความมั้นคงด้านการเงินให้แก่ครอบครัว ประเด็นที่พึงพิจารณามีดังต่อไปนี้ . 1.ความมั่งคั่งและการมีรายได้ต่อช่วงเวลานั้นแตกต่างกัน ถ้าเปรียบเงินเหมือนน้ำที่อยู่ในถัง รายได้เสมือนน้ำที่ไหลออกจากก้นถังในช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าน้ำไหลเข้าถังมากกว่าน้ำที่ไหลออก ปริมาณน้ำในถังที่ได้สะสมมาก่อนหน้า ก็จะมากขึ้น แต่ถ้าน้ำไหลออกจากถังในช่วงเวลาหนึ่งมากกว่าน้ำไหลเข้า ดังนั้น ปริมาณน้ำในถังที่สะสมมาก่อนหน้าก็จะลดลง ความมั่งคั่งก็คือปริมาณน้ำที่อยู่ในถัง ส่วนรายได้ก็คือปริมาณน้ำที่ไหลเข้าถึงในช่วงเวลานั้น . ความมั่งคั่งวัด ณ จุดหนึ่งของเวลา ส่วนการมีรายได้เป็นการวัดต่อช่วงเวลา เช่น บ้านมีมูลค่า 3 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวามคม 2568 เป็นความมั่งคั่ง ส่วนรายได้ 5 หมื่นบาทต่อเดือนเป็นการมีรายได้ . สองสิ่งนี้แตกต่างกัน ความมั่งคั่งมีนัยผูกพันกับอนาคตที่จะมีรายได้ให้ใช้ ส่วนการมีรายได้นั้นมีนัยผูกพันกับช่วงเวลาสั้นๆ บางครอบครัวอาจมีรายได้ต่อเดือนมาก แต่อาจไม่มีความมั่งคั่งก็เป็นได้ กล่าวคือ ถึงมีรายได้มากก็ใช้ไปจนหมด ไม่เหลือไว้สร้างความมั่งคั่งซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มเติมอีกเลยในอนาคต . การสร้างความมั่งคั่งของครอบครัวต้องเน้นไปที่การสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว ในแต่ละเดือนจะต้องมีรายได้มากกว่าการใช้จ่าย ซึงหมายถึงมีเงินออมนั่นเอง จึงจะทำให้ความมั่งคั่งเพิ่มพูนขึ้นได้ และความมั่งคั่งนี้จะเป็นฐานของการหารายได้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่งสำหรับครอบครัวนอกเหนือจากการออกแรงทำงาน . 2.การใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด สอดคล้องกับเงินในกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ สุภาษิต “การหาเงินเป็นเรื่องสำคัญ แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่า” เป็นจริงทุกยุคสมัย..... พ่อแม่จำนวนมากทำงานหนักหาเงินเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวโดยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือมีเวลาให้ลูกน้อยลง ทำให้ความเอาใจใส่และผูกพันกับลูกลดลงน้อยลงไปด้วย . พ่อแม่เหล่านี้ มักเน้นการหารายได้แต่เพียงอย่างเดียวจนละเลยความสำคัญของการใช้จ่าย รายได้ส่วนหนึ่งมักถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อชดเชยที่ใกล้ชิดลูกน้อยลง จนอาจทำให้เงินออมขนาดใหญ่ในแต่ละเดือนเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้น การทุ่มเทหาเงินทองในกรณีนี้จึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ครอบครัวมากดังที่เข้าใจ หรือคาดหวัง บางครอบครัวกว่าจะรู้ตัวว่าไม่คุ้มก็ต่อเมื่อได้สูญเสียความใกล้ชิดผูกพันในครอบครัวหรือสูญเสียลูกไปแล้ว . การทำงานหนักเพื่อหาเงินและใช้จ่ายเงินเพื่อดำรงชีพและหาความสุขไม่ใช่เรื่องเสียหาย เช่นเดียวกับการมีบัตรเครดิตและการกู้ยืม ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นบริการด้านการเงินที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและช่วยให้บรรลุความต้องการในชีวิต ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเหมาะสมระหว่างสถานะทางการเงินของครอบครัวกับหนี้ที่ก่อขึ้น . 3.จะไม่กู้เงินเพื่อสิ่งอื่นใด นอกจากที่อยู่อาศัย การศึกษา หรือเหตุฉุกเฉินด้านปัญหาสุขภาพ นี่คือความเชื่ออย่างนึงของคนในโลกตะวันตก ที่เข้าใจเรื่องการใช้เงินมายาวนานกว่าคนเอเชีย . การมีที่อยู่อาศัยของตนเอง เป็นพื้นฐานของความมั่งคงในชีวิต นักจิตวิทยาบอกว่า ลึกเข้าไปในใจของมนุษย์ทุกคน บ้านคือตัวแทนของแม่ เพราะบ้านป้องกัน แสงแดด ลมฝน และความหนาวเย็น ก่อให้เกิดความสุขสบายปลอดภัย เฉกเช่นเดียวกับครรภ์มารดา . การที่ครอบครัวจะมีบ้านเป็นของตนเองนั้นควรเป็นเป้าหมายแรกของพ่อแม่ เพราะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ซึ่งค่าเช่านี้อาจแปรเปลี่ยนเป็นเงินผ่อนซื้อบ้านในแต่ละเดือนได้ หากมีการกู้ยืมเพื่อผ่อนซื้อบ้านหลังเดียวกันนี้ ผู้จ่ายค่าเช่าทุกเดือนไม่มีความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านในวันข้างหน้า ซึ่งต่างจากผู้ซื้อบ้านที่มีโอกาสในวันข้างหน้าที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยอีก เนื่องจากเป็นเจ้าของบ้านเอง นอกจากนี้ภายใต้กฏหมายไทย ไม่อาจใช้ค่าเช่าบ้านเป็นค่าลดหย่อนสำหรับการเสียถาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อผ่อนซื้อบ้านสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ไม่เกิน 50,000 บาท . อย่างไรก็ดี การผ่อนซื้อบ้านเป็นภาระการเงินที่หนักหน่วง เพราะไม่เพียงแต่ต้องจ่ายเงินผ่อนชำระทุกเดือนเท่านั้น ยังมีระยะเวลาผูกพันอันยาวนานเกี่ยวข้องอีกด้วย การผ่อนบ้านจึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของครอบครัว ซึ่งต้องคำนึงถึงราคาบ้าน ความสามารถในการผ่อนชำระแต่ละเดือน อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันและอนาคต ความแน่นอนของรายได้ ระยะเวลาแห่งการผูกมัด ศักยภาพการเพิ่มขึ้นของมูลค่าบ้าน ตลอดจน “ความแพง” ของบ้านในภาพรวม . ยกตัวอย่าง “ความแพง” ของบ้านเพื่อประกอบการพิจารณา : ถ้ากู้เงินซื้อบ้านราคา 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ผ่อนชำระ 10 ปี ต้องชำระเดือนละ 1,322 บาท ดังนั้นต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 158,640 บาท สำหรับบ้านราคา 100,000 บาท (ถ้าผ่อนส่ง 20 ปี ต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 316,080 บาท สำหรับบ้านราคา 100,000 บาท) . ถ้ากู้เงินซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ผ่อนส่ง 10 ปี ต้องชำระเดือนละ 66,100 บาท ดังนั้นต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 7.93 ล้านบาท และถ้าผ่อนส่ง 15 ปี ต้องชำระเดือนละ 53,750 บาท ดังนั้นต้องจ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณ 9.68 ล้านบาท หรืออีกเกือบหนึ่งเท่าของราคาบ้าน . ถึงแม้การกู้ยืมจะทำให้บ้าน “แพง” ขึ้นมาก แต่ก็ทำให้สามารถมีบ้านอยู่อาศัยที่เป็นของตนเองในอนาคต และมูลค่าบ้านก็อาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรใคร่ครวญทั้งในด้าน “ความแพง” อันเกิดจากดอกเบี้ย ความมีคุณค่าของบ้านในปัจจุบันและมูลค่าบ้านในอนาคตประกอบกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการอัปเดต Google Docs ที่เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ ในฟีเจอร์ Code Blocks ซึ่งช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น

    Google เปิดตัวฟีเจอร์ Smart Canvas ในปี 2022 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสารได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องคัดลอกโค้ดไปวางและปรับแต่งเอง การอัปเดตล่าสุดนี้ช่วยให้รองรับภาษาโปรแกรมเพิ่มเติม เช่น C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell

    ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักพัฒนา API, เอกสารซอฟต์แวร์, และ บทเรียนการเขียนโค้ด เนื่องจากช่วยให้สามารถแสดงตัวอย่างโค้ดได้อย่างเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย

    นอกจากนี้ Google Docs ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries, และ ระบบติดตามโครงการ

    ✅ การอัปเดต Code Blocks ใน Google Docs
    - เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่
    - ช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น

    ✅ ฟีเจอร์ Smart Canvas
    - เปิดตัวในปี 2022 เพื่อช่วยจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสาร
    - ลดขั้นตอนการคัดลอกและปรับแต่งโค้ดเอง

    ✅ ภาษาที่รองรับใน Code Blocks
    - C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell

    ✅ ฟีเจอร์อื่นๆ ใน Google Docs
    - การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries
    - ระบบติดตามโครงการ เช่น Review Tracking, Team Directory, Content Launch Tracker

    ℹ️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ Code Blocks
    - ผู้ดูแลระบบ Workspace Admins ไม่มีสิทธิ์ควบคุมฟีเจอร์นี้
    - การอัปเดตจะถูกทยอยเปิดให้ใช้งานในบางระดับของ Google Workspace

    ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานร่วมกัน
    - การเพิ่มภาษาโปรแกรมใหม่ช่วยให้การทำงานร่วมกันของนักพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับฟีเจอร์นี้

    https://www.neowin.net/news/google-docs-adds-14-new-programming-languages-to-code-blocks/
    ข่าวนี้เล่าถึงการอัปเดต Google Docs ที่เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ ในฟีเจอร์ Code Blocks ซึ่งช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น Google เปิดตัวฟีเจอร์ Smart Canvas ในปี 2022 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสารได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องคัดลอกโค้ดไปวางและปรับแต่งเอง การอัปเดตล่าสุดนี้ช่วยให้รองรับภาษาโปรแกรมเพิ่มเติม เช่น C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักพัฒนา API, เอกสารซอฟต์แวร์, และ บทเรียนการเขียนโค้ด เนื่องจากช่วยให้สามารถแสดงตัวอย่างโค้ดได้อย่างเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ Google Docs ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries, และ ระบบติดตามโครงการ ✅ การอัปเดต Code Blocks ใน Google Docs - เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ - ช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น ✅ ฟีเจอร์ Smart Canvas - เปิดตัวในปี 2022 เพื่อช่วยจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสาร - ลดขั้นตอนการคัดลอกและปรับแต่งโค้ดเอง ✅ ภาษาที่รองรับใน Code Blocks - C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell ✅ ฟีเจอร์อื่นๆ ใน Google Docs - การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries - ระบบติดตามโครงการ เช่น Review Tracking, Team Directory, Content Launch Tracker ℹ️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ Code Blocks - ผู้ดูแลระบบ Workspace Admins ไม่มีสิทธิ์ควบคุมฟีเจอร์นี้ - การอัปเดตจะถูกทยอยเปิดให้ใช้งานในบางระดับของ Google Workspace ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานร่วมกัน - การเพิ่มภาษาโปรแกรมใหม่ช่วยให้การทำงานร่วมกันของนักพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น - อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับฟีเจอร์นี้ https://www.neowin.net/news/google-docs-adds-14-new-programming-languages-to-code-blocks/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Docs adds 14 new programming languages to code blocks
    Google's latest update to the Google Docs code blocks feature brings support for more than a dozen new programming languages.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ ChatGPT โดยเพิ่มฟีเจอร์ Memory ที่ช่วยให้ AI สามารถอ้างอิงข้อมูลจากการสนทนาในอดีตทั้งหมดของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างคำตอบที่มีความเฉพาะเจาะจงและเป็นประโยชน์มากขึ้น

    == ข้อมูลสำคัญในข่าว ==
    ✅ ฟีเจอร์ Memory ใหม่:
    - ChatGPT สามารถอ้างอิงข้อมูลจากการสนทนาในอดีตทั้งหมดของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างคำตอบที่มีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการ
    - ข้อมูลที่ถูกบันทึกจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่ AI อัปเดตสิ่งที่มีประโยชน์ในการจดจำ

    ✅ การจัดการ Memory:
    - ผู้ใช้งานสามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์ Memory ได้ผ่านการตั้งค่า
    - มีตัวเลือกให้ใช้ Temporary Chat เพื่อสนทนาโดยไม่ใช้หรือส่งผลต่อข้อมูลที่ถูกบันทึก

    ✅ การเข้าถึงฟีเจอร์:
    - ฟีเจอร์ Memory ใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ ChatGPT Plus และ Pro ยกเว้นในบางประเทศ เช่น EEA, UK, และ Switzerland
    - ผู้ใช้ ChatGPT Free จะยังคงใช้ฟีเจอร์ Saved Memories แบบเดิม

    ✅ การปกป้องข้อมูล:
    - OpenAI ยืนยันว่าจะไม่ใช้ข้อมูล Memory เพื่อฝึกโมเดลใหม่ หากผู้ใช้งานปิดการตั้งค่า “Improve the model for everyone”

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว:
    - ผู้ใช้งานอาจกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลสนทนาในอดีตทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ⚠️ การจัดการข้อมูลที่บันทึก:
    - ข้อมูลที่ถูกบันทึกไม่สามารถดูหรือลบได้แบบเลือกเฉพาะเจาะจง อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สะดวก

    https://www.neowin.net/news/chatgpt-gets-big-memory-upgrade-it-can-now-reference-all-of-your-past-chats/
    OpenAI ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ ChatGPT โดยเพิ่มฟีเจอร์ Memory ที่ช่วยให้ AI สามารถอ้างอิงข้อมูลจากการสนทนาในอดีตทั้งหมดของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างคำตอบที่มีความเฉพาะเจาะจงและเป็นประโยชน์มากขึ้น == ข้อมูลสำคัญในข่าว == ✅ ฟีเจอร์ Memory ใหม่: - ChatGPT สามารถอ้างอิงข้อมูลจากการสนทนาในอดีตทั้งหมดของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างคำตอบที่มีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการ - ข้อมูลที่ถูกบันทึกจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่ AI อัปเดตสิ่งที่มีประโยชน์ในการจดจำ ✅ การจัดการ Memory: - ผู้ใช้งานสามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์ Memory ได้ผ่านการตั้งค่า - มีตัวเลือกให้ใช้ Temporary Chat เพื่อสนทนาโดยไม่ใช้หรือส่งผลต่อข้อมูลที่ถูกบันทึก ✅ การเข้าถึงฟีเจอร์: - ฟีเจอร์ Memory ใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ ChatGPT Plus และ Pro ยกเว้นในบางประเทศ เช่น EEA, UK, และ Switzerland - ผู้ใช้ ChatGPT Free จะยังคงใช้ฟีเจอร์ Saved Memories แบบเดิม ✅ การปกป้องข้อมูล: - OpenAI ยืนยันว่าจะไม่ใช้ข้อมูล Memory เพื่อฝึกโมเดลใหม่ หากผู้ใช้งานปิดการตั้งค่า “Improve the model for everyone” == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว: - ผู้ใช้งานอาจกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลสนทนาในอดีตทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ⚠️ การจัดการข้อมูลที่บันทึก: - ข้อมูลที่ถูกบันทึกไม่สามารถดูหรือลบได้แบบเลือกเฉพาะเจาะจง อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สะดวก https://www.neowin.net/news/chatgpt-gets-big-memory-upgrade-it-can-now-reference-all-of-your-past-chats/
    WWW.NEOWIN.NET
    ChatGPT gets big memory upgrade; it can now reference all of your past chats
    OpenAI is enhancing ChatGPT's memory capabilities, allowing it to reference a user's entire chat history for more personalized and relevant responses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​--นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ
    สัทธรรมลำดับที่ : 957
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=957
    ชื่อบทธรรม : -นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หมวด ฉ. ว่าด้วย โทษของการขาดสัมมาสมาธิ
    --นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ
    --วาเสฏฐะ ! เปรียบเหมือนแม่น้ำอจิรวดีนี้ มีน้ำเต็มเปี่ยม กายืนดื่มได้.
    ครั้งนั้น มีบุรุษคนหนึ่งมาถึงเข้า เขามีประโยชน์ที่ฝั่งโน้น
    แสวงหาฝั่งโน้น มีการไปสู่ฝั่งโน้น ประสงค์จะข้ามไปสู่ฝั่งโน้น
    แต่เขานอนคลุมศีรษะของตนอยู่ที่ริมฝั่งนี้.
    --วาเสฏฐะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : บุรุษนั้นจะไปจากฝั่งในสู่ฝั่งนอกแห่งแม่น้ำอจิรวดีได้หรือหนอ ?
    “ไม่ได้แน่ ท่านพระโคดม !”
    --วาเสฏฐะ ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้เรียกกันในอริยวินัย
    http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=นีวรณา+ปญฺจ
    ว่า “เครื่องปิด” บ้าง ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง.
    ห้าอย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ
    กามฉันทนิวรณ์
    พ๎ยาปาทนิวรณ์
    ถีนมิทธนิวรณ์
    อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์
    วิจิกิจฉานิวรณ์.
    http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=วิจิกิจฺฉานีวรณํ
    --วาเสฏฐะ ! นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้แล ซึ่งเรียกกันในอริยวินัย
    ว่า “เครื่องปิด” บ้าง
    ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง
    ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง
    ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง.
    --วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพททั้งหลาย ถูกนิวรณ์ ๕ อย่างเหล่านี้
    ปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว.
    --วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพทเหล่านั้น
    ละธรรมะที่ทำความเป็นพราหมณ์เสีย
    สมาทานธรรมะที่ไม่ทำความเป็นพราหมณ์ดำรงชีวิตให้เป็นไปอยู่
    อัน นิวรณ์ทั้ง ๕ อย่างเปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว
    จักเป็นผู้เข้าถึงความเป็นสหายแห่งพรหม
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะเป็นไปได้.-

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/366-367/378-379.
    http://etipitaka.com/read/thai/9/366/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๓๐๖-๓๐๗/๓๗๘-๓๗๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=957
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=957
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​--นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ สัทธรรมลำดับที่ : 957 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=957 ชื่อบทธรรม : -นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ เนื้อความทั้งหมด :- --หมวด ฉ. ว่าด้วย โทษของการขาดสัมมาสมาธิ --นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ --วาเสฏฐะ ! เปรียบเหมือนแม่น้ำอจิรวดีนี้ มีน้ำเต็มเปี่ยม กายืนดื่มได้. ครั้งนั้น มีบุรุษคนหนึ่งมาถึงเข้า เขามีประโยชน์ที่ฝั่งโน้น แสวงหาฝั่งโน้น มีการไปสู่ฝั่งโน้น ประสงค์จะข้ามไปสู่ฝั่งโน้น แต่เขานอนคลุมศีรษะของตนอยู่ที่ริมฝั่งนี้. --วาเสฏฐะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนั้นจะไปจากฝั่งในสู่ฝั่งนอกแห่งแม่น้ำอจิรวดีได้หรือหนอ ? “ไม่ได้แน่ ท่านพระโคดม !” --วาเสฏฐะ ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน : นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้เรียกกันในอริยวินัย http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=นีวรณา+ปญฺจ ว่า “เครื่องปิด” บ้าง ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง. ห้าอย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ กามฉันทนิวรณ์ พ๎ยาปาทนิวรณ์ ถีนมิทธนิวรณ์ อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ วิจิกิจฉานิวรณ์. http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=วิจิกิจฺฉานีวรณํ --วาเสฏฐะ ! นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้แล ซึ่งเรียกกันในอริยวินัย ว่า “เครื่องปิด” บ้าง ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง. --วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพททั้งหลาย ถูกนิวรณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ ปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว. --วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพทเหล่านั้น ละธรรมะที่ทำความเป็นพราหมณ์เสีย สมาทานธรรมะที่ไม่ทำความเป็นพราหมณ์ดำรงชีวิตให้เป็นไปอยู่ อัน นิวรณ์ทั้ง ๕ อย่างเปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว จักเป็นผู้เข้าถึงความเป็นสหายแห่งพรหม ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะเป็นไปได้.- #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/366-367/378-379. http://etipitaka.com/read/thai/9/366/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๓๐๖-๓๐๗/๓๗๘-๓๗๙. http://etipitaka.com/read/pali/9/306/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=957 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=957 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ฉ. ว่าด้วย โทษของการขาดสัมมาสมาธิ--นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ
    -(บาลีพระสูตรนี้ ได้ทำให้เกิดประเพณีสวดคิริมานนทสูตร ให้คนเจ็บฟัง เพื่อจะได้หายเจ็บไข้ เช่นเดียวกับโพชฌงคสูตร. บางคนอาจจะสงสัยว่า มิเป็นการผิดหลักกรรมหรือเหตุปัจจัยไปหรือ ที่ความทุกข์ดับไปโดยไม่มีการดับเหตุแห่งทุกข์ ตามหลักแห่งจตุราริยสัจ. ข้อนี้ขอให้เข้าใจว่า การฟังธรรมของพระคิริมานนท์ ทำให้มีธรรมปีติอย่างแรงกล้า อำนาจของธรรมปีตินั้นสามารถระงับเสียได้ซึ่งทุกขเวทนา ทุกขเวทนาจึงระงับไป ดุจดังว่าหายจากอาพาธ; กล่าวได้ว่ามีปัจจัยเพื่อการดับแห่งทุกข์อริยสัจ; ไม่ผิดไปจากกฎเกณฑ์แห่งกรรมหรือกฎเกณฑ์แห่งเหตุปัจจัยเลย; เป็นการดับทุกข์ได้วิธีหนึ่ง จึงนำข้อความนี้ มาใส่ไว้ในหมวดนี้). หมวด ฉ. ว่าด้วย โทษของการขาดสัมมาสมาธิ นิวรณ์ - ข้าศึกแห่งสมาธิ วาเสฏฐะ ! เปรียบเหมือนแม่น้ำอจิรวดีนี้ มีน้ำเต็มเปี่ยม กายืนดื่มได้. ครั้งนั้น มีบุรุษคนหนึ่งมาถึงเข้า เขามีประโยชน์ที่ฝั่งโน้น แสวงหาฝั่งโน้น มีการไปสู่ฝั่งโน้น ประสงค์จะข้ามไปสู่ฝั่งโน้น แต่เขานอนคลุมศีรษะของตนอยู่ที่ริมฝั่งนี้. วาเสฏฐะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนั้นจะไปจากฝั่งในสู่ฝั่งนอกแห่งแม่น้ำอจิรวดีได้หรือหนอ ? “ไม่ได้แน่ ท่านพระโคดม !” วาเสฏฐะ ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน : นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้เรียกกันในอริยวินัย ว่า “เครื่องปิด” บ้าง ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง. ห้าอย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ กามฉันทนิวรณ์ พ๎ยาปาทนิวรณ์ ถีนมิทธนิวรณ์ อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ วิจิกิจฉานิวรณ์. วาเสฏฐะ ! นิวรณ์ ๕ อย่าง เหล่านี้แล ซึ่งเรียกกันในอริยวินัย ว่า “เครื่องปิด” บ้าง ว่า “เครื่องกั้น” บ้าง ว่า “เครื่องคลุม” บ้าง ว่า “เครื่องร้อยรัด” บ้าง. วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพททั้งหลาย ถูกนิวรณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ ปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว. วาเสฏฐะ ! พราหมณ์ไตรเพทเหล่านั้น ละธรรมะที่ทำความเป็นพราหมณ์เสีย สมาทานธรรมะที่ไม่ทำความเป็นพราหมณ์ดำรงชีวิตให้เป็นไปอยู่ อัน นิวรณ์ทั้ง ๕ อย่างเปิดแล้ว กั้นแล้ว คลุมแล้ว ร้อยรัดแล้ว จักเป็นผู้เข้าถึงความเป็นสหายแห่งพรหม ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะเป็นไปได้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน

    🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์:
    - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร
    - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต

    ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร:
    - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง
    - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store

    https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน 🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์: - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร: - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • โบราณว่า ถ้างูชนิดนี้เลื้อยเข้าบ้านใคร ห้ามตีเด็ดขาดเพราะอาจเกิดเรื่องร้าย 😱🐍🚫

    ไม่ใช่งูทุกตัวที่เกิดมาเป็นนักฆ่า เพราะบางตัวก็เกิดมาเป็นงูอาภัพ โดนคนตีตายโดยไม่มีความผิด 😢 อย่างเช่น งูแสงอาทิตย์ 🐍🌞 อสรพิษสุดน่าสงสาร ที่เกิดมาพร้อมหน้าตาที่ไม่น่ารัก ผิวหนังเลื่อมสะท้อนแสงเป็นสีรุ้ง และยังเหมือนจะนำสิ่งไม่ดีมาสู่คน จนถูกใส่ร้ายว่า "หากใครโดนงูแสงอาทิตย์กัดตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะตายทันที!!" ☠️

    ทั้งที่ความจริงแล้ว "งูแสงอาทิตย์" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า XenopeltisUnicolor 🌞 เป็นงูไม่มีพิษ ที่นิสัยดีที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากมันจะ รักสงบ ใจดี ไม่ก้าวร้าว ไม่กัด ไม่มีประวัติกัดคนตาย เพราะไร้พิษโดยสิ้นเชิง ไม่ชอบต่อสู้ โดนศัตรูคุกคามก็แค่หลบ หรือมุดดินหนี ชอบออกหากินตอนกลางคืน ไม่รุกรานใคร 💙🤍💚

    ที่สำคัญ งูชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ 🍃🐍🎋☘เพราะพวกมันกินลูกงูพิษ เป็นอาหาร เช่น งูเห่า งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการควบคุมจำนวนประชากรงูพิษไม่ให้มีมากจนเกินไป ทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ และมันยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน จึงถือเป็นงูดีที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากอันตราย 🙏☺️

    โบราณจึงว่าไว้ว่า ไม่ควรตีงู แสงอาทิตย์ เพราะเป็นงูที่เกิดมาอาภัพ ทำความดีแต่ถูกตีตาย 🥺 และที่สำคัญ! หากจำนวนงูแสงอาทิตย์ในธรรมชาติลดลง ย่อมหมายถึงจำนวนงูพิษจะเพิ่มมากขึ้น!! ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้มนุษย์ในการโดนงูพิษกัด 👹 ดังนั้นจึงควรรักษางูแสงอาทิตย์ให้อยู่คู่ธรรมชาติสืบไป 💚🌳
    โบราณว่า ถ้างูชนิดนี้เลื้อยเข้าบ้านใคร ห้ามตีเด็ดขาดเพราะอาจเกิดเรื่องร้าย 😱🐍🚫 ไม่ใช่งูทุกตัวที่เกิดมาเป็นนักฆ่า เพราะบางตัวก็เกิดมาเป็นงูอาภัพ โดนคนตีตายโดยไม่มีความผิด 😢 อย่างเช่น งูแสงอาทิตย์ 🐍🌞 อสรพิษสุดน่าสงสาร ที่เกิดมาพร้อมหน้าตาที่ไม่น่ารัก ผิวหนังเลื่อมสะท้อนแสงเป็นสีรุ้ง และยังเหมือนจะนำสิ่งไม่ดีมาสู่คน จนถูกใส่ร้ายว่า "หากใครโดนงูแสงอาทิตย์กัดตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะตายทันที!!" ☠️ ทั้งที่ความจริงแล้ว "งูแสงอาทิตย์" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า XenopeltisUnicolor 🌞 เป็นงูไม่มีพิษ ที่นิสัยดีที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากมันจะ รักสงบ ใจดี ไม่ก้าวร้าว ไม่กัด ไม่มีประวัติกัดคนตาย เพราะไร้พิษโดยสิ้นเชิง ไม่ชอบต่อสู้ โดนศัตรูคุกคามก็แค่หลบ หรือมุดดินหนี ชอบออกหากินตอนกลางคืน ไม่รุกรานใคร 💙🤍💚 ที่สำคัญ งูชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ 🍃🐍🎋☘เพราะพวกมันกินลูกงูพิษ เป็นอาหาร เช่น งูเห่า งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการควบคุมจำนวนประชากรงูพิษไม่ให้มีมากจนเกินไป ทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ และมันยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน จึงถือเป็นงูดีที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากอันตราย 🙏☺️ โบราณจึงว่าไว้ว่า ไม่ควรตีงู แสงอาทิตย์ เพราะเป็นงูที่เกิดมาอาภัพ ทำความดีแต่ถูกตีตาย 🥺 และที่สำคัญ! หากจำนวนงูแสงอาทิตย์ในธรรมชาติลดลง ย่อมหมายถึงจำนวนงูพิษจะเพิ่มมากขึ้น!! ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้มนุษย์ในการโดนงูพิษกัด 👹 ดังนั้นจึงควรรักษางูแสงอาทิตย์ให้อยู่คู่ธรรมชาติสืบไป 💚🌳
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • โบราณว่า ถ้างูชนิดนี้เลื้อยเข้าบ้านใคร ห้ามตีเด็ดขาดเพราะอาจเกิดเรื่องร้าย 😱🐍🚫

    ไม่ใช่งูทุกตัวที่เกิดมาเป็นนักฆ่า เพราะบางตัวก็เกิดมาเป็นงูอาภัพ โดนคนตีตายโดยไม่มีความผิด 😢 อย่างเช่น งูแสงอาทิตย์ 🐍🌞 อสรพิษสุดน่าสงสาร ที่เกิดมาพร้อมหน้าตาที่ไม่น่ารัก ผิวหนังเลื่อมสะท้อนแสงเป็นสีรุ้ง และยังเหมือนจะนำสิ่งไม่ดีมาสู่คน จนถูกใส่ร้ายว่า "หากใครโดนงูแสงอาทิตย์กัดตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะตายทันที!!" ☠️

    ทั้งที่ความจริงแล้ว "งูแสงอาทิตย์" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า XenopeltisUnicolor 🌞 เป็นงูไม่มีพิษ ที่นิสัยดีที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากมันจะ รักสงบ ใจดี ไม่ก้าวร้าว ไม่กัด ไม่มีประวัติกัดคนตาย เพราะไร้พิษโดยสิ้นเชิง ไม่ชอบต่อสู้ โดนศัตรูคุกคามก็แค่หลบ หรือมุดดินหนี ชอบออกหากินตอนกลางคืน ไม่รุกรานใคร 💙🤍💚

    ที่สำคัญ งูชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ 🍃🐍🎋☘เพราะพวกมันกินลูกงูพิษ เป็นอาหาร เช่น งูเห่า งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการควบคุมจำนวนประชากรงูพิษไม่ให้มีมากจนเกินไป ทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ และมันยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน จึงถือเป็นงูดีที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากอันตราย 🙏☺️

    โบราณจึงว่าไว้ว่า ไม่ควรตีงู แสงอาทิตย์ เพราะเป็นงูที่เกิดมาอาภัพ ทำความดีแต่ถูกตีตาย 🥺 และที่สำคัญ! หากจำนวนงูแสงอาทิตย์ในธรรมชาติลดลง ย่อมหมายถึงจำนวนงูพิษจะเพิ่มมากขึ้น!! ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้มนุษย์ในการโดนงูพิษกัด 👹 ดังนั้นจึงควรรักษางูแสงอาทิตย์ให้อยู่คู่ธรรมชาติสืบไป 💚🌳
    โบราณว่า ถ้างูชนิดนี้เลื้อยเข้าบ้านใคร ห้ามตีเด็ดขาดเพราะอาจเกิดเรื่องร้าย 😱🐍🚫 ไม่ใช่งูทุกตัวที่เกิดมาเป็นนักฆ่า เพราะบางตัวก็เกิดมาเป็นงูอาภัพ โดนคนตีตายโดยไม่มีความผิด 😢 อย่างเช่น งูแสงอาทิตย์ 🐍🌞 อสรพิษสุดน่าสงสาร ที่เกิดมาพร้อมหน้าตาที่ไม่น่ารัก ผิวหนังเลื่อมสะท้อนแสงเป็นสีรุ้ง และยังเหมือนจะนำสิ่งไม่ดีมาสู่คน จนถูกใส่ร้ายว่า "หากใครโดนงูแสงอาทิตย์กัดตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะตายทันที!!" ☠️ ทั้งที่ความจริงแล้ว "งูแสงอาทิตย์" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า XenopeltisUnicolor 🌞 เป็นงูไม่มีพิษ ที่นิสัยดีที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากมันจะ รักสงบ ใจดี ไม่ก้าวร้าว ไม่กัด ไม่มีประวัติกัดคนตาย เพราะไร้พิษโดยสิ้นเชิง ไม่ชอบต่อสู้ โดนศัตรูคุกคามก็แค่หลบ หรือมุดดินหนี ชอบออกหากินตอนกลางคืน ไม่รุกรานใคร 💙🤍💚 ที่สำคัญ งูชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ 🍃🐍🎋☘เพราะพวกมันกินลูกงูพิษ เป็นอาหาร เช่น งูเห่า งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการควบคุมจำนวนประชากรงูพิษไม่ให้มีมากจนเกินไป ทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ และมันยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน จึงถือเป็นงูดีที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากอันตราย 🙏☺️ โบราณจึงว่าไว้ว่า ไม่ควรตีงู แสงอาทิตย์ เพราะเป็นงูที่เกิดมาอาภัพ ทำความดีแต่ถูกตีตาย 🥺 และที่สำคัญ! หากจำนวนงูแสงอาทิตย์ในธรรมชาติลดลง ย่อมหมายถึงจำนวนงูพิษจะเพิ่มมากขึ้น!! ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้มนุษย์ในการโดนงูพิษกัด 👹 ดังนั้นจึงควรรักษางูแสงอาทิตย์ให้อยู่คู่ธรรมชาติสืบไป 💚🌳
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts