“Pixel Watch 4: สมาร์ตวอชที่ไม่ต้องพยายามก็ชนะใจ — ดีไซน์หรู ฟีเจอร์ครบ แบตอึด พร้อม Gemini บนข้อมือ”
Google เปิดตัว Pixel Watch 4 อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ตุลาคม 2025 โดยยังคงรักษาดีไซน์โดมสุดหรูที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมปรับปรุงหลายจุดให้กลายเป็นสมาร์ตวอชที่ “ใช้งานจริง” ได้มากกว่าการเป็นแค่เครื่องแจ้งเตือน
สิ่งแรกที่โดดเด่นคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้จริงถึง 2 วันเต็ม แม้เปิด Always-On Display และใช้หลาย complications ก็ยังอยู่รอดได้สบาย ๆ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ dual-chip ที่แบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก ซึ่งช่วยลดภาระการประมวลผลและยืดอายุแบตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pixel Watch 4 ยังมาพร้อม Gemini ซึ่งเป็น AI ผู้ช่วยที่ฉลาดขึ้นกว่า Google Assistant เดิม โดยสามารถตั้ง shortcut บน Tile เพื่อสั่งงานได้ทันที เช่น เปิดไฟห้อง หรือถามเวลาการแข่งขันกีฬา น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ Magic Cue ซึ่งดึงข้อมูลส่วนตัวมาแสดงอัตโนมัติ ยังไม่รองรับบนตัวนาฬิกา
ด้านดีไซน์ Google ปรับหน้าจอให้เป็นโดมทั้งกระจกและพาเนลจริง ๆ ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่โค้งแค่ขอบ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ “ลอย” ของ UI ที่ดูนุ่มนวลและลื่นไหล โดยใช้ Material 3 Expressive ที่จัดวางปุ่มและ Tiles ได้อย่างสนุกและใช้งานง่าย
สำหรับการติดตามสุขภาพ Pixel Watch 4 ยังใช้ระบบ Fitbit เป็นหลัก โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน และมีการแจ้งเตือนแบบสั่นที่ปรับปรุงให้แม่นยำและไม่รบกวนคนข้าง ๆ
สุดท้ายคือการรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ทดสอบจริง แต่ถือเป็นฟีเจอร์สำรองที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น หลงทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Pixel Watch 4 เปิดตัววันที่ 9 ตุลาคม 2025
ใช้แบตเตอรี่ได้จริง 2 วัน แม้เปิด Always-On Display และหลาย complications
ใช้สถาปัตยกรรม dual-chip เพื่อแบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก
รองรับ Gemini บนข้อมือ พร้อมตั้ง shortcut บน Tile ได้
ไม่รองรับ Magic Cue บนตัวนาฬิกา
ดีไซน์หน้าจอแบบโดมจริงทั้งกระจกและพาเนล
ใช้ Material 3 Expressive ในการจัดวาง UI
ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน
รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมในกรณีฉุกเฉิน
ราคาเริ่มต้นที่ $349.99 เท่ากับรุ่นก่อน
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Gemini เป็น AI ผู้ช่วยรุ่นใหม่ของ Google ที่เน้นการเข้าใจบริบทและคำสั่งซับซ้อน
Material 3 Expressive เป็นแนวทางออกแบบ UI ที่เน้นความสนุกและความลื่นไหล
Dual-chip architecture เคยใช้ใน OnePlus Watch 2 และช่วยยืดแบตได้จริง
การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเริ่มเป็นมาตรฐานในอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูง
Fitbit Premium ยังเป็นระบบหลักในการวิเคราะห์สุขภาพบน Pixel Watch
https://www.slashgear.com/1992014/google-pixel-watch-4-review/
Google เปิดตัว Pixel Watch 4 อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ตุลาคม 2025 โดยยังคงรักษาดีไซน์โดมสุดหรูที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมปรับปรุงหลายจุดให้กลายเป็นสมาร์ตวอชที่ “ใช้งานจริง” ได้มากกว่าการเป็นแค่เครื่องแจ้งเตือน
สิ่งแรกที่โดดเด่นคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้จริงถึง 2 วันเต็ม แม้เปิด Always-On Display และใช้หลาย complications ก็ยังอยู่รอดได้สบาย ๆ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ dual-chip ที่แบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก ซึ่งช่วยลดภาระการประมวลผลและยืดอายุแบตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pixel Watch 4 ยังมาพร้อม Gemini ซึ่งเป็น AI ผู้ช่วยที่ฉลาดขึ้นกว่า Google Assistant เดิม โดยสามารถตั้ง shortcut บน Tile เพื่อสั่งงานได้ทันที เช่น เปิดไฟห้อง หรือถามเวลาการแข่งขันกีฬา น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ Magic Cue ซึ่งดึงข้อมูลส่วนตัวมาแสดงอัตโนมัติ ยังไม่รองรับบนตัวนาฬิกา
ด้านดีไซน์ Google ปรับหน้าจอให้เป็นโดมทั้งกระจกและพาเนลจริง ๆ ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่โค้งแค่ขอบ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ “ลอย” ของ UI ที่ดูนุ่มนวลและลื่นไหล โดยใช้ Material 3 Expressive ที่จัดวางปุ่มและ Tiles ได้อย่างสนุกและใช้งานง่าย
สำหรับการติดตามสุขภาพ Pixel Watch 4 ยังใช้ระบบ Fitbit เป็นหลัก โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน และมีการแจ้งเตือนแบบสั่นที่ปรับปรุงให้แม่นยำและไม่รบกวนคนข้าง ๆ
สุดท้ายคือการรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ทดสอบจริง แต่ถือเป็นฟีเจอร์สำรองที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น หลงทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Pixel Watch 4 เปิดตัววันที่ 9 ตุลาคม 2025
ใช้แบตเตอรี่ได้จริง 2 วัน แม้เปิด Always-On Display และหลาย complications
ใช้สถาปัตยกรรม dual-chip เพื่อแบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก
รองรับ Gemini บนข้อมือ พร้อมตั้ง shortcut บน Tile ได้
ไม่รองรับ Magic Cue บนตัวนาฬิกา
ดีไซน์หน้าจอแบบโดมจริงทั้งกระจกและพาเนล
ใช้ Material 3 Expressive ในการจัดวาง UI
ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน
รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมในกรณีฉุกเฉิน
ราคาเริ่มต้นที่ $349.99 เท่ากับรุ่นก่อน
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Gemini เป็น AI ผู้ช่วยรุ่นใหม่ของ Google ที่เน้นการเข้าใจบริบทและคำสั่งซับซ้อน
Material 3 Expressive เป็นแนวทางออกแบบ UI ที่เน้นความสนุกและความลื่นไหล
Dual-chip architecture เคยใช้ใน OnePlus Watch 2 และช่วยยืดแบตได้จริง
การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเริ่มเป็นมาตรฐานในอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูง
Fitbit Premium ยังเป็นระบบหลักในการวิเคราะห์สุขภาพบน Pixel Watch
https://www.slashgear.com/1992014/google-pixel-watch-4-review/
⌚ “Pixel Watch 4: สมาร์ตวอชที่ไม่ต้องพยายามก็ชนะใจ — ดีไซน์หรู ฟีเจอร์ครบ แบตอึด พร้อม Gemini บนข้อมือ”
Google เปิดตัว Pixel Watch 4 อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ตุลาคม 2025 โดยยังคงรักษาดีไซน์โดมสุดหรูที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมปรับปรุงหลายจุดให้กลายเป็นสมาร์ตวอชที่ “ใช้งานจริง” ได้มากกว่าการเป็นแค่เครื่องแจ้งเตือน
สิ่งแรกที่โดดเด่นคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้จริงถึง 2 วันเต็ม แม้เปิด Always-On Display และใช้หลาย complications ก็ยังอยู่รอดได้สบาย ๆ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ dual-chip ที่แบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก ซึ่งช่วยลดภาระการประมวลผลและยืดอายุแบตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pixel Watch 4 ยังมาพร้อม Gemini ซึ่งเป็น AI ผู้ช่วยที่ฉลาดขึ้นกว่า Google Assistant เดิม โดยสามารถตั้ง shortcut บน Tile เพื่อสั่งงานได้ทันที เช่น เปิดไฟห้อง หรือถามเวลาการแข่งขันกีฬา น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ Magic Cue ซึ่งดึงข้อมูลส่วนตัวมาแสดงอัตโนมัติ ยังไม่รองรับบนตัวนาฬิกา
ด้านดีไซน์ Google ปรับหน้าจอให้เป็นโดมทั้งกระจกและพาเนลจริง ๆ ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่โค้งแค่ขอบ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ “ลอย” ของ UI ที่ดูนุ่มนวลและลื่นไหล โดยใช้ Material 3 Expressive ที่จัดวางปุ่มและ Tiles ได้อย่างสนุกและใช้งานง่าย
สำหรับการติดตามสุขภาพ Pixel Watch 4 ยังใช้ระบบ Fitbit เป็นหลัก โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน และมีการแจ้งเตือนแบบสั่นที่ปรับปรุงให้แม่นยำและไม่รบกวนคนข้าง ๆ
สุดท้ายคือการรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ทดสอบจริง แต่ถือเป็นฟีเจอร์สำรองที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น หลงทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ Pixel Watch 4 เปิดตัววันที่ 9 ตุลาคม 2025
➡️ ใช้แบตเตอรี่ได้จริง 2 วัน แม้เปิด Always-On Display และหลาย complications
➡️ ใช้สถาปัตยกรรม dual-chip เพื่อแบ่งงานระหว่างชิปประหยัดพลังงานกับชิปหลัก
➡️ รองรับ Gemini บนข้อมือ พร้อมตั้ง shortcut บน Tile ได้
➡️ ไม่รองรับ Magic Cue บนตัวนาฬิกา
➡️ ดีไซน์หน้าจอแบบโดมจริงทั้งกระจกและพาเนล
➡️ ใช้ Material 3 Expressive ในการจัดวาง UI
➡️ ใช้โทรศัพท์เป็น dashboard สำหรับการปั่นจักรยาน
➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมในกรณีฉุกเฉิน
➡️ ราคาเริ่มต้นที่ $349.99 เท่ากับรุ่นก่อน
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ Gemini เป็น AI ผู้ช่วยรุ่นใหม่ของ Google ที่เน้นการเข้าใจบริบทและคำสั่งซับซ้อน
➡️ Material 3 Expressive เป็นแนวทางออกแบบ UI ที่เน้นความสนุกและความลื่นไหล
➡️ Dual-chip architecture เคยใช้ใน OnePlus Watch 2 และช่วยยืดแบตได้จริง
➡️ การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเริ่มเป็นมาตรฐานในอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูง
➡️ Fitbit Premium ยังเป็นระบบหลักในการวิเคราะห์สุขภาพบน Pixel Watch
https://www.slashgear.com/1992014/google-pixel-watch-4-review/
0 Comments
0 Shares
36 Views
0 Reviews