• คุณหมอต่อต้านฟ้าทะลายโจร ยืนยันว่าวัคซีนไม่มีโทษ ครอบครัวผู้สูญเสีย ควรแสดงตัวในที่ประชุมนี้ เพื่อขอรับการเยียวยาไปเลย
    คุณหมอต่อต้านฟ้าทะลายโจร ยืนยันว่าวัคซีนไม่มีโทษ ครอบครัวผู้สูญเสีย ควรแสดงตัวในที่ประชุมนี้ เพื่อขอรับการเยียวยาไปเลย
    Like
    Angry
    10
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก

    ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก

    รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม
    อย่าง บิดพริ้วไม่ได้

    ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
    ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ
    อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม

    รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข
    ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

    และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ

    และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล

    ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ

    และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ
    ในตำราแพทย์ไทยนั้น

    ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ

    ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67
    https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU

    ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย
    ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้
    และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น
    1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน
    2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้
    3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์
    4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่
    5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ
    6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง
    ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง

    ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้

    สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด

    โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า
    ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย
    โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง
    เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก
    ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

    สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้

    วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน

    นสพ มติชน ฉบับพิมพ์
    ท็อล์กออฟเดอะทาวน์
    10 พย 2567

    กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    รวบรวมข้อมูลโดย
    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม อย่าง บิดพริ้วไม่ได้ ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ ในตำราแพทย์ไทยนั้น ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67 https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้ และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น 1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน 2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้ 3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์ 4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่ 5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ 6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้ สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้ วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน นสพ มติชน ฉบับพิมพ์ ท็อล์กออฟเดอะทาวน์ 10 พย 2567 กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์ รวบรวมข้อมูลโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าให้คนเลวลอยนวล.

    ผลการวิเคราะห์การตายกระทันหันที่เกิดขึ้นพร้อมกันกับ ที่มีการเริ่มใช้วัคซีนทั่วโลก
    (รูปที่ 1)
    แต่แม้มีหลักฐานจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตซึ่งพบว่ามีการอักเสบในกล้ามเนื้อหัวใจ มีการ สร้างโปรตีนประหลาดขึ้น และตัดประเด็นอื่นออกไปทั้งหมดรวมทั้งการติดเชื้อโควิด แต่ก็เป็นเพียงจำนวนเป็น หลาย 100 รายเท่านั้น

    การที่ไม่สามารถชันสูตรศพในลักษณะละเอียดละออเช่นนั้นได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลาย 100,000 บาท ทำให้การเชื่อมโยงสาเหตุการตายกระทันหันเป็นหมื่นเป็นแสนคนไม่สามารถสรุปได้ 100%

    อย่างไรก็ตาม รายงานที่เห็นนี้ (รูป ที่2) ในวารสารรังสีวิทยา radiology ที่เป็นวารสารมาตรฐานทางการของสมาคม เป็นการแสดงผลการศึกษาโดยการใช้เวชศาสตร์นิวเคลียร์ตรวจกล้ามเนื้อหัวใจของผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวน 300 รายเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 700 รายและทำการติดตามไปพบว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนไม่มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนนั้นมีการอักเสบเกิดขึ้นจริง
    ทั้งนี้การวิเคราะห์นี้ทำในบุคคลที่ไม่ได้มีอาการทางหัวใจใดๆ แสดงว่าคนที่ได้รับวัคซีนมีหัวใจอักเสบคุกรุ่น อยู่อย่างที่รู้ตัว และข้อสำคัญก็คือจะมีการตัดกระแสไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจอย่างฉับพลันเมื่อใดก็ได้ ตามที่พบในเนื้อเยื่อหัวใจของศพที่เสียชีวิตกระทันหันที่มีการชันสูตรไปแล้ว (รูปที่3)

    วิดีโอคลิปนี้ของรายการนี้
    https://www.youtube.com/live/-FwufEXowrE?si=BUJHif05p9bjGchg

    ทำไมเราต้องสนใจเรื่องนี้
    1- เพราะเราตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
    2-เพราะเราจะต้องเรียกร้องให้มีการประเมินความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยีนี้
    3-เพราะเราต้องเรียกร้องให้มีการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย
    4-เพราะเราต้องเรียกร้องให้หยุดการใช้เทคโนโลยีนี้จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความปลอดภัยสูงสุดโดยการแก้ไขการผลิต การปรับแต่งอนุภาคไขมันนาโน และการปรับแต่งตัว mRNA และพิสูจน์ว่าไม่มีการปนเปื้อนใดๆ เช่น sv40 ที่ไม่ต้องมี large T antigen ก็ได้แต่ยังคงมียีนส์อื่น ที่สามารถทำให้อยู่คงกระพันและเสียบเข้าไปในโครโมโซมมนุษย์ได้
    นอกจากนั้นยังสามารถแพร่ออกไปจากตัวเซลล์ผ่านทางกลไกต่างๆ เช่น exosome
    5- การวิเคราะห์ล่าสุดยังพบว่าวัคซีนมีการปนเปื้อนด้วยสารอันตรายพิษ และ สารโลหะหนักอยู่ด้วยซึ่งการฉีดซ้ำซากย่อมส่งผลต่อร่างกาย
    6- แล้วเราจะอยู่รอดได้อย่างไร เข้าใกล้มังสวิรัติ ลด ถึงกับงดกินสัตว์บกถ้าทำได้ กิน ผักผลไม้กากใย แป้งน้อยหน่อย ออกกำลัง แดด สมุนไพรหลายชนิดที่มีขายอย่างถูกกฎหมายจากสถาบันหลายแห่ง ม รังสิต รพ อภัยภูเบศร์เบศร ห้างยาสมุนไพร ตั้งแต่ ขมิ้นชัน รางจืด และใชั ฟ้าทะลายโจร(เฉพาะเวลามีไข้ไม่สบาย) ขิงข่าตะไคร้ กระชายขาวพริกไทยดำ

    ผู้เฒ่า ผู้สูงวัยอย่างหมอ คงไม่เท่าไหร่ ภาวนาตายทันที ห่วงอยู่แต่ ลูกหลานเหลนคนไทย

    #ข้อสำคัญ อย่าให้คนเลวลอยนวล

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    อย่าให้คนเลวลอยนวล. ผลการวิเคราะห์การตายกระทันหันที่เกิดขึ้นพร้อมกันกับ ที่มีการเริ่มใช้วัคซีนทั่วโลก (รูปที่ 1) แต่แม้มีหลักฐานจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตซึ่งพบว่ามีการอักเสบในกล้ามเนื้อหัวใจ มีการ สร้างโปรตีนประหลาดขึ้น และตัดประเด็นอื่นออกไปทั้งหมดรวมทั้งการติดเชื้อโควิด แต่ก็เป็นเพียงจำนวนเป็น หลาย 100 รายเท่านั้น การที่ไม่สามารถชันสูตรศพในลักษณะละเอียดละออเช่นนั้นได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลาย 100,000 บาท ทำให้การเชื่อมโยงสาเหตุการตายกระทันหันเป็นหมื่นเป็นแสนคนไม่สามารถสรุปได้ 100% อย่างไรก็ตาม รายงานที่เห็นนี้ (รูป ที่2) ในวารสารรังสีวิทยา radiology ที่เป็นวารสารมาตรฐานทางการของสมาคม เป็นการแสดงผลการศึกษาโดยการใช้เวชศาสตร์นิวเคลียร์ตรวจกล้ามเนื้อหัวใจของผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวน 300 รายเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 700 รายและทำการติดตามไปพบว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนไม่มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนนั้นมีการอักเสบเกิดขึ้นจริง ทั้งนี้การวิเคราะห์นี้ทำในบุคคลที่ไม่ได้มีอาการทางหัวใจใดๆ แสดงว่าคนที่ได้รับวัคซีนมีหัวใจอักเสบคุกรุ่น อยู่อย่างที่รู้ตัว และข้อสำคัญก็คือจะมีการตัดกระแสไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจอย่างฉับพลันเมื่อใดก็ได้ ตามที่พบในเนื้อเยื่อหัวใจของศพที่เสียชีวิตกระทันหันที่มีการชันสูตรไปแล้ว (รูปที่3) วิดีโอคลิปนี้ของรายการนี้ https://www.youtube.com/live/-FwufEXowrE?si=BUJHif05p9bjGchg ทำไมเราต้องสนใจเรื่องนี้ 1- เพราะเราตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน 2-เพราะเราจะต้องเรียกร้องให้มีการประเมินความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยีนี้ 3-เพราะเราต้องเรียกร้องให้มีการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย 4-เพราะเราต้องเรียกร้องให้หยุดการใช้เทคโนโลยีนี้จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความปลอดภัยสูงสุดโดยการแก้ไขการผลิต การปรับแต่งอนุภาคไขมันนาโน และการปรับแต่งตัว mRNA และพิสูจน์ว่าไม่มีการปนเปื้อนใดๆ เช่น sv40 ที่ไม่ต้องมี large T antigen ก็ได้แต่ยังคงมียีนส์อื่น ที่สามารถทำให้อยู่คงกระพันและเสียบเข้าไปในโครโมโซมมนุษย์ได้ นอกจากนั้นยังสามารถแพร่ออกไปจากตัวเซลล์ผ่านทางกลไกต่างๆ เช่น exosome 5- การวิเคราะห์ล่าสุดยังพบว่าวัคซีนมีการปนเปื้อนด้วยสารอันตรายพิษ และ สารโลหะหนักอยู่ด้วยซึ่งการฉีดซ้ำซากย่อมส่งผลต่อร่างกาย 6- แล้วเราจะอยู่รอดได้อย่างไร เข้าใกล้มังสวิรัติ ลด ถึงกับงดกินสัตว์บกถ้าทำได้ กิน ผักผลไม้กากใย แป้งน้อยหน่อย ออกกำลัง แดด สมุนไพรหลายชนิดที่มีขายอย่างถูกกฎหมายจากสถาบันหลายแห่ง ม รังสิต รพ อภัยภูเบศร์เบศร ห้างยาสมุนไพร ตั้งแต่ ขมิ้นชัน รางจืด และใชั ฟ้าทะลายโจร(เฉพาะเวลามีไข้ไม่สบาย) ขิงข่าตะไคร้ กระชายขาวพริกไทยดำ ผู้เฒ่า ผู้สูงวัยอย่างหมอ คงไม่เท่าไหร่ ภาวนาตายทันที ห่วงอยู่แต่ ลูกหลานเหลนคนไทย #ข้อสำคัญ อย่าให้คนเลวลอยนวล ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Yay
    19
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574
    ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk
    ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ
    (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต )
    (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034
    (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4
    ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963
    ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564?
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj
    ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983
    ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387
    ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233
    ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY
    ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY
    ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW
    ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk
    ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g
    CDS ปลอดภัยไหม
    https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o
    https://fb.watch/uPOe7rQYRN/?
    หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8
    https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/
    ✍️คุยคุ้ยคน สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ | องค์กรลับสงครามโลก | สุดช็อคองค์กรลับชักใยโลก
    Part 1 https://youtu.be/8GZSMb5Zvxw?si=_uqYZ0nvIwS80Y9W
    Part 2 https://youtu.be/O3OIYuL6130?si=MB7nbRARpKiLqJa9
    Part 3 https://youtu.be/RVY25QTPUfY?si=DDG_APyA7IRdAOEc
    Part 4 https://youtu.be/Ooar7acY4Yo?si=jCARkGbrqCRX3qM9
    ✍️เพราะวิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง และสุขภาพคือเรื่องเดียวกัน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000092617
    ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm
    https://fb.watch/uY-aBuRhe5/?
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” อธิบายสาเหตุ วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดมากยิ่งอ่อนแอ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000094384
    ✍️จิตวิทยาในการหลอกลวง พวกอีริทกำลังทำอะไร QFS | เงินฝ่ายแสงมีจริงไหม โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/jhgiGqmslts?si=USH-UNinDlvb_cNU
    https://fb.watch/v3IvfIFvs1/?
    ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ?
    https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t
    https://fb.watch/v6cVR3d2hw/?
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ 5G โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/lucS8vQVgM0?si=AnJw7_9KFgRTv5GG
    https://fb.watch/v8Wh_pUjB6/?
    ✍️“หมอธีระวัฒน์”งง วัคซีนโควิดฉีดเยอะตายเยอะแต่ก็ยังรณรงค์ให้ฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000097895
    ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/
    ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย
    https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/
    https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ อัตราการตายคนไทยสูงมาก,กฎระเบียบการแพทย์ที่จะเกิดขึ้นมีผลต่อการล้างพิษที่จะถูกปิดบัง,และงานสัมมนา 24พ.ย.ที่จะเกิดขึ้น การออกมาฟ้องของผู้ได้รับผลกระทบ โดย อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/4-dTBuIzwOw?si=6sgo-SRvYRgCP-nC
    https://www.facebook.com/share/v/2boaciW95YT6z6yM/
    ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293
    ✍️ฉีดทำไม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000100995
    ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574 ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347 ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ) (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034 (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4 ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid02XMZdF6acF3Z7EV1GgbYnJDACMe27eGRq2afjnUVLtNGcPqndkQZYrD51D9jAqJ3Pl/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยหลักฐานสำคัญ ควรหยุดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้แล้ว https://mgronline.com/qol/detail/9670000061963 ✍️ทำไมคนไทย ”ตายมากขึ้นผิดปกติ“ หลังปีที่ฉีดวัคซีน และมากกว่าช่วงโควิดปี 2564? https://mgronline.com/daily/detail/9670000073098#lznh19i1h5g4estdokj ✍️หมอธีระวัฒน์” เผยไข้หวัดนกชนิดแรงระบาดในสหรัฐฯ พร้อมพบการเปลี่ยนพันธุกรรม WHO สั่งเตรียมวัคซีนหลายร้อยล้านโดส https://mgronline.com/qol/detail/9670000075983 ✍️ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ต้านไวรัส และร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน https://mgronline.com/qol/detail/9670000074387 ✍️สมองเสื่อมและตัวแปรที่น่ากลัว / นายแพทย์ภาสิน เหมะจุฑา MBBS(UK)วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000078581 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยชาวแคนาดารวมกลุ่มฟ้องรัฐบาลแล้ว หลังวัคซีนส่งผลกระทบรุนแรง 3 ใน 1 หมื่นราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000080993 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยผลศึกษา วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการเกิดลองโควิด https://mgronline.com/qol/detail/9670000082608 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงาน “หัวน้ำนม” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000085233 ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY ✍️วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ หมอดื้อ https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 ✍️วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ✍️แพทย์-จิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เตือนครั้งสุดท้ายให้ สธ.ระงับฉีดวัคซีน mRNA ทุกชนิด หลังมีข้อมูลผลกระทบมากกมาย https://mgronline.com/qol/detail/9670000089378 ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g CDS ปลอดภัยไหม https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o https://fb.watch/uPOe7rQYRN/? หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8 https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/ ✍️คุยคุ้ยคน สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ | องค์กรลับสงครามโลก | สุดช็อคองค์กรลับชักใยโลก Part 1 https://youtu.be/8GZSMb5Zvxw?si=_uqYZ0nvIwS80Y9W Part 2 https://youtu.be/O3OIYuL6130?si=MB7nbRARpKiLqJa9 Part 3 https://youtu.be/RVY25QTPUfY?si=DDG_APyA7IRdAOEc Part 4 https://youtu.be/Ooar7acY4Yo?si=jCARkGbrqCRX3qM9 ✍️เพราะวิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง และสุขภาพคือเรื่องเดียวกัน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000092617 ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm https://fb.watch/uY-aBuRhe5/? ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM ✍️“หมอธีระวัฒน์” อธิบายสาเหตุ วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดมากยิ่งอ่อนแอ https://mgronline.com/qol/detail/9670000094384 ✍️จิตวิทยาในการหลอกลวง พวกอีริทกำลังทำอะไร QFS | เงินฝ่ายแสงมีจริงไหม โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/jhgiGqmslts?si=USH-UNinDlvb_cNU https://fb.watch/v3IvfIFvs1/? ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ? https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t https://fb.watch/v6cVR3d2hw/? ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ 5G โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/lucS8vQVgM0?si=AnJw7_9KFgRTv5GG https://fb.watch/v8Wh_pUjB6/? ✍️“หมอธีระวัฒน์”งง วัคซีนโควิดฉีดเยอะตายเยอะแต่ก็ยังรณรงค์ให้ฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000097895 ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/ https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ อัตราการตายคนไทยสูงมาก,กฎระเบียบการแพทย์ที่จะเกิดขึ้นมีผลต่อการล้างพิษที่จะถูกปิดบัง,และงานสัมมนา 24พ.ย.ที่จะเกิดขึ้น การออกมาฟ้องของผู้ได้รับผลกระทบ โดย อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/4-dTBuIzwOw?si=6sgo-SRvYRgCP-nC https://www.facebook.com/share/v/2boaciW95YT6z6yM/ ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293 ✍️ฉีดทำไม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100995
    MGRONLINE.COM
    วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง (ตอนที่ 1).
    รายงานจนกระทั่งถึงปลายเดือนเมษายน 2024 ตอกย้ำความเชื่อมโยงของวัคซีน mRNA กับอัตรา ตายสูงขึ้นอย่างผิดปกติ (statistically significant increases) ของมะเร็งทุกชนิดโดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen- related canc
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 989 มุมมอง 2 รีวิว
  • ขออนุญาติแชร์คลิป"CDS..นะคะคุณหมอหนูเองก็ยังทำทานไม่เป็นเลยคืออยากเพิ่ม อ๊อกซิเจน ให้ร่างกายเพราะรับ ว.ซ.มาแล้วร่างกายเป็นภูมิแพ้ผื่นขึ้นบ่อยๆยาแก้แพ้ทานไม่ได้ผลไปหาหมอก็จะให้ทานแต่ยาแก้อักเสบยาหมดก็เป็นอีกก็ทานรางจืดบ้างเวลาไม่สบายเป็นไข้หวัดก็จะทานฟ้าทะลายโจรดีขึ้นแต่หัวใจเต้นผิดจังหวะนี่แหละจะทำให้วูป จะลองหาข้อมูลทำทานเองคะ
    ขออนุญาติแชร์คลิป"CDS..นะคะคุณหมอหนูเองก็ยังทำทานไม่เป็นเลยคืออยากเพิ่ม อ๊อกซิเจน ให้ร่างกายเพราะรับ ว.ซ.มาแล้วร่างกายเป็นภูมิแพ้ผื่นขึ้นบ่อยๆยาแก้แพ้ทานไม่ได้ผลไปหาหมอก็จะให้ทานแต่ยาแก้อักเสบยาหมดก็เป็นอีกก็ทานรางจืดบ้างเวลาไม่สบายเป็นไข้หวัดก็จะทานฟ้าทะลายโจรดีขึ้นแต่หัวใจเต้นผิดจังหวะนี่แหละจะทำให้วูป จะลองหาข้อมูลทำทานเองคะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 64 0 รีวิว
  • อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้
    1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน
    1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน
    1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน
    1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน
    1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข)
    1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน
    1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน

    2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง
    3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน 1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน 1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน 1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน 1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข) 1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน 1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน 2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง 3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293
    🙏🙏🙏
    ✍️ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน? / อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100293 🙏🙏🙏
    MGRONLINE.COM
    ความพยายามทำลายฟ้าทะลายโจร กับการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน?
    กลุ่มแพทย์บางคนที่ได้นำงานวิจัยไม่สมบูรณ์เพื่อเป็นเหตุอ้างในการถอดฟ้าทะลายโจรออกจากคู่มือแนวเวชปฏิบัติของกรมการแพทย์อย่างไม่ถูกต้อง
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
    รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย

    1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป
    2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com
    3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้
    5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา
    6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่
    7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม
    8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516
    9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม
    10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น
    11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส
    12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์)
    13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต
    👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ
    https://youtu.be/CDIl9ORkPcU
    👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/DHGPSl2dpPc
    👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว
    https://youtu.be/2gNPslzrJGc
    👉นมวัวดีจริงหรือ
    https://m.youtube.com/watch?fbclid=IwAR3IhxGc1xD5hcN7TRJK51P-a_Xrs3Ws9BgGbwfAfM1sXkIaUiFVJcTyge4&v=4Y0k5UYmPio&feature=youtu.be
    👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513&set=a.331355487019480&type=3
    👉จริงหรือ? นมกับความสูง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=854486941372996&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=619699778185048&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=553799574775069&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมแพะ
    https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023&id=100004350947568&set=a.331355487019480&mibextid=Nif5oz
    👉นม (ภาษาต่างประเทศ)
    https://www.naturalchild.org/articles/guest/linda_folden_palmer.html
    👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง
    https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/
    👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว
    https://www.tiktok.com/@user55682379949092/video/7347855645862841601?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด
    15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย
    16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)
    17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย)
    18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด
    19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ
    20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน
    21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704
    22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี
    ✅การลดประชากรโลก
    ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738
    ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the-outcome-see-the-journey.html
    ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ
    ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html
    ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html
    ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html
    ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html
    ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd-molecular-biologist-may-2020.html
    ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103
    ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108
    ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/
    ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b?r=FcGprKFzZv51EZ9G13RaSbZ9V7hCWD2P
    ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131
    ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44
    ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49
    ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/
    ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/document/d/1KMlPrvr0mNSycUKik_p_dxyaEv-F6K9ZbxWuQF7p0jk/edit?usp=sharing
    ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/document/d/1Ey79M2rz_BiI0YpzhKESQBLm-Z2ACYqxSly3dShaJYA/edit?usp=sharing
    ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/document/d/1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3uKg3s87fsnEdfNPWJ3_e4io/edit?usp=sharing
    ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/document/d/1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZwLT7HE5rzmYO_r485lLtEnEQ/edit?usp=sharing
    ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16
    ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35
    ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12
    ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/
    ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443
    ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง
    24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง
    👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์
    https://www.rookon.com/?p=944
    25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก
    26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้)
    27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
    28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก
    29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง
    👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    👉เค้าต้องการคอนโทรลสภาพภูมิอากาศของทั่วโลกภายในปี 2025 โปรแกรมดัดแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีกว่า 150 โปรแกรมจะถูกนำมาใช้ทั่วโลก สารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นมากว่า 49 ชนิด ถูกบรรจุไว้ในถังเพื่อที่จะนำไปพ่นในท้องฟ้า และที่อเมริกาได้ถูกทำการพ่นไปแล้ว ด้วยสารเคมี สารพิษ ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียฯลฯ ที่ได้ระบุไว้ในเอกสารซึ่งได้ทำการผลิตไว้อย่างลับๆโดยสถาบันFort Detrick(สถาบันวิจัยอาวุธเคมีชีวภาพ)💥😣
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=421902230036059&id=100066488568961
    👉มีสารอะไรอยู่ในเคมเทรล
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2
    👉ผลร้ายของเคมเทรล
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/75
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1282
    👉HAARP คืออะไร
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/524
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/728
    👉คลิป Chemtrails WAKE UP!
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/812
    👉คำอธิบายหลักการทำงานของ Chembuster: https://www.youtube.com/watch?v=s4SM5PajwSM&t=686s
    👉"Video tutorial on how to build an Orgone Environmental Harmonizer, the so-called Chembuster." - Mirko Kulig: https://www.youtube.com/watch?v=QpGmOd_u0JQ
    👉ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ | Facebook: https://www.facebook.com/airpollution.CAPM/?ref=page_internal
    👉รัฐบาลไทย และอินโดนีเซีย โดนหลอกให้เซ็นสัญญาตกลงให้ปรับสภาพอากาศได้ 3 ปี สัญญานี้เซ็นปี 2020
    แปลว่า เอาอะไรมาพ่นในบ้านเราก็ได้
    https://zerogeoengineering.com/2022/thailand-and-indonesia-have-signed-a-weather-modification-deal-through-2024/
    👉สภาพอากาศถูกควบคุมด้วย เทคโนโลยี HAARP
    By น้องอองซานและอาจารย์ทีน่า
    https://www.tiktok.com/t/ZSLCRfSSw/
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1281
    👉คลิป อ.ศุภวรรณกรีน กล่าวถึงเคมเทรล
    https://vt.tiktok.com/ZSNruWBLK/
    👉รายงาน: ศาสตราจารย์และนักภูมิอากาศวิทยา Dr. #JudithCurry ให้การเป็นพยานภายใต้คำสาบานต่อสภาคองเกรสว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น" เป็นเรื่องหลอกลวงโดยการปลอมแปลงข้อมูลและเยาะเย้ยนักวิทยาศาสตร์ที่กล้าไม่เห็นด้วยกับการค้นพบทางการเมือง!
    https://twitter.com/i/status/1683105847407149056
    👉ตำแหน่งที่ตั้ง HARRP ในโลก
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1302
    👉ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ | อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/

    30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW
    👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    31.หลอกให้รับวัkซีuอันตรายกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน)
    32.หลอกเรื่อง 9-11
    33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร
    34.หลอกให้กินกาแฟ
    35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก
    36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก
    37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน)
    38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์
    39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย
    40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ
    41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต
    42.หลอกว่าเรามี Junk DNA
    43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม
    44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน
    45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง)
    46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี
    47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ เป็นต้น
    48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง
    49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า
    50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ
    51.หลอกเรื่อง ลิเบีย
    52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์
    53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล
    54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว
    55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา
    56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ
    57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย
    👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ
    ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่
    1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks"
    https://line.me/ti/g2/Nf-CPF-eldbclG4WH4iEIHyawJGFT76Btq14eQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    2.เทเลแกรม “HarmfulMasks”
    https://t.me/HarmfulMasks

    58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR
    ✅ PCR และ ATK ลวงโลก
    👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html
    👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/sub/pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%97/
    👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html
    👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu..html
    👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124
    👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap
    https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/956
    👉ภัยจากการ Swap
    https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4282
    👉 กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689
    👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp
    👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/

    59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย
    60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น
    61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ ประสูตพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดียโคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี

    บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย

    ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล

    https://youtu.be/YkyYWVNvz5M
    https://youtu.be/SKcv6GSm2dw

    #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS
    #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต
    #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมา
    #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ

    เวชหนุ่ม
    เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย 1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป 2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com 3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo 4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้ 5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา 6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่ 7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม 8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516 9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม 10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น 11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส 12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์) 13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต 👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://youtu.be/CDIl9ORkPcU 👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/DHGPSl2dpPc 👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว https://youtu.be/2gNPslzrJGc 👉นมวัวดีจริงหรือ https://m.youtube.com/watch?fbclid=IwAR3IhxGc1xD5hcN7TRJK51P-a_Xrs3Ws9BgGbwfAfM1sXkIaUiFVJcTyge4&v=4Y0k5UYmPio&feature=youtu.be 👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513&set=a.331355487019480&type=3 👉จริงหรือ? นมกับความสูง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=854486941372996&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=619699778185048&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=553799574775069&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมแพะ https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023&id=100004350947568&set=a.331355487019480&mibextid=Nif5oz 👉นม (ภาษาต่างประเทศ) https://www.naturalchild.org/articles/guest/linda_folden_palmer.html 👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/ 👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว https://www.tiktok.com/@user55682379949092/video/7347855645862841601?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด 15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย 16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) 17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย) 18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด 19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ 20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน 21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704 22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี ✅การลดประชากรโลก ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738 ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the-outcome-see-the-journey.html ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd-molecular-biologist-may-2020.html ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103 ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108 ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/ ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b?r=FcGprKFzZv51EZ9G13RaSbZ9V7hCWD2P ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131 ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44 ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49 ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/ ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/document/d/1KMlPrvr0mNSycUKik_p_dxyaEv-F6K9ZbxWuQF7p0jk/edit?usp=sharing ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/document/d/1Ey79M2rz_BiI0YpzhKESQBLm-Z2ACYqxSly3dShaJYA/edit?usp=sharing ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/document/d/1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3uKg3s87fsnEdfNPWJ3_e4io/edit?usp=sharing ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/document/d/1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZwLT7HE5rzmYO_r485lLtEnEQ/edit?usp=sharing ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16 ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35 ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12 ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/ ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443 ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc 👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc 👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv 👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง 24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง 👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์ https://www.rookon.com/?p=944 25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก 26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้) 27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก 29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เค้าต้องการคอนโทรลสภาพภูมิอากาศของทั่วโลกภายในปี 2025 โปรแกรมดัดแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีกว่า 150 โปรแกรมจะถูกนำมาใช้ทั่วโลก สารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นมากว่า 49 ชนิด ถูกบรรจุไว้ในถังเพื่อที่จะนำไปพ่นในท้องฟ้า และที่อเมริกาได้ถูกทำการพ่นไปแล้ว ด้วยสารเคมี สารพิษ ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียฯลฯ ที่ได้ระบุไว้ในเอกสารซึ่งได้ทำการผลิตไว้อย่างลับๆโดยสถาบันFort Detrick(สถาบันวิจัยอาวุธเคมีชีวภาพ)💥😣 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=421902230036059&id=100066488568961 👉มีสารอะไรอยู่ในเคมเทรล https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2 👉ผลร้ายของเคมเทรล https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/75 https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1282 👉HAARP คืออะไร https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/524 https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/728 👉คลิป Chemtrails WAKE UP! https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/812 👉คำอธิบายหลักการทำงานของ Chembuster: https://www.youtube.com/watch?v=s4SM5PajwSM&t=686s 👉"Video tutorial on how to build an Orgone Environmental Harmonizer, the so-called Chembuster." - Mirko Kulig: https://www.youtube.com/watch?v=QpGmOd_u0JQ 👉ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ | Facebook: https://www.facebook.com/airpollution.CAPM/?ref=page_internal 👉รัฐบาลไทย และอินโดนีเซีย โดนหลอกให้เซ็นสัญญาตกลงให้ปรับสภาพอากาศได้ 3 ปี สัญญานี้เซ็นปี 2020 แปลว่า เอาอะไรมาพ่นในบ้านเราก็ได้ https://zerogeoengineering.com/2022/thailand-and-indonesia-have-signed-a-weather-modification-deal-through-2024/ 👉สภาพอากาศถูกควบคุมด้วย เทคโนโลยี HAARP By น้องอองซานและอาจารย์ทีน่า https://www.tiktok.com/t/ZSLCRfSSw/ https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1281 👉คลิป อ.ศุภวรรณกรีน กล่าวถึงเคมเทรล https://vt.tiktok.com/ZSNruWBLK/ 👉รายงาน: ศาสตราจารย์และนักภูมิอากาศวิทยา Dr. #JudithCurry ให้การเป็นพยานภายใต้คำสาบานต่อสภาคองเกรสว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น" เป็นเรื่องหลอกลวงโดยการปลอมแปลงข้อมูลและเยาะเย้ยนักวิทยาศาสตร์ที่กล้าไม่เห็นด้วยกับการค้นพบทางการเมือง! https://twitter.com/i/status/1683105847407149056 👉ตำแหน่งที่ตั้ง HARRP ในโลก https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1302 👉ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ | อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ 30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 31.หลอกให้รับวัkซีuอันตรายกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน) 32.หลอกเรื่อง 9-11 33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร 34.หลอกให้กินกาแฟ 35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก 36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก 37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน) 38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ 39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย 40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ 41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต 42.หลอกว่าเรามี Junk DNA 43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม 44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน 45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง) 46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี 47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ เป็นต้น 48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง 49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า 50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ 51.หลอกเรื่อง ลิเบีย 52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์ 53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล 54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว 55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา 56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ 57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย 👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่ 1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks" https://line.me/ti/g2/Nf-CPF-eldbclG4WH4iEIHyawJGFT76Btq14eQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default 2.เทเลแกรม “HarmfulMasks” https://t.me/HarmfulMasks 58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR ✅ PCR และ ATK ลวงโลก 👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html 👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/sub/pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%97/ 👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html 👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu..html 👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124 👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/ https://t.me/ThaiPitaksithData/956 👉ภัยจากการ Swap https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/? https://t.me/ThaiPitaksithData/4282 👉 กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689 👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp 👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/ 59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย 60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น 61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ ประสูตพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดียโคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล https://youtu.be/YkyYWVNvz5M https://youtu.be/SKcv6GSm2dw #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมา #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ เวชหนุ่ม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน#2019"โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ"บัว"เห็นนิมิตเป็นลักษณะนี้จึงวาดและส่งให้ อ.สมเกียรติ ในเพจfbและพูดคุยกับท่านว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นการตัดต่อพันธุกรรมจากห้องแล็บมันไม่มีชีวิตต้องอาศัยพาหนะและแบ่งตัวเหมือนสำเนา ภาพแรกดูคล้ายปีกค้างคาวแต่ถ้าดูดีๆจะเป็นงู"สัญลักษณ์ทางการแพทย์&เลข๓ไทย(หมายถึงตำรวจลับ)เวลาที่เขาเกาะติดกันจะไม่เป็นอันตรายเวลาจะใช้ต้องดึงออกมาทีละตัวจึงจะมีพิษในการทำร้าย#วิธีที่จะทำลายมันต้องใช้ไฟเผาที่มีอุณหภูมิที่สูงมาก(คือเขาบอกบัวมาแบบนี้ขอไม่เปิดเผยเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่ารู้เลย)หนูคุยกับอาจารย์ว่าเป้าหมายเขาทำเพื่ออะไรนอกจากคนจะตายเยอะแล้วเศรษฐ์กิจยังแย่อีกนานเลย ตอนนั้นหนูทำงานก็จำเป็นต้องฉีด ว.ซ.AZ/2เข็มๆแรกก็รู้แล้วว่าเป็นไข้เกือบตายหลังจากฉีดผ่านไป4ชม.เวลา1ทุ่มตัวร้อนมากไข้ขึ้นสูงปวดหัวเหมือนจะแตกแต่หนาวสั่นพี่สาวต้องเอาผ้านวมมาห่มให้และกินยาไทรีนอลทุกๆ3ชม.ต่อมาอ่อนเพลียง่าย ใจเต้นพริ้ว บางครั้งคล้ายจะวูบ ห้ามเดินทางจึงจำเป็นต้องฉีดเข็มที่2เกิดอาการภูมิแพ้ผื่นขึ้นตามผิวคันต้องทานยาแก้แพ้,ใช้ยาทาผิว,ทานรางจืดต้มเวลาเป็นไข้เคยทานแต่พาราไม่หายเลยเปลี่ยนมาทาน ยาฟ้าทะลายโจรดีขึ้นมากถ้ามีไข้อีกก็จะทานฟ้าทะลายโจรตลอดเพราะตื่นมาดีขึ้นเหมือนหายไม่เจ็บคอปวดหัวหรือไอ แต่ถ้าเป็นยาแก้ไข้ทั่วไปกดภูมิเราไว้แล้วหมดฤทธิ์ยาก็กลับมาเป็นอีก สมุนไพรไทยเรานี่แหละดีมากทั้งต้มน้ำมะกรูดดื่ม,ดื่มน้ำขิงต้มเอง เลือกใช้ให้เหมาะกับเราเองเพราะร่างกายแต่ละคนต่างกันใช้สูตรหรือปริมาณปรับให้สมดุลกับตนเอง #ส่วนเพื่อนฉีดเข็มแรกก็ปากเบี้ยวแต่ใส่หน้ากากจึงไม่มีใครเห็นบริษัทบังคับให้ฉีดก็รับไป2เข็มAZตอนนี้เขาเป็นมะเร็งเต้านมระยะ3-4กำลังรักษาตัวอยู่#ส่วนครอบครัวเพื่อนอีกคนแม่มาป่วยเป็นโรคหัวใจ,ส่วนพ่อตาบอดและเป็นอัลไซเมอร์พ่อรับไป3เข็ม(เอสฯ,เซอร์,โม)และท่านก็บอกอีกว่าจะเกิดสงครามตอนนั้น"รัสเซีย&ยูเครน"ยังไม่รบกันเลยก็รอดูว่าจะจริงไหมต่อมาก็จริง เขาบอกอีกว่าต่อไปเงินจะเป็นกระดาษแบงค์กงเต๊งไร้ค่าถ้ามีสงครามเนทันยาฮูจะถูกลอบสังหาร(อาจเป็นพวกเดียวกัน)สงครามใหญ่ครั้งนี้อีกาจะแพ้🦅🔥แต่โลกสูญเสียเยอะใครจดสิทธิบัตรก็คนนั้นแหละปล่อย🙄 รอดูกันต่อไป ขอแชร์แค่นี้นะคะ(ถือว่าอ่านนิยายแล้วกันนะคะ😊)มือสมัครเล่น555
    ตอน#2019"โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ"บัว"เห็นนิมิตเป็นลักษณะนี้จึงวาดและส่งให้ อ.สมเกียรติ ในเพจfbและพูดคุยกับท่านว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นการตัดต่อพันธุกรรมจากห้องแล็บมันไม่มีชีวิตต้องอาศัยพาหนะและแบ่งตัวเหมือนสำเนา ภาพแรกดูคล้ายปีกค้างคาวแต่ถ้าดูดีๆจะเป็นงู"สัญลักษณ์ทางการแพทย์&เลข๓ไทย(หมายถึงตำรวจลับ)เวลาที่เขาเกาะติดกันจะไม่เป็นอันตรายเวลาจะใช้ต้องดึงออกมาทีละตัวจึงจะมีพิษในการทำร้าย#วิธีที่จะทำลายมันต้องใช้ไฟเผาที่มีอุณหภูมิที่สูงมาก(คือเขาบอกบัวมาแบบนี้ขอไม่เปิดเผยเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่ารู้เลย)หนูคุยกับอาจารย์ว่าเป้าหมายเขาทำเพื่ออะไรนอกจากคนจะตายเยอะแล้วเศรษฐ์กิจยังแย่อีกนานเลย ตอนนั้นหนูทำงานก็จำเป็นต้องฉีด ว.ซ.AZ/2เข็มๆแรกก็รู้แล้วว่าเป็นไข้เกือบตายหลังจากฉีดผ่านไป4ชม.เวลา1ทุ่มตัวร้อนมากไข้ขึ้นสูงปวดหัวเหมือนจะแตกแต่หนาวสั่นพี่สาวต้องเอาผ้านวมมาห่มให้และกินยาไทรีนอลทุกๆ3ชม.ต่อมาอ่อนเพลียง่าย ใจเต้นพริ้ว บางครั้งคล้ายจะวูบ ห้ามเดินทางจึงจำเป็นต้องฉีดเข็มที่2เกิดอาการภูมิแพ้ผื่นขึ้นตามผิวคันต้องทานยาแก้แพ้,ใช้ยาทาผิว,ทานรางจืดต้มเวลาเป็นไข้เคยทานแต่พาราไม่หายเลยเปลี่ยนมาทาน ยาฟ้าทะลายโจรดีขึ้นมากถ้ามีไข้อีกก็จะทานฟ้าทะลายโจรตลอดเพราะตื่นมาดีขึ้นเหมือนหายไม่เจ็บคอปวดหัวหรือไอ แต่ถ้าเป็นยาแก้ไข้ทั่วไปกดภูมิเราไว้แล้วหมดฤทธิ์ยาก็กลับมาเป็นอีก สมุนไพรไทยเรานี่แหละดีมากทั้งต้มน้ำมะกรูดดื่ม,ดื่มน้ำขิงต้มเอง เลือกใช้ให้เหมาะกับเราเองเพราะร่างกายแต่ละคนต่างกันใช้สูตรหรือปริมาณปรับให้สมดุลกับตนเอง #ส่วนเพื่อนฉีดเข็มแรกก็ปากเบี้ยวแต่ใส่หน้ากากจึงไม่มีใครเห็นบริษัทบังคับให้ฉีดก็รับไป2เข็มAZตอนนี้เขาเป็นมะเร็งเต้านมระยะ3-4กำลังรักษาตัวอยู่#ส่วนครอบครัวเพื่อนอีกคนแม่มาป่วยเป็นโรคหัวใจ,ส่วนพ่อตาบอดและเป็นอัลไซเมอร์พ่อรับไป3เข็ม(เอสฯ,เซอร์,โม)และท่านก็บอกอีกว่าจะเกิดสงครามตอนนั้น"รัสเซีย&ยูเครน"ยังไม่รบกันเลยก็รอดูว่าจะจริงไหมต่อมาก็จริง เขาบอกอีกว่าต่อไปเงินจะเป็นกระดาษแบงค์กงเต๊งไร้ค่าถ้ามีสงครามเนทันยาฮูจะถูกลอบสังหาร(อาจเป็นพวกเดียวกัน)สงครามใหญ่ครั้งนี้อีกาจะแพ้🦅🔥แต่โลกสูญเสียเยอะใครจดสิทธิบัตรก็คนนั้นแหละปล่อย🙄 รอดูกันต่อไป ขอแชร์แค่นี้นะคะ(ถือว่าอ่านนิยายแล้วกันนะคะ😊)มือสมัครเล่น555
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • The yellow corn is serious nightshade, very high in lectins... The food looks and tastes nice I'm sure, some people do enjoy the spicy food, but this food will not give much energy or good health in the long term.

    There was a time 100 years ago when water was clean... And most food was healthy... That type of food became popular, and to this day there are still people in Japan, for them if the food is NOT moving they don't eat it🥺

    อืม..พริกไทดำ หรือขาว ก็ตามนะอย่ากินเดี่ยวๆกับอาหาร..ให้กินคู่กับสมุนไพร ..ละตัองคนผสมเป็นทำให้ไม่ใช่ให้ไปซื้อแบบผสมแล้วใส่แคปซูลไว้..กินเข้าไปตายเร็วอีก..กานพลูห้ามผสมกับชะเอม..ตายเร็วเหมือนกัน..ฟ้าทะลายโจรให้บด ละดมเอากลิ่นเข้าจมูก..กิน เข้าไปกระดูกพังหมดระยะยาว...ส่วนผักผลไม้ที่มีเลคตินสูงต้องหยุดไม่งั้นตายแน่ๆสมัยนี้ไม่ตายเร็วแต่หลับแล้วไปเลยชอบแบบนั้นก้อกินมันเยอะๆไม่ได้ว่าอะไร..บอกประจำสมัยนี้หลายอย่างมันเปลี่ยนไป..มะเขือเทศ มะเขือทุกชนิด ข้าวโพด หยุดได้ต้องหยุด อย่าฝืนกิน ..ผลไม้กินหลังบ่ายสองถึงหกโมงเยนเท่านั้น..น้ำอย่าดื่มทันทีหลังกินเสร็จรอครึ่งชั่วโมงค่อยดื่ม...ทำไม่ได้ก็วนทำใหม่จนกว่าจะไม่ลืม ชีวิตจะเปลี่ยน..หมาแมวต้องห่างเพราะปรสิตติดมากับขนที่ร่วงๆเสมอ ...
    The yellow corn is serious nightshade, very high in lectins... The food looks and tastes nice I'm sure, some people do enjoy the spicy food, but this food will not give much energy or good health in the long term. There was a time 100 years ago when water was clean... And most food was healthy... That type of food became popular, and to this day there are still people in Japan, for them if the food is NOT moving they don't eat it🥺 อืม..พริกไทดำ หรือขาว ก็ตามนะอย่ากินเดี่ยวๆกับอาหาร..ให้กินคู่กับสมุนไพร ..ละตัองคนผสมเป็นทำให้ไม่ใช่ให้ไปซื้อแบบผสมแล้วใส่แคปซูลไว้..กินเข้าไปตายเร็วอีก..กานพลูห้ามผสมกับชะเอม..ตายเร็วเหมือนกัน..ฟ้าทะลายโจรให้บด ละดมเอากลิ่นเข้าจมูก..กิน เข้าไปกระดูกพังหมดระยะยาว...ส่วนผักผลไม้ที่มีเลคตินสูงต้องหยุดไม่งั้นตายแน่ๆสมัยนี้ไม่ตายเร็วแต่หลับแล้วไปเลยชอบแบบนั้นก้อกินมันเยอะๆไม่ได้ว่าอะไร..บอกประจำสมัยนี้หลายอย่างมันเปลี่ยนไป..มะเขือเทศ มะเขือทุกชนิด ข้าวโพด หยุดได้ต้องหยุด อย่าฝืนกิน ..ผลไม้กินหลังบ่ายสองถึงหกโมงเยนเท่านั้น..น้ำอย่าดื่มทันทีหลังกินเสร็จรอครึ่งชั่วโมงค่อยดื่ม...ทำไม่ได้ก็วนทำใหม่จนกว่าจะไม่ลืม ชีวิตจะเปลี่ยน..หมาแมวต้องห่างเพราะปรสิตติดมากับขนที่ร่วงๆเสมอ ...
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่ควรมีติดบ้าน
    ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่ควรมีติดบ้าน
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 476 0 รีวิว
  • น่าปวดหัวบอกเรื่องวิตามินซีที่ดีที่สุดในไทย ,.มาถามเรื่องฟ้าทะลายโจร..ฟ้าทะลายโจรห้ามกิน เขาให้เอามา ดมและสูดไอระเหยเข้าทางจมูก ..ไม่รู้เรื่องอะไรเลย..นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด

    Just give yourfamily the Nat C

    2-4 tablets a day

    If they go out give them tablets to suck on

    Teach them how to suck the tablet and put under their tongues

    Don’t just swallow the tablet

    The mouth is where all the germs start

    The air goes from the nose to the throat

    Sometimes the skin will peel inside the mouth but that’s good ... it’s not bad

    When go to sleep can put the tablet in the mouth then fall sleep😊

    ----------------
    The air goes out the side of the mask

    If you have a virus a mask like that won’t stop it from spreading


    ทำไมกินวิตามินซีแล้วรู้สึกตัวร้อน😊

    Hot body means the calcium Ascorbate. The calcium in vitamin C can cause the hot body but Vitamin C is good for hot flashes too. It means it’s working to flush your tissues l

    If you get hot body it’s cause the estrogen in your body is high and eating more vitamin C will help.

    😊😊😊🙏

    หากกินวิตามินซีติดต่อกันจะมีปัญหากับไตไหม?

    If get Nat C no problem with kidney but will cause a bowel movements

    No kidney problems cause Vitamin C is cleaning the kidney

    Only problem is ulcer from eating vitamin C that is not buffered and time released cause it burn 😊

    น่าปวดหัวบอกเรื่องวิตามินซีที่ดีที่สุดในไทย ,.มาถามเรื่องฟ้าทะลายโจร..ฟ้าทะลายโจรห้ามกิน เขาให้เอามา ดมและสูดไอระเหยเข้าทางจมูก ..ไม่รู้เรื่องอะไรเลย..นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด Just give yourfamily the Nat C 2-4 tablets a day If they go out give them tablets to suck on Teach them how to suck the tablet and put under their tongues Don’t just swallow the tablet The mouth is where all the germs start The air goes from the nose to the throat Sometimes the skin will peel inside the mouth but that’s good ... it’s not bad When go to sleep can put the tablet in the mouth then fall sleep😊 ---------------- The air goes out the side of the mask If you have a virus a mask like that won’t stop it from spreading ทำไมกินวิตามินซีแล้วรู้สึกตัวร้อน😊 Hot body means the calcium Ascorbate. The calcium in vitamin C can cause the hot body but Vitamin C is good for hot flashes too. It means it’s working to flush your tissues l If you get hot body it’s cause the estrogen in your body is high and eating more vitamin C will help. 😊😊😊🙏 หากกินวิตามินซีติดต่อกันจะมีปัญหากับไตไหม? If get Nat C no problem with kidney but will cause a bowel movements No kidney problems cause Vitamin C is cleaning the kidney Only problem is ulcer from eating vitamin C that is not buffered and time released cause it burn 😊
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ

    ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก

    ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก

    ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1]

    ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน

    ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว”

    ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2]

    ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า

    “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2]

    แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า

    ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า

    “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3]

    ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า

    “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4]

    ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า

    “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4]

    แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523

    การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย

    โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน

    ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย

    โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร

    เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5]

    นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น

    อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา

    ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ

    ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่

    เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

    โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น

    และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย

    โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้

    “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚

    ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚

    ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚

    ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6]

    ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า

    ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6]

    นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า

    “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7]

    แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า

    “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8]

    อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8]

    ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9]

    นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10]

    นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ

    ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 กันยายน 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/?

    อ้างอิง
    [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152
    https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094

    [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔

    [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694

    [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37

    [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย
    https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf

    [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567)
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798

    [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335

    [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf

    [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf

    [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1] ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว” ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2] ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2] แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3] ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4] ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4] แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523 การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5] นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่ เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้ “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚ ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚ ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚ ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6] ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6] นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7] แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8] อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8] ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9] นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10] นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 กันยายน 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/? อ้างอิง [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152 https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094 [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔ [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694 [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37 [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567) https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798 [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335 [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    Like
    Love
    Yay
    57
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 3106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2 (30 มิ.ย. 67)
    #สมรภูมิฟ้าทะลายโจรสงครามโรคในสงครามโลก
    ไม่ต้องรอให้ระเบิดลงหลังคาบ้านก่อน แล้วค่อยตื่นรู้! เตรียมตัวให้ดี
    ทองคำ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค โดยเฉพาะสมุนไพร อาจารย์ปานเทพ พัวพงพันธ์
    จะมาบอกสิ่งที่พูดไม่ได้ในโซเชียลมีเดีย

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สุขภาพ #ปานเทพ #ฟ้าทะลายโจร #สมุนไพรไทย
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2 (30 มิ.ย. 67) #สมรภูมิฟ้าทะลายโจรสงครามโรคในสงครามโลก ไม่ต้องรอให้ระเบิดลงหลังคาบ้านก่อน แล้วค่อยตื่นรู้! เตรียมตัวให้ดี ทองคำ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค โดยเฉพาะสมุนไพร อาจารย์ปานเทพ พัวพงพันธ์ จะมาบอกสิ่งที่พูดไม่ได้ในโซเชียลมีเดีย #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สุขภาพ #ปานเทพ #ฟ้าทะลายโจร #สมุนไพรไทย
    Like
    Love
    74
    0 ความคิดเห็น 6 การแบ่งปัน 6817 มุมมอง 3487 1 รีวิว
  • ชมคลิปวีดีโอที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เบื้องหลังการเจรจา “ก่อนจะทวงคืนฟ้าทะลายโจรสำเร็จ” ให้ กลับคืนมาใน คู่มือแนวเวชปฏิบัติ ในการรักษาโรคโควิด-19 ทุกโรงพยาบาล ระหว่าง ตัวแทนภาคประชาชน คือ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต คุณรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูนิธิสุขภาพไทย กับ คณะผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
    ชมคลิปวีดีโอที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เบื้องหลังการเจรจา “ก่อนจะทวงคืนฟ้าทะลายโจรสำเร็จ” ให้ กลับคืนมาใน คู่มือแนวเวชปฏิบัติ ในการรักษาโรคโควิด-19 ทุกโรงพยาบาล ระหว่าง ตัวแทนภาคประชาชน คือ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต คุณรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูนิธิสุขภาพไทย กับ คณะผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
    Like
    Love
    Wow
    128
    11 ความคิดเห็น 13 การแบ่งปัน 9801 มุมมอง 3363 7 รีวิว
  • ชมคลิปที่ถูกลบออกจากโซเชียลมีเดีย ฟ้าทะลายโจรของดีใกล้ตัว
    ชมคลิปที่ถูกลบออกจากโซเชียลมีเดีย ฟ้าทะลายโจรของดีใกล้ตัว
    Like
    Love
    50
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 2457 มุมมอง 1346 1 รีวิว
  • Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full)

    - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก
    - ยุบพรรคก้าวไกล
    - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม
    - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร”
    - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM”

    ช่องการการติดตาม SONDHITALK
    facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/
    youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk
    thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix
    tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk
    twitter X : https://x.com/sondhitalk
    sondhitalk : https://sondhitalk.com/

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full) - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก - ยุบพรรคก้าวไกล - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร” - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM” ช่องการการติดตาม SONDHITALK facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/ youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk twitter X : https://x.com/sondhitalk sondhitalk : https://sondhitalk.com/ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Like
    Love
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10841 มุมมอง 914 0 รีวิว
  • ไฮไลท์“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” EP.253 (2 สิงหาคม 2567) :
    นับถอยหลัง "โจ๊ก สุเชชษฐ์ จบแล้ว“
    - ปารีส โอลิมปิก เสรีภาพเกินขอบเขต
    - ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ
    - ฟ้าทะลายโจรพ่าย เพราะไร้ค่าคอมมิชชั่น

    #Thaitimes
    ไฮไลท์“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” EP.253 (2 สิงหาคม 2567) : นับถอยหลัง "โจ๊ก สุเชชษฐ์ จบแล้ว“ - ปารีส โอลิมปิก เสรีภาพเกินขอบเขต - ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ - ฟ้าทะลายโจรพ่าย เพราะไร้ค่าคอมมิชชั่น #Thaitimes
    Hightlights Sondhitalk EP253 : นับถอยหลัง "โจ๊ก สรเชชษฐ์"

    - สุเชชษฐ์ จบแล้ว
    - ปารีส โอลิมปิก เสรีภาพเกินขอบเขต
    - ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ
    - ฟทจ.ผ่าย เพราะไร้ค่าคอม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 695 0 รีวิว
  • เฮ! กรมการแพทย์ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว … อ่านเนื้อหาและชมภาพข่าวทาง Facebook อาจารย์
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คลิก📌
    https://m.facebook.com/story.php?id=100044511276276&story_fbid=1024251249068575
    เฮ! กรมการแพทย์ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว … อ่านเนื้อหาและชมภาพข่าวทาง Facebook อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คลิก📌 https://m.facebook.com/story.php?id=100044511276276&story_fbid=1024251249068575
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1829 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก…

    เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม

    ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ?

    หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ?

    หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา?

    หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง?

    หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า

    “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1]

    โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า

    1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566

    ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า

    “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2]

    2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด

    ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า

    “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้

    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน”

    นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“

    ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

    ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้

    ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้

    อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้

    ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา

    ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    3 สิงหาคม 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/?

    อ้างอิง
    [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567
    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566
    https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก… เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ? หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ? หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา? หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง? หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1] โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า 1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2] 2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้ https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน” นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“ ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้ ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้ ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 3 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/? อ้างอิง [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567 https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566 https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3213 มุมมอง 1 รีวิว
  • Newsstory : ผลวิจัยพาคนไทยเดือดร้อน ถอด"ฟ้าทะลายโจร" ออกจากการรักษา
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #ความเดือดร้อน #ผลกระทบ #ฟ้าทะลายโจร
    Newsstory : ผลวิจัยพาคนไทยเดือดร้อน ถอด"ฟ้าทะลายโจร" ออกจากการรักษา #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #ความเดือดร้อน #ผลกระทบ #ฟ้าทะลายโจร
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1303 มุมมอง 121 0 รีวิว
  • Sondhitalk EP253 : มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? - 020867 (Full)
    - ลอบสังหารแกนนำฮามาส
    - โอลิมปิก ปารีส หรือ ปฏิวัติจำอวด ?
    - แฮร์ริส vs ทรัมป์
    - นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์"
    - ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร

    ช่องการการติดตาม SONDHITALK
    facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/
    youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk
    thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix
    tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk
    twitter X : https://x.com/sondhitalk
    sondhitalk : https://sondhitalk.com/

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โอลิมปิก2024 #มารีอองตัวเนต #TheLastSupper #อิสราเอล #ฮามาส #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #สุรเชชษฐ์ #ปปช #เลือกตั้งสหรัฐ #ฟ้าทะลายโจร
    Sondhitalk EP253 : มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? - 020867 (Full) - ลอบสังหารแกนนำฮามาส - โอลิมปิก ปารีส หรือ ปฏิวัติจำอวด ? - แฮร์ริส vs ทรัมป์ - นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" - ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร ช่องการการติดตาม SONDHITALK facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/ youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk twitter X : https://x.com/sondhitalk sondhitalk : https://sondhitalk.com/ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โอลิมปิก2024 #มารีอองตัวเนต #TheLastSupper #อิสราเอล #ฮามาส #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #สุรเชชษฐ์ #ปปช #เลือกตั้งสหรัฐ #ฟ้าทะลายโจร
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    26
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 10502 มุมมอง 932 0 รีวิว
  • 2 สิงหาคม 2567-มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? Ep253 (live)

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep253 (live)
    -โอลิมปิก ปารีส 2024 ดรามาตั้งแต่วันเปิดการแข่งขัน ยัดความเป็นฝรั่งเศสฉีกกรอบจนเลยขอบเขต “มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด” ?

    -ประเด็นช็อกโลก ตะวันออกกลาง ลุกเป็นไฟ ! หลังอิสราเอลสังหารแกนนำฮามาสกลางกรุงเตหะราน หลังร่วมพิธีสาบาน ปธน.อิหร่านคนใหม่

    -เลือกตั้งอเมริกา แฮร์ริส vs ทรัมป์ กับโฉมหน้าจริงการเมืองอเมริกา

    -นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์"

    -ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร

    https://www.youtube.com/live/9cURjF5t-TY?si=Xz3O6oXZjGwKzy3n

    #Thaitimes
    2 สิงหาคม 2567-มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? Ep253 (live) SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep253 (live) -โอลิมปิก ปารีส 2024 ดรามาตั้งแต่วันเปิดการแข่งขัน ยัดความเป็นฝรั่งเศสฉีกกรอบจนเลยขอบเขต “มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด” ? -ประเด็นช็อกโลก ตะวันออกกลาง ลุกเป็นไฟ ! หลังอิสราเอลสังหารแกนนำฮามาสกลางกรุงเตหะราน หลังร่วมพิธีสาบาน ปธน.อิหร่านคนใหม่ -เลือกตั้งอเมริกา แฮร์ริส vs ทรัมป์ กับโฉมหน้าจริงการเมืองอเมริกา -นับถอยหลัง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" -ชะตากรรมฟ้าทะลายโจร https://www.youtube.com/live/9cURjF5t-TY?si=Xz3O6oXZjGwKzy3n #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝
    เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด”
    https://t.me/Covidtreatment_th
    กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด”
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝

    ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย
    ✍️สมุนไพรรางจืด
    https://youtu.be/cZz-njYEOT0
    ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง)
    https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/
    https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ
    ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/HUw5rKnEB-A
    https://t.me/Covidtreatment_th/163
    ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ
    https://t.me/Covidtreatment_th/110
    https://youtu.be/PNs04g4pIys
    https://youtu.be/oku1qXZ9YUw
    ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา
    https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/
    https://t.me/Covidtreatment_th/276
    ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา
    https://youtu.be/CFv-8cW_8fo
    ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
    https://youtu.be/nf_hPZGG1fU
    ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235
    ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992
    ✍️ยาลม 300 จำพวก
    https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4
    https://youtu.be/ivO-KrSLDCg
    https://youtu.be/gzY-SbZnou0
    ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg
    กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong"
    https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด
    https://t.me/Covidtreatment_th/311
    ✍️ยาไทยได้ผลจริง
    https://www.thethaipress.com/202
    #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด” https://t.me/Covidtreatment_th กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด” https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย ✍️สมุนไพรรางจืด https://youtu.be/cZz-njYEOT0 ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง) https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/ https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/HUw5rKnEB-A https://t.me/Covidtreatment_th/163 ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ https://t.me/Covidtreatment_th/110 https://youtu.be/PNs04g4pIys https://youtu.be/oku1qXZ9YUw ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/ https://t.me/Covidtreatment_th/276 ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา https://youtu.be/CFv-8cW_8fo ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร https://youtu.be/nf_hPZGG1fU ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235 ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992 ✍️ยาลม 300 จำพวก https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4 https://youtu.be/ivO-KrSLDCg https://youtu.be/gzY-SbZnou0 ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong" https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด https://t.me/Covidtreatment_th/311 ✍️ยาไทยได้ผลจริง https://www.thethaipress.com/202 #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2411 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts