• ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน
    .
    ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ
    .
    เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที
    .
    กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์
    .
    ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ
    .
    เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน
    .
    https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน . ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ . เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที . กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์ . ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ . เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน . https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน?
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/?
    รวบรวมโดย
    ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน? ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/? รวบรวมโดย ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • ประธานสภาฯ ปัดตอบปมศาล รธน.สั่ง รมว.ยธ. หยุดปฎิบัติหน้าที่ โยนเป็นเรื่องฝ่ายบริหาร บอกยังไม่ได้เจอได้คุยกันเลย ย้ำทุกอย่างต้องโปร่งใส เมินตอบมีปัญหา สว.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045021

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานสภาฯ ปัดตอบปมศาล รธน.สั่ง รมว.ยธ. หยุดปฎิบัติหน้าที่ โยนเป็นเรื่องฝ่ายบริหาร บอกยังไม่ได้เจอได้คุยกันเลย ย้ำทุกอย่างต้องโปร่งใส เมินตอบมีปัญหา สว. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045021 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

    ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน**
    1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ**
    - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก
    - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง

    2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก**
    - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring)
    - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI**
    - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP

    3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง**
    - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน)
    - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน**
    - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย**

    4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน**
    - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy)
    - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน
    - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย)

    5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์**
    - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ**
    - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล**
    - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI)

    6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ**
    - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ
    - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม
    - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม**

    ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ**
    - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี
    - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South
    - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal
    - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
    - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย

    ### **แนวโน้มในอนาคต**
    - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว
    - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี**
    - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร)

    ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน** 1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ** - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง 2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก** - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring) - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI** - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP 3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง** - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน) - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน** - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย** 4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน** - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy) - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย) 5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์** - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ** - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล** - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI) 6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ** - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม** ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ** - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย ### **แนวโน้มในอนาคต** - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี** - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร) ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ระหว่างวันพุธที่ 14 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา
    .
    คณะกรรมาธิการศึกษาดูงานเรื่อง "การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยประชุมกับส่วนราชการของจังหวัดนคราชสีมา ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชั้น 4 ในประเด็น ดังนี้
    1) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณของ จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัด”
    2) ประชุม เรื่อง “ศึกษาและติดตามการบริหาร งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาและ ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา”
    3) ประชุม เรื่อง “การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา”
    4) ประชุม เรื่อง “โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุม นานาชาติและการแสดงสินค้าขนาดใหญ่”
    5) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ๒๕๗๒ "
    6) เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณโครงการรถไฟ ความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา"
    คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ระหว่างวันพุธที่ 14 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา . คณะกรรมาธิการศึกษาดูงานเรื่อง "การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยประชุมกับส่วนราชการของจังหวัดนคราชสีมา ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชั้น 4 ในประเด็น ดังนี้ 1) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณของ จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัด” 2) ประชุม เรื่อง “ศึกษาและติดตามการบริหาร งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาและ ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา” 3) ประชุม เรื่อง “การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา” 4) ประชุม เรื่อง “โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุม นานาชาติและการแสดงสินค้าขนาดใหญ่” 5) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ๒๕๗๒ " 6) เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณโครงการรถไฟ ความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา"
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • 'ธีระชัย' ชำแหละแผนชวนเชื่อรายย่อยลงทุนจีโทเคน ส่อสร้างปัญหาให้ ปชช.รับความเสี่ยง
    https://www.thai-tai.tv/news/18653/
    'ธีระชัย' ชำแหละแผนชวนเชื่อรายย่อยลงทุนจีโทเคน ส่อสร้างปัญหาให้ ปชช.รับความเสี่ยง https://www.thai-tai.tv/news/18653/
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน

    ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%)

    ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน
    - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา

    ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก

    ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง
    - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ
    - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก
    - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า

    https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%) ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    WWW.TECHRADAR.COM
    Shopify and Wix winning over former WordPress users, new survey finds
    Shopify, Wix and Squarespace are the most popular alternatives
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • 14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI

    Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ

    ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ
    - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

    ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis
    - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร
    - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2

    ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้
    - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้

    https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061 ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2 ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้ - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้ https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 (KB5058411, KB5058405) May 2025 Patch Tuesday out
    Microsoft has released Patch Tuesday updates for Windows 11 (KB5058411, KB5058405) for May 2025. Here's what's included.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป

    ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
    - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
    - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage

    ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
    - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
    - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search

    ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
    - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain

    ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
    - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่

    ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives

    ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
    - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น

    ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
    - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth

    ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
    - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance

    ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
    - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น

    ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
    - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions

    https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่ ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    How To Fix 100% Disk Usage on Windows 11: Step-by-Step Guide
    If your Windows 11 PC is slow, unresponsive, or constantly lagging, and Task Manager shows “100% Disk Usage,” you're not alone. This frustrating issue affects
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี
    สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024

    บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 107 Views 3 0 Reviews
  • เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์

    ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย

    สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด

    ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย

    #Newskit
    เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • องค์กรธุรกิจเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ แม้จะเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัย

    รายงานล่าสุดจาก Pentera พบว่า 67% ขององค์กรทั่วโลกประสบปัญหาการละเมิดข้อมูลในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ 30% ขององค์กรที่ถูกโจมตีพบว่ามีข้อมูลรั่วไหล และ 28% ประสบกับความสูญเสียทางการเงิน

    ✅ 67% ขององค์กรทั่วโลกประสบปัญหาการละเมิดข้อมูลในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา
    - 24% ถูกโจมตีในช่วง 12 เดือนล่าสุด และ 43% ถูกโจมตีในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า

    ✅ 30% ขององค์กรที่ถูกโจมตีพบว่ามีข้อมูลรั่วไหล
    - ส่งผลกระทบต่อ ความลับ, ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของข้อมูล

    ✅ องค์กรในสหรัฐฯ ใช้งบประมาณเฉลี่ย $187,000 ต่อปีในการทดสอบเจาะระบบ (Pentesting)
    - คิดเป็น 10% ของงบประมาณด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

    ✅ 96% ขององค์กรทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง IT อย่างน้อยทุกไตรมาส
    - แต่มีเพียง 30% เท่านั้นที่ทำการทดสอบเจาะระบบในความถี่เดียวกัน

    ✅ CISOs กว่า 50% วางแผนเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยในปี 2025
    - เพื่อรับมือกับ ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.techradar.com/pro/security/a-third-of-enterprises-have-been-breached-despite-increased-cybersecurity-investment
    องค์กรธุรกิจเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ แม้จะเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัย รายงานล่าสุดจาก Pentera พบว่า 67% ขององค์กรทั่วโลกประสบปัญหาการละเมิดข้อมูลในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ 30% ขององค์กรที่ถูกโจมตีพบว่ามีข้อมูลรั่วไหล และ 28% ประสบกับความสูญเสียทางการเงิน ✅ 67% ขององค์กรทั่วโลกประสบปัญหาการละเมิดข้อมูลในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา - 24% ถูกโจมตีในช่วง 12 เดือนล่าสุด และ 43% ถูกโจมตีในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า ✅ 30% ขององค์กรที่ถูกโจมตีพบว่ามีข้อมูลรั่วไหล - ส่งผลกระทบต่อ ความลับ, ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของข้อมูล ✅ องค์กรในสหรัฐฯ ใช้งบประมาณเฉลี่ย $187,000 ต่อปีในการทดสอบเจาะระบบ (Pentesting) - คิดเป็น 10% ของงบประมาณด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ✅ 96% ขององค์กรทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง IT อย่างน้อยทุกไตรมาส - แต่มีเพียง 30% เท่านั้นที่ทำการทดสอบเจาะระบบในความถี่เดียวกัน ✅ CISOs กว่า 50% วางแผนเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยในปี 2025 - เพื่อรับมือกับ ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน https://www.techradar.com/pro/security/a-third-of-enterprises-have-been-breached-despite-increased-cybersecurity-investment
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • Nvidia ปลดล็อกการรองรับ RTX 5090 บน CPU รุ่นเก่าอย่าง Core 2 Duo

    Nvidia ได้ทำการเปลี่ยนแปลง ไดรเวอร์เวอร์ชัน 576.40 ซึ่งทำให้ CPU รุ่นเก่าที่ไม่มีคำสั่ง POPCNT สามารถติดตั้งไดรเวอร์ได้ ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่น่าสนใจ เช่น การจับคู่ RTX 5090 กับ Intel Core 2 Duo ซึ่งเป็น CPU ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2006

    ✅ Nvidia ได้ลบข้อกำหนดเกี่ยวกับคำสั่ง POPCNT ออกจากไดรเวอร์เวอร์ชัน 576.40
    - ทำให้ CPU รุ่นเก่าที่ไม่มีคำสั่งนี้สามารถติดตั้งไดรเวอร์ได้

    ✅ Core 2 Duo และ Core 2 Quad สามารถใช้ไดรเวอร์ล่าสุดของ Nvidia ได้แล้ว
    - แม้ว่าจะเป็น CPU ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2006

    ✅ Tech Enthusiast พบว่า RTX 5090 สามารถทำงานร่วมกับ Core 2 Duo ได้
    - คาดว่า TechTuber จะทดสอบการจับคู่ฮาร์ดแวร์สุดแปลกนี้เร็ว ๆ นี้

    ✅ ก่อนหน้านี้ CPU ที่ไม่มี POPCNT จะพบปัญหาบูตลูปเมื่อพยายามติดตั้งไดรเวอร์ Nvidia
    - ทำให้ต้อง รอการกู้คืนระบบก่อนจะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง

    ✅ Windows 11 24H2 ยังคงต้องการ POPCNT สำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ
    - หมายความว่า CPU รุ่นเก่าจะยังคงไม่สามารถติดตั้ง Windows 11 ได้อย่างเป็นทางการ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/rtx-5090-with-core-2-duo-nvidia-driver-change-opens-up-bizarre-system-build-options
    Nvidia ปลดล็อกการรองรับ RTX 5090 บน CPU รุ่นเก่าอย่าง Core 2 Duo Nvidia ได้ทำการเปลี่ยนแปลง ไดรเวอร์เวอร์ชัน 576.40 ซึ่งทำให้ CPU รุ่นเก่าที่ไม่มีคำสั่ง POPCNT สามารถติดตั้งไดรเวอร์ได้ ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่น่าสนใจ เช่น การจับคู่ RTX 5090 กับ Intel Core 2 Duo ซึ่งเป็น CPU ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2006 ✅ Nvidia ได้ลบข้อกำหนดเกี่ยวกับคำสั่ง POPCNT ออกจากไดรเวอร์เวอร์ชัน 576.40 - ทำให้ CPU รุ่นเก่าที่ไม่มีคำสั่งนี้สามารถติดตั้งไดรเวอร์ได้ ✅ Core 2 Duo และ Core 2 Quad สามารถใช้ไดรเวอร์ล่าสุดของ Nvidia ได้แล้ว - แม้ว่าจะเป็น CPU ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2006 ✅ Tech Enthusiast พบว่า RTX 5090 สามารถทำงานร่วมกับ Core 2 Duo ได้ - คาดว่า TechTuber จะทดสอบการจับคู่ฮาร์ดแวร์สุดแปลกนี้เร็ว ๆ นี้ ✅ ก่อนหน้านี้ CPU ที่ไม่มี POPCNT จะพบปัญหาบูตลูปเมื่อพยายามติดตั้งไดรเวอร์ Nvidia - ทำให้ต้อง รอการกู้คืนระบบก่อนจะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง ✅ Windows 11 24H2 ยังคงต้องการ POPCNT สำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ - หมายความว่า CPU รุ่นเก่าจะยังคงไม่สามารถติดตั้ง Windows 11 ได้อย่างเป็นทางการ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/rtx-5090-with-core-2-duo-nvidia-driver-change-opens-up-bizarre-system-build-options
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • Nvidia และ MediaTek อาจเลื่อนการเปิดตัว AI CPU สู่ตลาดมวลชนไปจนถึงปลายปี 2026

    Nvidia และ MediaTek กำลังพัฒนา ชิป AI PC รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ 'N1' ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025 อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Digitimes ระบุว่าการผลิตในปริมาณมากอาจไม่เกิดขึ้นจนถึงครึ่งหลังของปี 2026 เนื่องจากปัญหาด้านการรวมระบบและข้อจำกัดทางเทคนิค

    ✅ Nvidia และ MediaTek ร่วมมือกันพัฒนา AI CPU สำหรับ Windows PCs
    - ชิปจะเปิดตัวภายใต้ แบรนด์ Nvidia และมีทั้งรุ่น N1X และ N1

    ✅ Asus, Dell และ Lenovo กำลังพัฒนาเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป N1X
    - คาดว่าจะมี ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 180-200 AI TOPS

    ✅ Nvidia และ MediaTek กำลังเร่งการผลิต แต่คาดว่าปริมาณการจัดส่งจำนวนมากจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026
    - เนื่องจาก ปัญหาด้านการรวมระบบกับอุปกรณ์ปลายทาง

    ✅ N1X มีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิป Arm-based PC บางรุ่นในการทดสอบเบื้องต้น
    - ทำให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ ความสามารถในการแข่งขันของชิปนี้

    ✅ Nvidia และ MediaTek มีแผนเปิดตัวโน้ตบุ๊ก AI รุ่น N1C สำหรับตลาดผู้บริโภค
    - แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2026 เนื่องจาก ภาษีนำเข้าและอัตราเงินเฟ้อ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-and-mediateks-ai-cpu-may-not-see-mass-rollout-until-late-2026-asus-dell-and-lenovo-reportedly-developing-n1x-desktops-and-laptops
    Nvidia และ MediaTek อาจเลื่อนการเปิดตัว AI CPU สู่ตลาดมวลชนไปจนถึงปลายปี 2026 Nvidia และ MediaTek กำลังพัฒนา ชิป AI PC รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ 'N1' ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025 อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Digitimes ระบุว่าการผลิตในปริมาณมากอาจไม่เกิดขึ้นจนถึงครึ่งหลังของปี 2026 เนื่องจากปัญหาด้านการรวมระบบและข้อจำกัดทางเทคนิค ✅ Nvidia และ MediaTek ร่วมมือกันพัฒนา AI CPU สำหรับ Windows PCs - ชิปจะเปิดตัวภายใต้ แบรนด์ Nvidia และมีทั้งรุ่น N1X และ N1 ✅ Asus, Dell และ Lenovo กำลังพัฒนาเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป N1X - คาดว่าจะมี ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 180-200 AI TOPS ✅ Nvidia และ MediaTek กำลังเร่งการผลิต แต่คาดว่าปริมาณการจัดส่งจำนวนมากจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026 - เนื่องจาก ปัญหาด้านการรวมระบบกับอุปกรณ์ปลายทาง ✅ N1X มีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิป Arm-based PC บางรุ่นในการทดสอบเบื้องต้น - ทำให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ ความสามารถในการแข่งขันของชิปนี้ ✅ Nvidia และ MediaTek มีแผนเปิดตัวโน้ตบุ๊ก AI รุ่น N1C สำหรับตลาดผู้บริโภค - แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2026 เนื่องจาก ภาษีนำเข้าและอัตราเงินเฟ้อ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-and-mediateks-ai-cpu-may-not-see-mass-rollout-until-late-2026-asus-dell-and-lenovo-reportedly-developing-n1x-desktops-and-laptops
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • ภัยคุกคามใหม่: Ransomware สามารถทำงานโดยตรงบน CPU

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่า แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่ของ microcode เพื่อฝัง ransomware ลงใน CPU โดยตรง ซึ่งทำให้ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสไม่สามารถตรวจจับได้ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์

    ✅ นักวิจัยจาก Rapid7 พบวิธีใช้ microcode updates เพื่อฝัง ransomware ลงใน CPU
    - ช่องโหว่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ข้อบกพร่องใน AMD Zen processors

    ✅ Ransomware ที่ฝังใน CPU สามารถหลบเลี่ยงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสทั้งหมด
    - เนื่องจาก ทำงานในระดับฮาร์ดแวร์แทนที่จะเป็นซอฟต์แวร์

    ✅ BlackLotus bootkit เคยใช้เทคนิคคล้ายกันในการโจมตี UEFI firmware
    - สามารถ เข้ารหัสข้อมูลก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะโหลด

    ✅ นักวิจัยพบว่า Conti ransomware group เคยพยายามพัฒนา ransomware ที่ฝังใน UEFI firmware
    - แสดงให้เห็นว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นภัยคุกคามจริง

    ✅ นักวิจัยวิจารณ์ว่าอุตสาหกรรมไอทีมุ่งเน้น AI และ machine learning มากกว่าการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยพื้นฐาน
    - ส่งผลให้ ช่องโหว่ระดับลึกยังคงถูกละเลย

    https://www.techspot.com/news/107883-ransomware-can-now-run-directly-cpu-researcher-warns.html
    ภัยคุกคามใหม่: Ransomware สามารถทำงานโดยตรงบน CPU นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่า แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่ของ microcode เพื่อฝัง ransomware ลงใน CPU โดยตรง ซึ่งทำให้ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสไม่สามารถตรวจจับได้ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ นักวิจัยจาก Rapid7 พบวิธีใช้ microcode updates เพื่อฝัง ransomware ลงใน CPU - ช่องโหว่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ข้อบกพร่องใน AMD Zen processors ✅ Ransomware ที่ฝังใน CPU สามารถหลบเลี่ยงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสทั้งหมด - เนื่องจาก ทำงานในระดับฮาร์ดแวร์แทนที่จะเป็นซอฟต์แวร์ ✅ BlackLotus bootkit เคยใช้เทคนิคคล้ายกันในการโจมตี UEFI firmware - สามารถ เข้ารหัสข้อมูลก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะโหลด ✅ นักวิจัยพบว่า Conti ransomware group เคยพยายามพัฒนา ransomware ที่ฝังใน UEFI firmware - แสดงให้เห็นว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นภัยคุกคามจริง ✅ นักวิจัยวิจารณ์ว่าอุตสาหกรรมไอทีมุ่งเน้น AI และ machine learning มากกว่าการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยพื้นฐาน - ส่งผลให้ ช่องโหว่ระดับลึกยังคงถูกละเลย https://www.techspot.com/news/107883-ransomware-can-now-run-directly-cpu-researcher-warns.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Ransomware can now run directly on the CPU, researcher warns
    A security researcher designed a way to "weaponize" microcode updates to install ransomware directly onto the CPU. Rapid7 analyst Christiaan Beek drew inspiration from a critical flaw...
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ntel Arrow Lake CPUs มีปัญหาด้านประสิทธิภาพในการใช้งาน PCIe 5.0 SSD

    Intel กำลังเผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Arrow Lake CPUs ซึ่งส่งผลให้ ความเร็วของ PCIe 5.0 SSD ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบพบว่า SSD ที่ควรทำความเร็วได้ถึง 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s เมื่อใช้งานร่วมกับ Arrow Lake CPUs

    ✅ Arrow Lake CPUs เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ภายใต้แบรนด์ Core Ultra Series 2
    - พบว่ามี ประสิทธิภาพต่ำกว่า Raptor Lake (Core i9-14900K) และ AMD 9800X3D

    ✅ การทดสอบ PCIe 5.0 SSD พบว่าความเร็วลดลงเมื่อใช้กับ Arrow Lake CPUs
    - SSD ที่ควรทำความเร็วได้ 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s

    ✅ ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทั้ง Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 SSD
    - ทดสอบบน Z790 และ Z890 motherboards พบว่า Z790 ทำความเร็วได้สูงกว่า

    ✅ Asus และ ASRock ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดจากความล่าช้าของ I/O tile ใน Arrow Lake CPUs
    - ส่งผลให้ PCIe lanes 21-24 มี latency สูงกว่าปกติ

    ✅ Intel ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากโครงสร้างของ Arrow Lake ที่ใช้ die-to-die data path ที่ยาวขึ้น
    - อาจต้อง ปรับปรุงการออกแบบ CPU ในอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหานี้

    https://www.techspot.com/news/107877-intel-arrow-lake-cpus-throttle-pcie-50-ssd.html
    ntel Arrow Lake CPUs มีปัญหาด้านประสิทธิภาพในการใช้งาน PCIe 5.0 SSD Intel กำลังเผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Arrow Lake CPUs ซึ่งส่งผลให้ ความเร็วของ PCIe 5.0 SSD ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบพบว่า SSD ที่ควรทำความเร็วได้ถึง 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s เมื่อใช้งานร่วมกับ Arrow Lake CPUs ✅ Arrow Lake CPUs เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ภายใต้แบรนด์ Core Ultra Series 2 - พบว่ามี ประสิทธิภาพต่ำกว่า Raptor Lake (Core i9-14900K) และ AMD 9800X3D ✅ การทดสอบ PCIe 5.0 SSD พบว่าความเร็วลดลงเมื่อใช้กับ Arrow Lake CPUs - SSD ที่ควรทำความเร็วได้ 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s ✅ ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทั้ง Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 SSD - ทดสอบบน Z790 และ Z890 motherboards พบว่า Z790 ทำความเร็วได้สูงกว่า ✅ Asus และ ASRock ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดจากความล่าช้าของ I/O tile ใน Arrow Lake CPUs - ส่งผลให้ PCIe lanes 21-24 มี latency สูงกว่าปกติ ✅ Intel ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากโครงสร้างของ Arrow Lake ที่ใช้ die-to-die data path ที่ยาวขึ้น - อาจต้อง ปรับปรุงการออกแบบ CPU ในอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหานี้ https://www.techspot.com/news/107877-intel-arrow-lake-cpus-throttle-pcie-50-ssd.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Arrow Lake CPUs throttle PCIe 5.0 SSD speeds, tests reveal
    Intel changed its approach to silicon manufacturing with Meteor Lake CPUs, moving from a monolithic approach to a disaggregated, tile-based design. However, the significant technology switch is...
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • FTC เลื่อนการบังคับใช้กฎ "Click-to-Cancel" เพื่อให้บริษัทมีเวลาปรับตัว

    คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) ได้ประกาศเลื่อนการบังคับใช้กฎ "Click-to-Cancel" ออกไปอีก 60 วัน เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ มีเวลาปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ กฎนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ การยกเลิกการสมัครสมาชิกเป็นเรื่องง่ายขึ้น แทนที่จะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและยุ่งยาก

    ✅ กฎนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไข Negative Option Rule ที่มีมาตั้งแต่ปี 1973
    - กำหนดให้ บริษัทต้องทำให้การยกเลิกการสมัครสมาชิกง่ายพอ ๆ กับการสมัคร

    ✅ FTC ลงมติ 3-2 ให้ผ่านกฎนี้ในเดือนตุลาคม 2024
    - มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 19 มกราคม 2025 แต่การบังคับใช้บางส่วนถูกเลื่อนออกไป

    ✅ บริษัทจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม, โฆษณา และหนังสือพิมพ์พยายามขัดขวางกฎนี้
    - มีการยื่นฟ้องหลายคดีเพื่อ ระงับการบังคับใช้กฎ Click-to-Cancel

    ✅ FTC ลงมติ 3-0 ให้เลื่อนการบังคับใช้ไปเป็นวันที่ 14 กรกฎาคม 2025
    - เพื่อให้บริษัทมีเวลา ปรับปรุงระบบและกระบวนการให้สอดคล้องกับกฎใหม่

    ✅ กฎนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกได้ง่ายขึ้น
    - ลดปัญหา การต้องโทรศัพท์และรอคิวนานจนผู้ใช้ล้มเลิกความตั้งใจ

    https://www.techspot.com/news/107880-ftc-delays-click-cancel-rule-enforcement-giving-companies.html
    FTC เลื่อนการบังคับใช้กฎ "Click-to-Cancel" เพื่อให้บริษัทมีเวลาปรับตัว คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) ได้ประกาศเลื่อนการบังคับใช้กฎ "Click-to-Cancel" ออกไปอีก 60 วัน เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ มีเวลาปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ กฎนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ การยกเลิกการสมัครสมาชิกเป็นเรื่องง่ายขึ้น แทนที่จะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและยุ่งยาก ✅ กฎนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไข Negative Option Rule ที่มีมาตั้งแต่ปี 1973 - กำหนดให้ บริษัทต้องทำให้การยกเลิกการสมัครสมาชิกง่ายพอ ๆ กับการสมัคร ✅ FTC ลงมติ 3-2 ให้ผ่านกฎนี้ในเดือนตุลาคม 2024 - มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 19 มกราคม 2025 แต่การบังคับใช้บางส่วนถูกเลื่อนออกไป ✅ บริษัทจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม, โฆษณา และหนังสือพิมพ์พยายามขัดขวางกฎนี้ - มีการยื่นฟ้องหลายคดีเพื่อ ระงับการบังคับใช้กฎ Click-to-Cancel ✅ FTC ลงมติ 3-0 ให้เลื่อนการบังคับใช้ไปเป็นวันที่ 14 กรกฎาคม 2025 - เพื่อให้บริษัทมีเวลา ปรับปรุงระบบและกระบวนการให้สอดคล้องกับกฎใหม่ ✅ กฎนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกได้ง่ายขึ้น - ลดปัญหา การต้องโทรศัพท์และรอคิวนานจนผู้ใช้ล้มเลิกความตั้งใจ https://www.techspot.com/news/107880-ftc-delays-click-cancel-rule-enforcement-giving-companies.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FTC delays click-to-cancel rule enforcement, giving companies more time to simplify cancellations
    It was back in March 2023 when the FTC proposed a click to cancel provision that would require companies to make the process of canceling recurring subscriptions...
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • ฏิวัติการจัดการเวลาครอบครัวด้วยปฏิทินดิจิทัลราคาแพง

    ในยุคที่ชีวิตครอบครัวเต็มไปด้วยภารกิจมากมาย ปฏิทินดิจิทัลราคาแพง กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการตารางเวลามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์อย่าง Skylight Calendar และ Hearth Display ได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัวที่ต้องการลดภาระ "mental load" หรือภาระทางจิตใจในการวางแผนชีวิต

    ✅ Skylight Calendar มีราคาตั้งแต่ 170 ถึง 630 ดอลลาร์สหรัฐฯ
    - พร้อมค่าบริการรายปี 79 ดอลลาร์ เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษ

    ✅ Hearth Display เป็นปฏิทินดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยสามคุณแม่ทำงาน
    - มีราคาสูงถึง 700 ดอลลาร์ พร้อมค่าบริการรายเดือน 9 ดอลลาร์

    ✅ แนวคิดของ Hearth Display คือการทำให้ข้อมูลสำคัญของครอบครัวมองเห็นได้ชัดเจน
    - ลดปัญหาการสื่อสารที่กระจัดกระจาย

    ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าปฏิทินดิจิทัลช่วยให้การจัดการตารางเวลาครอบครัวดีขึ้น
    - เช่น การแจ้งเตือนให้สมาชิกทำงานบ้านหรือดูแลเด็ก

    ✅ นักสังคมวิทยาชี้ว่าปฏิทินดิจิทัลอาจไม่สามารถแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในการแบ่งงานบ้านได้
    - เพราะยังคงมีแนวโน้มที่ คู่สมรสฝ่ายหนึ่งจะเป็น "calendar partner" ที่ต้องคอยจัดการข้อมูลทั้งหมด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/can-a-us700-calendar-save-your-marriage
    ฏิวัติการจัดการเวลาครอบครัวด้วยปฏิทินดิจิทัลราคาแพง ในยุคที่ชีวิตครอบครัวเต็มไปด้วยภารกิจมากมาย ปฏิทินดิจิทัลราคาแพง กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการตารางเวลามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์อย่าง Skylight Calendar และ Hearth Display ได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัวที่ต้องการลดภาระ "mental load" หรือภาระทางจิตใจในการวางแผนชีวิต ✅ Skylight Calendar มีราคาตั้งแต่ 170 ถึง 630 ดอลลาร์สหรัฐฯ - พร้อมค่าบริการรายปี 79 ดอลลาร์ เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษ ✅ Hearth Display เป็นปฏิทินดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยสามคุณแม่ทำงาน - มีราคาสูงถึง 700 ดอลลาร์ พร้อมค่าบริการรายเดือน 9 ดอลลาร์ ✅ แนวคิดของ Hearth Display คือการทำให้ข้อมูลสำคัญของครอบครัวมองเห็นได้ชัดเจน - ลดปัญหาการสื่อสารที่กระจัดกระจาย ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าปฏิทินดิจิทัลช่วยให้การจัดการตารางเวลาครอบครัวดีขึ้น - เช่น การแจ้งเตือนให้สมาชิกทำงานบ้านหรือดูแลเด็ก ✅ นักสังคมวิทยาชี้ว่าปฏิทินดิจิทัลอาจไม่สามารถแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในการแบ่งงานบ้านได้ - เพราะยังคงมีแนวโน้มที่ คู่สมรสฝ่ายหนึ่งจะเป็น "calendar partner" ที่ต้องคอยจัดการข้อมูลทั้งหมด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/can-a-us700-calendar-save-your-marriage
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Can a US$700 calendar save your marriage?
    Your spouse can't read your mind. But these products promise to "externalise the primary caregiver's brain".
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • Firefox 138.0.3: อัปเดตใหม่แก้ไขปัญหา WebGL, HDR และข้อผิดพลาดอื่น ๆ

    Mozilla ได้ปล่อย Firefox 138.0.3 ซึ่งเป็นการอัปเดตแก้ไขข้อผิดพลาดสำหรับ Firefox 138 โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข ปัญหาการแสดงผล WebGL, HDR บน Linux และข้อผิดพลาดเกี่ยวกับคีย์ลัด รวมถึง ปัญหาการแครชที่เกิดจาก SVG effects

    ✅ แก้ไขปัญหาการแครชเมื่อเปิดเว็บไซต์ที่ใช้ WebGL
    - ปัญหานี้ส่งผลให้ เบราว์เซอร์ปิดตัวเองโดยไม่คาดคิด

    ✅ แก้ไขปัญหาการแสดงผล HDR บน Linux เมื่อใช้ Wayland
    - วิดีโอที่เล่นบน Wayland อาจดูซีดจางหากไม่มีการรองรับ HDR

    ✅ แก้ไขข้อผิดพลาดของคีย์ลัด "Match Case" (Alt+C) ในแถบค้นหา
    - ก่อนหน้านี้ คีย์ลัดไม่สามารถเปิด/ปิดตัวเลือกได้ตามที่คาดหวัง

    ✅ แก้ไขปัญหาการแครชที่เกิดจาก SVG effects เช่น Blur และ Drop Shadow
    - ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อ เอฟเฟกต์ถูกใช้กับพื้นที่ขนาดเล็กมาก

    ✅ Firefox 138 เปิดตัวก่อนหน้านี้พร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Profile Manager และ Tab Groups
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แยกโปรไฟล์สำหรับการทำงาน, การเรียน และการใช้งานส่วนตัว

    ✅ สามารถดาวน์โหลด Firefox 138.0.3 ได้จากเว็บไซต์ทางการ, Microsoft Store หรือ Neowin
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งอยู่แล้วสามารถ อัปเดตได้โดยไปที่ Menu > Help > About Firefox

    https://www.neowin.net/news/mozilla-releases-firefox-13803-to-fix-crashes-hdr-issues-and-more/
    Firefox 138.0.3: อัปเดตใหม่แก้ไขปัญหา WebGL, HDR และข้อผิดพลาดอื่น ๆ Mozilla ได้ปล่อย Firefox 138.0.3 ซึ่งเป็นการอัปเดตแก้ไขข้อผิดพลาดสำหรับ Firefox 138 โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข ปัญหาการแสดงผล WebGL, HDR บน Linux และข้อผิดพลาดเกี่ยวกับคีย์ลัด รวมถึง ปัญหาการแครชที่เกิดจาก SVG effects ✅ แก้ไขปัญหาการแครชเมื่อเปิดเว็บไซต์ที่ใช้ WebGL - ปัญหานี้ส่งผลให้ เบราว์เซอร์ปิดตัวเองโดยไม่คาดคิด ✅ แก้ไขปัญหาการแสดงผล HDR บน Linux เมื่อใช้ Wayland - วิดีโอที่เล่นบน Wayland อาจดูซีดจางหากไม่มีการรองรับ HDR ✅ แก้ไขข้อผิดพลาดของคีย์ลัด "Match Case" (Alt+C) ในแถบค้นหา - ก่อนหน้านี้ คีย์ลัดไม่สามารถเปิด/ปิดตัวเลือกได้ตามที่คาดหวัง ✅ แก้ไขปัญหาการแครชที่เกิดจาก SVG effects เช่น Blur และ Drop Shadow - ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อ เอฟเฟกต์ถูกใช้กับพื้นที่ขนาดเล็กมาก ✅ Firefox 138 เปิดตัวก่อนหน้านี้พร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Profile Manager และ Tab Groups - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แยกโปรไฟล์สำหรับการทำงาน, การเรียน และการใช้งานส่วนตัว ✅ สามารถดาวน์โหลด Firefox 138.0.3 ได้จากเว็บไซต์ทางการ, Microsoft Store หรือ Neowin - ผู้ใช้ที่ติดตั้งอยู่แล้วสามารถ อัปเดตได้โดยไปที่ Menu > Help > About Firefox https://www.neowin.net/news/mozilla-releases-firefox-13803-to-fix-crashes-hdr-issues-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla releases Firefox 138.0.3 to fix crashes, HDR issues, and more
    Mozilla has released another bug-fixing update for Firefox 138, addressing bugs with crashes, HDR issues, and shortcut problems.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • นักคณิตศาสตร์ไขปริศนาอายุ 200 ปีเกี่ยวกับสมการพหุนามระดับสูง

    ศาสตราจารย์ Norman Wildberger จากมหาวิทยาลัย UNSW ได้ค้นพบวิธีใหม่ในการแก้สมการพหุนามที่มีตัวแปรยกกำลัง ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ซึ่งเป็นปัญหาที่นักคณิตศาสตร์พยายามแก้มานานกว่า 200 ปี โดยใช้แนวทางที่ ไม่ต้องพึ่งพารากของจำนวน (radicals) เช่น รากที่สองหรือรากที่สาม

    ✅ วิธีใหม่ใช้ Power Series แทนการคำนวณด้วยตัวเลขอตรรกยะ
    - ลดข้อจำกัดของการใช้ รากที่สองและรากที่สาม ซึ่งทำให้การคำนวณซับซ้อน

    ✅ แนวคิดนี้พัฒนาร่วมกับ Dr. Dean Rubine นักวิทยาการคอมพิวเตอร์
    - ใช้ Hyper-Catalan Numbers ซึ่งเป็นการขยายแนวคิดของ Catalan Numbers

    ✅ Hyper-Catalan Numbers ช่วยให้สามารถแก้สมการพหุนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้รูปแบบเรขาคณิตในการจัดกลุ่มตัวเลขเพื่อหาคำตอบ

    ✅ ค้นพบโครงสร้างตัวเลขใหม่ที่เรียกว่า "Geode" ซึ่งช่วยให้การแก้สมการแม่นยำขึ้น
    - เป็นรูปแบบตัวเลขที่ช่วยให้สามารถ จัดการกับสมการพหุนามระดับสูงได้ง่ายขึ้น

    ✅ การค้นพบนี้มีผลต่อการพัฒนาอัลกอริธึมทางคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์
    - สามารถนำไปใช้ใน การคำนวณทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนา AI

    https://www.neowin.net/news/a-near-200-year-old-math-problem-has-finally-been-cracked/
    นักคณิตศาสตร์ไขปริศนาอายุ 200 ปีเกี่ยวกับสมการพหุนามระดับสูง ศาสตราจารย์ Norman Wildberger จากมหาวิทยาลัย UNSW ได้ค้นพบวิธีใหม่ในการแก้สมการพหุนามที่มีตัวแปรยกกำลัง ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ซึ่งเป็นปัญหาที่นักคณิตศาสตร์พยายามแก้มานานกว่า 200 ปี โดยใช้แนวทางที่ ไม่ต้องพึ่งพารากของจำนวน (radicals) เช่น รากที่สองหรือรากที่สาม ✅ วิธีใหม่ใช้ Power Series แทนการคำนวณด้วยตัวเลขอตรรกยะ - ลดข้อจำกัดของการใช้ รากที่สองและรากที่สาม ซึ่งทำให้การคำนวณซับซ้อน ✅ แนวคิดนี้พัฒนาร่วมกับ Dr. Dean Rubine นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ - ใช้ Hyper-Catalan Numbers ซึ่งเป็นการขยายแนวคิดของ Catalan Numbers ✅ Hyper-Catalan Numbers ช่วยให้สามารถแก้สมการพหุนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้รูปแบบเรขาคณิตในการจัดกลุ่มตัวเลขเพื่อหาคำตอบ ✅ ค้นพบโครงสร้างตัวเลขใหม่ที่เรียกว่า "Geode" ซึ่งช่วยให้การแก้สมการแม่นยำขึ้น - เป็นรูปแบบตัวเลขที่ช่วยให้สามารถ จัดการกับสมการพหุนามระดับสูงได้ง่ายขึ้น ✅ การค้นพบนี้มีผลต่อการพัฒนาอัลกอริธึมทางคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ - สามารถนำไปใช้ใน การคำนวณทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนา AI https://www.neowin.net/news/a-near-200-year-old-math-problem-has-finally-been-cracked/
    WWW.NEOWIN.NET
    A near 200 year old math problem has finally been cracked
    A couple of smart scientists have finally managed to crack a mathematics problem that is nearly 200 years old.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • Files เป็นหนึ่งในตัวจัดการไฟล์ยอดนิยมสำหรับ Windows 11 ที่มีดีไซน์คล้าย File Explorer ของ Microsoft แต่เพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น ล่าสุด Files Preview 3.9.9 ได้รับการอัปเดตใหม่ โดยมีการปรับปรุงไอคอน, เพิ่มผู้ให้บริการคลาวด์ใหม่ และปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ✅ Files Preview 3.9.9 มาพร้อมไอคอนใหม่
    - ไอคอนใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ใน Files เวอร์ชัน 4 ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้

    ✅ เพิ่มการรองรับผู้ให้บริการคลาวด์ใหม่ ได้แก่ Magent และ Sync
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงไฟล์จากคลาวด์ได้สะดวกขึ้น

    ✅ ปรับปรุงประสิทธิภาพของ Quick Access widgets บนหน้า Home Page
    - ลดเวลาโหลดและเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงไฟล์

    ✅ แก้ไขปัญหาหลายรายการ เช่น:
    - ปัญหาการเปิดโฟลเดอร์ที่ลงท้ายด้วย .url
    - ปัญหาชื่อไทล์ของแอปใน Start Menu
    - ปัญหาการกระพริบของ sidebar เมื่อปรับขนาดหน้าต่าง Properties

    ✅ Files Preview มีให้ดาวน์โหลดฟรีบนเว็บไซต์ทางการ
    - แต่สามารถซื้อผ่าน Microsoft Store ในราคา $9.99 เพื่อสนับสนุนผู้พัฒนา

    ✅ Files เวอร์ชัน 3.9 ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 มีการปรับปรุงด้านแท็ก, แท็บ และเลย์เอาต์ใหม่

    https://www.neowin.net/news/my-favorite-file-manager-for-windows-11-gets-redesigned-icon-better-performance-and-more/
    Files เป็นหนึ่งในตัวจัดการไฟล์ยอดนิยมสำหรับ Windows 11 ที่มีดีไซน์คล้าย File Explorer ของ Microsoft แต่เพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น ล่าสุด Files Preview 3.9.9 ได้รับการอัปเดตใหม่ โดยมีการปรับปรุงไอคอน, เพิ่มผู้ให้บริการคลาวด์ใหม่ และปรับปรุงประสิทธิภาพ ✅ Files Preview 3.9.9 มาพร้อมไอคอนใหม่ - ไอคอนใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ใน Files เวอร์ชัน 4 ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ ✅ เพิ่มการรองรับผู้ให้บริการคลาวด์ใหม่ ได้แก่ Magent และ Sync - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงไฟล์จากคลาวด์ได้สะดวกขึ้น ✅ ปรับปรุงประสิทธิภาพของ Quick Access widgets บนหน้า Home Page - ลดเวลาโหลดและเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงไฟล์ ✅ แก้ไขปัญหาหลายรายการ เช่น: - ปัญหาการเปิดโฟลเดอร์ที่ลงท้ายด้วย .url - ปัญหาชื่อไทล์ของแอปใน Start Menu - ปัญหาการกระพริบของ sidebar เมื่อปรับขนาดหน้าต่าง Properties ✅ Files Preview มีให้ดาวน์โหลดฟรีบนเว็บไซต์ทางการ - แต่สามารถซื้อผ่าน Microsoft Store ในราคา $9.99 เพื่อสนับสนุนผู้พัฒนา ✅ Files เวอร์ชัน 3.9 ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 มีการปรับปรุงด้านแท็ก, แท็บ และเลย์เอาต์ใหม่ https://www.neowin.net/news/my-favorite-file-manager-for-windows-11-gets-redesigned-icon-better-performance-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    My favorite file manager for Windows 11 gets redesigned icon, better performance, and more
    Files, one of the best third-party file managers for Windows, is getting some neat updates, including a redesigned icon, more cloud storage providers, and more.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • Microsoft แก้ไขปัญหา Word ใช้ CPU สูงผิดปกติใน Classic Outlook

    Microsoft ได้ออก การแก้ไขปัญหาการใช้ CPU สูงผิดปกติใน Classic Outlook ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ พิมพ์ข้อความใน Word โดยพบว่า การใช้ CPU อาจสูงถึง 30-50% ส่งผลให้ระบบทำงานช้าลง

    ✅ Microsoft ได้พัฒนาแพตช์แก้ไขและจะปล่อยในหลายช่องทาง
    - Beta Channel (Version 2505 Build 18822.15000) – คาดว่าจะปล่อย ต้นเดือนพฤษภาคม 2025
    - Current Channel Preview (Version 2505 Build 18827.20000) – คาดว่าจะปล่อย กลางเดือนพฤษภาคม 2025
    - Current Channel (Version 2505 Build 18827.20000) – คาดว่าจะปล่อย ปลายเดือนพฤษภาคม 2025
    - Monthly Enterprise Channel (Version 2503 18623.20256 และ Version 2502 18526.20332) – คาดว่าจะปล่อย 13 พฤษภาคม 2025

    ✅ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขได้จาก Update History ของ Microsoft 365 Apps
    - สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Office release notes

    ✅ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Semi Annual Channel เป็นการชั่วคราว
    - เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาก่อนที่แพตช์จะถูกปล่อย

    ✅ หากต้องการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน สามารถย้อนกลับไปใช้ Version 2405 ได้
    - แต่ Microsoft ไม่แนะนำ เนื่องจากมีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหลังจากเวอร์ชันนี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-details-fix-for-high-cpu-usage-performance-bug-on-windows-outlook/
    Microsoft แก้ไขปัญหา Word ใช้ CPU สูงผิดปกติใน Classic Outlook Microsoft ได้ออก การแก้ไขปัญหาการใช้ CPU สูงผิดปกติใน Classic Outlook ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ พิมพ์ข้อความใน Word โดยพบว่า การใช้ CPU อาจสูงถึง 30-50% ส่งผลให้ระบบทำงานช้าลง ✅ Microsoft ได้พัฒนาแพตช์แก้ไขและจะปล่อยในหลายช่องทาง - Beta Channel (Version 2505 Build 18822.15000) – คาดว่าจะปล่อย ต้นเดือนพฤษภาคม 2025 - Current Channel Preview (Version 2505 Build 18827.20000) – คาดว่าจะปล่อย กลางเดือนพฤษภาคม 2025 - Current Channel (Version 2505 Build 18827.20000) – คาดว่าจะปล่อย ปลายเดือนพฤษภาคม 2025 - Monthly Enterprise Channel (Version 2503 18623.20256 และ Version 2502 18526.20332) – คาดว่าจะปล่อย 13 พฤษภาคม 2025 ✅ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขได้จาก Update History ของ Microsoft 365 Apps - สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Office release notes ✅ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Semi Annual Channel เป็นการชั่วคราว - เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาก่อนที่แพตช์จะถูกปล่อย ✅ หากต้องการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน สามารถย้อนกลับไปใช้ Version 2405 ได้ - แต่ Microsoft ไม่แนะนำ เนื่องจากมีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหลังจากเวอร์ชันนี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-details-fix-for-high-cpu-usage-performance-bug-on-windows-outlook/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft details fix for Word high CPU usage bug on Windows Outlook
    Microsoft has shared details about a Classic Outlook bug that is leading to high CPU usage on Windows systems.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
More Results