• กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
    ตอนที่ 1
ตะวัน ออกกลาง อยู่กลางแดด แต่เหมือนแดนสนธยา เรื่องราวของคนกลางแดดน่าพิศวง ชวนงง ไม่ง่ายสำหรับคนนอกแดดจะเข้าใจ โดยเฉพาะพวกฝรั่งตะวันตกที่เข้าไปยึดครองครอบงำ ถึงขนาดมีการพูดถึงชาวตะวันออกกลางว่า มิตรภาพของพวกเขามีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) แต่ไม่ได้มีไว้ขาย (ถาวร) แม้จะเป็นชาวทะเลทรายด้วยกัน แต่ความต่างเผ่า ต่างพันธุ์ ต่างนิกาย ต่างประเพณี ทำให้วิธีคิด วิธีดำเนินชีวิต และการเดินนโยบายประเทศของพวกเขา แตกต่างกันอย่างเหลือเชื่อ
    ความแตกต่างของชาวตะวันออกกลาง มีมานานแล้ว แต่ปัจจุบัน ความแตกต่างดูเหมือนจะกลายเป็นความแตกแยก แบ่งกันเห็นชัดเป็น 2 ค่าย ค่ายหนึ่งนิยมและนอนนิ่ง อยู่ในอุ้งมือของนักล่าฝรั่งตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าใบตองแห้ง กับอังกฤษ นักล่าจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย ค่ายนี้นำโดย ซาอุดิอารเบีย เสี่ยใหญ่แห่งทะเลทราย มีพรรคพวกในสังกัด เป็นเศรษฐีน้ำมัน ประเภทชอบพกกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ เป็นปึก คือ ยูไนเต็ดอาหรับเอมิเรต (UAE) คูเวต บาห์เรน โอมาน กาตาร์ และอิรัก บวกด้วย เศษของ เศรษฐีอีกหนึ่งราย คือ จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่พวกบ้านติดอ่าวด้วยกัน แต่ก็เป็นประเภทนอนสบาย ไม่เดือดร้อนอยู่ในอุ้งมือนักล่าด้วยเช่นกัน
    ส่วน อีกค่ายหนึ่ง เข้าใจว่า ขณะนี้ไม่นิยมใช้ใบตองแห้ง และไม่ชอบอยู่เกาะ หลังจากเคยนิยมกันมาพักใหญ่ค่ายนี้นำโดยอิหร่าน ซึ่งกำลังถูกกล่าวหา (หรือกล่าวจริง) ว่ามีนิวเคลียร์พกติดกระเป๋ากางเกงไว้ตลอดเวลาอย่างน้อย 2 ลูก ส่วนพรรคพวกที่อิหร่านเพียรเกี้ยว และเกี่ยวมาเข้าค่ายเดียวกันมี ซีเรีย เลบานอน และกำลังล่อเอาอิรักออกมาจากค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ ลูกน้องตัวโปรดของนักล่าใบตองแห้งด้วย นอกจากนี้ ข่าวลือว่าตุรกี ซึ่งเคยเสพติดกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ก็กำลังลังเล อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายนี้ด้วย แต่อย่างว่า นักไต่ลวดพันธ์ลูกครึ่งชอบเกมเสี่ยง คงยังไม่ตัดสินใจอะไรง่ายๆ ต้องรอให้เสียวจัดกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยแสดงฉากผาดโผน
    อะไรทำให้พวกอยู่กลางแดด แตกแยกกันถึงขนาดนี้ พวกเขาจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ ในมุมของแต่ละค่าย ซึ่งแน่นอน คนละเรื่องเดียวกันเสมอ
    เรื่อง การบุกเข้าไปถล่มอิรัก ของอเมริกานักล่าใบตองแห้ง และเก็บซัดดัมใส่ห่อฝังลืม ตั้งแต่ ค.ศ.2003 ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ บอกเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่อเมริกาดันมอบให้อิหร่านโดยประมาท หรือประเมินผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ การทำให้อิรักแหลก ซัดดัมเละ เกิดช่องว่างในอิรัก ให้อิหร่านแทรกตัวเข้าไปได้อย่างไม่ยาก อิรักมีพวกซีอ่ะห์อยู่เกือบ 60% ของพลเมือง มีเพื่อนซีอ่ะห์อย่าง อิหร่านมาสนับสนุน ประโลมใจ ยามบ้านแตกสาแหรกหาย ย่อมดีกว่ามีพวกฝรั่งนักล่ามา ไล่ถล่มทิ้งระเบิดใส่ ไม่ต้องวิเคราะห์มาก เรื่องตรงไปตรงมา แน่นอน เสี่ยใหญ่ย่อมไม่พอใจ มันฉวยโอกาสฉกเด็กของเราไป จะพูด จะบ่น เรื่องอะไรกับลูกพี่ เสี่ยใหญ่เป็นต้องเอาเรื่องนี้ ขึ้นต้นเป็น แผ่นเสียงตกร่องก่อนเสมอ ทำให้ลูกพี่แสนจะเอือม เลิกพูดซ้ำซากได้มั้ยเสี่ย มันพลาดไปแล้ว อย่าย้ำหัวตะปูมาก นี่ถ้าไม่ติดพันกันเรื่องน้ำมัน ป่านนี้ตอกตะปูหัวให้แล้ว
    เรื่อง Arab Spring จากการรดน้ำใส่ปุ๋ย เอาต้นไม้ประชาธิปไตย ปลูกลงดินแดนทะเลทรายมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ค.ศ.2011 ก็เริ่มเห็นผล ต้นไม้ประชาธิปไตยเริ่มทยอยกันงอกกลางทะเลทราย เริ่มตั้งแต่ตูนีเซีย เรื่องของเด็กขายผลไม้เผาตัวเอง เป็นตำนานที่โลกจะไม่มีวันลืม กัดดาฟี่เผด็จการตัวร้าย ถูกขยี้อยู่ในที่หลบภัยพร้อมกับ ลูกรัก โลกตบมือ ไชโย ดีใจ เผด็จการตัวร้ายไปอีกหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้น อียิปต์ก็ลุกฮือเอาอย่าง มูบารักกุมบังเหียนมากว่า 30 ปี ก็มีวันที่ลงจากม้าแทบไม่ทัน แถมยังต้องถูกนอนเปลห้ามไปขึ้นศาลข้อหาฆ่าประชาชน อนิจจา อนิจจัง
    ต้นไม้ ประชาธิปไตยงอกงาม Arab Spring งามจริงๆ พร้อมกับการอ้างว่า เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย แต่ประเทศล่มสลาย ประชาชนล้มตาย พิการเท่าไหร่ น้อยคนจะติดตาม เรื่องช่อง 3 จอดำคงมีคนติดตามมากกว่า สมันน้อย ก็คงตามดูข่าว อ้าปากหวอ สลับดูละครน้ำเน่าเหมือนเดิม
    ผู้ปกครอง ประเทศ ที่เป็นเผด็จการ ก็สมควรอยู่ที่จะต้องถูกกำจัด แต่มันคงไม่ง่ายเหมือนใจนึก หลังจากเด็ดหัวทิ้งแล้ว จะจัดการกับตัวอย่างไร ประเทศนะ ไม่ใช่ต้นกล้วย จะได้ฟันฉับแล้วจบ ถึงเป็นต้นกล้วยหน่อมันยังงอกเลย แล้วประเทศมันจะเปลี่ยน แบบฉากละครง่ายๆอย่างนั้นหรือ ใครที่คิดว่า จะเปลี่ยนอะไร แบบง่ายๆ ได้ง่ายๆ ก็คิดทบทวนให้มากๆหน่อยนะครับ
    หลัง Arab Spring ทำให้เกิดอาการผึ้งแตกรัง หัวหน้าไม่มี ฝูงผึ้งก็บินกระจัดกระจาย แต่มันไม่ใช่แค่ผึ้งรังเดียว มันทยอยกันแตกไม่รู้กี่รัง ไปทั่วทะเลทราย ไอ้คนที่ทำผึ้งแตกรัง ดันหดหัว หางตก กลับบ้าน เพราะยังตั้งตัวไม่ติด ถุด ! เก่งดีนัก !
    Arab Spring ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ซาอุดิ หงุดหงิด บอกมันเป็นการสร้างปัญหาให้กับพวกเรา แม้เราจะไม่เหมือน กัดดาฟี่ มูบารัก ซัดดัม เพราะคนพวกนี้กดขี่ประชาชนตนเอง แต่พวกเราคนรวย เราดูแลประชาชนของเราดี ไปดูตัวเลขที่ CIA แต่งให้ซิ รายได้ต่อหัวของพลเมืองเราอยู่อันดับไหน (หากันเอาเองนะครับ ผมขี้เกียจเข้าไปค้นตัวเลขปลอมๆของ CIA ) แต่นั่นล่ะนะ มันทำให้คนในบ้านเรา อดเกิดความคิดเฟื่องด้วยไม่ได้ ทำให้พวกเราต้องเพิ่มการดูแล และแลดูเขามากขึ้น มันเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับเรานะ แล้วกัน เสี่ยใหญ่ เสียแรงเป็นลูกน้องระดับแถวหน้า ของเจ้าของผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตย ยังไม่ชื่นชมนิยมยินดีเลย แบบนี้เจ้าของเขาจะไปหลอกขายสินค้าใครได้
    แต่ สำหรับอิหร่านเจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก บอก Arab Spring ไม่มีปัญหาสำหรับบ้านเรา เพราะคนบ้านเราเขาดูออกว่าเป็นสินค้าปลอม เขาเคยใช้สินค้านี้มาหลายสิบปี รู้ฤทธิ์ของปลอม ว่ามันทำพิษพวกเขาขนาดไหน และดีเสียอีก มีคนขายของปลอมกันมากๆ เป็นโอกาสที่เราจะเอาสินค้าตราอื่นไปขายแข่งบ้าง และดูเหมือนการตลาด หรือสินค้าของอิหร่านจะเข้าตา ตอนนี้ลูกค้าเพิ่มทุกวัน
    เรื่อง ซีเรีย ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ มองเหตุการณ์ที่ซีเรีย เหมือนฝันร้าย เล่นเอาตอนนี้นอนตาโพลง กลัวว่าถ้าหลับตา จะต้องฝันร้ายเรื่องเดียวกับซีเรีย สนามรบซีเรีย มีนักรบเพิ่มขึ้นมากมาย หลายพวก หลายกลุ่ม ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝั่งต่อต้านรัฐบาล ต่างฝ่ายใช้วิธีการตลาดผ่านหน้า social media เหมือนสร้างหนังสด เล่นเอาพวกที่ชมดูอยู่ทางบ้าน อดใจไม่ไหว สะพายเป้เข้าไปร่วมรายการด้วยมากมาย มีการประกาศรายชื่อกลุ่มเพิ่มเกือบทุกวัน จนตามไม่ทัน กลุ่มเสี่ยใหญ่นั่งไม่ติด แล้วอเมริกาจะทำอะไรบ้างไหม ทำไมอเมริกาไม่ยกทัพไปปราบ เหมือนตอนปราบซัดดัม เหมือนตอนปราบบินลาเดน เหมือนตอนปราบกัดดาฟี่ เหมือนตอนปราบมูบารัก กลุ่มเสี่ยใหญ่กลุ้มใจ จนกรดไหลย้อนบ้านหมุน นี่ถ้าพวกไปหนุนซีเรีย ไม่ว่าข้างไหน มันชนะ ความวุ่นวายมันจะต้องลามมาถึงบ้านอันใหญ่โต หรูหรา เย็นฉ่ำ ของเราแน่นอน เราจะนิ่งเฉยๆดู อเมริกาอยู่เฉยๆ อย่างนี้น่ะหรือ !? คงต้องคิดทำอะไรบ้างแล้ว
    แต่สำหรับ อิหร่าน ซึ่งสานสัมพันธ์กับ Assad ของซีเรียมานานแล้ว รวมทั้งเลบานอนและอิรัก คงไม่ถึงกับนอนไม่หลับฝันร้าย แต่ในเมื่อเขาว่า ในตะวันออกกลาง มิตรภาพมีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) ไม่มีไว้ให้ขาย(ถาวร) วันหนึ่งเพื่อนหายหน้าหมด แต่การคว่ำบาตรของฝ่ายนักล่าตะวันตก ยังคงมีค้างอยู่กลางแดด อิหร่านก็ต้องคิดหนัก จะเดินหน้าเต็มตัวหนุน Assad ก็ต้องแน่ใจ และใจแน่ แต่ดูเหมือนอิหร่านจะเลือกใช้ถนน One way ถอยลำบากเสียแล้วกระมัง
    เรื่อง ศักยภาพทางอาวุธ หน่วยข่าวกรองรับจ๊อบ กระซิบบอกค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิว่า อิหร่านมีจรวดพิสัยกลางแน่นอน ขนาดกำลังพอดีกับเป้าหมายแถวอ่าว และเชื่อว่าอาวุธของอิหร่าน มีอานุภาพขั้นทำลายได้รุนแรง จริงจัง ไม่ใช่แค่ลำลายตึกและประชาชนเท่านั้น ข่าวนี้ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ฮึดสู้ทุ่มทุนซื้ออาวุธจากลูกพี่เพิ่มขึ้นตลอดทุกปี เงินหนานี่ จะเอาอะไรล่ะ ลูกพี่มีให้ทั้งนั้น
    แต่ที่ สำคัญ ตราบใดที่ลูกพี่มหามิตร นักล่าใบตองแห้ง ยังเป็นมหามิตรยืนอยู่ข้างหลังค่ายเสี่ยใหญ่อยู่ตลอดกาล อิหร่านต่างหาก จะกลายเป็นใบตองแห้งเสียเอง ดังนั้นค่ายเสี่ยใหญ่จึงต้องทำทุกอย่าง ให้ลูกพี่ประกาศออกมาต่อหน้าโลก ไม่ใช่มาทำกระซิบกระซาบเบาๆ แบบเหนียมอาย ว่าลูกพี่พร้อมที่จะปกป้องค่ายเสี่ยใหญ่ มายืนติดอยู่ข้างหลังเหมือนเอากาวทาติดตัวไว้ตลอด ได้ยินไหมคร๊าบ ลูกพี่
    ส่วน ค่ายอิหร่าน เจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก ตอบขรึมๆว่า ก็คอยดูไปก็แล้วกัน เรื่องอาวุธไม่จำเป็นต้องคุย ใครๆก็รู้ว่าเสือซุ่มน่ากลัวแค่ไหน ส่วนจะมีใครยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่ต้องใช้กาวทาติดไว้ ก็คอยดูไปอีกเช่นกัน แหม! ตอบแบบพระเอกเลยนะ
    เรื่อง อาวุธนิวเคลียร์ ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ คิดว่า เราก็เป็นเสี่ยใหญ่มีเงินหนา ทำไมเราจะซื้อหามามั่งไม่ได้ ข่าวเขาว่า ซาอุดิ กำลังปรับสมรรถนะเครื่องยิงจรวดวิถีไกล ที่ซื้อมาจากจีนอยู่อย่างเคร่งเครียด ข่าวนี้เขียนไปแล้วแต่หาเครื่องกรองไม่เจอ จึงไม่รับรองความแม่นยำนะครับ และมีข่าวว่า ปากีสถานก็อาจจะแบ่งขายอาวุธนิวเคลียร์ของตนให้เสี่ยซาอุดิด้วย เพราะเป็นมิตรรักร่วมใช้กระเป๋าของเสี่ยซาอุดิมานานแล้ว แค่นี้ทำไมจะปันแบ่งกันให้ไม่ได้ นี่พูดแบบหนังแขกเลยนะ ยังกะมันแบ่ง มันขายกันให้ง่ายๆงั้นแหละ เฮ้อ! พูดกับคนรวยนี่เหนื่อยนะ เอะอะก็เรามีเงิน เดี๋ยวซื้อนี่ ซื้อนั่น คำว่าสร้างน่ะรู้จักกันบ้างไหม นิวเคลียร์นะเขาสร้างกันนานแค่ไหน บารมี ก็เหมือนกัน ซื้อไม่ได้ นะครับ เขาต้องสร้างเอง สร้างนานด้วย ไอ้ที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ปุ๊บปั๊บ ดังคับจอ บอกบารมีเต็มเปี่ยมน่ะ ถูกหลอกต้มทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวก็รู้สึก
    นอก เรื่องไปหน่อย กลับมาเรื่องเสี่ยซาอุดิ ซึ่งยังเชื่อว่า เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน น่าจะยังอยู่ในขั้นพัฒนา ไม่ใช่อยู่ในขั้นใช้การได้จริงๆ และถ้าจะใช้จริง ของดีที่อิสราเอลมีอยู่ ก็น่าจะมีอานุภาพมากกว่าของอิหร่าน ในฐานะสังกัดลูกพี่เดียวกัน ใจคออิสราเอลจะทิ้งให้ซาอุดิลำบากหรือ แหม! เสี่ยใหญ่คิดแบบนี้ละซิ มันถึงจะเจ๊งเอาจนได้ เวลาจะใช้นิวเคลียร์ของเขาก็ดันนับญาติ เวลาหมั่นไส้ ก็หาว่ายิวฮุบแผ่นดินอาหรับแล้วก็ส่งลูกกระเป๋งไปโซ๊ย ลูกพี่ใบตองแห้งฝากเตือนมานะเสี่ย
    ส่วนค่ายอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ 2 ลูกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เหมือนเดิม พูดเรื่องอาวุธทีไร ต้องทำหน้าขรึม บอกว่า เราจะมีถึงขั้นใช้การได้หรือไม่ อีกหน่อยก็คงรู้กัน พูดซะหล่อเลย
    แม้ ทั้ง 2 ค่ายกลางทะเลทราย จะมีมุมมองในเรื่องต่างๆ คนละทิศกัน แต่ทั้ง 2 ค่าย ต่างก็เป็นหมากในกระดานของเกมชิงโลก แม้สถานะของหมากจะต่างกัน แต่มันขึ้นกับลูกพี่ใหญ่คนเดินหมาก ที่มีเป้าชิงโลกใบนี้ ให้อยู่ในมือตนแต่ผู้เดียว จะเดินหมากต่อไปอย่างไร
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” ตอนที่ 1
ตะวัน ออกกลาง อยู่กลางแดด แต่เหมือนแดนสนธยา เรื่องราวของคนกลางแดดน่าพิศวง ชวนงง ไม่ง่ายสำหรับคนนอกแดดจะเข้าใจ โดยเฉพาะพวกฝรั่งตะวันตกที่เข้าไปยึดครองครอบงำ ถึงขนาดมีการพูดถึงชาวตะวันออกกลางว่า มิตรภาพของพวกเขามีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) แต่ไม่ได้มีไว้ขาย (ถาวร) แม้จะเป็นชาวทะเลทรายด้วยกัน แต่ความต่างเผ่า ต่างพันธุ์ ต่างนิกาย ต่างประเพณี ทำให้วิธีคิด วิธีดำเนินชีวิต และการเดินนโยบายประเทศของพวกเขา แตกต่างกันอย่างเหลือเชื่อ ความแตกต่างของชาวตะวันออกกลาง มีมานานแล้ว แต่ปัจจุบัน ความแตกต่างดูเหมือนจะกลายเป็นความแตกแยก แบ่งกันเห็นชัดเป็น 2 ค่าย ค่ายหนึ่งนิยมและนอนนิ่ง อยู่ในอุ้งมือของนักล่าฝรั่งตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าใบตองแห้ง กับอังกฤษ นักล่าจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย ค่ายนี้นำโดย ซาอุดิอารเบีย เสี่ยใหญ่แห่งทะเลทราย มีพรรคพวกในสังกัด เป็นเศรษฐีน้ำมัน ประเภทชอบพกกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ เป็นปึก คือ ยูไนเต็ดอาหรับเอมิเรต (UAE) คูเวต บาห์เรน โอมาน กาตาร์ และอิรัก บวกด้วย เศษของ เศรษฐีอีกหนึ่งราย คือ จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่พวกบ้านติดอ่าวด้วยกัน แต่ก็เป็นประเภทนอนสบาย ไม่เดือดร้อนอยู่ในอุ้งมือนักล่าด้วยเช่นกัน ส่วน อีกค่ายหนึ่ง เข้าใจว่า ขณะนี้ไม่นิยมใช้ใบตองแห้ง และไม่ชอบอยู่เกาะ หลังจากเคยนิยมกันมาพักใหญ่ค่ายนี้นำโดยอิหร่าน ซึ่งกำลังถูกกล่าวหา (หรือกล่าวจริง) ว่ามีนิวเคลียร์พกติดกระเป๋ากางเกงไว้ตลอดเวลาอย่างน้อย 2 ลูก ส่วนพรรคพวกที่อิหร่านเพียรเกี้ยว และเกี่ยวมาเข้าค่ายเดียวกันมี ซีเรีย เลบานอน และกำลังล่อเอาอิรักออกมาจากค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ ลูกน้องตัวโปรดของนักล่าใบตองแห้งด้วย นอกจากนี้ ข่าวลือว่าตุรกี ซึ่งเคยเสพติดกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ก็กำลังลังเล อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายนี้ด้วย แต่อย่างว่า นักไต่ลวดพันธ์ลูกครึ่งชอบเกมเสี่ยง คงยังไม่ตัดสินใจอะไรง่ายๆ ต้องรอให้เสียวจัดกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยแสดงฉากผาดโผน อะไรทำให้พวกอยู่กลางแดด แตกแยกกันถึงขนาดนี้ พวกเขาจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ ในมุมของแต่ละค่าย ซึ่งแน่นอน คนละเรื่องเดียวกันเสมอ เรื่อง การบุกเข้าไปถล่มอิรัก ของอเมริกานักล่าใบตองแห้ง และเก็บซัดดัมใส่ห่อฝังลืม ตั้งแต่ ค.ศ.2003 ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ บอกเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่อเมริกาดันมอบให้อิหร่านโดยประมาท หรือประเมินผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ การทำให้อิรักแหลก ซัดดัมเละ เกิดช่องว่างในอิรัก ให้อิหร่านแทรกตัวเข้าไปได้อย่างไม่ยาก อิรักมีพวกซีอ่ะห์อยู่เกือบ 60% ของพลเมือง มีเพื่อนซีอ่ะห์อย่าง อิหร่านมาสนับสนุน ประโลมใจ ยามบ้านแตกสาแหรกหาย ย่อมดีกว่ามีพวกฝรั่งนักล่ามา ไล่ถล่มทิ้งระเบิดใส่ ไม่ต้องวิเคราะห์มาก เรื่องตรงไปตรงมา แน่นอน เสี่ยใหญ่ย่อมไม่พอใจ มันฉวยโอกาสฉกเด็กของเราไป จะพูด จะบ่น เรื่องอะไรกับลูกพี่ เสี่ยใหญ่เป็นต้องเอาเรื่องนี้ ขึ้นต้นเป็น แผ่นเสียงตกร่องก่อนเสมอ ทำให้ลูกพี่แสนจะเอือม เลิกพูดซ้ำซากได้มั้ยเสี่ย มันพลาดไปแล้ว อย่าย้ำหัวตะปูมาก นี่ถ้าไม่ติดพันกันเรื่องน้ำมัน ป่านนี้ตอกตะปูหัวให้แล้ว เรื่อง Arab Spring จากการรดน้ำใส่ปุ๋ย เอาต้นไม้ประชาธิปไตย ปลูกลงดินแดนทะเลทรายมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ค.ศ.2011 ก็เริ่มเห็นผล ต้นไม้ประชาธิปไตยเริ่มทยอยกันงอกกลางทะเลทราย เริ่มตั้งแต่ตูนีเซีย เรื่องของเด็กขายผลไม้เผาตัวเอง เป็นตำนานที่โลกจะไม่มีวันลืม กัดดาฟี่เผด็จการตัวร้าย ถูกขยี้อยู่ในที่หลบภัยพร้อมกับ ลูกรัก โลกตบมือ ไชโย ดีใจ เผด็จการตัวร้ายไปอีกหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้น อียิปต์ก็ลุกฮือเอาอย่าง มูบารักกุมบังเหียนมากว่า 30 ปี ก็มีวันที่ลงจากม้าแทบไม่ทัน แถมยังต้องถูกนอนเปลห้ามไปขึ้นศาลข้อหาฆ่าประชาชน อนิจจา อนิจจัง ต้นไม้ ประชาธิปไตยงอกงาม Arab Spring งามจริงๆ พร้อมกับการอ้างว่า เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย แต่ประเทศล่มสลาย ประชาชนล้มตาย พิการเท่าไหร่ น้อยคนจะติดตาม เรื่องช่อง 3 จอดำคงมีคนติดตามมากกว่า สมันน้อย ก็คงตามดูข่าว อ้าปากหวอ สลับดูละครน้ำเน่าเหมือนเดิม ผู้ปกครอง ประเทศ ที่เป็นเผด็จการ ก็สมควรอยู่ที่จะต้องถูกกำจัด แต่มันคงไม่ง่ายเหมือนใจนึก หลังจากเด็ดหัวทิ้งแล้ว จะจัดการกับตัวอย่างไร ประเทศนะ ไม่ใช่ต้นกล้วย จะได้ฟันฉับแล้วจบ ถึงเป็นต้นกล้วยหน่อมันยังงอกเลย แล้วประเทศมันจะเปลี่ยน แบบฉากละครง่ายๆอย่างนั้นหรือ ใครที่คิดว่า จะเปลี่ยนอะไร แบบง่ายๆ ได้ง่ายๆ ก็คิดทบทวนให้มากๆหน่อยนะครับ หลัง Arab Spring ทำให้เกิดอาการผึ้งแตกรัง หัวหน้าไม่มี ฝูงผึ้งก็บินกระจัดกระจาย แต่มันไม่ใช่แค่ผึ้งรังเดียว มันทยอยกันแตกไม่รู้กี่รัง ไปทั่วทะเลทราย ไอ้คนที่ทำผึ้งแตกรัง ดันหดหัว หางตก กลับบ้าน เพราะยังตั้งตัวไม่ติด ถุด ! เก่งดีนัก ! Arab Spring ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ซาอุดิ หงุดหงิด บอกมันเป็นการสร้างปัญหาให้กับพวกเรา แม้เราจะไม่เหมือน กัดดาฟี่ มูบารัก ซัดดัม เพราะคนพวกนี้กดขี่ประชาชนตนเอง แต่พวกเราคนรวย เราดูแลประชาชนของเราดี ไปดูตัวเลขที่ CIA แต่งให้ซิ รายได้ต่อหัวของพลเมืองเราอยู่อันดับไหน (หากันเอาเองนะครับ ผมขี้เกียจเข้าไปค้นตัวเลขปลอมๆของ CIA ) แต่นั่นล่ะนะ มันทำให้คนในบ้านเรา อดเกิดความคิดเฟื่องด้วยไม่ได้ ทำให้พวกเราต้องเพิ่มการดูแล และแลดูเขามากขึ้น มันเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับเรานะ แล้วกัน เสี่ยใหญ่ เสียแรงเป็นลูกน้องระดับแถวหน้า ของเจ้าของผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตย ยังไม่ชื่นชมนิยมยินดีเลย แบบนี้เจ้าของเขาจะไปหลอกขายสินค้าใครได้ แต่ สำหรับอิหร่านเจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก บอก Arab Spring ไม่มีปัญหาสำหรับบ้านเรา เพราะคนบ้านเราเขาดูออกว่าเป็นสินค้าปลอม เขาเคยใช้สินค้านี้มาหลายสิบปี รู้ฤทธิ์ของปลอม ว่ามันทำพิษพวกเขาขนาดไหน และดีเสียอีก มีคนขายของปลอมกันมากๆ เป็นโอกาสที่เราจะเอาสินค้าตราอื่นไปขายแข่งบ้าง และดูเหมือนการตลาด หรือสินค้าของอิหร่านจะเข้าตา ตอนนี้ลูกค้าเพิ่มทุกวัน เรื่อง ซีเรีย ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ มองเหตุการณ์ที่ซีเรีย เหมือนฝันร้าย เล่นเอาตอนนี้นอนตาโพลง กลัวว่าถ้าหลับตา จะต้องฝันร้ายเรื่องเดียวกับซีเรีย สนามรบซีเรีย มีนักรบเพิ่มขึ้นมากมาย หลายพวก หลายกลุ่ม ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝั่งต่อต้านรัฐบาล ต่างฝ่ายใช้วิธีการตลาดผ่านหน้า social media เหมือนสร้างหนังสด เล่นเอาพวกที่ชมดูอยู่ทางบ้าน อดใจไม่ไหว สะพายเป้เข้าไปร่วมรายการด้วยมากมาย มีการประกาศรายชื่อกลุ่มเพิ่มเกือบทุกวัน จนตามไม่ทัน กลุ่มเสี่ยใหญ่นั่งไม่ติด แล้วอเมริกาจะทำอะไรบ้างไหม ทำไมอเมริกาไม่ยกทัพไปปราบ เหมือนตอนปราบซัดดัม เหมือนตอนปราบบินลาเดน เหมือนตอนปราบกัดดาฟี่ เหมือนตอนปราบมูบารัก กลุ่มเสี่ยใหญ่กลุ้มใจ จนกรดไหลย้อนบ้านหมุน นี่ถ้าพวกไปหนุนซีเรีย ไม่ว่าข้างไหน มันชนะ ความวุ่นวายมันจะต้องลามมาถึงบ้านอันใหญ่โต หรูหรา เย็นฉ่ำ ของเราแน่นอน เราจะนิ่งเฉยๆดู อเมริกาอยู่เฉยๆ อย่างนี้น่ะหรือ !? คงต้องคิดทำอะไรบ้างแล้ว แต่สำหรับ อิหร่าน ซึ่งสานสัมพันธ์กับ Assad ของซีเรียมานานแล้ว รวมทั้งเลบานอนและอิรัก คงไม่ถึงกับนอนไม่หลับฝันร้าย แต่ในเมื่อเขาว่า ในตะวันออกกลาง มิตรภาพมีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) ไม่มีไว้ให้ขาย(ถาวร) วันหนึ่งเพื่อนหายหน้าหมด แต่การคว่ำบาตรของฝ่ายนักล่าตะวันตก ยังคงมีค้างอยู่กลางแดด อิหร่านก็ต้องคิดหนัก จะเดินหน้าเต็มตัวหนุน Assad ก็ต้องแน่ใจ และใจแน่ แต่ดูเหมือนอิหร่านจะเลือกใช้ถนน One way ถอยลำบากเสียแล้วกระมัง เรื่อง ศักยภาพทางอาวุธ หน่วยข่าวกรองรับจ๊อบ กระซิบบอกค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิว่า อิหร่านมีจรวดพิสัยกลางแน่นอน ขนาดกำลังพอดีกับเป้าหมายแถวอ่าว และเชื่อว่าอาวุธของอิหร่าน มีอานุภาพขั้นทำลายได้รุนแรง จริงจัง ไม่ใช่แค่ลำลายตึกและประชาชนเท่านั้น ข่าวนี้ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ฮึดสู้ทุ่มทุนซื้ออาวุธจากลูกพี่เพิ่มขึ้นตลอดทุกปี เงินหนานี่ จะเอาอะไรล่ะ ลูกพี่มีให้ทั้งนั้น แต่ที่ สำคัญ ตราบใดที่ลูกพี่มหามิตร นักล่าใบตองแห้ง ยังเป็นมหามิตรยืนอยู่ข้างหลังค่ายเสี่ยใหญ่อยู่ตลอดกาล อิหร่านต่างหาก จะกลายเป็นใบตองแห้งเสียเอง ดังนั้นค่ายเสี่ยใหญ่จึงต้องทำทุกอย่าง ให้ลูกพี่ประกาศออกมาต่อหน้าโลก ไม่ใช่มาทำกระซิบกระซาบเบาๆ แบบเหนียมอาย ว่าลูกพี่พร้อมที่จะปกป้องค่ายเสี่ยใหญ่ มายืนติดอยู่ข้างหลังเหมือนเอากาวทาติดตัวไว้ตลอด ได้ยินไหมคร๊าบ ลูกพี่ ส่วน ค่ายอิหร่าน เจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก ตอบขรึมๆว่า ก็คอยดูไปก็แล้วกัน เรื่องอาวุธไม่จำเป็นต้องคุย ใครๆก็รู้ว่าเสือซุ่มน่ากลัวแค่ไหน ส่วนจะมีใครยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่ต้องใช้กาวทาติดไว้ ก็คอยดูไปอีกเช่นกัน แหม! ตอบแบบพระเอกเลยนะ เรื่อง อาวุธนิวเคลียร์ ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ คิดว่า เราก็เป็นเสี่ยใหญ่มีเงินหนา ทำไมเราจะซื้อหามามั่งไม่ได้ ข่าวเขาว่า ซาอุดิ กำลังปรับสมรรถนะเครื่องยิงจรวดวิถีไกล ที่ซื้อมาจากจีนอยู่อย่างเคร่งเครียด ข่าวนี้เขียนไปแล้วแต่หาเครื่องกรองไม่เจอ จึงไม่รับรองความแม่นยำนะครับ และมีข่าวว่า ปากีสถานก็อาจจะแบ่งขายอาวุธนิวเคลียร์ของตนให้เสี่ยซาอุดิด้วย เพราะเป็นมิตรรักร่วมใช้กระเป๋าของเสี่ยซาอุดิมานานแล้ว แค่นี้ทำไมจะปันแบ่งกันให้ไม่ได้ นี่พูดแบบหนังแขกเลยนะ ยังกะมันแบ่ง มันขายกันให้ง่ายๆงั้นแหละ เฮ้อ! พูดกับคนรวยนี่เหนื่อยนะ เอะอะก็เรามีเงิน เดี๋ยวซื้อนี่ ซื้อนั่น คำว่าสร้างน่ะรู้จักกันบ้างไหม นิวเคลียร์นะเขาสร้างกันนานแค่ไหน บารมี ก็เหมือนกัน ซื้อไม่ได้ นะครับ เขาต้องสร้างเอง สร้างนานด้วย ไอ้ที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ปุ๊บปั๊บ ดังคับจอ บอกบารมีเต็มเปี่ยมน่ะ ถูกหลอกต้มทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวก็รู้สึก นอก เรื่องไปหน่อย กลับมาเรื่องเสี่ยซาอุดิ ซึ่งยังเชื่อว่า เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน น่าจะยังอยู่ในขั้นพัฒนา ไม่ใช่อยู่ในขั้นใช้การได้จริงๆ และถ้าจะใช้จริง ของดีที่อิสราเอลมีอยู่ ก็น่าจะมีอานุภาพมากกว่าของอิหร่าน ในฐานะสังกัดลูกพี่เดียวกัน ใจคออิสราเอลจะทิ้งให้ซาอุดิลำบากหรือ แหม! เสี่ยใหญ่คิดแบบนี้ละซิ มันถึงจะเจ๊งเอาจนได้ เวลาจะใช้นิวเคลียร์ของเขาก็ดันนับญาติ เวลาหมั่นไส้ ก็หาว่ายิวฮุบแผ่นดินอาหรับแล้วก็ส่งลูกกระเป๋งไปโซ๊ย ลูกพี่ใบตองแห้งฝากเตือนมานะเสี่ย ส่วนค่ายอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ 2 ลูกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เหมือนเดิม พูดเรื่องอาวุธทีไร ต้องทำหน้าขรึม บอกว่า เราจะมีถึงขั้นใช้การได้หรือไม่ อีกหน่อยก็คงรู้กัน พูดซะหล่อเลย แม้ ทั้ง 2 ค่ายกลางทะเลทราย จะมีมุมมองในเรื่องต่างๆ คนละทิศกัน แต่ทั้ง 2 ค่าย ต่างก็เป็นหมากในกระดานของเกมชิงโลก แม้สถานะของหมากจะต่างกัน แต่มันขึ้นกับลูกพี่ใหญ่คนเดินหมาก ที่มีเป้าชิงโลกใบนี้ ให้อยู่ในมือตนแต่ผู้เดียว จะเดินหมากต่อไปอย่างไร สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/3/68

    @Kittisuk iPhone
    ส่งไปให้ลูกดูนะ

    หมอได้ผ่าศพคนอายุ 90-103 ปีที่ตายธรรมชาติ

    พบว่าแต่ละคนล้วนมีเซลล์มะเร็งอยู่
    บางคนมีหลายแห่งด้วย
    แต่
    ทำไมพวกเขาจึงไม่มีอาการ

    เขาเชื่อว่า

    มันสงบอยู่ในระยะฟักตัว
    หรือ จำศีล
    ถ้ามีสิ่งที่มีปลุกหรือกระตุ้นให้ตื่น จึงจะเจริญเติบโต


    วงการแพทย์ปัจจุบัน
    กำลังพยายามหาวิธีทำให้เซลล์มะเร็งสงบอยู่ได้ตลอดไป
    เชื่อว่า
    อาหารที่ทำให้เซลล์มะเร็งสงบได้แก่

    1. ขมิ้น
    (สารที่เชื่อว่าต้านมะเร็ง
    คือ curcumin)
    2. พริก (capsaicin)
    3. ขิง (curcumin)
    4. ชาเขียว (catechin)
    5. ถั่วเหลือง (isoflavones)
    6. มะเขือเทศ (lycopene)
    7. องุ่น (resveratrol)y
    8. กระเทียม (sulfides)

    “10 อันดับอาหาร
    ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฟื้น”
    คือ
    1. แฮมเบอร์เกอร์ ของทอด,
    โค้ก (Hamburger Fries
    + Cola)
    2. ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น +
    ชาไข่มุก (Pork ribs rice
    + Zhen milk)
    3. เกี๊ยวซ่า + นมถั่วเหลือง
    (Pot Sticker + Soy Milk)
    4. สปาร์เก็ตตี้อิตาเลียน +
    ซุปเมอแรงค์ ((Grilled
    Italian noodles) +
    meringue soup)
    5. ไก่ทอดเกาหลีกับเบียร์
    (Korean fried chicken
    + beer)
    6. ข้าวผัด + ซุปกงเหมา
    (Fried rice + Gongmao
    soup)
    7. ราเมง + ครีมแข็ง (Ramen
    + Frost Cream)
    8. ข้าวหน้าหมูตุ๋น +
    ซุปลูกชิ้นปลา (Braised
    Pork Rice + Fish Ball
    Soup)
    9. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น +
    กะหล่ำปลีดอง (Braised
    beef noodles +
    sauerkraut)
    10. หมูทอด + โอเด้ง (Fried meat round + Oden boiled)

    ส่วนอาหารที่ต้านพิษ
    ได้แก่
    1. มันหวาน (Sweet potato)
    2. ถั่วเขียว (Mung beans)
    3. ข้าวโอ๊ต (Oats)
    4. เม็ดบัว (Huanren)
    5. เซียวหมี่ (Xiaomi)
    6. ข้าวกล้อง (Brown rice)
    7. ถั่วแดง (Red Beans)
    8. แครอท (Carrots)
    9. แยม (Yam)
    10. หญ้าเจ้าชู้ (Burdock)
    11. หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus)
    12. หัวหอม (Onions)
    13. รากบัว (Lotus root)
    14. หัวไชเท้า (White radish)
    15. โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia
    halodendron)
    16. ใบของมันหวาน (Sweet
    potato leaves)
    17. ใบหัวไชเท้า (Radish
    leaves)
    18. ชวานชี (Chuanqi)
    19. โยเกิร์ต (Yogurt)
    20. น้ำส้มสายชู (Vinegart)

    "You are what You eat"
    คุณ กินอะไรเข้าไป
    คุณก็จะเป็นอย่างนั้น

    Don’t no who wrote but I do
    ไม่รู้ใครเขียนแต่ผมทำตาม...

    ด่วน...
    เส้นเลือด "ตีบ" ในสมอง
    เกิดขึ้นทุก 4 นาที
    ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ?

    ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน
    ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี
    มันเกิดอะไรขึ้น
    ความพิการจะหยุดได้
    หรือไม่ได้...

    ถ้าสำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า
    "หยุดได้"

    เส้นเลือดตีบในสมอง
    เกิดขึ้นทุก 4 นาที
    ปีละเป็นแสนคน
    ดารานักแสดง.. คนรวย.. คนจน.... ก็ไม่เว้น
    จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก

    วันนี้การแพทย์สหรัฐ
    ยังบอกเลยว่า
    มันยากมากที่สุด

    การรักษาคนป่วยเหล่านี้
    แทบจะเลือนลาง
    เสียงบประมาณมากมาย
    กับคนป่วยเหล่านี้...

    อาการเส้นเลือดตีบ
    เป็นอย่างไร ?

    เส้นเลือดตีบ
    อาการที่ส่งสัญญาณ คือ.-
    1. อาการมึนหัว
    2. อาการบ้านหมุน
    3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม
    4. อาการร่วม-อ่อนแรงที่แขน
    5. อาการร่วม-อ่อนแรงที่ขา
    6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ
    บ่า ไหล่
    อาจส่งสัญญาณปวด

    จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.-
    1. พักผ่อนน้อย
    2. ดื่มน้ำน้อย
    3. นอนดึก
    4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ
    5. ชอบทานอาหารมันๆ
    6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่
    7. ขาดการออกกำลังกาย
    8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแล
    ระบบหลอดเลือด และ
    การไหลเวียนให้สมดุล
    9. นั่งนาน
    10. ยืนนาน
    11. ทำงานหนัก
    12. ชอบดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น

    ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง
    ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค
    แต่เกิดจากพฤติกรรม
    ที่สะสมมานาน
    ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี
    การอุดตันในเส้นเลือด
    ถึงจะเกิดขึ้นได้
    การรักษาฟื้นฟู
    สามารถทำได้
    แต่ต้องใช้ระยะเวลา..
    นาน.. ไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    คนที่เป็น
    มีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน
    สามารถรักษาได้
    ใช้ระยะเวลาไม่เกิด 3-6 เดือน

    อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น
    แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง

    “เกิดจากพฤติกรรม
    ในการดำเนินชีวิต…..

    ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค“

    เอาละครับ
    คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆ
    คงช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงได้
    ห่างไกลความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    อนุญาตให้แชร์ข้อมูลได้ครับ
    เพื่อเป็นวิทยาทาน...
    17/3/68 @Kittisuk iPhone ส่งไปให้ลูกดูนะ หมอได้ผ่าศพคนอายุ 90-103 ปีที่ตายธรรมชาติ พบว่าแต่ละคนล้วนมีเซลล์มะเร็งอยู่ บางคนมีหลายแห่งด้วย แต่ ทำไมพวกเขาจึงไม่มีอาการ เขาเชื่อว่า มันสงบอยู่ในระยะฟักตัว หรือ จำศีล ถ้ามีสิ่งที่มีปลุกหรือกระตุ้นให้ตื่น จึงจะเจริญเติบโต วงการแพทย์ปัจจุบัน กำลังพยายามหาวิธีทำให้เซลล์มะเร็งสงบอยู่ได้ตลอดไป เชื่อว่า อาหารที่ทำให้เซลล์มะเร็งสงบได้แก่ 1. ขมิ้น (สารที่เชื่อว่าต้านมะเร็ง คือ curcumin) 2. พริก (capsaicin) 3. ขิง (curcumin) 4. ชาเขียว (catechin) 5. ถั่วเหลือง (isoflavones) 6. มะเขือเทศ (lycopene) 7. องุ่น (resveratrol)y 8. กระเทียม (sulfides) “10 อันดับอาหาร ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฟื้น” คือ 1. แฮมเบอร์เกอร์ ของทอด, โค้ก (Hamburger Fries + Cola) 2. ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น + ชาไข่มุก (Pork ribs rice + Zhen milk) 3. เกี๊ยวซ่า + นมถั่วเหลือง (Pot Sticker + Soy Milk) 4. สปาร์เก็ตตี้อิตาเลียน + ซุปเมอแรงค์ ((Grilled Italian noodles) + meringue soup) 5. ไก่ทอดเกาหลีกับเบียร์ (Korean fried chicken + beer) 6. ข้าวผัด + ซุปกงเหมา (Fried rice + Gongmao soup) 7. ราเมง + ครีมแข็ง (Ramen + Frost Cream) 8. ข้าวหน้าหมูตุ๋น + ซุปลูกชิ้นปลา (Braised Pork Rice + Fish Ball Soup) 9. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น + กะหล่ำปลีดอง (Braised beef noodles + sauerkraut) 10. หมูทอด + โอเด้ง (Fried meat round + Oden boiled) ส่วนอาหารที่ต้านพิษ ได้แก่ 1. มันหวาน (Sweet potato) 2. ถั่วเขียว (Mung beans) 3. ข้าวโอ๊ต (Oats) 4. เม็ดบัว (Huanren) 5. เซียวหมี่ (Xiaomi) 6. ข้าวกล้อง (Brown rice) 7. ถั่วแดง (Red Beans) 8. แครอท (Carrots) 9. แยม (Yam) 10. หญ้าเจ้าชู้ (Burdock) 11. หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) 12. หัวหอม (Onions) 13. รากบัว (Lotus root) 14. หัวไชเท้า (White radish) 15. โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia halodendron) 16. ใบของมันหวาน (Sweet potato leaves) 17. ใบหัวไชเท้า (Radish leaves) 18. ชวานชี (Chuanqi) 19. โยเกิร์ต (Yogurt) 20. น้ำส้มสายชู (Vinegart) "You are what You eat" คุณ กินอะไรเข้าไป คุณก็จะเป็นอย่างนั้น Don’t no who wrote but I do ไม่รู้ใครเขียนแต่ผมทำตาม... ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้ หรือไม่ได้... ถ้าสำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า "หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนรวย.. คนจน.... ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐ ยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมาย กับคนป่วยเหล่านี้... อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร ? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ.- 1. อาการมึนหัว 2. อาการบ้านหมุน 3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4. อาการร่วม-อ่อนแรงที่แขน 5. อาการร่วม-อ่อนแรงที่ขา 6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1. พักผ่อนน้อย 2. ดื่มน้ำน้อย 3. นอนดึก 4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5. ชอบทานอาหารมันๆ 6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7. ขาดการออกกำลังกาย 8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแล ระบบหลอดเลือด และ การไหลเวียนให้สมดุล 9. นั่งนาน 10. ยืนนาน 11. ทำงานหนัก 12. ชอบดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรม ที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือด ถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟู สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา.. นาน.. ไม่ต่ำกว่า 5 ปี คนที่เป็น มีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิด 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง “เกิดจากพฤติกรรม ในการดำเนินชีวิต….. ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค“ เอาละครับ คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆ คงช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงได้ ห่างไกลความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อนุญาตให้แชร์ข้อมูลได้ครับ เพื่อเป็นวิทยาทาน...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1704 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตับสัตว์

    ตับเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน

    ตับคืออะไร

    ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญในมนุษย์และสัตว์ โดยทั่วไปแล้วตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดและมีหน้าที่สำคัญหลายประการ รวมถึง:

    • ผลิตน้ำดีซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร

    • จัดเก็บไกลโคเจน ธาตุเหล็ก วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ

    • กรองและกำจัดยาและสารพิษออกจากเลือด

    ในสัตว์ที่ไม่ป่วย ตับคืออวัยวะที่ทำความสะอาดตัวเองทุกวัน จึงสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย

    แม้ว่าตับจะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ตับก็เป็นอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นสูง

    ตับ 100 กรัม ให้ :

    • พลังงาน 189 แคลอรี่

    • โปรตีน 29 กรัม

    • ไขมัน 5 กรัม

    • คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

    ตับมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ตับของสัตว์ส่วนใหญ่สามารถรับประทานได้ แหล่งที่พบได้ทั่วไปคือ ตับวัว ไก่ เป็ด เนื้อแกะ และหมู

    ตับเป็นแหล่งของสารอาหารหลายชนิด

    ต่อไปนี้คือสารอาหารที่พบในตับวัว 100 กรัม

    • วิตามินบี 12: 2,917% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน (DV) วิตามินบี 12 ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและ DNA และยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองที่แข็งแรงอีกด้วย

    • วิตามินเอ: 104% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน วิตามินเอมีความสำคัญต่อการมองเห็น การทำงานของภูมิคุ้มกัน และการสืบพันธุ์ นอกจากนี้ยังช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างถูกต้อง

    • ไรโบฟลาวิน (B2): 261% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ไรโบฟลาวินมีความสำคัญต่อการพัฒนาและการทำงานของเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานอีกด้วย

    • โฟเลต (B9): 63% ของ DV โฟเลตเป็นสารอาหารจำเป็นที่มีบทบาทในการเจริญเติบโตของเซลล์และการสร้าง DNA

    • ธาตุเหล็ก: 36% ของ DV ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารจำเป็นอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยนำออกซิเจนไปทั่วร่างกาย ธาตุเหล็กในตับคือธาตุเหล็กในกลุ่มฮีม ซึ่งเป็นธาตุเหล็กที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายที่สุด

    • ทองแดง: 1,578% ของ DV ทองแดงทำหน้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเอนไซม์หลายชนิด ซึ่งจะช่วยควบคุมการผลิตพลังงาน การเผาผลาญธาตุเหล็ก และการทำงานของสมอง

    • โคลีน: ตับให้โคลีน 77% ของ DV โคลีนมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองและการทำงานของตับ

    ตับเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง

    โปรตีนมีความสำคัญต่อชีวิตและพบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายมนุษย์ โปรตีนจำเป็นต่อการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย

    ตับวัวมากกว่าหนึ่งในสี่ประกอบด้วยโปรตีน เนื่องจากเป็นโปรตีนจากสัตว์ จึงมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด

    กรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่ประกอบเป็นโปรตีน ร่างกายสามารถสร้างกรดอะมิโนบางชนิดได้ แต่กรดอะมิโนที่จำเป็นจะต้องมาจากอาหาร

    การรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากช่วยลดความหิวและความอยากอาหาร นอกจากนี้ ยังพบว่าโปรตีนช่วยบรรเทาความหิวได้ดีกว่าไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต

    ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หรือจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายใช้ในการทำงาน

    การที่มีอัตราการเผาผลาญที่สูงขึ้นหมายความว่าคุณใช้แคลอรี่มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานร่วมกับการลดปริมาณแคลอรี่

    สุดท้ายการรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อและป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อในขณะที่ลดน้ำหนักได้

    ในขณะเดียวกัน การศึกษาบางกรณีเตือนว่าการบริโภคโปรตีนในระยะยาวมากเกินไป โดยเฉพาะจากโปรตีนจากสัตว์ มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของไต กระดูก หรือตับ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นจึงควรรับประทานให้เหมาะสมที่ร่างกายแต่ละคนต้องการ (อ่านตอนโปรตีนในหัวข้อ Fixx pro)

    ความกังวลทั่วไปเกี่ยวกับการรับประทานตับ

    หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการรับประทานตับและสงสัยว่าตับไม่ดีต่อสุขภาพหรือไม่

    คำถามที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งคือปริมาณคอเลสเตอรอลเป็นปัญหาหรือไม่

    แม้ว่าตับจะมีคอเลสเตอรอลสูง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่

    ผู้คนเคยเชื่อว่าคอเลสเตอรอลในอาหารทำให้เกิดโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างคอเลสเตอรอลในอาหารและคอเลสเตอรอลในร่างกายนั้นไม่ตรงไปตรงมา

    คำแนะนำปัจจุบันยังคงแนะนำให้กินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงในปริมาณที่พอเหมาะ โดยอยู่ในบริบทของการรับประทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ

    ประชากรประมาณหนึ่งในสี่ดูเหมือนจะไวต่อคอเลสเตอรอลในอาหารมากกว่า สำหรับคนเหล่านี้ การกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้

    นอกจากความกังวลอื่นๆ แล้ว การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ยังพบว่าการรับประทานอาหารที่มีเครื่องในสัตว์สูงมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดโรคไขมันพอกตับที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ แต่การศึกษานี้ยังมีขอบเขตจำกัด และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
    ตับอาจไม่เหมาะกับทุกคน

    มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจต้องการหลีกเลี่ยงการรับประทานตับ

    หญิงตั้งครรภ์

    ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการรับประทานตับในระหว่างตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักเกิดจากปริมาณวิตามินเอ

    การรับประทานวิตามินเอที่ก่อตัวก่อนกำหนดในปริมาณมาก ซึ่งเป็นชนิดที่พบในตับ มีความเชื่อมโยงกับข้อบกพร่องแต่กำเนิดในการศึกษาวิจัยในปี 1995

    ปริมาณวิตามินเอสูงสุดที่ผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้คือ 3,000 ไมโครกรัมของเรตินอลแอคทีฟเอควล (mcg RAE) ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรรับประทานวิตามินเอเสริมเกินปริมาณดังกล่าวต่อวัน

    อย่างไรก็ตาม ตับวัว 1 ออนซ์ (28.5 กรัม) มีวิตามินเอ 2,650 ไมโครกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับระดับวิตามินเอสูงสุดที่ร่างกายสามารถรับประทานได้ในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตามปริมาณวิตามินเอ

    การปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับแผนการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งครรภ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ

    ผู้ที่เป็นโรคเกาต์

    โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากกรดยูริกในเลือดมีปริมาณสูง อาการของโรคได้แก่ ปวด ข้อแข็ง และบวม

    ตับมีสารพิวรีนสูง ซึ่งก่อให้เกิดกรดยูริกในร่างกาย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงตับ เครื่องในสัตว์ และปลาดุกจึงเป็นสิ่งสำคัญหากคุณเป็นโรคเกาต์

    วิธีรวมตับไว้ในอาหารของคุณ

    ตับมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบางคนชอบและบางคนไม่ชอบ

    ต่อไปนี้คือคำแนะนำบางประการเกี่ยวกับวิธีรวมตับไว้ในอาหารของคุณ:

    • การทอดในกระทะ: ตับจะได้ผลดีเมื่อทอดในกระทะพร้อมกับหัวหอม

    • การแช่ตับในน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวก่อนปรุงอาหาร: การทำเช่นนี้จะลดรสชาติที่เข้มข้นของตับได้

    สภาวะของร่างกายที่ควรรับประทานตับ

    -กำลังเจริญเติบโตและใช้สมอง
    -เป็นไข้หรือติดเชื้อไวรัส เนื่องจากเชื้อโรคจะทำลายเม็ดเลือดแดง
    -สูญเสียเลือด ไม่ว่าจะเป็นจากการมีประจำเดือน การผ่าตัด หรือประสบอุบัติเหตุ
    -มีภาวะโลหิตจาง
    - ผู้ที่มีอาการโคลงเคลงเหมือนอยู่ในเรือหรือบ้านหมุน
    - ผู้ที่มีความรู้สึกว่าหนาวง่ายเกินไป

    ปริมาณที่แนะนำ
    ถ้าเป็นตับวัวหรือตับหมู รับประทานประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อต่อวัน
    ถ้าเป็นตับไก่หรือตับเป็ด รับประทานประมาณ 1 ไม้เสียบย่าง
    และควรรับประทานสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr.Santi Manadee
    #ตับสัตว์ ตับเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน ตับคืออะไร ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญในมนุษย์และสัตว์ โดยทั่วไปแล้วตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดและมีหน้าที่สำคัญหลายประการ รวมถึง: • ผลิตน้ำดีซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร • จัดเก็บไกลโคเจน ธาตุเหล็ก วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ • กรองและกำจัดยาและสารพิษออกจากเลือด ในสัตว์ที่ไม่ป่วย ตับคืออวัยวะที่ทำความสะอาดตัวเองทุกวัน จึงสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าตับจะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ตับก็เป็นอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นสูง ตับ 100 กรัม ให้ : • พลังงาน 189 แคลอรี่ • โปรตีน 29 กรัม • ไขมัน 5 กรัม • คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม ตับมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ตับของสัตว์ส่วนใหญ่สามารถรับประทานได้ แหล่งที่พบได้ทั่วไปคือ ตับวัว ไก่ เป็ด เนื้อแกะ และหมู ตับเป็นแหล่งของสารอาหารหลายชนิด ต่อไปนี้คือสารอาหารที่พบในตับวัว 100 กรัม • วิตามินบี 12: 2,917% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน (DV) วิตามินบี 12 ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและ DNA และยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองที่แข็งแรงอีกด้วย • วิตามินเอ: 104% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน วิตามินเอมีความสำคัญต่อการมองเห็น การทำงานของภูมิคุ้มกัน และการสืบพันธุ์ นอกจากนี้ยังช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างถูกต้อง • ไรโบฟลาวิน (B2): 261% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ไรโบฟลาวินมีความสำคัญต่อการพัฒนาและการทำงานของเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานอีกด้วย • โฟเลต (B9): 63% ของ DV โฟเลตเป็นสารอาหารจำเป็นที่มีบทบาทในการเจริญเติบโตของเซลล์และการสร้าง DNA • ธาตุเหล็ก: 36% ของ DV ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารจำเป็นอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยนำออกซิเจนไปทั่วร่างกาย ธาตุเหล็กในตับคือธาตุเหล็กในกลุ่มฮีม ซึ่งเป็นธาตุเหล็กที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายที่สุด • ทองแดง: 1,578% ของ DV ทองแดงทำหน้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเอนไซม์หลายชนิด ซึ่งจะช่วยควบคุมการผลิตพลังงาน การเผาผลาญธาตุเหล็ก และการทำงานของสมอง • โคลีน: ตับให้โคลีน 77% ของ DV โคลีนมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองและการทำงานของตับ ตับเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง โปรตีนมีความสำคัญต่อชีวิตและพบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายมนุษย์ โปรตีนจำเป็นต่อการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย ตับวัวมากกว่าหนึ่งในสี่ประกอบด้วยโปรตีน เนื่องจากเป็นโปรตีนจากสัตว์ จึงมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด กรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่ประกอบเป็นโปรตีน ร่างกายสามารถสร้างกรดอะมิโนบางชนิดได้ แต่กรดอะมิโนที่จำเป็นจะต้องมาจากอาหาร การรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากช่วยลดความหิวและความอยากอาหาร นอกจากนี้ ยังพบว่าโปรตีนช่วยบรรเทาความหิวได้ดีกว่าไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หรือจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายใช้ในการทำงาน การที่มีอัตราการเผาผลาญที่สูงขึ้นหมายความว่าคุณใช้แคลอรี่มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานร่วมกับการลดปริมาณแคลอรี่ สุดท้ายการรับประทานโปรตีนในปริมาณสูงสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อและป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อในขณะที่ลดน้ำหนักได้ ในขณะเดียวกัน การศึกษาบางกรณีเตือนว่าการบริโภคโปรตีนในระยะยาวมากเกินไป โดยเฉพาะจากโปรตีนจากสัตว์ มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของไต กระดูก หรือตับ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นจึงควรรับประทานให้เหมาะสมที่ร่างกายแต่ละคนต้องการ (อ่านตอนโปรตีนในหัวข้อ Fixx pro) ความกังวลทั่วไปเกี่ยวกับการรับประทานตับ หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการรับประทานตับและสงสัยว่าตับไม่ดีต่อสุขภาพหรือไม่ คำถามที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งคือปริมาณคอเลสเตอรอลเป็นปัญหาหรือไม่ แม้ว่าตับจะมีคอเลสเตอรอลสูง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่ ผู้คนเคยเชื่อว่าคอเลสเตอรอลในอาหารทำให้เกิดโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างคอเลสเตอรอลในอาหารและคอเลสเตอรอลในร่างกายนั้นไม่ตรงไปตรงมา คำแนะนำปัจจุบันยังคงแนะนำให้กินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงในปริมาณที่พอเหมาะ โดยอยู่ในบริบทของการรับประทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ ประชากรประมาณหนึ่งในสี่ดูเหมือนจะไวต่อคอเลสเตอรอลในอาหารมากกว่า สำหรับคนเหล่านี้ การกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ นอกจากความกังวลอื่นๆ แล้ว การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ยังพบว่าการรับประทานอาหารที่มีเครื่องในสัตว์สูงมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดโรคไขมันพอกตับที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ แต่การศึกษานี้ยังมีขอบเขตจำกัด และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม ตับอาจไม่เหมาะกับทุกคน มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจต้องการหลีกเลี่ยงการรับประทานตับ หญิงตั้งครรภ์ ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการรับประทานตับในระหว่างตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักเกิดจากปริมาณวิตามินเอ การรับประทานวิตามินเอที่ก่อตัวก่อนกำหนดในปริมาณมาก ซึ่งเป็นชนิดที่พบในตับ มีความเชื่อมโยงกับข้อบกพร่องแต่กำเนิดในการศึกษาวิจัยในปี 1995 ปริมาณวิตามินเอสูงสุดที่ผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้คือ 3,000 ไมโครกรัมของเรตินอลแอคทีฟเอควล (mcg RAE) ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรรับประทานวิตามินเอเสริมเกินปริมาณดังกล่าวต่อวัน อย่างไรก็ตาม ตับวัว 1 ออนซ์ (28.5 กรัม) มีวิตามินเอ 2,650 ไมโครกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับระดับวิตามินเอสูงสุดที่ร่างกายสามารถรับประทานได้ในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตามปริมาณวิตามินเอ การปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับแผนการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งครรภ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากกรดยูริกในเลือดมีปริมาณสูง อาการของโรคได้แก่ ปวด ข้อแข็ง และบวม ตับมีสารพิวรีนสูง ซึ่งก่อให้เกิดกรดยูริกในร่างกาย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงตับ เครื่องในสัตว์ และปลาดุกจึงเป็นสิ่งสำคัญหากคุณเป็นโรคเกาต์ วิธีรวมตับไว้ในอาหารของคุณ ตับมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบางคนชอบและบางคนไม่ชอบ ต่อไปนี้คือคำแนะนำบางประการเกี่ยวกับวิธีรวมตับไว้ในอาหารของคุณ: • การทอดในกระทะ: ตับจะได้ผลดีเมื่อทอดในกระทะพร้อมกับหัวหอม • การแช่ตับในน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวก่อนปรุงอาหาร: การทำเช่นนี้จะลดรสชาติที่เข้มข้นของตับได้ สภาวะของร่างกายที่ควรรับประทานตับ -กำลังเจริญเติบโตและใช้สมอง -เป็นไข้หรือติดเชื้อไวรัส เนื่องจากเชื้อโรคจะทำลายเม็ดเลือดแดง -สูญเสียเลือด ไม่ว่าจะเป็นจากการมีประจำเดือน การผ่าตัด หรือประสบอุบัติเหตุ -มีภาวะโลหิตจาง - ผู้ที่มีอาการโคลงเคลงเหมือนอยู่ในเรือหรือบ้านหมุน - ผู้ที่มีความรู้สึกว่าหนาวง่ายเกินไป ปริมาณที่แนะนำ ถ้าเป็นตับวัวหรือตับหมู รับประทานประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อต่อวัน ถ้าเป็นตับไก่หรือตับเป็ด รับประทานประมาณ 1 ไม้เสียบย่าง และควรรับประทานสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr.Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1422 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10/12/67

    แพ้อาหาร

    กุ้ง

    อาการแพ้กุ้งกับสาเหตุที่หลายคนอาจไม่รู้

    อาการแพ้กุ้งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นลมพิษ ผื่นคัน หน้าบวม หรือหายใจติดขัด อาการเหล่านี้เป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองรุนแรงกว่าปกติ

    ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยอาการแพ้มีตั้งแต่ระดับไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม อาการแพ้กุ้งอาจบรรเทาและป้องกันได้หลายวิธี
    อย่างที่กล่าวไปว่า อาการแพ้กุ้งเกิดจากภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองมากกว่าปกติ โดยร่างกายมองว่าสารบางอย่างในตัวกุ้งเป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงกระตุ้นการหลั่งสารเคมีเพื่อมากำจัดสารชนิดนั้น ซึ่งการต่อสู้กันระหว่างสารและร่างกายจะทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา

    อาการแพ้กุ้งเป็นอย่างไร ?
    โดยทั่วไป อาการแพ้อาหารนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ โดยอาจเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารในทันทีหรือเกิดขึ้นหลังรับประทานไปหลายชั่วโมง ซึ่งลักษณะอาการที่เกิดขึ้นอาจแบ่งได้ ดังนี้

    * ผิวหนัง
อาการแพ้ในรูปแบบนี้มักเห็นได้ชัด อย่างลมพิษ ผื่นแดง คัน พบอาการบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก และคอ

    * ระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณคอที่บวมมากขึ้นอาจส่งผลให้หายใจไม่สะดวก รวมถึงสารฮิสตามีนที่หลั่งออกมาจะส่งผลให้มีอาการไอ น้ำมูกไหล คัดจมูก หรือหายใจลำบาก

    * ลำไส้และกระเพาะอาหาร
อาการแพ้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว และปวดท้อง

    * ระบบประสาท
อาการแพ้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน หน้ามืด และเป็นลมได้

    * ภาวะปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรง
ปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) เป็นภาวะที่พบได้น้อย แต่เป็นภาวะที่อันตรายจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยภาวะนี้จะส่งผลให้หายใจไม่ออก หน้ามืด ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดลดต่ำลง ช็อก หมดสติ และเสียชีวิต ดังนั้น หากปรากฏสัญญาณของปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงให้โทรเรียกรถพยาบาลทันที

    แม้ความรุนแรงของอาการแพ้กุ้งอาจขึ้นอยู่ปริมาณที่รับประทาน แต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะการได้รับสารก่ออาการแพ้เพียงเล็กน้อยในผู้ที่มีอาการแพ้กุ้งบางรายก็อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงตามมาได้

    เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการแพ้กุ้ง
    เมื่อเกิดอาการผิดปกติภายหลังจากการรับประทานกุ้ง คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นอาการที่เกิดมาจากการแพ้กุ้ง

    ซึ่งแท้จริงแล้วอาจเป็นการแพ้สารในกุ้งโดยตรง หรือแพ้สารที่เกิดจากอาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งก็ได้ ส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้กุ้งของคนไทยมักเกิดจากสารฮีโมไซยานิน (Hemocyanin) ที่อยู่ในกุ้งแม่น้ำหรือกุ้งก้ามกราม สารโปรตีนลิพิดไบน์ดิง (Lipid-binding Protein) และโปรตีนแอลฟาแอกตินิน (Alpha-actinin Protein) ที่อยู่ในกุ้งกุลาดำหรือกุ้งลายเสือ

    โดยสารเหล่านี้เป็นสารที่อยู่ภายในตัวกุ้งโดยตรง แต่ในบางกรณี สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อาจมาอาหารที่ใช้เพาะเลี้ยงกุ้ง จึงอาจทำให้บางคนแพ้กุ้งเพียงบางครั้ง เนื่องจากรับประทานกุ้งที่มาจากคนละแหล่งกัน

    หลายคนอาจสงสัยว่าตอนเด็กไม่เคยมีอาการแพ้กุ้งมาก่อน แต่กลับมามีอาการแพ้กุ้งในตอนโต โดยสาเหตุอาจมาจากการสะสมสารก่ออาการแพ้มาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อมีการกระตุ้นมากขึ้นจึงส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้

    รวมถึงบางคนที่แพ้กุ้งเพียงบางชนิดก็อาจเกิดจากสารภายในตัวกุ้งที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ อย่างกุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม ขณะที่บางคนอาจแพ้โปรตีนทีอยู่ในเปลือกของกุ้ง ซึ่งมักจะมีอาการแพ้สัตว์มีกระดองหรือแพ้อาหารทะเลชนิดอื่น อย่างปู หอย หรือปลาหมึกร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ในบางรายก็สามารถรับประทานอาหารทะเลชนิดอื่นได้ปกติ

    นอกจากนี้ อาการแพ้ที่หลายคนคิดว่าเกิดจากการรับประทานกุ้งยังอาจมาจากสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดอาการคล้ายกันได้ เช่น อาหารเป็นพิษ โรคลำไส้อักเสบ โรคมะเร็งลำไส้ หรือความรู้สึกกลัวอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง เป็นต้น

    อาการแพ้กุ้งรับมือได้
    การรับมือกับอาการแพ้กุ้งหรือการแพ้อาหารที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนั้น ๆ เพื่อป้องกันอาการแพ้ จึงควรใส่ใจที่จะอ่านฉลากอาหารก่อนรับประทานทุกครั้ง

    ถ้าหากรับประทานไปแล้วเกิดอาการแพ้ในระดับที่ไม่รุนแรงอาจใช้ยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้

    สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง มีอาการเวียนศีรษะ ความดันต่ำ หรือรู้สึกคล้ายจะหมดสติ ควรเรียกรถพยาบาลทันที สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้รุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาอิพิเนฟริน (Epinephrin) ในรูปเข็มฉีดสำหรับรูปไว้ใช้เมื่อเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง โดยหลังจากฉีดควรไปโรงพยาบาลทันที

    นอกจากนี้ ผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้กุ้ง อาหารทะเล หรืออาหารอื่น ๆ อย่างรุนแรง ควรอยู่ให้ห่างจากแหล่งที่มีของที่แพ้จำหน่าย อย่างตลาด ร้านอาหารทะเล หรือโรงงาน เนื่องจากการสูดดมสารก่ออาการแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

    อย่างไรก็ตาม หากหาสาเหตุของการแพ้ไม่ได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาสารก่ออาการแพ้ด้วยวิธีทางการแพทย์
    cr:POBPOD





    10/12/67 แพ้อาหาร กุ้ง อาการแพ้กุ้งกับสาเหตุที่หลายคนอาจไม่รู้ อาการแพ้กุ้งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นลมพิษ ผื่นคัน หน้าบวม หรือหายใจติดขัด อาการเหล่านี้เป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองรุนแรงกว่าปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยอาการแพ้มีตั้งแต่ระดับไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม อาการแพ้กุ้งอาจบรรเทาและป้องกันได้หลายวิธี อย่างที่กล่าวไปว่า อาการแพ้กุ้งเกิดจากภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองมากกว่าปกติ โดยร่างกายมองว่าสารบางอย่างในตัวกุ้งเป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงกระตุ้นการหลั่งสารเคมีเพื่อมากำจัดสารชนิดนั้น ซึ่งการต่อสู้กันระหว่างสารและร่างกายจะทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา อาการแพ้กุ้งเป็นอย่างไร ? โดยทั่วไป อาการแพ้อาหารนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ โดยอาจเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารในทันทีหรือเกิดขึ้นหลังรับประทานไปหลายชั่วโมง ซึ่งลักษณะอาการที่เกิดขึ้นอาจแบ่งได้ ดังนี้ * ผิวหนัง
อาการแพ้ในรูปแบบนี้มักเห็นได้ชัด อย่างลมพิษ ผื่นแดง คัน พบอาการบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก และคอ * ระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณคอที่บวมมากขึ้นอาจส่งผลให้หายใจไม่สะดวก รวมถึงสารฮิสตามีนที่หลั่งออกมาจะส่งผลให้มีอาการไอ น้ำมูกไหล คัดจมูก หรือหายใจลำบาก * ลำไส้และกระเพาะอาหาร
อาการแพ้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว และปวดท้อง * ระบบประสาท
อาการแพ้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน หน้ามืด และเป็นลมได้ * ภาวะปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรง
ปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) เป็นภาวะที่พบได้น้อย แต่เป็นภาวะที่อันตรายจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยภาวะนี้จะส่งผลให้หายใจไม่ออก หน้ามืด ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดลดต่ำลง ช็อก หมดสติ และเสียชีวิต ดังนั้น หากปรากฏสัญญาณของปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงให้โทรเรียกรถพยาบาลทันที แม้ความรุนแรงของอาการแพ้กุ้งอาจขึ้นอยู่ปริมาณที่รับประทาน แต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะการได้รับสารก่ออาการแพ้เพียงเล็กน้อยในผู้ที่มีอาการแพ้กุ้งบางรายก็อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงตามมาได้ เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการแพ้กุ้ง เมื่อเกิดอาการผิดปกติภายหลังจากการรับประทานกุ้ง คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นอาการที่เกิดมาจากการแพ้กุ้ง ซึ่งแท้จริงแล้วอาจเป็นการแพ้สารในกุ้งโดยตรง หรือแพ้สารที่เกิดจากอาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งก็ได้ ส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้กุ้งของคนไทยมักเกิดจากสารฮีโมไซยานิน (Hemocyanin) ที่อยู่ในกุ้งแม่น้ำหรือกุ้งก้ามกราม สารโปรตีนลิพิดไบน์ดิง (Lipid-binding Protein) และโปรตีนแอลฟาแอกตินิน (Alpha-actinin Protein) ที่อยู่ในกุ้งกุลาดำหรือกุ้งลายเสือ โดยสารเหล่านี้เป็นสารที่อยู่ภายในตัวกุ้งโดยตรง แต่ในบางกรณี สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อาจมาอาหารที่ใช้เพาะเลี้ยงกุ้ง จึงอาจทำให้บางคนแพ้กุ้งเพียงบางครั้ง เนื่องจากรับประทานกุ้งที่มาจากคนละแหล่งกัน หลายคนอาจสงสัยว่าตอนเด็กไม่เคยมีอาการแพ้กุ้งมาก่อน แต่กลับมามีอาการแพ้กุ้งในตอนโต โดยสาเหตุอาจมาจากการสะสมสารก่ออาการแพ้มาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อมีการกระตุ้นมากขึ้นจึงส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้ รวมถึงบางคนที่แพ้กุ้งเพียงบางชนิดก็อาจเกิดจากสารภายในตัวกุ้งที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ อย่างกุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม ขณะที่บางคนอาจแพ้โปรตีนทีอยู่ในเปลือกของกุ้ง ซึ่งมักจะมีอาการแพ้สัตว์มีกระดองหรือแพ้อาหารทะเลชนิดอื่น อย่างปู หอย หรือปลาหมึกร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ในบางรายก็สามารถรับประทานอาหารทะเลชนิดอื่นได้ปกติ นอกจากนี้ อาการแพ้ที่หลายคนคิดว่าเกิดจากการรับประทานกุ้งยังอาจมาจากสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดอาการคล้ายกันได้ เช่น อาหารเป็นพิษ โรคลำไส้อักเสบ โรคมะเร็งลำไส้ หรือความรู้สึกกลัวอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง เป็นต้น อาการแพ้กุ้งรับมือได้ การรับมือกับอาการแพ้กุ้งหรือการแพ้อาหารที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนั้น ๆ เพื่อป้องกันอาการแพ้ จึงควรใส่ใจที่จะอ่านฉลากอาหารก่อนรับประทานทุกครั้ง ถ้าหากรับประทานไปแล้วเกิดอาการแพ้ในระดับที่ไม่รุนแรงอาจใช้ยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้ สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง มีอาการเวียนศีรษะ ความดันต่ำ หรือรู้สึกคล้ายจะหมดสติ ควรเรียกรถพยาบาลทันที สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้รุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายยา✅อิพิเนฟริน (Epinephrin) ในรูปเข็มฉีดสำหรับรูปไว้ใช้เมื่อเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง โดยหลังจากฉีดควรไปโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ ผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้กุ้ง อาหารทะเล หรืออาหารอื่น ๆ อย่างรุนแรง ควรอยู่ให้ห่างจากแหล่งที่มีของที่แพ้จำหน่าย อย่างตลาด ร้านอาหารทะเล หรือโรงงาน เนื่องจากการสูดดมสารก่ออาการแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ อย่างไรก็ตาม หากหาสาเหตุของการแพ้ไม่ได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาสารก่ออาการแพ้ด้วยวิธีทางการแพทย์ cr:POBPOD
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาวะแทรกโรคซ้อนจากไขมันในเลือดสูง 1. โรคหลอดเลือดสมอง 2. โรคหลอดเลือดหัวใจ 3. โรคความดันสูง 4. เสื่อมสมรรถภาพ 5. อัมพฤกษ์ อัมพาต 6. โรคตับ 7. โรคไตแนะนำทานผลิตภัณฑ์ KO สารสกัดจากธรรมชาติมากกว่า 9 ชนิด มี อย.รับรอง ทานแล้วปลอดภัยผลิตภัณฑ์ K.O ช่วยลดไขมันในเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์ ฟื้นฟูการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกาย. ลดอาการ ปวดหัวบ่อย มึนหัว ไมเกรน ลดไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ฟื้นฟู เส้นเลือดในสมอง โรคหัวใจ อัมพาต โลหิตจาง อาการชา อ่อนแรง ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้นแนะนำทานผลิตภัณฑ์เคโอ (K.O) ช่วยคุณได้จากอาการเหล่านี้…ปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484 คุณอ้อ.#ไมเกรน #ปวดหัวไมเกรน #เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คอเลสเตอรอลสูง #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #วูบบ่อย #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน #เคโอคุณอ้อ #คุณอ้อเคโอ #เคโอ #ko
    🩸ภาวะแทรกโรคซ้อนจากไขมันในเลือดสูง🩸 1. โรคหลอดเลือดสมอง 2. โรคหลอดเลือดหัวใจ 3. โรคความดันสูง 4. เสื่อมสมรรถภาพ 5. อัมพฤกษ์ อัมพาต 6. โรคตับ 7. โรคไต👉แนะนำทานผลิตภัณฑ์ KO สารสกัดจากธรรมชาติมากกว่า 9 ชนิด มี อย.รับรอง ทานแล้วปลอดภัย🍀ผลิตภัณฑ์ K.O ❣️ ช่วยลดไขมันในเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์ ฟื้นฟูการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกาย. ✅ลดอาการ ปวดหัวบ่อย มึนหัว ไมเกรน ✅ลดไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ✅ฟื้นฟู เส้นเลือดในสมอง โรคหัวใจ อัมพาต ✅โลหิตจาง อาการชา อ่อนแรง ✅ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น👉แนะนำทานผลิตภัณฑ์เคโอ (K.O) ช่วยคุณได้จากอาการเหล่านี้…☎️ปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484 คุณอ้อ.#ไมเกรน #ปวดหัวไมเกรน #เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คอเลสเตอรอลสูง #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #วูบบ่อย #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน #เคโอคุณอ้อ #คุณอ้อเคโอ #เคโอ #ko
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2052 มุมมอง 0 รีวิว
  • วูบบ่อย บ้านหมุน เสียงวิ้งๆในหู ใช้ เค.โอ (K.O) แก้ได้ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดเพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ให้อยู่ในสภาวะสมดุล และเพิ่ม Growth Hormoneช่วยบำรุงเลือดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี) เพิ่ม HDL (ไขมันดี)เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันสุภาพสตรีสทานแล้วประจำเดือนมาจะปวดท้องน้อยลง จนไม่ปวดเลยผิวขาวขึ้น ใสขึ้น ชะลอความแก่ สิวน้อยลง สิวอักเสบดีขึ้น ผิวเรียบเนียนหลับง่ายขึ้นหลับสบาย หลับลึก ตื่นมาไม่เพลียป้องกันไข้หวัดต่างๆได้ดีป้องกันโรคต่างได้ดีมาก มะเร็ง เบาหวาน ความดันป้องกันอาการแพ้ ต่างๆได้ดีมากป้องกันอาการแทรกซ้อนของเชื้อโรคต่างๆได้ดียับยั้งการกระจายของโรคฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายช่วยให้มีบุตรง่ายลดและป้องกัน ฝ้า กระ จุดด่างดําปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484#เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คลอเรสเตอรอล #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน
    ✅วูบบ่อย บ้านหมุน เสียงวิ้งๆในหู ใช้ เค.โอ (K.O) แก้ได้✅ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด✅เพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ให้อยู่ในสภาวะสมดุล และเพิ่ม Growth Hormone✅ช่วยบำรุงเลือด✅กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี) เพิ่ม HDL (ไขมันดี)✅เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน✅สุภาพสตรีสทานแล้วประจำเดือนมาจะปวดท้องน้อยลง จนไม่ปวดเลย✅ผิวขาวขึ้น ใสขึ้น ชะลอความแก่ สิวน้อยลง สิวอักเสบดีขึ้น ผิวเรียบเนียน✅หลับง่ายขึ้นหลับสบาย หลับลึก ตื่นมาไม่เพลีย✅ป้องกันไข้หวัดต่างๆได้ดี✅ป้องกันโรคต่างได้ดีมาก มะเร็ง เบาหวาน ความดัน✅ป้องกันอาการแพ้ ต่างๆได้ดีมาก✅ป้องกันอาการแทรกซ้อนของเชื้อโรคต่างๆได้ดี✅ยับยั้งการกระจายของโรค✅ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย✅ช่วยให้มีบุตรง่าย✅ลดและป้องกัน ฝ้า กระ จุดด่างดํา☎️ปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484#เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คลอเรสเตอรอล #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1622 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไขมันในเลือดสูง เสี่ยง ตีบ แตก ตัน และ ทำให้ #ปวดหัว #เวียนหัว #หน้ามืด #บ้านหมุน #วูบบ่อย #อ่อนเพลีย #มีเสียงวิ้งๆในหู ใช้ #มือเท้าชาแขนขาอ่อนแรง #ใจสั่นแน่นหน้าอก แนะนำทาน เค.โอ (K.O) ช่วยคุณได้ ทำให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้นลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดเพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ให้อยู่ในสภาวะสมดุล และเพิ่ม Growth Hormoneช่วยบำรุงเลือด เพิ่มออกซิเจนในเลือดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี) เพิ่ม HDL (ไขมันดี)เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันสุภาพสตรีสทานแล้วประจำเดือนมาจะปวดท้องน้อยลง จนไม่ปวดเลยผิวขาวขึ้น ใสขึ้น ชะลอความแก่ สิวน้อยลง สิวอักเสบดีขึ้น ผิวเรียบเนียนหลับง่ายขึ้นหลับสบาย หลับลึก ตื่นมาไม่เพลียป้องกันไข้หวัดต่างๆได้ดีป้องกันโรคต่างได้ดีมาก มะเร็ง เบาหวาน ความดันป้องกันอาการแพ้ ต่างๆได้ดีมากป้องกันอาการแทรกซ้อนของเชื้อโรคต่างๆได้ดียับยั้งการกระจายของโรคฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายช่วยให้มีบุตรง่ายลดและป้องกัน ฝ้า กระ จุดด่างดําปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484 (คุณอ้อ) #เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คลอเรสเตอรอล #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน #เคโอ #ko #คุณอ้อเคโอ #เคโอคุณอ้อ
    😲ไขมันในเลือดสูง เสี่ยง ตีบ แตก ตัน และ ทำให้ #ปวดหัว #เวียนหัว #หน้ามืด #บ้านหมุน #วูบบ่อย #อ่อนเพลีย #มีเสียงวิ้งๆในหู ใช้ #มือเท้าชาแขนขาอ่อนแรง #ใจสั่นแน่นหน้าอก 🍀แนะนำทาน เค.โอ (K.O) ช่วยคุณได้ ทำให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น✅ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด✅เพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ให้อยู่ในสภาวะสมดุล และเพิ่ม Growth Hormone✅ช่วยบำรุงเลือด เพิ่มออกซิเจนในเลือด✅กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี) เพิ่ม HDL (ไขมันดี)✅เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน✅สุภาพสตรีสทานแล้วประจำเดือนมาจะปวดท้องน้อยลง จนไม่ปวดเลย✅ผิวขาวขึ้น ใสขึ้น ชะลอความแก่ สิวน้อยลง สิวอักเสบดีขึ้น ผิวเรียบเนียน✅หลับง่ายขึ้นหลับสบาย หลับลึก ตื่นมาไม่เพลีย✅ป้องกันไข้หวัดต่างๆได้ดี✅ป้องกันโรคต่างได้ดีมาก มะเร็ง เบาหวาน ความดัน✅ป้องกันอาการแพ้ ต่างๆได้ดีมาก✅ป้องกันอาการแทรกซ้อนของเชื้อโรคต่างๆได้ดี✅ยับยั้งการกระจายของโรค✅ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย✅ช่วยให้มีบุตรง่าย✅ลดและป้องกัน ฝ้า กระ จุดด่างดํา☎️ปรึกษา/สั่งซื้อ โทร 092-237-8484 (คุณอ้อ) #เลือดข้น #เลือดหนืด #ไขมันในเลือดสูง #คลอเรสเตอรอล #ไตรกลีเซอร์ไลด์ #มึนหัว #ปวดเนื้อปวดตัว #เหนื่อยง่าย #เบาหวาน #เวียนหัว #บ้านหมุน #น้ำในหูไม่เท่ากัน #ความดัน #เบาหวาน #เคโอ #ko #คุณอ้อเคโอ #เคโอคุณอ้อ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2364 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • 1/10/67

    จากข่าวร้ายที่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ถึงแก่กรรม ในวัยแค่ 41 ปี สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากน้องอายุยังน้อย และมีลูกชายฝาแฝดที่ยังอยู่ในวัยเรียนประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น

    โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และได้รับข้อความที่คิดว่าเป็นที่มาของโรคนี้ และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอนำมาบอกต่อ เพื่อทุกๆคนจะได้ดูแลตัวเองกันด้วย

    สุขภาพทุกวันนี้ยิ่งไม่ดูแลยิ่งอันตรายมาก
    อาหารการกินนี่สำคัญมากๆ
    โดยเฉพาะน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลทั้งหลาย
    🔷️ด่วน...
    เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ?

    ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี
    มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้??

    สำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมายกับคนป่วยเหล่านี้

    อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร?
    เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ
    1. มึนหัว
    2. บ้านหมุน
    3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม
    4. อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน
    5. อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา
    6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด

    จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.-
    1. พักผ่อนน้อย
    2. ดื่มน้ำน้อย
    3. นอนดึก
    4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ
    5. ชอบทานอาหารมันๆ
    6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่
    7. ขาดการออกกำลังกาย
    8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล
    9. นั่งนาน
    10. ยืนนาน
    11. ทำงานหนัก
    12. ชอบดื่มน้ำอัดลม กินหวานเป็นต้น

    ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟูสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    ส่วนคนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค!!
    1/10/67 จากข่าวร้ายที่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ถึงแก่กรรม ในวัยแค่ 41 ปี สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากน้องอายุยังน้อย และมีลูกชายฝาแฝดที่ยังอยู่ในวัยเรียนประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และได้รับข้อความที่คิดว่าเป็นที่มาของโรคนี้ และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอนำมาบอกต่อ เพื่อทุกๆคนจะได้ดูแลตัวเองกันด้วย ⚫สุขภาพทุกวันนี้ยิ่งไม่ดูแลยิ่งอันตรายมาก 🔵อาหารการกินนี่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลทั้งหลาย 🔷️ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้?? สำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมายกับคนป่วยเหล่านี้ อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ 1. มึนหัว 2. บ้านหมุน 3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4. อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน 5. อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา 6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1. พักผ่อนน้อย 2. ดื่มน้ำน้อย 3. นอนดึก 4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5. ชอบทานอาหารมันๆ 6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7. ขาดการออกกำลังกาย 8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล 9. นั่งนาน 10. ยืนนาน 11. ทำงานหนัก 12. ชอบดื่มน้ำอัดลม กินหวานเป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟูสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี ส่วนคนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 949 มุมมอง 0 รีวิว