• นอกจากจะมี ป้ามล(พิษ) ป้ามลของหยก-บุ้ง-ตะวัน ยังมีสุรพล นิติไกรพจน์ พยานช่วยก้าวไกลสู้คดียุบพรรค และอานันนท์ ปันยารชุน เจ้าของวาทกรรม "สนุกมากเหรอที่เห็นเดกทรมาน จับเดกเข้าคุกเป็นว่าเล่น"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    นอกจากจะมี ป้ามล(พิษ) ป้ามลของหยก-บุ้ง-ตะวัน ยังมีสุรพล นิติไกรพจน์ พยานช่วยก้าวไกลสู้คดียุบพรรค และอานันนท์ ปันยารชุน เจ้าของวาทกรรม "สนุกมากเหรอที่เห็นเดกทรมาน จับเดกเข้าคุกเป็นว่าเล่น" #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีฉลู

    เพื่อเป็นการสยบพลังมืดของดาวร้ายและเสริมกระแสน้อมรับพลังมงคล จึงควรน้อมจิตน้อมใจไปกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสติปัญญาและการเรียนรู้ ทรงบารมีในเรื่อง ความฉลาดหลักแหลมด้วยแสงแห่งปัญญา หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทุกศาลที่มีรูปปั้นจำลองขององค์เทพท่านสถิตอยู่ เพื่อรับพรพระเมตตารับฟังต่อทุกคำอธิษฐานพร้อมน้อมฝากดวงชะตาขอบารมีต่อพระองค์ท่านได้โปรดเมตตาประทานแสงสว่างที่จะขจัดออกซึ่งความมืดของปัญหาความวุ่นวายหม่นทึบให้พินาศ และเปิดดวงตารับรู้ให้เห็นช่องทางแก้ไขสถานการณ์นั้นก้าวข้ามผ่านพ้นอุปสรรคความขัดแย้งอย่างชาญฉลาด ด้วยพร บารมีแห่งแสงของสติปัญญาที่พระองค์เทพท่านเมตตาดลบันดาลประทานให้ตลอดทั้งปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อรำลึกถึงพลังแห่งปัญญาที่ส่งเสริมพลังเทพที่เมตตาบารมีจากพระองค์ท่านได้สถิตคุ้มครองให้พบกับทางออกของทุกๆปัญหา โดยการตัดสินใจที่พร้อมด้วยปัญญาอันชาญฉลาดอย่างแหลมคม พร้อมรับตำแหน่งหน้าที่การงานด้วยความเจริญก้าวหน้า ตลอดทั้งปี 2568 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีฉลู เพื่อเป็นการสยบพลังมืดของดาวร้ายและเสริมกระแสน้อมรับพลังมงคล จึงควรน้อมจิตน้อมใจไปกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสติปัญญาและการเรียนรู้ ทรงบารมีในเรื่อง ความฉลาดหลักแหลมด้วยแสงแห่งปัญญา หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทุกศาลที่มีรูปปั้นจำลองขององค์เทพท่านสถิตอยู่ เพื่อรับพรพระเมตตารับฟังต่อทุกคำอธิษฐานพร้อมน้อมฝากดวงชะตาขอบารมีต่อพระองค์ท่านได้โปรดเมตตาประทานแสงสว่างที่จะขจัดออกซึ่งความมืดของปัญหาความวุ่นวายหม่นทึบให้พินาศ และเปิดดวงตารับรู้ให้เห็นช่องทางแก้ไขสถานการณ์นั้นก้าวข้ามผ่านพ้นอุปสรรคความขัดแย้งอย่างชาญฉลาด ด้วยพร บารมีแห่งแสงของสติปัญญาที่พระองค์เทพท่านเมตตาดลบันดาลประทานให้ตลอดทั้งปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อรำลึกถึงพลังแห่งปัญญาที่ส่งเสริมพลังเทพที่เมตตาบารมีจากพระองค์ท่านได้สถิตคุ้มครองให้พบกับทางออกของทุกๆปัญหา โดยการตัดสินใจที่พร้อมด้วยปัญญาอันชาญฉลาดอย่างแหลมคม พร้อมรับตำแหน่งหน้าที่การงานด้วยความเจริญก้าวหน้า ตลอดทั้งปี 2568 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซ่นเจ้าให้...ปัง
    ไหว้เจ้าให้...เป็น 2568

    หนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติที่ชาวจีนนิยมทำกันในช่วงที่มีการพลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปีก็คือ พิธีการ “教拜”(ก๊าไป่) เป็นคำชี้แนะเรื่องการกราบไหว้องค์เทพเจ้าประจำนักษัตรปีเกิดจากซินแสที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวศรัทธา

    โดยการนำปี เดือน วัน และเวลาเกิด ของสมาชิกลูกหลานเพื่อทำการตรวจวิเคราะห์เรือนชะตาดูว่า ในปีนักษัตรใหม่นี้จะมีดาววิบาก“神煞”(สิ่งสั่วะ)ใด? มากระทบบ้างและต้องกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าประจำปีองค์ใด? เพื่อเสริมส่งพลังชีวิตให้มีแต่ความสุขความเจริญ การงานราบรื่น ประสบแต่ความสำเร็จ อุปสรรคปัญหาน้อยใหญ่คลี่คลายจากร้ายกลายดี มีโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ปราศจากโรคร้ายภัยเวร ปกติสุขดีสมดั่งปรารถนาตลอดทั้งปี

    โดยสามารถคำนวนตามนักษัตรปีเกิดได้ดังนี้

    - ปีชวด มีดาวดี “月德”(หง่วยเต็ก) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิม“觀世音菩薩”(กวนซืออิมผู่สัก)

    - ปีฉลู มีดาวร้าย “五鬼”(โหงวกุ้ย) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)”

    - ปีขาล มีดาวดี “太陰”(ไท้อิม) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพจันทรา “太陰星君”(ไท้อิมแชกุง)
    และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง)

    - ปีเถาะ มีดาวร้าย “喪門”(ซึงมึ้ง) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ
    องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)”

    - ปีมะโรง มีดาวดี “太陽”(ไท้เอี้ยง) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพสุริยัน “太陽星君” (ไท้เอี้ยงแชกุง)

    - ปีมะเส็ง มีดาวร้าย “太歲”(ไท้ส่วย) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา “太歲爺” ประจำปี 2568
    “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง)

    - ปีมะเมีย มีดาวร้าย “病符”(แป่ฮู้) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อหมอเทวดาองค์ “華陀仙師 (หั่วท้อเซียงซือ)”

    - ปีมะแม มีดาวร้าย “天狗”(เทียงเก้า) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพสามตา “華光大帝” (หั่วกวงไต่ตี่)

    - ปีวอก มีดาวดี “天德”(เทียงเต็ก) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพแป๊ะกง “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง)
    และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง)

    - ปีระกา มีดาวร้าย “白虎”(แป๊ะโฮ้ว) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ
    องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)”

    - ปีจอ มีดาวดี “龍德”(เหล่งเต็ก) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าดาวฤกษ์ “紫微大帝 (จี๋มุ้ยไต่ตี่)”

    - ปีกุน มีดาวร้าย “太歲”(ไท้ส่วย) สถิตในเรือนชะตา
    ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา “太歲爺” ประจำปี 2568
    “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง)

    สำหรับพิธีกรรม “教拜”(ก๊าไป่) ในปีมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ นี้ สามารถกระทำได้หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป

    และนี่คืออีกหนึ่งเคล็ดที่ไม่ลับตามหลักศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ขอนำเสนอ ลองนำหลักการคำนวนดังกล่าวไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติปรับเสริมเพื่อช่วยในการดำเนินชีวิตพบ…ความสำเร็จราบรื่น เจอ…แต่สิ่งดีๆตลอดทั้งปี 2568 มะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    เซ่นเจ้าให้...ปัง ไหว้เจ้าให้...เป็น 2568 หนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติที่ชาวจีนนิยมทำกันในช่วงที่มีการพลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปีก็คือ พิธีการ “教拜”(ก๊าไป่) เป็นคำชี้แนะเรื่องการกราบไหว้องค์เทพเจ้าประจำนักษัตรปีเกิดจากซินแสที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวศรัทธา โดยการนำปี เดือน วัน และเวลาเกิด ของสมาชิกลูกหลานเพื่อทำการตรวจวิเคราะห์เรือนชะตาดูว่า ในปีนักษัตรใหม่นี้จะมีดาววิบาก“神煞”(สิ่งสั่วะ)ใด? มากระทบบ้างและต้องกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าประจำปีองค์ใด? เพื่อเสริมส่งพลังชีวิตให้มีแต่ความสุขความเจริญ การงานราบรื่น ประสบแต่ความสำเร็จ อุปสรรคปัญหาน้อยใหญ่คลี่คลายจากร้ายกลายดี มีโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ปราศจากโรคร้ายภัยเวร ปกติสุขดีสมดั่งปรารถนาตลอดทั้งปี โดยสามารถคำนวนตามนักษัตรปีเกิดได้ดังนี้ - ปีชวด มีดาวดี “月德”(หง่วยเต็ก) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิม“觀世音菩薩”(กวนซืออิมผู่สัก) - ปีฉลู มีดาวร้าย “五鬼”(โหงวกุ้ย) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” - ปีขาล มีดาวดี “太陰”(ไท้อิม) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพจันทรา “太陰星君”(ไท้อิมแชกุง) และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) - ปีเถาะ มีดาวร้าย “喪門”(ซึงมึ้ง) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” - ปีมะโรง มีดาวดี “太陽”(ไท้เอี้ยง) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพสุริยัน “太陽星君” (ไท้เอี้ยงแชกุง) - ปีมะเส็ง มีดาวร้าย “太歲”(ไท้ส่วย) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา “太歲爺” ประจำปี 2568 “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) - ปีมะเมีย มีดาวร้าย “病符”(แป่ฮู้) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อหมอเทวดาองค์ “華陀仙師 (หั่วท้อเซียงซือ)” - ปีมะแม มีดาวร้าย “天狗”(เทียงเก้า) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพสามตา “華光大帝” (หั่วกวงไต่ตี่) - ปีวอก มีดาวดี “天德”(เทียงเต็ก) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพแป๊ะกง “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง) และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) - ปีระกา มีดาวร้าย “白虎”(แป๊ะโฮ้ว) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” - ปีจอ มีดาวดี “龍德”(เหล่งเต็ก) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าดาวฤกษ์ “紫微大帝 (จี๋มุ้ยไต่ตี่)” - ปีกุน มีดาวร้าย “太歲”(ไท้ส่วย) สถิตในเรือนชะตา ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา “太歲爺” ประจำปี 2568 “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) สำหรับพิธีกรรม “教拜”(ก๊าไป่) ในปีมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ นี้ สามารถกระทำได้หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป และนี่คืออีกหนึ่งเคล็ดที่ไม่ลับตามหลักศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ขอนำเสนอ ลองนำหลักการคำนวนดังกล่าวไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติปรับเสริมเพื่อช่วยในการดำเนินชีวิตพบ…ความสำเร็จราบรื่น เจอ…แต่สิ่งดีๆตลอดทั้งปี 2568 มะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฝ้า

    เป็นสิ่งดี ๆ ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากรังสี UVA และ UVB จากการกระทำของตัวเราเอง

    ฝ้า คือการที่สีของผิวหนังผิดปกติไปในบางตำแหน่ง สีของผิวเกิดจากสารหรือเม็ดสีเมลานิน (melanin) ซึ่งถูกสร้างมาจากเซลล์ผิวหนัง (เมลาโนไซต์ - melanocyte) ซึ่งเจริญมาจากเซลล์ระบบประสาท โดยแฝงตัวอยู่ที่ด้านล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า โดยที่เซลล์ผิวหนังหนึ่งเซลล์จะมีแขนงไปแตะจับกับเซลล์ผิวหนังอีกราวๆ 30-40 เซลล์ เมื่อเกิดเหตุใดๆ ก็ตามที่ทำให้เม็ดสีเหล่านี้ผิดปกติไป ก็จะทำให้สีของผิวบริเวณนั้นผิดปกติไป ถ้ามีลักษณะเป็นแผ่นปื้น ก็จะเรียกว่า "เป็นฝ้า" นั่นเอง และนั่นหมายถึง ร่างกายผลิตขึ้นได้ ร่างกายก็สามารถเอามันออกไปได้ด้วยระบบที่ซับซ้อนของร่างกายเอง เพราะ มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อซ่อมแซมตัวเอง แต่มันช้า ไม่ได้ดั่งใจ

    ฝ้ามี 3 ชนิดโดยแบ่งตามความลึกของ melanin ที่ไปฝังตัว

    1. เม็ดสี melanin ไปฝังตัวที่หนังกำพร้าเราเรียก Epidermal type melisma หรือ ฝ้าเมลานิน เป็นฝ้าที่เกิดจากแสงแดดทำลายชั้นผิว มักจะเกิดบริเวณข้างแก้ม มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย ชนิดนี้รักษาไม่ยาก

    2. เม็ดสีฝังตัวที่หนังแท้เราเรียก dermal type melasma หรือฝ้าเส้นเลือด มักจะเกิดบริเวณโหนกแก้ม มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด ชนิดนี้ นานหน่อยกว่าจะหาย

    3. ชนิดผสมจาก 2 แบบดังกล่าว

    การแยกชนิดของฝ้าทำได้โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Wood's lamp

    ความผิดปกติที่เกิดกับเม็ดสีของผิว (โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า)

    1. เกิดจากโรคผิวหนังบางชนิด

    การอักเสบเป็นเวลานานๆ สามารถเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดรอยด่างดำบนผิวหน้าได้ ซึ่งหลังจากการอักเสบหายไป ก็จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ การติดเชื้อบางอย่างเช่นสิวอักเสบแล้วเป็นอยู่เวลานานๆ นอกจากนั้นก็ยังมีโรคผิวหนังบางอย่างอีกเช่น

    Riehl's melanosis โรคปื้นร่างแหสีน้ำตาล มักเห็นชัดที่บริเวณหน้าผาก ขมับ โหนกแก้ม คาง และ คอ อาจจะเกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง
    Poikiloderma of Civatte โรคเส้นเลือดฝอยแตกขยายผิดปกติที่บริเวณคอ
    Erythromelanosis follicularis โรคที่มีลักษณะเป็นผื่นแดงตามโหนกแก้ม
    Linear Fusca เป็นภาวะที่มีลักษณะเป็นเส้นสีเข้มที่พาดบริเวณหน้าผาก

    2. ยาบางชนิดทำให้เกิดฝ้า

    ยาบางชนิดสามารถไปกระตุ้นผิวหนังให้ไวต่อแสงแดด ในขณะที่ยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดฝ้าได้โดยตรงโดยที่ไม่ต้องได้รับการช่วยกระตุ้นจากแสงแดดเลย ยาที่มักจะพบว่ามีผลต่อการเกิดฝ้าคือ

    -ยาคุมกำเนิดบางชนิด
    -ยาแก้อักเสบ เช่น เตตร้าไซคลิน (tetracyclines)
    -อะมิโอดาโรน (Amiodarone) ซึ่งเป็นยาที่มีผลกับการทำงานของหัวใจ
    -ฟินนีโทอีน (Phenytoin) เป็นยาที่ใช้รักษาโรคลมชักชนิดต่างๆ
    -ฟิโนเธียซีน (Phenothiazines) เป็นยาที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท มีผลทำให้ง่วงนอน
    -ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides) ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด
    -ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวโดยมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ของผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เมลานิน โดย ไม่ทาครีมกันแดดร่วมด้วย

    3. เกิดจากแสงแดด (รังสีอุลต้าไวโอเล็ต - UV, Ultraviolet) สามารถทำให้เกิดฝ้าบางชนิดได้

    ฝ้า (Melasma) มีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาล เกิดบนใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก โดยเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินในบริเวณผิวหนังทำงานผิดปกติ และส่งเม็ดสีขึ้นมาบนผิวหนังด้านบนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ความเข้มของสีผิวไม่สม่ำเสมอและมองเห็นได้จากภายนอก เม็ดสีเมลานินนี้มีหน้าที่พิเศษคือกรองรังสีเหนือม่วง หรือ อุลตร้าไวโอเล็ต (UV - Ultraviolet) ดังนั้นยิ่งเราตากแดดมากขึ้น ร่างกายก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยที่รังสี UVA (รังสี UV ชนิด A เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำ) จะกระตุ้นให้เซลล์ melanocytes สร้างเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ให้ทำงานได้มากขึ้นและทำให้เซลล์ผิวหนัง (keratinocyte) รับสารเมลานินได้มากขึ้นส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดผิวสีคล้ำ เกิดฝ้า หรือ กระ และรังสี UVB (รังสี UV ชนิด B มีช่วงคลื่นสั้น พลังงานสูง) จะทำให้การทำงานประสานกันของเซลล์ melinocyte และเซลล์ keratinocytes ได้ดีขึ้นในการรับส่งเม็ดสีเมลานิน ถ้าได้รับมากๆ สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง และหากได้รับรังสีเป็นระยะเวลายาวนาน อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

    กระแดด (Solar lentigines) มักจะเกิดในคนที่อายุมากและมีประวัติการถูกแสงแดด อาจจะเริ่มจากจุดเล็กแล้วอาจขยายใหญ่ได้มาก (ถ้า lentigines จะหมายถึงขี้แมลงวัน)

    กระ (ephelides) หมายถึงจุดสีน้ำตาลที่มักมีขนาดเล็กกว่า 0.5 ซม. เกิดจากการมีเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ พบที่บริเวณใบหน้าและบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆ และมักมีสีเข้มขึ้นในฤดูร้อนและจางลงในฤดูหนาว เพราะแสงแดดโดยเฉพาะรังสี UV-B เป็นตัวกระตุ้นให้กระเข้มขึ้น

    4. สาเหตุอื่นๆ ของการเป็นฝ้า

    นอกจากสาเหตุที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีโรคหรือภาวะบางอย่างที่สามารถทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกันก็คือ

    -การตั้งครรภ์
    โรคกรดไหลย้อน
    โรคลำไส้แปรปรวน
    โรคแพ้ภูมิตัวเอง
    -โรคตับ
    -โรคแอดดิสัน (พบได้น้อยมาก เกิดจากต่อมหมวกไตสร้างฮอร์โมนสเตอรอยด์ได้น้อยกว่าปกติ)
    -อีโมโครมาโทซิส (Hemochromatosis) เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากการสะสมของเหล็กในกระแสเลือด จนทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ตับ
    -เนื้องอกใต้สมอง

    5.ขาดสารอาหารที่เซลล์ผิวหนังต้องการ

    6. ระบบการย่อยและระบบการดูดซึมของร่างกายทำงานไม่สมบูรณ์

    ฝ้าสายพันธุ์ใหม่ เกิดจากการรบกวนผิว มลภาวะ และการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารที่ไปกระตุ้นการเกิดฝ้า พวก Whitening ซึ่งบางครั้งผู้บริโภคที่ซื้อเป็นเพราะโฆษณาชวนเชื่อและรู้เท่าไม่ถึงการณ์

    ฝ้าเส้นเลือด เกิดจากเส้นเลือดบริเวณใบหน้าเสียสภาพไม่สามารถกักเก็บเลือดได้ ทำให้เลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง เป็นรอยแดงคล้ายเส้นเลือด ซึ่งสีของฝ้าเส้นเลือดสามารถเปลี่ยนได้ตามอุณหภูมิการแสดงอารมณ์โดยในตอนเช้าสีจะออกชมพู แต่เมื่อเวลาโดนแดดจัดสีจะคล้ำจนเป็นสีดำ นอกจากนี้ผิวหนังจะมีความรู้สึกไว แสบง่าย ส่วนมากมักจะเกิดกับคนที่มีลักษณะของเซลล์ที่มีความผิดปกติหรือแตกตัวผิดปกติ หรือทานยาแอสไพรินมายาวนาน

    การปลดฝ้า

    เพื่อผิวหน้าที่ขาวใส และป้องกันการกลับมาเยือนของฝ้า อย่างแรกคือ ต้องทราบสาเหตุของการเกิดฝ้า เพราะแต่ละคนมีสาเหตุต่างกัน การรักษาที่ถูกวิธีต้องรักษาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ไปเน้นที่การยับยั้ง หรือกดเซลล์ กล่าวคือ การใช้ยาเพื่อไปยับยั้งการทำงานของเมลานิน ซึ่งถ้าหยุดใช้ยา ฝ้าก็สามารถกลับมาเยือนได้อีก และท่านก็ต้องใช้ยาอีก จึงดูเหมือนเป็นการพายเรือวนในอ่าง

    วิธีการที่ถูกต้องคือให้สารอาหารที่สามารถหยุดหรือระงับการสร้างเมลานิลโดยไม่ทำให้เซลล์สร้างสีตาย เพราะถ้าใช้สารทำลายเซลล์สร้างสีแล้ว ร่างกายจะขาดกำลังสำคัญในการป้องกันผิวหนังจากแสงแดด

    สารอาหาร

    Vitamin C เป็นสาร Antioxidantsที่พบมากที่สุดในผิวหนัง ทำหน้าที่ลดอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งผิวหนัง ชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่น และมีความจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ใช้ป้องกันและรักษาเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ลดรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ รอยด่างดำตามร่างกาย

    อาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว ฝรั่ง มะขาม มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ดอกกระหล่ำเป็นต้น

    Vitamin E เป็นสาร Antioxidants ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันเนื้อเยื่อจากการถูกเอนไซม์ทำลาย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ ป้องกันและลดอันตรายจากแสงแดด และลดการเกิดเซลล์มะเร็งได้ ลดความเสื่อมของผิวหนังที่ทำให้เกิดริ้วรอย

    อาหารที่มีวิตามินอีสูง ได้แก่ น้ำมันพืชประเภทน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว งา น้ำมันสลัด ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว

    Vitamin A โดยใช้สารตั้งต้นที่ชื่อ เบต้าแคโรทีนและสารแคโรทีนอยด์ แล้วร่างกายเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มเรตินอล (Retinol) ซึ่งปัจจุบันได้มีการคิดค้นเกี่ยวกับสารสังเคราะห์สำหรับผิวพรรณที่เรียกว่า กลุ่มเรตินอยด์ ทั้งในรูปของครีมทา และยารับประทาน ( ซึ่งนำมารักษาสิวและริ้วรอย) ใช้คำว่าเลียนแบบวิตามินเอ ( เรตินอล) มีรายงานมากมายที่สนับสนุนว่า วิตามินเอ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอผิวเสื่อม ริ้วรอยย่นก่อนวัยครับ

    อาหารที่มีวิตามินเอสูง ได้แก่ อาหารจากผลิตภัณฑ์สัตว์ ตับ น้ำมันตับปลา ไข่ ผักเช่น ฟักทอง แครอท ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง เป็นต้น ร่างกายปกติ ต้องการวิตามินเอ ประมาณ 1000 ไมโครกรัมต่อวัน ( ในรูปของ Retinol)

    ซีลีเนียม ( Selenium) ถือเป็นสารที่สำคัญที่ทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง ผิวหนังจากแสงแดด การทาครีมที่ผสมซิลีเนียม จะทำให้ลดอาการแดดเผา ผิวหนังอักเสบได้และป้องกันมะเร็ง

    ยังไม่มีรายงานการขาดสารซิลีเนียมในคนแล้วเกิดโรคต่างๆ เพราะอาหารที่มีซิลีเนียม ส่วนใหญ่ร่างกายจะได้รับเพียงพอ เพราะต้องการเพียงปริมาณไม่มากนัก อาหารเหล่านี้ได้แก่ อาหารทะเล ตับ ไต เนื้อสัตว์ กระเทียม ไข่ เมล็ดพืชต่างๆ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานเป็นอาหารเสริม เพราะอาจจะมีปริมาณสูงเกินไป ส่วนใหญ่จะนำมาผสมในครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด

    ไบโอติน สารอาหารที่อยู่ในตระกูลวิตามินบี เป็นสารที่มีประโยชน์ในเรื่องการเผาผลาญ และปรับสมดุลของการไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต การขาดวิตามินนี้ จะทำให้ผิวแห้ง เบื่ออาหาร เส้นผมและเล็บเปราะหักง่าย ผมงอกช้า

    อาหารที่มีไบโอตินสูง ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสีต่างๆ อาหารโปรตีนสูง ไข่แดง ตับ ข้าวกล้อง ถั่วชนิดต่างๆ ปกติร่างกายของเราจะได้รับสาร ไบโอติน ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ แต่โชคดีที่ภายในร่างกายมี แบคทีเรียที่ชื่อ Lactobacillin ในลำไส้ ที่สามารถผลิตสารไบโอตินได้ แต่ถ้าต้องการรับประทานเป็นอาหารเสริม ปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 600-1,200 มก.

    สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์กว่า 70 ชนิด ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการดูดซึมของกรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้เซลล์สามารถจับกับวิตามินเอได้ดีขึ้น

    อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่ หอยนางรม อาหารทะเล ตับ ชีส เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ ไข่ รวมทั้งธัญพืชที่ไม่ได้ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง และถั่วเปลือกแข็ง ร่างกายต้องการสังกะสี ในปริมาณที่แตกต่างกันในแต่ละเพศ วัย และภาวะของร่างกาย แต่โดยเฉลี่ยไม่ควรเกินวันละ 15-30 มก.

    Co enyme Q10 ( Uniquinone) เป็นสารAntioxidants ที่ค้นพบมานานแล้ว โดยพบมากที่อวัยวะที่มีการ metabolism สูง เช่น หัวใจ ไต และตับ โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงาน สำหรับผิวหนัง CoQ10 จะพบมากในชั้น epidermis มากกว่า dermis มีสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ( free radicles) จึงเชื่อว่า สามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ ปัจจุบัน ได้นำมาทำเป็นครีมทาเฉพาะที่ เพื่อลดริ้วรอย โดยเฉพาะรอยดวงตา

    อาหารดีๆ

    1.ปลา : เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายที่เสื่อมโทรม และยังมีเซเลเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แนะนำ ปลาโอ ปลาอินทรีย์สด ปลาแซลม่อน ปลาสวาย

    2.น้ำมันมะกอก : เป็นน้ำมันจากพืชที่แม้จะมีแคลอรี่สูงแต่ข้อดีคือ มีกรดไขมันจำเป็นและเป็นไขมันชั้นดี ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและที่สำคัญในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วยวิตามินเอและอี ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวดูอ่อนวัยคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม

    3.น้ำดื่มสะอาด : หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวพรรณไม่สดใส การดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เป็นวิธีที่ทำให้ผิวผ่อง แบบไม่ต้องลงทุนมาก เพราะน้ำจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้และยังป้องกันเซลลูไลต์อีกด้วย

    4.มะเขือเทศ : ช่วยทำให้ผิวพรรณดี แก้อาการสิวฝ้า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย

    5.บร็อกโคลี : ผักสีเขียวที่เป็นแหล่งของวิตามินเอและซี โดยที่วิตามินเอมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในเรื่องการป้องกันการเสื่อมอายุของผิวหนัง ซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไป และยังมีความสำคัญต่อกระบวนการเติบโตของผิวหนังให้มีการทำงานอย่างปกติ ช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง และยังสดใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ

    สิ่งสำคัญที่สุดคือ ระบบการย่อยและการดูดซึม เพราะเป็นตัวกำหนดปริมาณสารอาหารที่ได้รับว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่

    ผลิตภัณฑ์แนะนำ

    สบู่สมุนไพร
    Pun c
    Prink
    Alovi
    Praow
    Praew

    Cr. Santi Manadee
    #ฝ้า เป็นสิ่งดี ๆ ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากรังสี UVA และ UVB จากการกระทำของตัวเราเอง ฝ้า คือการที่สีของผิวหนังผิดปกติไปในบางตำแหน่ง สีของผิวเกิดจากสารหรือเม็ดสีเมลานิน (melanin) ซึ่งถูกสร้างมาจากเซลล์ผิวหนัง (เมลาโนไซต์ - melanocyte) ซึ่งเจริญมาจากเซลล์ระบบประสาท โดยแฝงตัวอยู่ที่ด้านล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า โดยที่เซลล์ผิวหนังหนึ่งเซลล์จะมีแขนงไปแตะจับกับเซลล์ผิวหนังอีกราวๆ 30-40 เซลล์ เมื่อเกิดเหตุใดๆ ก็ตามที่ทำให้เม็ดสีเหล่านี้ผิดปกติไป ก็จะทำให้สีของผิวบริเวณนั้นผิดปกติไป ถ้ามีลักษณะเป็นแผ่นปื้น ก็จะเรียกว่า "เป็นฝ้า" นั่นเอง และนั่นหมายถึง ร่างกายผลิตขึ้นได้ ร่างกายก็สามารถเอามันออกไปได้ด้วยระบบที่ซับซ้อนของร่างกายเอง เพราะ มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อซ่อมแซมตัวเอง แต่มันช้า ไม่ได้ดั่งใจ ฝ้ามี 3 ชนิดโดยแบ่งตามความลึกของ melanin ที่ไปฝังตัว 1. เม็ดสี melanin ไปฝังตัวที่หนังกำพร้าเราเรียก Epidermal type melisma หรือ ฝ้าเมลานิน เป็นฝ้าที่เกิดจากแสงแดดทำลายชั้นผิว มักจะเกิดบริเวณข้างแก้ม มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย ชนิดนี้รักษาไม่ยาก 2. เม็ดสีฝังตัวที่หนังแท้เราเรียก dermal type melasma หรือฝ้าเส้นเลือด มักจะเกิดบริเวณโหนกแก้ม มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด ชนิดนี้ นานหน่อยกว่าจะหาย 3. ชนิดผสมจาก 2 แบบดังกล่าว การแยกชนิดของฝ้าทำได้โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Wood's lamp ความผิดปกติที่เกิดกับเม็ดสีของผิว (โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า) 1. เกิดจากโรคผิวหนังบางชนิด การอักเสบเป็นเวลานานๆ สามารถเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดรอยด่างดำบนผิวหน้าได้ ซึ่งหลังจากการอักเสบหายไป ก็จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ การติดเชื้อบางอย่างเช่นสิวอักเสบแล้วเป็นอยู่เวลานานๆ นอกจากนั้นก็ยังมีโรคผิวหนังบางอย่างอีกเช่น Riehl's melanosis โรคปื้นร่างแหสีน้ำตาล มักเห็นชัดที่บริเวณหน้าผาก ขมับ โหนกแก้ม คาง และ คอ อาจจะเกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง Poikiloderma of Civatte โรคเส้นเลือดฝอยแตกขยายผิดปกติที่บริเวณคอ Erythromelanosis follicularis โรคที่มีลักษณะเป็นผื่นแดงตามโหนกแก้ม Linear Fusca เป็นภาวะที่มีลักษณะเป็นเส้นสีเข้มที่พาดบริเวณหน้าผาก 2. ยาบางชนิดทำให้เกิดฝ้า ยาบางชนิดสามารถไปกระตุ้นผิวหนังให้ไวต่อแสงแดด ในขณะที่ยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดฝ้าได้โดยตรงโดยที่ไม่ต้องได้รับการช่วยกระตุ้นจากแสงแดดเลย ยาที่มักจะพบว่ามีผลต่อการเกิดฝ้าคือ -ยาคุมกำเนิดบางชนิด -ยาแก้อักเสบ เช่น เตตร้าไซคลิน (tetracyclines) -อะมิโอดาโรน (Amiodarone) ซึ่งเป็นยาที่มีผลกับการทำงานของหัวใจ -ฟินนีโทอีน (Phenytoin) เป็นยาที่ใช้รักษาโรคลมชักชนิดต่างๆ -ฟิโนเธียซีน (Phenothiazines) เป็นยาที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท มีผลทำให้ง่วงนอน -ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides) ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด -ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวโดยมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ของผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เมลานิน โดย ไม่ทาครีมกันแดดร่วมด้วย 3. เกิดจากแสงแดด (รังสีอุลต้าไวโอเล็ต - UV, Ultraviolet) สามารถทำให้เกิดฝ้าบางชนิดได้ ฝ้า (Melasma) มีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาล เกิดบนใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก โดยเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินในบริเวณผิวหนังทำงานผิดปกติ และส่งเม็ดสีขึ้นมาบนผิวหนังด้านบนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ความเข้มของสีผิวไม่สม่ำเสมอและมองเห็นได้จากภายนอก เม็ดสีเมลานินนี้มีหน้าที่พิเศษคือกรองรังสีเหนือม่วง หรือ อุลตร้าไวโอเล็ต (UV - Ultraviolet) ดังนั้นยิ่งเราตากแดดมากขึ้น ร่างกายก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยที่รังสี UVA (รังสี UV ชนิด A เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำ) จะกระตุ้นให้เซลล์ melanocytes สร้างเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ให้ทำงานได้มากขึ้นและทำให้เซลล์ผิวหนัง (keratinocyte) รับสารเมลานินได้มากขึ้นส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดผิวสีคล้ำ เกิดฝ้า หรือ กระ และรังสี UVB (รังสี UV ชนิด B มีช่วงคลื่นสั้น พลังงานสูง) จะทำให้การทำงานประสานกันของเซลล์ melinocyte และเซลล์ keratinocytes ได้ดีขึ้นในการรับส่งเม็ดสีเมลานิน ถ้าได้รับมากๆ สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง และหากได้รับรังสีเป็นระยะเวลายาวนาน อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ กระแดด (Solar lentigines) มักจะเกิดในคนที่อายุมากและมีประวัติการถูกแสงแดด อาจจะเริ่มจากจุดเล็กแล้วอาจขยายใหญ่ได้มาก (ถ้า lentigines จะหมายถึงขี้แมลงวัน) กระ (ephelides) หมายถึงจุดสีน้ำตาลที่มักมีขนาดเล็กกว่า 0.5 ซม. เกิดจากการมีเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ พบที่บริเวณใบหน้าและบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆ และมักมีสีเข้มขึ้นในฤดูร้อนและจางลงในฤดูหนาว เพราะแสงแดดโดยเฉพาะรังสี UV-B เป็นตัวกระตุ้นให้กระเข้มขึ้น 4. สาเหตุอื่นๆ ของการเป็นฝ้า นอกจากสาเหตุที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีโรคหรือภาวะบางอย่างที่สามารถทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกันก็คือ -การตั้งครรภ์ โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้แปรปรวน โรคแพ้ภูมิตัวเอง -โรคตับ -โรคแอดดิสัน (พบได้น้อยมาก เกิดจากต่อมหมวกไตสร้างฮอร์โมนสเตอรอยด์ได้น้อยกว่าปกติ) -อีโมโครมาโทซิส (Hemochromatosis) เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากการสะสมของเหล็กในกระแสเลือด จนทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ตับ -เนื้องอกใต้สมอง 5.ขาดสารอาหารที่เซลล์ผิวหนังต้องการ 6. ระบบการย่อยและระบบการดูดซึมของร่างกายทำงานไม่สมบูรณ์ ฝ้าสายพันธุ์ใหม่ เกิดจากการรบกวนผิว มลภาวะ และการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารที่ไปกระตุ้นการเกิดฝ้า พวก Whitening ซึ่งบางครั้งผู้บริโภคที่ซื้อเป็นเพราะโฆษณาชวนเชื่อและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฝ้าเส้นเลือด เกิดจากเส้นเลือดบริเวณใบหน้าเสียสภาพไม่สามารถกักเก็บเลือดได้ ทำให้เลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง เป็นรอยแดงคล้ายเส้นเลือด ซึ่งสีของฝ้าเส้นเลือดสามารถเปลี่ยนได้ตามอุณหภูมิการแสดงอารมณ์โดยในตอนเช้าสีจะออกชมพู แต่เมื่อเวลาโดนแดดจัดสีจะคล้ำจนเป็นสีดำ นอกจากนี้ผิวหนังจะมีความรู้สึกไว แสบง่าย ส่วนมากมักจะเกิดกับคนที่มีลักษณะของเซลล์ที่มีความผิดปกติหรือแตกตัวผิดปกติ หรือทานยาแอสไพรินมายาวนาน การปลดฝ้า เพื่อผิวหน้าที่ขาวใส และป้องกันการกลับมาเยือนของฝ้า อย่างแรกคือ ต้องทราบสาเหตุของการเกิดฝ้า เพราะแต่ละคนมีสาเหตุต่างกัน การรักษาที่ถูกวิธีต้องรักษาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ไปเน้นที่การยับยั้ง หรือกดเซลล์ กล่าวคือ การใช้ยาเพื่อไปยับยั้งการทำงานของเมลานิน ซึ่งถ้าหยุดใช้ยา ฝ้าก็สามารถกลับมาเยือนได้อีก และท่านก็ต้องใช้ยาอีก จึงดูเหมือนเป็นการพายเรือวนในอ่าง วิธีการที่ถูกต้องคือให้สารอาหารที่สามารถหยุดหรือระงับการสร้างเมลานิลโดยไม่ทำให้เซลล์สร้างสีตาย เพราะถ้าใช้สารทำลายเซลล์สร้างสีแล้ว ร่างกายจะขาดกำลังสำคัญในการป้องกันผิวหนังจากแสงแดด สารอาหาร Vitamin C เป็นสาร Antioxidantsที่พบมากที่สุดในผิวหนัง ทำหน้าที่ลดอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งผิวหนัง ชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่น และมีความจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ใช้ป้องกันและรักษาเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ลดรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ รอยด่างดำตามร่างกาย อาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว ฝรั่ง มะขาม มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ดอกกระหล่ำเป็นต้น Vitamin E เป็นสาร Antioxidants ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันเนื้อเยื่อจากการถูกเอนไซม์ทำลาย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ ป้องกันและลดอันตรายจากแสงแดด และลดการเกิดเซลล์มะเร็งได้ ลดความเสื่อมของผิวหนังที่ทำให้เกิดริ้วรอย อาหารที่มีวิตามินอีสูง ได้แก่ น้ำมันพืชประเภทน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว งา น้ำมันสลัด ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว Vitamin A โดยใช้สารตั้งต้นที่ชื่อ เบต้าแคโรทีนและสารแคโรทีนอยด์ แล้วร่างกายเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มเรตินอล (Retinol) ซึ่งปัจจุบันได้มีการคิดค้นเกี่ยวกับสารสังเคราะห์สำหรับผิวพรรณที่เรียกว่า กลุ่มเรตินอยด์ ทั้งในรูปของครีมทา และยารับประทาน ( ซึ่งนำมารักษาสิวและริ้วรอย) ใช้คำว่าเลียนแบบวิตามินเอ ( เรตินอล) มีรายงานมากมายที่สนับสนุนว่า วิตามินเอ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอผิวเสื่อม ริ้วรอยย่นก่อนวัยครับ อาหารที่มีวิตามินเอสูง ได้แก่ อาหารจากผลิตภัณฑ์สัตว์ ตับ น้ำมันตับปลา ไข่ ผักเช่น ฟักทอง แครอท ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง เป็นต้น ร่างกายปกติ ต้องการวิตามินเอ ประมาณ 1000 ไมโครกรัมต่อวัน ( ในรูปของ Retinol) ซีลีเนียม ( Selenium) ถือเป็นสารที่สำคัญที่ทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง ผิวหนังจากแสงแดด การทาครีมที่ผสมซิลีเนียม จะทำให้ลดอาการแดดเผา ผิวหนังอักเสบได้และป้องกันมะเร็ง ยังไม่มีรายงานการขาดสารซิลีเนียมในคนแล้วเกิดโรคต่างๆ เพราะอาหารที่มีซิลีเนียม ส่วนใหญ่ร่างกายจะได้รับเพียงพอ เพราะต้องการเพียงปริมาณไม่มากนัก อาหารเหล่านี้ได้แก่ อาหารทะเล ตับ ไต เนื้อสัตว์ กระเทียม ไข่ เมล็ดพืชต่างๆ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานเป็นอาหารเสริม เพราะอาจจะมีปริมาณสูงเกินไป ส่วนใหญ่จะนำมาผสมในครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ไบโอติน สารอาหารที่อยู่ในตระกูลวิตามินบี เป็นสารที่มีประโยชน์ในเรื่องการเผาผลาญ และปรับสมดุลของการไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต การขาดวิตามินนี้ จะทำให้ผิวแห้ง เบื่ออาหาร เส้นผมและเล็บเปราะหักง่าย ผมงอกช้า อาหารที่มีไบโอตินสูง ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสีต่างๆ อาหารโปรตีนสูง ไข่แดง ตับ ข้าวกล้อง ถั่วชนิดต่างๆ ปกติร่างกายของเราจะได้รับสาร ไบโอติน ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ แต่โชคดีที่ภายในร่างกายมี แบคทีเรียที่ชื่อ Lactobacillin ในลำไส้ ที่สามารถผลิตสารไบโอตินได้ แต่ถ้าต้องการรับประทานเป็นอาหารเสริม ปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 600-1,200 มก. สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์กว่า 70 ชนิด ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการดูดซึมของกรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้เซลล์สามารถจับกับวิตามินเอได้ดีขึ้น อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่ หอยนางรม อาหารทะเล ตับ ชีส เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ ไข่ รวมทั้งธัญพืชที่ไม่ได้ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง และถั่วเปลือกแข็ง ร่างกายต้องการสังกะสี ในปริมาณที่แตกต่างกันในแต่ละเพศ วัย และภาวะของร่างกาย แต่โดยเฉลี่ยไม่ควรเกินวันละ 15-30 มก. Co enyme Q10 ( Uniquinone) เป็นสารAntioxidants ที่ค้นพบมานานแล้ว โดยพบมากที่อวัยวะที่มีการ metabolism สูง เช่น หัวใจ ไต และตับ โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงาน สำหรับผิวหนัง CoQ10 จะพบมากในชั้น epidermis มากกว่า dermis มีสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ( free radicles) จึงเชื่อว่า สามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ ปัจจุบัน ได้นำมาทำเป็นครีมทาเฉพาะที่ เพื่อลดริ้วรอย โดยเฉพาะรอยดวงตา อาหารดีๆ 1.ปลา : เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายที่เสื่อมโทรม และยังมีเซเลเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แนะนำ ปลาโอ ปลาอินทรีย์สด ปลาแซลม่อน ปลาสวาย 2.น้ำมันมะกอก : เป็นน้ำมันจากพืชที่แม้จะมีแคลอรี่สูงแต่ข้อดีคือ มีกรดไขมันจำเป็นและเป็นไขมันชั้นดี ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและที่สำคัญในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วยวิตามินเอและอี ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวดูอ่อนวัยคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม 3.น้ำดื่มสะอาด : หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวพรรณไม่สดใส การดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เป็นวิธีที่ทำให้ผิวผ่อง แบบไม่ต้องลงทุนมาก เพราะน้ำจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้และยังป้องกันเซลลูไลต์อีกด้วย 4.มะเขือเทศ : ช่วยทำให้ผิวพรรณดี แก้อาการสิวฝ้า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย 5.บร็อกโคลี : ผักสีเขียวที่เป็นแหล่งของวิตามินเอและซี โดยที่วิตามินเอมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในเรื่องการป้องกันการเสื่อมอายุของผิวหนัง ซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไป และยังมีความสำคัญต่อกระบวนการเติบโตของผิวหนังให้มีการทำงานอย่างปกติ ช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง และยังสดใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ระบบการย่อยและการดูดซึม เพราะเป็นตัวกำหนดปริมาณสารอาหารที่ได้รับว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ผลิตภัณฑ์แนะนำ สบู่สมุนไพร Pun c Prink Alovi Praow Praew Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 943 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอกผักบุ้ง (สีขาว) ดอกมะเขื่อ (สีม่วง) ดอกโกศล (ที่เป็นหนามๆ)
    ดอกผักบุ้ง (สีขาว) ดอกมะเขื่อ (สีม่วง) ดอกโกศล (ที่เป็นหนามๆ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • #PM2.5กับสารอาหารเพื่อป้องกันและรักษา

    ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เนื่องจากมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายทั้งสารระคายเคืองต่อสารก่อมะเร็ง และส่งผลให้เกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคปอดบวม โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือน้อยกว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจ เพราะยิ่งมีขนาดเล็กลงก็ยิ่งเข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับปอดได้มากขึ้น โดยกระบวนการอนุภาคขนาดเล็กจะช่วยเร่งการอักเสบในร่างกายและลดจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงตามมาด้วยความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ปอด เมื่อได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากจะเสื่อมสภาพและอาจตามมาด้วยโรคมะเร็งปอด

    ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับ PM 2.5 ได้

    สารอาหารที่ดี

    1. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนพบได้ในแครอท บวบ ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันเทศ เป็นต้น วิตามินเอนอกจากช่วยส่งเสริมดวงตาแล้วยังช่วยระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งสามารถต้านทานผลกระทบฝุ่นพิษได้

    2 . วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสียหายทางพันธุกรรมของ DNA เมื่อสัมผัสกับอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ และการศึกษาพบว่าการได้รับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ต่อระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการคันตา อาการคัน และความรู้สึกแสบร้อน อาการคันและแสบร้อน กลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ ทับทิม ผักใบเขียวเข้ม ใบบัวบก ผักโขม หัวหอม นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินซี 500 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศได้

    3. วิตามินอี พบได้ในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ไข่แดง ปลาตัวสีดำท้องขาว สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ

    4. วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก สามารถลดโฮโมซิสเทอีนในเลือดได้ วิตามินกลุ่มนี้อยู่ในผักใบเขียวเข้ม ผักสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น บรอกโคลี แครอท ฟักทอง และวิตามินบี 12 มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง

    5. โอเมก้า 3 พบได้ใน อะโวคาโด วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก ปลาต่าง ๆที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 การศึกษาทางคลินิกในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงพบว่า การทานน้ำมันโอเมก้า 3 สูงเช่น Krill oil 2 กรัม/วันจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นเล็กๆ นี้

    6. ซัลโฟราเฟนพบได้ในบรอกโคลี และผักกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและป้องกันมะเร็ง มีรายงานการทดลองทางคลินิกทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับซัลเฟอร์จากนั้นจากบรอกโคลีอาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นได้

    7. N-acetyl cysteine ช่วยลดการหดเกร็งของหลอดลมที่ไวต่อการกระตุ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ โดย N-acetyl cysteine ต้องการกรดอะมิโน cysteine เพื่อช่วยในการสังเคราะห์ อาหารที่มีกรดอะมิโน ได้แก่ หัวหอม ไข่ กระเทียม และเนื้อแดง

    N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอดอีกด้วย

    8.สารอาหารโพลีแซ็กคาไรด์ในกลุ่มเบต้ากลูแคนซึ่งสกัดได้จาก ยีสต์และเห็ด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น

    สมุนไพรไทยหลายชนิดยังมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับ PM 2.5 :

    มะขามป้อม-Phyllanthus Emblica สารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการอักเสบและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและการไหลเวียนที่ดี

    ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 80 เท่า ซึ่งดีต่อการทำงานของปอด

    นอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ สวมแว่นตาและสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องหรือลดผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นอันตรายจากฝุ่น ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยฟอกอากาศในบ้านหรือในรถยนต์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบได้

    อาหารเสริมที่แนะนำหากคุณมีความยุ่งยากในการรับประทานอาหารตามปกติ

    Glap
    Glube
    Paa super h
    Whole c

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    #PM2.5กับสารอาหารเพื่อป้องกันและรักษา ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เนื่องจากมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายทั้งสารระคายเคืองต่อสารก่อมะเร็ง และส่งผลให้เกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคปอดบวม โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือน้อยกว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจ เพราะยิ่งมีขนาดเล็กลงก็ยิ่งเข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับปอดได้มากขึ้น โดยกระบวนการอนุภาคขนาดเล็กจะช่วยเร่งการอักเสบในร่างกายและลดจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงตามมาด้วยความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ปอด เมื่อได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากจะเสื่อมสภาพและอาจตามมาด้วยโรคมะเร็งปอด ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับ PM 2.5 ได้ สารอาหารที่ดี 1. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนพบได้ในแครอท บวบ ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันเทศ เป็นต้น วิตามินเอนอกจากช่วยส่งเสริมดวงตาแล้วยังช่วยระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งสามารถต้านทานผลกระทบฝุ่นพิษได้ 2 . วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสียหายทางพันธุกรรมของ DNA เมื่อสัมผัสกับอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ และการศึกษาพบว่าการได้รับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ต่อระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการคันตา อาการคัน และความรู้สึกแสบร้อน อาการคันและแสบร้อน กลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ ทับทิม ผักใบเขียวเข้ม ใบบัวบก ผักโขม หัวหอม นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินซี 500 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศได้ 3. วิตามินอี พบได้ในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ไข่แดง ปลาตัวสีดำท้องขาว สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ 4. วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก สามารถลดโฮโมซิสเทอีนในเลือดได้ วิตามินกลุ่มนี้อยู่ในผักใบเขียวเข้ม ผักสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น บรอกโคลี แครอท ฟักทอง และวิตามินบี 12 มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง 5. โอเมก้า 3 พบได้ใน อะโวคาโด วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก ปลาต่าง ๆที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 การศึกษาทางคลินิกในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงพบว่า การทานน้ำมันโอเมก้า 3 สูงเช่น Krill oil 2 กรัม/วันจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นเล็กๆ นี้ 6. ซัลโฟราเฟนพบได้ในบรอกโคลี และผักกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและป้องกันมะเร็ง มีรายงานการทดลองทางคลินิกทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับซัลเฟอร์จากนั้นจากบรอกโคลีอาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นได้ 7. N-acetyl cysteine ช่วยลดการหดเกร็งของหลอดลมที่ไวต่อการกระตุ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ โดย N-acetyl cysteine ต้องการกรดอะมิโน cysteine เพื่อช่วยในการสังเคราะห์ อาหารที่มีกรดอะมิโน ได้แก่ หัวหอม ไข่ กระเทียม และเนื้อแดง N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอดอีกด้วย 8.สารอาหารโพลีแซ็กคาไรด์ในกลุ่มเบต้ากลูแคนซึ่งสกัดได้จาก ยีสต์และเห็ด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น สมุนไพรไทยหลายชนิดยังมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับ PM 2.5 : มะขามป้อม-Phyllanthus Emblica สารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการอักเสบและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและการไหลเวียนที่ดี ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 80 เท่า ซึ่งดีต่อการทำงานของปอด นอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ สวมแว่นตาและสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องหรือลดผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นอันตรายจากฝุ่น ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยฟอกอากาศในบ้านหรือในรถยนต์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบได้ อาหารเสริมที่แนะนำหากคุณมีความยุ่งยากในการรับประทานอาหารตามปกติ Glap Glube Paa super h Whole c ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 666 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กรดไหลย้อน (ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณและไม่ใช่ความลับสวรรค์) (1)

    ...คุณเคยมีประสบการณ์ของการเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือไม่....

    โรคที่อาจมีการวินิจฉัยผิดพลาดบ่อย ๆและถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ยาเม็ดลดกรด (Tums) อาจถูกนำมาใช้หรือบางทีคุณอาจมองหา Prilosec หรือ Prevacid หรือบางรายไปไกลกว่านั้นและอาจใช้ Nexium,Tagamet หรือ Zantac เพื่อควบคุมอาการของคุณและที่เลวร้ายไปกว่านั้นถ้าคุณใช้ยา MaaloxหรือMylanta ซึ่ง 2 ตัวหลังนี้เต็มไปด้วยอลูมิเนียมที่เป็นพิษต่อร่างกาย
    ..!! ถ้าคุณและที่ปรึกษาด้านสุขภาพของคุณเห็นร่วมกันวาเป็นเรื่องเล็ก....ไม่น่ากังวลอะไร...”คุณคิดผิด”
    ในความเป็นจริง ..กรดไหลย้อนเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก ๆ มันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรงที่สามารถนำพาคุณไปสู่การทำงานที่ผิดพลาดของระบบในร่างกายและอาจไปไกลได้ถึง...”ความตาย”
    ..ชีวเคมี (Biochemistry)…
    อาจจะยากขึ้นสักเล็กน้อย..แต่จำเป็นต้องใส่ไว้ที่นี่...แต่ผมจะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น..ตามมา..!!
    Digestive distress (ระบบทางเดินอาหารทำงานน้อยลง) สามารถนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงมากมาย คุณอาจเคยได้ยินมาว่า..กรดไหลย้อนเกิดจากการมีกรดเกินในกระเพาะอาหารเนื่องจากมีกรดไปเล่นงานหลอดอาหาร( esophagus) และทำให้เกิดอาการแสบร้อน...นั่นเป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวทั้งหมดและเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องมายาวนาน
    ความจริง : เราไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างสมบูรณ์จากการมีกรดน้อยเกินไปในเวลาที่ต้องมีกรดเพื่อทำหน้าที่ย่อยอาหารในกระเพาะอาหารของเรา Dr.Jonathan Wright ผู้เขียน : Stomach Acid is good for you
    (Evans,2001) กล่าวว่า”การผลิตกรดมากเกินไปมีอยู่จริงแต่เป็นจำนวนที่น้อยมาก ๆ และมากกว่า 44 ล้านคนประสบปัญหานี้จากการมีกรดน้อยเกินไป กรดในกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการย่อยและการดูดซึมสารอาหารที่สำคัญเพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายรวมถึงโปรตีนและแร่ธาตุ ดังนั้นการผลิตกรดมากจนเกินไปของกระเพาะอาหารจะมีส่วนในการรับผิดชอบต่อโรคกรดไหลย้อยได้อย่างไรกัน..มันไม่ใช่..!! หรืออย่างน้อยที่สุด....มันไม่ใช่ที่คุณคิด
    การใช้ยาที่เรียกว่า Proton pump inhibitors ซึ่งทำหน้าที่ลดการหลั่งกรดหรืออาจไปถึงหยุดการผลิตกรดเป็นสิ่งที่เลวร้ายเพราะนั่นหมายถึงการขัดขวางการย่อยอาหารและมันเป็นต้นเหตุของการนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า วิตกกังวล ไมเกรนและนอนไม่หลับ
    การผลิตกรดในกระเพาะอาหาร (Hydrochloric Acid) ร่างกายจำเป็นต้องใช้โซเดียมคลอไรด์..ใช่มันคือ..เกลือ..!! และเกลือเป็นแหล่งคลอไรด์หลักที่ร่างกายต้องสร้างเซลล์ที่เรียกว่า parietal cell
    ที่น่าเสียใจที่สุดคือร้อยละ 90 ในผู้ป่วยของผมขาดโซเดียมเนื่องจากความรู้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโจมตีการกินเกลือด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ นา ๆ ”
    -แคลเซียมที่มากจนเกินไปทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียมและโพแทสเซียมทางปัสสาวะและทำให้เซลล์สูญเสียแร่ธาตุ 2 ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โพแทสเซียมเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่สำคัญต่อการสร้างกรดในกระเพาะอาหารเช่นกัน...แต่โซเดียมเป็นตัวหลักเสมอ ดังนั้นผลของการขาดทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมจะทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการย่อยอาหาร ความสามารถในการย่อยโปรตีน ความสามารถในการสร้างกรดอะมิโนให้กับเซลล์และความสามารถในการสร้างเซลล์โปรตีน เซลล์ประสาทและ Nitric Oxide และนำไปสู่ปัญหาที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
    ขอย้อนกลับไปสู่บทความตอนแคลเซียมที่เคยโพสต์ไปแล้วอีกสักหน่อยที่ว่า การมีแคลเซียมมากเกินไปจะไปกดการทำงานของต่อมหมวกไต ดังนั้นไตจะสามารถไปจับกับแม็กนีเซียมเพื่อรักษาสมดุลแคลเซียมที่ต้องสูญเสียไปและยิ่งไปกว่านั้นการที่ต่อมหมวกไตถูกกดการทำงาน การสูญเสียโซเดียมและโพแทสเซียมจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านทางปัสสาวะจึงส่งผลให้เซลล์ขาดแร่ธาตุ 2 ตัวนี้ในเวลาต่อมา
    ปัญหาที่ใหญ่ไปกว่านั้น : Tums (ยาเม็ดลดกรด) ที่ผู้คนนิยมเคี้ยวเวลามีปัญหากรดไหลย้อน..
    Tums ประกอบด้วยอะไร..!! แคลเซียม...แม่เจ้า..!!นั่นหมายถึงการทำให้กระบวนการที่กล่าวมาด้านบนเกิดขึ้นและเป็นการทำร้ายตัวเอง...ใช่หรือไม่..
    ...จำไว้นะ..
    การมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปอนุญาตให้แคลเซียมที่เกินเหล่านั้นเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ของร่างกายและฝังตัวจนก่อปัญหาในระบบไม่ว่าจะเป็นที่หลอดเลือด ข้อต่อ ลิ้นหัวใจและที่ร้ายแรงที่สุดคือมันเป็นพิษต่อสมอง
    เมื่อเซลล์ในกระเพาะอาหารส่วนล่างและส่วนบนของลำไส้เล็กได้รับโปรตีนจากอาหารที่คุณกินเพื่อการย่อย พวกเขาจะส่งสัญญาณเพื่อให้มีการผลิตกรดและเพิ่มฮอร์โมนที่เรียกว่า Gastrin ฮอร์โมนนี้จะบอก Parietal cells ในกระเพาะอาหารให้สร้างกรดเพิ่ม
    เพื่อให้มองเห็นภาพ : มันเป็นเช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ใช้คาบูเรเตอร์
    เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จำเป็นที่ต้องมีการจ่ายน้ำมันผ่านวาลว์และถ้าน้ำมันไม่เพียงพอวาล์วก็จะเปิดให้มีน้ำมันไหลเข้ามากขึ้น ๆ และถ้ายังสตาร์ทเครื่องไม่ได้วาล์วก็จะถูกเปิดจนน้ำมันท่วมคาบูเรเตอร์.....กรดไหลย้อนก็เกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน...ถ้ากรดไม่ถูกสร้าง..การกระตุ้น Gastrin เพื่อให้ย่อยโปรตีนก็จะถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องและนำไปสู่การท่วมของกรด(กรดจำนวนมากถูกปล่อยมาในครั้งเดียวจากการกระตุ้นที่มากจนเกินไป)สิ่งนี้เกิดจากการมีกรดน้อยเกินในตอนเริ่มต้นเมื่อโปรตีนเดินทางไปถึงกระเพาะอาหาร
    ...อีกครั้ง..
    มันเกิดจากการขาดโซเดียมของ Parietal cells ที่พวกเขาต้องใช้เพื่อการทำงานที่ถูกต้องในขั้นตอนเริ่มต้นและต่อมาก็เกิดการท่วมและ...ท้ายที่สุดกรดจะถูกปล่อยออกมาจนไปก่ออาการแสบร้อนกลางอก ไอ ระคายคอและมีเสมหะตลอดเวลา
    แต่ถึงกระนั้น...การผลิตกรดที่มากจนเกินไปก็เกี่ยวโยงกับการมีโซเดียมในเซลล์ในระดับสูงเช่นกันและสามารถทำให้เกิดกรดเกินได้แต่เกิดขึ้นน้อยราวร้อยละ 10 ของผู้ป่วยกรดไหลย้อน ดังนั้นผมขอแนะนำให้ผู้ป่วยในโรคนี้หมั่นตรวจค่าอิเลคโทรไลท์ทุก 2 สัปดาห์ถ้าสามารถทำได้เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง
    ..ข้อสังเกตุ..
    ถ้าคุณมีปัญหากรดไหลย้อน...
    ให้หยุดกิน หวาน นมสัตว์ นมถั่วเหลือง เห็ด ผลไม้ ขนมปัง ถั่วทุกรูปแบบ มะเขือเทศ รสเปรี้ยวและรสเผ็ดและควรกินเกลือที่มีแร่ธาตุมากพอสักครึ่งช้อนชาร่วมกับผักที่มีโพแทสเซียมสูงอาทิ กล้วยดิบ บรอคโคลี่ ดอกกะหล่ำ แครอท แขนง กะหล่ำปลี ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ยอดฟักแม้ว ใบแค ใบคื่นช่าย มันเทศ มันฝรั่ง ฟักทองเป็นต้น ก่อนอาหารราว3 นาทีทุกมื้ออาหาร
    เพียงเท่านี้.... คุณอาจจะสตาร์ทเครื่องยนต์ของคุณได้โดยปราศจากการท่วมของน้ำมันในคาบูเรเตอร์ของคุณ
    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
    สวัสดี
    ขอบคุณหนังสือ Calcium Lie และ Stomach Acid is good for you

    Cr. Santi Manadee
    #กรดไหลย้อน (ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณและไม่ใช่ความลับสวรรค์) (1) ...คุณเคยมีประสบการณ์ของการเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือไม่.... โรคที่อาจมีการวินิจฉัยผิดพลาดบ่อย ๆและถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ยาเม็ดลดกรด (Tums) อาจถูกนำมาใช้หรือบางทีคุณอาจมองหา Prilosec หรือ Prevacid หรือบางรายไปไกลกว่านั้นและอาจใช้ Nexium,Tagamet หรือ Zantac เพื่อควบคุมอาการของคุณและที่เลวร้ายไปกว่านั้นถ้าคุณใช้ยา MaaloxหรือMylanta ซึ่ง 2 ตัวหลังนี้เต็มไปด้วยอลูมิเนียมที่เป็นพิษต่อร่างกาย ..!! ถ้าคุณและที่ปรึกษาด้านสุขภาพของคุณเห็นร่วมกันวาเป็นเรื่องเล็ก....ไม่น่ากังวลอะไร...”คุณคิดผิด” ในความเป็นจริง ..กรดไหลย้อนเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก ๆ มันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรงที่สามารถนำพาคุณไปสู่การทำงานที่ผิดพลาดของระบบในร่างกายและอาจไปไกลได้ถึง...”ความตาย” ..ชีวเคมี (Biochemistry)… อาจจะยากขึ้นสักเล็กน้อย..แต่จำเป็นต้องใส่ไว้ที่นี่...แต่ผมจะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น..ตามมา..!! Digestive distress (ระบบทางเดินอาหารทำงานน้อยลง) สามารถนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงมากมาย คุณอาจเคยได้ยินมาว่า..กรดไหลย้อนเกิดจากการมีกรดเกินในกระเพาะอาหารเนื่องจากมีกรดไปเล่นงานหลอดอาหาร( esophagus) และทำให้เกิดอาการแสบร้อน...นั่นเป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวทั้งหมดและเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องมายาวนาน ความจริง : เราไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างสมบูรณ์จากการมีกรดน้อยเกินไปในเวลาที่ต้องมีกรดเพื่อทำหน้าที่ย่อยอาหารในกระเพาะอาหารของเรา Dr.Jonathan Wright ผู้เขียน : Stomach Acid is good for you (Evans,2001) กล่าวว่า”การผลิตกรดมากเกินไปมีอยู่จริงแต่เป็นจำนวนที่น้อยมาก ๆ และมากกว่า 44 ล้านคนประสบปัญหานี้จากการมีกรดน้อยเกินไป กรดในกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการย่อยและการดูดซึมสารอาหารที่สำคัญเพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายรวมถึงโปรตีนและแร่ธาตุ ดังนั้นการผลิตกรดมากจนเกินไปของกระเพาะอาหารจะมีส่วนในการรับผิดชอบต่อโรคกรดไหลย้อยได้อย่างไรกัน..มันไม่ใช่..!! หรืออย่างน้อยที่สุด....มันไม่ใช่ที่คุณคิด การใช้ยาที่เรียกว่า Proton pump inhibitors ซึ่งทำหน้าที่ลดการหลั่งกรดหรืออาจไปถึงหยุดการผลิตกรดเป็นสิ่งที่เลวร้ายเพราะนั่นหมายถึงการขัดขวางการย่อยอาหารและมันเป็นต้นเหตุของการนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า วิตกกังวล ไมเกรนและนอนไม่หลับ การผลิตกรดในกระเพาะอาหาร (Hydrochloric Acid) ร่างกายจำเป็นต้องใช้โซเดียมคลอไรด์..ใช่มันคือ..เกลือ..!! และเกลือเป็นแหล่งคลอไรด์หลักที่ร่างกายต้องสร้างเซลล์ที่เรียกว่า parietal cell ที่น่าเสียใจที่สุดคือร้อยละ 90 ในผู้ป่วยของผมขาดโซเดียมเนื่องจากความรู้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโจมตีการกินเกลือด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ นา ๆ ” -แคลเซียมที่มากจนเกินไปทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียมและโพแทสเซียมทางปัสสาวะและทำให้เซลล์สูญเสียแร่ธาตุ 2 ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โพแทสเซียมเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่สำคัญต่อการสร้างกรดในกระเพาะอาหารเช่นกัน...แต่โซเดียมเป็นตัวหลักเสมอ ดังนั้นผลของการขาดทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมจะทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการย่อยอาหาร ความสามารถในการย่อยโปรตีน ความสามารถในการสร้างกรดอะมิโนให้กับเซลล์และความสามารถในการสร้างเซลล์โปรตีน เซลล์ประสาทและ Nitric Oxide และนำไปสู่ปัญหาที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ขอย้อนกลับไปสู่บทความตอนแคลเซียมที่เคยโพสต์ไปแล้วอีกสักหน่อยที่ว่า การมีแคลเซียมมากเกินไปจะไปกดการทำงานของต่อมหมวกไต ดังนั้นไตจะสามารถไปจับกับแม็กนีเซียมเพื่อรักษาสมดุลแคลเซียมที่ต้องสูญเสียไปและยิ่งไปกว่านั้นการที่ต่อมหมวกไตถูกกดการทำงาน การสูญเสียโซเดียมและโพแทสเซียมจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านทางปัสสาวะจึงส่งผลให้เซลล์ขาดแร่ธาตุ 2 ตัวนี้ในเวลาต่อมา ปัญหาที่ใหญ่ไปกว่านั้น : Tums (ยาเม็ดลดกรด) ที่ผู้คนนิยมเคี้ยวเวลามีปัญหากรดไหลย้อน.. Tums ประกอบด้วยอะไร..!! แคลเซียม...แม่เจ้า..!!นั่นหมายถึงการทำให้กระบวนการที่กล่าวมาด้านบนเกิดขึ้นและเป็นการทำร้ายตัวเอง...ใช่หรือไม่.. ...จำไว้นะ.. การมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปอนุญาตให้แคลเซียมที่เกินเหล่านั้นเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ของร่างกายและฝังตัวจนก่อปัญหาในระบบไม่ว่าจะเป็นที่หลอดเลือด ข้อต่อ ลิ้นหัวใจและที่ร้ายแรงที่สุดคือมันเป็นพิษต่อสมอง เมื่อเซลล์ในกระเพาะอาหารส่วนล่างและส่วนบนของลำไส้เล็กได้รับโปรตีนจากอาหารที่คุณกินเพื่อการย่อย พวกเขาจะส่งสัญญาณเพื่อให้มีการผลิตกรดและเพิ่มฮอร์โมนที่เรียกว่า Gastrin ฮอร์โมนนี้จะบอก Parietal cells ในกระเพาะอาหารให้สร้างกรดเพิ่ม เพื่อให้มองเห็นภาพ : มันเป็นเช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ใช้คาบูเรเตอร์ เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จำเป็นที่ต้องมีการจ่ายน้ำมันผ่านวาลว์และถ้าน้ำมันไม่เพียงพอวาล์วก็จะเปิดให้มีน้ำมันไหลเข้ามากขึ้น ๆ และถ้ายังสตาร์ทเครื่องไม่ได้วาล์วก็จะถูกเปิดจนน้ำมันท่วมคาบูเรเตอร์.....กรดไหลย้อนก็เกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน...ถ้ากรดไม่ถูกสร้าง..การกระตุ้น Gastrin เพื่อให้ย่อยโปรตีนก็จะถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องและนำไปสู่การท่วมของกรด(กรดจำนวนมากถูกปล่อยมาในครั้งเดียวจากการกระตุ้นที่มากจนเกินไป)สิ่งนี้เกิดจากการมีกรดน้อยเกินในตอนเริ่มต้นเมื่อโปรตีนเดินทางไปถึงกระเพาะอาหาร ...อีกครั้ง.. มันเกิดจากการขาดโซเดียมของ Parietal cells ที่พวกเขาต้องใช้เพื่อการทำงานที่ถูกต้องในขั้นตอนเริ่มต้นและต่อมาก็เกิดการท่วมและ...ท้ายที่สุดกรดจะถูกปล่อยออกมาจนไปก่ออาการแสบร้อนกลางอก ไอ ระคายคอและมีเสมหะตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้น...การผลิตกรดที่มากจนเกินไปก็เกี่ยวโยงกับการมีโซเดียมในเซลล์ในระดับสูงเช่นกันและสามารถทำให้เกิดกรดเกินได้แต่เกิดขึ้นน้อยราวร้อยละ 10 ของผู้ป่วยกรดไหลย้อน ดังนั้นผมขอแนะนำให้ผู้ป่วยในโรคนี้หมั่นตรวจค่าอิเลคโทรไลท์ทุก 2 สัปดาห์ถ้าสามารถทำได้เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ..ข้อสังเกตุ.. ถ้าคุณมีปัญหากรดไหลย้อน... ให้หยุดกิน หวาน นมสัตว์ นมถั่วเหลือง เห็ด ผลไม้ ขนมปัง ถั่วทุกรูปแบบ มะเขือเทศ รสเปรี้ยวและรสเผ็ดและควรกินเกลือที่มีแร่ธาตุมากพอสักครึ่งช้อนชาร่วมกับผักที่มีโพแทสเซียมสูงอาทิ กล้วยดิบ บรอคโคลี่ ดอกกะหล่ำ แครอท แขนง กะหล่ำปลี ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ยอดฟักแม้ว ใบแค ใบคื่นช่าย มันเทศ มันฝรั่ง ฟักทองเป็นต้น ก่อนอาหารราว3 นาทีทุกมื้ออาหาร เพียงเท่านี้.... คุณอาจจะสตาร์ทเครื่องยนต์ของคุณได้โดยปราศจากการท่วมของน้ำมันในคาบูเรเตอร์ของคุณ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง สวัสดี ขอบคุณหนังสือ Calcium Lie และ Stomach Acid is good for you Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนทำผิดไม่ช่วยกันปราม เอาแต่สนับสนุนให้บุ้งทรมาน จนบุ้งจากไปก็ยังโหนหากินทางการเมือง นี่แหละศัตรูที่ร้ายที่สุดอยู่ข้างกายบุ้ง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ตอนทำผิดไม่ช่วยกันปราม เอาแต่สนับสนุนให้บุ้งทรมาน จนบุ้งจากไปก็ยังโหนหากินทางการเมือง นี่แหละศัตรูที่ร้ายที่สุดอยู่ข้างกายบุ้ง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • #HPylori มันคือสาเหตุการเกิด “โรคกระเพาะอาหาร” ทั้งยังสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) หรือ เอชไพโลไร (H.Pylori) เป็นแบคทีเรียประเภทที่พบได้บ่อยและใช่ มันเป็นโรคติดต่อที่ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยปกติแล้วแบคทีเรียจะเข้าสู่ปากและเข้าสู่ทางเดินอาหารเชื้อโรคอาจอาศัยอยู่ในน้ำลาย ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ผ่านการจูบ ออรัลเซ็กซ์ การพูดคุยขณะรับประทานอาหารร่วมกัน การพูดคุยกับแม่ค้าขณะตักอาหารให้ หรือแม้แต่การพูดคุยกับพนักงานเสิร์ฟถ้าพนักงานคนนั้นมีเชื้อนอกจากนี้ คุณสามารถติดเชื้อได้จากการปนเปื้อนอุจจาระในอาหารหรือน้ำดื่มแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการติดเชื้อ H. pylori จะไม่เป็นอันตราย แต่พวกมันมีส่วนทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารเป็นส่วนใหญ่ แผลเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหารH. Pylori พบได้บ่อยแค่ไหนเชื้อ H. pylori มีอยู่ประมาณร้อยละ 60 ของประชากรโลก การศึกษาในปี 2014 ในวารสาร Central European Journal of Urology แนะนำว่าผู้ที่ติดเชื้อ H. pylori มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์อาจมีแบคทีเรียอยู่ในปากและน้ำลาย และอาจเป็นสาเหตุของโรคท่อปัสสาวะอักเสบ การวิจัยยังพบว่า เชื้อ H. pylori อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายอย่าง รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหารและแผลในกระเพาะอาหารบางชนิด ในปี 2018 นักวิจัยรายงานว่า H. pylori อาจมีบทบาทในการพัฒนาโรคพาร์กินสันรายงานปี 2018 ในวารสาร Gastroenterology ระบุข้อกังวลอื่น: การดื้อต่อยาปฏิชีวนะของ H. pylori ทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากป้องกันการติดเชื้อ H. pyloriสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดีคือวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ การล้างมืออย่างทั่วถึงและบ่อยครั้งเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่ายิ่ง การรับประทานอาหารสุกใหม่ ไม่รับประทานอาหารค้างคืนหรือแม้แต่อาหารที่ปรุงตั้งไว้เกิน 3 ชั่วโมง ไม่ดื่มน้ำที่ไม่มั่นใจว่าสะอาดเพียงพออาการของผู้ติดเชื้อ H.Pyloriโดยปกติแล้ว ผู้ที่ติดเชื้อ H.Pylori มักจะไม่แสดงอาการ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่สังเกตได้ ดังนี้ปวดหรือแสบร้อนที่ท้องบริเวณเหนือสะดือปวดรุนแรงเมื่อท้องว่างหรือหลังจากรับประทานอาหารคลื่นไส้ อาเจียนจุกเสียดลิ้นปี่ท้องอืด เรอบ่อยเบื่ออาหารน้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ในรายที่มีอาการอักเสบรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เร่งด่วนซึ่งจะมีอาการ ดังนี้ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย หรือมีเลือดและกลิ่นรุนแรงปวดท้องรุนแรง เรื้อรังอาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีน้ำตาลคล้ำ H.Pylori สามารถแฝงอยู่ในร่างกายนานเป็น 10 ปี โดยแทบไม่แสดงอาการ เสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมากถึง 2-6 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติที่ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกจัดให้เชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหารดังนั้นการกำจัดเชื้อ Helicobacter Pylori จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร การตรวจหาเชื้อ H.Pylori เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทราบต้นตอก่อนเกิดอาการรุนแรง ซึ่งปัจจุบันสามารถทำการตรวจได้หลายวิธี การตรวจวินิจฉัยเชื้อทางลมหายใจที่เรียกว่า “Urea Breath Test หรือ การเป่าลมหายใจและวัดหาระดับยูเรีย” เป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว ความแม่นยำสูง ( ความไว 88-95% ) และไม่ก่อให้เกิดการเจ็บตัว ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดแผลในกระเพาะอาหารซ้ำ และการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารโรคแผลในกระเพาะจากเชื้อเอชไพโลไร (H.Pylori) นับเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายคน ในบางรายรักษาเท่าไหร่ก็ยังไม่หาย หรือบางรายก็ไม่ทราบว่าตัวเองได้รับเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) ซึ่งความน่ากลัวของเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) สามารถเกาะเกี่ยวตัวเองไว้กับเยื่อบุผิวกระเพาะอาหาร และสามารถอยู่ในกระเพาะอาหารนานนับ 10 ปี โดยไม่แสดงอาการใดๆสิ่งที่จะเสริมการรักษาโรคแผลในกระเพาะจากเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารแนะนำ คือการเสริมโปรไบโอติกส์ (Probiotic) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารแนะนำว่า การใช้พรีไบโอติกส์และโปรไบโอติกส์ร่วมกัน สามารถให้ผลทั้งในแง่ของการป้องกันและรักษาโรคในทางเดินอาหารได้ ทั้งยังมีความความปลอดภัยสูง และรับประทานได้ในระยะยาวโดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ในข้อมูลทางการแพทย์จุลินทรีย์สายพันธุ์เฉพาะอย่างโปรไบโอติกส์ ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพและบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ แบบเจาะจง โดยเฉพาะโรคแผลในกระเพาะอาหารจากแบคทีเรียโดยเฉพาะโปรไบโอติกส์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Lactobacillus acidophilus LA-5 และ Bifidobacterium lactis BB-12 สามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (H.Pyroli) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคในกระเพาะอาหารที่เป็นสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหารจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และยังช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ รวมทั้งช่วยปรับความถี่และความรุนแรงของการบีบตัวของลำไส้เล็ก ส่งผลดีต่อผู้ที่มีอาการปวดท้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในระบบทางเดินอาหาร และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของโรคแผลในกระเพาะอาหารจากแบคทีเรียได้อีกด้วยอาหารที่ดีในการบำบัดแผลในกระเพาะอาหารกล้วยดิบว่านหางจระเข้ทั้งสดและสกัดผักบุ้งสดมะละกอดิบ หรืออะไรก็ได้ที่มีความเป็นเมือกสูง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำPaa villSynbcPaa easeเกลือหิมาลัยด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr.Santi Manadee
    #HPylori มันคือสาเหตุการเกิด “โรคกระเพาะอาหาร” ทั้งยังสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) หรือ เอชไพโลไร (H.Pylori) เป็นแบคทีเรียประเภทที่พบได้บ่อยและใช่ มันเป็นโรคติดต่อที่ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยปกติแล้วแบคทีเรียจะเข้าสู่ปากและเข้าสู่ทางเดินอาหารเชื้อโรคอาจอาศัยอยู่ในน้ำลาย ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ผ่านการจูบ ออรัลเซ็กซ์ การพูดคุยขณะรับประทานอาหารร่วมกัน การพูดคุยกับแม่ค้าขณะตักอาหารให้ หรือแม้แต่การพูดคุยกับพนักงานเสิร์ฟถ้าพนักงานคนนั้นมีเชื้อนอกจากนี้ คุณสามารถติดเชื้อได้จากการปนเปื้อนอุจจาระในอาหารหรือน้ำดื่มแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการติดเชื้อ H. pylori จะไม่เป็นอันตราย แต่พวกมันมีส่วนทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารเป็นส่วนใหญ่ แผลเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหารH. Pylori พบได้บ่อยแค่ไหนเชื้อ H. pylori มีอยู่ประมาณร้อยละ 60 ของประชากรโลก การศึกษาในปี 2014 ในวารสาร Central European Journal of Urology แนะนำว่าผู้ที่ติดเชื้อ H. pylori มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์อาจมีแบคทีเรียอยู่ในปากและน้ำลาย และอาจเป็นสาเหตุของโรคท่อปัสสาวะอักเสบ การวิจัยยังพบว่า เชื้อ H. pylori อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายอย่าง รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหารและแผลในกระเพาะอาหารบางชนิด ในปี 2018 นักวิจัยรายงานว่า H. pylori อาจมีบทบาทในการพัฒนาโรคพาร์กินสันรายงานปี 2018 ในวารสาร Gastroenterology ระบุข้อกังวลอื่น: การดื้อต่อยาปฏิชีวนะของ H. pylori ทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากป้องกันการติดเชื้อ H. pyloriสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดีคือวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ การล้างมืออย่างทั่วถึงและบ่อยครั้งเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่ายิ่ง การรับประทานอาหารสุกใหม่ ไม่รับประทานอาหารค้างคืนหรือแม้แต่อาหารที่ปรุงตั้งไว้เกิน 3 ชั่วโมง ไม่ดื่มน้ำที่ไม่มั่นใจว่าสะอาดเพียงพออาการของผู้ติดเชื้อ H.Pyloriโดยปกติแล้ว ผู้ที่ติดเชื้อ H.Pylori มักจะไม่แสดงอาการ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่สังเกตได้ ดังนี้ปวดหรือแสบร้อนที่ท้องบริเวณเหนือสะดือปวดรุนแรงเมื่อท้องว่างหรือหลังจากรับประทานอาหารคลื่นไส้ อาเจียนจุกเสียดลิ้นปี่ท้องอืด เรอบ่อยเบื่ออาหารน้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ในรายที่มีอาการอักเสบรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เร่งด่วนซึ่งจะมีอาการ ดังนี้ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย หรือมีเลือดและกลิ่นรุนแรงปวดท้องรุนแรง เรื้อรังอาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีน้ำตาลคล้ำ H.Pylori สามารถแฝงอยู่ในร่างกายนานเป็น 10 ปี โดยแทบไม่แสดงอาการ เสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมากถึง 2-6 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติที่ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกจัดให้เชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหารดังนั้นการกำจัดเชื้อ Helicobacter Pylori จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร การตรวจหาเชื้อ H.Pylori เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทราบต้นตอก่อนเกิดอาการรุนแรง ซึ่งปัจจุบันสามารถทำการตรวจได้หลายวิธี การตรวจวินิจฉัยเชื้อทางลมหายใจที่เรียกว่า “Urea Breath Test หรือ การเป่าลมหายใจและวัดหาระดับยูเรีย” เป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว ความแม่นยำสูง ( ความไว 88-95% ) และไม่ก่อให้เกิดการเจ็บตัว ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดแผลในกระเพาะอาหารซ้ำ และการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารโรคแผลในกระเพาะจากเชื้อเอชไพโลไร (H.Pylori) นับเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายคน ในบางรายรักษาเท่าไหร่ก็ยังไม่หาย หรือบางรายก็ไม่ทราบว่าตัวเองได้รับเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) ซึ่งความน่ากลัวของเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) สามารถเกาะเกี่ยวตัวเองไว้กับเยื่อบุผิวกระเพาะอาหาร และสามารถอยู่ในกระเพาะอาหารนานนับ 10 ปี โดยไม่แสดงอาการใดๆสิ่งที่จะเสริมการรักษาโรคแผลในกระเพาะจากเชื้อเอชไพโลไร (H. Pylori) ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารแนะนำ คือการเสริมโปรไบโอติกส์ (Probiotic) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารแนะนำว่า การใช้พรีไบโอติกส์และโปรไบโอติกส์ร่วมกัน สามารถให้ผลทั้งในแง่ของการป้องกันและรักษาโรคในทางเดินอาหารได้ ทั้งยังมีความความปลอดภัยสูง และรับประทานได้ในระยะยาวโดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ในข้อมูลทางการแพทย์จุลินทรีย์สายพันธุ์เฉพาะอย่างโปรไบโอติกส์ ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพและบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ แบบเจาะจง โดยเฉพาะโรคแผลในกระเพาะอาหารจากแบคทีเรียโดยเฉพาะโปรไบโอติกส์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Lactobacillus acidophilus LA-5 และ Bifidobacterium lactis BB-12 สามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (H.Pyroli) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคในกระเพาะอาหารที่เป็นสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหารจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และยังช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ รวมทั้งช่วยปรับความถี่และความรุนแรงของการบีบตัวของลำไส้เล็ก ส่งผลดีต่อผู้ที่มีอาการปวดท้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในระบบทางเดินอาหาร และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของโรคแผลในกระเพาะอาหารจากแบคทีเรียได้อีกด้วยอาหารที่ดีในการบำบัดแผลในกระเพาะอาหารกล้วยดิบว่านหางจระเข้ทั้งสดและสกัดผักบุ้งสดมะละกอดิบ หรืออะไรก็ได้ที่มีความเป็นเมือกสูง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำPaa villSynbcPaa easeเกลือหิมาลัยด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr.Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูข่าว กมท. รัฐสภา ฟังแล้วเหนื่อย แต่ไม่ท้อ ที่ตามให้กำลังใจ

    ปัญหาคนที่ไม่พยายามเข้าใจ แต่มีอำนาจในตำแหน่ง ปัญหานี้เกิดได้กับทุกที่ คนไม่รู้ ไม่กล้าตัดสินใจ แต่มีอำนาจ

    1) ผลชันสูตร ไม่เขียนเกี่ยวกับศีรษะ
    2) ใบผักบุ้งที่ผมและแผ่นหลัง และเลนดำ
    3) เทียบสัญญาณ gps
    4) ภาพไม่มีสถานที่ ในขณะที่ภาพอื่นมี ภาพไม่มีตุ้มหู

    และที่ผู้เชี่ยวชาญจะขอหลักฐานแต่ยังไม่มีอำนาจ

    โทรศัพท์ไปแถวร้านซ่อมมือถือ แล้วไปได้อย่างไร แล้วใกล้โรงพักแค่ไหน
    นี่หรือไม่มีหลักฐานใหม่
    ดูข่าว กมท. รัฐสภา ฟังแล้วเหนื่อย แต่ไม่ท้อ ที่ตามให้กำลังใจ ปัญหาคนที่ไม่พยายามเข้าใจ แต่มีอำนาจในตำแหน่ง ปัญหานี้เกิดได้กับทุกที่ คนไม่รู้ ไม่กล้าตัดสินใจ แต่มีอำนาจ 1) ผลชันสูตร ไม่เขียนเกี่ยวกับศีรษะ 2) ใบผักบุ้งที่ผมและแผ่นหลัง และเลนดำ 3) เทียบสัญญาณ gps 4) ภาพไม่มีสถานที่ ในขณะที่ภาพอื่นมี ภาพไม่มีตุ้มหู และที่ผู้เชี่ยวชาญจะขอหลักฐานแต่ยังไม่มีอำนาจ โทรศัพท์ไปแถวร้านซ่อมมือถือ แล้วไปได้อย่างไร แล้วใกล้โรงพักแค่ไหน นี่หรือไม่มีหลักฐานใหม่
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มีน้ำพริกหนุ่ม ปีกไก่ทอด ผัดกะเพราไก่ ลวกผักบุ้ง
    วันนี้มีน้ำพริกหนุ่ม ปีกไก่ทอด ผัดกะเพราไก่ ลวกผักบุ้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวม ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่ -UPDATED

    สวนอาหารเหนือ---------------------
    -กิตติพานิช (LANNA CUISINE)ถ.ท่าแพ
    https://maps.app.goo.gl/EejkcZVTDvquy3T67
    ร้านอาหารคุณภาพสูง ระดับโลก MICHELIN GUIDE
    น้ำพริกอ่อง(ชุด) 170.-น้ำพริกหนุ่ม 170.-ตำบ่าหนุน 190.-แอ๊บปลาทับทิม 450.-ฮังเลหมู290.-ผักกาดจอ 280.-
    ยำผักชีไก่ย่าง 210.-ข้าวซอย 260.-ยำใบชาหมัก 190.-
    ต้มจิ๊นลุง 190.- ไก่อุ๊ก 290.-ส้มตำกิติพานิช 190.-

    -เฮือนม่วนใจ๋ เลยข้าวซอยแม่สายไปน่อยเดียว
    https://maps.app.goo.gl/r2f9S55zxBXTb1r16
    ☝️ เชฟจรัล MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024
    และ ได้ MICHELIN BIB GOURMAND ข้าวซอยไก่ 65.- ข้าวซอยเนื้อ 85.-
    ขนมจีนน้ำเงี้ยว50.- ไส้อั่ว 80.- ออเดิฟเมือง 250.- น้ำพริกอ่อง 80.-.....

    -เฮือนใจ๋ยอง ใกล้วัดป่าตาล อ.สันกำแพง
    https://maps.app.goo.gl/vKTwR7P7JJsfZHwE7
    อาหารเหนือ ที่ ได้ MICHELIN แหมฮ้านนึ่งแต๊ๆ..กิ๋นบนเฮือน
    ปูอ่อง70.- ข้าวเหนียวดำ+ส้าผักกาดน้อย60.-จิ้นส้มหมกธรรมดา60.- แกงตูนปลาช่อน120.- น้ำพริกหนุ่ม+หมูทอด120.-ตำบ่าหนุน60.-ไส้อั่ว70.- กินกับข้าวเหนียวนิล(ออร์แกนิค)ที่นึ่งด้วยไอน้ำ ทำให้เมล็ดเต่งตึง อร่อย(ลำ)แต๊ๆ..เจ้า

    -ครัวหลองข้าว By.Eve's Cuisine(แม่ริม) MICHELIN 2022
    https://maps.app.goo.gl/wQBNGnnW3tiAzoiD7
    ลาบหมูคั่ว*90.- แกงฮังเล*100.-ยำเชียงดากรอบ*90.-
    แกงผักปลังใส่จิ้นส้ม90.- จิ้นส้มหมก50.-จิ้นแดงทอด90.-
    ตำส้มโอน้ำปู๋70.-แกงผักบุ้งใส่ปลา90.- ราคาไม่แพง


    -ครัวเพชรดอยงาม รางวัล MICHELIN PLATE ถ.มหิดล
    https://maps.app.goo.gl/K5EGYU85rNFERBcEA
    แกงน้ำไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ผัดไข่ผักเชียงดา
    ลาบหมูคั่ว 120.- แกงฮังเล 150.- ยำสมุนไพร 150.- ออเดิฟ 220.-
    -ลำดี ตี้ ขัวแดง MICHELIN PLATE อ.สันทราย
    ร้านนี้เมนูมากมาย อร่อยทุกเมนู
    -ฮ้านถึงเจียงใหม่ @CHIANGMAI2009 (09.00-21.00น.)
    มี 2 สาขา ซอยวัดอุโมงค์ และ แม่ริม อาหารเหนือทุกแบบ(รสกลางๆ..ไม่เผ็ด)
    บริการนักศึกษาราคาไม่แพง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว ผัดเห็ดถอบ

    -เฮือนสุนทรี เวชานนท์ ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์=ราคาไม่แพง
    https://maps.app.goo.gl/nT1kWptSULxuAfXY9
    แกงอ่อมไก่ ลาบคั่ว แหนมผัดวุ้นเส้น แกงอ่อมไก่

    -คุ้มขันโตก +การแสดง หัวละ 699.-
    https://maps.app.goo.gl/VvcvAgufqRprojvx9

    -ครัวป้าอ้อย☝️(เจ๊ไฝ แห่ง เชียงใหม่)MICHELIN
    https://maps.app.goo.gl/FGbyKJ3uazWowrjV9
    ปูนิ่มทอดกระเทียม ข้าวหมูกรอบทอดกระเทียม ขนมปังหน้าหมู ข้าวทะเลผัดผงกะหรี่

    -ร้านก่องข้าวเมือง
    https://maps.app.goo.gl/8AmXYKPgZCUasVKb9
    ไก่นึ่งสมุนไพร และ ☝️ไส้อั่ว✅(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน)
    แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50
    ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150

    -นายข้าวนึ่ง รสแบบบ้านๆแท้ อ.สันกำแพง
    https://maps.app.goo.gl/7XSGfawBTaFvEmEU6
    เชียงดาไข่มดแดง80.-คั่วไก่สูตรพะเยา70.-จิ้นส้มหมก40.-
    คั่วเห็ดถอบใส่ใบมะขาม☝️90.-จอผักกาด70.-

    -ป้าแดงจิ้นตุ๊บ (เปิดบ่ายสาม) อ.สันทราย
    https://maps.app.goo.gl/f6VR8jqR5G3ZoTnw7
    จิ้นตุ๊บ หมูตุ๊บ ต้มแซ่บ ต้มขม จี้นส้ม แอ๊บอ่องออ


    อาหารไทย-ตามสั่ง----------------------

    -ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ
    https://maps.app.goo.gl/bdhyoch6naVxWZae6
    สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.)
    ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150
    ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65
    ทะเลคั่วพริกเกลือ 150

    -ครัวอาจารย์สายหยุด & หมอทราย
    https://maps.app.goo.gl/B3dx6ptiLeVM26GbA
    อาหารไทยชาววัง หรูหรา อาหารอร่อย กินง่าย

    -ส้มตำอุดร ซ.ทานตะวัน ตรงข้ามรพ.มหาราช
    https://maps.app.goo.gl/qXTGjmD2D4BrRwFr5
    ตำข้าวโพด คอหมูย่าง หมูแดดเดียว ข้าวมันไก่...

    -ครัว พ.เพียง ซอยข้างร้านสุกี้ช้างเผือก มช.
    https://maps.app.goo.gl/KRC4H32sv5XgasPG9
    แกงส้มกุ้งชะอม แกงเผ็ดเป็ดย่าง ยำถัวพู ผัดไทยกุ้ง

    -เฮ้ดแซ่บตามสั่ง
    https://maps.app.goo.gl/JtnhQT2GzG6ycnun7
    ข้าวผัดต้มยำ กะเพราปลาดุก
    หมูกรอบคั่วพริกเกลือ กุ้งซ๊อสมะขาม

    -ร้านอาหารอิสาน ครัวคำแพง (แม่โจ้)
    https://maps.app.goo.gl/1WH9f2AouFAjUqR88


    -บี่เฮียงโภชนา-หนองป่าครั่ง
    https://maps.app.goo.gl/ChcLrPPMNMYAJUfy9
    หมูกรอบ มาม่าผัดนรกหมูกรอบ มาม่ากระเพราหมูสับ
    กุ้งอบวุ้นเส้น หมูกรอบผัดพริกเกลือ ปลากระพงทอดน้ำปลา

    อาหารจีน-----------------------------

    -เหม่ยเจียง***(เชียงใหม่แลนด์) ร้านเล็กๆ หรู สไตล์ฮ่องกง
    https://maps.app.goo.gl/A3PvK3swNQHa52Ji8
    อาหารคุณภาพดี +อร่อยทุกอย่าง ไม่เคยผิดหวัง

    -เลิศรส**(ใต้ร่มเฟือง)
    https://maps.app.goo.gl/wJpD664CW7PMNNry6
    กุ้งผัดเกลือ กรรเชียงปู กุ้งอบวุ้นเส้นแห้ง หมึกไข่นึ่งมะนาว

    -เอกทิพย์โชคดี
    https://maps.app.goo.gl/ztTEDLFcsyhDTRCB8
    กระเพาะปลาน้ำแดง ออส่วนกระทะร้อน ผัดเต้าหู้ คั่วไก่

    -เล้งติ่มซำ
    https://maps.app.goo.gl/67HNMzhzifihFayLA
    ขนมจีบกุ้ง,ฮะเก๋า,ขาไก่อบเต้าซี่,ซี่โครงอบซอส,
    ถุงทอง กุ้งห่อฟองเต้าหู้ทอด,ปลาสามรส,*กุ้งสามรส,ปอเปี๊ยะสดปู

    -Hua lin เป็นร้านอาหารจีนไต้หวัน บริการดี
    https://maps.app.goo.gl/GzmpSRrhRMQPwPD58
    บะหมี่เส้นนุ่มหนึบอร่อย น้ำซุปเข้มข้น เนื้อเปื่อยนุ่มอร่อย เกี๊ยวซ่าทอดชิ้นใหญ่
    ไส้หมูกับกุ้งกรอบนอกนุ่มใน เสี่ยวหลงเปาอร่อยมาก ราคาไม่แพงด้วย

    -YANGZI JIANG ก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์
    https://maps.app.goo.gl/zgQZtf39Brp7FvAR7

    -บ้านสวนเจ็ดยอด โฮม แอนด์ การ์เด้น (ภัตตาคารซั่งไห่หลง)
    https://maps.app.goo.gl/dfN8mH5AxHkVQGdt9
    แนะนำ สเต๊กฮ่องกงยอดผัก

    -ภัตตาคารเจี่ยท่งเฮง ศรีดอนไชย
    https://maps.app.goo.gl/uUbWHpi8BGkxvCd19
    ปลาชิกคักนึงบ๊วย และ ปลาญวนปั้วเจียงจื้อ

    -ภัตตาคารตูลู่ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เชฟจากจีน
    https://maps.app.goo.gl/Pgu9PG7KxkCQzgsN8
    แนะนำ ไก่เศรษฐี ต้องสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน

    -วิกุลพานิช ซาลาเปาอร่อย(สันป่าย่อย)
    https://maps.app.goo.gl/4yJvuyU3Me9W32dDA

    ลาบเมือง------------------------------

    -ร้านลาบพันแหวน
    https://maps.app.goo.gl/8wdbefvM47MhLQsL6
    ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว
    น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย

    -ลาบดีขม ข่วงสิงห์(คนยอง) ต้องไปเช้าๆ สาย(หมด)
    https://maps.app.goo.gl/rqeG4jxj6kzhTwMa6
    ที่แย่งกันซื้อ คือ จิ้นส้มหมก✅(ต้องสั่งจองล่วงหน้า)☝️
    มาเมืองเหนือต้องไม่พลาด มากินลาบที่ร้านนี้ ไม่ผิดหวัง

    -ลาบบังเก้อร์ จานละ 10บาท(รวด) อาหารเหนือ
    https://maps.app.goo.gl/Ldcc5hVkdDEyzEv59

    -จ่าเหลาหมูทอด(ลำพูน)อนุสาวรีย์จามเทวี
    https://maps.app.goo.gl/Ariy67JRgpFTfF42A

    ข้าวซอย & น้ำเงี้ยว------------------

    -ข้าวซอยแม่มณี☝️(สาขาแรก)แม่ริม❌ปิดวันพระ❌
    https://maps.app.goo.gl/tbNCGo7tkzzxaxPAA
    MICHELIN BIB GOURMAND=ร้านอร่อยคุ้มค่า
    เส้นหนา หนึบ กะทิข้น+หอมเครื่องแกง เค็ม เผ็ด

    -ข้าวซอยแม่มณี2 ริมซุปเปอร์เลยข่วงสิงห์
    https://maps.app.goo.gl/qWqiTUjF9iGkwNTbA

    -ข้าวซอยเสมอใจ ฟ้าฮ่าม☝️จอดรถในวัดฟ้าฮ่าม
    https://maps.app.goo.gl/3WjaAvCPbFM8zQ9K7

    -ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม-ร้านแรกต้นตำรับ ๒๔๘๖
    https://maps.app.goo.gl/ZoRNsSb2XLVQEUWo6
    MICHELIN PLATE 2020 2021 2022 2023
    หมู ไก่ เนื้อ 55.-

    -ข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว
    https://maps.app.goo.gl/rv7saTDm9NT1TcaeA
    MICHELIN PLATE 2021 2022 2023 2024
    ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศเข้มข้น
    เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน

    -ข้าวซอยพรรณี ร้านข้าวซอยบ้านๆ อยู่ข้างกาดขะจาว
    https://maps.app.goo.gl/Vf5KJsWRjRqDaTk87
    ใช้เส้นเส้นสด แกงกะทิแตกมัน รสกะทิเจ้มจ้น หอมกลิ่นเครื่องแกง

    -ข้าวซอยลุงประกิจกาดก้อม☝️NetFlix+MICHELIN2023-24
    https://maps.app.goo.gl/Dcw41hFBQqWsfbuB9
    น้ำรสเข้มข้น(มาก)เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ
    มีข้าวมันไก่ด้วย
    -สาขา CMED FOOD COURT รพ.สวนดอก
    https://maps.app.goo.gl/gkdcJiWVcfiEMSqf9

    -Khao SO-i ถนนฟ้าฮ่าม
    https://maps.app.goo.gl/8iGxH25Tb6N1ixjv7
    ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน
    เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์
    (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด

    -ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17
    https://maps.app.goo.gl/EkZBw31MQAYyxMMSA
    แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น

    -ขนมจีนสันป่าข่อย☝️ ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก
    https://maps.app.goo.gl/wogQfzLsVtv3YZ9p6
    MICHELIN BIB GOURMAND 5 ปีซ้อน
    2020 2021 2022 2023 2024
    มิชลิน 5 ปีซ้อน ในราคาถูก 10-20-30บาท
    จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก
    น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่
    แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์)

    -ร้านขนมจีนพี่เล็ก ในศูนย์อาหาร CENTRAL AIRPORT
    https://maps.app.goo.gl/zesZbqQdxTSjm6gp6
    ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ขนมจีนน้ำยาป่า รสเข้มข้น
    ราคาไม่แพง 30-50 บาท

    -กิ๋นลำ น้ำเงี้ยว ร้านอยู่ใต้หอพักภูสักทอง ถ.สุเทพ
    https://maps.app.goo.gl/tQkpx8uVCiLFgKNo6
    เปิด 10.30น. น้ำเงี้ยวร้านนี้เป็นสูตรเชียงราย(เส้นใหญ่)
    เชียงใหม่(ขนมเส้น) เครื่องแน่น มีดอกงิ้ว รสจัด (30-40)

    -ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยวเชียงแสน(บ้านน้ำเงี้ยวเวียงเก่า)
    https://maps.app.goo.gl/gHS7fEDKCsYcnKmt6
    น้ำเงี้ยวสไตล์เชียงราย เข้มข้น เผ็ดเค็ม นัว เหน่อ บีบมะนาว+
    โรยพริกแห้งคั่วอร่อย ทานคู่แค้บหมูผักดอง อร่อยมาก เส้นนุ่มลื่น

    สุกี้---------------------------------

    -สุกี้ช้างเผือก☝️ คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.)
    https://maps.app.goo.gl/M7Y2SqC9Rs3W4RXw7
    สาขา 1 ถนนสุเทพ หลัง ม.เชียงใหม่
    https://maps.app.goo.gl/MwEsr6UGJAHJSKPDA
    สาขา2 สี่แยกสนามบิน
    https://maps.app.goo.gl/NKVpW2rjuM1xVzKD7
    สาขา3 กรีนพาร์ค -Central Festival
    https://maps.app.goo.gl/HEp8RUbVuRPUefk37

    ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ***

    เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อ59.-ผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่
    ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก
    หมู 59.-ทะเล69.- และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี

    -บัวลอยไข่หวาน เจ๊ซ้วง☝️
    https://maps.app.goo.gl/gRWJnzCXHpa3rgTPA

    -ติ๋มสุกี้-จานร้อน(วัดเกตุ)
    https://maps.app.goo.gl/9ipYQhwkHZDJ6GZn8
    ☝️กระเพรา ผัดน้ำมันหอย ผัดฉ่า เตี๋ยวคั่วไก่

    -คั่วไก่นิมมาน กะทะร้อน 80.-
    https://maps.app.goo.gl/6Rca327koUYXdjer8
    ข้าวผัดเดอเมือง 160.- ข้าวเงี๊ยว 60.-

    -มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง)
    https://maps.app.goo.gl/9txTe5mxym6JVtCs5


    ก๋วยเตี๋ยว--------------------------

    -ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น☝️ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย
    https://maps.app.goo.gl/ysqKA4JnrU5cPoWy8
    MICHELIN 2020 2021 2022 2023 (07.00-17.00น.)
    ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด
    ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา
    ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ
    เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู
    ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ
    ข้าวหมูกรอบ

    -ก๋วยเตี๋ยวเรือธารา(สวนดอก)ซ.สิโรรส ใกล้ Papa Curry
    https://maps.app.goo.gl/sSctHbtSKg3Yj9m69

    -ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง สาขาGlobal House เวียงกุมกาม
    หน้าตาดี ใส่ปลาหมึกแห้ง..อร่อย ไม่แพง
    https://maps.app.goo.gl/yEG9UGTsrJKrFx6p6

    -ครัวป้าหมอน ลุงชัย ย่านสันติธรรม ถ.กระดังงา
    ร้านเล็กๆ..แต่ พาใครไป ต้องยกนิ้วให้เรื่องความอร่อย
    👍เล็กรวมหมูต้มยำ👍อร่อยสุด
    โทร 053 998555. 085-717 4139
    https://maps.app.goo.gl/FYyTwxjeEPMQnjKN8

    -โกยซีหมี่ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า(หม้อดิน)นครปฐมโอชา
    ข้างโรงแรมดิเอ็มเพรส หรือ ถนนเจริญประเทศ ซอย 12
    https://maps.app.goo.gl/gyWYzsn3kdmVDBzN8

    -ก๋วยเตี๋ยวเรือเข้าท่าอยุธยา เจ็ดยอด 20บาท
    https://maps.app.goo.gl/UKyrPE74iBeJevWw8
    ทั้งหมูและเนื้ออร่อยทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ รสจัดจ้าน

    -ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท นายพล ศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ 6.30-15.00
    https://maps.app.goo.gl/iqcmzVDUCS7EgNN27

    -ก๋วยเตี๋ยวทองหล่อ (09.00-16.00น.) ตัมยำสูตรโบราณ
    https://maps.app.goo.gl/DAzgue3THgjnUXPC6
    ซุปหมูปุยเมฆต้มยำ ต้นตำรับ พศ.๒๔๙๙ แซ่บ..เว่อร์

    -จ๊ะเอ๋(เช้า) เลือดหมูจิงจูฉ่าย ตรงข้ามเชียงอินน์
    https://maps.app.goo.gl/Nqph9VxcvUuxhUvP7

    -อ๋องทิพย์รส เตี๋ยวลูกชิ้นปลาหัวนม 45.-
    https://maps.app.goo.gl/hxXe1w2Y2N3JupdXA

    -หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง)
    https://maps.app.goo.gl/TNWh2RHYtpBurEvA7
    โทร 097 956 9542

    -ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม
    https://maps.app.goo.gl/dv85iCpRVidx5JJ2A
    หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย

    -บะหมี่ซุปกระดูกรสเด็ด(เฮียดาว)9.00-18.00น.
    https://maps.app.goo.gl/M6NLDGZ4BbeTFWvs9
    ติดตลาดแม่เหียะ มีต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย หมูบะช่อ
    ข้าวต้มปลา บะหมี่เกี๊ยว+ก๋วยเตี๋ยว
    ข้าวหมูแดง หมูกรอบ *ข้าวผัดพริกเกลือ*

    -ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง
    https://maps.app.goo.gl/HoMzH9sMgY2QFBTg7
    ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่)
    เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง
    สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่
    ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท

    -ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท ในตำนานหลังโรงเรียนปริ้นส์
    https://maps.app.goo.gl/xJhdW7uCmhpj2vXY9
    ปัจจุบัน กินชามใหญ่ 10 บาท x 5 ชามน่าจะอิ่ม

    -เตี๋ยวไก่ล้านปากหวาน
    กาดธานินทร์ (เปิด06.00-22.00น.)
    https://maps.app.goo.gl/CLLSnsoaz2frMmrK7
    กาดหน้ามอชอ foodzone1 เปิด18.00-23.00 น

    -ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นสารภี MICHELIN PLATE
    เป็ดตุ๋น ข้าวหน้าเป็ดย่าง อร่อยเด็ด เนื้อเป็ดนุ่มแน่นและรสดี
    หนังกรอบนิดๆ ราดน้ำเป็ดหอมกรุ่น ให้ปริมาณค่อนข้างเยอะ
    https://maps.app.goo.gl/fnvruWP8UqHzyPR78

    ข้าวแกง--------------------------

    -โอ รสเด็ด(ฟ้าฮ่าม)เปิด 7โมงเช้า ขายข้าวแกง
    https://maps.app.goo.gl/zzdVgY3TKM9rtEzf9
    พะแนงเนื้อ30.- หมูอบ30.- แกงเนื้อ30.- เขียวหวานไก่20.- แกงไก่หน่อไม้20.- ผัดพริกแกงปลาดุก30.- ต้มข่าไก่20.- ไข่พะโล้30.-

    -จิวเยาวราช
    https://maps.app.goo.gl/wBQHJi6yvVJNyyL47
    ซี่โครงทอดกระเทียม 120.-ทอดมันปลากราย100.- *กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้*

    -PAPA CURRY ข้าวกะหรี่ญี่ปุ่น หอมจัด เครื่องเทศชัดเจน
    https://maps.app.goo.gl/Y3YydT7nbPjqes5v6
    ข้าวแกงกะหรี่ไก่ เนื้อ หมู ชีส มะเขือม่วง..สุดยอด

    กลางคืน-------------------------
    -ร้านข้าวต้มย้ง ถนนสุเทพ ใกล้วัดสวนดอก
    https://maps.app.goo.gl/yDc5oMGMciDp8SUC8

    -ศ.ศรีราชาข้าวต้มปลา(16.30-)
    https://maps.app.goo.gl/UriZyGWNYYyPAmQ99
    กะหล่ำผัดน้ำปลา70.- ปีกไก่ทอดน้ำปลา80.-
    ไข่เจียวหอยนางรม80.- ข้าวต้มหอยนางรม100.-

    - อันดา SEAFOODทะเลเผา329+หมูกระทะ199 บุปเฟ่ต์
    https://maps.app.goo.gl/h7HkcUn8EgksVuK56
    (17.00-23.00น.)มีของหวาน ไอติม ด้วย

    -เนื้อกระทะมุสลิม☝️ถ.เจริญเมืองติดปั๊มเชลล์
    https://maps.app.goo.gl/t6xkZ7KmRSdyPYbF8

    -เล็ก เกี๊ยวกุ้งสด ถ.ทิพยเนตร ใกล้คู ประตูสวนปรุง
    https://maps.app.goo.gl/FcAobVzwoTYUdosH8
    เกี๊ยวกุ้งน้ำหมูสับ 70.-บะหมี่เกี๊ยวกุ้งแห้งหมูแดง 80.-

    -ข้าวนึ่งไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง
    https://maps.app.goo.gl/sNW9uekXNvGTMoCc8
    ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม
    ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด

    -บะหมี่สามเหลือง ข้างกาดต้นพยอม👉บะหมีนักกล้าม
    https://maps.app.goo.gl/1DSJkMuiDFqCkGb7A

    -รังนก(17.00-22.30)ตรงข้ามเภสัช ธ.กรุงเทพ(สวนดอก)
    https://maps.app.goo.gl/KhPXfE2AV6xZ43in6

    -โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4
    https://maps.app.goo.gl/EUWCbgGUQwXWDKew8
    โรตีกรอบนอก-นุ่มในใช้น้ำมันมะพร้าว มีทั้ง โรตีใส่ไข่ ใส่นม มะดะบะ
    วิธีสั่ง เขียนออเด้อร์ในกระดาษ แล้วแปะไว้ ป้าเด..จะทำเรียงตามออเด้อร์

    -โรตีบรอดเวย์ แบบธรรมดา10.- แบบหมักเนยเล็ก30.-
    https://maps.app.goo.gl/GLPAAsYxFe2USMwH7

    -ข้าวเหนียวมะม่วงป้าหลอด กาดหลวง
    https://maps.app.goo.gl/X1jPWNTUWFnrw5Kh8

    -ขนมจีนสี่แยกกำแพงดิน 20.-
    https://maps.app.goo.gl/HncWFuTcSaFL3KvN9

    -หมี่กระดาษ ตลาดช้างเผือก
    https://maps.app.goo.gl/iqvNkQty1hva9E6U9

    -อาหารทอด ป้าฟรุตตี้ หอแพทย์สวนดอก 00.00-03.00
    https://maps.app.goo.gl/7ASTvGReJUfHUJw39

    ก๋วยจั๊บ---------------------------

    -ก๊วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ MICHELIN 3 ปีซ้อน 9.30-15.00น.
    https://maps.app.goo.gl/CJhdM8PLGYQcvpk98
    ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง "ก๋วยจั๊บไส้อั่ว☝️" เสิร์ฟในน้ำซุปถึงรสพริกไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ใส่หมูกรอบเครื่องใน และตับหมู และยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ "ข้าวหมูกรอบ" ปอเปี๊ยะสด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ ราดซอสหอมกรุ่น

    -อื้อ ชั่ง เซ้ง ขนมไข่..สด อร่อยมาก
    https://maps.app.goo.gl/wJAVsJjFuVEpfH6p9

    -ก๊วยจั๊บรินลองกอย☝️(หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ
    https://maps.app.goo.gl/pu7YCWCzeVzvnJi37
    ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท

    -ก๊วยจั๊บน้ำข้น สามกษัตริย์. เจ้าเก่า
    https://maps.app.goo.gl/kNA8JqV8BChcipiC8

    -น.ก๋วยจั๊บ ประตูท่าแพ เปิด8โมงเช้า(ช้า..หมด)
    https://maps.app.goo.gl/uiSqG7BD5r6h1isP6
    มี2อย่าง หมูกรอบล้วน, หมูกรอบเครื่องใน

    SNACKs----------------------------
    - ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา ตลาดต้นลำไย
    https://maps.app.goo.gl/uZoBbxZWjAun9YMK8
    (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20
    -ถั่วลายเสือซ่อนลาย
    -ข้าวเกรียบปากหม้อสาคูไส้หมู ลุงขจรวัดเกต
    https://maps.app.goo.gl/3uidZf8UqHQ4YY4N8

    -เนื้อสะเต๊ะใต้ต้นข่อย ไม้6.- ถ.ระแกง-ช้างคลาน
    https://maps.app.goo.gl/a9XnA3KJH3NNSxpC9
    ขายตอนเช้าๆ..ไม่เกิน 10โมงเช้า(หมด)อดกิน

    -กล้วยทอดบัตรคิว สันป่าข่อย
    https://maps.app.goo.gl/s7fpogip7hVqYq4A9
    กล้วยแขก ข้าวเม่าทอด ข้าวเหนียวปิ้ง

    ไส้กรอก---------------------------

    -ป้าใจ๋ ไส้กรอกข้าว☝️(3ลูก10)วันจันทร์แบบเปรี้ยว
    https://maps.app.goo.gl/w35qeaJsWgCw5Esc8

    -ไส้กรอกแม่อุดม (ริมปิง)อร่อยมาก เปรี้ยวกำลังดี
    https://maps.app.goo.gl/EMdgk1V5QXAJkmj3A
    ไส้กรอกหมู 18.-วุ้นเส้น18.-

    -ไส้กรอกคุณยายนิมมาน (กลางคืน)
    https://maps.app.goo.gl/jV2nrn6RDqWknz86A
    หมูธรรมดา15.-หมูเปรี้ยว15.-หมูเผ็ด15.- ข้าว+เอ็นไก่15.-
    ลาบไก่15.- ไส้อั่ว20.- ตับกระเทียม20.- ไส้อั่ว+ข้าวเหนียว20.-

    -ไส้อั่ว(ตับ)แม่อุไร สันกำแพง ลำแต๊ๆ..เจ้า.
    https://maps.app.goo.gl/9A3xWvrSQqhiUtww8
    โทรจอง(ล่วงหน้า) ไม่เกิน 10 โมงเช้า หมด..อดกินแน่นอน

    FARANG--------------------------

    -BOAT BAKERY☝️หน้าปากซอยบ้าน มีทุกอย่าง(อร่อย)
    https://maps.app.goo.gl/TdEwPvMCysJYAvem9

    -The LADER Cafe & Bar อาหาร-เช้า แนว..ออสซี่
    https://maps.app.goo.gl/ZtQamTohyWn5ab9L7
    แนะนำ เมนู Parmesan Scramble Eggs+Sourdough+ร๊อคเก็ต+Chorizo
    กินกับสลัดผัก The Larder Chef Salad และ แซนด์วิช Open Dandwich
    สะสมไขมันพอกตับด้วย Chocolate Chip Banana Bread

    หรือ จะสั่ง Lader Classic เลือก Sourdough/ White bread ได้
    ที่นี่มีเนย Echire Salted Butter ไซส์เล็ก 30 กรัม เพิ่ม 75.-
    เลือก ผักร๊อคเก็ต/ มะเขือเทศ/ Mixed และ Scrambled Eggs +Cheese ตัดเลี่ยนด้วย Strawberry +มะเดื่อ /มะม่วง เนื้อสัตว์นิยมสั่งเบคอนหนาๆ กินคู่กับ เม็ด Caperหอมๆ (ชุดใหญ่)นี้ราคารวม 450 บาท
    ร้านนี้ สั่ง(ชุดเล็ก) Prosciutto Salad 265 บาท

    -THE JOURSEY นมไขมันสูง ไอติม โยเกิร์ต คุณภาพสูง
    สุเทพ หลัง ม.เชียงใหม่
    https://maps.app.goo.gl/Gq9qc3NNDFWiF8gq6
    ก๋างเวียง
    https://maps.app.goo.gl/62vqZ9gTw21VoV4J7
    ไอติม 60-100 บาท. โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท

    -ADIRAK PIZZA วัดร่ำเปิง☝️พิซซ่าแป้งหมัก Sourdough
    https://maps.app.goo.gl/KsGsTtw3XjvEW8ps8
    วัตถุดิบต่างๆ Home Made ทำเอง เช่น Sauce,
    Mossarella Cheese, Burrata Cheese
    *แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ
    แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจากมะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้

    -ร้านเค็กบ้านเปี่ยมสุข
    https://maps.app.goo.gl/gLekr2sgm7wivBtG9
    แนะนำ *พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้นอร่อยที่สุดในโลก

    -ต้องตา & ตะวัน เบเกอรี่ ถนนมหิดลก่อนถึงเชียงใหม่แลนด์
    https://maps.app.goo.gl/DC2Bf5xaXTkZoG8C7

    -MERRY BON BON บิงซู(เกาหลี)ปุยเมฆ*แสนอร่อย
    https://maps.app.goo.gl/BJaK2w9Mz6MCCTCU7

    -Nymph(11.00-14.00และ 17.00-20.00)ปิดอังคาร
    https://maps.app.goo.gl/2biamCLuGt49MxoP7
    Smoked Duck & Orange Salad 260.-
    Mushroom Truffle Sauce Pasta 230.-
    Spicy Mentaiko with Scallop 445.-

    -KALM Tea House (ลำพูน) เลย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นิดเดียว
    https://maps.app.goo.gl/xP9KjNLUjUDCqXcy8

    -ร้านน้ำปั่น Joost สดชื่นราคาดี
    https://maps.app.goo.gl/e3h3EoRfrjJzhvb87

    -Helo COLA
    https://maps.app.goo.gl/41kBnHd9zL6hLVCFA
    หอมกลิ่นเครื่องเทศ อบเชย กระวาน กานพลู เม็ดผักชี ลูกจัน
    ขิง ผสมกับ ผิวส้ม เลม่อน +น้ำตาลธรรมชาติ
    Coffee Indian-Gooseberry COLA 90.--Craft COLA 65.-

    -Khao Fang นิ่มซิตี้ ใกล้ Robinson Airport Plaza
    https://maps.app.goo.gl/g3rbfSYvnUFshjv18
    Hong Kong Toast with Grilled Corn & Caramel 109.-
    Black Sesami Bualoy & Ginger Ale 80.-

    -ASAMA COFFEE โดย คุณมุก-อสมา วิชัยดิษฐ์
    https://maps.app.goo.gl/uiBieKNYuZq2mdXP6
    แนะนำ 1) Espresso Panna Cotta 2) Gravity(Dirty)

    -กาดหน้ามอ
    https://maps.app.goo.gl/DYNRnGTpjhakwoKK8
    เดินชมตลาดอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ
    แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต
    ............................................................

    รวบรวม โดย พัชรี ว่องไววิทย์
    December20, 2024
    San Francisco, CA94108.
    รวม ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่ -UPDATED สวนอาหารเหนือ--------------------- -กิตติพานิช (LANNA CUISINE)ถ.ท่าแพ https://maps.app.goo.gl/EejkcZVTDvquy3T67 ร้านอาหารคุณภาพสูง ระดับโลก MICHELIN GUIDE น้ำพริกอ่อง(ชุด) 170.-น้ำพริกหนุ่ม 170.-ตำบ่าหนุน 190.-แอ๊บปลาทับทิม 450.-ฮังเลหมู290.-ผักกาดจอ 280.- ยำผักชีไก่ย่าง 210.-ข้าวซอย 260.-ยำใบชาหมัก 190.- ต้มจิ๊นลุง 190.- ไก่อุ๊ก 290.-ส้มตำกิติพานิช 190.- -เฮือนม่วนใจ๋ เลยข้าวซอยแม่สายไปน่อยเดียว https://maps.app.goo.gl/r2f9S55zxBXTb1r16 ☝️ เชฟจรัล MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024 และ ได้ MICHELIN BIB GOURMAND ข้าวซอยไก่ 65.- ข้าวซอยเนื้อ 85.- ขนมจีนน้ำเงี้ยว50.- ไส้อั่ว 80.- ออเดิฟเมือง 250.- น้ำพริกอ่อง 80.-..... -เฮือนใจ๋ยอง ใกล้วัดป่าตาล อ.สันกำแพง https://maps.app.goo.gl/vKTwR7P7JJsfZHwE7 อาหารเหนือ ที่ ได้ MICHELIN แหมฮ้านนึ่งแต๊ๆ..กิ๋นบนเฮือน ปูอ่อง70.- ข้าวเหนียวดำ+ส้าผักกาดน้อย60.-จิ้นส้มหมกธรรมดา60.- แกงตูนปลาช่อน120.- น้ำพริกหนุ่ม+หมูทอด120.-ตำบ่าหนุน60.-ไส้อั่ว70.- กินกับข้าวเหนียวนิล(ออร์แกนิค)ที่นึ่งด้วยไอน้ำ ทำให้เมล็ดเต่งตึง อร่อย(ลำ)แต๊ๆ..เจ้า -ครัวหลองข้าว By.Eve's Cuisine(แม่ริม) MICHELIN 2022 https://maps.app.goo.gl/wQBNGnnW3tiAzoiD7 ลาบหมูคั่ว*90.- แกงฮังเล*100.-ยำเชียงดากรอบ*90.- แกงผักปลังใส่จิ้นส้ม90.- จิ้นส้มหมก50.-จิ้นแดงทอด90.- ตำส้มโอน้ำปู๋70.-แกงผักบุ้งใส่ปลา90.- ราคาไม่แพง -ครัวเพชรดอยงาม รางวัล MICHELIN PLATE ถ.มหิดล https://maps.app.goo.gl/K5EGYU85rNFERBcEA แกงน้ำไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ผัดไข่ผักเชียงดา ลาบหมูคั่ว 120.- แกงฮังเล 150.- ยำสมุนไพร 150.- ออเดิฟ 220.- -ลำดี ตี้ ขัวแดง MICHELIN PLATE อ.สันทราย ร้านนี้เมนูมากมาย อร่อยทุกเมนู -ฮ้านถึงเจียงใหม่ @CHIANGMAI2009 (09.00-21.00น.) มี 2 สาขา ซอยวัดอุโมงค์ และ แม่ริม อาหารเหนือทุกแบบ(รสกลางๆ..ไม่เผ็ด) บริการนักศึกษาราคาไม่แพง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว ผัดเห็ดถอบ -เฮือนสุนทรี เวชานนท์ ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์=ราคาไม่แพง https://maps.app.goo.gl/nT1kWptSULxuAfXY9 แกงอ่อมไก่ ลาบคั่ว แหนมผัดวุ้นเส้น แกงอ่อมไก่ -คุ้มขันโตก +การแสดง หัวละ 699.- https://maps.app.goo.gl/VvcvAgufqRprojvx9 -ครัวป้าอ้อย☝️(เจ๊ไฝ แห่ง เชียงใหม่)MICHELIN https://maps.app.goo.gl/FGbyKJ3uazWowrjV9 ปูนิ่มทอดกระเทียม ข้าวหมูกรอบทอดกระเทียม ขนมปังหน้าหมู ข้าวทะเลผัดผงกะหรี่ -ร้านก่องข้าวเมือง https://maps.app.goo.gl/8AmXYKPgZCUasVKb9 ไก่นึ่งสมุนไพร และ ☝️ไส้อั่ว✅(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน) แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50 ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150 -นายข้าวนึ่ง รสแบบบ้านๆแท้ อ.สันกำแพง https://maps.app.goo.gl/7XSGfawBTaFvEmEU6 เชียงดาไข่มดแดง80.-คั่วไก่สูตรพะเยา70.-จิ้นส้มหมก40.- คั่วเห็ดถอบใส่ใบมะขาม☝️90.-จอผักกาด70.- -ป้าแดงจิ้นตุ๊บ (เปิดบ่ายสาม) อ.สันทราย https://maps.app.goo.gl/f6VR8jqR5G3ZoTnw7 จิ้นตุ๊บ หมูตุ๊บ ต้มแซ่บ ต้มขม จี้นส้ม แอ๊บอ่องออ อาหารไทย-ตามสั่ง---------------------- -ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ https://maps.app.goo.gl/bdhyoch6naVxWZae6 สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.) ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150 ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65 ทะเลคั่วพริกเกลือ 150 -ครัวอาจารย์สายหยุด & หมอทราย https://maps.app.goo.gl/B3dx6ptiLeVM26GbA อาหารไทยชาววัง หรูหรา อาหารอร่อย กินง่าย -ส้มตำอุดร ซ.ทานตะวัน ตรงข้ามรพ.มหาราช https://maps.app.goo.gl/qXTGjmD2D4BrRwFr5 ตำข้าวโพด คอหมูย่าง หมูแดดเดียว ข้าวมันไก่... -ครัว พ.เพียง ซอยข้างร้านสุกี้ช้างเผือก มช. https://maps.app.goo.gl/KRC4H32sv5XgasPG9 แกงส้มกุ้งชะอม แกงเผ็ดเป็ดย่าง ยำถัวพู ผัดไทยกุ้ง -เฮ้ดแซ่บตามสั่ง https://maps.app.goo.gl/JtnhQT2GzG6ycnun7 ข้าวผัดต้มยำ กะเพราปลาดุก หมูกรอบคั่วพริกเกลือ กุ้งซ๊อสมะขาม -ร้านอาหารอิสาน ครัวคำแพง (แม่โจ้) https://maps.app.goo.gl/1WH9f2AouFAjUqR88 -บี่เฮียงโภชนา-หนองป่าครั่ง https://maps.app.goo.gl/ChcLrPPMNMYAJUfy9 หมูกรอบ มาม่าผัดนรกหมูกรอบ มาม่ากระเพราหมูสับ กุ้งอบวุ้นเส้น หมูกรอบผัดพริกเกลือ ปลากระพงทอดน้ำปลา อาหารจีน----------------------------- -เหม่ยเจียง***(เชียงใหม่แลนด์) ร้านเล็กๆ หรู สไตล์ฮ่องกง https://maps.app.goo.gl/A3PvK3swNQHa52Ji8 อาหารคุณภาพดี +อร่อยทุกอย่าง ไม่เคยผิดหวัง -เลิศรส**(ใต้ร่มเฟือง) https://maps.app.goo.gl/wJpD664CW7PMNNry6 กุ้งผัดเกลือ กรรเชียงปู กุ้งอบวุ้นเส้นแห้ง หมึกไข่นึ่งมะนาว -เอกทิพย์โชคดี https://maps.app.goo.gl/ztTEDLFcsyhDTRCB8 กระเพาะปลาน้ำแดง ออส่วนกระทะร้อน ผัดเต้าหู้ คั่วไก่ -เล้งติ่มซำ https://maps.app.goo.gl/67HNMzhzifihFayLA ขนมจีบกุ้ง,ฮะเก๋า,ขาไก่อบเต้าซี่,ซี่โครงอบซอส, ถุงทอง กุ้งห่อฟองเต้าหู้ทอด,ปลาสามรส,*กุ้งสามรส,ปอเปี๊ยะสดปู -Hua lin เป็นร้านอาหารจีนไต้หวัน บริการดี https://maps.app.goo.gl/GzmpSRrhRMQPwPD58 บะหมี่เส้นนุ่มหนึบอร่อย น้ำซุปเข้มข้น เนื้อเปื่อยนุ่มอร่อย เกี๊ยวซ่าทอดชิ้นใหญ่ ไส้หมูกับกุ้งกรอบนอกนุ่มใน เสี่ยวหลงเปาอร่อยมาก ราคาไม่แพงด้วย -YANGZI JIANG ก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์ https://maps.app.goo.gl/zgQZtf39Brp7FvAR7 -บ้านสวนเจ็ดยอด โฮม แอนด์ การ์เด้น (ภัตตาคารซั่งไห่หลง) https://maps.app.goo.gl/dfN8mH5AxHkVQGdt9 แนะนำ สเต๊กฮ่องกงยอดผัก -ภัตตาคารเจี่ยท่งเฮง ศรีดอนไชย https://maps.app.goo.gl/uUbWHpi8BGkxvCd19 ปลาชิกคักนึงบ๊วย และ ปลาญวนปั้วเจียงจื้อ -ภัตตาคารตูลู่ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เชฟจากจีน https://maps.app.goo.gl/Pgu9PG7KxkCQzgsN8 แนะนำ ไก่เศรษฐี ต้องสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน -วิกุลพานิช ซาลาเปาอร่อย(สันป่าย่อย) https://maps.app.goo.gl/4yJvuyU3Me9W32dDA ลาบเมือง------------------------------ -ร้านลาบพันแหวน https://maps.app.goo.gl/8wdbefvM47MhLQsL6 ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย -ลาบดีขม ข่วงสิงห์(คนยอง) ต้องไปเช้าๆ สาย(หมด) https://maps.app.goo.gl/rqeG4jxj6kzhTwMa6 ที่แย่งกันซื้อ คือ จิ้นส้มหมก✅(ต้องสั่งจองล่วงหน้า)☝️ มาเมืองเหนือต้องไม่พลาด มากินลาบที่ร้านนี้ ไม่ผิดหวัง -ลาบบังเก้อร์ จานละ 10บาท(รวด) อาหารเหนือ https://maps.app.goo.gl/Ldcc5hVkdDEyzEv59 -จ่าเหลาหมูทอด(ลำพูน)อนุสาวรีย์จามเทวี https://maps.app.goo.gl/Ariy67JRgpFTfF42A ข้าวซอย & น้ำเงี้ยว------------------ -ข้าวซอยแม่มณี☝️(สาขาแรก)แม่ริม❌ปิดวันพระ❌ https://maps.app.goo.gl/tbNCGo7tkzzxaxPAA MICHELIN BIB GOURMAND=ร้านอร่อยคุ้มค่า เส้นหนา หนึบ กะทิข้น+หอมเครื่องแกง เค็ม เผ็ด -ข้าวซอยแม่มณี2 ริมซุปเปอร์เลยข่วงสิงห์ https://maps.app.goo.gl/qWqiTUjF9iGkwNTbA -ข้าวซอยเสมอใจ ฟ้าฮ่าม☝️จอดรถในวัดฟ้าฮ่าม https://maps.app.goo.gl/3WjaAvCPbFM8zQ9K7 -ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม-ร้านแรกต้นตำรับ ๒๔๘๖ https://maps.app.goo.gl/ZoRNsSb2XLVQEUWo6 MICHELIN PLATE 2020 2021 2022 2023 หมู ไก่ เนื้อ 55.- -ข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว https://maps.app.goo.gl/rv7saTDm9NT1TcaeA MICHELIN PLATE 2021 2022 2023 2024 ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศเข้มข้น เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน -ข้าวซอยพรรณี ร้านข้าวซอยบ้านๆ อยู่ข้างกาดขะจาว https://maps.app.goo.gl/Vf5KJsWRjRqDaTk87 ใช้เส้นเส้นสด แกงกะทิแตกมัน รสกะทิเจ้มจ้น หอมกลิ่นเครื่องแกง -ข้าวซอยลุงประกิจกาดก้อม☝️NetFlix+MICHELIN2023-24 https://maps.app.goo.gl/Dcw41hFBQqWsfbuB9 น้ำรสเข้มข้น(มาก)เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ มีข้าวมันไก่ด้วย -สาขา CMED FOOD COURT รพ.สวนดอก https://maps.app.goo.gl/gkdcJiWVcfiEMSqf9 -Khao SO-i ถนนฟ้าฮ่าม https://maps.app.goo.gl/8iGxH25Tb6N1ixjv7 ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์ (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด -ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17 https://maps.app.goo.gl/EkZBw31MQAYyxMMSA แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น -ขนมจีนสันป่าข่อย☝️ ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก https://maps.app.goo.gl/wogQfzLsVtv3YZ9p6 MICHELIN BIB GOURMAND 5 ปีซ้อน 2020 2021 2022 2023 2024 มิชลิน 5 ปีซ้อน ในราคาถูก 10-20-30บาท จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่ แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์) -ร้านขนมจีนพี่เล็ก ในศูนย์อาหาร CENTRAL AIRPORT https://maps.app.goo.gl/zesZbqQdxTSjm6gp6 ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ขนมจีนน้ำยาป่า รสเข้มข้น ราคาไม่แพง 30-50 บาท -กิ๋นลำ น้ำเงี้ยว ร้านอยู่ใต้หอพักภูสักทอง ถ.สุเทพ https://maps.app.goo.gl/tQkpx8uVCiLFgKNo6 เปิด 10.30น. น้ำเงี้ยวร้านนี้เป็นสูตรเชียงราย(เส้นใหญ่) เชียงใหม่(ขนมเส้น) เครื่องแน่น มีดอกงิ้ว รสจัด (30-40) -ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยวเชียงแสน(บ้านน้ำเงี้ยวเวียงเก่า) https://maps.app.goo.gl/gHS7fEDKCsYcnKmt6 น้ำเงี้ยวสไตล์เชียงราย เข้มข้น เผ็ดเค็ม นัว เหน่อ บีบมะนาว+ โรยพริกแห้งคั่วอร่อย ทานคู่แค้บหมูผักดอง อร่อยมาก เส้นนุ่มลื่น สุกี้--------------------------------- -สุกี้ช้างเผือก☝️ คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.) https://maps.app.goo.gl/M7Y2SqC9Rs3W4RXw7 สาขา 1 ถนนสุเทพ หลัง ม.เชียงใหม่ https://maps.app.goo.gl/MwEsr6UGJAHJSKPDA สาขา2 สี่แยกสนามบิน https://maps.app.goo.gl/NKVpW2rjuM1xVzKD7 สาขา3 กรีนพาร์ค -Central Festival https://maps.app.goo.gl/HEp8RUbVuRPUefk37 ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ*** เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อ59.-ผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่ ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก หมู 59.-ทะเล69.- และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี -บัวลอยไข่หวาน เจ๊ซ้วง☝️ https://maps.app.goo.gl/gRWJnzCXHpa3rgTPA -ติ๋มสุกี้-จานร้อน(วัดเกตุ) https://maps.app.goo.gl/9ipYQhwkHZDJ6GZn8 ☝️กระเพรา ผัดน้ำมันหอย ผัดฉ่า เตี๋ยวคั่วไก่ -คั่วไก่นิมมาน กะทะร้อน 80.- https://maps.app.goo.gl/6Rca327koUYXdjer8 ข้าวผัดเดอเมือง 160.- ข้าวเงี๊ยว 60.- -มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง) https://maps.app.goo.gl/9txTe5mxym6JVtCs5 ก๋วยเตี๋ยว-------------------------- -ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น☝️ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย https://maps.app.goo.gl/ysqKA4JnrU5cPoWy8 MICHELIN 2020 2021 2022 2023 (07.00-17.00น.) ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ ข้าวหมูกรอบ -ก๋วยเตี๋ยวเรือธารา(สวนดอก)ซ.สิโรรส ใกล้ Papa Curry https://maps.app.goo.gl/sSctHbtSKg3Yj9m69 -ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง สาขาGlobal House เวียงกุมกาม หน้าตาดี ใส่ปลาหมึกแห้ง..อร่อย ไม่แพง https://maps.app.goo.gl/yEG9UGTsrJKrFx6p6 -ครัวป้าหมอน ลุงชัย ย่านสันติธรรม ถ.กระดังงา ร้านเล็กๆ..แต่ พาใครไป ต้องยกนิ้วให้เรื่องความอร่อย 👍เล็กรวมหมูต้มยำ👍อร่อยสุด โทร 053 998555. 085-717 4139 https://maps.app.goo.gl/FYyTwxjeEPMQnjKN8 -โกยซีหมี่ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า(หม้อดิน)นครปฐมโอชา ข้างโรงแรมดิเอ็มเพรส หรือ ถนนเจริญประเทศ ซอย 12 https://maps.app.goo.gl/gyWYzsn3kdmVDBzN8 -ก๋วยเตี๋ยวเรือเข้าท่าอยุธยา เจ็ดยอด 20บาท https://maps.app.goo.gl/UKyrPE74iBeJevWw8 ทั้งหมูและเนื้ออร่อยทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ รสจัดจ้าน -ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท นายพล ศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ 6.30-15.00 https://maps.app.goo.gl/iqcmzVDUCS7EgNN27 -ก๋วยเตี๋ยวทองหล่อ (09.00-16.00น.) ตัมยำสูตรโบราณ https://maps.app.goo.gl/DAzgue3THgjnUXPC6 ซุปหมูปุยเมฆต้มยำ ต้นตำรับ พศ.๒๔๙๙ แซ่บ..เว่อร์ -จ๊ะเอ๋(เช้า) เลือดหมูจิงจูฉ่าย ตรงข้ามเชียงอินน์ https://maps.app.goo.gl/Nqph9VxcvUuxhUvP7 -อ๋องทิพย์รส เตี๋ยวลูกชิ้นปลาหัวนม 45.- https://maps.app.goo.gl/hxXe1w2Y2N3JupdXA -หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง) https://maps.app.goo.gl/TNWh2RHYtpBurEvA7 โทร 097 956 9542 -ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม https://maps.app.goo.gl/dv85iCpRVidx5JJ2A หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย -บะหมี่ซุปกระดูกรสเด็ด(เฮียดาว)9.00-18.00น. https://maps.app.goo.gl/M6NLDGZ4BbeTFWvs9 ติดตลาดแม่เหียะ มีต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย หมูบะช่อ ข้าวต้มปลา บะหมี่เกี๊ยว+ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง หมูกรอบ *ข้าวผัดพริกเกลือ* -ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง https://maps.app.goo.gl/HoMzH9sMgY2QFBTg7 ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่) เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่ ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท -ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท ในตำนานหลังโรงเรียนปริ้นส์ https://maps.app.goo.gl/xJhdW7uCmhpj2vXY9 ปัจจุบัน กินชามใหญ่ 10 บาท x 5 ชามน่าจะอิ่ม -เตี๋ยวไก่ล้านปากหวาน กาดธานินทร์ (เปิด06.00-22.00น.) https://maps.app.goo.gl/CLLSnsoaz2frMmrK7 กาดหน้ามอชอ foodzone1 เปิด18.00-23.00 น -ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นสารภี MICHELIN PLATE เป็ดตุ๋น ข้าวหน้าเป็ดย่าง อร่อยเด็ด เนื้อเป็ดนุ่มแน่นและรสดี หนังกรอบนิดๆ ราดน้ำเป็ดหอมกรุ่น ให้ปริมาณค่อนข้างเยอะ https://maps.app.goo.gl/fnvruWP8UqHzyPR78 ข้าวแกง-------------------------- -โอ รสเด็ด(ฟ้าฮ่าม)เปิด 7โมงเช้า ขายข้าวแกง https://maps.app.goo.gl/zzdVgY3TKM9rtEzf9 พะแนงเนื้อ30.- หมูอบ30.- แกงเนื้อ30.- เขียวหวานไก่20.- แกงไก่หน่อไม้20.- ผัดพริกแกงปลาดุก30.- ต้มข่าไก่20.- ไข่พะโล้30.- -จิวเยาวราช https://maps.app.goo.gl/wBQHJi6yvVJNyyL47 ซี่โครงทอดกระเทียม 120.-ทอดมันปลากราย100.- *กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้* -PAPA CURRY ข้าวกะหรี่ญี่ปุ่น หอมจัด เครื่องเทศชัดเจน https://maps.app.goo.gl/Y3YydT7nbPjqes5v6 ข้าวแกงกะหรี่ไก่ เนื้อ หมู ชีส มะเขือม่วง..สุดยอด กลางคืน------------------------- -ร้านข้าวต้มย้ง ถนนสุเทพ ใกล้วัดสวนดอก https://maps.app.goo.gl/yDc5oMGMciDp8SUC8 -ศ.ศรีราชาข้าวต้มปลา(16.30-) https://maps.app.goo.gl/UriZyGWNYYyPAmQ99 กะหล่ำผัดน้ำปลา70.- ปีกไก่ทอดน้ำปลา80.- ไข่เจียวหอยนางรม80.- ข้าวต้มหอยนางรม100.- - อันดา SEAFOODทะเลเผา329+หมูกระทะ199 บุปเฟ่ต์ https://maps.app.goo.gl/h7HkcUn8EgksVuK56 (17.00-23.00น.)มีของหวาน ไอติม ด้วย -เนื้อกระทะมุสลิม☝️ถ.เจริญเมืองติดปั๊มเชลล์ https://maps.app.goo.gl/t6xkZ7KmRSdyPYbF8 -เล็ก เกี๊ยวกุ้งสด ถ.ทิพยเนตร ใกล้คู ประตูสวนปรุง https://maps.app.goo.gl/FcAobVzwoTYUdosH8 เกี๊ยวกุ้งน้ำหมูสับ 70.-บะหมี่เกี๊ยวกุ้งแห้งหมูแดง 80.- -ข้าวนึ่งไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง https://maps.app.goo.gl/sNW9uekXNvGTMoCc8 ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด -บะหมี่สามเหลือง ข้างกาดต้นพยอม👉บะหมีนักกล้าม https://maps.app.goo.gl/1DSJkMuiDFqCkGb7A -รังนก(17.00-22.30)ตรงข้ามเภสัช ธ.กรุงเทพ(สวนดอก) https://maps.app.goo.gl/KhPXfE2AV6xZ43in6 -โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4 https://maps.app.goo.gl/EUWCbgGUQwXWDKew8 โรตีกรอบนอก-นุ่มในใช้น้ำมันมะพร้าว มีทั้ง โรตีใส่ไข่ ใส่นม มะดะบะ วิธีสั่ง เขียนออเด้อร์ในกระดาษ แล้วแปะไว้ ป้าเด..จะทำเรียงตามออเด้อร์ -โรตีบรอดเวย์ แบบธรรมดา10.- แบบหมักเนยเล็ก30.- https://maps.app.goo.gl/GLPAAsYxFe2USMwH7 -ข้าวเหนียวมะม่วงป้าหลอด กาดหลวง https://maps.app.goo.gl/X1jPWNTUWFnrw5Kh8 -ขนมจีนสี่แยกกำแพงดิน 20.- https://maps.app.goo.gl/HncWFuTcSaFL3KvN9 -หมี่กระดาษ ตลาดช้างเผือก https://maps.app.goo.gl/iqvNkQty1hva9E6U9 -อาหารทอด ป้าฟรุตตี้ หอแพทย์สวนดอก 00.00-03.00 https://maps.app.goo.gl/7ASTvGReJUfHUJw39 ก๋วยจั๊บ--------------------------- -ก๊วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ MICHELIN 3 ปีซ้อน 9.30-15.00น. https://maps.app.goo.gl/CJhdM8PLGYQcvpk98 ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง "ก๋วยจั๊บไส้อั่ว☝️" เสิร์ฟในน้ำซุปถึงรสพริกไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ใส่หมูกรอบเครื่องใน และตับหมู และยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ "ข้าวหมูกรอบ" ปอเปี๊ยะสด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ ราดซอสหอมกรุ่น -อื้อ ชั่ง เซ้ง ขนมไข่..สด อร่อยมาก https://maps.app.goo.gl/wJAVsJjFuVEpfH6p9 -ก๊วยจั๊บรินลองกอย☝️(หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ https://maps.app.goo.gl/pu7YCWCzeVzvnJi37 ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท -ก๊วยจั๊บน้ำข้น สามกษัตริย์. เจ้าเก่า https://maps.app.goo.gl/kNA8JqV8BChcipiC8 -น.ก๋วยจั๊บ ประตูท่าแพ เปิด8โมงเช้า(ช้า..หมด) https://maps.app.goo.gl/uiSqG7BD5r6h1isP6 มี2อย่าง หมูกรอบล้วน, หมูกรอบเครื่องใน SNACKs---------------------------- - ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา ตลาดต้นลำไย https://maps.app.goo.gl/uZoBbxZWjAun9YMK8 (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20 -ถั่วลายเสือซ่อนลาย -ข้าวเกรียบปากหม้อสาคูไส้หมู ลุงขจรวัดเกต https://maps.app.goo.gl/3uidZf8UqHQ4YY4N8 -เนื้อสะเต๊ะใต้ต้นข่อย ไม้6.- ถ.ระแกง-ช้างคลาน https://maps.app.goo.gl/a9XnA3KJH3NNSxpC9 ขายตอนเช้าๆ..ไม่เกิน 10โมงเช้า(หมด)อดกิน -กล้วยทอดบัตรคิว สันป่าข่อย https://maps.app.goo.gl/s7fpogip7hVqYq4A9 กล้วยแขก ข้าวเม่าทอด ข้าวเหนียวปิ้ง ไส้กรอก--------------------------- -ป้าใจ๋ ไส้กรอกข้าว☝️(3ลูก10)วันจันทร์แบบเปรี้ยว https://maps.app.goo.gl/w35qeaJsWgCw5Esc8 -ไส้กรอกแม่อุดม (ริมปิง)อร่อยมาก เปรี้ยวกำลังดี https://maps.app.goo.gl/EMdgk1V5QXAJkmj3A ไส้กรอกหมู 18.-วุ้นเส้น18.- -ไส้กรอกคุณยายนิมมาน (กลางคืน) https://maps.app.goo.gl/jV2nrn6RDqWknz86A หมูธรรมดา15.-หมูเปรี้ยว15.-หมูเผ็ด15.- ข้าว+เอ็นไก่15.- ลาบไก่15.- ไส้อั่ว20.- ตับกระเทียม20.- ไส้อั่ว+ข้าวเหนียว20.- -ไส้อั่ว(ตับ)แม่อุไร สันกำแพง ลำแต๊ๆ..เจ้า. https://maps.app.goo.gl/9A3xWvrSQqhiUtww8 โทรจอง(ล่วงหน้า) ไม่เกิน 10 โมงเช้า หมด..อดกินแน่นอน FARANG-------------------------- -BOAT BAKERY☝️หน้าปากซอยบ้าน มีทุกอย่าง(อร่อย) https://maps.app.goo.gl/TdEwPvMCysJYAvem9 -The LADER Cafe & Bar อาหาร-เช้า แนว..ออสซี่ https://maps.app.goo.gl/ZtQamTohyWn5ab9L7 แนะนำ เมนู Parmesan Scramble Eggs+Sourdough+ร๊อคเก็ต+Chorizo กินกับสลัดผัก The Larder Chef Salad และ แซนด์วิช Open Dandwich สะสมไขมันพอกตับด้วย Chocolate Chip Banana Bread หรือ จะสั่ง Lader Classic เลือก Sourdough/ White bread ได้ ที่นี่มีเนย Echire Salted Butter ไซส์เล็ก 30 กรัม เพิ่ม 75.- เลือก ผักร๊อคเก็ต/ มะเขือเทศ/ Mixed และ Scrambled Eggs +Cheese ตัดเลี่ยนด้วย Strawberry +มะเดื่อ /มะม่วง เนื้อสัตว์นิยมสั่งเบคอนหนาๆ กินคู่กับ เม็ด Caperหอมๆ (ชุดใหญ่)นี้ราคารวม 450 บาท ร้านนี้ สั่ง(ชุดเล็ก) Prosciutto Salad 265 บาท -THE JOURSEY นมไขมันสูง ไอติม โยเกิร์ต คุณภาพสูง สุเทพ หลัง ม.เชียงใหม่ https://maps.app.goo.gl/Gq9qc3NNDFWiF8gq6 ก๋างเวียง https://maps.app.goo.gl/62vqZ9gTw21VoV4J7 ไอติม 60-100 บาท. โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท -ADIRAK PIZZA วัดร่ำเปิง☝️พิซซ่าแป้งหมัก Sourdough https://maps.app.goo.gl/KsGsTtw3XjvEW8ps8 วัตถุดิบต่างๆ Home Made ทำเอง เช่น Sauce, Mossarella Cheese, Burrata Cheese *แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจากมะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้ -ร้านเค็กบ้านเปี่ยมสุข https://maps.app.goo.gl/gLekr2sgm7wivBtG9 แนะนำ *พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้นอร่อยที่สุดในโลก -ต้องตา & ตะวัน เบเกอรี่ ถนนมหิดลก่อนถึงเชียงใหม่แลนด์ https://maps.app.goo.gl/DC2Bf5xaXTkZoG8C7 -MERRY BON BON บิงซู(เกาหลี)ปุยเมฆ*แสนอร่อย https://maps.app.goo.gl/BJaK2w9Mz6MCCTCU7 -Nymph(11.00-14.00และ 17.00-20.00)ปิดอังคาร https://maps.app.goo.gl/2biamCLuGt49MxoP7 Smoked Duck & Orange Salad 260.- Mushroom Truffle Sauce Pasta 230.- Spicy Mentaiko with Scallop 445.- -KALM Tea House (ลำพูน) เลย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นิดเดียว https://maps.app.goo.gl/xP9KjNLUjUDCqXcy8 -ร้านน้ำปั่น Joost สดชื่นราคาดี https://maps.app.goo.gl/e3h3EoRfrjJzhvb87 -Helo COLA https://maps.app.goo.gl/41kBnHd9zL6hLVCFA หอมกลิ่นเครื่องเทศ อบเชย กระวาน กานพลู เม็ดผักชี ลูกจัน ขิง ผสมกับ ผิวส้ม เลม่อน +น้ำตาลธรรมชาติ Coffee Indian-Gooseberry COLA 90.--Craft COLA 65.- -Khao Fang นิ่มซิตี้ ใกล้ Robinson Airport Plaza https://maps.app.goo.gl/g3rbfSYvnUFshjv18 Hong Kong Toast with Grilled Corn & Caramel 109.- Black Sesami Bualoy & Ginger Ale 80.- -ASAMA COFFEE โดย คุณมุก-อสมา วิชัยดิษฐ์ https://maps.app.goo.gl/uiBieKNYuZq2mdXP6 แนะนำ 1) Espresso Panna Cotta 2) Gravity(Dirty) -กาดหน้ามอ https://maps.app.goo.gl/DYNRnGTpjhakwoKK8 เดินชมตลาดอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต ............................................................ รวบรวม โดย พัชรี ว่องไววิทย์ December20, 2024 San Francisco, CA94108.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1867 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหาร(ลับ) หอใน ม.เชียงใหม่

    โรงอาหาร หอ 2 หญิง มช. มีทางเข้าสองทาง คือ หน้าหอ และ ทางเชื่อมกับที่จอดรถยนต์ตรงข้าม อมช.
    https://maps.app.goo.gl/EARqqT6pu2sQ4rvU8

    หอ 2 หญิง มช. มี 4 ร้าน คือ 1. ร้านอาหารตามสั่ง 2. ร้านข้าวมันไก่-หมูแดงหมูกรอบ 3. ร้านก๋วยเตี๋ยว 4. ร้านขายน้ำกับขนม

    ร้านดังที่สุดของหอ คือ ร้านป้านาย
    https://www.youtube.com/watch?v=iDIGmss9knI
    -ข้าวไข่เจียวหมูสับสมุนไพร รสชาติดี มีใบกะเพรา เห็ดหูหนู แครอท หอมหัวใหญ่ ถั่วฝักยาว
    -ข้าวปลาซาบะย่างซีอิ้ว รสชาติเหมือนในบิ๊กซี 30-45 บาท
    -ไข่เจียวพระอาทิตย์ ข้าวผัดลูกครึ่ง 30 บาท
    -แกงส้ม ต้มข่า ต้มแซ่บ ต้มโคล้ง ฉู่ฉี่ ยำผักบุ้งกรอบ+ข้าว 40-45 บาท
    -สุกี้เเห้ง น้ำจิ้มทำเอง อร่อยมาก ผักหวานกรอบ รสชาติอร่อยครบรส ราคาเพียง 30 บาท

    -ไอติมแม๊กโนเลีย กับ เค้ก 20-30 บาท รสชาติใช้ได้
    ร้านอาหาร(ลับ) หอใน ม.เชียงใหม่ โรงอาหาร หอ 2 หญิง มช. มีทางเข้าสองทาง คือ หน้าหอ และ ทางเชื่อมกับที่จอดรถยนต์ตรงข้าม อมช. https://maps.app.goo.gl/EARqqT6pu2sQ4rvU8 หอ 2 หญิง มช. มี 4 ร้าน คือ 1. ร้านอาหารตามสั่ง 2. ร้านข้าวมันไก่-หมูแดงหมูกรอบ 3. ร้านก๋วยเตี๋ยว 4. ร้านขายน้ำกับขนม ร้านดังที่สุดของหอ คือ ร้านป้านาย https://www.youtube.com/watch?v=iDIGmss9knI -ข้าวไข่เจียวหมูสับสมุนไพร รสชาติดี มีใบกะเพรา เห็ดหูหนู แครอท หอมหัวใหญ่ ถั่วฝักยาว -ข้าวปลาซาบะย่างซีอิ้ว รสชาติเหมือนในบิ๊กซี 30-45 บาท -ไข่เจียวพระอาทิตย์ ข้าวผัดลูกครึ่ง 30 บาท -แกงส้ม ต้มข่า ต้มแซ่บ ต้มโคล้ง ฉู่ฉี่ ยำผักบุ้งกรอบ+ข้าว 40-45 บาท -สุกี้เเห้ง น้ำจิ้มทำเอง อร่อยมาก ผักหวานกรอบ รสชาติอร่อยครบรส ราคาเพียง 30 บาท -ไอติมแม๊กโนเลีย กับ เค้ก 20-30 บาท รสชาติใช้ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌱 ปฏิทินการปลูกผักประจำเดือนธันวาคม 🌱รู้หรือไม่ว่าเดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกผักหลายชนิด เพราะสภาพอากาศเย็นสบาย ทำให้ผักเจริญเติบโตได้ดี ไม่ต้องดูแลซับซ้อนเท่าฤดูร้อน ☁️✨ ผักแนะนำให้ปลูกในเดือนนี้ ได้แก่ • กระหล่ำปลี และ กระหล่ำดอก: เติบโตได้ดีในอากาศเย็น ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ • ผักคะน้า และ ผักกวางตุ้งไต้หวัน: ปลูกง่าย โตเร็ว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มทำเกษตร • แตงกวา และ ผักกาดขาว: ดูแลไม่ยาก แต่ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ • พริก และ มะเขือเทศ: ชอบแดดจัดแต่ไม่ร้อนจนเกินไป เดือนนี้จึงเหมาะสำหรับการเพาะปลูก • หัวไชเท้า และ ต้นหอม: ปลูกไว้ในแปลงเล็ก ๆ ก็ได้ผลผลิตที่สดใหม่ ใช้เวลาไม่นาน🌿 ข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล 🌿1️⃣ ผักโตเร็วและให้ผลผลิตดี เพราะสภาพอากาศเหมาะสม2️⃣ ลดปัญหาแมลงศัตรูพืชที่มากับอากาศร้อนชื้น3️⃣ ประหยัดต้นทุนในการดูแล เช่น ค่าน้ำ ค่าแรง และสารเคมี4️⃣ ปลูกผักกินเองที่บ้าน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัยจากสารตกค้าง📌 สำหรับเกษตรกรมือใหม่หรือคนที่อยากปลูกผักไว้กินเอง ลองเลือกผักที่เหมาะกับฤดูกาลแบบนี้ รับรองได้ผลผลิตดี ไม่เสียแรงแน่นอน!ติดตามเพจ “เกษตรน้อย” เพื่อสาระดี ๆ และเคล็ดลับการทำเกษตรในทุกฤดูกาล 🌾เพราะเราอยากเห็นทุกครัวเรือนมีผักสดปลอดภัยไว้รับประทาน 🥦#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #เกษตรกร #เกษตรพอเพียง #เกษตรอินทรีย์ #ปลูกผักปลอดสาร #ปฏิทินปลูกผัก #ผักสวนครัว #ผักปลอดสารพิษ #กะหล่ําปี #กะหล่ำดอ #คะน้า #ผักบุ้งไฟแดง #ผักกาดขาว #แตงกวา #ผักชี #มะเขือเทศ #พริก
    🌱 ปฏิทินการปลูกผักประจำเดือนธันวาคม 🌱รู้หรือไม่ว่าเดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกผักหลายชนิด เพราะสภาพอากาศเย็นสบาย ทำให้ผักเจริญเติบโตได้ดี ไม่ต้องดูแลซับซ้อนเท่าฤดูร้อน ☁️✨ ผักแนะนำให้ปลูกในเดือนนี้ ได้แก่ • กระหล่ำปลี และ กระหล่ำดอก: เติบโตได้ดีในอากาศเย็น ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ • ผักคะน้า และ ผักกวางตุ้งไต้หวัน: ปลูกง่าย โตเร็ว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มทำเกษตร • แตงกวา และ ผักกาดขาว: ดูแลไม่ยาก แต่ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ • พริก และ มะเขือเทศ: ชอบแดดจัดแต่ไม่ร้อนจนเกินไป เดือนนี้จึงเหมาะสำหรับการเพาะปลูก • หัวไชเท้า และ ต้นหอม: ปลูกไว้ในแปลงเล็ก ๆ ก็ได้ผลผลิตที่สดใหม่ ใช้เวลาไม่นาน🌿 ข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล 🌿1️⃣ ผักโตเร็วและให้ผลผลิตดี เพราะสภาพอากาศเหมาะสม2️⃣ ลดปัญหาแมลงศัตรูพืชที่มากับอากาศร้อนชื้น3️⃣ ประหยัดต้นทุนในการดูแล เช่น ค่าน้ำ ค่าแรง และสารเคมี4️⃣ ปลูกผักกินเองที่บ้าน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัยจากสารตกค้าง📌 สำหรับเกษตรกรมือใหม่หรือคนที่อยากปลูกผักไว้กินเอง ลองเลือกผักที่เหมาะกับฤดูกาลแบบนี้ รับรองได้ผลผลิตดี ไม่เสียแรงแน่นอน!ติดตามเพจ “เกษตรน้อย” เพื่อสาระดี ๆ และเคล็ดลับการทำเกษตรในทุกฤดูกาล 🌾เพราะเราอยากเห็นทุกครัวเรือนมีผักสดปลอดภัยไว้รับประทาน 🥦#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #เกษตรกร #เกษตรพอเพียง #เกษตรอินทรีย์ #ปลูกผักปลอดสาร #ปฏิทินปลูกผัก #ผักสวนครัว #ผักปลอดสารพิษ #กะหล่ําปี #กะหล่ำดอ #คะน้า #ผักบุ้งไฟแดง #ผักกาดขาว #แตงกวา #ผักชี #มะเขือเทศ #พริก
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1009 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเห็ดหอมสูตรเจ

    ส่วนประกอบ
    หัวไชเท้า เห็ดหอมสด ตั้งฉ่าย พริกไทย ซีอิ๊วขาว ผักบุ้งไทย ถั่วงอก เส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นพริกไทยเจ เนื้อปลาเจ

    วิธีทำ
    1. นำหัวไชเท้า เห็ดหอมสด และตั้งฉ่ายต้ม เคี่ยวประมาณ 30 นาที เพื่อให้หัวไชเท้าสุกและออกรสหวาน ปรุงรสด้วยพริกไทยกับซีอิ๊วขาว
    2. เราจะได้น้ำซุปเห็ดหอมสีเหลืองทอง รสชาติจะเผ็ดร้อนเล็กน้อย กินง่าย มีกลิ่นหอมจากเห็ดหอมและเครื่องเคียงต่าง ๆ
    3.รอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ลูกชิ้นพริกไทยเจ กับ เนื้อปลาเจลงไป แล้วต้มให้สุก เราจะได้น้ำก๋วยเตี๋ยว
    4. ลวกถั่วงอก ผักบุ้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยวลงในชาม จากนั้นตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเห็ดหอมราดลงไปพร้อมกับเครื่องต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย
    ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเห็ดหอมสูตรเจ ส่วนประกอบ หัวไชเท้า เห็ดหอมสด ตั้งฉ่าย พริกไทย ซีอิ๊วขาว ผักบุ้งไทย ถั่วงอก เส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นพริกไทยเจ เนื้อปลาเจ วิธีทำ 1. นำหัวไชเท้า เห็ดหอมสด และตั้งฉ่ายต้ม เคี่ยวประมาณ 30 นาที เพื่อให้หัวไชเท้าสุกและออกรสหวาน ปรุงรสด้วยพริกไทยกับซีอิ๊วขาว 2. เราจะได้น้ำซุปเห็ดหอมสีเหลืองทอง รสชาติจะเผ็ดร้อนเล็กน้อย กินง่าย มีกลิ่นหอมจากเห็ดหอมและเครื่องเคียงต่าง ๆ 3.รอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ลูกชิ้นพริกไทยเจ กับ เนื้อปลาเจลงไป แล้วต้มให้สุก เราจะได้น้ำก๋วยเตี๋ยว 4. ลวกถั่วงอก ผักบุ้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยวลงในชาม จากนั้นตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเห็ดหอมราดลงไปพร้อมกับเครื่องต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิทินผักตามฤดูกาล: เคล็ดลับเลือกผักให้เหมาะกับช่วงเวลาการเลือกผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะเราจะได้ผักที่สดใหม่ เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ดีที่สุด!ฤดูร้อน: • แนะนำผักที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน เช่น แตงกวา, บวบ, ฟักฤดูฝน: • ช่วงนี้เหมาะกับผักใบที่ชอบน้ำ เช่น ผักบุ้ง, คะน้า, ถั่วฝักยาวฤดูหนาว: • ฤดูนี้ปลูกผักได้หลากหลาย โดยเฉพาะผักที่ชอบอากาศเย็น เช่น กะหล่ำปลี, ผักชี, ผักกาดขาว, ขึ้นฉ่ายข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล: 1. ลดการใช้สารเคมี เพราะผักเติบโตตามธรรมชาติ 2. ประหยัดต้นทุน ลดค่าแรงและการดูแลรักษา 3. เพิ่มรายได้ เพราะผักที่มีคุณภาพดีย่อมขายได้ราคาสูงลองเลือกปลูกผักตามฤดูกาลที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ แล้วเราจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่าและยั่งยืน! 🌱#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #ผักตามฤดูกาล
    ปฏิทินผักตามฤดูกาล: เคล็ดลับเลือกผักให้เหมาะกับช่วงเวลาการเลือกผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะเราจะได้ผักที่สดใหม่ เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ดีที่สุด!ฤดูร้อน: • แนะนำผักที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน เช่น แตงกวา, บวบ, ฟักฤดูฝน: • ช่วงนี้เหมาะกับผักใบที่ชอบน้ำ เช่น ผักบุ้ง, คะน้า, ถั่วฝักยาวฤดูหนาว: • ฤดูนี้ปลูกผักได้หลากหลาย โดยเฉพาะผักที่ชอบอากาศเย็น เช่น กะหล่ำปลี, ผักชี, ผักกาดขาว, ขึ้นฉ่ายข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล: 1. ลดการใช้สารเคมี เพราะผักเติบโตตามธรรมชาติ 2. ประหยัดต้นทุน ลดค่าแรงและการดูแลรักษา 3. เพิ่มรายได้ เพราะผักที่มีคุณภาพดีย่อมขายได้ราคาสูงลองเลือกปลูกผักตามฤดูกาลที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ แล้วเราจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่าและยั่งยืน! 🌱#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #ผักตามฤดูกาล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 786 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“

    จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง

    วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000107789

    #MGROnline #ทนายตั้ม #กรมราชทัณฑ์
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ • จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง • วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000107789 • #MGROnline #ทนายตั้ม #กรมราชทัณฑ์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 914 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“
    .
    จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง
    .
    วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ
    .
    นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น
    ..............
    Sondhi X
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ . จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง . วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ . นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1520 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107789

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107789 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    26
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2509 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรโครงการทหารพันธุ์ดี ในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒
    (ในวันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณลานนวมินทร สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙)
    ขอเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรโครงการทหารพันธุ์ดี ในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ (ในวันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณลานนวมินทร สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคส้มน้องๆทะลุวังรออยู่นะจ๊ะ
    ตอนนี้มีอยู่ 3 คน
    เมื่อวานตะวันก็ไปฉายแสงแล้ว
    ทำไมงบยังไม่มา
    ให้พ่อตะวันเป็นรักษาการแทนบุ้งไปเลย
    ไว้ใจได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    พรรคส้มน้องๆทะลุวังรออยู่นะจ๊ะ ตอนนี้มีอยู่ 3 คน เมื่อวานตะวันก็ไปฉายแสงแล้ว ทำไมงบยังไม่มา ให้พ่อตะวันเป็นรักษาการแทนบุ้งไปเลย ไว้ใจได้ #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข้อมูลมาบอกว่าทำไมตะวันถึงกลับมาป่วน
    ก็ตามภาพข่าวตะวันถูกร้องถอนประกัน
    เพราะอิพ่อมันเคยบอกศาลว่าขอประกัน
    จะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและไม่ให้มาป่วนชาติอีก
    จะเอาไปเรียนหนังสือบลาๆๆๆ
    ทั้งๆที่ผิดกรณีฝ่าฝืนคำสั่งศาล
    พรรคส้มก็โหนว่าเป็นเรื่อง 112
    แต่ศาลท่านก็เมตตาหวังให้มันกลับเนื้อกลับตัว
    คำถามคือ ตะวันทะลุวังออกมาป่วนแบบนี้
    มันไม่รู้เหรอว่าต้องถูกถอนประกัน
    ตอบคือรู้แต่กรูจะทำ เพราะพรรคส้มเริ่มแผนใหม่
    ไฟเขียวให้ตะวันเป็นตัวอย่าง
    เนื่องจากธนาธรมั่นใจในการจับมือกับโทนี่
    ให้นิรโทษ 112 ทั้งธร ทั้งแม๊ว และบริวารของธร
    รวมถึงกลุ่มทะลุวัง ถือว่าเป็นเคสตัวอย่าง
    ว่าตะวันยังกล้า เพราะที่ผ่านมาหลังอิบุ้งช้างลากตุย
    ก็ไม่มีกลุ่มไหนกล้าห้าวมาแบบยาวๆแม้แต่วันยุบพรรค
    ก็ไม่สามารถเรียกใครมาได้เลย
    รอบนี้ พ่อตะวันได้ไปหลาย อัดฉีดกับเต็มที่
    ก็งบผ่านฑูตอเมกาเช่นเคย คาดว่าไม่น้อยกว่าเพนกวิ้น
    ที่รวยจุก
    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า กลุ่มป่วนเมืองจะทะยอยออกมาอีกมากแค่ไหน
    อาจทำให้รำคาญตารำคาญใจกันบ้าง
    เพราะโทนี่ต้องพึ่งพาพวกนี้ให้ตัวเองพ้นผิดจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    มีข้อมูลมาบอกว่าทำไมตะวันถึงกลับมาป่วน ก็ตามภาพข่าวตะวันถูกร้องถอนประกัน เพราะอิพ่อมันเคยบอกศาลว่าขอประกัน จะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและไม่ให้มาป่วนชาติอีก จะเอาไปเรียนหนังสือบลาๆๆๆ ทั้งๆที่ผิดกรณีฝ่าฝืนคำสั่งศาล พรรคส้มก็โหนว่าเป็นเรื่อง 112 แต่ศาลท่านก็เมตตาหวังให้มันกลับเนื้อกลับตัว คำถามคือ ตะวันทะลุวังออกมาป่วนแบบนี้ มันไม่รู้เหรอว่าต้องถูกถอนประกัน ตอบคือรู้แต่กรูจะทำ เพราะพรรคส้มเริ่มแผนใหม่ ไฟเขียวให้ตะวันเป็นตัวอย่าง เนื่องจากธนาธรมั่นใจในการจับมือกับโทนี่ ให้นิรโทษ 112 ทั้งธร ทั้งแม๊ว และบริวารของธร รวมถึงกลุ่มทะลุวัง ถือว่าเป็นเคสตัวอย่าง ว่าตะวันยังกล้า เพราะที่ผ่านมาหลังอิบุ้งช้างลากตุย ก็ไม่มีกลุ่มไหนกล้าห้าวมาแบบยาวๆแม้แต่วันยุบพรรค ก็ไม่สามารถเรียกใครมาได้เลย รอบนี้ พ่อตะวันได้ไปหลาย อัดฉีดกับเต็มที่ ก็งบผ่านฑูตอเมกาเช่นเคย คาดว่าไม่น้อยกว่าเพนกวิ้น ที่รวยจุก ก็ต้องรอดูต่อไปว่า กลุ่มป่วนเมืองจะทะยอยออกมาอีกมากแค่ไหน อาจทำให้รำคาญตารำคาญใจกันบ้าง เพราะโทนี่ต้องพึ่งพาพวกนี้ให้ตัวเองพ้นผิดจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หิวข้าวแดงก็ไม่บอก
    อนาคตต้องตามแม่บุ้งช้างลากไปให้ได้
    เยี่ยมไปเลย
    แหม่ อุตส่าใส่ไอ่โม่งใส่หมวกกันน็อค
    จะซ่อนเร้นจากสายตาพี่คิงส์ฯไปได้ยังไงก่อน
    ตอนนี้มีหมาย จั-บ ออกแล้วนะ
    แล้วก็จะมาหาว่า ใคร รังแค ไม่ได้นะ
    เมิงทำตัวเมิงเอง
    อิห่านจิก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หิวข้าวแดงก็ไม่บอก อนาคตต้องตามแม่บุ้งช้างลากไปให้ได้ เยี่ยมไปเลย แหม่ อุตส่าใส่ไอ่โม่งใส่หมวกกันน็อค จะซ่อนเร้นจากสายตาพี่คิงส์ฯไปได้ยังไงก่อน ตอนนี้มีหมาย จั-บ ออกแล้วนะ แล้วก็จะมาหาว่า ใคร รังแค ไม่ได้นะ เมิงทำตัวเมิงเอง อิห่านจิก #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ

    ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก

    ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก

    ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1]

    ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน

    ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว”

    ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2]

    ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า

    “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2]

    แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า

    ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า

    “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3]

    ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า

    “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4]

    ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า

    “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4]

    แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523

    การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย

    โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน

    ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย

    โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร

    เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5]

    นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น

    อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา

    ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ

    ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่

    เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

    โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น

    และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย

    โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้

    “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚

    ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚

    ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚

    ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6]

    ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า

    ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6]

    นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า

    “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7]

    แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า

    “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8]

    อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8]

    ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9]

    นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10]

    นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ

    ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 กันยายน 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/?

    อ้างอิง
    [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152
    https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094

    [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔

    [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694

    [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37

    [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย
    https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf

    [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567)
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798

    [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335

    [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf

    [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf

    [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1] ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว” ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2] ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2] แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3] ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4] ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4] แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523 การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5] นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่ เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้ “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚ ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚ ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚ ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6] ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6] นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7] แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8] อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8] ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9] นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10] นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 กันยายน 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/? อ้างอิง [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152 https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094 [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔ [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694 [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37 [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567) https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798 [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335 [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    Like
    Love
    Yay
    56
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 4560 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงพี่คิงส์โพธิ์แดงจะไม่ชอบทักษิณ
    แต่พี่คิงส์เชื่อว่า คนเสื้อแดงที่ต่อสู้
    เพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ได้มีเฉพาะ
    ถูกจ้างมาอย่างที่หลายๆคนด้อยค่า
    ยังเชื่อเสมอว่าคนไทยด้วยกัน
    คิดต่างทางการเมืองได้
    และหลายครั้งพร้อมเอาชีวิตแลก
    เพื่อให้อุดมกาณ์บรรลุเป้าหมาย
    ด้วยการรักใครซักคนที่มีจุดยืนนั้น
    คนเสื้อแดงอุดมการณ์เสียสละกันมามาก
    บ้างต้องจากไป บ้างก็อยู่ในตาราง
    และมีนับร้อยครั้ง ที่ชาวบ้านที่เสียสละ
    คนเสื้อแดงเข้าไปอยู่ในตาราง
    แต่กลับไร้การเหลียวแล
    สู้เพราะหลงคำหวาน วาทะกรรมนักการเมือง
    ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกับพรรคสีส้ม ที่ใช้วาทะกรรม
    จนกลุ่มมเยาวชนอุดมการณ์ทะลุวัง
    ที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ถูกจ้าง ต้องเข้าไปในตาราง
    ตุยไปแล้วก็มี หนีไปก็เยอะ จนชีวิตพังพินาศ
    เหมือนที่บุ้งเองก็พูดก่อนจะตุยว่า ตัดสินใจผิด
    ก็ถือเป็นบทเรียนของคนธรรมดาอย่างเรา
    ว่านักการเมืองเก่งเรื่องวาทะกรรม
    แต่สถาบันพระมหากษัตริย์กลับมีแต่ให้ความช่วยเหลือ
    กับประชาชน โดยที่พระองค์ไม่เคยละเว้นกับผู้ใด
    แม้แต่คนที่คิดร้ายกับพระองค์ ต่างได้รับพระเมตตาอย่างทั่วถึง
    ดังนั้น ใครก็ตามที่คิดดึงฟ้าให้ลงต่ำ
    ก็ยังคงมีพศกนิกรของพระองค์ท่าน
    ที่จะคงยืนหยัดปกป้องพระเกียรติของพระองค์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
    นั่นคือการแสดงออกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
    ที่ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถทำได้
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ---------------------------------------------------
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ถึงพี่คิงส์โพธิ์แดงจะไม่ชอบทักษิณ แต่พี่คิงส์เชื่อว่า คนเสื้อแดงที่ต่อสู้ เพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ได้มีเฉพาะ ถูกจ้างมาอย่างที่หลายๆคนด้อยค่า ยังเชื่อเสมอว่าคนไทยด้วยกัน คิดต่างทางการเมืองได้ และหลายครั้งพร้อมเอาชีวิตแลก เพื่อให้อุดมกาณ์บรรลุเป้าหมาย ด้วยการรักใครซักคนที่มีจุดยืนนั้น คนเสื้อแดงอุดมการณ์เสียสละกันมามาก บ้างต้องจากไป บ้างก็อยู่ในตาราง และมีนับร้อยครั้ง ที่ชาวบ้านที่เสียสละ คนเสื้อแดงเข้าไปอยู่ในตาราง แต่กลับไร้การเหลียวแล สู้เพราะหลงคำหวาน วาทะกรรมนักการเมือง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกับพรรคสีส้ม ที่ใช้วาทะกรรม จนกลุ่มมเยาวชนอุดมการณ์ทะลุวัง ที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ถูกจ้าง ต้องเข้าไปในตาราง ตุยไปแล้วก็มี หนีไปก็เยอะ จนชีวิตพังพินาศ เหมือนที่บุ้งเองก็พูดก่อนจะตุยว่า ตัดสินใจผิด ก็ถือเป็นบทเรียนของคนธรรมดาอย่างเรา ว่านักการเมืองเก่งเรื่องวาทะกรรม แต่สถาบันพระมหากษัตริย์กลับมีแต่ให้ความช่วยเหลือ กับประชาชน โดยที่พระองค์ไม่เคยละเว้นกับผู้ใด แม้แต่คนที่คิดร้ายกับพระองค์ ต่างได้รับพระเมตตาอย่างทั่วถึง ดังนั้น ใครก็ตามที่คิดดึงฟ้าให้ลงต่ำ ก็ยังคงมีพศกนิกรของพระองค์ท่าน ที่จะคงยืนหยัดปกป้องพระเกียรติของพระองค์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ นั่นคือการแสดงออกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถทำได้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน --------------------------------------------------- #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 846 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts