#PM2.5กับสารอาหารเพื่อป้องกันและรักษา
ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เนื่องจากมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายทั้งสารระคายเคืองต่อสารก่อมะเร็ง และส่งผลให้เกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคปอดบวม โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือน้อยกว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจ เพราะยิ่งมีขนาดเล็กลงก็ยิ่งเข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับปอดได้มากขึ้น โดยกระบวนการอนุภาคขนาดเล็กจะช่วยเร่งการอักเสบในร่างกายและลดจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงตามมาด้วยความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ปอด เมื่อได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากจะเสื่อมสภาพและอาจตามมาด้วยโรคมะเร็งปอด
ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับ PM 2.5 ได้
สารอาหารที่ดี
1. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนพบได้ในแครอท บวบ ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันเทศ เป็นต้น วิตามินเอนอกจากช่วยส่งเสริมดวงตาแล้วยังช่วยระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งสามารถต้านทานผลกระทบฝุ่นพิษได้
2 . วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสียหายทางพันธุกรรมของ DNA เมื่อสัมผัสกับอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ และการศึกษาพบว่าการได้รับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ต่อระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการคันตา อาการคัน และความรู้สึกแสบร้อน อาการคันและแสบร้อน กลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ ทับทิม ผักใบเขียวเข้ม ใบบัวบก ผักโขม หัวหอม นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินซี 500 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศได้
3. วิตามินอี พบได้ในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ไข่แดง ปลาตัวสีดำท้องขาว สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ
4. วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก สามารถลดโฮโมซิสเทอีนในเลือดได้ วิตามินกลุ่มนี้อยู่ในผักใบเขียวเข้ม ผักสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น บรอกโคลี แครอท ฟักทอง และวิตามินบี 12 มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง
5. โอเมก้า 3 พบได้ใน อะโวคาโด วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก ปลาต่าง ๆที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 การศึกษาทางคลินิกในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงพบว่า การทานน้ำมันโอเมก้า 3 สูงเช่น Krill oil 2 กรัม/วันจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นเล็กๆ นี้
6. ซัลโฟราเฟนพบได้ในบรอกโคลี และผักกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและป้องกันมะเร็ง มีรายงานการทดลองทางคลินิกทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับซัลเฟอร์จากนั้นจากบรอกโคลีอาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นได้
7. N-acetyl cysteine ช่วยลดการหดเกร็งของหลอดลมที่ไวต่อการกระตุ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ โดย N-acetyl cysteine ต้องการกรดอะมิโน cysteine เพื่อช่วยในการสังเคราะห์ อาหารที่มีกรดอะมิโน ได้แก่ หัวหอม ไข่ กระเทียม และเนื้อแดง
N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอดอีกด้วย
8.สารอาหารโพลีแซ็กคาไรด์ในกลุ่มเบต้ากลูแคนซึ่งสกัดได้จาก ยีสต์และเห็ด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น
สมุนไพรไทยหลายชนิดยังมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับ PM 2.5 :
มะขามป้อม-Phyllanthus Emblica สารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการอักเสบและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและการไหลเวียนที่ดี
ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 80 เท่า ซึ่งดีต่อการทำงานของปอด
นอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ สวมแว่นตาและสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องหรือลดผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นอันตรายจากฝุ่น ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยฟอกอากาศในบ้านหรือในรถยนต์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบได้
อาหารเสริมที่แนะนำหากคุณมีความยุ่งยากในการรับประทานอาหารตามปกติ
Glap
Glube
Paa super h
Whole c
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
Cr. Santi Manadee
ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เนื่องจากมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายทั้งสารระคายเคืองต่อสารก่อมะเร็ง และส่งผลให้เกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคปอดบวม โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือน้อยกว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจ เพราะยิ่งมีขนาดเล็กลงก็ยิ่งเข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับปอดได้มากขึ้น โดยกระบวนการอนุภาคขนาดเล็กจะช่วยเร่งการอักเสบในร่างกายและลดจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงตามมาด้วยความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ปอด เมื่อได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากจะเสื่อมสภาพและอาจตามมาด้วยโรคมะเร็งปอด
ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับ PM 2.5 ได้
สารอาหารที่ดี
1. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนพบได้ในแครอท บวบ ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันเทศ เป็นต้น วิตามินเอนอกจากช่วยส่งเสริมดวงตาแล้วยังช่วยระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งสามารถต้านทานผลกระทบฝุ่นพิษได้
2 . วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสียหายทางพันธุกรรมของ DNA เมื่อสัมผัสกับอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ และการศึกษาพบว่าการได้รับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ต่อระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการคันตา อาการคัน และความรู้สึกแสบร้อน อาการคันและแสบร้อน กลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ ทับทิม ผักใบเขียวเข้ม ใบบัวบก ผักโขม หัวหอม นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินซี 500 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศได้
3. วิตามินอี พบได้ในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ไข่แดง ปลาตัวสีดำท้องขาว สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ
4. วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก สามารถลดโฮโมซิสเทอีนในเลือดได้ วิตามินกลุ่มนี้อยู่ในผักใบเขียวเข้ม ผักสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น บรอกโคลี แครอท ฟักทอง และวิตามินบี 12 มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง
5. โอเมก้า 3 พบได้ใน อะโวคาโด วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก ปลาต่าง ๆที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 การศึกษาทางคลินิกในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงพบว่า การทานน้ำมันโอเมก้า 3 สูงเช่น Krill oil 2 กรัม/วันจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นเล็กๆ นี้
6. ซัลโฟราเฟนพบได้ในบรอกโคลี และผักกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและป้องกันมะเร็ง มีรายงานการทดลองทางคลินิกทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับซัลเฟอร์จากนั้นจากบรอกโคลีอาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นได้
7. N-acetyl cysteine ช่วยลดการหดเกร็งของหลอดลมที่ไวต่อการกระตุ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ โดย N-acetyl cysteine ต้องการกรดอะมิโน cysteine เพื่อช่วยในการสังเคราะห์ อาหารที่มีกรดอะมิโน ได้แก่ หัวหอม ไข่ กระเทียม และเนื้อแดง
N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอดอีกด้วย
8.สารอาหารโพลีแซ็กคาไรด์ในกลุ่มเบต้ากลูแคนซึ่งสกัดได้จาก ยีสต์และเห็ด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น
สมุนไพรไทยหลายชนิดยังมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับ PM 2.5 :
มะขามป้อม-Phyllanthus Emblica สารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการอักเสบและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและการไหลเวียนที่ดี
ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 80 เท่า ซึ่งดีต่อการทำงานของปอด
นอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ สวมแว่นตาและสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องหรือลดผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นอันตรายจากฝุ่น ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยฟอกอากาศในบ้านหรือในรถยนต์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบได้
อาหารเสริมที่แนะนำหากคุณมีความยุ่งยากในการรับประทานอาหารตามปกติ
Glap
Glube
Paa super h
Whole c
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
Cr. Santi Manadee
#PM2.5กับสารอาหารเพื่อป้องกันและรักษา
ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เนื่องจากมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายทั้งสารระคายเคืองต่อสารก่อมะเร็ง และส่งผลให้เกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคปอดบวม โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือน้อยกว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจ เพราะยิ่งมีขนาดเล็กลงก็ยิ่งเข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับปอดได้มากขึ้น โดยกระบวนการอนุภาคขนาดเล็กจะช่วยเร่งการอักเสบในร่างกายและลดจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงตามมาด้วยความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ปอด เมื่อได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากจะเสื่อมสภาพและอาจตามมาด้วยโรคมะเร็งปอด
ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับ PM 2.5 ได้
สารอาหารที่ดี
1. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนพบได้ในแครอท บวบ ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันเทศ เป็นต้น วิตามินเอนอกจากช่วยส่งเสริมดวงตาแล้วยังช่วยระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งสามารถต้านทานผลกระทบฝุ่นพิษได้
2 . วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสียหายทางพันธุกรรมของ DNA เมื่อสัมผัสกับอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ และการศึกษาพบว่าการได้รับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ต่อระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการคันตา อาการคัน และความรู้สึกแสบร้อน อาการคันและแสบร้อน กลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ ทับทิม ผักใบเขียวเข้ม ใบบัวบก ผักโขม หัวหอม นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินซี 500 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศได้
3. วิตามินอี พบได้ในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ไข่แดง ปลาตัวสีดำท้องขาว สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ
4. วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก สามารถลดโฮโมซิสเทอีนในเลือดได้ วิตามินกลุ่มนี้อยู่ในผักใบเขียวเข้ม ผักสีส้มที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น บรอกโคลี แครอท ฟักทอง และวิตามินบี 12 มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง
5. โอเมก้า 3 พบได้ใน อะโวคาโด วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก ปลาต่าง ๆที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 การศึกษาทางคลินิกในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงพบว่า การทานน้ำมันโอเมก้า 3 สูงเช่น Krill oil 2 กรัม/วันจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นเล็กๆ นี้
6. ซัลโฟราเฟนพบได้ในบรอกโคลี และผักกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและป้องกันมะเร็ง มีรายงานการทดลองทางคลินิกทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับซัลเฟอร์จากนั้นจากบรอกโคลีอาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นได้
7. N-acetyl cysteine ช่วยลดการหดเกร็งของหลอดลมที่ไวต่อการกระตุ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ โดย N-acetyl cysteine ต้องการกรดอะมิโน cysteine เพื่อช่วยในการสังเคราะห์ อาหารที่มีกรดอะมิโน ได้แก่ หัวหอม ไข่ กระเทียม และเนื้อแดง
N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ N-acetyl cysteine ยังช่วยลดเสมหะและน้ำมูกในปอดอีกด้วย
8.สารอาหารโพลีแซ็กคาไรด์ในกลุ่มเบต้ากลูแคนซึ่งสกัดได้จาก ยีสต์และเห็ด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น
สมุนไพรไทยหลายชนิดยังมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับ PM 2.5 :
มะขามป้อม-Phyllanthus Emblica สารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการอักเสบและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและการไหลเวียนที่ดี
ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 80 เท่า ซึ่งดีต่อการทำงานของปอด
นอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ สวมแว่นตาและสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องหรือลดผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นอันตรายจากฝุ่น ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยฟอกอากาศในบ้านหรือในรถยนต์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบได้
อาหารเสริมที่แนะนำหากคุณมีความยุ่งยากในการรับประทานอาหารตามปกติ
Glap
Glube
Paa super h
Whole c
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
Cr. Santi Manadee
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
219 มุมมอง
0 รีวิว