• 9 เม.ย.2568 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณวาไรตี้ของชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ,ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 สภากาชาดไทย ,โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และผู้สนับสนุนการจัดงานบริจาคโลหิต และอวัยวะ
    จัดงาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม งานจัดระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นม.เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา
    พ.ต.อ.อเนก ศรีกิจรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นางสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร้อยเอกหญิงเธียรทอง มาหลิน ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพน้อยที่ 2 โดยมี นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

    งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม“ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม เพื่อโคราช…ไม่ขาดเลือด รับบริจาคโลหิตเพื่อสำรองโลหิต ช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตในจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งเตรียมพร้อมโลหิตสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุหรือความต้องการใช้เลือดสูงกว่าปกติ

    ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา เผยว่า “จากความร่วมมือทั้ฃภาครัฐและเอกชนมี่ร่วมรณรงร์และช่วยกันจัดหาโลหิตทำให้แนวโน้มของการบริจาคโลหิตนั้นสูงขึ้นและความต้องการโลหิตยังคงต้องการทุกหมู่เลือดสูงอยู่ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีในการช่วยรณรงค์และรับบริจาคโลหิต ให้กับจังหวัดนครราชสีมา“

    นาย ปรีชา ลิ้มอั่ว เผยว่า ”โครงการ Mheart สายโลหิตสายใจ เป็นโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือสังคม ในจัดหาโลหิตสำรอง บรรเทาการจัดหาโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง การดำเนินโครงการ ในแต่ละปีนั้นจะสำเร็จลุล่วงมิได้หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าว รณรงค์จัดหาโลหิต โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อสำรองโลหิตให้ผ่านวิกฤตการขาดแคลนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

    ซึ่งที่ผ่านมา มียอดผู้บริจาคโลหิตในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ณ ห้องบริจาคโลหิต ชั้น 2 และงานบริจาคโลหิต ณ MCC HALL ชั้น 3 รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,978 ยูนิต 1,191,200 ซี.ซี.

    ผมมีเป้าหมายคาดหวังในการจัดหาโลหิต ที่ 2,000 ยูนิต/เดือน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดนครราชสีมาต่อไป“

    นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาว่า “โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยปกติมีการใช้โลหิตที่ 4,500 ยูนิต/เดือน หรือ 54,000 ยูนิต/ปี ซึ่งยังคงต้องการโลหิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินรับเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงขอรณรงค์ให้ผู้ใจบุญและคนรุ่นใหม่ ร่วมบริจาคโลหิตกันครับ”

    จึงขอเชิญชวนชาวโคราชและผู้ใจบุญร่วมบริจาคโลหิตได้ที่งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม วันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 และห้องรับบริจาคโลหิต ชั้น 2 ได้ทุกวันที่เดอะมอลล์โคราช
    9 เม.ย.2568 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณวาไรตี้ของชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ,ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 สภากาชาดไทย ,โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และผู้สนับสนุนการจัดงานบริจาคโลหิต และอวัยวะ จัดงาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม งานจัดระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นม.เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.อเนก ศรีกิจรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นางสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร้อยเอกหญิงเธียรทอง มาหลิน ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพน้อยที่ 2 โดยมี นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม“ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม เพื่อโคราช…ไม่ขาดเลือด รับบริจาคโลหิตเพื่อสำรองโลหิต ช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตในจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งเตรียมพร้อมโลหิตสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุหรือความต้องการใช้เลือดสูงกว่าปกติ ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา เผยว่า “จากความร่วมมือทั้ฃภาครัฐและเอกชนมี่ร่วมรณรงร์และช่วยกันจัดหาโลหิตทำให้แนวโน้มของการบริจาคโลหิตนั้นสูงขึ้นและความต้องการโลหิตยังคงต้องการทุกหมู่เลือดสูงอยู่ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีในการช่วยรณรงค์และรับบริจาคโลหิต ให้กับจังหวัดนครราชสีมา“ นาย ปรีชา ลิ้มอั่ว เผยว่า ”โครงการ Mheart สายโลหิตสายใจ เป็นโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือสังคม ในจัดหาโลหิตสำรอง บรรเทาการจัดหาโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง การดำเนินโครงการ ในแต่ละปีนั้นจะสำเร็จลุล่วงมิได้หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าว รณรงค์จัดหาโลหิต โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อสำรองโลหิตให้ผ่านวิกฤตการขาดแคลนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งที่ผ่านมา มียอดผู้บริจาคโลหิตในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ณ ห้องบริจาคโลหิต ชั้น 2 และงานบริจาคโลหิต ณ MCC HALL ชั้น 3 รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,978 ยูนิต 1,191,200 ซี.ซี. ผมมีเป้าหมายคาดหวังในการจัดหาโลหิต ที่ 2,000 ยูนิต/เดือน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดนครราชสีมาต่อไป“ นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาว่า “โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยปกติมีการใช้โลหิตที่ 4,500 ยูนิต/เดือน หรือ 54,000 ยูนิต/ปี ซึ่งยังคงต้องการโลหิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินรับเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงขอรณรงค์ให้ผู้ใจบุญและคนรุ่นใหม่ ร่วมบริจาคโลหิตกันครับ” จึงขอเชิญชวนชาวโคราชและผู้ใจบุญร่วมบริจาคโลหิตได้ที่งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม วันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 และห้องรับบริจาคโลหิต ชั้น 2 ได้ทุกวันที่เดอะมอลล์โคราช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิต กรุ๊ป A เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลน
    https://www.thai-tai.tv/news/17869/
    โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิต กรุ๊ป A เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลน https://www.thai-tai.tv/news/17869/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/3/68

    #ข่าวประชาสัมพันธ์

    รพ.รามาฯ #ขอรับบริจาคเลือด
    #หลังไฟไหม้ทำคลังเลือดเสียหาย
    #กระทบการผ่าตัดคนไข้

    ความคืบหน้าเหตุพลิงไหม้ ภายในชั้น 2 อาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก โรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี ซึ่งเป็นอาคาร 9 ชั้น โดยต้นเพลิง อยู่ใกล้กับห้องตรวจเลือดและตู้เก็บความเย็น ก่อนลุกลามไปยังโต๊ะทำงานและเอกสาร เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า ใช้เวลาฉีดน้ำสกัด กว่า 20 นาที ก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้

    ขณะนี้ยังคงมีกลิ่นควันไฟอยู่ภายโรงพยาบาล เจ้าหน้าเร่งกำจัดกลิ่นควันไม่ให้กระทบกับผู้ที่มาใช้บริการ เเละโดยเฉพาะคนไข้ที่เข้ารักษา โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งมีทั้งเด็กทารกเเรกเกิดและผู้สูงอายุ ไปอยู่ในอาคารที่ปลอดภัย ตั้งเเต่เมื่อคืนที่เกิดเหตุ มีแพทย์และพยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเคลื่อนย้ายเครื่องมือเเพทย์บางส่วน แม้จะควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่อาคารนี้เป็นที่รวมของแผนกต่างๆ ในการให้บริการในโรงพยาบาล ทั้งคลังเลือด เอ็กซเรย์ ห้องคลอด และ 2 ห้องผ่าตัด จึงต้องปิดทำการชั่วคราว

    ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ภายในที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ ขณะที่มีรายงานจากทาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจพญาไท เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้า เพราะดูจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีการเกิดประกายไฟ จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด งดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉินสำหรับงานเวชระเบียนการบริจาคโลหิต จุดเจาะเลือด ขอให้ใช้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่วิศวกร จะเข้าการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารเพื่อความปลอดภัย

    ขณะเดียวกัน เวลานี้ ทางโรงพยาบาลฯ นำโดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีเเพทยศาสตร์์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,รศ.นพ.อมร วิจิตพาวรรณ ผู้ช่วยคณะบดีฝ่ายกายภาพเเละสิ่งอำนวยความสะดวก ,ผศ. นพ. ปริย พรรณเชษฐ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    โดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงค่ำ 19.20 น. ภายในอาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก ที่บริเวณชั้น 2 ของ อาคารนี้ สร้างมา 60 ปี ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานรังสีวิทยา แผนกเอ็กซเรย์ ใกล้คลังเลือดเเละคลังเเลปพยาธิวิทยา เเจ้งกลุ่มควันขึ้นไปชั้น 3-4 มีคนป่วยจำนวนมาก โดยพบว่ากลุ่มควันไฟได้กระจายหลายจุดไปทั่วอาคาร จึงได้เร่งอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ใน อาคารประมาณ 500 เตียง ออกจากพื้นที่ ไปในพื้นที่ปลอดภัยก่อน โดยมีการย้ายผู้ป่วยในอาคารด้านทิศใต้ ไปในโซนทิศเหนือของโรงพยาบาล ทั้งคนไข้ที่อยู่ในไอซียู ผู้ป่วยทั่วไป โดยได้รับความร่วมมือจาก ทหาร ตำรวจ บุคคลากรเคลื่อนย้าย ใช้เวลาควบคุมเพลิง 1 ชั่วโมง คุมเพลิงได้ เเละนำคนไข้กลับมาฝั่งเหนือกลับมาทั้งหมด พร้อมประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง โรงพยาบาลพระมงกุฏ และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน เเต่มี 2 ตึกของโรงพยาบาล ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังไม่จำเป็น โรงพยาบาลสามารถดูเเลคนไข้ทั้งหมด

    สำหรับผลกระทบ ห้องชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 พยาธิ เเละห้องรังสีวิทยา ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ปิดการทำการไปก่อน เเละจำกัดคนไข้ที่จะเข้ารับการบริการ ไม่สามารถรับผู้ป่วยใหม่จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ จะรักษาคนไข้เดิม คนที่นัดไว้ อาจทำให้คนไข้ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง

    ครั้งนี้โชคดี ผู้ป่วยทุกคนได้รับการปลอดภัย ไม่มีใครบาดเจ็บและกลับมารักษาตามเเผนเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่กลับเข้าไปช่วยผู้ตกค้าง ได้รับบาดเจ็บ จนสำลักควัน ออกซิเจนในร่างกายน้อยลง คาร์บอนมอนออกไซด์ เข้าไปในปอด เเต่ยืนยันว่าที่มเเพทย์ จะช่วยให้กลับมาปลอดภัยได้ ส่วนเรื่องของรังสีกัมมันตภาพรั่วไหล ยืนยันว่าไม่มีรังสีรั่วไหล เพราะไม่มีการเปิดสวิต์ไฟ และไม่ใช่ที่เก็บกัมมันตภาพรังสี

    ส่วนผลกระทบด้านคลังเลือด ในช่วงเพลิงไหม้มีความจำเป็นต้องดับไฟ เมื่อเลือดไม่เย็นจะเสียภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งพบว่าเลือดเสียหายทั้งหมดรวม 100 ยูนิต ทำให้เลือดที่มีอยู่น้อยลงไป ต้องใช้เลือดในการผ่าตัดอย่างประหยัด ปกติจะใช้ 10-20 ยูนิตในการผ่าตัด คลังเลือดดังกล่าวเป็นคลังเลือดใหญ่ของโรงพยาบาล เเต่ยังมีคลังเลือดสำรองขนาดเล็กสำรองอยู่ จึงมีความจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ในการรับบริจาคเลือด สำหรับการผ่าตัดที่ต้องใช้เลือดปริมาณมาก เช่น การปลูกถ่ายตับ การผ่าตัดหัวใจ ยังสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้

    สำหรับความเสียหายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่าเป็นห้องที่ขนาด 50 ตาราเมตร ส่วนใหญ่ภายในเป็นอุปกรณ์สำนักงาน เเละ เอกสาร เเต่ที่มีความกังสลคือ อุปการณ์เเพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน ในการตรวจวิเคราะห์กล้องจุลทรรศน์ที่อยู่ชั้น 3-4 ได้รับความเสียหายจากเขม่าควัน จากการการฉีดน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเย่างละเอียด จึงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้อย่างชัดเจน

    สำหรับการกลับมาให้บริการของโรงพยาบาล จะรีบดำเนินการให้กลับมาเปิดใช้บริการได้อย่างเร็วที่สุด เบื้องต้นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟ ระบบเเอร์ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

    ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยในเบื้องต้นว่า โรงพยาบาลจัดการได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้นำทีมฟิสิกส์เข้ามาหาสาเหตุ พบต้นเพลิง จุดที่มีการสปาร์คของไฟ บนฝ้าเพดาน ที่เป็นอาคารเก่า มีการรีโนเวทบ่อยครั้ง พบรอยสปาร์ค พบสายไฟหลอมละลาย จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร จะนำสายไฟไปตรวจสอบหาสาเหตุที่เเท้จริง มั่นใจว่าไม่ใช่การวางเพลิง เพราะลักษณะการเกิดเพลิงไหม้มีความเเตกต่างกัน ยืนยันว่าไม่ใช่การด่วนสรุป เเละจะนำผลการตรวจสายไฟ รวมถึงจุดต้นเพลิง เทียบเคียงกับกล้องวงจรปิด ว่าเป็นจุดเดียวกันกับจุดที่พบสายไฟหลอมละลายหรือไม่

    ขณะที่ รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ นำทีมวิศกร จากวิศกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุสภาพอาคาร เบื้องต้นจากการใช้วิธีการสำรวจโครงสร้าง ด้วยสายตา ทางกายภาพพบว่าอาคารยังคงปกติ เเต่อาจมีความสียหายบ้างในบ้างจุด โดยเฉพาะพื้นห้องอาคารชั้น 3 จากความร้อน ส่วนการตรวจสอบเชิงลึก จะนำอุปกรณ์ เพื่อออกมาเป็นค่าตัวเลข เเละทำการโหลดเทส หรือ การตรวจสอบการรับน้ำหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจในการกลับใช้งาน

    #รับบริจาคเลือด
    #โรงพยาบาลรามาธิบดี #ไฟไหม้

    cr:ฝันดีฝันเด่น
    17/3/68 #ข่าวประชาสัมพันธ์ รพ.รามาฯ #ขอรับบริจาคเลือด #หลังไฟไหม้ทำคลังเลือดเสียหาย #กระทบการผ่าตัดคนไข้ ความคืบหน้าเหตุพลิงไหม้ ภายในชั้น 2 อาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก โรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี ซึ่งเป็นอาคาร 9 ชั้น โดยต้นเพลิง อยู่ใกล้กับห้องตรวจเลือดและตู้เก็บความเย็น ก่อนลุกลามไปยังโต๊ะทำงานและเอกสาร เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า ใช้เวลาฉีดน้ำสกัด กว่า 20 นาที ก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะนี้ยังคงมีกลิ่นควันไฟอยู่ภายโรงพยาบาล เจ้าหน้าเร่งกำจัดกลิ่นควันไม่ให้กระทบกับผู้ที่มาใช้บริการ เเละโดยเฉพาะคนไข้ที่เข้ารักษา โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งมีทั้งเด็กทารกเเรกเกิดและผู้สูงอายุ ไปอยู่ในอาคารที่ปลอดภัย ตั้งเเต่เมื่อคืนที่เกิดเหตุ มีแพทย์และพยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเคลื่อนย้ายเครื่องมือเเพทย์บางส่วน แม้จะควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่อาคารนี้เป็นที่รวมของแผนกต่างๆ ในการให้บริการในโรงพยาบาล ทั้งคลังเลือด เอ็กซเรย์ ห้องคลอด และ 2 ห้องผ่าตัด จึงต้องปิดทำการชั่วคราว ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ภายในที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ ขณะที่มีรายงานจากทาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจพญาไท เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้า เพราะดูจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีการเกิดประกายไฟ จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร ผลกระทบที่เกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด งดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉินสำหรับงานเวชระเบียนการบริจาคโลหิต จุดเจาะเลือด ขอให้ใช้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่วิศวกร จะเข้าการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน เวลานี้ ทางโรงพยาบาลฯ นำโดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีเเพทยศาสตร์์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,รศ.นพ.อมร วิจิตพาวรรณ ผู้ช่วยคณะบดีฝ่ายกายภาพเเละสิ่งอำนวยความสะดวก ,ผศ. นพ. ปริย พรรณเชษฐ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงค่ำ 19.20 น. ภายในอาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก ที่บริเวณชั้น 2 ของ อาคารนี้ สร้างมา 60 ปี ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานรังสีวิทยา แผนกเอ็กซเรย์ ใกล้คลังเลือดเเละคลังเเลปพยาธิวิทยา เเจ้งกลุ่มควันขึ้นไปชั้น 3-4 มีคนป่วยจำนวนมาก โดยพบว่ากลุ่มควันไฟได้กระจายหลายจุดไปทั่วอาคาร จึงได้เร่งอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ใน อาคารประมาณ 500 เตียง ออกจากพื้นที่ ไปในพื้นที่ปลอดภัยก่อน โดยมีการย้ายผู้ป่วยในอาคารด้านทิศใต้ ไปในโซนทิศเหนือของโรงพยาบาล ทั้งคนไข้ที่อยู่ในไอซียู ผู้ป่วยทั่วไป โดยได้รับความร่วมมือจาก ทหาร ตำรวจ บุคคลากรเคลื่อนย้าย ใช้เวลาควบคุมเพลิง 1 ชั่วโมง คุมเพลิงได้ เเละนำคนไข้กลับมาฝั่งเหนือกลับมาทั้งหมด พร้อมประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง โรงพยาบาลพระมงกุฏ และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน เเต่มี 2 ตึกของโรงพยาบาล ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังไม่จำเป็น โรงพยาบาลสามารถดูเเลคนไข้ทั้งหมด สำหรับผลกระทบ ห้องชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 พยาธิ เเละห้องรังสีวิทยา ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ปิดการทำการไปก่อน เเละจำกัดคนไข้ที่จะเข้ารับการบริการ ไม่สามารถรับผู้ป่วยใหม่จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ จะรักษาคนไข้เดิม คนที่นัดไว้ อาจทำให้คนไข้ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง ครั้งนี้โชคดี ผู้ป่วยทุกคนได้รับการปลอดภัย ไม่มีใครบาดเจ็บและกลับมารักษาตามเเผนเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่กลับเข้าไปช่วยผู้ตกค้าง ได้รับบาดเจ็บ จนสำลักควัน ออกซิเจนในร่างกายน้อยลง คาร์บอนมอนออกไซด์ เข้าไปในปอด เเต่ยืนยันว่าที่มเเพทย์ จะช่วยให้กลับมาปลอดภัยได้ ส่วนเรื่องของรังสีกัมมันตภาพรั่วไหล ยืนยันว่าไม่มีรังสีรั่วไหล เพราะไม่มีการเปิดสวิต์ไฟ และไม่ใช่ที่เก็บกัมมันตภาพรังสี ส่วนผลกระทบด้านคลังเลือด ในช่วงเพลิงไหม้มีความจำเป็นต้องดับไฟ เมื่อเลือดไม่เย็นจะเสียภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งพบว่าเลือดเสียหายทั้งหมดรวม 100 ยูนิต ทำให้เลือดที่มีอยู่น้อยลงไป ต้องใช้เลือดในการผ่าตัดอย่างประหยัด ปกติจะใช้ 10-20 ยูนิตในการผ่าตัด คลังเลือดดังกล่าวเป็นคลังเลือดใหญ่ของโรงพยาบาล เเต่ยังมีคลังเลือดสำรองขนาดเล็กสำรองอยู่ จึงมีความจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ในการรับบริจาคเลือด สำหรับการผ่าตัดที่ต้องใช้เลือดปริมาณมาก เช่น การปลูกถ่ายตับ การผ่าตัดหัวใจ ยังสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้ สำหรับความเสียหายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่าเป็นห้องที่ขนาด 50 ตาราเมตร ส่วนใหญ่ภายในเป็นอุปกรณ์สำนักงาน เเละ เอกสาร เเต่ที่มีความกังสลคือ อุปการณ์เเพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน ในการตรวจวิเคราะห์กล้องจุลทรรศน์ที่อยู่ชั้น 3-4 ได้รับความเสียหายจากเขม่าควัน จากการการฉีดน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเย่างละเอียด จึงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้อย่างชัดเจน สำหรับการกลับมาให้บริการของโรงพยาบาล จะรีบดำเนินการให้กลับมาเปิดใช้บริการได้อย่างเร็วที่สุด เบื้องต้นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟ ระบบเเอร์ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยในเบื้องต้นว่า โรงพยาบาลจัดการได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้นำทีมฟิสิกส์เข้ามาหาสาเหตุ พบต้นเพลิง จุดที่มีการสปาร์คของไฟ บนฝ้าเพดาน ที่เป็นอาคารเก่า มีการรีโนเวทบ่อยครั้ง พบรอยสปาร์ค พบสายไฟหลอมละลาย จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร จะนำสายไฟไปตรวจสอบหาสาเหตุที่เเท้จริง มั่นใจว่าไม่ใช่การวางเพลิง เพราะลักษณะการเกิดเพลิงไหม้มีความเเตกต่างกัน ยืนยันว่าไม่ใช่การด่วนสรุป เเละจะนำผลการตรวจสายไฟ รวมถึงจุดต้นเพลิง เทียบเคียงกับกล้องวงจรปิด ว่าเป็นจุดเดียวกันกับจุดที่พบสายไฟหลอมละลายหรือไม่ ขณะที่ รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ นำทีมวิศกร จากวิศกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุสภาพอาคาร เบื้องต้นจากการใช้วิธีการสำรวจโครงสร้าง ด้วยสายตา ทางกายภาพพบว่าอาคารยังคงปกติ เเต่อาจมีความสียหายบ้างในบ้างจุด โดยเฉพาะพื้นห้องอาคารชั้น 3 จากความร้อน ส่วนการตรวจสอบเชิงลึก จะนำอุปกรณ์ เพื่อออกมาเป็นค่าตัวเลข เเละทำการโหลดเทส หรือ การตรวจสอบการรับน้ำหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจในการกลับใช้งาน #รับบริจาคเลือด #โรงพยาบาลรามาธิบดี #ไฟไหม้ cr:ฝันดีฝันเด่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 807 มุมมอง 0 รีวิว
  • รพ.รามาฯ แถลงไฟไหม้ ทำคลังเลือดเสียหายทั้งหมด ชวนบริจาคโลหิตด่วน
    https://www.thai-tai.tv/news/17621/
    รพ.รามาฯ แถลงไฟไหม้ ทำคลังเลือดเสียหายทั้งหมด ชวนบริจาคโลหิตด่วน https://www.thai-tai.tv/news/17621/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29 พ.ย. 2567
    ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต
    ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
    เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏
    #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก
    29 พ.ย. 2567 ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏 #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 788 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ครบกำหนด "บริจาคเลือด🩸"
    ของคุณแล้วหรือยัง❓
    มีหลายชีวิตที่รอดจากการรับโลหิต และอีกหลายชีวิตที่ยังคงรอคอยโลหิตจาก 'คุณ'

    มะนาวก้าวเดิน บริจาคเลือดครั้งที่5
    》》อีก 3 เดือน พบกันใหม่♡《《

    ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
    ชวนกลับมาเป็นผู้ให้โลหิต🩸
    เมื่อครบกำหนด 3 เดือน

    📍ใกล้ที่ไหน...บริจาคโลหิตที่นั่น
    ◾ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์
    ◾ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง
    ◾ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง
    ◾ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ
    ■■■■■■■■■■■
    #บริจาคเลือด #บริจาคโลหิต #เจอกันทุก3เดือน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ #มะนาวก้าวเดิน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ครบกำหนด "บริจาคเลือด🩸" ของคุณแล้วหรือยัง❓ มีหลายชีวิตที่รอดจากการรับโลหิต และอีกหลายชีวิตที่ยังคงรอคอยโลหิตจาก 'คุณ' มะนาวก้าวเดิน บริจาคเลือดครั้งที่5 》》อีก 3 เดือน พบกันใหม่♡《《 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ชวนกลับมาเป็นผู้ให้โลหิต🩸 เมื่อครบกำหนด 3 เดือน 📍ใกล้ที่ไหน...บริจาคโลหิตที่นั่น ◾ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์ ◾ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ◾ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ◾ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ ■■■■■■■■■■■ #บริจาคเลือด #บริจาคโลหิต #เจอกันทุก3เดือน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ #มะนาวก้าวเดิน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1296 มุมมอง 152 0 รีวิว
  • 27 ก.ย. 2567
    จิตอาสาสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต
    ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
    เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏

    #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก #จิตอาสา #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesอาสา
    27 ก.ย. 2567 จิตอาสาสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏 #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก #จิตอาสา #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesอาสา
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1380 มุมมอง 583 0 รีวิว
  • 27 ก.ย. 2567
    ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต
    ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
    เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏
    #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก #thaitimes #thaitimesอาสา
    27 ก.ย. 2567 ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏 #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก #thaitimes #thaitimesอาสา
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1232 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครบกำหนด "บริจาคเลือด🩸"
    ของคุณแล้วหรือยัง❓

    มีหลายชีวิตที่รอดจากการรับโลหิต และอีกหลายชีวิตที่ยังคงรอคอยโลหิตจาก 'คุณ'

    ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
    ชวนกลับมาเป็นผู้ให้โลหิต🩸
    เมื่อครบกำหนด 3 เดือน

    📍ใกล้ที่ไหน...บริจาคโลหิตที่นั่น
    ◾ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์
    ◾ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง
    ◾ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง
    ◾ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ
    ■■■■■■■■■■■■■■
    #บริจาคเลือด #บริจาคโลหิต #เจอกันทุก3เดือน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ #มะนาวก้าวเดิน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ครบกำหนด "บริจาคเลือด🩸" ของคุณแล้วหรือยัง❓ มีหลายชีวิตที่รอดจากการรับโลหิต และอีกหลายชีวิตที่ยังคงรอคอยโลหิตจาก 'คุณ' ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ชวนกลับมาเป็นผู้ให้โลหิต🩸 เมื่อครบกำหนด 3 เดือน 📍ใกล้ที่ไหน...บริจาคโลหิตที่นั่น ◾ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์ ◾ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ◾ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ◾ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ ■■■■■■■■■■■■■■ #บริจาคเลือด #บริจาคโลหิต #เจอกันทุก3เดือน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ #มะนาวก้าวเดิน #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1408 มุมมอง 0 รีวิว