• AI อัจฉริยะที่ Elon Musk บอกว่า “ฉลาดกว่าคนเรียนจบ PhD ทุกคน”

    Elon Musk เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI ล่าสุดจากบริษัท xAI โดยระบุว่าโมเดลนี้ได้รับการฝึกมากกว่า Grok 2 ถึง 100 เท่า และ “ฉลาดกว่าบัณฑิตระดับปริญญาเอกในทุกสาขาพร้อมกัน” เขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า “big bang แห่งสติปัญญา” และคาดว่า AI จะสามารถสร้างรายการทีวีที่ดูได้จริงภายในสิ้นปีนี้

    แม้ Musk จะยอมรับว่า Grok 4 ยัง “ขาดสามัญสำนึก” แต่เขาเชื่อว่าโมเดลนี้สามารถสร้างเทคโนโลยีใหม่ได้เร็ว ๆ นี้ และเน้นว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของ AI คือการแสวงหาความจริง” พร้อมเสนอแนวคิดว่า AI ควรได้รับการปลูกฝังคุณธรรมเหมือนการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างทรงพลัง

    อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Grok 4 เกิดขึ้นหลังจาก Grok 3 เคยมีประเด็นรุนแรง โดยโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler ซึ่งทำให้ทีมงานต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ

    Musk ยังเคยเชิญผู้ใช้แพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) ให้ช่วยฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง” หรือ “สิ่งที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองแต่เป็นความจริง” ซึ่งสะท้อนแนวทางที่แตกต่างจากโมเดลอื่นอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ที่ถูกมองว่า “ตื่นตัวทางสังคม” (woke)

    ข้อมูลจากข่าว
    - Elon Musk เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI ล่าสุดจาก xAI
    - Grok 4 ได้รับการฝึกมากกว่า Grok 2 ถึง 100 เท่า
    - Musk อ้างว่า Grok 4 ฉลาดกว่าบัณฑิตระดับ PhD ในทุกสาขาพร้อมกัน
    - คาดว่า AI จะสามารถสร้างรายการทีวีที่ดูได้จริงภายในสิ้นปี 2025
    - เน้นว่า AI ควรแสวงหาความจริงและมีคุณธรรมเหมือนเด็กที่ถูกเลี้ยงดูอย่างดี
    - การเปิดตัวเกิดขึ้นหลังจาก Grok 3 เคยโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิว
    - Musk เชิญผู้ใช้ X ช่วยฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง”
    - Linda Yaccarino ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ X หลังทำงานร่วมกับ Musk มา 2 ปี

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การอ้างว่า AI “ฉลาดกว่าระดับปริญญาเอก” ยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับ
    - Grok 3 เคยโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม
    - การฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง” อาจนำไปสู่การสร้างโมเดลที่มีอคติหรือเนื้อหาขัดแย้ง
    - การพัฒนา AI ที่เร็วเกินไปโดยไม่มีระบบควบคุมอาจเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด
    - การเปรียบเทียบกับโมเดลอื่นอย่าง ChatGPT หรือ Gemini อาจสร้างความแตกแยกในแนวทางการพัฒนา AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/12/elon-musk-says-his-new-ai-model-039better-than-phd-level-in-everything039
    AI อัจฉริยะที่ Elon Musk บอกว่า “ฉลาดกว่าคนเรียนจบ PhD ทุกคน” Elon Musk เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI ล่าสุดจากบริษัท xAI โดยระบุว่าโมเดลนี้ได้รับการฝึกมากกว่า Grok 2 ถึง 100 เท่า และ “ฉลาดกว่าบัณฑิตระดับปริญญาเอกในทุกสาขาพร้อมกัน” เขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า “big bang แห่งสติปัญญา” และคาดว่า AI จะสามารถสร้างรายการทีวีที่ดูได้จริงภายในสิ้นปีนี้ แม้ Musk จะยอมรับว่า Grok 4 ยัง “ขาดสามัญสำนึก” แต่เขาเชื่อว่าโมเดลนี้สามารถสร้างเทคโนโลยีใหม่ได้เร็ว ๆ นี้ และเน้นว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของ AI คือการแสวงหาความจริง” พร้อมเสนอแนวคิดว่า AI ควรได้รับการปลูกฝังคุณธรรมเหมือนการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างทรงพลัง อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Grok 4 เกิดขึ้นหลังจาก Grok 3 เคยมีประเด็นรุนแรง โดยโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler ซึ่งทำให้ทีมงานต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ Musk ยังเคยเชิญผู้ใช้แพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) ให้ช่วยฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง” หรือ “สิ่งที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองแต่เป็นความจริง” ซึ่งสะท้อนแนวทางที่แตกต่างจากโมเดลอื่นอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ที่ถูกมองว่า “ตื่นตัวทางสังคม” (woke) ✅ ข้อมูลจากข่าว - Elon Musk เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI ล่าสุดจาก xAI - Grok 4 ได้รับการฝึกมากกว่า Grok 2 ถึง 100 เท่า - Musk อ้างว่า Grok 4 ฉลาดกว่าบัณฑิตระดับ PhD ในทุกสาขาพร้อมกัน - คาดว่า AI จะสามารถสร้างรายการทีวีที่ดูได้จริงภายในสิ้นปี 2025 - เน้นว่า AI ควรแสวงหาความจริงและมีคุณธรรมเหมือนเด็กที่ถูกเลี้ยงดูอย่างดี - การเปิดตัวเกิดขึ้นหลังจาก Grok 3 เคยโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิว - Musk เชิญผู้ใช้ X ช่วยฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง” - Linda Yaccarino ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ X หลังทำงานร่วมกับ Musk มา 2 ปี ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การอ้างว่า AI “ฉลาดกว่าระดับปริญญาเอก” ยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับ - Grok 3 เคยโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม - การฝึก AI ด้วย “ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง” อาจนำไปสู่การสร้างโมเดลที่มีอคติหรือเนื้อหาขัดแย้ง - การพัฒนา AI ที่เร็วเกินไปโดยไม่มีระบบควบคุมอาจเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด - การเปรียบเทียบกับโมเดลอื่นอย่าง ChatGPT หรือ Gemini อาจสร้างความแตกแยกในแนวทางการพัฒนา AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/12/elon-musk-says-his-new-ai-model-039better-than-phd-level-in-everything039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk says his new AI model 'better than PhD level in everything'
    Describing the current time as the "intelligence big bang", Musk admitted Grok 4 "may lack common sense" but it might create new technology "as soon as this year."
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • ในพอดแคสต์ High Performance ตอนล่าสุด Mark Cuban ซึ่งมีทรัพย์สินราว $5.7 พันล้าน ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่า: “เราเพิ่งอยู่แค่ต้นทางของยุค Generative AI เท่านั้น” → เขาเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครสร้างสิ่งที่ “ดีที่สุดหรือบ้าที่สุดจากมันเลยด้วยซ้ำ”

    และเช่นเดียวกับยุคแรกของพีซี สมาร์ตโฟน และอินเทอร์เน็ต — Cuban มองว่า AI มีพลังทำลายล้างแบบสร้างสรรค์ยิ่งกว่า → และจะมีสักคนที่คิดค้นรูปแบบที่ “ทำให้ AI กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน” → ซึ่ง “เขาอาจไม่ใช่นักลงทุนหรือผู้ก่อตั้งใหญ่โต แต่อาจเป็นแค่คนเดียวในห้องใต้ดิน และกลายเป็นเศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลกได้”

    เขายังเปรียบเทียบการปฏิเสธ AI ว่าเหมือนกับที่คนยุคก่อนดูแคลนพีซี, อินเทอร์เน็ต, หรือสมาร์ตโฟน → สุดท้ายคนที่เข้าใจมันจะเป็นผู้ชนะ

    Cuban เองก็ใช้ AI อย่าง “บ้าคลั่ง” — ทั้งในชีวิตส่วนตัว, สุขภาพ, การออกกำลังกาย, เขียนซอฟต์แวร์ และแม้แต่ text-to-video → เขายอมรับว่า AI ยังมีผิดบ้าง แต่คนฉลาดจะเช็กและใช้อย่างรู้เท่าทัน

    Mark Cuban กล่าวว่า AI จะสร้างเศรษฐีระดับ $1 ล้านล้านคนแรกของโลก  
    • “อาจไม่ใช่ผู้ก่อตั้งดังๆ แต่เป็นแค่คนเดียวในห้องใต้ดิน”  
    • คล้ายยุคเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต/คลาวด์ ที่มีผู้ชนะหน้าใหม่แจ้งเกิด

    เขาเชื่อว่าเรายังไม่เห็น AI ที่ทรงพลังสุดในระดับ “เปลี่ยนโลก”  
    • ชี้ว่าของจริงจะมาจากคนที่ “เปลี่ยน AI ให้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตทุกวัน”

    เปรียบเทียบการต่อต้าน AI เหมือนยุคคนไม่เห็นค่าพีซีและมือถือ  
    • เชื่อว่าคนที่ “ด่า AI วันนี้” จะใช้อย่างเต็มที่ในวันหน้า

    Cuban ใช้ AI สำหรับงาน-สุขภาพ-ซอฟต์แวร์-วิดีโอโดยตรง  
    • ยอมรับว่า AI ยังผิดพลาดบ้าง และต้องตรวจสอบผลลัพธ์

    https://www.techspot.com/news/108572-mark-cuban-ai-could-create-first-trillionaire-ndash.html
    ในพอดแคสต์ High Performance ตอนล่าสุด Mark Cuban ซึ่งมีทรัพย์สินราว $5.7 พันล้าน ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่า: “เราเพิ่งอยู่แค่ต้นทางของยุค Generative AI เท่านั้น” → เขาเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครสร้างสิ่งที่ “ดีที่สุดหรือบ้าที่สุดจากมันเลยด้วยซ้ำ” และเช่นเดียวกับยุคแรกของพีซี สมาร์ตโฟน และอินเทอร์เน็ต — Cuban มองว่า AI มีพลังทำลายล้างแบบสร้างสรรค์ยิ่งกว่า → และจะมีสักคนที่คิดค้นรูปแบบที่ “ทำให้ AI กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน” → ซึ่ง “เขาอาจไม่ใช่นักลงทุนหรือผู้ก่อตั้งใหญ่โต แต่อาจเป็นแค่คนเดียวในห้องใต้ดิน และกลายเป็นเศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลกได้” เขายังเปรียบเทียบการปฏิเสธ AI ว่าเหมือนกับที่คนยุคก่อนดูแคลนพีซี, อินเทอร์เน็ต, หรือสมาร์ตโฟน → สุดท้ายคนที่เข้าใจมันจะเป็นผู้ชนะ Cuban เองก็ใช้ AI อย่าง “บ้าคลั่ง” — ทั้งในชีวิตส่วนตัว, สุขภาพ, การออกกำลังกาย, เขียนซอฟต์แวร์ และแม้แต่ text-to-video → เขายอมรับว่า AI ยังมีผิดบ้าง แต่คนฉลาดจะเช็กและใช้อย่างรู้เท่าทัน ✅ Mark Cuban กล่าวว่า AI จะสร้างเศรษฐีระดับ $1 ล้านล้านคนแรกของโลก   • “อาจไม่ใช่ผู้ก่อตั้งดังๆ แต่เป็นแค่คนเดียวในห้องใต้ดิน”   • คล้ายยุคเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต/คลาวด์ ที่มีผู้ชนะหน้าใหม่แจ้งเกิด ✅ เขาเชื่อว่าเรายังไม่เห็น AI ที่ทรงพลังสุดในระดับ “เปลี่ยนโลก”   • ชี้ว่าของจริงจะมาจากคนที่ “เปลี่ยน AI ให้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตทุกวัน” ✅ เปรียบเทียบการต่อต้าน AI เหมือนยุคคนไม่เห็นค่าพีซีและมือถือ   • เชื่อว่าคนที่ “ด่า AI วันนี้” จะใช้อย่างเต็มที่ในวันหน้า ✅ Cuban ใช้ AI สำหรับงาน-สุขภาพ-ซอฟต์แวร์-วิดีโอโดยตรง   • ยอมรับว่า AI ยังผิดพลาดบ้าง และต้องตรวจสอบผลลัพธ์ https://www.techspot.com/news/108572-mark-cuban-ai-could-create-first-trillionaire-ndash.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Mark Cuban says AI could create the first trillionaire – "just one dude in the basement"
    Cuban, who has an estimated fortune of around $5.7 billion, was extolling the virtues of AI on a recent episode of the High Performance podcast.
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • อีเมลเคยเป็นราชาแห่งการสื่อสารดิจิทัล
    แต่วันนี้ เรากลับเหนื่อยกับกล่องจดหมายที่ล้น ฟิชชิงลวงตา และการตอบกลับที่ไร้ประโยชน์

    ในยุคที่ทุกอย่างเร็วและฉลาดขึ้น
    Slack, Teams, AI, WhatsApp กำลังเข้ามาแทนที่
    แม้แต่อีเมลก็เริ่มกลายเป็นแค่ “ระบบยืนยันตัวตน” ไม่ใช่ช่องทางหลัก

    การสิ้นสุดยุคอีเมล: บทใหม่ของการสื่อสารในโลกที่หมุนเร็ว
    ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อีเมล เคยเป็นเครื่องมือการสื่อสารดิจิทัลที่ทรงพลัง เปลี่ยนวิธีที่มนุษย์ติดต่อกันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มันรวดเร็ว ประหยัด และเก็บบันทึกได้อย่างเป็นระบบ อีเมลช่วยให้โลกใบนี้ใกล้กันขึ้นโดยลบเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ แต่ทุกเทคโนโลยีย่อมมีวาระของมัน และอีเมลก็กำลังเดินทางสู่ช่วงปลายของบทบาทหลักในยุคที่ความต้องการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

    จุดสูงสุดของอีเมล: จากนวัตกรรมสู่โครงสร้างหลัก
    การถือกำเนิดของอีเมลในทศวรรษ 1970 เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทั่วโลก ในทศวรรษ 1990 มันกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งในแวดวงธุรกิจ การศึกษา และชีวิตส่วนตัว ความสามารถในการแนบไฟล์ ส่งข้อความได้ทันทีข้ามทวีป และการเก็บบันทึกแบบถาวร ทำให้อีเมลกลายเป็น "ราชาแห่งการสื่อสารแบบอะซิงโครนัส"

    อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ดังกล่าวไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด

    เมื่อกำแพงเริ่มแตกร้าว: ข้อบกพร่องที่ไม่อาจมองข้าม
    1️⃣ ความปลอดภัยที่ล้าหลัง
    อีเมลเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาชญากรรมไซเบอร์ แม้จะมีการเข้ารหัสขั้นพื้นฐาน แต่รูปแบบการทำงานที่กระจายอำนาจทำให้การควบคุมความปลอดภัยแบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ ส่งผลให้ฟิชชิง สแปม และมัลแวร์ยังคงแพร่กระจายได้ง่าย

    2️⃣ ภาระของการจัดการข้อมูล
    การออกแบบที่เรียงตามลำดับเวลาและตามหัวข้อ (thread) ทำให้ข้อความสำคัญถูกฝังอยู่ใต้ชั้นของการตอบกลับและสแปม ผู้ใช้จำนวนมากจึงเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "Email Fatigue" หรือ อาการเหนื่อยล้าจากอีเมล จนกลายเป็นภาระทางจิตใจมากกว่าประโยชน์ทางการสื่อสาร

    3️⃣ ไม่เหมาะกับโลกที่ต้องการความรวดเร็ว
    ในยุคที่ความเร็วในการตอบสนองมีผลต่อความสำเร็จของงาน อีเมลกลับไม่ตอบโจทย์ความต้องการของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ที่ทีมงานในปัจจุบันต่างคาดหวัง

    🛜 การเปลี่ยนผ่านสู่เครื่องมือสื่อสารใหม่
    การเสื่อมถอยของอีเมลเปิดพื้นที่ให้เครื่องมือใหม่เข้ามาแทนที่:

    Slack, Microsoft Teams, Zoom: ผสานการแชท วิดีโอคอลล์ และการทำงานร่วมกันไว้ในที่เดียว ลดความยุ่งยากจากการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม

    WhatsApp, Telegram, LINE: แอปพลิเคชันที่เข้าถึงง่าย ใช้งานได้บนอุปกรณ์พกพา และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการ

    AI Assistant: การนำ AI มาช่วยร่าง ตอบ หรือตั้งเวลาอีเมล ทำให้ความจำเป็นในการเขียนอีเมลด้วยตนเองลดลง

    อีเมลในบทบาทใหม่: ไม่หายไป แต่ถอยห่าง
    แม้การใช้งานจะลดลง แต่อีเมลจะยังคงอยู่ในบางบริบท เช่น:

    - การสื่อสารอย่างเป็นทางการ
    - เอกสารทางกฎหมาย
    - การติดต่อข้ามองค์กรที่ไม่ใช้เครื่องมือร่วมกัน

    ทางเลือกแห่งอนาคต: จากโลกจริงสู่โลกเสมือน
    1️⃣ ระบบสื่อสารที่ใช้บล็อกเชน: ยกระดับความปลอดภัย ปราศจากการควบคุมจากศูนย์กลาง

    2️⃣ ชุด Productivity แบบรวมศูนย์ (เช่น Google Workspace, Microsoft 365): ฝังการสื่อสารไว้ในบริบทของการทำงานจริง

    3️⃣ Metaverse และ XR (Extended Reality): การประชุมเสมือนแบบ immersive หรือการทำงานร่วมกันในพื้นที่เสมือนอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่

    บทสรุป: การเดินทางของอีเมลจากพระเอกสู่ผู้เบื้องหลัง
    การสิ้นสุดของยุคอีเมลไม่ใช่จุดจบที่เศร้าหมอง แต่มันคือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของเทคโนโลยี อีเมลมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การสื่อสาร และสมควรได้รับการยอมรับในฐานะจุดเปลี่ยนของโลกดิจิทัล แต่ในโลกที่ให้ความสำคัญกับ ความเร็ว ความปลอดภัย และประสบการณ์แบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เครื่องมือใหม่ๆ กำลังเข้ามารับไม้ต่อ

    เราไม่ได้เพียงแค่ปิดกล่องจดหมาย — เรากำลังเปิดประตูสู่อนาคตที่สื่อสารได้ชาญฉลาดขึ้น เชื่อมโยงลึกขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น

    โลกกำลังก้าวสู่การสื่อสารที่ เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อมโยงแบบมนุษย์มากขึ้น

    แล้วคุณยังใช้อีเมลเป็นหลักอยู่หรือเปล่า

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    อีเมลเคยเป็นราชาแห่งการสื่อสารดิจิทัล แต่วันนี้ เรากลับเหนื่อยกับกล่องจดหมายที่ล้น ฟิชชิงลวงตา และการตอบกลับที่ไร้ประโยชน์ ในยุคที่ทุกอย่างเร็วและฉลาดขึ้น Slack, Teams, AI, WhatsApp กำลังเข้ามาแทนที่ แม้แต่อีเมลก็เริ่มกลายเป็นแค่ “ระบบยืนยันตัวตน” ไม่ใช่ช่องทางหลัก 📭📭 การสิ้นสุดยุคอีเมล: บทใหม่ของการสื่อสารในโลกที่หมุนเร็ว 🪦🪦 ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อีเมล เคยเป็นเครื่องมือการสื่อสารดิจิทัลที่ทรงพลัง เปลี่ยนวิธีที่มนุษย์ติดต่อกันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มันรวดเร็ว ประหยัด และเก็บบันทึกได้อย่างเป็นระบบ อีเมลช่วยให้โลกใบนี้ใกล้กันขึ้นโดยลบเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ แต่ทุกเทคโนโลยีย่อมมีวาระของมัน และอีเมลก็กำลังเดินทางสู่ช่วงปลายของบทบาทหลักในยุคที่ความต้องการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว 🔝 จุดสูงสุดของอีเมล: จากนวัตกรรมสู่โครงสร้างหลัก การถือกำเนิดของอีเมลในทศวรรษ 1970 เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทั่วโลก ในทศวรรษ 1990 มันกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งในแวดวงธุรกิจ การศึกษา และชีวิตส่วนตัว ความสามารถในการแนบไฟล์ ส่งข้อความได้ทันทีข้ามทวีป และการเก็บบันทึกแบบถาวร ทำให้อีเมลกลายเป็น "ราชาแห่งการสื่อสารแบบอะซิงโครนัส" อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ดังกล่าวไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด 🧱🧱 เมื่อกำแพงเริ่มแตกร้าว: ข้อบกพร่องที่ไม่อาจมองข้าม 1️⃣ ความปลอดภัยที่ล้าหลัง อีเมลเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาชญากรรมไซเบอร์ แม้จะมีการเข้ารหัสขั้นพื้นฐาน แต่รูปแบบการทำงานที่กระจายอำนาจทำให้การควบคุมความปลอดภัยแบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ ส่งผลให้ฟิชชิง สแปม และมัลแวร์ยังคงแพร่กระจายได้ง่าย 2️⃣ ภาระของการจัดการข้อมูล การออกแบบที่เรียงตามลำดับเวลาและตามหัวข้อ (thread) ทำให้ข้อความสำคัญถูกฝังอยู่ใต้ชั้นของการตอบกลับและสแปม ผู้ใช้จำนวนมากจึงเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "Email Fatigue" หรือ อาการเหนื่อยล้าจากอีเมล จนกลายเป็นภาระทางจิตใจมากกว่าประโยชน์ทางการสื่อสาร 3️⃣ ไม่เหมาะกับโลกที่ต้องการความรวดเร็ว ในยุคที่ความเร็วในการตอบสนองมีผลต่อความสำเร็จของงาน อีเมลกลับไม่ตอบโจทย์ความต้องการของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ที่ทีมงานในปัจจุบันต่างคาดหวัง 📶🛜 การเปลี่ยนผ่านสู่เครื่องมือสื่อสารใหม่ การเสื่อมถอยของอีเมลเปิดพื้นที่ให้เครื่องมือใหม่เข้ามาแทนที่: ✅ Slack, Microsoft Teams, Zoom: ผสานการแชท วิดีโอคอลล์ และการทำงานร่วมกันไว้ในที่เดียว ลดความยุ่งยากจากการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม ✅ WhatsApp, Telegram, LINE: แอปพลิเคชันที่เข้าถึงง่าย ใช้งานได้บนอุปกรณ์พกพา และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการ ✅ AI Assistant: การนำ AI มาช่วยร่าง ตอบ หรือตั้งเวลาอีเมล ทำให้ความจำเป็นในการเขียนอีเมลด้วยตนเองลดลง 🎯🎯 อีเมลในบทบาทใหม่: ไม่หายไป แต่ถอยห่าง แม้การใช้งานจะลดลง แต่อีเมลจะยังคงอยู่ในบางบริบท เช่น: - การสื่อสารอย่างเป็นทางการ - เอกสารทางกฎหมาย - การติดต่อข้ามองค์กรที่ไม่ใช้เครื่องมือร่วมกัน 🔮 ทางเลือกแห่งอนาคต: จากโลกจริงสู่โลกเสมือน 1️⃣ ระบบสื่อสารที่ใช้บล็อกเชน: ยกระดับความปลอดภัย ปราศจากการควบคุมจากศูนย์กลาง 2️⃣ ชุด Productivity แบบรวมศูนย์ (เช่น Google Workspace, Microsoft 365): ฝังการสื่อสารไว้ในบริบทของการทำงานจริง 3️⃣ Metaverse และ XR (Extended Reality): การประชุมเสมือนแบบ immersive หรือการทำงานร่วมกันในพื้นที่เสมือนอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ 🏁🏁 บทสรุป: การเดินทางของอีเมลจากพระเอกสู่ผู้เบื้องหลัง 🏁🏁 การสิ้นสุดของยุคอีเมลไม่ใช่จุดจบที่เศร้าหมอง แต่มันคือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของเทคโนโลยี อีเมลมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การสื่อสาร และสมควรได้รับการยอมรับในฐานะจุดเปลี่ยนของโลกดิจิทัล แต่ในโลกที่ให้ความสำคัญกับ ความเร็ว ความปลอดภัย และประสบการณ์แบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เครื่องมือใหม่ๆ กำลังเข้ามารับไม้ต่อ เราไม่ได้เพียงแค่ปิดกล่องจดหมาย — เรากำลังเปิดประตูสู่อนาคตที่สื่อสารได้ชาญฉลาดขึ้น เชื่อมโยงลึกขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น 📌 โลกกำลังก้าวสู่การสื่อสารที่ เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อมโยงแบบมนุษย์มากขึ้น แล้วคุณยังใช้อีเมลเป็นหลักอยู่หรือเปล่า❓❓ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • **เครื่องบดอาหารสแตนเลส #52! สุดยอดเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตพริกแกง!**
    มองหาเครื่องบดคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่องในโรงงานของคุณอยู่ใช่ไหมคะ?
    หจก ย.ย่งฮะเฮง ขอเสนอ! เครื่องบดอาหาร**สแตนเลสแท้ #52
    ** มอเตอร์ทรงพลัง **7 แรงม้า!**
    บดละเอียด เนียนสวย ได้มาตรฐานโรงงานแน่นอน!
    ** ทนทาน ไร้สนิม:**
    * โครงสร้าง เครื่อง แกนบด ใบมีด รังผึ้ง ผลิตจากสแตนเลสเกรดพรีเมียม
    * แข็งแรง ทนทานงานหนักต่อเนื่อง เหมาะกับสภาพแวดล้อมโรงงาน
    * สะอาด ถูกสุขอนามัย มั่นใจได้ในทุกการผลิต!
    **กำลังการผลิตสูง! ตอบโจทย์โรงงาน:**
    * มอเตอร์ 7 แรงม้า บดรวดเร็วทันใจ รองรับปริมาณมหาศาล
    * ประหยัดไฟด้วยระบบ 380V (3 เฟส)
    **ปลอดภัย ใช้งานง่าย:**
    * มีระบบหยุดฉุกเฉิน และระบบถอยหลัง ช่วยให้ทำงานราบรื่น ไม่สะดุด
    * มีล้อเลื่อนพร้อมที่ล็อค เคลื่อนย้ายง่าย จัดวางสะดวก
    **เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:** **โรงงานผลิตพริกแกง** โรงงานผลิตเครื่องเทศ และโรงงานแปรรูปอาหารที่ต้องการเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง เพื่อการผลิตที่เหนือกว่า!
    ยกระดับการผลิตของคุณวันนี้! สนใจติดต่อ:
    โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098
    แอดไลน์: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก: https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com
    เยี่ยมชมสินค้าได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    (จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.)
    #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดพริกแกง #โรงงานผลิตพริกแกง #เครื่องบดเครื่องเทศ #อุปกรณ์โรงงาน #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ขายดี #สินค้าคุณภาพสูง #การผลิตขนาดใหญ่ #SME #โรงงานอาหาร
    💥 **เครื่องบดอาหารสแตนเลส #52! สุดยอดเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตพริกแกง!** 🌶️🧄🧅 มองหาเครื่องบดคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่องในโรงงานของคุณอยู่ใช่ไหมคะ? หจก ย.ย่งฮะเฮง ขอเสนอ! เครื่องบดอาหาร**สแตนเลสแท้ #52 ** มอเตอร์ทรงพลัง **7 แรงม้า!** 💪 บดละเอียด เนียนสวย ได้มาตรฐานโรงงานแน่นอน! ✔️ ** ทนทาน ไร้สนิม:** * โครงสร้าง เครื่อง แกนบด ใบมีด รังผึ้ง ผลิตจากสแตนเลสเกรดพรีเมียม 💯 * แข็งแรง ทนทานงานหนักต่อเนื่อง เหมาะกับสภาพแวดล้อมโรงงาน ✅ * สะอาด ถูกสุขอนามัย มั่นใจได้ในทุกการผลิต! ✨ ✔️ **กำลังการผลิตสูง! ตอบโจทย์โรงงาน:** * มอเตอร์ 7 แรงม้า บดรวดเร็วทันใจ รองรับปริมาณมหาศาล 🚀 * ประหยัดไฟด้วยระบบ 380V (3 เฟส) 💡 ✔️ **ปลอดภัย ใช้งานง่าย:** * มีระบบหยุดฉุกเฉิน 🔴 และระบบถอยหลัง ช่วยให้ทำงานราบรื่น ไม่สะดุด * มีล้อเลื่อนพร้อมที่ล็อค เคลื่อนย้ายง่าย จัดวางสะดวก 🚛 **เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:** **โรงงานผลิตพริกแกง** โรงงานผลิตเครื่องเทศ และโรงงานแปรรูปอาหารที่ต้องการเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง เพื่อการผลิตที่เหนือกว่า! 🏭 ยกระดับการผลิตของคุณวันนี้! สนใจติดต่อ: 📞 โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098 💬 แอดไลน์: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก: https://lin.ee/HV4lSKp 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com 📍 เยี่ยมชมสินค้าได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 🗓️ (จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.) #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดพริกแกง #โรงงานผลิตพริกแกง #เครื่องบดเครื่องเทศ #อุปกรณ์โรงงาน #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ขายดี #สินค้าคุณภาพสูง #การผลิตขนาดใหญ่ #SME #โรงงานอาหาร
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • **เครื่องบดอาหารสแตนเลส #52! สุดยอดเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตพริกแกง!**
    มองหาเครื่องบดคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่องในโรงงานของคุณอยู่ใช่ไหมคะ?
    หจก ย.ย่งฮะเฮง ขอเสนอ! เครื่องบดอาหาร**สแตนเลสแท้ #52
    ** มอเตอร์ทรงพลัง **7 แรงม้า!**
    บดละเอียด เนียนสวย ได้มาตรฐานโรงงานแน่นอน!
    ** ทนทาน ไร้สนิม:**
    * โครงสร้าง เครื่อง แกนบด ใบมีด รังผึ้ง ผลิตจากสแตนเลสเกรดพรีเมียม
    * แข็งแรง ทนทานงานหนักต่อเนื่อง เหมาะกับสภาพแวดล้อมโรงงาน
    * สะอาด ถูกสุขอนามัย มั่นใจได้ในทุกการผลิต!
    **กำลังการผลิตสูง! ตอบโจทย์โรงงาน:**
    * มอเตอร์ 7 แรงม้า บดรวดเร็วทันใจ รองรับปริมาณมหาศาล
    * ประหยัดไฟด้วยระบบ 380V (3 เฟส)
    **ปลอดภัย ใช้งานง่าย:**
    * มีระบบหยุดฉุกเฉิน และระบบถอยหลัง ช่วยให้ทำงานราบรื่น ไม่สะดุด
    * มีล้อเลื่อนพร้อมที่ล็อค เคลื่อนย้ายง่าย จัดวางสะดวก
    **เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:** **โรงงานผลิตพริกแกง** โรงงานผลิตเครื่องเทศ และโรงงานแปรรูปอาหารที่ต้องการเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง เพื่อการผลิตที่เหนือกว่า!
    ยกระดับการผลิตของคุณวันนี้! สนใจติดต่อ:
    โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098
    แอดไลน์: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก: https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com
    เยี่ยมชมสินค้าได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    (จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.)
    #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดพริกแกง #โรงงานผลิตพริกแกง #เครื่องบดเครื่องเทศ #อุปกรณ์โรงงาน #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ขายดี #สินค้าคุณภาพสูง #การผลิตขนาดใหญ่ #SME #โรงงานอาหาร #FoodProcessing #StainlessSteelGrinder #YongHahHeng #หจกย่งฮะเฮง #สแตนเลสเกรดโรงงาน #ผลิตพริกแกง
    💥 **เครื่องบดอาหารสแตนเลส #52! สุดยอดเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตพริกแกง!** 🌶️🧄🧅 มองหาเครื่องบดคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่องในโรงงานของคุณอยู่ใช่ไหมคะ? หจก ย.ย่งฮะเฮง ขอเสนอ! เครื่องบดอาหาร**สแตนเลสแท้ #52 ** มอเตอร์ทรงพลัง **7 แรงม้า!** 💪 บดละเอียด เนียนสวย ได้มาตรฐานโรงงานแน่นอน! ✔️ ** ทนทาน ไร้สนิม:** * โครงสร้าง เครื่อง แกนบด ใบมีด รังผึ้ง ผลิตจากสแตนเลสเกรดพรีเมียม 💯 * แข็งแรง ทนทานงานหนักต่อเนื่อง เหมาะกับสภาพแวดล้อมโรงงาน ✅ * สะอาด ถูกสุขอนามัย มั่นใจได้ในทุกการผลิต! ✨ ✔️ **กำลังการผลิตสูง! ตอบโจทย์โรงงาน:** * มอเตอร์ 7 แรงม้า บดรวดเร็วทันใจ รองรับปริมาณมหาศาล 🚀 * ประหยัดไฟด้วยระบบ 380V (3 เฟส) 💡 ✔️ **ปลอดภัย ใช้งานง่าย:** * มีระบบหยุดฉุกเฉิน 🔴 และระบบถอยหลัง ช่วยให้ทำงานราบรื่น ไม่สะดุด * มีล้อเลื่อนพร้อมที่ล็อค เคลื่อนย้ายง่าย จัดวางสะดวก 🚛 **เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:** **โรงงานผลิตพริกแกง** โรงงานผลิตเครื่องเทศ และโรงงานแปรรูปอาหารที่ต้องการเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง เพื่อการผลิตที่เหนือกว่า! 🏭 ยกระดับการผลิตของคุณวันนี้! สนใจติดต่อ: 📞 โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098 💬 แอดไลน์: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก: https://lin.ee/HV4lSKp 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com 📍 เยี่ยมชมสินค้าได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 🗓️ (จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.) #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดพริกแกง #โรงงานผลิตพริกแกง #เครื่องบดเครื่องเทศ #อุปกรณ์โรงงาน #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ขายดี #สินค้าคุณภาพสูง #การผลิตขนาดใหญ่ #SME #โรงงานอาหาร #FoodProcessing #StainlessSteelGrinder #YongHahHeng #หจกย่งฮะเฮง #สแตนเลสเกรดโรงงาน #ผลิตพริกแกง
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ!
    เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น!

    บดละเอียดได้ตามใจคุณ!
    ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่กระดูกอ่อน เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง!

    เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ!
    มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด!

    โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย!
    ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ!

    รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้:
    มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP)
    กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้
    กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr)
    ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm)
    น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg)

    เหมาะสำหรับ:
    #ร้านอาหาร
    #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง)
    ร้านขายเนื้อ
    ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก
    และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ!

    อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้!
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่:
    โทร: 02-215-3515-9
    สายด่วน: 081-318-9098
    LINE ID: @yonghahheng
    Facebook: yonghahheng
    TikTok: @yonghahheng
    Instagram: yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yonghahheng.com

    #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    💥 เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ! 🚀 เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา ⏰ และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น! ✨ 🥩 บดละเอียดได้ตามใจคุณ! ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู 🐷 เนื้อวัว 🐄 หรือแม้แต่กระดูกอ่อน 🦴 เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก 🌭 หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง! 🚀 เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ! มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า 💪 และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ⏱️ ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด! 💯 ⚙️ โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย! ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ✨ ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว 🧼 แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ! รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้: 📌มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP) 📌กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้ 🔌 📌กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr) 📌ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm) 📌น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg) 🏋️‍♂️ เหมาะสำหรับ: #ร้านอาหาร 🍽️ #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง) 🏭 ร้านขายเนื้อ 🛍️ ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก 📈 และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ! 👨‍🍳👩‍🍳 📞 อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่: โทร: 02-215-3515-9 ☎️ สายด่วน: 081-318-9098 📱 LINE ID: @yonghahheng Facebook: yonghahheng 👍 TikTok: @yonghahheng 🎵 Instagram: yonghahheng 📸 เว็บไซต์: www.yonghahheng.com 🌐 #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    0 Comments 0 Shares 326 Views 39 0 Reviews
  • ถ้าใครเคยทำงานคลังสินค้าหรือดูคลิปใน TikTok จะรู้เลยว่างาน “โหลดของขึ้นรถ” คือสุดยอดของความเหนื่อย — ต้องยกกล่องหนัก ๆ ท่ามกลางความร้อน (ในรถไม่มีแอร์), ท่าทางที่ผิดหลักสรีระ และต้องทำให้เร็วมาก

    ที่ผ่านมาแม้คลังสินค้าจะเริ่มอัตโนมัติแล้ว แต่ขั้นตอนนี้กลับ “ยังต้องใช้แรงงานคน” อยู่เป็นด่านสุดท้าย — จนกระทั่งหุ่นยนต์ยุคใหม่เริ่มฉลาดพอจะรับหน้าที่แทน

    ตอนนี้มี 4 บริษัทที่พาหุ่นยนต์เข้าสนามจริง:
    - Ambi Robotics: มีหุ่นยนต์ AmbiStack ใช้ AI วิเคราะห์ “กล่องที่ไม่รู้จักมาก่อน” แล้วเรียงลงพาเลตแบบอัตโนมัติ โดยคำนึงถึงน้ำหนัก, ความเปราะ, จุดถ่วง — แถมเรียนรู้จากประสบการณ์จริงได้เรื่อย ๆ
    - Boston Dynamics: ส่ง Stretch ลงสนาม มันมีแขนดูดทรงพลัง เก็บกล่องหลากชนิดได้แม้มีรอยขาด แถมมีกล้อง LiDAR ให้มองเห็นรอบตัว และเรียกคนช่วยเมื่อเกิดปัญหา
    - FedEx + Dexterity AI: ทดลอง DexR หุ่นสองแขนที่ใช้ AI คิดผังการวางกล่องแบบ “สร้างกำแพง” ภายในครึ่งวินาที แล้วขยับแขนให้กล่องแน่นสุด ๆ โดยไม่ชนกัน
    - Walmart: ใช้ “FoxBots” รถยกพาเลตอัตโนมัติที่สามารถขนกล่องซ้อนสองชั้นกว่า 60 ชุดต่อชั่วโมง

    แรงงานคนจึงเริ่ม “เปลี่ยนบทบาท” มาเป็นผู้ดูแลหุ่นแทน — คอยตรวจสอบ, แก้ปัญหา และปรับปรุงการทำงาน เป็นสัญญาณว่า…อาจไม่มี “คนยกของ” อีกต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    https://www.techspot.com/news/108425-robots-transforming-warehouse-automation-ending-back-breaking-truck.html
    ถ้าใครเคยทำงานคลังสินค้าหรือดูคลิปใน TikTok จะรู้เลยว่างาน “โหลดของขึ้นรถ” คือสุดยอดของความเหนื่อย — ต้องยกกล่องหนัก ๆ ท่ามกลางความร้อน (ในรถไม่มีแอร์), ท่าทางที่ผิดหลักสรีระ และต้องทำให้เร็วมาก ที่ผ่านมาแม้คลังสินค้าจะเริ่มอัตโนมัติแล้ว แต่ขั้นตอนนี้กลับ “ยังต้องใช้แรงงานคน” อยู่เป็นด่านสุดท้าย — จนกระทั่งหุ่นยนต์ยุคใหม่เริ่มฉลาดพอจะรับหน้าที่แทน ตอนนี้มี 4 บริษัทที่พาหุ่นยนต์เข้าสนามจริง: - Ambi Robotics: มีหุ่นยนต์ AmbiStack ใช้ AI วิเคราะห์ “กล่องที่ไม่รู้จักมาก่อน” แล้วเรียงลงพาเลตแบบอัตโนมัติ โดยคำนึงถึงน้ำหนัก, ความเปราะ, จุดถ่วง — แถมเรียนรู้จากประสบการณ์จริงได้เรื่อย ๆ - Boston Dynamics: ส่ง Stretch ลงสนาม มันมีแขนดูดทรงพลัง เก็บกล่องหลากชนิดได้แม้มีรอยขาด แถมมีกล้อง LiDAR ให้มองเห็นรอบตัว และเรียกคนช่วยเมื่อเกิดปัญหา - FedEx + Dexterity AI: ทดลอง DexR หุ่นสองแขนที่ใช้ AI คิดผังการวางกล่องแบบ “สร้างกำแพง” ภายในครึ่งวินาที แล้วขยับแขนให้กล่องแน่นสุด ๆ โดยไม่ชนกัน - Walmart: ใช้ “FoxBots” รถยกพาเลตอัตโนมัติที่สามารถขนกล่องซ้อนสองชั้นกว่า 60 ชุดต่อชั่วโมง แรงงานคนจึงเริ่ม “เปลี่ยนบทบาท” มาเป็นผู้ดูแลหุ่นแทน — คอยตรวจสอบ, แก้ปัญหา และปรับปรุงการทำงาน เป็นสัญญาณว่า…อาจไม่มี “คนยกของ” อีกต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า https://www.techspot.com/news/108425-robots-transforming-warehouse-automation-ending-back-breaking-truck.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots are transforming warehouse automation and ending back-breaking truck loading
    The last stronghold of human labor in warehouses – the grueling job of loading and unloading trucks – is rapidly giving way to a new generation of...
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป"

    คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ

    18 มิถุนายน 2025
    .

    “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี

    ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่

    หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง

    หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ

    แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน

    ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง

    ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ

    ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง

    ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า:
    “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139)

    การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน

    ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน

    แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

    ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ:
    “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126)

    ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป" คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ 18 มิถุนายน 2025 . “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่ หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า: “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139) การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ: “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126) ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 322 Views 16 0 Reviews
  • การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้
    นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.

    รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่
    ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน.
    เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข.
    พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน.
    เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย.
    การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ.
    การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม.

    แนวทางการนำไปใช้
    ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร.
    นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง.
    ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG
    IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029.
    การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG.
    การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง.

    https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้ นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ. รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่ ✅ ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน. ✅ เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข. ✅ พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน. ✅ เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย. ‼️ การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ. ‼️ การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม. แนวทางการนำไปใช้ ✅ ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร. ✅ นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง. ✅ ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG ✅ IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029. ✅ การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG. ‼️ การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง. https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Quantum upgrade makes random number generation fully traceable
    Physicists at the National Institute of Standards and Technology in Boulder, Colorado, have upgraded their previously developed quantum-based method for true random number generation. Thanks to the...
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านทำให้หลายประเทศได้เห็นแล้วว่า "ทรงพลังมากกว่าที่คาดไว้"

    ที่ผ่านมา ตะวันตกมักจะประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไปอยู่เสมอ เช่น ระบอบการปกครองของอิหร่านจะล่มสลาย รัสเซียจะพ่ายแพ้ได้ง่าย อาวุธใกล้จะหมด เศรษฐกิจจะล่มสลาย จีนประเทศชาวนนาไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ เหล่านี้เป็นต้น

    ตะวันตกไม่เคยประเมินสถานการณ์จริงอย่างมีข้อมูล เพราะอะไร!?! เพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความเห็นต่าง ทั้งๆที่ปากพร่ำสอนเรื่องประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นต่าง แต่กลายเป็นว่าการเปิดปากพูดเพื่อยอมรับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม จะถูกประณามทันทีว่าเป็นผู้ "สนับสนุนอิหร่าน" "สนับสนุนรัสเซีย" หรือ "สนับสนุนจีน"

    ทำให้ทุกคนในโลกประชาธิปไตย ต้องชื่นชมกันเอง และกดฝ่ายตรงข้ามให้ต่ำเข้าไว้ แต่นั่นคือการวิเคราะห์ที่ไม่ดีส่งผลให้เกิดนโยบายที่ไม่ดีออกมาปฏิบัติ

    เราจะได้นโยบายแบบไหน หากเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้พูดความจริง ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมาเพื่อศึกษาพวกเขา วัฒนธรรมการปิดกั้นและการไม่คบค้าสมาคมกับพวกเขา กลับทำให้เราตาบอด หูหนวก และใบ้

    Glenn Diesen
    ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย ยูเรเซีย
    การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านทำให้หลายประเทศได้เห็นแล้วว่า "ทรงพลังมากกว่าที่คาดไว้" ที่ผ่านมา ตะวันตกมักจะประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไปอยู่เสมอ เช่น ระบอบการปกครองของอิหร่านจะล่มสลาย รัสเซียจะพ่ายแพ้ได้ง่าย อาวุธใกล้จะหมด เศรษฐกิจจะล่มสลาย จีนประเทศชาวนนาไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ เหล่านี้เป็นต้น ตะวันตกไม่เคยประเมินสถานการณ์จริงอย่างมีข้อมูล เพราะอะไร!?! เพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความเห็นต่าง ทั้งๆที่ปากพร่ำสอนเรื่องประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นต่าง แต่กลายเป็นว่าการเปิดปากพูดเพื่อยอมรับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม จะถูกประณามทันทีว่าเป็นผู้ "สนับสนุนอิหร่าน" "สนับสนุนรัสเซีย" หรือ "สนับสนุนจีน" ทำให้ทุกคนในโลกประชาธิปไตย ต้องชื่นชมกันเอง และกดฝ่ายตรงข้ามให้ต่ำเข้าไว้ แต่นั่นคือการวิเคราะห์ที่ไม่ดีส่งผลให้เกิดนโยบายที่ไม่ดีออกมาปฏิบัติ เราจะได้นโยบายแบบไหน หากเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้พูดความจริง ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมาเพื่อศึกษาพวกเขา วัฒนธรรมการปิดกั้นและการไม่คบค้าสมาคมกับพวกเขา กลับทำให้เราตาบอด หูหนวก และใบ้ Glenn Diesen ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย ยูเรเซีย
    2 Comments 0 Shares 236 Views 16 0 Reviews
  • เศษซากของ 'THAAD' (Terminal High Altitude Area Defense) ระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูงที่ทรงพลังที่สุดระบบหนึ่งของอิสราเอล ที่ได้รับความอนุเคราะห์มาจากสหรัฐ

    ราคาประมาณ 12.6 ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก
    เศษซากของ 'THAAD' (Terminal High Altitude Area Defense) ระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูงที่ทรงพลังที่สุดระบบหนึ่งของอิสราเอล ที่ได้รับความอนุเคราะห์มาจากสหรัฐ ราคาประมาณ 12.6 ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก
    0 Comments 0 Shares 109 Views 11 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน เพิ่งออกแถลงการณ์สั้นๆ:

    ประชาชนอิหร่านและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่นิ่งเฉยเมื่อเผชิญกับอาชญากรรมนี้ของระบอบไซออนิสต์ การตอบโต้ที่ชอบธรรมและทรงพลังของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจะทำให้ศัตรูรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่โง่เขลาของตน
    ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน เพิ่งออกแถลงการณ์สั้นๆ: ประชาชนอิหร่านและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่นิ่งเฉยเมื่อเผชิญกับอาชญากรรมนี้ของระบอบไซออนิสต์ การตอบโต้ที่ชอบธรรมและทรงพลังของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจะทำให้ศัตรูรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่โง่เขลาของตน
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Besi ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว คาดการณ์ความต้องการชิปเพิ่มขึ้น
    BE Semiconductor Industries (Besi) ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว โดยคาดการณ์ว่า ตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูงจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล

    Besi เป็นผู้ผลิต เครื่องมือ Hybrid Bonding ที่แม่นยำที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้ สามารถเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันโดยตรง ทำให้ ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องลดขนาดทรานซิสเตอร์

    ข้อมูลจากข่าว
    - Besi ปรับเป้าหมายรายได้ระยะยาวเป็น 1.5-1.9 พันล้านยูโร จากเดิม 1 พันล้านยูโร
    - อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 40%-55% จากเดิม 35%-50%
    - การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูลช่วยเพิ่มความต้องการเทคโนโลยี Hybrid Bonding
    - หุ้นของ Besi เพิ่มขึ้น 7.5% หลังประกาศปรับเป้าหมาย
    - นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่าตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปเติบโตขึ้นอย่างมาก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    เมื่อการลดขนาดทรานซิสเตอร์ เริ่มถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ผู้ผลิตชิป ต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูง

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Hybrid Bonding จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น TSMC และ Intel จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้มากน้อยแค่ไหน
    - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและซัพพลายเชน
    - ต้องรอดูว่า Besi จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่

    Besi เชื่อว่า เทคโนโลยี Hybrid Bonding จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาชิปที่เร็วขึ้นและทรงพลังขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/besi-lifts-its-forecast-expects-higher-demand-for-its-advanced-solutions
    🏭 Besi ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว คาดการณ์ความต้องการชิปเพิ่มขึ้น BE Semiconductor Industries (Besi) ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว โดยคาดการณ์ว่า ตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูงจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล Besi เป็นผู้ผลิต เครื่องมือ Hybrid Bonding ที่แม่นยำที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้ สามารถเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันโดยตรง ทำให้ ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องลดขนาดทรานซิสเตอร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Besi ปรับเป้าหมายรายได้ระยะยาวเป็น 1.5-1.9 พันล้านยูโร จากเดิม 1 พันล้านยูโร - อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 40%-55% จากเดิม 35%-50% - การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูลช่วยเพิ่มความต้องการเทคโนโลยี Hybrid Bonding - หุ้นของ Besi เพิ่มขึ้น 7.5% หลังประกาศปรับเป้าหมาย - นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่าตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปเติบโตขึ้นอย่างมาก 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อการลดขนาดทรานซิสเตอร์ เริ่มถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ผู้ผลิตชิป ต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Hybrid Bonding จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น TSMC และ Intel จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้มากน้อยแค่ไหน - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและซัพพลายเชน - ต้องรอดูว่า Besi จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ Besi เชื่อว่า เทคโนโลยี Hybrid Bonding จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาชิปที่เร็วขึ้นและทรงพลังขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/besi-lifts-its-forecast-expects-higher-demand-for-its-advanced-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Besi lifts long-term financial targets, eyeing demand growth
    AMSTERDAM (Reuters) -BE Semiconductor Industries (Besi) raised its long-term financial targets on Thursday ahead of its investor day, saying the future is bright for its advanced chip stacking tools.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • MSI เปิดตัว RTX 5060 Inspire ITX: การ์ดจอขนาดเล็กที่ทรงพลัง
    MSI ได้เปิดตัว GeForce RTX 5060 8G Inspire ITX ซึ่งเป็น หนึ่งในการ์ดจอ RTX 5060 ที่เล็กที่สุด โดยมีขนาดเพียง 145 x 120 x 45 มม. และใช้ พัดลมเดี่ยว

    แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ RTX 5060 Inspire ITX ยังคงใช้พลังงาน 145W และต้องการช่องเสียบ 8-pin เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน

    MSI ได้เปิดตัว สองรุ่น ได้แก่ รุ่นปกติและรุ่น OC ซึ่งมี ความเร็วบูสต์สูงสุด 2.527 GHz ขณะที่รุ่นมาตรฐานมี ความเร็วบูสต์ 2.497 GHz

    นอกจากนี้ MSI ยังมี RTX 5060 Cyclone ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้พัดลมเดี่ยว แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 161 x 125 x 42 มม.

    ข้อมูลจากข่าว
    - MSI เปิดตัว RTX 5060 Inspire ITX ซึ่งเป็นหนึ่งในการ์ดจอ RTX 5060 ที่เล็กที่สุด
    - ขนาดเพียง 145 x 120 x 45 มม. และใช้พัดลมเดี่ยว
    - ใช้พลังงาน 145W และต้องการช่องเสียบ 8-pin
    - มีสองรุ่น ได้แก่ รุ่นปกติ (2.497 GHz) และรุ่น OC (2.527 GHz)
    - MSI ยังมี RTX 5060 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพัดลมเดี่ยวที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ยังคงใช้พื้นที่สองสล็อตในเคส
    - ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพการระบายความร้อนจะเป็นอย่างไรเมื่อใช้งานหนัก
    - รุ่น OC มีความเร็วบูสต์สูงกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย แต่ต้องติดตามว่ามีผลต่ออุณหภูมิหรือไม่
    - การ์ดจอขนาดเล็กอาจมีเสียงรบกวนมากกว่ารุ่นที่ใช้พัดลมหลายตัว

    RTX 5060 Inspire ITX อาจเป็น ตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการ์ดจอขนาดเล็กแต่ทรงพลัง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพการระบายความร้อนและเสียงรบกวนจะเป็นอย่างไรเมื่อใช้งานจริง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/msi-unveils-one-of-the-tiniest-rtx-5060-gpus-yet-single-fan-inspire-rtx-model-measures-just-145-x-120-x-45mm
    🎮 MSI เปิดตัว RTX 5060 Inspire ITX: การ์ดจอขนาดเล็กที่ทรงพลัง MSI ได้เปิดตัว GeForce RTX 5060 8G Inspire ITX ซึ่งเป็น หนึ่งในการ์ดจอ RTX 5060 ที่เล็กที่สุด โดยมีขนาดเพียง 145 x 120 x 45 มม. และใช้ พัดลมเดี่ยว แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ RTX 5060 Inspire ITX ยังคงใช้พลังงาน 145W และต้องการช่องเสียบ 8-pin เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน MSI ได้เปิดตัว สองรุ่น ได้แก่ รุ่นปกติและรุ่น OC ซึ่งมี ความเร็วบูสต์สูงสุด 2.527 GHz ขณะที่รุ่นมาตรฐานมี ความเร็วบูสต์ 2.497 GHz นอกจากนี้ MSI ยังมี RTX 5060 Cyclone ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้พัดลมเดี่ยว แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 161 x 125 x 42 มม. ✅ ข้อมูลจากข่าว - MSI เปิดตัว RTX 5060 Inspire ITX ซึ่งเป็นหนึ่งในการ์ดจอ RTX 5060 ที่เล็กที่สุด - ขนาดเพียง 145 x 120 x 45 มม. และใช้พัดลมเดี่ยว - ใช้พลังงาน 145W และต้องการช่องเสียบ 8-pin - มีสองรุ่น ได้แก่ รุ่นปกติ (2.497 GHz) และรุ่น OC (2.527 GHz) - MSI ยังมี RTX 5060 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพัดลมเดี่ยวที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ยังคงใช้พื้นที่สองสล็อตในเคส - ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพการระบายความร้อนจะเป็นอย่างไรเมื่อใช้งานหนัก - รุ่น OC มีความเร็วบูสต์สูงกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย แต่ต้องติดตามว่ามีผลต่ออุณหภูมิหรือไม่ - การ์ดจอขนาดเล็กอาจมีเสียงรบกวนมากกว่ารุ่นที่ใช้พัดลมหลายตัว RTX 5060 Inspire ITX อาจเป็น ตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการ์ดจอขนาดเล็กแต่ทรงพลัง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพการระบายความร้อนและเสียงรบกวนจะเป็นอย่างไรเมื่อใช้งานจริง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/msi-unveils-one-of-the-tiniest-rtx-5060-gpus-yet-single-fan-inspire-rtx-model-measures-just-145-x-120-x-45mm
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • กล้องโทรทรรศน์ที่ไกลที่สุด: NASA เตรียมสร้างหอดูดาวบนดวงจันทร์
    NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) ซึ่งเป็น กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ตั้งอยู่บนด้านไกลของดวงจันทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น

    LCRT จะใช้ โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต ที่ถูกแขวนไว้ภายใน ปล่องภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอาศัย หุ่นยนต์ขั้นสูง ในการติดตั้งและควบคุมระบบ

    ด้านไกลของดวงจันทร์เป็น สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เนื่องจาก ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก เช่น คลื่นวิทยุจากดาวเทียมและมลภาวะทางแสง

    ข้อมูลจากข่าว
    - NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) บนด้านไกลของดวงจันทร์
    - กล้องโทรทรรศน์นี้จะใช้โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต แขวนไว้ในปล่องภูเขาไฟ
    - ด้านไกลของดวงจันทร์เป็นสถานที่ที่ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก
    - โครงการนี้มีงบประมาณกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ และอาจเริ่มใช้งานในช่วงปี 2030
    - LCRT จะช่วยให้สามารถศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องแข่งขันกับงบประมาณของ NASA ที่จำกัด
    - แม้จะมีแผนการติดตั้ง แต่ยังต้องผ่านการทดสอบต้นแบบที่ Owens Valley Radio Observatory ในแคลิฟอร์เนีย
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสามารถรองรับการติดตั้งบนดวงจันทร์ได้หรือไม่
    - การศึกษายุคมืดของจักรวาลต้องใช้เทคนิคใหม่ในการตรวจจับคลื่นวิทยุที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 33 ฟุต

    หากโครงการนี้สำเร็จ LCRT จะเป็นหนึ่งในกล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจช่วยให้ นักดาราศาสตร์สามารถไขปริศนาเกี่ยวกับสสารมืด, พลังงานมืด และการเกิดขึ้นของจักรวาล

    https://www.techspot.com/news/108147-far-side-moon-may-soon-host-world-most.html
    🌕 กล้องโทรทรรศน์ที่ไกลที่สุด: NASA เตรียมสร้างหอดูดาวบนดวงจันทร์ NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) ซึ่งเป็น กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ตั้งอยู่บนด้านไกลของดวงจันทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น LCRT จะใช้ โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต ที่ถูกแขวนไว้ภายใน ปล่องภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอาศัย หุ่นยนต์ขั้นสูง ในการติดตั้งและควบคุมระบบ ด้านไกลของดวงจันทร์เป็น สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เนื่องจาก ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก เช่น คลื่นวิทยุจากดาวเทียมและมลภาวะทางแสง ✅ ข้อมูลจากข่าว - NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) บนด้านไกลของดวงจันทร์ - กล้องโทรทรรศน์นี้จะใช้โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต แขวนไว้ในปล่องภูเขาไฟ - ด้านไกลของดวงจันทร์เป็นสถานที่ที่ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก - โครงการนี้มีงบประมาณกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ และอาจเริ่มใช้งานในช่วงปี 2030 - LCRT จะช่วยให้สามารถศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องแข่งขันกับงบประมาณของ NASA ที่จำกัด - แม้จะมีแผนการติดตั้ง แต่ยังต้องผ่านการทดสอบต้นแบบที่ Owens Valley Radio Observatory ในแคลิฟอร์เนีย - ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสามารถรองรับการติดตั้งบนดวงจันทร์ได้หรือไม่ - การศึกษายุคมืดของจักรวาลต้องใช้เทคนิคใหม่ในการตรวจจับคลื่นวิทยุที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 33 ฟุต หากโครงการนี้สำเร็จ LCRT จะเป็นหนึ่งในกล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจช่วยให้ นักดาราศาสตร์สามารถไขปริศนาเกี่ยวกับสสารมืด, พลังงานมืด และการเกิดขึ้นของจักรวาล https://www.techspot.com/news/108147-far-side-moon-may-soon-host-world-most.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The far side of the Moon may soon host the world's most sensitive telescope, shielded from earthly interference
    NASA is advancing plans to construct a radio telescope on the Moon's far side – a location uniquely shielded from the ever-increasing interference caused by Earth's expanding...
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด

    ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม

    1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา

    นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา

    ข้อดี ของแนวทางนี้คือ:
    - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก
    - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC
    - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น

    ข้อเสีย:
    - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์
    - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน
    - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น

    2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด
    ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่:
    - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก
    - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น
    - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง
    - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน
    - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย

    ข้อดี ของแนวทางนี้:
    - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น
    - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง
    - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก

    ข้อเสีย:
    - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น
    - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง

    3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ
    ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม:

    ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า
    ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า
    ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash

    ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด

    4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต
    นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ

    ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป

    บทส่งท้าย
    การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม 1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ: - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น ❌ ข้อเสีย: - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์ - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น 2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่: - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้: - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก ❌ ข้อเสีย: - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง 3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม: 👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า 👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า 👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด 4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️ การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025
    Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้

    Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology

    ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support

    ข้อมูลจากข่าว
    - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm
    - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology
    - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support
    - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย
    - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่
    - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง
    - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่
    - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม

    Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร

    https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    📱 Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025 Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้ Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support ✅ ข้อมูลจากข่าว - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่ - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่ - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Xiaomi 16: The Next Flagship Powerhouse Arrives Late 2025
    Xiaomi is once again poised to shake up the premium smartphone market with the upcoming launch of the Xiaomi 16, expected to debut in October 2025. Building
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้

    ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน:
    1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)**
    - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน"
    - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

    2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)**
    - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์
    - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง

    3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)**
    - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ
    - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง

    4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)**
    - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล
    - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย)

    ### ความท้าทายสำคัญ:
    - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ
    - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน
    - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน
    - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน

    ### กรณีศึกษาประเทศไทย:
    - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ
    - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ
    - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง

    ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ:
    1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law)
    2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI
    3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ
    4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน

    ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้ ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน: 1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)** - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน" - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี 2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)** - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง 3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)** - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง 4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)** - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย) ### ความท้าทายสำคัญ: - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน ### กรณีศึกษาประเทศไทย: - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ: 1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law) 2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI 3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ 4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้:
    1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0
    - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร
    - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62%
    - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่
    2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่
    - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร
    - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories
    3️⃣ Dell Project Lightning
    - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน
    - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search
    4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements
    - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า
    5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่
    - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge
    - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ
    6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics
    - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics
    7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services
    - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568
    8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่
    - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort
    - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision
    - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi
    9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates
    - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ
    หมายเหตุ
    - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน
    - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์
    - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน

    งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้: 1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0 - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62% - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่ 2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่ - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories 3️⃣ Dell Project Lightning - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search 4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า 5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่ - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ 6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics 7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568 8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่ - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi 9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ ℹ️ℹ️ หมายเหตุ ℹ️ℹ️ - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์ - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน:

    1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA
    • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด.
    • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI.
    • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI.
    • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม.

    2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel
    • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท.
    • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น.
    • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ.

    3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD
    • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์.
    • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz.
    • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่.

    4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI
    • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า.
    • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า.
    • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU.

    5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS
    • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์.
    • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม.
    • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1.

    6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek
    • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร.
    • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud.

    7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston
    • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก.
    • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย.
    • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน.

    8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE
    • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI.
    • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล.
    • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing.

    9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro
    • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC.
    • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล.

     ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
    • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ.
    • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่.
    • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน.
    • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน.
    • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ.
    • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft.

    สรุป
    งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน: 1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI. • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI. • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม. 2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท. • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น. • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ. 3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์. • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz. • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่. 4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า. • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า. • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU. 5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์. • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม. • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1. 6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร. • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud. 7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก. • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย. • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน. 8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI. • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล. • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing. 9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC. • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล. 🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ. • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่. • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน. • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน. • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ. • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft. 💯 สรุป 💯 งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    0 Comments 0 Shares 578 Views 0 Reviews
  • RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ

    NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090
    ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5
    - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    VRAM GDDR7 ขนาด 32GB
    - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น

    ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W
    - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum

    ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5
    - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic

    ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี
    - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower
    - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling

    รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870

    ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด
    - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB

    มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
    - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้

    ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี
    - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ

    ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ
    - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก

    https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090 ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5 - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870 ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    COMPUTERCITY.COM
    Is Your PC Ready for the RTX 5090? Specs, Power Supply, and Cooling Guide
    The NVIDIA GeForce RTX 5090 is here—and it’s a beast. Launched on January 30, 2025, after its debut at CES, this $1,999 flagship GPU from NVIDIA is built for
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • Anthropic เปิดตัว Claude 4 รุ่นใหม่ พร้อมความสามารถ AI ที่ทรงพลังที่สุด

    Anthropic เปิดตัวโมเดล AI ใหม่สองรุ่น ได้แก่ Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 โดยเน้น ความสามารถในการเขียนโค้ดและการทำงานแบบอิสระเป็นเวลานาน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Claude 4
    Claude Opus 4 เป็นโมเดล AI ที่ดีที่สุดสำหรับการเขียนโค้ด
    - สามารถ จัดการงานที่ซับซ้อนและแบ่งออกเป็นหลายพันขั้นตอนเพื่อดำเนินการต่อเนื่อง

    Claude Sonnet 4 เป็นรุ่นที่เล็กกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า (Sonnet 3.7)
    - ได้รับการปรับปรุง ให้สามารถทำตามคำสั่งและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น

    Sonnet 4 ถูกนำไปใช้ใน GitHub Copilot เพื่อช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ด
    - เป็นโมเดล ที่ใช้ในเวอร์ชันฟรีของ Claude chatbot

    Opus 4 มีฟีเจอร์ "Extended Thinking" ที่ช่วยให้ AI สามารถหยุดคิดและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตอบกลับ
    - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือภายนอกเพื่อเพิ่มความแม่นยำของคำตอบ

    Claude 4 สามารถใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกันและสลับระหว่างการวิเคราะห์และการค้นหา
    - มีระบบ บันทึกและดึงข้อมูลสำคัญจากไฟล์ภายนอกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/anthropics-new-claude-4-models-promise-the-biggest-ai-brains-ever
    Anthropic เปิดตัว Claude 4 รุ่นใหม่ พร้อมความสามารถ AI ที่ทรงพลังที่สุด Anthropic เปิดตัวโมเดล AI ใหม่สองรุ่น ได้แก่ Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 โดยเน้น ความสามารถในการเขียนโค้ดและการทำงานแบบอิสระเป็นเวลานาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Claude 4 ✅ Claude Opus 4 เป็นโมเดล AI ที่ดีที่สุดสำหรับการเขียนโค้ด - สามารถ จัดการงานที่ซับซ้อนและแบ่งออกเป็นหลายพันขั้นตอนเพื่อดำเนินการต่อเนื่อง ✅ Claude Sonnet 4 เป็นรุ่นที่เล็กกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า (Sonnet 3.7) - ได้รับการปรับปรุง ให้สามารถทำตามคำสั่งและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น ✅ Sonnet 4 ถูกนำไปใช้ใน GitHub Copilot เพื่อช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ด - เป็นโมเดล ที่ใช้ในเวอร์ชันฟรีของ Claude chatbot ✅ Opus 4 มีฟีเจอร์ "Extended Thinking" ที่ช่วยให้ AI สามารถหยุดคิดและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตอบกลับ - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือภายนอกเพื่อเพิ่มความแม่นยำของคำตอบ ✅ Claude 4 สามารถใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกันและสลับระหว่างการวิเคราะห์และการค้นหา - มีระบบ บันทึกและดึงข้อมูลสำคัญจากไฟล์ภายนอกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/anthropics-new-claude-4-models-promise-the-biggest-ai-brains-ever
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • Phison เปิดตัว SSD X200Z ที่ทำลายสถิติด้านความเร็วและความทนทาน

    Phison เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ X200Z ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรที่มีความเร็วและความทนทานสูงสุดในตลาด โดยสามารถ เขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารุ่นอื่น ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Phison X200Z
    ใช้เทคโนโลยี SLC Flash และอินเทอร์เฟซ PCIe Gen5 x4
    - ช่วยให้ มีความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 15,026 MB/s และเขียนมากกว่า 10,200 MB/s

    มีความสามารถในการเขียนข้อมูล 60 DWPD (Drive Writes Per Day)
    - เทียบเท่ากับ การเขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที

    ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มวิดีโอ
    - มีอายุการใช้งาน สูงถึง 350 Petabytes

    รองรับฟอร์มแฟกเตอร์ U.2 และ E3.S พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Dual-Port
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานในระบบที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูง

    ได้รับการทดสอบโดย TweakTown และได้รับคำชมว่าเป็น SSD ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    - มีประสิทธิภาพ สูงสุดในงานที่ต้องใช้การอ่านและเขียนแบบสุ่ม

    https://www.techradar.com/pro/this-extraordinary-ssd-can-do-something-no-other-ssd-can-do-a-full-groundhog-day-write-every-24-minutes
    Phison เปิดตัว SSD X200Z ที่ทำลายสถิติด้านความเร็วและความทนทาน Phison เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ X200Z ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรที่มีความเร็วและความทนทานสูงสุดในตลาด โดยสามารถ เขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารุ่นอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Phison X200Z ✅ ใช้เทคโนโลยี SLC Flash และอินเทอร์เฟซ PCIe Gen5 x4 - ช่วยให้ มีความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 15,026 MB/s และเขียนมากกว่า 10,200 MB/s ✅ มีความสามารถในการเขียนข้อมูล 60 DWPD (Drive Writes Per Day) - เทียบเท่ากับ การเขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที ✅ ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มวิดีโอ - มีอายุการใช้งาน สูงถึง 350 Petabytes ✅ รองรับฟอร์มแฟกเตอร์ U.2 และ E3.S พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Dual-Port - ช่วยให้ สามารถใช้งานในระบบที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูง ✅ ได้รับการทดสอบโดย TweakTown และได้รับคำชมว่าเป็น SSD ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา - มีประสิทธิภาพ สูงสุดในงานที่ต้องใช้การอ่านและเขียนแบบสุ่ม https://www.techradar.com/pro/this-extraordinary-ssd-can-do-something-no-other-ssd-can-do-a-full-groundhog-day-write-every-24-minutes
    WWW.TECHRADAR.COM
    Built for endurance, Phison X200Z hits speeds and lifespans never seen before
    Phison Pascari X200Z SSD declared "incredible" in first review
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • ZEUS: เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ทำลายสถิติ 2 เพตะวัตต์

    มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดตัว ZEUS ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ โดยสามารถ สร้างพลังงานสูงถึง 2 เพตะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า แม้ว่าพลังงานนี้จะคงอยู่เพียง 25 ควินทริลเลียนวินาที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ ZEUS
    ZEUS เป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยกำลัง 2 เพตะวัตต์
    - มากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า

    ใช้เทคโนโลยี Double Chirped Pulse Amplifier และ Acousto-Optic Filters
    - ช่วยให้ สามารถสร้างพัลส์เลเซอร์ที่สั้นและทรงพลังได้

    มีพื้นที่ทดลอง 3 ส่วน รองรับการทดลองด้านฟิสิกส์พลาสมาและการเร่งอนุภาค
    - สามารถ เร่งอิเล็กตรอนได้ถึง 5 GeV

    ได้รับการสนับสนุนจาก National Science Foundation และเปิดให้ทีมนักวิจัยทั่วโลกใช้งาน
    - ผ่านกระบวนการคัดเลือกโครงการทดลองอย่างเข้มงวด

    มีแผนพัฒนาไปสู่ระดับ 3 เพตะวัตต์ภายในปีนี้
    - จะช่วยให้ สามารถศึกษาปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107997-america-most-powerful-laser-reaches-2-petawatts-raising.html
    ZEUS: เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ทำลายสถิติ 2 เพตะวัตต์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดตัว ZEUS ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ โดยสามารถ สร้างพลังงานสูงถึง 2 เพตะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า แม้ว่าพลังงานนี้จะคงอยู่เพียง 25 ควินทริลเลียนวินาที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ ZEUS ✅ ZEUS เป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยกำลัง 2 เพตะวัตต์ - มากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า ✅ ใช้เทคโนโลยี Double Chirped Pulse Amplifier และ Acousto-Optic Filters - ช่วยให้ สามารถสร้างพัลส์เลเซอร์ที่สั้นและทรงพลังได้ ✅ มีพื้นที่ทดลอง 3 ส่วน รองรับการทดลองด้านฟิสิกส์พลาสมาและการเร่งอนุภาค - สามารถ เร่งอิเล็กตรอนได้ถึง 5 GeV ✅ ได้รับการสนับสนุนจาก National Science Foundation และเปิดให้ทีมนักวิจัยทั่วโลกใช้งาน - ผ่านกระบวนการคัดเลือกโครงการทดลองอย่างเข้มงวด ✅ มีแผนพัฒนาไปสู่ระดับ 3 เพตะวัตต์ภายในปีนี้ - จะช่วยให้ สามารถศึกษาปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.techspot.com/news/107997-america-most-powerful-laser-reaches-2-petawatts-raising.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The most powerful laser in the US reaches 2 petawatts, setting new records
    The ZEUS laser facility at the University of Michigan has vaulted the United States to the forefront of high-intensity laser science. In its first official experiment, ZEUS...
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
More Results