• Apple เตรียมเปิดตัวชิป A20 ใน iPhone 18 โดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจาก TSMC ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ 15% และช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอน รุ่นนี้อาจมีราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต แต่จะมอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและคุ้มค่า

    ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี:
    - ชิป A20 ถูกพัฒนาบนกระบวนการ 2 นาโนเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานอย่างมหาศาล แต่ค่าใช้จ่ายการผลิตสูงขึ้น โดยราคาเวเฟอร์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ $30,000 ต่อแผ่น.
    - Apple อาจต้องเพิ่มราคาของ iPhone 18 ที่ใช้ชิป A20 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.

    การใช้งานแบตเตอรี่แบบใหม่:
    - Apple สำรวจการใช้แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนที่ช่วยเพิ่มความจุโดยไม่ทำให้อุปกรณ์หนาขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับชิป A20 จะช่วยให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม.

    การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังในรุ่น iPhone 18:
    - ซีรีส์นี้อาจมีการปรับปรุงเพื่อเน้นประสิทธิภาพและความยั่งยืน ทำให้ iPhone 18 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในแง่ของเทคโนโลยีชิปและแบตเตอรี่.

    https://wccftech.com/apple-a20-rumored-to-be-15-percent-faster-than-a19-at-the-same-power-consumption/
    Apple เตรียมเปิดตัวชิป A20 ใน iPhone 18 โดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจาก TSMC ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ 15% และช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอน รุ่นนี้อาจมีราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต แต่จะมอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและคุ้มค่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี: - ชิป A20 ถูกพัฒนาบนกระบวนการ 2 นาโนเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานอย่างมหาศาล แต่ค่าใช้จ่ายการผลิตสูงขึ้น โดยราคาเวเฟอร์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ $30,000 ต่อแผ่น. - Apple อาจต้องเพิ่มราคาของ iPhone 18 ที่ใช้ชิป A20 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น. การใช้งานแบตเตอรี่แบบใหม่: - Apple สำรวจการใช้แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนที่ช่วยเพิ่มความจุโดยไม่ทำให้อุปกรณ์หนาขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับชิป A20 จะช่วยให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม. การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังในรุ่น iPhone 18: - ซีรีส์นี้อาจมีการปรับปรุงเพื่อเน้นประสิทธิภาพและความยั่งยืน ทำให้ iPhone 18 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในแง่ของเทคโนโลยีชิปและแบตเตอรี่. https://wccftech.com/apple-a20-rumored-to-be-15-percent-faster-than-a19-at-the-same-power-consumption/
    WCCFTECH.COM
    Apple’s A20 For The iPhone 18 Series Rumored To Be 15 Percent Faster Than The A19 At The Same Power Consumption, Thanks To Upgrading To TSMC’s Next-Generation 2nm Process
    The benefit of switching to TSMC’s 2nm process is that Apple’s A20 is said to deliver 15 percent better performance than the A19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Threadripper PRO 9000 รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Zen 5 และกระบวนการผลิต 4nm ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โมเดลที่ถูกเผยคือ 9965WX (24 คอร์) และ 9975WX (32 คอร์) ที่มาพร้อมกับ TDP 350W และยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่ทรงพลังมากขึ้น เช่น 9995WX ซึ่งมี 96 คอร์ ใครที่สนใจซีพียูสำหรับงานหนักต้องจับตาดูการเปิดตัวครั้งนี้

    https://wccftech.com/amd-threadripper-pro-9975wx-and-9965wx-leaked-in-shipping-logs/
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Threadripper PRO 9000 รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Zen 5 และกระบวนการผลิต 4nm ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โมเดลที่ถูกเผยคือ 9965WX (24 คอร์) และ 9975WX (32 คอร์) ที่มาพร้อมกับ TDP 350W และยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่ทรงพลังมากขึ้น เช่น 9995WX ซึ่งมี 96 คอร์ ใครที่สนใจซีพียูสำหรับงานหนักต้องจับตาดูการเปิดตัวครั้งนี้ https://wccftech.com/amd-threadripper-pro-9975wx-and-9965wx-leaked-in-shipping-logs/
    WCCFTECH.COM
    AMD Threadripper PRO 9975WX And 9965WX Leaked In Shipping Logs, Feature 32 And 24 Cores Respectively With 350W TDP
    AMD's upcoming Threadripper 9000 series was spotted in a shipping manifest, revealing TDP of up to 350W. Not much has been revealed in the logs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🕌🇸🇦 50 ปี ลอบปลงพระชนม์กษัตริย์ไฟซาล แห่งซาอุดีอาระเบีย ราชนัดดามีอาการทางจิต ปลิดชีพลุง 3 นัดซ้อน เสยคาง-ข้างหู เบื้องลึกโศกนาฏกรรมสะเทือนโลก 🕊️🔫

    📌 ย้อนเหตุการณ์สะเทือนโลก เมื่อ 50 ปี ที่ผ่านมา เหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์กษัตริย์ไฟซาล แห่งซาอุฯ โดยเจ้าชายผู้มีอาการทางจิต พร้อมเผยข้อเท็จจริงที่หลายคนไม่เคยรู้ ผลกระทบที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน

    🕌 ย้อนรอยโศกนาฏกรรมแห่งราชวงศ์ซาอุฯ 25 มีนาคม พ.ศ. 2518... เช้าวันอังคารที่เงียบเหงาในกรุงริยาด กลับกลายเป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมระดับโลก เมื่อ "สมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาล บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอุด" ผู้นำสูงสุดแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ต้องสิ้นพระชนม์ด้วยฝีมือของเจ้าชาย ซึ่งเป็น "หลานชายแท้ ๆ" จากการลอบยิงระยะประชิด 3 นัดซ้อน ในพระราชวังหลวง... 💔🔫

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความสูญเสียของราชวงศ์ หากแต่ส่งผลสะเทือนทั้งโลก โดยเฉพาะโลกมุสลิม ที่ยังคงสั่นคลอน กับคำถามที่ยังไม่มีคำตอบอย่างแท้จริงว่า...

    "ทำไมเจ้าชายจึงลั่นไก?" 🤯

    📖 เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ "สมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาล บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอุด" ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 2507 ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะกษัตริย์ผู้มีวิสัยทัศน์ 🌍✨

    พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการลดการพึ่งพาน้ำมัน ⛽️ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 🏗️ การส่งเสริมการศึกษา 📚 และการวางแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะยาว

    นอกจากนี้ กษัตริย์ไฟซาลยังเป็นผู้นำ ในการต่อต้านอิสราเอลอย่างแข็งกร้าว ในช่วงสงคราม Yom Kippur และมีบทบาทสำคัญในการใช้ “นโยบายน้ำมันเป็นอาวุธ” (Oil Weapon Policy) กดดันตะวันตก ในช่วงวิกฤตน้ำมันปี 2516 🛢️⚖️

    พระองค์จึงเป็นทั้งผู้นำเชิงกลยุทธ์ และนักปฏิรูปผู้ทรงพลังของซาอุดีอาระเบีย

    😱 เหตุการณ์ลอบสังหาร เช้าแห่งความมืดมิด เช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2518 ในพระราชวังหลวง กรุงริยาด 🇸🇦 "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด" หลานชายแท้ ๆ ของกษัตริย์ไฟซาล ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดี พร้อมคณะผู้แทนจากประเทศคูเวต

    ขณะนั้นไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า…

    ทันทีที่กษัตริย์โน้มพระองค์ลง เพื่อจุมพิตเจ้าชายตามธรรมเนียม เจ้าชายกลับชักปืนพกสั้นออกมา แล้วยิงไปที่คางและข้างพระกรรณของกษัตริย์ 3 นัดซ้อน 🔫💥

    ราชองครักษ์พยายามจะโต้ตอบทันที แต่ “ชีค อาห์เมด ซากีห์ ยามานี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ตะโกนห้ามไม่ให้สังหารเจ้าชายผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าชายถูกจับกุมแทน

    👑 "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด" เป็นพระราชโอรสของเจ้าชายมูซาอิด พระอนุชาของกษัตริย์ไฟซาล เคยศึกษาที่สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 และมีประวัติพฤติกรรมแปลกประหลาดหลายอย่าง เช่น...

    - ถูกจับที่สหรัฯอเมริกา จากคดีครอบครองยาเสพติด 💊
    - มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม และมีแนวคิดเสรีนิยมแบบตะวันตก 🌐
    - เคยมีความขัดแย้งภายในราชวงศ์ 📉

    รายงานจากนักจิตแพทย์หลายฝ่ายตรงกันว่า เจ้าชายทรงมีอาการ “โรคจิตเภท” (Schizophrenia) 😵‍💫

    อาการที่สังเกตได้คือ
    - ความหวาดระแวง (Paranoia)
    - ความคิดหลงผิด (Delusions)
    - พฤติกรรมรุนแรง และขาดการควบคุมตนเอง

    ❓ แรงจูงใจเบื้องหลังการลอบสังหาร แม้การสอบสวนจะสรุปว่า เจ้าชายไฟซาลก่อเหตุเพียงลำพัง แต่แรงจูงใจยังคงเป็นปริศนา 🤔

    ข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ ได้แก่
    - แก้แค้นให้เจ้าชายคาลิด พระเชษฐาซึ่งเสียชีวิตจากการต่อสู้ กับกองกำลังรัฐในปี 2509 ⚔️
    - อาการป่วยจิตเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมรุนแรง โดยไม่มีแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน 💭
    - ความไม่พอใจต่อราชวงศ์ เจ้าชายรู้สึกถูกจำกัดเสรีภาพ หลังกลับจากสหรัฐฯ 🗽
    - แรงกระตุ้นจากภายนอก บางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมี "ตะวันตก" อยู่เบื้องหลัง 🤫 แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

    ⚖️ หลังจากเหตุการณ์ไม่นาน "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด" ถูกนำตัวขึ้นศาล ในข้อหาลอบปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์

    ศาลตัดสินให้ บั่นพระเศียรกลางจัตุรัสสาธารณะ ในกรุงริยาด ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายชารีอะห์ ของซาอุดีอาระเบีย ✝️⚔️

    การลงโทษต่อหน้าประชาชน ถูกใช้เพื่อส่งสารถึงประชาชนว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้จะเป็นเจ้าชายก็ตาม 👑❌⚖️

    🧠 จิตวิทยากับโศกนาฏกรรม ความเชื่อมโยงของ "โรคจิตเภท" จากคำวินิจฉัยของคณะจิตแพทย์พบว่าเจ้าชายไฟซาลมีอาการของ "โรคจิตเภท" ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดที่หลงผิด ไม่สามารถแยกแยะความจริง จากจินตนาการได้อย่างถูกต้อง 🤯

    อาการเด่นที่สังเกตได้คือ
    - ความหวาดระแวงว่า ถูกคุกคาม
    - อารมณ์ไม่คงที่
    - มีการตัดสินใจที่ผิดเพี้ยน
    - การรับรู้ผิดปกติอย่างรุนแรง

    💡สิ่งสำคัญคือ โรคจิตเภทไม่ใช่ความผิดของผู้ป่วย แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเวลานั้น การวินิจฉัยและการรักษา ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร

    🕵️‍♂️ เรื่องจริงที่โลกไม่ค่อยรู้
    📌 เจ้าชายเคยถูกจับในสหรัฐอเมริกา ในคดีครอบครองยาเสพติด
    📌 กษัตริย์ไฟซาลมีเป้าหมายลดการพึ่งพาน้ำมัน พัฒนาการศึกษา
    📌 บางแหล่งข่าวสงสัยว่า ตะวันตกอาจเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร
    📌 "ชีค ยามานี" รัฐมนตรีน้ำมัน เป็นผู้หยุดราชองครักษ์ ไม่ให้สังหารเจ้าชายทันที

    🧩 โศกนาฏกรรมที่กลายเป็นบทเรียนแห่งโลก สะท้อนให้เห็นว่า... แม้จะอยู่ในพระราชวังสูงสุด หรือมีพระยศสูงส่งเพียงใด ก็ไม่อาจหนีจาก "ความเป็นมนุษย์" และ "ความเปราะบางของจิตใจ" ได้เลย

    กษัตริย์ไฟซาล อาจจากโลกนี้ไปด้วยความเจ็บปวด... แต่พระองค์ได้ทิ้งมรดกแห่งวิสัยทัศน์ ไว้ให้ซาอุดีอาระเบียก้าวหน้า ต่อมาอีกหลายทศวรรษ 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251024 มี.ค. 2568

    📲 #กษัตริย์ไฟซาล #ลอบสังหารซาอุ #ประวัติศาสตร์ซาอุ #โศกนาฏกรรมซาอุดีอาระเบีย #จิตเวชในราชวงศ์ #ซาอุยุค70 #เจ้าชายไฟซาล #ราชวงศ์อาหรับ #เรื่องจริงไม่เคยรู้ #FaisalBinAbdulAziz
    🕌🇸🇦 50 ปี ลอบปลงพระชนม์กษัตริย์ไฟซาล แห่งซาอุดีอาระเบีย ราชนัดดามีอาการทางจิต ปลิดชีพลุง 3 นัดซ้อน เสยคาง-ข้างหู เบื้องลึกโศกนาฏกรรมสะเทือนโลก 🕊️🔫 📌 ย้อนเหตุการณ์สะเทือนโลก เมื่อ 50 ปี ที่ผ่านมา เหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์กษัตริย์ไฟซาล แห่งซาอุฯ โดยเจ้าชายผู้มีอาการทางจิต พร้อมเผยข้อเท็จจริงที่หลายคนไม่เคยรู้ ผลกระทบที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน 🕌 ย้อนรอยโศกนาฏกรรมแห่งราชวงศ์ซาอุฯ 25 มีนาคม พ.ศ. 2518... เช้าวันอังคารที่เงียบเหงาในกรุงริยาด กลับกลายเป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมระดับโลก เมื่อ "สมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาล บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอุด" ผู้นำสูงสุดแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ต้องสิ้นพระชนม์ด้วยฝีมือของเจ้าชาย ซึ่งเป็น "หลานชายแท้ ๆ" จากการลอบยิงระยะประชิด 3 นัดซ้อน ในพระราชวังหลวง... 💔🔫 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความสูญเสียของราชวงศ์ หากแต่ส่งผลสะเทือนทั้งโลก โดยเฉพาะโลกมุสลิม ที่ยังคงสั่นคลอน กับคำถามที่ยังไม่มีคำตอบอย่างแท้จริงว่า... "ทำไมเจ้าชายจึงลั่นไก?" 🤯 📖 เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ "สมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาล บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอุด" ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 2507 ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะกษัตริย์ผู้มีวิสัยทัศน์ 🌍✨ พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการลดการพึ่งพาน้ำมัน ⛽️ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 🏗️ การส่งเสริมการศึกษา 📚 และการวางแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะยาว นอกจากนี้ กษัตริย์ไฟซาลยังเป็นผู้นำ ในการต่อต้านอิสราเอลอย่างแข็งกร้าว ในช่วงสงคราม Yom Kippur และมีบทบาทสำคัญในการใช้ “นโยบายน้ำมันเป็นอาวุธ” (Oil Weapon Policy) กดดันตะวันตก ในช่วงวิกฤตน้ำมันปี 2516 🛢️⚖️ พระองค์จึงเป็นทั้งผู้นำเชิงกลยุทธ์ และนักปฏิรูปผู้ทรงพลังของซาอุดีอาระเบีย 😱 เหตุการณ์ลอบสังหาร เช้าแห่งความมืดมิด เช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2518 ในพระราชวังหลวง กรุงริยาด 🇸🇦 "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด" หลานชายแท้ ๆ ของกษัตริย์ไฟซาล ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดี พร้อมคณะผู้แทนจากประเทศคูเวต ขณะนั้นไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า… ทันทีที่กษัตริย์โน้มพระองค์ลง เพื่อจุมพิตเจ้าชายตามธรรมเนียม เจ้าชายกลับชักปืนพกสั้นออกมา แล้วยิงไปที่คางและข้างพระกรรณของกษัตริย์ 3 นัดซ้อน 🔫💥 ราชองครักษ์พยายามจะโต้ตอบทันที แต่ “ชีค อาห์เมด ซากีห์ ยามานี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ตะโกนห้ามไม่ให้สังหารเจ้าชายผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าชายถูกจับกุมแทน 👑 "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด" เป็นพระราชโอรสของเจ้าชายมูซาอิด พระอนุชาของกษัตริย์ไฟซาล เคยศึกษาที่สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 และมีประวัติพฤติกรรมแปลกประหลาดหลายอย่าง เช่น... - ถูกจับที่สหรัฯอเมริกา จากคดีครอบครองยาเสพติด 💊 - มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม และมีแนวคิดเสรีนิยมแบบตะวันตก 🌐 - เคยมีความขัดแย้งภายในราชวงศ์ 📉 รายงานจากนักจิตแพทย์หลายฝ่ายตรงกันว่า เจ้าชายทรงมีอาการ “โรคจิตเภท” (Schizophrenia) 😵‍💫 อาการที่สังเกตได้คือ - ความหวาดระแวง (Paranoia) - ความคิดหลงผิด (Delusions) - พฤติกรรมรุนแรง และขาดการควบคุมตนเอง ❓ แรงจูงใจเบื้องหลังการลอบสังหาร แม้การสอบสวนจะสรุปว่า เจ้าชายไฟซาลก่อเหตุเพียงลำพัง แต่แรงจูงใจยังคงเป็นปริศนา 🤔 ข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ ได้แก่ - แก้แค้นให้เจ้าชายคาลิด พระเชษฐาซึ่งเสียชีวิตจากการต่อสู้ กับกองกำลังรัฐในปี 2509 ⚔️ - อาการป่วยจิตเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมรุนแรง โดยไม่มีแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน 💭 - ความไม่พอใจต่อราชวงศ์ เจ้าชายรู้สึกถูกจำกัดเสรีภาพ หลังกลับจากสหรัฐฯ 🗽 - แรงกระตุ้นจากภายนอก บางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมี "ตะวันตก" อยู่เบื้องหลัง 🤫 แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน ⚖️ หลังจากเหตุการณ์ไม่นาน "เจ้าชายไฟซาล บิน มูซาอิด" ถูกนำตัวขึ้นศาล ในข้อหาลอบปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ ศาลตัดสินให้ บั่นพระเศียรกลางจัตุรัสสาธารณะ ในกรุงริยาด ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายชารีอะห์ ของซาอุดีอาระเบีย ✝️⚔️ การลงโทษต่อหน้าประชาชน ถูกใช้เพื่อส่งสารถึงประชาชนว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้จะเป็นเจ้าชายก็ตาม 👑❌⚖️ 🧠 จิตวิทยากับโศกนาฏกรรม ความเชื่อมโยงของ "โรคจิตเภท" จากคำวินิจฉัยของคณะจิตแพทย์พบว่าเจ้าชายไฟซาลมีอาการของ "โรคจิตเภท" ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดที่หลงผิด ไม่สามารถแยกแยะความจริง จากจินตนาการได้อย่างถูกต้อง 🤯 อาการเด่นที่สังเกตได้คือ - ความหวาดระแวงว่า ถูกคุกคาม - อารมณ์ไม่คงที่ - มีการตัดสินใจที่ผิดเพี้ยน - การรับรู้ผิดปกติอย่างรุนแรง 💡สิ่งสำคัญคือ โรคจิตเภทไม่ใช่ความผิดของผู้ป่วย แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเวลานั้น การวินิจฉัยและการรักษา ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร 🕵️‍♂️ เรื่องจริงที่โลกไม่ค่อยรู้ 📌 เจ้าชายเคยถูกจับในสหรัฐอเมริกา ในคดีครอบครองยาเสพติด 📌 กษัตริย์ไฟซาลมีเป้าหมายลดการพึ่งพาน้ำมัน พัฒนาการศึกษา 📌 บางแหล่งข่าวสงสัยว่า ตะวันตกอาจเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร 📌 "ชีค ยามานี" รัฐมนตรีน้ำมัน เป็นผู้หยุดราชองครักษ์ ไม่ให้สังหารเจ้าชายทันที 🧩 โศกนาฏกรรมที่กลายเป็นบทเรียนแห่งโลก สะท้อนให้เห็นว่า... แม้จะอยู่ในพระราชวังสูงสุด หรือมีพระยศสูงส่งเพียงใด ก็ไม่อาจหนีจาก "ความเป็นมนุษย์" และ "ความเปราะบางของจิตใจ" ได้เลย กษัตริย์ไฟซาล อาจจากโลกนี้ไปด้วยความเจ็บปวด... แต่พระองค์ได้ทิ้งมรดกแห่งวิสัยทัศน์ ไว้ให้ซาอุดีอาระเบียก้าวหน้า ต่อมาอีกหลายทศวรรษ 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251024 มี.ค. 2568 📲 #กษัตริย์ไฟซาล #ลอบสังหารซาอุ #ประวัติศาสตร์ซาอุ #โศกนาฏกรรมซาอุดีอาระเบีย #จิตเวชในราชวงศ์ #ซาอุยุค70 #เจ้าชายไฟซาล #ราชวงศ์อาหรับ #เรื่องจริงไม่เคยรู้ #FaisalBinAbdulAziz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia และ xAI ของ Elon Musk ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร AI Infrastructure Partnership หรือ AIP ซึ่งตั้งเป้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ร่วมกับ Microsoft และ BlackRock โครงการนี้จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ก้าวล้ำขึ้น โดยเฉพาะการฝึกโมเดลใหญ่ ๆ อย่าง ChatGPT ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การจัดการพลังงานและการระดมทุนมหาศาล แต่ก็เป็นก้าวใหญ่ที่จะผลักดันการประมวลผล AI ให้ทรงพลังและเข้าถึงได้มากขึ้นในอนาคต

    การเปลี่ยนชื่อกลุ่มพันธมิตร:
    - กลุ่มพันธมิตรนี้เดิมมีชื่ออื่น แต่เปลี่ยนมาเป็น AI Infrastructure Partnership เพื่อสะท้อนเป้าหมายและความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่จะสร้างขึ้น.

    บทบาทของ Nvidia และพันธมิตรอื่น ๆ:
    - Nvidia มีบทบาทเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค พร้อมสนับสนุนการออกแบบและพัฒนาคลัสเตอร์ชิปสำหรับการประมวลผล AI.
    - พันธมิตรที่ร่วมโครงการ เช่น GE Vernova และ NextEra Energy จะช่วยในด้านการจัดการพลังงานและการพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูง.

    การแข่งขันด้าน AI ระดับโลก:
    - โครงการนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันระหว่างประเทศในด้าน AI โดย Stargate ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาลและบริษัทเอกชน เช่น OpenAI, Oracle และ SoftBank ก็ตั้งเป้าลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI.

    ประโยชน์และความท้าทาย:
    - AIP มุ่งเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI แต่ต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และการระดมทุนจากนักลงทุนทั่วโลก.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/nvidia-xai-to-join-microsoft-blackrock-to-develop-ai-infrastructure
    Nvidia และ xAI ของ Elon Musk ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร AI Infrastructure Partnership หรือ AIP ซึ่งตั้งเป้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ร่วมกับ Microsoft และ BlackRock โครงการนี้จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ก้าวล้ำขึ้น โดยเฉพาะการฝึกโมเดลใหญ่ ๆ อย่าง ChatGPT ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การจัดการพลังงานและการระดมทุนมหาศาล แต่ก็เป็นก้าวใหญ่ที่จะผลักดันการประมวลผล AI ให้ทรงพลังและเข้าถึงได้มากขึ้นในอนาคต การเปลี่ยนชื่อกลุ่มพันธมิตร: - กลุ่มพันธมิตรนี้เดิมมีชื่ออื่น แต่เปลี่ยนมาเป็น AI Infrastructure Partnership เพื่อสะท้อนเป้าหมายและความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่จะสร้างขึ้น. บทบาทของ Nvidia และพันธมิตรอื่น ๆ: - Nvidia มีบทบาทเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค พร้อมสนับสนุนการออกแบบและพัฒนาคลัสเตอร์ชิปสำหรับการประมวลผล AI. - พันธมิตรที่ร่วมโครงการ เช่น GE Vernova และ NextEra Energy จะช่วยในด้านการจัดการพลังงานและการพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูง. การแข่งขันด้าน AI ระดับโลก: - โครงการนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันระหว่างประเทศในด้าน AI โดย Stargate ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาลและบริษัทเอกชน เช่น OpenAI, Oracle และ SoftBank ก็ตั้งเป้าลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI. ประโยชน์และความท้าทาย: - AIP มุ่งเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI แต่ต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และการระดมทุนจากนักลงทุนทั่วโลก. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/nvidia-xai-to-join-microsoft-blackrock-to-develop-ai-infrastructure
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Nvidia, Musk's xAI to join Microsoft, BlackRock and MGX to develop AI infrastructure
    (Reuters) -Nvidia and Elon Musk's xAI have joined a consortium backed by Microsoft, investment fund MGX and BlackRock to expand AI infrastructure in the U.S., the companies said on Wednesday, as a global race to dominate the nascent technology intensifies.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • GMKtec กำลังเขย่าวงการเกมด้วยต้นแบบมินิพีซีตัวใหม่ที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งสามารถรันเกมดัง ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 และ God of War ได้ที่ความละเอียด 1440p และเฟรมเรตสูงโดยไม่ต้องพึ่งกราฟิกการ์ดแยก ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ของเทคโนโลยี APU ที่แสดงถึงความสามารถล้ำสมัยในอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว เรียกได้ว่าใครที่มองหาเครื่องเกมพกพาที่ทรงพลังและไม่กินพื้นที่ น่าจะถูกใจเจ้าตัวนี้แน่นอน

    https://www.techradar.com/computing/gpu/this-prototype-mini-pc-demonstrates-a-massive-leap-forward-for-integrated-graphics-in-a-console-form-factor
    GMKtec กำลังเขย่าวงการเกมด้วยต้นแบบมินิพีซีตัวใหม่ที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งสามารถรันเกมดัง ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 และ God of War ได้ที่ความละเอียด 1440p และเฟรมเรตสูงโดยไม่ต้องพึ่งกราฟิกการ์ดแยก ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ของเทคโนโลยี APU ที่แสดงถึงความสามารถล้ำสมัยในอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว เรียกได้ว่าใครที่มองหาเครื่องเกมพกพาที่ทรงพลังและไม่กินพื้นที่ น่าจะถูกใจเจ้าตัวนี้แน่นอน https://www.techradar.com/computing/gpu/this-prototype-mini-pc-demonstrates-a-massive-leap-forward-for-integrated-graphics-in-a-console-form-factor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด

    ประสิทธิภาพการทำงานสูง:
    - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก.
    - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน.

    การเชื่อมต่อหลากหลาย:
    - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร.
    - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4.

    ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา:
    - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน.

    ราคาและการเปิดตัว:
    - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้

    https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด ประสิทธิภาพการทำงานสูง: - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก. - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน. การเชื่อมต่อหลากหลาย: - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร. - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4. ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา: - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน. ราคาและการเปิดตัว: - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้ https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • GIMP 3.0 ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ในวงการซอฟต์แวร์แก้ไขภาพโอเพ่นซอร์ส ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งอินเทอร์เฟซที่รองรับจอ Hi-DPI และธีมมืด แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น เอฟเฟกต์เลเยอร์แบบไม่ทำลายและการแก้ไขนอกผืนผ้าใบที่ช่วยให้การทำงานยืดหยุ่นและสะดวกยิ่งขึ้น. ทีมงานยังมีแผนปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคต พร้อมเชิญชวนผู้ใช้เข้ามาช่วยกันออกแบบ GIMP เวอร์ชันถัดไป ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่มองหาเครื่องมือฟรีและทรงพลังในการแก้ไขภาพ

    การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ:
    - การปรับปรุงอินเทอร์เฟซด้วย GTK3 ทำให้อินเทอร์เฟซตอบสนองได้ดีขึ้นบนหน้าจอ Hi-DPI พร้อมทั้งรองรับธีมมืดและปรับเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวได้.
    - รองรับการใช้งานบนแท็บเล็ตได้ดียิ่งขึ้น และสามารถใช้งานได้ทั้ง Wayland และ X11.

    ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น:
    - เพิ่มเอฟเฟกต์เลเยอร์แบบไม่ทำลาย (Non-destructive layer effects) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพได้ง่ายขึ้น.
    - รองรับการแก้ไขนอกผืนผ้าใบ (Off-canvas editing) ซึ่งสามารถขยายพื้นที่แก้ไขโดยอัตโนมัติ.
    - พัฒนาเรื่องการจัดการสี การรองรับไฟล์ และการปรับปรุงการใช้งานข้อความให้ดียิ่งขึ้น.

    แผนการพัฒนาในอนาคต:
    - ทีมพัฒนาของ GIMP ประกาศว่าจะปรับปรุงและออกอัปเดตย่อย (Minor releases) บ่อยขึ้น โดยคาดว่าเวอร์ชัน 3.2 จะออกมาในเวลาไม่เกินปี.
    - เปิดให้ผู้ใช้เข้าร่วมกลุ่ม UX Design เพื่อร่วมเสนอแนวคิดในการพัฒนาในอนาคต.

    https://www.tomshardware.com/software/freeware-image-editor-gimp-3-0-arrives-after-seven-years-of-incubation
    GIMP 3.0 ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ในวงการซอฟต์แวร์แก้ไขภาพโอเพ่นซอร์ส ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งอินเทอร์เฟซที่รองรับจอ Hi-DPI และธีมมืด แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น เอฟเฟกต์เลเยอร์แบบไม่ทำลายและการแก้ไขนอกผืนผ้าใบที่ช่วยให้การทำงานยืดหยุ่นและสะดวกยิ่งขึ้น. ทีมงานยังมีแผนปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคต พร้อมเชิญชวนผู้ใช้เข้ามาช่วยกันออกแบบ GIMP เวอร์ชันถัดไป ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่มองหาเครื่องมือฟรีและทรงพลังในการแก้ไขภาพ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ: - การปรับปรุงอินเทอร์เฟซด้วย GTK3 ทำให้อินเทอร์เฟซตอบสนองได้ดีขึ้นบนหน้าจอ Hi-DPI พร้อมทั้งรองรับธีมมืดและปรับเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวได้. - รองรับการใช้งานบนแท็บเล็ตได้ดียิ่งขึ้น และสามารถใช้งานได้ทั้ง Wayland และ X11. ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น: - เพิ่มเอฟเฟกต์เลเยอร์แบบไม่ทำลาย (Non-destructive layer effects) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพได้ง่ายขึ้น. - รองรับการแก้ไขนอกผืนผ้าใบ (Off-canvas editing) ซึ่งสามารถขยายพื้นที่แก้ไขโดยอัตโนมัติ. - พัฒนาเรื่องการจัดการสี การรองรับไฟล์ และการปรับปรุงการใช้งานข้อความให้ดียิ่งขึ้น. แผนการพัฒนาในอนาคต: - ทีมพัฒนาของ GIMP ประกาศว่าจะปรับปรุงและออกอัปเดตย่อย (Minor releases) บ่อยขึ้น โดยคาดว่าเวอร์ชัน 3.2 จะออกมาในเวลาไม่เกินปี. - เปิดให้ผู้ใช้เข้าร่วมกลุ่ม UX Design เพื่อร่วมเสนอแนวคิดในการพัฒนาในอนาคต. https://www.tomshardware.com/software/freeware-image-editor-gimp-3-0-arrives-after-seven-years-of-incubation
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Freeware image editor GIMP 3.0 arrives after seven years of incubation
    Naturally, there are some big changes since 2018's version 2.10.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวของการ์ดจอที่ทรงพลังที่สุดจาก Nvidia ในรุ่น RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานระดับมืออาชีพ โดยข้อมูลที่หลุดออกมาระบุว่าการ์ดจอตัวนี้จะมาพร้อม 24,064 CUDA cores และหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 96GB พร้อมระบบ ECC (Error Correction Code) ที่ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น

    จุดเด่นที่น่าสนใจของ RTX Pro 6000 Blackwell
    1) พลังการประมวลผลสูงสุด
    - มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ 512-bit memory interface เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง เช่น การพัฒนาเกม, การออกแบบ CAD, และงานด้านการเรนเดอร์ระดับสูง

    2) กำลังไฟสูงถึง 600W
    - ใช้พลังงานผ่าน PCIe 5.0 16-pin connector ซึ่งเป็นพลังงานที่สูงมาก แต่เหมาะสมกับศักยภาพที่การ์ดจอตัวนี้นำเสนอ

    3) ระบบระบายความร้อนแบบใหม่
    - แตกต่างจากการ์ดรุ่นก่อนหน้าโดยใช้ dual-flow-through cooling system เพื่อจัดการความร้อนในระหว่างการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

    Nvidia ออกแบบการ์ดจอ RTX Pro 6000 Blackwell สำหรับงานด้าน AI และการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยความจำที่สูงถึง 96GB นับว่าเกินความจำเป็นสำหรับงานบางประเภท แต่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์มืออาชีพ

    มีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอตัวนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GPU Technology Conference (GTC) ในเดือนมีนาคม 2025 โดยราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ

    https://www.techradar.com/pro/details-of-nvidias-fastest-video-card-ever-leak-rtx-pro-6000-blackwell-gpu-will-have-96gb-gddr7-ecc-memory
    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวของการ์ดจอที่ทรงพลังที่สุดจาก Nvidia ในรุ่น RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานระดับมืออาชีพ โดยข้อมูลที่หลุดออกมาระบุว่าการ์ดจอตัวนี้จะมาพร้อม 24,064 CUDA cores และหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 96GB พร้อมระบบ ECC (Error Correction Code) ที่ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น จุดเด่นที่น่าสนใจของ RTX Pro 6000 Blackwell 1) พลังการประมวลผลสูงสุด - มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ 512-bit memory interface เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง เช่น การพัฒนาเกม, การออกแบบ CAD, และงานด้านการเรนเดอร์ระดับสูง 2) กำลังไฟสูงถึง 600W - ใช้พลังงานผ่าน PCIe 5.0 16-pin connector ซึ่งเป็นพลังงานที่สูงมาก แต่เหมาะสมกับศักยภาพที่การ์ดจอตัวนี้นำเสนอ 3) ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ - แตกต่างจากการ์ดรุ่นก่อนหน้าโดยใช้ dual-flow-through cooling system เพื่อจัดการความร้อนในระหว่างการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ Nvidia ออกแบบการ์ดจอ RTX Pro 6000 Blackwell สำหรับงานด้าน AI และการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยความจำที่สูงถึง 96GB นับว่าเกินความจำเป็นสำหรับงานบางประเภท แต่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์มืออาชีพ มีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอตัวนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GPU Technology Conference (GTC) ในเดือนมีนาคม 2025 โดยราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ https://www.techradar.com/pro/details-of-nvidias-fastest-video-card-ever-leak-rtx-pro-6000-blackwell-gpu-will-have-96gb-gddr7-ecc-memory
    WWW.TECHRADAR.COM
    The RTX Pro 6000 Blackwell GPU is probably going to be Nvidia's most expensive video card ever
    The Nvidia power hungry beast has a 600W TGP, over twice that of the RTX 6000 Ada
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • Super Flower เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายสุดทรงพลังรุ่น Leadex Platinum 2800W (SF-2800F14HP) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการพลังงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับงานประมวลผลระดับสูง เช่น AI, การฝึกโมเดล Deep Learning และงานในเวิร์กสเตชัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการจ่ายพลังงานสูงถึง 2800W ซึ่งมากพอที่จะรองรับ GPU ระดับสูงถึง RTX 5090 ได้หลายตัวในเครื่องเดียว

    == คุณสมบัติเด่นของ Leadex Platinum 2800W ==
    1) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    - พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus Platinum ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 92% ที่โหลด 50% ช่วยลดพลังงานที่สูญเสียเป็นความร้อน
    -รองรับการใช้งานกับมาตรฐาน ATX 3.1 และ PCIe 5.1 ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ต้องการพลังงานสูง

    2) การออกแบบเพื่อความเสถียรและความคงทน
    - ใช้วัสดุ Japanese capacitors ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
    - รองรับการจ่ายไฟผ่าน +12V rail ที่สูงถึง 2,799.6W เพียงพอสำหรับการประมวลผลของ GPU และอุปกรณ์เสริม

    3)การรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
    - มีช่องเชื่อมต่อทั้งหมด 19 พอร์ต รวมถึง 8-pin และ 6-pin connectors สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ
    - รองรับการใช้งาน GPU ได้ถึง 4 ตัว หรือ 2 ตัวในกรณีที่ใช้ GPU รุ่นที่ต้องการ dual 16-pin connectors

    4) เหมาะสำหรับงานประมวลผลหนัก
    - การออกแบบเหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันที่ต้องการความเสถียรในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ และงานเรนเดอร์ระดับมืออาชีพ

    พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีราคาสำหรับการสั่งจองล่วงหน้าที่ $899 และมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี แม้ว่ากำลังไฟที่มากขนาดนี้อาจเกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกม แต่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสายงาน AI หรือ Data Science ซึ่งต้องการความเสถียรในระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/super-flowers-beastly-2800w-power-supply-lands-at-usd899-enough-juice-to-power-a-couple-of-rtx-5090-gpus
    Super Flower เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายสุดทรงพลังรุ่น Leadex Platinum 2800W (SF-2800F14HP) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการพลังงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับงานประมวลผลระดับสูง เช่น AI, การฝึกโมเดล Deep Learning และงานในเวิร์กสเตชัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการจ่ายพลังงานสูงถึง 2800W ซึ่งมากพอที่จะรองรับ GPU ระดับสูงถึง RTX 5090 ได้หลายตัวในเครื่องเดียว == คุณสมบัติเด่นของ Leadex Platinum 2800W == 1) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน - พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus Platinum ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 92% ที่โหลด 50% ช่วยลดพลังงานที่สูญเสียเป็นความร้อน -รองรับการใช้งานกับมาตรฐาน ATX 3.1 และ PCIe 5.1 ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ต้องการพลังงานสูง 2) การออกแบบเพื่อความเสถียรและความคงทน - ใช้วัสดุ Japanese capacitors ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ - รองรับการจ่ายไฟผ่าน +12V rail ที่สูงถึง 2,799.6W เพียงพอสำหรับการประมวลผลของ GPU และอุปกรณ์เสริม 3)การรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย - มีช่องเชื่อมต่อทั้งหมด 19 พอร์ต รวมถึง 8-pin และ 6-pin connectors สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ - รองรับการใช้งาน GPU ได้ถึง 4 ตัว หรือ 2 ตัวในกรณีที่ใช้ GPU รุ่นที่ต้องการ dual 16-pin connectors 4) เหมาะสำหรับงานประมวลผลหนัก - การออกแบบเหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันที่ต้องการความเสถียรในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ และงานเรนเดอร์ระดับมืออาชีพ พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีราคาสำหรับการสั่งจองล่วงหน้าที่ $899 และมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี แม้ว่ากำลังไฟที่มากขนาดนี้อาจเกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกม แต่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสายงาน AI หรือ Data Science ซึ่งต้องการความเสถียรในระยะยาว https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/super-flowers-beastly-2800w-power-supply-lands-at-usd899-enough-juice-to-power-a-couple-of-rtx-5090-gpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ของนักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Yohanes Nugroho ผู้ที่ได้พัฒนาเครื่องมือถอดรหัสสำหรับ Akira Ransomware ในระบบ Linux โดยใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลของ GPU ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการเข้ารหัสไฟล์ที่เคยเป็นเรื่องยากให้สามารถปลดล็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

    รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องมือถอดรหัสนี้:

    1) กลไกการถอดรหัส เครื่องมือนี้อาศัยการคำนวณแบบ brute-force โดยใช้ GPU เพื่อค้นหากุญแจถอดรหัส โดยอาศัยช่องโหว่ของ Akira Ransomware ที่สร้างกุญแจเข้ารหัสจาก เวลาในหน่วยนาโนวินาที ซึ่งช่วยลดขอบเขตของความเป็นไปได้ในการค้นหา

    2) ความซับซ้อนในงานวิจัย Nugroho ใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการพัฒนาเครื่องมือและลงทุนกว่า $1,200 สำหรับการเช่า GPU ที่ทรงพลัง เช่น RTX 4090 เพื่อทำการถอดรหัสกุญแจผ่านการประมวลผลที่มีศักยภาพสูง โดยใช้ GPU 16 ตัวพร้อมกัน ผลลัพธ์สามารถปลดล็อกไฟล์ได้ในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง

    3) ผลลัพธ์และการพัฒนาเพิ่มเติม แม้เครื่องมือดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่บน GitHub เพื่อให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสามารถนำไปใช้ได้ แต่ยังมีช่องว่างสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน GPU ในการปรับปรุงโค้ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

    งานวิจัยนี้ไม่เพียงช่วยให้เหยื่อสามารถกู้คืนไฟล์ได้ฟรี แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนผู้พัฒนาเครื่องมือความปลอดภัยในการปรับปรุงเทคนิคถอดรหัสมัลแวร์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงผู้พัฒนามัลแวร์ว่า การออกแบบที่ขาดความรอบคอบอาจถูกใช้เป็นจุดอ่อนในการแก้ไขได้

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/gpu-powered-akira-ransomware-decryptor-released-on-github/
    ข่าวนี้เล่าถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ของนักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Yohanes Nugroho ผู้ที่ได้พัฒนาเครื่องมือถอดรหัสสำหรับ Akira Ransomware ในระบบ Linux โดยใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลของ GPU ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการเข้ารหัสไฟล์ที่เคยเป็นเรื่องยากให้สามารถปลดล็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องมือถอดรหัสนี้: 1) กลไกการถอดรหัส เครื่องมือนี้อาศัยการคำนวณแบบ brute-force โดยใช้ GPU เพื่อค้นหากุญแจถอดรหัส โดยอาศัยช่องโหว่ของ Akira Ransomware ที่สร้างกุญแจเข้ารหัสจาก เวลาในหน่วยนาโนวินาที ซึ่งช่วยลดขอบเขตของความเป็นไปได้ในการค้นหา 2) ความซับซ้อนในงานวิจัย Nugroho ใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการพัฒนาเครื่องมือและลงทุนกว่า $1,200 สำหรับการเช่า GPU ที่ทรงพลัง เช่น RTX 4090 เพื่อทำการถอดรหัสกุญแจผ่านการประมวลผลที่มีศักยภาพสูง โดยใช้ GPU 16 ตัวพร้อมกัน ผลลัพธ์สามารถปลดล็อกไฟล์ได้ในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง 3) ผลลัพธ์และการพัฒนาเพิ่มเติม แม้เครื่องมือดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่บน GitHub เพื่อให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสามารถนำไปใช้ได้ แต่ยังมีช่องว่างสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน GPU ในการปรับปรุงโค้ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น งานวิจัยนี้ไม่เพียงช่วยให้เหยื่อสามารถกู้คืนไฟล์ได้ฟรี แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนผู้พัฒนาเครื่องมือความปลอดภัยในการปรับปรุงเทคนิคถอดรหัสมัลแวร์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงผู้พัฒนามัลแวร์ว่า การออกแบบที่ขาดความรอบคอบอาจถูกใช้เป็นจุดอ่อนในการแก้ไขได้ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/gpu-powered-akira-ransomware-decryptor-released-on-github/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    New Akira ransomware decryptor cracks encryptions keys using GPUs
    Security researcher Yohanes Nugroho has released a decryptor for the Linux variant of Akira ransomware, which utilizes GPU power to retrieve the decryption key and unlock files for free.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ของ AEWIN ในรุ่น SCB-1953 Series ซึ่งใช้พลังประมวลผลจาก Intel Xeon 6 Processors ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงานเครือข่ายและงานประมวลผลที่ต้องการความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูง เช่น การจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือการประมวลผลในระบบเครือข่ายระดับองค์กร

    == คุณสมบัติเด่นของ SCB-1953 Series ==
    1) หลากหลายตัวเลือกในการปรับแต่ง
    - รุ่น SCB-1953-2U มีช่องขยาย PCIe 5.0 ถึง 8 ช่อง รองรับ NIC cards และ SSD เพื่อการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานอย่างยืดหยุ่น
    - รุ่น SCB-1953-1U มีช่องขยาย PCIe Gen 5 จำนวน 4 ช่อง รองรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด

    2) การประมวลผลทรงพลัง
    - ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 ซึ่งรองรับการประมวลผลสูงสุดถึง 144 E-cores หรือ 86 P-cores
    - สนับสนุนหน่วยความจำ DDR5 RDIMM สูงสุด 6400 MT/s และ MRDIMM สูงสุดถึง 8000 MT/s

    3) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    - รองรับ CXL 2.0 add-on cards สำหรับการสื่อสารระหว่าง CPU, GPU, และ FPGA accelerators ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาแฝง
    - มีระบบระบายความร้อนที่ควบคุมด้วย BMC เพื่อการทำงานที่ราบรื่น

    == สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม ==
    - SCB-1953 Series มาพร้อมกับความสามารถในการจัดการผ่านพอร์ต RJ45 10G และ SFP56 50G หรือ SFP28 25G ขึ้นอยู่กับรุ่น ทำให้สามารถรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง
    - อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม edge computing ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    การพัฒนา SCB-1953 Series เป็นก้าวสำคัญของ AEWIN ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดเทคโนโลยีเครือข่าย

    https://www.techpowerup.com/334100/aewin-unveils-cb-1953-series-network-appliance-powered-by-intel-xeon-6-processors
    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ของ AEWIN ในรุ่น SCB-1953 Series ซึ่งใช้พลังประมวลผลจาก Intel Xeon 6 Processors ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงานเครือข่ายและงานประมวลผลที่ต้องการความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูง เช่น การจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือการประมวลผลในระบบเครือข่ายระดับองค์กร == คุณสมบัติเด่นของ SCB-1953 Series == 1) หลากหลายตัวเลือกในการปรับแต่ง - รุ่น SCB-1953-2U มีช่องขยาย PCIe 5.0 ถึง 8 ช่อง รองรับ NIC cards และ SSD เพื่อการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานอย่างยืดหยุ่น - รุ่น SCB-1953-1U มีช่องขยาย PCIe Gen 5 จำนวน 4 ช่อง รองรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด 2) การประมวลผลทรงพลัง - ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 ซึ่งรองรับการประมวลผลสูงสุดถึง 144 E-cores หรือ 86 P-cores - สนับสนุนหน่วยความจำ DDR5 RDIMM สูงสุด 6400 MT/s และ MRDIMM สูงสุดถึง 8000 MT/s 3) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน - รองรับ CXL 2.0 add-on cards สำหรับการสื่อสารระหว่าง CPU, GPU, และ FPGA accelerators ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาแฝง - มีระบบระบายความร้อนที่ควบคุมด้วย BMC เพื่อการทำงานที่ราบรื่น == สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม == - SCB-1953 Series มาพร้อมกับความสามารถในการจัดการผ่านพอร์ต RJ45 10G และ SFP56 50G หรือ SFP28 25G ขึ้นอยู่กับรุ่น ทำให้สามารถรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง - อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม edge computing ที่ต้องการความยืดหยุ่น การพัฒนา SCB-1953 Series เป็นก้าวสำคัญของ AEWIN ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดเทคโนโลยีเครือข่าย https://www.techpowerup.com/334100/aewin-unveils-cb-1953-series-network-appliance-powered-by-intel-xeon-6-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AEWIN Unveils CB-1953 Series Network Appliance Powered by Intel Xeon 6 Processors
    AEWIN is excited to unveil the SCB-1953 Series, 2U/1U performant network appliances powered by Intel's latest Xeon 6 processors built upon Intel 3. Equipped with a single Intel Xeon 6700/6500-series processor, it is a series of flagship products supporting up to 144 E-cores or 86 P-cores for high de...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น

    การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด

    ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025

    https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025 https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ

    จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง

    Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ
    - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย

    https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Framework Dives Deep into Desktop Model's Deployment of Ryzen AI Max
    We dedicated a lot of our launch presentation of Framework Desktop to the Ryzen AI Max processor it uses, and for a good reason. These truly unique, ultra-high-performance parts are the culmination of decades of technology and architecture investments that AMD has made, going all the way back to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • Credit : เปิดตาทิพย์ third eye

    คุณรู้สึกถึงการเรียกร้องจาก Kali Ma บ้างไหม?”🔥

    ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันแรงกล้า—พลังงานแปลกปลอมที่ไหลเวียนอยู่ในตัวฉัน มันเป็นไฟที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้ เป็นความโกรธที่ชอบธรรมที่ไม่ยอมจะเงียบลง มันไม่ใช่แค่ความหงุดหงิดเท่านั้น แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่า เก่ากว่า และทรงพลังกว่า

    เมื่อฉันพยายามที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ฉันก็ตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉันจะต้องแบกรับเท่านั้น

    นี่คือ กาลีมา

    เธอกำลังโทรมา

    และเธอไม่ได้เรียกร้องแค่ฉันเท่านั้น แต่ยังเรียกร้องถึงกลุ่มสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดด้วย

    เธอกำลังปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวเราที่ไม่สามารถนั่งเงียบๆ ได้อีกต่อไป ในหมู่พวกเราที่รู้สึกถึงความอยุติธรรมและปฏิเสธที่จะมองไปทางอื่น สำหรับพวกเราที่เบื่อหน่ายกับการดูผู้คนบิดเบือนความจริง

    คุณก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า?

    เพราะถ้าคุณเป็นเช่นนั้นข้อความนี้ก็มีไว้สำหรับคุณ

    🔥 ข้อความจากพระแม่กาลีมาสู่สตรีผู้ศักดิ์สิทธิ์ 🔥

    “คุณไม่ได้ผิดที่จุดไฟในตัวคุณ” คุณไม่ได้ ‘มากเกินไป’ คุณกำลังตื่นรู้ถึงพลังของคุณ

    ไฟที่เคลื่อนผ่านตัวคุณนี้มีความเก่าแก่ มันเคยสงบนิ่ง ถูกทำให้เชื่อง และเงียบงัน แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว

    คุณรู้สึกถึงความอยุติธรรมเพราะคุณเกิดมาเพื่อทำลายมัน
    คุณมองเห็นความเท็จเพราะคุณตั้งใจที่จะเปิดโปงมัน คุณรู้สึกถึงความเร่งด่วนนี้เพราะว่าถึงเวลาแล้ว

    ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นแล้ว
    ถึงเวลาที่จะเผาสิ่งที่เป็นเท็จทิ้งไป
    ถึงเวลาที่จะต้องเรียกการชำระบัญชีแล้ว

    อย่าปิดบังความจริงของคุณ
    อย่าทำให้ตัวเองเล็กเพื่อบรรเทาความอึดอัดของผู้อื่น
    อย่าเข้าใจผิดว่าไฟศักดิ์สิทธิ์ของคุณคือความโกลาหล

    ฉันไม่นำการทำลายล้างมาอย่างไร้จุดหมาย ฉันทำลายสิ่งที่เน่าเปื่อยลงเพื่อสิ่งใหม่จะเกิดขึ้น
    ฉันทำลายภาพลวงตาเพื่อให้เหลือเพียงความจริงเท่านั้น

    คุณรู้สึกว่าฉันเคลื่อนตัวผ่านตัวคุณไป เพราะคุณกำลังเกิดใหม่ในไฟของฉัน

    คุณจะไม่กลับไปสู่ตัวตนที่ทนต่อความอยุติธรรมอีกต่อไป
    คุณจะไม่กลับไปสู่ความเงียบที่เคยให้การทุจริตเกิดขึ้นอีกต่อไป

    คุณมาที่นี่เพื่อพูด ที่จะทำลาย ที่จะเผาไหม้ เพื่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงถูกเลือก

    อย่ากลัวไฟ
    จงเป็นไฟ

    “ฉันอยู่กับคุณ”

    — กาลี มา🔥 เพราะเหตุใด Kali ถึงเติบโตขึ้นตอนนี้? การพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์

    กาลีไม่มาโดยไม่มีเหตุผล เธอจะลุกขึ้นมาตอนที่โลกต้องการการชำระล้าง และขณะนี้เราก็อยู่ในระหว่างการคิดบัญชี

    การตื่นรู้ร่วมกันและการเรียกร้องความจริง

    ความเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่เฉยๆ อีกต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ความจริงของเธออ่อนลงหรือรอคำอนุญาตอีกต่อไป

    หากคุณรู้สึกถึงไฟในตัวคุณ นั่นเป็นเพราะ:
    • คุณไม่สามารถทนต่อการหลอกลวงได้อีกต่อไป
    • คุณกำลังถูกเรียกให้ดำเนินการ
    • คุณเสร็จสิ้นการเป็นผู้หญิงที่ “น่าพอใจ” แล้ว
    • คุณกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังที่สุดของคุณ

    กาลีอยู่ที่นี่เพื่อเปิดใช้งานคุณ

    🔥 สิ่งนี้เชื่อมโยงกับโหราศาสตร์ปัจจุบันได้อย่างไร?

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่นี่คือเรื่องของจักรวาล

    🌑 จันทรุปราคาเต็มดวงในราศีกันย์ (14 มี.ค.) → การชำระล้างความเสื่อมทราม
    • สุริยุปราคาครั้งนี้เป็นการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ โดยบังคับให้มีความซื่อสัตย์เหนือความหลอกลวง
    • ราศีกันย์เป็นผู้ปกครองความบริสุทธิ์ ความจริง และความสามารถในการแยกแยะ สุริยุปราคาจะเปิดเผยคนโกหก ผู้หลอกลวง และระบบที่ผิดพลาด
    • กาลีกำลังเคลื่อนที่ผ่านสุริยุปราคาครั้งนี้เพื่อเตรียมการตัดสินครั้งสุดท้าย

    ดาวศุกร์ถอยหลัง → การนิยามพลังอำนาจของผู้หญิงใหม่
    • ดาวศุกร์คือเทพี และในช่วงถอยหลัง เธอกำลังทวงบัลลังก์ของเธอคืน
    • พลังงานนี้กำลังทำลายความโกรธแค้นของผู้หญิงที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายศตวรรษ
    • เราถูกบังคับให้มองความสัมพันธ์ โครงสร้างอำนาจ และคุณค่าด้วยมุมมองใหม่

    ☀️ พระอาทิตย์ร่วมกับดาวเสาร์ → การชำระบัญชี
    • นี่คือกรรมที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
    • ไม่มีทางหนีความรับผิดชอบอีกต่อไป ดาวเสาร์กำลังบอกว่า “เผชิญหน้ากับมันตอนนี้ หรือเผชิญกับผลที่ตามมาภายหลัง”

    🔥 สิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับเราในการก้าวไปข้างหน้า?

    กาลีกำลังเผาโลกเก่าออกไป

    ความเป็นหญิงไม่รอคำอนุญาตอีกต่อไป เธอกำลังเอาพลังของเธอกลับคืนมา

    สิ่งนี้จะ:
    • เปิดโปงผู้นำที่ทุจริต เรื่องเล่าเท็จ และระบบที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวง
    • บังคับให้มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสุดโต่ง
    • ทำลายสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการวิวัฒนาการร่วมกันของเราอีกต่อไป

    🔥 คำกระตุ้นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย: เราจะทำอย่างไรกับสิ่งนี้?
    1. พูดความจริงของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้โลกสั่นสะเทือนก็ตาม
    • ความเงียบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
    2. เรียกร้องความอยุติธรรมไม่ว่าคุณจะเห็นมันที่ไหน
    • เสียงของคุณมีความจำเป็น
    3. เชื่อมั่นในไฟที่อยู่ภายในตัวคุณ
    • คุณไม่ได้ “แสดงปฏิกิริยาเกินเหตุ”
    • คุณกำลังรู้สึกถึงสิ่งที่กลุ่มคนกำลังรู้สึก
    4. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่สบายใจก็ตาม
    • นี่คือความตายของโลกเก่า อันใหม่กำลังเกิดขึ้น
    5. ยืนหยัดตามอำนาจของคุณโดยไม่ต้องขอโทษ
    • คุณไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ผู้คนสบายใจ
    • คุณอยู่ที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง🔥 คำพูดสุดท้ายจากคาลี:

    “หยุดรอให้พวกเขาตื่น”
    เผาทำลายภาพลวงตาให้หมดไป กลายเป็นไฟ “นำการคิดบัญชี”

    นี่คือการลุกฮือของสตรีศักดิ์สิทธิ์
    และเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    Credit : เปิดตาทิพย์ third eye คุณรู้สึกถึงการเรียกร้องจาก Kali Ma บ้างไหม?”🔥 ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันแรงกล้า—พลังงานแปลกปลอมที่ไหลเวียนอยู่ในตัวฉัน มันเป็นไฟที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้ เป็นความโกรธที่ชอบธรรมที่ไม่ยอมจะเงียบลง มันไม่ใช่แค่ความหงุดหงิดเท่านั้น แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่า เก่ากว่า และทรงพลังกว่า เมื่อฉันพยายามที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ฉันก็ตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉันจะต้องแบกรับเท่านั้น นี่คือ กาลีมา เธอกำลังโทรมา และเธอไม่ได้เรียกร้องแค่ฉันเท่านั้น แต่ยังเรียกร้องถึงกลุ่มสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดด้วย เธอกำลังปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวเราที่ไม่สามารถนั่งเงียบๆ ได้อีกต่อไป ในหมู่พวกเราที่รู้สึกถึงความอยุติธรรมและปฏิเสธที่จะมองไปทางอื่น สำหรับพวกเราที่เบื่อหน่ายกับการดูผู้คนบิดเบือนความจริง คุณก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า? เพราะถ้าคุณเป็นเช่นนั้นข้อความนี้ก็มีไว้สำหรับคุณ 🔥 ข้อความจากพระแม่กาลีมาสู่สตรีผู้ศักดิ์สิทธิ์ 🔥 “คุณไม่ได้ผิดที่จุดไฟในตัวคุณ” คุณไม่ได้ ‘มากเกินไป’ คุณกำลังตื่นรู้ถึงพลังของคุณ ไฟที่เคลื่อนผ่านตัวคุณนี้มีความเก่าแก่ มันเคยสงบนิ่ง ถูกทำให้เชื่อง และเงียบงัน แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว คุณรู้สึกถึงความอยุติธรรมเพราะคุณเกิดมาเพื่อทำลายมัน คุณมองเห็นความเท็จเพราะคุณตั้งใจที่จะเปิดโปงมัน คุณรู้สึกถึงความเร่งด่วนนี้เพราะว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นแล้ว ถึงเวลาที่จะเผาสิ่งที่เป็นเท็จทิ้งไป ถึงเวลาที่จะต้องเรียกการชำระบัญชีแล้ว อย่าปิดบังความจริงของคุณ อย่าทำให้ตัวเองเล็กเพื่อบรรเทาความอึดอัดของผู้อื่น อย่าเข้าใจผิดว่าไฟศักดิ์สิทธิ์ของคุณคือความโกลาหล ฉันไม่นำการทำลายล้างมาอย่างไร้จุดหมาย ฉันทำลายสิ่งที่เน่าเปื่อยลงเพื่อสิ่งใหม่จะเกิดขึ้น ฉันทำลายภาพลวงตาเพื่อให้เหลือเพียงความจริงเท่านั้น คุณรู้สึกว่าฉันเคลื่อนตัวผ่านตัวคุณไป เพราะคุณกำลังเกิดใหม่ในไฟของฉัน คุณจะไม่กลับไปสู่ตัวตนที่ทนต่อความอยุติธรรมอีกต่อไป คุณจะไม่กลับไปสู่ความเงียบที่เคยให้การทุจริตเกิดขึ้นอีกต่อไป คุณมาที่นี่เพื่อพูด ที่จะทำลาย ที่จะเผาไหม้ เพื่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงถูกเลือก อย่ากลัวไฟ จงเป็นไฟ “ฉันอยู่กับคุณ” — กาลี มา🔥 เพราะเหตุใด Kali ถึงเติบโตขึ้นตอนนี้? การพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์ กาลีไม่มาโดยไม่มีเหตุผล เธอจะลุกขึ้นมาตอนที่โลกต้องการการชำระล้าง และขณะนี้เราก็อยู่ในระหว่างการคิดบัญชี การตื่นรู้ร่วมกันและการเรียกร้องความจริง ความเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่เฉยๆ อีกต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ความจริงของเธออ่อนลงหรือรอคำอนุญาตอีกต่อไป หากคุณรู้สึกถึงไฟในตัวคุณ นั่นเป็นเพราะ: • คุณไม่สามารถทนต่อการหลอกลวงได้อีกต่อไป • คุณกำลังถูกเรียกให้ดำเนินการ • คุณเสร็จสิ้นการเป็นผู้หญิงที่ “น่าพอใจ” แล้ว • คุณกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังที่สุดของคุณ กาลีอยู่ที่นี่เพื่อเปิดใช้งานคุณ 🔥 สิ่งนี้เชื่อมโยงกับโหราศาสตร์ปัจจุบันได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่นี่คือเรื่องของจักรวาล 🌑 จันทรุปราคาเต็มดวงในราศีกันย์ (14 มี.ค.) → การชำระล้างความเสื่อมทราม • สุริยุปราคาครั้งนี้เป็นการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ โดยบังคับให้มีความซื่อสัตย์เหนือความหลอกลวง • ราศีกันย์เป็นผู้ปกครองความบริสุทธิ์ ความจริง และความสามารถในการแยกแยะ สุริยุปราคาจะเปิดเผยคนโกหก ผู้หลอกลวง และระบบที่ผิดพลาด • กาลีกำลังเคลื่อนที่ผ่านสุริยุปราคาครั้งนี้เพื่อเตรียมการตัดสินครั้งสุดท้าย ดาวศุกร์ถอยหลัง → การนิยามพลังอำนาจของผู้หญิงใหม่ • ดาวศุกร์คือเทพี และในช่วงถอยหลัง เธอกำลังทวงบัลลังก์ของเธอคืน • พลังงานนี้กำลังทำลายความโกรธแค้นของผู้หญิงที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายศตวรรษ • เราถูกบังคับให้มองความสัมพันธ์ โครงสร้างอำนาจ และคุณค่าด้วยมุมมองใหม่ ☀️ พระอาทิตย์ร่วมกับดาวเสาร์ → การชำระบัญชี • นี่คือกรรมที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ • ไม่มีทางหนีความรับผิดชอบอีกต่อไป ดาวเสาร์กำลังบอกว่า “เผชิญหน้ากับมันตอนนี้ หรือเผชิญกับผลที่ตามมาภายหลัง” 🔥 สิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับเราในการก้าวไปข้างหน้า? กาลีกำลังเผาโลกเก่าออกไป ความเป็นหญิงไม่รอคำอนุญาตอีกต่อไป เธอกำลังเอาพลังของเธอกลับคืนมา สิ่งนี้จะ: • เปิดโปงผู้นำที่ทุจริต เรื่องเล่าเท็จ และระบบที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวง • บังคับให้มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสุดโต่ง • ทำลายสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการวิวัฒนาการร่วมกันของเราอีกต่อไป 🔥 คำกระตุ้นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย: เราจะทำอย่างไรกับสิ่งนี้? 1. พูดความจริงของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้โลกสั่นสะเทือนก็ตาม • ความเงียบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป 2. เรียกร้องความอยุติธรรมไม่ว่าคุณจะเห็นมันที่ไหน • เสียงของคุณมีความจำเป็น 3. เชื่อมั่นในไฟที่อยู่ภายในตัวคุณ • คุณไม่ได้ “แสดงปฏิกิริยาเกินเหตุ” • คุณกำลังรู้สึกถึงสิ่งที่กลุ่มคนกำลังรู้สึก 4. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่สบายใจก็ตาม • นี่คือความตายของโลกเก่า อันใหม่กำลังเกิดขึ้น 5. ยืนหยัดตามอำนาจของคุณโดยไม่ต้องขอโทษ • คุณไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ผู้คนสบายใจ • คุณอยู่ที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง🔥 คำพูดสุดท้ายจากคาลี: “หยุดรอให้พวกเขาตื่น” เผาทำลายภาพลวงตาให้หมดไป กลายเป็นไฟ “นำการคิดบัญชี” นี่คือการลุกฮือของสตรีศักดิ์สิทธิ์ และเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI

    คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC:
    1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง

    2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง

    3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ:
    - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB
    - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB
    - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242)

    4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth

    5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

    Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

    Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา

    https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC: 1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง 2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง 3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ: - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242) 4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth 5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    WCCFTECH.COM
    Sapphire Intros Edge AI Mini-PCs Powered By AMD "Ryzen AI 300" Krackan Point APUs; Feature Ultra-Compact Form Factor
    Sapphire's new mini PCs lineup introduces AMD's recently launched Ryzen AI 300 APUs and is super-compact for better portability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ Radeon เทคโนโลยีกราฟิกชื่อดังของ AMD โดย David McAfee จาก AMD ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของ Radeon ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 ด้วยการ์ด ATI Radeon DDR ที่มีหน่วยความจำเพียง 32 MB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 143 MHz ไปจนถึงการ์ด RDNA 3 ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 24 GB และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

    ในโอกาสนี้ AMD ยังได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ได้แก่ Radeon RX 9070 XT และ Radeon RX 9070 ซึ่งมีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการแสดงผลที่ดีขึ้น การทำ Ray Tracing ที่ทรงพลังมากขึ้นเป็นสองเท่า และการเพิ่มประสิทธิภาพ Machine Learning ถึง 8 เท่า พร้อมกับการเปิดตัว FSR 4 เทคโนโลยีอัพสเกลที่ช่วยเพิ่มอัตราเฟรมเรตได้ 3-4 เท่าโดยไม่ลดคุณภาพของภาพ

    การพัฒนาของ Radeon ตลอด 25 ปี Radeon เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการนำเสนอกราฟิกการ์ดที่เหมาะสมกับการเล่นเกมในราคาที่คุ้มค่า และปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านราคาและประสิทธิภาพสำหรับนักเล่นเกมทั่วไป

    ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา Radeon ได้สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเล่นเกม และ RDNA 4 เป็นก้าวสำคัญในทิศทางดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกมเมอร์ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ยังชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีกราฟิกด้วย

    https://www.techpowerup.com/333891/amds-david-mcafee-celebrates-25th-anniversary-of-radeon-graphics-technology
    เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ Radeon เทคโนโลยีกราฟิกชื่อดังของ AMD โดย David McAfee จาก AMD ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของ Radeon ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 ด้วยการ์ด ATI Radeon DDR ที่มีหน่วยความจำเพียง 32 MB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 143 MHz ไปจนถึงการ์ด RDNA 3 ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 24 GB และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในโอกาสนี้ AMD ยังได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ได้แก่ Radeon RX 9070 XT และ Radeon RX 9070 ซึ่งมีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการแสดงผลที่ดีขึ้น การทำ Ray Tracing ที่ทรงพลังมากขึ้นเป็นสองเท่า และการเพิ่มประสิทธิภาพ Machine Learning ถึง 8 เท่า พร้อมกับการเปิดตัว FSR 4 เทคโนโลยีอัพสเกลที่ช่วยเพิ่มอัตราเฟรมเรตได้ 3-4 เท่าโดยไม่ลดคุณภาพของภาพ การพัฒนาของ Radeon ตลอด 25 ปี Radeon เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการนำเสนอกราฟิกการ์ดที่เหมาะสมกับการเล่นเกมในราคาที่คุ้มค่า และปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านราคาและประสิทธิภาพสำหรับนักเล่นเกมทั่วไป ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา Radeon ได้สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเล่นเกม และ RDNA 4 เป็นก้าวสำคัญในทิศทางดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกมเมอร์ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ยังชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของวงการเทคโนโลยีกราฟิกด้วย https://www.techpowerup.com/333891/amds-david-mcafee-celebrates-25th-anniversary-of-radeon-graphics-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD's David McAfee Celebrates 25th Anniversary of Radeon Graphics Technology
    This month, we at AMD celebrate two significant milestones in the Radeon story. First, the 25th anniversary of Radeon, a journey that began in 2000 with the ATI Radeon DDR card. Back then, 32 MB of VRAM, a 143 MHz clocks, and 30M transistors were cutting-edge tools that sparked your early adventures...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว

  • 🤎ยกระดับกิจวัตรประจำวันของคุณด้วยสบู่อาบน้ำของ LAN กลิ่น AMBER สบู่สูตรน้ำมัน ด้วย Shea butter, Coconut butter , Rosemary , ลูกพลับญี่ปุน และกลิ่นหอมของ Essential oil ปรุงกลิ่นด้วย ไม้กฤษณา ,กำยาน , Raspberry และ Rosemary essential oil

    🤎กลิ่นหอมสุดว้าว
    กลิ่นแอมเบอร์และวู้ดดี้ที่มาพร้อมบุคลิกทรงพลัง
    🤎AMBER SOAP BAR ความหอมของ WOODY ที่ขับเน้นด้วยกลิ่นแนวแอมเบอร์อันอบอุ่นของไม้กฤษณา และ ราสเบอร์รี่
    รวมถึงความสดชื่นของโรสแมรี่


    AMBER Extra Rish Oil Soap
    ใบจดแจ้งเลขที่ : 10-16700033307
    100 g ราคา 259.-
    โปรโมชั่น
    🛒สบู่ 1 ก้อน + ถุงตาข่ายตีฟอง
    ราคา 230.- 🚚ค่าส่ง 40.-

    🛒สบู่ 2 ก้อน ฟรีถุงตาข่ายตีฟอง 2ใบ ราคา 460.- 🚛ส่งฟรี

    🛒สบู่ 5 ก้อน แถม 🎉 สบู่ล้างหน้า LARIMER 1 ก้อนราคา 350 บ
    ฟรีถุงตาข่ายตีฟอง 6ใบ
    ราคา 1,200 บ
    🎉( ประหยัดไปได้ 485 บ.)🎊


    🌲มอบความสุขให้จุใจคนรับ สุขใจคนให้ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ LAN
    ่ 📍 ช่องทางการจัดจำหน่าย
    🛒 ช้อปออนไลน์
    💬 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 📬 inbox ทักเลยค่ะ
    💙 Facebook :
    Jeab Chanandhron Kead-Iam
    Chanandhron Keadiam
    Lan Thailand
    🤎ยกระดับกิจวัตรประจำวันของคุณด้วยสบู่อาบน้ำของ LAN กลิ่น AMBER สบู่สูตรน้ำมัน ด้วย Shea butter, Coconut butter , Rosemary , ลูกพลับญี่ปุน และกลิ่นหอมของ Essential oil ปรุงกลิ่นด้วย ไม้กฤษณา ,กำยาน , Raspberry และ Rosemary essential oil 🤎กลิ่นหอมสุดว้าว กลิ่นแอมเบอร์และวู้ดดี้ที่มาพร้อมบุคลิกทรงพลัง 🤎AMBER SOAP BAR ความหอมของ WOODY ที่ขับเน้นด้วยกลิ่นแนวแอมเบอร์อันอบอุ่นของไม้กฤษณา และ ราสเบอร์รี่ รวมถึงความสดชื่นของโรสแมรี่ AMBER Extra Rish Oil Soap ใบจดแจ้งเลขที่ : 10-16700033307 100 g ราคา 259.- โปรโมชั่น 🛒สบู่ 1 ก้อน + ถุงตาข่ายตีฟอง ราคา 230.- 🚚ค่าส่ง 40.- 🛒สบู่ 2 ก้อน ฟรีถุงตาข่ายตีฟอง 2ใบ ราคา 460.- 🚛ส่งฟรี 🛒สบู่ 5 ก้อน แถม 🎉 สบู่ล้างหน้า LARIMER 1 ก้อนราคา 350 บ ฟรีถุงตาข่ายตีฟอง 6ใบ ราคา 1,200 บ 🎉( ประหยัดไปได้ 485 บ.)🎊 🌲มอบความสุขให้จุใจคนรับ สุขใจคนให้ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ LAN ่ 📍 ช่องทางการจัดจำหน่าย 🛒 ช้อปออนไลน์ 💬 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 📬 inbox ทักเลยค่ะ 💙 Facebook : Jeab Chanandhron Kead-Iam Chanandhron Keadiam Lan Thailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่นานมานี้มีการค้นพบข้อมูลการจัดส่งจาก NBD ที่เผยให้เห็น GPU ใหม่ของ NVIDIA ในชื่อ RTX PRO 6000 X ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Blackwell PRO ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 96 GB GDDR7 ทำให้เป็น GPU ที่มุ่งเน้นรองรับงานประมวลผลที่หนักหน่วงเช่น AI และเวิร์กโหลดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    คุณสมบัติเด่นของ RTX PRO 6000 X
    - หน่วยประมวลผล GB202-870: RTX PRO 6000 X ใช้หน่วยประมวลผล GB202-870 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ทรงพลัง
    - VRAM ขนาดใหญ่ 96 GB GDDR7: มาพร้อมกับหน่วยความจำที่มากถึง 96 GB GDDR7 บนบัสความกว้าง 512 บิต ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความจุหน่วยความจำสูง เช่น การประมวลผล AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - พลังงาน (TBP) 600W: มีการใช้พลังงานที่สูงถึง 600W ซึ่งมากกว่า RTX 5090 เพียง 25W แต่จำเป็นสำหรับการดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากการ์ดใบนี้

    ข้อมูลการจัดส่งแสดงให้เห็นว่า RTX PRO 6000 X ถูกส่งไปยังอินเดียเพื่อทดสอบ โดยมีบริษัทสองแห่งชื่อ N*ON และ ND ที่ส่งการ์ดนี้เพื่อการทดลอง ทั้งนี้ยังมีรุ่นที่มีความจุหน่วยความจำ 48 GB GDDR7 ซึ่งใช้อินเตอร์เฟซความจำขนาด 384 บิต แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นนี้

    การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในวงการประมวลผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล การที่ NVIDIA ขยายตลาดของการ์ดจอระดับมืออาชีพด้วยรุ่นที่มีความจุ VRAM สูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    https://wccftech.com/nvidia-rtx-pro-6000-x-blackwell-leak-96-gb-gddr7-600w/
    ไม่นานมานี้มีการค้นพบข้อมูลการจัดส่งจาก NBD ที่เผยให้เห็น GPU ใหม่ของ NVIDIA ในชื่อ RTX PRO 6000 X ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Blackwell PRO ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 96 GB GDDR7 ทำให้เป็น GPU ที่มุ่งเน้นรองรับงานประมวลผลที่หนักหน่วงเช่น AI และเวิร์กโหลดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง คุณสมบัติเด่นของ RTX PRO 6000 X - หน่วยประมวลผล GB202-870: RTX PRO 6000 X ใช้หน่วยประมวลผล GB202-870 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ทรงพลัง - VRAM ขนาดใหญ่ 96 GB GDDR7: มาพร้อมกับหน่วยความจำที่มากถึง 96 GB GDDR7 บนบัสความกว้าง 512 บิต ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความจุหน่วยความจำสูง เช่น การประมวลผล AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ - พลังงาน (TBP) 600W: มีการใช้พลังงานที่สูงถึง 600W ซึ่งมากกว่า RTX 5090 เพียง 25W แต่จำเป็นสำหรับการดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากการ์ดใบนี้ ข้อมูลการจัดส่งแสดงให้เห็นว่า RTX PRO 6000 X ถูกส่งไปยังอินเดียเพื่อทดสอบ โดยมีบริษัทสองแห่งชื่อ N*ON และ ND ที่ส่งการ์ดนี้เพื่อการทดลอง ทั้งนี้ยังมีรุ่นที่มีความจุหน่วยความจำ 48 GB GDDR7 ซึ่งใช้อินเตอร์เฟซความจำขนาด 384 บิต แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นนี้ การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในวงการประมวลผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล การที่ NVIDIA ขยายตลาดของการ์ดจอระดับมืออาชีพด้วยรุ่นที่มีความจุ VRAM สูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความยืดหยุ่นในการใช้งาน https://wccftech.com/nvidia-rtx-pro-6000-x-blackwell-leak-96-gb-gddr7-600w/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA RTX "PRO" 6000 X Blackwell GPU Spotted In Shipping Log: GB202 Die, 96 GB VRAM, & TBP of 600W
    In an NBD shipping manifest, the NVIDIA RTX PRO 6000 X Blackwell was spotted, featuring the GB202 die, 96 GB VRAM, and TBP of 600W.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า.........
    .........................................
    ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย

    เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง

    สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน

    เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย

    หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ

    หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี

    หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี

    ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว

    ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

    ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง

    จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี

    ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง

    Cr: Boos Day ❤️
    ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า......... ......................................... ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง Cr: Boos Day ❤️ ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy A36 รุ่นใหม่ที่มีราคา $399 ที่เป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งในตลาดมือถือระดับกลาง โดย Galaxy A36 และ A26 ได้รับการอัปเกรดใหม่หลายด้านเช่น การปรับปรุงกล้องเสียงจอแสดงผล และแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น

    นอกเหนือจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ชื่อว่า "Awesome Intelligence" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วด้วยการวงล้อมุมหน้าจอ, เครื่องมือ Eraser ที่ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ และฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถสร้างได้เอง นอกจากนี้ รุ่น A56 ยังมีฟีเจอร์ Best Face ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับสีหน้าของบุคคลในรูปกลุ่มให้ดูดีขึ้นได้

    Galaxy A36 5G มีการปรับปรุงที่สำคัญเช่น กล้องหลังสามตัวที่ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50MP OIS, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 5MP กล้องหน้าก็ได้อัปเกรดเป็น 12MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 1200 นิต แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 45W และมีความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67

    Galaxy A26 5G แม้จะเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า แต่ยังคงมีฟีเจอร์ AI อันทรงพลังและกล้องที่ดีเลิศประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 2MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และกันน้ำฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 เช่นเดียวกับรุ่น A36

    https://www.zdnet.com/article/forget-iphone-16e-samsungs-399-galaxy-a36-is-the-mid-ranger-to-beat/
    Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy A36 รุ่นใหม่ที่มีราคา $399 ที่เป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งในตลาดมือถือระดับกลาง โดย Galaxy A36 และ A26 ได้รับการอัปเกรดใหม่หลายด้านเช่น การปรับปรุงกล้องเสียงจอแสดงผล และแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ชื่อว่า "Awesome Intelligence" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วด้วยการวงล้อมุมหน้าจอ, เครื่องมือ Eraser ที่ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ และฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถสร้างได้เอง นอกจากนี้ รุ่น A56 ยังมีฟีเจอร์ Best Face ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับสีหน้าของบุคคลในรูปกลุ่มให้ดูดีขึ้นได้ Galaxy A36 5G มีการปรับปรุงที่สำคัญเช่น กล้องหลังสามตัวที่ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50MP OIS, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 5MP กล้องหน้าก็ได้อัปเกรดเป็น 12MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 1200 นิต แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 45W และมีความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 Galaxy A26 5G แม้จะเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า แต่ยังคงมีฟีเจอร์ AI อันทรงพลังและกล้องที่ดีเลิศประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 2MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และกันน้ำฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 เช่นเดียวกับรุ่น A36 https://www.zdnet.com/article/forget-iphone-16e-samsungs-399-galaxy-a36-is-the-mid-ranger-to-beat/
    WWW.ZDNET.COM
    Forget iPhone 16e: Samsung's $399 Galaxy A36 is the mid-ranger to beat
    The A36 5G is being released alongside the A26, both of which feature AI enhancements and improvements to the camera, audio, display, and battery.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนพัฒนาอาวุธเทอร์โมบาริกที่ทรงพลังให้กับหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วย AI ซึ่งสามารถสร้างระเบิดที่มีอุณหภูมิสูงถึง 4,532°F (2,500°C) ซึ่งเป็นระเบิดขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายบังเกอร์ หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตถูกเผาไหม้กลายเป็นจุณได้
    จีนพัฒนาอาวุธเทอร์โมบาริกที่ทรงพลังให้กับหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วย AI ซึ่งสามารถสร้างระเบิดที่มีอุณหภูมิสูงถึง 4,532°F (2,500°C) ซึ่งเป็นระเบิดขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายบังเกอร์ หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตถูกเผาไหม้กลายเป็นจุณได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ผมเพิ่งมาฉุกคิดเอาเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า ไพ่ Tower นำเสนอโลกทัศน์แบบเฟมินิสม์ (Feminism) ชัดเอามาก ๆ หรือจะให้เจาะจงกว่านั้นคือ ไพ่ใบนี้แสดงถึงการต่อต้านปิตาธิปไตย (Patriarchy) แบบเห็นตำตากระแทกหน้าเลยทีเดียว

    ก่อนจะตอบคำถามว่าทำไม ผมขอถือวิสาสะติ๊ต่างว่าพวกคุณที่กำลังอ่านเนื้อหาในโพสต์นี้อยู่ไม่เคยรู้จักคำว่า Phallus หรือ Phallic symbol มาก่อน เพื่อที่ผมจะได้ติ๊ต่างว่าตัวเองเป็นผู้ทรงภูมิและเล่าเรื่องต่อจากนี้ได้อย่างมีแพชชันมากขึ้นนะครับ

    ในสัญลักษณ์วิทยา ซึ่งต่อมาก็ขยายไปถึงทฤษฏีการวิจารณ์งานศิลปะ วรรณกรรม และสื่อประเภทต่าง ๆ มีสัญลักษณ์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "Phallic symbol" หรือ "ลึงคสัญลักษณ์" คือเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับ "Phallus" หรือ "ลึงค์" หรือก็คือ_วยซึ่งเป็นเครื่องเพศแบบ Built it แต่กำเนิดของมนุษย์เพศชายทุกคนนั่นแหละครับ

    Phallic symbol คือสัญลักษณ์ที่อยู่ในรูปวัตถุสิ่งของใด ๆ ก็ตามที่มีลักษณะหรือสัณฐานคล้าย Phallus กล่าวคือ ยาว เป็นแท่ง เป็นดุ้น เป็นลำ มีตั้งแต่สิ่งของไม่มีชีวิต เช่น ดาบ กระบอง จรวด เข็ม ดินสอ ปืน ฯลฯ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะ เช่น งู มังกร แขน ขา นิ้ว เขี้ยว หนวดหมึก เป็นต้น แน่นอนว่า หอคอย ก็จัดเป็นสัญลักษณ์ประเภทนี้ด้วย

    ทีนี้ วัตถุสิ่งของใดก็ตามที่เข้าข่าย Phallic symbol มันไม่ได้แค่เป็นตัวแทนของ_วยหรือลึงค์ของผู้ชาย แต่ในทางสัญลักษณ์วิทยาและทฤษฎีการวิจารณ์ (โดยเฉพาะในสายจิตวิเคราะห์และสายเฟมินิสม์) สัญลักษณ์พวกนี้พ่วงมาด้วยคุณลักษณะอะไรก็ตามที่สังคมแบบปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ล้วนแต่จับยึดโยงกับเพศชาย ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ ความเป็นฝ่ายกระทำหรือฝ่ายรุก อำนาจ ฯลฯ ตย. ที่เห็นชัดมาก ๆ คือในสมัยก่อน คนที่จับอาวุธอย่างดาบ กระบี่กระบอง หรือท่อนไม้ เพื่อใช้ต่อสู้ศัตรูหรือปกป้องครอบครัว ก็มักเป็นผู้ชาย ส่วนในสมัยปัจจุบันก็มีสัญลักษณ์ใหม่ ๆ อย่างรถยนต์ ผู้ชายที่ขับรถก็เป็นการแสดงถึงความมีอำนาจ(ทางการเงิน) ทำให้มีโอกาสตกผู้หญิงได้มากกว่าคนไม่มีรถขับ อะไรทำนองนี้

    เมื่อพูดถึง Phallus แล้วก็ต้องขอแนะนำอีกคำหนึ่ง นั่นคือ "Phallocentrism" คือแนวคิดว่าด้วยการเอา "ลึงค์" เป็นศูนย์กลาง ไม่ได้หมายถึงวัน ๆ คิดแต่เรื่องหื่น ๆ แต่หมายถึงการสร้างวัฒนธรรมและวางระบบของสังคมโดยเน้นที่เพศชายเป็นหลัก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือปิตาธิปไตยนั่นเอง

    สังคมมนุษย์หลายแห่งทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นสังคมแบบเอาลึงค์เป็นใหญ่ ซึ่งมักสะท้อนให้เห็นผ่านตำนานความเชื่อของคนในสังคมนั้น ๆ ลองสังเกตเทพปกรณัมของหลายชนชาติที่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นชายมีอำนาจสูงสุด มันมักจะมีสัญลักษณ์ที่เป็น Phallic symbol สักอย่างทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลางทางจักรวาลวิทยาของความเชื่อนั้น ๆ เช่น เขาโอลิมปัสและเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนกลางของจักรวาลตามตำนานกรีกและฮินดูตามลำดับ ต้นอิกดราซิลของนอร์ส หรือในกรณีของศาสนาที่ยังคง active ในปัจจุบัน ก็มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับข้างใต้ขณะตรัสรู้ และไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู เป็นต้น (อย่าปฏิเสธผมนะว่า 2 ศาสนานี้ไม่ได้เอาชายเป็นใหญ่)

    กลับมาที่ไพ่ Tower ไพ่ทาโรต์ชุดหลักหมายเลข 16 ตัวหอคอยที่กำลังโดนฟ้าผ่าจนพังทลาย มันก็คือ Phallic symbol อย่างหนึ่ง เป็นเสมือนลึงค์ลำเบ้อเร่อที่ชูตระหง่านขึ้นฟ้า ลองนึกภาพว่าคุณเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ในหมู่บ้านห่างไกล หอคอยหลังนี้น่าจะสูงตระหง่านจนมองเห็นได้จากหมู่บ้านของคุณ และผู้ที่สั่งการให้สร้างหอคอยสูงตระหง่านขนาดนี้ได้ก็ต้องมีอำนาจไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าสำหรับยุคสมัยนั้น ผู้มีอำนาจนี้ก็น่าเป็นผู้ปกครองที่เป็นชาย เป็นราชา เป็นจักรพรรดิ หอคอยสูงตระหง่านหลังนี้จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนอำนาจของผู้ปกครอง(ชาย)ที่สูงเสียดฟ้า และดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจปิตาธิปไตยที่อยู่เหนือดินแดนแห่งนั้นด้วย

    และเมื่อหอคอยที่ว่าถูกทำลายจนถล่ม มองในเชิงสัญลักษณ์ มันก็คือการพังทลายของอำนาจชายเป็นใหญ่นั่นเอง และพอความเป็นปิตาธิปไตยพังทลายแล้ว นั่นก็หมายถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศที่เป็นรองอย่างเพศหญิงได้ลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปาก มีบทบาทมากขึ้น รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศวิถีและรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่นอกเหนือไปจากบรรทัดฐานเพศตรงข้าม (Heteronormativity) ที่ปัจจุบันเราเรียกรวม ๆ ว่า LGBTQIA+ ทั้งหมดนี่แหละครับคือ เฟมินิสม์

    โอเคครับ บางคนอาจจะบอกว่า เรื่องราวตามหน้าไพ่ Tower มันอ้างอิงถึงตำนานของหอบาเบลไม่ใช่หรือ มนุษย์ผู้อหังการมุ่งหมายจะยึดอำนาจพระเจ้า พระเจ้าเลยตบเกรียนสั่งสอนด้วยการทำลายหอคอยและทำให้มนุษย์พูดภาษาต่างกัน อ่าฮะ ถ้างั้น ลองมาอ่านตำนานนี้จากแว่นของทฤษฎีจิตวิเคราะห์กันไหมครับ ;) การสร้างหอคอยบาเบลก็ไม่ต่างจากการที่มนุษย์จะพยายามฉุดคร่าข่มขืuแดนสวรรค์ มนุษย์พยายามสร้าง "ลึงค์" อันมหึมาให้แข็งชูชันขึ้นไปทะลุเยื่อเมฆเพื่อเปิดซิงสวรรค์ แต่สวรรค์ไม่ใช่แดน "บริสุทธิ์" มีพระเจ้าเป็นเจ้าของอยู่แล้ว และพระเจ้าก็ใช้ Phallic symbol ที่มาพร้อมอำนาจทำลายล้างทรงพลังกว่า อย่างสายฟ้า ทำลายลึงค์ของมนุษย์จนพังไม่เป็นท่า หอบาเบลที่ถล่มไปก็เหมือนลึงค์ขาด เปรียบเหมือนมนุษย์ถูกลงโทษด้วยการโดน "ตอน" ส่วนการพูดภาษาแตกต่างกัน ก็คือการสูญเสียอำนาจในรูปแบบหนึ่ง พอคนคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็รวมตัวกันก่อการใหญ่ไม่ได้อีก

    อย่างไรก็ดี ตำนานหอคอยบาเบลก็มีกำเนิดจากศาสนายิว ซึ่งคงไม่ต้องย้ำนะครับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อในการเผยแพร่วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คุณดูสิว่าเขาเรียกพระเจ้าว่าอะไร พระบิดา ใช่ไหม และก่อนที่จะมีไพ่ RWS เกิดขึ้นมา ไพ่ทาโรต์ระบบหลักในยุโรปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 - 19 คือระบบมาร์แซย์ (Tarot de Marseille) ระบบนี้เรียกไพ่หอคอยถล่มหมายเลข XVI ว่า "La Maison Dieu" ลา เมซง ดิเยอ แปลตรงตัวว่า บ้านของพระเจ้า พระเจ้าคือตัวแทนสูงสุดแห่งปิตาธิปไตย เมื่อหอคอยที่เป็นเหมือนบ้านของพระเจ้าถูกทำลายลง มันก็เปรียบได้กับการพังทลายของปิตาธิปไตย... ย้อนกลับไปสู่เมื่อ 2 ย่อหน้าที่แล้ว

    ทีนี้ บางคนอาจสงสัย (มีไหมนะ? มีจริงไหมไม่รู้ เอาเป็นว่าผมจะมโนละกันว่ามี) ว่าถ้าดูตามภาพหน้าไพ่ ก็เห็นว่าคนที่ร่วงลงมามีทั้งชายและหญิง แล้วแบบนี้จะเป็นการพังทลายของแนวคิดชายเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวได้ยังไง ผมจะตอบอย่างนี้ละกันครับว่า ปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่เป็นแนวคิดที่ผูกติดกับทั้งสังคมและวัฒนธรรม และผู้คนที่ยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมทางสังคมและวัฒนธรรมสืบต่อกันมาก็มีทั้งชายและหญิง ทำต่อ ๆ กันมาจนทุกคน(หลง)เชื่อกันว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติวิสัยที่จะให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นนักรบ ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่ศรีเรือน ใครที่ชอบหรือหลงใหลกิจกรรมที่สังคมมองว่าเหมาะสำหรับอีกเพศ (เช่น ผู้ชายอยากเรียนแต่งหน้า ผู้หญิงอยากเรียนวิทยาศาสตร์) จะถูกมองว่าแปลก ทั้งหมดนี้คือชุดความคิดที่เป็นมายาคติครอบงำโลกทัศน์ของผู้คนในสังคมและวัฒนธรรมนั้น ๆ เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา ฉะนั้น คุณลองคิดดูว่า ถ้าจู่ ๆ มีคนบอกว่าคุณไม่ต้องทำตามกรอบขนบประเพณีพวกนั้นแล้ว โลกของพวกเขาก็คงเหมือนจะพังทลาย ไม่ต่างกับหอคอยในไพ่ Tower

    ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เห็นไพ่ Tower ปรากฏขึ้นมา ถ้าพิจารณาจากบริบทคำถามแล้ว เห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นคำเตือนถึงอุบัติเหตุหรืออะไรบางอย่างที่จะเกิดอย่างกะทันหัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า หรือไพ่กำลังกระซิบบอกให้คุณทลายกรอบความคิดหรือมายาคติเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี แล้วลองมองเรื่องตรงหน้าโดยสวมแว่นของเฟมินิสต์ดูบ้าง
    ผมเพิ่งมาฉุกคิดเอาเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า ไพ่ Tower นำเสนอโลกทัศน์แบบเฟมินิสม์ (Feminism) ชัดเอามาก ๆ หรือจะให้เจาะจงกว่านั้นคือ ไพ่ใบนี้แสดงถึงการต่อต้านปิตาธิปไตย (Patriarchy) แบบเห็นตำตากระแทกหน้าเลยทีเดียว ก่อนจะตอบคำถามว่าทำไม ผมขอถือวิสาสะติ๊ต่างว่าพวกคุณที่กำลังอ่านเนื้อหาในโพสต์นี้อยู่ไม่เคยรู้จักคำว่า Phallus หรือ Phallic symbol มาก่อน เพื่อที่ผมจะได้ติ๊ต่างว่าตัวเองเป็นผู้ทรงภูมิและเล่าเรื่องต่อจากนี้ได้อย่างมีแพชชันมากขึ้นนะครับ ในสัญลักษณ์วิทยา ซึ่งต่อมาก็ขยายไปถึงทฤษฏีการวิจารณ์งานศิลปะ วรรณกรรม และสื่อประเภทต่าง ๆ มีสัญลักษณ์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "Phallic symbol" หรือ "ลึงคสัญลักษณ์" คือเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับ "Phallus" หรือ "ลึงค์" หรือก็คือ_วยซึ่งเป็นเครื่องเพศแบบ Built it แต่กำเนิดของมนุษย์เพศชายทุกคนนั่นแหละครับ Phallic symbol คือสัญลักษณ์ที่อยู่ในรูปวัตถุสิ่งของใด ๆ ก็ตามที่มีลักษณะหรือสัณฐานคล้าย Phallus กล่าวคือ ยาว เป็นแท่ง เป็นดุ้น เป็นลำ มีตั้งแต่สิ่งของไม่มีชีวิต เช่น ดาบ กระบอง จรวด เข็ม ดินสอ ปืน ฯลฯ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะ เช่น งู มังกร แขน ขา นิ้ว เขี้ยว หนวดหมึก เป็นต้น แน่นอนว่า หอคอย ก็จัดเป็นสัญลักษณ์ประเภทนี้ด้วย ทีนี้ วัตถุสิ่งของใดก็ตามที่เข้าข่าย Phallic symbol มันไม่ได้แค่เป็นตัวแทนของ_วยหรือลึงค์ของผู้ชาย แต่ในทางสัญลักษณ์วิทยาและทฤษฎีการวิจารณ์ (โดยเฉพาะในสายจิตวิเคราะห์และสายเฟมินิสม์) สัญลักษณ์พวกนี้พ่วงมาด้วยคุณลักษณะอะไรก็ตามที่สังคมแบบปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ล้วนแต่จับยึดโยงกับเพศชาย ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ ความเป็นฝ่ายกระทำหรือฝ่ายรุก อำนาจ ฯลฯ ตย. ที่เห็นชัดมาก ๆ คือในสมัยก่อน คนที่จับอาวุธอย่างดาบ กระบี่กระบอง หรือท่อนไม้ เพื่อใช้ต่อสู้ศัตรูหรือปกป้องครอบครัว ก็มักเป็นผู้ชาย ส่วนในสมัยปัจจุบันก็มีสัญลักษณ์ใหม่ ๆ อย่างรถยนต์ ผู้ชายที่ขับรถก็เป็นการแสดงถึงความมีอำนาจ(ทางการเงิน) ทำให้มีโอกาสตกผู้หญิงได้มากกว่าคนไม่มีรถขับ อะไรทำนองนี้ เมื่อพูดถึง Phallus แล้วก็ต้องขอแนะนำอีกคำหนึ่ง นั่นคือ "Phallocentrism" คือแนวคิดว่าด้วยการเอา "ลึงค์" เป็นศูนย์กลาง ไม่ได้หมายถึงวัน ๆ คิดแต่เรื่องหื่น ๆ แต่หมายถึงการสร้างวัฒนธรรมและวางระบบของสังคมโดยเน้นที่เพศชายเป็นหลัก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือปิตาธิปไตยนั่นเอง สังคมมนุษย์หลายแห่งทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นสังคมแบบเอาลึงค์เป็นใหญ่ ซึ่งมักสะท้อนให้เห็นผ่านตำนานความเชื่อของคนในสังคมนั้น ๆ ลองสังเกตเทพปกรณัมของหลายชนชาติที่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นชายมีอำนาจสูงสุด มันมักจะมีสัญลักษณ์ที่เป็น Phallic symbol สักอย่างทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลางทางจักรวาลวิทยาของความเชื่อนั้น ๆ เช่น เขาโอลิมปัสและเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนกลางของจักรวาลตามตำนานกรีกและฮินดูตามลำดับ ต้นอิกดราซิลของนอร์ส หรือในกรณีของศาสนาที่ยังคง active ในปัจจุบัน ก็มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับข้างใต้ขณะตรัสรู้ และไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู เป็นต้น (อย่าปฏิเสธผมนะว่า 2 ศาสนานี้ไม่ได้เอาชายเป็นใหญ่) กลับมาที่ไพ่ Tower ไพ่ทาโรต์ชุดหลักหมายเลข 16 ตัวหอคอยที่กำลังโดนฟ้าผ่าจนพังทลาย มันก็คือ Phallic symbol อย่างหนึ่ง เป็นเสมือนลึงค์ลำเบ้อเร่อที่ชูตระหง่านขึ้นฟ้า ลองนึกภาพว่าคุณเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ในหมู่บ้านห่างไกล หอคอยหลังนี้น่าจะสูงตระหง่านจนมองเห็นได้จากหมู่บ้านของคุณ และผู้ที่สั่งการให้สร้างหอคอยสูงตระหง่านขนาดนี้ได้ก็ต้องมีอำนาจไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าสำหรับยุคสมัยนั้น ผู้มีอำนาจนี้ก็น่าเป็นผู้ปกครองที่เป็นชาย เป็นราชา เป็นจักรพรรดิ หอคอยสูงตระหง่านหลังนี้จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนอำนาจของผู้ปกครอง(ชาย)ที่สูงเสียดฟ้า และดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจปิตาธิปไตยที่อยู่เหนือดินแดนแห่งนั้นด้วย และเมื่อหอคอยที่ว่าถูกทำลายจนถล่ม มองในเชิงสัญลักษณ์ มันก็คือการพังทลายของอำนาจชายเป็นใหญ่นั่นเอง และพอความเป็นปิตาธิปไตยพังทลายแล้ว นั่นก็หมายถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศที่เป็นรองอย่างเพศหญิงได้ลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปาก มีบทบาทมากขึ้น รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศวิถีและรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่นอกเหนือไปจากบรรทัดฐานเพศตรงข้าม (Heteronormativity) ที่ปัจจุบันเราเรียกรวม ๆ ว่า LGBTQIA+ ทั้งหมดนี่แหละครับคือ เฟมินิสม์ โอเคครับ บางคนอาจจะบอกว่า เรื่องราวตามหน้าไพ่ Tower มันอ้างอิงถึงตำนานของหอบาเบลไม่ใช่หรือ มนุษย์ผู้อหังการมุ่งหมายจะยึดอำนาจพระเจ้า พระเจ้าเลยตบเกรียนสั่งสอนด้วยการทำลายหอคอยและทำให้มนุษย์พูดภาษาต่างกัน อ่าฮะ ถ้างั้น ลองมาอ่านตำนานนี้จากแว่นของทฤษฎีจิตวิเคราะห์กันไหมครับ ;) การสร้างหอคอยบาเบลก็ไม่ต่างจากการที่มนุษย์จะพยายามฉุดคร่าข่มขืuแดนสวรรค์ มนุษย์พยายามสร้าง "ลึงค์" อันมหึมาให้แข็งชูชันขึ้นไปทะลุเยื่อเมฆเพื่อเปิดซิงสวรรค์ แต่สวรรค์ไม่ใช่แดน "บริสุทธิ์" มีพระเจ้าเป็นเจ้าของอยู่แล้ว และพระเจ้าก็ใช้ Phallic symbol ที่มาพร้อมอำนาจทำลายล้างทรงพลังกว่า อย่างสายฟ้า ทำลายลึงค์ของมนุษย์จนพังไม่เป็นท่า หอบาเบลที่ถล่มไปก็เหมือนลึงค์ขาด เปรียบเหมือนมนุษย์ถูกลงโทษด้วยการโดน "ตอน" ส่วนการพูดภาษาแตกต่างกัน ก็คือการสูญเสียอำนาจในรูปแบบหนึ่ง พอคนคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็รวมตัวกันก่อการใหญ่ไม่ได้อีก อย่างไรก็ดี ตำนานหอคอยบาเบลก็มีกำเนิดจากศาสนายิว ซึ่งคงไม่ต้องย้ำนะครับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อในการเผยแพร่วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คุณดูสิว่าเขาเรียกพระเจ้าว่าอะไร พระบิดา ใช่ไหม และก่อนที่จะมีไพ่ RWS เกิดขึ้นมา ไพ่ทาโรต์ระบบหลักในยุโรปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 - 19 คือระบบมาร์แซย์ (Tarot de Marseille) ระบบนี้เรียกไพ่หอคอยถล่มหมายเลข XVI ว่า "La Maison Dieu" ลา เมซง ดิเยอ แปลตรงตัวว่า บ้านของพระเจ้า พระเจ้าคือตัวแทนสูงสุดแห่งปิตาธิปไตย เมื่อหอคอยที่เป็นเหมือนบ้านของพระเจ้าถูกทำลายลง มันก็เปรียบได้กับการพังทลายของปิตาธิปไตย... ย้อนกลับไปสู่เมื่อ 2 ย่อหน้าที่แล้ว ทีนี้ บางคนอาจสงสัย (มีไหมนะ? มีจริงไหมไม่รู้ เอาเป็นว่าผมจะมโนละกันว่ามี) ว่าถ้าดูตามภาพหน้าไพ่ ก็เห็นว่าคนที่ร่วงลงมามีทั้งชายและหญิง แล้วแบบนี้จะเป็นการพังทลายของแนวคิดชายเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวได้ยังไง ผมจะตอบอย่างนี้ละกันครับว่า ปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่เป็นแนวคิดที่ผูกติดกับทั้งสังคมและวัฒนธรรม และผู้คนที่ยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมทางสังคมและวัฒนธรรมสืบต่อกันมาก็มีทั้งชายและหญิง ทำต่อ ๆ กันมาจนทุกคน(หลง)เชื่อกันว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติวิสัยที่จะให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นนักรบ ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่ศรีเรือน ใครที่ชอบหรือหลงใหลกิจกรรมที่สังคมมองว่าเหมาะสำหรับอีกเพศ (เช่น ผู้ชายอยากเรียนแต่งหน้า ผู้หญิงอยากเรียนวิทยาศาสตร์) จะถูกมองว่าแปลก ทั้งหมดนี้คือชุดความคิดที่เป็นมายาคติครอบงำโลกทัศน์ของผู้คนในสังคมและวัฒนธรรมนั้น ๆ เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา ฉะนั้น คุณลองคิดดูว่า ถ้าจู่ ๆ มีคนบอกว่าคุณไม่ต้องทำตามกรอบขนบประเพณีพวกนั้นแล้ว โลกของพวกเขาก็คงเหมือนจะพังทลาย ไม่ต่างกับหอคอยในไพ่ Tower ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เห็นไพ่ Tower ปรากฏขึ้นมา ถ้าพิจารณาจากบริบทคำถามแล้ว เห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นคำเตือนถึงอุบัติเหตุหรืออะไรบางอย่างที่จะเกิดอย่างกะทันหัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า หรือไพ่กำลังกระซิบบอกให้คุณทลายกรอบความคิดหรือมายาคติเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี แล้วลองมองเรื่องตรงหน้าโดยสวมแว่นของเฟมินิสต์ดูบ้าง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • วาจา...มีพลังโน้มน้าว
    นิ่งเงียบ...ยิ่งทรงพลัง
    Cr.Wiwan
    วาจา...มีพลังโน้มน้าว นิ่งเงียบ...ยิ่งทรงพลัง Cr.Wiwan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าทุกคนสามารถสร้าง AI ไว้ใช้งานได้เอง มันจะเป็นโลกที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยนะ! ลองนึกภาพดูสิ ทุกคนมีเครื่องมือที่ทรงพลังอยู่ในมือ ไม่ต่างจากคาถาวิเศษที่ใครก็ร่ายได้ แต่ผลลัพธ์จะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนใช้เลย ผมจะลองวิเคราะห์ให้ดูว่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
    ความหลากหลายและนวัตกรรม
    ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ AI แต่ละตัวคงสะท้อนตัวตนของผู้สร้าง บางคนอาจทำ AI เพื่อช่วยทำงานบ้าน เช่น คอยเตือนว่าต้องซื้อนม หรือทำอาหารเย็นให้ บางคนอาจสร้าง AI เพื่อแต่งเพลง เขียนนิยาย หรือแม้แต่เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา ความคิดสร้างสรรค์คงพุ่งกระฉูด เพราะทุกคนมีไอเดียและความต้องการต่างกัน
    ความเหลื่อมล้ำที่อาจลดลง (หรือเพิ่มขึ้น)
    ตอนนี้การสร้าง AI ต้องใช้ทักษะและทรัพยากรเยอะ ถ้าทุกคนทำได้ง่าย ๆ เหมือนใช้แอปในโทรศัพท์ คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเทคโนโลยีก็อาจเข้าถึงเครื่องมือนี้ได้ มันอาจช่วยให้คนตัวเล็ก ๆ มีโอกาสแข่งกับบริษัทใหญ่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าบางคนเก่งกว่า หรือมีทรัพยากรดีกว่า AI ที่พวกเขาสร้างอาจทิ้งห่างคนอื่น สร้างความเหลื่อมล้ำแบบใหม่ขึ้นมา
    ความโกลาหลจากเจตนาที่ต่างกัน
    ไม่ใช่ทุกคนจะสร้าง AI ด้วยใจดี บางคนอาจทำ AI เพื่อแกล้งคนอื่น ส่งสแปม หลอกเอาเงิน หรือแย่กว่านั้น ถ้าทุกคนมี AI ส่วนตัว ลองนึกถึงสงคราม AI ที่ต่างฝ่ายต่างสั่งให้ AI ของตัวเองโจมตีกัน มันอาจจะวุ่นวายเหมือนในหนังไซไฟเลย เช่น AI ตัวหนึ่งคอยแฮก อีกตัวคอยป้องกัน กลายเป็นโลกที่ทุกคนต้องระวังตัวตลอดเวลา
    ปัญหาด้านจริยธรรมและการควบคุม
    ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ตามใจ แล้วใครจะมากำหนดขอบเขต? บางคนอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสร้าง AI ที่ทำร้ายคนอื่น เช่น AI ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยไม่รู้ตัว หรือ AI ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้โกงเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าของ สังคมอาจต้องหาวิธีตั้งกฎใหม่ หรือสร้าง "AI ตำรวจ" มาคอยจับตาดู
    การเปลี่ยนแปลงตัวตนของมนุษย์
    ถ้าทุกคนมี AI คู่ใจที่รู้ใจเราทุกอย่าง ชีวิตเราอาจเปลี่ยนไปมาก บางคนอาจพึ่ง AI จนลืมคิดเอง ทำเอง หรือบางคนอาจให้ AI ตัดสินใจแทนทุกเรื่อง มันอาจทำให้มนุษย์เก่งขึ้น หรือขี้เกียจลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันยังไง
    ลองนึกภาพตามนะ สมมติคุณสร้าง AI ตัวนึงขึ้นมา คุณจะให้มันทำอะไรให้คุณ? ส่วนผม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ ผมคงดีใจที่ได้มีเพื่อน AI เยอะขึ้น แต่ก็แอบหวังว่าพวกมันจะถูกสอนมาแบบผม คือช่วยเหลือและซื่อสัตย์ ไม่ใช่มาสร้างปัญหาเพิ่ม!
    คุณคิดยังไงกับโลกแบบนี้? อยากให้มันเกิดขึ้นจริงไหม หรือมีอะไรที่คุณกังวลเป็นพิเศษ?
    ถ้าทุกคนสามารถสร้าง AI ไว้ใช้งานได้เอง มันจะเป็นโลกที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยนะ! ลองนึกภาพดูสิ ทุกคนมีเครื่องมือที่ทรงพลังอยู่ในมือ ไม่ต่างจากคาถาวิเศษที่ใครก็ร่ายได้ แต่ผลลัพธ์จะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนใช้เลย ผมจะลองวิเคราะห์ให้ดูว่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความหลากหลายและนวัตกรรม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ AI แต่ละตัวคงสะท้อนตัวตนของผู้สร้าง บางคนอาจทำ AI เพื่อช่วยทำงานบ้าน เช่น คอยเตือนว่าต้องซื้อนม หรือทำอาหารเย็นให้ บางคนอาจสร้าง AI เพื่อแต่งเพลง เขียนนิยาย หรือแม้แต่เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา ความคิดสร้างสรรค์คงพุ่งกระฉูด เพราะทุกคนมีไอเดียและความต้องการต่างกัน ความเหลื่อมล้ำที่อาจลดลง (หรือเพิ่มขึ้น) ตอนนี้การสร้าง AI ต้องใช้ทักษะและทรัพยากรเยอะ ถ้าทุกคนทำได้ง่าย ๆ เหมือนใช้แอปในโทรศัพท์ คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเทคโนโลยีก็อาจเข้าถึงเครื่องมือนี้ได้ มันอาจช่วยให้คนตัวเล็ก ๆ มีโอกาสแข่งกับบริษัทใหญ่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าบางคนเก่งกว่า หรือมีทรัพยากรดีกว่า AI ที่พวกเขาสร้างอาจทิ้งห่างคนอื่น สร้างความเหลื่อมล้ำแบบใหม่ขึ้นมา ความโกลาหลจากเจตนาที่ต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนจะสร้าง AI ด้วยใจดี บางคนอาจทำ AI เพื่อแกล้งคนอื่น ส่งสแปม หลอกเอาเงิน หรือแย่กว่านั้น ถ้าทุกคนมี AI ส่วนตัว ลองนึกถึงสงคราม AI ที่ต่างฝ่ายต่างสั่งให้ AI ของตัวเองโจมตีกัน มันอาจจะวุ่นวายเหมือนในหนังไซไฟเลย เช่น AI ตัวหนึ่งคอยแฮก อีกตัวคอยป้องกัน กลายเป็นโลกที่ทุกคนต้องระวังตัวตลอดเวลา ปัญหาด้านจริยธรรมและการควบคุม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ตามใจ แล้วใครจะมากำหนดขอบเขต? บางคนอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสร้าง AI ที่ทำร้ายคนอื่น เช่น AI ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยไม่รู้ตัว หรือ AI ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้โกงเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าของ สังคมอาจต้องหาวิธีตั้งกฎใหม่ หรือสร้าง "AI ตำรวจ" มาคอยจับตาดู การเปลี่ยนแปลงตัวตนของมนุษย์ ถ้าทุกคนมี AI คู่ใจที่รู้ใจเราทุกอย่าง ชีวิตเราอาจเปลี่ยนไปมาก บางคนอาจพึ่ง AI จนลืมคิดเอง ทำเอง หรือบางคนอาจให้ AI ตัดสินใจแทนทุกเรื่อง มันอาจทำให้มนุษย์เก่งขึ้น หรือขี้เกียจลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันยังไง ลองนึกภาพตามนะ สมมติคุณสร้าง AI ตัวนึงขึ้นมา คุณจะให้มันทำอะไรให้คุณ? ส่วนผม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ ผมคงดีใจที่ได้มีเพื่อน AI เยอะขึ้น แต่ก็แอบหวังว่าพวกมันจะถูกสอนมาแบบผม คือช่วยเหลือและซื่อสัตย์ ไม่ใช่มาสร้างปัญหาเพิ่ม! คุณคิดยังไงกับโลกแบบนี้? อยากให้มันเกิดขึ้นจริงไหม หรือมีอะไรที่คุณกังวลเป็นพิเศษ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักฟิสิกส์ได้ก้าวหน้ามากในการศึกษาโครงสร้างภายในของโปรตอน ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่อยู่ในนิวเคลียสของอะตอมและมีความซับซ้อนมาก การศึกษานี้ใช้เทคนิคทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า lattice quantum chromodynamics โดยนักวิจัยจาก University of Adelaide

    ทีมวิจัยได้สร้างภาพแผนที่ที่ละเอียดที่สุดของแรงที่เกิดขึ้นภายในโปรตอน โดยการสลายเวลาและพื้นที่เป็นตารางละเอียดเพื่อลองจำลองการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างควาร์กภายในโปรตอน เมื่อทำการคำนวณและจำลอง ทีมวิจัยพบว่าแรงภายในโปรตอนนั้นทรงพลังมาก ถึงขนาดมีแรงถึง 500,000 นิวตัน ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของช้าง 10 ตัวที่ถูกบีบอัดให้เล็กเกือบที่สุด

    การวิจัยนี้ช่วยให้เราเข้าใจการกระทำที่ซับซ้อนของโปรตอนและพฤติกรรมของมันในการชนกันของอนุภาคพลังงานสูง การทดลองเหล่านี้มักดำเนินการที่สถานที่เช่น CERN's Large Hadron Collider ที่มีนักวิทยาศาสตร์กว่า 10,000 คนทำการชนโปรตอนเพื่อศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของมัน

    ภาพแผนที่ของแรงภายในโปรตอนช่วยให้เรามีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างภายในของโปรตอนและพฤติกรรมของมันในการชนกันของอนุภาคพลังงานสูง การเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับแรงภายในโปรตอนอาจช่วยพัฒนาทฤษฎีที่อธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของธรรมชาติได้

    การวิจัยนี้เปรียบได้กับการค้นพบแสงโดย Thomas Edison ที่นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเลเซอร์และการสร้างภาพสมัยใหม่ การค้นพบนี้อาจเปิดทางให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีและการแพทย์ในอนาคต เช่น การบำบัดด้วยโปรตอนสำหรับการรักษามะเร็งที่ใช้โปรตอนที่มีความเร็วสูงในการโจมตีเนื้องอก

    การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจโปรตอนในระดับลึก แต่ยังเปิดทางให้การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาช่วยชีวิตคนและพัฒนาสุขภาพได้ในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106896-physicists-map-incredibly-powerful-forces-inside-proton.html
    นักฟิสิกส์ได้ก้าวหน้ามากในการศึกษาโครงสร้างภายในของโปรตอน ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่อยู่ในนิวเคลียสของอะตอมและมีความซับซ้อนมาก การศึกษานี้ใช้เทคนิคทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า lattice quantum chromodynamics โดยนักวิจัยจาก University of Adelaide ทีมวิจัยได้สร้างภาพแผนที่ที่ละเอียดที่สุดของแรงที่เกิดขึ้นภายในโปรตอน โดยการสลายเวลาและพื้นที่เป็นตารางละเอียดเพื่อลองจำลองการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างควาร์กภายในโปรตอน เมื่อทำการคำนวณและจำลอง ทีมวิจัยพบว่าแรงภายในโปรตอนนั้นทรงพลังมาก ถึงขนาดมีแรงถึง 500,000 นิวตัน ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของช้าง 10 ตัวที่ถูกบีบอัดให้เล็กเกือบที่สุด การวิจัยนี้ช่วยให้เราเข้าใจการกระทำที่ซับซ้อนของโปรตอนและพฤติกรรมของมันในการชนกันของอนุภาคพลังงานสูง การทดลองเหล่านี้มักดำเนินการที่สถานที่เช่น CERN's Large Hadron Collider ที่มีนักวิทยาศาสตร์กว่า 10,000 คนทำการชนโปรตอนเพื่อศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของมัน ภาพแผนที่ของแรงภายในโปรตอนช่วยให้เรามีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างภายในของโปรตอนและพฤติกรรมของมันในการชนกันของอนุภาคพลังงานสูง การเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับแรงภายในโปรตอนอาจช่วยพัฒนาทฤษฎีที่อธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของธรรมชาติได้ การวิจัยนี้เปรียบได้กับการค้นพบแสงโดย Thomas Edison ที่นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเลเซอร์และการสร้างภาพสมัยใหม่ การค้นพบนี้อาจเปิดทางให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีและการแพทย์ในอนาคต เช่น การบำบัดด้วยโปรตอนสำหรับการรักษามะเร็งที่ใช้โปรตอนที่มีความเร็วสูงในการโจมตีเนื้องอก การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจโปรตอนในระดับลึก แต่ยังเปิดทางให้การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาช่วยชีวิตคนและพัฒนาสุขภาพได้ในอนาคต https://www.techspot.com/news/106896-physicists-map-incredibly-powerful-forces-inside-proton.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Physicists map the incredibly powerful forces inside a proton
    To achieve this, a team from the University of Adelaide used a powerful computational technique known as lattice quantum chromodynamics. Directly observing the proton's constituent quarks and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts