• ผลงานวิจัยเกิดโรคมะเร็งของรัสเซีย
    -----
    รัสเซียทำอะไรชอบเปิดเผยให้โลกรู้ทุกอย่างไม่เหมือนอเมริกาที่รู้อะไรเก็บเป็นความลับหมด แล้วมนุษย์บนโลกใบนี้จะเชื่อว่าระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดของมนุษยชาติ หรือถูกอเมริกาหลอกมาตลอดว่าระบอบเขาดีสุด หรือระบอบรัสเซีย-จีนดีสุดกันแน่ ในท้ายสุดมนุษย์รุ่นต่อๆไปจะอยู่กับระบอบไหนถึงจะมีชีวิตรอดยาวนาน ไม่ใช่ผลาญทรัพย์กรธรรมชาติโลกที่ว่ายุโรปและอเมริกาผลาญจนประเทศตัวเองไม่มีอะไรเหลือ แล้วไปปล้นคนอื่นกินเข้าประเทศตัวเอง


    คนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะอะไร

    ผลงานวิจัยฯ ของรัสเซีย อ้างว่าเหตุผลการเสียชีวิตมิได้เกิดจากมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่าของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง ให้รีบปฏิบัติ

    1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณจำนวนมาก เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน เซลล์มะเร็งจะแพ้ การปฏิบัติดังกล่าวดีกว่าการรักษาด้วยคีโม

    3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าว อินทรีย์ 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ หายไป ท่านสามารถเลือก 1 ใน 2 วิธีนี้ หลังจากหลีกเลี่ยงน้ำตาล ที่ผ่านมา ความไม่รู้ ไม่ใช่ความผิด ข้อมูลนี้เผยแพร่มานานกว่า 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่ที่สำคัญที่สุด มันยังช้ากว่าการที่คุณไม่เคยให้ข้อมูลนี้กับทุกคนรอบตัวคุณเพื่อได้รู้เห็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโก รัสเซีย ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลนี้ กรุณาส่งต่อบทความนี้ให้กับคน ที่ท่านรักอีก 1 คน ผมเชื่อว่าแน่นอน! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับประโยชน์ และจะบันทึกไว้ ส่วน

    ผมได้ทำในส่วนของผมแล้ว หวังว่าท่านจะสามารถช่วยเผยแพร่ โดยการทำส่วนของคุณ กล่าวคือ

    1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่าผสมน้ำตาล น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ

    2. หั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้วทิ้งไว้ 20- 30 นาที แล้วค่อยดื่ม

    3. มันสำปะหลัง นำไปต้ม แต่ต้องต้มด้วย เปิดฝาหม้อวิตามิน B 17 อยู่ในมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้

    บ่อยครั้ง การกินมื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ - มะเร็งกระเพาะอาหาร - ผู้หญิง

    อย่าดื่มชาในช่วงมีรอบเดือน และ

    การดื่มน้ำถั่วเหลือง นั้น ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในน้ำถั่วเหลือง ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว

    ไม่กินอาหารในช่วง 3 ชั่วโมง ก่อนนอน

    หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ อย่ากินขนมปัง ในขณะที่ร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง

    ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่อยู่ข้างๆ ตัวคุณ ในขณะที่คุณหลับ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ ให้ดื่มน้ำต่อเนื่องระหว่างวัน ลดช่วงกลางคืน และ

    อย่าดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และมีปัญหาต่อกระเพาะอาหารได้

    กินอาหารที่เลี่ยนได้เล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย

    หลัง 17:00 น.กินอาหารให้น้อยลง ประการสำคัญอาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข ได้แก่ กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, ลูกพีช อนึ่ง การนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้เราอ่อนกว่าวัย อย่าลืม น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น

    น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง

    แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 5 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน anti-oxsidan

    รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง

    น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้

    การทดสอบทางคลินิก พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาวร้อน จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ที่ดี กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถึงแม้ คุณจะยุ่งแค่ไหน เมื่ออ่านข้อความนี้ของผมแล้ว ช่วยถ่ายทอดให้ผู้อื่นด้วยครับ❤

    การแบ่งปัน ถือเป็นวิทยาทาน ด้วยความปรารถนาดี
    ผศ.ดร.ศ.สำเร็จผล
    #มะเร็ง #โรคมะเร็ง #มะเร็งหายได้
    ผลงานวิจัยเกิดโรคมะเร็งของรัสเซีย ----- รัสเซียทำอะไรชอบเปิดเผยให้โลกรู้ทุกอย่างไม่เหมือนอเมริกาที่รู้อะไรเก็บเป็นความลับหมด แล้วมนุษย์บนโลกใบนี้จะเชื่อว่าระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดของมนุษยชาติ หรือถูกอเมริกาหลอกมาตลอดว่าระบอบเขาดีสุด หรือระบอบรัสเซีย-จีนดีสุดกันแน่ ในท้ายสุดมนุษย์รุ่นต่อๆไปจะอยู่กับระบอบไหนถึงจะมีชีวิตรอดยาวนาน ไม่ใช่ผลาญทรัพย์กรธรรมชาติโลกที่ว่ายุโรปและอเมริกาผลาญจนประเทศตัวเองไม่มีอะไรเหลือ แล้วไปปล้นคนอื่นกินเข้าประเทศตัวเอง คนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะอะไร ผลงานวิจัยฯ ของรัสเซีย อ้างว่าเหตุผลการเสียชีวิตมิได้เกิดจากมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่าของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง ให้รีบปฏิบัติ 1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณจำนวนมาก เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน เซลล์มะเร็งจะแพ้ การปฏิบัติดังกล่าวดีกว่าการรักษาด้วยคีโม 3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าว อินทรีย์ 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ หายไป ท่านสามารถเลือก 1 ใน 2 วิธีนี้ หลังจากหลีกเลี่ยงน้ำตาล ที่ผ่านมา ความไม่รู้ ไม่ใช่ความผิด ข้อมูลนี้เผยแพร่มานานกว่า 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่ที่สำคัญที่สุด มันยังช้ากว่าการที่คุณไม่เคยให้ข้อมูลนี้กับทุกคนรอบตัวคุณเพื่อได้รู้เห็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโก รัสเซีย ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลนี้ กรุณาส่งต่อบทความนี้ให้กับคน ที่ท่านรักอีก 1 คน ผมเชื่อว่าแน่นอน! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับประโยชน์ และจะบันทึกไว้ ส่วน ผมได้ทำในส่วนของผมแล้ว หวังว่าท่านจะสามารถช่วยเผยแพร่ โดยการทำส่วนของคุณ กล่าวคือ 1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่าผสมน้ำตาล น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ 2. หั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้วทิ้งไว้ 20- 30 นาที แล้วค่อยดื่ม 3. มันสำปะหลัง นำไปต้ม แต่ต้องต้มด้วย เปิดฝาหม้อวิตามิน B 17 อยู่ในมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้ บ่อยครั้ง การกินมื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ - มะเร็งกระเพาะอาหาร - ผู้หญิง อย่าดื่มชาในช่วงมีรอบเดือน และ การดื่มน้ำถั่วเหลือง นั้น ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในน้ำถั่วเหลือง ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว ไม่กินอาหารในช่วง 3 ชั่วโมง ก่อนนอน หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ อย่ากินขนมปัง ในขณะที่ร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่อยู่ข้างๆ ตัวคุณ ในขณะที่คุณหลับ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ ให้ดื่มน้ำต่อเนื่องระหว่างวัน ลดช่วงกลางคืน และ อย่าดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และมีปัญหาต่อกระเพาะอาหารได้ กินอาหารที่เลี่ยนได้เล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย หลัง 17:00 น.กินอาหารให้น้อยลง ประการสำคัญอาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข ได้แก่ กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, ลูกพีช อนึ่ง การนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้เราอ่อนกว่าวัย อย่าลืม น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 5 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน anti-oxsidan รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้ การทดสอบทางคลินิก พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาวร้อน จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ที่ดี กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถึงแม้ คุณจะยุ่งแค่ไหน เมื่ออ่านข้อความนี้ของผมแล้ว ช่วยถ่ายทอดให้ผู้อื่นด้วยครับ❤ การแบ่งปัน ถือเป็นวิทยาทาน ด้วยความปรารถนาดี ผศ.ดร.ศ.สำเร็จผล #มะเร็ง #โรคมะเร็ง #มะเร็งหายได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน

    ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง

    เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง

    นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา

    เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา

    ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    WWW.ZDNET.COM
    I opened up a cheap 600W charger to test its build, and found 'goo' inside
    Can an off-brand charger compete with the big names? I put it through its paces to find out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย

    Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด

    โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง

    นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้

    เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น

    Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba Cloud AI model Animate Anyone 2 simplifies making of lifelike character animation
    China appears to have upped the ante in this field of generative AI, which is poised to disrupt the entertainment and advertising industries.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นเรื่องน่าปวดหัวจริงๆ ครับ สำหรับการสู้กันของอาจารย์และ AI เพื่อที่จะทดสอบลูกศิษย์ว่ามีความรู้จริงๆ หรือเปล่า

    เรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Minnesota ซึ่งนักศึกษาชื่อ Haishan Yang กำลังฟ้องร้องมหาวิทยาลัยหลังจากที่เขาถูกไล่ออกในปีที่แล้ว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเขียนเรียงความสำหรับการสอบ Yang อายุ 33 ปี เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่สอง ขณะกำลังเดินทางไปประเทศโมร็อกโกในช่วงฤดูร้อนปี 2024 เขาได้ทำการสอบที่ต้องเขียนเรียงความ 3 ชิ้นภายในเวลา 8 ชั่วโมง

    ถึงแม้ว่า Yang จะได้รับอนุญาตให้ใช้บันทึก รายงาน และหนังสือได้ แต่เครื่องมือ AI ถูกห้ามใช้ ทุกคณะบัณฑิตที่ตรวจสอบข้อสอบของ Yang แสดงความกังวลว่าเรียงความไม่ใช่ผลงานของเขาเอง พวกเขาชี้ถึงคำตอบที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้ถูกสอนในชั้นเรียน รวมทั้งการใช้ตัวย่อที่ไม่ค่อยพบในสาขานี้ แต่ปรากฏในคำตอบที่ถูกสร้างขึ้นโดย ChatGPT เป็นประจำ

    นอกจากนี้ สองคณาจารย์ยังได้นำคำถามเรียงความไปให้ ChatGPT เพื่อเปรียบเทียบกับคำตอบของ Yang พบว่าการจัดรูปแบบ การใช้ภาษา และเนื้อหาเหมือนกันอย่างมาก ซึ่งศาสตราจารย์ Peter Huckfeldt ได้เขียนจดหมายถึงคณะกรรมการการพิจารณาว่า “ผมประหลาดใจในความคล้ายคลึงกันระหว่างสองสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปได้”

    Yang อ้างว่าเหตุนี้เกิดจากการที่ OpenAI ใช้แหล่งข้อมูลเดียวกันกับเขา และกล่าวว่าคณาจารย์อาจแก้ไขคำตอบของ ChatGPT เพื่อให้ดูเหมือนกับคำตอบของเขา นอกจากนี้ยังกล่าวถึงปัญหาวิธีการตรวจสอบการใช้ AI ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีอคติ โดยเฉพาะกับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรก

    Yang กล่าวถึงประสบการณ์ของเขาในฐานะผู้ช่วยวิจัยที่ได้รับการตัดการสนับสนุนทางการเงินจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากการแสดงความเห็นไม่ดี หลังจากที่เขาโต้แย้งและชนะคดี มหาวิทยาลัย

    ลุงรู้เรื่องปัญหาแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกเฉยๆ สำหรับนักเรียนในระดับ ม.ต้น - ป.ตรี แต่นี่มัน ป.เอกเลยนะ Yang คงต้องเข้าใจสิว่าเขาปล่อยผ่านไม่ได้ง่ายๆ ส่วนการพรูฟที่ดีที่สุดในความคิดของลุงคือคือการทดสอบแบบถามตอบปากเปล่านี่แหละ

    https://www.techspot.com/news/106881-university-minnesota-sued-student-who-ai-expulsion-part.html
    เป็นเรื่องน่าปวดหัวจริงๆ ครับ สำหรับการสู้กันของอาจารย์และ AI เพื่อที่จะทดสอบลูกศิษย์ว่ามีความรู้จริงๆ หรือเปล่า เรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Minnesota ซึ่งนักศึกษาชื่อ Haishan Yang กำลังฟ้องร้องมหาวิทยาลัยหลังจากที่เขาถูกไล่ออกในปีที่แล้ว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเขียนเรียงความสำหรับการสอบ Yang อายุ 33 ปี เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่สอง ขณะกำลังเดินทางไปประเทศโมร็อกโกในช่วงฤดูร้อนปี 2024 เขาได้ทำการสอบที่ต้องเขียนเรียงความ 3 ชิ้นภายในเวลา 8 ชั่วโมง ถึงแม้ว่า Yang จะได้รับอนุญาตให้ใช้บันทึก รายงาน และหนังสือได้ แต่เครื่องมือ AI ถูกห้ามใช้ ทุกคณะบัณฑิตที่ตรวจสอบข้อสอบของ Yang แสดงความกังวลว่าเรียงความไม่ใช่ผลงานของเขาเอง พวกเขาชี้ถึงคำตอบที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้ถูกสอนในชั้นเรียน รวมทั้งการใช้ตัวย่อที่ไม่ค่อยพบในสาขานี้ แต่ปรากฏในคำตอบที่ถูกสร้างขึ้นโดย ChatGPT เป็นประจำ นอกจากนี้ สองคณาจารย์ยังได้นำคำถามเรียงความไปให้ ChatGPT เพื่อเปรียบเทียบกับคำตอบของ Yang พบว่าการจัดรูปแบบ การใช้ภาษา และเนื้อหาเหมือนกันอย่างมาก ซึ่งศาสตราจารย์ Peter Huckfeldt ได้เขียนจดหมายถึงคณะกรรมการการพิจารณาว่า “ผมประหลาดใจในความคล้ายคลึงกันระหว่างสองสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปได้” Yang อ้างว่าเหตุนี้เกิดจากการที่ OpenAI ใช้แหล่งข้อมูลเดียวกันกับเขา และกล่าวว่าคณาจารย์อาจแก้ไขคำตอบของ ChatGPT เพื่อให้ดูเหมือนกับคำตอบของเขา นอกจากนี้ยังกล่าวถึงปัญหาวิธีการตรวจสอบการใช้ AI ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีอคติ โดยเฉพาะกับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรก Yang กล่าวถึงประสบการณ์ของเขาในฐานะผู้ช่วยวิจัยที่ได้รับการตัดการสนับสนุนทางการเงินจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากการแสดงความเห็นไม่ดี หลังจากที่เขาโต้แย้งและชนะคดี มหาวิทยาลัย ลุงรู้เรื่องปัญหาแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกเฉยๆ สำหรับนักเรียนในระดับ ม.ต้น - ป.ตรี แต่นี่มัน ป.เอกเลยนะ Yang คงต้องเข้าใจสิว่าเขาปล่อยผ่านไม่ได้ง่ายๆ ส่วนการพรูฟที่ดีที่สุดในความคิดของลุงคือคือการทดสอบแบบถามตอบปากเปล่านี่แหละ https://www.techspot.com/news/106881-university-minnesota-sued-student-who-ai-expulsion-part.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    University of Minnesota sued by student who says AI expulsion was part of a conspiracy
    Haishan Yang was working toward his second PhD from the University of Minnesota when he was expelled last year. It's alleged that he used artificial intelligence tools...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • Morse Micro เพิ่งเปิดตัวเราเตอร์รุ่นใหม่ MM-HL1-EXT ที่มีเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อระยะไกลได้ถึง 10 ไมล์ ในพื้นที่ชนบท และ 1.86 ไมล์ในพื้นที่เมือง โดยใช้มาตรฐาน IEEE 802.11ah Wi-Fi HaLow เราเตอร์นี้ยังรองรับ Wi-Fi 4 (802.11n) ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 300Mbps ในย่านความถี่ 2.4GHz และ 32Mbps ในย่านความถี่ 900MHz ที่เป็นมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา ทำให้มันเป็นโซลูชันการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและตอบสนองต่อการใช้งาน IoT และอุตสาหกรรมได้ดี

    เราเตอร์ MM-HL1-EXT ขับเคลื่อนด้วย MediaTek MT7621A ซีพียูแบบดูอัลคอร์ พร้อมกับหน่วยความจำ DRAM ขนาด 256MB และ NAND flash ขนาด 32MB โมดูลวิทยุใช้ชิปเซ็ต MM6108 ของ Morse Micro ควบคู่กับ AzureWave AW-HM593 ที่ส่งพลังงานได้สูงสุดถึง 23 dBm เราเตอร์ยังมีพอร์ต Ethernet แบบกิกะบิต 2 พอร์ต และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Ethernet-over-USB อีกด้วย

    เราเตอร์นี้ยังทำงานบนแพลตฟอร์ม OpenWrt 23.05 ที่เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ออนไลน์ ทำให้สามารถปรับตัวได้ตามความต้องการในอนาคต

    ถึงแม้ว่าเราเตอร์นี้จะมีความเร็ว Wi-Fi HaLow สูงสุดที่ 32Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 8MHz แต่ด้วยความสามารถในการรองรับ Wi-Fi 4 ที่ความเร็วสูงสุด 300Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 40MHz ทำให้มันมีความหลากหลายและเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรง สองหน่วยของ HaLowLink 1 สามารถใช้เป็นทางเลือกไร้สายแทนการติดตั้งภายนอกและการติดตั้งระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้เราเตอร์ MM-HL1-EXT ได้รับการรับรองการใช้งานในอเมริกาเหนือ (FCC), แคนาดา (IC) และออสเตรเลีย (RCM) Morse Micro กำลังดำเนินการเพื่อรับรองการใช้งานใน EMEA (868MHz) และเอเชียด้วย

    ที่น่าสนใจคือ Morse Micro ได้พัฒนาเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow มานานเกือบสิบปี และได้แสดงความสามารถของฮาร์ดแวร์เราเตอร์ที่สามารถครอบคลุมระยะทาง 2 ไมล์ด้วยแบตเตอรี่เหรียญได้ ในการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และเพิ่มระยะทางเป็น 10 ไมล์ในเดือนกันยายน

    ปัจจุบันเราเตอร์ MM-HL1-EXT มีวางจำหน่ายใน Mouser ราคาประมาณ $99 โดยสต็อกยังมีจำกัด แต่คาดว่าจะมีสินค้ามากขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2025 สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากมีเวลารอจากโรงงานประมาณแปดสัปดาห์

    https://www.techspot.com/news/106889-morse-micro-mm-hl1-ext-router-combines-wi.html
    Morse Micro เพิ่งเปิดตัวเราเตอร์รุ่นใหม่ MM-HL1-EXT ที่มีเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อระยะไกลได้ถึง 10 ไมล์ ในพื้นที่ชนบท และ 1.86 ไมล์ในพื้นที่เมือง โดยใช้มาตรฐาน IEEE 802.11ah Wi-Fi HaLow เราเตอร์นี้ยังรองรับ Wi-Fi 4 (802.11n) ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 300Mbps ในย่านความถี่ 2.4GHz และ 32Mbps ในย่านความถี่ 900MHz ที่เป็นมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา ทำให้มันเป็นโซลูชันการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและตอบสนองต่อการใช้งาน IoT และอุตสาหกรรมได้ดี เราเตอร์ MM-HL1-EXT ขับเคลื่อนด้วย MediaTek MT7621A ซีพียูแบบดูอัลคอร์ พร้อมกับหน่วยความจำ DRAM ขนาด 256MB และ NAND flash ขนาด 32MB โมดูลวิทยุใช้ชิปเซ็ต MM6108 ของ Morse Micro ควบคู่กับ AzureWave AW-HM593 ที่ส่งพลังงานได้สูงสุดถึง 23 dBm เราเตอร์ยังมีพอร์ต Ethernet แบบกิกะบิต 2 พอร์ต และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Ethernet-over-USB อีกด้วย เราเตอร์นี้ยังทำงานบนแพลตฟอร์ม OpenWrt 23.05 ที่เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ออนไลน์ ทำให้สามารถปรับตัวได้ตามความต้องการในอนาคต ถึงแม้ว่าเราเตอร์นี้จะมีความเร็ว Wi-Fi HaLow สูงสุดที่ 32Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 8MHz แต่ด้วยความสามารถในการรองรับ Wi-Fi 4 ที่ความเร็วสูงสุด 300Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 40MHz ทำให้มันมีความหลากหลายและเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรง สองหน่วยของ HaLowLink 1 สามารถใช้เป็นทางเลือกไร้สายแทนการติดตั้งภายนอกและการติดตั้งระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เราเตอร์ MM-HL1-EXT ได้รับการรับรองการใช้งานในอเมริกาเหนือ (FCC), แคนาดา (IC) และออสเตรเลีย (RCM) Morse Micro กำลังดำเนินการเพื่อรับรองการใช้งานใน EMEA (868MHz) และเอเชียด้วย ที่น่าสนใจคือ Morse Micro ได้พัฒนาเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow มานานเกือบสิบปี และได้แสดงความสามารถของฮาร์ดแวร์เราเตอร์ที่สามารถครอบคลุมระยะทาง 2 ไมล์ด้วยแบตเตอรี่เหรียญได้ ในการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และเพิ่มระยะทางเป็น 10 ไมล์ในเดือนกันยายน ปัจจุบันเราเตอร์ MM-HL1-EXT มีวางจำหน่ายใน Mouser ราคาประมาณ $99 โดยสต็อกยังมีจำกัด แต่คาดว่าจะมีสินค้ามากขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2025 สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากมีเวลารอจากโรงงานประมาณแปดสัปดาห์ https://www.techspot.com/news/106889-morse-micro-mm-hl1-ext-router-combines-wi.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New long-range Wi-Fi HaLow router hits the market for less than $100, up to 10-mile connectivity
    The MM-HL1-EXT sets itself apart from conventional Wi-Fi routers by operating in the 900MHz band in the U.S. while also supporting 2.4GHz Wi-Fi 4 (802.11n). This dual-band...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Cloud ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Cloud Key Management Service (Cloud KMS) ซึ่งรวมถึงลายเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัยจากควอนตัม (Quantum-Safe Digital Signatures) ซึ่งสามารถใช้งานได้ในสถานะพรีวิว ฟีเจอร์นี้ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อมาตรฐานการเข้ารหัสหลังควอนตัม (Post-Quantum Cryptography: PQC) ของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIST) ซึ่งคำนึงถึงความเสี่ยงในอนาคตที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจทำลายระบบเข้ารหัสแบบเดิมได้

    Cloud KMS เป็นเครื่องมือของ Google Cloud สำหรับการจัดการคีย์การเข้ารหัสที่ใช้เข้ารหัสและเซ็นข้อมูลอย่างปลอดภัย แต่การใช้การเข้ารหัสแบบปัจจุบันเช่น RSA และ ECC อาจมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกเปิดเผยในอนาคตผ่านการโจมตีแบบ "เก็บข้อมูลไว้ก่อนและถอดรหัสภายหลัง" (Harvest Now, Decrypt Later: HNDL) แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถทำลายการเข้ารหัสแบบปัจจุบันยังไม่มีอยู่ในขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเห็นว่าความเสี่ยงนี้สูงเกินไปที่จะเพิกเฉย

    เพื่อป้องกันข้อมูลในอนาคต Google ได้รวมการเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากควอนตัมเข้ากับ Cloud KMS และ Cloud HSM (Hardware Security Modules) ซึ่งใช้สองอัลกอริธึมใหม่คือ ML-DSA-65 (FIPS 204) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมลายเซ็นดิจิทัลแบบ lattice-based และ SLH-DSA-SHA2-128S (FIPS 205) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมลายเซ็นดิจิทัลแบบ stateless hash-based

    ลายเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัยจากควอนตัมจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเซ็นและตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลได้เหมือนกับการใช้การเข้ารหัสแบบคลาสสิค โดยการใช้งานอัลกอริธึม PQC ใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานได้ผ่านซอฟต์แวร์ BoringCrypto และ Tink ที่เป็นโอเพนซอร์ส ซึ่งจะช่วยรักษาความโปร่งใสและอนุญาตให้อิสระในการตรวจสอบด้านความปลอดภัย

    Google ยังเชิญชวนองค์กรต่าง ๆ ให้เริ่มทดสอบและรวมอัลกอริธึมที่ปลอดภัยจากควอนตัมเข้ากับระบบที่มีอยู่ และรายงานปัญหาที่พบเพื่อช่วยปรับปรุง

    การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นการตอบสนองต่อการประกาศความก้าวหน้าในด้านควอนตัมของ Microsoft ที่เปิดตัวชิป Majorana 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-cloud-introduces-quantum-safe-digital-signatures-in-kms/
    Google Cloud ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Cloud Key Management Service (Cloud KMS) ซึ่งรวมถึงลายเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัยจากควอนตัม (Quantum-Safe Digital Signatures) ซึ่งสามารถใช้งานได้ในสถานะพรีวิว ฟีเจอร์นี้ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อมาตรฐานการเข้ารหัสหลังควอนตัม (Post-Quantum Cryptography: PQC) ของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIST) ซึ่งคำนึงถึงความเสี่ยงในอนาคตที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจทำลายระบบเข้ารหัสแบบเดิมได้ Cloud KMS เป็นเครื่องมือของ Google Cloud สำหรับการจัดการคีย์การเข้ารหัสที่ใช้เข้ารหัสและเซ็นข้อมูลอย่างปลอดภัย แต่การใช้การเข้ารหัสแบบปัจจุบันเช่น RSA และ ECC อาจมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกเปิดเผยในอนาคตผ่านการโจมตีแบบ "เก็บข้อมูลไว้ก่อนและถอดรหัสภายหลัง" (Harvest Now, Decrypt Later: HNDL) แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถทำลายการเข้ารหัสแบบปัจจุบันยังไม่มีอยู่ในขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเห็นว่าความเสี่ยงนี้สูงเกินไปที่จะเพิกเฉย เพื่อป้องกันข้อมูลในอนาคต Google ได้รวมการเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากควอนตัมเข้ากับ Cloud KMS และ Cloud HSM (Hardware Security Modules) ซึ่งใช้สองอัลกอริธึมใหม่คือ ML-DSA-65 (FIPS 204) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมลายเซ็นดิจิทัลแบบ lattice-based และ SLH-DSA-SHA2-128S (FIPS 205) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมลายเซ็นดิจิทัลแบบ stateless hash-based ลายเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัยจากควอนตัมจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเซ็นและตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลได้เหมือนกับการใช้การเข้ารหัสแบบคลาสสิค โดยการใช้งานอัลกอริธึม PQC ใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานได้ผ่านซอฟต์แวร์ BoringCrypto และ Tink ที่เป็นโอเพนซอร์ส ซึ่งจะช่วยรักษาความโปร่งใสและอนุญาตให้อิสระในการตรวจสอบด้านความปลอดภัย Google ยังเชิญชวนองค์กรต่าง ๆ ให้เริ่มทดสอบและรวมอัลกอริธึมที่ปลอดภัยจากควอนตัมเข้ากับระบบที่มีอยู่ และรายงานปัญหาที่พบเพื่อช่วยปรับปรุง การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นการตอบสนองต่อการประกาศความก้าวหน้าในด้านควอนตัมของ Microsoft ที่เปิดตัวชิป Majorana 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-cloud-introduces-quantum-safe-digital-signatures-in-kms/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Google Cloud introduces quantum-safe digital signatures in KMS
    Google Cloud has introduced quantum-safe digital signatures to its Cloud Key Management Service (Cloud KMS), making them available in preview.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก่อนหน้าวาระครบ 3 ปีแห่งการรุกรานของรัสเซีย ระบุเขาพร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน หากมันหมายความว่านาโตจะอ้าแขนรับเคียฟเข้าสู่พันธมิตรทหารแห่งนี้
    .
    เซเลนสกี ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ บอกด้วยว่าเขาต้องการพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีอเมริกา จะมีการประชุมร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
    .
    ที่ผ่านมา เซเลนสกี เรียกร้องให้ยูเครนได้รับการอนุมัติสถานภาพความเป็นสมาชิกของนาโต ส่วนหนึ่งในข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงคราม แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ที่นำโดยวอชิงตันลังเลที่จะรับปากในเรื่องดังกล่าว "ถ้ามันก่อสันติภาพสำหรับยูเครน ถ้าคุณอยากให้ผมออกจากตำแหน่งของผมจริงๆ ผมก็พร้อม" เซเลสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟ "ผมสามารถแลกมันกับนาโต"
    .
    เซเลนสกีและทรัมป์ ทำสงครามน้ำลายกันมาตั้งแต่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียพบปะกันในซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการพูดคุยในระดับสูงเป็นครั้งแรกระหว่าง 2 ชาติในรอบกว่า 3 ปี ความเคลื่อนไหวนี้บ่อนทำลายนโยบายโดดเดี่ยวเครมลินของตะวันตก และก่อความขุ่นเคืองแก่พวกผู้นำยูเครนและยุโรปที่ถูกกีดกันออกจากโต๊ะเจรจา
    .
    ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และกล่าวหายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม และอ้างว่าผู้นำยูเครนไม่เป็นที่นิยมนักในประเทศ
    .
    ประธานาธิบดีเซเลนสกี บอกว่าเขาไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อความเห็นของทรัมป์ และพร้อมทดสอบคะแนนนิยมของเขาในศึกเลือกตั้ง ครั้งที่กฎอัยการศึกสิ้นสุดลงในยูเครน "สิ่งที่ผมต้องการจากทรัมป์ คืออยากทำความเข้าใจกันและกัน" เขากล่าว พร้อมระบุว่า "การรับประกันความมั่นคง" จากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
    .
    ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องขอประชุมร่วมกับทรัมป์ ก่อนที่ทรัมป์จะพูดคุยเจรจาใดๆ กับปูติน พร้อมอ้างว่ามีความคืบหน้าในข้อตกลงที่จะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรสำคัญๆ ของยูเครน
    .
    ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ดูเหมือนว่าพวกผู้นำยุโรปเริ่มปรับท่าทียอมรับความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึง ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเยอรมนี บอกว่าเขาจะให้ความสำคัญลำดับต้นๆ กับศักยภาพการป้องกันตนเองของยุโรป
    .
    ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่าเขากำลังตั้งตาคอยทำงานร่วมกับ แมร์ซ ในช่วงเวลาสำคัญแห่งความมั่นคงร่วม "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ยุโปต้องยกระดับการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง และความเป็นผู้นำของคุณจะเป็นกุญแจสำคัญ"
    .
    ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) วังเครมลินยกย่องการเลียบเคียงทางการทูตระหว่างทรัมป์กับปูติน โดยทางโฆษก ดมิทรี เปสคอฟ เรียกการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีทั้ง 2 ว่ามีความหวัง "มันสำคัญที่ต้องไม่มีอะไรขัดขวางเราจากความเป็นจริงแห่งเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำทั้ง 2"
    .
    อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะยอมสละดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในขณะเดียวกันมอสโกก็ปฏิเสธซ้ำๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประชาชนเหล่านี้ตัดสินใจเข้าร่วมรัสเซียนานแล้ว" อ้างถึงการลงประชามติที่จัดโดยรัสเซีย ในแคว้นต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน ที่ถูกเคียฟ ตะวันตกและพวกนักสังเกตการณ์นานาชาติประณามว่าเป็นประชามติจอมปลอม "ไม่มีใครจะขายดินแดนเหล่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด"
    .
    ในส่วนของปูติน ได้แสดงความคิดเห็นก่อนวาระครบ 3 ปีของปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของเขาในยูเครน บอกว่า "พระเจ้า" อยู่เบื้องหลังภารกิจปกป้องรัสเซีย "ชะตากรรมปรารถนาเช่นนั้น พระเจ้าก็ปรารถนาเช่นนั้น ผมก็อาจปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน มันเป็นภารกิจที่ยากลำบากแต่เป็นภารกิจที่ทรงเกียรติในการปกป้องรัสเซีย มันเป็นภาระที่วางอยู่บนบ่าของเราและพวกคุณร่วมกัน" เขาบอกกับกำลังพลที่สู้รบในยูเครน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียใช้โดรนโจมตียูเครน มากสุดเท่าที่เคยมีมา จำนวน 267 ลำ ในคืนวันเสาร์ (22 ก.พ.) จนถึงวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) จากคำกล่าวอ้างของกองกำลังเคียฟ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วถูกสอยร่วงหรือโดนสกัดไว้ได้ และไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์นิวส์ รายงานว่าคณะผู้แทนทูตสหรัฐฯ และรัสเซีย จะพบปะกันในสัปดาห์หน้า ตามด้วยการเจรจาในกรุงริยาด ระหว่าง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประทศรัสเซีย และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วมีรายงานด้วยว่าเวลานี้ ลาฟรอฟ ได้เดินทางถึงตุรกีแล้ว สำหรับพูดคุยกับ ฮาคาน ไฟซาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีในวันจันทร์ (24 ก.พ.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017983
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก่อนหน้าวาระครบ 3 ปีแห่งการรุกรานของรัสเซีย ระบุเขาพร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน หากมันหมายความว่านาโตจะอ้าแขนรับเคียฟเข้าสู่พันธมิตรทหารแห่งนี้ . เซเลนสกี ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ บอกด้วยว่าเขาต้องการพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีอเมริกา จะมีการประชุมร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย . ที่ผ่านมา เซเลนสกี เรียกร้องให้ยูเครนได้รับการอนุมัติสถานภาพความเป็นสมาชิกของนาโต ส่วนหนึ่งในข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงคราม แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ที่นำโดยวอชิงตันลังเลที่จะรับปากในเรื่องดังกล่าว "ถ้ามันก่อสันติภาพสำหรับยูเครน ถ้าคุณอยากให้ผมออกจากตำแหน่งของผมจริงๆ ผมก็พร้อม" เซเลสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟ "ผมสามารถแลกมันกับนาโต" . เซเลนสกีและทรัมป์ ทำสงครามน้ำลายกันมาตั้งแต่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียพบปะกันในซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการพูดคุยในระดับสูงเป็นครั้งแรกระหว่าง 2 ชาติในรอบกว่า 3 ปี ความเคลื่อนไหวนี้บ่อนทำลายนโยบายโดดเดี่ยวเครมลินของตะวันตก และก่อความขุ่นเคืองแก่พวกผู้นำยูเครนและยุโรปที่ถูกกีดกันออกจากโต๊ะเจรจา . ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และกล่าวหายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม และอ้างว่าผู้นำยูเครนไม่เป็นที่นิยมนักในประเทศ . ประธานาธิบดีเซเลนสกี บอกว่าเขาไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อความเห็นของทรัมป์ และพร้อมทดสอบคะแนนนิยมของเขาในศึกเลือกตั้ง ครั้งที่กฎอัยการศึกสิ้นสุดลงในยูเครน "สิ่งที่ผมต้องการจากทรัมป์ คืออยากทำความเข้าใจกันและกัน" เขากล่าว พร้อมระบุว่า "การรับประกันความมั่นคง" จากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก . ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องขอประชุมร่วมกับทรัมป์ ก่อนที่ทรัมป์จะพูดคุยเจรจาใดๆ กับปูติน พร้อมอ้างว่ามีความคืบหน้าในข้อตกลงที่จะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรสำคัญๆ ของยูเครน . ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ดูเหมือนว่าพวกผู้นำยุโรปเริ่มปรับท่าทียอมรับความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึง ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเยอรมนี บอกว่าเขาจะให้ความสำคัญลำดับต้นๆ กับศักยภาพการป้องกันตนเองของยุโรป . ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่าเขากำลังตั้งตาคอยทำงานร่วมกับ แมร์ซ ในช่วงเวลาสำคัญแห่งความมั่นคงร่วม "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ยุโปต้องยกระดับการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง และความเป็นผู้นำของคุณจะเป็นกุญแจสำคัญ" . ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป . ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) วังเครมลินยกย่องการเลียบเคียงทางการทูตระหว่างทรัมป์กับปูติน โดยทางโฆษก ดมิทรี เปสคอฟ เรียกการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีทั้ง 2 ว่ามีความหวัง "มันสำคัญที่ต้องไม่มีอะไรขัดขวางเราจากความเป็นจริงแห่งเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำทั้ง 2" . อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะยอมสละดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในขณะเดียวกันมอสโกก็ปฏิเสธซ้ำๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประชาชนเหล่านี้ตัดสินใจเข้าร่วมรัสเซียนานแล้ว" อ้างถึงการลงประชามติที่จัดโดยรัสเซีย ในแคว้นต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน ที่ถูกเคียฟ ตะวันตกและพวกนักสังเกตการณ์นานาชาติประณามว่าเป็นประชามติจอมปลอม "ไม่มีใครจะขายดินแดนเหล่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด" . ในส่วนของปูติน ได้แสดงความคิดเห็นก่อนวาระครบ 3 ปีของปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของเขาในยูเครน บอกว่า "พระเจ้า" อยู่เบื้องหลังภารกิจปกป้องรัสเซีย "ชะตากรรมปรารถนาเช่นนั้น พระเจ้าก็ปรารถนาเช่นนั้น ผมก็อาจปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน มันเป็นภารกิจที่ยากลำบากแต่เป็นภารกิจที่ทรงเกียรติในการปกป้องรัสเซีย มันเป็นภาระที่วางอยู่บนบ่าของเราและพวกคุณร่วมกัน" เขาบอกกับกำลังพลที่สู้รบในยูเครน . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียใช้โดรนโจมตียูเครน มากสุดเท่าที่เคยมีมา จำนวน 267 ลำ ในคืนวันเสาร์ (22 ก.พ.) จนถึงวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) จากคำกล่าวอ้างของกองกำลังเคียฟ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วถูกสอยร่วงหรือโดนสกัดไว้ได้ และไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ . สำนักข่าวทาสส์นิวส์ รายงานว่าคณะผู้แทนทูตสหรัฐฯ และรัสเซีย จะพบปะกันในสัปดาห์หน้า ตามด้วยการเจรจาในกรุงริยาด ระหว่าง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประทศรัสเซีย และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วมีรายงานด้วยว่าเวลานี้ ลาฟรอฟ ได้เดินทางถึงตุรกีแล้ว สำหรับพูดคุยกับ ฮาคาน ไฟซาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีในวันจันทร์ (24 ก.พ.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017983 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 635 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ได้เริ่มการผลิตชิป Exynos 2500 ซึ่งเป็น SoC (System on Chip) รุ่นใหม่ของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm GAA อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลผลิตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ปริมาณการผลิตรายเดือนมีเพียง 5,000 หน่วยเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการในตลาด

    ชิป Exynos 2500 นี้มีกำหนดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Samsung วางแผนที่จะใช้ชิปนี้ในรุ่น Galaxy S25 แต่เนื่องจากปัญหาด้านการผลิต จึงต้องเลื่อนการใช้ชิปนี้ไปใช้ในรุ่นอื่นแทน เช่น Galaxy Z Flip 7 ที่จะเปิดตัวในอนาคต

    สำหรับข้อมูลเฉพาะทางของชิป Exynos 2500 นั้น จะแบ่งเป็นการใช้กลุ่ม CPU 10-core แบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า คือ Exynos 2400 และจะมี GPU รุ่นใหม่ Xclipse 950 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ AMD โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5

    แม้ว่าบนกระดาษจะดูน่าประทับใจ แต่จากการทดสอบใน Geekbench 6 พบว่า Exynos 2500 ยังมีคะแนนน้อยกว่า Snapdragon 8 Elite ทั้งในด้านการทำงานแบบ single-core และ multi-core ทำให้ Samsung ตัดสินใจไม่ใช้ชิปนี้ในรุ่นแฟลกชิปของตนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านประสิทธิภาพ

    Samsung หวังว่าชิป Exynos 2500 จะสามารถแสดงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และยังมีแผนที่จะพัฒนาให้พร้อมใช้งานในอุปกรณ์ใหม่ๆ ในอนาคต

    การตัดสินใจของ Samsung ที่จะไม่รวม Exynos 2500 ในรุ่นแฟลกชิป เช่น Galaxy S25 นั้นอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาประสิทธิภาพของชิปในอนาคต

    https://wccftech.com/samsung-reportedly-kicks-off-exynos-2500-mass-production-but-in-low-volume/
    Samsung ได้เริ่มการผลิตชิป Exynos 2500 ซึ่งเป็น SoC (System on Chip) รุ่นใหม่ของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm GAA อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลผลิตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ปริมาณการผลิตรายเดือนมีเพียง 5,000 หน่วยเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการในตลาด ชิป Exynos 2500 นี้มีกำหนดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Samsung วางแผนที่จะใช้ชิปนี้ในรุ่น Galaxy S25 แต่เนื่องจากปัญหาด้านการผลิต จึงต้องเลื่อนการใช้ชิปนี้ไปใช้ในรุ่นอื่นแทน เช่น Galaxy Z Flip 7 ที่จะเปิดตัวในอนาคต สำหรับข้อมูลเฉพาะทางของชิป Exynos 2500 นั้น จะแบ่งเป็นการใช้กลุ่ม CPU 10-core แบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า คือ Exynos 2400 และจะมี GPU รุ่นใหม่ Xclipse 950 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ AMD โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 แม้ว่าบนกระดาษจะดูน่าประทับใจ แต่จากการทดสอบใน Geekbench 6 พบว่า Exynos 2500 ยังมีคะแนนน้อยกว่า Snapdragon 8 Elite ทั้งในด้านการทำงานแบบ single-core และ multi-core ทำให้ Samsung ตัดสินใจไม่ใช้ชิปนี้ในรุ่นแฟลกชิปของตนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านประสิทธิภาพ Samsung หวังว่าชิป Exynos 2500 จะสามารถแสดงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และยังมีแผนที่จะพัฒนาให้พร้อมใช้งานในอุปกรณ์ใหม่ๆ ในอนาคต การตัดสินใจของ Samsung ที่จะไม่รวม Exynos 2500 ในรุ่นแฟลกชิป เช่น Galaxy S25 นั้นอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาประสิทธิภาพของชิปในอนาคต https://wccftech.com/samsung-reportedly-kicks-off-exynos-2500-mass-production-but-in-low-volume/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Has Reportedly Kicked Off Mass Production Of The Exynos 2500, But Its Flagship SoC’s Expected Monthly Volume To Be Exceptionally Low Due To Poor Yields
    The Exynos 2500 might be delayed, but its launch could be around the corner as Samsung has reportedly commenced mass production of its SoC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ASE Technology กำลังทุ่มทุน $200 ล้านเพื่อทดสอบวิธีการบรรจุชิปรูปแบบใหม่ที่ใช้แผ่นซับสเตรต (substrate) ทรงสี่เหลี่ยมแทนแผ่นเวเฟอร์ (wafers) ทรงกลมแบบเดิม โดยวิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตแพ็กเกจชิปขั้นสูงของบริษัท

    ในระยะแรก บริษัทมีแผนจะตั้งสายการผลิตทดลองขนาดเล็กที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน โดยจะติดตั้งเครื่องจักรทดลองที่สามารถจัดการกับแผ่นซับสเตรตขนาด 600 มม. x 600 มม. แทนที่แผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ทรงกลม การใช้แผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมนี้อาจเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ถึง 5 เท่าของแผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ทำให้สามารถประกอบโปรเซสเซอร์แบบ multi-chiplet AI ได้มากขึ้นบนแผ่นซับสเตรตเดียว

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องจักรที่พร้อมใช้สำหรับการผลิตแผ่นซับสเตรตขนาดใหญ่นี้ที่ตรงตามมาตรฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน ดังนั้น ASE จึงต้องร่วมมือกับผู้จัดหาเครื่องจักรเพื่อพัฒนาเครื่องมือที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นไปได้

    การใช้แผ่นซับสเตรตขนาดใหญ่ยังเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับการเปลี่ยนไปใช้แผ่นซับสเตรตที่ทำจากแก้ว ซึ่งมีคุณสมบัติดีขึ้นในด้านความเรียบ ความเสถียรทางความร้อนและกลไก รวมถึงการเชื่อมต่อที่หนาแน่นยิ่งขึ้น

    นี่เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ ASE โดยบริษัทคาดว่าการใช้แผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมจะช่วยให้สามารถแข่งขันได้เหนือคู่แข่งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี

    นอกจากนี้ ASE ยังวางแผนที่จะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ประกอบบนแผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมให้กับลูกค้าภายในปีหน้า การลงทุน $200 ล้านนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้จ่ายทุนในปี 2025 ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเกิน $1.9 พันล้าน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ase-testing-using-square-packaging-substrates-instead-of-round-wafers
    บริษัท ASE Technology กำลังทุ่มทุน $200 ล้านเพื่อทดสอบวิธีการบรรจุชิปรูปแบบใหม่ที่ใช้แผ่นซับสเตรต (substrate) ทรงสี่เหลี่ยมแทนแผ่นเวเฟอร์ (wafers) ทรงกลมแบบเดิม โดยวิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตแพ็กเกจชิปขั้นสูงของบริษัท ในระยะแรก บริษัทมีแผนจะตั้งสายการผลิตทดลองขนาดเล็กที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน โดยจะติดตั้งเครื่องจักรทดลองที่สามารถจัดการกับแผ่นซับสเตรตขนาด 600 มม. x 600 มม. แทนที่แผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ทรงกลม การใช้แผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมนี้อาจเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ถึง 5 เท่าของแผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ทำให้สามารถประกอบโปรเซสเซอร์แบบ multi-chiplet AI ได้มากขึ้นบนแผ่นซับสเตรตเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องจักรที่พร้อมใช้สำหรับการผลิตแผ่นซับสเตรตขนาดใหญ่นี้ที่ตรงตามมาตรฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน ดังนั้น ASE จึงต้องร่วมมือกับผู้จัดหาเครื่องจักรเพื่อพัฒนาเครื่องมือที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นไปได้ การใช้แผ่นซับสเตรตขนาดใหญ่ยังเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับการเปลี่ยนไปใช้แผ่นซับสเตรตที่ทำจากแก้ว ซึ่งมีคุณสมบัติดีขึ้นในด้านความเรียบ ความเสถียรทางความร้อนและกลไก รวมถึงการเชื่อมต่อที่หนาแน่นยิ่งขึ้น นี่เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ ASE โดยบริษัทคาดว่าการใช้แผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมจะช่วยให้สามารถแข่งขันได้เหนือคู่แข่งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี นอกจากนี้ ASE ยังวางแผนที่จะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ประกอบบนแผ่นซับสเตรตทรงสี่เหลี่ยมให้กับลูกค้าภายในปีหน้า การลงทุน $200 ล้านนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้จ่ายทุนในปี 2025 ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเกิน $1.9 พันล้าน https://www.tomshardware.com/tech-industry/ase-testing-using-square-packaging-substrates-instead-of-round-wafers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester

    ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก

    David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก"

    Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda"

    สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ

    การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก" Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda" สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Car safety tech has 'blind spot' for high-vis jackets, study suggests
    A study by the US-based Insurance Institute for Highway Safety indicated the systems may have a 'blind spot' for reflective items.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นหลายคนแล้ว เศร้าใจ เชื่อในทฤษฏีที่ถูกกำหนด โดยใครก็ไม่รู้...และส่งต่อถ่ายทอดกันมา...ไม่มีอะไรอ้างอิงเลย...และเชื่อกันเป็นอุปทานหมู่....คือ ถ้าใครไม่ขัดแนวคิดนั้น...กลายเป็นคนโง่ไปเสียอีก...ถ้าเราไปดูองค์ความรู้ของทฤษฏีหรือแนวคิดต่างๆ ทั่วโลก...จะเห็นได้ว่า ถูกทดสอบ ปฏิบัติจริง และเก็บสถิติ...ย้อนไปยุค โซเกรตีส เพลโต อริสโตเติล ผ่านมาร่วม 3000 ปีแล้ว...ที่วางหลักคิด หลักปรัชญามากมายแก่โลกนี้...ซึ่งไม่ใช่แค่ ความเชื่อ...แบบคนไทย...ที่ไม่มี สถิติ รองรับเลย...ผู้เขียนส่วนตัว ใช้ตำราต่างประเทศ และเอาหลักสถิติ..ย้อนไปเก็บข้อมูล...จนตกผลึก.จึงถ่ายทอดออกมา...ลำพังแค่ เชื่อต่อๆกัน...โดยไม่มีที่มา... ไม่เคยมีกระบวนการคิดแบบนี้น...ในสมอง...
    เห็นหลายคนแล้ว เศร้าใจ เชื่อในทฤษฏีที่ถูกกำหนด โดยใครก็ไม่รู้...และส่งต่อถ่ายทอดกันมา...ไม่มีอะไรอ้างอิงเลย...และเชื่อกันเป็นอุปทานหมู่....คือ ถ้าใครไม่ขัดแนวคิดนั้น...กลายเป็นคนโง่ไปเสียอีก...ถ้าเราไปดูองค์ความรู้ของทฤษฏีหรือแนวคิดต่างๆ ทั่วโลก...จะเห็นได้ว่า ถูกทดสอบ ปฏิบัติจริง และเก็บสถิติ...ย้อนไปยุค โซเกรตีส เพลโต อริสโตเติล ผ่านมาร่วม 3000 ปีแล้ว...ที่วางหลักคิด หลักปรัชญามากมายแก่โลกนี้...ซึ่งไม่ใช่แค่ ความเชื่อ...แบบคนไทย...ที่ไม่มี สถิติ รองรับเลย...ผู้เขียนส่วนตัว ใช้ตำราต่างประเทศ และเอาหลักสถิติ..ย้อนไปเก็บข้อมูล...จนตกผลึก.จึงถ่ายทอดออกมา...ลำพังแค่ เชื่อต่อๆกัน...โดยไม่มีที่มา... ไม่เคยมีกระบวนการคิดแบบนี้น...ในสมอง...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ

    ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ

    🐈‍⬛🐕🐈🐠

    #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว
    สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565)
    สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน
    กนกพร เรืองสา แปล
    ออกแบบปกและภาพประกอบ little night
    295 บาท 217 หน้า

    ......

    เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ

    🐕

    ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้

    🐈

    ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน

    🐕

    เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข

    🐈

    ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน

    🐕

    ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้

    🐈

    และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ

    #รีวิวหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #เรื่องแปล
    #จิตวิทยา
    #การสูญเสีย
    #สัตว์เลี้ยง
    #thaitimes
    #สัตวแพทย์
    #รพ.สัตว์
    #นานมีบุ๊กส์
    บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ 🐈‍⬛🐕🐈🐠 #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565) สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน กนกพร เรืองสา แปล ออกแบบปกและภาพประกอบ little night 295 บาท 217 หน้า ...... เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ 🐕 ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้ 🐈 ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน 🐕 เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข 🐈 ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน 🐕 ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้ 🐈 และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #เรื่องแปล #จิตวิทยา #การสูญเสีย #สัตว์เลี้ยง #thaitimes #สัตวแพทย์ #รพ.สัตว์ #นานมีบุ๊กส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • iPhone 16e ของ Apple ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพครั้งแรก และเผยให้เห็นว่า A18 ชิปที่ใช้ใน iPhone 16e นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ประมาณ 15% สาเหตุเกิดจากการที่ Apple ใช้วิธีการที่เรียกว่า chip-binning เพื่อผลิตชิป A18 ซึ่งทำให้ชิปนี้มี GPU 4-core แทนที่จะเป็น 5-core ที่ใช้ในรุ่นอื่น ๆ

    แม้ว่า iPhone 16e จะมีราคาถูกกว่า ($599) แต่ยังคงมี RAM 8GB ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับฟีเจอร์ AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์ได้ ผลการทดสอบใน Geekbench 6 Metal แสดงให้เห็นว่า iPhone 16e ได้คะแนน 24,188 คะแนน ซึ่งต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากมี GPU core น้อยกว่า

    การใช้ chip-binning นั้นอาจเป็นการลดต้นทุนการผลิตหรือเป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นต่าง ๆ ของ iPhone 16 แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ การลดจำนวน GPU core ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิก อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ลดจำนวน CPU core ของ A18 ซึ่งยังคงมีจำนวนเท่าเดิมกับรุ่นอื่น ๆ

    สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกที่ดีกว่า อาจต้องพิจารณาซื้อรุ่น iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า

    https://wccftech.com/iphone-16e-a18-gpu-benchmark-15-percent-slower-than-than-non-binned-version/
    iPhone 16e ของ Apple ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพครั้งแรก และเผยให้เห็นว่า A18 ชิปที่ใช้ใน iPhone 16e นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ประมาณ 15% สาเหตุเกิดจากการที่ Apple ใช้วิธีการที่เรียกว่า chip-binning เพื่อผลิตชิป A18 ซึ่งทำให้ชิปนี้มี GPU 4-core แทนที่จะเป็น 5-core ที่ใช้ในรุ่นอื่น ๆ แม้ว่า iPhone 16e จะมีราคาถูกกว่า ($599) แต่ยังคงมี RAM 8GB ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับฟีเจอร์ AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์ได้ ผลการทดสอบใน Geekbench 6 Metal แสดงให้เห็นว่า iPhone 16e ได้คะแนน 24,188 คะแนน ซึ่งต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากมี GPU core น้อยกว่า การใช้ chip-binning นั้นอาจเป็นการลดต้นทุนการผลิตหรือเป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นต่าง ๆ ของ iPhone 16 แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ การลดจำนวน GPU core ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิก อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ลดจำนวน CPU core ของ A18 ซึ่งยังคงมีจำนวนเท่าเดิมกับรุ่นอื่น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกที่ดีกว่า อาจต้องพิจารณาซื้อรุ่น iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า https://wccftech.com/iphone-16e-a18-gpu-benchmark-15-percent-slower-than-than-non-binned-version/
    WCCFTECH.COM
    The iPhone 16e Goes Through Its First Benchmark Run, With The Binned A18’s GPU Obtaining A 15 Percent Lower Score Than The 5-Core Version Running In The Other Models
    Apple’s newest iPhone entrant, the iPhone 16e, was spotted in the latest benchmark, with the A18 GPU posting a lower score than the other version
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ

    ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ

    ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้

    นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม

    Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก

    Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้

    https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้ นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้ https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists spent 10 years on a superbug mystery - Google's AI solved it in 48 hours
    Professor José R Penadés told the BBC that Google's tool reached the same hypothesis that his team had – that superbugs can create a tail that allows...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Moore Threads ได้เปิดตัวไดร์เวอร์เวอร์ชัน 290.100 สำหรับกราฟิกการ์ดรุ่น MTT S Series โดยการอัปเดตนี้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การเล่นเกมในหลายเกมสมัยใหม่ จากการทดสอบภายในก่อนการปล่อยออกสู่สาธารณะ ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นว่าในเกม Infinity Nikki ซึ่งรองรับเฉพาะ DirectX 12 เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% และในเกม Death Stranding เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ที่น่าทึ่งที่สุดคือในเกม A Plague Tale: Requiem เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 120%

    กราฟิกการ์ด MTT S80 ของ Moore Threads ถึงแม้ว่าจะมาพร้อมกับ PCI Express Gen 5 และมี MUSA cores 4096 หน่วย แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับคู่แข่งหลักในตลาดได้ในหลายสถานการณ์

    การอัปเดตนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Moore Threads ประกาศเมื่อเดือนกันยายน 2023 ว่าไดร์เวอร์เวอร์ชัน 230.40.0.1 นั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ถึง 40% สำหรับการ์ด MTT S80 และ S70 นอกจากนี้ Moore Threads ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้มีผลงานสูงในด้านการประมวลผลเชิงลึกด้วย DeepSeek's R1 Distill-Qwen-7B distilled model

    https://www.techpowerup.com/332866/moore-threads-claims-120-gaming-performance-improvement-for-mtt-s-series-gpus
    บริษัท Moore Threads ได้เปิดตัวไดร์เวอร์เวอร์ชัน 290.100 สำหรับกราฟิกการ์ดรุ่น MTT S Series โดยการอัปเดตนี้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การเล่นเกมในหลายเกมสมัยใหม่ จากการทดสอบภายในก่อนการปล่อยออกสู่สาธารณะ ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นว่าในเกม Infinity Nikki ซึ่งรองรับเฉพาะ DirectX 12 เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% และในเกม Death Stranding เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ที่น่าทึ่งที่สุดคือในเกม A Plague Tale: Requiem เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 120% กราฟิกการ์ด MTT S80 ของ Moore Threads ถึงแม้ว่าจะมาพร้อมกับ PCI Express Gen 5 และมี MUSA cores 4096 หน่วย แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับคู่แข่งหลักในตลาดได้ในหลายสถานการณ์ การอัปเดตนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Moore Threads ประกาศเมื่อเดือนกันยายน 2023 ว่าไดร์เวอร์เวอร์ชัน 230.40.0.1 นั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ถึง 40% สำหรับการ์ด MTT S80 และ S70 นอกจากนี้ Moore Threads ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้มีผลงานสูงในด้านการประมวลผลเชิงลึกด้วย DeepSeek's R1 Distill-Qwen-7B distilled model https://www.techpowerup.com/332866/moore-threads-claims-120-gaming-performance-improvement-for-mtt-s-series-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Moore Threads Claims 120% Gaming Performance Improvement for MTT S Series GPUs
    Moore Threads has released version 290.100 of its MTT S Series Windows desktop driver; today's freshly published patch notes describe "performance and experience optimizations" for multiple modern games titles. Press coverage of the Chinese graphics card manufacturer's hardware portfolio has concent...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรับมือกับชะตากรรม: อยู่ที่มุมมองและการกระทำของเรา

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ยอมรับ"

    ✅ ยิ่งรับได้เร็ว → ยิ่งเหนื่อยน้อยลง

    มีหลายสิ่งในชีวิตที่เรา "เลือกไม่ได้" ตั้งแต่ต้น เช่น พ่อแม่ที่เกิดมา

    ถ้าหมกมุ่นแต่ความคิดว่า "อยากเกิดกับพ่อแม่คนอื่น" → ก็มีแต่ทุกข์

    หลักความเชื่อทางพุทธ: เราเกิดตามกรรม → พ่อแม่เป็นผลของกรรมที่เราเคยทำไว้

    ถ้าอยากเปลี่ยนชะตาในชาติหน้า → ต้องเปลี่ยนกรรมในชาตินี้


    💡 สัจธรรม: สิ่งที่เราสะสมทั้งชีวิต → ไม่ใช่สมบัติภายนอก แต่เป็น "กรรมใหม่" ที่จะกำหนดอนาคต


    ---

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "อดกลั้น"

    ✅ ถ้าไม่อดกลั้น → จะเผลอทำกรรมใหม่ที่เป็นลบ

    บางช่วงชีวิตเหมือนถูก "ทดสอบ" ด้วยเรื่องแย่ๆ อย่างต่อเนื่อง

    เช่น:

    เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาทแล้วทำให้เราซวย

    เราปฏิบัติดี แต่คนอื่นกลับทำร้าย


    ถ้าเจอเรื่องร้ายแล้ว "ร้ายตอบ" → เราจะไม่เหลือ "ความดี" อยู่ในใจเลย


    💡 การอดกลั้น ไม่ได้แปลว่าต้องยอมแพ้ แต่คือการไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวงจรของกรรมร้าย


    ---

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ฮึดสู้"

    ✅ ถ้าไม่สู้ → ก็เหมือนปล่อยให้ชะตาฟ้าลิขิตเราอย่างเดียว

    บางคนเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก → แต่ถ้าสู้ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้

    บางคนเกิดมาพร้อมข้อจำกัดทางปัญญา → แต่ถ้าหมั่นเรียนรู้ ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เคยยากได้


    💡 ชีวิตมนุษย์คือโอกาสในการเปลี่ยนแปลง

    ถ้าคิดว่า "ชะตาเปลี่ยนไม่ได้" → จะไม่พยายาม

    แต่ถ้าคิดว่า "ชีวิตเปลี่ยนได้" → จะหาทางพัฒนา



    ---

    🔹 สรุป: วิธีรับมือกับชะตากรรม

    ✅ 1. ยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ → จะเหนื่อยน้อยลง
    ✅ 2. อดกลั้นต่อสิ่งที่กระทบจิตใจ → จะไม่ทำกรรมลบเพิ่ม
    ✅ 3. ฮึดสู้กับสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ → จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม

    💡 ชีวิตไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาล้วนๆ แต่เป็นผลของ "การกระทำของเราเอง"
    📌 อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นภาวะสูญเปล่า—เพราะทุกวันคือโอกาสใหม่ในการสร้าง "ชะตาใหม่"!

    การรับมือกับชะตากรรม: อยู่ที่มุมมองและการกระทำของเรา 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ยอมรับ" ✅ ยิ่งรับได้เร็ว → ยิ่งเหนื่อยน้อยลง มีหลายสิ่งในชีวิตที่เรา "เลือกไม่ได้" ตั้งแต่ต้น เช่น พ่อแม่ที่เกิดมา ถ้าหมกมุ่นแต่ความคิดว่า "อยากเกิดกับพ่อแม่คนอื่น" → ก็มีแต่ทุกข์ หลักความเชื่อทางพุทธ: เราเกิดตามกรรม → พ่อแม่เป็นผลของกรรมที่เราเคยทำไว้ ถ้าอยากเปลี่ยนชะตาในชาติหน้า → ต้องเปลี่ยนกรรมในชาตินี้ 💡 สัจธรรม: สิ่งที่เราสะสมทั้งชีวิต → ไม่ใช่สมบัติภายนอก แต่เป็น "กรรมใหม่" ที่จะกำหนดอนาคต --- 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "อดกลั้น" ✅ ถ้าไม่อดกลั้น → จะเผลอทำกรรมใหม่ที่เป็นลบ บางช่วงชีวิตเหมือนถูก "ทดสอบ" ด้วยเรื่องแย่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น: เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาทแล้วทำให้เราซวย เราปฏิบัติดี แต่คนอื่นกลับทำร้าย ถ้าเจอเรื่องร้ายแล้ว "ร้ายตอบ" → เราจะไม่เหลือ "ความดี" อยู่ในใจเลย 💡 การอดกลั้น ไม่ได้แปลว่าต้องยอมแพ้ แต่คือการไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวงจรของกรรมร้าย --- 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ฮึดสู้" ✅ ถ้าไม่สู้ → ก็เหมือนปล่อยให้ชะตาฟ้าลิขิตเราอย่างเดียว บางคนเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก → แต่ถ้าสู้ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ บางคนเกิดมาพร้อมข้อจำกัดทางปัญญา → แต่ถ้าหมั่นเรียนรู้ ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เคยยากได้ 💡 ชีวิตมนุษย์คือโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ถ้าคิดว่า "ชะตาเปลี่ยนไม่ได้" → จะไม่พยายาม แต่ถ้าคิดว่า "ชีวิตเปลี่ยนได้" → จะหาทางพัฒนา --- 🔹 สรุป: วิธีรับมือกับชะตากรรม ✅ 1. ยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ → จะเหนื่อยน้อยลง ✅ 2. อดกลั้นต่อสิ่งที่กระทบจิตใจ → จะไม่ทำกรรมลบเพิ่ม ✅ 3. ฮึดสู้กับสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ → จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม 💡 ชีวิตไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาล้วนๆ แต่เป็นผลของ "การกระทำของเราเอง" 📌 อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นภาวะสูญเปล่า—เพราะทุกวันคือโอกาสใหม่ในการสร้าง "ชะตาใหม่"!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=Q_fxVXLu_B4
    แบบทดสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษระดับความยากปานกลาง ชุดที่ 13 ออกแบบมาเพื่อทดสอบความรู้และทักษะด้านไวยากรณ์ของคุณ โดยมีคำถาม 10 ข้อ พร้อมเฉลยและอธิบายคำตอบเป็นภาษาไทย
    #englishgrammar #grammartest #learnenglish
    https://www.youtube.com/watch?v=Q_fxVXLu_B4 แบบทดสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษระดับความยากปานกลาง ชุดที่ 13 ออกแบบมาเพื่อทดสอบความรู้และทักษะด้านไวยากรณ์ของคุณ โดยมีคำถาม 10 ข้อ พร้อมเฉลยและอธิบายคำตอบเป็นภาษาไทย #englishgrammar #grammartest #learnenglish
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวของโมเดล AI รุ่นใหม่ชื่อว่า Grok 3 โดยบริษัท xAI และอีลอน มัสก์ครับ โดย xAI อ้างว่า Grok 3 เป็น AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก และมีการแสดงผลลัพธ์ที่เหนือกว่าโมเดล AI อื่นๆ ในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเขียนโค้ด

    Grok 3 ถูกเปิดตัวผ่านการไลฟ์สตรีมโดยอีลอน มัสก์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีการประกาศว่า AI รุ่นนี้จะเป็นที่ใช้งานได้สำหรับสมาชิกระดับ Premium+ ของ xAI เท่านั้น ขณะเดียวกัน xAI ยังมีแผนที่จะเปิดซอร์สโค้ดของ Grok 2 LLM ในไม่ช้า

    แม้ว่า Grok 3 จะมีผลลัพธ์ที่โดดเด่นในหลายด้าน แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญบางส่วน โดยเฉพาะในเรื่องของการทดสอบที่ไม่ได้ครอบคลุมทุกด้าน เช่นการทดสอบบนแพลตฟอร์ม FrontierMath, Arc-AGI, และ HLE ที่ไม่ได้ถูกเผยแพร่

    นักวิเคราะห์บางคน เช่น Zihan Wang ที่เคยทำงานกับ DeepSeek ได้ทดสอบ Grok 3 โดยใช้ภาพถ่ายของลูกเหล็กสองลูกที่มีขนาดต่างกันแขวนอยู่ที่หอเอนเมืองปิซา และถามว่า "ลูกเหล็กไหนจะตกถึงพื้นก่อน" ซึ่ง Grok 3 ให้คำตอบว่าลูกเหล็กทั้งสองจะตกถึงพื้นพร้อมกัน แทนที่จะเป็นลูกเหล็ก A ที่หนักกว่าและอยู่ใกล้พื้นมากกว่า

    ถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ Grok 3 ยังคงถือว่าเป็นโมเดล AI ที่มีศักยภาพมาก และการเปิดตัวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสามารถในการประมวลผลของ AI ให้สูงขึ้น

    นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานว่า xAI กำลังเจรจากับนักลงทุนเพื่อระดมทุนรอบใหม่สูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 75 พันล้านดอลลาร์ ในรอบการระดมทุนครั้งก่อน xAI ได้ระดมทุนไปถึง 6 พันล้านดอลลาร์ที่มูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์

    https://wccftech.com/xai-claims-grok-3-is-the-worlds-smartest-ai-betting-markets-agree-but-experts-remain-split/
    ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวของโมเดล AI รุ่นใหม่ชื่อว่า Grok 3 โดยบริษัท xAI และอีลอน มัสก์ครับ โดย xAI อ้างว่า Grok 3 เป็น AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก และมีการแสดงผลลัพธ์ที่เหนือกว่าโมเดล AI อื่นๆ ในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเขียนโค้ด Grok 3 ถูกเปิดตัวผ่านการไลฟ์สตรีมโดยอีลอน มัสก์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีการประกาศว่า AI รุ่นนี้จะเป็นที่ใช้งานได้สำหรับสมาชิกระดับ Premium+ ของ xAI เท่านั้น ขณะเดียวกัน xAI ยังมีแผนที่จะเปิดซอร์สโค้ดของ Grok 2 LLM ในไม่ช้า แม้ว่า Grok 3 จะมีผลลัพธ์ที่โดดเด่นในหลายด้าน แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญบางส่วน โดยเฉพาะในเรื่องของการทดสอบที่ไม่ได้ครอบคลุมทุกด้าน เช่นการทดสอบบนแพลตฟอร์ม FrontierMath, Arc-AGI, และ HLE ที่ไม่ได้ถูกเผยแพร่ นักวิเคราะห์บางคน เช่น Zihan Wang ที่เคยทำงานกับ DeepSeek ได้ทดสอบ Grok 3 โดยใช้ภาพถ่ายของลูกเหล็กสองลูกที่มีขนาดต่างกันแขวนอยู่ที่หอเอนเมืองปิซา และถามว่า "ลูกเหล็กไหนจะตกถึงพื้นก่อน" ซึ่ง Grok 3 ให้คำตอบว่าลูกเหล็กทั้งสองจะตกถึงพื้นพร้อมกัน แทนที่จะเป็นลูกเหล็ก A ที่หนักกว่าและอยู่ใกล้พื้นมากกว่า ถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ Grok 3 ยังคงถือว่าเป็นโมเดล AI ที่มีศักยภาพมาก และการเปิดตัวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสามารถในการประมวลผลของ AI ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานว่า xAI กำลังเจรจากับนักลงทุนเพื่อระดมทุนรอบใหม่สูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 75 พันล้านดอลลาร์ ในรอบการระดมทุนครั้งก่อน xAI ได้ระดมทุนไปถึง 6 พันล้านดอลลาร์ที่มูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ https://wccftech.com/xai-claims-grok-3-is-the-worlds-smartest-ai-betting-markets-agree-but-experts-remain-split/
    WCCFTECH.COM
    xAI Claims Grok 3 Is The "World's Smartest AI," Betting Markets Agree, But Experts Remain Split
    Many industry veterans are questioning why xAI did not release Grok 3's scores on FrontierMath, Arc-AGI, or HLE benchmarks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในเดือนตุลาคม 2024 Vultr ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD โดยซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิก AI รุ่น Instinct MI300X เพื่อขยายความสามารถในการประมวลผลกราฟิกในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา แต่ตอนนี้ Vultr ได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยนำหน่วยประมวลผลกราฟิก AMD Instinct MI325X มาใช้ ซึ่งมีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 256GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 6TB/s พร้อมความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 1.3 PFLOPS สำหรับ FP16 และ 2.6 PFLOPS สำหรับ FP8

    หน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับมาตรฐานใหม่ในวงการ AI โดยเฉพาะการฝึกและทดสอบแบบจำลอง AI ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของ Vultr สามารถใช้งาน GPU ที่ทันสมัยที่สุดเพื่อพัฒนาและขยายการใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นาย J.J. Kardwell ซีอีโอของ Vultr กล่าวว่า การนำ AMD Instinct MI325X มาใช้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างนวัตกรรม AI และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน GPU ในระบบคลาวด์ทั่วโลก

    นอกจากนี้ หน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นนี้ยังถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลของ Vultr ในชิคาโก ซึ่งมีลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วโลกมากกว่า 185 ประเทศ การเพิ่มหน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นใหม่จะช่วยให้ Vultr สามารถมอบบริการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแก่ลูกค้าและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดคลาวด์

    https://www.techradar.com/pro/yay-you-can-now-use-amds-fastest-ever-gpu-amds-instinct-mi325x-ai-accelerator-has-256gb-memory-and-can-run-crysis-sort-of
    ในเดือนตุลาคม 2024 Vultr ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD โดยซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิก AI รุ่น Instinct MI300X เพื่อขยายความสามารถในการประมวลผลกราฟิกในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา แต่ตอนนี้ Vultr ได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยนำหน่วยประมวลผลกราฟิก AMD Instinct MI325X มาใช้ ซึ่งมีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 256GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 6TB/s พร้อมความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 1.3 PFLOPS สำหรับ FP16 และ 2.6 PFLOPS สำหรับ FP8 หน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับมาตรฐานใหม่ในวงการ AI โดยเฉพาะการฝึกและทดสอบแบบจำลอง AI ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของ Vultr สามารถใช้งาน GPU ที่ทันสมัยที่สุดเพื่อพัฒนาและขยายการใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นาย J.J. Kardwell ซีอีโอของ Vultr กล่าวว่า การนำ AMD Instinct MI325X มาใช้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างนวัตกรรม AI และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน GPU ในระบบคลาวด์ทั่วโลก นอกจากนี้ หน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นนี้ยังถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลของ Vultr ในชิคาโก ซึ่งมีลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วโลกมากกว่า 185 ประเทศ การเพิ่มหน่วยประมวลผลกราฟิกรุ่นใหม่จะช่วยให้ Vultr สามารถมอบบริการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแก่ลูกค้าและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดคลาวด์ https://www.techradar.com/pro/yay-you-can-now-use-amds-fastest-ever-gpu-amds-instinct-mi325x-ai-accelerator-has-256gb-memory-and-can-run-crysis-sort-of
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ
    ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ
    สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของทำเนียบขาว
    ร่วมกันเปิดเผยรายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐและรัสเซีย:

    - การเจรจากับรัสเซียในซาอุดีอาระเบียถือเป็น "ก้าวสำคัญที่พัฒนาไปข้างหน้า"

    - ทั้งสองประเทศตกลงที่จะวางรากฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคตในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และโอกาสการลงทุนเมื่อความขัดแย้งในยูเครนสิ้นสุดลง

    - สหรัฐและรัสเซีย ให้คำมั่นที่จะมีส่วนร่วมเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการดำเนินไปอย่างทันท่วงทีและสร้างสรรค์

    - การทำงานเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครนจะต้องใช้ "การทูตที่ซับซ้อนและเข้มข้น" และต้องใช้ระยะเวลา "ซึ่งต้องอาศัยการประนีประนอมจากทุกฝ่าย" (พุ่งเป้าไปที่รัสเซีย) และเงื่อนไขจะต้อง "ยอมรับได้"

    - ยังไม่ได้มีการกำหนดวัน ของการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้งสอง แต่เชื่อว่าประธานาธิบดีทั้งสองได้สนทนากันถึงการพบกันแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้พบกันในที่สุด - ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าว

    - อนาคตของการเจรจาขึ้นอยู่กับความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายที่จะ "ทำตามสัญญา" ซึ่งเป็นการทดสอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    - ทรัมป์ตั้งเป้าหมายที่จะหาทางแก้ไขอย่างยุติธรรม เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับมาสร้างความขัดแย้งในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า

    - การฟื้นฟูทางการทูตระหว่างกันอาจทำได้ในเร็วๆนี้ หลังจากไม่ได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างมีนัยสำคัญมาเกือบสามปีแล้ว

    - มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นผลจากความขัดแย้ง และอาจยกเลิกได้เมื่อความขัดแย้งสิ้นสุดลง
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของทำเนียบขาว ร่วมกันเปิดเผยรายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐและรัสเซีย: - การเจรจากับรัสเซียในซาอุดีอาระเบียถือเป็น "ก้าวสำคัญที่พัฒนาไปข้างหน้า" - ทั้งสองประเทศตกลงที่จะวางรากฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคตในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และโอกาสการลงทุนเมื่อความขัดแย้งในยูเครนสิ้นสุดลง - สหรัฐและรัสเซีย ให้คำมั่นที่จะมีส่วนร่วมเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการดำเนินไปอย่างทันท่วงทีและสร้างสรรค์ - การทำงานเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครนจะต้องใช้ "การทูตที่ซับซ้อนและเข้มข้น" และต้องใช้ระยะเวลา "ซึ่งต้องอาศัยการประนีประนอมจากทุกฝ่าย" (พุ่งเป้าไปที่รัสเซีย) และเงื่อนไขจะต้อง "ยอมรับได้" - ยังไม่ได้มีการกำหนดวัน ของการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้งสอง แต่เชื่อว่าประธานาธิบดีทั้งสองได้สนทนากันถึงการพบกันแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้พบกันในที่สุด - ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าว - อนาคตของการเจรจาขึ้นอยู่กับความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายที่จะ "ทำตามสัญญา" ซึ่งเป็นการทดสอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า - ทรัมป์ตั้งเป้าหมายที่จะหาทางแก้ไขอย่างยุติธรรม เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับมาสร้างความขัดแย้งในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า - การฟื้นฟูทางการทูตระหว่างกันอาจทำได้ในเร็วๆนี้ หลังจากไม่ได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างมีนัยสำคัญมาเกือบสามปีแล้ว - มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นผลจากความขัดแย้ง และอาจยกเลิกได้เมื่อความขัดแย้งสิ้นสุดลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung Galaxy S25 Ultra ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบจอแสดงผลของ DXOMark โดยเฉพาะในด้านความสามารถในการอ่านแสงสว่างกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม และการแสดงผลวิดีโอที่ดีเยี่ยม โทรศัพท์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี HOP 3.0 ที่เป็นเวอร์ชั่นของ LTPO ของ Samsung ซึ่งนำมาซึ่งการปรับปรุงหลายอย่าง

    Samsung Galaxy S25 Ultra มีความสามารถในการลดแสงสะท้อนที่ดี ทำให้สามารถอ่านจอแสดงผลได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง มีความสว่างสูงสุดถึง 2,600 nits ซึ่งเป็นระดับเดียวกับรุ่น S24 Ultra นอกจากนี้ การแสดงผลวิดีโอของ Galaxy S25 Ultra ยังมีการตอบสนองที่ดีขึ้น ไม่มีการตกเฟรม (frame drops) ในระหว่างการเล่นวิดีโอ

    อย่างไรก็ตาม ยังมีบางจุดที่ Samsung สามารถปรับปรุงได้ เช่น การตอบสนองของการสัมผัสจอแสดงผลที่ยังมีการสัมผัสไม่ตั้งใจบางครั้ง ซึ่งอาจจะได้รับการปรับปรุงในรุ่น Galaxy S26 Ultra ที่จะออกมาในอนาคต

    https://wccftech.com/galaxy-s25-ultra-gets-first-position-in-dxomark-display-tests/
    Samsung Galaxy S25 Ultra ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบจอแสดงผลของ DXOMark โดยเฉพาะในด้านความสามารถในการอ่านแสงสว่างกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม และการแสดงผลวิดีโอที่ดีเยี่ยม โทรศัพท์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี HOP 3.0 ที่เป็นเวอร์ชั่นของ LTPO ของ Samsung ซึ่งนำมาซึ่งการปรับปรุงหลายอย่าง Samsung Galaxy S25 Ultra มีความสามารถในการลดแสงสะท้อนที่ดี ทำให้สามารถอ่านจอแสดงผลได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง มีความสว่างสูงสุดถึง 2,600 nits ซึ่งเป็นระดับเดียวกับรุ่น S24 Ultra นอกจากนี้ การแสดงผลวิดีโอของ Galaxy S25 Ultra ยังมีการตอบสนองที่ดีขึ้น ไม่มีการตกเฟรม (frame drops) ในระหว่างการเล่นวิดีโอ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางจุดที่ Samsung สามารถปรับปรุงได้ เช่น การตอบสนองของการสัมผัสจอแสดงผลที่ยังมีการสัมผัสไม่ตั้งใจบางครั้ง ซึ่งอาจจะได้รับการปรับปรุงในรุ่น Galaxy S26 Ultra ที่จะออกมาในอนาคต https://wccftech.com/galaxy-s25-ultra-gets-first-position-in-dxomark-display-tests/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการอัปเดตแพตช์ล่าสุดของ Windows 11 รุ่น 24H2 ซึ่งนำมาซึ่งปัญหามากมายสำหรับผู้ใช้ โดยเฉพาะในเรื่องของโปรแกรม File Explorer ที่ไม่สามารถเปิดโฟลเดอร์บางโฟลเดอร์ได้ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ได้ตามปกติ

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาการติดตั้งแพตช์ที่ไม่สำเร็จ เช่น การติดตั้งที่หยุดที่เปอร์เซ็นต์หนึ่งและไม่เดินหน้าต่อ รวมถึงบางกรณีที่การติดตั้งเสร็จสิ้นแต่ใช้เวลานานมาก และในบางกรณียังมีการรายงานว่าเกิดหน้าจอสีฟ้า (Blue Screens of Death) หลังการติดตั้งแพตช์ ซึ่งทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ไม่สามารถใช้งานได้

    ข่าวนี้มีความน่าสนใจเพิ่มเติมในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันของ Microsoft ในการแก้ไขปัญหาและการตอบสนองต่อข้อบกพร่องของระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และชื่อเสียงของบริษัท นอกจากนี้ การที่ File Explorer ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการใช้งาน Windows เกิดปัญหาขึ้น ยังส่งผลให้ผู้ใช้บางคนต้องการหาวิธีแก้ไขเฉพาะหน้าด้วยการปิดการใช้งาน Windows Sandbox ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ Windows 11 Pro แต่ไม่สามารถใช้งานได้สำหรับผู้ใช้ Windows 11 Home

    ขณะนี้ ผู้ใช้บางคนเลือกที่จะเลื่อนการติดตั้งแพตช์นี้ออกไปชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องรับความเสี่ยงในการไม่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยจากแพตช์ดังกล่าว

    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาซอฟต์แวร์และความสำคัญของการทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต โดยหวังว่า Microsoft จะสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการได้อย่างราบรื่น

    https://www.techradar.com/computing/windows/new-patch-for-windows-11-24h2-reportedly-plays-havoc-with-file-explorer-and-some-folks-are-claiming-its-broken-their-pc
    ข่าวนี้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการอัปเดตแพตช์ล่าสุดของ Windows 11 รุ่น 24H2 ซึ่งนำมาซึ่งปัญหามากมายสำหรับผู้ใช้ โดยเฉพาะในเรื่องของโปรแกรม File Explorer ที่ไม่สามารถเปิดโฟลเดอร์บางโฟลเดอร์ได้ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาการติดตั้งแพตช์ที่ไม่สำเร็จ เช่น การติดตั้งที่หยุดที่เปอร์เซ็นต์หนึ่งและไม่เดินหน้าต่อ รวมถึงบางกรณีที่การติดตั้งเสร็จสิ้นแต่ใช้เวลานานมาก และในบางกรณียังมีการรายงานว่าเกิดหน้าจอสีฟ้า (Blue Screens of Death) หลังการติดตั้งแพตช์ ซึ่งทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ไม่สามารถใช้งานได้ ข่าวนี้มีความน่าสนใจเพิ่มเติมในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันของ Microsoft ในการแก้ไขปัญหาและการตอบสนองต่อข้อบกพร่องของระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และชื่อเสียงของบริษัท นอกจากนี้ การที่ File Explorer ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการใช้งาน Windows เกิดปัญหาขึ้น ยังส่งผลให้ผู้ใช้บางคนต้องการหาวิธีแก้ไขเฉพาะหน้าด้วยการปิดการใช้งาน Windows Sandbox ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ Windows 11 Pro แต่ไม่สามารถใช้งานได้สำหรับผู้ใช้ Windows 11 Home ขณะนี้ ผู้ใช้บางคนเลือกที่จะเลื่อนการติดตั้งแพตช์นี้ออกไปชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องรับความเสี่ยงในการไม่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยจากแพตช์ดังกล่าว เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาซอฟต์แวร์และความสำคัญของการทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต โดยหวังว่า Microsoft จะสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการได้อย่างราบรื่น https://www.techradar.com/computing/windows/new-patch-for-windows-11-24h2-reportedly-plays-havoc-with-file-explorer-and-some-folks-are-claiming-its-broken-their-pc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Shanghai ของจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียม (neural network) เพื่อเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านสายใยแก้วนำแสง (fiber optics) ได้ถึง 10,000 เท่า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือสามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 125 เทราไบต์ต่อวินาที ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในวงการเน็ตเวิร์ค

    วิธีการนี้ใช้เส้นใยแก้วนำแสงแบบ multi-mode ซึ่งก่อนหน้านี้มักประสบปัญหาการรบกวนและความแออัดในการส่งข้อมูล แต่ด้วยการเพิ่มโครงข่ายประสาทเทียมขนาดเล็กเข้าไปในเส้นใยแก้วนำแสง ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วได้โดยไม่ทำให้ข้อมูลผิดพลาด เทคนิคนี้ได้รับการทดสอบระหว่างมหาวิทยาลัย Shanghai และโรงพยาบาลบนเกาะไหหนาน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1,270 ไมล์ โดยการทดสอบสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล แต่ยังสามารถนำไปใช้ในวงการแพทย์ เช่น การสแกนและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำสูง หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ใยแก้วนำแสงที่สามารถนำเข้าสู่ร่างกายเพื่อตรวจหาความผิดปกติ

    หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง เราอาจจะเห็นความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และทำให้การดาวน์โหลดหรือการสตรีมสื่อเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น แต่ความไวของแสงจะยังไม่สามารถข้ามเวลาและระยะทางไปได้ ดังนั้นการส่งข้อมูลระยะไกลอาจจะยังคงมีความล่าช้าอยู่บ้าง

    https://www.tomshardware.com/networking/chinese-scientists-claim-neural-network-tech-unlocks-10-000x-speedup-in-optical-fiber-bandwidth
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Shanghai ของจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียม (neural network) เพื่อเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านสายใยแก้วนำแสง (fiber optics) ได้ถึง 10,000 เท่า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือสามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 125 เทราไบต์ต่อวินาที ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในวงการเน็ตเวิร์ค วิธีการนี้ใช้เส้นใยแก้วนำแสงแบบ multi-mode ซึ่งก่อนหน้านี้มักประสบปัญหาการรบกวนและความแออัดในการส่งข้อมูล แต่ด้วยการเพิ่มโครงข่ายประสาทเทียมขนาดเล็กเข้าไปในเส้นใยแก้วนำแสง ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วได้โดยไม่ทำให้ข้อมูลผิดพลาด เทคนิคนี้ได้รับการทดสอบระหว่างมหาวิทยาลัย Shanghai และโรงพยาบาลบนเกาะไหหนาน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1,270 ไมล์ โดยการทดสอบสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล แต่ยังสามารถนำไปใช้ในวงการแพทย์ เช่น การสแกนและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำสูง หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ใยแก้วนำแสงที่สามารถนำเข้าสู่ร่างกายเพื่อตรวจหาความผิดปกติ หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง เราอาจจะเห็นความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และทำให้การดาวน์โหลดหรือการสตรีมสื่อเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น แต่ความไวของแสงจะยังไม่สามารถข้ามเวลาและระยะทางไปได้ ดังนั้นการส่งข้อมูลระยะไกลอาจจะยังคงมีความล่าช้าอยู่บ้าง https://www.tomshardware.com/networking/chinese-scientists-claim-neural-network-tech-unlocks-10-000x-speedup-in-optical-fiber-bandwidth
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง ซึ่งจะถูกใช้ใน iPhone SE 4 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าการพัฒนาโมเด็มนี้จะเป็นการก้าวหน้าที่น่าสนใจสำหรับ Apple แต่ก็มีรายงานว่าประสิทธิภาพของโมเด็มนี้ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับโมเด็ม Snapdragon X75 ของ Qualcomm ที่จะถูกใช้ใน iPhone 16 ได้

    Apple พยายามเลิกการพึ่งพา Qualcomm และได้ทำงานพัฒนาโมเด็มของตัวเองมาเกือบ 7 ปี iPhone SE 4 จะเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้โมเด็มนี้ แต่จากรายงานล่าสุดโมเด็มนี้ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่า โดยมีปัญหาในเรื่องของความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลด ขาดการรองรับเทคโนโลยี mmWave 5G และมีฟีเจอร์การรวมตัวของเครือข่ายที่น้อยกว่า

    สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone SE 4 ยังคงมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าจับตา เช่น หน้าจอ OLED ชิป A18 และฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่อัพเกรดใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้โมเด็มของตัวเองแทนการใช้ของ Qualcomm อาจเป็นการทดสอบสำหรับ Apple เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีในอนาคต

    นอกจากนี้ มีความคาดหวังว่า iPhone SE 4 จะเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาที่ถูกลงและการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีการใช้ปุ่ม Action ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานได้หลากหลาย

    https://wccftech.com/apples-custom-5g-modem-chip-inside-the-iphone-se-4-will-deliver-worse-performance-than-qualcomms-snapdragon-x75-chip-in-the-iphone-16-lineup/
    Apple กำลังพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง ซึ่งจะถูกใช้ใน iPhone SE 4 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าการพัฒนาโมเด็มนี้จะเป็นการก้าวหน้าที่น่าสนใจสำหรับ Apple แต่ก็มีรายงานว่าประสิทธิภาพของโมเด็มนี้ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับโมเด็ม Snapdragon X75 ของ Qualcomm ที่จะถูกใช้ใน iPhone 16 ได้ Apple พยายามเลิกการพึ่งพา Qualcomm และได้ทำงานพัฒนาโมเด็มของตัวเองมาเกือบ 7 ปี iPhone SE 4 จะเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้โมเด็มนี้ แต่จากรายงานล่าสุดโมเด็มนี้ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่า โดยมีปัญหาในเรื่องของความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลด ขาดการรองรับเทคโนโลยี mmWave 5G และมีฟีเจอร์การรวมตัวของเครือข่ายที่น้อยกว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone SE 4 ยังคงมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าจับตา เช่น หน้าจอ OLED ชิป A18 และฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่อัพเกรดใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้โมเด็มของตัวเองแทนการใช้ของ Qualcomm อาจเป็นการทดสอบสำหรับ Apple เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีในอนาคต นอกจากนี้ มีความคาดหวังว่า iPhone SE 4 จะเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาที่ถูกลงและการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีการใช้ปุ่ม Action ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานได้หลากหลาย https://wccftech.com/apples-custom-5g-modem-chip-inside-the-iphone-se-4-will-deliver-worse-performance-than-qualcomms-snapdragon-x75-chip-in-the-iphone-16-lineup/
    WCCFTECH.COM
    Apple's Custom 5G Modem Chip Inside The iPhone SE 4 Will Deliver Worse Performance Than Qualcomm's Snapdragon X75 Chip In The iPhone 16 Lineup
    Apple's initial custom 5G modem in the iPhone SE 4 will have worse performance compared to Qualcomm's Snapdragon X75 modems.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ที่มีคอร์ประสิทธิภาพ 6 คอร์และคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซีพียูรุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake ซึ่งมีคอร์ประสิทธิภาพ Lion Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Skymont โดยหน่วยความจำแคชรวมทั้งหมด 46MB ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล

    เมื่อทดสอบซีพียู Core Ultra 5 230F ในขีดจำกัดพลังงาน 65W ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้สามารถแข่งขันได้กับรุ่น Core i5-14600K ในการประมวลผลทั่วไป และในการเล่นเกมก็สามารถเทียบเท่ากับรุ่น Core Ultra 5 245K ที่ไม่ได้ถูกล็อกพลังงาน แม้ว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลดล็อกพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพเพียง 3.2% แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงานแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง

    นอกจากนี้ ซีพียูรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการพลังงานที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดพลังงานและยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/65w-core-ultra-5-230f-matches-125w-core-ultra-5-245k-in-gaming
    Intel ได้เปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ที่มีคอร์ประสิทธิภาพ 6 คอร์และคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซีพียูรุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake ซึ่งมีคอร์ประสิทธิภาพ Lion Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Skymont โดยหน่วยความจำแคชรวมทั้งหมด 46MB ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล เมื่อทดสอบซีพียู Core Ultra 5 230F ในขีดจำกัดพลังงาน 65W ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้สามารถแข่งขันได้กับรุ่น Core i5-14600K ในการประมวลผลทั่วไป และในการเล่นเกมก็สามารถเทียบเท่ากับรุ่น Core Ultra 5 245K ที่ไม่ได้ถูกล็อกพลังงาน แม้ว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลดล็อกพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพเพียง 3.2% แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงานแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ ซีพียูรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการพลังงานที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดพลังงานและยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/65w-core-ultra-5-230f-matches-125w-core-ultra-5-245k-in-gaming
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    65W Core Ultra 5 230F matches 125W Core Ultra 5 245K in gaming
    Sees a small 3.2% increase in performance with unlocked power limits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts