• คนจนๆ ขายได้ได้ราคาดีก็ดีใจพอ หรือถูกหวย 3-6 ล้านก็ดีว่าตัวเองรวยแล้วพอใจแล้วในชาตินี้
    มันต่างจากเศรษฐี มหาเศรษฐีที่มีเงิน พันล้าน หมื่อล้าน แสนล้านมันก็ยังว่ามีนไม่รวยต้องเอาอีก หาอีกโกงก็เอา..
    คนจนๆ ขายได้ได้ราคาดีก็ดีใจพอ หรือถูกหวย 3-6 ล้านก็ดีว่าตัวเองรวยแล้วพอใจแล้วในชาตินี้ มันต่างจากเศรษฐี มหาเศรษฐีที่มีเงิน พันล้าน หมื่อล้าน แสนล้านมันก็ยังว่ามีนไม่รวยต้องเอาอีก หาอีกโกงก็เอา..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว

  • น่าจะฝีมือเดอะแก๊งจะทำลายชาติไทยจากภายในนี้ล่ะ,เจ้าของกิจการนักลงทุนต่างชาติเอยนักลงทุนในไทยเองเอยนี้ล่ะ นำเข้าคนต่างด้าวต่างชาตินี้มามากเข้ามามาก มองออกง่ายๆเพื่องานนีัที่เห็นในปัจจุบันนี้ล่ะทำลายชาติให้อ่อนแอจากภายในร่วมกันของะวกเจ้าสัวต่างๆนี้ล่ะ,ออกกฎหมายก็นักการเมืองบวกข้าราชการกระทรวงทบวงกรมนั้นล่ะร่วมกันทำลายชาติขายชาติให้สิทธิคนต่างด้าวเท่าคนไทย,ฝ่ายค้านหรือเดอะแก๊งชูสามนิ้วคือของแท้ มันอยากให้สิทธิคนต่างด้าวเท่าคนไทยจนตัวสั่น อีลิทdeep stateสนับสนุนเต็มที่ซึ่งจริงๆพวกนี้ต้องถูกไล่ล่าและเก็บกวาดของจริงเป็นภัยคุกคามภายในชัดเจนด้วย.,บริษัทไหนนำเข้าแรงงานต่างด้าวต้องรับผิดชอบพวกนี้ทั้งหมด,ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับสิทธิคนไทยทั้งหมด,ไม่พอใจก็ย้ายฐานโรงงานตนไปประเทศต่างด้าวนั้นทันที,ไปสร้างโรงงานลงทุนที่ประเทศมันไป,นี้คือภัยคุกคามที่ปะปนมาในรูปเจ้าสัวเป็นนายหน้าทำลายประเทศไทยเป็นนอมินีตัวแทนรับหน้างานมาทำลายชาติไทยอีกบริบทหนึ่งและทำกันมาอย่างเงียบๆยาวนานนั้นเอง.

    ..
    https://youtube.com/shorts/GtJzjPlKR9k?si=qp6IT-e-nNK_m1Nv
    น่าจะฝีมือเดอะแก๊งจะทำลายชาติไทยจากภายในนี้ล่ะ,เจ้าของกิจการนักลงทุนต่างชาติเอยนักลงทุนในไทยเองเอยนี้ล่ะ นำเข้าคนต่างด้าวต่างชาตินี้มามากเข้ามามาก มองออกง่ายๆเพื่องานนีัที่เห็นในปัจจุบันนี้ล่ะทำลายชาติให้อ่อนแอจากภายในร่วมกันของะวกเจ้าสัวต่างๆนี้ล่ะ,ออกกฎหมายก็นักการเมืองบวกข้าราชการกระทรวงทบวงกรมนั้นล่ะร่วมกันทำลายชาติขายชาติให้สิทธิคนต่างด้าวเท่าคนไทย,ฝ่ายค้านหรือเดอะแก๊งชูสามนิ้วคือของแท้ มันอยากให้สิทธิคนต่างด้าวเท่าคนไทยจนตัวสั่น อีลิทdeep stateสนับสนุนเต็มที่ซึ่งจริงๆพวกนี้ต้องถูกไล่ล่าและเก็บกวาดของจริงเป็นภัยคุกคามภายในชัดเจนด้วย.,บริษัทไหนนำเข้าแรงงานต่างด้าวต้องรับผิดชอบพวกนี้ทั้งหมด,ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับสิทธิคนไทยทั้งหมด,ไม่พอใจก็ย้ายฐานโรงงานตนไปประเทศต่างด้าวนั้นทันที,ไปสร้างโรงงานลงทุนที่ประเทศมันไป,นี้คือภัยคุกคามที่ปะปนมาในรูปเจ้าสัวเป็นนายหน้าทำลายประเทศไทยเป็นนอมินีตัวแทนรับหน้างานมาทำลายชาติไทยอีกบริบทหนึ่งและทำกันมาอย่างเงียบๆยาวนานนั้นเอง. .. https://youtube.com/shorts/GtJzjPlKR9k?si=qp6IT-e-nNK_m1Nv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ พรรคร่วมอื่นต่อรองได้เก้าอี้เพิ่ม มีรวมไทยสร้างชาตินี่แหละ ทำได้แค่ต่อรองเกาะเก้าอี้เดิม อยู่ต่อไปก็มีแต่ทรงกับทรุด
    #7ดอกจิก
    #รวมไทยสร้างชาติ
    #พีระพันธุ์
    ♣ พรรคร่วมอื่นต่อรองได้เก้าอี้เพิ่ม มีรวมไทยสร้างชาตินี่แหละ ทำได้แค่ต่อรองเกาะเก้าอี้เดิม อยู่ต่อไปก็มีแต่ทรงกับทรุด #7ดอกจิก #รวมไทยสร้างชาติ #พีระพันธุ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในชาตินี้มาลำบาก มาทุกข์ยากฯ ก็มาจากผลกรรมในหนหลังที่สร้างมา..อย่าว่าแต่ทุกข์ในชาติเลยชาติหน้าผลกรรมยังไม่หมดก็ตามไปเอาต่ออีก
    ในชาตินี้มาลำบาก มาทุกข์ยากฯ ก็มาจากผลกรรมในหนหลังที่สร้างมา..อย่าว่าแต่ทุกข์ในชาติเลยชาติหน้าผลกรรมยังไม่หมดก็ตามไปเอาต่ออีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง

    บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต
    แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
    แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล

    1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ
    เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย
    ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้

    2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง
    ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี
    ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต
    เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้”

    3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต
    บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย
    แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้
    บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง”

    4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง
    เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ”
    ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต
    ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน

    5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม
    คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้”
    แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน”
    ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน

    6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก”
    คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า
    สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์”
    ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด
    บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว

    7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง
    ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก
    แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต
    ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ

    8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม
    ยังไม่ได้รัก
    ยังไม่ได้ขอโทษ
    ยังไม่ได้ให้อภัย
    ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง
    เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป

    9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย
    เงินแค่เครื่องมือ
    แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต
    ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า…
    "เราตื่นมาเพื่ออะไร"

    ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง
    อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ
    ลองหยุดเพื่อทบทวน
    และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป

    #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #บทเรียนจากความตาย
    #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก
    #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล 1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้ 2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้” 3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้ บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง” 4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ” ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน 5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้” แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน” ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน 6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก” คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์” ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว 7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ 8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม ยังไม่ได้รัก ยังไม่ได้ขอโทษ ยังไม่ได้ให้อภัย ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป 9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย เงินแค่เครื่องมือ แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า… "เราตื่นมาเพื่ออะไร" 🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ ลองหยุดเพื่อทบทวน และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้ #ธรรมะเข้าใจง่าย #บทเรียนจากความตาย #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้

    พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น

    รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา

    เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว

    ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป

    สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม

    เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร

    พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ

    ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง

    เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า

    พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย

    การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย

    ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา

    ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป

    พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี”

    https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้ พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี” https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า,
    ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า.
    ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น.
    ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด.

    ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า, ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า. ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น. ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด. ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาถาเบิกบุญ คืออะไร
    ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด

    คาถาเบิกบุญ สวดยังไง
    ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้

    วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ

    อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ

    อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา

    อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ

    อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ

    ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    คาถาเบิกบุญ คืออะไร ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด คาถาเบิกบุญ สวดยังไง ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้ วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้ารู้ตัวว่าเจอ "คู่เวร"...อย่ากลับมาเพื่อ “ต่อศึก”

    บางคนในชีวิต
    ไม่ต้องสังหรณ์ก็รู้ว่า
    เรามีเวรต่อกันมาแต่ชาติไหนไม่รู้
    แค่สบตา ก็รู้สึกเหมือนใจถูกดูดเข้าสู่หลุมดำ
    ไม่มีเหตุผลให้รัก
    ไม่มีเหตุผลให้เกลียด
    แต่มีพลังบางอย่าง
    ที่ “หนีไม่ออก และต้านไม่ไหว”

    ถ้าหลีกไม่พ้น...
    ก็ให้รู้ว่ามีโอกาส “ปิดบัญชีเวร” กันเสียที

    จงอย่าใช้โอกาสครั้งนี้
    เพื่อเปิดศึกใหม่ในรูปแบบเก่า
    อย่าใช้ถ้อยคำเก่า ๆ ในร่างใหม่ ๆ
    อย่าผูกโซ่ใหม่ด้วยน้ำเสียงอาฆาตเดิม ๆ

    ให้ยอมรับว่าชาตินี้...
    มาเจอกันเพื่อฝึกให้อภัย
    มาเจอกันเพื่อรู้จักวาง

    มาเจอกัน...เพื่อจบ ไม่ใช่เพื่อจอง

    เวรที่ยุติได้ด้วยเมตตา
    จะกลายเป็นบุญกุศลที่ใหญ่หลวง
    เพราะหมายถึงชัยชนะ
    ไม่ใช่เหนืออีกฝ่าย
    แต่เหนือ “กิเลสเก่าที่ครองใจเราทั้งคู่” มาแสนนาน

    อย่าหวังให้เขาเปลี่ยน
    แต่จงตั้งใจว่า...
    เรานี่แหละ จะไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นคนเดิมที่สร้างเวรอีกแล้ว!
    ถ้ารู้ตัวว่าเจอ "คู่เวร"...อย่ากลับมาเพื่อ “ต่อศึก” บางคนในชีวิต ไม่ต้องสังหรณ์ก็รู้ว่า เรามีเวรต่อกันมาแต่ชาติไหนไม่รู้ แค่สบตา ก็รู้สึกเหมือนใจถูกดูดเข้าสู่หลุมดำ ไม่มีเหตุผลให้รัก ไม่มีเหตุผลให้เกลียด แต่มีพลังบางอย่าง ที่ “หนีไม่ออก และต้านไม่ไหว” ถ้าหลีกไม่พ้น... ก็ให้รู้ว่ามีโอกาส “ปิดบัญชีเวร” กันเสียที จงอย่าใช้โอกาสครั้งนี้ เพื่อเปิดศึกใหม่ในรูปแบบเก่า อย่าใช้ถ้อยคำเก่า ๆ ในร่างใหม่ ๆ อย่าผูกโซ่ใหม่ด้วยน้ำเสียงอาฆาตเดิม ๆ ให้ยอมรับว่าชาตินี้... มาเจอกันเพื่อฝึกให้อภัย มาเจอกันเพื่อรู้จักวาง มาเจอกัน...เพื่อจบ ไม่ใช่เพื่อจอง เวรที่ยุติได้ด้วยเมตตา จะกลายเป็นบุญกุศลที่ใหญ่หลวง เพราะหมายถึงชัยชนะ ไม่ใช่เหนืออีกฝ่าย แต่เหนือ “กิเลสเก่าที่ครองใจเราทั้งคู่” มาแสนนาน อย่าหวังให้เขาเปลี่ยน แต่จงตั้งใจว่า... เรานี่แหละ จะไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นคนเดิมที่สร้างเวรอีกแล้ว!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงโตภพชาตินี้18ปี ขอให้ไปแดนใหม่ที่เหมาะสมพบแสงธรรม ถึงธรรมนะ
    สิงโตภพชาตินี้18ปี ขอให้ไปแดนใหม่ที่เหมาะสมพบแสงธรรม ถึงธรรมนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้อมกราบสักการะบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง..
    มีประสบการณ์เรื่องจริงของตนเองกับความศักดิ์สิทธิ์ความศรัทธาหลวงพ่อวัดไร่ขิง..

    สมัยวัยรุ่น บ้านอยู่หน้าประตู 4 รร.นายร้อยตำรวจสามพราน ช่วงงานวัดไร่ขิงทุกๆปี จะเป็นช่วงที่พวกเราต้องไปเที่ยวโชว์พลังวัยรุ่นสามพรานเจ้าถิ่นทุกคืน เงินทองที่พ่อแม่ให้มาก็มารวมกันลงขวดหมด ก็เข้ากราบไหว้บูชาหลวงพ่อด้วยมือเปล่าในโบสถ์ ไม่ได้บูชาดอกไม้และพระเครื่องใดเลย คงได้แต่นำผ้าเหลืองห่มหลวงพ่อมาผูกข้อมือ ช่วงปี 2519 มีวันหนึ่งไปร่วมงานศพพี่สาวที่นับถือที่วัดบางช้างเหนือ พี่สาวบอกก่อนจะเสียให้มีดนตรีมาเล่นในงานด้วย งานนี้ก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กหอมเกร็ด มันมีปืนยิงในระยะประชิดเข้ามาที่ท้องข้างขวา 1 นัด เราทรุดตัวลงด้วยแรงลูกกระสุนปืนนึกว่าตายแน่แล้ว มันยังยิงนัดต่อๆมาอีกแต่ปืนมันยิงไม่ออกขัดลำกล้อง พอดีเพื่อนอี๊ด มือมีดมาช่วย ชุลมุนกัน สุดท้ายก็ถูกตำรวจจับทั้งสองฝ่าย ตำรวจเห็นว่าเราถูกยิงก็นำตัวมาส่งรพ.สามพราน หมอตรวจดูแล้วใช้คีมที่คีบผ้าก๊อตถางแยกแผลที่เป็นจุดแดงไหม้ดู ก็ไม่เห็นมีรูที่ลูกปืนยิงเข้า จึงรู้ว่ายิงไม่เข้า ตำรวจ หมอ พยาบาล เพื่อนๆ และชาวบ้าน มาขอดูว่าในตัวมีของดีอะไร ดูแล้วก็มีแต่ผ้าเหลืองผูกข้อมือของหลวงพ่อวัดไร่ขิง (นี่แหละของดี) ตำรวจก็นำตัวไปดำเนินคดี สุดท้ายพ่อเรา (ตร.เมืองกาญจน์ย้ายมาสามพราน) กับพ่อคนยิงรู้จักกัน ดคีก็เลยจบไป..
    กรรมดีที่เคยทำในอดีตชาติคงปรารถนาให้มีชีวิตอยู่เติบโตต่อไปเพื่อสะสมบุญกุศลกรรมปฏิบัติธรรมให้พบกับพระธรรมของพระพุทธองค์ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไปจนกว่าจะพบมรรคผลพระนิพพานในกาลอันควรด้วยเทอญฯ..
    น้อมกราบสักการะบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง..🙏🙏🙏 มีประสบการณ์เรื่องจริงของตนเองกับความศักดิ์สิทธิ์ความศรัทธาหลวงพ่อวัดไร่ขิง..🙏🙏🙏 สมัยวัยรุ่น บ้านอยู่หน้าประตู 4 รร.นายร้อยตำรวจสามพราน ช่วงงานวัดไร่ขิงทุกๆปี จะเป็นช่วงที่พวกเราต้องไปเที่ยวโชว์พลังวัยรุ่นสามพรานเจ้าถิ่นทุกคืน เงินทองที่พ่อแม่ให้มาก็มารวมกันลงขวดหมด ก็เข้ากราบไหว้บูชาหลวงพ่อด้วยมือเปล่าในโบสถ์ ไม่ได้บูชาดอกไม้และพระเครื่องใดเลย คงได้แต่นำผ้าเหลืองห่มหลวงพ่อมาผูกข้อมือ ช่วงปี 2519 มีวันหนึ่งไปร่วมงานศพพี่สาวที่นับถือที่วัดบางช้างเหนือ พี่สาวบอกก่อนจะเสียให้มีดนตรีมาเล่นในงานด้วย งานนี้ก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กหอมเกร็ด มันมีปืนยิงในระยะประชิดเข้ามาที่ท้องข้างขวา 1 นัด เราทรุดตัวลงด้วยแรงลูกกระสุนปืนนึกว่าตายแน่แล้ว มันยังยิงนัดต่อๆมาอีกแต่ปืนมันยิงไม่ออกขัดลำกล้อง พอดีเพื่อนอี๊ด มือมีดมาช่วย ชุลมุนกัน สุดท้ายก็ถูกตำรวจจับทั้งสองฝ่าย ตำรวจเห็นว่าเราถูกยิงก็นำตัวมาส่งรพ.สามพราน หมอตรวจดูแล้วใช้คีมที่คีบผ้าก๊อตถางแยกแผลที่เป็นจุดแดงไหม้ดู ก็ไม่เห็นมีรูที่ลูกปืนยิงเข้า จึงรู้ว่ายิงไม่เข้า ตำรวจ หมอ พยาบาล เพื่อนๆ และชาวบ้าน มาขอดูว่าในตัวมีของดีอะไร ดูแล้วก็มีแต่ผ้าเหลืองผูกข้อมือของหลวงพ่อวัดไร่ขิง (นี่แหละของดี) ตำรวจก็นำตัวไปดำเนินคดี สุดท้ายพ่อเรา (ตร.เมืองกาญจน์ย้ายมาสามพราน) กับพ่อคนยิงรู้จักกัน ดคีก็เลยจบไป.. กรรมดีที่เคยทำในอดีตชาติคงปรารถนาให้มีชีวิตอยู่เติบโตต่อไปเพื่อสะสมบุญกุศลกรรมปฏิบัติธรรมให้พบกับพระธรรมของพระพุทธองค์ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไปจนกว่าจะพบมรรคผลพระนิพพานในกาลอันควรด้วยเทอญฯ..🙏🙏🙏
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาธิ…ไม่ใช่แค่พักใจ แต่คือก้าวแรกของการหลุดพ้น

    หลายคนอยากมีสมาธิ
    แต่ไม่รู้เลยว่า “สมาธิที่ใช่”
    จะพาให้ชีวิตเปลี่ยนจากโลกที่ผูกพัน
    ไปสู่โลกที่ใจเบาสบายไร้พันธนาการ

    ---

    คนทั่วไป…มีแต่จิตฟุ้งซ่าน

    เราถูกสอนให้ใช้สมองคิด
    แต่ไม่เคยถูกสอนให้รู้ว่า “สมองที่คิดเรื่อยเปื่อย”
    ก็คือ จิตฟุ้งซ่าน รูปแบบหนึ่ง

    คนจำนวนมาก
    เข้าใจว่าการมีชีวิตคือการไขว่คว้า
    จิตจึงไม่รู้จักนิ่ง ไม่รู้จักหยุด
    วิ่งตาม “ความอยาก” โดยไม่มีวันถึงฝั่ง

    ---

    แต่ถ้าจิตรวมเป็นสมาธิเมื่อใด…โลกใหม่จะเปิดออกทันที

    สมาธิที่แท้ คือจิตที่นิ่ง เด่น ดวงเดียว
    ตั้งมั่นพอจนไม่ไหลตามความอยาก
    ไม่ฟุ้งตามความกลัว
    ไม่เหวี่ยงไปตามเรื่องเล่าในหัว

    สมาธิไม่ใช่การ “คิดให้น้อยลง”
    แต่คือการ “คิดแบบมีทิศทาง”
    คือคิดแบบเห็นโลกตามที่มันเป็น
    ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น

    ---

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมหาจัตตารีสกสูตรว่า

    สมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ
    ต้องมี สัมมาทิฏฐิ เป็นประธาน
    ไม่ใช่สมาธิแบบคิดจะใช้จิตไปทำร้ายใคร
    หรือสมาธิเพื่อขอพลังพิเศษเอาชนะคนอื่น

    ---

    สัมมาทิฏฐิ คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม

    ถ้าคุณนั่งสมาธิ แล้วใจยังเชื่อว่า

    ทำดีไม่มีผล

    ตายแล้วสูญ

    กรรมไม่มีผล

    พระพุทธเจ้าไม่มีจริง

    โลกหน้าคือเรื่องหลอกเด็ก

    สมาธิของคุณจะเหมือนปลูกต้นไม้ในดินเค็ม
    ไม่มีวันเติบโตไปถึงนิพพานได้

    ---

    แต่ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วเห็นว่า...

    โลกนี้มีผลแห่งกรรมจริง

    สิ่งที่เกิดล้วนเป็นผลของเหตุ

    กายใจนี้ไม่ใช่ของเราจริง

    ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    และแม้ความคิดในหัว…ก็แค่แวบหนึ่งของกระแสธรรมดา

    คุณจะเริ่มเข้าใจว่า “ภพ” ไม่ได้อยู่ที่ไหน
    ภพอยู่ตรงที่คุณยึดติดกับกายนี้ ใจนี้ ความคิดนี้ว่าเป็น “ตัวเรา”

    ---

    สมาธิที่แท้…จึงไม่ใช่แค่หลบความเครียด

    แต่คือการค่อยๆ

    ถอดออกจากอุปาทาน

    ปลดจากพันธนาการของความเชื่อผิด

    ปลุกตนให้ตื่นจากภวังค์ของความเป็นตัวตน

    เมื่อสมาธิมาพร้อมสัมมาทิฏฐิ
    แม้กระทั่งความคิดที่ผ่านสมอง
    ก็จะกลายเป็นแค่ “ภาพมายา” ที่มาแล้วไป
    ไม่ใช่คำสั่งสุดท้ายของชีวิตอีกต่อไป

    ---

    ชาตินี้…กายใจนี้ อาจกลายเป็นกุญแจปลดล็อกทุกภพชาติ

    สมาธิแบบนี้
    คือสมาธิที่พระพุทธเจ้ารับรอง
    ว่าเป็นทางเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้จริง

    ไม่ใช่สมาธิที่มีไว้แค่พักใจ
    แต่คือ “ลูกไฟที่เผาผลาญกิเลส”
    พร้อมเปิดทางให้คุณเป็นอิสระจากทุกภพทุกชาติ
    สมาธิ…ไม่ใช่แค่พักใจ แต่คือก้าวแรกของการหลุดพ้น หลายคนอยากมีสมาธิ แต่ไม่รู้เลยว่า “สมาธิที่ใช่” จะพาให้ชีวิตเปลี่ยนจากโลกที่ผูกพัน ไปสู่โลกที่ใจเบาสบายไร้พันธนาการ --- คนทั่วไป…มีแต่จิตฟุ้งซ่าน เราถูกสอนให้ใช้สมองคิด แต่ไม่เคยถูกสอนให้รู้ว่า “สมองที่คิดเรื่อยเปื่อย” ก็คือ จิตฟุ้งซ่าน รูปแบบหนึ่ง คนจำนวนมาก เข้าใจว่าการมีชีวิตคือการไขว่คว้า จิตจึงไม่รู้จักนิ่ง ไม่รู้จักหยุด วิ่งตาม “ความอยาก” โดยไม่มีวันถึงฝั่ง --- แต่ถ้าจิตรวมเป็นสมาธิเมื่อใด…โลกใหม่จะเปิดออกทันที สมาธิที่แท้ คือจิตที่นิ่ง เด่น ดวงเดียว ตั้งมั่นพอจนไม่ไหลตามความอยาก ไม่ฟุ้งตามความกลัว ไม่เหวี่ยงไปตามเรื่องเล่าในหัว สมาธิไม่ใช่การ “คิดให้น้อยลง” แต่คือการ “คิดแบบมีทิศทาง” คือคิดแบบเห็นโลกตามที่มันเป็น ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น --- พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมหาจัตตารีสกสูตรว่า สมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ ต้องมี สัมมาทิฏฐิ เป็นประธาน ไม่ใช่สมาธิแบบคิดจะใช้จิตไปทำร้ายใคร หรือสมาธิเพื่อขอพลังพิเศษเอาชนะคนอื่น --- สัมมาทิฏฐิ คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม ถ้าคุณนั่งสมาธิ แล้วใจยังเชื่อว่า ทำดีไม่มีผล ตายแล้วสูญ กรรมไม่มีผล พระพุทธเจ้าไม่มีจริง โลกหน้าคือเรื่องหลอกเด็ก สมาธิของคุณจะเหมือนปลูกต้นไม้ในดินเค็ม ไม่มีวันเติบโตไปถึงนิพพานได้ --- แต่ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วเห็นว่า... โลกนี้มีผลแห่งกรรมจริง สิ่งที่เกิดล้วนเป็นผลของเหตุ กายใจนี้ไม่ใช่ของเราจริง ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และแม้ความคิดในหัว…ก็แค่แวบหนึ่งของกระแสธรรมดา คุณจะเริ่มเข้าใจว่า “ภพ” ไม่ได้อยู่ที่ไหน ภพอยู่ตรงที่คุณยึดติดกับกายนี้ ใจนี้ ความคิดนี้ว่าเป็น “ตัวเรา” --- สมาธิที่แท้…จึงไม่ใช่แค่หลบความเครียด แต่คือการค่อยๆ ถอดออกจากอุปาทาน ปลดจากพันธนาการของความเชื่อผิด ปลุกตนให้ตื่นจากภวังค์ของความเป็นตัวตน เมื่อสมาธิมาพร้อมสัมมาทิฏฐิ แม้กระทั่งความคิดที่ผ่านสมอง ก็จะกลายเป็นแค่ “ภาพมายา” ที่มาแล้วไป ไม่ใช่คำสั่งสุดท้ายของชีวิตอีกต่อไป --- ชาตินี้…กายใจนี้ อาจกลายเป็นกุญแจปลดล็อกทุกภพชาติ สมาธิแบบนี้ คือสมาธิที่พระพุทธเจ้ารับรอง ว่าเป็นทางเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้จริง ไม่ใช่สมาธิที่มีไว้แค่พักใจ แต่คือ “ลูกไฟที่เผาผลาญกิเลส” พร้อมเปิดทางให้คุณเป็นอิสระจากทุกภพทุกชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันพระก็มาเล่าเรื่องความผูกพันของคนกับสัตว์ เราก็เฝ้ามองดู ว่าเขาเลี้ยงสี่ขาได้อย่างไรตั้ง 500-1,000 ตัว มีความผูกพันมากมาย หาทรัพย์สินมาซื้อที่ดิน อาหารค่ารักษาพยาบาล หนักเข้าไปอีกหาเงินทองมาไถ่ถอนชีวิต อดมื้อกินมื้อเพื่อสัตว์..เป็นกรรมอะไรที่มีมาต่อกันจึงมายอมทุกข์ช่วยเหลือกันชาตินี้
    วันพระก็มาเล่าเรื่องความผูกพันของคนกับสัตว์ เราก็เฝ้ามองดู ว่าเขาเลี้ยงสี่ขาได้อย่างไรตั้ง 500-1,000 ตัว มีความผูกพันมากมาย หาทรัพย์สินมาซื้อที่ดิน อาหารค่ารักษาพยาบาล หนักเข้าไปอีกหาเงินทองมาไถ่ถอนชีวิต อดมื้อกินมื้อเพื่อสัตว์..เป็นกรรมอะไรที่มีมาต่อกันจึงมายอมทุกข์ช่วยเหลือกันชาตินี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ทยอยมอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธ โดยจะส่งคำให้การภายในวันที่ 23 พ.ค. นี้ ประสานดีเอสไอคดีนอมินีและฮั้วประมูล หากพยานหลักฐานถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะดำเนินคดีไม่ละเว้น ตั้งแต่คนทำ TOR สัญญาจ้างออกแบบ จ้างควบคุมงาน และส่วนอื่นๆ สำหรับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตรวจสอบพบเบิกงบก่อสร้างแล้ว 22 งวด จาก 30 งวด เป็นเงิน 900 ล้านบาท ซึ่ง สตง. จ่ายเงินตามสัญญา ทั้งที่การก่อสร้างคืบหน้าเพียง 35% แต่ตามหลักการต้องคืบหน้า 80% อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ยืนยัน ไม่กลั่นแกล้งบุคคลใด กรรมใดที่ใครก่อไว้ต้องสนองในชาตินี้แน่นอน

    -"เปรมชัย"นั่งรถเข็นมอบตัว
    -สภาทนายความจ่ายเยียวยา
    -เตือนภัยแบบ One Message
    -กล้าธรรมไม่เคยซื้อตัวใคร
    พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ทยอยมอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธ โดยจะส่งคำให้การภายในวันที่ 23 พ.ค. นี้ ประสานดีเอสไอคดีนอมินีและฮั้วประมูล หากพยานหลักฐานถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะดำเนินคดีไม่ละเว้น ตั้งแต่คนทำ TOR สัญญาจ้างออกแบบ จ้างควบคุมงาน และส่วนอื่นๆ สำหรับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตรวจสอบพบเบิกงบก่อสร้างแล้ว 22 งวด จาก 30 งวด เป็นเงิน 900 ล้านบาท ซึ่ง สตง. จ่ายเงินตามสัญญา ทั้งที่การก่อสร้างคืบหน้าเพียง 35% แต่ตามหลักการต้องคืบหน้า 80% อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ยืนยัน ไม่กลั่นแกล้งบุคคลใด กรรมใดที่ใครก่อไว้ต้องสนองในชาตินี้แน่นอน -"เปรมชัย"นั่งรถเข็นมอบตัว -สภาทนายความจ่ายเยียวยา -เตือนภัยแบบ One Message -กล้าธรรมไม่เคยซื้อตัวใคร
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • **“ฉลาดทางโลก…อาจนำพาลงเหว

    แต่ฉลาดทางธรรม…เท่านั้น ที่พาข้ามพ้น”**

    เกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องฟลุก
    ไม่ใช่แค่เพราะฟ้าลิขิต
    แต่เป็นเพราะ…บุญตกแต่งมาแล้ว

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปุณณกมาณวกปัญหา ว่า

    > ความเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้นไม่ได้
    หากกรรมที่เคยทำมา
    เกิดจากโลภะ โทสะ โมหะล้วนๆ

    นั่นหมายความว่า

    > แม้จะหลง แม้จะผิด
    แต่ต้องมีช่วงหนึ่งที่ใจเรา “ตั้งมั่นเพื่อความดี”
    ถึงได้อาศัยจังหวะนั้นกลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง

    ---

    บุญแต่งความฉลาดได้…แต่ฉลาดแบบไหน?

    คนฉลาดในโลกมีเยอะ
    แต่คนฉลาดเพื่อออกจากทุกข์…มีน้อย

    บางคนใช้ความฉลาดระดับอัจฉริยะ
    คิดค้นเครื่องมือหลอกลวง ขายของลวงโลก
    โกงคนเป็นร้อยเป็นพันจนร่ำรวยมหาศาล
    นั่นคือฉลาดแบบโลกจัด แต่ ไม่ฉลาดแบบธรรมเลย

    ยิ่งน่าหดหู่เมื่อเห็นคนฉลาดระดับหัวกะทิ
    อุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างอาวุธล้างเผ่าพันธุ์
    ทั้งที่รู้ว่าผลงานของตนมีไว้เพื่อทำลาย ไม่ใช่สร้างสรรค์
    แต่เขากลับมองว่านั่นคือ "ความสำเร็จในชีวิต"

    ลองคิดดูเถิด...
    สมองดี แต่ใช้สร้างนรกไว้ล่วงหน้าให้ตัวเอง

    > นั่นไม่ใช่ ‘ผู้รู้’
    แต่คือ ‘ผู้หลงในความฉลาดของตนเอง’

    ---

    ฉลาดจริง…ต้องรู้ว่าความดีคือเส้นทางรอด

    แม้เกิดมาแล้วมีปัญญา
    หากใช้ปัญญาในทางผิดซ้ำๆ
    มันจะกลายเป็นพันธะ
    ดึงให้วนเวียนกลับไปทำบาปแบบเดิมอีกครั้ง

    > เว้นแต่ชาตินี้จะมีโอกาส
    ได้เห็นแสงธรรมของพระพุทธเจ้า
    ได้รู้ว่า ความฉลาดที่แท้คือการรู้ว่า
    อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

    และเลือกเดินในทางที่ปลอดภัยจากบาป

    ---

    บทสรุปของการเป็น “ผู้ฉลาดทางธรรม”

    > คนฉลาดทางโลก…อาจรวยล้นฟ้า แต่ล้มเหลวทางใจ
    คนฉลาดทางธรรม…อาจเรียบง่ายแต่ใจกว้างใหญ่เกินวัดได้

    และคนที่รู้ทันว่า ความฉลาดใดนำไปสู่นรก
    ย่อมไม่อวดฉลาดแบบเดิม

    เขาจะใช้ปัญญาที่มี สร้างบุญใหม่
    และค่อยๆถอนตัวออกจากเส้นทางกรรมเก่า

    จนวันหนึ่ง ความฉลาดนั้น
    พาเขาพ้นจากทุกข์ได้จริง
    **“ฉลาดทางโลก…อาจนำพาลงเหว แต่ฉลาดทางธรรม…เท่านั้น ที่พาข้ามพ้น”** เกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องฟลุก ไม่ใช่แค่เพราะฟ้าลิขิต แต่เป็นเพราะ…บุญตกแต่งมาแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปุณณกมาณวกปัญหา ว่า > ความเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากกรรมที่เคยทำมา เกิดจากโลภะ โทสะ โมหะล้วนๆ นั่นหมายความว่า > แม้จะหลง แม้จะผิด แต่ต้องมีช่วงหนึ่งที่ใจเรา “ตั้งมั่นเพื่อความดี” ถึงได้อาศัยจังหวะนั้นกลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง --- บุญแต่งความฉลาดได้…แต่ฉลาดแบบไหน? คนฉลาดในโลกมีเยอะ แต่คนฉลาดเพื่อออกจากทุกข์…มีน้อย บางคนใช้ความฉลาดระดับอัจฉริยะ คิดค้นเครื่องมือหลอกลวง ขายของลวงโลก โกงคนเป็นร้อยเป็นพันจนร่ำรวยมหาศาล นั่นคือฉลาดแบบโลกจัด แต่ ไม่ฉลาดแบบธรรมเลย ยิ่งน่าหดหู่เมื่อเห็นคนฉลาดระดับหัวกะทิ อุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างอาวุธล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งที่รู้ว่าผลงานของตนมีไว้เพื่อทำลาย ไม่ใช่สร้างสรรค์ แต่เขากลับมองว่านั่นคือ "ความสำเร็จในชีวิต" ลองคิดดูเถิด... สมองดี แต่ใช้สร้างนรกไว้ล่วงหน้าให้ตัวเอง > นั่นไม่ใช่ ‘ผู้รู้’ แต่คือ ‘ผู้หลงในความฉลาดของตนเอง’ --- ฉลาดจริง…ต้องรู้ว่าความดีคือเส้นทางรอด แม้เกิดมาแล้วมีปัญญา หากใช้ปัญญาในทางผิดซ้ำๆ มันจะกลายเป็นพันธะ ดึงให้วนเวียนกลับไปทำบาปแบบเดิมอีกครั้ง > เว้นแต่ชาตินี้จะมีโอกาส ได้เห็นแสงธรรมของพระพุทธเจ้า ได้รู้ว่า ความฉลาดที่แท้คือการรู้ว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และเลือกเดินในทางที่ปลอดภัยจากบาป --- บทสรุปของการเป็น “ผู้ฉลาดทางธรรม” > คนฉลาดทางโลก…อาจรวยล้นฟ้า แต่ล้มเหลวทางใจ คนฉลาดทางธรรม…อาจเรียบง่ายแต่ใจกว้างใหญ่เกินวัดได้ และคนที่รู้ทันว่า ความฉลาดใดนำไปสู่นรก ย่อมไม่อวดฉลาดแบบเดิม เขาจะใช้ปัญญาที่มี สร้างบุญใหม่ และค่อยๆถอนตัวออกจากเส้นทางกรรมเก่า จนวันหนึ่ง ความฉลาดนั้น พาเขาพ้นจากทุกข์ได้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อธิษฐานละความผูกพันในการเกิด

    #เหมือนคนเกิดมาชาตินึงมาเจอสถานที่ในพระศาสนาดูทรุดโทรม คิดว่าถ้ามีโอกาสจะมาบูรณะ แต่ตายไปซะก่อน พอเกิดมาอีกชาตินึงก็ต้องกลับไปบูรณะอีกจนได้ เพราะมันเป็นสัญญาของใจเรา เพราะเราเปล่งวาจาว่าเราจะมาบูรณะ บุญมันก็พาให้เราต้องมาเจอ แล้วก็ต้องมาบูรณะจนได้

    #ถ้าทำสำเร็จก็จบไป ถ้าไม่ได้ทำก็รอชาติต่อไป
    เอ้อ มันก็ต้องเกิดชาติต่อไปเห็นไหม

    #งั้นตกลงกับใครไว้หยุดซะนะ สัญญาเกี่ยวก้อยไว้ชาติหน้าเกิดเราจะเป็นคู่ครองต่อไปเราไม่.. ทิ้งแล้ว ตัดนิ้วก้อยทิ้งแล้ว ไม่ผูกกับใครแล้วนะ เอ้อ..เราจะไปชาตินี้นะ เธอต้องโละทิ้งให้หมดนะ ไม่รู้เนี่ยมันอยู่ในใจเธอนะ ถึงเวลาตายขึ้นมาเป็นเทวดานางฟ้าไอ้เรื่องนี้ไม่ได้ทำมันจะคาใจเธอ

    #อย่างพระนางวิสาขาเห็นไหมล่ะ มันเป็นความปรารถนาของท่านมันก็ยังคาใจท่านอยู่นะ ถึงเวลาท่านก็ยังต้องไปเกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย ไปอุปฐากพระศาสนาของพระองค์ต่อไป นี่คือส่วนหนึ่งที่ว่าปฏิปทาของท่าน แต่ว่าไอ้ความตั้งจิตเจตนาอย่างนี้ถ้าเธอไม่มีซะเลยจะดีเสียกว่า

    #เอาให้ตรงทางอย่างเดียวว่า ฉันจะไปนิพพานอย่างเดียว ไม่ไปไหน ไม่ว่าฉันจะเป็นเทวดา นางฟ้า อยู่สวรรค์ชั้นใดเราก็จะไม่ไปที่ไหนอีกต่อไปนอกจากจะไปนิพพานที่เดียว
    #แล้วก็จะไม่ผูกพันกับใครในเรื่องใดๆ #เกี่ยวข้องมาในแต่อดีตชาติกาลก่อนว่าเคยสัญญากับใคร #เคยตั้งใจทำอะไรก็ขอกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสียเลยนะ ทำเสีย

    ..............................................................

    #หาดอกไม้ธูปเทียน มาตั้งไหว้พระในบ้านเราก็ได้ วันไหนก็ได้ ตั้งจิตอธิษฐานเสียให้ดีว่า บัดนี้เป็นต้นไป
    #ถ้าหากว่าลูกเคยมีสัญญากับคนก็ดีกับพระก็ดี #กับในเขตพระศาสนาก็ดีในกาลก่อนที่เคยผูกมัดใจของลูกให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป
    บัดนี้ลูกขอหยุดแล้ว หยุดความปรารถนาทั้งสิ้น ขอชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายไม่ต้องการกลับมาเกิดอีกต่อไป
    #ไม่ผูกมัดใจกับคนกับสัตว์กับสิ่งของกับวัตถุธาตุทั้งหลายอีกต่อไปแล้วอย่างนี้เป็นต้น
    #แล้วก็กราบขอขมาพระรัตนตรัย #ขอขมาคนทั้งหลาย #ขอขมาทุกคนที่เคยผูกมัดสัญญากันไว้นะ ก็โละไปเสีย ทำไว้มันจะได้ไม่คาใจเรา
    แม้นคนในปัจจุบันว่าจะเกี่ยวข้องในฐานะเป็นพ่อเป็นแม่เป็นสามีเป็นภรรยาเป็นลูกเราก็ทำอย่างนั้นเหมือนกันว่าเธอกับฉันก็อยู่กันแค่อนุเคราะห์กันในชาตินี้นะ เราก็ช่วยกันเต็มที่เต็มหน่วยไม่ว่าจะเป็นใคร ดูแลกันสุดกำลังใจที่เราสามารถช่วยกันได้นะในฐานะที่เกิดมามีบุพกรรมร่วมกันมา ทั้งผู้เป็นพ่อก็ดีผู้เป็นแม่ก็ดีเป็นพี่เป็นน้องกันก็ดี เป็นสามีเป็นภรรยาเป็นลูกกัน เป็นญาติกันก็ตามทีนะ แม้จะเป็นเพื่อนที่รักกัน ช่วยเหลือกัน เกื้อกูลกันมา ....

    #บุคคลผู้ใดก็ตามที่ปรากฏในโลกนี้ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายก็ตาม เราก็ขอหยุดแล้ว หยุดภาระความผูกพันใดๆทั้งสิ้น เพราะมันหาประโยชน์อะไรไม่ได้ ในความเกี่ยวเนื่องกันแบบนี้นะ ก็เท่ากับว่าผูกให้ใจเรามันทุกข์กันไปเรื่อยไป เพราะเราก็ช่วยเค้าไม่ได้ เค้าก็ช่วยเราไม่ได้ จริงมั้ย เอ้า ว่าไปตามความจริง ไม่มีใครช่วยเราได้ #นอกจากพระรัตนตรัยแล้วไม่เห็นมีสิ่งใดเสมอยิ่งกว่าพระองค์ #พระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยะเลย
    ...............................................................
    นอกนั้นก็ทุกคนก็เพียรพยายามที่จะหนีทุกข์ด้วยตัวเองทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าใครจะมีวาสนาบารมีสะสมกันมานะ มากหรือน้อย เราจึงพึ่งพาอาศัยใครไม่ได้ ใครก็พึ่งพาเราไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเรารู้ได้อย่างนี้แล้วเค้าจะเพิ่งเราได้

    #ความจริงมันก็ต่างคนต่างตายเราจะไปยั้งได้ยังไงล่ะ ใครตายก่อนตายหลังก็พยากรณ์กันไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เธออาจจะตายก่อนชั้นก็ได้ ชั้นอาจจะตายก่อนเธอก็ได้ มันไม่มีใครรู้หรอกนะ เรื่องนี้ไม่มีนิมิตเครื่องหมาย เราได้แต่สงเคราะห์เมื่อในยามที่มีชีวิตอยู่คือให้กันได้ อะไรที่ให้ได้ก็ให้ อะไรที่เป็นประโยชน์กับเธอจริงๆเราก็ให้ ก็ให้ทุกอย่าง เราไม่มีอะไรที่ไม่ให้เลย หมด

    เสียงธรรมท่านจิตโต
    หลวงพ่อสมปอง สุธัมมสันตจิตโต(บ้านสบายใจ)
    วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑
    https://m.youtube.com/watch?si=fb4k7Sr-U7igZesx&fbclid=IwAR3w4dfIJwfSPT2aIgGF20RDi0ylkXUgLW_EN0hd4s-COZ4oyM7XFuSnB6Y&v=9tmWL3QEPPg&feature=youtu.be

    คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย
    จิตหนึ่งประภัสสรสุดยอดคือพระนิพพาน
    🙏#อธิษฐานละความผูกพันในการเกิด ✴️ #เหมือนคนเกิดมาชาตินึงมาเจอสถานที่ในพระศาสนาดูทรุดโทรม คิดว่าถ้ามีโอกาสจะมาบูรณะ แต่ตายไปซะก่อน พอเกิดมาอีกชาตินึงก็ต้องกลับไปบูรณะอีกจนได้ เพราะมันเป็นสัญญาของใจเรา เพราะเราเปล่งวาจาว่าเราจะมาบูรณะ บุญมันก็พาให้เราต้องมาเจอ แล้วก็ต้องมาบูรณะจนได้ ✴️ #ถ้าทำสำเร็จก็จบไป ถ้าไม่ได้ทำก็รอชาติต่อไป ⚜️เอ้อ มันก็ต้องเกิดชาติต่อไปเห็นไหม ✴️ #งั้นตกลงกับใครไว้หยุดซะนะ สัญญาเกี่ยวก้อยไว้ชาติหน้าเกิดเราจะเป็นคู่ครองต่อไปเราไม่.. ทิ้งแล้ว ตัดนิ้วก้อยทิ้งแล้ว ไม่ผูกกับใครแล้วนะ เอ้อ..เราจะไปชาตินี้นะ เธอต้องโละทิ้งให้หมดนะ ไม่รู้เนี่ยมันอยู่ในใจเธอนะ ถึงเวลาตายขึ้นมาเป็นเทวดานางฟ้าไอ้เรื่องนี้ไม่ได้ทำมันจะคาใจเธอ ✴️ #อย่างพระนางวิสาขาเห็นไหมล่ะ มันเป็นความปรารถนาของท่านมันก็ยังคาใจท่านอยู่นะ ถึงเวลาท่านก็ยังต้องไปเกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย ไปอุปฐากพระศาสนาของพระองค์ต่อไป นี่คือส่วนหนึ่งที่ว่าปฏิปทาของท่าน แต่ว่าไอ้ความตั้งจิตเจตนาอย่างนี้ถ้าเธอไม่มีซะเลยจะดีเสียกว่า ✴️ #เอาให้ตรงทางอย่างเดียวว่า ฉันจะไปนิพพานอย่างเดียว ไม่ไปไหน ไม่ว่าฉันจะเป็นเทวดา นางฟ้า อยู่สวรรค์ชั้นใดเราก็จะไม่ไปที่ไหนอีกต่อไปนอกจากจะไปนิพพานที่เดียว ✴️ #แล้วก็จะไม่ผูกพันกับใครในเรื่องใดๆ #เกี่ยวข้องมาในแต่อดีตชาติกาลก่อนว่าเคยสัญญากับใคร #เคยตั้งใจทำอะไรก็ขอกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสียเลยนะ ทำเสีย .............................................................. ✴️ #หาดอกไม้ธูปเทียน มาตั้งไหว้พระในบ้านเราก็ได้ วันไหนก็ได้ ตั้งจิตอธิษฐานเสียให้ดีว่า บัดนี้เป็นต้นไป 🙏#ถ้าหากว่าลูกเคยมีสัญญากับคนก็ดีกับพระก็ดี #กับในเขตพระศาสนาก็ดีในกาลก่อนที่เคยผูกมัดใจของลูกให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป 🙏บัดนี้ลูกขอหยุดแล้ว หยุดความปรารถนาทั้งสิ้น ขอชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายไม่ต้องการกลับมาเกิดอีกต่อไป 🙏#ไม่ผูกมัดใจกับคนกับสัตว์กับสิ่งของกับวัตถุธาตุทั้งหลายอีกต่อไปแล้วอย่างนี้เป็นต้น 🙏 #แล้วก็กราบขอขมาพระรัตนตรัย #ขอขมาคนทั้งหลาย #ขอขมาทุกคนที่เคยผูกมัดสัญญากันไว้นะ ก็โละไปเสีย ทำไว้มันจะได้ไม่คาใจเรา 🙏 แม้นคนในปัจจุบันว่าจะเกี่ยวข้องในฐานะเป็นพ่อเป็นแม่เป็นสามีเป็นภรรยาเป็นลูกเราก็ทำอย่างนั้นเหมือนกันว่าเธอกับฉันก็อยู่กันแค่อนุเคราะห์กันในชาตินี้นะ เราก็ช่วยกันเต็มที่เต็มหน่วยไม่ว่าจะเป็นใคร ดูแลกันสุดกำลังใจที่เราสามารถช่วยกันได้นะในฐานะที่เกิดมามีบุพกรรมร่วมกันมา ทั้งผู้เป็นพ่อก็ดีผู้เป็นแม่ก็ดีเป็นพี่เป็นน้องกันก็ดี เป็นสามีเป็นภรรยาเป็นลูกกัน เป็นญาติกันก็ตามทีนะ แม้จะเป็นเพื่อนที่รักกัน ช่วยเหลือกัน เกื้อกูลกันมา .... ✴️ #บุคคลผู้ใดก็ตามที่ปรากฏในโลกนี้ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายก็ตาม เราก็ขอหยุดแล้ว หยุดภาระความผูกพันใดๆทั้งสิ้น เพราะมันหาประโยชน์อะไรไม่ได้ ในความเกี่ยวเนื่องกันแบบนี้นะ ก็เท่ากับว่าผูกให้ใจเรามันทุกข์กันไปเรื่อยไป เพราะเราก็ช่วยเค้าไม่ได้ เค้าก็ช่วยเราไม่ได้ จริงมั้ย เอ้า ว่าไปตามความจริง ไม่มีใครช่วยเราได้ #นอกจากพระรัตนตรัยแล้วไม่เห็นมีสิ่งใดเสมอยิ่งกว่าพระองค์ #พระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยะเลย ............................................................... นอกนั้นก็ทุกคนก็เพียรพยายามที่จะหนีทุกข์ด้วยตัวเองทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าใครจะมีวาสนาบารมีสะสมกันมานะ มากหรือน้อย เราจึงพึ่งพาอาศัยใครไม่ได้ ใครก็พึ่งพาเราไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเรารู้ได้อย่างนี้แล้วเค้าจะเพิ่งเราได้ ✴️ #ความจริงมันก็ต่างคนต่างตายเราจะไปยั้งได้ยังไงล่ะ ใครตายก่อนตายหลังก็พยากรณ์กันไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เธออาจจะตายก่อนชั้นก็ได้ ชั้นอาจจะตายก่อนเธอก็ได้ มันไม่มีใครรู้หรอกนะ เรื่องนี้ไม่มีนิมิตเครื่องหมาย เราได้แต่สงเคราะห์เมื่อในยามที่มีชีวิตอยู่คือให้กันได้ อะไรที่ให้ได้ก็ให้ อะไรที่เป็นประโยชน์กับเธอจริงๆเราก็ให้ ก็ให้ทุกอย่าง เราไม่มีอะไรที่ไม่ให้เลย หมด 📣เสียงธรรมท่านจิตโต ⚜️หลวงพ่อสมปอง สุธัมมสันตจิตโต(บ้านสบายใจ)⚜️ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ https://m.youtube.com/watch?si=fb4k7Sr-U7igZesx&fbclid=IwAR3w4dfIJwfSPT2aIgGF20RDi0ylkXUgLW_EN0hd4s-COZ4oyM7XFuSnB6Y&v=9tmWL3QEPPg&feature=youtu.be 🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย⚜️ 🧘จิตหนึ่งประภัสสรสุดยอดคือพระนิพพาน
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 757 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กรรมเก่าบีบคั้น…กรรมใหม่คือคำตอบ”

    โลกวิทยาศาสตร์วันนี้
    เริ่มเห็นว่าแม้แต่ DNA ก็อาจกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า
    – คุณจะหน้าตาอย่างไร
    – มีแนวโน้มจะเป็นโรคไหน
    – อุบัติเหตุหรืออายุขัยจะสิ้นสุดเมื่อใด

    แต่ในทางพุทธ
    สิ่งเหล่านี้เรียกว่า “ผลของกรรมเก่า”
    คือแรงบีบคั้นที่ถูกออกแบบไว้จากปางก่อน
    ว่าชาตินี้คุณจะ “เจออะไร”
    ไม่ใช่เพราะบังเอิญ
    แต่เพราะมัน เหมาะสมแล้ว กับสิ่งที่คุณเคยทำไว้

    ---

    กรรมเก่าบีบคั้น – กรรมใหม่คือทางเลือก

    สิ่งที่คุณประสบ — คือกรรมเก่า
    แต่สิ่งที่คุณจะ “ตอบโต้กลับไป” — คือกรรมใหม่

    เมื่อกรรมเก่าทำให้คุณตกที่นั่งลำบาก
    คุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะ...

    – โต้ตอบด้วยโทสะ = สร้างกรรมลบซ้ำ
    – โต้ตอบด้วยเมตตา = สร้างกรรมบวกใหม่

    คุณไม่มีทางรู้ว่าใครคือศัตรูจากอดีตชาติ
    แต่คุณรู้แน่ว่า “ตัวคุณวันนี้”
    เลือกจะปล่อยมือ หรือจะขว้างกลับได้ทุกเมื่อ

    ---

    ชีวิตคือเกมที่แรงบีบคั้นรอบด้าน

    คุณไม่ได้เลือกเกิด
    แต่คุณเลือกได้ว่าจะ “ถือศีล” หรือ “ปล่อยตามกิเลส”
    การถือศีล คือการ “ทวนกระแสกรรม”
    – เจ็บแต่ไม่เอาคืน
    – ทุกข์แต่ไม่โกรธ
    – เหนื่อยแต่ไม่ยอมเลว

    ศีลเป็นเรื่อง “ผิดธรรมชาติ” ของจิตมีกิเลส
    แต่มันคือทางเดียวที่จะ เปลี่ยนแผนกรรมเดิมให้ดีขึ้นได้จริง

    ---

    มนุษย์…มีเวลาพอให้พยายาม

    ไม่มีใครถูกกำหนดให้ “เลวตลอดไป”
    แม้กรรมเก่าจะจัดฉากมาเต็ม
    แต่คุณยังมี ช่วงว่างระหว่างเหตุและผล
    ให้สติสอดแทรก
    เพื่อเปลี่ยนการตอบสนองจาก กรรมซ้ำ
    เป็น กรรมใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

    ---

    บทสรุปธรรมะข้ามภพ

    > ถ้าอยากชนะเกมกรรม
    ต้องมีใจเหนือแรงบีบคั้น
    และเลือก “อยู่ข้างตัวเอง”
    มากกว่าเข้าข้างแรงดึงดูดของกิเลส
    “กรรมเก่าบีบคั้น…กรรมใหม่คือคำตอบ” โลกวิทยาศาสตร์วันนี้ เริ่มเห็นว่าแม้แต่ DNA ก็อาจกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า – คุณจะหน้าตาอย่างไร – มีแนวโน้มจะเป็นโรคไหน – อุบัติเหตุหรืออายุขัยจะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ในทางพุทธ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า “ผลของกรรมเก่า” คือแรงบีบคั้นที่ถูกออกแบบไว้จากปางก่อน ว่าชาตินี้คุณจะ “เจออะไร” ไม่ใช่เพราะบังเอิญ แต่เพราะมัน เหมาะสมแล้ว กับสิ่งที่คุณเคยทำไว้ --- กรรมเก่าบีบคั้น – กรรมใหม่คือทางเลือก สิ่งที่คุณประสบ — คือกรรมเก่า แต่สิ่งที่คุณจะ “ตอบโต้กลับไป” — คือกรรมใหม่ เมื่อกรรมเก่าทำให้คุณตกที่นั่งลำบาก คุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะ... – โต้ตอบด้วยโทสะ = สร้างกรรมลบซ้ำ – โต้ตอบด้วยเมตตา = สร้างกรรมบวกใหม่ คุณไม่มีทางรู้ว่าใครคือศัตรูจากอดีตชาติ แต่คุณรู้แน่ว่า “ตัวคุณวันนี้” เลือกจะปล่อยมือ หรือจะขว้างกลับได้ทุกเมื่อ --- ชีวิตคือเกมที่แรงบีบคั้นรอบด้าน คุณไม่ได้เลือกเกิด แต่คุณเลือกได้ว่าจะ “ถือศีล” หรือ “ปล่อยตามกิเลส” การถือศีล คือการ “ทวนกระแสกรรม” – เจ็บแต่ไม่เอาคืน – ทุกข์แต่ไม่โกรธ – เหนื่อยแต่ไม่ยอมเลว ศีลเป็นเรื่อง “ผิดธรรมชาติ” ของจิตมีกิเลส แต่มันคือทางเดียวที่จะ เปลี่ยนแผนกรรมเดิมให้ดีขึ้นได้จริง --- มนุษย์…มีเวลาพอให้พยายาม ไม่มีใครถูกกำหนดให้ “เลวตลอดไป” แม้กรรมเก่าจะจัดฉากมาเต็ม แต่คุณยังมี ช่วงว่างระหว่างเหตุและผล ให้สติสอดแทรก เพื่อเปลี่ยนการตอบสนองจาก กรรมซ้ำ เป็น กรรมใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม --- บทสรุปธรรมะข้ามภพ > ถ้าอยากชนะเกมกรรม ต้องมีใจเหนือแรงบีบคั้น และเลือก “อยู่ข้างตัวเอง” มากกว่าเข้าข้างแรงดึงดูดของกิเลส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานตรง2535 วัน1เราฝันว่ามีงูมากัดก้นเรา เห็นรู2รูมีเลือดไหลซึมออกมาชัดครั้นรุ่งนำความฝันเล่าสู่ให้อาจารย์ทราบอาจารย์แนะให้ทำกิจบางอย่าง เราก้อทำตามคำแนะนั้น ขณะทำพบดวงจิต1ผมยาวแขวนคอตาย จึงนำเล่าให้อาจารย์ทราบ ถามต่อว่าใครครับ นั่นคือน้องสาวเราในอดีตที่รักเรามาก แต่ด้วยเสียใจมากเพราะดุว่ากล่าว น้องสาวจึงคิดสั้น หลังจากนั้นเราก้อปล่อยวางความคิดนั้นลง วัน1พบสาวท่าน1น่ารักมากฐานะดีเยี่ยมมีบทบาทกับงานที่เราทำอยู่ในขณะนั้นในคืนวัน1เราฝันมีสาวนาง1เข้ามาหาเราพูดว่ารักเราอีกคนได้มั้ย เราจำได้แม่นว่าสาวนั้นเป็นใครในภพชาตินี้ เราลุกขึ้นนั่งพูดกับสาวว่าไม่ได้ หากมาครั้งนี้มาทำบุญร่วมกันก้อมานะในคืนต่อมาสาวก้อมากับแม่ซึ่งจำได้ว่าเป็นแม่สาวนี้ในภพชาตินี้เราเคยพบก้อยังถามเช่นเดิม เราก้อตอบไปเช่นคืนก่อนหลังจากนั้นประมาณ5-6เดือนทราบข่าวว่าสาวเข้าพิธีแต่งงานมีครอบครัว....ยินดีนะ เราฝันเรื่องงูกัดหลายครั้งพบทุกครั้ง จนสุดท้ายฝันพบงูเราจักตีตายหมดภพชาติมีจริงสิ่งที่พบล้วนเขียนขีดไว้ด้วยกายวาจาใจตนมีผลเสมอดั่งเงาตนยามช่วงจังหวะกาลเวลานั้น
    นิทานตรง2535 วัน1เราฝันว่ามีงูมากัดก้นเรา เห็นรู2รูมีเลือดไหลซึมออกมาชัดครั้นรุ่งนำความฝันเล่าสู่ให้อาจารย์ทราบอาจารย์แนะให้ทำกิจบางอย่าง เราก้อทำตามคำแนะนั้น ขณะทำพบดวงจิต1ผมยาวแขวนคอตาย จึงนำเล่าให้อาจารย์ทราบ ถามต่อว่าใครครับ นั่นคือน้องสาวเราในอดีตที่รักเรามาก แต่ด้วยเสียใจมากเพราะดุว่ากล่าว น้องสาวจึงคิดสั้น หลังจากนั้นเราก้อปล่อยวางความคิดนั้นลง วัน1พบสาวท่าน1น่ารักมากฐานะดีเยี่ยมมีบทบาทกับงานที่เราทำอยู่ในขณะนั้นในคืนวัน1เราฝันมีสาวนาง1เข้ามาหาเราพูดว่ารักเราอีกคนได้มั้ย เราจำได้แม่นว่าสาวนั้นเป็นใครในภพชาตินี้ เราลุกขึ้นนั่งพูดกับสาวว่าไม่ได้ หากมาครั้งนี้มาทำบุญร่วมกันก้อมานะในคืนต่อมาสาวก้อมากับแม่ซึ่งจำได้ว่าเป็นแม่สาวนี้ในภพชาตินี้เราเคยพบก้อยังถามเช่นเดิม เราก้อตอบไปเช่นคืนก่อนหลังจากนั้นประมาณ5-6เดือนทราบข่าวว่าสาวเข้าพิธีแต่งงานมีครอบครัว....ยินดีนะ เราฝันเรื่องงูกัดหลายครั้งพบทุกครั้ง จนสุดท้ายฝันพบงูเราจักตีตายหมดภพชาติมีจริงสิ่งที่พบล้วนเขียนขีดไว้ด้วยกายวาจาใจตนมีผลเสมอดั่งเงาตนยามช่วงจังหวะกาลเวลานั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย

    ผู้ถาม : ลูกได้ดูโทรทัศน์ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย ทรงเล่าเรื่องว่า เคยป่วยอาการหนัก หมอบอกว่าโรคอย่างนี้ไม่สามารถรักษาได้ มีทรงกับทรุด หรือตายอย่างเดียว พระองค์ก็ทรงพิจารณาว่า ร่างกายนี้ไม่ดีหนอ ไม่ขอเกิดอีกแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอสร้างแต่ความดี โดยเริ่มดำเนินการโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า คนที่ไม่อยากเกิดต่อไปอย่างนี้ จะเรียกว่า ตัดสักกายทิฏฐิ ใช่หรือเปล่าขอรับ?

    หลวงพ่อ : ตัดแน่ ตรง! ใช้ได้เลย ตรงเป้าหมายดี
    แต่ค่อยๆ ตัดนะ อย่าตัดแรง ตัดแรงมันเจ็บ อ้าว! จริงๆ ค่อยๆ ตัด คิดไว้ทีแรกว่า อย่าเกิดต่อไปนะ จะต้องค่อยๆ คิดคลายไปทีละน้อยๆ ว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ร่างกายเป็นแต่เพียงธาตุ ๔ มีดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมกันที่เป็นร่างที่อาศัยชั่วคราว มันพังก็พัง แต่เราไม่ยอมพังด้วย เราต้องการไปนิพพานจุดเดียว ค่อยๆคลำ แบบนี้มีหวังแน่นอน

    ผู้ถาม : ของหลวงพ่อบอกว่า ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียวก็ไปนิพพานได้เลย?

    หลวงพ่อ : ไม่ใช่ของหลวงพ่อ ของพระพุทธเจ้า ของพระสารีบุตรท่าน พระพุทธเจ้าอธิบายแล้วพระไม่เข้าใจ คืออาจจะเข้าใจเหมือนกันแต่ไม่มั่นใจ ฟังกรรมฐานจากพระพุทธเจ้าตั้งแต่ต้นจนเป็นพระอรหันต์ ฟังแล้วพระก็ลาจะขอเข้าป่าไป

    ท่านถามว่า พวกเธอจะเข้าป่าไปลาพระสารีบุตรหรือยัง

    ความจริงไม่ได้นัด แต่ทรงทราบว่าถ้าไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรจะพูดว่าอย่างไร

    พระก็บอกว่า ยังพระพุทธเจ้าข้า

    ถ้าอย่างนั้นก็ไปลาพระสารีบุตรก่อน ในเมื่อพระไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรก็แนะนำตามสมควร

    ต่อมาพระก็ถามว่า เวลานี้ผมเป็นปุถุชนอยากจะเป็นพระโสดาบันจะทำยังไง?

    ท่านบอกให้พิจารณาขันธ์ ๕ พูดง่ายๆ ขันธ์ ๕ คือร่างกาย ใช่ไหม ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริง ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถ้าเธอมีความรู้สึกหรือตัดได้อย่างแน่นอน เธอก็เป็นพระโสดาบัน

    พระก็ถามว่า ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้วจะเป็นพระสกิทาคามีทำยังไง?
    พระสารีบุตรก็บอกพิจารณาอย่างนี้แหละ

    พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระสกิทาคามีแล้ว ต้องการเป็นพระอนาคามีจะทำยังไง?
    ท่านบอกตัดตัวนี้แหละ จนจิตเบื่อหน่ายในร่างกาย เห็นว่าร่างกายสกปรกโสโครกไม่น่ารัก ตัดได้แน่นอนเมื่อไร เวลานั้นเป็นพระอนาคามี

    พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระอนาคามีแล้วต้องการเป็นพระอรหันต์จะทำยังไง?
    ก็ตัดตัวเดียวนี้แหละ จนกระทั่งจิตวางเฉย เห็นว่าร่างกายเรา เห็นร่างกายคนอื่นก็เฉย มันจะเป็นยังไง จิตใจก็สบาย มันก็ไม่กลุ้มไปด้วย ถือว่าเป็นธรรมดาของร่างกาย ในที่สุดมันก็พัง อย่างนี้ก็เป็นพระอรหันต์

    พระพวกนั้นในฐานะที่เป็นปุถุชน มีสมบัติเก่าค้างอยู่ คือความขี้เกียจค้างอยู่
    เลยถามพระสารีบุตรว่า ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ไหม?

    พระสารีบุตร บอกไม่ใช่ พระอรหันต์ต้องนึกเป็นอารมณ์เลย หรือเป็นปกติตลอดวัน นี่แสดงสัญลักษณ์เดิมคือขี้เกียจมาก่อนนะ

    ผู้ถาม : ก็แบบหลวงพ่อชาติก่อน ๆ เคยขยัน ชาตินี้ก็เลยขยันต่อ

    หลวงพ่อ : ไม่ใช่ขยัน ชาตินี้ก็เลยขี้เกียจต่อ ขี้เกียจอะไรทราบไหม ขี้เกียจเกิด

    ผู้ถาม : แล้วก็ขี้เกียจแก่

    หลวงพ่อ : แก่มันไม่ขี้เกียจ เพราะกำลังแก่อยู่ จะแก่เรื่อย ๆ ไปจนกว่าจะตาย ตายแล้วยังไม่เลิกแก่ ยังแก่ต่อไปอีก เวลานี้พวกนี้เรียกหลวงพ่อใช่ไหม เมื่อวาน เลื่อนขั้นมีคนเรียกหลวงตาแล้ว แสดงว่าแก่มาก

    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง
    ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๕๑ หน้า ๗๘-๗๙
    #เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย ผู้ถาม : ลูกได้ดูโทรทัศน์ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย ทรงเล่าเรื่องว่า เคยป่วยอาการหนัก หมอบอกว่าโรคอย่างนี้ไม่สามารถรักษาได้ มีทรงกับทรุด หรือตายอย่างเดียว พระองค์ก็ทรงพิจารณาว่า ร่างกายนี้ไม่ดีหนอ ไม่ขอเกิดอีกแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอสร้างแต่ความดี โดยเริ่มดำเนินการโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า คนที่ไม่อยากเกิดต่อไปอย่างนี้ จะเรียกว่า ตัดสักกายทิฏฐิ ใช่หรือเปล่าขอรับ? หลวงพ่อ : ตัดแน่ ตรง! ใช้ได้เลย ตรงเป้าหมายดี แต่ค่อยๆ ตัดนะ อย่าตัดแรง ตัดแรงมันเจ็บ อ้าว! จริงๆ ค่อยๆ ตัด คิดไว้ทีแรกว่า อย่าเกิดต่อไปนะ จะต้องค่อยๆ คิดคลายไปทีละน้อยๆ ว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ร่างกายเป็นแต่เพียงธาตุ ๔ มีดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมกันที่เป็นร่างที่อาศัยชั่วคราว มันพังก็พัง แต่เราไม่ยอมพังด้วย เราต้องการไปนิพพานจุดเดียว ค่อยๆคลำ แบบนี้มีหวังแน่นอน ผู้ถาม : ของหลวงพ่อบอกว่า ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียวก็ไปนิพพานได้เลย? หลวงพ่อ : ไม่ใช่ของหลวงพ่อ ของพระพุทธเจ้า ของพระสารีบุตรท่าน พระพุทธเจ้าอธิบายแล้วพระไม่เข้าใจ คืออาจจะเข้าใจเหมือนกันแต่ไม่มั่นใจ ฟังกรรมฐานจากพระพุทธเจ้าตั้งแต่ต้นจนเป็นพระอรหันต์ ฟังแล้วพระก็ลาจะขอเข้าป่าไป ท่านถามว่า พวกเธอจะเข้าป่าไปลาพระสารีบุตรหรือยัง ความจริงไม่ได้นัด แต่ทรงทราบว่าถ้าไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรจะพูดว่าอย่างไร พระก็บอกว่า ยังพระพุทธเจ้าข้า ถ้าอย่างนั้นก็ไปลาพระสารีบุตรก่อน ในเมื่อพระไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรก็แนะนำตามสมควร ต่อมาพระก็ถามว่า เวลานี้ผมเป็นปุถุชนอยากจะเป็นพระโสดาบันจะทำยังไง? ท่านบอกให้พิจารณาขันธ์ ๕ พูดง่ายๆ ขันธ์ ๕ คือร่างกาย ใช่ไหม ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริง ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถ้าเธอมีความรู้สึกหรือตัดได้อย่างแน่นอน เธอก็เป็นพระโสดาบัน พระก็ถามว่า ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้วจะเป็นพระสกิทาคามีทำยังไง? พระสารีบุตรก็บอกพิจารณาอย่างนี้แหละ พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระสกิทาคามีแล้ว ต้องการเป็นพระอนาคามีจะทำยังไง? ท่านบอกตัดตัวนี้แหละ จนจิตเบื่อหน่ายในร่างกาย เห็นว่าร่างกายสกปรกโสโครกไม่น่ารัก ตัดได้แน่นอนเมื่อไร เวลานั้นเป็นพระอนาคามี พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระอนาคามีแล้วต้องการเป็นพระอรหันต์จะทำยังไง? ก็ตัดตัวเดียวนี้แหละ จนกระทั่งจิตวางเฉย เห็นว่าร่างกายเรา เห็นร่างกายคนอื่นก็เฉย มันจะเป็นยังไง จิตใจก็สบาย มันก็ไม่กลุ้มไปด้วย ถือว่าเป็นธรรมดาของร่างกาย ในที่สุดมันก็พัง อย่างนี้ก็เป็นพระอรหันต์ พระพวกนั้นในฐานะที่เป็นปุถุชน มีสมบัติเก่าค้างอยู่ คือความขี้เกียจค้างอยู่ เลยถามพระสารีบุตรว่า ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ไหม? พระสารีบุตร บอกไม่ใช่ พระอรหันต์ต้องนึกเป็นอารมณ์เลย หรือเป็นปกติตลอดวัน นี่แสดงสัญลักษณ์เดิมคือขี้เกียจมาก่อนนะ ผู้ถาม : ก็แบบหลวงพ่อชาติก่อน ๆ เคยขยัน ชาตินี้ก็เลยขยันต่อ หลวงพ่อ : ไม่ใช่ขยัน ชาตินี้ก็เลยขี้เกียจต่อ ขี้เกียจอะไรทราบไหม ขี้เกียจเกิด ผู้ถาม : แล้วก็ขี้เกียจแก่ หลวงพ่อ : แก่มันไม่ขี้เกียจ เพราะกำลังแก่อยู่ จะแก่เรื่อย ๆ ไปจนกว่าจะตาย ตายแล้วยังไม่เลิกแก่ ยังแก่ต่อไปอีก เวลานี้พวกนี้เรียกหลวงพ่อใช่ไหม เมื่อวาน เลื่อนขั้นมีคนเรียกหลวงตาแล้ว แสดงว่าแก่มาก พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๕๑ หน้า ๗๘-๗๙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 0 รีวิว
  • **มหากาพย์ข้ามภพ: สายธารแห่งธรรม*

    ---

    ### **บทที่ 5: เงาสะท้อนจากกาลเวลา**

    ราเชศยืนอยู่หน้าห้องเก็บของเก่า มือสั่นเทาขณะเปิดสมุดโบราณที่เพิ่งค้นพบ
    "บันทึกของสุทัตตะ...?"

    ตัวอักษรจารึกบนใบลานเริ่มเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนราวกับมีใครมาเขียนเพิ่มในใจเขา:

    _"วันนี้ นันทาเถียงเรื่องฉันให้ผ้าแม่ชีจนร้านขาดทุน...
    แต่ในสายตาเธอ ฉันเห็นความกลัวว่าเราจะจนเหมือนตอนเด็ก"_

    นันดินีที่แอบมองอยู่สะดุ้ง
    "นั่น...นั่นคือความคิดของฉันตอนเห็นแม่ป่วยเพราะไม่มีเงินรักษาตัว!"

    แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างโบสถ์เก่า
    ร่างเงาของทั้งคู่บนพื้น ปรากฏเป็นภาพ **สุทัตตะกับนันทาในชุดโบราณ**

    ---

    ### **บทที่ 6: ศิษย์ลึกลับแห่งเวฬุวัน**

    **อาจารย์ปกรณ์** นักประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ผู้ตามหาตำราสูญหาย
    เปิดเผยความลับให้ทั้งคู่ฟัง:

    "ผ้าผืนนั้นทอโดยพระนางพิมพา (พระมารดาของราหุล)
    มีอักขระธารณีปักไว้ด้วยเส้นผมของพระพุทธเจ้า..."

    แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ
    **ลายมือในสมุดบันทึกของสุทัตตะ กับของราเชศ...เหมือนกันทุกเส้น!**

    นันดินีจับมือราเชศไว้แน่น
    "นี่ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ...เราถูกชักนำให้มาพบกัน"

    ---

    ### **บทที่ 7: ปริศนาธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์**

    กลางดึก ทั้งคู่หลับไปใต้ต้นโพธิ์หลังวัด
    และพบกับ **สุทัตตะกับนันทาในยุคปัจจุบัน**

    **นันทา (ในร่างนักธุรกิจหญิง):**
    "ชาติก่อนเราทะเลาะกันเพราะต่างไม่เข้าใจ...
    แต่ชาตินี้ ฉันเรียนรู้ที่จะฟังก่อนพูด"

    **สุทัตตะ (ในร่างอาจารย์มหาวิทยาลัย):**
    "ความเงียบของฉันไม่ใช่การหนีปัญหา...
    แต่คือการรอให้เธอพร้อมจะรับฟัง"

    ปรากฏการณ์ **"การพบกันของ 4 จิตวิญญาณ"**
    ทำให้ต้นโพธิ์โบราณผลิดอกออกช่อ
    ทั้งที่ควรจะเหี่ยวแห้งไปนานแล้ว

    ---

    ### **บทที่ 8: สายน้ำสามสายรวมเป็นหนึ่ง**

    ในพิธีมอบผ้าไหมให้พิพิธภัณฑ์
    **เส้นด้ายทั้งสามเริ่มแยกจากกัน:**

    1. สายทอง (ความทรงจำ) → กลายเป็นแสงส่องทาง
    2. สายแดง (กรรมเก่า) → ละลายเป็นน้ำมนต์
    3. สายขาว (การเริ่มใหม่) → ห่อหุ้มหัวใจทั้งสอง

    ราเชศเขียนจดหมายถึงนันดินี:
    _"ไม่สำคัญว่าเราเคยเป็นใคร...
    สำคัญว่าเราจะใช้บทเรียนนี้สร้างอะไร"_

    นันดินีตอบกลับด้วยการวาดภาพ
    **ร้านขายผ้าเก่า ที่มีเด็กๆ นั่งฟังธรรมใต้ต้นไม้ใหญ่**

    ---

    ### **บทส่งท้าย: ดวงประทีปแห่งสาวัตถี**

    ปีต่อมา บนถนนสายเก่าในสาวัตถี
    มี **ศูนย์การเรียนรู้ "สามสายธาร"**

    - **ห้องสมุดจิตวิทยาพุทธศาสตร์** โดยราเชศ
    - **สตูดิโอศิลปะบำบัด** ของนันดินี
    - **ร้านชาสมุนไพร** ของอาจารย์ปกรณ์

    ทุกเย็นวันพระ ทั้งสามจะนั่งร่วมวงเสวนา
    ใต้ต้นโพธิ์ที่ผลิใบใหม่...
    **มหากาพย์ข้ามภพ: สายธารแห่งธรรม* --- ### **บทที่ 5: เงาสะท้อนจากกาลเวลา** ราเชศยืนอยู่หน้าห้องเก็บของเก่า มือสั่นเทาขณะเปิดสมุดโบราณที่เพิ่งค้นพบ "บันทึกของสุทัตตะ...?" ตัวอักษรจารึกบนใบลานเริ่มเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนราวกับมีใครมาเขียนเพิ่มในใจเขา: _"วันนี้ นันทาเถียงเรื่องฉันให้ผ้าแม่ชีจนร้านขาดทุน... แต่ในสายตาเธอ ฉันเห็นความกลัวว่าเราจะจนเหมือนตอนเด็ก"_ นันดินีที่แอบมองอยู่สะดุ้ง "นั่น...นั่นคือความคิดของฉันตอนเห็นแม่ป่วยเพราะไม่มีเงินรักษาตัว!" แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างโบสถ์เก่า ร่างเงาของทั้งคู่บนพื้น ปรากฏเป็นภาพ **สุทัตตะกับนันทาในชุดโบราณ** --- ### **บทที่ 6: ศิษย์ลึกลับแห่งเวฬุวัน** **อาจารย์ปกรณ์** นักประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ผู้ตามหาตำราสูญหาย เปิดเผยความลับให้ทั้งคู่ฟัง: "ผ้าผืนนั้นทอโดยพระนางพิมพา (พระมารดาของราหุล) มีอักขระธารณีปักไว้ด้วยเส้นผมของพระพุทธเจ้า..." แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ **ลายมือในสมุดบันทึกของสุทัตตะ กับของราเชศ...เหมือนกันทุกเส้น!** นันดินีจับมือราเชศไว้แน่น "นี่ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ...เราถูกชักนำให้มาพบกัน" --- ### **บทที่ 7: ปริศนาธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์** กลางดึก ทั้งคู่หลับไปใต้ต้นโพธิ์หลังวัด และพบกับ **สุทัตตะกับนันทาในยุคปัจจุบัน** **นันทา (ในร่างนักธุรกิจหญิง):** "ชาติก่อนเราทะเลาะกันเพราะต่างไม่เข้าใจ... แต่ชาตินี้ ฉันเรียนรู้ที่จะฟังก่อนพูด" **สุทัตตะ (ในร่างอาจารย์มหาวิทยาลัย):** "ความเงียบของฉันไม่ใช่การหนีปัญหา... แต่คือการรอให้เธอพร้อมจะรับฟัง" ปรากฏการณ์ **"การพบกันของ 4 จิตวิญญาณ"** ทำให้ต้นโพธิ์โบราณผลิดอกออกช่อ ทั้งที่ควรจะเหี่ยวแห้งไปนานแล้ว --- ### **บทที่ 8: สายน้ำสามสายรวมเป็นหนึ่ง** ในพิธีมอบผ้าไหมให้พิพิธภัณฑ์ **เส้นด้ายทั้งสามเริ่มแยกจากกัน:** 1. สายทอง (ความทรงจำ) → กลายเป็นแสงส่องทาง 2. สายแดง (กรรมเก่า) → ละลายเป็นน้ำมนต์ 3. สายขาว (การเริ่มใหม่) → ห่อหุ้มหัวใจทั้งสอง ราเชศเขียนจดหมายถึงนันดินี: _"ไม่สำคัญว่าเราเคยเป็นใคร... สำคัญว่าเราจะใช้บทเรียนนี้สร้างอะไร"_ นันดินีตอบกลับด้วยการวาดภาพ **ร้านขายผ้าเก่า ที่มีเด็กๆ นั่งฟังธรรมใต้ต้นไม้ใหญ่** --- ### **บทส่งท้าย: ดวงประทีปแห่งสาวัตถี** ปีต่อมา บนถนนสายเก่าในสาวัตถี มี **ศูนย์การเรียนรู้ "สามสายธาร"** - **ห้องสมุดจิตวิทยาพุทธศาสตร์** โดยราเชศ - **สตูดิโอศิลปะบำบัด** ของนันดินี - **ร้านชาสมุนไพร** ของอาจารย์ปกรณ์ ทุกเย็นวันพระ ทั้งสามจะนั่งร่วมวงเสวนา ใต้ต้นโพธิ์ที่ผลิใบใหม่...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • กว่าเราจะสิ้นภพสิ้นชาตินี้ก็นาน เพียรในบุญกุศลเอาไว้
    กว่าเราจะสิ้นภพสิ้นชาตินี้ก็นาน เพียรในบุญกุศลเอาไว้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เข้านิพพานแล้วอานิสงส์ยังไม่หมด

    เมื่อกี้มีโยมมาถวายสังฆทาน ให้พรท่าน ท่านบอก "ขอถึงพระนิพพานในชาตินี้" ดีใจมาก คือว่าเป็นเจตนาที่ตั้งไว้สูงนี้ดีมาก เราตั้งใจนิพพาน ผลที่สุดงานทุกอย่างมันสำเร็จหมด ถ้าเรายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ส่วนที่อยู่ต่ำกว่าสำเร็จหมดอย่าง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ได้ครบ เพราะกำลังนิพพานให้ผล

    ตานี้ก็มีปัญหาอยู่ว่าทุกคนทำบุญ การถวายทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี คำว่าทานทั้งหมดเป็นปัจจัยทำให้เกิดความร่ำรวยในชาติหน้า จะเป็นคนก็เป็นคนรวย จะเป็นเทวดา นางฟ้า ก็มีความร่ำรวย เป็นพรหมก็เป็นพรหมที่ร่ำรวย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถวายสังฆทานครั้งหนึ่งด้วยศรัทธา แม้แต่เพียงหนเดียวนะ พระพุทธเจ้าทรงตรัสท่านบอกว่า

    "เกิดไปอีกกี่ชาติก็ตาม ไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ความยากจนจะไม่มีกับคนนั้นเลย"

    แล้วต่อมาท่านกล่าวว่า "ด้วยอำนาจพระพุทธญาณไม่สามารถจะเห็นอานิสงส์ที่สุดของทานได้"

    นั่นก็หมายความว่า คนนั้นเข้านิพพานแล้วอานิสงส์ยังไม่หมด สังฆทานไม่ใช่เรื่องเล็ก ใหญ่มาก

    ก็มีปัญหาถามว่า ถ้าเจ้าของสังฆทานเข้านิพพานแล้ว ผลของสังฆทานจะได้กับ
    ใคร

    อรรถกถาจารย์แก้ว่า ต้องได้แก่บุคคลที่บูชาบุคคลนั้น คือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังยังเคารพบูชาเจ้าของสังฆทานอยู่ก็มีผลพลอยได้ ผลพลอยได้คนนั้นมีความเป็นอยู่เป็นสุข ร่ำรวยในทรัพย์สิน

    *การถวายสังฆทานมีผลดีอย่างนี้เอง พระพุทธเจ้าท่านก็เคยถวายสังฆทาน เราอยู่เบื้องหลังบูชาท่านก็พลอยได้อานิสงส์ด้วย คือความร่ำรวย หลวงพ่อบำเพ็ญบารมีมา 16 อสงไขยกับแสนกัปก็ต้องเคยทำสังฆทานมามากมายนับไม่ถ้วน เราบูชาหลวงพ่อก็พลอยได้อานิสงส์ด้วยเช่นกัน

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 99 เดือนพฤษภาคม 2532 หน้า 29 )
    #เข้านิพพานแล้วอานิสงส์ยังไม่หมด เมื่อกี้มีโยมมาถวายสังฆทาน ให้พรท่าน ท่านบอก "ขอถึงพระนิพพานในชาตินี้" ดีใจมาก คือว่าเป็นเจตนาที่ตั้งไว้สูงนี้ดีมาก เราตั้งใจนิพพาน ผลที่สุดงานทุกอย่างมันสำเร็จหมด ถ้าเรายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ส่วนที่อยู่ต่ำกว่าสำเร็จหมดอย่าง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ได้ครบ เพราะกำลังนิพพานให้ผล ตานี้ก็มีปัญหาอยู่ว่าทุกคนทำบุญ การถวายทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี คำว่าทานทั้งหมดเป็นปัจจัยทำให้เกิดความร่ำรวยในชาติหน้า จะเป็นคนก็เป็นคนรวย จะเป็นเทวดา นางฟ้า ก็มีความร่ำรวย เป็นพรหมก็เป็นพรหมที่ร่ำรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถวายสังฆทานครั้งหนึ่งด้วยศรัทธา แม้แต่เพียงหนเดียวนะ พระพุทธเจ้าทรงตรัสท่านบอกว่า "เกิดไปอีกกี่ชาติก็ตาม ไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ความยากจนจะไม่มีกับคนนั้นเลย" แล้วต่อมาท่านกล่าวว่า "ด้วยอำนาจพระพุทธญาณไม่สามารถจะเห็นอานิสงส์ที่สุดของทานได้" นั่นก็หมายความว่า คนนั้นเข้านิพพานแล้วอานิสงส์ยังไม่หมด สังฆทานไม่ใช่เรื่องเล็ก ใหญ่มาก ก็มีปัญหาถามว่า ถ้าเจ้าของสังฆทานเข้านิพพานแล้ว ผลของสังฆทานจะได้กับ ใคร อรรถกถาจารย์แก้ว่า ต้องได้แก่บุคคลที่บูชาบุคคลนั้น คือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังยังเคารพบูชาเจ้าของสังฆทานอยู่ก็มีผลพลอยได้ ผลพลอยได้คนนั้นมีความเป็นอยู่เป็นสุข ร่ำรวยในทรัพย์สิน *การถวายสังฆทานมีผลดีอย่างนี้เอง พระพุทธเจ้าท่านก็เคยถวายสังฆทาน เราอยู่เบื้องหลังบูชาท่านก็พลอยได้อานิสงส์ด้วย คือความร่ำรวย หลวงพ่อบำเพ็ญบารมีมา 16 อสงไขยกับแสนกัปก็ต้องเคยทำสังฆทานมามากมายนับไม่ถ้วน เราบูชาหลวงพ่อก็พลอยได้อานิสงส์ด้วยเช่นกัน (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 99 เดือนพฤษภาคม 2532 หน้า 29 )
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ

    ความมีอยู่ว่า
    ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ...
    - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย)

    กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่)

    บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน

    ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ

    แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี

    เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน

    ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย

    บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html
    https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551
    https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html
    https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545
    https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00
    https://www.sohu.com/a/249005081_100234890

    #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ ความมีอยู่ว่า ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ... - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย) กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่) บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551 https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545 https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00 https://www.sohu.com/a/249005081_100234890 #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    《我就是这般女子》在哪儿可以看?一周更新几集?-趣历史网
    关晓彤和侯明昊主演的《我就是这般女子》追剧日历出炉,自1月18日正式开播到2月15日大结局,见证班婳
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 0 รีวิว
  • 09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร!

    ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา

    ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย?

    ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง

    หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา

    ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง

    ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง

    ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู

    หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว)
    09 เมษายน 68
    10.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร! ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย? ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว) 09 เมษายน 68 10.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1259 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts