• สันติภาพที่ปารีส (Peace in Paris)

    เสียงระเบิดยังคงก้อง ในความหลัง เวียดนามทั้งสองฝั่ง ถูกแบ่งด้วยเส้นทาง สงครามเย็นเยือก มหาอำนาจเฝ้าจับจ้อง ในเงาของความหวัง ที่ยังเลือนลาง

    อเมริกาก้าวเข้ามา พร้อมธงเสรี ฐานทัพในไทย ถูกสร้างตามวิถี “คอมมิวนิสต์ต้องถูกหยุด ไว้ตรงนี้” ความขัดแย้งยิ่งพุ่งสูง ในทุกนาที

    * ที่ปารีสคือที่ ที่เราสัญญา หยุดสงคราม หยุดน้ำตา ที่หลั่งรินมา การต่อสู้จบลง ในกระดาษเพียงแผ่นเดียว แต่บาดแผล ยังไม่เคยเลือนลางจริง

    บนผืนดินไทย เคยมีทหารต่างชาติ เสียงเครื่องบินดังกระหึ่ม ในยามดึกดื่น คนไทยยืนหยัดในสายลม ที่พัดแปรปรวน ด้วยหวังให้แสงรุ่งอรุณ ยังคงมาถึง

    การเมืองในเงาอาวุธ และคำสัญญา ผู้นำทหารถือชะตา ของปวงประชา เวียดนามสงบ ไทยยังต้องลุ้นชะตา เมื่อสงครามจบ แต่ความหวาดกลัวยังอยู่

    ซ้ำ *

    ไทยต้องการอิสระ แต่ต้องเผชิญแรงกดดัน บทเรียนจากสงคราม ฝากไว้ให้เราระวัง โลกใบนี้ยังมี สิ่งที่ต้องเข้าใจ การสร้างสันติภาพ ยากกว่าสงครามที่ผ่านไป

    ซ้ำ *

    หลายสิบปีผ่านไป เสียงปืนได้เงียบหาย แต่เสียงแห่งประวัติศาสตร์ ยังร้องจากใจ สงครามจบ แต่คำถามยังไม่สิ้นสุด เราจะเดินไปข้างหน้า หรือย้อนคืนวันเก่า ที่เราผ่านมา

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568

    #สงครามเวียดนาม #สันติภาพปารีส #ประวัติศาสตร์ไทย #สันติภาพและสงคราม #บทเรียนจากสงคราม #คอมมิวนิสต์และเสรีนิยม #การเมืองสงครามเย็น #ไทยในสงครามเวียดนาม #เสียงแห่งประวัติศาสตร์ #เพลงเพื่อสันติภาพ
    สันติภาพที่ปารีส (Peace in Paris) เสียงระเบิดยังคงก้อง ในความหลัง เวียดนามทั้งสองฝั่ง ถูกแบ่งด้วยเส้นทาง สงครามเย็นเยือก มหาอำนาจเฝ้าจับจ้อง ในเงาของความหวัง ที่ยังเลือนลาง อเมริกาก้าวเข้ามา พร้อมธงเสรี ฐานทัพในไทย ถูกสร้างตามวิถี “คอมมิวนิสต์ต้องถูกหยุด ไว้ตรงนี้” ความขัดแย้งยิ่งพุ่งสูง ในทุกนาที * ที่ปารีสคือที่ ที่เราสัญญา หยุดสงคราม หยุดน้ำตา ที่หลั่งรินมา การต่อสู้จบลง ในกระดาษเพียงแผ่นเดียว แต่บาดแผล ยังไม่เคยเลือนลางจริง บนผืนดินไทย เคยมีทหารต่างชาติ เสียงเครื่องบินดังกระหึ่ม ในยามดึกดื่น คนไทยยืนหยัดในสายลม ที่พัดแปรปรวน ด้วยหวังให้แสงรุ่งอรุณ ยังคงมาถึง การเมืองในเงาอาวุธ และคำสัญญา ผู้นำทหารถือชะตา ของปวงประชา เวียดนามสงบ ไทยยังต้องลุ้นชะตา เมื่อสงครามจบ แต่ความหวาดกลัวยังอยู่ ซ้ำ * ไทยต้องการอิสระ แต่ต้องเผชิญแรงกดดัน บทเรียนจากสงคราม ฝากไว้ให้เราระวัง โลกใบนี้ยังมี สิ่งที่ต้องเข้าใจ การสร้างสันติภาพ ยากกว่าสงครามที่ผ่านไป ซ้ำ * หลายสิบปีผ่านไป เสียงปืนได้เงียบหาย แต่เสียงแห่งประวัติศาสตร์ ยังร้องจากใจ สงครามจบ แต่คำถามยังไม่สิ้นสุด เราจะเดินไปข้างหน้า หรือย้อนคืนวันเก่า ที่เราผ่านมา ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568 #สงครามเวียดนาม #สันติภาพปารีส #ประวัติศาสตร์ไทย #สันติภาพและสงคราม #บทเรียนจากสงคราม #คอมมิวนิสต์และเสรีนิยม #การเมืองสงครามเย็น #ไทยในสงครามเวียดนาม #เสียงแห่งประวัติศาสตร์ #เพลงเพื่อสันติภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น

    สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี 🌏

    จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
    สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ

    นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์
    สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน"

    ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ
    ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว

    รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม

    ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ
    สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่
    - ดอนเมือง
    - นครราชสีมา
    - ตาคลี
    - อุบลราชธานี
    - อุดรธานี
    - นครพนม
    - อู่ตะเภา

    ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย

    ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม
    ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง

    - รัฐบาลสหรัฐ
    - รัฐบาลเวียดนามเหนือ
    - รัฐบาลเวียดนามใต้
    - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้

    เนื้อหาสำคัญ ได้แก่
    - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม
    - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม
    - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม
    - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้

    ผลกระทบจากข้อตกลง
    การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน

    ผลกระทบนามต่อประเทศไทย
    1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ
    - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร
    - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ

    2. การสูญเสียเอกราช
    มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา

    3. ผลกระทบทางสังคม
    การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว

    สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค

    การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568

    #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม

    🎯
    52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี 🌏 จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์ สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน" ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่ - ดอนเมือง - นครราชสีมา - ตาคลี - อุบลราชธานี - อุดรธานี - นครพนม - อู่ตะเภา ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง - รัฐบาลสหรัฐ - รัฐบาลเวียดนามเหนือ - รัฐบาลเวียดนามใต้ - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้ เนื้อหาสำคัญ ได้แก่ - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้ ผลกระทบจากข้อตกลง การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน ผลกระทบนามต่อประเทศไทย 1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ 2. การสูญเสียเอกราช มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา 3. ผลกระทบทางสังคม การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568 #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม 🎯
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนการของซีไอเอและกองทัพสหรัฐในการสังหารชาวอเมริกัน

    เอกสารของ CIA ที่ได้รับการปลดล็อคเผยให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ วางแผนปฏิบัติการนอร์ธวูดส์ เพื่อก่อการร้ายต่อพลเมืองอเมริกัน เพื่อเป็นเหตุผลในการทำสงครามกับคิวบา

    โครงเรื่องมีข้อเสนอ เช่น การสร้าง 'การรณรงค์ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์คิวบา' ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา

    หลักฐานที่แสดงว่า CIA ไม่เคยใส่ใจสิทธิมนุษยชนของพลเมืองสหรัฐฯ

    ที่มา : DailyMail
    แผนการของซีไอเอและกองทัพสหรัฐในการสังหารชาวอเมริกัน เอกสารของ CIA ที่ได้รับการปลดล็อคเผยให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ วางแผนปฏิบัติการนอร์ธวูดส์ เพื่อก่อการร้ายต่อพลเมืองอเมริกัน เพื่อเป็นเหตุผลในการทำสงครามกับคิวบา โครงเรื่องมีข้อเสนอ เช่น การสร้าง 'การรณรงค์ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์คิวบา' ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา หลักฐานที่แสดงว่า CIA ไม่เคยใส่ใจสิทธิมนุษยชนของพลเมืองสหรัฐฯ ที่มา : DailyMail
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัศนะนักวิเคราะห์ชาวจีนมองการเมืองอเมริกัน "ยุคของทรัมป์จะทำให้อเมริกาคล้ายจีนมากขึ้น"

    ก่อนอื่นเมื่อคืนนี้ อีลอน มัสก์ ทำเอาทั้งซ้ายและไม่ซ้ายสะดุ้งกันไปหมด เพราะขณะที่กำลังปราศรัยเขาก็ตบหน้าอกแล้วชูมือขึ้นทำท่าเหมือนการทักทาย (และแสดงพลัง) ของพวกฟาสซิสต์ 

    ผมเห็นท่านี้พร้อมกับคำที่เขาพูดว่า “My heart goes out to you,”  แล้วตบหน้าอกจากนั้นเหมือนเขวี้ยงหัวใจไปให้ผู้ฟัง ถ้าหยวนๆ หน่อยก็คิดว่าเขาแค่โยนหัวใจปันให้แฟนๆ บางคนก็บอกว่า "นี่มันแค่ Roman salute" 
    แต่ถ้าไม่หยวนกับมัสก์ก็อดคิดไม่ได้ว่า "นี่มันขวาจัดกันไปใหญ่แล้ว"

    ไม่ใช่เรื่องปกปิดอะไรที่มัสก์สนับสนุนฝ่ายขวาจัด ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่กำลังสนับสนุนในยุโรปด้วย เช่น มัสก์ประกาศจะหนุนทุนให้กับพรรค Reform UK ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของสหราชอาณาจักร ต่อต้านผู้อพยพ และสนับสนุนชาตินิยมอังกฤษ

    มัสก์ ยังสนับสนุนพรรคขวาจัดในเยอรมนีโดยเขียนไว้ใน X ว่า "Only AfD can save Germany" - AfD คือชื่อย่อของพรรค "ทางเลือกเพื่อเยอรมนี" (Alternative für Deutschland) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา ต่อต้านคนต่างด้าว ต่อต้านผู้อพยพ สนับสนุนค่านิยมคริสเตียนและไม่เอาชาวมุสลิม

    มัสก์และทีมทรัมป์กำลังฟอร์มแนวร่วมพลังขวาในโลกตะวันตก แน่นอนว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆ เพราะทรัมป์มีอำนาจและมัสก์มีเงินและเครือข่าย

    แนวโน้มที่โลกตะวันตกกำลังจะขวาจัดๆ ฝ่ายจีนก็มองเห็นเรื่องนี้ หลังจากเลือกตั้งผมได้เขียนสรุปทัศนะของ "ทู่จู่ซี" (兔主席) ซึ่งเป็นนามปากกาของ "เริ่นอี้" (任意) นักเขียนคอลัมน์การเมืองชาวจีนที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียจีน เขาถือเป็นกลุ่ม "หงซานไต้" (红三代) หรือลูกหลานรุ่นที่ 3 ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นหลานชายของ เริ่นจ้งอี๋ (任仲夷) อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอดีตเลขาธิการคนแรกของคณะกรรมการมณฑลกวางตุ้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน  

    ในด้านความรู้ทางการเมืองตะวันตก เขาได้รับเชิญจากศาสตราจารย์ เอซรา ไฟเวล วอเกล (Ezra Feivel Vogel) นักจีนวิทยาชาวอเมริกัน และศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยเกี่ยวกับ "ยุคปฏิรูปของจีน" และช่วยเขาค้นคว้าเรื่อง "ยุคเติ้งเสี่ยวผิง" ต่อมาเขาได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยยการเมืองเคนเนดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและทำงานที่ศูนย์แฟร์แบงก์เพื่อการศึกษาเอเชียตะวันออก หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาทำงานให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนของจีนในปักกิ่ง

    เขาเขียนทัศนะด้านการเมืองเผยแพร่เป็นบทความในสื่อต่างๆ ของจีน รวมถึงในโซเชียลมีเดียของจีน ความคิดเห็นของเขามักถูกอ้างอิงโดยสื่อกระแสหลัก และ เขาอ้างว่าบทความบางบทความของเขาถูกใช้เป็น "ข้อมูลอ้างอิงภายใน" สำหรับเจ้าหน้าที่จีน โดยที่บทความของเขาในปี 2020 เรื่อง "ไม่ใช่รัฐบาลจีนที่ปลุกชาตินิยมจีน แต่เป็นนักการเมืองอเมริกัน" ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำโดย People's Daily Online  

    1. "ทู่จู่ซี" มองว่า ชัยชนะของทรัมป์เหนือพรรคเดโมแครต คือ "ชัยชนะของการปฏิวัติระดับรากหญ้า" เขาชี้ว่าการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายทรัมป์และฝ่ายแฮร์ริส โดยพื้นฐานแล้ว เป็นการเผชิญหน้าระหว่างคนระดับรากหญ้าและประชาชนคนสามัญของสหรัฐฯ กับกลุ่มผู้ปกครองชั้นนำของสหรัฐฯ และมองว่านี่คือยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ซึ่งทัศนะนี้ของ "ทู่จู่ซี" คล้ายกับความเห็นของชาวอเมริกันบางคนที่ตำหนิว่าพรรคเดโมแครตทรยศฐานเสียงของตัวเองที่แต่เดิมเป็นพวกคนรากหญ้าและแรงงาน แต่หันมาเน้นเรื่องการเมืองชิงอัตลักษณ์ คือแนวคิดเรื่อง Woke และยังสนองวาระของกลุ่มชนชั้นนำด้วยการสนับสนุนสงครามในยูเครนและสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้พรรครีพับลิกันหันมาจับกลุ่มรากหญ้าแทนจนประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายตะวันออกกลาง

    2. "ทู่จู่ซี" มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ และกระบวนการนั้นได้เสร็จสิ้นงแล้ว ซึ่งพรรครีพับลิกันได้กลายเป็นพรรคที่มีชนชั้นกลางและชั้นล่างเป็นรากฐานหลัก และผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้รวมเอาคนผิวสี ละติน และคนหนุ่มสาวเข้ามาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรครีพับลิกันไม่ใช่ตัวแทนของนายทุนใหญ่ นักอุตสาหกรรมใหญ่ นักการเงินใหญ่ และชนชั้นกระฎุมพี" อีกต่อไป แต่กลายเป็นพรรคของคนอเมริกันคนเดินดิน 

    3. "ทู่จู่ซี" ชี้ว่าทรัมป์ได้กลายเป็นประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะไม่เพียงแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พรรครีพับลิกันยังชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา และคาดว่าจะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ในเวลาเดียวกัน "ในศาลฎีกา พรรครีพับลิกัน/อนุรักษ์นิยมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนถึง 6:3 (รวมถึงผู้พิพากษาสามคนที่ทรัมป์คัดเลือกด้วยตัวเอง) ทั้งสามอำนาจรวมกันเป็นหนึ่ง และควรเห็นว่าพรรครีพับลิกันในปัจจุบันไม่ใช่พรรครีพับลิกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรครีพับลิกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่เป็นพรรคของทรัมป์เท่านั้น ชื่อที่เหมาะสมกว่าคือ พรรคทรัมป์ การรวมอำนาจและอิทธิพลนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อเมริกา ทรัมป์อาจเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา" 

    4. แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากชาวอเมริกันกว่าครึ่งประเทศ แต่การเมืองของอเมริกาก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสังคมก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ชาวอเมริกันครึ่งหนึ่งเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ยุคมืดแล้ว" ประชากรครึ่งหนึ่งเชื่อว่านักการเมืองอันธพาลที่มีนิสัยเลวร้ายอย่างยิ่ง เช่น ฮิตเลอร์ ฟาสซิสต์ และนาซี ได้ขึ้นมามีอำนาจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายทุกสิ่งที่ประชาชนรู้เกี่ยวกับระบบของอเมริกาภายในสี่ปีข้างหน้า และนำประเทศไปในทิศทางอื่น พวกเขาสับสนและสิ้นหวังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ

    สังคมการเมืองอเมริกันหลังการกลับเข้ามามีอำนาจของทรัมป์จะทำให้เกิดค่านิยมใหม่ "ทู่จู่ซี"  มองว่า

    1) ในแง่ของรัฐบาล ประการแรกคือการเสริมอำนาจของประธานาธิบดี/ฝ่ายบริหารอย่างมาก โดยประธานาธิบดีเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเมือง แผ่ขยายไปยังฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เพิ่มความเผด็จการ เพิ่มความเข้มข้นของการตัดสินใจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการของรัฐบาล และลบขั้นตอนราชการที่ไม่จำเป็นออกจากระบบเก่า

    2) ในแง่นโยบายเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ จะมุ่งที่ ระบบตลาดนิยม" นั่นคือการมีรัฐบาลขนาดเล็กเพื่อลดการแทรกแซงตลาด ลดภาษีให้ต่ำลง ลดกฎระเบียบในตลาดให้น้อยลง ใช้แรงผลักดันของตลาดเพื่อดึงดูดเงินทุนไหลกลับ เรียกร้องให้บริษัทอเมริกันกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อการลงทุนและการก่อสร้างเพิ่มเติม

    3) ในแง่วัฒนธรรมในประเทศ จะส่งเสริมและพัฒนาความเป็นชาตินิยม ความรักชาติ และชาตินิยมของอเมริกาอย่างเข้มแข็ง อยางที่ เจดี แวนซ์ (JD Vance) ว่าที่รองประธานาธิบดีบอกว่า สหรัฐอเมริกาเป็น "ชาติ" สร้างสถานะทางวัฒนธรรมที่คนผิวขาว และต่อต้านเสรีนิยม/พวกหัวก้าวหน้า/Woke รัฐบาลใหม่จะมีอิทธิพลและกำหนดรูปแบบสังคมอเมริกันผ่านคำสั่งของศาลฎีกา การตรากฎหมาย คำสั่งของรัฐบาล สุนทรพจน์ของผู้นำทางการเมืองและผู้นำทางความคิด

    4) ในแง่เศรษฐกิจต่างประเทศ ระบอบทรัมป์จะต่อต้านโลกาภิวัตน์ ต่อต้านการค้าเสรี ต่อต้านกรอบแนวคิดเสรีนิยมใหม่ ยกระดับการใช้เครื่องมือภาษีศุลกากรเพื่อกีดกันสินค้าจากต่างประเทศอย่างครอบคลุม เพื่อกดดันและจูงใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศของสหรัฐฯ

    5) ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ในยุคนี้จะ "ลัทธิโดดเดี่ยว" และ "ลัทธิไม่แทรกแซง" นั่นคือสหรัฐฯ จะหันมาสนใจเรื่องของตัวเองมากกขึ้นและไม่แทรกแซงกิจการต่างประเทศมากเท่าเดิม ลดการลงทุนในภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (เช่น อันฉีดงบประมาณด้านสงคราม) ลดการใช้เงินไปกับการรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ และประเมินความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรใหม่

    6) ในการบรรลุเป้าหมายข้างต้น รัฐบาลทรัมป์จะได้รับการสนับสนุนจาก อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของเขาในการสร้างกลุ่มอำนาจ "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" ซึ่งต่างจากกลุ่มซิลิคอนวัลเลย์ที่สนับสนุนเสรีนิยม "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" จะเป็นการก่อตัวของพันธมิตรทางการเมืองใหม่ด้านเทคโนโลยี-อำนาจนิยม-อนุรักษ์นิยม

    แง่มุมสุดท้ายมีความน่าสนใจอยางยิ่ง เพราะจะเป็นการก่อตัวใหม่ของกลุ่มอำนาจใหม่ด้านการเมืองและธุรกิจเทค "ทู่จู่ซี" แสดงทัศนะว่า "ค่านิยมของชาวอเมริกันรุ่นใหม่ในประเด็นเศรษฐกิจนั้น “เอียงซ้าย” เชื่อในลัทธิก้าวหน้า เห็นอกเห็นใจลัทธิสังคมนิยม และไม่ต่อต้านลัทธิสังคมนิยม กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในแง่ของค่านิยมทางเศรษฐกิจ พวกเขาจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) ในอนาคตมากขึ้น การที่ทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจจะเปลี่ยนทัศนคติของคนหนุ่มสาวในประเด็นเศรษฐกิจหรือไม่ เป็นเรื่องยากที่จะบอก" 

    "แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์เป็นพรรคการเมืองระดับรากหญ้า เป็นพรรคการเมืองประชานิยม และให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการอยู่รอดของคนธรรมดาสามัญ ดังนั้น พรรคทรัมป์จึงสามารถรวมนโยบายเศรษฐกิจฝ่ายซ้ายได้ ในทางกลับกัน พันธมิตรทางการเมืองแบบเทคโน-เผด็จการ-อนุรักษ์นิยมของทรัมป์ (และมัสก์) จะนำลัทธิเผด็จการ การปกครองแบบเผด็จการ และความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมาสู่วัฒนธรรมการเมืองของอเมริกา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับแนวทางของเอเชียตะวันออกมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีความเป็นไปได้ที่อเมริกาในอนาคตจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) มากขึ้น" 

    "ทู่จู่ซี" กล่าวไว้แบบนี้ และบทความนี้ได้รับความนิยมในจีนค่อนข้างมากในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใหม่ๆ

    ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ "ทู่จู่ซี" และตามแนวโน้มความเป็นขวาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเมืองสหรัฐฯ และยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว

    ที่มา เฟซบุ๊ก Kornkit Disthan
    https://www.facebook.com/share/p/149JGAqSR9/?
    ทัศนะนักวิเคราะห์ชาวจีนมองการเมืองอเมริกัน "ยุคของทรัมป์จะทำให้อเมริกาคล้ายจีนมากขึ้น" ก่อนอื่นเมื่อคืนนี้ อีลอน มัสก์ ทำเอาทั้งซ้ายและไม่ซ้ายสะดุ้งกันไปหมด เพราะขณะที่กำลังปราศรัยเขาก็ตบหน้าอกแล้วชูมือขึ้นทำท่าเหมือนการทักทาย (และแสดงพลัง) ของพวกฟาสซิสต์  ผมเห็นท่านี้พร้อมกับคำที่เขาพูดว่า “My heart goes out to you,”  แล้วตบหน้าอกจากนั้นเหมือนเขวี้ยงหัวใจไปให้ผู้ฟัง ถ้าหยวนๆ หน่อยก็คิดว่าเขาแค่โยนหัวใจปันให้แฟนๆ บางคนก็บอกว่า "นี่มันแค่ Roman salute"  แต่ถ้าไม่หยวนกับมัสก์ก็อดคิดไม่ได้ว่า "นี่มันขวาจัดกันไปใหญ่แล้ว" ไม่ใช่เรื่องปกปิดอะไรที่มัสก์สนับสนุนฝ่ายขวาจัด ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่กำลังสนับสนุนในยุโรปด้วย เช่น มัสก์ประกาศจะหนุนทุนให้กับพรรค Reform UK ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของสหราชอาณาจักร ต่อต้านผู้อพยพ และสนับสนุนชาตินิยมอังกฤษ มัสก์ ยังสนับสนุนพรรคขวาจัดในเยอรมนีโดยเขียนไว้ใน X ว่า "Only AfD can save Germany" - AfD คือชื่อย่อของพรรค "ทางเลือกเพื่อเยอรมนี" (Alternative für Deutschland) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา ต่อต้านคนต่างด้าว ต่อต้านผู้อพยพ สนับสนุนค่านิยมคริสเตียนและไม่เอาชาวมุสลิม มัสก์และทีมทรัมป์กำลังฟอร์มแนวร่วมพลังขวาในโลกตะวันตก แน่นอนว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆ เพราะทรัมป์มีอำนาจและมัสก์มีเงินและเครือข่าย แนวโน้มที่โลกตะวันตกกำลังจะขวาจัดๆ ฝ่ายจีนก็มองเห็นเรื่องนี้ หลังจากเลือกตั้งผมได้เขียนสรุปทัศนะของ "ทู่จู่ซี" (兔主席) ซึ่งเป็นนามปากกาของ "เริ่นอี้" (任意) นักเขียนคอลัมน์การเมืองชาวจีนที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียจีน เขาถือเป็นกลุ่ม "หงซานไต้" (红三代) หรือลูกหลานรุ่นที่ 3 ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นหลานชายของ เริ่นจ้งอี๋ (任仲夷) อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอดีตเลขาธิการคนแรกของคณะกรรมการมณฑลกวางตุ้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน   ในด้านความรู้ทางการเมืองตะวันตก เขาได้รับเชิญจากศาสตราจารย์ เอซรา ไฟเวล วอเกล (Ezra Feivel Vogel) นักจีนวิทยาชาวอเมริกัน และศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยเกี่ยวกับ "ยุคปฏิรูปของจีน" และช่วยเขาค้นคว้าเรื่อง "ยุคเติ้งเสี่ยวผิง" ต่อมาเขาได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยยการเมืองเคนเนดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและทำงานที่ศูนย์แฟร์แบงก์เพื่อการศึกษาเอเชียตะวันออก หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาทำงานให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนของจีนในปักกิ่ง เขาเขียนทัศนะด้านการเมืองเผยแพร่เป็นบทความในสื่อต่างๆ ของจีน รวมถึงในโซเชียลมีเดียของจีน ความคิดเห็นของเขามักถูกอ้างอิงโดยสื่อกระแสหลัก และ เขาอ้างว่าบทความบางบทความของเขาถูกใช้เป็น "ข้อมูลอ้างอิงภายใน" สำหรับเจ้าหน้าที่จีน โดยที่บทความของเขาในปี 2020 เรื่อง "ไม่ใช่รัฐบาลจีนที่ปลุกชาตินิยมจีน แต่เป็นนักการเมืองอเมริกัน" ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำโดย People's Daily Online   1. "ทู่จู่ซี" มองว่า ชัยชนะของทรัมป์เหนือพรรคเดโมแครต คือ "ชัยชนะของการปฏิวัติระดับรากหญ้า" เขาชี้ว่าการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายทรัมป์และฝ่ายแฮร์ริส โดยพื้นฐานแล้ว เป็นการเผชิญหน้าระหว่างคนระดับรากหญ้าและประชาชนคนสามัญของสหรัฐฯ กับกลุ่มผู้ปกครองชั้นนำของสหรัฐฯ และมองว่านี่คือยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ซึ่งทัศนะนี้ของ "ทู่จู่ซี" คล้ายกับความเห็นของชาวอเมริกันบางคนที่ตำหนิว่าพรรคเดโมแครตทรยศฐานเสียงของตัวเองที่แต่เดิมเป็นพวกคนรากหญ้าและแรงงาน แต่หันมาเน้นเรื่องการเมืองชิงอัตลักษณ์ คือแนวคิดเรื่อง Woke และยังสนองวาระของกลุ่มชนชั้นนำด้วยการสนับสนุนสงครามในยูเครนและสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้พรรครีพับลิกันหันมาจับกลุ่มรากหญ้าแทนจนประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายตะวันออกกลาง 2. "ทู่จู่ซี" มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ และกระบวนการนั้นได้เสร็จสิ้นงแล้ว ซึ่งพรรครีพับลิกันได้กลายเป็นพรรคที่มีชนชั้นกลางและชั้นล่างเป็นรากฐานหลัก และผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้รวมเอาคนผิวสี ละติน และคนหนุ่มสาวเข้ามาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรครีพับลิกันไม่ใช่ตัวแทนของนายทุนใหญ่ นักอุตสาหกรรมใหญ่ นักการเงินใหญ่ และชนชั้นกระฎุมพี" อีกต่อไป แต่กลายเป็นพรรคของคนอเมริกันคนเดินดิน  3. "ทู่จู่ซี" ชี้ว่าทรัมป์ได้กลายเป็นประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะไม่เพียงแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พรรครีพับลิกันยังชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา และคาดว่าจะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ในเวลาเดียวกัน "ในศาลฎีกา พรรครีพับลิกัน/อนุรักษ์นิยมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนถึง 6:3 (รวมถึงผู้พิพากษาสามคนที่ทรัมป์คัดเลือกด้วยตัวเอง) ทั้งสามอำนาจรวมกันเป็นหนึ่ง และควรเห็นว่าพรรครีพับลิกันในปัจจุบันไม่ใช่พรรครีพับลิกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรครีพับลิกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่เป็นพรรคของทรัมป์เท่านั้น ชื่อที่เหมาะสมกว่าคือ พรรคทรัมป์ การรวมอำนาจและอิทธิพลนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อเมริกา ทรัมป์อาจเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา"  4. แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากชาวอเมริกันกว่าครึ่งประเทศ แต่การเมืองของอเมริกาก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสังคมก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ชาวอเมริกันครึ่งหนึ่งเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ยุคมืดแล้ว" ประชากรครึ่งหนึ่งเชื่อว่านักการเมืองอันธพาลที่มีนิสัยเลวร้ายอย่างยิ่ง เช่น ฮิตเลอร์ ฟาสซิสต์ และนาซี ได้ขึ้นมามีอำนาจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายทุกสิ่งที่ประชาชนรู้เกี่ยวกับระบบของอเมริกาภายในสี่ปีข้างหน้า และนำประเทศไปในทิศทางอื่น พวกเขาสับสนและสิ้นหวังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ สังคมการเมืองอเมริกันหลังการกลับเข้ามามีอำนาจของทรัมป์จะทำให้เกิดค่านิยมใหม่ "ทู่จู่ซี"  มองว่า 1) ในแง่ของรัฐบาล ประการแรกคือการเสริมอำนาจของประธานาธิบดี/ฝ่ายบริหารอย่างมาก โดยประธานาธิบดีเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเมือง แผ่ขยายไปยังฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เพิ่มความเผด็จการ เพิ่มความเข้มข้นของการตัดสินใจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการของรัฐบาล และลบขั้นตอนราชการที่ไม่จำเป็นออกจากระบบเก่า 2) ในแง่นโยบายเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ จะมุ่งที่ ระบบตลาดนิยม" นั่นคือการมีรัฐบาลขนาดเล็กเพื่อลดการแทรกแซงตลาด ลดภาษีให้ต่ำลง ลดกฎระเบียบในตลาดให้น้อยลง ใช้แรงผลักดันของตลาดเพื่อดึงดูดเงินทุนไหลกลับ เรียกร้องให้บริษัทอเมริกันกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อการลงทุนและการก่อสร้างเพิ่มเติม 3) ในแง่วัฒนธรรมในประเทศ จะส่งเสริมและพัฒนาความเป็นชาตินิยม ความรักชาติ และชาตินิยมของอเมริกาอย่างเข้มแข็ง อยางที่ เจดี แวนซ์ (JD Vance) ว่าที่รองประธานาธิบดีบอกว่า สหรัฐอเมริกาเป็น "ชาติ" สร้างสถานะทางวัฒนธรรมที่คนผิวขาว และต่อต้านเสรีนิยม/พวกหัวก้าวหน้า/Woke รัฐบาลใหม่จะมีอิทธิพลและกำหนดรูปแบบสังคมอเมริกันผ่านคำสั่งของศาลฎีกา การตรากฎหมาย คำสั่งของรัฐบาล สุนทรพจน์ของผู้นำทางการเมืองและผู้นำทางความคิด 4) ในแง่เศรษฐกิจต่างประเทศ ระบอบทรัมป์จะต่อต้านโลกาภิวัตน์ ต่อต้านการค้าเสรี ต่อต้านกรอบแนวคิดเสรีนิยมใหม่ ยกระดับการใช้เครื่องมือภาษีศุลกากรเพื่อกีดกันสินค้าจากต่างประเทศอย่างครอบคลุม เพื่อกดดันและจูงใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศของสหรัฐฯ 5) ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ในยุคนี้จะ "ลัทธิโดดเดี่ยว" และ "ลัทธิไม่แทรกแซง" นั่นคือสหรัฐฯ จะหันมาสนใจเรื่องของตัวเองมากกขึ้นและไม่แทรกแซงกิจการต่างประเทศมากเท่าเดิม ลดการลงทุนในภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (เช่น อันฉีดงบประมาณด้านสงคราม) ลดการใช้เงินไปกับการรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ และประเมินความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรใหม่ 6) ในการบรรลุเป้าหมายข้างต้น รัฐบาลทรัมป์จะได้รับการสนับสนุนจาก อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของเขาในการสร้างกลุ่มอำนาจ "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" ซึ่งต่างจากกลุ่มซิลิคอนวัลเลย์ที่สนับสนุนเสรีนิยม "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" จะเป็นการก่อตัวของพันธมิตรทางการเมืองใหม่ด้านเทคโนโลยี-อำนาจนิยม-อนุรักษ์นิยม แง่มุมสุดท้ายมีความน่าสนใจอยางยิ่ง เพราะจะเป็นการก่อตัวใหม่ของกลุ่มอำนาจใหม่ด้านการเมืองและธุรกิจเทค "ทู่จู่ซี" แสดงทัศนะว่า "ค่านิยมของชาวอเมริกันรุ่นใหม่ในประเด็นเศรษฐกิจนั้น “เอียงซ้าย” เชื่อในลัทธิก้าวหน้า เห็นอกเห็นใจลัทธิสังคมนิยม และไม่ต่อต้านลัทธิสังคมนิยม กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในแง่ของค่านิยมทางเศรษฐกิจ พวกเขาจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) ในอนาคตมากขึ้น การที่ทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจจะเปลี่ยนทัศนคติของคนหนุ่มสาวในประเด็นเศรษฐกิจหรือไม่ เป็นเรื่องยากที่จะบอก"  "แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์เป็นพรรคการเมืองระดับรากหญ้า เป็นพรรคการเมืองประชานิยม และให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการอยู่รอดของคนธรรมดาสามัญ ดังนั้น พรรคทรัมป์จึงสามารถรวมนโยบายเศรษฐกิจฝ่ายซ้ายได้ ในทางกลับกัน พันธมิตรทางการเมืองแบบเทคโน-เผด็จการ-อนุรักษ์นิยมของทรัมป์ (และมัสก์) จะนำลัทธิเผด็จการ การปกครองแบบเผด็จการ และความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมาสู่วัฒนธรรมการเมืองของอเมริกา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับแนวทางของเอเชียตะวันออกมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีความเป็นไปได้ที่อเมริกาในอนาคตจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) มากขึ้น"  "ทู่จู่ซี" กล่าวไว้แบบนี้ และบทความนี้ได้รับความนิยมในจีนค่อนข้างมากในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใหม่ๆ ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ "ทู่จู่ซี" และตามแนวโน้มความเป็นขวาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเมืองสหรัฐฯ และยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว ที่มา เฟซบุ๊ก Kornkit Disthan https://www.facebook.com/share/p/149JGAqSR9/?
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ ที่ไม่พอใจกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ อาจแบนแอปพลิเคชันนี้ ได้หันไปใช้แอปพลิเคชันจีนอื่น ๆ อย่าง Xiaohongshu ซึ่งเป็นแอปที่เน้นด้านไลฟ์สไตล์และมีลักษณะคล้ายกับ Instagram และ Pinterest การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok หรือปิดแอปพลิเคชันนี้ภายในวันที่ 19 มกราคม ทำให้ Xiaohongshu ขึ้นสู่อันดับหนึ่งใน Apple App Store

    ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ หลายคนแสดงความไม่พอใจต่อการแบนนี้ โดยกล่าวว่า "เอาข้อมูลของฉันไปเถอะ" และหันไปใช้ Xiaohongshu แทนที่จะกลับไปใช้แพลตฟอร์มของสหรัฐฯ เช่น Instagram และ Facebook Milton Mueller ศาสตราจารย์จาก Georgia Tech School of Public Policy กล่าวว่า การแบน TikTok อาจส่งผลย้อนกลับ ทำให้ผู้ใช้งานหันไปใช้แอปอื่นที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนมากขึ้น Robyn Caplan จาก Duke University กล่าวเสริมว่า การแบนนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานหันไปใช้แอปที่มีการแบ่งแยกกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ชัดเจน

    แม้ว่า Xiaohongshu จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ใช้งานใหม่เหล่านี้จะยังคงใช้งานแอปนี้ในระยะยาวหรือไม่ ความท้าทายหลักของ Xiaohongshu คือการแปลภาษาและการตอบสนองต่อผู้ใช้งานใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/16/take-my-data-us-tiktok-refugees-flock-to-alternative-chinese-app
    ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ ที่ไม่พอใจกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ อาจแบนแอปพลิเคชันนี้ ได้หันไปใช้แอปพลิเคชันจีนอื่น ๆ อย่าง Xiaohongshu ซึ่งเป็นแอปที่เน้นด้านไลฟ์สไตล์และมีลักษณะคล้ายกับ Instagram และ Pinterest การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok หรือปิดแอปพลิเคชันนี้ภายในวันที่ 19 มกราคม ทำให้ Xiaohongshu ขึ้นสู่อันดับหนึ่งใน Apple App Store ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ หลายคนแสดงความไม่พอใจต่อการแบนนี้ โดยกล่าวว่า "เอาข้อมูลของฉันไปเถอะ" และหันไปใช้ Xiaohongshu แทนที่จะกลับไปใช้แพลตฟอร์มของสหรัฐฯ เช่น Instagram และ Facebook Milton Mueller ศาสตราจารย์จาก Georgia Tech School of Public Policy กล่าวว่า การแบน TikTok อาจส่งผลย้อนกลับ ทำให้ผู้ใช้งานหันไปใช้แอปอื่นที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนมากขึ้น Robyn Caplan จาก Duke University กล่าวเสริมว่า การแบนนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานหันไปใช้แอปที่มีการแบ่งแยกกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ชัดเจน แม้ว่า Xiaohongshu จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ใช้งานใหม่เหล่านี้จะยังคงใช้งานแอปนี้ในระยะยาวหรือไม่ ความท้าทายหลักของ Xiaohongshu คือการแปลภาษาและการตอบสนองต่อผู้ใช้งานใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/16/take-my-data-us-tiktok-refugees-flock-to-alternative-chinese-app
    WWW.THESTAR.COM.MY
    ‘Take my data’: US ‘TikTok refugees’ flock to alternative Chinese app
    Furious at the prospect of a US government ban on social media platform TikTok, American users have flocked to another Chinese-owned app in droves, many with a defiant message: “Take my data!”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนปักหลักชุมนุมท่ามกลางพายุหิมะหน้าที่พักประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ก่อนเส้นตายหมายจับกรณีการประกาศกฎอัยการศึกจะสิ้นสุดในอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมง
    .
    ยุนนำเกาหลีใต้เข้าสู่วิกฤตการเมืองตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วจากการประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ และนับจากนั้นก็กบดานอยู่ในทำเนียบประธานาธิบดีโดยมีหน่วยอารักขาที่จงรักภักดีห้อมล้อมป้องกันการเข้าจับกุมของทางการ
    .
    วันเสาร์ (4 ม.ค.) ประชาชนหลายพันคนไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีและถนนหลักหลายสายในกรุงโซล หลังจากความพยายามเข้าจับกุมยุนล้มเหลว โดยฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้จับกุมประธานาธิบดีผู้นี้ ขณะที่อีกฝ่ายต้องการให้ประกาศว่า การถอดถอนยุนเป็นโมฆะ ผู้ประท้วงเหล่านั้นนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันอาทิตย์แม้มีหิมะตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนวันเสาร์ก็ตาม
    .
    ลี จิน-อา วัย 28 ปี ที่เคยทำงานในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง บอกว่า ลาออกจากงานเพื่อไปประท้วงต่อต้านยุนและปกป้องประเทศชาติและประชาธิปไตย โดยไม่สนใจว่า หิมะจะตกหนักแค่ไหน ลียังปักหลักค้างแรมหน้าทำเนียบประธานาธิบดีเนื่องจากบ้านอยู่ไกลเกินกว่าจะเดินทางกลับ
    .
    เช่นเดียวกับพัค ยอง-ชุล วัย 70 ปี ที่บอกว่า เคยไปรบกับคอมมิวนิสต์ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ 20 องศา และตอนนี้ต้องออกรบอีกครั้งเพื่อปกป้องยุนก่อนที่หมายจับจะหมดอายุเที่ยงคืนวันจันทร์
    .
    การชุมนุมท่ามกลางความหนาวเหน็บเกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมายุนเผยว่า ได้ติดตามการชุมนุมของผู้สนับสนุนตนเองจากไลฟ์สตรีมบนยูทูบ พร้อมประกาศ “สู้” กับพวกที่พยายามตั้งคำถามกับการประกาศกฎอัยการศึกของตน
    .
    การยึดอำนาจในช่วงสั้นๆ ดังกล่าวส่งผลให้ยุนเผชิญข้อหาอาญาจากการก่อกบฏ ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีอาญาไม่กี่คดีที่ประธานาธิบดีไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกัน ซึ่งเท่ากับว่า ยุนอาจถูกตัดสินจำคุกหรือเลวร้ายที่สุดคือประหารชีวิต หากมีการบังคับใช้หมายจับ ยุนจะเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่ถูกจับกุมขณะอยู่ในตำแหน่ง
    .
    ทั้งนี้ พรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญ เรียกร้องให้ยุบหน่วยอารักขาประธานาธิบดี หลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนถูกกองกำลังรักษาความปลอดภัยนับร้อยขัดขวางไม่ให้เข้าถึงตัวยุน
    .
    พัค ชาน-แด ผู้นำดีพีในรัฐสภา กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการตั้งตนเป็นกองกำลังปฏิวัติ จึงไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป
    .
    สำนักงานสอบสวนการทุจริต (ซีไอโอ) ที่ทำการสอบสวนกรณีการประกาศกฎอัยการศึก และฝ่ายค้านเรียกร้องให้ชอย ซัง-ม็อก สมาชิกพรรคเดียวกับยุนที่เข้ารักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ สั่งให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดีให้ความร่วมมือในการสอบสวน
    .
    นอกจากนั้น มีแนวโน้มว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางถึงโซลในวันอาทิตย์ จะหารือกับโช แท-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับวิกฤตการเมืองที่เกาหลีใต้เผชิญอยู่ รวมถึงสนับสนุนให้สานต่อนโยบายของยุนในวันจันทร์ (6 ม.ค.)
    .
    วันศุกร์ที่ผ่านมา ทนายความของยุนระบุว่า ความพยายามจับกุมประธานาธิบดี “ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง” และประกาศจะดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่หน่วยอารักขาและทหารกีดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเข้าถึงตัวยุน และต้องล้มเลิกความพยายามโดยระบุเหตุผลด้านความปลอดภัย
    .
    ทางด้านศาลรัฐธรรมนูญนั้นจะเริ่มการไต่สวนในวันที่ 14 ม.ค. ไม่ว่ายุนจะไปให้การหรือไม่ก็ตาม โดยมีเวลา 180 วันในการวินิจฉัยว่า จะปลดหรือคืนตำแหน่งให้ยุนซึ่งในระหว่างนี้ถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่
    .
    ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีโน มู-เฮียน และพัค กึน-ฮเยไม่เคยไปปรากฏตัวในการพิจารณาคดีถอดถอนแต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001202
    ..............
    Sondhi X
    ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนปักหลักชุมนุมท่ามกลางพายุหิมะหน้าที่พักประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ก่อนเส้นตายหมายจับกรณีการประกาศกฎอัยการศึกจะสิ้นสุดในอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมง . ยุนนำเกาหลีใต้เข้าสู่วิกฤตการเมืองตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วจากการประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ และนับจากนั้นก็กบดานอยู่ในทำเนียบประธานาธิบดีโดยมีหน่วยอารักขาที่จงรักภักดีห้อมล้อมป้องกันการเข้าจับกุมของทางการ . วันเสาร์ (4 ม.ค.) ประชาชนหลายพันคนไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีและถนนหลักหลายสายในกรุงโซล หลังจากความพยายามเข้าจับกุมยุนล้มเหลว โดยฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้จับกุมประธานาธิบดีผู้นี้ ขณะที่อีกฝ่ายต้องการให้ประกาศว่า การถอดถอนยุนเป็นโมฆะ ผู้ประท้วงเหล่านั้นนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันอาทิตย์แม้มีหิมะตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนวันเสาร์ก็ตาม . ลี จิน-อา วัย 28 ปี ที่เคยทำงานในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง บอกว่า ลาออกจากงานเพื่อไปประท้วงต่อต้านยุนและปกป้องประเทศชาติและประชาธิปไตย โดยไม่สนใจว่า หิมะจะตกหนักแค่ไหน ลียังปักหลักค้างแรมหน้าทำเนียบประธานาธิบดีเนื่องจากบ้านอยู่ไกลเกินกว่าจะเดินทางกลับ . เช่นเดียวกับพัค ยอง-ชุล วัย 70 ปี ที่บอกว่า เคยไปรบกับคอมมิวนิสต์ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ 20 องศา และตอนนี้ต้องออกรบอีกครั้งเพื่อปกป้องยุนก่อนที่หมายจับจะหมดอายุเที่ยงคืนวันจันทร์ . การชุมนุมท่ามกลางความหนาวเหน็บเกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมายุนเผยว่า ได้ติดตามการชุมนุมของผู้สนับสนุนตนเองจากไลฟ์สตรีมบนยูทูบ พร้อมประกาศ “สู้” กับพวกที่พยายามตั้งคำถามกับการประกาศกฎอัยการศึกของตน . การยึดอำนาจในช่วงสั้นๆ ดังกล่าวส่งผลให้ยุนเผชิญข้อหาอาญาจากการก่อกบฏ ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีอาญาไม่กี่คดีที่ประธานาธิบดีไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกัน ซึ่งเท่ากับว่า ยุนอาจถูกตัดสินจำคุกหรือเลวร้ายที่สุดคือประหารชีวิต หากมีการบังคับใช้หมายจับ ยุนจะเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่ถูกจับกุมขณะอยู่ในตำแหน่ง . ทั้งนี้ พรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญ เรียกร้องให้ยุบหน่วยอารักขาประธานาธิบดี หลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนถูกกองกำลังรักษาความปลอดภัยนับร้อยขัดขวางไม่ให้เข้าถึงตัวยุน . พัค ชาน-แด ผู้นำดีพีในรัฐสภา กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการตั้งตนเป็นกองกำลังปฏิวัติ จึงไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป . สำนักงานสอบสวนการทุจริต (ซีไอโอ) ที่ทำการสอบสวนกรณีการประกาศกฎอัยการศึก และฝ่ายค้านเรียกร้องให้ชอย ซัง-ม็อก สมาชิกพรรคเดียวกับยุนที่เข้ารักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ สั่งให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดีให้ความร่วมมือในการสอบสวน . นอกจากนั้น มีแนวโน้มว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางถึงโซลในวันอาทิตย์ จะหารือกับโช แท-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับวิกฤตการเมืองที่เกาหลีใต้เผชิญอยู่ รวมถึงสนับสนุนให้สานต่อนโยบายของยุนในวันจันทร์ (6 ม.ค.) . วันศุกร์ที่ผ่านมา ทนายความของยุนระบุว่า ความพยายามจับกุมประธานาธิบดี “ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง” และประกาศจะดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่หน่วยอารักขาและทหารกีดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเข้าถึงตัวยุน และต้องล้มเลิกความพยายามโดยระบุเหตุผลด้านความปลอดภัย . ทางด้านศาลรัฐธรรมนูญนั้นจะเริ่มการไต่สวนในวันที่ 14 ม.ค. ไม่ว่ายุนจะไปให้การหรือไม่ก็ตาม โดยมีเวลา 180 วันในการวินิจฉัยว่า จะปลดหรือคืนตำแหน่งให้ยุนซึ่งในระหว่างนี้ถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ . ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีโน มู-เฮียน และพัค กึน-ฮเยไม่เคยไปปรากฏตัวในการพิจารณาคดีถอดถอนแต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001202 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1195 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น

    บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต
    นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า
    ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง
    พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“
    บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ"
    ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก
    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก
    บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023
    บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น
    บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท 
    ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา
    คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน
    ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน
    “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว
    “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย”
    สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้
    “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว
    ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง"
    “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม”
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น"
    “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว
    หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์
    นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้
    ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้
    นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
    “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”

    นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“ บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ" ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท  ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย” สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้ “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง" “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม” จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น" “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14

    เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL

    เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม?

    ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่!

    เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก!

    จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้?

    ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน

    ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก?

    หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ)
    22 ธันวาคม 67
    12.39 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14 เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม? ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่! เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก! จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้? ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก? หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ) 22 ธันวาคม 67 12.39 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 692 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกผู้สนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ พากันออกมาชุมนุมโดยอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยเมตรในกรุงโซล ในวันเสาร์ (21 ธ.ค.) ราว 1 สัปดาห์หลังจากเขาถูกรัฐสภาถอดถอนจากตำแหน่ง จากกรณีประกาศอัยการศึก ที่ประกาศยกเลิกในเวลาต่อมาไม่กี่ชั่วโมง
    .
    แม้ปัจจุบัน ยุน ถูกพักอำนาจประธานาธิบดี แต่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง เขาไม่ยอมทำตามหมายเรียกต่างๆ ของพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังสืบสวนว่า กฎอัยการศึกที่เขาประกาศใช้ในช่วงค่ำวันที่ 3 ธันวาคมและยกเลิกในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมานั้น เข้าข่ายก่อกบฏหรือไม่
    .
    นอกจากนี้ ยุน ยังไม่ตอบสนองใดๆ ต่อความพยายามในการติดต่อเขาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะรับรองถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่งหรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา ทั้งนี้ ศาลมีแผนนัดไต่สวนมูลฟ้องเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (27 ธ.ค.)
    .
    การประท้วงทั้งสนับสนุนและต่อต้านยุนในวันเสาร์ (21 ธ.ค.) จัดขึ้นในจัตุรัสควางฮวามุน ใจกลางเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานเกี่ยวกับการกระทบกระทั่งใดๆ
    .
    พวกผู้ประท้วงต่อต้านยุนหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาววัย 20 ถึง 30 ปีเศษๆ รวมตัวกันตอนเวลา 15.00น. โบกไฟเค-ป็อป และป้ายข้อความที่เขียนว่า "จับกุม! ขังคุก! หัวหน้ากบฏยุน ซ็อกยอล"
    .
    "ผมอยากถามยุน ว่าเขาทำเรื่องแบบนี้กับประชาธิปไตยได้อย่างไร ในยุคทศวรรษที่ 21 และผมคิดว่าถ้าเขามีมโนธรรมสำนึก เขาควรลาออกไป" ผู้ประท้วงวัย 27 ปีรายหนึ่งกล่าว
    .
    ส่วนผู้ประท้วงสนับสนุนยุนหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นมีสูงอายุกว่าและเป็นกลุ่มคนหัวอนุรักษนิยมมากกว่า รวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน คัดค้านการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง และสนับสนุนให้คืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา
    .
    "รัฐสภาที่โกงการเลือกตั้ง กำลังกัดกร่อนประเทศทีละน้อย และเป็นศูนย์กลางของอำนาจสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ดังนั้นพวกเราจึงออกมารวมตัวกันและพูดในสิ่งเดียวกัน เราคัดค้านอย่างที่สุดต่อการถอดถอน" ผู้ชุมนุมรายหนึ่งกล่าว
    .
    ทั้งนี้ ยุน กล่าวอ้างการโกงเลือกตั้ง และ "ขุมกำลังต่อต้านรัฐ" พวกเข้าข้างฝักใฝ่เกาหลีเหนือ เป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการประกาศกฎอัยการศึก คำกล่าวอ้างที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122558
    ..............
    Sondhi X
    พวกผู้สนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ พากันออกมาชุมนุมโดยอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยเมตรในกรุงโซล ในวันเสาร์ (21 ธ.ค.) ราว 1 สัปดาห์หลังจากเขาถูกรัฐสภาถอดถอนจากตำแหน่ง จากกรณีประกาศอัยการศึก ที่ประกาศยกเลิกในเวลาต่อมาไม่กี่ชั่วโมง . แม้ปัจจุบัน ยุน ถูกพักอำนาจประธานาธิบดี แต่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง เขาไม่ยอมทำตามหมายเรียกต่างๆ ของพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังสืบสวนว่า กฎอัยการศึกที่เขาประกาศใช้ในช่วงค่ำวันที่ 3 ธันวาคมและยกเลิกในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมานั้น เข้าข่ายก่อกบฏหรือไม่ . นอกจากนี้ ยุน ยังไม่ตอบสนองใดๆ ต่อความพยายามในการติดต่อเขาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะรับรองถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่งหรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา ทั้งนี้ ศาลมีแผนนัดไต่สวนมูลฟ้องเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (27 ธ.ค.) . การประท้วงทั้งสนับสนุนและต่อต้านยุนในวันเสาร์ (21 ธ.ค.) จัดขึ้นในจัตุรัสควางฮวามุน ใจกลางเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานเกี่ยวกับการกระทบกระทั่งใดๆ . พวกผู้ประท้วงต่อต้านยุนหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาววัย 20 ถึง 30 ปีเศษๆ รวมตัวกันตอนเวลา 15.00น. โบกไฟเค-ป็อป และป้ายข้อความที่เขียนว่า "จับกุม! ขังคุก! หัวหน้ากบฏยุน ซ็อกยอล" . "ผมอยากถามยุน ว่าเขาทำเรื่องแบบนี้กับประชาธิปไตยได้อย่างไร ในยุคทศวรรษที่ 21 และผมคิดว่าถ้าเขามีมโนธรรมสำนึก เขาควรลาออกไป" ผู้ประท้วงวัย 27 ปีรายหนึ่งกล่าว . ส่วนผู้ประท้วงสนับสนุนยุนหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นมีสูงอายุกว่าและเป็นกลุ่มคนหัวอนุรักษนิยมมากกว่า รวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน คัดค้านการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง และสนับสนุนให้คืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา . "รัฐสภาที่โกงการเลือกตั้ง กำลังกัดกร่อนประเทศทีละน้อย และเป็นศูนย์กลางของอำนาจสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ดังนั้นพวกเราจึงออกมารวมตัวกันและพูดในสิ่งเดียวกัน เราคัดค้านอย่างที่สุดต่อการถอดถอน" ผู้ชุมนุมรายหนึ่งกล่าว . ทั้งนี้ ยุน กล่าวอ้างการโกงเลือกตั้ง และ "ขุมกำลังต่อต้านรัฐ" พวกเข้าข้างฝักใฝ่เกาหลีเหนือ เป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการประกาศกฎอัยการศึก คำกล่าวอ้างที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122558 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 764 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20-12-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 45 ชื่อตอน "TALK OF THE TOWN" สั่นสะเทือนทั้งวงการอีกากี งานนี้ นายพลหัวหลุดชัวร์! ผีอีโมแผลงฤทธิ์สุดจัดปลัดบอก สมกับเป็นลูกพ่อ! ดาหน้าออกมาแฉเกลื่อนโซเชี่ยล ล่าสุด หมอพรทิพย์ ขวัญใจสาย HARDCORE ฟัน ปักธงรอไว้แล้ว! ดอกนี้ ล่อทั้งกรม ตายห่ายกหมู่คณะ ท้าทายขบวนการยุติธรรมไทย หลักฐานใหม่มาเต็ม หลักฐานเพิ่มมาครบ ไม่เปิดคดีใหม่ งานนี้มีลงถนนแน่ ใครอุ้มตายห่า? ใครทำตายโหง? น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ เพราะกร่าง เพราะคิดว่าใครทำอะไรกูไม่ได้ ใหญ่แค่ไหนก็แค่ขี้ตรีนสวรรค์ หากวิญญานอาฆาตมันรุนแรงถึงขั้นสุด รู้ฤทธิ์ผีอีโม น้อยไปแล้วมรึง? อ.ปานเทพตอกหน้าตำหนวดยศใหญ่ ไม่มาหาแล้วรึจ๊ะ? จะฆ่าให้หมดทั้งประเทศเลยรึไง เพราะอีก 50 ล้านคนเค้าสาปแช่งมรึงอยู่? ฆ่าให้หมด 50 ล้านเลยดีมั้ย? มีปัญญาป่ะ? อย่าคิดว่าผีอีโมมา ชั้น 14 จะเงียบ อีต้มตุ๊ดจะได้หายใจคล่องขึ้น ดิ ไอ(คอน)สัส จะยื้อเวลาหาหลักฐานปลอม บิดเบือนต่อ ใครที่จ้องรอดูความวินาศฉิบหายของไอ้อีเดรัจฉานหาแดร๊กบนความทุกข์ชาวบ้าน งานนี้มรึงได้สมหวัง สมใจนึกวังบูรพาชัวร์! แสงทำงานได้ใจของแท้! ผู้ใหญ่เบื้องบนสั่งตรง เรื่องนี้ ต้องเอาให้จบ ใสสะอาด ยิ่งกว่า OMO มันสะเทือนรากฐานขบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ อีศาลเจ้านนท์ มรึงได้บูชายันต์แน่ เชือดก่อนใครเพื่อน? ระดับไหนก็หนีกรรมไม่พ้น หากมรึงฆ่าคนตาย? แค่ตายยังไม่เท่าไหร่? สั่งทรมาน สะกดวิญญานเค้าอีก มรึงแม่ง ระยำได้โล่ อัปรีย์ได้ถ้วยของจริง? "สหบาทาชาวอโยธยาพร้อม ขอกูซักตืบเหอะ" อีเสี่ย อีชายสูงวัยยศนายพล ดอกนี้ ใครก็ช่วยมรึงไม่ได้ ยิ่งซ่าส์ ยิ่งกร่าง จุดจบยิ่งน่าเวทนาเกินบรรยาย วิญญานผีอีโม มันแค้นจัด ไม่เว้นแม้แต่บุพการีชั่ว พลังไซย่าขั้นสูงสุด ความจริงถูกเปิดเผยรายชั่วโมง ทะยอยมาไม่เลิก หลักฐานใหม่เกิดจากไหน คนทนไม่ได้ ยอมเสี่ยงพูด เสี่ยงเปิดหลักฐานลับ เพราะถูกผีอีโมดลใจให้สำนึกผิดชอบชั่วดี จะให้กูไปหามรึงทุกวันมั้ยล่ะ? จับตาให้ดี ตัวละครลับจะโผล่มาในไม่ช้า ตัวจิกซอร์ตัวสุดท้าย ที่จะโผล่มาฆ่าไอ้อีในกรมกากีตายห่ายกคอก? อ.ปานเทพ ไม่พูดเยอะ แค่ยิ้ม บอก "สุดซอยกันไปเลย" เพราะความจริงมีแค่เพียง 1 เดียว คือ "ฆาตกรรมอำมะหิต"

    ไอ้สัส! หมามั้ยล่ะ? รัสเซียทำสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" แจกฟรีให้ผู้ป่วยต้นปีหน้า? อะไรน่ะ "แจกฟรี" อย่ามาตอแหล นั่นมันคอมมิวนิสต์น่ะมรึง ขนาดประเทศปชต.ตอแหลหรูหราหมาเห่า ยังเก็บแพงหูฉี่ เม็ดละเป็นแสน จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง มรึงรวยมากนักเหรอ แจกฟรีให้ผู้ป่วยทั้งประเทศ อะไรอีกน่ะ? วัคซีนได้ผลจริง ไม่ใช่ วัคซีนโควิท ฝังชิป ตอแหล เอามาหลอกควายโลกให้ฉีดกัน ยิ่งฉีด ยิ่งห่าตายเร็ว เพราะลดภูมิคุ้มกัน แผนลดประชากรโลก แผนชั่วอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ รัสเซีย มรึงจะเทพไปไหน? รวยจริง อะไรจริง แจกวัคซีนต้านมะเร็งให้คนทั้งประเทศ มีประเทศปชต.ไหนในโลกบ้างที่ทำได้ ไหนบอกปชต.เพื่อประชาชนไง ทำไมไม่แจกฟรี อ๋อ..หลอกควายเหรอจ๊ะ เก็บตังค์ท่าเดียว งั้นไอ้ที่โฆษณาชวนเชื่อมากว่าศตวรรษเนี่ย ว่า "คอมมิวนิสต์อันตรายเนี่ย" ควายยังตื่น ปชต.ตอแหลแท้จริงคือคอมมิวนิสต์ที่มรึงโฆษณาไงล่ะ ส่วนคอมมิวนิสต์ตัวจริงกลายเป็นปชต.เพื่อส่วนรวมแท้จริงซะงั้น กลับตาลปัตรดีมุย? โลกกลียุค ก็เป็นเช่นนี้ มิน่า ทั้งโลกแห่โอนสัญชาติรัสเซียกันหย่าย โดยเฉพาะชาติอดีตโซเวียตเดิม คบเหี้ยได้เหี้ย คบเทพได้เทพ จริงแท้?

    ยังไม่เข็ดน่ะมรึง! อีเหี้ยมะกัน ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่มาหยั่งเชิงเยเมนอีกรอบ ส่งบินรบโจมตีเรือดำน้ำ หวังมาสอดส่องดูเรือดำน้ำรัสเซีย ที่อยู่กระจายไปทั่วโลกา ยังไม่ทันจะได้โชว์ศักยภาพ โดรนนับร้อย ขีปนาวุธร่อน ไฮเปอร์โซนิคทดสอบทันที เยเมนมาตามนัด สุดท้ายเผ่นหางจุกตูดเหมือนเดิม มรึงจะมาเพื่อ? สกัดเค้าไม่ได้ แค่อยากทดสอบแสนยานุภาพเยเมนใหม่ ขนมาให้หมดเลยดีกว่ามุย? ม้วนเดียวจบ กองเรือรบเหี้ยมะกัน กลายเป็นขนมกรุบให้โลกอาหรับหัวเราะได้ทุกวัน เยเมนไม่รอตั้งรับอย่างเดียวดอกน่ะ หลังไล่กระทืบกองเรือเหี้ยเสร็จ ก็มีเมตตาต่อทันที ส่งไปถล่มเทลอาวีฟอีก 3 รอบ บ้านเรือนไม่มีอยู่แล้ว แม่งหนีลงหลุมกันหมด ชีวิตดี๊ดีอีกแล้วครับท่าน ตอนนี้ มรึงรู้แล้วชิมิ? ว่าทำไม ซีเรียต้องให้ตุรกีมาเปลี่ยนเกมส์ เพราะรัสเซีย ไก่งวง จะประสานมือกันในทะเลดำ ช่องแคบบอสฟอรัส เชื่อมต่อเยเมนครอบจักรวาลทะเลแดง ยาวไปจนถึงเมดิเตอร์เรเนียน สรุปคืออ่าวเปอร์เซียทั้งหมด อยู่ในการควบคุมของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปิดประตูกองหนุนช่วยอียิวไงล่ะ อีกาตาร์ อี UAE อีเหี้ยอูฐ มรึงเตรียมสละเรือได้แล้ว เค้าบีบให้มรึงขับไล่ฐานทัพเหี้ยมะกันออกไป ถึงต้องใช้บริการขาโหดออตโตมานไงล่ะ? ส่วนใครกังวลอีไก่งวงเลี้ยงไม่เชื่อง ที่มาว่าทำไม ฐานทัพรัสเซียยังคงอยู่ในซีเรีย พ่วงทหารหน่วยพิเศษ 7000 นาย แค่นี้ ก็เหลือแล้ว ค้ำคอไก่งวง ไม่ให้พลิกลิ้น กูพร้อมฆ่าไอ้อีทรยศได้ทุกเมื่อ ระดับปูติน ชัดเจนทุกเรื่อง กูใช้มรึง มรึงได้ประโยชน์ร่วม หากหักหลัง จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ใครจะโง่ทำ?

    จะเหลือมั้ย อเมริโกง? อเมริกาเตรียม SHUT DOWN ใหม่อีกรอบ อีทรัมปป์จ้องขยายเพดานหนี้ เอาให้ทะลุจักรวาลกันไปเลย ใครยังจะโง่ถือดอลล่าร์ต่อ ก็บัดซบยิ่งกว่าควาย! พิมพ์แบงค์เข้าไปสิ ใครคิดจะจ่ายหนี้กันล่ะ ไอ้ควาย? แผนแตกอเมริกา คือขายแผ่นดินแดร๊กไงล่ะ? ขายใครล่ะ? อียิวมันจ้อง จีน รัสเซีย อาหรับ เตรียมเขมือบอยู่แล้ว แผนมีหลายชั้น มรึงคิดว่าขั้วใหม่ไม่รู้เหรอว่า มรึงคิดจะตั้งรัฐยิวใหม่ ในอเมริกา-แคนาดา อนาคต อาจผนวกรวม เพราะต้องการสร้างอาณาจักรยิวให้ใหญ่กว่าเดิม ที่มาว่าทำไม อลาสก้าต้องเป็นของรัสเซีย ฮาวายต้องเป็นของจีนเท่านั้น เพราะเค้ามองข้ามช็อตไปแล้ว รอดักทุบมรึงต่อภาค 3 ไงล่ะจ๊ะ? อีทรัมปป์ เตรียมไล่เช็คบิลอีลายกคณะ ทั้งขบวนการยุติธรรมรื้อใหม่หมด ยกเลิกโมฆะคำสั่งศาลที่ไม่เป็นธรรม เมื่อสภาบน สภาล่าง อีช้างเขมือบเกลี้ยง ใครจะโง่ไม่ฉวยโอกาสเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ซะเลย ล้างบางขี้ข้าเหี้ยลาออกให้หมด เด็ก DEEP STATE จะถูกล้างบางก็งานนี้ สุ่มเสี่ยงมีปัญหากับอีตาเพนแน่ แต่ประชากรควายอเมริกัน มันยกให้อีช้างปกครองแล้ว อีตาเพน มรึงกล้าสวนกระแสมั้ยล่ะ อย่าลืมน่ะว่า ทุกบ้านมีปืน อาวุธครบมือ นี่มันประเทศประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุดแล้ว "ฆ่ากันได้เสรี ยิงกันได้สบายตรีน" ปชต.เบ่งบาน

    ปล.มันส์ละมรึง! อีทรัมปป์หาเงิน ไม่เน้นตาย ปล่อยอี NATO ที่อียิวครอบงำอยู่ ลุยเดี่ยวเอง เกิดขัดขากันเอง ฝ่ายขั้วใหม่ ดาหน้าพร้อมรบ อีโง่ยุโรปจะตายเดี่ยว หนีทันก็รอด พายุหมุนมาเต็ม รัสเซียเตรียมเปิดตัว "แจกจ่ายมินิคุ๊กกี้ทั่วราชอาณาจักร" แปลว่าอะไร ศึกยุโรปกลางมา แปซิฟิคมา อเมริกาโดยอีทรัมปป์หดหัว ปล่อยยิวและขี้ข้าปะทะตรงขั้วใหม่ เบื้องหลังคือ ปูตินหยิบโทรศัพท์คุยกับอีทรัมปป์ แผนล้างบาง DEEP STATE รอดูหน้าฉากเล่นอย่าง หลังฉากเล่นอย่าง โลกคือละคร มรึงดูกันให้เพลินไปเหอะ? โจทย์ใหญ่ของตะวันออกกลางที่คาราคาซังไม่จบคือ เรื่องปาเลสไตน์ กับซีเรีย เมื่อโจทย์ถูกแก้แล้ว จากนี้คือ "การลงแขกยิว" ทั่วตะวันออกกลาง รวมถึงฐานทัพเหี้ยมะกันทั้งหมด บีบให้อีทรัมปป์สั่งถอนกองกำลังทั้งหมดกลับบ้าน ปูตินเปิดช่องให้ อีทรัมปป์ตามน้ำพอ แล้วอียิวมันจะหันไปล่อใครล่ะ หากไม่ใช่อีทรัมปป์ เรื่องนี้ ตัวละครใหม่จะโผล่ อีนาโต้จะกลายร่างทันที ยามเมื่อไก่งวงประกาศศักดา ใครเข้ามา กูเชือดไม่เลี้ยง NATO จะแว้งกัดกันเอง เป็นไปตามแผนซ้อนแผน ซีเรีย อิรัก กองกำลังอยู่ครบ รอเช็คบิลที่ราบสูงโกลานพร้อมกัน ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค กระจายถึงมือเหล่านักรบผู้กล้าหมดแล้ว เยเมนถึงได้กล้าประกาศศักดาเต็มตรีน! ยอดสั่งซื้ออาวุธขั้วใหม่ พุ่งทะลุเพดาน ทั้งโลกแห่ซื้อ เพื่อป้องกันตัวเองจากอียิวสลัดหมา อาเซียนคุยกันจบ แต่หากมีใครแตกเหล่า มรึงโดน! อีปินส์มีปัญหาภายใน ผู้ต่อต้านอำนาจเก่ามี เดินหมากพลาดเมื่อไหร่ ดูเตอร์เต้รอเสียบ แค่ส่งสัญญานมา กูยึดอำนาจคืนทันที อีขะแมร์ อีหม่อง แค่ละครคั่นรายการ สาระไปอยู่ที่อีแขกภาระตะ หากไม่เล่นเกมส์นี้ด้วย อียิวก็ไร้น้ำยา แปซิฟิคจะเปิดได้ อีแขกต้องช่วยเหี้ยยิวเท่านั้น แต่ผลประโยชน์มหาศาลของ BRICS ค้ำคออยู่ หากเดินพลาด ล่มสลายทั้งอาณาจักร จีนยิ้มทันที กูรอกระทืบซ้ำมานานแล้ว อีปากีกระโดดเอาด้วยชัวร์ เชื่อว่าอีแขกไม่โง่ ใครของจริง ใครของปลอม หมายังรู้? จีนมองข้ามไต้หวันไปแล้ว ถึงได้ขยายพื้นที่พิพากเข้ามาในอาเซียน ส่งสัญญานถิ่นใคร? เกาะสแปรดลี่ย? คือคีย์ของอาวุธลับดับเหี้ย เข้ามา มีสลด!

    ปล.2 ไอ้สัส! จีนล่ออียุ่นปี่ เหี้ยตะวันตก ซะหงอ? รถ EV จีนขย่มยอดถล่มทลาย ที่ขายถูก เพราะนวตกรรมใหม่ล่าสุดมาถึงแล้ว โคตรพ่อแบตเตอรี่ ไม่ระเบิด ทน นาน วิ่งทีอย่างต่ำ 1000 กม. ไม่ว่ารถยนต์ ไรเดอร์ มรึงไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานอีกนาน ดอกนี้ ถึงดาหน้าตัดราคา ทุบตลาดทั้งโลก ตายคาตรีนปักกิ่ง นัยยะคือ รถรุ่นใหม่ จะยังถูกกว่านี้ได้อีก อั๊ยยะ? ยุคหน้า ใครซื้อรถเกินล้าน ถือว่า "โง่" เพราะเพ่จีน เค้าลดต้นทุนแบบที่เหี้ยยังงง.. มรึงทำได้ยังไง? ไม่ใช่แค่พาหนะเท่านั้น ต่อไปมือถือควายที่ซื้อครึ่งแสน ต่อไปหัวเว่ยจะทุบลงมาเหลือแค่หลักพัน ไอ้สัส! ผู้บริโภค ยิ้มแก้มปริ ผู้ผลิตตายห่ายกเข่ง เทคโนโลยีจีนไป 6G นานแล้ว มรึงรู้มั้ยว่า อีกหน่อย อินเตอร์เน็ตฟรีตลอดชีพ จ่ายรายเดือนเพื่อ? ดาวเทียมจีนจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อรองรับผู้ใช้สัญญานดาวเทียมอีกหลายพันล้านคน ใครจะตามมรึงทัน มรึงเล่นวิ่ง 100 เมตร สถิติโลก ขั้วเก่ายังเดินแบบเต่าอยู่เลย อะไรเปลี่ยนไปเยอะ จีนเปลี่ยนวิถีชีวิตโลกใหม่ รัสเซียเปลี่ยนระเบียบโลกใหม่ อิหร่านจัดระเบียบตะวันออกกลางใหม่ อเมริกา ยุโรป ยังจะเหลือที่ยืนอีกมั้ย? แม้แต่เครื่องบินพาณิชย์ ต่อไปจีน รัสเซีย เขมือบแน่ ไล่ทุบอีโบอิ้ง อีแอร์บัส ลงหลุมแน่มรึง เครื่องใหม่กว่า เทคโนโลยีสูงกว่าเยอะ ถูกกว่าครึ่ง ซ่อมแซม บำรุงโคตรง่าย ปรับเปลี่ยนตามความต้องการ ไหน? ใครจะแข่งการค้ากับจีน? ถามคำเดียว "มรึงมีเหี้ยอะไรจะไปสู้เค้า" ทุกวันยังแบมือขอวัตถุดิบเค้าอยู่เลย จะชิปก็ดี จะแบตเตอรี่ก็ดี MADE IN CHINA เอาไปแดร๊กหมดแล้ว!

    หมี CNN(โลกไม่ได้เปลี่ยน คนบนโลกต่างหากที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อความอยู่รอด ทั้งกระแส แนวคิด นวตกรรม ขั้วใหม่ ทำให้โลกเก่าตาสว่าง ทั้งหมดแค่ภาพมายา ที่เหี้ยไอ้อีตะวันตกมันหลอกดาว! แอฟริกา ลาติน เอเซีย ปลดแอกเหี้ยสำเร็จเมื่อไหร่ โลกกลับตาลปัตรทันที ความจริงจะปรากฎทุกอย่าง อะไรที่เหี้ยเคยตอแหลมากว่าศตวรรษ จะถูกเปิดเผยหมดสิ้น นี่แหละ การมาของแสง ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ศีลธรรมไม่ครองโลก ความวินาศฉิบหายจะปรากฎทันที ศึกสุดท้ายมาถึงแล้ว เตรียมใจซะ)
    20 ธันวาคม 67
    12.07 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    20-12-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 45 ชื่อตอน "TALK OF THE TOWN" สั่นสะเทือนทั้งวงการอีกากี งานนี้ นายพลหัวหลุดชัวร์! ผีอีโมแผลงฤทธิ์สุดจัดปลัดบอก สมกับเป็นลูกพ่อ! ดาหน้าออกมาแฉเกลื่อนโซเชี่ยล ล่าสุด หมอพรทิพย์ ขวัญใจสาย HARDCORE ฟัน ปักธงรอไว้แล้ว! ดอกนี้ ล่อทั้งกรม ตายห่ายกหมู่คณะ ท้าทายขบวนการยุติธรรมไทย หลักฐานใหม่มาเต็ม หลักฐานเพิ่มมาครบ ไม่เปิดคดีใหม่ งานนี้มีลงถนนแน่ ใครอุ้มตายห่า? ใครทำตายโหง? น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ เพราะกร่าง เพราะคิดว่าใครทำอะไรกูไม่ได้ ใหญ่แค่ไหนก็แค่ขี้ตรีนสวรรค์ หากวิญญานอาฆาตมันรุนแรงถึงขั้นสุด รู้ฤทธิ์ผีอีโม น้อยไปแล้วมรึง? อ.ปานเทพตอกหน้าตำหนวดยศใหญ่ ไม่มาหาแล้วรึจ๊ะ? จะฆ่าให้หมดทั้งประเทศเลยรึไง เพราะอีก 50 ล้านคนเค้าสาปแช่งมรึงอยู่? ฆ่าให้หมด 50 ล้านเลยดีมั้ย? มีปัญญาป่ะ? อย่าคิดว่าผีอีโมมา ชั้น 14 จะเงียบ อีต้มตุ๊ดจะได้หายใจคล่องขึ้น ดิ ไอ(คอน)สัส จะยื้อเวลาหาหลักฐานปลอม บิดเบือนต่อ ใครที่จ้องรอดูความวินาศฉิบหายของไอ้อีเดรัจฉานหาแดร๊กบนความทุกข์ชาวบ้าน งานนี้มรึงได้สมหวัง สมใจนึกวังบูรพาชัวร์! แสงทำงานได้ใจของแท้! ผู้ใหญ่เบื้องบนสั่งตรง เรื่องนี้ ต้องเอาให้จบ ใสสะอาด ยิ่งกว่า OMO มันสะเทือนรากฐานขบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ อีศาลเจ้านนท์ มรึงได้บูชายันต์แน่ เชือดก่อนใครเพื่อน? ระดับไหนก็หนีกรรมไม่พ้น หากมรึงฆ่าคนตาย? แค่ตายยังไม่เท่าไหร่? สั่งทรมาน สะกดวิญญานเค้าอีก มรึงแม่ง ระยำได้โล่ อัปรีย์ได้ถ้วยของจริง? "สหบาทาชาวอโยธยาพร้อม ขอกูซักตืบเหอะ" อีเสี่ย อีชายสูงวัยยศนายพล ดอกนี้ ใครก็ช่วยมรึงไม่ได้ ยิ่งซ่าส์ ยิ่งกร่าง จุดจบยิ่งน่าเวทนาเกินบรรยาย วิญญานผีอีโม มันแค้นจัด ไม่เว้นแม้แต่บุพการีชั่ว พลังไซย่าขั้นสูงสุด ความจริงถูกเปิดเผยรายชั่วโมง ทะยอยมาไม่เลิก หลักฐานใหม่เกิดจากไหน คนทนไม่ได้ ยอมเสี่ยงพูด เสี่ยงเปิดหลักฐานลับ เพราะถูกผีอีโมดลใจให้สำนึกผิดชอบชั่วดี จะให้กูไปหามรึงทุกวันมั้ยล่ะ? จับตาให้ดี ตัวละครลับจะโผล่มาในไม่ช้า ตัวจิกซอร์ตัวสุดท้าย ที่จะโผล่มาฆ่าไอ้อีในกรมกากีตายห่ายกคอก? อ.ปานเทพ ไม่พูดเยอะ แค่ยิ้ม บอก "สุดซอยกันไปเลย" เพราะความจริงมีแค่เพียง 1 เดียว คือ "ฆาตกรรมอำมะหิต" ไอ้สัส! หมามั้ยล่ะ? รัสเซียทำสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" แจกฟรีให้ผู้ป่วยต้นปีหน้า? อะไรน่ะ "แจกฟรี" อย่ามาตอแหล นั่นมันคอมมิวนิสต์น่ะมรึง ขนาดประเทศปชต.ตอแหลหรูหราหมาเห่า ยังเก็บแพงหูฉี่ เม็ดละเป็นแสน จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง มรึงรวยมากนักเหรอ แจกฟรีให้ผู้ป่วยทั้งประเทศ อะไรอีกน่ะ? วัคซีนได้ผลจริง ไม่ใช่ วัคซีนโควิท ฝังชิป ตอแหล เอามาหลอกควายโลกให้ฉีดกัน ยิ่งฉีด ยิ่งห่าตายเร็ว เพราะลดภูมิคุ้มกัน แผนลดประชากรโลก แผนชั่วอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ รัสเซีย มรึงจะเทพไปไหน? รวยจริง อะไรจริง แจกวัคซีนต้านมะเร็งให้คนทั้งประเทศ มีประเทศปชต.ไหนในโลกบ้างที่ทำได้ ไหนบอกปชต.เพื่อประชาชนไง ทำไมไม่แจกฟรี อ๋อ..หลอกควายเหรอจ๊ะ เก็บตังค์ท่าเดียว งั้นไอ้ที่โฆษณาชวนเชื่อมากว่าศตวรรษเนี่ย ว่า "คอมมิวนิสต์อันตรายเนี่ย" ควายยังตื่น ปชต.ตอแหลแท้จริงคือคอมมิวนิสต์ที่มรึงโฆษณาไงล่ะ ส่วนคอมมิวนิสต์ตัวจริงกลายเป็นปชต.เพื่อส่วนรวมแท้จริงซะงั้น กลับตาลปัตรดีมุย? โลกกลียุค ก็เป็นเช่นนี้ มิน่า ทั้งโลกแห่โอนสัญชาติรัสเซียกันหย่าย โดยเฉพาะชาติอดีตโซเวียตเดิม คบเหี้ยได้เหี้ย คบเทพได้เทพ จริงแท้? ยังไม่เข็ดน่ะมรึง! อีเหี้ยมะกัน ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่มาหยั่งเชิงเยเมนอีกรอบ ส่งบินรบโจมตีเรือดำน้ำ หวังมาสอดส่องดูเรือดำน้ำรัสเซีย ที่อยู่กระจายไปทั่วโลกา ยังไม่ทันจะได้โชว์ศักยภาพ โดรนนับร้อย ขีปนาวุธร่อน ไฮเปอร์โซนิคทดสอบทันที เยเมนมาตามนัด สุดท้ายเผ่นหางจุกตูดเหมือนเดิม มรึงจะมาเพื่อ? สกัดเค้าไม่ได้ แค่อยากทดสอบแสนยานุภาพเยเมนใหม่ ขนมาให้หมดเลยดีกว่ามุย? ม้วนเดียวจบ กองเรือรบเหี้ยมะกัน กลายเป็นขนมกรุบให้โลกอาหรับหัวเราะได้ทุกวัน เยเมนไม่รอตั้งรับอย่างเดียวดอกน่ะ หลังไล่กระทืบกองเรือเหี้ยเสร็จ ก็มีเมตตาต่อทันที ส่งไปถล่มเทลอาวีฟอีก 3 รอบ บ้านเรือนไม่มีอยู่แล้ว แม่งหนีลงหลุมกันหมด ชีวิตดี๊ดีอีกแล้วครับท่าน ตอนนี้ มรึงรู้แล้วชิมิ? ว่าทำไม ซีเรียต้องให้ตุรกีมาเปลี่ยนเกมส์ เพราะรัสเซีย ไก่งวง จะประสานมือกันในทะเลดำ ช่องแคบบอสฟอรัส เชื่อมต่อเยเมนครอบจักรวาลทะเลแดง ยาวไปจนถึงเมดิเตอร์เรเนียน สรุปคืออ่าวเปอร์เซียทั้งหมด อยู่ในการควบคุมของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปิดประตูกองหนุนช่วยอียิวไงล่ะ อีกาตาร์ อี UAE อีเหี้ยอูฐ มรึงเตรียมสละเรือได้แล้ว เค้าบีบให้มรึงขับไล่ฐานทัพเหี้ยมะกันออกไป ถึงต้องใช้บริการขาโหดออตโตมานไงล่ะ? ส่วนใครกังวลอีไก่งวงเลี้ยงไม่เชื่อง ที่มาว่าทำไม ฐานทัพรัสเซียยังคงอยู่ในซีเรีย พ่วงทหารหน่วยพิเศษ 7000 นาย แค่นี้ ก็เหลือแล้ว ค้ำคอไก่งวง ไม่ให้พลิกลิ้น กูพร้อมฆ่าไอ้อีทรยศได้ทุกเมื่อ ระดับปูติน ชัดเจนทุกเรื่อง กูใช้มรึง มรึงได้ประโยชน์ร่วม หากหักหลัง จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ใครจะโง่ทำ? จะเหลือมั้ย อเมริโกง? อเมริกาเตรียม SHUT DOWN ใหม่อีกรอบ อีทรัมปป์จ้องขยายเพดานหนี้ เอาให้ทะลุจักรวาลกันไปเลย ใครยังจะโง่ถือดอลล่าร์ต่อ ก็บัดซบยิ่งกว่าควาย! พิมพ์แบงค์เข้าไปสิ ใครคิดจะจ่ายหนี้กันล่ะ ไอ้ควาย? แผนแตกอเมริกา คือขายแผ่นดินแดร๊กไงล่ะ? ขายใครล่ะ? อียิวมันจ้อง จีน รัสเซีย อาหรับ เตรียมเขมือบอยู่แล้ว แผนมีหลายชั้น มรึงคิดว่าขั้วใหม่ไม่รู้เหรอว่า มรึงคิดจะตั้งรัฐยิวใหม่ ในอเมริกา-แคนาดา อนาคต อาจผนวกรวม เพราะต้องการสร้างอาณาจักรยิวให้ใหญ่กว่าเดิม ที่มาว่าทำไม อลาสก้าต้องเป็นของรัสเซีย ฮาวายต้องเป็นของจีนเท่านั้น เพราะเค้ามองข้ามช็อตไปแล้ว รอดักทุบมรึงต่อภาค 3 ไงล่ะจ๊ะ? อีทรัมปป์ เตรียมไล่เช็คบิลอีลายกคณะ ทั้งขบวนการยุติธรรมรื้อใหม่หมด ยกเลิกโมฆะคำสั่งศาลที่ไม่เป็นธรรม เมื่อสภาบน สภาล่าง อีช้างเขมือบเกลี้ยง ใครจะโง่ไม่ฉวยโอกาสเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ซะเลย ล้างบางขี้ข้าเหี้ยลาออกให้หมด เด็ก DEEP STATE จะถูกล้างบางก็งานนี้ สุ่มเสี่ยงมีปัญหากับอีตาเพนแน่ แต่ประชากรควายอเมริกัน มันยกให้อีช้างปกครองแล้ว อีตาเพน มรึงกล้าสวนกระแสมั้ยล่ะ อย่าลืมน่ะว่า ทุกบ้านมีปืน อาวุธครบมือ นี่มันประเทศประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุดแล้ว "ฆ่ากันได้เสรี ยิงกันได้สบายตรีน" ปชต.เบ่งบาน ปล.มันส์ละมรึง! อีทรัมปป์หาเงิน ไม่เน้นตาย ปล่อยอี NATO ที่อียิวครอบงำอยู่ ลุยเดี่ยวเอง เกิดขัดขากันเอง ฝ่ายขั้วใหม่ ดาหน้าพร้อมรบ อีโง่ยุโรปจะตายเดี่ยว หนีทันก็รอด พายุหมุนมาเต็ม รัสเซียเตรียมเปิดตัว "แจกจ่ายมินิคุ๊กกี้ทั่วราชอาณาจักร" แปลว่าอะไร ศึกยุโรปกลางมา แปซิฟิคมา อเมริกาโดยอีทรัมปป์หดหัว ปล่อยยิวและขี้ข้าปะทะตรงขั้วใหม่ เบื้องหลังคือ ปูตินหยิบโทรศัพท์คุยกับอีทรัมปป์ แผนล้างบาง DEEP STATE รอดูหน้าฉากเล่นอย่าง หลังฉากเล่นอย่าง โลกคือละคร มรึงดูกันให้เพลินไปเหอะ? โจทย์ใหญ่ของตะวันออกกลางที่คาราคาซังไม่จบคือ เรื่องปาเลสไตน์ กับซีเรีย เมื่อโจทย์ถูกแก้แล้ว จากนี้คือ "การลงแขกยิว" ทั่วตะวันออกกลาง รวมถึงฐานทัพเหี้ยมะกันทั้งหมด บีบให้อีทรัมปป์สั่งถอนกองกำลังทั้งหมดกลับบ้าน ปูตินเปิดช่องให้ อีทรัมปป์ตามน้ำพอ แล้วอียิวมันจะหันไปล่อใครล่ะ หากไม่ใช่อีทรัมปป์ เรื่องนี้ ตัวละครใหม่จะโผล่ อีนาโต้จะกลายร่างทันที ยามเมื่อไก่งวงประกาศศักดา ใครเข้ามา กูเชือดไม่เลี้ยง NATO จะแว้งกัดกันเอง เป็นไปตามแผนซ้อนแผน ซีเรีย อิรัก กองกำลังอยู่ครบ รอเช็คบิลที่ราบสูงโกลานพร้อมกัน ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค กระจายถึงมือเหล่านักรบผู้กล้าหมดแล้ว เยเมนถึงได้กล้าประกาศศักดาเต็มตรีน! ยอดสั่งซื้ออาวุธขั้วใหม่ พุ่งทะลุเพดาน ทั้งโลกแห่ซื้อ เพื่อป้องกันตัวเองจากอียิวสลัดหมา อาเซียนคุยกันจบ แต่หากมีใครแตกเหล่า มรึงโดน! อีปินส์มีปัญหาภายใน ผู้ต่อต้านอำนาจเก่ามี เดินหมากพลาดเมื่อไหร่ ดูเตอร์เต้รอเสียบ แค่ส่งสัญญานมา กูยึดอำนาจคืนทันที อีขะแมร์ อีหม่อง แค่ละครคั่นรายการ สาระไปอยู่ที่อีแขกภาระตะ หากไม่เล่นเกมส์นี้ด้วย อียิวก็ไร้น้ำยา แปซิฟิคจะเปิดได้ อีแขกต้องช่วยเหี้ยยิวเท่านั้น แต่ผลประโยชน์มหาศาลของ BRICS ค้ำคออยู่ หากเดินพลาด ล่มสลายทั้งอาณาจักร จีนยิ้มทันที กูรอกระทืบซ้ำมานานแล้ว อีปากีกระโดดเอาด้วยชัวร์ เชื่อว่าอีแขกไม่โง่ ใครของจริง ใครของปลอม หมายังรู้? จีนมองข้ามไต้หวันไปแล้ว ถึงได้ขยายพื้นที่พิพากเข้ามาในอาเซียน ส่งสัญญานถิ่นใคร? เกาะสแปรดลี่ย? คือคีย์ของอาวุธลับดับเหี้ย เข้ามา มีสลด! ปล.2 ไอ้สัส! จีนล่ออียุ่นปี่ เหี้ยตะวันตก ซะหงอ? รถ EV จีนขย่มยอดถล่มทลาย ที่ขายถูก เพราะนวตกรรมใหม่ล่าสุดมาถึงแล้ว โคตรพ่อแบตเตอรี่ ไม่ระเบิด ทน นาน วิ่งทีอย่างต่ำ 1000 กม. ไม่ว่ารถยนต์ ไรเดอร์ มรึงไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานอีกนาน ดอกนี้ ถึงดาหน้าตัดราคา ทุบตลาดทั้งโลก ตายคาตรีนปักกิ่ง นัยยะคือ รถรุ่นใหม่ จะยังถูกกว่านี้ได้อีก อั๊ยยะ? ยุคหน้า ใครซื้อรถเกินล้าน ถือว่า "โง่" เพราะเพ่จีน เค้าลดต้นทุนแบบที่เหี้ยยังงง.. มรึงทำได้ยังไง? ไม่ใช่แค่พาหนะเท่านั้น ต่อไปมือถือควายที่ซื้อครึ่งแสน ต่อไปหัวเว่ยจะทุบลงมาเหลือแค่หลักพัน ไอ้สัส! ผู้บริโภค ยิ้มแก้มปริ ผู้ผลิตตายห่ายกเข่ง เทคโนโลยีจีนไป 6G นานแล้ว มรึงรู้มั้ยว่า อีกหน่อย อินเตอร์เน็ตฟรีตลอดชีพ จ่ายรายเดือนเพื่อ? ดาวเทียมจีนจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อรองรับผู้ใช้สัญญานดาวเทียมอีกหลายพันล้านคน ใครจะตามมรึงทัน มรึงเล่นวิ่ง 100 เมตร สถิติโลก ขั้วเก่ายังเดินแบบเต่าอยู่เลย อะไรเปลี่ยนไปเยอะ จีนเปลี่ยนวิถีชีวิตโลกใหม่ รัสเซียเปลี่ยนระเบียบโลกใหม่ อิหร่านจัดระเบียบตะวันออกกลางใหม่ อเมริกา ยุโรป ยังจะเหลือที่ยืนอีกมั้ย? แม้แต่เครื่องบินพาณิชย์ ต่อไปจีน รัสเซีย เขมือบแน่ ไล่ทุบอีโบอิ้ง อีแอร์บัส ลงหลุมแน่มรึง เครื่องใหม่กว่า เทคโนโลยีสูงกว่าเยอะ ถูกกว่าครึ่ง ซ่อมแซม บำรุงโคตรง่าย ปรับเปลี่ยนตามความต้องการ ไหน? ใครจะแข่งการค้ากับจีน? ถามคำเดียว "มรึงมีเหี้ยอะไรจะไปสู้เค้า" ทุกวันยังแบมือขอวัตถุดิบเค้าอยู่เลย จะชิปก็ดี จะแบตเตอรี่ก็ดี MADE IN CHINA เอาไปแดร๊กหมดแล้ว! หมี CNN(โลกไม่ได้เปลี่ยน คนบนโลกต่างหากที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อความอยู่รอด ทั้งกระแส แนวคิด นวตกรรม ขั้วใหม่ ทำให้โลกเก่าตาสว่าง ทั้งหมดแค่ภาพมายา ที่เหี้ยไอ้อีตะวันตกมันหลอกดาว! แอฟริกา ลาติน เอเซีย ปลดแอกเหี้ยสำเร็จเมื่อไหร่ โลกกลับตาลปัตรทันที ความจริงจะปรากฎทุกอย่าง อะไรที่เหี้ยเคยตอแหลมากว่าศตวรรษ จะถูกเปิดเผยหมดสิ้น นี่แหละ การมาของแสง ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ศีลธรรมไม่ครองโลก ความวินาศฉิบหายจะปรากฎทันที ศึกสุดท้ายมาถึงแล้ว เตรียมใจซะ) 20 ธันวาคม 67 12.07 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 898 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนทำการประหารชีวิตอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่ง ซึ่งถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันรวมแล้วกว่า 3,000 ล้านหยวน (ราว 14,000 ล้านบาท) อ้างอิงข้อมูลจากศาลในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางเหนือของประเทศ ในขณะที่การลงทัณฑ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวปราบปรามคอร์รัปชันในวงกว้างโดยพวกเจ้าหน้าที่ปักกิ่ง
    .
    หลี่ เจี้ยนผิง อดีตเลขาธิการคณะทำงานพรรคคอมมิวนิสต์ ด้านเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองโฮฮอต ถูกพบว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่างๆ ในนั้นรวมถึงรับสินบน ยักยอกเงินหลวง และสมคบคิดกับองค์กรอาชญากรรม
    .
    เบื้องต้น หลี่ วัย 64 ปี ถูกลงโทษประหารชีวิตในเดือนกันยายน 2022 หลังเจ้าหน้าที่พบว่าเขาใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะพนักงานของรัฐในการยักยอกเงิน จากนั้นเขาพ่ายแพ้ในการยื่นอุทธรณ์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และล่าสุดศาลประชาชนสูงสุด (The Supreme People's Court) ได้พิพากษายืนโทษประหารชีวิตในวันอังคาร (17 ธ.ค.)
    .
    ศาลสูงสุดระบุว่า หลี่ ยักยอกเงินกว่า 1,437 ล้านหยวน (ราว 6,700 ล้านบาท) ไปจากเงินทุนรัฐวิสาหกิจผ่านวิธีการตบตาต่างๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังมีเงินอีกกว่า 289 ล้านหยวน (ราว 1,350 ล้านบาท) ที่ยังติดตามคืนมาไม่ได้
    .
    นอกเหนือจากนี้แล้ว เขายังรับเงินสินบนอีกกว่า 577 ล้าานหยวน (ราว 2,700 ล้านบาท) แลกกับการมอบผลประโยชน์ต่างๆ และยักยอกเงินหลวงอีก 1,060 ล้านหยวน (ราว 4,950 ล้านบาท) ในนั้นมากกว่า 404 ล้านหยวน (ราว 1,900 ล้านบาท) ยังติดตามคืนมาไม่ได้ ตามรายงานของสื่อมวลชนจีน
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว หลิว เหลียงเก๋อ อดีตประธานธนาคารกลางแห่งประเทศจีน ถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่โทษให้รอลงอาญา 2 ปี ฐานรับสินบนคิดเป็นมูลค่าเกือบ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 580 ล้านบาท) และปล่อยสินเชื่อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
    .
    การรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งได้รับการอนุมัติสืบเนื่องจากจำเลยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และแสดงออกถึงการสำนึกผิด หมายความว่าเขาจะถูกประหารชีวิตก็ต่อเมื่อเขากระทำผิดทางอาญาซ้ำอีกระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากได้รับการบรรเทาโทษ เขาจะติดคุกตลอดชีวิตแทน
    .
    นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้ผู้นำเป็นสมัย 3 ในปี 2022 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ยกระดับความพยายามอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน มีมหาเศรษฐีและนายธนาคารหลายคนที่ถูกขับไล่ออกจากพรรคและโดนจำคุก ในช่วงเวลาที่ปักกิ่งปฏิบัติการกวาดล้างต่อต้านคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง
    .
    ยุทธการดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนอย่างดียิ่งจากประชาชน แม้พวกนักวิจารณ์อ้างว่ามันเปิดทางให้ประธานาธิบดีรายนี้ รวมศูนย์อำนาจด้วยการขับไล่คู่ปรับออกจากตำแหน่งสำคัญๆ แล้วตั้งเหล่าผู้ภักดีเข้ามาทำหน้าที่แทน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121242
    ..............
    Sondhi X
    จีนทำการประหารชีวิตอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่ง ซึ่งถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันรวมแล้วกว่า 3,000 ล้านหยวน (ราว 14,000 ล้านบาท) อ้างอิงข้อมูลจากศาลในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางเหนือของประเทศ ในขณะที่การลงทัณฑ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวปราบปรามคอร์รัปชันในวงกว้างโดยพวกเจ้าหน้าที่ปักกิ่ง . หลี่ เจี้ยนผิง อดีตเลขาธิการคณะทำงานพรรคคอมมิวนิสต์ ด้านเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองโฮฮอต ถูกพบว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่างๆ ในนั้นรวมถึงรับสินบน ยักยอกเงินหลวง และสมคบคิดกับองค์กรอาชญากรรม . เบื้องต้น หลี่ วัย 64 ปี ถูกลงโทษประหารชีวิตในเดือนกันยายน 2022 หลังเจ้าหน้าที่พบว่าเขาใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะพนักงานของรัฐในการยักยอกเงิน จากนั้นเขาพ่ายแพ้ในการยื่นอุทธรณ์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และล่าสุดศาลประชาชนสูงสุด (The Supreme People's Court) ได้พิพากษายืนโทษประหารชีวิตในวันอังคาร (17 ธ.ค.) . ศาลสูงสุดระบุว่า หลี่ ยักยอกเงินกว่า 1,437 ล้านหยวน (ราว 6,700 ล้านบาท) ไปจากเงินทุนรัฐวิสาหกิจผ่านวิธีการตบตาต่างๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังมีเงินอีกกว่า 289 ล้านหยวน (ราว 1,350 ล้านบาท) ที่ยังติดตามคืนมาไม่ได้ . นอกเหนือจากนี้แล้ว เขายังรับเงินสินบนอีกกว่า 577 ล้าานหยวน (ราว 2,700 ล้านบาท) แลกกับการมอบผลประโยชน์ต่างๆ และยักยอกเงินหลวงอีก 1,060 ล้านหยวน (ราว 4,950 ล้านบาท) ในนั้นมากกว่า 404 ล้านหยวน (ราว 1,900 ล้านบาท) ยังติดตามคืนมาไม่ได้ ตามรายงานของสื่อมวลชนจีน . เมื่อเดือนที่แล้ว หลิว เหลียงเก๋อ อดีตประธานธนาคารกลางแห่งประเทศจีน ถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่โทษให้รอลงอาญา 2 ปี ฐานรับสินบนคิดเป็นมูลค่าเกือบ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 580 ล้านบาท) และปล่อยสินเชื่อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย . การรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งได้รับการอนุมัติสืบเนื่องจากจำเลยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และแสดงออกถึงการสำนึกผิด หมายความว่าเขาจะถูกประหารชีวิตก็ต่อเมื่อเขากระทำผิดทางอาญาซ้ำอีกระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากได้รับการบรรเทาโทษ เขาจะติดคุกตลอดชีวิตแทน . นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้ผู้นำเป็นสมัย 3 ในปี 2022 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ยกระดับความพยายามอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน มีมหาเศรษฐีและนายธนาคารหลายคนที่ถูกขับไล่ออกจากพรรคและโดนจำคุก ในช่วงเวลาที่ปักกิ่งปฏิบัติการกวาดล้างต่อต้านคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง . ยุทธการดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนอย่างดียิ่งจากประชาชน แม้พวกนักวิจารณ์อ้างว่ามันเปิดทางให้ประธานาธิบดีรายนี้ รวมศูนย์อำนาจด้วยการขับไล่คู่ปรับออกจากตำแหน่งสำคัญๆ แล้วตั้งเหล่าผู้ภักดีเข้ามาทำหน้าที่แทน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121242 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 806 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง
    .
    ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย
    .
    "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้"
    .
    นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้
    .
    ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน"
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
    .
    นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง
    .
    เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ
    .
    คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง
    .
    นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์
    .
    ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง . ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย . "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้" . นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้ . ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน" . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ . นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง . เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ . คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง . นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์ . ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 0 รีวิว
  •  สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เพิ่งผ่านกฎหมายที่บังคับให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ สอนลัทธิต่อต้านคอมมิวนิสต์และโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีนยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตรจะอิงจากสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำโดยมูลนิธิ Victims of Communism Memorial Foundation (VOCMF, victimsofcommunism.org/house-of-repre… ) ซึ่งเป็นร้านโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่ก่อตั้งโดยรัฐสภาVOCFM มีมุมมองสุดโต่งมากจนพวกเขาคิดว่าพวกนาซีที่ถูกโซเวียตสังหารล้วนเป็น "เหยื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดจากโควิด-19 ( hamptonthink.org/read/red-scare… ) ลองดูตัวอย่างโพสต์ X ล่าสุดของพวกเขา ( x.com/VoCommunism/st… ภาพหน้าจอด้านล่าง 👇 ) ซึ่งพวกเขาเรียกร้องให้ผู้คน "จดจำเหยื่อ" จากตอนที่กองทัพโซเวียตปลดปล่อยโปแลนด์จากพวกนาซี (รวมถึงเอาช์วิทซ์ด้วย!) ในช่วงการรุกวิสตูลา-โอเดอร์ 🤦กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งมีชื่อว่า "Crucial Communism Teaching Act" (มีข้อความดังนี้: congress.gov/bill/118th-con… ) กำหนดให้ "นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกาต้องเรียนรู้ว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000,000 รายทั่วโลก" ซึ่งถือเป็นจำนวนเดียวกับ VOCMF (และอันที่จริง กฎหมายระบุโดยเฉพาะว่า VOCMF จะต้องเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรดังกล่าว)กฎหมายฉบับใหม่ยังกำหนดให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ จะต้อง "ถูกสอน" เกี่ยวกับประเด็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีน เช่น "การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์" (ซึ่ง "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์" ก็เป็นเรื่องเล่าที่มาจาก VOCMF เช่นกัน) "การกระทำของ PRC เพื่อขัดขวางการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง" หรือ "ท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ของ PRC ต่อไต้หวัน ซึ่งเป็นมิตรประชาธิปไตยของสหรัฐฯ"แน่นอนว่าเรื่องที่น่าขันก็คือ "จีนคอมมิวนิสต์" ไม่มีกฎหมายหรือหลักสูตรที่เทียบเท่ากัน เด็กนักเรียนจีนไม่ได้รับการสอนให้เกลียดทุนนิยมหรือสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ในความเป็นจริง จีนมีโรงเรียนนานาชาติอเมริกันมากมายในเมืองใหญ่เกือบทั้งหมดในประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตรงกันข้ามกับความเข้าใจทั่วไป แนวทางการศึกษาของจีนต่อสหรัฐอเมริกาและระบบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความสมดุลมากกว่าที่เห็นในปัจจุบันในทิศทางตรงกันข้าม และนั่นเป็นการพูดน้อยเกินไปอย่างมาก...โดยรวมแล้ว หากจะย้อนกลับไปสักนิด แนวทางใดที่น่าจะให้การศึกษาแก่พลเมืองที่มีความสามารถและมีวิจารณญาณมากกว่ากัน แนวทางที่ส่งเสริมความเข้าใจอย่างแท้จริงผ่านการเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย หรือแนวทางที่กำหนดกรอบแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างเข้มงวด
     สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เพิ่งผ่านกฎหมายที่บังคับให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ สอนลัทธิต่อต้านคอมมิวนิสต์และโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีนยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตรจะอิงจากสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำโดยมูลนิธิ Victims of Communism Memorial Foundation (VOCMF, victimsofcommunism.org/house-of-repre… ) ซึ่งเป็นร้านโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่ก่อตั้งโดยรัฐสภาVOCFM มีมุมมองสุดโต่งมากจนพวกเขาคิดว่าพวกนาซีที่ถูกโซเวียตสังหารล้วนเป็น "เหยื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดจากโควิด-19 ( hamptonthink.org/read/red-scare… ) ลองดูตัวอย่างโพสต์ X ล่าสุดของพวกเขา ( x.com/VoCommunism/st… ภาพหน้าจอด้านล่าง 👇 ) ซึ่งพวกเขาเรียกร้องให้ผู้คน "จดจำเหยื่อ" จากตอนที่กองทัพโซเวียตปลดปล่อยโปแลนด์จากพวกนาซี (รวมถึงเอาช์วิทซ์ด้วย!) ในช่วงการรุกวิสตูลา-โอเดอร์ 🤦กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งมีชื่อว่า "Crucial Communism Teaching Act" (มีข้อความดังนี้: congress.gov/bill/118th-con… ) กำหนดให้ "นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกาต้องเรียนรู้ว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000,000 รายทั่วโลก" ซึ่งถือเป็นจำนวนเดียวกับ VOCMF (และอันที่จริง กฎหมายระบุโดยเฉพาะว่า VOCMF จะต้องเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรดังกล่าว)กฎหมายฉบับใหม่ยังกำหนดให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ จะต้อง "ถูกสอน" เกี่ยวกับประเด็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีน เช่น "การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์" (ซึ่ง "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์" ก็เป็นเรื่องเล่าที่มาจาก VOCMF เช่นกัน) "การกระทำของ PRC เพื่อขัดขวางการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง" หรือ "ท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ของ PRC ต่อไต้หวัน ซึ่งเป็นมิตรประชาธิปไตยของสหรัฐฯ"แน่นอนว่าเรื่องที่น่าขันก็คือ "จีนคอมมิวนิสต์" ไม่มีกฎหมายหรือหลักสูตรที่เทียบเท่ากัน เด็กนักเรียนจีนไม่ได้รับการสอนให้เกลียดทุนนิยมหรือสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ในความเป็นจริง จีนมีโรงเรียนนานาชาติอเมริกันมากมายในเมืองใหญ่เกือบทั้งหมดในประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตรงกันข้ามกับความเข้าใจทั่วไป แนวทางการศึกษาของจีนต่อสหรัฐอเมริกาและระบบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความสมดุลมากกว่าที่เห็นในปัจจุบันในทิศทางตรงกันข้าม และนั่นเป็นการพูดน้อยเกินไปอย่างมาก...โดยรวมแล้ว หากจะย้อนกลับไปสักนิด แนวทางใดที่น่าจะให้การศึกษาแก่พลเมืองที่มีความสามารถและมีวิจารณญาณมากกว่ากัน แนวทางที่ส่งเสริมความเข้าใจอย่างแท้จริงผ่านการเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย หรือแนวทางที่กำหนดกรอบแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างเข้มงวด
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่เว้นแม้แต่คนสนิทของนายสีนิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยหนึ่งในหน่วยงานที่คนจีนกลัวมากที่สุดคือ ‘จงกั๋ว ก้งฉานตั่ง จงยาง จี้ลวี่ เจี่ยนฉา เหว่ยหยวนฮุ่ย’ คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ CCDI จนถึง ค.ศ.2023 มีเจ้าหน้าที่รัฐจีนถูกดำเนินคดีและลงโทษในข้อหาทุจริตคอร์รัปชันไปแล้วมากถึง 2.3 ล้านคนสี จิ้นผิง เป็นผู้นำสูงสุดเมื่อ ค.ศ.2013 นับตั้งแต่วันที่มีอำนาจเต็มมือ นายสีก็ปราบปรามข้าราชการทุจริตอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด เข้มงวด ไม่มีการผ่อนปรน และไม่มีการลูบหน้าปะจมูกนายสียังใช้ ‘จงฮวา เหรินหมิน ก้งเหอกั๋ว เสิ่นจี้สู่’ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติจีน หรือ CNAO ป้องกันและปราบปรามเพื่อไม่ให้การทุจริตคอรัปชันทำลายประเทศและทำลายสังคมจีนสมัยก่อนตอนโน้น การตรวจสอบการทุจริตต้องทำหลังจากมีการทุจริตเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น จีนเป็นประเทศใหญ่โตมโหฬารมีประชากรมากกว่าพันล้านคน เอกสารย้อนหลังมีบานเบอะเยอะแยะและยากที่จะตรวจสอบทว่าปัจจุบัน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติใช้ ‘ทูจี๋ ต้า เสิ่นจี้’ การตรวจสอบครั้งใหญ่อย่างสายฟ้าแลบ ตรวจพบความผิดปกติในธุรกรรมได้ทันทีสมัยที่ยังไม่มีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ การตรวจสอบลักษณะนี้ทำไม่ได้เลย แต่ปัจจุบัน ใครทุจริตคอร์รัปชันจะปรากฏให้เห็นในข้อมูลขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินจีน หลายกรณีมีการยับยั้งได้ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับเงินแผ่นดินเป็นที่ยอมรับกันว่า ‘จงฮวา เหรินหมิน ก้งเหอกั๋ว เสิ่นจี้สู่’ เป็นสถาบันการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอันดับ 1 ของโลกด้วยการใช้ ‘ต้า ซู่จวี้ กงจั้ว จู่’ คณะทำงานหรือทีมปฏิบัติงานด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (Working Group on Big Data) ทันทีที่มีการโอนเงิน การถือครองทรัพย์สิน หรือการลงทุนในต่างประเทศ ข้อมูลเหล่านี้จะไปปรากฏในฐานวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ทำให้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสของธุรกรรม และถ้าการกระทำนั้นไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีการติดตามพฤติกรรมว่ามีการใช้จ่ายเกินฐานะหรือไม่ค.ศ.2024 อดีตรัฐมนตรีของประเทศบูร์กินาฟากัวนัวเนีย 2 คน บินไปเล่นกาสิโนที่สหรัฐฯ แสร้งว่าเล่นได้เงินจำนวนมาก เพื่อนำเงินเทาที่รับมาฟอกให้ขาวสะอาด รัฐและประชาชนของประเทศนั้นไม่รู้ แต่ ‘จงกั๋ว โชวจี ฉวนฉิว เจิ้งจื้อ เหรินอู้ สิงเหวย เตอะ ต้า ซู่จวี้’ ข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้าที่จีนรวบรวมพฤติกรรมนักการเมืองทั่วโลก มีรายงานปรากฏอย่างละเอียดถึงจำนวนเงิน สถานที่ วันเดินทางและเที่ยวบินที่เดินทางไปกลับข้อมูลขนาดใหญ่ของคนและหน่วยงานทั้งโลกที่ลอยล่องฟ่องอยู่ในอากาศเชื่อมระโนงโยงเยงได้ลึกซึ้งถึงขนาดบอกได้อย่างชัดเจนว่าเงินที่ได้มานั้นมาจากไหน อย่างไร และนี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐจีนเป็นล้านจึงโดนจับและถูกลงโทษได้อย่างง่ายจำนนต่อหลักฐานสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมของจีนออกมาเปิดเผยเรื่องการสอบสวนนายพลเหมียว หัว ผู้บัญชาการหมายเลข 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน นายพลเหมียวเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการทหารกลาง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองภายใต้คณะกรรมาธิการฯ เป็นคนที่ได้รับการกล่าวขวัญในเรื่องการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วในกองทัพปลดแอกประชาชนจีนการคัดคนเข้ามาอยู่ในคณะกรรมาธิการการทหารกลางเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดรอบคอบ กรองแล้วกรองอีกในด้านความสะอาดโปร่งใส เพราะคณะกรรมาธิการฯนี้เป็นหน่วยงานระดับสูงที่กำกับดูแลกองทัพปลดแอกประชาชนที่มีสมาชิกเพียง 6 คน มีอำนาจการตัดสินใจในกิจการทหารนายสีไว้ใจนายพลเหมียวให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการการทหารกลางเพื่อเป็นตัวแทนของตนในการควบคุมกองทัพ การขึ้นมาของใครคนใดคนหนึ่งในแผ่นดินจีนจะต้องมีกลุ่มการเมืองที่แข็งแรงสนับสนุน นายพลเหมียวเป็นบุคคลหลักในกลุ่มฝูเจี้ยนและกลุ่มเจ้อเจียง สองกลุ่มการเมืองที่แข็งแรงหลังจากที่ความสามารถทางขีปนาวุธของจีนลดลง ก็มีการสงสัยว่าน่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน จึงมีการตรวจสอบอย่างละเอียด และนี่เป็นที่มาของการตรวจสอบนายพลเหมียวซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนสนิทของประธานาธิบดีสีแม้แต่คนสนิทกระทำความผิด นายสีก็ไม่เว้น.
    ไม่เว้นแม้แต่คนสนิทของนายสีนิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยหนึ่งในหน่วยงานที่คนจีนกลัวมากที่สุดคือ ‘จงกั๋ว ก้งฉานตั่ง จงยาง จี้ลวี่ เจี่ยนฉา เหว่ยหยวนฮุ่ย’ คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ CCDI จนถึง ค.ศ.2023 มีเจ้าหน้าที่รัฐจีนถูกดำเนินคดีและลงโทษในข้อหาทุจริตคอร์รัปชันไปแล้วมากถึง 2.3 ล้านคนสี จิ้นผิง เป็นผู้นำสูงสุดเมื่อ ค.ศ.2013 นับตั้งแต่วันที่มีอำนาจเต็มมือ นายสีก็ปราบปรามข้าราชการทุจริตอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด เข้มงวด ไม่มีการผ่อนปรน และไม่มีการลูบหน้าปะจมูกนายสียังใช้ ‘จงฮวา เหรินหมิน ก้งเหอกั๋ว เสิ่นจี้สู่’ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติจีน หรือ CNAO ป้องกันและปราบปรามเพื่อไม่ให้การทุจริตคอรัปชันทำลายประเทศและทำลายสังคมจีนสมัยก่อนตอนโน้น การตรวจสอบการทุจริตต้องทำหลังจากมีการทุจริตเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น จีนเป็นประเทศใหญ่โตมโหฬารมีประชากรมากกว่าพันล้านคน เอกสารย้อนหลังมีบานเบอะเยอะแยะและยากที่จะตรวจสอบทว่าปัจจุบัน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติใช้ ‘ทูจี๋ ต้า เสิ่นจี้’ การตรวจสอบครั้งใหญ่อย่างสายฟ้าแลบ ตรวจพบความผิดปกติในธุรกรรมได้ทันทีสมัยที่ยังไม่มีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ การตรวจสอบลักษณะนี้ทำไม่ได้เลย แต่ปัจจุบัน ใครทุจริตคอร์รัปชันจะปรากฏให้เห็นในข้อมูลขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินจีน หลายกรณีมีการยับยั้งได้ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับเงินแผ่นดินเป็นที่ยอมรับกันว่า ‘จงฮวา เหรินหมิน ก้งเหอกั๋ว เสิ่นจี้สู่’ เป็นสถาบันการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอันดับ 1 ของโลกด้วยการใช้ ‘ต้า ซู่จวี้ กงจั้ว จู่’ คณะทำงานหรือทีมปฏิบัติงานด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (Working Group on Big Data) ทันทีที่มีการโอนเงิน การถือครองทรัพย์สิน หรือการลงทุนในต่างประเทศ ข้อมูลเหล่านี้จะไปปรากฏในฐานวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ทำให้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสของธุรกรรม และถ้าการกระทำนั้นไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีการติดตามพฤติกรรมว่ามีการใช้จ่ายเกินฐานะหรือไม่ค.ศ.2024 อดีตรัฐมนตรีของประเทศบูร์กินาฟากัวนัวเนีย 2 คน บินไปเล่นกาสิโนที่สหรัฐฯ แสร้งว่าเล่นได้เงินจำนวนมาก เพื่อนำเงินเทาที่รับมาฟอกให้ขาวสะอาด รัฐและประชาชนของประเทศนั้นไม่รู้ แต่ ‘จงกั๋ว โชวจี ฉวนฉิว เจิ้งจื้อ เหรินอู้ สิงเหวย เตอะ ต้า ซู่จวี้’ ข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้าที่จีนรวบรวมพฤติกรรมนักการเมืองทั่วโลก มีรายงานปรากฏอย่างละเอียดถึงจำนวนเงิน สถานที่ วันเดินทางและเที่ยวบินที่เดินทางไปกลับข้อมูลขนาดใหญ่ของคนและหน่วยงานทั้งโลกที่ลอยล่องฟ่องอยู่ในอากาศเชื่อมระโนงโยงเยงได้ลึกซึ้งถึงขนาดบอกได้อย่างชัดเจนว่าเงินที่ได้มานั้นมาจากไหน อย่างไร และนี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐจีนเป็นล้านจึงโดนจับและถูกลงโทษได้อย่างง่ายจำนนต่อหลักฐานสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมของจีนออกมาเปิดเผยเรื่องการสอบสวนนายพลเหมียว หัว ผู้บัญชาการหมายเลข 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน นายพลเหมียวเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการทหารกลาง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองภายใต้คณะกรรมาธิการฯ เป็นคนที่ได้รับการกล่าวขวัญในเรื่องการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วในกองทัพปลดแอกประชาชนจีนการคัดคนเข้ามาอยู่ในคณะกรรมาธิการการทหารกลางเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดรอบคอบ กรองแล้วกรองอีกในด้านความสะอาดโปร่งใส เพราะคณะกรรมาธิการฯนี้เป็นหน่วยงานระดับสูงที่กำกับดูแลกองทัพปลดแอกประชาชนที่มีสมาชิกเพียง 6 คน มีอำนาจการตัดสินใจในกิจการทหารนายสีไว้ใจนายพลเหมียวให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการการทหารกลางเพื่อเป็นตัวแทนของตนในการควบคุมกองทัพ การขึ้นมาของใครคนใดคนหนึ่งในแผ่นดินจีนจะต้องมีกลุ่มการเมืองที่แข็งแรงสนับสนุน นายพลเหมียวเป็นบุคคลหลักในกลุ่มฝูเจี้ยนและกลุ่มเจ้อเจียง สองกลุ่มการเมืองที่แข็งแรงหลังจากที่ความสามารถทางขีปนาวุธของจีนลดลง ก็มีการสงสัยว่าน่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน จึงมีการตรวจสอบอย่างละเอียด และนี่เป็นที่มาของการตรวจสอบนายพลเหมียวซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนสนิทของประธานาธิบดีสีแม้แต่คนสนิทกระทำความผิด นายสีก็ไม่เว้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียวันนี้ถือว่า "หักปากกาเซียน" แบบไม่เคยมีมาก่อน จนถึงขณะนี้การวิเคราะห์ก็ยังแตกเป็นหลายกระแส ต่างจากสถานการณ์ที่อื่นที่มักจะวิเคราะห์ต่างกันไม่กี่สาย นั่นหมายความไม่มีใครรู้จริงว่าเบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาลซีเรียคือใครแผนที่นี้ผมยืมมาจาก Council on Foreign Relations (CFR) ระบุพื้นที่ของกลุ่มต่างๆ ก่อนการยึดดามัสกัส เราจะเห็น 1) สีส้มของรัฐบาลอัสซาด 2) สีชมพูกลุ่ม HTS กองกำลังอัลกออิดะห์เดิมที่เข้ายึดดามัสกัสได้ 3.) สีเหลืองคือพื้นที่ตุรกีคุมไว้รวมกลุ่มถึง SNA ที่ตุรกีหนุน 4.) พื้นที่ยึดครองของชาวเคิร์ด และยังมีฐานกำลังของสหรัฐฯ (เทา) กับรัสเซีย (แดง)บทวิเคราะห์ของ CFR ให้น้ำหนักไปที่การแทรกแซงโดยตุรกี เพราะกลุ่ม HTS ได้รับการหนุนด้านอาวุธจากตุรกี และกลุ่มติดอาวุธซีเรียที่ตุรกีหนุนก็มาเป็นแนวร่วมให้ HTS เป้าหมายการหนุนก็เพื่อทำลายรัฐบาลอัสซาดที่เป็นภัยคุกคามต่อตุรกี และเพื่อสร้างแนวร่วมต่อต้านพวกเคิร์ด ซึ่งต้องการแยกดินแดนในซีเรียและตุรกีและในอิรักมาตั้งเป็นประเทศเอกราชแต่ถึงที่สุดแล้ว CFR ก็ฟันธงไม่ได้ว่าตุรกีอยู่เบื้องหลัง 100% เพราะแม้ตุรกีจะได้ประโยชน์ แต่โทษของการแทรกแซงก็มี นั่นคือจะเกิดความไร้เสถียรภาพในซีเรียอย่างหนัก (กลุ่มต่างๆ ฆ่าฟันกันเองหลังจากนี้เพราะไม่มีเป้าหมายร่วมกันอีกต่อไป) จากนั้นคลื่นผู้อพยพจะทะลักเข้าไปในตุรกี แม้จะเป็นได้สูงที่ตุรกีอยู่เบื้องหลัง อย่างที่สื่อตุรกีอ้างผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อว่าการโจมตีของกลุ่ม HTS จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากตุรกีไม่อนุมัติ การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรีย (SNA) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มที่เป็นกองหนุนให้กับ HTS ในการรุกยึดประเทศจนสำเร็จแต่สื่อตุรกี คือ Medyascope กลับกังวลมากกว่ากับการแทรกแซง โดยบอกว่า "ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อคุณดูแผนที่ ซีเรียจะถูกปกครองโดยองค์กรสองแห่งที่ตุรกีมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย (HTS อัลกออิดะห์เก่า และ PYD กลุ่มชาวเคิร์ดที่รัฐบาลตุรกีถือว่าช่วยชาวเคิร์ดในตุรกีแยกดินแดน) เราต้องการสถานที่ที่องค์กรก่อการร้ายทั้งหมดกำลังก่อความวุ่นวายในซีเรียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ตุรกีได้รับอะไรจากเรื่องนี้? การก่อตั้งรัฐก่อการร้ายแห่งใหม่งั้นหรือ?"ดังนั้น การฟันธงว่าตุรกีมีแต่ได้จากสถานการณ์นี้น่าจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นคำถามก็คือใครก็แน่นที่น่าจะได้ประโยชน์?โดนัลก์ ทรัมป์ บอกว่าแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย Not our war แต่มันจริงแค่ไหน? ก็ในเมื่อกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่นั่น และสนับสนุกองต่างๆ รวมถึงกองกำลังเคิร์ดมีมุมมองที่น่าใจจากฝ่ายค้านของตุรกี คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งตุรกี (TKP) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าแผนการแบ่งซีเรียที่จักรวรรดินิยมสหรัฐและกลุ่มปฏิกิริยาในภูมิภาคที่เริ่มต้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนประสบความสำเร็จเมื่อวานนี้ และ 'ผู้ชนะ' ทั้งหมดในซีเรียล้วนเป็นพันธมิตรของสหรัฐและอิสราเอล' และเน้นย้ำว่าเสถียรภาพและสันติภาพจะไม่เกิดขึ้นกับซีเรีย "ตรงกันข้าม ช่วงเวลาแห่งความป่าเถื่อนจะเริ่มต้นขึ้นในซีเรีย ซึ่งการสังหารหมู่ การยึดครอง การปล้นสะดม และการขัดแย้งไม่รู้จบเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากกองกำลังต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่คอยสกัดกั้นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว"ในแถลงการณ์ของ TKP ได้เน้นย้ำว่าผู้ชนะในภาพในซีเรียคืออิสราเอล "ในตอนนี้" และได้รับการพิสูจน์อีกครั้งแล้วว่าปัญหาอิสราเอลไม่ใช่ปัญหาทางศาสนา "กลุ่มญิฮาด (หมายถึง HTS) และอิสราเอลได้ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกันเพื่อยึดครองซีเรีย รัฐบาลตุรกีเป็นองค์ประกอบที่รับประกันความกลมเกลียวนี้การที่อิสราเอลชนะก็คือการที่จักรวรรดินิยมของสหรัฐฯ ชนะ ในปัจจุบัน ผู้ชนะทั้งหมดในซีเรียเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และอิสราเอล บางทีการปะทะกันอย่างนองเลือดอาจเกิดขึ้นระหว่าง "ผู้ชนะ" หรือบางที "ความกลมกลืน" ที่เห็นบนภาคพื้นดินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์อาจได้รับการสถาปนาโดยสหรัฐฯแต่ "สันติภาพ" ของสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยเลือดเสมอและเต็มไปด้วยความขัดแย้งใหม่ๆ เสมอ สันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบสุขสามารถสถาปนาได้ในซีเรียก็ต่อเมื่อจักรวรรดินิยมและญิฮาดพ่ายแพ้เท่านั้น"แน่นอนว่าจะมีการต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิไซออนิสต์ในซีเรีย การต่อต้านนี้จะดำเนินการด้วยมุมมองปฏิวัติ ปกป้องลัทธิฆราวาส และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจระหว่างประเทศอื่น ๆ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาในตุรกีในระดับหนึ่ง”'ประเทศของเรา (ตุรกี) และพลเมืองของเรากำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่'********************ป.ล. - ยังมีอีกกระแสการวิเคราะห์หนึ่ง เช่น BBC บอกว่าตุรกีกับรัสเซียน่าจะตกลงกันไม่ได้ในการประชุมระหว่างผู้นำตุรกีกับรัสเซียเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นำไปสู่การเผด็จศึกดามัสกัสในที่สุดแต่สื่อตุรกีก็แย้งว่า รัสเซียไม่มีแรงช่วยรัฐบาลอัสซาดอีกต่อไปเพราะต้องแบกสงครามยูเครนที่จู่ๆ ก็หนักขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่อิหร่านที่ช่วยฐบาลอัสซาดมาโดยตลอด ตอนนี้ก็ช่วยไม่ไหวเพราะกรำศึกกับอิสราเอลจนงอม (ทั้งรบกันโดยตรงและผ่านกลุ่มฮิซบอลลอฮ์ในเลบานอนเป็นต้น)ดังนั้น แต่ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา อันเป็นวันที่ฝ่ายต่อต้าน "เสียงปืนแตก" อีกครั้งหลายเงียบมา 4 ปี ในเวลานั้นอัสซาดไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่เขาคาดหวังจากอิหร่านหรือรัสเซียเลยKornkit Disthan
    สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียวันนี้ถือว่า "หักปากกาเซียน" แบบไม่เคยมีมาก่อน จนถึงขณะนี้การวิเคราะห์ก็ยังแตกเป็นหลายกระแส ต่างจากสถานการณ์ที่อื่นที่มักจะวิเคราะห์ต่างกันไม่กี่สาย นั่นหมายความไม่มีใครรู้จริงว่าเบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาลซีเรียคือใครแผนที่นี้ผมยืมมาจาก Council on Foreign Relations (CFR) ระบุพื้นที่ของกลุ่มต่างๆ ก่อนการยึดดามัสกัส เราจะเห็น 1) สีส้มของรัฐบาลอัสซาด 2) สีชมพูกลุ่ม HTS กองกำลังอัลกออิดะห์เดิมที่เข้ายึดดามัสกัสได้ 3.) สีเหลืองคือพื้นที่ตุรกีคุมไว้รวมกลุ่มถึง SNA ที่ตุรกีหนุน 4.) พื้นที่ยึดครองของชาวเคิร์ด และยังมีฐานกำลังของสหรัฐฯ (เทา) กับรัสเซีย (แดง)บทวิเคราะห์ของ CFR ให้น้ำหนักไปที่การแทรกแซงโดยตุรกี เพราะกลุ่ม HTS ได้รับการหนุนด้านอาวุธจากตุรกี และกลุ่มติดอาวุธซีเรียที่ตุรกีหนุนก็มาเป็นแนวร่วมให้ HTS เป้าหมายการหนุนก็เพื่อทำลายรัฐบาลอัสซาดที่เป็นภัยคุกคามต่อตุรกี และเพื่อสร้างแนวร่วมต่อต้านพวกเคิร์ด ซึ่งต้องการแยกดินแดนในซีเรียและตุรกีและในอิรักมาตั้งเป็นประเทศเอกราชแต่ถึงที่สุดแล้ว CFR ก็ฟันธงไม่ได้ว่าตุรกีอยู่เบื้องหลัง 100% เพราะแม้ตุรกีจะได้ประโยชน์ แต่โทษของการแทรกแซงก็มี นั่นคือจะเกิดความไร้เสถียรภาพในซีเรียอย่างหนัก (กลุ่มต่างๆ ฆ่าฟันกันเองหลังจากนี้เพราะไม่มีเป้าหมายร่วมกันอีกต่อไป) จากนั้นคลื่นผู้อพยพจะทะลักเข้าไปในตุรกี แม้จะเป็นได้สูงที่ตุรกีอยู่เบื้องหลัง อย่างที่สื่อตุรกีอ้างผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อว่าการโจมตีของกลุ่ม HTS จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากตุรกีไม่อนุมัติ การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรีย (SNA) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มที่เป็นกองหนุนให้กับ HTS ในการรุกยึดประเทศจนสำเร็จแต่สื่อตุรกี คือ Medyascope กลับกังวลมากกว่ากับการแทรกแซง โดยบอกว่า "ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อคุณดูแผนที่ ซีเรียจะถูกปกครองโดยองค์กรสองแห่งที่ตุรกีมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย (HTS อัลกออิดะห์เก่า และ PYD กลุ่มชาวเคิร์ดที่รัฐบาลตุรกีถือว่าช่วยชาวเคิร์ดในตุรกีแยกดินแดน) เราต้องการสถานที่ที่องค์กรก่อการร้ายทั้งหมดกำลังก่อความวุ่นวายในซีเรียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ตุรกีได้รับอะไรจากเรื่องนี้? การก่อตั้งรัฐก่อการร้ายแห่งใหม่งั้นหรือ?"ดังนั้น การฟันธงว่าตุรกีมีแต่ได้จากสถานการณ์นี้น่าจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นคำถามก็คือใครก็แน่นที่น่าจะได้ประโยชน์?โดนัลก์ ทรัมป์ บอกว่าแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย Not our war แต่มันจริงแค่ไหน? ก็ในเมื่อกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่นั่น และสนับสนุกองต่างๆ รวมถึงกองกำลังเคิร์ดมีมุมมองที่น่าใจจากฝ่ายค้านของตุรกี คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งตุรกี (TKP) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าแผนการแบ่งซีเรียที่จักรวรรดินิยมสหรัฐและกลุ่มปฏิกิริยาในภูมิภาคที่เริ่มต้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนประสบความสำเร็จเมื่อวานนี้ และ 'ผู้ชนะ' ทั้งหมดในซีเรียล้วนเป็นพันธมิตรของสหรัฐและอิสราเอล' และเน้นย้ำว่าเสถียรภาพและสันติภาพจะไม่เกิดขึ้นกับซีเรีย "ตรงกันข้าม ช่วงเวลาแห่งความป่าเถื่อนจะเริ่มต้นขึ้นในซีเรีย ซึ่งการสังหารหมู่ การยึดครอง การปล้นสะดม และการขัดแย้งไม่รู้จบเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากกองกำลังต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่คอยสกัดกั้นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว"ในแถลงการณ์ของ TKP ได้เน้นย้ำว่าผู้ชนะในภาพในซีเรียคืออิสราเอล "ในตอนนี้" และได้รับการพิสูจน์อีกครั้งแล้วว่าปัญหาอิสราเอลไม่ใช่ปัญหาทางศาสนา "กลุ่มญิฮาด (หมายถึง HTS) และอิสราเอลได้ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกันเพื่อยึดครองซีเรีย รัฐบาลตุรกีเป็นองค์ประกอบที่รับประกันความกลมเกลียวนี้การที่อิสราเอลชนะก็คือการที่จักรวรรดินิยมของสหรัฐฯ ชนะ ในปัจจุบัน ผู้ชนะทั้งหมดในซีเรียเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และอิสราเอล บางทีการปะทะกันอย่างนองเลือดอาจเกิดขึ้นระหว่าง "ผู้ชนะ" หรือบางที "ความกลมกลืน" ที่เห็นบนภาคพื้นดินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์อาจได้รับการสถาปนาโดยสหรัฐฯแต่ "สันติภาพ" ของสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยเลือดเสมอและเต็มไปด้วยความขัดแย้งใหม่ๆ เสมอ สันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบสุขสามารถสถาปนาได้ในซีเรียก็ต่อเมื่อจักรวรรดินิยมและญิฮาดพ่ายแพ้เท่านั้น"แน่นอนว่าจะมีการต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิไซออนิสต์ในซีเรีย การต่อต้านนี้จะดำเนินการด้วยมุมมองปฏิวัติ ปกป้องลัทธิฆราวาส และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจระหว่างประเทศอื่น ๆ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาในตุรกีในระดับหนึ่ง”'ประเทศของเรา (ตุรกี) และพลเมืองของเรากำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่'********************ป.ล. - ยังมีอีกกระแสการวิเคราะห์หนึ่ง เช่น BBC บอกว่าตุรกีกับรัสเซียน่าจะตกลงกันไม่ได้ในการประชุมระหว่างผู้นำตุรกีกับรัสเซียเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นำไปสู่การเผด็จศึกดามัสกัสในที่สุดแต่สื่อตุรกีก็แย้งว่า รัสเซียไม่มีแรงช่วยรัฐบาลอัสซาดอีกต่อไปเพราะต้องแบกสงครามยูเครนที่จู่ๆ ก็หนักขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่อิหร่านที่ช่วยฐบาลอัสซาดมาโดยตลอด ตอนนี้ก็ช่วยไม่ไหวเพราะกรำศึกกับอิสราเอลจนงอม (ทั้งรบกันโดยตรงและผ่านกลุ่มฮิซบอลลอฮ์ในเลบานอนเป็นต้น)ดังนั้น แต่ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา อันเป็นวันที่ฝ่ายต่อต้าน "เสียงปืนแตก" อีกครั้งหลายเงียบมา 4 ปี ในเวลานั้นอัสซาดไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่เขาคาดหวังจากอิหร่านหรือรัสเซียเลยKornkit Disthan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล รอดพ้นจากลงมติถอดถอนในรัฐสภาในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) จากกรณีที่เขาพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ แต่ผู้นำพรรคของเขาเอง ยังเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วประธานาธิบดีรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งเอง
    .
    พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน บอยคอตต์การลงมติถอดถอน ที่ผลักดันโดยพรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านหลัก แต่ญัตติถูกคว่ำหลังจากมีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมไม่มากพอ
    .
    อย่างไรก็ตาม หลังจากการโหวต ฮาน ดองฮูน ผู้นำพรรคพีพีพี บอกว่าพรรคตัดสินใจแล้วว่า ยูน จะลาออกจากตำแหน่ง "การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจนและร้ายแรง" ฮาน บอกกับผู้สื่อข่าว
    .
    กระนั้นก็ตาม ฮาน เคยมีประวัติกระทบกระทั่งกับยุน และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้พูดคุยกับสมาชิกพรรคพีพีพีทั้งหมดแล้วหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยุน ก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับคำพูดของ ฮาน
    .
    ประธานาธิบดียุน สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (3 ธ.ค.) ด้วยการประกาศกฎอัยการศึก มอบอำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่ทหาร ในการขุดรากถอนโคนสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และกำราบการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
    .
    อย่างไรก็ตาม เขาถอนกฎอัยการศึกในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังรัฐสภาที่ขัดขืนการปิดล้อมของทหารและตำรวจ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์คัดค้านประกาศดังกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม การประกากฎอัยการศึกของยุน ได้ฉุดเกาหลีใต้ ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรทางทหารสำคัญของสหรัฐฯ เข้าสู่วิกฤตทางการเมืองใหญ่หลวงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ คุกคามทำลายชื่อเสียงของประเทศ ในเรื่องราวแห่งความสำเร็จในด้านประชาธิปไตย
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ยุน ปราศรัยถึงประชาชนทั่วไปประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ขอโทษต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว และบอกว่าเขาจะเผชิญหน้าไม่ว่าผลสนองจะตามมาเช่นไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เสนอตัวขอลาออกแต่อย่างใด
    .
    ยุน บอกว่าเขาวางชะตากรรมไว้ในมือของพรรคพีพีพี ซึ่ง ฮาน กล่าวในเวลาต่อมาว่ามันเท่ากับเป็นการสัญญาว่าผู้นำรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด
    .
    "พรรคพลังประชาชนจะหาทางให้ประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่งด้วยความเป็นระบบระเบียบ เพื่อลดความสับสนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด" ฮานกล่าว พร้อมบอกว่าจนกว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่ง ผู้นำรายนี้จะถูกกันจากการทำหน้าที่ และนายกรัฐมนตรีจะปรึกษาหารือกับทางพรรคในการบริการจัดการกิจการต่างๆ ของรัฐ
    .
    พรรคดีพี พรรคฝ่ายค้าน หัวเราะเยาะแนวคิดดังกล่าวว่าเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ชอบด้วยกฎหมาย "ทั้งประชาชนและกฎหมาย ไม่มีใครให้อำนาจ ฮาน เขี่ย ยุน พ้นจากเก้าอี้" พรรคดีพีพีระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกว่าการถอดถอนเป็นเพียงหนทางเดียว
    .
    การลงมติครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่พวกผู้ประท้วงหลายหมื่นคนชูเทียนและหลอดไฟ ไหลบ่าลงท้อถนนบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาในคืนวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และวันเสาร์ (7 ธ.ค.) เรียกร้องให้ถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง
    .
    อ้างอิงผลสำรวจความคิดห็นที่จัดทำโดยสำนักโพล Real Meter ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 73.6% อยากให้ถอดถอน ยุน ส่วนที่คัดค้านมีอยู่ 24%
    .
    ชอย ยองโฮ ผู้ประท้วงรายหนึ่งวัย 60 ปี แสดงความเดือดดาลต่อแนวโน้มที่การยื่นถอนถอนจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ประกาศจะเดินหน้าเข้าร่วมต่อการประท้วงใดๆ ในอนาคต "เราจะส่งเสียงจนกว่าพวกเขาจะได้ยิน" เขากล่าว
    .
    การปราศรัยต่อสถานีโทรทัศน์ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของยุน นับตั้งแต่เขายกเลิกประกาศอัยการศึก "ผมปล่อยให้ทางพรรคของผมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพแก่สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต ในนั้นรวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของผม" เขากล่าว พร้อมให้สัญญาจะไม่มีความพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกเป็นครั้งที่ 2
    .
    ในเวลาต่อมา ฮาน บอกว่าประธานาธิบดีไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป และเวลานี้การลาออกของเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ฮาน เคยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว่า ยุน เป็นอันตรายต่อประเทศ และจำเป็นต้องถูกถอดพ้นจากอำนาจ ความเคลื่อนไหวที่เพิ่มแรงกดดันให้ ยุน ลาออกจากตำแหน่ง
    .
    อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกพรรคพีพีพีเกือบทั้งหมดบอยคอตต์การลงมติ และหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมการโหวตเผยว่าตนเองลงมติคัดค้านการถอดถอน แม้เชื่อว่า ยุน ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งอีกต่อไป
    .
    ถ้า ยุน ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 5 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2027 รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดไว้ว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ที่เขาพ้นจากเก้าอี้
    .
    เคยมีการประกาศกฎอัยการศึกมาแล้วหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่มีการสถาปนาเกาหลีใต้ในฐานะสาธารณรัฐ ในปี 1948 โดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1980
    .
    ในการประกาศอัยการศึกเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ยุน ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่กองทัพ ในการจัดการกับภัยคุกคามอย่างไม่เจาะจงจาก "กองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ" และ "เพื่อกำจัดกองกำลังต่อต้านรัฐที่ฝักใฝ่เกาหลีเหนือ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117845
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล รอดพ้นจากลงมติถอดถอนในรัฐสภาในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) จากกรณีที่เขาพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ แต่ผู้นำพรรคของเขาเอง ยังเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วประธานาธิบดีรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งเอง . พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน บอยคอตต์การลงมติถอดถอน ที่ผลักดันโดยพรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านหลัก แต่ญัตติถูกคว่ำหลังจากมีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมไม่มากพอ . อย่างไรก็ตาม หลังจากการโหวต ฮาน ดองฮูน ผู้นำพรรคพีพีพี บอกว่าพรรคตัดสินใจแล้วว่า ยูน จะลาออกจากตำแหน่ง "การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจนและร้ายแรง" ฮาน บอกกับผู้สื่อข่าว . กระนั้นก็ตาม ฮาน เคยมีประวัติกระทบกระทั่งกับยุน และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้พูดคุยกับสมาชิกพรรคพีพีพีทั้งหมดแล้วหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยุน ก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับคำพูดของ ฮาน . ประธานาธิบดียุน สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (3 ธ.ค.) ด้วยการประกาศกฎอัยการศึก มอบอำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่ทหาร ในการขุดรากถอนโคนสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และกำราบการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง . อย่างไรก็ตาม เขาถอนกฎอัยการศึกในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังรัฐสภาที่ขัดขืนการปิดล้อมของทหารและตำรวจ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์คัดค้านประกาศดังกล่าว . อย่างไรก็ตาม การประกากฎอัยการศึกของยุน ได้ฉุดเกาหลีใต้ ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรทางทหารสำคัญของสหรัฐฯ เข้าสู่วิกฤตทางการเมืองใหญ่หลวงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ คุกคามทำลายชื่อเสียงของประเทศ ในเรื่องราวแห่งความสำเร็จในด้านประชาธิปไตย . ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ยุน ปราศรัยถึงประชาชนทั่วไปประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ขอโทษต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว และบอกว่าเขาจะเผชิญหน้าไม่ว่าผลสนองจะตามมาเช่นไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เสนอตัวขอลาออกแต่อย่างใด . ยุน บอกว่าเขาวางชะตากรรมไว้ในมือของพรรคพีพีพี ซึ่ง ฮาน กล่าวในเวลาต่อมาว่ามันเท่ากับเป็นการสัญญาว่าผู้นำรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด . "พรรคพลังประชาชนจะหาทางให้ประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่งด้วยความเป็นระบบระเบียบ เพื่อลดความสับสนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด" ฮานกล่าว พร้อมบอกว่าจนกว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่ง ผู้นำรายนี้จะถูกกันจากการทำหน้าที่ และนายกรัฐมนตรีจะปรึกษาหารือกับทางพรรคในการบริการจัดการกิจการต่างๆ ของรัฐ . พรรคดีพี พรรคฝ่ายค้าน หัวเราะเยาะแนวคิดดังกล่าวว่าเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ชอบด้วยกฎหมาย "ทั้งประชาชนและกฎหมาย ไม่มีใครให้อำนาจ ฮาน เขี่ย ยุน พ้นจากเก้าอี้" พรรคดีพีพีระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกว่าการถอดถอนเป็นเพียงหนทางเดียว . การลงมติครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่พวกผู้ประท้วงหลายหมื่นคนชูเทียนและหลอดไฟ ไหลบ่าลงท้อถนนบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาในคืนวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และวันเสาร์ (7 ธ.ค.) เรียกร้องให้ถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง . อ้างอิงผลสำรวจความคิดห็นที่จัดทำโดยสำนักโพล Real Meter ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 73.6% อยากให้ถอดถอน ยุน ส่วนที่คัดค้านมีอยู่ 24% . ชอย ยองโฮ ผู้ประท้วงรายหนึ่งวัย 60 ปี แสดงความเดือดดาลต่อแนวโน้มที่การยื่นถอนถอนจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ประกาศจะเดินหน้าเข้าร่วมต่อการประท้วงใดๆ ในอนาคต "เราจะส่งเสียงจนกว่าพวกเขาจะได้ยิน" เขากล่าว . การปราศรัยต่อสถานีโทรทัศน์ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของยุน นับตั้งแต่เขายกเลิกประกาศอัยการศึก "ผมปล่อยให้ทางพรรคของผมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพแก่สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต ในนั้นรวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของผม" เขากล่าว พร้อมให้สัญญาจะไม่มีความพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกเป็นครั้งที่ 2 . ในเวลาต่อมา ฮาน บอกว่าประธานาธิบดีไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป และเวลานี้การลาออกของเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ฮาน เคยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว่า ยุน เป็นอันตรายต่อประเทศ และจำเป็นต้องถูกถอดพ้นจากอำนาจ ความเคลื่อนไหวที่เพิ่มแรงกดดันให้ ยุน ลาออกจากตำแหน่ง . อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกพรรคพีพีพีเกือบทั้งหมดบอยคอตต์การลงมติ และหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมการโหวตเผยว่าตนเองลงมติคัดค้านการถอดถอน แม้เชื่อว่า ยุน ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งอีกต่อไป . ถ้า ยุน ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 5 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2027 รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดไว้ว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ที่เขาพ้นจากเก้าอี้ . เคยมีการประกาศกฎอัยการศึกมาแล้วหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่มีการสถาปนาเกาหลีใต้ในฐานะสาธารณรัฐ ในปี 1948 โดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1980 . ในการประกาศอัยการศึกเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ยุน ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่กองทัพ ในการจัดการกับภัยคุกคามอย่างไม่เจาะจงจาก "กองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ" และ "เพื่อกำจัดกองกำลังต่อต้านรัฐที่ฝักใฝ่เกาหลีเหนือ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117845 .................. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 726 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอเอฟพี - สื่อทางการเวียดนามรายงานว่าทหารเวียดนาม 12 นาย เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อมรบในภาคใต้ของประเทศ

    ทางการเชื่อว่าฟ้าที่ผ่าลงมาในช่วงที่เกิดพายุรุนแรงทำให้ตัวจุดชนวนไฟฟ้าทำงาน ขณะที่กลุ่มทหารกำลังขนย้ายวัตถุระเบิด รายงานจากหนังสือพิมพ์ทหารท้องถิ่นระบุ

    เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ (2) ที่สนามยิงปืนของกองทัพภาคที่ 7 ใน จ.ด่งนาย ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางภาคใต้ของประเทศ

    เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอีกหลายคน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กองทัพภาคที่ 7

    อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกทหารเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000117123

    #MGROnline #เวียดนาม #อุบัติเหตุ #ระหว่างการฝึกซ้อมรบ
    เอเอฟพี - สื่อทางการเวียดนามรายงานว่าทหารเวียดนาม 12 นาย เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อมรบในภาคใต้ของประเทศ • ทางการเชื่อว่าฟ้าที่ผ่าลงมาในช่วงที่เกิดพายุรุนแรงทำให้ตัวจุดชนวนไฟฟ้าทำงาน ขณะที่กลุ่มทหารกำลังขนย้ายวัตถุระเบิด รายงานจากหนังสือพิมพ์ทหารท้องถิ่นระบุ • เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ (2) ที่สนามยิงปืนของกองทัพภาคที่ 7 ใน จ.ด่งนาย ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางภาคใต้ของประเทศ • เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอีกหลายคน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กองทัพภาคที่ 7 • อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกทหารเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000117123 • #MGROnline #เวียดนาม #อุบัติเหตุ #ระหว่างการฝึกซ้อมรบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจือง หมี ลาน ประธานบริษัท Van Thinh  เศรษฐีนี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 68 ปีของเวียดนาม ถูกศาลปฏิเสธคำอุทธรณ์ในคดีอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ  และยังคงยืนโทษประหารชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ ทางรอดเพียงทางเดียวของเธอคือการหาเงินมาจ่ายคืนรัฐ เพราะตามกฎหมายเวียดนาม เธอยังคงมีโอกาสลดโทษประหารชีวิตลงได้ หากสามารถชดใช้เงินจำนวน 75% ของที่เธอฉ้อโกงไป ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศาลจะลดโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตแทนเว็บไซต์ของรัฐบาลระบุว่า ลานถูกกล่าวหาว่าจัดทำเอกสารขอสินเชื่อปลอมเพื่อถอนเงินจากธนาคาร Saigon Commercial Bank ที่เธอถือหุ้นมากกว่า 90% ของธนาคาร “ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2561 ถึงวันที่ 7 ต.ค. 2565 เจือง หมี ลาน ได้ออกคำสั่งให้ทำใบสมัครขอสินเชื่อปลอม 916 รายการ ที่จัดสรรเงินไปมากกว่า 204 ล้านล้านด่ง (12,500 ล้านดอลลาร์) จากธนาคาร Saigon Commercial Bank” รายงานระบุนอกจากเจือง หมี ลาน แล้ว ยังมีผู้ต้องหาอีก 85 ราย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลในนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกันทั้งนี้ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกไปนั้นเทียบเท่าประมาณ 3% ของจีดีพีของเวียดนามในปี 2565 ซึ่งทำให้คดีนี้เป็นหนึ่งในอาชญากรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศบริษัท Van Thinh Phat ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 โดยเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และอพาร์ทเม้นต์หรู และยังลงทุนในบริการทางการเงินอีกด้วยเวียดนามดำเนินการปราบปรามเจ้าหน้าที่ทุจริตคอร์รัปชั่น และสมาชิกของกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการกวาดล้างดังกล่าวถูกผลักดันโดยเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ในเดือนก่อนยังเรียกร้องให้ดำเนินการกวาดล้างให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2564 มีผู้ถูกฟ้องมากกว่า 3,500 คน ในคดีรับสินบนมากกว่า 1,300 คดี 
    เจือง หมี ลาน ประธานบริษัท Van Thinh  เศรษฐีนี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 68 ปีของเวียดนาม ถูกศาลปฏิเสธคำอุทธรณ์ในคดีอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ  และยังคงยืนโทษประหารชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ ทางรอดเพียงทางเดียวของเธอคือการหาเงินมาจ่ายคืนรัฐ เพราะตามกฎหมายเวียดนาม เธอยังคงมีโอกาสลดโทษประหารชีวิตลงได้ หากสามารถชดใช้เงินจำนวน 75% ของที่เธอฉ้อโกงไป ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศาลจะลดโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตแทนเว็บไซต์ของรัฐบาลระบุว่า ลานถูกกล่าวหาว่าจัดทำเอกสารขอสินเชื่อปลอมเพื่อถอนเงินจากธนาคาร Saigon Commercial Bank ที่เธอถือหุ้นมากกว่า 90% ของธนาคาร “ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2561 ถึงวันที่ 7 ต.ค. 2565 เจือง หมี ลาน ได้ออกคำสั่งให้ทำใบสมัครขอสินเชื่อปลอม 916 รายการ ที่จัดสรรเงินไปมากกว่า 204 ล้านล้านด่ง (12,500 ล้านดอลลาร์) จากธนาคาร Saigon Commercial Bank” รายงานระบุนอกจากเจือง หมี ลาน แล้ว ยังมีผู้ต้องหาอีก 85 ราย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลในนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกันทั้งนี้ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกไปนั้นเทียบเท่าประมาณ 3% ของจีดีพีของเวียดนามในปี 2565 ซึ่งทำให้คดีนี้เป็นหนึ่งในอาชญากรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศบริษัท Van Thinh Phat ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 โดยเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และอพาร์ทเม้นต์หรู และยังลงทุนในบริการทางการเงินอีกด้วยเวียดนามดำเนินการปราบปรามเจ้าหน้าที่ทุจริตคอร์รัปชั่น และสมาชิกของกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการกวาดล้างดังกล่าวถูกผลักดันโดยเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ในเดือนก่อนยังเรียกร้องให้ดำเนินการกวาดล้างให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2564 มีผู้ถูกฟ้องมากกว่า 3,500 คน ในคดีรับสินบนมากกว่า 1,300 คดี 
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศกฎอัยการศึก รัฐประหารตัวเอง รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ##
    ..
    ..
    สถานการณ์ใน กรุงโซล เกาหลีใต้ ตึงเครียดถึงขีดสุด หลังตำรวจปราบจลาจล ปิดกั้นสมาชิกรัฐสภาไม่ให้เข้าสู่อาคารรัฐสภา
    .
    เมื่อประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศ "กฎอัยการศึกฉุกเฉิน" อย่างเป็นทางการ
    .
    โดยอ้างเหตุผลเพื่อ ปกป้องประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และ เสรีนิยมของประเทศจาก "กองกำลังคอมมิวนิสต์" ของเกาหลีเหนือ
    .
    และ เพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่กำลังเคลื่อนไหว...
    .
    โดยมี มติเด็ดขาด สื่อทุกสำนักต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล...!!!
    .
    ขณะที่รัฐสภาถูก "ล็อคดาวน์" สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเข้าไปได้ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงการปิดกั้นการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ
    .
    การประกาศดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ลุกลามเป็นวิกฤติระดับชาติ ส่งผลให้การดำเนินงานของรัฐสภาต้องหยุดชะงัก
    .
    ขณะที่สมาชิกรัฐสภาหลายคนพยายามเข้าไปภายในอาคารเพื่อปฏิบัติหน้าที่ แต่ถูกสกัดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล
    .
    ความตึงเครียดยิ่งทวีคูณเมื่อ กองทัพเกาหลีใต้ ส่งรถถังและยานเกราะเข้าประจำการในกรุงโซลเพื่อแสดงความพร้อมรับสถานการณ์หลังคำสั่งประกาศกฎอัยการศึกมีผลบังคับทันที
    .
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ในการประกาศกฎอัยการศึก สร้างความกังวลต่อประชาชน และ นักการเมืองที่มองว่าอาจเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต
    .
    ขณะเดียวกัน ประชาคมระหว่างประเทศก็กำลังจับตามองสถานการณ์ใน เกาหลีใต้ อย่างใกล้ชิด...
    ...
    ...
    ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในเวลา 23.00 น.
    .
    พูดถึงเรื่อง ความมั่นคงของชาติ และ ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
    .
    ก่อนจะกล่าวโจมตีพรรคฝ่ายค้านอย่างหนัก...!!!
    .
    จนเห็นได้ชัดเจนว่า ความเคลื่อนไหวของเขา น่าจะมีแรงจูงใจมาจาก ความพ่ายแพ้ทางการเมือง หลายต่อหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง ฝ่ายค้าน เป็นผู้ครองเสียงข้างมากใน รัฐสภา...
    ## ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศกฎอัยการศึก รัฐประหารตัวเอง รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ## .. .. สถานการณ์ใน กรุงโซล เกาหลีใต้ ตึงเครียดถึงขีดสุด หลังตำรวจปราบจลาจล ปิดกั้นสมาชิกรัฐสภาไม่ให้เข้าสู่อาคารรัฐสภา . เมื่อประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศ "กฎอัยการศึกฉุกเฉิน" อย่างเป็นทางการ . โดยอ้างเหตุผลเพื่อ ปกป้องประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และ เสรีนิยมของประเทศจาก "กองกำลังคอมมิวนิสต์" ของเกาหลีเหนือ . และ เพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่กำลังเคลื่อนไหว... . โดยมี มติเด็ดขาด สื่อทุกสำนักต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล...!!! . ขณะที่รัฐสภาถูก "ล็อคดาวน์" สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเข้าไปได้ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงการปิดกั้นการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ . การประกาศดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ลุกลามเป็นวิกฤติระดับชาติ ส่งผลให้การดำเนินงานของรัฐสภาต้องหยุดชะงัก . ขณะที่สมาชิกรัฐสภาหลายคนพยายามเข้าไปภายในอาคารเพื่อปฏิบัติหน้าที่ แต่ถูกสกัดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล . ความตึงเครียดยิ่งทวีคูณเมื่อ กองทัพเกาหลีใต้ ส่งรถถังและยานเกราะเข้าประจำการในกรุงโซลเพื่อแสดงความพร้อมรับสถานการณ์หลังคำสั่งประกาศกฎอัยการศึกมีผลบังคับทันที . การตัดสินใจของประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ในการประกาศกฎอัยการศึก สร้างความกังวลต่อประชาชน และ นักการเมืองที่มองว่าอาจเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต . ขณะเดียวกัน ประชาคมระหว่างประเทศก็กำลังจับตามองสถานการณ์ใน เกาหลีใต้ อย่างใกล้ชิด... ... ... ยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในเวลา 23.00 น. . พูดถึงเรื่อง ความมั่นคงของชาติ และ ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ . ก่อนจะกล่าวโจมตีพรรคฝ่ายค้านอย่างหนัก...!!! . จนเห็นได้ชัดเจนว่า ความเคลื่อนไหวของเขา น่าจะมีแรงจูงใจมาจาก ความพ่ายแพ้ทางการเมือง หลายต่อหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง ฝ่ายค้าน เป็นผู้ครองเสียงข้างมากใน รัฐสภา...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศ "กฎอัยการศึกฉุกเฉิน" โดยกล่าวหาฝ่ายค้านว่าควบคุมรัฐสภาและเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ประกาศว่าเขากำลังดำเนินการตามขั้นตอนใช้กฎอัยการศึกชั่วคราวโดยกองทัพ ในระหว่างแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันอังคารที่3ธันวาคม โดยระบุว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ"ผมประกาศกฎอัยการศึกเพื่อปกป้องสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นอิสระจากภัยคุกคามของกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ เพื่อกำจัดฝ่ายค้านรัฐบาลที่กำลังต่อต้านรัฐ โดยมีพฤติการณ์ที่น่ารังเกียจสนับสนุนเกาหลีเหนือที่กำลังปล้นเสรีภาพและความสุขของประชาชนของเรา และเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญให้เป็นอิสระ" ประธานาธิบดียุนกล่าวแม้ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าขั้นตอนเหล่านี้จะส่งผลต่อการปกครองและประชาธิปไตยของประเทศเกาหลีใต้อย่างไรสถานีข่าว YTN ของเกาหลีใต้รายงานว่าพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นฝ่ายค้านซึ่งนำโดยนายอี แจ-มยอง กล่าวว่าทางรัฐสภาพยายาม "ทำให้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเป็นโมฆะ"นายฮัน ดง-ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชนปกครองของเกาหลีใต้ มองว่ากฎอัยการศึก "เป็นสิ่งที่ผิด" และให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นโมฆะ ตามรายงานของ YTNตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2022 ประธานาธิบดียุนต้องดิ้นรนเพื่อผลักดันวาระของเขาต่อรัฐสภาที่ฝ่ายค้านควบคุมอยู่พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีความขัดแย้งกับพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณปีหน้าประธานาธิบดียูนยังปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนอิสระเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับภรรยาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขา ซึ่งทำให้คู่แข่งทางการเมืองของเขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศ "กฎอัยการศึกฉุกเฉิน" โดยกล่าวหาฝ่ายค้านว่าควบคุมรัฐสภาและเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ประกาศว่าเขากำลังดำเนินการตามขั้นตอนใช้กฎอัยการศึกชั่วคราวโดยกองทัพ ในระหว่างแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันอังคารที่3ธันวาคม โดยระบุว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ"ผมประกาศกฎอัยการศึกเพื่อปกป้องสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นอิสระจากภัยคุกคามของกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ เพื่อกำจัดฝ่ายค้านรัฐบาลที่กำลังต่อต้านรัฐ โดยมีพฤติการณ์ที่น่ารังเกียจสนับสนุนเกาหลีเหนือที่กำลังปล้นเสรีภาพและความสุขของประชาชนของเรา และเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญให้เป็นอิสระ" ประธานาธิบดียุนกล่าวแม้ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าขั้นตอนเหล่านี้จะส่งผลต่อการปกครองและประชาธิปไตยของประเทศเกาหลีใต้อย่างไรสถานีข่าว YTN ของเกาหลีใต้รายงานว่าพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นฝ่ายค้านซึ่งนำโดยนายอี แจ-มยอง กล่าวว่าทางรัฐสภาพยายาม "ทำให้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเป็นโมฆะ"นายฮัน ดง-ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชนปกครองของเกาหลีใต้ มองว่ากฎอัยการศึก "เป็นสิ่งที่ผิด" และให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นโมฆะ ตามรายงานของ YTNตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2022 ประธานาธิบดียุนต้องดิ้นรนเพื่อผลักดันวาระของเขาต่อรัฐสภาที่ฝ่ายค้านควบคุมอยู่พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีความขัดแย้งกับพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณปีหน้าประธานาธิบดียูนยังปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนอิสระเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับภรรยาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขา ซึ่งทำให้คู่แข่งทางการเมืองของเขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนที่สุด! เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก

    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึกจากการรัฐประหารตัวเอง โดยอ้างเหตุผลว่า พรรคฝ่ายค้านที่กุมอำนาจในรัฐสภาของประเทศแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ และพยายามทำกิจกรรมต่อต้านรัฐ

    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อ้างถึงมติของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา กำลังยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนอัยการสูงสุดและไม่เห็นชอบเกี่ยวกับร่างกฎหมทายงบประมาณของรัฐบาล

    “เพื่อปกป้องเกาหลีใต้เสรีนิยมจากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐ… ข้าพเจ้าขอประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน” ยูน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์

    ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร

    การกระทำของยุนมีกระแสต่อต้านทันทีจากนักการเมือง รวมถึงฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาเอง ซึ่งกล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “ผิดมหันต์” และสัญญาว่าจะหาทางยุติมัน

    ทางด้าน อี แจ-มยอง หัวหน้าฝ่ายค้าน ซึ่งแพ้ให้ยุนอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 เรียกการประกาศของยุนว่า “ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
    ด่วนที่สุด! เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึกจากการรัฐประหารตัวเอง โดยอ้างเหตุผลว่า พรรคฝ่ายค้านที่กุมอำนาจในรัฐสภาของประเทศแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ และพยายามทำกิจกรรมต่อต้านรัฐ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อ้างถึงมติของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา กำลังยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนอัยการสูงสุดและไม่เห็นชอบเกี่ยวกับร่างกฎหมทายงบประมาณของรัฐบาล “เพื่อปกป้องเกาหลีใต้เสรีนิยมจากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐ… ข้าพเจ้าขอประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน” ยูน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร การกระทำของยุนมีกระแสต่อต้านทันทีจากนักการเมือง รวมถึงฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาเอง ซึ่งกล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “ผิดมหันต์” และสัญญาว่าจะหาทางยุติมัน ทางด้าน อี แจ-มยอง หัวหน้าฝ่ายค้าน ซึ่งแพ้ให้ยุนอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 เรียกการประกาศของยุนว่า “ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30/11/67

    สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521
    ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้
    หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น
    ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก
    ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม
    นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน
    กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน
    นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก
    สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน)
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด....
    หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง)
    การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป
    เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย
    ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้
    เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่
    เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์"
    เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม
    กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน
    เวียตนามเสียหายหนัก
    ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ

    ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า
    ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด
    ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น
    ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้
    ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น
    (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก)
    นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้
    ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด

    ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย
    ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ
    ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ
    มาอาศัยมากทีีสุดในโลก
    มากกว่า มาเลเซีย
    มากกว่า สิงคโปร์
    มากกว่า อินโดนีเซีย
    ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน

    ขอขอบพระคุณ
    ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ
    ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน

    ถ่ายทอดโดย
    นายบัวสอน ประชามอญ

    โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    30/11/67 สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521 ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน) หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด.... หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง) การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้ เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่ เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์" เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน เวียตนามเสียหายหนัก ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้ ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก) นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้ ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ มาอาศัยมากทีีสุดในโลก มากกว่า มาเลเซีย มากกว่า สิงคโปร์ มากกว่า อินโดนีเซีย ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน ขอขอบพระคุณ ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน ถ่ายทอดโดย นายบัวสอน ประชามอญ โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts