• เมื่อวานเพิ่งดู Hormones จบทุกซีซั่น ตอนนี้ดูไลฟ์สดของพี่เบย์ริฟเฟอร์ ที่ผ่านมาก็ดู ดูจนฮีลใจ ยกระดับความคิดและจิตใจผมไปเยอะเลยครับ
    และระหว่างที่ดูฮอร์โมนส์ก็เจอออยโดนผู้ชมด่วนตัดสิน ส่วนตัวผมไม่ด่วนตัดสิน ให้เวลาและอนาคตให้คำตอบเอง และสุดท้ายออยก็เปลี่ยนจากคนโกหก คนหลอกลวงเป็นคนจริงจังและคนจริงใจ เพราะโกหกก็มีแต่ทำให้มีผลเสียย้อนกลับมาภายหลัง ยังดีที่ออยตั้งหลักไว้ได้อยู่ โดนขนมปังแฉ จนออยชัก จนต้องเข้า รพ. และออยกลับบ้าน พ่อก็ด่าออยเพราะออยพูดว่าจะย้ายโรงเรียน หลังจากนี้ออยก็เลิกคิดย้ายโรงเรียนแล้ว ตอนที่ออยต้องเข้า รพ.เพื่อล้างท้องเพราะกินยาตั้งใจให้ตนเองตุย แต่เดชะบุญออยไม่ตุย ออยต้องยืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง และยอมรับความจริง พูดจริง ทำจริง ออยไม่ได้เลวและเลวมากอย่างที่หลายๆคนคิดครับ
    เมื่อวานเพิ่งดู Hormones จบทุกซีซั่น ตอนนี้ดูไลฟ์สดของพี่เบย์ริฟเฟอร์ ที่ผ่านมาก็ดู ดูจนฮีลใจ ยกระดับความคิดและจิตใจผมไปเยอะเลยครับ และระหว่างที่ดูฮอร์โมนส์ก็เจอออยโดนผู้ชมด่วนตัดสิน ส่วนตัวผมไม่ด่วนตัดสิน ให้เวลาและอนาคตให้คำตอบเอง และสุดท้ายออยก็เปลี่ยนจากคนโกหก คนหลอกลวงเป็นคนจริงจังและคนจริงใจ เพราะโกหกก็มีแต่ทำให้มีผลเสียย้อนกลับมาภายหลัง ยังดีที่ออยตั้งหลักไว้ได้อยู่ โดนขนมปังแฉ จนออยชัก จนต้องเข้า รพ. และออยกลับบ้าน พ่อก็ด่าออยเพราะออยพูดว่าจะย้ายโรงเรียน หลังจากนี้ออยก็เลิกคิดย้ายโรงเรียนแล้ว ตอนที่ออยต้องเข้า รพ.เพื่อล้างท้องเพราะกินยาตั้งใจให้ตนเองตุย แต่เดชะบุญออยไม่ตุย ออยต้องยืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง และยอมรับความจริง พูดจริง ทำจริง ออยไม่ได้เลวและเลวมากอย่างที่หลายๆคนคิดครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องนี้ไม่มีซ้ำเติมและต้องเห็นใจพี่เดจากใจ
    แฟนเพจคิงส์ฯน่าจะจำกันได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้
    พี่เดชา ได้ลงคลิป ที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจตรงกันว่า
    พี่เดชา ได้รับมอบอำนาจ ในการฟ้-อ-ง คนไทย
    และมีการเอ่ยถึงท-น-า-ย-แปดหมื่นคนที่คล้ายจะร่วมลงมาทำค-ดี
    และหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวนี้ไปนั้น
    พี่เดชา ก็ได้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้รับค-ดี นี้
    ซึ่งทำให้ประชาชนไทย เกิดความรู้สึกงง กับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก
    โดยล่าสุด พี่คิงส์ ได้พบคลิปที่พี่เดชา ได้ทำการอธิบาย
    ถึงเรื่องราวดังกล่าวโดยละเอียด โดยมีข้อสรุปดังนี้
    1. มีบุคคล ที่มีตัวตนจริง ได้ติดต่อพี่เดชาจริง เป็นเบอร์คนจริง
    2. อ้างว่า ทางกามิจ ได้ให้ติดต่อมา เพื่อจะให้พี่เด ดำเนินการ
    3. พี่เด จึงออกคลิปแรก เพราะมั่นใจในข้อมูลว่ากามิจจะส่งใบมอบอำนาจมาให้ดำเนินการ
    4. หลังจากนั้น บุคคลดังกล่าว ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับพี่เดชาอีก เงียบไปเฉยๆ
    ซึ่งพี่เดชาอาจไม่ทราบว่า นี่คือการลูบคมอินฟูลเอ็นเซอร์ชื่อพี่เดชาอย่างหนักมาก
    เพราะโจมณฑนี ได้ทำแผนสยบความจริง
    ด้วยการปล่อยข่าวดังนี้
    1. เกิดชุดข้อความว่า พี่ชายกามิจทนไม่ไหว ทนกระแสว่าน้องตัวเองไม่ได้ (ทั้งๆที่อ่านภาษไทยไม่ออกซักตัว) จะดำเนินการกับคนไทยอย่างหนัก
    2. ปล่อยข่าวอีกว่า จะมีการดำเนินค-ดี และมีท-นายรับค-ดีแล้ว
    นี่คือชุดข้อความที่ประดิษฐ์โดย โจมณฑนี
    หลังจากนั้น ก็ให้บุคคล ทำหน้าที่ประสานไปที่พี่เด ทั้งๆที่ ไม่ได้คิดจะให้พี่เดชา ดำเนินการเรื่องนี้จริง เพียงหวังให้เกิดกระแส ให้พี่เดออกมาเป็นหน้าด่าน
    3. เมื่อพี่เดไลฟ์สดปุ๊ก ก็รีบแจกข่าวไปยังสนข.ที่โจ มณฑนีเอางบจากเงินดาร์ค ผ่านนอร์มีนี ซัพพอต สนข. เอาไปตีข่าวต่อ
    แต่เมื่อได้ตามเป้า ตามแผนที่โจวางไว้
    บุคคลที่ติดต่อพี่เดชา ก็เงียบหายไปอย่างไร้วี่แวว
    และโจมณฑนี รีออกตัวว่า ยังไม่เคยติดต่อพี่เดชา
    อ้าว ไอ่ฉัด เมิงให้คนอื่นติดต่อนี่ ถึงเมิงไม่ได้ติดต่อด้วยตัวเอง
    แต่ไอ้โม่งที่ให้ข้อมูลพี่เดชา แม่มมมมข้อมูลเดียวกับที่เมิงปล่อยในโซเชียลเป๊ะ
    ดังนั้น นี่คือความห้าวของโจมณฑนี ที่ต้มพี่เดชาจนเปื่อย ถึงกับหมดสภาพ เพราะคลิปแรกที่ออกไป มีหลายคำที่ไม่น่าฟัง จนทำให้พี่เดชา โดนกระแสคนไทยชังอย่างมาก จนพี่เดชาต้องรีบออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน
    ดังนั้น โพสนี้ เรียนพี่เดชาโดยตรง ว่าถ้าพี่จะโทษใครซักคนในเรื่องนี้
    ขอชี้เป้าไปที่ โจ มณฑานี ที่ลูบคมพี่เดครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เรื่องนี้ไม่มีซ้ำเติมและต้องเห็นใจพี่เดจากใจ แฟนเพจคิงส์ฯน่าจะจำกันได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ พี่เดชา ได้ลงคลิป ที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจตรงกันว่า พี่เดชา ได้รับมอบอำนาจ ในการฟ้-อ-ง คนไทย และมีการเอ่ยถึงท-น-า-ย-แปดหมื่นคนที่คล้ายจะร่วมลงมาทำค-ดี และหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวนี้ไปนั้น พี่เดชา ก็ได้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้รับค-ดี นี้ ซึ่งทำให้ประชาชนไทย เกิดความรู้สึกงง กับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก โดยล่าสุด พี่คิงส์ ได้พบคลิปที่พี่เดชา ได้ทำการอธิบาย ถึงเรื่องราวดังกล่าวโดยละเอียด โดยมีข้อสรุปดังนี้ 1. มีบุคคล ที่มีตัวตนจริง ได้ติดต่อพี่เดชาจริง เป็นเบอร์คนจริง 2. อ้างว่า ทางกามิจ ได้ให้ติดต่อมา เพื่อจะให้พี่เด ดำเนินการ 3. พี่เด จึงออกคลิปแรก เพราะมั่นใจในข้อมูลว่ากามิจจะส่งใบมอบอำนาจมาให้ดำเนินการ 4. หลังจากนั้น บุคคลดังกล่าว ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับพี่เดชาอีก เงียบไปเฉยๆ ซึ่งพี่เดชาอาจไม่ทราบว่า นี่คือการลูบคมอินฟูลเอ็นเซอร์ชื่อพี่เดชาอย่างหนักมาก เพราะโจมณฑนี ได้ทำแผนสยบความจริง ด้วยการปล่อยข่าวดังนี้ 1. เกิดชุดข้อความว่า พี่ชายกามิจทนไม่ไหว ทนกระแสว่าน้องตัวเองไม่ได้ (ทั้งๆที่อ่านภาษไทยไม่ออกซักตัว) จะดำเนินการกับคนไทยอย่างหนัก 2. ปล่อยข่าวอีกว่า จะมีการดำเนินค-ดี และมีท-นายรับค-ดีแล้ว นี่คือชุดข้อความที่ประดิษฐ์โดย โจมณฑนี หลังจากนั้น ก็ให้บุคคล ทำหน้าที่ประสานไปที่พี่เด ทั้งๆที่ ไม่ได้คิดจะให้พี่เดชา ดำเนินการเรื่องนี้จริง เพียงหวังให้เกิดกระแส ให้พี่เดออกมาเป็นหน้าด่าน 3. เมื่อพี่เดไลฟ์สดปุ๊ก ก็รีบแจกข่าวไปยังสนข.ที่โจ มณฑนีเอางบจากเงินดาร์ค ผ่านนอร์มีนี ซัพพอต สนข. เอาไปตีข่าวต่อ แต่เมื่อได้ตามเป้า ตามแผนที่โจวางไว้ บุคคลที่ติดต่อพี่เดชา ก็เงียบหายไปอย่างไร้วี่แวว และโจมณฑนี รีออกตัวว่า ยังไม่เคยติดต่อพี่เดชา อ้าว ไอ่ฉัด เมิงให้คนอื่นติดต่อนี่ ถึงเมิงไม่ได้ติดต่อด้วยตัวเอง แต่ไอ้โม่งที่ให้ข้อมูลพี่เดชา แม่มมมมข้อมูลเดียวกับที่เมิงปล่อยในโซเชียลเป๊ะ ดังนั้น นี่คือความห้าวของโจมณฑนี ที่ต้มพี่เดชาจนเปื่อย ถึงกับหมดสภาพ เพราะคลิปแรกที่ออกไป มีหลายคำที่ไม่น่าฟัง จนทำให้พี่เดชา โดนกระแสคนไทยชังอย่างมาก จนพี่เดชาต้องรีบออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน ดังนั้น โพสนี้ เรียนพี่เดชาโดยตรง ว่าถ้าพี่จะโทษใครซักคนในเรื่องนี้ ขอชี้เป้าไปที่ โจ มณฑานี ที่ลูบคมพี่เดครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนจริงไม่พูดเยอะไม่ต้องปั่นเทรนทิพย์
    ตามนี้นะ ถ้ามั่นใจ
    ไม่พูดเยอะ..เจ็บไข่
    เปิดสาธารณะเมื่อไหร่
    ได้เจอพลังทัวร์ไทยของแทร่แน่นวล
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คนจริงไม่พูดเยอะไม่ต้องปั่นเทรนทิพย์ ตามนี้นะ ถ้ามั่นใจ ไม่พูดเยอะ..เจ็บไข่ เปิดสาธารณะเมื่อไหร่ ได้เจอพลังทัวร์ไทยของแทร่แน่นวล #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ

    ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น

    ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน

    หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา

    #ข้อคิด
    #thaitimes
    #ความดี
    #จิตสาธารณะ
    #ชวนคิด
    #บันทึก
    การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา #ข้อคิด #thaitimes #ความดี #จิตสาธารณะ #ชวนคิด #บันทึก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติ่งขาาาา……มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้พี่ปูหน่อยยยย……กำลังเคว้งคว้างหาที่ลงสวยๆไม่ได้………!!!

    ตอนหก…..……ดวงรุ่งไม่นาน…ต้องหางานใหม่ซะแล้วววว…!!!

    ปูตินทำงานอยู่แค่ในเบื้องหลังของอนาโตลี ในขณะที่เจ้านายใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางระหว่างเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก กับมอสโคว์ เพื่ออยู่ใกล้ชิดกับเยลซิน การทำงานของปูติน จากปากคำของเลขาฯ Marina Yentaltseva ที่บอกว่า

    “เขาเป็นคนจริงจังกับงานมาก แต่ไม่เคยขึ้นเสียงกับใคร……งานที่สั่งมา
    เขาไม่สนใจว่าใครจะเอาไปทำ หรือมีปัญหาอะไร ……แต่ต้องเสร็จตามเวลา……ไม่มีใครรู้เลยว่า เขากำลังคิดอะไร เก็บอารมณ์ดีเป็นที่สุด ครั้งหนึ่งสุนัขสุดที่รักที่บ้าน ถูกรถชนตาย ฉันเอาข่าวไปบอก….เขาพยักหน้านิดนึง
    ไม่มีอากัปกิริยาอะไรมากกว่านั้นเลย……”

    ปูตินทำงานทั้งงานราษฎร์งานหลวง งานราษฎร์คือการที่ต้องขับเคี่ยวกับเหล่าแก๊งค์มาเฟียระดับตลาดล่าง ที่มีมากมายในเมือง โดยเฉพาะยิ่งจะมีบริษัทใหญ่ Golden Gate ที่จะมาทำการสร้างบริษัทส่งออกน้ำมัน โดย Gennady Timchenko เป็นนายทุนใหญ่
    เรื่องอันธพาลกลางเมืองคือเรื่องที่เป็นอุปสรรค ต่อการที่จะพัฒนา
    ดังนั้น ปูตินจึงต้องรีบจัดการส่งลูกสาวทั้งสองคน มาชาและแคทยา ไปที่เยอรมันสักพักหนึ่งเพื่อความปลอดภัย
    เพื่อที่จะจัดการกับพวกอุปสรรคทั้งหลาย (ไม่ทราบว่าวิธีไหน……?)
    แต่ เยนนาดี ได้ดำเนินการธุรกิจอย่างปลอดโปร่งจนเป็นอภิมหาเศรษฐีและเป็นสหายของปูตินจนถึงปัจจุบัน

    นอกจากนั้น งานแจกจ่ายใบอนุญาตการค้าต่างๆ ก็ต้องเร่งมือ เพราะต้องเร่งหาเงินเข้ามาบำรุงท้องถิ่น
    จะหวังพึ่งทางมอสโคว์ก็ริบหรี่ เพราะช่วงเดือน ตุลาคม เกิดการประท้วงใหญ่ ที่มีการจับกุม ทุบตีผู้ประท้วง จนเยลซินก็ประกาศกฎอัยการศึก
    ถึงขนาดต้องใช้รถถังมาควบคุมสถานการณ์

    ความยุ่งยากยืดเยื้อมาจนถึงปี 1993 การทำงานของอนาโตลี ที่มีปูตินเป็นเบื้องหลังให้นั้น เริ่มมีปัญหาจากฝ่ายตรงข้าม เพราะเค้าของการเลือกตั้งใหม่เริ่มมีการเตรียมตัวส่งแคนดิเดทมาร่วมเปิดตัวลงสมัคร และการดิสเครดิต สาดโคลนตามมาเป็นระลอก
    ที่ทำให้ปูตินต้องทำงานทั้งวัน…ต่อไปจนถึงมืดค่ำ

    เช้าวันที่ 23 ตุลาคม ปูตินขับรถไปส่งมาชาที่โรงเรียน
    ลุดมิลาจะต้องพาแคทยาไปซ้อมละครเวที
    ระหว่างที่กำลังขับรถกำลังจะขึ้นสะพาน
    มีรถคันหนึ่งขับผ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนอย่างจัง กลางลำ……
    กว่าเธอและลูกสาวจะไปถึงโรงพยาบาลเพราะรอรถพยาบาล ต้องใช้เวลาถึง 45 นาที
    แคทยา ฟกช้ำดำเขียวไปพอประมาณ แต่ลุดมิลากระดูกสันหลังเคลื่อนและมีบาดแผลตามตัว
    มารินา เลขาฯพยายามติดต่อปูติน เธอได้รับเอาแคทยามาดูแล

    แต่เขายังอยู่ในการประชุมกับ Ted Turner และ Jane Fonda (ตอนนั้นเป็นสามีภรรยากัน) ในเรื่องการจัดแข่งกีฬา Goodwill Games ครั้งที่สาม
    ทันทีที่รู้เรื่อง……ปูตินรีบไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปถามแพทย์ว่า หนักหนาหรือไม่?
    เมื่อทราบจากแพทย์ว่า กำลังดูแลเป็นอย่างดี…
    เขาก็กลับไปประชุมต่อ……ไม่ได้แวะไปดูลุดมิลาแต่อย่างใด

    มารินาได้เข้ามาดูแลลุดมิลาที่โรงพยาบาลและเด็กๆในช่วงที่รอมารดาของลุดมิลาจะเดินทางมาจากคาลินินกราด
    แม้ว่าหลังจากหนึ่งเดือนในโรงพยาบาลเมื่อออกมา……เธอก็ยังต้องใส่เฝือกอ่อนรัดตัว
    แต่ปูติน……มีความห่วงใย(แบบไม่แสดงออก) ในเรื่องการรักษาเขาไปปรึกษากับ เซอร์เก เพื่อนรักโดยเขาต้องการให้ลุดมิลาไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลที่เดรสเดน เยอรมัน ที่เป็นที่ที่ดีที่สุด

    แต่ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ
    ปัญหาเหล่านั้น……ได้สลายลงด้วยการช่วยเหลือของ Matthias Waring***
    อดีตหัวหน้า Stasi ที่ผันตัวมาเป็นนายธนาคาร Dresdner ในกรุงเซนต์
    โดยได้รับใบอนุญาตจากอนาโตลี (ผ่านปูติน) จนได้มาเปิดธนาคารในเมืองเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรก

    ที่เยอรมันนี ลุดมิลาได้รับการรักษาอย่างดี ในโรงพยาบาลที่ Bad Homburg จนหายเป็นปรกติ

    หลังจากที่มอสโคว์เสร็จสิ้นจากการปราบม็อบไปในปี 1993 นั้น
    สัมพันธภาพระหว่าง อนาโตลีกับเยลซิน เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจาก
    การเลือกตั้งนกยกเทศมนตรีในเมืองต่างๆจะมีขึ้นในในเดือนมีนาคม 1994 ซึ่ง เยลซินเห็นว่า ถ้าอนาโตลีได้รับเลือกอีกสมัยหนึ่ง ก็อาจจะอาจเอื้อมเข้ามาเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสมัยต่อไป
    ซึ่งตัวเยลซินเองนั้นไม่เท่าไหร่ แต่คณะคนที่รายล้อมรอบตัวเขา แต่ละคนคือมาเฟียตัวพ่อ ที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินให้กับพรรค
    คนเหล่านั้น……ต้องการให้เยลซินอยู่ต่อไป หรือถ้าจะมีคนมาแทนก็ต้อวเป็นพรรคพวกของตัวเอง
    อย่าง……อนาโตลี นั้นไม่ใช่……!!

    งานสาดโคลนตามประเพณีเลือกตั้งจึงตามมา อนาโตลีถูกแฉว่าได้ยักยอกทรัพย์ออกนอกประเทศ ได้ทำการคอร์รัปชั่นในใบอนุญาต รวมทั้งการกระจายข่าวลือว่า อนาโตลีได้ติดต่อกับทางนายกรัฐมนตรีเยอรมันเพื่อที่จะโค่นล้มเยลซิน……
    ซึ่งปูตินได้ติดร่างแหไปด้วย เพราะเป็นหนึ่งในทีม
    แต่ในที่สุดเขาก็เคลียร์ตัวเองได้ ……เพราะตรวจสอบได้หมด
    เนื่องจากไม่มีสมบัติอะไร

    เวลาแห่งการหาเสียงมาถึง อนาโตลีต้องพบกับความประหลาดใจ ที่ผู้สมัครเข้าแข่งขันนั้น คือ รองของเขาเอง Vladimir Yakovlev
    ที่ตอนนั้น อนาโตลีมีความรู้สึกว่าโดนหักหลังจากคนใกล้ชิดที่สุด
    พวกกลุ่มทำงานในสำนักงานได้เริ่มแยกฝ่าย ไปตามคนที่ตัวเองถือหาง
    แต่ปูตินยังมั่นคงอยู่กับอนาโตลีไม่เปลี่ยนแปลง…

    การหาเสียงเป็นไปอย่างเข้าข้น เป็นการหาเสียงที่ต้องใช้เงินมากมาย
    ที่อนาโตลีด้อยกว่า เพราะท่อน้ำเลี้ยงจากมอสโคว์เหือดแห้งไปแล้ว
    สรุปว่า โยโกสเลฟ ชนะด้วยคะแนนเฉี่ยวฉิว……
    อนาโตลี มีน้ำใจเป็นนักกีฬาพอ เขาได้ใช้ประโยคเด็ดของ Winston Churchill ในตอนที่แพ้เลือกตั้งในปี 1945 ว่า
    “การที่เราได้ช่วยชาติให้แล้วรอดปลอดภัย……นั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

    แต่นั่นหมายถึงว่า เมื่อหมดวาระ(ในไม่กี่เดือนข้างหน้า) ปูตินจะต้องหางานใหม่ทำ เพราะเขาไม่คิดที่จะทำงานกับโยโกสเลฟ ที่จะผันตัวจากเพื่อนร่วมงานมาเป็นนาย……

    ปูตินมีบ้านพักเล็กๆสำหรับพักผ่อนที่นอกเมือง เป็นบังกาโลไม้ธรรมดา ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้
    เขาและครอบครัวใช้เป็นที่หย่อนใจ ในเดือนสิงหาคม อันเป็นเดือนของการพักร้อนที่งานไม่ค่อยเดิน
    เขาจึงได้เชิญครอบครัวของมารินาไปพักผ่อนด้วยกัน
    พวกผู้หญิงอยู่กันที่ชั้นบน ผู้ชายปูที่นอนกันที่ข้างล่าง…

    ปูตินออกไปว่ายน้ำในทะเลสาบ เมื่อเขาเดินกลับมา เห็นควันไฟพลุ่งออกมาจากตัวบ้าน เปลวไฟกำลังลามขึ้นไปชั้นบน เขารีบวิ่งฝ่าขึ้นไป ส่งเด็กๆลงมาจากระเบียงโดยใช้ผ้าปูที่นอนผูกแทนเชือก ทุกคนออกมาอย่างปลอดภัย
    แต่ทันใดนั้น เขานึกขึ้นได้ว่า กระเป๋าเอกสารที่มีเงินอยู่ราวๆห้าพัน (ดอลล่าร์ โดยประมาณ) อันเป็นเงินก้อนเดียวที่เขามี
    ปูตินรีบวิ่งเข้าไปเอามันออกมา และโรยตัวออกทางระเบียงเช่นกัน
    กว่ารถดับเพลิงจะมาได้ บ้านทั้งหลังก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
    และเมื่อรถมาถึง……พนักงานดับไฟบอกว่า ไม่มีน้ำ…
    ปูตินโกรธจนตัวสั่น เขาชี้ไปที่ทะเลสาบ……บอกว่า นั่นไง……น้ำ…!!
    ไอ้หมอนั่นตอบกลับมาว่า……สายยางยาวไม่พอ…!!!

    เมื่อค้นหาสาเหตุได้ มาจากเครื่องทำความร้อนที่ชั้นล่าง ที่ได้เกิดช๊อตขึ้นมา……เมื่อทุกอย่างเริ่มเย็นลง
    ปูตินได้เข้าไปคุ้ยหาของที่อาจจะไม่เสียหายมาก เขาได้พบกับก้อนโลหะเล็กๆ ที่ได้หลอมละลายไป นั่นก็คือ กางเขนน้อยที่มาเรียมารดาของเขาได้ให้มา พร้อมกับกำชับว่าให้นำไปขอพรที่พระวิหารในนครเยรูซาเล็ม, อิสราเอล
    ที่ปูตินได้จัดการให้ตามนั้น เมื่อครั้งที่เขาติดตามอนาโตลีไปเยือนเมื่อสามปีที่แล้ว……!!

    ที่มอสโคว์……ปลายปี 1995 เยลซินได้เกิดอาการหัวใจกำเริบ ที่ค่อนข้างน่าตกใจ กลุ่มนายทุนที่รายล้อมรอบตัวเขา รีบตื่นตัวกันจ้าละหวั่น เพราะการเลือกตั้งจะมีขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า
    บางคนบอกว่า รีบออกกฎหมายให้เลื่อนการลงคะแนนออกไปก่อน
    บางคนรีบเสนอชื่อแคนดิเดทพวกพ้องของตัวเองที่จะให้มาลงแทน
    บางคนเสนอตัวเอง…
    เยลซินถึงกับบรรลุในสัจธรรม……ว่า…..ทุกคนมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น เขาวางใจใครไม่ได้เลยจริงๆ

    มันก็ต้องเป็นเช่นนั้น เพราะเหล่า Oligarchs พวกนี้คือเหลือบไรที่เกาะตามตัวของท่านผู้นำที่เนรมิตรสัมปทานทั้งแผ่นดินใหักับพวกเขาจนร่ำรวยกันมหาศาล……เขาเหล่านั้นคือ
    1 Boris Berezovsky
    2 Mikhaïl Fridman
    3 Vladimir Gusinsky
    4 Mikhaïl Khodorkovsky
    5 Vladimir Potanin

    (ดิฉันเคยเล่าถึง หมายเลข 1 และ 4 ไปแล้ว …จะนำมาลงให้อีกในคอมเม้นต์)

    สิ่งที่ทุกคนกลัวที่สุด คือ ถ้าเยลซินหลุดไปจากอำนาจ แล้วถ้าคนใหม่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์……นั่นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างจะหายวับไปกับตา
    อาจรวมถึงชีวิต ดังที่เยลซินพูดบ่อยๆว่า มันจะเอาพวกเราไปแขวนคอที่เสาไฟฟ้า……!!
    เหล่ามหาเศรษฐีพวกนั้นเลยระดมทุนกันใหญ่ ว่ากันว่า ถึงสองพันล้านดอลล่าร์……
    สุขภาพของเยลซินก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ข่าวที่ออกก็เลือกแต่ส่วนช่วงดีๆ ………………ปกปิดเรื่องการป่วยไข้อย่างสนิท
    ในส่วนตัวของเยลซินเอง……เขาถอดใจแล้ว เขาเริ่มมองหาตัวแทนที่จะมาเป็นผู้นำด้วยตัวเอง
    เขามุ่งไปที่ลักษณะของนายทหาร ที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น
    และสามารถเข้ากับทุกกลุ่มได้ คนที่เขาหมายตา
    คือ นายพลหนุ่ม Aleksandr Lebed ที่กะจะมาเอามาเป็นเด็กสร้าง
    เขาจึงเรียกตัวให้มารับหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลความมั่นคงในส่วนของเครมลิน
    หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งได้วันเดียว นายพลหนุ่ม Alexandr ได้พบกับอดีตนายพลอาวุโส แห่งหน่วย คอสแซค ที่ทักทายเขาด้วยความมีไมตรีว่า…”ทราบว่าคุณก็มาจากกองพันคอสแซคเช่นกัน…ยินดีที่ได้รู้จัก”
    นายพลหนุ่มเชิดใส่……สบัดเสียงตอบไปว่า
    “ทำไมพูดจาเหมือนพวกยิว……!!”

    เยลซินถึงได้รู้ว่า เขาดูคนผิด เพราะนายพลที่เขาวาดภาพถึงนั้น คงมีแต่ในหนังสือที่อ่านสมัยเป็นเด็กๆ……ตอนนี้นายพลพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกยามรักษาความปลอดภัยดีๆนี่เอง

    การเลือกตั้งได้เกิดขึ้น ตัวเยลซินเองก็ต้องแอบไปลงคะแนนในหน่วยใกล้บ้านแต่เช้าตรู่ เพราะเขาป่วยจนแทบเดินไม่ไหว ต้องมีคนคอยประคอง
    แต่อย่างไรเสีย……เขาก็ชนะด้วยคะแนนไม่มากนัก เพราะแรงทุนที่ทุ่มไม่อั้น

    ปูตินได้ช่วยเยลซินหาเสียงอยู่ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่ถือว่าเป็นหน่วยสนับสนุนเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นกลไกสำคัญอะไร
    แต่ที่มอสโคว์……เมื่อเยลซินได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ เขาได้จัดการเอาพวกที่คอยแทงข้างหลังออกไปเป็นแผง ที่ต้องหาคนมาแทนใหม่
    และเขาได้เลือก Alexsei Bolshakov อดีตอัยการแห่งกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    เข้าไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รองจาก Viktor Chernomyrdrin
    ซึ่ง Alexsei คนนี้ ได้เป็นผู้นำปูตินเข้าไปพบกับเยลซิน เพราะเขาเลื่อมใสในการทำงาน เฝ้าดูมาตลอด แต่ไม่ได้สนิทกัน

    งานที่ปูตินได้รับการแต่งตั้ง คือ ผู้อำนวยการในฝ่ายมวลชนและประชาสัมพันธ์ ที่ต้องประสานกับ Pavel Borodin
    ที่เผอิญปูตินได้เคยสัมผัสกัน……โดยปาเวลได้ถือเป็นบุญคุณอย่างมากมาย กล่าวคือ
    บุตรสาวของปาเวลเคยเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เมื่อครั้ง
    ปูตินเป็นคณบดี และได้เกิดป่วยไข้ขึ้นมา ปูตินได้จัดการให้เธอได้พบแพทย์และช่วยเรื่องการทดแทนชั้นเรียนในช่วงการขาดลา……
    ยิ่งพอมาพบกันจริงๆ…ปาเวลยิ่งปลาบปลื้มขอบอกขอบใจ และสะดวกใจที่จะช่วยเหลืองานอย่างเต็มที่

    แต่นั่นหมายถึง……ปูตินจะต้องย้ายไปอยู่ที่มอสโคว์…นี่คือสิ่งเดียวที่เขายังรู้สึกลังเล………!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ติ่งขาาาา……มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้พี่ปูหน่อยยยย……กำลังเคว้งคว้างหาที่ลงสวยๆไม่ได้………!!! ตอนหก…..……ดวงรุ่งไม่นาน…ต้องหางานใหม่ซะแล้วววว…!!! ปูตินทำงานอยู่แค่ในเบื้องหลังของอนาโตลี ในขณะที่เจ้านายใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางระหว่างเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก กับมอสโคว์ เพื่ออยู่ใกล้ชิดกับเยลซิน การทำงานของปูติน จากปากคำของเลขาฯ Marina Yentaltseva ที่บอกว่า “เขาเป็นคนจริงจังกับงานมาก แต่ไม่เคยขึ้นเสียงกับใคร……งานที่สั่งมา เขาไม่สนใจว่าใครจะเอาไปทำ หรือมีปัญหาอะไร ……แต่ต้องเสร็จตามเวลา……ไม่มีใครรู้เลยว่า เขากำลังคิดอะไร เก็บอารมณ์ดีเป็นที่สุด ครั้งหนึ่งสุนัขสุดที่รักที่บ้าน ถูกรถชนตาย ฉันเอาข่าวไปบอก….เขาพยักหน้านิดนึง ไม่มีอากัปกิริยาอะไรมากกว่านั้นเลย……” ปูตินทำงานทั้งงานราษฎร์งานหลวง งานราษฎร์คือการที่ต้องขับเคี่ยวกับเหล่าแก๊งค์มาเฟียระดับตลาดล่าง ที่มีมากมายในเมือง โดยเฉพาะยิ่งจะมีบริษัทใหญ่ Golden Gate ที่จะมาทำการสร้างบริษัทส่งออกน้ำมัน โดย Gennady Timchenko เป็นนายทุนใหญ่ เรื่องอันธพาลกลางเมืองคือเรื่องที่เป็นอุปสรรค ต่อการที่จะพัฒนา ดังนั้น ปูตินจึงต้องรีบจัดการส่งลูกสาวทั้งสองคน มาชาและแคทยา ไปที่เยอรมันสักพักหนึ่งเพื่อความปลอดภัย เพื่อที่จะจัดการกับพวกอุปสรรคทั้งหลาย (ไม่ทราบว่าวิธีไหน……?) แต่ เยนนาดี ได้ดำเนินการธุรกิจอย่างปลอดโปร่งจนเป็นอภิมหาเศรษฐีและเป็นสหายของปูตินจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น งานแจกจ่ายใบอนุญาตการค้าต่างๆ ก็ต้องเร่งมือ เพราะต้องเร่งหาเงินเข้ามาบำรุงท้องถิ่น จะหวังพึ่งทางมอสโคว์ก็ริบหรี่ เพราะช่วงเดือน ตุลาคม เกิดการประท้วงใหญ่ ที่มีการจับกุม ทุบตีผู้ประท้วง จนเยลซินก็ประกาศกฎอัยการศึก ถึงขนาดต้องใช้รถถังมาควบคุมสถานการณ์ ความยุ่งยากยืดเยื้อมาจนถึงปี 1993 การทำงานของอนาโตลี ที่มีปูตินเป็นเบื้องหลังให้นั้น เริ่มมีปัญหาจากฝ่ายตรงข้าม เพราะเค้าของการเลือกตั้งใหม่เริ่มมีการเตรียมตัวส่งแคนดิเดทมาร่วมเปิดตัวลงสมัคร และการดิสเครดิต สาดโคลนตามมาเป็นระลอก ที่ทำให้ปูตินต้องทำงานทั้งวัน…ต่อไปจนถึงมืดค่ำ เช้าวันที่ 23 ตุลาคม ปูตินขับรถไปส่งมาชาที่โรงเรียน ลุดมิลาจะต้องพาแคทยาไปซ้อมละครเวที ระหว่างที่กำลังขับรถกำลังจะขึ้นสะพาน มีรถคันหนึ่งขับผ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนอย่างจัง กลางลำ…… กว่าเธอและลูกสาวจะไปถึงโรงพยาบาลเพราะรอรถพยาบาล ต้องใช้เวลาถึง 45 นาที แคทยา ฟกช้ำดำเขียวไปพอประมาณ แต่ลุดมิลากระดูกสันหลังเคลื่อนและมีบาดแผลตามตัว มารินา เลขาฯพยายามติดต่อปูติน เธอได้รับเอาแคทยามาดูแล แต่เขายังอยู่ในการประชุมกับ Ted Turner และ Jane Fonda (ตอนนั้นเป็นสามีภรรยากัน) ในเรื่องการจัดแข่งกีฬา Goodwill Games ครั้งที่สาม ทันทีที่รู้เรื่อง……ปูตินรีบไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปถามแพทย์ว่า หนักหนาหรือไม่? เมื่อทราบจากแพทย์ว่า กำลังดูแลเป็นอย่างดี… เขาก็กลับไปประชุมต่อ……ไม่ได้แวะไปดูลุดมิลาแต่อย่างใด มารินาได้เข้ามาดูแลลุดมิลาที่โรงพยาบาลและเด็กๆในช่วงที่รอมารดาของลุดมิลาจะเดินทางมาจากคาลินินกราด แม้ว่าหลังจากหนึ่งเดือนในโรงพยาบาลเมื่อออกมา……เธอก็ยังต้องใส่เฝือกอ่อนรัดตัว แต่ปูติน……มีความห่วงใย(แบบไม่แสดงออก) ในเรื่องการรักษาเขาไปปรึกษากับ เซอร์เก เพื่อนรักโดยเขาต้องการให้ลุดมิลาไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลที่เดรสเดน เยอรมัน ที่เป็นที่ที่ดีที่สุด แต่ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ปัญหาเหล่านั้น……ได้สลายลงด้วยการช่วยเหลือของ Matthias Waring*** อดีตหัวหน้า Stasi ที่ผันตัวมาเป็นนายธนาคาร Dresdner ในกรุงเซนต์ โดยได้รับใบอนุญาตจากอนาโตลี (ผ่านปูติน) จนได้มาเปิดธนาคารในเมืองเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรก ที่เยอรมันนี ลุดมิลาได้รับการรักษาอย่างดี ในโรงพยาบาลที่ Bad Homburg จนหายเป็นปรกติ หลังจากที่มอสโคว์เสร็จสิ้นจากการปราบม็อบไปในปี 1993 นั้น สัมพันธภาพระหว่าง อนาโตลีกับเยลซิน เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจาก การเลือกตั้งนกยกเทศมนตรีในเมืองต่างๆจะมีขึ้นในในเดือนมีนาคม 1994 ซึ่ง เยลซินเห็นว่า ถ้าอนาโตลีได้รับเลือกอีกสมัยหนึ่ง ก็อาจจะอาจเอื้อมเข้ามาเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสมัยต่อไป ซึ่งตัวเยลซินเองนั้นไม่เท่าไหร่ แต่คณะคนที่รายล้อมรอบตัวเขา แต่ละคนคือมาเฟียตัวพ่อ ที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินให้กับพรรค คนเหล่านั้น……ต้องการให้เยลซินอยู่ต่อไป หรือถ้าจะมีคนมาแทนก็ต้อวเป็นพรรคพวกของตัวเอง อย่าง……อนาโตลี นั้นไม่ใช่……!! งานสาดโคลนตามประเพณีเลือกตั้งจึงตามมา อนาโตลีถูกแฉว่าได้ยักยอกทรัพย์ออกนอกประเทศ ได้ทำการคอร์รัปชั่นในใบอนุญาต รวมทั้งการกระจายข่าวลือว่า อนาโตลีได้ติดต่อกับทางนายกรัฐมนตรีเยอรมันเพื่อที่จะโค่นล้มเยลซิน…… ซึ่งปูตินได้ติดร่างแหไปด้วย เพราะเป็นหนึ่งในทีม แต่ในที่สุดเขาก็เคลียร์ตัวเองได้ ……เพราะตรวจสอบได้หมด เนื่องจากไม่มีสมบัติอะไร เวลาแห่งการหาเสียงมาถึง อนาโตลีต้องพบกับความประหลาดใจ ที่ผู้สมัครเข้าแข่งขันนั้น คือ รองของเขาเอง Vladimir Yakovlev ที่ตอนนั้น อนาโตลีมีความรู้สึกว่าโดนหักหลังจากคนใกล้ชิดที่สุด พวกกลุ่มทำงานในสำนักงานได้เริ่มแยกฝ่าย ไปตามคนที่ตัวเองถือหาง แต่ปูตินยังมั่นคงอยู่กับอนาโตลีไม่เปลี่ยนแปลง… การหาเสียงเป็นไปอย่างเข้าข้น เป็นการหาเสียงที่ต้องใช้เงินมากมาย ที่อนาโตลีด้อยกว่า เพราะท่อน้ำเลี้ยงจากมอสโคว์เหือดแห้งไปแล้ว สรุปว่า โยโกสเลฟ ชนะด้วยคะแนนเฉี่ยวฉิว…… อนาโตลี มีน้ำใจเป็นนักกีฬาพอ เขาได้ใช้ประโยคเด็ดของ Winston Churchill ในตอนที่แพ้เลือกตั้งในปี 1945 ว่า “การที่เราได้ช่วยชาติให้แล้วรอดปลอดภัย……นั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” แต่นั่นหมายถึงว่า เมื่อหมดวาระ(ในไม่กี่เดือนข้างหน้า) ปูตินจะต้องหางานใหม่ทำ เพราะเขาไม่คิดที่จะทำงานกับโยโกสเลฟ ที่จะผันตัวจากเพื่อนร่วมงานมาเป็นนาย…… ปูตินมีบ้านพักเล็กๆสำหรับพักผ่อนที่นอกเมือง เป็นบังกาโลไม้ธรรมดา ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ เขาและครอบครัวใช้เป็นที่หย่อนใจ ในเดือนสิงหาคม อันเป็นเดือนของการพักร้อนที่งานไม่ค่อยเดิน เขาจึงได้เชิญครอบครัวของมารินาไปพักผ่อนด้วยกัน พวกผู้หญิงอยู่กันที่ชั้นบน ผู้ชายปูที่นอนกันที่ข้างล่าง… ปูตินออกไปว่ายน้ำในทะเลสาบ เมื่อเขาเดินกลับมา เห็นควันไฟพลุ่งออกมาจากตัวบ้าน เปลวไฟกำลังลามขึ้นไปชั้นบน เขารีบวิ่งฝ่าขึ้นไป ส่งเด็กๆลงมาจากระเบียงโดยใช้ผ้าปูที่นอนผูกแทนเชือก ทุกคนออกมาอย่างปลอดภัย แต่ทันใดนั้น เขานึกขึ้นได้ว่า กระเป๋าเอกสารที่มีเงินอยู่ราวๆห้าพัน (ดอลล่าร์ โดยประมาณ) อันเป็นเงินก้อนเดียวที่เขามี ปูตินรีบวิ่งเข้าไปเอามันออกมา และโรยตัวออกทางระเบียงเช่นกัน กว่ารถดับเพลิงจะมาได้ บ้านทั้งหลังก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว และเมื่อรถมาถึง……พนักงานดับไฟบอกว่า ไม่มีน้ำ… ปูตินโกรธจนตัวสั่น เขาชี้ไปที่ทะเลสาบ……บอกว่า นั่นไง……น้ำ…!! ไอ้หมอนั่นตอบกลับมาว่า……สายยางยาวไม่พอ…!!! เมื่อค้นหาสาเหตุได้ มาจากเครื่องทำความร้อนที่ชั้นล่าง ที่ได้เกิดช๊อตขึ้นมา……เมื่อทุกอย่างเริ่มเย็นลง ปูตินได้เข้าไปคุ้ยหาของที่อาจจะไม่เสียหายมาก เขาได้พบกับก้อนโลหะเล็กๆ ที่ได้หลอมละลายไป นั่นก็คือ กางเขนน้อยที่มาเรียมารดาของเขาได้ให้มา พร้อมกับกำชับว่าให้นำไปขอพรที่พระวิหารในนครเยรูซาเล็ม, อิสราเอล ที่ปูตินได้จัดการให้ตามนั้น เมื่อครั้งที่เขาติดตามอนาโตลีไปเยือนเมื่อสามปีที่แล้ว……!! ที่มอสโคว์……ปลายปี 1995 เยลซินได้เกิดอาการหัวใจกำเริบ ที่ค่อนข้างน่าตกใจ กลุ่มนายทุนที่รายล้อมรอบตัวเขา รีบตื่นตัวกันจ้าละหวั่น เพราะการเลือกตั้งจะมีขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า บางคนบอกว่า รีบออกกฎหมายให้เลื่อนการลงคะแนนออกไปก่อน บางคนรีบเสนอชื่อแคนดิเดทพวกพ้องของตัวเองที่จะให้มาลงแทน บางคนเสนอตัวเอง… เยลซินถึงกับบรรลุในสัจธรรม……ว่า…..ทุกคนมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น เขาวางใจใครไม่ได้เลยจริงๆ มันก็ต้องเป็นเช่นนั้น เพราะเหล่า Oligarchs พวกนี้คือเหลือบไรที่เกาะตามตัวของท่านผู้นำที่เนรมิตรสัมปทานทั้งแผ่นดินใหักับพวกเขาจนร่ำรวยกันมหาศาล……เขาเหล่านั้นคือ 1 Boris Berezovsky 2 Mikhaïl Fridman 3 Vladimir Gusinsky 4 Mikhaïl Khodorkovsky 5 Vladimir Potanin (ดิฉันเคยเล่าถึง หมายเลข 1 และ 4 ไปแล้ว …จะนำมาลงให้อีกในคอมเม้นต์) สิ่งที่ทุกคนกลัวที่สุด คือ ถ้าเยลซินหลุดไปจากอำนาจ แล้วถ้าคนใหม่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์……นั่นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างจะหายวับไปกับตา อาจรวมถึงชีวิต ดังที่เยลซินพูดบ่อยๆว่า มันจะเอาพวกเราไปแขวนคอที่เสาไฟฟ้า……!! เหล่ามหาเศรษฐีพวกนั้นเลยระดมทุนกันใหญ่ ว่ากันว่า ถึงสองพันล้านดอลล่าร์…… สุขภาพของเยลซินก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ข่าวที่ออกก็เลือกแต่ส่วนช่วงดีๆ ………………ปกปิดเรื่องการป่วยไข้อย่างสนิท ในส่วนตัวของเยลซินเอง……เขาถอดใจแล้ว เขาเริ่มมองหาตัวแทนที่จะมาเป็นผู้นำด้วยตัวเอง เขามุ่งไปที่ลักษณะของนายทหาร ที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น และสามารถเข้ากับทุกกลุ่มได้ คนที่เขาหมายตา คือ นายพลหนุ่ม Aleksandr Lebed ที่กะจะมาเอามาเป็นเด็กสร้าง เขาจึงเรียกตัวให้มารับหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลความมั่นคงในส่วนของเครมลิน หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งได้วันเดียว นายพลหนุ่ม Alexandr ได้พบกับอดีตนายพลอาวุโส แห่งหน่วย คอสแซค ที่ทักทายเขาด้วยความมีไมตรีว่า…”ทราบว่าคุณก็มาจากกองพันคอสแซคเช่นกัน…ยินดีที่ได้รู้จัก” นายพลหนุ่มเชิดใส่……สบัดเสียงตอบไปว่า “ทำไมพูดจาเหมือนพวกยิว……!!” เยลซินถึงได้รู้ว่า เขาดูคนผิด เพราะนายพลที่เขาวาดภาพถึงนั้น คงมีแต่ในหนังสือที่อ่านสมัยเป็นเด็กๆ……ตอนนี้นายพลพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกยามรักษาความปลอดภัยดีๆนี่เอง การเลือกตั้งได้เกิดขึ้น ตัวเยลซินเองก็ต้องแอบไปลงคะแนนในหน่วยใกล้บ้านแต่เช้าตรู่ เพราะเขาป่วยจนแทบเดินไม่ไหว ต้องมีคนคอยประคอง แต่อย่างไรเสีย……เขาก็ชนะด้วยคะแนนไม่มากนัก เพราะแรงทุนที่ทุ่มไม่อั้น ปูตินได้ช่วยเยลซินหาเสียงอยู่ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่ถือว่าเป็นหน่วยสนับสนุนเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นกลไกสำคัญอะไร แต่ที่มอสโคว์……เมื่อเยลซินได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ เขาได้จัดการเอาพวกที่คอยแทงข้างหลังออกไปเป็นแผง ที่ต้องหาคนมาแทนใหม่ และเขาได้เลือก Alexsei Bolshakov อดีตอัยการแห่งกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก เข้าไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รองจาก Viktor Chernomyrdrin ซึ่ง Alexsei คนนี้ ได้เป็นผู้นำปูตินเข้าไปพบกับเยลซิน เพราะเขาเลื่อมใสในการทำงาน เฝ้าดูมาตลอด แต่ไม่ได้สนิทกัน งานที่ปูตินได้รับการแต่งตั้ง คือ ผู้อำนวยการในฝ่ายมวลชนและประชาสัมพันธ์ ที่ต้องประสานกับ Pavel Borodin ที่เผอิญปูตินได้เคยสัมผัสกัน……โดยปาเวลได้ถือเป็นบุญคุณอย่างมากมาย กล่าวคือ บุตรสาวของปาเวลเคยเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เมื่อครั้ง ปูตินเป็นคณบดี และได้เกิดป่วยไข้ขึ้นมา ปูตินได้จัดการให้เธอได้พบแพทย์และช่วยเรื่องการทดแทนชั้นเรียนในช่วงการขาดลา…… ยิ่งพอมาพบกันจริงๆ…ปาเวลยิ่งปลาบปลื้มขอบอกขอบใจ และสะดวกใจที่จะช่วยเหลืองานอย่างเต็มที่ แต่นั่นหมายถึง……ปูตินจะต้องย้ายไปอยู่ที่มอสโคว์…นี่คือสิ่งเดียวที่เขายังรู้สึกลังเล………!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุผลที่อิเหวิงกามิจตั้งช่องเป็นส่วนตัว
    เอาจริงๆวันนี้ทั้งวันพี่คิงส์ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้
    เพราะคิดว่าน่าจะมีคนเอาไปพูดคุยกัน
    แต่เมื่อรอมาถึงคำวันเดียวกันนี้ก็ยังไม่มีใครเปิด
    พี่คิงส์เปิดเอง
    เหตุผลข้อที่ 1
    -กามิจ ต้องเผชิญกับคณะทัวร์ไทย ร่วมแสดงพลัง จากที่อิเหวิงท้าทายไว้ว่า "ถ้าใครไม่ชอบฉัน ก็อันฟอลฉันเลย ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร" อ่าาา ไม่รู้จักทัวร์ไทยซะแล้ว จากยอดฟอล 1.8 M ไม่กี่วัน ร่วงยิ่งกว่าหุ้น หายไปเกือบเจ็ดแสน ความบังลัยจึงเกิด เพราะอยู่ระหว่างเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ฉบับใหม่ ที่คุยไว้ก่อนกลับเกาหลีรอบล่าสุด เอเจนซี่จะเบรค รอดูสถานการณ์
    -อิป้าโจ หัวหน้าสกั๊งในไทย เลยมีไอเดีย ที่กากมาก คือการจ้างคนเทาปั๊มยูซโบ๋ ไม่มีรูปไม่มีข้อมูลใดๆ ไปฟอลแทนคนจริง สวนขึ้นมา ป๊าด คนไทยก็สังเกตุการณ์กันแบบไม่หลับไม่นอน กดไปเช็ครายยูซ เช็ดเข้อีกรอบ จนไม่อยากเชื่อว่า จะไว้วิธีกากแบบนี้ เพื่อไม่ให้ร่วมต่ำกว่าล้าน ไม่งั้นเลขหายไปหลัก ทุกอย่างจะลงมาแบบเทน้ำ
    -เพื่อไม่ให้เห็นคอมเม้น เพราะคอมเม้นในตต. คือฉ่ำมาก ทั้งๆที่ฐาน บชก.ของอิเหวิง คือ ตต. แต่ทำอะไรกับคอมเม้นในช่องอิเหวิงไม่ได้
    -กันนักฉืบไทย โดยเฉพาะเพจคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง และแฟนเพจเข้าไปจับโป๊ะ เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ
    ดังนั้น การปิดช่องเป็นส่วนตัว จึงเป็นวิธีการเดียวที่อิป้าและทีมสุมหัวคิดได้ ประสานกับเอเจนซี่และอิเหวิง ทำการปิดเป็นส่วนตัวประโยชน์ที่ได้คือ
    1. ให้เรื่องซาแล้วค่อยกลับมาเปิดเป็นสาธารณะ
    2. ทำช่องใหม่ โดยทำให้คนเข้าใจผิดว่าอาจจะเป็นช่องเลียนแบบ แต่พอทำอะไรที่ดูแรงๆ ก็จะอ้างว่า ไม่ใช่ฉานนนน ได้แอคหลุมมาป่วนน้องชาลีได้อีกหลายยูซ
    3. ขอเวลาเอเจนซี่เกาหลี ดึงไว้ก่อน โดยให้ความหวังลมๆแล้งๆว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็ซา เดี๋ยวอิป้าโจวจะวางแผนกับทีมสุมหัว ทำให้อิเหวิงกลับมาเป็นนกฟินิกส์ให้ได้ กรรรูขรรม ประมาณว่า ให้ทีมสุมหัวแก้เกมส์สำเร็จ พอเปิดมาอีกรอบปุ๊บ จะได้ไม่มีคนอันฟอลเพิ่มอีก เพราะถ้าอันลงหล่นลงมาต่ำล้าน แน่นวล หล่นเป็นน้ำหลากแน่ และจะย้อนเวลากลับมาไม่ได้ พวกปลิงก็อด อยากกันพอดี เพราะมีธุรกิจส่วนควบที่เป็นผลประโยชน์ทางตรงทางอ้อมที่มีผลกระทบจากชื่อเสียงของอิกามิน เฮ้อ คนไทยทั้งนั้นเลยไอ่พวกสุมหัว
    จริงๆแล้ว ยังมีอีกหลายข้อ แต่ส่วนหลักๆก็อธิบายให้พี่น้องชาวไทยได้เข้าใจตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน
    แล้วตอนนี้เพจพี่คิงส์ เพจหลักคิงส์โพธิ์แดงปลิวไปละ
    แต่ก็ถือว่าได้รับใช้ชาติและสถาบันมาอย่างคุ้มค่า
    เรามีเพจใหม่ คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3 รอไว้และ
    อย่าลืม ก-ด ติดตามไว้ จะได้ไม่พลาดข้อมูลอัพเดท
    วันนึงหลายสิบโพส
    เพราะแอดมินเพจคิงส์โพธิ์แดง
    จะสู้ไม่เลิก จนกว่าคนซั่วจะตุย
    ไม่มีออมชอม ขอยืนข้างความถูกต้อง
    อิป้าโจตกขาวกับแก๊งสุมหัว
    พวกเมิงพลาดละ ที่วางแผนเล่นงานแน๊ก
    และหาผลประโยชน์กับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ยังเป็นทุย
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #เหตุผลที่อิเหวิงกามิจตั้งช่องเป็นส่วนตัว เอาจริงๆวันนี้ทั้งวันพี่คิงส์ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ เพราะคิดว่าน่าจะมีคนเอาไปพูดคุยกัน แต่เมื่อรอมาถึงคำวันเดียวกันนี้ก็ยังไม่มีใครเปิด พี่คิงส์เปิดเอง เหตุผลข้อที่ 1 -กามิจ ต้องเผชิญกับคณะทัวร์ไทย ร่วมแสดงพลัง จากที่อิเหวิงท้าทายไว้ว่า "ถ้าใครไม่ชอบฉัน ก็อันฟอลฉันเลย ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร" อ่าาา ไม่รู้จักทัวร์ไทยซะแล้ว จากยอดฟอล 1.8 M ไม่กี่วัน ร่วงยิ่งกว่าหุ้น หายไปเกือบเจ็ดแสน ความบังลัยจึงเกิด เพราะอยู่ระหว่างเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ฉบับใหม่ ที่คุยไว้ก่อนกลับเกาหลีรอบล่าสุด เอเจนซี่จะเบรค รอดูสถานการณ์ -อิป้าโจ หัวหน้าสกั๊งในไทย เลยมีไอเดีย ที่กากมาก คือการจ้างคนเทาปั๊มยูซโบ๋ ไม่มีรูปไม่มีข้อมูลใดๆ ไปฟอลแทนคนจริง สวนขึ้นมา ป๊าด คนไทยก็สังเกตุการณ์กันแบบไม่หลับไม่นอน กดไปเช็ครายยูซ เช็ดเข้อีกรอบ จนไม่อยากเชื่อว่า จะไว้วิธีกากแบบนี้ เพื่อไม่ให้ร่วมต่ำกว่าล้าน ไม่งั้นเลขหายไปหลัก ทุกอย่างจะลงมาแบบเทน้ำ -เพื่อไม่ให้เห็นคอมเม้น เพราะคอมเม้นในตต. คือฉ่ำมาก ทั้งๆที่ฐาน บชก.ของอิเหวิง คือ ตต. แต่ทำอะไรกับคอมเม้นในช่องอิเหวิงไม่ได้ -กันนักฉืบไทย โดยเฉพาะเพจคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง และแฟนเพจเข้าไปจับโป๊ะ เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ ดังนั้น การปิดช่องเป็นส่วนตัว จึงเป็นวิธีการเดียวที่อิป้าและทีมสุมหัวคิดได้ ประสานกับเอเจนซี่และอิเหวิง ทำการปิดเป็นส่วนตัวประโยชน์ที่ได้คือ 1. ให้เรื่องซาแล้วค่อยกลับมาเปิดเป็นสาธารณะ 2. ทำช่องใหม่ โดยทำให้คนเข้าใจผิดว่าอาจจะเป็นช่องเลียนแบบ แต่พอทำอะไรที่ดูแรงๆ ก็จะอ้างว่า ไม่ใช่ฉานนนน ได้แอคหลุมมาป่วนน้องชาลีได้อีกหลายยูซ 3. ขอเวลาเอเจนซี่เกาหลี ดึงไว้ก่อน โดยให้ความหวังลมๆแล้งๆว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็ซา เดี๋ยวอิป้าโจวจะวางแผนกับทีมสุมหัว ทำให้อิเหวิงกลับมาเป็นนกฟินิกส์ให้ได้ กรรรูขรรม ประมาณว่า ให้ทีมสุมหัวแก้เกมส์สำเร็จ พอเปิดมาอีกรอบปุ๊บ จะได้ไม่มีคนอันฟอลเพิ่มอีก เพราะถ้าอันลงหล่นลงมาต่ำล้าน แน่นวล หล่นเป็นน้ำหลากแน่ และจะย้อนเวลากลับมาไม่ได้ พวกปลิงก็อด อยากกันพอดี เพราะมีธุรกิจส่วนควบที่เป็นผลประโยชน์ทางตรงทางอ้อมที่มีผลกระทบจากชื่อเสียงของอิกามิน เฮ้อ คนไทยทั้งนั้นเลยไอ่พวกสุมหัว จริงๆแล้ว ยังมีอีกหลายข้อ แต่ส่วนหลักๆก็อธิบายให้พี่น้องชาวไทยได้เข้าใจตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน แล้วตอนนี้เพจพี่คิงส์ เพจหลักคิงส์โพธิ์แดงปลิวไปละ แต่ก็ถือว่าได้รับใช้ชาติและสถาบันมาอย่างคุ้มค่า เรามีเพจใหม่ คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3 รอไว้และ อย่าลืม ก-ด ติดตามไว้ จะได้ไม่พลาดข้อมูลอัพเดท วันนึงหลายสิบโพส เพราะแอดมินเพจคิงส์โพธิ์แดง จะสู้ไม่เลิก จนกว่าคนซั่วจะตุย ไม่มีออมชอม ขอยืนข้างความถูกต้อง อิป้าโจตกขาวกับแก๊งสุมหัว พวกเมิงพลาดละ ที่วางแผนเล่นงานแน๊ก และหาผลประโยชน์กับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ยังเป็นทุย อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1863 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..รัฐบาลอินเดียสำนึกผิดต่อประชาชนอินเดียทั้งประเทศและขอโทษประชาชน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีกในการถูกหลอกฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนของเขา.
    ..ตรงกันข้ามกับรัฐบาลไทยที่ไม่สำนึก&ไม่ซื่อสัตย์ ตลอดข้าราชการไทยในองค์กรการแพทย์การยา&บุคลากรและหน่วยงานที่ร่วมเกี่ยวข้องก็ไม่มีจิตสำนึกไร้สำนึกไม่ซื่อสัตย์กับประชาชนเข้าด้วยกับสื่อหลักบนแผ่นดินไทยยังกระทำการหลอกลวงประชาชนปกติ สามารถเข้ากฎหมายสากลนูเร็มเบิร์กข้อหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ทั้งหมดทันที เดอะแก๊งพวกนี้สมควรทำไม่ให้มีชีวิตทุกๆคนจริงๆเพื่อจะได้ไม่ทวนกระแสก่อความชั่วร้ายในบ้านในเมืองไทยได้อีก&อย่างสิ้นซากสิ้นเชิงด้วย.
    ..รัฐบาลอินเดียสำนึกผิดต่อประชาชนอินเดียทั้งประเทศและขอโทษประชาชน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีกในการถูกหลอกฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนของเขา. ..ตรงกันข้ามกับรัฐบาลไทยที่ไม่สำนึก&ไม่ซื่อสัตย์ ตลอดข้าราชการไทยในองค์กรการแพทย์การยา&บุคลากรและหน่วยงานที่ร่วมเกี่ยวข้องก็ไม่มีจิตสำนึกไร้สำนึกไม่ซื่อสัตย์กับประชาชนเข้าด้วยกับสื่อหลักบนแผ่นดินไทยยังกระทำการหลอกลวงประชาชนปกติ สามารถเข้ากฎหมายสากลนูเร็มเบิร์กข้อหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ทั้งหมดทันที เดอะแก๊งพวกนี้สมควรทำไม่ให้มีชีวิตทุกๆคนจริงๆเพื่อจะได้ไม่ทวนกระแสก่อความชั่วร้ายในบ้านในเมืองไทยได้อีก&อย่างสิ้นซากสิ้นเชิงด้วย.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • ยอมใจคนจริง
    #ด้านไม่แพ้ใครกินกันไม่ลง
    ระหว่างหนี้ฉี่ล้าน
    กับหนี้บุงคุง
    ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย
    กับ
    มีไม่ให้ไม่ง้อ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ยอมใจคนจริง #ด้านไม่แพ้ใครกินกันไม่ลง ระหว่างหนี้ฉี่ล้าน กับหนี้บุงคุง ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย กับ มีไม่ให้ไม่ง้อ #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1 (17 มี.ค. 67)
    #ความจริง คนจริง
    ฟังความจริง จากปากคนจริง “สนธิ ลิ้มทองกุล” เจ้าพ่อวงการสื่อ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้นายทุน,อำนาจมืดและแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่พยายามปิดกั้น บล็อคทุกทาง แต่ “สนธิ” สู้ไม่ถอยเพื่อให้คนไทยรับรู้ความจริง พร้อมเปิดตัว “ไทยไทม์” แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของคนไทย

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สนธิลิ้มทองกุล
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1 (17 มี.ค. 67) #ความจริง คนจริง ฟังความจริง จากปากคนจริง “สนธิ ลิ้มทองกุล” เจ้าพ่อวงการสื่อ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้นายทุน,อำนาจมืดและแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่พยายามปิดกั้น บล็อคทุกทาง แต่ “สนธิ” สู้ไม่ถอยเพื่อให้คนไทยรับรู้ความจริง พร้อมเปิดตัว “ไทยไทม์” แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของคนไทย #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สนธิลิ้มทองกุล
    Like
    Love
    Yay
    20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3018 มุมมอง 1584 0 รีวิว
  • #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที
    ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
    มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
    ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
    ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
    คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
    แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
    คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
    คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
    น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
    ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
    รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
    ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
    ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
    เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
    แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
    แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
    ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
    ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
    คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
    ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
    จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
    จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
    องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
    นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
    ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
    ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
    ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
    นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
    เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
    ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
    แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
    หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
    ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
    ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
    ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
    นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
    คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
    ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์ คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้ จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย) ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1150 มุมมอง 0 รีวิว

  • #เผื่อใครไม่อยากไปดูไลฟ์แต่อยากรู้เรื่องบอกเลยฮากลิ้ง
    จากการโปรโม อย่างอลังการสำหรับการแถลงแนวทางการต่อสู้ที่เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ จากความมั่นใจในวลีที่ว่า 14 ล้านเสียง
    ผลปรากฏว่า กว่าครึ่งชั่วโมง 14 ล้านเสียงมีคนเข้าไปดูเพียง 500-600 เท่านั้น และในจำนวนดังกล่าว ก็มีคนรักชาติรักสถาบันเข้าไปสังเกตุการเกือบครึ่ง สรุปได้ว่า กีบปากดีคือไอโอ คนจริงๆไม่มีใครเอาก้าวไกลอีกแล้ว เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมซั่วๆ
    แต่..พี่คิงส์ก็ยังอุตส่าห์อดทนฟังจบเพื่อมาสรุปให้มิตรรักแฟนเพจได้ฮาไปด้วยกัน โดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆดังนี้
    ว่าวและชัยทวารแถลงว่า
    ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์ตัดสินคดีย์ยุบพรรคนี้
    แต่...ถ้าตัดสินต้องตัดสินว่าไม่ยุบ
    แต่...ถ้ายุบไม่มีสิทธิ์ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
    แต่...ถ้าจะตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก็ไม่มีสิทธิ์กำหนดวันกรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์
    แต่...ถ้าตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคต้องตัดเฉพาะคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ตัดสิทธิ์ที้งหมด
    เนี่ย เนื้อหามีเท่านี้จริงๆ จะเอาฮาไปไหนฟร๊ะ
    คือถ้าพวกเมิงเป็นเด็ก ไม้เรียวแม่ในมือคงสั่น
    ฮาน้ำตาเล็ด แนะนำให้มอบดีๆ ง่ายๆ จะได้ไม่เหนื่อยนะ
    ยุบโลด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เผื่อใครไม่อยากไปดูไลฟ์แต่อยากรู้เรื่องบอกเลยฮากลิ้ง จากการโปรโม อย่างอลังการสำหรับการแถลงแนวทางการต่อสู้ที่เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ จากความมั่นใจในวลีที่ว่า 14 ล้านเสียง ผลปรากฏว่า กว่าครึ่งชั่วโมง 14 ล้านเสียงมีคนเข้าไปดูเพียง 500-600 เท่านั้น และในจำนวนดังกล่าว ก็มีคนรักชาติรักสถาบันเข้าไปสังเกตุการเกือบครึ่ง สรุปได้ว่า กีบปากดีคือไอโอ คนจริงๆไม่มีใครเอาก้าวไกลอีกแล้ว เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมซั่วๆ แต่..พี่คิงส์ก็ยังอุตส่าห์อดทนฟังจบเพื่อมาสรุปให้มิตรรักแฟนเพจได้ฮาไปด้วยกัน โดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆดังนี้ ว่าวและชัยทวารแถลงว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์ตัดสินคดีย์ยุบพรรคนี้ แต่...ถ้าตัดสินต้องตัดสินว่าไม่ยุบ แต่...ถ้ายุบไม่มีสิทธิ์ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค แต่...ถ้าจะตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก็ไม่มีสิทธิ์กำหนดวันกรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์ แต่...ถ้าตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคต้องตัดเฉพาะคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ตัดสิทธิ์ที้งหมด เนี่ย เนื้อหามีเท่านี้จริงๆ จะเอาฮาไปไหนฟร๊ะ คือถ้าพวกเมิงเป็นเด็ก ไม้เรียวแม่ในมือคงสั่น ฮาน้ำตาเล็ด แนะนำให้มอบดีๆ ง่ายๆ จะได้ไม่เหนื่อยนะ ยุบโลด #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 หมื่นคนที่เสนอกม.นิรโทษ ไม่มาโหวตเพราะเป็นตัวปลอม เป็นไอโอ แต่คนที่คัดค้านคือคนตัวจริง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คนจริง
    3 หมื่นคนที่เสนอกม.นิรโทษ ไม่มาโหวตเพราะเป็นตัวปลอม เป็นไอโอ แต่คนที่คัดค้านคือคนตัวจริง #คิงส์โพธิ์แดง #คนจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว