• วันก่อนก็ได้กินข้าวไก่กรอบสองซอสง่ายๆโปะด้วนขนมหม่าล่าจากมันฝรั่งแท่งกับบุกปรุงรส พอกินเข้าไปจริงๆโอ้โหตาสว่างวาบขึ้นเยอะเลย และอีกอย่างคือข้าวคะหน้าหมูกรอบกุนเชียงพิเศษเพิ่มผักคะน้าดอกหน้าบ้าน 2 ต้นกลายเป็นคะน้าเต็มชามตราไก่ ดีตรงผักเยอะสุด เวฟ 3 นาทีผักร้อนกำลังดี ทานคู่กับไข่เค็มครึ่งฟองที่ไขแดงมากกว่าไข่ขาวก็อร่อยตาสว่างเข้าไปอีก บางทีคนมันก็ต้องกินข้าวไม่พอ กินผักเยอะกว่าข้าวอีก ดิสอีสอเมซิ่งจริงๆ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นพลิกคว่ำซะงั้น ตอนนี้โดน Toxic จากลูกค้าหน้าเดิมๆไม่พอยังจะเจอ Toxic จากคนรอบข้างอีก บางทีควรแยกกันอยู่และทำมาหากินตามแบบที่ผมถนัดจะดีกว่า เพราะผู้ใหญ่ใกล้ตัวผมส่วนมากอยากให้สอบทำงานประจำคือได้ตำแหน่งไม่ตรงปก งานไม่ตรงที่จบมา ผมเลยคิดว่าถ้าทำมาหากินในแบบของตัวเองก็คงได้กินของดีๆแบบนี้ ถ้าทำงานประจำได้กินข้าวเกรดต่ำกับต้มจับฉ่ายแน่นอน งานก็จับฉ่าย
    วันก่อนก็ได้กินข้าวไก่กรอบสองซอสง่ายๆโปะด้วนขนมหม่าล่าจากมันฝรั่งแท่งกับบุกปรุงรส พอกินเข้าไปจริงๆโอ้โหตาสว่างวาบขึ้นเยอะเลย และอีกอย่างคือข้าวคะหน้าหมูกรอบกุนเชียงพิเศษเพิ่มผักคะน้าดอกหน้าบ้าน 2 ต้นกลายเป็นคะน้าเต็มชามตราไก่ ดีตรงผักเยอะสุด เวฟ 3 นาทีผักร้อนกำลังดี ทานคู่กับไข่เค็มครึ่งฟองที่ไขแดงมากกว่าไข่ขาวก็อร่อยตาสว่างเข้าไปอีก บางทีคนมันก็ต้องกินข้าวไม่พอ กินผักเยอะกว่าข้าวอีก ดิสอีสอเมซิ่งจริงๆ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นพลิกคว่ำซะงั้น ตอนนี้โดน Toxic จากลูกค้าหน้าเดิมๆไม่พอยังจะเจอ Toxic จากคนรอบข้างอีก บางทีควรแยกกันอยู่และทำมาหากินตามแบบที่ผมถนัดจะดีกว่า เพราะผู้ใหญ่ใกล้ตัวผมส่วนมากอยากให้สอบทำงานประจำคือได้ตำแหน่งไม่ตรงปก งานไม่ตรงที่จบมา ผมเลยคิดว่าถ้าทำมาหากินในแบบของตัวเองก็คงได้กินของดีๆแบบนี้ ถ้าทำงานประจำได้กินข้าวเกรดต่ำกับต้มจับฉ่ายแน่นอน งานก็จับฉ่าย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 526 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม๊กนิเซียมในอาหารมนุษย์

    คนไทย 7 ใน 10 คน ขาดแร่ธาตุแม๊กนิเซียม
    เนื่องจากไม่ค่อยกินผัก หรือ กินผักน้อย
    ทำให้ร่างกาย หลายระบบ รวน ออกอาการ
    นอนไม่หลับ เป็นตะคริว ท้องผูก..ฯลฯ
    ส่วนมากมีMgในผัก
    แต่..นักวิชาเกิน(ปัญญาอ่อน)
    มักแย้งว่า ในสัตว์ก็มี...!

    ดิฉันเถียงว่า สัตว์กินพืชเข้าไปใช่ไหม?
    ในพืชเป็นแหล่งของMg จึงทำให้Mgเข้าไป
    ฝังในส่วนต่างๆของสัตว์ ใช่ไหม?
    และ ร่างกายของสัตว์โลกไม่สามารถ
    สังเคราะห์ Mgได้..ใช่ไหม?

    ดังนั้น..จึงควรกินอาหารจากพืชให้หลากหลาย
    เพราะ ร่างกายมนุษย์ต้องการMg ในรูปแบบต่างๆ
    มากมาย หลายชนิด เพื่อให้ทุกระบบในร่างกาย
    ทำงานได้ดี.
    แม๊กนิเซียมในอาหารมนุษย์ คนไทย 7 ใน 10 คน ขาดแร่ธาตุแม๊กนิเซียม เนื่องจากไม่ค่อยกินผัก หรือ กินผักน้อย ทำให้ร่างกาย หลายระบบ รวน ออกอาการ นอนไม่หลับ เป็นตะคริว ท้องผูก..ฯลฯ ส่วนมากมีMgในผัก แต่..นักวิชาเกิน(ปัญญาอ่อน) มักแย้งว่า ในสัตว์ก็มี...! ดิฉันเถียงว่า สัตว์กินพืชเข้าไปใช่ไหม? ในพืชเป็นแหล่งของMg จึงทำให้Mgเข้าไป ฝังในส่วนต่างๆของสัตว์ ใช่ไหม? และ ร่างกายของสัตว์โลกไม่สามารถ สังเคราะห์ Mgได้..ใช่ไหม? ดังนั้น..จึงควรกินอาหารจากพืชให้หลากหลาย เพราะ ร่างกายมนุษย์ต้องการMg ในรูปแบบต่างๆ มากมาย หลายชนิด เพื่อให้ทุกระบบในร่างกาย ทำงานได้ดี.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍀 สวนผักโอ้กะจู๋ OHKAJHU อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

    คือจุดเริ่มต้น สายกินผัก สายรักสุขภาพ เพราะที่นี่มีผักสดๆ ให้เลือกเยอะมาก ใส่ใจทุกขั้นตอนในเรื่องวัตถุดิบต่างๆ

    เป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบอาหารที่ดี มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อาหารไทย อาหารนานาชาติ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เหมาะกับทุกคน ที่ชอบทานอาหารที่ดี สด อร่อย
    .
    ที่นี่มีบรรยากาศ แบ่งเป็นโซน
    🍀 โซนสวนผักออแกนิค จะได้เห็นขั้นตอนการปลูกผักไร้สาร สามารถซื้อกลับบ้านได้
    🥗 โซนพื้นที่สีเขียว กินอาหารอร่อย ๆ แล้วก็มานั่งเล่นพักผ่อน ถ่ายภาพสวยๆ
    🎪 โซน Kids มีสนามเด็กเล่น ให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ได้พาลูกมาเล่นระหว่างรออาหาร
    https://maps.app.goo.gl/h2tbp5VN24QrFDsH9
    🍀 สวนผักโอ้กะจู๋ OHKAJHU อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ คือจุดเริ่มต้น สายกินผัก สายรักสุขภาพ เพราะที่นี่มีผักสดๆ ให้เลือกเยอะมาก ใส่ใจทุกขั้นตอนในเรื่องวัตถุดิบต่างๆ เป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบอาหารที่ดี มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อาหารไทย อาหารนานาชาติ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เหมาะกับทุกคน ที่ชอบทานอาหารที่ดี สด อร่อย . ที่นี่มีบรรยากาศ แบ่งเป็นโซน 🍀 โซนสวนผักออแกนิค จะได้เห็นขั้นตอนการปลูกผักไร้สาร สามารถซื้อกลับบ้านได้ 🥗 โซนพื้นที่สีเขียว กินอาหารอร่อย ๆ แล้วก็มานั่งเล่นพักผ่อน ถ่ายภาพสวยๆ 🎪 โซน Kids มีสนามเด็กเล่น ให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ได้พาลูกมาเล่นระหว่างรออาหาร https://maps.app.goo.gl/h2tbp5VN24QrFDsH9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/12/67

    ■พิษจากดื่มน้ำเย็น■
    ~~~~~~~~~~~~~
    ★จะปวดหลัง ข้อเข่า ไตอ่อนแอ
    •••••••○••••••○••••••
    ◆ใครจะไปเชื่อว่า..
    การดื่มน้ำเย็นจะมีพิษ
    มีภัย และให้โทษได้ถึงขนาดนี้
    ((((▶
    ♣หมอได้พบผู้ป่วย
    ที่มีอาการแขนขาอ่อน
    แรง หรือที่เรียกกันว่า โรคอัมพฤกษ์ ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆ ก็พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็น หรือ น้ำแข็งเป็นประจำนั่นเอง ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆ รับประทานแต่เนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำ
    เย็นเป็นประจำมาตั้งแต่
    เด็ก และต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้น

    ■ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น ร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย เห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตา การพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน ต้องนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้ว นี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง 40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา

    ★การดื่มน้ำเย็น สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ "ไต ต้องรับกำจัดความเย็น
    ออกจากร่างกาย
    อย่างรวดเร็ว" ขับน้ำเย็นมากักเก็บ
    ไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมขับออกเป็น
    น้ำปัสสาวะทำให้ผู้ที่
    ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่ง
    ขาดน้ำจนเลือดข้น
    หนืดไปหมด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือด
    จนเกิดการพอกพูน
    กลายเป็นโรคหลอด
    เลือดตีบ
    ก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบ
    ทานเป็นประจำนั่นเอง

    ★ไตของเราเปรียบ
    เสมือนเครื่องกรองน้ำ
    อันน่าอัศจรรย์ ทำหน้าที่ช่วยกรอง
    ของเสียออกจากเลือด แล้วขับออกทาง
    ปัสสาวะการทำหน้าที่
    ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุดของไตนั้น ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้ง

    ★น้ำเย็นด้วยก็จะทำให้
    เกิดภาวะไตอ่อนแอและจะส่งสัญญาณร้อง
    ให้เราทราบดังนี้

    ★1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้อง
    วิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
    กลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว

    ★2.มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ

    ★3.ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ

    ★4.หลอดเลือดตีบตัน หรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย

    ★หากใครยังทาน.......
    ●น้ำเย็น นมเย็น ●กาแฟเย็น น้ำอัดลม ●น้ำหวานเย็น ชาเย็น อยู่เป็นประจำ ●มีอาการปวดหลังแน่ๆ
    ก็ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้

    ■1.ปรับเลือดที่หนืดข้น
    ให้หายข้นด้วยการเพิ่ม
    น้ำเข้ากระแสเลือด โดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน

    ■2.ทำให้เลือดไหล
    เวียนสะดวกอย่าง
    ต่อเนื่องด้วยการ.....
    ■ออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้ หรือ อาจใช้การจัดกระดูก ช่วยให้เลือดไหลเวียน
    สม่ำเสมอ

    ■3.ไม่กินอาหาร.....
    ◆เนื้อสัตว์ ของทอด ◆ของหวานจัดเพราะ ◆ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ
    ปริมาณมากจนทำให้ หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย

    ■4.งดการทานน้ำเย็น
    เด็ดขาดรู้แล้วอย่า
    เฉยเมยนะควรปฎิบัติ
    ด้วยและรู้แล้วอย่า
    เก็บไว้คนเดียวโปรด
    แบ่งปันให้คนรอบข้าง
    ของตัวเรา
    ★พันเอก ดร.นพ.ดำรง หมอประจำพระองค์
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    3/12/67 ■พิษจากดื่มน้ำเย็น■ ~~~~~~~~~~~~~ ★จะปวดหลัง ข้อเข่า ไตอ่อนแอ •••••••○••••••○•••••• ◆ใครจะไปเชื่อว่า.. การดื่มน้ำเย็นจะมีพิษ มีภัย และให้โทษได้ถึงขนาดนี้ ((((▶ ♣หมอได้พบผู้ป่วย ที่มีอาการแขนขาอ่อน แรง หรือที่เรียกกันว่า โรคอัมพฤกษ์ ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆ ก็พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็น หรือ น้ำแข็งเป็นประจำนั่นเอง ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆ รับประทานแต่เนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำ เย็นเป็นประจำมาตั้งแต่ เด็ก และต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้น ■ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น ร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย เห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตา การพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน ต้องนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้ว นี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง 40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา ★การดื่มน้ำเย็น สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ "ไต ต้องรับกำจัดความเย็น ออกจากร่างกาย อย่างรวดเร็ว" ขับน้ำเย็นมากักเก็บ ไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมขับออกเป็น น้ำปัสสาวะทำให้ผู้ที่ ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่ง ขาดน้ำจนเลือดข้น หนืดไปหมด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือด จนเกิดการพอกพูน กลายเป็นโรคหลอด เลือดตีบ ก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบ ทานเป็นประจำนั่นเอง ★ไตของเราเปรียบ เสมือนเครื่องกรองน้ำ อันน่าอัศจรรย์ ทำหน้าที่ช่วยกรอง ของเสียออกจากเลือด แล้วขับออกทาง ปัสสาวะการทำหน้าที่ ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุดของไตนั้น ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้ง ★น้ำเย็นด้วยก็จะทำให้ เกิดภาวะไตอ่อนแอและจะส่งสัญญาณร้อง ให้เราทราบดังนี้ ★1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้อง วิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ กลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว ★2.มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ ★3.ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ ★4.หลอดเลือดตีบตัน หรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย ★หากใครยังทาน....... ●น้ำเย็น นมเย็น ●กาแฟเย็น น้ำอัดลม ●น้ำหวานเย็น ชาเย็น อยู่เป็นประจำ ●มีอาการปวดหลังแน่ๆ ก็ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้ ■1.ปรับเลือดที่หนืดข้น ให้หายข้นด้วยการเพิ่ม น้ำเข้ากระแสเลือด โดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน ■2.ทำให้เลือดไหล เวียนสะดวกอย่าง ต่อเนื่องด้วยการ..... ■ออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้ หรือ อาจใช้การจัดกระดูก ช่วยให้เลือดไหลเวียน สม่ำเสมอ ■3.ไม่กินอาหาร..... ◆เนื้อสัตว์ ของทอด ◆ของหวานจัดเพราะ ◆ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ปริมาณมากจนทำให้ หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย ■4.งดการทานน้ำเย็น เด็ดขาดรู้แล้วอย่า เฉยเมยนะควรปฎิบัติ ด้วยและรู้แล้วอย่า เก็บไว้คนเดียวโปรด แบ่งปันให้คนรอบข้าง ของตัวเรา ★พันเอก ดร.นพ.ดำรง หมอประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหารมังสวิรัติ(เจ)-เชียงใหม่

    ฉันกินมังสวิรัติ กินวันละมื้อ ส่วนมากจะทำกินเอง
    หากไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะไปกินร้านธรรมดา บ้านๆ
    ราคาต้องไม่แพง ไปกินเอง ไม่ต้องให้ใครพาไป

    -ศูนย์อาหารคณะพยาบาลชั้นล่างติดกับหอพัก 1
    https://maps.app.goo.gl/WjtCR3DdsPCzJYao8

    -ชมรมมังสวิรัติเชียงใหม่ ถ.มหิดล
    https://maps.app.goo.gl/EiPPLJGyCThD1BYP8

    -ร้านเจมิ่งขวัญ ตรงข้ามคณะทันตฯ ไส้กรอกข้าว
    https://maps.app.goo.gl/aT3Heik3XkovoLUn7

    -เจไม่จำเจ ป้ายอด ข้าวซอย ข้าวหมูแดง ..เยอะแยะ
    https://maps.app.goo.gl/bDVVsvayJZStzev58

    -เพียรกุศล อาหารเจ(แม่เหียะ)
    https://maps.app.goo.gl/p489tC5EAjPjHARP7

    -กินผัก ข้าวซอยเจ กะหล่ำปลีตุ๋น ขาเห็ดอบวุ้นเส้น
    https://maps.app.goo.gl/kGeQmH6DG3PJnkay7

    -กิ่งหลิว อาหารเจ (หางดง)น้ำพริกอ่องเจ
    https://maps.app.goo.gl/TqMQk5awNHcJqAyn8

    -มูลนิธิร้ศมีธรรม ข่วงสิงห์ ข้าวซอยเจ
    https://maps.app.goo.gl/qSrrvKjaoi42rLjL7

    -เจ ประตูเชียงใหม่ ถนนพระปกเกล้า แกงเขียวหวานเจ ลาบหมูเจ ลูกชิ้นข้าวหมูแดงเจ
    https://maps.app.goo.gl/FczEKepDSWeFn6w16
    ร้านอาหารมังสวิรัติ(เจ)-เชียงใหม่ ฉันกินมังสวิรัติ กินวันละมื้อ ส่วนมากจะทำกินเอง หากไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะไปกินร้านธรรมดา บ้านๆ ราคาต้องไม่แพง ไปกินเอง ไม่ต้องให้ใครพาไป -ศูนย์อาหารคณะพยาบาลชั้นล่างติดกับหอพัก 1 https://maps.app.goo.gl/WjtCR3DdsPCzJYao8 -ชมรมมังสวิรัติเชียงใหม่ ถ.มหิดล https://maps.app.goo.gl/EiPPLJGyCThD1BYP8 -ร้านเจมิ่งขวัญ ตรงข้ามคณะทันตฯ ไส้กรอกข้าว https://maps.app.goo.gl/aT3Heik3XkovoLUn7 -เจไม่จำเจ ป้ายอด ข้าวซอย ข้าวหมูแดง ..เยอะแยะ https://maps.app.goo.gl/bDVVsvayJZStzev58 -เพียรกุศล อาหารเจ(แม่เหียะ) https://maps.app.goo.gl/p489tC5EAjPjHARP7 -กินผัก ข้าวซอยเจ กะหล่ำปลีตุ๋น ขาเห็ดอบวุ้นเส้น https://maps.app.goo.gl/kGeQmH6DG3PJnkay7 -กิ่งหลิว อาหารเจ (หางดง)น้ำพริกอ่องเจ https://maps.app.goo.gl/TqMQk5awNHcJqAyn8 -มูลนิธิร้ศมีธรรม ข่วงสิงห์ ข้าวซอยเจ https://maps.app.goo.gl/qSrrvKjaoi42rLjL7 -เจ ประตูเชียงใหม่ ถนนพระปกเกล้า แกงเขียวหวานเจ ลาบหมูเจ ลูกชิ้นข้าวหมูแดงเจ https://maps.app.goo.gl/FczEKepDSWeFn6w16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรู้สึก ดี ดี..
    อเมริกัน..นับล้านคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หันมากินผัก
    ความรู้สึก ดี ดี.. อเมริกัน..นับล้านคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หันมากินผัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • "The Chinese Revolution"

    ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว

    เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์

    1) ชนิดของฟัน
    ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ

    2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย
    มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า.

    3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร
    มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์
    #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ

    4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว
    (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด)

    มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง

    #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้.

    ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ?

    พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด
    #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้.

    ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า"
    ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ)

    สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร?

    สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
    ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ
    พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ
    อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!!

    อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า
    "When the buying stops, the killing can too"
    อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20,2024
    Sausalito, California.
    "The Chinese Revolution" ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1) ชนิดของฟัน ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ 2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า. 3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ 4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด) มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้. ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ? พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้. ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า" ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ) สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร? สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!! อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า "When the buying stops, the killing can too" อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ . . Pachäree Wõng November20,2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 880 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภัยเงียบ ไม่แสดงอาการ อันตรายถึงชีวิต
    โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง Brain Aneurysm


    เกิดจาก #ผนังของหลอดเลือด(บาง)+แรงดันเลือด(สูง)=เปลี่ยนรูปโป่งพองเป็น(กระเปาะ)โดยไม่แสดงอาการใดๆ


    โรคนี้อันตรายมาก เพราะ..โรคนี้มักตรวจไม่พบ ?
    เพราะ การตรวจให้พบ จำเป็นต้องฉีดสี+CT SCAN (เจ็บตัว+ยาก+แพง)


    เมื่อตรวจพบ แรงดันเลือด มักจะดัน(กระเปาะ) หลอดเลือดแตก จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงฉับพลัน และ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที !!!


    สาเหตุการเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ(กระเปาะ) หลอดเลือดสมอง บาง โป่ง พอง ปริแตก ทำให้เลือดในหลอดเลือด ไหลออกมา ไปกดทับ เส้นประสาทอัตโนมัติ ในส่วนที่ควบคุมกระบังลม การหายใจ และการเต้นของหัวใจ โรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ พบในผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย



    โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารน้ำตาล+แป้ง+อาหารแปรรูปมากเกินไปเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นอนดึก ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานที่อยู่ในรูปของ #ไตรกลีเซอรายด์สูง ล้นเกินเนื้อเยื่อ ใต้ผิวหนัง และในช่องท้อง ทะลักเข้าสู่หลอดเลือด ในบางราย..เลือดของผู้ป่วย จะมีสีแดงปนสีเหลืองเนื่องจากไขมัน !!!

    สังเกตอาการเบื้องต้น ได้จาก ประวัติมีญาติสายตรงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ มีถุงน้ำในไต กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่ง มองภาพเบลอ ไม่เห็น หรือ มองภาพซ้อน

    การป้องกัน+แก้ไข(สรุป)ย่อ

    - กินไขมันดี เข้าไปล้างไขมันเลว
    - เลี่ยงน้ำตาล ลดแป้ง และพวกอาหารชุบแป้งทอด
    - เพิ่มกากใยต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้หวานน้อย-แป้งต่ำ
    - กินผัก+ผลไม้ที่กากใยสูง และ ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 15 นาที
    - ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ
    - งดการดื่มแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่
    - ทำ IF
    - นอนหัวค่ำ-ตื่นเช้าออกกำลังกาย
    .
    .
    พัชรี ว่องไววิทย์
    October27, 2024
    San Francisco, CA94108
    ภัยเงียบ ไม่แสดงอาการ อันตรายถึงชีวิต โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง Brain Aneurysm เกิดจาก #ผนังของหลอดเลือด(บาง)+แรงดันเลือด(สูง)=เปลี่ยนรูปโป่งพองเป็น(กระเปาะ)โดยไม่แสดงอาการใดๆ โรคนี้อันตรายมาก เพราะ..โรคนี้มักตรวจไม่พบ ? เพราะ การตรวจให้พบ จำเป็นต้องฉีดสี+CT SCAN (เจ็บตัว+ยาก+แพง) เมื่อตรวจพบ แรงดันเลือด มักจะดัน(กระเปาะ) หลอดเลือดแตก จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงฉับพลัน และ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที !!! สาเหตุการเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ(กระเปาะ) หลอดเลือดสมอง บาง โป่ง พอง ปริแตก ทำให้เลือดในหลอดเลือด ไหลออกมา ไปกดทับ เส้นประสาทอัตโนมัติ ในส่วนที่ควบคุมกระบังลม การหายใจ และการเต้นของหัวใจ โรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ พบในผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารน้ำตาล+แป้ง+อาหารแปรรูปมากเกินไปเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นอนดึก ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานที่อยู่ในรูปของ #ไตรกลีเซอรายด์สูง ล้นเกินเนื้อเยื่อ ใต้ผิวหนัง และในช่องท้อง ทะลักเข้าสู่หลอดเลือด ในบางราย..เลือดของผู้ป่วย จะมีสีแดงปนสีเหลืองเนื่องจากไขมัน !!! สังเกตอาการเบื้องต้น ได้จาก ประวัติมีญาติสายตรงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ มีถุงน้ำในไต กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่ง มองภาพเบลอ ไม่เห็น หรือ มองภาพซ้อน การป้องกัน+แก้ไข(สรุป)ย่อ - กินไขมันดี เข้าไปล้างไขมันเลว - เลี่ยงน้ำตาล ลดแป้ง และพวกอาหารชุบแป้งทอด - เพิ่มกากใยต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้หวานน้อย-แป้งต่ำ - กินผัก+ผลไม้ที่กากใยสูง และ ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 15 นาที - ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ - งดการดื่มแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่ - ทำ IF - นอนหัวค่ำ-ตื่นเช้าออกกำลังกาย . . พัชรี ว่องไววิทย์ October27, 2024 San Francisco, CA94108
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=3KZYyhSAMaY
    บทสนทนาของหมูเด้งกับลิง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับลิง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #moodeng #babyhippo #listeningstory

    The conversations from the clip :

    Moo Deng : Hey, Monkey! What are you having for lunch today?
    Monkey : Hi, Moo Deng! I’ve got some bananas and nuts. What about you?
    Moo Deng : I’m having some veggies and fruit. The zookeepers gave me a big pile!
    Monkey : Veggies? That sounds healthy. Do you like it?
    Moo Deng : Yeah, it’s pretty tasty, especially the apples! But sometimes I wish I could eat more bananas like you.
    Monkey : Haha, bananas are my favorite! But apples are good too. You should come swing with me after lunch.
    Moo Deng : Swing? I’m not sure I’m built for that! But I can run really fast. Maybe we can play tag.
    Monkey : Tag sounds fun! But I bet you’d win, you’re faster than me on the ground.
    Moo Deng : How about we play by the water? I love splashing around! You can swing, and I’ll splash.
    Monkey : That sounds cool! I’ll swing over the water, and you can make a big splash when I jump.
    Moo Deng : Deal! The visitors will love it. I’m great at making big waves.
    Monkey : I bet! I’ll try to dodge your splashes while I’m swinging.
    Moo Deng : Haha, I’ll make sure to splash extra high! We’ll give the visitors a good show.
    Monkey : They’ll love it for sure! Let’s meet at the pool after we finish eating.
    Moo Deng : It’s a plan! See you there, Monkey!

    หมูเด้ง: เฮ้! ลิง! วันนี้คุณกินอะไรกลางวัน?
    ลิง: สวัสดี หมูเด้ง! ฉันมีกล้วยกับถั่วอยู่บ้าง แล้วคุณล่ะ?
    หมูเด้ง: ฉันกินผักและผลไม้ ซูคีปเปอร์ให้ผมมาฆ่าใหญ่เลย!
    ลิง: ผักเหรอ? ฟังดูดีต่อสุขภาพนะ คุณชอบไหม?
    หมูเด้ง: ใช่ มันอร่อยมาก โดยเฉพาะแอปเปิล! แต่บางครั้งฉันก็อยากกินกล้วยมากกว่านี้เหมือนคุณ
    ลิง: ฮ่าๆ กล้วยเป็นของโปรดของฉัน! แต่แอปเปิลก็อร่อยเหมือนกัน คุณควรมาสวิงกับฉันหลังอาหารกลางวันนะ
    หมูเด้ง: สวิง? ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเหมาะกับเรื่องนั้น! แต่ฉันวิ่งได้เร็วมาก อาจจะเล่นแค่จับตามกัน
    ลิง: การจับตามันสนุก! แต่ฉันว่าคุณชนะแน่ คุณเร็วกว่าฉันบนพื้น
    หมูเด้ง: งั้นเล่นใกล้ ๆ น้ำกันไหม? ฉันชอบเล่นน้ำ! คุณสามารถสวิงได้ ส่วนฉันจะกระโดดน้ำ
    ลิง: ฟังดูดี! ฉันจะสวิงเหนือผิวน้ำ และคุณสามารถสร้างคลื่นใหญ่เมื่อฉันกระโดด
    หมูเด้ง: ตกลง! นักท่องเที่ยวจะต้องชอบแน่ ฉันเก่งในการทำคลื่นใหญ่
    ลิง: ฉันเชื่อว่าคุณทำได้! ฉันจะพยายามหลบคลื่นของคุณระหว่างที่สวิง
    หมูเด้ง: ฮ่าๆ ฉันจะทำให้มันกระโดดสูงมาก! เราจะให้โชว์ที่ดีแก่ผู้ชม
    ลิง: พวกเขาจะต้องชอบแน่! มาพบกันที่สระหลังจากเรากินเสร็จนะ
    หมูเด้ง: เป็นแผน! เจอกันที่นั่นนะ ลิง!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Lunch (ลันช์) n. แปลว่า อาหารกลางวัน
    Banana (บะ-นา-นะ) n. แปลว่า กล้วย
    Nuts (นัทส์) n. แปลว่า ถั่ว
    Veggies (เวจ-จี้) n. แปลว่า ผัก
    Fruit (ฟรุต) n. แปลว่า ผลไม้
    Zookeeper (ซู-คีป-เพอร์) n. แปลว่า คนดูแลสวนสัตว์
    Healthy (เฮล-ธี) adj. แปลว่า สุขภาพดี
    Tasty (เทส-ที) adj. แปลว่า อร่อย
    Swing (สวิง) v. แปลว่า แกว่ง, โหน
    Run (รัน) v. แปลว่า วิ่ง
    Tag (แทก) n. แปลว่า การเล่นไล่จับ
    Splash (สแพลช) v. แปลว่า สาดน้ำ, กระเด็นน้ำ
    Wave (เวฟ) n. แปลว่า คลื่น
    Pool (พูล) n. แปลว่า สระน้ำ
    Visitor (วิซ-อิท-เทอะ) n. แปลว่า ผู้มาเยี่ยมชม
    https://www.youtube.com/watch?v=3KZYyhSAMaY บทสนทนาของหมูเด้งกับลิง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับลิง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #moodeng #babyhippo #listeningstory The conversations from the clip : Moo Deng : Hey, Monkey! What are you having for lunch today? Monkey : Hi, Moo Deng! I’ve got some bananas and nuts. What about you? Moo Deng : I’m having some veggies and fruit. The zookeepers gave me a big pile! Monkey : Veggies? That sounds healthy. Do you like it? Moo Deng : Yeah, it’s pretty tasty, especially the apples! But sometimes I wish I could eat more bananas like you. Monkey : Haha, bananas are my favorite! But apples are good too. You should come swing with me after lunch. Moo Deng : Swing? I’m not sure I’m built for that! But I can run really fast. Maybe we can play tag. Monkey : Tag sounds fun! But I bet you’d win, you’re faster than me on the ground. Moo Deng : How about we play by the water? I love splashing around! You can swing, and I’ll splash. Monkey : That sounds cool! I’ll swing over the water, and you can make a big splash when I jump. Moo Deng : Deal! The visitors will love it. I’m great at making big waves. Monkey : I bet! I’ll try to dodge your splashes while I’m swinging. Moo Deng : Haha, I’ll make sure to splash extra high! We’ll give the visitors a good show. Monkey : They’ll love it for sure! Let’s meet at the pool after we finish eating. Moo Deng : It’s a plan! See you there, Monkey! หมูเด้ง: เฮ้! ลิง! วันนี้คุณกินอะไรกลางวัน? ลิง: สวัสดี หมูเด้ง! ฉันมีกล้วยกับถั่วอยู่บ้าง แล้วคุณล่ะ? หมูเด้ง: ฉันกินผักและผลไม้ ซูคีปเปอร์ให้ผมมาฆ่าใหญ่เลย! ลิง: ผักเหรอ? ฟังดูดีต่อสุขภาพนะ คุณชอบไหม? หมูเด้ง: ใช่ มันอร่อยมาก โดยเฉพาะแอปเปิล! แต่บางครั้งฉันก็อยากกินกล้วยมากกว่านี้เหมือนคุณ ลิง: ฮ่าๆ กล้วยเป็นของโปรดของฉัน! แต่แอปเปิลก็อร่อยเหมือนกัน คุณควรมาสวิงกับฉันหลังอาหารกลางวันนะ หมูเด้ง: สวิง? ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเหมาะกับเรื่องนั้น! แต่ฉันวิ่งได้เร็วมาก อาจจะเล่นแค่จับตามกัน ลิง: การจับตามันสนุก! แต่ฉันว่าคุณชนะแน่ คุณเร็วกว่าฉันบนพื้น หมูเด้ง: งั้นเล่นใกล้ ๆ น้ำกันไหม? ฉันชอบเล่นน้ำ! คุณสามารถสวิงได้ ส่วนฉันจะกระโดดน้ำ ลิง: ฟังดูดี! ฉันจะสวิงเหนือผิวน้ำ และคุณสามารถสร้างคลื่นใหญ่เมื่อฉันกระโดด หมูเด้ง: ตกลง! นักท่องเที่ยวจะต้องชอบแน่ ฉันเก่งในการทำคลื่นใหญ่ ลิง: ฉันเชื่อว่าคุณทำได้! ฉันจะพยายามหลบคลื่นของคุณระหว่างที่สวิง หมูเด้ง: ฮ่าๆ ฉันจะทำให้มันกระโดดสูงมาก! เราจะให้โชว์ที่ดีแก่ผู้ชม ลิง: พวกเขาจะต้องชอบแน่! มาพบกันที่สระหลังจากเรากินเสร็จนะ หมูเด้ง: เป็นแผน! เจอกันที่นั่นนะ ลิง! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Lunch (ลันช์) n. แปลว่า อาหารกลางวัน Banana (บะ-นา-นะ) n. แปลว่า กล้วย Nuts (นัทส์) n. แปลว่า ถั่ว Veggies (เวจ-จี้) n. แปลว่า ผัก Fruit (ฟรุต) n. แปลว่า ผลไม้ Zookeeper (ซู-คีป-เพอร์) n. แปลว่า คนดูแลสวนสัตว์ Healthy (เฮล-ธี) adj. แปลว่า สุขภาพดี Tasty (เทส-ที) adj. แปลว่า อร่อย Swing (สวิง) v. แปลว่า แกว่ง, โหน Run (รัน) v. แปลว่า วิ่ง Tag (แทก) n. แปลว่า การเล่นไล่จับ Splash (สแพลช) v. แปลว่า สาดน้ำ, กระเด็นน้ำ Wave (เวฟ) n. แปลว่า คลื่น Pool (พูล) n. แปลว่า สระน้ำ Visitor (วิซ-อิท-เทอะ) n. แปลว่า ผู้มาเยี่ยมชม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีนะ ช่วงนี้ #ถือศีลกินผัก ก็ถือเป็น #การควบคุมอาหาร เนอะ 😁😁
    ดีนะ ช่วงนี้ #ถือศีลกินผัก ก็ถือเป็น #การควบคุมอาหาร เนอะ 😁😁
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 อิ้วเก้งรอบเมืองเก่าตะกั่วป่า (แห่พระใหญ่6ค่ำ)
    #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินเจ2567 #กินผัก2567 #กินผักตะกั่วป่า2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/5k-yGaFvEik?si=o1JQFz1jSUIzwyDJ
    #กินเจตะกั่วป่า2567 อิ้วเก้งรอบเมืองเก่าตะกั่วป่า (แห่พระใหญ่6ค่ำ) #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินเจ2567 #กินผัก2567 #กินผักตะกั่วป่า2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/5k-yGaFvEik?si=o1JQFz1jSUIzwyDJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 แห่พระจีนรอบตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง โรงพระตลาดเหนือ
    #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินผัก2567 #กินเจ2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/lGT4sI9jakE?si=eZjkFxkLGEUkqrxI
    #กินเจตะกั่วป่า2567 แห่พระจีนรอบตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง โรงพระตลาดเหนือ #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินผัก2567 #กินเจ2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/lGT4sI9jakE?si=eZjkFxkLGEUkqrxI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในเมื่อหาหม่ำยาก เวลาเจอก็กลัวเค้าใส่สารกันบูด ดูเยอะ คิดมาก .. ก็ กวน ปั้น เองปีละครั้ง ช่วง #เทศกาลถือศีลกินผัก แหละกัน

    #ถั่วทอง #ถั่วกวนโบราณ
    ในเมื่อหาหม่ำยาก เวลาเจอก็กลัวเค้าใส่สารกันบูด ดูเยอะ คิดมาก .. ก็ กวน ปั้น เองปีละครั้ง ช่วง #เทศกาลถือศีลกินผัก แหละกัน #ถั่วทอง #ถั่วกวนโบราณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทาหรณ์..จากแม่ชีศันสนีย์ "เสถียรธรรมสถาน" ถูกมะเร็งคร่าชีวิตไป..
    (-)บทความนี้ไขข้อข้องใจได้ดีแท้
    (-)มีญาติธรรม ชาวอโศก เสียชีวิตด้วย "โรคมะเร็งตับ" หลายราย ...
    (-)เกิดคำถามว่า...ทำไมคนกินพืชผักยังเป็นมะเร็ง ...
    (-)มะเร็ง นั้น ใครๆเขาว่า…เกิดแต่กับคนที่กินเนื้อสัตว์ มิใช่หรือ ...คนเป็นมะเร็งจึงให้เลิกกินเนื้อแล้วมากินผัก มิใช่หรือ ?

    (-)ก่อนอื่น..เราต้องทำความเข้าใจ…"การเกิดของเซลล์มะเร็ง" ก่อน ...
    (-)สิ่งสำคัญ "ที่เซลล์ทุกเซลล์ในตัวเรา ต้องการมาก และขาดไม่ได้เลย คือ ออกซิเจน"
    (-)ถ้าร่างกาย "ได้รับออกซิเจน" เต็มร้อย เซลล์ก็จะไม่มีการเปลี่ยนตัวเองเป็น เซลล์มะเร็ง ...

    (-)(-)แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราทำให้ ร่างกาย เกิด "คาร์บอนไดออกไซด์ " มาก และ มีออกซิเจนในเลือดต่ำ
    (-)เซลล์ในร่างกายของเรา เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง ...
    (-)(-)เซลล์ จึงเปลี่ยนมาใช้คาร์บอนไดออกไซด์ หายใจแทน และ เปลี่ยนตัวเอง เป็นเซลล์มะเร็ง...

    (-)แล้วอะไร ทำให้เกิด "คาร์บอนไดออกไซด์" ในระบบไหลเวียนเลือดเรามากที่สุด ???
    (-)มันไม่ใช่อาหารเนื้อสัตว์อย่างเดียว ...
    ไม่ใช่อาหารพืชผัก...
    ไม่ใช่อาหารปนเปื้อนสารเคมีอย่างเดียว ...
    ไม่ใช่อาหารหมักดองอย่างที่เราเข้าใจ ...

    (-)แต่สิ่งที่ทำให้ "คาร์บอนไดออกไซด์ " ในเลือดสูงเร็ว และมากที่สุดคือ
    (-)ความเครียด ความเร่งรีบ กับการใช้ชีวิต
    (-)อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห ที่เกิดบ่อยๆ
    (-)นั่นเเหละ เป็นตัวการสำคัญ

    (-)เพราะอะไร ?
    (-)เพราะมันเป็นตัวกระตุ้น
    (-)ให้ร่างกาย เกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงาน อย่างสูงและ อย่างมาก ...
    (-)ส่งผลให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือดสูงตามอย่างเร็ว
    (-)โดยเฉพาะสมองเรานั้น กินพลังงานสูงเป็น 5 เท่าของทุกอวัยวะ
    (-)คิดง่ายๆว่า ... ถึงแม้เราจะทานอาหารพืชผัก ที่ไร้สารพิษ จะบริสุทธิ์สะอาด สักปานใด
    (-)(-)หากเราเครียด ติดต่อกัน 5 วัน เซลของเรา ก็จะกลายเป็น เซลมะเร็งได้ทันที

    (-)คนอโศก กินผัก และปฏิบัติธรรม ...
    (-)คนที่ยึดมาก ยึดดีมาก แต่ เคร่งเครียดมาก
    (-)ไม่เป็นคนที่ปล่อยวาง …ก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งมากเช่นกัน ...

    (-)ขอย้ำอีกครั้งว่า
    (-) คนที่เคร่งเครียดมาก มีความวิตกกังวลมาก ...
    (-)มักจะดื่มน้ำน้อย และ มักขาดการออกกำลังกาย
    (-)จึงส่งผลให้ ออกซิเจน ในเลือดต่ำ... ทำให้เซลที่ดี กลายเป็นมะเร็ง เพิ่มมากขึ้นเสมอ

    (-)แล้วทำไมคนเป็นมะเร็ง ควรเลิกกินเนื้อ มากินผัก ...
    (-)ทั้งนี้ ก็เพราะกระบวนการย่อยเนื้อสัตว์นั้น ใช้พลังงานสูงกว่ากระบวนการย่อยผัก
    (-)การกินเนื้อสัตว์ จึงทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือด มากกว่าการกินผัก
    (-)แต่หากเลิกกินเนื้อมากินผัก
    (-)แต่ คนป่วยก็ยังมีความเครียด
    (-)มะเร็ง ก็จะยิ่งกระจาย ยิ่งกว่า คนกินเนื้อสัตว์ แต่ ไม่เครียดนะครับ ...
    (-)สรุปว่า (-)อารมณ์ที่เคร่งเครียด กับ ความวิตกกังวลต่างๆในการใช้ชีวิต ... อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห (-)
    (-) ที่เกิดบ่อยๆ นั่นเเหละ เป็นตัวการสำคัญ
    (-)บวกกับ ขาดการออกกำลังกาย และดื่มน้ำน้อย ...
    (-)นำมาซึ่งการเกิดเซลมะเร็งได้มากที่สุด
    (-)สุขภาพที่ดีนั้น มีค่ามากนะครับ
    (-)ถ้าท่าน เลิกที่จะมีอารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห ไม่เครียดกับเรื่องใดๆ เซลมะเร็งจะหนีหายไปครับ
    (-)บอกต่อ คนใกล้ชิดและคนอื่นๆ ให้รับทราบเยอะๆน่ะ ได้บุญหลายจ้า สาธุ สาธุ
    อุทาหรณ์..จากแม่ชีศันสนีย์ "เสถียรธรรมสถาน" ถูกมะเร็งคร่าชีวิตไป.. (-)บทความนี้ไขข้อข้องใจได้ดีแท้ (-)มีญาติธรรม ชาวอโศก เสียชีวิตด้วย "โรคมะเร็งตับ" หลายราย ... (-)เกิดคำถามว่า...ทำไมคนกินพืชผักยังเป็นมะเร็ง ... (-)มะเร็ง นั้น ใครๆเขาว่า…เกิดแต่กับคนที่กินเนื้อสัตว์ มิใช่หรือ ...คนเป็นมะเร็งจึงให้เลิกกินเนื้อแล้วมากินผัก มิใช่หรือ ? (-)ก่อนอื่น..เราต้องทำความเข้าใจ…"การเกิดของเซลล์มะเร็ง" ก่อน ... (-)สิ่งสำคัญ "ที่เซลล์ทุกเซลล์ในตัวเรา ต้องการมาก และขาดไม่ได้เลย คือ ออกซิเจน" (-)ถ้าร่างกาย "ได้รับออกซิเจน" เต็มร้อย เซลล์ก็จะไม่มีการเปลี่ยนตัวเองเป็น เซลล์มะเร็ง ... (-)(-)แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราทำให้ ร่างกาย เกิด "คาร์บอนไดออกไซด์ " มาก และ มีออกซิเจนในเลือดต่ำ (-)เซลล์ในร่างกายของเรา เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง ... (-)(-)เซลล์ จึงเปลี่ยนมาใช้คาร์บอนไดออกไซด์ หายใจแทน และ เปลี่ยนตัวเอง เป็นเซลล์มะเร็ง... (-)แล้วอะไร ทำให้เกิด "คาร์บอนไดออกไซด์" ในระบบไหลเวียนเลือดเรามากที่สุด ??? (-)มันไม่ใช่อาหารเนื้อสัตว์อย่างเดียว ... ไม่ใช่อาหารพืชผัก... ไม่ใช่อาหารปนเปื้อนสารเคมีอย่างเดียว ... ไม่ใช่อาหารหมักดองอย่างที่เราเข้าใจ ... (-)แต่สิ่งที่ทำให้ "คาร์บอนไดออกไซด์ " ในเลือดสูงเร็ว และมากที่สุดคือ (-)ความเครียด ความเร่งรีบ กับการใช้ชีวิต (-)อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห ที่เกิดบ่อยๆ (-)นั่นเเหละ เป็นตัวการสำคัญ (-)เพราะอะไร ? (-)เพราะมันเป็นตัวกระตุ้น (-)ให้ร่างกาย เกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงาน อย่างสูงและ อย่างมาก ... (-)ส่งผลให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือดสูงตามอย่างเร็ว (-)โดยเฉพาะสมองเรานั้น กินพลังงานสูงเป็น 5 เท่าของทุกอวัยวะ (-)คิดง่ายๆว่า ... ถึงแม้เราจะทานอาหารพืชผัก ที่ไร้สารพิษ จะบริสุทธิ์สะอาด สักปานใด (-)(-)หากเราเครียด ติดต่อกัน 5 วัน เซลของเรา ก็จะกลายเป็น เซลมะเร็งได้ทันที (-)คนอโศก กินผัก และปฏิบัติธรรม ... (-)คนที่ยึดมาก ยึดดีมาก แต่ เคร่งเครียดมาก (-)ไม่เป็นคนที่ปล่อยวาง …ก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งมากเช่นกัน ... (-)ขอย้ำอีกครั้งว่า (-) คนที่เคร่งเครียดมาก มีความวิตกกังวลมาก ... (-)มักจะดื่มน้ำน้อย และ มักขาดการออกกำลังกาย (-)จึงส่งผลให้ ออกซิเจน ในเลือดต่ำ... ทำให้เซลที่ดี กลายเป็นมะเร็ง เพิ่มมากขึ้นเสมอ (-)แล้วทำไมคนเป็นมะเร็ง ควรเลิกกินเนื้อ มากินผัก ... (-)ทั้งนี้ ก็เพราะกระบวนการย่อยเนื้อสัตว์นั้น ใช้พลังงานสูงกว่ากระบวนการย่อยผัก (-)การกินเนื้อสัตว์ จึงทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือด มากกว่าการกินผัก (-)แต่หากเลิกกินเนื้อมากินผัก (-)แต่ คนป่วยก็ยังมีความเครียด (-)มะเร็ง ก็จะยิ่งกระจาย ยิ่งกว่า คนกินเนื้อสัตว์ แต่ ไม่เครียดนะครับ ... (-)สรุปว่า (-)อารมณ์ที่เคร่งเครียด กับ ความวิตกกังวลต่างๆในการใช้ชีวิต ... อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห (-) (-) ที่เกิดบ่อยๆ นั่นเเหละ เป็นตัวการสำคัญ (-)บวกกับ ขาดการออกกำลังกาย และดื่มน้ำน้อย ... (-)นำมาซึ่งการเกิดเซลมะเร็งได้มากที่สุด (-)สุขภาพที่ดีนั้น มีค่ามากนะครับ (-)ถ้าท่าน เลิกที่จะมีอารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น ขี้โมโห ไม่เครียดกับเรื่องใดๆ เซลมะเร็งจะหนีหายไปครับ (-)บอกต่อ คนใกล้ชิดและคนอื่นๆ ให้รับทราบเยอะๆน่ะ ได้บุญหลายจ้า สาธุ สาธุ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก็บเป็นข้อมูล
    #เทศกาลถือศีลกินผัก
    เก็บเป็นข้อมูล #เทศกาลถือศีลกินผัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 บรรยากาศ 4ค่ำ พระจีนออกแห่ตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า โรงพระตลาดใต้
    #กินเจตะกั่วป่า #กินเจ #กินเจ2567 #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินผัก #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/X_vvU2KxV6g?si=1mp3l_VMxhec0gPc
    #กินเจตะกั่วป่า2567 บรรยากาศ 4ค่ำ พระจีนออกแห่ตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า โรงพระตลาดใต้ #กินเจตะกั่วป่า #กินเจ #กินเจ2567 #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินผัก #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/X_vvU2KxV6g?si=1mp3l_VMxhec0gPc
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาเมนูให้พอเหมาะกับช่วง #ถือศีลกินผัก

    ครั้งแรก กับ #กล้วยทับราดน้ำกะทิ ฟินดีแท้
    หาเมนูให้พอเหมาะกับช่วง #ถือศีลกินผัก ครั้งแรก กับ #กล้วยทับราดน้ำกะทิ ฟินดีแท้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 โก้ยห่าน (ข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์) คืน 3 ค่ำ อ๊ามเหนือ, อ๊ามใต้
    #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/-AoxSUu0CF0?si=4eMSlnbcy6SbrzxD
    #กินเจตะกั่วป่า2567 โก้ยห่าน (ข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์) คืน 3 ค่ำ อ๊ามเหนือ, อ๊ามใต้ #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/-AoxSUu0CF0?si=4eMSlnbcy6SbrzxD
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 918 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 ขบวนงานประเพณี #กินผักตะกั่วป่า2567
    #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #ตะกั่วป่า #SomchaiUd #thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/LsuIOIG7elA?si=NsGd3LChLuQ8D7Hq
    #กินเจตะกั่วป่า2567 ขบวนงานประเพณี #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #ตะกั่วป่า #SomchaiUd #thaitimes YouTube: https://youtu.be/LsuIOIG7elA?si=NsGd3LChLuQ8D7Hq
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1010 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 เฉี้ยกิ่วอ๋องไต่เต่ หยกอ๋องซ่งเต่ ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง, ศาลเจ้าพ่อกวนอู
    #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #ตะกั่วป่า #พังงา #ถือศิลกินเจ #กินเจ2567 #thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/Nab3T0mxnA4?si=54yFC6k2O04qZV48
    #กินเจตะกั่วป่า2567 เฉี้ยกิ่วอ๋องไต่เต่ หยกอ๋องซ่งเต่ ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง, ศาลเจ้าพ่อกวนอู #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #ตะกั่วป่า #พังงา #ถือศิลกินเจ #กินเจ2567 #thaitimes YouTube: https://youtu.be/Nab3T0mxnA4?si=54yFC6k2O04qZV48
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 #โก้ยเฉ่งอิ๋ว หนึ่งเดียวในไทย!
    #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #กินผัก2567 #ตะกั่วป่า #thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/b0fimcjodrQ?si=pTi4gXv_SFhp_duj
    #กินเจตะกั่วป่า2567 #โก้ยเฉ่งอิ๋ว หนึ่งเดียวในไทย! #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #กินผัก2567 #ตะกั่วป่า #thaitimes YouTube: https://youtu.be/b0fimcjodrQ?si=pTi4gXv_SFhp_duj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘พิพัฒน์’ ชวนร่วมเทศกาลถือศีลกินผัก 3-7 ต.ค.67 สร้างอาชีพ เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบท้องถิ่น หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ต
    https://www.facebook.com/share/huwxsg9qibk8upai/
    ‘พิพัฒน์’ ชวนร่วมเทศกาลถือศีลกินผัก 3-7 ต.ค.67 สร้างอาชีพ เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบท้องถิ่น หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ต https://www.facebook.com/share/huwxsg9qibk8upai/
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • เข้าสู่ #เทศกาลถือศีลกินผัก ละเนื้อคน เฮ้ย ละเนื้อสัตว์

    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    เข้าสู่ #เทศกาลถือศีลกินผัก ละเนื้อคน เฮ้ย ละเนื้อสัตว์ #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไม..ไม่ควรกินไข่

    1. ผิดศีล-ลักขโมย ไข่สามารถพัฒนาเป็นลูกสัตว์ ซึ่งใครๆก็รักลูกใช่ไหม?
    2. สรุปผลจากงานวิจัย พบว่า ไข่ มี Lecithin และ Choline เป็นสารตั้งต้น เร่งทำให้เกิดตะกรัน จับที่ผนังของหลอดเลือดสมอง และ หัวใจ

    โดยที่แบคทีเรีย(ตัวไม่ดี)ในลำไส้ เปลี่ยนสารทั้งสองนี้ ให้เป็น #ไตรเมทิลามีนอ๊อกไซด์ TMAO หรือ #เป็นโมเลกุลจากนรก ได้ถึง 70% ไปจับที่ผนังของหลอดเลือด ไม่ต่างจากการกินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม

    (เคยเขียนมาแล้ว) https://www.facebook.com/photo.php?fbid=520041798714886&set=pb.100021272116347.-2207520000&type=3

    3. ไข่ เป็น อาหารกรด โดยเฉพาะ "ไข่แดง" Egg Yolk=อันตรายมาก เพราะ เมื่อกินเข้าไป ผลสุดท้ายจากการย่อยจะทำให้ร่างกานเป็นกรดอย่างแรง (Potential Renal Acid Load Score=23.4)
    อ้างอิง : https://www.bobbiemcphail.com/pral

    ดังนั้น วิวัฒนาการทางธรรมชาติ
    สร้างมนุษย์มาให้กินผัก ผลไม้
    ถูกต้องแล้ว ค่ะ
    .

    เจริญธรรม สำนึกดี

    พัชรี ว่องไววิทย์
    July24, 2024
    Sausalito, CA94965
    ทำไม..ไม่ควรกินไข่ 1. ผิดศีล-ลักขโมย ไข่สามารถพัฒนาเป็นลูกสัตว์ ซึ่งใครๆก็รักลูกใช่ไหม? 2. สรุปผลจากงานวิจัย พบว่า ไข่ มี Lecithin และ Choline เป็นสารตั้งต้น เร่งทำให้เกิดตะกรัน จับที่ผนังของหลอดเลือดสมอง และ หัวใจ โดยที่แบคทีเรีย(ตัวไม่ดี)ในลำไส้ เปลี่ยนสารทั้งสองนี้ ให้เป็น #ไตรเมทิลามีนอ๊อกไซด์ TMAO หรือ #เป็นโมเลกุลจากนรก ได้ถึง 70% ไปจับที่ผนังของหลอดเลือด ไม่ต่างจากการกินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม (เคยเขียนมาแล้ว) https://www.facebook.com/photo.php?fbid=520041798714886&set=pb.100021272116347.-2207520000&type=3 3. ไข่ เป็น อาหารกรด โดยเฉพาะ "ไข่แดง" Egg Yolk=อันตรายมาก เพราะ เมื่อกินเข้าไป ผลสุดท้ายจากการย่อยจะทำให้ร่างกานเป็นกรดอย่างแรง (Potential Renal Acid Load Score=23.4) อ้างอิง : https://www.bobbiemcphail.com/pral ดังนั้น วิวัฒนาการทางธรรมชาติ สร้างมนุษย์มาให้กินผัก ผลไม้ ถูกต้องแล้ว ค่ะ . เจริญธรรม สำนึกดี พัชรี ว่องไววิทย์ July24, 2024 Sausalito, CA94965
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts