• 🤖 กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้
    นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics)

    เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ

    โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่
    1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ
    2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้
    - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต
    - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า
    - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว
    - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด
    - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    🤖 กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics) เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่ 1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ 2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน 3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้ - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚕️🚶‍♀️🚶 การเดินรักษาขา
    ของคุณให้แข็งแรง:
    บทความที่ต้องอ่าน *

    * ▪️เมื่อเราแก่ตัวลงเท้าของเราจะต้องแข็งแรงอยู่เสมอ *

    * ▪️หากไม่ขยับขาเป็นเวลาสองสัปดาห์ ความแข็งแรงของขาจะลดลง 10 ปี *

    * ▪️หากกล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแรง การฟื้นตัวจะใช้เวลานานแม้ว่าเราจะออกกำลังกายฟื้นฟูในภายหลังก็ตาม *

    * ▪️ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นการเดินจึงสำคัญมาก *

    * ▪️น้ำหนักตัวทั้งหมด/การลงน้ำหนักอยู่ที่ขา *
    * ▪️เท้าเป็น * เสาหลัก * ในการรับน้ำหนักของร่างกายมนุษย์

    * ▪️เป็นที่น่าสนใจว่า 50% ของกระดูกมนุษย์ และกล้ามเนื้อ 50% อยู่ที่ขาทั้งสองข้าง *

    * ▪️ข้อต่อและกระดูกที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแรงที่สุดของร่างกายมนุษย์ก็อยู่ที่ขาด้วย *

    * ▪️เท้าเป็น * ศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวของร่างกาย *

    * ▪️ขาทั้งสองข้างมีเส้นประสาท 50% ของร่างกายมนุษย์ 50% ของเส้นเลือดและ 50% ของเลือดที่ไหลผ่าน *

    * ▪️เป็นเครือข่ายการไหลเวียนโลหิตขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับร่างกาย *

    * ▪️เฉพาะเมื่อเท้าแข็งแรงแล้ว * กระแสเลือด * * จะไหลเวียนได้อย่างราบรื่นดังนั้นคนที่มีกล้ามเนื้อขาแข็งแรงจะมี * หัวใจที่แข็งแรงอย่างแน่นอน *

    * ▪️อายุเริ่มจากเท้าขึ้นไป *

    * ▪️เมื่อคนเราอายุมากขึ้นความแม่นยำและความเร็วในการส่งคำสั่งระหว่างสมองกับขาจะลดลง _ ไม่เหมือนตอนที่คนเรายังเด็ก *

    * ▪️การออกกำลังขาไม่มีสายเกินไป แม้อายุ 60 ปีขึ้นไป *

    * ▪️เพียงแค่ทำให้ขาแข็งแรงขึ้นเท่านั้น ก็สามารถชลอการแก่ได้ *

    ▪️กรุณาเดิน * อย่างน้อย 30-40 นาที * * ทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าขาของคุณได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอและเพื่อให้แน่ใจว่ากล้ามเนื้อขาของคุณยังคงแข็งแรง *

    * ▪️โปรดแบ่งปันกับเพื่อนผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวของคุณ *
    ⚕️🚶‍♀️🚶 การเดินรักษาขา ของคุณให้แข็งแรง: บทความที่ต้องอ่าน * * ▪️เมื่อเราแก่ตัวลงเท้าของเราจะต้องแข็งแรงอยู่เสมอ * * ▪️หากไม่ขยับขาเป็นเวลาสองสัปดาห์ ความแข็งแรงของขาจะลดลง 10 ปี * * ▪️หากกล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแรง การฟื้นตัวจะใช้เวลานานแม้ว่าเราจะออกกำลังกายฟื้นฟูในภายหลังก็ตาม * * ▪️ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นการเดินจึงสำคัญมาก * * ▪️น้ำหนักตัวทั้งหมด/การลงน้ำหนักอยู่ที่ขา * * ▪️เท้าเป็น * เสาหลัก * ในการรับน้ำหนักของร่างกายมนุษย์ * ▪️เป็นที่น่าสนใจว่า 50% ของกระดูกมนุษย์ และกล้ามเนื้อ 50% อยู่ที่ขาทั้งสองข้าง * * ▪️ข้อต่อและกระดูกที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแรงที่สุดของร่างกายมนุษย์ก็อยู่ที่ขาด้วย * * ▪️เท้าเป็น * ศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวของร่างกาย * * ▪️ขาทั้งสองข้างมีเส้นประสาท 50% ของร่างกายมนุษย์ 50% ของเส้นเลือดและ 50% ของเลือดที่ไหลผ่าน * * ▪️เป็นเครือข่ายการไหลเวียนโลหิตขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับร่างกาย * * ▪️เฉพาะเมื่อเท้าแข็งแรงแล้ว * กระแสเลือด * * จะไหลเวียนได้อย่างราบรื่นดังนั้นคนที่มีกล้ามเนื้อขาแข็งแรงจะมี * หัวใจที่แข็งแรงอย่างแน่นอน * * ▪️อายุเริ่มจากเท้าขึ้นไป * * ▪️เมื่อคนเราอายุมากขึ้นความแม่นยำและความเร็วในการส่งคำสั่งระหว่างสมองกับขาจะลดลง _ ไม่เหมือนตอนที่คนเรายังเด็ก * * ▪️การออกกำลังขาไม่มีสายเกินไป แม้อายุ 60 ปีขึ้นไป * * ▪️เพียงแค่ทำให้ขาแข็งแรงขึ้นเท่านั้น ก็สามารถชลอการแก่ได้ * ▪️กรุณาเดิน * อย่างน้อย 30-40 นาที * * ทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าขาของคุณได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอและเพื่อให้แน่ใจว่ากล้ามเนื้อขาของคุณยังคงแข็งแรง * * ▪️โปรดแบ่งปันกับเพื่อนผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวของคุณ *
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌#ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ

    อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
    • ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง
    • ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ)
    • ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง
    • อ่อนแรงในแขนหรือมือ
    • อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว

    สาเหตุหลัก:
    • นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป
    • ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง)
    • โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ
    • ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน

    ✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา:
    • ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที
    • ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม
    • ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง
    • การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด

    หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
    📌#ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ อาการที่พบบ่อย ได้แก่: • ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง • ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ) • ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง • อ่อนแรงในแขนหรือมือ • อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว สาเหตุหลัก: • นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป • ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง) • โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ • ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน ✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา: • ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที • ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม • ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง • การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) สั่งให้บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาเพิ่มข้อความเตือนบนฉลากวัคซีน COVID-19 เกี่ยวกับความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดกับหัวใจจากการฉีด mRNA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กชายวัยรุ่นและชายหนุ่มที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 25 ปี - CBS News รายงาน

    คำสั่งของ FDA อ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งยังอยู่ภายใต้อำนาจการบริหารงานของรัฐบาลไบเดน

    ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ New York Post รายงานว่า ตามรายงานของวุฒิสภา สหรัฐฯ เผยว่า จนท. สาธารณสุขทราบถึงความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด mRNA แต่กลับล่าช้าในการแจ้งให้ประชาชนทราบ

    ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 หน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐบาลกลางได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ "รายงานจำนวนมากของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ" ในคนหนุ่มสาวที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์

    แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของ CDC และ FDA จะตระหนักดีถึงความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีน COVID-19 แต่ฝ่ายบริหารของไบเดนกลับเลือกที่จะไม่ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับข้อกังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนหนุ่มสาวชาวอเมริกัน"
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) สั่งให้บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาเพิ่มข้อความเตือนบนฉลากวัคซีน COVID-19 เกี่ยวกับความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดกับหัวใจจากการฉีด mRNA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กชายวัยรุ่นและชายหนุ่มที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 25 ปี - CBS News รายงาน คำสั่งของ FDA อ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งยังอยู่ภายใต้อำนาจการบริหารงานของรัฐบาลไบเดน ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ New York Post รายงานว่า ตามรายงานของวุฒิสภา สหรัฐฯ เผยว่า จนท. สาธารณสุขทราบถึงความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด mRNA แต่กลับล่าช้าในการแจ้งให้ประชาชนทราบ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 หน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐบาลกลางได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ "รายงานจำนวนมากของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ" ในคนหนุ่มสาวที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของ CDC และ FDA จะตระหนักดีถึงความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีน COVID-19 แต่ฝ่ายบริหารของไบเดนกลับเลือกที่จะไม่ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับข้อกังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนหนุ่มสาวชาวอเมริกัน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรตีนพืช Wellmed Plant-Based Protein จากแบรนด์ Medis เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกน ผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติและส่วนผสมที่น่าสนใจดังนี้:

    ---

    ✅ คุณสมบัติเด่นของ Wellmed Plant-Based Protein

    โปรตีนจากพืช 100%: ประกอบด้วยโปรตีนจากพืชหลากหลายชนิด เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง และฟักทอง ซึ่งให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน

    ผักและผลไม้ 13 ชนิด: อุดมด้วยไฟโตนิวเทรียนท์จากผักและผลไม้หลากสี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบในร่างกาย

    แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล 1,000 มก.: ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

    ไม่มีน้ำตาลและคอเลสเตอรอล: เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด

    ใยอาหารสูง: ช่วยในการย่อยอาหารและการขับถ่าย

    ---

    🌿 ส่วนประกอบหลัก

    โปรตีนจากพืช: ถั่วลันเตา, ถั่วเหลือง, ข้าวกล้อง, ฟักทอง

    ผักและผลไม้หลากสี: เช่น แครอท, บีทรูท, ผักโขม, บลูเบอร์รี, ส้ม, แอปเปิล

    แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล: ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน

    ---

    💪 ประโยชน์ต่อร่างกาย

    เสริมสร้างกล้ามเนื้อ: โปรตีนจากพืชช่วยในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลังการออกกำลังกาย

    ควบคุมน้ำหนัก: ใยอาหารสูงช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ไฟโตนิวเทรียนท์จากผักและผลไม้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ

    บำรุงกระดูกและฟัน: แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

    เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวหรือแลคโตส: เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของนมวัวหรือแลคโตส

    ---

    🛒 ข้อมูลผลิตภัณฑ์

    ขนาดบรรจุ: 1 กล่อง มี 7 ซอง (ซองละ 30 กรัม)

    ราคากล่อง​ละ : 690 บาท

    วิธีรับประทาน: ชงกับน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ วันละ 1-2 ซอง ตามความต้องการของร่างกาย
    โปรตีนพืช Wellmed Plant-Based Protein จากแบรนด์ Medis เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกน ผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติและส่วนผสมที่น่าสนใจดังนี้: --- ✅ คุณสมบัติเด่นของ Wellmed Plant-Based Protein โปรตีนจากพืช 100%: ประกอบด้วยโปรตีนจากพืชหลากหลายชนิด เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง และฟักทอง ซึ่งให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ผักและผลไม้ 13 ชนิด: อุดมด้วยไฟโตนิวเทรียนท์จากผักและผลไม้หลากสี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบในร่างกาย แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล 1,000 มก.: ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ไม่มีน้ำตาลและคอเลสเตอรอล: เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด ใยอาหารสูง: ช่วยในการย่อยอาหารและการขับถ่าย --- 🌿 ส่วนประกอบหลัก โปรตีนจากพืช: ถั่วลันเตา, ถั่วเหลือง, ข้าวกล้อง, ฟักทอง ผักและผลไม้หลากสี: เช่น แครอท, บีทรูท, ผักโขม, บลูเบอร์รี, ส้ม, แอปเปิล แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล: ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน --- 💪 ประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ: โปรตีนจากพืชช่วยในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลังการออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก: ใยอาหารสูงช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ไฟโตนิวเทรียนท์จากผักและผลไม้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ บำรุงกระดูกและฟัน: แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวหรือแลคโตส: เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของนมวัวหรือแลคโตส --- 🛒 ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ขนาดบรรจุ: 1 กล่อง มี 7 ซอง (ซองละ 30 กรัม) ราคากล่อง​ละ : 690 บาท วิธีรับประทาน: ชงกับน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ วันละ 1-2 ซอง ตามความต้องการของร่างกาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีน
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02FVi4WuRgef8kC5f71Qw3tubcgMbEFau3mPMAiThsK4agnxC6N4J5NKYaUQi5vFDgl&id=61569418676886
    ✍️มะเร็งเทอร์โบ
    https://www.facebook.com/share/v/15bc7uQxNE/
    ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574
    ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218.../v2/article/WBMQJxa...
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk
    ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    ✍️ มะเร็งเทอร์โบในเด็ก
    1. https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116607024647289/?
    2. https://fb.watch/xgObb-ReDH/?
    ✍️ มะเร็งปะทุใหม่หลังฉีดวัคซีนจากที่สงบไปนาน | หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/?
    ✍️ มะเร็งกลับมาจากที่สงบหลังฉีดวัคซีนโควิด | หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/?
    ✍️ตัวอย่างเคส
    https://www.facebook.com/share/p/1QmTiUeuLt/
    ✍️ กราฟข้อมูลมะเร็งในคนไทย
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115808088647289/?
    รวบรวมโดย
    ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02FVi4WuRgef8kC5f71Qw3tubcgMbEFau3mPMAiThsK4agnxC6N4J5NKYaUQi5vFDgl&id=61569418676886 ✍️มะเร็งเทอร์โบ https://www.facebook.com/share/v/15bc7uQxNE/ ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574 ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347 ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218.../v2/article/WBMQJxa... ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️ มะเร็งเทอร์โบในเด็ก 1. https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116607024647289/? 2. https://fb.watch/xgObb-ReDH/? ✍️ มะเร็งปะทุใหม่หลังฉีดวัคซีนจากที่สงบไปนาน | หมอดื้อ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/? ✍️ มะเร็งกลับมาจากที่สงบหลังฉีดวัคซีนโควิด | หมอดื้อ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/? ✍️ตัวอย่างเคส https://www.facebook.com/share/p/1QmTiUeuLt/ ✍️ กราฟข้อมูลมะเร็งในคนไทย https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115808088647289/? รวบรวมโดย ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด
    ✍️รายงาน​วิจัยจากสิงคโปร์​พบว่าอัตราการเป็นกล้ามเนื้อ​หัวใจ​อักเสบ​ในเด็กหนุ่ม​เพิ่มขึ้น​หลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114046446647289/?
    ✍️ข้อมูล mRNA มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ | หมอชลธวัช
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115966158647289/?
    ✍️หัวใจอักเสบคุกรุ่น “แม้ไม่มีอาการ”หลังฉีด
    https://www.facebook.com/share/p/1UysDHuSmh/
    ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ
    https://www.thairath.co.th/life.../health-and-beauty/2857516

    รวบรวมข้อมูลโดย
    แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด ✍️รายงาน​วิจัยจากสิงคโปร์​พบว่าอัตราการเป็นกล้ามเนื้อ​หัวใจ​อักเสบ​ในเด็กหนุ่ม​เพิ่มขึ้น​หลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114046446647289/? ✍️ข้อมูล mRNA มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ | หมอชลธวัช https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115966158647289/? ✍️หัวใจอักเสบคุกรุ่น “แม้ไม่มีอาการ”หลังฉีด https://www.facebook.com/share/p/1UysDHuSmh/ ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ https://www.thairath.co.th/life.../health-and-beauty/2857516 รวบรวมข้อมูลโดย แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะ ว่าตามยุคโควิดนี้ก็ว่า อสม.เสมือนคนที่ตายแล้วจริงๆ,เพียงรอเวลาวัคซีนที่ฉีดๆเข้าไปออกฤทธิ์แค่นั้น, หรือกราฟีนในวัคซีนลดอายุขัย อสม.นั้นเอง ,อสม.น่าสงสารมาก คือเหยื่อด่านหน้าจริงๆ ลูกหลานครอบครัวเขาจะขาดที่พึ่งทันที จะอสม.คนไหนก็ตาม สมัยก่อนใครอยากเป็นอสม.ก็อาสาเข้ามาหรือยกมือขออาสาเป็นเอง แม้ส่วนใหญ่คือเส้นสายคณะกรรมหมู่บ้านสายสัมพันธ์คนในชุมชน คนของใคร ทีมผู้ใหญ่นั้นๆคนไหน ยุคผู้ใหญ่บ้านของใครมันก็ด้วย,555คือเส้นทั้งนั้นเช่นกัน ดักดานยึดครองอสม.จนรากงอกก็ว่า,นี้คือความจริงอีกด้าน,นอกจากความจริงว่า ต้องตายแน่นอนร่วมกับแพทย์หมอพยาบาลทหารตำรวจที่ไม่รู้เรื่องหรือคนของระบบราชการด่านหน้าในหลายๆคน,แก่สมุนรับใช้อีลิทรอดหมดในไทย มุกว่ามีใบอนุญาตฉีกแล้วสามารถหลอกได้ตรึมล่ะบวกเข็มปลอมๆฉีดปลอมๆก็มีตรึมในคลิปต่างประเทศ พวกนี้จึงไม่เป็นห่าอะไร ไม่น้ำเกลือๆแร่หรือเข็มบำรุงแทนไปด้วยโน้น ในไทยมีมุกพิศดารนี้ตรึมล่ะ,
    ..สงสารจริงคือไทบ้าน ชาวบ้านตาดำ เสลอไปอยากเป็นอสม.ด้วยหลงถูกหลอกลวงโดยฝ่ายมืดมันวางหมากจัดตั้งอสม.นี้เตรียมกาลไว้แล้วหลายปีก่อนลงมือใช้งานจริงหลอกชาวบ้านด้วยกันให้เชื่อถืออสม.ได้ เพราะก็คนไทบ้านเราเหมือนกันพะนะ จึงพากันถูกฉีดถึงบ้านอย่างสบายใจตายทั้งหมู่บ้าน 608ตุยก่อนคือเป้าหมายแรกพะนะ,
    ..ประชาชนไม่ฟ้องศาลก็ไม่ได้ตังเพราะคนพวกนี้โวยวายได้แค่ในหมู่บ้าน ไม่มีปัญญาเอาผิดทางพยานหลักฐานการตายทางกฎหมายถึงศาลฟ้องพวกอีลิทไม่ได้,ไทบ้านๆแค่นั้นก็ว่า,ตายเงียบตรึม อาจปลอบใจหน่อยคืออสม.ให้ตังหลังตายแก่คนข้างหลังบ้างเพราะรับใช้ทำงานช่วยลดประชากรได้ตามเป้าดี.

    ..ประชาชนเสือกไม่ได้อะไรเลย ตายก็ตายเปล่า
    ..อสม.ก็น่าสงสารแต่น้อยกว่าประชาชนแน่นอน ไม่ยุติธรรมต่อประชาชนตาดำๆเลย,ถ้าพิจารณาคนได้รับผลกระทบบาดเจ็บ&อักเสบหรืออนาถที่สุดคือตายจากผลของวัคซีนโควิดที่ฉีดๆกันไป อาทิ ลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบถึงวายตาย วูบตาย มะเร็งสาระพัดแห่งที่จะเป็นตามอวัยวะต่างๆ,และกว่าก่อโรค1,291โรคเอาแต่ภูมิnkcellภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะลดลงให้โรคต่างๆโจมตีแทนได้,
    ..แม้เห็นใจ อสม.แต่ภาคประชาชนสมควรได้รับการชดเชยและเปิดเผยความจริงถึงวัคซีนโควิดที่รับไปแล้วจริงๆจากภาครัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการบอกความจริงนั้นๆ,มิใช่ให้สิทธิ อสม.ฝ่ายเดียวแบบนี้ หากพิจารณาถึงกรณีไม่รอดแน่นอนจากการรับวัคซีนของอสม.ก็ตามแต่บิดเบือนช่วยเหลือในหัวข้ออื่นสร้างเรื่องอ้างบริบทอื่นชดเชยค่าสาระพัดแบบในคลิปนี้ลิ้งก์นี้.
    ..จริงๆพรบ.อสม.ไม่สมควรมีหรอก ยกเลิกเถอะ ยุบไปก็ได้,เป็นรุ่นสุดท้าย จ่ายชดเชยตอนมีชีวิตอยู่นี้ล่ะ หากเสียชีวิตไป,ตามรายชื่อที่ปรากฏในทะเบียนอสม.แม้พ้นหน้าที่แล้วแต่หลังในวันนี้,ล็อกรายชื่ออสม.ทั้งยุคโควิดจนถึงปัจจุบันที่ไม่รวมการรับสมัครใหม่ล่าสุดของปีนี้นะ, หากใครเสียชีวิตรับเงินชดเชยทันทีตามเงื่อนไขและค่าทำศพอะไรใดๆก็ว่าไป,แล้วยุบอสม.ทั้งประเทศไปเลย,จะตั้งอะไรใหม่ ชื่อใหม่ใดๆอีกครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใดตรงจุดเป้าหมายจริงๆชัดเจนก็จึงค่อยตั้งขึ้นมาใหม่มีระบบระเบียบวิธีการคัดกรองคัดเลือกชัดเจน มีใช่ใช้เส้นสายอิทธิพล&เดอะแก๊งใดๆประจำชุมชนหมู่บ้านเส้นใครมันคนกูคนมรึงเลือกยึดครองกันเองก็ว่า มันเลอะเทอะพอแล้ว ซื้อซีซื้อตำแหน่งเข้าทำงานใดๆใน อบต.อบท.อบจ.ในอดีตถึงปัจจุบันก็อนาถแล้ว,อนาคตใช้ตังดิจิดัลควอนตัมเลยมั้ย,แมร่งใต้โต๊ะซื้อตำแหน่งฮั่วประมูล เงินมืดเงินเถื่อนใดๆมีหนาวแน่นอน,หรือตังซื้อเสียงซื้อให้กาคะแนนก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงต้นทางกันเลยก็ได้ ท่านเอาไปอะไรแล,หรือท่านๆไทบ้านประชาชนมีตังเข้าบัญชีควอนตัมบัตรประชาชนนี้แต่ใดมานะ,ซวยทั้งคนแจกทั้งคนรับแบบเรียลไทม์เลย,บางครัังเมื่อไม่ชอบอิสระเสรีมีคุณค่าความเป็นคนสำนึกดีในคุณค่ามนุษย์ก็ต้องใช้ระบบจัดการจริงๆ.,เราไม่สามารถทำคนทุกๆคนเป็นคนดีได้ แต่เราไม่สามารถละทิ้งคนดีให้โดดเดี่ยวได้เช่นกัน.
    https://youtube.com/watch?v=Srl39JNss-c&si=JzM_9Q2aVmx7oQwI
    ..เอาจริงๆนะ ว่าตามยุคโควิดนี้ก็ว่า อสม.เสมือนคนที่ตายแล้วจริงๆ,เพียงรอเวลาวัคซีนที่ฉีดๆเข้าไปออกฤทธิ์แค่นั้น, หรือกราฟีนในวัคซีนลดอายุขัย อสม.นั้นเอง ,อสม.น่าสงสารมาก คือเหยื่อด่านหน้าจริงๆ ลูกหลานครอบครัวเขาจะขาดที่พึ่งทันที จะอสม.คนไหนก็ตาม สมัยก่อนใครอยากเป็นอสม.ก็อาสาเข้ามาหรือยกมือขออาสาเป็นเอง แม้ส่วนใหญ่คือเส้นสายคณะกรรมหมู่บ้านสายสัมพันธ์คนในชุมชน คนของใคร ทีมผู้ใหญ่นั้นๆคนไหน ยุคผู้ใหญ่บ้านของใครมันก็ด้วย,555คือเส้นทั้งนั้นเช่นกัน ดักดานยึดครองอสม.จนรากงอกก็ว่า,นี้คือความจริงอีกด้าน,นอกจากความจริงว่า ต้องตายแน่นอนร่วมกับแพทย์หมอพยาบาลทหารตำรวจที่ไม่รู้เรื่องหรือคนของระบบราชการด่านหน้าในหลายๆคน,แก่สมุนรับใช้อีลิทรอดหมดในไทย มุกว่ามีใบอนุญาตฉีกแล้วสามารถหลอกได้ตรึมล่ะบวกเข็มปลอมๆฉีดปลอมๆก็มีตรึมในคลิปต่างประเทศ พวกนี้จึงไม่เป็นห่าอะไร ไม่น้ำเกลือๆแร่หรือเข็มบำรุงแทนไปด้วยโน้น ในไทยมีมุกพิศดารนี้ตรึมล่ะ, ..สงสารจริงคือไทบ้าน ชาวบ้านตาดำ เสลอไปอยากเป็นอสม.ด้วยหลงถูกหลอกลวงโดยฝ่ายมืดมันวางหมากจัดตั้งอสม.นี้เตรียมกาลไว้แล้วหลายปีก่อนลงมือใช้งานจริงหลอกชาวบ้านด้วยกันให้เชื่อถืออสม.ได้ เพราะก็คนไทบ้านเราเหมือนกันพะนะ จึงพากันถูกฉีดถึงบ้านอย่างสบายใจตายทั้งหมู่บ้าน 608ตุยก่อนคือเป้าหมายแรกพะนะ, ..ประชาชนไม่ฟ้องศาลก็ไม่ได้ตังเพราะคนพวกนี้โวยวายได้แค่ในหมู่บ้าน ไม่มีปัญญาเอาผิดทางพยานหลักฐานการตายทางกฎหมายถึงศาลฟ้องพวกอีลิทไม่ได้,ไทบ้านๆแค่นั้นก็ว่า,ตายเงียบตรึม อาจปลอบใจหน่อยคืออสม.ให้ตังหลังตายแก่คนข้างหลังบ้างเพราะรับใช้ทำงานช่วยลดประชากรได้ตามเป้าดี. ..ประชาชนเสือกไม่ได้อะไรเลย ตายก็ตายเปล่า ..อสม.ก็น่าสงสารแต่น้อยกว่าประชาชนแน่นอน ไม่ยุติธรรมต่อประชาชนตาดำๆเลย,ถ้าพิจารณาคนได้รับผลกระทบบาดเจ็บ&อักเสบหรืออนาถที่สุดคือตายจากผลของวัคซีนโควิดที่ฉีดๆกันไป อาทิ ลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบถึงวายตาย วูบตาย มะเร็งสาระพัดแห่งที่จะเป็นตามอวัยวะต่างๆ,และกว่าก่อโรค1,291โรคเอาแต่ภูมิnkcellภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะลดลงให้โรคต่างๆโจมตีแทนได้, ..แม้เห็นใจ อสม.แต่ภาคประชาชนสมควรได้รับการชดเชยและเปิดเผยความจริงถึงวัคซีนโควิดที่รับไปแล้วจริงๆจากภาครัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการบอกความจริงนั้นๆ,มิใช่ให้สิทธิ อสม.ฝ่ายเดียวแบบนี้ หากพิจารณาถึงกรณีไม่รอดแน่นอนจากการรับวัคซีนของอสม.ก็ตามแต่บิดเบือนช่วยเหลือในหัวข้ออื่นสร้างเรื่องอ้างบริบทอื่นชดเชยค่าสาระพัดแบบในคลิปนี้ลิ้งก์นี้. ..จริงๆพรบ.อสม.ไม่สมควรมีหรอก ยกเลิกเถอะ ยุบไปก็ได้,เป็นรุ่นสุดท้าย จ่ายชดเชยตอนมีชีวิตอยู่นี้ล่ะ หากเสียชีวิตไป,ตามรายชื่อที่ปรากฏในทะเบียนอสม.แม้พ้นหน้าที่แล้วแต่หลังในวันนี้,ล็อกรายชื่ออสม.ทั้งยุคโควิดจนถึงปัจจุบันที่ไม่รวมการรับสมัครใหม่ล่าสุดของปีนี้นะ, หากใครเสียชีวิตรับเงินชดเชยทันทีตามเงื่อนไขและค่าทำศพอะไรใดๆก็ว่าไป,แล้วยุบอสม.ทั้งประเทศไปเลย,จะตั้งอะไรใหม่ ชื่อใหม่ใดๆอีกครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใดตรงจุดเป้าหมายจริงๆชัดเจนก็จึงค่อยตั้งขึ้นมาใหม่มีระบบระเบียบวิธีการคัดกรองคัดเลือกชัดเจน มีใช่ใช้เส้นสายอิทธิพล&เดอะแก๊งใดๆประจำชุมชนหมู่บ้านเส้นใครมันคนกูคนมรึงเลือกยึดครองกันเองก็ว่า มันเลอะเทอะพอแล้ว ซื้อซีซื้อตำแหน่งเข้าทำงานใดๆใน อบต.อบท.อบจ.ในอดีตถึงปัจจุบันก็อนาถแล้ว,อนาคตใช้ตังดิจิดัลควอนตัมเลยมั้ย,แมร่งใต้โต๊ะซื้อตำแหน่งฮั่วประมูล เงินมืดเงินเถื่อนใดๆมีหนาวแน่นอน,หรือตังซื้อเสียงซื้อให้กาคะแนนก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงต้นทางกันเลยก็ได้ ท่านเอาไปอะไรแล,หรือท่านๆไทบ้านประชาชนมีตังเข้าบัญชีควอนตัมบัตรประชาชนนี้แต่ใดมานะ,ซวยทั้งคนแจกทั้งคนรับแบบเรียลไทม์เลย,บางครัังเมื่อไม่ชอบอิสระเสรีมีคุณค่าความเป็นคนสำนึกดีในคุณค่ามนุษย์ก็ต้องใช้ระบบจัดการจริงๆ.,เราไม่สามารถทำคนทุกๆคนเป็นคนดีได้ แต่เราไม่สามารถละทิ้งคนดีให้โดดเดี่ยวได้เช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=Srl39JNss-c&si=JzM_9Q2aVmx7oQwI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    เดือนนี้ ผู้ใหญ่จะเกิดการขัดแย้งโต้เถียงทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอยต่อกัน จะเกิดการแก่งแย่งชิงมรดก ทรัพย์สมบัติ ใครไหว้วานให้กระทำสิ่งใดจะไม่สำเร็จ หรือมอบความไว้วางใจเชื่อใครง่ายๆจะถูกใส่ร้ายป้ายสี ให้เสียหาย หรือแม้แต่รับของฝากจากใครก็มีสิทธิ์จะเดือดร้อนเพราะรับของโจรผิดกฏหมาย อารมณ์หงุดหงิด เครียดวิตกเป็นกังวล เพราะเงินทองล้มเหลวแต่โชคต้องพยายามฟันฝ่า สุขภาพของสมาชิกในครอบครัว จะมีปัญหา โรคเก่าจะกำเริบ เกิดโรคภูมิแพ้เมื่อมีอากาศเปลี่ยน อีกทั้งอาหารจะเป็นพิษลามติดถึงขั้นกินไม่ได้ จะเจ็บปวด ที่ท้อง กระเพาะ ลำไส้ หลัง กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดือนนี้ ผู้ใหญ่จะเกิดการขัดแย้งโต้เถียงทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอยต่อกัน จะเกิดการแก่งแย่งชิงมรดก ทรัพย์สมบัติ ใครไหว้วานให้กระทำสิ่งใดจะไม่สำเร็จ หรือมอบความไว้วางใจเชื่อใครง่ายๆจะถูกใส่ร้ายป้ายสี ให้เสียหาย หรือแม้แต่รับของฝากจากใครก็มีสิทธิ์จะเดือดร้อนเพราะรับของโจรผิดกฏหมาย อารมณ์หงุดหงิด เครียดวิตกเป็นกังวล เพราะเงินทองล้มเหลวแต่โชคต้องพยายามฟันฝ่า สุขภาพของสมาชิกในครอบครัว จะมีปัญหา โรคเก่าจะกำเริบ เกิดโรคภูมิแพ้เมื่อมีอากาศเปลี่ยน อีกทั้งอาหารจะเป็นพิษลามติดถึงขั้นกินไม่ได้ จะเจ็บปวด ที่ท้อง กระเพาะ ลำไส้ หลัง กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌

    การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ

    👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค

    👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม

    👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง

    📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ

    1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ

    2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร

    เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน

    3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD)

    ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา
    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ
    (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน)

    4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา

    เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน

    5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)

    ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา

    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง

    6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ

    7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia)

    ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม

    8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท

    เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม

    9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis)

    ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท

    เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม

    10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease)

    ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก

    เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา

    11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

    ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย)

    เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด)

    12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน)

    เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น
    (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม)

    13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา

    เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ
    ❤️❤️❤️

    ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ

    การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌 การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ 👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค 👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม 👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง 📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ 1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ 2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน 3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD) ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน) 4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน 5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง 6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ 7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia) ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม 8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม 9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis) ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม 10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease) ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา 11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย) เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด) 12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน) เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม) 13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency) ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ ❤️❤️❤️ ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองประกวดนางสาวไทยนครราชสีมา ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “โครงการคัดกรองพาหะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA) “เด็กโคราชสุขภาพดี ปลอดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” จังหวัดนครราชสีมาและ แถลงข่าวพิธีมอบมงกุฎพร้อมทั้งสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับนางสาวไทยนครราชสีมา และ นางสาวไทยสระบุรีประจำปี 2568 ” ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น.ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
    โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เป็นประธานในพิธี มอบมงกุฎและสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับ “เจเล่”-น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา และ “แคท”-น.ส.พนิดา ตั้งตระกูลเจริญ เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดสระบุรี เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมืองโคราช สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ ก้าวสู่เวทีระดับประเทศในการประกวด นางสาวไทย ประจำปี 2568 ซึ่งจะประกวดรอบชิงชนะเลิศ Final Competition นางสาวไทย ประจำปี 2568 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน
    ทั้งนี้ ผู้กองแคท อาทิตยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567 และนางสาวไทยนครราชสีมา 2567 ได้อำลาตำแหน่งอันทรงคุณค่าอย่างเป็นทางการพร้อมจัดเสวนา โครงการที่จะเกิดขึ้นเพื่อน้องๆ โรคแขนขาอ่อนแรงโรงพยาบาลลมหาราชนครราชสีมา โครงการผู้ว่าพานับคาร์บ เพื่อลดโรค NCDs (โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง) และโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน TO BE NUMBER ONE (TO BE IDOL) และโครงการการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในเด็กและเยาวชน โดย ร้อยตำรวจเอกหญิงอาทิตยา เบ็ญจะปัก นางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการเดินแบบผ้าไทย สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” สัมภาษณ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าไหมโคราช “ศักดิ์ศรีไหมไทย”
    ภายในงานได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว” 1st runner up Miss Universe 2023 | Miss Universe Thailand 2023 | ประธานมูลนิธิ Little Steps พร้อมด้วย แม่ปุ้ย-น.ส.ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้จัดกองประกวด TPN และแขกผู้มีเกียรติ อาทิ ดร.นก ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยประจำปี 2541,ฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน 3rd Runner up Mister Global Thailand 2024 และ สุ สุรชยา ใจหมั่น 1st Runner up UIU 2024 ที่ให้เกียรติมาร่วมอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งนึง อีกทั้งผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ให้การต้อนรับเหล่าแฟนนางงามที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
    กองประกวดนางสาวไทยนครราชสีมา ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “โครงการคัดกรองพาหะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA) “เด็กโคราชสุขภาพดี ปลอดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” จังหวัดนครราชสีมาและ แถลงข่าวพิธีมอบมงกุฎพร้อมทั้งสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับนางสาวไทยนครราชสีมา และ นางสาวไทยสระบุรีประจำปี 2568 ” ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น.ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เป็นประธานในพิธี มอบมงกุฎและสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับ “เจเล่”-น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา และ “แคท”-น.ส.พนิดา ตั้งตระกูลเจริญ เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดสระบุรี เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมืองโคราช สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ ก้าวสู่เวทีระดับประเทศในการประกวด นางสาวไทย ประจำปี 2568 ซึ่งจะประกวดรอบชิงชนะเลิศ Final Competition นางสาวไทย ประจำปี 2568 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ทั้งนี้ ผู้กองแคท อาทิตยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567 และนางสาวไทยนครราชสีมา 2567 ได้อำลาตำแหน่งอันทรงคุณค่าอย่างเป็นทางการพร้อมจัดเสวนา โครงการที่จะเกิดขึ้นเพื่อน้องๆ โรคแขนขาอ่อนแรงโรงพยาบาลลมหาราชนครราชสีมา โครงการผู้ว่าพานับคาร์บ เพื่อลดโรค NCDs (โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง) และโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน TO BE NUMBER ONE (TO BE IDOL) และโครงการการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในเด็กและเยาวชน โดย ร้อยตำรวจเอกหญิงอาทิตยา เบ็ญจะปัก นางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการเดินแบบผ้าไทย สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” สัมภาษณ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าไหมโคราช “ศักดิ์ศรีไหมไทย” ภายในงานได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว” 1st runner up Miss Universe 2023 | Miss Universe Thailand 2023 | ประธานมูลนิธิ Little Steps พร้อมด้วย แม่ปุ้ย-น.ส.ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้จัดกองประกวด TPN และแขกผู้มีเกียรติ อาทิ ดร.นก ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยประจำปี 2541,ฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน 3rd Runner up Mister Global Thailand 2024 และ สุ สุรชยา ใจหมั่น 1st Runner up UIU 2024 ที่ให้เกียรติมาร่วมอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งนึง อีกทั้งผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ให้การต้อนรับเหล่าแฟนนางงามที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 509 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คนไทยต้องตื่น เหมือนตื่นเล่นสงกรานต์จริงๆนะ ทั่วไทยเลย แชร์ต่อๆกันไปนะครับที่เข้ามาเห็น มาอ่านดูข่าวนี้.

    หมอดื้อ :-

    📢🚩 สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ถ้ายอมรับสั่งอย่างไรต้องทำตาม เอาเช่นนั้นหรือ
    ________________________________________________________________________________

    คนไทยต้อง ทราบขณะนี้ ถ้าทำตามสั่งคือความเสียหาย เรียกร้องจากองค์การอนามัยโลกไม่ได้ ว่าถือว่ายอมไปแล้ว

    ช่วยกันกระจายข่าวไปให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนไทยรับทราบ ว่ากระทรวงสาธารณสุขกำลังจะทำอะไรคนไทยครับ

    องค์การอนามัยโลกยื่นสนธิสัญญา WHO treaty มาให้ประเทศต่างๆ ยอมรับและเซ็นสัญญา หลังจากที่ถูกคัดค้านอย่างหนักมาในรอบแรก

    ● รอบนี้เดือนเมษายน 2025 กระทรวงสาธารณสุข อาจจะมีแนวโน้มทำตามองค์การอนามัยโลกทุกอย่าง
    นั่นหมายความว่า องค์การอนามัยโลกสามารถบงการได้ทุกสิ่งอย่าง

    ● สามารถประกาศให้โรคอะไรก็ตาม ที่แม้ยังไม่มีความเสี่ยงชัดเจน กลายเป็นโรคระบาด และเริ่มเห็นแล้วในกรณีของฝีดาษลิง ที่ให้ข่าวทั่วโลก ว่าจะเกิดระบาดแน่ และมีวัคซีนฝีดาษลิงออกมา แต่ในที่สุด ไม่สำเร็จที่จะบังคับให้คนทั้งโลกฉีดอีกครั้ง วัคซีนฝีดาษลิง มีผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเช่นกัน

    ● และในปัจจุบันคือเรื่องไข้หวัดนก โดยที่มีการพัฒนา mRNA วัคซีน จากกลุ่มเดิมที่ทำวัคซีนโควิด และได้รับทุนสนับสนุนจากกลุ่มเดิม ทั้ง NIH BARDA และถ้าร่วมอยู่ในภาคีสนธิสัญญานี้ อาจจะลงเอยที่ทุกคนต้องได้รับวัคซีน ทั้งๆที่ mRNA เทคโนโลยีเป็นของเดิม และไม่มีข้อพิสูจน์ว่าปลอดภัยกว่าที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตและพิการ ต่างถูกปฏิเสธจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ กระทั่งในสหรัฐอเมริกาเอง มีหลายมลรัฐที่ยื่นฟ้อง เฟาซี และพวก 12 คน และหน่วยงานของรัฐ ที่บังคับให้ฉีดวัคซีน โดยเป็นข้อหาอาชญากรรม ประทุษร้ายต่อชีวิตเป็นต้น

    🇹🇭 การคัดค้านสนธิสัญญานี้ โดยกลุ่มคนไทย แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง เครือข่ายสมาพันธ์ชาวนา สี่ถึง 50,000 ราย
    เกรงว่าในช่วงสงกรานต์นี้ กระทรวงสาธารณสุขอาจจะดำเนินการเอง และหมายความว่า ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องของการต้องฉีดวัคซีนตามสั่ง แต่ต้องทำการกักกันออกจากบ้าน การเดินทาง ต้องมีพาสปอร์ตวัคซีน ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายจากวัคซีน และยาต้องเป็นไปตามสั่ง ไม่สามารถใช้ยาอื่น ที่ทราบว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้าน และรักษาไวรัสนี้ได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงสมุนไพรต่างๆ ที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว และได้รับการพิสูจน์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แล้วด้วย

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://www.rookon.com/?p=696 กรณีมีคนจะร่วมลงชื่อเพิ่มครับ

    https://www.facebook.com/share/1DJ8XxPqN8/

    คัดค้าน WHO 24 พฤษภาคม 2567
    https://www.facebook.com/share/p/1BDG459tAu/
    ..คนไทยต้องตื่น เหมือนตื่นเล่นสงกรานต์จริงๆนะ ทั่วไทยเลย แชร์ต่อๆกันไปนะครับที่เข้ามาเห็น มาอ่านดูข่าวนี้. หมอดื้อ :- 📢🚩 สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ถ้ายอมรับสั่งอย่างไรต้องทำตาม เอาเช่นนั้นหรือ ________________________________________________________________________________ คนไทยต้อง ทราบขณะนี้ ถ้าทำตามสั่งคือความเสียหาย เรียกร้องจากองค์การอนามัยโลกไม่ได้ ว่าถือว่ายอมไปแล้ว ช่วยกันกระจายข่าวไปให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนไทยรับทราบ ว่ากระทรวงสาธารณสุขกำลังจะทำอะไรคนไทยครับ องค์การอนามัยโลกยื่นสนธิสัญญา WHO treaty มาให้ประเทศต่างๆ ยอมรับและเซ็นสัญญา หลังจากที่ถูกคัดค้านอย่างหนักมาในรอบแรก ● รอบนี้เดือนเมษายน 2025 กระทรวงสาธารณสุข อาจจะมีแนวโน้มทำตามองค์การอนามัยโลกทุกอย่าง นั่นหมายความว่า องค์การอนามัยโลกสามารถบงการได้ทุกสิ่งอย่าง ● สามารถประกาศให้โรคอะไรก็ตาม ที่แม้ยังไม่มีความเสี่ยงชัดเจน กลายเป็นโรคระบาด และเริ่มเห็นแล้วในกรณีของฝีดาษลิง ที่ให้ข่าวทั่วโลก ว่าจะเกิดระบาดแน่ และมีวัคซีนฝีดาษลิงออกมา แต่ในที่สุด ไม่สำเร็จที่จะบังคับให้คนทั้งโลกฉีดอีกครั้ง วัคซีนฝีดาษลิง มีผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเช่นกัน ● และในปัจจุบันคือเรื่องไข้หวัดนก โดยที่มีการพัฒนา mRNA วัคซีน จากกลุ่มเดิมที่ทำวัคซีนโควิด และได้รับทุนสนับสนุนจากกลุ่มเดิม ทั้ง NIH BARDA และถ้าร่วมอยู่ในภาคีสนธิสัญญานี้ อาจจะลงเอยที่ทุกคนต้องได้รับวัคซีน ทั้งๆที่ mRNA เทคโนโลยีเป็นของเดิม และไม่มีข้อพิสูจน์ว่าปลอดภัยกว่าที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตและพิการ ต่างถูกปฏิเสธจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ กระทั่งในสหรัฐอเมริกาเอง มีหลายมลรัฐที่ยื่นฟ้อง เฟาซี และพวก 12 คน และหน่วยงานของรัฐ ที่บังคับให้ฉีดวัคซีน โดยเป็นข้อหาอาชญากรรม ประทุษร้ายต่อชีวิตเป็นต้น 🇹🇭 การคัดค้านสนธิสัญญานี้ โดยกลุ่มคนไทย แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง เครือข่ายสมาพันธ์ชาวนา สี่ถึง 50,000 ราย เกรงว่าในช่วงสงกรานต์นี้ กระทรวงสาธารณสุขอาจจะดำเนินการเอง และหมายความว่า ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องของการต้องฉีดวัคซีนตามสั่ง แต่ต้องทำการกักกันออกจากบ้าน การเดินทาง ต้องมีพาสปอร์ตวัคซีน ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายจากวัคซีน และยาต้องเป็นไปตามสั่ง ไม่สามารถใช้ยาอื่น ที่ทราบว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้าน และรักษาไวรัสนี้ได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงสมุนไพรต่างๆ ที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว และได้รับการพิสูจน์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แล้วด้วย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.rookon.com/?p=696 กรณีมีคนจะร่วมลงชื่อเพิ่มครับ https://www.facebook.com/share/1DJ8XxPqN8/ คัดค้าน WHO 24 พฤษภาคม 2567 https://www.facebook.com/share/p/1BDG459tAu/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม

    💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️

    📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗

    🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี

    "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥

    คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท?

    🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨

    เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน

    ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น

    ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ

    ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์

    ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง

    ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า

    🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค…

    🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์

    🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น

    แต่คำเตือนเหล่านั้น...
    ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน
    ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร
    ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต

    “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น

    🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️

    เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨

    🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง

    🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก

    🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ!

    💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔

    ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️

    🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ...

    “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2

    บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢

    ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต

    🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว

    🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍

    🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม

    🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม

    🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง!

    🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้

    1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️
    2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆
    3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️
    4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶
    5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦
    6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻
    4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต
    8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗
    9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶
    10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️
    11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส
    12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥
    13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌
    14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง
    15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄
    16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎
    17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂
    18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ
    19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️
    20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌
    21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ
    22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง
    23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด
    24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง
    25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦

    📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457

    SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น

    ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ

    📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️

    🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม”

    ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568

    📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn

    🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม 💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️ 📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗 🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥 คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท? 🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨ เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์ ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า 🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค… 🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ 🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น แต่คำเตือนเหล่านั้น... ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น 🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️ เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨 🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง 🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก 🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ! 💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔 ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️ 🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ... “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2 บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢 ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต 🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว 🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍 🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม 🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม 🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง! 🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้ 1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️ 2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆 3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️ 4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶 5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦 6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻 4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต 8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗 9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶 10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️ 11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส 12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥 13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌 14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง 15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄 16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎 17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂 18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ 19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️ 20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌ 21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ 22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง 23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด 24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง 25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦 📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457 SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ 📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️ 🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม” ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568 📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1013 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

    ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร
    - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร
    - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย
    - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน

    ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น
    - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์
    - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง
    - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก

    ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio
    - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง
    - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง
    - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม

    ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน
    - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว

    ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง
    - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA
    - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน

    https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Biotech firm creates weight loss pill that mimics the effects of gastric bypass surgery
    SYNT-101 offers a novel approach to weight loss by temporarily altering nutrient absorption in the small intestine. Unlike GLP-1 drugs, which are administered via injection and often...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • DB Arnold Press
    โดนกล้ามเนื้อหัวไหล่(ทุกมัด)ในท่าเดียว
    DB Arnold Press โดนกล้ามเนื้อหัวไหล่(ทุกมัด)ในท่าเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอซากะเสนอแนวคิดใช้เนื้อเยื่อมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์ โดยใช้ คุณสมบัติของกล้ามเนื้อที่ตอบสนองต่อแรงกด เพื่อช่วยประมวลผลข้อมูล แนวคิดนี้อาจนำไปใช้ใน อุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ โดยที่ร่างกายทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบคำนวณ นักวิจัยพบว่า เทคนิคนี้มีความแม่นยำสูงกว่าวิธีดั้งเดิม แต่ยังต้องมีการศึกษาต่อไป

    ✅ หลักการของ reservoir computing และเนื้อเยื่อมนุษย์
    - ระบบนี้ใช้ เนื้อเยื่ออ่อนที่สามารถตอบสนองต่อแรงกดและความเครียดทางกายภาพ เพื่อทำหน้าที่เป็น "reservoir" ในการประมวลผลข้อมูล
    - นักวิจัยใช้ อัลตราซาวด์เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของข้อมือ และพบว่า รูปแบบการบิดตัวของกล้ามเนื้อสามารถอ่านค่าเป็นข้อมูลได้

    ✅ ศักยภาพของเทคโนโลยีนี้—อาจนำไปใช้ในอุปกรณ์สวมใส่
    - นักวิจัยเสนอว่า เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์
    - แทนที่อุปกรณ์จะใช้ ซีพียูภายนอก ระบบอาจสามารถประมวลผลโดยใช้ เนื้อเยื่อของมนุษย์เอง

    ✅ การทดสอบพบว่ามีความแม่นยำสูงกว่าโมเดลที่ไม่ได้พิจารณาคุณสมบัติเนื้อเยื่อ
    - ระบบสามารถ คาดการณ์ผลลัพธ์ในระบบไดนามิกที่ไม่เป็นเชิงเส้นได้แม่นยำกว่าปกติ
    - โมเดลนี้อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้น

    ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
    - นักวิจัยระบุว่า ยังมีงานวิจัยอีกมากที่ต้องดำเนินการ ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้จริงได้
    - อาจต้องศึกษาว่า เนื้อเยื่อของมนุษย์สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีเพียงใด

    https://www.techradar.com/pro/humans-as-hardware-no-not-the-name-of-a-new-matrix-movie-prequel-but-a-shocking-idea-about-human-tissue
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอซากะเสนอแนวคิดใช้เนื้อเยื่อมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์ โดยใช้ คุณสมบัติของกล้ามเนื้อที่ตอบสนองต่อแรงกด เพื่อช่วยประมวลผลข้อมูล แนวคิดนี้อาจนำไปใช้ใน อุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ โดยที่ร่างกายทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบคำนวณ นักวิจัยพบว่า เทคนิคนี้มีความแม่นยำสูงกว่าวิธีดั้งเดิม แต่ยังต้องมีการศึกษาต่อไป ✅ หลักการของ reservoir computing และเนื้อเยื่อมนุษย์ - ระบบนี้ใช้ เนื้อเยื่ออ่อนที่สามารถตอบสนองต่อแรงกดและความเครียดทางกายภาพ เพื่อทำหน้าที่เป็น "reservoir" ในการประมวลผลข้อมูล - นักวิจัยใช้ อัลตราซาวด์เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของข้อมือ และพบว่า รูปแบบการบิดตัวของกล้ามเนื้อสามารถอ่านค่าเป็นข้อมูลได้ ✅ ศักยภาพของเทคโนโลยีนี้—อาจนำไปใช้ในอุปกรณ์สวมใส่ - นักวิจัยเสนอว่า เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ - แทนที่อุปกรณ์จะใช้ ซีพียูภายนอก ระบบอาจสามารถประมวลผลโดยใช้ เนื้อเยื่อของมนุษย์เอง ✅ การทดสอบพบว่ามีความแม่นยำสูงกว่าโมเดลที่ไม่ได้พิจารณาคุณสมบัติเนื้อเยื่อ - ระบบสามารถ คาดการณ์ผลลัพธ์ในระบบไดนามิกที่ไม่เป็นเชิงเส้นได้แม่นยำกว่าปกติ - โมเดลนี้อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้น ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม - นักวิจัยระบุว่า ยังมีงานวิจัยอีกมากที่ต้องดำเนินการ ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้จริงได้ - อาจต้องศึกษาว่า เนื้อเยื่อของมนุษย์สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีเพียงใด https://www.techradar.com/pro/humans-as-hardware-no-not-the-name-of-a-new-matrix-movie-prequel-but-a-shocking-idea-about-human-tissue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีฝึกกล้ามเนื้อหน้าแข้ง (Tibialis Anterior)
    วิธีฝึกกล้ามเนื้อหน้าแข้ง (Tibialis Anterior)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • กล้ามเนื้อที่ "หัวไหล่" มี 3 มัด
    ใช้ท่าบริหารที่ต่างกัน
    กล้ามเนื้อที่ "หัวไหล่" มี 3 มัด ใช้ท่าบริหารที่ต่างกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ฝึกกล้ามเนื้อด้วย Dumbbell ให้ถูกท่า
    ฝึกกล้ามเนื้อด้วย Dumbbell ให้ถูกท่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ท่าฝึก เสริมสร้างความแข็งแรง
    -กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstings)
    -กล้ามก้น (Gluteus)
    -กล้ามต้นขาด้านหน้า(Quadriceps)
    ท่าฝึก เสริมสร้างความแข็งแรง -กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstings) -กล้ามก้น (Gluteus) -กล้ามต้นขาด้านหน้า(Quadriceps)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • 5 ท่าออกกำลังกายที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายทั้งตัว

    ในขณะที่ท่าออกกำลังกายแบบ Dead Lift, Squat ... ฯลฯ จะสร้างความแข็งแรงโดยการใช้กล้ามเนื้อหลายกลุ่มพร้อมกัน

    5 ท่าออกกำลังกายที่นำเสนอนี้ จะช่วยปรับปรุงการควบคุม ความเสถียร และการประสานงาน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่การยกน้ำหนักแบบเดิมๆ ขาดหายไป

    เมื่อท่านผสมผสานท่าออกกำลังกายที่ต้องใช้ร่างกายทั้งตัวเข้าด้วยกัน จะได้ฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานร่วมกัน โดยเพิ่มความแข็งแรงที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในกีฬา (ต่อสู้) หรือการเคลื่อนไหวประจำวัน ท่าออกกำลังกายประเภทนี้จะบังคับให้แกนกลางลำตัวของคุณมั่นคงภายใต้ภาระ ปรับปรุงการควบคุมในหลายระนาบ และพัฒนาความแข็งแรงในจุดที่อาจจะอ่อนแอ เสริมสร้างความเป็นนักกีฬา และสร้างความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อรับมือกับอาการบาดเจ็บ
    5 ท่าออกกำลังกายที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายทั้งตัว ในขณะที่ท่าออกกำลังกายแบบ Dead Lift, Squat ... ฯลฯ จะสร้างความแข็งแรงโดยการใช้กล้ามเนื้อหลายกลุ่มพร้อมกัน 5 ท่าออกกำลังกายที่นำเสนอนี้ จะช่วยปรับปรุงการควบคุม ความเสถียร และการประสานงาน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่การยกน้ำหนักแบบเดิมๆ ขาดหายไป เมื่อท่านผสมผสานท่าออกกำลังกายที่ต้องใช้ร่างกายทั้งตัวเข้าด้วยกัน จะได้ฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานร่วมกัน โดยเพิ่มความแข็งแรงที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในกีฬา (ต่อสู้) หรือการเคลื่อนไหวประจำวัน ท่าออกกำลังกายประเภทนี้จะบังคับให้แกนกลางลำตัวของคุณมั่นคงภายใต้ภาระ ปรับปรุงการควบคุมในหลายระนาบ และพัฒนาความแข็งแรงในจุดที่อาจจะอ่อนแอ เสริมสร้างความเป็นนักกีฬา และสร้างความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อรับมือกับอาการบาดเจ็บ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • เคล็ดไม่ลับ
    1. ฝึกกล้ามเนื้อก้น(ตอนบน)ให้แยกปลายเท้า หรือ ถ่างขา
    2. ฝึกกล้ามเนื้อหลัง(ส่วนล่าง)ให้ขนานปลายเท้า หรือ ขาชิด
    เคล็ดไม่ลับ 1. ฝึกกล้ามเนื้อก้น(ตอนบน)ให้แยกปลายเท้า หรือ ถ่างขา 2. ฝึกกล้ามเนื้อหลัง(ส่วนล่าง)ให้ขนานปลายเท้า หรือ ขาชิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • Barbell Squat ในท่าที่ถูกต้อง
    นอกจากการสร้างกล้ามเนื้อที่ได้ผลดี ยังลดอาการบาดเจ็บ และ สามารถเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกได้อีกด้วย
    Barbell Squat ในท่าที่ถูกต้อง นอกจากการสร้างกล้ามเนื้อที่ได้ผลดี ยังลดอาการบาดเจ็บ และ สามารถเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกได้อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • เทคนิค..การฝึกท่า SQUAT
    3 วิธี สควอช ให้ตรงจุด อยากได้กล้ามเนื้อมัดไหน วางขายังไง ไปดูกันค่ะ
    เทคนิค..การฝึกท่า SQUAT 3 วิธี สควอช ให้ตรงจุด อยากได้กล้ามเนื้อมัดไหน วางขายังไง ไปดูกันค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • การยกน้ำหนักแบบ Trap Bar และแบบ Barbell Deadlift ถือเป็นท่าออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่าง สะโพก และขา
    อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างทั้งสองอย่าง
    1. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์เป็นท่าเดดลิฟต์รูปแบบหนึ่งที่ใช้แทรปบาร์ (เรียกอีกอย่างว่าบาร์หกเหลี่ยม) แทนบาร์เบลแบบดั้งเดิม แทรปบาร์เป็นบาร์รูปหกเหลี่ยมที่มีด้ามจับอยู่ด้านในแทนที่จะเป็นด้านนอก การออกแบบนี้ช่วยให้จับได้สบาย..มากขึ้น ซึ่งช่วยลดความเครียดที่ไหล่และข้อมือได้
    2. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์โดยทั่วไปจะช่วยให้สะโพกและขาเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อสี่หัวเข่าและก้นทำงานมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นท่าออกกำลังกายที่ดีสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นกีฬา
    3. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์จะสร้างแรงกดดันที่หลังส่วนล่างน้อยกว่าเดดลิฟต์แบบบาร์เบลแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถออกกำลังกายได้
    โดยรวมแล้ว...ทั้งท่าเดดลิฟต์แบบแทรปบาร์และเดดลิฟต์แบบบาร์เบลเป็นท่าออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อ การเลือกใช้ท่าทั้งสองแบบจะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ความชอบ และข้อจำกัดหรืออาการบาดเจ็บของท่าน
    การยกน้ำหนักแบบ Trap Bar และแบบ Barbell Deadlift ถือเป็นท่าออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่าง สะโพก และขา อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างทั้งสองอย่าง 1. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์เป็นท่าเดดลิฟต์รูปแบบหนึ่งที่ใช้แทรปบาร์ (เรียกอีกอย่างว่าบาร์หกเหลี่ยม) แทนบาร์เบลแบบดั้งเดิม แทรปบาร์เป็นบาร์รูปหกเหลี่ยมที่มีด้ามจับอยู่ด้านในแทนที่จะเป็นด้านนอก การออกแบบนี้ช่วยให้จับได้สบาย..มากขึ้น ซึ่งช่วยลดความเครียดที่ไหล่และข้อมือได้ 2. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์โดยทั่วไปจะช่วยให้สะโพกและขาเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อสี่หัวเข่าและก้นทำงานมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นท่าออกกำลังกายที่ดีสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นกีฬา 3. เดดลิฟต์แบบแทรปบาร์จะสร้างแรงกดดันที่หลังส่วนล่างน้อยกว่าเดดลิฟต์แบบบาร์เบลแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถออกกำลังกายได้ โดยรวมแล้ว...ทั้งท่าเดดลิฟต์แบบแทรปบาร์และเดดลิฟต์แบบบาร์เบลเป็นท่าออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อ การเลือกใช้ท่าทั้งสองแบบจะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ความชอบ และข้อจำกัดหรืออาการบาดเจ็บของท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts