• [For Sale] ขายด่วน!! ถูกสุดในตลาด คอนโด 2 ห้องนอน คันทรี คอมเพล็กซ์ (Country Complex) บางนา 2 ล้านมีทอน ติดถนนสรรพาวุธ ใกล้ทางด่วน และ BTS บางนา
    .
    ห้องขนาดใหญ่ในราคาพิเศษสุดในตลาด
    -คอนโด 2 นอน ในราคา 1 นอน
    -ที่จอดรถ 2 คัน (Fix 1, วนจอด 1)
    -ห้องใหญ่จุใจ 77 ตร.ม.
    -คอนโดอายุเยอะ แต่สภาพดีมาก โครงสร้างแข็งแรง
    -เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าบางนา
    -ติดถนนสรรพาวุธ
    -ใกล้ถนนบางนา-ตราด
    .
    พิเศษเพียง 1.99 ล้านบาท Agent post
    .
    รายละเอียด
    -2 ห้องนอน
    -1 ห้องน้ำ
    -1 ห้องนั่งเล่น
    -ขนาด 77 ตร.ม.
    -ชั้น 15
    -ตึก B
    -เหมาะกับการซื้อไปรีโนเวทใหม่
    .
    ส่วนกลางโครงการ
    - Lobby
    - ห้องจดหมาย
    - สระว่ายน้ำฟิตเนส
    - สวนพักผ่อน
    - ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว
    - เข้า-ออกควบคุมด้วยคีย์การ์ด
    - CCTV
    - ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
    .
    สถานที่ใกล้เคียง :
    -รถไฟฟ้า BTS บางนา
    -วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ
    -วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก
    -ภิรัช ทาวเวอร์
    -เซ็นทรัลบางนา
    -ไบเทคบางนา
    -โรงเรียนอรรถวิทย์
    -ตลาดบางนา
    -โรงพยาบาลไทยนครินทร์
    -BANGKOK MALL
    -รพ.กล้วยน้ำไท 2
    .
    —————————————————————
    สนใจนัดชมติดต่อ: 083-013-1659
    Line: 0830131659
    __________________________________
    .
    #bangna #BTSบางนา #คันทรีคอมเพล็กซ์ #countrycomplex #condoสรรพาวุธ #สรรพาวุธ #คอนโดบางนา
    [For Sale] ขายด่วน!! ถูกสุดในตลาด คอนโด 2 ห้องนอน คันทรี คอมเพล็กซ์ (Country Complex) บางนา 2 ล้านมีทอน ติดถนนสรรพาวุธ ใกล้ทางด่วน และ BTS บางนา . ห้องขนาดใหญ่ในราคาพิเศษสุดในตลาด -คอนโด 2 นอน ในราคา 1 นอน -ที่จอดรถ 2 คัน (Fix 1, วนจอด 1) -ห้องใหญ่จุใจ 77 ตร.ม. -คอนโดอายุเยอะ แต่สภาพดีมาก โครงสร้างแข็งแรง -เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าบางนา -ติดถนนสรรพาวุธ -ใกล้ถนนบางนา-ตราด . พิเศษเพียง 1.99 ล้านบาท Agent post . รายละเอียด -2 ห้องนอน -1 ห้องน้ำ -1 ห้องนั่งเล่น -ขนาด 77 ตร.ม. -ชั้น 15 -ตึก B -เหมาะกับการซื้อไปรีโนเวทใหม่ . ส่วนกลางโครงการ - Lobby - ห้องจดหมาย - สระว่ายน้ำฟิตเนส - สวนพักผ่อน - ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว - เข้า-ออกควบคุมด้วยคีย์การ์ด - CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. . สถานที่ใกล้เคียง : -รถไฟฟ้า BTS บางนา -วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ -วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก -ภิรัช ทาวเวอร์ -เซ็นทรัลบางนา -ไบเทคบางนา -โรงเรียนอรรถวิทย์ -ตลาดบางนา -โรงพยาบาลไทยนครินทร์ -BANGKOK MALL -รพ.กล้วยน้ำไท 2 . ————————————————————— สนใจนัดชมติดต่อ: 083-013-1659 Line: 0830131659 __________________________________ . #bangna #BTSบางนา #คันทรีคอมเพล็กซ์ #countrycomplex #condoสรรพาวุธ #สรรพาวุธ #คอนโดบางนา
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101

    **จุดเด่น **

    -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน
    -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ
    -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System
    โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น
    -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
    -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    -Active Pavilion
    -Fitness
    -Boxing Camp
    -TRX Zone
    -Exclusive Lobby
    -24 hr. Reception
    -24 hrs. Concierge service
    -Waiting Lounge
    -Mailbox
    -Automated Parking
    -EV Charger
    -Co-Hobby Space
    -Sharing Space
    -Meeting Lounge
    -Individual Space
    -Locker for Hobby Equipments
    -Sky Infinity Edge Pool
    -Jacuzzi
    -Kid Pool
    -Sunken Viewpoint
    -Steam Room
    -Sunset Deck
    -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth
    -Keycard Access
    -CCTV
    -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม.
    -One อุดมสุข : 1.9 กม.
    -Century Movie Plaza : 2.0 กม.
    -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม.
    -Bangkok Mall : 2.2 กม.
    -Gateway เอกมัย : 4.0 กม.
    -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม.
    -Central บางนา : 5.5 กม.
    -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม.
    -Well International School : 2.0 กม.
    -Berkley International School : 3.0 กม.
    -Modern Montessori International : 3.6 กม.
    -St. Andrews International School : 5.4 กม.
    -Bangkok Pattana School : 6.2 กม.
    -International Community School (ICS) : 7.3 กม.
    -RAS Raffles American School : 8.2 กม.
    -Thai-Singapore International : 9.0 กม.
    -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม.
    -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม.
    -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม.
    -Camillian Hospital : 6.8 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101 **จุดเด่น ** -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ **สิ่งอำนวยความสะดวก** -Active Pavilion -Fitness -Boxing Camp -TRX Zone -Exclusive Lobby -24 hr. Reception -24 hrs. Concierge service -Waiting Lounge -Mailbox -Automated Parking -EV Charger -Co-Hobby Space -Sharing Space -Meeting Lounge -Individual Space -Locker for Hobby Equipments -Sky Infinity Edge Pool -Jacuzzi -Kid Pool -Sunken Viewpoint -Steam Room -Sunset Deck -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth -Keycard Access -CCTV -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. **สถานที่ใกล้เคียง** -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม. -One อุดมสุข : 1.9 กม. -Century Movie Plaza : 2.0 กม. -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม. -Bangkok Mall : 2.2 กม. -Gateway เอกมัย : 4.0 กม. -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม. -Central บางนา : 5.5 กม. -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม. -Well International School : 2.0 กม. -Berkley International School : 3.0 กม. -Modern Montessori International : 3.6 กม. -St. Andrews International School : 5.4 กม. -Bangkok Pattana School : 6.2 กม. -International Community School (ICS) : 7.3 กม. -RAS Raffles American School : 8.2 กม. -Thai-Singapore International : 9.0 กม. -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม. -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม. -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม. -Camillian Hospital : 6.8 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ

    เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย

    ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย

    หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม

    สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร

    ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน

    #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    Like
    Love
    6
    3 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • เหล่าติ่งทั้งหลาย…………มาช่วยส่งกำลังใจให้พี่ปูหน่อยเร้วววว……!!!

    ตอนสี่……เข้ามาจนใกล้……แต่ยังไปไม่ถึง……!!!

    และแล้ว ปูตินก็ได้ดินทางมาสู่ Dresden เยอรมันตะวันออกเพียงลำพังในเดือนสิงหาคม 1985 เพราะลุดมิลายังต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก มาเรีย (หรือ มาช่า) จนกว่าจะโตอีกนิดนึง
    เขาเข้าเริ่มงานในสำนักงานฝ่ายความมั่นคงของโซเวียต
    ที่เป็นที่ทำงานเดียวกับ KGB
    ปูตินกลายเป็น “Little Volodya” ในหมู่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา เพราะในหน่วยได้มีชื่อ Vladimir อยู่แล้วสองคน
    คนหนึ่งในหนวด ก็เป็น Mustahios Volodya
    อีกคนหนึ่งร่างยักษ์ ก็เป็น “Big Volodya”
    เขาเริ่มสับสนกับการทำงานในที่นี้ เพราะ เขาไม่ใช่ “Comrade Platov” อย่างควรจะเป็นในระบบของ KGB
    แต่กลายมาเป็น นายทหารธรรมดา ยศพันตรี แปะอกหรา…
    แล้วนี่มันเป็นสายลับชนิดไหนในโลก………!!!

    ต่อมาหลังจากที่เรียนรู้งาน เขาจึงทราบว่า การทำงานแบบอินเตอร์นี้ เขามาอย่างเปิดเผยพร้อมโปรไฟล์ พร้อมพาสปอร์ต
    ก็ต้องเล่นไปตามเกมส์
    งานใต้ดิน……จะแยกออกไปอีกสายหนึ่ง เรียกว่า Stasi (The Ministry for State Security หรือ Staatsischerheitdiest)
    ที่เป็นหน่วยงานของเยอรมันฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก่อตั้งในปี 1950
    สำนักงานใหญ่อยู่ที่ Lichtenberg, East Germany
    ที่ทางรัสเซียจะสั่งการลงไปอีกชั้นหนึ่ง ปูตินจึงกลายมาเป็นทหารนั่งออฟฟิศ คอยประสานกับหน่วยสตาซี
    สำนักงานของ Stasi, Dresden ก็อยู่บนชั้นสองในอาคารเดียวกัน หัวหน้าหน่วย ชื่อว่า Horst Böhm
    วันดีคืนดีก็กวักมือชวนกันไปเล่นฟุตบอล แมช ระหว่าง Stasi vs KGB

    การประสานงานนี้ แม้ว่าพันตรีปูตินจะเชี่ยวชาญในภาษาเยอรมัน แต่ปัญหาอื่นๆก็ตามมาคือการสื่อสารภาษาชาวบ้านในชีวิตประจำวัน ศัพท์แสลง ที่เขาไม่คุ้นเคย
    ทางหน่วยสตาซี จึงส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดทำการสอนอย่างติวเข้ม
    และอีกปัญหาหนึ่ง คือ เหล่าทหารเกณฑ์โซเวียตที่ได้มาประจำการในเยอรมัน ต่างกันหลุดวินัย เพราะเปรียบเทียบได้ว่า
    มาสู่เมืองสวรรค์ ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ นุ่กางเกงยีนส์ ดูหนังโป๊
    หรือแม้แต่เหล่านายทหารอีลีทที่มาอยู่ทั้งครอบครัว ก็ใช้จ่ายแบบฟุ้งเฟ้อ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด บางคนก็ส่งกลับไปขายในตลาดมืดที่โซเวียต

    ปูตินจึงเปรียบเสมือนกับได้เข้ามาอยู่ในโลกใหม่ เขาเองได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดเทียบเท่า หนึ่งร้อยยูเอสดอลล่าร์ (นับว่ามากโข)
    ใครต่อใครบอกเขาว่า การที่ได้มาประจำการที่นี่ คือ สุดยอดของความสุข แต่สำหรับเขานั้น……มันไม่ใช่..!!

    ลุดมิลาและลูกน้อยได้มาถึงในช่วงปลายปี เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้ามา พบกับตะกร้าใส่กล้วยหอมวางอยู่บนโต๊ะอาหารโด่เด่………ไม่มีแม้แต่ช่อดอกไม้……!!!
    เพียงแค่นั้น เธอก็พอที่จะรู้แล้วว่า……ทุกอย่างจะไม่ใช่เป็นอย่างที่เคยคิด……!!

    เจ้านายสายตรงของปูติน คือ Colonel Lazar Matveyev ที่เข้ากันได้ดีกับปูตินเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะมีประวัติการเป็นมาคล้ายๆกัน และชื่นชมในตัวลุดมิลา ที่เป็นหญิงฉลาด คล่องแคล่ว ไหวพริบดี
    ปูตินใช้ชีวิตอย่างง่ายๆสบายๆในเดรสเดน และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่ได้ซ้อมยูโดอย่างที่ทำเป็นประจำ อีกทั้งไม่เคยหยิบจับอะไรในเรื่องงานบ้าน ลุดมิลาได้ตั้งครรภ์ที่สอง
    เธอทำทุกอย่างในบ้าน
    รวมทั้งต้องเอาใจสามีที่ค่อนข้าง”เยอะ” ในเรื่องอาการการกิน
    อะไรที่ไม่ชอบ เขาจะไม่แตะเลย
    พอเธอบ่นเข้า……เขางัดเอาคติของรัสเซียโบราณขึ้นมาพูดลอยๆ……ว่า……ผู้หญิงยิ่งเอาใจ ยิ่งเคยตัว..!!!!
    และเขาไม่เคยจำวันครบรอบแต่งงานได้……
    ตอนที่ลุดมิลาจะต้องไปคลอดลูกคนเล็กนอนโรงพยาบาลต่อด้วยการพักฟื้นหลายวัน
    ปูตินจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเลี้ยงลูก ทำความสะอาด หุงหา ที่เขาบอกว่าเป็นงานที่หนักที่สุดในชีวิต
    ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนจับในน้ำเสียงได้ว่า เขาผิดหวังมากที่ไม่ได้ลูกชาย……
    ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างสบายเพราะได้ออกไปเที่ยวในวันหยุด มีเครื่องซักผ้า มีสเตอริโอ และมีเกมส์ทีวี (รุ่น Atari) เล่น
    แต่ลุดมิลาไม่มีความสุขเท่าที่ควร เพราะเธอไม่มีเพื่อน
    คบคุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้ เหมือนมีคนคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย
    แต่ปูตินก็มีเหตุผล……เพราะในหน่วยของเขาก็มีสายลับจากเยอรมันตะวันตกแฝงเข้ามา เท่าที่รู้คือ ล่ามที่เข้ามาทำการแปลให้ เป็นผู้หญิง (จาก BND = Bundesnachrichtendient) ที่มีโค้ดของตัวเองว่า BALCONY ที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมกับลุดมิลา จนเธอเชื่อใจ ยอมนินทาสามีให้ฟังว่า เป็นคนเข้มระเบียบ
    มีแอบเจ้าชู้ และชีวิตครอบครัวเริ่มมีปัญหา

    ปี 1986 ที่โซเวียตเริ่มมีปัญหาภายในเพราะสภาพเศรษฐกิจ
    ส่วนภายนอกคือความกดดันจากองค์กร NATO จนท่านผู้นำ
    Mikhail Gorbachev ยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องเครียดๆของสงครามเย็น
    ปี 1987 ปูตินได้เลื่อนยศเป็น พันโท และเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ นั่นหมายถึงเป็นเบอร์สองขององค์กร ใน Dresden ที่ต้องคอยควบคุมพฤติกรรมทุกย่างก้าวของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เข้มถึงขนาดห้ามมีการถ่ายรูปภายในบริเวณ
    สถานการณ์เริ่มอึมครึมในระหว่างกลุ่ม KGB และ Stasi
    เพราะกลุ่มสายลับตะวันตกเริ่มมีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องทางตะวันออกมากขึ้น มันบ่งบอกถึงสัญญาณอะไรบางอย่าง
    และ……นั่นคือ การลงนามระหว่างโรนัล รีแกน กับ กอร์บาเชฟ ในเรื่องสนธิสัญญาสันติภาพในขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป
    (จำกัดจำนวน ถ้ามีเกิน ทำลายทิ้ง) ที่เกิดขึ้นในเดือนต่อมา

    สัญญาณนั้นชี้ไปในทางทิศที่ว่า สงครามเย็นอาจจะจบสิ้นในไม่ช้า เพราะกอร์บาเชฟได้เห็นแล้วว่าโซเวียตยังล้าหลังจากยุโรปไปมาก ควรจะต้องเปิดใจปรับปรุงให้เป็นคอมมิวนิสต์ที่พัฒนาและยอมรับความจริง
    เพียงแต่……เหล่าสีแดงเข้ม ไม่เข้าใจ และไม่พอใจ เห็นต่างกับนโยบายของท่านผู้นำ
    เมื่อโซเวียตเริ่มอ่อนกำลัง ปี 1989 ฮังการีได้เปิดพรมแดนที่ติดกับออสเตรีย ให้คนต่างเดินทางไปมาหาสู่ได้
    นั่นคือที่มาของความระส่ำระสายในเยอรมันตะวันออก ที่ต่างเรียกร้องให้เปิดพรมแดน รวมทั้งเบอร์ลิน
    มีการเดินขบวนเรียกร้อง มีการลุกฮือก่อการวุ่นวายที่นั่นที่นี่
    ผู้พันปูตินเริ่มรู้สึกว่า หน่วยของเขาเริ่มถูกตัดรอนไปจากมอสโคว์ เพราะไม่ว่าจะส่งรายงานอะไรไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา
    อ่านบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!!

    ในที่สุดกำแพงเบอร์ลินได้ถูกทะลายลงในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 เกิดการชุมนุมขึ้นในทุกหย่อมหญ้าของแผ่นดิน
    ใน Dresden วันที่ 5 ธันวาคม ที่คนจำนวนร้อยๆได้มุ่งหน้ามาที่สำนักงาน KGB ผู้พันปูตินได้มองเห็นการเคลื่อนตัวมาจากชั้นบนของอาคาร
    จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…มวลชนเพิ่มเป็นจำนวนพัน……เมื่อถึงหน้าประตู ทุกคนอยู่ในสภาพคลั่ง โกรธแค้น ขว้างปา ด่าทอ
    เสียงคนตะโกนว่า ……ในอาคารมีช่องทางลับที่จะมุ่งไปสู่โรเมเนีย…มีคุกที่ทรมานนักโทษให้จมน้ำอยู่ครึ่งตัว…
    ตอนนั้น……ผู้พันปูตินขำไม่ออก……กับเรื่องเพ้อเจ้อที่แต่งกันขึ้นมาเพื่อที่จะเกลียดชังโซเวียต
    ที่ขำไม่ออก……เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากมอสโคว์
    ซึ่ง……ไม่ว่าจะส่งโทรเลขไปกี่ครั้ง แต่……ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา……!!
    ณ. นาทีนั้น เขาได้รู้ได้ทันทีว่า…ไม่มีโซเวียตอีกต่อไป ระบอบระบบทุกอย่างได้ล่มลงหมดแล้ว

    เขาตัดสินใจแต่งเครื่องแบบออกไป ไม่มีอาวุธ (เขาเอาปืนและบัตรประจำตัวสายลับไว้ในเซฟ) ออกพบกับฝูงชนเมื่อเวลาเที่ยงคืน พร้อมกับทหารอีกหยิบมือ เป็นการเจรจาที่มีรั้วเหล็กกั้น
    ฝ่ายมวลชนพยายามที่จะผลักประตูเข้ามา……
    ผู้พันปูตินประกาศด้วยภาษาเยอรมันที่ชัดเจน จนทุกคนประหลาดใจ ว่า…
    “สถานที่นี้เป็นของรัฐบาลโซเวียต ที่ฝ่ายมั่นคงข้างในได้มีการเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธ…หากว่ามีการล่วงล้ำเข้ามา
    ทุกคนรอฟังคำสั่งและสัญญาณจากผมเท่านั้น……กรุณารักษาความสงบ……”
    ได้ผลเกินร้อย……ทุกคนสงบลง เสียงโห่ร้องกลายเป็นการสนทนาสู่กันเบาๆ
    แล้ว……ผู้พันปูตินก็เดินหันหลังกลับเข้าไป…!!!

    ทุกอย่างที่ว่ามา……ไม่มีทั้งสิ้น ไม่มีกำลังพล ไม่มีอาวุธ มีแต่เจ้าหน้าที่เด็กๆที่ช่วยกันทำลายเผาเอกสารสำคัญกันทั้งวันทั้งคืน
    แต่……การที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากมอสโคว์………ยังเป็นฝันร้ายของผู้พันปูตินจนถึงทุกวันนี้……!!!

    เดือนกุมภาพันธ์ 1990 ผู้พันปูตินและลุดมิลาได้เตรียมตัวจัดกระเป๋า หีบห่อสัมภาระกลับสู่โซเวียต เขามีเงินเก็บไม่มากนักจากเงินเดือนที่ได้รับ ข้าวของจะถูกส่งกลับไปทางเรือ ส่วนเขา ลุดมิลาและลูกทั้งสองจะกลับทางรถไฟสู่มอสโคว์
    ระหว่างเดินทางกลับ เสื้อโค้ดและกระเป๋าถือของลุดมิลาถูกขโมยในระหว่างทาง……

    การกลับเข้าสู่ดินแดนของโซเวียตในครั้งนี้ ที่เขาต้องเจอกับความขาดแคลนไปในทุกสิ่ง ผู้คนที่ต้องใช้คูปองสงเคราะห์ในการซื้ออาหาร ข้าวของขาดตลาด การว่างงาน……
    แม้แต่ตัวผู้พันปูตินเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 จนผ่านมาสามเดือนก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน……ส่วนอาคารสงเคราะห์ที่จะเป็นที่อยู่อาศัยก็ยังไม่มี เพราะทุกแห่งเต็มไปหมด ถ้าจะรอก็ต้องใช้เวลาเป็นปี
    แต่ตัวปูตินเอง……เขาหมดความมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาลโซเวียต แม้ว่าจะถูกเสนองานใหม่ให้ในมอสโคว์
    ก็ยังปฏิเสธ……เขาอยากกลับไปที่เลนินกราดบ้านเกิด อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ได้…

    ที่เลนินกราด……เขาได้งานใหม่ (แต่ยังเป็น KGB) ในหน้าที่คณบดี ฝ่ายการเมืองต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย
    เลนินกราด (ที่เขาจบมา) หน้าที่ของเขาคือ ส่ายตาสอดส่องนักศึกษาและคนแปลกหน้า เท่ากับว่า เขาทำหน้าที่เช่นเดียวกับ Oleg Kalugin คนที่เคยนำเขาเข้าสู่ KGB เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษากฎหมายเมื่อปี 1975
    ปูตินเคยบ่นปรับทุกข์กับเพื่อนรัก Sergei Roldugin ว่าเขาอยากลาออกจากการเป็น KGB
    แต่คำตอบที่ได้รับคือ ……”นายเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า อดีตสายลับบ้างไหม……ไม่เคยละซิ เพราะถ้านายเป็น KGB แล้ว นายก็จะเป็นตลอดไป ต่อให้ไม่ได้อยู่ในองค์กร แต่นายก็ยังเป็น……เพราะ……มันคือจิตวิญญาณ……!!!”

    ที่มหาวิทยาลัย มีนักกฎหมายรุ่นพี่ที่จบจากที่เดียวกัน Anatoly Sobchak ที่เป็นผู้ที่เลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยโดยใช้กฎหมายบังคับ เขาชอบเล่นการเมือง (เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์)
    อนาโตลี มีความเลื่อมใสในกลุ่มนักกฏหมายไฟแรงที่หนึ่งในนั้น คือ Boris Yeltzin ที่ได้เป็นถึงหนึ่งคณะมนตรีในมอสโคว์
    อนาโตลี ต้องการใช้กฎหมายแบบระบบสากล คือ ไม่ว่าทหาร หรือ KGB ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นคนอื่นๆ หากว่ามีความผิด ดังที่เขาพยายามที่จะขัดค้นในเรื่องการสังหารหมู่ในชนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นในลิธัวเนีย, อาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจาน

    อนาโตลี ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี เลนินกราด……
    เขามีความรู้ มีความสามารถทางด้านวิชาการ เป็นนักพูดที่ดี
    แต่ไม่มีประสบการณ์กับชาวบ้าน และ การเป็นนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในบ้านเมืองที่ยังถูกควบคุมในระบอบคอมมิวนิสต์นั้น มันไม่น่าจะง่าย……
    เขาจึงติดต่อไปที่ Oleg Kalugin หัวหน้าหน่วยสายลับผู้เป็นเพื่อนรัก เพื่อช่วยหาคนที่ไว้ใจได้ รอบรู้ ให้มาช่วยงาน
    โอเลก……ได้ให้รายชื่อไปสองสามคน แต่ อนาโตลี บอกว่า
    มันชัดเจนไปเพราะผู้คนรู้จักแล้ว เขาอยากได้คนที่โนเนม และเป็นคนธรรมดาๆมากกว่า
    ชื่อของ Vladimir Putin จึงถูกเสนอขึ้นไป
    อนาโตลี……รับข้อเสนอนี้ทันที เพราะนอกจากคุณสมบัติล้นเหลือแล้ว ยังเป็นรุ่นน้องที่จบมาจากที่เดียวกันด้วย

    ในเดือนพฤษภาคม ปูตินไปพบกับอนาโตลี ในที่ทำงานที่
    Mariinsky Palace ที่อนาโตลีได้บอกให้เขาเข้ามาทำงานในวันจันทร์ได้เลย……
    ปูติน……ตอบว่า……
    “เดี๋ยวก่อนครับ……ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ ผมต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า นอกจากจะเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัยแล้ว……
    งานหลัก……ผมยังเป็น KGB อีกด้วย”

    เป็นการประจันหน้ากันระหว่าง อนาโตลี ผู้ใฝ่ประชาธิปไตย กับ
    วลาดิเมียร์ ปูติน สายลับใต้ดินตัวเก่งของโซเวียต…!!!

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน……แต่เพียงอึดใจเดียว
    อนาโตลีได้เข้ามาตบบ่าปูติน และบอกว่า…
    “KGB ก็ KGB ซิวะ………ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยนี่………!!!!

    Wiwanda W. Vichit
    เหล่าติ่งทั้งหลาย…………มาช่วยส่งกำลังใจให้พี่ปูหน่อยเร้วววว……!!! ตอนสี่……เข้ามาจนใกล้……แต่ยังไปไม่ถึง……!!! และแล้ว ปูตินก็ได้ดินทางมาสู่ Dresden เยอรมันตะวันออกเพียงลำพังในเดือนสิงหาคม 1985 เพราะลุดมิลายังต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก มาเรีย (หรือ มาช่า) จนกว่าจะโตอีกนิดนึง เขาเข้าเริ่มงานในสำนักงานฝ่ายความมั่นคงของโซเวียต ที่เป็นที่ทำงานเดียวกับ KGB ปูตินกลายเป็น “Little Volodya” ในหมู่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา เพราะในหน่วยได้มีชื่อ Vladimir อยู่แล้วสองคน คนหนึ่งในหนวด ก็เป็น Mustahios Volodya อีกคนหนึ่งร่างยักษ์ ก็เป็น “Big Volodya” เขาเริ่มสับสนกับการทำงานในที่นี้ เพราะ เขาไม่ใช่ “Comrade Platov” อย่างควรจะเป็นในระบบของ KGB แต่กลายมาเป็น นายทหารธรรมดา ยศพันตรี แปะอกหรา… แล้วนี่มันเป็นสายลับชนิดไหนในโลก………!!! ต่อมาหลังจากที่เรียนรู้งาน เขาจึงทราบว่า การทำงานแบบอินเตอร์นี้ เขามาอย่างเปิดเผยพร้อมโปรไฟล์ พร้อมพาสปอร์ต ก็ต้องเล่นไปตามเกมส์ งานใต้ดิน……จะแยกออกไปอีกสายหนึ่ง เรียกว่า Stasi (The Ministry for State Security หรือ Staatsischerheitdiest) ที่เป็นหน่วยงานของเยอรมันฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก่อตั้งในปี 1950 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ Lichtenberg, East Germany ที่ทางรัสเซียจะสั่งการลงไปอีกชั้นหนึ่ง ปูตินจึงกลายมาเป็นทหารนั่งออฟฟิศ คอยประสานกับหน่วยสตาซี สำนักงานของ Stasi, Dresden ก็อยู่บนชั้นสองในอาคารเดียวกัน หัวหน้าหน่วย ชื่อว่า Horst Böhm วันดีคืนดีก็กวักมือชวนกันไปเล่นฟุตบอล แมช ระหว่าง Stasi vs KGB การประสานงานนี้ แม้ว่าพันตรีปูตินจะเชี่ยวชาญในภาษาเยอรมัน แต่ปัญหาอื่นๆก็ตามมาคือการสื่อสารภาษาชาวบ้านในชีวิตประจำวัน ศัพท์แสลง ที่เขาไม่คุ้นเคย ทางหน่วยสตาซี จึงส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดทำการสอนอย่างติวเข้ม และอีกปัญหาหนึ่ง คือ เหล่าทหารเกณฑ์โซเวียตที่ได้มาประจำการในเยอรมัน ต่างกันหลุดวินัย เพราะเปรียบเทียบได้ว่า มาสู่เมืองสวรรค์ ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ นุ่กางเกงยีนส์ ดูหนังโป๊ หรือแม้แต่เหล่านายทหารอีลีทที่มาอยู่ทั้งครอบครัว ก็ใช้จ่ายแบบฟุ้งเฟ้อ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด บางคนก็ส่งกลับไปขายในตลาดมืดที่โซเวียต ปูตินจึงเปรียบเสมือนกับได้เข้ามาอยู่ในโลกใหม่ เขาเองได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดเทียบเท่า หนึ่งร้อยยูเอสดอลล่าร์ (นับว่ามากโข) ใครต่อใครบอกเขาว่า การที่ได้มาประจำการที่นี่ คือ สุดยอดของความสุข แต่สำหรับเขานั้น……มันไม่ใช่..!! ลุดมิลาและลูกน้อยได้มาถึงในช่วงปลายปี เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้ามา พบกับตะกร้าใส่กล้วยหอมวางอยู่บนโต๊ะอาหารโด่เด่………ไม่มีแม้แต่ช่อดอกไม้……!!! เพียงแค่นั้น เธอก็พอที่จะรู้แล้วว่า……ทุกอย่างจะไม่ใช่เป็นอย่างที่เคยคิด……!! เจ้านายสายตรงของปูติน คือ Colonel Lazar Matveyev ที่เข้ากันได้ดีกับปูตินเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะมีประวัติการเป็นมาคล้ายๆกัน และชื่นชมในตัวลุดมิลา ที่เป็นหญิงฉลาด คล่องแคล่ว ไหวพริบดี ปูตินใช้ชีวิตอย่างง่ายๆสบายๆในเดรสเดน และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่ได้ซ้อมยูโดอย่างที่ทำเป็นประจำ อีกทั้งไม่เคยหยิบจับอะไรในเรื่องงานบ้าน ลุดมิลาได้ตั้งครรภ์ที่สอง เธอทำทุกอย่างในบ้าน รวมทั้งต้องเอาใจสามีที่ค่อนข้าง”เยอะ” ในเรื่องอาการการกิน อะไรที่ไม่ชอบ เขาจะไม่แตะเลย พอเธอบ่นเข้า……เขางัดเอาคติของรัสเซียโบราณขึ้นมาพูดลอยๆ……ว่า……ผู้หญิงยิ่งเอาใจ ยิ่งเคยตัว..!!!! และเขาไม่เคยจำวันครบรอบแต่งงานได้…… ตอนที่ลุดมิลาจะต้องไปคลอดลูกคนเล็กนอนโรงพยาบาลต่อด้วยการพักฟื้นหลายวัน ปูตินจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเลี้ยงลูก ทำความสะอาด หุงหา ที่เขาบอกว่าเป็นงานที่หนักที่สุดในชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนจับในน้ำเสียงได้ว่า เขาผิดหวังมากที่ไม่ได้ลูกชาย…… ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างสบายเพราะได้ออกไปเที่ยวในวันหยุด มีเครื่องซักผ้า มีสเตอริโอ และมีเกมส์ทีวี (รุ่น Atari) เล่น แต่ลุดมิลาไม่มีความสุขเท่าที่ควร เพราะเธอไม่มีเพื่อน คบคุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้ เหมือนมีคนคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย แต่ปูตินก็มีเหตุผล……เพราะในหน่วยของเขาก็มีสายลับจากเยอรมันตะวันตกแฝงเข้ามา เท่าที่รู้คือ ล่ามที่เข้ามาทำการแปลให้ เป็นผู้หญิง (จาก BND = Bundesnachrichtendient) ที่มีโค้ดของตัวเองว่า BALCONY ที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมกับลุดมิลา จนเธอเชื่อใจ ยอมนินทาสามีให้ฟังว่า เป็นคนเข้มระเบียบ มีแอบเจ้าชู้ และชีวิตครอบครัวเริ่มมีปัญหา ปี 1986 ที่โซเวียตเริ่มมีปัญหาภายในเพราะสภาพเศรษฐกิจ ส่วนภายนอกคือความกดดันจากองค์กร NATO จนท่านผู้นำ Mikhail Gorbachev ยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องเครียดๆของสงครามเย็น ปี 1987 ปูตินได้เลื่อนยศเป็น พันโท และเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ นั่นหมายถึงเป็นเบอร์สองขององค์กร ใน Dresden ที่ต้องคอยควบคุมพฤติกรรมทุกย่างก้าวของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เข้มถึงขนาดห้ามมีการถ่ายรูปภายในบริเวณ สถานการณ์เริ่มอึมครึมในระหว่างกลุ่ม KGB และ Stasi เพราะกลุ่มสายลับตะวันตกเริ่มมีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องทางตะวันออกมากขึ้น มันบ่งบอกถึงสัญญาณอะไรบางอย่าง และ……นั่นคือ การลงนามระหว่างโรนัล รีแกน กับ กอร์บาเชฟ ในเรื่องสนธิสัญญาสันติภาพในขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป (จำกัดจำนวน ถ้ามีเกิน ทำลายทิ้ง) ที่เกิดขึ้นในเดือนต่อมา สัญญาณนั้นชี้ไปในทางทิศที่ว่า สงครามเย็นอาจจะจบสิ้นในไม่ช้า เพราะกอร์บาเชฟได้เห็นแล้วว่าโซเวียตยังล้าหลังจากยุโรปไปมาก ควรจะต้องเปิดใจปรับปรุงให้เป็นคอมมิวนิสต์ที่พัฒนาและยอมรับความจริง เพียงแต่……เหล่าสีแดงเข้ม ไม่เข้าใจ และไม่พอใจ เห็นต่างกับนโยบายของท่านผู้นำ เมื่อโซเวียตเริ่มอ่อนกำลัง ปี 1989 ฮังการีได้เปิดพรมแดนที่ติดกับออสเตรีย ให้คนต่างเดินทางไปมาหาสู่ได้ นั่นคือที่มาของความระส่ำระสายในเยอรมันตะวันออก ที่ต่างเรียกร้องให้เปิดพรมแดน รวมทั้งเบอร์ลิน มีการเดินขบวนเรียกร้อง มีการลุกฮือก่อการวุ่นวายที่นั่นที่นี่ ผู้พันปูตินเริ่มรู้สึกว่า หน่วยของเขาเริ่มถูกตัดรอนไปจากมอสโคว์ เพราะไม่ว่าจะส่งรายงานอะไรไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา อ่านบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!! ในที่สุดกำแพงเบอร์ลินได้ถูกทะลายลงในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 เกิดการชุมนุมขึ้นในทุกหย่อมหญ้าของแผ่นดิน ใน Dresden วันที่ 5 ธันวาคม ที่คนจำนวนร้อยๆได้มุ่งหน้ามาที่สำนักงาน KGB ผู้พันปูตินได้มองเห็นการเคลื่อนตัวมาจากชั้นบนของอาคาร จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…มวลชนเพิ่มเป็นจำนวนพัน……เมื่อถึงหน้าประตู ทุกคนอยู่ในสภาพคลั่ง โกรธแค้น ขว้างปา ด่าทอ เสียงคนตะโกนว่า ……ในอาคารมีช่องทางลับที่จะมุ่งไปสู่โรเมเนีย…มีคุกที่ทรมานนักโทษให้จมน้ำอยู่ครึ่งตัว… ตอนนั้น……ผู้พันปูตินขำไม่ออก……กับเรื่องเพ้อเจ้อที่แต่งกันขึ้นมาเพื่อที่จะเกลียดชังโซเวียต ที่ขำไม่ออก……เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากมอสโคว์ ซึ่ง……ไม่ว่าจะส่งโทรเลขไปกี่ครั้ง แต่……ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา……!! ณ. นาทีนั้น เขาได้รู้ได้ทันทีว่า…ไม่มีโซเวียตอีกต่อไป ระบอบระบบทุกอย่างได้ล่มลงหมดแล้ว เขาตัดสินใจแต่งเครื่องแบบออกไป ไม่มีอาวุธ (เขาเอาปืนและบัตรประจำตัวสายลับไว้ในเซฟ) ออกพบกับฝูงชนเมื่อเวลาเที่ยงคืน พร้อมกับทหารอีกหยิบมือ เป็นการเจรจาที่มีรั้วเหล็กกั้น ฝ่ายมวลชนพยายามที่จะผลักประตูเข้ามา…… ผู้พันปูตินประกาศด้วยภาษาเยอรมันที่ชัดเจน จนทุกคนประหลาดใจ ว่า… “สถานที่นี้เป็นของรัฐบาลโซเวียต ที่ฝ่ายมั่นคงข้างในได้มีการเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธ…หากว่ามีการล่วงล้ำเข้ามา ทุกคนรอฟังคำสั่งและสัญญาณจากผมเท่านั้น……กรุณารักษาความสงบ……” ได้ผลเกินร้อย……ทุกคนสงบลง เสียงโห่ร้องกลายเป็นการสนทนาสู่กันเบาๆ แล้ว……ผู้พันปูตินก็เดินหันหลังกลับเข้าไป…!!! ทุกอย่างที่ว่ามา……ไม่มีทั้งสิ้น ไม่มีกำลังพล ไม่มีอาวุธ มีแต่เจ้าหน้าที่เด็กๆที่ช่วยกันทำลายเผาเอกสารสำคัญกันทั้งวันทั้งคืน แต่……การที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากมอสโคว์………ยังเป็นฝันร้ายของผู้พันปูตินจนถึงทุกวันนี้……!!! เดือนกุมภาพันธ์ 1990 ผู้พันปูตินและลุดมิลาได้เตรียมตัวจัดกระเป๋า หีบห่อสัมภาระกลับสู่โซเวียต เขามีเงินเก็บไม่มากนักจากเงินเดือนที่ได้รับ ข้าวของจะถูกส่งกลับไปทางเรือ ส่วนเขา ลุดมิลาและลูกทั้งสองจะกลับทางรถไฟสู่มอสโคว์ ระหว่างเดินทางกลับ เสื้อโค้ดและกระเป๋าถือของลุดมิลาถูกขโมยในระหว่างทาง…… การกลับเข้าสู่ดินแดนของโซเวียตในครั้งนี้ ที่เขาต้องเจอกับความขาดแคลนไปในทุกสิ่ง ผู้คนที่ต้องใช้คูปองสงเคราะห์ในการซื้ออาหาร ข้าวของขาดตลาด การว่างงาน…… แม้แต่ตัวผู้พันปูตินเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 จนผ่านมาสามเดือนก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน……ส่วนอาคารสงเคราะห์ที่จะเป็นที่อยู่อาศัยก็ยังไม่มี เพราะทุกแห่งเต็มไปหมด ถ้าจะรอก็ต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ตัวปูตินเอง……เขาหมดความมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาลโซเวียต แม้ว่าจะถูกเสนองานใหม่ให้ในมอสโคว์ ก็ยังปฏิเสธ……เขาอยากกลับไปที่เลนินกราดบ้านเกิด อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ได้… ที่เลนินกราด……เขาได้งานใหม่ (แต่ยังเป็น KGB) ในหน้าที่คณบดี ฝ่ายการเมืองต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย เลนินกราด (ที่เขาจบมา) หน้าที่ของเขาคือ ส่ายตาสอดส่องนักศึกษาและคนแปลกหน้า เท่ากับว่า เขาทำหน้าที่เช่นเดียวกับ Oleg Kalugin คนที่เคยนำเขาเข้าสู่ KGB เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษากฎหมายเมื่อปี 1975 ปูตินเคยบ่นปรับทุกข์กับเพื่อนรัก Sergei Roldugin ว่าเขาอยากลาออกจากการเป็น KGB แต่คำตอบที่ได้รับคือ ……”นายเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า อดีตสายลับบ้างไหม……ไม่เคยละซิ เพราะถ้านายเป็น KGB แล้ว นายก็จะเป็นตลอดไป ต่อให้ไม่ได้อยู่ในองค์กร แต่นายก็ยังเป็น……เพราะ……มันคือจิตวิญญาณ……!!!” ที่มหาวิทยาลัย มีนักกฎหมายรุ่นพี่ที่จบจากที่เดียวกัน Anatoly Sobchak ที่เป็นผู้ที่เลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยโดยใช้กฎหมายบังคับ เขาชอบเล่นการเมือง (เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์) อนาโตลี มีความเลื่อมใสในกลุ่มนักกฏหมายไฟแรงที่หนึ่งในนั้น คือ Boris Yeltzin ที่ได้เป็นถึงหนึ่งคณะมนตรีในมอสโคว์ อนาโตลี ต้องการใช้กฎหมายแบบระบบสากล คือ ไม่ว่าทหาร หรือ KGB ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นคนอื่นๆ หากว่ามีความผิด ดังที่เขาพยายามที่จะขัดค้นในเรื่องการสังหารหมู่ในชนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นในลิธัวเนีย, อาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจาน อนาโตลี ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี เลนินกราด…… เขามีความรู้ มีความสามารถทางด้านวิชาการ เป็นนักพูดที่ดี แต่ไม่มีประสบการณ์กับชาวบ้าน และ การเป็นนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในบ้านเมืองที่ยังถูกควบคุมในระบอบคอมมิวนิสต์นั้น มันไม่น่าจะง่าย…… เขาจึงติดต่อไปที่ Oleg Kalugin หัวหน้าหน่วยสายลับผู้เป็นเพื่อนรัก เพื่อช่วยหาคนที่ไว้ใจได้ รอบรู้ ให้มาช่วยงาน โอเลก……ได้ให้รายชื่อไปสองสามคน แต่ อนาโตลี บอกว่า มันชัดเจนไปเพราะผู้คนรู้จักแล้ว เขาอยากได้คนที่โนเนม และเป็นคนธรรมดาๆมากกว่า ชื่อของ Vladimir Putin จึงถูกเสนอขึ้นไป อนาโตลี……รับข้อเสนอนี้ทันที เพราะนอกจากคุณสมบัติล้นเหลือแล้ว ยังเป็นรุ่นน้องที่จบมาจากที่เดียวกันด้วย ในเดือนพฤษภาคม ปูตินไปพบกับอนาโตลี ในที่ทำงานที่ Mariinsky Palace ที่อนาโตลีได้บอกให้เขาเข้ามาทำงานในวันจันทร์ได้เลย…… ปูติน……ตอบว่า…… “เดี๋ยวก่อนครับ……ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ ผมต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า นอกจากจะเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัยแล้ว…… งานหลัก……ผมยังเป็น KGB อีกด้วย” เป็นการประจันหน้ากันระหว่าง อนาโตลี ผู้ใฝ่ประชาธิปไตย กับ วลาดิเมียร์ ปูติน สายลับใต้ดินตัวเก่งของโซเวียต…!!! ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน……แต่เพียงอึดใจเดียว อนาโตลีได้เข้ามาตบบ่าปูติน และบอกว่า… “KGB ก็ KGB ซิวะ………ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยนี่………!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 725 Views 0 Reviews
  • ตำกล้วยตานี แซบๆ
    #ไทยปนลาว
    #ไทยปนลาวสาวแว่น
    ตำกล้วยตานี แซบๆ #ไทยปนลาว #ไทยปนลาวสาวแว่น
    0 Comments 0 Shares 118 Views 25 0 Reviews
  • ตักบาตร >>> วันที่ 1,620
    วันจันทร์: ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗ (9 September 2024)

    ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 22 รูป เป็นเงิน 306 บาท
    ตลาดบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

    สิ่งของ Set A: 15 บาท จำนวน 10 ชุด
    1. ขนมทอดกรอบ รสกล้วย นงชิม 45g. (10 บาท)
    2. คุกกี้ ช็อกโกแลต โอริโอ 27.6g. (3 บาท)
    3. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสดั้งเดิม 14g. (2 บาท)

    สิ่งของ Set B: 13 บาท จำนวน 12 ชุด
    1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ รสหมูสับ 60g. (6 บาท)
    2. ขนมธัญพืชอบกรอบ ซันไบทส์ 15g. (3 บาท)
    3. เลเยอร์เค้ก เฟอร์เชย์ รสใบเตย 15g. (2 บาท)
    4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท)
    #ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๖ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ตักบาตร >>> วันที่ 1,620 วันจันทร์: ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗ (9 September 2024) ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 22 รูป เป็นเงิน 306 บาท ตลาดบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สิ่งของ Set A: 15 บาท จำนวน 10 ชุด 1. ขนมทอดกรอบ รสกล้วย นงชิม 45g. (10 บาท) 2. คุกกี้ ช็อกโกแลต โอริโอ 27.6g. (3 บาท) 3. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสดั้งเดิม 14g. (2 บาท) สิ่งของ Set B: 13 บาท จำนวน 12 ชุด 1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ รสหมูสับ 60g. (6 บาท) 2. ขนมธัญพืชอบกรอบ ซันไบทส์ 15g. (3 บาท) 3. เลเยอร์เค้ก เฟอร์เชย์ รสใบเตย 15g. (2 บาท) 4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท) #ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๖ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน

    สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า

    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี

    ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว

    ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง

    สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย

    #ป่าหินงาม
    #ชัยภูมิ
    #ดอกกระเจียว


    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷 สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย #ป่าหินงาม #ชัยภูมิ #ดอกกระเจียว
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • เป็นพ่อค้ากล้วย มือใหม่หัดเล่นThaitimes
    ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
    เป็นพ่อค้ากล้วย มือใหม่หัดเล่นThaitimes ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • งานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่ และของดีเมืองกำแพง ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 25 กันยายน ถึงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่ และของดีเมืองกำแพง ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 25 กันยายน ถึงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • กล้วยแพงทั้งแผ่นดิน !
    21 สิงหาคม 2567-จากการสำรวจตลาดผลไม้ พบว่าราคากล้วยแพงมาก แม่ค้าขายกล้วย กล่าวว่า สาเหตุที่ ราคาปรับขึ้นอาจจะเป็นช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาอากาศแล้งจัด ทำให้กล้วยชาวสวนตายไปเยอะ ความต้องการเท่าเดิมแต่ผลผลิตน้อยลงทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมเคยขายหวีละ 35 บาท ต้องขายในราคา 50-60 บาท

    "ราคากล้วยน้ำว้าไม่เคยแพงเท่านี้มาก่อนแพงที่สุดตั้งแต่เคยขายมา แต่ช่วงนี้กล้วยไทยก็เริ่มออกผลแล้วเพราะว่าฝนตกลงมา แต่ก็อีกหลายเดือนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ช่วงนี้ต้องใช้กล้วยจากประเทศเวียดนามไปก่อน ขายยากขึ้นเพราะว่าลูกค้าไม่ค่อยสู้ราคาลูกค้ามีบ่นบ้างแต่ก็อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ".

    #Thaitimes
    กล้วยแพงทั้งแผ่นดิน ! 21 สิงหาคม 2567-จากการสำรวจตลาดผลไม้ พบว่าราคากล้วยแพงมาก แม่ค้าขายกล้วย กล่าวว่า สาเหตุที่ ราคาปรับขึ้นอาจจะเป็นช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาอากาศแล้งจัด ทำให้กล้วยชาวสวนตายไปเยอะ ความต้องการเท่าเดิมแต่ผลผลิตน้อยลงทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมเคยขายหวีละ 35 บาท ต้องขายในราคา 50-60 บาท "ราคากล้วยน้ำว้าไม่เคยแพงเท่านี้มาก่อนแพงที่สุดตั้งแต่เคยขายมา แต่ช่วงนี้กล้วยไทยก็เริ่มออกผลแล้วเพราะว่าฝนตกลงมา แต่ก็อีกหลายเดือนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ช่วงนี้ต้องใช้กล้วยจากประเทศเวียดนามไปก่อน ขายยากขึ้นเพราะว่าลูกค้าไม่ค่อยสู้ราคาลูกค้ามีบ่นบ้างแต่ก็อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ". #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 229 Views 1 Reviews
  • ไหนๆก็ไหนๆสำหรับคนที่ยังเข้าใจผิด
    #ไปกล่าวหาว่าคุณหญิงหน่อยไปซูฮกโทนี่
    และเห็นด้วยกับสส.ลูกพรรคที่ไปยกมือสนับสนุน
    และบอกเป็นละครนั้น
    พี่คิงส์ฯไม่อยากให้แฟนเพจหลงทางข่าวสาร
    หญิงหน่อยเป็นคนที่เจ็บตัวมากที่สุด ที่พาพรรค
    ไปสู่พรรคเพื่อไทยห่างจากอนาคตใหม่ไม่กี่คะแนน
    แต่สุดท้าย โทนี่ส่งเมีย ส่งน้องมาป่วนพรรค
    ยึดอำนาจคืน และเขี่ยคนของหญิงหน่อยให้อยู่ไม่ได้
    มันเป็นยิ่งกว่าความโกรธ แต่มันคือความแค้นที่จำจนวันตรุย
    คุณหญิงก็สู้อุตส่าห์มาเริ่มใหม่ เพื่อสานความตั้งใจทางการเมือง
    ฟูมฟักคนที่ไม่เคยได้เป็นสส.เลย สอบตกทุกคน
    เอามาผลักดันจนได้เป็น สส.ถึงหกคน
    แต่สุดท้าย โทนี่แอบติดต่อยัดกล้วยให้หกสส.
    มายกมือสนับสนุนอิ๊งหน้าตาเฉย
    ยิ่งกว่าการถูกข้ามหัว แต่มันคือการหยามศักดิ์ศรี
    ดังนั้น ตอนนี้หญิงหน่อยรู้สึกถึงการถูกคุ-ก-ค-า-ม
    และจากนี้ไป คิงส์บอกเลย หญิงหน่อยนี่แหละ
    ที่จะสั่นคลอนเพื่อไทยให้ระส่ำ ให้โทนี่ต้องไร้ซึ่งความสุข
    และไม่ใช่หญิงหน่อยคนเดียวนะ คนจองกฐินเพียบ
    อยู่บำรุง และอีกหลายๆคน
    ตอนนี้เค้ารอให้อิ๊งถวายสัตย์ก่อนให้เป็นนายกแบบสมบูรณ์ก่อน
    แล้วเตรียมรับแรงพ-า-ยุ-แห่งกรรมได้เลย โทนี่เอ๊ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ไหนๆก็ไหนๆสำหรับคนที่ยังเข้าใจผิด #ไปกล่าวหาว่าคุณหญิงหน่อยไปซูฮกโทนี่ และเห็นด้วยกับสส.ลูกพรรคที่ไปยกมือสนับสนุน และบอกเป็นละครนั้น พี่คิงส์ฯไม่อยากให้แฟนเพจหลงทางข่าวสาร หญิงหน่อยเป็นคนที่เจ็บตัวมากที่สุด ที่พาพรรค ไปสู่พรรคเพื่อไทยห่างจากอนาคตใหม่ไม่กี่คะแนน แต่สุดท้าย โทนี่ส่งเมีย ส่งน้องมาป่วนพรรค ยึดอำนาจคืน และเขี่ยคนของหญิงหน่อยให้อยู่ไม่ได้ มันเป็นยิ่งกว่าความโกรธ แต่มันคือความแค้นที่จำจนวันตรุย คุณหญิงก็สู้อุตส่าห์มาเริ่มใหม่ เพื่อสานความตั้งใจทางการเมือง ฟูมฟักคนที่ไม่เคยได้เป็นสส.เลย สอบตกทุกคน เอามาผลักดันจนได้เป็น สส.ถึงหกคน แต่สุดท้าย โทนี่แอบติดต่อยัดกล้วยให้หกสส. มายกมือสนับสนุนอิ๊งหน้าตาเฉย ยิ่งกว่าการถูกข้ามหัว แต่มันคือการหยามศักดิ์ศรี ดังนั้น ตอนนี้หญิงหน่อยรู้สึกถึงการถูกคุ-ก-ค-า-ม และจากนี้ไป คิงส์บอกเลย หญิงหน่อยนี่แหละ ที่จะสั่นคลอนเพื่อไทยให้ระส่ำ ให้โทนี่ต้องไร้ซึ่งความสุข และไม่ใช่หญิงหน่อยคนเดียวนะ คนจองกฐินเพียบ อยู่บำรุง และอีกหลายๆคน ตอนนี้เค้ารอให้อิ๊งถวายสัตย์ก่อนให้เป็นนายกแบบสมบูรณ์ก่อน แล้วเตรียมรับแรงพ-า-ยุ-แห่งกรรมได้เลย โทนี่เอ๊ย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • กล้วยแปดหวีมณีแปดเด้ง
    แฟนเพจแจ้งมาเลยไปสืบดู
    ของแทร่ เพื่อนเก่าที่สนิทกันมาก
    โอ๊คเพื่อนธร ธรเพื่อนโอ๊ค
    คนไหนคนขายคนไหนคนซื้อ
    เดาเอาเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กล้วยแปดหวีมณีแปดเด้ง แฟนเพจแจ้งมาเลยไปสืบดู ของแทร่ เพื่อนเก่าที่สนิทกันมาก โอ๊คเพื่อนธร ธรเพื่อนโอ๊ค คนไหนคนขายคนไหนคนซื้อ เดาเอาเอง #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • #เมนู #ขนม #กล้วย

    น่ากินมาก...

    ขอบคุณเจ้าของสูตรมากครับ
    ที่นำมาแบ่งปัน

    #เมนู #ขนม #กล้วย น่ากินมาก...👍👍👍 ขอบคุณเจ้าของสูตรมากครับ ที่นำมาแบ่งปัน 🙏🙏🙏👍👍👍
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • #เสรีหางโผล่ผู้อยู่เบื้องหลังวางแผนโจ๊กพ้นคดีย์
    ในที่สุดตัวละครตัวสำคัญก็ออกหน้าชัดเจน
    ในขณะที่การสอบสวนคดีย์โจ๊กที่มีสายโยงเงินเทา
    มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ลูกน้องรอบตัวโจ๊กไม่รอด
    แม้โจ๊กจะโยนทุกอย่างให้ลูกน้องตามนิสัย
    แต่การเชื่อมโยงเส้นทางสีเทามันหนีไม่ได้
    จึงเป็นที่มาของการถูกออกจากราชการ
    ก็ดูเหมือนจะมีหมาแก่ และเสรี ที่พยายามบิดข้อเท็จจริง
    ว่าเป็นการทะเลาะ การวางเกมส์ตำแหน่งกันในวงการสีกากี
    สุดท้ายความจริงก็คือความจริง
    เมื่อวันนี้ ที่คณะกรรมการตำรวจได้ลงมติเอกฉันท์
    ว่าคำสั่งให้โจ๊กออกจากราชการนั้นชอบด้วยกฏหมาย
    ที่หลายคนไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปต่ออย่างไร
    อย่างที่รู้ๆกันดีว่า สุรเชษฐ์ต้องการกลับมาตำแหน่ง ผบตร.
    ก็เพื่อยังมีอำนาจที่จะเข้ามาขับเคลื่นอคดีย์ของตัวเอง
    ป่วนทั้งพยานหลักฐาน เพื่อให้พ้นผิด
    แต่เมื่อถูกปลด สายบังคับบัญชาขาดตอน
    สั่งใครก็ไม่หัน โจ๊กจึงดิ้นสุดชีวีเพื่อรักษาอำนาจ
    แต่การที่มีมติแบบนี้ ถึงแม้เสรีจะช่วยวางแผน
    ให้สุรเชษฐ์อุทรณ์ต่อแต่กว่าจะเสร็จกระบวนการแม้ชนะ
    ก็ต้องใช้เวลา 3 - 5 ปี ซึ่งเวลานั้น สุรเชษฐ์ก็หมดโอกาส
    ที่จะได้กลับมาอำนาจด้วยอายุราชการ
    โดยเสรีพิสุทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ วีนแตก
    ทั้งการหมิ่นประมาทคณะกรรมการที่ลงมติ
    ว่าหวังผลประโยชน์ต่างๆนาๆโดยไม่เกรงกลัวจะถูกดำเนินคดีย์
    ซ้ำยังหลุดปากว่า จะให้โจ๊กฟ้องให้รอบองค์กรตำรวจ
    พูดง่ายๆ เมื่อโจ๊กไม่มีความสุขระหว่างนี้ก็อย่าหวังให้ใครมีความสุข
    ทั้ง ดนัยหมาแก่ เสรีพิสุทธิ์ และทนายตั้มทนายสายเทาที่มีเอี่ยวกับผลประโยชน์เว็บออนไลน์ของโจ๊ก รวมถึงสรย้วยที่เป็นสื่อที่เข้าข้างสุรเชษฐ์อย่างออกหน้าออกตา จะมีท่าทีอย่างไรต่อไป
    หรือเมื่อผลออกมาแบบนี้ จะกลายเป็นซากแมวที่ไม่มีใครเหลียวแล
    เหลือแต่เพียงเสรีพิสุทธิ์ที่ไม่แน่ใจว่า โจ๊กแบ่งกล้วยให้ไปมากน้อยแค่ไหน
    เสรีจึงได้ออกตัวแรง เหมือนเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชษฐ์
    ทั้งๆที่ตัวเอง ยึดถือศักดิ์ศรี เรียกตัวเองว่าวีระบุษนาแก
    แต่กลับหัวฟัดหัวเหวี่ยงหาทางช่วยอดีตนายตำรวจที่มีความผิดอาญาที่มีหลักฐานชัดเจนเพียงนี้
    หรือเพราะเมียน้อยใช้ตังค์เก่ง เลยต้องเอากล้วยของโจ๊กมาเปย์
    งั้นเปลี่ยนเถอะ ฉายาวีรบุรุษนาแก เป็น
    "เสรีพิสูทธ์" วีระบุรษ นากีย์"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    จะ
    #เสรีหางโผล่ผู้อยู่เบื้องหลังวางแผนโจ๊กพ้นคดีย์ ในที่สุดตัวละครตัวสำคัญก็ออกหน้าชัดเจน ในขณะที่การสอบสวนคดีย์โจ๊กที่มีสายโยงเงินเทา มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ลูกน้องรอบตัวโจ๊กไม่รอด แม้โจ๊กจะโยนทุกอย่างให้ลูกน้องตามนิสัย แต่การเชื่อมโยงเส้นทางสีเทามันหนีไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการถูกออกจากราชการ ก็ดูเหมือนจะมีหมาแก่ และเสรี ที่พยายามบิดข้อเท็จจริง ว่าเป็นการทะเลาะ การวางเกมส์ตำแหน่งกันในวงการสีกากี สุดท้ายความจริงก็คือความจริง เมื่อวันนี้ ที่คณะกรรมการตำรวจได้ลงมติเอกฉันท์ ว่าคำสั่งให้โจ๊กออกจากราชการนั้นชอบด้วยกฏหมาย ที่หลายคนไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปต่ออย่างไร อย่างที่รู้ๆกันดีว่า สุรเชษฐ์ต้องการกลับมาตำแหน่ง ผบตร. ก็เพื่อยังมีอำนาจที่จะเข้ามาขับเคลื่นอคดีย์ของตัวเอง ป่วนทั้งพยานหลักฐาน เพื่อให้พ้นผิด แต่เมื่อถูกปลด สายบังคับบัญชาขาดตอน สั่งใครก็ไม่หัน โจ๊กจึงดิ้นสุดชีวีเพื่อรักษาอำนาจ แต่การที่มีมติแบบนี้ ถึงแม้เสรีจะช่วยวางแผน ให้สุรเชษฐ์อุทรณ์ต่อแต่กว่าจะเสร็จกระบวนการแม้ชนะ ก็ต้องใช้เวลา 3 - 5 ปี ซึ่งเวลานั้น สุรเชษฐ์ก็หมดโอกาส ที่จะได้กลับมาอำนาจด้วยอายุราชการ โดยเสรีพิสุทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ วีนแตก ทั้งการหมิ่นประมาทคณะกรรมการที่ลงมติ ว่าหวังผลประโยชน์ต่างๆนาๆโดยไม่เกรงกลัวจะถูกดำเนินคดีย์ ซ้ำยังหลุดปากว่า จะให้โจ๊กฟ้องให้รอบองค์กรตำรวจ พูดง่ายๆ เมื่อโจ๊กไม่มีความสุขระหว่างนี้ก็อย่าหวังให้ใครมีความสุข ทั้ง ดนัยหมาแก่ เสรีพิสุทธิ์ และทนายตั้มทนายสายเทาที่มีเอี่ยวกับผลประโยชน์เว็บออนไลน์ของโจ๊ก รวมถึงสรย้วยที่เป็นสื่อที่เข้าข้างสุรเชษฐ์อย่างออกหน้าออกตา จะมีท่าทีอย่างไรต่อไป หรือเมื่อผลออกมาแบบนี้ จะกลายเป็นซากแมวที่ไม่มีใครเหลียวแล เหลือแต่เพียงเสรีพิสุทธิ์ที่ไม่แน่ใจว่า โจ๊กแบ่งกล้วยให้ไปมากน้อยแค่ไหน เสรีจึงได้ออกตัวแรง เหมือนเป็นพ่อบุญธรรมของสุรเชษฐ์ ทั้งๆที่ตัวเอง ยึดถือศักดิ์ศรี เรียกตัวเองว่าวีระบุษนาแก แต่กลับหัวฟัดหัวเหวี่ยงหาทางช่วยอดีตนายตำรวจที่มีความผิดอาญาที่มีหลักฐานชัดเจนเพียงนี้ หรือเพราะเมียน้อยใช้ตังค์เก่ง เลยต้องเอากล้วยของโจ๊กมาเปย์ งั้นเปลี่ยนเถอะ ฉายาวีรบุรุษนาแก เป็น "เสรีพิสูทธ์" วีระบุรษ นากีย์" #คิงส์โพธิ์แดง จะ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
  • #โทนี่ป่วยทิพย์ไม่โอละพ่อ
    ล่าสุด แพทยสภาพเร่งสอบวินัยหมอที่ช่วยโทนี่
    ทั้งที่ รพ.ตำรวจ และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
    ละอองแห่งความซั่วที่กระจายไปโดนคนระดับหมอ
    เพียงเพราะโทนี่ไม่ห่วงใครจริง
    จึงไม่เกรงกลัวว่าหมอที่เซ็นว่าตนป่วยจะเดือดร้อน
    ออกมาได้ก็ร่อนไปทั่ว ว่ายน้ำตีกอร์ฟ ให้สะใจตัวเอง
    หมอกินกล้วยเลยต้องซวย และต้องถูกถอนใบอนุญาตหมอ
    ตลอดชีพ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ป่วยทิพย์
    #โทนี่ป่วยทิพย์ไม่โอละพ่อ ล่าสุด แพทยสภาพเร่งสอบวินัยหมอที่ช่วยโทนี่ ทั้งที่ รพ.ตำรวจ และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ละอองแห่งความซั่วที่กระจายไปโดนคนระดับหมอ เพียงเพราะโทนี่ไม่ห่วงใครจริง จึงไม่เกรงกลัวว่าหมอที่เซ็นว่าตนป่วยจะเดือดร้อน ออกมาได้ก็ร่อนไปทั่ว ว่ายน้ำตีกอร์ฟ ให้สะใจตัวเอง หมอกินกล้วยเลยต้องซวย และต้องถูกถอนใบอนุญาตหมอ ตลอดชีพ #คิงส์โพธิ์แดง #ป่วยทิพย์
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ หลวงวิจารณ์ฯ เนื้อศิลาธิคุณ หรือเนื้อหินอ่อน
    จากศิลาจารึกพระคาถาธรรมิกราช อาจารย์ประถม อาจสาคร กล่าวว่า สร้างโดยวิธีจารพระคาถาลงในแผ่นหินแล้วนำมาย่อยป่นในเนื้อพระ มีสรรพคุณทางกันอหิวาตกโรค หินอ่อนนี้ยังมีฝังอยู่ที่สระน้ำวัดระฆังและสระน้ำวัดอินทรวิหาร ถือว่าเป็นพระที่หายากมากในตระกูลพระสมเด็จฯ
    .
    เปิดบูชา ราคา 2,500 บาท ( ได้มาเพียงองค์เดียวเมื่อ 15 ปีที่แล้ว )
    .
    ศิลาธิคุณ กายสิทธิ์ของสมเด็จพุฒจารย์โต
    ศิลาธิคุณหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฤาษีผสมแล้ว ถือเป็นมวลสารหลัก ที่ใช้สร้างพระสมเด็จนอกจากตัวประสาน (ปูนเพชร นํ้าตาลอ้อยและกล้วย) มีลักษณะภายนอก คล้ายหินอ่อน มีความร่วนตัวเปราะเมื่อพบครั้งแรกๆ เมื่อโดนอากาศ จะค่อยๆแข็งขึ้น อย่างเดียวกับศิลาแลง จึงนำมาเป็นส่วนผสม และมวลสารชนิดนี้เองทำให้เนื้อพระสมเด็จมีความแตกต่างจากเนื้อปูนผสมอื่นๆเป็นตัวทำให้พระสมเด็จมีความหนึกนุ่มที่สารถมองทางลึกได้(เนื้อมีความโปร่งใส)โดยมวลสารต่างๆจะถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อศิลาธิคุณ นี่เอง นอกจากปรากฎเป็นเนื้อหลักแล้วส่วนศิลาธิคุณ ยังปรากฎให้สังเกตเห็นในพระสมเด็จเป็นก้อนเล็กๆเกือบทุกองค์ ชึงบางทีเข้าใจว่าเป็นก้อนผงวิเศษ ก็มีแต่ผู้ชำนาญจะแยกออกได้ว่าจุดขาวใสที่เห็นศิลาธิคุณหรือผงดินสอวิเศษ
    ตอนแรกไม่คิดว่า เรื่องศิลาธิคุณจะมีจริงเหมือนกัน และไม่คิดว่าจะได้มวลสารที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จฯถึงเพียงนี้
    .
    ที่มาของมวลสาร เดิมครั้งเมื่อเปิดกรุเป็นทางการ กำนันชูชาติ มากสัมพันธ์ได้เช่าบูชาพระสมเด็จบางขุนพรหม มาหลายแสนบาท วัดจึงแถมก้อนที่อยู่ก้นกรุให้ 1 ชิ้น โดยวัดเองก็ไม่ทราบว่าอะไร ต่อมาผงนี้เกิดการเปลี่ยนมือมาอีก 2 ครั้ง โดยตั้งใจว่าจะใช้สร้างพระของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน ฯลฯ ก็ไม่มีใครกล้าบดเป็นมวลสารเสียที
    พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ หลวงวิจารณ์ฯ เนื้อศิลาธิคุณ หรือเนื้อหินอ่อน จากศิลาจารึกพระคาถาธรรมิกราช อาจารย์ประถม อาจสาคร กล่าวว่า สร้างโดยวิธีจารพระคาถาลงในแผ่นหินแล้วนำมาย่อยป่นในเนื้อพระ มีสรรพคุณทางกันอหิวาตกโรค หินอ่อนนี้ยังมีฝังอยู่ที่สระน้ำวัดระฆังและสระน้ำวัดอินทรวิหาร ถือว่าเป็นพระที่หายากมากในตระกูลพระสมเด็จฯ . เปิดบูชา ราคา 2,500 บาท ( ได้มาเพียงองค์เดียวเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ) . ศิลาธิคุณ กายสิทธิ์ของสมเด็จพุฒจารย์โต ศิลาธิคุณหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฤาษีผสมแล้ว ถือเป็นมวลสารหลัก ที่ใช้สร้างพระสมเด็จนอกจากตัวประสาน (ปูนเพชร นํ้าตาลอ้อยและกล้วย) มีลักษณะภายนอก คล้ายหินอ่อน มีความร่วนตัวเปราะเมื่อพบครั้งแรกๆ เมื่อโดนอากาศ จะค่อยๆแข็งขึ้น อย่างเดียวกับศิลาแลง จึงนำมาเป็นส่วนผสม และมวลสารชนิดนี้เองทำให้เนื้อพระสมเด็จมีความแตกต่างจากเนื้อปูนผสมอื่นๆเป็นตัวทำให้พระสมเด็จมีความหนึกนุ่มที่สารถมองทางลึกได้(เนื้อมีความโปร่งใส)โดยมวลสารต่างๆจะถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อศิลาธิคุณ นี่เอง นอกจากปรากฎเป็นเนื้อหลักแล้วส่วนศิลาธิคุณ ยังปรากฎให้สังเกตเห็นในพระสมเด็จเป็นก้อนเล็กๆเกือบทุกองค์ ชึงบางทีเข้าใจว่าเป็นก้อนผงวิเศษ ก็มีแต่ผู้ชำนาญจะแยกออกได้ว่าจุดขาวใสที่เห็นศิลาธิคุณหรือผงดินสอวิเศษ ตอนแรกไม่คิดว่า เรื่องศิลาธิคุณจะมีจริงเหมือนกัน และไม่คิดว่าจะได้มวลสารที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จฯถึงเพียงนี้ . ที่มาของมวลสาร เดิมครั้งเมื่อเปิดกรุเป็นทางการ กำนันชูชาติ มากสัมพันธ์ได้เช่าบูชาพระสมเด็จบางขุนพรหม มาหลายแสนบาท วัดจึงแถมก้อนที่อยู่ก้นกรุให้ 1 ชิ้น โดยวัดเองก็ไม่ทราบว่าอะไร ต่อมาผงนี้เกิดการเปลี่ยนมือมาอีก 2 ครั้ง โดยตั้งใจว่าจะใช้สร้างพระของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน ฯลฯ ก็ไม่มีใครกล้าบดเป็นมวลสารเสียที
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • ยุบก้าวไกล คิงส์จะไปเก็บเบอร์รี่ป่า ถ้าไม่ยุบ คิงส์คงต้องไปตัดกล้วยบ้านลุงป้อม คนในป่าแทน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #อยากเก็บเบอร์รี่ป่า
    ยุบก้าวไกล คิงส์จะไปเก็บเบอร์รี่ป่า ถ้าไม่ยุบ คิงส์คงต้องไปตัดกล้วยบ้านลุงป้อม คนในป่าแทน #คิงส์โพธิ์แดง #อยากเก็บเบอร์รี่ป่า
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews