• กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ขู่ตอบโต้หนักหน่วงต่อการโจมตีใดๆ และรัฐมนตรีต่างประเทศเตหะรานเรียกร้องอเมริกาหยุดเข่นฆ่าประชาชน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งถล่มทางอากาศเป็นชุดๆ เล่นงานกบฏฮูตีในเยเมน ปลิดชีพผู้คนกว่าครึ่งร้อย และเตือนเตหะรานให้หยุดสนับสนุนพวกติดอาวุธกลุ่มนี้

    เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) ทรัมป์ เผยว่าสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการทางทหารอย่างหนักหน่วงและรุนแรง เพื่อยุติภัยคุกคามของพวกฮูตีต่อการเดินเรือในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านต้องหยุดให้การสนับสนุนพวกกบฏกลุ่มนี้ในทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮูตีเปิดเผยในช่วงต้นว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย ก่อนปรับเพิ่มตัวเลขในเวลาต่อมา เป็นเสียชีวิต 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จำนวนมากเป็นพลเรือน

    นายพลฮัสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ประณามคำขู่ของทรัมป์ ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) และประกาศกร้าวว่า "อิหร่านจะไม่ทำสงคราม แต่ถ้าใครก็ตามข่มขู่คุกคาม เราจะตอบโต้อย่างทัดเทียม หนักแน่นและไปจนถึงจุดจบ"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025289

    #MGROnline #กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
    กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ขู่ตอบโต้หนักหน่วงต่อการโจมตีใดๆ และรัฐมนตรีต่างประเทศเตหะรานเรียกร้องอเมริกาหยุดเข่นฆ่าประชาชน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งถล่มทางอากาศเป็นชุดๆ เล่นงานกบฏฮูตีในเยเมน ปลิดชีพผู้คนกว่าครึ่งร้อย และเตือนเตหะรานให้หยุดสนับสนุนพวกติดอาวุธกลุ่มนี้ • เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) ทรัมป์ เผยว่าสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการทางทหารอย่างหนักหน่วงและรุนแรง เพื่อยุติภัยคุกคามของพวกฮูตีต่อการเดินเรือในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านต้องหยุดให้การสนับสนุนพวกกบฏกลุ่มนี้ในทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮูตีเปิดเผยในช่วงต้นว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย ก่อนปรับเพิ่มตัวเลขในเวลาต่อมา เป็นเสียชีวิต 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จำนวนมากเป็นพลเรือน • นายพลฮัสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ประณามคำขู่ของทรัมป์ ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) และประกาศกร้าวว่า "อิหร่านจะไม่ทำสงคราม แต่ถ้าใครก็ตามข่มขู่คุกคาม เราจะตอบโต้อย่างทัดเทียม หนักแน่นและไปจนถึงจุดจบ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025289 • #MGROnline #กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • กบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เมื่อวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) อ้างว่าพวกเขาโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯลำหนึ่งในทะเลแดง และประกาศกร้าวว่าจะเล็งเป้าเล่นงานบรรดาเรือพาณิชย์สัญชาติอเมริกา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกรุงซานา ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบราย แต่ทำเนียบขาวบอกว่าสามารถปลิดชีพพวกแกนนำระดับสูงของกลุ่มกบฏได้หลายคน

    กระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตี บอกว่ามีเด็กและผู้หญิงหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) "ในการตอบโต้การรุกรานนี้ กองกำลังของเราได้ปฏิบัติการทางทหารเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส แฮร์รี ทรูแมนของสหรัฐฯ และเรือกองอารักขา" ถ้อยแถลงของกลุ่มฮูตีระบุ

    พวกฮูตีอ้างว่าพวกเขายิงขีปนาวุธ 18 ลูกและโดรนลำหนึ่งเข้าใส่เรือหลายลำของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นฝ่ายอเมริกายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว

    การโจมตีของอเมริกาเมื่อเสาร์ (15 มี.ค.) ที่ถล่มกรุงซานา ดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฮูตี เช่นเดียวกับเมืองซาดา เมืองอัล-บายดาและเมืองราดา ได้สังหารผู้คนไป 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตีในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025286

    #MGROnline #กบฏฮูตี #เยเมน
    กบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เมื่อวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) อ้างว่าพวกเขาโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯลำหนึ่งในทะเลแดง และประกาศกร้าวว่าจะเล็งเป้าเล่นงานบรรดาเรือพาณิชย์สัญชาติอเมริกา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกรุงซานา ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบราย แต่ทำเนียบขาวบอกว่าสามารถปลิดชีพพวกแกนนำระดับสูงของกลุ่มกบฏได้หลายคน • กระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตี บอกว่ามีเด็กและผู้หญิงหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) "ในการตอบโต้การรุกรานนี้ กองกำลังของเราได้ปฏิบัติการทางทหารเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส แฮร์รี ทรูแมนของสหรัฐฯ และเรือกองอารักขา" ถ้อยแถลงของกลุ่มฮูตีระบุ • พวกฮูตีอ้างว่าพวกเขายิงขีปนาวุธ 18 ลูกและโดรนลำหนึ่งเข้าใส่เรือหลายลำของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นฝ่ายอเมริกายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว • การโจมตีของอเมริกาเมื่อเสาร์ (15 มี.ค.) ที่ถล่มกรุงซานา ดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฮูตี เช่นเดียวกับเมืองซาดา เมืองอัล-บายดาและเมืองราดา ได้สังหารผู้คนไป 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตีในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025286 • #MGROnline #กบฏฮูตี #เยเมน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • กบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อ้างว่าพวกเขาโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯลำหนึ่งในทะเลแดง และประกาศกร้าวว่าจะเล็งเป้าเล่นงานบรรดาเรือพาณิชย์สัญชาติอเมริกา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกรุงซานา ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบราย แต่ทำเนียบขาวบอกว่าสามารถปลิดชีพพวกแกนนำระดับสูงของกลุ่มกบฏได้หลายคน

    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025295
    กบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อ้างว่าพวกเขาโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯลำหนึ่งในทะเลแดง และประกาศกร้าวว่าจะเล็งเป้าเล่นงานบรรดาเรือพาณิชย์สัญชาติอเมริกา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกรุงซานา ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบราย แต่ทำเนียบขาวบอกว่าสามารถปลิดชีพพวกแกนนำระดับสูงของกลุ่มกบฏได้หลายคน อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025295
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง
    .
    เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้"
    .
    ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา"
    .
    ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา
    .
    "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา”
    .
    ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ
    .
    หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม
    .
    อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย
    .
    ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง . เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้" . ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา" . ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา . "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา” . ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ . หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว . แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม . อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย . ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2063 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน
    .
    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ
    .
    เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล
    .
    ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา
    .
    ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด
    .
    ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง
    .
    การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน
    .
    ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน . ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา . เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ . เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง . ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง . ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล . ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา . ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก . ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด . ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง . การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน . ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    Yay
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ รอดตายอย่างหวุดหวิด ระหว่างที่อิสราเอลโจมตีสนามบินในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ในเหตุการณ์ระทึกที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
    .
    ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เดินทางเยือนซีเรีย ประเทศที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากสงครามกลางเมือง เพื่อไปเจรจากับพวกกบฏฮูตี ที่ควบคุมกรุงซานา ขอให้ปล่อยตัวพวกเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ
    .
    ในเหตุการณ์ระทึก ฝูงบินรบของอิสราเอลทำการโจมตีสนามบิน ตอนที่คณะทำงานของสหประชาชาติกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่อง และภาพจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยตัวของกีบรีเยซุสเอง พบเห็นคณะทำงานของกีบรีเยซุส กำลังเข้าอารักขาเขาออกจากบริเวณห้องรับรองของสนามบิน นอกจากนี้แล้วในคลิปยังเผยให้เห็นวินาทีที่หอควบคุมการบินถูกโจมตีด้วย
    .
    "มันโกลาหลอย่างมาก ผู้คนอยู่ในความระส่ำระสาย และวิ่งไปทั่ว ไม่มีที่หลบภัย เราไม่มีที่กำบังโดยสิ้นเชิง" กีบรีเยซุส บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี หลังเดินทางกลับถึงสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์(28ธ.ค.)
    .
    เขากล่าวต่อว่า "มันเป็นเรื่องของโชค มิเช่นนั้นแล้ว หากขีปนาวุธเบี่ยงวิถีแม้แต่น้อย มันอาจตกใส่ศีรษะของเรา เพื่อนร่วมงานของผมพูดหลังจากนั้นว่า เรารอดตายอย่างฉิวเฉียด"
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง กีบรีเยซุส ได้ขอบคุณทุกๆคนที่ส่งข้อความสนับสนุน "ผมขอบคุณอย่างสุดซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ที่เสียสละตนเองในความพยายามปกป้องผม"
    .
    จูเลียน ฮาร์นีส ผู้ประสานงานด้านเยเมน ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่สหประชาชาติคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากของมีคม "ผมเห็นเลือดของเขา ตอนที่พวกเรากำลังร่ำลาทรีโดรส บริเวณลานบินในตอนเช้าวันนี้" เขากล่าวในวันศุกร์(27ธ.ค.)
    .
    กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ตอบโต้กรณีที่พวกฮูตียิงขีปนาวุธใส่เทลอาวีฟ และเมืองอื่นๆของอิสราเอล พร้อมกล่าวหาว่าพวกฮูตีใช้สนามบินและท่าเรือทะเลของซีเรีย ลักลอบขนอาวุธมาจากอิหร่าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124999
    ..................
    Sondhi X ดูน้อยลง
    ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ รอดตายอย่างหวุดหวิด ระหว่างที่อิสราเอลโจมตีสนามบินในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ในเหตุการณ์ระทึกที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ . ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เดินทางเยือนซีเรีย ประเทศที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากสงครามกลางเมือง เพื่อไปเจรจากับพวกกบฏฮูตี ที่ควบคุมกรุงซานา ขอให้ปล่อยตัวพวกเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ . ในเหตุการณ์ระทึก ฝูงบินรบของอิสราเอลทำการโจมตีสนามบิน ตอนที่คณะทำงานของสหประชาชาติกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่อง และภาพจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยตัวของกีบรีเยซุสเอง พบเห็นคณะทำงานของกีบรีเยซุส กำลังเข้าอารักขาเขาออกจากบริเวณห้องรับรองของสนามบิน นอกจากนี้แล้วในคลิปยังเผยให้เห็นวินาทีที่หอควบคุมการบินถูกโจมตีด้วย . "มันโกลาหลอย่างมาก ผู้คนอยู่ในความระส่ำระสาย และวิ่งไปทั่ว ไม่มีที่หลบภัย เราไม่มีที่กำบังโดยสิ้นเชิง" กีบรีเยซุส บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี หลังเดินทางกลับถึงสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์(28ธ.ค.) . เขากล่าวต่อว่า "มันเป็นเรื่องของโชค มิเช่นนั้นแล้ว หากขีปนาวุธเบี่ยงวิถีแม้แต่น้อย มันอาจตกใส่ศีรษะของเรา เพื่อนร่วมงานของผมพูดหลังจากนั้นว่า เรารอดตายอย่างฉิวเฉียด" . ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง กีบรีเยซุส ได้ขอบคุณทุกๆคนที่ส่งข้อความสนับสนุน "ผมขอบคุณอย่างสุดซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ที่เสียสละตนเองในความพยายามปกป้องผม" . จูเลียน ฮาร์นีส ผู้ประสานงานด้านเยเมน ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่สหประชาชาติคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากของมีคม "ผมเห็นเลือดของเขา ตอนที่พวกเรากำลังร่ำลาทรีโดรส บริเวณลานบินในตอนเช้าวันนี้" เขากล่าวในวันศุกร์(27ธ.ค.) . กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ตอบโต้กรณีที่พวกฮูตียิงขีปนาวุธใส่เทลอาวีฟ และเมืองอื่นๆของอิสราเอล พร้อมกล่าวหาว่าพวกฮูตีใช้สนามบินและท่าเรือทะเลของซีเรีย ลักลอบขนอาวุธมาจากอิหร่าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124999 .................. Sondhi X ดูน้อยลง
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหวไหม! สื่อแฉเรือพิฆาตสหรัฐฯ ลำเดิม หวิดสอยเครื่องบินรบพวกเดียวกันร่วงอีกลำ

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรืออีกลำรอดพ้นจากการถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งเป็นเรือลำเดียวกับที่สหรัฐอ้างว่ายิงพวกเดียวกันร่วงอย่างหวุดหวิด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการโจมตีพวกกบฏฮูตีในเยเมน ตามรายงานของสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพ

    รายงานระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet อีกลำ พบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธลูกหนึ่งจากเรือ Gettysburg เช่นกัน ระหว่างที่กำลังเตรียมการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) มีการยิงขีปนาวุธ SM-2 เฉียดใกล้เข้ามาในระยะเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ทำให้นักบินต้องบินหลบหลีกทันที

    ทางด้านทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายอมรับตามที่สื่อนำเสนอว่า เรือ Gettysburg ยิงขีปนาวุธ SM-2 ลูกที่ 2 ออกไปจริง และบอกว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวล็อกเป้าไปที่เครื่องบินขับไล่ลำที่ 2 จริงหรือไม่
    ไหวไหม! สื่อแฉเรือพิฆาตสหรัฐฯ ลำเดิม หวิดสอยเครื่องบินรบพวกเดียวกันร่วงอีกลำ เครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรืออีกลำรอดพ้นจากการถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งเป็นเรือลำเดียวกับที่สหรัฐอ้างว่ายิงพวกเดียวกันร่วงอย่างหวุดหวิด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการโจมตีพวกกบฏฮูตีในเยเมน ตามรายงานของสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพ รายงานระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet อีกลำ พบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธลูกหนึ่งจากเรือ Gettysburg เช่นกัน ระหว่างที่กำลังเตรียมการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) มีการยิงขีปนาวุธ SM-2 เฉียดใกล้เข้ามาในระยะเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ทำให้นักบินต้องบินหลบหลีกทันที ทางด้านทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายอมรับตามที่สื่อนำเสนอว่า เรือ Gettysburg ยิงขีปนาวุธ SM-2 ลูกที่ 2 ออกไปจริง และบอกว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวล็อกเป้าไปที่เครื่องบินขับไล่ลำที่ 2 จริงหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกลาโหมเทลอาวีฟ อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ออกแถลงการณ์ดุดันประกาศข่มขู่จะเด็ดหัวผู้นำกบฏฮูตี เหมือนที่ลงมือสังหารหัวหน้าฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ในวันจันทร์ (23) เป็นครั้งแรกที่เทลอาวีฟได้ยอมรับว่า เป็นคนลงมือลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ (Ismail Haniyeh) ช่วงระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำอิหร่านคนใหม่กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมก่อนหน้า
    .
    “พวกเราจะโจมตีอย่างหนักต่อกบฏฮูตี..และจะเด็ดหัวผู้นำของพวกเขา..เหมือนกับที่พวกเราทำกับอิสมาอิล ฮานิเยห์ ยาห์ยา ซินวอร์ และฮัสซัน นาสรัลลาห์ ในกรุงเตหะราน เขตฉนวนกาซา และเลบานอน พวกเราจะทำเช่นนี้ในโฮเดดา (Hodeida ) และกรุงซานา” รายงานจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล
    .
    ในคำแถลงเป็นการประกาศตั้งเป้าล่าหัวผู้นำกบฏเยเมนที่นำกำลังระดมยิงมิสไซล์และโดรนโจมตีใส่อิสราเอล
    .
    "ไม่กี่วันมานี้เมื่อองค์กรก่อการร้ายกบฏฮูตียิงมิสไซล์ใส่อิสราเอล ผมต้องการส่งสารที่ชัดเจนไปหาคนเหล่านั้นในช่วงแรกของคำกล่าวของผมคือ พวกเราโค่นฮามาส พวกเราเอาชนะฮิซบอลเลาะห์ พวกเราทำให้ระบบป้องกันประเทศอิหร่านมองไม่เห็นและทำลายระบบการผลิต พวกเราโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย พวกเราทำให้เกิดความหายนะแก่ขั้วแห่งปิศาจ และพวกเราจะจัดการองค์ก่อการร้ายฮูตีในเยเมน ที่ยังคงเป็นด่านสุดท้ายที่ยังหลงเหลือ" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวในรายงานของรอยเตอร์
    .
    และเขายังประกาศต่อว่า อิสราเอลจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา และพวกเราจะเด็ดหัวพวกแกนนำเหล่านั้น
    .
    บีบีซีรายงานว่า ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยถึงความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงกาซาร่วมกับฮามาส แต่ทว่าเขาไม่สามารถให้เงื่อนเวลาว่าเมื่อใดที่ข้อตกลงจะบรรลุได้
    .
    ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงปาเลสไตน์ได้เปิดเผยกับบีบีซีว่า การเจรจาระหว่างฮามาสและอิสราเอลนั้นอยู่ในระดับที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 90% แต่ยังเหลือประเด็นสำคัญต่างๆ อยู่
    .
    เนทันยาฮูกล่าวในงานเดียวกันกับที่รัฐมนตรีกลาโหมของเขายืนยันต่อสาธารณะว่า หัวหน้าฮามาสฮานิเยห์โดนขีปนาวุธยิงใส่หรือเป็นการลอบสังหารด้วยระเบิดที่เรือนพักของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กลางกรุงเตหะรานนั้นเป็นผลงานของอิสราเอล
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ออกมาเตือนสถานการณ์เลวร้ายทางมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา
    .
    ทั้งนี้ วันอาทิตย์ (23) กลุ่มออกซ์แฟม (Oxfam) แถลงว่ามีรถบรรเทาทุกข์จำนวนแค่ 12 คันที่ขนอาหารและน้ำเข้าในทางตอนเหนือของกาซาในช่วงเวลา 2 เดือนครึ่ง พร้อมกันยังกล่าวโทษกองทัพอิสราเอลตั้งใจขัดขวางอย่างมีระบบเพื่อให้การขนส่งเข้าสู่เขตฉนวนกาซาล่าช้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123558
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีกลาโหมเทลอาวีฟ อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ออกแถลงการณ์ดุดันประกาศข่มขู่จะเด็ดหัวผู้นำกบฏฮูตี เหมือนที่ลงมือสังหารหัวหน้าฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา . บีบีซีของอังกฤษรายงานวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ในวันจันทร์ (23) เป็นครั้งแรกที่เทลอาวีฟได้ยอมรับว่า เป็นคนลงมือลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ (Ismail Haniyeh) ช่วงระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำอิหร่านคนใหม่กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมก่อนหน้า . “พวกเราจะโจมตีอย่างหนักต่อกบฏฮูตี..และจะเด็ดหัวผู้นำของพวกเขา..เหมือนกับที่พวกเราทำกับอิสมาอิล ฮานิเยห์ ยาห์ยา ซินวอร์ และฮัสซัน นาสรัลลาห์ ในกรุงเตหะราน เขตฉนวนกาซา และเลบานอน พวกเราจะทำเช่นนี้ในโฮเดดา (Hodeida ) และกรุงซานา” รายงานจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล . ในคำแถลงเป็นการประกาศตั้งเป้าล่าหัวผู้นำกบฏเยเมนที่นำกำลังระดมยิงมิสไซล์และโดรนโจมตีใส่อิสราเอล . "ไม่กี่วันมานี้เมื่อองค์กรก่อการร้ายกบฏฮูตียิงมิสไซล์ใส่อิสราเอล ผมต้องการส่งสารที่ชัดเจนไปหาคนเหล่านั้นในช่วงแรกของคำกล่าวของผมคือ พวกเราโค่นฮามาส พวกเราเอาชนะฮิซบอลเลาะห์ พวกเราทำให้ระบบป้องกันประเทศอิหร่านมองไม่เห็นและทำลายระบบการผลิต พวกเราโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย พวกเราทำให้เกิดความหายนะแก่ขั้วแห่งปิศาจ และพวกเราจะจัดการองค์ก่อการร้ายฮูตีในเยเมน ที่ยังคงเป็นด่านสุดท้ายที่ยังหลงเหลือ" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวในรายงานของรอยเตอร์ . และเขายังประกาศต่อว่า อิสราเอลจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา และพวกเราจะเด็ดหัวพวกแกนนำเหล่านั้น . บีบีซีรายงานว่า ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยถึงความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงกาซาร่วมกับฮามาส แต่ทว่าเขาไม่สามารถให้เงื่อนเวลาว่าเมื่อใดที่ข้อตกลงจะบรรลุได้ . ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงปาเลสไตน์ได้เปิดเผยกับบีบีซีว่า การเจรจาระหว่างฮามาสและอิสราเอลนั้นอยู่ในระดับที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 90% แต่ยังเหลือประเด็นสำคัญต่างๆ อยู่ . เนทันยาฮูกล่าวในงานเดียวกันกับที่รัฐมนตรีกลาโหมของเขายืนยันต่อสาธารณะว่า หัวหน้าฮามาสฮานิเยห์โดนขีปนาวุธยิงใส่หรือเป็นการลอบสังหารด้วยระเบิดที่เรือนพักของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กลางกรุงเตหะรานนั้นเป็นผลงานของอิสราเอล . บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ออกมาเตือนสถานการณ์เลวร้ายทางมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา . ทั้งนี้ วันอาทิตย์ (23) กลุ่มออกซ์แฟม (Oxfam) แถลงว่ามีรถบรรเทาทุกข์จำนวนแค่ 12 คันที่ขนอาหารและน้ำเข้าในทางตอนเหนือของกาซาในช่วงเวลา 2 เดือนครึ่ง พร้อมกันยังกล่าวโทษกองทัพอิสราเอลตั้งใจขัดขวางอย่างมีระบบเพื่อให้การขนส่งเข้าสู่เขตฉนวนกาซาล่าช้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123558 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1110 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกกบฏฮูตีในเยเมนเล็งเป้าเล่นงานเรือพิฆาตของสหรัฐฯ 2 ลำ ด้วยโดรนและขีปนาวุธ ระหว่างที่ล่องผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบแต่กองเรือรบดังกล่าวสามารถสกัดเอาไว้ได้ จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน)
    .
    กบฏฮูตีเริ่มโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและอ่าวเอเดนในเดือนพฤศจิกายน 2023 ส่วนหนึ่งในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง จากสงครามทำลายล้างของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งบรรดากลุ่มติดอาวุธในประเทศต่างๆ หยิบยกประเด็นนี้มากล่าวอ้างความชอบธรรมสำหรับการโจมตี
    .
    พลตรีแพท ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอน เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "เรือรบของสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยระบบอากาศยานไร้คนขับแบบพลีชีพอย่างน้อย 8 ลำ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ 5 ลูก และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ 3 ลูก แต่เรือรบของเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้และสกัดเอาไว้ได้"
    .
    "เรือทั้ง 2 ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีบุคลากรได้รับบาดเจ็บ" ไรเดอร์กล่าวถึงเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) พร้อมชี้แจงว่าคำกล่าวอ้างของพวกฮูตี ว่าได้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เช่นกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    .
    "บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี มันไม่ได้ถูกโจมตี สวนทางกับคำกล่าวอ้างบางส่วน" ไรเดอร์ระบุ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ขอระบุถึงตำแหน่งที่ตั้งของเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น
    .
    ทั้งนี้ กบฏฮูตีบอกว่าการโจมตีต่างๆ ของพวกเขานั้น ก็เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ที่กำลังถูกอิสราเอลทำสงครามทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตี ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงในระดับนานาชาติ ที่คุกคามเส้นทางการขนส่งสินค้าอันสำคัญ
    .
    ความโกรธเคืองต่อยุทธการทางทหารของอิสราเอล ที่กำลังทำลายล้างฉนวนกาซา ได้โหมกระพือความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทั้งในเลบานอน อิรัก ซีเรีย และเยเมน ในขณะที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานกาซา แก้แค้นกรณีที่ถูกพวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว
    .
    สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ส่งเรือของกองทัพเข้าประจำการในภูมิภาค เพื่อช่วยปกป้องเรือสินค้าต่างๆ จากการถูกพวกฮูตีโจมตี แต่การโจมตีโดยตรงเล่นงานเรือรบของสหรัฐฯ นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
    .
    นอกจากนี้ กองกำลังของสหรัฐฯ ยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกฮูตีแบบถี่ๆ ในความพยายามลดศักยภาพของนักรบกลุ่มนี้ต่อการเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือต่างๆ และหาทางยึดอาวุธก่อนที่มันจะตกไปถึงมือกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตียังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
    .
    ไรเดอร์ เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายรอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งเป้าเล่นงานคลังเก็บอาวุธของพวกฮูตี "อาคารเหล่านี้มีอาวุธทั่วไปล้ำสมัยมากมาย ที่พวกฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้เล่นงานเรือทหารสหรัฐฯ เรือกองกำลังนานาชาติและเรือพลเรือนที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากล" เขากล่าว
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ ยังเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรียเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) ในความเคลื่อนไหวตอบโต้กรณีที่มีการปล่อยโดรนและยิงจรวดใส่ทหารอเมริกา ที่ประจำการอยู่ในประเทศดังกล่าว หนึ่งวันก่อนหน้านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109077
    ..............
    Sondhi X
    พวกกบฏฮูตีในเยเมนเล็งเป้าเล่นงานเรือพิฆาตของสหรัฐฯ 2 ลำ ด้วยโดรนและขีปนาวุธ ระหว่างที่ล่องผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบแต่กองเรือรบดังกล่าวสามารถสกัดเอาไว้ได้ จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) . กบฏฮูตีเริ่มโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและอ่าวเอเดนในเดือนพฤศจิกายน 2023 ส่วนหนึ่งในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง จากสงครามทำลายล้างของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งบรรดากลุ่มติดอาวุธในประเทศต่างๆ หยิบยกประเด็นนี้มากล่าวอ้างความชอบธรรมสำหรับการโจมตี . พลตรีแพท ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอน เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "เรือรบของสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยระบบอากาศยานไร้คนขับแบบพลีชีพอย่างน้อย 8 ลำ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ 5 ลูก และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ 3 ลูก แต่เรือรบของเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้และสกัดเอาไว้ได้" . "เรือทั้ง 2 ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีบุคลากรได้รับบาดเจ็บ" ไรเดอร์กล่าวถึงเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) พร้อมชี้แจงว่าคำกล่าวอ้างของพวกฮูตี ว่าได้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เช่นกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง . "บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี มันไม่ได้ถูกโจมตี สวนทางกับคำกล่าวอ้างบางส่วน" ไรเดอร์ระบุ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ขอระบุถึงตำแหน่งที่ตั้งของเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น . ทั้งนี้ กบฏฮูตีบอกว่าการโจมตีต่างๆ ของพวกเขานั้น ก็เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ที่กำลังถูกอิสราเอลทำสงครามทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตี ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงในระดับนานาชาติ ที่คุกคามเส้นทางการขนส่งสินค้าอันสำคัญ . ความโกรธเคืองต่อยุทธการทางทหารของอิสราเอล ที่กำลังทำลายล้างฉนวนกาซา ได้โหมกระพือความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทั้งในเลบานอน อิรัก ซีเรีย และเยเมน ในขณะที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานกาซา แก้แค้นกรณีที่ถูกพวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว . สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ส่งเรือของกองทัพเข้าประจำการในภูมิภาค เพื่อช่วยปกป้องเรือสินค้าต่างๆ จากการถูกพวกฮูตีโจมตี แต่การโจมตีโดยตรงเล่นงานเรือรบของสหรัฐฯ นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก . นอกจากนี้ กองกำลังของสหรัฐฯ ยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกฮูตีแบบถี่ๆ ในความพยายามลดศักยภาพของนักรบกลุ่มนี้ต่อการเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือต่างๆ และหาทางยึดอาวุธก่อนที่มันจะตกไปถึงมือกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของฮูตียังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง . ไรเดอร์ เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายรอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งเป้าเล่นงานคลังเก็บอาวุธของพวกฮูตี "อาคารเหล่านี้มีอาวุธทั่วไปล้ำสมัยมากมาย ที่พวกฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้เล่นงานเรือทหารสหรัฐฯ เรือกองกำลังนานาชาติและเรือพลเรือนที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากล" เขากล่าว . ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ ยังเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรียเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) ในความเคลื่อนไหวตอบโต้กรณีที่มีการปล่อยโดรนและยิงจรวดใส่ทหารอเมริกา ที่ประจำการอยู่ในประเทศดังกล่าว หนึ่งวันก่อนหน้านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109077 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1385 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเยเมนเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ในนั้นรวมถึงกรุงซานา ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตี ในขณะที่กระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) ระบุว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานคลังอาวุธล้ำสมัยของกบฏกลุ่มนี้
    .
    สำนักข่าวอัล มาซิราห์ ทีวี รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย) ว่าหลายพื้นที่ของกรุงซานา เขตผู้ว่าการอัมราน ทางเหนือของประเทศและพื่นที่อื่นๆ ถูกโจมตีในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความสูญเสีย "ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงเครื่องบินมากมาย เช่นเดียวกับเสียงระเบิดตูมสนั่นในหลายพื้นที่ของกรุงซานา"
    .
    เพนตากอนเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พวกเขาเล็งเป้าที่ตั้งต่างๆ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บอาวุธต่างๆ ที่พวกฮูตีใช้เล็งเป้าเล่นงานเรือทั้งหลาย ทั้งเรือทางทหารและเรือของพลเรือน ที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากลในทะเลแดงและอ่าวเอเดน
    .
    ทั้ง 2 ประเทศปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่เยเมน มาตั้งแต่เดือนมกราคม ในความพยายามหยุดกบฏฮูตีจากการโจมตีเล่นงานเรือสินค้าทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล ที่กำลังล่องผ่านทะเลแดง ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการโจมตีถล่มเมืองโฮเดดาห์ เมื่อเดือนกรกฎาคม สังหารผู้คนอย่างน้อย 16 ราย
    .
    พวกฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา โจมตีใส่เส้นทางเดินเรือสินค้าในทะเลแดง เช่นเดียวกับยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์
    .
    เกือบๆ 1 ปีที่ผ่านมา พวกฮูตีลงมือโจมตีแล้วมากกว่า 100 รอบ ส่งผลให้มีลูกเรือเสียชีวิต 4 ราย และเรืออัปปาง 2 ลำ ขณะเดียวกันเรือลำหนึ่งและลูกเรือยังคงถูกกักขังเอาไว้ นับตั้งแต่ถูกบุกยึดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
    .
    กลุ่มกบฏเยเมน เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดทำสงครามในกาซา ส่วนหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับการหยุดโจมตีที่ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายแก่เส้นทางเดินเรือสินค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
    .
    ทหารอิสราเอลสังหารผู้คนในกาซาไปแล้วมากกว่า 43,000 คน นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน สงครามทำลายล้างของพวกเขาเป็นการแก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล สังหารผู้คนไปมากกว่า 1,100 ราย และจับตัวประกันไปประมาณ 250 คน
    .
    ปฏิบัติการโจมตีในวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก อับเดล-มาลิก อัล-ฮูตี ผู้นำของฮูตี วิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต่อการมอบแรงสนับสนุนแก่อิสราเอล
    .
    ยาห์ยา ซารี ระบุก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) ยุทธการทางทหารของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ไม่อาจห้ามปรามการโจมตีของฮูตี ในขณะที่พวกกบฏที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านกลุ่มนี้ลงมือโจมตีฐานทัพอากาศเนวาติม ทางใต้ของอิสราเอลในวันเดียวกัน นอกจากนี้ ยังอ้างด้วยว่าทางกลุ่มสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งของสหรัฐฯ เหนือท้องฟ้าทางตะวันตกของเยเมนได้อีกด้วย
    .
    การโจมตีของทั้งพวกฮูตี สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางลุกลามบานปลายในวิกฤตกาซา เช่นเดียวกับก่อความวิตกต่อความพยายามยุติสงครามกลางเมืองของเยเมนเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108287
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเยเมนเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ในนั้นรวมถึงกรุงซานา ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตี ในขณะที่กระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) ระบุว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานคลังอาวุธล้ำสมัยของกบฏกลุ่มนี้ . สำนักข่าวอัล มาซิราห์ ทีวี รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย) ว่าหลายพื้นที่ของกรุงซานา เขตผู้ว่าการอัมราน ทางเหนือของประเทศและพื่นที่อื่นๆ ถูกโจมตีในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความสูญเสีย "ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงเครื่องบินมากมาย เช่นเดียวกับเสียงระเบิดตูมสนั่นในหลายพื้นที่ของกรุงซานา" . เพนตากอนเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พวกเขาเล็งเป้าที่ตั้งต่างๆ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บอาวุธต่างๆ ที่พวกฮูตีใช้เล็งเป้าเล่นงานเรือทั้งหลาย ทั้งเรือทางทหารและเรือของพลเรือน ที่กำลังล่องผ่านน่านน้ำสากลในทะเลแดงและอ่าวเอเดน . ทั้ง 2 ประเทศปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่เยเมน มาตั้งแต่เดือนมกราคม ในความพยายามหยุดกบฏฮูตีจากการโจมตีเล่นงานเรือสินค้าทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล ที่กำลังล่องผ่านทะเลแดง ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการโจมตีถล่มเมืองโฮเดดาห์ เมื่อเดือนกรกฎาคม สังหารผู้คนอย่างน้อย 16 ราย . พวกฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา โจมตีใส่เส้นทางเดินเรือสินค้าในทะเลแดง เช่นเดียวกับยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ . เกือบๆ 1 ปีที่ผ่านมา พวกฮูตีลงมือโจมตีแล้วมากกว่า 100 รอบ ส่งผลให้มีลูกเรือเสียชีวิต 4 ราย และเรืออัปปาง 2 ลำ ขณะเดียวกันเรือลำหนึ่งและลูกเรือยังคงถูกกักขังเอาไว้ นับตั้งแต่ถูกบุกยึดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว . กลุ่มกบฏเยเมน เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดทำสงครามในกาซา ส่วนหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับการหยุดโจมตีที่ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายแก่เส้นทางเดินเรือสินค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก . ทหารอิสราเอลสังหารผู้คนในกาซาไปแล้วมากกว่า 43,000 คน นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน สงครามทำลายล้างของพวกเขาเป็นการแก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล สังหารผู้คนไปมากกว่า 1,100 ราย และจับตัวประกันไปประมาณ 250 คน . ปฏิบัติการโจมตีในวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก อับเดล-มาลิก อัล-ฮูตี ผู้นำของฮูตี วิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต่อการมอบแรงสนับสนุนแก่อิสราเอล . ยาห์ยา ซารี ระบุก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) ยุทธการทางทหารของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ไม่อาจห้ามปรามการโจมตีของฮูตี ในขณะที่พวกกบฏที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านกลุ่มนี้ลงมือโจมตีฐานทัพอากาศเนวาติม ทางใต้ของอิสราเอลในวันเดียวกัน นอกจากนี้ ยังอ้างด้วยว่าทางกลุ่มสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งของสหรัฐฯ เหนือท้องฟ้าทางตะวันตกของเยเมนได้อีกด้วย . การโจมตีของทั้งพวกฮูตี สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางลุกลามบานปลายในวิกฤตกาซา เช่นเดียวกับก่อความวิตกต่อความพยายามยุติสงครามกลางเมืองของเยเมนเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108287 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1123 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา อเมริกาอัดฉีดความช่วยเหลือทางทหารให้อิสราเอล ซึ่งกำลังทำสงครามหฤโหดในฉนวนกาซา และเวลานี้ขยายวงสู่เลบานอน เป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 17,900 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอีก 4,860 ล้านดอลลาร์ในการเสริมปฏิบัติการทางทหารของตนเองในตะวันออกกลาง ที่รวมถึงการจัดการกลุ่มกบฏฮูตีที่ลอบโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง
    .
    รายงานจากโครงการค่าใช้จ่ายสงคราม (Costs of War project) ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ในสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) เนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีที่นักรบฮามาสจู่โจมบุกอิสราเอล ถือเป็นรายงานฉบับแรกที่มีการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือที่อเมริกาให้อิสราเอล ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การสนับสนุนอิสราเอลในการสู้รบในกาซาและเลบานอน และพยายามจำกัดการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านภายในตะวันออกกลาง
    .
    ตัวเลขทางการเงินเหล่านี้ยังไม่รวมความสูญเสียด้านชีวิตมนุษย์ ทั้งเหยื่อกว่า 1,200 คนที่ถูกฮามาสสังหารระหว่างการบุกโจมตีอิสราเอลชนิดช็อกโลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมจับตัวประกัน 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา และผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 คนในกาซาจากปฏิบัติการล้างแค้นของอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คนในเลบานอน ซึ่งมีทั้งนักรบฮิซบอลเลาะห์และพลเรือน นับจากอิสราเอลขยายการโจมตีเข้าสู่ประเทศนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
    .
    ค่าใช้จ่ายทางการเงินในรายงานฉบับนี้ที่จัดทำแล้วเสร็จก่อนที่อิสราเอลจะเปิดแนวรบที่สองในเลบานอนนั้น คำนวณโดย ลินดา เจ. บิลม์ส ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยรัฐกิจ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เคยศึกษาประเมินค่าใช้จ่ายในสงครามทั้งหมดของอเมริกา นับจากวินาศกรรม 11 ก.ย. 2001 และนักวิจัยอีก 2 คนคือ วิลเลียม ดี. ฮาร์เติง และสตีเฟน เซมเลอร์ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังต่อไปนี้:
    .
    ความช่วยเหลือทางทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์
    .
    อิสราเอลที่ได้รับการอุปถัมภ์จากอเมริกานับจากก่อตั้งประเทศในปี 1948 เป็นประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกามูลค่าสูงสุดคือ 251,200 ล้านดอลลาร์ นับจากปี 1959 เป็นต้นมา ทั้งนี้เมื่อปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อ
    .
    ขณะที่ ความช่วยเหลือ 17,900 ล้านดอลลาร์ที่ปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งอเมริกามอบให้นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ถือเป็นความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าสูงสุดที่อัดฉีดให้อิสราเอลในปีเดียว
    .
    ทั้งนี้ อเมริกามีพันธะกรณีในการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลและอียิปต์ปีละหลายพันล้านดอลลาร์นับจากที่สองประเทศนี้ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพที่วอชิงตันเป็นตัวกลางเมื่อปี 1979 นอกจากนั้น ในเวลาต่อมา คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลปีละ 3,800 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2028
    .
    ความช่วยเหลือของอเมริกานับจากสงครามกาซาปะทุขึ้นนี้ ครอบคลุมถึงการให้เงินสนับสนุนทางการทหาร การขายอาวุธ อาวุธจากคลังสำรองของอเมริกาและอาวุธยุทโธปกรณ์มือสอง รวมเป็นมูลค่าอย่างน้อย 4,400 ล้านดอลลาร์
    .
    อาวุธจำนวนมากที่อเมริกาส่งมอบให้อิสราเอลในรอบปีที่ผ่านมาคือพวกเครื่องกระสุน ตั้งแต่กระสุนปืนใหญ่จนถึงระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์เจาะพื้นดินขนาด 2,000 ปอนด์ และระเบิดนำวิถี
    .
    นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่าย 4,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการฟื้นคืนความสมบูรณ์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศ “ไอออนโดม” และระบบป้องกันขีปนาวุธ “เดวิดส์ สลิง” ของอิสราเอล ตลอดจนการจัดซื้อปืนไรเฟิลจู่โจม และเชื้อเพลิงเครื่องบิน
    .
    อย่างไรก็ดี นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่อเมริกาจัดส่งให้อิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว ดังนั้น ตัวเลข 17,900 ล้านดอลลาร์จึงเป็นเพียงมูลค่าความช่วยเหลือส่วนหนึ่งเท่านั้น และสำทับว่า คณะบริหารของไบเดนพยายามปิดบังมูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดและประเภทอาวุธที่จัดหาให้อิสราเอลผ่านขั้นตอนการดำเนินการของระบบราชการ
    .
    ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลาง
    .
    คณะบริหารของไบเดนยังเสริมแสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลางนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามและตอบโต้พวกที่เข้าโจมตีกองกำลังอิสราเอลและอเมริกา
    .
    ปฏิบัติการเพิ่มเติมเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย 4,860 ล้านดอลลาร์
    .
    ทั้งนี้ อเมริกามีทหาร 34,000 นายในภูมิภาคนี้ ณ วันที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล และจากนั้นได้เพิ่มเป็นราว 50,000 นายในเดือนสิงหาคม เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำเข้าประจำการในตะวันออกกลางเพื่อป้องปรามการล้างแค้นอิสราเอล หลังจาก อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสถูกสังหารในอิหร่าน และปัจจุบันอเมริกามีทหารประจำอยู่ราว 43,000 นาย
    .
    การสู้รบกับฮูตี
    .
    นับจากสงครามกาซาเริ่มต้น กองทัพอเมริกายังพยายามตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกบฏฮูตีในเยเมน โดยนักวิจัยระบุว่า อเมริกามีค่าใช้จ่าย 4,860 ล้านดอลลาร์สำหรับ “ความท้าทายอสมมาตรที่ซับซ้อน ราคาแพง และคาดไม่ถึง” และถือเป็นปฏิบัติการสู้รบที่ตึงเครียดที่สุดที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผชิญมานับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    นักวิจัยเสริมว่า อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และขีปนาวุธราคาหลายล้านดอลลาร์ไปต่อสู้กับโดรนของฮูตีที่ผลิตในอิหร่านราคาแค่ลำละ 2,000 ดอลลาร์
    .
    การคำนวณของนักวิจัยกลุ่มนี้ยังรวมถึงเงินค่าสู้รบที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างน้อย 55 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหรัฐฯต้องจ่ายมากขึ้นสืบเนื่องจากปฏิบัติการที่เข้มข้นในตะวันออกกลาง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095609
    ..............
    Sondhi X
    เผยในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา อเมริกาอัดฉีดความช่วยเหลือทางทหารให้อิสราเอล ซึ่งกำลังทำสงครามหฤโหดในฉนวนกาซา และเวลานี้ขยายวงสู่เลบานอน เป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 17,900 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอีก 4,860 ล้านดอลลาร์ในการเสริมปฏิบัติการทางทหารของตนเองในตะวันออกกลาง ที่รวมถึงการจัดการกลุ่มกบฏฮูตีที่ลอบโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง . รายงานจากโครงการค่าใช้จ่ายสงคราม (Costs of War project) ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ในสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) เนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีที่นักรบฮามาสจู่โจมบุกอิสราเอล ถือเป็นรายงานฉบับแรกที่มีการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือที่อเมริกาให้อิสราเอล ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การสนับสนุนอิสราเอลในการสู้รบในกาซาและเลบานอน และพยายามจำกัดการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านภายในตะวันออกกลาง . ตัวเลขทางการเงินเหล่านี้ยังไม่รวมความสูญเสียด้านชีวิตมนุษย์ ทั้งเหยื่อกว่า 1,200 คนที่ถูกฮามาสสังหารระหว่างการบุกโจมตีอิสราเอลชนิดช็อกโลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมจับตัวประกัน 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา และผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 คนในกาซาจากปฏิบัติการล้างแค้นของอิสราเอล . นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คนในเลบานอน ซึ่งมีทั้งนักรบฮิซบอลเลาะห์และพลเรือน นับจากอิสราเอลขยายการโจมตีเข้าสู่ประเทศนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว . ค่าใช้จ่ายทางการเงินในรายงานฉบับนี้ที่จัดทำแล้วเสร็จก่อนที่อิสราเอลจะเปิดแนวรบที่สองในเลบานอนนั้น คำนวณโดย ลินดา เจ. บิลม์ส ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยรัฐกิจ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เคยศึกษาประเมินค่าใช้จ่ายในสงครามทั้งหมดของอเมริกา นับจากวินาศกรรม 11 ก.ย. 2001 และนักวิจัยอีก 2 คนคือ วิลเลียม ดี. ฮาร์เติง และสตีเฟน เซมเลอร์ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังต่อไปนี้: . ความช่วยเหลือทางทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์ . อิสราเอลที่ได้รับการอุปถัมภ์จากอเมริกานับจากก่อตั้งประเทศในปี 1948 เป็นประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกามูลค่าสูงสุดคือ 251,200 ล้านดอลลาร์ นับจากปี 1959 เป็นต้นมา ทั้งนี้เมื่อปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อ . ขณะที่ ความช่วยเหลือ 17,900 ล้านดอลลาร์ที่ปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งอเมริกามอบให้นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ถือเป็นความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าสูงสุดที่อัดฉีดให้อิสราเอลในปีเดียว . ทั้งนี้ อเมริกามีพันธะกรณีในการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลและอียิปต์ปีละหลายพันล้านดอลลาร์นับจากที่สองประเทศนี้ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพที่วอชิงตันเป็นตัวกลางเมื่อปี 1979 นอกจากนั้น ในเวลาต่อมา คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลปีละ 3,800 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2028 . ความช่วยเหลือของอเมริกานับจากสงครามกาซาปะทุขึ้นนี้ ครอบคลุมถึงการให้เงินสนับสนุนทางการทหาร การขายอาวุธ อาวุธจากคลังสำรองของอเมริกาและอาวุธยุทโธปกรณ์มือสอง รวมเป็นมูลค่าอย่างน้อย 4,400 ล้านดอลลาร์ . อาวุธจำนวนมากที่อเมริกาส่งมอบให้อิสราเอลในรอบปีที่ผ่านมาคือพวกเครื่องกระสุน ตั้งแต่กระสุนปืนใหญ่จนถึงระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์เจาะพื้นดินขนาด 2,000 ปอนด์ และระเบิดนำวิถี . นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่าย 4,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการฟื้นคืนความสมบูรณ์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศ “ไอออนโดม” และระบบป้องกันขีปนาวุธ “เดวิดส์ สลิง” ของอิสราเอล ตลอดจนการจัดซื้อปืนไรเฟิลจู่โจม และเชื้อเพลิงเครื่องบิน . อย่างไรก็ดี นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่อเมริกาจัดส่งให้อิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว ดังนั้น ตัวเลข 17,900 ล้านดอลลาร์จึงเป็นเพียงมูลค่าความช่วยเหลือส่วนหนึ่งเท่านั้น และสำทับว่า คณะบริหารของไบเดนพยายามปิดบังมูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดและประเภทอาวุธที่จัดหาให้อิสราเอลผ่านขั้นตอนการดำเนินการของระบบราชการ . ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลาง . คณะบริหารของไบเดนยังเสริมแสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลางนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามและตอบโต้พวกที่เข้าโจมตีกองกำลังอิสราเอลและอเมริกา . ปฏิบัติการเพิ่มเติมเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย 4,860 ล้านดอลลาร์ . ทั้งนี้ อเมริกามีทหาร 34,000 นายในภูมิภาคนี้ ณ วันที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล และจากนั้นได้เพิ่มเป็นราว 50,000 นายในเดือนสิงหาคม เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำเข้าประจำการในตะวันออกกลางเพื่อป้องปรามการล้างแค้นอิสราเอล หลังจาก อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสถูกสังหารในอิหร่าน และปัจจุบันอเมริกามีทหารประจำอยู่ราว 43,000 นาย . การสู้รบกับฮูตี . นับจากสงครามกาซาเริ่มต้น กองทัพอเมริกายังพยายามตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกบฏฮูตีในเยเมน โดยนักวิจัยระบุว่า อเมริกามีค่าใช้จ่าย 4,860 ล้านดอลลาร์สำหรับ “ความท้าทายอสมมาตรที่ซับซ้อน ราคาแพง และคาดไม่ถึง” และถือเป็นปฏิบัติการสู้รบที่ตึงเครียดที่สุดที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผชิญมานับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 . นักวิจัยเสริมว่า อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และขีปนาวุธราคาหลายล้านดอลลาร์ไปต่อสู้กับโดรนของฮูตีที่ผลิตในอิหร่านราคาแค่ลำละ 2,000 ดอลลาร์ . การคำนวณของนักวิจัยกลุ่มนี้ยังรวมถึงเงินค่าสู้รบที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างน้อย 55 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหรัฐฯต้องจ่ายมากขึ้นสืบเนื่องจากปฏิบัติการที่เข้มข้นในตะวันออกกลาง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095609 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1407 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอิสราเอลเตือนชาวเลบานอนหลายสิบชุมชนอพยพออกจากแนวชายแดน หลังส่งพลร่ม คอมมานโด และหน่วยยานเกราะเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ท่ามกลางการเรียกร้องของนานาชาติให้หลีกเลี่ยงการปลุกปั่นให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลาม ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในการทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน
    .
    ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอนเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลล็อกเป้าถล่มพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุตของเลบานอน กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และดินแดนฉนวนกาซา
    .
    โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า การสู้รบจะไม่ยุติลงเร็วๆ นี้ แม้การถล่มโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) สามารถปลิดชีพ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้แล้วก็ตาม
    .
    กองทัพอิสราเอลยังแถลงว่า กำลังทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศและหน่วยปืนใหญ่ เปิดฉากบุกภาคพื้นดินแบบกำหนดเป้าหมายที่ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ในชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนเลบานอน เนื่องจากที่มั่นเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อชุมชนชาวอิสราเอลทางเหนือของประเทศ พร้อมยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการทำสงครามกับประชาชนเลบานอน
    .
    วันอังคาร (1 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ระบุให้ชุมชน 24 แห่งทางใต้ของเลบานอนอพยพจากตอนเหนือของแม่น้ำอวาลีที่อยู่ห่างจากชายแดนราว 60 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าแม่น้ำลิทานีที่เป็นเส้นกำหนดเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภายหลังสงครามในปี 2006 โดยแม่น้ำลิทานีนั้นอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 30 กิโลเมตร
    .
    ก่อนหน้านั้นกองทัพอิสราเอลประกาศพื้นที่ทางทหารบริเวณชายแดนบางส่วนที่ติดกับเลบานอน เนื่องจากมีจรวดยิงมาจากเลบานอนไปยังเมืองอวิวิมและเมตูลาทางเหนือของอิสราเอล
    .
    ทางฝ่ายฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ยิงปืนใหญ่โจมตีขบวนทหารของข้าศึกในเมืองเมตูลาสองครั้ง
    .
    พันธมิตรของอิหร่านตั้งแต่ฮิซบอลเลาะห์จนถึงกบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ต่างเข้าร่วมการโจมตีอิสราเอลเพื่อสนับสนุนฮามาสในสงครามกาซา จุดชนวนความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามทั่วตะวันออกกลาง รวมทั้งดึงอเมริกาและอิหร่านเข้าไปพัวพัน
    .
    วันอังคาร กบฏฮูตีเผยว่า ส่งโดรนโจมตีที่มั่นทางทหารของอิสราเอลในเทลอาวีฟ
    .
    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อค่ายเอน อัล-เฮลเวห์เมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน มักดาห์ ลูกชายของมูนีร์ มักดาห์ หัวหน้ากลุ่มอัล-อักซอ มาร์ตีส์ บริเกดส์ในเลบานอน ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฟาตาห์ในปาเลสไตน์
    .
    รายงานสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อชุมชนชายแดนยังทำให้สมาชิก 10 คนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 2 คน
    .
    ทางด้านสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดการโจมตี 3 ระลอกในกรุงดามัสกัส อย่างไรก็ดี มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 9 คน และสถานีทีวีของทางการซีเรียรายงานว่า ซาฟา อาหมัด ผู้ประกาศของสถานี เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
    .
    กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีซีเรียนับร้อยครั้ง
    .
    เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังอิสราเอลประกาศบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน ทว่า ก่อนหน้านี้นักรบกลุ่มนี้ประกาศว่า พร้อมรับมือหากอิสราเอลตัดสินใจเปิดฉากบุก
    .
    คืนวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา เผยว่า วอชิงตันสนับสนุนการโจมตีเพื่อทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน พร้อมเตือนอิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์ร้ายแรง หากโจมตีอิสราเอลโดยตรง
    .
    ก่อนหน้านี้อิหร่านประกาศว่า อิสราเอลจะ “ย่อยยับ” จากการสังหารนาสรัลเลาะห์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า เตหะรานจะไม่ส่งนักรบไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล
    .
    ทั้งนี้ แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่อิสราเอลสองคนที่เผยว่า การบุกภาคพื้นดินเป็นปฏิบัติการที่กำหนดเป้าหมายและจำกัดทั้งในแง่ระยะเวลาและขอบเขต รวมทั้งยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการยึดครองตอนใต้ของเลบานอน
    .
    ปฏิบัติการของอิสราเอลเกิดขึ้นท่ามกลางการเรียกร้องจากนานาชาติให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลาย สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ยูเอ็นไม่เห็นด้วยกับการบุกภาคพื้นดิน
    .
    ทางด้านกองทัพเลบานอนเผยว่า ได้โยกย้ายทหารออกจากแนวชายแดนแล้ว และนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ เรียกร้องให้ยูเอ็นและประเทศผู้บริจาคให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องทิ้งถิ่นฐานหนีการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 1 ล้านคน
    .
    ขณะที่ฟิราสส์ อาบิอัด รัฐมนตรีสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนนับจากวันที่ 17 ก.ย. ที่เกิดเหตุการณ์เพจเจอร์ของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ระเบิดทั่วเลบานอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092776
    ..................
    Sondhi X
    กองทัพอิสราเอลเตือนชาวเลบานอนหลายสิบชุมชนอพยพออกจากแนวชายแดน หลังส่งพลร่ม คอมมานโด และหน่วยยานเกราะเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ท่ามกลางการเรียกร้องของนานาชาติให้หลีกเลี่ยงการปลุกปั่นให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลาม ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในการทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน . ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอนเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลล็อกเป้าถล่มพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุตของเลบานอน กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และดินแดนฉนวนกาซา . โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า การสู้รบจะไม่ยุติลงเร็วๆ นี้ แม้การถล่มโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) สามารถปลิดชีพ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้แล้วก็ตาม . กองทัพอิสราเอลยังแถลงว่า กำลังทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศและหน่วยปืนใหญ่ เปิดฉากบุกภาคพื้นดินแบบกำหนดเป้าหมายที่ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ในชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนเลบานอน เนื่องจากที่มั่นเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อชุมชนชาวอิสราเอลทางเหนือของประเทศ พร้อมยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการทำสงครามกับประชาชนเลบานอน . วันอังคาร (1 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ระบุให้ชุมชน 24 แห่งทางใต้ของเลบานอนอพยพจากตอนเหนือของแม่น้ำอวาลีที่อยู่ห่างจากชายแดนราว 60 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าแม่น้ำลิทานีที่เป็นเส้นกำหนดเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภายหลังสงครามในปี 2006 โดยแม่น้ำลิทานีนั้นอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 30 กิโลเมตร . ก่อนหน้านั้นกองทัพอิสราเอลประกาศพื้นที่ทางทหารบริเวณชายแดนบางส่วนที่ติดกับเลบานอน เนื่องจากมีจรวดยิงมาจากเลบานอนไปยังเมืองอวิวิมและเมตูลาทางเหนือของอิสราเอล . ทางฝ่ายฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ยิงปืนใหญ่โจมตีขบวนทหารของข้าศึกในเมืองเมตูลาสองครั้ง . พันธมิตรของอิหร่านตั้งแต่ฮิซบอลเลาะห์จนถึงกบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ต่างเข้าร่วมการโจมตีอิสราเอลเพื่อสนับสนุนฮามาสในสงครามกาซา จุดชนวนความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามทั่วตะวันออกกลาง รวมทั้งดึงอเมริกาและอิหร่านเข้าไปพัวพัน . วันอังคาร กบฏฮูตีเผยว่า ส่งโดรนโจมตีที่มั่นทางทหารของอิสราเอลในเทลอาวีฟ . ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อค่ายเอน อัล-เฮลเวห์เมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน มักดาห์ ลูกชายของมูนีร์ มักดาห์ หัวหน้ากลุ่มอัล-อักซอ มาร์ตีส์ บริเกดส์ในเลบานอน ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฟาตาห์ในปาเลสไตน์ . รายงานสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อชุมชนชายแดนยังทำให้สมาชิก 10 คนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 2 คน . ทางด้านสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดการโจมตี 3 ระลอกในกรุงดามัสกัส อย่างไรก็ดี มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 9 คน และสถานีทีวีของทางการซีเรียรายงานว่า ซาฟา อาหมัด ผู้ประกาศของสถานี เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล . กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีซีเรียนับร้อยครั้ง . เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังอิสราเอลประกาศบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน ทว่า ก่อนหน้านี้นักรบกลุ่มนี้ประกาศว่า พร้อมรับมือหากอิสราเอลตัดสินใจเปิดฉากบุก . คืนวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา เผยว่า วอชิงตันสนับสนุนการโจมตีเพื่อทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน พร้อมเตือนอิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์ร้ายแรง หากโจมตีอิสราเอลโดยตรง . ก่อนหน้านี้อิหร่านประกาศว่า อิสราเอลจะ “ย่อยยับ” จากการสังหารนาสรัลเลาะห์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า เตหะรานจะไม่ส่งนักรบไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล . ทั้งนี้ แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่อิสราเอลสองคนที่เผยว่า การบุกภาคพื้นดินเป็นปฏิบัติการที่กำหนดเป้าหมายและจำกัดทั้งในแง่ระยะเวลาและขอบเขต รวมทั้งยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการยึดครองตอนใต้ของเลบานอน . ปฏิบัติการของอิสราเอลเกิดขึ้นท่ามกลางการเรียกร้องจากนานาชาติให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลาย สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ยูเอ็นไม่เห็นด้วยกับการบุกภาคพื้นดิน . ทางด้านกองทัพเลบานอนเผยว่า ได้โยกย้ายทหารออกจากแนวชายแดนแล้ว และนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ เรียกร้องให้ยูเอ็นและประเทศผู้บริจาคให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องทิ้งถิ่นฐานหนีการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 1 ล้านคน . ขณะที่ฟิราสส์ อาบิอัด รัฐมนตรีสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนนับจากวันที่ 17 ก.ย. ที่เกิดเหตุการณ์เพจเจอร์ของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ระเบิดทั่วเลบานอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092776 .................. Sondhi X
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1367 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากคอลัมน์ มันเป็นเช่นนั้นเอง โดยทับทิม พญาไท ในผู้จัดการออนไลน์ 1 กันยายน 2567

    “สำหรับ “แนวรบทะเลจีนใต้” นั้น...แม้ลักษณะภายนอก อาจดูผิดแผก แตกต่างไปจากทั้งสองแนวรบอยู่มั่ง แต่ถ้ามองลึกลงไปถึงไส้ในความร้อนเร่า ร้อนผ่าวๆ หรือ “ความไวไฟ” ก็ไม่น่าจะผิดไปจากกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อมองถึงการเดินทางไปเยือนจีนของที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว “นายJake Sullivan”

    เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา (27-29 ส.ค.) เพราะการเดินทางไปเยือนจีนของที่ปรึกษาความมั่นคงอเมริกันรายนี้ เอาเข้าจริงๆ แล้ว...อาจต่างไปจากการเดินทางไปเยี่ยมเยือนประเทศแต่ละประเทศตามปกติธรรมดา หรือตามขนบธรรมเนียมประเพณีโดยทั่วๆ ไป แต่ถือเป็นการเดินทางไปเยือนตาม “คำเชื้อเชิญ” ของคณะกรรมการกลางและโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อให้มีโอกาส “รับฟัง...สิ่งที่ควรได้ยิน” ดังที่บทบรรณาธิการ “Global Times” เขาว่าเอาไว้เมื่อไม่กี่วันมานี้นั่นแหละทั่น...

    และการพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะเจรจาของ 2 มหาอำนาจในคราวนี้...อาจแทบไม่ต้องเสียเวลาประดิษฐ์คิดค้นคำพูดประเภทสวยๆ หรูๆ แบบพวกนักการทูตที่ชอบวกไป-วนมาแต่อย่างใด เพราะถือเป็นการพูดคุยสื่อสารแบบ “ทหาร-ต่อ-ทหาร” (military-to-military communications) อะไรประมาณนั้น โดยผลสรุปของการพูดคุยเจรจา ถ้าฟังจากคำแถลงของกระทรวงกลาโหมจีน หรือจากคำประกาศของตัวแทนฝ่ายจีน อย่างรองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง “พลเอกZhang Youxia” ต้องเรียกว่า...เผลอๆอาจต้อง “หรี่แอร์” ในระหว่างการประชุมหรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะว่ากันไป เพราะออกจะเป็นอะไรที่ “หนาวว์ว์ว์ยะเยือก” อยู่พอสมควรทีเดียว หรืออย่างที่สำนักข่าวต่างประเทศบางสำนักเขาถึงกับหยิบไปพาดหัวไว้ว่า...ปักกิ่งแสดงความต้องการที่จะให้วอชิงตัน “หยุดสมคบคิดทางทหาร” กับไต้หวัน เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

    คือ “พลเอกZhang Youxia” รายที่ว่านี้...แม้ว่าโดยฐานะ ตำแหน่ง จะเป็นแค่ “รองประธาน” ของคณะกรรมาธิการกลางทางทหารกองทัพจีนก็เถอะ แต่โดยความสนิทชิดเชื้อกับผู้นำสูงสุดของจีน อย่างประธานาธิบดี “สี ทนได้” หรือ “สี จิ้นผิง” นั้นว่ากันว่าสนิทกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อของทั้งคู่ และนอกจากเคยผ่านศึกสมรภูมิสงครามอย่าง “สงครามสั่งสอนเวียดนาม” เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1979 แล้ว ยังมีสถานะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คำพูด คำจาในแต่ละวรรค แต่ละประโยค ของบุคคลผู้นี้ คงต้อง “ฟัง” และฟังแบบต้อง “ได้ยิน” อีกต่างหาก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ปมประเด็นปัญหาไต้หวันอันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มิอาจแบ่งแยกได้นั้น ถือเป็นรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ และเป็นหมายเลขหนึ่งของ...เส้นตาย (Red Line) ที่ไม่อาจก้าวข้ามได้โดยเด็ดขาด แม้ว่าจีนจะพยายามรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในบริเวณช่องแคบไต้หวันมาโดยตลอด แต่ก็ต้องขอเตือนเอาไว้ด้วยว่า...สิ่งเหล่านี้อาจเป็นไปไม่ได้ถ้าหากยังมีความพยายามแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน!!!”

    นี่...ฟังแล้วต้องหรี่แอร์-ไม่หรี่แอร์ คงต้องไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน ยิ่งเป็นคำพูดระหว่าง “ทหาร-ต่อ-ทหาร” ไม่ใช่คำพูดหวานๆ แบบบรรดานักการทูตทั้งหลาย ก็คงต้องคิดหน้า-คิดหลังยิ่งขึ้นไปใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อรองประธานคณะกรรมาธิการทหารรายนี้ได้เน้นย้ำไว้ด้วยว่า “อเมริกาควรจะมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในมุมมองที่มีต่อจีน และควรที่จะกลับมาสู่ความมีเหตุมีผลและนโยบายที่สอดคล้องกับความเป็นจริงต่อประเทศของเรา เคารพในผลประโยชน์หลักของจีนในทางปฏิบัติและพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ ร่วมกันแบกรับภาระความรับผิดชอบในฐานะประเทศมหาอำนาจ” อันถือเป็นคำพูดที่สอดคล้องต้องกันกับผู้นำจีนอย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่บอกกับ “นายJake Sullivan” เอาไว้ก่อนหน้านั้นประมาณว่า... “จีนและสหรัฐฯ ควรจะมีความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ต่อประชาชนและต่อโลก” อีกด้วย...

    ดังนั้น...คำพูดที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวได้รับฟังแบบชนิดเต็มรูหู ตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ 11 ชั่วโมงในการพูดคุยหัวข้อต่างๆ ประมาณ 6 วาระ ระหว่างวันอังคารที่ 27 และพุธที่ 28 ส.ค. ถ้าหากจะสรุปย่อๆ แบบสั้นๆ-ง่ายๆ ตามสำบัดสำนวนของ “พลเอกZhang Youxia” ก็คือ... “หยุดสมคบคิดทางทหารกับไต้หวัน-หยุดติดอาวุธ-หยุดสร้างข่าวลือแบบผิดๆ” หรือเลิกกระตุ้น เลิกยุแยงตะแคงรั่ว ให้เกิดความคิดความทะเยอทะยานของบรรดาชาวไต้หวันบางกลุ่ม-บางราย ที่จะแยกไต้หวันออกจากจีนโดยเด็ดขาด!!!

    ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้การพบปะระหว่างที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวกับฝ่ายจีนคราวนี้ ในสายตานักคิด-นักเขียนและนักวิชาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอเชีย-แปซิฟิกโดยเฉพาะ อย่าง “K.J. Noh” ถึงได้สรุปว่า นี่ไม่ใช่การพบปะเพื่อกระชับความสัมพันธ์ หรือปรับปรุงความสัมพันธ์ใดๆ อีกต่อไป แต่ถือเป็นการตอกย้ำ “ข้อสงสัย” ของจีนต่อบทบาทของอเมริการในเอเชีย-แปซิฟิก ที่ควรจะต้องเป็นไปตาม “ข้อตกลงที่บาหลี” (Bali Agreement) หรือระหว่างการประชุมสุดยอดของผู้นำจีนและผู้นำอเมริกันที่นครซานฟรานซิสโก เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2023 นั่นก็คือข้อห้าม 5 ข้อ (Five Nos) ที่อเมริกาเคยสัญญิง-สัญญาไว้กับจีนว่าไม่คิดจะก่อสงครามเย็น-สงครามร้อน-ไม่คิดเปลี่ยนแปลงระบบปกครองจีน-ไม่ขัดขวางกิจกรรมของกันและกันและไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน...

    ดังนั้น...การที่คุณพ่ออเมริกายังไม่หยุดขายอาวุธไม่รู้จะกี่ต่อกี่พันล้าน-หมื่นล้านให้กับไต้หวัน ยังเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันและที่ปรึกษาความมั่นคง ดอดเข้าไป “ประชุมลับ” กับอเมริกากันถึงที่ เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแถมยังพยายามหันไปสร้าง “ดาวยั่วดวงใหม่”

    อย่างฟิลิปปินส์ ชนิดถึงกับยอมทุ่มเทเงินทองถึง 1.894 ล้านล้านเปโซ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท (33,740 ล้านดอลลาร์) เพื่อซื้ออาวุธ ซื้อเครื่องบินโจมตีมารับมือกับจีน โดยยังไม่นับรวมไปถึงการคิดจะนำเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของอเมริกามาติดตั้งไว้ในฟิลิปปินส์อีกต่างหาก ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง ที่น่าจะทำให้ “แนวรบในทะเลจีนใต้” นับแต่นี้ น่าจะยิ่งร้อนเร่า ร้อนแรง ยิ่งขึ้นไปตามลำดับ โดยเฉพาะเมื่อมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกอย่างจีน ไม่ได้คิดจะเอาแต่ลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพันแบบแต่ก่อน แต่กล้าที่จะพูดจาแบบตรงไป-ตรงมา หรือแบบ “ทหาร-ต่อ-ทหาร” กับอเมริกา ให้ต้อง “ฟัง...แล้วได้ยิน” อย่างมิอาจเอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ได้อีกต่อไป...

    อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ “แนวรบ” ทุกแนวรบ กลายเป็นสิ่งที่สอดประสานซึ่งกันและกันอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลางและทะเลจีนใต้ ที่ได้กลายเป็นตัวสร้าง “แรงกดดัน” ให้กับมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตกทั้งหลาย ที่เพียงแค่เจอกับรัสเซียในแนวรบยุโรปตะวันออกเท่านั้นก็แทบ “ไปไม่เป็น” กันไปทั้งแผง ไม่ใช่ “เสาหลักทางเศรษฐกิจ” อย่างเยอรมนีเท่านั้น ที่ต้องออกมาสารภาพว่าชักจะ “บ่อจี๊” ไม่เหลือเงิน-เหลือทองพอที่จะไปช่วย “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครนได้อีกต่อไปแล้ว แต่กระทั่งโปแลนด์ที่อยู่หน้าปากประตูบ้านของรัสเซีย เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ก็ยังต้องออกมาสารภาพว่าแทบไม่เหลืออาวุธที่จะส่งไปให้ยูเครนอีกต่อไป ส่วนในแนวรบตะวันออกกลาง การตระเตรียมรับมือกับ “สงครามใหญ่” อันอาจเกิดจากการแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่าน ถึงกับทำให้เรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำของอเมริกาไม่สามารถถอนสมอไปไหน-มาไหนได้อีก แถมจรวดราคาลูกละเป็นล้านๆ ดอลลาร์ที่ต้องเอาไว้สกัดกั้นจรวดหรือเครื่องบินโดรนราคาถูกๆ ของพวกนักรบเยเมนอย่าง “กบฏฮูตี” ก็ชักจะร่อยหรอแทบไม่เหลือติดคลังเอาไว้เลยก็ว่าได้...

    ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากต้องมาเจอกับแนวรบอีกแนวรบ นั่นคือแนวรบทะเลจีนใต้ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่มหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา รวมทั้งบรรดาพันธมิตรในโลกตะวันตกทั้งหลาย ที่ต่างก็ “กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร” ไปด้วยกันทั้งสิ้นจะยังคงยืนหยัด ยืนยัน ถึงความเป็น “โลกขั้วอำนาจเดียว” ไม่ยอมเปิดโอกาส ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่าโลกทุกวันนี้ ได้กลายเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” ไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงเป็นได้แค่คำคุยโม้ คุยโต ไปวันๆ เท่านั้นเอง!!!”

    ที่มา : คอลัมน์มันเป็นเช่นนั้นเอง/ทับทิม พญาไท
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000080996

    #Thaitimes
    รีโพสต์จากคอลัมน์ มันเป็นเช่นนั้นเอง โดยทับทิม พญาไท ในผู้จัดการออนไลน์ 1 กันยายน 2567 “สำหรับ “แนวรบทะเลจีนใต้” นั้น...แม้ลักษณะภายนอก อาจดูผิดแผก แตกต่างไปจากทั้งสองแนวรบอยู่มั่ง แต่ถ้ามองลึกลงไปถึงไส้ในความร้อนเร่า ร้อนผ่าวๆ หรือ “ความไวไฟ” ก็ไม่น่าจะผิดไปจากกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อมองถึงการเดินทางไปเยือนจีนของที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว “นายJake Sullivan” เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา (27-29 ส.ค.) เพราะการเดินทางไปเยือนจีนของที่ปรึกษาความมั่นคงอเมริกันรายนี้ เอาเข้าจริงๆ แล้ว...อาจต่างไปจากการเดินทางไปเยี่ยมเยือนประเทศแต่ละประเทศตามปกติธรรมดา หรือตามขนบธรรมเนียมประเพณีโดยทั่วๆ ไป แต่ถือเป็นการเดินทางไปเยือนตาม “คำเชื้อเชิญ” ของคณะกรรมการกลางและโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อให้มีโอกาส “รับฟัง...สิ่งที่ควรได้ยิน” ดังที่บทบรรณาธิการ “Global Times” เขาว่าเอาไว้เมื่อไม่กี่วันมานี้นั่นแหละทั่น... และการพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะเจรจาของ 2 มหาอำนาจในคราวนี้...อาจแทบไม่ต้องเสียเวลาประดิษฐ์คิดค้นคำพูดประเภทสวยๆ หรูๆ แบบพวกนักการทูตที่ชอบวกไป-วนมาแต่อย่างใด เพราะถือเป็นการพูดคุยสื่อสารแบบ “ทหาร-ต่อ-ทหาร” (military-to-military communications) อะไรประมาณนั้น โดยผลสรุปของการพูดคุยเจรจา ถ้าฟังจากคำแถลงของกระทรวงกลาโหมจีน หรือจากคำประกาศของตัวแทนฝ่ายจีน อย่างรองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง “พลเอกZhang Youxia” ต้องเรียกว่า...เผลอๆอาจต้อง “หรี่แอร์” ในระหว่างการประชุมหรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะว่ากันไป เพราะออกจะเป็นอะไรที่ “หนาวว์ว์ว์ยะเยือก” อยู่พอสมควรทีเดียว หรืออย่างที่สำนักข่าวต่างประเทศบางสำนักเขาถึงกับหยิบไปพาดหัวไว้ว่า...ปักกิ่งแสดงความต้องการที่จะให้วอชิงตัน “หยุดสมคบคิดทางทหาร” กับไต้หวัน เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! คือ “พลเอกZhang Youxia” รายที่ว่านี้...แม้ว่าโดยฐานะ ตำแหน่ง จะเป็นแค่ “รองประธาน” ของคณะกรรมาธิการกลางทางทหารกองทัพจีนก็เถอะ แต่โดยความสนิทชิดเชื้อกับผู้นำสูงสุดของจีน อย่างประธานาธิบดี “สี ทนได้” หรือ “สี จิ้นผิง” นั้นว่ากันว่าสนิทกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อของทั้งคู่ และนอกจากเคยผ่านศึกสมรภูมิสงครามอย่าง “สงครามสั่งสอนเวียดนาม” เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1979 แล้ว ยังมีสถานะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คำพูด คำจาในแต่ละวรรค แต่ละประโยค ของบุคคลผู้นี้ คงต้อง “ฟัง” และฟังแบบต้อง “ได้ยิน” อีกต่างหาก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ปมประเด็นปัญหาไต้หวันอันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มิอาจแบ่งแยกได้นั้น ถือเป็นรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ และเป็นหมายเลขหนึ่งของ...เส้นตาย (Red Line) ที่ไม่อาจก้าวข้ามได้โดยเด็ดขาด แม้ว่าจีนจะพยายามรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในบริเวณช่องแคบไต้หวันมาโดยตลอด แต่ก็ต้องขอเตือนเอาไว้ด้วยว่า...สิ่งเหล่านี้อาจเป็นไปไม่ได้ถ้าหากยังมีความพยายามแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน!!!” นี่...ฟังแล้วต้องหรี่แอร์-ไม่หรี่แอร์ คงต้องไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน ยิ่งเป็นคำพูดระหว่าง “ทหาร-ต่อ-ทหาร” ไม่ใช่คำพูดหวานๆ แบบบรรดานักการทูตทั้งหลาย ก็คงต้องคิดหน้า-คิดหลังยิ่งขึ้นไปใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อรองประธานคณะกรรมาธิการทหารรายนี้ได้เน้นย้ำไว้ด้วยว่า “อเมริกาควรจะมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในมุมมองที่มีต่อจีน และควรที่จะกลับมาสู่ความมีเหตุมีผลและนโยบายที่สอดคล้องกับความเป็นจริงต่อประเทศของเรา เคารพในผลประโยชน์หลักของจีนในทางปฏิบัติและพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ ร่วมกันแบกรับภาระความรับผิดชอบในฐานะประเทศมหาอำนาจ” อันถือเป็นคำพูดที่สอดคล้องต้องกันกับผู้นำจีนอย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่บอกกับ “นายJake Sullivan” เอาไว้ก่อนหน้านั้นประมาณว่า... “จีนและสหรัฐฯ ควรจะมีความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ต่อประชาชนและต่อโลก” อีกด้วย... ดังนั้น...คำพูดที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวได้รับฟังแบบชนิดเต็มรูหู ตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ 11 ชั่วโมงในการพูดคุยหัวข้อต่างๆ ประมาณ 6 วาระ ระหว่างวันอังคารที่ 27 และพุธที่ 28 ส.ค. ถ้าหากจะสรุปย่อๆ แบบสั้นๆ-ง่ายๆ ตามสำบัดสำนวนของ “พลเอกZhang Youxia” ก็คือ... “หยุดสมคบคิดทางทหารกับไต้หวัน-หยุดติดอาวุธ-หยุดสร้างข่าวลือแบบผิดๆ” หรือเลิกกระตุ้น เลิกยุแยงตะแคงรั่ว ให้เกิดความคิดความทะเยอทะยานของบรรดาชาวไต้หวันบางกลุ่ม-บางราย ที่จะแยกไต้หวันออกจากจีนโดยเด็ดขาด!!! ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้การพบปะระหว่างที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวกับฝ่ายจีนคราวนี้ ในสายตานักคิด-นักเขียนและนักวิชาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอเชีย-แปซิฟิกโดยเฉพาะ อย่าง “K.J. Noh” ถึงได้สรุปว่า นี่ไม่ใช่การพบปะเพื่อกระชับความสัมพันธ์ หรือปรับปรุงความสัมพันธ์ใดๆ อีกต่อไป แต่ถือเป็นการตอกย้ำ “ข้อสงสัย” ของจีนต่อบทบาทของอเมริการในเอเชีย-แปซิฟิก ที่ควรจะต้องเป็นไปตาม “ข้อตกลงที่บาหลี” (Bali Agreement) หรือระหว่างการประชุมสุดยอดของผู้นำจีนและผู้นำอเมริกันที่นครซานฟรานซิสโก เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2023 นั่นก็คือข้อห้าม 5 ข้อ (Five Nos) ที่อเมริกาเคยสัญญิง-สัญญาไว้กับจีนว่าไม่คิดจะก่อสงครามเย็น-สงครามร้อน-ไม่คิดเปลี่ยนแปลงระบบปกครองจีน-ไม่ขัดขวางกิจกรรมของกันและกันและไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน... ดังนั้น...การที่คุณพ่ออเมริกายังไม่หยุดขายอาวุธไม่รู้จะกี่ต่อกี่พันล้าน-หมื่นล้านให้กับไต้หวัน ยังเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันและที่ปรึกษาความมั่นคง ดอดเข้าไป “ประชุมลับ” กับอเมริกากันถึงที่ เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแถมยังพยายามหันไปสร้าง “ดาวยั่วดวงใหม่” อย่างฟิลิปปินส์ ชนิดถึงกับยอมทุ่มเทเงินทองถึง 1.894 ล้านล้านเปโซ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท (33,740 ล้านดอลลาร์) เพื่อซื้ออาวุธ ซื้อเครื่องบินโจมตีมารับมือกับจีน โดยยังไม่นับรวมไปถึงการคิดจะนำเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของอเมริกามาติดตั้งไว้ในฟิลิปปินส์อีกต่างหาก ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง ที่น่าจะทำให้ “แนวรบในทะเลจีนใต้” นับแต่นี้ น่าจะยิ่งร้อนเร่า ร้อนแรง ยิ่งขึ้นไปตามลำดับ โดยเฉพาะเมื่อมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกอย่างจีน ไม่ได้คิดจะเอาแต่ลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพันแบบแต่ก่อน แต่กล้าที่จะพูดจาแบบตรงไป-ตรงมา หรือแบบ “ทหาร-ต่อ-ทหาร” กับอเมริกา ให้ต้อง “ฟัง...แล้วได้ยิน” อย่างมิอาจเอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ได้อีกต่อไป... อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ “แนวรบ” ทุกแนวรบ กลายเป็นสิ่งที่สอดประสานซึ่งกันและกันอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลางและทะเลจีนใต้ ที่ได้กลายเป็นตัวสร้าง “แรงกดดัน” ให้กับมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตกทั้งหลาย ที่เพียงแค่เจอกับรัสเซียในแนวรบยุโรปตะวันออกเท่านั้นก็แทบ “ไปไม่เป็น” กันไปทั้งแผง ไม่ใช่ “เสาหลักทางเศรษฐกิจ” อย่างเยอรมนีเท่านั้น ที่ต้องออกมาสารภาพว่าชักจะ “บ่อจี๊” ไม่เหลือเงิน-เหลือทองพอที่จะไปช่วย “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครนได้อีกต่อไปแล้ว แต่กระทั่งโปแลนด์ที่อยู่หน้าปากประตูบ้านของรัสเซีย เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ก็ยังต้องออกมาสารภาพว่าแทบไม่เหลืออาวุธที่จะส่งไปให้ยูเครนอีกต่อไป ส่วนในแนวรบตะวันออกกลาง การตระเตรียมรับมือกับ “สงครามใหญ่” อันอาจเกิดจากการแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่าน ถึงกับทำให้เรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำของอเมริกาไม่สามารถถอนสมอไปไหน-มาไหนได้อีก แถมจรวดราคาลูกละเป็นล้านๆ ดอลลาร์ที่ต้องเอาไว้สกัดกั้นจรวดหรือเครื่องบินโดรนราคาถูกๆ ของพวกนักรบเยเมนอย่าง “กบฏฮูตี” ก็ชักจะร่อยหรอแทบไม่เหลือติดคลังเอาไว้เลยก็ว่าได้... ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากต้องมาเจอกับแนวรบอีกแนวรบ นั่นคือแนวรบทะเลจีนใต้ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่มหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา รวมทั้งบรรดาพันธมิตรในโลกตะวันตกทั้งหลาย ที่ต่างก็ “กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร” ไปด้วยกันทั้งสิ้นจะยังคงยืนหยัด ยืนยัน ถึงความเป็น “โลกขั้วอำนาจเดียว” ไม่ยอมเปิดโอกาส ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่าโลกทุกวันนี้ ได้กลายเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” ไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงเป็นได้แค่คำคุยโม้ คุยโต ไปวันๆ เท่านั้นเอง!!!” ที่มา : คอลัมน์มันเป็นเช่นนั้นเอง/ทับทิม พญาไท https://mgronline.com/daily/detail/9670000080996 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    สมรภูมิใหม่...ในแนวรบทะเลจีนใต้???
    เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตชวนไปแวะดู “แนวรบทะเลจีนใต้” เป็นการเฉพาะ เพราะสำหรับแนวรบอีก 2 แนวคือยุโรปตะวันออกกับตะวันออกกลางนั้น แทบไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์เจาะลึกอะไรกันมาก ด้วยเหตุเพราะโดยสภาพ
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1039 มุมมอง 0 รีวิว