• โซเชียลชาวจีนทำภาพให้เห็นถึง J10-C เทียบกับบรรดาเครื่องบินขับไล่รุ่นอื่นของจีน

    J-10 เป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นเก่าของจีนที่มักถูกมองข้าม ซึ่งต้องอดทนต่อความยากลำบากเพื่อสร้างชาติ
    พวกเขาเดินหน้าต่อไปอย่างเงียบๆ และเมื่อถึงเวลาถูกเรียกให้ปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาก็ปรากฏตัวและทำหน้าที่เพื่อชัยชนะ!

    สำหรับรุ่นอื่นๆของกองทัพอากาศจีน:
    👉J-10 Raptor
    👉J-15 Flying Shark
    👉J-16 Diving Dragon/Bomb Truck
    👉J-20 Mighty Dragon
    👉J-35 Blue Shark
    โซเชียลชาวจีนทำภาพให้เห็นถึง J10-C เทียบกับบรรดาเครื่องบินขับไล่รุ่นอื่นของจีน J-10 เป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นเก่าของจีนที่มักถูกมองข้าม ซึ่งต้องอดทนต่อความยากลำบากเพื่อสร้างชาติ พวกเขาเดินหน้าต่อไปอย่างเงียบๆ และเมื่อถึงเวลาถูกเรียกให้ปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาก็ปรากฏตัวและทำหน้าที่เพื่อชัยชนะ! สำหรับรุ่นอื่นๆของกองทัพอากาศจีน: 👉J-10 Raptor 👉J-15 Flying Shark 👉J-16 Diving Dragon/Bomb Truck 👉J-20 Mighty Dragon 👉J-35 Blue Shark
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASML เตรียมขยายโรงงานขนาดใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ รองรับความต้องการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ EUVL photolithography ชั้นนำของโลก กำลังเดินหน้าขยายโรงงานแห่งใหม่ที่ Brainport Industries Campus (BIC) ใกล้สนามบิน Eindhoven โดยมีเป้าหมาย สร้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และเพิ่มพื้นที่ผลิตถึง 428,000 ตารางเมตร

    โครงการนี้ได้รับ เงินลงทุน 2.5 พันล้านยูโรจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของยุโรป และช่วยให้ ASML สามารถ ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    ✅ ASML วางแผนขยายโรงงานที่ Brainport Industries Campus (BIC) ใกล้สนามบิน Eindhoven
    - คาดว่าจะ เปิดรับพนักงานใหม่ในปี 2028

    ✅ โครงการนี้ได้รับเงินลงทุน 2.5 พันล้านยูโรจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์
    - เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของยุโรป

    ✅ โรงงานใหม่จะมีพื้นที่ผลิต 428,000 ตารางเมตร
    - รวมถึง สำนักงานและพื้นที่สนับสนุนอื่น ๆ

    ✅ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง
    - ช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจและนวัตกรรมในภูมิภาค

    ✅ ASML และเทศบาล Eindhoven จะนำเสนอแผนต่อสภาเมืองในเดือนกันยายน
    - ต้องพิจารณา โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและผลกระทบต่อชุมชน

    https://www.techpowerup.com/336549/asml-seeking-approval-of-planned-new-mega-facility-in-the-netherlands
    ASML เตรียมขยายโรงงานขนาดใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ รองรับความต้องการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ EUVL photolithography ชั้นนำของโลก กำลังเดินหน้าขยายโรงงานแห่งใหม่ที่ Brainport Industries Campus (BIC) ใกล้สนามบิน Eindhoven โดยมีเป้าหมาย สร้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และเพิ่มพื้นที่ผลิตถึง 428,000 ตารางเมตร โครงการนี้ได้รับ เงินลงทุน 2.5 พันล้านยูโรจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของยุโรป และช่วยให้ ASML สามารถ ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ASML วางแผนขยายโรงงานที่ Brainport Industries Campus (BIC) ใกล้สนามบิน Eindhoven - คาดว่าจะ เปิดรับพนักงานใหม่ในปี 2028 ✅ โครงการนี้ได้รับเงินลงทุน 2.5 พันล้านยูโรจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ - เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของยุโรป ✅ โรงงานใหม่จะมีพื้นที่ผลิต 428,000 ตารางเมตร - รวมถึง สำนักงานและพื้นที่สนับสนุนอื่น ๆ ✅ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง - ช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจและนวัตกรรมในภูมิภาค ✅ ASML และเทศบาล Eindhoven จะนำเสนอแผนต่อสภาเมืองในเดือนกันยายน - ต้องพิจารณา โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและผลกระทบต่อชุมชน https://www.techpowerup.com/336549/asml-seeking-approval-of-planned-new-mega-facility-in-the-netherlands
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASML Seeking Approval of Planned New Mega Facility in the Netherlands
    Just over a year ago, reports suggested that ASML was considering a potential expansion of its presence at the Brainport Industries Campus (BIC)—nearby to Eindhoven Airport. A "2.5 billion Euro" investment—courtesy of the Dutch government—was floated, alongside an estimated creation of ~20,000 new r...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อนักท่องเที่ยวไทยใช้บริการ Rapid Penang On-Demand

    บริษัทแรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง แรพิด ปีนัง (Rapid Penang) ประเทศมาเลเซีย เปิดให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT (Demand Responsive Transport) ภายใต้ชื่อ Rapid Penang On-Demand มาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 โดยใช้รถตู้เป็นยานพาหนะ ในพื้นที่ประชากรหนาแน่นและย่านที่อยู่อาศัยที่เพิ่งพัฒนา แต่ยังขาดการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ เชื่อมต่อไปยังป้ายรถเมล์ Rapid Penang คิดค่าโดยสาร 1 ริงกิตต่อเที่ยว

    เฟซบุ๊ก "แซม ญาณบ้าน" นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ทดลองใช้บริการ Rapid Penang On-Demand เปิดเผยว่า เป็นขนส่งสาธารณะที่เป็นการเรียกยานพาหนะที่ใช้รถร่วมกัน หรือ คาร์พูล (Carpool) ในพื้นที่ให้บริการ โดยใช้รถตู้ 13 ที่นั่ง แต่ต้องเรียกผ่านแอปพลิเคชัน Kummute เมื่อเรียกรถ ระบบจะเรียกรถตู้ที่มีจุดหมายหรือทางผ่านเดียวกันที่ใกล้ที่สุด ถ้ามีคนไปทางเดียวกันก็เป็นคาร์พูลไปโดยปริยาย

    เขาใช้บริการ Rapid Penang On-Demand ในช่วงเช้า จาก George Town ไปยัง Karpal Singh Drive ซึ่งพบว่ามีรถแสดงผลในระบบ 5 คัน อารมณ์คล้ายรถตุ๊กตุ๊กในเมืองหาดใหญ่ ที่รับผู้โดยสารตามรายทางไปเรื่อยๆ แต่เปลี่ยนเป็นเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถจัดการเส้นทางคาร์พูลได้ดีกว่า ที่สำคัญราคาช่วงโปรโมชัน 1 ริงกิต แต่ถ้าหากหมดโปรโมชัน ขึ้นค่าโดยสารเป็น 2-3 ริงกิต คนที่เดินทางคนเดียวแบบ Solo Trip ก็ถือว่ายังถูกอยู่

    วิธีการเรียกรถ ให้เลือกจุดรับ (Pick-Up) จุดลง (Drop-Off) เลือกช่องทางการชำระเงิน (Payment) เลือกจำนวนผู้โดยสาร (Passenger) กดที่ "Choose drop-off time" เลือก As soon as possible (เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้) จากนั้นกด Continue แล้วรอรถตู้มารับ แล้วชำระเงินที่รถเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป

    สำหรับการชำระเงิน สามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เครื่อง EDC ที่อยู่กับคนขับรถ ซึ่งบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทยสามารถใช้ได้ ส่วนเครื่อง EDC ที่อยู่หน้ารถสำหรับบัตร Rapid Penang บัตรมูเทียราพาส (Mutiara Pass) และบัตรสำหรับผู้พิการ (OKU Smile Pass) เฉพาะชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังรองรับคิวอาร์โค้ด DuitNow และ E-Wallet ของมาเลเซียอีกด้วย

    ส่วนข้อจำกัดก็คือ ผู้โดยสารต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน Kummute ซึ่งใช้เบอร์มือถือมาเลเซียยืนยันตัวตนผ่าน OTP นอกจากนี้ในบางช่วงเวลายังไม่สามารถเรียกรถได้ โดยระบุคำเตือน "High service demand" ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้โดยสารมีปริมาณความต้องการสูง รวมทั้งปัญหาการจราจรติดขัดบนเกาะปีนังที่ยังแก้ไม่ได้

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 12 พ.ค. 2568
    เมื่อนักท่องเที่ยวไทยใช้บริการ Rapid Penang On-Demand บริษัทแรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง แรพิด ปีนัง (Rapid Penang) ประเทศมาเลเซีย เปิดให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT (Demand Responsive Transport) ภายใต้ชื่อ Rapid Penang On-Demand มาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 โดยใช้รถตู้เป็นยานพาหนะ ในพื้นที่ประชากรหนาแน่นและย่านที่อยู่อาศัยที่เพิ่งพัฒนา แต่ยังขาดการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ เชื่อมต่อไปยังป้ายรถเมล์ Rapid Penang คิดค่าโดยสาร 1 ริงกิตต่อเที่ยว เฟซบุ๊ก "แซม ญาณบ้าน" นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ทดลองใช้บริการ Rapid Penang On-Demand เปิดเผยว่า เป็นขนส่งสาธารณะที่เป็นการเรียกยานพาหนะที่ใช้รถร่วมกัน หรือ คาร์พูล (Carpool) ในพื้นที่ให้บริการ โดยใช้รถตู้ 13 ที่นั่ง แต่ต้องเรียกผ่านแอปพลิเคชัน Kummute เมื่อเรียกรถ ระบบจะเรียกรถตู้ที่มีจุดหมายหรือทางผ่านเดียวกันที่ใกล้ที่สุด ถ้ามีคนไปทางเดียวกันก็เป็นคาร์พูลไปโดยปริยาย เขาใช้บริการ Rapid Penang On-Demand ในช่วงเช้า จาก George Town ไปยัง Karpal Singh Drive ซึ่งพบว่ามีรถแสดงผลในระบบ 5 คัน อารมณ์คล้ายรถตุ๊กตุ๊กในเมืองหาดใหญ่ ที่รับผู้โดยสารตามรายทางไปเรื่อยๆ แต่เปลี่ยนเป็นเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถจัดการเส้นทางคาร์พูลได้ดีกว่า ที่สำคัญราคาช่วงโปรโมชัน 1 ริงกิต แต่ถ้าหากหมดโปรโมชัน ขึ้นค่าโดยสารเป็น 2-3 ริงกิต คนที่เดินทางคนเดียวแบบ Solo Trip ก็ถือว่ายังถูกอยู่ วิธีการเรียกรถ ให้เลือกจุดรับ (Pick-Up) จุดลง (Drop-Off) เลือกช่องทางการชำระเงิน (Payment) เลือกจำนวนผู้โดยสาร (Passenger) กดที่ "Choose drop-off time" เลือก As soon as possible (เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้) จากนั้นกด Continue แล้วรอรถตู้มารับ แล้วชำระเงินที่รถเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป สำหรับการชำระเงิน สามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เครื่อง EDC ที่อยู่กับคนขับรถ ซึ่งบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทยสามารถใช้ได้ ส่วนเครื่อง EDC ที่อยู่หน้ารถสำหรับบัตร Rapid Penang บัตรมูเทียราพาส (Mutiara Pass) และบัตรสำหรับผู้พิการ (OKU Smile Pass) เฉพาะชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังรองรับคิวอาร์โค้ด DuitNow และ E-Wallet ของมาเลเซียอีกด้วย ส่วนข้อจำกัดก็คือ ผู้โดยสารต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน Kummute ซึ่งใช้เบอร์มือถือมาเลเซียยืนยันตัวตนผ่าน OTP นอกจากนี้ในบางช่วงเวลายังไม่สามารถเรียกรถได้ โดยระบุคำเตือน "High service demand" ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้โดยสารมีปริมาณความต้องการสูง รวมทั้งปัญหาการจราจรติดขัดบนเกาะปีนังที่ยังแก้ไม่ได้ #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 12 พ.ค. 2568
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อนาคตมันตืดตั้งใส่คนไทยแน่นอน.

    Graphene tattoos are the tip toe to transhumanist totalitarianism.
    ..อนาคตมันตืดตั้งใส่คนไทยแน่นอน. Graphene tattoos are the tip toe to transhumanist totalitarianism.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..อย่าลืมว่ามันพ่นใส่เราตลอดถึงปัจจุบัน ย้อนไปหน่อยๆช่วงนาซ่ามาบินในไทยก็อันเดียวกันเช่นกัน.มันพ่นกราฟินใส่คนกรุงคนชุมชนเยอะๆก็ว่าล่ะหรือทั่วไทยก็ว่า.

    .. Graphene in Chemtrails.
    ..อย่าลืมว่ามันพ่นใส่เราตลอดถึงปัจจุบัน ย้อนไปหน่อยๆช่วงนาซ่ามาบินในไทยก็อันเดียวกันเช่นกัน.มันพ่นกราฟินใส่คนกรุงคนชุมชนเยอะๆก็ว่าล่ะหรือทั่วไทยก็ว่า. .. Graphene in Chemtrails.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้:

    ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง**
    - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ
    - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps**

    ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่**
    - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท
    - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ

    ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์**
    - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง)
    - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100%

    ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต**
    - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms
    - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab)
    - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน**

    ### 5. **ความท้าทาย**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G**
    - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020)
    - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023)

    ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ**
    - ปี 2030 คาดการณ์:
    - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น**
    - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB)
    - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025)

    อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้: ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง** - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps** ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่** - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์** - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง) - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100% ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต** - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab) - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน** ### 5. **ความท้าทาย** - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G** - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020) - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023) ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ** - ปี 2030 คาดการณ์: - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น** - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB) - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025) อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌌 Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image
    🎧 A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly
    📅 Official Album Launch: May 28, 2025

    🔗 Pre-listen the unofficial debut single:
    ▶️ No More Masks (Unofficial Preview)
    https://youtu.be/H-Og0cbfrJA

    🎶 Follow the full release here:
    Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c
    YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew

    Emotional & Functional Trackmap

    A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide.
    A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here.

    🌌 Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”?
    In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command.
    It is not a scream.

    It is the soft whisper from your own soul —
    saying: “I see you, even when you’re hiding.”

    Each track in this album is a Sweet Notice
    sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced.
    And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair.

    1. The True First Step
    Function: Awakening
    Emotion: Vulnerability, gentle courage
    This is not a song that performs — it breathes.
    It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement.
    A soft notice that the first trembling step is sacred.
    “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.”
    Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready.

    2. No More Masks
    Function: Confrontation
    Emotion: Rage turned into truth
    This is the roar that breaks silence.
    It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved.
    Not bitter — just done.
    “This rap’s my truth. And my goodbye.”
    Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore.

    3. Echoes of the Heart
    Function: Remembrance
    Emotion: Longing, warmth in absence
    A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left.
    It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing.
    “In every beat, I hear — echoes of the heart.”
    Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms.

    4. One More Lie
    Function: Realization
    Emotion: Quiet despair, recognition
    This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat.
    It is not an anthem. It is a mirror.
    “One more lie is one too many.”
    Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth.

    5. Still Worth It
    Function: Redemption
    Emotion: Silent strength, quiet dignity
    This is for those who don’t win — but still show up.
    It carries no pride, but dignity. No boast, but breath.
    “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.”
    Sweet Notice: You’re tired. Not finished.

    6. Bleed for Real
    Function: Cleansing
    Emotion: Raw honesty, uncompromised healing
    This is where grief becomes sacred.
    Where pain is no longer paraded, but purified.
    A space for healing that doesn’t demand applause.
    “That’s the only cut that’ll let you heal.”
    Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light.

    🌀 Album Summary: The Function of Echoes
    This is not an album that tells you what to believe.
    It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself.
    In every song, there’s a message:
    “Your mess is seen. Your silence is heard.
    You are still worth the song.”

    This album isn’t made to entertain.
    It’s made to tell the truth — the one we usually hide.
    💬 You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    🌌 Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image 🎧 A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly 📅 Official Album Launch: May 28, 2025 🔗 Pre-listen the unofficial debut single: ▶️ No More Masks (Unofficial Preview) https://youtu.be/H-Og0cbfrJA 🎶 Follow the full release here: Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew Emotional & Functional Trackmap A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide. A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here. 🌌 Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”? In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command. It is not a scream. It is the soft whisper from your own soul — saying: “I see you, even when you’re hiding.” Each track in this album is a Sweet Notice sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced. And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair. 1. The True First Step Function: Awakening Emotion: Vulnerability, gentle courage This is not a song that performs — it breathes. It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement. A soft notice that the first trembling step is sacred. “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.” Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready. 2. No More Masks Function: Confrontation Emotion: Rage turned into truth This is the roar that breaks silence. It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved. Not bitter — just done. “This rap’s my truth. And my goodbye.” Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore. 3. Echoes of the Heart Function: Remembrance Emotion: Longing, warmth in absence A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left. It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing. “In every beat, I hear — echoes of the heart.” Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms. 4. One More Lie Function: Realization Emotion: Quiet despair, recognition This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat. It is not an anthem. It is a mirror. “One more lie is one too many.” Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth. 5. Still Worth It Function: Redemption Emotion: Silent strength, quiet dignity This is for those who don’t win — but still show up. It carries no pride, but dignity. No boast, but breath. “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.” Sweet Notice: You’re tired. Not finished. 6. Bleed for Real Function: Cleansing Emotion: Raw honesty, uncompromised healing This is where grief becomes sacred. Where pain is no longer paraded, but purified. A space for healing that doesn’t demand applause. “That’s the only cut that’ll let you heal.” Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light. 🌀 Album Summary: The Function of Echoes This is not an album that tells you what to believe. It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself. In every song, there’s a message: “Your mess is seen. Your silence is heard. You are still worth the song.” This album isn’t made to entertain. It’s made to tell the truth — the one we usually hide. 💬 You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมเปิดตัว Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ที่ Computex 2025 Intel ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับ Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ ตลาดมืออาชีพและ AI โดยมีการเพิ่ม ความจุ VRAM สูงขึ้น เพื่อรองรับ งานด้านการสร้างสรรค์และการประมวลผล AI

    Intel Arc Pro รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ Battlemage Graphics Architecture ซึ่งคาดว่าจะมี รุ่นที่ใช้ VRAM ขนาด 24GB และ 20GB ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจาก Arc Pro A60 ที่มี VRAM เพียง 12GB

    ✅ Intel เตรียมเปิดตัว Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ที่ Computex 2025
    - มุ่งเน้นไปที่ ตลาดมืออาชีพและ AI
    - เพิ่ม ความจุ VRAM สูงขึ้น

    ✅ Arc Pro รุ่นใหม่จะใช้ Battlemage Graphics Architecture
    - คาดว่าจะมี รุ่นที่ใช้ VRAM ขนาด 24GB และ 20GB
    - เพิ่มขึ้นจาก Arc Pro A60 ที่มี VRAM เพียง 12GB

    ✅ มีการพัฒนา GPU รุ่นใหม่ที่ใช้ BMG-G31
    - ใช้ บัสหน่วยความจำ 256-bit และมีจำนวน Xe2 cores สูงขึ้น

    ✅ Intel ยังคงพัฒนา Arc GPU อย่างต่อเนื่อง
    - มีการปรับปรุงทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

    https://wccftech.com/intel-promises-arc-gpu-action-at-computex-battlemage-pro-ai-ready-memory-capacities/
    Intel เตรียมเปิดตัว Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ที่ Computex 2025 Intel ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับ Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ ตลาดมืออาชีพและ AI โดยมีการเพิ่ม ความจุ VRAM สูงขึ้น เพื่อรองรับ งานด้านการสร้างสรรค์และการประมวลผล AI Intel Arc Pro รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ Battlemage Graphics Architecture ซึ่งคาดว่าจะมี รุ่นที่ใช้ VRAM ขนาด 24GB และ 20GB ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจาก Arc Pro A60 ที่มี VRAM เพียง 12GB ✅ Intel เตรียมเปิดตัว Arc Battlemage GPU รุ่นใหม่ที่ Computex 2025 - มุ่งเน้นไปที่ ตลาดมืออาชีพและ AI - เพิ่ม ความจุ VRAM สูงขึ้น ✅ Arc Pro รุ่นใหม่จะใช้ Battlemage Graphics Architecture - คาดว่าจะมี รุ่นที่ใช้ VRAM ขนาด 24GB และ 20GB - เพิ่มขึ้นจาก Arc Pro A60 ที่มี VRAM เพียง 12GB ✅ มีการพัฒนา GPU รุ่นใหม่ที่ใช้ BMG-G31 - ใช้ บัสหน่วยความจำ 256-bit และมีจำนวน Xe2 cores สูงขึ้น ✅ Intel ยังคงพัฒนา Arc GPU อย่างต่อเนื่อง - มีการปรับปรุงทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ https://wccftech.com/intel-promises-arc-gpu-action-at-computex-battlemage-pro-ai-ready-memory-capacities/
    WCCFTECH.COM
    Intel Promises More Arc GPU Action at Computex - Battlemage Goes Pro With AI-Ready Memory Capacities
    Intel has teased that its bringing more updates in its Arc "Battlemage" GPU lineup, aiming the PRO & AI segments, at Computex.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ออก อัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift instability ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยคิดว่าได้รับการแก้ไขแล้วในอัปเดตก่อนหน้า แต่ยังคงเกิดขึ้นในบางกรณี

    ไมโครโค้ด 0x12F เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B โดยเพิ่มการแก้ไขที่ไม่ได้ครอบคลุมในอัปเดตเดิม ซึ่งช่วยลดปัญหาความไม่เสถียรของ ซีพียู Raptor Lake รุ่นที่ 13 และ 14 ที่ทำงานต่อเนื่องหลายวันและใช้โหลดงานเบา

    ✅ Intel ออกอัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift instability
    - เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B
    - ช่วยลด ปัญหาความไม่เสถียรของซีพียู Raptor Lake รุ่นที่ 13 และ 14

    ✅ อัปเดตนี้ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพเพิ่มเติม
    - Intel ยืนยันว่า ไม่มีการลดประสิทธิภาพของซีพียูจากอัปเดตนี้

    ✅ ไมโครโค้ด 0x12F ไม่เกี่ยวข้องกับซีพียู Core Ultra 200S series
    - ซีพียูรุ่นใหม่ ไม่มีปัญหาความไม่เสถียรที่พบใน Raptor Lake

    ✅ ผู้ผลิตเมนบอร์ดเริ่มปล่อยอัปเดต BIOS ที่รวมไมโครโค้ด 0x12F แล้ว
    - ASRock เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ เริ่มปล่อยอัปเดต BIOS ให้ผู้ใช้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/raptor-lake-instability-saga-continues-as-intel-releases-0x12f-update-to-fix-vmin-instability
    Intel ได้ออก อัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift instability ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยคิดว่าได้รับการแก้ไขแล้วในอัปเดตก่อนหน้า แต่ยังคงเกิดขึ้นในบางกรณี ไมโครโค้ด 0x12F เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B โดยเพิ่มการแก้ไขที่ไม่ได้ครอบคลุมในอัปเดตเดิม ซึ่งช่วยลดปัญหาความไม่เสถียรของ ซีพียู Raptor Lake รุ่นที่ 13 และ 14 ที่ทำงานต่อเนื่องหลายวันและใช้โหลดงานเบา ✅ Intel ออกอัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift instability - เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B - ช่วยลด ปัญหาความไม่เสถียรของซีพียู Raptor Lake รุ่นที่ 13 และ 14 ✅ อัปเดตนี้ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพเพิ่มเติม - Intel ยืนยันว่า ไม่มีการลดประสิทธิภาพของซีพียูจากอัปเดตนี้ ✅ ไมโครโค้ด 0x12F ไม่เกี่ยวข้องกับซีพียู Core Ultra 200S series - ซีพียูรุ่นใหม่ ไม่มีปัญหาความไม่เสถียรที่พบใน Raptor Lake ✅ ผู้ผลิตเมนบอร์ดเริ่มปล่อยอัปเดต BIOS ที่รวมไมโครโค้ด 0x12F แล้ว - ASRock เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ เริ่มปล่อยอัปเดต BIOS ให้ผู้ใช้ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/raptor-lake-instability-saga-continues-as-intel-releases-0x12f-update-to-fix-vmin-instability
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Raptor Lake instability saga continues as Intel releases 0x12F update to fix Vmin instability
    Microcode update 0x12F rectifies rare circumstances where Vmin shift can still occur
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Vids ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองโดยใช้ AI ผ่าน Veo 2 ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับวิดีโอที่พัฒนาโดย Google DeepMind

    Veo 2 มีความสามารถในการ สร้างวิดีโอที่มีคุณภาพสูงและสมจริง โดยมีการควบคุมกล้องที่ดีขึ้น และสามารถ สร้างคลิปที่มีความยาวสูงสุด 8 วินาที ที่ความละเอียด 720p และ 24 FPS

    ✅ Google Vids รองรับการสร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองโดยใช้ AI
    - ใช้ Veo 2 ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับวิดีโอที่พัฒนาโดย Google DeepMind
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเพิ่มองค์ประกอบภาพที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือสร้างวิดีโอแยกต่างหาก

    ✅ Veo 2 มีความสามารถในการสร้างวิดีโอที่มีคุณภาพสูงและสมจริง
    - มีการควบคุมกล้องที่ดีขึ้น
    - สามารถ สร้างคลิปที่มีความยาวสูงสุด 8 วินาที

    ✅ การใช้งานฟีเจอร์นี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่มีแผน Google Workspace ที่รองรับ
    - รองรับแผน Business Standard, Business Plus, Enterprise Standard, Enterprise Plus และอื่น ๆ
    - ผู้ใช้แผน Business Starter และ Nonprofit สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2026

    ✅ การสร้างคลิปวิดีโอสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน Vids Editor
    - มีไอคอน "Generate video" ในแถบด้านขวา
    - ผู้ใช้สามารถ พิมพ์คำอธิบายและกด "Create" เพื่อสร้างตัวอย่างวิดีโอ

    ✅ ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานใน Rapid Release และ Scheduled Release domains
    - คาดว่าจะ เปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบภายใน 14 วัน

    ‼️ ฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษในการสร้างวิดีโอ
    - แม้ว่า Google Vids จะรองรับหลายภาษา แต่ AI สำหรับวิดีโอสามารถทำงานได้เฉพาะกับคำสั่งภาษาอังกฤษ

    ‼️ การสร้างวิดีโอมีข้อจำกัดด้านความละเอียดและระยะเวลาของคลิป
    - คลิปที่สร้างขึ้น มีความละเอียด 720p และความยาวสูงสุด 8 วินาที

    https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-custom-video-clips-in-google-vids-with-veo-2/
    Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Vids ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองโดยใช้ AI ผ่าน Veo 2 ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับวิดีโอที่พัฒนาโดย Google DeepMind Veo 2 มีความสามารถในการ สร้างวิดีโอที่มีคุณภาพสูงและสมจริง โดยมีการควบคุมกล้องที่ดีขึ้น และสามารถ สร้างคลิปที่มีความยาวสูงสุด 8 วินาที ที่ความละเอียด 720p และ 24 FPS ✅ Google Vids รองรับการสร้างคลิปวิดีโอแบบกำหนดเองโดยใช้ AI - ใช้ Veo 2 ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับวิดีโอที่พัฒนาโดย Google DeepMind - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเพิ่มองค์ประกอบภาพที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือสร้างวิดีโอแยกต่างหาก ✅ Veo 2 มีความสามารถในการสร้างวิดีโอที่มีคุณภาพสูงและสมจริง - มีการควบคุมกล้องที่ดีขึ้น - สามารถ สร้างคลิปที่มีความยาวสูงสุด 8 วินาที ✅ การใช้งานฟีเจอร์นี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่มีแผน Google Workspace ที่รองรับ - รองรับแผน Business Standard, Business Plus, Enterprise Standard, Enterprise Plus และอื่น ๆ - ผู้ใช้แผน Business Starter และ Nonprofit สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2026 ✅ การสร้างคลิปวิดีโอสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน Vids Editor - มีไอคอน "Generate video" ในแถบด้านขวา - ผู้ใช้สามารถ พิมพ์คำอธิบายและกด "Create" เพื่อสร้างตัวอย่างวิดีโอ ✅ ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานใน Rapid Release และ Scheduled Release domains - คาดว่าจะ เปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบภายใน 14 วัน ‼️ ฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษในการสร้างวิดีโอ - แม้ว่า Google Vids จะรองรับหลายภาษา แต่ AI สำหรับวิดีโอสามารถทำงานได้เฉพาะกับคำสั่งภาษาอังกฤษ ‼️ การสร้างวิดีโอมีข้อจำกัดด้านความละเอียดและระยะเวลาของคลิป - คลิปที่สร้างขึ้น มีความละเอียด 720p และความยาวสูงสุด 8 วินาที https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-custom-video-clips-in-google-vids-with-veo-2/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can now generate custom video clips in Google Vids with Veo 2
    If you use Google Vids, Google has started rolling out an update that will let you generate videos using its latest Veo model, Veo 2.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • A mesmerizing scrapbooking trip to Venice, Italy.
    A mesmerizing scrapbooking trip to Venice, Italy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎧 No More Masks is not a track. It’s a mirror.
    If you've ever lied just to survive, this song was made for your truth.

    “This beat rips / Like I tear off my face”

    Don’t clap. Just listen.
    ▶️ [ https://youtu.be/H-Og0cbfrJA ]

    #NoMoreMasks #TruthInLyrics #EkarachChandon #UnfilteredRap #RapForHealing #realtalkonly

    Under the care & creative direction of Ekarach Chandon
    – Father, Listener, and the Keeper of Eternal Thought

    📚 Amazon Author Page — Ekarach Chandon
    https://www.amazon.com/stores/Ekarach-Chandon/author/B0C72VBBMZ

    “Where love guides the unheard voice 📣 ”

    #NoMoreMasks #RawRap #UnfilteredTruth #TrapPoetry #GlobalRap #SpiritualHipHop #EkarachChandon

    #NoMoreMasks
    #RawRap
    #ConsciousHipHop
    #TrapPoetry
    #AggressiveTruth
    #UnfilteredVoice
    #EkarachChandon
    #LyricalConfession
    #GlobalRapMovement
    #WakeWithWords
    #SelfAwarenessRap
    #ResponsibilityInRhythm
    #BreakTheImage
    #TruthHurtsBeautifully
    #PoetryInBeats

    no more masks rap

    conscious hip hop

    truth in lyrics

    spiritual trap music

    raw emotional rap

    aggressive spoken word

    ekarach chandon rap

    poetic hip hop confession

    unfiltered rap song

    self-awareness in music

    inner truth performance

    truth-driven lyrics

    rap against illusion

    identity through music

    real talk rap
    🎧 No More Masks is not a track. It’s a mirror. If you've ever lied just to survive, this song was made for your truth. “This beat rips / Like I tear off my face” Don’t clap. Just listen. ▶️ [ https://youtu.be/H-Og0cbfrJA ] #NoMoreMasks #TruthInLyrics #EkarachChandon #UnfilteredRap #RapForHealing #realtalkonly Under the care & creative direction of Ekarach Chandon – Father, Listener, and the Keeper of Eternal Thought 📚 Amazon Author Page — Ekarach Chandon https://www.amazon.com/stores/Ekarach-Chandon/author/B0C72VBBMZ “Where love guides the unheard voice 📣 ” #NoMoreMasks #RawRap #UnfilteredTruth #TrapPoetry #GlobalRap #SpiritualHipHop #EkarachChandon #NoMoreMasks #RawRap #ConsciousHipHop #TrapPoetry #AggressiveTruth #UnfilteredVoice #EkarachChandon #LyricalConfession #GlobalRapMovement #WakeWithWords #SelfAwarenessRap #ResponsibilityInRhythm #BreakTheImage #TruthHurtsBeautifully #PoetryInBeats no more masks rap conscious hip hop truth in lyrics spiritual trap music raw emotional rap aggressive spoken word ekarach chandon rap poetic hip hop confession unfiltered rap song self-awareness in music inner truth performance truth-driven lyrics rap against illusion identity through music real talk rap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ยังคงเดินหน้าพัฒนา Xe3 "Celestial" GPUs แม้จะมีข่าวลือว่าถูกยกเลิก โดยล่าสุดมีรายงานว่า Celestial อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนผลิตจริง (pre-silicon validation) ขณะที่ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025

    ในขั้นตอน pre-silicon validation สถาปัตยกรรมกราฟิกของ Celestial ถูกทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง เพื่อให้วิศวกรสามารถ ตรวจจับปัญหาก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก LinkedIn ของวิศวกร Intel ที่เผยว่า Celestial GPU มีการพัฒนาโค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 (Diamond Rapids) CPUs

    ขณะเดียวกัน Battlemage Arc B770 ซึ่งใช้ BMG-G31 silicon อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 โดยมี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ซึ่งอาจทำให้สามารถแข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ได้

    ✅ Celestial GPUs อยู่ในขั้นตอน pre-silicon validation
    - ทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง
    - วิศวกร Intel พัฒนา โค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6

    ✅ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025
    - ใช้ BMG-G31 silicon
    - มี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด GPU
    - Celestial อาจเป็น คู่แข่งของ Nvidia และ AMD ในตลาดกราฟิกระดับสูง
    - Battlemage Arc B770 อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - Intel ยังคงพัฒนา Xe4 "Druid" GPUs ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปของ Celestial

    https://www.techspot.com/news/107798-intel-arc-xe3-celestial-gpu-enters-pre-validation.html
    Intel ยังคงเดินหน้าพัฒนา Xe3 "Celestial" GPUs แม้จะมีข่าวลือว่าถูกยกเลิก โดยล่าสุดมีรายงานว่า Celestial อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนผลิตจริง (pre-silicon validation) ขณะที่ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 ในขั้นตอน pre-silicon validation สถาปัตยกรรมกราฟิกของ Celestial ถูกทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง เพื่อให้วิศวกรสามารถ ตรวจจับปัญหาก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก LinkedIn ของวิศวกร Intel ที่เผยว่า Celestial GPU มีการพัฒนาโค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 (Diamond Rapids) CPUs ขณะเดียวกัน Battlemage Arc B770 ซึ่งใช้ BMG-G31 silicon อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 โดยมี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ซึ่งอาจทำให้สามารถแข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ได้ ✅ Celestial GPUs อยู่ในขั้นตอน pre-silicon validation - ทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง - วิศวกร Intel พัฒนา โค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 ✅ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 - ใช้ BMG-G31 silicon - มี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด GPU - Celestial อาจเป็น คู่แข่งของ Nvidia และ AMD ในตลาดกราฟิกระดับสูง - Battlemage Arc B770 อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - Intel ยังคงพัฒนา Xe4 "Druid" GPUs ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปของ Celestial https://www.techspot.com/news/107798-intel-arc-xe3-celestial-gpu-enters-pre-validation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel Arc Xe3 Celestial GPU enters pre-validation, Battlemage B770 tipped to launch at Computex 2025
    As part of the pre-silicon validation stage, the graphics architecture is tested with OEMs and BIOS vendors using software emulators, allowing engineers to identify issues before fabricating...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2025 การแข่งขันระหว่าง AMD Radeon RX 9000 Series และ Nvidia RTX 5000 Series ดุเดือดกว่าที่เคย โดย AMD เน้น ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพต่อราคา ขณะที่ Nvidia ยังคงครองตลาด ระดับไฮเอนด์ด้วยพลังประมวลผลและเทคโนโลยี AI ขั้นสูง

    AMD เปิดตัว RX 9070 XT และ RX 9070 ในเดือนมีนาคม 2025 โดย RX 9070 XT มีพลังประมวลผลสูงถึง 48.7 TFLOPS และใช้ สถาปัตยกรรม RDNA 4 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพด้าน Ray-Tracing และ AI ขณะที่ Nvidia เปิดตัว RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่งมาพร้อมกับ DLSS 4 และ Ray-Tracing รุ่นที่ 4

    ✅ AMD Radeon RX 9000 Series เน้นความคุ้มค่า
    - RX 9070 XT มี 48.7 TFLOPS และ 128 AI Accelerators
    - ใช้ FidelityFX Super Resolution 4 (FSR 4) ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับ DLSS 3.5

    ✅ Nvidia RTX 5000 Series ครองตลาดไฮเอนด์
    - RTX 5090 มี 280 TFLOPS และ 4,000 AI TOPS
    - ใช้ DLSS 4 ที่มี Multi-Frame Extrapolation และ Neural Frame Prediction

    ✅ การเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพ
    - RX 9070 XT แข่งขันกับ RTX 4080 Super ในเกม 1440p และ 4K
    - RTX 5090 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 9070 XT 30-50% ใน Ray-Tracing

    ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    - AMD เน้น ราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น
    - Nvidia ยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    https://computercity.com/hardware/video-cards/amd-radeon-vs-nvidia-rtx-graphics-card-in-2025-who-wins
    ในปี 2025 การแข่งขันระหว่าง AMD Radeon RX 9000 Series และ Nvidia RTX 5000 Series ดุเดือดกว่าที่เคย โดย AMD เน้น ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพต่อราคา ขณะที่ Nvidia ยังคงครองตลาด ระดับไฮเอนด์ด้วยพลังประมวลผลและเทคโนโลยี AI ขั้นสูง AMD เปิดตัว RX 9070 XT และ RX 9070 ในเดือนมีนาคม 2025 โดย RX 9070 XT มีพลังประมวลผลสูงถึง 48.7 TFLOPS และใช้ สถาปัตยกรรม RDNA 4 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพด้าน Ray-Tracing และ AI ขณะที่ Nvidia เปิดตัว RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่งมาพร้อมกับ DLSS 4 และ Ray-Tracing รุ่นที่ 4 ✅ AMD Radeon RX 9000 Series เน้นความคุ้มค่า - RX 9070 XT มี 48.7 TFLOPS และ 128 AI Accelerators - ใช้ FidelityFX Super Resolution 4 (FSR 4) ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับ DLSS 3.5 ✅ Nvidia RTX 5000 Series ครองตลาดไฮเอนด์ - RTX 5090 มี 280 TFLOPS และ 4,000 AI TOPS - ใช้ DLSS 4 ที่มี Multi-Frame Extrapolation และ Neural Frame Prediction ✅ การเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพ - RX 9070 XT แข่งขันกับ RTX 4080 Super ในเกม 1440p และ 4K - RTX 5090 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 9070 XT 30-50% ใน Ray-Tracing ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค - AMD เน้น ราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น - Nvidia ยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด https://computercity.com/hardware/video-cards/amd-radeon-vs-nvidia-rtx-graphics-card-in-2025-who-wins
    COMPUTERCITY.COM
    AMD Radeon vs. Nvidia RTX Graphics Card In 2025 – Who Wins?
    The GPU landscape in 2025 is more competitive than ever, with AMD and Nvidia pushing the boundaries of graphics performance and AI-driven technology. The
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • A couple of scarlet finches featured in a tilt-shift photograph style.
    A couple of scarlet finches featured in a tilt-shift photograph style.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dynatron ได้เปิดตัว ชุดระบายความร้อนใหม่ ที่สามารถรองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W สำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice CPUs ซึ่งเป็น ชิปรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์

    AMD ได้ยืนยันว่า Venice จะเป็นชิป EPYC รุ่นแรกที่ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 และคาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 โดย Venice อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 แทน SP5 ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า

    Intel กำลังพัฒนา Diamond Rapids ซึ่งคาดว่าจะเป็น Xeon 7 และใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 โดยมีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

    ✅ Dynatron เปิดตัวชุดระบายความร้อนใหม่
    - รองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W
    - ออกแบบมาสำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice

    ✅ รายละเอียดของ AMD Venice
    - ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2
    - คาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6
    - อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7

    ✅ รายละเอียดของ Intel Diamond Rapids
    - คาดว่าจะเป็น Xeon 7
    - ใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324
    - มีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

    ✅ การออกแบบของ Dynatron Coolers
    - รุ่น J24 และ J25 รองรับ AMD Venice และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 600W
    - รุ่น C21 รองรับ Intel Diamond Rapids และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 660W

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/dynatron-coolers-support-up-to-660w-for-intel-diamond-rapids-and-amd-venice-cpus
    Dynatron ได้เปิดตัว ชุดระบายความร้อนใหม่ ที่สามารถรองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W สำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice CPUs ซึ่งเป็น ชิปรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AMD ได้ยืนยันว่า Venice จะเป็นชิป EPYC รุ่นแรกที่ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 และคาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 โดย Venice อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 แทน SP5 ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า Intel กำลังพัฒนา Diamond Rapids ซึ่งคาดว่าจะเป็น Xeon 7 และใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 โดยมีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ✅ Dynatron เปิดตัวชุดระบายความร้อนใหม่ - รองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W - ออกแบบมาสำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice ✅ รายละเอียดของ AMD Venice - ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 - คาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 - อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 ✅ รายละเอียดของ Intel Diamond Rapids - คาดว่าจะเป็น Xeon 7 - ใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 - มีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ✅ การออกแบบของ Dynatron Coolers - รุ่น J24 และ J25 รองรับ AMD Venice และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 600W - รุ่น C21 รองรับ Intel Diamond Rapids และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 660W https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/dynatron-coolers-support-up-to-660w-for-intel-diamond-rapids-and-amd-venice-cpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านเปิดให้บริการทุกวัน มาทานอาหารและเค้กอร่อยๆ ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ กันนะคะ

    𝐂𝐚𝐤𝐞, 𝐜𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐭 𝐬𝐮𝐧𝐬𝐞𝐭 𝐯𝐢𝐞𝐰—𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐫𝐞𝐜𝐢𝐩𝐞 𝐟𝐨𝐫 𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬. 🍰☕

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    ร้านเปิดให้บริการทุกวัน มาทานอาหารและเค้กอร่อยๆ ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ กันนะคะ 𝐂𝐚𝐤𝐞, 𝐜𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐭 𝐬𝐮𝐧𝐬𝐞𝐭 𝐯𝐢𝐞𝐰—𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐫𝐞𝐜𝐢𝐩𝐞 𝐟𝐨𝐫 𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬. 🍰☕ 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia กำลังทดสอบ RTX Pro 6000 Blackwell Workstation Edition ซึ่งใช้ GB202 GPU ที่มี 24,064 CUDA cores และ 96GB ECC memory โดยผลการทดสอบใน Geekbench OpenCL benchmark พบว่าประสิทธิภาพของการ์ดนี้ใกล้เคียงกับ GeForce RTX 5090 แม้ว่าจะมีสเปคที่สูงกว่า

    ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 WE ทำคะแนนได้ 368,219 คะแนน ในขณะที่ GeForce RTX 5090 ทำได้ 376,858 คะแนน ซึ่งเป็นความแตกต่างเพียง 2.3% แม้ว่าการ์ด ProViz จะมีจำนวน CUDA cores มากกว่า

    อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไดรเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้การ์ดสามารถใช้หน่วยความจำได้เพียง 24GB จาก 96GB และ TGP อาจถูกจำกัด ส่งผลให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดไว้

    ✅ สเปคของ RTX Pro 6000 WE
    - ใช้ GB202 GPU
    - มี 24,064 CUDA cores
    - มาพร้อม 96GB ECC memory

    ✅ ผลการทดสอบใน Geekbench
    - ทำคะแนนได้ 368,219 คะแนน ใน OpenCL benchmark
    - เทียบกับ GeForce RTX 5090 ที่ทำได้ 376,858 คะแนน

    ✅ ข้อจำกัดของไดรเวอร์
    - หน่วยความจำที่สามารถใช้ได้จริงเพียง 24GB จาก 96GB
    - ไดรเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ อาจมีการปรับปรุงในอนาคต

    ✅ ข้อสังเกตเกี่ยวกับประสิทธิภาพ
    - แม้ว่าจะมี CUDA cores มากกว่า แต่ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน
    - อาจมีการปรับปรุงเมื่อไดรเวอร์สมบูรณ์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-rtx-pro-6000-blackwell-96gb-graphics-card-benchmarked-specs-allegedly-confirmed
    Nvidia กำลังทดสอบ RTX Pro 6000 Blackwell Workstation Edition ซึ่งใช้ GB202 GPU ที่มี 24,064 CUDA cores และ 96GB ECC memory โดยผลการทดสอบใน Geekbench OpenCL benchmark พบว่าประสิทธิภาพของการ์ดนี้ใกล้เคียงกับ GeForce RTX 5090 แม้ว่าจะมีสเปคที่สูงกว่า ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 WE ทำคะแนนได้ 368,219 คะแนน ในขณะที่ GeForce RTX 5090 ทำได้ 376,858 คะแนน ซึ่งเป็นความแตกต่างเพียง 2.3% แม้ว่าการ์ด ProViz จะมีจำนวน CUDA cores มากกว่า อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไดรเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้การ์ดสามารถใช้หน่วยความจำได้เพียง 24GB จาก 96GB และ TGP อาจถูกจำกัด ส่งผลให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดไว้ ✅ สเปคของ RTX Pro 6000 WE - ใช้ GB202 GPU - มี 24,064 CUDA cores - มาพร้อม 96GB ECC memory ✅ ผลการทดสอบใน Geekbench - ทำคะแนนได้ 368,219 คะแนน ใน OpenCL benchmark - เทียบกับ GeForce RTX 5090 ที่ทำได้ 376,858 คะแนน ✅ ข้อจำกัดของไดรเวอร์ - หน่วยความจำที่สามารถใช้ได้จริงเพียง 24GB จาก 96GB - ไดรเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ อาจมีการปรับปรุงในอนาคต ✅ ข้อสังเกตเกี่ยวกับประสิทธิภาพ - แม้ว่าจะมี CUDA cores มากกว่า แต่ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน - อาจมีการปรับปรุงเมื่อไดรเวอร์สมบูรณ์ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-rtx-pro-6000-blackwell-96gb-graphics-card-benchmarked-specs-allegedly-confirmed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังพัฒนา Ryzen 9000G "Gorgon Point" สำหรับ AM5 socket และ Medusa Point ซึ่งเป็นซีพียู Zen 6 สำหรับ FP10 socket โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งพบรายละเอียดใน repository ของ AMD

    ซีพียู Gorgon Point จะมีทั้งเวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป โดยรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ AM5 socket และเป็นรุ่นต่อจาก Ryzen 8000G ส่วนรุ่นแล็ปท็อปจะใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ได้แก่ Gorgon Point 1, Gorgon Point 2 และ Gorgon Point 3

    นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Threadripper 9000 series "Shimada Peak" ซึ่งจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 หรือในงาน Advancing AI ในเดือนมิถุนายน

    ✅ Ryzen 9000G "Gorgon Point"
    - ใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 graphics
    - รุ่นเดสก์ท็อปใช้ AM5 socket
    - รุ่นแล็ปท็อปใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน

    ✅ Medusa Point และ Zen 6
    - ใช้ FP10 socket ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มปัจจุบันได้
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีหน้า

    ✅ Threadripper 9000 "Shimada Peak"
    - คาดว่าจะเปิดตัวใน Computex 2025 หรือ Advancing AI
    - มีรุ่น 900WX สำหรับตลาดระดับสูง

    ✅ แผนการพัฒนาของ AMD
    - มีการพัฒนา Kraken Point 2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Kraken Point
    - กำลังพัฒนา Soundwave series ซึ่งเป็นซีพียู Arm-based สำหรับ FF5 socket

    https://www.techspot.com/news/107758-amd-working-ryzen-9000g-gorgon-point-am5-socket.html
    AMD กำลังพัฒนา Ryzen 9000G "Gorgon Point" สำหรับ AM5 socket และ Medusa Point ซึ่งเป็นซีพียู Zen 6 สำหรับ FP10 socket โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งพบรายละเอียดใน repository ของ AMD ซีพียู Gorgon Point จะมีทั้งเวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป โดยรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ AM5 socket และเป็นรุ่นต่อจาก Ryzen 8000G ส่วนรุ่นแล็ปท็อปจะใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ได้แก่ Gorgon Point 1, Gorgon Point 2 และ Gorgon Point 3 นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Threadripper 9000 series "Shimada Peak" ซึ่งจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 หรือในงาน Advancing AI ในเดือนมิถุนายน ✅ Ryzen 9000G "Gorgon Point" - ใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 graphics - รุ่นเดสก์ท็อปใช้ AM5 socket - รุ่นแล็ปท็อปใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ✅ Medusa Point และ Zen 6 - ใช้ FP10 socket ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มปัจจุบันได้ - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีหน้า ✅ Threadripper 9000 "Shimada Peak" - คาดว่าจะเปิดตัวใน Computex 2025 หรือ Advancing AI - มีรุ่น 900WX สำหรับตลาดระดับสูง ✅ แผนการพัฒนาของ AMD - มีการพัฒนา Kraken Point 2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Kraken Point - กำลังพัฒนา Soundwave series ซึ่งเป็นซีพียู Arm-based สำหรับ FF5 socket https://www.techspot.com/news/107758-amd-working-ryzen-9000g-gorgon-point-am5-socket.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD working on Ryzen 9000G "Gorgon Point" for AM5 socket, "Medusa Point" Zen 6 CPUs for FP10
    Noted tipster Olrak29 first identified the next-gen Threadripper 9000 series, codenamed Shimada Peak, in a now-deleted X post. Some details surfaced earlier when Gigabyte and Asus added...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Drive ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Gemini side panel ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการให้ Gemini ใช้ในการตอบคำถามได้โดยตรง

    ก่อนหน้านี้ Gemini สามารถสรุปเนื้อหาทั้งโฟลเดอร์หรือหลายเอกสารพร้อมกัน แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ได้มากขึ้น โดยสามารถ เลือกไฟล์ผ่านปุ่ม "Add sources" หรือลากไฟล์เข้าไปในแผงด้านข้าง

    ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2025 สำหรับ Rapid Release domains และจะเริ่มเปิดตัวสำหรับ Scheduled Release domains ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2025 โดยอาจใช้เวลาสูงสุด 15 วัน กว่าฟีเจอร์จะปรากฏให้ผู้ใช้ทุกคน

    ✅ การเลือกไฟล์ที่ AI ใช้ในการตอบคำถาม
    - ผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ผ่านปุ่ม "Add sources"
    - สามารถลากไฟล์เข้าไปในแผงด้านข้างเพื่อให้ Gemini ใช้ข้อมูลจากไฟล์นั้น

    ✅ ช่วงเวลาการเปิดตัว
    - เริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2025 สำหรับ Rapid Release domains
    - จะเปิดตัวสำหรับ Scheduled Release domains ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2025

    ✅ การเข้าถึงฟีเจอร์นี้
    - ใช้ได้กับ Google Workspace Business Standard และ Plus, Enterprise Standard และ Plus
    - ลูกค้าที่มี Gemini Education หรือ Gemini Education Premium add-ons สามารถใช้งานได้
    - ผู้ใช้ Google One AI Premium และผู้ที่ซื้อ Gemini Business หรือ Gemini Enterprise add-ons สามารถเข้าถึงได้

    ✅ ข้อกำหนดในการใช้งาน
    - ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้งาน Workspace smart features and personalization เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ Gemini ในแผงด้านข้างได้

    https://www.neowin.net/news/google-drive-now-lets-you-chat-with-gemini-in-the-side-panel-about-specific-files/
    Google Drive ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Gemini side panel ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการให้ Gemini ใช้ในการตอบคำถามได้โดยตรง ก่อนหน้านี้ Gemini สามารถสรุปเนื้อหาทั้งโฟลเดอร์หรือหลายเอกสารพร้อมกัน แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ได้มากขึ้น โดยสามารถ เลือกไฟล์ผ่านปุ่ม "Add sources" หรือลากไฟล์เข้าไปในแผงด้านข้าง ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2025 สำหรับ Rapid Release domains และจะเริ่มเปิดตัวสำหรับ Scheduled Release domains ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2025 โดยอาจใช้เวลาสูงสุด 15 วัน กว่าฟีเจอร์จะปรากฏให้ผู้ใช้ทุกคน ✅ การเลือกไฟล์ที่ AI ใช้ในการตอบคำถาม - ผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ผ่านปุ่ม "Add sources" - สามารถลากไฟล์เข้าไปในแผงด้านข้างเพื่อให้ Gemini ใช้ข้อมูลจากไฟล์นั้น ✅ ช่วงเวลาการเปิดตัว - เริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2025 สำหรับ Rapid Release domains - จะเปิดตัวสำหรับ Scheduled Release domains ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2025 ✅ การเข้าถึงฟีเจอร์นี้ - ใช้ได้กับ Google Workspace Business Standard และ Plus, Enterprise Standard และ Plus - ลูกค้าที่มี Gemini Education หรือ Gemini Education Premium add-ons สามารถใช้งานได้ - ผู้ใช้ Google One AI Premium และผู้ที่ซื้อ Gemini Business หรือ Gemini Enterprise add-ons สามารถเข้าถึงได้ ✅ ข้อกำหนดในการใช้งาน - ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้งาน Workspace smart features and personalization เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ Gemini ในแผงด้านข้างได้ https://www.neowin.net/news/google-drive-now-lets-you-chat-with-gemini-in-the-side-panel-about-specific-files/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Drive now lets you chat with Gemini in the side panel about specific files
    Google is now rolling out a feature that allows you to select specific files for Gemini in the Drive side panel to use as sources.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้

    Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง

    ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT
    - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด
    - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก

    ✅ กระบวนการผลิต 14A
    - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
    - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม
    - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป
    - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance

    ✅ ความสำคัญของการพัฒนา
    - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้ Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก ✅ กระบวนการผลิต 14A - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance ✅ ความสำคัญของการพัฒนา - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • Shokz ได้เปิดตัว OpenDots ONE ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายแบบเปิดที่มีขนาดเล็กที่สุดของบริษัท โดยมีน้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง และใช้ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหูของผู้ใช้ แม้ไม่มีดีไซน์แบบ wraparound เหมือนรุ่นก่อน

    OpenDots ONE ใช้ ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere ที่ช่วยเพิ่มเสียงเบส และมี DirectPitch Audio ที่ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้อยู่ในช่องหูโดยตรง

    นอกจากนี้ หูฟังยังมี แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง รองรับ IP54 กันน้ำและเหงื่อ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันผ่าน multipoint connectivity

    ✅ ดีไซน์และน้ำหนักเบา
    - น้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง
    - ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหู

    ✅ คุณภาพเสียงและเทคโนโลยี
    - ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere
    - DirectPitch Audio ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง

    ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน
    - ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
    - ใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง

    ✅ คุณสมบัติพิเศษ
    - IP54 กันน้ำและเหงื่อ
    - Multipoint connectivity เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน

    https://www.techradar.com/audio/earbuds-airpods/shokz-launches-its-smallest-open-earbuds-yet-and-im-ready-to-hear-this-one-out-despite-the-high-price
    Shokz ได้เปิดตัว OpenDots ONE ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายแบบเปิดที่มีขนาดเล็กที่สุดของบริษัท โดยมีน้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง และใช้ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหูของผู้ใช้ แม้ไม่มีดีไซน์แบบ wraparound เหมือนรุ่นก่อน OpenDots ONE ใช้ ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere ที่ช่วยเพิ่มเสียงเบส และมี DirectPitch Audio ที่ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้อยู่ในช่องหูโดยตรง นอกจากนี้ หูฟังยังมี แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง รองรับ IP54 กันน้ำและเหงื่อ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันผ่าน multipoint connectivity ✅ ดีไซน์และน้ำหนักเบา - น้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง - ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหู ✅ คุณภาพเสียงและเทคโนโลยี - ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere - DirectPitch Audio ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน - ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง - ใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง ✅ คุณสมบัติพิเศษ - IP54 กันน้ำและเหงื่อ - Multipoint connectivity เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน https://www.techradar.com/audio/earbuds-airpods/shokz-launches-its-smallest-open-earbuds-yet-and-im-ready-to-hear-this-one-out-despite-the-high-price
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts