• บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB
    - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ
    - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16

    ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU
    - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม
    - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น

    ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์
    - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม
    - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16 ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม

    ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น
    - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง
    - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI
    - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน
    - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ

    ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ
    - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication
    - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces
    - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection

    ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist
    - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares detailed guidance for AI scams that are nearly impossible to not fall for
    Microsoft has published a detailed guidance on ways to deal with modern AI-powered scams that are really difficult to detect.
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี

    ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ
    - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด
    - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ

    ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี
    - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้
    - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก

    ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024
    - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
    - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง

    ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google
    - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง
    - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90%

    ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม
    - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน

    https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้ - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024 - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90% ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google stopped 5.1 billion rogue ads from reaching users, fired millions of bad accounts
    The search giant suspended millions of ad accounts and took action against billions of bad advertisements before they were served to users.
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • Grok ได้เปิดตัว Grok Studio ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สร้างและแก้ไขเอกสาร, โค้ด และเกมบนเบราว์เซอร์ ได้โดยตรง โดยฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานทั้งสำหรับ ผู้ใช้ฟรีและผู้ใช้แบบชำระเงิน

    ✅ Grok Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอกสาร, โค้ด และเกมบนเบราว์เซอร์
    - เมื่อผู้ใช้สร้างเอกสารหรือโค้ด Grok Studio จะเปิดหน้าต่างแยกเพื่อให้สามารถ แก้ไขและทำงานร่วมกับ AI ได้แบบเรียลไทม์
    - รองรับ HTML snippets, Python, C++, JavaScript, TypeScript และ Bash scripts ซึ่งสามารถรันได้ในแท็บพรีวิว

    ✅ การผสานรวมกับ Google Drive
    - ผู้ใช้สามารถ แนบไฟล์จาก Google Drive ไปยัง Grok Studio เพื่อให้ AI ช่วยประมวลผลข้อมูล เช่น รายงานหรือสเปรดชีต
    - Grok สามารถช่วยสรุปเอกสารทางการเงินหรือค้นหาข้อมูลเฉพาะภายในไฟล์ที่แนบมา

    ✅ เปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่นๆ
    - OpenAI เคยเปิดตัว Canvas สำหรับ ChatGPT ในปี 2024 ซึ่งมีฟีเจอร์คล้ายกับ Grok Studio
    - Anthropic เปิดตัว Artifacts สำหรับ Claude ซึ่งเป็นเครื่องมือแรกที่มีฟีเจอร์การแก้ไขโค้ดแบบเรียลไทม์

    https://www.neowin.net/news/grok-can-now-generate-documents-code-and-browser-games/
    Grok ได้เปิดตัว Grok Studio ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สร้างและแก้ไขเอกสาร, โค้ด และเกมบนเบราว์เซอร์ ได้โดยตรง โดยฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานทั้งสำหรับ ผู้ใช้ฟรีและผู้ใช้แบบชำระเงิน ✅ Grok Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอกสาร, โค้ด และเกมบนเบราว์เซอร์ - เมื่อผู้ใช้สร้างเอกสารหรือโค้ด Grok Studio จะเปิดหน้าต่างแยกเพื่อให้สามารถ แก้ไขและทำงานร่วมกับ AI ได้แบบเรียลไทม์ - รองรับ HTML snippets, Python, C++, JavaScript, TypeScript และ Bash scripts ซึ่งสามารถรันได้ในแท็บพรีวิว ✅ การผสานรวมกับ Google Drive - ผู้ใช้สามารถ แนบไฟล์จาก Google Drive ไปยัง Grok Studio เพื่อให้ AI ช่วยประมวลผลข้อมูล เช่น รายงานหรือสเปรดชีต - Grok สามารถช่วยสรุปเอกสารทางการเงินหรือค้นหาข้อมูลเฉพาะภายในไฟล์ที่แนบมา ✅ เปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่นๆ - OpenAI เคยเปิดตัว Canvas สำหรับ ChatGPT ในปี 2024 ซึ่งมีฟีเจอร์คล้ายกับ Grok Studio - Anthropic เปิดตัว Artifacts สำหรับ Claude ซึ่งเป็นเครื่องมือแรกที่มีฟีเจอร์การแก้ไขโค้ดแบบเรียลไทม์ https://www.neowin.net/news/grok-can-now-generate-documents-code-and-browser-games/
    WWW.NEOWIN.NET
    Grok can now generate documents, code, and browser games
    Grok has officially announced a new tool called Grok Studio, allowing users to create documents and basic apps.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS
    - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ
    - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing
    - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์
    - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม

    ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย
    - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง
    - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake
    - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง

    ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี
    - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด
    - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์ - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้ ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind

    ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk
    - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind
    - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio)

    ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced
    - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini
    - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้

    ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ
    - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที
    - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers

    ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ
    - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง

    ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด
    - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI

    ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ
    - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์
    - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ
    - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio) ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้ ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์ - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can now generate AI videos in Google Gemini and Whisk
    Google is rolling out new video generation capabilities to the Gemini chatbot and the Labs experiment Whisk.
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • Kevin Scott ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Microsoft เชื่อว่า 95% ของโค้ดโปรแกรมทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเปลี่ยนจากการเป็นผู้เขียนโค้ด มาเป็น ผู้ควบคุมและกำกับ AI เพื่อสร้างซอฟต์แวร์

    ✅ บทบาทของนักพัฒนาเปลี่ยนไปสู่ “AI Orchestrator”
    - แทนที่จะเขียนโค้ดด้วยตนเอง นักพัฒนาจะใช้ AI ในการช่วยสร้างโค้ด
    - งานหลักของนักพัฒนาคือ การให้คำสั่ง (Prompts) และตรวจสอบ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

    ✅ AI ยังคงมีข้อจำกัดด้านความจำและการเรียนรู้จากบริบทเดิม
    - Scott ชี้ว่า AI ยังไม่สามารถ จำการสนทนาและปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ได้ดีนัก
    - อย่างไรก็ตาม อนาคต AI จะสามารถเรียนรู้จากการโต้ตอบที่ผ่านมาได้มากขึ้น

    ✅ CEO ของ IBM และ Salesforce มีมุมมองต่างออกไปเกี่ยวกับ AI ในวงการโค้ดดิ้ง
    - Arvind Krishna CEO ของ IBM เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนการแทนที่นักพัฒนา โดยประเมินว่า AI จะสร้างได้ 20-30% ของโค้ดเท่านั้น
    - Marc Benioff CEO ของ Salesforce มองว่า AI อาจทำให้บริษัทลดการจ้างงานนักพัฒนาแบบดั้งเดิมลง ในปี 2025

    ✅ Anthropic เชื่อว่า AI อาจสร้าง 90% ของโค้ดได้ภายใน 6 เดือน
    - Dario Amodei CEO ของ Anthropic มีมุมมองที่เร็วและรุนแรงกว่า Microsoft โดยเชื่อว่า AI จะสามารถ สร้างโค้ดเกือบทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 6 เดือน

    https://www.techspot.com/news/107411-microsoft-cto-predicts-ai-generate-95-percent-code.html
    Kevin Scott ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Microsoft เชื่อว่า 95% ของโค้ดโปรแกรมทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเปลี่ยนจากการเป็นผู้เขียนโค้ด มาเป็น ผู้ควบคุมและกำกับ AI เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ ✅ บทบาทของนักพัฒนาเปลี่ยนไปสู่ “AI Orchestrator” - แทนที่จะเขียนโค้ดด้วยตนเอง นักพัฒนาจะใช้ AI ในการช่วยสร้างโค้ด - งานหลักของนักพัฒนาคือ การให้คำสั่ง (Prompts) และตรวจสอบ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ✅ AI ยังคงมีข้อจำกัดด้านความจำและการเรียนรู้จากบริบทเดิม - Scott ชี้ว่า AI ยังไม่สามารถ จำการสนทนาและปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ได้ดีนัก - อย่างไรก็ตาม อนาคต AI จะสามารถเรียนรู้จากการโต้ตอบที่ผ่านมาได้มากขึ้น ✅ CEO ของ IBM และ Salesforce มีมุมมองต่างออกไปเกี่ยวกับ AI ในวงการโค้ดดิ้ง - Arvind Krishna CEO ของ IBM เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนการแทนที่นักพัฒนา โดยประเมินว่า AI จะสร้างได้ 20-30% ของโค้ดเท่านั้น - Marc Benioff CEO ของ Salesforce มองว่า AI อาจทำให้บริษัทลดการจ้างงานนักพัฒนาแบบดั้งเดิมลง ในปี 2025 ✅ Anthropic เชื่อว่า AI อาจสร้าง 90% ของโค้ดได้ภายใน 6 เดือน - Dario Amodei CEO ของ Anthropic มีมุมมองที่เร็วและรุนแรงกว่า Microsoft โดยเชื่อว่า AI จะสามารถ สร้างโค้ดเกือบทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 6 เดือน https://www.techspot.com/news/107411-microsoft-cto-predicts-ai-generate-95-percent-code.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft CTO predicts AI will generate 95% of code by 2030
    Microsoft CTO Kevin Scott predicted that 95 percent of programming code will be AI-generated by 2030. However, he quickly clarified that this does not signal the end...
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • แม้ AI ข้อมูลบิดเบือนจะไม่พลิกผลเลือกตั้งปี 2024 แต่ภัยคุกคามของมันยังคงอยู่และกำลังพัฒนา แฮกเกอร์ใช้ AI ไม่เพียงแค่สร้างข่าวปลอม แต่ยังช่วยซ่อนร่องรอยในระบบไซเบอร์ ดีพเฟกเสียงและเอกสารปลอมถูกนำมาใช้เพื่อเจาะระบบความปลอดภัยขององค์กร และทำให้การตรวจจับการโจมตียากขึ้น ภัยคุกคามนี้ยังคงขยายตัว และองค์กรต้องปรับกลยุทธ์รับมือโดยเร็ว

    ✅ AI กำลังถูกนำมาใช้โจมตีองค์กรและโครงสร้างพื้นฐาน
    - จากเดิมที่ใช้เพื่อชักจูงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง AI ข้อมูลบิดเบือนถูกนำไปใช้ในการโจมตีองค์กรและซัพพลายเชน
    - ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ เช่น AI-generated phishing และการปลอมตัวเป็นผู้บริหาร กำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ ภัยคุกคาม AI ไม่ได้จบลง แค่กำลังปรับตัว
    - แม้จะมีมาตรการตอบโต้ เช่น การตรวจจับดีพเฟกและการกำกับดูแลจากยุโรป
    - แต่ผู้ไม่หวังดี กำลังพัฒนา AI นอกระบบตรวจสอบ และใช้เครื่องมือที่หลบเลี่ยงการตรวจจับ

    ✅ AI ช่วยให้แฮกเกอร์ซ่อนร่องรอยได้ดีขึ้น
    - แฮกเกอร์สามารถ สร้างข้อมูลเท็จภายในเครือข่ายที่ถูกโจมตี ทำให้ผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์หลงทาง
    - บางกลุ่มใช้ AI-generated logs และการปลอมแปลงหลักฐานดิจิทัล เพื่อบิดเบือนการตรวจสอบ

    ✅ องค์กรต้องปรับกลยุทธ์รับมือภัยคุกคาม AI
    - ต้องพัฒนา เทคนิคใหม่ในการตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล
    - ระบบยืนยันตัวตนแบบเดิม เช่นการสแกนเสียงและวิดีโอ อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

    https://www.csoonline.com/article/3852770/ai-disinformation-didnt-upend-2024-elections-but-the-threat-is-very-real.html
    แม้ AI ข้อมูลบิดเบือนจะไม่พลิกผลเลือกตั้งปี 2024 แต่ภัยคุกคามของมันยังคงอยู่และกำลังพัฒนา แฮกเกอร์ใช้ AI ไม่เพียงแค่สร้างข่าวปลอม แต่ยังช่วยซ่อนร่องรอยในระบบไซเบอร์ ดีพเฟกเสียงและเอกสารปลอมถูกนำมาใช้เพื่อเจาะระบบความปลอดภัยขององค์กร และทำให้การตรวจจับการโจมตียากขึ้น ภัยคุกคามนี้ยังคงขยายตัว และองค์กรต้องปรับกลยุทธ์รับมือโดยเร็ว ✅ AI กำลังถูกนำมาใช้โจมตีองค์กรและโครงสร้างพื้นฐาน - จากเดิมที่ใช้เพื่อชักจูงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง AI ข้อมูลบิดเบือนถูกนำไปใช้ในการโจมตีองค์กรและซัพพลายเชน - ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ เช่น AI-generated phishing และการปลอมตัวเป็นผู้บริหาร กำลังเพิ่มขึ้น ✅ ภัยคุกคาม AI ไม่ได้จบลง แค่กำลังปรับตัว - แม้จะมีมาตรการตอบโต้ เช่น การตรวจจับดีพเฟกและการกำกับดูแลจากยุโรป - แต่ผู้ไม่หวังดี กำลังพัฒนา AI นอกระบบตรวจสอบ และใช้เครื่องมือที่หลบเลี่ยงการตรวจจับ ✅ AI ช่วยให้แฮกเกอร์ซ่อนร่องรอยได้ดีขึ้น - แฮกเกอร์สามารถ สร้างข้อมูลเท็จภายในเครือข่ายที่ถูกโจมตี ทำให้ผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์หลงทาง - บางกลุ่มใช้ AI-generated logs และการปลอมแปลงหลักฐานดิจิทัล เพื่อบิดเบือนการตรวจสอบ ✅ องค์กรต้องปรับกลยุทธ์รับมือภัยคุกคาม AI - ต้องพัฒนา เทคนิคใหม่ในการตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล - ระบบยืนยันตัวตนแบบเดิม เช่นการสแกนเสียงและวิดีโอ อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป https://www.csoonline.com/article/3852770/ai-disinformation-didnt-upend-2024-elections-but-the-threat-is-very-real.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI disinformation didn’t upend 2024 elections, but the threat is very real
    The next phase of AI disinformation won’t just target voters but target organizations, supply chains, and critical infrastructure.
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก Cisco Talos เปิดเผยว่า การโจมตีไซเบอร์ในปี 2024 กว่าครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้บัญชีที่ถูกขโมย โดยผู้โจมตีสามารถ เข้าถึงระบบโดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ ทำให้หลีกเลี่ยงการตรวจจับ และบางครั้งถึงขั้นควบคุมเครือข่ายทั้งหมดได้

    ✅ ช่องทางหลักที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงองค์กร
    - ข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย รวมถึง รหัสผ่าน, session tokens, API keys และใบรับรองดิจิทัล
    - การแฮกผ่านมัลแวร์ประเภท Infostealer ซึ่งดึงข้อมูลจากเครื่องเป้าหมาย
    - การซื้อข้อมูลล็อกอินจากตลาดมืด โดยราคาสำหรับบัญชีทั่วไปอยู่ที่ $10-$15 แต่บัญชีระดับสูงอาจมีราคาถึง $3,000

    ✅ การแฮกบัญชีช่วยให้แฮกเกอร์โจมตีองค์กรได้ง่ายขึ้น
    - การใช้บัญชีที่ถูกเจาะเข้าสู่ระบบโดยตรง ง่ายกว่าการใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์
    - กว่า 60% ของเหตุการณ์ที่ Cisco Talos ตรวจสอบพบว่ามีการใช้บัญชีที่ถูกขโมย
    - ในกรณีของแรนซัมแวร์ ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 70%

    ✅ วิธีแฮกบัญชีที่ซับซ้อนมากขึ้น
    - MFA Bombing หรือ Push Spray ส่งข้อความแจ้งเตือน MFA ไปยังผู้ใช้ซ้ำ ๆ จนกว่าพวกเขาจะกดยอมรับ
    - การปลอมแปลงเว็บเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ลงทะเบียนอุปกรณ์ MFA ใหม่
    - การใช้ฟิชชิ่งที่ล้ำขึ้น เช่น AI-generated phishing attacks ที่ถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน

    ✅ บัญชีผู้ดูแลระบบมักตกเป็นเป้าหมายหลัก
    - ระบบ Active Directory เป็นจุดอ่อนสำคัญ—แฮกเกอร์มักเจาะข้อมูลที่เก็บอยู่ใน LSASS, SAM databases และ cached domain credentials
    - เครื่องมือยอดนิยมของแฮกเกอร์ เช่น Mimikatz และ PsExec ถูกใช้เพื่อขยายการเข้าถึงระบบ
    - องค์กรที่มีบัญชีแอดมินจำนวนมาก เพิ่มความเสี่ยงให้การโจมตีประสบความสำเร็จ

    ✅ แนวทางป้องกันที่ Cisco Talos แนะนำ
    - เปิดใช้ MFA และตั้งค่าความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น
    - ตรวจสอบกิจกรรมที่ผิดปกติของบัญชีผู้ใช้และแอดมิน
    - ลดจำนวนบัญชีที่มีสิทธิ์แอดมินในองค์กร
    - ใช้วิธี Challenge-Response Authentication เพื่อเพิ่มระดับการตรวจสอบ

    https://www.csoonline.com/article/3952041/malicious-actors-increasingly-put-privileged-identity-access-to-work-across-attack-chains.html
    รายงานล่าสุดจาก Cisco Talos เปิดเผยว่า การโจมตีไซเบอร์ในปี 2024 กว่าครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้บัญชีที่ถูกขโมย โดยผู้โจมตีสามารถ เข้าถึงระบบโดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ ทำให้หลีกเลี่ยงการตรวจจับ และบางครั้งถึงขั้นควบคุมเครือข่ายทั้งหมดได้ ✅ ช่องทางหลักที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงองค์กร - ข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย รวมถึง รหัสผ่าน, session tokens, API keys และใบรับรองดิจิทัล - การแฮกผ่านมัลแวร์ประเภท Infostealer ซึ่งดึงข้อมูลจากเครื่องเป้าหมาย - การซื้อข้อมูลล็อกอินจากตลาดมืด โดยราคาสำหรับบัญชีทั่วไปอยู่ที่ $10-$15 แต่บัญชีระดับสูงอาจมีราคาถึง $3,000 ✅ การแฮกบัญชีช่วยให้แฮกเกอร์โจมตีองค์กรได้ง่ายขึ้น - การใช้บัญชีที่ถูกเจาะเข้าสู่ระบบโดยตรง ง่ายกว่าการใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ - กว่า 60% ของเหตุการณ์ที่ Cisco Talos ตรวจสอบพบว่ามีการใช้บัญชีที่ถูกขโมย - ในกรณีของแรนซัมแวร์ ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 70% ✅ วิธีแฮกบัญชีที่ซับซ้อนมากขึ้น - MFA Bombing หรือ Push Spray ส่งข้อความแจ้งเตือน MFA ไปยังผู้ใช้ซ้ำ ๆ จนกว่าพวกเขาจะกดยอมรับ - การปลอมแปลงเว็บเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ลงทะเบียนอุปกรณ์ MFA ใหม่ - การใช้ฟิชชิ่งที่ล้ำขึ้น เช่น AI-generated phishing attacks ที่ถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน ✅ บัญชีผู้ดูแลระบบมักตกเป็นเป้าหมายหลัก - ระบบ Active Directory เป็นจุดอ่อนสำคัญ—แฮกเกอร์มักเจาะข้อมูลที่เก็บอยู่ใน LSASS, SAM databases และ cached domain credentials - เครื่องมือยอดนิยมของแฮกเกอร์ เช่น Mimikatz และ PsExec ถูกใช้เพื่อขยายการเข้าถึงระบบ - องค์กรที่มีบัญชีแอดมินจำนวนมาก เพิ่มความเสี่ยงให้การโจมตีประสบความสำเร็จ ✅ แนวทางป้องกันที่ Cisco Talos แนะนำ - เปิดใช้ MFA และตั้งค่าความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น - ตรวจสอบกิจกรรมที่ผิดปกติของบัญชีผู้ใช้และแอดมิน - ลดจำนวนบัญชีที่มีสิทธิ์แอดมินในองค์กร - ใช้วิธี Challenge-Response Authentication เพื่อเพิ่มระดับการตรวจสอบ https://www.csoonline.com/article/3952041/malicious-actors-increasingly-put-privileged-identity-access-to-work-across-attack-chains.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Malicious actors increasingly put privileged identity access to work across attack chains
    Identity-based attacks fueled over half of security breaches last year, according to research from Cisco Talos, providing attackers initial access and valid means for lateral movement.
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • OpenAI เผยว่าความนิยมของ ChatGPT Image Tool ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ระบบ GPU ของบริษัทได้รับภาระหนัก CEO Sam Altman ระบุว่า "เรามีผู้ใช้เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านรายในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา" และเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาล บริษัทจึงต้อง จำกัดการใช้งานชั่วคราว ขณะที่ OpenAI ยังได้รับเงินทุนรอบใหม่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในแวดวงเทคโนโลยี

    AI สร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli กำลังเป็นกระแส
    - ผู้ใช้จำนวนมากกำลังใช้ ChatGPT สร้างภาพในสไตล์ของ Studio Ghibli ซึ่งเป็นสตูดิโออนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่น
    - แม้ OpenAI มีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ แต่บางครั้ง AI ยังคงสามารถสร้างภาพในสไตล์ของสตูดิโอได้

    OpenAI วางแผนปล่อยโมเดลภาษาตัวใหม่
    - Altman ประกาศว่า OpenAI จะเปิดตัว โมเดลภาษาแบบเปิดตัวแรกตั้งแต่ GPT-2 ซึ่งผู้ใช้สามารถรันบนฮาร์ดแวร์ของตนเอง

    ข้อถกเถียงเรื่องลิขสิทธิ์ใน AI-generated Art
    - OpenAI กำลังเผชิญข้อกล่าวหาว่าโมเดล AI ฝึกจากชุดข้อมูลที่มีผลงานลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - บริษัทอ้างว่ามีมาตรการป้องกันการสร้างภาพในสไตล์ศิลปินที่ยังมีชีวิต แต่แนวทางนี้ยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสม่ำเสมอ

    คู่แข่งของ OpenAI กำลังประสบปัญหา
    - Apple เลื่อน เปิดตัว Apple Intelligence
    - Google กำลังเผชิญเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับ Gemini ที่ให้ผลลัพธ์ AI Search ที่ไม่น่าประทับใจ

    https://www.techspot.com/news/107365-chatgpt-image-tool-melting-gpus-openai-lands-40.html
    OpenAI เผยว่าความนิยมของ ChatGPT Image Tool ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ระบบ GPU ของบริษัทได้รับภาระหนัก CEO Sam Altman ระบุว่า "เรามีผู้ใช้เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านรายในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา" และเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาล บริษัทจึงต้อง จำกัดการใช้งานชั่วคราว ขณะที่ OpenAI ยังได้รับเงินทุนรอบใหม่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในแวดวงเทคโนโลยี AI สร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli กำลังเป็นกระแส - ผู้ใช้จำนวนมากกำลังใช้ ChatGPT สร้างภาพในสไตล์ของ Studio Ghibli ซึ่งเป็นสตูดิโออนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่น - แม้ OpenAI มีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ แต่บางครั้ง AI ยังคงสามารถสร้างภาพในสไตล์ของสตูดิโอได้ OpenAI วางแผนปล่อยโมเดลภาษาตัวใหม่ - Altman ประกาศว่า OpenAI จะเปิดตัว โมเดลภาษาแบบเปิดตัวแรกตั้งแต่ GPT-2 ซึ่งผู้ใช้สามารถรันบนฮาร์ดแวร์ของตนเอง ข้อถกเถียงเรื่องลิขสิทธิ์ใน AI-generated Art - OpenAI กำลังเผชิญข้อกล่าวหาว่าโมเดล AI ฝึกจากชุดข้อมูลที่มีผลงานลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต - บริษัทอ้างว่ามีมาตรการป้องกันการสร้างภาพในสไตล์ศิลปินที่ยังมีชีวิต แต่แนวทางนี้ยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสม่ำเสมอ คู่แข่งของ OpenAI กำลังประสบปัญหา - Apple เลื่อน เปิดตัว Apple Intelligence - Google กำลังเผชิญเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับ Gemini ที่ให้ผลลัพธ์ AI Search ที่ไม่น่าประทับใจ https://www.techspot.com/news/107365-chatgpt-image-tool-melting-gpus-openai-lands-40.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    ChatGPT image tool is "melting" GPUs, OpenAI lands $40 billion in new funding
    While Apple faces delays with its Apple Intelligence rollout and Google struggles to impress with Gemini – delivering sometimes underwhelming and mostly annoying AI search results –...
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832

    การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย

    ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น:
    - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น.

    ความแม่นยำของการทดลอง:
    - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน.

    ข้อจำกัดและการต่อยอด:
    - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์.

    ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต:
    - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล.

    https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832 การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น: - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น. ความแม่นยำของการทดลอง: - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน. ข้อจำกัดและการต่อยอด: - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์. ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต: - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล. https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists use Earth's rotational energy to generate electricity
    The study, published in the journal Physical Review Research, builds on work the team conducted back in 2016 and an idea dating back to at least 1832....
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • จีนได้ออกกฎหมายใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 2025 เพื่อบังคับให้เนื้อหาที่สร้างด้วย AI ต้องมีป้ายกำกับที่ชัดเจนทั้งในภาพ เสียง และข้อความ ซึ่งเป้าหมายคือช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแยกแยะได้ง่ายขึ้นระหว่างข้อมูลจริงกับข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยเครื่องจักร เช่น ถ้าเราเห็นรูปหรือวิดีโอที่ดูเหมือนจริงมาก เราจะได้รู้ว่ามันถูกสร้างด้วย AI หรือไม่ นอกจากนี้ ทางการยังห้ามลบป้ายกำกับหรือทำปลอมแปลงเพื่อให้ข้อมูลผิดพลาด อย่างไรก็ตาม บางเนื้อหาที่ไม่มีป้ายกำกับก็ยังอนุญาตได้ในบางกรณีที่มีเหตุผลจำเป็น

    เนื้อหาที่กำหนดให้ติดป้าย:
    - รวมถึงข้อมูลที่สร้างขึ้นและถูกปรับแต่งโดย AI เช่น วิดีโอที่สร้างจากโมเดล AI และเสียงที่เลียนแบบมนุษย์.
    - ผู้ใช้งานสามารถขอเนื้อหาที่ไม่มีป้ายกำกับได้ในบางกรณี เช่น เรื่องทางสังคมหรือความจำเป็นในอุตสาหกรรม แต่จะต้องมีการบันทึกข้อมูลเพื่อการติดตาม.

    ข้อห้ามและการควบคุม:
    - ห้ามลบ หรือปลอมแปลงป้ายกำกับของเนื้อหา AI และยังห้ามเพิ่มป้ายดังกล่าวในเนื้อหาที่สร้างโดยมนุษย์.
    - กำหนดให้แอปพลิเคชันในร้านค้าออนไลน์ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนที่จะอนุมัติการเผยแพร่แอป.

    เป้าหมายของกฎหมาย:
    - เพื่อควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต.
    - ลดการแพร่กระจายข้อมูลปลอมและเพิ่มความโปร่งใสในโลกดิจิทัล.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-will-enforce-clear-flagging-of-all-ai-generated-content-starting-from-september
    จีนได้ออกกฎหมายใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 2025 เพื่อบังคับให้เนื้อหาที่สร้างด้วย AI ต้องมีป้ายกำกับที่ชัดเจนทั้งในภาพ เสียง และข้อความ ซึ่งเป้าหมายคือช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแยกแยะได้ง่ายขึ้นระหว่างข้อมูลจริงกับข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยเครื่องจักร เช่น ถ้าเราเห็นรูปหรือวิดีโอที่ดูเหมือนจริงมาก เราจะได้รู้ว่ามันถูกสร้างด้วย AI หรือไม่ นอกจากนี้ ทางการยังห้ามลบป้ายกำกับหรือทำปลอมแปลงเพื่อให้ข้อมูลผิดพลาด อย่างไรก็ตาม บางเนื้อหาที่ไม่มีป้ายกำกับก็ยังอนุญาตได้ในบางกรณีที่มีเหตุผลจำเป็น เนื้อหาที่กำหนดให้ติดป้าย: - รวมถึงข้อมูลที่สร้างขึ้นและถูกปรับแต่งโดย AI เช่น วิดีโอที่สร้างจากโมเดล AI และเสียงที่เลียนแบบมนุษย์. - ผู้ใช้งานสามารถขอเนื้อหาที่ไม่มีป้ายกำกับได้ในบางกรณี เช่น เรื่องทางสังคมหรือความจำเป็นในอุตสาหกรรม แต่จะต้องมีการบันทึกข้อมูลเพื่อการติดตาม. ข้อห้ามและการควบคุม: - ห้ามลบ หรือปลอมแปลงป้ายกำกับของเนื้อหา AI และยังห้ามเพิ่มป้ายดังกล่าวในเนื้อหาที่สร้างโดยมนุษย์. - กำหนดให้แอปพลิเคชันในร้านค้าออนไลน์ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนที่จะอนุมัติการเผยแพร่แอป. เป้าหมายของกฎหมาย: - เพื่อควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต. - ลดการแพร่กระจายข้อมูลปลอมและเพิ่มความโปร่งใสในโลกดิจิทัล. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-will-enforce-clear-flagging-of-all-ai-generated-content-starting-from-september
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China will enforce clear flagging of all AI generated content starting from September
    AI text, audio, video, images, and even virtual scenes will all need to be labeled.
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 Reviews
  • Nvidia ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ โดยมีรายได้ปีเต็มสูงสุดที่ 130.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 114% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากความต้องการชิป AI ที่สูงมาก ถึงแม้จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นักเล่นเกมและผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีหลายคนรู้สึกว่าถูกเมินเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทเพียงแค่กล่าวถึงปัญหาขาดแคลนการ์ดจอ RTX 50-series แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลของปัญหานี้หรือวิธีการแก้ไขปัญหา

    ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ Nvidia เติบโตจาก 10.61 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2021 ซึ่งคิดเป็น 39.43% ของรายได้ทั้งหมด เป็น 115.19 พันล้านดอลลาร์ในสามปีต่อมา ทำให้มีสัดส่วน 88.27% ของยอดขาย ในขณะเดียวกันธุรกิจการ์ดจอสำหรับเกมลดลงจาก 12.46 พันล้านดอลลาร์เป็น 11.35 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

    แม้ว่า Nvidia จะทำรายได้สูงมากจากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ หลายคนยังคงสงสัยว่าทำไมบริษัทถึงไม่สามารถเตรียมการ์ดจอ RTX 50-series ให้เพียงพอต่อความต้องการได้ ซึ่งในช่วงการเปิดตัวการ์ดจอ RTX 30-series และ RTX 40-series มีปัญหาการขาดแคลนเนื่องจากวิกฤติห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 แต่ในขณะนี้ห่วงโซ่อุปทานของชิปซิลิคอนค่อนข้างเสถียร ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าทำไม Nvidia ถึงไม่สามารถผลิตชิปให้เพียงพอสำหรับผู้บริโภคได้

    นอกจากนี้ยังมีปัญหาเช่น ปัญหาการเชื่อมต่อของพาวเวอร์ซัพพลายที่ละลายกลับมาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 5090, การขาด ROPs และปัญหา BSOD และหน้าจอดำ (ซึ่งล่าสุดได้มีการแก้ไขด้วยการอัปเดตไดรเวอร์)

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/nvidia-gaming-gpus-an-afterthought-as-ai-generates-mountains-of-cash-rtx-50-series-shortages-mentioned-not-explained
    Nvidia ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ โดยมีรายได้ปีเต็มสูงสุดที่ 130.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 114% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากความต้องการชิป AI ที่สูงมาก ถึงแม้จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นักเล่นเกมและผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีหลายคนรู้สึกว่าถูกเมินเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทเพียงแค่กล่าวถึงปัญหาขาดแคลนการ์ดจอ RTX 50-series แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลของปัญหานี้หรือวิธีการแก้ไขปัญหา ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ Nvidia เติบโตจาก 10.61 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2021 ซึ่งคิดเป็น 39.43% ของรายได้ทั้งหมด เป็น 115.19 พันล้านดอลลาร์ในสามปีต่อมา ทำให้มีสัดส่วน 88.27% ของยอดขาย ในขณะเดียวกันธุรกิจการ์ดจอสำหรับเกมลดลงจาก 12.46 พันล้านดอลลาร์เป็น 11.35 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่า Nvidia จะทำรายได้สูงมากจากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ หลายคนยังคงสงสัยว่าทำไมบริษัทถึงไม่สามารถเตรียมการ์ดจอ RTX 50-series ให้เพียงพอต่อความต้องการได้ ซึ่งในช่วงการเปิดตัวการ์ดจอ RTX 30-series และ RTX 40-series มีปัญหาการขาดแคลนเนื่องจากวิกฤติห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 แต่ในขณะนี้ห่วงโซ่อุปทานของชิปซิลิคอนค่อนข้างเสถียร ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าทำไม Nvidia ถึงไม่สามารถผลิตชิปให้เพียงพอสำหรับผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเช่น ปัญหาการเชื่อมต่อของพาวเวอร์ซัพพลายที่ละลายกลับมาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 5090, การขาด ROPs และปัญหา BSOD และหน้าจอดำ (ซึ่งล่าสุดได้มีการแก้ไขด้วยการอัปเดตไดรเวอร์) https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/nvidia-gaming-gpus-an-afterthought-as-ai-generates-mountains-of-cash-rtx-50-series-shortages-mentioned-not-explained
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ

    ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา

    สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้

    Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน

    สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน

    https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้ Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI-generated books have overrun public libraries, with no easy solution in sight
    The internet is becoming a wasteland, devoid of human interaction, as bots consume global bandwidth with malicious and worthless traffic. According to those in the ebook lending...
    0 Comments 0 Shares 407 Views 0 Reviews
  • จีนท้าทาย OpenAI! Qwen AI เปิดตัวฟรี เน้นมัลติโมดัล-วิเคราะห์รูปภาพแม่นยำระดับเซียน

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ วงการ AI ของจีนได้สร้างความตื่นตัวด้วยการเปิดตัว DeepSeek R1 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำคะแนนเหนือ openAI ที่ทำคะแนนเหนือ ChatGPT-o1 (โมเดลที่เก่งที่สุดของ OpenAI ณ ปัจจุบัน) และ Claude 3.5 ในหลาย ๆ มิติเช่น งานด้านคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงตรรกะ รวมถึงการประมวลผลข้อความและโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเป็นโมเดลที่กระชับกว่า ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากเหมือน chatGPT และ จุดเด่นที่ทำให้ DeepSeek R1 แตกต่างจากโมเดลอื่น ๆ คือการเป็น โอเพนซอร์ส ที่สามารถดาวน์โหลดโค้ดต้นฉบับมาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวได้ทันที (ต่างกับ openAI ที่ไม่เปิดเผย code แม้ว่าจะมีคำว่า open อยู่บนชื่อก็ตาม) แต่ถึงกระนั้น DeepSeek R1 ยังมีจุดอ่อนสำคัญคือ ปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์รูปภาพได้ และนี่คือช่องว่างที่ Qwen โมเดล AI จาก Alibaba Cloud ฉีกกฎด้วยการเปิดตัว Qwen2.5-VL โมเดลที่สามารถประมวลผลภาษากับภาพร่วมกัน ใช้งานฟรี ซึ่งอาจเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับ AI ยุคนี้!

    Qwen2.5-VL: ความสามารถที่ DeepSeek R1 ทำไม่ได้
    1. วิเคราะห์ภาพระดับเทพ
    Qwen2.5-VL ไม่ใช่แค่ตรวจจับวัตถุทั่วไป เช่น ดอกไม้หรือสัตว์ แต่ยังเข้าใจ แผนภูมิ กราฟิก ไอคอน และแม้แต่ โครงสร้างเอกสาร ในรูปภาพได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบุตำแหน่งวัตถุ เพื่อใช้ต่อในระบบอัตโนมัติ เช่น
    o ตรวจจับนักบิดในภาพพร้อมสถานะสวมหมวกนิรภัย
    o นับจำนวนนกในภาพแม้เห็นแค่ส่วนหัว
    o แยกข้อมูลจากใบแจ้งหนี้หรือตารางในภาพ ส่งออกเป็นโครงสร้างข้อมูลเพื่อใช้ในงานธุรกิจ
    2. ประมวลผลวิดีโอยาว 1 ชั่วโมง + จับเหตุการณ์เฉพาะช่วงเวลา
    ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Frame Rate และ Absolute Time Encoding โมเดลนี้สามารถสรุปเนื้อหาวิดีโอยาวระดับชั่วโมง และระบุเหตุการณ์สำคัญได้แม่นยำถึงระดับวินาที เช่น การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับฟีเจอร์สร้างภาพในวิดีโอ
    3. ดึงข้อความจากภาพ รองรับมือหลายภาษา
    เพิ่มความแม่นยำในการอ่านข้อความจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ แม้ข้อความจะเอียงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมซับซ้อน เช่น ตรวจสอบที่อยู่บนใบจัดส่งกับป้ายหน้าบ้านเพื่อยืนยันความถูกต้อง
    4. Visual Agent
    Qwen2.5-VL ทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนอัจฉริยะ" ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ โดยตรง เช่น ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่านการประมวลผลภาพ และสร้างผลลัพธ์แบบมีโครงสร้างเพื่อส่งต่อให้ระบบอื่น

    ในขณะที่ DeepSeek R1 โดดเด่นด้านคณิตศาสตร์และเหตุผล Qwen2.5-VL ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยความสามารถมัลติโมดัลที่สมบูรณ์แบบ พร้อมการสนับสนุนจากระบบ Cloud ของ Alibaba

    ผู้ก่อตั้งและข่าวสาร :
    https://x.com/huybery
    https://x.com/Alibaba_Qwen

    ใช้งาน AI ในข่าวฟรี สมัครฟรี ไม่มีโฆษณาที่: https://chat.qwenlm.ai/
    อ้างอิง: https://x.com/huybery

    คำอธิบายภาพ
    ภาพแรกแสดงการเปรียบเทียบระหว่างการแข่งขันของ โมเดล Qwen2.5-VL 72B เช่น การแก้ปัญหาในระดับมหาวิทยาลัย การอ่านเอกสารและแผนภูมิ การตอบคำถามทางภาพทั่วไป การคำนวณคณิตศาสตร์ การเข้าใจวิดีโอ และการควบคุมอุปกรณ์ผ่านภาพ ซึ่ง โมเดล Qwen2.5-VL 72B เก่งที่สุดในงานจำพวกการอ่านเอกสารและแผนภูมิ นอกจากนี้ยังทำได้ดีในงานตอบคำถามทางภาพทั่วไป

    คลิปมาจาก โมเดล Qwen2.5-plus แปลงข้อความ “Generate Thai people using the ThaiTime.co app everywhere!” เป็นวีดีโอ

    ภาพที่ 2 แสดงการถาม Qwen2.5-plus ว่า “รู้จัก Thaitimes.co ไหม” เพื่อทดสอบว่ามันสามารถหาข้อมูลใน internet ได้ลึกและเข้าใจภาษาไทย


    จีนท้าทาย OpenAI! Qwen AI เปิดตัวฟรี เน้นมัลติโมดัล-วิเคราะห์รูปภาพแม่นยำระดับเซียน เมื่อเร็ว ๆ นี้ วงการ AI ของจีนได้สร้างความตื่นตัวด้วยการเปิดตัว DeepSeek R1 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำคะแนนเหนือ openAI ที่ทำคะแนนเหนือ ChatGPT-o1 (โมเดลที่เก่งที่สุดของ OpenAI ณ ปัจจุบัน) และ Claude 3.5 ในหลาย ๆ มิติเช่น งานด้านคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงตรรกะ รวมถึงการประมวลผลข้อความและโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเป็นโมเดลที่กระชับกว่า ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากเหมือน chatGPT และ จุดเด่นที่ทำให้ DeepSeek R1 แตกต่างจากโมเดลอื่น ๆ คือการเป็น โอเพนซอร์ส ที่สามารถดาวน์โหลดโค้ดต้นฉบับมาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวได้ทันที (ต่างกับ openAI ที่ไม่เปิดเผย code แม้ว่าจะมีคำว่า open อยู่บนชื่อก็ตาม) แต่ถึงกระนั้น DeepSeek R1 ยังมีจุดอ่อนสำคัญคือ ปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์รูปภาพได้ และนี่คือช่องว่างที่ Qwen โมเดล AI จาก Alibaba Cloud ฉีกกฎด้วยการเปิดตัว Qwen2.5-VL โมเดลที่สามารถประมวลผลภาษากับภาพร่วมกัน ใช้งานฟรี ซึ่งอาจเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับ AI ยุคนี้! Qwen2.5-VL: ความสามารถที่ DeepSeek R1 ทำไม่ได้ 1. วิเคราะห์ภาพระดับเทพ Qwen2.5-VL ไม่ใช่แค่ตรวจจับวัตถุทั่วไป เช่น ดอกไม้หรือสัตว์ แต่ยังเข้าใจ แผนภูมิ กราฟิก ไอคอน และแม้แต่ โครงสร้างเอกสาร ในรูปภาพได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบุตำแหน่งวัตถุ เพื่อใช้ต่อในระบบอัตโนมัติ เช่น o ตรวจจับนักบิดในภาพพร้อมสถานะสวมหมวกนิรภัย o นับจำนวนนกในภาพแม้เห็นแค่ส่วนหัว o แยกข้อมูลจากใบแจ้งหนี้หรือตารางในภาพ ส่งออกเป็นโครงสร้างข้อมูลเพื่อใช้ในงานธุรกิจ 2. ประมวลผลวิดีโอยาว 1 ชั่วโมง + จับเหตุการณ์เฉพาะช่วงเวลา ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Frame Rate และ Absolute Time Encoding โมเดลนี้สามารถสรุปเนื้อหาวิดีโอยาวระดับชั่วโมง และระบุเหตุการณ์สำคัญได้แม่นยำถึงระดับวินาที เช่น การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับฟีเจอร์สร้างภาพในวิดีโอ 3. ดึงข้อความจากภาพ รองรับมือหลายภาษา เพิ่มความแม่นยำในการอ่านข้อความจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ แม้ข้อความจะเอียงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมซับซ้อน เช่น ตรวจสอบที่อยู่บนใบจัดส่งกับป้ายหน้าบ้านเพื่อยืนยันความถูกต้อง 4. Visual Agent Qwen2.5-VL ทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนอัจฉริยะ" ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ โดยตรง เช่น ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่านการประมวลผลภาพ และสร้างผลลัพธ์แบบมีโครงสร้างเพื่อส่งต่อให้ระบบอื่น ในขณะที่ DeepSeek R1 โดดเด่นด้านคณิตศาสตร์และเหตุผล Qwen2.5-VL ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยความสามารถมัลติโมดัลที่สมบูรณ์แบบ พร้อมการสนับสนุนจากระบบ Cloud ของ Alibaba ผู้ก่อตั้งและข่าวสาร : https://x.com/huybery https://x.com/Alibaba_Qwen ใช้งาน AI ในข่าวฟรี สมัครฟรี ไม่มีโฆษณาที่: https://chat.qwenlm.ai/ อ้างอิง: https://x.com/huybery คำอธิบายภาพ ภาพแรกแสดงการเปรียบเทียบระหว่างการแข่งขันของ โมเดล Qwen2.5-VL 72B เช่น การแก้ปัญหาในระดับมหาวิทยาลัย การอ่านเอกสารและแผนภูมิ การตอบคำถามทางภาพทั่วไป การคำนวณคณิตศาสตร์ การเข้าใจวิดีโอ และการควบคุมอุปกรณ์ผ่านภาพ ซึ่ง โมเดล Qwen2.5-VL 72B เก่งที่สุดในงานจำพวกการอ่านเอกสารและแผนภูมิ นอกจากนี้ยังทำได้ดีในงานตอบคำถามทางภาพทั่วไป คลิปมาจาก โมเดล Qwen2.5-plus แปลงข้อความ “Generate Thai people using the ThaiTime.co app everywhere!” เป็นวีดีโอ ภาพที่ 2 แสดงการถาม Qwen2.5-plus ว่า “รู้จัก Thaitimes.co ไหม” เพื่อทดสอบว่ามันสามารถหาข้อมูลใน internet ได้ลึกและเข้าใจภาษาไทย
    0 Comments 0 Shares 753 Views 0 Reviews
  • Ep 29 Generate BOM ( Bill of Material ) and XY-Location
    หากเราไม่ได้ประกอบแผงวงจรด้วยคนแต่ใช้เครื่องจักรเราจำเป็นต้องทำ 3 สิ่งนี้ให้โรงงานประกอบ
    1. Gerber files
    2. BOM ( Bill of Mat'l )
    3. Components XY-Location
    Ep 29 Generate BOM ( Bill of Material ) and XY-Location หากเราไม่ได้ประกอบแผงวงจรด้วยคนแต่ใช้เครื่องจักรเราจำเป็นต้องทำ 3 สิ่งนี้ให้โรงงานประกอบ 1. Gerber files 2. BOM ( Bill of Mat'l ) 3. Components XY-Location
    0 Comments 0 Shares 350 Views 133 0 Reviews
  • EP 23 connections verify design and Generate Gerber
    ตรวจสอบการเชื่อมต่อ และ สร้าง gerber files
    มาตรฐาน gerber Basic ประกอบด้วย Files Top, Bottom, Soldermask Top, Soldermask Bottom, Silk screen และ Drill file
    EP 23 connections verify design and Generate Gerber ตรวจสอบการเชื่อมต่อ และ สร้าง gerber files มาตรฐาน gerber Basic ประกอบด้วย Files Top, Bottom, Soldermask Top, Soldermask Bottom, Silk screen และ Drill file
    0 Comments 0 Shares 280 Views 126 0 Reviews
  • VideoLAN ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อยู่เบื้องหลัง VLC Media Player ได้ประกาศในงาน CES 2025 ว่าเครื่องมือมัลติมีเดียแบบโอเพ่นซอร์สยอดนิยมนี้ได้มียอดดาวน์โหลดถึง 6 พันล้านครั้งแล้ว แม้ว่าตัวเลขนี้จะมีความสำคัญมาก แต่ก็อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริงเนื่องจากบริษัทอาจไม่ได้รวมจำนวนการดาวน์โหลดจากแหล่งที่มาจากเวบไซด์อื่นๆ

    นักพัฒนาของ VideoLAN ยังได้ประกาศแผนการในอนาคตด้วยการแสดงฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ คำบรรยายที่สร้างโดย AI และการแปลแบบเรียลไทม์สำหรับ 100 ภาษา ฟีเจอร์นี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อสร้างคำบรรยายแบบเรียลไทม์โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบโอเพ่นซอร์ส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความก้าวหน้าเช่น OpenAI's Whisper ซึ่งเป็นระบบการรู้จำเสียงอัตโนมัติ (ASR) ที่ออกแบบมาเพื่อถอดเสียงเป็นข้อความ

    อย่างไรก็ตาม VLC กำลังใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยโมเดล AI จะทำงานแบบออฟไลน์และฝังอยู่ในแอป VLC โดยตรง ฟีเจอร์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากไม่ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือการพึ่งพาบริการคลาวด์ ซึ่งมักเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว

    Jean-Baptiste Kempf ประธานของ VideoLAN กล่าวว่า "ในขณะเดียวกันเรามีการแปลอัตโนมัติที่ทำงานเพื่อแปลคำบรรยายเป็นภาษาของคุณเอง สิ่งที่สำคัญคือสิ่งนี้ทำงานบนเครื่องของคุณเองแบบออฟไลน์ โดยไม่ต้องใช้บริการคลาวด์ใดๆ มันทำงานโดยตรงภายในไฟล์ปฏิบัติการ"

    VideoLAN ยังไม่ได้ยืนยันวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ แต่คาดว่าจะเปิดตัวเป็นการอัปเดตฟรีในอนาคตอันใกล้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะถูกแชร์ผ่านบล็อกของบริษัท

    ลุงว่า เราอาจจะต้อง Download ตัวติดตั้งที่ใหญ่ขึ้น หรือ download Add-on ในระดับ 10GB สำหรับโมเดลแบบนี้นะครับ

    https://www.tomshardware.com/software/vlc-demoes-ai-generated-subtitles-as-it-hits-new-milestone-of-6-billion-downloads
    VideoLAN ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อยู่เบื้องหลัง VLC Media Player ได้ประกาศในงาน CES 2025 ว่าเครื่องมือมัลติมีเดียแบบโอเพ่นซอร์สยอดนิยมนี้ได้มียอดดาวน์โหลดถึง 6 พันล้านครั้งแล้ว แม้ว่าตัวเลขนี้จะมีความสำคัญมาก แต่ก็อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริงเนื่องจากบริษัทอาจไม่ได้รวมจำนวนการดาวน์โหลดจากแหล่งที่มาจากเวบไซด์อื่นๆ นักพัฒนาของ VideoLAN ยังได้ประกาศแผนการในอนาคตด้วยการแสดงฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ คำบรรยายที่สร้างโดย AI และการแปลแบบเรียลไทม์สำหรับ 100 ภาษา ฟีเจอร์นี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อสร้างคำบรรยายแบบเรียลไทม์โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบโอเพ่นซอร์ส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความก้าวหน้าเช่น OpenAI's Whisper ซึ่งเป็นระบบการรู้จำเสียงอัตโนมัติ (ASR) ที่ออกแบบมาเพื่อถอดเสียงเป็นข้อความ อย่างไรก็ตาม VLC กำลังใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยโมเดล AI จะทำงานแบบออฟไลน์และฝังอยู่ในแอป VLC โดยตรง ฟีเจอร์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากไม่ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือการพึ่งพาบริการคลาวด์ ซึ่งมักเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว Jean-Baptiste Kempf ประธานของ VideoLAN กล่าวว่า "ในขณะเดียวกันเรามีการแปลอัตโนมัติที่ทำงานเพื่อแปลคำบรรยายเป็นภาษาของคุณเอง สิ่งที่สำคัญคือสิ่งนี้ทำงานบนเครื่องของคุณเองแบบออฟไลน์ โดยไม่ต้องใช้บริการคลาวด์ใดๆ มันทำงานโดยตรงภายในไฟล์ปฏิบัติการ" VideoLAN ยังไม่ได้ยืนยันวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ แต่คาดว่าจะเปิดตัวเป็นการอัปเดตฟรีในอนาคตอันใกล้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะถูกแชร์ผ่านบล็อกของบริษัท ลุงว่า เราอาจจะต้อง Download ตัวติดตั้งที่ใหญ่ขึ้น หรือ download Add-on ในระดับ 10GB สำหรับโมเดลแบบนี้นะครับ https://www.tomshardware.com/software/vlc-demoes-ai-generated-subtitles-as-it-hits-new-milestone-of-6-billion-downloads
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    VLC hits 6 billion downloads and shows off AI-generated subtitles
    AI-powered subtitles in over 100 languages are coming soon to VLC
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • Meta กำลังวางแผนที่จะเติมเต็มแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนด้วยบอทที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้จริงจำนวนสามพันล้านคน

    Meta กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI หลายอย่าง รวมถึงบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างบอท AI บน Instagram และ Facebook บอทเหล่านี้สามารถเลียนแบบบุคลิกของผู้ใช้และโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ บนเครือข่ายได้ โดยหวังว่าจะดึงดูดผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า ซึ่งดูเหมือนจะสนใจใน AI เป็นพิเศษในปัจจุบัน

    นักวิจารณ์ก็เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อขยายเรื่องราวเท็จหากไม่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดบนโซเชียลมีเดีย

    ลุงว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง บริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องคิดให้หนักในการลงโฆษณากับ Meta แล้วหล่ะ

    https://www.techspot.com/news/106138-meta-wants-fill-social-platforms-ai-generated-bots.html
    Meta กำลังวางแผนที่จะเติมเต็มแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนด้วยบอทที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้จริงจำนวนสามพันล้านคน Meta กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI หลายอย่าง รวมถึงบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างบอท AI บน Instagram และ Facebook บอทเหล่านี้สามารถเลียนแบบบุคลิกของผู้ใช้และโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ บนเครือข่ายได้ โดยหวังว่าจะดึงดูดผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า ซึ่งดูเหมือนจะสนใจใน AI เป็นพิเศษในปัจจุบัน นักวิจารณ์ก็เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อขยายเรื่องราวเท็จหากไม่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดบนโซเชียลมีเดีย ลุงว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง บริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องคิดให้หนักในการลงโฆษณากับ Meta แล้วหล่ะ https://www.techspot.com/news/106138-meta-wants-fill-social-platforms-ai-generated-bots.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta wants to fill its social platforms with AI-generated bots
    Meta is actively working to transform its social media platforms into spaces where AI bots interact with each other. Over the next few years, the company formerly...
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • Discover The Inner Labyrinth: A Gateway to Humanity’s Next Frontier

    The release of The Inner Labyrinth: Short Stories of Human Secrets marks not only the culmination of a profound storytelling endeavor but also the beginning of a conversation about the foundations of human knowledge that will shape the next 2,000–3,000 years. This collection of short stories doesn’t merely entertain—it challenges readers to navigate the intricate pathways of their own thoughts, emotions, and beliefs, laying the groundwork for the emerging discipline of Frontier Science as written in What is Life? by Unyanee Mooksombud and Ekarach Chandon.

    How does The Inner Labyrinth connect to the future of human knowledge?

    The stories invite readers to examine their internal labyrinths—constructed by societal norms, invisible cages of thought, and inherited paradigms like competition, individuality, and moral responsibility. By uncovering these invisible structures, the book equips readers to rethink their place in the universe, much like What is Life?: Beyond the Horizon redefined the boundaries of science by asking: What does it mean to live and grow within a universe governed by laws we are only beginning to understand?

    From Literature to Frontier Science

    While The Inner Labyrinth dissects the human condition through vivid narratives, Frontier Science provides a framework for transcending those conditions. Together, they form a continuum:
    The Inner Labyrinth reveals the "invisible cages" of our current understanding—competition, ignorance, and irresponsibility—and invites readers to explore a deeper truth about human existence.

    What is Life?: Beyond the Horizon expands this conversation to the universal scale, laying a scientific and philosophical foundation for answering humanity’s most profound questions.
    Both works converge on a single, essential idea: The key to understanding life, civilization, and progress lies not in conquest but in integration—of ourselves, our surroundings, and the systems that bind us.

    Why Now?

    We are at the brink of what may be humanity’s most transformative period. The knowledge we generate and the questions we dare to ask today will determine the trajectory of civilization for millennia. The Inner Labyrinth is not just a collection of stories—it is a mirror, reflecting our deepest fears and aspirations. It is the perfect entry point for anyone looking to engage with Frontier Science and lay the intellectual and emotional groundwork for the next era of human understanding.

    Ready to Begin?

    And today, The Inner Labyrinth: Short Stories of Human Secrets is ready to guide you on a journey into your own inner labyrinth. Start your exploration here: The Inner Labyrinth on Amazon. https://www.amazon.com/dp/B0DRQZD58G

    For those curious to delve further into the concepts of Frontier Science, pick up What is Life?: Beyond the Horizon by Unyanee Mooksombud and Ekarach Chandon, available here: What is Life? on Amazon. https://www.amazon.com/dp/B0DK5S9RB2

    This is more than a book—it is a call to action, an invitation to explore life’s biggest questions, and the start of a journey that could redefine what it means to be human.
    Discover The Inner Labyrinth: A Gateway to Humanity’s Next Frontier The release of The Inner Labyrinth: Short Stories of Human Secrets marks not only the culmination of a profound storytelling endeavor but also the beginning of a conversation about the foundations of human knowledge that will shape the next 2,000–3,000 years. This collection of short stories doesn’t merely entertain—it challenges readers to navigate the intricate pathways of their own thoughts, emotions, and beliefs, laying the groundwork for the emerging discipline of Frontier Science as written in What is Life? by Unyanee Mooksombud and Ekarach Chandon. How does The Inner Labyrinth connect to the future of human knowledge? The stories invite readers to examine their internal labyrinths—constructed by societal norms, invisible cages of thought, and inherited paradigms like competition, individuality, and moral responsibility. By uncovering these invisible structures, the book equips readers to rethink their place in the universe, much like What is Life?: Beyond the Horizon redefined the boundaries of science by asking: What does it mean to live and grow within a universe governed by laws we are only beginning to understand? From Literature to Frontier Science While The Inner Labyrinth dissects the human condition through vivid narratives, Frontier Science provides a framework for transcending those conditions. Together, they form a continuum: The Inner Labyrinth reveals the "invisible cages" of our current understanding—competition, ignorance, and irresponsibility—and invites readers to explore a deeper truth about human existence. What is Life?: Beyond the Horizon expands this conversation to the universal scale, laying a scientific and philosophical foundation for answering humanity’s most profound questions. Both works converge on a single, essential idea: The key to understanding life, civilization, and progress lies not in conquest but in integration—of ourselves, our surroundings, and the systems that bind us. Why Now? We are at the brink of what may be humanity’s most transformative period. The knowledge we generate and the questions we dare to ask today will determine the trajectory of civilization for millennia. The Inner Labyrinth is not just a collection of stories—it is a mirror, reflecting our deepest fears and aspirations. It is the perfect entry point for anyone looking to engage with Frontier Science and lay the intellectual and emotional groundwork for the next era of human understanding. Ready to Begin? And today, The Inner Labyrinth: Short Stories of Human Secrets is ready to guide you on a journey into your own inner labyrinth. Start your exploration here: The Inner Labyrinth on Amazon. https://www.amazon.com/dp/B0DRQZD58G For those curious to delve further into the concepts of Frontier Science, pick up What is Life?: Beyond the Horizon by Unyanee Mooksombud and Ekarach Chandon, available here: What is Life? on Amazon. https://www.amazon.com/dp/B0DK5S9RB2 This is more than a book—it is a call to action, an invitation to explore life’s biggest questions, and the start of a journey that could redefine what it means to be human.
    0 Comments 0 Shares 632 Views 0 Reviews
  • Ventiva เป็นบริษัทที่พัฒนาและให้บริการโซลูชันการระบายความร้อนแบบไร้พัดลมสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดตัวโซลูชันการระบายความร้อนแบบไร้พัดลมสำหรับแล็ปท็อปที่ใช้พลังงานสูงสุด 40 วัตต์ โดยใช้การเคลื่อนที่ของไอออนเพื่อสร้างการไหลของอากาศโดยไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว จะเปิดตัวในงาน CES 2025 ในเดือนมกราคม

    Ventiva ได้เปิดตัวชุดการจัดการความร้อน ICE9 ที่ทำงานอย่างเงียบสนิทและไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว โดยใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยไอออน (ICE) ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการระบายความร้อนแบบพัดลมทั่วไป โซลูชันนี้เหมาะสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบา และสามารถรองรับโปรเซสเซอร์ที่มีพลังงานสูงถึง 25 วัตต์ในปัจจุบัน และคาดว่าจะสามารถรองรับโปรเซสเซอร์ที่มีพลังงานสูงถึง 40 วัตต์ภายในปี 2027

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/fan-less-cooling-solution-for-laptops-up-to-40w-unveiled-device-uses-movement-of-ions-to-generate-airflow-without-any-moving-parts
    Ventiva เป็นบริษัทที่พัฒนาและให้บริการโซลูชันการระบายความร้อนแบบไร้พัดลมสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดตัวโซลูชันการระบายความร้อนแบบไร้พัดลมสำหรับแล็ปท็อปที่ใช้พลังงานสูงสุด 40 วัตต์ โดยใช้การเคลื่อนที่ของไอออนเพื่อสร้างการไหลของอากาศโดยไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว จะเปิดตัวในงาน CES 2025 ในเดือนมกราคม Ventiva ได้เปิดตัวชุดการจัดการความร้อน ICE9 ที่ทำงานอย่างเงียบสนิทและไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว โดยใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยไอออน (ICE) ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการระบายความร้อนแบบพัดลมทั่วไป โซลูชันนี้เหมาะสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบา และสามารถรองรับโปรเซสเซอร์ที่มีพลังงานสูงถึง 25 วัตต์ในปัจจุบัน และคาดว่าจะสามารถรองรับโปรเซสเซอร์ที่มีพลังงานสูงถึง 40 วัตต์ภายในปี 2027 https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/fan-less-cooling-solution-for-laptops-up-to-40w-unveiled-device-uses-movement-of-ions-to-generate-airflow-without-any-moving-parts
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Fan-less cooling solution for laptops up to 40W launched
    We are still waiting for CES to find out who the partners are.
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/kftf5FM7CLU?si=MeSyU5sKCDCuQDUB
    คลิปนี้มีทุกสิ่งที่ผมอยากพูดครบถ้วนเลย ลองดูนะครับ ใครไม่ถนัดอังกฤษลองกดปุ่ม cc บนมุมขวาบนของวิดีโอแล้วปรับภาษาเป็น auto-generate แล้วเลือกภาษาไทย มันจะเพิ่มซับไทยให้ครับ
    daddy's onfire
    https://youtu.be/kftf5FM7CLU?si=MeSyU5sKCDCuQDUB คลิปนี้มีทุกสิ่งที่ผมอยากพูดครบถ้วนเลย ลองดูนะครับ ใครไม่ถนัดอังกฤษลองกดปุ่ม cc บนมุมขวาบนของวิดีโอแล้วปรับภาษาเป็น auto-generate แล้วเลือกภาษาไทย มันจะเพิ่มซับไทยให้ครับ daddy's onfire
    0 Comments 0 Shares 447 Views 0 Reviews
  • ปรากฏว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ บลิงเข่น ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งเป็นคนเสื่อมทรามประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก เขาเรียกร้องให้ยูเครนลดอายุการเกณฑ์ทหารลงเพื่อให้ได้รับ “ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ” ต่อไป ซึ่งหมายความว่าตอนนี้คนอายุ ๑๘ ปีกำลังจะต้องตาย แต่รัฐบาลของ ไบเดน ก็ไม่สนใจ...

    ดมิทรี เมดเวเดฟ
    .
    Turns out outgoing State Sec. Blinken is a rare kind of degenerate. He's demanding Ukraine lower its conscription age to continue receiving “U.S. assistance.” This means eighteen-year-olds will now be dying, but the Biden administration couldn’t care less...
    .
    12:26 AM · Dec 5, 2024 · 495.2K Views
    https://x.com/MedvedevRussiaE/status/1864360538613891414
    ปรากฏว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ บลิงเข่น ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งเป็นคนเสื่อมทรามประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก เขาเรียกร้องให้ยูเครนลดอายุการเกณฑ์ทหารลงเพื่อให้ได้รับ “ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ” ต่อไป ซึ่งหมายความว่าตอนนี้คนอายุ ๑๘ ปีกำลังจะต้องตาย แต่รัฐบาลของ ไบเดน ก็ไม่สนใจ... ดมิทรี เมดเวเดฟ . Turns out outgoing State Sec. Blinken is a rare kind of degenerate. He's demanding Ukraine lower its conscription age to continue receiving “U.S. assistance.” This means eighteen-year-olds will now be dying, but the Biden administration couldn’t care less... . 12:26 AM · Dec 5, 2024 · 495.2K Views https://x.com/MedvedevRussiaE/status/1864360538613891414
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • PCB-to SCHEMATIC คลิปนี้แสดงให้เห็น SCHEMATC กับ PCB จะ link กันไปมาได้ จะเป็นพื้นฐานในการ Copy แผงวงจรที่สมบูรณ์ กล่าวคือ copy pcb, แปลงเป็น schematic, ปรับปรุงวงจร และ สร้าง BOM ( Bill of Material ) รวมทั้ง generate gerber เพื่อส่งให้โรงงานผลิต
    PCB-to SCHEMATIC คลิปนี้แสดงให้เห็น SCHEMATC กับ PCB จะ link กันไปมาได้ จะเป็นพื้นฐานในการ Copy แผงวงจรที่สมบูรณ์ กล่าวคือ copy pcb, แปลงเป็น schematic, ปรับปรุงวงจร และ สร้าง BOM ( Bill of Material ) รวมทั้ง generate gerber เพื่อส่งให้โรงงานผลิต
    0 Comments 0 Shares 549 Views 237 0 Reviews
  • 🇷🇺🇺🇸 รัสเซียกล่าวว่า สหรัฐฯกำลังใช้ไต้หวันเพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ร้ายแรงในเอเชีย

    "เราเห็นว่าวอชิงตัน, ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว' ที่ยอมรับ, โดยกำลังเสริมสร้างการติดต่อทางการทหารและการเมืองกับไทเปภายใต้สโลแกนของการรักษา 'สถานะเดิม' และเพิ่มอุปทานอาวุธ

    เป้าหมายของการแทรกแซงกิจการของภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนเช่นนี้คือเพื่อยั่วยุสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และสร้างวิกฤตการณ์ในเอเชียเพื่อให้เป็นไปตามผลประโยชน์เห็นแก่ตัวของตนเอง"
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russia says the United States is using Taiwan to provoke a serious crisis in Asia.

    "We see that Washington, in violation of the 'one China' principle that it recognizes, is strengthening military-political contacts with Taipei under the slogan of maintaining the 'status quo', and increasing arms supplies.

    The goal of such obvious US interference in the region's affairs is to provoke the PRC (People's Republic of China) and generate a crisis in Asia to suit its own selfish interests."
    .
    2:37 PM · Nov 24, 2024 · 143.4K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1860588464095293576
    🇷🇺🇺🇸 รัสเซียกล่าวว่า สหรัฐฯกำลังใช้ไต้หวันเพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ร้ายแรงในเอเชีย "เราเห็นว่าวอชิงตัน, ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว' ที่ยอมรับ, โดยกำลังเสริมสร้างการติดต่อทางการทหารและการเมืองกับไทเปภายใต้สโลแกนของการรักษา 'สถานะเดิม' และเพิ่มอุปทานอาวุธ เป้าหมายของการแทรกแซงกิจการของภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนเช่นนี้คือเพื่อยั่วยุสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และสร้างวิกฤตการณ์ในเอเชียเพื่อให้เป็นไปตามผลประโยชน์เห็นแก่ตัวของตนเอง" . JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russia says the United States is using Taiwan to provoke a serious crisis in Asia. "We see that Washington, in violation of the 'one China' principle that it recognizes, is strengthening military-political contacts with Taipei under the slogan of maintaining the 'status quo', and increasing arms supplies. The goal of such obvious US interference in the region's affairs is to provoke the PRC (People's Republic of China) and generate a crisis in Asia to suit its own selfish interests." . 2:37 PM · Nov 24, 2024 · 143.4K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1860588464095293576
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 536 Views 0 Reviews
More Results