• AI ช่วยตรวจจับภาวะ Dyslexia ในเด็กได้อย่างไร

    ทีมนักวิจัยจาก State University of New York at Buffalo ได้พัฒนา ระบบ AI สำหรับตรวจจับภาวะ Dyslexia และ Dysgraphia ในเด็ก โดยใช้ การวิเคราะห์ลายมือ เพื่อช่วยให้สามารถ คัดกรองภาวะเหล่านี้ได้เร็วขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI และ Dyslexia
    ✅ AI วิเคราะห์ลายมือของเด็กเพื่อค้นหาสัญญาณของ Dyslexia และ Dysgraphia
    - ตรวจสอบ การสร้างตัวอักษร, การจัดเรียงข้อความ, การสะกดคำ และการใช้ระยะขอบ

    ✅ ระบบสามารถตรวจจับความผิดปกติของลายมือได้แม่นยำถึง 90%
    - ทดสอบกับ เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ในเมือง Reno รัฐ Nevada

    ✅ AI สามารถช่วยครูและนักบำบัดในการคัดกรองเด็กที่ต้องการการช่วยเหลือ
    - ใช้เป็น เครื่องมือในห้องเรียนและสำหรับผู้ปกครองในการติดตามพัฒนาการของเด็ก

    ✅ มีการพัฒนา AI สองรูปแบบ: หนึ่งสำหรับการคัดกรอง และอีกหนึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนส่วนตัว
    - ระบบ สามารถปรับแต่งตามความสามารถของเด็กแต่ละคน

    ✅ งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ใน SN Computer Science
    - เป็น แนวทางใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการตรวจคัดกรอง Dyslexia

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/how-ai-can-help-detect-dyslexia-in-children
    AI ช่วยตรวจจับภาวะ Dyslexia ในเด็กได้อย่างไร ทีมนักวิจัยจาก State University of New York at Buffalo ได้พัฒนา ระบบ AI สำหรับตรวจจับภาวะ Dyslexia และ Dysgraphia ในเด็ก โดยใช้ การวิเคราะห์ลายมือ เพื่อช่วยให้สามารถ คัดกรองภาวะเหล่านี้ได้เร็วขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI และ Dyslexia ✅ AI วิเคราะห์ลายมือของเด็กเพื่อค้นหาสัญญาณของ Dyslexia และ Dysgraphia - ตรวจสอบ การสร้างตัวอักษร, การจัดเรียงข้อความ, การสะกดคำ และการใช้ระยะขอบ ✅ ระบบสามารถตรวจจับความผิดปกติของลายมือได้แม่นยำถึง 90% - ทดสอบกับ เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ในเมือง Reno รัฐ Nevada ✅ AI สามารถช่วยครูและนักบำบัดในการคัดกรองเด็กที่ต้องการการช่วยเหลือ - ใช้เป็น เครื่องมือในห้องเรียนและสำหรับผู้ปกครองในการติดตามพัฒนาการของเด็ก ✅ มีการพัฒนา AI สองรูปแบบ: หนึ่งสำหรับการคัดกรอง และอีกหนึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนส่วนตัว - ระบบ สามารถปรับแต่งตามความสามารถของเด็กแต่ละคน ✅ งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ใน SN Computer Science - เป็น แนวทางใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการตรวจคัดกรอง Dyslexia https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/how-ai-can-help-detect-dyslexia-in-children
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI can help detect dyslexia in children
    A team of researchers from the State University of New York at Buffalo has presented an innovative study on the use of artificial intelligence in the early detection of dyslexia and dysgraphia in children.
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ

    NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090
    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5
    - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB
    - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W
    - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum

    ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5
    - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic

    ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี
    - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower
    - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling

    ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870

    ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด
    - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB

    ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
    - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้

    ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี
    - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ

    ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ
    - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก

    https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090 ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5 - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870 ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    COMPUTERCITY.COM
    Is Your PC Ready for the RTX 5090? Specs, Power Supply, and Cooling Guide
    The NVIDIA GeForce RTX 5090 is here—and it’s a beast. Launched on January 30, 2025, after its debut at CES, this $1,999 flagship GPU from NVIDIA is built for
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • วิธีติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชีผู้ใช้แบบ Local (ไม่ต้องใช้บัญชี Microsoft)

    Windows 11 มีแนวโน้มบังคับให้ผู้ใช้สร้างหรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระหว่างการติดตั้ง แต่ยังมีวิธี สร้างบัญชี Local ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    🔍 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชี Local
    ✅ เริ่มต้นการติดตั้ง Windows 11 ด้วย USB หรือ ISO
    - เลือก ประเทศ/ภูมิภาค, ภาษา และรูปแบบแป้นพิมพ์

    ✅ ใช้คำสั่งพิเศษเพื่อเข้าถึง Command Prompt
    - กด Ctrl + Shift + F10 หรือ Ctrl + Shift + J ที่หน้าจอเลือกแป้นพิมพ์

    ✅ พิมพ์คำสั่งเพื่อบังคับให้ Windows สร้างบัญชี Local
    - ใช้คำสั่ง WinJS.Application.restart(\"ms-cxh://LOCALONLY\")

    ✅ ตั้งค่าบัญชี Local และรหัสผ่าน (ถ้ามี)
    - ระบบจะ ข้ามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft

    ✅ ดำเนินการติดตั้ง Windows 11 จนเสร็จสิ้น
    - สามารถ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดใช้งาน Windows ได้ภายหลัง

    https://computercity.com/software/windows/how-to-set-up-windows-11-with-a-local-user-account-bypassing-microsoft-account
    วิธีติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชีผู้ใช้แบบ Local (ไม่ต้องใช้บัญชี Microsoft) Windows 11 มีแนวโน้มบังคับให้ผู้ใช้สร้างหรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระหว่างการติดตั้ง แต่ยังมีวิธี สร้างบัญชี Local ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 🔍 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชี Local ✅ เริ่มต้นการติดตั้ง Windows 11 ด้วย USB หรือ ISO - เลือก ประเทศ/ภูมิภาค, ภาษา และรูปแบบแป้นพิมพ์ ✅ ใช้คำสั่งพิเศษเพื่อเข้าถึง Command Prompt - กด Ctrl + Shift + F10 หรือ Ctrl + Shift + J ที่หน้าจอเลือกแป้นพิมพ์ ✅ พิมพ์คำสั่งเพื่อบังคับให้ Windows สร้างบัญชี Local - ใช้คำสั่ง WinJS.Application.restart(\"ms-cxh://LOCALONLY\") ✅ ตั้งค่าบัญชี Local และรหัสผ่าน (ถ้ามี) - ระบบจะ ข้ามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ✅ ดำเนินการติดตั้ง Windows 11 จนเสร็จสิ้น - สามารถ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดใช้งาน Windows ได้ภายหลัง https://computercity.com/software/windows/how-to-set-up-windows-11-with-a-local-user-account-bypassing-microsoft-account
    COMPUTERCITY.COM
    How to Set Up Windows 11 With a Local User Account (Bypassing Microsoft Account)
    Setting up Windows 11 has become increasingly tied to Microsoft’s ecosystem. In recent builds—especially for Windows 11 Home and Pro—Microsoft nudges users
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • GPT-5: การพัฒนา AI ที่ทะเยอทะยานที่สุดของ OpenAI

    OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 ในช่วงปลายปี 2025 โดยมุ่งเน้น การรวมทุกความสามารถของ AI ไว้ในโมเดลเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงฟีเจอร์ที่หลากหลายโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างโมเดลต่าง ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-5
    ✅ GPT-5 จะรวมทุกความสามารถของ OpenAI ไว้ในโมเดลเดียว
    - รองรับ การสร้างข้อความ, วิเคราะห์ภาพ, ช่วยเขียนโค้ด และโต้ตอบด้วยเสียง

    ✅ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025
    - CEO Sam Altman ยืนยันว่า GPT-5 กำลังจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ✅ พัฒนาให้มีความสามารถด้านเหตุผลและตรรกะที่ดีขึ้น
    - สามารถ จัดการงานหลายขั้นตอนและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้แม่นยำขึ้น

    ✅ รองรับอินพุตและเอาต์พุตแบบมัลติโหมด
    - สามารถ ประมวลผลข้อความ, ภาพ, เสียง และวิดีโอในอินเทอร์เฟซเดียว

    ✅ มีหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถจดจำบริบทของการสนทนาได้ดีขึ้น
    - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องในโครงการระยะยาวได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลก่อนหน้า

    ✅ ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
    - OpenAI ร่วมมือกับ CoreWeave เพื่อใช้ GPU ระดับสูงในการประมวลผล

    ✅ ลดปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) ด้วยระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง
    - ใช้ เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    https://computercity.com/artificial-intelligence/gpt-5-release-expected-in-late-2025-openais-most-ambitious-model-yet
    GPT-5: การพัฒนา AI ที่ทะเยอทะยานที่สุดของ OpenAI OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 ในช่วงปลายปี 2025 โดยมุ่งเน้น การรวมทุกความสามารถของ AI ไว้ในโมเดลเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงฟีเจอร์ที่หลากหลายโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างโมเดลต่าง ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-5 ✅ GPT-5 จะรวมทุกความสามารถของ OpenAI ไว้ในโมเดลเดียว - รองรับ การสร้างข้อความ, วิเคราะห์ภาพ, ช่วยเขียนโค้ด และโต้ตอบด้วยเสียง ✅ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 - CEO Sam Altman ยืนยันว่า GPT-5 กำลังจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ พัฒนาให้มีความสามารถด้านเหตุผลและตรรกะที่ดีขึ้น - สามารถ จัดการงานหลายขั้นตอนและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้แม่นยำขึ้น ✅ รองรับอินพุตและเอาต์พุตแบบมัลติโหมด - สามารถ ประมวลผลข้อความ, ภาพ, เสียง และวิดีโอในอินเทอร์เฟซเดียว ✅ มีหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถจดจำบริบทของการสนทนาได้ดีขึ้น - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องในโครงการระยะยาวได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลก่อนหน้า ✅ ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ - OpenAI ร่วมมือกับ CoreWeave เพื่อใช้ GPU ระดับสูงในการประมวลผล ✅ ลดปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) ด้วยระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง - ใช้ เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ https://computercity.com/artificial-intelligence/gpt-5-release-expected-in-late-2025-openais-most-ambitious-model-yet
    COMPUTERCITY.COM
    GPT-5 Release Expected in Late 2025 – OpenAI’s Most Ambitious Model Yet
    OpenAI’s next flagship model, GPT-5, is shaping up to be one of the most anticipated AI releases of the decade. With a targeted release window of late 2025,
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025

    การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

    🔍 เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025
    ✅ Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS
    - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว

    ✅ Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง
    - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่
    - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน

    ✅ Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม
    - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ
    - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว

    ✅ Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว
    - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย
    - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI

    ✅ Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว
    - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI

    https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025 การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ 🔍 เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025 ✅ Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว ✅ Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่ - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน ✅ Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว ✅ Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI ✅ Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    COMPUTERCITY.COM
    The Best Ai “Resume Writer” Websites and Tools
    With competition heating up across industries, using AI resume builders in 2025 can give job seekers a powerful edge. Today’s top tools go beyond basic
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • Intel ปรับกลยุทธ์ AI ด้วย Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A

    Intel ประกาศแผนพัฒนา AI ใหม่โดยเน้นไปที่ Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับ Rack-Scale ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA และรองรับการประมวลผล AI ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A
    ✅ Jaguar Shores เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่รวม CPU, GPU, IPU และระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน
    - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดของ Intel
    - มี RibbonFET transistors และ PowerVia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

    ✅ Falcon Shores ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มทดสอบภายใน
    - Intel เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ Jaguar Shores แทน

    ✅ Jaguar Shores รองรับ AI inference และการปรับใช้โมเดล AI ในศูนย์ข้อมูล
    - ออกแบบมาเพื่อ ลดความล่าช้าในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ ใช้ Silicon Photonics เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชิป
    - ทำให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    https://computercity.com/artificial-intelligence/intel-betting-big-on-rack-scale-ai-with-jaguar-shores-and-18a-process-node
    Intel ปรับกลยุทธ์ AI ด้วย Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A Intel ประกาศแผนพัฒนา AI ใหม่โดยเน้นไปที่ Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับ Rack-Scale ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA และรองรับการประมวลผล AI ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A ✅ Jaguar Shores เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่รวม CPU, GPU, IPU และระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดของ Intel - มี RibbonFET transistors และ PowerVia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ✅ Falcon Shores ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มทดสอบภายใน - Intel เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ Jaguar Shores แทน ✅ Jaguar Shores รองรับ AI inference และการปรับใช้โมเดล AI ในศูนย์ข้อมูล - ออกแบบมาเพื่อ ลดความล่าช้าในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ ใช้ Silicon Photonics เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชิป - ทำให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นและลดการใช้พลังงาน https://computercity.com/artificial-intelligence/intel-betting-big-on-rack-scale-ai-with-jaguar-shores-and-18a-process-node
    COMPUTERCITY.COM
    Intel Lays Out Its AI Roadmap With Huge Rack-Scale Bets On Jaguar Shores and 18A
    Intel is overhauling its AI hardware strategy with Jaguar Shores, a next-generation AI accelerator platform that marks a radical shift from chip-centric
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2

    งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2:

    ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic

    - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้.

    - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น.

    - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์.

    ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง.

    - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล.

    - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11.

    ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot
    ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง:

    - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน.
    - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ.
    - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA).
    - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน.
    - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้.

    ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น:
    - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม.
    - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program).
    - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program).
    - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program).

    ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม
    - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์.

    - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine).

    ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ
    - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI.

    ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว
    - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2 งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2: ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้. - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น. - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์. ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง. - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล. - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11. ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง: - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน. - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ. - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA). - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน. - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้. ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น: - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม. - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program). - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program). - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program). ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์. - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine). ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI. ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • Gigabyte เปิดตัว AI Supercomputer ขนาดเล็ก DGX Spark รุ่นพิเศษ

    Gigabyte เปิดตัว AI Supercomputer รุ่นพิเศษที่พัฒนาจาก NVIDIA DGX Spark ในงาน Computex 2025 โดยใช้ชื่อ AI TOP ATOM ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ให้พลังประมวลผล AI สูงถึง 1,000 TOPS

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI TOP ATOM ของ Gigabyte
    ✅ ใช้ชิป GB10 Grace Blackwell Superchip ที่มี NVIDIA Blackwell GPU
    - รองรับ Tensor Cores รุ่นที่ 5 และ FP4 สำหรับการประมวลผล AI

    ✅ พลังประมวลผลสูงถึง 1,000 TOPS หรือ 1,000 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที
    - สูงกว่าหน่วยประมวลผล NPU ทั่วไปถึง 20-50 เท่า

    ✅ ใช้เทคโนโลยี NVLink-C2C เพื่อเชื่อมต่อ CPU และ GPU ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - มี แบนด์วิดท์สูงกว่ามาตรฐาน PCIe รุ่นที่ 5 ถึง 5 เท่า

    ✅ ใช้หน่วยความจำ LPDDR5X จาก Micron เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ช่วยให้ สามารถประมวลผลโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์สูงถึง 70 พันล้านตัว

    ✅ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างสองเครื่องผ่าน NVIDIA Connect-X
    - ทำให้สามารถ เพิ่มพารามิเตอร์ของโมเดล AI ได้สูงถึง 405 พันล้านตัว

    https://wccftech.com/gigabyte-unveils-its-custom-nvidia-dgx-spark-mini-ai-supercomputer/
    Gigabyte เปิดตัว AI Supercomputer ขนาดเล็ก DGX Spark รุ่นพิเศษ Gigabyte เปิดตัว AI Supercomputer รุ่นพิเศษที่พัฒนาจาก NVIDIA DGX Spark ในงาน Computex 2025 โดยใช้ชื่อ AI TOP ATOM ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ให้พลังประมวลผล AI สูงถึง 1,000 TOPS 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI TOP ATOM ของ Gigabyte ✅ ใช้ชิป GB10 Grace Blackwell Superchip ที่มี NVIDIA Blackwell GPU - รองรับ Tensor Cores รุ่นที่ 5 และ FP4 สำหรับการประมวลผล AI ✅ พลังประมวลผลสูงถึง 1,000 TOPS หรือ 1,000 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที - สูงกว่าหน่วยประมวลผล NPU ทั่วไปถึง 20-50 เท่า ✅ ใช้เทคโนโลยี NVLink-C2C เพื่อเชื่อมต่อ CPU และ GPU ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ - มี แบนด์วิดท์สูงกว่ามาตรฐาน PCIe รุ่นที่ 5 ถึง 5 เท่า ✅ ใช้หน่วยความจำ LPDDR5X จาก Micron เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ช่วยให้ สามารถประมวลผลโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์สูงถึง 70 พันล้านตัว ✅ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างสองเครื่องผ่าน NVIDIA Connect-X - ทำให้สามารถ เพิ่มพารามิเตอร์ของโมเดล AI ได้สูงถึง 405 พันล้านตัว https://wccftech.com/gigabyte-unveils-its-custom-nvidia-dgx-spark-mini-ai-supercomputer/
    WCCFTECH.COM
    Gigabyte Unveils Its Custom NVIDIA "DGX Spark" Mini-AI Supercomputer: The AI TOP ATOM Offering a Whopping 1,000 TOPS of AI Power
    Gigabyte also decided to take its shot at the AI segment as well, unveiling a custom variant of NVIDIA's DGX Spark, the AI TOP ATOM.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • วิธีกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ

    การลบอีเมลโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอีเมลนั้นถูกลบออกจากถังขยะไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีในการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ แม้ว่าจะถูกลบออกจากถังขยะแล้วก็ตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมลที่คุณใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ
    ✅ Gmail สามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะได้ภายใน 30 วัน
    - ผู้ใช้สามารถ ค้นหาอีเมลที่อาจถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ "All Mail" หรือขอความช่วยเหลือจาก Google Support

    ✅ Outlook มีโฟลเดอร์ "Recoverable Items" ที่ช่วยให้กู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้
    - อีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ จะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้เป็นเวลา 14-30 วัน

    ✅ Yahoo Mail อาจสามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ภายใน 7 วัน
    - ผู้ใช้ต้อง ส่งคำขอไปยัง Yahoo เพื่อกู้คืนอีเมลที่สูญหาย

    ✅ Apple Mail (iCloud) ไม่มีตัวเลือกกู้คืนอีเมลหลังจากถังขยะถูกล้าง
    - อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Mac สามารถใช้ Time Machine เพื่อกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้

    ✅ หากไม่มีตัวเลือกกู้คืนจากผู้ให้บริการอีเมล อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุน
    - เช่น Google Takeout หรือโปรแกรมสำรองข้อมูลอีเมลของบุคคลที่สาม

    https://computercity.com/software/email/how-to-recover-emails-deleted-from-trash
    วิธีกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ การลบอีเมลโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอีเมลนั้นถูกลบออกจากถังขยะไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีในการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ แม้ว่าจะถูกลบออกจากถังขยะแล้วก็ตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมลที่คุณใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ ✅ Gmail สามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะได้ภายใน 30 วัน - ผู้ใช้สามารถ ค้นหาอีเมลที่อาจถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ "All Mail" หรือขอความช่วยเหลือจาก Google Support ✅ Outlook มีโฟลเดอร์ "Recoverable Items" ที่ช่วยให้กู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ - อีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ จะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้เป็นเวลา 14-30 วัน ✅ Yahoo Mail อาจสามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ภายใน 7 วัน - ผู้ใช้ต้อง ส่งคำขอไปยัง Yahoo เพื่อกู้คืนอีเมลที่สูญหาย ✅ Apple Mail (iCloud) ไม่มีตัวเลือกกู้คืนอีเมลหลังจากถังขยะถูกล้าง - อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Mac สามารถใช้ Time Machine เพื่อกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ ✅ หากไม่มีตัวเลือกกู้คืนจากผู้ให้บริการอีเมล อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุน - เช่น Google Takeout หรือโปรแกรมสำรองข้อมูลอีเมลของบุคคลที่สาม https://computercity.com/software/email/how-to-recover-emails-deleted-from-trash
    COMPUTERCITY.COM
    How to Recover Emails Deleted from Trash
    Accidentally deleting emails from the trash can be frustrating. If you’ve emptied your trash, retrieving those emails might seem impossible. There are ways to
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7

    Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060
    ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz
    - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4

    ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit
    - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง

    ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต
    - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น

    ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ
    - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p

    ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี
    - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ

    ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ

    https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7 Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060 ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4 ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    COMPUTERCITY.COM
    GeForce RTX 5060 Review: Nvidia’s $299 Entry-Level Challenger
    Nvidia’s GeForce RTX 5060 officially launched on May 19, 2025, as part of the RTX 50 series lineup, aimed squarely at 1080p gamers on a budget. With a $299
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • Delta สามารถฟ้อง CrowdStrike กรณีระบบล่มที่ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 7,000 เที่ยว

    ศาลรัฐจอร์เจีย อนุญาตให้ Delta Air Lines ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากที่ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ของ CrowdStrike ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่มทั่วโลก ส่งผลให้ Delta ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยว และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดี Delta vs. CrowdStrike
    ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ละเลยการทดสอบซอฟต์แวร์ก่อนปล่อยอัปเดต
    - หากมีการทดสอบบนคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ข้อผิดพลาดอาจถูกตรวจพบก่อนเกิดเหตุ

    ✅ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows กว่า 8 ล้านเครื่องล่ม
    - ส่งผลกระทบต่อ สายการบินและองค์กรทั่วโลก

    ✅ ศาลอนุญาตให้ Delta ดำเนินคดีในข้อหาประมาทเลินเล่อร้ายแรงและการบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์
    - รวมถึง ข้อกล่าวหาว่า CrowdStrike สัญญาว่าจะไม่สร้าง "back door" ในระบบของ Delta แต่กลับทำตรงกันข้าม

    ✅ Delta ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ที่ 550 ล้านดอลลาร์
    - แต่สามารถ ลดต้นทุนเชื้อเพลิงลงได้ 50 ล้านดอลลาร์

    ✅ CrowdStrike ปฏิเสธข้อกล่าวหาและมั่นใจว่าคดีจะถูกจำกัดความเสียหายไว้ที่ "หลักล้านดอลลาร์"
    - อ้างว่า ภายใต้กฎหมายจอร์เจีย การเรียกร้องค่าเสียหายอาจถูกจำกัด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/delta-can-sue-crowdstrike-over-computer-outage-that-caused-7000-canceled-flights
    Delta สามารถฟ้อง CrowdStrike กรณีระบบล่มที่ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 7,000 เที่ยว ศาลรัฐจอร์เจีย อนุญาตให้ Delta Air Lines ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากที่ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ของ CrowdStrike ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่มทั่วโลก ส่งผลให้ Delta ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยว และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดี Delta vs. CrowdStrike ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ละเลยการทดสอบซอฟต์แวร์ก่อนปล่อยอัปเดต - หากมีการทดสอบบนคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ข้อผิดพลาดอาจถูกตรวจพบก่อนเกิดเหตุ ✅ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows กว่า 8 ล้านเครื่องล่ม - ส่งผลกระทบต่อ สายการบินและองค์กรทั่วโลก ✅ ศาลอนุญาตให้ Delta ดำเนินคดีในข้อหาประมาทเลินเล่อร้ายแรงและการบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์ - รวมถึง ข้อกล่าวหาว่า CrowdStrike สัญญาว่าจะไม่สร้าง "back door" ในระบบของ Delta แต่กลับทำตรงกันข้าม ✅ Delta ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ที่ 550 ล้านดอลลาร์ - แต่สามารถ ลดต้นทุนเชื้อเพลิงลงได้ 50 ล้านดอลลาร์ ✅ CrowdStrike ปฏิเสธข้อกล่าวหาและมั่นใจว่าคดีจะถูกจำกัดความเสียหายไว้ที่ "หลักล้านดอลลาร์" - อ้างว่า ภายใต้กฎหมายจอร์เจีย การเรียกร้องค่าเสียหายอาจถูกจำกัด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/delta-can-sue-crowdstrike-over-computer-outage-that-caused-7000-canceled-flights
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Delta can sue CrowdStrike over computer outage that caused 7,000 canceled flights
    (Reuters) -Delta Air Lines can pursue much of its lawsuit seeking to hold cybersecurity company CrowdStrike liable for a massive computer outage last July that caused the carrier to cancel 7,000 flights, a Georgia state judge ruled.
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931: AI Supercomputer หรือแค่การตลาด?

    MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็น "AI Supercomputer" สำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการพลังประมวลผล AI ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของอุปกรณ์นี้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI EdgeXpert MS-C931
    ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip
    - ให้ พลังประมวลผล AI สูงสุด 1,000 TOPS (FP4)

    ✅ มีหน่วยความจำรวม 128GB และรองรับ ConnectX-7 high-speed networking
    - เหมาะสำหรับ การประมวลผล AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง

    ✅ MSI ระบุว่าอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับภาคการศึกษา, การเงิน และการดูแลสุขภาพ
    - เนื่องจาก ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความหน่วงต่ำ

    ✅ สามารถใช้เป็น Workstation สำหรับการพัฒนา AI และการจำลองขนาดใหญ่
    - มี ประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Machine Learning

    ✅ จะถูกนำเสนอในงาน Computex 2025
    - MSI หวังว่าจะเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการพลัง AI ในระดับสูง

    https://www.techradar.com/computing/cloud-computing/after-asus-and-dell-msi-is-launching-a-nvidia-dgx-spark-clone-but-i-am-still-skeptical-about-the-whole-desktop-ai-supercomputer-moniker
    MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931: AI Supercomputer หรือแค่การตลาด? MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็น "AI Supercomputer" สำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการพลังประมวลผล AI ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของอุปกรณ์นี้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI EdgeXpert MS-C931 ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip - ให้ พลังประมวลผล AI สูงสุด 1,000 TOPS (FP4) ✅ มีหน่วยความจำรวม 128GB และรองรับ ConnectX-7 high-speed networking - เหมาะสำหรับ การประมวลผล AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง ✅ MSI ระบุว่าอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับภาคการศึกษา, การเงิน และการดูแลสุขภาพ - เนื่องจาก ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความหน่วงต่ำ ✅ สามารถใช้เป็น Workstation สำหรับการพัฒนา AI และการจำลองขนาดใหญ่ - มี ประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Machine Learning ✅ จะถูกนำเสนอในงาน Computex 2025 - MSI หวังว่าจะเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการพลัง AI ในระดับสูง https://www.techradar.com/computing/cloud-computing/after-asus-and-dell-msi-is-launching-a-nvidia-dgx-spark-clone-but-i-am-still-skeptical-about-the-whole-desktop-ai-supercomputer-moniker
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • Defendnot: เครื่องมือที่ใช้ช่องโหว่ API เพื่อปิด Windows Defender

    นักพัฒนา es3n1n ได้เปิดตัว Defendnot ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยปิด Windows Defender โดยใช้ API ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยของ Windows Security Center (WSC) ทำให้ระบบเข้าใจผิดว่ามีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทำงานอยู่

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Defendnot
    ✅ Defendnot ใช้ API ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยของ Windows Security Center (WSC)
    - ทำให้ Windows Defender ปิดตัวเองโดยเข้าใจว่ามีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทำงานอยู่

    ✅ เป็นเวอร์ชันใหม่ของเครื่องมือ "no-defender" ที่เคยถูกลบออกไป
    - เนื่องจาก เวอร์ชันก่อนหน้านี้ใช้โค้ดจากโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่น ทำให้ถูกลบด้วยคำสั่ง DMCA

    ✅ Defendnot ใช้วิธีการสร้างโปรแกรมป้องกันไวรัสปลอมเพื่อปิด Defender
    - สามารถ ตั้งชื่อโปรแกรมปลอมได้ตามต้องการ เช่น "hi2" หรือ "BleepingComputer Antivirus"

    ✅ เครื่องมือนี้สามารถทำงานต่อไปหลังรีบูตโดยเพิ่มตัวเองใน Windows autorun
    - ทำให้ Defender ไม่สามารถเปิดกลับมาได้โดยอัตโนมัติ

    ✅ Microsoft ตรวจพบ Defendnot และจัดประเภทเป็นโทรจัน
    - Defender สามารถตรวจจับและกักกันเครื่องมือนี้โดยใช้ Machine Learning

    https://www.tomshardware.com/software/security-software/defendnot-tool-pitched-as-an-even-funnier-way-to-disable-windows-defender
    Defendnot: เครื่องมือที่ใช้ช่องโหว่ API เพื่อปิด Windows Defender นักพัฒนา es3n1n ได้เปิดตัว Defendnot ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยปิด Windows Defender โดยใช้ API ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยของ Windows Security Center (WSC) ทำให้ระบบเข้าใจผิดว่ามีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทำงานอยู่ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Defendnot ✅ Defendnot ใช้ API ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยของ Windows Security Center (WSC) - ทำให้ Windows Defender ปิดตัวเองโดยเข้าใจว่ามีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทำงานอยู่ ✅ เป็นเวอร์ชันใหม่ของเครื่องมือ "no-defender" ที่เคยถูกลบออกไป - เนื่องจาก เวอร์ชันก่อนหน้านี้ใช้โค้ดจากโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่น ทำให้ถูกลบด้วยคำสั่ง DMCA ✅ Defendnot ใช้วิธีการสร้างโปรแกรมป้องกันไวรัสปลอมเพื่อปิด Defender - สามารถ ตั้งชื่อโปรแกรมปลอมได้ตามต้องการ เช่น "hi2" หรือ "BleepingComputer Antivirus" ✅ เครื่องมือนี้สามารถทำงานต่อไปหลังรีบูตโดยเพิ่มตัวเองใน Windows autorun - ทำให้ Defender ไม่สามารถเปิดกลับมาได้โดยอัตโนมัติ ✅ Microsoft ตรวจพบ Defendnot และจัดประเภทเป็นโทรจัน - Defender สามารถตรวจจับและกักกันเครื่องมือนี้โดยใช้ Machine Learning https://www.tomshardware.com/software/security-software/defendnot-tool-pitched-as-an-even-funnier-way-to-disable-windows-defender
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Defendnot tool pitched as 'an even funnier way’ to disable Windows Defender
    Works by tapping into an undocumented WSC API call to tell Windows there’s some other antivirus software turned on.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล

    ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล
    ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น

    ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo
    - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล

    ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999%
    - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม

    ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป
    - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ

    ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3%
    - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999% - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3% - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • 10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025

    Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก

    ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch
    - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ

    ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้
    - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม

    ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว
    - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม

    ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์
    - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น

    ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam
    - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น

    ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord
    - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น

    ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล
    - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น

    ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก
    - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games

    ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์
    - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ

    ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์
    - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม

    https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025 Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้ - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์ - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์ - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์ - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    COMPUTERCITY.COM
    10 Essential Chrome Extensions for Gamers
    Google Chrome has become an essential tool for many gamers, offering a platform for cloud gaming, browser games, and access to gaming-focused websites. With
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • YouTube Music vs Spotify: บริการสตรีมเพลงที่ดีที่สุดในปี 2025

    ในปี 2025 YouTube Music และ Spotify ยังคงเป็นสองแพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คลังเพลง, คุณภาพเสียง, การค้นพบเพลงใหม่ และการรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ

    ✅ คลังเพลงและเนื้อหา
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี เพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง
    - YouTube Music มีเพลงรีมิกซ์, เพลงที่อัปโหลดโดยแฟน ๆ และเพลงที่ถูกล็อกโซน
    - Spotify มี Spotify Singles และบันทึกการแสดงสดที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการ

    ✅ การค้นพบเพลงใหม่และการปรับแต่งตามผู้ใช้
    - Spotify ใช้ AI และอัลกอริธึมขั้นสูงในการสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว เช่น Discover Weekly และ Release Radar
    - YouTube Music อ้างอิงจากประวัติการดูบน YouTube ซึ่งอาจทำให้การแนะนำเพลงมีความหลากหลายมากขึ้น

    ✅ คุณภาพเสียง
    - Spotify มี HiFi Tier ที่ให้เสียงแบบ Lossless FLAC
    - YouTube Music ยังไม่มี HiFi Tier แต่ใช้ AAC ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ แผนราคาและความคุ้มค่า
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี แผนฟรีที่มีโฆษณา
    - YouTube Music รวมอยู่ใน YouTube Premium ซึ่งให้บริการวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาด้วย
    - Spotify มีแผน Duo ที่เหมาะสำหรับสองคนในราคาประหยัด

    ✅ การรองรับอุปกรณ์และการใช้งาน
    - Spotify รองรับ Apple CarPlay, Xbox, Discord และอุปกรณ์อื่น ๆ
    - YouTube Music เหมาะกับอุปกรณ์ในระบบ Google เช่น Pixel และ Android TV

    https://computercity.com/streaming/streaming-services/youtube-music-vs-spotify-which-music-streaming-service-wins-in-2025
    YouTube Music vs Spotify: บริการสตรีมเพลงที่ดีที่สุดในปี 2025 ในปี 2025 YouTube Music และ Spotify ยังคงเป็นสองแพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คลังเพลง, คุณภาพเสียง, การค้นพบเพลงใหม่ และการรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ✅ คลังเพลงและเนื้อหา - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี เพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง - YouTube Music มีเพลงรีมิกซ์, เพลงที่อัปโหลดโดยแฟน ๆ และเพลงที่ถูกล็อกโซน - Spotify มี Spotify Singles และบันทึกการแสดงสดที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการ ✅ การค้นพบเพลงใหม่และการปรับแต่งตามผู้ใช้ - Spotify ใช้ AI และอัลกอริธึมขั้นสูงในการสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว เช่น Discover Weekly และ Release Radar - YouTube Music อ้างอิงจากประวัติการดูบน YouTube ซึ่งอาจทำให้การแนะนำเพลงมีความหลากหลายมากขึ้น ✅ คุณภาพเสียง - Spotify มี HiFi Tier ที่ให้เสียงแบบ Lossless FLAC - YouTube Music ยังไม่มี HiFi Tier แต่ใช้ AAC ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ แผนราคาและความคุ้มค่า - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี แผนฟรีที่มีโฆษณา - YouTube Music รวมอยู่ใน YouTube Premium ซึ่งให้บริการวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาด้วย - Spotify มีแผน Duo ที่เหมาะสำหรับสองคนในราคาประหยัด ✅ การรองรับอุปกรณ์และการใช้งาน - Spotify รองรับ Apple CarPlay, Xbox, Discord และอุปกรณ์อื่น ๆ - YouTube Music เหมาะกับอุปกรณ์ในระบบ Google เช่น Pixel และ Android TV https://computercity.com/streaming/streaming-services/youtube-music-vs-spotify-which-music-streaming-service-wins-in-2025
    COMPUTERCITY.COM
    YouTube Music vs Spotify: Which Music Streaming Service Wins in 2025?
    Music streaming in 2025 is no longer just about access to songs—it's about ecosystems, personalization, content depth, and how seamlessly audio integrates
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • Fiber Optic vs. 5G Home Internet: เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณที่สุด?

    ในปี 2025 การเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดคือ Fiber Optic Internet และ 5G Home Internet ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

    ✅ Fiber Optic ใช้แสงในการส่งข้อมูลผ่านสายแก้วนำแสง
    - ให้ ความเร็วสูงและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม

    ✅ 5G Home Internet ใช้สัญญาณไร้สายจากเสาส่งสัญญาณ
    - ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสาย

    ✅ Fiber Optic มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 5+ Gbps
    - ส่วน 5G มีความเร็วสูงสุด 1 Gbps ขึ้นอยู่กับสัญญาณ

    ✅ Latency ของ Fiber ต่ำมาก เหมาะสำหรับเกมออนไลน์และวิดีโอคอล
    - 5G มี Latency ปานกลาง ดีกว่า 4G แต่ยังไม่เทียบเท่า Fiber

    ✅ Fiber มีเสถียรภาพสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
    - 5G อาจ ได้รับผลกระทบจากสิ่งกีดขวางและความหนาแน่นของเครือข่าย

    ✅ ค่าใช้จ่ายของ Fiber อยู่ที่ $50–$100 ต่อเดือน
    - ส่วน 5G มีราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ $25–$70

    ‼️ Fiber อาจไม่สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ชนบท
    - ต้องตรวจสอบ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

    https://computercity.com/internet/fiber-optic-vs-5g-home-internet-which-ones-better-for-you
    Fiber Optic vs. 5G Home Internet: เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณที่สุด? ในปี 2025 การเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดคือ Fiber Optic Internet และ 5G Home Internet ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ✅ Fiber Optic ใช้แสงในการส่งข้อมูลผ่านสายแก้วนำแสง - ให้ ความเร็วสูงและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม ✅ 5G Home Internet ใช้สัญญาณไร้สายจากเสาส่งสัญญาณ - ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสาย ✅ Fiber Optic มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 5+ Gbps - ส่วน 5G มีความเร็วสูงสุด 1 Gbps ขึ้นอยู่กับสัญญาณ ✅ Latency ของ Fiber ต่ำมาก เหมาะสำหรับเกมออนไลน์และวิดีโอคอล - 5G มี Latency ปานกลาง ดีกว่า 4G แต่ยังไม่เทียบเท่า Fiber ✅ Fiber มีเสถียรภาพสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ - 5G อาจ ได้รับผลกระทบจากสิ่งกีดขวางและความหนาแน่นของเครือข่าย ✅ ค่าใช้จ่ายของ Fiber อยู่ที่ $50–$100 ต่อเดือน - ส่วน 5G มีราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ $25–$70 ‼️ Fiber อาจไม่สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ชนบท - ต้องตรวจสอบ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน https://computercity.com/internet/fiber-optic-vs-5g-home-internet-which-ones-better-for-you
    COMPUTERCITY.COM
    Fiber Optic vs. 5G Home Internet: Which One’s Better for You?
    With internet speeds skyrocketing and more connected devices than ever, choosing the right home internet solution matters. Two technologies stand out in 2025:
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • วิธีปิด Microsoft Defender ใน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    Microsoft Defender เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งมากับ Windows 11 ซึ่งให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการปิดใช้งานเพื่อใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่น หรือเพื่อปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง

    ✅ ปิด Microsoft Defender ชั่วคราวผ่าน Windows Security
    - เปิด Settings โดยกด Win + I
    - ไปที่ Privacy & Security > Windows Security
    - คลิก Virus & threat protection และเลือก Manage settings
    - ปิด Real-time protection (Windows จะเปิดกลับมาเองหลังรีบูต)

    ✅ ปิด Microsoft Defender ถาวรผ่าน Group Policy Editor (เฉพาะ Windows 11 Pro/Enterprise)
    - กด Win + R และพิมพ์ gpedit.msc
    - ไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Microsoft Defender Antivirus
    - ดับเบิลคลิก Turn off Microsoft Defender Antivirus และตั้งค่าเป็น Enabled
    - คลิก Apply และ OK จากนั้นรีสตาร์ทเครื่อง

    ✅ ปิด Microsoft Defender ผ่าน Registry Editor (สำหรับ Windows 11 Home)
    - กด Win + R และพิมพ์ regedit
    - ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows Defender
    - คลิกขวาและเลือก New > DWORD (32-bit) Value
    - ตั้งชื่อเป็น DisableAntiSpyware และตั้งค่าเป็น 1
    - รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

    https://computercity.com/software/windows/disable-microsoft-defender-in-windows-11
    วิธีปิด Microsoft Defender ใน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ Microsoft Defender เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งมากับ Windows 11 ซึ่งให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการปิดใช้งานเพื่อใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่น หรือเพื่อปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง ✅ ปิด Microsoft Defender ชั่วคราวผ่าน Windows Security - เปิด Settings โดยกด Win + I - ไปที่ Privacy & Security > Windows Security - คลิก Virus & threat protection และเลือก Manage settings - ปิด Real-time protection (Windows จะเปิดกลับมาเองหลังรีบูต) ✅ ปิด Microsoft Defender ถาวรผ่าน Group Policy Editor (เฉพาะ Windows 11 Pro/Enterprise) - กด Win + R และพิมพ์ gpedit.msc - ไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Microsoft Defender Antivirus - ดับเบิลคลิก Turn off Microsoft Defender Antivirus และตั้งค่าเป็น Enabled - คลิก Apply และ OK จากนั้นรีสตาร์ทเครื่อง ✅ ปิด Microsoft Defender ผ่าน Registry Editor (สำหรับ Windows 11 Home) - กด Win + R และพิมพ์ regedit - ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows Defender - คลิกขวาและเลือก New > DWORD (32-bit) Value - ตั้งชื่อเป็น DisableAntiSpyware และตั้งค่าเป็น 1 - รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล https://computercity.com/software/windows/disable-microsoft-defender-in-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    Steps To Disable Microsoft Defender in Windows 11
    Microsoft Defender is a built-in antivirus solution for Windows 11 that offers real-time protection against threats. While it is useful for many users, some
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา

    ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า
    - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด

    ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด
    - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว

    ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป
    - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง

    ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
    - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป

    ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram
    - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง

    ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า

    https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    COMPUTERCITY.COM
    Instagram Freezing On iPhone: Troubleshooting and Solutions
    Instagram freezing on your iPhone can be really frustrating. Not only does it interrupt your social media experience, but it can also make your phone lag. The
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • วิธีตั้งค่าจอคู่บน Mac เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    การใช้ จอคู่บน Mac สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การสตรีมเนื้อหา และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ ตั้งค่าจอคู่บน Mac ได้อย่างถูกต้อง และ ปรับแต่งการแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

    ✅ ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณรองรับจอคู่
    - ไปที่ Apple Menu > About This Mac > More Info
    - คลิก System Report > Graphics/Displays เพื่อดูจำนวนจอที่รองรับ

    ✅ เชื่อมต่อจอภาพเข้ากับ Mac ด้วยสายที่เหมาะสม
    - ใช้ Thunderbolt, USB-C, HDMI หรือ DisplayPort ตามประเภทของจอภาพ

    ✅ เปิดเครื่อง Mac และจอภาพทั้งหมด
    - หากจอไม่ถูกตรวจพบ ไปที่ System Settings > Displays และคลิก Add Display

    ✅ ปรับแต่งการจัดเรียงจอภาพให้ตรงกับการตั้งค่าบนโต๊ะทำงาน
    - ไปที่ System Settings > Displays แล้วลากตำแหน่งจอให้ตรงกับการจัดวางจริง

    ✅ ตั้งค่าความละเอียดและการแสดงผลให้เหมาะสม
    - เลือก Default หรือ Scaled Resolution เพื่อให้ภาพคมชัดที่สุด

    ✅ เปิดใช้งานโหมด Mirror หรือ Extended Display ตามความต้องการ
    - Mirror Display: แสดงเนื้อหาเดียวกันบนทั้งสองจอ
    - Extended Display: ใช้จอที่สองเป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มเติม

    https://computercity.com/desktops/mac/set-up-dual-monitors-on-a-mac
    วิธีตั้งค่าจอคู่บน Mac เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การใช้ จอคู่บน Mac สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การสตรีมเนื้อหา และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ ตั้งค่าจอคู่บน Mac ได้อย่างถูกต้อง และ ปรับแต่งการแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ✅ ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณรองรับจอคู่ - ไปที่ Apple Menu > About This Mac > More Info - คลิก System Report > Graphics/Displays เพื่อดูจำนวนจอที่รองรับ ✅ เชื่อมต่อจอภาพเข้ากับ Mac ด้วยสายที่เหมาะสม - ใช้ Thunderbolt, USB-C, HDMI หรือ DisplayPort ตามประเภทของจอภาพ ✅ เปิดเครื่อง Mac และจอภาพทั้งหมด - หากจอไม่ถูกตรวจพบ ไปที่ System Settings > Displays และคลิก Add Display ✅ ปรับแต่งการจัดเรียงจอภาพให้ตรงกับการตั้งค่าบนโต๊ะทำงาน - ไปที่ System Settings > Displays แล้วลากตำแหน่งจอให้ตรงกับการจัดวางจริง ✅ ตั้งค่าความละเอียดและการแสดงผลให้เหมาะสม - เลือก Default หรือ Scaled Resolution เพื่อให้ภาพคมชัดที่สุด ✅ เปิดใช้งานโหมด Mirror หรือ Extended Display ตามความต้องการ - Mirror Display: แสดงเนื้อหาเดียวกันบนทั้งสองจอ - Extended Display: ใช้จอที่สองเป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มเติม https://computercity.com/desktops/mac/set-up-dual-monitors-on-a-mac
    COMPUTERCITY.COM
    Set Up Dual Monitors on a Mac
    Setting up dual monitors on a Mac can boost productivity. Connecting two screens lets you multitask, edit videos, or even stream content more efficiently.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป

    ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
    - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
    - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage

    ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
    - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
    - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search

    ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
    - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain

    ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
    - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่

    ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives

    ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
    - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น

    ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
    - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth

    ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
    - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance

    ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
    - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น

    ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
    - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions

    https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่ ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    How To Fix 100% Disk Usage on Windows 11: Step-by-Step Guide
    If your Windows 11 PC is slow, unresponsive, or constantly lagging, and Task Manager shows “100% Disk Usage,” you're not alone. This frustrating issue affects
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • Microsoft ปลดพนักงาน 6,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและมุ่งเน้น AI

    Microsoft ได้ประกาศ ปลดพนักงานประมาณ 6,000 ถึง 7,000 คน หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั่วโลก โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดลำดับชั้นขององค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา AI

    ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกระดับและทุกแผนก
    - รวมถึง LinkedIn, Xbox และ HoloLens

    ✅ Microsoft ต้องการลดจำนวนผู้จัดการต่อวิศวกร
    - เพื่อให้ การตัดสินใจและนวัตกรรมเกิดขึ้นเร็วขึ้น

    ✅ บริษัทมีรายได้ 70 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด แต่ยังคงปรับโครงสร้างเพื่ออนาคต
    - CFO Amy Hood ระบุว่า Microsoft ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น

    ✅ Microsoft ลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปีนี้
    - รวมถึง Azure AI, Copilot และ GitHub AI

    ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2023
    - ครั้งนั้น Microsoft ปลดพนักงาน 10,000 คน

    https://computercity.com/software/microsoft-accidentally-removes-copilot-in-windows-update
    Microsoft ปลดพนักงาน 6,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและมุ่งเน้น AI Microsoft ได้ประกาศ ปลดพนักงานประมาณ 6,000 ถึง 7,000 คน หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั่วโลก โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดลำดับชั้นขององค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา AI ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกระดับและทุกแผนก - รวมถึง LinkedIn, Xbox และ HoloLens ✅ Microsoft ต้องการลดจำนวนผู้จัดการต่อวิศวกร - เพื่อให้ การตัดสินใจและนวัตกรรมเกิดขึ้นเร็วขึ้น ✅ บริษัทมีรายได้ 70 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด แต่ยังคงปรับโครงสร้างเพื่ออนาคต - CFO Amy Hood ระบุว่า Microsoft ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น ✅ Microsoft ลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปีนี้ - รวมถึง Azure AI, Copilot และ GitHub AI ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2023 - ครั้งนั้น Microsoft ปลดพนักงาน 10,000 คน https://computercity.com/software/microsoft-accidentally-removes-copilot-in-windows-update
    COMPUTERCITY.COM
    New Microsoft Layoffs Hit 6,000 Jobs – 3% Of Their Global Workforce
    Microsoft has initiated a sweeping round of layoffs, cutting approximately 6,000 to 7,000 positions—or about 3% of its global workforce—as part of a broader
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • MSI เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อปที่ Computex 2025

    MSI เตรียมเปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อป ที่ใช้ แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยอุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ GB10 Grace Blackwell Superchip ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 AI TOPS FP4

    ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip
    - ประกอบด้วย สถาปัตยกรรม Blackwell GPU และ Tensor Cores รุ่นที่ 5

    ✅ รองรับ NVLink-C2C เชื่อมต่อกับ Nvidia Grace CPU
    - ใช้ สถาปัตยกรรม Arm พร้อม 20 คอร์ที่ประหยัดพลังงาน

    ✅ มาพร้อมกับ ConnectX 7 networking และหน่วยความจำรวม 128GB
    - รองรับ LLM ขนาดสูงสุด 200 พันล้านพารามิเตอร์ และ 405 พันล้านพารามิเตอร์เมื่อใช้สองชิป

    ✅ สามารถรองรับ NVMe storage สูงสุด 4TB
    - ช่วยให้ การประมวลผลโมเดล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ✅ มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ AI ของ Nvidia ที่รองรับโมเดลจาก DeepSeek, Meta และ Google
    - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถใช้งานโมเดล AI ได้ง่ายขึ้น

    https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/msi-to-unveil-desktop-ai-supercomputer-at-computex-2025-powered-by-nvidia-dgx
    MSI เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อปที่ Computex 2025 MSI เตรียมเปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อป ที่ใช้ แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยอุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ GB10 Grace Blackwell Superchip ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 AI TOPS FP4 ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip - ประกอบด้วย สถาปัตยกรรม Blackwell GPU และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 ✅ รองรับ NVLink-C2C เชื่อมต่อกับ Nvidia Grace CPU - ใช้ สถาปัตยกรรม Arm พร้อม 20 คอร์ที่ประหยัดพลังงาน ✅ มาพร้อมกับ ConnectX 7 networking และหน่วยความจำรวม 128GB - รองรับ LLM ขนาดสูงสุด 200 พันล้านพารามิเตอร์ และ 405 พันล้านพารามิเตอร์เมื่อใช้สองชิป ✅ สามารถรองรับ NVMe storage สูงสุด 4TB - ช่วยให้ การประมวลผลโมเดล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ✅ มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ AI ของ Nvidia ที่รองรับโมเดลจาก DeepSeek, Meta และ Google - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถใช้งานโมเดล AI ได้ง่ายขึ้น https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/msi-to-unveil-desktop-ai-supercomputer-at-computex-2025-powered-by-nvidia-dgx
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI to unveil desktop AI supercomputer at Computex 2025, powered by Nvidia DGX
    MSI is also expanding its deskstop system and unveiling a new motherboard
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • หากคุณกดปุ่มเปิดเครื่อง ได้ยินเสียงพัดลมทำงาน เห็นไฟติด แต่หน้าจอยังคงมืดสนิท ปัญหานี้อาจเกิดจาก ฮาร์ดแวร์หรือการเชื่อมต่อที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบและแก้ไขตามขั้นตอนที่เหมาะสม

    ✅ สายเชื่อมต่อหลวม หรือเสียหาย
    - ตรวจสอบสาย HDMI, DisplayPort, DVI หรือ VGA ว่าเสียบแน่นหรือไม่
    - ลองเปลี่ยนสาย หรือใช้พอร์ตอื่นบนคอมพิวเตอร์และจอภาพ

    ✅ จอภาพมีปัญหา
    - ทดสอบโดย เสียบจอภาพเข้ากับอุปกรณ์อื่น เพื่อดูว่าจอภาพทำงานได้ปกติหรือไม่

    ✅ การ์ดจอมีปัญหา หรือไม่ได้เสียบแน่น
    - ตรวจสอบว่า การ์ดจอเสียบแน่นในช่อง PCIe และมีสายไฟต่อครบ
    - ลองถอดการ์ดจอออก แล้วใช้พอร์ตวิดีโอบนเมนบอร์ดแทน

    ✅ RAM หลวม หรือเสียหาย
    - ถอดและเสียบ RAM ใหม่ หรือ ลองใช้ RAM ทีละตัวเพื่อหาตัวที่เสีย

    ✅ BIOS หรือเฟิร์มแวร์มีปัญหา
    - รีเซ็ต BIOS โดย ถอดแบตเตอรี่ CMOS ออก 5-10 นาที แล้วใส่กลับเข้าไป

    ✅ แหล่งจ่ายไฟ (PSU) มีปัญหา
    - ตรวจสอบว่า สายไฟ 24-pin และ 4/8-pin CPU power เสียบแน่น
    - ลองใช้ Power Supply Tester หรือเปลี่ยน PSU ตัวใหม่

    https://computercity.com/hardware/displays/computer-turns-on-but-no-display
    หากคุณกดปุ่มเปิดเครื่อง ได้ยินเสียงพัดลมทำงาน เห็นไฟติด แต่หน้าจอยังคงมืดสนิท ปัญหานี้อาจเกิดจาก ฮาร์ดแวร์หรือการเชื่อมต่อที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบและแก้ไขตามขั้นตอนที่เหมาะสม ✅ สายเชื่อมต่อหลวม หรือเสียหาย - ตรวจสอบสาย HDMI, DisplayPort, DVI หรือ VGA ว่าเสียบแน่นหรือไม่ - ลองเปลี่ยนสาย หรือใช้พอร์ตอื่นบนคอมพิวเตอร์และจอภาพ ✅ จอภาพมีปัญหา - ทดสอบโดย เสียบจอภาพเข้ากับอุปกรณ์อื่น เพื่อดูว่าจอภาพทำงานได้ปกติหรือไม่ ✅ การ์ดจอมีปัญหา หรือไม่ได้เสียบแน่น - ตรวจสอบว่า การ์ดจอเสียบแน่นในช่อง PCIe และมีสายไฟต่อครบ - ลองถอดการ์ดจอออก แล้วใช้พอร์ตวิดีโอบนเมนบอร์ดแทน ✅ RAM หลวม หรือเสียหาย - ถอดและเสียบ RAM ใหม่ หรือ ลองใช้ RAM ทีละตัวเพื่อหาตัวที่เสีย ✅ BIOS หรือเฟิร์มแวร์มีปัญหา - รีเซ็ต BIOS โดย ถอดแบตเตอรี่ CMOS ออก 5-10 นาที แล้วใส่กลับเข้าไป ✅ แหล่งจ่ายไฟ (PSU) มีปัญหา - ตรวจสอบว่า สายไฟ 24-pin และ 4/8-pin CPU power เสียบแน่น - ลองใช้ Power Supply Tester หรือเปลี่ยน PSU ตัวใหม่ https://computercity.com/hardware/displays/computer-turns-on-but-no-display
    COMPUTERCITY.COM
    Computer Turns On But No Display
    When your computer turns on but shows no display, it can be frustrating. You press the power button, hear the fan, see the lights, but the screen stays blank.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • ที่งาน Nico Nico Super Conference ในญี่ปุ่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Super Keisan Battle ซึ่งเป็นเกมที่ให้ผู้เข้าแข่งขันพยายามแก้โจทย์คณิตศาสตร์ให้ได้มากที่สุดภายใน 10 วินาที โดยมีรางวัลเป็น "Fugaku One-Day Unlimited Ticket" ที่ให้ผู้ชนะสามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ฟรีหนึ่งวัน

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเอาชนะ Fugaku ได้ เพราะมันสามารถคำนวณได้ถึง 442,010,000,000,000,000,000,000,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 10 วินาที ขณะที่มนุษย์ที่ทำคะแนนสูงสุดสามารถแก้โจทย์ได้เพียง 13 ข้อ

    ✅ Fugaku สามารถคำนวณได้ถึง 442,010,000,000,000,000,000,000,000 ครั้งใน 10 วินาที
    - เทียบกับมนุษย์ที่ทำคะแนนสูงสุดได้เพียง 13 ข้อ

    ✅ ผู้เข้าแข่งขันต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ให้ได้มากที่สุดภายใน 10 วินาที
    - ส่วนใหญ่ทำได้ประมาณ 10-11 ข้อ

    ✅ รางวัลสำหรับผู้ชนะคือ "Fugaku One-Day Unlimited Ticket"
    - สามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ฟรีหนึ่งวัน

    ✅ แม้จะแพ้ แต่ผู้เข้าแข่งขันยังได้รับรางวัลปลอบใจเป็นโมเดลจำลองของ Fugaku
    - เป็นของที่ระลึกจากการแข่งขัน

    ✅ Fugaku ถูกใช้ในการวิจัยด้านการป้องกันภัยพิบัติ เช่น การจำลองน้ำท่วมและแผนการอพยพที่เหมาะสม
    - แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในงานวิจัยระดับประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/supercomputer-beats-human-four-sextillion-to-13-in-super-keisan-battle-at-japanese-tech-show
    ที่งาน Nico Nico Super Conference ในญี่ปุ่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Super Keisan Battle ซึ่งเป็นเกมที่ให้ผู้เข้าแข่งขันพยายามแก้โจทย์คณิตศาสตร์ให้ได้มากที่สุดภายใน 10 วินาที โดยมีรางวัลเป็น "Fugaku One-Day Unlimited Ticket" ที่ให้ผู้ชนะสามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ฟรีหนึ่งวัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเอาชนะ Fugaku ได้ เพราะมันสามารถคำนวณได้ถึง 442,010,000,000,000,000,000,000,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 10 วินาที ขณะที่มนุษย์ที่ทำคะแนนสูงสุดสามารถแก้โจทย์ได้เพียง 13 ข้อ ✅ Fugaku สามารถคำนวณได้ถึง 442,010,000,000,000,000,000,000,000 ครั้งใน 10 วินาที - เทียบกับมนุษย์ที่ทำคะแนนสูงสุดได้เพียง 13 ข้อ ✅ ผู้เข้าแข่งขันต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ให้ได้มากที่สุดภายใน 10 วินาที - ส่วนใหญ่ทำได้ประมาณ 10-11 ข้อ ✅ รางวัลสำหรับผู้ชนะคือ "Fugaku One-Day Unlimited Ticket" - สามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ฟรีหนึ่งวัน ✅ แม้จะแพ้ แต่ผู้เข้าแข่งขันยังได้รับรางวัลปลอบใจเป็นโมเดลจำลองของ Fugaku - เป็นของที่ระลึกจากการแข่งขัน ✅ Fugaku ถูกใช้ในการวิจัยด้านการป้องกันภัยพิบัติ เช่น การจำลองน้ำท่วมและแผนการอพยพที่เหมาะสม - แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในงานวิจัยระดับประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/supercomputer-beats-human-four-sextillion-to-13-in-super-keisan-battle-at-japanese-tech-show
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Supercomputer beats human four sextillion to 13 in ‘Super Keisan Battle’ at Japanese tech show
    If you could beat Fugaku at the Nico Nico Super Conference you could do what you want with it for a whole day.
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
More Results