• บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แบบสุ่ม ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดยมีสาเหตุหลัก เช่น การร้อนเกินไปของ CPU หรือ GPU, ปัญหาแหล่งจ่ายไฟ, การเชื่อมต่อสายไฟที่หลวม, ปัญหา RAM หรือฮาร์ดดิสก์, ไดรเวอร์หรือ BIOS ที่ล้าสมัย, การติดมัลแวร์, หรือข้อผิดพลาดในระบบปฏิบัติการ

    เพื่อแก้ไขปัญหา ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของระบบ, ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟ, ทดสอบ RAM และฮาร์ดดิสก์, อัปเดตไดรเวอร์และ BIOS, และสแกนหามัลแวร์ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมืออย่าง Windows Event Viewer สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการปิดเครื่อง

    ✅ สาเหตุที่พบบ่อย
    - การร้อนเกินไปของ CPU หรือ GPU
    - ปัญหาแหล่งจ่ายไฟที่ไม่เสถียร
    - การเชื่อมต่อสายไฟที่หลวม

    ✅ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
    - ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและฮีตซิงค์
    - ทดสอบแหล่งจ่ายไฟด้วย PSU สำรอง
    - อัปเดตไดรเวอร์และ BIOS

    ✅ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์
    - ใช้ Windows Event Viewer เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด
    - ใช้ MemTest86 และ CrystalDiskInfo เพื่อตรวจสอบ RAM และฮาร์ดดิสก์

    ✅ คำแนะนำเพิ่มเติม
    - หากปัญหายังคงอยู่ ควรปรึกษาช่างเทคนิค

    https://computercity.com/laptops/pc-turns-off-randomly
    บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แบบสุ่ม ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดยมีสาเหตุหลัก เช่น การร้อนเกินไปของ CPU หรือ GPU, ปัญหาแหล่งจ่ายไฟ, การเชื่อมต่อสายไฟที่หลวม, ปัญหา RAM หรือฮาร์ดดิสก์, ไดรเวอร์หรือ BIOS ที่ล้าสมัย, การติดมัลแวร์, หรือข้อผิดพลาดในระบบปฏิบัติการ เพื่อแก้ไขปัญหา ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของระบบ, ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟ, ทดสอบ RAM และฮาร์ดดิสก์, อัปเดตไดรเวอร์และ BIOS, และสแกนหามัลแวร์ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมืออย่าง Windows Event Viewer สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการปิดเครื่อง ✅ สาเหตุที่พบบ่อย - การร้อนเกินไปของ CPU หรือ GPU - ปัญหาแหล่งจ่ายไฟที่ไม่เสถียร - การเชื่อมต่อสายไฟที่หลวม ✅ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น - ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและฮีตซิงค์ - ทดสอบแหล่งจ่ายไฟด้วย PSU สำรอง - อัปเดตไดรเวอร์และ BIOS ✅ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ - ใช้ Windows Event Viewer เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด - ใช้ MemTest86 และ CrystalDiskInfo เพื่อตรวจสอบ RAM และฮาร์ดดิสก์ ✅ คำแนะนำเพิ่มเติม - หากปัญหายังคงอยู่ ควรปรึกษาช่างเทคนิค https://computercity.com/laptops/pc-turns-off-randomly
    COMPUTERCITY.COM
    PC Turns Off Randomly: Troubleshooting Tips
    Few things are more frustrating than a PC that shuts down without warning. Random shutdowns can interrupt your work, gaming, or browsing—and they usually
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Super Micro Computer (SMCI) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โดยครองส่วนแบ่งรายได้ถึง 8% ของตลาดทั่วโลก บริษัทนี้มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และผู้ค้าปลีกชั้นนำของระบบ AI แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    Citi ได้เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้นของ SMCI ด้วยการตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมให้คะแนน "Neutral/High Risk" โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า SMCI จะยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไรก็ตาม ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มีการแข่งขันสูงและแรงกดดันด้านกำไรอาจเป็นความท้าทาย

    นอกจากนี้ Apple ยังได้สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ จาก SMCI และ Dell เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับ Siri

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI
    - SMCI ครองส่วนแบ่งรายได้ 8% ของตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก
    - เป็นผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และระบบ AI ระบายความร้อนด้วยของเหลว

    ✅ การวิเคราะห์หุ้นโดย Citi
    - ตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมคะแนน "Neutral/High Risk"
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่แข่งขันสูงอาจส่งผลต่อกำไร

    ✅ ความร่วมมือกับ Apple
    - Apple สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ใช้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Siri

    ✅ ผลการดำเนินงานของ SMCI
    - หุ้นของ SMCI เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีนี้

    https://wccftech.com/citi-super-micro-computer-smci-has-captured-8-percent-of-the-global-ai-server-revenue-share/
    Super Micro Computer (SMCI) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โดยครองส่วนแบ่งรายได้ถึง 8% ของตลาดทั่วโลก บริษัทนี้มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และผู้ค้าปลีกชั้นนำของระบบ AI แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Citi ได้เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้นของ SMCI ด้วยการตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมให้คะแนน "Neutral/High Risk" โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า SMCI จะยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไรก็ตาม ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มีการแข่งขันสูงและแรงกดดันด้านกำไรอาจเป็นความท้าทาย นอกจากนี้ Apple ยังได้สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ จาก SMCI และ Dell เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับ Siri ✅ ส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI - SMCI ครองส่วนแบ่งรายได้ 8% ของตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก - เป็นผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และระบบ AI ระบายความร้อนด้วยของเหลว ✅ การวิเคราะห์หุ้นโดย Citi - ตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมคะแนน "Neutral/High Risk" - ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่แข่งขันสูงอาจส่งผลต่อกำไร ✅ ความร่วมมือกับ Apple - Apple สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ใช้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Siri ✅ ผลการดำเนินงานของ SMCI - หุ้นของ SMCI เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีนี้ https://wccftech.com/citi-super-micro-computer-smci-has-captured-8-percent-of-the-global-ai-server-revenue-share/
    WCCFTECH.COM
    Citi: Super Micro Computer (SMCI) Has Captured 8 Percent Of The Global AI Server Revenue Share
    Super Micro Computer is currently trading at a multiple of just 9-10x its NTM P/E, which is below the 5-year median multiple of 11-12x.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • สเป็กคอมวันนี้ครับ
    ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบร้าน Compute and More https://computeandmore.com/
    #spec #computer #computeandmore
    สเป็กคอมวันนี้ครับ ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบร้าน Compute and More https://computeandmore.com/ #spec #computer #computeandmore
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+

    ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X
    - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025
    - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft
    - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่
    - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X
    - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm
    - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro

    ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต
    - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED

    https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่ - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    COMPUTERCITY.COM
    Microsoft Has Officially Discontinued The Surface Pro X Line
    The Surface Pro X—Microsoft’s ambitious experiment with ARM-based computing—has officially reached the end of its road. While there hasn’t been a grand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังเตรียมเปิดตัวชิป M5 รุ่นใหม่ในช่วงปลายปี 2025 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจากชิป M4 โดยชิป M5 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผล AI โดยใช้เทคโนโลยีการผลิต 3nm N3P ของ TSMC ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์

    นอกจากนี้ Apple ยังมุ่งเน้นการพัฒนา Neural Engine รุ่นใหม่ที่สามารถประมวลผลได้มากกว่า 40 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที เพื่อรองรับการใช้งาน AI เช่น การถอดเสียงแบบเรียลไทม์และการประมวลผลภาพ/วิดีโอที่ชาญฉลาด

    ✅ การใช้เทคโนโลยี 3nm N3P ของ TSMC
    - ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน
    - มีคุณสมบัติการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น

    ✅ Neural Engine รุ่นใหม่
    - รองรับการประมวลผล AI ได้มากกว่า 40 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น การถอดเสียงและการประมวลผลภาพ

    ✅ การพัฒนา SoIC และการบรรจุชิปแบบ 2.5D
    - แยก CPU และ GPU เพื่อการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น
    - เพิ่มแบนด์วิดท์และลดความหน่วงในการประมวลผล

    ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
    - คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ได้ 15–25% และเพิ่มประสิทธิภาพ GPU สำหรับงานสร้างสรรค์

    ✅ การเปิดตัวในอุปกรณ์ใหม่
    - MacBook Pro รุ่น M5 จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2025
    - iPad Pro รุ่น M5 จะตามมาในต้นปี 2026

    https://computercity.com/hardware/processors/apples-m5-chip-to-debut-in-late-2025-with-big-performance-gains
    Apple กำลังเตรียมเปิดตัวชิป M5 รุ่นใหม่ในช่วงปลายปี 2025 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจากชิป M4 โดยชิป M5 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผล AI โดยใช้เทคโนโลยีการผลิต 3nm N3P ของ TSMC ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ Apple ยังมุ่งเน้นการพัฒนา Neural Engine รุ่นใหม่ที่สามารถประมวลผลได้มากกว่า 40 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที เพื่อรองรับการใช้งาน AI เช่น การถอดเสียงแบบเรียลไทม์และการประมวลผลภาพ/วิดีโอที่ชาญฉลาด ✅ การใช้เทคโนโลยี 3nm N3P ของ TSMC - ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน - มีคุณสมบัติการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น ✅ Neural Engine รุ่นใหม่ - รองรับการประมวลผล AI ได้มากกว่า 40 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น การถอดเสียงและการประมวลผลภาพ ✅ การพัฒนา SoIC และการบรรจุชิปแบบ 2.5D - แยก CPU และ GPU เพื่อการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น - เพิ่มแบนด์วิดท์และลดความหน่วงในการประมวลผล ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม - คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ได้ 15–25% และเพิ่มประสิทธิภาพ GPU สำหรับงานสร้างสรรค์ ✅ การเปิดตัวในอุปกรณ์ใหม่ - MacBook Pro รุ่น M5 จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 - iPad Pro รุ่น M5 จะตามมาในต้นปี 2026 https://computercity.com/hardware/processors/apples-m5-chip-to-debut-in-late-2025-with-big-performance-gains
    COMPUTERCITY.COM
    Apple’s M5 Chip to Debut in Late 2025 With Big Performance Gains
    Apple’s silicon roadmap continues to march forward, and all eyes are now on the highly anticipated M5 chip, expected to debut in late 2025. Positioned as the
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้แนะนำการสร้างและเลือกซื้อพีซีสำหรับการเล่นเกม 4K ในปี 2025 โดยเน้นการเลือกส่วนประกอบที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในราคาที่คุ้มค่า มีการแนะนำพีซีในสามระดับ ได้แก่ Enthusiast Build, Mid-Range Build และ Budget Build ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีงบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกัน

    ✅ Enthusiast Build: สำหรับผู้เล่นที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
    - ใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K และ GPU Asus ROG Astral OC GeForce RTX 5090
    - รองรับการเล่นเกม 4K ที่ 240Hz พร้อม ray tracing

    ✅ Mid-Range Build: สมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา
    - ใช้ CPU AMD Ryzen 7 9800X3D และ GPU PNY OC GeForce RTX 5080
    - เหมาะสำหรับการเล่นเกม 4K ที่ 60–120 FPS

    ✅ Budget Build: สำหรับผู้เล่นที่มีงบประมาณจำกัด
    - ใช้ CPU AMD Ryzen 7 9800X3D และ GPU ASRock Steel Legend Radeon RX 9070 XT
    - รองรับการเล่นเกม 4K บน high settings

    ✅ คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการสร้างพีซี
    - ใช้ RAM อย่างน้อย 32GB และเลือก SSD PCIe 5.0 เพื่อการโหลดเกมที่รวดเร็ว
    - เลือกจอภาพ 4K ที่มี refresh rate 120Hz ขึ้นไป

    https://computercity.com/desktops/best-4k-gaming-pc
    บทความนี้แนะนำการสร้างและเลือกซื้อพีซีสำหรับการเล่นเกม 4K ในปี 2025 โดยเน้นการเลือกส่วนประกอบที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในราคาที่คุ้มค่า มีการแนะนำพีซีในสามระดับ ได้แก่ Enthusiast Build, Mid-Range Build และ Budget Build ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีงบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกัน ✅ Enthusiast Build: สำหรับผู้เล่นที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด - ใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K และ GPU Asus ROG Astral OC GeForce RTX 5090 - รองรับการเล่นเกม 4K ที่ 240Hz พร้อม ray tracing ✅ Mid-Range Build: สมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา - ใช้ CPU AMD Ryzen 7 9800X3D และ GPU PNY OC GeForce RTX 5080 - เหมาะสำหรับการเล่นเกม 4K ที่ 60–120 FPS ✅ Budget Build: สำหรับผู้เล่นที่มีงบประมาณจำกัด - ใช้ CPU AMD Ryzen 7 9800X3D และ GPU ASRock Steel Legend Radeon RX 9070 XT - รองรับการเล่นเกม 4K บน high settings ✅ คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการสร้างพีซี - ใช้ RAM อย่างน้อย 32GB และเลือก SSD PCIe 5.0 เพื่อการโหลดเกมที่รวดเร็ว - เลือกจอภาพ 4K ที่มี refresh rate 120Hz ขึ้นไป https://computercity.com/desktops/best-4k-gaming-pc
    COMPUTERCITY.COM
    Best 4K Gaming PC Builds to Elevate Your Gaming Experience in 2025
    Gaming in 4K isn’t just about higher resolution—it’s about unleashing the full potential of modern graphics, frame rates, and immersive detail. In 2025, 4K
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุน Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดย Cortana เคยเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Microsoft อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในตลาด AI และการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ เช่น Microsoft Copilot ทำให้ Cortana ถูกแทนที่ด้วยเครื่องมือที่มีความสามารถมากขึ้น

    ✅ Cortana เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014
    - เปิดตัวพร้อมกับ Windows Phone 8.1 และได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครในเกม Halo
    - มีฟีเจอร์เด่น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

    ✅ เหตุผลที่ Microsoft ยุติการสนับสนุน Cortana
    - การแข่งขันที่รุนแรงจาก Siri, Google Assistant และ Alexa
    - Cortana ไม่สามารถแข่งขันในตลาดมือถือได้ เนื่องจาก Windows Phone ไม่ประสบความสำเร็จ
    - การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่การรวมฟีเจอร์ AI ใน Microsoft 365 และ Windows

    ✅ การแทนที่ด้วย Microsoft Copilot
    - Copilot ใช้เทคโนโลยี GPT-4 เพื่อช่วยสร้างเนื้อหา สรุปอีเมล และทำงานอัตโนมัติ
    - มีความสามารถที่เหนือกว่า Cortana เช่น การเขียนรายงานและตอบคำถามที่ซับซ้อน

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดผู้ช่วย AI
    - ผู้ช่วย AI ในยุคใหม่เน้นการสร้างภาษาและการรวมเข้ากับเครื่องมือผลิตภาพ

    https://computercity.com/software/windows/goodbye-cortana-why-microsoft-pulled-the-plug-on-its-ai-assistant
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุน Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดย Cortana เคยเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Microsoft อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในตลาด AI และการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ เช่น Microsoft Copilot ทำให้ Cortana ถูกแทนที่ด้วยเครื่องมือที่มีความสามารถมากขึ้น ✅ Cortana เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 - เปิดตัวพร้อมกับ Windows Phone 8.1 และได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครในเกม Halo - มีฟีเจอร์เด่น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ✅ เหตุผลที่ Microsoft ยุติการสนับสนุน Cortana - การแข่งขันที่รุนแรงจาก Siri, Google Assistant และ Alexa - Cortana ไม่สามารถแข่งขันในตลาดมือถือได้ เนื่องจาก Windows Phone ไม่ประสบความสำเร็จ - การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่การรวมฟีเจอร์ AI ใน Microsoft 365 และ Windows ✅ การแทนที่ด้วย Microsoft Copilot - Copilot ใช้เทคโนโลยี GPT-4 เพื่อช่วยสร้างเนื้อหา สรุปอีเมล และทำงานอัตโนมัติ - มีความสามารถที่เหนือกว่า Cortana เช่น การเขียนรายงานและตอบคำถามที่ซับซ้อน ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดผู้ช่วย AI - ผู้ช่วย AI ในยุคใหม่เน้นการสร้างภาษาและการรวมเข้ากับเครื่องมือผลิตภาพ https://computercity.com/software/windows/goodbye-cortana-why-microsoft-pulled-the-plug-on-its-ai-assistant
    COMPUTERCITY.COM
    Goodbye, Cortana: Why Microsoft Pulled the Plug on Its AI Assistant
    Microsoft’s once-promising virtual assistant, Cortana, has reached the end of the road. Originally introduced in 2014 as a bold step into the AI assistant
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • NovelAI ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า Diffusion V4 Full ซึ่งเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในด้านการสร้างภาพด้วย AI โดยโมเดลนี้มีความสามารถในการสร้างภาพที่มีรายละเอียดสูง รองรับการสร้างภาพหลายตัวละคร และมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งภาพได้อย่างแม่นยำ เช่น การแก้ไขเฉพาะจุด (Focused Inpainting) และการเพิ่มข้อความในภาพ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Vibe Transfer ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์สไตล์ของภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่งได้

    ✅ การสร้างภาพหลายตัวละคร
    - รองรับการสร้างภาพที่มีตัวละครสูงสุดถึง 6 ตัว โดยแต่ละตัวมีความชัดเจนและไม่ซ้อนทับกัน
    - ผู้ใช้งานสามารถกำหนดตำแหน่งและการกระทำของตัวละครในภาพได้

    ✅ การแก้ไขเฉพาะจุด (Focused Inpainting)
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรือปรับปรุงส่วนต่างๆ ของภาพ เช่น การเพิ่มรายละเอียดใบหน้า

    ✅ การเพิ่มข้อความในภาพ
    - รองรับการเพิ่มข้อความที่อ่านง่าย เช่น ฟองคำพูด ป้ายชื่อ และข้อความในภาพ

    ✅ ฟีเจอร์ Vibe Transfer
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์สไตล์ของภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่ง เช่น การปรับแสงและสี

    ✅ การปรับปรุงคุณภาพของภาพ
    - ใช้เทคโนโลยี Flux VAE เพื่อเพิ่มความคมชัดและรายละเอียดของภาพ

    https://computercity.com/artificial-intelligence/novelai-launches-powerful-diffusion-v4-full-model-with-multi-character-support
    NovelAI ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า Diffusion V4 Full ซึ่งเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในด้านการสร้างภาพด้วย AI โดยโมเดลนี้มีความสามารถในการสร้างภาพที่มีรายละเอียดสูง รองรับการสร้างภาพหลายตัวละคร และมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งภาพได้อย่างแม่นยำ เช่น การแก้ไขเฉพาะจุด (Focused Inpainting) และการเพิ่มข้อความในภาพ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Vibe Transfer ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์สไตล์ของภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่งได้ ✅ การสร้างภาพหลายตัวละคร - รองรับการสร้างภาพที่มีตัวละครสูงสุดถึง 6 ตัว โดยแต่ละตัวมีความชัดเจนและไม่ซ้อนทับกัน - ผู้ใช้งานสามารถกำหนดตำแหน่งและการกระทำของตัวละครในภาพได้ ✅ การแก้ไขเฉพาะจุด (Focused Inpainting) - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรือปรับปรุงส่วนต่างๆ ของภาพ เช่น การเพิ่มรายละเอียดใบหน้า ✅ การเพิ่มข้อความในภาพ - รองรับการเพิ่มข้อความที่อ่านง่าย เช่น ฟองคำพูด ป้ายชื่อ และข้อความในภาพ ✅ ฟีเจอร์ Vibe Transfer - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์สไตล์ของภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่ง เช่น การปรับแสงและสี ✅ การปรับปรุงคุณภาพของภาพ - ใช้เทคโนโลยี Flux VAE เพื่อเพิ่มความคมชัดและรายละเอียดของภาพ https://computercity.com/artificial-intelligence/novelai-launches-powerful-diffusion-v4-full-model-with-multi-character-support
    COMPUTERCITY.COM
    NovelAI Launches Powerful Diffusion V4 Full Model with Multi-Character Support
    NovelAI is an innovative tool designed to help authors create literature. It is a form of artificial intelligence that generates human-like writing. People of
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงสรุปให้สั้นๆ กระชับ --> ยอมจ่ายเงินเพิ่มซื้อรุ่น "16GB" สบายใจกว่า

    Nvidia RTX 5060 Ti รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งแบบ 8GB และ 16GB VRAM โดยมีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสองรุ่นนี้ในแง่ของการเล่นเกมและการใช้งานในปี 2025 โดยรุ่น 16GB มีความสามารถในการรองรับเกมที่ต้องการ VRAM สูงกว่า เช่น Cyberpunk 2077 และ Starfield ในขณะที่รุ่น 8GB เหมาะสำหรับเกมที่มีการปรับแต่งมาอย่างดีหรือเกมเก่า

    ✅ RTX 5060 Ti 16GB เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการ VRAM สูง
    - รองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p และ 4K ได้ดีกว่า
    - มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 4060 Ti 8GB ถึง 19% ที่ 1080p และ 21% ที่ 1440p

    ✅ RTX 5060 Ti 8GB เหมาะสำหรับเกมที่ปรับแต่งมาอย่างดี
    - เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p เช่น Apex Legends และ Valorant
    - อาจมีปัญหาเรื่องการโหลด texture ในเกมใหม่ที่ต้องการ VRAM สูง

    ✅ การเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่น
    - รุ่น 16GB มีความสามารถในการรองรับ ray tracing และ DLSS 4 ได้ดีกว่า
    - รุ่น 8GB มีราคาถูกกว่า แต่มีข้อจำกัดในเกมที่ต้องการ VRAM สูง

    ✅ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025
    - รุ่น 16GB มีความต้องการสูงและมักขายเกินราคา MSRP
    - Nvidia อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อรองรับความต้องการ

    https://computercity.com/hardware/video-cards/16gb-vs-8gb-rtx-5060-ti-how-much-vram-do-you-actually-need-in-2025
    ลุงสรุปให้สั้นๆ กระชับ --> ยอมจ่ายเงินเพิ่มซื้อรุ่น "16GB" สบายใจกว่า Nvidia RTX 5060 Ti รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งแบบ 8GB และ 16GB VRAM โดยมีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสองรุ่นนี้ในแง่ของการเล่นเกมและการใช้งานในปี 2025 โดยรุ่น 16GB มีความสามารถในการรองรับเกมที่ต้องการ VRAM สูงกว่า เช่น Cyberpunk 2077 และ Starfield ในขณะที่รุ่น 8GB เหมาะสำหรับเกมที่มีการปรับแต่งมาอย่างดีหรือเกมเก่า ✅ RTX 5060 Ti 16GB เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการ VRAM สูง - รองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p และ 4K ได้ดีกว่า - มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 4060 Ti 8GB ถึง 19% ที่ 1080p และ 21% ที่ 1440p ✅ RTX 5060 Ti 8GB เหมาะสำหรับเกมที่ปรับแต่งมาอย่างดี - เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p เช่น Apex Legends และ Valorant - อาจมีปัญหาเรื่องการโหลด texture ในเกมใหม่ที่ต้องการ VRAM สูง ✅ การเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่น - รุ่น 16GB มีความสามารถในการรองรับ ray tracing และ DLSS 4 ได้ดีกว่า - รุ่น 8GB มีราคาถูกกว่า แต่มีข้อจำกัดในเกมที่ต้องการ VRAM สูง ✅ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025 - รุ่น 16GB มีความต้องการสูงและมักขายเกินราคา MSRP - Nvidia อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อรองรับความต้องการ https://computercity.com/hardware/video-cards/16gb-vs-8gb-rtx-5060-ti-how-much-vram-do-you-actually-need-in-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Nvidia RTX 5060 Ti 8GB vs 16GB: Which One Should You Buy
    The debate between 8GB and 16GB VRAM on the RTX 5060 Ti is heating up—and for good reason. In 2025, modern games are pushing GPU memory harder than ever.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk กำลังวางแผนระดมทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสร้าง Colossus 2 ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มี GPU จำนวน 1 ล้านตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัยและสร้างรายได้จากการใช้งาน AI ในระดับสูง การระดมทุนครั้งนี้อาจมีมูลค่าถึง 25 พันล้านดอลลาร์ และทำให้มูลค่าของบริษัท xAI อยู่ระหว่าง 150 ถึง 200 พันล้านดอลลาร์

    ✅ Elon Musk วางแผนสร้าง Colossus 2 ด้วย GPU จำนวน 1 ล้านตัว
    - ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ GPU Nvidia Hopper H100 และ H100
    - Colossus 2 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Colossus รุ่นแรกที่มี GPU จำนวน 200,000 ตัว

    ✅ การระดมทุนครั้งนี้อาจมีมูลค่าถึง 25 พันล้านดอลลาร์
    - Musk คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 100 ถึง 125 พันล้านดอลลาร์ ในการสร้าง Colossus 2
    - รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอาคาร เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่าย และระบบระบายความร้อน

    ✅ xAI มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย
    - โมเดล AI ที่พัฒนาจะถูกนำไปใช้สร้างรายได้ในระดับสูง

    ✅ การลงทุนใน AI Data Centers กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก
    - Broadcom คาดว่า Data Centers รุ่นใหม่จะมี AI Processors จำนวน 1 ล้านตัวภายในปี 2027

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/speculation-mounts-that-musk-will-raise-tens-of-billions-for-ai-supercomputer-with-1-million-gpus-report
    Elon Musk กำลังวางแผนระดมทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสร้าง Colossus 2 ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มี GPU จำนวน 1 ล้านตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัยและสร้างรายได้จากการใช้งาน AI ในระดับสูง การระดมทุนครั้งนี้อาจมีมูลค่าถึง 25 พันล้านดอลลาร์ และทำให้มูลค่าของบริษัท xAI อยู่ระหว่าง 150 ถึง 200 พันล้านดอลลาร์ ✅ Elon Musk วางแผนสร้าง Colossus 2 ด้วย GPU จำนวน 1 ล้านตัว - ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ GPU Nvidia Hopper H100 และ H100 - Colossus 2 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Colossus รุ่นแรกที่มี GPU จำนวน 200,000 ตัว ✅ การระดมทุนครั้งนี้อาจมีมูลค่าถึง 25 พันล้านดอลลาร์ - Musk คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 100 ถึง 125 พันล้านดอลลาร์ ในการสร้าง Colossus 2 - รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอาคาร เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่าย และระบบระบายความร้อน ✅ xAI มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย - โมเดล AI ที่พัฒนาจะถูกนำไปใช้สร้างรายได้ในระดับสูง ✅ การลงทุนใน AI Data Centers กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก - Broadcom คาดว่า Data Centers รุ่นใหม่จะมี AI Processors จำนวน 1 ล้านตัวภายในปี 2027 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/speculation-mounts-that-musk-will-raise-tens-of-billions-for-ai-supercomputer-with-1-million-gpus-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fujitsu และ RIKEN ได้เปิดตัว คอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบตัวนำยิ่งยวดขนาด 256 คิวบิต ซึ่งเป็นการพัฒนาที่สำคัญในด้านเทคโนโลยีควอนตัม โดยเครื่องนี้ตั้งอยู่ที่ RIKEN RQC-FUJITSU Collaboration Center และมีการใช้เทคนิคการออกแบบที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ คอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้มีจำนวนคิวบิตเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า
    - รุ่นก่อนหน้ามีเพียง 64 คิวบิต แต่รุ่นใหม่นี้มีถึง 256 คิวบิต
    - สามารถวิเคราะห์โมเลกุลที่ซับซ้อนและทดสอบอัลกอริธึมการแก้ไขข้อผิดพลาดขั้นสูงได้

    ✅ การพัฒนาระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง
    - ใช้ dilution refrigerator และการออกแบบความร้อนที่ล้ำสมัย
    - ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาวะที่ต้องการความเย็นสูง

    ✅ เปิดโอกาสให้บริษัทและสถาบันวิจัยทั่วโลกเข้าถึงเครื่องนี้
    - การเข้าถึงจะเริ่มในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025
    - ช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงการวิจัยในระดับสากล

    ✅ Fujitsu และ RIKEN กำลังพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 1,000 คิวบิต
    - คาดว่าจะติดตั้งในปีหน้า และมีแผนความร่วมมือจนถึงปี 2029

    https://www.neowin.net/news/fujitsu-and-riken-unveil-256-qubit-superconducting-quantum-computer-will-soon-open-access/
    Fujitsu และ RIKEN ได้เปิดตัว คอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบตัวนำยิ่งยวดขนาด 256 คิวบิต ซึ่งเป็นการพัฒนาที่สำคัญในด้านเทคโนโลยีควอนตัม โดยเครื่องนี้ตั้งอยู่ที่ RIKEN RQC-FUJITSU Collaboration Center และมีการใช้เทคนิคการออกแบบที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ คอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้มีจำนวนคิวบิตเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า - รุ่นก่อนหน้ามีเพียง 64 คิวบิต แต่รุ่นใหม่นี้มีถึง 256 คิวบิต - สามารถวิเคราะห์โมเลกุลที่ซับซ้อนและทดสอบอัลกอริธึมการแก้ไขข้อผิดพลาดขั้นสูงได้ ✅ การพัฒนาระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง - ใช้ dilution refrigerator และการออกแบบความร้อนที่ล้ำสมัย - ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาวะที่ต้องการความเย็นสูง ✅ เปิดโอกาสให้บริษัทและสถาบันวิจัยทั่วโลกเข้าถึงเครื่องนี้ - การเข้าถึงจะเริ่มในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025 - ช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงการวิจัยในระดับสากล ✅ Fujitsu และ RIKEN กำลังพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 1,000 คิวบิต - คาดว่าจะติดตั้งในปีหน้า และมีแผนความร่วมมือจนถึงปี 2029 https://www.neowin.net/news/fujitsu-and-riken-unveil-256-qubit-superconducting-quantum-computer-will-soon-open-access/
    WWW.NEOWIN.NET
    Fujitsu and RIKEN unveil 256-qubit superconducting quantum computer, will soon open access
    Fujitsu and RIKEN have unveiled a new superconducting 256-qubit quantum computer. The pair plans to install an even more powerful machine in 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA และ AMD กำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลในตลาด AI ของญี่ปุ่น หลังจากที่ทั้งสองบริษัทส่งซีอีโอไปเยือนประเทศในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในญี่ปุ่น

    ✅ ญี่ปุ่นต้องการเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ระดับโลก
    - รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดันให้ประเทศเป็น "ประเทศที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาและใช้ AI"
    - มีการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อแข่งขันในตลาดโลก

    ✅ ซีอีโอของ NVIDIA และ AMD พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
    - Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับอุตสาหกรรม AI
    - Lisa Su ซีอีโอของ AMD ก็เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีและพันธมิตรทางธุรกิจในญี่ปุ่น

    ✅ NVIDIA มอบ DGX Spark AI Supercomputer ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น
    - เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และญี่ปุ่นในการพัฒนา AI

    ✅ AMD กำลังขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้าน AI
    - รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ AMD

    https://wccftech.com/nvidia-and-amd-ceos-pay-a-visit-to-japan-in-quick-succession/
    NVIDIA และ AMD กำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลในตลาด AI ของญี่ปุ่น หลังจากที่ทั้งสองบริษัทส่งซีอีโอไปเยือนประเทศในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในญี่ปุ่น ✅ ญี่ปุ่นต้องการเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ระดับโลก - รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดันให้ประเทศเป็น "ประเทศที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาและใช้ AI" - มีการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อแข่งขันในตลาดโลก ✅ ซีอีโอของ NVIDIA และ AMD พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น - Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับอุตสาหกรรม AI - Lisa Su ซีอีโอของ AMD ก็เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีและพันธมิตรทางธุรกิจในญี่ปุ่น ✅ NVIDIA มอบ DGX Spark AI Supercomputer ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น - เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และญี่ปุ่นในการพัฒนา AI ✅ AMD กำลังขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้าน AI - รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ AMD https://wccftech.com/nvidia-and-amd-ceos-pay-a-visit-to-japan-in-quick-succession/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA and AMD CEOs Pay a Visit To Japan In Quick Succession, Meet with PM Ishiba to Capitalize on the Nation's AI Ambitions
    The CEOs of NVIDIA and AMD have reportedly visited Japan in quick succession, as both firms are eager to capitalize on a growing AI market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี เปลี่ยนโฟลเดอร์เริ่มต้นสำหรับการบันทึกภาพหน้าจอ บน Windows 10 และ Windows 11 โดยค่าเริ่มต้น Windows จะบันทึกภาพหน้าจอที่ถ่ายด้วย Snipping Tool และ Win + PrintScreen ไว้ในโฟลเดอร์ Pictures > Screenshots แต่หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งบันทึก สามารถทำได้ผ่าน Snipping Tool, File Explorer หรือ Registry Editor

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Snipping Tool
    - เปิด Snipping Tool และคลิกปุ่ม สามจุด ที่มุมขวาบน
    - ไปที่ Automatically save original screenshots และเลือก Change เพื่อกำหนดโฟลเดอร์ใหม่
    - สามารถเปลี่ยนตำแหน่งบันทึกของ Screen Recordings ได้ด้วยวิธีเดียวกัน

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน File Explorer
    - ไปที่ Pictures > Screenshots แล้วคลิกขวาที่โฟลเดอร์ Screenshots
    - เลือก Properties > Location > Move และกำหนดโฟลเดอร์ใหม่
    - Windows จะถามว่าต้องการย้ายไฟล์เก่าหรือไม่

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Registry Editor
    - กด Win + R แล้วพิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor
    - ไปที่ Computer\HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\User Shell Folders
    - ค้นหา {B7BEDE81-DF94-4682-A7D8-57A52620B86F} และเปลี่ยนค่าเป็นตำแหน่งโฟลเดอร์ใหม่

    https://www.neowin.net/guides/how-to-change-the-default-screenshot-folder-in-windows-10-and-11/
    บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี เปลี่ยนโฟลเดอร์เริ่มต้นสำหรับการบันทึกภาพหน้าจอ บน Windows 10 และ Windows 11 โดยค่าเริ่มต้น Windows จะบันทึกภาพหน้าจอที่ถ่ายด้วย Snipping Tool และ Win + PrintScreen ไว้ในโฟลเดอร์ Pictures > Screenshots แต่หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งบันทึก สามารถทำได้ผ่าน Snipping Tool, File Explorer หรือ Registry Editor ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Snipping Tool - เปิด Snipping Tool และคลิกปุ่ม สามจุด ที่มุมขวาบน - ไปที่ Automatically save original screenshots และเลือก Change เพื่อกำหนดโฟลเดอร์ใหม่ - สามารถเปลี่ยนตำแหน่งบันทึกของ Screen Recordings ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน File Explorer - ไปที่ Pictures > Screenshots แล้วคลิกขวาที่โฟลเดอร์ Screenshots - เลือก Properties > Location > Move และกำหนดโฟลเดอร์ใหม่ - Windows จะถามว่าต้องการย้ายไฟล์เก่าหรือไม่ ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Registry Editor - กด Win + R แล้วพิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor - ไปที่ Computer\HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\User Shell Folders - ค้นหา {B7BEDE81-DF94-4682-A7D8-57A52620B86F} และเปลี่ยนค่าเป็นตำแหน่งโฟลเดอร์ใหม่ https://www.neowin.net/guides/how-to-change-the-default-screenshot-folder-in-windows-10-and-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    How to change the default screenshot folder in Windows 10 and 11
    Windows 10 and 11 store screenshots on drive C by default. If that does not sit well with you, here is how to change the default screenshot folder in Windows 10 and 11.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • Spec คอมพ์ วันนี้ นำเสนอตัวแพงสุดของ Advice ครับ สำหรับคนเงินเหลือ
    ขอขอบคุณข้อมูลจากร้าน Advice ครับ
    #spec #computer #advice
    Spec คอมพ์ วันนี้ นำเสนอตัวแพงสุดของ Advice ครับ สำหรับคนเงินเหลือ ขอขอบคุณข้อมูลจากร้าน Advice ครับ #spec #computer #advice
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia

    ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น
    - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO
    - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products

    ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI
    - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI
    - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา

    ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม
    - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น

    ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI
    - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน
    - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel CEO Lip-Bu Tan flattens leadership structure, names new AI chief, memo says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Intel's new CEO, Lip-Bu Tan, is flattening the semiconductor giant's leadership team, with important chip groups reporting directly to him, according to a memo from Tan seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดตัว เครื่องมือใหม่ใน Copilot Studio ที่ชื่อว่า “Computer Use” ซึ่งช่วยให้ AI สามารถ โต้ตอบกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ API

    ✅ Copilot Studio เพิ่มเครื่องมือ “Computer Use” สำหรับการโต้ตอบกับแอปและเว็บไซต์
    - AI สามารถ คลิกปุ่ม, เลือกเมนู และพิมพ์ข้อความ ในแอปพลิเคชันต่างๆ
    - ทำงานได้แม้ใน สภาพแวดล้อมที่ไม่มี API สำหรับการเชื่อมต่อ

    ✅ ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของ UI
    - สามารถ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของปุ่มและหน้าจอแบบเรียลไทม์
    - มี ระบบเหตุผลในตัว ที่ช่วยให้ AI สามารถแก้ไขปัญหาได้เอง

    ✅ ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft เพื่อความปลอดภัย
    - ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud และ ไม่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล AI
    - องค์กรสามารถใช้เครื่องมือนี้โดยไม่ต้องจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง

    ✅ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Robotic Process Automation (RPA)
    - ใช้งานง่าย: ผู้ใช้สามารถอธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
    - มีความฉลาด: AI สามารถมองเห็นหน้าจอและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์
    - มีประวัติการใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดู ภาพหน้าจอและขั้นตอนการทำงานย้อนหลัง

    ✅ Microsoft อาจใช้เทคโนโลยีเดียวกับ OpenAI Operator
    - OpenAI เปิดตัว Operator ซึ่งใช้โมเดล Computer-Using Agent (CUA) ที่รวม GPT-4o กับ Reinforcement Learning
    - Microsoft อาจนำเทคโนโลยีเดียวกันมาใช้ใน “Computer Use”

    ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานของ AI ในองค์กร
    - AI ที่สามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันโดยตรงอาจ ลดความจำเป็นในการพัฒนา API เฉพาะทาง

    ℹ️ ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย
    - แม้ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud แต่ต้องติดตามว่า มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์
    - หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่ AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsofts-copilot-studio-gets-a-boost-with-computer-use-tool/
    Microsoft ได้เปิดตัว เครื่องมือใหม่ใน Copilot Studio ที่ชื่อว่า “Computer Use” ซึ่งช่วยให้ AI สามารถ โต้ตอบกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ API ✅ Copilot Studio เพิ่มเครื่องมือ “Computer Use” สำหรับการโต้ตอบกับแอปและเว็บไซต์ - AI สามารถ คลิกปุ่ม, เลือกเมนู และพิมพ์ข้อความ ในแอปพลิเคชันต่างๆ - ทำงานได้แม้ใน สภาพแวดล้อมที่ไม่มี API สำหรับการเชื่อมต่อ ✅ ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของ UI - สามารถ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของปุ่มและหน้าจอแบบเรียลไทม์ - มี ระบบเหตุผลในตัว ที่ช่วยให้ AI สามารถแก้ไขปัญหาได้เอง ✅ ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft เพื่อความปลอดภัย - ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud และ ไม่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล AI - องค์กรสามารถใช้เครื่องมือนี้โดยไม่ต้องจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง ✅ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Robotic Process Automation (RPA) - ใช้งานง่าย: ผู้ใช้สามารถอธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด - มีความฉลาด: AI สามารถมองเห็นหน้าจอและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ - มีประวัติการใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดู ภาพหน้าจอและขั้นตอนการทำงานย้อนหลัง ✅ Microsoft อาจใช้เทคโนโลยีเดียวกับ OpenAI Operator - OpenAI เปิดตัว Operator ซึ่งใช้โมเดล Computer-Using Agent (CUA) ที่รวม GPT-4o กับ Reinforcement Learning - Microsoft อาจนำเทคโนโลยีเดียวกันมาใช้ใน “Computer Use” ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานของ AI ในองค์กร - AI ที่สามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันโดยตรงอาจ ลดความจำเป็นในการพัฒนา API เฉพาะทาง ℹ️ ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย - แม้ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud แต่ต้องติดตามว่า มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์ - หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่ AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.neowin.net/news/microsofts-copilot-studio-gets-a-boost-with-computer-use-tool/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft's Copilot Studio gets a boost with “Computer use” tool
    Microsoft has introduced a research preview tool called "Computer use" within Copilot Studio. This LLM-powered feature enables AI agents to interact directly with any website or app.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ
    - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส
    - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า

    ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่
    - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
    - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส
    - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา

    ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า
    - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย
    - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ

    ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์
    - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ

    ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต
    - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต

    https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia shifts AI supercomputer production to the US for the first time
    The project spans more than a million square feet of manufacturing space, with operations already underway. Nvidia's Blackwell chips are being produced at TSMC facilities in Phoenix,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความก้าวหน้าของ Quantum Computing ที่ Google กำลังพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านสุขภาพ พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่

    เนื่องในวัน World Quantum Day Google ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสามประโยชน์หลักที่ Quantum Computing จะช่วยให้เกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ การค้นพบยาใหม่, การพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, และ การออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน

    ✅ Quantum Computing กับการค้นพบยาใหม่
    - ช่วยจำลองโครงสร้างโมเลกุลของยาได้แม่นยำขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ Boehringer Ingelheim เพื่อศึกษาการจำลองเอนไซม์ Cytochrome P450

    ✅ Quantum Computing กับแบตเตอรี่
    - ช่วยออกแบบวัสดุใหม่สำหรับแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ BASF เพื่อศึกษาการจำลอง Lithium Nickel Oxide (LNO)

    ✅ Quantum Computing กับพลังงานฟิวชัน
    - ช่วยออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ Sandia National Laboratories เพื่อพัฒนาอัลกอริธึมสำหรับจำลองกระบวนการฟิวชัน

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Quantum Computing
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา
    - การสร้าง Quantum Computer ที่มีความเสถียรและใช้งานได้จริงยังเป็นความท้าทาย

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Quantum Computing อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยา พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่
    - บริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวได้อาจเสียเปรียบในการแข่งขัน

    https://www.neowin.net/news/googles-quantum-computing-efforts-to-give-you-better-health-and-unlimited-electricity/
    ข่าวนี้เล่าถึงความก้าวหน้าของ Quantum Computing ที่ Google กำลังพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านสุขภาพ พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เนื่องในวัน World Quantum Day Google ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสามประโยชน์หลักที่ Quantum Computing จะช่วยให้เกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ การค้นพบยาใหม่, การพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, และ การออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน ✅ Quantum Computing กับการค้นพบยาใหม่ - ช่วยจำลองโครงสร้างโมเลกุลของยาได้แม่นยำขึ้น - Google ร่วมมือกับ Boehringer Ingelheim เพื่อศึกษาการจำลองเอนไซม์ Cytochrome P450 ✅ Quantum Computing กับแบตเตอรี่ - ช่วยออกแบบวัสดุใหม่สำหรับแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - Google ร่วมมือกับ BASF เพื่อศึกษาการจำลอง Lithium Nickel Oxide (LNO) ✅ Quantum Computing กับพลังงานฟิวชัน - ช่วยออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - Google ร่วมมือกับ Sandia National Laboratories เพื่อพัฒนาอัลกอริธึมสำหรับจำลองกระบวนการฟิวชัน ℹ️ ข้อจำกัดของ Quantum Computing - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา - การสร้าง Quantum Computer ที่มีความเสถียรและใช้งานได้จริงยังเป็นความท้าทาย ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Quantum Computing อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยา พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ - บริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวได้อาจเสียเปรียบในการแข่งขัน https://www.neowin.net/news/googles-quantum-computing-efforts-to-give-you-better-health-and-unlimited-electricity/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's quantum computing efforts to give you better health and unlimited electricity
    For World Quantum Day, Google has outlined some of the big potential benefits quantum computers could deliver from the 2030s. Here are Google's picks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • AmigaOS 3.2.3 ได้รับการพัฒนาโดย Hyperion Entertainment ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการนี้ให้ทันสมัย แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 การอัปเดตครั้งนี้รวมถึงการปรับปรุงเครื่องมือ GUI อย่าง ReAction การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน TextEditor และการปลดล็อกพื้นที่ RAM 12KB ที่เคยถูกสงวนไว้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว ROM รุ่นใหม่ Kickstart 3.2.3 เพื่อรองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

    น่าสนใจที่ AmigaOS 3.2.3 ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Arm accelerators อย่าง PiStorm ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับระบบปฏิบัติการนี้ได้ทั้งในรูปแบบคลาสสิกและทันสมัย

    ✅ การอัปเดต AmigaOS 3.2.3
    - มีการปรับปรุงและแก้ไขมากกว่า 50 รายการ
    - รวมถึงการปรับปรุง GUI และ TextEditor

    ✅ การเปิดตัว Kickstart 3.2.3 ROM
    - รองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับฮาร์ดแวร์ Amiga

    ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและใหม่
    - รองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500
    - รองรับ Arm accelerators อย่าง PiStorm

    ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา
    - การพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีอายุยาวนานอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
    - การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม

    ℹ️ ผลกระทบต่อชุมชนผู้ใช้งาน
    - การอัปเดตนี้อาจช่วยฟื้นฟูความสนใจใน AmigaOS
    - ชุมชนผู้ใช้งานอาจต้องปรับตัวกับฟีเจอร์ใหม่

    https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/33-year-old-amigaos-for-commodore-computers-gets-an-unexpected-update
    AmigaOS 3.2.3 ได้รับการพัฒนาโดย Hyperion Entertainment ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการนี้ให้ทันสมัย แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 การอัปเดตครั้งนี้รวมถึงการปรับปรุงเครื่องมือ GUI อย่าง ReAction การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน TextEditor และการปลดล็อกพื้นที่ RAM 12KB ที่เคยถูกสงวนไว้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว ROM รุ่นใหม่ Kickstart 3.2.3 เพื่อรองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น น่าสนใจที่ AmigaOS 3.2.3 ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Arm accelerators อย่าง PiStorm ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับระบบปฏิบัติการนี้ได้ทั้งในรูปแบบคลาสสิกและทันสมัย ✅ การอัปเดต AmigaOS 3.2.3 - มีการปรับปรุงและแก้ไขมากกว่า 50 รายการ - รวมถึงการปรับปรุง GUI และ TextEditor ✅ การเปิดตัว Kickstart 3.2.3 ROM - รองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับฮาร์ดแวร์ Amiga ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและใหม่ - รองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 - รองรับ Arm accelerators อย่าง PiStorm ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - การพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีอายุยาวนานอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี - การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม ℹ️ ผลกระทบต่อชุมชนผู้ใช้งาน - การอัปเดตนี้อาจช่วยฟื้นฟูความสนใจใน AmigaOS - ชุมชนผู้ใช้งานอาจต้องปรับตัวกับฟีเจอร์ใหม่ https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/33-year-old-amigaos-for-commodore-computers-gets-an-unexpected-update
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    33-year-old AmigaOS for Commodore computers gets an unexpected update
    Classic Motorola 680x0-friendly AmigaOS 3.2.3 released with over 50 fixes and enhancements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน

    อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี
    - สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์
    - การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025

    ✅ การตอบโต้จากจีน
    - จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125%
    - ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด

    ✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ
    - เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น
    - เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27%

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท
    - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

    https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี - สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ - การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 ✅ การตอบโต้จากจีน - จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% - ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด ✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ - เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น - เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27% ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/
    WWW.NEOWIN.NET
    Tech gets a pass; Smartphones, computers, and chips exempted from Trump tariffs
    Donald Trump has exempted some widely used electronic devices from paying hefty tariffs, temporarily relieving American consumers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk’s xAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี โดยเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่

    ✅ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า:
    - xAI ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนจำนวน 35 เครื่องเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งมี GPU Nvidia H100 มากกว่า 100,000 ตัว
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเหล่านี้สามารถผลิตพลังงานได้ถึง 420 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายไฟให้กับเมือง

    ✅ ปัญหาด้านการอนุญาต:
    - xAI ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียง 15 เครื่อง แต่มีการใช้งานมากกว่านั้นโดยไม่มีการอนุมัติ
    - บริษัทใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายที่อนุญาตให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต หากไม่ได้ติดตั้งในที่เดียวเกิน 364 วัน

    ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนเป็นแหล่งมลพิษที่สำคัญและละเมิดกฎคุณภาพอากาศของรัฐบาลกลาง
    - กลุ่ม Southern Environmental Law Center เรียกร้องให้หน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่หยุดการดำเนินงานและปรับบริษัท $25,000 ต่อวัน

    ✅ การตอบสนองของชุมชน:
    - ชาวบ้านและกลุ่มสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-xai-allegedly-powers-colossus-supercomputer-facility-using-illegal-generators
    Elon Musk’s xAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี โดยเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่ ✅ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า: - xAI ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนจำนวน 35 เครื่องเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งมี GPU Nvidia H100 มากกว่า 100,000 ตัว - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเหล่านี้สามารถผลิตพลังงานได้ถึง 420 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายไฟให้กับเมือง ✅ ปัญหาด้านการอนุญาต: - xAI ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียง 15 เครื่อง แต่มีการใช้งานมากกว่านั้นโดยไม่มีการอนุมัติ - บริษัทใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายที่อนุญาตให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต หากไม่ได้ติดตั้งในที่เดียวเกิน 364 วัน ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนเป็นแหล่งมลพิษที่สำคัญและละเมิดกฎคุณภาพอากาศของรัฐบาลกลาง - กลุ่ม Southern Environmental Law Center เรียกร้องให้หน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่หยุดการดำเนินงานและปรับบริษัท $25,000 ต่อวัน ✅ การตอบสนองของชุมชน: - ชาวบ้านและกลุ่มสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-xai-allegedly-powers-colossus-supercomputer-facility-using-illegal-generators
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Elon Musk’s xAI allegedly uses illegal generators to power Colossus supercomputer facility
    A loophole enables the generators to be used for 364 days without a permit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Berkeley และ UC San Francisco ได้พัฒนาเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงกับการพูดตามธรรมชาติ โดยใช้ AI ในการแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดแบบเรียลไทม์

    ✅ การทำงานของระบบ:
    - ระบบนี้ใช้ AI ในการถอดรหัสสัญญาณสมองจาก motor cortex ซึ่งควบคุมการพูด
    - สามารถแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีเดิมที่ใช้เวลา 8 วินาที

    ✅ การฝึกระบบ:
    - ผู้เข้าร่วมทดลองพยายามพูดประโยคในใจ ขณะที่นักวิจัยบันทึกกิจกรรมสมอง
    - AI เติมเต็มรายละเอียดที่ขาดหาย เช่น รูปแบบเสียง เพื่อสร้างเสียงพูดที่สมบูรณ์

    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย:
    - รองรับทั้งวิธีที่ไม่รุกราน เช่น การใช้เซ็นเซอร์บนผิวหนัง และวิธีที่ซับซ้อน เช่น การฝังอิเล็กโทรดในสมอง
    - สามารถสร้างเสียงพูดที่คล้ายกับเสียงเดิมของผู้ป่วยก่อนเกิดอาการบาดเจ็บ

    ✅ ความแม่นยำและความยืดหยุ่น:
    - ระบบสามารถสร้างคำที่ไม่เคยอยู่ในข้อมูลการฝึก เช่น คำใน NATO phonetic alphabet
    - มีความแม่นยำสูงและรองรับคำศัพท์ที่หลากหลาย

    ✅ เป้าหมายในอนาคต:
    - เพิ่มโทนเสียง อารมณ์ และความลื่นไหลของเสียงพูด เพื่อให้ใกล้เคียงกับการพูดของมนุษย์มากขึ้น

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความท้าทายด้านการเข้าถึง:
    - เทคโนโลยีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้

    ⚠️ การพัฒนาด้านอารมณ์:
    - การเพิ่มโทนเสียงและอารมณ์ในเสียงพูดอาจต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้การสื่อสารมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/paralysed-patients-could-soon-talk-with-near-real-time-conversion-of-brain-signals/
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Berkeley และ UC San Francisco ได้พัฒนาเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงกับการพูดตามธรรมชาติ โดยใช้ AI ในการแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดแบบเรียลไทม์ ✅ การทำงานของระบบ: - ระบบนี้ใช้ AI ในการถอดรหัสสัญญาณสมองจาก motor cortex ซึ่งควบคุมการพูด - สามารถแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีเดิมที่ใช้เวลา 8 วินาที ✅ การฝึกระบบ: - ผู้เข้าร่วมทดลองพยายามพูดประโยคในใจ ขณะที่นักวิจัยบันทึกกิจกรรมสมอง - AI เติมเต็มรายละเอียดที่ขาดหาย เช่น รูปแบบเสียง เพื่อสร้างเสียงพูดที่สมบูรณ์ ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: - รองรับทั้งวิธีที่ไม่รุกราน เช่น การใช้เซ็นเซอร์บนผิวหนัง และวิธีที่ซับซ้อน เช่น การฝังอิเล็กโทรดในสมอง - สามารถสร้างเสียงพูดที่คล้ายกับเสียงเดิมของผู้ป่วยก่อนเกิดอาการบาดเจ็บ ✅ ความแม่นยำและความยืดหยุ่น: - ระบบสามารถสร้างคำที่ไม่เคยอยู่ในข้อมูลการฝึก เช่น คำใน NATO phonetic alphabet - มีความแม่นยำสูงและรองรับคำศัพท์ที่หลากหลาย ✅ เป้าหมายในอนาคต: - เพิ่มโทนเสียง อารมณ์ และความลื่นไหลของเสียงพูด เพื่อให้ใกล้เคียงกับการพูดของมนุษย์มากขึ้น == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความท้าทายด้านการเข้าถึง: - เทคโนโลยีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้ ⚠️ การพัฒนาด้านอารมณ์: - การเพิ่มโทนเสียงและอารมณ์ในเสียงพูดอาจต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้การสื่อสารมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น https://www.neowin.net/news/paralysed-patients-could-soon-talk-with-near-real-time-conversion-of-brain-signals/
    WWW.NEOWIN.NET
    Paralysed patients could soon "talk" with "near-real time" conversion of brain signals
    Brain-computer interface (BCI) technology has made a major advancement as it now enables converting brain signals to speech "in near-real time."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้แสดงศักยภาพครั้งยิ่งใหญ่ในโลกซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยความสำเร็จนี้เกิดขึ้นใน Frontier Supercomputer ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ณ Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ด้วยการใช้ ชิป AMD Instinct MI250X GPUs และโปรเซสเซอร์ AMD EPYC CPUs การจำลองการไหลของอากาศในเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ (CFD Simulation) ที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาถึง 38.5 ชั่วโมง ได้ถูกลดลงเหลือเพียง 1.5 ชั่วโมง เท่านั้น

    ✅ การพัฒนาประสิทธิภาพระดับใหม่:
    - การใช้งาน 1,024 AMD Instinct MI250X accelerators และ EPYC CPUs ช่วยเร่งกระบวนการจำลอง 2.2 พันล้านเซลล์บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Frontier ได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 25 เท่า
    - การลดเวลาในการจำลองช่วยให้บริษัทพลังงานอย่าง Baker Hughes สามารถปรับปรุงการออกแบบเครื่องยนต์ได้รวดเร็วขึ้น

    ✅ ศักยภาพอันมหาศาลของ Frontier:
    - Frontier เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale ตัวแรกของโลก ซึ่งหมายความว่ามีประสิทธิภาพที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1 ExaFLOP (1 ล้านล้านล้านการคำนวณต่อวินาที)
    - Frontier มีฮาร์ดแวร์ระดับสูง เช่น 9,408 EPYC CPUs และ 37,632 MI250X GPUs ซึ่งยังคงมีศักยภาพให้ใช้งานมากกว่าที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้

    ✅ การแสดงความโดดเด่นของ AMD:
    - แม้ว่า Nvidia จะครองตลาด GPU ในงาน AI แต่ AMD ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ด้วยราคาที่คุ้มค่าและพลังการประมวลผลที่โดดเด่น
    - Brad McCredie รองประธานของ AMD กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้วิศวกรรมระดับโลกเกิดนวัตกรรมในด้าน ความยั่งยืนและประสิทธิภาพ

    ✅ ความท้าทายด้านซอฟต์แวร์:
    - อย่างไรก็ตาม AMD ยังต้องพัฒนาในเรื่องของซอฟต์แวร์เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ซึ่งยังคงได้เปรียบในด้านการรองรับซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-sets-new-supercomputer-record-runs-cfd-simulation-over-25x-faster-on-instinct-mi250x-gpus
    AMD ได้แสดงศักยภาพครั้งยิ่งใหญ่ในโลกซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยความสำเร็จนี้เกิดขึ้นใน Frontier Supercomputer ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ณ Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ด้วยการใช้ ชิป AMD Instinct MI250X GPUs และโปรเซสเซอร์ AMD EPYC CPUs การจำลองการไหลของอากาศในเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ (CFD Simulation) ที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาถึง 38.5 ชั่วโมง ได้ถูกลดลงเหลือเพียง 1.5 ชั่วโมง เท่านั้น ✅ การพัฒนาประสิทธิภาพระดับใหม่: - การใช้งาน 1,024 AMD Instinct MI250X accelerators และ EPYC CPUs ช่วยเร่งกระบวนการจำลอง 2.2 พันล้านเซลล์บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Frontier ได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 25 เท่า - การลดเวลาในการจำลองช่วยให้บริษัทพลังงานอย่าง Baker Hughes สามารถปรับปรุงการออกแบบเครื่องยนต์ได้รวดเร็วขึ้น ✅ ศักยภาพอันมหาศาลของ Frontier: - Frontier เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale ตัวแรกของโลก ซึ่งหมายความว่ามีประสิทธิภาพที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1 ExaFLOP (1 ล้านล้านล้านการคำนวณต่อวินาที) - Frontier มีฮาร์ดแวร์ระดับสูง เช่น 9,408 EPYC CPUs และ 37,632 MI250X GPUs ซึ่งยังคงมีศักยภาพให้ใช้งานมากกว่าที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ ✅ การแสดงความโดดเด่นของ AMD: - แม้ว่า Nvidia จะครองตลาด GPU ในงาน AI แต่ AMD ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ด้วยราคาที่คุ้มค่าและพลังการประมวลผลที่โดดเด่น - Brad McCredie รองประธานของ AMD กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้วิศวกรรมระดับโลกเกิดนวัตกรรมในด้าน ความยั่งยืนและประสิทธิภาพ ✅ ความท้าทายด้านซอฟต์แวร์: - อย่างไรก็ตาม AMD ยังต้องพัฒนาในเรื่องของซอฟต์แวร์เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ซึ่งยังคงได้เปรียบในด้านการรองรับซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-sets-new-supercomputer-record-runs-cfd-simulation-over-25x-faster-on-instinct-mi250x-gpus
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD sets new supercomputer record, runs CFD simulation over 25x faster on Instinct MI250X GPUs
    CFD simulation is cut down from almost 40 hours to less than two using 1,024 Instinct MI250X accelerators paired with Epyc CPUs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก MIT กำลังปฏิวัติวงการควอนตัมคอมพิวเตอร์ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยให้ ชิปควอนตัมสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อทางกายภาพ เทคนิคใหม่นี้นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญในโลกควอนตัม โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ของการแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลในระบบควอนตัมคอมพิวเตอร์

    == หัวใจของเทคโนโลยีนี้ ==
    ✅ การใช้ Microwave Photons เป็นตัวกลาง
    - ระบบใหม่ใช้ คลื่นไมโครเวฟ (Microwave Photons) ในการส่งข้อมูลระหว่างชิปควอนตัมโดยตรง
    - ด้วยการสร้าง waveguide ซึ่งเป็นสายไฟแบบ superconducting ที่ทำหน้าที่เหมือนถนนควอนตัม ช่วยให้ชิปสื่อสารกันได้โดยไม่มี "ตัวกลาง"

    ✅ กระบวนการสร้าง Remote Entanglement
    - Remote Entanglement เป็นหลักการทางควอนตัมที่ช่วยให้สองชิปสามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงควอนตัมแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกัน
    - วิธีการใหม่ทำให้การส่งและรับโฟตอนเกิดขึ้นได้ในสถานะ “ครึ่งหนึ่ง” ซึ่งโฟตอนอยู่ในสถานะที่ปล่อยและเก็บไว้พร้อมกัน

    ✅ การปรับรูปทรงโฟตอนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - การเดินทางของโฟตอนผ่าน waveguide อาจเกิดความผิดเพี้ยน นักวิจัยจึงใช้ อัลกอริทึมเพื่อปรับแต่งรูปร่างของโฟตอน ส่งผลให้อัตราความสำเร็จในการสร้าง Entanglement สูงถึง 60%

    == ผลกระทบต่อโลกควอนตัมและเทคโนโลยีในอนาคต ==
    ✅ เปิดประตูสู่ Quantum Supercomputer ขนาดใหญ่
    - ระบบใหม่รองรับ “All-to-All Connectivity” ซึ่งช่วยให้หน่วยประมวลผลทุกชิปสามารถสื่อสารกันได้โดยตรง
    - อนาคตอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น 3D Integration หรือ โปรโตคอลที่เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ การสนับสนุนจากหน่วยงานสำคัญ
    - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดยหน่วยงานเช่น US Army Research Office, AWS Center for Quantum Computing และ US Air Force Office of Scientific Research

    ✅ ความสำคัญต่อ Quantum Internet
    - นอกจากการพัฒนา Quantum Computer ระบบใหม่นี้ยังสามารถขยายไปยัง Quantum Internet ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงควอนตัมคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

    https://www.techspot.com/news/107436-mit-showcases-quantum-chip-communication-without-physical-contact.html
    นักวิจัยจาก MIT กำลังปฏิวัติวงการควอนตัมคอมพิวเตอร์ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยให้ ชิปควอนตัมสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อทางกายภาพ เทคนิคใหม่นี้นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญในโลกควอนตัม โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ของการแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลในระบบควอนตัมคอมพิวเตอร์ == หัวใจของเทคโนโลยีนี้ == ✅ การใช้ Microwave Photons เป็นตัวกลาง - ระบบใหม่ใช้ คลื่นไมโครเวฟ (Microwave Photons) ในการส่งข้อมูลระหว่างชิปควอนตัมโดยตรง - ด้วยการสร้าง waveguide ซึ่งเป็นสายไฟแบบ superconducting ที่ทำหน้าที่เหมือนถนนควอนตัม ช่วยให้ชิปสื่อสารกันได้โดยไม่มี "ตัวกลาง" ✅ กระบวนการสร้าง Remote Entanglement - Remote Entanglement เป็นหลักการทางควอนตัมที่ช่วยให้สองชิปสามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงควอนตัมแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกัน - วิธีการใหม่ทำให้การส่งและรับโฟตอนเกิดขึ้นได้ในสถานะ “ครึ่งหนึ่ง” ซึ่งโฟตอนอยู่ในสถานะที่ปล่อยและเก็บไว้พร้อมกัน ✅ การปรับรูปทรงโฟตอนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - การเดินทางของโฟตอนผ่าน waveguide อาจเกิดความผิดเพี้ยน นักวิจัยจึงใช้ อัลกอริทึมเพื่อปรับแต่งรูปร่างของโฟตอน ส่งผลให้อัตราความสำเร็จในการสร้าง Entanglement สูงถึง 60% == ผลกระทบต่อโลกควอนตัมและเทคโนโลยีในอนาคต == ✅ เปิดประตูสู่ Quantum Supercomputer ขนาดใหญ่ - ระบบใหม่รองรับ “All-to-All Connectivity” ซึ่งช่วยให้หน่วยประมวลผลทุกชิปสามารถสื่อสารกันได้โดยตรง - อนาคตอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น 3D Integration หรือ โปรโตคอลที่เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การสนับสนุนจากหน่วยงานสำคัญ - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดยหน่วยงานเช่น US Army Research Office, AWS Center for Quantum Computing และ US Air Force Office of Scientific Research ✅ ความสำคัญต่อ Quantum Internet - นอกจากการพัฒนา Quantum Computer ระบบใหม่นี้ยังสามารถขยายไปยัง Quantum Internet ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงควอนตัมคอมพิวเตอร์ทั่วโลก https://www.techspot.com/news/107436-mit-showcases-quantum-chip-communication-without-physical-contact.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    MIT showcases quantum chip communication without physical contact
    Current quantum-computing systems rely on clunky "point-to-point" connections, where data is transferred in a chain and has to jump between nodes. Unfortunately, each hop also increases the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 1 รีวิว
  • ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน

    ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ:

    1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ
    2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ
    3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี
    4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า
    5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD
    6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ
    7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars
    8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา
    9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS
    10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน
    11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม
    12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว
    13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด
    14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows
    15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา
    16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต
    17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command
    18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง
    19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา
    20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส

    https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ: 1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ 2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ 3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี 4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า 5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD 6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ 7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars 8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา 9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS 10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน 11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม 12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว 13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด 14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows 15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา 16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต 17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command 18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง 19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา 20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    WWW.NEOWIN.NET
    20 times computers embarrassed themselves with public BSODs and goof-ups
    We have seen them time and again: BSODs, error screens, and other embarrassing stuff computers have done in public. Here are 20 of them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts