• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหารสี่ประการ
    สัทธรรมลำดับที่ : 750
    ชื่อบทธรรม :- วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    --ภิกษุ ท. ! #กวฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน
    ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร.
    สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง.
    เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น
    สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น
    ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่
    เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้.
    ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า
    “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว
    หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้;
    อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย
    แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ
    เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด
    เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่”
    ดังนี้.
    ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น
    แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น.
    สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง
    รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย”
    ดังนี้.
    +--ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร
    เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง
    เพื่อความมัวเมาบ้าง
    เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือ
    เพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือหนอ ?
    ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !”
    ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร
    เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ?
    “ใช่ พระเจ้าข้า !”
    ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    เรากล่าวว่า กวฬีการาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร)
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร
    ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ;
    ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด
    ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย.
    เมื่อ ราคะที่มีเบญจกามคุณ เป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว,
    สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี.

    --ภิกษุ ท. ! #ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=ผสฺสาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม :
    ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ;
    ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน;
    ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน;
    ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน.
    +--ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม
    มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า ผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม)
    ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว
    เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย,
    เมื่อ เวทนาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”
    ดังนี้.

    --ภิกษุ ท. ! #มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=มโนสญฺเจตนาหาโร
    ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง
    เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่.
    ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น.
    และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง
    แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ
    ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น.
    ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า
    “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย
    หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ”
    ดังนี้,
    ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหาร อันอริยสาวกควรเห็น
    (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น.

    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ;
    เมื่อ ตัณหาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“
    ดังนี้.

    --ภิกษุ ท. ! #วิญญาณาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/121/?keywords=วิญฺญาณาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติชั่วช้าได้แล้ว
    แสดงแก่พระราชาว่า
    “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท
    ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“
    พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า.
    ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”.
    พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”.
    พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”.
    พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง.
    ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”.
    พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”.
    พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้.
    พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ?
    +--ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว
    ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว)
    ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า,
    ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหาร อันอริยสาวกควรเห็น
    (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    นามรูป ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย;
    เมื่อ นามรูป เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”,
    ดังนี้แล.-

    (คำข้าว เรียกว่าอาหาร เพราะหล่อเลี้ยงร่างกาย;
    ผัสสะเรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดเวทนา ;
    มโนสัญเจตนา เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดกรรม;
    วิญญาณ เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดนามรูป.
    ถ้าบุคคลพิจารณาเห็นโทษแห่งอาหารแต่ละอย่างๆ
    ดังที่ตรัสไว้โดยอุปมาในข้อความหมายนั้นๆได้,
    จะดับทุกข์ได้ถึงขั้นเป็นพระอรหันต์
    http://etipitaka.com/read/pali/16/123/?keywords=สอุปายาสนฺติ
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/97-99/241 - 244.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/97/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๑๑๙-๑๒๑/๒๔๑ - ๒๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/119/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=750
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหารสี่ประการ สัทธรรมลำดับที่ : 750 ชื่อบทธรรม :- วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750 เนื้อความทั้งหมด :- --วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร --ภิกษุ ท. ! #กวฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร +--ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร. สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง. เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่ เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้. ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้; อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่” ดังนี้. ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น. สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย” ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง เพื่อความมัวเมาบ้าง เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือ เพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือหนอ ? ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ? “ใช่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; เรากล่าวว่า กวฬีการาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร) http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ; ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย. เมื่อ ราคะที่มีเบญจกามคุณ เป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว, สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี. --ภิกษุ ท. ! #ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=ผสฺสาหาโร +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม : ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ; ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน. +--ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า ผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย, เมื่อ เวทนาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! #มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=มโนสญฺเจตนาหาโร ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่. ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น. และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น. +--ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ” ดังนี้, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ; เมื่อ ตัณหาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! #วิญญาณาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/121/?keywords=วิญฺญาณาหาโร +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติชั่วช้าได้แล้ว แสดงแก่พระราชาว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“ พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า. ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง. ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ? +--ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว) ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, นามรูป ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย; เมื่อ นามรูป เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”, ดังนี้แล.- (คำข้าว เรียกว่าอาหาร เพราะหล่อเลี้ยงร่างกาย; ผัสสะเรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดเวทนา ; มโนสัญเจตนา เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดกรรม; วิญญาณ เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดนามรูป. ถ้าบุคคลพิจารณาเห็นโทษแห่งอาหารแต่ละอย่างๆ ดังที่ตรัสไว้โดยอุปมาในข้อความหมายนั้นๆได้, จะดับทุกข์ได้ถึงขั้นเป็นพระอรหันต์ http://etipitaka.com/read/pali/16/123/?keywords=สอุปายาสนฺติ ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/97-99/241 - 244. http://etipitaka.com/read/thai/16/97/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​ อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๑๑๙-๑๒๑/๒๔๑ - ๒๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/16/119/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​ ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=750 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    -วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร. สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง. เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่ เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้. ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้; อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่” ดังนี้. ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น. สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง เพื่อความมัวเมาบ้าง เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือเพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือ หนอ ? ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ? “ใช่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; เรากล่าวว่ากพฬีการาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ; ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย. เมื่อราคะที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว, สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี. ภิกษุ ท. ! ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม : ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ; ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน. ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่าผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย, เมื่อเวทนาทั้งสามเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่. ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น. และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น. ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ” ดังนี้, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ; เมื่อตัณหาทั้งสามเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! วิญญาณาหารเป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติหยาบช้าได้แล้ว แสดงแก่พระราชาว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“ พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า. ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง. ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ? ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว) ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, นามรูปย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย; เมื่อนามรูปเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”, ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง
    สัทธรรมลำดับที่ : 381
    ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี !
    ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร
    ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !”
    --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ
    ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย
    พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด.
    ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้,
    #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช
    ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล.
    --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99
    --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94

    --การดับทุกข์สิ้นเชิง
    --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ
    หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ;
    ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า
    ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่.
    พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ
    ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- )
    --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “
    อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​
    โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ
    แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ
    คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....
    และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....
    ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....
    จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....
    พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....
    รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า)
    ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้,
    ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302
    http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง สัทธรรมลำดับที่ : 381 ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 เนื้อความทั้งหมด :- --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99 --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99 http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94 --การดับทุกข์สิ้นเชิง --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “ อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​ โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​ --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ.... และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ.... ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ.... จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ.... พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ.... รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302 http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​ อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒. http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    -เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, ความตายจะไม่แลเห็นท่าน ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. - จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. การดับทุกข์สิ้นเชิง ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่ เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-) สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....๑ และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....๑ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ๑. ลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต ผู้ปรารถนาจะทราบโดยละเอียด พึงดูได้ที่หัวข้อว่า “ธรรมธาตุต่างๆ ที่เป็นผล ของสมถวิปัสสนาอันดับสุดท้าย” ที่หน้า ๔๙๕ แห่งหนังสือนี้. เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....๑ จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....๑ พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....๑ รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 749
    ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?”
    --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย,
    อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ;
    ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา

    --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า
    อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว,
    อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว,
    นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ

    --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
    จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท.
    พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย.
    นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 749 ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    -(คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ดูได้ในหัวข้อหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน). อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใด ด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความ ยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคืออริยวิโมกข์. อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • อริยบุคคลพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าการเห็นโลกธาตุก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    สัทธรรมลำดับที่ : 380
    ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=380
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --บุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก ก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด,
    พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลกธาตุ ฉันนั้นอยู่ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=มจฺจุราช+โลกํ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/26/23.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/26/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๓๘/๒๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=380
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยบุคคลพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าการเห็นโลกธาตุก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด สัทธรรมลำดับที่ : 380 ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=380 เนื้อความทั้งหมด :- --บุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก ก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด, พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลกธาตุ ฉันนั้นอยู่ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=มจฺจุราช+โลกํ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/26/23. http://etipitaka.com/read/thai/25/26/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๓๘/๒๓. http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=380 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ความมุ่งหมายของการประพฤติพรหมจรรย์ในสูตรนี้ ทรงแสดงว่า เพื่อละเสียซึ่งอนุสัยเจ็ด; ในสูตรอื่น (๒๓/๗-๘/๘-๙) ทรงแสดงว่าเพื่อตัดเสียซึ่งสังโยชน์เจ็ด ดูรายละเอียดที่หัวข้อว่า “สังโยชน์เจ็ด” ที่หน้า ๓๘๘ แห่งหนังสือนี้. )
    -(ความมุ่งหมายของการประพฤติพรหมจรรย์ในสูตรนี้ ทรงแสดงว่า เพื่อละเสียซึ่งอนุสัยเจ็ด; ในสูตรอื่น (๒๓/๗-๘/๘-๙) ทรงแสดงว่าเพื่อตัดเสียซึ่งสังโยชน์เจ็ด ดูรายละเอียดที่หัวข้อว่า “สังโยชน์เจ็ด” ที่หน้า ๓๘๘ แห่งหนังสือนี้. ) เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด, พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลก ฉันนั้นอยู่ แล.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • “Villager: เครื่องมือเจาะระบบจากจีนที่ใช้ AI สั่งงานด้วยภาษาคน — ดาวน์โหลดทะลุหมื่นครั้งใน 2 เดือน สะเทือนวงการไซเบอร์”

    Villager คือเครื่องมือเจาะระบบ (pentest tool) ที่ถูกเผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ชื่อ “stupidfish001” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแข่งขัน CTF จากจีนชื่อ HSCSEC และบริษัท Cyberspike ที่จดทะเบียนในชื่อ Changchun Anshanyuan Technology Co., Ltd. แม้จะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือสำหรับทีม red team แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า Villager อาจกลายเป็น “Cobalt Strike ยุคใหม่” — เครื่องมือที่เริ่มจากการใช้งานอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์และรัฐชาติในที่สุด

    สิ่งที่ทำให้ Villager น่ากังวลคือความสามารถในการใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ เช่น “สแกนและเจาะระบบ example.com” แล้วระบบจะจัดการทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การสร้าง container Kali Linux ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือเจาะระบบที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมที่ตรวจพบ เช่น WordPress หรือ API ที่เปิดอยู่

    Villager ยังมีฟีเจอร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบ เช่น การสร้าง container ชั่วคราวที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง การสุ่มพอร์ต SSH และการวางแผนงานแบบไม่ทิ้งร่องรอย นอกจากนี้ยังมีการฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และการขโมย token Discord ซึ่งเคยปรากฏในเครื่องมือเก่าของ Cyberspike

    Villager ใช้โมเดล AI ชื่อ al-1s-20250421 และเชื่อมต่อกับ DeepSeek ผ่าน API ที่ออกแบบให้เหมือน OpenAI โดยมีการควบคุมผ่าน FastAPI และ GitLab ส่วนตัวของ Cyberspike ซึ่งทำให้สามารถรันคำสั่งใน workflow จริงได้ทันที ปัจจุบันมีการดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้ง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Villager เป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ
    เผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม CTF จากจีนและบริษัท Cyberspike
    ดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้งภายใน 2 เดือน — รองรับ Linux, macOS และ Windows
    ใช้ container Kali Linux, DeepSeek AI, LangChain และโมเดล al-1s-20250421

    ความสามารถและฟีเจอร์ของ Villager
    สั่งงานด้วยข้อความธรรมดา เช่น “เจาะระบบ example.com” แล้ว AI จัดการทุกขั้นตอน
    สร้าง container ที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง — ลดร่องรอยการโจมตี
    ใช้พอร์ต SSH แบบสุ่มและวางแผนงานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และ token theft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Cobalt Strike เคยเป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่ม ransomware และรัฐชาติ
    การเผยแพร่ผ่าน PyPI ทำให้ Villager เข้าถึงง่ายและดูน่าเชื่อถือ
    AI ลดความซับซ้อนของการโจมตี — ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรันคำสั่งระดับสูงได้
    การใช้ container และ API ทำให้ Villager รันใน workflow จริงได้ทันที

    https://hackread.com/china-ai-pentest-tool-villager-10k-downloads/
    🧠 “Villager: เครื่องมือเจาะระบบจากจีนที่ใช้ AI สั่งงานด้วยภาษาคน — ดาวน์โหลดทะลุหมื่นครั้งใน 2 เดือน สะเทือนวงการไซเบอร์” Villager คือเครื่องมือเจาะระบบ (pentest tool) ที่ถูกเผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ชื่อ “stupidfish001” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแข่งขัน CTF จากจีนชื่อ HSCSEC และบริษัท Cyberspike ที่จดทะเบียนในชื่อ Changchun Anshanyuan Technology Co., Ltd. แม้จะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือสำหรับทีม red team แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า Villager อาจกลายเป็น “Cobalt Strike ยุคใหม่” — เครื่องมือที่เริ่มจากการใช้งานอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์และรัฐชาติในที่สุด สิ่งที่ทำให้ Villager น่ากังวลคือความสามารถในการใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ เช่น “สแกนและเจาะระบบ example.com” แล้วระบบจะจัดการทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การสร้าง container Kali Linux ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือเจาะระบบที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมที่ตรวจพบ เช่น WordPress หรือ API ที่เปิดอยู่ Villager ยังมีฟีเจอร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบ เช่น การสร้าง container ชั่วคราวที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง การสุ่มพอร์ต SSH และการวางแผนงานแบบไม่ทิ้งร่องรอย นอกจากนี้ยังมีการฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และการขโมย token Discord ซึ่งเคยปรากฏในเครื่องมือเก่าของ Cyberspike Villager ใช้โมเดล AI ชื่อ al-1s-20250421 และเชื่อมต่อกับ DeepSeek ผ่าน API ที่ออกแบบให้เหมือน OpenAI โดยมีการควบคุมผ่าน FastAPI และ GitLab ส่วนตัวของ Cyberspike ซึ่งทำให้สามารถรันคำสั่งใน workflow จริงได้ทันที ปัจจุบันมีการดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้ง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Villager เป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ ➡️ เผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม CTF จากจีนและบริษัท Cyberspike ➡️ ดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้งภายใน 2 เดือน — รองรับ Linux, macOS และ Windows ➡️ ใช้ container Kali Linux, DeepSeek AI, LangChain และโมเดล al-1s-20250421 ✅ ความสามารถและฟีเจอร์ของ Villager ➡️ สั่งงานด้วยข้อความธรรมดา เช่น “เจาะระบบ example.com” แล้ว AI จัดการทุกขั้นตอน ➡️ สร้าง container ที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง — ลดร่องรอยการโจมตี ➡️ ใช้พอร์ต SSH แบบสุ่มและวางแผนงานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และ token theft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Cobalt Strike เคยเป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่ม ransomware และรัฐชาติ ➡️ การเผยแพร่ผ่าน PyPI ทำให้ Villager เข้าถึงง่ายและดูน่าเชื่อถือ ➡️ AI ลดความซับซ้อนของการโจมตี — ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรันคำสั่งระดับสูงได้ ➡️ การใช้ container และ API ทำให้ Villager รันใน workflow จริงได้ทันที https://hackread.com/china-ai-pentest-tool-villager-10k-downloads/
    HACKREAD.COM
    China-Linked AI Pentest Tool ‘Villager’ Raises Concern After 10K Downloads
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 748
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ
    (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย
    (สัปปายปฏิปทา)
    แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ
    )
    อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า

    “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา;
    ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา.
    สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น”
    ดังนี้.

    ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่.
    เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่,
    วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน

    --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น).
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ
    +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า !
    ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า !
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
    ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว
    ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ)
    ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑)
    แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.-

    *--๑​
    (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ
    (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน
    นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก
    (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน
    )

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 748 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.- *--๑​ (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน ) #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    -สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือภาวะไม่มีอุปาทาน. อานนท์ ! ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). “น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    สัทธรรมลำดับที่ : 379
    ชื่อบทธรรม :- ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    --ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ
    ๑.อนุสัยคือกามราคะ ๑
    ๒.อนุสัยคือปฏิฆะ ๑
    ๓.อนุสัยคือทิฏฐิ ๑
    ๔.อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑
    ๕.อนุสัยคือมานะ ๑
    ๖.อนุสัยคือภวราคะ ๑
    ๗.อนุสัยคืออวิชชา ๑.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง.
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง.
    เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ กามราคะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ปฏิฆะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ทิฏฐิ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ วิจิกิจฉา,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ มานะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ภวราคะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ อวิชชา,
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล
    อนุสัยคือกามราคะก็ดี,
    อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี,
    อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี,
    อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี,
    อนุสัยคือมานะก็ดี,
    อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และ
    อนุสัยคืออวิชชาก็ดี,
    เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า
    ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ;
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า
    “#ตัดตัณหาได้แล้วรื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์
    http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=ตณฺหํ+วิวตฺตยิ+สญฺโญชนํ
    เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว”
    ดังนี้ แล.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/8-9/11-12.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/8/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๘-๙/๑๑-๑๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=379
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด สัทธรรมลำดับที่ : 379 ชื่อบทธรรม :- ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379 เนื้อความทั้งหมด :- --ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด --ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ ๑.อนุสัยคือกามราคะ ๑ ๒.อนุสัยคือปฏิฆะ ๑ ๓.อนุสัยคือทิฏฐิ ๑ ๔.อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑ ๕.อนุสัยคือมานะ ๑ ๖.อนุสัยคือภวราคะ ๑ ๗.อนุสัยคืออวิชชา ๑. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ กามราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ปฏิฆะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ทิฏฐิ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ วิจิกิจฉา, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ มานะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ภวราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ อวิชชา, --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล. --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล อนุสัยคือกามราคะก็ดี, อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี, อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี, อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี, อนุสัยคือมานะก็ดี, อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และ อนุสัยคืออวิชชาก็ดี, เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ; --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “#ตัดตัณหาได้แล้วรื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์ http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=ตณฺหํ+วิวตฺตยิ+สญฺโญชนํ เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว” ดังนี้ แล.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/8-9/11-12. http://etipitaka.com/read/thai/23/8/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๘-๙/๑๑-๑๒. http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=379 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    -ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ อนุสัยคือกามราคะ ๑ อนุสัยคือปฏิฆะ ๑ อนุสัยคือทิฏฐิ ๑ อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑ อนุสัยคือมานะ ๑ อนุสัยคือภวราคะ ๑ อนุสัยคืออวิชชา ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง. ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือกามราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือปฏิฆะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือทิฏฐิ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือวิจิกิจฉา, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือมานะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือภวราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคืออวิชชา, ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล. ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล อนุสัยคือกามราคะก็ดี, อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี, อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี, อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี, อนุสัยคือมานะก็ดี, อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และอนุสัยคืออวิชชาก็ดี, เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ; ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “ตัดตัณหาได้แล้ว รื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว” ดังนี้ แล.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • “Pass: ผู้จัดการรหัสผ่านสาย Unix ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง — เมื่อความปลอดภัยอยู่ในมือคุณผ่าน GPG และ Git”

    ในยุคที่ผู้คนต้องจัดการรหัสผ่านมากมายจากบริการออนไลน์ต่าง ๆ “Pass” ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ Unix และ Linux เพราะมันยึดหลักปรัชญา Unix อย่างแท้จริง — เรียบง่าย ใช้ได้จริง และไม่พึ่งพาโครงสร้างซับซ้อน

    Pass คือ shell script ขนาดเล็กที่จัดเก็บรหัสผ่านไว้ในไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสด้วย GPG โดยแต่ละไฟล์จะตั้งชื่อตามเว็บไซต์หรือบริการที่ใช้รหัสนั้น เช่น Email/zx2c4.com หรือ Business/cheese-whiz-factory ซึ่งสามารถจัดหมวดหมู่เป็นโฟลเดอร์ได้ตามใจผู้ใช้

    ผู้ใช้สามารถเพิ่ม แก้ไข ลบ หรือสร้างรหัสผ่านใหม่ได้ด้วยคำสั่งเดียว เช่น pass insert, pass edit, pass generate และยังสามารถคัดลอกรหัสผ่านไปยัง clipboard ได้ชั่วคราวด้วย pass -c ซึ่งจะล้างข้อมูลออกจาก clipboard ภายใน 45 วินาทีเพื่อความปลอดภัย

    Pass ยังรองรับการติดตามการเปลี่ยนแปลงผ่าน Git โดยทุกการแก้ไขจะถูกบันทึกเป็น commit ทำให้สามารถย้อนดูประวัติได้ และยังสามารถ sync ข้ามเครื่องด้วย pass git push และ pass git pull

    ที่น่าสนใจคือ Pass ไม่ได้จำกัดแค่รหัสผ่านเท่านั้น — ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่น URL, คำถามลับ, PIN หรือ metadata ได้ในรูปแบบ multiline หรือแยกไฟล์ตามโฟลเดอร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดระเบียบข้อมูลได้ตามสไตล์ของตัวเอง

    นอกจากนี้ยังมี community ที่แข็งแกร่ง ซึ่งสร้าง extension และ GUI มากมาย เช่น pass-otp สำหรับรหัส OTP, qtpass สำหรับผู้ใช้ GUI, และ passff สำหรับใช้งานร่วมกับ Firefox รวมถึงเครื่องมือ import จาก password manager อื่น ๆ เช่น LastPass, KeePass และ 1Password

    จุดเด่นของ Pass
    ใช้ GPG เข้ารหัสรหัสผ่านแต่ละรายการในไฟล์แยก
    จัดเก็บใน ~/.password-store และสามารถจัดหมวดหมู่เป็นโฟลเดอร์
    ใช้คำสั่งง่าย ๆ เช่น insert, edit, generate, rm และ -c เพื่อจัดการรหัสผ่าน
    รองรับการติดตามผ่าน Git และ sync ข้ามเครื่องได้

    ความสามารถเพิ่มเติม
    รองรับ multiline สำหรับจัดเก็บข้อมูลมากกว่ารหัสผ่าน เช่น URL, PIN, คำถามลับ
    สามารถใช้ GPG key หลายตัวในระบบเดียวกัน — เหมาะกับการใช้งานเป็นทีม
    มี bash/zsh/fish completion เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
    รองรับ extension เช่น pass-otp, pass-update, pass-import และ GUI เช่น qtpass, passmenu

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Pass ถูกพัฒนาโดย Jason Donenfeld และเปิดให้ใช้งานภายใต้ GPLv2+
    มี community ที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    รองรับการติดตั้งผ่านแพ็กเกจของ Linux หลาย distro และ Homebrew บน macOS
    มีเครื่องมือ import จาก password manager อื่น ๆ เช่น LastPass, KeePass, 1Password

    https://www.passwordstore.org/
    🔐 “Pass: ผู้จัดการรหัสผ่านสาย Unix ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง — เมื่อความปลอดภัยอยู่ในมือคุณผ่าน GPG และ Git” ในยุคที่ผู้คนต้องจัดการรหัสผ่านมากมายจากบริการออนไลน์ต่าง ๆ “Pass” ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ Unix และ Linux เพราะมันยึดหลักปรัชญา Unix อย่างแท้จริง — เรียบง่าย ใช้ได้จริง และไม่พึ่งพาโครงสร้างซับซ้อน Pass คือ shell script ขนาดเล็กที่จัดเก็บรหัสผ่านไว้ในไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสด้วย GPG โดยแต่ละไฟล์จะตั้งชื่อตามเว็บไซต์หรือบริการที่ใช้รหัสนั้น เช่น Email/zx2c4.com หรือ Business/cheese-whiz-factory ซึ่งสามารถจัดหมวดหมู่เป็นโฟลเดอร์ได้ตามใจผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถเพิ่ม แก้ไข ลบ หรือสร้างรหัสผ่านใหม่ได้ด้วยคำสั่งเดียว เช่น pass insert, pass edit, pass generate และยังสามารถคัดลอกรหัสผ่านไปยัง clipboard ได้ชั่วคราวด้วย pass -c ซึ่งจะล้างข้อมูลออกจาก clipboard ภายใน 45 วินาทีเพื่อความปลอดภัย Pass ยังรองรับการติดตามการเปลี่ยนแปลงผ่าน Git โดยทุกการแก้ไขจะถูกบันทึกเป็น commit ทำให้สามารถย้อนดูประวัติได้ และยังสามารถ sync ข้ามเครื่องด้วย pass git push และ pass git pull ที่น่าสนใจคือ Pass ไม่ได้จำกัดแค่รหัสผ่านเท่านั้น — ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่น URL, คำถามลับ, PIN หรือ metadata ได้ในรูปแบบ multiline หรือแยกไฟล์ตามโฟลเดอร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดระเบียบข้อมูลได้ตามสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมี community ที่แข็งแกร่ง ซึ่งสร้าง extension และ GUI มากมาย เช่น pass-otp สำหรับรหัส OTP, qtpass สำหรับผู้ใช้ GUI, และ passff สำหรับใช้งานร่วมกับ Firefox รวมถึงเครื่องมือ import จาก password manager อื่น ๆ เช่น LastPass, KeePass และ 1Password ✅ จุดเด่นของ Pass ➡️ ใช้ GPG เข้ารหัสรหัสผ่านแต่ละรายการในไฟล์แยก ➡️ จัดเก็บใน ~/.password-store และสามารถจัดหมวดหมู่เป็นโฟลเดอร์ ➡️ ใช้คำสั่งง่าย ๆ เช่น insert, edit, generate, rm และ -c เพื่อจัดการรหัสผ่าน ➡️ รองรับการติดตามผ่าน Git และ sync ข้ามเครื่องได้ ✅ ความสามารถเพิ่มเติม ➡️ รองรับ multiline สำหรับจัดเก็บข้อมูลมากกว่ารหัสผ่าน เช่น URL, PIN, คำถามลับ ➡️ สามารถใช้ GPG key หลายตัวในระบบเดียวกัน — เหมาะกับการใช้งานเป็นทีม ➡️ มี bash/zsh/fish completion เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ➡️ รองรับ extension เช่น pass-otp, pass-update, pass-import และ GUI เช่น qtpass, passmenu ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Pass ถูกพัฒนาโดย Jason Donenfeld และเปิดให้ใช้งานภายใต้ GPLv2+ ➡️ มี community ที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ➡️ รองรับการติดตั้งผ่านแพ็กเกจของ Linux หลาย distro และ Homebrew บน macOS ➡️ มีเครื่องมือ import จาก password manager อื่น ๆ เช่น LastPass, KeePass, 1Password https://www.passwordstore.org/
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 747
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    อาเนญชสัญญา ก็ดี
    อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี
    สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต
    กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน

    +--เมื่ออริยสาวกนั้น
    ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น
    หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป
    ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 747 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88. http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘. http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸ªà¸±à¸¡à¸¡à¸²à¸—ิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    -[คำว่า อากิญจัญญายตนะ คำนี้ เป็นคำแปลกและกำกวม เคยใช้ให้มีความหมายเป็นนิพพาน มาแต่ก่อนพุทธศาสนา หรือนอกพุทธศาสนา เช่น ในสำนักของพาวรีพราหมณ์ (ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโสฬสปัญหา) นั้นเขาถือว่าเป็นนิพพาน จึงมาทูลขอให้พระองค์ทรงแสดงอากิญจัญญายตนะ ตามแบบของพระองค์ ในฐานะที่เป็นนิพพาน ดังนั้นในสูตรนี้ จึงมีบทพิจารณาทำนองเดียวกับนิพพาน เช่นคำว่า นั่นว่างจากอัตตาว่างจากอัตตนิยา หรือว่านั่นสงบนั่นประณีต ดังนี้เป็นต้น ผู้ศึกษาจะต้องมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง อย่าให้ปะปนกันเสีย จะมีความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง]. สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มี ส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    สัทธรรมลำดับที่ : 378
    ชื่อบทธรรม :- ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ;
    ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๑.ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๒.เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๓.เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๔.เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๕.เมื่อ #ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่ง #พระนิพพาน ได้
    http://etipitaka.com/read/pali/22/473/?keywords=นิพฺพานํ
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339
    http://etipitaka.com/read/pali/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=378
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน สัทธรรมลำดับที่ : 378 ชื่อบทธรรม :- ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378 เนื้อความทั้งหมด :- --ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๑.ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๒.เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๓.เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๔.เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๕.เมื่อ #ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่ง #พระนิพพาน ได้ http://etipitaka.com/read/pali/22/473/?keywords=นิพฺพานํ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339 http://etipitaka.com/read/pali/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=378 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ปฏิปักขนัย)
    -(ปฏิปักขนัย) ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 746
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=74
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    +ข้อที่หนึ่ง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    อาเนญชสัญญา ก็ดี
    สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด
    ธรรมนั้นสงบ ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ อากิญจัญญายตนะ” ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อากิญฺจญฺญายตน

    +ข้อที่สอง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม
    ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “อายตนะนี้ว่าง จากอัตตา ว่างจากอัตตนิยา”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา

    +ข้อที่สาม
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม
    ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ว่า
    “ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา, ความกังวลต่อสิ่งใด หรือในอะไรๆ ว่าเป็นตัวเราก็ไม่มี ;
    และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา, ความกังวลในสิ่งใดๆ ว่าเป็นของเราก็ไม่มี”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น
    หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/58 - 59/85 - 87.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๖ - ๗๗/๘๕ - ๘๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=746
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 746 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=74 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา +ข้อที่หนึ่ง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นสงบ ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ อากิญจัญญายตนะ” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง. http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อากิญฺจญฺญายตน +ข้อที่สอง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “อายตนะนี้ว่าง จากอัตตา ว่างจากอัตตนิยา” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา +ข้อที่สาม --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา, ความกังวลต่อสิ่งใด หรือในอะไรๆ ว่าเป็นตัวเราก็ไม่มี ; และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา, ความกังวลในสิ่งใดๆ ว่าเป็นของเราก็ไม่มี” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.- http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/58 - 59/85 - 87. http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๖ - ๗๗/๘๕ - ๘๗. http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=746 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การรู้อริยสัจทำให้มีตาครบสองตา
    -การรู้อริยสัจทำให้มีตาครบสองตา ภิกษุ ท. ! บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สามจำพวกอย่างไรเล่า ? สามจำพวกคือ คนตาบอด (อนฺโธ) คนมีตาข้างเดียว (เอกจกฺขุ) คนมีตาสองข้าง (ทฺวิจกฺขุ). ภิกษุ ท. ! คนตาบอด เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; และไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลอกุศล - ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาวนี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนตาบอด (ทั้งสองข้าง). ภิกษุ ท. ! คนมีตาข้างเดียว เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น ; แต่ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลอกุศล - ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาข้างเดียว. ภิกษุ ท. ! คนมีตาสองข้าง เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือ ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; และ มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรม ที่เป็นกุศลอกุศล- ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาสองข้าง. ... ภิกษุ ท. ! ภิกษุมีตาสมบูรณ์ (จกฺขุมา) เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อม รู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ ความทุกข์, นี้ เหตุให้เกิดทุกข์, นี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือ แห่งทุกข์” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้แล ภิกษุมีตาสมบูรณ์.
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์
    สัทธรรมลำดับที่ : 377
    ชื่อบทธรรม :- เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=377
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุใดหนอ
    ยังเป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ยังมีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ยังมีความพอใจในคณะ ยังยินดีในคณะ ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ;

    ภิกษุนั้น จักมาเป็นผู้อยู่เดี่ยวโดด
    อภิรมย์ในความสงบสงัด ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้.

    เมื่ออยู่เดี่ยวโดดไม่ได้และไม่อภิรมย์ในความสงัดอยู่​
    ยังจักสามารถถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้.

    เมื่อไม่อาจถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต แต่
    ยังจักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้.

    เมื่อไม่ทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์แล้ว
    จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ ดังนี้,
    ข้อนี้ เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้.

    เมื่อไม่ทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว
    จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้.

    เมื่อไม่ละสัญโญชน์ทั้งหลายแล้ว
    จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้,-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๑/๓๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/471/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=377
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=377
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์ สัทธรรมลำดับที่ : 377 ชื่อบทธรรม :- เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=377 เนื้อความทั้งหมด :- --เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุใดหนอ ยังเป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังมีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังมีความพอใจในคณะ ยังยินดีในคณะ ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ภิกษุนั้น จักมาเป็นผู้อยู่เดี่ยวโดด อภิรมย์ในความสงบสงัด ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่ออยู่เดี่ยวโดดไม่ได้และไม่อภิรมย์ในความสงัดอยู่​ ยังจักสามารถถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่อาจถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต แต่ ยังจักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ ดังนี้, ข้อนี้ เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ละสัญโญชน์ทั้งหลายแล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้,- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339. http://etipitaka.com/read/thai/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๑/๓๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/22/471/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=377 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=377 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์
    -เครื่องกีดขวางการละสัญโญชน์ ภิกษุ ท. ! ภิกษุใดหนอ ยังเป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังมีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ยังมีความพอใจในคณะ ยังยินดีในคณะ ยังตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ภิกษุนั้น จักมาเป็นผู้อยู่เดี่ยวโดด อภิรมย์ในความสงบสงัด ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่ออยู่เดี่ยวโดดไม่ได้และไม่อภิรมย์ในความสงัดอยู่ ยังจักสามารถถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่อาจถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิต แต่ยังจักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ ดังนี้, ข้อนี้ เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้วจักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้. เมื่อไม่ละสัญโญชน์ทั้งหลายแล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีไม่ได้เป็นไม่ได้,-
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Breeze ถึง Copilot: เมื่อ KDE Frameworks 6.18 เปลี่ยนปุ่มว่างเปล่าให้กลายเป็นปุ่มอัจฉริยะ

    ในเดือนกันยายน 2025 KDE Project ได้ปล่อย KDE Frameworks 6.18 ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือพื้นฐานที่ทำงานร่วมกับ KDE Plasma 6.4.5 และ KDE Gear 25.08.1 โดยมีฟีเจอร์เด่นคือการรองรับ “Copilot Key” บนแล็ปท็อปยุคใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นปุ่มที่ไม่มีฟังก์ชันใน Linux เลย

    ตอนนี้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ Copilot Key ใช้เรียกแอปหรือคำสั่งต่าง ๆ ได้ผ่านระบบ shortcut ของ KDE โดยสามารถใช้ร่วมกับปุ่มอื่นได้ เช่น Copilot + T เพื่อเปิด Terminal หรือ Copilot + B เพื่อเปิด Browser แม้จะยังไม่สามารถ rebind ให้เลียนแบบปุ่มอื่นได้ แต่ทีมพัฒนากำลังทำให้รองรับในอนาคต

    นอกจากนี้ KDE Frameworks 6.18 ยังปรับปรุงการโหลด toolbar ให้ลื่นไหลขึ้น, เพิ่มระบบ inhibit sleep/screen lock สำหรับ task ที่ลงทะเบียนกับ Plasma job tracker, และปรับปรุง dialog “New Folder” ให้รองรับ path ยาว ๆ แบบ word-wrap

    อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือการลบไอคอนแอป third-party ที่มีสีออกจากธีม Breeze เพื่อไม่ให้ไป override branding ของนักพัฒนาแอปอื่น และลดภาระในการดูแลไอคอนที่เปลี่ยนบ่อยตามเวอร์ชันของแอป

    ยังมีการแก้บั๊กหลายจุด เช่น widget sensor ที่ขนาดผิด, crash เมื่อ drag ไฟล์จาก Dolphin ไปยัง desktop, และปัญหา draggable list ที่ไม่สามารถ scroll ขึ้นได้ใน Kirigami-based apps

    การรองรับ Copilot Key บน KDE
    สามารถใช้ Copilot Key ตั้งค่าเรียกแอปหรือคำสั่งผ่าน shortcut
    ใช้งานร่วมกับปุ่มอื่นได้ เช่น Copilot + T
    ยังไม่สามารถ rebind ให้เลียนแบบปุ่มอื่นได้ แต่กำลังพัฒนาอยู่

    การปรับปรุง UI และระบบพื้นฐาน
    ปรับการโหลด toolbar ให้ลื่นขึ้น
    เพิ่มระบบ inhibit sleep/screen lock สำหรับ task ที่ลงทะเบียน
    ปรับ dialog “New Folder” ให้รองรับ path ยาวแบบ word-wrap

    การเปลี่ยนแปลงในธีม Breeze
    ลบไอคอน third-party ที่มีสีออกจากธีม Breeze
    เหตุผลคือไม่ต้องการ override branding และลดภาระการดูแล
    ผู้ใช้สามารถสร้างธีมใหม่และอัปโหลดไปยัง KDE Store ได้

    การแก้ไขบั๊กสำคัญ
    แก้ widget sensor ที่ขนาดผิดบน panel แบบ fit-content
    แก้ crash เมื่อ drag ไฟล์จาก Dolphin ไปยัง desktop หรือกลับกัน
    แก้ draggable list ที่ไม่สามารถ scroll ขึ้นได้ใน Kirigami-based apps

    https://9to5linux.com/kde-frameworks-6-18-lets-you-use-your-laptops-copilot-key-for-launching-apps
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Breeze ถึง Copilot: เมื่อ KDE Frameworks 6.18 เปลี่ยนปุ่มว่างเปล่าให้กลายเป็นปุ่มอัจฉริยะ ในเดือนกันยายน 2025 KDE Project ได้ปล่อย KDE Frameworks 6.18 ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือพื้นฐานที่ทำงานร่วมกับ KDE Plasma 6.4.5 และ KDE Gear 25.08.1 โดยมีฟีเจอร์เด่นคือการรองรับ “Copilot Key” บนแล็ปท็อปยุคใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นปุ่มที่ไม่มีฟังก์ชันใน Linux เลย ตอนนี้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ Copilot Key ใช้เรียกแอปหรือคำสั่งต่าง ๆ ได้ผ่านระบบ shortcut ของ KDE โดยสามารถใช้ร่วมกับปุ่มอื่นได้ เช่น Copilot + T เพื่อเปิด Terminal หรือ Copilot + B เพื่อเปิด Browser แม้จะยังไม่สามารถ rebind ให้เลียนแบบปุ่มอื่นได้ แต่ทีมพัฒนากำลังทำให้รองรับในอนาคต นอกจากนี้ KDE Frameworks 6.18 ยังปรับปรุงการโหลด toolbar ให้ลื่นไหลขึ้น, เพิ่มระบบ inhibit sleep/screen lock สำหรับ task ที่ลงทะเบียนกับ Plasma job tracker, และปรับปรุง dialog “New Folder” ให้รองรับ path ยาว ๆ แบบ word-wrap อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือการลบไอคอนแอป third-party ที่มีสีออกจากธีม Breeze เพื่อไม่ให้ไป override branding ของนักพัฒนาแอปอื่น และลดภาระในการดูแลไอคอนที่เปลี่ยนบ่อยตามเวอร์ชันของแอป ยังมีการแก้บั๊กหลายจุด เช่น widget sensor ที่ขนาดผิด, crash เมื่อ drag ไฟล์จาก Dolphin ไปยัง desktop, และปัญหา draggable list ที่ไม่สามารถ scroll ขึ้นได้ใน Kirigami-based apps ✅ การรองรับ Copilot Key บน KDE ➡️ สามารถใช้ Copilot Key ตั้งค่าเรียกแอปหรือคำสั่งผ่าน shortcut ➡️ ใช้งานร่วมกับปุ่มอื่นได้ เช่น Copilot + T ➡️ ยังไม่สามารถ rebind ให้เลียนแบบปุ่มอื่นได้ แต่กำลังพัฒนาอยู่ ✅ การปรับปรุง UI และระบบพื้นฐาน ➡️ ปรับการโหลด toolbar ให้ลื่นขึ้น ➡️ เพิ่มระบบ inhibit sleep/screen lock สำหรับ task ที่ลงทะเบียน ➡️ ปรับ dialog “New Folder” ให้รองรับ path ยาวแบบ word-wrap ✅ การเปลี่ยนแปลงในธีม Breeze ➡️ ลบไอคอน third-party ที่มีสีออกจากธีม Breeze ➡️ เหตุผลคือไม่ต้องการ override branding และลดภาระการดูแล ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้างธีมใหม่และอัปโหลดไปยัง KDE Store ได้ ✅ การแก้ไขบั๊กสำคัญ ➡️ แก้ widget sensor ที่ขนาดผิดบน panel แบบ fit-content ➡️ แก้ crash เมื่อ drag ไฟล์จาก Dolphin ไปยัง desktop หรือกลับกัน ➡️ แก้ draggable list ที่ไม่สามารถ scroll ขึ้นได้ใน Kirigami-based apps https://9to5linux.com/kde-frameworks-6-18-lets-you-use-your-laptops-copilot-key-for-launching-apps
    9TO5LINUX.COM
    KDE Frameworks 6.18 Lets You Use Your Laptop's Copilot Key for Launching Apps - 9to5Linux
    KDE Frameworks 6.18 open-source software suite is out now with various improvements and bug fixes for KDE apps and the Plasma desktop.
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 745
    ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว.
    ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ;
    หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้.
    +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน.
    ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน.
    ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง
    ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน
    แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.

    --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน.
    อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด
    (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน.
    เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน.
    วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง
    ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป
    ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่
    ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ;
    หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้
    ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด
    มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน.
    อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.-

    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -
    -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90

    --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    ๑. ข้อที่หนึ่ง
    --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น
    อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น)
    ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร.
    ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้
    เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ;
    บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้.
    ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ;
    เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่,
    บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง
    เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้
    จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้
    เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑
    เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น
    ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้.
    +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง.
    -----
    *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่
    คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ;
    โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว,
    แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม
    ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่.

    ๒.ข้อที่สอง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ
    อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป
    คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    ๓.ข้อที่สาม
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง
    สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา

    #สัมมาทิฏฐิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน....
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 745 ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 เนื้อความทั้งหมด :- --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน.- อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90 --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ๑. ข้อที่หนึ่ง --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง. ----- *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ; โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. ๒.ข้อที่สอง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา ๓.ข้อที่สาม --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.- http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา #สัมมาทิฏฐิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84. http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔. http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    -ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. ราหุล ! นี้ เรียกว่า ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า เตโชธาตุอันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่ง ปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าวาโยธาตุอันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าอากาสธาตุอันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน. ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึง ๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. เพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา. ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่หนึ่ง. ข้อที่สอง ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สอง. ข้อที่สาม ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้ง สองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สาม.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 376
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ;
    เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก
    อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ.

    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น
    ๑.การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑
    ๒.การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑
    ๓.การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และ
    ๔.การไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด
    อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่
    อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ;
    เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=โยคกฺเขมี
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ #ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง
    แล.

    (คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
    --สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ
    และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ.
    ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง,
    ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ,และพรากออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา,
    สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง,
    เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ;
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/10/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=376
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากอวิชชาโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 376 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากอวิชชาโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376 เนื้อความทั้งหมด :- --ความปลอดจากอวิชชาโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ; เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น ๑.การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑ ๒.การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑ ๓.การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และ ๔.การไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่ อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ; เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้. http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=โยคกฺเขมี --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ #ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง แล. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) --สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ. ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง, ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ,และพรากออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา, สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง, เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ; ดังนี้แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/10/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=376 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    -ความปลอดจากอวิชชาโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่ง รสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ; เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑ การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑ การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และการไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่ อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ; เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง แล. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ. ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง, ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ, และพราก ออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา, สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง, เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ; ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • “Oboe เปิดตัวแพลตฟอร์มเรียนรู้ด้วย AI — สร้างคอร์สได้ทันทีจากแค่คำถามเดียว”

    Oboe คือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย AI ที่เพิ่งเปิดตัวโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Anchor ซึ่งเคยขายกิจการให้ Spotify ไปก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้สนุก ยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากแค่การพิมพ์คำถามหรือหัวข้อที่สนใจ เช่น “ประวัติของข้าว” หรือ “วิธีออกเสียง pain au chocolat” แล้วระบบจะสร้างบทเรียนที่ประกอบด้วยบทความ เสียงพอดแคสต์ เกม และแบบทดสอบให้ทันที

    Oboe ใช้สถาปัตยกรรม AI แบบ multi-agent ที่ซับซ้อน โดยแต่ละ agent ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น สร้างโครงสร้างบทเรียน เขียนสคริปต์พอดแคสต์ ดึงภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มเรียนรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ

    แพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความเชิงลึก พอดแคสต์แบบสนทนา เกม Word Quest ที่คล้าย Wordle และแบบทดสอบที่ออกแบบให้เบาสมองและเหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน โดยไม่มีโฆษณาแทรก และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามหัวข้อที่เรียนจบ

    Oboe เปิดให้สร้างคอร์สฟรีได้ 5 ครั้ง และมีแผนสมาชิกแบบเสียเงินสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอร์สเพิ่มถึง 30 หรือ 100 คอร์สต่อเดือน เหมาะกับทั้งผู้เรียนทั่วไปและผู้จัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล

    จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Oboe
    สร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากคำถามหรือหัวข้อใดก็ได้
    ใช้ AI แบบ multi-agent ที่ทำงานแบบขนานเพื่อสร้างเนื้อหาอย่างรวดเร็ว
    มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความ เสียง เกม และแบบทดสอบ
    ไม่มีโฆษณา และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามความสนใจ

    ความสามารถของระบบ AI
    agent แต่ละตัวรับผิดชอบด้านต่าง ๆ เช่น เขียนสคริปต์ ดึงภาพจริง ตรวจสอบเนื้อหา
    ใช้ภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพที่สร้างจาก AI
    ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
    สร้างคอร์สได้ภายในไม่กี่วินาที — เหมาะกับการเรียนรู้แบบทันใจ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ผู้ก่อตั้งเคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Spotify audiobooks
    Oboe ได้รับเงินลงทุนกว่า $4 ล้านจาก Eniac Ventures
    มีระบบพอดแคสต์แบบสนทนา 2 คน คล้าย Google NotebookLM
    เหมาะกับผู้เรียนทั่วไป นักเรียน นักวิจัย หรือผู้จัดการเรียนการสอน

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/oboe-just-launched-its-an-ai-powered-platform-that-helps-you-learn-anything
    🎓 “Oboe เปิดตัวแพลตฟอร์มเรียนรู้ด้วย AI — สร้างคอร์สได้ทันทีจากแค่คำถามเดียว” Oboe คือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย AI ที่เพิ่งเปิดตัวโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Anchor ซึ่งเคยขายกิจการให้ Spotify ไปก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้สนุก ยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากแค่การพิมพ์คำถามหรือหัวข้อที่สนใจ เช่น “ประวัติของข้าว” หรือ “วิธีออกเสียง pain au chocolat” แล้วระบบจะสร้างบทเรียนที่ประกอบด้วยบทความ เสียงพอดแคสต์ เกม และแบบทดสอบให้ทันที Oboe ใช้สถาปัตยกรรม AI แบบ multi-agent ที่ซับซ้อน โดยแต่ละ agent ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น สร้างโครงสร้างบทเรียน เขียนสคริปต์พอดแคสต์ ดึงภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มเรียนรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ แพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความเชิงลึก พอดแคสต์แบบสนทนา เกม Word Quest ที่คล้าย Wordle และแบบทดสอบที่ออกแบบให้เบาสมองและเหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน โดยไม่มีโฆษณาแทรก และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามหัวข้อที่เรียนจบ Oboe เปิดให้สร้างคอร์สฟรีได้ 5 ครั้ง และมีแผนสมาชิกแบบเสียเงินสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอร์สเพิ่มถึง 30 หรือ 100 คอร์สต่อเดือน เหมาะกับทั้งผู้เรียนทั่วไปและผู้จัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล ✅ จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Oboe ➡️ สร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากคำถามหรือหัวข้อใดก็ได้ ➡️ ใช้ AI แบบ multi-agent ที่ทำงานแบบขนานเพื่อสร้างเนื้อหาอย่างรวดเร็ว ➡️ มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความ เสียง เกม และแบบทดสอบ ➡️ ไม่มีโฆษณา และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามความสนใจ ✅ ความสามารถของระบบ AI ➡️ agent แต่ละตัวรับผิดชอบด้านต่าง ๆ เช่น เขียนสคริปต์ ดึงภาพจริง ตรวจสอบเนื้อหา ➡️ ใช้ภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพที่สร้างจาก AI ➡️ ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ➡️ สร้างคอร์สได้ภายในไม่กี่วินาที — เหมาะกับการเรียนรู้แบบทันใจ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ผู้ก่อตั้งเคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Spotify audiobooks ➡️ Oboe ได้รับเงินลงทุนกว่า $4 ล้านจาก Eniac Ventures ➡️ มีระบบพอดแคสต์แบบสนทนา 2 คน คล้าย Google NotebookLM ➡️ เหมาะกับผู้เรียนทั่วไป นักเรียน นักวิจัย หรือผู้จัดการเรียนการสอน https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/oboe-just-launched-its-an-ai-powered-platform-that-helps-you-learn-anything
    WWW.TECHRADAR.COM
    Oboe's AI makes everyday curiosity into interactive lessons.
    Choose how you learn using everything from games to podcasts
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • “มัลแวร์ยุคใหม่ไม่ต้องคลิก — เมื่อ AI ถูกหลอกด้วยคำสั่งซ่อนในไฟล์ Word และแมโคร”

    ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างเงียบ ๆ และน่ากลัวกว่าที่เคย เมื่อผู้โจมตีเริ่มใช้เทคนิค “AI Prompt Injection” ผ่านไฟล์เอกสารทั่วไป เช่น Word, PDF หรือแม้แต่เรซูเม่ โดยฝังคำสั่งลับไว้ในแมโครหรือ metadata เพื่อหลอกให้ระบบ AI ที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หรือช่วยงานอัตโนมัติทำตามคำสั่งของผู้โจมตีโดยไม่รู้ตัว

    รายงานล่าสุดจาก CSO Online เปิดเผยว่าเทคนิคนี้ถูกใช้จริงแล้วในหลายกรณี เช่น ช่องโหว่ EchoLeak (CVE-2025-32711) ที่พบใน Microsoft 365 Copilot ซึ่งสามารถฝังคำสั่งในอีเมลหรือไฟล์ Word ให้ Copilot ประมวลผลและรันคำสั่งโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์เลยด้วยซ้ำ — นี่คือ “zero-click prompt injection” ที่แท้จริง

    อีกกรณีคือ CurXecute (CVE-2025-54135) ซึ่งโจมตี Cursor IDE โดยใช้ prompt injection ผ่านไฟล์ config ที่ถูกเขียนใหม่แบบเงียบ ๆ เพื่อรันคำสั่งในเครื่องของนักพัฒนาโดยไม่รู้ตัว และ Skynet malware ที่ใช้เทคนิค “Jedi mind trick” เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า prompt injection ไม่ใช่แค่เรื่องของการหลอกให้ AI ตอบผิด — แต่มันคือการควบคุมพฤติกรรมของระบบ AI ทั้งชุด เช่น การสั่งให้เปิดช่องหลัง, ส่งข้อมูลลับ, หรือแม้แต่รันโค้ดอันตราย โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้เลยว่ามีคำสั่งซ่อนอยู่ในไฟล์

    รูปแบบการโจมตีแบบใหม่ด้วย AI Prompt Injection
    ฝังคำสั่งในแมโคร, VBA script หรือ metadata ของไฟล์ เช่น DOCX, PDF, EXIF
    เมื่อ AI parser อ่านไฟล์ จะรันคำสั่งโดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์
    ใช้เทคนิค ASCII smuggling, ฟอนต์ขนาดเล็ก, สีพื้นหลังกลืนกับข้อความ
    ตัวอย่างเช่น EchoLeak ใน Microsoft 365 Copilot และ CurXecute ใน Cursor IDE

    ผลกระทบต่อระบบ AI และองค์กร
    AI ถูกหลอกให้ส่งข้อมูลลับ, เปิดช่องทางเข้าระบบ หรือรันโค้ดอันตราย
    Skynet malware ใช้ prompt injection เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์
    ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งในเรซูเม่เพื่อให้ AI job portal ดันขึ้นอันดับต้น
    การโจมตีแบบนี้ไม่ต้องใช้ payload แบบเดิม — ใช้คำสั่งแทน

    แนวทางป้องกันที่แนะนำ
    ตรวจสอบไฟล์จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือด้วย sandbox และ static analysis
    ใช้ Content Disarm & Reconstruction (CDR) เพื่อลบเนื้อหาที่ฝังคำสั่ง
    แยกการรันแมโครออกจากระบบหลัก เช่น ใช้ protected view หรือ sandbox
    สร้างระบบ AI ที่มี guardrails และการตรวจสอบ input/output อย่างเข้มงวด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Prompt injection เคยเป็นแค่การทดลอง แต่ตอนนี้เริ่มถูกใช้จริงในมัลแวร์
    ช่องโหว่แบบ zero-click ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกโจมตี
    AI agent ที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น Slack, GitHub, database ยิ่งเสี่ย
    นักวิจัยแนะนำให้องค์กรปฏิบัติต่อ AI pipeline เหมือน CI/CD pipeline — ต้องมี Zero Trust

    https://www.csoonline.com/article/4053107/ai-prompt-injection-gets-real-with-macros-the-latest-hidden-threat.html
    🧠 “มัลแวร์ยุคใหม่ไม่ต้องคลิก — เมื่อ AI ถูกหลอกด้วยคำสั่งซ่อนในไฟล์ Word และแมโคร” ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างเงียบ ๆ และน่ากลัวกว่าที่เคย เมื่อผู้โจมตีเริ่มใช้เทคนิค “AI Prompt Injection” ผ่านไฟล์เอกสารทั่วไป เช่น Word, PDF หรือแม้แต่เรซูเม่ โดยฝังคำสั่งลับไว้ในแมโครหรือ metadata เพื่อหลอกให้ระบบ AI ที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หรือช่วยงานอัตโนมัติทำตามคำสั่งของผู้โจมตีโดยไม่รู้ตัว รายงานล่าสุดจาก CSO Online เปิดเผยว่าเทคนิคนี้ถูกใช้จริงแล้วในหลายกรณี เช่น ช่องโหว่ EchoLeak (CVE-2025-32711) ที่พบใน Microsoft 365 Copilot ซึ่งสามารถฝังคำสั่งในอีเมลหรือไฟล์ Word ให้ Copilot ประมวลผลและรันคำสั่งโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์เลยด้วยซ้ำ — นี่คือ “zero-click prompt injection” ที่แท้จริง อีกกรณีคือ CurXecute (CVE-2025-54135) ซึ่งโจมตี Cursor IDE โดยใช้ prompt injection ผ่านไฟล์ config ที่ถูกเขียนใหม่แบบเงียบ ๆ เพื่อรันคำสั่งในเครื่องของนักพัฒนาโดยไม่รู้ตัว และ Skynet malware ที่ใช้เทคนิค “Jedi mind trick” เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า prompt injection ไม่ใช่แค่เรื่องของการหลอกให้ AI ตอบผิด — แต่มันคือการควบคุมพฤติกรรมของระบบ AI ทั้งชุด เช่น การสั่งให้เปิดช่องหลัง, ส่งข้อมูลลับ, หรือแม้แต่รันโค้ดอันตราย โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้เลยว่ามีคำสั่งซ่อนอยู่ในไฟล์ ✅ รูปแบบการโจมตีแบบใหม่ด้วย AI Prompt Injection ➡️ ฝังคำสั่งในแมโคร, VBA script หรือ metadata ของไฟล์ เช่น DOCX, PDF, EXIF ➡️ เมื่อ AI parser อ่านไฟล์ จะรันคำสั่งโดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์ ➡️ ใช้เทคนิค ASCII smuggling, ฟอนต์ขนาดเล็ก, สีพื้นหลังกลืนกับข้อความ ➡️ ตัวอย่างเช่น EchoLeak ใน Microsoft 365 Copilot และ CurXecute ใน Cursor IDE ✅ ผลกระทบต่อระบบ AI และองค์กร ➡️ AI ถูกหลอกให้ส่งข้อมูลลับ, เปิดช่องทางเข้าระบบ หรือรันโค้ดอันตราย ➡️ Skynet malware ใช้ prompt injection เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์ ➡️ ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งในเรซูเม่เพื่อให้ AI job portal ดันขึ้นอันดับต้น ➡️ การโจมตีแบบนี้ไม่ต้องใช้ payload แบบเดิม — ใช้คำสั่งแทน ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ ➡️ ตรวจสอบไฟล์จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือด้วย sandbox และ static analysis ➡️ ใช้ Content Disarm & Reconstruction (CDR) เพื่อลบเนื้อหาที่ฝังคำสั่ง ➡️ แยกการรันแมโครออกจากระบบหลัก เช่น ใช้ protected view หรือ sandbox ➡️ สร้างระบบ AI ที่มี guardrails และการตรวจสอบ input/output อย่างเข้มงวด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Prompt injection เคยเป็นแค่การทดลอง แต่ตอนนี้เริ่มถูกใช้จริงในมัลแวร์ ➡️ ช่องโหว่แบบ zero-click ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกโจมตี ➡️ AI agent ที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น Slack, GitHub, database ยิ่งเสี่ย ➡️ นักวิจัยแนะนำให้องค์กรปฏิบัติต่อ AI pipeline เหมือน CI/CD pipeline — ต้องมี Zero Trust https://www.csoonline.com/article/4053107/ai-prompt-injection-gets-real-with-macros-the-latest-hidden-threat.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI prompt injection gets real — with macros the latest hidden threat
    Attackers are evolving their malware delivery tactics by weaponing malicious prompts embedded in document macros to hack AI systems.
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • “ChillyHell กลับมาหลอน macOS อีกครั้ง — มัลแวร์ผ่านการรับรองจาก Apple แอบใช้ Google.com บังหน้า”

    มัลแวร์ macOS ที่เคยเงียบหายไปอย่าง ChillyHell กลับมาอีกครั้งในปี 2025 พร้อมความสามารถที่ซับซ้อนและแนบเนียนกว่าเดิม โดยนักวิจัยจาก Jamf Threat Labs พบตัวอย่างใหม่ที่ถูกอัปโหลดขึ้น VirusTotal เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งน่าตกใจคือมันมีคะแนนตรวจจับเป็น “ศูนย์” และยังผ่านกระบวนการ notarization ของ Apple อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถรันบน macOS ได้โดยไม่ถูกเตือนจาก Gatekeeper

    ChillyHell เป็นมัลแวร์แบบ backdoor ที่มีโครงสร้างแบบ modular เขียนด้วย C++ สำหรับเครื่อง Intel-based Mac โดยสามารถติดตั้งตัวเองแบบถาวรผ่าน 3 วิธี ได้แก่ LaunchAgent, LaunchDaemon และ shell profile injection เช่น .zshrc หรือ .bash_profile เพื่อให้เริ่มทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่องหรือเปิดเทอร์มินัลใหม่

    เมื่อทำงานแล้ว มัลแวร์จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน DNS หรือ HTTP โดยใช้ IP ที่ถูก hardcoded ไว้ และสามารถรับคำสั่งจากผู้โจมตี เช่น เปิด reverse shell, ดาวน์โหลด payload ใหม่, อัปเดตตัวเอง หรือแม้แต่ใช้ brute-force เพื่อเจาะรหัสผ่านของผู้ใช้ โดยมีโมดูลเฉพาะสำหรับการโจมตี Kerberos authentication

    เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ChillyHell ใช้เทคนิค timestomping เพื่อเปลี่ยนวันที่ของไฟล์ให้ดูเก่า และเปิดหน้า Google.com ในเบราว์เซอร์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ใช้ ทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

    แม้ Apple จะรีบเพิกถอนใบรับรองนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องทันทีหลังได้รับรายงานจาก Jamf แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงช่องโหว่สำคัญในระบบความปลอดภัยของ macOS ที่ไม่สามารถป้องกันมัลแวร์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการได้

    รายละเอียดของมัลแวร์ ChillyHell
    เป็น backdoor แบบ modular เขียนด้วย C++ สำหรับ Intel-based Macs
    ผ่านการ notarization ของ Apple ตั้งแต่ปี 2021 โดยไม่มีการตรวจพบ
    ถูกอัปโหลดขึ้น VirusTotal ในปี 2025 โดยมีคะแนนตรวจจับเป็นศูนย์
    ถูกพบว่าเคยถูกโฮสต์บน Dropbox แบบสาธารณะตั้งแต่ปี 2021

    วิธีการติดตั้งและการทำงาน
    ติดตั้งตัวเองแบบถาวรผ่าน LaunchAgent, LaunchDaemon และ shell profile injection
    เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน DNS และ HTTP ด้วย IP ที่ถูก hardcoded
    ใช้โมดูลต่าง ๆ เช่น reverse shell, payload loader, updater และ brute-force password cracker
    ใช้เทคนิค timestomping เพื่อเปลี่ยนวันที่ไฟล์ให้ดูเก่าและหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    กลยุทธ์ในการหลบซ่อน
    เปิดหน้า Google.com ในเบราว์เซอร์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ใช้
    ปรับพฤติกรรมการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ใช้ shell command เช่น touch -c -a -t เพื่อเปลี่ยน timestamp หากไม่มีสิทธิ์ระบบ
    ทำงานแบบเงียบ ๆ โดยไม่มีการแจ้งเตือนหรือพฤติกรรมผิดปกติที่ชัดเจน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ChillyHell เคยถูกเชื่อมโยงกับกลุ่ม UNC4487 ที่โจมตีเว็บไซต์ในยูเครน
    มัลแวร์นี้มีความสามารถคล้าย RAT (Remote Access Trojan) แต่ซับซ้อนกว่า
    Modular backdoor ที่มี brute-force capability ถือว่าแปลกใหม่ใน macOS
    Jamf และ Apple ร่วมมือกันเพิกถอนใบรับรองนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องทันที

    https://hackread.com/chillyhell-macos-malware-resurfaces-google-com-decoy/
    🧨 “ChillyHell กลับมาหลอน macOS อีกครั้ง — มัลแวร์ผ่านการรับรองจาก Apple แอบใช้ Google.com บังหน้า” มัลแวร์ macOS ที่เคยเงียบหายไปอย่าง ChillyHell กลับมาอีกครั้งในปี 2025 พร้อมความสามารถที่ซับซ้อนและแนบเนียนกว่าเดิม โดยนักวิจัยจาก Jamf Threat Labs พบตัวอย่างใหม่ที่ถูกอัปโหลดขึ้น VirusTotal เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งน่าตกใจคือมันมีคะแนนตรวจจับเป็น “ศูนย์” และยังผ่านกระบวนการ notarization ของ Apple อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถรันบน macOS ได้โดยไม่ถูกเตือนจาก Gatekeeper ChillyHell เป็นมัลแวร์แบบ backdoor ที่มีโครงสร้างแบบ modular เขียนด้วย C++ สำหรับเครื่อง Intel-based Mac โดยสามารถติดตั้งตัวเองแบบถาวรผ่าน 3 วิธี ได้แก่ LaunchAgent, LaunchDaemon และ shell profile injection เช่น .zshrc หรือ .bash_profile เพื่อให้เริ่มทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่องหรือเปิดเทอร์มินัลใหม่ เมื่อทำงานแล้ว มัลแวร์จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน DNS หรือ HTTP โดยใช้ IP ที่ถูก hardcoded ไว้ และสามารถรับคำสั่งจากผู้โจมตี เช่น เปิด reverse shell, ดาวน์โหลด payload ใหม่, อัปเดตตัวเอง หรือแม้แต่ใช้ brute-force เพื่อเจาะรหัสผ่านของผู้ใช้ โดยมีโมดูลเฉพาะสำหรับการโจมตี Kerberos authentication เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ChillyHell ใช้เทคนิค timestomping เพื่อเปลี่ยนวันที่ของไฟล์ให้ดูเก่า และเปิดหน้า Google.com ในเบราว์เซอร์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ใช้ ทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น แม้ Apple จะรีบเพิกถอนใบรับรองนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องทันทีหลังได้รับรายงานจาก Jamf แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงช่องโหว่สำคัญในระบบความปลอดภัยของ macOS ที่ไม่สามารถป้องกันมัลแวร์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการได้ ✅ รายละเอียดของมัลแวร์ ChillyHell ➡️ เป็น backdoor แบบ modular เขียนด้วย C++ สำหรับ Intel-based Macs ➡️ ผ่านการ notarization ของ Apple ตั้งแต่ปี 2021 โดยไม่มีการตรวจพบ ➡️ ถูกอัปโหลดขึ้น VirusTotal ในปี 2025 โดยมีคะแนนตรวจจับเป็นศูนย์ ➡️ ถูกพบว่าเคยถูกโฮสต์บน Dropbox แบบสาธารณะตั้งแต่ปี 2021 ✅ วิธีการติดตั้งและการทำงาน ➡️ ติดตั้งตัวเองแบบถาวรผ่าน LaunchAgent, LaunchDaemon และ shell profile injection ➡️ เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน DNS และ HTTP ด้วย IP ที่ถูก hardcoded ➡️ ใช้โมดูลต่าง ๆ เช่น reverse shell, payload loader, updater และ brute-force password cracker ➡️ ใช้เทคนิค timestomping เพื่อเปลี่ยนวันที่ไฟล์ให้ดูเก่าและหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ✅ กลยุทธ์ในการหลบซ่อน ➡️ เปิดหน้า Google.com ในเบราว์เซอร์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ใช้ ➡️ ปรับพฤติกรรมการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ใช้ shell command เช่น touch -c -a -t เพื่อเปลี่ยน timestamp หากไม่มีสิทธิ์ระบบ ➡️ ทำงานแบบเงียบ ๆ โดยไม่มีการแจ้งเตือนหรือพฤติกรรมผิดปกติที่ชัดเจน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ChillyHell เคยถูกเชื่อมโยงกับกลุ่ม UNC4487 ที่โจมตีเว็บไซต์ในยูเครน ➡️ มัลแวร์นี้มีความสามารถคล้าย RAT (Remote Access Trojan) แต่ซับซ้อนกว่า ➡️ Modular backdoor ที่มี brute-force capability ถือว่าแปลกใหม่ใน macOS ➡️ Jamf และ Apple ร่วมมือกันเพิกถอนใบรับรองนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องทันที https://hackread.com/chillyhell-macos-malware-resurfaces-google-com-decoy/
    HACKREAD.COM
    ChillyHell macOS Malware Resurfaces, Using Google.com as a Decoy
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรม เพื่อละธรรมสาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 744
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=744
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่าง อย่างไรเล่า ?
    สามอย่าง คือ
    กามธาตุ พ๎ยาปาทธาตุ วิหิงสาธาตุ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=พฺยาปาทธาตุ
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง.
    ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :-
    +--เจริญ เนกขัมมธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง กามธาตุ;
    +--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทธาตุ;
    +--เจริญ อวิหิงสาธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาธาตุ.
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้
    อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.-

    #สัมมาสังกัปปะ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/382.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๗/๓๘๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=744
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=744
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรม เพื่อละธรรมสาม สัทธรรมลำดับที่ : 744 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=744 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามธาตุ พ๎ยาปาทธาตุ วิหิงสาธาตุ. http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=พฺยาปาทธาตุ --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :- +--เจริญ เนกขัมมธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง กามธาตุ; +--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทธาตุ; +--เจริญ อวิหิงสาธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาธาตุ. --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.- #สัมมาสังกัปปะ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/382. http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๗/๓๘๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=744 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=744 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    -สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามธาตุ พ๎ยาปาทธาตุ วิหิงสาธาตุ. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ : เจริญ เนกขัมมธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง กามธาตุ; เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทวิตก; เจริญ อวิหิงสาธาตุ เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาธาตุ. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากทิฏฐิโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 375
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=375
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ;
    ซึ่งโทษแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากทิฏฐิทั้งหลายด้วย ;
    http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=กามโยโค+ภวโยโค+ทิฏฺฐิโยโค+อวิชฺชาโยโค
    เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    ความกำหนัดในทิฏฐิ
    ความเพลิดเพลินในทิฏฐิ
    ความเสน่หาในทิฏฐิ
    ความสยบอยู่ในทิฏฐิ
    ความหิวกระหายในทิฏฐิ
    ความเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ
    ความเมาหมกในทิฏฐิ
    และตัณหาทางทิฏฐิ,ในทิฏฐิทั้งหลาย
    เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/11/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=375
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=375
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากทิฏฐิโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 375 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=375 เนื้อความทั้งหมด :- --ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ; ซึ่งโทษแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากทิฏฐิทั้งหลายด้วย ; http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=กามโยโค+ภวโยโค+ทิฏฺฐิโยโค+อวิชฺชาโยโค เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในทิฏฐิ ความเพลิดเพลินในทิฏฐิ ความเสน่หาในทิฏฐิ ความสยบอยู่ในทิฏฐิ ความหิวกระหายในทิฏฐิ ความเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ ความเมาหมกในทิฏฐิ และตัณหาทางทิฏฐิ,ในทิฏฐิทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/11/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=375 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=375 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ
    -ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ; ซึ่งโทษแห่งทิฏฐิทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากทิฏฐิทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในทิฏฐิ ความเพลิดเพลินในทิฏฐิ ความเสน่หาในทิฏฐิ ความสยบอยู่ในทิฏฐิ ความหิวกระหายในทิฏฐิ ความเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ ความเมาหมกในทิฏฐิ และตัณหาทางทิฏฐิ, ในทิฏฐิทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ.
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 743
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=743
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    (อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่าง อย่างไรเล่า ?
    สามอย่าง คือ
    กามวิตก พ๎ยาปาทวิตก วิหิงสาวิตก.
    https://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=เนกฺขมฺมวิตกฺ
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญธรรม ๓ อย่าง.
    ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :-
    ๑.--เจริญ เนกขัมมวิตก เพื่อละเสียซึ่ง กามวิตก;
    ๒.--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทวิตก;
    ๓.--เจริญ อวิหิงสาวิตก เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาวิตก.
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้
    อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.-

    #สัมมาสังกับปะ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/380.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๖/๓๘๐.
    https://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=743
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=743
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน....
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม สัทธรรมลำดับที่ : 743 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=743 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามวิตก พ๎ยาปาทวิตก วิหิงสาวิตก. https://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=เนกฺขมฺมวิตกฺ --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :- ๑.--เจริญ เนกขัมมวิตก เพื่อละเสียซึ่ง กามวิตก; ๒.--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทวิตก; ๓.--เจริญ อวิหิงสาวิตก เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาวิตก. --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.- #สัมมาสังกับปะ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/380. http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๖/๓๘๐. https://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=743 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=743 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    -สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามวิตก พ๎ยาปาทวิตก วิหิงสาวิตก. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ : เจริญ เนกขัมมวิตก เพื่อละเสียซึ่ง กามวิตก; เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทวิตก; เจริญ อวิหิงสาวิตก เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาวิตก. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากภวโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 374
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากภวโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=374
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความปลอดจากภวโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากภวโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลายด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลายด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลายด้วย
    ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลายด้วย
    ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากภพทั้งหลายด้วย ;
    --เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    ความกำหนัดในภพ
    ความเพลิดเพลินในภพ
    ความเสน่หาในภพ ความสยบอยู่ในภพ
    ความหิวกระหายในภพ
    ความเร่าร้อนเพราะภพ
    ความเมาหมกในภพ
    และภวตัณหา, ในภพทั้งหลาย
    เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากภวโยคะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=ภวโยโค

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/14/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=374
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=374
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากภวโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 374 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากภวโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=374 เนื้อความทั้งหมด :- --ความปลอดจากภวโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากภวโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากภพทั้งหลายด้วย ; --เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ความเสน่หาในภพ ความสยบอยู่ในภพ ความหิวกระหายในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความเมาหมกในภพ และภวตัณหา, ในภพทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากภวโยคะ.- http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=ภวโยโค #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/14/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=374 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=374 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากภวโยคะ
    -ความปลอดจากภวโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากภวโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปจากภพทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ความเสน่หาในภพ ความสยบอยู่ในภพ ความหิวกระหายในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความเมาหมกในภพ และภวตัณหา, ในภพทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดจากภวโยคะ.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • “Claude สร้างไฟล์ได้แล้ว! จากแค่ตอบคำถาม สู่ผู้ช่วยที่จัดการเอกสาร Excel, PDF, PowerPoint ได้ครบวงจร — แต่ต้องระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัว”

    ถ้าคุณเคยใช้ Claude เพื่อถามคำถามหรือให้ช่วยเขียนข้อความ ตอนนี้คุณสามารถก้าวไปอีกขั้นได้แล้ว — เพราะ Claude ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้ “สร้างและแก้ไขไฟล์จริง” ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Excel, Word, PowerPoint หรือ PDF ผ่าน Claude.ai และแอปเดสก์ท็อป

    ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้แผน Max, Team และ Enterprise ส่วนผู้ใช้ Pro จะได้รับสิทธิ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดข้อมูลดิบหรืออธิบายสิ่งที่ต้องการ แล้ว Claude จะสร้างไฟล์ที่มีสูตรคำนวณ, แผนภูมิ, การวิเคราะห์ และเนื้อหาที่จัดรูปแบบเรียบร้อยให้ทันที

    ตัวอย่างเช่น คุณสามารถให้ Claude สร้างโมเดลการเงินที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์, เทมเพลตงบประมาณที่มีการคำนวณความคลาดเคลื่อน, หรือสไลด์นำเสนอจากรายงาน PDF ได้ในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือมีความรู้ด้านสถิติ

    เบื้องหลังคือ Claude ได้รับสิทธิ์เข้าถึง “สภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ส่วนตัว” ที่สามารถเขียนโค้ดและรันโปรแกรมเพื่อสร้างไฟล์ตามคำสั่งของผู้ใช้ — เปลี่ยน Claude จากผู้ให้คำปรึกษาเป็นผู้ร่วมทำงานที่ลงมือจริง

    อย่างไรก็ตาม Anthropic เตือนว่า ฟีเจอร์นี้ทำให้ Claude เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างและวิเคราะห์ไฟล์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ผู้ใช้ควรตรวจสอบการสนทนาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับข้อมูลที่อ่อนไหว

    ฟีเจอร์ใหม่ของ Claude
    สร้างและแก้ไขไฟล์ Excel, Word, PowerPoint และ PDF ได้โดยตรง
    ใช้งานผ่าน Claude.ai และแอปเดสก์ท็อป
    รองรับการอัปโหลดข้อมูลดิบหรือคำอธิบายจากผู้ใช้
    สร้างไฟล์ที่มีสูตร, แผนภูมิ, การวิเคราะห์ และเนื้อหาจัดรูปแบบครบ

    การใช้งานเบื้องต้น
    เปิดใช้งานฟีเจอร์ “Upgraded file creation and analysis” ใน Settings > Features > Experimental
    อัปโหลดไฟล์หรืออธิบายสิ่งที่ต้องการผ่านแชต
    ดาวน์โหลดไฟล์ที่เสร็จแล้ว หรือบันทึกลง Google Drive ได้ทันที
    เริ่มจากงานง่าย เช่น การทำความสะอาดข้อมูล ก่อนขยับไปสู่โมเดลการเงินหรือการวิเคราะห์เชิงลึก

    ความสามารถเบื้องหลัง
    Claude ใช้สภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในการเขียนโค้ดและรันโปรแกรม
    ทำให้สามารถสร้างไฟล์และวิเคราะห์ข้อมูลได้หลายขั้นตอน
    เปลี่ยน Claude จากผู้ให้คำแนะนำเป็นผู้ร่วมทำงานที่ลงมือจริง
    ลดช่องว่างระหว่าง “ไอเดีย” กับ “การลงมือทำ” ให้เหลือแค่การสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    สร้างโมเดลการเงิน, เทมเพลตงบประมาณ, ตัวติดตามโครงการ
    แปลง PDF เป็น PowerPoint, โน้ตประชุมเป็นเอกสาร, ใบแจ้งหนี้เป็น Excel
    วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, พยากรณ์ยอดขาย, ติดตามงบประมาณ

    https://www.anthropic.com/news/create-files
    📂 “Claude สร้างไฟล์ได้แล้ว! จากแค่ตอบคำถาม สู่ผู้ช่วยที่จัดการเอกสาร Excel, PDF, PowerPoint ได้ครบวงจร — แต่ต้องระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัว” ถ้าคุณเคยใช้ Claude เพื่อถามคำถามหรือให้ช่วยเขียนข้อความ ตอนนี้คุณสามารถก้าวไปอีกขั้นได้แล้ว — เพราะ Claude ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้ “สร้างและแก้ไขไฟล์จริง” ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Excel, Word, PowerPoint หรือ PDF ผ่าน Claude.ai และแอปเดสก์ท็อป ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้แผน Max, Team และ Enterprise ส่วนผู้ใช้ Pro จะได้รับสิทธิ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดข้อมูลดิบหรืออธิบายสิ่งที่ต้องการ แล้ว Claude จะสร้างไฟล์ที่มีสูตรคำนวณ, แผนภูมิ, การวิเคราะห์ และเนื้อหาที่จัดรูปแบบเรียบร้อยให้ทันที ตัวอย่างเช่น คุณสามารถให้ Claude สร้างโมเดลการเงินที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์, เทมเพลตงบประมาณที่มีการคำนวณความคลาดเคลื่อน, หรือสไลด์นำเสนอจากรายงาน PDF ได้ในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือมีความรู้ด้านสถิติ เบื้องหลังคือ Claude ได้รับสิทธิ์เข้าถึง “สภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ส่วนตัว” ที่สามารถเขียนโค้ดและรันโปรแกรมเพื่อสร้างไฟล์ตามคำสั่งของผู้ใช้ — เปลี่ยน Claude จากผู้ให้คำปรึกษาเป็นผู้ร่วมทำงานที่ลงมือจริง อย่างไรก็ตาม Anthropic เตือนว่า ฟีเจอร์นี้ทำให้ Claude เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างและวิเคราะห์ไฟล์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ผู้ใช้ควรตรวจสอบการสนทนาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับข้อมูลที่อ่อนไหว ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ Claude ➡️ สร้างและแก้ไขไฟล์ Excel, Word, PowerPoint และ PDF ได้โดยตรง ➡️ ใช้งานผ่าน Claude.ai และแอปเดสก์ท็อป ➡️ รองรับการอัปโหลดข้อมูลดิบหรือคำอธิบายจากผู้ใช้ ➡️ สร้างไฟล์ที่มีสูตร, แผนภูมิ, การวิเคราะห์ และเนื้อหาจัดรูปแบบครบ ✅ การใช้งานเบื้องต้น ➡️ เปิดใช้งานฟีเจอร์ “Upgraded file creation and analysis” ใน Settings > Features > Experimental ➡️ อัปโหลดไฟล์หรืออธิบายสิ่งที่ต้องการผ่านแชต ➡️ ดาวน์โหลดไฟล์ที่เสร็จแล้ว หรือบันทึกลง Google Drive ได้ทันที ➡️ เริ่มจากงานง่าย เช่น การทำความสะอาดข้อมูล ก่อนขยับไปสู่โมเดลการเงินหรือการวิเคราะห์เชิงลึก ✅ ความสามารถเบื้องหลัง ➡️ Claude ใช้สภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในการเขียนโค้ดและรันโปรแกรม ➡️ ทำให้สามารถสร้างไฟล์และวิเคราะห์ข้อมูลได้หลายขั้นตอน ➡️ เปลี่ยน Claude จากผู้ให้คำแนะนำเป็นผู้ร่วมทำงานที่ลงมือจริง ➡️ ลดช่องว่างระหว่าง “ไอเดีย” กับ “การลงมือทำ” ให้เหลือแค่การสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ สร้างโมเดลการเงิน, เทมเพลตงบประมาณ, ตัวติดตามโครงการ ➡️ แปลง PDF เป็น PowerPoint, โน้ตประชุมเป็นเอกสาร, ใบแจ้งหนี้เป็น Excel ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, พยากรณ์ยอดขาย, ติดตามงบประมาณ https://www.anthropic.com/news/create-files
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Claude can now create and use files
    Claude can now create and edit Excel spreadsheets, documents, PowerPoint slide decks, and PDFs directly in Claude.ai and the desktop app.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 742
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=742
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    (อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ
    กามสัญญา พ๎ยาปาทสัญญา วิหิงสาสัญญา.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=กามสญฺญา

    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง.
    ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า? สามอย่างคือ :-
    ๑--เจริญ เนกขัมมสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง กามสัญญา;
    ๒--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทสัญญา;
    ๓--เจริญ อวิหิงสาสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาสัญญา.
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้
    อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.-

    #สัมมาสังกับปะ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/381.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๗/๓๘๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=742
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=742
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม สัทธรรมลำดับที่ : 742 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=742 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามสัญญา พ๎ยาปาทสัญญา วิหิงสาสัญญา. http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=กามสญฺญา --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า? สามอย่างคือ :- ๑--เจริญ เนกขัมมสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง กามสัญญา; ๒--เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทสัญญา; ๓--เจริญ อวิหิงสาสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาสัญญา. --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.- #สัมมาสังกับปะ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/400/381. http://etipitaka.com/read/thai/22/400/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๗/๓๘๑. http://etipitaka.com/read/pali/22/497/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=742 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=742 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    -สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม (อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ กามสัญญา พ๎ยาปาทสัญญา วิหิงสาสัญญา. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า? สามอย่างคือ : เจริญ เนกขัมมสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง กามสัญญา; เจริญ อัพ๎ยาปาทสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง พ๎ยาปาทสัญญา; เจริญ อวิหิงสาสัญญา เพื่อละเสียซึ่ง วิหิงสาสัญญา. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า ความปลอดจากกามโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 373
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากกามโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373
    เนื้อความทั้งหมด :-
    ความปลอดจากกามโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้.
    สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ
    ความปลอดจากกามโยคะ,
    ความปลอดจากภวโยคะ,
    ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ,
    ความปลอดจากอวิชชาโยคะ.
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ;

    เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    ความกำหนัดในกาม
    ความเพลิดเพลินในกาม
    ความเสน่หาในกาม
    ความสยบอยู่ในกาม
    ความหิว กระหายในกาม
    ความเร่าร้อนเพราะกาม
    ความเมาหมกในกาม
    และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย
    เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากกามโยคะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=กามโยควิสํโยโค

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/9/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพ้่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=373
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า ความปลอดจากกามโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 373 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากกามโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373 เนื้อความทั้งหมด :- ความปลอดจากกามโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ความปลอดจากกามโยคะ, ความปลอดจากภวโยคะ, ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ, ความปลอดจากอวิชชาโยคะ. --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในกาม ความเพลิดเพลินในกาม ความเสน่หาในกาม ความสยบอยู่ในกาม ความหิว กระหายในกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความเมาหมกในกาม และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากกามโยคะ.- http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=กามโยควิสํโยโค #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/9/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพ้่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=373 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากกามโยคะ
    -ความปลอดจากกามโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ความปลอดจากกามโยคะ, ความปลอดจากภวโยคะ, ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ, ความปลอดจากอวิชชาโยคะ. ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในกาม ความเพลิดเพลินในกาม ความเสน่หาในกาม ความสยบอยู่ในกาม ความหิว กระหายในกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความเมาหมกในกาม และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดจากกามโยคะ.
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
More Results