• TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030

    เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ

    TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา  
    • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด  
    • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย  
    • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน

    แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี  
    • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%  
    • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม

    TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft  
    • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้  
    • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน

    บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง

    https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030 เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ ✅ TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา   • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด   • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย   • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน ✅ แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี   • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%   • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม ✅ TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft   • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้   • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน ✅ บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Has Reportedly Prioritized Setting Up Plants in the U.S. Over Other Regions Due to Fears of "Trump Tariffs"
    TSMC has decided to prioritize America over all other nations where it is building facilities, as it is pouring massive funds into it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณเป็นร้านค้าหรือ SME ที่อยากขายของออนไลน์ + นำเข้าสินค้าจากโรงงานโลก—ปกติคงต้องเปิดหลายเว็บ จัดการหลายระบบ → ตอนนี้คุณทำผ่านที่เดียวได้แล้ว:

    - ถ้าคุณใช้ Wix → แค่ติดตั้ง “Alibaba Seller App” ก็เข้าถึงสินค้าใน Alibaba B2B Marketplace ได้เลย
    - ถ้าคุณขายของอยู่บน Alibaba.com → สร้างเว็บร้านของตัวเองผ่าน Wix แบบไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมเครื่องมือ AI ช่วยตั้งร้าน–ทำแบรนด์–ยิงโฆษณา

    ถือเป็นดีลที่ทำให้ทั้งสองฝั่งได้ของที่ตัวเองเคยขาดมาก่อน: → ฝั่ง Wix ได้สินค้ามาขาย → ฝั่ง Alibaba ได้ storefront สวย ๆ แบบ no-code + brand power เพิ่ม

    Wix ผู้ใช้สามารถติดตั้ง “Alibaba Seller App” ได้จาก Wix Marketplace  
    • เข้าถึงสินค้าและซัพพลายเออร์จากทั่วโลก  
    • สมัครเป็น “Global Gold Supplier” เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2B ทั่วโลก

    ผู้ขายใน Alibaba สามารถสร้างเว็บ B2B/D2C ด้วย Wix ได้ง่าย  
    • ใช้เครื่องมือ AI ของ Wix ช่วยสร้างหน้าเว็บ, สินค้า, ข้อความโฆษณา  
    • ทำการตลาดอัตโนมัติ ช่วยเปิดร้านค้าสากลได้เร็วขึ้น

    ความร่วมมือเน้น 3 เสาหลัก:  
    • Integration ผ่าน seller app → เชื่อมสินค้า/คำสั่งซื้อข้ามแพลตฟอร์ม  
    • “Curated sourcing” → แนะนำสินค้าน่าสนใจจาก Alibaba ให้กับร้านค้าบน Wix  
    • ให้ผู้ขาย Alibaba ใช้ “ชุดเครื่องมือ AI จาก Wix” สร้างร้านค้าทันสมัย

    ทั้งสองฝ่ายระบุชัด: การร่วมมือคือโอกาสทองของ SME และผู้ประกอบการที่ต้องการขยายไปต่างประเทศ  
    • Alibaba: “ลดความซับซ้อนของการทำการค้าระหว่างประเทศ”  
    • Wix: “ช่วยให้ลูกค้าเราสร้างแบรนด์และขายของระดับโลกได้เร็วขึ้น”

    อยู่ในช่วง rollout แบบเฟส–เปิดฟีเจอร์เพิ่มเรื่อย ๆ  
    • เตรียมเพิ่มระบบ “AI product discovery”, ระบบจับคู่สินค้าอัตโนมัติ, การ onboarding แบบ auto

    https://www.techradar.com/pro/website-building/alibaba-and-wix-join-forces-promise-great-things-for-smbs
    ถ้าคุณเป็นร้านค้าหรือ SME ที่อยากขายของออนไลน์ + นำเข้าสินค้าจากโรงงานโลก—ปกติคงต้องเปิดหลายเว็บ จัดการหลายระบบ → ตอนนี้คุณทำผ่านที่เดียวได้แล้ว: - ถ้าคุณใช้ Wix → แค่ติดตั้ง “Alibaba Seller App” ก็เข้าถึงสินค้าใน Alibaba B2B Marketplace ได้เลย - ถ้าคุณขายของอยู่บน Alibaba.com → สร้างเว็บร้านของตัวเองผ่าน Wix แบบไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมเครื่องมือ AI ช่วยตั้งร้าน–ทำแบรนด์–ยิงโฆษณา ถือเป็นดีลที่ทำให้ทั้งสองฝั่งได้ของที่ตัวเองเคยขาดมาก่อน: → ฝั่ง Wix ได้สินค้ามาขาย → ฝั่ง Alibaba ได้ storefront สวย ๆ แบบ no-code + brand power เพิ่ม ✅ Wix ผู้ใช้สามารถติดตั้ง “Alibaba Seller App” ได้จาก Wix Marketplace   • เข้าถึงสินค้าและซัพพลายเออร์จากทั่วโลก   • สมัครเป็น “Global Gold Supplier” เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2B ทั่วโลก ✅ ผู้ขายใน Alibaba สามารถสร้างเว็บ B2B/D2C ด้วย Wix ได้ง่าย   • ใช้เครื่องมือ AI ของ Wix ช่วยสร้างหน้าเว็บ, สินค้า, ข้อความโฆษณา   • ทำการตลาดอัตโนมัติ ช่วยเปิดร้านค้าสากลได้เร็วขึ้น ✅ ความร่วมมือเน้น 3 เสาหลัก:   • Integration ผ่าน seller app → เชื่อมสินค้า/คำสั่งซื้อข้ามแพลตฟอร์ม   • “Curated sourcing” → แนะนำสินค้าน่าสนใจจาก Alibaba ให้กับร้านค้าบน Wix   • ให้ผู้ขาย Alibaba ใช้ “ชุดเครื่องมือ AI จาก Wix” สร้างร้านค้าทันสมัย ✅ ทั้งสองฝ่ายระบุชัด: การร่วมมือคือโอกาสทองของ SME และผู้ประกอบการที่ต้องการขยายไปต่างประเทศ   • Alibaba: “ลดความซับซ้อนของการทำการค้าระหว่างประเทศ”   • Wix: “ช่วยให้ลูกค้าเราสร้างแบรนด์และขายของระดับโลกได้เร็วขึ้น” ✅ อยู่ในช่วง rollout แบบเฟส–เปิดฟีเจอร์เพิ่มเรื่อย ๆ   • เตรียมเพิ่มระบบ “AI product discovery”, ระบบจับคู่สินค้าอัตโนมัติ, การ onboarding แบบ auto https://www.techradar.com/pro/website-building/alibaba-and-wix-join-forces-promise-great-things-for-smbs
    WWW.TECHRADAR.COM
    Alibaba and Wix join forces, promise great things for SMBs
    New partnership fuses the wholesale ecosystem with website building
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำเทปแม่เหล็กที่เคยใช้แบ็กอัปข้อมูลไหมครับ? Cerabyte กำลังจะ “อัปเกรด” แนวคิดนั้นขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเก็บข้อมูลบนแผ่น กระจกบาง 100 ไมครอน เคลือบด้วยฟิล์มเซรามิกหนาแค่ 10 นาโนเมตร แล้วจารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์พลังสูงระดับเฟมโตวินาที (fs laser) ที่ยิงรูจิ๋ว ๆ เรียงเป็นแพตเทิร์น — จากนั้นใช้กล้องความละเอียดสูงเป็นตัวอ่าน

    - แผ่นขนาด 9x9 ซม. หลายแผ่นถูกใส่ในตลับ (cartridge) คล้ายเทป
    - มี “หุ่นยนต์จัดเก็บ” เปลี่ยนตลับให้เองเหมือนห้องสมุดอัตโนมัติ
    - ตอนนี้เทคโนโลยีระดับ prototype ยังทำได้แค่ 1GB ต่อแร็ก
    - แต่ภายในปี 2030 → จะกลายเป็น 100 PB ต่อแร็ก + โหลดเร็วเกิน 2 GB/s และใช้เวลาเริ่มอ่านแค่ 10 วินาที

    ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ...ต้นทุนจะลดจาก $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน (ตอนนี้) เหลือเพียงแค่ $6–8 ต่อ PB-เดือน!

    Cerabyte เตรียมเปิดตัวระบบ Ceramic Nano Memory ความจุ 100 PB ต่อแร็กภายในปี 2030  
    • ความเร็วอ่านข้อมูลทะลุ 2 GB/s  
    • เวลาเข้าถึง (time to first byte) น้อยกว่า 10 วินาที  
    • เทียบกับระบบตอนนี้: แค่ 1 GB/แร็ก, 100 MB/s, ใช้เวลา 90 วินาที

    ใช้แผ่นกระจกบางพิเศษเคลือบฟิล์มเซรามิก จารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์  
    • ทนต่อสภาพแวดล้อมสูง อายุการใช้งาน >100 ปี  
    • อ่านข้อมูลด้วยกล้องความละเอียดสูงแทนการสัมผัส

    เป้าหมายการพัฒนา (ตามปี):  
    • 2026: ยืนยันรุ่น 1PB/rack  
    • 2027–2028: เพิ่มความหนาแน่นระดับสิบ PB/rack  
    • 2029–2030: แตะ 100 PB/rack

    ต้นทุนรวมทั้งระบบ (Total Cost of Ownership):  
    • ปัจจุบัน: $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน  
    • ปี 2030: ลดเหลือ $6–8 ต่อ PB-เดือน

    สนับสนุนโดย: Pure Storage, Western Digital, In-Q-Tel, EU Innovation Council  
    • ได้ทุน Seed ~$10M และทุนวิจัยเพิ่มอีก ~$4M

    ระบบนี้มีข้อได้เปรียบเทียบกับเทปแม่เหล็กแบบดั้งเดิม:  
    • แบนด์วิดธ์มากกว่า 2 เท่า  
    • อายุการใช้งาน >100 ปี (เทปเดิมแค่ 7–15 ปี)  
    • ต้นทุนต่อ TB ต่ำกว่าครึ่ง

    อนาคตหลังปี 2045 — อาจพัฒนาเทคโนโลยี “Helium-ion beam” เพื่อจารึกที่ขนาดบิตเล็กลงเหลือ 3 nm  
    • ความจุต่อแร็กอาจทะยานถึงระดับ Exabyte

    https://www.techpowerup.com/338629/cerabyte-plans-100-pb-ceramic-nano-memory-storage-by-2030
    จำเทปแม่เหล็กที่เคยใช้แบ็กอัปข้อมูลไหมครับ? Cerabyte กำลังจะ “อัปเกรด” แนวคิดนั้นขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเก็บข้อมูลบนแผ่น กระจกบาง 100 ไมครอน เคลือบด้วยฟิล์มเซรามิกหนาแค่ 10 นาโนเมตร แล้วจารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์พลังสูงระดับเฟมโตวินาที (fs laser) ที่ยิงรูจิ๋ว ๆ เรียงเป็นแพตเทิร์น — จากนั้นใช้กล้องความละเอียดสูงเป็นตัวอ่าน - แผ่นขนาด 9x9 ซม. หลายแผ่นถูกใส่ในตลับ (cartridge) คล้ายเทป - มี “หุ่นยนต์จัดเก็บ” เปลี่ยนตลับให้เองเหมือนห้องสมุดอัตโนมัติ - ตอนนี้เทคโนโลยีระดับ prototype ยังทำได้แค่ 1GB ต่อแร็ก - แต่ภายในปี 2030 → จะกลายเป็น 100 PB ต่อแร็ก + โหลดเร็วเกิน 2 GB/s และใช้เวลาเริ่มอ่านแค่ 10 วินาที ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ...ต้นทุนจะลดจาก $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน (ตอนนี้) เหลือเพียงแค่ $6–8 ต่อ PB-เดือน! ✅ Cerabyte เตรียมเปิดตัวระบบ Ceramic Nano Memory ความจุ 100 PB ต่อแร็กภายในปี 2030   • ความเร็วอ่านข้อมูลทะลุ 2 GB/s   • เวลาเข้าถึง (time to first byte) น้อยกว่า 10 วินาที   • เทียบกับระบบตอนนี้: แค่ 1 GB/แร็ก, 100 MB/s, ใช้เวลา 90 วินาที ✅ ใช้แผ่นกระจกบางพิเศษเคลือบฟิล์มเซรามิก จารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์   • ทนต่อสภาพแวดล้อมสูง อายุการใช้งาน >100 ปี   • อ่านข้อมูลด้วยกล้องความละเอียดสูงแทนการสัมผัส ✅ เป้าหมายการพัฒนา (ตามปี):   • 2026: ยืนยันรุ่น 1PB/rack   • 2027–2028: เพิ่มความหนาแน่นระดับสิบ PB/rack   • 2029–2030: แตะ 100 PB/rack ✅ ต้นทุนรวมทั้งระบบ (Total Cost of Ownership):   • ปัจจุบัน: $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน   • ปี 2030: ลดเหลือ $6–8 ต่อ PB-เดือน ✅ สนับสนุนโดย: Pure Storage, Western Digital, In-Q-Tel, EU Innovation Council   • ได้ทุน Seed ~$10M และทุนวิจัยเพิ่มอีก ~$4M ✅ ระบบนี้มีข้อได้เปรียบเทียบกับเทปแม่เหล็กแบบดั้งเดิม:   • แบนด์วิดธ์มากกว่า 2 เท่า   • อายุการใช้งาน >100 ปี (เทปเดิมแค่ 7–15 ปี)   • ต้นทุนต่อ TB ต่ำกว่าครึ่ง ✅ อนาคตหลังปี 2045 — อาจพัฒนาเทคโนโลยี “Helium-ion beam” เพื่อจารึกที่ขนาดบิตเล็กลงเหลือ 3 nm   • ความจุต่อแร็กอาจทะยานถึงระดับ Exabyte https://www.techpowerup.com/338629/cerabyte-plans-100-pb-ceramic-nano-memory-storage-by-2030
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Cerabyte Plans 100 PB Ceramic Nano Memory Storage by 2030
    Cerabyte has unveiled a detailed roadmap for its Ceramic Nano Memory archival storage system, promising a cloud-based platform capable of storing over 100 PB per rack by 2030. The company expects data transfer speeds to climb above 2 GB/s and the time to first byte to fall below 10 seconds, a dramat...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ส่ง Threadripper 9980X รุ่น 64 คอร์มาเขย่าตลาดซีพียูระดับไฮเอนด์ (HEDT) พร้อมชิปสถาปัตยกรรม Zen 5 ใหม่ ซึ่งแม้จะมี “แค่” 64 คอร์ แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ได้ด้วยเหตุผลหลายข้อ:

    ในการทดสอบ Multi-thread บน PassMark ชิปนี้ ทำได้ถึง 147,481 คะแนน → เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเดสก์ท็อป

    แซงแม้แต่รุ่นพี่ 96 คอร์อย่าง Threadripper Pro 9995WX และ 7980X

    ทิ้งห่าง M3 Ultra ของ Apple เกินเท่าตัว!

    เหตุผลที่ทำได้ขนาดนี้คือ Threadripper 9980X มี ความเร็ว base/turbo สูงกว่า, ใช้ SMT เต็ม และอาจเป็นรุ่น pre-production ที่จูนมาดี

    แต่งานนี้ก็ไม่ใช่เทพด้านเดียว — เพราะ คะแนน single-thread กลับไม่โดดเด่นนัก แม้จะวิ่งได้ถึง 5.4GHz
    → ทำได้ราว 4,594 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ Intel i9-13900KF หรือ M4 Max
    → แพ้ M3 Ultra และ Intel Core Ultra 9 285K แบบชัดเจนในสายงานที่ต้องพลังต่อคอร์สูง ๆ เช่นการเล่นเกม

    AMD Threadripper 9980X ทำลายสถิติ Multi-thread ของ PassMark ด้วยคะแนน 147,481
    • แซง Pro 7995WX (96 คอร์), 7980X (64 คอร์), M3 Ultra (32 คอร์)

    ชิปใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม SMT, clock 3.2–5.4GHz, L2+L3 รวม 320MB  
    • รองรับ Overclock  
    • เหมาะกับสายงานมืออาชีพระดับสูง เช่นเรนเดอร์–ตัดต่อ–สตรีมพร้อมกันหลายโปรแกรม

    คะแนน single-thread = 4,594 เทียบเท่า Core i9-13900KF และ Apple M4 Max  
    • ต่ำกว่า M3 Ultra และ Core Ultra 9 285K เล็กน้อย

    TDP อยู่ที่ 350W (เท่ารุ่น Pro) แต่ได้ clock สูงกว่า  
    • ทำให้เป็นตัวเลือกที่ “แรงและยืดหยุ่น” ระหว่างเล่นเกมและทำงานหนัก

    AMD เตรียมวางขายซีพียู Threadripper 9000 series ภายใน ก.ค. 2025 นี้  
    • คาดว่า 9980X จะเปิดตัวพร้อมรุ่นอื่น เช่น 9985WX

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-amd-ryzen-threadripper-smashes-passmark-record-9980x-scores-147-481-making-it-the-fastest-desktop-cpu-ever-tested-but-only-in-multi-thread-performance
    AMD ส่ง Threadripper 9980X รุ่น 64 คอร์มาเขย่าตลาดซีพียูระดับไฮเอนด์ (HEDT) พร้อมชิปสถาปัตยกรรม Zen 5 ใหม่ ซึ่งแม้จะมี “แค่” 64 คอร์ แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ได้ด้วยเหตุผลหลายข้อ: ในการทดสอบ Multi-thread บน PassMark ชิปนี้ ทำได้ถึง 147,481 คะแนน → เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเดสก์ท็อป แซงแม้แต่รุ่นพี่ 96 คอร์อย่าง Threadripper Pro 9995WX และ 7980X ทิ้งห่าง M3 Ultra ของ Apple เกินเท่าตัว! 📌 เหตุผลที่ทำได้ขนาดนี้คือ Threadripper 9980X มี ความเร็ว base/turbo สูงกว่า, ใช้ SMT เต็ม และอาจเป็นรุ่น pre-production ที่จูนมาดี แต่งานนี้ก็ไม่ใช่เทพด้านเดียว — เพราะ คะแนน single-thread กลับไม่โดดเด่นนัก แม้จะวิ่งได้ถึง 5.4GHz → ทำได้ราว 4,594 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ Intel i9-13900KF หรือ M4 Max → แพ้ M3 Ultra และ Intel Core Ultra 9 285K แบบชัดเจนในสายงานที่ต้องพลังต่อคอร์สูง ๆ เช่นการเล่นเกม ✅ AMD Threadripper 9980X ทำลายสถิติ Multi-thread ของ PassMark ด้วยคะแนน 147,481 • แซง Pro 7995WX (96 คอร์), 7980X (64 คอร์), M3 Ultra (32 คอร์) ✅ ชิปใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม SMT, clock 3.2–5.4GHz, L2+L3 รวม 320MB   • รองรับ Overclock   • เหมาะกับสายงานมืออาชีพระดับสูง เช่นเรนเดอร์–ตัดต่อ–สตรีมพร้อมกันหลายโปรแกรม ✅ คะแนน single-thread = 4,594 เทียบเท่า Core i9-13900KF และ Apple M4 Max   • ต่ำกว่า M3 Ultra และ Core Ultra 9 285K เล็กน้อย ✅ TDP อยู่ที่ 350W (เท่ารุ่น Pro) แต่ได้ clock สูงกว่า   • ทำให้เป็นตัวเลือกที่ “แรงและยืดหยุ่น” ระหว่างเล่นเกมและทำงานหนัก ✅ AMD เตรียมวางขายซีพียู Threadripper 9000 series ภายใน ก.ค. 2025 นี้   • คาดว่า 9980X จะเปิดตัวพร้อมรุ่นอื่น เช่น 9985WX https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-amd-ryzen-threadripper-smashes-passmark-record-9980x-scores-147-481-making-it-the-fastest-desktop-cpu-ever-tested-but-only-in-multi-thread-performance
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่าตอนนี้ xAI ของ Elon Musk ใช้ GPU ไปแล้วกว่า 200,000 ตัว ในศูนย์ข้อมูลชื่อ Colossus ที่เมืองเมมฟิส กินไฟถึง 300 เมกะวัตต์ → บริษัทต้องติดตั้งกังหันก๊าซ 35 ตัว + Tesla Megapack สำหรับจ่ายไฟให้ทัน → และตอนนี้จะสร้าง ศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ใช้ Blackwell GPUs กว่า 1 ล้านตัว! → GPU แค่นั้นก็ใช้ไฟราว 1,000–1,400 เมกะวัตต์ ยังไม่รวม CPU, RAM, สตอเรจ และระบบทำความเย็น → ถ้ารวมทั้งหมด คาดว่าโหลดไฟฟ้าจะสูงถึง 1,960 เมกะวัตต์ หรือประมาณเท่าบ้าน 1.9 ล้านหลังใช้พร้อมกัน!

    ปัญหาคือ... สร้างโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ใช้เวลานานเกิน → ทางออกของ Elon คือ “ซื้อโรงไฟฟ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้วขนมาทั้งโรง” → เพื่อใช้งานกับศูนย์ข้อมูลใหม่ที่แปลงมาจากโรงงานเก่าในเมมฟิส ที่รองรับเซิร์ฟเวอร์ GPU 125,000 ตัว

    นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะบริษัท AI รายอื่น ๆ อย่าง OpenAI หรือ Google DeepMind ก็เดินหน้าแบบเดียวกัน → สร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์ → ใช้ระบบจ่ายไฟเฉพาะตัวเอง → กำลังเปลี่ยนจาก “ผู้ใช้พลังงาน” เป็น “เจ้าของแหล่งพลังงาน” กันหมดแล้วครับ

    Elon Musk ยืนยันว่า xAI ซื้อโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศมาสหรัฐฯ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลใหม่  
    • เพราะสร้างโรงไฟฟ้าในอเมริกาใช้เวลานาน  
    • ต้องการใช้ทันทีสำหรับระบบ GPU ระดับล้านตัว

    ศูนย์ข้อมูล Colossus ปัจจุบันของ xAI ใช้ GPU 200K ตัว กินไฟ ~300 เมกะวัตต์  
    • ติดกังหันก๊าซ 35 ตัว และ Tesla Megapack เพื่อจ่ายไฟ

    ศูนย์ข้อมูลใหม่จะใช้ GPU มากกว่า 1 ล้านตัว (Blackwell B200/GB200/B300/GB300)  
    • แค่ GPU กินไฟ ~1,000–1,400 เมกะวัตต์  
    • ถ้านับรวมทั้งหมด (PUE 1.4) → โหลดรวม 1,960 เมกะวัตต์

    xAI ซื้อโรงงานในเมมฟิสเพื่อแปลงเป็นศูนย์ข้อมูล ขนาดรองรับ GPU 125,000 เครื่อง (แบบ 8 GPU ต่อเครื่อง)  
    • พร้อมระบบเครือข่าย, สตอเรจ, และระบายความร้อน

    โครงสร้างพลังงานใช้ระบบ onsite + ซื้อไฟจากระบบ grid เหมือนศูนย์ Colossus เดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-xai-power-plant-overseas-to-power-1-million-gpus
    รู้ไหมครับว่าตอนนี้ xAI ของ Elon Musk ใช้ GPU ไปแล้วกว่า 200,000 ตัว ในศูนย์ข้อมูลชื่อ Colossus ที่เมืองเมมฟิส กินไฟถึง 300 เมกะวัตต์ → บริษัทต้องติดตั้งกังหันก๊าซ 35 ตัว + Tesla Megapack สำหรับจ่ายไฟให้ทัน → และตอนนี้จะสร้าง ศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ใช้ Blackwell GPUs กว่า 1 ล้านตัว! → GPU แค่นั้นก็ใช้ไฟราว 1,000–1,400 เมกะวัตต์ ยังไม่รวม CPU, RAM, สตอเรจ และระบบทำความเย็น → ถ้ารวมทั้งหมด คาดว่าโหลดไฟฟ้าจะสูงถึง 1,960 เมกะวัตต์ หรือประมาณเท่าบ้าน 1.9 ล้านหลังใช้พร้อมกัน! ปัญหาคือ... สร้างโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ใช้เวลานานเกิน → ทางออกของ Elon คือ “ซื้อโรงไฟฟ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้วขนมาทั้งโรง” → เพื่อใช้งานกับศูนย์ข้อมูลใหม่ที่แปลงมาจากโรงงานเก่าในเมมฟิส ที่รองรับเซิร์ฟเวอร์ GPU 125,000 ตัว นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะบริษัท AI รายอื่น ๆ อย่าง OpenAI หรือ Google DeepMind ก็เดินหน้าแบบเดียวกัน → สร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์ → ใช้ระบบจ่ายไฟเฉพาะตัวเอง → กำลังเปลี่ยนจาก “ผู้ใช้พลังงาน” เป็น “เจ้าของแหล่งพลังงาน” กันหมดแล้วครับ ✅ Elon Musk ยืนยันว่า xAI ซื้อโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศมาสหรัฐฯ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลใหม่   • เพราะสร้างโรงไฟฟ้าในอเมริกาใช้เวลานาน   • ต้องการใช้ทันทีสำหรับระบบ GPU ระดับล้านตัว ✅ ศูนย์ข้อมูล Colossus ปัจจุบันของ xAI ใช้ GPU 200K ตัว กินไฟ ~300 เมกะวัตต์   • ติดกังหันก๊าซ 35 ตัว และ Tesla Megapack เพื่อจ่ายไฟ ✅ ศูนย์ข้อมูลใหม่จะใช้ GPU มากกว่า 1 ล้านตัว (Blackwell B200/GB200/B300/GB300)   • แค่ GPU กินไฟ ~1,000–1,400 เมกะวัตต์   • ถ้านับรวมทั้งหมด (PUE 1.4) → โหลดรวม 1,960 เมกะวัตต์ ✅ xAI ซื้อโรงงานในเมมฟิสเพื่อแปลงเป็นศูนย์ข้อมูล ขนาดรองรับ GPU 125,000 เครื่อง (แบบ 8 GPU ต่อเครื่อง)   • พร้อมระบบเครือข่าย, สตอเรจ, และระบายความร้อน ✅ โครงสร้างพลังงานใช้ระบบ onsite + ซื้อไฟจากระบบ grid เหมือนศูนย์ Colossus เดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-xai-power-plant-overseas-to-power-1-million-gpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน Nvidia ยังเป็นบริษัททำการ์ดจอเกมเป็นหลัก มูลค่าราว $500 พันล้าน → แต่ตอนนี้ (กลางปี 2025) Nvidia กำลังแตะมูลค่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ โดย  
    • เคยแตะ $3.92T ระหว่างวัน (intraday)  
    • ปิดที่ $3.89T  
    • แซงสถิติเดิมของ Apple ที่เคยปิดที่ $3.915T เมื่อปลายปี 2024

    สาเหตุหลักมาจากความ “บูม” ของตลาด AI — โดย Nvidia ควบคุม ฮาร์ดแวร์ AI ระดับสูง ที่ใช้เทรนและรัน LLM แทบทั้งหมด
    → ทำให้กลายเป็น “หัวใจกลางของยุค AI Infrastructure” ที่ทั้ง Microsoft, Amazon, Meta, Tesla และ Alphabet ต้องพึ่งพา
    → ในไตรมาสล่าสุด Nvidia ทำรายได้ $44.1B (+69%)  
    • เฉพาะส่วน Data Center ก็ทำถึง $39.1B  
    • วางเป้า $170B รายได้รวมในปีงบประมาณ 2026 (ขึ้นจาก $130B ในปี 2025)

    และที่น่าสนใจคือ…
    → มูลค่าตลาดของ Nvidia สูงกว่ารวมกันของบริษัทจดทะเบียนทั้งประเทศอังกฤษ
    → นักลงทุนที่ถือดัชนีแบบ S&P 500 ตอนนี้มีสัดส่วน Nvidia เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่รู้ตัว

    https://www.techspot.com/news/108558-nvidia-closes-4-trillion-valuation-surpasses-apple-record.html
    ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน Nvidia ยังเป็นบริษัททำการ์ดจอเกมเป็นหลัก มูลค่าราว $500 พันล้าน → แต่ตอนนี้ (กลางปี 2025) Nvidia กำลังแตะมูลค่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ โดย   • เคยแตะ $3.92T ระหว่างวัน (intraday)   • ปิดที่ $3.89T   • แซงสถิติเดิมของ Apple ที่เคยปิดที่ $3.915T เมื่อปลายปี 2024 สาเหตุหลักมาจากความ “บูม” ของตลาด AI — โดย Nvidia ควบคุม ฮาร์ดแวร์ AI ระดับสูง ที่ใช้เทรนและรัน LLM แทบทั้งหมด → ทำให้กลายเป็น “หัวใจกลางของยุค AI Infrastructure” ที่ทั้ง Microsoft, Amazon, Meta, Tesla และ Alphabet ต้องพึ่งพา → ในไตรมาสล่าสุด Nvidia ทำรายได้ $44.1B (+69%)   • เฉพาะส่วน Data Center ก็ทำถึง $39.1B   • วางเป้า $170B รายได้รวมในปีงบประมาณ 2026 (ขึ้นจาก $130B ในปี 2025) และที่น่าสนใจคือ… → มูลค่าตลาดของ Nvidia สูงกว่ารวมกันของบริษัทจดทะเบียนทั้งประเทศอังกฤษ 🇬🇧 → นักลงทุนที่ถือดัชนีแบบ S&P 500 ตอนนี้มีสัดส่วน Nvidia เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่รู้ตัว https://www.techspot.com/news/108558-nvidia-closes-4-trillion-valuation-surpasses-apple-record.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia closes in on $4 trillion valuation, surpasses Apple's record
    "When the first company crossed a trillion dollars, it was amazing. And now you're talking four trillion, which is just incredible. It tells you that there's this...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเคสที่สะท้อนความ “ไม่รู้เวล่ำเวลา” ของ AI และความรู้สึกไวของสังคมต่อปัญหาการเลิกจ้าง — เมื่อ Matt Turnbull ผู้บริหารจาก Xbox Games Studio ออกมาโพสต์แนะนำว่า คนที่เพิ่งถูกไล่ออกจาก Microsoft ควรใช้ AI ช่วยบรรเทาความรู้สึก พร้อมแนบ prompt ตัวอย่างให้ใช้ Copilot สร้างความมั่นใจตนเอง

    แม้เจตนาอาจดี แต่โพสต์นี้โดนถล่มยับว่า “ไร้เซนส์ขั้นสุด” โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานรอบที่ 4 และทุ่มงบ $80,000 ล้านให้โครงสร้างพื้นฐาน AI จนหลายคนรู้สึกว่า "ถูกแทนที่โดย AI แล้วถูกบอกให้ใช้งาน AI เพื่อเยียวยาตัวเองอีก..."

    Matt Turnbull ผู้บริหาร Xbox แนะผู้ถูกเลิกจ้างให้ใช้ AI (เช่น Copilot) ช่วยลดภาระอารมณ์-ความคิดหลังตกงาน  
    • แนะนำ prompt เช่น “ช่วยฉันคิดใหม่ว่าฉันเก่งเรื่องอะไร หลังรู้สึกหมดความมั่นใจจากการถูกปลด”
    • ชี้ว่าคนที่ตกงาน “ไม่ได้อยู่ลำพัง” และ AI จะช่วยให้ “หลุดจากอารมณ์ลบได้เร็วขึ้น”

    โพสต์ต้นทางถูกลบหลังเกิดกระแสตีกลับ  
    • โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานราว 9,000 คน ในรอบที่ 4 ภายใน 18 เดือน

    Microsoft มีแผนลงทุนใน AI infrastructure มูลค่า $80 พันล้านภายในปีการเงินถัดไป  
    • เป็นการลงทุนที่ตรงข้ามกับภาพคนตกงานจากผลของ AI อย่างเห็นได้ชัด

    หลายบริษัทยักษ์ออกมายอมรับว่า AI จะลดแรงงานสายออฟฟิศจำนวนมากใน 3–5 ปี  
    • ซีอีโอจาก Ford, Amazon, Anthropic, Shopify, JPMorgan ต่างพูดคล้ายกัน

    https://www.techspot.com/news/108562-xbox-exec-suggests-people-use-ai-lessen-pain.html
    ข่าวนี้เป็นเคสที่สะท้อนความ “ไม่รู้เวล่ำเวลา” ของ AI และความรู้สึกไวของสังคมต่อปัญหาการเลิกจ้าง — เมื่อ Matt Turnbull ผู้บริหารจาก Xbox Games Studio ออกมาโพสต์แนะนำว่า คนที่เพิ่งถูกไล่ออกจาก Microsoft ควรใช้ AI ช่วยบรรเทาความรู้สึก พร้อมแนบ prompt ตัวอย่างให้ใช้ Copilot สร้างความมั่นใจตนเอง 🧑‍💼🤖 แม้เจตนาอาจดี แต่โพสต์นี้โดนถล่มยับว่า “ไร้เซนส์ขั้นสุด” โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานรอบที่ 4 และทุ่มงบ $80,000 ล้านให้โครงสร้างพื้นฐาน AI จนหลายคนรู้สึกว่า "ถูกแทนที่โดย AI แล้วถูกบอกให้ใช้งาน AI เพื่อเยียวยาตัวเองอีก..." ✅ Matt Turnbull ผู้บริหาร Xbox แนะผู้ถูกเลิกจ้างให้ใช้ AI (เช่น Copilot) ช่วยลดภาระอารมณ์-ความคิดหลังตกงาน   • แนะนำ prompt เช่น “ช่วยฉันคิดใหม่ว่าฉันเก่งเรื่องอะไร หลังรู้สึกหมดความมั่นใจจากการถูกปลด” • ชี้ว่าคนที่ตกงาน “ไม่ได้อยู่ลำพัง” และ AI จะช่วยให้ “หลุดจากอารมณ์ลบได้เร็วขึ้น” ✅ โพสต์ต้นทางถูกลบหลังเกิดกระแสตีกลับ   • โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานราว 9,000 คน ในรอบที่ 4 ภายใน 18 เดือน ✅ Microsoft มีแผนลงทุนใน AI infrastructure มูลค่า $80 พันล้านภายในปีการเงินถัดไป   • เป็นการลงทุนที่ตรงข้ามกับภาพคนตกงานจากผลของ AI อย่างเห็นได้ชัด ✅ หลายบริษัทยักษ์ออกมายอมรับว่า AI จะลดแรงงานสายออฟฟิศจำนวนมากใน 3–5 ปี   • ซีอีโอจาก Ford, Amazon, Anthropic, Shopify, JPMorgan ต่างพูดคล้ายกัน https://www.techspot.com/news/108562-xbox-exec-suggests-people-use-ai-lessen-pain.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Xbox exec suggests people use AI to lessen the pain of being laid off
    Turnbull has very wisely removed his post, but it was captured by Necrosoft's Brandon Sheffield. The exec started by mentioning these are challenging times – particularly for...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Your” vs. “You’re”: How To Choose The Right Word

    Did you know English is frequently cited as a very hard language to learn? Hmm, we wonder why?

    Well, its difficulty explains the mistakes we all make when speaking. But writing in English has its own unique set of challenges. One of the most common mistakes is telling you’re and your apart.

    They look similar, right? Even if they sound the same and look like fraternal twins, they serve two distinct and different purposes.

    When to use you’re

    Let’s take a look at you’re first.

    You’re is a contraction of the phrase you are. Easy enough to remember. Here’s how it looks in a few sentences:

    • You’re my best friend!
    • I think you’re the perfect match for the job.
    • Make sure you’re healthy.

    Any of these sentences would read the exact same way if you are replaced you’re.

    When to use your

    Your is a possessive adjective used to show ownership. It is not a contraction. Your is usually followed by a noun (including gerunds).

    Take these sentences, for example:

    • Your hair looks great today!
    • I wish I had your energy.
    • Has all your running around made you tired?

    If you added you are in the place of your in these sentences, they would not make sense.

    Why isn’t there an apostrophe for the possessive your?

    A big reason why people get these confused is the association of apostrophes with possession, such as:

    • That is George’s dog.
    • Susan’s cake won the baking competition.

    And that makes it easy to forget the differences between your and you’re when in the thick of writing. But don’t fret, there are ways to remember whether you need your or you’re.

    Tips

    Your first line of defense is to stop the mistake before it reaches the page. Identify which of the words has the apostrophe.

    Step 2: reread your writing and say “you are” instead of using the contraction. This editing tip will snuff out most misuse of the two words.

    Let’s test your new skills. Can you identify if your and you’re are used correctly in these sentences?

    • Your so talented at playing you’re piano.
    • It’s important you express your emotions.
    • Washing your clothes is necessary.

    Both your and you’re are incorrectly used in the first sentence; they should be switched. It should look like this instead: You’re so talented at playing your piano. In the second sentence, your is the correct word to use. The third sentence is correct. How did you do?

    Thankfully, once you understand the key differences, the correct use of these terms should be the least of your worries. You can move on to other more challenging and frequently mixed-up pairs, like affect vs. effect, complement vs. compliment, or even infamous vs. notorious!

    In no time, you’ll have conquered the English language.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Your” vs. “You’re”: How To Choose The Right Word Did you know English is frequently cited as a very hard language to learn? Hmm, we wonder why? Well, its difficulty explains the mistakes we all make when speaking. But writing in English has its own unique set of challenges. One of the most common mistakes is telling you’re and your apart. They look similar, right? Even if they sound the same and look like fraternal twins, they serve two distinct and different purposes. When to use you’re Let’s take a look at you’re first. You’re is a contraction of the phrase you are. Easy enough to remember. Here’s how it looks in a few sentences: • You’re my best friend! • I think you’re the perfect match for the job. • Make sure you’re healthy. Any of these sentences would read the exact same way if you are replaced you’re. When to use your Your is a possessive adjective used to show ownership. It is not a contraction. Your is usually followed by a noun (including gerunds). Take these sentences, for example: • Your hair looks great today! • I wish I had your energy. • Has all your running around made you tired? If you added you are in the place of your in these sentences, they would not make sense. Why isn’t there an apostrophe for the possessive your? A big reason why people get these confused is the association of apostrophes with possession, such as: • That is George’s dog. • Susan’s cake won the baking competition. And that makes it easy to forget the differences between your and you’re when in the thick of writing. But don’t fret, there are ways to remember whether you need your or you’re. Tips Your first line of defense is to stop the mistake before it reaches the page. Identify which of the words has the apostrophe. Step 2: reread your writing and say “you are” instead of using the contraction. This editing tip will snuff out most misuse of the two words. Let’s test your new skills. Can you identify if your and you’re are used correctly in these sentences? • Your so talented at playing you’re piano. • It’s important you express your emotions. • Washing your clothes is necessary. Both your and you’re are incorrectly used in the first sentence; they should be switched. It should look like this instead: You’re so talented at playing your piano. In the second sentence, your is the correct word to use. The third sentence is correct. How did you do? Thankfully, once you understand the key differences, the correct use of these terms should be the least of your worries. You can move on to other more challenging and frequently mixed-up pairs, like affect vs. effect, complement vs. compliment, or even infamous vs. notorious! In no time, you’ll have conquered the English language. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าเรามอง mini PC แบบเดิมว่าเล็กน่ารักไว้แค่ทำงานเบา ๆ…อันนี้คือคนละโลกเลยครับ Abee AI Station มาในขนาดตัวเครื่อง 21x22x15 ซม. เท่านั้น — แต่ภายในยัดชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo) ที่มี 16 คอร์ 32 เธรด + AI NPU แรงระดับ 126 TOPS + GPU Radeon 8600S ความเร็ว 2900MHz และหน่วยความจำรวมถึง 128GB LPDDR5X @8000MT/s กับ GPU memory shared ได้สูงสุดถึง 96GB

    แถมยังใช้ liquid cooling แบบครบชุด มีหม้อน้ำเล็ก ๆ, ปั๊มน้ำในตัว, และพัดลม 92mm คู่ → รองรับการ inferencing model AI ขนาดใหญ่ในเครื่องเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ → PSU ก็จัดให้ในตัว 400W (Platinum-rated)

    นอกจากนี้ยังมากับ เมนบอร์ดแบบ ATX12VO custom, รองรับ LAN 2.5GbE และ 10GbE, จอ AOC QHD 27 นิ้ว, กล้อง V700, และชุดคีย์บอร์ด–เมาส์ไร้สายครบเซต

    แม้ยังไม่มี benchmark ภาคสนาม แต่สเปกแบบนี้เรียกได้ว่า “เกินหน้า Mac Studio M2 Ultra” ไปพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะถ้าเน้นใช้งาน AI inference ภายในแบบ local ไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    Abee เปิดตัว Mini PC ชื่อ AI Station ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo)  
    • 16 คอร์ 32 เธรด, Boost ได้ถึง 5.1GHz  
    • NPU รองรับ 126 TOPS, เป็นระดับสูงสุดของฝั่ง AMD ตอนนี้

    มี GPU Radeon 8600S ทำงานที่ 2900MHz + shared memory ได้ถึง 96GB  
    • GPU ในตัว APU แต่แรงพอตัวสำหรับ inferencing

    RAM 128GB LPDDR5X @8000MT/s แบบฝัง (soldered)  
    • เน้นประสิทธิภาพสูง แต่ไม่สามารถอัปเกรดภายหลังได้

    ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ ขนาดเล็กในตัวเครื่อง + พัดลม 92mm 2 ตัว  
    • ปั๊มน้ำอยู่บน APU โดยตรง

    PSU แบบ Flex ATX กำลังไฟ 400W ในเครื่อง + เมนบอร์ด ATX12VO แบบ custom  
    • ไม่มีพอร์ตไฟ 24-pin แบบเดิม

    มี LAN 2.5Gbps และ 10Gbps + จอ QHD + กล้อง + คีย์บอร์ด–เมาส์ เป็น Ecosystem พร้อมใช้

    เหมาะกับการรัน AI model ขนาดกลาง–ใหญ่ แบบ local (ไม่ต้องใช้ cloud)  
    • ใช้ได้ทั้ง inference, fine-tune, และ edge AI

    https://www.techradar.com/pro/chinese-vendor-launches-liquid-cooled-mini-pc-powered-by-amds-most-powerful-ai-processor-with-a-built-in-400w-psu
    ถ้าเรามอง mini PC แบบเดิมว่าเล็กน่ารักไว้แค่ทำงานเบา ๆ…อันนี้คือคนละโลกเลยครับ Abee AI Station มาในขนาดตัวเครื่อง 21x22x15 ซม. เท่านั้น — แต่ภายในยัดชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo) ที่มี 16 คอร์ 32 เธรด + AI NPU แรงระดับ 126 TOPS + GPU Radeon 8600S ความเร็ว 2900MHz และหน่วยความจำรวมถึง 128GB LPDDR5X @8000MT/s กับ GPU memory shared ได้สูงสุดถึง 96GB แถมยังใช้ liquid cooling แบบครบชุด มีหม้อน้ำเล็ก ๆ, ปั๊มน้ำในตัว, และพัดลม 92mm คู่ → รองรับการ inferencing model AI ขนาดใหญ่ในเครื่องเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ → PSU ก็จัดให้ในตัว 400W (Platinum-rated) นอกจากนี้ยังมากับ เมนบอร์ดแบบ ATX12VO custom, รองรับ LAN 2.5GbE และ 10GbE, จอ AOC QHD 27 นิ้ว, กล้อง V700, และชุดคีย์บอร์ด–เมาส์ไร้สายครบเซต แม้ยังไม่มี benchmark ภาคสนาม แต่สเปกแบบนี้เรียกได้ว่า “เกินหน้า Mac Studio M2 Ultra” ไปพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะถ้าเน้นใช้งาน AI inference ภายในแบบ local ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ✅ Abee เปิดตัว Mini PC ชื่อ AI Station ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo)   • 16 คอร์ 32 เธรด, Boost ได้ถึง 5.1GHz   • NPU รองรับ 126 TOPS, เป็นระดับสูงสุดของฝั่ง AMD ตอนนี้ ✅ มี GPU Radeon 8600S ทำงานที่ 2900MHz + shared memory ได้ถึง 96GB   • GPU ในตัว APU แต่แรงพอตัวสำหรับ inferencing ✅ RAM 128GB LPDDR5X @8000MT/s แบบฝัง (soldered)   • เน้นประสิทธิภาพสูง แต่ไม่สามารถอัปเกรดภายหลังได้ ✅ ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ ขนาดเล็กในตัวเครื่อง + พัดลม 92mm 2 ตัว   • ปั๊มน้ำอยู่บน APU โดยตรง ✅ PSU แบบ Flex ATX กำลังไฟ 400W ในเครื่อง + เมนบอร์ด ATX12VO แบบ custom   • ไม่มีพอร์ตไฟ 24-pin แบบเดิม ✅ มี LAN 2.5Gbps และ 10Gbps + จอ QHD + กล้อง + คีย์บอร์ด–เมาส์ เป็น Ecosystem พร้อมใช้ ✅ เหมาะกับการรัน AI model ขนาดกลาง–ใหญ่ แบบ local (ไม่ต้องใช้ cloud)   • ใช้ได้ทั้ง inference, fine-tune, และ edge AI https://www.techradar.com/pro/chinese-vendor-launches-liquid-cooled-mini-pc-powered-by-amds-most-powerful-ai-processor-with-a-built-in-400w-psu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องบอกว่า Nvidia ไม่ได้แค่เปิดตัว Grace Blackwell แล้วให้รอกันเป็นปีนะครับ — เพราะตอนนี้ Dell ส่งมอบ “เครื่องจริง” ให้ CoreWeave ใช้งานแล้ว
    → ติดตั้งที่ศูนย์ข้อมูลของ Switch
    → ใช้แร็กแบบ NVL72: ในหนึ่งแร็กมี
     • 72 GPU (Blackwell Ultra)
     • 36 CPU (Grace 72-core)
      • 36 DPU (BlueField)
    → พร้อมเมโมรี HBM3E 20TB และ RAM รวม 40TB
    → แร็กเดียวให้พลัง inferencing 1.1 ExaFLOPS (FP4) และ training 0.36 ExaFLOPS (FP8)
    → ใช้น้ำระบายความร้อน เพราะกินไฟถึง 1,400W ต่อ GPU

    ระบบนี้ยังต่อกันด้วย Nvidia Quantum-X800 InfiniBand และ ConnectX-8 SuperNICs ให้ความเร็วระดับ 14.4 GB/s — แรงกว่า GB200 NVL72 เดิมถึง 2 เท่าในการสื่อสารระหว่างแร็ก

    สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ... → Dell กับ CoreWeave พึ่งติดตั้ง GB200 NVL72 ไปเมื่อ 7 เดือนก่อน แต่ก็อัปเกรดเป็น GB300 Ultra เลย แสดงว่า demand แรงมาก และตลาดไม่รอของเก่าอีกแล้ว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-newest-top-tier-ai-supercomputers-deployed-for-the-first-time-grace-blackwell-ultra-superchip-systems-deployed-at-coreweave
    ต้องบอกว่า Nvidia ไม่ได้แค่เปิดตัว Grace Blackwell แล้วให้รอกันเป็นปีนะครับ — เพราะตอนนี้ Dell ส่งมอบ “เครื่องจริง” ให้ CoreWeave ใช้งานแล้ว → ติดตั้งที่ศูนย์ข้อมูลของ Switch → ใช้แร็กแบบ NVL72: ในหนึ่งแร็กมี  • 72 GPU (Blackwell Ultra)  • 36 CPU (Grace 72-core)   • 36 DPU (BlueField) → พร้อมเมโมรี HBM3E 20TB และ RAM รวม 40TB 🔥 → แร็กเดียวให้พลัง inferencing 1.1 ExaFLOPS (FP4) และ training 0.36 ExaFLOPS (FP8) → ใช้น้ำระบายความร้อน เพราะกินไฟถึง 1,400W ต่อ GPU 😮💧 ระบบนี้ยังต่อกันด้วย Nvidia Quantum-X800 InfiniBand และ ConnectX-8 SuperNICs ให้ความเร็วระดับ 14.4 GB/s — แรงกว่า GB200 NVL72 เดิมถึง 2 เท่าในการสื่อสารระหว่างแร็ก สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ... → Dell กับ CoreWeave พึ่งติดตั้ง GB200 NVL72 ไปเมื่อ 7 เดือนก่อน แต่ก็อัปเกรดเป็น GB300 Ultra เลย แสดงว่า demand แรงมาก และตลาดไม่รอของเก่าอีกแล้ว https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-newest-top-tier-ai-supercomputers-deployed-for-the-first-time-grace-blackwell-ultra-superchip-systems-deployed-at-coreweave
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปปี 2022 Samsung เริ่มลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่เมือง Taylor, Texas ด้วยความหวังจะยึดหัวหาดในตลาดอเมริกา

    → เดิมวางแผนใช้สายการผลิตระดับ 4nm และต่อมาอัปเกรดไปเป็น 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC/Intel → ทุ่มงบจากเดิม $17B เพิ่มเป็น $44B → รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act กว่า $6.6B

    แต่ถึงตอนนี้...อุปกรณ์เครื่องจักรยังไม่ได้ติดตั้ง และแหล่งข่าวบอกว่า เหตุผลสำคัญคือ “ยังไม่มีลูกค้า” และ “ความต้องการชิประดับนี้ในสหรัฐฯ ยังน้อย”

    ตรงกันข้ามกับ TSMC ที่โรงงานในแอริโซนาแม้ผลิตชิปราคาแพงกว่าจากต่างประเทศ แต่ มีลูกค้าเต็มล่วงหน้าถึงปี 2027 แล้ว เช่น Apple, AMD, Nvidia, Qualcomm

    สรุปคือ: Samsung อาจสร้างโรงงานทัน แต่ถ้าไม่มีลูกค้ามารอใช้สายการผลิต — ก็ยังเดินหน้าต่อไม่ได้

    Samsung ชะลอการเปิดโรงงานผลิตชิปที่ Taylor, Texas มูลค่า $44,000 ล้าน  
    • แม้โครงสร้างก่อสร้างจะเสร็จแล้ว 92% ณ มีนาคม 2024  
    • เดิมมีกำหนดแล้วเสร็จเมษายน 2024 แต่ถูกเลื่อนไปตุลาคม

    เหตุหลักของความล่าช้า: “ยังไม่มีลูกค้า และ node 4nm ที่วางแผนไว้ไม่ตรงกับตลาดปัจจุบัน”  
    • บริษัทวางแผนอัปเกรดเป็น 2nm แต่ต้องใช้เวลา–เงิน–คน–เทคโนโลยีจำนวนมาก

    เปรียบเทียบกับ TSMC ที่ Fab 21 ในรัฐแอริโซนา
    • ผลิตชิประดับ 4nm  
    • ลูกค้าหลัก: Apple, AMD, Nvidia, Broadcom  
    • ปริมาณการสั่งผลิตถูกจองหมดถึงปี 2027 แม้ราคาสูง

    Samsung มีตลาดโรงหล่อ (foundry market share) เพียง 7.7% เทียบกับ TSMC ที่ถือ 68%

    แม้เทคโนโลยีพร้อม แต่ยังต้องสร้างทีมงาน ทดสอบอุปกรณ์ และรับมือกับต้นทุนติดตั้งที่สูง (เฉพาะ EUV เครื่องพิมพ์ลายวงจร ก็ใช้เวลาติดตั้งนานมาก)

    Samsung ยืนยันว่าจะเดินหน้าเปิดโรงงานให้ทันปี 2026 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์เงินสนับสนุนจาก CHIPS Act

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/samsung-delays-usd44-billion-texas-chip-fab-sources-say-completion-halted-because-there-are-no-customers
    ย้อนกลับไปปี 2022 Samsung เริ่มลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่เมือง Taylor, Texas ด้วยความหวังจะยึดหัวหาดในตลาดอเมริกา → เดิมวางแผนใช้สายการผลิตระดับ 4nm และต่อมาอัปเกรดไปเป็น 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC/Intel → ทุ่มงบจากเดิม $17B เพิ่มเป็น $44B → รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act กว่า $6.6B แต่ถึงตอนนี้...อุปกรณ์เครื่องจักรยังไม่ได้ติดตั้ง และแหล่งข่าวบอกว่า เหตุผลสำคัญคือ “ยังไม่มีลูกค้า” และ “ความต้องการชิประดับนี้ในสหรัฐฯ ยังน้อย” ตรงกันข้ามกับ TSMC ที่โรงงานในแอริโซนาแม้ผลิตชิปราคาแพงกว่าจากต่างประเทศ แต่ มีลูกค้าเต็มล่วงหน้าถึงปี 2027 แล้ว เช่น Apple, AMD, Nvidia, Qualcomm สรุปคือ: Samsung อาจสร้างโรงงานทัน แต่ถ้าไม่มีลูกค้ามารอใช้สายการผลิต — ก็ยังเดินหน้าต่อไม่ได้ ✅ Samsung ชะลอการเปิดโรงงานผลิตชิปที่ Taylor, Texas มูลค่า $44,000 ล้าน   • แม้โครงสร้างก่อสร้างจะเสร็จแล้ว 92% ณ มีนาคม 2024   • เดิมมีกำหนดแล้วเสร็จเมษายน 2024 แต่ถูกเลื่อนไปตุลาคม ✅ เหตุหลักของความล่าช้า: “ยังไม่มีลูกค้า และ node 4nm ที่วางแผนไว้ไม่ตรงกับตลาดปัจจุบัน”   • บริษัทวางแผนอัปเกรดเป็น 2nm แต่ต้องใช้เวลา–เงิน–คน–เทคโนโลยีจำนวนมาก ✅ เปรียบเทียบกับ TSMC ที่ Fab 21 ในรัฐแอริโซนา • ผลิตชิประดับ 4nm   • ลูกค้าหลัก: Apple, AMD, Nvidia, Broadcom   • ปริมาณการสั่งผลิตถูกจองหมดถึงปี 2027 แม้ราคาสูง ✅ Samsung มีตลาดโรงหล่อ (foundry market share) เพียง 7.7% เทียบกับ TSMC ที่ถือ 68% ✅ แม้เทคโนโลยีพร้อม แต่ยังต้องสร้างทีมงาน ทดสอบอุปกรณ์ และรับมือกับต้นทุนติดตั้งที่สูง (เฉพาะ EUV เครื่องพิมพ์ลายวงจร ก็ใช้เวลาติดตั้งนานมาก) ✅ Samsung ยืนยันว่าจะเดินหน้าเปิดโรงงานให้ทันปี 2026 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์เงินสนับสนุนจาก CHIPS Act https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/samsung-delays-usd44-billion-texas-chip-fab-sources-say-completion-halted-because-there-are-no-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น

    - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร
    - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้
    - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด)
    - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป

    บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ

    สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security:
    1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี  
    • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม
    • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์  
    • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง

    2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?  
    • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ  
    • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ  
    • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร

    3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP  
    • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน  
    • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์

    4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)  
    • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน  
    • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting  
    • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”  
    • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM

    5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)  
    • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก  
    • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account  
    • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน

    https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้ - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด) - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ ✅ สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security: 1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์   • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี   • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์   • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง 2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?   • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ   • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ   • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร 3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์   • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP   • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน   • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์ 4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)   • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน   • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting   • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”   • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM 5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)   • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก   • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account   • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    5 multicloud security challenges — and how to address them
    From inadequate visibility to access management complexity, multicloud environments take baseline cloud security issues to another level.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • openSUSE Tumbleweed เป็นดิสโทรแนว rolling release นะครับ — นั่นคือไม่ต้องรอเวอร์ชันใหม่รายปีเหมือน Ubuntu หรือ Fedora แต่มีของใหม่ไหลมาเรื่อย ๆ เดือนมิถุนายนนี้คือรอบใหญ่ที่แฟน KDE รอคอย เพราะได้อัปเกรดเป็น KDE Plasma 6.4 ตัวเต็ม พร้อม UI ลื่นขึ้น ดีไซน์ใหม่ และมีฟีเจอร์ที่คอ productivity น่าจะชอบ:

    - ระบบ จัดหน้าต่างแบบ Tiling (เหมือน BSPWM หรือ Win+Arrow ใน Windows)
    - ปรับระบบแจ้งเตือนใหม่: ติดตั้งอัปเดตตรงจากโนติ, มี Do Not Disturb เต็มจอ, บอกเมื่อ mute ไมค์
    - KRunner รองรับโค้ดสีแบบเห็นภาพ
    - System Monitor เพิ่มกราฟ GPU
    - Spectacle ถ่ายภาพหน้าจอแบบใหม่
    - Accessibility ดีขึ้นทั้งทางแป้นพิมพ์และ Wayland

    แต่ไม่ได้มีแค่ Plasma — ด้านล่างยังมีของใหม่อีก:

    - Linux kernel 6.15 → 6.15.3 → รองรับ PCIe hotplug, Wi-Fi ชิปใหม่ และ I/O scheduler ที่ดีขึ้น
    - GCC 15 เพิ่มภาษา Modula-2, COBOL (!), และประสิทธิภาพดีขึ้น
    - Mesa 25.1.3 แก้ปัญหาเกม DOOM: The Dark Ages กับไดรเวอร์
    - PipeWire 1.4.6 ลดดีเลย์เสียง, แก้ ALSA crash
    - Python 3.13.5 และ 3.11 (ความปลอดภัย+เสถียรภาพ), พร้อมบอกลา Python 2.7

    และที่สำคัญมาก — มีการอุดช่องโหว่ความปลอดภัย (CVE) หลายตัวใน Firefox, Python, libssh, ClamAV, gdm ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็น “เดือนที่ควรอัปเดตทันที” เลยครับ

    https://www.neowin.net/news/opensuse-tumbleweeds-june-update-brings-kde-plasma-64-and-critical-security-fixes/
    openSUSE Tumbleweed เป็นดิสโทรแนว rolling release นะครับ — นั่นคือไม่ต้องรอเวอร์ชันใหม่รายปีเหมือน Ubuntu หรือ Fedora แต่มีของใหม่ไหลมาเรื่อย ๆ เดือนมิถุนายนนี้คือรอบใหญ่ที่แฟน KDE รอคอย เพราะได้อัปเกรดเป็น KDE Plasma 6.4 ตัวเต็ม พร้อม UI ลื่นขึ้น ดีไซน์ใหม่ และมีฟีเจอร์ที่คอ productivity น่าจะชอบ: - ระบบ จัดหน้าต่างแบบ Tiling (เหมือน BSPWM หรือ Win+Arrow ใน Windows) - ปรับระบบแจ้งเตือนใหม่: ติดตั้งอัปเดตตรงจากโนติ, มี Do Not Disturb เต็มจอ, บอกเมื่อ mute ไมค์ - KRunner รองรับโค้ดสีแบบเห็นภาพ - System Monitor เพิ่มกราฟ GPU - Spectacle ถ่ายภาพหน้าจอแบบใหม่ - Accessibility ดีขึ้นทั้งทางแป้นพิมพ์และ Wayland แต่ไม่ได้มีแค่ Plasma — ด้านล่างยังมีของใหม่อีก: - Linux kernel 6.15 → 6.15.3 → รองรับ PCIe hotplug, Wi-Fi ชิปใหม่ และ I/O scheduler ที่ดีขึ้น - GCC 15 เพิ่มภาษา Modula-2, COBOL (!), และประสิทธิภาพดีขึ้น - Mesa 25.1.3 แก้ปัญหาเกม DOOM: The Dark Ages กับไดรเวอร์ - PipeWire 1.4.6 ลดดีเลย์เสียง, แก้ ALSA crash - Python 3.13.5 และ 3.11 (ความปลอดภัย+เสถียรภาพ), พร้อมบอกลา Python 2.7 และที่สำคัญมาก — มีการอุดช่องโหว่ความปลอดภัย (CVE) หลายตัวใน Firefox, Python, libssh, ClamAV, gdm ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็น “เดือนที่ควรอัปเดตทันที” เลยครับ https://www.neowin.net/news/opensuse-tumbleweeds-june-update-brings-kde-plasma-64-and-critical-security-fixes/
    WWW.NEOWIN.NET
    openSUSE Tumbleweed's June update brings KDE Plasma 6.4 and critical security fixes
    If you're looking to try out the new KDE Plasma 6.4, you can check out openSUSE Tumbleweed, as it was one of many bleeding-edge updates the distribution got in June.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน

    ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey

    ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น:
    - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน
    - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic)
    - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง
    - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ
    - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!)

    PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)  
    • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709  
    • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7  
    • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย

    Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”  
    • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน  
    • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel

    มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:  
    • Reset This PC  
    • การแสดงผล taskbar  
    • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)  
    • Animation ต่าง ๆ  
    • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process)

    แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ

    แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา

    แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว

    https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น: - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic) - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!) ✅ PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)   • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709   • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7   • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย ✅ Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”   • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน   • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel ✅ มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:   • Reset This PC   • การแสดงผล taskbar   • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)   • Animation ต่าง ๆ   • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process) ✅ แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ ✅ แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา ✅ แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft removes PowerShell 2.0 from Windows 11 in build 27891
    Microsoft has released a new Windows 11 build with some fixes, a new feature for the Microsoft Store, and PowerShell changes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไฮไลท์งานรวมพลังเเผ่นดินปกป้องอธิปไตย 28 มิถุนายน 2568

    คลิกชม https://www.youtube.com/watch?v=Ebc96n1dPl4
    ไฮไลท์งานรวมพลังเเผ่นดินปกป้องอธิปไตย 28 มิถุนายน 2568 • คลิกชม https://www.youtube.com/watch?v=Ebc96n1dPl4
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 2 รีวิว
  • เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากชุมพร แต่ก็คุ้มค่าที่ไป ไม่เสียแรงเลยที่ไป แถมได้เสื้อช็อปวิศวฯลาดกระบัง เมาส์เก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว 2 อัน อันนึงเพื้ยน อันนึงไม่เพื้ยน ส่วนคีย์บอร์ดไม่มี น่าจะต้องซื้อใหม่ และหนังสือสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (รอดจากปลวกรับประทาน เลยสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นได้) และก็ได้เรียนรู้วิธีซ่อมปลั๊กไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กลับมาใช้การได้ เดี๋ยวคฃงต้องดูอะไหล่พัดลม อะไหล่เมาส์ และซ่อมเมาส์ ซื้อตะกั่วบัดกรีไว้ซ่อมเมาส์หรือคีย์บอร์ด ไม่ก็หาทางโมดิฟายคีย์บอร์ดและเมาส์เอา
    พักนี้ก็น่าจะ Maplestory อย่างเดียวและเล่นยาวๆนะครับ
    เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากชุมพร แต่ก็คุ้มค่าที่ไป ไม่เสียแรงเลยที่ไป แถมได้เสื้อช็อปวิศวฯลาดกระบัง เมาส์เก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว 2 อัน อันนึงเพื้ยน อันนึงไม่เพื้ยน ส่วนคีย์บอร์ดไม่มี น่าจะต้องซื้อใหม่ และหนังสือสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (รอดจากปลวกรับประทาน เลยสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นได้) และก็ได้เรียนรู้วิธีซ่อมปลั๊กไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กลับมาใช้การได้ เดี๋ยวคฃงต้องดูอะไหล่พัดลม อะไหล่เมาส์ และซ่อมเมาส์ ซื้อตะกั่วบัดกรีไว้ซ่อมเมาส์หรือคีย์บอร์ด ไม่ก็หาทางโมดิฟายคีย์บอร์ดและเมาส์เอา พักนี้ก็น่าจะ Maplestory อย่างเดียวและเล่นยาวๆนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังไม่คุยกฤษฎีกา ยุบสภาได้หรือไม่ : [NEWS UPDATE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มองสภาล่มเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่ามองลบ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แจงรักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มตามที่รัฐธรรมนูญกําหนด แต่ยังไม่คุยกับกฤษฎีกาว่ามีอำนาจยุบสภาหรือปรับ ครม. ได้หรือไม่

    -สะเทือนใจนักเรียนผวาไซเรน

    -ขอกัมพูชาเลิกปั่นโซเชียล

    -ประลองกำลังรับเปิดสภา

    -ไม่ได้ปิดเที่ยวไทยคนละครึ่ง

    https://www.youtube.com/watch?v=epL3Pgww1to
    ยังไม่คุยกฤษฎีกา ยุบสภาได้หรือไม่ : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มองสภาล่มเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่ามองลบ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แจงรักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มตามที่รัฐธรรมนูญกําหนด แต่ยังไม่คุยกับกฤษฎีกาว่ามีอำนาจยุบสภาหรือปรับ ครม. ได้หรือไม่ -สะเทือนใจนักเรียนผวาไซเรน -ขอกัมพูชาเลิกปั่นโซเชียล -ประลองกำลังรับเปิดสภา -ไม่ได้ปิดเที่ยวไทยคนละครึ่ง https://www.youtube.com/watch?v=epL3Pgww1to
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/TwTcDyotU4U?si=AYM4wPl1Hj_-XlVb
    https://youtu.be/TwTcDyotU4U?si=AYM4wPl1Hj_-XlVb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติ “ดิโอโก้ โชต้า” นักเตะลิเวอร์พูล เสียวัย 28 ปี : [News story]

    “ดิโอโก้ โชต้า” อาลัย นักเตะลิเวอร์พูล เสียกะทันหัน จากรถชน วัยเพียง 28 ปี

    https://www.youtube.com/watch?v=CCPGpLDiN2U
    ประวัติ “ดิโอโก้ โชต้า” นักเตะลิเวอร์พูล เสียวัย 28 ปี : [News story] “ดิโอโก้ โชต้า” อาลัย นักเตะลิเวอร์พูล เสียกะทันหัน จากรถชน วัยเพียง 28 ปี https://www.youtube.com/watch?v=CCPGpLDiN2U
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บทเรียนฮาแบบเจ็บจริง” ของคนเล่น Virtual Machine (VM) — เมื่อผู้ใช้รายหนึ่งเผลอกด “Eject” การ์ดจอออกจากระบบผ่าน Windows แบบไม่ตั้งใจ ทำให้ GPU หายไปจาก VM แถมใช้เวลาตั้งชั่วโมงกว่าจะกู้กลับมาได้!

    เรื่องมันเริ่มจากคุณ YnosNava บน Reddit ซึ่งกำลังทดลองใช้ PCIe passthrough บน VM ใน Proxmox เพื่อให้ VM (เช่น Windows) เข้าถึงการ์ดจอโดยตรง — เทคนิคนี้จะทำให้การรันเกมหรือแอปกราฟิกใน VM เร็วและลื่นขึ้นมาก

    แต่...เขาดันไปเห็นการ์ดจอแสดงอยู่ใน System Tray ของ Windows พร้อมปุ่ม “Eject NVIDIA GeForce…” แล้วด้วยความอยากรู้อยากลอง เขาก็กดเลยครับ! → ผลคือล็อก VM ไม่พอ การ์ดจอหาย! → Windows มองไม่เห็นแล้ว → ต้องลบ–เพิ่มอุปกรณ์ใหม่–รีบูตหลายรอบ–ลงไดรเวอร์ใหม่กว่าจะกลับมาได้

    เคสนี้เกิดจากระบบ PCIe passthrough ที่ให้ Windows มองเห็นอุปกรณ์แบบ “hot-pluggable” (ถอดออกได้ทันที) เหมือนแฟลชไดรฟ์ — แต่แน่นอนว่าการ์ดจอไม่ใช่อะไรที่จะถอดแล้วเสียบกลับได้ในพริบตา

    เหตุเกิดจาก Windows VM ที่ใช้ PCIe passthrough บน Proxmox  
    • การ์ดจอถูก passthrough ไปให้ Windows ใช้โดยตรง  
    • Windows แสดงอุปกรณ์ว่า “ถอดออกได้” ผ่าน System Tray

    ผู้ใช้กด “Eject GPU” ด้วยความอยากรู้ → การ์ดจอหายไปจาก VM  
    • Windows ไม่สามารถตรวจเจอ GPU ได้อีก  
    • ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงแก้ไข โดย:   
    – ลบอุปกรณ์ GPU ออกจากการตั้งค่า VM   
    – รีสตาร์ต VM   
    – เพิ่ม GPU กลับเข้า VM   
    – รีสตาร์ตใหม่   
    – ลงไดรเวอร์ใหม่

    นี่เป็นพฤติกรรมปกติของ passthrough แบบ PCIe ที่อนุญาตให้ Windows ถอด GPU ได้  
    • ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า firmware/VM ว่าอนุญาตให้ hot-unplug หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/software/windows/hilariously-unfortunate-windows-user-ejects-graphics-card-immediately-regrets-it-curiosity-killed-the-vm-acceleration
    “บทเรียนฮาแบบเจ็บจริง” ของคนเล่น Virtual Machine (VM) — เมื่อผู้ใช้รายหนึ่งเผลอกด “Eject” การ์ดจอออกจากระบบผ่าน Windows แบบไม่ตั้งใจ ทำให้ GPU หายไปจาก VM แถมใช้เวลาตั้งชั่วโมงกว่าจะกู้กลับมาได้! 😅💻💥 เรื่องมันเริ่มจากคุณ YnosNava บน Reddit ซึ่งกำลังทดลองใช้ PCIe passthrough บน VM ใน Proxmox เพื่อให้ VM (เช่น Windows) เข้าถึงการ์ดจอโดยตรง — เทคนิคนี้จะทำให้การรันเกมหรือแอปกราฟิกใน VM เร็วและลื่นขึ้นมาก แต่...เขาดันไปเห็นการ์ดจอแสดงอยู่ใน System Tray ของ Windows พร้อมปุ่ม “Eject NVIDIA GeForce…” แล้วด้วยความอยากรู้อยากลอง เขาก็กดเลยครับ! → ผลคือล็อก VM ไม่พอ การ์ดจอหาย! → Windows มองไม่เห็นแล้ว → ต้องลบ–เพิ่มอุปกรณ์ใหม่–รีบูตหลายรอบ–ลงไดรเวอร์ใหม่กว่าจะกลับมาได้ เคสนี้เกิดจากระบบ PCIe passthrough ที่ให้ Windows มองเห็นอุปกรณ์แบบ “hot-pluggable” (ถอดออกได้ทันที) เหมือนแฟลชไดรฟ์ — แต่แน่นอนว่าการ์ดจอไม่ใช่อะไรที่จะถอดแล้วเสียบกลับได้ในพริบตา 😓 ✅ เหตุเกิดจาก Windows VM ที่ใช้ PCIe passthrough บน Proxmox   • การ์ดจอถูก passthrough ไปให้ Windows ใช้โดยตรง   • Windows แสดงอุปกรณ์ว่า “ถอดออกได้” ผ่าน System Tray ✅ ผู้ใช้กด “Eject GPU” ด้วยความอยากรู้ → การ์ดจอหายไปจาก VM   • Windows ไม่สามารถตรวจเจอ GPU ได้อีก   • ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงแก้ไข โดย:    – ลบอุปกรณ์ GPU ออกจากการตั้งค่า VM    – รีสตาร์ต VM    – เพิ่ม GPU กลับเข้า VM    – รีสตาร์ตใหม่    – ลงไดรเวอร์ใหม่ ✅ นี่เป็นพฤติกรรมปกติของ passthrough แบบ PCIe ที่อนุญาตให้ Windows ถอด GPU ได้   • ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า firmware/VM ว่าอนุญาตให้ hot-unplug หรือไม่ https://www.tomshardware.com/software/windows/hilariously-unfortunate-windows-user-ejects-graphics-card-immediately-regrets-it-curiosity-killed-the-vm-acceleration
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน Intel AI Summit ที่เกาหลีใต้ Intel เผยของใหม่สองกลุ่มใหญ่:

    1️⃣ Jaguar Shores: คือชื่อรหัสของ AI Accelerator รุ่นต่อไปภายใต้แบรนด์ “Gaudi” ที่จะมาแทน Falcon Shores ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว  → ความพิเศษอยู่ที่มันจะใช้ HBM4 รุ่นล่าสุดจาก SK hynix  → HBM4 มีแบนด์วิดท์มหาศาล เหมาะสำหรับ AI รุ่นใหญ่ เช่น LLM / LRM  → เป็นครั้งแรกที่ Intel ยืนยันว่าจะใช้ HBM4 จริงในผลิตภัณฑ์

    2️⃣ Diamond Rapids: คือ Xeon Gen ถัดไป (สำหรับ data center) ที่จะใช้ MRDIMM รุ่นที่ 2 — เป็นหน่วยความจำ DDR5 ที่เร็วและฉลาด  → เชื่อมต่อแบบ “multiplexed” ทำให้มี latency ต่ำและเร็วกว่า RDIMM  → ความเร็วคาดว่าจะไปถึง 12,800 MT/s (จากเดิม 8,800 MT/s)

    แม้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องจำนวน stack ของ HBM4 หรือสเปกเต็มของ Jaguar Shores แต่ก็ถือเป็นสัญญาณชัดว่า Intel ไม่ยอมให้นวัตกรรม AI–Server ตกขบวนอีกแล้วครับ

    Jaguar Shores เป็น Gaudi Accelerator รุ่นใหม่ของ Intel ที่จะเปิดตัวในปี 2026  
    • ใช้ HBM4 จาก SK hynix  
    • มาแทน Falcon Shores ที่ถูกยกเลิก  
    • ออกแบบสำหรับ AI workloads ขนาดใหญ่

    HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงแบบใหม่ที่ JEDEC เพิ่งรับรองมาตรฐานในปี 2024  
    • มีแบนด์วิดท์สูงกว่า HBM3E  
    • Micron, SK hynix และ Samsung เริ่มผลิตทดสอบแล้ว  
    • ใช้ในระบบ AI, HPC และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่

    Diamond Rapids จะใช้ MRDIMM เจเนอเรชันที่ 2  
    • มีขนาด 64GB (ใช้ชิป 16GB) และ 128GB (ใช้ชิป 32GB)  
    • Multiplexed Rank DIMM → มี MRCD chip และ MDB chip ในตัว  
    • ลด latency ลงกว่า DDR5-6400 RDIMM ได้มากถึง 40%  
    • รองรับความเร็ว bus สูงสุด 12,800 MT/s

    แนวคิด MRDIMM คือให้ internal DRAM ทำงานที่ความเร็วครึ่งนึงของภายนอก เพื่อลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ

    Intel ยังไม่เปิดเผยจำนวน stack ของ HBM4 บน Jaguar Shores → อาจกระทบกับ performance vs NVIDIA / AMD หากใช้ stack น้อยเกินไป

    การแข่งขันด้านหน่วยความจำ AI ร้อนแรงมาก — หาก Intel ปรับช้ากว่า Micron/SK hynix/Samsung อาจเสียส่วนแบ่งในตลาด hyperscaler

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-jumps-to-hbm4-with-jaguar-shores-2nd-gen-mrdimms-with-diamond-rapids-sk-hynix
    ในงาน Intel AI Summit ที่เกาหลีใต้ Intel เผยของใหม่สองกลุ่มใหญ่: 1️⃣ Jaguar Shores: คือชื่อรหัสของ AI Accelerator รุ่นต่อไปภายใต้แบรนด์ “Gaudi” ที่จะมาแทน Falcon Shores ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว  → ความพิเศษอยู่ที่มันจะใช้ HBM4 รุ่นล่าสุดจาก SK hynix  → HBM4 มีแบนด์วิดท์มหาศาล เหมาะสำหรับ AI รุ่นใหญ่ เช่น LLM / LRM  → เป็นครั้งแรกที่ Intel ยืนยันว่าจะใช้ HBM4 จริงในผลิตภัณฑ์ 2️⃣ Diamond Rapids: คือ Xeon Gen ถัดไป (สำหรับ data center) ที่จะใช้ MRDIMM รุ่นที่ 2 — เป็นหน่วยความจำ DDR5 ที่เร็วและฉลาด  → เชื่อมต่อแบบ “multiplexed” ทำให้มี latency ต่ำและเร็วกว่า RDIMM  → ความเร็วคาดว่าจะไปถึง 12,800 MT/s (จากเดิม 8,800 MT/s) แม้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องจำนวน stack ของ HBM4 หรือสเปกเต็มของ Jaguar Shores แต่ก็ถือเป็นสัญญาณชัดว่า Intel ไม่ยอมให้นวัตกรรม AI–Server ตกขบวนอีกแล้วครับ ✅ Jaguar Shores เป็น Gaudi Accelerator รุ่นใหม่ของ Intel ที่จะเปิดตัวในปี 2026   • ใช้ HBM4 จาก SK hynix   • มาแทน Falcon Shores ที่ถูกยกเลิก   • ออกแบบสำหรับ AI workloads ขนาดใหญ่ ✅ HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงแบบใหม่ที่ JEDEC เพิ่งรับรองมาตรฐานในปี 2024   • มีแบนด์วิดท์สูงกว่า HBM3E   • Micron, SK hynix และ Samsung เริ่มผลิตทดสอบแล้ว   • ใช้ในระบบ AI, HPC และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ✅ Diamond Rapids จะใช้ MRDIMM เจเนอเรชันที่ 2   • มีขนาด 64GB (ใช้ชิป 16GB) และ 128GB (ใช้ชิป 32GB)   • Multiplexed Rank DIMM → มี MRCD chip และ MDB chip ในตัว   • ลด latency ลงกว่า DDR5-6400 RDIMM ได้มากถึง 40%   • รองรับความเร็ว bus สูงสุด 12,800 MT/s ✅ แนวคิด MRDIMM คือให้ internal DRAM ทำงานที่ความเร็วครึ่งนึงของภายนอก เพื่อลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ ‼️ Intel ยังไม่เปิดเผยจำนวน stack ของ HBM4 บน Jaguar Shores → อาจกระทบกับ performance vs NVIDIA / AMD หากใช้ stack น้อยเกินไป ‼️ การแข่งขันด้านหน่วยความจำ AI ร้อนแรงมาก — หาก Intel ปรับช้ากว่า Micron/SK hynix/Samsung อาจเสียส่วนแบ่งในตลาด hyperscaler https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-jumps-to-hbm4-with-jaguar-shores-2nd-gen-mrdimms-with-diamond-rapids-sk-hynix
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมวิจัยของ ศ. Michael Chan กำลังนำเอาความเชี่ยวชาญด้าน “อวัยวะจิ๋ว (organoids)” ซึ่งสร้างจาก เซลล์ต้นกำเนิดของผู้ป่วยเอง มารวมเข้ากับโครงสร้างทางเดินหายใจที่พิมพ์ด้วย เครื่องพิมพ์ 3 มิติ → เป้าหมายคือ “พิมพ์อวัยวะที่ใช้งานได้จริง โดยร่างกายไม่ปฏิเสธ เพราะสร้างจากเซลล์ของเราเอง!”

    ที่ผ่านมา แม้จะมีการพิมพ์ airway ด้วย biomaterials ได้แล้ว แต่ “ปัญหาใหญ่คือมันไม่มีเซลล์ → จึงไม่ทำงานจริง” เช่น ไม่สร้างเยื่อเมือก ไม่ขยับขนเล็ก ๆ ที่ดันเสมหะ → ทีมของ HKU จึงคิดต่อยอดว่า “งั้นเราก็นำ organoid ไปฝังลงในโครงสร้าง 3D เลยสิ!”

    ฟังดูเหมือน sci-fi ใช่ไหมครับ? แต่ตอนนี้เขากำลังทดสอบขั้นตอนจริงแล้ว:
    - ใช้ไม้พัน organoid เหมือนเสียบลูกชิ้น → ยึดกับวัสดุพิมพ์
    - พัฒนาเครื่องจักรจากความร่วมมือกับ Hitachi → ให้เลี้ยงอวัยวะจิ๋วแบบอัตโนมัติ
    - เปลี่ยนจากการที่นักวิจัย 1 คนเลี้ยง organoid ได้แค่ 1 ชุด → เป็นระบบที่ทำงานกับ 128 ชุดพร้อมกัน!

    นอกจากนี้ organoid ยังถูกใช้ทดสอบยา–วัคซีนส่วนตัวได้ด้วย → อนาคตการแพทย์อาจเข้าสู่ยุค “made to order for you” ก็เป็นได้ครับ

    HKU พัฒนาอวัยวะเทียมโดยผสาน organoid (เซลล์คนไข้เอง) เข้ากับวัสดุพิมพ์ 3D  
    • เริ่มต้นที่ “ทางเดินหายใจ” สำหรับผู้ป่วยไฟไหม้หรือบาดเจ็บ  
    • ใช้เซลล์จากการ swab ปากคนไข้ → เพาะเลี้ยงเป็น organoid

    พัฒนาเครื่องเลี้ยง organoid ร่วมกับ Hitachi  
    • ทำงานอัตโนมัติได้พร้อมกัน 128 ตัวอย่าง  
    • ลดภาระแรงงานมนุษย์–ความผิดพลาด  
    • เตรียมเข้าสู่การผลิตอวัยวะแบบ mass-personalized

    organoid จาก HKU สามารถจำลองการตอบสนองต่อยา-วัคซีนได้แม่นยำ  
    • ขายให้บริษัทยาเพื่อใช้ทดสอบยา  
    • เป็นตัวเร่งการแพทย์แม่นยำ (precision medicine)

    HKU ตั้งบริษัท spin-off ชื่อ C2iTech รองรับการผลิต organoid เชิงพาณิชย์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/03/university-of-hong-kong-scientists-explore-growing-organs-with-3d-printing-tech
    ทีมวิจัยของ ศ. Michael Chan กำลังนำเอาความเชี่ยวชาญด้าน “อวัยวะจิ๋ว (organoids)” ซึ่งสร้างจาก เซลล์ต้นกำเนิดของผู้ป่วยเอง มารวมเข้ากับโครงสร้างทางเดินหายใจที่พิมพ์ด้วย เครื่องพิมพ์ 3 มิติ → เป้าหมายคือ “พิมพ์อวัยวะที่ใช้งานได้จริง โดยร่างกายไม่ปฏิเสธ เพราะสร้างจากเซลล์ของเราเอง!” ที่ผ่านมา แม้จะมีการพิมพ์ airway ด้วย biomaterials ได้แล้ว แต่ “ปัญหาใหญ่คือมันไม่มีเซลล์ → จึงไม่ทำงานจริง” เช่น ไม่สร้างเยื่อเมือก ไม่ขยับขนเล็ก ๆ ที่ดันเสมหะ → ทีมของ HKU จึงคิดต่อยอดว่า “งั้นเราก็นำ organoid ไปฝังลงในโครงสร้าง 3D เลยสิ!” 💡 ฟังดูเหมือน sci-fi ใช่ไหมครับ? แต่ตอนนี้เขากำลังทดสอบขั้นตอนจริงแล้ว: - ใช้ไม้พัน organoid เหมือนเสียบลูกชิ้น → ยึดกับวัสดุพิมพ์ - พัฒนาเครื่องจักรจากความร่วมมือกับ Hitachi → ให้เลี้ยงอวัยวะจิ๋วแบบอัตโนมัติ - เปลี่ยนจากการที่นักวิจัย 1 คนเลี้ยง organoid ได้แค่ 1 ชุด → เป็นระบบที่ทำงานกับ 128 ชุดพร้อมกัน! นอกจากนี้ organoid ยังถูกใช้ทดสอบยา–วัคซีนส่วนตัวได้ด้วย → อนาคตการแพทย์อาจเข้าสู่ยุค “made to order for you” ก็เป็นได้ครับ ✅ HKU พัฒนาอวัยวะเทียมโดยผสาน organoid (เซลล์คนไข้เอง) เข้ากับวัสดุพิมพ์ 3D   • เริ่มต้นที่ “ทางเดินหายใจ” สำหรับผู้ป่วยไฟไหม้หรือบาดเจ็บ   • ใช้เซลล์จากการ swab ปากคนไข้ → เพาะเลี้ยงเป็น organoid ✅ พัฒนาเครื่องเลี้ยง organoid ร่วมกับ Hitachi   • ทำงานอัตโนมัติได้พร้อมกัน 128 ตัวอย่าง   • ลดภาระแรงงานมนุษย์–ความผิดพลาด   • เตรียมเข้าสู่การผลิตอวัยวะแบบ mass-personalized ✅ organoid จาก HKU สามารถจำลองการตอบสนองต่อยา-วัคซีนได้แม่นยำ   • ขายให้บริษัทยาเพื่อใช้ทดสอบยา   • เป็นตัวเร่งการแพทย์แม่นยำ (precision medicine) ✅ HKU ตั้งบริษัท spin-off ชื่อ C2iTech รองรับการผลิต organoid เชิงพาณิชย์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/03/university-of-hong-kong-scientists-explore-growing-organs-with-3d-printing-tech
    WWW.THESTAR.COM.MY
    University of Hong Kong scientists explore growing organs with 3D printing tech
    Professor Michael Chan says his team is looking to produce personalised 3D-printed airways for burn victims using patients' cells.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เริ่มใช้นโยบายชื่อว่า Block device code flow (DCF) เป็นส่วนหนึ่งของ Secure Future Initiative เพื่อบล็อกการล็อกอินแบบ “Device Code Flow” ที่อ่อนแอกว่า OAuth ปกติ ซึ่งถูกแฮกเกอร์ใช้โจมตีได้ง่าย → แต่นโยบายนี้ดันไปกระทบกับ อุปกรณ์ Teams Android เช่น Teams Rooms, Teams Phones, Teams Panels และ Displays เพราะอุปกรณ์พวกนี้ยังใช้วิธีล็อกอินแบบ DCF อยู่ → พอระบบบล็อกเข้าให้ อุปกรณ์ก็ หลุดล็อกอิน ทันที และล็อกอินกลับเข้าไปไม่ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้เตรียมไว้ก่อน

    Microsoft ยืนยันว่า “ไม่ใช่บั๊ก” แต่คือ “ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย” ที่ผู้ดูแลระบบอาจพลาดการอ่านคำเตือนก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ตั้งอุปกรณ์ Android ให้อยู่ในรายชื่อยกเว้น (exclude list)

    โชคดีคือ Microsoft ให้คำแนะนำขั้นตอนแก้ไขไว้เรียบร้อย → แต่ถ้าอุปกรณ์อยู่ไกลหรือไม่มีคนดูแล ต้องรีสตาร์ท 3 รอบ, ล็อกอินเองใหม่ หรือสุดท้ายก็ต้อง factory reset

    Microsoft เริ่มบังคับนโยบาย Block Device Code Flow (DCF) บน Entra ID เพื่อเพิ่มความปลอดภัย  
    • เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Secure Future Initiative  
    • ปิดการใช้งานการล็อกอินแบบ DCF ซึ่งเสี่ยงต่อ phishing และ token reuse

    ส่งผลให้อุปกรณ์ Android สำหรับ Microsoft Teams ถูกบล็อกและหลุดล็อกอินจำนวนมาก  
    • ได้แก่: Teams Rooms on Android, Teams Phone, Teams Panels, Teams Displays

    Microsoft แนะนำวิธีแก้ไขดังนี้:  
    • เข้าระบบ Entra ID → ไปที่ Conditional Access Policies  
    • แก้ชื่อ policy “Block device code flow” ให้เป็น "Report-Only" หรือปิด (Off)  
    • รีสตาร์ทอุปกรณ์ Android 1–3 ครั้งเพื่อบังคับให้ล็อกอินใหม่  
    • หากไม่ได้ผล: ล็อกอินด้วยบัญชี resource account เอง หรือ factory reset

    รุ่นล่าสุดของแอป Teams สำหรับ Android ที่ควรติดตั้ง:  
    • Teams Room: 1449/1.0.96.2025205603  
    • Teams Phone: 1449/1.0.94.2025165302  
    • Teams Panel: 1449/1.0.97.2025086303  
    • Teams Display: 1449/1.0.95.2024062804

    แนะนำให้เพิ่มอุปกรณ์ Teams Android ลงในรายชื่อยกเว้นก่อนเปิดใช้นโยบายนี้อีกครั้ง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-changes-hit-teams-android-devices-disable-entra-id-policy-to-restore-sign-in/
    Microsoft เริ่มใช้นโยบายชื่อว่า Block device code flow (DCF) เป็นส่วนหนึ่งของ Secure Future Initiative เพื่อบล็อกการล็อกอินแบบ “Device Code Flow” ที่อ่อนแอกว่า OAuth ปกติ ซึ่งถูกแฮกเกอร์ใช้โจมตีได้ง่าย → แต่นโยบายนี้ดันไปกระทบกับ อุปกรณ์ Teams Android เช่น Teams Rooms, Teams Phones, Teams Panels และ Displays เพราะอุปกรณ์พวกนี้ยังใช้วิธีล็อกอินแบบ DCF อยู่ → พอระบบบล็อกเข้าให้ อุปกรณ์ก็ หลุดล็อกอิน ทันที และล็อกอินกลับเข้าไปไม่ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้เตรียมไว้ก่อน Microsoft ยืนยันว่า “ไม่ใช่บั๊ก” แต่คือ “ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย” ที่ผู้ดูแลระบบอาจพลาดการอ่านคำเตือนก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ตั้งอุปกรณ์ Android ให้อยู่ในรายชื่อยกเว้น (exclude list) โชคดีคือ Microsoft ให้คำแนะนำขั้นตอนแก้ไขไว้เรียบร้อย → แต่ถ้าอุปกรณ์อยู่ไกลหรือไม่มีคนดูแล ต้องรีสตาร์ท 3 รอบ, ล็อกอินเองใหม่ หรือสุดท้ายก็ต้อง factory reset 😖 ✅ Microsoft เริ่มบังคับนโยบาย Block Device Code Flow (DCF) บน Entra ID เพื่อเพิ่มความปลอดภัย   • เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Secure Future Initiative   • ปิดการใช้งานการล็อกอินแบบ DCF ซึ่งเสี่ยงต่อ phishing และ token reuse ✅ ส่งผลให้อุปกรณ์ Android สำหรับ Microsoft Teams ถูกบล็อกและหลุดล็อกอินจำนวนมาก   • ได้แก่: Teams Rooms on Android, Teams Phone, Teams Panels, Teams Displays ✅ Microsoft แนะนำวิธีแก้ไขดังนี้:   • เข้าระบบ Entra ID → ไปที่ Conditional Access Policies   • แก้ชื่อ policy “Block device code flow” ให้เป็น "Report-Only" หรือปิด (Off)   • รีสตาร์ทอุปกรณ์ Android 1–3 ครั้งเพื่อบังคับให้ล็อกอินใหม่   • หากไม่ได้ผล: ล็อกอินด้วยบัญชี resource account เอง หรือ factory reset ✅ รุ่นล่าสุดของแอป Teams สำหรับ Android ที่ควรติดตั้ง:   • Teams Room: 1449/1.0.96.2025205603   • Teams Phone: 1449/1.0.94.2025165302   • Teams Panel: 1449/1.0.97.2025086303   • Teams Display: 1449/1.0.95.2024062804 ✅ แนะนำให้เพิ่มอุปกรณ์ Teams Android ลงในรายชื่อยกเว้นก่อนเปิดใช้นโยบายนี้อีกครั้ง https://www.neowin.net/news/microsoft-changes-hit-teams-android-devices-disable-entra-id-policy-to-restore-sign-in/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft changes hit Teams Android devices: Disable Entra ID policy to restore sign-in
    Microsoft has enabled a new policy in Entra ID that has caused many Teams-certified Android devices to be logged out, here's how to log them in again.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linz River Cruise Port เที่ยว Linz แบบครบทุกมุม! เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ริมแม่น้ำดานูบ ที่ต้องหลงรักตั้งแต่ก้าวแรก ชมจัตุรัสเก่าใจกลางเมือง ปราสาทริมแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์ไฮเทค ไปจนถึงรถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป

    Hauptplatz - จัตุรัสหลักของลินซ์
    ศูนย์กลางอำนาจทางศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปในศตวรรษที่ 14 พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินหนา สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอิทธิพลของศาสนจักรในยุคนั้น

    Ars Electronica Center - พิพิธภัณฑ์ศิลปะและเทคโนโลยี
    ศูนย์วิทยาศาสตร์และศิลปะที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยุคใหม่ จัดแสดงผลงานศิลปะดิจิทัล, การทดลองทางวิทยาศาสตร์, และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ

    Linz Castle - ปราสาทลินซ์
    ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสามารถมองเห็นวิวเมือง Linz และแม่น้ำ Danube เดิมเป็นปราสาทโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง และได้ถูกบูรณะหลายครั้ง

    Pöstlingberg - ยอดเขาโพสต์ลิงแบร์ก
    จุดชมวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดในลินซ์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในปี 1898 ได้สร้าง Pöstlingbergbahn ซึ่งเป็น รถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #LinzRiverCruisePort #DanubeRiver #Hauptplatz #ArsElectronicaCenter #LinzCastle #Pöstlingberg #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🌟 Linz River Cruise Port เที่ยว Linz แบบครบทุกมุม! เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ริมแม่น้ำดานูบ ที่ต้องหลงรักตั้งแต่ก้าวแรก ✨ ชมจัตุรัสเก่าใจกลางเมือง ปราสาทริมแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์ไฮเทค ไปจนถึงรถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป 📍 ✅ Hauptplatz - จัตุรัสหลักของลินซ์ ศูนย์กลางอำนาจทางศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปในศตวรรษที่ 14 พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินหนา สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอิทธิพลของศาสนจักรในยุคนั้น ✅ Ars Electronica Center - พิพิธภัณฑ์ศิลปะและเทคโนโลยี ศูนย์วิทยาศาสตร์และศิลปะที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยุคใหม่ จัดแสดงผลงานศิลปะดิจิทัล, การทดลองทางวิทยาศาสตร์, และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ ✅ Linz Castle - ปราสาทลินซ์ ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสามารถมองเห็นวิวเมือง Linz และแม่น้ำ Danube เดิมเป็นปราสาทโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง และได้ถูกบูรณะหลายครั้ง ✅ Pöstlingberg - ยอดเขาโพสต์ลิงแบร์ก จุดชมวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดในลินซ์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในปี 1898 ได้สร้าง Pöstlingbergbahn ซึ่งเป็น รถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #LinzRiverCruisePort #DanubeRiver #Hauptplatz #ArsElectronicaCenter #LinzCastle #Pöstlingberg #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts