• 'ที่นี่คือโปแลนด์ ไม่ใช่บรัสเซลส์' (เมืองหลวงของเบลเยียม
    เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป)


    Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ฉีกธงสหภาพยุโรปแล้วนำมาเช็ดรองเท้า และยังมีการเผาธงอียูอีกด้วย

    หากโรมาเนีย ได้  จอร์จ ซิมิออน นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมเป็นประธานาธิบดี และโปแลนด์ได้ Grzegorz Braun เป็นผู้นำ เชื่อว่ายุโรปอาจจะเข้าสู่สถานะสงบสุขขึ้นมาก และรัสเซียคงจะนอนหลับฝันดี เพราะนักการเมืองทั้งสอง คือผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปรวมทั้งนาโต้ และต้องการเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย
    'ที่นี่คือโปแลนด์ ไม่ใช่บรัสเซลส์' (เมืองหลวงของเบลเยียม เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป) Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ฉีกธงสหภาพยุโรปแล้วนำมาเช็ดรองเท้า และยังมีการเผาธงอียูอีกด้วย หากโรมาเนีย ได้  จอร์จ ซิมิออน นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมเป็นประธานาธิบดี และโปแลนด์ได้ Grzegorz Braun เป็นผู้นำ เชื่อว่ายุโรปอาจจะเข้าสู่สถานะสงบสุขขึ้นมาก และรัสเซียคงจะนอนหลับฝันดี เพราะนักการเมืองทั้งสอง คือผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปรวมทั้งนาโต้ และต้องการเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ตามล่าหา 'ดาวเหนือ'
    ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย
    แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน
    งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ
    เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด
    เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต
    แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา
    .
    วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้
    มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก
    เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น
    ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป
    ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก
    เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด
    .
    วันนำเสนอผลงานมาถึง
    ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา
    หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย
    โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ
    แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย
    ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน
    เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย
    "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?"
    .
    ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป
    เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป
    ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง
    เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน
    ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา
    เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น?
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร
    เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ
    เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน
    ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ"
    เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
    ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น
    .
    เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย
    เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย
    อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก
    แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น
    เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ
    ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้
    .
    แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป
    เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน
    พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning)
    ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน
    ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว
    มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม
    เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
    .
    วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น
    ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ
    แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด
    งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง
    ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง
    โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น
    มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
    บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที
    แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
    จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง
    ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้
    .
    การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก
    แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน
    และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น
    และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ"
    ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ"
    และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย
    แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง
    และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด

    www.10x-consulting.com
    ตามล่าหา 'ดาวเหนือ' ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา . วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้ มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด . วันนำเสนอผลงานมาถึง ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?" . ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น? . ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ" เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น . เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้ . แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning) ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า . วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้ . การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ" ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ" และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด www.10x-consulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า อิสราเอลเพิ่งโจมตีสนามบินซานา (Sanaa International Airport) ในเยเมนอย่างหนัก โดยมีรายงานการโจมตีทางอากาศมากกว่า 20 ครั้ง

    การโจมตีสนามบินของเยเมน อาจดูน่าตกใจ และสร้างโฆษณาชวนเชื่อได้เป็นอย่างดีให้กับอิสราเอล

    แต่ในความเป็นจริง สนามบินแห่งนี้แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ หรือแม้แต่กองกำลังฮูตี เนื่องจากการคว่ำบาตรและการปิดตายจากนานาชาติ "นั่นเท่ากับว่า เยเมนไม่มีอะไรจะเสียในสงครามสนามบิน"

    หากฮูตีตอบโต้กลับ ด้วยการถล่มสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน ของอิสราเอล คงเดาได้ไม่ยากว่าใครจะสูญเสียมากกว่ากันทางเศรษฐกิจ

    มีรายงานว่า อิสราเอลเพิ่งโจมตีสนามบินซานา (Sanaa International Airport) ในเยเมนอย่างหนัก โดยมีรายงานการโจมตีทางอากาศมากกว่า 20 ครั้ง การโจมตีสนามบินของเยเมน อาจดูน่าตกใจ และสร้างโฆษณาชวนเชื่อได้เป็นอย่างดีให้กับอิสราเอล แต่ในความเป็นจริง สนามบินแห่งนี้แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ หรือแม้แต่กองกำลังฮูตี เนื่องจากการคว่ำบาตรและการปิดตายจากนานาชาติ "นั่นเท่ากับว่า เยเมนไม่มีอะไรจะเสียในสงครามสนามบิน" หากฮูตีตอบโต้กลับ ด้วยการถล่มสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน ของอิสราเอล คงเดาได้ไม่ยากว่าใครจะสูญเสียมากกว่ากันทางเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้
    .
    จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ
    .
    ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น
    .
    แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
    .
    ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น
    .
    https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้ . จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ . ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น . แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น . ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น . https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    WWW.FT.COM
    Donald Trump’s attack on green energy could hurt US in AI race, data centres warn
    Industry needs renewables to meet surging power demand from artificial intelligence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/YycAlCoi0vA?si=fdZ1lENm7SdPgCYO
    https://youtube.com/shorts/YycAlCoi0vA?si=fdZ1lENm7SdPgCYO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/iiMDxEAglOs?si=p50DgNRf9Wz9liaH
    https://youtube.com/shorts/iiMDxEAglOs?si=p50DgNRf9Wz9liaH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/KX73i4OG048?si=ujcoq69CUDbnt0qJ
    https://youtube.com/shorts/KX73i4OG048?si=ujcoq69CUDbnt0qJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/6FQdsm-JJnY?si=fP1TaPG4e_0_J6lx
    https://youtube.com/shorts/6FQdsm-JJnY?si=fP1TaPG4e_0_J6lx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/LiVXwEHBurU?si=BaamS9kNOxV2HaUj
    https://youtube.com/shorts/LiVXwEHBurU?si=BaamS9kNOxV2HaUj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/Rj9gctqYfDM?si=WcQm2rD2mOZj-gf7
    https://youtube.com/shorts/Rj9gctqYfDM?si=WcQm2rD2mOZj-gf7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องชีวประวัติ วันนี้เลยมาคุยให้ฟังถึงเรื่องราวของคนในตำนานอีกคู่หนึ่ง

    เพื่อนเพจที่ได้ติดตามละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> คงจำได้ถึงหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทเด่นคือเฟิ่งชีอู๋ ประมุขตระกูลเฟิ่งแห่งยงโจวผู้ดำรงตำแหน่ง ‘ซ่างซู’ (ขุนนางระดับเสนาธิการ) ในฉากที่นางได้เข้าพบกับท่านชายสองเฟิงหลันซี (พระเอก) ได้แสดงการสวามิภักดิ์ผ่านการเปรียบเปรยถึงซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวิน

    ความมีอยู่ว่า...
    ท่านชายสอง: ซือหม่าเซียงหรูต้องกักตัวเพราะป่วย เช่นเดียวกับข้า ตัวอยู่ในที่มืดมิด
    เฟิ่งชีอู๋: แทนที่จะอยู่ในที่มืด มิสู้จุดโคมเดินทาง หากท่านคิดเป็นซือหม่าเซียงหรู ข้ายอมเป็นจั๋วเหวินจวิน (ภรรยาของซือหม่าเซียงหรู) จุดโคมให้ท่าน
    - ถอดบทสนทนาจะละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ตามซับไทย

    หากใครไม่ทราบเรื่องราวของซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวินคงจะไม่เข้าใจความนัยของบทสนทนาข้างต้นนี้ วันนี้เลยนำเรื่องราวของทั้งคู่มาเล่าให้ฟังอย่างย่อ

    ซือหม่าเซียงหรู (179-117 ปีก่อนคริสตกาล สมัยราชวงศ์ฮั่น) เป็นคนพื้นเพเสฉวน สันทัดด้านอักษรและดนตรีจนได้เป็นอาจารย์ ต่อมาเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อหาหนทางเข้ารับราชการ แต่ด้วยพื้นเพครอบครัวยากจนจึงไม่ได้รับความสนใจนัก สุดท้ายถอดใจอำลาเมืองหลวงไปอาศัยอยู่ที่เมืองหลิงฉยงตามคำชวนของสหายนามว่า ‘หวางจี๋’ เป็นผู้ว่าการเขตหลิงฉยง

    ที่หลิงฉยง ซือหม่าเซียงหรูแสร้งทำเป็นป่วย วันๆ ไม่ยอมพบใคร โดยมีหวางจี๋คอยไปเยี่ยมเยียนทุกวัน จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ว่าซือหม่าเซียงหรูเป็นแขกพิเศษของหวางจี๋ ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย

    หนึ่งในนั้นคือคหบดีพ่อค้านามว่า ‘จั๋วหวางซุน’ เขามีลูกสาวคือจั๋วเหวินจวิน นางออกเรือนไปได้ไม่นานก็เป็นหม้ายจึงกลับมาอยู่กับบิดา ยามนั้นนางอายุเพียงสิบเจ็ด เลื่องชื่อด้วยโฉมงามและความสามารถด้านการดนตรีและโคลงกลอน

    อยู่มาวันหนึ่งจั๋วหวางซุนได้จัดงานเลี้ยงขึ้นโดยตั้งใจเชิญหวางจี๋และซือหม่าเซียงหรูมาเป็นแขก หวางจี๋ถึงขนาดไปเชิญซือหม่าเซียงหรูด้วยตนเอง เขาจึงยอมมาร่วมงาน และเพื่อเป็นการสนองการต้อนรับอันอบอุ่น เขาบรรเลงเพลงพิณ ‘หงส์วอนหาคู่’

    การเล่นพิณครั้งนี้ ไม่ว่าเป็นแผนหรือไม่ แต่ผลก็คือจั๋วเหวินจวินที่มาแอบดูเขาที่หลังฉากและได้ยินเพลงพิณขอรักของเขาเข้าก็ตกหลุมรัก คืนนั้นนางหนีตามเขากลับไปเมืองหลวง ที่นั่นจั๋วเหวินจวินค้นพบความจริงแล้วว่าเขายากจนมาก บ้านของเขามีเพียงสี่ผนังที่ว่างเปล่า แต่นางก็ไม่ทิ้งเขา ใช้ชีวิตแบบกัดก้อนเกลือกินอยู่กับเขาโดยอาศัยเงินและเครื่องประดับที่นางพกติดตัวมา ส่วนจั๋วหวางซุนเมื่อได้ข่าวก็ทั้งอับอายทั้งเสียใจถึงกับตัดขาดไม่ยอมให้เงินช่วยเหลือลูกสาวแม้แต่แดงเดียว

    ต่อมาเงินหมด จั๋วเหวินจวินคิดแล้วว่าอยู่เมืองหลวงต่อไปก็ไม่มีหนทาง จึงชวนซือหม่าเซียงหรูกลับมาที่เมืองหลิงฉยง พวกเขาขายรถม้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อเปิดร้านเหล้าเล็กๆ แห่งหนึ่งช่วยกันทำมาหากิน ทั้งสองทำงานหนักแต่ก็ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข สุดท้ายจั๋วหวางซุนใจอ่อนจึงมอบเงินและบ่าวให้จำนวนไม่น้อยเป็นเงินรับขวัญเขยคนนี้ พอที่ทั้งสองจะกลับไปเมืองหลวงซื้อที่ดินและใช้ชีวิตได้อย่างคนมีอันจะกิน

    ในช่วงเวลานั้นเอง บทประพันธ์ ‘จื่อซวีฟู่’ ของซือหม่าเซียงหรูเป็นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นอู่ตี้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางผู้ติดตามใกล้ชิด ต่อมาหน้าที่การงานยิ่งเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นคนเนื้อหอม จึงเกิดความคิดที่จะรับอนุ แต่ต่อมาจั๋วเหวินจวินแต่งกลอนทำให้เขารำลึกถึงความหลังและเปลี่ยนความคิด (Storyฯ เคยคุยถึงเรื่อง ‘ลำนำผมขาว’ นี้ไปแล้ว ไปหาอ่านย้อนหลังนะคะ)

    ดังนั้น บทสนทนาละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ข้างต้น ไม่เพียงแต่แสดงเจตจำนงของเฟิ่งชีอู๋ที่จะยอมเป็นภรรยาของพระเอก หากแต่ยังสะท้อนถึงความนัยว่า นางยอมใช้ทุกสิ่งอย่างที่นางมีเพื่อช่วยสนับสนุนเขา ไม่ทิ้งไม่หนี จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปตลอดโดยไม่แคร์ว่าผู้อื่นจะมองอย่างไร

    Storyฯ คิดว่านี่เป็นคำสวามิภักดิ์ที่จริงใจที่สุดเท่าที่สตรีนางหนึ่งจะมอบให้ชายใดได้แล้ว เพื่อนเพจคิดเหมือนกันไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://auete.com/Tv/wangju/qieshitianxia/
    https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/6ggbbpm.html
    https://kknews.cc/history/y39v3qk.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/卓文君/823759
    http://history.sina.com.cn/his/zl/2014-09-29/1551102344_2.shtml
    http://www.renwugushi.com/qinhan/a1043.html
    https://www.gugong.net/wenhua/34904.html

    #เทียบท้าปฐพี #เฟิ่งชีอู๋ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู #กวีเอกราชวงศ์ฮั่น
    สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องชีวประวัติ วันนี้เลยมาคุยให้ฟังถึงเรื่องราวของคนในตำนานอีกคู่หนึ่ง เพื่อนเพจที่ได้ติดตามละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> คงจำได้ถึงหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทเด่นคือเฟิ่งชีอู๋ ประมุขตระกูลเฟิ่งแห่งยงโจวผู้ดำรงตำแหน่ง ‘ซ่างซู’ (ขุนนางระดับเสนาธิการ) ในฉากที่นางได้เข้าพบกับท่านชายสองเฟิงหลันซี (พระเอก) ได้แสดงการสวามิภักดิ์ผ่านการเปรียบเปรยถึงซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวิน ความมีอยู่ว่า... ท่านชายสอง: ซือหม่าเซียงหรูต้องกักตัวเพราะป่วย เช่นเดียวกับข้า ตัวอยู่ในที่มืดมิด เฟิ่งชีอู๋: แทนที่จะอยู่ในที่มืด มิสู้จุดโคมเดินทาง หากท่านคิดเป็นซือหม่าเซียงหรู ข้ายอมเป็นจั๋วเหวินจวิน (ภรรยาของซือหม่าเซียงหรู) จุดโคมให้ท่าน - ถอดบทสนทนาจะละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ตามซับไทย หากใครไม่ทราบเรื่องราวของซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวินคงจะไม่เข้าใจความนัยของบทสนทนาข้างต้นนี้ วันนี้เลยนำเรื่องราวของทั้งคู่มาเล่าให้ฟังอย่างย่อ ซือหม่าเซียงหรู (179-117 ปีก่อนคริสตกาล สมัยราชวงศ์ฮั่น) เป็นคนพื้นเพเสฉวน สันทัดด้านอักษรและดนตรีจนได้เป็นอาจารย์ ต่อมาเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อหาหนทางเข้ารับราชการ แต่ด้วยพื้นเพครอบครัวยากจนจึงไม่ได้รับความสนใจนัก สุดท้ายถอดใจอำลาเมืองหลวงไปอาศัยอยู่ที่เมืองหลิงฉยงตามคำชวนของสหายนามว่า ‘หวางจี๋’ เป็นผู้ว่าการเขตหลิงฉยง ที่หลิงฉยง ซือหม่าเซียงหรูแสร้งทำเป็นป่วย วันๆ ไม่ยอมพบใคร โดยมีหวางจี๋คอยไปเยี่ยมเยียนทุกวัน จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ว่าซือหม่าเซียงหรูเป็นแขกพิเศษของหวางจี๋ ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือคหบดีพ่อค้านามว่า ‘จั๋วหวางซุน’ เขามีลูกสาวคือจั๋วเหวินจวิน นางออกเรือนไปได้ไม่นานก็เป็นหม้ายจึงกลับมาอยู่กับบิดา ยามนั้นนางอายุเพียงสิบเจ็ด เลื่องชื่อด้วยโฉมงามและความสามารถด้านการดนตรีและโคลงกลอน อยู่มาวันหนึ่งจั๋วหวางซุนได้จัดงานเลี้ยงขึ้นโดยตั้งใจเชิญหวางจี๋และซือหม่าเซียงหรูมาเป็นแขก หวางจี๋ถึงขนาดไปเชิญซือหม่าเซียงหรูด้วยตนเอง เขาจึงยอมมาร่วมงาน และเพื่อเป็นการสนองการต้อนรับอันอบอุ่น เขาบรรเลงเพลงพิณ ‘หงส์วอนหาคู่’ การเล่นพิณครั้งนี้ ไม่ว่าเป็นแผนหรือไม่ แต่ผลก็คือจั๋วเหวินจวินที่มาแอบดูเขาที่หลังฉากและได้ยินเพลงพิณขอรักของเขาเข้าก็ตกหลุมรัก คืนนั้นนางหนีตามเขากลับไปเมืองหลวง ที่นั่นจั๋วเหวินจวินค้นพบความจริงแล้วว่าเขายากจนมาก บ้านของเขามีเพียงสี่ผนังที่ว่างเปล่า แต่นางก็ไม่ทิ้งเขา ใช้ชีวิตแบบกัดก้อนเกลือกินอยู่กับเขาโดยอาศัยเงินและเครื่องประดับที่นางพกติดตัวมา ส่วนจั๋วหวางซุนเมื่อได้ข่าวก็ทั้งอับอายทั้งเสียใจถึงกับตัดขาดไม่ยอมให้เงินช่วยเหลือลูกสาวแม้แต่แดงเดียว ต่อมาเงินหมด จั๋วเหวินจวินคิดแล้วว่าอยู่เมืองหลวงต่อไปก็ไม่มีหนทาง จึงชวนซือหม่าเซียงหรูกลับมาที่เมืองหลิงฉยง พวกเขาขายรถม้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อเปิดร้านเหล้าเล็กๆ แห่งหนึ่งช่วยกันทำมาหากิน ทั้งสองทำงานหนักแต่ก็ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข สุดท้ายจั๋วหวางซุนใจอ่อนจึงมอบเงินและบ่าวให้จำนวนไม่น้อยเป็นเงินรับขวัญเขยคนนี้ พอที่ทั้งสองจะกลับไปเมืองหลวงซื้อที่ดินและใช้ชีวิตได้อย่างคนมีอันจะกิน ในช่วงเวลานั้นเอง บทประพันธ์ ‘จื่อซวีฟู่’ ของซือหม่าเซียงหรูเป็นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นอู่ตี้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางผู้ติดตามใกล้ชิด ต่อมาหน้าที่การงานยิ่งเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นคนเนื้อหอม จึงเกิดความคิดที่จะรับอนุ แต่ต่อมาจั๋วเหวินจวินแต่งกลอนทำให้เขารำลึกถึงความหลังและเปลี่ยนความคิด (Storyฯ เคยคุยถึงเรื่อง ‘ลำนำผมขาว’ นี้ไปแล้ว ไปหาอ่านย้อนหลังนะคะ) ดังนั้น บทสนทนาละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ข้างต้น ไม่เพียงแต่แสดงเจตจำนงของเฟิ่งชีอู๋ที่จะยอมเป็นภรรยาของพระเอก หากแต่ยังสะท้อนถึงความนัยว่า นางยอมใช้ทุกสิ่งอย่างที่นางมีเพื่อช่วยสนับสนุนเขา ไม่ทิ้งไม่หนี จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปตลอดโดยไม่แคร์ว่าผู้อื่นจะมองอย่างไร Storyฯ คิดว่านี่เป็นคำสวามิภักดิ์ที่จริงใจที่สุดเท่าที่สตรีนางหนึ่งจะมอบให้ชายใดได้แล้ว เพื่อนเพจคิดเหมือนกันไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://auete.com/Tv/wangju/qieshitianxia/ https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/6ggbbpm.html https://kknews.cc/history/y39v3qk.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/卓文君/823759 http://history.sina.com.cn/his/zl/2014-09-29/1551102344_2.shtml http://www.renwugushi.com/qinhan/a1043.html https://www.gugong.net/wenhua/34904.html #เทียบท้าปฐพี #เฟิ่งชีอู๋ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู #กวีเอกราชวงศ์ฮั่น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎧 No More Masks is not a track. It’s a mirror.
    If you've ever lied just to survive, this song was made for your truth.

    “This beat rips / Like I tear off my face”

    Don’t clap. Just listen.
    ▶️ [ https://youtu.be/H-Og0cbfrJA ]

    #NoMoreMasks #TruthInLyrics #EkarachChandon #UnfilteredRap #RapForHealing #realtalkonly

    Under the care & creative direction of Ekarach Chandon
    – Father, Listener, and the Keeper of Eternal Thought

    📚 Amazon Author Page — Ekarach Chandon
    https://www.amazon.com/stores/Ekarach-Chandon/author/B0C72VBBMZ

    “Where love guides the unheard voice 📣 ”

    #NoMoreMasks #RawRap #UnfilteredTruth #TrapPoetry #GlobalRap #SpiritualHipHop #EkarachChandon

    #NoMoreMasks
    #RawRap
    #ConsciousHipHop
    #TrapPoetry
    #AggressiveTruth
    #UnfilteredVoice
    #EkarachChandon
    #LyricalConfession
    #GlobalRapMovement
    #WakeWithWords
    #SelfAwarenessRap
    #ResponsibilityInRhythm
    #BreakTheImage
    #TruthHurtsBeautifully
    #PoetryInBeats

    no more masks rap

    conscious hip hop

    truth in lyrics

    spiritual trap music

    raw emotional rap

    aggressive spoken word

    ekarach chandon rap

    poetic hip hop confession

    unfiltered rap song

    self-awareness in music

    inner truth performance

    truth-driven lyrics

    rap against illusion

    identity through music

    real talk rap
    🎧 No More Masks is not a track. It’s a mirror. If you've ever lied just to survive, this song was made for your truth. “This beat rips / Like I tear off my face” Don’t clap. Just listen. ▶️ [ https://youtu.be/H-Og0cbfrJA ] #NoMoreMasks #TruthInLyrics #EkarachChandon #UnfilteredRap #RapForHealing #realtalkonly Under the care & creative direction of Ekarach Chandon – Father, Listener, and the Keeper of Eternal Thought 📚 Amazon Author Page — Ekarach Chandon https://www.amazon.com/stores/Ekarach-Chandon/author/B0C72VBBMZ “Where love guides the unheard voice 📣 ” #NoMoreMasks #RawRap #UnfilteredTruth #TrapPoetry #GlobalRap #SpiritualHipHop #EkarachChandon #NoMoreMasks #RawRap #ConsciousHipHop #TrapPoetry #AggressiveTruth #UnfilteredVoice #EkarachChandon #LyricalConfession #GlobalRapMovement #WakeWithWords #SelfAwarenessRap #ResponsibilityInRhythm #BreakTheImage #TruthHurtsBeautifully #PoetryInBeats no more masks rap conscious hip hop truth in lyrics spiritual trap music raw emotional rap aggressive spoken word ekarach chandon rap poetic hip hop confession unfiltered rap song self-awareness in music inner truth performance truth-driven lyrics rap against illusion identity through music real talk rap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/2qLD6zHO70Y?si=th4OxG412vHuWuwC
    https://youtube.com/shorts/2qLD6zHO70Y?si=th4OxG412vHuWuwC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/VDwlmgKDbuI?si=AEcsMqeg4nz4aUH6
    https://youtube.com/shorts/VDwlmgKDbuI?si=AEcsMqeg4nz4aUH6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/BejB_Vw3VrU?si=xF71UzDIoL9t6mRL
    https://youtube.com/shorts/BejB_Vw3VrU?si=xF71UzDIoL9t6mRL
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนวนปะดุเดือนชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะดุเดือนชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาเพิ่มงบประมาณด้านเซมิคอนดักเตอร์เป็น 4 เท่าจากเดิม เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน โดยอุตสาหกรรมกำลังผลักดันให้มี Chips Act 2.0 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ใหม่ในการพัฒนาและผลิตชิปภายในยุโรป

    กลุ่มอุตสาหกรรม SEMI ได้เสนอให้ EU จัดสรรงบประมาณแยกต่างหากสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้สามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป้าหมายหลักคือ ลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ และ เพิ่มขีดความสามารถของยุโรปในการผลิตชิปขั้นสูง

    ✅ EU พิจารณาเพิ่มงบประมาณด้านเซมิคอนดักเตอร์เป็น 4 เท่า
    - เพื่อเสริมสร้าง ความสามารถในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน
    - เป็นส่วนหนึ่งของแผน Chips Act 2.0

    ✅ กลุ่มอุตสาหกรรม SEMI เสนอให้ EU จัดสรรงบประมาณแยกต่างหากสำหรับเซมิคอนดักเตอร์
    - เพื่อให้สามารถ ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ

    ✅ เป้าหมายหลักของ Chips Act 2.0
    - เพิ่มขีดความสามารถของยุโรปในการ ผลิตชิปขั้นสูง
    - สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุโรป
    - อาจช่วยให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยุโรปสามารถแข่งขันกับบริษัทในสหรัฐฯ และจีนได้ดีขึ้น
    - ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตชิป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/eu-should-quadruple-semiconductor-spending-industry-group-says
    สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาเพิ่มงบประมาณด้านเซมิคอนดักเตอร์เป็น 4 เท่าจากเดิม เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน โดยอุตสาหกรรมกำลังผลักดันให้มี Chips Act 2.0 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ใหม่ในการพัฒนาและผลิตชิปภายในยุโรป กลุ่มอุตสาหกรรม SEMI ได้เสนอให้ EU จัดสรรงบประมาณแยกต่างหากสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้สามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป้าหมายหลักคือ ลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ และ เพิ่มขีดความสามารถของยุโรปในการผลิตชิปขั้นสูง ✅ EU พิจารณาเพิ่มงบประมาณด้านเซมิคอนดักเตอร์เป็น 4 เท่า - เพื่อเสริมสร้าง ความสามารถในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน - เป็นส่วนหนึ่งของแผน Chips Act 2.0 ✅ กลุ่มอุตสาหกรรม SEMI เสนอให้ EU จัดสรรงบประมาณแยกต่างหากสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ - เพื่อให้สามารถ ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ ✅ เป้าหมายหลักของ Chips Act 2.0 - เพิ่มขีดความสามารถของยุโรปในการ ผลิตชิปขั้นสูง - สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุโรป - อาจช่วยให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยุโรปสามารถแข่งขันกับบริษัทในสหรัฐฯ และจีนได้ดีขึ้น - ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตชิป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/eu-should-quadruple-semiconductor-spending-industry-group-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU should quadruple semiconductor spending, industry group says
    AMSTERDAM (Reuters) -The European Union should quadruple its spending on chips and allocate a separate budget for it, industry group SEMI said on Tuesday in its official response to EU consultations for its upcoming investment budget.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (hallucinations) ใน AI ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้น แม้ว่าระบบ AI จะมีความสามารถมากขึ้นก็ตาม

    ตัวอย่างหนึ่งคือ Cursor ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ AI ในการให้คำแนะนำด้านเทคนิค เมื่อเดือนที่แล้ว AI ของ Cursor ได้แจ้งลูกค้าหลายรายว่า มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยระบุว่าผู้ใช้สามารถใช้ Cursor ได้เพียง หนึ่งเครื่องเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจและบางคนถึงกับ ยกเลิกบัญชีของตน ก่อนที่จะพบว่า AI ได้สร้างข้อมูลผิดพลาดขึ้นมาเอง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจริง

    นักวิจัยพบว่า AI รุ่นใหม่ที่เน้นการให้เหตุผล (reasoning systems) เช่น GPT-4 และ Claude AI มีแนวโน้มที่จะสร้างข้อมูลผิดพลาดมากขึ้น แม้จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ดีขึ้น

    ✅ AI ของ Cursor แจ้งข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับนโยบายการใช้งาน
    - ลูกค้าหลายรายได้รับแจ้งว่า สามารถใช้ Cursor ได้เพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น
    - ข้อมูลนี้ ไม่เป็นความจริง และทำให้ลูกค้าบางรายยกเลิกบัญชี

    ✅ AI รุ่นใหม่ที่เน้นการให้เหตุผลมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาดมากขึ้น
    - เช่น GPT-4 และ Claude AI
    - แม้ว่าจะมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ดีขึ้น แต่ ยังคงสร้างข้อมูลผิดพลาด

    ✅ บริษัท AI ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม AI ถึงสร้างข้อมูลผิดพลาด
    - นักวิจัยยังคงพยายาม หาสาเหตุของปัญหานี้

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - ผู้ใช้ต้อง ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจาก AI อย่างละเอียด
    - อาจส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นในระบบ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/ai-is-getting-more-powerful-but-its-hallucinations-are-getting-worse
    บทความนี้กล่าวถึง ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (hallucinations) ใน AI ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้น แม้ว่าระบบ AI จะมีความสามารถมากขึ้นก็ตาม ตัวอย่างหนึ่งคือ Cursor ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ AI ในการให้คำแนะนำด้านเทคนิค เมื่อเดือนที่แล้ว AI ของ Cursor ได้แจ้งลูกค้าหลายรายว่า มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยระบุว่าผู้ใช้สามารถใช้ Cursor ได้เพียง หนึ่งเครื่องเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจและบางคนถึงกับ ยกเลิกบัญชีของตน ก่อนที่จะพบว่า AI ได้สร้างข้อมูลผิดพลาดขึ้นมาเอง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจริง นักวิจัยพบว่า AI รุ่นใหม่ที่เน้นการให้เหตุผล (reasoning systems) เช่น GPT-4 และ Claude AI มีแนวโน้มที่จะสร้างข้อมูลผิดพลาดมากขึ้น แม้จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ดีขึ้น ✅ AI ของ Cursor แจ้งข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับนโยบายการใช้งาน - ลูกค้าหลายรายได้รับแจ้งว่า สามารถใช้ Cursor ได้เพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น - ข้อมูลนี้ ไม่เป็นความจริง และทำให้ลูกค้าบางรายยกเลิกบัญชี ✅ AI รุ่นใหม่ที่เน้นการให้เหตุผลมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาดมากขึ้น - เช่น GPT-4 และ Claude AI - แม้ว่าจะมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ดีขึ้น แต่ ยังคงสร้างข้อมูลผิดพลาด ✅ บริษัท AI ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม AI ถึงสร้างข้อมูลผิดพลาด - นักวิจัยยังคงพยายาม หาสาเหตุของปัญหานี้ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี - ผู้ใช้ต้อง ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจาก AI อย่างละเอียด - อาจส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นในระบบ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/ai-is-getting-more-powerful-but-its-hallucinations-are-getting-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI is getting more powerful, but its hallucinations are getting worse
    A new wave of 'reasoning' systems from companies like OpenAI is producing incorrect information more often. Even the companies don't know why.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เพิ่ม SafeLinks protection ให้กับ Microsoft 365 Copilot Chat เพื่อช่วยปกป้องผู้ใช้จากลิงก์ที่เป็นอันตราย โดยฟีเจอร์นี้จะ ตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์แบบเรียลไทม์ และแสดงคำเตือนหากพบว่าลิงก์มีความเสี่ยง

    SafeLinks protection พร้อมใช้งานบน Copilot Chat ใน Desktop, Web, Outlook Mobile, Teams Mobile และ Microsoft 365 Copilot Mobile app โดยไม่ต้องตั้งค่าหรือกำหนดค่าเพิ่มเติม

    นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่ม time-of-click URL reputation checks ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนหากลิงก์ที่ Copilot ให้มานั้นเป็นอันตราย และในอนาคต SafeLinks protection จะถูกนำไปใช้กับ Copilot App Chats ใน Word, PowerPoint และ Excel

    ✅ SafeLinks protection ตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์แบบเรียลไทม์
    - หากพบว่าลิงก์เป็นอันตราย จะแสดงคำเตือนและป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์
    - พร้อมใช้งานบน Copilot Chat ใน Desktop, Web, Outlook Mobile, Teams Mobile และ Microsoft 365 Copilot Mobile app

    ✅ time-of-click URL reputation checks เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้
    - ตรวจสอบลิงก์ที่ Copilot ให้มา และแจ้งเตือนหากพบว่ามีความเสี่ยง

    ✅ Microsoft Defender for Office 365 Security Center จะสร้างรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคาม
    - ผู้ใช้สามารถ ติดตามภัยคุกคามที่ตรวจพบและการดำเนินการที่เกิดขึ้น

    ✅ SafeLinks protection จะถูกนำไปใช้กับ Copilot App Chats ใน Word, PowerPoint และ Excel ในอนาคต
    - เพิ่มความปลอดภัยให้กับ การใช้งาน Copilot ในแอปพลิเคชัน Microsoft 365

    https://www.neowin.net/news/microsoft-365-copilot-chat-gets-safelinks-protection-and-more/
    Microsoft ได้เพิ่ม SafeLinks protection ให้กับ Microsoft 365 Copilot Chat เพื่อช่วยปกป้องผู้ใช้จากลิงก์ที่เป็นอันตราย โดยฟีเจอร์นี้จะ ตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์แบบเรียลไทม์ และแสดงคำเตือนหากพบว่าลิงก์มีความเสี่ยง SafeLinks protection พร้อมใช้งานบน Copilot Chat ใน Desktop, Web, Outlook Mobile, Teams Mobile และ Microsoft 365 Copilot Mobile app โดยไม่ต้องตั้งค่าหรือกำหนดค่าเพิ่มเติม นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่ม time-of-click URL reputation checks ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนหากลิงก์ที่ Copilot ให้มานั้นเป็นอันตราย และในอนาคต SafeLinks protection จะถูกนำไปใช้กับ Copilot App Chats ใน Word, PowerPoint และ Excel ✅ SafeLinks protection ตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์แบบเรียลไทม์ - หากพบว่าลิงก์เป็นอันตราย จะแสดงคำเตือนและป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ - พร้อมใช้งานบน Copilot Chat ใน Desktop, Web, Outlook Mobile, Teams Mobile และ Microsoft 365 Copilot Mobile app ✅ time-of-click URL reputation checks เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ - ตรวจสอบลิงก์ที่ Copilot ให้มา และแจ้งเตือนหากพบว่ามีความเสี่ยง ✅ Microsoft Defender for Office 365 Security Center จะสร้างรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคาม - ผู้ใช้สามารถ ติดตามภัยคุกคามที่ตรวจพบและการดำเนินการที่เกิดขึ้น ✅ SafeLinks protection จะถูกนำไปใช้กับ Copilot App Chats ใน Word, PowerPoint และ Excel ในอนาคต - เพิ่มความปลอดภัยให้กับ การใช้งาน Copilot ในแอปพลิเคชัน Microsoft 365 https://www.neowin.net/news/microsoft-365-copilot-chat-gets-safelinks-protection-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft 365 Copilot Chat gets SafeLinks protection and more
    Microsoft has bolstered the security of M365 Copilot Chat by integrating SafeLinks for eligible customers. It has added a more basic link checking feature for non-customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ซึ่งหมายความว่า อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยและการแก้ไขข้อบกพร่องอีกต่อไป

    บริษัทแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่า อุปกรณ์ของตนสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ หากไม่สามารถอัปเกรดได้ Microsoft แนะนำให้ ซื้อพีซีเครื่องใหม่ที่รองรับ Windows 11 หรือเลือกใช้ Extended Security Updates (ESU) แบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Microsoft เปิดให้ บุคคลทั่วไปสามารถซื้อ ESU ได้

    นอกจากนี้ ESET ยังแนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 หันไปใช้ Linux แทน เพื่อให้ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัย

    ✅ Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    - อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะ ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยและการแก้ไขข้อบกพร่องอีกต่อไป

    ✅ Microsoft แนะนำให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่
    - หากสามารถอัปเกรดได้ ควรติดตั้ง Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด (24H2)

    ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อ Extended Security Updates (ESU) แบบเสียค่าใช้จ่าย
    - ESU เปิดให้ องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถซื้อได้เป็นครั้งแรก

    ✅ ESET แนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 หันไปใช้ Linux แทน
    - เพื่อให้ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัย

    https://www.neowin.net/news/microsoft-reminds-of-windows-10-end-of-support-that-makes-your-pc-insecure-or-obsolete/
    Microsoft ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ซึ่งหมายความว่า อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยและการแก้ไขข้อบกพร่องอีกต่อไป บริษัทแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่า อุปกรณ์ของตนสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ หากไม่สามารถอัปเกรดได้ Microsoft แนะนำให้ ซื้อพีซีเครื่องใหม่ที่รองรับ Windows 11 หรือเลือกใช้ Extended Security Updates (ESU) แบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Microsoft เปิดให้ บุคคลทั่วไปสามารถซื้อ ESU ได้ นอกจากนี้ ESET ยังแนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 หันไปใช้ Linux แทน เพื่อให้ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัย ✅ Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 - อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะ ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยและการแก้ไขข้อบกพร่องอีกต่อไป ✅ Microsoft แนะนำให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ - หากสามารถอัปเกรดได้ ควรติดตั้ง Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด (24H2) ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อ Extended Security Updates (ESU) แบบเสียค่าใช้จ่าย - ESU เปิดให้ องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถซื้อได้เป็นครั้งแรก ✅ ESET แนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 หันไปใช้ Linux แทน - เพื่อให้ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัย https://www.neowin.net/news/microsoft-reminds-of-windows-10-end-of-support-that-makes-your-pc-insecure-or-obsolete/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft reminds of Windows 10 end of support that makes your PC insecure or obsolete
    Microsoft has reminded its customers about the upcoming end of support for Windows 10. The company has listed ways you can deal with it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon ได้เปิดตัว Amazon Q Developer ซึ่งเป็น AI code assistant สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยล่าสุดได้เปิดให้ใช้งานบน GitHub ซึ่งช่วยให้สามารถ พัฒนา, ทดสอบ, และปรับปรุงโค้ดได้ง่ายขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Amazon Q Developer มีให้ใช้งานเป็น ส่วนขยายสำหรับ JetBrains, VS Code, Visual Studio, Command Line และ Eclipse แต่ตอนนี้สามารถ เข้าถึงได้โดยตรงบน GitHub.com และ GitHub Enterprise Cloud โดยไม่ต้องใช้บัญชี AWS

    Amazon Q Developer มีความสามารถในการ สร้าง pull request อัตโนมัติ และช่วยในการ พอร์ต .NET จาก Windows ไปยัง Linux, ปรับปรุงแอปพลิเคชัน mainframe, ย้ายและปรับปรุง workload ของ VMware และอัปเกรด Java

    ✅ Amazon Q Developer เปิดให้ใช้งานบน GitHub
    - ไม่ต้องใช้บัญชี AWS
    - รองรับ GitHub.com และ GitHub Enterprise Cloud

    ✅ ช่วยนักพัฒนาตลอดวงจรการพัฒนา
    - Coding, Testing, Deploying และ Code Review
    - สามารถ สร้าง pull request อัตโนมัติ

    ✅ รองรับงานระดับองค์กร
    - พอร์ต .NET จาก Windows ไปยัง Linux
    - ปรับปรุงแอปพลิเคชัน mainframe
    - ย้ายและปรับปรุง workload ของ VMware
    - อัปเกรด Java 8 และ 11 ไปเป็น Java 17

    ✅ วิธีเริ่มต้นใช้งาน
    - ติดตั้ง Amazon Q Developer จาก GitHub Marketplace
    - ใช้ Amazon Q development agent label หรือ Amazon Q transform agent label
    - สร้าง pull request เพื่อรีวิวโค้ด

    https://www.neowin.net/news/amazon-q-developer-gen-ai-code-assistant-now-available-on-github/
    Amazon ได้เปิดตัว Amazon Q Developer ซึ่งเป็น AI code assistant สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยล่าสุดได้เปิดให้ใช้งานบน GitHub ซึ่งช่วยให้สามารถ พัฒนา, ทดสอบ, และปรับปรุงโค้ดได้ง่ายขึ้น ก่อนหน้านี้ Amazon Q Developer มีให้ใช้งานเป็น ส่วนขยายสำหรับ JetBrains, VS Code, Visual Studio, Command Line และ Eclipse แต่ตอนนี้สามารถ เข้าถึงได้โดยตรงบน GitHub.com และ GitHub Enterprise Cloud โดยไม่ต้องใช้บัญชี AWS Amazon Q Developer มีความสามารถในการ สร้าง pull request อัตโนมัติ และช่วยในการ พอร์ต .NET จาก Windows ไปยัง Linux, ปรับปรุงแอปพลิเคชัน mainframe, ย้ายและปรับปรุง workload ของ VMware และอัปเกรด Java ✅ Amazon Q Developer เปิดให้ใช้งานบน GitHub - ไม่ต้องใช้บัญชี AWS - รองรับ GitHub.com และ GitHub Enterprise Cloud ✅ ช่วยนักพัฒนาตลอดวงจรการพัฒนา - Coding, Testing, Deploying และ Code Review - สามารถ สร้าง pull request อัตโนมัติ ✅ รองรับงานระดับองค์กร - พอร์ต .NET จาก Windows ไปยัง Linux - ปรับปรุงแอปพลิเคชัน mainframe - ย้ายและปรับปรุง workload ของ VMware - อัปเกรด Java 8 และ 11 ไปเป็น Java 17 ✅ วิธีเริ่มต้นใช้งาน - ติดตั้ง Amazon Q Developer จาก GitHub Marketplace - ใช้ Amazon Q development agent label หรือ Amazon Q transform agent label - สร้าง pull request เพื่อรีวิวโค้ด https://www.neowin.net/news/amazon-q-developer-gen-ai-code-assistant-now-available-on-github/
    WWW.NEOWIN.NET
    Amazon Q Developer Gen AI code assistant now available on GitHub
    Amazon has launched a free preview of its generative AI code assistant, Amazon Q Developer, directly integrated into GitHub and GitHub Enterprise Cloud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/p1d5LTdK7zo?si=n3O1sEtfgOnmQB0F
    https://youtube.com/shorts/p1d5LTdK7zo?si=n3O1sEtfgOnmQB0F
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/c7WowmWYuJA?si=pVB0AJgfmboovm1k
    https://youtube.com/shorts/c7WowmWYuJA?si=pVB0AJgfmboovm1k
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/w8Eb3VtEnPw?si=8yTIPIuiNHmI6i8u
    https://youtube.com/shorts/w8Eb3VtEnPw?si=8yTIPIuiNHmI6i8u
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้อ้างว่า Ironwood TPU v7p pod ของตนมีประสิทธิภาพสูงกว่า El Capitan supercomputer ถึง 24 เท่า แต่ Timothy Prickett Morgan นักวิเคราะห์จาก TheNextPlatform ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบนี้ โดยระบุว่า "เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่สมเหตุสมผล"

    Google ได้ทำการเปรียบเทียบ Ironwood TPU v7p pod ซึ่งมี 9,216 TPU compute engines กับ El Capitan ที่ใช้ 44,544 AMD Instinct MI300A hybrid CPU-GPU compute engines โดยใช้ High Performance LINPACK (HPL) benchmark อย่างไรก็ตาม Prickett Morgan ชี้ให้เห็นว่า El Capitan ถูกออกแบบมาสำหรับการจำลองที่มีความแม่นยำสูง ขณะที่ Ironwood TPU ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference และ training ที่ใช้ความแม่นยำต่ำกว่า

    ✅ Google อ้างว่า Ironwood TPU v7p pod มีประสิทธิภาพสูงกว่า El Capitan ถึง 24 เท่า
    - ใช้ 9,216 TPU compute engines
    - เปรียบเทียบกับ El Capitan ที่ใช้ 44,544 AMD Instinct MI300A hybrid CPU-GPU compute engines

    ✅ นักวิเคราะห์จาก TheNextPlatform ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบนี้
    - ระบุว่า El Capitan ถูกออกแบบมาสำหรับการจำลองที่มีความแม่นยำสูง
    - ขณะที่ Ironwood TPU ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference และ training

    ✅ การเปรียบเทียบด้านต้นทุน
    - Ironwood pod มีต้นทุนการสร้าง $445 ล้าน และค่าเช่า $1.1 พันล้านใน 3 ปี
    - El Capitan มีต้นทุนการสร้าง $600 ล้าน
    - Ironwood pod มีต้นทุนต่อ teraflops สูงกว่า El Capitan

    ✅ El Capitan มีประสิทธิภาพสูงกว่า Ironwood TPU ในการประมวลผล FP16 และ FP8
    - El Capitan มี 2.05 เท่าของประสิทธิภาพ FP16 และ FP8 เมื่อเทียบกับ Ironwood pod

    https://www.techradar.com/pro/google-says-that-its-ai-behemoth-is-24x-faster-than-the-worlds-best-supercomputer-but-this-analyst-armed-with-a-spreadsheet-disagrees
    Google ได้อ้างว่า Ironwood TPU v7p pod ของตนมีประสิทธิภาพสูงกว่า El Capitan supercomputer ถึง 24 เท่า แต่ Timothy Prickett Morgan นักวิเคราะห์จาก TheNextPlatform ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบนี้ โดยระบุว่า "เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่สมเหตุสมผล" Google ได้ทำการเปรียบเทียบ Ironwood TPU v7p pod ซึ่งมี 9,216 TPU compute engines กับ El Capitan ที่ใช้ 44,544 AMD Instinct MI300A hybrid CPU-GPU compute engines โดยใช้ High Performance LINPACK (HPL) benchmark อย่างไรก็ตาม Prickett Morgan ชี้ให้เห็นว่า El Capitan ถูกออกแบบมาสำหรับการจำลองที่มีความแม่นยำสูง ขณะที่ Ironwood TPU ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference และ training ที่ใช้ความแม่นยำต่ำกว่า ✅ Google อ้างว่า Ironwood TPU v7p pod มีประสิทธิภาพสูงกว่า El Capitan ถึง 24 เท่า - ใช้ 9,216 TPU compute engines - เปรียบเทียบกับ El Capitan ที่ใช้ 44,544 AMD Instinct MI300A hybrid CPU-GPU compute engines ✅ นักวิเคราะห์จาก TheNextPlatform ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบนี้ - ระบุว่า El Capitan ถูกออกแบบมาสำหรับการจำลองที่มีความแม่นยำสูง - ขณะที่ Ironwood TPU ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference และ training ✅ การเปรียบเทียบด้านต้นทุน - Ironwood pod มีต้นทุนการสร้าง $445 ล้าน และค่าเช่า $1.1 พันล้านใน 3 ปี - El Capitan มีต้นทุนการสร้าง $600 ล้าน - Ironwood pod มีต้นทุนต่อ teraflops สูงกว่า El Capitan ✅ El Capitan มีประสิทธิภาพสูงกว่า Ironwood TPU ในการประมวลผล FP16 และ FP8 - El Capitan มี 2.05 เท่าของประสิทธิภาพ FP16 และ FP8 เมื่อเทียบกับ Ironwood pod https://www.techradar.com/pro/google-says-that-its-ai-behemoth-is-24x-faster-than-the-worlds-best-supercomputer-but-this-analyst-armed-with-a-spreadsheet-disagrees
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts