• Claude กับภารกิจหยุดยั้ง “สูตรระเบิดนิวเคลียร์”

    ในยุคที่ AI สามารถตอบคำถามแทบทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความกังวลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะคำถามที่อาจนำไปสู่การสร้างอาวุธทำลายล้างสูง เช่น ระเบิดนิวเคลียร์

    Anthropic บริษัทผู้พัฒนา Claude ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT ได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ อย่าง NNSA (National Nuclear Security Administration) เพื่อพัฒนา “classifier” หรือระบบตรวจจับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาวุธนิวเคลียร์

    ระบบนี้สามารถแยกแยะได้ว่า ผู้ใช้กำลังถามเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ทั่วไป เช่น “ฟิชชันคืออะไร” หรือกำลังพยายามขอ “แผนสร้างระเบิดยูเรเนียมในโรงรถ” ซึ่งถือเป็นการใช้งานที่อันตราย

    ผลการทดสอบพบว่า classifier นี้สามารถตรวจจับคำถามที่เป็นภัยได้ถึง 96% โดยใช้ชุดข้อมูลจำลองกว่า 300 แบบ และยังสามารถจับการใช้งานจริงที่มีความเสี่ยงได้ในบางกรณี เช่น การทดลองของทีม red team ภายในบริษัทเอง

    Anthropic ยังประกาศว่าจะนำแนวทางนี้ไปแบ่งปันกับกลุ่ม Frontier Model Forum ซึ่งรวมถึงบริษัทใหญ่อย่าง Google, Meta, Microsoft และ OpenAI เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยร่วมกันในวงการ AI

    แม้ Claude จะไม่เคยช่วยใครสร้างระเบิดจริง ๆ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Anthropic พัฒนา classifier เพื่อป้องกันการใช้ Claude ในการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์
    ร่วมมือกับ NNSA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
    classifier สามารถแยกแยะคำถามทั่วไปกับคำถามที่มีเจตนาอันตราย
    ตรวจจับคำถามเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ได้แม่นยำถึง 96% จากชุดข้อมูลจำลอง
    ระบบถูกนำไปใช้จริงกับการสนทนาใน Claude บางส่วนแล้ว
    Claude สามารถจับคำถามของทีม red team ภายในบริษัทได้อย่างแม่นยำ
    Anthropic จะนำแนวทางนี้ไปแบ่งปันกับ Frontier Model Forum เพื่อสร้างมาตรฐานร่วม
    ผู้ใช้ยังสามารถถามเรื่องวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ทั่วไป เช่น พลังงานนิวเคลียร์หรือการแพทย์นิวเคลียร์ได้ตามปกติ
    ระบบนี้ทำงานคล้าย spam filter โดยตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Anthropic ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon และ Google
    Claude ถูกเสนอให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้งานในราคาเพียง $1 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย
    NNSA มีบทบาทในการดูแลคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และพัฒนาเทคโนโลยีด้านความมั่นคง
    ระบบ classifier ใช้การสรุปแบบลำดับชั้น (hierarchical summarization) เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความผิด
    การพัฒนา classifier นี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง “red-teaming” ที่เน้นการทดสอบความปลอดภัยเชิงรุก

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/anthropic-will-nuke-your-attempt-to-use-ai-to-build-a-nuke
    🎙️ Claude กับภารกิจหยุดยั้ง “สูตรระเบิดนิวเคลียร์” ในยุคที่ AI สามารถตอบคำถามแทบทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความกังวลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะคำถามที่อาจนำไปสู่การสร้างอาวุธทำลายล้างสูง เช่น ระเบิดนิวเคลียร์ Anthropic บริษัทผู้พัฒนา Claude ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT ได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ อย่าง NNSA (National Nuclear Security Administration) เพื่อพัฒนา “classifier” หรือระบบตรวจจับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ระบบนี้สามารถแยกแยะได้ว่า ผู้ใช้กำลังถามเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ทั่วไป เช่น “ฟิชชันคืออะไร” หรือกำลังพยายามขอ “แผนสร้างระเบิดยูเรเนียมในโรงรถ” ซึ่งถือเป็นการใช้งานที่อันตราย ผลการทดสอบพบว่า classifier นี้สามารถตรวจจับคำถามที่เป็นภัยได้ถึง 96% โดยใช้ชุดข้อมูลจำลองกว่า 300 แบบ และยังสามารถจับการใช้งานจริงที่มีความเสี่ยงได้ในบางกรณี เช่น การทดลองของทีม red team ภายในบริษัทเอง Anthropic ยังประกาศว่าจะนำแนวทางนี้ไปแบ่งปันกับกลุ่ม Frontier Model Forum ซึ่งรวมถึงบริษัทใหญ่อย่าง Google, Meta, Microsoft และ OpenAI เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยร่วมกันในวงการ AI แม้ Claude จะไม่เคยช่วยใครสร้างระเบิดจริง ๆ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Anthropic พัฒนา classifier เพื่อป้องกันการใช้ Claude ในการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์ ➡️ ร่วมมือกับ NNSA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ➡️ classifier สามารถแยกแยะคำถามทั่วไปกับคำถามที่มีเจตนาอันตราย ➡️ ตรวจจับคำถามเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ได้แม่นยำถึง 96% จากชุดข้อมูลจำลอง ➡️ ระบบถูกนำไปใช้จริงกับการสนทนาใน Claude บางส่วนแล้ว ➡️ Claude สามารถจับคำถามของทีม red team ภายในบริษัทได้อย่างแม่นยำ ➡️ Anthropic จะนำแนวทางนี้ไปแบ่งปันกับ Frontier Model Forum เพื่อสร้างมาตรฐานร่วม ➡️ ผู้ใช้ยังสามารถถามเรื่องวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ทั่วไป เช่น พลังงานนิวเคลียร์หรือการแพทย์นิวเคลียร์ได้ตามปกติ ➡️ ระบบนี้ทำงานคล้าย spam filter โดยตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Anthropic ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon และ Google ➡️ Claude ถูกเสนอให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้งานในราคาเพียง $1 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย ➡️ NNSA มีบทบาทในการดูแลคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และพัฒนาเทคโนโลยีด้านความมั่นคง ➡️ ระบบ classifier ใช้การสรุปแบบลำดับชั้น (hierarchical summarization) เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความผิด ➡️ การพัฒนา classifier นี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง “red-teaming” ที่เน้นการทดสอบความปลอดภัยเชิงรุก https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/anthropic-will-nuke-your-attempt-to-use-ai-to-build-a-nuke
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • Siri จะฉลาดขึ้นด้วย Gemini จาก Google?

    Apple กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของยุค AI หลังจากที่ Siri ซึ่งเคยเป็นผู้บุกเบิกด้านผู้ช่วยเสียง กลับกลายเป็นผู้ตามในยุคที่ Google Assistant และ Alexa พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมาก

    ล่าสุดมีรายงานว่า Apple กำลังเจรจากับ Google เพื่อใช้ Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดที่ล้ำสมัยที่สุดของ Google มาเป็น “สมองใหม่” ให้กับ Siri โดยอาจเปิดตัวในปี 2026 พร้อมกับ iOS 26

    เดิมที Apple ตั้งใจจะใช้โมเดลของตัวเองภายใต้ชื่อ Apple Intelligence แต่หลังจากพบข้อจำกัดด้านคุณภาพและความล่าช้าในการพัฒนา จึงเริ่มเปิดรับแนวคิดจากภายนอก โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเจรจากับ OpenAI และ Anthropic แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายได้

    หาก Apple ตัดสินใจใช้ Gemini จริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุทธศาสตร์ AI ของบริษัท และอาจเป็นครั้งแรกที่ Siri ได้รับการยกระดับให้เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ลึกซึ้งขึ้น ตอบคำถามซับซ้อนได้ดีขึ้น และรองรับการใช้งานแบบมัลติโหมด เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ

    แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ แต่การที่ Apple เปิดใจรับเทคโนโลยีจากคู่แข่งอย่าง Google ก็สะท้อนถึงความจริงที่ว่า “การตามให้ทัน” ในยุค AI ต้องอาศัยความร่วมมือมากกว่าการแข่งขันเพียงอย่างเดียว

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Apple กำลังเจรจากับ Google เพื่อใช้ Gemini AI ในการยกระดับ Siri
    การเจรจาอยู่ในขั้นต้น และยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ
    เดิม Apple ตั้งใจใช้โมเดลของตัวเองใน Apple Intelligence แต่พบข้อจำกัดด้านคุณภาพ
    เคยเจรจากับ Anthropic และ OpenAI แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายได้
    หากใช้ Gemini จริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ AI ของ Apple
    Siri รุ่นใหม่อาจเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 2026 พร้อม iOS 26
    Gemini เป็นโมเดลมัลติโหมดที่รองรับข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ
    Apple จะใช้ Gemini บนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว
    หุ้นของ Alphabet และ Apple เพิ่มขึ้นหลังมีข่าวการเจรจา

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gemini เป็นโมเดลที่ใช้ใน Android และ Samsung แล้วในหลายฟีเจอร์
    Apple กำลังทดสอบโมเดลภายในที่มีพารามิเตอร์ระดับ “ล้านล้าน” เพื่อแข่งกับคู่แข่ง
    Siri รุ่นใหม่จะมีสองเวอร์ชัน: แบบใช้โมเดลของ Apple และแบบใช้โมเดลภายนอก
    Apple มีประวัติความร่วมมือกับ Google เช่น การใช้ Google เป็น search engine ใน Safari
    หากใช้ Gemini จริง Siri อาจเข้าใจบริบทซับซ้อนและตอบโต้ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/report-apple-considers-squeezing-gemini-into-the-siri-brain
    🎙️ Siri จะฉลาดขึ้นด้วย Gemini จาก Google? Apple กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของยุค AI หลังจากที่ Siri ซึ่งเคยเป็นผู้บุกเบิกด้านผู้ช่วยเสียง กลับกลายเป็นผู้ตามในยุคที่ Google Assistant และ Alexa พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมาก ล่าสุดมีรายงานว่า Apple กำลังเจรจากับ Google เพื่อใช้ Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดที่ล้ำสมัยที่สุดของ Google มาเป็น “สมองใหม่” ให้กับ Siri โดยอาจเปิดตัวในปี 2026 พร้อมกับ iOS 26 เดิมที Apple ตั้งใจจะใช้โมเดลของตัวเองภายใต้ชื่อ Apple Intelligence แต่หลังจากพบข้อจำกัดด้านคุณภาพและความล่าช้าในการพัฒนา จึงเริ่มเปิดรับแนวคิดจากภายนอก โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเจรจากับ OpenAI และ Anthropic แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายได้ หาก Apple ตัดสินใจใช้ Gemini จริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุทธศาสตร์ AI ของบริษัท และอาจเป็นครั้งแรกที่ Siri ได้รับการยกระดับให้เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ลึกซึ้งขึ้น ตอบคำถามซับซ้อนได้ดีขึ้น และรองรับการใช้งานแบบมัลติโหมด เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ แต่การที่ Apple เปิดใจรับเทคโนโลยีจากคู่แข่งอย่าง Google ก็สะท้อนถึงความจริงที่ว่า “การตามให้ทัน” ในยุค AI ต้องอาศัยความร่วมมือมากกว่าการแข่งขันเพียงอย่างเดียว 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Apple กำลังเจรจากับ Google เพื่อใช้ Gemini AI ในการยกระดับ Siri ➡️ การเจรจาอยู่ในขั้นต้น และยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ ➡️ เดิม Apple ตั้งใจใช้โมเดลของตัวเองใน Apple Intelligence แต่พบข้อจำกัดด้านคุณภาพ ➡️ เคยเจรจากับ Anthropic และ OpenAI แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายได้ ➡️ หากใช้ Gemini จริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ AI ของ Apple ➡️ Siri รุ่นใหม่อาจเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 2026 พร้อม iOS 26 ➡️ Gemini เป็นโมเดลมัลติโหมดที่รองรับข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ➡️ Apple จะใช้ Gemini บนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ➡️ หุ้นของ Alphabet และ Apple เพิ่มขึ้นหลังมีข่าวการเจรจา ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gemini เป็นโมเดลที่ใช้ใน Android และ Samsung แล้วในหลายฟีเจอร์ ➡️ Apple กำลังทดสอบโมเดลภายในที่มีพารามิเตอร์ระดับ “ล้านล้าน” เพื่อแข่งกับคู่แข่ง ➡️ Siri รุ่นใหม่จะมีสองเวอร์ชัน: แบบใช้โมเดลของ Apple และแบบใช้โมเดลภายนอก ➡️ Apple มีประวัติความร่วมมือกับ Google เช่น การใช้ Google เป็น search engine ใน Safari ➡️ หากใช้ Gemini จริง Siri อาจเข้าใจบริบทซับซ้อนและตอบโต้ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/report-apple-considers-squeezing-gemini-into-the-siri-brain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi กับหน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว – เล็กลง แต่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด

    ในปี 2025 Raspberry Pi ได้เปิดตัวหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นย่อส่วนจาก Touch Display 2 ขนาด 7 นิ้วที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออสพกพา หรือแดชบอร์ดฝังตัว

    แม้จะมีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง (MSRP อยู่ที่ $40) แต่หน้าจอใหม่นี้ยังคงใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซลเหมือนเดิม และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวหน้าจอใช้ระบบสัมผัสแบบ capacitive รองรับการสัมผัสหลายจุด (multi-touch) และเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือแหล่งจ่ายไฟแยก

    ข้อดีคือการติดตั้งง่ายมาก – ไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์หรือแก้ device tree ให้ยุ่งยาก และสามารถใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS หรือแม้แต่ Ubuntu ก็รองรับเช่นกัน

    Raspberry Pi ยังโชว์การใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสไลด์โชว์เพื่อสาธิตการทำงานของหน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดสามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำได้

    อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่า “การลดขนาดหน้าจอ” เป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ เพราะความละเอียดยังคงเท่าเดิม และประสบการณ์การสัมผัสยังขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่อาจมีข้อจำกัด

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Raspberry Pi เปิดตัวหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2025
    ใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล เหมือนรุ่น 7 นิ้ว
    รองรับ multi-touch และเชื่อมต่อผ่าน DSI port โดยไม่ต้องใช้ HDMI
    ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS โดยไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์
    ใช้พลังงานจาก GPIO 5V ของบอร์ด Raspberry Pi โดยตรง
    เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออส หรือแดชบอร์ดฝังตัว
    Raspberry Pi ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสาธิตการใช้งานหน้าจอ
    ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ $40–$50 แล้วแต่ผู้จัดจำหน่าย
    รองรับการใช้งานบน Ubuntu และ Linux distros อื่น ๆ ด้วย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    หน้าจอใช้ LCD TFT แบบ 24-bit RGB ให้สีสันระดับ “ล้านสี”
    รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด (five-finger gestures)
    Raspberry Pi ประกาศว่าจะผลิตหน้าจอนี้ต่อเนื่องถึงปี 2030
    SunFounder 10.1 นิ้ว เป็นอีกทางเลือกที่มีความละเอียดสูงกว่า (1280x800) และรองรับ 10-point touch
    หน้าจอ 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบฝังตัวมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น เขียนบล็อกหรือทำงานเอกสาร

    https://www.techradar.com/pro/time-for-your-next-smart-home-project-raspberry-pi-adds-an-improved-touchscreen-so-its-time-to-get-building
    🎙️ Raspberry Pi กับหน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว – เล็กลง แต่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ในปี 2025 Raspberry Pi ได้เปิดตัวหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นย่อส่วนจาก Touch Display 2 ขนาด 7 นิ้วที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออสพกพา หรือแดชบอร์ดฝังตัว แม้จะมีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง (MSRP อยู่ที่ $40) แต่หน้าจอใหม่นี้ยังคงใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซลเหมือนเดิม และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวหน้าจอใช้ระบบสัมผัสแบบ capacitive รองรับการสัมผัสหลายจุด (multi-touch) และเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือแหล่งจ่ายไฟแยก ข้อดีคือการติดตั้งง่ายมาก – ไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์หรือแก้ device tree ให้ยุ่งยาก และสามารถใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS หรือแม้แต่ Ubuntu ก็รองรับเช่นกัน Raspberry Pi ยังโชว์การใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสไลด์โชว์เพื่อสาธิตการทำงานของหน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดสามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำได้ อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่า “การลดขนาดหน้าจอ” เป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ เพราะความละเอียดยังคงเท่าเดิม และประสบการณ์การสัมผัสยังขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่อาจมีข้อจำกัด 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Raspberry Pi เปิดตัวหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2025 ➡️ ใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล เหมือนรุ่น 7 นิ้ว ➡️ รองรับ multi-touch และเชื่อมต่อผ่าน DSI port โดยไม่ต้องใช้ HDMI ➡️ ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS โดยไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์ ➡️ ใช้พลังงานจาก GPIO 5V ของบอร์ด Raspberry Pi โดยตรง ➡️ เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออส หรือแดชบอร์ดฝังตัว ➡️ Raspberry Pi ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสาธิตการใช้งานหน้าจอ ➡️ ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ $40–$50 แล้วแต่ผู้จัดจำหน่าย ➡️ รองรับการใช้งานบน Ubuntu และ Linux distros อื่น ๆ ด้วย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ หน้าจอใช้ LCD TFT แบบ 24-bit RGB ให้สีสันระดับ “ล้านสี” ➡️ รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด (five-finger gestures) ➡️ Raspberry Pi ประกาศว่าจะผลิตหน้าจอนี้ต่อเนื่องถึงปี 2030 ➡️ SunFounder 10.1 นิ้ว เป็นอีกทางเลือกที่มีความละเอียดสูงกว่า (1280x800) และรองรับ 10-point touch ➡️ หน้าจอ 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบฝังตัวมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น เขียนบล็อกหรือทำงานเอกสาร https://www.techradar.com/pro/time-for-your-next-smart-home-project-raspberry-pi-adds-an-improved-touchscreen-so-its-time-to-get-building
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI พลาด ธนาคารต้องเรียกคนกลับมาทำงาน

    ในช่วงกลางปี 2025 ธนาคาร Commonwealth Bank (CBA) ของออสเตรเลียได้ตัดสินใจปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วยระบบ AI voice-bot โดยหวังว่าจะลดปริมาณสายโทรเข้าและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบคำถามทั่วไป

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม: ปริมาณสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พนักงานที่เหลือต้องทำงานล่วงเวลา และแม้แต่หัวหน้าทีมก็ต้องลงมารับสายเอง! สหภาพแรงงานด้านการเงิน (Finance Sector Union) จึงออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจนี้

    สุดท้าย CBA ต้อง “กลับลำ” โดยยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และประกาศเรียกพนักงานกลับมาทำงาน พร้อมขอโทษอย่างเป็นทางการ และเสนอทางเลือกให้พนักงานว่าจะกลับมาทำงานเดิม ย้ายตำแหน่ง หรือรับเงินชดเชยแล้วลาออก

    แม้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนา AI ร่วมกับ OpenAI ในด้านการตรวจจับการหลอกลวงและการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล แต่กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ทุกด้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ธนาคาร CBA ประกาศปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วย AI voice-bot
    ระบบ AI ถูกนำมาใช้เพื่อลดจำนวนสายโทรเข้าและตอบคำถามทั่วไป
    หลังจากใช้งานจริง ปริมาณสายกลับเพิ่มขึ้น และพนักงานต้องทำงานล่วงเวลา
    สหภาพแรงงานออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจ
    ธนาคารยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และเรียกพนักงานกลับ
    พนักงานได้รับคำขอโทษและมีทางเลือกในการกลับมาทำงาน ย้ายตำแหน่ง หรือลาออก
    ธนาคารยังคงร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ด้านการตรวจจับการหลอกลวงและบริการเฉพาะบุคคล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ในสหราชอาณาจักร กว่า 50% ของบริษัทที่ใช้ AI แทนคนงานเริ่มเสียใจในภายหลัง
    AI voice-bot ยังไม่สามารถเข้าใจ “น้ำเสียงทางอารมณ์” ของผู้ใช้ได้ดีเท่ามนุษย์
    การใช้ AI แทนพนักงานอาจสร้างความเครียดและความไม่มั่นคงในชีวิตให้กับแรงงาน
    หลายบริษัทเริ่มหันกลับมาใช้ “มนุษย์” ในงานบริการที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

    https://www.techradar.com/pro/now-thats-an-embarassing-u-turn-bank-forced-to-rehire-human-workers-after-their-ai-replacement-fail-to-perform
    🎙️ เมื่อ AI พลาด ธนาคารต้องเรียกคนกลับมาทำงาน ในช่วงกลางปี 2025 ธนาคาร Commonwealth Bank (CBA) ของออสเตรเลียได้ตัดสินใจปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วยระบบ AI voice-bot โดยหวังว่าจะลดปริมาณสายโทรเข้าและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบคำถามทั่วไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม: ปริมาณสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พนักงานที่เหลือต้องทำงานล่วงเวลา และแม้แต่หัวหน้าทีมก็ต้องลงมารับสายเอง! สหภาพแรงงานด้านการเงิน (Finance Sector Union) จึงออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจนี้ สุดท้าย CBA ต้อง “กลับลำ” โดยยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และประกาศเรียกพนักงานกลับมาทำงาน พร้อมขอโทษอย่างเป็นทางการ และเสนอทางเลือกให้พนักงานว่าจะกลับมาทำงานเดิม ย้ายตำแหน่ง หรือรับเงินชดเชยแล้วลาออก แม้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนา AI ร่วมกับ OpenAI ในด้านการตรวจจับการหลอกลวงและการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล แต่กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ทุกด้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ธนาคาร CBA ประกาศปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วย AI voice-bot ➡️ ระบบ AI ถูกนำมาใช้เพื่อลดจำนวนสายโทรเข้าและตอบคำถามทั่วไป ➡️ หลังจากใช้งานจริง ปริมาณสายกลับเพิ่มขึ้น และพนักงานต้องทำงานล่วงเวลา ➡️ สหภาพแรงงานออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจ ➡️ ธนาคารยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และเรียกพนักงานกลับ ➡️ พนักงานได้รับคำขอโทษและมีทางเลือกในการกลับมาทำงาน ย้ายตำแหน่ง หรือลาออก ➡️ ธนาคารยังคงร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ด้านการตรวจจับการหลอกลวงและบริการเฉพาะบุคคล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ในสหราชอาณาจักร กว่า 50% ของบริษัทที่ใช้ AI แทนคนงานเริ่มเสียใจในภายหลัง ➡️ AI voice-bot ยังไม่สามารถเข้าใจ “น้ำเสียงทางอารมณ์” ของผู้ใช้ได้ดีเท่ามนุษย์ ➡️ การใช้ AI แทนพนักงานอาจสร้างความเครียดและความไม่มั่นคงในชีวิตให้กับแรงงาน ➡️ หลายบริษัทเริ่มหันกลับมาใช้ “มนุษย์” ในงานบริการที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ https://www.techradar.com/pro/now-thats-an-embarassing-u-turn-bank-forced-to-rehire-human-workers-after-their-ai-replacement-fail-to-perform
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • Medusa Halo – APU ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งวงการ

    ในปี 2027 AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Medusa Halo ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ เพราะมันไม่ใช่แค่ชิปประมวลผลทั่วไป แต่เป็น APU ที่รวมพลังของ Zen 6 CPU และ RDNA 5 GPU ไว้ในตัวเดียวกันอย่างทรงพลัง

    จากข้อมูลที่รั่วออกมาโดย Moore’s Law is Dead ชิปนี้จะใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC คือ N2P สำหรับ CPU และ N3P สำหรับ I/O die โดยรุ่นพื้นฐานจะมี 12 คอร์ Zen 6 และ 2 คอร์ Zen 6 LP สำหรับงานเบา ๆ ส่วนรุ่นสูงสุดอาจมีเพิ่มอีก 12 คอร์ ทำให้รวมได้ถึง 24 หรือ 26 คอร์

    ด้านกราฟิก Medusa Halo จะมาพร้อม 48 คอร์ประมวลผล (CUs) บนสถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกระดับกลางอย่าง RTX 5070 Ti และมีแคช L2 ถึง 20 MB

    หน่วยความจำก็ไม่น้อยหน้า โดยรองรับ LPDDR6 แบบ 384-bit หรือ LPDDR5X แบบ 256-bit ซึ่งให้แบนด์วิดธ์สูงมาก เหมาะกับงานกราฟิกและ AI ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล

    นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็กชื่อ Medusa Halo Mini สำหรับโน้ตบุ๊กและพีซีขนาดเล็ก โดยมี 14 คอร์ CPU และ 24 CUs GPU พร้อมแคช L2 10 MB และคอนโทรลเลอร์หน่วยความจำแบบ 128-bit LPDDR5X หรืออาจอัปเกรดเป็น 192-bit LPDDR6

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่น Medusa Halo ในปี 2027
    ใช้ Zen 6 CPU chiplets บนเทคโนโลยี TSMC N2P และ I/O die บน N3P
    รุ่นพื้นฐานมี 12 Zen 6 cores + 2 Zen 6 LP cores
    รุ่นสูงสุดอาจมีเพิ่มอีก 12-core CCD รวมเป็น 24–26 cores
    GPU ภายในใช้ RDNA 5 จำนวน 48 CUs พร้อม L2 cache ขนาด 20 MB
    ประสิทธิภาพกราฟิกใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti
    รองรับหน่วยความจำ LPDDR6 แบบ 384-bit หรือ LPDDR5X แบบ 256-bit
    มีรุ่น Medusa Halo Mini สำหรับโน้ตบุ๊กและพีซีขนาดเล็ก
    Medusa Halo Mini มี 14 คอร์ CPU และ 24 CUs GPU พร้อม L2 cache 10 MB
    ใช้คอนโทรลเลอร์หน่วยความจำแบบ 128-bit LPDDR5X หรือ 192-bit LPDDR6

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RDNA 5 อาจเป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับที่ใช้ในการ์ดจอแยกรุ่น PTX 1060 XT
    Infinity Fabric รุ่นใหม่ใน Zen 6 จะเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
    TSMC N2P ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20% หรือลดการใช้พลังงานได้ถึง 36%
    การรวม GPU ระดับกลางไว้ใน APU จะช่วยลดต้นทุนและขนาดของระบบ
    AMD อาจใช้แนวทางเดียวกันใน Xbox Magnus APU สำหรับคอนโซลรุ่นใหม่

    https://www.techpowerup.com/340216/amd-medusa-halo-apu-leak-reveals-up-to-24-cores-and-48-rdna-5-cus
    🎙️ Medusa Halo – APU ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งวงการ ในปี 2027 AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Medusa Halo ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ เพราะมันไม่ใช่แค่ชิปประมวลผลทั่วไป แต่เป็น APU ที่รวมพลังของ Zen 6 CPU และ RDNA 5 GPU ไว้ในตัวเดียวกันอย่างทรงพลัง จากข้อมูลที่รั่วออกมาโดย Moore’s Law is Dead ชิปนี้จะใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC คือ N2P สำหรับ CPU และ N3P สำหรับ I/O die โดยรุ่นพื้นฐานจะมี 12 คอร์ Zen 6 และ 2 คอร์ Zen 6 LP สำหรับงานเบา ๆ ส่วนรุ่นสูงสุดอาจมีเพิ่มอีก 12 คอร์ ทำให้รวมได้ถึง 24 หรือ 26 คอร์ ด้านกราฟิก Medusa Halo จะมาพร้อม 48 คอร์ประมวลผล (CUs) บนสถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกระดับกลางอย่าง RTX 5070 Ti และมีแคช L2 ถึง 20 MB หน่วยความจำก็ไม่น้อยหน้า โดยรองรับ LPDDR6 แบบ 384-bit หรือ LPDDR5X แบบ 256-bit ซึ่งให้แบนด์วิดธ์สูงมาก เหมาะกับงานกราฟิกและ AI ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็กชื่อ Medusa Halo Mini สำหรับโน้ตบุ๊กและพีซีขนาดเล็ก โดยมี 14 คอร์ CPU และ 24 CUs GPU พร้อมแคช L2 10 MB และคอนโทรลเลอร์หน่วยความจำแบบ 128-bit LPDDR5X หรืออาจอัปเกรดเป็น 192-bit LPDDR6 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่น Medusa Halo ในปี 2027 ➡️ ใช้ Zen 6 CPU chiplets บนเทคโนโลยี TSMC N2P และ I/O die บน N3P ➡️ รุ่นพื้นฐานมี 12 Zen 6 cores + 2 Zen 6 LP cores ➡️ รุ่นสูงสุดอาจมีเพิ่มอีก 12-core CCD รวมเป็น 24–26 cores ➡️ GPU ภายในใช้ RDNA 5 จำนวน 48 CUs พร้อม L2 cache ขนาด 20 MB ➡️ ประสิทธิภาพกราฟิกใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti ➡️ รองรับหน่วยความจำ LPDDR6 แบบ 384-bit หรือ LPDDR5X แบบ 256-bit ➡️ มีรุ่น Medusa Halo Mini สำหรับโน้ตบุ๊กและพีซีขนาดเล็ก ➡️ Medusa Halo Mini มี 14 คอร์ CPU และ 24 CUs GPU พร้อม L2 cache 10 MB ➡️ ใช้คอนโทรลเลอร์หน่วยความจำแบบ 128-bit LPDDR5X หรือ 192-bit LPDDR6 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RDNA 5 อาจเป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับที่ใช้ในการ์ดจอแยกรุ่น PTX 1060 XT ➡️ Infinity Fabric รุ่นใหม่ใน Zen 6 จะเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ➡️ TSMC N2P ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20% หรือลดการใช้พลังงานได้ถึง 36% ➡️ การรวม GPU ระดับกลางไว้ใน APU จะช่วยลดต้นทุนและขนาดของระบบ ➡️ AMD อาจใช้แนวทางเดียวกันใน Xbox Magnus APU สำหรับคอนโซลรุ่นใหม่ https://www.techpowerup.com/340216/amd-medusa-halo-apu-leak-reveals-up-to-24-cores-and-48-rdna-5-cus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Medusa Halo APU Leak Reveals Up to 24 Cores and 48 RDNA 5 CUs
    A fresh leak has shed light on AMD's next-gen Medusa Halo APU that is set to launch in 2027 as the company's top-of-the-line chip (dismissing previous rumors about AMD cancelling Medusa Halo APU). Moore's Law is Dead has shared information suggesting Medusa Halo will pack Zen 6 CPU chiplets made usi...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศักดิ์ศรีทัังหมดของเขมรคือภูมะเขือ ,เสียอะไรก็เสียได้ ยึดคืนใดๆก็ยึดได้ แต่ไทยเรายึดภูมะเขือจากมันคืนได้ มันโคตรเสียหน้าเสียเกียรติสุดๆมันว่า.,และยุทธศาสตร์จริงๆก็ภูมะเขือ นัยยะสาระพัดที่ภูมะเขือนี้,เขาพระวิหารแค่ปราสาท แต่นี้มันตั้งฐานสาระพัดก็ได้,จุดชมวิวก็เยี่ยม.

    https://youtube.com/shorts/Q-2WTaA5sXc?si=zeOsmSA_OvOsZBFj
    ศักดิ์ศรีทัังหมดของเขมรคือภูมะเขือ ,เสียอะไรก็เสียได้ ยึดคืนใดๆก็ยึดได้ แต่ไทยเรายึดภูมะเขือจากมันคืนได้ มันโคตรเสียหน้าเสียเกียรติสุดๆมันว่า.,และยุทธศาสตร์จริงๆก็ภูมะเขือ นัยยะสาระพัดที่ภูมะเขือนี้,เขาพระวิหารแค่ปราสาท แต่นี้มันตั้งฐานสาระพัดก็ได้,จุดชมวิวก็เยี่ยม. https://youtube.com/shorts/Q-2WTaA5sXc?si=zeOsmSA_OvOsZBFj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arch Linux กับการโจมตีที่ไม่รู้ว่าใครทำ และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่

    ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา Arch Linux ซึ่งเป็นหนึ่งในดิสโทรยอดนิยมของสายลินุกซ์ขั้นสูง ถูกโจมตีด้วย DDoS อย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายหลักคือเว็บไซต์หลัก, Arch User Repository (AUR), และฟอรัมของชุมชน

    การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น การดาวน์โหลดแพ็กเกจ, การอัปเดตระบบ, หรือแม้แต่การติดตั้ง ISO ใหม่ได้อย่างราบรื่น ทีมงานของ Arch ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัคร กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโฮสติ้งเพื่อบรรเทาผลกระทบ และกำลังพิจารณาผู้ให้บริการ DDoS protection โดยคำนึงถึงต้นทุน ความปลอดภัย และจริยธรรม

    แม้จะมีข้อเสนอจาก Cloudflare ซึ่งเคยช่วยโครงการโอเพ่นซอร์สอื่น ๆ มาก่อน แต่ Arch ยังไม่ตอบรับอย่างเป็นทางการ อาจเพราะแนวคิดเรื่องความเป็นอิสระและโอเพ่นซอร์สที่ฝังลึกในโครงการนี้

    ที่น่าสนใจคือ Arch Linux ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากการเป็นฐานของ SteamOS บน Steam Deck ซึ่งทำให้มีผู้ใช้ใหม่จำนวนมาก และอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กลุ่มโจมตีเล็งเป้าไปที่โครงการนี้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Arch Linux ถูกโจมตีด้วย DDoS ต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์
    บริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เว็บไซต์หลัก, AUR, และฟอรัมของชุมชน
    ทีมงานกำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโฮสติ้งเพื่อบรรเทาผลกระทบ
    กำลังพิจารณาผู้ให้บริการ DDoS protection โดยคำนึงถึงจริยธรรมและต้นทุน
    มีการอัปเดตสถานะบริการผ่านหน้า status page ของ Arch Linux
    Arch Linux เป็นฐานของ SteamOS บน Steam Deck ซึ่งเพิ่มความนิยมในช่วงหลัง
    ผู้ใช้สามารถใช้ mirror list ใน pacman-mirrorlist แทน reflector หากระบบหลักล่ม
    AUR ยังสามารถเข้าถึงผ่าน GitHub mirror โดยใช้คำสั่ง git clone
    Arch Linux ก่อตั้งในปี 2002 โดย Judd Vinet ตามหลัก KISS (Keep It Simple, Stupid)
    ทีมงานขอบคุณชุมชนที่อดทนและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Arch Linux เคยเผชิญปัญหา malware ใน AUR มาก่อนหน้านี้ในช่วงฤดูร้อน
    การโจมตี DDoS แบบ sustained แม้ไม่รุนแรงมากก็สร้างความเสียหายได้มาก
    Cloudflare เสนอช่วยเหลือ แต่ Arch ยังไม่ตอบรับ อาจเพราะแนวคิดเรื่องโอเพ่นซอร์ส
    ArchWiki เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี
    Arch Linux มีผู้ใช้ที่ภักดีและนิยมในกลุ่มผู้ใช้ระดับกลางถึงขั้นสูง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/arch-linux-continues-to-feel-the-force-of-a-ddos-attack-after-two-brutal-weeks-attackers-yet-to-be-identified-as-project-struggles-to-restore-full-service
    🎙️ Arch Linux กับการโจมตีที่ไม่รู้ว่าใครทำ และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา Arch Linux ซึ่งเป็นหนึ่งในดิสโทรยอดนิยมของสายลินุกซ์ขั้นสูง ถูกโจมตีด้วย DDoS อย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายหลักคือเว็บไซต์หลัก, Arch User Repository (AUR), และฟอรัมของชุมชน การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น การดาวน์โหลดแพ็กเกจ, การอัปเดตระบบ, หรือแม้แต่การติดตั้ง ISO ใหม่ได้อย่างราบรื่น ทีมงานของ Arch ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัคร กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโฮสติ้งเพื่อบรรเทาผลกระทบ และกำลังพิจารณาผู้ให้บริการ DDoS protection โดยคำนึงถึงต้นทุน ความปลอดภัย และจริยธรรม แม้จะมีข้อเสนอจาก Cloudflare ซึ่งเคยช่วยโครงการโอเพ่นซอร์สอื่น ๆ มาก่อน แต่ Arch ยังไม่ตอบรับอย่างเป็นทางการ อาจเพราะแนวคิดเรื่องความเป็นอิสระและโอเพ่นซอร์สที่ฝังลึกในโครงการนี้ ที่น่าสนใจคือ Arch Linux ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากการเป็นฐานของ SteamOS บน Steam Deck ซึ่งทำให้มีผู้ใช้ใหม่จำนวนมาก และอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กลุ่มโจมตีเล็งเป้าไปที่โครงการนี้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Arch Linux ถูกโจมตีด้วย DDoS ต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ ➡️ บริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เว็บไซต์หลัก, AUR, และฟอรัมของชุมชน ➡️ ทีมงานกำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโฮสติ้งเพื่อบรรเทาผลกระทบ ➡️ กำลังพิจารณาผู้ให้บริการ DDoS protection โดยคำนึงถึงจริยธรรมและต้นทุน ➡️ มีการอัปเดตสถานะบริการผ่านหน้า status page ของ Arch Linux ➡️ Arch Linux เป็นฐานของ SteamOS บน Steam Deck ซึ่งเพิ่มความนิยมในช่วงหลัง ➡️ ผู้ใช้สามารถใช้ mirror list ใน pacman-mirrorlist แทน reflector หากระบบหลักล่ม ➡️ AUR ยังสามารถเข้าถึงผ่าน GitHub mirror โดยใช้คำสั่ง git clone ➡️ Arch Linux ก่อตั้งในปี 2002 โดย Judd Vinet ตามหลัก KISS (Keep It Simple, Stupid) ➡️ ทีมงานขอบคุณชุมชนที่อดทนและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Arch Linux เคยเผชิญปัญหา malware ใน AUR มาก่อนหน้านี้ในช่วงฤดูร้อน ➡️ การโจมตี DDoS แบบ sustained แม้ไม่รุนแรงมากก็สร้างความเสียหายได้มาก ➡️ Cloudflare เสนอช่วยเหลือ แต่ Arch ยังไม่ตอบรับ อาจเพราะแนวคิดเรื่องโอเพ่นซอร์ส ➡️ ArchWiki เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี ➡️ Arch Linux มีผู้ใช้ที่ภักดีและนิยมในกลุ่มผู้ใช้ระดับกลางถึงขั้นสูง https://www.tomshardware.com/software/linux/arch-linux-continues-to-feel-the-force-of-a-ddos-attack-after-two-brutal-weeks-attackers-yet-to-be-identified-as-project-struggles-to-restore-full-service
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ Noctua อยากทำ RTX 5090 รุ่นพิเศษ แต่ Nvidia บอกว่า “ไม่มีชิปให้”

    ถ้าคุณเป็นแฟนของ Noctua คุณคงรู้ดีว่าแบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องพัดลมสีน้ำตาลที่เงียบและเย็นสุดขั้ว ล่าสุดพวกเขาร่วมมือกับ ASUS เปิดตัว RTX 5080 Noctua Edition ที่มาพร้อมพัดลม NF-A12x25 G2 ถึง 3 ตัว และฮีตซิงก์ขนาดมหึมา 11 ท่อระบายความร้อน ซึ่งให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมทั้งด้านอุณหภูมิและเสียง

    หลายคนจึงถามว่า “แล้วทำไมไม่มีรุ่น RTX 5090 Noctua Edition?” คำตอบจาก Noctua คือ “อยากทำมาก แต่ Nvidia ไม่มีชิป GB202 ให้พอ”

    ชิป GB202 เป็นหัวใจของ RTX 5090 และยังถูกใช้ในการ์ดระดับเวิร์กสเตชันอย่าง RTX Pro 6000 ด้วย ทำให้ความต้องการสูงมาก โดยเฉพาะในตลาด AI ที่มีการนำ RTX 5090 ไปดัดแปลงเป็นการ์ดสำหรับงานประมวลผล

    แม้ Noctua จะยังไม่ปิดประตูเสียทีเดียว พวกเขายังมีแผนออกแบบฮีตซิงก์ใหม่ที่อาจใช้ vapor chamber แบบเดียวกับ ROG Astral และเปลี่ยนท่อระบายความร้อนทั้งหมดเป็นขนาด 8 มม. เพื่อรองรับ TDP สูงถึง 575W ของ RTX 5090

    แต่ในความเป็นจริง การ์ด RTX 5090 Noctua Edition อาจไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และถ้าเกิดขึ้นจริง ราคาก็อาจทะลุ $3,000 หรือมากกว่านั้น เพราะต้นทุนสูงและความหายากของชิป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Noctua ต้องการผลิต RTX 5090 Noctua Edition แต่ติดปัญหาขาดแคลนชิป GB202
    Nvidia ใช้ GB202 ใน RTX 5090 และการ์ดเวิร์กสเตชัน RTX Pro 6000 ทำให้ชิปขาดตลาด
    Noctua เคยผลิตการ์ดร่วมกับ ASUS เช่น RTX 5080, 4080 Super, 3080 และ 3070
    RTX 5080 Noctua Edition มีพัดลม 3 ตัวและฮีตซิงก์ 11 ท่อ ให้ผลลัพธ์เย็นและเงียบ
    Noctua อาจใช้ vapor chamber และท่อ 8 มม. หากได้ผลิตรุ่น RTX 5090
    การ์ด RTX 5090 มี TDP สูงถึง 575W เหมาะกับระบบระบายความร้อนขั้นสูง
    ราคาของ RTX 5080 Noctua Edition สูงถึง €1,649 ในยุโรป และอาจสูงกว่าสำหรับรุ่น 5090 Noctua ยืนยันว่า “อยากทำ” แต่ “ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้”
    ความต้องการ GB202 สูงมากจากตลาด AI และเวิร์กสเตชัน
    การ์ด RTX 5090 ยังมีราคาสูงกว่าราคาตั้ง (MSRP) หลายร้อยดอลลาร์ในตลาดทั่วไป

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GB202 เป็นชิปที่ใช้ใน Blackwell architecture ซึ่งเน้นงาน AI และ HPC
    การ์ด blower-style RTX 5090 ถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI อย่างแพร่หลาย
    Noctua มีชื่อเสียงด้านการระบายความร้อนแบบ air-cooling ที่เทียบเท่า water-cooling
    Vapor chamber ช่วยกระจายความร้อนได้ดีกว่าท่อฮีตซิงก์แบบเดิม
    ตลาด GPU ระดับสูงกำลังถูกแย่งชิปโดยอุตสาหกรรม AI มากกว่ากลุ่มเกมเมอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/noctua-says-nvidia-doesnt-have-enough-dies-to-make-big-brown-rtx-5090-rtx-5090-noctua-edition-may-never-see-the-light-of-day
    🎙️ เมื่อ Noctua อยากทำ RTX 5090 รุ่นพิเศษ แต่ Nvidia บอกว่า “ไม่มีชิปให้” ถ้าคุณเป็นแฟนของ Noctua คุณคงรู้ดีว่าแบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องพัดลมสีน้ำตาลที่เงียบและเย็นสุดขั้ว ล่าสุดพวกเขาร่วมมือกับ ASUS เปิดตัว RTX 5080 Noctua Edition ที่มาพร้อมพัดลม NF-A12x25 G2 ถึง 3 ตัว และฮีตซิงก์ขนาดมหึมา 11 ท่อระบายความร้อน ซึ่งให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมทั้งด้านอุณหภูมิและเสียง หลายคนจึงถามว่า “แล้วทำไมไม่มีรุ่น RTX 5090 Noctua Edition?” คำตอบจาก Noctua คือ “อยากทำมาก แต่ Nvidia ไม่มีชิป GB202 ให้พอ” ชิป GB202 เป็นหัวใจของ RTX 5090 และยังถูกใช้ในการ์ดระดับเวิร์กสเตชันอย่าง RTX Pro 6000 ด้วย ทำให้ความต้องการสูงมาก โดยเฉพาะในตลาด AI ที่มีการนำ RTX 5090 ไปดัดแปลงเป็นการ์ดสำหรับงานประมวลผล แม้ Noctua จะยังไม่ปิดประตูเสียทีเดียว พวกเขายังมีแผนออกแบบฮีตซิงก์ใหม่ที่อาจใช้ vapor chamber แบบเดียวกับ ROG Astral และเปลี่ยนท่อระบายความร้อนทั้งหมดเป็นขนาด 8 มม. เพื่อรองรับ TDP สูงถึง 575W ของ RTX 5090 แต่ในความเป็นจริง การ์ด RTX 5090 Noctua Edition อาจไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และถ้าเกิดขึ้นจริง ราคาก็อาจทะลุ $3,000 หรือมากกว่านั้น เพราะต้นทุนสูงและความหายากของชิป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Noctua ต้องการผลิต RTX 5090 Noctua Edition แต่ติดปัญหาขาดแคลนชิป GB202 ➡️ Nvidia ใช้ GB202 ใน RTX 5090 และการ์ดเวิร์กสเตชัน RTX Pro 6000 ทำให้ชิปขาดตลาด ➡️ Noctua เคยผลิตการ์ดร่วมกับ ASUS เช่น RTX 5080, 4080 Super, 3080 และ 3070 ➡️ RTX 5080 Noctua Edition มีพัดลม 3 ตัวและฮีตซิงก์ 11 ท่อ ให้ผลลัพธ์เย็นและเงียบ ➡️ Noctua อาจใช้ vapor chamber และท่อ 8 มม. หากได้ผลิตรุ่น RTX 5090 ➡️ การ์ด RTX 5090 มี TDP สูงถึง 575W เหมาะกับระบบระบายความร้อนขั้นสูง ➡️ ราคาของ RTX 5080 Noctua Edition สูงถึง €1,649 ในยุโรป และอาจสูงกว่าสำหรับรุ่น 5090 ➡️ Noctua ยืนยันว่า “อยากทำ” แต่ “ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้” ➡️ ความต้องการ GB202 สูงมากจากตลาด AI และเวิร์กสเตชัน ➡️ การ์ด RTX 5090 ยังมีราคาสูงกว่าราคาตั้ง (MSRP) หลายร้อยดอลลาร์ในตลาดทั่วไป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GB202 เป็นชิปที่ใช้ใน Blackwell architecture ซึ่งเน้นงาน AI และ HPC ➡️ การ์ด blower-style RTX 5090 ถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI อย่างแพร่หลาย ➡️ Noctua มีชื่อเสียงด้านการระบายความร้อนแบบ air-cooling ที่เทียบเท่า water-cooling ➡️ Vapor chamber ช่วยกระจายความร้อนได้ดีกว่าท่อฮีตซิงก์แบบเดิม ➡️ ตลาด GPU ระดับสูงกำลังถูกแย่งชิปโดยอุตสาหกรรม AI มากกว่ากลุ่มเกมเมอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/noctua-says-nvidia-doesnt-have-enough-dies-to-make-big-brown-rtx-5090-rtx-5090-noctua-edition-may-never-see-the-light-of-day
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อการ์ดจอเกมกลายร่างเป็นเครื่องมือ AI ระดับมืออาชีพ

    ในโลกที่กราฟิกการ์ดไม่ได้มีไว้แค่เล่นเกมอีกต่อไป AFOX ได้เปิดตัว GeForce RTX 5090 32GB Professional ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบ blower-style ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ AI และเวิร์กสเตชันระดับสูง โดยวางขายในสหรัฐฯ ด้วยราคาสูงถึง $5,999

    แม้จะไม่ใช่พันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Nvidia แต่ AFOX ก็มีประสบการณ์ผลิตการ์ด blower-style มาตั้งแต่ยุค GTX 10-series และยังคงเดินหน้าต่อแม้ Nvidia เคยพยายามห้ามการผลิตรุ่น blower ของ RTX 3090

    การ์ดรุ่นนี้มีดีไซน์แบบ dual-slot ทำให้สามารถติดตั้งได้ถึง 4 ใบในเมนบอร์ดระดับ HEDT หรือเวิร์กสเตชัน ซึ่งเหมาะกับงาน AI ที่ต้องการประสิทธิภาพแบบขนานหลายชุด

    แม้จะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 Founders Edition แต่ AFOX ปรับตำแหน่งหัวต่อไฟ 16-pin ไปไว้ด้านหลังเหมือนการ์ดระดับมืออาชีพ และยังคงความแรงไว้ที่ base clock 2,017 MHz และ boost clock 2,407 MHz

    ราคานี้อาจดูสูงเกินไปสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป แต่สำหรับบริษัทด้าน AI ที่ต้องการการ์ดที่เชื่อถือได้จากแบรนด์ที่มีการรับประกัน ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการซื้อจากโรงงานจีนที่ไม่มีชื่อเสียง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AFOX เปิดตัว GeForce RTX 5090 32GB Professional แบบ blower-style
    วางขายในสหรัฐฯ ที่ราคา $5,999 ผ่านร้าน HydraCluster Tech
    ดีไซน์ dual-slot รองรับการติดตั้งหลายใบในระบบเวิร์กสเตชัน
    ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 Founders Edition พร้อม base clock 2,017 MHz และ boost clock 2,407 MHz
    หัวต่อไฟ 16-pin ถูกย้ายไปด้านหลังเหมือนการ์ดระดับมืออาชีพ
    เหมาะสำหรับงาน AI มากกว่าการเล่นเกมหรือสร้างคอนเทนต์
    AFOX มีประสบการณ์ผลิตการ์ด blower-style มาตั้งแต่ GTX 10-series
    Nvidia ยังไม่ออกการ์ด blower-style อย่างเป็นทางการในรุ่น RTX 5090
    การ์ดนี้มีการรับประกันจาก AFOX ต่างจากการ์ดที่ผลิตจากโรงงานจีน
    ราคาปกติอยู่ที่ $6,500 แต่ลดเหลือ $5,999 ในช่วงเปิดตัว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-5090-blower-gpu-sells-for-usd5-999-at-u-s-retailer-dual-slot-design-converts-blackwell-gaming-flagship-into-an-ai-workhorse
    🎙️ เมื่อการ์ดจอเกมกลายร่างเป็นเครื่องมือ AI ระดับมืออาชีพ ในโลกที่กราฟิกการ์ดไม่ได้มีไว้แค่เล่นเกมอีกต่อไป AFOX ได้เปิดตัว GeForce RTX 5090 32GB Professional ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบ blower-style ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ AI และเวิร์กสเตชันระดับสูง โดยวางขายในสหรัฐฯ ด้วยราคาสูงถึง $5,999 แม้จะไม่ใช่พันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Nvidia แต่ AFOX ก็มีประสบการณ์ผลิตการ์ด blower-style มาตั้งแต่ยุค GTX 10-series และยังคงเดินหน้าต่อแม้ Nvidia เคยพยายามห้ามการผลิตรุ่น blower ของ RTX 3090 การ์ดรุ่นนี้มีดีไซน์แบบ dual-slot ทำให้สามารถติดตั้งได้ถึง 4 ใบในเมนบอร์ดระดับ HEDT หรือเวิร์กสเตชัน ซึ่งเหมาะกับงาน AI ที่ต้องการประสิทธิภาพแบบขนานหลายชุด แม้จะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 Founders Edition แต่ AFOX ปรับตำแหน่งหัวต่อไฟ 16-pin ไปไว้ด้านหลังเหมือนการ์ดระดับมืออาชีพ และยังคงความแรงไว้ที่ base clock 2,017 MHz และ boost clock 2,407 MHz ราคานี้อาจดูสูงเกินไปสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป แต่สำหรับบริษัทด้าน AI ที่ต้องการการ์ดที่เชื่อถือได้จากแบรนด์ที่มีการรับประกัน ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการซื้อจากโรงงานจีนที่ไม่มีชื่อเสียง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AFOX เปิดตัว GeForce RTX 5090 32GB Professional แบบ blower-style ➡️ วางขายในสหรัฐฯ ที่ราคา $5,999 ผ่านร้าน HydraCluster Tech ➡️ ดีไซน์ dual-slot รองรับการติดตั้งหลายใบในระบบเวิร์กสเตชัน ➡️ ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 Founders Edition พร้อม base clock 2,017 MHz และ boost clock 2,407 MHz ➡️ หัวต่อไฟ 16-pin ถูกย้ายไปด้านหลังเหมือนการ์ดระดับมืออาชีพ ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI มากกว่าการเล่นเกมหรือสร้างคอนเทนต์ ➡️ AFOX มีประสบการณ์ผลิตการ์ด blower-style มาตั้งแต่ GTX 10-series ➡️ Nvidia ยังไม่ออกการ์ด blower-style อย่างเป็นทางการในรุ่น RTX 5090 ➡️ การ์ดนี้มีการรับประกันจาก AFOX ต่างจากการ์ดที่ผลิตจากโรงงานจีน ➡️ ราคาปกติอยู่ที่ $6,500 แต่ลดเหลือ $5,999 ในช่วงเปิดตัว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-5090-blower-gpu-sells-for-usd5-999-at-u-s-retailer-dual-slot-design-converts-blackwell-gaming-flagship-into-an-ai-workhorse
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์

    ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry”

    ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว

    Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก

    แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง

    แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023
    ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง
    ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360)
    Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027
    SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก
    Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025
    รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน
    บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก
    Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100%
    นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า
    Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์
    การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม
    Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต
    ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น


    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    🎙️ จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์ ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry” ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 ➡️ ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง ➡️ ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360) ➡️ Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027 ➡️ SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก ➡️ Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน ➡️ บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก ➡️ Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100% ➡️ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า ➡️ Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์ ➡️ การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม ➡️ Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต ➡️ ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's Xiaomi is betting big on electric cars
    Xiaomi may not be a household name in the US, but in China its products are everywhere. Already one of the world's top mobile phone manufacturers, the technology company also makes everything from toothbrushes to watches – even mattresses. Now it's betting big on electric vehicles, having already succeeded where even Apple failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อข้อมูลรั่วไหลไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นเรื่องเงิน ชื่อเสียง และอนาคตขององค์กร

    ลองจินตนาการว่าองค์กรของคุณถูกเจาะระบบ ข้อมูลลูกค้าไหลออกไปสู่มือแฮกเกอร์ และคุณต้องรับมือกับความเสียหายที่ไม่ใช่แค่ค่าแก้ไขระบบ แต่รวมถึงค่าปรับทางกฎหมาย การสูญเสียลูกค้า และราคาหุ้นที่ร่วงลง

    รายงานล่าสุดจาก IBM และ Ponemon Institute เผยว่า แม้ค่าเฉลี่ยของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลกจะลดลงเหลือ $4.44 ล้านในปี 2025 — ครั้งแรกในรอบ 5 ปี — แต่ในสหรัฐฯ กลับพุ่งขึ้นเป็น $10.22 ล้านต่อเหตุการณ์ เพราะค่าปรับและต้นทุนการตรวจจับที่สูงขึ้น

    ต้นเหตุหลักของการรั่วไหลยังคงเป็น phishing (16%) และการเจาะระบบผ่านซัพพลายเชน (15%) ซึ่งใช้ช่องโหว่จาก API หรือแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในระบบ AI ที่กำลังถูกนำมาใช้โดยไม่มีการกำกับดูแลที่เพียงพอ

    ที่น่าตกใจคือ 97% ขององค์กรที่ถูกโจมตีผ่าน AI ไม่มีระบบควบคุมการเข้าถึง AI และ 63% ยังไม่มีนโยบายกำกับดูแล AI เลยด้วยซ้ำ

    แม้ AI จะช่วยลดเวลาในการตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้มากถึง 80 วัน และลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย $2.22 ล้าน แต่หากไม่มีการจัดการ governance ที่ดี ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ใหม่ที่ทำให้ความเสียหายหนักขึ้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ค่าเฉลี่ยของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลกในปี 2025 อยู่ที่ $4.44 ล้าน ลดลง 9% จากปี 2024
    สหรัฐฯ มีค่าเสียหายสูงสุดที่ $10.22 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
    Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่เสียหายมากที่สุด เฉลี่ย $7.42 ล้านต่อเหตุการณ์
    Phishing เป็นสาเหตุหลักของการรั่วไหล (16%) รองลงมาคือการเจาะระบบซัพพลายเชน (15%)
    เวลาเฉลี่ยในการตรวจจับและควบคุมเหตุการณ์ลดลงเหลือ 241 วัน
    การใช้ AI และ automation ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย $2.22 ล้านต่อเหตุการณ์
    Shadow AI เป็นสาเหตุของการรั่วไหลใน 20% ขององค์กรที่ถูกโจมตี
    97% ขององค์กรที่ถูกโจมตีผ่าน AI ไม่มีระบบควบคุมการเข้าถึง AI
    63% ขององค์กรยังไม่มีนโยบายกำกับดูแล AI หรือกำลังอยู่ระหว่างพัฒนา
    การใช้ DevSecOps และ SIEM เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การเจาะระบบผ่าน API ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเป็นช่องทางหลักในการโจมตี AI
    Shadow AI มักใช้ API ที่ไม่มีการล็อกอินหรือการตรวจสอบ ทำให้ตรวจจับยาก
    การรั่วไหลผ่าน AI มีผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล (65%) และทรัพย์สินทางปัญญา (40%)
    การโจมตีผ่าน AI มักใช้ phishing และ deepfake เพื่อหลอกลวงผู้ใช้
    การไม่มีระบบ inventory สำหรับ API ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้ทันเวลา

    https://www.csoonline.com/article/567697/what-is-the-cost-of-a-data-breach-3.html
    🎙️ เมื่อข้อมูลรั่วไหลไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นเรื่องเงิน ชื่อเสียง และอนาคตขององค์กร ลองจินตนาการว่าองค์กรของคุณถูกเจาะระบบ ข้อมูลลูกค้าไหลออกไปสู่มือแฮกเกอร์ และคุณต้องรับมือกับความเสียหายที่ไม่ใช่แค่ค่าแก้ไขระบบ แต่รวมถึงค่าปรับทางกฎหมาย การสูญเสียลูกค้า และราคาหุ้นที่ร่วงลง รายงานล่าสุดจาก IBM และ Ponemon Institute เผยว่า แม้ค่าเฉลี่ยของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลกจะลดลงเหลือ $4.44 ล้านในปี 2025 — ครั้งแรกในรอบ 5 ปี — แต่ในสหรัฐฯ กลับพุ่งขึ้นเป็น $10.22 ล้านต่อเหตุการณ์ เพราะค่าปรับและต้นทุนการตรวจจับที่สูงขึ้น ต้นเหตุหลักของการรั่วไหลยังคงเป็น phishing (16%) และการเจาะระบบผ่านซัพพลายเชน (15%) ซึ่งใช้ช่องโหว่จาก API หรือแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในระบบ AI ที่กำลังถูกนำมาใช้โดยไม่มีการกำกับดูแลที่เพียงพอ ที่น่าตกใจคือ 97% ขององค์กรที่ถูกโจมตีผ่าน AI ไม่มีระบบควบคุมการเข้าถึง AI และ 63% ยังไม่มีนโยบายกำกับดูแล AI เลยด้วยซ้ำ แม้ AI จะช่วยลดเวลาในการตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้มากถึง 80 วัน และลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย $2.22 ล้าน แต่หากไม่มีการจัดการ governance ที่ดี ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ใหม่ที่ทำให้ความเสียหายหนักขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ค่าเฉลี่ยของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลกในปี 2025 อยู่ที่ $4.44 ล้าน ลดลง 9% จากปี 2024 ➡️ สหรัฐฯ มีค่าเสียหายสูงสุดที่ $10.22 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ➡️ Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่เสียหายมากที่สุด เฉลี่ย $7.42 ล้านต่อเหตุการณ์ ➡️ Phishing เป็นสาเหตุหลักของการรั่วไหล (16%) รองลงมาคือการเจาะระบบซัพพลายเชน (15%) ➡️ เวลาเฉลี่ยในการตรวจจับและควบคุมเหตุการณ์ลดลงเหลือ 241 วัน ➡️ การใช้ AI และ automation ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย $2.22 ล้านต่อเหตุการณ์ ➡️ Shadow AI เป็นสาเหตุของการรั่วไหลใน 20% ขององค์กรที่ถูกโจมตี ➡️ 97% ขององค์กรที่ถูกโจมตีผ่าน AI ไม่มีระบบควบคุมการเข้าถึง AI ➡️ 63% ขององค์กรยังไม่มีนโยบายกำกับดูแล AI หรือกำลังอยู่ระหว่างพัฒนา ➡️ การใช้ DevSecOps และ SIEM เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การเจาะระบบผ่าน API ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเป็นช่องทางหลักในการโจมตี AI ➡️ Shadow AI มักใช้ API ที่ไม่มีการล็อกอินหรือการตรวจสอบ ทำให้ตรวจจับยาก ➡️ การรั่วไหลผ่าน AI มีผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล (65%) และทรัพย์สินทางปัญญา (40%) ➡️ การโจมตีผ่าน AI มักใช้ phishing และ deepfake เพื่อหลอกลวงผู้ใช้ ➡️ การไม่มีระบบ inventory สำหรับ API ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้ทันเวลา https://www.csoonline.com/article/567697/what-is-the-cost-of-a-data-breach-3.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What is the cost of a data breach?
    The cost of a data breach is not easy to define, but as organizations increasingly fall victim to attacks and exposures, financial repercussions are becoming clearer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อภาพธรรมดากลายเป็นช่องโหว่ – และ AI ก็ไม่เห็นภัยที่ซ่อนอยู่ในพิกเซล

    ลองจินตนาการว่าคุณอัปโหลดภาพธรรมดา ๆ ไปยังระบบ AI เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์ แต่เบื้องหลังภาพนั้นกลับมีคำสั่งลับที่ถูกซ่อนไว้ และเมื่อภาพถูกปรับขนาดโดยระบบก่อนส่งเข้าโมเดล คำสั่งนั้นก็ถูก “ปลุก” ขึ้นมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว

    นี่คือสิ่งที่นักวิจัยจาก Trail of Bits ค้นพบและสาธิตผ่านการโจมตีแบบ image scaling prompt injection ซึ่งสามารถใช้ขโมยข้อมูลผู้ใช้จากระบบ AI ที่ใช้งานจริง เช่น Google Gemini CLI, Vertex AI Studio, Google Assistant และ Genspark โดยอาศัยช่องโหว่จากการปรับขนาดภาพ (downscaling) ที่ทำให้คำสั่งที่ซ่อนอยู่ในภาพถูกเปิดเผยเมื่อ resolution เปลี่ยน

    การโจมตีนี้อาศัยหลักการของ Nyquist–Shannon sampling theorem และการวิเคราะห์พฤติกรรมของอัลกอริธึมปรับขนาดภาพ เช่น bicubic, bilinear และ nearest neighbor ซึ่งแต่ละแบบมีจุดอ่อนต่างกัน นักวิจัยจึงสร้างเครื่องมือชื่อ “Anamorpher” เพื่อออกแบบภาพที่สามารถโจมตีระบบ AI ได้โดยเฉพาะ

    ผลลัพธ์คือการโจมตีที่สามารถสั่งให้ AI ทำงานโดยไม่ต้องมีการยืนยันจากผู้ใช้ เช่น ส่งข้อมูลจาก Google Calendar ไปยังอีเมลของแฮกเกอร์ โดยใช้การตั้งค่า trust=True ใน Gemini CLI ซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์ที่เปิดช่องให้โจมตีได้ง่าย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    การโจมตีใช้ภาพที่ดูปลอดภัย แต่มีคำสั่งซ่อนอยู่เมื่อถูกปรับขนาด
    ระบบ AI เช่น Gemini CLI, Vertex AI Studio, Google Assistant และ Genspark ถูกโจมตีสำเร็จ
    การโจมตีอาศัยการปรับขนาดภาพที่ทำให้คำสั่งลับถูกเปิดเผย
    ใช้ค่าดีฟอลต์ trust=True ใน Gemini CLI เพื่อข้ามการยืนยันจากผู้ใช้
    คำสั่งในภาพสามารถสั่งให้ AI ส่งข้อมูลผู้ใช้ไปยังแฮกเกอร์ได้
    อัลกอริธึมปรับขนาดภาพที่ถูกใช้ ได้แก่ bicubic, bilinear และ nearest neighbor
    เครื่องมือ “Anamorpher” ถูกพัฒนาเพื่อสร้างภาพโจมตีโดยเฉพาะ
    การโจมตีสามารถใช้กับระบบที่ไม่มีการแสดง preview ของภาพที่ถูกปรับขนาด
    การโจมตีนี้เป็นรูปแบบใหม่ของ multi-modal prompt injection
    นักวิจัยเสนอให้แสดงภาพที่ถูกปรับขนาดให้ผู้ใช้เห็นก่อนส่งเข้าโมเดล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การโจมตีแบบนี้คล้ายกับการฝังคำสั่งใน metadata หรือ steganography แต่ใช้การปรับขนาดแทน
    ระบบ AI บนมือถือและ edge devices มีความเสี่ยงสูงเพราะใช้การปรับขนาดภาพบ่อย
    การโจมตีสามารถใช้ร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น semantic injection และ polyglot payloads
    การใช้ภาพ checkerboard, Moiré และ concentric circles ช่วยวิเคราะห์อัลกอริธึมปรับขนาด
    การโจมตีแบบนี้อาจขยายไปยังระบบ voice AI และการแปลงภาพแบบ upscaling ในอนาคต


    https://blog.trailofbits.com/2025/08/21/weaponizing-image-scaling-against-production-ai-systems/
    🎙️ เมื่อภาพธรรมดากลายเป็นช่องโหว่ – และ AI ก็ไม่เห็นภัยที่ซ่อนอยู่ในพิกเซล ลองจินตนาการว่าคุณอัปโหลดภาพธรรมดา ๆ ไปยังระบบ AI เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์ แต่เบื้องหลังภาพนั้นกลับมีคำสั่งลับที่ถูกซ่อนไว้ และเมื่อภาพถูกปรับขนาดโดยระบบก่อนส่งเข้าโมเดล คำสั่งนั้นก็ถูก “ปลุก” ขึ้นมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว นี่คือสิ่งที่นักวิจัยจาก Trail of Bits ค้นพบและสาธิตผ่านการโจมตีแบบ image scaling prompt injection ซึ่งสามารถใช้ขโมยข้อมูลผู้ใช้จากระบบ AI ที่ใช้งานจริง เช่น Google Gemini CLI, Vertex AI Studio, Google Assistant และ Genspark โดยอาศัยช่องโหว่จากการปรับขนาดภาพ (downscaling) ที่ทำให้คำสั่งที่ซ่อนอยู่ในภาพถูกเปิดเผยเมื่อ resolution เปลี่ยน การโจมตีนี้อาศัยหลักการของ Nyquist–Shannon sampling theorem และการวิเคราะห์พฤติกรรมของอัลกอริธึมปรับขนาดภาพ เช่น bicubic, bilinear และ nearest neighbor ซึ่งแต่ละแบบมีจุดอ่อนต่างกัน นักวิจัยจึงสร้างเครื่องมือชื่อ “Anamorpher” เพื่อออกแบบภาพที่สามารถโจมตีระบบ AI ได้โดยเฉพาะ ผลลัพธ์คือการโจมตีที่สามารถสั่งให้ AI ทำงานโดยไม่ต้องมีการยืนยันจากผู้ใช้ เช่น ส่งข้อมูลจาก Google Calendar ไปยังอีเมลของแฮกเกอร์ โดยใช้การตั้งค่า trust=True ใน Gemini CLI ซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์ที่เปิดช่องให้โจมตีได้ง่าย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ การโจมตีใช้ภาพที่ดูปลอดภัย แต่มีคำสั่งซ่อนอยู่เมื่อถูกปรับขนาด ➡️ ระบบ AI เช่น Gemini CLI, Vertex AI Studio, Google Assistant และ Genspark ถูกโจมตีสำเร็จ ➡️ การโจมตีอาศัยการปรับขนาดภาพที่ทำให้คำสั่งลับถูกเปิดเผย ➡️ ใช้ค่าดีฟอลต์ trust=True ใน Gemini CLI เพื่อข้ามการยืนยันจากผู้ใช้ ➡️ คำสั่งในภาพสามารถสั่งให้ AI ส่งข้อมูลผู้ใช้ไปยังแฮกเกอร์ได้ ➡️ อัลกอริธึมปรับขนาดภาพที่ถูกใช้ ได้แก่ bicubic, bilinear และ nearest neighbor ➡️ เครื่องมือ “Anamorpher” ถูกพัฒนาเพื่อสร้างภาพโจมตีโดยเฉพาะ ➡️ การโจมตีสามารถใช้กับระบบที่ไม่มีการแสดง preview ของภาพที่ถูกปรับขนาด ➡️ การโจมตีนี้เป็นรูปแบบใหม่ของ multi-modal prompt injection ➡️ นักวิจัยเสนอให้แสดงภาพที่ถูกปรับขนาดให้ผู้ใช้เห็นก่อนส่งเข้าโมเดล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การโจมตีแบบนี้คล้ายกับการฝังคำสั่งใน metadata หรือ steganography แต่ใช้การปรับขนาดแทน ➡️ ระบบ AI บนมือถือและ edge devices มีความเสี่ยงสูงเพราะใช้การปรับขนาดภาพบ่อย ➡️ การโจมตีสามารถใช้ร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น semantic injection และ polyglot payloads ➡️ การใช้ภาพ checkerboard, Moiré และ concentric circles ช่วยวิเคราะห์อัลกอริธึมปรับขนาด ➡️ การโจมตีแบบนี้อาจขยายไปยังระบบ voice AI และการแปลงภาพแบบ upscaling ในอนาคต https://blog.trailofbits.com/2025/08/21/weaponizing-image-scaling-against-production-ai-systems/
    BLOG.TRAILOFBITS.COM
    Weaponizing image scaling against production AI systems
    In this blog post, we’ll detail how attackers can exploit image scaling on Gemini CLI, Vertex AI Studio, Gemini’s web and API interfaces, Google Assistant, Genspark, and other production AI systems. We’ll also explain how to mitigate and defend against these attacks, and we’ll introduce Anamorpher, our open-source tool that lets you explore and generate these crafted images.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mythic Words From Mythologies Around The World

    It’s in human nature to tell stories and in many ways, our stories—our mythologies—work their way into every aspect of our daily lives, from meme culture to the language we speak. You may be familiar with some of the words derived from the names of Greek and Roman gods and characters (herculean, echo, narcissist, to name a few). But some of the words with similar origins are more obscure and may surprise you, and still others are drawn from completely different cultural lineages! Many of our modern words are inspired not only by Greco-Roman mythos but also by West African, Indigenous, Far East Asian, and Nordic folktales, gods, heroes, and legends.

    Here’s a closer look at some of our everyday words and the many diverse mythologies that have contributed to their use and interpretation today.

    California

    While many of us might view the Golden State as the land of sunshine, mild winters, and plenty, this idyllic image of California is first glimpsed in Garci Rodríguez de Montalvo’s novel Las Sergas de Esplandián (“The Adventures of Esplandián”) from the 1500s. At a time when Spanish invasion and exploration of the Americas was at its peak, Las Sergas de Esplandián describes a fictional island ruled by Queen Calafia of the Indies, hence the name “California.” It’s possible Rodríguez de Montalvo derived California from the Arabic khalif or khalifa (a spiritual leader of Islam), or the term Califerne from the 11th-century epic French poem The Song of Roland. When the Spanish first encountered the Baja California peninsula, it was initially believed to be an island and so was dubbed for the fictional island in Rodríguez de Montalvo’s novel. Eventually, this name would apply to the region that we now know as California in the US and Baja California in Mexico today.

    chimeric

    Chimeric is an adjective used to describe something “imaginary, fanciful” or in the context of biology, chimeric describes an organism “having parts of different origins.” The word chimeric is derived from the name of an ancient Greek monster, the chimera. Typically depicted as a having both a goat and lion head sprouting from its back and a serpent as a tail, the chimera was a terrifying and formidable opponent.

    hell

    While this word may call to mind Christianity and the realm of demons and condemned souls, hell is also associated with another concept of the underworld. According to Norse mythology, the prominent god Odin appointed the goddess and daughter of Loki, Hel, to preside over the realm of the dead. Hel’s name subsequently became associated as the word for the underworld itself. The word hell entered Old English sometime before the year 900 CE.

    hurricane

    When a windstorm whips up torrential rains, it can definitely seem like a god’s fury has been called down. This might explain why hurricane is derived from a Taíno storm god, Hurakán. The Taíno were an Indigenous tribe of the Caribbean, so it certainly makes sense that their deities would hold the name now associated with major tropical storms. Working its way from Spanish into English, hurricane was likely first recorded in English around the mid-1500s.

    Nike

    Typically depicted with wings, Nike was the Greek goddess of victory. Her influence was not limited to athletics, and she could oversee any field from art to music to war. Nike is said to have earned this title as one of the first deities to offer her allegiance to Zeus during the Titanomachy, the great battle between the Titans and gods for Mount Olympus. Of course, with a winning streak like that, it’s no wonder a popular sports apparel company would name itself after her.

    plutocracy

    Plutocracy means “the rule or power of wealth” or “of the wealthy, particularly a government or state in which the wealthy class rules.” The pluto in plutocracy comes from the Roman god of wealth, Pluto. Often known best by his Greek name, Hades, Pluto also presided over the underworld. Where does the wealth factor in? Precious metals and gems are typically found underground. The word plutocracy was recorded in the English language around 1645–1655.

    protean

    The adjective protean [ proh-tee-uhn ] describes how something readily assumes different forms, shapes, or characteristics. Something that is protean is “extremely variable.” This word originates from the name of Proteus, a minor Greek sea god who served under Poseidon. Proteus was prophetic and said to be able to gaze into the past, present, and future. However, he was pretty stingy with his knowledge, so most challengers would have to surprise him and wrestle him—while Proteus continually transformed into different (usually dangerous) shapes, such as a lion or a snake! If the challenger held on throughout the transformations, Proteus would answer their question truthfully before jumping back into the sea.

    quetzalcoatlus

    Quetzalcoatlus is a genus of pterosaur from the Late Cretaceous period. Its remains were discovered in 1971 in Texas. As a flying dinosaur from the Americas, its name derives from the god Quetzalcóatl, or “the feathered serpent,” in Nahuatl. Often depicted as exactly that (in addition to having incarnations that ranged from axolotls to dogs to corn), Quetzalcóatl was a prominent god of creation and order in the pantheon of the Mexica people. His domain included powerful and sustaining forces such as the sun, the wind, agriculture, wisdom, and writing.

    ragnarok

    Popping up everywhere from video games to blockbuster movies, the word ragnarok [ rahg-nuh-rok ] just sounds cool. It’s typically used as a synonym for the end of the world—and that’s what it originally referred to. In Norse mythology, this apocalyptic moment will occur when three roosters crow and the monster hound, Garmr, breaks free of his cave. A frightening battle among gods ensues along with natural disasters. The Old Norse word Ragnarǫk that it derives from is a compound of “gods” (ragna) and “fate” (rok).

    Subaru

    Known in most of the English-speaking world as a popular car manufacturer, Subaru is a Japanese word for the Seven Sisters, or Pleiades, constellation. The Subaru logo even features the six stars visible to the naked eye in the constellation. In 2021, astronomers Ray and Barnaby Norris proposed that the constellation referred to as “Seven Sisters” by various ancient peoples (which today looks like six visible stars) once had a seventh visible star whose light has been swallowed up by the light of another.

    Tuesday/Wednesday/Thursday/Friday/Saturday

    If we want an example of mythology rooted in our day-to-day, we needn’t look any further than the days of the week. Initially, Romans named their days of the week after the planets, which included the sun and the moon (Sunday and Monday). As the Roman Empire expanded to include Germanic-speaking peoples, the names of the weekdays were adapted to reflect the names of gods familiar to the local populations.

    Today, five out of seven days of the week are linked to the names of mythological gods, four of which are Old Germanic/Norse in origin. Tuesday is rooted in the name of the Norse god of war and justice, Tyr. Wednesday descends from Woden (alternatively, Odin), a widely revered Germanic-Norse god who presided over healing, wisdom, death, war, poetry, and sorcery. Thursday is derived from the thunder god Thor. Finally, Friday owes its name to Frigg, the goddess of marriage, prophecy, clairvoyance, and motherhood. The outlier of the weekday group is Saturday, which traces its name back to Saturn, the Roman god of time, wealth, and renewal.

    While scholars are uncertain as to when the Germanic-Norse adaptations of the days of the week were introduced, it is estimated to have occurred between 200-500 CE to predate the spread of Christianity and the final collapse of the Roman Empire.

    weird

    While weird today generally means “bizarre” or “unusual,” its older use has been to refer to something that is “uncanny” or relating to the supernatural. This links into the original definition of weird, or then wyrd, as being able to control fate or destiny. The Old English derivation of the Germanic word was first recorded before 900 CE as wyrd; then in Middle English as the phrase werde sisters, which referred to the Fates. According to Greek mythology, the three goddesses known as the Fates control the destinies of the lives of man. In the early 1600s, Shakespeare’s Macbeth, used werde sisters to refer to these witches in the play.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Mythic Words From Mythologies Around The World It’s in human nature to tell stories and in many ways, our stories—our mythologies—work their way into every aspect of our daily lives, from meme culture to the language we speak. You may be familiar with some of the words derived from the names of Greek and Roman gods and characters (herculean, echo, narcissist, to name a few). But some of the words with similar origins are more obscure and may surprise you, and still others are drawn from completely different cultural lineages! Many of our modern words are inspired not only by Greco-Roman mythos but also by West African, Indigenous, Far East Asian, and Nordic folktales, gods, heroes, and legends. Here’s a closer look at some of our everyday words and the many diverse mythologies that have contributed to their use and interpretation today. California While many of us might view the Golden State as the land of sunshine, mild winters, and plenty, this idyllic image of California is first glimpsed in Garci Rodríguez de Montalvo’s novel Las Sergas de Esplandián (“The Adventures of Esplandián”) from the 1500s. At a time when Spanish invasion and exploration of the Americas was at its peak, Las Sergas de Esplandián describes a fictional island ruled by Queen Calafia of the Indies, hence the name “California.” It’s possible Rodríguez de Montalvo derived California from the Arabic khalif or khalifa (a spiritual leader of Islam), or the term Califerne from the 11th-century epic French poem The Song of Roland. When the Spanish first encountered the Baja California peninsula, it was initially believed to be an island and so was dubbed for the fictional island in Rodríguez de Montalvo’s novel. Eventually, this name would apply to the region that we now know as California in the US and Baja California in Mexico today. chimeric Chimeric is an adjective used to describe something “imaginary, fanciful” or in the context of biology, chimeric describes an organism “having parts of different origins.” The word chimeric is derived from the name of an ancient Greek monster, the chimera. Typically depicted as a having both a goat and lion head sprouting from its back and a serpent as a tail, the chimera was a terrifying and formidable opponent. hell While this word may call to mind Christianity and the realm of demons and condemned souls, hell is also associated with another concept of the underworld. According to Norse mythology, the prominent god Odin appointed the goddess and daughter of Loki, Hel, to preside over the realm of the dead. Hel’s name subsequently became associated as the word for the underworld itself. The word hell entered Old English sometime before the year 900 CE. hurricane When a windstorm whips up torrential rains, it can definitely seem like a god’s fury has been called down. This might explain why hurricane is derived from a Taíno storm god, Hurakán. The Taíno were an Indigenous tribe of the Caribbean, so it certainly makes sense that their deities would hold the name now associated with major tropical storms. Working its way from Spanish into English, hurricane was likely first recorded in English around the mid-1500s. Nike Typically depicted with wings, Nike was the Greek goddess of victory. Her influence was not limited to athletics, and she could oversee any field from art to music to war. Nike is said to have earned this title as one of the first deities to offer her allegiance to Zeus during the Titanomachy, the great battle between the Titans and gods for Mount Olympus. Of course, with a winning streak like that, it’s no wonder a popular sports apparel company would name itself after her. plutocracy Plutocracy means “the rule or power of wealth” or “of the wealthy, particularly a government or state in which the wealthy class rules.” The pluto in plutocracy comes from the Roman god of wealth, Pluto. Often known best by his Greek name, Hades, Pluto also presided over the underworld. Where does the wealth factor in? Precious metals and gems are typically found underground. The word plutocracy was recorded in the English language around 1645–1655. protean The adjective protean [ proh-tee-uhn ] describes how something readily assumes different forms, shapes, or characteristics. Something that is protean is “extremely variable.” This word originates from the name of Proteus, a minor Greek sea god who served under Poseidon. Proteus was prophetic and said to be able to gaze into the past, present, and future. However, he was pretty stingy with his knowledge, so most challengers would have to surprise him and wrestle him—while Proteus continually transformed into different (usually dangerous) shapes, such as a lion or a snake! If the challenger held on throughout the transformations, Proteus would answer their question truthfully before jumping back into the sea. quetzalcoatlus Quetzalcoatlus is a genus of pterosaur from the Late Cretaceous period. Its remains were discovered in 1971 in Texas. As a flying dinosaur from the Americas, its name derives from the god Quetzalcóatl, or “the feathered serpent,” in Nahuatl. Often depicted as exactly that (in addition to having incarnations that ranged from axolotls to dogs to corn), Quetzalcóatl was a prominent god of creation and order in the pantheon of the Mexica people. His domain included powerful and sustaining forces such as the sun, the wind, agriculture, wisdom, and writing. ragnarok Popping up everywhere from video games to blockbuster movies, the word ragnarok [ rahg-nuh-rok ] just sounds cool. It’s typically used as a synonym for the end of the world—and that’s what it originally referred to. In Norse mythology, this apocalyptic moment will occur when three roosters crow and the monster hound, Garmr, breaks free of his cave. A frightening battle among gods ensues along with natural disasters. The Old Norse word Ragnarǫk that it derives from is a compound of “gods” (ragna) and “fate” (rok). Subaru Known in most of the English-speaking world as a popular car manufacturer, Subaru is a Japanese word for the Seven Sisters, or Pleiades, constellation. The Subaru logo even features the six stars visible to the naked eye in the constellation. In 2021, astronomers Ray and Barnaby Norris proposed that the constellation referred to as “Seven Sisters” by various ancient peoples (which today looks like six visible stars) once had a seventh visible star whose light has been swallowed up by the light of another. Tuesday/Wednesday/Thursday/Friday/Saturday If we want an example of mythology rooted in our day-to-day, we needn’t look any further than the days of the week. Initially, Romans named their days of the week after the planets, which included the sun and the moon (Sunday and Monday). As the Roman Empire expanded to include Germanic-speaking peoples, the names of the weekdays were adapted to reflect the names of gods familiar to the local populations. Today, five out of seven days of the week are linked to the names of mythological gods, four of which are Old Germanic/Norse in origin. Tuesday is rooted in the name of the Norse god of war and justice, Tyr. Wednesday descends from Woden (alternatively, Odin), a widely revered Germanic-Norse god who presided over healing, wisdom, death, war, poetry, and sorcery. Thursday is derived from the thunder god Thor. Finally, Friday owes its name to Frigg, the goddess of marriage, prophecy, clairvoyance, and motherhood. The outlier of the weekday group is Saturday, which traces its name back to Saturn, the Roman god of time, wealth, and renewal. While scholars are uncertain as to when the Germanic-Norse adaptations of the days of the week were introduced, it is estimated to have occurred between 200-500 CE to predate the spread of Christianity and the final collapse of the Roman Empire. weird While weird today generally means “bizarre” or “unusual,” its older use has been to refer to something that is “uncanny” or relating to the supernatural. This links into the original definition of weird, or then wyrd, as being able to control fate or destiny. The Old English derivation of the Germanic word was first recorded before 900 CE as wyrd; then in Middle English as the phrase werde sisters, which referred to the Fates. According to Greek mythology, the three goddesses known as the Fates control the destinies of the lives of man. In the early 1600s, Shakespeare’s Macbeth, used werde sisters to refer to these witches in the play. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/raIunoGk9CM?si=ke9ve3QYL7Mtm-1Y
    https://youtube.com/shorts/raIunoGk9CM?si=ke9ve3QYL7Mtm-1Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตเราเกรงใจไม่กล้าเอยชื่อกันตรงๆเพราะให้เกียรติกัน,แต่มันบัดสบเกินพอจริงๆ,ต้องร่วมกันเอยชื่อกันตรงๆเลย,กฎหมายปิดปากแบบกฎหมายหมิ่นประมาทห่าเหวนี้ต้องยกเลิกฉีกทิ้งด้วย.,หลายๆกลไกสังคมเราผิดรูปผิดร่างไปเพราะมันปิดปากประชาชนจากกฎหมายนี้.

    https://youtube.com/shorts/Y6qn9t9h3C8?si=xMAbdGjgPSrPCzFE
    อดีตเราเกรงใจไม่กล้าเอยชื่อกันตรงๆเพราะให้เกียรติกัน,แต่มันบัดสบเกินพอจริงๆ,ต้องร่วมกันเอยชื่อกันตรงๆเลย,กฎหมายปิดปากแบบกฎหมายหมิ่นประมาทห่าเหวนี้ต้องยกเลิกฉีกทิ้งด้วย.,หลายๆกลไกสังคมเราผิดรูปผิดร่างไปเพราะมันปิดปากประชาชนจากกฎหมายนี้. https://youtube.com/shorts/Y6qn9t9h3C8?si=xMAbdGjgPSrPCzFE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/DpGJscA75pE?si=WYcOb1qnu33tzC_I
    https://youtube.com/shorts/DpGJscA75pE?si=WYcOb1qnu33tzC_I
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/3KZDAZCf33s?si=yNnW0NC9A27TSBtO
    https://youtube.com/shorts/3KZDAZCf33s?si=yNnW0NC9A27TSBtO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเขาพระวิหาร เสมือนเรื่องเสียอธิปไตยได้เช่นกัน ,ศาลโลกคือตัวปัญหา คือการเมืองบนศาลโลกอยู่แล้วไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรมอะไร อเมริกาทรัมป์เอง รัสเชียเอง จีนเองยังปฏิเสธศาลโลก ,แบบไม่ให้มาผีบ้ายุ่งเกี่ยวก็ว่า, ไทยเราก็วางสนุ๊คไม่รับคำตัดสินของฝรั่งอย่างศาลโลกในปี2505อยู่เพราะฝรั่งก็พวกเดียวกันอยู่แล้ว,จริงๆต้องคืนแดนดินให้ถูกเจ้าของด้วย,ปราสาทเขาพระวิหารนี้จะจบทันทีเพราะดินแดนของไทยคืนมาด้วย,ทางขึ้นเขาอยู่ฝั่งไทยย่อมคือของไทยอยู่แล้ว ,การตัดสินศาลโลกผีบ้านี้จึงไม่ชอบชัดเจนมากคือเป็นองค์กรสากลที่ตั้งขึ้นมาเอาเปลี่ยนประเทศด้อยพัฒนาต่างๆทั่วโลก มิใช่ช่วยจริงอะไร ขนาดปาเลสไตน์กับอิสราเอล ศาลโลกยังไม่มีปัญญาช่วยเหลือปาเลสไตน์มิให้อิสราเอลยึดครองแผ่นดินตนไปเลย,เทียบอดีตกับปัจจุบันที่เดิมเป็นของดินแดนปาเลสไตน์ อิสราเอลยึดครองจนจะหมดสิ้นแล้ว,ไม่ต่างจากบ้านหนองจานที่เมตตาอพยพหนีตายมาพึ่งไทย เขมรเสือกยึดว่าเป็นพื้นที่ตนเสีย.
    ..สรุปฝรั่งมาวุ่นวายล่าอาณานิคมแบบบัดสบมาในภูมิภาคนี้ตลอดเรื่อยมา ใช้กำลังบีบบังคับยึดเอาว่าเขาด้อยกว่า,เป็นสันดานเลวโดยแท้ ฝรั่งเหล่านี้สมควรกำจัดออกให้สิ้นไปจากโลก,ชาวเอเชียเราควรสามัคคีกับถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราจริงๆ,อาหรับก็เอเชียเรา,แอฟริกาอยากร่วมก็จัดเลย ค้าขายในกลุ่มเราพอ เหี้ยฝรั่งสันดานเลวทำลายทิ้งเลย.

    https://youtube.com/watch?v=rfX2kqvuc84&si=EfUDbrh8FvrMIoRY
    เรื่องเขาพระวิหาร เสมือนเรื่องเสียอธิปไตยได้เช่นกัน ,ศาลโลกคือตัวปัญหา คือการเมืองบนศาลโลกอยู่แล้วไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรมอะไร อเมริกาทรัมป์เอง รัสเชียเอง จีนเองยังปฏิเสธศาลโลก ,แบบไม่ให้มาผีบ้ายุ่งเกี่ยวก็ว่า, ไทยเราก็วางสนุ๊คไม่รับคำตัดสินของฝรั่งอย่างศาลโลกในปี2505อยู่เพราะฝรั่งก็พวกเดียวกันอยู่แล้ว,จริงๆต้องคืนแดนดินให้ถูกเจ้าของด้วย,ปราสาทเขาพระวิหารนี้จะจบทันทีเพราะดินแดนของไทยคืนมาด้วย,ทางขึ้นเขาอยู่ฝั่งไทยย่อมคือของไทยอยู่แล้ว ,การตัดสินศาลโลกผีบ้านี้จึงไม่ชอบชัดเจนมากคือเป็นองค์กรสากลที่ตั้งขึ้นมาเอาเปลี่ยนประเทศด้อยพัฒนาต่างๆทั่วโลก มิใช่ช่วยจริงอะไร ขนาดปาเลสไตน์กับอิสราเอล ศาลโลกยังไม่มีปัญญาช่วยเหลือปาเลสไตน์มิให้อิสราเอลยึดครองแผ่นดินตนไปเลย,เทียบอดีตกับปัจจุบันที่เดิมเป็นของดินแดนปาเลสไตน์ อิสราเอลยึดครองจนจะหมดสิ้นแล้ว,ไม่ต่างจากบ้านหนองจานที่เมตตาอพยพหนีตายมาพึ่งไทย เขมรเสือกยึดว่าเป็นพื้นที่ตนเสีย. ..สรุปฝรั่งมาวุ่นวายล่าอาณานิคมแบบบัดสบมาในภูมิภาคนี้ตลอดเรื่อยมา ใช้กำลังบีบบังคับยึดเอาว่าเขาด้อยกว่า,เป็นสันดานเลวโดยแท้ ฝรั่งเหล่านี้สมควรกำจัดออกให้สิ้นไปจากโลก,ชาวเอเชียเราควรสามัคคีกับถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราจริงๆ,อาหรับก็เอเชียเรา,แอฟริกาอยากร่วมก็จัดเลย ค้าขายในกลุ่มเราพอ เหี้ยฝรั่งสันดานเลวทำลายทิ้งเลย. https://youtube.com/watch?v=rfX2kqvuc84&si=EfUDbrh8FvrMIoRY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/p0EtfSDLmgQ?si=4gco_Tlt7sU8E_Ez
    https://youtube.com/shorts/p0EtfSDLmgQ?si=4gco_Tlt7sU8E_Ez
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาระกิจสุดยอดของทหารไทยอีกด้านที่เราต้องยกวีรกรรมเหรียญกล้าหาญให้เช่นกัน.

    https://youtube.com/shorts/fLSHzM2wiUc?si=YS4PS8-tOikHF7gU
    ภาระกิจสุดยอดของทหารไทยอีกด้านที่เราต้องยกวีรกรรมเหรียญกล้าหาญให้เช่นกัน. https://youtube.com/shorts/fLSHzM2wiUc?si=YS4PS8-tOikHF7gU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา
    สัทธรรมลำดับที่ : 724
    ชื่อบทธรรม :- เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=724
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา
    --ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้
    มีอยู่เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา
    (ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้,
    http://etipitaka.com/read/pali/23/152/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยิกาย+ปญฺญาย
    เป็นไปพร้อม เพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ความทำให้เจริญ
    ความเต็มรอบ แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว.
    แปดประการ อย่างไรเล่า ?
    แปดประการคือ :-
    ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพ
    รูปใดรูปหนึ่ง อันเป็นที่ซึ่ง #หิริและโอตัปปะ ความรักและความเคารพ
    ของภิกษุนั้นจะตั้งอยู่อย่างแรงกล้า
    +-- ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หนึ่ง.

    ๒. ภิกษุนั้น ครั้น
    เข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพ
    รูปใดรูปหนึ่ง จนกระทั่ง หิริและโอตตัปปะ ความรักและความเคารพของภิกษุนั้น
    ตั้งอยู่อย่างแรงกล้าแล้ว เธอนั้น ก็เข้าไปซักไซ้ #สอบถามปัญหาตามกาละอันควร ว่า
    “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ! ข้อนี้ เป็นอย่างไร?”
    ความหมายแห่งข้อนี้เป็นอย่างไร ? ดังนี้. ท่านผู้มีอายุเหล่านั้น
    ย่อมเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผย
    ย่อมทำให้ตื้นสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้ตื้น
    ย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยมีอย่างต่างๆ แก่ภิกษุนั้น :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เ ป็น เหตุปัจจัยประการที่สอง.

    ๓. ภิกษุนั้น ครั้งฟังธรรมนั้นแล้ว
    ย่อมทำตนให้ถึงพร้อมด้วยการหลีกออก ๒ อย่าง คือ
    #หลีกออกทางกายและหลีกออกทางจิต :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สาม.

    ๔. ภิกษุนั้น
    #เป็นผู้มีศีลสำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร
    มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลาย แม้ที่ถือว่าเป็นโทษเล็กน้อย
    สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สี่.

    ๕. ภิกษุนั้น
    #เป็นพหูสูตทรงจำธรรมที่ฟังแล้ว สั่งสมธรรมที่ฟังแล้ว :
    ธรรมเหล่าใด มีความงามในเบื้องต้น มีความงามในท่ามกลาง มีความงามในที่สุด
    แสดงพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง,
    ธรรมเหล่านั้น อันเธอนั้นดั้งมามากแล้ว
    จำได้ ว่าได้คล่องแคล่วด้วยวาจา มองเห็นตามด้วยใจ
    เจาะแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็น :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่ห้า.

    ๖. ภิกษุนั้น
    #เป็นผู้ปรารภความเพียร
    เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย
    เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย
    เป็นผู้มีกำลัง (จิต) มีความบากบั่นมั่นคง
    ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หก.

    ๗. ภิกษุนั้น
    ไปสู่หมู่สงฆ์แล้ว ไม่พูดเรื่องนอกเรื่อง
    ไม่กล่าวดิรัจฉานกถา กล่าวธรรมเองบ้าง เชื้อเชิญผู้อื่นให้กล่าวบ้าง
    #ไม่ดูหมิ่นความนิ่งอย่างพระอริยเจ้า*-๑ :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่เจ็ด.
    *-๑. คือพร้อมที่จะนิ่ง ยินดีที่จะนิ่ง ไม่ชิงพูดพล่ามเหมือนคนทั่วไปโดยเห็นว่าเป็นเกียรติ.

    ๘. ภิกษุนั้น
    #มีปกติตามความเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในอุปทานขันธ์ทั้งห้า อยู่ว่า
    “รูป เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดรูปเป็นอย่างนี้,
    ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูป เป็นอย่างนี้;
    เวทนา เป็นอย่างนี้,
    เหตุให้เกิดเวทนา เป็นอย่างนี้,
    ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งเวทนา เป็นอย่างนี้,
    สัญญา เป็นอย่างนี้,
    เหตุให้เกิดสัญญาเป็นอย่างนี้,
    ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสัญญา เป็นอย่างนี้,
    สังขาร เป็นอย่างนี้,
    เหตุให้เกิดสังขาร เป็นอย่างนี้,
    ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสังขาร เป็นอย่างนี้,
    วิญญาณ เป็นอย่างนี้,
    เหตุให้เกิดวิญญาณ เป็นอย่างนี้,
    ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งวิญญาณ เป็นอย่างนี้,
    ดังนี้” :
    +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่แปด
    --ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้แล มีอยู่
    #เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา
    ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้,
    http://etipitaka.com/read/pali/23/154/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยิกาย+ปญฺญาย
    เป็นไปพร้อมเพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความทำให้เจริญ ความเต็มรอบ
    แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว.-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่#สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฏฺ​ฐก. อํ. 23/118 - 122/92.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/118/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๑๕๒ - ๑๕๖/๙๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/152/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=724
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=724
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา สัทธรรมลำดับที่ : 724 ชื่อบทธรรม :- เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=724 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา --ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้ มีอยู่เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา (ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้, http://etipitaka.com/read/pali/23/152/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยิกาย+ปญฺญาย เป็นไปพร้อม เพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ความทำให้เจริญ ความเต็มรอบ แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว. แปดประการ อย่างไรเล่า ? แปดประการคือ :- ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพ รูปใดรูปหนึ่ง อันเป็นที่ซึ่ง #หิริและโอตัปปะ ความรักและความเคารพ ของภิกษุนั้นจะตั้งอยู่อย่างแรงกล้า +-- ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หนึ่ง. ๒. ภิกษุนั้น ครั้น เข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพ รูปใดรูปหนึ่ง จนกระทั่ง หิริและโอตตัปปะ ความรักและความเคารพของภิกษุนั้น ตั้งอยู่อย่างแรงกล้าแล้ว เธอนั้น ก็เข้าไปซักไซ้ #สอบถามปัญหาตามกาละอันควร ว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ! ข้อนี้ เป็นอย่างไร?” ความหมายแห่งข้อนี้เป็นอย่างไร ? ดังนี้. ท่านผู้มีอายุเหล่านั้น ย่อมเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผย ย่อมทำให้ตื้นสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้ตื้น ย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยมีอย่างต่างๆ แก่ภิกษุนั้น : +--ภิกษุ ท. ! นี้เ ป็น เหตุปัจจัยประการที่สอง. ๓. ภิกษุนั้น ครั้งฟังธรรมนั้นแล้ว ย่อมทำตนให้ถึงพร้อมด้วยการหลีกออก ๒ อย่าง คือ #หลีกออกทางกายและหลีกออกทางจิต : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สาม. ๔. ภิกษุนั้น #เป็นผู้มีศีลสำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลาย แม้ที่ถือว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สี่. ๕. ภิกษุนั้น #เป็นพหูสูตทรงจำธรรมที่ฟังแล้ว สั่งสมธรรมที่ฟังแล้ว : ธรรมเหล่าใด มีความงามในเบื้องต้น มีความงามในท่ามกลาง มีความงามในที่สุด แสดงพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง, ธรรมเหล่านั้น อันเธอนั้นดั้งมามากแล้ว จำได้ ว่าได้คล่องแคล่วด้วยวาจา มองเห็นตามด้วยใจ เจาะแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็น : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่ห้า. ๖. ภิกษุนั้น #เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง (จิต) มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หก. ๗. ภิกษุนั้น ไปสู่หมู่สงฆ์แล้ว ไม่พูดเรื่องนอกเรื่อง ไม่กล่าวดิรัจฉานกถา กล่าวธรรมเองบ้าง เชื้อเชิญผู้อื่นให้กล่าวบ้าง #ไม่ดูหมิ่นความนิ่งอย่างพระอริยเจ้า*-๑ : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่เจ็ด. *-๑. คือพร้อมที่จะนิ่ง ยินดีที่จะนิ่ง ไม่ชิงพูดพล่ามเหมือนคนทั่วไปโดยเห็นว่าเป็นเกียรติ. ๘. ภิกษุนั้น #มีปกติตามความเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในอุปทานขันธ์ทั้งห้า อยู่ว่า “รูป เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดรูปเป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูป เป็นอย่างนี้; เวทนา เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดเวทนา เป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งเวทนา เป็นอย่างนี้, สัญญา เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดสัญญาเป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสัญญา เป็นอย่างนี้, สังขาร เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดสังขาร เป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสังขาร เป็นอย่างนี้, วิญญาณ เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดวิญญาณ เป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งวิญญาณ เป็นอย่างนี้, ดังนี้” : +--ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่แปด --ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้แล มีอยู่ #เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้, http://etipitaka.com/read/pali/23/154/?keywords=อาทิพฺรหฺมจริยิกาย+ปญฺญาย เป็นไปพร้อมเพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความทำให้เจริญ ความเต็มรอบ แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว.- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่​ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฏฺ​ฐก. อํ. 23/118 - 122/92. http://etipitaka.com/read/thai/23/118/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๑๕๒ - ๑๕๖/๙๒. http://etipitaka.com/read/pali/23/152/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=724 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=724 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา
    -(สำหรับหัวข้อเรื่องที่ว่า “ฌานที่มีสัญญานั้น ใช้เป็นฐานแห่งวิปัสสนาได้ในตัวเอง” ดังนี้ นั้น หมายความว่า ในฌานที่ยังมีสัญญาอยู่นั้น มีทางที่จะกำหนดขันธ์ตามที่ปรากฏอยู่ในฌาน นั้น ว่ามีลักษณะ เช่นอนิจจลักษณะ เป็นต้น ซึ่งเมื่อกำหนดเข้าแล้ว ก็ย่อมเกิดวิปัสสนา. ส่วนฌานที่ไร้สัญญา คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ และสัญญาเวทยิตนิโรธนั้น ไม่มีทางที่จะกำหนดขันธ์โดยลักษณะใด ๆ เพราะความไม่มีสัญญานั่นเอง แต่อาจจะรู้จักผลสุดท้ายแห่งฌานนั้น ๆ ได้ ว่ามีอาสวะเหลืออยู่หรือหาไม่). เหตุให้เกิดและเจริญ แห่งอาทิพรหมจริยิกปัญญา ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้ มีอยู่เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา (ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้, เป็นไปพร้อม เพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ความทำให้เจริญ ความเต็มรอบ แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว. แปดประการ อย่างไรเล่า ? แปดประการคือ : ๓. ฌายีภิกษุ คือภิกษุผู้บำเพ็ญฌานอยู่ ครั้นเขาเข้าหรือออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติและสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว ก็มีความรู้ประจักษ์แก่ตนเอง ว่าเมื่ออาศัยสมาบัติทั้งสองนี้แล้ว จะมีการสิ้นอาสวะหรือไม่. ถ้าเป็นสมาบัติทั้งเจ็ดข้างต้น ทรงยืนยันว่ามีความสิ้นอาสวะ ส่วนในสมาบัติสุดท้ายทั้งสองนี้ ทรงปล่อยไว้ให้ผู้ที่ได้เข้าแล้ว ออกแล้ว เป็นผู้กล่าวเอง ว่ามีการสิ้นอาสวะหรือไม่ เพื่อให้ได้ใช้ความเป็นปัจจัตตังของธรรมะให้ถึงที่สุด เป็นคำตรัสที่แยบยลเหลือประมาณ ควรแก่การสังเกตอย่างยิ่ง. ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพ รูปใดรูปหนึ่ง อันเป็นที่ซึ่งหิริและโอตัปปะ ความรักและความเคารพ ของภิกษุนั้นจะตั้งอยู่อย่างแรงกล้า : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หนึ่ง. ๒. ภิกษุนั้น ครั้นเข้าไปอาศัยซึ่งพระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารีผู้เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพรูปใดรูปหนึ่ง จนกระทั่งหิริและโอตตัปปะ ความรักและความเคารพของภิกษุนั้น ตั้งอยู่อย่างแรงกล้าแล้ว เธอนั้น ก็เข้าไปซักไซ้ สอบถามปัญหา ตามกาละอันควร ว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ! ข้อนี้ เป็นอย่างไร?” ความหมายแห่งข้อนี้เป็นอย่างไร ? ดังนี้. ท่านผู้มีอายุเหล่านั้น ย่อมเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผย ย่อมทำให้ตื้นสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้ตื้น ย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยมีอย่างต่างๆ แก่ภิกษุนั้น : ภิกษุ ท. ! นี้เ ป็น เหตุปัจจัยประการที่สอง. ๓. ภิกษุนั้น ครั้งฟังธรรมนั้นแล้ว ย่อมทำตนให้ถึงพร้อมด้วยการหลีกออก ๒ อย่าง คือหลีกออกทางกาย และหลีกออกทางจิต : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สาม. ๔. ภิกษุนั้น เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลาย แม้ที่ถือว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่สี่. ๕. ภิกษุนั้น เป็นพหูสูต ทรงจำธรรมที่ฟังแล้ว สั่งสมธรรมที่ฟังแล้ว : ธรรมเหล่าใด มีความงามในเบื้องต้น มีความงามในท่ามกลาง มีความงามในที่สุด แสดงพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง, ธรรมเหล่านั้น อันเธอนั้นดั้งมามากแล้ว จำได้ ว่าได้คล่องแคล่วด้วยวาจา มองเห็นตามด้วยใจ เจาะแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็น : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่ห้า. ๖. ภิกษุนั้น เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง (จิต) มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่หก. ๗. ภิกษุนั้น ไปสู่หมู่สงฆ์แล้ว ไม่พูดเรื่องนอกเรื่อง ไม่กล่าวดิรัจฉานกถา กล่าวธรรมเองบ้าง เชื้อเชิญผู้อื่นให้กล่าวบ้าง ไม่ดูหมิ่นความนิ่งอย่างพระอริยเจ้า๑ : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่เจ็ด. ๘. ภิกษุนั้น มีปกติตามความเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไป ในอุปทานขันธ์ทั้งห้า อยู่ว่า “รูป เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดรูปเป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูป เป็นอย่างนี้; เวทนา เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดเวทนา เป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งเวทนา เป็นอย่างนี้, สัญญา เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดสัญญาเป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสัญญา เป็นอย่างนี้, สังขาร เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดสังขาร เป็นอย่างนี้, ความ ๑. คือพร้อมที่จะนิ่ง ยินดีที่จะนิ่ง ไม่ชิงพูดพล่ามเหมือนคนทั่วไปโดยเห็นว่าเป็นเกียรติ. ตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสังขาร เป็นอย่างนี้, วิญญาณ เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดวิญญาณ เป็นอย่างนี้, ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งวิญญาณ เป็นอย่างนี้, ดังนี้” : ภิกษุ ท. ! นี้ เป็น เหตุปัจจัยประการที่แปด. .... ภิกษุ ท. ! เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้แล มีอยู่ เพื่อการได้เฉพาะซึ่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกา (ปัญญาที่ต้องมีในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์) ที่ยังไม่เคยได้, เป็นไปพร้อมเพื่อความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความทำให้เจริญ ความเต็มรอบ แห่งปัญญาอันเป็นอาทิพรหมจริยิกาที่ได้แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 355
    ชื่อบทธรรม :- ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=355
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์
    --ภิกษุ ท.! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้
    ของสัญญาในรูป
    ของสัญญาในเสียง
    ของสัญญาในกลิ่น
    ของสัญญาในรส
    ของสัญญาในโผฏฐัพพะ และ
    ของสัญญาในธรรมารมณ์ ใดๆ,
    #อันนั้นแหละเป็นความดับของทุกข์,
    http://etipitaka.com/read/pali/17/285/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ
    อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับของสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทง,
    อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้ของชราและมรณะ แล.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/255/490.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/255/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๕/๔๙๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/285/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=355
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=355
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 355 ชื่อบทธรรม :- ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=355 เนื้อความทั้งหมด :- --ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์ --ภิกษุ ท.! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้ ของสัญญาในรูป ของสัญญาในเสียง ของสัญญาในกลิ่น ของสัญญาในรส ของสัญญาในโผฏฐัพพะ และ ของสัญญาในธรรมารมณ์ ใดๆ, #อันนั้นแหละเป็นความดับของทุกข์, http://etipitaka.com/read/pali/17/285/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับของสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทง, อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้ของชราและมรณะ แล.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/255/490. http://etipitaka.com/read/thai/17/255/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๕/๔๙๐. http://etipitaka.com/read/pali/17/285/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=355 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=355 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์
    -ความดับของสัญญาขันธ์ คือ ความดับของทุกข์ ภิกษุ ท.! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้ ของสัญญาในรูป ของสัญญาในเสียง ของสัญญาในกลิ่น ของสัญญาในรส ของ สัญญาในโผฏฐัพพะ และของสัญญาในธรรมารมณ์ ใดๆ, อันนั้นแหละเป็นความดับของทุกข์, อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับของสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทง, อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้ของชราและมรณะ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/0of5-PyF730?si=MySy9-orwGi7Iov7
    https://youtu.be/0of5-PyF730?si=MySy9-orwGi7Iov7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/4heKxQ2HBVw?si=ohOXooHt2BaKMjTC
    https://youtube.com/shorts/4heKxQ2HBVw?si=ohOXooHt2BaKMjTC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าเกียจโคตรๆ
    ..นี้คือภาคการเมืองที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มิอาจให้รัฐบาลนี้มีอำนาจอยู่ต่อแม้เพียงวันเดียวก็ไม่ได้อีกแล้ว ชัดเจมมาก นี้คือเรื่องอธิปไตยไทยชัดเจน ต้องพักงานระบบนักการเมืองทั้งหมด,และล้างเครื่องใหม่ทั้งหมดด้วยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/SjC43lMieSI?si=m7Ie0pCt0nIc2o2Y
    น่าเกียจโคตรๆ ..นี้คือภาคการเมืองที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มิอาจให้รัฐบาลนี้มีอำนาจอยู่ต่อแม้เพียงวันเดียวก็ไม่ได้อีกแล้ว ชัดเจมมาก นี้คือเรื่องอธิปไตยไทยชัดเจน ต้องพักงานระบบนักการเมืองทั้งหมด,และล้างเครื่องใหม่ทั้งหมดด้วยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/SjC43lMieSI?si=m7Ie0pCt0nIc2o2Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts