• ## รู้จัก NCDs โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง...ก่อนสายเกินไป!

    รู้หรือไม่? โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและทั่วโลก! อย่ามองข้าม เพราะมันอาจใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด

    **NCDs คืออะไร?** รวมโรคเรื้อรังที่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี ได้แก่

    * **โรคหัวใจและหลอดเลือด:** อันตรายถึงชีวิต! อาการเริ่มต้นอาจไม่ชัดเจน ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ
    * **โรคมะเร็ง:** ตัวร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี
    * **โรคเบาหวาน:** ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควบคุมได้ด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
    * **โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD):** หายใจลำบาก มักเกิดจากการสูบบุหรี่ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

    **ป้องกันได้นะ! ด้วยวิธีง่ายๆเหล่านี้**

    * **กินดีอยู่ดี:** เน้นผักผลไม้ ลดอาหารมัน เค็ม หวาน
    * **ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:** อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน
    * **หลีกเลี่ยงอบายมุข:** เลิกบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    * **ตรวจสุขภาพประจำปี:** รู้เท่าทันสุขภาพตัวเอง

    **อย่าปล่อยให้ NCDs มาทำลายสุขภาพของคุณ!** เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาว

    #NCDs #โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง #สุขภาพดี #สุขภาพ #ดูแลตัวเอง

    #พลังZeeds
    ## รู้จัก NCDs โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง...ก่อนสายเกินไป! รู้หรือไม่? โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและทั่วโลก! อย่ามองข้าม เพราะมันอาจใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด **NCDs คืออะไร?** รวมโรคเรื้อรังที่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี ได้แก่ * **โรคหัวใจและหลอดเลือด:** อันตรายถึงชีวิต! อาการเริ่มต้นอาจไม่ชัดเจน ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ * **โรคมะเร็ง:** ตัวร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี * **โรคเบาหวาน:** ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควบคุมได้ด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม * **โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD):** หายใจลำบาก มักเกิดจากการสูบบุหรี่ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า **ป้องกันได้นะ! ด้วยวิธีง่ายๆเหล่านี้** * **กินดีอยู่ดี:** เน้นผักผลไม้ ลดอาหารมัน เค็ม หวาน * **ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:** อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน * **หลีกเลี่ยงอบายมุข:** เลิกบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ * **ตรวจสุขภาพประจำปี:** รู้เท่าทันสุขภาพตัวเอง **อย่าปล่อยให้ NCDs มาทำลายสุขภาพของคุณ!** เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาว #NCDs #โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง #สุขภาพดี #สุขภาพ #ดูแลตัวเอง #พลังZeeds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหารของประชากรโลกส่งผลกระทบหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ต่อไปนี้เป็นแนวทางการวิเคราะห์ประเด็นนี้อย่างเป็นระบบ:

    ### 1. **ปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง**
    - **ความเป็นเมืองและไลฟ์สไตล์เร่งด่วน**: นำไปสู่การบริโภคอาหารแปรรูปสูง อาหารสำเร็จรูป และบริการเดลิเวอรี่
    - **การเติบโตทางเศรษฐกิจ**: ในประเทศกำลังพัฒนา ความต้องการเนื้อสัตว์และนมเพิ่มขึ้นตามรายได้ (เรียกว่า "การเปลี่ยนผ่านด้านโภชนาการ")
    - **ความตระหนักด้านสุขภาพ**: โรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น เบาหวาน กระตุ้นให้คนหันมาบริโภคพืชมากขึ้น ลดน้ำตาลและไขมันอิ่มตัว
    - **ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม**: การผลิตเนื้อสัตว์สร้างก๊าซเรือนกระจก 14.5% ของ全球排放 ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเลือกโปรตีนทางเลือก (เช่น Plant-based meat, แมลง)
    - **นวัตกรรมเทคโนโลยี**: อาหารแล็บ (Cultured meat), แอปพลิเคชันติดตามโภชนาการส่วนบุคคล (Personalized nutrition)

    ### 2. **แนวโน้มสำคัญ**
    - **Plant-Based Movement**: ยอดขายอาหารจากพืชโตปีละ 15-20% (ข้อมูลจาก Beyond Meat และ Oatly)
    - **Functional Foods**: อาหารเสริมโปรไบโอติกหรือสารต้านอนุมูลอิสระได้รับความนิยม
    - **Local & Seasonal Eating**: เพื่อลด Carbon Footprint เช่น กระแส "Locavore"
    - **การฟื้นฟูอาหารดั้งเดิม**: อย่างอาหารเมดิเตอร์เรเนียนหรือญี่ปุ่นที่ UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรม

    ### 3. **ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม**
    - **เชิงบวก**: หากลดการบริโภคเนื้อวัว全球ลง 50% อาจลดพื้นที่เกษตรกรรมได้ 1.1 พันล้านเฮกตาร์ (อ้างอิงจาก PNAS)
    - **เชิงลบ**: การผลิตอัลมอนด์สำหรับนมพืชต้องการน้ำมาก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่แห้งแล้งเช่นแคลิฟอร์เนีย

    ### 4. **ความท้าทายทางสังคม**
    - **ความเหลื่อมล้ำ**: อาหารสุขภาพมักมีราคาสูง ทำให้เข้าถึงได้เฉพาะกลุ่มรายได้สูง
    - **การสูญเสียวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น**: เยาวชนยุคใหม่หันไปบริโภค Fast Food แทนอาหารดั้งเดิม
    - **Greenwashing**: บริษัทบางแห่งใช้ฉลาก "ออร์แกนิก" หรือ "ยั่งยืน" โดยไม่มีการรับรองที่ชัดเจน

    ### 5. **นโยบายและแนวทางแก้ไข**
    - **ภาษีอาหารไม่สุขภาพ**: เช่น ภาษีน้ำตาลในเม็กซิโกและอังกฤษ
    - **ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน**: ตามแนวทาง FAO's Agroecology
    - **การศึกษาโภชนาการ**: หลักสูตรอาหารสุขภาพในโรงเรียน เช่น ญี่ปุ่นสอน "Shokuiku" (食育)

    ### 6. **อนาคตที่อาจเกิดขึ้น**
    - **อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ**: เนื้อที่เพาะในแล็บ (Cultured Meat) อาจมีราคาถูกกว่าเนื้อธรรมดาภายในปี 2030
    - **ระบบอาหารอัจฉริยะ**: AI วิเคราะห์ความต้องการสารอาหารส่วนบุคคลผ่านข้อมูลสุขภาพ
    - **กฎหมายอาหารใหม่**: เช่น สหภาพยุโรปอาจกำหนด Carbon Labeling บนบรรจุภัณฑ์

    ### สรุป
    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน แต่ต้องจัดการกับความท้าทายอย่างรอบด้าน ทั้งการปรับตัวของผู้ผลิต การสนับสนุนนโยบายสาธารณะ และการสร้างความตระหนักของผู้บริโภคโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
    การเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหารของประชากรโลกส่งผลกระทบหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ต่อไปนี้เป็นแนวทางการวิเคราะห์ประเด็นนี้อย่างเป็นระบบ: ### 1. **ปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง** - **ความเป็นเมืองและไลฟ์สไตล์เร่งด่วน**: นำไปสู่การบริโภคอาหารแปรรูปสูง อาหารสำเร็จรูป และบริการเดลิเวอรี่ - **การเติบโตทางเศรษฐกิจ**: ในประเทศกำลังพัฒนา ความต้องการเนื้อสัตว์และนมเพิ่มขึ้นตามรายได้ (เรียกว่า "การเปลี่ยนผ่านด้านโภชนาการ") - **ความตระหนักด้านสุขภาพ**: โรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น เบาหวาน กระตุ้นให้คนหันมาบริโภคพืชมากขึ้น ลดน้ำตาลและไขมันอิ่มตัว - **ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม**: การผลิตเนื้อสัตว์สร้างก๊าซเรือนกระจก 14.5% ของ全球排放 ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเลือกโปรตีนทางเลือก (เช่น Plant-based meat, แมลง) - **นวัตกรรมเทคโนโลยี**: อาหารแล็บ (Cultured meat), แอปพลิเคชันติดตามโภชนาการส่วนบุคคล (Personalized nutrition) ### 2. **แนวโน้มสำคัญ** - **Plant-Based Movement**: ยอดขายอาหารจากพืชโตปีละ 15-20% (ข้อมูลจาก Beyond Meat และ Oatly) - **Functional Foods**: อาหารเสริมโปรไบโอติกหรือสารต้านอนุมูลอิสระได้รับความนิยม - **Local & Seasonal Eating**: เพื่อลด Carbon Footprint เช่น กระแส "Locavore" - **การฟื้นฟูอาหารดั้งเดิม**: อย่างอาหารเมดิเตอร์เรเนียนหรือญี่ปุ่นที่ UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรม ### 3. **ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม** - **เชิงบวก**: หากลดการบริโภคเนื้อวัว全球ลง 50% อาจลดพื้นที่เกษตรกรรมได้ 1.1 พันล้านเฮกตาร์ (อ้างอิงจาก PNAS) - **เชิงลบ**: การผลิตอัลมอนด์สำหรับนมพืชต้องการน้ำมาก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่แห้งแล้งเช่นแคลิฟอร์เนีย ### 4. **ความท้าทายทางสังคม** - **ความเหลื่อมล้ำ**: อาหารสุขภาพมักมีราคาสูง ทำให้เข้าถึงได้เฉพาะกลุ่มรายได้สูง - **การสูญเสียวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น**: เยาวชนยุคใหม่หันไปบริโภค Fast Food แทนอาหารดั้งเดิม - **Greenwashing**: บริษัทบางแห่งใช้ฉลาก "ออร์แกนิก" หรือ "ยั่งยืน" โดยไม่มีการรับรองที่ชัดเจน ### 5. **นโยบายและแนวทางแก้ไข** - **ภาษีอาหารไม่สุขภาพ**: เช่น ภาษีน้ำตาลในเม็กซิโกและอังกฤษ - **ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน**: ตามแนวทาง FAO's Agroecology - **การศึกษาโภชนาการ**: หลักสูตรอาหารสุขภาพในโรงเรียน เช่น ญี่ปุ่นสอน "Shokuiku" (食育) ### 6. **อนาคตที่อาจเกิดขึ้น** - **อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ**: เนื้อที่เพาะในแล็บ (Cultured Meat) อาจมีราคาถูกกว่าเนื้อธรรมดาภายในปี 2030 - **ระบบอาหารอัจฉริยะ**: AI วิเคราะห์ความต้องการสารอาหารส่วนบุคคลผ่านข้อมูลสุขภาพ - **กฎหมายอาหารใหม่**: เช่น สหภาพยุโรปอาจกำหนด Carbon Labeling บนบรรจุภัณฑ์ ### สรุป การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน แต่ต้องจัดการกับความท้าทายอย่างรอบด้าน ทั้งการปรับตัวของผู้ผลิต การสนับสนุนนโยบายสาธารณะ และการสร้างความตระหนักของผู้บริโภคโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สมศักดิ์" ปลื้ม อสม.- ชาวศรีสะเกษ กว่า 5 แสนคน นับคาร์บและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมห่างไกลโรค NCDs ได้ และมีสัดส่วนผู้ป่วยเบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลได้มากสุดในประเทศ
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1246874423577086
    "สมศักดิ์" ปลื้ม อสม.- ชาวศรีสะเกษ กว่า 5 แสนคน นับคาร์บและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมห่างไกลโรค NCDs ได้ และมีสัดส่วนผู้ป่วยเบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลได้มากสุดในประเทศ https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1246874423577086
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สมศักดิ์-เดชอิศม์” ประชุมผู้บริหาร สธ. สั่งเดินหน้านโยบาย “30บาทรักษาทุกที่-คนไทยห่างไกล NCDs-ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์” เผย กำชับ สธ.ช่วยดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ฝุ่น PM 2.5 ขณะที่ รมช.สาธารณสุข ชงทำเอ็มโอยู แก้น้ำประปาหมู่บ้านไม่ได้คุณภาพ หลังพบผ่านเพียง 0.5% หวังให้คนไทยใช้น้ำบริสุทธิ์ปลอดภัย
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1237819554482573
    “สมศักดิ์-เดชอิศม์” ประชุมผู้บริหาร สธ. สั่งเดินหน้านโยบาย “30บาทรักษาทุกที่-คนไทยห่างไกล NCDs-ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์” เผย กำชับ สธ.ช่วยดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ฝุ่น PM 2.5 ขณะที่ รมช.สาธารณสุข ชงทำเอ็มโอยู แก้น้ำประปาหมู่บ้านไม่ได้คุณภาพ หลังพบผ่านเพียง 0.5% หวังให้คนไทยใช้น้ำบริสุทธิ์ปลอดภัย https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1237819554482573
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชาแบนเครื่องดื่มชูกำลังในโรงเรียน

    แม้ในประเทศไทย เครื่องดื่มผสมคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) จะจำกัดส่วนผสมคาเฟอีนไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อ 1 ขวดหรือ 1 กระป๋อง และมีคำเตือนห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด โปรดสังเกตคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้จำกัดอายุผู้ซื้อ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของชำหรือร้านสะดวกซื้อ แต่สำหรับบางประเทศเริ่มมีมาตรการจำกัดผู้ซื้อ โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อ โดยเฉพาะโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ

    กระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและกีฬากัมพูชา ออกประกาศห้ามจำหน่าย บริโภค และโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังทั้งในและโดยรอบสถานศึกษาทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยเฉพาะโรคเบาหวาน หลังนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งการให้ดูแลความปลอดภัยของอาหารและเครื่องดื่มในโรงเรียนอย่างเข้มงวด เพราะกังวลจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนหนุ่มสาวชาวกัมพูชา

    "เด็กบางคนดื่มเครื่องดื่มชูกำลังมากถึง 3 กระป๋องต่อวัน" นายฮุน มาเนต กล่าวในพิธีวางศิลาฤกษ์โรงพยาบาลแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพในกรุงพนมเปญ สอดคล้องกับรายงานของรัฐบาลกัมพูชา ที่ระบุว่า ระหว่างปี 2560-2564 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วประเทศกว่า 90,000 ราย เสียชีวิตเกือบ 70 ราย และโรงพยาบาลเด็กคันธะโบภา (Kantha Bopha) ระบุว่าในปี 2566 เด็กเกือบ 700 คนวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 รักษาตัวโรงพยาบาลในจังหวัดเสียมราฐและพนมเปญ

    นายฮัง ชวน นารอน รมว.ศึกษาธิการเยาวชนและกีฬากัมพูชา ยืนยันว่าประกาศดังกล่าวบังคับใช้กับสถาบันการศึกษาทั่วไปทั้งของรัฐและเอกชน รวมไปถึงศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ ยังให้โรงเรียนแต่ละแห่งให้ความรู้แก่นักเรียน ถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพจากเครื่องดื่มชูกำลัง พร้อมตรวจสอบและตรวจยึดเครื่องดื่มชูกำลังจากผู้ขายที่จำหน่ายภายในโรงเรียนและใกล้เคียง หากไม่ปฎิบัติตามจะถึงขั้นยกเลิกสัญญาเช่าแผงขายสินค้า

    ไม่ใช่แค่กัมพูชา แต่ประเทศตะวันตกอย่างโปแลนด์ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567 ส่วนสาธารณรัฐเช็ก เตรียมห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อเดือน พ.ย. 2567 ส่วนสหราชอาณาจักร พรรคแรงงานเคยหาเสียงว่าจะห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี แต่ก็มีผู้ค้าปลีกบางแห่งออกมาตรการจำกัดอายุผู้ซื้อด้วยตัวเอง

    #Newskit
    กัมพูชาแบนเครื่องดื่มชูกำลังในโรงเรียน แม้ในประเทศไทย เครื่องดื่มผสมคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) จะจำกัดส่วนผสมคาเฟอีนไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อ 1 ขวดหรือ 1 กระป๋อง และมีคำเตือนห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด โปรดสังเกตคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้จำกัดอายุผู้ซื้อ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของชำหรือร้านสะดวกซื้อ แต่สำหรับบางประเทศเริ่มมีมาตรการจำกัดผู้ซื้อ โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อ โดยเฉพาะโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ กระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและกีฬากัมพูชา ออกประกาศห้ามจำหน่าย บริโภค และโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังทั้งในและโดยรอบสถานศึกษาทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยเฉพาะโรคเบาหวาน หลังนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งการให้ดูแลความปลอดภัยของอาหารและเครื่องดื่มในโรงเรียนอย่างเข้มงวด เพราะกังวลจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนหนุ่มสาวชาวกัมพูชา "เด็กบางคนดื่มเครื่องดื่มชูกำลังมากถึง 3 กระป๋องต่อวัน" นายฮุน มาเนต กล่าวในพิธีวางศิลาฤกษ์โรงพยาบาลแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพในกรุงพนมเปญ สอดคล้องกับรายงานของรัฐบาลกัมพูชา ที่ระบุว่า ระหว่างปี 2560-2564 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วประเทศกว่า 90,000 ราย เสียชีวิตเกือบ 70 ราย และโรงพยาบาลเด็กคันธะโบภา (Kantha Bopha) ระบุว่าในปี 2566 เด็กเกือบ 700 คนวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 รักษาตัวโรงพยาบาลในจังหวัดเสียมราฐและพนมเปญ นายฮัง ชวน นารอน รมว.ศึกษาธิการเยาวชนและกีฬากัมพูชา ยืนยันว่าประกาศดังกล่าวบังคับใช้กับสถาบันการศึกษาทั่วไปทั้งของรัฐและเอกชน รวมไปถึงศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ ยังให้โรงเรียนแต่ละแห่งให้ความรู้แก่นักเรียน ถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพจากเครื่องดื่มชูกำลัง พร้อมตรวจสอบและตรวจยึดเครื่องดื่มชูกำลังจากผู้ขายที่จำหน่ายภายในโรงเรียนและใกล้เคียง หากไม่ปฎิบัติตามจะถึงขั้นยกเลิกสัญญาเช่าแผงขายสินค้า ไม่ใช่แค่กัมพูชา แต่ประเทศตะวันตกอย่างโปแลนด์ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567 ส่วนสาธารณรัฐเช็ก เตรียมห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อเดือน พ.ย. 2567 ส่วนสหราชอาณาจักร พรรคแรงงานเคยหาเสียงว่าจะห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี แต่ก็มีผู้ค้าปลีกบางแห่งออกมาตรการจำกัดอายุผู้ซื้อด้วยตัวเอง #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 625 มุมมอง 0 รีวิว