• KTM Go Cashless รถไฟมาเลเซียไร้เงินสด

    การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย กำลังรณรงค์แคมเปญ Go Cashless หรือ Komuniti Tanpa Tunai (สังคมไร้เงินสด) ให้ผู้ใช้บริการรถไฟทุกประเภทซื้อตั๋วรถไฟ ชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด ผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ช่องทางออนไลน์ผ่านแอปฯ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และประตูอัตโนมัติ (ACG) ของทุกสถานี พร้อมกับออกบูธจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามสถานีต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้ใช้บริการ และจะงดรับเงินสดเต็มรูปแบบในระยะถัดไป

    • การซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์สถานี ทั้งรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter สาย Klang Valley และสาย Utara รถไฟทางไกล ETS และ KTM Intercity สามารถใช้บัตรเดบิต MyDebit ที่ออกโดยสถาบันการเงินในมาเลเซีย บัตร VISA และ Mastercard และ KTM Wallet ใน KTMB Mobile (KITS) ส่วนผู้ถือบัตร Komuter Link ใช้ได้เฉพาะรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter

    • การซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน KTMB Mobile เลือกชำระได้ทั้ง KTM Wallet, บัตร VISA และ Mastercard, บัตรเดบิต MyDebit, Touch 'n Go eWallet, Boost Wallet และคิวอาร์โค้ด DuitNow

    • การซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (Ticket Kiosk) สามารถใช้บัตรเดบิต MyDebit, บัตร VISA และ Mastercard, คิวอาร์โค้ด DuitNow, อีวอลเล็ต Boost Wallet และ Touch 'n Go eWallet

    • การเข้าสู่ระบบรถไฟผ่านประตูอัตโนมัติ (ACG) รองรับทั้งบัตร Komuter Link, บัตรเดบิต MyDebit, บัตร VISA และ Mastercard, บัตร Touch 'n Go, Google Pay, Apple Pay และ Samsung Pay

    ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้บัตร VISA และ Mastercard เข้าสู่ประตูอัตโนมัติ (ACG) ระบบจะกันวงเงินบัตรไว้ 30 ริงกิต (ประมาณ 231 บาท) และจะได้รับคืนภายหลัง ส่วนอีวอลเล็ต KTM Wallet ใน KTMB Mobile (KITS) รองรับเฉพาะรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter เท่านั้น

    สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถสมัครสมาชิก KTMB Mobile (KITS) เพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ โดยใช้หนังสือเดินทางเป็นหลักฐาน ส่วนการซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และการเข้าสู่ระบบรถไฟผ่านประตูอัตโนมัติ (ACG) ด้วยบัตร VISA และ Mastercard ควรสอบถามธนาคารผู้ออกบัตรว่าใช้ที่ต่างประเทศได้หรือไม่

    หรือสมัครบัตรที่ไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน 2.5% มีทั้งบัตร Travel Card เช่น YouTrip, Planet SCB, Krungsri Boarding Card หรือบัตรเดบิต เช่น Chill D CIMB Thai, ttb all free, Krungthai Travel Mastercard Debit, KBank Journey Travel Card เป็นต้น

    #Newskit #KTMB #GoCashless
    KTM Go Cashless รถไฟมาเลเซียไร้เงินสด การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย กำลังรณรงค์แคมเปญ Go Cashless หรือ Komuniti Tanpa Tunai (สังคมไร้เงินสด) ให้ผู้ใช้บริการรถไฟทุกประเภทซื้อตั๋วรถไฟ ชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด ผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ช่องทางออนไลน์ผ่านแอปฯ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และประตูอัตโนมัติ (ACG) ของทุกสถานี พร้อมกับออกบูธจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามสถานีต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้ใช้บริการ และจะงดรับเงินสดเต็มรูปแบบในระยะถัดไป • การซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์สถานี ทั้งรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter สาย Klang Valley และสาย Utara รถไฟทางไกล ETS และ KTM Intercity สามารถใช้บัตรเดบิต MyDebit ที่ออกโดยสถาบันการเงินในมาเลเซีย บัตร VISA และ Mastercard และ KTM Wallet ใน KTMB Mobile (KITS) ส่วนผู้ถือบัตร Komuter Link ใช้ได้เฉพาะรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter • การซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน KTMB Mobile เลือกชำระได้ทั้ง KTM Wallet, บัตร VISA และ Mastercard, บัตรเดบิต MyDebit, Touch 'n Go eWallet, Boost Wallet และคิวอาร์โค้ด DuitNow • การซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (Ticket Kiosk) สามารถใช้บัตรเดบิต MyDebit, บัตร VISA และ Mastercard, คิวอาร์โค้ด DuitNow, อีวอลเล็ต Boost Wallet และ Touch 'n Go eWallet • การเข้าสู่ระบบรถไฟผ่านประตูอัตโนมัติ (ACG) รองรับทั้งบัตร Komuter Link, บัตรเดบิต MyDebit, บัตร VISA และ Mastercard, บัตร Touch 'n Go, Google Pay, Apple Pay และ Samsung Pay ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้บัตร VISA และ Mastercard เข้าสู่ประตูอัตโนมัติ (ACG) ระบบจะกันวงเงินบัตรไว้ 30 ริงกิต (ประมาณ 231 บาท) และจะได้รับคืนภายหลัง ส่วนอีวอลเล็ต KTM Wallet ใน KTMB Mobile (KITS) รองรับเฉพาะรถไฟฟ้าชานเมือง KTM Komuter เท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถสมัครสมาชิก KTMB Mobile (KITS) เพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ โดยใช้หนังสือเดินทางเป็นหลักฐาน ส่วนการซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และการเข้าสู่ระบบรถไฟผ่านประตูอัตโนมัติ (ACG) ด้วยบัตร VISA และ Mastercard ควรสอบถามธนาคารผู้ออกบัตรว่าใช้ที่ต่างประเทศได้หรือไม่ หรือสมัครบัตรที่ไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน 2.5% มีทั้งบัตร Travel Card เช่น YouTrip, Planet SCB, Krungsri Boarding Card หรือบัตรเดบิต เช่น Chill D CIMB Thai, ttb all free, Krungthai Travel Mastercard Debit, KBank Journey Travel Card เป็นต้น #Newskit #KTMB #GoCashless
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟื้นรถไฟ กทม.-ปีนัง หลังหายไปนาน 8 ปี

    ในการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยและการรถไฟมาเลเซีย ครั้งที่ 42 (KTMB - SRT Joint Conference) ที่เมืองโคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13-16 สิงหาคม 2567 ซึ่งมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนการรถไฟฯ เข้าร่วมประชุม มีมติที่น่าสนใจหลายเรื่อง

    หนึ่งในนั้นก็คือ ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการจัดเดินขบวนรถจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวอร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาการเปิดให้บริการขบวนรถไฟเส้นทางต่อขยายจากสถานีปาดังเบซาร์ ไปยังสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ โดยในช่วงแรกจะเป็นการทดลองการเดินรถเป็นระยะเวลา 6 เดือน

    นับเป็นการฟื้นการเดินรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปีนัง กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นมา เหลือเพียงแค่ขบวนรถที่ 45/46 ไปยังสถานีปลายทางปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส เท่านั้น หลังเคยเปิดการเดินรถมาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2465 เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 94 ปี

    ย้อนกลับไปในอดีต การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินรถจากต้นทางสถานีรถไฟบางกอกน้อย ไปยังสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ ประเทศมาเลเซีย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2470 แต่หยุดการเดินรถชั่วคราวเนื่องจากสะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง

    ขณะนั้นให้บริการวันละ 1 เที่ยว ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพในช่วงบ่าย ไปถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธในช่วงสายของวันถัดมา ก่อนที่จะหยุดการเดินรถ พบว่ารถออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 14.45 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ เวลา 13.25 น. ตามเวลามาเลเซีย มีให้บริการเฉพาะรถนั่งและนอนชั้น 2 ค่าโดยสารเตียงบน 1,210 บาท เตียงล่าง 1,120 บาท

    แต่หลังจากประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟระบบปิด มีลักษณะรถไฟทางคู่ และให้บริการรถไฟแบบ ETS ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษ และ KTM Komuter ซึ่งเป็นรถไฟธรรมดา ในปี 2559 ทำให้ประสบปัญหาผู้โดยสารขึ้นรถไฟผิดขบวน การรถไฟฯ ได้ยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ และสิ้นสุดการให้บริการที่สถานีปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลเซียแทน

    ปัจจุบัน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 16.10 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์เวลา 08.05 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาประเทศไทย) และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 46 ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 17.00 น. (เวลาประเทศไทย) ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 09.05 น. ของวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง

    การเดินรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์ ถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ หากเป็นขบวนรถ KTM Komuter จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่จอดทุกสถานี คาดว่าจากกรุงเทพฯ ไปยังบัตเตอร์เวอร์ธ จะใช้เวลาน้อยกว่าเมื่อ 8 ปีก่อน เพราะปัจจุบันรถไฟทางไกลย้ายต้นทางไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร 421 กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนหน้านี้

    ส่วนขบวนรถไฟท่องเที่ยวมายสวัสดี (MySawasdee) จากประเทศมาเลเซียมายังประเทศไทย ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ขยายเส้นทางจากเดิมให้บริการถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว หลังจากนี้ทั้งสองหน่วยงานจะมีการตกลงรายละเอียด และระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป

    สำหรับขบวนรถไฟท่องเที่ยวมายสวัสดี (MySawasdee) ระหว่างสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ให้บริการเฉพาะวันหยุดเทศกาลของประเทศมาเลเซียเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่จะเดินทางไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565

    ปัจจุบันยังมีบริการ มาย สวัสดี พลัส (MySawasdee PLUS) สำหรับตัวแทนทัวร์และบริษัททัวร์ รวมทั้งองค์กรภาคธุรกิจ สามารถเช่าเหมารถไฟทั้งขบวนได้อีกด้วย แต่ละเที่ยวรองรับผู้โดยสารประมาณ 400 คนต่อขบวน ให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2567 โดยบริษัท Golden Century Tours & Travel เสนอแพกเกจไปยังหาดใหญ่ เดินทาง 4 วัน 2 คืน

    ส่วนสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ที่ อ.พุนพิน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถเดินทางต่อไปยังท่าเรือดอนสัก เพื่อโดยสารเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมได้อีกด้วย

    #Newskit #SRT #Butterworth
    ฟื้นรถไฟ กทม.-ปีนัง หลังหายไปนาน 8 ปี ในการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยและการรถไฟมาเลเซีย ครั้งที่ 42 (KTMB - SRT Joint Conference) ที่เมืองโคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13-16 สิงหาคม 2567 ซึ่งมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนการรถไฟฯ เข้าร่วมประชุม มีมติที่น่าสนใจหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการจัดเดินขบวนรถจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวอร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาการเปิดให้บริการขบวนรถไฟเส้นทางต่อขยายจากสถานีปาดังเบซาร์ ไปยังสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ โดยในช่วงแรกจะเป็นการทดลองการเดินรถเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับเป็นการฟื้นการเดินรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปีนัง กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นมา เหลือเพียงแค่ขบวนรถที่ 45/46 ไปยังสถานีปลายทางปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส เท่านั้น หลังเคยเปิดการเดินรถมาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2465 เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 94 ปี ย้อนกลับไปในอดีต การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินรถจากต้นทางสถานีรถไฟบางกอกน้อย ไปยังสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ ประเทศมาเลเซีย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2470 แต่หยุดการเดินรถชั่วคราวเนื่องจากสะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง ขณะนั้นให้บริการวันละ 1 เที่ยว ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพในช่วงบ่าย ไปถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธในช่วงสายของวันถัดมา ก่อนที่จะหยุดการเดินรถ พบว่ารถออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 14.45 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ เวลา 13.25 น. ตามเวลามาเลเซีย มีให้บริการเฉพาะรถนั่งและนอนชั้น 2 ค่าโดยสารเตียงบน 1,210 บาท เตียงล่าง 1,120 บาท แต่หลังจากประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟระบบปิด มีลักษณะรถไฟทางคู่ และให้บริการรถไฟแบบ ETS ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษ และ KTM Komuter ซึ่งเป็นรถไฟธรรมดา ในปี 2559 ทำให้ประสบปัญหาผู้โดยสารขึ้นรถไฟผิดขบวน การรถไฟฯ ได้ยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ และสิ้นสุดการให้บริการที่สถานีปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลเซียแทน ปัจจุบัน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 16.10 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์เวลา 08.05 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาประเทศไทย) และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 46 ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ เวลา 17.00 น. (เวลาประเทศไทย) ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 09.05 น. ของวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง การเดินรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์ ถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ หากเป็นขบวนรถ KTM Komuter จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่จอดทุกสถานี คาดว่าจากกรุงเทพฯ ไปยังบัตเตอร์เวอร์ธ จะใช้เวลาน้อยกว่าเมื่อ 8 ปีก่อน เพราะปัจจุบันรถไฟทางไกลย้ายต้นทางไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร 421 กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนหน้านี้ ส่วนขบวนรถไฟท่องเที่ยวมายสวัสดี (MySawasdee) จากประเทศมาเลเซียมายังประเทศไทย ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ขยายเส้นทางจากเดิมให้บริการถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว หลังจากนี้ทั้งสองหน่วยงานจะมีการตกลงรายละเอียด และระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป สำหรับขบวนรถไฟท่องเที่ยวมายสวัสดี (MySawasdee) ระหว่างสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ให้บริการเฉพาะวันหยุดเทศกาลของประเทศมาเลเซียเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่จะเดินทางไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ปัจจุบันยังมีบริการ มาย สวัสดี พลัส (MySawasdee PLUS) สำหรับตัวแทนทัวร์และบริษัททัวร์ รวมทั้งองค์กรภาคธุรกิจ สามารถเช่าเหมารถไฟทั้งขบวนได้อีกด้วย แต่ละเที่ยวรองรับผู้โดยสารประมาณ 400 คนต่อขบวน ให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2567 โดยบริษัท Golden Century Tours & Travel เสนอแพกเกจไปยังหาดใหญ่ เดินทาง 4 วัน 2 คืน ส่วนสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ที่ อ.พุนพิน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถเดินทางต่อไปยังท่าเรือดอนสัก เพื่อโดยสารเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมได้อีกด้วย #Newskit #SRT #Butterworth
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 873 มุมมอง 0 รีวิว