• เปิดตัว SuperStation One ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมที่ใช้เทคโนโลยี FPGA (Field-Programmable Gate Array) ที่สามารถเล่นเกมของ PlayStation รุ่นแรกได้ SuperStation One ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับ PS One ของ Sony และมีพอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม เช่น คอนโทรลเลอร์และการ์ดหน่วยความจำ

    SuperStation One มีพอร์ต USB Type-A, USB-C, HDMI, DIN10, VGA, แจ็คเสียงอนาล็อก และพอร์ต Ethernet นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว รวมถึงเครื่องอ่าน NFC ที่รองรับ Zaparoo เพื่อความสะดวกในการโหลดเกม

    เครื่องเล่นเกมนี้สามารถเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Nintendo 64 และ Sega Saturn ได้ด้วยการโหลดคอร์ MiSTer FPGA อย่างไรก็ตาม SuperStation One ไม่มีไดรฟ์ดิสก์ แต่ Retro Remake กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า SuperDock ซึ่งจะเพิ่มไดรฟ์ออปติคอลแบบถาด, ช่องเสียบ M.2 2282 ภายใน และพอร์ต USB Type-A เพิ่มเติมอีกสี่พอร์ต

    SuperStation One เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในราคาเริ่มต้นที่ $179.99 โดยมีสีให้เลือกคือ สีเทาคลาสสิก สีดำ และสีน้ำเงินใส (รุ่น Founder's Edition ราคา $149.99 ขายหมดแล้ว) อุปกรณ์เสริม SuperDock คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ $40 และจะเริ่มจัดส่งในไตรมาสที่สี่ของปี 2025

    https://www.techspot.com/news/106540-retro-remake-opens-pre-orders-fpga-powered-ps.html
    เปิดตัว SuperStation One ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมที่ใช้เทคโนโลยี FPGA (Field-Programmable Gate Array) ที่สามารถเล่นเกมของ PlayStation รุ่นแรกได้ SuperStation One ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับ PS One ของ Sony และมีพอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม เช่น คอนโทรลเลอร์และการ์ดหน่วยความจำ SuperStation One มีพอร์ต USB Type-A, USB-C, HDMI, DIN10, VGA, แจ็คเสียงอนาล็อก และพอร์ต Ethernet นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว รวมถึงเครื่องอ่าน NFC ที่รองรับ Zaparoo เพื่อความสะดวกในการโหลดเกม เครื่องเล่นเกมนี้สามารถเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Nintendo 64 และ Sega Saturn ได้ด้วยการโหลดคอร์ MiSTer FPGA อย่างไรก็ตาม SuperStation One ไม่มีไดรฟ์ดิสก์ แต่ Retro Remake กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า SuperDock ซึ่งจะเพิ่มไดรฟ์ออปติคอลแบบถาด, ช่องเสียบ M.2 2282 ภายใน และพอร์ต USB Type-A เพิ่มเติมอีกสี่พอร์ต SuperStation One เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในราคาเริ่มต้นที่ $179.99 โดยมีสีให้เลือกคือ สีเทาคลาสสิก สีดำ และสีน้ำเงินใส (รุ่น Founder's Edition ราคา $149.99 ขายหมดแล้ว) อุปกรณ์เสริม SuperDock คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ $40 และจะเริ่มจัดส่งในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 https://www.techspot.com/news/106540-retro-remake-opens-pre-orders-fpga-powered-ps.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    SuperStation One reimagines PS One with open-source FPGA hardware
    Around back, you'll find USB-C power, two more USB Type-A ports, an HDMI port, a DIN10 connector, a VGA port, an analog audio jack and an Ethernet...
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • Happy Birthday
    Happy Birthday
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 0 Reviews
  • #ถอดรหัสข่าว #News1 คุณ #นพรัตน์ คุณ #กรองทอง
    https://www.youtube.com/live/aWhdQD72c8I?
    #ถอดรหัสข่าว #News1 คุณ #นพรัตน์ คุณ #กรองทอง https://www.youtube.com/live/aWhdQD72c8I?
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • 25/1/68

    เรียนวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
    ผู้ประกอบการ ที่ต้องการต่อยส
    และการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า
    แพทย์แผนไทย/ คลินิกแพทย์แผนไทย
    ด้วยเทคโนโลยีสู่สากล
    Thai Wellness Clinic/ยาสมุนไพรต์"
    กัญชาทางการแพทย์/วิจัยพัฒนายาและผลิตภัย
    จบปีที่ 2 สอบใบประกอบฯ เภสัชกรรมไทย
    อัตราการสอบใบประกอบฯ ผ่าน
    จบปี 3 สอบใบประกอบฯ เวชกรรมไทย

    สำหรับผู้ที่ทำงานแล้ว
    เรียนวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
    ผู้ประกอบการ ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ
    และการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า
    แพทย์แผนไทย/ คลินิกแพทย์แผนไทย/
    ด้วยเทคโนโลยีสู่สากล
    Thai Wellness Clinic/ยาสมุนไพรตำรับ/ กัญชาทางการแพทย์/วิจัยพัฒนายาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร

    อัตราการสอบใบประกอบฯ ผ่าน
    จบปี 3 สอบใบประกอบฯ เวชกรรมไทย
    สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วประเทศ

    ทั่วประเทศ
    ติดต่อ: วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต
    Line id :
    @188rzbsz Ins. 0897705862

    https://forms.gle/epHDsrY73dRumLpu9
    25/1/68 เรียนวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบการ ที่ต้องการต่อยส และการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า แพทย์แผนไทย/ คลินิกแพทย์แผนไทย ด้วยเทคโนโลยีสู่สากล Thai Wellness Clinic/ยาสมุนไพรต์" กัญชาทางการแพทย์/วิจัยพัฒนายาและผลิตภัย จบปีที่ 2 สอบใบประกอบฯ เภสัชกรรมไทย อัตราการสอบใบประกอบฯ ผ่าน จบปี 3 สอบใบประกอบฯ เวชกรรมไทย สำหรับผู้ที่ทำงานแล้ว เรียนวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบการ ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ และการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า แพทย์แผนไทย/ คลินิกแพทย์แผนไทย/ ด้วยเทคโนโลยีสู่สากล Thai Wellness Clinic/ยาสมุนไพรตำรับ/ กัญชาทางการแพทย์/วิจัยพัฒนายาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร อัตราการสอบใบประกอบฯ ผ่าน จบปี 3 สอบใบประกอบฯ เวชกรรมไทย สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วประเทศ ทั่วประเทศ ติดต่อ: วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต Line id : @188rzbsz Ins. 0897705862 https://forms.gle/epHDsrY73dRumLpu9
    FORMS.GLE
    ข่าวดีสำหรับผู้ที่ทำงานประจำและผู้ที่สนใจเรียน “วิชาชีพแพทย์แผนไทย” และ ”การพัฒนาสมุนไพรเพื่อการเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีสมุนไพร” ...เรียน เสาร์-อาทิตย์…...
    กำลังเปิดรับสมัครเรียนรุ่นที่ 7 เปิดเรียน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ก) ด้านเภสัชกรรมไทย และ เวชกรรมไทย วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นสถาบันซึ่งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้ สำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 มาตรา 12 (2) ก. จากสภาการแพทย์แผนไทย ครบทั้ง 4 ด้าน คือ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การนวดไทยและผดุงครรภ์ไทย ได้เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ก) สำหรับบุคคลทั่วไปและผู้สนใจเรียนเสาร์ อาทิตย์ เพิ่มเนื้อหา “กัญชาศาสตร์ทางการแพทย์”และ “การพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีสมุนไพร” บูรณาการศาสตร์การแพทย์แผนไทยเพื่อการรักษาโรค การฟื้นฟู การป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพและชะลอวัย การพัฒนายาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร การควบคุมคุณภาพ การตั้งตำรับยา การอ่านตำรับยาที่เข้ากัญชา 16 ตำรับ การใช้ตำรับยาสำเร็จรูปที่เข้ากัญชา และการใช้กัญชาในการแพทย์แผนไทย การบริหารจัดการร้านยาและคลินิกการแพทย์แผนไทย จำนวนชั่วโมงตลอดหลักสูตร 1,800 ชั่วโมง ระยะเวลาการศึกษา 3 ปี จบปีที่ 2 มีสิทธิ์สมัครสอบเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ด้านเภสัชกรรมไทย (ก) จบปีที่ 3 มีสิทธิ์สมัครสอบเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ด้านเวชกรรมไทย (ก) แผนการศึกษาของหลักสูตร - เรียนภาคพิเศษ วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 8.00 – 17.00 น. มีฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ** เรียนระบบทวิภาค ใน 1 ปีการศึกษา มี 2 ภาคการศึกษา ภาคที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ -มิถุนายน ภาคที่ 2 เดือน สิงหาคม –ธันวาคม กำลังรับสมัคร รุ่น 7 เปิดเรียน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 089-770-5862 Line ID : @188rzbsz หรือ inboxในแฟนเพจ Facebook:วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต https://www.facebook.com/orientalmedrsu/ ดูการเรียนการสอน https://www.facebook.com/101685051722925/posts/136637938227636/?d=n
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • แฮกเกอร์ชาวจีนได้เจาะระบบ VPN ของเกาหลีใต้ชื่อ IPany โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในตัวติดตั้ง NSIS ของซอฟต์แวร์ VPN สำหรับ Windows การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยนักวิจัยจากบริษัท ESET ของสโลวาเกีย แฮกเกอร์ได้แทรกโค้ดที่เรียกว่า "SlowStepper" ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ, รันคำสั่ง, และรักษาการเข้าถึงระบบที่ถูกโจมตีได้ในระยะยาว

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ชื่อว่า PlushDaemon ซึ่งเป็นกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่มีความเชี่ยวชาญในการแฮ็กช่องทางการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องเพื่อส่งมัลแวร์ การโจมตีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเสี่ยงที่เกิดจากการโจมตีแบบ supply chain ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนจะถูกต้อง

    น่าสนใจที่เห็นว่าการโจมตีแบบ supply chain กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในวงการแฮกเกอร์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ การโจมตีนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้และองค์กรต่างๆ ต้องระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่แน่นอน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinese-hackers-compromise-south-korean-vpn-malicious-code-found-inside-nsis-installer
    แฮกเกอร์ชาวจีนได้เจาะระบบ VPN ของเกาหลีใต้ชื่อ IPany โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในตัวติดตั้ง NSIS ของซอฟต์แวร์ VPN สำหรับ Windows การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยนักวิจัยจากบริษัท ESET ของสโลวาเกีย แฮกเกอร์ได้แทรกโค้ดที่เรียกว่า "SlowStepper" ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ, รันคำสั่ง, และรักษาการเข้าถึงระบบที่ถูกโจมตีได้ในระยะยาว กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ชื่อว่า PlushDaemon ซึ่งเป็นกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่มีความเชี่ยวชาญในการแฮ็กช่องทางการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องเพื่อส่งมัลแวร์ การโจมตีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเสี่ยงที่เกิดจากการโจมตีแบบ supply chain ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนจะถูกต้อง น่าสนใจที่เห็นว่าการโจมตีแบบ supply chain กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในวงการแฮกเกอร์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ การโจมตีนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้และองค์กรต่างๆ ต้องระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่แน่นอน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinese-hackers-compromise-south-korean-vpn-malicious-code-found-inside-nsis-installer
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese hackers compromise South Korean VPN — malicious code found inside NSIS installer
    Malicious code in an NSIS installer from South Korea's IPany VPN software was discovered last May.
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • Canon ได้ประกาศเปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 410 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. ความละเอียดนี้สูงกว่าความละเอียด Full HD ถึง 198 เท่า และสูงกว่า 8K ถึง 12 เท่า เซ็นเซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเฝ้าระวัง, การถ่ายภาพอุตสาหกรรม, และการแพทย์

    เซ็นเซอร์นี้ใช้การจัดเรียงแบบ back-illuminated stacked formation ซึ่งทำให้สามารถประมวลผลสัญญาณได้อย่างรวดเร็วถึง 3,280 ล้านพิกเซลต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีการออกแบบวงจรใหม่ที่ช่วยให้การอ่านข้อมูลเร็วขึ้น เซ็นเซอร์นี้มีทั้งรุ่นสีเต็มและรุ่นขาวดำ โดยรุ่นขาวดำจะมีฟังก์ชันการรวมพิกเซลสี่พิกเซลเป็นหนึ่งพิกเซล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย

    Canon จะนำเซ็นเซอร์นี้ไปแสดงในงาน SPIE Photonics West ที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ 28-30 มกราคมนี้ การพัฒนาเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงขนาดนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีขนาดเล็กลงในอนาคต

    น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการถ่ายภาพกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ Canon กำลังผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในด้านนี้ การที่สามารถใส่ความละเอียดสูงขนาดนี้ลงในเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106479-canon-pushes-limits-35mm-record-breaking-410-megapixel.html
    Canon ได้ประกาศเปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 410 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. ความละเอียดนี้สูงกว่าความละเอียด Full HD ถึง 198 เท่า และสูงกว่า 8K ถึง 12 เท่า เซ็นเซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเฝ้าระวัง, การถ่ายภาพอุตสาหกรรม, และการแพทย์ เซ็นเซอร์นี้ใช้การจัดเรียงแบบ back-illuminated stacked formation ซึ่งทำให้สามารถประมวลผลสัญญาณได้อย่างรวดเร็วถึง 3,280 ล้านพิกเซลต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีการออกแบบวงจรใหม่ที่ช่วยให้การอ่านข้อมูลเร็วขึ้น เซ็นเซอร์นี้มีทั้งรุ่นสีเต็มและรุ่นขาวดำ โดยรุ่นขาวดำจะมีฟังก์ชันการรวมพิกเซลสี่พิกเซลเป็นหนึ่งพิกเซล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย Canon จะนำเซ็นเซอร์นี้ไปแสดงในงาน SPIE Photonics West ที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ 28-30 มกราคมนี้ การพัฒนาเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงขนาดนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีขนาดเล็กลงในอนาคต น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการถ่ายภาพกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ Canon กำลังผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในด้านนี้ การที่สามารถใส่ความละเอียดสูงขนาดนี้ลงในเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพในอนาคต https://www.techspot.com/news/106479-canon-pushes-limits-35mm-record-breaking-410-megapixel.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Canon pushes the limits of 35mm with record 410-megapixel sensor
    The 410-megapixel (24,592 x 16,704 pixels) sensor boasts a resolution that is 198 times greater than Full HD, and 12 times higher than 8K. With it, users...
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • #เปลือยธารินทร์ เงิน 30,000 ล้านเหรียญ ที่นายมิยาซาวา สัญญาต่อชาวเอเชียในการประชุม IMF และ G-7 นั้นแท้ที่จริงแล้ว ก็คือแนวความคิดของ Asia Fund นั่นเอง ที่ญี่ปุ่นเคยคิดจะเสนอเมื่อปลายปีที่แล้วในการประชุม ที่ฮ่องกง แต่โดนอเมริกาขัดขวาง
    https://youtu.be/_aSPV86HDrM
    #เปลือยธารินทร์ เงิน 30,000 ล้านเหรียญ ที่นายมิยาซาวา สัญญาต่อชาวเอเชียในการประชุม IMF และ G-7 นั้นแท้ที่จริงแล้ว ก็คือแนวความคิดของ Asia Fund นั่นเอง ที่ญี่ปุ่นเคยคิดจะเสนอเมื่อปลายปีที่แล้วในการประชุม ที่ฮ่องกง แต่โดนอเมริกาขัดขวาง https://youtu.be/_aSPV86HDrM
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • ประกาศชี้แจงจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ
    https://www.facebook.com/share/p/1FFpZjTvzr/

    ก่อนหน้านี้ ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โพสต์เกี่ยวกับการมอบของที่ระลึกเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568 พร้อมแสดงความขอบคุณสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (ช่อง 3 HD) ในการสื่อสารความรู้ด้านวัคซีนสู่สาธารณชนด้วยดีเสมอมา โดยมีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้
    ให้การต้อนรับ

    ต่อมามีการปิดคอมเม้นต์ไปในที่สุด
    ประกาศชี้แจงจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ https://www.facebook.com/share/p/1FFpZjTvzr/ ก่อนหน้านี้ ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โพสต์เกี่ยวกับการมอบของที่ระลึกเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568 พร้อมแสดงความขอบคุณสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (ช่อง 3 HD) ในการสื่อสารความรู้ด้านวัคซีนสู่สาธารณชนด้วยดีเสมอมา โดยมีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ให้การต้อนรับ ต่อมามีการปิดคอมเม้นต์ไปในที่สุด
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • NVIDIA ได้เผยโฉมต้นแบบของการ์ดกราฟิก RTX 5090 Founders Edition (FE) ที่มีขนาดใหญ่ถึงสี่สล็อตในวิดีโอใหม่ ในวิดีโอนี้ ทีมงานของ NVIDIA ได้แสดงให้เห็นถึงการออกแบบการ์ดกราฟิกที่มีการระบายความร้อนแบบ "three-thirds flow-through" ซึ่งมีพัดลมสามตัวติดตั้งในลักษณะขั้นบันได

    การ์ดกราฟิกต้นแบบนี้มีขนาดใหญ่และหนามากจนต้องติดตั้งในแนวตั้ง ซึ่งทำให้การระบายความร้อนสามารถทำได้ทั่วทั้งฮีตซิงค์ อย่างไรก็ตาม NVIDIA ตัดสินใจไม่ปล่อยการ์ดกราฟิกนี้ออกสู่ตลาด เนื่องจากขนาดที่ใหญ่เกินไปและไม่เหมาะสมกับเคสคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่

    NVIDIA ได้นำบทเรียนจากการออกแบบนี้มาใช้ในการพัฒนาการ์ดกราฟิก RTX 50-series โดยใช้การออกแบบ "two-thirds flow-through" ที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีขึ้นและขนาดที่เล็กลงเพียงสองสล็อต นอกจากนี้ NVIDIA ยังได้พัฒนาสายริบบิ้นที่มีเส้นใยแก้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อพอร์ต DisplayPort 2.1b และ HDMI 2.1b

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-shows-off-gigantic-quad-slot-rtx-5090-fe-cooler-prototype-in-new-video
    NVIDIA ได้เผยโฉมต้นแบบของการ์ดกราฟิก RTX 5090 Founders Edition (FE) ที่มีขนาดใหญ่ถึงสี่สล็อตในวิดีโอใหม่ ในวิดีโอนี้ ทีมงานของ NVIDIA ได้แสดงให้เห็นถึงการออกแบบการ์ดกราฟิกที่มีการระบายความร้อนแบบ "three-thirds flow-through" ซึ่งมีพัดลมสามตัวติดตั้งในลักษณะขั้นบันได การ์ดกราฟิกต้นแบบนี้มีขนาดใหญ่และหนามากจนต้องติดตั้งในแนวตั้ง ซึ่งทำให้การระบายความร้อนสามารถทำได้ทั่วทั้งฮีตซิงค์ อย่างไรก็ตาม NVIDIA ตัดสินใจไม่ปล่อยการ์ดกราฟิกนี้ออกสู่ตลาด เนื่องจากขนาดที่ใหญ่เกินไปและไม่เหมาะสมกับเคสคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ NVIDIA ได้นำบทเรียนจากการออกแบบนี้มาใช้ในการพัฒนาการ์ดกราฟิก RTX 50-series โดยใช้การออกแบบ "two-thirds flow-through" ที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีขึ้นและขนาดที่เล็กลงเพียงสองสล็อต นอกจากนี้ NVIDIA ยังได้พัฒนาสายริบบิ้นที่มีเส้นใยแก้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อพอร์ต DisplayPort 2.1b และ HDMI 2.1b https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-shows-off-gigantic-quad-slot-rtx-5090-fe-cooler-prototype-in-new-video
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia shows off gigantic quad-slot RTX 5090 FE cooler prototype in new video
    Don't worry, the actual RTX 5090 FE has been slimmed down to a manageable dual-slot design.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการเปิดตัวการ์ดหน่วยความจำ T-CREATE EXPERT SDXC UHS-II U3 V90 ขนาด 2TB ของ Team Group ซึ่งเป็นการ์ดหน่วยความจำที่มีความจุสูงที่สุดในตลาดตอนนี้

    การ์ดหน่วยความจำนี้ออกแบบมาเพื่อช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอมืออาชีพ มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 300 MB/s และ 260 MB/s ตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน V90 ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K, 4K Ultra-HD, 3D และไฟล์ RAW ได้อย่างราบรื่น

    การ์ดหน่วยความจำนี้มีความทนทานสูง ได้รับการทดสอบความทนทานต่อฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP67 และยังทนต่อการกระแทก การสั่นสะเทือน รังสีเอกซ์ และอุณหภูมิที่รุนแรง นอกจากนี้ยังมีบริการกู้คืนข้อมูลในช่วงระยะเวลาการรับประกัน เพื่อให้ผู้สร้างสรรค์งานมีความมั่นใจในการใช้งาน

    ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้กับกล้องดิจิตอลระดับภาพยนตร์ Canon EOS C400 การ์ดขนาด 2TB นี้สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ 6K, 59.94P ได้นานถึงสองชั่วโมงแปดนาที การ์ดหน่วยความจำนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ เช่น กล้องดิจิตอลระดับภาพยนตร์ กล้องฟูลเฟรม กล้องมิเรอร์เลส และกล้อง DSLR

    https://www.techpowerup.com/331422/team-group-launches-2tb-t-create-expert-sdxc-uhs-ii-u3-v90-memory-card
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการเปิดตัวการ์ดหน่วยความจำ T-CREATE EXPERT SDXC UHS-II U3 V90 ขนาด 2TB ของ Team Group ซึ่งเป็นการ์ดหน่วยความจำที่มีความจุสูงที่สุดในตลาดตอนนี้ การ์ดหน่วยความจำนี้ออกแบบมาเพื่อช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอมืออาชีพ มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 300 MB/s และ 260 MB/s ตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน V90 ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K, 4K Ultra-HD, 3D และไฟล์ RAW ได้อย่างราบรื่น การ์ดหน่วยความจำนี้มีความทนทานสูง ได้รับการทดสอบความทนทานต่อฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP67 และยังทนต่อการกระแทก การสั่นสะเทือน รังสีเอกซ์ และอุณหภูมิที่รุนแรง นอกจากนี้ยังมีบริการกู้คืนข้อมูลในช่วงระยะเวลาการรับประกัน เพื่อให้ผู้สร้างสรรค์งานมีความมั่นใจในการใช้งาน ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้กับกล้องดิจิตอลระดับภาพยนตร์ Canon EOS C400 การ์ดขนาด 2TB นี้สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ 6K, 59.94P ได้นานถึงสองชั่วโมงแปดนาที การ์ดหน่วยความจำนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ เช่น กล้องดิจิตอลระดับภาพยนตร์ กล้องฟูลเฟรม กล้องมิเรอร์เลส และกล้อง DSLR https://www.techpowerup.com/331422/team-group-launches-2tb-t-create-expert-sdxc-uhs-ii-u3-v90-memory-card
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Team Group Launches 2TB T-Create Expert SDXC UHS-II U3 V90 Memory Card
    Team Group Inc., a global leader in memory solutions, has unveiled the 2 TB T-CREATE EXPERT SDXC UHS-II U3 V90 Memory Card, establishing a new benchmark as the industry's first to offer this capacity level. Designed for professional photographers and videographers, this memory card features robust p...
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • โน้ตบุ๊กใหม่ของ Fujitsu ที่ชื่อว่า "FMV Note U" ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กที่เบาที่สุดในตลาดตอนนี้ น้ำหนักเพียง 1.87 ปอนด์ (ประมาณ 848 กรัม) ซึ่งเบากว่าโน้ตบุ๊ก Zenbook A14 ของ Asus ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้

    โน้ตบุ๊ก FMV Note U มีหน้าจอ LCD ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล และมาพร้อมกับซีพียู Intel Ultra 7 (Core Ultra 7 256V หรือ Core Ultra 7 258V) และแรมสูงสุด 32GB นอกจากนี้ยังมีการ์ดจอ Intel Arc Graphics 140V และหน่วยประมวลผล AI ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 47 TOPS

    สำหรับการเชื่อมต่อ โน้ตบุ๊กนี้มี Wi-Fi 7 และพอร์ตเชื่อมต่อหลายประเภท เช่น USB Type-C (รองรับ Thunderbolt 4), Ethernet, HDMI out, และ USB 3.2 Gen1 นอกจากนี้ยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ทำงานร่วมกับ Windows Hello เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์

    แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมงเมื่ออยู่ในสถานะ idle หรือประมาณ 15.5 ชั่วโมงเมื่อเล่นวิดีโอ และสามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

    โน้ตบุ๊ก FMV Note U มีจำหน่ายในญี่ปุ่นในราคาเริ่มต้นที่ 214,000 เยน (ประมาณ 1,366 ดอลลาร์สหรัฐ) และมีสีเดียวคือสีดำ

    https://www.techspot.com/news/106456-187-pounds-fujitsu-fmv-note-u-world-lightest.html
    โน้ตบุ๊กใหม่ของ Fujitsu ที่ชื่อว่า "FMV Note U" ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กที่เบาที่สุดในตลาดตอนนี้ น้ำหนักเพียง 1.87 ปอนด์ (ประมาณ 848 กรัม) ซึ่งเบากว่าโน้ตบุ๊ก Zenbook A14 ของ Asus ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ โน้ตบุ๊ก FMV Note U มีหน้าจอ LCD ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล และมาพร้อมกับซีพียู Intel Ultra 7 (Core Ultra 7 256V หรือ Core Ultra 7 258V) และแรมสูงสุด 32GB นอกจากนี้ยังมีการ์ดจอ Intel Arc Graphics 140V และหน่วยประมวลผล AI ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 47 TOPS สำหรับการเชื่อมต่อ โน้ตบุ๊กนี้มี Wi-Fi 7 และพอร์ตเชื่อมต่อหลายประเภท เช่น USB Type-C (รองรับ Thunderbolt 4), Ethernet, HDMI out, และ USB 3.2 Gen1 นอกจากนี้ยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ทำงานร่วมกับ Windows Hello เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมงเมื่ออยู่ในสถานะ idle หรือประมาณ 15.5 ชั่วโมงเมื่อเล่นวิดีโอ และสามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง โน้ตบุ๊ก FMV Note U มีจำหน่ายในญี่ปุ่นในราคาเริ่มต้นที่ 214,000 เยน (ประมาณ 1,366 ดอลลาร์สหรัฐ) และมีสีเดียวคือสีดำ https://www.techspot.com/news/106456-187-pounds-fujitsu-fmv-note-u-world-lightest.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    At 1.87 pounds, Fujitsu's FMV Note U breaks records as the lightest laptop on the market
    At CES 2025, Asus shared that its new Zenbook A14 with Ceraluminum chassis weighted under 980 grams (2.16 pounds). Ceraluminum is a combination of ceramic and aluminum,...
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ZDNET สรุปมาให้แล้วว่ามีอะไรในงาน Samsung Unpacked 2025 บ้าง

    =Galaxy S25 Series=
    ในซีรีส์ Galaxy S25 นี้ มีการออกแบบที่บางและเบากว่าเดิม พร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเล่นเกมได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์กล้องให้สามารถบันทึกวิดีโอ HDR 10-bit และมีฟีเจอร์ Galaxy Virtual Aperture ที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีความลึกและรายละเอียดมากขึ้น

    =Galaxy S25 Ultra=
    สำหรับรุ่น Galaxy S25 Ultra มีการออกแบบที่มีขอบโค้งมนและบางเบากว่าเดิม พร้อมกับกล้อง ultrawide 50MP ที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงความทนทานด้วย Corning Gorilla Armor 2 ที่ช่วยป้องกันการตกและรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น

    =ฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ=
    ฟีเจอร์ AI ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติที่สุด เช่น AI Select ที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกและดำเนินการต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายขึ้น และ Now Brief ที่สามารถคาดการณ์ความต้องการของคุณและแนะนำสิ่งที่คุณอาจต้องการได้

    =Galaxy S25 Edge=
    นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Galaxy S25 Edge ที่มีความบางมากและมีกล้องเพียงสองตัว คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ และราคาน่าจะต่ำกว่า Galaxy S25 Ultra

    =แว่นตา Mixed Reality=
    สุดท้าย Samsung ยังได้โชว์แว่นตา Mixed Reality ที่มีการออกแบบคล้ายกับ Apple Vision Pro และใช้ระบบปฏิบัติการ Android XR แม้จะยังไม่มีการกำหนดเวลาวางจำหน่าย แต่การที่มีการโชว์ในงานนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี

    https://www.zdnet.com/article/samsung-unpacked-2025-everything-announced-galaxy-s25-edge-ultra-ai-more/
    ZDNET สรุปมาให้แล้วว่ามีอะไรในงาน Samsung Unpacked 2025 บ้าง =Galaxy S25 Series= ในซีรีส์ Galaxy S25 นี้ มีการออกแบบที่บางและเบากว่าเดิม พร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเล่นเกมได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์กล้องให้สามารถบันทึกวิดีโอ HDR 10-bit และมีฟีเจอร์ Galaxy Virtual Aperture ที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีความลึกและรายละเอียดมากขึ้น =Galaxy S25 Ultra= สำหรับรุ่น Galaxy S25 Ultra มีการออกแบบที่มีขอบโค้งมนและบางเบากว่าเดิม พร้อมกับกล้อง ultrawide 50MP ที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงความทนทานด้วย Corning Gorilla Armor 2 ที่ช่วยป้องกันการตกและรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น =ฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ= ฟีเจอร์ AI ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติที่สุด เช่น AI Select ที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกและดำเนินการต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายขึ้น และ Now Brief ที่สามารถคาดการณ์ความต้องการของคุณและแนะนำสิ่งที่คุณอาจต้องการได้ =Galaxy S25 Edge= นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Galaxy S25 Edge ที่มีความบางมากและมีกล้องเพียงสองตัว คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ และราคาน่าจะต่ำกว่า Galaxy S25 Ultra =แว่นตา Mixed Reality= สุดท้าย Samsung ยังได้โชว์แว่นตา Mixed Reality ที่มีการออกแบบคล้ายกับ Apple Vision Pro และใช้ระบบปฏิบัติการ Android XR แม้จะยังไม่มีการกำหนดเวลาวางจำหน่าย แต่การที่มีการโชว์ในงานนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี https://www.zdnet.com/article/samsung-unpacked-2025-everything-announced-galaxy-s25-edge-ultra-ai-more/
    WWW.ZDNET.COM
    Samsung Unpacked 2025: Everything announced, Galaxy S25 Edge, Ultra, AI, more
    Today's launch event saw the unveiling of the Galaxy S25 series, new Galaxy AI features, and a fresh One UI 7 upgrade. Oh, and the S25 Edge made a surprise appearance.
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • Seagate เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ Exos M ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งมีความจุสูงสุดถึง 36TB ฮาร์ดไดรฟ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องการความจุสูง นอกจากนี้ Seagate ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Mozaic 3+ ที่รองรับฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงนี้ด้วย

    ฮาร์ดไดรฟ์ Exos M ใช้แผ่นดิสก์ขนาด 3.6TB จำนวน 10 แผ่น ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มความจุได้มากขึ้น นอกจากนี้ Seagate ยังได้ทดสอบแผ่นดิสก์ขนาด 6TB ซึ่งอาจทำให้ฮาร์ดไดรฟ์ในอนาคตมีความจุถึง 60TB ได้

    การพัฒนาฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคที่มีการขยายตัวของคลาวด์และการนำ AI มาใช้ในการทำงาน. การจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและความจุสูงเป็นสิ่งสำคัญในการรองรับการทำงานของ AI และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-unveils-36tb-hamr-hard-drive-mozaic-3-extended
    Seagate เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ Exos M ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งมีความจุสูงสุดถึง 36TB ฮาร์ดไดรฟ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องการความจุสูง นอกจากนี้ Seagate ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Mozaic 3+ ที่รองรับฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงนี้ด้วย ฮาร์ดไดรฟ์ Exos M ใช้แผ่นดิสก์ขนาด 3.6TB จำนวน 10 แผ่น ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มความจุได้มากขึ้น นอกจากนี้ Seagate ยังได้ทดสอบแผ่นดิสก์ขนาด 6TB ซึ่งอาจทำให้ฮาร์ดไดรฟ์ในอนาคตมีความจุถึง 60TB ได้ การพัฒนาฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคที่มีการขยายตัวของคลาวด์และการนำ AI มาใช้ในการทำงาน. การจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและความจุสูงเป็นสิ่งสำคัญในการรองรับการทำงานของ AI และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-unveils-36tb-hamr-hard-drive-mozaic-3-extended
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • วันแรกก็เอาจริงเลย ข่าวอันเป็นนิมิตหมายดี ตั้งแต่มี โคขิต

    ใครที่เอะอะก็เชื่อ องค์การอนามัยโลก WHO (ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มคนสามานย์) ถึงเวลาออกจากกะลาครับ
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี)
    การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก
    การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง
    นสพ. แนวหน้า 21/1/2568
    https://www.naewna.com/inter/854734
    การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก
    ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้:
    มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์
    มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน
    (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน
    (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ
    (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ:
    (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต
    (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ
    (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว
    (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด
    มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที
    มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา
    มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้:
    (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ
    (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย
    (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่
    (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด
    https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../
    ทำเนียบขาว,
    20 มกราคม 2025

    https://www.facebook.com/share/p/1DTaBnErqv/
    วันแรกก็เอาจริงเลย ข่าวอันเป็นนิมิตหมายดี ตั้งแต่มี โคขิต ใครที่เอะอะก็เชื่อ องค์การอนามัยโลก WHO (ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มคนสามานย์) ถึงเวลาออกจากกะลาครับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี) การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง นสพ. แนวหน้า 21/1/2568 https://www.naewna.com/inter/854734 การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้: มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ: (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้: (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../ ทำเนียบขาว, 20 มกราคม 2025 https://www.facebook.com/share/p/1DTaBnErqv/
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี)
    การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก
    การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง
    นสพ. แนวหน้า 21/1/2568
    https://www.naewna.com/inter/854734
    การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก
    ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้:
    มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์
    มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน
    (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน
    (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ
    (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ:
    (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต
    (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ
    (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว
    (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด
    มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที
    มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา
    มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้:
    (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ
    (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย
    (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่
    (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด
    https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../
    ทำเนียบขาว,
    20 มกราคม 2025
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี) การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง นสพ. แนวหน้า 21/1/2568 https://www.naewna.com/inter/854734 การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้: มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ: (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้: (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../ ทำเนียบขาว, 20 มกราคม 2025
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • #หลอดเลือดหัวใจตีบ

    ในความเป็นจริงมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมายและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานจากจีน

    การศึกษาวิจัยเชื่อมโยงกรดไหลย้อน(GERD)กับปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ(Coronary artery disease)

    การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Translational Internal Medicine ( https://doi.org/10.1515/jtim-2024-0017 ) เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบที่กว้างขึ้นของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยใช้แนวทางการสุ่มแบบเมนเดเลียน (MR) แบบสองทิศทางที่เข้มงวด การวิจัยนี้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า GERD ซึ่งเป็นภาวะที่โดยทั่วไปถือว่าเป็นโรคของระบบย่อยอาหารซึ่งมีลักษณะคือกรดไหลย้อนและอาการเสียดท้อง อาจส่งผลต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิต โปรไฟล์ไขมัน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

    ผลการศึกษาที่ก้าวล้ำครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบของกรดไหลย้อนอาจขยายออกไปนอกระบบย่อยอาหาร และอาจมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ "การวิจัยของเราเน้นย้ำว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้มีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของกรดไหลย้อน" Qiang Wu จากแผนกอาวุโสด้านโรคหัวใจที่ศูนย์การแพทย์ที่ 6 ของโรงพยาบาล PLA General Hospital ของจีนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าว

    การใช้การสุ่มแบบเมนเดเลียนสองทิศทางให้ข้อได้เปรียบเหนือการศึกษาแบบเดิมในการควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดความสับสนและจัดการกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุย้อนกลับ แนวทางนี้ซึ่งใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อทำการอนุมานเชิงสาเหตุนั้นให้พื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการทำความเข้าใจว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ทางหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างไร ตัวแปรทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อนถูกใช้เป็นตัวแปรเครื่องมือ ทำให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบบทบาทเชิงสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นของกรดไหลย้อนในภาวะหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ตามที่ Qiang Su จากแผนกโรคหัวใจที่โรงพยาบาล Jiangbin ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกล่าว การศึกษานี้ใช้แนวทาง MR สองตัวอย่าง โดยดึงข้อมูลจากการศึกษาความสัมพันธ์ทั่วทั้งจีโนม (GWAS) ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 600,000 คน รวมถึงผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่ได้รับการวินิจฉัย 129,000 ราย ในขณะที่ข้อมูลหลอดเลือดและหัวใจได้มาจากกลุ่มตัวอย่างในยุโรปที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200,000 คน นักวิจัยเน้นที่ตัวชี้วัดความดันโลหิตที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ความดันชีพจร (PP) และความดันโลหิตแดงเฉลี่ย (MAP)

    การศึกษานี้ใช้เทคนิค MR ขั้นสูงหลายวิธี รวมถึงการวิเคราะห์ Inverse Variance Weighted (IVW) การถดถอย MR Egger และแนวทาง Weighted Median วิธีการเหล่านี้ควบคุมผลกระทบแบบ pleiotropic ซึ่งยีนหนึ่งมีผลต่อลักษณะหลายอย่าง จึงทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แนวทางที่เข้มงวดนี้ทำให้ผู้วิจัยสรุปได้ว่า GERD อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด

    ผลการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งคือ GERD มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับความดันโลหิตสูง นักวิจัยพบว่า GERD ที่คาดการณ์ไว้ทางพันธุกรรมมีความเชื่อมโยงกับความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.053, P = 0.036) และความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.100, P < 0.001) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GERD อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

    จากการศึกษาพบว่ากรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับระดับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ที่เพิ่มขึ้น (β = 0.093, P < 0.001) และไตรกลีเซอไรด์ (β = 0.153, P < 0.001) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน กรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) (β = -0.115, P = 0.002) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นคอเลสเตอรอล "ดี" ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

    นอกจากนี้ งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ากรดไหลย้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (หัวใจวาย) และความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราส่วนความน่าจะเป็นของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอยู่ที่ 1.272 (95% CI: 1.040 ถึง 1.557, P = 0.019) และสำหรับความดันโลหิตสูงอยู่ที่ 1.357 (95% CI: 1.222 ถึง 1.507, P < 0.001) อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างกรดไหลย้อนและภาวะหัวใจล้มเหลว

    ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ากรดไหลย้อนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ การศึกษาของเราได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวินิจฉัย แต่เนิ่นๆ และกลยุทธ์การป้องกันสำหรับโรคกรดไหลย้อนและโรคหลอดเลือดหัวใจ

    Cr. Santi Manadee
    #หลอดเลือดหัวใจตีบ ในความเป็นจริงมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมายและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานจากจีน การศึกษาวิจัยเชื่อมโยงกรดไหลย้อน(GERD)กับปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ(Coronary artery disease) การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Translational Internal Medicine ( https://doi.org/10.1515/jtim-2024-0017 ) เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบที่กว้างขึ้นของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยใช้แนวทางการสุ่มแบบเมนเดเลียน (MR) แบบสองทิศทางที่เข้มงวด การวิจัยนี้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า GERD ซึ่งเป็นภาวะที่โดยทั่วไปถือว่าเป็นโรคของระบบย่อยอาหารซึ่งมีลักษณะคือกรดไหลย้อนและอาการเสียดท้อง อาจส่งผลต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิต โปรไฟล์ไขมัน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ผลการศึกษาที่ก้าวล้ำครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบของกรดไหลย้อนอาจขยายออกไปนอกระบบย่อยอาหาร และอาจมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ "การวิจัยของเราเน้นย้ำว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้มีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของกรดไหลย้อน" Qiang Wu จากแผนกอาวุโสด้านโรคหัวใจที่ศูนย์การแพทย์ที่ 6 ของโรงพยาบาล PLA General Hospital ของจีนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าว การใช้การสุ่มแบบเมนเดเลียนสองทิศทางให้ข้อได้เปรียบเหนือการศึกษาแบบเดิมในการควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดความสับสนและจัดการกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุย้อนกลับ แนวทางนี้ซึ่งใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อทำการอนุมานเชิงสาเหตุนั้นให้พื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการทำความเข้าใจว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ทางหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างไร ตัวแปรทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อนถูกใช้เป็นตัวแปรเครื่องมือ ทำให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบบทบาทเชิงสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นของกรดไหลย้อนในภาวะหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ตามที่ Qiang Su จากแผนกโรคหัวใจที่โรงพยาบาล Jiangbin ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกล่าว การศึกษานี้ใช้แนวทาง MR สองตัวอย่าง โดยดึงข้อมูลจากการศึกษาความสัมพันธ์ทั่วทั้งจีโนม (GWAS) ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 600,000 คน รวมถึงผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่ได้รับการวินิจฉัย 129,000 ราย ในขณะที่ข้อมูลหลอดเลือดและหัวใจได้มาจากกลุ่มตัวอย่างในยุโรปที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200,000 คน นักวิจัยเน้นที่ตัวชี้วัดความดันโลหิตที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ความดันชีพจร (PP) และความดันโลหิตแดงเฉลี่ย (MAP) การศึกษานี้ใช้เทคนิค MR ขั้นสูงหลายวิธี รวมถึงการวิเคราะห์ Inverse Variance Weighted (IVW) การถดถอย MR Egger และแนวทาง Weighted Median วิธีการเหล่านี้ควบคุมผลกระทบแบบ pleiotropic ซึ่งยีนหนึ่งมีผลต่อลักษณะหลายอย่าง จึงทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แนวทางที่เข้มงวดนี้ทำให้ผู้วิจัยสรุปได้ว่า GERD อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด ผลการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งคือ GERD มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับความดันโลหิตสูง นักวิจัยพบว่า GERD ที่คาดการณ์ไว้ทางพันธุกรรมมีความเชื่อมโยงกับความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.053, P = 0.036) และความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.100, P < 0.001) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GERD อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง จากการศึกษาพบว่ากรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับระดับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ที่เพิ่มขึ้น (β = 0.093, P < 0.001) และไตรกลีเซอไรด์ (β = 0.153, P < 0.001) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน กรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) (β = -0.115, P = 0.002) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นคอเลสเตอรอล "ดี" ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้ งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ากรดไหลย้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (หัวใจวาย) และความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราส่วนความน่าจะเป็นของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอยู่ที่ 1.272 (95% CI: 1.040 ถึง 1.557, P = 0.019) และสำหรับความดันโลหิตสูงอยู่ที่ 1.357 (95% CI: 1.222 ถึง 1.507, P < 0.001) อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างกรดไหลย้อนและภาวะหัวใจล้มเหลว ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ากรดไหลย้อนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ การศึกษาของเราได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวินิจฉัย แต่เนิ่นๆ และกลยุทธ์การป้องกันสำหรับโรคกรดไหลย้อนและโรคหลอดเลือดหัวใจ Cr. Santi Manadee
    DOI.ORG
    Gastroesophageal reflux disease influences blood pressure components, lipid profile and cardiovascular diseases: Evidence from a Mendelian randomization study
    Background Gastroesophageal reflux disease (GERD) is a prevalent gastrointestinal disorder associated with a range of cardiovascular and metabolic complications. However, the relationship between GERD and blood pressure components, lipid profile, and cardiovascular diseases remains unclear. Methods Leveraging genetic variants associated with GERD as instrumental variables, we performed this Mendelian randomization (MR) analyses. Blood pressure components, lipid profile parameters, as well as cardiovascular diseases were considered as outcomes. Furthermore, we conducted reverse MR analysis to explore the association of these factors with the risk of GERD. Results Our MR analysis discovered a potential causal influence of GERD on blood pressure components, with genetically predicted GERD positively associated with systolic blood pressure (β = 0.053, P = 0.036), diastolic blood pressure (β = 0.100, P < 0.001), and mean arterial pressure (β = 0.106, P < 0.001). Additionally, genetically predicted GERD showed a significant impact on lipid profile, leading to increased genetically predicted levels of low-density lipoprotein (LDL) cholesterol (β = 0.093, P < 0.001), and triglycerides (β = 0.153, P < 0.001), while having a negative effect on high-density lipoprotein (HDL) cholesterol (β = -0.115, P = 0.002). Furthermore, our study indicated a noteworthy causal association between genetically predicted GERD and increased risk of myocardial infarction [odds ratio (OR) = 1.272, P = 0.019)] and hypertension (OR = 1.357, P < 0.001). No significant association was found between GERD and pulse pressure, total cholesterol, heart failure, and atrial fibrillation ( P > 0.05). Reverse MR analysis indicates that blood pressure components, lipid profile, and cardiovascular diseases do not lead to an increased risk of GERD (all P > 0.05). Furthermore, mediation MR analysis reveals that LDL cholesterol (proportion mediated: 19.99%, 95% CI: 4.49% to 35.50%), HDL cholesterol (proportion mediated: 11.71%, 95% CI: 5.23% to 18.19%), and hypertension (proportion mediated: 35.09%, 95% CI: 24.66% to 45.53%) mediated the effect of GERD on myocardial infarction, while other factors did not participate in this pathway. Conclusions This MR study provides evidence supporting a causal relationship between GERD and alterations in blood pressure components, lipid profile, and increased risk of cardiovascular diseases.
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/LwrMoktE-jY?si=3YFUW1uLH_yjhD5D
    https://youtu.be/LwrMoktE-jY?si=3YFUW1uLH_yjhD5D
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • 2025.01.18 สุขสันต์วันเกิด เจย์ โจว
    Happy Birthday Jay Chou 周杰倫 Jay Chou 祝杰倫哥生日快樂 ,身體健康,萬事如意!

    我們愛你 ❤🎂🇹🇭🎂🎁🥳
    พวกเรารักโจวเจี๋ยหลุน
    .
    .
    #jaychou #周杰伦 #周杰倫
    #เจย์โจว #โจวเจี๋ยหลุน
    #jaychouthailand
    2025.01.18 สุขสันต์วันเกิด เจย์ โจว Happy Birthday Jay Chou 周杰倫 Jay Chou 祝杰倫哥生日快樂 ,身體健康,萬事如意! 我們愛你 ❤🎂🇹🇭🎂🎁🥳 พวกเรารักโจวเจี๋ยหลุน . . #jaychou #周杰伦 #周杰倫 #เจย์โจว #โจวเจี๋ยหลุน #jaychouthailand
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • เครื่องบดกาแฟวินเทจ เครื่องบดสมุนไพร บดเมล็ดถั่ว ที่บดเม็ดกาแฟ เครื่องบดกาแฟ แบบมือหมุน เครื่องบดเมล็ดกาแฟพิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/4pz5VfAjwc LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.sKSLI TikTok:https://vt.tiktok.com/ZSjKYMnHd/.
    เครื่องบดกาแฟวินเทจ เครื่องบดสมุนไพร บดเมล็ดถั่ว ที่บดเม็ดกาแฟ เครื่องบดกาแฟ แบบมือหมุน เครื่องบดเมล็ดกาแฟพิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/4pz5VfAjwc LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.sKSLI TikTok:https://vt.tiktok.com/ZSjKYMnHd/.
    1 Comments 0 Shares 215 Views 1 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/BXYWEmhdOus?si=gDURgCsHortukyqS
    https://youtube.com/shorts/BXYWEmhdOus?si=gDURgCsHortukyqS
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/ChdInWQwkRg?si=U5OyM8mqOD95vJz0
    https://youtube.com/shorts/ChdInWQwkRg?si=U5OyM8mqOD95vJz0
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน UEFI Secure Boot ที่สามารถถูกใช้ในการติดตั้ง Bootkits แม้ว่าจะเปิดใช้งานการป้องกัน Secure Boot อยู่ก็ตาม ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-7344 และมีผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ได้รับการรับรองโดย Microsoft

    ปัญหานี้เกิดจากการที่แอปพลิเคชันใช้ตัวโหลด PE แบบกำหนดเอง ซึ่งอนุญาตให้โหลดไบนารี UEFI ใด ๆ ก็ได้ แม้ว่าจะไม่ได้รับการรับรองก็ตาม โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่มีช่องโหว่นี้ไม่ใช้บริการที่เชื่อถือได้เช่น 'LoadImage' และ 'StartImage' ที่ตรวจสอบไบนารีกับฐานข้อมูลความเชื่อถือ (db) และฐานข้อมูลการเพิกถอน (dbx)

    ช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อแอปพลิเคชัน UEFI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการกู้คืนระบบ การบำรุงรักษาดิสก์ หรือการสำรองข้อมูล และไม่ได้เป็นแอปพลิเคชัน UEFI ทั่วไป ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ Howyar SysReturn, Greenware GreenGuard, Radix SmartRecovery, Sanfong EZ-back System, WASAY eRecoveryRX, CES NeoImpact และ SignalComputer HDD King

    Microsoft ได้ออกแพตช์สำหรับ CVE-2024-7344 และเพิกถอนใบรับรองของแอปพลิเคชัน UEFI ที่มีช่องโหว่ในวันที่ 14 มกราคม 2025 การแก้ไขนี้จะถูกนำไปใช้โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้งการอัปเดต Windows ล่าสุด

    การค้นพบนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้ตรวจสอบและอัปเดตระบบของตนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-uefi-secure-boot-flaw-exposes-systems-to-bootkits-patch-now/
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน UEFI Secure Boot ที่สามารถถูกใช้ในการติดตั้ง Bootkits แม้ว่าจะเปิดใช้งานการป้องกัน Secure Boot อยู่ก็ตาม ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-7344 และมีผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ได้รับการรับรองโดย Microsoft ปัญหานี้เกิดจากการที่แอปพลิเคชันใช้ตัวโหลด PE แบบกำหนดเอง ซึ่งอนุญาตให้โหลดไบนารี UEFI ใด ๆ ก็ได้ แม้ว่าจะไม่ได้รับการรับรองก็ตาม โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่มีช่องโหว่นี้ไม่ใช้บริการที่เชื่อถือได้เช่น 'LoadImage' และ 'StartImage' ที่ตรวจสอบไบนารีกับฐานข้อมูลความเชื่อถือ (db) และฐานข้อมูลการเพิกถอน (dbx) ช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อแอปพลิเคชัน UEFI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการกู้คืนระบบ การบำรุงรักษาดิสก์ หรือการสำรองข้อมูล และไม่ได้เป็นแอปพลิเคชัน UEFI ทั่วไป ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ Howyar SysReturn, Greenware GreenGuard, Radix SmartRecovery, Sanfong EZ-back System, WASAY eRecoveryRX, CES NeoImpact และ SignalComputer HDD King Microsoft ได้ออกแพตช์สำหรับ CVE-2024-7344 และเพิกถอนใบรับรองของแอปพลิเคชัน UEFI ที่มีช่องโหว่ในวันที่ 14 มกราคม 2025 การแก้ไขนี้จะถูกนำไปใช้โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้งการอัปเดต Windows ล่าสุด การค้นพบนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้ตรวจสอบและอัปเดตระบบของตนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-uefi-secure-boot-flaw-exposes-systems-to-bootkits-patch-now/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    New UEFI Secure Boot flaw exposes systems to bootkits, patch now
    A new UEFI Secure Boot bypass vulnerability tracked as CVE-2024-7344 that affects a Microsoft-signed application could be exploited to deploy bootkits even if Secure Boot protection is active.
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/N69kjHdWTzw?si=I2DJZdiiPdOcIu61
    https://youtu.be/N69kjHdWTzw?si=I2DJZdiiPdOcIu61
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • การไล่ล่า ยังคงมีต่อเนื่อง
    คนที่ตื่นรู้จากบทเรียนวัคซีนโควิด ก็จะเข้าใจถึงอันตรายของวัคซีนชนิดอื่นด้วย หนึ่งในนั้นคือ วัคซีน HPV
    ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ มิใช่การมโน จับแพะชนแกะ หรือทฤษฎีสมคบคิด
    เปิดใจศึกษาข้อมูลครับ
    👉 https://www.facebook.com/share/p/14Hd4BwjEu/
    👉 https://www.facebook.com/watch/?ref=saved&v=961500339163260
    👉 https://www.facebook.com/share/p/15tTHUMC73/
    การไล่ล่า ยังคงมีต่อเนื่อง คนที่ตื่นรู้จากบทเรียนวัคซีนโควิด ก็จะเข้าใจถึงอันตรายของวัคซีนชนิดอื่นด้วย หนึ่งในนั้นคือ วัคซีน HPV ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ มิใช่การมโน จับแพะชนแกะ หรือทฤษฎีสมคบคิด เปิดใจศึกษาข้อมูลครับ 👉 https://www.facebook.com/share/p/14Hd4BwjEu/ 👉 https://www.facebook.com/watch/?ref=saved&v=961500339163260 👉 https://www.facebook.com/share/p/15tTHUMC73/
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • การติดเชื้อโควิดไม่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดอาการร้ายแรงกว่ามาก

    นพ ดร ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ
    Dr Judd Chontavats

    มีบทความบอกว่าการติดเชื้อโควิดทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ การฉีดวัคซีนสามารถป้องกันผลข้างเคียงได้ ดังนั้นจึงสนับสนุนให้ฉีดวัคซีน mRNA

    แต่มีผู้มาแย้งว่าตัววัคซีน mRNA ต่างหากที่เป็นปัญหาใหญ่ โดยการศึกษานี้ให้ข้อมูลว่าอัตราการเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis mortality rate ratio, MMRR) จากกลุ่มที่ฉีดวัคซีนสูงกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับประชากรทั่วไปในช่วง 3 ปีที่มีการระบาดหนักของโควิด พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มผู้ป่วยเด็กมากกว่ากลุ่มที่ติดเชื้อชัดเจนจากข้อมูลประชากรเกิน 1,000,000 คน ทั้ง mRNA และ vaccine-derived spike protein สามารถพบในหัวใจทั้งผู้ป่วยและเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

    สรุปจากการศึกษานี้คือการติดเชื้อโควิดไม่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดอาการร้ายแรงกว่ามาก

    รายละเอียดเพิ่มเติมดูใน reference

    Chontavat Suvanpiyasiri. MD, PhD

    Reference : https://publichealthpolicyjournal.com/letter-to-the-editor-long-term-prognosis-of-patients-with-myocarditis-attributed-to-covid-19-mrna-vaccination-sars-cov-2-infection-or-conventional-etiologies/?utm_source=substack&utm_medium=email
    การติดเชื้อโควิดไม่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดอาการร้ายแรงกว่ามาก นพ ดร ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ Dr Judd Chontavats มีบทความบอกว่าการติดเชื้อโควิดทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ การฉีดวัคซีนสามารถป้องกันผลข้างเคียงได้ ดังนั้นจึงสนับสนุนให้ฉีดวัคซีน mRNA แต่มีผู้มาแย้งว่าตัววัคซีน mRNA ต่างหากที่เป็นปัญหาใหญ่ โดยการศึกษานี้ให้ข้อมูลว่าอัตราการเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis mortality rate ratio, MMRR) จากกลุ่มที่ฉีดวัคซีนสูงกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับประชากรทั่วไปในช่วง 3 ปีที่มีการระบาดหนักของโควิด พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มผู้ป่วยเด็กมากกว่ากลุ่มที่ติดเชื้อชัดเจนจากข้อมูลประชากรเกิน 1,000,000 คน ทั้ง mRNA และ vaccine-derived spike protein สามารถพบในหัวใจทั้งผู้ป่วยและเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สรุปจากการศึกษานี้คือการติดเชื้อโควิดไม่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดอาการร้ายแรงกว่ามาก รายละเอียดเพิ่มเติมดูใน reference Chontavat Suvanpiyasiri. MD, PhD Reference : https://publichealthpolicyjournal.com/letter-to-the-editor-long-term-prognosis-of-patients-with-myocarditis-attributed-to-covid-19-mrna-vaccination-sars-cov-2-infection-or-conventional-etiologies/?utm_source=substack&utm_medium=email
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
More Results