• Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่

    ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI
    - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย
    - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า

    ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์
    - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที
    - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ
    - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป

    ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง
    - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด
    - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง

    https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่ ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google demos Android XR smart glasses with Gemini AI, visual memory, and multilingual capabilities
    Until now, Google's Android XR glasses had only appeared in carefully curated teaser videos and limited hands-on previews shared with select publications. These early glimpses hinted at...
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการวินิจฉัยโรคของ AI กับแพทย์ โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 18,371 งานวิจัย และคัดเลือก 83 งานวิจัย เพื่อศึกษารายละเอียด พบว่า AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% ซึ่งใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป แต่ยังคงมีช่องว่างเมื่อเทียบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    ✅ AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1%
    - ผลการศึกษาพบว่า AI มีความแม่นยำใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป
    - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความแม่นยำสูงกว่า AI ประมาณ 15.8%

    ✅ GPT-4 เป็นโมเดลที่ถูกศึกษามากที่สุด
    - นอกจาก GPT-4 ยังมีการศึกษาโมเดลอื่น เช่น Llama3 70B, Gemini 1.5 Pro และ Claude 3 Sonnet

    ✅ AI มีประสิทธิภาพสูงในสาขาโรคผิวหนัง
    - เนื่องจากโรคผิวหนังต้องอาศัยการจดจำรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ AI
    - อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคผิวหนังยังต้องใช้เหตุผลเชิงซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัด

    ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการศึกษาแพทย์
    - สามารถใช้ AI เพื่อจำลองกรณีศึกษาและช่วยฝึกฝนแพทย์ฝึกหัด

    https://www.neowin.net/news/detailed-studycompares-ai-vs-doctors-and-its-closer-than-what-doctors-may-like/
    บทความนี้กล่าวถึงการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการวินิจฉัยโรคของ AI กับแพทย์ โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 18,371 งานวิจัย และคัดเลือก 83 งานวิจัย เพื่อศึกษารายละเอียด พบว่า AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% ซึ่งใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป แต่ยังคงมีช่องว่างเมื่อเทียบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ✅ AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% - ผลการศึกษาพบว่า AI มีความแม่นยำใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความแม่นยำสูงกว่า AI ประมาณ 15.8% ✅ GPT-4 เป็นโมเดลที่ถูกศึกษามากที่สุด - นอกจาก GPT-4 ยังมีการศึกษาโมเดลอื่น เช่น Llama3 70B, Gemini 1.5 Pro และ Claude 3 Sonnet ✅ AI มีประสิทธิภาพสูงในสาขาโรคผิวหนัง - เนื่องจากโรคผิวหนังต้องอาศัยการจดจำรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ AI - อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคผิวหนังยังต้องใช้เหตุผลเชิงซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัด ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการศึกษาแพทย์ - สามารถใช้ AI เพื่อจำลองกรณีศึกษาและช่วยฝึกฝนแพทย์ฝึกหัด https://www.neowin.net/news/detailed-studycompares-ai-vs-doctors-and-its-closer-than-what-doctors-may-like/
    WWW.NEOWIN.NET
    Detailed study compares AI vs doctors and it's closer than what doctors may like
    AI took on doctors in a scientific evaluation and the results are much closer than what doctors may have wanted to see.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ

    How to Use GenAI with OKRs (Without Letting It Think for You)
    Christina Wodtke
    (ฉบับภาษาอังกฤษ https://lnkd.in/grVpexDy)

    บทความ OKR ล่าสุดของอาจารย์คริสตินา วุดท์เคอ หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นบทความเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหลายแง่มุม

    ล่าสุด 18 เม.ย. ก็ได้อ่าน How-to ดีๆ เกี่ยวกับ OKRs และ AI แบบสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ”

    ภาคภาษาไทยของบทความที่ได้รับความช่วยเหลือในการแปลจาก Gemini และปรับแต่งอีกครั้งโดย กลั่นหามาเล่า ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร สำหรับผู้ถนัดอ่านภาษาไทย (อ่านรายละเอียดภาษาไทยfดูรายละเอียดได้ที่โพสต์ https://lnkd.in/g68edHvP และใน Comment ใต้โพสต์)

    หากต้องการดูสาระดีๆ เกี่ยวกับ OKR ได้ที่ WWW.10-XCONSULTING.COM
    วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ How to Use GenAI with OKRs (Without Letting It Think for You) Christina Wodtke (ฉบับภาษาอังกฤษ https://lnkd.in/grVpexDy) บทความ OKR ล่าสุดของอาจารย์คริสตินา วุดท์เคอ หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นบทความเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหลายแง่มุม ล่าสุด 18 เม.ย. ก็ได้อ่าน How-to ดีๆ เกี่ยวกับ OKRs และ AI แบบสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ” ภาคภาษาไทยของบทความที่ได้รับความช่วยเหลือในการแปลจาก Gemini และปรับแต่งอีกครั้งโดย กลั่นหามาเล่า ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร สำหรับผู้ถนัดอ่านภาษาไทย (อ่านรายละเอียดภาษาไทยfดูรายละเอียดได้ที่โพสต์ https://lnkd.in/g68edHvP และใน Comment ใต้โพสต์) หากต้องการดูสาระดีๆ เกี่ยวกับ OKR ได้ที่ WWW.10-XCONSULTING.COM
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • Google ได้ประกาศข้อเสนอพิเศษสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยให้ใช้งาน Google One AI Premium Plan ฟรีจนถึงเดือนมิถุนายน 2026 ซึ่งรวมถึง เครื่องมือ AI Gemini Advanced และพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 2TB โดยข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยนักศึกษาในการเรียนรู้และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

    ✅ Google One AI Premium Plan ฟรีสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ
    - นักศึกษาที่มีอีเมล .edu สามารถสมัครใช้งานได้ฟรีจนถึงเดือนมิถุนายน 2026
    - แผนนี้รวมพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 2TB และเครื่องมือ AI ที่ช่วยในการเรียนรู้

    ✅ Gemini Advanced ช่วยนักศึกษาในการเรียนรู้และสร้างสรรค์
    - เครื่องมือ Deep Research ช่วยสรุปหัวข้อที่ซับซ้อนและแปลงรายงานเป็นเสียงพอดแคสต์
    - NotebookLM Plus ช่วยในการวิจัยและเขียนงาน
    - Veo 2 และ Whisk ช่วยสร้างวิดีโอและเนื้อหาจากข้อความและภาพ

    ✅ Google ตั้งเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้งาน Gemini เป็น 500 ล้านคนภายในปี 2025
    - ข้อเสนอนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มนักศึกษา

    ✅ การแข่งขันในตลาด AI ด้านการศึกษา
    - OpenAI และ Anthropic ก็มีข้อเสนอสำหรับนักศึกษา เช่น ChatGPT Plus และ Claude for Education

    https://www.techspot.com/news/107605-google-offers-free-ai-tools-2tb-storage-eligible.html
    Google ได้ประกาศข้อเสนอพิเศษสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยให้ใช้งาน Google One AI Premium Plan ฟรีจนถึงเดือนมิถุนายน 2026 ซึ่งรวมถึง เครื่องมือ AI Gemini Advanced และพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 2TB โดยข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยนักศึกษาในการเรียนรู้และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว ✅ Google One AI Premium Plan ฟรีสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ - นักศึกษาที่มีอีเมล .edu สามารถสมัครใช้งานได้ฟรีจนถึงเดือนมิถุนายน 2026 - แผนนี้รวมพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 2TB และเครื่องมือ AI ที่ช่วยในการเรียนรู้ ✅ Gemini Advanced ช่วยนักศึกษาในการเรียนรู้และสร้างสรรค์ - เครื่องมือ Deep Research ช่วยสรุปหัวข้อที่ซับซ้อนและแปลงรายงานเป็นเสียงพอดแคสต์ - NotebookLM Plus ช่วยในการวิจัยและเขียนงาน - Veo 2 และ Whisk ช่วยสร้างวิดีโอและเนื้อหาจากข้อความและภาพ ✅ Google ตั้งเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้งาน Gemini เป็น 500 ล้านคนภายในปี 2025 - ข้อเสนอนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มนักศึกษา ✅ การแข่งขันในตลาด AI ด้านการศึกษา - OpenAI และ Anthropic ก็มีข้อเสนอสำหรับนักศึกษา เช่น ChatGPT Plus และ Claude for Education https://www.techspot.com/news/107605-google-offers-free-ai-tools-2tb-storage-eligible.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google offers free Gemini AI tools and 2TB storage to US college students
    Applicants must verify their student status using a valid .edu email address to qualify. Once enrolled, students will receive an email reminder as their complimentary subscription nears...
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า

    ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร
    - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน

    ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย
    - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล

    ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน
    - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม
    - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ
    - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์
    - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร

    https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs no closer to containing shadow AI’s skyrocketing data risks
    A 30-fold increase in company data being exposed to shadow AI shows that offering users official AI tools doesn’t reduce the data leak and compliance risks of unsanctioned AI use.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind

    ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk
    - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind
    - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio)

    ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced
    - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini
    - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้

    ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ
    - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที
    - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers

    ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ
    - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง

    ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด
    - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI

    ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ
    - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์
    - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ
    - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio) ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้ ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์ - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can now generate AI videos in Google Gemini and Whisk
    Google is rolling out new video generation capabilities to the Gemini chatbot and the Labs experiment Whisk.
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • Grok ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ xAI กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ "Personalise with Memories" ซึ่งช่วยให้สามารถจดจำบทสนทนาและอ้างอิงข้อมูลจากการพูดคุยก่อนหน้าได้

    ✅ Grok เพิ่มระบบความจำสำหรับการสนทนา
    - ระบบความจำช่วยให้ Grok สามารถ อ้างอิงบทสนทนาเก่า เช่น การวางแผนท่องเที่ยวหรือการเขียนบทภาพยนตร์
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Grok มีความสามารถใกล้เคียงกับ ChatGPT และ Google Gemini

    ✅ การควบคุมความจำของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถ จัดการข้อมูลที่ Grok จำได้ และลบความจำเฉพาะรายการหรือทั้งหมดได้
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งาน

    ✅ การพัฒนาอื่นๆ ที่กำลังจะมา
    - Grok 3.5 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ Grok 4 จะเปิดตัวช่วงปลายปี
    - มีการพัฒนา โหมดเสียง ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องมือถือ
    - ฟีเจอร์ แก้ไขภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพและปรับแต่งสไตล์ได้

    ✅ Grok Workspaces: ระบบไวท์บอร์ดดิจิทัล
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานร่วมกับ Grok ในโครงการขนาดใหญ่
    - ออกแบบมาเพื่อให้ Grok เป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ความท้าทายของระบบความจำ AI
    - แม้ Grok จะสามารถจดจำข้อมูลได้ แต่ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ระบบความจำต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ℹ️ การแข่งขันกับ AI อื่นๆ
    - ChatGPT และ Gemini ต่างก็มีระบบความจำที่พัฒนาไปไกลแล้ว
    - ต้องติดตามว่า Grok จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้หรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่มีความสามารถด้านความจำ
    - AI ที่สามารถจดจำข้อมูลและบริหารจัดการความจำได้ดีขึ้น อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
    - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถ จดจำข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/grok-will-start-remembering-everything-you-ask-it-to-do
    Grok ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ xAI กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ "Personalise with Memories" ซึ่งช่วยให้สามารถจดจำบทสนทนาและอ้างอิงข้อมูลจากการพูดคุยก่อนหน้าได้ ✅ Grok เพิ่มระบบความจำสำหรับการสนทนา - ระบบความจำช่วยให้ Grok สามารถ อ้างอิงบทสนทนาเก่า เช่น การวางแผนท่องเที่ยวหรือการเขียนบทภาพยนตร์ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Grok มีความสามารถใกล้เคียงกับ ChatGPT และ Google Gemini ✅ การควบคุมความจำของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถ จัดการข้อมูลที่ Grok จำได้ และลบความจำเฉพาะรายการหรือทั้งหมดได้ - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งาน ✅ การพัฒนาอื่นๆ ที่กำลังจะมา - Grok 3.5 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ Grok 4 จะเปิดตัวช่วงปลายปี - มีการพัฒนา โหมดเสียง ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องมือถือ - ฟีเจอร์ แก้ไขภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพและปรับแต่งสไตล์ได้ ✅ Grok Workspaces: ระบบไวท์บอร์ดดิจิทัล - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานร่วมกับ Grok ในโครงการขนาดใหญ่ - ออกแบบมาเพื่อให้ Grok เป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ความท้าทายของระบบความจำ AI - แม้ Grok จะสามารถจดจำข้อมูลได้ แต่ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ระบบความจำต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ การแข่งขันกับ AI อื่นๆ - ChatGPT และ Gemini ต่างก็มีระบบความจำที่พัฒนาไปไกลแล้ว - ต้องติดตามว่า Grok จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้หรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่มีความสามารถด้านความจำ - AI ที่สามารถจดจำข้อมูลและบริหารจัดการความจำได้ดีขึ้น อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถ จดจำข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/grok-will-start-remembering-everything-you-ask-it-to-do
    WWW.TECHRADAR.COM
    Grok may start remembering everything you ask it to do, according to new reports
    xAI doesn't want ChatGPT or Gemini to be ahead on any AI feature
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4.1 ซึ่งเป็นโมเดล AI ใหม่ที่มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด, การทำตามคำสั่ง และการเข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น โดยสามารถรองรับ 1 ล้านโทเค็น และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า

    🤖 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-4.1
    ✅ GPT-4.1 มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า
    - มีความสามารถในการ เข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น และรองรับ 1 ล้านโทเค็น
    - มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4o ถึง 21% และ GPT-4.5 ถึง 27%

    ✅ การพัฒนาโมเดลย่อย
    - OpenAI เปิดตัว GPT-4.1 mini และ GPT-4.1 nano ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลง
    - โมเดลเหล่านี้มีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ การใช้งานผ่าน API เท่านั้น
    - GPT-4.1 และรุ่นย่อยสามารถใช้งานได้ผ่าน OpenAI API
    - OpenAI จะปิดการใช้งาน GPT-4.5 preview ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจาก GPT-4.1 มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า

    ✅ การตอบสนองของนักพัฒนา
    - CEO Sam Altman ระบุว่าโมเดลใหม่นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักพัฒนา
    - OpenAI มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในโลกจริง

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - การเปิดตัว GPT-4.1 อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะกับ Google Gemini และ Anthropic Claude
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโมเดลใหม่

    ℹ️ ความท้าทายด้านต้นทุนและการเข้าถึง
    - แม้ GPT-4.1 จะมีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังต้องติดตามว่า ราคาการใช้งาน API จะเป็นอย่างไร
    - ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรอการเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น เช่น ChatGPT

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่รองรับบริบทยาวขึ้น
    - การรองรับ 1 ล้านโทเค็น อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่
    - อาจมีการพัฒนาโมเดลที่สามารถรองรับบริบทที่ยาวขึ้นในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/openai-launches-new-gpt-41-models-with-improved-coding-long-context-comprehension
    OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4.1 ซึ่งเป็นโมเดล AI ใหม่ที่มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด, การทำตามคำสั่ง และการเข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น โดยสามารถรองรับ 1 ล้านโทเค็น และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 🤖 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-4.1 ✅ GPT-4.1 มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า - มีความสามารถในการ เข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น และรองรับ 1 ล้านโทเค็น - มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4o ถึง 21% และ GPT-4.5 ถึง 27% ✅ การพัฒนาโมเดลย่อย - OpenAI เปิดตัว GPT-4.1 mini และ GPT-4.1 nano ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลง - โมเดลเหล่านี้มีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง ✅ การใช้งานผ่าน API เท่านั้น - GPT-4.1 และรุ่นย่อยสามารถใช้งานได้ผ่าน OpenAI API - OpenAI จะปิดการใช้งาน GPT-4.5 preview ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจาก GPT-4.1 มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ✅ การตอบสนองของนักพัฒนา - CEO Sam Altman ระบุว่าโมเดลใหม่นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักพัฒนา - OpenAI มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในโลกจริง ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - การเปิดตัว GPT-4.1 อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะกับ Google Gemini และ Anthropic Claude - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโมเดลใหม่ ℹ️ ความท้าทายด้านต้นทุนและการเข้าถึง - แม้ GPT-4.1 จะมีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังต้องติดตามว่า ราคาการใช้งาน API จะเป็นอย่างไร - ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรอการเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น เช่น ChatGPT ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่รองรับบริบทยาวขึ้น - การรองรับ 1 ล้านโทเค็น อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ - อาจมีการพัฒนาโมเดลที่สามารถรองรับบริบทที่ยาวขึ้นในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/openai-launches-new-gpt-41-models-with-improved-coding-long-context-comprehension
    WWW.THESTAR.COM.MY
    OpenAI launches new GPT-4.1 models with improved coding, long context comprehension
    (Reuters) - OpenAI on Monday launched its new AI model GPT-4.1, along with smaller versions GPT-4.1 mini and GPT-4.1 nano, touting major improvements in coding, instruction following, and long context comprehension.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล

    Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี

    Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน

    การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน

    ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace
    - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71%
    - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025

    ✅ การรับรองความปลอดภัย
    - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High
    - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง

    ✅ เป้าหมายของการลดราคา
    - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล
    - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT
    - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง
    - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย

    https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ✅ การรับรองความปลอดภัย - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง ✅ เป้าหมายของการลดราคา - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Workspace undercuts Microsoft offer with 71% discount for US government agencies
    Tony Orlando, GM of specialty sales for Google Public Sector, positioned Workspace as a secure, AI-powered alternative to Microsoft's offerings.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • Reddit ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ Reddit Answers ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้ข้อมูลจากชุมชน Reddit และ Google Gemini เพื่อให้คำตอบที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

    ✅ การอัปเกรดด้วย Google Gemini:
    - Reddit Answers ได้รับการผสานรวมกับ Google Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ทรงพลังจาก Google
    - การผสานรวมนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการค้นหาและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม

    ✅ การทำงานของ Reddit Answers:
    - แพลตฟอร์มนี้ใช้ AI และข้อมูลจากชุมชน Reddit เพื่อให้คำตอบที่รวดเร็วและครอบคลุม
    - เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 และยังอยู่ในช่วงเบต้าในสหรัฐฯ

    ✅ ความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน:
    - ผู้ใช้งานบางคนกังวลว่า AI อาจลดความเป็นชุมชนของ Reddit
    - การผสานรวมกับ Google Gemini อาจช่วยดึงดูดผู้ใช้งานที่เคยใช้ Google เพื่อค้นหาโพสต์ใน Reddit

    ✅ การพัฒนาในอนาคต:
    - Reddit ยังไม่ได้ประกาศวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Reddit Answers

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/reddit-answers-just-got-a-huge-google-gemini-upgrade-and-now-i-cant-wait-to-try-it
    Reddit ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ Reddit Answers ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้ข้อมูลจากชุมชน Reddit และ Google Gemini เพื่อให้คำตอบที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ✅ การอัปเกรดด้วย Google Gemini: - Reddit Answers ได้รับการผสานรวมกับ Google Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ทรงพลังจาก Google - การผสานรวมนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการค้นหาและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ✅ การทำงานของ Reddit Answers: - แพลตฟอร์มนี้ใช้ AI และข้อมูลจากชุมชน Reddit เพื่อให้คำตอบที่รวดเร็วและครอบคลุม - เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 และยังอยู่ในช่วงเบต้าในสหรัฐฯ ✅ ความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน: - ผู้ใช้งานบางคนกังวลว่า AI อาจลดความเป็นชุมชนของ Reddit - การผสานรวมกับ Google Gemini อาจช่วยดึงดูดผู้ใช้งานที่เคยใช้ Google เพื่อค้นหาโพสต์ใน Reddit ✅ การพัฒนาในอนาคต: - Reddit ยังไม่ได้ประกาศวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Reddit Answers https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/reddit-answers-just-got-a-huge-google-gemini-upgrade-and-now-i-cant-wait-to-try-it
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Samsung ได้ประกาศความร่วมมือกับ Google เพื่อรวม Gemini AI เข้ากับหุ่นยนต์ AI สำหรับบ้านรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ballie โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงบทบาทของ AI ในชีวิตประจำวัน

    == ฟีเจอร์และความสามารถของ Ballie ==
    ✅ การสนทนาแบบธรรมชาติ:
    - Ballie สามารถพูดคุยกับผู้ใช้งานได้เหมือนการสนทนากับมนุษย์

    ✅ ฟังก์ชันอัจฉริยะในบ้าน:
    - ปรับแสงไฟ, ตั้งเตือนความจำส่วนตัว และจัดการตารางเวลา
    - ประเมินการเลือกเสื้อผ้า, ต้อนรับแขกที่ประตู และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ

    ✅ การรวม Gemini AI:
    - ใช้ Gemini AI บน Google Cloud เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลและการตอบสนอง

    ✅ การเปิดตัวในตลาด:
    - Ballie จะเปิดตัวในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้

    == ผลกระทบและความสำคัญ ==
    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ่นยนต์:
    - Ballie เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจสร้างความตื่นเต้นในตลาด เช่นเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

    ⚠️ ความท้าทายด้านราคา:
    - Ballie อาจมีราคาสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มลังเลในการซื้อ
    - มีรายงานว่าอาจมีการจำหน่ายผ่านระบบสมัครสมาชิกเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

    ⚠️ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว:
    - การใช้ AI ในบ้านอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัว

    https://www.neowin.net/news/samsungs-ballie-robot-is-set-to-be-a-smarty-pants-with-googles-gemini-ai/
    Samsung ได้ประกาศความร่วมมือกับ Google เพื่อรวม Gemini AI เข้ากับหุ่นยนต์ AI สำหรับบ้านรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ballie โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงบทบาทของ AI ในชีวิตประจำวัน == ฟีเจอร์และความสามารถของ Ballie == ✅ การสนทนาแบบธรรมชาติ: - Ballie สามารถพูดคุยกับผู้ใช้งานได้เหมือนการสนทนากับมนุษย์ ✅ ฟังก์ชันอัจฉริยะในบ้าน: - ปรับแสงไฟ, ตั้งเตือนความจำส่วนตัว และจัดการตารางเวลา - ประเมินการเลือกเสื้อผ้า, ต้อนรับแขกที่ประตู และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ ✅ การรวม Gemini AI: - ใช้ Gemini AI บน Google Cloud เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลและการตอบสนอง ✅ การเปิดตัวในตลาด: - Ballie จะเปิดตัวในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ == ผลกระทบและความสำคัญ == ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ่นยนต์: - Ballie เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจสร้างความตื่นเต้นในตลาด เช่นเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ⚠️ ความท้าทายด้านราคา: - Ballie อาจมีราคาสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มลังเลในการซื้อ - มีรายงานว่าอาจมีการจำหน่ายผ่านระบบสมัครสมาชิกเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ⚠️ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: - การใช้ AI ในบ้านอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัว https://www.neowin.net/news/samsungs-ballie-robot-is-set-to-be-a-smarty-pants-with-googles-gemini-ai/
    WWW.NEOWIN.NET
    Samsung's Ballie robot is set to be a smarty pants with Google's Gemini AI
    Prepare yourself for a robot that's more than a smart home gadget as Samsung gets ready to launch Ballie, a robot powered by Google's multimodal Gemini AI.
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่เรียกว่า “Power Up” ซึ่งช่วยปรับปรุงคำสั่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์ให้มีความชัดเจนและละเอียดมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาลองเขียนคำสั่งหลายครั้ง

    🌐 จุดเด่นของฟีเจอร์ Power Up:
    - ✨ ปรับปรุงคำสั่งอัตโนมัติ: ฟีเจอร์นี้ช่วยเปลี่ยนคำสั่งที่ยังไม่สมบูรณ์ให้กลายเป็นคำสั่งที่มีรายละเอียดและชัดเจนมากขึ้น
    - 🕹️ ลดความยุ่งยาก: ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งคำสั่งด้วยตนเอง เพียงแค่กดปุ่ม Power Up และปล่อยให้ Gemini ทำงาน

    ⚠️ ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน:
    - 💡 เพิ่มความโปร่งใส: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจการปรับปรุงคำสั่งได้ชัดเจนมากขึ้น แทนที่จะเป็นการปรับเบื้องหลังที่มองไม่เห็น
    - 🔄 ลดความหงุดหงิด: ช่วยลดความยุ่งยากในการเขียนคำสั่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งาน AI หลายคนเผชิญ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-could-soon-get-a-super-useful-power-up-button-heres-what-it-does
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่เรียกว่า “Power Up” ซึ่งช่วยปรับปรุงคำสั่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์ให้มีความชัดเจนและละเอียดมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาลองเขียนคำสั่งหลายครั้ง 🌐 จุดเด่นของฟีเจอร์ Power Up: - ✨ ปรับปรุงคำสั่งอัตโนมัติ: ฟีเจอร์นี้ช่วยเปลี่ยนคำสั่งที่ยังไม่สมบูรณ์ให้กลายเป็นคำสั่งที่มีรายละเอียดและชัดเจนมากขึ้น - 🕹️ ลดความยุ่งยาก: ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งคำสั่งด้วยตนเอง เพียงแค่กดปุ่ม Power Up และปล่อยให้ Gemini ทำงาน ⚠️ ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน: - 💡 เพิ่มความโปร่งใส: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจการปรับปรุงคำสั่งได้ชัดเจนมากขึ้น แทนที่จะเป็นการปรับเบื้องหลังที่มองไม่เห็น - 🔄 ลดความหงุดหงิด: ช่วยลดความยุ่งยากในการเขียนคำสั่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งาน AI หลายคนเผชิญ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-could-soon-get-a-super-useful-power-up-button-heres-what-it-does
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น

    🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน:
    - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI
    - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google

    🤖 โอกาสใน AI:
    - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร

    📈 ผลกระทบต่อหุ้น:
    - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    💡 ความกังวลของนักลงทุน:
    - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้

    💡 สงครามการค้า:
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น 🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google 🤖 โอกาสใน AI: - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร 📈 ผลกระทบต่อหุ้น: - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: 💡 ความกังวลของนักลงทุน: - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้ 💡 สงครามการค้า: - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet CEO reaffirms planned $75 billion capital spending in 2025
    Las Vegas (Reuters) - Alphabet reiterated on Wednesday it would spend about $75 billion this year to build out data center capacity, doubling down on its generative AI bet even as the payoff remains unclear and a global trade war threatens to raise costs.
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัว Unified Security แพลตฟอร์มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในการรับมือภัยไซเบอร์ โดยรวบรวมเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัยไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การป้องกันภัยคุกคาม การตรวจสอบระบบคลาวด์ ไปจนถึงการใช้ AI อัจฉริยะ

    ✅ การวิเคราะห์ภัยคุกคามล่วงหน้า:
    - ใช้ข้อมูลจาก Google Threat Intelligence และ AI อย่าง Gemini เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงและทดลองระบบป้องกันกับภัยคุกคามล่าสุด

    ✅ การตรวจสอบความปลอดภัยในระบบคลาวด์:
    - ผ่าน Google Security Command Center ระบบจะช่วยตรวจสอบความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคลาวด์ พร้อมจัดการภัยคุกคามและแก้ไขปัญหา

    ✅ ป้องกันฟิชชิงด้วย Chrome Enterprise:
    - ฟีเจอร์ Safe Browsing ใหม่ใน Chrome Enterprise ช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับองค์กร

    ✅ ตัวช่วย AI สำหรับการตอบสนอง:
    - แพลตฟอร์มนี้เพิ่มตัวช่วย AI อัจฉริยะ เช่น Malware Analysis Agent ที่สามารถตรวจสอบโค้ดที่เป็นอันตราย และ Alert Triage Agent ที่ช่วยวิเคราะห์การแจ้งเตือนและนำเสนอคำแนะนำ

    https://www.zdnet.com/article/how-googles-new-unified-security-platform-aims-to-simplify-the-fight-against-cyberthreats/
    Google เปิดตัว Unified Security แพลตฟอร์มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในการรับมือภัยไซเบอร์ โดยรวบรวมเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัยไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การป้องกันภัยคุกคาม การตรวจสอบระบบคลาวด์ ไปจนถึงการใช้ AI อัจฉริยะ ✅ การวิเคราะห์ภัยคุกคามล่วงหน้า: - ใช้ข้อมูลจาก Google Threat Intelligence และ AI อย่าง Gemini เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงและทดลองระบบป้องกันกับภัยคุกคามล่าสุด ✅ การตรวจสอบความปลอดภัยในระบบคลาวด์: - ผ่าน Google Security Command Center ระบบจะช่วยตรวจสอบความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคลาวด์ พร้อมจัดการภัยคุกคามและแก้ไขปัญหา ✅ ป้องกันฟิชชิงด้วย Chrome Enterprise: - ฟีเจอร์ Safe Browsing ใหม่ใน Chrome Enterprise ช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับองค์กร ✅ ตัวช่วย AI สำหรับการตอบสนอง: - แพลตฟอร์มนี้เพิ่มตัวช่วย AI อัจฉริยะ เช่น Malware Analysis Agent ที่สามารถตรวจสอบโค้ดที่เป็นอันตราย และ Alert Triage Agent ที่ช่วยวิเคราะห์การแจ้งเตือนและนำเสนอคำแนะนำ https://www.zdnet.com/article/how-googles-new-unified-security-platform-aims-to-simplify-the-fight-against-cyberthreats/
    WWW.ZDNET.COM
    How Google's new Unified Security platform aims to simplify the fight against cyberthreats
    Designed for enterprise security professionals, Google Unified Security brings different tools together in one platform to reduce complexity and confusion.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • GitHub เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Agent Mode ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมแผน Copilot Pro+ ที่รองรับ premium requests 1,500 ครั้งต่อเดือน การอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของแพลตฟอร์มพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างก้าวกระโดด

    ✅ Agent Mode สำหรับผู้ใช้ Visual Studio Code:
    - ช่วยให้ Copilot สามารถทำงานข้ามไฟล์และเครื่องมือต่าง ๆ ได้ โดยอิงตามเป้าหมายที่ผู้ใช้กำหนด
    - มีฟังก์ชัน self-healing เพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด และยังสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างอัตโนมัติ

    ✅ Model Context Protocol (MCP):
    - ช่วยเสริมความสามารถของ Agent Mode โดยเปิดให้ Copilot เชื่อมต่อกับเครื่องมือทั้งในระบบ local และ remote ได้

    ✅ รองรับโมเดลขั้นสูง:
    - รวมถึงโมเดลจาก Anthropic, Google, OpenAI เช่น Claude 3.7 Sonnet, Gemini 2.0 Flash และ GPT-4o ที่มอบความแม่นยำและควบคุมได้มากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/github-copilot-launches-new-ai-tools-but-also-limits-on-its-premium-models
    GitHub เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Agent Mode ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมแผน Copilot Pro+ ที่รองรับ premium requests 1,500 ครั้งต่อเดือน การอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของแพลตฟอร์มพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างก้าวกระโดด ✅ Agent Mode สำหรับผู้ใช้ Visual Studio Code: - ช่วยให้ Copilot สามารถทำงานข้ามไฟล์และเครื่องมือต่าง ๆ ได้ โดยอิงตามเป้าหมายที่ผู้ใช้กำหนด - มีฟังก์ชัน self-healing เพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด และยังสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างอัตโนมัติ ✅ Model Context Protocol (MCP): - ช่วยเสริมความสามารถของ Agent Mode โดยเปิดให้ Copilot เชื่อมต่อกับเครื่องมือทั้งในระบบ local และ remote ได้ ✅ รองรับโมเดลขั้นสูง: - รวมถึงโมเดลจาก Anthropic, Google, OpenAI เช่น Claude 3.7 Sonnet, Gemini 2.0 Flash และ GPT-4o ที่มอบความแม่นยำและควบคุมได้มากขึ้น https://www.techradar.com/pro/github-copilot-launches-new-ai-tools-but-also-limits-on-its-premium-models
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก

    ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ

    ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก

    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู

    Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก

    https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google launches Gemini 2.5 Pro-powered Deep Research, outperforming ChatGPT Deep Research
    Google has updated its Deep Research feature in Gemini Advanced, now powering it with the new Gemini 2.5 Pro Experimental model.
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง

    อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

    == จุดเด่นของ AI Apps: ==
    ✅ เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

    ✅ ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย

    ✅ ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า

    AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง

    https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก == จุดเด่นของ AI Apps: == ✅ เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ✅ ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย ✅ ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    WWW.NEOWIN.NET
    Custom AI apps are the best thing about AI, this is how to make them
    If you are tired of generic AI chatbots like ChatGPT, read on to learn how to create personalized custom apps which are more efficient and convenient at helping you.
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • ChatGPT กำลังเผชิญปัญหาในการให้บริการที่ไม่เสถียรเนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อจำกัดในฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sora Video Generation แม้จะสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้งานคาดหวังว่าการบริการจะตอบสนองได้ดีกว่านี้ในอนาคต

    ✅ ปัญหาการให้บริการที่ไม่เสถียร:
    - OpenAI รายงานว่าระบบ ChatGPT กำลังเจอการใช้งานอย่างหนัก ทำให้เกิดปัญหา Outages ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ✅ ข้อจำกัดในฟีเจอร์ Sora Video Generation:
    - ผู้ใช้งานหลายคนที่สมัครสมาชิกระดับ Plus หรือแม้กระทั่งระดับ Pro ยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เนื่องจากมีการระงับใช้งานชั่วคราว

    ✅ การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน:
    - แม้ว่าจะมีการแจ้งในหน้าช่วยเหลือของ OpenAI ว่าข้อจำกัดนี้เกิดจากการใช้งานที่ล้นหลาม แต่ข้อมูลในหน้าราคาไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนจนสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งาน

    ✅ การเติบโตที่เหนือคาด:
    - COO ของ OpenAI ระบุว่าในสัปดาห์แรกของเดือน ผู้ใช้งานกว่า 130 ล้านคน ได้สร้าง 700 ล้านภาพ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ ส่งผลให้มีการใช้งาน GPU อย่างหนัก

    ✅ คู่แข่งที่เริ่มดึงดูดความสนใจ:
    - Google Gemini และ Manus AI กำลังนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ OpenAI เร่งพัฒนาการให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-subscribers-are-getting-frustrated-with-sora-restrictions-and-openai-outages-and-i-cant-blame-them
    ChatGPT กำลังเผชิญปัญหาในการให้บริการที่ไม่เสถียรเนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อจำกัดในฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sora Video Generation แม้จะสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้งานคาดหวังว่าการบริการจะตอบสนองได้ดีกว่านี้ในอนาคต ✅ ปัญหาการให้บริการที่ไม่เสถียร: - OpenAI รายงานว่าระบบ ChatGPT กำลังเจอการใช้งานอย่างหนัก ทำให้เกิดปัญหา Outages ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา ✅ ข้อจำกัดในฟีเจอร์ Sora Video Generation: - ผู้ใช้งานหลายคนที่สมัครสมาชิกระดับ Plus หรือแม้กระทั่งระดับ Pro ยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เนื่องจากมีการระงับใช้งานชั่วคราว ✅ การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน: - แม้ว่าจะมีการแจ้งในหน้าช่วยเหลือของ OpenAI ว่าข้อจำกัดนี้เกิดจากการใช้งานที่ล้นหลาม แต่ข้อมูลในหน้าราคาไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนจนสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งาน ✅ การเติบโตที่เหนือคาด: - COO ของ OpenAI ระบุว่าในสัปดาห์แรกของเดือน ผู้ใช้งานกว่า 130 ล้านคน ได้สร้าง 700 ล้านภาพ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ ส่งผลให้มีการใช้งาน GPU อย่างหนัก ✅ คู่แข่งที่เริ่มดึงดูดความสนใจ: - Google Gemini และ Manus AI กำลังนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ OpenAI เร่งพัฒนาการให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-subscribers-are-getting-frustrated-with-sora-restrictions-and-openai-outages-and-i-cant-blame-them
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)

    ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป:
    - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล
    - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา

    ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่:
    - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์

    ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
    - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป: - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่: - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI firm Anthropic announces 100 roles in Europe, new EMEA head
    LONDON (Reuters) - Anthropic, the U.S. AI company behind the Claude chatbot, said on Monday it would create more than 100 roles in Europe, including in Dublin and London, as it appointed Guillaume Princen as its Europe, Middle East and Africa head.
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัว AI Mode ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลผ่านภาพและคำถามอย่างล้ำลึก เช่นการแนะนำหนังสือจากภาพถ่ายชั้นวางหนังสือ หรือการเปรียบเทียบข้อมูลที่ซับซ้อนด้วย Gemini 2.0 ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสใหม่ให้การค้นหาข้อมูลเป็นเรื่องง่าย และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น

    ✅ การวิเคราะห์ภาพอย่างละเอียด:
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ AI สามารถเข้าใจ ทั้งฉากในภาพ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุต่าง ๆ วัสดุ สี รูปทรง และการจัดวาง

    ✅ รองรับการใช้งานกับคำถามหลายส่วน:
    - AI Mode ใช้ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น AI เวอร์ชันปรับปรุงที่ตอบคำถามที่ต้องการการวิเคราะห์เปรียบเทียบได้ เช่น “ความแตกต่างระหว่างการติดตามการนอนหลับของสมาร์ทวอชกับแหวนอัจฉริยะคืออะไร?”

    ✅ การค้นหาแบบใหม่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก:
    - AI Mode ใช้เทคนิค Query Fan-Out เพื่อค้นหาคำตอบจากหลายหัวข้อพร้อมกัน โดยดึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มารวมเป็นคำตอบเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการวางแผนทริป การเปรียบเทียบสินค้า และการศึกษา “How-tos”

    ✅ การแนะนำจากภาพถ่าย:
    - เช่น การถ่ายภาพชั้นวางหนังสือ แล้ว AI จะให้คำแนะนำหนังสือคล้าย ๆ กัน พร้อมลิงก์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติม

    https://www.neowin.net/news/google-search-ai-mode-gets-multimodal-search-support/
    Google เปิดตัว AI Mode ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลผ่านภาพและคำถามอย่างล้ำลึก เช่นการแนะนำหนังสือจากภาพถ่ายชั้นวางหนังสือ หรือการเปรียบเทียบข้อมูลที่ซับซ้อนด้วย Gemini 2.0 ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสใหม่ให้การค้นหาข้อมูลเป็นเรื่องง่าย และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น ✅ การวิเคราะห์ภาพอย่างละเอียด: - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ AI สามารถเข้าใจ ทั้งฉากในภาพ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุต่าง ๆ วัสดุ สี รูปทรง และการจัดวาง ✅ รองรับการใช้งานกับคำถามหลายส่วน: - AI Mode ใช้ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น AI เวอร์ชันปรับปรุงที่ตอบคำถามที่ต้องการการวิเคราะห์เปรียบเทียบได้ เช่น “ความแตกต่างระหว่างการติดตามการนอนหลับของสมาร์ทวอชกับแหวนอัจฉริยะคืออะไร?” ✅ การค้นหาแบบใหม่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก: - AI Mode ใช้เทคนิค Query Fan-Out เพื่อค้นหาคำตอบจากหลายหัวข้อพร้อมกัน โดยดึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มารวมเป็นคำตอบเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการวางแผนทริป การเปรียบเทียบสินค้า และการศึกษา “How-tos” ✅ การแนะนำจากภาพถ่าย: - เช่น การถ่ายภาพชั้นวางหนังสือ แล้ว AI จะให้คำแนะนำหนังสือคล้าย ๆ กัน พร้อมลิงก์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติม https://www.neowin.net/news/google-search-ai-mode-gets-multimodal-search-support/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Search AI Mode gets multimodal search support
    Google announced that the AI Mode in Google Search has been updated with multimodal search capabilities.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ

    ✅ AI ในแบบของคุณเอง:
    - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ

    ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น:
    - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน

    ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว:
    - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ ✅ AI ในแบบของคุณเอง: - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น: - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว: - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft to let people tailor AI assistant to their needs
    Microsoft Corp, determined to hold its ground in artificial intelligence, will soon let consumers tailor the Copilot digital assistant to their own needs.
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวชุดโมเดล AI มัลติโหมดใหม่ในซีรีส์ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทั้งสามโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงสุดในงานด้านปัญญาประดิษฐ์

    == จุดเด่นของ Llama 4 ทั้งสามรุ่น ==
    ✅ Llama 4 Scout:
    - โมเดลขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ มี 17 พันล้าน active parameters พร้อม 16 experts
    - สามารถทำงานได้บน NVIDIA H100 GPU เพียงตัวเดียว
    - รองรับ context window ขนาด 10 ล้าน tokens ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม
    - ประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลคู่แข่ง เช่น Gemma 3 และ Mistral 3.1 ในการวัดมาตรฐาน AI

    ✅ Llama 4 Maverick:
    - โมเดลระดับ mainstream มี 17 พันล้าน active parameters เช่นกัน แต่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญเป็น 128 experts
    - ได้รับการจัดอันดับที่สูงในการทดลอง เช่น คะแนน 1417 ใน LMArena ซึ่งอยู่ที่ลำดับสองของโมเดลชั้นนำทั้งหมด
    - ประสิทธิภาพเหนือ GPT-4o และ Gemini 2.0 Flash ในการเปรียบเทียบ

    ✅ Llama 4 Behemoth:
    - โมเดลขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังอยู่ระหว่างการฝึก มี 288 พันล้าน active parameters และ 16 experts
    - Meta เคลมว่า Behemoth สามารถแสดงผลดีกว่า GPT-4.5 และ Gemini 2.0 Pro ในหลายมาตรฐาน AI

    == การนำไปใช้งานและความสำคัญต่ออุตสาหกรรม AI ==
    ✅ การเข้าถึงและใช้งาน:
    - Llama 4 Scout และ Maverick พร้อมให้ดาวน์โหลดได้บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Hugging Face และ Llama.com
    - สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โมเดลเหล่านี้ได้เริ่มให้บริการใน WhatsApp, Messenger และ Instagram Direct แล้ว

    ✅ การรองรับใน Azure AI Foundry ของ Microsoft:
    - Microsoft ประกาศว่า Llama 4 รุ่น Scout และ Maverick ได้รวมอยู่ในบริการของ Azure AI แล้ว เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงในรูปแบบ Managed Compute Offerings

    ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในโลกมัลติโหมด:
    - โมเดลเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งงานด้านข้อความและภาพ ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีมัลติโหมด เช่น AI สร้างสรรค์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    https://www.neowin.net/news/meta-launches-llama-4-advanced-multi-modal-llms-achieving-sota-results/
    ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวชุดโมเดล AI มัลติโหมดใหม่ในซีรีส์ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทั้งสามโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงสุดในงานด้านปัญญาประดิษฐ์ == จุดเด่นของ Llama 4 ทั้งสามรุ่น == ✅ Llama 4 Scout: - โมเดลขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ มี 17 พันล้าน active parameters พร้อม 16 experts - สามารถทำงานได้บน NVIDIA H100 GPU เพียงตัวเดียว - รองรับ context window ขนาด 10 ล้าน tokens ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม - ประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลคู่แข่ง เช่น Gemma 3 และ Mistral 3.1 ในการวัดมาตรฐาน AI ✅ Llama 4 Maverick: - โมเดลระดับ mainstream มี 17 พันล้าน active parameters เช่นกัน แต่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญเป็น 128 experts - ได้รับการจัดอันดับที่สูงในการทดลอง เช่น คะแนน 1417 ใน LMArena ซึ่งอยู่ที่ลำดับสองของโมเดลชั้นนำทั้งหมด - ประสิทธิภาพเหนือ GPT-4o และ Gemini 2.0 Flash ในการเปรียบเทียบ ✅ Llama 4 Behemoth: - โมเดลขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังอยู่ระหว่างการฝึก มี 288 พันล้าน active parameters และ 16 experts - Meta เคลมว่า Behemoth สามารถแสดงผลดีกว่า GPT-4.5 และ Gemini 2.0 Pro ในหลายมาตรฐาน AI == การนำไปใช้งานและความสำคัญต่ออุตสาหกรรม AI == ✅ การเข้าถึงและใช้งาน: - Llama 4 Scout และ Maverick พร้อมให้ดาวน์โหลดได้บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Hugging Face และ Llama.com - สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โมเดลเหล่านี้ได้เริ่มให้บริการใน WhatsApp, Messenger และ Instagram Direct แล้ว ✅ การรองรับใน Azure AI Foundry ของ Microsoft: - Microsoft ประกาศว่า Llama 4 รุ่น Scout และ Maverick ได้รวมอยู่ในบริการของ Azure AI แล้ว เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงในรูปแบบ Managed Compute Offerings ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในโลกมัลติโหมด: - โมเดลเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งงานด้านข้อความและภาพ ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีมัลติโหมด เช่น AI สร้างสรรค์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ https://www.neowin.net/news/meta-launches-llama-4-advanced-multi-modal-llms-achieving-sota-results/
    WWW.NEOWIN.NET
    Meta launches Llama 4, advanced multi-modal LLMs achieving SOTA results
    Meta has launched its new Llama 4 series, featuring three models: Scout, Maverick, and Behemoth. Scout and Maverick are available now.
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

    ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้
    - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด
    - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย

    ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า
    - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority

    ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว
    - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant
    - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ

    ✅ ความเงียบจาก Google
    - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini
    - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้

    https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ ✅ ความเงียบจาก Google - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้ https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ Copilot Podcasts ที่ช่วยสร้างพอดแคสต์เฉพาะตัวและมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมด้วยฟีเจอร์ Deep Research ที่ช่วยค้นหาข้อมูลออนไลน์ในหลายขั้นตอน รวมถึง Actions ที่ให้ Copilot จองตั๋วและจัดแผนการเดินทางแทนผู้ใช้ นับว่าเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจเพื่อแข่งขันกับ AI ของ Google เช่น NotebookLM และ Gemini

    ✅ พอดแคสต์ที่ปรับแต่งได้
    - Copilot Podcasts ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาพอดแคสต์แบบเฉพาะตัว เช่น การวางแผนวันหยุด การเปรียบเทียบตัวเลือกการซื้อสินค้า หรือแม้กระทั่งศึกษาเรื่องราวเชิงลึก
    - ผู้ใช้ยังสามารถโต้ตอบกับ Copilot เพื่อสอบถามเพิ่มเติมขณะฟังพอดแคสต์

    ✅ ฟีเจอร์ Deep Research ช่วยให้การค้นหาออนไลน์ลึกซึ้งมากขึ้น
    - Copilot มีฟีเจอร์ Deep Research ที่ช่วยทำงานวิจัยหลายขั้นตอน และสร้างรายงานที่เข้าใจง่าย
    - ฟีเจอร์นี้มีลักษณะการทำงานคล้ายกับของ OpenAI ChatGPT และ Google Gemini

    ✅ Actions—Copilot ทำงานแทนผู้ใช้ผ่านคำสั่งภาษา
    - Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ Actions ซึ่งช่วยให้ Copilot ทำงานแทนผู้ใช้ เช่น การจองตั๋ว, จองโต๊ะอาหาร และการจัดแผนการเดินทาง
    - Copilot Actions รองรับเว็บไซต์ยอดนิยม เช่น Booking.com, Expedia, Kayak, TripAdvisor และ OpenTable

    https://www.neowin.net/news/microsoft-takes-on-google-notebooklm-with-copilot-podcasts/
    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ Copilot Podcasts ที่ช่วยสร้างพอดแคสต์เฉพาะตัวและมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมด้วยฟีเจอร์ Deep Research ที่ช่วยค้นหาข้อมูลออนไลน์ในหลายขั้นตอน รวมถึง Actions ที่ให้ Copilot จองตั๋วและจัดแผนการเดินทางแทนผู้ใช้ นับว่าเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจเพื่อแข่งขันกับ AI ของ Google เช่น NotebookLM และ Gemini ✅ พอดแคสต์ที่ปรับแต่งได้ - Copilot Podcasts ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาพอดแคสต์แบบเฉพาะตัว เช่น การวางแผนวันหยุด การเปรียบเทียบตัวเลือกการซื้อสินค้า หรือแม้กระทั่งศึกษาเรื่องราวเชิงลึก - ผู้ใช้ยังสามารถโต้ตอบกับ Copilot เพื่อสอบถามเพิ่มเติมขณะฟังพอดแคสต์ ✅ ฟีเจอร์ Deep Research ช่วยให้การค้นหาออนไลน์ลึกซึ้งมากขึ้น - Copilot มีฟีเจอร์ Deep Research ที่ช่วยทำงานวิจัยหลายขั้นตอน และสร้างรายงานที่เข้าใจง่าย - ฟีเจอร์นี้มีลักษณะการทำงานคล้ายกับของ OpenAI ChatGPT และ Google Gemini ✅ Actions—Copilot ทำงานแทนผู้ใช้ผ่านคำสั่งภาษา - Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ Actions ซึ่งช่วยให้ Copilot ทำงานแทนผู้ใช้ เช่น การจองตั๋ว, จองโต๊ะอาหาร และการจัดแผนการเดินทาง - Copilot Actions รองรับเว็บไซต์ยอดนิยม เช่น Booking.com, Expedia, Kayak, TripAdvisor และ OpenTable https://www.neowin.net/news/microsoft-takes-on-google-notebooklm-with-copilot-podcasts/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft takes on Google NotebookLM with Copilot Podcasts
    Microsoft launched several new Copilot features, including AI-powered podcasts, deep research, and agentic actions, to celebrate its 50th anniversary.
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • Google กำลังพัฒนา Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเน้นช่วยเด็ก เรียนรู้, ทำการบ้าน และสร้างเรื่องราว พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ข้อมูลล่าสุดพบว่า Google อาจกำลังทดสอบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้เด็ก แต่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หน่วยงานกำกับดูแลอาจเข้ามาควบคุมการเข้าถึง AI สำหรับเด็กเพื่อลดความเสี่ยงด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    ✅ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอาจมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเรียนรู้
    - เด็กสามารถ ถามคำถามเกี่ยวกับการบ้านและได้รับคำอธิบายที่เหมาะสมกับวัย
    - มีเครื่องมือช่วย สร้างเรื่องราว เพื่อกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทักษะการเขียน

    ✅ Google เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น
    - เนื้อหาที่แสดงจะถูก กรองให้เหมาะสมกับวัย โดยหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
    - Gemini สำหรับเด็กจะใช้ กฎความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 13-18 ปี

    ✅ หลักฐานบ่งชี้ว่าโครงการนี้อาจกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
    - นักวิเคราะห์พบ โค้ดที่เกี่ยวข้องกับ "kid users" ในแอป Google บน Android
    - ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจาก Google ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กจะเปิดตัวเมื่อไร

    ✅ ภาครัฐอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าถึง AI ของเด็ก
    - หลายหน่วยงานทั่วโลก ต้องการควบคุมการเข้าถึงบริการออนไลน์สำหรับเด็ก
    - มีความเป็นไปได้ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กอาจต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/could-children-under-13-soon-get-their-own-ai-chatbot
    Google กำลังพัฒนา Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเน้นช่วยเด็ก เรียนรู้, ทำการบ้าน และสร้างเรื่องราว พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ข้อมูลล่าสุดพบว่า Google อาจกำลังทดสอบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้เด็ก แต่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หน่วยงานกำกับดูแลอาจเข้ามาควบคุมการเข้าถึง AI สำหรับเด็กเพื่อลดความเสี่ยงด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ✅ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอาจมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเรียนรู้ - เด็กสามารถ ถามคำถามเกี่ยวกับการบ้านและได้รับคำอธิบายที่เหมาะสมกับวัย - มีเครื่องมือช่วย สร้างเรื่องราว เพื่อกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทักษะการเขียน ✅ Google เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น - เนื้อหาที่แสดงจะถูก กรองให้เหมาะสมกับวัย โดยหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม - Gemini สำหรับเด็กจะใช้ กฎความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 13-18 ปี ✅ หลักฐานบ่งชี้ว่าโครงการนี้อาจกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา - นักวิเคราะห์พบ โค้ดที่เกี่ยวข้องกับ "kid users" ในแอป Google บน Android - ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจาก Google ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กจะเปิดตัวเมื่อไร ✅ ภาครัฐอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าถึง AI ของเด็ก - หลายหน่วยงานทั่วโลก ต้องการควบคุมการเข้าถึงบริการออนไลน์สำหรับเด็ก - มีความเป็นไปได้ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กอาจต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/could-children-under-13-soon-get-their-own-ai-chatbot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Could children under 13 soon get their own AI chatbot?
    Google could soon extend access to its Gemini generative artificial intelligence chatbot to children. Currently reserved for users over the age of 13, Gemini is reportedly being adapted to meet the needs of younger users.
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
More Results