• Intel เตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่น Panther Lake และ Nova Lake ที่มาพร้อมกระบวนการผลิต Intel 18A รุ่นใหม่ ซึ่ง CEO Lip-Bu Tan เน้นว่าการปรับวัฒนธรรมองค์กรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาด AI PC ในอนาคต

    การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์:
    - CEO Lip-Bu Tan กล่าวว่าการปรับวัฒนธรรมองค์กรและการดำเนินงานอย่างรวดเร็วจะช่วยให้ Intel สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน.

    กระบวนการ Intel 18A:
    - Intel ยืนยันว่ากระบวนการผลิต Intel 18A มีความก้าวหน้า โดยตั้งเป้าส่งผลิตภัณฑ์แรกให้โรงงานผลิตได้ในกลางปี 2025 และจะเริ่มการเปิดตัว Panther Lake ผ่านโปรแกรม Early Enablement Program ในเดือนตุลาคม.

    การเติบโตของตลาด AI PC:
    - Panther Lake ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ในตลาด AI PC ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะช่วยให้การใช้งาน AI มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การพัฒนานวัตกรรม.

    ความมุ่งมั่นของ Intel:
    - CEO คนใหม่เน้นถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามแผนที่กำหนด และการสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าของ Intel มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น.

    https://www.techpowerup.com/334784/intels-new-ceo-commits-to-launching-panther-lake-in-2h-2025-nova-lake-release-on-track-for-2026
    Intel เตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่น Panther Lake และ Nova Lake ที่มาพร้อมกระบวนการผลิต Intel 18A รุ่นใหม่ ซึ่ง CEO Lip-Bu Tan เน้นว่าการปรับวัฒนธรรมองค์กรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาด AI PC ในอนาคต การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์: - CEO Lip-Bu Tan กล่าวว่าการปรับวัฒนธรรมองค์กรและการดำเนินงานอย่างรวดเร็วจะช่วยให้ Intel สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน. กระบวนการ Intel 18A: - Intel ยืนยันว่ากระบวนการผลิต Intel 18A มีความก้าวหน้า โดยตั้งเป้าส่งผลิตภัณฑ์แรกให้โรงงานผลิตได้ในกลางปี 2025 และจะเริ่มการเปิดตัว Panther Lake ผ่านโปรแกรม Early Enablement Program ในเดือนตุลาคม. การเติบโตของตลาด AI PC: - Panther Lake ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ในตลาด AI PC ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะช่วยให้การใช้งาน AI มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การพัฒนานวัตกรรม. ความมุ่งมั่นของ Intel: - CEO คนใหม่เน้นถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามแผนที่กำหนด และการสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าของ Intel มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น. https://www.techpowerup.com/334784/intels-new-ceo-commits-to-launching-panther-lake-in-2h-2025-nova-lake-release-on-track-for-2026
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel's New CEO Commits to Launching "Panther Lake" in 2H 2025, "Nova Lake" Release On Track for 2026
    In a letter addressed to stockholders, Intel's new CEO—Lip-Bu Tan—roadmapped the importance of a couple of major upcoming product launches. Starting off, Team Blue's new chief detailed a fresh approach, with the casting off of old strategies: "achieving the results I know Intel is capable of starts ...
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้รายงานว่า Intel ประกาศเปลี่ยนแปลงสำคัญในคณะกรรมการบริหาร โดยมีกรรมการ 3 คนที่ตัดสินใจไม่ลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการแพทย์และสาขาอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงถึงทิศทางใหม่ที่มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตของบริษัท

    ผู้เชี่ยวชาญที่ลาออก:
    - Dr. Omar Ishrak อดีตผู้นำบริษัท Medtronic ที่เคยเป็นประธานกรรมการ Intel, Dr. Risa Lavizzo-Mourey อดีตอาจารย์ด้านประชากรศาสตร์การแพทย์ และ Dr. Tsu-Jae King Liu คณบดีวิศวกรรมของ UC Berkeley ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์

    กรรมการใหม่ที่เข้าร่วม:
    - Intel ได้เพิ่มกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น Eric Meurice อดีต CEO ของ ASML และ Steve Sanghi ผู้บริหารชั่วคราวของ Microchip Technology ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับบอร์ดในการดึงความรู้เชิงเทคนิคมาใช้.

    เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง:
    - การเพิ่มกรรมการผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะด้าน สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการคืนความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ทันสมัย.

    แนวโน้มในอนาคต:
    - การปรับคณะกรรมการให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอุตสาหกรรม ช่วยสนับสนุนแผนของ CEO คนปัจจุบันในการฟื้นฟูความสามารถและนวัตกรรมของ Intel ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-board-gets-industry-focused-as-three-directors-will-not-seek-re-election-badly-needed-shift-to-deeper-tech-experience
    ข่าวนี้รายงานว่า Intel ประกาศเปลี่ยนแปลงสำคัญในคณะกรรมการบริหาร โดยมีกรรมการ 3 คนที่ตัดสินใจไม่ลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการแพทย์และสาขาอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงถึงทิศทางใหม่ที่มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตของบริษัท ผู้เชี่ยวชาญที่ลาออก: - Dr. Omar Ishrak อดีตผู้นำบริษัท Medtronic ที่เคยเป็นประธานกรรมการ Intel, Dr. Risa Lavizzo-Mourey อดีตอาจารย์ด้านประชากรศาสตร์การแพทย์ และ Dr. Tsu-Jae King Liu คณบดีวิศวกรรมของ UC Berkeley ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กรรมการใหม่ที่เข้าร่วม: - Intel ได้เพิ่มกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น Eric Meurice อดีต CEO ของ ASML และ Steve Sanghi ผู้บริหารชั่วคราวของ Microchip Technology ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับบอร์ดในการดึงความรู้เชิงเทคนิคมาใช้. เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง: - การเพิ่มกรรมการผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะด้าน สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการคืนความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ทันสมัย. แนวโน้มในอนาคต: - การปรับคณะกรรมการให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอุตสาหกรรม ช่วยสนับสนุนแผนของ CEO คนปัจจุบันในการฟื้นฟูความสามารถและนวัตกรรมของ Intel ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-board-gets-industry-focused-as-three-directors-will-not-seek-re-election-badly-needed-shift-to-deeper-tech-experience
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • AI ถูกมองว่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำงานของมนุษย์ในอนาคต ด้วยความสามารถที่จะลดชั่วโมงการทำงานลงเหลือเพียง 2-3 วันต่อสัปดาห์ Bill Gates และ Elon Musk ชี้ว่า AI อาจแทนที่งานหลายประเภท แต่ก็ช่วยให้มนุษย์มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเริ่มทดลองระบบสัปดาห์ทำงานสั้นเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรม AI ได้เน้นถึงความจำเป็นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

    มุมมองของ Bill Gates:
    - Gates มองว่า AI สามารถช่วยให้คำแนะนำทางการแพทย์และการสอนมีคุณภาพดีขึ้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้จะมีข้อดี แต่ก็อาจกระทบต่ออาชีพแพทย์และครูในอนาคต.

    ความคิดเห็นจาก Jamie Dimon:
    - CEO ของ JPMorgan กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่คนรุ่นถัดไปจะทำงานเพียง 3.5 วันต่อสัปดาห์และมีอายุยืนถึง 100 ปีด้วยความช่วยเหลือจาก AI.

    ผลกระทบในระดับนานาชาติ:
    - ในญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องชั่วโมงการทำงานที่หนักเกินไป รัฐบาลโตเกียวเริ่มทดลองใช้งานระบบสัปดาห์ทำงาน 4 วันเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับประชากรที่ลดลง และเพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงสามารถมีอาชีพได้หลังจากมีครอบครัว.

    เสียงสะท้อนจากอุตสาหกรรม AI:
    - ผู้บริหาร OpenAI และ Microsoft AI ได้เตือนว่าความสามารถของ AI อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแรงงานโลก เช่นการแทนที่งานบางประเภท ซึ่งอาจต้องการนโยบายใหม่ ๆ เช่น Universal Basic Income เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้.

    https://www.techspot.com/news/107328-bill-gates-ai-could-lead-two-day-workweek.html
    AI ถูกมองว่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำงานของมนุษย์ในอนาคต ด้วยความสามารถที่จะลดชั่วโมงการทำงานลงเหลือเพียง 2-3 วันต่อสัปดาห์ Bill Gates และ Elon Musk ชี้ว่า AI อาจแทนที่งานหลายประเภท แต่ก็ช่วยให้มนุษย์มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเริ่มทดลองระบบสัปดาห์ทำงานสั้นเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรม AI ได้เน้นถึงความจำเป็นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มุมมองของ Bill Gates: - Gates มองว่า AI สามารถช่วยให้คำแนะนำทางการแพทย์และการสอนมีคุณภาพดีขึ้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้จะมีข้อดี แต่ก็อาจกระทบต่ออาชีพแพทย์และครูในอนาคต. ความคิดเห็นจาก Jamie Dimon: - CEO ของ JPMorgan กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่คนรุ่นถัดไปจะทำงานเพียง 3.5 วันต่อสัปดาห์และมีอายุยืนถึง 100 ปีด้วยความช่วยเหลือจาก AI. ผลกระทบในระดับนานาชาติ: - ในญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องชั่วโมงการทำงานที่หนักเกินไป รัฐบาลโตเกียวเริ่มทดลองใช้งานระบบสัปดาห์ทำงาน 4 วันเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับประชากรที่ลดลง และเพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงสามารถมีอาชีพได้หลังจากมีครอบครัว. เสียงสะท้อนจากอุตสาหกรรม AI: - ผู้บริหาร OpenAI และ Microsoft AI ได้เตือนว่าความสามารถของ AI อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแรงงานโลก เช่นการแทนที่งานบางประเภท ซึ่งอาจต้องการนโยบายใหม่ ๆ เช่น Universal Basic Income เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้. https://www.techspot.com/news/107328-bill-gates-ai-could-lead-two-day-workweek.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Will AI lead to shorter workweeks? Bill Gates, Elon Musk, and others say yes
    Speaking to Jimmy Fallon on The Tonight Show recently, Gates predicted a future in which humans will no longer be necessary "for most things" because of advanced...
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • TSMC ลงทุนครั้งใหญ่ในอเมริกาเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัย แต่ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ชี้ว่า แม้จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน แต่การขาด R&D ขั้นสูงในประเทศยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเป็นผู้นำในเทคโนโลยีกระบวนการผลิต การลงทุนนี้จึงสะท้อนถึงความสำคัญของการวิจัยในประเทศในการพัฒนานวัตกรรม

    ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของ TSMC:
    - TSMC มีแผนสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในรัฐแอริโซนา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าการวิจัยขั้นสูงจะถูกย้ายมายังสหรัฐฯ หรือไม่.

    ความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา (R&D):
    - Gelsinger ชี้ว่า การมี R&D ในประเทศเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อเมริกาสามารถพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้ เช่น กระบวนการผลิตแบบ N3X หรือ N4 ที่ TSMC พัฒนาอยู่ในไต้หวัน.

    การปฏิสัมพันธ์ระหว่างการผลิตและ R&D:
    - โรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัยมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการผลิตที่ต้องมีการทดลองและปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TSMC ยังเน้นที่ไต้หวันเป็นหลัก.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์:
    - การลงทุนของ TSMC อาจช่วยให้โรงงานในสหรัฐฯ สามารถผลิตชิปแบบกระบวนการขั้นสูงได้เร็วขึ้น แต่การขาด R&D ภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตและการเป็นผู้นำในระยะยาว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ex-intel-ceo-gelsinger-warns-tsmcs-usd165b-investment-will-not-restore-u-s-semiconductor-leadership
    TSMC ลงทุนครั้งใหญ่ในอเมริกาเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัย แต่ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ชี้ว่า แม้จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน แต่การขาด R&D ขั้นสูงในประเทศยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเป็นผู้นำในเทคโนโลยีกระบวนการผลิต การลงทุนนี้จึงสะท้อนถึงความสำคัญของการวิจัยในประเทศในการพัฒนานวัตกรรม ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของ TSMC: - TSMC มีแผนสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในรัฐแอริโซนา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าการวิจัยขั้นสูงจะถูกย้ายมายังสหรัฐฯ หรือไม่. ความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา (R&D): - Gelsinger ชี้ว่า การมี R&D ในประเทศเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อเมริกาสามารถพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้ เช่น กระบวนการผลิตแบบ N3X หรือ N4 ที่ TSMC พัฒนาอยู่ในไต้หวัน. การปฏิสัมพันธ์ระหว่างการผลิตและ R&D: - โรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัยมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการผลิตที่ต้องมีการทดลองและปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TSMC ยังเน้นที่ไต้หวันเป็นหลัก. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์: - การลงทุนของ TSMC อาจช่วยให้โรงงานในสหรัฐฯ สามารถผลิตชิปแบบกระบวนการขั้นสูงได้เร็วขึ้น แต่การขาด R&D ภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตและการเป็นผู้นำในระยะยาว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/ex-intel-ceo-gelsinger-warns-tsmcs-usd165b-investment-will-not-restore-u-s-semiconductor-leadership
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่

    มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน.

    การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI:
    - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล.

    การคาดการณ์สำหรับอนาคต:
    - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI.

    การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia:
    - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่ มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี: - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน. การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI: - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล. การคาดการณ์สำหรับอนาคต: - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI. การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia: - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์. https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลอิตาลีเสนอชื่อ Marcello Sala เข้าร่วมคณะกรรมการกำกับดูแลของ STMicroelectronics บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีรัฐบาลอิตาลีและฝรั่งเศสถือหุ้นรวมกัน 27.5% ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการลดต้นทุนและการปลดพนักงานในอิตาลี การประชุมสำคัญในเดือนเมษายนจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยกำหนดอนาคตของบริษัทและแรงงานในประเทศ

    บทบาทของ Marcello Sala:
    - Sala มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพย์สินของรัฐ เช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคาร Monte dei Paschi di Siena ซึ่งช่วยให้รัฐบาลอิตาลีปฏิบัติตามข้อตกลงกับคณะกรรมาธิการยุโรป.

    ความไม่พอใจต่อ CEO ของ STMicroelectronics:
    - มีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีไม่พอใจต่อการบริหารงานของ Jean-Marc Chery CEO ของบริษัท โดยเฉพาะแผนการลดพนักงานที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานในประเทศ.

    การประชุมสำคัญในเดือนเมษายน:
    - รัฐมนตรีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของอิตาลีได้เรียกประชุมตัวแทนจาก STMicroelectronics และสหภาพแรงงานในวันที่ 3 เมษายน เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทในประเทศ.

    การเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการกำกับดูแล:
    - Sala และ Simonetta Acri ถูกเสนอชื่อให้แทนที่ Maurizio Tamagnini และ Donatella Sciuto ในคณะกรรมการกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบนโยบายของคณะกรรมการบริหาร.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/italian-top-government-official-seen-joining-stmicroelectronics-supervisory-board
    รัฐบาลอิตาลีเสนอชื่อ Marcello Sala เข้าร่วมคณะกรรมการกำกับดูแลของ STMicroelectronics บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีรัฐบาลอิตาลีและฝรั่งเศสถือหุ้นรวมกัน 27.5% ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการลดต้นทุนและการปลดพนักงานในอิตาลี การประชุมสำคัญในเดือนเมษายนจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยกำหนดอนาคตของบริษัทและแรงงานในประเทศ บทบาทของ Marcello Sala: - Sala มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพย์สินของรัฐ เช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคาร Monte dei Paschi di Siena ซึ่งช่วยให้รัฐบาลอิตาลีปฏิบัติตามข้อตกลงกับคณะกรรมาธิการยุโรป. ความไม่พอใจต่อ CEO ของ STMicroelectronics: - มีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีไม่พอใจต่อการบริหารงานของ Jean-Marc Chery CEO ของบริษัท โดยเฉพาะแผนการลดพนักงานที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานในประเทศ. การประชุมสำคัญในเดือนเมษายน: - รัฐมนตรีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของอิตาลีได้เรียกประชุมตัวแทนจาก STMicroelectronics และสหภาพแรงงานในวันที่ 3 เมษายน เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทในประเทศ. การเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการกำกับดูแล: - Sala และ Simonetta Acri ถูกเสนอชื่อให้แทนที่ Maurizio Tamagnini และ Donatella Sciuto ในคณะกรรมการกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบนโยบายของคณะกรรมการบริหาร. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/italian-top-government-official-seen-joining-stmicroelectronics-supervisory-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Italian top government official seen joining STMicroelectronics supervisory board
    ROME (Reuters) - Italy intends to appoint Marcello Sala, head of an economy ministry department that manages state-run firms and asset disposals, as a supervisory board member at chip maker STMicroelectronics, three sources said.
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในคณะกรรมการบริหาร โดยสมาชิก 3 คนรวมถึงอดีต CEO ของ Medtronic ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 2025 ขณะที่ CEO ใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังนำบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการปรับโครงสร้างคณะกรรมการให้มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สะท้อนถึงยุทธศาสตร์การฟื้นฟูองค์กรครั้งใหญ่

    การลดจำนวนสมาชิกคณะกรรมการ:
    - การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้จำนวนสมาชิกลดลงเหลือ 11 คน และเพิ่มบุคคลที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น อดีต CEO ของ ASML และ CEO ชั่วคราวของ Microchip Technology.

    ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูภายใต้ CEO ใหม่:
    - Lip-Bu Tan วางแผนลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการลดพนักงานลง 15% รวมถึงเน้นผลิตภัณฑ์และบริการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ตามสัญญาเป็นหัวใจของกลยุทธ์.

    บทบาทของอดีต CEO Pat Gelsinger:
    - แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ Gelsinger ได้รับเงินชดเชยจำนวน 7.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องสละสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมดที่ยังไม่ได้ถือครอง.

    เป้าหมายระยะยาว:
    - การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการลดความซับซ้อนขององค์กรและเพิ่มความคล่องตัว เพื่อกลับมายืนในจุดสูงสุดในตลาดชิปอีกครั้ง.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/27/three-intel-board-members-to-retire-in-latest-shakeup-amid-turnaround
    Intel ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในคณะกรรมการบริหาร โดยสมาชิก 3 คนรวมถึงอดีต CEO ของ Medtronic ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 2025 ขณะที่ CEO ใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังนำบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการปรับโครงสร้างคณะกรรมการให้มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สะท้อนถึงยุทธศาสตร์การฟื้นฟูองค์กรครั้งใหญ่ การลดจำนวนสมาชิกคณะกรรมการ: - การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้จำนวนสมาชิกลดลงเหลือ 11 คน และเพิ่มบุคคลที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น อดีต CEO ของ ASML และ CEO ชั่วคราวของ Microchip Technology. ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูภายใต้ CEO ใหม่: - Lip-Bu Tan วางแผนลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการลดพนักงานลง 15% รวมถึงเน้นผลิตภัณฑ์และบริการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ตามสัญญาเป็นหัวใจของกลยุทธ์. บทบาทของอดีต CEO Pat Gelsinger: - แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ Gelsinger ได้รับเงินชดเชยจำนวน 7.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องสละสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมดที่ยังไม่ได้ถือครอง. เป้าหมายระยะยาว: - การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการลดความซับซ้อนขององค์กรและเพิ่มความคล่องตัว เพื่อกลับมายืนในจุดสูงสุดในตลาดชิปอีกครั้ง. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/27/three-intel-board-members-to-retire-in-latest-shakeup-amid-turnaround
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Three Intel board members to retire in latest shakeup amid turnaround
    (Reuters) - Three Intel board members will not stand for reelection at its 2025 annual meeting, the chipmaker said in a regulatory filing on Thursday, amid a historic transition under newly appointed CEO Lip-Bu Tan.
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • NVIDIA กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมกำหนดข้อกำหนดด้านพลังงานที่อาจห้ามการขาย GPU H20 ในประเทศ ทำให้รายได้ของ NVIDIA จากตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับ AI อาจลดลงอย่างมาก ในขณะเดียวกัน คู่แข่งอย่าง Huawei ก็เตรียมเปิดตัวชิประดับสูงที่สามารถแข่งกับ NVIDIA ได้โดยตรง ทำให้สถานการณ์นี้กลายเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับอนาคตของบริษัท

    มาตรการของจีน:
    - รัฐบาลจีนมีเป้าหมายที่จะลดการพึ่งพาชิปต่างประเทศ โดยตั้งข้อกำหนดด้านพลังงานเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศ เช่น Huawei ซึ่งเตรียมเปิดตัวชิป AI รุ่น Ascend 910C ที่ทัดเทียมกับ NVIDIA H100.

    ผลกระทบต่อ NVIDIA:
    - NVIDIA ได้เริ่มเจรจากับคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) และกำลังพิจารณาการลดประสิทธิภาพของ H20 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านพลังงาน แต่ทางเลือกนี้อาจทำให้คู่แข่งมีความได้เปรียบในตลาด.

    ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ:
    - ที่ผ่านมา NVIDIA ต้องเผชิญข้อจำกัดจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขายชิป AI ให้จีน การเพิ่มกฎระเบียบจากฝั่งจีนเองยิ่งเพิ่มความซับซ้อนและผลกระทบทางการค้า.

    ตลาดคู่แข่งในจีน:
    - Huawei กลายเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด AI ของจีน โดย Jensen Huang CEO ของ NVIDIA ยอมรับถึงความก้าวหน้าของ Huawei ในด้านนี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น.

    https://wccftech.com/nvidia-h20-ai-gpu-might-be-banned-from-being-sold-in-china-but-this-time-it-is-not-the-us-fault/
    NVIDIA กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมกำหนดข้อกำหนดด้านพลังงานที่อาจห้ามการขาย GPU H20 ในประเทศ ทำให้รายได้ของ NVIDIA จากตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับ AI อาจลดลงอย่างมาก ในขณะเดียวกัน คู่แข่งอย่าง Huawei ก็เตรียมเปิดตัวชิประดับสูงที่สามารถแข่งกับ NVIDIA ได้โดยตรง ทำให้สถานการณ์นี้กลายเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับอนาคตของบริษัท มาตรการของจีน: - รัฐบาลจีนมีเป้าหมายที่จะลดการพึ่งพาชิปต่างประเทศ โดยตั้งข้อกำหนดด้านพลังงานเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศ เช่น Huawei ซึ่งเตรียมเปิดตัวชิป AI รุ่น Ascend 910C ที่ทัดเทียมกับ NVIDIA H100. ผลกระทบต่อ NVIDIA: - NVIDIA ได้เริ่มเจรจากับคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) และกำลังพิจารณาการลดประสิทธิภาพของ H20 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านพลังงาน แต่ทางเลือกนี้อาจทำให้คู่แข่งมีความได้เปรียบในตลาด. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: - ที่ผ่านมา NVIDIA ต้องเผชิญข้อจำกัดจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขายชิป AI ให้จีน การเพิ่มกฎระเบียบจากฝั่งจีนเองยิ่งเพิ่มความซับซ้อนและผลกระทบทางการค้า. ตลาดคู่แข่งในจีน: - Huawei กลายเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด AI ของจีน โดย Jensen Huang CEO ของ NVIDIA ยอมรับถึงความก้าวหน้าของ Huawei ในด้านนี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น. https://wccftech.com/nvidia-h20-ai-gpu-might-be-banned-from-being-sold-in-china-but-this-time-it-is-not-the-us-fault/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA's H20 AI GPU Might Be Banned From Being Sold In China, But This Time, It Is Not The US's Fault
    NVIDIA's hot-selling H20 AI accelerator might just be banned from being sold in China, amid Beijing's new energy efficiency rules.
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • Nvidia กำลังพิจารณาใช้เทคโนโลยีการผลิตชิป 18A ของ Intel สำหรับ GPU เกมมิ่งในอนาคต หากสำเร็จ นี่จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Intel ในการสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการผลิตชิประดับโลก นอกจากนี้ Intel ยังพัฒนาเทคโนโลยี 18A-P ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพและลดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนวงการผลิตชิป แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดเทคโนโลยีล้ำสมัย

    มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - หาก Nvidia ตัดสินใจใช้บริการของ Intel นี่อาจเป็น "จุดเปลี่ยน" ของตลาดการผลิตชิป และช่วยให้ Intel ขยายธุรกิจ foundry อย่างมีนัยสำคัญ.

    เทคโนโลยี 18A-P:
    - นักออกแบบชิปอาจเลือกใช้รุ่น 18A-P ที่ให้ผลผลิตที่ดีกว่า ลดความแปรปรวนในประสิทธิภาพ และลดความหนาแน่นของข้อบกพร่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์.

    การเปลี่ยนผ่านใน Intel:
    - CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan, มีแผนเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก โดยจะเปิดเผยแผนงานครั้งแรกในงาน Vision Event ในวันที่ 31 มีนาคม 2025.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-is-reportedly-close-to-adopting-intel-foundrys-18a-process-node-for-gaming-gpus
    Nvidia กำลังพิจารณาใช้เทคโนโลยีการผลิตชิป 18A ของ Intel สำหรับ GPU เกมมิ่งในอนาคต หากสำเร็จ นี่จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Intel ในการสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการผลิตชิประดับโลก นอกจากนี้ Intel ยังพัฒนาเทคโนโลยี 18A-P ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพและลดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนวงการผลิตชิป แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดเทคโนโลยีล้ำสมัย มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: - หาก Nvidia ตัดสินใจใช้บริการของ Intel นี่อาจเป็น "จุดเปลี่ยน" ของตลาดการผลิตชิป และช่วยให้ Intel ขยายธุรกิจ foundry อย่างมีนัยสำคัญ. เทคโนโลยี 18A-P: - นักออกแบบชิปอาจเลือกใช้รุ่น 18A-P ที่ให้ผลผลิตที่ดีกว่า ลดความแปรปรวนในประสิทธิภาพ และลดความหนาแน่นของข้อบกพร่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์. การเปลี่ยนผ่านใน Intel: - CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan, มีแผนเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก โดยจะเปิดเผยแผนงานครั้งแรกในงาน Vision Event ในวันที่ 31 มีนาคม 2025. https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-is-reportedly-close-to-adopting-intel-foundrys-18a-process-node-for-gaming-gpus
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • Starboard Value กำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลใน Autodesk ด้วยการเสนอชื่อกรรมการใหม่ 3 คนเข้าคณะกรรมการ โดยอ้างว่า Autodesk มีต้นทุนที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แม้บริษัทจะเริ่มปรับปรุงโดยเพิ่มกรรมการอิสระ แต่ Starboard มองว่ายังไม่เพียงพอ สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญจากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากขึ้น

    เหตุผลเบื้องหลังการเสนอชื่อ:
    - Starboard เชื่อว่า Autodesk ใช้จ่ายเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ โดยหุ้นของ Autodesk ลดลง 7% ในปีนี้ ในขณะที่ S&P 500 ลดลงเพียง 1.8% เท่านั้น.

    การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ Starboard:
    - ปีที่ผ่านมา Starboard เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง CEO และลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพลาดกำหนดเวลาส่งชื่อผู้สมัครเข้าร่วมคณะกรรมการ.

    ความร่วมมือจาก Autodesk:
    - Autodesk ได้เพิ่มกรรมการอิสระ 2 คนในเดือนธันวาคม 2024 โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตประธานและ CEO ของ Kraft Foods เพื่อเพิ่มความสมดุลในคณะกรรมการ.

    ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง:
    - หากได้รับการสนับสนุน Starboard อาจผลักดันให้ Autodesk มีการจัดการที่ประหยัดขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าหุ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/activist-starboard-nominates-three-directors-to-autodesk039s-board
    Starboard Value กำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลใน Autodesk ด้วยการเสนอชื่อกรรมการใหม่ 3 คนเข้าคณะกรรมการ โดยอ้างว่า Autodesk มีต้นทุนที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แม้บริษัทจะเริ่มปรับปรุงโดยเพิ่มกรรมการอิสระ แต่ Starboard มองว่ายังไม่เพียงพอ สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญจากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากขึ้น เหตุผลเบื้องหลังการเสนอชื่อ: - Starboard เชื่อว่า Autodesk ใช้จ่ายเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ โดยหุ้นของ Autodesk ลดลง 7% ในปีนี้ ในขณะที่ S&P 500 ลดลงเพียง 1.8% เท่านั้น. การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ Starboard: - ปีที่ผ่านมา Starboard เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง CEO และลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพลาดกำหนดเวลาส่งชื่อผู้สมัครเข้าร่วมคณะกรรมการ. ความร่วมมือจาก Autodesk: - Autodesk ได้เพิ่มกรรมการอิสระ 2 คนในเดือนธันวาคม 2024 โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตประธานและ CEO ของ Kraft Foods เพื่อเพิ่มความสมดุลในคณะกรรมการ. ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง: - หากได้รับการสนับสนุน Starboard อาจผลักดันให้ Autodesk มีการจัดการที่ประหยัดขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าหุ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/activist-starboard-nominates-three-directors-to-autodesk039s-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starboard revives proxy fight with CEO Smith's nomination to Autodesk board
    (Reuters) -Starboard Value on Wednesday nominated three directors including its chief executive and founder, Jeff Smith, to Autodesk's board, rekindling its proxy battle with the company over margin concerns.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • Napster ถูกขายให้กับ Infinite Reality ที่วางแผนเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเพลงที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ฟัง CEO ที่มากด้วยประสบการณ์จะยังคงนำทีมเพื่อสร้าง Napster ในยุคดิจิทัล แม้ว่าตลาดจะมีความท้าทายสูง แต่การกลับมาครั้งนี้อาจเป็นอีกบทหนึ่งของตำนาน Napster ที่น่าจับตามอง

    ยุคใหม่ของ Napster:
    - Infinite Reality มีความตั้งใจที่จะเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ livestreaming อีคอมเมิร์ซ และการจัดการชุมชนดิจิทัล เพื่อทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับยุคที่เน้นประสบการณ์สมจริง.
    - Napster ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้.

    ผู้นำที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม:
    - CEO ของ Napster, Jon Vlassopulos ซึ่งมีประสบการณ์จาก Roblox และเคยลงทุนใน Napster รุ่นแรก จะยังคงนำทัพการพัฒนาของแบรนด์ในยุคนี้.

    ความท้าทายในอุตสาหกรรม:
    - การเปลี่ยนโฉมของ Napster มาพร้อมกับช่วงเวลาท้าทาย เมื่อผู้บริโภคเริ่มลดการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในบริการสตรีมเพลง และหันไปใช้บริการที่สนับสนุนโฆษณาหรือครีเอเตอร์อิสระแทน.

    บทบาทในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี:
    - Napster เคยเป็นต้นแบบสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการเทคโนโลยีด้วยแนวคิดการทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่นเดียวกับที่ผู้ก่อตั้ง Shawn Fanning และ Sean Parker เคยทำ.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/napster-sold-to-tech-firm-infinite-reality-for-us207mil
    Napster ถูกขายให้กับ Infinite Reality ที่วางแผนเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเพลงที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ฟัง CEO ที่มากด้วยประสบการณ์จะยังคงนำทีมเพื่อสร้าง Napster ในยุคดิจิทัล แม้ว่าตลาดจะมีความท้าทายสูง แต่การกลับมาครั้งนี้อาจเป็นอีกบทหนึ่งของตำนาน Napster ที่น่าจับตามอง ยุคใหม่ของ Napster: - Infinite Reality มีความตั้งใจที่จะเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ livestreaming อีคอมเมิร์ซ และการจัดการชุมชนดิจิทัล เพื่อทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับยุคที่เน้นประสบการณ์สมจริง. - Napster ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้. ผู้นำที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม: - CEO ของ Napster, Jon Vlassopulos ซึ่งมีประสบการณ์จาก Roblox และเคยลงทุนใน Napster รุ่นแรก จะยังคงนำทัพการพัฒนาของแบรนด์ในยุคนี้. ความท้าทายในอุตสาหกรรม: - การเปลี่ยนโฉมของ Napster มาพร้อมกับช่วงเวลาท้าทาย เมื่อผู้บริโภคเริ่มลดการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในบริการสตรีมเพลง และหันไปใช้บริการที่สนับสนุนโฆษณาหรือครีเอเตอร์อิสระแทน. บทบาทในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี: - Napster เคยเป็นต้นแบบสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการเทคโนโลยีด้วยแนวคิดการทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่นเดียวกับที่ผู้ก่อตั้ง Shawn Fanning และ Sean Parker เคยทำ. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/napster-sold-to-tech-firm-infinite-reality-for-us207mil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Napster sold to tech firm Infinite Reality for US$207mil
    The music-streaming service Napster has sold for US$207mil (RM915mil) to the tech firm Infinite Reality.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • 23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด

    ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล:
    - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท.

    การลดลงของตลาดตรวจ DNA:
    - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ.

    ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว:
    - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้.

    การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก:
    - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้.

    https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล: - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท. การลดลงของตลาดตรวจ DNA: - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ. ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว: - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้. การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก: - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้. https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DNA testing firm 23andMe files for bankruptcy, CEO Anne Wojcicki resigns
    23andMe was founded in 2006 as a direct-to-consumer genetics testing specialist and became a publicly traded company in June 2021, trading under the ticker symbol "ME." At...
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • SoftBank ได้เข้าซื้อ Ampere Computing ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลด้วยดีลมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจนี้จะช่วยเสริมสร้างแผนการลงทุนด้าน AI ของ SoftBank ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Ampere ยังเตรียมเปิดตัวซีพียู 256 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรภายในปีนี้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมได้อย่างมหาศาล

    ศักยภาพใหม่ของ Ampere ภายใต้ SoftBank:
    - Ampere จะมีบทบาทสำคัญในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ SoftBank ที่ชื่อ Stargate ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายศูนย์ข้อมูลสำหรับ AI ในระดับใหญ่

    ประวัติของ Ampere และความท้าทายที่ผ่านมา:
    - แม้ Ampere จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาชิปที่ออกแบบมาสำหรับบริการคลาวด์ แต่การแข่งขันที่รุนแรงกับซีพียู x86 จาก Intel และการเข้าสู่ตลาดของ Arm เอง ทำให้การขยายส่วนแบ่งตลาดของ Ampere เป็นเรื่องยากในอดีต

    ความสำคัญของการสนับสนุนจาก SoftBank:
    - SoftBank วางแผนใช้ Ampere CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูลของตัวเอง รวมถึงพันธมิตรอย่าง Oracle และ OpenAI ซึ่งหากสำเร็จ อาจทำให้ Ampere กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล

    มุมมองจากผู้บริหาร:
    - Masayoshi Son, CEO ของ SoftBank, ระบุว่า "อนาคตของปัญญาประดิษฐ์ต้องการกำลังการประมวลผลที่ล้ำหน้า ซึ่งความเชี่ยวชาญของ Ampere ในด้านเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยเร่งวิสัยทัศน์นี้ให้กลายเป็นจริง"

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/softbank-to-acquire-arm-cpus-for-datacenter-firm-ampere-in-usd6-5-billion-cash-deal
    SoftBank ได้เข้าซื้อ Ampere Computing ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลด้วยดีลมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจนี้จะช่วยเสริมสร้างแผนการลงทุนด้าน AI ของ SoftBank ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Ampere ยังเตรียมเปิดตัวซีพียู 256 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรภายในปีนี้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมได้อย่างมหาศาล ศักยภาพใหม่ของ Ampere ภายใต้ SoftBank: - Ampere จะมีบทบาทสำคัญในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ SoftBank ที่ชื่อ Stargate ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายศูนย์ข้อมูลสำหรับ AI ในระดับใหญ่ ประวัติของ Ampere และความท้าทายที่ผ่านมา: - แม้ Ampere จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาชิปที่ออกแบบมาสำหรับบริการคลาวด์ แต่การแข่งขันที่รุนแรงกับซีพียู x86 จาก Intel และการเข้าสู่ตลาดของ Arm เอง ทำให้การขยายส่วนแบ่งตลาดของ Ampere เป็นเรื่องยากในอดีต ความสำคัญของการสนับสนุนจาก SoftBank: - SoftBank วางแผนใช้ Ampere CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูลของตัวเอง รวมถึงพันธมิตรอย่าง Oracle และ OpenAI ซึ่งหากสำเร็จ อาจทำให้ Ampere กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล มุมมองจากผู้บริหาร: - Masayoshi Son, CEO ของ SoftBank, ระบุว่า "อนาคตของปัญญาประดิษฐ์ต้องการกำลังการประมวลผลที่ล้ำหน้า ซึ่งความเชี่ยวชาญของ Ampere ในด้านเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยเร่งวิสัยทัศน์นี้ให้กลายเป็นจริง" https://www.tomshardware.com/tech-industry/softbank-to-acquire-arm-cpus-for-datacenter-firm-ampere-in-usd6-5-billion-cash-deal
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    SoftBank to acquire Arm CPUs for datacenter firm Ampere in $6.5 billion cash deal
    Ampere's roadmap includes the launch of 3nm processors with 256-cores later this year.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • รายงานข่าวจากเพจBrandThink ระบุว่าซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์เกาหลีใต้แถลงข่าวเศร้าในเช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 ว่า Han Jong-Hee ผู้เป็น CEO คนหนึ่งของบริษัทได้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Cardiac Arrest)ทั้งนี้ ทางด้านการบริหารของซัมซุงเองก็คงไม่สะดุดอะไรเพราะบริษัทนี้มี CEO สองคนมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 และ Jun Young-Hyun ผู้เป็น CEO อีกคนในฝั่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ก็คงจะรับหน้าที่ CEO หลักต่อ ส่วนปีกธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ Han Jong-Hee ผู้ล่วงลับเป็น CEO ทางซัมซุมก็ยังไม่แถลงการว่าใครจะมารับช่วงต่อที่มา:CNN. Samsung co-CEO Han Jong-Hee dies at 63. https://shorter.me/7Hfg3
    รายงานข่าวจากเพจBrandThink ระบุว่าซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์เกาหลีใต้แถลงข่าวเศร้าในเช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 ว่า Han Jong-Hee ผู้เป็น CEO คนหนึ่งของบริษัทได้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Cardiac Arrest)ทั้งนี้ ทางด้านการบริหารของซัมซุงเองก็คงไม่สะดุดอะไรเพราะบริษัทนี้มี CEO สองคนมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 และ Jun Young-Hyun ผู้เป็น CEO อีกคนในฝั่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ก็คงจะรับหน้าที่ CEO หลักต่อ ส่วนปีกธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ Han Jong-Hee ผู้ล่วงลับเป็น CEO ทางซัมซุมก็ยังไม่แถลงการว่าใครจะมารับช่วงต่อที่มา:CNN. Samsung co-CEO Han Jong-Hee dies at 63. https://shorter.me/7Hfg3
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • Ripple Labs ได้รับข่าวดีเมื่อ SEC ตัดสินใจยุติอุทธรณ์คดีที่เกี่ยวกับสถานะของ XRP หลังจากคดีนี้ดำเนินมายาวนาน คำตัดสินที่เคยออกมาก่อนหน้าในปี 2023 ระบุว่า XRP ที่ซื้อขายในตลาดสาธารณะไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่ Ripple ยังต้องแก้ไขข้อกฎหมายสำหรับการขายที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนสถาบัน. การเปลี่ยนแปลงท่าทีของ SEC ภายใต้การบริหารของ Trump ดูเหมือนจะช่วยเสริมความมั่นใจในอุตสาหกรรมคริปโตได้ไม่น้อย แต่ Ripple ก็ยังต้องจัดการกับคดีอื่น ๆ ที่รออยู่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/ripple-ceo-says-us-sec-will-drop-appeal-against-crypto-firm
    Ripple Labs ได้รับข่าวดีเมื่อ SEC ตัดสินใจยุติอุทธรณ์คดีที่เกี่ยวกับสถานะของ XRP หลังจากคดีนี้ดำเนินมายาวนาน คำตัดสินที่เคยออกมาก่อนหน้าในปี 2023 ระบุว่า XRP ที่ซื้อขายในตลาดสาธารณะไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่ Ripple ยังต้องแก้ไขข้อกฎหมายสำหรับการขายที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนสถาบัน. การเปลี่ยนแปลงท่าทีของ SEC ภายใต้การบริหารของ Trump ดูเหมือนจะช่วยเสริมความมั่นใจในอุตสาหกรรมคริปโตได้ไม่น้อย แต่ Ripple ก็ยังต้องจัดการกับคดีอื่น ๆ ที่รออยู่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/ripple-ceo-says-us-sec-will-drop-appeal-against-crypto-firm
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ripple Labs says US SEC ends appeal over crypto oversight
    NEW YORK (Reuters) -Ripple Labs said on Wednesday the U.S. Securities and Exchange Commission ended its appeal from a court ruling that the regulator's prior chief had said would make it harder to oversee cryptocurrency markets.
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • "Samsung ตอนนี้เจอปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่คู่แข่งกำลังนำหน้าไปไกล Jay Y. Lee ประธานของบริษัทถึงกับออกมาเตือนผู้บริหารว่า นี่คือสถานการณ์ 'เป็นตาย' และเรียกร้องให้มีการลงทุนระยะยาว แม้ว่าจะต้องยอมลดกำไรระยะสั้น. การประชุมผู้ถือหุ้นที่จะถึงนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องจับตามองว่าสิ่งที่ Lee เสนอนี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนได้มากแค่ไหน แต่นับว่าคำพูดของเขาก็มีผลแล้ว เพราะหุ้นของ Samsung เพิ่งกระโดดขึ้นกว่า 5%

    https://www.techspot.com/news/107174-samsung-ceo-warns-do-or-die-situation-urges.html
    "Samsung ตอนนี้เจอปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่คู่แข่งกำลังนำหน้าไปไกล Jay Y. Lee ประธานของบริษัทถึงกับออกมาเตือนผู้บริหารว่า นี่คือสถานการณ์ 'เป็นตาย' และเรียกร้องให้มีการลงทุนระยะยาว แม้ว่าจะต้องยอมลดกำไรระยะสั้น. การประชุมผู้ถือหุ้นที่จะถึงนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องจับตามองว่าสิ่งที่ Lee เสนอนี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนได้มากแค่ไหน แต่นับว่าคำพูดของเขาก็มีผลแล้ว เพราะหุ้นของ Samsung เพิ่งกระโดดขึ้นกว่า 5% https://www.techspot.com/news/107174-samsung-ceo-warns-do-or-die-situation-urges.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung CEO warns of "do-or-die" situation, urges investment over short-term profits
    Lee's remarks were delivered via a prerecorded video at a recent internal seminar attended by approximately 2,000 executives from Samsung's various affiliates. The seminars are part of...
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับมุมมองของ Arvind Krishna ซีอีโอของ IBM เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในอนาคตของการเขียนโปรแกรม ซึ่งได้แบ่งปันความคิดเห็นในงาน SXSW ว่า AI จะไม่ได้เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโปรแกรมอย่างสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ แต่จะทำหน้าที่เป็น เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้กับนักพัฒนาแทน

    ประเด็นที่สำคัญในคำกล่าวนี้มีดังนี้:
    1) Krishna คาดการณ์ว่า AI อาจเขียนโค้ดได้ราว 20-30% ซึ่งช่วยให้นักพัฒนามีเวลาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถจัดการงานซับซ้อนได้อย่างเต็มรูปแบบ
    2) การใช้ AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพ เช่น เขียนโค้ดได้มากขึ้นโดยใช้กำลังคนเท่าเดิม ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้
    3) Krishna มองว่า AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่งานมนุษย์ เหมือนในอดีตที่มีการถกเถียงเกี่ยวกับเครื่องคิดเลขและ Photoshop ที่ไม่ได้ทำให้คณิตศาสตร์หรือศิลปะล้มหายไป

    ในขณะที่ผู้บริหารอย่าง Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic คาดการณ์ว่า AI จะสามารถเขียนโค้ดได้ถึง 90% ภายในเวลา 3-6 เดือน Krishna กลับมองว่าบทบาทของ AI จะยังคงเน้นที่การช่วยเหลือมากกว่าการแทนที่

    Krishna ยังกล่าวถึงความท้าทายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาในการฝึก AI และการใช้พลังงานที่มากในปัจจุบัน แต่เขามองว่าอนาคต AI จะมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง IBM กำลังผลักดันเทคโนโลยีควอนตัมให้เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเขาเชื่อว่าควอนตัมคอมพิวติ้งจะมีบทบาทสำคัญกว่า AI ในการสร้างความรู้ใหม่

    https://www.techspot.com/news/107142-ibm-ceo-ai-boost-programmers-not-replace-them.html
    ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับมุมมองของ Arvind Krishna ซีอีโอของ IBM เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในอนาคตของการเขียนโปรแกรม ซึ่งได้แบ่งปันความคิดเห็นในงาน SXSW ว่า AI จะไม่ได้เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโปรแกรมอย่างสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ แต่จะทำหน้าที่เป็น เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้กับนักพัฒนาแทน ประเด็นที่สำคัญในคำกล่าวนี้มีดังนี้: 1) Krishna คาดการณ์ว่า AI อาจเขียนโค้ดได้ราว 20-30% ซึ่งช่วยให้นักพัฒนามีเวลาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถจัดการงานซับซ้อนได้อย่างเต็มรูปแบบ 2) การใช้ AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพ เช่น เขียนโค้ดได้มากขึ้นโดยใช้กำลังคนเท่าเดิม ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ 3) Krishna มองว่า AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่งานมนุษย์ เหมือนในอดีตที่มีการถกเถียงเกี่ยวกับเครื่องคิดเลขและ Photoshop ที่ไม่ได้ทำให้คณิตศาสตร์หรือศิลปะล้มหายไป ในขณะที่ผู้บริหารอย่าง Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic คาดการณ์ว่า AI จะสามารถเขียนโค้ดได้ถึง 90% ภายในเวลา 3-6 เดือน Krishna กลับมองว่าบทบาทของ AI จะยังคงเน้นที่การช่วยเหลือมากกว่าการแทนที่ Krishna ยังกล่าวถึงความท้าทายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาในการฝึก AI และการใช้พลังงานที่มากในปัจจุบัน แต่เขามองว่าอนาคต AI จะมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง IBM กำลังผลักดันเทคโนโลยีควอนตัมให้เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเขาเชื่อว่าควอนตัมคอมพิวติ้งจะมีบทบาทสำคัญกว่า AI ในการสร้างความรู้ใหม่ https://www.techspot.com/news/107142-ibm-ceo-ai-boost-programmers-not-replace-them.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    IBM CEO says AI will boost programmers, not replace them
    Krishna estimates that AI could write 20 – 30 percent of code but emphasizes that its role in more complex tasks will remain minimal.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงความสำเร็จล่าสุดของ Intel กับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A node ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ความหวังใหม่" ของบริษัท หลังจากที่ต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งในตลาดที่ดุเดือด กระบวนการผลิตนี้เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบการทดลองที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

    18A node ใช้เทคโนโลยี GAA-FET (Gate-All-Around Field-Effect Transistor) ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน โดยการทดสอบแผ่นเวเฟอร์ได้เริ่มต้นและได้รับความสนใจจากลูกค้าหลักที่กำลังใช้กระบวนการนี้ในการพัฒนาชิปต้นแบบ

    ความสำคัญของการเปิดตัวในครั้งนี้อยู่ที่ว่า Intel ไม่เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในบ้าน แต่ยังดำเนินกลยุทธ์แบบสองทาง โดยผสมผสานระหว่างการเป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทอื่น (foundry services) และการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง กลยุทธ์นี้ได้รับการผลักดันโดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ด้านการผลิตที่มุ่งเน้นการบูรณาการที่แข็งแกร่ง

    จุดเด่นที่น่าสนใจคือ โรงงานในรัฐแอริโซนาเป็นโรงงานที่รองรับเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตปริมาณสูง (high-volume manufacturing) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งอาจเริ่มเร็วกว่ากำหนดเดิม เหตุการณ์นี้ยังแสดงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในสหรัฐฯ ซึ่งกลับมามีบทบาทสำคัญในตลาดโลก

    https://www.techpowerup.com/334063/initial-intel-18a-node-wafer-run-lands-in-arizona-site-high-volume-manufacturing-could-start-earlier-than-expected
    ข่าวนี้พูดถึงความสำเร็จล่าสุดของ Intel กับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A node ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ความหวังใหม่" ของบริษัท หลังจากที่ต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งในตลาดที่ดุเดือด กระบวนการผลิตนี้เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบการทดลองที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ 18A node ใช้เทคโนโลยี GAA-FET (Gate-All-Around Field-Effect Transistor) ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน โดยการทดสอบแผ่นเวเฟอร์ได้เริ่มต้นและได้รับความสนใจจากลูกค้าหลักที่กำลังใช้กระบวนการนี้ในการพัฒนาชิปต้นแบบ ความสำคัญของการเปิดตัวในครั้งนี้อยู่ที่ว่า Intel ไม่เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในบ้าน แต่ยังดำเนินกลยุทธ์แบบสองทาง โดยผสมผสานระหว่างการเป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทอื่น (foundry services) และการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง กลยุทธ์นี้ได้รับการผลักดันโดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ด้านการผลิตที่มุ่งเน้นการบูรณาการที่แข็งแกร่ง จุดเด่นที่น่าสนใจคือ โรงงานในรัฐแอริโซนาเป็นโรงงานที่รองรับเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตปริมาณสูง (high-volume manufacturing) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งอาจเริ่มเร็วกว่ากำหนดเดิม เหตุการณ์นี้ยังแสดงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในสหรัฐฯ ซึ่งกลับมามีบทบาทสำคัญในตลาดโลก https://www.techpowerup.com/334063/initial-intel-18a-node-wafer-run-lands-in-arizona-site-high-volume-manufacturing-could-start-earlier-than-expected
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Initial Intel 18A Node Wafer Run Lands in Arizona Site, High-Volume Manufacturing Could Start Earlier Than Expected
    Intel's 18A node, often referred to as Intel's silver lining, has just produced tangible result. In a LinkedIn post of Intel's engineering manager Pankaj Marria, we learn that Intel's 18A node is now being produced in initial wafer lots for testing and evaluation by Intel's customers. This means tha...
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • ข้อสรุปเบื้องต้นจากการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภายุโรป เกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ม.112) และการเนรเทศผู้หลบหนีเข้าประเทศชาวอุยกูร์

    👉 EU ระบุว่า "มีประเทศที่สามพร้อมรับอุยกูร์" ไทยไม่ควรส่งชาวอุยกูร์กลับจีน เพราะความเสี่ยงจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากจีน
    👉 มีชาวอุยกูร์เสียชีวิต 5 ราย ระหว่างถูกคุมขังในไทย
    👉ม.112 ของไทย เป็นกฎหมายที่เคร่งครัดที่สุดในโลก และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    👉 มีนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ข้อสรุปเบื้องต้นที่ EU เรียกร้อง
    👉 ต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายที่มีปัญหาอื่นๆ เพื่อรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมทางการเมือง
    👉 นิรโทษกรรม สส. และ นักกิจกรรมทั้งหมดที่ ที่โดนดำเนินคดีจากปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพอื่นๆ รวมถึงคดีจาก ม.112
    👉 รัฐสภายุโรป กำลังพิจารณาใช้กลไกทางการค้า (FTA) กดดันให้ไทยแก้กฎหมายที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะมาตรา 112 รวมทั้งการปล่อยนักโทษการเมือง

    https://www.europarl.europa.eu/doceo/document/RC-10-2025-0174_EN.html
    ข้อสรุปเบื้องต้นจากการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภายุโรป เกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ม.112) และการเนรเทศผู้หลบหนีเข้าประเทศชาวอุยกูร์ 👉 EU ระบุว่า "มีประเทศที่สามพร้อมรับอุยกูร์" ไทยไม่ควรส่งชาวอุยกูร์กลับจีน เพราะความเสี่ยงจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากจีน 👉 มีชาวอุยกูร์เสียชีวิต 5 ราย ระหว่างถูกคุมขังในไทย 👉ม.112 ของไทย เป็นกฎหมายที่เคร่งครัดที่สุดในโลก และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ 👉 มีนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อสรุปเบื้องต้นที่ EU เรียกร้อง 👉 ต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายที่มีปัญหาอื่นๆ เพื่อรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมทางการเมือง 👉 นิรโทษกรรม สส. และ นักกิจกรรมทั้งหมดที่ ที่โดนดำเนินคดีจากปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพอื่นๆ รวมถึงคดีจาก ม.112 👉 รัฐสภายุโรป กำลังพิจารณาใช้กลไกทางการค้า (FTA) กดดันให้ไทยแก้กฎหมายที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะมาตรา 112 รวมทั้งการปล่อยนักโทษการเมือง https://www.europarl.europa.eu/doceo/document/RC-10-2025-0174_EN.html
    0 Comments 0 Shares 343 Views 0 Reviews
  • Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์

    Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์

    Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Who is new Intel CEO Lip-Bu Tan?
    (Reuters) - Intel tapped former board member Lip-Bu Tan as its CEO on Wednesday, as the struggling American chipmaking icon attempts to emerge from one of its bleakest periods.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท

    Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร

    ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว

    หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา

    เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
    เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk's feud with OpenAI CEO Sam Altman, explained
    A bitter rift between two Silicon Valley billionaires could shape the future of the fast-growing artificial intelligence industry.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • ผลสำรวจใหม่จาก PwC เผยให้เห็นว่าทั้งนักลงทุนและผู้บริหารทั่วโลกมีความหวังต่ออนาคตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตทางธุรกิจ

    จากการสำรวจ พบว่า 74% ของนักลงทุนมองว่า AI โดยเฉพาะ Generative AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร และ 61% ของ CEO ทั่วโลกยังเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตจากการนำ AI มาใช้งาน พวกเขายังมองว่า AI มีศักยภาพในด้านการขยายธุรกิจ การวัด ROI การสร้างมุมมองที่ดีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อพนักงาน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนนั้นต้องการเห็นการพัฒนาทักษะของพนักงานควบคู่ไปกับการนำ AI มาใช้ โดย 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าการพัฒนาทักษะของบุคลากรสำคัญมากกว่าการติดตั้ง AI ในวงกว้าง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ในยุคที่ AI ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่ เช่น ความผันผวนทางเศรษฐกิจ (39%) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (35%) และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (34%) แต่นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนและการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นก็เป็นประเด็นสำคัญ

    ทิศทางนี้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เพียงเน้นด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนและกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/business-investors-are-positive-about-ais-impact-on-the-economy
    ผลสำรวจใหม่จาก PwC เผยให้เห็นว่าทั้งนักลงทุนและผู้บริหารทั่วโลกมีความหวังต่ออนาคตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตทางธุรกิจ จากการสำรวจ พบว่า 74% ของนักลงทุนมองว่า AI โดยเฉพาะ Generative AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร และ 61% ของ CEO ทั่วโลกยังเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตจากการนำ AI มาใช้งาน พวกเขายังมองว่า AI มีศักยภาพในด้านการขยายธุรกิจ การวัด ROI การสร้างมุมมองที่ดีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อพนักงาน สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนนั้นต้องการเห็นการพัฒนาทักษะของพนักงานควบคู่ไปกับการนำ AI มาใช้ โดย 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าการพัฒนาทักษะของบุคลากรสำคัญมากกว่าการติดตั้ง AI ในวงกว้าง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ในยุคที่ AI ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่ เช่น ความผันผวนทางเศรษฐกิจ (39%) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (35%) และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (34%) แต่นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนและการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นก็เป็นประเด็นสำคัญ ทิศทางนี้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เพียงเน้นด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนและกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/business-investors-are-positive-about-ais-impact-on-the-economy
    WWW.TECHRADAR.COM
    Business investors are positive about AI’s impact on the economy
    Investors and CEOs anticipate economic growth, fuelled by AI
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโกได้สั่งยกฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องต่อ Intel โดยกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งกล่าวหาว่าบริษัทและผู้บริหารปกปิดปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในแผนกผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2023 คดีนี้ถูกตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของบริษัท อย่างไรก็ตาม การยกฟ้องนี้เป็นการยกฟ้องแบบ ไม่ตัดสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ฟ้องร้องสามารถกลับมายื่นคดีใหม่ได้ หากมีหลักฐานที่ชัดเจนและแข็งแกร่งมากขึ้น

    เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2023 เมื่อ Intel เปิดเผยว่าแผนกใหม่ที่ชื่อว่า Intel Foundry มีผลขาดทุนกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนโครงสร้างการรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2024 ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งนำไปสู่การตกของหุ้น Intel และมูลค่าตลาดที่ลดลงถึง 32 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว

    นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอ้างว่าคำกล่าวของ CEO และ CFO ในขณะนั้นเกี่ยวกับ "ความต้องการที่เติบโต" ของธุรกิจ Intel Foundry อาจเป็นการหลอกลวง อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่าคำกล่าวเหล่านี้เป็นการสื่อถึงความสัมพันธ์กับลูกค้ารายบุคคลเท่านั้น และไม่ได้สื่อถึงสุขภาพทางการเงินของบริษัทในภาพรวม

    ผู้พิพากษาชี้ว่าการลดลงของราคาหุ้น Intel อันเป็นผลจากการประกาศเลิกจ้างและการระงับเงินปันผลในกลางปี 2024 ไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานของการฉ้อโกง นอกจากนี้ Intel ยังเคยเปิดเผยแนวทางการลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว

    แม้ว่าศาลจะยกฟ้องคดีในครั้งนี้ Intel อาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นฟ้องรอบใหม่หากผู้ถือหุ้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่สนับสนุนข้อกล่าวหาได้สำเร็จ การต่อสู้ในศาลนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความโปร่งใสในธุรกิจใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมาก

    สถานการณ์นี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Intel อาจได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงความสำคัญของการสื่อสารและความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้นในธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลยังเปิดช่องทางให้ Intel และนักลงทุนมีโอกาสปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-shareholder-lawsuit-dismissed-complaints-stemmed-from-single-day-usd32b-devaluation-in-2024
    ศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโกได้สั่งยกฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องต่อ Intel โดยกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งกล่าวหาว่าบริษัทและผู้บริหารปกปิดปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในแผนกผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2023 คดีนี้ถูกตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของบริษัท อย่างไรก็ตาม การยกฟ้องนี้เป็นการยกฟ้องแบบ ไม่ตัดสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ฟ้องร้องสามารถกลับมายื่นคดีใหม่ได้ หากมีหลักฐานที่ชัดเจนและแข็งแกร่งมากขึ้น เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2023 เมื่อ Intel เปิดเผยว่าแผนกใหม่ที่ชื่อว่า Intel Foundry มีผลขาดทุนกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนโครงสร้างการรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2024 ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งนำไปสู่การตกของหุ้น Intel และมูลค่าตลาดที่ลดลงถึง 32 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอ้างว่าคำกล่าวของ CEO และ CFO ในขณะนั้นเกี่ยวกับ "ความต้องการที่เติบโต" ของธุรกิจ Intel Foundry อาจเป็นการหลอกลวง อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่าคำกล่าวเหล่านี้เป็นการสื่อถึงความสัมพันธ์กับลูกค้ารายบุคคลเท่านั้น และไม่ได้สื่อถึงสุขภาพทางการเงินของบริษัทในภาพรวม ผู้พิพากษาชี้ว่าการลดลงของราคาหุ้น Intel อันเป็นผลจากการประกาศเลิกจ้างและการระงับเงินปันผลในกลางปี 2024 ไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานของการฉ้อโกง นอกจากนี้ Intel ยังเคยเปิดเผยแนวทางการลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว แม้ว่าศาลจะยกฟ้องคดีในครั้งนี้ Intel อาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นฟ้องรอบใหม่หากผู้ถือหุ้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่สนับสนุนข้อกล่าวหาได้สำเร็จ การต่อสู้ในศาลนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความโปร่งใสในธุรกิจใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมาก สถานการณ์นี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Intel อาจได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงความสำคัญของการสื่อสารและความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้นในธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลยังเปิดช่องทางให้ Intel และนักลงทุนมีโอกาสปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-shareholder-lawsuit-dismissed-complaints-stemmed-from-single-day-usd32b-devaluation-in-2024
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • Western Digital บริษัทผู้ผลิตสื่อบันทึกข้อมูลที่เป็นที่รู้จักมายาวนาน ได้ตัดสินใจสำคัญที่จะยุติการมีส่วนร่วมในตลาด SSD โดยแยกกิจการที่เกี่ยวกับ NAND flash memory ออกไปให้กับ SanDisk ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นผลมาจากการวางแผนระยะยาวที่เริ่มตั้งแต่ปี 2023 และได้ถูกสรุปลงเมื่อเร็ว ๆ นี้

    การปรับโครงสร้างนี้หมายความว่า Western Digital จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) โดยคาดว่าความต้องการใช้งาน HDD จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากข้อมูลจากแอปพลิเคชันคลาวด์, AI, และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ยังคงพึ่งพาสื่อบันทึกแบบนี้เป็นหลัก

    การพัฒนา SSD ในมือของ SanDisk ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการ NAND flash memory จะรับหน้าที่ผลิตและจำหน่าย SSD ต่อไป และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ความร่วมมือกับผู้ผลิตชั้นนำเช่น Kioxia หรือ Samsung เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการผลิต

    สำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ SSD รุ่นยอดนิยมอย่าง WD Black SN850X นับเป็นช่วงเวลาแห่งความเสียดาย เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตจะไม่ใช้ชื่อ "WD" อีกต่อไป ซึ่งอาจทำให้ตลาดปรับตัวในแง่ของการรับรู้แบรนด์

    CEO ของ Western Digital, Irving Tan, ชี้ว่าการพัฒนา HDD ในอนาคตจะเน้นไปที่เทคโนโลยีอย่าง HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) เพื่อตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลในปริมาณมหาศาล เช่น AI data lakes และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning)

    นี่ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนโฟกัสของ Western Digital เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโดยรวม ที่การจัดการซัพพลายเชนและการตอบสนองความต้องการข้อมูลในยุคใหม่มีความซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ การพึ่งพา HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/107039-western-digital-exits-ssd-market-shifts-focus-hard.html
    Western Digital บริษัทผู้ผลิตสื่อบันทึกข้อมูลที่เป็นที่รู้จักมายาวนาน ได้ตัดสินใจสำคัญที่จะยุติการมีส่วนร่วมในตลาด SSD โดยแยกกิจการที่เกี่ยวกับ NAND flash memory ออกไปให้กับ SanDisk ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นผลมาจากการวางแผนระยะยาวที่เริ่มตั้งแต่ปี 2023 และได้ถูกสรุปลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ การปรับโครงสร้างนี้หมายความว่า Western Digital จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) โดยคาดว่าความต้องการใช้งาน HDD จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากข้อมูลจากแอปพลิเคชันคลาวด์, AI, และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ยังคงพึ่งพาสื่อบันทึกแบบนี้เป็นหลัก การพัฒนา SSD ในมือของ SanDisk ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการ NAND flash memory จะรับหน้าที่ผลิตและจำหน่าย SSD ต่อไป และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ความร่วมมือกับผู้ผลิตชั้นนำเช่น Kioxia หรือ Samsung เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการผลิต สำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ SSD รุ่นยอดนิยมอย่าง WD Black SN850X นับเป็นช่วงเวลาแห่งความเสียดาย เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตจะไม่ใช้ชื่อ "WD" อีกต่อไป ซึ่งอาจทำให้ตลาดปรับตัวในแง่ของการรับรู้แบรนด์ CEO ของ Western Digital, Irving Tan, ชี้ว่าการพัฒนา HDD ในอนาคตจะเน้นไปที่เทคโนโลยีอย่าง HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) เพื่อตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลในปริมาณมหาศาล เช่น AI data lakes และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) นี่ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนโฟกัสของ Western Digital เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโดยรวม ที่การจัดการซัพพลายเชนและการตอบสนองความต้องการข้อมูลในยุคใหม่มีความซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ การพึ่งพา HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคต https://www.techspot.com/news/107039-western-digital-exits-ssd-market-shifts-focus-hard.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital exits SSD market, shifts focus to hard drives as SanDisk takes over NAND operations
    This move, which had been in development for some time, was finalized last week. The SSD division has been fully spun off into SanDisk, leaving Western Digital...
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • Broadcom บริษัทผลิตชิปชั้นนำ ได้สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนด้วยการประกาศคาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 14.90 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่าความคาดหวังในตลาดเดิมที่ประมาณ 14.76 พันล้านดอลลาร์ การเปิดตัวรายงานนี้ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ Broadcom เพิ่มขึ้น 14% หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปรับลดลงถึง 6%

    ความต้องการชิป AI ของ Broadcom อยู่ในระดับที่ร้อนแรง โดยเฉพาะจากบริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่แทนโปรเซสเซอร์ราคาแพงจาก Nvidia เพื่อตอบสนองการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐาน AI CEO ของ Broadcom, Hock Tan เผยว่ารายได้จากชิป AI ในไตรมาสนี้คาดว่าจะสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

    Broadcom ยังมีลูกค้าใหม่อีก 4 รายในกลุ่ม Hyperscale ที่กำลังร่วมพัฒนาชิป AI แบบกำหนดเอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบ ทั้งนี้ ความร่วมมือนี้ยังไม่รวมอยู่ในเป้าหมายรายได้ที่ประมาณ 60-90 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานว่า OpenAI กำลังร่วมมือกับ Broadcom เพื่อออกแบบชิปที่กำหนดเองเพื่อลดการพึ่งพา Nvidia

    Broadcom ยังอยู่ในกระบวนการประเมินกระบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุดของ Intel ซึ่งรู้จักกันในชื่อ 18A ด้วยการทดสอบเวเฟอร์ที่โรงงานของ Intel เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาชิปรุ่นถัดไป

    Broadcom กำลังแสดงศักยภาพในการแข่งขันในตลาดชิป AI ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาชิปแบบกำหนดเอง และความร่วมมือกับลูกค้าใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การเติบโตนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ Broadcom ยืนหยัดอยู่ในตลาดได้อย่างมั่นคง แต่ยังช่วยสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/broadcom-forecasts-strong-second-quarter-on-upbeat-ai-chip-demand
    Broadcom บริษัทผลิตชิปชั้นนำ ได้สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนด้วยการประกาศคาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 14.90 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่าความคาดหวังในตลาดเดิมที่ประมาณ 14.76 พันล้านดอลลาร์ การเปิดตัวรายงานนี้ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ Broadcom เพิ่มขึ้น 14% หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปรับลดลงถึง 6% ความต้องการชิป AI ของ Broadcom อยู่ในระดับที่ร้อนแรง โดยเฉพาะจากบริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่แทนโปรเซสเซอร์ราคาแพงจาก Nvidia เพื่อตอบสนองการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐาน AI CEO ของ Broadcom, Hock Tan เผยว่ารายได้จากชิป AI ในไตรมาสนี้คาดว่าจะสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า Broadcom ยังมีลูกค้าใหม่อีก 4 รายในกลุ่ม Hyperscale ที่กำลังร่วมพัฒนาชิป AI แบบกำหนดเอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบ ทั้งนี้ ความร่วมมือนี้ยังไม่รวมอยู่ในเป้าหมายรายได้ที่ประมาณ 60-90 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานว่า OpenAI กำลังร่วมมือกับ Broadcom เพื่อออกแบบชิปที่กำหนดเองเพื่อลดการพึ่งพา Nvidia Broadcom ยังอยู่ในกระบวนการประเมินกระบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุดของ Intel ซึ่งรู้จักกันในชื่อ 18A ด้วยการทดสอบเวเฟอร์ที่โรงงานของ Intel เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาชิปรุ่นถัดไป Broadcom กำลังแสดงศักยภาพในการแข่งขันในตลาดชิป AI ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาชิปแบบกำหนดเอง และความร่วมมือกับลูกค้าใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การเติบโตนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ Broadcom ยืนหยัดอยู่ในตลาดได้อย่างมั่นคง แต่ยังช่วยสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/broadcom-forecasts-strong-second-quarter-on-upbeat-ai-chip-demand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Broadcom shares surge as solid forecast eases demand worries for AI chips
    (Reuters) -Broadcom CEO on Thursday assuaged investor worries about AI chip demand with a strong second-quarter forecast and hinted about new potential customers that could boost revenue in a highly competitive market.
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
More Results