• Bigme B7 เป็นอุปกรณ์ ePaper สีขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การโทรศัพท์, การบันทึกเสียงเป็นข้อความ และการใช้งานปากกาแบบไร้สาย

    🌐 จุดเด่นของ Bigme B7:
    - 🖥️ หน้าจอ ePaper สี: ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 ที่ให้ความละเอียด 1264x1680 สำหรับเนื้อหาขาวดำ และ 632x840 สำหรับเนื้อหาสี
    - 💾 สเปคที่ทรงพลัง: มาพร้อม RAM 8GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และรองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย TF card สูงสุด 1TB
    - 📞 การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 5.0 และ 4G ผ่าน Nano SIM พร้อมฟีเจอร์การบันทึกเสียงเป็นข้อความที่รองรับ 37 ภาษา

    ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย:
    - 🔋 แบตเตอรี่: แม้จะมีแบตเตอรี่ 3000mAh ที่ควรใช้งานได้นาน แต่ยังไม่มีรีวิวที่ยืนยันประสิทธิภาพ
    - ✏️ ปากกาไร้สาย: ปากกามีระดับแรงกด 4096 และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย แต่ไม่มีที่เก็บปากกาในตัวเครื่อง

    https://www.techradar.com/pro/i-cant-wait-to-try-this-7-inch-color-e-ink-display-that-can-make-calls-it-has-a-wireless-charging-stylus-and-a-unique-2-button-navigation
    Bigme B7 เป็นอุปกรณ์ ePaper สีขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การโทรศัพท์, การบันทึกเสียงเป็นข้อความ และการใช้งานปากกาแบบไร้สาย 🌐 จุดเด่นของ Bigme B7: - 🖥️ หน้าจอ ePaper สี: ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 ที่ให้ความละเอียด 1264x1680 สำหรับเนื้อหาขาวดำ และ 632x840 สำหรับเนื้อหาสี - 💾 สเปคที่ทรงพลัง: มาพร้อม RAM 8GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และรองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย TF card สูงสุด 1TB - 📞 การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 5.0 และ 4G ผ่าน Nano SIM พร้อมฟีเจอร์การบันทึกเสียงเป็นข้อความที่รองรับ 37 ภาษา ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย: - 🔋 แบตเตอรี่: แม้จะมีแบตเตอรี่ 3000mAh ที่ควรใช้งานได้นาน แต่ยังไม่มีรีวิวที่ยืนยันประสิทธิภาพ - ✏️ ปากกาไร้สาย: ปากกามีระดับแรงกด 4096 และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย แต่ไม่มีที่เก็บปากกาในตัวเครื่อง https://www.techradar.com/pro/i-cant-wait-to-try-this-7-inch-color-e-ink-display-that-can-make-calls-it-has-a-wireless-charging-stylus-and-a-unique-2-button-navigation
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Space Force ได้ลงทุนมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์ในโครงการขนส่งดาวเทียมที่สำคัญ โดยให้สัญญาแก่ SpaceX, ULA และ Blue Origin โครงการนี้แบ่งงานออกเป็นระดับสูงและทั่วไป SpaceX เป็นผู้รับสัญญามากที่สุด โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ส่วน Blue Origin แม้จะเป็นหน้าใหม่ในการขนส่งภารกิจ Lane 2 แต่ก็มีโอกาสในอนาคตหากผ่านการรับรองเพิ่มเติม โครงการนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอวกาศที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงระดับชาติ

    ✅ SpaceX คว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด:
    - SpaceX ได้รับมูลค่าสัญญาสูงถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 28 ภารกิจ โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ที่มีความสามารถในการขนส่งน้ำหนักมากและนำกลับมาใช้ใหม่
    - ULA ได้รับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 19 ภารกิจ โดยใช้จรวด Vulcan Centaur ที่ได้รับการรับรองใหม่
    - Blue Origin แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการ NSSL แต่ได้รับมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 7 ภารกิจ โดยใช้จรวด New Glenn

    ✅ ความสำคัญของโครงการ Lane 2:
    - โครงการนี้แบ่งภารกิจเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ Lane 1 สำหรับภารกิจทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ และ Lane 2 สำหรับภารกิจระดับสูงที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น การขนส่งดาวเทียมสายลับของ National Reconnaissance Office

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดขนส่งอวกาศ:
    - SpaceX ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของภารกิจ NSSL ตั้งแต่ปี 2015 ด้วยจรวดแบบนำกลับมาใช้ใหม่ที่ลดต้นทุนการขนส่ง
    - Blue Origin ต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับการรับรองจรวด New Glenn สำหรับภารกิจ Lane 2 ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2026

    ✅ จำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
    - ระหว่างปี 2025–2029 มีแผนที่จะจัดการ 84 ภารกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก Phase 2

    https://www.techspot.com/news/107434-space-force-awards-137-billion-contracts-spacex-two.html
    Space Force ได้ลงทุนมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์ในโครงการขนส่งดาวเทียมที่สำคัญ โดยให้สัญญาแก่ SpaceX, ULA และ Blue Origin โครงการนี้แบ่งงานออกเป็นระดับสูงและทั่วไป SpaceX เป็นผู้รับสัญญามากที่สุด โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ส่วน Blue Origin แม้จะเป็นหน้าใหม่ในการขนส่งภารกิจ Lane 2 แต่ก็มีโอกาสในอนาคตหากผ่านการรับรองเพิ่มเติม โครงการนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอวกาศที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงระดับชาติ ✅ SpaceX คว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด: - SpaceX ได้รับมูลค่าสัญญาสูงถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 28 ภารกิจ โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ที่มีความสามารถในการขนส่งน้ำหนักมากและนำกลับมาใช้ใหม่ - ULA ได้รับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 19 ภารกิจ โดยใช้จรวด Vulcan Centaur ที่ได้รับการรับรองใหม่ - Blue Origin แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการ NSSL แต่ได้รับมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 7 ภารกิจ โดยใช้จรวด New Glenn ✅ ความสำคัญของโครงการ Lane 2: - โครงการนี้แบ่งภารกิจเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ Lane 1 สำหรับภารกิจทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ และ Lane 2 สำหรับภารกิจระดับสูงที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น การขนส่งดาวเทียมสายลับของ National Reconnaissance Office ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดขนส่งอวกาศ: - SpaceX ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของภารกิจ NSSL ตั้งแต่ปี 2015 ด้วยจรวดแบบนำกลับมาใช้ใหม่ที่ลดต้นทุนการขนส่ง - Blue Origin ต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับการรับรองจรวด New Glenn สำหรับภารกิจ Lane 2 ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2026 ✅ จำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ: - ระหว่างปี 2025–2029 มีแผนที่จะจัดการ 84 ภารกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก Phase 2 https://www.techspot.com/news/107434-space-force-awards-137-billion-contracts-spacex-two.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Space Force awards $13.7 billion in contracts to SpaceX and two others for national security missions
    SpaceX secured the largest share of the contracts, landing $5.9 billion for 28 launches. Meanwhile, ULA snatched $5.4 billion for 19 missions, and Blue Origin received $2.4...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👉กลุ่มไลน์ "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

    ✅กองทัพมด หน่วย tiktok พิทักษ์สิทธิ์
    👌https://www.tiktok.com/@atapol01?_t=8Y6TRf0erHl&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@adithepchawla?_t=8bQwcnslqev&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@seed.of.soul?_t=8Vzx2VjSksc&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@james_93287?_t=8W5iUcIZnMX&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@ayrin_rk?_t=8W5inPpaIV7&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@lin18019?_t=8W5ir3xJmkc&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@benabna?_t=8WBl93aGgwj&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@stopthaicontrol?_t=8WBlyoW46mf&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@useryssde4acjp?_t=8WJSJWXCQwT&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@mint_ch0011?_t=8Y6SriTe1JK&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@use454pithaksid?_t=8Y6TeqaGEKo&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@meelap1999s?_t=8YBsrz6Mnar&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@grown_999?_t=8YK6jdXReuv&_r=1 (ถูกแบนแล้ว)
    👌https://www.tiktok.com/@peaceofsmile?_t=8YNPxgROGS9&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@rumrung?_t=8YTUSadUxfe&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@patt_2329?_t=8YcGgDYYTyM&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@act694?_t=8YnINhkjdty&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@yayabonitachiquita?_t=8ZAAcEjH9qz&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@pattharawatthantanadol?_t=8aJXyEBfZ1G&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@siamdetox?_t=8azHGX77G9C&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@blue_lemon.soda?_t=8bnCn6U1XTb&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@awaken.th?_t=8bvooDIrljD&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@aoyso1?_t=8c7aqyLuHBK&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@amonwan_1961?_t=8cEOFxxygsc&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@yingi.cds?_t=8cEOe7lEAgJ&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@vickylamer?_t=8caaRDq6SUk&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@pedam1968?_t=8ce4i3rzdMQ&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@user3xupk2qx4r?_t=8crQMqkvZl1&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@sanwatwanyangkorn?_t=8dT68a0OeRU&_r=1

    #มดล้มช้าง
    #ปลุกคนไทยจากโควิดลวงโลก
    #กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์และเครือข่าย
    👉กลุ่มไลน์ "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✅กองทัพมด หน่วย tiktok พิทักษ์สิทธิ์ 👌https://www.tiktok.com/@atapol01?_t=8Y6TRf0erHl&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@adithepchawla?_t=8bQwcnslqev&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@seed.of.soul?_t=8Vzx2VjSksc&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@james_93287?_t=8W5iUcIZnMX&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@ayrin_rk?_t=8W5inPpaIV7&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@lin18019?_t=8W5ir3xJmkc&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@benabna?_t=8WBl93aGgwj&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@stopthaicontrol?_t=8WBlyoW46mf&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@useryssde4acjp?_t=8WJSJWXCQwT&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@mint_ch0011?_t=8Y6SriTe1JK&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@use454pithaksid?_t=8Y6TeqaGEKo&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@meelap1999s?_t=8YBsrz6Mnar&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@grown_999?_t=8YK6jdXReuv&_r=1 (ถูกแบนแล้ว) 👌https://www.tiktok.com/@peaceofsmile?_t=8YNPxgROGS9&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@rumrung?_t=8YTUSadUxfe&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@patt_2329?_t=8YcGgDYYTyM&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@act694?_t=8YnINhkjdty&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@yayabonitachiquita?_t=8ZAAcEjH9qz&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@pattharawatthantanadol?_t=8aJXyEBfZ1G&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@siamdetox?_t=8azHGX77G9C&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@blue_lemon.soda?_t=8bnCn6U1XTb&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@awaken.th?_t=8bvooDIrljD&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@aoyso1?_t=8c7aqyLuHBK&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@amonwan_1961?_t=8cEOFxxygsc&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@yingi.cds?_t=8cEOe7lEAgJ&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@vickylamer?_t=8caaRDq6SUk&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@pedam1968?_t=8ce4i3rzdMQ&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@user3xupk2qx4r?_t=8crQMqkvZl1&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@sanwatwanyangkorn?_t=8dT68a0OeRU&_r=1 #มดล้มช้าง #ปลุกคนไทยจากโควิดลวงโลก #กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์และเครือข่าย
    LINE.ME
    ล้างพิษ ยาฉีด
    ห้องนี้มีจุดประสงค์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของผู้ที่ล้างพิษด้วยแนวทางต่าง ๆ เรื่องจากอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด เช่น หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก แผลพุพอง ซึมเศร้า panic ผมร่วง ฯลฯ ห้องนี้จัดขึ้นโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝง มีจุดประสงค์เดียวคือให้คนไทยรอด และตื่นรู้ พร้อมที่ออกมาต่อสู้เพื่อตนเอง ครอบครัวและสังคมต่อไป หากท่านมีอาการใดๆหลังฉีด หรือ หากมีประสบการณืที่ดัขึ้นจากการใช้แนงทางใดกรุณาแชร์ไว้ในห้องนี้เพื่อเป็นวิทยาทาน ห้องนี้มีไว้เพื่อแชร์ประสบการล้างพิษเท่านั้น ข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางแอดมินขอ อนุญาตลบ ขอให้ทุกท่านช่วยเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วมกลุ่ม “ล้างพิษ ยาฉีด” ที่แปะไว้ในโน้ตกลุ่ม ขอให้ทุกท่านกลับมามีสุขภาพดี ตามปกติ ได้อีกครั้ง❤️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน

    ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ:

    1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ
    2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ
    3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี
    4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า
    5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD
    6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ
    7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars
    8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา
    9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS
    10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน
    11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม
    12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว
    13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด
    14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows
    15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา
    16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต
    17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command
    18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง
    19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา
    20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส

    https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ: 1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ 2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ 3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี 4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า 5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD 6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ 7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars 8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา 9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS 10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน 11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม 12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว 13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด 14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows 15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา 16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต 17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command 18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง 19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา 20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    WWW.NEOWIN.NET
    20 times computers embarrassed themselves with public BSODs and goof-ups
    We have seen them time and again: BSODs, error screens, and other embarrassing stuff computers have done in public. Here are 20 of them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัวแท็บเล็ต Galaxy Tab S10 FE และ S10 FE Plus โดยรุ่น Plus มาพร้อม หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 13.1 นิ้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์นี้ ทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์ Vision Booster, Auto Trim และ Object Eraser ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

    ✅ Galaxy Tab S10 FE Plus ได้รับการอัปเกรดสำคัญ
    - ขยายหน้าจอจาก 12.4 นิ้ว เป็น 13.1 นิ้ว
    - ใช้ ชิป Exynos 1580 พร้อม แบตเตอรี่ขนาด 10,090mAh
    - รองรับ RAM สูงสุด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 256GB

    ✅ Galaxy Tab S10 FE มีขนาดเล็กกว่า แต่ยังคงฟีเจอร์หลักครบครัน
    - มาพร้อม หน้าจอ 10.9 นิ้ว และแบตเตอรี่ 8,000mAh
    - ทั้งสองรุ่นมี กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 12MP Ultra-Wide
    - รองรับ S Pen ที่รวมมาให้ในกล่อง

    ✅ Samsung เพิ่มฟีเจอร์ AI เพื่อปรับปรุงการใช้งาน
    - Object Eraser: ลบสิ่งที่ไม่ต้องการจากภาพอย่างง่ายดาย
    - Best Face: เลือกภาพที่ดีที่สุดจากหลายเฟรมอัตโนมัติ
    - Auto Trim: ปรับขนาดภาพและวิดีโอให้เหมาะสม

    ✅ เทคโนโลยี Vision Booster ช่วยลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ
    - นำมาจาก Samsung TV และ Galaxy S25 Ultra ช่วยให้การแสดงผลชัดขึ้นในทุกสภาพแสง

    ✅ ราคาและวันวางจำหน่าย
    - Galaxy Tab S10 FE เริ่มต้นที่ $499.99 / £499
    - Galaxy Tab S10 FE Plus เริ่มต้นที่ $649.99 / £649
    - มีให้เลือก 3 สี—Gray, Silver และ Blue พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้

    https://www.techradar.com/tablets/the-samsung-galaxy-tab-s10-fe-launches-with-an-ipad-air-rivaling-screen-and-ai-features-galore
    Samsung เปิดตัวแท็บเล็ต Galaxy Tab S10 FE และ S10 FE Plus โดยรุ่น Plus มาพร้อม หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 13.1 นิ้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์นี้ ทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์ Vision Booster, Auto Trim และ Object Eraser ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ✅ Galaxy Tab S10 FE Plus ได้รับการอัปเกรดสำคัญ - ขยายหน้าจอจาก 12.4 นิ้ว เป็น 13.1 นิ้ว - ใช้ ชิป Exynos 1580 พร้อม แบตเตอรี่ขนาด 10,090mAh - รองรับ RAM สูงสุด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 256GB ✅ Galaxy Tab S10 FE มีขนาดเล็กกว่า แต่ยังคงฟีเจอร์หลักครบครัน - มาพร้อม หน้าจอ 10.9 นิ้ว และแบตเตอรี่ 8,000mAh - ทั้งสองรุ่นมี กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 12MP Ultra-Wide - รองรับ S Pen ที่รวมมาให้ในกล่อง ✅ Samsung เพิ่มฟีเจอร์ AI เพื่อปรับปรุงการใช้งาน - Object Eraser: ลบสิ่งที่ไม่ต้องการจากภาพอย่างง่ายดาย - Best Face: เลือกภาพที่ดีที่สุดจากหลายเฟรมอัตโนมัติ - Auto Trim: ปรับขนาดภาพและวิดีโอให้เหมาะสม ✅ เทคโนโลยี Vision Booster ช่วยลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ - นำมาจาก Samsung TV และ Galaxy S25 Ultra ช่วยให้การแสดงผลชัดขึ้นในทุกสภาพแสง ✅ ราคาและวันวางจำหน่าย - Galaxy Tab S10 FE เริ่มต้นที่ $499.99 / £499 - Galaxy Tab S10 FE Plus เริ่มต้นที่ $649.99 / £649 - มีให้เลือก 3 สี—Gray, Silver และ Blue พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ https://www.techradar.com/tablets/the-samsung-galaxy-tab-s10-fe-launches-with-an-ipad-air-rivaling-screen-and-ai-features-galore
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ

    ✅ ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร?
    - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ
    - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft
    - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด

    ✅ เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว
    - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD)
    - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา
    - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม

    ✅ ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้?
    - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview
    - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง)

    ✅ อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows
    - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก
    - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน

    https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร? - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด ✅ เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD) - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม ✅ ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้? - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง) ✅ อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Microsoft Windows recovery feature aims to prevent CrowdStrike-like outages
    The feature, part of Microsoft's Windows Resiliency Initiative, was first announced last year. It's now being tested as part of the latest Windows Insider Preview build –...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกันภัย 10 บาท ถูกสุดในไทยขายเฉพาะเทศกาล

    เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวร์รันส์) หรือ ประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน รับเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 คุ้มครองอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุด 100,000 บาท และเพิ่มอีก 100,000 บาท หากเกิดอุบัติเหตุสาธารณะ รวมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 5,000 บาท รับประกันภัยโดย เมืองไทยประกันชีวิต ในครั้งนี้จำกัด 300,000 สิทธิ์เท่านั้น ผู้ซื้อต้องมีอายุ 15-70 ปีบริบูรณ์ จำกัด 1 กรมธรรม์ต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน

    โดยในปีนี้สมาชิก All Member ซื้อได้ผ่าน 7-App หรือเว็บไซต์ counterservice.co.th ชำระได้ทั้งบัตรเครดิต ทรูมันนี่วอลเล็ต และพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด หากซื้อประกันสำเร็จจะมี SMS และอีเมลแจ้งระยะความคุ้มครอง แต่ผู้ซื้อต้องศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขก่อนซื้อ เช่น ไม่คุ้มครองขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา (150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป) สารเสพติดหรือยาเสพติด การจบชีวิตตัวเอง การได้รับเชื้อโรค การแท้งลูก (ยกเว้นจากอุบัติเหตุ) สงคราม อาวุธนิวเคลียร์ การก่อการร้าย ก่ออาชญากรรม และเป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัครเข้าปฎิบัติสงครามหรือปราบปราม เป็นต้น

    นอกจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จำหน่ายประกันภัย 10 บาทแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ แจกประกันภัยฟรี โดยมีความคุ้มครองคล้ายกัน เช่น ร้านอินทนิลในปั๊มบางจากแจกประกันภัยเมื่อซื้อเครื่องดื่ม เลือกได้ระหว่างประกันอุบัติเหตุหรือประกันอัคคีภัย ส่วนโออาร์แจกประกันอุบัติเหตุฟรีแก่สมาชิก Blueplus+ ผ่านแอปพลิเคชัน xplORe เป็นต้น

    ประกันภัย 10 บาท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน สมัยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อปี 2561 (ปัจจุบันเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์) เพื่อเพิ่มทางเลือกด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย 100 และประกันภัย 222 คุ้มครอง 1 ปี มีผู้ซื้อประกันหลักหมื่นราย

    กระทั่งออกประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน ในช่วงสงกรานต์ปี 2561 สร้างสถิติใหม่เป็นประวัติศาสตร์ด้วยผู้ซื้อมากกว่า 1.32 ล้านราย นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงอีกด้วย กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้ คปภ. และประกันภัย 10 บาทในช่วงเทศกาลยังคงมีขายถึงปัจจุบัน

    #Newskit
    ประกันภัย 10 บาท ถูกสุดในไทยขายเฉพาะเทศกาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวร์รันส์) หรือ ประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน รับเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 คุ้มครองอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุด 100,000 บาท และเพิ่มอีก 100,000 บาท หากเกิดอุบัติเหตุสาธารณะ รวมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 5,000 บาท รับประกันภัยโดย เมืองไทยประกันชีวิต ในครั้งนี้จำกัด 300,000 สิทธิ์เท่านั้น ผู้ซื้อต้องมีอายุ 15-70 ปีบริบูรณ์ จำกัด 1 กรมธรรม์ต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน โดยในปีนี้สมาชิก All Member ซื้อได้ผ่าน 7-App หรือเว็บไซต์ counterservice.co.th ชำระได้ทั้งบัตรเครดิต ทรูมันนี่วอลเล็ต และพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด หากซื้อประกันสำเร็จจะมี SMS และอีเมลแจ้งระยะความคุ้มครอง แต่ผู้ซื้อต้องศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขก่อนซื้อ เช่น ไม่คุ้มครองขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา (150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป) สารเสพติดหรือยาเสพติด การจบชีวิตตัวเอง การได้รับเชื้อโรค การแท้งลูก (ยกเว้นจากอุบัติเหตุ) สงคราม อาวุธนิวเคลียร์ การก่อการร้าย ก่ออาชญากรรม และเป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัครเข้าปฎิบัติสงครามหรือปราบปราม เป็นต้น นอกจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จำหน่ายประกันภัย 10 บาทแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ แจกประกันภัยฟรี โดยมีความคุ้มครองคล้ายกัน เช่น ร้านอินทนิลในปั๊มบางจากแจกประกันภัยเมื่อซื้อเครื่องดื่ม เลือกได้ระหว่างประกันอุบัติเหตุหรือประกันอัคคีภัย ส่วนโออาร์แจกประกันอุบัติเหตุฟรีแก่สมาชิก Blueplus+ ผ่านแอปพลิเคชัน xplORe เป็นต้น ประกันภัย 10 บาท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน สมัยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อปี 2561 (ปัจจุบันเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์) เพื่อเพิ่มทางเลือกด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย 100 และประกันภัย 222 คุ้มครอง 1 ปี มีผู้ซื้อประกันหลักหมื่นราย กระทั่งออกประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน ในช่วงสงกรานต์ปี 2561 สร้างสถิติใหม่เป็นประวัติศาสตร์ด้วยผู้ซื้อมากกว่า 1.32 ล้านราย นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงอีกด้วย กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้ คปภ. และประกันภัย 10 บาทในช่วงเทศกาลยังคงมีขายถึงปัจจุบัน #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

    เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น
    - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก

    ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก
    - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้

    สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน
    - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้ สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is replacing the Blue Screen of Death in Windows 11
    Microsoft in a recent Windows Insider blog said the updated user interface additionally supports their goal of getting users back to productivity as fast as possible.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ปรับปรุง Threads ให้ผู้ใช้สามารถเลือกฟีดเริ่มต้นที่สนใจได้ เช่น Following feed ที่เรียงตามลำดับเวลา หรือสร้างฟีดใหม่ที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะของตนเอง ฟีเจอร์ใหม่ยังเพิ่มความสามารถในการควบคุมการตอบกลับโพสต์และเชื่อมโยงการใช้งานกับแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Mastodon และ Bluesky ทำให้การใช้งาน Threads มีความยืดหยุ่นและเหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่ที่ยกระดับการใช้งาน:
    - ผู้ใช้สามารถระบุหัวข้อที่สนใจในโปรไฟล์ได้ถึง 10 รายการ เพื่อช่วยให้โพสต์เกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวสามารถค้นหาและเขียนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถควบคุมว่าใครสามารถตอบกลับหรืออ้างอิงโพสต์ได้ เช่น เลือกเฉพาะผู้ติดตาม หรือบัญชีที่ผู้ใช้ติดตามเท่านั้น

    การสร้างฟีดแบบกำหนดเอง:
    - ผู้ใช้สามารถค้นหาหัวข้อที่ต้องการ สร้างฟีดใหม่ และเพิ่มหัวข้อเพิ่มเติมหรือโปรไฟล์ที่สนใจในฟีดนั้น ซึ่งช่วยให้การใช้งาน Threads มีความเฉพาะตัวและตอบสนองความสนใจของผู้ใช้ได้มากขึ้น

    การเชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์ม:
    - Threads มีการเชื่อมโยงฟีเจอร์บางส่วนกับ Mastodon และ Bluesky คู่แข่งของ X แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่การเชื่อมโยงนี้ช่วยสร้างความสะดวกในการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/30/meta039s-x-rival-threads-is-no-longer-forcing-its-algorithm-on-you
    Meta ปรับปรุง Threads ให้ผู้ใช้สามารถเลือกฟีดเริ่มต้นที่สนใจได้ เช่น Following feed ที่เรียงตามลำดับเวลา หรือสร้างฟีดใหม่ที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะของตนเอง ฟีเจอร์ใหม่ยังเพิ่มความสามารถในการควบคุมการตอบกลับโพสต์และเชื่อมโยงการใช้งานกับแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Mastodon และ Bluesky ทำให้การใช้งาน Threads มีความยืดหยุ่นและเหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ที่ยกระดับการใช้งาน: - ผู้ใช้สามารถระบุหัวข้อที่สนใจในโปรไฟล์ได้ถึง 10 รายการ เพื่อช่วยให้โพสต์เกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวสามารถค้นหาและเขียนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถควบคุมว่าใครสามารถตอบกลับหรืออ้างอิงโพสต์ได้ เช่น เลือกเฉพาะผู้ติดตาม หรือบัญชีที่ผู้ใช้ติดตามเท่านั้น การสร้างฟีดแบบกำหนดเอง: - ผู้ใช้สามารถค้นหาหัวข้อที่ต้องการ สร้างฟีดใหม่ และเพิ่มหัวข้อเพิ่มเติมหรือโปรไฟล์ที่สนใจในฟีดนั้น ซึ่งช่วยให้การใช้งาน Threads มีความเฉพาะตัวและตอบสนองความสนใจของผู้ใช้ได้มากขึ้น การเชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์ม: - Threads มีการเชื่อมโยงฟีเจอร์บางส่วนกับ Mastodon และ Bluesky คู่แข่งของ X แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่การเชื่อมโยงนี้ช่วยสร้างความสะดวกในการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/30/meta039s-x-rival-threads-is-no-longer-forcing-its-algorithm-on-you
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta's X rival Threads is no longer forcing its algorithm on you
    Meta is now giving Threads users more control over a key setting in letting them choose a default feed to appear when opening the app.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • Indigo-blue monochromatic hollyhocks
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Indigo-blue monochromatic hollyhocks #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Little fairy and her blue hollyhock
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Little fairy and her blue hollyhock #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Linux Foundation และ OpenInfra ได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตของเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งและเปิดกว้าง โดยการผสานโครงการสำคัญเช่น Kubernetes และ OpenStack เข้าด้วยกัน พวกเขามุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและร่วมกันสร้างนวัตกรรมได้อย่างอิสระ

    วิวัฒนาการของทั้งสององค์กร:
    - The Linux Foundation เริ่มต้นจากการรวมตัวกันของ Open Source Development Labs (OSDL) และ Free Standards Group ในปี 2007 โดยปัจจุบันสนับสนุนกว่า 900 โครงการโอเพ่นซอร์ส.
    - OpenInfra ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ภายใต้ชื่อ OpenStack Foundation ก่อนจะขยายการทำงานครอบคลุมโครงการต่าง ๆ เช่น Airship, Kata Containers และ StarlingX.

    โครงการที่เป็นแกนหลักในการพัฒนา:
    - ทั้งสององค์กรได้รวมพลังผ่าน Open Infrastructure Blueprint ซึ่งเชื่อมโยงโครงการสำคัญ เช่น Linux, OpenStack และ Kubernetes เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรทั่วโลก.

    ความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐาน AI:
    - ความร่วมมือนี้มุ่งเร่งการพัฒนาศูนย์ข้อมูลให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการด้าน AI โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมที่เปิดกว้าง ให้ชุมชนและนักพัฒนาทั่วโลกสามารถร่วมมือและปรับแต่งเทคโนโลยีได้อย่างอิสระ.

    จุดยืนในตลาดโอเพ่นซอร์ส:
    - ตลาดโอเพ่นซอร์สที่มีมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ได้รับแรงผลักดันจากความร่วมมือนี้ โดยเน้นการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนและหลักการของโอเพ่นซอร์ส.

    https://www.zdnet.com/article/the-linux-foundations-latest-partnership-could-shake-up-open-source-ecosystems-heres-why/
    The Linux Foundation และ OpenInfra ได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตของเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งและเปิดกว้าง โดยการผสานโครงการสำคัญเช่น Kubernetes และ OpenStack เข้าด้วยกัน พวกเขามุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและร่วมกันสร้างนวัตกรรมได้อย่างอิสระ วิวัฒนาการของทั้งสององค์กร: - The Linux Foundation เริ่มต้นจากการรวมตัวกันของ Open Source Development Labs (OSDL) และ Free Standards Group ในปี 2007 โดยปัจจุบันสนับสนุนกว่า 900 โครงการโอเพ่นซอร์ส. - OpenInfra ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ภายใต้ชื่อ OpenStack Foundation ก่อนจะขยายการทำงานครอบคลุมโครงการต่าง ๆ เช่น Airship, Kata Containers และ StarlingX. โครงการที่เป็นแกนหลักในการพัฒนา: - ทั้งสององค์กรได้รวมพลังผ่าน Open Infrastructure Blueprint ซึ่งเชื่อมโยงโครงการสำคัญ เช่น Linux, OpenStack และ Kubernetes เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรทั่วโลก. ความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐาน AI: - ความร่วมมือนี้มุ่งเร่งการพัฒนาศูนย์ข้อมูลให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการด้าน AI โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมที่เปิดกว้าง ให้ชุมชนและนักพัฒนาทั่วโลกสามารถร่วมมือและปรับแต่งเทคโนโลยีได้อย่างอิสระ. จุดยืนในตลาดโอเพ่นซอร์ส: - ตลาดโอเพ่นซอร์สที่มีมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ได้รับแรงผลักดันจากความร่วมมือนี้ โดยเน้นการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนและหลักการของโอเพ่นซอร์ส. https://www.zdnet.com/article/the-linux-foundations-latest-partnership-could-shake-up-open-source-ecosystems-heres-why/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง
    .
    ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้
    .
    แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย
    .
    ---------------
    ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก"
    ---------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป...
    .
    ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ
    .
    ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ
    .
    อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี)
    .
    เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย
    .
    เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้...
    .
    ------------------------
    กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง
    ------------------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551
    .
    ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ
    .
    ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล
    .
    ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่
    .
    หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664
    .
    แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน
    .
    ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค
    .
    ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง
    .
    และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี
    .
    ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด
    ---------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    - https://www.git.or.th/g20130410.html
    - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true
    - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175?
    - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater
    - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป
    - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง . ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้ . แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย . --------------- ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก" --------------- . อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป... . ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ . ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ . อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี) . เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย . เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้... . ------------------------ กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง ------------------------ . อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551 . ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ . ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล . ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่ . หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664 . แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน . ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค . ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง . และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี . ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด --------------------------------- แหล่งข้อมูล - https://www.git.or.th/g20130410.html - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175? - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/ ------------------------------- ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่ Website : http://www.thailandvision.co Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 879 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิใช่ “บลูไดมอนด์” ของซาอุฯ ตามคำกล่าวเท็จใส่ร้าย

    วันนี้ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ ครบรอบ ๓๑ ปีเหตุการณ์ “โจรกรรมเครื่องเพชรราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย” เกิดขึ้นในปี ๒๕๓๒ แล้ววันนี้แอดมินเห็นคนบางกลุ่มกำลังพยายามบิดเบือนความจริงในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานาว่า เพชรที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมใส่ คือ “เพชรสีน้ำเงิน” หรือที่เรารู้จักในชื่อ “Blue Diamond” เป็นเพชรที่ถูกขโมยมาจากประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งไม่เป็นความจริงตามคำกล่าวเท็จใส่ร้ายแต่ประกาศใด

    ตามพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมสร้อยพระศอเป็น “สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน (Blue Sapphire)” ไม่ใช่ “เพชรสีน้ำเงิน (Blue Diamond)” ตามที่คนบางกลุ่มกำลังพยายามบิดเบือนกล่าวหาพระองค์

    “สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน (Blue Sapphire)” องค์นี้ ประดับเพชรโดยไพลินสีน้ำเงินเม็ดนี้มีขนาด ๑๐๙.๕๗ กะรัต จี้ไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ เป็นฝีมือการออกแบบและประดิษฐ์จากบริษัทอัญมณี Van Cleef & Arpels จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อประมาณปี ๒๕๐๖

    ซึ่งพระองค์ทรงสวมสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ มานานกว่า ๕๐ ปีแล้ว และทรงสวมในหลาย ๆ โอกาสอีกด้วย เช่น ในปี ๒๕๑๑ ทรงสวมสร้อยพระศอนี้ ในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอิหร่าน เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๙ มกราคม ๒๕๑๑ (พระฉายาลักษณ์บนขวา) หรือในปี ๒๕๓๔ ทรงสวมสร้อยพระศอนี้ ในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๖-๓๐ กันยายน ๒๕๓๔ (พระฉายาลักษณ์ล่างกลาง)

    และเหตุการณ์ “โจรกรรมเครื่องเพชรราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย” เกิดขึ้นในปี ๒๕๓๒ แต่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน มานาน ๕๐ ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ เรื่อยมา จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระสร้อยศอนี้ จะเป็นเครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปี ๒๕๓๒

    และในคดีโจรกรรมเครื่องเพชรนั้น ได้จบไปนานแล้ว ในยุคนั้น นายโมฮัมหมัด ซาอิด โคจา ได้แสดงความขอบคุณทางการไทยอย่างสุดซึ้ง แม้จะยังไม่ได้เพชรคืนทุกชิ้นก็ตาม แต่ได้มาเพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว แต่สิ่งที่ซาอุดิอาระเบียโกรธทางการไทยอย่างมากจนลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลง มาจากสาเหตุเรื่องการอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ต่างหาก

    และราชวงศ์จักรี มีเครื่องประดับที่เป็นเพชรมากมาย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแล้ว หรือแม้แต่ในอดีต ตามบันทึกในหนังสือ “ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสนั้นเสด็จเยือนแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๐ และเสด็จไปในงานเลี้ยงรับรองสำคัญ ซึ่งในงานจะมีบุคคลสำคัญในวงการราชการและธุรกิจ คืนนั้นพระองค์ได้โดยในหนังสือเล่มดังกล่าวมีการระบุความตอนหนึ่งว่า

    “...คืนนั้น ข้าพเจ้าได้สวมสร้อยพระศอเพชร ซึ่งเป็นของเก่าของสมเด็จพระพันปีหลวง…”

    หมายเหตุ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ในบทความนี้ หมายถึง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

    ในบันทึกยังบอกอีกว่า สร้อยพระศอเพชรเส้นนี้เอง ทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างหนึ่งในงานนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเมื่อแขกคนสำคัญคนหนึ่งถามหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต ซึ่งทำหน้าที่นางสนองพระโอษฐ์ แล้วไปในงานวันนั้นด้วยว่า

    “...เอ้อ…สร้อยพระศอที่พระราชินีของท่านทรงอยู่นั้น คงเพิ่งซื้อใหม่จากปารีสกระมัง...”

    หม่อมเจ้าวิภาวดี ทรงตอบว่า

    “...เอ๊ะ ! นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือ ว่าเมืองไทยของฉันมีอายุกว่า ๗๐๐-๘๐๐ ปีแล้ว พระราชวงศ์จักรีก็มีมาตั้งเกือบสองศตวรรษ เราจึงมีเครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์บ้าง ไม่เห็นจะต้องซื้อของใหม่ราคาแพงมาใช้เลย...”

    จากบันทึกในหนังสือ “ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของพระองค์ ทำให้เห็นได้ว่า เครื่องเพชรที่พระองค์ประดับอยู่ หลาย ๆ ชิ้น ตลอดการเดินทางนั้น ล้วนเป็น เครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์ทั้งนั้น รวมถึงสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน นั้นก็เช่นกัน

    สุดท้ายนี้ แอดมินหวังว่าท่านที่ไปฟังเขาเล่ามาว่าแบบนั้นแบบนี้ อยากให้เข้าใจเสียใหม่ และหลังจากนี้ ก็หวังอีกว่าคงไม่มีใครจะกล่าวเท็จใส่ร้ายพระองค์อีก

    Cr. เพจ โบราณนานมา
    มิใช่ “บลูไดมอนด์” ของซาอุฯ ตามคำกล่าวเท็จใส่ร้าย วันนี้ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ ครบรอบ ๓๑ ปีเหตุการณ์ “โจรกรรมเครื่องเพชรราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย” เกิดขึ้นในปี ๒๕๓๒ แล้ววันนี้แอดมินเห็นคนบางกลุ่มกำลังพยายามบิดเบือนความจริงในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานาว่า เพชรที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมใส่ คือ “เพชรสีน้ำเงิน” หรือที่เรารู้จักในชื่อ “Blue Diamond” เป็นเพชรที่ถูกขโมยมาจากประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งไม่เป็นความจริงตามคำกล่าวเท็จใส่ร้ายแต่ประกาศใด ตามพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมสร้อยพระศอเป็น “สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน (Blue Sapphire)” ไม่ใช่ “เพชรสีน้ำเงิน (Blue Diamond)” ตามที่คนบางกลุ่มกำลังพยายามบิดเบือนกล่าวหาพระองค์ “สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน (Blue Sapphire)” องค์นี้ ประดับเพชรโดยไพลินสีน้ำเงินเม็ดนี้มีขนาด ๑๐๙.๕๗ กะรัต จี้ไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ เป็นฝีมือการออกแบบและประดิษฐ์จากบริษัทอัญมณี Van Cleef & Arpels จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อประมาณปี ๒๕๐๖ ซึ่งพระองค์ทรงสวมสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ มานานกว่า ๕๐ ปีแล้ว และทรงสวมในหลาย ๆ โอกาสอีกด้วย เช่น ในปี ๒๕๑๑ ทรงสวมสร้อยพระศอนี้ ในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอิหร่าน เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๙ มกราคม ๒๕๑๑ (พระฉายาลักษณ์บนขวา) หรือในปี ๒๕๓๔ ทรงสวมสร้อยพระศอนี้ ในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๖-๓๐ กันยายน ๒๕๓๔ (พระฉายาลักษณ์ล่างกลาง) และเหตุการณ์ “โจรกรรมเครื่องเพชรราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย” เกิดขึ้นในปี ๒๕๓๒ แต่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน มานาน ๕๐ ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ เรื่อยมา จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระสร้อยศอนี้ จะเป็นเครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปี ๒๕๓๒ และในคดีโจรกรรมเครื่องเพชรนั้น ได้จบไปนานแล้ว ในยุคนั้น นายโมฮัมหมัด ซาอิด โคจา ได้แสดงความขอบคุณทางการไทยอย่างสุดซึ้ง แม้จะยังไม่ได้เพชรคืนทุกชิ้นก็ตาม แต่ได้มาเพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว แต่สิ่งที่ซาอุดิอาระเบียโกรธทางการไทยอย่างมากจนลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลง มาจากสาเหตุเรื่องการอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ต่างหาก และราชวงศ์จักรี มีเครื่องประดับที่เป็นเพชรมากมาย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแล้ว หรือแม้แต่ในอดีต ตามบันทึกในหนังสือ “ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสนั้นเสด็จเยือนแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๐ และเสด็จไปในงานเลี้ยงรับรองสำคัญ ซึ่งในงานจะมีบุคคลสำคัญในวงการราชการและธุรกิจ คืนนั้นพระองค์ได้โดยในหนังสือเล่มดังกล่าวมีการระบุความตอนหนึ่งว่า “...คืนนั้น ข้าพเจ้าได้สวมสร้อยพระศอเพชร ซึ่งเป็นของเก่าของสมเด็จพระพันปีหลวง…” หมายเหตุ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ในบทความนี้ หมายถึง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในบันทึกยังบอกอีกว่า สร้อยพระศอเพชรเส้นนี้เอง ทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างหนึ่งในงานนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเมื่อแขกคนสำคัญคนหนึ่งถามหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต ซึ่งทำหน้าที่นางสนองพระโอษฐ์ แล้วไปในงานวันนั้นด้วยว่า “...เอ้อ…สร้อยพระศอที่พระราชินีของท่านทรงอยู่นั้น คงเพิ่งซื้อใหม่จากปารีสกระมัง...” หม่อมเจ้าวิภาวดี ทรงตอบว่า “...เอ๊ะ ! นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือ ว่าเมืองไทยของฉันมีอายุกว่า ๗๐๐-๘๐๐ ปีแล้ว พระราชวงศ์จักรีก็มีมาตั้งเกือบสองศตวรรษ เราจึงมีเครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์บ้าง ไม่เห็นจะต้องซื้อของใหม่ราคาแพงมาใช้เลย...” จากบันทึกในหนังสือ “ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของพระองค์ ทำให้เห็นได้ว่า เครื่องเพชรที่พระองค์ประดับอยู่ หลาย ๆ ชิ้น ตลอดการเดินทางนั้น ล้วนเป็น เครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์ทั้งนั้น รวมถึงสร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน นั้นก็เช่นกัน สุดท้ายนี้ แอดมินหวังว่าท่านที่ไปฟังเขาเล่ามาว่าแบบนั้นแบบนี้ อยากให้เข้าใจเสียใหม่ และหลังจากนี้ ก็หวังอีกว่าคงไม่มีใครจะกล่าวเท็จใส่ร้ายพระองค์อีก Cr. เพจ โบราณนานมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • Seagate กำลังเปลี่ยนแปลงวงการเก็บข้อมูลด้วยฮาร์ดดิสก์ NVMe ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าและลดความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล งานนี้เหมาะกับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่มาก โดยพัฒนาระบบที่ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่าง GPU และพื้นที่เก็บข้อมูลลื่นไหลขึ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ศูนย์ข้อมูลที่ใช้ HDD สามารถแข่งกับ SSD ได้ในแง่ของต้นทุนและประสิทธิภาพในระยะยาว

    ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า:
    - เทคโนโลยี NVMe มอบความเร็วในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบเดิม (SATA และ SAS) ซึ่งมีขีดจำกัดที่ 6-12 Gbps ขณะที่ NVMe บน PCIe รองรับความเร็วสูงสุดถึง 128 GB/s พร้อมความสามารถในการประมวลผลแบบขนานที่เหมาะกับงาน AI.
    - NVMe ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลสามารถส่งตรงระหว่าง GPU และพื้นที่เก็บข้อมูลได้ โดยไม่ต้องผ่าน CPU ลดปัญหาคอขวดในระบบ.

    ระบบต้นแบบของ Seagate:
    - ระบบประกอบด้วย HDD ที่รองรับ NVMe จำนวน 8 ตัว, SSD สำหรับแคชข้อมูล 4 ตัว, DPU Nvidia BlueField 3 และซอฟต์แวร์ AIStore ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล.
    - ซอฟต์แวร์นี้ยังสามารถปรับปรุงการแคชข้อมูลและจัดเรียงลำดับการใช้งานข้อมูลอัตโนมัติ ทำให้การฝึก AI โมเดลทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.

    ข้อได้เปรียบในระยะยาว:
    - การเพิ่ม NVMe เข้ากับ HDD ช่วยลดความซับซ้อนของระบบ ลดต้นทุนจากการใช้ตัวกลาง (HBAs) และสามารถขยายขนาดระบบไปสู่ระดับเอกซาไบต์ได้โดยใช้ NVMe-over-Fabric (NVMe-oF).

    ข้อจำกัดและความท้าทาย:
    - HDD ที่มี NVMe อาจมีปัญหาประสิทธิภาพ IOPS ต่อความจุ (TB) ที่ลดลงในอนาคตเมื่อใช้งานในกลุ่มงาน AI และอาจจำเป็นต้องใช้ HDD แบบ Dual-Actuator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/gpu-meets-pcie-based-hard-drives-seagate-and-nvidia-demo-nvme-hdds
    Seagate กำลังเปลี่ยนแปลงวงการเก็บข้อมูลด้วยฮาร์ดดิสก์ NVMe ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าและลดความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล งานนี้เหมาะกับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่มาก โดยพัฒนาระบบที่ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่าง GPU และพื้นที่เก็บข้อมูลลื่นไหลขึ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ศูนย์ข้อมูลที่ใช้ HDD สามารถแข่งกับ SSD ได้ในแง่ของต้นทุนและประสิทธิภาพในระยะยาว ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: - เทคโนโลยี NVMe มอบความเร็วในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบเดิม (SATA และ SAS) ซึ่งมีขีดจำกัดที่ 6-12 Gbps ขณะที่ NVMe บน PCIe รองรับความเร็วสูงสุดถึง 128 GB/s พร้อมความสามารถในการประมวลผลแบบขนานที่เหมาะกับงาน AI. - NVMe ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลสามารถส่งตรงระหว่าง GPU และพื้นที่เก็บข้อมูลได้ โดยไม่ต้องผ่าน CPU ลดปัญหาคอขวดในระบบ. ระบบต้นแบบของ Seagate: - ระบบประกอบด้วย HDD ที่รองรับ NVMe จำนวน 8 ตัว, SSD สำหรับแคชข้อมูล 4 ตัว, DPU Nvidia BlueField 3 และซอฟต์แวร์ AIStore ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล. - ซอฟต์แวร์นี้ยังสามารถปรับปรุงการแคชข้อมูลและจัดเรียงลำดับการใช้งานข้อมูลอัตโนมัติ ทำให้การฝึก AI โมเดลทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น. ข้อได้เปรียบในระยะยาว: - การเพิ่ม NVMe เข้ากับ HDD ช่วยลดความซับซ้อนของระบบ ลดต้นทุนจากการใช้ตัวกลาง (HBAs) และสามารถขยายขนาดระบบไปสู่ระดับเอกซาไบต์ได้โดยใช้ NVMe-over-Fabric (NVMe-oF). ข้อจำกัดและความท้าทาย: - HDD ที่มี NVMe อาจมีปัญหาประสิทธิภาพ IOPS ต่อความจุ (TB) ที่ลดลงในอนาคตเมื่อใช้งานในกลุ่มงาน AI และอาจจำเป็นต้องใช้ HDD แบบ Dual-Actuator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ. https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/gpu-meets-pcie-based-hard-drives-seagate-and-nvidia-demo-nvme-hdds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newfold Digital ที่เป็นเจ้าของโฮสต์เว็บไซต์ดัง ๆ อย่าง Bluehost และ HostGator ได้ตัดสินใจย้ายระบบไปใช้ Oracle Cloud เพื่อยกระดับบริการ นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เพราะ Oracle Cloud เองก็เพิ่งเปิดตัวเทคโนโลยี AI Cluster ที่ทันสมัยมาก ขณะเดียวกัน Newfold Digital ก็มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการที่ช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะสร้างโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับวงการเว็บโฮสติ้ง

    การย้ายระบบของ Newfold Digital:
    - Newfold Digital ดูแลแบรนด์ชั้นนำ เช่น Bluehost และ HostGator ซึ่งให้บริการกับเว็บไซต์นับล้านทั่วโลก โดย Bluehost ยังได้รับการแนะนำโดย WordPress.org
    - การย้ายไปยัง Oracle Cloud อาจมีผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่ใช้บริการเหล่านี้ในเชิงประสิทธิภาพและต้นทุน

    ความสำคัญของ Oracle Cloud:
    - Oracle มีการพัฒนา 64,000-GPU Nvidia Cluster เพื่อรองรับงานด้าน AI ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำหลายแห่งในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น CrowdStrike และ Palo Alto
    - ความสามารถในการให้บริการฐานข้อมูลของ Oracle ครอบคลุมหลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดคลาวด์

    ข้อมูลเกี่ยวกับ Newfold Digital:
    - บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยเกิดจากการรวมตัวของ Endurance Web Presence และ Web.com Group
    - ให้บริการหลากหลาย ทั้งจดโดเมน โฮสติ้ง การสร้างเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัล

    https://www.techradar.com/pro/bluehost-owner-is-moving-to-oracle-cloud-so-could-thousands-of-websites-be-about-to-migrate
    Newfold Digital ที่เป็นเจ้าของโฮสต์เว็บไซต์ดัง ๆ อย่าง Bluehost และ HostGator ได้ตัดสินใจย้ายระบบไปใช้ Oracle Cloud เพื่อยกระดับบริการ นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เพราะ Oracle Cloud เองก็เพิ่งเปิดตัวเทคโนโลยี AI Cluster ที่ทันสมัยมาก ขณะเดียวกัน Newfold Digital ก็มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการที่ช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะสร้างโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับวงการเว็บโฮสติ้ง การย้ายระบบของ Newfold Digital: - Newfold Digital ดูแลแบรนด์ชั้นนำ เช่น Bluehost และ HostGator ซึ่งให้บริการกับเว็บไซต์นับล้านทั่วโลก โดย Bluehost ยังได้รับการแนะนำโดย WordPress.org - การย้ายไปยัง Oracle Cloud อาจมีผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่ใช้บริการเหล่านี้ในเชิงประสิทธิภาพและต้นทุน ความสำคัญของ Oracle Cloud: - Oracle มีการพัฒนา 64,000-GPU Nvidia Cluster เพื่อรองรับงานด้าน AI ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำหลายแห่งในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น CrowdStrike และ Palo Alto - ความสามารถในการให้บริการฐานข้อมูลของ Oracle ครอบคลุมหลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดคลาวด์ ข้อมูลเกี่ยวกับ Newfold Digital: - บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยเกิดจากการรวมตัวของ Endurance Web Presence และ Web.com Group - ให้บริการหลากหลาย ทั้งจดโดเมน โฮสติ้ง การสร้างเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/bluehost-owner-is-moving-to-oracle-cloud-so-could-thousands-of-websites-be-about-to-migrate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • Piccolo N150 เป็นแล็ปท็อปขนาดเล็กพิเศษที่คนรักความสะดวกพกพาต้องหลงรัก มันเบา ขนาดจิ๋ว แต่มีสเปคที่เหมาะกับงานง่าย ๆ อย่างการเขียนโค้ดหรือพิมพ์เอกสาร ผู้เขียนลองเปลี่ยนจาก Windows มาใช้ Linux และพบว่าเครื่องนี้ทำงานได้ดีและลื่นไหล แม้จะต้องปรับตัวกับแป้นพิมพ์เล็ก ๆ หน่อย ส่วนเสียงลำโพงอาจเบาไปบ้าง แต่ถ้าใครต้องการแล็ปท็อปเล็กพกพาไว้ใช้งานระหว่างทาง Piccolo N150 น่าจะตอบโจทย์อย่างดี

    คุณสมบัติเด่นของ Piccolo N150:
    - ใช้ซีพียู Intel Alder Lake N100 พร้อม RAM 12GB และ SSD 512GB
    - หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1200
    - มีฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือในปุ่มเปิดเครื่อง และรองรับ Bluetooth 5.2 กับ Wi-Fi 6

    ประสบการณ์การใช้งาน Linux:
    - KDE Neon ทำงานได้ราบรื่นกับฮาร์ดแวร์ของเครื่อง
    - แม้แป้นพิมพ์จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ผู้ใช้งานชื่นชอบความสะดวกในการพิมพ์งานหรือเขียนโค้ดในพื้นที่เล็ก ๆ
    - เครื่องสามารถใช้งาน AI แบบ local ผ่านซอฟต์แวร์ Ollama / Msty ได้ดี

    ความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน:
    - เหมาะสำหรับงานที่ไม่หนัก เช่น การเขียนงานและโค้ดระหว่างเดินทาง
    - ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนักหรือทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://www.zdnet.com/article/i-installed-linux-on-a-mini-laptop-and-it-brought-me-back-to-the-netbooks-golden-days/
    Piccolo N150 เป็นแล็ปท็อปขนาดเล็กพิเศษที่คนรักความสะดวกพกพาต้องหลงรัก มันเบา ขนาดจิ๋ว แต่มีสเปคที่เหมาะกับงานง่าย ๆ อย่างการเขียนโค้ดหรือพิมพ์เอกสาร ผู้เขียนลองเปลี่ยนจาก Windows มาใช้ Linux และพบว่าเครื่องนี้ทำงานได้ดีและลื่นไหล แม้จะต้องปรับตัวกับแป้นพิมพ์เล็ก ๆ หน่อย ส่วนเสียงลำโพงอาจเบาไปบ้าง แต่ถ้าใครต้องการแล็ปท็อปเล็กพกพาไว้ใช้งานระหว่างทาง Piccolo N150 น่าจะตอบโจทย์อย่างดี คุณสมบัติเด่นของ Piccolo N150: - ใช้ซีพียู Intel Alder Lake N100 พร้อม RAM 12GB และ SSD 512GB - หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1200 - มีฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือในปุ่มเปิดเครื่อง และรองรับ Bluetooth 5.2 กับ Wi-Fi 6 ประสบการณ์การใช้งาน Linux: - KDE Neon ทำงานได้ราบรื่นกับฮาร์ดแวร์ของเครื่อง - แม้แป้นพิมพ์จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ผู้ใช้งานชื่นชอบความสะดวกในการพิมพ์งานหรือเขียนโค้ดในพื้นที่เล็ก ๆ - เครื่องสามารถใช้งาน AI แบบ local ผ่านซอฟต์แวร์ Ollama / Msty ได้ดี ความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน: - เหมาะสำหรับงานที่ไม่หนัก เช่น การเขียนงานและโค้ดระหว่างเดินทาง - ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนักหรือทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://www.zdnet.com/article/i-installed-linux-on-a-mini-laptop-and-it-brought-me-back-to-the-netbooks-golden-days/
    WWW.ZDNET.COM
    I installed Linux on a mini laptop, and it brought me back to the Netbook's golden days
    The eight-inch Piccolo N150 may be tiny, but its surprisingly good display and sturdy frame show it's no toy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bluesky ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างโลกที่ไม่มี "จักรพรรดิ" หรือผู้ควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จบนโซเชียลมีเดีย แนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจจากความไม่พอใจในแพลตฟอร์มปัจจุบันที่มักถูกควบคุมโดยบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ

    Bluesky ก่อตั้งโดย Jay Graber พร้อมกับทีมที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า ผู้ใช้งานควรมีอิสระในการควบคุมและย้ายข้อมูลของตัวเองระหว่างแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Twitter (หรือ X) และ Meta ที่ผู้ควบคุมมักใช้อำนาจในทางที่ผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

    Bluesky ให้ความสำคัญกับผู้ใช้และนักพัฒนา โดยการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้สร้างฟีดส่วนตัวได้ตามความสนใจ เช่น การทำสวน กีฬา หรือการศึกษา ครีเอเตอร์ที่เคยถูกจำกัดโดยอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเดิมจะมีพื้นที่ที่เสรีและควบคุมการนำเสนอเนื้อหาได้ดีขึ้น ต่างจาก Mastodon ที่มีกระบวนการซับซ้อน Bluesky มีระบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    แม้ว่า Bluesky จะยังมีผู้ใช้น้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ แต่พวกเขากลับมองว่านี่เป็น "ปีแห่งการเปิดตัว" ที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างแท้จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/bluesky-wants-039a-world-without-caesars039-for-social-media
    Bluesky ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างโลกที่ไม่มี "จักรพรรดิ" หรือผู้ควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จบนโซเชียลมีเดีย แนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจจากความไม่พอใจในแพลตฟอร์มปัจจุบันที่มักถูกควบคุมโดยบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ Bluesky ก่อตั้งโดย Jay Graber พร้อมกับทีมที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า ผู้ใช้งานควรมีอิสระในการควบคุมและย้ายข้อมูลของตัวเองระหว่างแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Twitter (หรือ X) และ Meta ที่ผู้ควบคุมมักใช้อำนาจในทางที่ผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ Bluesky ให้ความสำคัญกับผู้ใช้และนักพัฒนา โดยการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้สร้างฟีดส่วนตัวได้ตามความสนใจ เช่น การทำสวน กีฬา หรือการศึกษา ครีเอเตอร์ที่เคยถูกจำกัดโดยอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเดิมจะมีพื้นที่ที่เสรีและควบคุมการนำเสนอเนื้อหาได้ดีขึ้น ต่างจาก Mastodon ที่มีกระบวนการซับซ้อน Bluesky มีระบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้ว่า Bluesky จะยังมีผู้ใช้น้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ แต่พวกเขากลับมองว่านี่เป็น "ปีแห่งการเปิดตัว" ที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างแท้จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/bluesky-wants-039a-world-without-caesars039-for-social-media
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI

    คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC:
    1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง

    2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง

    3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ:
    - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB
    - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB
    - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242)

    4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth

    5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

    Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

    Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา

    https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC: 1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง 2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง 3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ: - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242) 4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth 5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    WCCFTECH.COM
    Sapphire Intros Edge AI Mini-PCs Powered By AMD "Ryzen AI 300" Krackan Point APUs; Feature Ultra-Compact Form Factor
    Sapphire's new mini PCs lineup introduces AMD's recently launched Ryzen AI 300 APUs and is super-compact for better portability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Tarlogic Security ในสเปน ได้ค้นพบช่องโหว่ที่น่ากังวลในชิป ESP32 ซึ่งเป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ถูกใช้ในอุปกรณ์ IoT มากกว่า 1 พันล้านเครื่องทั่วโลก โดยช่องโหว่นี้มีลักษณะเป็นคำสั่งที่ไม่ได้รับการเปิดเผย (undocumented commands) ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ได้ในระดับต่ำ (low-level control) รวมถึงการสวมรอย (spoofing) และการแก้ไขหน่วยความจำ

    ชิป ESP32 จาก Espressif ถูกใช้งานในอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทล็อก โทรศัพท์ และอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งการมีช่องโหว่ในชิปรุ่นนี้ถือเป็นภัยคุกคามที่น่าเป็นห่วง โดย Tarlogic Security พบคำสั่งที่ซ่อนอยู่ในเฟิร์มแวร์ Bluetooth ของ ESP32 รวมถึงคำสั่ง Opcode 0x3F ที่ให้ความสามารถในการจัดการหน่วยความจำ การปลอมแปลง MAC address และการฉีดแพ็กเก็ตข้อมูล (LMP/LLCP packet injection)

    == ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ==
    1) การโจมตีระยะไกล: ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้งานในกรณีที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงเฟิร์มแวร์ที่เป็นอันตราย หรือมีการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่ไม่ปลอดภัย
    2) การโจมตีผ่าน USB/UART: หากผู้โจมตีเข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้โดยตรงผ่าน USB หรือ UART พวกเขาสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อดักฟังหรือควบคุมอุปกรณ์ได้
    3) การโจมตีแบบขยายตัว: ในบริบทของ IoT ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสร้าง APT (Advanced Persistent Threat) ภายในหน่วยความจำของ ESP32 และกระจายการโจมตีไปยังอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย

    จนถึงขณะนี้ Espressif ยังไม่ได้ออกคำชี้แจงเกี่ยวกับช่องโหว่นี้ ผู้ใช้งานอุปกรณ์ IoT ที่มีชิป ESP32 ควรระมัดระวังและตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสการเชื่อมต่อ Bluetooth และการปิดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/undocumented-backdoor-found-in-bluetooth-chip-used-by-a-billion-devices/
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Tarlogic Security ในสเปน ได้ค้นพบช่องโหว่ที่น่ากังวลในชิป ESP32 ซึ่งเป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ถูกใช้ในอุปกรณ์ IoT มากกว่า 1 พันล้านเครื่องทั่วโลก โดยช่องโหว่นี้มีลักษณะเป็นคำสั่งที่ไม่ได้รับการเปิดเผย (undocumented commands) ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ได้ในระดับต่ำ (low-level control) รวมถึงการสวมรอย (spoofing) และการแก้ไขหน่วยความจำ ชิป ESP32 จาก Espressif ถูกใช้งานในอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทล็อก โทรศัพท์ และอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งการมีช่องโหว่ในชิปรุ่นนี้ถือเป็นภัยคุกคามที่น่าเป็นห่วง โดย Tarlogic Security พบคำสั่งที่ซ่อนอยู่ในเฟิร์มแวร์ Bluetooth ของ ESP32 รวมถึงคำสั่ง Opcode 0x3F ที่ให้ความสามารถในการจัดการหน่วยความจำ การปลอมแปลง MAC address และการฉีดแพ็กเก็ตข้อมูล (LMP/LLCP packet injection) == ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น == 1) การโจมตีระยะไกล: ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้งานในกรณีที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงเฟิร์มแวร์ที่เป็นอันตราย หรือมีการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่ไม่ปลอดภัย 2) การโจมตีผ่าน USB/UART: หากผู้โจมตีเข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้โดยตรงผ่าน USB หรือ UART พวกเขาสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อดักฟังหรือควบคุมอุปกรณ์ได้ 3) การโจมตีแบบขยายตัว: ในบริบทของ IoT ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสร้าง APT (Advanced Persistent Threat) ภายในหน่วยความจำของ ESP32 และกระจายการโจมตีไปยังอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย จนถึงขณะนี้ Espressif ยังไม่ได้ออกคำชี้แจงเกี่ยวกับช่องโหว่นี้ ผู้ใช้งานอุปกรณ์ IoT ที่มีชิป ESP32 ควรระมัดระวังและตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสการเชื่อมต่อ Bluetooth และการปิดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน https://www.bleepingcomputer.com/news/security/undocumented-backdoor-found-in-bluetooth-chip-used-by-a-billion-devices/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Undocumented "backdoor" found in Bluetooth chip used by a billion devices
    The ubiquitous ESP32 microchip made by Chinese manufacturer Espressif and used by over 1 billion units as of 2023 contains an undocumented "backdoor" that could be leveraged for attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple เพิ่งเปิดตัว MacBook Air รุ่น M4 ที่มาพร้อมชิป M4 ใหม่ล่าสุด และจากการทดสอบเบื้องต้น พบว่ามีประสิทธิภาพที่ทัดเทียมกับ MacBook Pro ที่ใช้ชิป M4 รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะในด้านการประมวลผลกราฟิก แม้ว่า MacBook Air จะไม่มีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม แต่ชิป M4 ทำให้การใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหลและเหมาะสมกับการทำงานหนักในระดับหนึ่ง

    การทดสอบด้วย Geekbench Metal เผยว่า MacBook Air M4 ทำคะแนนได้ 54,846 คะแนน ซึ่งใกล้เคียงกับ MacBook Pro M4 ที่ได้ 57,788 คะแนน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพกราฟิกของ MacBook Air M4 ใกล้เคียงกับ MacBook Pro มาก แต่ในชีวิตจริงอาจมีความแตกต่างกันเมื่อใช้งานนาน ๆ เนื่องจาก MacBook Air ไม่มีระบบระบายความร้อนที่เหมาะสำหรับงานที่ใช้ทรัพยากรหนัก

    MacBook Air M4 รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับ RAM 16GB ในราคาเพียง 999 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในระดับเดียวกับ MacBook Pro Apple ยังเพิ่มสีใหม่ Sky Blue ให้เลือกซื้อ เพื่อความสดใหม่จากรุ่นก่อน ๆ

    MacBook Air M4 ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เป็นมิตร โดยเหมาะกับงานประมวลผลทั่วไป การทำงานด้านมัลติมีเดีย และการพกพาที่สะดวก อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการใช้งานกับโปรแกรมหรือกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง อาจพบปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพลดลงในระยะยาว

    https://wccftech.com/m4-macbook-air-metal-benchmarks-performance/
    Apple เพิ่งเปิดตัว MacBook Air รุ่น M4 ที่มาพร้อมชิป M4 ใหม่ล่าสุด และจากการทดสอบเบื้องต้น พบว่ามีประสิทธิภาพที่ทัดเทียมกับ MacBook Pro ที่ใช้ชิป M4 รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะในด้านการประมวลผลกราฟิก แม้ว่า MacBook Air จะไม่มีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม แต่ชิป M4 ทำให้การใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหลและเหมาะสมกับการทำงานหนักในระดับหนึ่ง การทดสอบด้วย Geekbench Metal เผยว่า MacBook Air M4 ทำคะแนนได้ 54,846 คะแนน ซึ่งใกล้เคียงกับ MacBook Pro M4 ที่ได้ 57,788 คะแนน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพกราฟิกของ MacBook Air M4 ใกล้เคียงกับ MacBook Pro มาก แต่ในชีวิตจริงอาจมีความแตกต่างกันเมื่อใช้งานนาน ๆ เนื่องจาก MacBook Air ไม่มีระบบระบายความร้อนที่เหมาะสำหรับงานที่ใช้ทรัพยากรหนัก MacBook Air M4 รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับ RAM 16GB ในราคาเพียง 999 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในระดับเดียวกับ MacBook Pro Apple ยังเพิ่มสีใหม่ Sky Blue ให้เลือกซื้อ เพื่อความสดใหม่จากรุ่นก่อน ๆ MacBook Air M4 ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เป็นมิตร โดยเหมาะกับงานประมวลผลทั่วไป การทำงานด้านมัลติมีเดีย และการพกพาที่สะดวก อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการใช้งานกับโปรแกรมหรือกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง อาจพบปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพลดลงในระยะยาว https://wccftech.com/m4-macbook-air-metal-benchmarks-performance/
    WCCFTECH.COM
    The M4 MacBook Air Is Almost As Capable As The M4 MacBook Pro In New Metal Benchmarks, Minimizing The Performance Gap At A Budget Price
    Apple's M4 chip in new MacBook Air Metal benchmarks have surface, showing performance on par with the M4 MacBook Pro models
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 1 มีนาคม วิศวกร Zakwan Ahmad ได้เปิดตัวแนวคิดสำหรับ "The One Smart AI Pen" ผ่าน Kickstarter ปากกานี้ดูเหมือนปากกาลูกลื่นธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมีแบตเตอรี่ ไมโครโฟน และวิทยุ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อกับ HearIt.AI และ ChatGPT

    ปากกา AI นี้มีฟีเจอร์มากมาย เช่น การบันทึกเสียงเพื่อแปลภาษาได้กว่า 52 ภาษา, การพูดเพื่อพิมพ์ (voice dictation), การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการสนทนากับ ChatGPT-4.0-Mini นอกจากนี้ยังมีโหมด "Writing Mode" ที่สามารถแปลงลายมือเป็นข้อความดิจิทัลได้ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเวลาเขียนโดยไม่ต้องอยู่หน้าจอ

    เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เพียงหนึ่งชั่วโมง ปากกา AI นี้สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ที่ระยะห่างจากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อสูงสุด 10 เมตร และยังมีช่องสำหรับใส่การ์ด MicroSD เพื่อบันทึกเสียงการประชุมหรือการบรรยายที่ยาวนานได้

    ถึงแม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะน่าประทับใจ แต่ก็มีข้อกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล เช่น ถ้าปากกา AI ถูกแฮก ข้อมูลของคุณอาจถูกบันทึกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ควรระมัดระวัง

    โปรเจกต์นี้กำลังระดมทุนบน Kickstarter โดยมีเป้าหมายที่ 10,000 ดอลลาร์ ตอนนี้มีเงินทุนเพียง 2,581 ดอลลาร์จากผู้สนับสนุน 39 คน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/artificial-intelligence-comes-to-smart-pens-includes-handwriting-to-text-and-chatgpt
    เมื่อวันที่ 1 มีนาคม วิศวกร Zakwan Ahmad ได้เปิดตัวแนวคิดสำหรับ "The One Smart AI Pen" ผ่าน Kickstarter ปากกานี้ดูเหมือนปากกาลูกลื่นธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมีแบตเตอรี่ ไมโครโฟน และวิทยุ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อกับ HearIt.AI และ ChatGPT ปากกา AI นี้มีฟีเจอร์มากมาย เช่น การบันทึกเสียงเพื่อแปลภาษาได้กว่า 52 ภาษา, การพูดเพื่อพิมพ์ (voice dictation), การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการสนทนากับ ChatGPT-4.0-Mini นอกจากนี้ยังมีโหมด "Writing Mode" ที่สามารถแปลงลายมือเป็นข้อความดิจิทัลได้ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเวลาเขียนโดยไม่ต้องอยู่หน้าจอ เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เพียงหนึ่งชั่วโมง ปากกา AI นี้สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ที่ระยะห่างจากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อสูงสุด 10 เมตร และยังมีช่องสำหรับใส่การ์ด MicroSD เพื่อบันทึกเสียงการประชุมหรือการบรรยายที่ยาวนานได้ ถึงแม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะน่าประทับใจ แต่ก็มีข้อกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล เช่น ถ้าปากกา AI ถูกแฮก ข้อมูลของคุณอาจถูกบันทึกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ควรระมัดระวัง โปรเจกต์นี้กำลังระดมทุนบน Kickstarter โดยมีเป้าหมายที่ 10,000 ดอลลาร์ ตอนนี้มีเงินทุนเพียง 2,581 ดอลลาร์จากผู้สนับสนุน 39 คน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/artificial-intelligence-comes-to-smart-pens-includes-handwriting-to-text-and-chatgpt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วใหม่จากบริษัทชื่อ GenMachine Zhi ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เล็กที่สุดที่เคยเห็นมา แต่อย่าให้ขนาดหลอกลวงเพราะมันมีความสามารถที่เกินคาด ด้วยชิป AMD Ryzen 3 5425U APU ที่มีซีพียูแบบ 4 แกน และความสามารถในการทำงานด้วยความเร็วสูงถึง 4.1GHz และยังมาพร้อมกับกราฟิกการ์ด AMD Vega 5 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.5GHz เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋วนี้สามารถวางบนฝ่ามือได้ แต่ยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป Intel 11th gen Core i7

    GenMachine Zhi มีให้เลือกสามรุ่น โดยมีความจุ RAM ตั้งแต่ 8GB, 16GB, ถึง 32GB และความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่มได้ถึง 2TB มาพร้อมกับพอร์ต Ethernet แบบ 2.5G จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A 3.2 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-C 3.2 จำนวน 2 พอร์ต และพอร์ต HDMI 2.0 ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ 4K ได้

    นอกจากจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไปแล้ว GenMachine Zhi ยังสามารถใช้งานเป็น NAS (Network-Attached Storage) ได้อีกด้วย

    เครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้เหมาะสำหรับครัวเรือนที่ใช้งาน Microsoft และยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Linux ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน

    https://www.techradar.com/pro/this-is-the-smallest-amd-pc-ive-ever-seen-mysterious-manufacturer-uses-ryzen-3-apu-with-surprising-results
    เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วใหม่จากบริษัทชื่อ GenMachine Zhi ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เล็กที่สุดที่เคยเห็นมา แต่อย่าให้ขนาดหลอกลวงเพราะมันมีความสามารถที่เกินคาด ด้วยชิป AMD Ryzen 3 5425U APU ที่มีซีพียูแบบ 4 แกน และความสามารถในการทำงานด้วยความเร็วสูงถึง 4.1GHz และยังมาพร้อมกับกราฟิกการ์ด AMD Vega 5 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.5GHz เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋วนี้สามารถวางบนฝ่ามือได้ แต่ยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป Intel 11th gen Core i7 GenMachine Zhi มีให้เลือกสามรุ่น โดยมีความจุ RAM ตั้งแต่ 8GB, 16GB, ถึง 32GB และความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่มได้ถึง 2TB มาพร้อมกับพอร์ต Ethernet แบบ 2.5G จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A 3.2 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-C 3.2 จำนวน 2 พอร์ต และพอร์ต HDMI 2.0 ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ 4K ได้ นอกจากจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไปแล้ว GenMachine Zhi ยังสามารถใช้งานเป็น NAS (Network-Attached Storage) ได้อีกด้วย เครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้เหมาะสำหรับครัวเรือนที่ใช้งาน Microsoft และยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Linux ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน https://www.techradar.com/pro/this-is-the-smallest-amd-pc-ive-ever-seen-mysterious-manufacturer-uses-ryzen-3-apu-with-surprising-results
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ได้เปิดตัว ExpertCenter PN54 ซึ่งเป็นมินิพีซี Copilot+ ที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series โดยการ์ดกราฟิก AMD Radeon ก็มาพร้อมกับพีซีรุ่นนี้ด้วย

    ExpertCenter PN54 ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากและแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เช่น การสร้างเนื้อหาด้วย AI การคอมไพล์โค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการประชุม ด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series รุ่นใหม่ที่มีแรมในชิปเพิ่มขึ้นถึง 50% และใช้เทคโนโลยี AMD Zen 5 ที่ออกแบบมาจากหน่วยประมวลผลเดสก์ท็อป ทำให้พีซีนี้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานที่หลากหลาย

    นอกจากนี้ ExpertCenter PN54 ยังมีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมมาก เช่น WiFi 7, Bluetooth 5.4, และพอร์ต USB ถึง 6 พอร์ต รวมถึงยังรองรับการแสดงผลถึง 4 หน้าจอ 4K ทำให้การใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวสามารถทำได้ง่ายขึ้น

    จุดเด่นคือคุณสมบัติ AI ของ Copilot+ ที่สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การค้นหาข้อความและอีเมลเก่า การแปลคำบรรยายแบบเรียลไทม์ถึง 44 ภาษา และการสร้างงานศิลปะกราฟิกด้วยการพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านปุ่ม Copilot หรือใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงและไมโครโฟนในตัว

    ที่น่าสนใจคือ ExpertCenter PN54 มีการออกแบบที่แข็งแรงทนทานและผ่านการทดสอบความคงทนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การล็อกอินด้วยลายนิ้วมือและเทคโนโลยี Trusted Platform Module (TPM) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและการปกป้องข้อมูลสำคัญ

    https://www.techpowerup.com/333490/asus-intros-expertcenter-pn54-copilot-mini-pc-with-amd-ryzen-ai-300-series-processors
    ASUS ได้เปิดตัว ExpertCenter PN54 ซึ่งเป็นมินิพีซี Copilot+ ที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series โดยการ์ดกราฟิก AMD Radeon ก็มาพร้อมกับพีซีรุ่นนี้ด้วย ExpertCenter PN54 ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากและแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เช่น การสร้างเนื้อหาด้วย AI การคอมไพล์โค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการประชุม ด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series รุ่นใหม่ที่มีแรมในชิปเพิ่มขึ้นถึง 50% และใช้เทคโนโลยี AMD Zen 5 ที่ออกแบบมาจากหน่วยประมวลผลเดสก์ท็อป ทำให้พีซีนี้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานที่หลากหลาย นอกจากนี้ ExpertCenter PN54 ยังมีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมมาก เช่น WiFi 7, Bluetooth 5.4, และพอร์ต USB ถึง 6 พอร์ต รวมถึงยังรองรับการแสดงผลถึง 4 หน้าจอ 4K ทำให้การใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวสามารถทำได้ง่ายขึ้น จุดเด่นคือคุณสมบัติ AI ของ Copilot+ ที่สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การค้นหาข้อความและอีเมลเก่า การแปลคำบรรยายแบบเรียลไทม์ถึง 44 ภาษา และการสร้างงานศิลปะกราฟิกด้วยการพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านปุ่ม Copilot หรือใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงและไมโครโฟนในตัว ที่น่าสนใจคือ ExpertCenter PN54 มีการออกแบบที่แข็งแรงทนทานและผ่านการทดสอบความคงทนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การล็อกอินด้วยลายนิ้วมือและเทคโนโลยี Trusted Platform Module (TPM) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและการปกป้องข้อมูลสำคัญ https://www.techpowerup.com/333490/asus-intros-expertcenter-pn54-copilot-mini-pc-with-amd-ryzen-ai-300-series-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASUS Intros ExpertCenter PN54 Copilot+ mini PC with AMD Ryzen AI 300 Series Processors
    ASUS today announced ExpertCenter PN54, a high-performance Copilot+ mini PC powered by AMD Ryzen AI 300 Series processors and AMD Radeon graphics. ExpertCenter PN54 offers extensive connectivity, including WiFi 7 and Bluetooth 5.4, and is able to support up to four 4K displays. This mini PC enables ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เผยถึงการปรับปรุงหน่วยประมวลผลข้อมูล (Data Processing Unit - DPU) รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า BlueField-3 ซึ่งไม่เพียงเป็นซุปเปอร์นิกส์ (SuperNIC) แบบปกติ แต่ยังเป็นแบบ self-hosted ที่ถูกออกแบบมาเน้นการใช้งานในงานเก็บข้อมูล

    SuperNIC เป็นคำที่ใช้เรียกอุปกรณ์เครือข่ายชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลในศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI โดยเฉพาะ SuperNIC เป็นตัวเร่งเครือข่ายที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ GPU ทำให้การสื่อสารระหว่าง GPU เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    BlueField-3 รุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มความเร็วของหน่วยความจำอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดย BlueField-2 DPU ใช้การออกแบบแบบช่องเดียวซึ่งทำให้ความเร็วหน่วยความจำต่ำกว่า แต่ BlueField-3 รุ่นใหม่นี้มีอินเตอร์เฟซหน่วยความจำ DDR5-5600 แบบคู่ขนาด 64 บิต ทำให้มีความเร็วหน่วยความจำถึง 80GB/s ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลความเร็วสูง

    BlueField-3 B3220SH เป็นเวอร์ชันพิเศษที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์โดยตรง โดยสามารถเชื่อมต่อกับ NVMe SSDs และ GPUs ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียูภายนอก ความสามารถนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียู x86 หรือ Arm แบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการไหลข้อมูลและลดเวลาแฝง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในงานที่ต้องการเก็บข้อมูลมาก

    การออกแบบนี้ยังสนับสนุนการใช้งานในหลากหลายเซ็กเตอร์ เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-Performance Computing - HPC) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) BlueField-3 สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อนจากซีพียู ทำให้ทรัพยากรในการประมวลผลถูกปล่อยให้ใช้งานในงานที่สร้างรายได้ได้มากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/nvidias-bluefield-3-supernic-morphs-into-a-special-self-hosted-storage-powerhouse-with-an-80gbps-memory-boost-and-pcie-ready-architecture
    Nvidia ได้เผยถึงการปรับปรุงหน่วยประมวลผลข้อมูล (Data Processing Unit - DPU) รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า BlueField-3 ซึ่งไม่เพียงเป็นซุปเปอร์นิกส์ (SuperNIC) แบบปกติ แต่ยังเป็นแบบ self-hosted ที่ถูกออกแบบมาเน้นการใช้งานในงานเก็บข้อมูล SuperNIC เป็นคำที่ใช้เรียกอุปกรณ์เครือข่ายชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลในศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI โดยเฉพาะ SuperNIC เป็นตัวเร่งเครือข่ายที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ GPU ทำให้การสื่อสารระหว่าง GPU เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง BlueField-3 รุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มความเร็วของหน่วยความจำอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดย BlueField-2 DPU ใช้การออกแบบแบบช่องเดียวซึ่งทำให้ความเร็วหน่วยความจำต่ำกว่า แต่ BlueField-3 รุ่นใหม่นี้มีอินเตอร์เฟซหน่วยความจำ DDR5-5600 แบบคู่ขนาด 64 บิต ทำให้มีความเร็วหน่วยความจำถึง 80GB/s ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลความเร็วสูง BlueField-3 B3220SH เป็นเวอร์ชันพิเศษที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์โดยตรง โดยสามารถเชื่อมต่อกับ NVMe SSDs และ GPUs ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียูภายนอก ความสามารถนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียู x86 หรือ Arm แบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการไหลข้อมูลและลดเวลาแฝง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในงานที่ต้องการเก็บข้อมูลมาก การออกแบบนี้ยังสนับสนุนการใช้งานในหลากหลายเซ็กเตอร์ เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-Performance Computing - HPC) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) BlueField-3 สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อนจากซีพียู ทำให้ทรัพยากรในการประมวลผลถูกปล่อยให้ใช้งานในงานที่สร้างรายได้ได้มากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/nvidias-bluefield-3-supernic-morphs-into-a-special-self-hosted-storage-powerhouse-with-an-80gbps-memory-boost-and-pcie-ready-architecture
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts