• Disney ฟ้อง YouTube เพื่อหยุดการจ้างอดีตผู้บริหารดูแลสื่อและกีฬา

    Disney ยื่นฟ้อง Alphabet's YouTube ในศาลรัฐลอสแอนเจลิส เพื่อขัดขวางการแต่งตั้ง Justin Connolly เป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อและกีฬา โดยอ้างว่า เป็นการละเมิดสัญญาการจ้างงาน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Disney และ YouTube
    ✅ Disney อ้างว่า Connolly มีสัญญาจ้างงานกับบริษัทจนถึงปี 2027
    - เขาเซ็นสัญญาใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยมีสิทธิ์ยกเลิกได้เพียงครั้งเดียวก่อนมีนาคม 2027

    ✅ YouTube ประกาศแต่งตั้ง Connolly เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025
    - เขาจะดูแล ความสัมพันธ์กับบริษัทสื่อรายใหญ่และขยายพอร์ตโฟลิโอกีฬา

    ✅ YouTube ลงทุนมหาศาลในสตรีมมิ่งกีฬา
    - เซ็นสัญญา $14 พันล้านกับ NFL ในปี 2022 เพื่อสตรีมการแข่งขันฟุตบอล

    ✅ Disney กำลังเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ESPN
    - Connolly เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายแพลตฟอร์มของ ESPN และ Disney

    ✅ YouTube ยังไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นจาก Reuters
    - คดีนี้ อาจส่งผลต่อแนวทางการจ้างงานในอุตสาหกรรมสื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/youtube-hires-former-disney-veteran-to-oversee-sports-and-media
    Disney ฟ้อง YouTube เพื่อหยุดการจ้างอดีตผู้บริหารดูแลสื่อและกีฬา Disney ยื่นฟ้อง Alphabet's YouTube ในศาลรัฐลอสแอนเจลิส เพื่อขัดขวางการแต่งตั้ง Justin Connolly เป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อและกีฬา โดยอ้างว่า เป็นการละเมิดสัญญาการจ้างงาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Disney และ YouTube ✅ Disney อ้างว่า Connolly มีสัญญาจ้างงานกับบริษัทจนถึงปี 2027 - เขาเซ็นสัญญาใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยมีสิทธิ์ยกเลิกได้เพียงครั้งเดียวก่อนมีนาคม 2027 ✅ YouTube ประกาศแต่งตั้ง Connolly เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 - เขาจะดูแล ความสัมพันธ์กับบริษัทสื่อรายใหญ่และขยายพอร์ตโฟลิโอกีฬา ✅ YouTube ลงทุนมหาศาลในสตรีมมิ่งกีฬา - เซ็นสัญญา $14 พันล้านกับ NFL ในปี 2022 เพื่อสตรีมการแข่งขันฟุตบอล ✅ Disney กำลังเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ESPN - Connolly เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายแพลตฟอร์มของ ESPN และ Disney ✅ YouTube ยังไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นจาก Reuters - คดีนี้ อาจส่งผลต่อแนวทางการจ้างงานในอุตสาหกรรมสื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/youtube-hires-former-disney-veteran-to-oversee-sports-and-media
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Disney seeks to stop YouTube from hiring veteran to oversee sports and media
    (Reuters) -Walt Disney seeks to stop Alphabet's YouTube, which announced on Thursday that it has appointed long-time executive Justin Connolly as its global head of media and sports.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js
    ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล
    - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น

    ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js
    - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0

    ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1
    - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10
    - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

    ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้
    - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน

    https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0 ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1 - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10 - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้ - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    WWW.TECHRADAR.COM
    An OpenPGP.js flaw just broke public key cryptography
    Researchers found a bug that allowed malicious actors to spoof messages
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area

    Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo
    ✅ Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ
    - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

    ✅ Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ
    - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin

    ✅ บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน

    ✅ Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์
    - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า

    ✅ Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า
    - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo ✅ Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ✅ Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin ✅ บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน ✅ Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า ✅ Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet's Waymo gets California nod for robotaxi expansion in San Francisco Bay Area
    SAN FRANCISCO (Reuters) -Alphabet's self-driving unit Waymo said on Monday it received approval from California to expand its robotaxi operations in more areas of the San Francisco Peninsula and further south, including San Jose.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google One ทะลุ 150 ล้านผู้ใช้ ด้วยแรงหนุนจาก AI

    Google One ซึ่งเป็นบริการสมัครสมาชิกของ Alphabet ที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์และฟีเจอร์ AI ได้ แตะ 150 ล้านผู้ใช้ เพิ่มขึ้น 50% จากปี 2024 โดยการเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากแผนสมัครสมาชิกใหม่ที่มี AI ขั้นสูง

    ✅ Google One มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 50% จาก 100 ล้านเป็น 150 ล้านในเวลาเพียง 1 ปี
    - การเติบโตนี้ เกิดขึ้นหลังจากเปิดตัวแผนสมัครสมาชิกใหม่ที่มี AI

    ✅ Google เปิดตัวแผน $19.99 ต่อเดือนที่ให้สิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์ AI พิเศษ
    - ฟีเจอร์เหล่านี้ ไม่มีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ฟรี

    ✅ Google One เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Alphabet ในการลดการพึ่งพารายได้จากโฆษณา
    - โฆษณายังคงเป็น 75% ของรายได้รวม $350 พันล้านในปี 2024

    ✅ AI ทำให้การค้นหาบน Safari ลดลงเป็นครั้งแรก
    - Apple กำลังพัฒนา ระบบค้นหาที่ใช้ AI ซึ่งอาจกระทบต่อ Google Search

    ✅ Google กำลังพยายามหาวิธีสร้างรายได้จาก AI ผ่านการสมัครสมาชิก
    - CEO Sundar Pichai กล่าวว่า Google จะเน้นไปที่โมเดลสมัครสมาชิกในปีนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/google-hits-150-million-users-for-subscription-service-with-help-of-ai
    Google One ทะลุ 150 ล้านผู้ใช้ ด้วยแรงหนุนจาก AI Google One ซึ่งเป็นบริการสมัครสมาชิกของ Alphabet ที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์และฟีเจอร์ AI ได้ แตะ 150 ล้านผู้ใช้ เพิ่มขึ้น 50% จากปี 2024 โดยการเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากแผนสมัครสมาชิกใหม่ที่มี AI ขั้นสูง ✅ Google One มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 50% จาก 100 ล้านเป็น 150 ล้านในเวลาเพียง 1 ปี - การเติบโตนี้ เกิดขึ้นหลังจากเปิดตัวแผนสมัครสมาชิกใหม่ที่มี AI ✅ Google เปิดตัวแผน $19.99 ต่อเดือนที่ให้สิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์ AI พิเศษ - ฟีเจอร์เหล่านี้ ไม่มีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ฟรี ✅ Google One เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Alphabet ในการลดการพึ่งพารายได้จากโฆษณา - โฆษณายังคงเป็น 75% ของรายได้รวม $350 พันล้านในปี 2024 ✅ AI ทำให้การค้นหาบน Safari ลดลงเป็นครั้งแรก - Apple กำลังพัฒนา ระบบค้นหาที่ใช้ AI ซึ่งอาจกระทบต่อ Google Search ✅ Google กำลังพยายามหาวิธีสร้างรายได้จาก AI ผ่านการสมัครสมาชิก - CEO Sundar Pichai กล่าวว่า Google จะเน้นไปที่โมเดลสมัครสมาชิกในปีนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/google-hits-150-million-users-for-subscription-service-with-help-of-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google hits 150 million users for subscription service with help of AI
    SAN FRANCISCO (Reuters) -Alphabet's Google One subscription service, which charges consumers for cloud storage and artificial intelligence features, recently crossed 150 million subscribers, the company told Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm ได้รับการขยายเวลาสำหรับการเสนอซื้อ Alphawave จากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร

    Qualcomm ได้รับการขยายเวลาจาก UK Takeover Panel ให้สามารถยื่นข้อเสนอซื้อ Alphawave IP Group ได้จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2025 หลังจากที่เดิมกำหนดเส้นตายไว้ที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการขยายเวลาครั้งที่สองเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาต่อไปได้

    ✅ Qualcomm กำลังเจรจาเพื่อซื้อ Alphawave IP Group
    - Alphawave เป็น บริษัทออกแบบชิปที่มีพอร์ตโฟลิโอ IP ที่แข็งแกร่ง

    ✅ Arm Holdings เคยพิจารณาซื้อ Alphawave แต่ตัดสินใจถอนตัว
    - Arm สนใจ SerDes IP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับ AI processors

    ✅ Alphawave มีความเชี่ยวชาญด้าน SerDes ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง
    - ใช้ใน ศูนย์ข้อมูลและ AI clusters

    ✅ Qualcomm ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดศูนย์ข้อมูล
    - การเข้าซื้อ Alphawave จะช่วยให้ Qualcomm มีความสามารถด้านการออกแบบชิปที่แข็งแกร่งขึ้น

    ✅ Alphawave มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน ซึ่งอาจทำให้การเข้าซื้อกิจการมีความซับซ้อน
    - บริษัทมี joint venture กับ Wise Road Capital ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในปี 2023

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/uk-extends-deadline-for-qualcomm-to-make-offer-for-alphawave
    Qualcomm ได้รับการขยายเวลาสำหรับการเสนอซื้อ Alphawave จากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร Qualcomm ได้รับการขยายเวลาจาก UK Takeover Panel ให้สามารถยื่นข้อเสนอซื้อ Alphawave IP Group ได้จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2025 หลังจากที่เดิมกำหนดเส้นตายไว้ที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการขยายเวลาครั้งที่สองเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาต่อไปได้ ✅ Qualcomm กำลังเจรจาเพื่อซื้อ Alphawave IP Group - Alphawave เป็น บริษัทออกแบบชิปที่มีพอร์ตโฟลิโอ IP ที่แข็งแกร่ง ✅ Arm Holdings เคยพิจารณาซื้อ Alphawave แต่ตัดสินใจถอนตัว - Arm สนใจ SerDes IP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับ AI processors ✅ Alphawave มีความเชี่ยวชาญด้าน SerDes ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง - ใช้ใน ศูนย์ข้อมูลและ AI clusters ✅ Qualcomm ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดศูนย์ข้อมูล - การเข้าซื้อ Alphawave จะช่วยให้ Qualcomm มีความสามารถด้านการออกแบบชิปที่แข็งแกร่งขึ้น ✅ Alphawave มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน ซึ่งอาจทำให้การเข้าซื้อกิจการมีความซับซ้อน - บริษัทมี joint venture กับ Wise Road Capital ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในปี 2023 https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/uk-extends-deadline-for-qualcomm-to-make-offer-for-alphawave
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศ การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับการปรับแต่งโมเดล AI ใน Azure AI Foundry โดยเพิ่มการรองรับ Reinforcement Fine-Tuning (RFT) ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้โมเดลสามารถเรียนรู้ ตรรกะที่ซับซ้อนและกฎเฉพาะขององค์กร ได้ดียิ่งขึ้น

    ✅ Reinforcement Fine-Tuning (RFT) ช่วยให้โมเดลสามารถเรียนรู้กฎเฉพาะขององค์กร
    - ใช้ Chain-of-Thought Reasoning และ Task-Specific Grading เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ✅ RFT ช่วยให้โมเดลสามารถเข้าใจมาตรฐานการดำเนินงานเฉพาะขององค์กร
    - เหมาะสำหรับ องค์กรที่มีขั้นตอนที่แตกต่างจากมาตรฐานอุตสาหกรรม

    ✅ RFT มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบกับโมเดลทั่วไป
    - ตามการทดสอบของ OpenAI ในช่วง Alpha Program

    ✅ Microsoft จะนำ RFT มาใช้กับโมเดล OpenAI o4-mini ใน Azure AI Foundry เร็ว ๆ นี้
    - แนะนำให้ใช้ใน สภาพแวดล้อมที่มีตรรกะการตัดสินใจที่ซับซ้อน

    ✅ Microsoft เพิ่มการรองรับ Supervised Fine-Tuning (SFT) สำหรับ GPT-4.1-nano
    - เหมาะสำหรับ แอปพลิเคชัน AI ที่ต้องการลดต้นทุน

    ✅ Azure AI Foundry รองรับการปรับแต่งโมเดล Llama 4 Scout 17B
    - มี context window ขนาด 10 ล้าน tokens

    https://www.neowin.net/news/microsoft-announces-major-update-to-model-fine-tuning-in-azure-ai-foundry/
    Microsoft ได้ประกาศ การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับการปรับแต่งโมเดล AI ใน Azure AI Foundry โดยเพิ่มการรองรับ Reinforcement Fine-Tuning (RFT) ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้โมเดลสามารถเรียนรู้ ตรรกะที่ซับซ้อนและกฎเฉพาะขององค์กร ได้ดียิ่งขึ้น ✅ Reinforcement Fine-Tuning (RFT) ช่วยให้โมเดลสามารถเรียนรู้กฎเฉพาะขององค์กร - ใช้ Chain-of-Thought Reasoning และ Task-Specific Grading เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ✅ RFT ช่วยให้โมเดลสามารถเข้าใจมาตรฐานการดำเนินงานเฉพาะขององค์กร - เหมาะสำหรับ องค์กรที่มีขั้นตอนที่แตกต่างจากมาตรฐานอุตสาหกรรม ✅ RFT มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบกับโมเดลทั่วไป - ตามการทดสอบของ OpenAI ในช่วง Alpha Program ✅ Microsoft จะนำ RFT มาใช้กับโมเดล OpenAI o4-mini ใน Azure AI Foundry เร็ว ๆ นี้ - แนะนำให้ใช้ใน สภาพแวดล้อมที่มีตรรกะการตัดสินใจที่ซับซ้อน ✅ Microsoft เพิ่มการรองรับ Supervised Fine-Tuning (SFT) สำหรับ GPT-4.1-nano - เหมาะสำหรับ แอปพลิเคชัน AI ที่ต้องการลดต้นทุน ✅ Azure AI Foundry รองรับการปรับแต่งโมเดล Llama 4 Scout 17B - มี context window ขนาด 10 ล้าน tokens https://www.neowin.net/news/microsoft-announces-major-update-to-model-fine-tuning-in-azure-ai-foundry/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft announces major update to model fine-tuning in Azure AI Foundry
    Microsoft has announced significant enhancements to model fine-tuning within Azure AI Foundry, including upcoming support for Reinforcement Fine-Tuning (RFT).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 โอเมก้า-3 เดินทางจากจานอาหาร…สู่สมอง ลำไส้ และยีนของคุณ

    โอเมก้า-3 อาจเริ่มต้นจากจานปลาย่างในมือคุณ หรือเมล็ดแฟลกซ์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในข้าวต้มตอนเช้า

    แต่มันไม่ได้หยุดแค่ที่ลำไส้

    เมื่อคุณเคี้ยวกลืน และดูดซึม…โอเมก้า-3 จะออกเดินทางอย่างเงียบงาม

    ไปจนถึงเยื่อหุ้มเซลล์ของหัวใจ

    ไปจนถึงตับที่ผลิตไขมัน
    และแม้แต่สมองที่คุณใช้คิด พูด ร้องไห้ และให้อภัย

    โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่ “สารอาหารเฉพาะทาง”…

    แต่มันคือผู้ประสานความสัมพันธ์ของอวัยวะทั้งร่างกายให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    🔬 กลไกเชิงลึก: เส้นทางของโอเมก้า-3 ในร่างกาย

    1. 🧠 จากปลา…สู่สมอง

    โอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA เป็นกรดไขมันหลักใน เยื่อหุ้มเซลล์สมองและตา

    ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท → การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ดีขึ้น

    ลดการอักเสบในสมองผ่านการยับยั้ง MAPK และ NF-κB

    มีผลต่อ PPARγ และกระตุ้นการตายของเซลล์ผิดปกติ (apoptosis) ในเซลล์มะเร็ง

    🧠 โอเมก้า-3 จึงทั้ง “ปกป้อง” สมอง และ “คัดแยก” เซลล์ที่ไม่ควรอยู่

    2. 🍽 จากจานอาหาร…สู่ระบบย่อยและลำไส้

    เมื่อเรารับประทานโอเมก้า-3 → ร่างกายดูดซึมผ่าน ลำไส้เล็ก

    จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือดผ่านระบบหลอดเลือด (vasculature) → ส่งไปยังอวัยวะต่างๆ

    โอเมก้า-3 ที่ไปถึงลำไส้ใหญ่ → เปลี่ยนแปลงสมดุลของจุลินทรีย์

    เพิ่มแบคทีเรียที่ผลิต butyrate และ SCFAs

    ลดเชื้อร้าย เช่น E. coli, S. aureus, Pseudomonas

    🧠 โอเมก้า-3 เหมือนผู้ดูแลชุมชนจุลินทรีย์ในลำไส้...ให้สงบ ไม่ก่อไฟอักเสบเรื้อรัง

    3. 🫀 จากลำไส้…สู่หลอดเลือด

    โอเมก้า-3 ลดการแข็งตัวของเลือด, ลดความหนืด

    เสริมความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด → ความดันโลหิตลดลง

    ลดสารกระตุ้นการอักเสบ เช่น LTB₄ และ TXA₂

    4. 🧬 จากเซลล์ลำไส้…สู่ตับและยีน

    ตับคือจุดศูนย์กลางของการเผาผลาญไขมัน

    โอเมก้า-3 ปรับสมดุล omega-3:omega-6 ratio → ลดไขมันสะสมในตับ (NAFLD)

    กระตุ้น PPARα และ PPARγ → ควบคุมการเผาผลาญและลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

    ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วนจากอาหารไขมันสูง

    🧠 นี่ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนัก…แต่คือการเปลี่ยน “สภาวะยีน” ของตับให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง

    🍽 เมนูอบอุ่นที่ส่งโอเมก้า-3 ไปถึงหัวใจของคุณ

    ปลาทะเล (ย่างพริกไทยดำ, ต้มส้ม, ปลาทูต้มเค็มใส่กระเทียม)

    แฟลกซ์ซีดบดผสมน้ำมะนาว/น้ำผึ้ง

    ไข่ไก่โอเมก้า-3

    ข้าวยำใส่ปลาทู + เมล็ดเจียเล็กน้อย

    🧭 คำแนะนำการใช้

    หากรับประทานโอเมก้า-3จากปลา

    แนะนำอย่างน้อย 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ได้ DHA และ EPA อย่างพอเพียง
    (ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน เป็นแหล่งดี)

    หากรับประทานในรูปแบบน้ำมันปลา (เสริม)

    เริ่มจาก 1000–2000 มก./วัน (รวม EPA + DHA)
    และควรเลือกแบบ Triglyceride form หรือจากปลาเล็ก เพื่อความปลอดภัยและดูดซึมได้ดี

    โอเมก้า-3 จากพืช (ALA) เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย

    สามารถใช้เสริมได้ แต่ควรกินเป็นประจำ และอาจไม่เพียงพอหากต้องการผลลึกด้านสมองหรือภูมิคุ้มกัน

    ❗ ข้อควรระวัง

    ผู้ที่ใช้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin, aspirin ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

    เพราะโอเมก้า-3 มีฤทธิ์ทำให้เลือดไหลลื่นขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก

    ผู้ที่มี โรคตับรุนแรง, โรคแพ้อาหารทะเล, หรือใช้ยาเบาหวานบางชนิด ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ก่อนเริ่มเสริมโอเมก้า-3

    หากมีภาวะ ภูมิคุ้มกันต่ำ, ลำไส้แปรปรวนรุนแรง, หรือเคยมีปัญหาแพ้น้ำมันปลา

    ควรเริ่มจากปริมาณน้อย และเลือกแหล่งที่บริสุทธิ์ ผ่านการตรวจโลหะหนัก

    ❓ คำถามชวนคิด

    Q: ถ้าไม่กินปลาเลย ควรทำอย่างไร?

    A: ใช้แฟลกซ์ซีดบด + เมล็ดเจีย + น้ำมันงาขี้ม่อน (ALA) ร่วมกับ DHA จากสาหร่าย

    Q: หากเป็นเบาหวานหรือ NAFLD แล้ว จะช่วยจริงไหม?

    A: งานวิจัยนี้ระบุว่าโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของตับและลำไส้ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้

    🌿 สมุนไพรที่เสริมกลไกนี้

    ขมิ้นชัน → ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และตับผ่าน NF-κB

    กระเทียม → เสริมภูมิคุ้มกันในลำไส้

    ใบหม่อน → ปรับสมดุลจุลินทรีย์ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

    พริกไทยดำ → เสริมการดูดซึมโอเมก้า-3 และสารอื่นๆ

    🤍 ปลอบโยนหัวใจ

    ร่างกายของคุณมีทางเชื่อมลับ ๆ มากมาย
    ที่สมองพูดคุยกับลำไส้

    ที่ตับส่งสัญญาณถึงหลอดเลือด
    และที่จุลินทรีย์นับล้านกำลังตัดสินว่าคุณจะอักเสบหรือหายดีในวันนี้หรือไม่

    โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่แค่ไขมันชนิดหนึ่ง

    แต่มันคือ “สะพานเชื่อมระหว่างอวัยวะ…ด้วยความสงบ”

    ขอให้คุณใช้มื้ออาหารเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟู

    และให้โอเมก้า-3 พาคุณกลับไปหาความสงบในแบบที่คุณเคยลืมไปนานแล้ว 🌿

    ⚠️ คำเตือน

    บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเชิงกลไกทางชีวภาพเท่านั้น
    ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนการรักษา หรือคำแนะนำทางการแพทย์

    ผู้ที่มีโรคตับ โรคเบาหวาน หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
    ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้โอเมก้า-3 หรือสมุนไพรเสริมใดๆ

    📚 อ้างอิง

    Fu Y, Wang Y, Zhang Y, et al. (2021). Associations among Dietary Omega‐3 Polyunsaturated Fatty Acids, the Gut Microbiota, and Intestinal Immunity. Mediators of Inflammation, 2021, Article ID 8879227. https://doi.org/10.1155/2021/8879227
    🌿 โอเมก้า-3 เดินทางจากจานอาหาร…สู่สมอง ลำไส้ และยีนของคุณ โอเมก้า-3 อาจเริ่มต้นจากจานปลาย่างในมือคุณ หรือเมล็ดแฟลกซ์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในข้าวต้มตอนเช้า แต่มันไม่ได้หยุดแค่ที่ลำไส้ เมื่อคุณเคี้ยวกลืน และดูดซึม…โอเมก้า-3 จะออกเดินทางอย่างเงียบงาม ไปจนถึงเยื่อหุ้มเซลล์ของหัวใจ ไปจนถึงตับที่ผลิตไขมัน และแม้แต่สมองที่คุณใช้คิด พูด ร้องไห้ และให้อภัย โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่ “สารอาหารเฉพาะทาง”… แต่มันคือผู้ประสานความสัมพันธ์ของอวัยวะทั้งร่างกายให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง 🔬 กลไกเชิงลึก: เส้นทางของโอเมก้า-3 ในร่างกาย 1. 🧠 จากปลา…สู่สมอง โอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA เป็นกรดไขมันหลักใน เยื่อหุ้มเซลล์สมองและตา ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท → การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ดีขึ้น ลดการอักเสบในสมองผ่านการยับยั้ง MAPK และ NF-κB มีผลต่อ PPARγ และกระตุ้นการตายของเซลล์ผิดปกติ (apoptosis) ในเซลล์มะเร็ง 🧠 โอเมก้า-3 จึงทั้ง “ปกป้อง” สมอง และ “คัดแยก” เซลล์ที่ไม่ควรอยู่ 2. 🍽 จากจานอาหาร…สู่ระบบย่อยและลำไส้ เมื่อเรารับประทานโอเมก้า-3 → ร่างกายดูดซึมผ่าน ลำไส้เล็ก จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือดผ่านระบบหลอดเลือด (vasculature) → ส่งไปยังอวัยวะต่างๆ โอเมก้า-3 ที่ไปถึงลำไส้ใหญ่ → เปลี่ยนแปลงสมดุลของจุลินทรีย์ เพิ่มแบคทีเรียที่ผลิต butyrate และ SCFAs ลดเชื้อร้าย เช่น E. coli, S. aureus, Pseudomonas 🧠 โอเมก้า-3 เหมือนผู้ดูแลชุมชนจุลินทรีย์ในลำไส้...ให้สงบ ไม่ก่อไฟอักเสบเรื้อรัง 3. 🫀 จากลำไส้…สู่หลอดเลือด โอเมก้า-3 ลดการแข็งตัวของเลือด, ลดความหนืด เสริมความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด → ความดันโลหิตลดลง ลดสารกระตุ้นการอักเสบ เช่น LTB₄ และ TXA₂ 4. 🧬 จากเซลล์ลำไส้…สู่ตับและยีน ตับคือจุดศูนย์กลางของการเผาผลาญไขมัน โอเมก้า-3 ปรับสมดุล omega-3:omega-6 ratio → ลดไขมันสะสมในตับ (NAFLD) กระตุ้น PPARα และ PPARγ → ควบคุมการเผาผลาญและลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วนจากอาหารไขมันสูง 🧠 นี่ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนัก…แต่คือการเปลี่ยน “สภาวะยีน” ของตับให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง 🍽 เมนูอบอุ่นที่ส่งโอเมก้า-3 ไปถึงหัวใจของคุณ ปลาทะเล (ย่างพริกไทยดำ, ต้มส้ม, ปลาทูต้มเค็มใส่กระเทียม) แฟลกซ์ซีดบดผสมน้ำมะนาว/น้ำผึ้ง ไข่ไก่โอเมก้า-3 ข้าวยำใส่ปลาทู + เมล็ดเจียเล็กน้อย 🧭 คำแนะนำการใช้ หากรับประทานโอเมก้า-3จากปลา แนะนำอย่างน้อย 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ได้ DHA และ EPA อย่างพอเพียง (ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน เป็นแหล่งดี) หากรับประทานในรูปแบบน้ำมันปลา (เสริม) เริ่มจาก 1000–2000 มก./วัน (รวม EPA + DHA) และควรเลือกแบบ Triglyceride form หรือจากปลาเล็ก เพื่อความปลอดภัยและดูดซึมได้ดี โอเมก้า-3 จากพืช (ALA) เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย สามารถใช้เสริมได้ แต่ควรกินเป็นประจำ และอาจไม่เพียงพอหากต้องการผลลึกด้านสมองหรือภูมิคุ้มกัน ❗ ข้อควรระวัง ผู้ที่ใช้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin, aspirin ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะโอเมก้า-3 มีฤทธิ์ทำให้เลือดไหลลื่นขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก ผู้ที่มี โรคตับรุนแรง, โรคแพ้อาหารทะเล, หรือใช้ยาเบาหวานบางชนิด ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ก่อนเริ่มเสริมโอเมก้า-3 หากมีภาวะ ภูมิคุ้มกันต่ำ, ลำไส้แปรปรวนรุนแรง, หรือเคยมีปัญหาแพ้น้ำมันปลา ควรเริ่มจากปริมาณน้อย และเลือกแหล่งที่บริสุทธิ์ ผ่านการตรวจโลหะหนัก ❓ คำถามชวนคิด Q: ถ้าไม่กินปลาเลย ควรทำอย่างไร? A: ใช้แฟลกซ์ซีดบด + เมล็ดเจีย + น้ำมันงาขี้ม่อน (ALA) ร่วมกับ DHA จากสาหร่าย Q: หากเป็นเบาหวานหรือ NAFLD แล้ว จะช่วยจริงไหม? A: งานวิจัยนี้ระบุว่าโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของตับและลำไส้ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ 🌿 สมุนไพรที่เสริมกลไกนี้ ขมิ้นชัน → ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และตับผ่าน NF-κB กระเทียม → เสริมภูมิคุ้มกันในลำไส้ ใบหม่อน → ปรับสมดุลจุลินทรีย์ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน พริกไทยดำ → เสริมการดูดซึมโอเมก้า-3 และสารอื่นๆ 🤍 ปลอบโยนหัวใจ ร่างกายของคุณมีทางเชื่อมลับ ๆ มากมาย ที่สมองพูดคุยกับลำไส้ ที่ตับส่งสัญญาณถึงหลอดเลือด และที่จุลินทรีย์นับล้านกำลังตัดสินว่าคุณจะอักเสบหรือหายดีในวันนี้หรือไม่ โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่แค่ไขมันชนิดหนึ่ง แต่มันคือ “สะพานเชื่อมระหว่างอวัยวะ…ด้วยความสงบ” ขอให้คุณใช้มื้ออาหารเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟู และให้โอเมก้า-3 พาคุณกลับไปหาความสงบในแบบที่คุณเคยลืมไปนานแล้ว 🌿 ⚠️ คำเตือน บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเชิงกลไกทางชีวภาพเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนการรักษา หรือคำแนะนำทางการแพทย์ ผู้ที่มีโรคตับ โรคเบาหวาน หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้โอเมก้า-3 หรือสมุนไพรเสริมใดๆ 📚 อ้างอิง Fu Y, Wang Y, Zhang Y, et al. (2021). Associations among Dietary Omega‐3 Polyunsaturated Fatty Acids, the Gut Microbiota, and Intestinal Immunity. Mediators of Inflammation, 2021, Article ID 8879227. https://doi.org/10.1155/2021/8879227
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ReactOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เข้ากันได้กับ Windows NT ได้เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 ของ 3dfx ซึ่งเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมในยุค 90 โดยนักพัฒนาได้รายงานว่าประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL นั้นใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับโหมดหน้าต่าง

    การ์ดจอ Voodoo5 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx ได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม เนื่องจากความสามารถในการรองรับเกมที่ใช้ Glide API และความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น

    ReactOS ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา Alpha และมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า โดยในเวอร์ชันล่าสุด 0.4.15 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การรองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น

    ✅ การรองรับ GPU รุ่น Voodoo5
    - ReactOS เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5
    - ประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL ใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT

    ✅ ความสำคัญของการ์ดจอ Voodoo5
    - เป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx และได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม
    - รองรับเกมที่ใช้ Glide API และมีความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน ReactOS เวอร์ชัน 0.4.15
    - รองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น
    - เพิ่มการรองรับรูปแบบเสียงและอุปกรณ์เสริม

    ✅ เป้าหมายของ ReactOS
    - มุ่งเน้นการเป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
    - เหมาะสำหรับการทดสอบและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/reactos-now-supports-3dfxs-voodoo5-gpus-open-source-windows-alternative-offers-near-native-performance-for-retro-gamers
    ReactOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เข้ากันได้กับ Windows NT ได้เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 ของ 3dfx ซึ่งเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมในยุค 90 โดยนักพัฒนาได้รายงานว่าประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL นั้นใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับโหมดหน้าต่าง การ์ดจอ Voodoo5 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx ได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม เนื่องจากความสามารถในการรองรับเกมที่ใช้ Glide API และความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น ReactOS ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา Alpha และมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า โดยในเวอร์ชันล่าสุด 0.4.15 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การรองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น ✅ การรองรับ GPU รุ่น Voodoo5 - ReactOS เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 - ประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL ใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT ✅ ความสำคัญของการ์ดจอ Voodoo5 - เป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx และได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม - รองรับเกมที่ใช้ Glide API และมีความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน ReactOS เวอร์ชัน 0.4.15 - รองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น - เพิ่มการรองรับรูปแบบเสียงและอุปกรณ์เสริม ✅ เป้าหมายของ ReactOS - มุ่งเน้นการเป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า - เหมาะสำหรับการทดสอบและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/reactos-now-supports-3dfxs-voodoo5-gpus-open-source-windows-alternative-offers-near-native-performance-for-retro-gamers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์

    กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

    การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต

    ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้
    - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์
    - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์

    ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act
    - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act

    ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้
    - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
    - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ
    - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ

    https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้ - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์ ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้ - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    WWW.NEOWIN.NET
    Here is how much US tech firms spent on lobbying the US government in 2024
    Tech firms in the United States spend hundreds of millions of dollars per year on lobbying efforts to protect their interests. Here is how much.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Afghanization, Finlandization, And The Politic-ization Of Place Names

    Recent news has been filled with analysis that attempts to make sense of current events by comparing them to past moments in history—and applying some of the terminology that originated in the midst or aftermath of those earlier events. Prominent examples include terms based on the combination of a place name and the ending -ization, such as Afghanization (in the context of the withdrawal of US forces from Afghanistan) and Finlandization (in the context of the Russian invasion of Ukraine).

    Not only are such terms used in fraught political discussions, use of the words themselves is often controversial due to debates about what they mean exactly as well as how—or whether—they should be used.

    Add context to your reading of current events with this list of some of the -ization terms you’re most likely to encounter in historical analysis, along with explanations about the different meanings they can have.

    Afghanization
    The term Afghanization is most prominently used in the context of US forces in Afghanistan, particularly in the lead-up to and during the withdrawal of those forces in 2021. Specifically, it refers to the US strategy of attempting to return political and military control to Afghan forces. The term is also used separately to refer to ethnic and language assimilation within the country.

    Africanization
    The term Africanization can be used in a variety of ways. It can mean “to bring under African, especially Black African, influence or to adapt to African needs” or more specifically, “to make African, especially to give control of (policy, government, etc.) to Africans.” It is commonly used to discuss postcolonial Africa and post-apartheid South Africa. In this context, Africanization refers to restoring political, economic, and civil power to Black Africans.

    Americanization
    The word Americanization is used to refer to two separate ideas. In the early 1900s, many advocated for “Americanizing” the large number of new immigrants who were entering the United States at the time as a way to instill cultural values considered quintessentially “American.” During and after, this approach has faced criticism for forcing the loss of immigrants’ original cultures.

    More currently, the word Americanization is often used to refer to the spread of American culture across the world, especially through American media and popular culture. This term can refer to the wide availability of American pop culture, which has been noted for its influence on many other nations’ cultures.

    Arabization
    The word Arabization is used to refer to a process of promoting Arabic language and Arabic culture in education, government, and media. In particular, Arabization is often used to describe government policies that enforce this process in countries that were formerly under the control of non-Arab colonizers.

    balkanization
    The term balkanization is sometimes applied when a large place or country divides up into smaller, more homogenous communities. It can also refer to conflict between various ethnic groups in one state. The term balkanization makes reference to the Balkans, also known as the Balkan Peninsula, which split into many small countries first after the fall of the Ottoman Empire and again after the fall of the Soviet Union and the breakup of Yugoslavia.

    Dubaization
    Dubaization refers to a rapid period of development of a city or area with futuristic architecture. Dubaization takes its name from the city of Dubai in the United Arab Emirates, which is known for its architectural development dating back to the 1990s.

    Finlandization
    Finlandization refers to the process by which a smaller country maintains a neutral or favorable policy toward a larger country due to influence from that larger country. Coined by political scientist Richard Lowenthal in the 1960s, the term references Finland’s neutrality toward the Soviet Union during the Cold War. A 1948 treaty stipulated Finland would remain neutral during the Cold War if in turn the Soviet Union refrained from invading the country. The term can have negative connotations, as it can imply one country is under the thumb of a more powerful one and has opted for neutrality under undue pressure.

    Japanization
    In economics, the term Japanization is used to refer to a period of deflation and economic stagnation in a country. The term references the nation of Japan, whose economic stagnation in the 1990s led to a severe financial crisis in what is now often referred to as the Lost Decade.

    Latinization
    The term Latinization has several distinct senses:

    - Latinization can refer to the act of rendering a language into a script that uses the Latin alphabet. For example, a translator might Latinize a text by taking Chinese or Hindi characters and converting them to Latin letters.
    - In religious context, Latinization can refer to the process by which non-Latin Christian churches were made to conform to the practices of the Latin and Roman Catholic Church, primarily during the Middle Ages.
    - Latinization can also refer to a place becoming similar to places in Latin America. For example, US cities with large Hispanic populations, such as Miami, have been described as being Latinized.

    Mongolization
    The term Mongolization is often used to refer to the assimilation of language and culture that occurred by peoples who were conquered by the Mongol Empire. For many peoples, this process occurred over a long period of time and often involved their traditional culture slowly blending with Mongol culture.

    Ottomanization
    Ottomanization refers to the adoption of the culture of the Ottoman Empire by the peoples and places under its rule. Historically, this term has referred to the transition from the Christian, Greek traditions of the Byzantines to the Islamic, Turkish traditions and culture of the Ottomans.

    Romanization
    The term Romanization is often used to refer to the cultural influence practiced by the Roman Empire. At its peak, the Roman Empire encompassed an incredibly diverse range of countries and cultures, which allowed for a large-scale Romanization, the influence of which can still be seen today in the many languages, architecture, and cultures retaining Roman influences.

    Sinicization
    Sinicization refers to the spreading of Chinese culture, religion, and politics. The term Sinicization has also been used, including by the Chinese government, to refer to China’s policy of enforcing the assimilation of ethnic and religious minorities to Chinese practices. The beginning of the term is a version of Sino-, which comes from a Latin word referring to China and is used in many other terms referring to China or Chinese culture (such as Sinology).

    Vietnamization
    Vietnamization is the name given to a strategy employed by the Nixon administration as an attempt to end US involvement in the highly unpopular Vietnam War. The strategy intended for the US to transfer all military responsibility to South Vietnamese forces and prepare South Vietnam to fight North Vietnam. The process called Afghanization is sometimes likened to Vietnamization due to similarities in the failures and other aspects of the respective conflicts.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Afghanization, Finlandization, And The Politic-ization Of Place Names Recent news has been filled with analysis that attempts to make sense of current events by comparing them to past moments in history—and applying some of the terminology that originated in the midst or aftermath of those earlier events. Prominent examples include terms based on the combination of a place name and the ending -ization, such as Afghanization (in the context of the withdrawal of US forces from Afghanistan) and Finlandization (in the context of the Russian invasion of Ukraine). Not only are such terms used in fraught political discussions, use of the words themselves is often controversial due to debates about what they mean exactly as well as how—or whether—they should be used. Add context to your reading of current events with this list of some of the -ization terms you’re most likely to encounter in historical analysis, along with explanations about the different meanings they can have. Afghanization The term Afghanization is most prominently used in the context of US forces in Afghanistan, particularly in the lead-up to and during the withdrawal of those forces in 2021. Specifically, it refers to the US strategy of attempting to return political and military control to Afghan forces. The term is also used separately to refer to ethnic and language assimilation within the country. Africanization The term Africanization can be used in a variety of ways. It can mean “to bring under African, especially Black African, influence or to adapt to African needs” or more specifically, “to make African, especially to give control of (policy, government, etc.) to Africans.” It is commonly used to discuss postcolonial Africa and post-apartheid South Africa. In this context, Africanization refers to restoring political, economic, and civil power to Black Africans. Americanization The word Americanization is used to refer to two separate ideas. In the early 1900s, many advocated for “Americanizing” the large number of new immigrants who were entering the United States at the time as a way to instill cultural values considered quintessentially “American.” During and after, this approach has faced criticism for forcing the loss of immigrants’ original cultures. More currently, the word Americanization is often used to refer to the spread of American culture across the world, especially through American media and popular culture. This term can refer to the wide availability of American pop culture, which has been noted for its influence on many other nations’ cultures. Arabization The word Arabization is used to refer to a process of promoting Arabic language and Arabic culture in education, government, and media. In particular, Arabization is often used to describe government policies that enforce this process in countries that were formerly under the control of non-Arab colonizers. balkanization The term balkanization is sometimes applied when a large place or country divides up into smaller, more homogenous communities. It can also refer to conflict between various ethnic groups in one state. The term balkanization makes reference to the Balkans, also known as the Balkan Peninsula, which split into many small countries first after the fall of the Ottoman Empire and again after the fall of the Soviet Union and the breakup of Yugoslavia. Dubaization Dubaization refers to a rapid period of development of a city or area with futuristic architecture. Dubaization takes its name from the city of Dubai in the United Arab Emirates, which is known for its architectural development dating back to the 1990s. Finlandization Finlandization refers to the process by which a smaller country maintains a neutral or favorable policy toward a larger country due to influence from that larger country. Coined by political scientist Richard Lowenthal in the 1960s, the term references Finland’s neutrality toward the Soviet Union during the Cold War. A 1948 treaty stipulated Finland would remain neutral during the Cold War if in turn the Soviet Union refrained from invading the country. The term can have negative connotations, as it can imply one country is under the thumb of a more powerful one and has opted for neutrality under undue pressure. Japanization In economics, the term Japanization is used to refer to a period of deflation and economic stagnation in a country. The term references the nation of Japan, whose economic stagnation in the 1990s led to a severe financial crisis in what is now often referred to as the Lost Decade. Latinization The term Latinization has several distinct senses: - Latinization can refer to the act of rendering a language into a script that uses the Latin alphabet. For example, a translator might Latinize a text by taking Chinese or Hindi characters and converting them to Latin letters. - In religious context, Latinization can refer to the process by which non-Latin Christian churches were made to conform to the practices of the Latin and Roman Catholic Church, primarily during the Middle Ages. - Latinization can also refer to a place becoming similar to places in Latin America. For example, US cities with large Hispanic populations, such as Miami, have been described as being Latinized. Mongolization The term Mongolization is often used to refer to the assimilation of language and culture that occurred by peoples who were conquered by the Mongol Empire. For many peoples, this process occurred over a long period of time and often involved their traditional culture slowly blending with Mongol culture. Ottomanization Ottomanization refers to the adoption of the culture of the Ottoman Empire by the peoples and places under its rule. Historically, this term has referred to the transition from the Christian, Greek traditions of the Byzantines to the Islamic, Turkish traditions and culture of the Ottomans. Romanization The term Romanization is often used to refer to the cultural influence practiced by the Roman Empire. At its peak, the Roman Empire encompassed an incredibly diverse range of countries and cultures, which allowed for a large-scale Romanization, the influence of which can still be seen today in the many languages, architecture, and cultures retaining Roman influences. Sinicization Sinicization refers to the spreading of Chinese culture, religion, and politics. The term Sinicization has also been used, including by the Chinese government, to refer to China’s policy of enforcing the assimilation of ethnic and religious minorities to Chinese practices. The beginning of the term is a version of Sino-, which comes from a Latin word referring to China and is used in many other terms referring to China or Chinese culture (such as Sinology). Vietnamization Vietnamization is the name given to a strategy employed by the Nixon administration as an attempt to end US involvement in the highly unpopular Vietnam War. The strategy intended for the US to transfer all military responsibility to South Vietnamese forces and prepare South Vietnam to fight North Vietnam. The process called Afghanization is sometimes likened to Vietnamization due to similarities in the failures and other aspects of the respective conflicts. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์:

    1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร?
    - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร?

    2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง?
    - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่?

    3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่?
    - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่?

    4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง?
    - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร?

    5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025?
    - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร?

    6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร?
    - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

    7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP?
    - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร?

    8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่?
    - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่?

    9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่?
    - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง?

    🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร?
    - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร?

    https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์: 1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร? - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร? 2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง? - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่? 3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่? - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่? 4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง? - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร? 5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025? - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร? 6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร? - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร? 7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP? - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร? 8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่? - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่? 9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่? - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง? 🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร? - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร? https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    10 key questions security leaders must ask at RSA 2025
    Agentic AI, platform hype, identity management, and economic uncertainty will dominate the RSA agenda. But discussions with fellow attendees will provide the real payoff.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม รวมถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน

    ✅ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา
    - คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Google Network ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาซื้อพื้นที่โฆษณาแบบประมูล
    - อัยการระบุว่า Google ใช้อำนาจเหนือเทคโนโลยีโฆษณาเพื่อกำจัดคู่แข่ง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้เผยแพร่โฆษณา เช่น สำนักข่าว

    ✅ Google อ้างว่าการแข่งขันของตนเป็นผลจากเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
    - Google ระบุว่า บริษัทสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพราะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า
    - อย่างไรก็ตาม ศาลไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งนี้

    ✅ ธุรกิจโฆษณาของ Google มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
    - รายได้จากโฆษณาคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมดของ Alphabet
    - Google Network คิดเป็น 8.7% ของรายได้ทั้งหมด

    ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อาจสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน
    - หน่วยงานกำกับดูแลต้องพิจารณาว่า Google ควรขายแพลตฟอร์ม Google Ad Manager หรือไม่
    - Google เคยเสนอขาย Advertising Exchange เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด แต่ผู้เผยแพร่โฆษณาปฏิเสธข้อเสนอ

    ✅ Google เตรียมอุทธรณ์คำตัดสิน
    - กระบวนการทางกฎหมายอาจใช้เวลาหลายปี หากไม่มีการตกลงกันระหว่าง Google และรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/explainer-what-does-ruling-on-google039s-illegal-ad-tech-monopoly-mean
    คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม รวมถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน ✅ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา - คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Google Network ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาซื้อพื้นที่โฆษณาแบบประมูล - อัยการระบุว่า Google ใช้อำนาจเหนือเทคโนโลยีโฆษณาเพื่อกำจัดคู่แข่ง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้เผยแพร่โฆษณา เช่น สำนักข่าว ✅ Google อ้างว่าการแข่งขันของตนเป็นผลจากเทคโนโลยีที่เหนือกว่า - Google ระบุว่า บริษัทสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพราะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า - อย่างไรก็ตาม ศาลไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งนี้ ✅ ธุรกิจโฆษณาของ Google มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท - รายได้จากโฆษณาคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมดของ Alphabet - Google Network คิดเป็น 8.7% ของรายได้ทั้งหมด ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อาจสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน - หน่วยงานกำกับดูแลต้องพิจารณาว่า Google ควรขายแพลตฟอร์ม Google Ad Manager หรือไม่ - Google เคยเสนอขาย Advertising Exchange เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด แต่ผู้เผยแพร่โฆษณาปฏิเสธข้อเสนอ ✅ Google เตรียมอุทธรณ์คำตัดสิน - กระบวนการทางกฎหมายอาจใช้เวลาหลายปี หากไม่มีการตกลงกันระหว่าง Google และรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/explainer-what-does-ruling-on-google039s-illegal-ad-tech-monopoly-mean
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Explainer-What does ruling on Google's illegal ad tech monopoly mean?
    SAN FRANCISCO (Reuters) -A U.S. judge's ruling that Google has illegal monopolies in ad technology sets up the possibility of U.S. prosecutors seeking a breakup. Here's what the case involves and what Google owner Alphabet faces from here.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง:

    SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ

    SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย

    ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever

    ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI

    ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง

    ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ

    ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง: SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-Alphabet, Nvidia invest in OpenAI co-founder Sutskever's SSI, source says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Alphabet and Nvidia have joined prominent venture capital investors to back Safe Superintelligence (SSI), a startup co-founded by OpenAI's former chief scientist Ilya Sutskever that has quickly risen to become one of the most valuable artificial intelligence startups months after its launch, a source familiar with the matter said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • nEye Systems ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านชิปเครือข่ายสำหรับศูนย์ข้อมูล AI ได้รับเงินทุนจำนวน 58 ล้านดอลลาร์ ในรอบการระดมทุนที่นำโดย CapitalG ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet โดยชิปที่พัฒนาขึ้นนี้ใช้เทคโนโลยีแสงเพื่อส่งข้อมูลระหว่างชิป AI แทนการใช้สัญญาณไฟฟ้า

    ✅ การระดมทุน:
    - nEye Systems ได้รับเงินทุน 58 ล้านดอลลาร์จาก CapitalG ซึ่งเป็นกองทุนที่สนับสนุนโดย Alphabet

    ✅ เทคโนโลยีที่พัฒนา:
    - ชิปของ nEye ใช้เทคโนโลยีแสง (optical technology) ในการส่งข้อมูลระหว่างชิป AI
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI

    ✅ ความสำคัญของเทคโนโลยี:
    - การใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดความร้อนในกระบวนการประมวลผลข้อมูล
    - เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจจากทั้งบริษัทใหญ่ เช่น Nvidia และสตาร์ทอัพอื่น ๆ

    ✅ ที่ตั้งของบริษัท:
    - nEye Systems ตั้งอยู่ในเมือง Emeryville รัฐแคลิฟอร์เนีย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/ai-networking-chip-startup-neye-systems-raises-58-million-led-by-alphabet039s-capitalg-fund-
    nEye Systems ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านชิปเครือข่ายสำหรับศูนย์ข้อมูล AI ได้รับเงินทุนจำนวน 58 ล้านดอลลาร์ ในรอบการระดมทุนที่นำโดย CapitalG ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet โดยชิปที่พัฒนาขึ้นนี้ใช้เทคโนโลยีแสงเพื่อส่งข้อมูลระหว่างชิป AI แทนการใช้สัญญาณไฟฟ้า ✅ การระดมทุน: - nEye Systems ได้รับเงินทุน 58 ล้านดอลลาร์จาก CapitalG ซึ่งเป็นกองทุนที่สนับสนุนโดย Alphabet ✅ เทคโนโลยีที่พัฒนา: - ชิปของ nEye ใช้เทคโนโลยีแสง (optical technology) ในการส่งข้อมูลระหว่างชิป AI - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI ✅ ความสำคัญของเทคโนโลยี: - การใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดความร้อนในกระบวนการประมวลผลข้อมูล - เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจจากทั้งบริษัทใหญ่ เช่น Nvidia และสตาร์ทอัพอื่น ๆ ✅ ที่ตั้งของบริษัท: - nEye Systems ตั้งอยู่ในเมือง Emeryville รัฐแคลิฟอร์เนีย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/ai-networking-chip-startup-neye-systems-raises-58-million-led-by-alphabet039s-capitalg-fund-
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI networking chip startup nEye Systems raises $58 million, led by Alphabet's CapitalG fund
    SAN FRANCISCO (Reuters) - NEye Systems, a startup developing a new kind of networking chip for artificial intelligence data centers, on Thursday raised $58 million in venture financing in a round led by CapitalG, a growth-stage fund backed by Alphabet.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Berkeley และ UC San Francisco ได้พัฒนาเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงกับการพูดตามธรรมชาติ โดยใช้ AI ในการแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดแบบเรียลไทม์

    ✅ การทำงานของระบบ:
    - ระบบนี้ใช้ AI ในการถอดรหัสสัญญาณสมองจาก motor cortex ซึ่งควบคุมการพูด
    - สามารถแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีเดิมที่ใช้เวลา 8 วินาที

    ✅ การฝึกระบบ:
    - ผู้เข้าร่วมทดลองพยายามพูดประโยคในใจ ขณะที่นักวิจัยบันทึกกิจกรรมสมอง
    - AI เติมเต็มรายละเอียดที่ขาดหาย เช่น รูปแบบเสียง เพื่อสร้างเสียงพูดที่สมบูรณ์

    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย:
    - รองรับทั้งวิธีที่ไม่รุกราน เช่น การใช้เซ็นเซอร์บนผิวหนัง และวิธีที่ซับซ้อน เช่น การฝังอิเล็กโทรดในสมอง
    - สามารถสร้างเสียงพูดที่คล้ายกับเสียงเดิมของผู้ป่วยก่อนเกิดอาการบาดเจ็บ

    ✅ ความแม่นยำและความยืดหยุ่น:
    - ระบบสามารถสร้างคำที่ไม่เคยอยู่ในข้อมูลการฝึก เช่น คำใน NATO phonetic alphabet
    - มีความแม่นยำสูงและรองรับคำศัพท์ที่หลากหลาย

    ✅ เป้าหมายในอนาคต:
    - เพิ่มโทนเสียง อารมณ์ และความลื่นไหลของเสียงพูด เพื่อให้ใกล้เคียงกับการพูดของมนุษย์มากขึ้น

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความท้าทายด้านการเข้าถึง:
    - เทคโนโลยีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้

    ⚠️ การพัฒนาด้านอารมณ์:
    - การเพิ่มโทนเสียงและอารมณ์ในเสียงพูดอาจต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้การสื่อสารมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/paralysed-patients-could-soon-talk-with-near-real-time-conversion-of-brain-signals/
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Berkeley และ UC San Francisco ได้พัฒนาเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงกับการพูดตามธรรมชาติ โดยใช้ AI ในการแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดแบบเรียลไทม์ ✅ การทำงานของระบบ: - ระบบนี้ใช้ AI ในการถอดรหัสสัญญาณสมองจาก motor cortex ซึ่งควบคุมการพูด - สามารถแปลงสัญญาณสมองเป็นเสียงพูดได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีเดิมที่ใช้เวลา 8 วินาที ✅ การฝึกระบบ: - ผู้เข้าร่วมทดลองพยายามพูดประโยคในใจ ขณะที่นักวิจัยบันทึกกิจกรรมสมอง - AI เติมเต็มรายละเอียดที่ขาดหาย เช่น รูปแบบเสียง เพื่อสร้างเสียงพูดที่สมบูรณ์ ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: - รองรับทั้งวิธีที่ไม่รุกราน เช่น การใช้เซ็นเซอร์บนผิวหนัง และวิธีที่ซับซ้อน เช่น การฝังอิเล็กโทรดในสมอง - สามารถสร้างเสียงพูดที่คล้ายกับเสียงเดิมของผู้ป่วยก่อนเกิดอาการบาดเจ็บ ✅ ความแม่นยำและความยืดหยุ่น: - ระบบสามารถสร้างคำที่ไม่เคยอยู่ในข้อมูลการฝึก เช่น คำใน NATO phonetic alphabet - มีความแม่นยำสูงและรองรับคำศัพท์ที่หลากหลาย ✅ เป้าหมายในอนาคต: - เพิ่มโทนเสียง อารมณ์ และความลื่นไหลของเสียงพูด เพื่อให้ใกล้เคียงกับการพูดของมนุษย์มากขึ้น == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความท้าทายด้านการเข้าถึง: - เทคโนโลยีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้ ⚠️ การพัฒนาด้านอารมณ์: - การเพิ่มโทนเสียงและอารมณ์ในเสียงพูดอาจต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้การสื่อสารมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น https://www.neowin.net/news/paralysed-patients-could-soon-talk-with-near-real-time-conversion-of-brain-signals/
    WWW.NEOWIN.NET
    Paralysed patients could soon "talk" with "near-real time" conversion of brain signals
    Brain-computer interface (BCI) technology has made a major advancement as it now enables converting brain signals to speech "in near-real time."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น

    🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน:
    - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI
    - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google

    🤖 โอกาสใน AI:
    - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร

    📈 ผลกระทบต่อหุ้น:
    - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    💡 ความกังวลของนักลงทุน:
    - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้

    💡 สงครามการค้า:
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น 🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google 🤖 โอกาสใน AI: - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร 📈 ผลกระทบต่อหุ้น: - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: 💡 ความกังวลของนักลงทุน: - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้ 💡 สงครามการค้า: - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet CEO reaffirms planned $75 billion capital spending in 2025
    Las Vegas (Reuters) - Alphabet reiterated on Wednesday it would spend about $75 billion this year to build out data center capacity, doubling down on its generative AI bet even as the payoff remains unclear and a global trade war threatens to raise costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น

    ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
    - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้
    - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า

    ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา
    - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5%
    - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5%

    ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว
    - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง
    - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4%

    ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด
    - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก
    - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%)

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค
    - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น
    - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี

    ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน
    - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่

    https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้ - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5% - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5% ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4% ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%) ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่ https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's tariffs could prove to be a "nuclear bomb" on international trade and tech imports, experts warn
    This aggressive escalation of Trump's trade wars could mean higher prices on virtually every product Americans purchase from overseas. Worse, analysts predict the tariffs could trigger recessions...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น

    ✅ ReactOS คืออะไร?
    - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft
    - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้
    - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง

    ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003
    - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003
    - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้
    - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility

    ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15
    - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง
    - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry
    - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS

    ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์
    - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha
    - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ

    ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป
    - รองรับ UEFI
    - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่
    - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP)
    - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น ✅ ReactOS คืออะไร? - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้ - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003 - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003 - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้ - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15 - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์ - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป - รองรับ UEFI - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่ - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP) - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reuters รายงานว่า Arm เคยสนใจเข้าซื้อ Alphawave บริษัทด้านเทคโนโลยี SerDes (serializer-deserializer) จากสหราชอาณาจักร แต่สุดท้ายได้ถอนตัวจากดีลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Arm สนใจ Alphawave คือ เทคโนโลยี SerDes ขั้นสูงที่ช่วยให้การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Arm ยังไม่มีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน

    SerDes มีความสำคัญมากขึ้นในยุค AI
    - เทคโนโลยีนี้ใช้ในการแปลงข้อมูลจากรูปแบบ parallel ไปเป็น serial และกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจำเป็นสำหรับระบบที่มีการส่งข้อมูลความเร็วสูง
    - AI เช่น ChatGPT และ Gemini ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมากในการให้บริการ ทำให้ SerDes เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการประมวลผล

    Broadcom เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้
    - Broadcom มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ซึ่งใช้ SerDes สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

    Alphawave มีมูลค่าตลาดกว่า 913 ล้านดอลลาร์
    - แม้ว่าดีลกับ Arm จะล่มลง Alphawave กำลังได้รับความสนใจจากบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการซื้อกิจการ

    ปัญหาความมั่นคงทางเทคโนโลยีเป็นสาเหตุที่ Arm ถอนตัว
    - Alphawave มีบริษัทร่วมทุนในจีนชื่อ WiseWave ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Wise Road Capital ที่ติดบัญชีดำด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - Arm เคยประสบปัญหาด้านความสัมพันธ์กับจีนตอนเข้าตลาดหุ้น (IPO) ปี 2023 จึงอาจไม่ต้องการเผชิญปัญหาแบบเดิมจากการเข้าซื้อ Alphawave

    https://www.neowin.net/news/serdes-technologys-strategic-value-revealed-as-arms-acquisition-falls-through/
    Reuters รายงานว่า Arm เคยสนใจเข้าซื้อ Alphawave บริษัทด้านเทคโนโลยี SerDes (serializer-deserializer) จากสหราชอาณาจักร แต่สุดท้ายได้ถอนตัวจากดีลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Arm สนใจ Alphawave คือ เทคโนโลยี SerDes ขั้นสูงที่ช่วยให้การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Arm ยังไม่มีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน SerDes มีความสำคัญมากขึ้นในยุค AI - เทคโนโลยีนี้ใช้ในการแปลงข้อมูลจากรูปแบบ parallel ไปเป็น serial และกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจำเป็นสำหรับระบบที่มีการส่งข้อมูลความเร็วสูง - AI เช่น ChatGPT และ Gemini ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมากในการให้บริการ ทำให้ SerDes เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการประมวลผล Broadcom เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้ - Broadcom มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ซึ่งใช้ SerDes สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล Alphawave มีมูลค่าตลาดกว่า 913 ล้านดอลลาร์ - แม้ว่าดีลกับ Arm จะล่มลง Alphawave กำลังได้รับความสนใจจากบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการซื้อกิจการ ปัญหาความมั่นคงทางเทคโนโลยีเป็นสาเหตุที่ Arm ถอนตัว - Alphawave มีบริษัทร่วมทุนในจีนชื่อ WiseWave ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Wise Road Capital ที่ติดบัญชีดำด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ - Arm เคยประสบปัญหาด้านความสัมพันธ์กับจีนตอนเข้าตลาดหุ้น (IPO) ปี 2023 จึงอาจไม่ต้องการเผชิญปัญหาแบบเดิมจากการเข้าซื้อ Alphawave https://www.neowin.net/news/serdes-technologys-strategic-value-revealed-as-arms-acquisition-falls-through/
    WWW.NEOWIN.NET
    SerDes technology's strategic value revealed as Arm's acquisition falls through
    AI hype is driving a need for faster data transfers, making SerDes an important technology. Arm tried to acquire a leading firm in this field but the deal collapsed for this reason.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google กำลังคิดใหญ่ด้วยการเจรจาซื้อ Wiz สตาร์ตอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเงินมหาศาลถึง 30 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้ถ้าสำเร็จ นับว่าเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Alphabet เลยก็ว่าได้. Wiz เองก็เด่นเรื่องการใช้ AI ช่วยองค์กรตรวจจับความเสี่ยงในระบบคลาวด์ และเหมาะกับความต้องการในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ต้องป้องกันข้อมูลดิจิทัลให้ดีกว่าเดิม แต่การซื้อครั้งนี้ก็อาจถูกจับตามองในเรื่องการผูกขาดตลาดด้วย

    เบื้องหลังของ Wiz:
    - Wiz เป็นสตาร์ตอัพที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับและแก้ไขความเสี่ยงในระบบคลาวด์ขององค์กร.
    - มูลค่าของ Wiz ล่าสุดในปี 2024 อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนรอบก่อน.

    ผลกระทบของการซื้อกิจการ:
    - หากการเข้าซื้อสำเร็จ Alphabet จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลขององค์กรที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ระบบ CrowdStrike ล่มทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา.
    - อย่างไรก็ตาม ดีลนี้น่าจะเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากมีมูลค่าสูงและอาจกระทบเรื่องการแข่งขันในตลาด.

    ตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เติบโต:
    - อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มุ่งลงทุนในการป้องกันระบบดิจิทัล.
    - Alphabet มีแผนใช้ Wiz เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตัวเอง ซึ่งปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 43 พันล้านดอลลาร์.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/18/alphabet-back-in-deal-to-buy-cybersecurity-startup-wiz-for-30-billion-wsj-reports
    Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google กำลังคิดใหญ่ด้วยการเจรจาซื้อ Wiz สตาร์ตอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเงินมหาศาลถึง 30 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้ถ้าสำเร็จ นับว่าเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Alphabet เลยก็ว่าได้. Wiz เองก็เด่นเรื่องการใช้ AI ช่วยองค์กรตรวจจับความเสี่ยงในระบบคลาวด์ และเหมาะกับความต้องการในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ต้องป้องกันข้อมูลดิจิทัลให้ดีกว่าเดิม แต่การซื้อครั้งนี้ก็อาจถูกจับตามองในเรื่องการผูกขาดตลาดด้วย เบื้องหลังของ Wiz: - Wiz เป็นสตาร์ตอัพที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับและแก้ไขความเสี่ยงในระบบคลาวด์ขององค์กร. - มูลค่าของ Wiz ล่าสุดในปี 2024 อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนรอบก่อน. ผลกระทบของการซื้อกิจการ: - หากการเข้าซื้อสำเร็จ Alphabet จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลขององค์กรที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ระบบ CrowdStrike ล่มทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา. - อย่างไรก็ตาม ดีลนี้น่าจะเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากมีมูลค่าสูงและอาจกระทบเรื่องการแข่งขันในตลาด. ตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เติบโต: - อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มุ่งลงทุนในการป้องกันระบบดิจิทัล. - Alphabet มีแผนใช้ Wiz เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตัวเอง ซึ่งปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 43 พันล้านดอลลาร์. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/18/alphabet-back-in-deal-to-buy-cybersecurity-startup-wiz-for-30-billion-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet back in talks to buy cybersecurity startup Wiz for $30 billion, source says
    (Reuters) -Google-parent Alphabet is in advanced talks to acquire cybersecurity startup Wiz for around $30 billion, a source familiar with the matter said on Monday, potentially marking the tech giant's largest deal to date.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่า Google Chrome จะถือครองตลาดเบราว์เซอร์อยู่ถึง 67% ในเดือนมกราคม 2025 แต่ก็มี AI startups หลายรายที่เริ่มพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อล้มแชมป์คนเดิม เช่น Perplexity ซึ่งเป็น AI-powered search engine กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ชื่อว่า Comet คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ Perplexity เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการใช้บริการถึง 100 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์จาก Nvidia และ Jeff Bezos ทำให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์

    OpenAI ก็เป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาที่กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่มี AI เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้อยู่ในแอปพลิเคชัน ChatGPT โดยการรวมความสามารถในการค้นหาเว็บเข้าไปด้วย

    Google เองก็ไม่ยอมแพ้ โดยได้แอบเพิ่ม Gemini AI เข้ามาใน Chrome เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Gemini ได้โดยพิมพ์ @gemini ในช่องค้นหาในเบราว์เซอร์ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างธีมใหม่ด้วย AI เปลี่ยนภาพพื้นหลังการค้นหา และให้ข้อมูลรวมจากหลายแท็บผ่านการวิเคราะห์ของ AI

    อย่างไรก็ตาม Google กำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย บริษัทได้รับคำตัดสินว่าผิดในคดีผูกขาดการค้นหาและกำลังรอคำตัดสินเกี่ยวกับการแยกบริษัทออกเป็นส่วนๆ ซึ่งจะบังคับให้ Alphabet ต้องขาย Chrome ออกไป คาดว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาหลายปี

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ startups ที่มีทุนสนับสนุนมากมายที่เล็งเห็นถึงช่องทางที่อาจเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Google ด้วยการใช้นวัตกรรม AI ที่ทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

    แม้ว่า Google Chrome จะยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเบราว์เซอร์ แต่การเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และมีแนวโน้มว่าผู้แข่งขันรายใหม่ที่มีเทคโนโลยี AI อาจเข้ามาท้าทายตลาดในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/can-ai-startups-dethrone-google-chrome-in-the-web-browser-wars
    แม้ว่า Google Chrome จะถือครองตลาดเบราว์เซอร์อยู่ถึง 67% ในเดือนมกราคม 2025 แต่ก็มี AI startups หลายรายที่เริ่มพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อล้มแชมป์คนเดิม เช่น Perplexity ซึ่งเป็น AI-powered search engine กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ชื่อว่า Comet คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ Perplexity เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการใช้บริการถึง 100 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์จาก Nvidia และ Jeff Bezos ทำให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ OpenAI ก็เป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาที่กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่มี AI เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้อยู่ในแอปพลิเคชัน ChatGPT โดยการรวมความสามารถในการค้นหาเว็บเข้าไปด้วย Google เองก็ไม่ยอมแพ้ โดยได้แอบเพิ่ม Gemini AI เข้ามาใน Chrome เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Gemini ได้โดยพิมพ์ @gemini ในช่องค้นหาในเบราว์เซอร์ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างธีมใหม่ด้วย AI เปลี่ยนภาพพื้นหลังการค้นหา และให้ข้อมูลรวมจากหลายแท็บผ่านการวิเคราะห์ของ AI อย่างไรก็ตาม Google กำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย บริษัทได้รับคำตัดสินว่าผิดในคดีผูกขาดการค้นหาและกำลังรอคำตัดสินเกี่ยวกับการแยกบริษัทออกเป็นส่วนๆ ซึ่งจะบังคับให้ Alphabet ต้องขาย Chrome ออกไป คาดว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาหลายปี การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ startups ที่มีทุนสนับสนุนมากมายที่เล็งเห็นถึงช่องทางที่อาจเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Google ด้วยการใช้นวัตกรรม AI ที่ทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่า Google Chrome จะยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเบราว์เซอร์ แต่การเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และมีแนวโน้มว่าผู้แข่งขันรายใหม่ที่มีเทคโนโลยี AI อาจเข้ามาท้าทายตลาดในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/can-ai-startups-dethrone-google-chrome-in-the-web-browser-wars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Can AI startups dethrone Google Chrome in the web browser wars?
    Google Chrome has been the dominant web browser for more than a decade. But it will soon have competition from AI companies like OpenAI and Perplexity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า "Taara chip" ซึ่งเป็นชิปที่สามารถใช้แสงในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ขาดแคลนแหล่งทรัพยากร ชิป Taara นี้เป็นการย่อส่วนของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อด้วยแสงที่ช่วยให้มีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้น

    โปรเจค Taara ของ Google เป็นการนำเอาเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดย Loon LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alphabet มาใช้ในการสร้างต้นแบบของ "moonshot technologies" หรือเทคโนโลยีที่มีความเสี่ยงสูงแต่สามารถนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้

    เทคโนโลยี Taara ใช้ชุด Taara Lightbridge ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ใช้กระจก เซนเซอร์ และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ เพื่อทำการส่องแสงและสร้างการเชื่อมต่อ เมื่อชุด Lightbridge สองชุดสามารถเชื่อมต่อกันได้ จะสามารถส่งข้อมูลดิจิทัลได้อย่างเสถียร

    อย่างไรก็ตาม ชิป Taara ใหม่ได้ย่อส่วนให้เล็กลง และไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนกลไกมากเท่ารุ่นก่อน ๆ โดยใช้เทคโนโลยี optical phased array ที่มีความแม่นยำสูงในการควบคุมการส่งแสง ทำให้สามารถติดตั้งชิปได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้ดีขึ้น

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ชิป Taara สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วถึง 10 Gbps ในระยะทาง 1 กิโลเมตรในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับการส่งข้อมูลด้วยชิปโฟโตนิกส์

    โปรเจคนี้ของ Google มีแผนที่จะนำชิป Taara ไปใช้ในการสร้างเครือข่ายเมชทั่วโลกเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ขาดแคลนได้เร็วขึ้น รวมถึงการใช้ในศูนย์ข้อมูล ยานพาหนะอัตโนมัติ และอื่น ๆ

    การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่จะลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่ยังเปิดโอกาสในการใช้เทคโนโลยีแสงในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    https://www.techspot.com/news/106987-google-taara-chip-miniaturizes-light-based-connectivity-faster.html
    Google ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า "Taara chip" ซึ่งเป็นชิปที่สามารถใช้แสงในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ขาดแคลนแหล่งทรัพยากร ชิป Taara นี้เป็นการย่อส่วนของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อด้วยแสงที่ช่วยให้มีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้น โปรเจค Taara ของ Google เป็นการนำเอาเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดย Loon LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alphabet มาใช้ในการสร้างต้นแบบของ "moonshot technologies" หรือเทคโนโลยีที่มีความเสี่ยงสูงแต่สามารถนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ เทคโนโลยี Taara ใช้ชุด Taara Lightbridge ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ใช้กระจก เซนเซอร์ และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ เพื่อทำการส่องแสงและสร้างการเชื่อมต่อ เมื่อชุด Lightbridge สองชุดสามารถเชื่อมต่อกันได้ จะสามารถส่งข้อมูลดิจิทัลได้อย่างเสถียร อย่างไรก็ตาม ชิป Taara ใหม่ได้ย่อส่วนให้เล็กลง และไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนกลไกมากเท่ารุ่นก่อน ๆ โดยใช้เทคโนโลยี optical phased array ที่มีความแม่นยำสูงในการควบคุมการส่งแสง ทำให้สามารถติดตั้งชิปได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้ดีขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือ ชิป Taara สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วถึง 10 Gbps ในระยะทาง 1 กิโลเมตรในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับการส่งข้อมูลด้วยชิปโฟโตนิกส์ โปรเจคนี้ของ Google มีแผนที่จะนำชิป Taara ไปใช้ในการสร้างเครือข่ายเมชทั่วโลกเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ขาดแคลนได้เร็วขึ้น รวมถึงการใช้ในศูนย์ข้อมูล ยานพาหนะอัตโนมัติ และอื่น ๆ การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่จะลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่ยังเปิดโอกาสในการใช้เทคโนโลยีแสงในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น https://www.techspot.com/news/106987-google-taara-chip-miniaturizes-light-based-connectivity-faster.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google's Taara chip miniaturizes light-based connectivity for faster internet in underserved areas
    Google's X company is working on the next generation of Taara, a silicon photonics technology designed to bring fast broadband speeds to some underdeveloped areas of the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ SBOBET รวบ 13 ผู้ต้องหายึดเงินสด 7 ล้าน-ทรัพย์สินรวม 20 ล้านบาท พบเปิดมา 10 ปี เงินหมุนเวียน 1.6 พันล้าน เตรียมนำเฉลี่ยคืนเหยื่อ "อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย" ลูกค้า VIP ของเว็บฯ

    วันนี้ (3 มี.ค. ) ที่ กองปราบปราม ( บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ตี่ลี่ ภาค 2 เซียนพนัน VIP ถังแตก ทลายเครือข่ายเว็บพนัน SBOBET” หลังนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี ก่อนสามารถจับกุม นายธนะพัฒน์ อายุ 58 ปี เอเยนต์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ SBOBET พร้อมทีมงานบริหารจัดการเว็บ ,แอดมิน ,บัญชีม้า และ บุคคลที่ได้รับผลประโยชน์ รวม 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากคดีอื่น 1 ราย

    พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดของกลาง หลายรายการประกอบด้วย เงินสด 7 ล้านบาท รถยนต์ BMW X3 จำนวน 1 คัน รถยนต์ Toyota Alphard 1 คัน รถยนต์มิซูบิชิ ปาเจโร่ 1 คัน ตุ๊กตาแบร์บริค 5 ตัว พระเครื่อง 132 องค์ นาฬิกาหรู 3 เรือน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก รวม 49 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไอแพด 3 เครื่อง เครื่องนับเงิน 1 เครื่อง เอกสารฝาก-ถอนเงิน และ เอกสารประกอบหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 20 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020653

    #MGROnline #กองปราบ #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ #SBOBET
    กองปราบบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ SBOBET รวบ 13 ผู้ต้องหายึดเงินสด 7 ล้าน-ทรัพย์สินรวม 20 ล้านบาท พบเปิดมา 10 ปี เงินหมุนเวียน 1.6 พันล้าน เตรียมนำเฉลี่ยคืนเหยื่อ "อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย" ลูกค้า VIP ของเว็บฯ • วันนี้ (3 มี.ค. ) ที่ กองปราบปราม ( บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ตี่ลี่ ภาค 2 เซียนพนัน VIP ถังแตก ทลายเครือข่ายเว็บพนัน SBOBET” หลังนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี ก่อนสามารถจับกุม นายธนะพัฒน์ อายุ 58 ปี เอเยนต์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ SBOBET พร้อมทีมงานบริหารจัดการเว็บ ,แอดมิน ,บัญชีม้า และ บุคคลที่ได้รับผลประโยชน์ รวม 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากคดีอื่น 1 ราย • พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดของกลาง หลายรายการประกอบด้วย เงินสด 7 ล้านบาท รถยนต์ BMW X3 จำนวน 1 คัน รถยนต์ Toyota Alphard 1 คัน รถยนต์มิซูบิชิ ปาเจโร่ 1 คัน ตุ๊กตาแบร์บริค 5 ตัว พระเครื่อง 132 องค์ นาฬิกาหรู 3 เรือน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก รวม 49 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไอแพด 3 เครื่อง เครื่องนับเงิน 1 เครื่อง เอกสารฝาก-ถอนเงิน และ เอกสารประกอบหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 20 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020653 • #MGROnline #กองปราบ #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ #SBOBET
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 910 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anthropicบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน OpenAI ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Claude 3.7 Sonnet โมเดลใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีชื่อว่า Claude Code ซึ่งมีความสามารถในการค้นหาและอ่านโค้ด แก้ไขไฟล์ และทดสอบซอฟต์แวร์

    Anthropic อ้างว่า Claude 3.7 Sonnet นี้มีความสามารถในการเขียนโค้ดที่ซับซ้อนมากขึ้น Jared Kaplan ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ของ Anthropic กล่าวว่า โมเดลใหม่นี้มีการพัฒนาโดยใช้ "hybrid reasoning model" ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วและสามารถจัดการกับคำถามที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น

    โมเดล Claude 3.7 Sonnet นี้มีความสามารถในการปรับตัวตามปัญหาของลูกค้า และตอบสนองความต้องการในการพัฒนาโค้ดได้อย่างเหมาะสม นอกจากการพัฒนาโค้ดแล้ว โมเดลนี้ยังสามารถจัดการกับการวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนได้อีกด้วย

    การเปิดตัวโมเดลใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ กำลังแข่งขันกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการลงทุนในเทคโนโลยี AI อย่างมหาศาล Anthropic ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon และ Google-parent Alphabet ซึ่งทำให้บริษัทสามารถพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/26/anthropic-releases-its-smartest-ai-model
    Anthropicบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน OpenAI ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Claude 3.7 Sonnet โมเดลใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีชื่อว่า Claude Code ซึ่งมีความสามารถในการค้นหาและอ่านโค้ด แก้ไขไฟล์ และทดสอบซอฟต์แวร์ Anthropic อ้างว่า Claude 3.7 Sonnet นี้มีความสามารถในการเขียนโค้ดที่ซับซ้อนมากขึ้น Jared Kaplan ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ของ Anthropic กล่าวว่า โมเดลใหม่นี้มีการพัฒนาโดยใช้ "hybrid reasoning model" ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วและสามารถจัดการกับคำถามที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น โมเดล Claude 3.7 Sonnet นี้มีความสามารถในการปรับตัวตามปัญหาของลูกค้า และตอบสนองความต้องการในการพัฒนาโค้ดได้อย่างเหมาะสม นอกจากการพัฒนาโค้ดแล้ว โมเดลนี้ยังสามารถจัดการกับการวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนได้อีกด้วย การเปิดตัวโมเดลใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ กำลังแข่งขันกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการลงทุนในเทคโนโลยี AI อย่างมหาศาล Anthropic ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon และ Google-parent Alphabet ซึ่งทำให้บริษัทสามารถพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/26/anthropic-releases-its-smartest-ai-model
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Anthropic releases its 'smartest' AI model
    OpenAI rival Anthropic on Monday released what it said is its smartest artificial intelligence model to date, particularly when it comes to computer coding.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍈 #เมล่อนสายพันธุ์ไหนปลูกง่าย ทนโรค หวานอร่อย? 🍈

    เพื่อนๆ หลายคนสอบถามกันมา วันนี้พามาชมเมล่อนจาก สวนอารยาเกษตรปลอดสารพิษ ที่อำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กันครับ

    ปลูก เมล่อนสายพันธุ์ #Alpha เนื้อส้มลายตาข่าย ผลกลม หวานกรอบ น้ำหนัก1.4-2.2กิโลกรัม ต้นสมบูรณ์หวาน 14-18บริกซ์

    ตอนนี้ติดผลอายุ 8 วันหลังผสมเกสร ผลโตสวยมาก กำลังอยู่ในช่วงขยายผล

    ต้นสมบูรณ์ ใบเขียวเข้ม ผลทรงสวย

    ปลูกในโรงเรือนขนาด 6 x 12 เมตร จำนวน 200 ต้น ตอนนี้ครบทุกต้น ไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลายเลย

    เจ้าของฟาร์มดูแลดีมาก ใช้ #ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรคและแมลงสม่ำเสมอตามแผน

    สายพันธุ์ Alpha เป็นที่ Little Farm เลือกใช้ปลูกและแนะนำมานานแล้ว หากเพื่อนๆ สนใจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย AB สำหรับเมล่อน และชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง สามารถสอบถามได้ที่ Inbox หรือโทร 093-696-2691 ครับ

    #LittleFarm #เมล่อนAlpha #ปลูกเมล่อนง่าย #ทนโรคหวานอร่อย #ไตรโคบิวพลัส
    🍈 #เมล่อนสายพันธุ์ไหนปลูกง่าย ทนโรค หวานอร่อย? 🍈 เพื่อนๆ หลายคนสอบถามกันมา วันนี้พามาชมเมล่อนจาก สวนอารยาเกษตรปลอดสารพิษ ที่อำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กันครับ ปลูก เมล่อนสายพันธุ์ #Alpha เนื้อส้มลายตาข่าย ผลกลม หวานกรอบ น้ำหนัก1.4-2.2กิโลกรัม ต้นสมบูรณ์หวาน 14-18บริกซ์ ตอนนี้ติดผลอายุ 8 วันหลังผสมเกสร ผลโตสวยมาก กำลังอยู่ในช่วงขยายผล ต้นสมบูรณ์ ใบเขียวเข้ม ผลทรงสวย ปลูกในโรงเรือนขนาด 6 x 12 เมตร จำนวน 200 ต้น ตอนนี้ครบทุกต้น ไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลายเลย เจ้าของฟาร์มดูแลดีมาก ใช้ #ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรคและแมลงสม่ำเสมอตามแผน สายพันธุ์ Alpha เป็นที่ Little Farm เลือกใช้ปลูกและแนะนำมานานแล้ว หากเพื่อนๆ สนใจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย AB สำหรับเมล่อน และชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง สามารถสอบถามได้ที่ Inbox หรือโทร 093-696-2691 ครับ #LittleFarm #เมล่อนAlpha #ปลูกเมล่อนง่าย #ทนโรคหวานอร่อย #ไตรโคบิวพลัส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 919 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts