• เศรษฐีแนะนำ คนรุ่นใหม่
    ที่ เบื่อชีวิตวนลูป สิ่งซ้ำๆ
    ให้มองว่าที่ทำงานคือ
    "โรงเรียนที่ได้เงิน"
    .
    ถ้าเราเคยเบื่อกับงานประจำ เบื่อชีวิตวนลูป เบื่อสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุกวัน การลองเปลี่ยนมุมมองจะช่วยให้ความเบื่อนี้มันดีขึ้นกว่าไหม?
    .
    หนึ่งในคำแนะนำที่ดีที่สุดของ Mark Cuban ที่แนะนำคนรุ่นใหม่คือ “มองงานเป็นโรงเรียน รับเงินเพื่อเรียนรู้”
    .
    Mark Cuban เจ้าของทีม Dallas Mavericks และนักลงทุนชื่อดัง ได้แบ่งปันแนวคิดผ่าน BlueSky โดยเขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่มองการทำงานในแบบที่นักกีฬาอาชีพมอง เป็นฟรีเอเจนต์ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา
    .
    "คุณจ่ายเงินเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้รับเงินเพื่อเรียนรู้" แม้ว่าเราต้องทำงานให้ดีที่สุด แต่ทุกคนมีอิสระที่จะมองหาโอกาสและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ
    .
    ถ้าถามว่าคำแนะนำของเขาเชื่อถือได้ไหม? ก็คิดว่าได้ เพราะเขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กขายคอมพิวเตอร์ มาสู่การเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน
    .
    เขาพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ในวัย 20 ต้น ๆ เขาได้งานที่บริษัทขายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ทั้งที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาเพียงวิชาเดียว แทนที่จะย่อท้อ เขากลับทุ่มเทศึกษาคู่มือคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง จนสามารถก่อตั้งบริษัท MicroSolutions และขายได้ในราคา 6 ล้านดอลลาร์ในปี 1990
    .
    “ความสมดุลระหว่างการเรียนรู้และความมั่นคง”
    Patrice Williams Lindo ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาด้านอาชีพ Career Nomad ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า การเป็น "ฟรีเอเจนต์" ไม่ได้หมายถึงการมองหางานใหม่ตลอดเวลา แต่ควรเน้นการสร้างคุณค่าในงานปัจจุบัน พร้อม ๆ กับการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
    .
    และนี่เป็น 5 วิธีประยุกต์ใช้แนวคิด "รับเงินเพื่อเรียนรู้" ในชีวิตจริง
    .
    1. มองทุกงานเป็นโอกาสเรียนรู้ แม้งานจะไม่ตรงสาย แต่ทักษะที่ได้อาจเป็นประโยชน์ในอนาคต
    2. ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ กำหนดสิ่งที่ต้องการพัฒนาในแต่ละเดือน เช่น ทักษะใหม่ หรือความเข้าใจในธุรกิจ
    3. สร้างเครือข่ายอย่างมีคุณภาพ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน เพราะอาจเป็นโอกาสในอนาคต
    4. ติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รู้ทันเทรนด์และทักษะที่ตลาดต้องการ
    5. ลงทุนกับตัวเอง หาโอกาสพัฒนาทักษะผ่านการอบรม สัมมนา หรือการเรียนออนไลน์
    .
    อย่าลืมว่า…โอกาสอยู่รอบตัว
    ในยุคที่เทคโนโลยีและตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมองงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เหมือนที่ Mark Cuban พูดไว้ "คุณเป็นฟรีเอเจนต์เสมอ"
    .
    มันไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่เพื่อเปิดใจรับโอกาสและพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะในที่สุด ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ จะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในการสร้างความสำเร็จในอนาคต
    .
    .
    เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
    ———
    100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
    .
    #Mindset #Business
    #100WEALTH
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    .
    อ้างอิง
    https://bit .ly/4jsKppt
    เศรษฐีแนะนำ คนรุ่นใหม่ ที่ เบื่อชีวิตวนลูป สิ่งซ้ำๆ ให้มองว่าที่ทำงานคือ "โรงเรียนที่ได้เงิน" . ถ้าเราเคยเบื่อกับงานประจำ เบื่อชีวิตวนลูป เบื่อสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุกวัน การลองเปลี่ยนมุมมองจะช่วยให้ความเบื่อนี้มันดีขึ้นกว่าไหม? . หนึ่งในคำแนะนำที่ดีที่สุดของ Mark Cuban ที่แนะนำคนรุ่นใหม่คือ “มองงานเป็นโรงเรียน รับเงินเพื่อเรียนรู้” . Mark Cuban เจ้าของทีม Dallas Mavericks และนักลงทุนชื่อดัง ได้แบ่งปันแนวคิดผ่าน BlueSky โดยเขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่มองการทำงานในแบบที่นักกีฬาอาชีพมอง เป็นฟรีเอเจนต์ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา . "คุณจ่ายเงินเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้รับเงินเพื่อเรียนรู้" แม้ว่าเราต้องทำงานให้ดีที่สุด แต่ทุกคนมีอิสระที่จะมองหาโอกาสและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ . ถ้าถามว่าคำแนะนำของเขาเชื่อถือได้ไหม? ก็คิดว่าได้ เพราะเขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กขายคอมพิวเตอร์ มาสู่การเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน . เขาพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ในวัย 20 ต้น ๆ เขาได้งานที่บริษัทขายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ทั้งที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาเพียงวิชาเดียว แทนที่จะย่อท้อ เขากลับทุ่มเทศึกษาคู่มือคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง จนสามารถก่อตั้งบริษัท MicroSolutions และขายได้ในราคา 6 ล้านดอลลาร์ในปี 1990 . “ความสมดุลระหว่างการเรียนรู้และความมั่นคง” Patrice Williams Lindo ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาด้านอาชีพ Career Nomad ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า การเป็น "ฟรีเอเจนต์" ไม่ได้หมายถึงการมองหางานใหม่ตลอดเวลา แต่ควรเน้นการสร้างคุณค่าในงานปัจจุบัน พร้อม ๆ กับการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง . และนี่เป็น 5 วิธีประยุกต์ใช้แนวคิด "รับเงินเพื่อเรียนรู้" ในชีวิตจริง . 1. มองทุกงานเป็นโอกาสเรียนรู้ แม้งานจะไม่ตรงสาย แต่ทักษะที่ได้อาจเป็นประโยชน์ในอนาคต 2. ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ กำหนดสิ่งที่ต้องการพัฒนาในแต่ละเดือน เช่น ทักษะใหม่ หรือความเข้าใจในธุรกิจ 3. สร้างเครือข่ายอย่างมีคุณภาพ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน เพราะอาจเป็นโอกาสในอนาคต 4. ติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รู้ทันเทรนด์และทักษะที่ตลาดต้องการ 5. ลงทุนกับตัวเอง หาโอกาสพัฒนาทักษะผ่านการอบรม สัมมนา หรือการเรียนออนไลน์ . อย่าลืมว่า…โอกาสอยู่รอบตัว ในยุคที่เทคโนโลยีและตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมองงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เหมือนที่ Mark Cuban พูดไว้ "คุณเป็นฟรีเอเจนต์เสมอ" . มันไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่เพื่อเปิดใจรับโอกาสและพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะในที่สุด ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ จะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในการสร้างความสำเร็จในอนาคต . . เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH ——— 100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน . #Mindset #Business #100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน . อ้างอิง https://bit .ly/4jsKppt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮาวทู ฝึกสมองให้ชอบออมเงิน
    .
    Mac Gardner ผู้สนับสนุนความรู้ทางการเงินได้หยิบเงิน 100 ดอลลาร์ให้นักเรียนชั้นประถม และถามพวกเขาว่าพวกเขาจะนำไปใช้อย่างไร นักเรียนกว่า 9 ใน 10 ต่างตอบเหมือนกันว่าจะนำไปซื้อของที่อยากได้ เพราะคนส่วนใหญ่ถูกตั้งโปรแกรมให้กลายเป็นผู้บริโภคตั้งแต่อายุยังน้อย
    .
    พฤติกรรมเหล่านั้นจะถูกหล่อหลอมจนทำให้คุณกลายเป็นคนใช้เงิน หากไม่เข้าใจคุณค่าของมันตั้งแต่ยังเด็ก
    .
    ยิ่งคุณเข้าใจจิตวิทยาของการออมเงินมากเท่าไร คุณก็จะพัฒนานิสัยทางการเงินที่ดีได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
    .
    แท้จริงแล้วเรื่องของจิตวิทยายังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราทุกคน เพียงแค่มันเป็นเหมือนกลุ่มดาวเล็ก ๆ ที่ผู้คนไม่ค่อยสังเกตถึงมันเท่าไหร่ แต่มันกลับส่งผลต่อการใช้ชีวิตทั้งหมดตลอดช่วงอายุของผู้คน ซึ่งในแง่ของจิตวิทยาการเงินแล้ว มนุษย์มักกลัวที่จะสูญเสียหรือพลาดโอกาสอะไรไป (FOMO)
    .
    นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องวิ่งตามเทรนด์หรือกระแสที่เปลี่ยนไปของโลกด้วยใช้ “เงิน” ในการขับเคลื่อน แต่หากคุณรู้ตัวสักนิดว่าบางครั้งการวิ่งตามในเส้นทางนั้นนาน ๆ ก็อาจทำให้เหนื่อยได้ เพียงแค่คิดที่จะหยุด ผลตอบแทนที่สูญเสียไปก็จะตีคืนกลับมาเป็นเงินมหาศาลได้
    .
    เพื่อทำให้ตัวคุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินโดยไม่ไขว้เขวได้ สิ่งที่คุณควรทำและเรียนรู้ในจิตวิทยาการเงินคือ...
    .
    .
    เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
    (Reference in comment)
    ———
    100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
    .
    .
    #Money
    #100WEALTH
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    #SERVgroup
    ฮาวทู ฝึกสมองให้ชอบออมเงิน . Mac Gardner ผู้สนับสนุนความรู้ทางการเงินได้หยิบเงิน 100 ดอลลาร์ให้นักเรียนชั้นประถม และถามพวกเขาว่าพวกเขาจะนำไปใช้อย่างไร นักเรียนกว่า 9 ใน 10 ต่างตอบเหมือนกันว่าจะนำไปซื้อของที่อยากได้ เพราะคนส่วนใหญ่ถูกตั้งโปรแกรมให้กลายเป็นผู้บริโภคตั้งแต่อายุยังน้อย . พฤติกรรมเหล่านั้นจะถูกหล่อหลอมจนทำให้คุณกลายเป็นคนใช้เงิน หากไม่เข้าใจคุณค่าของมันตั้งแต่ยังเด็ก . ยิ่งคุณเข้าใจจิตวิทยาของการออมเงินมากเท่าไร คุณก็จะพัฒนานิสัยทางการเงินที่ดีได้ง่ายขึ้นเท่านั้น . แท้จริงแล้วเรื่องของจิตวิทยายังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราทุกคน เพียงแค่มันเป็นเหมือนกลุ่มดาวเล็ก ๆ ที่ผู้คนไม่ค่อยสังเกตถึงมันเท่าไหร่ แต่มันกลับส่งผลต่อการใช้ชีวิตทั้งหมดตลอดช่วงอายุของผู้คน ซึ่งในแง่ของจิตวิทยาการเงินแล้ว มนุษย์มักกลัวที่จะสูญเสียหรือพลาดโอกาสอะไรไป (FOMO) . นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องวิ่งตามเทรนด์หรือกระแสที่เปลี่ยนไปของโลกด้วยใช้ “เงิน” ในการขับเคลื่อน แต่หากคุณรู้ตัวสักนิดว่าบางครั้งการวิ่งตามในเส้นทางนั้นนาน ๆ ก็อาจทำให้เหนื่อยได้ เพียงแค่คิดที่จะหยุด ผลตอบแทนที่สูญเสียไปก็จะตีคืนกลับมาเป็นเงินมหาศาลได้ . เพื่อทำให้ตัวคุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินโดยไม่ไขว้เขวได้ สิ่งที่คุณควรทำและเรียนรู้ในจิตวิทยาการเงินคือ... . . เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH (Reference in comment) ——— 100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน . . #Money #100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน #SERVgroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 567 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ
    การเคารพในความเป็น
    ธรรมชาติของตัวเอง
    ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น
    .
    "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด
    แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน
    .
    นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง
    .
    เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา
    .
    ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา
    .
    นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น
    เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น
    .
    วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง
    .
    - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง"
    .
    - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง
    .
    - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา"
    .
    ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น
    .
    .
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    #100WEALTH
    ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ การเคารพในความเป็น ธรรมชาติของตัวเอง ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น . "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน . นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง . เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา . ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา . นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น . วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง . - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง" . - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง . - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา" . ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น . . #ไปให้ถึง100ล้าน #100WEALTH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว