• ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน
    ______________________________
    23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
    China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90
    ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน)
    ______________________________
    ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
    สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม
    หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ)
    บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง
    นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก
    ______________________________
    การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น
    • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV
    • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน
    • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ
    • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
    • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry)
    สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน
    ______________________________
    ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย
    ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล
    หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้:
    • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง
    • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย
    • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF
    • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่
    • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง
    • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง
    • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง
    ______________________________
    สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง
    การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED
    สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง
    ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน
    ______________________________
    ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน
    สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ
    KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่
    รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ______________________________
    สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต
    อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ
    https://shorturl.asia/6GnqX
    ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942
    ______________________________

    10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน)
    1. แร่ดีบุก (Tin)
    o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563
    o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region)
    2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
    o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region)
    3. ทองแดง (Copper)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร
    o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State)
    4. ตะกั่ว (Lead)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State)
    5. สังกะสี (Zinc)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ
    o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region)
    6. นิกเกิล (Nickel)
    o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน
    7. พลวง (Antimony)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน
    o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    8. ทังสเตน (Tungsten)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง
    o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น
    9. ทองคำ (Gold)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
    o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ
    o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย
    10. อิตเทรียม (Yttrium)
    o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ
    o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร
    ______________________________
    ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน ______________________________ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90 ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน) ______________________________ ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ______________________________ การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry) สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน ______________________________ ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้: • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่ • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง ______________________________ สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน ______________________________ ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่ รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ______________________________ สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ https://shorturl.asia/6GnqX ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942 ______________________________ 10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน) 1. แร่ดีบุก (Tin) o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563 o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region) 2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์ o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region) 3. ทองแดง (Copper) o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State) 4. ตะกั่ว (Lead) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์ o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State) 5. สังกะสี (Zinc) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region) 6. นิกเกิล (Nickel) o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน 7. พลวง (Antimony) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ 8. ทังสเตน (Tungsten) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น 9. ทองคำ (Gold) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย 10. อิตเทรียม (Yttrium) o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร ______________________________
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    WWW.ISRANEWS.ORG
    เปิดตัว 'วิศวกร' อายุ 85 ปี ผู้เซ็นชื่อออกแบบสร้างตึกสตง.- เจ้าตัวแจงไม่รู้เรื่องด้วย?
    นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า ...เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • 16 เมษายน 2568-สำนักข่าว CNN รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะปิดสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงสถานกงสุลในต่างประเทศกว่า 30 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะลดบาทบาทของตัวเองในบางประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ CNN ได้รับเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ซึ่งข้อมูลในเอกสารมีการแนะนำให้รัฐบาลปิดสถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ 10 แห่ง และปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯ อีก 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและแอฟริกาประเทศที่ถูกระบุในเอกสารให้ปิดสถานทูต บางส่วนประกอบด้วย  มอลตา, ลักเซมเบิร์ก, เลโซโท, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง  และซูดานใต้ นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในฝรั่งเศสอีก 5 แห่ง, ในเยอรมนีอีก 2 แห่ง, ในบอสเนียอีก 2 แห่ง, ในอังกฤษ 1 แห่ง, ในเซาท์แอฟริกา 1 แห่ง และเกาหลีใต้ 1 แห่ง ที่กำลังถูกพิจารณาให้ปิดด้วย โดยหลังจากที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในประเทศเหล่านี้ถูกปิด ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจะต้องไปติดต่อสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศใกล้เคียงแทนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย แทมมี บรูซ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบกับทางทำเนียบขาวและตัวประธานาธิบดีโดยตรง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงบประมาณที่ส่งให้สภาคองเกรสพิจารณา ซึ่งการใช้งบประมาณในปีหน้าของสหรัฐฯ มีการเสนอให้ลดงบประมาณลงในหลายส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วยhttps://www.cnn.com/2025/04/15/politics/closing-embassies-consulates-document/index.html?cid=ios_app
    16 เมษายน 2568-สำนักข่าว CNN รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะปิดสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงสถานกงสุลในต่างประเทศกว่า 30 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะลดบาทบาทของตัวเองในบางประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ CNN ได้รับเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ซึ่งข้อมูลในเอกสารมีการแนะนำให้รัฐบาลปิดสถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ 10 แห่ง และปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯ อีก 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและแอฟริกาประเทศที่ถูกระบุในเอกสารให้ปิดสถานทูต บางส่วนประกอบด้วย  มอลตา, ลักเซมเบิร์ก, เลโซโท, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง  และซูดานใต้ นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในฝรั่งเศสอีก 5 แห่ง, ในเยอรมนีอีก 2 แห่ง, ในบอสเนียอีก 2 แห่ง, ในอังกฤษ 1 แห่ง, ในเซาท์แอฟริกา 1 แห่ง และเกาหลีใต้ 1 แห่ง ที่กำลังถูกพิจารณาให้ปิดด้วย โดยหลังจากที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในประเทศเหล่านี้ถูกปิด ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจะต้องไปติดต่อสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศใกล้เคียงแทนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย แทมมี บรูซ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบกับทางทำเนียบขาวและตัวประธานาธิบดีโดยตรง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงบประมาณที่ส่งให้สภาคองเกรสพิจารณา ซึ่งการใช้งบประมาณในปีหน้าของสหรัฐฯ มีการเสนอให้ลดงบประมาณลงในหลายส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วยhttps://www.cnn.com/2025/04/15/politics/closing-embassies-consulates-document/index.html?cid=ios_app
    WWW.CNN.COM
    Trump administration looking at closing nearly 30 overseas embassies and consulates | CNN Politics
    The Trump administration is looking at closing nearly 30 overseas embassies and consulates as it eyes significant changes to its diplomatic presence abroad, according to an internal State Department document obtained by CNN.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนใช้การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีที่กำลังดำเนินการอยู่ กดดันบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้จำกัดการคบค้าสมาคมกับจีน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้

    ความคิดนี้คือการกดดันรีดเอาคำสัญญาจากบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้โดดเดี่ยวเศรษฐกิจของจีน เพื่อแลกกับการลดอุปสรรคทางการค้าและการรีดภาษีที่กำหนดโดยทำเนียบขาว โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่อเมริกมีแผนใช้การเจรจากับประเทศต่างๆกว่า 70 ชาติ ขอให้ชาติต่างเหล่านั้นไม่อนุญาตให้จีนส่งออกสินค้าผ่านประเทศของพวกเขา ขัดขวางเหล่าบริษัทของจีนจากการโยกย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนของชาติต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ และไม่ยอมให้สินค้าอุตสาหกรรมราคาถูกของจีนแทรกซึมเข้าสู่เศรษฐกิจของพวกเขา

    มาตรการเหล่านี้มีเจตนาตอกลิ่มเข้าใส่เศรษฐกิจที่ง่อนแง่นอยู่ก่อนแล้วของจีน และบีบให้ปักกิ่งยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยอำนาจงัดข้อที่น้อยลง ในความเป็นไปได้ของการเจรจาระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทั้งนี้ข้อเรียกร้องอย่างเจาะจงอาจต่างกันไปในแต่ละชาติ เนื่องจากจากระดับความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนที่ต่างกันออกไป

    ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035822

    #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนใช้การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีที่กำลังดำเนินการอยู่ กดดันบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้จำกัดการคบค้าสมาคมกับจีน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้ • ความคิดนี้คือการกดดันรีดเอาคำสัญญาจากบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้โดดเดี่ยวเศรษฐกิจของจีน เพื่อแลกกับการลดอุปสรรคทางการค้าและการรีดภาษีที่กำหนดโดยทำเนียบขาว โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่อเมริกมีแผนใช้การเจรจากับประเทศต่างๆกว่า 70 ชาติ ขอให้ชาติต่างเหล่านั้นไม่อนุญาตให้จีนส่งออกสินค้าผ่านประเทศของพวกเขา ขัดขวางเหล่าบริษัทของจีนจากการโยกย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนของชาติต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ และไม่ยอมให้สินค้าอุตสาหกรรมราคาถูกของจีนแทรกซึมเข้าสู่เศรษฐกิจของพวกเขา • มาตรการเหล่านี้มีเจตนาตอกลิ่มเข้าใส่เศรษฐกิจที่ง่อนแง่นอยู่ก่อนแล้วของจีน และบีบให้ปักกิ่งยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยอำนาจงัดข้อที่น้อยลง ในความเป็นไปได้ของการเจรจาระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทั้งนี้ข้อเรียกร้องอย่างเจาะจงอาจต่างกันไปในแต่ละชาติ เนื่องจากจากระดับความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนที่ต่างกันออกไป • ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035822 • #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหประชาชาติระบุว่าแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มพม่าเมื่อเดือนก่อนได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังทำให้ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งแห่งนี้ต้องกำจัดซากปรักหักพังจำนวนมากอย่างเร่งด่วน

    “มีซากปรักหักพังที่จะต้องถูกกำจัดในพม่าอย่างน้อย 2.5 ล้านตัน หรือประมาณ 125,000 คันรถบรรทุก” โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุในคำแถลง

    ผู้แทน UNDP ประจำพม่ากล่าวว่าการวิเคราะห์ของ UNDP ที่บูรณาการข้อมูลดาวเทียมขั้นสูงร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นภาพที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง

    หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 3,600 คน เมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ทางภาคกลางของประเทศยังคงได้รับความเสียหาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 60,000 คน ต้องแออัดอยู่ในสถานที่อพยพชั่วคราว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035772

    #MGROnline #สหประชาชาติ
    สหประชาชาติระบุว่าแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มพม่าเมื่อเดือนก่อนได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังทำให้ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งแห่งนี้ต้องกำจัดซากปรักหักพังจำนวนมากอย่างเร่งด่วน • “มีซากปรักหักพังที่จะต้องถูกกำจัดในพม่าอย่างน้อย 2.5 ล้านตัน หรือประมาณ 125,000 คันรถบรรทุก” โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุในคำแถลง • ผู้แทน UNDP ประจำพม่ากล่าวว่าการวิเคราะห์ของ UNDP ที่บูรณาการข้อมูลดาวเทียมขั้นสูงร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นภาพที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง • หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 3,600 คน เมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ทางภาคกลางของประเทศยังคงได้รับความเสียหาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 60,000 คน ต้องแออัดอยู่ในสถานที่อพยพชั่วคราว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035772 • #MGROnline #สหประชาชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/m48RVoO4-Ts?si=r6Vqi56m81m-g0fA
    https://www.youtube.com/live/m48RVoO4-Ts?si=r6Vqi56m81m-g0fA
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X รุ่นที่สอง สำหรับ PC ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงด้าน ความเร็วสัญญาณนาฬิกา และ สถาปัตยกรรมภายใน

    ✅ Snapdragon X รุ่นที่สองจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22%
    - ข้อมูลนี้มาจาก บล็อกเกอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านคน
    - ความเร็วสูงสุดของซีพียูอาจเริ่มต้นที่ 4.40 GHz

    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon และกระบวนการผลิต 4nm
    - Snapdragon X ใช้ Oryon cores ที่พัฒนาโดยทีม Nuvia
    - ผลิตด้วยเทคโนโลยี TSMC N4P (4nm-class)

    ✅ เปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
    - Snapdragon X รุ่นแรกมีความเร็ว 3.0 GHz ถึง 3.80 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.30 GHz
    - รุ่นใหม่อาจมีการปรับปรุงทั้ง ความเร็วสัญญาณนาฬิกาและสถาปัตยกรรม

    ✅ การเปิดตัวและการแข่งขันในตลาด
    - Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X Elite รุ่นแรก (SC8380XP) ในปี 2024
    - รุ่นที่สอง (SC8480XP) เริ่มทดสอบภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2024

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด PC
    - หาก Snapdragon X รุ่นที่สองเปิดตัวในปี 2025 อาจต้องแข่งขันกับ Intel และ AMD ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    ℹ️ ความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ต้องติดตามว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ 20% มาจากการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาหรือการปรับปรุงสถาปัตยกรรม

    ℹ️ แนวโน้มของ Snapdragon X ในอนาคต
    - หาก Qualcomm วางแผนเปิดตัวในปี 2026 อาจต้องเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 20% เพื่อให้สามารถแข่งขันได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/second-gen-snapdragon-x-pc-chips-may-boost-performance-up-to-22-percent
    Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X รุ่นที่สอง สำหรับ PC ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงด้าน ความเร็วสัญญาณนาฬิกา และ สถาปัตยกรรมภายใน ✅ Snapdragon X รุ่นที่สองจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% - ข้อมูลนี้มาจาก บล็อกเกอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านคน - ความเร็วสูงสุดของซีพียูอาจเริ่มต้นที่ 4.40 GHz ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon และกระบวนการผลิต 4nm - Snapdragon X ใช้ Oryon cores ที่พัฒนาโดยทีม Nuvia - ผลิตด้วยเทคโนโลยี TSMC N4P (4nm-class) ✅ เปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบัน - Snapdragon X รุ่นแรกมีความเร็ว 3.0 GHz ถึง 3.80 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.30 GHz - รุ่นใหม่อาจมีการปรับปรุงทั้ง ความเร็วสัญญาณนาฬิกาและสถาปัตยกรรม ✅ การเปิดตัวและการแข่งขันในตลาด - Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X Elite รุ่นแรก (SC8380XP) ในปี 2024 - รุ่นที่สอง (SC8480XP) เริ่มทดสอบภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด PC - หาก Snapdragon X รุ่นที่สองเปิดตัวในปี 2025 อาจต้องแข่งขันกับ Intel และ AMD ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ℹ️ ความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพ - ต้องติดตามว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ 20% มาจากการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาหรือการปรับปรุงสถาปัตยกรรม ℹ️ แนวโน้มของ Snapdragon X ในอนาคต - หาก Qualcomm วางแผนเปิดตัวในปี 2026 อาจต้องเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 20% เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/second-gen-snapdragon-x-pc-chips-may-boost-performance-up-to-22-percent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังพัฒนา Bartlett Lake-S ซึ่งเป็น ซีพียูที่มีเฉพาะ P-core โดยล่าสุดมีการเพิ่มการรองรับใน Linux Kernel Patch ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถระบุซีพียูนี้ได้อย่างถูกต้อง

    ✅ Intel เพิ่มการรองรับ Bartlett Lake-S ใน Linux Kernel Patch
    - แพตช์ใหม่ช่วยให้ระบบสามารถ ระบุซีพียูและปรับแต่งโค้ดให้เหมาะสม
    - ใช้ CPUID Family 6, Model 215 (0xD7) เพื่อให้ซอฟต์แวร์สามารถตรวจสอบคุณสมบัติของซีพียู

    ✅ Bartlett Lake-S มีเฉพาะ P-core และใช้สถาปัตยกรรม Raptor Cove
    - แตกต่างจากรุ่นปกติที่มี Hybrid Core (P-core + E-core)
    - อาจมี สูงสุด 12 P-core และ 24 threads

    ✅ รองรับแพลตฟอร์ม LGA 1700
    - สามารถใช้กับ เมนบอร์ด 600-series และ 700-series ได้
    - ต้องอัปเดต BIOS เพื่อรองรับซีพียูใหม่

    ✅ คาดการณ์การเปิดตัว
    - มีข่าวลือว่า Bartlett Lake-S อาจเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2025
    - อาจมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมใน Computex เดือนหน้า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-p-core-only-bartlett-lake-chip-inches-closer-to-reality-with-new-linux-patch
    Intel กำลังพัฒนา Bartlett Lake-S ซึ่งเป็น ซีพียูที่มีเฉพาะ P-core โดยล่าสุดมีการเพิ่มการรองรับใน Linux Kernel Patch ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถระบุซีพียูนี้ได้อย่างถูกต้อง ✅ Intel เพิ่มการรองรับ Bartlett Lake-S ใน Linux Kernel Patch - แพตช์ใหม่ช่วยให้ระบบสามารถ ระบุซีพียูและปรับแต่งโค้ดให้เหมาะสม - ใช้ CPUID Family 6, Model 215 (0xD7) เพื่อให้ซอฟต์แวร์สามารถตรวจสอบคุณสมบัติของซีพียู ✅ Bartlett Lake-S มีเฉพาะ P-core และใช้สถาปัตยกรรม Raptor Cove - แตกต่างจากรุ่นปกติที่มี Hybrid Core (P-core + E-core) - อาจมี สูงสุด 12 P-core และ 24 threads ✅ รองรับแพลตฟอร์ม LGA 1700 - สามารถใช้กับ เมนบอร์ด 600-series และ 700-series ได้ - ต้องอัปเดต BIOS เพื่อรองรับซีพียูใหม่ ✅ คาดการณ์การเปิดตัว - มีข่าวลือว่า Bartlett Lake-S อาจเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 - อาจมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมใน Computex เดือนหน้า https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-p-core-only-bartlett-lake-chip-inches-closer-to-reality-with-new-linux-patch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • Steam มีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ ยอดเงินทั้งหมดที่เคยใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม ได้ โดยฟีเจอร์นี้ถูกซ่อนอยู่ใน Steam Support และสามารถเข้าถึงได้ผ่านเมนู Help > Steam Support > My Account > Data Related to Your Steam Account > External Funds Used

    ✅ Steam มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบยอดเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมด
    - ผู้ใช้สามารถดูยอดรวมที่เคยใช้จ่ายบน Steam ได้ผ่าน External Funds Used
    - ระบบจะแสดงข้อมูลใน 5 หมวดหมู่ ได้แก่
    - TotalSpend: ยอดรวมทั้งหมดที่ใช้จ่ายบน Steam
    - OldSpend: ยอดที่ใช้จ่ายก่อนวันที่ 17 เมษายน 2015
    - PWSpend: ยอดที่ใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม Perfect World สำหรับ CS:GO หรือ Dota 2
    - ChinaSpend: ยอดที่ใช้จ่ายบน Steam China
    - PackageOnlySpend: ยอดที่ใช้จ่ายสำหรับการซื้อเกมโดยใช้เงินภายนอก

    ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าตนเองใช้จ่ายเงินจำนวนมากบน Steam
    - ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งพบว่าตนเองมี Steam Points กว่า 3,566,945 คะแนน ซึ่งหมายถึงการใช้จ่ายกว่า $35,000
    - ผู้ใช้บางคนพบว่าตนเองใช้จ่ายไปถึง $19,000 หรือ $15,000

    ✅ การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับการซื้อสินค้าอื่นๆ
    - หากซื้อเกม AAA ราคา $70 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2003 จะใช้จ่ายไปประมาณ $4,620
    - เทียบกับการซื้อกาแฟ Starbucks ราคา $4.50 ทุกวัน เป็นเวลา 22 ปี จะใช้เงินไปถึง $17,820

    ✅ Steam ไม่อนุญาตให้ขายบัญชี
    - ตาม Steam Subscriber Agreement ผู้ใช้ไม่สามารถขายบัญชีของตนได้
    - เกมที่ซื้อบน Steam เป็นเพียง สิทธิ์ในการเล่น ไม่ใช่ทรัพย์สินที่สามารถขายต่อได้

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/buried-steam-tool-shows-how-much-youve-spent-on-your-account-in-your-lifetime
    Steam มีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ ยอดเงินทั้งหมดที่เคยใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม ได้ โดยฟีเจอร์นี้ถูกซ่อนอยู่ใน Steam Support และสามารถเข้าถึงได้ผ่านเมนู Help > Steam Support > My Account > Data Related to Your Steam Account > External Funds Used ✅ Steam มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบยอดเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมด - ผู้ใช้สามารถดูยอดรวมที่เคยใช้จ่ายบน Steam ได้ผ่าน External Funds Used - ระบบจะแสดงข้อมูลใน 5 หมวดหมู่ ได้แก่ - TotalSpend: ยอดรวมทั้งหมดที่ใช้จ่ายบน Steam - OldSpend: ยอดที่ใช้จ่ายก่อนวันที่ 17 เมษายน 2015 - PWSpend: ยอดที่ใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม Perfect World สำหรับ CS:GO หรือ Dota 2 - ChinaSpend: ยอดที่ใช้จ่ายบน Steam China - PackageOnlySpend: ยอดที่ใช้จ่ายสำหรับการซื้อเกมโดยใช้เงินภายนอก ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าตนเองใช้จ่ายเงินจำนวนมากบน Steam - ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งพบว่าตนเองมี Steam Points กว่า 3,566,945 คะแนน ซึ่งหมายถึงการใช้จ่ายกว่า $35,000 - ผู้ใช้บางคนพบว่าตนเองใช้จ่ายไปถึง $19,000 หรือ $15,000 ✅ การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับการซื้อสินค้าอื่นๆ - หากซื้อเกม AAA ราคา $70 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2003 จะใช้จ่ายไปประมาณ $4,620 - เทียบกับการซื้อกาแฟ Starbucks ราคา $4.50 ทุกวัน เป็นเวลา 22 ปี จะใช้เงินไปถึง $17,820 ✅ Steam ไม่อนุญาตให้ขายบัญชี - ตาม Steam Subscriber Agreement ผู้ใช้ไม่สามารถขายบัญชีของตนได้ - เกมที่ซื้อบน Steam เป็นเพียง สิทธิ์ในการเล่น ไม่ใช่ทรัพย์สินที่สามารถขายต่อได้ https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/buried-steam-tool-shows-how-much-youve-spent-on-your-account-in-your-lifetime
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จาก University of Massachusetts Amherst ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับ การจัดตำแหน่งชิปในระดับอะตอม โดยใช้ เลเซอร์และ metalenses ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนการผลิตชิปและเพิ่มความแม่นยำในการจัดวางชั้นของเซมิคอนดักเตอร์

    ✅ เทคนิคใหม่ใช้เลเซอร์และ metalenses เพื่อจัดตำแหน่งชิป
    - เมื่อเลเซอร์ฉายลงบน metalenses จะเกิด รูปแบบการรบกวนแบบโฮโลกราฟิก
    - นักวิจัยสามารถวิเคราะห์รูปแบบเหล่านี้เพื่อวัด การเยื้องศูนย์ของชั้นชิปในทุกแกน

    ✅ ความแม่นยำสูงกว่าระบบเดิม
    - สามารถตรวจจับ การเยื้องศูนย์ด้านข้างได้ถึง 0.017 นาโนเมตร และ การเยื้องศูนย์แนวตั้งได้ถึง 0.134 นาโนเมตร
    - แม่นยำกว่าระบบ optical metrology ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีข้อจำกัดที่ 2-2.5 นาโนเมตร

    ✅ ผลกระทบต่อการผลิตชิปและการออกแบบ 3D chiplet
    - ช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดตำแหน่งชั้นของชิปที่ต้องผ่าน กว่า 4,000 ขั้นตอนการผลิต
    - อาจช่วยให้การออกแบบ multi-chiplet 3D มีความแม่นยำมากขึ้น

    ✅ การใช้งานนอกเหนือจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ตรวจจับ การเคลื่อนที่ของพื้นผิวจากแรงกดหรือการสั่นสะเทือน
    - อาจนำไปใช้ใน การตรวจสอบสิ่งแวดล้อม, การวิเคราะห์อุตสาหกรรม และการวินิจฉัยทางชีวการแพทย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/atomic-scale-chip-alignment-laser-holograms-could-set-new-standard-for-3d-semiconductor-overlay-accuracy
    นักวิทยาศาสตร์จาก University of Massachusetts Amherst ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับ การจัดตำแหน่งชิปในระดับอะตอม โดยใช้ เลเซอร์และ metalenses ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนการผลิตชิปและเพิ่มความแม่นยำในการจัดวางชั้นของเซมิคอนดักเตอร์ ✅ เทคนิคใหม่ใช้เลเซอร์และ metalenses เพื่อจัดตำแหน่งชิป - เมื่อเลเซอร์ฉายลงบน metalenses จะเกิด รูปแบบการรบกวนแบบโฮโลกราฟิก - นักวิจัยสามารถวิเคราะห์รูปแบบเหล่านี้เพื่อวัด การเยื้องศูนย์ของชั้นชิปในทุกแกน ✅ ความแม่นยำสูงกว่าระบบเดิม - สามารถตรวจจับ การเยื้องศูนย์ด้านข้างได้ถึง 0.017 นาโนเมตร และ การเยื้องศูนย์แนวตั้งได้ถึง 0.134 นาโนเมตร - แม่นยำกว่าระบบ optical metrology ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีข้อจำกัดที่ 2-2.5 นาโนเมตร ✅ ผลกระทบต่อการผลิตชิปและการออกแบบ 3D chiplet - ช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดตำแหน่งชั้นของชิปที่ต้องผ่าน กว่า 4,000 ขั้นตอนการผลิต - อาจช่วยให้การออกแบบ multi-chiplet 3D มีความแม่นยำมากขึ้น ✅ การใช้งานนอกเหนือจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ตรวจจับ การเคลื่อนที่ของพื้นผิวจากแรงกดหรือการสั่นสะเทือน - อาจนำไปใช้ใน การตรวจสอบสิ่งแวดล้อม, การวิเคราะห์อุตสาหกรรม และการวินิจฉัยทางชีวการแพทย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/atomic-scale-chip-alignment-laser-holograms-could-set-new-standard-for-3d-semiconductor-overlay-accuracy
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Atomic-scale chip alignment: Laser holograms could set new standard for 3D semiconductor overlay accuracy
    Tech could lower manufacturing costs by simplifying one of the most complex steps in chip production and 3D chip integration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก

    ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย
    - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว
    - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ

    ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI
    - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ
    - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย

    ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90%
    - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป

    ✅ การเปิดตัวและราคา
    - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025
    - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50
    - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์

    https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90% - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป ✅ การเปิดตัวและราคา - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025 - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50 - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The world's first personal 3D texturing UV printer paints on almost any surface
    The UV Printer E1 from Anker's eufyMake brand allows non-business customers to print detailed color designs onto cups, tiles, paper, canvas, and numerous other materials. It supports...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ได้จับภาพ เนบิวลา NGC 1514 ซึ่งมีลักษณะเป็น วงแหวนคู่ ที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยภาพนี้ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถศึกษากระบวนการก่อตัวของเนบิวลาได้อย่างละเอียด

    ✅ James Webb จับภาพเนบิวลา NGC 1514 ด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง
    - NASA เผยแพร่ภาพเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025
    - ใช้เครื่องมือ Mid-Infrared Instrument (MIRI) เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าภาพจากกล้อง WISE

    ✅ โครงสร้างของเนบิวลา
    - วงแหวนคู่เกิดจาก กลุ่มฝุ่นที่กระจายตัวเป็นชั้นๆ
    - มีลักษณะคล้าย ล้อรถยนต์ หรือ ทรงกระบอกสามมิติ

    ✅ ต้นกำเนิดของเนบิวลา
    - เกิดจาก ดาวฤกษ์ที่กำลังตาย ซึ่งปล่อยก๊าซและฝุ่นออกมา
    - ดาวที่อยู่ตรงกลางเป็น ระบบดาวคู่ ที่โคจรรอบกันทุก 9 ปี

    ✅ องค์ประกอบทางเคมีของเนบิวลา
    - พบ ออกซิเจน บริเวณขอบของวงแหวน
    - ขาด สารประกอบคาร์บอน ที่มักพบในเนบิวลาอื่นๆ

    https://www.techspot.com/news/107559-james-webb-telescope-captures-dual-ringed-nebula-stunning.html
    กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ได้จับภาพ เนบิวลา NGC 1514 ซึ่งมีลักษณะเป็น วงแหวนคู่ ที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยภาพนี้ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถศึกษากระบวนการก่อตัวของเนบิวลาได้อย่างละเอียด ✅ James Webb จับภาพเนบิวลา NGC 1514 ด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง - NASA เผยแพร่ภาพเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 - ใช้เครื่องมือ Mid-Infrared Instrument (MIRI) เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าภาพจากกล้อง WISE ✅ โครงสร้างของเนบิวลา - วงแหวนคู่เกิดจาก กลุ่มฝุ่นที่กระจายตัวเป็นชั้นๆ - มีลักษณะคล้าย ล้อรถยนต์ หรือ ทรงกระบอกสามมิติ ✅ ต้นกำเนิดของเนบิวลา - เกิดจาก ดาวฤกษ์ที่กำลังตาย ซึ่งปล่อยก๊าซและฝุ่นออกมา - ดาวที่อยู่ตรงกลางเป็น ระบบดาวคู่ ที่โคจรรอบกันทุก 9 ปี ✅ องค์ประกอบทางเคมีของเนบิวลา - พบ ออกซิเจน บริเวณขอบของวงแหวน - ขาด สารประกอบคาร์บอน ที่มักพบในเนบิวลาอื่นๆ https://www.techspot.com/news/107559-james-webb-telescope-captures-dual-ringed-nebula-stunning.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    James Webb telescope captures dual-ringed nebula in stunning detail
    On Monday, NASA released stunning images of the NGC 1514 nebula, showcasing the most vivid depiction of its dual rings ever captured. The Webb telescope's Mid-Infrared Instrument...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ออกอัปเดต Chrome 136 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์สามารถติดตาม ประวัติการเข้าชมลิงก์ของผู้ใช้ ผ่าน CSS :visited selector

    ✅ Chrome 136 ปรับปรุงการจัดการประวัติการเข้าชมลิงก์
    - ก่อนหน้านี้ CSS :visited selector ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนสีลิงก์ที่เคยคลิก เช่น จากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง
    - นักพัฒนาเว็บสามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อ ดึงข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้

    ✅ การใช้โมเดลแบ่งส่วนข้อมูล (Partitioning Model)
    - Chrome 136 จะใช้ การแบ่งส่วนข้อมูล เพื่อป้องกันการรั่วไหลของประวัติการเข้าชม
    - ลิงก์จะถูกทำเครื่องหมายว่า "visited" เฉพาะในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้คลิกครั้งแรกเท่านั้น

    ✅ ผลกระทบต่อการโจมตีแบบ Side-Channel
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยป้องกัน การติดตาม, การสร้างโปรไฟล์ และการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
    - Chrome 136 จะเป็น เบราว์เซอร์แรกที่ใช้การแบ่งส่วนข้อมูลสำหรับประวัติการเข้าชม

    ✅ การเปรียบเทียบกับเบราว์เซอร์อื่น
    - เบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Firefox และ Edge มีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของ URL
    - แต่ยังไม่มีเบราว์เซอร์ใดใช้ การแบ่งส่วนข้อมูลแบบ Chrome 136

    ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้
    - Chrome 132 เคยเปิดตัวฟีเจอร์นี้แบบทดลอง และ Chrome 136 จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น

    https://www.techspot.com/news/107558-new-chrome-update-fix-long-standing-bug-user.html
    Google ได้ออกอัปเดต Chrome 136 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์สามารถติดตาม ประวัติการเข้าชมลิงก์ของผู้ใช้ ผ่าน CSS :visited selector ✅ Chrome 136 ปรับปรุงการจัดการประวัติการเข้าชมลิงก์ - ก่อนหน้านี้ CSS :visited selector ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนสีลิงก์ที่เคยคลิก เช่น จากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง - นักพัฒนาเว็บสามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อ ดึงข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้ ✅ การใช้โมเดลแบ่งส่วนข้อมูล (Partitioning Model) - Chrome 136 จะใช้ การแบ่งส่วนข้อมูล เพื่อป้องกันการรั่วไหลของประวัติการเข้าชม - ลิงก์จะถูกทำเครื่องหมายว่า "visited" เฉพาะในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้คลิกครั้งแรกเท่านั้น ✅ ผลกระทบต่อการโจมตีแบบ Side-Channel - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยป้องกัน การติดตาม, การสร้างโปรไฟล์ และการโจมตีแบบฟิชชิ่ง - Chrome 136 จะเป็น เบราว์เซอร์แรกที่ใช้การแบ่งส่วนข้อมูลสำหรับประวัติการเข้าชม ✅ การเปรียบเทียบกับเบราว์เซอร์อื่น - เบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Firefox และ Edge มีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของ URL - แต่ยังไม่มีเบราว์เซอร์ใดใช้ การแบ่งส่วนข้อมูลแบบ Chrome 136 ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ - Chrome 132 เคยเปิดตัวฟีเจอร์นี้แบบทดลอง และ Chrome 136 จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น https://www.techspot.com/news/107558-new-chrome-update-fix-long-standing-bug-user.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Chrome update to fix a long-standing bug in user privacy for visited links
    Browsers have mishandled visited site tracking since the early days of the internet. Google is now working to fix the issue with Chrome. The browser's next update...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวญี่ปุ่นวัย 58 ปี กลายเป็นบุคคลแรกที่ถูกจับกุมในญี่ปุ่น ฐานขายเครื่อง Nintendo Switch ที่ถูกดัดแปลงให้สามารถเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ โดยศาลแขวงโคจิได้ตัดสินให้เขามีความผิดและลงโทษด้วย โทษจำคุก 2 ปี (รอลงอาญา 3 ปี) และปรับ 500,000 เยน (ประมาณ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

    ✅ บุคคลแรกในญี่ปุ่นที่ถูกจับฐานขายเครื่อง Switch ดัดแปลง
    - ฟุมิฮิโระ โอโตเบะ ถูกจับกุมเมื่อเดือนมกราคม 2025 ฐานขายเครื่อง Switch ที่ถูกดัดแปลง
    - เครื่องที่ขายมี 27 เกมละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งไว้ล่วงหน้า

    ✅ วิธีการดัดแปลงเครื่อง Switch
    - โอโตเบะใช้ การบัดกรีฮาร์ดแวร์ลงบนแผงวงจร เพื่อให้สามารถเล่นเกมที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - เครื่องที่ดัดแปลงถูกขายออนไลน์ในราคาประมาณ 28,000 เยน (195 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

    ✅ คำสารภาพของผู้ต้องหา
    - โอโตเบะยอมรับว่าเขาทำผิด และกล่าวว่า "ผมอยากรู้ว่าผู้คนจะคิดว่าผมเจ๋งหรือไม่ที่ขายเครื่องดัดแปลง"
    - ตำรวจพบเครื่อง Switch ดัดแปลง 4 เครื่อง ในครอบครองของเขา

    ✅ การตัดสินของศาล
    - ศาลแขวงโคจิตัดสินว่าโอโตเบะ ละเมิดเครื่องหมายการค้าของ Nintendo และกฎหมายอื่นๆ
    - เขาถูกตัดสินจำคุก 2 ปี แต่รอลงอาญา 3 ปี และต้องจ่ายค่าปรับ 500,000 เยน

    ✅ เปรียบเทียบกับคดีของ Gary Bowser
    - Gary Bowser สมาชิกกลุ่ม Team Xecuter ถูกจับในปี 2020 ฐานพัฒนาเครื่องมือสำหรับเจาะระบบ Nintendo
    - Bowser ถูกตัดสินจำคุก 40 เดือน และต้องจ่ายค่าปรับ 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าโอโตเบะถึง 400,000%

    https://www.techspot.com/news/107553-first-person-ever-arrested-japan-selling-modded-nintendo.html
    ชายชาวญี่ปุ่นวัย 58 ปี กลายเป็นบุคคลแรกที่ถูกจับกุมในญี่ปุ่น ฐานขายเครื่อง Nintendo Switch ที่ถูกดัดแปลงให้สามารถเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ โดยศาลแขวงโคจิได้ตัดสินให้เขามีความผิดและลงโทษด้วย โทษจำคุก 2 ปี (รอลงอาญา 3 ปี) และปรับ 500,000 เยน (ประมาณ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ✅ บุคคลแรกในญี่ปุ่นที่ถูกจับฐานขายเครื่อง Switch ดัดแปลง - ฟุมิฮิโระ โอโตเบะ ถูกจับกุมเมื่อเดือนมกราคม 2025 ฐานขายเครื่อง Switch ที่ถูกดัดแปลง - เครื่องที่ขายมี 27 เกมละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งไว้ล่วงหน้า ✅ วิธีการดัดแปลงเครื่อง Switch - โอโตเบะใช้ การบัดกรีฮาร์ดแวร์ลงบนแผงวงจร เพื่อให้สามารถเล่นเกมที่ไม่ได้รับอนุญาต - เครื่องที่ดัดแปลงถูกขายออนไลน์ในราคาประมาณ 28,000 เยน (195 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ✅ คำสารภาพของผู้ต้องหา - โอโตเบะยอมรับว่าเขาทำผิด และกล่าวว่า "ผมอยากรู้ว่าผู้คนจะคิดว่าผมเจ๋งหรือไม่ที่ขายเครื่องดัดแปลง" - ตำรวจพบเครื่อง Switch ดัดแปลง 4 เครื่อง ในครอบครองของเขา ✅ การตัดสินของศาล - ศาลแขวงโคจิตัดสินว่าโอโตเบะ ละเมิดเครื่องหมายการค้าของ Nintendo และกฎหมายอื่นๆ - เขาถูกตัดสินจำคุก 2 ปี แต่รอลงอาญา 3 ปี และต้องจ่ายค่าปรับ 500,000 เยน ✅ เปรียบเทียบกับคดีของ Gary Bowser - Gary Bowser สมาชิกกลุ่ม Team Xecuter ถูกจับในปี 2020 ฐานพัฒนาเครื่องมือสำหรับเจาะระบบ Nintendo - Bowser ถูกตัดสินจำคุก 40 เดือน และต้องจ่ายค่าปรับ 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าโอโตเบะถึง 400,000% https://www.techspot.com/news/107553-first-person-ever-arrested-japan-selling-modded-nintendo.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    First-ever Switch modding case in Japan ends with fine and suspended jail time
    While people have been arrested in other parts of the world for selling modified Nintendo Switch consoles, it had never happened in Japan before Otobe's apprehension at...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • TechTuber Necroware ได้ทำการซ่อมแซม Sound Blaster 16 สองตัวจากยุค 90 ซึ่งเป็นการบูรณะฮาร์ดแวร์คลาสสิกที่ท้าทาย โดยการซ่อมแซมนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลของนักเทคโนโลยีที่ยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์วินเทจ

    https://youtu.be/J4djhBXUQ1I?si=8JATotr_6l9lcbK0

    ✅ Necroware ซ่อมแซม Sound Blaster 16 รุ่น CT2230 และ CT2290
    - CT2230 มี รอยขีดข่วนและขาดชิ้นส่วน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเชื่อมต่อสายไฟใหม่
    - CT2290 มีปัญหาหนักกว่า โดยเริ่มต้น ไม่สามารถตรวจพบการ์ดได้เลย

    ✅ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการซ่อมแซม
    - Necroware ใช้ กล้องดิจิทัลและสถานีบัดกรี เพื่อค้นหาและแก้ไขรอยแตกบน PCB
    - ใช้ 3D printing เพื่อสร้าง bracket ใหม่ สำหรับการ์ดที่ขาดชิ้นส่วน

    ✅ การแก้ไขปัญหาชิป CT1748A
    - CT2290 มีปัญหาด้านเสียง เนื่องจาก ขาดชิป CT1748A ซึ่งเคยถูกถอดออกไปใช้ในโปรเจคอื่น
    - Necroware ติดตั้ง socket เพื่อให้สามารถเปลี่ยนชิปได้ง่ายขึ้นในอนาคต

    ✅ ข้อเสนอแนะจากผู้ชม
    - มีผู้ชมแนะนำว่า สามารถตั้งค่า jumper บน PCB เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงโดยไม่ต้องใช้ CT1748A
    - แสดงให้เห็นว่าการซ่อมแซมฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงมี ชุมชนที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107549-enthusiast-restores-two-sound-blaster-16-cards-documenting.html
    TechTuber Necroware ได้ทำการซ่อมแซม Sound Blaster 16 สองตัวจากยุค 90 ซึ่งเป็นการบูรณะฮาร์ดแวร์คลาสสิกที่ท้าทาย โดยการซ่อมแซมนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลของนักเทคโนโลยีที่ยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์วินเทจ https://youtu.be/J4djhBXUQ1I?si=8JATotr_6l9lcbK0 ✅ Necroware ซ่อมแซม Sound Blaster 16 รุ่น CT2230 และ CT2290 - CT2230 มี รอยขีดข่วนและขาดชิ้นส่วน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเชื่อมต่อสายไฟใหม่ - CT2290 มีปัญหาหนักกว่า โดยเริ่มต้น ไม่สามารถตรวจพบการ์ดได้เลย ✅ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการซ่อมแซม - Necroware ใช้ กล้องดิจิทัลและสถานีบัดกรี เพื่อค้นหาและแก้ไขรอยแตกบน PCB - ใช้ 3D printing เพื่อสร้าง bracket ใหม่ สำหรับการ์ดที่ขาดชิ้นส่วน ✅ การแก้ไขปัญหาชิป CT1748A - CT2290 มีปัญหาด้านเสียง เนื่องจาก ขาดชิป CT1748A ซึ่งเคยถูกถอดออกไปใช้ในโปรเจคอื่น - Necroware ติดตั้ง socket เพื่อให้สามารถเปลี่ยนชิปได้ง่ายขึ้นในอนาคต ✅ ข้อเสนอแนะจากผู้ชม - มีผู้ชมแนะนำว่า สามารถตั้งค่า jumper บน PCB เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงโดยไม่ต้องใช้ CT1748A - แสดงให้เห็นว่าการซ่อมแซมฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงมี ชุมชนที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107549-enthusiast-restores-two-sound-blaster-16-cards-documenting.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Enthusiast restores two Sound Blaster 16 cards documenting the challenges of vintage hardware repair
    If you're old enough, you will be familiar with the iconic Sound Blaster bundle boxes as shown above (credit). A legendary setup for any '90s PC gamer...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังใช้ AI และโทรศัพท์ Pixel เพื่อพัฒนาโมเดลที่สามารถ เข้าใจและสื่อสารกับโลมา โดยโครงการนี้ใช้ DolphinGemma ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถวิเคราะห์เสียงของโลมา เช่น เสียงหวีด, คลิก และ squawk

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อศึกษาภาษาของโลมา
    - โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Google, Georgia Tech และ Wild Dolphin Project (WDP)
    - WDP มีข้อมูลเสียงของโลมามากกว่า 40 ปี ซึ่งใช้ในการฝึกโมเดล DolphinGemma

    ✅ DolphinGemma วิเคราะห์เสียงโลมาเพื่อเข้าใจพฤติกรรม
    - โลมามี เสียงหวีดเฉพาะตัว ที่ใช้เรียกกันเหมือนชื่อ
    - ใช้ เสียงคลิก "buzzes" ในการเกี้ยวพาราสีหรือขับไล่ฉลาม
    - ใช้ เสียง burst-pulse "squarks" ในระหว่างการต่อสู้

    ✅ Pixel phones ถูกใช้ในการบันทึกเสียงโลมา
    - โทรศัพท์ Pixel ใช้ SoundStream tokenizer เพื่อแปลงเสียงโลมาเป็นข้อมูลที่ AI สามารถวิเคราะห์ได้
    - DolphinGemma มี 400 ล้านพารามิเตอร์ และสามารถทำงานบน Pixel ได้โดยตรง

    ✅ CHAT: ระบบสื่อสารสองทางกับโลมา
    - CHAT (Cetacean Hearing Augmentation Telemetry) ใช้ Pixel 6 เพื่อสร้าง เสียงหวีดสังเคราะห์
    - นักวิจัยหวังว่าโลมาจะเลียนแบบเสียงเหล่านี้เพื่อขอสิ่งที่ต้องการ เช่น สาหร่ายทะเลหรือผ้าพันคอ
    - Google เตรียมเปิดตัว CHAT รุ่นใหม่บน Pixel 9 สำหรับฤดูร้อนปี 2025

    https://www.techspot.com/news/107552-how-google-plans-use-ai-pixel-phones-talk.html
    Google กำลังใช้ AI และโทรศัพท์ Pixel เพื่อพัฒนาโมเดลที่สามารถ เข้าใจและสื่อสารกับโลมา โดยโครงการนี้ใช้ DolphinGemma ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถวิเคราะห์เสียงของโลมา เช่น เสียงหวีด, คลิก และ squawk ✅ Google ใช้ AI เพื่อศึกษาภาษาของโลมา - โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Google, Georgia Tech และ Wild Dolphin Project (WDP) - WDP มีข้อมูลเสียงของโลมามากกว่า 40 ปี ซึ่งใช้ในการฝึกโมเดล DolphinGemma ✅ DolphinGemma วิเคราะห์เสียงโลมาเพื่อเข้าใจพฤติกรรม - โลมามี เสียงหวีดเฉพาะตัว ที่ใช้เรียกกันเหมือนชื่อ - ใช้ เสียงคลิก "buzzes" ในการเกี้ยวพาราสีหรือขับไล่ฉลาม - ใช้ เสียง burst-pulse "squarks" ในระหว่างการต่อสู้ ✅ Pixel phones ถูกใช้ในการบันทึกเสียงโลมา - โทรศัพท์ Pixel ใช้ SoundStream tokenizer เพื่อแปลงเสียงโลมาเป็นข้อมูลที่ AI สามารถวิเคราะห์ได้ - DolphinGemma มี 400 ล้านพารามิเตอร์ และสามารถทำงานบน Pixel ได้โดยตรง ✅ CHAT: ระบบสื่อสารสองทางกับโลมา - CHAT (Cetacean Hearing Augmentation Telemetry) ใช้ Pixel 6 เพื่อสร้าง เสียงหวีดสังเคราะห์ - นักวิจัยหวังว่าโลมาจะเลียนแบบเสียงเหล่านี้เพื่อขอสิ่งที่ต้องการ เช่น สาหร่ายทะเลหรือผ้าพันคอ - Google เตรียมเปิดตัว CHAT รุ่นใหม่บน Pixel 9 สำหรับฤดูร้อนปี 2025 https://www.techspot.com/news/107552-how-google-plans-use-ai-pixel-phones-talk.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google's AI is learning dolphin language - for real
    Google has announced a collaboration with researchers at Georgia Tech and the field research of the Wild Dolphin Project (WDP), the latter of which has been collecting...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ได้ยื่นฟ้อง OpenAI โดยกล่าวหาว่าบริษัทกำลัง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อ ภารกิจดั้งเดิมขององค์กรที่เน้นการพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เห็นว่าการดำเนินคดีของ Musk จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

    ✅ Musk ฟ้อง OpenAI เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร
    - OpenAI ต้องการ ลบคณะกรรมการไม่แสวงหากำไรออกจากการควบคุมบริษัท
    - การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุน 40 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุน

    ✅ อัยการสูงสุดของแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดี
    - Musk ขอให้รัฐแคลิฟอร์เนียเข้าร่วมคดีเพื่อ ปกป้องทรัพย์สินขององค์กรไม่แสวงหากำไร
    - อัยการสูงสุดระบุว่า Musk ไม่ได้แสดงหลักฐานเพียงพอว่าการเข้าร่วมคดีจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

    ✅ Meta และกลุ่มนักลงทุนอื่นๆ สนับสนุนการตรวจสอบ OpenAI
    - Meta และกลุ่มผู้นำด้านการกุศลได้ส่งจดหมายถึงอัยการสูงสุดเพื่อ เรียกร้องให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ OpenAI
    - OpenAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถ เติบโตและดำเนินภารกิจต่อไปได้

    ✅ Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97 พันล้านดอลลาร์
    - Musk เคยพยายามเข้าควบคุม OpenAI แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธ
    - Altman อ้างว่า Musk พยายามชะลอการเติบโตของคู่แข่ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/california-attorney-general-declines-to-join-musk039s-lawsuit-against-openai
    Elon Musk ได้ยื่นฟ้อง OpenAI โดยกล่าวหาว่าบริษัทกำลัง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อ ภารกิจดั้งเดิมขององค์กรที่เน้นการพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เห็นว่าการดำเนินคดีของ Musk จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ✅ Musk ฟ้อง OpenAI เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร - OpenAI ต้องการ ลบคณะกรรมการไม่แสวงหากำไรออกจากการควบคุมบริษัท - การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุน 40 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุน ✅ อัยการสูงสุดของแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดี - Musk ขอให้รัฐแคลิฟอร์เนียเข้าร่วมคดีเพื่อ ปกป้องทรัพย์สินขององค์กรไม่แสวงหากำไร - อัยการสูงสุดระบุว่า Musk ไม่ได้แสดงหลักฐานเพียงพอว่าการเข้าร่วมคดีจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ✅ Meta และกลุ่มนักลงทุนอื่นๆ สนับสนุนการตรวจสอบ OpenAI - Meta และกลุ่มผู้นำด้านการกุศลได้ส่งจดหมายถึงอัยการสูงสุดเพื่อ เรียกร้องให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ OpenAI - OpenAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถ เติบโตและดำเนินภารกิจต่อไปได้ ✅ Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97 พันล้านดอลลาร์ - Musk เคยพยายามเข้าควบคุม OpenAI แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธ - Altman อ้างว่า Musk พยายามชะลอการเติบโตของคู่แข่ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/california-attorney-general-declines-to-join-musk039s-lawsuit-against-openai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    California attorney general declines to join Musk's lawsuit against OpenAI
    SAN FRANCISCO (Reuters) - The California attorney general's office declined to join a lawsuit by Elon Musk against OpenAI, the agency wrote in a letter made public on Tuesday, saying that the office did not see how Musk's action serves the public interest of the state.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้กำหนด ข้อกำหนดขั้นต่ำใหม่สำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 ซึ่งอาจทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าหลายรุ่นไม่สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้

    ✅ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16
    - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ต้องการรับรอง Android 15 ต้องมี พื้นที่เก็บข้อมูลขั้นต่ำ 32GB
    - ข้อกำหนดเดิมอยู่ที่ 16GB ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ที่มีพื้นที่น้อยกว่านี้จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้

    ✅ ข้อกำหนด RAM ขั้นต่ำสำหรับ Android 15
    - อุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง Android 15 ต้องมี RAM อย่างน้อย 4GB
    - ข้อกำหนดนี้ใช้กับผู้ผลิตที่ต้องการรวม Google Play Store และบริการของ Google ในอุปกรณ์ของตน

    ✅ เหตุผลที่ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำ
    - เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์การใช้งาน บนอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น
    - อุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยมักมีปัญหา พื้นที่เต็มเร็วหลังติดตั้งระบบและแอปพลิเคชันที่มาพร้อมเครื่อง

    ✅ ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น
    - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลต่ำกว่า 32GB จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้
    - อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปี 2025 มีพื้นที่เก็บข้อมูล อย่างน้อย 64GB ทำให้ข้อกำหนดใหม่นี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/these-smartphones-will-not-be-able-to-run-the-new-versions-of-android
    Google ได้กำหนด ข้อกำหนดขั้นต่ำใหม่สำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 ซึ่งอาจทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าหลายรุ่นไม่สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้ ✅ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ต้องการรับรอง Android 15 ต้องมี พื้นที่เก็บข้อมูลขั้นต่ำ 32GB - ข้อกำหนดเดิมอยู่ที่ 16GB ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ที่มีพื้นที่น้อยกว่านี้จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้ ✅ ข้อกำหนด RAM ขั้นต่ำสำหรับ Android 15 - อุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง Android 15 ต้องมี RAM อย่างน้อย 4GB - ข้อกำหนดนี้ใช้กับผู้ผลิตที่ต้องการรวม Google Play Store และบริการของ Google ในอุปกรณ์ของตน ✅ เหตุผลที่ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำ - เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์การใช้งาน บนอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น - อุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยมักมีปัญหา พื้นที่เต็มเร็วหลังติดตั้งระบบและแอปพลิเคชันที่มาพร้อมเครื่อง ✅ ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลต่ำกว่า 32GB จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้ - อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปี 2025 มีพื้นที่เก็บข้อมูล อย่างน้อย 64GB ทำให้ข้อกำหนดใหม่นี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/these-smartphones-will-not-be-able-to-run-the-new-versions-of-android
    WWW.THESTAR.COM.MY
    These smartphones will not be able to run the new versions of Android
    Google has just set new storage space minimums for installing the latest versions of Android.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia คาดว่าจะมี ค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ผลิตภัณฑ์ H20 รวมถึง สินค้าคงคลัง, ข้อผูกพันในการซื้อ และเงินสำรองที่เกี่ยวข้อง

    ✅ Nvidia คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์
    - ค่าใช้จ่ายนี้เกี่ยวข้องกับ ผลิตภัณฑ์ H20 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านสินค้าคงคลังและข้อผูกพันในการซื้อ
    - Nvidia ประกาศเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025

    ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงานของ Nvidia
    - ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอาจส่งผลต่อ ผลประกอบการไตรมาสแรก ของบริษัท
    - Nvidia ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI และชิปประมวลผล แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง

    ✅ แนวโน้มของตลาดชิปประมวลผล
    - Nvidia กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านการขายชิปให้กับจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ของบริษัท
    - บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับ กฎระเบียบใหม่ของสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/nvidia-expects-up-to-55-billion-charge-in-first-quarter
    Nvidia คาดว่าจะมี ค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ผลิตภัณฑ์ H20 รวมถึง สินค้าคงคลัง, ข้อผูกพันในการซื้อ และเงินสำรองที่เกี่ยวข้อง ✅ Nvidia คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ - ค่าใช้จ่ายนี้เกี่ยวข้องกับ ผลิตภัณฑ์ H20 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านสินค้าคงคลังและข้อผูกพันในการซื้อ - Nvidia ประกาศเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงานของ Nvidia - ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอาจส่งผลต่อ ผลประกอบการไตรมาสแรก ของบริษัท - Nvidia ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI และชิปประมวลผล แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง ✅ แนวโน้มของตลาดชิปประมวลผล - Nvidia กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านการขายชิปให้กับจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ของบริษัท - บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับ กฎระเบียบใหม่ของสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/nvidia-expects-up-to-55-billion-charge-in-first-quarter
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Nvidia expects up to $5.5 billion charge in first quarter
    (Reuters) - Nvidia said on Tuesday its first-quarter results are expected to include up to approximately $5.5 billion of charges associated with H20 products for inventory, purchase commitments, and related reserves.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mark Zuckerberg เคยพิจารณา แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ ในปี 2018 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ตามเอกสารที่ถูกเปิดเผยในศาลสหรัฐฯ

    ✅ Zuckerberg เคยพิจารณาแยก Instagram ออกจาก Meta
    - ในปี 2018 เขาเขียนบันทึกภายในว่าอาจต้อง แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ
    - เหตุผลหลักคือ ความเสี่ยงจากการตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด

    ✅ Meta ตัดสินใจรวมแอปแทนการแยกออก
    - แม้จะมีการพิจารณา แต่ Meta เลือกที่จะ รวม Instagram และ WhatsApp เข้ากับ Facebook
    - Zuckerberg เชื่อว่าการรวมกันจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้ดีขึ้น

    ✅ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐฯ
    - คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังดำเนินคดีเพื่อ ยกเลิกการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp
    - FTC อ้างว่า Meta ใช้กลยุทธ์ "ซื้อหรือทำลายคู่แข่ง" เพื่อรักษาการผูกขาด

    ✅ Zuckerberg ยอมรับว่า Instagram ดีกว่า Facebook ในบางด้าน
    - เขากล่าวว่า Instagram มี กล้องที่ดีกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจซื้อกิจการ
    - Meta เคยพยายามสร้างแอปกล้องของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

    ℹ️ ผลกระทบต่ออนาคตของ Meta
    - หาก FTC ชนะคดี Meta อาจต้อง แยก Instagram และ WhatsApp ออกจากบริษัท

    ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น
    - Meta ต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TikTok, YouTube และ Apple Messages

    ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
    - รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการผูกขาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/at-us-antitrust-trial-meta039s-zuckerberg-admits-he-bought-instagram-because-it-was-039better039
    Mark Zuckerberg เคยพิจารณา แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ ในปี 2018 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ตามเอกสารที่ถูกเปิดเผยในศาลสหรัฐฯ ✅ Zuckerberg เคยพิจารณาแยก Instagram ออกจาก Meta - ในปี 2018 เขาเขียนบันทึกภายในว่าอาจต้อง แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ - เหตุผลหลักคือ ความเสี่ยงจากการตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ✅ Meta ตัดสินใจรวมแอปแทนการแยกออก - แม้จะมีการพิจารณา แต่ Meta เลือกที่จะ รวม Instagram และ WhatsApp เข้ากับ Facebook - Zuckerberg เชื่อว่าการรวมกันจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้ดีขึ้น ✅ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐฯ - คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังดำเนินคดีเพื่อ ยกเลิกการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp - FTC อ้างว่า Meta ใช้กลยุทธ์ "ซื้อหรือทำลายคู่แข่ง" เพื่อรักษาการผูกขาด ✅ Zuckerberg ยอมรับว่า Instagram ดีกว่า Facebook ในบางด้าน - เขากล่าวว่า Instagram มี กล้องที่ดีกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจซื้อกิจการ - Meta เคยพยายามสร้างแอปกล้องของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ℹ️ ผลกระทบต่ออนาคตของ Meta - หาก FTC ชนะคดี Meta อาจต้อง แยก Instagram และ WhatsApp ออกจากบริษัท ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น - Meta ต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TikTok, YouTube และ Apple Messages ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ - รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการผูกขาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/at-us-antitrust-trial-meta039s-zuckerberg-admits-he-bought-instagram-because-it-was-039better039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta's Zuckerberg eyed Instagram spinoff amid antitrust scrutiny, document shows
    WASHINGTON (Reuters) -Meta CEO Mark Zuckerberg considered spinning off popular photo-sharing app Instagram in 2018 over concerns about the growing risk of antitrust scrutiny, according to a document shown at a trial in Washington on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์กร Whistleblower Aid ได้เปิดเผยว่าอาจมี การละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ที่หน่วยงานกำกับดูแลแรงงานของสหรัฐฯ (NLRB) โดยมีข้อกล่าวหาว่า ทีมเทคโนโลยีของ Elon Musk อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้

    ✅ Whistleblower Aid เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดความปลอดภัย
    - ข้อร้องเรียนถูกส่งไปยัง Tom Cotton และ Mark Warner ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ
    - แหล่งข้อมูลหลักคือ Daniel Berulis เจ้าหน้าที่ไอทีของ NLRB

    ✅ ความเป็นไปได้ที่ข้อมูลสำคัญถูกละเมิด
    - อาจมี ไฟล์คดีที่ละเอียดอ่อน ถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการโจมตี

    ✅ ผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาล
    - หากข้อกล่าวหาเป็นจริง อาจส่งผลกระทบต่อ ความน่าเชื่อถือของระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ
    - อาจมีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของทีมเทคโนโลยีของ Musk

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/whistleblower-org-says-doge-may-have-caused-039significant-cyber-breach039-at-us-labor-watchdog
    องค์กร Whistleblower Aid ได้เปิดเผยว่าอาจมี การละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ที่หน่วยงานกำกับดูแลแรงงานของสหรัฐฯ (NLRB) โดยมีข้อกล่าวหาว่า ทีมเทคโนโลยีของ Elon Musk อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ✅ Whistleblower Aid เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดความปลอดภัย - ข้อร้องเรียนถูกส่งไปยัง Tom Cotton และ Mark Warner ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ - แหล่งข้อมูลหลักคือ Daniel Berulis เจ้าหน้าที่ไอทีของ NLRB ✅ ความเป็นไปได้ที่ข้อมูลสำคัญถูกละเมิด - อาจมี ไฟล์คดีที่ละเอียดอ่อน ถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต - ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการโจมตี ✅ ผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาล - หากข้อกล่าวหาเป็นจริง อาจส่งผลกระทบต่อ ความน่าเชื่อถือของระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ - อาจมีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของทีมเทคโนโลยีของ Musk https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/whistleblower-org-says-doge-may-have-caused-039significant-cyber-breach039-at-us-labor-watchdog
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Whistleblower org says DOGE may have caused 'significant cyber breach' at US labor watchdog
    WASHINGTON (Reuters) -A whistleblower complaint says that billionaire Elon Musk's team of technologists may have been responsible for a "significant cybersecurity breach," likely of sensitive case files, at America's federal labor watchdog.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update

    ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต
    - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต

    ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU
    - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU)
    - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง

    ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย
    - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน
    - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว

    ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด
    - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025
    - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี

    https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU) - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025 - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    WWW.ZDNET.COM
    Your Android phone is getting a new security secret weapon - how it works
    This new security feature from Google will make your Android phone more difficult to access if you haven't used it in a while.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • MITRE กำลังจะ ยุติโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) หลังจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ไม่ต่อสัญญา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการติดตามช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทั่วโลก

    ✅ MITRE จะหยุดดำเนินโครงการ CVE ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2025
    - DHS ไม่ต่อสัญญา หลังจากให้ทุนสนับสนุนโครงการมานานกว่า 25 ปี
    - CVE เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สำคัญสำหรับ การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น รากฐานของระบบติดตามช่องโหว่ ที่ใช้โดยองค์กรทั่วโลก
    - การยุติโครงการอาจทำให้ การระบุและจัดการช่องโหว่เป็นไปอย่างล่าช้า

    ✅ ความพยายามในการรักษาโครงการ
    - MITRE ยืนยันว่าจะพยายาม รักษา CVE เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะ
    - ข้อมูล CVE ที่มีอยู่จะยังคงสามารถเข้าถึงได้ผ่าน GitHub

    ✅ ความกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
    - นักวิจัยจาก Rand Corporation และ Bitsight ระบุว่าการยุติโครงการเป็น "โศกนาฏกรรม"
    - อาจทำให้ การติดตามช่องโหว่ใหม่และการจัดลำดับความสำคัญของแพตช์มีความยุ่งยากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3963190/cve-program-faces-swift-end-after-dhs-fails-to-renew-contract-leaving-security-flaw-tracking-in-limbo.html
    MITRE กำลังจะ ยุติโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) หลังจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ไม่ต่อสัญญา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการติดตามช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทั่วโลก ✅ MITRE จะหยุดดำเนินโครงการ CVE ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2025 - DHS ไม่ต่อสัญญา หลังจากให้ทุนสนับสนุนโครงการมานานกว่า 25 ปี - CVE เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สำคัญสำหรับ การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น รากฐานของระบบติดตามช่องโหว่ ที่ใช้โดยองค์กรทั่วโลก - การยุติโครงการอาจทำให้ การระบุและจัดการช่องโหว่เป็นไปอย่างล่าช้า ✅ ความพยายามในการรักษาโครงการ - MITRE ยืนยันว่าจะพยายาม รักษา CVE เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะ - ข้อมูล CVE ที่มีอยู่จะยังคงสามารถเข้าถึงได้ผ่าน GitHub ✅ ความกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย - นักวิจัยจาก Rand Corporation และ Bitsight ระบุว่าการยุติโครงการเป็น "โศกนาฏกรรม" - อาจทำให้ การติดตามช่องโหว่ใหม่และการจัดลำดับความสำคัญของแพตช์มีความยุ่งยากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3963190/cve-program-faces-swift-end-after-dhs-fails-to-renew-contract-leaving-security-flaw-tracking-in-limbo.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CVE program faces swift end after DHS fails to renew contract, leaving security flaw tracking in limbo
    MITRE’s 25-year-old Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) program will end April 16 after DHS did not renew its funding contract for reasons unspecified. Experts say ending the program, which served as the crux for most cybersecurity defense programs, is a tragedy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Trend Micro พบว่า ช่องโหว่ CVE-2024-0132 ใน Nvidia Container Toolkit ยังคงเปิดให้โจมตีได้ แม้ว่าจะได้รับการแก้ไขไปแล้วในเดือนกันยายน 2024 โดยปัญหานี้อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) บน Docker ที่ทำงานบนระบบ Linux

    ✅ ช่องโหว่ CVE-2024-0132 ยังคงเปิดให้โจมตีได้
    - เป็นช่องโหว่ประเภท Time-of-Check Time-of-Use (TOCTOU) ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9/10
    - อาจทำให้ container image ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ สามารถเข้าถึง host file system ได้

    ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia Container Toolkit และ Docker
    - ช่องโหว่นี้อาจนำไปสู่ container escape attacks ซึ่งทำให้สามารถรันโค้ดบนระบบโฮสต์
    - อาจเกิด ข้อมูลรั่วไหล, การแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการโจมตี DoS

    ✅ การโจมตี DoS บน Docker
    - พบว่า Docker บน Linux อาจได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้
    - เมื่อสร้าง container ใหม่ที่มี multiple mounts ระบบจะสร้าง parent/child paths ที่ไม่ถูกลบออกหลังจาก container ถูกปิด
    - ทำให้ mount table ขยายตัวจนใช้ทรัพยากรระบบจนหมด และทำให้ระบบไม่สามารถสร้าง container ใหม่ได้

    ✅ การแก้ไขและข้อจำกัดของแพตช์
    - Nvidia ออกแพตช์แรกในเดือนกันยายน 2024 แต่พบว่ามีช่องโหว่ CVE-2025-23359 ที่ทำให้สามารถข้ามการป้องกันได้
    - Nvidia ออกแพตช์ใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 แต่ Trend Micro พบว่ายังมีช่องโหว่ที่สามารถใช้โจมตีได้

    ✅ แนวทางป้องกัน
    - Trend Micro แนะนำให้ ปิดการใช้งานฟีเจอร์ "allow-cuda-compat-libs-from-containers"
    - จำกัดการเข้าถึง Docker API เฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาต

    https://www.csoonline.com/article/3962744/incomplete-patching-leaves-nvidia-docker-exposed-to-dos-attacks.html
    นักวิจัยจาก Trend Micro พบว่า ช่องโหว่ CVE-2024-0132 ใน Nvidia Container Toolkit ยังคงเปิดให้โจมตีได้ แม้ว่าจะได้รับการแก้ไขไปแล้วในเดือนกันยายน 2024 โดยปัญหานี้อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) บน Docker ที่ทำงานบนระบบ Linux ✅ ช่องโหว่ CVE-2024-0132 ยังคงเปิดให้โจมตีได้ - เป็นช่องโหว่ประเภท Time-of-Check Time-of-Use (TOCTOU) ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9/10 - อาจทำให้ container image ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ สามารถเข้าถึง host file system ได้ ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia Container Toolkit และ Docker - ช่องโหว่นี้อาจนำไปสู่ container escape attacks ซึ่งทำให้สามารถรันโค้ดบนระบบโฮสต์ - อาจเกิด ข้อมูลรั่วไหล, การแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการโจมตี DoS ✅ การโจมตี DoS บน Docker - พบว่า Docker บน Linux อาจได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้ - เมื่อสร้าง container ใหม่ที่มี multiple mounts ระบบจะสร้าง parent/child paths ที่ไม่ถูกลบออกหลังจาก container ถูกปิด - ทำให้ mount table ขยายตัวจนใช้ทรัพยากรระบบจนหมด และทำให้ระบบไม่สามารถสร้าง container ใหม่ได้ ✅ การแก้ไขและข้อจำกัดของแพตช์ - Nvidia ออกแพตช์แรกในเดือนกันยายน 2024 แต่พบว่ามีช่องโหว่ CVE-2025-23359 ที่ทำให้สามารถข้ามการป้องกันได้ - Nvidia ออกแพตช์ใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 แต่ Trend Micro พบว่ายังมีช่องโหว่ที่สามารถใช้โจมตีได้ ✅ แนวทางป้องกัน - Trend Micro แนะนำให้ ปิดการใช้งานฟีเจอร์ "allow-cuda-compat-libs-from-containers" - จำกัดการเข้าถึง Docker API เฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาต https://www.csoonline.com/article/3962744/incomplete-patching-leaves-nvidia-docker-exposed-to-dos-attacks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Incomplete patching leaves Nvidia, Docker exposed to DOS attacks
    An optional feature issued with the fix can cause a bug rollback, making a secondary DOS issue possible on top of root-level privilege exploitation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สนธิเล่าเรื่อง 16 เม.ย. 2568
    https://www.youtube.com/live/m48RVoO4-Ts
    #สนธิเล่าเรื่อง 16 เม.ย. 2568 https://www.youtube.com/live/m48RVoO4-Ts
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts