• เรื่องน่าคิด!
    #thaitimes #sondhitalk #news1
    ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร?

    ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.!

    ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ
    ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด

    ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส)

    แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด

    การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด

    เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย

    ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    เรื่องน่าคิด! #thaitimes #sondhitalk #news1 ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร? ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.! ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส) แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องน่าคิด!
    #thaitimes #sondhitalk #news1
    ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร?

    ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.!

    ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ
    ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด

    ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส)

    แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด

    การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด

    เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย

    ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    เรื่องน่าคิด! #thaitimes #sondhitalk #news1 ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร? ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.! ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส) แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคเลื่อนรถไฟทางคู่ เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู

    โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project) หรือ Gemas-JB EDTP ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 192 กิโลเมตร แม้มีความคืบหน้าการก่อสร้าง แต่การขยายเส้นทางบริการรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส หรือสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง ถึงสถานีเซกามัส (Segamat) ซึ่งเป็นสถานีแรกของรัฐยะโฮร์ ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สอง

    เดิมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) มีแผนที่จะขยายบริการรถไฟ ETS ไปยังสถานีเซกามัสในวันที่ 1 ก.ค. 2567 แต่ต้องเลื่อนออกไป คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2567 แต่แล้วก็เลื่อนออกไปอีก ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์ของมาเลเซีย ระบุแหล่งข่าวจากรัฐบาลมาเลเซียว่า เกิดจากบริษัท YTL Construction ผู้รับจ้างก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินการด้านเทคนิคของสายจ่ายกระแสไฟฟ้าที่สถานีควบคุมการเดินรถเกนวง (Genuang Operating Station) ส่งผลทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือศีรษะได้

    แม้ว่าการวางรางรถไฟช่วงสถานีเกอมัส ถึงรัฐยะโฮร์จะคืบหน้ากว่า 95% แต่งานด้านอื่นที่ยังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การทดสอบเดินรถไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาโครงการนี้ประสบปัญหาล่าช้ากว่า 3 ปี จากสถานการณ์โควิด 19 และการเวนคืนที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีความล่าช้าในการส่งมอบขบวนรถโดยสารรุ่น KTM Class 94 หรือ ETS3 ขนาด 312 ที่นั่ง จำนวน 10 คัน จากบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ประเทศจีน ซึ่งนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย คาดว่าขบวนรถจะส่งมอบทั้งหมดภายในวันที่ 12 ส.ค. 2568

    อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน เม.ย. 2568 และเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568 ขณะที่การก่อสร้างสถานี Genuang, Segamat, Labis, Bekok และ Paloh เปิดให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว

    โครงการ Gemas-JB EDTP เริ่มต้นจากสถานีเกอมัส รัฐเนกรีเซมบีลัน เชื่อมกับรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) รัฐยะโฮร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที คาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้ 3,000 คนต่อวัน รวมทั้งยังใกล้กับโครงการรถไฟ RTS Link ไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2570

    ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟดีเซลราง KTM Intercity เส้นทางระหว่างเกอมัสถึงยะโฮร์บาห์รู จำนวน 63,607 คน

    #Newskit #Gemas #KTMB
    โรคเลื่อนรถไฟทางคู่ เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project) หรือ Gemas-JB EDTP ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 192 กิโลเมตร แม้มีความคืบหน้าการก่อสร้าง แต่การขยายเส้นทางบริการรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส หรือสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง ถึงสถานีเซกามัส (Segamat) ซึ่งเป็นสถานีแรกของรัฐยะโฮร์ ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สอง เดิมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) มีแผนที่จะขยายบริการรถไฟ ETS ไปยังสถานีเซกามัสในวันที่ 1 ก.ค. 2567 แต่ต้องเลื่อนออกไป คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2567 แต่แล้วก็เลื่อนออกไปอีก ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์ของมาเลเซีย ระบุแหล่งข่าวจากรัฐบาลมาเลเซียว่า เกิดจากบริษัท YTL Construction ผู้รับจ้างก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินการด้านเทคนิคของสายจ่ายกระแสไฟฟ้าที่สถานีควบคุมการเดินรถเกนวง (Genuang Operating Station) ส่งผลทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือศีรษะได้ แม้ว่าการวางรางรถไฟช่วงสถานีเกอมัส ถึงรัฐยะโฮร์จะคืบหน้ากว่า 95% แต่งานด้านอื่นที่ยังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การทดสอบเดินรถไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาโครงการนี้ประสบปัญหาล่าช้ากว่า 3 ปี จากสถานการณ์โควิด 19 และการเวนคืนที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีความล่าช้าในการส่งมอบขบวนรถโดยสารรุ่น KTM Class 94 หรือ ETS3 ขนาด 312 ที่นั่ง จำนวน 10 คัน จากบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ประเทศจีน ซึ่งนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย คาดว่าขบวนรถจะส่งมอบทั้งหมดภายในวันที่ 12 ส.ค. 2568 อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน เม.ย. 2568 และเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568 ขณะที่การก่อสร้างสถานี Genuang, Segamat, Labis, Bekok และ Paloh เปิดให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว โครงการ Gemas-JB EDTP เริ่มต้นจากสถานีเกอมัส รัฐเนกรีเซมบีลัน เชื่อมกับรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) รัฐยะโฮร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที คาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้ 3,000 คนต่อวัน รวมทั้งยังใกล้กับโครงการรถไฟ RTS Link ไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2570 ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟดีเซลราง KTM Intercity เส้นทางระหว่างเกอมัสถึงยะโฮร์บาห์รู จำนวน 63,607 คน #Newskit #Gemas #KTMB
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ เดือดกว่าคู่รถถัง ก็ต้องเป็นคู่โทนี่กับทิมมี่ ในศึกชิงอำนาจบริหารท้องถิ่น ด้วยศึกแย่งชิงคะแนนเสียง ระหว่าง นักโทษชายจอมปล้นชาติ vs นักล้มล้างจอมปลิ้นปล้อน
    #7ดอกจิก
    ♣️ เดือดกว่าคู่รถถัง ก็ต้องเป็นคู่โทนี่กับทิมมี่ ในศึกชิงอำนาจบริหารท้องถิ่น ด้วยศึกแย่งชิงคะแนนเสียง ระหว่าง นักโทษชายจอมปล้นชาติ vs นักล้มล้างจอมปลิ้นปล้อน #7ดอกจิก
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โทนี่ หู" อดีตผู้แทนบริษัท Raytheon ในไต้หวัน ยืนยันว่า สหรัฐสั่งไต้หวันให้จัดส่งขีปนาวุธ MIM-23 Hawk ไปยังยูเครนแล้วจำนวน 11 ระบบ

    คาดว่าไต้หวันจะได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS เพิ่มเติม โดยที่ระบบ NASAMS จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันมีระยะที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เกาะแห่งนี้กำลังมีภัยคุกคามจากจีน

    นอกจากนี้ไต้หวันมีโครงการในการทะยอยปลดระวางระบบรุ่นเก่า เช่น MIM-23 Hawk อยู่แล้ว
    "โทนี่ หู" อดีตผู้แทนบริษัท Raytheon ในไต้หวัน ยืนยันว่า สหรัฐสั่งไต้หวันให้จัดส่งขีปนาวุธ MIM-23 Hawk ไปยังยูเครนแล้วจำนวน 11 ระบบ คาดว่าไต้หวันจะได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS เพิ่มเติม โดยที่ระบบ NASAMS จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันมีระยะที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เกาะแห่งนี้กำลังมีภัยคุกคามจากจีน นอกจากนี้ไต้หวันมีโครงการในการทะยอยปลดระวางระบบรุ่นเก่า เช่น MIM-23 Hawk อยู่แล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๊าซธรรมชาติ NGV ไม่ได้ไปต่อในมาเลเซีย

    ในที่สุดรัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจยกเลิกการใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) สำหรับยานยนต์ เมื่อนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ประกาศว่ายานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซ NGV จะไม่อนุญาตให้จดทะเบียนและนำมาใช้บนท้องถนนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป รวมทั้งบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติของมาเลเซียอย่างปิโตรนาส (Petronas) จะยุติการจัดหาก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับค้าปลีกในตลาดมาเลเซีย ก่อนยุติกิจการอย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน

    รมว.คมนาคมมาเลเซียให้เหตุผลว่า ตั้งแต่ปี 2538-2557 ยานพาหนะในมาเลเซียดัดแปลงและติดตั้งชุดอุปกรณ์ NGV ซึ่งบ่งชี้ว่าถังก๊าซหมดอายุการใช้งานแล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ โดยอายุการใช้งานอย่างปลอดภัยอยู่ที่ 15 ปี ซึ่งการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่จะมีค่าใช้จ่าย 7,000 ริงกิตต่อคัน (ประมาณ 54,200 บาท) แต่อะไหล่มาตรฐานไม่มีจำหน่ายอีกต่อไป หรือหาซื้อได้ยากในตลาดมาเลเซีย นอกจากนี้ยังพบผู้ใช้รถบางส่วนดัดแปลงอุปกรณ์โดยใช้ถังก๊าซหุงต้ม (LPG) ซึ่งเสี่ยงต่อการระเบิดและอุบัติเหตุอีกด้วย

    ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2551-2557 ในมาเลเซียเคยมีอุบัติเหตุใหญ่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ NGV มาแล้ว 6 ครั้ง รวมทั้งอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาในประเทศไทยถูกเพลิงไหม้ ครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 ราย เชื่อว่าเกิดจากถังก๊าซ NGV ที่ติดตั้งอย่างผิดกฎหมาย เกิดประกายไฟจากการเสียดสีทำให้ระเบิดและลุกไหม้ดังกล่าว

    ปัจจุบันมาเลเซียมีรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ดัดแปลงให้ใช้ NGV มากกว่า 95% และยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง NGV ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกมาเลเซีย (JPJ) ระบุว่ามียานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง NGV ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 44,383 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ส่วนบุคคล 32,137 คัน รถแท็กซี่และรถเช่า 9,509 คัน รถประจำทางและรถบรรทุก 2,150 คัน และยานพาหนะอื่นหรือเครื่องจักร 587 คัน เมื่อเทียบกับยานพาหนะที่จดทะเบียนทั้งหมดในมาเลเซีย (ไม่รวมรถจักรยานยนต์) คิดเป็น 0.2% เท่านั้น

    ด้านบริษัทปิโตรนาส เอ็นจีวี (PETRONAS NGV Sdn Bhd) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือการเปลี่ยนผ่านยานพาหนะจากก๊าซ NGV เป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือยานพาหนะอื่นๆ แบ่งเป็น 1.รถแท็กซี่จะได้รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ของ Setel จำนวน 3,000 ริงกิต (ประมาณ 23,100 บาท) 2.บริการถอดชุดติดตั้ง NGV ฟรีสำหรับรถยนต์แบบ Dual-fuel และ 3.รถยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV อย่างเดียว เมื่อยกเลิกการจดทะเบียนรถและทำลายรถยนต์ผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาต จะได้รับเงินชดเชยตามราคาประเมิน โดยให้ชาวมาเลเซียยื่นคำร้องผ่านช่องทางออนไลน์ภายใน 31 ธ.ค. 2567 เท่านั้น

    #Newskit #PetronasNGV
    ก๊าซธรรมชาติ NGV ไม่ได้ไปต่อในมาเลเซีย ในที่สุดรัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจยกเลิกการใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) สำหรับยานยนต์ เมื่อนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ประกาศว่ายานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซ NGV จะไม่อนุญาตให้จดทะเบียนและนำมาใช้บนท้องถนนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป รวมทั้งบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติของมาเลเซียอย่างปิโตรนาส (Petronas) จะยุติการจัดหาก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับค้าปลีกในตลาดมาเลเซีย ก่อนยุติกิจการอย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน รมว.คมนาคมมาเลเซียให้เหตุผลว่า ตั้งแต่ปี 2538-2557 ยานพาหนะในมาเลเซียดัดแปลงและติดตั้งชุดอุปกรณ์ NGV ซึ่งบ่งชี้ว่าถังก๊าซหมดอายุการใช้งานแล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ โดยอายุการใช้งานอย่างปลอดภัยอยู่ที่ 15 ปี ซึ่งการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่จะมีค่าใช้จ่าย 7,000 ริงกิตต่อคัน (ประมาณ 54,200 บาท) แต่อะไหล่มาตรฐานไม่มีจำหน่ายอีกต่อไป หรือหาซื้อได้ยากในตลาดมาเลเซีย นอกจากนี้ยังพบผู้ใช้รถบางส่วนดัดแปลงอุปกรณ์โดยใช้ถังก๊าซหุงต้ม (LPG) ซึ่งเสี่ยงต่อการระเบิดและอุบัติเหตุอีกด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2551-2557 ในมาเลเซียเคยมีอุบัติเหตุใหญ่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ NGV มาแล้ว 6 ครั้ง รวมทั้งอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาในประเทศไทยถูกเพลิงไหม้ ครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 ราย เชื่อว่าเกิดจากถังก๊าซ NGV ที่ติดตั้งอย่างผิดกฎหมาย เกิดประกายไฟจากการเสียดสีทำให้ระเบิดและลุกไหม้ดังกล่าว ปัจจุบันมาเลเซียมีรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ดัดแปลงให้ใช้ NGV มากกว่า 95% และยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง NGV ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกมาเลเซีย (JPJ) ระบุว่ามียานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง NGV ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 44,383 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ส่วนบุคคล 32,137 คัน รถแท็กซี่และรถเช่า 9,509 คัน รถประจำทางและรถบรรทุก 2,150 คัน และยานพาหนะอื่นหรือเครื่องจักร 587 คัน เมื่อเทียบกับยานพาหนะที่จดทะเบียนทั้งหมดในมาเลเซีย (ไม่รวมรถจักรยานยนต์) คิดเป็น 0.2% เท่านั้น ด้านบริษัทปิโตรนาส เอ็นจีวี (PETRONAS NGV Sdn Bhd) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือการเปลี่ยนผ่านยานพาหนะจากก๊าซ NGV เป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือยานพาหนะอื่นๆ แบ่งเป็น 1.รถแท็กซี่จะได้รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ของ Setel จำนวน 3,000 ริงกิต (ประมาณ 23,100 บาท) 2.บริการถอดชุดติดตั้ง NGV ฟรีสำหรับรถยนต์แบบ Dual-fuel และ 3.รถยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV อย่างเดียว เมื่อยกเลิกการจดทะเบียนรถและทำลายรถยนต์ผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาต จะได้รับเงินชดเชยตามราคาประเมิน โดยให้ชาวมาเลเซียยื่นคำร้องผ่านช่องทางออนไลน์ภายใน 31 ธ.ค. 2567 เท่านั้น #Newskit #PetronasNGV
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=FG9-8pqFqBY
    บทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัว
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัวแนะนำตัวเอง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #หมูเด้ง

    The conversations from the clip :

    Moo Deng: Hello everyone! My name is Moo Deng, and I’m the superstar of Khao Kheow Zoo! I was born on July 10, 2024. I have an older brother named Moo Toon; we share the same parents. I love sleeping and swimming in my pond. I have a playful personality and love nibbling on the zoo keeper's shoes!
    Jona (Mom): Hello! My name is Jona, Moo Deng’s mom. I’m 25 years old, and I’m a very loving hippo mom who always keeps Moo Deng safe and happy. I enjoy spending time with him and teaching him how to play in the water. It’s amazing to watch him grow and have fun!
    Tony (DaD): Hi there! My name is Tony, Moo Deng’s dad. I’m 24 years old, and I’m a strong hippo. I want to teach him about the world. I also enjoy relaxing by the pond and sunbathing. I hope to be playing with Moo Deng soon!
    Moo Deng: My parents are awesome! They always support me and help me become a great hippo. I love them both very much. We have so much fun together at the zoo, and I look forward to showing everyone my playful side!
    Jona: As a family, we promote awareness about the importance of wildlife conservation. We want people to understand that hippos are unique animals and that their natural habitats need protection.
    Tony: We’re proud to be part of Khao Kheow Zoo, where we get to interact with visitors and share our story. It’s wonderful to see so many people come here to learn about us!
    Moo Deng: So, come visit us at the zoo! I promise you’ll have a great time watching my playful antics and learning about hippos. Let’s have fun together at the zoo! Thank you for listening to our story!

    หมูเด้ง:สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อหมูเด้ง และฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เขาเขียว! ฉันเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2024 ฉ้นมีพี่ชาย พ่อแม่เดียวกันชื่อหมูตุ๋น ฉันชอบนอนและว่ายน้ำในบ่อของฉัน ฉันมีบุคลิกที่ขี้เล่นและชอบกัดรองเท้าของผู้ดูแลสวนสัตว์!
    โจวน่า (แม่):สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อโจวน่า แม่ของหมูเด้ง ฉันอายุ 25 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่รักลูกมาก และมักจะทำให้หมูเด้งปลอดภัยและมีความสุข ฉันชอบใช้เวลาร่วมกับเขาและสอนเขาเล่นในน้ำ มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเขาเติบโตและสนุกสนาน!
    โทนี่ (พ่อ):สวัสดีครับ! ฉันชื่อโทนี่ พ่อของหมูเด้ง ฉันอายุ 24 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่แข็งแรง ฉันอยากสอนเขาเกี่ยวกับโลก ฉันยังชอบนั่งพักผ่อนริมบ่อน้ำและอาบแดด ฉันหวังว่าจะได้เล่นกับหมูเด้งในไม่ช้า!
    หมูเด้ง:พ่อแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก! พวกเขาคอยสนับสนุนฉันและช่วยให้ฉันเป็นอิปโป
    ที่ดี ฉันรักพวกเขาทั้งคู่มาก เรามีความสนุกสนานมากมายที่สวนสัตว์ และฉันรอคอยที่จะแสดงด้านขี้เล่นของฉันให้ทุกคนเห็น!
    โจวน่า:ในฐานะครอบครัว เราส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่า เราต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าฮิปโปเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษและจำเป็นต้องปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา
    โทนี่:เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์เขาเขียว ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมและแบ่งปันเรื่องราวของเรา มันดีมากที่ได้เห็นผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรา!
    หมูเด้ง:ดังนั้น มาที่สวนสัตว์และเยี่ยมชมเรานะ! ฉันสัญญาว่าคุณจะมีช่วงเวลาที่สนุกสนานในการดูความซุกซนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับฮิปโป มาสนุกด้วยกันที่สวนสัตว์! ขอบคุณที่ฟังเรื่องราวของเราค่ะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Superstar (ซู-เปอร์-สตาร์) n. แปลว่า ดารา/นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก
    Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์
    Older (โอ-เดอร์) adj. แปลว่า ที่มีอายุมากกว่า
    Playful (เพล-ฟูล) adj. แปลว่า ขี้เล่น
    Personality (เพอร์-ซะ-แนล-ละ-ที) n. แปลว่า บุคลิกภาพ
    Nibble (นิบ-เบิล) v. แปลว่า กัดเล็กๆ น้อยๆ
    Keeper (คี-เพอร์) n. แปลว่า ผู้ดูแล
    Pond (พอนด์) n. แปลว่า บ่อน้ำ
    Amazing (อะ-เม-ซิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง
    Grow (โกรว) v. แปลว่า เติบโต
    Awareness (อะ-แวร์-เนส) n. แปลว่า การตระหนักรู้
    Conservation (คอน-เซอร์-เว-ชัน) n. แปลว่า การอนุรักษ์
    Unique (ยู-นีค) adj. แปลว่า พิเศษ/ไม่เหมือนใคร
    Habitat (แฮบ-บิ-แทท) n. แปลว่า ที่อยู่อาศัยของสัตว์
    Antics (แอน-ทิคส์) n. แปลว่า พฤติกรรม/การกระทำที่สนุกสนาน
    https://www.youtube.com/watch?v=FG9-8pqFqBY บทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัว (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัวแนะนำตัวเอง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #หมูเด้ง The conversations from the clip : Moo Deng: Hello everyone! My name is Moo Deng, and I’m the superstar of Khao Kheow Zoo! I was born on July 10, 2024. I have an older brother named Moo Toon; we share the same parents. I love sleeping and swimming in my pond. I have a playful personality and love nibbling on the zoo keeper's shoes! Jona (Mom): Hello! My name is Jona, Moo Deng’s mom. I’m 25 years old, and I’m a very loving hippo mom who always keeps Moo Deng safe and happy. I enjoy spending time with him and teaching him how to play in the water. It’s amazing to watch him grow and have fun! Tony (DaD): Hi there! My name is Tony, Moo Deng’s dad. I’m 24 years old, and I’m a strong hippo. I want to teach him about the world. I also enjoy relaxing by the pond and sunbathing. I hope to be playing with Moo Deng soon! Moo Deng: My parents are awesome! They always support me and help me become a great hippo. I love them both very much. We have so much fun together at the zoo, and I look forward to showing everyone my playful side! Jona: As a family, we promote awareness about the importance of wildlife conservation. We want people to understand that hippos are unique animals and that their natural habitats need protection. Tony: We’re proud to be part of Khao Kheow Zoo, where we get to interact with visitors and share our story. It’s wonderful to see so many people come here to learn about us! Moo Deng: So, come visit us at the zoo! I promise you’ll have a great time watching my playful antics and learning about hippos. Let’s have fun together at the zoo! Thank you for listening to our story! หมูเด้ง:สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อหมูเด้ง และฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เขาเขียว! ฉันเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2024 ฉ้นมีพี่ชาย พ่อแม่เดียวกันชื่อหมูตุ๋น ฉันชอบนอนและว่ายน้ำในบ่อของฉัน ฉันมีบุคลิกที่ขี้เล่นและชอบกัดรองเท้าของผู้ดูแลสวนสัตว์! โจวน่า (แม่):สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อโจวน่า แม่ของหมูเด้ง ฉันอายุ 25 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่รักลูกมาก และมักจะทำให้หมูเด้งปลอดภัยและมีความสุข ฉันชอบใช้เวลาร่วมกับเขาและสอนเขาเล่นในน้ำ มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเขาเติบโตและสนุกสนาน! โทนี่ (พ่อ):สวัสดีครับ! ฉันชื่อโทนี่ พ่อของหมูเด้ง ฉันอายุ 24 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่แข็งแรง ฉันอยากสอนเขาเกี่ยวกับโลก ฉันยังชอบนั่งพักผ่อนริมบ่อน้ำและอาบแดด ฉันหวังว่าจะได้เล่นกับหมูเด้งในไม่ช้า! หมูเด้ง:พ่อแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก! พวกเขาคอยสนับสนุนฉันและช่วยให้ฉันเป็นอิปโป ที่ดี ฉันรักพวกเขาทั้งคู่มาก เรามีความสนุกสนานมากมายที่สวนสัตว์ และฉันรอคอยที่จะแสดงด้านขี้เล่นของฉันให้ทุกคนเห็น! โจวน่า:ในฐานะครอบครัว เราส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่า เราต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าฮิปโปเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษและจำเป็นต้องปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา โทนี่:เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์เขาเขียว ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมและแบ่งปันเรื่องราวของเรา มันดีมากที่ได้เห็นผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรา! หมูเด้ง:ดังนั้น มาที่สวนสัตว์และเยี่ยมชมเรานะ! ฉันสัญญาว่าคุณจะมีช่วงเวลาที่สนุกสนานในการดูความซุกซนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับฮิปโป มาสนุกด้วยกันที่สวนสัตว์! ขอบคุณที่ฟังเรื่องราวของเราค่ะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Superstar (ซู-เปอร์-สตาร์) n. แปลว่า ดารา/นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์ Older (โอ-เดอร์) adj. แปลว่า ที่มีอายุมากกว่า Playful (เพล-ฟูล) adj. แปลว่า ขี้เล่น Personality (เพอร์-ซะ-แนล-ละ-ที) n. แปลว่า บุคลิกภาพ Nibble (นิบ-เบิล) v. แปลว่า กัดเล็กๆ น้อยๆ Keeper (คี-เพอร์) n. แปลว่า ผู้ดูแล Pond (พอนด์) n. แปลว่า บ่อน้ำ Amazing (อะ-เม-ซิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง Grow (โกรว) v. แปลว่า เติบโต Awareness (อะ-แวร์-เนส) n. แปลว่า การตระหนักรู้ Conservation (คอน-เซอร์-เว-ชัน) n. แปลว่า การอนุรักษ์ Unique (ยู-นีค) adj. แปลว่า พิเศษ/ไม่เหมือนใคร Habitat (แฮบ-บิ-แทท) n. แปลว่า ที่อยู่อาศัยของสัตว์ Antics (แอน-ทิคส์) n. แปลว่า พฤติกรรม/การกระทำที่สนุกสนาน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประมาณบอกนัยยะว่า,ทุกๆผู้นำที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน เชื่ออะไรได้ยากมาก,มิทราบว่าคือตัวจริงหรือตัวปลอมด้วย,ล่าสุดบอกว่า โทนี่ตัวจริงไปวัดนานแล้ว,ระหว่างหลวงตาบัว ทำนายทายทักว่า โทนี่จะไม่มีโอกาสเหยียบแผ่นดินไทยคือกลับมาได้อีกหลังหนีไปก็ว่า,หลวงตาบัวทำทายผิดคงจะยากจะเชื่อได้,แต่ผีบ้าฝ่ายเราอาจจะเชื่อตามหลวงตาบัวได้ระดับตรองพิจารณาการข่าวประกอบจากกูรูที่ปล่อยบอกผ่านร่วมได้,สายใต้ดินของกูรูท่านสู่ผีบ้าพวกเราฟัง,ระดับหลวงตาบัวขั้นพระอริยะหลายรูปทั่วไปยกนิ้วให้,หากทำนายทายทักผิดก็จบสายวัดป่ากันเลย,เช่นนั้นที่เราๆเห็นจึงสามารถเชื่อมองค์ประกอบว่าไม่ใช่ตัวจริงได้,คือการละครระดับชาติก็สามารถพิจารณาได้อีก,ฝ่ายแสงฝ่ายดีมีแผนการอะไร ลึกๆวงในเขาเล่นอะไรกันเราไม่รู้หรอก,แต่ทางผิวๆไทบ้าน หลวงตาทายไว้ไม่แม่นก็ว่า เพราะโทนี่ทำไมยังมามีโอกาสเหยียบแผ่นดินไทยได้อีก,ซึ่งผิดไปจากคำทำนายทายทักไว้.มีคลิปหลวงตาตรึม,เชื่อหลวงตา แสดงว่าตัวจริงไปวัด ตัวไม่จริงมาเหยียบแทนตัวจริง.
    ..ประมาณบอกนัยยะว่า,ทุกๆผู้นำที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน เชื่ออะไรได้ยากมาก,มิทราบว่าคือตัวจริงหรือตัวปลอมด้วย,ล่าสุดบอกว่า โทนี่ตัวจริงไปวัดนานแล้ว,ระหว่างหลวงตาบัว ทำนายทายทักว่า โทนี่จะไม่มีโอกาสเหยียบแผ่นดินไทยคือกลับมาได้อีกหลังหนีไปก็ว่า,หลวงตาบัวทำทายผิดคงจะยากจะเชื่อได้,แต่ผีบ้าฝ่ายเราอาจจะเชื่อตามหลวงตาบัวได้ระดับตรองพิจารณาการข่าวประกอบจากกูรูที่ปล่อยบอกผ่านร่วมได้,สายใต้ดินของกูรูท่านสู่ผีบ้าพวกเราฟัง,ระดับหลวงตาบัวขั้นพระอริยะหลายรูปทั่วไปยกนิ้วให้,หากทำนายทายทักผิดก็จบสายวัดป่ากันเลย,เช่นนั้นที่เราๆเห็นจึงสามารถเชื่อมองค์ประกอบว่าไม่ใช่ตัวจริงได้,คือการละครระดับชาติก็สามารถพิจารณาได้อีก,ฝ่ายแสงฝ่ายดีมีแผนการอะไร ลึกๆวงในเขาเล่นอะไรกันเราไม่รู้หรอก,แต่ทางผิวๆไทบ้าน หลวงตาทายไว้ไม่แม่นก็ว่า เพราะโทนี่ทำไมยังมามีโอกาสเหยียบแผ่นดินไทยได้อีก,ซึ่งผิดไปจากคำทำนายทายทักไว้.มีคลิปหลวงตาตรึม,เชื่อหลวงตา แสดงว่าตัวจริงไปวัด ตัวไม่จริงมาเหยียบแทนตัวจริง.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 40 0 รีวิว
  • ..เขาว่านะ,ว่าพวกนี้ตัวจริงตายกันหมดแล้ว,รวมถึงโทนี่ด้วย เรากำลังดูการละครก็ว่า,แต่สมจริงโคตรๆ.
    ..เขาว่านะ,ว่าพวกนี้ตัวจริงตายกันหมดแล้ว,รวมถึงโทนี่ด้วย เรากำลังดูการละครก็ว่า,แต่สมจริงโคตรๆ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สามารถคนนี้นักตบมืออาชีพของแทร่วีรกรรมไม่ธรรมดอนะฮาฟ
    นังพัชผู้โป๊ะแตก กับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช มีอะไรที่ผูกพันธ์กันพอสมควร
    แต่ เรื่องของสามารถคนนี้ ไม่ธรรมดา จากคนต๊อกต๋อย
    กลายเป็นมือขวาคู่ใจลุงป้อม เขี่ยอดีตคนใกล้ชิดผู้เป็นองครักษ์
    ขนาด เสี่ยแป้งยังต้องถอย ไปตั้งหลักกับคนชั้น 14
    ทั้งๆที่ คอยดูแลลุงอย่างดีมาตลอด
    ...ด้วยความที่เป็นดังสาริกาลิ้นทอง ที่พูดอะไร ลุงเชื่อหมด
    แม้กระทั่ง...วันที่ลุงป้อมอยู่ในภาวะหน้าสิว หน้าฝ้า เอ้ยสิ่ว หน้าขวาน
    ย้อนกลับไป วันที่ลุงป้อม ได้เรียกพรรคร่วมไปพูดคุยกัน
    โดยมีข่าวว่า พรรคส้มไม่ต่ำกว่า 40 - 70 เสียง + เพื่อไทยอีกจำนวนเหยียบร้อย จะยกมืออย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ลุงป้อมได้ขึ้นตำแหน่งนายก
    ตรงความมั่นใจนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไร คือที่มาของความมั่นใจในวันนั้น เพราะท้ายที่สุด อุ๊งอิ๊ง จึงได้การรับรองจากสส. พรรคร่วมอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งลุงป้อมเอง ก็เพิ่งมารู้ตัวหลังโหวต จนเป็นที่มาของการหยุมนักข่าว ที่ถามแซะลุงว่า เห็นผลโหวตหรือยัง
    ...พี่คิงส์ จะเฉลยให้ทุกท่านได้รับทราบ ณ บัดนาว
    ก็อย่างที่บอก ว่าสามารถ จากคนนอกพรรค กลายเป็นมือขวาลุง และสามารถก็ได้อาสา จะไปดึงสส.ส้ม และสส.เพื่อไทย ให้เป็นงูเห่า มายกมือหนับหนุนลุง โดย ในเพื่อไทย อ้างลุงว่าต้องเลี้ยงหัวละล้าน จำนวนกี่สิบ หรือหลักร้อยก็ว่าไป แต่ส่งถึงมือสส จริง สามารถอมไว้เอง ห้าฉิบเปอร์เซ็ง ส่วนพรรคส้ม ก็ต้องเป็นรายเดือน ตีไปหัวละแฉน สามารถก็อมไว้อีกห้าฉิบ เหมือนเดิม
    ที่น่าเจ็บจายคือ ลุงเลี้ยงมาเกือบปี เหมือนสำนวนที่ว่า ลับดาบพันวัน เพื่อใช้งานหนเดียว แต่กลายเป็น สส.พรรคส้มเอง ก็เอาไปขำขันว่า ลุงให้เงินใช้ฟฟรีรี เอาไปปาตี้กันหนุกหนาน สส.เพื่อไทยก็ขำกัน จนไปถึงหูโทนี่ โทนี่ก็ถึงกับปรี๊ดแตก ประกาศลั่นว่า จะไม่เอา พลปชร มาร่วมรัฐบาลเด็ดขวด
    ...และก็นั่นหละ วันโหวต ลุงป้อมก็ได้รับการเสนอชื่อจริง แต่คนลงคะแนนให้ลุง เท่าเห็บแมว ไอ่สามารถเอง ก็แก้ตัวต่างๆนานา ซึ่งเวลานั้น พี่คิงส์ก็ประเมินแล้ว ว่าลุงต้องถีบออก ถ้ารู้ความจริง แต่ เฮ๊ยย ลุงไม่ถีบ
    ...จนมาถึงวันนี้ กับเสียงเทวดา ที่คุยกับพอล กรณีดิไอคอน ที่อ้างว่า สามารถทำให้พอลดีดนิ้วแบบทานอส ได้ทุกอย่างในประเทศ แต่ต้องเงินถึง จนในที่สุดลุงป้อมแกก็รีบแถลง ขับสามารถออกจากสาระบบ อย่างที่เห็น
    นึกถึงคำพูดเสี่ยแป้ง ลอยมาเลยว่า
    ลุงป้อม ชอบเชื่อคนใหม่ ไม่สนใจคนเก่า สามารถคนเดียว ทำพลปชร อิ๊บอ๋ายมาได้ ถึงเพลานี้ทีเดียวเชียว สามารถ นักตบ มืออาชีพจริงๆ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #สามารถคนนี้นักตบมืออาชีพของแทร่วีรกรรมไม่ธรรมดอนะฮาฟ นังพัชผู้โป๊ะแตก กับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช มีอะไรที่ผูกพันธ์กันพอสมควร แต่ เรื่องของสามารถคนนี้ ไม่ธรรมดา จากคนต๊อกต๋อย กลายเป็นมือขวาคู่ใจลุงป้อม เขี่ยอดีตคนใกล้ชิดผู้เป็นองครักษ์ ขนาด เสี่ยแป้งยังต้องถอย ไปตั้งหลักกับคนชั้น 14 ทั้งๆที่ คอยดูแลลุงอย่างดีมาตลอด ...ด้วยความที่เป็นดังสาริกาลิ้นทอง ที่พูดอะไร ลุงเชื่อหมด แม้กระทั่ง...วันที่ลุงป้อมอยู่ในภาวะหน้าสิว หน้าฝ้า เอ้ยสิ่ว หน้าขวาน ย้อนกลับไป วันที่ลุงป้อม ได้เรียกพรรคร่วมไปพูดคุยกัน โดยมีข่าวว่า พรรคส้มไม่ต่ำกว่า 40 - 70 เสียง + เพื่อไทยอีกจำนวนเหยียบร้อย จะยกมืออย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ลุงป้อมได้ขึ้นตำแหน่งนายก ตรงความมั่นใจนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไร คือที่มาของความมั่นใจในวันนั้น เพราะท้ายที่สุด อุ๊งอิ๊ง จึงได้การรับรองจากสส. พรรคร่วมอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งลุงป้อมเอง ก็เพิ่งมารู้ตัวหลังโหวต จนเป็นที่มาของการหยุมนักข่าว ที่ถามแซะลุงว่า เห็นผลโหวตหรือยัง ...พี่คิงส์ จะเฉลยให้ทุกท่านได้รับทราบ ณ บัดนาว ก็อย่างที่บอก ว่าสามารถ จากคนนอกพรรค กลายเป็นมือขวาลุง และสามารถก็ได้อาสา จะไปดึงสส.ส้ม และสส.เพื่อไทย ให้เป็นงูเห่า มายกมือหนับหนุนลุง โดย ในเพื่อไทย อ้างลุงว่าต้องเลี้ยงหัวละล้าน จำนวนกี่สิบ หรือหลักร้อยก็ว่าไป แต่ส่งถึงมือสส จริง สามารถอมไว้เอง ห้าฉิบเปอร์เซ็ง ส่วนพรรคส้ม ก็ต้องเป็นรายเดือน ตีไปหัวละแฉน สามารถก็อมไว้อีกห้าฉิบ เหมือนเดิม ที่น่าเจ็บจายคือ ลุงเลี้ยงมาเกือบปี เหมือนสำนวนที่ว่า ลับดาบพันวัน เพื่อใช้งานหนเดียว แต่กลายเป็น สส.พรรคส้มเอง ก็เอาไปขำขันว่า ลุงให้เงินใช้ฟฟรีรี เอาไปปาตี้กันหนุกหนาน สส.เพื่อไทยก็ขำกัน จนไปถึงหูโทนี่ โทนี่ก็ถึงกับปรี๊ดแตก ประกาศลั่นว่า จะไม่เอา พลปชร มาร่วมรัฐบาลเด็ดขวด ...และก็นั่นหละ วันโหวต ลุงป้อมก็ได้รับการเสนอชื่อจริง แต่คนลงคะแนนให้ลุง เท่าเห็บแมว ไอ่สามารถเอง ก็แก้ตัวต่างๆนานา ซึ่งเวลานั้น พี่คิงส์ก็ประเมินแล้ว ว่าลุงต้องถีบออก ถ้ารู้ความจริง แต่ เฮ๊ยย ลุงไม่ถีบ ...จนมาถึงวันนี้ กับเสียงเทวดา ที่คุยกับพอล กรณีดิไอคอน ที่อ้างว่า สามารถทำให้พอลดีดนิ้วแบบทานอส ได้ทุกอย่างในประเทศ แต่ต้องเงินถึง จนในที่สุดลุงป้อมแกก็รีบแถลง ขับสามารถออกจากสาระบบ อย่างที่เห็น นึกถึงคำพูดเสี่ยแป้ง ลอยมาเลยว่า ลุงป้อม ชอบเชื่อคนใหม่ ไม่สนใจคนเก่า สามารถคนเดียว ทำพลปชร อิ๊บอ๋ายมาได้ ถึงเพลานี้ทีเดียวเชียว สามารถ นักตบ มืออาชีพจริงๆ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่วนตัวอย่าเอาแอปเป๋าตังมายุ่งเกี่ยวอีกเลย,ยุบ&ปิดไปเถอะแอปเป๋าตัง,รัฐบาลใหม่แล้วก็เอาแอปใหม่เลย,บัตรคนจนก็ใช้บัตรประชาชนกันแล้ว,หยุดเปิดทางตังดิจิดัลเถอะ,แอปการพนันแอปเล่นหวย สมควรไปสร้างแอปใหม่เลย,อย่ามายุ่งกับแอปนีัหรือแอปใดๆเลย ทำแบบกองฉลากพลัสไม่เป็น&ไม่มีปัญญาหรือไง เกาะการตลาดว่ามีมวลชนมาใช้แอปนี้มาก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหาง่ายหรือไง,ใครคนไหนอยากเล่นหวยเองก็ไปสมัครแอปพนันของรัฐบาลเองสิ,มิใช่ยัดเยี่ยนให้ใส่แอปเป๋าตังแบบนี้ บางคนเขาไม่อยากมีลิ้งค์มีไอคอนมีเมนูนี้เลย เคยถามประชาชนมั้ย,โน้นสมควรที่กองฉลากรัฐใช้งบหวยเองไปสร้างแอปทางตรงเองดีกว่า,ใครอยากซื้อก็โหลดแอปหวยรัฐเอง เสือกยัดเยี่ยนมอบทางเลือกเสียตังมัวเมาประชาชนเองเลย,หวยบนดินจากใต้ดินอีก,โทนี่ทำเสือกผิด แล้วอะไรคือมาตราฐาน ไพ่ถึงเที่ยงคืน บ่อนคาสิโนพร้อมเปิดอีก มันชาติเหี้ยอะไรว่ะ.เมื่อเคยชินสิ่งชั่วระดับต้น ก็อ้างว่ามาเพิ่มสิ่งชั่วอีกระดับเถอะ,เหมือนต้มกบในหม้อนั้นล่ะ,สุดท้ายแผ่นดินไทยเองนี้ล่ะพัง,สถาบันกษัตริย์เสียหาย ทำลายสถาบันกษัตริย์เราทางอ้อมด้วย,ว่าประเทศไทยโคตรสถาบันกษัตริย์เบอร์หนึ่งของโลกแต่สุดยอดแห่งฮับศูนย์รวมอบายมุขโลกเลยก็ว่า,เมืองพุทธ เสือกอบายมุขเต็มเมือง เขาจะทำลายสถาบันกษัตริย์ทางอ้อมและสถาบันพุทธศาสนาอีกเสือกยังยืนโง่แบบถูกปล้นบ่อน้ำมันเต็มประเทศถูกปล้นบ่อทองคำไทยเต็มแผ่นดินอีก,โคตรบรมมะโง่ของจริง.ในผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจของแผ่นดินไทยเรา,ก็สมควรสิ้นชาติล่ะเพราะปกครองโง่ๆแบบนี้เอง.คนไทยโคตรเซียนฉลาด&เก่งและดีมีคุณธรรมเสือกไม่สนับสนุนให้มีอำนาจ,ชั่วจริงๆ.
    ส่วนตัวอย่าเอาแอปเป๋าตังมายุ่งเกี่ยวอีกเลย,ยุบ&ปิดไปเถอะแอปเป๋าตัง,รัฐบาลใหม่แล้วก็เอาแอปใหม่เลย,บัตรคนจนก็ใช้บัตรประชาชนกันแล้ว,หยุดเปิดทางตังดิจิดัลเถอะ,แอปการพนันแอปเล่นหวย สมควรไปสร้างแอปใหม่เลย,อย่ามายุ่งกับแอปนีัหรือแอปใดๆเลย ทำแบบกองฉลากพลัสไม่เป็น&ไม่มีปัญญาหรือไง เกาะการตลาดว่ามีมวลชนมาใช้แอปนี้มาก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหาง่ายหรือไง,ใครคนไหนอยากเล่นหวยเองก็ไปสมัครแอปพนันของรัฐบาลเองสิ,มิใช่ยัดเยี่ยนให้ใส่แอปเป๋าตังแบบนี้ บางคนเขาไม่อยากมีลิ้งค์มีไอคอนมีเมนูนี้เลย เคยถามประชาชนมั้ย,โน้นสมควรที่กองฉลากรัฐใช้งบหวยเองไปสร้างแอปทางตรงเองดีกว่า,ใครอยากซื้อก็โหลดแอปหวยรัฐเอง เสือกยัดเยี่ยนมอบทางเลือกเสียตังมัวเมาประชาชนเองเลย,หวยบนดินจากใต้ดินอีก,โทนี่ทำเสือกผิด แล้วอะไรคือมาตราฐาน ไพ่ถึงเที่ยงคืน บ่อนคาสิโนพร้อมเปิดอีก มันชาติเหี้ยอะไรว่ะ.เมื่อเคยชินสิ่งชั่วระดับต้น ก็อ้างว่ามาเพิ่มสิ่งชั่วอีกระดับเถอะ,เหมือนต้มกบในหม้อนั้นล่ะ,สุดท้ายแผ่นดินไทยเองนี้ล่ะพัง,สถาบันกษัตริย์เสียหาย ทำลายสถาบันกษัตริย์เราทางอ้อมด้วย,ว่าประเทศไทยโคตรสถาบันกษัตริย์เบอร์หนึ่งของโลกแต่สุดยอดแห่งฮับศูนย์รวมอบายมุขโลกเลยก็ว่า,เมืองพุทธ เสือกอบายมุขเต็มเมือง เขาจะทำลายสถาบันกษัตริย์ทางอ้อมและสถาบันพุทธศาสนาอีกเสือกยังยืนโง่แบบถูกปล้นบ่อน้ำมันเต็มประเทศถูกปล้นบ่อทองคำไทยเต็มแผ่นดินอีก,โคตรบรมมะโง่ของจริง.ในผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจของแผ่นดินไทยเรา,ก็สมควรสิ้นชาติล่ะเพราะปกครองโง่ๆแบบนี้เอง.คนไทยโคตรเซียนฉลาด&เก่งและดีมีคุณธรรมเสือกไม่สนับสนุนให้มีอำนาจ,ชั่วจริงๆ.
    สลาก N3 เดาใจเธอยากกว่าถูกหวย

    17 ต.ค. 2567 เป็นวันแรกที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทดลองจำหน่ายสลากตัวเลข 3 หลัก หรือสลาก N3 ราคาใบละ 20 บาท ผ่านจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ที่เข้าร่วมโครงการ 647 แห่งทั่วประเทศ ผู้ซื้อต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย เพื่อใช้สแกนซื้อสลากฯ และชำระเงินผ่านทาง G-Wallet ที่เคยใช้สำหรับโครงการของรัฐ รวมไปถึงการซื้อสลากดิจิทัล

    ความแตกต่างระหว่างสลาก N3 กับสลากแบบ 2 ตัวและ 3 ตัว สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรก็คือ สลากแบบ 2 ตัวและ 3 ตัว เป็นสลากแบบเขียน เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่าเป็นสลากกินรวบ ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีการบริหารความเสี่ยง ขาดทุน 7 งวดกว่า 1,600 ล้านบาท รายได้กว่า 80% พบว่าใช้เงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เงินนับแสนล้านบาทไม่ได้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน แต่คณะรัฐมนตรีกลับนำเงินไปใช้โดยไม่มีสิทธิ

    การออกสลาก N3 ครั้งนี้จึงมีการออกแบบอย่างรัดกุม แบ่งเป็นเงินรางวัล 60% เงินส่งเป็นรายได้แผ่นดิน 23% และค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน 17% ซึ่งเงินรางวัลจะถูกแบ่งรางวัลสามตัวตรง 30% รางวัลสามสลับหลัก 30% รางวัลสองตรง 39% และรางวัลพิเศษ 1% ผ่าน 3 หลักแรกจากเลขที่เลือก 9 หลักที่เหลือจากลำดับการซื้อสลากฯ ในระบบ หากตัวเลขนั้นมีสัดส่วนยอดขายมากเกินไป ระบบจะล็อกปิดการขายชั่วคราว

    เมื่อถูกรางวัลระบบจะแจ้งเตือนในแอปฯ เป๋าตัง กดรับเงินรางวัลได้ทันที หักค่าอากรแสตมป์ทุก 200 บาทหรือเศษของ 200 บาทเท่ากับ 1 บาท หากเลือกโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ไม่เสียค่าธรรมเนียม

    Newskit ทดลองซื้อสลาก N3 ที่แผงค้าสี่แยกคอกวัว ถนนตะนาว กทม. พบว่าทางร้านจะนำโทรศัพท์มือถือของผู้ค้าที่ติดตั้งแอปฯ ของสำนักงานสลากฯ ยื่นให้ลูกค้ากดตัวเลขที่ต้องการ กดเลือกสลาก ตรวจสอบรายการสลาก แล้วกดสร้าง QR ซื้อ-ขายสลาก โดยมีเวลาทำรายการภายใน 10 นาที จากนั้นนำมือถือของลูกค้าเปิดแอปพลิเคชันเป๋าตัง เข้าเมนู "สลากตัวเลข 3 หลัก" กด "สแกนซื้อสลาก" ชำระเงินผ่าน G-Wallet ให้เรียบร้อย สามารถดูสลากที่ซื้อได้ที่เมนู "สลากของฉัน"

    สำหรับวันแรกที่จำหน่ายมีเสียงวิจารณ์ว่าหาซื้อยาก ต้องไปซื้อที่ร้านขายสลาก 80 ที่เข้าร่วมโครงการ แตกต่างจากสลากดิจิทัลผ่านแอปฯ เป๋าตัง อยู่ที่ไหนก็ซื้อได้ อีกทั้งพิกัดที่ระบุในแอปฯ ไม่ตรงกัน พอไปตามพิกัดแล้วไม่มีร้าน ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะทดลองจำหน่ายเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อศึกษาข้อมูลการจำหน่ายและผลกระทบต่างๆ ก่อนจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือน เม.ย. 2568

    #Newskit #GLO #สลากN3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ โทนี่แม้ว เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญาในคดี 112 ตามเงื่อนไข ทุกๆ เดือน และเผ่นกลับทันที ด้วยท่าทีผ่อนคลายไร้กังวล เพราะกว่าจะเริ่มสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ก็โน่นเลย 1กรกฎาคม 2568
    #7ดอกจิก
    ♣ โทนี่แม้ว เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญาในคดี 112 ตามเงื่อนไข ทุกๆ เดือน และเผ่นกลับทันที ด้วยท่าทีผ่อนคลายไร้กังวล เพราะกว่าจะเริ่มสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ก็โน่นเลย 1กรกฎาคม 2568 #7ดอกจิก
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤣นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กำลังกลายเป็น โทนี่ เฟาซี แห่งตะวันออกกลางอย่างรวดเร็ว🤣

    นอกจากอาวุธแล้ว, อิสราเอลยังพึ่งพาภาพลักษณ์ของการอยู่ยงคงกระพันเพื่อความอยู่รอด

    เหตุการณ์ในฉนวนกาซา, เลบานอน และอิหร่านกำลังทำลายภาพลักษณ์นี้

    🤣เพราะทุกสิ่งที่ได้ทำไปเพื่อ "การป้องกัน" ของอิสราเอล ขัดแย้งกับความเป็นจริง, ตรรกะ, อิสราเอลเองพร้อมกับตะวันออกกลางที่เหลือ และสหรัฐอเมริกากำลังจะกลายเป็นความเสียหายทางอ้อมในสงครามระดับภูมิภาคที่ไม่ควรเกิดขึ้น🤣

    Douglas Macgregor
    .
    PM Netanyahu is rapidly becoming the Tony Fauci of the Middle East.

    More than weapons, Israel relies on an aura of invincibility for its survival.

    Events in Gaza, Lebanon and Iran are shattering this image.

    Because everything that has been done in Israel’s “defense” conflicts with reality, logic, Israel itself along with the rest of the Middle East and the United States are on the path to become collateral damage in a regional war that should not happen.
    .
    3:45 AM · Oct 17, 2024 · 52.5K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1846653628779503730
    🤣นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กำลังกลายเป็น โทนี่ เฟาซี แห่งตะวันออกกลางอย่างรวดเร็ว🤣 นอกจากอาวุธแล้ว, อิสราเอลยังพึ่งพาภาพลักษณ์ของการอยู่ยงคงกระพันเพื่อความอยู่รอด เหตุการณ์ในฉนวนกาซา, เลบานอน และอิหร่านกำลังทำลายภาพลักษณ์นี้ 🤣เพราะทุกสิ่งที่ได้ทำไปเพื่อ "การป้องกัน" ของอิสราเอล ขัดแย้งกับความเป็นจริง, ตรรกะ, อิสราเอลเองพร้อมกับตะวันออกกลางที่เหลือ และสหรัฐอเมริกากำลังจะกลายเป็นความเสียหายทางอ้อมในสงครามระดับภูมิภาคที่ไม่ควรเกิดขึ้น🤣 Douglas Macgregor . PM Netanyahu is rapidly becoming the Tony Fauci of the Middle East. More than weapons, Israel relies on an aura of invincibility for its survival. Events in Gaza, Lebanon and Iran are shattering this image. Because everything that has been done in Israel’s “defense” conflicts with reality, logic, Israel itself along with the rest of the Middle East and the United States are on the path to become collateral damage in a regional war that should not happen. . 3:45 AM · Oct 17, 2024 · 52.5K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1846653628779503730
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • โทนี่แม้ว ฟื้นโมเดลสู.บเงิ.นแผ่นดิน ยกเว้นภา.ษี ให้กา.สิโน...!!!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โทนี่แม้ว ฟื้นโมเดลสู.บเงิ.นแผ่นดิน ยกเว้นภา.ษี ให้กา.สิโน...!!! #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Angry
    Haha
    8
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 442 0 รีวิว
  • แคปปิตอล เอ(Capital A) ไฟเขียวขาย AirAsia ให้ AirAsia X แยกกิจการสายการบินออกจาก Capital A โฟกัสเพียงธุรกิจสี่เสาหลักคือ แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส,มูฟดิจิทัล, เทเลพอร์ตและธุรกิจดูแล แบรนด์ เอเอ

    15 ตุลาคม 2567 – แคปปิตอล เอ(Capital A) ได้ประกาศผลการประชุมผู้ถือหุ้นได้ลงมติเห็นชอบต่อการเสนอขายธุรกิจการบินของกลุ่มบริษัทให้กับแอร์เอเชีย เอ็กซ์(AAX) ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น(EGM) วานนี้(14 ตุลาคม 2567)

    แคปปิตอล เอ เบอร์ฮัด นั้นเดิมเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย อันประกอบไปด้วยแอร์เอเชีย มาเลเซีย(AK) และเป็นบริษัทแม่ของบริษัทที่มีการร่วมลงทุนในสายการบินแอร์เอเชียในประเทศต่าง ๆ ของอาเซียน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย(FD) อินโดนีเซียแอร์เอเชีย(QZ) ฟิลิปปินส์แอร์เอเชีย(Z2) และแอร์เอเชียกัมพูชา(KT) ในขณะที่แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มาเลเซีย(D7) และเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนในสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์(XJ)

    การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แคปปิตอล เอ สามารถมุ่งเน้นไปที่สี่เสาหลักทางกลยุทธ์ ซึ่งจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของบริษัทให้เป็นบริษัทบริการด้านการบินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในอนาคต ผ่านบริษัท แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส(Capital A Aviation Services -CAPAS) มูฟดิจิทัล(MOVE Digital) เทเลพอร์ต(Teleport) และบริษัท แบรนด์ เอเอ

    นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปปิตอล เอ เบอร์ฮัด กล่าวว่า “นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับแคปปิตอล เอ และกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย โดยต่อยอดจากมูลค่ามหาศาลที่เราได้สร้างขึ้นในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ด้วยการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการขายธุรกิจการบิน เรากำลังปลดล็อกอนาคตที่สดใส โดยแยกธุรกิจการบินแบบเดิมออกจากบริการสนับสนุนการบิน ความชัดเจนนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ถือหุ้นและลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถกำหนดอนาคตใหม่ของการเดินทางในภูมิภาคนี้ได้”

    “กลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของแคปปิตอล เอ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบริการการบินและธุรกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตที่คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก การแยกธุรกิจการบินและธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบินออกจากกัน จะทำให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจสนับสนุนการบินและธุรกิจดิจิทัลที่มีศักยภาพสูงซึ่งเราได้สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจการบิน เมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด(AAX) ในการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 ตุลาคม ธุรกิจการบินจะสามารถรวมตัวกันเพื่อสร้างกลุ่มแอร์เอเชียที่พลิกเกมได้ โดยมีการทำงานร่วมกันระหว่างการดำเนินงานเที่ยวบินระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไร และผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น"

    นายโทนี่ยังเน้นย้ำว่า แคปปิตอล เอ อยู่ในสถานะที่ดีที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว “ตั้งแต่การเดินทางดิจิทัลไปจนถึงโลจิสติกส์และการจัดการแบรนด์ เรากำลังสร้างระบบนิเวศบริการการบินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง การอนุมัติในวันนี้จากผู้ถือหุ้นของเรา ยังเปิดทางให้แคปปิตอล เอ มุ่งสู่โครงสร้างทางการเงินที่โปร่งใสและมีความยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสรุปแผนการฟื้นฟูสถานะของเราและออกจากสถานะพีเอ็น17(PN17) ในไม่ช้า”

    การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทในการพัฒนาให้เป็นองค์กรที่คล่องตัวและเน้นเทคโนโลยี โดยมีสี่เสาหลักสำคัญ ได้แก่

    แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส - สร้างมูลค่าผ่านการให้บริการซ่อมบำรุงและปรับปรุงเครื่องบิน(MRO) โดยความร่วมมือกับบริษัท เอเชีย ดิจิทัล เอ็นจิเนียริ่ง (ADE) และขยายการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน รวมถึงผลิตภัณฑ์ค้าปลีกของซันตัน(Santan)

    มูฟดิจิทัล - นำเสนอนวัตกรรมในการเดินทางและฟินเทค ผ่านแอร์เอเชีย มูฟ และบิ๊กเพย์

    เทเลพอร์ต - ขยายบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนด้วยการเสริมสร้างการดำเนินงานด้านขนส่งสินค้าและบริการข้ามพรมแดน

    แบรนด์ เอเอ - บริหารจัดการแบรนด์แอร์เอเชียที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกผ่านการให้สิทธิ์ใช้งานและความร่วมมือทางกลยุทธ์

    “เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนอย่างมั่นคงของผู้ถือหุ้นของเรา การลงมติในวันนี้สะท้อนถึงความเชื่อร่วมกันในมูลค่าระยะยาวที่แคปปิตอล เอ สามารถสร้างได้ทั้งในภาคธุรกิจการบินและนอกธุรกิจการบิน” นายโทนี่กล่าวเสริม

    หลังจากการอนุมัติครั้งสำคัญในวันนี้ แคปปิตอล เอ จะดำเนินการขอคำสั่งศาลเพื่อแจกจ่ายหุ้นพิจารณาให้แก่ผู้ถือหุ้นผ่านการลดและชำระคืนทุนจดทะเบียนของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทจะขอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นตราสารหนี้อิสลามที่สามารถแปลงสภาพได้แบบไม่รับประกัน(RCUIDS) ในการประชุมวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเส้นทางของแคปปิตอล เอ

    ขั้นตอนสำคัญเหล่านี้จะทำให้แคปปิตอล เอ สามารถมีโครงสร้างทางการเงินที่ชัดเจนและมุ่งเน้นไปที่การยื่นแผนการฟื้นฟูสถานะก่อนสิ้นปี โดยมีเป้าหมายที่จะออกจากสถานะ พีเอ็น17"

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/mEr2rA6mhS57iGXE/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    แคปปิตอล เอ(Capital A) ไฟเขียวขาย AirAsia ให้ AirAsia X แยกกิจการสายการบินออกจาก Capital A โฟกัสเพียงธุรกิจสี่เสาหลักคือ แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส,มูฟดิจิทัล, เทเลพอร์ตและธุรกิจดูแล แบรนด์ เอเอ 15 ตุลาคม 2567 – แคปปิตอล เอ(Capital A) ได้ประกาศผลการประชุมผู้ถือหุ้นได้ลงมติเห็นชอบต่อการเสนอขายธุรกิจการบินของกลุ่มบริษัทให้กับแอร์เอเชีย เอ็กซ์(AAX) ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น(EGM) วานนี้(14 ตุลาคม 2567) แคปปิตอล เอ เบอร์ฮัด นั้นเดิมเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย อันประกอบไปด้วยแอร์เอเชีย มาเลเซีย(AK) และเป็นบริษัทแม่ของบริษัทที่มีการร่วมลงทุนในสายการบินแอร์เอเชียในประเทศต่าง ๆ ของอาเซียน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย(FD) อินโดนีเซียแอร์เอเชีย(QZ) ฟิลิปปินส์แอร์เอเชีย(Z2) และแอร์เอเชียกัมพูชา(KT) ในขณะที่แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มาเลเซีย(D7) และเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนในสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์(XJ) การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แคปปิตอล เอ สามารถมุ่งเน้นไปที่สี่เสาหลักทางกลยุทธ์ ซึ่งจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของบริษัทให้เป็นบริษัทบริการด้านการบินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในอนาคต ผ่านบริษัท แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส(Capital A Aviation Services -CAPAS) มูฟดิจิทัล(MOVE Digital) เทเลพอร์ต(Teleport) และบริษัท แบรนด์ เอเอ นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปปิตอล เอ เบอร์ฮัด กล่าวว่า “นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับแคปปิตอล เอ และกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย โดยต่อยอดจากมูลค่ามหาศาลที่เราได้สร้างขึ้นในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ด้วยการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการขายธุรกิจการบิน เรากำลังปลดล็อกอนาคตที่สดใส โดยแยกธุรกิจการบินแบบเดิมออกจากบริการสนับสนุนการบิน ความชัดเจนนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ถือหุ้นและลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถกำหนดอนาคตใหม่ของการเดินทางในภูมิภาคนี้ได้” “กลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของแคปปิตอล เอ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบริการการบินและธุรกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตที่คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก การแยกธุรกิจการบินและธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบินออกจากกัน จะทำให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจสนับสนุนการบินและธุรกิจดิจิทัลที่มีศักยภาพสูงซึ่งเราได้สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจการบิน เมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด(AAX) ในการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 ตุลาคม ธุรกิจการบินจะสามารถรวมตัวกันเพื่อสร้างกลุ่มแอร์เอเชียที่พลิกเกมได้ โดยมีการทำงานร่วมกันระหว่างการดำเนินงานเที่ยวบินระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไร และผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น" นายโทนี่ยังเน้นย้ำว่า แคปปิตอล เอ อยู่ในสถานะที่ดีที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว “ตั้งแต่การเดินทางดิจิทัลไปจนถึงโลจิสติกส์และการจัดการแบรนด์ เรากำลังสร้างระบบนิเวศบริการการบินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง การอนุมัติในวันนี้จากผู้ถือหุ้นของเรา ยังเปิดทางให้แคปปิตอล เอ มุ่งสู่โครงสร้างทางการเงินที่โปร่งใสและมีความยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสรุปแผนการฟื้นฟูสถานะของเราและออกจากสถานะพีเอ็น17(PN17) ในไม่ช้า” การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทในการพัฒนาให้เป็นองค์กรที่คล่องตัวและเน้นเทคโนโลยี โดยมีสี่เสาหลักสำคัญ ได้แก่ แคปปิตอล เอ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส - สร้างมูลค่าผ่านการให้บริการซ่อมบำรุงและปรับปรุงเครื่องบิน(MRO) โดยความร่วมมือกับบริษัท เอเชีย ดิจิทัล เอ็นจิเนียริ่ง (ADE) และขยายการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน รวมถึงผลิตภัณฑ์ค้าปลีกของซันตัน(Santan) มูฟดิจิทัล - นำเสนอนวัตกรรมในการเดินทางและฟินเทค ผ่านแอร์เอเชีย มูฟ และบิ๊กเพย์ เทเลพอร์ต - ขยายบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนด้วยการเสริมสร้างการดำเนินงานด้านขนส่งสินค้าและบริการข้ามพรมแดน แบรนด์ เอเอ - บริหารจัดการแบรนด์แอร์เอเชียที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกผ่านการให้สิทธิ์ใช้งานและความร่วมมือทางกลยุทธ์ “เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนอย่างมั่นคงของผู้ถือหุ้นของเรา การลงมติในวันนี้สะท้อนถึงความเชื่อร่วมกันในมูลค่าระยะยาวที่แคปปิตอล เอ สามารถสร้างได้ทั้งในภาคธุรกิจการบินและนอกธุรกิจการบิน” นายโทนี่กล่าวเสริม หลังจากการอนุมัติครั้งสำคัญในวันนี้ แคปปิตอล เอ จะดำเนินการขอคำสั่งศาลเพื่อแจกจ่ายหุ้นพิจารณาให้แก่ผู้ถือหุ้นผ่านการลดและชำระคืนทุนจดทะเบียนของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทจะขอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นตราสารหนี้อิสลามที่สามารถแปลงสภาพได้แบบไม่รับประกัน(RCUIDS) ในการประชุมวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเส้นทางของแคปปิตอล เอ ขั้นตอนสำคัญเหล่านี้จะทำให้แคปปิตอล เอ สามารถมีโครงสร้างทางการเงินที่ชัดเจนและมุ่งเน้นไปที่การยื่นแผนการฟื้นฟูสถานะก่อนสิ้นปี โดยมีเป้าหมายที่จะออกจากสถานะ พีเอ็น17" ที่มา https://www.facebook.com/share/p/mEr2rA6mhS57iGXE/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • LRT เกาะปีนัง คาดตอกเข็ม ธ.ค.นี้

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ (LRT Mutiara Line) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2567 ที่จะถึงนี้ เมื่อสำนักข่าวเดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานว่า นายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติวันเริ่มต้นก่อสร้าง โดยสถานีแรกจะสร้างขึ้นที่ถนนแมคคัลลัม ขณะที่บริษัท MRT Corp ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ อาจเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าแบบล้อยาง เพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา

    ส่วนกลุ่มกิจการค้าร่วมเอสอาร์เอส (SRS Consortium) ที่นำโดยกามูดา เบอร์ฮัด (Gamuda Berhad) บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของมาเลเซีย กำลังสรุปเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับงานโยธา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 7,600 ล้านริงกิต ซึ่งกามูดาก็กำลังวางแผนประมูลงานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านริงกิต

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ ระยะทาง 29 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานโยธาตอนที่ 1 ตั้งแต่เกาะซิลิคอนถึงอาคารคอมตาร์ (Komtar) งานโยธาตอนที่ 2 จากอาคารคอมตาร์ข้ามทะเลไปยังอาคารปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) และสัญญาแบบเทิร์นคีย์สำหรับงานระบบและจัดหาขบวนรถ

    แนวเส้นทางเริ่มต้นจากเกาะซิลิคอน ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ซึ่งจะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ข้ามทะเลขึ้นไปบนหมู่บ้านเปร์มาตัง ดามาร์ ลาอุต (Permatang Damar Laut) จากนั้นผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (Penang International Airport) เขตอุตสาหกรรมเสรี (Free Industrial Zone) สนามกีฬาสไปซ์อารีน่า (SPICE) ผ่านถนนมหาวิทยาลัย (Jalan Universiti) ที่จะไปมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (USM)

    ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารคอมตาร์ (Komtar) ที่จะรองรับเส้นทางไปตันจุงบูงะฮ์ (Tanjung Bungah) และอาเยอร์อีตัม (Air Itam) ในอนาคต แล้วข้ามทะเลไปสิ้นสุดที่อาคารปีนังเซ็นทรัล โดยมีสถานีให้บริการทั้งหมด 22 สถานี เวลาเปิดให้บริการ 06.00-24.00 น. มีที่จอดรถยนต์ 1,220 คัน และรถจักรยานยนต์ 1,315 คัน

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค. รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลกลางได้เข้ารับช่วงต่อโครงการรถไฟฟ้า LRT จากรัฐบาลของรัฐปีนัง โดยแต่งตั้งให้ MRT Corp เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า

    #Newskit #LRTMutiaraLine #เกาะปีนัง
    LRT เกาะปีนัง คาดตอกเข็ม ธ.ค.นี้ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ (LRT Mutiara Line) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2567 ที่จะถึงนี้ เมื่อสำนักข่าวเดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานว่า นายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติวันเริ่มต้นก่อสร้าง โดยสถานีแรกจะสร้างขึ้นที่ถนนแมคคัลลัม ขณะที่บริษัท MRT Corp ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ อาจเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าแบบล้อยาง เพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา ส่วนกลุ่มกิจการค้าร่วมเอสอาร์เอส (SRS Consortium) ที่นำโดยกามูดา เบอร์ฮัด (Gamuda Berhad) บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของมาเลเซีย กำลังสรุปเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับงานโยธา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 7,600 ล้านริงกิต ซึ่งกามูดาก็กำลังวางแผนประมูลงานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านริงกิต โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ ระยะทาง 29 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานโยธาตอนที่ 1 ตั้งแต่เกาะซิลิคอนถึงอาคารคอมตาร์ (Komtar) งานโยธาตอนที่ 2 จากอาคารคอมตาร์ข้ามทะเลไปยังอาคารปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) และสัญญาแบบเทิร์นคีย์สำหรับงานระบบและจัดหาขบวนรถ แนวเส้นทางเริ่มต้นจากเกาะซิลิคอน ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ซึ่งจะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ข้ามทะเลขึ้นไปบนหมู่บ้านเปร์มาตัง ดามาร์ ลาอุต (Permatang Damar Laut) จากนั้นผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (Penang International Airport) เขตอุตสาหกรรมเสรี (Free Industrial Zone) สนามกีฬาสไปซ์อารีน่า (SPICE) ผ่านถนนมหาวิทยาลัย (Jalan Universiti) ที่จะไปมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (USM) ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารคอมตาร์ (Komtar) ที่จะรองรับเส้นทางไปตันจุงบูงะฮ์ (Tanjung Bungah) และอาเยอร์อีตัม (Air Itam) ในอนาคต แล้วข้ามทะเลไปสิ้นสุดที่อาคารปีนังเซ็นทรัล โดยมีสถานีให้บริการทั้งหมด 22 สถานี เวลาเปิดให้บริการ 06.00-24.00 น. มีที่จอดรถยนต์ 1,220 คัน และรถจักรยานยนต์ 1,315 คัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค. รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลกลางได้เข้ารับช่วงต่อโครงการรถไฟฟ้า LRT จากรัฐบาลของรัฐปีนัง โดยแต่งตั้งให้ MRT Corp เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า #Newskit #LRTMutiaraLine #เกาะปีนัง
    Like
    Love
    Yay
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด
    การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
    แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย
    แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล
    เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย
    ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย
    กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ
    -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย
    -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง
    -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย
    -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว
    ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร
    เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน
    -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล
    -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น
    -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ
    -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน
    -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแนะนำ *กระทรวงสร้างภาพในต่างประเทศของอเมริกา*

    นายกจอมอสูรของอิสราเอลกำลังส่งกองทัพไปบุกรุกและยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน สังหารประชาชนอย่างป่าเถื่อน พอมีหลายชาติส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้ ก็ขออนุญาต รัฐบาลอเมริกาทิ้งระเบิดถล่มรถช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทั้งหมดที่ปาเลสไตน์ด้วย ถล่มรถพยาบาลที่ไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บด้วย

    รัฐบาลอเมริกาอนุมัติให้อิสราเอลถล่มได้โดยนายแอนโทนี่ บลิงเคนคนนี้ เป็นผู้ประสานงานให้อิสราเอลดำเนินการได้

    นับแต่เริ่มสงครามมา อเมริกาอยู่เบื้องหลังการรุกรานของปาเลสไตน์โดยตลอด ไม่เพียงแต่วางแผนทางทหารให้อิสราเอลรบเท่านั้น อเมริกายังส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างให้ด้วย โดยนักการทูตคนนี้เองที่คอยช่วยอิสราเอลตลอดเวลา

    ล่าสุดนี้ ก็ไปหลอกประธานาธิบดีอิหร่านว่าอิสราเอลจะหยุดยิงอย่างถาวร ถ้าอิหร่านไม่โจมตีอิสราเอลตามที่ขู่เอาไว้ ประธานาธิบดีไก่อ่อนของอิหร่านหลงเชื่อปากทูตของอเมริกาคนนี้เสียสนิท จึงปล่อยให้เลบานอนถูกรุกราน จนกระทั่งเลขาธิการเฮซบอเลาะห์ถูกสังหาร

    โดยปรกติ ตำแหน่งรมว.กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา กลุ่มยิวไซออนิสต์จะจองเอาไว้ให้คนที่เป็นไซออนิสต์เท่านั้น รมว.ทูตอเมริกาคนนี้ จึงไม่มีความหวังดีกับประเทศใดๆ เลย มีแต่เดินหน้าใช้ตำแหน่งของตนทำงานให้ยิวไซออนิสต์ล้วนๆ

    รัฐบาลรัสเซียไม่อยากคุยกับหมอนี่ด้วยแล้ว เพราะหมอนี่ไม่เคยรักษาวาจาสัตย์ จีนก็ไม่อยากพบแต่ต้อนรับตามมารยาทเท่านั้น

    หน้าที่หลักของรมว.กระทรวงนี้แต่ไหนแต่ไรมาคือพูดสร้างภาพให้ตนเองดูดีและโจมตีประเทศอื่นๆ ที่ไม่ยอมศิโรราบให้กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์ ซึ่งเป็นเจ้านายของตนให้เสียหาย ผมจึงเรียกรมว.กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาให้สุภาพที่สุดแล้วว่า *กระทรวงสร้างภาพในต่างประเทศของอเมริกา*


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ขอแนะนำ *กระทรวงสร้างภาพในต่างประเทศของอเมริกา* นายกจอมอสูรของอิสราเอลกำลังส่งกองทัพไปบุกรุกและยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน สังหารประชาชนอย่างป่าเถื่อน พอมีหลายชาติส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้ ก็ขออนุญาต รัฐบาลอเมริกาทิ้งระเบิดถล่มรถช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทั้งหมดที่ปาเลสไตน์ด้วย ถล่มรถพยาบาลที่ไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บด้วย รัฐบาลอเมริกาอนุมัติให้อิสราเอลถล่มได้โดยนายแอนโทนี่ บลิงเคนคนนี้ เป็นผู้ประสานงานให้อิสราเอลดำเนินการได้ นับแต่เริ่มสงครามมา อเมริกาอยู่เบื้องหลังการรุกรานของปาเลสไตน์โดยตลอด ไม่เพียงแต่วางแผนทางทหารให้อิสราเอลรบเท่านั้น อเมริกายังส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างให้ด้วย โดยนักการทูตคนนี้เองที่คอยช่วยอิสราเอลตลอดเวลา ล่าสุดนี้ ก็ไปหลอกประธานาธิบดีอิหร่านว่าอิสราเอลจะหยุดยิงอย่างถาวร ถ้าอิหร่านไม่โจมตีอิสราเอลตามที่ขู่เอาไว้ ประธานาธิบดีไก่อ่อนของอิหร่านหลงเชื่อปากทูตของอเมริกาคนนี้เสียสนิท จึงปล่อยให้เลบานอนถูกรุกราน จนกระทั่งเลขาธิการเฮซบอเลาะห์ถูกสังหาร โดยปรกติ ตำแหน่งรมว.กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา กลุ่มยิวไซออนิสต์จะจองเอาไว้ให้คนที่เป็นไซออนิสต์เท่านั้น รมว.ทูตอเมริกาคนนี้ จึงไม่มีความหวังดีกับประเทศใดๆ เลย มีแต่เดินหน้าใช้ตำแหน่งของตนทำงานให้ยิวไซออนิสต์ล้วนๆ รัฐบาลรัสเซียไม่อยากคุยกับหมอนี่ด้วยแล้ว เพราะหมอนี่ไม่เคยรักษาวาจาสัตย์ จีนก็ไม่อยากพบแต่ต้อนรับตามมารยาทเท่านั้น หน้าที่หลักของรมว.กระทรวงนี้แต่ไหนแต่ไรมาคือพูดสร้างภาพให้ตนเองดูดีและโจมตีประเทศอื่นๆ ที่ไม่ยอมศิโรราบให้กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์ ซึ่งเป็นเจ้านายของตนให้เสียหาย ผมจึงเรียกรมว.กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาให้สุภาพที่สุดแล้วว่า *กระทรวงสร้างภาพในต่างประเทศของอเมริกา* ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้นเหตุทุกๆเรื่อง เกิดจาก13ตระกูลหลักผิดจริยธรรมการครองโลกอย่างร้ายแรง,โดยเฉพาะตระกูลรอธไชล์ดและร็อคกี้เฟลเลอร์ที่ยึดครองครอบงำทั่วโลกและประเทศไทยเราที่วางหมากหมายยึดครองอย่างจริงจังตั้งแต่ยุค ร.4เรา สู่ ร.5 และร้ายที่สุดยุคนอมินีคณะ2475ที่ตระกูลยิวฝรั่งเหล่านี้คือพวกตัวจริงทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังทุกๆเรื่องแม้ในไทยปัจจุบัน อาทิ เช่าที่ดินเช่าคอนโด99ปี,เปิดบ่อนคาสิโน ทำแลนด์บริจด์หรือล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในไทยให้สิ้นซากกว่ายุคอดีตๆที่พวกมันทำมาในไทย,สัญลักษณ์ซาตานถูกก่อสร้างในประเทศไทยอย่างเปิดเผยและถูกให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดี ชาติสากลนิยมสร้างประจำไว้ แต่ที่ไหนได้คือตัวดูดพลังชีวิตจากมนุษย์ๆที่ดำเนินกิจกรรมรอบๆสถานที่มัน ไปแดกเพิ่มพลังงานพวกมันมิติซาตานให้แข็งแกร่งมีพลังงานด้านกระทำชั่วให้ยิ่งๆขึ้นไปอีก เช่นจากมีพลังน้อย สิงร่างบังคับจิตใจคนไม่ได้ไม่สะดวก แต่พอได้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่พวกมันติดตั้งทั่วโลกรวมกันรวมทั้งประเทศไทย มันก็มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากก็สามารถสิงร่างนั้น ใช้ร่างกายร่างนั้นอย่างง่ายดายเป็นต้น .
    ..หากคนทั้งโลกร่วมกันกำจัดภัยของโลกอันตรายที่จะทำลายเราแบบวางแผนฆ่าคนทั้งโลกด้วยวัคซีนโควิดที่ฉีดจริงๆทั้งโลกแล้วจากที่พวกมันนี้เองวางแผนการไว้นานและต่อเนื่องไว้แล้วเพราะมันแดกอะดริโนโครมจึงมีอายุยืนยาวกว่าคนปกติหลายร้อยปีกันเลยและมีเทคโนโลยีคืนชีพคืนสภาพร่างกายแบบชุบร่างกายให้กลับมาสาวสวยหล่อเหมือนเก่าได้ด้วยแบบล้ำกว่าเตียงmedbedsที่ในหนังสร้างอีก,การกำจัดตระกูลรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์จึงคือเป้าหมายหลักของคนทั้งโลกต้องร่วมกันล็อกเป้ากำจัดจริงจังร่วมกันเพราะทั้งหมดมาจากพวกนี้ล่ะทำส่วนใหญ่และนั่งบนหัวตัวจริงที่รับหน้าที่มาจากตัวโคตรพ่อโคตรแม่ต่างดาวเลวชั่วอีกที.
    ..ถ้าทุกๆคนทั่วโลกและในไทยไม่รู้ตัวการตัวจริงจะแก้ต้นเหตุของตัวปัญหาทั้งหมดไม่ได้จึงต้องร่วมมือกันอย่างเดียวกำจัดพวกนี้คือรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์,ส่วนตัวอื่นๆจะสแกนกำจัดทีหลังคงไม่ยาก,และพวกนี้ล่ะคือตัวการใหญ่ยึดบ่อปิโตรเลียมไทยเราทั้งหมดโดยพวกมันเองอีกพากันร่างกันเขียนและประกาศออกมาใช้บังคับให้คนไทยต้องเห็นด้วย&เห็นตาม แก้ไขให้ประเทศได้คืนบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดก็ทำไม่ได้อีกเพราะมันอ้างเองเขียนเองทำเองแล้ว,ฉีกทำลาย ยึดคืนสู่สามัญแบบโมฆะจึงเหมาะสมที่สุดกับพวกมันในแผ่นดินไทยเรา,ถ้าพันธมิตรเสื้อเหลืองสมัยก่อนที่ประชาชนเป็นอันมากติดตามต่อสู้ในความดีงาม&ลงสนามยุคๆนั้นแล้วยึดครองอำนาจเองโดยภาคมหาประชาชนที่แก้ไขกันเองและก็ไม่กระทบอะไรกับวังเลย เพราะจะยึดคืนอธิปไตยสู่แผ่นดินไทยด้วย ยึดคืนบ่อปิโตรเลียมตัวพ่อของปัญหาค่าครองชีพแพงทั้งแผ่นดินไทยก็ได้แต่พันธมิตรไม่กล้ากระทำเยียวให้สุดซอย,ทหารถ้าเป็นแบบคณะ2475มาปราบประชาชนในยุคพันธมิตรจริงๆแสดงให้ได้ช้อพิสูจน์ชัดเจนอีกด้วยในยุคพันธมิตรนั้นว่าประเทศไทยไม่สมควรมีทหารจากการเกณฑ์ทหารที่มาจากลูกหลานประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป ยุบกองกำลังทหารทั้งหมดไปเลยเพราะรับใช้อีลิทชนชั้นครองทาสในไทยอย่างชัดเจนเลยในสมัยนั้น มิได้จะยืนอยู่ปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อประโยชน์สุขห่าจริงอะไรต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง,เพราะพันธมิตรเสื้อเหลืองจะยึดคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดของแผ่นดินไทยตกคืนสู่สามัญเพื่อรีเซ็ตบริหารจัดการใหม่ทั้งหมดอย่างดีต่อธรรมกันก็ว่า,ยุบสถาบันภาคนักการเมืองไปทันที40-50ปี จนกว่าจะเสถียรทางอธิปไตยไทยและคุณภาพความรู้ความเข้าใจคนไทยเจาะลึกเห็นจริงว่าศัตรูไทยและศัตรูโลกคือคนพวกใดอย่างแท้จริง ตัดตอนตัวเนื้อร้ายทันการณ์ก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมากที่พันธมิตรสมัยนั้นเกรงใจชนชั้นเชื้อสายผู้ดีเก่าลูกท่านหลายเธอเชื้อสายคนสนมเก่าเกินไปตลอดสายวังด้วย เพราะเมื่ออีลิทโลกหรือมารมันขีดมิให้สถาบันกษัตริย์เรายึดคืนทรัพยากรมีค่าสมบัติชาติไทยคืนสู่สามัญไม่ได้ไม่สะดวกก่อการกระทำแล้วพันธมิตรจะเกรงใจทำซากอะไรสมควรยึดอำนาจให้ตกจริงแก่ภาคประชาชนจริงๆสิ โดยภาคประชาชน ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์ทันทีที่เหี้ยภาคทหาร4-5เหล่าทัพมักยึดอำนาจแต่ก็กาก&ใจกระจอกไม่เคยยึดคืนบ่อน้ำมันบ่อปิโตรเลียมจริงคืนมาจริงแม้แต่วันเดียว เพราะนั้นคือหัวใจทศกัณฐ์ตัวปัญหาทั้งหมด&ต้นเหตุต้นปัญหาการดำเนินชีวิตของคนไทยทั้งประเทศเลย,เช่นยึดบ่อน้ำมันมาสร้างทำผลิตเองหรือเรียกมาคุยมาจ้างผลิตใหม่ ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาท ในปัจจุบัน ค่าอะไรสาระพัดโดยเฉพาะภาคขนส่งจะต้นทุนต่ำทั้งแผ่นดิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนจะได้ราคาถูก คนจะมีตังเหลือเก็บ เศรษฐกิจจะฟื้นฟูทันที ทั่วไทยสินค้าราคาถูกแข่งขันสบายในต่างประเทศ กำหนดคัดเลือกนายทุนมาตั้งฐานผลิตบนแผ่นดินไทยได้ ไม่มาสร้างมลพิษชั่วเลวแบบปัจจุบันตรึมนี้ก็ว่า ได้สบายๆ เป็นต้น.
    ..ทหารยึดอำนาจมันเกรงใจสายวังมั้ยก็ไม่สนใจคนวังอะไร เสียของมากว่าสิบๆครั้ง&10กว่าครั้งที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจมา ผีบ้าแต่มีสมองไว้ตั้งบ่าฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่แสดงไปฉีกกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญแบบกฎหมายปิโตรเลียมเต่าล้านปีแก้ไขก็แค่นายทุนท่านลอร์ดฟันกำไร ฟันผลประโยชน์เท่านั้น เสียอธิปไตยบวกพื้นที่ดินแดนบ่อปิโตรเลียมแก้เอกชนไปยังไม่ฉีกอีกบวกฝรั่งทั้งนั้นบอกให้คนไทยทรยศแผ่นดินไทยเขียนมาให้ยกแก่อีลิทพวกฝรั่งนายทุนนั้นอีกก็ว่า.เสียของจริงๆ.,จึงภาคมหาประชาชนแบบพันธมิตรยุคเสื้อเหลืองนั้นๆสมควรจบมันอย่างยิ่งยึดอำนาจให้เบ็ดเสร็จ ทำไมทหารจะมีหน้ามีตามีสิทธิยึดอำนาจได้ฝ่ายเดียวหรือไง ภาคสถาบันตรงประชาชนยึดคืนเองไม่ได้หรือไง.น่าเสียดายมากๆสมัยพันธมิตรกำลังมาแรง ชัด ตรงประเด็นด้วย มิใช่จะไล่โทนี่อย่างเดียวแล้วจบ คิดสั้นมากๆหากมองดูดีๆสมัยนั้น,สุดท้ายแกนนำติดคุกตรึม มันใช่เหรอ,สู้ยึดแมร่งมันเลย เขียนไม่ผิดกฎหมายแบบยุคลุงทำปีกปปส.ถวายพานให้สิปี57,ไม่ติดคุกอะไรเลย เป็นนายกต่อด้วยธรรมดาที่ไหน ,จะจบสมัยก็ไม่คิดอ่านขุดเจาะขายเองเสือกไปยกสัมปานบ่อปิโตรเลียมทิ้งทวนอีกสองแปลงที่แน่ตรงอ่าวไทยคุณภาพดิบดีไปให้คนอื่นทำโน้น,บัดสบมากๆการปกครองประเทศไทยเรา น่าสมเพชน่าอนาถระยำสิ้นดี สิ้นดีจริงๆ มีแต่ความเลวๆที่คงอยู่อย่างมั่นคง.
    ..ทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระร็อกกี้เฟลเลอร์ สองตระกูลนี้ก่อนทั่วไทยรู้และทั่วโลกพากันเข้าใจและลงมือเข้าทำลายจะคืนความสงบเป็นอันมากทันทีต่อโลกเราแน่นอน,ชาวโลกต้องแชร์กระจายเป้าหมายทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ทันทีร่วมกันทั้งโลก ดังแบบหมูเด้ง เข้าใจตรงกัน รับรู้ตรงกันแบบหมูเด้ง เพียงชั่วข้ามคืน อนาคตของโลกเราทั้งใบอาจพลิกสู่สิ่งดีๆทันทีเช่นกัน ภัย&ตัวปัญหาของโลกถูกตรวจจับและเข้าทำลายทิ้งทันทีทันเวลานั้นเอง .
    ต้นเหตุทุกๆเรื่อง เกิดจาก13ตระกูลหลักผิดจริยธรรมการครองโลกอย่างร้ายแรง,โดยเฉพาะตระกูลรอธไชล์ดและร็อคกี้เฟลเลอร์ที่ยึดครองครอบงำทั่วโลกและประเทศไทยเราที่วางหมากหมายยึดครองอย่างจริงจังตั้งแต่ยุค ร.4เรา สู่ ร.5 และร้ายที่สุดยุคนอมินีคณะ2475ที่ตระกูลยิวฝรั่งเหล่านี้คือพวกตัวจริงทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังทุกๆเรื่องแม้ในไทยปัจจุบัน อาทิ เช่าที่ดินเช่าคอนโด99ปี,เปิดบ่อนคาสิโน ทำแลนด์บริจด์หรือล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในไทยให้สิ้นซากกว่ายุคอดีตๆที่พวกมันทำมาในไทย,สัญลักษณ์ซาตานถูกก่อสร้างในประเทศไทยอย่างเปิดเผยและถูกให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดี ชาติสากลนิยมสร้างประจำไว้ แต่ที่ไหนได้คือตัวดูดพลังชีวิตจากมนุษย์ๆที่ดำเนินกิจกรรมรอบๆสถานที่มัน ไปแดกเพิ่มพลังงานพวกมันมิติซาตานให้แข็งแกร่งมีพลังงานด้านกระทำชั่วให้ยิ่งๆขึ้นไปอีก เช่นจากมีพลังน้อย สิงร่างบังคับจิตใจคนไม่ได้ไม่สะดวก แต่พอได้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่พวกมันติดตั้งทั่วโลกรวมกันรวมทั้งประเทศไทย มันก็มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากก็สามารถสิงร่างนั้น ใช้ร่างกายร่างนั้นอย่างง่ายดายเป็นต้น . ..หากคนทั้งโลกร่วมกันกำจัดภัยของโลกอันตรายที่จะทำลายเราแบบวางแผนฆ่าคนทั้งโลกด้วยวัคซีนโควิดที่ฉีดจริงๆทั้งโลกแล้วจากที่พวกมันนี้เองวางแผนการไว้นานและต่อเนื่องไว้แล้วเพราะมันแดกอะดริโนโครมจึงมีอายุยืนยาวกว่าคนปกติหลายร้อยปีกันเลยและมีเทคโนโลยีคืนชีพคืนสภาพร่างกายแบบชุบร่างกายให้กลับมาสาวสวยหล่อเหมือนเก่าได้ด้วยแบบล้ำกว่าเตียงmedbedsที่ในหนังสร้างอีก,การกำจัดตระกูลรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์จึงคือเป้าหมายหลักของคนทั้งโลกต้องร่วมกันล็อกเป้ากำจัดจริงจังร่วมกันเพราะทั้งหมดมาจากพวกนี้ล่ะทำส่วนใหญ่และนั่งบนหัวตัวจริงที่รับหน้าที่มาจากตัวโคตรพ่อโคตรแม่ต่างดาวเลวชั่วอีกที. ..ถ้าทุกๆคนทั่วโลกและในไทยไม่รู้ตัวการตัวจริงจะแก้ต้นเหตุของตัวปัญหาทั้งหมดไม่ได้จึงต้องร่วมมือกันอย่างเดียวกำจัดพวกนี้คือรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์,ส่วนตัวอื่นๆจะสแกนกำจัดทีหลังคงไม่ยาก,และพวกนี้ล่ะคือตัวการใหญ่ยึดบ่อปิโตรเลียมไทยเราทั้งหมดโดยพวกมันเองอีกพากันร่างกันเขียนและประกาศออกมาใช้บังคับให้คนไทยต้องเห็นด้วย&เห็นตาม แก้ไขให้ประเทศได้คืนบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดก็ทำไม่ได้อีกเพราะมันอ้างเองเขียนเองทำเองแล้ว,ฉีกทำลาย ยึดคืนสู่สามัญแบบโมฆะจึงเหมาะสมที่สุดกับพวกมันในแผ่นดินไทยเรา,ถ้าพันธมิตรเสื้อเหลืองสมัยก่อนที่ประชาชนเป็นอันมากติดตามต่อสู้ในความดีงาม&ลงสนามยุคๆนั้นแล้วยึดครองอำนาจเองโดยภาคมหาประชาชนที่แก้ไขกันเองและก็ไม่กระทบอะไรกับวังเลย เพราะจะยึดคืนอธิปไตยสู่แผ่นดินไทยด้วย ยึดคืนบ่อปิโตรเลียมตัวพ่อของปัญหาค่าครองชีพแพงทั้งแผ่นดินไทยก็ได้แต่พันธมิตรไม่กล้ากระทำเยียวให้สุดซอย,ทหารถ้าเป็นแบบคณะ2475มาปราบประชาชนในยุคพันธมิตรจริงๆแสดงให้ได้ช้อพิสูจน์ชัดเจนอีกด้วยในยุคพันธมิตรนั้นว่าประเทศไทยไม่สมควรมีทหารจากการเกณฑ์ทหารที่มาจากลูกหลานประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป ยุบกองกำลังทหารทั้งหมดไปเลยเพราะรับใช้อีลิทชนชั้นครองทาสในไทยอย่างชัดเจนเลยในสมัยนั้น มิได้จะยืนอยู่ปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อประโยชน์สุขห่าจริงอะไรต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง,เพราะพันธมิตรเสื้อเหลืองจะยึดคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดของแผ่นดินไทยตกคืนสู่สามัญเพื่อรีเซ็ตบริหารจัดการใหม่ทั้งหมดอย่างดีต่อธรรมกันก็ว่า,ยุบสถาบันภาคนักการเมืองไปทันที40-50ปี จนกว่าจะเสถียรทางอธิปไตยไทยและคุณภาพความรู้ความเข้าใจคนไทยเจาะลึกเห็นจริงว่าศัตรูไทยและศัตรูโลกคือคนพวกใดอย่างแท้จริง ตัดตอนตัวเนื้อร้ายทันการณ์ก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมากที่พันธมิตรสมัยนั้นเกรงใจชนชั้นเชื้อสายผู้ดีเก่าลูกท่านหลายเธอเชื้อสายคนสนมเก่าเกินไปตลอดสายวังด้วย เพราะเมื่ออีลิทโลกหรือมารมันขีดมิให้สถาบันกษัตริย์เรายึดคืนทรัพยากรมีค่าสมบัติชาติไทยคืนสู่สามัญไม่ได้ไม่สะดวกก่อการกระทำแล้วพันธมิตรจะเกรงใจทำซากอะไรสมควรยึดอำนาจให้ตกจริงแก่ภาคประชาชนจริงๆสิ โดยภาคประชาชน ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์ทันทีที่เหี้ยภาคทหาร4-5เหล่าทัพมักยึดอำนาจแต่ก็กาก&ใจกระจอกไม่เคยยึดคืนบ่อน้ำมันบ่อปิโตรเลียมจริงคืนมาจริงแม้แต่วันเดียว เพราะนั้นคือหัวใจทศกัณฐ์ตัวปัญหาทั้งหมด&ต้นเหตุต้นปัญหาการดำเนินชีวิตของคนไทยทั้งประเทศเลย,เช่นยึดบ่อน้ำมันมาสร้างทำผลิตเองหรือเรียกมาคุยมาจ้างผลิตใหม่ ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาท ในปัจจุบัน ค่าอะไรสาระพัดโดยเฉพาะภาคขนส่งจะต้นทุนต่ำทั้งแผ่นดิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนจะได้ราคาถูก คนจะมีตังเหลือเก็บ เศรษฐกิจจะฟื้นฟูทันที ทั่วไทยสินค้าราคาถูกแข่งขันสบายในต่างประเทศ กำหนดคัดเลือกนายทุนมาตั้งฐานผลิตบนแผ่นดินไทยได้ ไม่มาสร้างมลพิษชั่วเลวแบบปัจจุบันตรึมนี้ก็ว่า ได้สบายๆ เป็นต้น. ..ทหารยึดอำนาจมันเกรงใจสายวังมั้ยก็ไม่สนใจคนวังอะไร เสียของมากว่าสิบๆครั้ง&10กว่าครั้งที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจมา ผีบ้าแต่มีสมองไว้ตั้งบ่าฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่แสดงไปฉีกกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญแบบกฎหมายปิโตรเลียมเต่าล้านปีแก้ไขก็แค่นายทุนท่านลอร์ดฟันกำไร ฟันผลประโยชน์เท่านั้น เสียอธิปไตยบวกพื้นที่ดินแดนบ่อปิโตรเลียมแก้เอกชนไปยังไม่ฉีกอีกบวกฝรั่งทั้งนั้นบอกให้คนไทยทรยศแผ่นดินไทยเขียนมาให้ยกแก่อีลิทพวกฝรั่งนายทุนนั้นอีกก็ว่า.เสียของจริงๆ.,จึงภาคมหาประชาชนแบบพันธมิตรยุคเสื้อเหลืองนั้นๆสมควรจบมันอย่างยิ่งยึดอำนาจให้เบ็ดเสร็จ ทำไมทหารจะมีหน้ามีตามีสิทธิยึดอำนาจได้ฝ่ายเดียวหรือไง ภาคสถาบันตรงประชาชนยึดคืนเองไม่ได้หรือไง.น่าเสียดายมากๆสมัยพันธมิตรกำลังมาแรง ชัด ตรงประเด็นด้วย มิใช่จะไล่โทนี่อย่างเดียวแล้วจบ คิดสั้นมากๆหากมองดูดีๆสมัยนั้น,สุดท้ายแกนนำติดคุกตรึม มันใช่เหรอ,สู้ยึดแมร่งมันเลย เขียนไม่ผิดกฎหมายแบบยุคลุงทำปีกปปส.ถวายพานให้สิปี57,ไม่ติดคุกอะไรเลย เป็นนายกต่อด้วยธรรมดาที่ไหน ,จะจบสมัยก็ไม่คิดอ่านขุดเจาะขายเองเสือกไปยกสัมปานบ่อปิโตรเลียมทิ้งทวนอีกสองแปลงที่แน่ตรงอ่าวไทยคุณภาพดิบดีไปให้คนอื่นทำโน้น,บัดสบมากๆการปกครองประเทศไทยเรา น่าสมเพชน่าอนาถระยำสิ้นดี สิ้นดีจริงๆ มีแต่ความเลวๆที่คงอยู่อย่างมั่นคง. ..ทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระร็อกกี้เฟลเลอร์ สองตระกูลนี้ก่อนทั่วไทยรู้และทั่วโลกพากันเข้าใจและลงมือเข้าทำลายจะคืนความสงบเป็นอันมากทันทีต่อโลกเราแน่นอน,ชาวโลกต้องแชร์กระจายเป้าหมายทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ทันทีร่วมกันทั้งโลก ดังแบบหมูเด้ง เข้าใจตรงกัน รับรู้ตรงกันแบบหมูเด้ง เพียงชั่วข้ามคืน อนาคตของโลกเราทั้งใบอาจพลิกสู่สิ่งดีๆทันทีเช่นกัน ภัย&ตัวปัญหาของโลกถูกตรวจจับและเข้าทำลายทิ้งทันทีทันเวลานั้นเอง .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 58 0 รีวิว
  • Boris Johnson อดีตนายกฯอังกฤษ ละเมิดกฏสำนักพระราชวัง เขียนหนังสือเกี่ยวกับควีนเอลิซาเบธที่ 2เปิดเผยอาการประชวรโรคมะเร็งกระดูกก่อนเสด็จสวรรคต สำนักพระราชวังอังกฤษชี้ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะ “ผิด” กฎราชวงศ์

    2 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า หนังสือบันทึกความทรงจำ Boris Johnson Unleashed ของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษที่จะออกวางจำหน่ายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ กำลังเผชิญกระแสสังคมอย่างมาก กรณีที่เขาออกมาเปิดเผยข้อความในหนังสือบันทึกความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพระอาการประชวรของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และช่วงเวลาสุดท้ายของพระองค์ที่เมืองบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ว่าทรงประชวรด้วย “โรคมะเร็งกระดูก” ก่อนสวรรคต ซึ่งหลังจากสำนักพระราชวังของอังกฤษทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้ออกมาตำหนิว่าเขาไม่ควรเปิดเผยพระอาการประชวรของพระองค์พร้อมทั้งชี้ว่านี่คือการละเมิดกฎพระราชวงศ์

    ส่วนหนึ่งในหนังสือของจอห์นสันระบุว่า “พระองค์ดูซีดและหลังค่อมขึ้น และมีรอยฝกช้ำดำเขียวที่บริเวณข้อมือ ซึ่งน่าจะเกิดจากการให้น้ำเกลือหรือฉีดยา แต่พระองค์ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดเลย ในระหว่างสนทนาพระองค์พระองค์ยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใส รอยยิ้มของพระองค์ทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก” นอกจากนี้จอห์นสันได้ระบุว่าการที่เขาได้เฝ้าทูลละอองพระบาทของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์กับพระราชินีถือเป็น “สิทธิพิเศษ” และ “กำลังใจ” ให้กับตัวเขาเองด้วย

    ไม่เพียงเท่านี้แต่จอห์นสันยังเขียนถึงอาการประชวรของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เอาไว้ว่า “ผมทราบมานานกว่าหนึ่งปีแล้วว่าพระองค์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งกระดูก และแพทย์ก็เป็นห่วงว่าอาการของพระองค์จะทรุดลงได้ทุกเมื่อ”

    คำบอกเล่าของจอห์นสันนี้ นับว่าขัดกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ ที่สำนักพระราชวังแถลงว่า สาเหตุเกิดจาก “วัยชรา” และการเปิดเผยของจอหืนสันกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งเพราะตั้งแต่ที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์ในเดือนกันยายน ปี 2022 สำนักพระราชวงศ์บักกิงแฮมก็ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระองค์

    อย่างไรก็ตาม จอห์นสันไม่ใช่ผู้นำอังกฤษคนแรกที่ที่เขียนบันทึกรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯที่เข้าเฝ้าพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์, กอร์ดอน บราวน์, และ เดวิด คาเมรอน ต่างก็เคยเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์การถวายงานกับควีนเอลิซาเบธที่2 เช่นกัน แต่เป็นการกล่าวถึงแบบโดยภาพรวม ไม่ได้มีการลงรายละเอียดที่ชัดเจนแบบเดียวกับจอห์นสัน

    ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์อังกฤษจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางการแพทย์ของสมาชิกราชวงศ์ต่อสาธารณชน จนกระทั่งในกรณีของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ ที่ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเลือกที่จะเปิดเผยอาการประชวรและข้อมูลการรักษาตัวของพระองค์ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของทั้ง 2 พระองค์ที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง

    ภาพ : จากเฟซบุ๊กBoris Johnson

    #Thaitimes
    Boris Johnson อดีตนายกฯอังกฤษ ละเมิดกฏสำนักพระราชวัง เขียนหนังสือเกี่ยวกับควีนเอลิซาเบธที่ 2เปิดเผยอาการประชวรโรคมะเร็งกระดูกก่อนเสด็จสวรรคต สำนักพระราชวังอังกฤษชี้ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะ “ผิด” กฎราชวงศ์ 2 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า หนังสือบันทึกความทรงจำ Boris Johnson Unleashed ของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษที่จะออกวางจำหน่ายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ กำลังเผชิญกระแสสังคมอย่างมาก กรณีที่เขาออกมาเปิดเผยข้อความในหนังสือบันทึกความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพระอาการประชวรของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และช่วงเวลาสุดท้ายของพระองค์ที่เมืองบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ว่าทรงประชวรด้วย “โรคมะเร็งกระดูก” ก่อนสวรรคต ซึ่งหลังจากสำนักพระราชวังของอังกฤษทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้ออกมาตำหนิว่าเขาไม่ควรเปิดเผยพระอาการประชวรของพระองค์พร้อมทั้งชี้ว่านี่คือการละเมิดกฎพระราชวงศ์ ส่วนหนึ่งในหนังสือของจอห์นสันระบุว่า “พระองค์ดูซีดและหลังค่อมขึ้น และมีรอยฝกช้ำดำเขียวที่บริเวณข้อมือ ซึ่งน่าจะเกิดจากการให้น้ำเกลือหรือฉีดยา แต่พระองค์ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดเลย ในระหว่างสนทนาพระองค์พระองค์ยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใส รอยยิ้มของพระองค์ทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก” นอกจากนี้จอห์นสันได้ระบุว่าการที่เขาได้เฝ้าทูลละอองพระบาทของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์กับพระราชินีถือเป็น “สิทธิพิเศษ” และ “กำลังใจ” ให้กับตัวเขาเองด้วย ไม่เพียงเท่านี้แต่จอห์นสันยังเขียนถึงอาการประชวรของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เอาไว้ว่า “ผมทราบมานานกว่าหนึ่งปีแล้วว่าพระองค์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งกระดูก และแพทย์ก็เป็นห่วงว่าอาการของพระองค์จะทรุดลงได้ทุกเมื่อ” คำบอกเล่าของจอห์นสันนี้ นับว่าขัดกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ ที่สำนักพระราชวังแถลงว่า สาเหตุเกิดจาก “วัยชรา” และการเปิดเผยของจอหืนสันกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งเพราะตั้งแต่ที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์ในเดือนกันยายน ปี 2022 สำนักพระราชวงศ์บักกิงแฮมก็ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ อย่างไรก็ตาม จอห์นสันไม่ใช่ผู้นำอังกฤษคนแรกที่ที่เขียนบันทึกรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯที่เข้าเฝ้าพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์, กอร์ดอน บราวน์, และ เดวิด คาเมรอน ต่างก็เคยเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์การถวายงานกับควีนเอลิซาเบธที่2 เช่นกัน แต่เป็นการกล่าวถึงแบบโดยภาพรวม ไม่ได้มีการลงรายละเอียดที่ชัดเจนแบบเดียวกับจอห์นสัน ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์อังกฤษจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางการแพทย์ของสมาชิกราชวงศ์ต่อสาธารณชน จนกระทั่งในกรณีของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ ที่ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเลือกที่จะเปิดเผยอาการประชวรและข้อมูลการรักษาตัวของพระองค์ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของทั้ง 2 พระองค์ที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ภาพ : จากเฟซบุ๊กBoris Johnson #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 664 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ โทนี่ถอยทัพ แก้ไข รธน. ชนะโดยไม่ต้องรบ แม้ต้องรบก็เสียหายน้อย
    #7ดอกจิก
    ♣ โทนี่ถอยทัพ แก้ไข รธน. ชนะโดยไม่ต้องรบ แม้ต้องรบก็เสียหายน้อย #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 122 0 รีวิว
  • แอนโทนี บลิงเคนหาทางปิดปากสื่อให้อิสราเอล:

    อิสราเอลให้นายบลิงเคนทำตั้งแต่ปีที่แล้ว

    นายแอนโทนี่ บลิงเคน เดินทางไปขอให้รัฐบาลกาต้าร์เพลาๆ การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ เพราะอิสราเอลแอบก่อการร้ายอยู่ลับหลัง แต่ฉากหน้าพยายามปล่อยข่าวล้างสมองผู้คนว่า ๑.กองทัพอิสราเอลเป็นกองทัพที่มีศีลธรรมที่สุด ๒.ประเทศตนเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สุดในตะวันออกกลาง ๓.ประเทศของตนรักสงบ ไม่อยากมีกรณีพิพาทกับประเทศไหนๆ

    แต่ในข้อเท็จจริง รุกรานแผ่นดินปาเลสไตน์ตลอดเวลา ทิ้งระเบิดใส่ประเทศซีเรียตลอดเวลา หาทางรุกรานประเทศเลบานอนตลอดเวลา

    พอสื่อต่างๆ แฉอาชญากรรมของรัฐบาลอิสราเอลซึ่งตรงข้ามกับภาพที่สร้าง รัฐบาลอิสราเอลจึงรับไม่ได้และสั่งให้อเมริกาใช้อิทธิพลปิดสำนักสื่อต่างๆ เช่น RT และ Sputnik สั่งปิดติ๊กต๊อกของจีน สั่งให้ลบหรือปิดเวปไซต์ต่างๆ ที่ลงข่าวแฉอาชญากรรมของอิสราเอล

    ตอนนี้ รัฐบาลอิสราเอลกำลังให้อเมริกาบีบสำนักข่าวอัลจารีซ่าในกาต้าร์ให้ลดการลงข่าวอาชญากรรมที่รัฐบาลอิสราเอลทำที่ในที่ต่างๆ ลง ไม่อยากให้โลกรู้ความจริง


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    แอนโทนี บลิงเคนหาทางปิดปากสื่อให้อิสราเอล: อิสราเอลให้นายบลิงเคนทำตั้งแต่ปีที่แล้ว นายแอนโทนี่ บลิงเคน เดินทางไปขอให้รัฐบาลกาต้าร์เพลาๆ การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ เพราะอิสราเอลแอบก่อการร้ายอยู่ลับหลัง แต่ฉากหน้าพยายามปล่อยข่าวล้างสมองผู้คนว่า ๑.กองทัพอิสราเอลเป็นกองทัพที่มีศีลธรรมที่สุด ๒.ประเทศตนเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สุดในตะวันออกกลาง ๓.ประเทศของตนรักสงบ ไม่อยากมีกรณีพิพาทกับประเทศไหนๆ แต่ในข้อเท็จจริง รุกรานแผ่นดินปาเลสไตน์ตลอดเวลา ทิ้งระเบิดใส่ประเทศซีเรียตลอดเวลา หาทางรุกรานประเทศเลบานอนตลอดเวลา พอสื่อต่างๆ แฉอาชญากรรมของรัฐบาลอิสราเอลซึ่งตรงข้ามกับภาพที่สร้าง รัฐบาลอิสราเอลจึงรับไม่ได้และสั่งให้อเมริกาใช้อิทธิพลปิดสำนักสื่อต่างๆ เช่น RT และ Sputnik สั่งปิดติ๊กต๊อกของจีน สั่งให้ลบหรือปิดเวปไซต์ต่างๆ ที่ลงข่าวแฉอาชญากรรมของอิสราเอล ตอนนี้ รัฐบาลอิสราเอลกำลังให้อเมริกาบีบสำนักข่าวอัลจารีซ่าในกาต้าร์ให้ลดการลงข่าวอาชญากรรมที่รัฐบาลอิสราเอลทำที่ในที่ต่างๆ ลง ไม่อยากให้โลกรู้ความจริง ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ โทนี่-ธร ล่อเสือออกจากถ้ำ ด้วยการนิรโทษฯล้างผิด และแก้รธน.ห้ามยุบพรรค
    #7ดอกจิก
    ♣ โทนี่-ธร ล่อเสือออกจากถ้ำ ด้วยการนิรโทษฯล้างผิด และแก้รธน.ห้ามยุบพรรค #7ดอกจิก
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 209 0 รีวิว
  • ไชโยๆๆ กุลวฒิ วิทิตศานต์ ชนะ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง จากอินโดนีเซีย รอบ8คนสุดท้าย พรุ่งนี้วิวจะเข้าชิงรอบรองชนะเลิศกับ Kodai จากญี่ปุ่นในศึกแข่งขันแบตมินตัน Victor China Open2024

    #Thaitimes
    ไชโยๆๆ กุลวฒิ วิทิตศานต์ ชนะ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง จากอินโดนีเซีย รอบ8คนสุดท้าย พรุ่งนี้วิวจะเข้าชิงรอบรองชนะเลิศกับ Kodai จากญี่ปุ่นในศึกแข่งขันแบตมินตัน Victor China Open2024 #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1485 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ โทนี่เตรียมเขมือบ แหล่งปิโตรเลียม พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
    #7ดอกจิก
    ♣ โทนี่เตรียมเขมือบ แหล่งปิโตรเลียม พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 115 0 รีวิว
Pages Boosts