• แผนสอยมังกร ตอนที่ 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร”

    ตอน 5

    A2/AD หรือ anti access/area-denial เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ในป้องกันประเทศจาก การรุกราน หรือรุกล้ำของศัตรู หรือสิ่งไม่พึงปรารถนา โดยการกำหนดเขต หรือบริเวณหวงห้าม ที่ต้องได้รับอนุญาต และแสดงตนก่อนเข้าเขต มิฉะนั้น เจ้าของเขตหวงห้ามหรือบริเวณ สามารถระงับการผ่านเข้าเขตได้ ด้วยกำลังอาวุธ ที่มีทั้งแบบใช้เดี่ยว และใช้เป็นระบบหลายประเภทร่วมกัน

    เมื่อมีข่าวออกมาประมาณปี ค.ศ.2012 ว่า จีนคิดใช้ยุทธศาสตร์นี้ แทบไม่มีใครสนใจไม่มีใครให้ราคา โดยเฉพาะอเมริกา เพราะการจะใช้ระบบ A2/AD ให้ได้ผลจริงๆ ต้องมีระบบ(อาวุธ)ป้องกันการละเมิด การรุกราน ครบชุด ทั้งใต้ดิน บนดิน บนฟ้า และต้องมีระบบนี้จำนวนมากพอ ถึงจะป้องกันได้จริงจัง ซึ่งอเมริกาคิดว่า จีนไม่มีทางทำได้สำเร็จ ไม่ว่าด้านความสามารถในการคิดค้นระบบ ความสามารถทางทหาร และความสามารถในงบประมาณ เพราะอเมริกา ประกาศเสมอว่า งบประมาณด้านความมั่นคงของอเมริกานั้น ก้อนใหญ่กว่าจีนหลายเท่านัก ขนาดนั้นยังไม่แน่ว่า อเมริกาจะมีระบบนี้ใช้ได้ครบเครื่อง

    เมื่อตอนที่อเมริกาและนาโต้ ขนโขยงทั้งทหารจริงและทหารรับจ้าง ไปบดขยี้กัดดาฟี่ที่ลิเบีย ในปี ค.ศ. 2011 นั้น ยังไม่มีใครใช้ระบบ A2/AD อย่างน้อย แถวนั้นก็ยังไม่มีใครใช้ ทำให้การขนพลขยี้โดยเรือรบ และเรือดำน้ำ ผ่านเข้าไปในลิเบีย จากฝั่งทะเลด้านเหนือของอาฟริกา รอดพ้นจากการต้อนรับ ด้วยเครื่องบินรบหรือจรวด ซึ่งจะมีพร้อมในระบบป้องกันของ A2/AD แต่วันฤกษ์สะดวกของเพชรฆาตเช่นวันนั้น สำหรับอเมริกา อาจจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างนั้นอีกแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่ง่าย ถ้าอเมริกาคิดจะยกพลไปขยี้จีน เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติการกับกัดดาฟี่
    ประมาณ 15 ปีมาแล้ว เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีคลินตัน ขวัญใจเด็กฝึกงาน สั่งให้เรือรบ USS Independence กับเรือรบ USS Nimitz ขนกำลังทหาร ไปที่ช่องแคบไต้หวัน จ่อตรงหน้าประตูบ้านอาเฮีย เพื่อขู่ไม่ให้จีนมายุ่งกับไต้หวัน เรื่องแบบนี้คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นอีก เพราะนับแต่วันที่จีนถูกอเมริกามาหยามถึงหน้าประตูบ้านเช่นนั้น จีนก็คร่ำเคร่ง ปรับปรุงระบบ A2/AD ของตนให้สมบูรณ์ขึ้นทุกวัน

    ข่าวว่า ขณะนี้ระบบ A2/AD ของจีน เมื่อใช้ร่วมกับระบบดาวเทียม ความแม่นยำในการสกัด สิ่งเล็ก สิ่งใหญ่ ที่จะเล็ดลอดผ่านเข้ามาในเขตแดนของจีน ไม่ว่าจะเป็นธิเบต ซินเจียง ช่องแคบไต้หวัน และบริเวณทะเลจีน ฯลฯ จีนบอกว่า “น่าจะใช้การได้นะ”

    ใช้ได้จริงหรือเปล่า และเชื่อได้แค่ไหน ผมคงตอบไม่ได้ แต่คนที่ดูเหมือนจะตอบได้ น่าจะเป็นไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ ที่เป็นคนประทับตรารับรองให้จีน ไม่งั้นคงไม่ออก ใบประกาศ ให้ไว้ในรายงาน Grand Strategy นั้นหรอก

    เรากลับไปดู Grand Strategy ของสุดกร่างกันอีกที เพื่อจะตรวจสอบ “อาการ” จริงของไอ้นักล่าใบตองแห้ง

    อย่างน้อยเกือบ 3 ปีมาแล้ว ที่มีข่าวในปี 2012 ว่าจีนใช้ระบบ A2/AD และนับตั้งแต่นั้น ยังไม่มีข่าวออกมาว่า อเมริกาจัดการถล่มระบบนี้ของจีนได้ ในทางตรงกันข้าม กลับมีข่าวว่า รัสเซีย และ จีน ได้ทดสอบการสยบการเคลื่อนไหว เครื่องบินรบ และเรือรบของอเมริกา ในน่านน้ำ และน่านฟ้า เขตของจีนและบริเวณรัสเซียอยู่หลายครั้ง และทุกครั้ง ฝ่ายอเมริกาจะออกมาให้ข่าวว่า เป็นเรื่องการปล่อยโคมลอยเสมอ แต่คราวนี้ สุดกร่างรับรองให้จีนเอง ในรายงาน Grand Strategy เตรียมพร้อมทั้งตัวเอง และลูกหาบให้รับมือกับระบบ A2/AD ของอาเฮีย !

    ตกลง Grand Strategy นี่มีเป้าหมายอะไรกันแน่ มัน Grand ตรงไหนนะ นอกจากหลอกด่าจีนและพวก จนหมดสีหมดไข่ไปแยะ อวดใหญ่คุยโว ว่ามีเด็กอยู่เต็มในกระเป๋า เดี๋ยวจะเอาของขวัญวันเด็ก แจกให้เด็กๆเอาไปเล่นกะอาเฮีย แต่ขณะเดียวกัน ก็บ่นว่ารัฐสภาต้องเพิ่มงบด้านความมั่นคงให้ อ้าว แล้วงี้จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อของขวัญแจกเด็ก สงสัยเด็กๆ มีหวังได้ของขวัญ ประเภทเขาตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถึงเอามาแจก มันดูเหมือนจะบรรยายความขัดกันเอง
    อเมริกาคิดอะไร จึงปล่อยให้ CFR ออกรายงานนี้ เนื้อความแบบนี้ มาในจังหวะช่วงเดือนกว่ามานี้

    แถมในตอนสรุป สุดกร่างบอกว่า เชื่อว่าผู้อ่านรายงานนี้ คงมีปฏิกิริยาต่างๆกัน หลายคนคงบอกว่า รายงานนี้จะเป็นการยั่วยุจีน สุดกร่างบอก จีนคงมีปฏกิริยาแน่ แต่ถึงมี ก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรายงาน หรือเปลี่ยนใจอะไร เพราะยังไงเราก็ต้องทำรายงานแบบนี้ และแนะนำให้ดำเนินการตามที่เราเสนออยู่ดี บางคนว่า เรามองจีนในแง่ร้ายไปหรือเปล่า ไม่เลย เราแน่ใจว่า เรามองอย่างตรงไปตรงมาที่สุด จากพฤติกรรมของจีนเอง นี่เรายังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ว่าถ้าจีนเกิดเลียนแบบ พฤติกรรมของสหภาพโซเวียต ซึ่งเราคาดว่า จีนอาจจะทำ เรายิ่งต้องมองไปถึงเรื่องการปิดล้อมจีนเสียด้วยซ้ำ (containment) อย่านึกว่า ถ้าเราคิดปิดล้อมจีน จะไม่มีชาติเอเซียไม่เอาด้วยนะ และบางคนถามว่า รายงานนี้จะทำให้เกิดผลที่มีความหมายอะไรไหม (meaningful result) สุดกร่างบอก อย่าไปคิดเล้ย เป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่จีนคิดอยากเป็นขั้วอำนาจในเอเซียแทนที่อเมริกาอย่างนี้ มันจะมีผลมีดอกอะไรกัน

    สุดกร่างชักเบื่อ ถามทำไม คำถามพวกนี้ สิ่งที่สำคัญคือ จีนจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับ Grand Strategy ของเรา อย่างไรมากกว่า … ใช่แล้ว อย่าว่าแต่เอ็งเลย ไอ้กร่าง ผมก็อยากรู้

    สุดกร่าง ยังกร่างไม่หยุด ผมต้องยอมมัน มันขอแถมท้ายว่า เรื่องทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดีโอบามานั่นแหละครับ ท่านโอ ท่านดำเนินนโยบายแบบเมตตาต่อจีน มาตลอด เพราะท่านโอ รวมทั้งรัฐบาลก่อนๆ วิเคราะห์จีนผิดหมด ไปมองว่าจีนคิดแต่ค้าขาย ไม่ได้เฉลียวฉลาดมองว่า ที่แท้จีนกำลังวัดรอยเท้าท่านอย่างใกล้ชิด กะจะใส่รองเท้าเบอร์เดียว แบบเดียวกะท่านเลย แล้วทีมงานของท่านโอ ก็ดีแต่คิดนโยบายที่จะร่วมมือกับจีน แทนที่จะคิดนโยบายขวางกั้น มาถึงตอนนี้ ก็ต้องวัดขนาดของหัวใจของท่านโอแล้วละครับว่า อเมริกาคิดจะเล่นการเมืองระดับโลกกับจีนแบบไหน มีความกล้าที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาขนาดไหน
    แม่จ้าวโว้ย ต้องยอมรับว่า สุดกร่างมันใหญ่จริง มันคือตัวจริงเสียงจริง ของไอ้นักล่าใบตองแห้งเลย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย

    #####
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร”

    ตอน 6 (จบ)
    (โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน)

    ลองไล่เรียงดูไทม์ไลน์ รายงาน Grand Strategy เขียนเสร็จ เมื่อปลายเดือนมีนาคม กลางเดือนเมษายน ปล่อยเอกสารออกมาให้อ่าน เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน Wall Sreet Journal ลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า นาย Ash Carter รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของนักล่าใบตองแห้ง แต่มาดออกไปทางเสมียน เตรียมเสนอให้กองทัพของอเมริกาใช้เรือรบ และเครื่องบินรบ ไปสำแดงแสนยานุภาพ ในแถบทะเลจีนที่มีข้อพิพาท เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือในแถบนั้น ข้อเสนอ ของพณท่านรัฐมนตรีมาดเสมียน เป็นไปตามข้อเสนอ 1 ใน 8 ข้อ ของ Grand Strategy

    แปลว่า อเมริกาน่าจะเห็นด้วย และเอาจริงกับแผนตาม Grand Strategy

    อเมริกาเอาจริงขนาดไหนล่ะ

    ตอนนี้ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากแล้วใช่ไหม ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่าไม่รู้จักอเมริกาจริง ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากมาตั้งแต่ต้น อาจจะตั้งแต่วันรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก มันถึงเล่นบทได้เนียน

    อเมริกา “พร้อมรบ ” จีนและพวก แน่นอนครับ เพียงแต่จะรบอย่างไร และเมื่อไหร่เท่านั้น

    อเมริกาจะไม่มีวันยอมเสียตำแหน่งมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกให้แก่จีนอย่างเด็ดขาด ความคิดของอเมริกาวันนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับความคิดของอังกฤษเมื่อ 100 ปีก่อน ที่อังกฤษกลัวเยอรมันโตแซงหน้า และขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกแทน แม้ตอนนั้นอังกฤษจะกระเป๋าแห้ง ซึ่งก็ไม่ต่างกับอเมริกาตอนนี้ ที่เศรษฐกิจก็กำลังถลาลง ถูกคู่แข่ง ไล่ตี ไล่ต้อนดอลล่าร์สาระพัดรูปแบบ
    Grand Strategy ไม่ได้เขียนให้นายโอบามาอ่าน Grand Strategy เขียนให้จีน พวกจีน และชาวโลกอย่างเราๆอ่าน ให้รู้ว่า อเมริกาคิดอย่างไรกับจีน และคิดจะจัดการอย่างไรกับจีน อเมริการังเกียจ อิจฉา ดูถูกจีน เหมือนกับอังกฤษมองเยอรมันและรัสเซียเมื่อ 100 ปีก่อนยังไง (และตอนนี้ก็ยังมองอย่างนั้นอยู่ ) ก็เช่นเดียวกันกับที่อเมริกามองจีนตอนนี้ และอีก 100 ปีข้างหน้า อเมริกา ก็คงไม่เปลี่ยนการมองจีน อเมริกามองจีนว่า ไม่เท่าเทียมกับอเมริกาเสียด้วยซ้ำ แล้วจะยอมให้จีนเป็นมังกรลอยละล่องอยู่บนฟ้า เหนือกว่าอินทรีย์ได้อย่างไร

    และอย่าลืมว่า Grand Strategy เขียนโดยถังขยะความคิด CFR ซึ่งเป็นผลผลิต ของกลุ่มผู้สร้างละครลวงโลก ต้มข้ามศตวรรษ

    นายโอบามา ก็ไม่ต่างกับประธานาธิบดีวิลสันของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1917 ที่เล่นบทเป็นผู้รักสันติภาพ ไม่พาประเทศเข้าสู่สงคราม ขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกา ก็พร้อมที่จะประกาศสงคราม

    สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้าย อเมริกาเป็นพระเอก ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซีย ออตโตมานเป็นเหยื่ออันดับ 1 ยุโรปเป็นเหยื่ออันดับ 2

    สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้ายอันดับ 1 ญี่ปุ่น(พร้อมใจรับบท) เป็นผู้ร้ายอันดับ 2 อเมริกาเป็นพระเอกตลอดกาล ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซียเป็นเหยื่อตลอดกาลอันดับ 1 ยุโรป เป็นเหยื่ออันดับ 2

    สงครามโลกครั้งที่ 3 !?! จะหน้าตาเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้นำ ใครจะเป็นผู้ร้าย ใครจะเป็นพระเอก ใครจะเป็นเหยื่อ

    อเมริกา “พร้อมรบ” กับจีน แต่อเมริกาจะรบกับจีนอย่างไร

    Major Christopher J McCarthy แห่งกองทัพอากาศ ได้เขียนบทความเรื่อง Anti-Acess/Area Denial : The Evolution of Modern Warfare ซึ่งระบุไว้ตอนหนึ่งว่า
    จีนวางยุทธศาสตร์ A2/AD ได้เข้าท่ามาก ด้วยการดักทางอเมริกา ตั้งแต่โอกินาวาถึงกวม จีนมีจรวดพิสัยใกล้ และกลาง สำหรับระงับการยกพลมาจากโอกินาวา และจากการศึกษาของฝ่ายอเมริกา ล่าสุดบอกว่า จรวดสกัดสำหรับระยะทางยาวถึงกวม ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจีนเช่นกัน แต่สำหรับอเมริกา ซึ่งถนัดในการใช้ยุทธศาสตร์ Air Sea Battle เคลื่อนกำลังทางเรือและโจมตีทางเครื่องบิน ถ้าอเมริกา ไม่สามารถใช้ฐานทัพที่โอกินาวา การเคลื่อนพลจากกวม ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่สุดของอเมริกาในแปซิฟิก เพื่อมาต่อสู้กับจีน ก็น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากกวมต้องได้รับกำลังสนับสนุนจากโอกินาวาด้วย แปลว่าระบบ A2/AD ในปัจจุบันของจีน น่าจะสามารถสะกัดการเคลื่อนพลของอเมริกามาสู่จีน ทางแปซิฟิกได้เรียบร้อยแล้ว

    ตัวช่วยที่อเมริกาเคยเลือกไว้ และแน่ใจว่าอยู่ในกระเป๋าอเมริกามาตลอดเวลา คือ ไทยแลนด์ นี่แหละ ที่อเมริกาจะใช้เป็นฐานส่งกำลังพล และกำลังบำรุง ที่อเมริกาจะเคลื่อนมาไม่ว่าจากด้านแปซิฟิก หรือจากด้านมหาสมุทรอินเดีย อเมริกาจึงต้องจับมืออินเดียไว้ให้แน่นเช่นกัน แต่วันนี้ สัมพันธ์ไทย-อเมริกาไม่เหมือนเดิม แผนอเมริกาที่จะใช้ไทย จะเหมือนเดิมหรือไม่ และถ้าใช้ไม่ได้อเมริกาจะ “จัดการ” กับไทยอย่างไร (ไทยจะอยู่ในสถานะลำบาก ยอมอเมริกา ก็เจอ A2/AD จากจีน ไม่ยอมอเมริกา ก็คงจะได้รับของขวัญบ่อยๆ)

    ถ้าเป็นเช่นนั้น อเมริกา จะ “พร้อมรบ” จีนได้อย่างไร ถ้าเคลื่อนพลมาจากแปซิฟิกไม่สำเร็จ

    อเมริกาก็คงใช้ยุทธศาสตร์ หรือน่าจะเรียกว่า อุบาย หรือนิสัยเดิมๆ คือ ไม่มีตอนไหนที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ ได้ดีกว่า ตอนที่คู่ต่อสู่น่วม ใกล้เละแล้ว

    ขนาดจะเคลื่อนพลไปชิดจีน อเมริกายังทำยากเลย แล้วจะทำให้จีนน่วมได้อย่างไร

    Grand Strategy บอกใบ้ไว้แล้ว อเมริกาคงพยายามทำให้เอเซียวุ่นวาย และฉิบหายในที่สุด เพื่อสร้างความปั่นป่วนต่อจีนจากด้านนอก จีนใหญ่เกินไปและเข้าไปข้างในจีนยาก แต่ไม่ได้หมายความว่า สร้างความปั่นป่วนจากข้างนอกไม่ได้ และแน่นอน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เวียตนาม คงจะรับบทนักป่วนแถวทะเลจีน ส่วนเด็กๆ ที่เหลือ ก็ป่วนมันรอบเอเซีย จากของขวัญวันเด็ก ที่อเมริกาจะทุ่มให้
    และจะต้องจับตา ออสเตรเลีย มาเลเซีย และทางทางภาคใต้ของเราเป็นพิเศษ ถ้าอเมริกาใช้เส้นทางแปซิฟิกไม่ได้ เส้นทางมหาสมุทรอินเดีย ก็เป็นทางเลือก และอเมริกาคงพยายามคุมช่องแคบมะละกา เพื่อใช้คุมเส้นทางเดินเรือของจีน และใช้เป็นเส้นทางของตนเอง แม้มาเลเซียจะไม่รักกับอเมริกานัก แต่มาเลเซียก็คงถูกนายท่านสั่งให้อยู่ในแถว และภาคใต้ของเราก็คงน่าเป็นห่วงตามไปด้วย ข่าวเรือรบของอเมริกาเคลื่อนตัวแถวแปซิฟิก ตั้งแต่เหนือลงใต้ ในทะเลจีน และทางมหาสมุทรอินเดีย จะเป็นข่าวที่เราจะได้ยินเกือบทุกวันจากนี้ไป และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่า อเมริกา “ยกระดับ” ความพร้อมรบกับจีนขึ้นอีก

    แต่ทั้งนี้ รายการป่วนเอเซียของอเมริกา จะออกหัว ออกก้อย ก็ขึ้นกับจีนและพวกว่า จีนจะใช้ยุทธศาสตร์ใดรับมือ ซึ่งมีทั้งยุทธศาสตร์ที่ระงับความร้อนแรง และยุทธศาสตร์ที่เร่งความร้อน จนกลายเป็นสงครามโลก เห็นได้จาก Grand Strategy ว่า อเมริกาพยายามยั่วยุจีน เพื่อให้ฝ่ายจีนเป็นผู้เริ่มออกอาการ ออกอาวุธ และอเมริกาจะได้เล่นบทพระเอก ไม่ต่างกับบทการเล่นสงครามของอเมริกา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

    การเตรียมรบของอเมริกา มิได้มีเพียงเท่านี้ นี่เป็นการโหมโรงเท่านั้น

    อเมริกาเชื่อว่า จีนไม่รบเดี่ยวแน่นอน จีนก็มีเพื่อน และเพื่อนจีนไม่ใช่ระดับลูกหาบ หรือเด็กถือกระเป๋า เพื่อนของจีนระดับรุ่นใหญ่พิษลึกอย่างรัสเซีย หรือระดับพิษร้ายอิหร่าน หรือรุ่นเล็กแต่พิษแรง ชนิดอเมริกาก็แหยงอย่างเกาหลีเหนือ และตุรกีที่เลิกเล่นไต่ลวดแล้ว น่าจะทำให้อเมริกาสะเทือนได้เมื่อมีความพร้อม ถ้าเพื่อนของจีนพร้อมจะยืนเรียงแถวไล่ไปเป็นเส้นยาว ตั้งแต่เอเซีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ทำให้อเมริกาก็ต้องคิดหนัก จะเลือกยุทธศาสตร์ไหนมาใช้

    อเมริกาอาจจะใช้แยกส่วน แยกซอย ใช้ยุทธศาสตร์ป่วน เล่นเกมยาว เช่นเดียวกันกับเอเซีย เป็นการซื้อเวลา และดูรูปมวยไปก่อน สำหรับรัสเซีย ก็ยกให้นาโต้กับประเทศที่อเมริกาบีบไข่ได้ ไปแหย่รัสเซียให้คุณพี่ปูเหนื่อ ยเหงื่อตก ทั้งที่หิมะยังขาวโพลน ตะวันออกกลางง่ายมาก ยุให้เจ้าของปั้มตีกันเอง อิหร่าน และตรุกี จะได้ไม่มีเวลาหันไปทางจีน ส่วนเกาหลีเหนือ อเมริกามอบแล้วให้เป็นภาระของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ระหว่างนี้ก็ใช้สีเทใส่ สร้างข่าวให้เป็นตัวร้ายไปเรื่อยๆ
    ถ้าอเมริกาเลือกยุทธศาสตร์ป่วน ก็เหนื่อยกันไปทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน ฝ่ายไหนออกอาการอึดไม่อยู่ การส่งเห็ดพิษให้กินก็คงเกิดขึ้น แล้วก็ฉิบหายกันเป็นแถบๆ

    แต่แผนทำให้จีนน่วมของอเมริกา คงไม่มีแค่การป่วน บอกแล้วว่าอเมริกาใกล้จะเป็นพระเจ้าอยู่แล้ว สั่งให้แผ่นดินไหว น้ำท่วม ทำได้หมด การทำให้จีนน่วมแบบนั้นแหละ คือ fundermental collapse อย่างแท้จริง จีนจะรับมือกับการรบนอกรูปแบบเช่นนี้ได้หรือไม่
    หรือไม่แน่ว่า จีนก็สั่งให้ภูเขาเคลื่อนที่ ไฟปะทุได้เหมือนกัน

    ถึงตอนนั้น บุญกุศลเท่านั้นกระมังที่จะคุ้มโลกและเราได้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร” ตอน 5 A2/AD หรือ anti access/area-denial เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ในป้องกันประเทศจาก การรุกราน หรือรุกล้ำของศัตรู หรือสิ่งไม่พึงปรารถนา โดยการกำหนดเขต หรือบริเวณหวงห้าม ที่ต้องได้รับอนุญาต และแสดงตนก่อนเข้าเขต มิฉะนั้น เจ้าของเขตหวงห้ามหรือบริเวณ สามารถระงับการผ่านเข้าเขตได้ ด้วยกำลังอาวุธ ที่มีทั้งแบบใช้เดี่ยว และใช้เป็นระบบหลายประเภทร่วมกัน เมื่อมีข่าวออกมาประมาณปี ค.ศ.2012 ว่า จีนคิดใช้ยุทธศาสตร์นี้ แทบไม่มีใครสนใจไม่มีใครให้ราคา โดยเฉพาะอเมริกา เพราะการจะใช้ระบบ A2/AD ให้ได้ผลจริงๆ ต้องมีระบบ(อาวุธ)ป้องกันการละเมิด การรุกราน ครบชุด ทั้งใต้ดิน บนดิน บนฟ้า และต้องมีระบบนี้จำนวนมากพอ ถึงจะป้องกันได้จริงจัง ซึ่งอเมริกาคิดว่า จีนไม่มีทางทำได้สำเร็จ ไม่ว่าด้านความสามารถในการคิดค้นระบบ ความสามารถทางทหาร และความสามารถในงบประมาณ เพราะอเมริกา ประกาศเสมอว่า งบประมาณด้านความมั่นคงของอเมริกานั้น ก้อนใหญ่กว่าจีนหลายเท่านัก ขนาดนั้นยังไม่แน่ว่า อเมริกาจะมีระบบนี้ใช้ได้ครบเครื่อง เมื่อตอนที่อเมริกาและนาโต้ ขนโขยงทั้งทหารจริงและทหารรับจ้าง ไปบดขยี้กัดดาฟี่ที่ลิเบีย ในปี ค.ศ. 2011 นั้น ยังไม่มีใครใช้ระบบ A2/AD อย่างน้อย แถวนั้นก็ยังไม่มีใครใช้ ทำให้การขนพลขยี้โดยเรือรบ และเรือดำน้ำ ผ่านเข้าไปในลิเบีย จากฝั่งทะเลด้านเหนือของอาฟริกา รอดพ้นจากการต้อนรับ ด้วยเครื่องบินรบหรือจรวด ซึ่งจะมีพร้อมในระบบป้องกันของ A2/AD แต่วันฤกษ์สะดวกของเพชรฆาตเช่นวันนั้น สำหรับอเมริกา อาจจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างนั้นอีกแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่ง่าย ถ้าอเมริกาคิดจะยกพลไปขยี้จีน เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติการกับกัดดาฟี่ ประมาณ 15 ปีมาแล้ว เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีคลินตัน ขวัญใจเด็กฝึกงาน สั่งให้เรือรบ USS Independence กับเรือรบ USS Nimitz ขนกำลังทหาร ไปที่ช่องแคบไต้หวัน จ่อตรงหน้าประตูบ้านอาเฮีย เพื่อขู่ไม่ให้จีนมายุ่งกับไต้หวัน เรื่องแบบนี้คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นอีก เพราะนับแต่วันที่จีนถูกอเมริกามาหยามถึงหน้าประตูบ้านเช่นนั้น จีนก็คร่ำเคร่ง ปรับปรุงระบบ A2/AD ของตนให้สมบูรณ์ขึ้นทุกวัน ข่าวว่า ขณะนี้ระบบ A2/AD ของจีน เมื่อใช้ร่วมกับระบบดาวเทียม ความแม่นยำในการสกัด สิ่งเล็ก สิ่งใหญ่ ที่จะเล็ดลอดผ่านเข้ามาในเขตแดนของจีน ไม่ว่าจะเป็นธิเบต ซินเจียง ช่องแคบไต้หวัน และบริเวณทะเลจีน ฯลฯ จีนบอกว่า “น่าจะใช้การได้นะ” ใช้ได้จริงหรือเปล่า และเชื่อได้แค่ไหน ผมคงตอบไม่ได้ แต่คนที่ดูเหมือนจะตอบได้ น่าจะเป็นไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ ที่เป็นคนประทับตรารับรองให้จีน ไม่งั้นคงไม่ออก ใบประกาศ ให้ไว้ในรายงาน Grand Strategy นั้นหรอก เรากลับไปดู Grand Strategy ของสุดกร่างกันอีกที เพื่อจะตรวจสอบ “อาการ” จริงของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อย่างน้อยเกือบ 3 ปีมาแล้ว ที่มีข่าวในปี 2012 ว่าจีนใช้ระบบ A2/AD และนับตั้งแต่นั้น ยังไม่มีข่าวออกมาว่า อเมริกาจัดการถล่มระบบนี้ของจีนได้ ในทางตรงกันข้าม กลับมีข่าวว่า รัสเซีย และ จีน ได้ทดสอบการสยบการเคลื่อนไหว เครื่องบินรบ และเรือรบของอเมริกา ในน่านน้ำ และน่านฟ้า เขตของจีนและบริเวณรัสเซียอยู่หลายครั้ง และทุกครั้ง ฝ่ายอเมริกาจะออกมาให้ข่าวว่า เป็นเรื่องการปล่อยโคมลอยเสมอ แต่คราวนี้ สุดกร่างรับรองให้จีนเอง ในรายงาน Grand Strategy เตรียมพร้อมทั้งตัวเอง และลูกหาบให้รับมือกับระบบ A2/AD ของอาเฮีย ! ตกลง Grand Strategy นี่มีเป้าหมายอะไรกันแน่ มัน Grand ตรงไหนนะ นอกจากหลอกด่าจีนและพวก จนหมดสีหมดไข่ไปแยะ อวดใหญ่คุยโว ว่ามีเด็กอยู่เต็มในกระเป๋า เดี๋ยวจะเอาของขวัญวันเด็ก แจกให้เด็กๆเอาไปเล่นกะอาเฮีย แต่ขณะเดียวกัน ก็บ่นว่ารัฐสภาต้องเพิ่มงบด้านความมั่นคงให้ อ้าว แล้วงี้จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อของขวัญแจกเด็ก สงสัยเด็กๆ มีหวังได้ของขวัญ ประเภทเขาตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถึงเอามาแจก มันดูเหมือนจะบรรยายความขัดกันเอง อเมริกาคิดอะไร จึงปล่อยให้ CFR ออกรายงานนี้ เนื้อความแบบนี้ มาในจังหวะช่วงเดือนกว่ามานี้ แถมในตอนสรุป สุดกร่างบอกว่า เชื่อว่าผู้อ่านรายงานนี้ คงมีปฏิกิริยาต่างๆกัน หลายคนคงบอกว่า รายงานนี้จะเป็นการยั่วยุจีน สุดกร่างบอก จีนคงมีปฏกิริยาแน่ แต่ถึงมี ก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรายงาน หรือเปลี่ยนใจอะไร เพราะยังไงเราก็ต้องทำรายงานแบบนี้ และแนะนำให้ดำเนินการตามที่เราเสนออยู่ดี บางคนว่า เรามองจีนในแง่ร้ายไปหรือเปล่า ไม่เลย เราแน่ใจว่า เรามองอย่างตรงไปตรงมาที่สุด จากพฤติกรรมของจีนเอง นี่เรายังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ว่าถ้าจีนเกิดเลียนแบบ พฤติกรรมของสหภาพโซเวียต ซึ่งเราคาดว่า จีนอาจจะทำ เรายิ่งต้องมองไปถึงเรื่องการปิดล้อมจีนเสียด้วยซ้ำ (containment) อย่านึกว่า ถ้าเราคิดปิดล้อมจีน จะไม่มีชาติเอเซียไม่เอาด้วยนะ และบางคนถามว่า รายงานนี้จะทำให้เกิดผลที่มีความหมายอะไรไหม (meaningful result) สุดกร่างบอก อย่าไปคิดเล้ย เป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่จีนคิดอยากเป็นขั้วอำนาจในเอเซียแทนที่อเมริกาอย่างนี้ มันจะมีผลมีดอกอะไรกัน สุดกร่างชักเบื่อ ถามทำไม คำถามพวกนี้ สิ่งที่สำคัญคือ จีนจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับ Grand Strategy ของเรา อย่างไรมากกว่า … ใช่แล้ว อย่าว่าแต่เอ็งเลย ไอ้กร่าง ผมก็อยากรู้ สุดกร่าง ยังกร่างไม่หยุด ผมต้องยอมมัน มันขอแถมท้ายว่า เรื่องทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดีโอบามานั่นแหละครับ ท่านโอ ท่านดำเนินนโยบายแบบเมตตาต่อจีน มาตลอด เพราะท่านโอ รวมทั้งรัฐบาลก่อนๆ วิเคราะห์จีนผิดหมด ไปมองว่าจีนคิดแต่ค้าขาย ไม่ได้เฉลียวฉลาดมองว่า ที่แท้จีนกำลังวัดรอยเท้าท่านอย่างใกล้ชิด กะจะใส่รองเท้าเบอร์เดียว แบบเดียวกะท่านเลย แล้วทีมงานของท่านโอ ก็ดีแต่คิดนโยบายที่จะร่วมมือกับจีน แทนที่จะคิดนโยบายขวางกั้น มาถึงตอนนี้ ก็ต้องวัดขนาดของหัวใจของท่านโอแล้วละครับว่า อเมริกาคิดจะเล่นการเมืองระดับโลกกับจีนแบบไหน มีความกล้าที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาขนาดไหน แม่จ้าวโว้ย ต้องยอมรับว่า สุดกร่างมันใหญ่จริง มันคือตัวจริงเสียงจริง ของไอ้นักล่าใบตองแห้งเลย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ##### นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร” ตอน 6 (จบ) (โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน) ลองไล่เรียงดูไทม์ไลน์ รายงาน Grand Strategy เขียนเสร็จ เมื่อปลายเดือนมีนาคม กลางเดือนเมษายน ปล่อยเอกสารออกมาให้อ่าน เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน Wall Sreet Journal ลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า นาย Ash Carter รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของนักล่าใบตองแห้ง แต่มาดออกไปทางเสมียน เตรียมเสนอให้กองทัพของอเมริกาใช้เรือรบ และเครื่องบินรบ ไปสำแดงแสนยานุภาพ ในแถบทะเลจีนที่มีข้อพิพาท เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือในแถบนั้น ข้อเสนอ ของพณท่านรัฐมนตรีมาดเสมียน เป็นไปตามข้อเสนอ 1 ใน 8 ข้อ ของ Grand Strategy แปลว่า อเมริกาน่าจะเห็นด้วย และเอาจริงกับแผนตาม Grand Strategy อเมริกาเอาจริงขนาดไหนล่ะ ตอนนี้ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากแล้วใช่ไหม ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่าไม่รู้จักอเมริกาจริง ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากมาตั้งแต่ต้น อาจจะตั้งแต่วันรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก มันถึงเล่นบทได้เนียน อเมริกา “พร้อมรบ ” จีนและพวก แน่นอนครับ เพียงแต่จะรบอย่างไร และเมื่อไหร่เท่านั้น อเมริกาจะไม่มีวันยอมเสียตำแหน่งมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกให้แก่จีนอย่างเด็ดขาด ความคิดของอเมริกาวันนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับความคิดของอังกฤษเมื่อ 100 ปีก่อน ที่อังกฤษกลัวเยอรมันโตแซงหน้า และขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกแทน แม้ตอนนั้นอังกฤษจะกระเป๋าแห้ง ซึ่งก็ไม่ต่างกับอเมริกาตอนนี้ ที่เศรษฐกิจก็กำลังถลาลง ถูกคู่แข่ง ไล่ตี ไล่ต้อนดอลล่าร์สาระพัดรูปแบบ Grand Strategy ไม่ได้เขียนให้นายโอบามาอ่าน Grand Strategy เขียนให้จีน พวกจีน และชาวโลกอย่างเราๆอ่าน ให้รู้ว่า อเมริกาคิดอย่างไรกับจีน และคิดจะจัดการอย่างไรกับจีน อเมริการังเกียจ อิจฉา ดูถูกจีน เหมือนกับอังกฤษมองเยอรมันและรัสเซียเมื่อ 100 ปีก่อนยังไง (และตอนนี้ก็ยังมองอย่างนั้นอยู่ ) ก็เช่นเดียวกันกับที่อเมริกามองจีนตอนนี้ และอีก 100 ปีข้างหน้า อเมริกา ก็คงไม่เปลี่ยนการมองจีน อเมริกามองจีนว่า ไม่เท่าเทียมกับอเมริกาเสียด้วยซ้ำ แล้วจะยอมให้จีนเป็นมังกรลอยละล่องอยู่บนฟ้า เหนือกว่าอินทรีย์ได้อย่างไร และอย่าลืมว่า Grand Strategy เขียนโดยถังขยะความคิด CFR ซึ่งเป็นผลผลิต ของกลุ่มผู้สร้างละครลวงโลก ต้มข้ามศตวรรษ นายโอบามา ก็ไม่ต่างกับประธานาธิบดีวิลสันของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1917 ที่เล่นบทเป็นผู้รักสันติภาพ ไม่พาประเทศเข้าสู่สงคราม ขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกา ก็พร้อมที่จะประกาศสงคราม สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้าย อเมริกาเป็นพระเอก ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซีย ออตโตมานเป็นเหยื่ออันดับ 1 ยุโรปเป็นเหยื่ออันดับ 2 สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้ายอันดับ 1 ญี่ปุ่น(พร้อมใจรับบท) เป็นผู้ร้ายอันดับ 2 อเมริกาเป็นพระเอกตลอดกาล ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซียเป็นเหยื่อตลอดกาลอันดับ 1 ยุโรป เป็นเหยื่ออันดับ 2 สงครามโลกครั้งที่ 3 !?! จะหน้าตาเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้นำ ใครจะเป็นผู้ร้าย ใครจะเป็นพระเอก ใครจะเป็นเหยื่อ อเมริกา “พร้อมรบ” กับจีน แต่อเมริกาจะรบกับจีนอย่างไร Major Christopher J McCarthy แห่งกองทัพอากาศ ได้เขียนบทความเรื่อง Anti-Acess/Area Denial : The Evolution of Modern Warfare ซึ่งระบุไว้ตอนหนึ่งว่า จีนวางยุทธศาสตร์ A2/AD ได้เข้าท่ามาก ด้วยการดักทางอเมริกา ตั้งแต่โอกินาวาถึงกวม จีนมีจรวดพิสัยใกล้ และกลาง สำหรับระงับการยกพลมาจากโอกินาวา และจากการศึกษาของฝ่ายอเมริกา ล่าสุดบอกว่า จรวดสกัดสำหรับระยะทางยาวถึงกวม ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจีนเช่นกัน แต่สำหรับอเมริกา ซึ่งถนัดในการใช้ยุทธศาสตร์ Air Sea Battle เคลื่อนกำลังทางเรือและโจมตีทางเครื่องบิน ถ้าอเมริกา ไม่สามารถใช้ฐานทัพที่โอกินาวา การเคลื่อนพลจากกวม ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่สุดของอเมริกาในแปซิฟิก เพื่อมาต่อสู้กับจีน ก็น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากกวมต้องได้รับกำลังสนับสนุนจากโอกินาวาด้วย แปลว่าระบบ A2/AD ในปัจจุบันของจีน น่าจะสามารถสะกัดการเคลื่อนพลของอเมริกามาสู่จีน ทางแปซิฟิกได้เรียบร้อยแล้ว ตัวช่วยที่อเมริกาเคยเลือกไว้ และแน่ใจว่าอยู่ในกระเป๋าอเมริกามาตลอดเวลา คือ ไทยแลนด์ นี่แหละ ที่อเมริกาจะใช้เป็นฐานส่งกำลังพล และกำลังบำรุง ที่อเมริกาจะเคลื่อนมาไม่ว่าจากด้านแปซิฟิก หรือจากด้านมหาสมุทรอินเดีย อเมริกาจึงต้องจับมืออินเดียไว้ให้แน่นเช่นกัน แต่วันนี้ สัมพันธ์ไทย-อเมริกาไม่เหมือนเดิม แผนอเมริกาที่จะใช้ไทย จะเหมือนเดิมหรือไม่ และถ้าใช้ไม่ได้อเมริกาจะ “จัดการ” กับไทยอย่างไร (ไทยจะอยู่ในสถานะลำบาก ยอมอเมริกา ก็เจอ A2/AD จากจีน ไม่ยอมอเมริกา ก็คงจะได้รับของขวัญบ่อยๆ) ถ้าเป็นเช่นนั้น อเมริกา จะ “พร้อมรบ” จีนได้อย่างไร ถ้าเคลื่อนพลมาจากแปซิฟิกไม่สำเร็จ อเมริกาก็คงใช้ยุทธศาสตร์ หรือน่าจะเรียกว่า อุบาย หรือนิสัยเดิมๆ คือ ไม่มีตอนไหนที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ ได้ดีกว่า ตอนที่คู่ต่อสู่น่วม ใกล้เละแล้ว ขนาดจะเคลื่อนพลไปชิดจีน อเมริกายังทำยากเลย แล้วจะทำให้จีนน่วมได้อย่างไร Grand Strategy บอกใบ้ไว้แล้ว อเมริกาคงพยายามทำให้เอเซียวุ่นวาย และฉิบหายในที่สุด เพื่อสร้างความปั่นป่วนต่อจีนจากด้านนอก จีนใหญ่เกินไปและเข้าไปข้างในจีนยาก แต่ไม่ได้หมายความว่า สร้างความปั่นป่วนจากข้างนอกไม่ได้ และแน่นอน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เวียตนาม คงจะรับบทนักป่วนแถวทะเลจีน ส่วนเด็กๆ ที่เหลือ ก็ป่วนมันรอบเอเซีย จากของขวัญวันเด็ก ที่อเมริกาจะทุ่มให้ และจะต้องจับตา ออสเตรเลีย มาเลเซีย และทางทางภาคใต้ของเราเป็นพิเศษ ถ้าอเมริกาใช้เส้นทางแปซิฟิกไม่ได้ เส้นทางมหาสมุทรอินเดีย ก็เป็นทางเลือก และอเมริกาคงพยายามคุมช่องแคบมะละกา เพื่อใช้คุมเส้นทางเดินเรือของจีน และใช้เป็นเส้นทางของตนเอง แม้มาเลเซียจะไม่รักกับอเมริกานัก แต่มาเลเซียก็คงถูกนายท่านสั่งให้อยู่ในแถว และภาคใต้ของเราก็คงน่าเป็นห่วงตามไปด้วย ข่าวเรือรบของอเมริกาเคลื่อนตัวแถวแปซิฟิก ตั้งแต่เหนือลงใต้ ในทะเลจีน และทางมหาสมุทรอินเดีย จะเป็นข่าวที่เราจะได้ยินเกือบทุกวันจากนี้ไป และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่า อเมริกา “ยกระดับ” ความพร้อมรบกับจีนขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ รายการป่วนเอเซียของอเมริกา จะออกหัว ออกก้อย ก็ขึ้นกับจีนและพวกว่า จีนจะใช้ยุทธศาสตร์ใดรับมือ ซึ่งมีทั้งยุทธศาสตร์ที่ระงับความร้อนแรง และยุทธศาสตร์ที่เร่งความร้อน จนกลายเป็นสงครามโลก เห็นได้จาก Grand Strategy ว่า อเมริกาพยายามยั่วยุจีน เพื่อให้ฝ่ายจีนเป็นผู้เริ่มออกอาการ ออกอาวุธ และอเมริกาจะได้เล่นบทพระเอก ไม่ต่างกับบทการเล่นสงครามของอเมริกา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 การเตรียมรบของอเมริกา มิได้มีเพียงเท่านี้ นี่เป็นการโหมโรงเท่านั้น อเมริกาเชื่อว่า จีนไม่รบเดี่ยวแน่นอน จีนก็มีเพื่อน และเพื่อนจีนไม่ใช่ระดับลูกหาบ หรือเด็กถือกระเป๋า เพื่อนของจีนระดับรุ่นใหญ่พิษลึกอย่างรัสเซีย หรือระดับพิษร้ายอิหร่าน หรือรุ่นเล็กแต่พิษแรง ชนิดอเมริกาก็แหยงอย่างเกาหลีเหนือ และตุรกีที่เลิกเล่นไต่ลวดแล้ว น่าจะทำให้อเมริกาสะเทือนได้เมื่อมีความพร้อม ถ้าเพื่อนของจีนพร้อมจะยืนเรียงแถวไล่ไปเป็นเส้นยาว ตั้งแต่เอเซีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ทำให้อเมริกาก็ต้องคิดหนัก จะเลือกยุทธศาสตร์ไหนมาใช้ อเมริกาอาจจะใช้แยกส่วน แยกซอย ใช้ยุทธศาสตร์ป่วน เล่นเกมยาว เช่นเดียวกันกับเอเซีย เป็นการซื้อเวลา และดูรูปมวยไปก่อน สำหรับรัสเซีย ก็ยกให้นาโต้กับประเทศที่อเมริกาบีบไข่ได้ ไปแหย่รัสเซียให้คุณพี่ปูเหนื่อ ยเหงื่อตก ทั้งที่หิมะยังขาวโพลน ตะวันออกกลางง่ายมาก ยุให้เจ้าของปั้มตีกันเอง อิหร่าน และตรุกี จะได้ไม่มีเวลาหันไปทางจีน ส่วนเกาหลีเหนือ อเมริกามอบแล้วให้เป็นภาระของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ระหว่างนี้ก็ใช้สีเทใส่ สร้างข่าวให้เป็นตัวร้ายไปเรื่อยๆ ถ้าอเมริกาเลือกยุทธศาสตร์ป่วน ก็เหนื่อยกันไปทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน ฝ่ายไหนออกอาการอึดไม่อยู่ การส่งเห็ดพิษให้กินก็คงเกิดขึ้น แล้วก็ฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่แผนทำให้จีนน่วมของอเมริกา คงไม่มีแค่การป่วน บอกแล้วว่าอเมริกาใกล้จะเป็นพระเจ้าอยู่แล้ว สั่งให้แผ่นดินไหว น้ำท่วม ทำได้หมด การทำให้จีนน่วมแบบนั้นแหละ คือ fundermental collapse อย่างแท้จริง จีนจะรับมือกับการรบนอกรูปแบบเช่นนี้ได้หรือไม่ หรือไม่แน่ว่า จีนก็สั่งให้ภูเขาเคลื่อนที่ ไฟปะทุได้เหมือนกัน ถึงตอนนั้น บุญกุศลเท่านั้นกระมังที่จะคุ้มโลกและเราได้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 1 – น้ำผึ้งหวานไม่พอ
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”

    ตอนที่ 1 “น้ำผึ้งหวานไม่พอ”

    ตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2013 ความสัมพันธ์หอมหวานระหว่างอเมริกา กับตุรกี ทำท่าจะออกขม ปนกลิ่นเปรี้ยว นสพ. New York Times วันที่ 23 ธันวาคม 2013 ถึงกับออกข่าวว่า นาย Ahmet Davutoglu รมว.ต่างประเทศของตุรกี พร้อมที่ขับไล่ฑูตอเมริกาประจำตุรกี ที่ชื่อ นาย Francis J. Ricciardone Jr. ออกจากตุรกี เนื่องจาก นาย Ricciardone จุ้นมากเกินไป

    (พฤติกรรมของพวกฑูตอเมริกัน นี่มันเหมือนกันหมดนะ หรือว่าเป็นคุณสมบัติบังคับ ของการเป็นฑูตอเมริกัน ที่จะต้องจุ้นจ้านในเรื่องภายในของประเทศ ที่ตัวเองไปประจำอยู่ ตอนนี้ความรู้สึกแต่ละประเทศต่อฑูตอเมริกันคงคล้ายกัน ต่างกันแค่การแสดงออก ตุรกีกล้าออกปากว่าพร้อมที่จะขับไล่แต่ไทยยังไม่พร้อมที่จะออกปาก ได้แต่แค่นึก…โดยประชาชน ฮา)

    ในช่วงนั้นสื่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ ต่างลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรีตุรกี นาย Recep Tayyip Erdogan กับพวก กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นตัวเลข เรียก 5 เรียก 10 เปิดกระเป๋าซ้าย ย้ายกระเป๋าขวา จนต้องมีการตั้งกระบวนการสอบสวนกัน ผลการสอบสวนยังไม่เสร็จ นาย Ricciardone ใจร้อนทนไม่ไหว ขอนัดพบนายกรัฐมนตรีตุรกี อยากรู้เรื่องก่อนสื่อออกข่าว

    ตุรกีบอกแบบนี้เขาเรียกว่า จุ้น เข้าใจไหม (อันที่จริงเขาใช้คำแรงกว่านี้ครับ) มันเรื่องภายในบ้านฉัน ขืนจุ้นจ้านแบบนี้มาก ๆ โน่น เก็บของกลับบ้านไปได้เลย

    อเมริกานึกไม่ถึงว่าตุรกีจะกล้าหือ ยังตั้งตัวไม่ติด เลยอือๆ ตกลงยกเลิกนัดไปก่อน สื่อลงข่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วคร้าบ เพราะถ้าไปพบกัน มันคงไม่ใช่การเจราจาหารือ แต่น่าจะเป็นการตะลุมบอนกันมากกว่า เพราะความร้อนของถ้อยคำที่โต้ตอบกันผ่านสื่อ มันเริ่มร้อนและเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ

    เพิ่งจะดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ฝันหวานด้วยกันเมื่อ 2 ปีนี้เอง ประธานาธิบดี Obama กับนายกรัฐมนตรี Erdogan นั่งจับมือคุยกันกระหนุงกระหนิง เกี่ยวกับเรื่อง ความวุ่นวายในอียิปต์ ลิเบีย และซีเรีย ถึงขนาดข่าวออกมาว่า เป็นการพูดคุย ชนิดดอกไม้หล่นกระจายเต็มพื้นห้อง ประธานาธิบดีอเมริกาไม่เคยพูดหวานเชื่อมแบบนี้ กับผู้นำคนไหนมาก่อนเลยนะ ยกเว้นกับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นาย David Cameron ผู้เปรียบเสมือนตัวแทน ของนายเหนือหัวของอเมริกา (ส่วนไอ้ที่ส่งสายตาเยิ้มใส่กันน่ะ มันเรื่องอื่นนะครับ อย่าเอาไปปนกัน)
    จิ้งจกข้างฝาแอบได้ยิน นาย Erdogan กระซิบกับลูกน้องคนสนิทเอ็ง รีบไปหาเชือกมาผูกตัวนายให้ติดกับเก้าอี้ไว้หน่อยนะ รู้สึกตัวมันกำลังจะลอยว่ะ …มันเป็นความภูมิใจอย่างสุดซึ้งของตุรกี สื่อตุรกีต่างบอกว่า เรากำลังเข้าไปสู่วงในของเวทีโลกแล้ว หลังจากยืนกุมอยู่ข้างหลังนายท่านมานาน 60 ปี ไชโย !

    นาย Soner Cagaptay ผู้อำนวยการของ Turkish Research Program ที่ Washington Institute for Near East Policy บอกว่ามันเป็นระยะเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ยาว ตั้งแต่ ค.ศ. 2010 ถึงฤดูร้อนในปี 2013 เลยนะ เป็นความต้องใจในอัธยาศัย ซึ่งกันและกันระดับส่วนตัวของนาย Obama กับนาย Erdogan อืม เหมือนเขียนนิยายรัก ฉบับละสองสลึง มากกว่าจะเขียนนิทานการเมืองร้อนระอุ

    ถึงน้ำผึ้งจะยังดูเหมือนหวาน แต่ใบบัวใหญ่ยังไงก็ปิดไม่มิด ความจริงน่ะ สัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ เริ่มมีหัวฝีโผล่มาแล้วหลายปี แต่มันเพิ่งมาแตกหนอง เอาเมื่อมีเรื่องการสอบสวนการโกง ของพวกนายกรัฐมนตรีตุรกีนั่นแหละ ที่ทำให้อเมริกาหงุดหงิด แต่ตุรกีน่าจะหงุดหงิดกว่า

    อเมริกาออกมาไล่เรียงบ่น ดูเรื่องอียิปต์ซิ ตุรกี ออกหน้าสนับสนุนประธานาธิบดี Morsi ที่ถูกไล่ออกไป แต่อเมริกาอยากสานสัมพันธ์กับพวกที่ไล่ประธานาธิบดีมากกว่า

    เรื่องซีเรียล่ะ ตุรกีออกหน้าออกตา ขนทั้งอาวุธ ขนทั้งคน ให้กบฎซีเรีย แล้วมาหาว่าอเมริกาผลักให้ออกหน้า แต่ตัวเองถอยหลัง พูดอย่างนี้ได้ยังไง เดี๋ยวชาวบ้านเขาเชื่อหมด

    เรื่องอิรัคล่ะ อเมริกาหวังจะให้ตุรกี เดินหน้าจับมือกับพวก Kurd ทางเหนือเซ็นสัญญาเรื่องน้ำมัน โดยไม่ต้องให้รัฐบาลที่ Bagdad มายุ่ง แล้วเดินหน้าเรื่องนโยบายที่จะทำให้ประเทศอิรัคแตกแยกต่อไป ! แล้วมันไปถึงไหน?

    เรื่องในบ้านของตุรกียิ่งเหม็นใหญ่ ตอนนี้มีการประท้วงที่ Gezi Park ในอิสตันบูล เพื่อขับไล่รัฐบาล หาว่ารัฐบาลกับพวกโกงกินกันแบบ ปากมันเยิ้ม ข่าวบอกว่าผู้อำนวยการ Halk Bank ตัวดี เป็นพวกนายกรัฐมนตรี รับสินบนก้อนใหญ่จากใคร ข่าวไม่บอก แต่ Halk Bank นี้ อเมริกาสงสัยมานานแล้ว ว่าเป็นตัวการ แอบลักลอบซ่วยอิหร่าน ทำการแทนของรัฐบาลตุรกี เวลาตุรกีซื้อแก๊สจากอิหร่านจ่ายเป็นเงิน (ตรา) ไม่ได้ เพราะถูกอเมริกาคว่ำบาตร เลยเลี่ยงจากเป็นทองแทน
    แต่ที่แย่ที่สุด คือเรื่องเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ตุรกี ทำให้พรรคพวกแถว NATO เกิดอารมณ์บูดแบบเน่าสนิท ด้วยการออกข่าว ว่าจะเซ็นสัญญากับบริษัทจีน อย่างไม่เห็นแก่หน้าอันใหญ่โตของอเมริกาและ NATO เลย เป็นสัญญาเกี่ยวกับการสร้างเรื่องการป้องกันภัย ตุรกีมีทั้งอเมริกา ทั้ง NATO อยู่ในบ้านเต็มไปหมด แล้วจะไปเอาจีนมาทำอะไรอีก ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มสองรูหูว่าอเมริการู้สึกกับอาเฮียอย่างไร แถมกำลังคว่ำบาตรอาเฮีย เนื่องจากไปค้าขายกับอิหร่าน เกาเหลีเหนือและซีเรีย กลุ่มที่อเมริกากากะบาดหน้าปิดข้างฝาไว้ทั้งนั้น

    สส.อเมริกา 47 คน (ถูกสั่งให้) เข้าชื่อทำหนังสือ ขอให้รัฐบาลอเมริกันดำเนินการตรวจสอบ เรื่องการจ่ายค่าแก๊ส ค่าน้ำมันกันเป็นทองของตุรกีกับอิหร่าน ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโคมลอย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกานะ

    ฝ่ายรัฐบาลตุรกีออกข่าวบอกว่า เรื่อง Halk Bank เป็นการปล่อยข่าวป้ายสีของ นาย Fethullah Gulen นักสอนศาสนามุสลิมที่กำลังดังมาก เคยเป็นสหายร่วมก๊วน มากับนายกรัฐมนตรี Erdogan แต่ตอนนี้แปลงสภาพจากสหาย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งแทน นาย Gulen อพยพตัวเอง ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Pennsylvania ในอเมริกาตั้งนานแล้ว แต่มือยังยาว เข้ามายุ่มย่ามในตุรกี (สงสัยใช้ สไกป์ อินสตราแกม และเฟสบุ๊ค เหมือนกัน ฮา) เข้ามาควบคุมการทำงาน ของตำรวจและฝ่ายยุติธรรม ซึ่งเป็นพวกสาวกของ นาย Gulen .ให้ทำการตรวจสอบพวกนายกรัฐมนตรี (อ่านดีๆ นะครับ คสช ผมเขียนเรื่อง ตุรกี ครับ)

    ทั้งนายเรื่อง นาย Fethullah Gulen และ เรื่องการประท้วงที่ Gezi Park นายกรัฐมนตรี Erdogan บอกว่าอเมริกามีส่วนเกี่ยวข้อง อเมริกาฉุนขาด บอกตุรกีพูดเหมือนคนลืมตัว แบบนี้ระวังจะไม่มีหัวเหลืออยู่บนบ่า

    นาย Steven A Cook จาก Council on Foreign Relations (CFR) รีบออกมาช่วยใส่สี บอกว่าทั้งหมดนี้ กระทบความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกา กับตุรกีแน่นอน มันเหมือนเป็นการบอกใบ้ของอเมริกาว่า นาย Erdogan อาจไม่ใช่หุ้นส่วน ที่อเมริกาจะให้ความไว้วางใจต่อไปอีกแล้ว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 กค. 2557
    ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 1 – น้ำผึ้งหวานไม่พอ นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 1 “น้ำผึ้งหวานไม่พอ” ตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2013 ความสัมพันธ์หอมหวานระหว่างอเมริกา กับตุรกี ทำท่าจะออกขม ปนกลิ่นเปรี้ยว นสพ. New York Times วันที่ 23 ธันวาคม 2013 ถึงกับออกข่าวว่า นาย Ahmet Davutoglu รมว.ต่างประเทศของตุรกี พร้อมที่ขับไล่ฑูตอเมริกาประจำตุรกี ที่ชื่อ นาย Francis J. Ricciardone Jr. ออกจากตุรกี เนื่องจาก นาย Ricciardone จุ้นมากเกินไป (พฤติกรรมของพวกฑูตอเมริกัน นี่มันเหมือนกันหมดนะ หรือว่าเป็นคุณสมบัติบังคับ ของการเป็นฑูตอเมริกัน ที่จะต้องจุ้นจ้านในเรื่องภายในของประเทศ ที่ตัวเองไปประจำอยู่ ตอนนี้ความรู้สึกแต่ละประเทศต่อฑูตอเมริกันคงคล้ายกัน ต่างกันแค่การแสดงออก ตุรกีกล้าออกปากว่าพร้อมที่จะขับไล่แต่ไทยยังไม่พร้อมที่จะออกปาก ได้แต่แค่นึก…โดยประชาชน ฮา) ในช่วงนั้นสื่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ ต่างลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรีตุรกี นาย Recep Tayyip Erdogan กับพวก กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นตัวเลข เรียก 5 เรียก 10 เปิดกระเป๋าซ้าย ย้ายกระเป๋าขวา จนต้องมีการตั้งกระบวนการสอบสวนกัน ผลการสอบสวนยังไม่เสร็จ นาย Ricciardone ใจร้อนทนไม่ไหว ขอนัดพบนายกรัฐมนตรีตุรกี อยากรู้เรื่องก่อนสื่อออกข่าว ตุรกีบอกแบบนี้เขาเรียกว่า จุ้น เข้าใจไหม (อันที่จริงเขาใช้คำแรงกว่านี้ครับ) มันเรื่องภายในบ้านฉัน ขืนจุ้นจ้านแบบนี้มาก ๆ โน่น เก็บของกลับบ้านไปได้เลย อเมริกานึกไม่ถึงว่าตุรกีจะกล้าหือ ยังตั้งตัวไม่ติด เลยอือๆ ตกลงยกเลิกนัดไปก่อน สื่อลงข่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วคร้าบ เพราะถ้าไปพบกัน มันคงไม่ใช่การเจราจาหารือ แต่น่าจะเป็นการตะลุมบอนกันมากกว่า เพราะความร้อนของถ้อยคำที่โต้ตอบกันผ่านสื่อ มันเริ่มร้อนและเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ เพิ่งจะดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ฝันหวานด้วยกันเมื่อ 2 ปีนี้เอง ประธานาธิบดี Obama กับนายกรัฐมนตรี Erdogan นั่งจับมือคุยกันกระหนุงกระหนิง เกี่ยวกับเรื่อง ความวุ่นวายในอียิปต์ ลิเบีย และซีเรีย ถึงขนาดข่าวออกมาว่า เป็นการพูดคุย ชนิดดอกไม้หล่นกระจายเต็มพื้นห้อง ประธานาธิบดีอเมริกาไม่เคยพูดหวานเชื่อมแบบนี้ กับผู้นำคนไหนมาก่อนเลยนะ ยกเว้นกับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นาย David Cameron ผู้เปรียบเสมือนตัวแทน ของนายเหนือหัวของอเมริกา (ส่วนไอ้ที่ส่งสายตาเยิ้มใส่กันน่ะ มันเรื่องอื่นนะครับ อย่าเอาไปปนกัน) จิ้งจกข้างฝาแอบได้ยิน นาย Erdogan กระซิบกับลูกน้องคนสนิทเอ็ง รีบไปหาเชือกมาผูกตัวนายให้ติดกับเก้าอี้ไว้หน่อยนะ รู้สึกตัวมันกำลังจะลอยว่ะ …มันเป็นความภูมิใจอย่างสุดซึ้งของตุรกี สื่อตุรกีต่างบอกว่า เรากำลังเข้าไปสู่วงในของเวทีโลกแล้ว หลังจากยืนกุมอยู่ข้างหลังนายท่านมานาน 60 ปี ไชโย ! นาย Soner Cagaptay ผู้อำนวยการของ Turkish Research Program ที่ Washington Institute for Near East Policy บอกว่ามันเป็นระยะเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ยาว ตั้งแต่ ค.ศ. 2010 ถึงฤดูร้อนในปี 2013 เลยนะ เป็นความต้องใจในอัธยาศัย ซึ่งกันและกันระดับส่วนตัวของนาย Obama กับนาย Erdogan อืม เหมือนเขียนนิยายรัก ฉบับละสองสลึง มากกว่าจะเขียนนิทานการเมืองร้อนระอุ ถึงน้ำผึ้งจะยังดูเหมือนหวาน แต่ใบบัวใหญ่ยังไงก็ปิดไม่มิด ความจริงน่ะ สัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ เริ่มมีหัวฝีโผล่มาแล้วหลายปี แต่มันเพิ่งมาแตกหนอง เอาเมื่อมีเรื่องการสอบสวนการโกง ของพวกนายกรัฐมนตรีตุรกีนั่นแหละ ที่ทำให้อเมริกาหงุดหงิด แต่ตุรกีน่าจะหงุดหงิดกว่า อเมริกาออกมาไล่เรียงบ่น ดูเรื่องอียิปต์ซิ ตุรกี ออกหน้าสนับสนุนประธานาธิบดี Morsi ที่ถูกไล่ออกไป แต่อเมริกาอยากสานสัมพันธ์กับพวกที่ไล่ประธานาธิบดีมากกว่า เรื่องซีเรียล่ะ ตุรกีออกหน้าออกตา ขนทั้งอาวุธ ขนทั้งคน ให้กบฎซีเรีย แล้วมาหาว่าอเมริกาผลักให้ออกหน้า แต่ตัวเองถอยหลัง พูดอย่างนี้ได้ยังไง เดี๋ยวชาวบ้านเขาเชื่อหมด เรื่องอิรัคล่ะ อเมริกาหวังจะให้ตุรกี เดินหน้าจับมือกับพวก Kurd ทางเหนือเซ็นสัญญาเรื่องน้ำมัน โดยไม่ต้องให้รัฐบาลที่ Bagdad มายุ่ง แล้วเดินหน้าเรื่องนโยบายที่จะทำให้ประเทศอิรัคแตกแยกต่อไป ! แล้วมันไปถึงไหน? เรื่องในบ้านของตุรกียิ่งเหม็นใหญ่ ตอนนี้มีการประท้วงที่ Gezi Park ในอิสตันบูล เพื่อขับไล่รัฐบาล หาว่ารัฐบาลกับพวกโกงกินกันแบบ ปากมันเยิ้ม ข่าวบอกว่าผู้อำนวยการ Halk Bank ตัวดี เป็นพวกนายกรัฐมนตรี รับสินบนก้อนใหญ่จากใคร ข่าวไม่บอก แต่ Halk Bank นี้ อเมริกาสงสัยมานานแล้ว ว่าเป็นตัวการ แอบลักลอบซ่วยอิหร่าน ทำการแทนของรัฐบาลตุรกี เวลาตุรกีซื้อแก๊สจากอิหร่านจ่ายเป็นเงิน (ตรา) ไม่ได้ เพราะถูกอเมริกาคว่ำบาตร เลยเลี่ยงจากเป็นทองแทน แต่ที่แย่ที่สุด คือเรื่องเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ตุรกี ทำให้พรรคพวกแถว NATO เกิดอารมณ์บูดแบบเน่าสนิท ด้วยการออกข่าว ว่าจะเซ็นสัญญากับบริษัทจีน อย่างไม่เห็นแก่หน้าอันใหญ่โตของอเมริกาและ NATO เลย เป็นสัญญาเกี่ยวกับการสร้างเรื่องการป้องกันภัย ตุรกีมีทั้งอเมริกา ทั้ง NATO อยู่ในบ้านเต็มไปหมด แล้วจะไปเอาจีนมาทำอะไรอีก ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มสองรูหูว่าอเมริการู้สึกกับอาเฮียอย่างไร แถมกำลังคว่ำบาตรอาเฮีย เนื่องจากไปค้าขายกับอิหร่าน เกาเหลีเหนือและซีเรีย กลุ่มที่อเมริกากากะบาดหน้าปิดข้างฝาไว้ทั้งนั้น สส.อเมริกา 47 คน (ถูกสั่งให้) เข้าชื่อทำหนังสือ ขอให้รัฐบาลอเมริกันดำเนินการตรวจสอบ เรื่องการจ่ายค่าแก๊ส ค่าน้ำมันกันเป็นทองของตุรกีกับอิหร่าน ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโคมลอย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกานะ ฝ่ายรัฐบาลตุรกีออกข่าวบอกว่า เรื่อง Halk Bank เป็นการปล่อยข่าวป้ายสีของ นาย Fethullah Gulen นักสอนศาสนามุสลิมที่กำลังดังมาก เคยเป็นสหายร่วมก๊วน มากับนายกรัฐมนตรี Erdogan แต่ตอนนี้แปลงสภาพจากสหาย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งแทน นาย Gulen อพยพตัวเอง ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Pennsylvania ในอเมริกาตั้งนานแล้ว แต่มือยังยาว เข้ามายุ่มย่ามในตุรกี (สงสัยใช้ สไกป์ อินสตราแกม และเฟสบุ๊ค เหมือนกัน ฮา) เข้ามาควบคุมการทำงาน ของตำรวจและฝ่ายยุติธรรม ซึ่งเป็นพวกสาวกของ นาย Gulen .ให้ทำการตรวจสอบพวกนายกรัฐมนตรี (อ่านดีๆ นะครับ คสช ผมเขียนเรื่อง ตุรกี ครับ) ทั้งนายเรื่อง นาย Fethullah Gulen และ เรื่องการประท้วงที่ Gezi Park นายกรัฐมนตรี Erdogan บอกว่าอเมริกามีส่วนเกี่ยวข้อง อเมริกาฉุนขาด บอกตุรกีพูดเหมือนคนลืมตัว แบบนี้ระวังจะไม่มีหัวเหลืออยู่บนบ่า นาย Steven A Cook จาก Council on Foreign Relations (CFR) รีบออกมาช่วยใส่สี บอกว่าทั้งหมดนี้ กระทบความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกา กับตุรกีแน่นอน มันเหมือนเป็นการบอกใบ้ของอเมริกาว่า นาย Erdogan อาจไม่ใช่หุ้นส่วน ที่อเมริกาจะให้ความไว้วางใจต่อไปอีกแล้ว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 573 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน3 ประชาชนก็ได้แต่ฝากความหวัง ไว้กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ เราเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีสิทธิ มีเสียง ในการบริหารบ้านเมือง ตั้งแต่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2475ปี พ.ศ.2475 เมื่อคณะราษฎร์ ทำการปฏิวัติฯ พระยาพหลพลพยุหเสนา ประกาศที่ลานพระรูปว่า ต่อ ไปนี้ประเทศเราจะเป็นประชาธิปไตย ปกครองโดยรัฐธรรมนูญ …ชาวบ้านที่มาชุมนุมที่ลานพระรูป ได้ยินพระยาพหลฯประกาศดังนั้น ก็พากันมึน หันมามองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วถามว่า รัฐธรรมนูญเป็นใคร ลูกคนโตของพระยาพหลฯ เหรอ…ฮาจริงๆแต่คิดดีๆ แล้วขำไม่ออกนะครับ ต่างอะไรกับที่หุ่นยนตร์ฝังชิพรุ่นทุนนิยมสมัยนี้ ที่ร้องเรียกหาประชา ธิปไตย ไม่รู้ว่าถูกนักการเมืองทั้งไทยและฝรั่ง หลอกต้มอยู่อาหรับสปริง ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ ซีเรีย ตุรกีรวมถึงอิรัก อัฟกานิสถาน ได้อะไรจากการเรียกร้องประชาธิปไตย ตามการกำกับของนักล่าทรัพยากรบ้างจนบัดนี้อียิปต์ยังประท้วงกันไม่เสร็จ จากประเทศที่เคยอยู่ได้ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยว ตอนนี้อาจต้องแถมเงินให้ไปเที่ยวแทนอิหร่าน อิรัก คูเวต ลิเบีย ซีเรีย อุดมไปด้วยน้ำมัน ถ้าเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง หรือเลี้ยงแต่อูฐ ปลูกแครอต เหล่านักล่าทรัพยากรจะเข้าไปยุ่งไหมอย่าลืมอาฟริกาที่อุดมด้วยเพชร ทอง แร่ธาตุสารพัด เหล่านักล่าทรัพยากร ก็เข้าไปต้มเขามาตั้งแต่ร้อยปีก่อน หลอกให้เขาให้สัมปทานราคาถูกๆ นักการเมืองก็แบมือรับหัวคิวที่เขาเขี่ยๆ ให้ เดี๋ยวนี้ประเทศเหล่านั้นก็ยังมีพลเมืองอดอยากมากมาย แต่นักล่าทรัพยากรก็กระเป๋าตุ่ย เดินเบ่งกล้ามกันเป็นแถวเราไม่เคยเรียนรู้กันเลยหรือ เขาต้มเรามาตลอด หลอกตั้งแต่เข้ามาทำการสำรวจ ทำแผนพัฒนา ผ่านไปเกือบ 60 ปี ไทยแลนด์ก็เปลี่ยนจากคนรวย ก็เป็นคน “เคย” รวยดินแดนสุวรรณภูมิ คนโบราณท่านไม่ได้เรียกกันอย่างเลื่อนลอย ความเป็นจริงเรายังมีทรัพยากรซ่อนอยู่ พวกนักล่ามันก็รู้ ดาวเทียมของเขา ไม่ได้ใช้ลอยเล่นแบบโคมลอยวันลอยกระทงนี่ มันส่องมันถ่ายดูเราจนทะลุปรุโปร่งหมดเกลี้ยงแล้วเวลาอาบน้ำระวังหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวโป๊ (ฮา)ทุกวันนี้ นักล่าโผล่หัวเข้ามาขุดน้ำมันในบ้านเรากี่ราย ราคาน้ำมันบ้านเราแพงกว่าเพื่อนบ้านเท่าไหร่ เคยสน ใจกันไหม หรือมัวแต่ดูละครน้ำเน่าทรัพย์ในดิน สินในน้ำ ไม่ใช่คำคนโบราณพูดเล่น คนรุ่นปัจจุบันต่างหาก เอาแต่เดินเล่นในห้าง ดูหนังดูละครไปวันๆ ไม่เคยสนใจอะไรเกินกว่าที่เห็นในกระจกส่องหน้า กับโทรศัพท์ มือถือรุ่นวิเศษ ที่ทำได้ทุกอย่าง แม้ กระทั่งจารกรรมประเทศตัวเองเดี๋ยวนี้ที่ดินของเรา ผืนแผ่นดินไทยตกอยู่ในมือต่างชาติ โดยตรงและโดยอ้อมเป็นจำนวนหนึ่งในสามของที่ดินทั้งหมดแล้วนะ แม้จะมีกฎหมายห้าม แต่ก็มีอีนอ นอมินี ถือแทนให้ …พวกอีนอทั้งหลายนี่แหละ ตัวดีขายชาติ อีกหน่อยพวกเราชาวไทยทั้งหลาย ไม่แคล้วต้องอาศัยอยู่ในที่ดิน ที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของ แต่เป็นผืนแผ่นดินที่อยู่ในแผนที่ประเทศไทย เข้าใจไหม.. เริ่มตื่นเต้นกันบ้างหรือยังยังไม่ตื่นเต้นเหรอ เอ้า ถ้างั้นปลุกต่อมเฉื่อยต่อไม่ใช่แค่ที่อาศัยอยู่นะ ถ้าที่ดินเหล่านั้น เป็นไร่ เป็นนา แหล่งน้ำ ปศุสัตว์ที่เราเคยอาศัยอยู่ อาศัยใช้ อาศัยกิน ระหว่างคนไทยด้วยกัน ต่อนี้ไป เราก็อาจต้องซื้อจากเขา… เขาไหน…ก็เขาต่างชาติที่เป็นเจ้า ของกิจการในบ้านของเราไง แล้วแต่เขาจะกำหนดกฎเกณฑ์ต่อไปคนไทยอาจต้องยืนเข้าคิวซื้อข้าวจากต่างชาติ ในประเทศของเราก็ได้ สงสัยตอนนั้นยังจะเป็นประเทศไทยของเราอยู่หรือเปล่านะเอ๊ะ แล้วนักการเมืองหายหัวไปไหนหมด เราเลือกเขามาตามประชาธิปไตยนะ เขาต้องดูแลให้เราสิจ้ะถูกต้องแล้วคร้าบ เขาว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เราเลือกเขาเข้ามาทำหน้าที่ในสภา ตอนนี้พวกเขากำลังยุ่งกันอยู่ เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญ (ลูกคนโตของพระยาพหลฯ)แล้วที่เขาจะแก้ จะแก้กันน่ะ มันเป็นประโยชน์กับปากท้อง ที่ทำกิน ฯลฯ ของพวกเราบ้างไหมนะ สงสัยต้องไปถามหาจากลูกพระยาพหลฯ !!!!(ขออำไพครับ วันนี้ไม่ได้พูดเรื่องนิรโทษกรรม เพราะเล่านิทานเรื่องจิ๊กโก๋๋ปากซอย มันยังไม่เกี่ยวกันโดย ตรง แต่ใช่ว่า ไม่เกี่ยวกัน ติดตามอ่านไปก่อนนะครับ เดี๋ยวก็รู้เองว่า เกี่ยวกันอย่างไร)คนเล่านิทาน
    ตอน3 ประชาชนก็ได้แต่ฝากความหวัง ไว้กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ เราเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีสิทธิ มีเสียง ในการบริหารบ้านเมือง ตั้งแต่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2475ปี พ.ศ.2475 เมื่อคณะราษฎร์ ทำการปฏิวัติฯ พระยาพหลพลพยุหเสนา ประกาศที่ลานพระรูปว่า ต่อ ไปนี้ประเทศเราจะเป็นประชาธิปไตย ปกครองโดยรัฐธรรมนูญ …ชาวบ้านที่มาชุมนุมที่ลานพระรูป ได้ยินพระยาพหลฯประกาศดังนั้น ก็พากันมึน หันมามองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วถามว่า รัฐธรรมนูญเป็นใคร ลูกคนโตของพระยาพหลฯ เหรอ…ฮาจริงๆแต่คิดดีๆ แล้วขำไม่ออกนะครับ ต่างอะไรกับที่หุ่นยนตร์ฝังชิพรุ่นทุนนิยมสมัยนี้ ที่ร้องเรียกหาประชา ธิปไตย ไม่รู้ว่าถูกนักการเมืองทั้งไทยและฝรั่ง หลอกต้มอยู่อาหรับสปริง ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ ซีเรีย ตุรกีรวมถึงอิรัก อัฟกานิสถาน ได้อะไรจากการเรียกร้องประชาธิปไตย ตามการกำกับของนักล่าทรัพยากรบ้างจนบัดนี้อียิปต์ยังประท้วงกันไม่เสร็จ จากประเทศที่เคยอยู่ได้ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยว ตอนนี้อาจต้องแถมเงินให้ไปเที่ยวแทนอิหร่าน อิรัก คูเวต ลิเบีย ซีเรีย อุดมไปด้วยน้ำมัน ถ้าเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง หรือเลี้ยงแต่อูฐ ปลูกแครอต เหล่านักล่าทรัพยากรจะเข้าไปยุ่งไหมอย่าลืมอาฟริกาที่อุดมด้วยเพชร ทอง แร่ธาตุสารพัด เหล่านักล่าทรัพยากร ก็เข้าไปต้มเขามาตั้งแต่ร้อยปีก่อน หลอกให้เขาให้สัมปทานราคาถูกๆ นักการเมืองก็แบมือรับหัวคิวที่เขาเขี่ยๆ ให้ เดี๋ยวนี้ประเทศเหล่านั้นก็ยังมีพลเมืองอดอยากมากมาย แต่นักล่าทรัพยากรก็กระเป๋าตุ่ย เดินเบ่งกล้ามกันเป็นแถวเราไม่เคยเรียนรู้กันเลยหรือ เขาต้มเรามาตลอด หลอกตั้งแต่เข้ามาทำการสำรวจ ทำแผนพัฒนา ผ่านไปเกือบ 60 ปี ไทยแลนด์ก็เปลี่ยนจากคนรวย ก็เป็นคน “เคย” รวยดินแดนสุวรรณภูมิ คนโบราณท่านไม่ได้เรียกกันอย่างเลื่อนลอย ความเป็นจริงเรายังมีทรัพยากรซ่อนอยู่ พวกนักล่ามันก็รู้ ดาวเทียมของเขา ไม่ได้ใช้ลอยเล่นแบบโคมลอยวันลอยกระทงนี่ มันส่องมันถ่ายดูเราจนทะลุปรุโปร่งหมดเกลี้ยงแล้วเวลาอาบน้ำระวังหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวโป๊ (ฮา)ทุกวันนี้ นักล่าโผล่หัวเข้ามาขุดน้ำมันในบ้านเรากี่ราย ราคาน้ำมันบ้านเราแพงกว่าเพื่อนบ้านเท่าไหร่ เคยสน ใจกันไหม หรือมัวแต่ดูละครน้ำเน่าทรัพย์ในดิน สินในน้ำ ไม่ใช่คำคนโบราณพูดเล่น คนรุ่นปัจจุบันต่างหาก เอาแต่เดินเล่นในห้าง ดูหนังดูละครไปวันๆ ไม่เคยสนใจอะไรเกินกว่าที่เห็นในกระจกส่องหน้า กับโทรศัพท์ มือถือรุ่นวิเศษ ที่ทำได้ทุกอย่าง แม้ กระทั่งจารกรรมประเทศตัวเองเดี๋ยวนี้ที่ดินของเรา ผืนแผ่นดินไทยตกอยู่ในมือต่างชาติ โดยตรงและโดยอ้อมเป็นจำนวนหนึ่งในสามของที่ดินทั้งหมดแล้วนะ แม้จะมีกฎหมายห้าม แต่ก็มีอีนอ นอมินี ถือแทนให้ …พวกอีนอทั้งหลายนี่แหละ ตัวดีขายชาติ อีกหน่อยพวกเราชาวไทยทั้งหลาย ไม่แคล้วต้องอาศัยอยู่ในที่ดิน ที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของ แต่เป็นผืนแผ่นดินที่อยู่ในแผนที่ประเทศไทย เข้าใจไหม.. เริ่มตื่นเต้นกันบ้างหรือยังยังไม่ตื่นเต้นเหรอ เอ้า ถ้างั้นปลุกต่อมเฉื่อยต่อไม่ใช่แค่ที่อาศัยอยู่นะ ถ้าที่ดินเหล่านั้น เป็นไร่ เป็นนา แหล่งน้ำ ปศุสัตว์ที่เราเคยอาศัยอยู่ อาศัยใช้ อาศัยกิน ระหว่างคนไทยด้วยกัน ต่อนี้ไป เราก็อาจต้องซื้อจากเขา… เขาไหน…ก็เขาต่างชาติที่เป็นเจ้า ของกิจการในบ้านของเราไง แล้วแต่เขาจะกำหนดกฎเกณฑ์ต่อไปคนไทยอาจต้องยืนเข้าคิวซื้อข้าวจากต่างชาติ ในประเทศของเราก็ได้ สงสัยตอนนั้นยังจะเป็นประเทศไทยของเราอยู่หรือเปล่านะเอ๊ะ แล้วนักการเมืองหายหัวไปไหนหมด เราเลือกเขามาตามประชาธิปไตยนะ เขาต้องดูแลให้เราสิจ้ะถูกต้องแล้วคร้าบ เขาว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เราเลือกเขาเข้ามาทำหน้าที่ในสภา ตอนนี้พวกเขากำลังยุ่งกันอยู่ เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญ (ลูกคนโตของพระยาพหลฯ)แล้วที่เขาจะแก้ จะแก้กันน่ะ มันเป็นประโยชน์กับปากท้อง ที่ทำกิน ฯลฯ ของพวกเราบ้างไหมนะ สงสัยต้องไปถามหาจากลูกพระยาพหลฯ !!!!(ขออำไพครับ วันนี้ไม่ได้พูดเรื่องนิรโทษกรรม เพราะเล่านิทานเรื่องจิ๊กโก๋๋ปากซอย มันยังไม่เกี่ยวกันโดย ตรง แต่ใช่ว่า ไม่เกี่ยวกัน ติดตามอ่านไปก่อนนะครับ เดี๋ยวก็รู้เองว่า เกี่ยวกันอย่างไร)คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน"
    ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101
    เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    เช็คอินอาลีซาน ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี

    เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI)
    วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69
    5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์

    โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ
    ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง – ตลาดเหวินฮั่ว
    ➤ ชิมชาอู่หลง – เที่ยวอุทยานอาลีซาน – ช้อปปิ้งซีเหมินติง
    ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี
    ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101

    เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed8679

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    🎆 ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน" 🎉 ✨ ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101 🌸 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🍵 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 เช็คอินอาลีซาน 🍍 ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี 🛫 เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI) 📅 วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69 👜 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์ 🗺️ โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ 🌼 – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🚤 ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง 🎨 – ตลาดเหวินฮั่ว ➤ ชิมชาอู่หลง 🍃 – เที่ยวอุทยานอาลีซาน 🍁 – ช้อปปิ้งซีเหมินติง ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี 🎈 ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101 🏙️ 📸 เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed8679 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 991 มุมมอง 0 รีวิว
  • รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?!

    วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘

    ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ

    นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !!

    ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!!

    ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น

    ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก

    รสนา โตสิตระกูล
    15 มกราคม 2568
    รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?! วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘ ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !! ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!! ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก รสนา โตสิตระกูล 15 มกราคม 2568
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจตำรวจไทยที่ถูกห้ามปล่อยโคมลอยจึงทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ล่าสุดในโลกออนไลน์เปิดกรณีศึกษาเรื่ององศาการโค้งขอโทษ ของชาวญี่ปุ่น

    จากกรณี นักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นพยายามปล่อยโคมลอยในพื้นที่บริเวณลานประตูท่าแพ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ห้ามปล่อยโคมลอยเนื่องจากอาจจะเกิดเพลิงไหม้ บ้านเรือนประชาชนซึ่งพักอาศัยอยู่จำนวนมาก ในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจพบและได้ห้ามปราม นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหและแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสม จากนั้น ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ล่าสุด วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “ฮักเน่อ เชียงใหม่” ได้ออกมาโพสต์ประเด็นกรณีศึกษา เรื่องอาศาการโค้งขอโทษของชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่า “รูปจากข่าว นททญี่ปุ่น เข้าพบ ตร. เชียงใหม่ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อขอโทษตำรวจ ที่ไปกระชากคอเสื้อตำรวจที่มาห้ามตอนปล่อยโคมลอยที่กำลังเป็นข่าวดังที่เชียงใหม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000303

    #MGROnline #เชียงใหม่ #อาศาการโค้งขอโทษ #ชาวญี่ปุ่น #โคมลอย
    หลังจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจตำรวจไทยที่ถูกห้ามปล่อยโคมลอยจึงทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ล่าสุดในโลกออนไลน์เปิดกรณีศึกษาเรื่ององศาการโค้งขอโทษ ของชาวญี่ปุ่น • จากกรณี นักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นพยายามปล่อยโคมลอยในพื้นที่บริเวณลานประตูท่าแพ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ห้ามปล่อยโคมลอยเนื่องจากอาจจะเกิดเพลิงไหม้ บ้านเรือนประชาชนซึ่งพักอาศัยอยู่จำนวนมาก ในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ • ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจพบและได้ห้ามปราม นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหและแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสม จากนั้น ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น • ล่าสุด วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “ฮักเน่อ เชียงใหม่” ได้ออกมาโพสต์ประเด็นกรณีศึกษา เรื่องอาศาการโค้งขอโทษของชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่า “รูปจากข่าว นททญี่ปุ่น เข้าพบ ตร. เชียงใหม่ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อขอโทษตำรวจ ที่ไปกระชากคอเสื้อตำรวจที่มาห้ามตอนปล่อยโคมลอยที่กำลังเป็นข่าวดังที่เชียงใหม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000303 • #MGROnline #เชียงใหม่ #อาศาการโค้งขอโทษ #ชาวญี่ปุ่น #โคมลอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว