• ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบนจากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัณฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1ลักษณะของแสงปริศนาดังกล่าว มีสีออกขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุดพร้อมกับโคนที่ฟุ้งออกไปเป็นวงกว้าง ดูคล้ายกับภาพถ่ายดาวหาง แต่มีความสว่างกว่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งวัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่ได้ โดยเคลื่อนที่ช้า ๆ เยื้องไปทางทิศเหนือ จากรูปพรรณสัณฐานเช่นนี้ สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับวัตถุจำพวกชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ที่ดับแล้ว โดยจะมีชิ้นส่วนของตัวถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์จรวด พร้อมกับแก๊สขับดันที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว เคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กันโดยในบางครั้งตัวจรวดอาจจะยังคงมีพลาสมาที่หลงเหลืออยู่ปล่อยออกมาบ้างเล็กน้อย และส่องสว่างเรือง ๆ เป็นสีฟ้าจาง ๆ แต่หากพบเห็นในช่วงหัวค่ำ อย่างในกรณีของเมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 67 อาจจะสะท้อนแสงอาทิตย์ปรากฏเป็นสีขาวหากจำกันได้ ประเทศไทยเราเคยพบเห็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่มีผู้พบเห็นแสงจากชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) (ตามภาพ - ใน comment)สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจรวดเพียงลำเดียวที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดทั่วโลกในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นั่นคือจรวด Long March 5B ปล่อยออกจากฐาน Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 เมื่อเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่คนไทยจะพบเห็นแสงปริศนาดังกล่าวปกติแล้วจรวดที่ปล่อยออกจากพื้นโลก จะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์จากทิศทางการหมุนของโลกในการลดเชื้อเพลิง ดังนั้นจรวด Long March 5B ของจีนจึงไม่ได้ผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศไทยโดยตรงระหว่างการขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจของจรวดนี้เป็นการส่งดาวเทียมเครือข่าย (constellation satellite) เพื่อภารกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลภายใต้เครือข่าย GuoWang ของจีน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงขับดันหลักจากจรวดตอนบนในการเดินทางไปยังวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ก่อนที่ดาวเทียมจะถูกปล่อยออกไปด้วยเหตุนี้ ทำให้ภายหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจแล้ว ชิ้นส่วนจรวดตอนบน เชื้อเพลิงบางส่วนที่ถูกขับออกมา และพลาสมาที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาในภายหลัง ล้วนแล้วแต่จะเคลื่อนที่ต่อไปในวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งใช้เวลาในการโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ เพียงเวลาประมาณ 90-120 นาที ซึ่งเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่พบเห็นทั้งจรวดและเชื้อเพลิงเหนือน่านฟ้าประเทศไทย หลังจากเวลาปล่อยจรวดออกจากฐานประมาณสองชั่วโมงพอดี จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนตอนบนของจรวด Long March 5B ของจีนซึ่งหลังจากที่จรวดและเชื้อเพลิงโคจรรอบโลกไปสักพักหนึ่ง แรงต้านจากชั้นบรรยากาศตอนบนของโลก จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนไม่สามารถคงวงโคจรต่ำอีกต่อไปได้ ก่อนที่จะเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศระหว่างที่ตกกลับลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกไปในที่สุดเรียบเรียง: ดร.มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการ สดร.
    ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบนจากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัณฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1ลักษณะของแสงปริศนาดังกล่าว มีสีออกขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุดพร้อมกับโคนที่ฟุ้งออกไปเป็นวงกว้าง ดูคล้ายกับภาพถ่ายดาวหาง แต่มีความสว่างกว่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งวัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่ได้ โดยเคลื่อนที่ช้า ๆ เยื้องไปทางทิศเหนือ จากรูปพรรณสัณฐานเช่นนี้ สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับวัตถุจำพวกชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ที่ดับแล้ว โดยจะมีชิ้นส่วนของตัวถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์จรวด พร้อมกับแก๊สขับดันที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว เคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กันโดยในบางครั้งตัวจรวดอาจจะยังคงมีพลาสมาที่หลงเหลืออยู่ปล่อยออกมาบ้างเล็กน้อย และส่องสว่างเรือง ๆ เป็นสีฟ้าจาง ๆ แต่หากพบเห็นในช่วงหัวค่ำ อย่างในกรณีของเมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 67 อาจจะสะท้อนแสงอาทิตย์ปรากฏเป็นสีขาวหากจำกันได้ ประเทศไทยเราเคยพบเห็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่มีผู้พบเห็นแสงจากชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) (ตามภาพ - ใน comment)สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจรวดเพียงลำเดียวที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดทั่วโลกในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นั่นคือจรวด Long March 5B ปล่อยออกจากฐาน Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 เมื่อเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่คนไทยจะพบเห็นแสงปริศนาดังกล่าวปกติแล้วจรวดที่ปล่อยออกจากพื้นโลก จะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์จากทิศทางการหมุนของโลกในการลดเชื้อเพลิง ดังนั้นจรวด Long March 5B ของจีนจึงไม่ได้ผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศไทยโดยตรงระหว่างการขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจของจรวดนี้เป็นการส่งดาวเทียมเครือข่าย (constellation satellite) เพื่อภารกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลภายใต้เครือข่าย GuoWang ของจีน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงขับดันหลักจากจรวดตอนบนในการเดินทางไปยังวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ก่อนที่ดาวเทียมจะถูกปล่อยออกไปด้วยเหตุนี้ ทำให้ภายหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจแล้ว ชิ้นส่วนจรวดตอนบน เชื้อเพลิงบางส่วนที่ถูกขับออกมา และพลาสมาที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาในภายหลัง ล้วนแล้วแต่จะเคลื่อนที่ต่อไปในวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งใช้เวลาในการโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ เพียงเวลาประมาณ 90-120 นาที ซึ่งเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่พบเห็นทั้งจรวดและเชื้อเพลิงเหนือน่านฟ้าประเทศไทย หลังจากเวลาปล่อยจรวดออกจากฐานประมาณสองชั่วโมงพอดี จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนตอนบนของจรวด Long March 5B ของจีนซึ่งหลังจากที่จรวดและเชื้อเพลิงโคจรรอบโลกไปสักพักหนึ่ง แรงต้านจากชั้นบรรยากาศตอนบนของโลก จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนไม่สามารถคงวงโคจรต่ำอีกต่อไปได้ ก่อนที่จะเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศระหว่างที่ตกกลับลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกไปในที่สุดเรียบเรียง: ดร.มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการ สดร.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มติพล ตั้งมติธรรม" ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ โพสต์ข้อความไขข้อข้องใจ “แสงปริศนา” ปรากฏเหนือฟ้าเมืองไทย ยืนยัน ไม่ใช่ UFO แต่คาดว่ามาจากจรวดที่ปล่อยมาจากเกาะไหหลำประเทศจีน

    จากกรณี เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพปรากฏการณ์แสงประหลาดที่ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าของประเทศไทย ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบน สร้างความตื่นตาตื่นใจและความสงสัยให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

    ล่าสุด วันนี้ (17 ธ.ค.) มติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้โพสต์ข้อความ ไขข้อสงสัย ถึงกรณีของ แสงประหลาดดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า

    "แสงปริศนาช่วงหัวค่ำ 16 ธ.ค. เหนือน่านฟ้าประเทศไทย สอดคล้องกับจรวด Long March 5B จากจีน

    เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบน จากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัญฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000121125

    #MGROnline #น่านฟ้าไทย #แสงปริศนา #น่านฟ้า #จรวด
    "มติพล ตั้งมติธรรม" ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ โพสต์ข้อความไขข้อข้องใจ “แสงปริศนา” ปรากฏเหนือฟ้าเมืองไทย ยืนยัน ไม่ใช่ UFO แต่คาดว่ามาจากจรวดที่ปล่อยมาจากเกาะไหหลำประเทศจีน • จากกรณี เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพปรากฏการณ์แสงประหลาดที่ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าของประเทศไทย ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบน สร้างความตื่นตาตื่นใจและความสงสัยให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก • ล่าสุด วันนี้ (17 ธ.ค.) มติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้โพสต์ข้อความ ไขข้อสงสัย ถึงกรณีของ แสงประหลาดดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า • "แสงปริศนาช่วงหัวค่ำ 16 ธ.ค. เหนือน่านฟ้าประเทศไทย สอดคล้องกับจรวด Long March 5B จากจีน • เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบน จากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัญฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000121125 • #MGROnline #น่านฟ้าไทย #แสงปริศนา #น่านฟ้า #จรวด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว