• เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางค์ -อินฟลูฯ กว่า 20 ราย ร้อง ตำรวจ ปอศ. หลังถูก บริษัทเอเจนซี่ชื่อดังโกงเงินค่าโพรโมต-รีวิวสินค้ารวมกว่า 20 ล้านบาท

    วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.เขมิกา ฮุนตระกูล เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง พร้อม น.ส. ดาวรัตณ์ เอียมสำอางค์ เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ และ อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ กว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิวัตน์ชัย เกษีสังข์ รอง สว.(สอบสวน).กก.4 บก.ปอศ. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกบริษัทการตลาดเเห่งหนึ่ง โกงเงินค่าว่าจ้างโพรโมตและเงินค่าจ้างรีวิวสินค้า สร้างความเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท

    น.ส.เขมิกา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อว่าจ้าง บริษัทเอเจนซี่การตลาดแห่งหนึ่งให้ช่วยทำการตลาดหรือโพรโมตสินค้าให้ เพราะเห็นว่าบริษัทดูใหญ่โตน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีการกล่าวอ้างสามารถดึงศิลปินดารา อินฟลูเอ็นเซอร์ มาจัดกิจกรรมแฟนมีต จัดอีเว้นท์ เพื่อโพรโมตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ได้ แต่สุดท้ายเมื่อจ่ายเงินแล้วกลับไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พอติดต่อไปสอบถามที่ค่ายของดารา ก็พบว่าทางค่ายไม่ได้รับงานจากทางบริษัทเอเจนซี่แห่งนี้เพราะมีปัญหาในเรื่องของการจ่ายค่าตัว เลยมองว่าทางบริษัทมีเจตนาในการหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาทราบว่ามีแบรนด์สินค้าถูกหลอกในลักษณะเดียวกับตนหลายแบรนด์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000022989

    #MGROnline #เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ #อินฟลูเอนเซอร์ #แบรนด์สินค้า
    เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางค์ -อินฟลูฯ กว่า 20 ราย ร้อง ตำรวจ ปอศ. หลังถูก บริษัทเอเจนซี่ชื่อดังโกงเงินค่าโพรโมต-รีวิวสินค้ารวมกว่า 20 ล้านบาท • วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.เขมิกา ฮุนตระกูล เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง พร้อม น.ส. ดาวรัตณ์ เอียมสำอางค์ เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ และ อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ กว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิวัตน์ชัย เกษีสังข์ รอง สว.(สอบสวน).กก.4 บก.ปอศ. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกบริษัทการตลาดเเห่งหนึ่ง โกงเงินค่าว่าจ้างโพรโมตและเงินค่าจ้างรีวิวสินค้า สร้างความเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท • น.ส.เขมิกา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อว่าจ้าง บริษัทเอเจนซี่การตลาดแห่งหนึ่งให้ช่วยทำการตลาดหรือโพรโมตสินค้าให้ เพราะเห็นว่าบริษัทดูใหญ่โตน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีการกล่าวอ้างสามารถดึงศิลปินดารา อินฟลูเอ็นเซอร์ มาจัดกิจกรรมแฟนมีต จัดอีเว้นท์ เพื่อโพรโมตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ได้ แต่สุดท้ายเมื่อจ่ายเงินแล้วกลับไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พอติดต่อไปสอบถามที่ค่ายของดารา ก็พบว่าทางค่ายไม่ได้รับงานจากทางบริษัทเอเจนซี่แห่งนี้เพราะมีปัญหาในเรื่องของการจ่ายค่าตัว เลยมองว่าทางบริษัทมีเจตนาในการหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาทราบว่ามีแบรนด์สินค้าถูกหลอกในลักษณะเดียวกับตนหลายแบรนด์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000022989 • #MGROnline #เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ #อินฟลูเอนเซอร์ #แบรนด์สินค้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • KKV บุกไทย ไลฟ์สไตล์สโตร์จากจีน

    ในที่สุดไลฟ์สไตล์สโตร์สัญชาติจีนอย่าง เคเควี (KKV) กำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 2 โดยอินสตาแกรม kkv.global ระบุว่า ในวันที่ 29 ต.ค. จะมีการจัดปาร์ตี้สำหรับแขกรับเชิญพิเศษก่อนวันเปิดร้านจริง นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดสาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ อีกด้วย

    KK Group Company Holdings Ltd. หรือ KK Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองดองกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มี 4 แบรนด์หลักในเครือ ได้แก่ KKV ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์, The Colorist ร้านค้าปลีกเฉพาะด้านความงาม, X11 ร้านค้าปลีกเฉพาะทางแนวป๊อปสมัยใหม่ และ KK Guan ไลฟ์สไตล์มินิมาร์ท ปัจจุบันได้พัฒนาร้านค้ากว่า 700 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตการค้าชั้นนำและห้างสรรพสินค้า 200 เมืองทั่วประเทศจีน และขยายไปยังอินโดนีเซีย

    ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ระบุว่า ปัจจุบัน จากการแข่งขันของร้านค้าปลีก (Stores Retailing) ที่เพิ่มมากขึ้น หลายธุรกิจจึงต้องเริ่มหารูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น สร้างความความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น รูปแบบร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการ อย่าง KK Group ที่มีจำหน่ายครอบคลุมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงอาหารเครื่องดื่ม ของกินเล่นและของใช้ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่า เป็นแหล่ง One Stop Service ของชาว GenZ ถูกจริตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยังสามารถส่งเสริมให้สินค้าดูมีระดับมากขึ้น เนื่องจากร้านค้าสามารถสร้างการรับรู้ด้านการคัดสรรสินค้าและบริการที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพิถีพิถันแก่ผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบแบรนด์ร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ จึงเป็นอีกช่องทางการกระจายสินค้าได้อย่างหลากหลายมิติ ที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญ การนำแบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร้านค้าจะเป็นส่วนช่วยในการกระจายสินค้า เสริมสร้างการรับรู้ด้านภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้า

    ก่อนหน้านี้ KKV เข้าไปลงทุนในประเทศมาเลเซีย เปิดสาขาแรกที่ย่านบูกิต บินตัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ก่อนจะขยายสาขาไปยังเมืองต่างๆ เช่น ซันเวย์ คาร์นิวัล มอลล์, เฟิร์ส อเวนิว มอลล์, อิออน มอลล์ บูกิตเมอร์ตาจัม รัฐปีนัง, พาราเดียมมอลล์ รัฐยะโฮร์, บันดารา มะละกา รัฐมะละกา และสาขาพาวิลเลียน บูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมกันแล้วมี 7 สาขา ก่อนเข้ามาลงทุนในไทย เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน

    #Newskit #KKVThailand
    KKV บุกไทย ไลฟ์สไตล์สโตร์จากจีน ในที่สุดไลฟ์สไตล์สโตร์สัญชาติจีนอย่าง เคเควี (KKV) กำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 2 โดยอินสตาแกรม kkv.global ระบุว่า ในวันที่ 29 ต.ค. จะมีการจัดปาร์ตี้สำหรับแขกรับเชิญพิเศษก่อนวันเปิดร้านจริง นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดสาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ อีกด้วย KK Group Company Holdings Ltd. หรือ KK Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองดองกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มี 4 แบรนด์หลักในเครือ ได้แก่ KKV ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์, The Colorist ร้านค้าปลีกเฉพาะด้านความงาม, X11 ร้านค้าปลีกเฉพาะทางแนวป๊อปสมัยใหม่ และ KK Guan ไลฟ์สไตล์มินิมาร์ท ปัจจุบันได้พัฒนาร้านค้ากว่า 700 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตการค้าชั้นนำและห้างสรรพสินค้า 200 เมืองทั่วประเทศจีน และขยายไปยังอินโดนีเซีย ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ระบุว่า ปัจจุบัน จากการแข่งขันของร้านค้าปลีก (Stores Retailing) ที่เพิ่มมากขึ้น หลายธุรกิจจึงต้องเริ่มหารูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น สร้างความความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น รูปแบบร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการ อย่าง KK Group ที่มีจำหน่ายครอบคลุมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงอาหารเครื่องดื่ม ของกินเล่นและของใช้ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่า เป็นแหล่ง One Stop Service ของชาว GenZ ถูกจริตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยังสามารถส่งเสริมให้สินค้าดูมีระดับมากขึ้น เนื่องจากร้านค้าสามารถสร้างการรับรู้ด้านการคัดสรรสินค้าและบริการที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพิถีพิถันแก่ผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบแบรนด์ร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ จึงเป็นอีกช่องทางการกระจายสินค้าได้อย่างหลากหลายมิติ ที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญ การนำแบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร้านค้าจะเป็นส่วนช่วยในการกระจายสินค้า เสริมสร้างการรับรู้ด้านภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้า ก่อนหน้านี้ KKV เข้าไปลงทุนในประเทศมาเลเซีย เปิดสาขาแรกที่ย่านบูกิต บินตัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ก่อนจะขยายสาขาไปยังเมืองต่างๆ เช่น ซันเวย์ คาร์นิวัล มอลล์, เฟิร์ส อเวนิว มอลล์, อิออน มอลล์ บูกิตเมอร์ตาจัม รัฐปีนัง, พาราเดียมมอลล์ รัฐยะโฮร์, บันดารา มะละกา รัฐมะละกา และสาขาพาวิลเลียน บูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมกันแล้วมี 7 สาขา ก่อนเข้ามาลงทุนในไทย เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน #Newskit #KKVThailand
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 759 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ lit nit ไปคุยกับโรงเรียนมา 2 แห่ง
    เรื่องการบูรณาการจัดการขยะในโรงเรียน
    ....
    ท่านผอ.และคณะครูทั้ง 2 โรงเรียนสนใจที่จะร่วมกับแนวทางจัดการขยะพลาสติกร่วมกับแบรนด์สินค้าของ lit nit ขั้นตอนต่อไปก็ทำ MOU ระหว่างกัน
    ....
    ขอเล่าเล่น ๆ ให้ท่านเข้าใจว่า lit nit วางแผน 3 ปีร่วมกับโรงเรียนในการส่งเสริมการจัดการขยะในโรงเรียน
    -ปี 1 ส่งเสริมการคัดแยกขยะพลาสติกและส่งขยะพลาสติกเช่น หลอด ฝาขวด ถุงพลาสติก และฟิวเจอร์บอร์ดให้ lit nit นำไปแรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
    -ปี 2 ให้ความรู้และฝึกแปรรูปขยะพลาสติกให้กับโรงเรียน
    -ปี 3 ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์จากขยะที่โรงเรียนเป็นผู้ทำ และขยายผลสู่ชุมชน
    ....
    วางแผนไว้เพื่อเป็นทิศทางในการเดินทางและเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของแผนธุรกิจของ lit nit
    #วันนี้เล่าแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเล่าในมุมที่ lit nit ไปเจรจากับร้านค้าและเอกชนบางแห่งที่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
    วันนี้ lit nit ไปคุยกับโรงเรียนมา 2 แห่ง เรื่องการบูรณาการจัดการขยะในโรงเรียน .... ท่านผอ.และคณะครูทั้ง 2 โรงเรียนสนใจที่จะร่วมกับแนวทางจัดการขยะพลาสติกร่วมกับแบรนด์สินค้าของ lit nit ขั้นตอนต่อไปก็ทำ MOU ระหว่างกัน .... ขอเล่าเล่น ๆ ให้ท่านเข้าใจว่า lit nit วางแผน 3 ปีร่วมกับโรงเรียนในการส่งเสริมการจัดการขยะในโรงเรียน -ปี 1 ส่งเสริมการคัดแยกขยะพลาสติกและส่งขยะพลาสติกเช่น หลอด ฝาขวด ถุงพลาสติก และฟิวเจอร์บอร์ดให้ lit nit นำไปแรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ -ปี 2 ให้ความรู้และฝึกแปรรูปขยะพลาสติกให้กับโรงเรียน -ปี 3 ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์จากขยะที่โรงเรียนเป็นผู้ทำ และขยายผลสู่ชุมชน .... วางแผนไว้เพื่อเป็นทิศทางในการเดินทางและเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของแผนธุรกิจของ lit nit #วันนี้เล่าแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเล่าในมุมที่ lit nit ไปเจรจากับร้านค้าและเอกชนบางแห่งที่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว