• เมื่อมิดเดิลเอิร์ธเดินทางสู่โซเวียต: “The Hobbit” ฉบับปี 1976 ที่ทั้งแปลกและงดงาม

    ย้อนกลับไปในปี 1976 ท่ามกลางยุคสงครามเย็นที่โลกแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจ หนังสือแฟนตาซีชื่อดังของ J.R.R. Tolkien อย่าง “The Hobbit” ได้รับการตีพิมพ์ในสหภาพโซเวียตโดยสำนักพิมพ์ Detskaya Literatura พร้อมภาพประกอบที่ไม่เหมือนใครโดยศิลปิน Mikhail Belomlinsky ผู้จบจากสถาบันศิลปะชั้นนำในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    ภาพประกอบในฉบับนี้มีสไตล์ที่ “แม่นยำและเรียบง่าย” แต่ก็แฝงความน่ารักแบบการ์ตูนไว้ด้วย ตัวละครอย่าง Bilbo, Gandalf, Gollum และ Smaug ถูกตีความใหม่ในแบบที่สะท้อนวัฒนธรรมโซเวียต เช่น Bilbo ที่มีขนขาเยอะมาก และ Gollum ที่ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาดในหนังสือหรือภาพยนตร์

    ที่น่าสนใจคือ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดงชื่อดังของโซเวียต Yevgeniy Leonov ซึ่งเคยพากย์เสียง Winnie the Pooh เวอร์ชันโซเวียต ส่วน Gandalf ก็ถูกวาดให้ยิ้มกว้างในทุกฉาก ราวกับเป็นพ่อมดที่ใจดีมากกว่าผู้เคร่งขรึม

    ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่หลังม่านเหล็ก แต่จินตนาการก็ยังเบ่งบาน และ Tolkien ก็สามารถเดินทางข้ามอุดมการณ์ทางการเมืองไปสู่หัวใจของผู้อ่านทั่วโลกได้

    การตีพิมพ์ The Hobbit ฉบับโซเวียตปี 1976
    ตีพิมพ์โดย Detskaya Literatura ในสหภาพโซเวียต
    มีภาพประกอบโดย Mikhail Belomlinsky ศิลปินจาก St. Petersburg Academy of Fine Art
    เป็นหนึ่งในฉบับแปลที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์ที่สุด

    ลักษณะภาพประกอบที่โดดเด่น
    สไตล์ภาพแม่นยำ เรียบง่าย แต่แฝงความน่ารักแบบการ์ตูน
    Bilbo มีขนขาเยอะมาก และดูคล้ายคนธรรมดามากกว่าฮีโร่
    Gollum ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาด
    Gandalf ยิ้มกว้างในทุกฉาก ดูใจดีมากกว่าขรึม

    อิทธิพลทางวัฒนธรรม
    Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดง Yevgeniy Leonov
    สะท้อนการตีความตัวละครผ่านมุมมองของโซเวียต
    เป็นตัวอย่างของการนำวรรณกรรมตะวันตกเข้าสู่บริบทของโลกตะวันออก

    ความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์
    แสดงให้เห็นว่าผลงานของ Tolkien สามารถข้ามพรมแดนทางการเมืองได้
    เป็นหลักฐานของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในยุคสงครามเย็น
    เป็นหนึ่งในฉบับที่นักสะสมและนักวิชาการให้ความสนใจ

    ภาพประกอบในฉบับนี้แตกต่างจากเวอร์ชันตะวันตกอย่างสิ้นเชิง
    ตัวละครอาจดูแปลกหรือไม่ตรงกับจินตนาการของผู้อ่านยุคใหม่

    https://mashable.com/archive/soviet-hobbit
    🧠 เมื่อมิดเดิลเอิร์ธเดินทางสู่โซเวียต: “The Hobbit” ฉบับปี 1976 ที่ทั้งแปลกและงดงาม ย้อนกลับไปในปี 1976 ท่ามกลางยุคสงครามเย็นที่โลกแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจ หนังสือแฟนตาซีชื่อดังของ J.R.R. Tolkien อย่าง “The Hobbit” ได้รับการตีพิมพ์ในสหภาพโซเวียตโดยสำนักพิมพ์ Detskaya Literatura พร้อมภาพประกอบที่ไม่เหมือนใครโดยศิลปิน Mikhail Belomlinsky ผู้จบจากสถาบันศิลปะชั้นนำในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ภาพประกอบในฉบับนี้มีสไตล์ที่ “แม่นยำและเรียบง่าย” แต่ก็แฝงความน่ารักแบบการ์ตูนไว้ด้วย ตัวละครอย่าง Bilbo, Gandalf, Gollum และ Smaug ถูกตีความใหม่ในแบบที่สะท้อนวัฒนธรรมโซเวียต เช่น Bilbo ที่มีขนขาเยอะมาก และ Gollum ที่ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาดในหนังสือหรือภาพยนตร์ ที่น่าสนใจคือ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดงชื่อดังของโซเวียต Yevgeniy Leonov ซึ่งเคยพากย์เสียง Winnie the Pooh เวอร์ชันโซเวียต ส่วน Gandalf ก็ถูกวาดให้ยิ้มกว้างในทุกฉาก ราวกับเป็นพ่อมดที่ใจดีมากกว่าผู้เคร่งขรึม ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่หลังม่านเหล็ก แต่จินตนาการก็ยังเบ่งบาน และ Tolkien ก็สามารถเดินทางข้ามอุดมการณ์ทางการเมืองไปสู่หัวใจของผู้อ่านทั่วโลกได้ ✅ การตีพิมพ์ The Hobbit ฉบับโซเวียตปี 1976 ➡️ ตีพิมพ์โดย Detskaya Literatura ในสหภาพโซเวียต ➡️ มีภาพประกอบโดย Mikhail Belomlinsky ศิลปินจาก St. Petersburg Academy of Fine Art ➡️ เป็นหนึ่งในฉบับแปลที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์ที่สุด ✅ ลักษณะภาพประกอบที่โดดเด่น ➡️ สไตล์ภาพแม่นยำ เรียบง่าย แต่แฝงความน่ารักแบบการ์ตูน ➡️ Bilbo มีขนขาเยอะมาก และดูคล้ายคนธรรมดามากกว่าฮีโร่ ➡️ Gollum ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาด ➡️ Gandalf ยิ้มกว้างในทุกฉาก ดูใจดีมากกว่าขรึม ✅ อิทธิพลทางวัฒนธรรม ➡️ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดง Yevgeniy Leonov ➡️ สะท้อนการตีความตัวละครผ่านมุมมองของโซเวียต ➡️ เป็นตัวอย่างของการนำวรรณกรรมตะวันตกเข้าสู่บริบทของโลกตะวันออก ✅ ความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ➡️ แสดงให้เห็นว่าผลงานของ Tolkien สามารถข้ามพรมแดนทางการเมืองได้ ➡️ เป็นหลักฐานของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในยุคสงครามเย็น ➡️ เป็นหนึ่งในฉบับที่นักสะสมและนักวิชาการให้ความสนใจ ⛔ ภาพประกอบในฉบับนี้แตกต่างจากเวอร์ชันตะวันตกอย่างสิ้นเชิง ⛔ ตัวละครอาจดูแปลกหรือไม่ตรงกับจินตนาการของผู้อ่านยุคใหม่ https://mashable.com/archive/soviet-hobbit
    MASHABLE.COM
    Brilliant illustrations bring this 1976 Soviet edition of 'The Hobbit' to life
    Brilliant illustrations bring this 1976 Soviet edition of 'The Hobbit' to life
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • st. isaac’s cathedral
    มหาวิหารขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
    เป็น 1 ในวิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกและโดมทองอร่ามที่มองเห็นได้จากทั่วเมือง

    ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด:

    * ภายในประดับด้วยหินอ่อน หินมัลไลต์ และภาพโมเสกอันวิจิตร
    * บันได 262 ขั้นสู่จุดชมวิวบนโดม มองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา
    * สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 40 ปี
    * เคยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ในยุคโซเวียต และยังคงเปิดให้เข้าชมจนถึงปัจจุบัน

    ตั้งอยู่ในจัตุรัส st. isaac ใกล้แม่น้ำนีวา
    เปิดให้เข้าชมทุกวัน (บางช่วงอาจปิดปรับปรุง)
    มีค่าเข้าชม (และมีส่วนของ observation deck แยกต่างหาก)

    #stisaacscathedral #saintpetersburg #รัสเซียน่าเที่ยว #โบสถ์โดมทอง #วิหารรัสเซีย #etwรัสเซีย
    ⛪ st. isaac’s cathedral มหาวิหารขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย 🇷🇺 เป็น 1 ในวิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกและโดมทองอร่ามที่มองเห็นได้จากทั่วเมือง 🌟 ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด: * ภายในประดับด้วยหินอ่อน หินมัลไลต์ และภาพโมเสกอันวิจิตร * บันได 262 ขั้นสู่จุดชมวิวบนโดม มองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา * สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 40 ปี * เคยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ในยุคโซเวียต และยังคงเปิดให้เข้าชมจนถึงปัจจุบัน 📍 ตั้งอยู่ในจัตุรัส st. isaac ใกล้แม่น้ำนีวา ⏰ เปิดให้เข้าชมทุกวัน (บางช่วงอาจปิดปรับปรุง) 🎫 มีค่าเข้าชม (และมีส่วนของ observation deck แยกต่างหาก) #stisaacscathedral #saintpetersburg #รัสเซียน่าเที่ยว #โบสถ์โดมทอง #วิหารรัสเซีย #etwรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #รัสเซีย ลดหนัก 47,777
    #มอสโคว์ #เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    🗓 จำนวนวัน 8วัน 5คืน
    ✈ WY-โอมานแอร์
    พักโรงแรม &

    พระราชวังเครมลิน
    จัตุรัสแดง
    มหาวิหารเซนต์บาซิล
    มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์
    พระราชวังฤดูหนาว
    พระราชวังฤดูร้อน
    สแปร์โรว์ ฮิลล์
    โบสถ์หยดเลือด
    มหาวิหารคาซาน

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์รัสเซีย #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #รัสเซีย ลดหนัก 47,777 🔥😍 #มอสโคว์ #เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🍁 🗓 จำนวนวัน 8วัน 5คืน ✈ WY-โอมานแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 พระราชวังเครมลิน 📍 จัตุรัสแดง 📍 มหาวิหารเซนต์บาซิล 📍 มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ 📍 พระราชวังฤดูหนาว 📍 พระราชวังฤดูร้อน 📍 สแปร์โรว์ ฮิลล์ 📍 โบสถ์หยดเลือด 📍 มหาวิหารคาซาน รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์รัสเซีย #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.-
    #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น

    เดินทาง 5–12 ต.ค. 68
    เหลือเพียง 47,777.-

    ไฮไลท์เส้นทาง:
    จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม
    นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้
    พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option)
    อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้
    รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์

    ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน
    ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea66d6

    ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/19c33b

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA
    🪆🇷🇺 โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.- ✨ #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น 📅 เดินทาง 5–12 ต.ค. 68 💰 เหลือเพียง 47,777.- 📍 ไฮไลท์เส้นทาง: 🟥 จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม 🚄 นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🏰 พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้ 🌊 พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option) ⛲ อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🎭 Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้ 🚇 รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ 📌 ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน 📸 ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea66d6 ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/19c33b LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.-
    #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น

    เดินทาง 5–12 ต.ค. 68
    เหลือเพียง 47,777.-

    ไฮไลท์เส้นทาง:
    จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม
    นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้
    พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option)
    อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้
    รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์

    ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน
    ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea66d6

    ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/19c33b

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA #มอสโกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก #ทัวร์รัสเซีย #ลดแรงแซงทุกดีล
    🪆🇷🇺 โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.- ✨ #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น 📅 เดินทาง 5–12 ต.ค. 68 💰 เหลือเพียง 47,777.- 📍 ไฮไลท์เส้นทาง: 🟥 จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม 🚄 นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🏰 พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้ 🌊 พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option) ⛲ อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🎭 Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้ 🚇 รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ 📌 ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน 📸 ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea66d6 ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/19c33b LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA #มอสโกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก #ทัวร์รัสเซีย #ลดแรงแซงทุกดีล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.-
    #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น

    เดินทาง 5–12 ต.ค. 68
    เหลือเพียง 47,777.-

    ไฮไลท์เส้นทาง:
    จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม
    นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้
    พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option)
    อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้
    รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์

    ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน
    ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea66d6

    ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/19c33b

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA #มอสโกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก #ทัวร์รัสเซีย #ลดแรงแซงทุกดีล #เที่ยวกับมืออาชีพ #ราคานี้ไม่มีอีกแล้ว #ทริปในฝัน #รีบจองก่อนเต็ม
    🪆🇷🇺 โปรแรง! เที่ยว RUSSIA มอสโก - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลดทันที 11,111.- ✨ #ลดพิเศษ 5 ที่นั่งสุดท้ายเท่านั้น 📅 เดินทาง 5–12 ต.ค. 68 💰 เหลือเพียง 47,777.- 📍 ไฮไลท์เส้นทาง: 🟥 จัตุรัสแดง – มหาวิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม 🚄 นั่งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN สู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🏰 พระราชวังฤดูหนาว & เฮอร์มิเทจ – มหาวิหารไอแซค – ถนนเนฟสกี้ 🌊 พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ – โบสถ์หยดเลือด – ล่องเรือแม่น้ำเนวา (Option) ⛲ อิสระเต็มวันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 🎭 Russian Circus (Option) – พระราชวังเครมลิน – ตลาดอิสมายลอฟสกี้ 🚇 รถไฟใต้ดินมอสโก – ถนนอารบัท – มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ 📌 ไฟลท์ตรง BY WY / รวมอาหารและรถครบทุกวัน 📸 ถ่ายรูปสวยทุกมุม บรรยากาศสุดโรแมนติก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea66d6 ดูทัวร์รัสเซียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/19c33b LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์รัสเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #RUSSIA #มอสโกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก #ทัวร์รัสเซีย #ลดแรงแซงทุกดีล #เที่ยวกับมืออาชีพ #ราคานี้ไม่มีอีกแล้ว #ทริปในฝัน #รีบจองก่อนเต็ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดรนยูเครนพยายามโจมตีนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย แต่ถูกสกัดได้ก่อนถึงเป้าหมาย
    โดรนยูเครนพยายามโจมตีนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย แต่ถูกสกัดได้ก่อนถึงเป้าหมาย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซีย เข้าจับกุมตัวสายลับยูเครนในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    สายลับยูเครนรายนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานทหารและอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับ ATESH ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รับผิดชอบการก่อวินาศกรรมหลายครั้งในรัสเซีย
    เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซีย เข้าจับกุมตัวสายลับยูเครนในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สายลับยูเครนรายนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานทหารและอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับ ATESH ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รับผิดชอบการก่อวินาศกรรมหลายครั้งในรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • ตามรายงานของ The Economist "วลาดิมีร์ เมดินสกี้" หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย กล่าวต่อหน้าคณะผู้แทนยูเครนว่า:

    “เราไม่ได้ต้องการสงคราม แต่เราก็พร้อมจะสู้รบต่อไปไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 2 ปี 3 ปี หรือมากกว่านั้น ตราบเท่าที่เรามีเวลา เราเคยสู้รบกับสวีเดนมา 21 ปี พวกคุณละพร้อมจะสู้รบกับเราไปอีกนานแค่ไหน”

    "และดินแดนที่เราได้มาจากสวีเดน เราได้สร้างเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กขึ้นมา"
    ตามรายงานของ The Economist "วลาดิมีร์ เมดินสกี้" หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย กล่าวต่อหน้าคณะผู้แทนยูเครนว่า: “เราไม่ได้ต้องการสงคราม แต่เราก็พร้อมจะสู้รบต่อไปไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 2 ปี 3 ปี หรือมากกว่านั้น ตราบเท่าที่เรามีเวลา เราเคยสู้รบกับสวีเดนมา 21 ปี พวกคุณละพร้อมจะสู้รบกับเราไปอีกนานแค่ไหน” "และดินแดนที่เราได้มาจากสวีเดน เราได้สร้างเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กขึ้นมา"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน:

    รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน

    สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ:
    สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ:
    - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย
    - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป
    - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้
    - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย

    สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ:
    - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม
    - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่)
    - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea)
    - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน

    สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ )
    - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง
    - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี
    - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน: รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ: 👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ: - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้ - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย 👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ: - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่) - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea) - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน 👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂) - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology

    == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร ==
    1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา
    2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ

    == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ==
    - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus
    - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC

    มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์

    ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร == 1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา 2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น == - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียมีคำสั่งปิดสถานกงสุลใหญ่ของโปแลนด์ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2025 เพื่อเป็นการตอบโต้การปิดสถานกงสุลรัสเซียในโปซนาน ประเทศโปแลนด์
    — กระทรวงต่างประเทศรัสเซียรายงาน

    นอกจากนี้ รัสเซียยังประกาศให้เจ้าหน้าที่การทูต 3 คนของสถานกงสุลใหญ่แห่งนี้เป็นบุคคลต้องห้าม พวกเขาต้องออกจากประเทศทันที
    รัสเซียมีคำสั่งปิดสถานกงสุลใหญ่ของโปแลนด์ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2025 เพื่อเป็นการตอบโต้การปิดสถานกงสุลรัสเซียในโปซนาน ประเทศโปแลนด์ — กระทรวงต่างประเทศรัสเซียรายงาน นอกจากนี้ รัสเซียยังประกาศให้เจ้าหน้าที่การทูต 3 คนของสถานกงสุลใหญ่แห่งนี้เป็นบุคคลต้องห้าม พวกเขาต้องออกจากประเทศทันที
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • "Oreshnik" อาจถูกใช้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้

    ปธน.ปูติน กล่าวถึงปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนหลังการประชุม SEEC (Supreme Eurasian Economic Council) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    - เราไม่ตัดทิ้งการใช้คำว่า "Oreshnik" ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ หากมีความจำเป็นดังกล่าว มันสำคัญมา มันเป็นสัญญาณสำหรับภูมิรัฐศาสตร์

    - ไบเดนเสนอให้ผมเลื่อนการเข้าร่วมนาโตของยูเครนออกไป 10-15 ปี แต่คุณจะเตรียมมันและยอมรับมัน

    - การสนับสนุนผู้เข้าร่วม SMO เป็นภารกิจหลัก

    - สำหรับผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวรัสเซีย

    - "ฉันเชื่อในพระเจ้า และพระเจ้าอยู่กับเรา" - คำตอบของปูตินต่อคำถามว่าเขาเชื่อหรือไม่ว่าความขัดแย้งกับยูเครนจะสิ้นสุดในปี 2025

    - เราไม่เคยมีความคิดหยุดส่งก๊าซให้ยุโรป ผมบอกมาเป็นพันครั้ง และขอพูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้ โปแลนด์ต่างหากที่เป็นฝ่ายตัดก๊าซส่งไปยุโรป ที่ผ่านบนดินแดนพวกเขา (ท่อส่งยามาล / Yamal pipeline) ท่อส่งปกติดีทุกอย่าง มันยังทำงานได้ ไม่มีใครไปวางระเบิดมัน เพียงแค่กดปุ่ม ก๊าซก็จะไหลผ่านท่อส่งยามาล-ยุโรป
    "Oreshnik" อาจถูกใช้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ปธน.ปูติน กล่าวถึงปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนหลังการประชุม SEEC (Supreme Eurasian Economic Council) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก - เราไม่ตัดทิ้งการใช้คำว่า "Oreshnik" ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ หากมีความจำเป็นดังกล่าว มันสำคัญมา มันเป็นสัญญาณสำหรับภูมิรัฐศาสตร์ - ไบเดนเสนอให้ผมเลื่อนการเข้าร่วมนาโตของยูเครนออกไป 10-15 ปี แต่คุณจะเตรียมมันและยอมรับมัน - การสนับสนุนผู้เข้าร่วม SMO เป็นภารกิจหลัก - สำหรับผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวรัสเซีย - "ฉันเชื่อในพระเจ้า และพระเจ้าอยู่กับเรา" - คำตอบของปูตินต่อคำถามว่าเขาเชื่อหรือไม่ว่าความขัดแย้งกับยูเครนจะสิ้นสุดในปี 2025 - เราไม่เคยมีความคิดหยุดส่งก๊าซให้ยุโรป ผมบอกมาเป็นพันครั้ง และขอพูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้ โปแลนด์ต่างหากที่เป็นฝ่ายตัดก๊าซส่งไปยุโรป ที่ผ่านบนดินแดนพวกเขา (ท่อส่งยามาล / Yamal pipeline) ท่อส่งปกติดีทุกอย่าง มันยังทำงานได้ ไม่มีใครไปวางระเบิดมัน เพียงแค่กดปุ่ม ก๊าซก็จะไหลผ่านท่อส่งยามาล-ยุโรป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย ทักทายลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ในการประชุมสุดยอดเครือรัฐเอกราชที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย
    .
    JUST IN: Russian President Putin greets Belarus President Lukashenko at the Commonwealth of Independent States summit in Saint Petersburg, Russia.
    .
    11:56 PM · Dec 25, 2024 · 94.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1871963310012395874
    🇷🇺🇧🇾 ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย ทักทายลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ในการประชุมสุดยอดเครือรัฐเอกราชที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย . JUST IN: 🇷🇺🇧🇾 Russian President Putin greets Belarus President Lukashenko at the Commonwealth of Independent States summit in Saint Petersburg, Russia. . 11:56 PM · Dec 25, 2024 · 94.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1871963310012395874
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • รัสเซียปิดสถานกงสุลใหญ่ของโปแลนด์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อตอบโต้การปิดสถานกงสุลของตัวเองในโปซนาน, กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกล่าว

    เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม มอสโกได้ส่งบันทึกถึงวอร์ซอเกี่ยวกับการปิดสถานกงสุลใหญ่ ซึ่งจะมีผลในวันที่ ๑๐ มกราคม

    นอกจากนี้, รัสเซียยังประกาศให้เจ้าหน้าที่การทูต ๓ คนของสถานกงสุลใหญ่แห่งนี้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา โดยพวกเขาจะต้องออกจากประเทศ
    .
    Russia is closing Poland's Consulate General in St. Petersburg in response to the closure of its own consulate in Poznan, Russia's Foreign Ministry has said.

    Moscow handed Warsaw a note on December 5 about the closure that takes affect on January 10.

    In addition, Russia declares three diplomatic employees of this consulate general persona non grata - they must leave the country.
    .
    7:52 PM · Dec 5, 2024 · 4,567 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1864654079601074660
    🇵🇱❌ รัสเซียปิดสถานกงสุลใหญ่ของโปแลนด์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อตอบโต้การปิดสถานกงสุลของตัวเองในโปซนาน, กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกล่าว เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม มอสโกได้ส่งบันทึกถึงวอร์ซอเกี่ยวกับการปิดสถานกงสุลใหญ่ ซึ่งจะมีผลในวันที่ ๑๐ มกราคม นอกจากนี้, รัสเซียยังประกาศให้เจ้าหน้าที่การทูต ๓ คนของสถานกงสุลใหญ่แห่งนี้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา โดยพวกเขาจะต้องออกจากประเทศ . 🇵🇱❌ Russia is closing Poland's Consulate General in St. Petersburg in response to the closure of its own consulate in Poznan, Russia's Foreign Ministry has said. Moscow handed Warsaw a note on December 5 about the closure that takes affect on January 10. In addition, Russia declares three diplomatic employees of this consulate general persona non grata - they must leave the country. . 7:52 PM · Dec 5, 2024 · 4,567 Views https://x.com/SputnikInt/status/1864654079601074660
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน เข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยสวมรองเท้าผ้าใบ

    ผู้นำรัสเซียสวมชุดสูทธุรกิจ

    ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สวมรองเท้าผ้าใบไปงานสาธารณะตามธรรมเนียม อัล นาห์ยานเลือกสวมรองเท้าแบบเดียวกันนี้ระหว่างการเยือนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี ๒๐๒๓
    .
    UAE President Mohammed bin Zayed Al Nahyan attended an informal meeting with Russian President Vladimir Putin wearing sneakers

    The Russian leader was dressed in a business suit.

    The UAE president traditionally wears sneakers to public events. Al Nahyan made a similar choice of footwear during his visit to St. Petersburg in 2023.
    .
    12:36 AM · Oct 21, 2024 · 14.1K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848055644382802357
    📹 ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน เข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยสวมรองเท้าผ้าใบ ผู้นำรัสเซียสวมชุดสูทธุรกิจ ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สวมรองเท้าผ้าใบไปงานสาธารณะตามธรรมเนียม อัล นาห์ยานเลือกสวมรองเท้าแบบเดียวกันนี้ระหว่างการเยือนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี ๒๐๒๓ . 📹 UAE President Mohammed bin Zayed Al Nahyan attended an informal meeting with Russian President Vladimir Putin wearing sneakers The Russian leader was dressed in a business suit. The UAE president traditionally wears sneakers to public events. Al Nahyan made a similar choice of footwear during his visit to St. Petersburg in 2023. . 12:36 AM · Oct 21, 2024 · 14.1K Views https://x.com/SputnikInt/status/1848055644382802357
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายพลโปแลนด์ขู่ว่า จะทิ้งระเบิดเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หากรัสเซียโจมตีรัฐแนวหน้าของนาโต้
    .
    JUST IN: Polish general threatens to bomb St. Petersburg if Russia attacks any NATO frontline state.
    .
    6:31 AM · Oct 13, 2024 · 141.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1845246009594593686
    🇵🇱🇷🇺 นายพลโปแลนด์ขู่ว่า จะทิ้งระเบิดเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หากรัสเซียโจมตีรัฐแนวหน้าของนาโต้ . JUST IN: 🇵🇱🇷🇺 Polish general threatens to bomb St. Petersburg if Russia attacks any NATO frontline state. . 6:31 AM · Oct 13, 2024 · 141.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1845246009594593686
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.78: ไซบีเรีย

    ความในตอนที่แล้วได้เล่าไปถึงเรื่องท่อก๊าซไซบีเรียที่รัสเซียต่อท่อส่งมาขายให้จีน ผมก็เกิดสงสัยขึ้นว่า “ไซบีเรียนี่อยู่ตรงไหนกันแน่?”

    ในความคิดแรก ผมคิดแค่ว่าไซบีเรียคงเป็นจังหวัดหรือมณฑลหนึ่งในรัสเซีย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ ไซบีเรียนั้นคือแผ่นดินขนาดยักษ์ที่ถือเป็น 80% ของประเทศรัสเซียเลย

    ถ้าพูดเอาง่ายก็คือ รัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ครอบคลุมสองทวีปคือยุโรปและเอเซีย ซึ่งแบ่งกันด้วยเทือกเขาอูราล ฝั่งซ้ายของเทือกเขาอูราลเป็นฝั่งยุโรปครับ เมืองใหญ่ๆเช่น มอสโคว หรือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และที่ทำการรัฐบาลรัสเซียอยู่ฝั่งนี้

    ส่วนฝั่งขวาของอูราลเป็นฝั่งเอเซียครับ ซึ่งแผ่นดินรัสเซียทั้งหมดในฝั่งเอเซียนี่แหละครับที่เราเรียกว่า “ไซบีเรีย” กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 13 ล้านตร.กม.

    ไซบีเรียนั้นใหญ่กว่าประเทศไทยราวๆ 10 เท่าครับ
    .
    .
    .
    เมื่อเราย้อนเวลาไปประมาณ 150 ปีที่แล้ว ไซบีเรียนั้นเป็นพื้นที่หนาวเหน็บและทุรกันดารมาก รัฐบาลของพระเจ้าซาร์ไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจมากเท่าไรเพราะถือเป็นแผ่นดินไกลโพ้น

    ในเวลานั้นเมืองของรัสเซียที่อยู่ไกลสุดฝั่งตะวันออกมีอยู่สองเมืองชื่อว่า “วลาดิวอสสต็อก” กับ “คาบารอฟ” ซึ่งอยู่ติดกับดินแดนของจีนที่เรียกว่า “แมนจูเรีย” ครับ

    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียในยุคนั้น ก็คือไม่ได้รักกันแต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ อยู่เป็นเพื่อนบ้านกันไปยังงั้นแหละ ชาวไซบีเรียบางส่วนก็หน้าตาคล้ายคนจีน แถมบางกลุ่มยังคิดว่าตัวเองอยู่ในแผ่นดินของจักรพรรดิจีนอยู่เลย

    แต่เมื่อเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม อันมีทั้งอังกฤษ โปรตุเกส และสเปน เข้ามามีอิทธิพลในเอเซีย รัสเซียก็เลยเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของดินแดนตัวเองที่อยู่ใกล้ๆจีน คือ เมืองวลาดิวอสต็อก

    ในเวลานั้น เครื่องมือสำคัญอันหนึ่งที่ฝรั่งเขาใช้รุกรานแผ่นดินอื่นคือ “ทางรถไฟ” ครับ

    อเมริกาใช้การก่อสร้างรางรถไฟเพื่อขยายรุกคืบไปยึดครองอเมริกาฝั่งตะวันตก ชื่อว่า “ทางรถไฟสายทรานส์คอนติเนนทัล"

    อังกฤษก็ใช้วิธีเดียวกันในการรุกคืบแผ่นดินแคนาดาฝั่งตะวันตก คือ สร้างรางรถไฟชื่อว่า ”แคเนเดี้ยน แปซิฟิก เรลเวย์“

    รัสเซียเกรงว่าเมื่ออังกฤษยึดครองแคนาดาฝั่งตะวันตก (แถวๆแวนคูเวอร์) เสร็จแล้ว ก็จะเอาทหารนั่งเรือต่อมายังเอเซียและมาวุ่นวายกับดินแดนรัสเซียฝั่งเอเซียเข้า

    โครงการอภิมหาโปรเจคท์สร้างทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงกำเนิดขึ้นในปี 1881

    เป้าหมายของรัสเซียคือ เพื่อให้กองทัพรัสเซียขนส่งทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกให้ได้โดยเร็วเมื่อเกิดสงคราม

    ต้องขอเล่าก่อนว่า แต่ดั้งเดิมนั้นการเดินทางจากเมืองมอสโควไปยังตะวันออกของรัสเซีย ควีนคัทรินมหาราชินีแห่งรัสเซียได้เคยสร้างถนนยาวนับหมื่นกิโลเมตรไว้แล้ว แต่ก็ผุพังไปเพราะไม่มีการบำรุงรักษา

    ต่อมาคนรัสเซียจึงใช้การล่องเรือไปตามแม่น้ำ แต่ก็ทำได้จำกัดเพราะไซบีเรียนั้นหนาวเหน็บหฤโหดมาก แม่น้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็งถึงปีละ 8 เดือน

    ในเบื้องแรกรัฐบาลรัสเซียก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ควรจะสร้างทางรถไฟทอดข้ามไซบีเรียกัน แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีคมนาคมกับรัฐมนตรีคลังทะเลาะกันอยู่เป็นปี เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะให้ทางรถไฟวิ่งผ่านในพื้นที่ของตัวเอง

    พระเจ้าซาร์ทนไม่ไหวจึงเขียนจดหมายไปสั่งรัฐบาลว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เราต้องสร้างทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียเดี๋ยวนี้”

    การทะเลาะกันจึงยุติลงและเริ่มก่อสร้างโดยทันที
    .
    .
    .
    การก่อสร้างนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องผ่านภูมิประเทศที่กันดาร มีการเจาะภูเขา สร้างสะพานข้ามแม่น้ำหลายสาย ลงหุบเขา รวมถึงต้องสร้างโรงหลอมเหล็กตามไปเป็นระยะๆ

    แต่กระนั้นก็ยังหาเหล็กได้ไม่พอ จนต้องสั่งซื้อเพิ่มจากโปแลนด์ อังกฤษและอเมริกา

    ส่วนแรงงานนั้นก็หลากหลาย มีตั้งแต่แรงงานรับจ้างไปจนถึงนักโทษที่เกณฑ์มา

    ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเส้นแรกนั้น มีบางส่วนที่ตัดผ่านแผ่นดินแมนจูเรียที่รัสเซียเช่าจากรัฐบาลจีน แต่เมื่อสร้างเสร็จปุ๊บ การณ์กลับกลายเป็นว่ามีคนจีนก่อหวอดประท้วง จนรัสเซียกับจีนต้องบาดหมางกัน

    และญี่ปุ่นเปิดฉากก่อสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ Russo-Japanese war จนกองทัพเรือรัสเซียฝั่งแปซิฟิกย่อยยับ

    รัสเซียจึงเห็นว่าการสร้างทางรถไฟบางส่วนในแผ่นดินจีนนั้นไม่ตอบโจทย์ความมั่นคง รัสเซียจึงทิ้งรางรถไฟทั้งหมดในแมนจูเรีย แล้วพัฒนาเปลี่ยนเส้นทางให้รางรถไฟทั้งหมดวิ่งในแผ่นดินรัสเซีย และขยายจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ด้วย

    ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงสำเร็จได้ในปี 1916

    ชนรัสเซียนั้นเขาภูมิใจในทางรถไฟสายนี้มาก แต่ไม่ใช่ที่รางรถไฟนะครับ เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้ของทรานส์ไซบีเรียคือ “สะพาน”

    วิศวกรรมการก่อสร้างสะพานตลอดเส้นทางทรานส์ไซบีเรียนั้นหลากหลายมาก สะพานบางแห่งสูงถึง 64 เมตร บางช่วงทอดข้ามแม่น้ำที่ยาวถึง 2.6 กิโลเมตร

    เรียกกันว่า “Amur Miracle"

    อ้อ....ลืมบอกไปว่า ทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียนั้นยาวถึง 9,500 กิโลเมตรครับ
    .
    .
    .
    เมื่อทรานส์ไซบีเรียสร้างเสร็จปุ๊บ รัฐบาลรัสเซียก็พยายามชักชวนให้คนไปอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย โดยแถมโปรโมชั่นให้เพียบเช่น กู้เงินได้ง่าย, งดเก็บภาษี 10 ปี, รักษาพยาบาลฟรี, ลูกหลานเรียนฟรี, มีเงินอุดหนุนมากมายจากรัฐ

    ผู้คนจึงทยอยหลั่งไหลไปไซบีเรีย ประชากรจึงเพิ่มจากหลักหมื่น ไปสู่หลักแสนและหลักล้านในที่สุด

    ทุกวันนี้ภูมิภาคไซบีเรียมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 37 ล้านคน

    และกลายเป็นภูมิภาคสำคัญ เพราะมีทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ใต้แผ่นดินไซบีเรียมหาศาล

    …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.78: ไซบีเรีย ความในตอนที่แล้วได้เล่าไปถึงเรื่องท่อก๊าซไซบีเรียที่รัสเซียต่อท่อส่งมาขายให้จีน ผมก็เกิดสงสัยขึ้นว่า “ไซบีเรียนี่อยู่ตรงไหนกันแน่?” ในความคิดแรก ผมคิดแค่ว่าไซบีเรียคงเป็นจังหวัดหรือมณฑลหนึ่งในรัสเซีย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ ไซบีเรียนั้นคือแผ่นดินขนาดยักษ์ที่ถือเป็น 80% ของประเทศรัสเซียเลย ถ้าพูดเอาง่ายก็คือ รัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ครอบคลุมสองทวีปคือยุโรปและเอเซีย ซึ่งแบ่งกันด้วยเทือกเขาอูราล ฝั่งซ้ายของเทือกเขาอูราลเป็นฝั่งยุโรปครับ เมืองใหญ่ๆเช่น มอสโคว หรือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และที่ทำการรัฐบาลรัสเซียอยู่ฝั่งนี้ ส่วนฝั่งขวาของอูราลเป็นฝั่งเอเซียครับ ซึ่งแผ่นดินรัสเซียทั้งหมดในฝั่งเอเซียนี่แหละครับที่เราเรียกว่า “ไซบีเรีย” กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 13 ล้านตร.กม. ไซบีเรียนั้นใหญ่กว่าประเทศไทยราวๆ 10 เท่าครับ . . . เมื่อเราย้อนเวลาไปประมาณ 150 ปีที่แล้ว ไซบีเรียนั้นเป็นพื้นที่หนาวเหน็บและทุรกันดารมาก รัฐบาลของพระเจ้าซาร์ไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจมากเท่าไรเพราะถือเป็นแผ่นดินไกลโพ้น ในเวลานั้นเมืองของรัสเซียที่อยู่ไกลสุดฝั่งตะวันออกมีอยู่สองเมืองชื่อว่า “วลาดิวอสสต็อก” กับ “คาบารอฟ” ซึ่งอยู่ติดกับดินแดนของจีนที่เรียกว่า “แมนจูเรีย” ครับ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียในยุคนั้น ก็คือไม่ได้รักกันแต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ อยู่เป็นเพื่อนบ้านกันไปยังงั้นแหละ ชาวไซบีเรียบางส่วนก็หน้าตาคล้ายคนจีน แถมบางกลุ่มยังคิดว่าตัวเองอยู่ในแผ่นดินของจักรพรรดิจีนอยู่เลย แต่เมื่อเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม อันมีทั้งอังกฤษ โปรตุเกส และสเปน เข้ามามีอิทธิพลในเอเซีย รัสเซียก็เลยเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของดินแดนตัวเองที่อยู่ใกล้ๆจีน คือ เมืองวลาดิวอสต็อก ในเวลานั้น เครื่องมือสำคัญอันหนึ่งที่ฝรั่งเขาใช้รุกรานแผ่นดินอื่นคือ “ทางรถไฟ” ครับ อเมริกาใช้การก่อสร้างรางรถไฟเพื่อขยายรุกคืบไปยึดครองอเมริกาฝั่งตะวันตก ชื่อว่า “ทางรถไฟสายทรานส์คอนติเนนทัล" อังกฤษก็ใช้วิธีเดียวกันในการรุกคืบแผ่นดินแคนาดาฝั่งตะวันตก คือ สร้างรางรถไฟชื่อว่า ”แคเนเดี้ยน แปซิฟิก เรลเวย์“ รัสเซียเกรงว่าเมื่ออังกฤษยึดครองแคนาดาฝั่งตะวันตก (แถวๆแวนคูเวอร์) เสร็จแล้ว ก็จะเอาทหารนั่งเรือต่อมายังเอเซียและมาวุ่นวายกับดินแดนรัสเซียฝั่งเอเซียเข้า โครงการอภิมหาโปรเจคท์สร้างทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงกำเนิดขึ้นในปี 1881 เป้าหมายของรัสเซียคือ เพื่อให้กองทัพรัสเซียขนส่งทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกให้ได้โดยเร็วเมื่อเกิดสงคราม ต้องขอเล่าก่อนว่า แต่ดั้งเดิมนั้นการเดินทางจากเมืองมอสโควไปยังตะวันออกของรัสเซีย ควีนคัทรินมหาราชินีแห่งรัสเซียได้เคยสร้างถนนยาวนับหมื่นกิโลเมตรไว้แล้ว แต่ก็ผุพังไปเพราะไม่มีการบำรุงรักษา ต่อมาคนรัสเซียจึงใช้การล่องเรือไปตามแม่น้ำ แต่ก็ทำได้จำกัดเพราะไซบีเรียนั้นหนาวเหน็บหฤโหดมาก แม่น้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็งถึงปีละ 8 เดือน ในเบื้องแรกรัฐบาลรัสเซียก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ควรจะสร้างทางรถไฟทอดข้ามไซบีเรียกัน แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีคมนาคมกับรัฐมนตรีคลังทะเลาะกันอยู่เป็นปี เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะให้ทางรถไฟวิ่งผ่านในพื้นที่ของตัวเอง พระเจ้าซาร์ทนไม่ไหวจึงเขียนจดหมายไปสั่งรัฐบาลว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เราต้องสร้างทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียเดี๋ยวนี้” การทะเลาะกันจึงยุติลงและเริ่มก่อสร้างโดยทันที . . . การก่อสร้างนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องผ่านภูมิประเทศที่กันดาร มีการเจาะภูเขา สร้างสะพานข้ามแม่น้ำหลายสาย ลงหุบเขา รวมถึงต้องสร้างโรงหลอมเหล็กตามไปเป็นระยะๆ แต่กระนั้นก็ยังหาเหล็กได้ไม่พอ จนต้องสั่งซื้อเพิ่มจากโปแลนด์ อังกฤษและอเมริกา ส่วนแรงงานนั้นก็หลากหลาย มีตั้งแต่แรงงานรับจ้างไปจนถึงนักโทษที่เกณฑ์มา ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเส้นแรกนั้น มีบางส่วนที่ตัดผ่านแผ่นดินแมนจูเรียที่รัสเซียเช่าจากรัฐบาลจีน แต่เมื่อสร้างเสร็จปุ๊บ การณ์กลับกลายเป็นว่ามีคนจีนก่อหวอดประท้วง จนรัสเซียกับจีนต้องบาดหมางกัน และญี่ปุ่นเปิดฉากก่อสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ Russo-Japanese war จนกองทัพเรือรัสเซียฝั่งแปซิฟิกย่อยยับ รัสเซียจึงเห็นว่าการสร้างทางรถไฟบางส่วนในแผ่นดินจีนนั้นไม่ตอบโจทย์ความมั่นคง รัสเซียจึงทิ้งรางรถไฟทั้งหมดในแมนจูเรีย แล้วพัฒนาเปลี่ยนเส้นทางให้รางรถไฟทั้งหมดวิ่งในแผ่นดินรัสเซีย และขยายจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ด้วย ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงสำเร็จได้ในปี 1916 ชนรัสเซียนั้นเขาภูมิใจในทางรถไฟสายนี้มาก แต่ไม่ใช่ที่รางรถไฟนะครับ เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้ของทรานส์ไซบีเรียคือ “สะพาน” วิศวกรรมการก่อสร้างสะพานตลอดเส้นทางทรานส์ไซบีเรียนั้นหลากหลายมาก สะพานบางแห่งสูงถึง 64 เมตร บางช่วงทอดข้ามแม่น้ำที่ยาวถึง 2.6 กิโลเมตร เรียกกันว่า “Amur Miracle" อ้อ....ลืมบอกไปว่า ทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียนั้นยาวถึง 9,500 กิโลเมตรครับ . . . เมื่อทรานส์ไซบีเรียสร้างเสร็จปุ๊บ รัฐบาลรัสเซียก็พยายามชักชวนให้คนไปอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย โดยแถมโปรโมชั่นให้เพียบเช่น กู้เงินได้ง่าย, งดเก็บภาษี 10 ปี, รักษาพยาบาลฟรี, ลูกหลานเรียนฟรี, มีเงินอุดหนุนมากมายจากรัฐ ผู้คนจึงทยอยหลั่งไหลไปไซบีเรีย ประชากรจึงเพิ่มจากหลักหมื่น ไปสู่หลักแสนและหลักล้านในที่สุด ทุกวันนี้ภูมิภาคไซบีเรียมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 37 ล้านคน และกลายเป็นภูมิภาคสำคัญ เพราะมีทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ใต้แผ่นดินไซบีเรียมหาศาล …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ… นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 711 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเปิดรายชื่อ47ประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีดำว่ามีทัศนคติเชิงทำลายล้าง

    มอสโกว์ได้จัดทำรายชื่อประเทศ 47 ประเทศที่มี "ทัศนคติเชิงทำลายล้าง" ซึ่งขัดแย้งกับค่านิยมของรัสเซีย โดยเปิดทางให้พลเมืองของประเทศเหล่านี้สามารถขอสถานะผู้พำนักอาศัยในรัสเซียได้หากต้องการ

    เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ยึดมั่นในค่านิยมดั้งเดิมของรัสเซียและไม่เห็นด้วยกับแนวทาง "เสรีนิยมใหม่" ที่รัฐบาลของตนเองผลักดันสามารถยื่นคำร้องขอสถานะผู้พำนักอาศัยได้

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชุสตินของรัสเซียได้เผยแพร่รายชื่อประเทศและดินแดนที่ "ดำเนินนโยบายที่บังคับใช้ทัศนคติเชิงอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ที่สร้างความเสียหาย ซึ่งขัดแย้งกับค่านิยมทางจิตวิญญาณและศีลธรรมแบบดั้งเดิมของรัสเซีย"

    รายชื่อที่โพสต์บนพอร์ทัลรัฐบาลรัสเซียประกอบด้วยประเทศและดินแดนต่อไปนี้:

    ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, แอลเบเนีย, อันดอร์รา, บาฮามาส, เบลเยียม, บัลแกเรีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, กรีซ, เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, สเปน, อิตาลี, แคนาดา, ไซปรัส, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลิคเทนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, ไมโครนีเซีย, โมนาโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เกาหลีใต้, โรมาเนีย, ซานมารีโน, มาซิโดเนียเหนือ, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน (ดินแดนของจีน), ยูเครน, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, โครเอเชีย, มอนเตเนโกร, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดน, เอสโตเนีย และญี่ปุ่น

    รายชื่อประเทศที่ขาดหายไป ได้แก่ สโลวาเกียและฮังการี ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและนาโต้ รวมถึงตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้

    ก่อนหน้านี้ ประเทศที่ถูกระบุส่วนใหญ่ถูกลงทะเบียนจากรัฐบาลรัสเซียว่า“ไม่เป็นมิตร” ซึ่งมีการรวบรวมรายชื่อครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิปี 2021 และปรับปรุงในปี 2022 โดยประเทศที่อยู่ในบัญชีดำดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการตอบโต้ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียตามพฤติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์

    รัสเซียสามารถ “ให้สถานที่ปลอดภัยสำหรับภาวะปกติแก่โลก” ได้โดยการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมจาก “หายนะของลัทธิตื่นรู้” ที่ครอบงำโลกตะวันตกโดยรวม มาร์การิตา ซิโมนยาน บรรณาธิการบริหารของ RT กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่การประชุมสตรียูเรเซียครั้งที่ 4 ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    ตามคำสั่งของปูตินเมื่อเดือนสิงหาคม พลเมืองของประเทศ “เสรีนิยมทำลายล้าง” มีสิทธิ์ที่จะขอถิ่นที่อยู่ชั่วคราวในรัสเซียโดยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการย้ายถิ่นฐานมาตรฐาน เช่น โควตาแห่งชาติ ความสามารถทางภาษาของรัสเซีย และความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกฎหมายของรัสเซีย

    ที่มา RT
    รัสเซียเปิดรายชื่อ47ประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีดำว่ามีทัศนคติเชิงทำลายล้าง มอสโกว์ได้จัดทำรายชื่อประเทศ 47 ประเทศที่มี "ทัศนคติเชิงทำลายล้าง" ซึ่งขัดแย้งกับค่านิยมของรัสเซีย โดยเปิดทางให้พลเมืองของประเทศเหล่านี้สามารถขอสถานะผู้พำนักอาศัยในรัสเซียได้หากต้องการ เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ยึดมั่นในค่านิยมดั้งเดิมของรัสเซียและไม่เห็นด้วยกับแนวทาง "เสรีนิยมใหม่" ที่รัฐบาลของตนเองผลักดันสามารถยื่นคำร้องขอสถานะผู้พำนักอาศัยได้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชุสตินของรัสเซียได้เผยแพร่รายชื่อประเทศและดินแดนที่ "ดำเนินนโยบายที่บังคับใช้ทัศนคติเชิงอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ที่สร้างความเสียหาย ซึ่งขัดแย้งกับค่านิยมทางจิตวิญญาณและศีลธรรมแบบดั้งเดิมของรัสเซีย" รายชื่อที่โพสต์บนพอร์ทัลรัฐบาลรัสเซียประกอบด้วยประเทศและดินแดนต่อไปนี้: ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, แอลเบเนีย, อันดอร์รา, บาฮามาส, เบลเยียม, บัลแกเรีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, กรีซ, เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, สเปน, อิตาลี, แคนาดา, ไซปรัส, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลิคเทนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, ไมโครนีเซีย, โมนาโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เกาหลีใต้, โรมาเนีย, ซานมารีโน, มาซิโดเนียเหนือ, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน (ดินแดนของจีน), ยูเครน, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, โครเอเชีย, มอนเตเนโกร, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดน, เอสโตเนีย และญี่ปุ่น รายชื่อประเทศที่ขาดหายไป ได้แก่ สโลวาเกียและฮังการี ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและนาโต้ รวมถึงตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ ก่อนหน้านี้ ประเทศที่ถูกระบุส่วนใหญ่ถูกลงทะเบียนจากรัฐบาลรัสเซียว่า“ไม่เป็นมิตร” ซึ่งมีการรวบรวมรายชื่อครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิปี 2021 และปรับปรุงในปี 2022 โดยประเทศที่อยู่ในบัญชีดำดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการตอบโต้ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียตามพฤติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์ รัสเซียสามารถ “ให้สถานที่ปลอดภัยสำหรับภาวะปกติแก่โลก” ได้โดยการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมจาก “หายนะของลัทธิตื่นรู้” ที่ครอบงำโลกตะวันตกโดยรวม มาร์การิตา ซิโมนยาน บรรณาธิการบริหารของ RT กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่การประชุมสตรียูเรเซียครั้งที่ 4 ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตามคำสั่งของปูตินเมื่อเดือนสิงหาคม พลเมืองของประเทศ “เสรีนิยมทำลายล้าง” มีสิทธิ์ที่จะขอถิ่นที่อยู่ชั่วคราวในรัสเซียโดยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการย้ายถิ่นฐานมาตรฐาน เช่น โควตาแห่งชาติ ความสามารถทางภาษาของรัสเซีย และความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกฎหมายของรัสเซีย ที่มา RT
    Like
    26
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2401 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียต้องให้ตะวันตกรับรู้ว่า รัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์
    หลักนิยมด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อการรุกรานทางทหารครั้งใหญ่ต่อประเทศนี้ อดีตที่ปรึกษาเครมลิน เซอร์เกย์ คารากานอฟ กล่าวเมื่อวันพุธ

    อดีตที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของรองหัวหน้าฝ่ายบริหารประธานาธิบดีรัสเซีย บอกกับหนังสือพิมพ์ Kommersant ว่าเอกสารด้านหลักนิยมทางทหารที่มีอยู่นั้น “ล้าสมัยอย่างยิ่ง” และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องปรามที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป

    หลักนิยมด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียซึ่งนำมาใช้ในปี 2020 ไม่ได้กำหนดไว้สำหรับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ล่วงหน้า และมองเห็นการใช้อาวุธนิวเคลียร์เฉพาะใน “กรณีพิเศษ” เท่านั้น เมื่อเผชิญกับ “ภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน” ของประเทศ ตามคำกล่าวของ Karaganov วิธีการนี้ทำให้เกือบไร้ประโยชน์ และได้ "แยก" ปัจจัยป้องปรามนิวเคลียร์ออกจากคลังแสงนโยบายการทหารและนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย

    “เราปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่จนถึงจุดที่ศัตรูของเราเชื่อว่าเราจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม” นักรัฐศาสตร์กล่าว “การมีอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่สามารถโน้มน้าวศัตรูว่าคุณพร้อมที่จะใช้พวกมัน ถือเป็นการฆ่าตัวตาย”

    ความล้มเหลวในการมีนโยบายป้องปรามด้วยนิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพ “จะทำให้โลกตกอยู่ในสงครามต่อเนื่องกัน ซึ่งจะไปสู่การใช้นิวเคลียร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3” คารากานอฟเชื่อ พร้อมเสริมว่าสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ “ภายในระยะเวลาหลายปี ”

    เป้าหมายหลักของหลักนิยมควรจะโน้มน้าวศัตรูทั้งในปัจจุบันและอนาคตว่ารัสเซียพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์”
    คำพูดของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางการที่ยูเครนบุกโจมตีภูมิภาคเคิร์สต์ของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง และความพยายามของเคียฟที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของตะวันตกเพื่อโจมตีลึกภายในประเทศ



    “ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องระบุว่าการโจมตีครั้งใหญ่ต่อดินแดนของเราจะทำให้เรามีสิทธิ์ตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยนิวเคลียร์” คารากานอฟยืนกราน นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มอสโกกำหนดขั้นตอน “การยกระดับนิวเคลียร์” อย่างชัดเจนในหลักนิยมถัดไป เพื่อไม่ให้ศัตรูของรัสเซียมีข้อสงสัยว่ารัสเซียพร้อมที่จะใช้คลังแสงนิวเคลียร์ของตนหรือไม่ และเมื่อใด



    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงให้เห็นจุดยืนที่สงวนไว้มากขึ้นในประเด็นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะพูดคุยกับคารากานอฟที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีกล่าวว่ารัสเซีย “ไม่ได้เลิกอาวุธนิวเคลียร์” และแสดงความหวังว่า “มันจะไม่มีวันมาถึง” ในการแลกเปลี่ยนนิวเคลียร์ระหว่างมอสโกวและตะวันตก

    12/9/2024
    รัสเซียต้องให้ตะวันตกรับรู้ว่า รัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ หลักนิยมด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อการรุกรานทางทหารครั้งใหญ่ต่อประเทศนี้ อดีตที่ปรึกษาเครมลิน เซอร์เกย์ คารากานอฟ กล่าวเมื่อวันพุธ อดีตที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของรองหัวหน้าฝ่ายบริหารประธานาธิบดีรัสเซีย บอกกับหนังสือพิมพ์ Kommersant ว่าเอกสารด้านหลักนิยมทางทหารที่มีอยู่นั้น “ล้าสมัยอย่างยิ่ง” และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องปรามที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป หลักนิยมด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียซึ่งนำมาใช้ในปี 2020 ไม่ได้กำหนดไว้สำหรับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ล่วงหน้า และมองเห็นการใช้อาวุธนิวเคลียร์เฉพาะใน “กรณีพิเศษ” เท่านั้น เมื่อเผชิญกับ “ภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน” ของประเทศ ตามคำกล่าวของ Karaganov วิธีการนี้ทำให้เกือบไร้ประโยชน์ และได้ "แยก" ปัจจัยป้องปรามนิวเคลียร์ออกจากคลังแสงนโยบายการทหารและนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย “เราปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่จนถึงจุดที่ศัตรูของเราเชื่อว่าเราจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม” นักรัฐศาสตร์กล่าว “การมีอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่สามารถโน้มน้าวศัตรูว่าคุณพร้อมที่จะใช้พวกมัน ถือเป็นการฆ่าตัวตาย” ความล้มเหลวในการมีนโยบายป้องปรามด้วยนิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพ “จะทำให้โลกตกอยู่ในสงครามต่อเนื่องกัน ซึ่งจะไปสู่การใช้นิวเคลียร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3” คารากานอฟเชื่อ พร้อมเสริมว่าสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ “ภายในระยะเวลาหลายปี ” เป้าหมายหลักของหลักนิยมควรจะโน้มน้าวศัตรูทั้งในปัจจุบันและอนาคตว่ารัสเซียพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์” คำพูดของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางการที่ยูเครนบุกโจมตีภูมิภาคเคิร์สต์ของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง และความพยายามของเคียฟที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของตะวันตกเพื่อโจมตีลึกภายในประเทศ “ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องระบุว่าการโจมตีครั้งใหญ่ต่อดินแดนของเราจะทำให้เรามีสิทธิ์ตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยนิวเคลียร์” คารากานอฟยืนกราน นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มอสโกกำหนดขั้นตอน “การยกระดับนิวเคลียร์” อย่างชัดเจนในหลักนิยมถัดไป เพื่อไม่ให้ศัตรูของรัสเซียมีข้อสงสัยว่ารัสเซียพร้อมที่จะใช้คลังแสงนิวเคลียร์ของตนหรือไม่ และเมื่อใด ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงให้เห็นจุดยืนที่สงวนไว้มากขึ้นในประเด็นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะพูดคุยกับคารากานอฟที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีกล่าวว่ารัสเซีย “ไม่ได้เลิกอาวุธนิวเคลียร์” และแสดงความหวังว่า “มันจะไม่มีวันมาถึง” ในการแลกเปลี่ยนนิวเคลียร์ระหว่างมอสโกวและตะวันตก 12/9/2024
    Like
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1519 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA, MI6เตือนว่าจีนรัสเซียเป็นภัยต่อระเบียบโลก 9/9/2024

    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอเมริกาและอังกฤษอย่าง CIA และ MI6 กล่าวอ้างในบทบรรณาธิการร่วมที่ตีพิมพ์โดย Financial Times เมื่อวันเสาร์ว่า ระเบียบโลกกำลังถูกคุกคามจากรัฐต่างๆ

    ในบทความดังกล่าว บิล เบิร์นส์ และ ริชาร์ด มัวร์ ให้คำมั่นว่า วอชิงตันและลอนดอนจะทำงานควบคู่กันเพื่อรักษาสถานะเดิมในโลกที่เทคโนโลยีได้เร่งให้แนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้นอย่างมาก

    หลังจากความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วกับตะวันตก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะความเป็นจ้าวโลกของสหรัฐฯได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่การระบอบมหาอำนาจหลายขั้ว

    ในบทบรรณาธิการ เบิร์นส์และมัวร์ตั้งข้อสังเกตว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระเบียบโลกระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นระบบที่สมดุลซึ่งนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในระดับหนึ่ง และเสริมสร้างมาตรฐานการครองชีพ โอกาส และความเจริญรุ่งเรืองที่สูงขึ้นตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่สงครามเย็น"

    “วันนี้ เราร่วมมือกันในระบบระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันกัน ซึ่งทั้งสองประเทศของเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” หัวหน้าสายลับระดับสูงทั้งสองเขียนไว้

    บทความดังกล่าวเน้นย้ำถึง “รัสเซียที่กล้าแสดงออก” ในบริบทของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งทั้ง CIA และ MI6 “มองเห็น… ว่ากำลังจะเกิดขึ้น” หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองระบุว่าการสู้รบได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไร้คนควบคุมและการลาดตระเวนผ่านดาวเทียม

    นอกจากนี้ เบิร์นส์และมัวร์ยังกล่าวหาว่ามอสโกว่า “มีแคมเปญที่จะบ่อนทำลายทั่วทั้งยุโรป” ตลอดจนเผยแพร่ “คำโกหกและข้อมูลบิดเบือนที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างเรา”

    อย่างไรก็ตาม ตามบทบรรณาธิการ ในสายตาของ CIA และ MI6 “ความท้าทายด้านข่าวกรองและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21” คือ “การเติบโตของจีน” หน่วยงานทั้งสองได้ปรับกระบวนการของตนใหม่เพื่อ “สะท้อนถึงลำดับความสำคัญนั้น” แล้ว

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า “เรากำลังพูดถึงแนวคิดพหุศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากบรรทัดฐานเดิม และเราเห็นการต่อต้านอย่างสิ้นหวังของชาติตะวันตกโดยรวม... พวกเขาเห็นบรรทัดฐานนี้แตกต่างออกไป โดยมองว่าเป็นอำนาจเหนือกว่าผู้อื่นของพวกเขาเอง เป็นระเบียบโลกที่มีพื้นฐานอยู่บนกฎเดียว พวกเขาต้องครอบงำเหมือนเช่นก่อน และทุกคนต้องทำเฉพาะสิ่งที่มหาอำนาจที่มีอำนาจเหนือกว่าอนุญาตให้พวกเขาทำได้”

    นักการทูตคนดังกล่าวยืนกรานว่าวาทะกรรมของชาติตะวันตกไม่ได้เป็นที่ยอมรับโดยประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งน้อมรับแนวคิดของอำนาจหลายขั้ว
    ซาคาโรวาเน้นย้ำในขณะนั้นว่า “เราไม่ควรลืมว่าชาติตะวันตกโดยรวมเป็นชนกลุ่มน้อย”


    CIA, MI6เตือนว่าจีนรัสเซียเป็นภัยต่อระเบียบโลก 9/9/2024 หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอเมริกาและอังกฤษอย่าง CIA และ MI6 กล่าวอ้างในบทบรรณาธิการร่วมที่ตีพิมพ์โดย Financial Times เมื่อวันเสาร์ว่า ระเบียบโลกกำลังถูกคุกคามจากรัฐต่างๆ ในบทความดังกล่าว บิล เบิร์นส์ และ ริชาร์ด มัวร์ ให้คำมั่นว่า วอชิงตันและลอนดอนจะทำงานควบคู่กันเพื่อรักษาสถานะเดิมในโลกที่เทคโนโลยีได้เร่งให้แนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้นอย่างมาก หลังจากความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วกับตะวันตก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะความเป็นจ้าวโลกของสหรัฐฯได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่การระบอบมหาอำนาจหลายขั้ว ในบทบรรณาธิการ เบิร์นส์และมัวร์ตั้งข้อสังเกตว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระเบียบโลกระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นระบบที่สมดุลซึ่งนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในระดับหนึ่ง และเสริมสร้างมาตรฐานการครองชีพ โอกาส และความเจริญรุ่งเรืองที่สูงขึ้นตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่สงครามเย็น" “วันนี้ เราร่วมมือกันในระบบระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันกัน ซึ่งทั้งสองประเทศของเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” หัวหน้าสายลับระดับสูงทั้งสองเขียนไว้ บทความดังกล่าวเน้นย้ำถึง “รัสเซียที่กล้าแสดงออก” ในบริบทของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งทั้ง CIA และ MI6 “มองเห็น… ว่ากำลังจะเกิดขึ้น” หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองระบุว่าการสู้รบได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไร้คนควบคุมและการลาดตระเวนผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ เบิร์นส์และมัวร์ยังกล่าวหาว่ามอสโกว่า “มีแคมเปญที่จะบ่อนทำลายทั่วทั้งยุโรป” ตลอดจนเผยแพร่ “คำโกหกและข้อมูลบิดเบือนที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างเรา” อย่างไรก็ตาม ตามบทบรรณาธิการ ในสายตาของ CIA และ MI6 “ความท้าทายด้านข่าวกรองและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21” คือ “การเติบโตของจีน” หน่วยงานทั้งสองได้ปรับกระบวนการของตนใหม่เพื่อ “สะท้อนถึงลำดับความสำคัญนั้น” แล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า “เรากำลังพูดถึงแนวคิดพหุศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากบรรทัดฐานเดิม และเราเห็นการต่อต้านอย่างสิ้นหวังของชาติตะวันตกโดยรวม... พวกเขาเห็นบรรทัดฐานนี้แตกต่างออกไป โดยมองว่าเป็นอำนาจเหนือกว่าผู้อื่นของพวกเขาเอง เป็นระเบียบโลกที่มีพื้นฐานอยู่บนกฎเดียว พวกเขาต้องครอบงำเหมือนเช่นก่อน และทุกคนต้องทำเฉพาะสิ่งที่มหาอำนาจที่มีอำนาจเหนือกว่าอนุญาตให้พวกเขาทำได้” นักการทูตคนดังกล่าวยืนกรานว่าวาทะกรรมของชาติตะวันตกไม่ได้เป็นที่ยอมรับโดยประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งน้อมรับแนวคิดของอำนาจหลายขั้ว ซาคาโรวาเน้นย้ำในขณะนั้นว่า “เราไม่ควรลืมว่าชาติตะวันตกโดยรวมเป็นชนกลุ่มน้อย”
    Like
    Haha
    29
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 2649 มุมมอง 0 รีวิว