• พรรคประชาชวย เลืoดไหลยังไม่พอ เย่วไหลไม่หยุด ชนชั้นแรงงานในพื้นที่ของพรรคทยอยถอนตัว รายล่าสุด ผู้ช่วยสส. ของไอ่เชตวัน เพราะพรรคเลิกสนับสนุน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคประชาชวย เลืoดไหลยังไม่พอ เย่วไหลไม่หยุด ชนชั้นแรงงานในพื้นที่ของพรรคทยอยถอนตัว รายล่าสุด ผู้ช่วยสส. ของไอ่เชตวัน เพราะพรรคเลิกสนับสนุน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงเรียนรู้ว่าผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์
    สัทธรรมลำดับที่ : 205
    ชื่อบทธรรม :- ผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้,
    สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย,
    สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=ทีฆรตฺตํ+หิตาย+สุขาย
    --ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ?
    +--ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ;
    รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    +--ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ;
    เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    +--ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ;
    สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    +--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ;
    สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    +--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ;
    วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
    --ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้,
    เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม
    หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ;
    พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า
    “คนเขาขนเอาเราไปบ้าง
    เขาเผาเราบ้าง
    เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง”
    ดังนี้ ?
    --“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
    “เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน
    หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น,
    คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ,
    พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ;
    สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
    #จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน
    http://etipitaka.com/read/pali/12/280/?keywords=หิตาย+สุขาย+ภวิสฺสติ
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/194/287
    http://etipitaka.com/read/thai/12/194/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๒๗๙/๒๘๗
    http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=205
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
    ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3
    อริยสาวกพึงเรียนรู้ว่าผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์ สัทธรรมลำดับที่ : 205 ชื่อบทธรรม :- ผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=ทีฆรตฺตํ+หิตาย+สุขาย --ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ? +--ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ; รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ; เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ; สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ; สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ; วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. --ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้, เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ; พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า “คนเขาขนเอาเราไปบ้าง เขาเผาเราบ้าง เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง” ดังนี้ ? --“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น, คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ; สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว #จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน http://etipitaka.com/read/pali/12/280/?keywords=หิตาย+สุขาย+ภวิสฺสติ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/194/287 http://etipitaka.com/read/thai/12/194/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๒๗๙/๒๘๗ http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=205 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ?
    -ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ? ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ; รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ; เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ; สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ; สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ; วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้, เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ; พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า “คนเขาขนเอาเราไปบ้าง เขาเผาเราบ้าง เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง” ดังนี้ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น, คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ; สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เรื่องราวของสามีภรรยาชาวอินเดียในสมัยพุทธกาล**

    ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล มีคู่สามีภรรยาชาวอินเดียคู่หนึ่งที่ชาวเมืองต่างรู้จักดีในความแตกต่างของพวกเขา **สามีชื่อ "สุทัตตะ"** เป็นพ่อค้าขายผ้าไหมผู้พูดน้อย นิ่งๆ แต่มีจิตใจศรัทธาในพระพุทธเจ้า ส่วน **ภรรยาชื่อ "นันทา"** เป็นหญิงขี้บ่น ปากจัด และไม่เชื่อเรื่องการบวชหรือการทำบุญ เธอคิดว่าชีวิตนี้ต้องสะสมทรัพย์เท่านั้น จึงเถียงสามีประจำเรื่องการไปวัด

    ### **วันแรกที่สุทัตตะพานันทาไปฟังธรรม**
    วันหนึ่ง สุทัตตะชวนนันทาไปฟังพระพุทธเจ้าทเทศน์ที่วัดเชตวัน แต่เธอตอบเสียงหลงว่า:
    "อีกแล้วเหรอ?! พ่อบ้านก็ไม่เห็นห่วงสมบัติ ทุกเย็นไม่คิดแต่จะไปวัด ถ้าพระพุทธเจ้าสอนดีจริง ทำไมเรายังไม่รวยล่ะ?!"

    สุทัตตะยิ้มน้อยๆ แล้วพูดเบาๆ: "พระองค์สอนว่า ความร่ำรวยไม่ใช่จุดจบของชีวิต..."

    นันทาตะโกน: "แล้วอะไรล่ะคือจุดจบ?! การยืนตากแดดฟังคนๆหนึ่งพูดเรื่องไม่จริง?!"

    แต่สุดท้าย เธอก็ถูกเพื่อนบ้านชักชวนให้ไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าดึงดูดคนได้อย่างไร

    ### **นันทาพบพระพุทธเจ้า**
    เมื่อไปถึง นันทายังบ่นพึมพำว่า "ร้อนจะตาย..." แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเริ่มเทศน์ พระองค์ตรัสด้วยเสียงอันสุขุม:

    "ดูก่อนอุบาสิกา บางคนสะสมทรัพย์แต่ใจจน บางคนมีน้อยแต่ใจเป็นสุข..."

    นันทาซึ่งกำลังนั่งกอดอกอยู่ ก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนพระองค์ตรัสตรงถึงเธอ! พระพุทธเจ้าตรัสต่อเรื่อง **"ความทุกข์เกิดจากความยึดมั่น"** และเล่านิทานเปรียบเทียบถึงพ่อค้าคนหนึ่งที่โกรธเพราะเรือแตก แต่กลับโชคดีที่ถูกพัดเข้าฝั่ง เพราะไม่ยึดติดกับของที่สูญเสีย

    นันทาค่อยๆ หยุดบ่น เริ่มฟังด้วยความสนใจ แม้จะยังไม่พูดอะไร แต่ใจเธอเริ่มสั่นสะเทือน

    ### **การเปลี่ยนแปลง**
    หลังจากวันนั้น นันทายังเป็นคนปากกล้า แต่เริ่มถามสามีเรื่องธรรมะบ้าง และบางครั้งก็แอบไปวัดคนเดียวโดยไม่บอกสุทัตตะ! เพื่อนบ้านถึงกับตกใจเมื่อเห็นนันทาช่วยตักบาตรพระ แทนที่จะนั่งบ่นเรื่องเสียเงิน

    สุทัตตะยิ้มพอใจ แต่เขาก็ไม่พูดมาก 只是พูดว่า: "วันนี้ภรรยาดูสงบจัง..."

    นันทาหัวเราะแล้วตอบ: "ก็เพราะฉันเริ่มเข้าใจว่า การไม่บ่นทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไง!"

    ### **บทเรียนที่ได้**
    เรื่องราวของทั้งสองสอนให้เห็นว่า **ความศรัทธาไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันที** และแม้แต่คนขี้บ่นที่สุด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อได้พบคำสอนที่ใช่ แม้พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงบังคับใครให้เชื่อ แต่พระธรรมย่อมดึงดูดใจผู้ที่พร้อมรับ

    และนั่นคือชีวิตคู่ของสุทัตตะกับนันทา ที่ยังคงเถียงกันบ้าง แต่ครั้งนี้... เธอเริ่มเถียงด้วยหลักธรรมแทน!

    *(จบ)*

    > หมายเหตุ: เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อแสดงวิถีชีวิตและความเชื่อในสมัยพุทธกาลผ่านมุมมองสามัญชน ไม่ได้อ้างอิงจากพระสูตรโดยตรง แต่สอดคล้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการละทิ้งความยึดมั่น
    **เรื่องราวของสามีภรรยาชาวอินเดียในสมัยพุทธกาล** ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล มีคู่สามีภรรยาชาวอินเดียคู่หนึ่งที่ชาวเมืองต่างรู้จักดีในความแตกต่างของพวกเขา **สามีชื่อ "สุทัตตะ"** เป็นพ่อค้าขายผ้าไหมผู้พูดน้อย นิ่งๆ แต่มีจิตใจศรัทธาในพระพุทธเจ้า ส่วน **ภรรยาชื่อ "นันทา"** เป็นหญิงขี้บ่น ปากจัด และไม่เชื่อเรื่องการบวชหรือการทำบุญ เธอคิดว่าชีวิตนี้ต้องสะสมทรัพย์เท่านั้น จึงเถียงสามีประจำเรื่องการไปวัด ### **วันแรกที่สุทัตตะพานันทาไปฟังธรรม** วันหนึ่ง สุทัตตะชวนนันทาไปฟังพระพุทธเจ้าทเทศน์ที่วัดเชตวัน แต่เธอตอบเสียงหลงว่า: "อีกแล้วเหรอ?! พ่อบ้านก็ไม่เห็นห่วงสมบัติ ทุกเย็นไม่คิดแต่จะไปวัด ถ้าพระพุทธเจ้าสอนดีจริง ทำไมเรายังไม่รวยล่ะ?!" สุทัตตะยิ้มน้อยๆ แล้วพูดเบาๆ: "พระองค์สอนว่า ความร่ำรวยไม่ใช่จุดจบของชีวิต..." นันทาตะโกน: "แล้วอะไรล่ะคือจุดจบ?! การยืนตากแดดฟังคนๆหนึ่งพูดเรื่องไม่จริง?!" แต่สุดท้าย เธอก็ถูกเพื่อนบ้านชักชวนให้ไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าดึงดูดคนได้อย่างไร ### **นันทาพบพระพุทธเจ้า** เมื่อไปถึง นันทายังบ่นพึมพำว่า "ร้อนจะตาย..." แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเริ่มเทศน์ พระองค์ตรัสด้วยเสียงอันสุขุม: "ดูก่อนอุบาสิกา บางคนสะสมทรัพย์แต่ใจจน บางคนมีน้อยแต่ใจเป็นสุข..." นันทาซึ่งกำลังนั่งกอดอกอยู่ ก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนพระองค์ตรัสตรงถึงเธอ! พระพุทธเจ้าตรัสต่อเรื่อง **"ความทุกข์เกิดจากความยึดมั่น"** และเล่านิทานเปรียบเทียบถึงพ่อค้าคนหนึ่งที่โกรธเพราะเรือแตก แต่กลับโชคดีที่ถูกพัดเข้าฝั่ง เพราะไม่ยึดติดกับของที่สูญเสีย นันทาค่อยๆ หยุดบ่น เริ่มฟังด้วยความสนใจ แม้จะยังไม่พูดอะไร แต่ใจเธอเริ่มสั่นสะเทือน ### **การเปลี่ยนแปลง** หลังจากวันนั้น นันทายังเป็นคนปากกล้า แต่เริ่มถามสามีเรื่องธรรมะบ้าง และบางครั้งก็แอบไปวัดคนเดียวโดยไม่บอกสุทัตตะ! เพื่อนบ้านถึงกับตกใจเมื่อเห็นนันทาช่วยตักบาตรพระ แทนที่จะนั่งบ่นเรื่องเสียเงิน สุทัตตะยิ้มพอใจ แต่เขาก็ไม่พูดมาก 只是พูดว่า: "วันนี้ภรรยาดูสงบจัง..." นันทาหัวเราะแล้วตอบ: "ก็เพราะฉันเริ่มเข้าใจว่า การไม่บ่นทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไง!" ### **บทเรียนที่ได้** เรื่องราวของทั้งสองสอนให้เห็นว่า **ความศรัทธาไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันที** และแม้แต่คนขี้บ่นที่สุด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อได้พบคำสอนที่ใช่ แม้พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงบังคับใครให้เชื่อ แต่พระธรรมย่อมดึงดูดใจผู้ที่พร้อมรับ และนั่นคือชีวิตคู่ของสุทัตตะกับนันทา ที่ยังคงเถียงกันบ้าง แต่ครั้งนี้... เธอเริ่มเถียงด้วยหลักธรรมแทน! *(จบ)* > หมายเหตุ: เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อแสดงวิถีชีวิตและความเชื่อในสมัยพุทธกาลผ่านมุมมองสามัญชน ไม่ได้อ้างอิงจากพระสูตรโดยตรง แต่สอดคล้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการละทิ้งความยึดมั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572
    วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดยาง พระอารามหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67)
    22. วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว
    (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67)
    23. วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67)
    24. วัดโพธาราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67)
    25. วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    26. วัดเจ็ดยอด อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    27. วัดเชตวัน อ.เมือง จ.เชียงราย
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    28. วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    29. วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    30. วัดสร้อยทอง อ.บางซื่อ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572 วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดยาง พระอารามหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67) 22. วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67) 23. วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67) 24. วัดโพธาราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67) 25. วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 26. วัดเจ็ดยอด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 27. วัดเชตวัน อ.เมือง จ.เชียงราย (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 28. วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 29. วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 30. วัดสร้อยทอง อ.บางซื่อ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572
    วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดยาง พระอารามหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67)
    22. วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว
    (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67)
    23. วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67)
    24. วัดโพธาราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67)
    25. วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    26. วัดเจ็ดยอด อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    27. วัดเชตวัน อ.เมือง จ.เชียงราย
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    28. วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    29. วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    30. วัดสร้อยทอง อ.บางซื่อ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572 วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดยาง พระอารามหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67) 22. วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว (ทอดกฐินพระราชทาน 12 พ.ย.67) 23. วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67) 24. วัดโพธาราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินพระราชทาน 14 พ.ย.67) 25. วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 26. วัดเจ็ดยอด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 27. วัดเชตวัน อ.เมือง จ.เชียงราย (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 28. วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 29. วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) 30. วัดสร้อยทอง อ.บางซื่อ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาธรสั่งเชือด สส.เชตวัน เจ้าของวลี "เอาค่ายเอกาทศรถเป็นที่ทิ้งขยะ" อย่าลืมลงโทษอีแก้วตาพม่ารามัญอีกคน
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ธนาธรสั่งเชือด สส.เชตวัน เจ้าของวลี "เอาค่ายเอกาทศรถเป็นที่ทิ้งขยะ" อย่าลืมลงโทษอีแก้วตาพม่ารามัญอีกคน #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2077 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยแรกบนเส้นทางการเมือง ก็มีแต่เรื่องดีดีย์ คดีเมาสุรา บ้ากาม คุกคาม กรรโชกทรัพย์ และมุ่งล้มล้างสถาบันฯ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เชตวัน
    #ผู้ช่วยสส
    #คุณภาพพรรคนี้ก็จะประมาณนี้
    สมัยแรกบนเส้นทางการเมือง ก็มีแต่เรื่องดีดีย์ คดีเมาสุรา บ้ากาม คุกคาม กรรโชกทรัพย์ และมุ่งล้มล้างสถาบันฯ #คิงส์โพธิ์แดง #เชตวัน #ผู้ช่วยสส #คุณภาพพรรคนี้ก็จะประมาณนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว