• 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 534 Views 0 Reviews
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • 3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง"

    การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล

    ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา

    ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น

    จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้

    1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง
    สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน

    **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้**

    2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม
    สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว

    **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง**

    3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่
    ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้

    **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic)

    -----------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020).

    สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง" การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้ 1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้** 2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง** 3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้ **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่** (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic) ----------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020). สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • 3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง"

    การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล

    ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา

    ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น

    จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้

    1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง
    สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน

    **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้**

    2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม
    สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว

    **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง**

    3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่
    ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้

    **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic)

    -----------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020).

    สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง" การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้ 1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้** 2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง** 3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้ **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่** (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic) ----------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020). สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • 3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข*

    เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก

    ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน

    สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้

    1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)
    โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน

    **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย**

    2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
    โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท

    **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ**

    3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
    ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้

    **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank)

    -------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ

    เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008)

    ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013)

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข* เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้ 1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย** 2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ** 3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้ **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ** (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank) ------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008) ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013) โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • 3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข*

    เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก

    ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน

    สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้

    1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)
    โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน

    **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย**

    2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
    โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท

    **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ**

    3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
    ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้

    **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank)

    -------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ

    เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008)

    ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013)

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข* เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้ 1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย** 2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ** 3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้ **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ** (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank) ------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008) ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013) โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews